สุภาษติ สอนหญิงเปน็ การแตง่ ไมไ่ ด้วางโครงเรื่องไว้ก่อนแต่ง แต่ก็คงใจความ สาคัญ นั่นคือทุกบทกลอนจะกล่าวสอนสตรีเพศ ตักเตือนอีกทั้งยกตัวอย่างให้เห็น อยา่ งเปน็ รปู ธรรม ในตอนต้นเปน็ บทประณามพจน์ หรือเรียกงา่ ย ๆ คือ บทไหว้ครู ตา่ งประทปี โกสมุ ปทุมเทียน ๏ ประนมหัตถ์นมัสการขึน้ เหนอื เศยี ร อันเปน็ ม่ิงโมลีส่ีทวปี จานงเนยี รนบบาทพระศาสดา ก็ลว่ งลบั ดบั ไกลนยั นา ดังประทีปส่องทั่วทกุ ทิศา ฉันชอื่ ภผู่ ู้ประดษิ ฐค์ ิดสนอง สมู่ หาหอ้ งนิพพานสาราญรมย์ ให้ประเสรฐิ เลิศล้าดว้ ยคาคม ขอประคองคุณใส่ไวเ้ หนอื ผม โดยอารมณด์ ารริ ักชักภปิ ราย
วรรคทองจากวรรณกรรมเรอื่ งนี้มอี ยมู่ ากมาย เช่น ➢ สอนใหก้ ตญั ญู จงเลยี้ งท่านอยา่ ให้อดระทนใจ เม่อื พ่อแม่แกเ่ ฒ่าชรากาล ไดก้ ารุญเล้ยี งรักษามาจนใหญ่ หมายจะไดพ้ ง่ึ พาธิดาดวง ดว้ ยชนกชนนนี ั้นมีคุณ อุม้ อุทรปอ้ นขา้ วเปน็ เท่าไร คงไม่คลาดแคล้วนรกตกถลา ทรมาหมกไหมใ้ นไฟฟอน ➢ สอนใหร้ ู้จกั บาป บญุ คณุ โทษ คนผนู้ ้ันคร้นั ตายวายชีวาตม์ ไม่เห็นเดือนเหน็ ตะวนั พระจนั ทรา
“บทละครเรอ่ื งอภยั นุราช”
ประวตั กิ ารแต่ง สุนทรภู่แต่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระ จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ แห่งกรุง รัตนโกสินทร์ เพื่อถวายพระองค์เจ้าดวง ประภา พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จ พระป่ินเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว เป็นบทละครสั้นๆ มคี วามยาว ๑ เล่มสมุดไทย แต่งระหว่าง พ.ศ. ๒๓๘๕-๒๓๙๓ บทละครเรื่องอภัยนุ ราชนี้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรม พระยาดารงราชานุภาพ ทรงกล่าวว่า ผลงานเรื่องนส้ี ูเ้ ร่อื งอ่ืนๆ ไม่ได้
เนื้อเรือ่ งยอ่ พระอภัยนุราชมีมเหสีชื่อทิพมาลี มีโอรสชื่อพระอนันต์ มีธิดา ชื่อวรรณา พระอภัยนุราชประพาสป่าสาลวัน แต่ยิงสัตว์ไม่ได้เลย ทาให้แปลกพระทัย มีผู้เฒ่ากราบทูลว่าเป็นเพราะพระอภัยนุราช ไม่ไดบ้ วงสรวงอารักษ์ พระอภยั นุราชกริ้วและดาริว่าอารักษ์แกล้ง พระองค์ จึงมรี บั สัง่ ใหเ้ ผาศาล อารักษ์แค้นใจคิดแก้แค้นพระอภัยนุ ราช จงึ หกั คอนางศรสี าหงแล้วเขา้ ไปสิงในรา่ ง พระอภัยนุราชหลง รักนางจะพากลับวัง อามาตย์ทัดทานก็ถูกสั่งประหาร พระอภัยนุ ราชจึงได้พานางศรีสาหงเข้าวัง หลงใหลนางไม่ออกว่าราชการ งานเมือง นางทิพมาลีให้โอรสและธิดาไปกราบทูลเตือนให้ทรงออ กว่าราชการ
เนอ้ื เร่อื งยอ่ เมื่อพระอภัยนุราชเสด็จออก นางทิพมาลีเห็นนางศรีสาหง เกิด ววิ าทกัน พระอภัยนรุ าชกร้วิ นางทิพมาลี ต่อมานางทิพมาลีทาร้าย นางศรีสาหง นางศรีสาหงแกล้งทาทีว่าถูกทาร้ายจนตาบอดและ วอนขอท้าวอภัยนุราชให้ควักตานางทิพมาลีมาใส่ให้ตน พระอภัย นุราชหลงเชื่อมีรับสั่งให้ควักลูกตาและถอดยศนางทิพมาลีให้เป็น โขลนรับใช้อยู่ในวัง พระอนันต์และนางวรรณาเข้าขัดขวาง แต่ ขัดขวางไม่สาเรจ็ นางศรสี าหงแกล้งทาทีเป็นเอาตานางทิพมาลีมา ใสต่ านาง ทาใหส้ ามารถมองเหน็ ได้ดงั เดมิ
เสภาเร่อื งขุนชา้ งขุนแผน ตอนกาเนดิ พลายงาม มีความยาว ๑ เล่มสมุดไทย แต่งระหว่าง พ.ศ. ๒๓๖๕- ๒๓๖๗ ในสมัยรัชกาลที่ ๒ หลังจากพ้นโทษออกจากคุก มาแล้ว เรื่องนี้สุนทรภู่แต่ง ตามพระบรมราชโองการใน รชั กาลที่ ๒
เนื้อเร่อื ง เล่าเรอื่ งตอนนางวันทองให้กาเนิดพลายงาม ขุนช้างพาพลายงามไปฆ่า แต่มีโหง พรายมาช่วย นางวันทองตามไปพบและพาพลายงามไปฝากขรัวครูที่วัด และให้ พลายงามเดนิ ทางไปเมืองกาญจนบุรี ไปอย่กู ับยา่ ทองประศรี ต่อมาได้พบขุนแผน พาไปฝากจมนื่ ศรี แลว้ ถวายตวั รับราชการ
เจา้ พลายงามความแสนสงสารแม่ ชาเลืองแลดหู น้าน้าตาไหล แลว้ กราบกรานมารดาด้วยอาลยั ลกู เติบใหญ่คงจะมาหาแมค่ ณุ แต่ครงั้ นี้มีกรรมจะจาจาก ต้องพลดั พรากแม่ไปเพราะอ้ายขนุ เที่ยวหาพอ่ ขอให้ปะเดชะบญุ ไม่คณุ มารดาจะมาเยือน
เสภาพระราชพงศาวดาร มีความยาว ๒ เล่มสมุดไทย แต่งระหว่าง พ.ศ.๒๓๙๔- ๒๓๙๘ ขณะรับราชการใน สมัย ร.๔ โดยแต่งตาม เนื้อหาในพระราช พงศาวดาร และแต่งตาม พระบรมราชโองการ ร.๔ เพื่อใช้สาหรับขับถวายเวลา ทรงเครือ่ งใหญ่
เนื้อเร่อื ง หนังสือเสภาพระราชพงศาวดารแต่งเป็นใจความ ๒ ตอน เดิมทีเดียวสุนทรภู่ เริ่มตั้งแต่พระเจ้าอู่ทองสร้างกรุงศรีอยุธยา ไปจนถึงทาสงครามกับขอม โดยพระ ราเมศวร และพระบรมราชา (ขุนหลวงพะงั่ว) สุนทรภู่ยุติเพียงเท่านี้แล้วข้ามไป แต่งตอนสงครามช้างเผือกในรัชกาลพระมหาจักรพรรดิ สมเด็จกรมพระยาดารง ราชานภุ าพ ทรงอธิบายว่า คงเป็นเพราะพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดาริว่า ตอนหลังสงครามกับขอมคราวนั้น ถึงจะแต่งก็ไม่น่าฟังจึง โปรดให้ข้ามไปแต่งตอนสงครามช้างเผือกในแผ่นดินพระมหาจักรพรรดิจนถึงพระ เจา้ ไชยเชษฐากรุงศรีสัตนาคนหตุ ซึง่ ยกเข้ามาช่วยกรุงศรีอยุธยาแตกแพ้ นับเป็น ตอนที่ ๒ ทแ่ี ตง่ ไม่จบอาจเป็นดว้ ยสุนทรภู่ ถงึ แกอ่ นจิ กรรมลง
บทเห่กล่อมพระบรรทม สนุ ทรภู่แต่งขึ้นสาหรับขับร้อง เ ห ่ ก ล ่ อ ม เ ว ล า ไ ก ว พ ร ะ อ ู่ พระโอรสพระธิดาให้บรรทม หลับ สุนทรภู่แต่งขึ้นมี ๔ เรื่อง คือเห่จับระบา เห่กากี เห่พระอภยั มณี เห่โคบุตร
ลกั ษณะคาประพนั ธ์ แต่งด้วยกาพย์เห่ซึ่งมีฉันทลักษณ์คล้ายกับกาพย์ยานี ๑๑ แต่ละตอน ขึ้นต้นด้วย \"เห่เอย...\" และจบด้วย \"เอย\" ลีลากาพย์ในบทเห่ของ สุนทรภู่ มีสัมผัสในที่เป็นสัมผัสสระเป็นคู่ในแต่ละวรรค โดยเฉพาะ วรรคแรกและวรรคที่ ๓ ส่วนวรรคที่ ๒ และ ๔ ส่วนใหญ่เป็นสัมผัส พยญั ชนะ
เห่กล่อมพระบรรทม
เห่จบั ระบา บทเห่จับระบา มีเนื้อหากล่าวถึงเทวดา นางฟ้าที่ออกมาจับระบาอย่างสนุกสนานในฤดูฝน นางเมขลาก็เช่นเดียวกันได้ชูแก้วร่ายราไปมา รามสูรอยากได้แก้วก็แกว่งขวาน ไล่จับนางเมขลา ทาให้เหล่าเทวดาและนางฟ้าตกใจหนีไป เหลือแต่ นางเมขลาเทา่ นนั่ บทเห่กล่อมพระประทมเรื่องนี้ จบตอน รามสูร ขว้างขวานเพื่อแย่งชิงดวงแก้วจากนาง เมขลา
เห่จบั ระบา บทเหจ่ ับระบามเี นอ้ื เร่ืองแบ่งออกเปน็ ๓ ตอน ไดแ้ ก่ ตอนท๑่ี เป็นเรื่องราวของนางฟา้ และเทวดาพากนั ร่ายรา ทา่ มกลางสายฝนบนวิมานเขาไกรลาส ตอนท่ี ๒ เปน็ เรือ่ งของนางเมขลา นางฟ้าที่มีหน้าท่ี เฝ้ามหาสมุทรกาลังรา่ ยราพร้อมกบั นางฟ้าท้ังหลาย
เห่จบั ระบา ตอนที่ ๓ เป็นเรื่องของนางเมขลามาเจอกกับรามสูร รามสูรนั้นมีขวานเป็นอาวุธ ทั้งสอง ได้มาเจอกนั รามสูรได้ขว้างขวานใส่นางเมขลา แต่ด้วยฤทธิ์ของแก้วมณีทาให้พลาดไป ทา ให้เกิดเป็นตานานฟ้าแลบฟ้าร้อง บทเห่จับระบานี้มีเนื้อหาเรื่องราวที่สนุกสนานเป็นที่ชื่น ชอบของเด็กที่ได้ฟัง เนื่องจากเป็นเรื่องการต่อสู้ระหว่างยักษ์กับนางฟ้า เมื่อเด็กได้ฟังก็จะ ตื่นเต้นไปกับเนื้อเรอ่ื งด้วย ดงั จะคดั ส่วนหน่ึงของตอนแรกมา ดังตอ่ ไปน้ี เหเ่ อยเห่สวรรค์ เมื่อวสันต์ฤดฝู น นกั ขัตฤกษเ์ บกิ บาน ให้มืดมนเมฆา เทวาลาหก ให้ฝนตกลงมา ฝงู เทพเทวา กบั นางฟ้าฟ้อนรา
เห่เรื่องกากี มีความยาวเพียง ๒๒ บท มีเนื้อหากล่าวถึงพระยาครุฑนางกากีไปวิมาน ฉมิ พลี ระหวา่ งทางไดพ้ านางไปสวรรค์ เหเ่ อยเห่กลา่ ว ถงึ เร่อื งราวสกุณา ครุฑราชปกั ษา อ้มุ กากบี นิ ล่องลมชมทวปี ในกลางกลีบเมฆิน ข้ามคิรสี ีขรินทร์ มุจลินทรช์ โลธร
เห่เรื่องพระอภยั มณี สนุ ทรภแู่ ต่งเปน็ บทเห่มีความยาว ๑๓๑ บท เพอ่ื ใช้กล่อมลกู เจา้ นายบรรทม แตง่ ช่วง สมยั รัชกาลที่ ๔ มที ั้งส้นิ ๘ ตอน แต่ละชว่ งนามาจากเร่อื งราวบางตอนของเรือ่ ง พระอภยั มณี ได้แก่ ๑. ตอนศรีสุวรรณราพนั รักและชมโฉมนางเกษรา กล่าวถงึ ศรีสวุ รรณคดิ ถงึ นางเกษรา และคดิ ว่าจะพานางลงเรือไปเที่ยวทะเล ๒. ตอนนางสุวรรณมาลบี วช นางสุวรรณมาลีบวชชที ่เี ขารุง้ อยกู่ บั สนิ สมทุ รและอรณุ รศั มีหม่ันบาเพญ็ ภาวนา และรักษาศีล
เห่เร่ืองพระอภยั มณี ๓ ตอนสนิ สมุทรชมธรรมชาตกิ บั อรณุ รศั มี สินสมทุ รชมธรรมชาตกิ บั อรณุ รศั มี ด้วยความทล่ี มื ว่าตนบวชอยู่ จึงขับสักวาอย่าง สนุก เม่ือรูส้ กึ ตวั กบ็ าเพญ็ ภาวนาต่อไป ตอ่ มาอรุณรศั มจี งึ หลบั ไป สนิ สมุทรชมความงาม นางอรุณรัศมีจึงหลบั ไป ๔ ตอนอรุณรศั มีถามนางสวุ รรณมาลีเรื่องจะลาสึกขาชี อรณุ รศั มถี ามนางสวุ รรณมาลวี า่ จะสึกตามคานมิ นตข์ องพระอภัยมณหี รอื ไม่ นางสวุ รรณมาลีไม่ตอบเพราะตง้ั ใจบาเพญ็ เพียรภาวนา ฝ่ายอรุณรัศมีคิดถงึ วัง อยาก กลับเข้าไปอยใู่ นวงั ดงั เดมิ
เห่เรื่องพระอภยั มณี ๕. ตอนนางละเวงชมธรรมชาติ นางละเวงขีม่ ้าหนพี ระอภัยมณีเขา้ ไปในป่า นางชมธรรมชาตแิ ลว้ พักแรมท่ีเขาองั กาศ ๖. ตอนพระอภัยตดิ ราพงึ ใครจ่ ะได้เชยชมนางละเวง พระอภยั มณนี ั่งทา้ ยรถนางละเวงขณะเดินทางกลบั วงั และราพึงถงึ นางละเวงใคร่จะได้ เชยชมนางละเวง แตต่ ิดขดั ทน่ี างปิดประตแู ละสลักกลอนไว้ ๗. ตอนนางละเวงแสรง้ ประชวร นางละเวงแสร้งประชวร เหน็ พระอภัยมณมี าเดนิ เวียนวนรอบรถทรงกส็ งสาร ต่อมานางก็ สั่งให้นางสลุ าลวี ันขบั ลาถวาย ๘. ตอนนางสุลาลีวนั ขับถวายนางละเวง นางสลุ าลวี นั ขบั ลาถวาย ตามรับสั่งของนางละเวงมเี นื้อความเกีย่ วกบั ผชู้ ายครา่ ครวญ ถึงความรักทม่ี ตี ่อผู้หญงิ เปน็ นยั เปรยี บเทยี บถงึ ความรกั ทพี่ ระอภยั มณมี ีตอ่ นาง
เห่เรอ่ื งโคบตุ ร มคี วามยาว ๖ บท เปน็ บทเหก่ ลอ่ มเรอื่ งทีส่ น้ั ที่สดุ ในบรรดาส่ีเรื่อง มเี นื้อหา กล่าวถึง.. โคบุตรส่งสารรักไปใหน้ างอาพนั มาลา แลว้ ให้นกขุนทองนาสารไปส่ง เหเ่ อยเห่ถวาย ถงึ เร่อื งนยิ ายแต่ปางหลัง ให้พระองคท์ รงฟัง เมอื่ แรกตัง้ โลกา มีพระมิ่งมงกฎุ ชอ่ื โคบุตรสุรยิ า ได้ข่าวพระธดิ า ตรึกตราตรอมใจ
สน้ิ สดุ การนาเสนอ ..สวสั ด.ี .
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123