Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การทรงงานพัฒนาประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

การทรงงานพัฒนาประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

Published by waryu06, 2021-02-11 04:01:39

Description: การทรงงานพัฒนาประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

Search

Read the Text Version

การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประสบการณ์การเรียนรู้ ตามรอยพระยุคลบาท ของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จดั ทำโดย สำนักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ๙๖๒ ถนนกรงุ เกษม เขตป้อมปราบฯ กรงุ เทพฯ ๑๐๑๐๐ พิมพ์ครงั้ ที่ ๑ สงิ หาคม ๒๕๕๔ จำนวน ๒,๐๐๐ เล่ม ISBN ๙๗๘-๙๗๔-๙๗๖๙-๙๗-๓ ขอ้ มูลทางบรรณานกุ รม สำนกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาต.ิ การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั กรงุ เทพฯ : ศูนยก์ ารพิมพเ์ พชรรุ่ง, ๒๕๕๔.

คำนิยม หากจะกล่าวหรือบรรยายถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อชาติบ้านเมืองของเราแล้ว คงต้องรวบรวมและพมิ พ์เปน็ หนงั สือเลม่ หนามาก เนอ่ื งจากมมี ากมาย เหลอื คณานบั จงึ เปน็ เรื่องนา่ ยินดอี ย่างยง่ิ ทสี่ ำนกั งานคณะกรรมการพฒั นา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ “สภาพฒั น์” ได้จัดทำหนงั สอื “การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว” ซึ่งเป็นการรวบรวมประสบการณ์การถวายงานและตามเสด็จ พระราชดำเนินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปทรงงานพัฒนา ประเทศและชว่ ยเหลอื พสกนิกรทัว่ ประเทศของ ดร.สเุ มธ ตันตเิ วชกุล ผู้ถวายงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทมายาวนานกว่า ๔๐ ปี และ ได้เกิดการเรียนรู้จนสามารถนำมารวบรวมและประมวลขึ้นเป็น หนังสือเล่มนี้ อันจะเป็นองค์ความรู้ที่ช่วยให้ประชาชนได้ทราบถึง การทรงงานพฒั นาประเทศของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั และ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตและการปฏิบัติงานในระดับต่างๆ และเกิด ความซาบซ้ึงในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างหาที่สุดมิได้ ในการพัฒนาประเทศและยกระดับคุณภาพชีวิต ของพสกนิกรชาวไทยให้ดีขนึ้

หนงั สือเลม่ น้ี จึงเป็นหนังสือท่ที รงคณุ คา่ เล่มหนึ่ง ท่ีผู้อ่าน จะได้เข้าใจและซาบซ้ึงในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวที่ทรงงานอย่างหนักและเหนื่อยยาก เพื่อช่วยเหลือ ราษฎรใหพ้ น้ จากความทกุ ขย์ าก โดยไม่ทรงเลอื กวา่ เขาเหลา่ นนั้ เป็นใคร สมดังพระราชปณิธานที่พระราชทานพระปฐมบรมราชโองการ ความว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่ง มหาชนชาวสยาม” พลเอก (เปรม ตณิ สลู านนท)์ ประธานองคมนตรีและรฐั บุรุษ สิงหาคม ๒๕๕๔

คำนำ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แหง่ ชาติ (สศช.) สำนกึ ในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั อย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้พสกนิกรชาวไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และตระหนักถึงความสำคัญ ของการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่มีคุณค่า และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ โดยในปัจจุบันสำนักงานฯ ม่งุ พัฒนาองค์กรสกู่ ารเป็นองค์กรฐานความรู้ ทส่ี ามารถตอบสนองต่อสภาวการณ์ ท่ีเปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเร็ว จงึ ได้จัดทำโครงการแลกเปล่ยี นเรยี นรขู้ ้ึน เพอื่ ประมวล องคค์ วามร้ทู สี่ ำคญั ตอ่ การพัฒนาประเทศ จากผ้ทู รงคุณวฒุ ใิ นสาขาต่างๆ เผยแพร่ สู่สาธารณชนและบุคลากรของสำนักงานฯ ร่วมกันเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมไทย สูส่ ังคมแห่งความสขุ อยา่ งยงั่ ยนื สำนักงานฯ พิจารณาเหน็ วา่ ดร.สุเมธ ตนั ติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิ ชยั พัฒนา และอดีตเลขาธิการคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ได้มีการเขียนบทความ การบรรยาย และการให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประสบการณ์ การเรียนรูต้ ามรอยพระยคุ ลบาทในเร่อื งตา่ งๆ เปน็ จำนวนมาก สมควรทจ่ี ะประมวล ไว้เป็นองค์ความรู้แก่บุคคลและองค์กรต่างๆ เพื่อจะได้น้อมนำมาประยุกต์ใช้เป็น แนวทางในการพัฒนาตนเอง องค์กร และประเทศต่อไป จึงได้ขออนุญาตจาก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล นำองค์ความรู้ดังกล่าวมาจัดทำหนังสือ “การทรงงาน พฒั นาประเทศ ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ วั ” เพอ่ื รว่ มเฉลมิ พระเกยี รตฯิ และเผยแพร่ให้ประชาชน หน่วยงานทั่วไป และบุคลากรของ สศช. ได้เรียนรู้

ตามรอยพระยุคลบาท และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวท่ีได้ทรงงานเพ่ือประโยชน์สุขของประชาชนอย่างต่อเนื่องตลอดมา เป็นเวลากว่า ๖๕ ปี ในการจดั ทำหนงั สือเลม่ น้ี มูลนธิ ชิ ยั พัฒนา และสำนกั งานคณะกรรมการ พิเศษเพอื่ ประสานงานโครงการอนั เน่ืองมาจากพระราชดำริ ได้ให้ความอนุเคราะห์ ข้อมูลและภาพพระราชกรณียกิจ สำนักงานฯ จึงขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง มา ณ โอกาสนี้ สำนักงานฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าองค์ความรู้เกี่ยวกับ “การทรงงาน พัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ในหนังสือเล่มนี้ จะเป็น ประโยชน์ต่อประชาชนและภาคส่วนต่างๆ เพื่อจะได้น้อมนำมาเป็นแนวทาง ในการพัฒนาตนเองและองค์กร เพื่อนำพาประเทศชาติก้าวหน้าต่อไปในวิถี ที่มน่ั คงและย่งั ยืนตลอดไป สำนกั งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ สิงหาคม ๒๕๕๔

สารบัญ หนา้ คำนิยม ๙ คำนำ ๓๕ ๔๗ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัว ๕๙ กบั โครงการอันเนอื่ งมาจากพระราชดำริ ๘๓ ๙๓ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ ัวผูท้ รงเป็นพลงั แหง่ แผ่นดนิ ๑๐๑ ๑๑๓ ประสบการณ์สนองพระราชดำริ เรยี นรู้หลกั การทรงงาน ๑๓๑ ในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั เศรษฐกจิ พอเพยี ง... นำสู่ความสุขของชวี ิตอยา่ งยั่งยนื “ฉลาดร้”ู ตามแนวพระราชดำริ พระมหากรุณาธคิ ุณด้านการพฒั นาการศึกษา ตามรอยเบอื้ งพระยุคลบาท การถวายงานของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล อญั เชญิ แนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพยี ง นำทางการพัฒนาประเทศ ในแผนฯ ๘

“...คำว่า “พัฒนา” ก็หมายถึงทำให้มั่นคง ทำให้ก้าวหน้า การพัฒนาประเทศก็ทำให้บ้านเมืองมั่นคงมีความเจริญ ความหมายของการพัฒนาประเทศนี้ก็เท่ากับ ตั้งใจที่จะทำให้ชีวิตของแต่ละคนมีความปลอดภัย มีความเจริญ มีความสุข ฉะนั้น จึงเข้าใจได้ว่า การพัฒนาทุกอย่างเป็นสิ่งที่ดี เพราะว่าจะนำมาซึ่งความสุขความเจริญ และความพอใจของแต่ละบุคคลในประเทศ...” พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่ คณะที่ปรึกษาเยาวชนและเยาวชนดีเด่น ณ ศาลาผกาภิรมย์ ๗ พฤษภาคม ๒๕๑๓

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมั ภาษณ์ ดร.สเุ มธ ตันตเิ วชกลุ



พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สัมภาษณ์ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล* ❝ พระองค์ทรงมีรับสั่งว่า การแก้ปัญหาของประชาชน และประเทศชาติไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นงานยาก การเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหา เหมือนกับการเข้าสงคราม แต่เป็นการทำสงครามที่ไม่ใช้อาวุธ เป็นการต่อสู้กับปัญหา เพื่อนำไปสู่ชัยชนะ โดยใช้กระบวนการพัฒนานำไปสู่ความสำเร็จ จึงเป็นที่มาของชื่อ “มูลนิธิชัยพัฒนา”... …เพราะพระองค์ทรงรักแผ่นดิน ทรงรักประชาชน จึงทรงทำ ทุกสิ่งทุกอย่างให้แผ่นดิน ให้ประชาชนมีความสุข ❞ * สัมภาษณ์โดยคณะผู้บริหาร สศช. และทีมงานจัดทำหนังสือเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจา้ อย่หู วั เนอ่ื งในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธนั วาคม ๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๔ ณ มูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อเผยแพร่ในหนังสือ “พระมหากษัตริย์ นักพฒั นา เพื่อประโยชนส์ ขุ ส่ปู วงประชา” การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 11

ดร.สเุ มธ ตันตเิ วชกลุ เป็นผู้ท่ถี วายงานใกล้ชิดเบ้อื งพระยคุ ลบาท โดยเมื่อครั้งปฏิบัติงานอยู่ท่ีสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สงั คมแห่งชาติ (สศช.) ได้รับผิดชอบเรอื่ งการประสานงานโครงการอนั เน่ืองมาจาก พระราชดำริ และเมื่อมีการจัดตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการ อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำริ (กปร.) ท่านไดร้ บั แตง่ ต้ังเป็นกรรมการและเลขานกุ าร ตอ่ มาเม่อื มกี ารจดั ตั้งสำนักงาน กปร. ท่านได้ดำรงตำแหนง่ เลขาธกิ ารฯ คนแรก และในปัจจุบันท่านดำรงตำแหน่ง กรรมการและเลขาธิการมูลนธิ ิชยั พัฒนา ท่านได้กรุณาให้ผู้บริหารและทีมงานจัดทำหนังสือเฉลิมพระเกียรติ เข้าพบเพื่อเรียนสัมภาษณ์เกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับโครงการ อันเน่อื งมาจากพระราชดำริ เม่อื วนั พฤหสั บดีที่ ๑๖ มถิ นุ ายน ๒๕๕๔ ณ สำนักงาน มูลนธิ ิชัยพัฒนา ที่มาของสำนักงาน กปร. แรกเริ่มเดิมทีผมรับราชการอยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า สภาพฒั น์ ในตำแหน่งหวั หนา้ กองวางแผนเตรียมพร้อมด้านเศรษฐกิจ และปฏิบัติภารกิจในฐานะเลขานุการ ของคณะกรรมการพฒั นาพน้ื ทเ่ี พื่อความมนั่ คง ในเขตกองทัพภาคท่ี ๑-๔ จึงทำให้ ผมได้มีโอกาสสัมผัสงานในพื้นที่ในเขตกองทัพภาคต่างๆ โดยทำหน้าที่เป็นเลขา ของแม่ทพั ภาคตา่ งๆ และแมท่ ัพท่านหน่งึ ที่ผมเคยไปปฏิบตั ิหนา้ ทเ่ี ปน็ เลขาอย่นู ัน้ คอื ฯพณฯ พลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์ ขณะนน้ั ทา่ นมยี ศเป็นพลโท ดำรงตำแหนง่ แมท่ ัพภาคที่ ๒ 12 การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ก่อนหนา้ ปี ๒๕๒๔ น้ัน ไมม่ อี งคก์ รใดทจ่ี ะเป็นหน่วยงานประสานงาน โครงการอนั เน่อื งมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั เมอ่ื พระองค์ ทรงมีพระราชดำริ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรับสนองพระราชดำริ จนบางครั้ง เกดิ ความซ้ำซ้อน หรอื อาจจะไมม่ ีพระราชดำริกไ็ ปอ้างวา่ มพี ระราชดำริ ในช่วงน้ัน จงึ เกิดความสับสนพอสมควร พลเอก เปรม ในฐานะทท่ี ่านเคยเป็นแมท่ พั ซง่ึ คนุ้ เคยกบั งานในพ้ืนที่ รับรู้ และทราบว่ามีปัญหานี้อยู่ เมื่อทา่ นดำรงตำแหนง่ นายกรัฐมนตรีจึงมีดำริ ที่จะจัดตั้งสำนักงานเพ่ือถวายงานในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ใหด้ ำเนินการไปอย่างราบรื่น ทา่ นจึงมอบหมายให้ ดร.เสนาะ อนู ากูล เลขาธิการ สภาพัฒน์ในขณะนั้น ศึกษาและกำหนดว่าควรจะเป็นองค์กรรูปแบบใดและ มีระบบงานอย่างไร กปร. องค์กรระดับชาติ กลไกเพื่อการประสานงาน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ดร.เสนาะ ได้มอบให้ผมศึกษา ด้วยสมมุติฐานง่ายๆ ว่า โครงการ พระราชดำรินั้นส่วนมากอยู่ในเขตชนบทและแหล่งทุรกันดาร ซึ่งขณะนั้นผม รับผดิ ชอบงานพัฒนาชนบทอยู่ และบังเอญิ อกี ว่าผมมปี ระสบการณเ์ รื่องการพัฒนา องค์กรความมั่นคง ผมจึงดำเนินการโดยยึดตามแบบระบบที่เคยดำเนินการ เกี่ยวกับการพัฒนาองค์กรความมั่นคง คือออกเป็นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี มีคณะกรรมการควบคุมดูแล โดยจะต้องมีความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน อันเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ เนื่องจากงานโครงการพระราชดำริ มลี ักษณะเหมอื นการพัฒนาความมน่ั คงทตี่ อ้ งการความฉับไว รวดเรว็ รวมท้งั ได้ ถอดแบบระบบบริหารการเงินมาดว้ ย ซึง่ ขณะนั้นยงั ไมม่ ีใครใช้มากอ่ นคือ งบลอย (Floating Fund) เป็นงบที่ตงั้ ไว้ก่อนเหมือนงบของการพฒั นาเพื่อความมน่ั คง การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 13

❝ หน้าที่ของพระองค์ทรงเป็นที่ปรึกษา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ กระทรวง ทบวง กรม พระองค์ไม่ทรงมีอำนาจอะไร ที่จะมาสั่งงาน ทรงมีพระราชประสงค์ ที่จะช่วยเหลือประเทศในฐานะที่ปรึกษา ❞ เมื่ออาจารยเ์ สนาะนำไปให้ พลเอก เปรม พิจารณา ทา่ นบอกว่าดแี ล้ว และให้พิจารณาหาตัวบุคคลมารับงานนี้ อาจารย์เสนาะจึงเสนอชื่อผมและเริ่ม จัดตั้งองค์กรขึ้นตาม “ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยโครงการอันเนื่อง มาจากพระราชดำริ พ.ศ. ๒๕๒๔” ซึ่งมีผลบังคับใชเ้ ม่ือวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๒๔ กำหนดให้มอี งคก์ รระดบั ชาติ มีหน้าที่รับผิดชอบการดำเนนิ การโครงการอนั เน่ือง มาจากพระราชดำริ เรียกว่า “คณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการ อนั เนือ่ งมาจากพระราชดำร”ิ ทรงแสดงความเป็นประชาธิปไตย... ทรงละพระราชอำนาจสงั่ การ เดิมเราคิดกันไว้ว่าจะใช้ช่ือคณะกรรมการโครงการตามพระราชดำริ ตามที่เราคุ้นเคย แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทักท้วงและรับสั่งว่า ไม่ได้หรอก เป็นเผด็จการ พระเจ้าแผ่นดินจะมาสั่งอะไรต่อมิอะไรไม่ได้ หน้าท่เี ราคือต้องคิด เหน็ ด้วยหรอื ไมเ่ หน็ ดว้ ย หน่วยงานราชการสามารถทำได้เตม็ ที่ ซึ่งทรงแสดงความเป็นประชาธิปไตย และทรงเน้นย้ำในระยะต่อมาหลายครั้ง หลายหนวา่ หนา้ ท่ีของพระองคท์ รงเปน็ ที่ปรกึ ษา ไม่ไดเ้ กยี่ วข้องกบั กระทรวง ทบวง กรม พระองคไ์ ม่ทรงมีอำนาจอะไรทีจ่ ะมาสั่งงาน ทรงมีพระราชประสงค์ ที่จะช่วยเหลือประเทศในฐานะที่ปรึกษา 14 การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เพราะฉะนั้น เมื่อตั้งองค์กรในระบบราชการมาก็ดแี ลว้ กล็ องพจิ ารณา เหน็ ด้วยก็ทำ ผลสุดทา้ ยชอ่ื จึงกลายมาเปน็ “อนั เนื่องมาจากมาพระราชดำร”ิ แล้วทรงมีรับสั่งว่าต่อไปนี้ให้ใช้ชื่อในลักษณะนี้อย่างเดียว จึงได้มีการจัดตั้ง “คณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.)” ขึ้นในปี ๒๕๒๔ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ และผมเป็น กรรมการและเลขานกุ าร ทำหนา้ ที่ดำเนนิ การควบคุม อำนวยการ กำกับ ดูแล ตดิ ตามผลประสานการดำเนนิ งาน นอกจากนนั้ เป็นหนว่ ยปฏบิ ตั ทิ ั้งหมด กรรมการ ได้แก่ ปลัดกระทรวงสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานพระราชดำริ โดยมีสำนักงาน เลขานุการคณะกรรมการพิเศษเพ่ือประสานงานโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำริ (สำนักงานเลขานุการ กปร.) สังกัดสภาพัฒน์ ทำหน้าที่ฝ่าย เลขานุการของคณะกรรมการฯ ขณะนั้นผมทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการกองวางแผนเตรียมพร้อม ด้านเศรษฐกิจของสภาพัฒน์ จึงมีหน้าที่หลากหลาย และหนึ่งในนั้นยังเป็น ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการพิเศษเพ่ือประสานงานโครงการ อนั เนือ่ งมาจากพระราชดำริ รับผิดชอบงานโครงการอนั เนอื่ งมาจากพระราชดำรดิ ว้ ย ตามเสดจ็ ฯ เรยี นรู้ จด จำ และนำมาปฏบิ ัต.ิ .. หนา้ ทแี่ รกของเลขาธิการ กปร. หน้าที่ประการแรกของการเป็นเลขาธิการ กปร. คือ ตามเสด็จฯ และเน่อื งจากโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดำริมีหลากหลายรปู แบบมาก ทงั้ ท่ี เปน็ เร่ืองเกยี่ วกบั อาชพี ของประชาชน ปัญหาสงั คม และพ้นื ทดี่ ำเนนิ การก็กระจาย ท่วั ทกุ ภมู ภิ าค ซงึ่ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั จะเสด็จฯ และประทับในภูมิภาค ตา่ งๆ ภูมภิ าคละ ๒ เดอื น ๔ ภาคก็ ๘ เดอื น การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 15

❝ พระองค์ทรงสรุปให้ฟังในวันหนึ่งว่า ต้องเคารพภูมิสังคม ภูมิ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ส่วนสังคม คือ คน ซึ่งเป็นคนในมิติที่มีขนบธรรมเนียมประเพณี ความเชื่อ และค่านิยมของเขาด้วย ❞ ระยะแรกๆ ไม่กล้าตามเสด็จฯ เข้าไปใกล้ๆ เพราะไม่มีกฎชี้ให้เรา เขา้ ใจกอ่ นว่าเราควรอยตู่ รงไหน อย่างไร จำไดว้ ่าตามเสดจ็ ฯ คร้ังแรกทอ่ี ำเภอชะอำ แลว้ กจ็ ังหวัดนราธิวาส ผมอย่ทู า้ ยขบวน ห่างพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวมาก พอพระองค์ทรงรบั สั่งไปตามถุงเงนิ มา เนื่องจากผมดแู ลงบประมาณ พระองค์ จงึ ทรงต้ังชอื่ ว่า “ถุงเงิน” ทุกคนก็เลิกลั่ก เพราะไม่มีใครรู้จัก ตอนหลังจึงรู้ว่า คือผมเอง ตงั้ แต่น้ันมาถึงไดร้ ู้วา่ ตวั เองควรอยูต่ รงไหน คอื ใหอ้ ยู่ใกลๆ้ พระองค์ จดทกุ สิง่ ทกุ อย่างทม่ี พี ระราชกระแสว่าพระองคม์ พี ระราชดำริอะไรบ้าง ผมจงึ มกั บอกกับใครๆ เสมอว่า การถวายงานตอ้ งศึกษาและเรยี นรูเ้ อง คอยสงั เกตและ ซมึ ซับการปฏิบัตงิ านตา่ งๆ ไมม่ ีใครมาสอน และก็ไมม่ ีใครสามารถสอนดว้ ย ต้องเคารพภูมิสังคม พัฒนาพื้นที่ในทุกมิติ พระองค์ทรงมีพระเมตตา พนื้ ฐานของผมไมไ่ ด้เรียนเกษตร แตพ่ ระองค์ ทรงมีความรอบรเู้ ช่ยี วชาญทางการเกษตร เพราะเปน็ กิจกรรมทพ่ี ระองค์ทรงงานอยู่ ทรงสอนทกุ อย่าง ใหเ้ ราร้จู ักดิน นำ้ ลม ไฟ รูจ้ ักธรรมชาติ รู้จักคน ซึ่งพระองค์ ทรงสรุปให้ฟังในวันหนึ่งว่า ต้องเคารพภูมิสังคม ภูมิ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ สว่ นสังคม คือ คน ซ่งึ เปน็ คนในมิติทม่ี ขี นบธรรมเนียมประเพณี ความเชื่อ และค่านยิ มของเขาด้วย พระองค์ทรงสอนให้เรารอบรู้หมดทกุ อยา่ งในการทำงาน 16 การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

❝ ทรงสอนให้มองมิติต่างๆ อย่างครบถ้วน เวลาทำงานพัฒนาจึงต้องมองทุกมิติ ทุกอย่าง ต้องวางให้สอดคล้องกับภูมิประเทศและสังคมที่แตกต่างกันไป ❞ เชน่ เวลาทำโครงการเราคดิ แตจ่ ะวางโครงการบนแผ่นกระดาษเท่านน้ั แต่เม่ือได้ ถวายงานจงึ ได้เรยี นรู้วา่ กจิ กรรมหรอื โครงการน้ีจะต้องมีครบทกุ มติ ิ แตก่ อ่ นเราดู แต่มิติกายภาพ ดูเป็นถนน เป็นสะพาน เป็นตึกอาคาร เราดูเพียงแค่นั้น แต่ พระองคท์ รงสอนใหเ้ ห็นถงึ มิตขิ องคน หรือความจริงทวี่ า่ “คน” คือผู้ใชถ้ นน เป็นสิ่งมีชีวิต คนใช้เขาพร้อมจะใช้หรือเปล่า การไปลาดยางถนนในขณะที่เขา ใช้เกวียนเป็นพาหนะอยู่ ถ้าลาดยางแล้วเขาจะใช้หรือเปล่า เหมาะสมหรือไม่ เพราะฉะน้นั ทรงสอนให้มองมติ ิต่างๆ อยา่ งครบถว้ น เวลาทำงานพฒั นาจึง ต้องมองทุกมติ ิ ทกุ อย่างต้องวางให้สอดคลอ้ งกบั ภมู ปิ ระเทศและสังคมทแี่ ตกต่าง กันไป นอกจากนี้ โครงการต่างๆ มีหลากหลายสาขา ต้องประสานงานกับ หลายหน่วยงาน เริ่มต้นจากการสร้างแหล่งน้ำ จากแหล่งน้ำก็ต้องมีอาชีพ เรื่องการเกษตร ปศุสัตว์เข้ามา หน้าที่หลักๆ ของ สำนักงานเลขานุการ กปร. อีกประการหนึ่งคือ เป็นตัวกลางคอยประสานเพื่อให้งานลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งจะ ทำให้ดไี ด้ตอ้ งเข้าใจพระราชดำริอยา่ งแท้จรงิ พระองคท์ รงมพี ระราชกระแสหรอื พระราชดำริอะไรต้องจดให้หมด ดังนั้น ในการตามเสด็จฯ กลับมาแต่ละครั้ง จะทำรายงานว่าวันนี้ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งอะไรบ้าง เป็นคัมภีร์ ใครจะมา กล่าวอ้างเปน็ อยา่ งอ่ืนไม่ได้ รวมทั้งต้องทำบันทกึ ให้ทมี งานนำไปประสาน ถา้ หาก จำเปน็ จะต้องตัง้ เป็นคณะทำงานหรือเปน็ กรรมการในระดับโครงการในพน้ื ท่ี กท็ ำ เปน็ โครงการเล็กๆ และประสานการจัดสรรงบประมาณจนครบถ้วนกระบวนการ ตามพระราชดำริ การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 17

❝ ทรงตรวจติดตามความก้าวหน้าของโครงการอีกครั้ง ด้วยพระองค์เอง ตลอดจนพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัย ในการแก้ไขปัญหาของราษฎร เพื่อให้โครงการประสบความสำเร็จ ❞ งานทุกขั้นตอนต้องถูกต้องเป็นระบบ... ทรงตรวจเยี่ยม และติดตามความก้าวหน้าของโครงการด้วยพระองค์เอง หน้าที่ประการต่อมาคือ ติดตามประมวลผลและถวายรายงาน ทุก ๓-๔ เดือน ต้องประมวล ติดตามผลกระทบเป็นอย่างไร ประชาชนเขา เปล่ียนไปไหม รายไดเ้ ปน็ อยา่ งไร สภาพแวดล้อม ป่า น้ำ ไดร้ ับการฟืน้ ฟูไหม ต้องตดิ ตามประมวลผลอย่างใกล้ชดิ ทำเป็นระบบและทูลเกล้าฯ ถวาย จะทำแบบ หละหลวมไมไ่ ด้ เนื่องจากพระองค์ทรงตดิ ตามเร่ืองด้วยพระองค์เอง บางปีถดั มา เสด็จฯ ซ้ำในพืน้ ทเ่ี ดิม ในพระหัตถ์จะมรี ายงานนนั้ อยู่ จรงิ ไม่จริงทรงรู้ โดยทรง ตรวจติดตามความก้าวหน้าของโครงการอีกครั้งด้วยพระองค์เอง ตลอดจน พระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยในการแก้ไขปัญหาของราษฎรเพื่อให้โครงการ ประสบความสำเรจ็ ใครๆ มักคิดว่าโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริไม่มีใครมา ตรวจสอบ จริงๆ แล้วไมใ่ ช่ เราทำกันอยา่ งเข้มงวดมาก เพราะจะผดิ พลาดไม่ได้ ต้องระมัดระวังเพิ่มอีกหลายเท่า เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ดำเนินการ ไม่ว่าจะ เป็นนามธรรมหรือรูปธรรม ย่อมสง่ ผลต่อสถาบัน ตอ้ งระวังทกุ ยา่ งก้าว โดยเฉพาะ อย่างยิ่งได้กำชับให้หน่วยปฏิบัติห้ามอ้างว่าเป็นโครงการพระราชดำริ ต้องให้ ประชาชนเขาทำดว้ ยความเต็มใจ 18 การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

❝ งานในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จึงได้รับความเชื่อถือว่าทำอย่างรัดกุมรอบคอบที่สุด ไม่มีหน่วยราชการไหนจะทำละเอียดถี่ถ้วนทุกมิติ เท่ากับที่สำนักงานเลขานุการ กปร. ทำ ทำให้ได้รับการยอมรับในเรื่องนี้มาก ❞ ทุกโครงการได้รับความเชื่อถือ... ถูกต้อง รัดกุม และรอบคอบ ทุกโครงการตอ้ งผ่านระบบราชการมีการตรวจสอบไมไ่ ดม้ อี ภิสิทธิอ์ ะไร จำไดว้ า่ นำแบบฟอรม์ ใหค้ ณะกรรมาธิการงบประมาณตรวจสอบ ซงึ่ เขาเข้มงวดมาก กบั การตดิ ตามประเมนิ ผล เมอ่ื ตรวจสอบแล้วคณะกรรมาธิการงบประมาณบอกว่า อยากใหก้ ารตดิ ตามประเมินผลของสำนกั งานเลขานกุ าร กปร. เปน็ ต้นแบบให้กับ หน่วยราชการทุกหน่วยดำเนินการตามนี้ด้วย นั่นคือ งานในโครงการอันเนื่อง มาจากพระราชดำริจึงได้รับความเชื่อถือว่าทำอย่างรัดกุมรอบคอบที่สุด ไมม่ ี หน่วยราชการไหนจะทำละเอียดถ่ีถ้วนทุกมิติเท่ากับที่สำนักงานเลขานุการ กปร. ทำ ทำให้ได้รับการยอมรบั ในเรื่องนีม้ าก ถือได้ว่างานประสานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริน้ัน มีสภาพัฒน์เป็นหน่วยงานเริ่มต้น เหมือนกับอีกหลายหน่วยงานในประเทศ ท่แี ตกรากมาจากสภาพัฒน์ เช่น สำนักงานสถติ แิ หง่ ชาติ สำนักงานนโยบายและ แผนพลังงาน การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 19

❝ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำคัญอย่างยิ่งคือ การรักษาดิน น้ำ ลม ไฟ ทำอย่างไรให้ทรัพยากร ที่เสื่อมโทรมแล้วฟื้นกลับคืนมา ทั้งทรงแก้ไข ฟื้นฟู และบำรุงรักษา ❞ จากสภาพัฒน์... สู่ตึกแดง โรงเรียนนายร้อย จปร. ต่อมา ผมไดเ้ ลือ่ นตำแหนง่ เปน็ ผู้ช่วยเลขาธกิ ารฯ และทำงานในตำแหน่ง ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการพัฒนาชนบทแห่งชาติของสภาพัฒน์ด้วย และได้ เลื่อนตำแหนง่ สูงข้ึนอีกเปน็ รองเลขาธิการสภาพัฒน์ ต้องดแู ลเรอ่ื งงานบรหิ ารและ งานวิชาการเพิม่ ขนึ้ เมอื่ ปรมิ าณงานมากขึ้น จงึ คิดวา่ น่าจะถงึ เวลาแยกออกจาก สภาพัฒน์ เนื่องจากโครงการต่างๆ ขยายเพิ่มมากขึ้น เจ้าหน้าที่สภาพัฒน์ต้อง สวมหมวกหลายใบ ทำหน้าทห่ี ลายอย่าง งานลน้ คน จึงขอแยกสำนักงาน โดยมี การตรากฎหมายเฉพาะของ สำนักงาน กปร. เปน็ หน่วยงานระดับกรม สังกดั สำนกั นายกรัฐมนตรี ตัง้ แตว่ นั ท่ี ๗ กนั ยายน ๒๕๓๖ ยา้ ยมาอย่ทู ่โี รงเรียนนายร้อย จปร. เก่า หรือตึกแดงหลงั เล็ก โดยผมดำรงตำแหน่งเปน็ เลขาธิการคณะกรรมการ พิเศษเพื่อประสานงานโครงการอนั เน่อื งมาจากพระราชดำริ (กปร.) เปน็ คนแรก ในปี ๒๕๓๖ ต่อมาในปี ๒๕๓๗ ทางรัฐบาลได้ขอให้ผมกลับสภาพัฒน์ เพื่อดำรง ตำแหนง่ เลขาธิการฯ ตอนนั้นผมมีเพยี งเง่อื นไขเดยี วท่ีขอไว้คือ ผมขอทำงานรับใช้ เบอ้ื งพระยคุ ลบาทดว้ ย ระหวา่ งดำรงตำแหนง่ เลขาธิการสภาพัฒน์ ผมจงึ รักษาการ ตำแหน่งเลขาธิการ กปร. ไปพรอ้ มกันดว้ ย จนกระทง่ั ครบ ๒ ปี 20 การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

❝ ทรงยึดถือเป็นอย่างมากว่า การพัฒนาใดๆ นั้น จะต้องให้สอดคล้องกับปัญหาที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนั้นๆ ทำอะไรให้คิดถึงภูมิประเทศก่อน และให้นึกถึงสังคมหรือคน ❞ ทรงให้ความสำคัญกับทรัพยากรธรรมชาติ... ดิน น้ำ ลม ไฟ งานที่พระองค์ทรงมีพระราชดำริและทรงงานมาตลอด ช่วยรักษา แผน่ ดินไว้ให้เรา ปัญหาสำคัญทสี่ ุด คือ ทรพั ยากรธรรมชาติ ได้แก่ ดนิ นำ้ ลม ไฟ ผมคดิ ว่าเราต้องรกั ษาดิน น้ำ ลม ไฟ ไวใ้ ห้ได้ เพราะขณะนี้ถูกทำลายไปมาก นำ้ เน่า ดินพังทลาย ป่าถูกเผา ต้นไม้ถูกตัด คนบุกรุกป่ากันทุกวัน ตลอดระยะเวลาที่ ทรงงาน พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวทรงใหค้ วามสำคญั อย่างยงิ่ คือ การรกั ษา ดิน น้ำ ลม ไฟ ทำอย่างไรให้ทรัพยากรที่เสื่อมโทรมแล้วฟื้นกลับคืนมา ทั้งทรงแก้ไข ฟื้นฟู และบำรุงรักษา พระองค์ทรงมีรับสั่งแล้วทรงทำให้ดูด้วย ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทำไมต้องมี ๖ แห่ง ทั้งทาง ภาคกลาง เหนือ อสี าน ใต้ ตะวนั ออก และตะวันตก ก็เพอ่ื ใหเ้ หน็ วธิ กี ารแตล่ ะภาค ไม่เหมอื นกัน การคิดโครงการแล้วนำมาทำเหมือนกันหมดทั้งประเทศ พระองค์ ตรัสว่าไมใ่ ช่ แตล่ ะแห่งยอ่ มมีภมู สิ ังคม ดนิ นำ้ ลม ไฟ กระทง่ั คน แตกตา่ งกนั ทรงยดึ ถอื เป็นอย่างมากวา่ การพฒั นาใดๆ น้นั จะตอ้ งให้สอดคล้องกบั ปัญหา ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนั้นๆ ทำอะไรให้คิดถึงภูมิประเทศก่อน และให้นึกถึงสังคม หรือคน เพราะฉะน้นั สิง่ ท่ปี ฏบิ ตั ใิ นแต่ละท้องทต่ี ้องใหส้ อดคลอ้ งกับสภาพแวดล้อม ทรพั ยากรธรรมชาติ และลักษณะของคนซึง่ มีเร่อื งประเพณี หลกั ปฏิบตั ิ ค่านยิ ม แตล่ ะแหง่ ไมเ่ หมือนกนั การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 21

❝ ก่อนที่พระองค์จะพระราชทานแนวพระราชดำริในการพัฒนา จะทรงทำการทดลองก่อน ทรงรวบรวมองค์ความรู้เป็นระบบ แล้วจึงทรงนำมาถ่ายทอด ทรงมีรับสั่งเสมอว่า การที่เราจะแนะ หรือไปสอนเขาต้องระวังให้มาก เพราะหากพลาดไปแล้ว เราไม่ได้แย่นะ แต่เขาจะแย่ ❞ ทรงคิดค้นวิธีแก้ปัญหา จนเป็นองค์ความรู้ ถ่ายทอด และขยายผลสู่การปฏิบัติจริง ตลอดระยะเวลากวา่ ๖๕ ปที ี่ผ่านมา ทรงคดิ ค้นวธิ ีการแก้ไขปญั หา เฉพาะหน้า แน่นอนที่สุดประชาชนป้อนความต้องการเข้ามา เราสนอง แต่ใน ขณะทเี่ ราสนองการแก้ไขปัญหาเรื่องดิน นำ้ ลม ไฟ อาชพี และปัญหาสารพัด ที่แอบแฝงอยู่ ไม่ใช่โครงการที่รักษาหายหรือให้แล้วก็จบ พระองค์ทรงเป็น องค์ความรู้ ให้แต่ละแห่งที่ไปช่วย เกิดบทเรียนขึ้นมา ให้มีการถ่ายทอด ตอ่ เนอ่ื งกัน ดว้ ยเหตุนี้ แหล่งความรูจ้ งึ มีอยมู่ ากมายตามโครงการตา่ งๆ ซ่ึงน่าเสียดาย ท่ีทกุ คนมองข้ามไป กอ่ นท่ีพระองคจ์ ะพระราชทานแนวพระราชดำรใิ นการพฒั นา จะทรง ทำการทดลองก่อน ทรงรวบรวมองคค์ วามร้เู ป็นระบบ แลว้ จงึ ทรงนำมาถา่ ยทอด ทรงมรี ับสงั่ เสมอว่า การที่เราจะแนะหรือไปสอนเขาต้องระวังให้มาก เพราะ หากพลาดไปแลว้ เราไมไ่ ด้แย่นะ แต่เขาจะแย่ เช่น เราไปแนะใหเ้ ขาปลูกอะไร สกั อยา่ ง ถา้ ไดผ้ ลกด็ ีไป แตถ่ า้ ไมไ่ ด้ผล เขาแย่ เพราะฉะนัน้ เราตอ้ งระวงั ใหม้ าก และที่แยก่ วา่ นนั้ คือ ตน้ ไมท้ เี่ ราแนะให้เขาปลกู กวา่ จะร้วู า่ สำเร็จหรอื ไม่ ใชเ้ วลา ๔-๕ ปี เพราะฉะนนั้ เร่อื งเกษตร ดิน นำ้ ลม ไฟ ต้องระวังอย่างมาก เพราะเมื่อ พลาดแลว้ ฟ้นื กลบั คืนยาก ไมเ่ หมือนเรอ่ื งอตุ สาหกรรมหรอื เรอ่ื งอน่ื ๆ ทสี่ ามารถ ไปก้เู งนิ มาดำเนนิ การต่อได้ เร่อื งธรรมชาตฟิ ้ืนกลับมายากที่สุด 22 การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

❝ เราทำงานอย่างจริงจัง มีการบริหารจัดการ มีการทดลองหรือห้องทดลอง เริ่มจากในวังเป็นห้องทดลอง ส่วนพระองค์ และมีเป้าหมายสำคัญคือถ่ายทอดความรู้ ❞ จากห้องทดลองในพระราชวัง... ถ่ายทอดสู่ประชาชน หากยอ้ นกลบั ไปดปู ระชาชนทเ่ี ราช่วยอยู่ ทีเ่ ขาพฒั นาตัวเองสำเร็จ และ ประชาชนได้มาเรียนรู้จากส่ิงที่เกิดขึ้น หรอื ท่ีศูนยศ์ กึ ษาการพัฒนาฯ ไดช้ ว่ ยเหลอื ประชาชนเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่นสรุปรวมไว้ เราทำงานอย่างจริงจัง มีการ บริหารจัดการ มีการทดลองหรือห้องทดลอง เริ่มจากในวังเป็นห้องทดลอง ส่วนพระองค์ และมีเป้าหมายสำคัญคือถ่ายทอดความรู้ ซึ่งก่อนเกษียณอายุ ราชการ ผมไดร้ วบรวมทฤษฎีและแนวความคดิ ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว ในเชิงวิทยาศาสตร์ไว้ค่อนข้างสมบูรณ์ จัดทำเป็นหนังสือทั้งภาคภาษาไทยและ ภาษาอังกฤษ ซึ่งผมภูมิใจทส่ี ุด เพราะยงั สามารถใชไ้ ด้จนทกุ วนั น้ี เชน่ หากพบ ปัญหาดินอย่างนี้มีคำตอบ มีวิธีการซึ่งล้วนได้พิสูจน์แล้ว ถ่ายทอดไว้หมดว่า ล้มเหลวหรือสำเร็จอย่างไร การดำเนินงานต่างๆ เหล่านี้จะว่าไปแล้ว เริ่มจากหน่วยงานเล็กๆ ทสี่ ภาพฒั นผ์ มู้ หี นา้ ทพ่ี ฒั นาประเทศนน่ั เองซงึ่ ไดท้ ำมากอ่ นแต่ไม่ได้นำไปพัฒนา ต่อยอด ทำตั้งแต่สมัยผมรับผิดชอบเป็นผู้อำนวยการศูนย์ประสานการพัฒนา ชนบทแห่งชาติ โดยมีการนำปราชญ์ชาวบ้านมาให้ความรู้ รวมถึงจัดทำข้อมูล และตัวชี้วัดความยากจนต่างๆ รวบรวมเป็นข้อมูลพื้นฐาน แล้วผมก็นำงานจาก สภาพัฒน์มาต่อยอดที่สำนักงาน กปร. การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 23

❝ พระราชดำริของพระองค์คือ การพัฒนาต้องเริ่มจาก จุดเล็กๆ ก่อน ต้องพิถีพิถัน และก้าวไปทีละก้าว... ทรงสอนให้รู้จักคน ให้เรารู้จักเป็นคนที่รู้จักการให้ พระองค์ตรัสมาตลอดคือ ไม่นึกถึงตัวเราเป็นเบื้องต้น ให้นึกถึงคนอื่น คือ ให้เสียสละ ❞ การพัฒนาต้องเริ่มจากจุดเล็กๆ ก้าวทีละก้าวอย่างพิถีพิถัน ดังนั้น ทุกย่างก้าวต้องระวังอย่างที่สุด พระองค์ทรงกำชับเสมอว่า อย่าลัดขัน้ ตอน เป็นพระราชดำริของพระองคค์ อื การพฒั นาตอ้ งเริ่มจากจุดเลก็ ๆ ก่อน ต้องพิถีพถิ ัน และก้าวไปทลี ะก้าว (step by step) รวมท้งั ยงั ทรงเปน็ นักพฒั นา ที่มีความเป็นศิลปิน ทำแล้วต้องสวยงามด้วย เช่น ศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ทกุ ศนู ย์จะสวยงามและสอดคลอ้ งกับธรรมชาติ ความคดิ ต้องสวยงามแลว้ ยอ้ นกลับมา พฤติกรรมต้องสวยงามด้วย เพราะฉะนน้ั ย้อนมาตอนต้นเร่ืองทพ่ี ระองคท์ รงสอน ให้รู้จัก ดิน น้ำ ลม ไฟ ทรงสอนให้รู้จักคน ให้เรารู้จักเป็นคนที่รู้จักการให้ พระองค์ตรัสมาตลอดคือ ไม่นึกถึงตัวเราเป็นเบื้องต้น ให้นึกถึงคนอื่น คือ ใหเ้ สยี สละ มูลนิธิชัยพัฒนา... เพื่อการพัฒนาอย่างครบวงจร ในช่วงปี ๒๕๓๑ ขณะอยู่ที่จังหวัดสกลนคร มีเหตุการณ์หนึ่งคือ มีงานชิ้นหนึ่งล่าช้ามาก จนไม่ทันการณ์และส่งผลกระทบทำให้ผู้คนลำบาก และ หลายครั้งเวลาเราไปทำงานแล้วต้องแข่งกับเวลา แข่งกับฤดูกาลของธรรมชาติ ไมเ่ ช่นน้นั ตอ้ งรออีก ๔-๕ เดอื น ประชาชนจะพลาดโอกาส ต้องรอวงจรอีกรอบ ตอ้ งรอเรมิ่ ตน้ ใหม่อีก เราจงึ ต้องรชู้ ่วงจงั หวะ ธรรมชาติ และธรรมะ ผมจึงมธี รรม อยู่ ๒ ขอ้ คนธรรมดา และธรรมชาติ 24 การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

❝ เพื่อให้การพัฒนาครบวงจร จึงทรงให้จัดตั้งมูลนิธิขึ้นมาพร้อมพระราชทานชื่อ “มูลนิธิชัยพัฒนา” ซึ่งทรงรับสั่งว่า พระองค์จะทรงเป็นองค์นายกกิตติมศักดิ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานกรรมการมูลนิธิฯ ❞ เมอื่ เกดิ เหตุการณ์เช่นนแ้ี ล้ว พระองค์ตรสั ถามผม “ทำแบบโง” เปน็ หรือเปล่า ทรงมีพระอารมณ์ขัน ทรงให้ความรู้และทดสอบเชาว์แบบฉับพลัน โง คอื ทำแบบองค์กรเอกชน หรือ NGO นัน่ เอง ถา้ เชน่ น้ันต้องสร้างเครอื่ งมอื ใหม่ เพ่อื ให้การพฒั นาครบวงจร จงึ ทรง ให้จดั ต้งั มลู นิธิขึ้นมาพร้อมพระราชทานชือ่ “มูลนิธิชัยพัฒนา”ซึ่งทรงรับสั่งว่า พระองค์จะทรงเป็นองค์นายกกิตติมศักดิ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานกรรมการมูลนิธิฯ และโปรดเกล้าฯ ใหผ้ มเป็นกรรมการและเลขาธกิ าร พระองคท์ รงมรี ับสง่ั วา่ การแกป้ ัญหาของประชาชนและประเทศชาติ ไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นงานยาก การเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหา เหมือนกับ การเข้าสงคราม แต่เป็นการทำสงครามที่ไม่ใช้อาวุธ เป็นการต่อสู้กับปัญหา เพอื่ นำไปสชู่ ยั ชนะ โดยใช้กระบวนการพฒั นานำไปสูค่ วามสำเร็จ จึงเปน็ ท่มี า ของช่อื “มูลนิธิชยั พัฒนา” ดังนน้ั ในทัศนะของพระองค์ กระบวนการพฒั นา ทัง้ เรอื่ งสังคม การเมือง หรอื อะไรกต็ าม ตอ้ งพัฒนาคนด้วย การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 25

❝ หลังจากตั้งมูลนิธิฯ ขึ้นมาแล้วงานจึงไม่สะดุด เนื่องจากมูลนิธิชัยพัฒนาสามารถทำงานได้ ๒๔ ชั่วโมง ❞ ต้องพัฒนา “คน” และอาศัย “ศรัทธา” การพัฒนาจึงจะประสบผลสำเร็จ นอกจากนี้ ทรงมรี ับสั่งว่าอยา่ ไปเรย่ี ไรเขา แลว้ พระองคพ์ ระราชทาน พระราชทรัพยส์ ว่ นพระองคม์ าให้ดำเนนิ งานจำนวนหน่งึ เมอื่ ทำอะไรแล้วใหแ้ จง้ ข่าวสารเผยแพร่ให้ประชาชนรับรู้ และเมือ่ เขาศรัทธา เขากจ็ ะให้เงนิ มาเอง เราจึง มวี ารสารเผยแพร่ ออกสอ่ื เปน็ ขา่ วบ้าง หลังจากทีท่ รงมรี ับส่งั ในวนั น้ัน เงินบรจิ าค เข้ามาตลอด เรยี กไดว้ ่ามีจำนวนเพียงพอ แล้วก็ไม่เคยหยุด ไมว่ ่าจะยามวกิ ฤต หรือไม่ก็ตาม จำนวนเงินที่ได้รับบริจาคก็ยังคงเส้นคงวาอยู่ตลอด เพราะฉะนั้น คำว่า “ศรัทธา” จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนา รวมถึงการพัฒนา และแก้ปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าแก้ตรงจุดนี้ไม่ได้ก็ไม่สามารถ แก้ปัญหาได้ ดังน้นั ตอ้ งพฒั นาคนและอาศัย “ศรัทธา” การพัฒนาจงึ จะประสบ ความสำเร็จ โดยต้ังแตป่ ี ๒๕๓๑ เป็นตน้ มาจนกระทัง่ ปี ๒๕๔๒ ผมจึงมี ๒ มือ มอื หน่ึงคือมอื ของหน่วยงานราชการ เปน็ เลขาธิการ กปร. ใช้งบของทางราชการ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งคือ เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ใช้งบส่วนพระองค์ ดังนั้น หลังจากตั้งมูลนิธิฯ ขึ้นมาแล้วงานจึงไม่สะดุด เนื่องจากมูลนิธิชัยพัฒนา สามารถทำงานได้ ๒๔ ชั่วโมง สามารถสั่งเดี๋ยวนั้นออกได้เดี๋ยวนั้นเลย หรือ สามารถออกไปก่อน หรือจะใชไ้ ปเลยกไ็ ด้ ถ้าทางน้กี ระบวนการช้า จะมาใช้ทหี ลงั กย็ ังได้ เพราะฉะนั้น กท็ ำใหเ้ กดิ ความคล่องตัวในการบรหิ ารงานมาก 26 การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

❝ ตลอดช่วงระยะเวลาที่ได้ถวายงาน ทำให้ได้เรียนรู้อีกอย่างหนึ่งว่า ระหว่างที่พระองค์ทรงงานพัฒนาอยู่นั้น จะทรงสร้างระบบบริหารไปด้วย เป็นสิ่งที่น่าทึ่งที่นักพัฒนาทุกคนควรคำนึงถึงด้วย ❞ ทั้ง กปร. และมูลนิธิชัยพัฒนา ดำเนินงานควบคู่กันไปอย่างบูรณาการ ผมดำรงตำแหน่งเลขาธิการฯ ทั้ง ๒ แห่ง จนกระทั่งผมเกษียณในปี ๒๕๔๒ จึงแยกสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาออกมาอยู่ที่สนามเสือป่า แต่ว่างาน ก็ยังเดินคู่กันไป กลา่ วคือ พอมลู นิธิชยั พฒั นาพบกับปัญหางานโครงสรา้ งพ้นื ฐาน ทีเ่ ปน็ โครงการใหญๆ่ ต้องใชง้ บประมาณมาก เรากจ็ ะสง่ ไปท่ี สำนักงาน กปร. ซึ่งจะรับช่วงต่อ ในมุมกลับกัน หากสำนักงาน กปร. พบปัญหาอะไร เช่น ไม่สามารถเบิกงบประมาณได้ทัน แต่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน ก็ส่งมาให้ มูลนิธิชัยพัฒนา และพระองค์ทรงมีรับสั่งให้ทั้ง ๒ หน่วยงานไปอยู่ด้วยกัน โดยในวันที่ ๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๔ เราก็จะย้ายสำนักงานไปอยู่ด้วยกัน ตรงบรเิ วณหลังอนุสาวรียร์ ัชกาลที่ ๘ เชงิ สะพานพระราม ๘ ทรงสร้างระบบบริหารและพัฒนาครบวงจรอย่างต่อเนื่อง ตลอดช่วงระยะเวลาที่ได้ถวายงาน ทำให้ได้เรียนรู้อีกอย่างหนึ่งว่า ระหว่างที่พระองค์ทรงงานพัฒนาอยู่นั้น จะทรงสร้างระบบบริหารไปด้วย เปน็ สิ่งที่น่าทงึ่ ทนี่ กั พฒั นาทุกคนควรคำนงึ ถึงด้วย เช่น การพัฒนาชนบทควรใช้ กระบวนการอย่างนี้ จะต้องสร้างกลไกอะไรบ้างเพื่อให้งานพัฒนาบรรลุผล การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 27

❝ การให้ความช่วยเหลือจะต้องมีการบูรณาการ เห็นตัวอย่างได้ชัดเจนจากเหตุการณ์สึนามิ ในเบื้องต้น ต้องสร้างบ้านให้ประชาชนได้อยู่อาศัย... โดยคิดเผื่อถึงวิถีชีวิตของประชาชนที่เปลี่ยนไปด้วย ❞ ดังจะเหน็ วา่ ทรงใหจ้ ัดตง้ั มลู นิธิตา่ งๆ โดยแต่ละมลู นิธมิ ีหน้าท่ีตา่ งกันไป เมอื่ เกดิ ภยั พิบตั ิ นำ้ ท่วม ไฟไหม้ หรอื สึนามิ มูลนธิ ติ า่ งๆ เชน่ มลู นิธิราชประชานุเคราะห์ จะรีบออกไปแจกถุงยังชีพก่อน ช่วงนั้นแม้จะไม่เห็นมูลนิธิชัยพัฒนาเป็นข่าว ในการให้ความชว่ ยเหลอื แตแ่ ทท้ จ่ี รงิ แลว้ มูลนธิ ชิ ยั พัฒนาได้เริ่มงานแลว้ โดยนำ ทีมลงไปสำรวจเก็บข้อมูลในพื้นที่ และให้ความช่วยเหลือในรายละเอียด ในเรื่องอื่นๆ ที่ทุกคนคาดไม่ถึง เช่น การแจกเมล็ดพันธุ์พืชเพื่อช่วยเหลือคน ในพื้นทป่ี ระสบภยั แตล่ ะคนจะได้รับไม่เหมอื นกัน เราต้องศึกษาถงึ ความต้องการ และความจำเป็นของเขาด้วย อาจจะแจกเมลด็ แตงโมไปสัก ๕ กล่อง สำหรับ ปลูกไวข้ าย เมลด็ ผกั บุ้งอีก ๒ กลอ่ ง เมลด็ คะนา้ อีก ๒ กล่อง สำหรบั ปลูกไวก้ ิน และขาย เป็นต้น นอกจากนี้ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื จะต้องมกี ารบรู ณาการ เหน็ ตัวอยา่ ง ได้ชดั เจนจากเหตกุ ารณ์สึนามิ ในเบ้ืองตน้ ต้องสร้างบา้ นให้ประชาชนได้อยู่อาศัย แต่การสร้างนี้ไม่ใช่แค่สร้างบ้านให้อยู่เท่านั้น ต้นแบบของบ้านที่มูลนิธิชัยพัฒนา วางไว้ สร้างไว้โดยคิดเผื่อถึงวิถีชีวิตของประชาชนที่เปลี่ยนไปด้วย ซึ่งขณะนี้ เหตกุ ารณ์สนึ ามิผา่ นไป กว่า ๖ ปี งานยงั ไมส่ ้ินสดุ แตย่ ังต้องเช่ือมโยงบูรณาการ ถึงเร่ืองการพฒั นาอาชพี อย่างต่อเนอ่ื ง โดยไดน้ ำเดก็ ๆ ไปฝึกเรยี นวิชาการโรงแรม เมื่อจบแล้วให้เขาใช้บ้าน ๑๐ หลัง มาทำเป็นโฮมสเตย์ (Home Stay) ให้เขา 28 การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

❝ พระองค์จะประทับนั่งพับเพียบอยู่บนพื้นดิน รับสั่งกับชาวบ้าน เป็นชั่วโมงๆ เป็นภาพปกตินะ ไม่ใช่ภาพนานๆ เกิดสักที... ทรงโนม้ พระวรกายไปหาประชาชน ทรงคุกเขา่ ต่อหน้าประชาชน ❞ จดั ระบบบริหารจดั การกนั เอง เพ่ือยดึ เป็นอาชพี อีกทางหนึง่ โดยเขากย็ งั สามารถ จับปลาไปขายได้ และเราก็มีโรงงานแปรรูปรับซื้ออยู่ นำมาแปรรูปเป็นกะปิ นำ้ ปลา ปลาหยอง แฮมปลา และสเต็กปลา ส่งขายโรงแรม เป็นอาชพี ตอ่ เนอื่ งไป ไมร่ ูจ้ บและครบรอบด้าน ทรงงานใกล้ชิดประชาชน... ทรงมีพระราชวิริยะอุตสาหะ ในการช่วยเหลือพสกนิกร การตามเสด็จฯ นัน้ มเี หตกุ ารณม์ ากมายท่ีทำให้ผมประทับใจ ซ่ึงเป็น ภาพท่ีประชาชนไทยคุ้นตา เช่น ชาวบา้ นนุ่งผ้าขาวม้ากเ็ ข้าเฝา้ ฯ ได้ และพระองค์ จะประทับนั่งพับเพียบอยู่บนพื้นดินรับสั่งกับชาวบ้านเป็นชั่วโมงๆ เป็นภาพ ปกตินะ ไม่ใช่ภาพนานๆ เกิดสักที เสด็จฯ ครั้งใดก็ทรงปฏิบัติอย่างนี้ทุกครั้ง ทรงโน้มพระวรกายไปหาประชาชน ทรงคุกเข่าต่อหน้าประชาชน เป็นภาพ ทลี่ มื ไม่ได้ นอกจากน้ี เสดจ็ พระราชดำเนินบกุ ปา่ ฝ่าดง ขึ้นเขาลงหว้ ย ขา้ มลำนำ้ บางทมี เี ส้นทางเดินเลก็ ๆ ข้างลา่ งเป็นเหว กเ็ สดจ็ พระราชดำเนนิ ไมท่ รงคำนึงว่า จะมีอะไรขวางกั้น ฝนจะตกแดดจะออกไม่ใช่ปัญหา มีอยู่ครั้งหนึ่งต้องหยุด รถพระที่นงั่ เพอ่ื แกะตัวทากออกจากพระวรกาย นำ้ ท่วมกเ็ สด็จพระราชดำเนิน การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 29

❝ ประชาชนหวังจากพระองค์ พอเห็นพระเจ้าแผ่นดินเสด็จฯ มา เขาไขว่คว้า เขาชอบมาระบายความทุกข์กับพระองค์ว่า เขาลำบากยากเย็น เขาจะกราบบังคมทูลระบายปัญหาต่างๆ ❞ ลุยน้ำเข้าไป บางทีเราขอเปลยี่ นจดุ เพราะฝนตกน้ำท่วมหมดแลว้ แต่ไม่ทรงเปลีย่ น เสดจ็ พระราชดำเนนิ ลยุ น้ำเข้าไป แสดงถงึ พระราชวิรยิ ะอุตสาหะในการช่วยเหลอื พสกนิกรของพระองคเ์ ป็นอยา่ งย่งิ บางทนี ำเสด็จฯ พระองค์หลงทางกบ็ ่อย ทงั้ ๆ ทีม่ ีแผนท่ี มเี ครอ่ื งมือ เครอื่ งไมพ้ อสมควร มีครัง้ หนึง่ ท่ีภาคใต้ ทรงเปลย่ี นจดุ โดยกะทันหนั วนั นน้ั เสด็จฯ ไปพน้ื ท่ีโครงการพัฒนา “พรุแฆแฆ” ทีอ่ ำเภอสายบุรี จงั หวดั ปตั ตานี ยำ่ ค่ำแลว้ ทรงมีรับสง่ั วา่ จะไปทอดพระเนตรอีกจดุ หนึง่ ตอ้ งเปล่ยี นแผนกันกลางป่า กลางสวน จนได้มโี อกาสพบลงุ วาเด็ง กว็ นั น้นั เอง สนุกสนานท่ีสุด พระราชกรณียกิจของพระองค์ แตกต่างจากพระมหากษัตริย์ทั่วโลก เพราะพระองค์ทรงรักแผ่นดิน ทรงรักประชาชน จึงทรงทำทุกสิ่ง ทุกอยา่ งใหแ้ ผน่ ดิน ให้ประชาชนมีความสขุ ขณะท่ที รงมโี อกาสแปรพระราชฐาน ได้ทอดพระเนตรเห็นความทกุ ขข์ องประชาชน เสดจ็ ฯ ออกเยี่ยมเยียนราษฎรและ โครงการต่าง ๆ เสด็จฯ ออกยามบ่าย และเสด็จฯ กลับที่ประทับยามดึกแก่ๆ ทุกวนั เสดจ็ ฯ แปรพระราชฐานทห่ี วั หินกท็ รงเจออากาศรอ้ น เสดจ็ ฯ ใตท้ รงเจอฝน แน่นอน อสี านรอ้ นสลับหนาว และภาคเหนอื กห็ นาวเหนบ็ โดยเฉพาะภาคเหนอื 30 การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

❝ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงรับฟังปัญหา ทรงเข้าไปแก้ไข ไม่ทรงวางเฉย... จนกระทั่งต่างประเทศยกย่องพระองค์ว่าทรงเป็น Working Monarch พระเจ้าแผ่นดินที่ทรงงาน ❞ ถนนหนทางทรุ กันดาร ประทับเฮลิคอปเตอร์เกอื บทกุ คร้งั ทรงลงจากเฮลคิ อปเตอร์ บางครัง้ ตอ้ งเสดจ็ พระราชดำเนินเปน็ ระยะไกลๆ ขา้ มเนินเขาลงหุบห้วยผ่านไปใน นาข้าว บางทีฝนตก แต่มไิ ด้ทรงปริพระโอษฐบ์ ่นอะไรเลยแมแ้ ตน่ อ้ ย แลว้ ประการ ถัดไปคือ ประชาชนหวังจากพระองค์ พอเห็นพระเจ้าแผ่นดินเสด็จฯ มา เขาไขว่คว้า เขาชอบมาระบายความทุกข์กับพระองค์ว่าเขาลำบากยากเย็น เขาจะกราบบังคมทูลระบายปัญหาต่างๆ พระองคท์ รงเปน็ พระเจ้าแผน่ ดนิ ทท่ี รงรบั ฟงั ปญั หา ทรงเข้าไปแก้ไข ไมท่ รงวางเฉย ซึ่งพระองคจ์ ะทรงวางเฉยกไ็ ด้ จะสง่ หน่วยราชการต่าง ๆ ไปก็ได้ แตท่ รงเลอื กทจี่ ะทรงทำดว้ ยพระองคเ์ อง อันนีค้ อื จดุ แตกต่าง จนกระท่ังต่างประเทศ ยกย่องพระองค์ว่าทรงเป็น Working Monarch พระเจ้าแผ่นดินที่ทรงงาน มีพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ไหนบ้าง ทรงงานต้องทรงพระดำเนินบุกลุยป่าลุยดง กลางคำ่ กลางคืน ไม่ว่าฝนตกหรอื แดดออกกต็ าม เพราะฉะน้นั ถงึ มีความรสู้ กึ ว่าถวายงานน่หี ยดุ ไมไ่ ด้ งานหนกั อยา่ งไร เรากส็ นุก พอเจอความทุกขข์ องประชาชนแล้ว เราช่วยได้สำเร็จ ปญั หาลลุ ่วงไป ประชาชนก็หลุดจากทุกขเ์ รื่องน้นั ทำใหเ้ รามคี วามสุขไปด้วย ความสุขอยา่ งนี้ ซื้อไม่ได้ เราอาจจะมีเงินไปซื้อของแพงๆ อะไรเล่น สิ่งนั้นไม่ใช่ความสุข เป็นความสนุก การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 31

แตน่ เี่ ป็นความสขุ ทเ่ี ราได้มาจากการถวายงาน พน้ื ทบ่ี างแห่งแห้งแล้งมา ๓-๔ ปีแล้ว ฝนไม่ตกเลย กเ็ สด็จฯ ไปสรา้ งอ่างเก็บนำ้ พอเราไปอีกปหี นึง่ โอ้โห ความสมบรู ณ์พนู สุขเกดิ ขึน้ ถงึ แมเ้ ราไมใ่ ชค่ นอยู่ตรงนัน้ แต่เหมือนได้แบง่ ส่วน ของความสำเร็จน้นั มาให้เราดว้ ย เราเปน็ ผู้ปฏบิ ัตคิ นหน่งึ เรากม็ คี วามสุข แลว้ ยัง มีคุณค่ามากกว่าเงนิ ทองหลายเทา่ เงินทองซ้อื ไม่ได้ บางคนมีเงินทองกไ็ ม่มีโอกาส ทจี่ ะทำ ตรงนี้ต่างหากล่ะ ทีม่ คี ่า วันหนึ่งหลายปีมาแล้ว พระองค์ทรงมีรับสั่งเป็นปริศนากับพวกเรา ที่ถวายงาน โดยทรงมีรับสั่งลอย ๆ ขึน้ มาวา่ “ทำไมพระเจ้าอยู่หัวต้องเหน็ดเหนื่อยอยู่อย่างนี้ ที่ต้องเหน็ดเหนื่อย ก็เพราะประชาชนยังยากจนอยู่ และเมื่อเขายากจน เขาจึงไม่มีอิสรภาพ เสรีภาพ และเมื่อเขาไม่มีอิสรภาพ เสรีภาพ เขาจึงเป็นประชาธิปไตยไม่ได้” ฉะนั้นการปูพื้นฐานของประชาธิปไตย มิใช่เรื่องกฎหมาย ระเบียบ กติกา เพียงอย่างเดยี ว หากพื้นฐานจริง ๆ คอื ต้องพฒั นาประชาชนใหห้ ลุดพ้น จากความยากจนกอ่ น จึงจะเป็นประชาธปิ ไตยได้ 32 การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

❝ แม้พระองค์จะประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ก็ยังทรงงานไม่ได้หยุด ในห้องประทับติดตั้ง คอมพิวเตอร์และระบบไอทีเชื่อมโยง ฐานข้อมูลของหน่วยงานต่างๆ ❞ ยังทรงงานด้วยพระราชหฤทัยห่วงใยพสกนิกร ในสายตาของพวกเราคนไทยมองพระองค์ว่าทรงไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย เมือ่ เหลียวกลับมาดูในวันน้ตี ้องอยา่ ลืมว่า ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษาแลว้ จะใหพ้ ระองคเ์ สดจ็ พระราชดำเนนิ ออกพ้ืนท่สี มบกุ สมบัน ตากแดดตากฝน ข้ามเขา ลูกแล้วลกู เล่าเหมือนแตก่ อ่ นน้ไี มไ่ ด้แลว้ ในฐานะท่ีทรงงานตอ่ เนอ่ื งมาอยา่ งหนกั และยาวนานอย่างพระองค์ ทรงเหน็ดเหนอื่ ยมากแลว้ จงึ เปน็ หน้าทีข่ องเราทีต่ อ้ ง แบกรับถ่ายทอดงานต่างๆ แทนพระองค์เสียที อย่าให้ทรงแบกอะไรมาก เหมือนแต่ก่อน แมว้ นั นี้อาจจะไมไ่ ด้เห็นพระองคเ์ สดจ็ ฯ ออกพ้นื ท่ี แต่พระองค์ กย็ งั ทรงงานอยู่ทกุ วัน ทุกวนั น้ี แมพ้ ระองคจ์ ะประทบั อยทู่ ี่โรงพยาบาลศริ ริ าช กย็ งั ทรงงาน ไม่ได้หยุด ในหอ้ งประทบั ตดิ ตง้ั คอมพิวเตอรแ์ ละระบบไอทเี ช่ือมโยงฐานขอ้ มูล ของหน่วยงานต่างๆ ทั้งกรมชลประทาน กรมอุตุนยิ มวิทยา และระบบสารสนเทศ เพื่อการเกษตรตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อทรงติดตามการเปลี่ยนแปลงของดินฟ้า อากาศ หากมีแม้ข่าวพายุก่อตัวที่ไหนสักแห่ง พระองค์จะทรงมีรับสั่งและทรง ชี้แนะแนวทางการแก้ปัญหา พร้อมทั้งทรงให้หน่วยงานในพระองค์เตรียมพร้อม การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 33

❝ การที่รักชาติ บ้านเมือง ที่พระองค์ทรงเคยมีรับสั่งไว้ ก็คือ “การดูแล” เราอย่าบอกว่ารักเฉยๆ หรือ แค่ยืนตรงเคารพธงชาติ เราจะต้องลงมือทำด้วย ❞ ทันที รวมถึงทรงมีพระราชดำริเพิ่มเติมว่าจะแก้ไขสิ่งใด เมื่อพระองค์ทรงมี พระราชกระแสรับส่ังมายังหนว่ ยปฏิบัตกิ ารอยา่ งพวกเราให้รับไปทำต่อ จงึ ทำให้ มีงานอย่างตอ่ เนือ่ งตลอดเวลา ช่วยกันลงมือทำ... ถวายในหลวง พระองคท์ รงเคยมีรบั สัง่ วา่ ธรรมชาติปรับตวั ไวห้ มดแล้ว แตเ่ ราละเลย ผลสุดท้ายกใ็ ชป้ ระโยชนไ์ ม่ได้ เช่น แมน่ ำ้ ลำคลอง เราก็ไปปลูกบา้ นยนื่ ลงไป ในแมน่ ้ำ ทิ้งขยะจนทำใหต้ ้นื เขนิ ส่งิ เหล่านตี้ อ้ งระวงั การท่ีรักชาติ บ้านเมือง ทพี่ ระองคท์ รงเคยมรี บั สง่ั ไว้ ก็คอื “การดูแล” เราอยา่ บอกว่ารักเฉยๆ หรอื แค่ ยืนตรงเคารพธงชาติ เราจะต้องลงมือทำด้วย รักษาดนิ น้ำ ดแู ลเรือ่ งมลพษิ ขยะ ควบคุมบริหารทรัพยากรธรรมชาติให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ซึ่งจะทำให้ประชาชน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะฉะนั้นต่อไปนี้จะมีชีวิตอยู่ด้วยการปล่อยปละละเลย ไมไ่ ดแ้ ล้ว เปน็ หนา้ ที่ของเราตอ้ งทำทกุ คน 34 การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นพลังแห่งแผ่นดิน โดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล



พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นพลังแห่งแผ่นดิน โดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ เมื่อวันศุกร์ที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ นั้น จวบจนถึงปัจจุบันเป็นที่ประจักษ์แก่ปวงชนชาวไทย และนานาประเทศวา่ พระองคท์ รงเปน็ พลังแหง่ แผ่นดิน ทท่ี รงนำพาประเทศไทย เจริญก้าวหนา้ มาจนถงึ ปัจจบุ ัน และพสกนิกรอยู่อยา่ งรม่ เย็นภายใต้พระบารมี ทรงใช้ “ธรรม” ในการครองแผ่นดิน “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม” เป็นหลักการเงื่อนไขในการครอง แผ่นดินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งคือหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) โดยทรงประกาศว่าจะทรงใช้ธรรมะเป็นฐานหลักในการครอง แผ่นดนิ ของพระองค์ พระองคต์ รสั วา่ ธรรมะ คอื ความดี ความถูกต้อง หรือความยตุ ิธรรม ตลอดระยะเวลากวา่ ๖๕ ปี ทีท่ รงครองราชย์ ได้ทรงปฏิบตั ิพระองค์อยู่ในธรรมะ ๑๐ ประการ หรือทศพิธราชธรรม โดยเครง่ ครัด อนั ไดแ้ ก่ ๑. ทาน ทรงเป็นผูใ้ ห้ ๒. ศลี หรือความประพฤตดิ ีงาม ทรงต้งั มั่นอยูใ่ นศลี ๓. ปรจิ จาคะ ทรงบรจิ าคหรือ ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์ ๔. อาชชวะ ทรงมีความซื่อตรง ๕. มัททวะ ทรงมีความอ่อนโยน ๖. ตบะ ทรงมีความเพียร ๗. อักโกรธะ ทรงไม่โกรธ การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 37

๘. อวิหิงสา ทรงไมเ่ บยี ดเบียนผ้อู ่นื ๙. ขนั ติ ทรงมีความอดทน และ ๑๐. อวิโรธนะ ทรงไมป่ ระพฤติผิดในธรรม บำบัดทุกข์ บำรุงสุข... เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน พระองค์ทรงกำหนดเป้าหมายในการครองแผน่ ดิน “เพ่อื ประโยชน์สขุ แหง่ มหาชนชาวสยาม” โดยการพฒั นาชว่ ยเหลือประชาชน ผลของการดำเนนิ การ พัฒนาดังกลา่ วจะตอ้ งนำมาซ่ึงประโยชน์สุข น่นั คอื ประโยชนท์ มี่ าพรอ้ มกับความสุข ของประชาชนเปน็ สำคัญ ในช่วงเวลาท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชย์นั้น สภาพเศรษฐกจิ ไทยยงั คงบอบชำ้ จากสงครามโลกครง้ั ท่ี ๒ ภาวะความเป็นอยขู่ อง คนไทยอัตคัดฝืดเคือง ภายหลังจากที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับจาก ทรงศกึ ษาในประเทศสวสิ เซอร์แลนด์ ในปี ๒๔๙๓ ทรงมพี ระราชดำรเิ ร่มิ กจิ กรรม ต่างๆ เพื่อช่วยเหลือพสกนิกรให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยพระราชดำริ แรกเริ่มที่เกี่ยวกับการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของราษฎรเป็นพระราชดำริ ดา้ นการแพทย์และงานสงั คมสงเคราะหเ์ ปน็ ส่วนใหญ่ ชนบทอยู่ได้... คนในเมืองก็อยู่ได้ การพัฒนาในระยะต่อมาเริ่มเป็นระบบมากขึ้น ภายหลงั จากทพ่ี ระองค์ เสด็จฯ เยี่ยมเยียนพสกนิกรในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ นับตั้งแต่ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ทำให้พระองค์ได้ทรงสัมผัสและทรงทราบ ปัญหาพื้นฐานของประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกร ได้แก่ ปัญหาเกี่ยวกับ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรน้ำ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด จึงทรงตัดสินพระทัยว่าจะต้องทำงานเก่ียวเนื่องกับการพัฒนาเพ่ือช่วยเหลือ ประชาชนของพระองค์ 38 การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

❝ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริส่วนใหญ่ จึงเน้นในเรื่องการเกษตร เพราะพระองค์ทรงเห็นว่า การเกษตรเป็นหลักของประเทศและเป็นรากฐานของชีวิต ❞ แนวพระราชดำริและทฤษฎีการพัฒนาอันเน่ืองมาจากพระราชดำริ ทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั ทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มของประเทศไทย หรอื ดนิ น้ำ ลม ไฟ ส่งผลให้มีการพัฒนาให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ เพื่อเป็นฐานสำคัญของ ชาติบ้านเมืองและประชาชนในการพัฒนาประเทศ โครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำริส่วนใหญ่จึงเน้นในเรื่องการเกษตร เพราะพระองค์ทรงเห็นว่า การเกษตรเป็นหลักของประเทศและเป็นรากฐานของชีวิต ทรงเคยตรัสไว้ว่า “ถ้าชนบทอยู่ได้ คนในเมืองก็อยู่ได้” โดยพระองค์ได้ทรงคิดค้น ดัดแปลง ปรับปรุงและแก้ไขให้การพัฒนาเป็นงานที่ดำเนินการไปได้โดยง่าย ไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน ทำสิ่งที่ยากให้กลายเป็นง่าย และสอดคล้องกับสภาพความเป็นอยู่และ ระบบนเิ วศโดยส่วนรวม ตลอดจนสภาพทางสงั คมของชุมชนนัน้ นอกจากนั้นประโยคที่เรียบง่ายที่ทรงมีรับสั่งมาตลอดคือ ขอให้ บ้านเมืองของเรา ประชาชนชาวไทยพอมีพอกนิ กนั คำว่า “พอมพี อกิน” เปน็ คำ ที่ยิ่งใหญ่ ถ้าประเทศใดไม่พอมีพอกินแล้ว ความสงบสุข ความผาสุกคงจะ ไม่เกิดขึ้นบนแผ่นดินนั้นอย่างแน่นอน ดังนั้น พระองค์จึงทรงพยายามสร้าง “ความมีกินกับความพอกนิ ” ให้เกิดขนึ้ บนแผ่นดนิ ไทย ซ่งึ เราเคยกล่าวไดอ้ ย่าง ภาคภมู ใิ จว่า ไทยเปน็ ๑ ใน ๗ ประเทศ ของโลกท่ีมีอาหารเหลอื กิน โดยเฉพาะ ข้าวซึ่งสามารถนำไปขายเลี้ยงชาวโลกได้ และยามใดที่ประเทศชาติเกิดวิกฤต ข้ึนมา กไ็ ดข้ ้าวทชี่ ว่ ยใหเ้ รารอดพน้ และกลับมีความสุขข้นึ มาไดอ้ ีก การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 39

โครงการหลากหลาย... มุ่งช่วยพสกนิกรและพัฒนาประเทศ สำหรับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ทรงคิดค้นขึ้นเพื่อลด ความไม่สมดุลในสังคมไทย ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงาน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) รับผิดชอบ ปัจจุบัน มมี ากกวา่ ๔,๐๐๐ โครงการ กระจายอย่ทู ่ัวทกุ ภมู ิภาคของประเทศ นอกจากโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดำริแล้วยังมีโครงการ ส่วนพระองค์ ซึ่งเป็นการค้นคว้า วิจัยทดลอง เช่น โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา และเมื่อผลการทดลองเป็นที่ถ่องแท้แก่พระราชหฤทัยว่าเป็น ทฤษฎีที่ใช้ได้ และเป็นการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดผลดี จึงพระราชทานเผยแพร่ ความรู้และเทคโนโลยีน้นั ๆ ไปสูเ่ กษตรกรหรอื หน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง มูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างทันสถานการณ์ เมื่อปี ๒๕๓๑ พระองค์ทรงจัดตั้ง “มูลนิธิชัยพัฒนา” ขึ้น โดย ทรงดำรงตำแหน่งองค์นายกกิตติมศักดิ์ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานกรรมการ วัตถปุ ระสงคข์ องมูลนิธิ ชัยพัฒนา เพอ่ื สนับสนุนชว่ ยเหลอื ประชาชนในงานพัฒนาด้านต่างๆ โดยเน้น กิจกรรมเพื่อการพัฒนาท่ีไม่ซ้ำซ้อนกับแผนงานโครงการของรัฐท่ีมีอยู่แล้ว แต่จะช่วยสนับสนุนส่งเสริมโครงการพัฒนาของรัฐท่ีถูกจำกัดด้วยเงื่อนไข กฎระเบียบ หรอื งบประมาณ จนทำให้การดำเนนิ งานลา่ ช้าไม่ทนั กับสถานการณ์ ในการชว่ ยเหลอื ประชาชน มูลนิธชิ ัยพฒั นาจะเข้าไปชว่ ยเหลอื ตามความเหมาะสม เพอื่ ให้เกดิ ความรวดเร็วข้ึน 40 การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

❝ หลักการสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ จะทรงเน้นการปฏิบัติให้ลูกศิษย์ดู และจูงใจให้มาสนใจเอง ❞ เป้าหมายที่สำคัญของมูลนิธิฯ เพื่อสงเคราะห์ช่วยเหลือประชาชน ให้มีความรม่ เย็นเป็นสขุ และอยดู่ ีกินดี อันจะนำไปสคู่ วามมนั่ คงของประเทศคอื “ชยั ชนะแห่งการพฒั นา” มูลนิธิชัยพัฒนาได้ดำเนินงานโครงการต่างๆ จำนวนมากตามแนว พระราชดำริ ไดแ้ ก่ ด้านการปรบั ปรงุ คณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม การพัฒนา การเกษตร การพัฒนาสังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การจัดการทรัพยากร ธรรมชาติอย่างยั่งยืน และการพัฒนาด้านเศรษฐกจิ อื่นๆ รวมทงั้ งานเฉพาะกิจตา่ งๆ เช่น ร่วมกับสภากาชาดไทยให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยจากเหตุการณ์ คลื่นยักษ์สึนามิ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปลายปี ๒๕๔๗ ใน ๖ จังหวัดภาคใต้ โครงการ ชว่ ยเหลือผปู้ ระสบภัยจากดนิ ถลม่ ทจี่ ังหวัดอุตรดติ ถ์ ปี ๒๕๔๙ เปน็ ต้น ทรงสอนงานและพระราชทานหลักเศรษฐกิจพอเพียง หลักการสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์จะทรง เน้นการปฏบิ ตั ิให้ลกู ศษิ ยด์ ู และจูงใจใหม้ าสนใจเอง ไมเ่ คยทรงสง่ั หรือทรงบงั คบั ให้ทำ จะทรงสอนอย่างละเอียดให้เข้าใจทุกแง่มุม และที่สำคัญทรงเนน้ เสมอวา่ การสอนควรยึดรากฐานเดิมของสังคมไทยไว้ ไม่ควรคัดลอกจากต่างประเทศ มากเกินไป แต่อาจนำหลักการมาเปรียบเทียบได้ เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้ขาด ความเป็นตัวของตัวเอง และที่ผ่านมาพระองค์พระราชทานโครงการอันเนื่อง มาจากพระราชดำริตา่ งๆ เปน็ จำนวนมาก ซึง่ ถา้ สนใจศึกษาโครงการฯ ทพี่ ระองค์ พระราชทานจะไดร้ บั ความรู้ทีก่ อ่ ให้เกดิ ประโยชนม์ ากมาย การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 41

❝ พระองค์ทรงสอนเสมอว่า การไปทำโครงการหรือกิจกรรม ในพื้นที่ใด ควรให้ความเคารพกับคำว่า “ภูมิสังคม” โดยต้องปรับตัวเราให้เข้ากับธรรมชาติของสถานที่ที่ไป รวมทั้งต้องรู้จักเคารพคน ดูความต้องการ และความพร้อมของคนในพื้นที่นั้นๆ ❞ สำหรับการใช้ชีวิตของประชาชนในปัจจุบันท่ามกลางกระแส “บริโภค นิยม” ซึ่งมี “กิเลส” เป็นตัวกระตุ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสอนเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพยี ง” ซ่งึ ประชาชนทุกระดับจนถงึ ระดับรัฐนำไปใชไ้ ด้ คือ คำวา่ “พอ” คือ พอประมาณ เดินเส้นทางสายกลางตลอด ทำอะไรด้วยเหตุด้วยผล ตง้ั อยู่ในความพอดี มีภูมคิ มุ้ กนั ตลอดเวลา และทกุ อยา่ งต้องตง้ั อยู่บนพน้ื ฐานของ คุณธรรมจรยิ ธรรม ทรงให้ความสำคัญกับ “ภูมิสังคม” และ “ภูมิปัญญาไทย” ในการพฒั นาประเทศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำคญั กับ “ภมู ิปัญญาของไทย” ทรงสอนให้มีการพฒั นาโดยมกี ารประยกุ ต์ใชภ้ ูมปิ ัญญา ทอ้ งถนิ่ (Local Wisdom) ซ่ึงมมี ากมายในประเทศ และพระองคท์ รงสอนเสมอวา่ การไปทำโครงการหรือกิจกรรมในพื้นที่ใด ควรให้ความเคารพกับคำว่า “ภูมิสังคม” โดยต้องปรับตัวเราให้เข้ากับธรรมชาติของสถานที่ที่ไป รวมทั้ง ต้องรู้จักเคารพคน ดูความต้องการ และความพร้อมของคนในพื้นที่นั้นๆ ไม่ใช่ บังคับใหท้ ำเหมือนกนั ทวั่ ประเทศ 42 การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พระอัจฉริยภาพในการคิดค้นและประดิษฐ์เพื่อการพัฒนา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระอัจฉริยภาพในการคิดค้น และแสวงหาเทคโนโลยีใหมๆ่ มาช่วยแก้ปญั หาความเดือดร้อนของประชาชนและ พฒั นาประเทศ เชน่ การใช้ผักตบชวากำจัดน้ำเสยี ซงึ่ ทรงเรยี กว่า “การใชอ้ ธรรม ปราบอธรรม” การ “ปลูกหญ้าแฝก” การ “แกล้งดิน” การทำแก๊ซโซฮอล์ ทรงทดลองใช้นำ้ มันปาลม์ บริสุทธิ์แทนนำ้ มนั ดีเซล ได้แก่ “นำ้ มนั ไบโอดเี ซลสูตร สกัดจากน้ำมันปาล์ม” พระราชทาน “โครงการแก้มลิง” และ “เขื่อนป่าสัก ชลสิทธิ์” เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ และพระราชทาน “ฝนหลวง” เพื่อ บรรเทาปญั หาความแห้งแลง้ เปน็ ต้น พระองค์ทรงประดษิ ฐ์เครอ่ื งจักรกลหลากหลายประเภท อาทิ เครื่อง จักรกลใชพ้ ลงั งานมนุษย์หรือสตั ว์ เพื่อใหเ้ กษตรกรหรือประชาชนทวั่ ไปนำไปใช้ เช่น เครอื่ งสขี า้ ว เครือ่ งนวดข้าวใช้กำลงั คน เป็นตน้ เคร่อื งจักรกลใชพ้ ลงั น้ำ อาทิ เคร่ืองตะบันนำ้ กังหนั สบู นำ้ แบบทุน่ ลอย เครือ่ งสบู นำ้ กังหนั นำ้ แบบเพลานอน และเพลาต้งั เครอ่ื งจักรกลใช้พลงั งานจากเคร่อื งยนต์ อาทิ เคร่ืองผลักดันนำ้ เพื่อใช้เร่งการไหลในการระบายน้ำโดยใช้เครื่องเรือหางยาว เครื่องจักรกล ใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ เชน่ กังหันน้ำชัยพัฒนา ซึง่ มีช่ือเสยี งขจรขจายไปถึงต่างแดน โดยในปี ๒๕๔๓ The Belgium Chamber of Inventor ซงึ่ เป็นองค์กรสงิ่ ประดษิ ฐ์ ที่เก่าแกท่ สี่ ดุ ของยุโรป ได้ทลู เกล้าฯ ถวายรางวัลเทดิ พระเกยี รติ และได้กลา่ วสดดุ ี พระเกยี รติคณุ ของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั ความตอนหนง่ึ ว่า “พระมหากษัตริย์ของไทยทรงเป็นนักพัฒนา มีพระวิริยะอันสูงส่ง รวมทั้งพระอัจฉริยภาพและพระวิสยั ทัศน์ท่ีดี ทรงงานหนกั เพ่อื ประชาชนของ พระองค์ ทรงใช้เทคโนโลยีที่เรียบง่าย สิ่งประดิษฐ์ในพระองค์สามารถนำไป พัฒนาใช้งานไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวางทัว่ โลก” การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 43

❝ พระองค์ทรงทำราชการ จึงทรงงานอย่างหนักและเหนื่อยยาก ทั้งในยามกลางวันและค่ำคืน เพื่อช่วยเหลือราษฎรให้พ้น จากความทุกข์ยาก และมีความสุขในท่ามกลางสภาพแวดล้อม ที่อุดมสมบูรณ์ โดยไม่ทรงเลือกว่าเขาเหล่านั้นเป็นใคร ❞ สำหรับในประเทศไทย ทรงไดร้ บั การเทิดพระเกียรติและถวายพระราช สมัญญานามมากมาย อาทิ ทรงเป็น “พระบดิ าแหง่ การประดิษฐ์ไทย” (วนั ที่ ๒ กุมภาพันธ์ เป็น “วันนักประดิษฐ์”) “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” (วันที่ ๑๙ ตลุ าคม เป็น “วนั เทคโนโลยีของไทย”) “พระบิดาแห่งนวตั กรรมไทย” (วันที่ ๕ ตุลาคม เป็น “วันนวัตกรรมแห่งชาติ”) “พระบิดาแห่งฝนหลวง” (วันที่ ๑๔ พฤศจกิ ายน เปน็ “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง”) และเมอ่ื วันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา ทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า “พระผู้ทรงเป็นครูแห่ง แผ่นดิน” พระมหากษัตริย์นักพัฒนา พระเกียรติคุณเกริกก้องไพศาล พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัวทรงมรี ับสง่ั ว่า พระองคท์ รงทำราชการ จึงทรงงานอย่างหนกั และเหน่ือยยาก ท้ังในยามกลางวันและค่ำคนื เพอื่ ชว่ ยเหลือ ราษฎรให้พ้นจากความทุกข์ยาก และมีความสุขในท่ามกลางสภาพแวดล้อม ที่อุดมสมบูรณ์ โดยไม่ทรงเลือกว่าเขาเหล่านั้นเป็นใคร ด้วยทรงห่วงใยในชีวิต ความเป็นอยขู่ องพสกนิกรท่ัวหล้า อนั แสดงถึงนำ้ พระทัยทเี่ ปยี่ มลน้ ด้วยพระเมตตา อนั หาท่ีสดุ มไิ ด้ จงึ มิไดม้ แี ตเ่ พยี งชนชาวไทยเท่านั้นทซี่ าบซ้งึ ในพระมหากรุณาธิคณุ อันหาที่เปรียบมิได้ แต่ยังเป็นที่ประจักษ์แก่นานาประเทศทั่วโลก ต่างยกย่อง สรรเสริญพระเกยี รตคิ ุณและได้นอ้ มเกลา้ นอ้ มกระหมอ่ มถวายรางวัลพระเกียรตคิ ุณ มากมายหลากหลายสาขา 44 การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

❝ แม้ปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประทับอยู่ ณ โรงพยาบาลศิริราช แต่ทรงติดตามงานในทุกเรื่อง และทุกด้านตลอดเวลาทุกวัน... จะทรงใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เข้ามาเป็นเครื่องมือในการทรงงาน โดยทรงสามารถ ค้นหาข้อมูลและติดตามงานได้ตลอดเวลา ❞ ปี ๒๕๔๙ องคก์ ารสหประชาชาตไิ ด้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลความสำเรจ็ สูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นายโคฟี อันนัน เลขาธกิ ารสหประชาชาติ กล่าวว่า “เป็นคร้ังแรกที่องค์การสหประชาชาติได้จัดทำรางวัลเกียรติยศน้ี เพื่อมอบแก่บุคคลดีเด่นที่ได้อุทิศตลอดช่วงชีวิต สร้างผลงานที่มีคุณค่าต่อ การพัฒนา ความก้าวหนา้ ของคนจำนวนมาก พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว ทรงได้รับการถวายพระราชสมญั ญานามจากชาวโลกวา่ ทรงเปน็ พระมหากษัตรยิ ์ นกั พฒั นา” ทรงห่วงใยพสกนิกร... แม้ประทับ ณ โรงพยาบาล แม้ปัจจุบนั พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวทรงประทับอยู่ ณ โรงพยาบาล ศิริราช แต่ทรงติดตามงานในทุกเรื่องและทุกด้านตลอดเวลาทุกวัน ครั้งใดที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จฯ ลงพื้นที่ใด เมื่อทรง กลับมาและถวายรายงาน พระองค์จะทรงมีรับสั่งแนะนำทุกครั้ง ส่วนงานอื่นๆ จะทรงใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาเป็นเครื่องมือในการทรงงาน โดยทรงสามารถคน้ หาข้อมลู และติดตามงานไดต้ ลอดเวลา การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 45

❝ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ต่อแผ่นดินไทยและประชาชนชาวไทย แนวพระราชดำริ และทฤษฎีการพัฒนาที่พระราชทานได้ส่งผลดีอย่างยิ่ง ต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ทำให้สามารถ ประกอบอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีฐานะความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตดีขึ้น ❞ พระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น... แผ่ไพศาลทั่วผืนแผ่นดินไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ต่อแผ่นดินไทยและประชาชนชาวไทย แนวพระราชดำรแิ ละทฤษฎีการพัฒนา ที่พระราชทานไดส้ ง่ ผลดีอย่างยิ่งตอ่ การดำรงชีวติ ของประชาชน ทำให้สามารถ ประกอบอาชพี ได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ มฐี านะความเป็นอยู่และคณุ ภาพชีวิตดีขึน้ พระอัจฉริยภาพแห่งความเป็นผู้นำในการพัฒนาประเทศของพระบาทสมเด็จ พระเจา้ อยหู่ วั มิใช่เพยี งก่อให้เกดิ ความสำนกึ ในพระมหากรุณาธคิ ุณอย่างล้นเหลอื ตอ่ ปวงชนชาวไทย หากแตพ่ ระเกยี รตคิ ุณเหลา่ นีไ้ ด้แผไ่ พศาลไปส่นู านาประเทศ ทั่วโลก พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั ไดท้ รงนำพาประเทศไทยและประชาชน ชาวไทยใหส้ ามารถยืนหยดั อยู่ไดอ้ ยา่ งมีความสุข และดำรงไวซ้ ึง่ เกยี รตภิ ูมขิ อง ความเปน็ ประเทศไทยและคนไทยตราบจนทุกวันนี้ ขอพระองคท์ รงพระเจริญ ย่ิงยนื นาน 46 การทรงงานพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ประสบการณ์สนองพระราชดำริ เรียนรู้หลักการทรงงาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook