บันทึกขอ้ ความ ส่วนราชการ ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอชนแดน ที่ ศธ ๐๒๑๐.๕๔๐๓/ วันที่ ๒๑ มถิ นุ ายน ๒๕๖๔ เรอ่ื ง สรุปผลการปฏิบัติงานโครงการห้องสมดุ ประชาชนเคลือ่ นท่ี ปีงบประมาณ ๒๕๖๔ เรยี น ผอู้ ำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอชนแดน ตามท่ี ห้องสมุดประชาชนอำเภอชนแดนได้ดำเนินการจัดโครงการห้องสมุดประชาชนเคลื่อนท่ี ปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ในเขตพื้นที่อำเภอชนแดน เพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ โดยยึดหลักการมีส่วนร่วมของบุคลากรและผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินงาน ภาคีเครือข่าย ส่งเสริมให้ประชาชน มีนิสัยรักการอ่านนำไปสู่การเรียนรู้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น บัดนี้โครงการดังกล่าวได้ดำเนินการเสร็จ สน้ิ เรยี บร้อยแลว้ หอ้ งสมุดประชาชนอำเภอชนแดน จงึ ขอสรุปผลการปฏิบัติงานโครงการดงั กล่าวรายละเอียดตาม เอกสารทแี่ นบมาพร้อมนี้ จงึ เรยี นมาเพ่ือโปรดทราบ นางวารี ชบู ัว บรรณารกั ษช์ ำนาญการ
คำนำ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอชนแดน มอบหมายให้ห้องสมุด ประชาชนอำเภอชนแดน ดำเนินการจัดทำได้โครงการห้องสมุดประชาชนเคลื่อนท่ี ปีงบประมาณ 2564 ในเขตพื้นที่อำเภอชนแดน เพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ โดยยึดหลักการมีส่วน ร่วมของบุคลากรและผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินงาน ภาคีเครือข่าย ส่งเสริมให้ประชาชน มีนิสัยรักการอ่าน นำไปสู่การเรยี นรู้ และพฒั นาคุณภาพชวี ิตใหด้ ีขนึ้ นั้น ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอชนแดน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สรุปผลการปฏิบัติงานโครงการห้องสมุดประชาชนเคลื่อนที่ ปีงบประมาณ 2564 เล่มนี้คงเป็นประโยชน์ใน การใช้เป็นคู่มือในการดำเนินงานต่อไป หากมีข้อเสนอแนะประการใดโปรดแจ้งคณะผู้จัดทำเพื่อเป็นข้อมูลใน การปรบั ปรงุ ในคร้งั ตอ่ ไป ผจู้ ัดทำ มิถนุ ายน 2564
สารบญั หน้า 1 บทที่ 1 บทนำ 22 บทที่ 2 เอกสารที่เกยี่ วขอ้ ง 41 บทท่ี 3 ผลการดำเนินงาน 42 โครงการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับเดก็ และยาวชน 46 กิจกรรมภาษาพาที กจิ กรรมครอบครวั รกั การอา่ น 53 โครงการส่งเสรมิ การเรยี นรูส้ ำหรบั นักศึกษาและประชาชน 57 กิจกรรมสบื สานวฒั นธรรมประเพณลี อยกระทง 61 กิจกรรมปริศนา...อ่านคำ 65 กิจกรรมอ่านดมี รี างวัล กิจกรรมสภุ าษติ สำนวนไทย 74 โครงการสง่ เสรมิ การเรียนรูส้ ำหรบั ผ้สู งู อายุ 79 กิจกรรมภาษาจีนเบื้องตน้ กิจกรรมปริศนาสุภาษิตไทย คณะผู้จดั ทำ
1 บทท่ี 1 บทนำ 1. ข้อมูลพื้นฐานอำเภอชนแดน ประวัติความเปน็ มาของอำเภอชนแดน อำเภอชนแดนเดิมเป็นท้องท่ีส่วนหนึ่งของอำเภอบางมูลนากจังหวัดพิจิตรเม่ือมีราษฎรอพยพมาต้ัง บ้านเรือนในระหว่างเขตแดนมากข้ึนจึงเรียกว่าหมู่บ้านชนแดน ต่อมาทางราชการได้พิจารณาจัดตั้งเป็นตำบล ในเขตปกครองของอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ เนื่องจากท้องที่ตำบลชนแดนอยู่ห่างไกลจากตัวอำเภอมาก ยากแก่ การดูแลทุกข์สุขของราษฎร กระทรวงมหาดไทยจึงยกฐานะเป็นกิ่งอำเภอเมื่อ พ.ศ.2460 ประกอบด้วยตำบล ชนแดนตำบลท่าข้าม ตำบลดงขุยและได้โอนท้องทต่ี ำบลวงั โป่ง อำเภอวังทองจังหวดั พษิ ณุโลก มารวมขึ้นกบั ก่ิง อำเภอชนแดน รวม 4 ตำบล เม่ือมีราษฎรหนาแน่นมากขึ้นทางราชการจึงได้ยกฐานะข้ึนเป็นอำเภอชนแดน ตามพระราชกฤษฎกี า ลงวันที่ 5 มถิ นุ ายน 2499 โดยเป็นอำเภอหนึ่งขน้ึ อยูก่ บั จงั หวดั เพชรบูรณ์ สภาพภมู ิอากาศ ลักษณะภูมิอากาศโดยทั่วไปของอำเภอชนแดน อยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุมเขตร้อน มีสภาพ อากาศหนาวเหมาะสำหรับการเพาะปลูก แต่เน่ืองจากเป็นพ้ืนท่ีอยู่ในเขตหุบเขา การเปลี่ยนแปลงของสภาพ ดินฟ้าอากาศเป็นไปอย่างรวดเร็ว กล่าวคือ ในฤดูร้อนจะร้อนจัดประมาณ 40 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะ ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดอื นพฤษภาคม ในฤดูหนาวจะหนาวจัดในชว่ งเดือนพฤศจกิ ายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ใน ฤดูฝนจะมีฝนตกหนักและมีพายุฟ้าคะนองในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ย 1,850.04 มลิ ลิเมตร สภาพภูมิประเทศ อำเภอชนแดนมีลักษณะพ้ืนที่โดยทั่วไป เป็นพ้ืนที่ราบลุ่มแบบท้องกระทะ มีเทือกเขาล้อมรอบ พ้ืนที่ ส่วนใหญ่เป็นป่าเขา มีเนินดินสงู ตำ่ สลบั กนั ไป ทางดา้ นทิศตะวันออกสงู กวา่ ด้านอืน่ ๆ มที ี่ราบลุ่มพอเป็นท่ที ำ ไร่ ทำนาอยู่บ้าง พื้นที่ทางการเกษตรส่วนใหญ่ทำไร่ ทำนา และทำสวนไม้ยืนต้น มีต้นกำเนิดคลองบุษบง จากเทอื กเขาพนั ฟืน ในเขตตำบลพทุ ธบาทเป็นลำคลองหลัก และยังมีคลองอ่นื ๆ ไหลผ่าน ดงั น้ี คลองบษุ บง ไหลผ่านตำบลพุทธบาท ตำบลท่าข้าม และตำบลตะกุดไร คลองบอระเพ็ด ไหลผา่ นตำบลลาดแค ตำบลบ้านกล้วย คลองทราย ไหลผ่านตำบลลาดแค
2 เน่ืองจากพ้ืนท่ีของอำเภอชนแดนอยู่ในหบุ เขา ในฤดฝู นน้ำจะท่วมหลากอย่างรวดเร็ว ในฤดูแล้ง นำ้ ในลำ คลองจะแหง้ ขอดเป็นตอน ๆ สำหรบั คลองบุษบงเป็นลำคลองที่มีประโยชนต์ ่อการเกษตรและเปน็ แหล่งนำ้ ดบิ เพ่ือใช้ในการประปาของอำเภอชนแดนอีกดว้ ย ด้านการปกครอง อำเภอชนแดนแบง่ เขตการปกครองออกเปน็ 9 ตำบล 139 หมู่บา้ น 20,207 ครัวเรอื น ดงั นี้ 1. ตำบลพุทธบาท มีจำนวน 28 หม่บู ้าน 2. ตำบลชนแดน มีจำนวน 14 หม่บู ้าน 3. ตำบลทา่ ขา้ ม มจี ำนวน 11 หมบู่ ้าน 4. ตำบลดงขยุ มจี ำนวน 17 หมู่บา้ น 5. ตำบลบา้ นกล้วย มจี ำนวน 17 หมู่บ้าน 6. ตำบลลาดแค มีจำนวน 22 หมู่บา้ น 7. ตำบลซบั พุทรา มจี ำนวน 9 หมบู่ ้าน 8. ตำบลตะกดุ ไร มีจำนวน 11 หมู่บา้ น 9. ตำบลศาลาลาย มจี ำนวน 10 หมู่บ้าน การปกครองส่วนท้องถ่ิน ท้องท่ีอำเภอชนแดนประกอบด้วยองคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ 12 แหง่ ได้แก่ • เทศบาลตำบลชนแดน ครอบคลมุ พน้ื ท่ีบางส่วนของตำบลชนแดน • เทศบาลตำบลดงขยุ ครอบคลุมพ้ืนที่บางส่วนของตำบลดงขุยและตำบลตะกุดไร • เทศบาลตำบลท่าขา้ ม ครอบคลุมพื้นทบี่ างสว่ นของตำบลทา่ ขา้ ม • เทศบาลตำบลศาลาลาย ครอบคลุมพื้นทตี่ ำบลศาลาลายทั้งตำบล • องค์การบรหิ ารส่วนตำบลชนแดน ครอบคลุมพนื้ ที่ตำบลชนแดน (นอกเขตเทศบาลตำบลชนแดน) • องค์การบรหิ ารส่วนตำบลดงขุย ครอบคลุมพื้นท่ีตำบลดงขยุ (นอกเขตเทศบาลตำบลดงขุย) • องค์การบริหารสว่ นตำบลทา่ ข้าม ครอบคลมุ พน้ื ทตี่ ำบลทา่ ข้าม (นอกเขตเทศบาลตำบลท่าขา้ ม) • องค์การบริหารสว่ นตำบลพุทธบาท ครอบคลุมพืน้ ทีต่ ำบลพทุ ธบาทท้ังตำบล • องค์การบริหารสว่ นตำบลลาดแค ครอบคลมุ พน้ื ทต่ี ำบลลาดแคทั้งตำบล • องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกล้วย ครอบคลุมพื้นท่ตี ำบลบา้ นกล้วยทง้ั ตำบล • องค์การบริหารสว่ นตำบลซับพุทรา ครอบคลมุ พ้นื ที่ตำบลซับพทุ ราทั้งตำบล • องค์การบรหิ ารสว่ นตำบลตะกดุ ไร ครอบคลมุ พื้นท่ีตำบลตะกุดไร (นอกเขตเทศบาลตำบลดงขยุ )
3 อาณาเขต ทิศเหนอื ติดต่อกับอำเภอวังโปง่ จงั หวดั เพชรบรู ณ์ ทศิ ใต้ ตดิ ต่อกับอำเภอบงึ สามพัน จังหวดั เพชรบูรณ์ และอำเภอหนองบวั จงั หวัดนครสวรรค์ ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ และอำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบรู ณ์ ทิศตะวันตก ตดิ ตอ่ กับ อำเภอทบั คล้อ จังหวัดพิจิตร และอำเภอดงเจรญิ จงั หวดั พิจิตร แผนท่อี ำเภอชนแดน
4 ขอ้ มูลด้านสงั คม 1. การศกึ ษา การศึกษาในระบบโรงเรยี นและนอกโรงเรียนของอำเภอชนแดน ดังน้ี 1.1 โรงเรียนสงั กัดสำนกั งานคณะกรรมการศึกษาพ้ืนฐานจงั หวดั เพชรบูรณ์ เขต 1 จำนวน 215 แห่ง - โรงเรียนระดับประถมศกึ ษา จำนวน 160 แหง่ - โรงเรยี นระดับประถมศกึ ษา (ขยายโอกาส) จำนวน 45 แห่ง - โรงเรียนระดบั มัธยมศึกษา จำนวน 10 แหง่ 1.2 โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 1 แหง่ 1.3 โรงเรียนในสงั กดั กรมอาชีวศกึ ษา จำนวน 2 แหง่ 1.4 ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย จำนวน 1 แหง่ 1.5 ศูนย์วิทยบริการ มหาวิทยาลัยราชภฏั ชยั ภูมิ ประจำอำเภอชนแดน 1 ศูนย์ 2. การศาสนา อำเภอชนแดนมวี ดั พทุ ธศาสนา จำนวน 88 แหง่ สำนกั สงฆ์ จำนวน 10 แหง่ ศาลเจา้ 3 แหง่ 3. ขนบธรรมเนยี ม ประเพณวี ัฒนธรรม ราษฎรในท้องท่ีอำเภอชนแดน สว่ นใหญเ่ ปน็ ผ้อู พยพ มาจากหลายพื้นท่ี ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ตลอดจนภาษาพูด จึงมีความแตกต่างกันไปตามภูมิภาคที่อพยพมา ประเพณีวัฒนธรรมท่ีเห็นเด่นชัด ได้แก่ ประเพณีตักบาตรเทโว สงกรานต์ และประเพณีไหว้ศาลเจ้าของลูกหลานชาวจีน ที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลตำบล ชนแดน เทศบาลตำบลดงขุย เทศบาลตำบลทา่ ข้าม โดยจัดงานบชู าเจา้ พ่อขึ้นเป็นประจำทุกปี 4. การสาธารณสุข มีโรงพยาบาลขนาด 30 เตียง 1 แหง่ คลินิกเอกชน 9 แหง่ สถานีอนามัย 19 แห่ง สถานทีท่ ่องเทีย่ วอำเภอชนแดน วดั พระพุทธบาทชนแดน (หลวงพ่อทบ) วัดพระพุทธบาทชนแดน ต้ังอยู่เลขที่ 99 บ้านชนแดน เดิมช่ือ บ้านเขาน้อย ต.ชนแดน อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินสร้างวัด 47 ไร่ 3 งาน 20 ตารางวา อาณาเขต ทิศเหนือติดต่อ กับหมู่บ้าน ทิศใต้ยาว 4 เส้น ติดต่อกับถนนใหญ่ ชมฐีระเวช ทิศตะวันออกยาว 5 เส้น ติดกับลำคลอง ทิศตะวันออกยาว 5 เส้น ติดกับลำคลอง ทิศตะวันตกยาว 2 เส้น ติดต่อกับถนนสายวังโป่ง ซึ่งท่ีดิน น.ส.3 เลขท่ี 1361 เป็นหลักฐาน วัดพระพุทธบาทชนแดน กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศตั้งเป็นวัด นับตั้งแต่วันท่ี
5 26 มีนาคม พ.ศ. 2515 ชาวบ้านมักเรียกว่า \"วดั เขานอ้ ย\" เพราะต้งั อยทู่ ี่เขานอ้ ย ระยะเริ่มแรกสรา้ งวัดเรียกวา่ \" วัดพระพุทธบาทเขาน้อย\" โดยมีนายป้ัน ก้อนพลบริจาคท่ีดินให้สร้างวัดซึ่งได้มอบถวายแก่หลวงพ่อทบ เกจิอาจารยใ์ นภูมิภาคนกี้ ารสรา้ งวัดได้เร่ิมดำเนินการมาต้ังแต่ปี พ.ศ.2590 ได้รับพระราชทานวสิ ุงคามสีมาเม่ือ วันท่ี 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2517 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 20 เมตร ยาว 40 เมตร ได้ผูกพัทธสีมาเพ่ือวันที่ 15 มนี าคม พ.ศ.2517 ในอดตี เจ้าอาวาส คือ 1. พระครูวชิ ิตพัชราจารย์ (ทบ ธมมฺ ปญฺโญ) พ.ศ.2500 - 2519 2. พระครูพชั รกจิ โสภณ (โสดา ธมฺมาวฺโธ) พ.ศ. 2519 - 2540 3. พระสมหุ สน่นั จนทฺ โชโต พ.ศ. 2540 ถึงปัจจบุ นั ภูเขาหนิ ปะการัง (แต่เดิมช่ือเขาหน่อ) อยู่บนพื้นท่ีหมู่ที่ 8 อยู่บนพ้ืนที่ป่าไม้ตำบลซับพุทรา อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบรู ณ์ หา่ งจากตัวจังหวดั ประมาณ 70 กิโลเมตร มีพน้ื ท่คี ลอบคลุมประมาณ 2,000 ไร่ สภาพป่า เป็นป่าไม้ เบญจพรรณหรือป่าผลัดใบ สูงระดับน้ำทะเลประมาณ 1,200 เมตร มีความลาดชัน ประมาณ 45 องศา เป็นภูเขาหินล้วน สีขาวอมเทา บ้างเขียวนวล มีรูปร่างแปลกตา กินเนื้อท่ีคลอบคลุมทุกส่วนที่เป็น ภูเขา สันนิษฐานว่าพื้นท่ีแห่งน้ีเคยเป็นทะเลมาก่อนหรือแหล่งน้ำขนาดใหญ่ในสมัยเม่ือหลายล้านปีก่อน ด้วย ประเภทของหินและยังพบหินฟอสซลิ ต่างๆลวดลายคลา้ ยสตั ว์ทะเล จำนวนหน่ึงกระจดั กระจายอยู่ “ลานหนิ ปะการงั ” หินมีลักษณะเป็นหน่อเรียวยาวสีเทาอมเขียวเหมือน ปะการังขนาดใหญ่ มี ความสวยงามแปลกตา มาก เป็นความย่ิงใหญ่ท่ีธรรมชาติบรรจงสรรสร้างข้ึน คุณสมบัตทิ ี่พิเศษสุดของหินเหล่านี้ เวลาเคาะจะมีเสียง ดงั กังวานคล้ายกับโลหะ เปน็ เสียงระดบั แตกต่างกัน(โน้ตดนตรี) กินเน้ือที่กว่าพนั ไรท่ ีเดียว น่าจะมีแร่บางอย่าง อยู่ขา้ งใน นกั ทอ่ งเทย่ี วสามารถเดินชมหินปะการัง บนสะพานทไี่ ดส้ ร้างข้นึ ไวอ้ ยา่ งใกล้ชดิ “หน้าผาหิน”
6 เหมาะสำหรับใช้ทำกจิ กรรมออกกำลังกายปนี หน้าผาของนักท่องเที่ยวทต่ี ้องการความสนุก ความท้า ทายเป็นอยา่ งย่งิ “จุดชมทิวทศั น์” ท่านจะได้พบเห็นกับภาพที่มีความสวยงามและความแปลกตาผสมเคล้ากันภาพมุมบนของลานหิน ปะการังอีกทั้ง ภาพหมู่บ้าน วิถีชีวิตชุมชน สัมผัสกับไออุ่นของแดดยามเช้า กับอากาศท่ีเย็นสบาย ท่ามกลาง สายหมอก “ ถ้ำ ” มี จำนวนหลายแห่ง ถำ้ ที่น่ีไม่ลึกนัก ในบางห้องของถ้ำยังเป็นท่ีอาศยั ของฝูงค้างคาวแมไ่ ก่จำนวนหน่ึง เช่ือว่าเขาปะการังรังแห่งนี้มีพบอีกจำนวนมากท่ียังไม่ได้เข้าไปสำรวจเพราะในปัจจุบันยังมีการค้นพบถ้ำโดย ชาวบ้านอยู่เรื่อยๆ ซึง่ ถ้ำท่ีค้นพบลว้ นมคี วามสวยงามและมคี วามแปลกตาเป็นเอกลกั ษณ์ไมเ่ หมือนทอี่ ่ืน ถ้ำบาง แห่งมีหินเป็นสีเขียวคล้ายหินหยก บางแห่งก็มีหินรูปร่างคล้ายสัตว์น้ำทะเล บ้างคล้ายเครื่องบิน และมนุษย์ ฯลฯ “พนั ธไ์ุ มท้ ี่หายาก” ตามภูเขาหินปะการงั จะพบพชื พันธุ์ท่ีหายากมากมาย อาทิ ต้น จันทรผ์ า ซ่งึ เปน็ ไม้มงคลหายากและมี ราคาแพงข้ึนทั่วบริเวณ และพบ ต้นเทียนหิน กล้วยไม้ป่า และยังพบพืชรูปร่างแปลกตาไม่สามารถพบเห็นได้ ท่ัวไป ในช่วงหน้าฝนภูเขาหินปะการัง (เขาหน่อ) จะมีความสวยงามมาก สามารถพบดอกไม้ป่า ขึ้นแทรกอยู่ ตามโขดหนิ ทัว่ ท้งั ภเู ขา ชชู อ่ ออกดอกสีสนั ตระการตา วัดถำ้ ผาทอง ต้งั อยู่ที่ บ้านผาทอง หมู่ 8 ตำบลพุทธบาท อำเภอชนแดน โดยทางเข้านั้น สามารถเข้าไดท้ ั้งทาง ตำบลท่าข้ามและทางเข้าทางตำบลวังศาล อำเภอวังโป่ง ระยะทางห่างจากอำเภอประมาณ 23 กิโลเมตร
7 ความงดงามท่ีธรรมชาติสร้างสรรค์มาน้นั ทำให้ถ้ำผาทองสวยตระการตา ท่ามกลางความเขียวขจีของแมกไม้ นานาพนั ธ์ุที่ได้รับการดูแลอย่างดจี ากราษฎรในชุมชน ข้อมูลประชากร ประชากรของอำเภอชนแดนส่วนใหญ่มีสัญชาติไทย นับถือศาสนาพุทธ มีประชากรอาศัยอยู่จำนวน 20,207 ครัวเรือน และมีประชากรท้ังสิ้น 54,820 คน เป็นชาย 27,464 คน หญิง 27,356 คน โดย แยกเปน็ ดังนี้ ประชากรอำเภอชนแดน ท่ี เทศบาล จำนวนครัวเรือน เพศชาย(คน) เพศหญิง(คน) รวม(คน) 1 อบต.ชนแดน 2,308 3,331 3,188 6,519 2 อบต.ดงขยุ 2,251 2,962 2,799 5,761 3 อบต.ทา่ ข้าม 1,680 2,214 2,283 4,497 4 อบต.พุทธบาท 3,721 4,814 4,700 9,514 5 อบต.ลาดแค 2,812 3,702 3,650 7,352 6 อบต.บ้านกลว้ ย 1,955 3,176 3,200 6,376 7 อบต.ซบั พุทรา 923 1,404 1,398 2,802 8 อบต.ตะกดุ ไร 1,243 1,731 1,704 3,435 9 เทศบาลศาลาลาย 1,248 1,936 2,037 3,973 10 เทศบาลชนแดน 899 629 609 1,238 11 เทศบาลดงขุย 692 751 889 1,640 12 เทศบาลทา่ ขา้ ม 475 814 899 1,713 รวม 20,207 27,464 27,356 54,820
8 สถานการณ์ทางสงั คมของอำเภอชนแดน 1. การคมนาคม การเดินทางติดต่อระหว่างอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน มีทางหลวงแผ่นดิน ท่ีผ่าน อำเภอชนแดน 2 สาย คอื 1.1 ทางหลวงแผน่ ดินสายเพชรบูรณ์ – ตะพานหนิ ผ่านตอนล่างของอำเภอชนแดน ระยะทางประมาณ 102 กิโลเมตร 1.2 ทางหลวงแผ่นดินสายชนแดน – วังโป่ง ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร เส้นทางไม่ สะดวก ถนนส่วนใหญ่จะเปน็ ถนนดนิ และถนนลกู รัง สามารถใชไ้ ดส้ ะดวกในฤดูแลง้ สว่ น ในฤดูฝน การเดินทางติดต่อระหว่างหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ยังไม่สะดวกเพราะถนนเป็น หลุมเป็นบ่อ เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง และการขนส่งสินค้าการเกษตรเป็นไปด้วย ความลำบาก 2. โทรคมนาคม การติดต่อสื่อสาร มีบริการด้านไปรษณีย์โทรเลข 2 แห่ง ส่วนงานบริการด้าน ไปรษณีย์ระดับตำบล หมู่บ้าน มีเฉพาะบางตำบล ที่มีการคมนาคมสะดวก นอกจากน้ีการติดต่อส่ือสารด้วย ระบบโทรศัพท์ มีโทรศัพท์ทางไกล และโทรศัพท์ติดต่อระหว่างอำเภอเป็นไปด้วยความสะดวก เป็นโทรศัพท์ สาธารณะ 24 แหง่ และมีโทรศพั ทบ์ รกิ าร จำนวน 2,192 เลขหมาย 3. การไฟฟ้า ไฟฟ้าท่ใี ชอ้ ยใู่ นเขตอำเภอชนแดน อยูใ่ นเขตความรับผิดชอบ ของการไฟฟ้าเพชรบูรณ์ ส่วนใหญ่จะมีไฟฟ้าใช้เกือบทั้งหมด ขาดแต่เฉพาะหมู่บ้านขนาดเล็กที่มีบ้านเรือนอยู่ห่างกันมาก ๆ ซึ่งใน ปัจจุบันกำลังดำเนินการขยายเขตไฟฟา้ อย่แู ตย่ ังไม่เสร็จสน้ิ 4. การประปา การประปา อยใู่ นความรบั ผิดชอบของการประปาส่วนภูมิภาคอำเภอชนแดน จำนวน 1 แห่ง ให้บริการจ่ายน้ำให้แก่ชุมชนท่ีอาศัยอยู่ในเขตเทศบาลชนแดน เทศบาลท่าข้าม และเทศบาลดงขุย สำหรับชุมชนนอกเขตเทศบาล ยังคงอาศัยน้ำอุปโภค บริโภค จากแหล่งน้ำธรรมชาติ และจัดทำขึ้นเอง เช่น สระนำ้ บอ่ บาดาล บ่อน้ำตื้น นอกจากนย้ี งั มีระบบประปาหมบู่ า้ น ประชากรส่วนใหญ่ของอำเภอชนแดน เป็นประชากรที่อพยพมาจากท้องท่ีอื่น จากหลายๆ จังหวัด ลักษณะการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนในเขตชุมชนเมือง จะมีประชากรตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น โดยเฉพาะประชากรในเขตชุมชน เทศบาลทั้ง 3 แห่ง ราษฎรในเขตชนบทมักตง้ั บ้านเรือนอาศัยอยู่ตามชุมชน หม่บู า้ น และกระจดั กระจายไปตามทดี่ ินของตนเอง เน่ืองจากสภาพเศรษฐกิจของอำเภอชนแดน ส่วนใหญ่ขน้ึ อยู่กับอาชีพเกษตรกรรม ซึง่ เป็นอาชีพหลัก ของประชากรกว่าร้อยละ 90 โดยทำไร่ ทำนา พืชไร่ที่ปลูกมากที่สุด ได้แก่ ข้าวโพด ข้าว ถั่วเขียว ข้าวฟ่าง การทำสวนผลไม้ การประกอบอาชีพของเกษตรกรส่วนใหญ่ อาศัยน้ำฝนตามฤดูกาล เมื่อเสร็จฤดูกาลเก็บ
9 เก่ียวพืชผลทางการเกษตร จะปลูกพืชหมุนเวียนและรับจ้างทั่วไป ซึ่งส่วนหน่ึงท่ีออกไปรับจ้างทำงาน ต่างจงั หวัด โดยทำงานในภาคอตุ สาหกรรมตามโรงงานในเขตกรุงเทพมหานครและปรมิ ณฑล ดา้ นเศรษฐกิจ 1. การเกษตรกรรม การเกษตรกรรมอำเภอชนแดน มีการเพาะปลูกท่ีใหผ้ ลิตผลมีมลู ค่ามาก ได้แก่ ข้าวโพด ข้าว ถั่วเขียว พ้ืนท่ีถือครองของอำเภอชนแดน มีจำนวน 710,625 ไร่ มีพ้ืนท่ีทำการเกษตรพืชไร่ 259,088 ไร่ พชื นา 134,072 ไร่ พชื สวน 17,289 ไร่ การปศสุ ัตว์ มีการเลี้ยงโค กระบือ เป็ด ไก่ ซ่ึงยังคงเป็นการเล้ียงแบบเกษตรกรรายย่อยเป็นสว่ นใหญ่ การประมง อำเภอชนแดน มแี หล่งนำ้ ธรรมชาติประเภทแม่น้ำ หนอง บึง และมีการเลี้ยงปลาในบ่อ เชน่ ปลานิล ปลาย่ีสก ปลาดกุ และปลาตะเพียน เป็นตน้ รายได้เฉลี่ยต่อคนของประชากรอำเภอชนแดน รายไดเ้ ฉลย่ี ตอ่ คนต่อปี 76,049.79 ที่ พน้ื ที่ 1 อบต.ชนแดน 73,769.26 2 อบต.ดงขุย 92,672.61 3 อบต.ท่าข้าม 59,228.00 4 อบต.พทุ ธบาท 84,287.77 5 อบต.ลาดแค 76,545.57 6 อบต.บ้านกล้วย 87,414.85 7 อบต.ซบั พุทรา 72,634.43 8 อบต.ตะกุดไร 73,467.58 9 อบต.ศาลาลาย 196,842.89 10 เทศบาลชนแดน 66,639.09 11 เทศบาลดงขยุ 91,587.91 12 เทศบาลทา่ ข้าม 78,528.41 เฉลี่ย
10 2. ขอ้ มูลพ้นื ฐาน กศน.อำเภอชนแดน ประวัตคิ วามเป็นมาของสถานศึกษา ประวัติสถานศึกษา : กระทรวงศึกษาธิการ โดยกรมการศึกษานอกโรงเรียนได้ประกาศจัดต้ัง ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียน พร้อมกันทั่วประเทศจำนวน 789 แห่ง โดยอาศัยอำนาจตามความใน มาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2534 ประกอบกับระเบียบ กระทรวงศึกษาธิการวา่ ด้วยการจดั การศึกษาในสถานศึกษาสงั กดั กรมการศึกษานอกโรงเรียน พ.ศ. 2536 เป็น สถานศึกษาในราชการบริหารส่วนกลางสังกัดกรมการศึกษานอกโรงเรียน พ.ศ. 2536 ข้อ 6 ในส่วนของอำเภอ ชนแดน มีช่ือว่า “ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอชนแดน” เม่ือ วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2536 เป็น สถานศึกษาในราชการบริหารส่วนกลางสังกัดศนู ย์การศกึ ษานอกโรงเรยี นจงั หวัดเพชรบรู ณ์ กรมการศึกษานอก โรงเรยี น กระทรวงศกึ ษาธิการ สถานท่ีปฏิบัติงาน เดิมใช้ท่ีทำการสภาตำบลชนแดน เป็นสถานที่ปฏิบัติงานจนถึงวันท่ี 9 ตุลาคม 2538 ต่อมาย้ายสถานท่ีปฏิบัติงานมาใช้อาคารของห้องสมุดประชาชนอำเภอชนแดน หมู่ท่ี 4 ตำบลชนแดน อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ และต่อมาปีงบประมาณ 2544 ได้ดำเนินการปรับปรุงก่อสร้างอาคาร สำนักงานในพื้นที่ตดิ กับหอ้ งสมดุ ประชาชนอำเภอ และใชเ้ ปน็ สำนกั งานของศนู ยบ์ รกิ ารการศกึ ษานอกโรงเรียน อำเภอชนแดน ซ่ึงต่อมาเมื่อ วันที่ 19 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2551 ได้ประกาศใช้ พระราชบัญญัติสง่ เสริมการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 ขึ้น และประกาศเปลี่ยนแปลงช่ือสถานศึกษาเป็น ศูนย์ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอชนแดน เรียกชื่อย่อว่า “กศน.อำเภอชนแดน” สังกัด สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดเพชรบูรณ์ สำนักงานส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ จนถึงปัจจุบนั ทีต่ ้งั /การติดตอ่ ช่อื สถานศึกษา : ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอชนแดน ทอ่ี ยู่ : เลขท่ี 415 หมทู่ ี่ 4 ถนนชมฐีระเวช อำเภอชนแดน จังหวดั เพชรบรู ณ์ เบอร์โทรศัพท์ : โทร 0-5676-1667 โทรสาร เบอรโ์ ทรสาร : 0-5676-1667 E-mail ติดต่อ : [email protected] สังกัด : สำนกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดเพชรบูรณ์ สำนักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธกิ าร
11 โครงสรา้ ง กศน.อำเภอชนแดน โครงสรา้ งการบริหารงานของสถานศึกษา หมายเหตุ ให้เสถานศึกษาสามารถ นำเสนอข้อมลู โครงสร้างการ บริหารงานของสถานศึกษา ทีต่ รงกับ ความเป็นจริง
12 ทำเนียบผู้บรหิ ารศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอชนแดน ลำดบั ท่ี ชอ่ื -สกุล ตำแหน่ง ระยะเวลาท่ดี ำรงตำแหนง่ 1 นางจฑุ ารตั น์ สขุ แสง ผู้อำนวยการสถานศกึ ษา 27 สิงหาคม 2536 – 18 มิถุนายน 2544 2 นายชนื่ ศักด์ิ ตาคำ ผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษา 19 มิถุนายน 2544 – 16 พฤษภาคม 2548 3 นางสาวบานเยน็ ศิริ ผู้อำนวยการสถานศกึ ษา 17 พฤษภาคม 2548 – 27 ตุลาคม 2551 4 นายอาคม ปัญญาศุภโชติ ผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษา 28 ตุลาคม 2551 – 27 มิถนุ ายน 2553 5 นายสมประสงค์ น้อยจันทร์ ผอู้ ำนวยการสถานศึกษา 28 มิถนุ ายน 2553 – 31 ตลุ าคม 2553 6 นายอนชุ า วิจิตรศลิ ป์ ผู้อำนวยการสถานศกึ ษา 1 พฤศจิกายน 2553 – 8 ธนั วาคม 2556 7 นายสมประสงค์ น้อยจันทร์ ผู้อำนวยการสถานศกึ ษา 9 ธนั วาคม 2556 – ปจั จุบัน บคุ ลากรศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอชนแดน ที่ ชือ่ – สกลุ ตำแหนง่ วฒุ ิการศึกษา วิชาเอก 1. นายสมประสงค์ น้อยจันทร์ ผอ.กศน.อำเภอชนแดน คบ./ป.บัณฑติ เกษตรกรรม/การบริหารการศกึ ษา 2. นางวารี ชูบวั บรรณารักษช์ ำนาญการ ศศ.บ. บรรณารักษศาสตรแ์ ละสารนเิ ทศศาสตร์ 3 นายเกรียงฤทธ์ิ เดตะอุด ครผู ู้ช่วย น.บ. นติ ิศาสตร์ 4. นางสาวลาวัลย์ สทิ ธิกรวยแก้ว ครอู าสาสมัครฯ คบ. อตุ สาหกรรมศิลป์ 5. นางสมบัติ มาเนตร์ ครูอาสาสมัครฯ คบ. เกษตรกรรม 6. นางสุรัตน์ จันทะไพร ครู กศน.ตำบล คบ. ปฐมวัย 7. นางสาวลดาวรรณ์ สทุ ธิพันธ์ ครู กศน.ตำบล คบ. วทิ ยาศาสตร์ทว่ั ไป 8. นายเกรยี งไกร ใหม่เทวินทร์ ครู กศน.ตำบล คบ. ศิลปศกึ ษา 9. นางผกาพรรณ มะหิทธิ ครู กศน.ตำบล บธ.บ ระบบสารสนเทศ(ทางคอมพวิ เตอร)์ 10. นางสาวพัชราภรณ์ นริศชาติ ครู กศน.ตำบล นทบ. นิเทศศาสตร์ 11. นางสาวมุจลินท์ ภยู าธร ครู กศน.ตำบล วท.บ. วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีการอาหาร 12. นางลาวนิ สเี หลอื ง ครู กศน.ตำบล ศบ. การวัดและประเมินผลการศึกษา 13. นางสาวนภารัตน์ สสี ะอาด ครู กศน.ตำบล คบ. พละศึกษา 14. นางสาวณฐั ชา ทาแนน่ ครู กศน.ตำบล คบ. เกษตรกรรม 15. นายปัณณวัฒน์ สขุ มา ครู ศรช. วท.บ. เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์อุตสาหกรรม 16. นายศิวณัชญ์ อัศวสัมฤทธ์ิ ครู ศรช. คบ. สงั คมศึกษา 17. นางสาวกญั ญาณฐั จนั ปญั ญา ครู ศรช. ศศบ. สหวิทยาการเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น 18. นางสาวอษุ า ยงิ่ สขุ นกั วชิ าการศึกษา คบ. บรรณารักษศาสตร์ 19. นางสาววรางคณา น้อยจันทร์ นกั วิชาการศึกษา ศศ.บ. ภาษาจีน
20. นางสาวเยาวดี โสดา นกั จัดการงานทว่ั ไป 13 21. นายอำพล เพชรสุข พนักงานบริการ บธ.บ. ระบบสารสนเทศทางคอมพวิ เตอร์ คณะกรรมการสถานศึกษา ม.ปลาย มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ลำดบั ชือ่ -สกุล ตำแหนง่ 1 นายประสาน จรรยารักษ์ ประธานกรรมการ 2 นายประมวน ดวงตา 3 นายประวทิ ย์ ฉตั รศรสี ุวรรณ กรรมการ 4 นายจเร บุญยก กรรมการ 5 นายสนิท เกษมสุข กรรมการ 6 นายปราโมทย์ ทองย้ิม กรรมการ 7 นายจกั รกฤช สุกใส กรรมการ 8 นางเทยี มจันทร์ วิทยานที กรรมการ 9 นายสมประสงค์ น้อยจนั ทร์ กรรมการ กรรมการและเลขานุการ กศน.ตำบล 9 แหง่ ดังนี้ ทต่ี ง้ั ผูร้ ับผิดชอบ กศน.ตำบล ม.4 ตำบลชนแดน อำเภอชนแดน นางสาวมุจลินท์ ภูยาธร ม.24ตำบลพุทธบาทอำเภอชนแดน นางลาวิน สีเหลือง 1.กศน.ตำบลชนแดน ม.4 ตำบลซบั พุทรา อำเภอชนแดน นางสาววารุณี มะณีสอน 2.กศน.ตำบลพทุ ธบาท ม.1 ตำบลทา่ ขา้ ม อำเภอชนแดน นางสาวลดาวรรณ์ สทุ ธพิ ันธ์ 3.กศน.ตำบลซบั พุทรา ม.10 ตำบลศาลาลาย อำเภอชนแดน นางผกาพรรณ มะหิทธิ 4.กศน.ตำบลท่าข้าม ม.17 ตำบลลาดแค อำเภอชนแดน นางสาวพัชราภรณ์ นรศิ ชาติ 5.กศน.ตำบลศาลาลาย ม.8 ตำบลบ้านกล้วย อำเภอชนแดน นางสุรตั น์ จันทะไพร 6.กศน.ตำบลลาดแค ม.14 ตำบลดงขยุ อำเภอชนแดน นายเกรียงไกร ใหมเ่ ทวนิ ทร์ 7.กศน.ตำบลบ้านกล้วย ม.2 ตำบลตะกดุ ไร อำเภอชนแดน นางสาวณัฐชา ทาแนน่ 8.กศน.ตำบลดงขยุ 9.กศน.ตำบลตะกดุ ไร 9 แหง่ รวมจำนวน
14 หอ้ งสมุดประชาชน หอ้ งสมุดประชาชนอำเภอชนแดน เลขทเี่ ลขท่ี 415 หมทู่ ่ี 4 ถนนชมฐีระเวช อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ ผรู้ ับผิดชอบ นางวารี ชูบวั ตำแหนง่ บรรณารักษ์ชำนาญการ บ้านหนงั สือชุมชน “บา้ นหนังสือชุมชน” จำนวน 27 แหง่ ดังนี้ ที่ ตำบล หมู่ท่ี ช่อื บา้ นหนังสอื ชุมชน บา้ นโคกเจริญ 1. ชนแดน 7 บา้ นโคกเจริญเหนือ บา้ นชนแดน 13 บ้านวังไทร บ้านซบั เจริญ 3 บ้านเขาถ้ำพฒั นา บา้ นผาทอง 2. ซับพทุ รา 4 บา้ นหว้ ยตูม บา้ นวงั มะปราง 3 บ้านท่าขา้ ม บ้านตะกุดจนั่ 9 บา้ นกฏุ พิ ระ บ้านศาลาลาย 3. พทุ ธบาท 8 บา้ นซับขลงุ บา้ นเนนิ พฒั นา 17 บ้านคลองโปร่ง บ้านถ้ำแก้ว 16 บ้านหนองใหญ่ บ้านหนองระมาน 4. ท่าข้าม 1 บา้ นโคกตายอ บา้ นดงขยุ เหนือ 8 บ้านเขาชะโงก บ้านเขาชะโงกเหนือ 4 บ้านวังลวก 5. ศาลาลาย 1 7 10 6. ลาดแค 17 7 8 7. ดงขุย 6 17 4 8. บ้านกล้วย 4 7 1
15 9. ตะกดุ ไร 2 บา้ นเนินสว่าง 4 บา้ นเขาสัก 1 บา้ นตะกุดไร ศูนยก์ ารเรียนชมุ ชน 3 แห่ง ดังนี้ ที่ตง้ั ผูร้ บั ผิดชอบ ม.4 ต.พุทธบาท นายศวิ ณัชญ์ อศั วสัมฤทธิ์ ลำดับ ศนู ยก์ ารเรียนชุมชน ม.8 ตำบลพุทธบาท นางสาวกัญญาณัฐ จนั ปัญญา 1 บา้ นห้วยงาชา้ ง ม.4 ต.ชนแดน นายปณั ณวัฒน์ สุขมา 2 บ้านผาทอง 3 วดั พทุ ธบาทชนแดน ภมู ิปญั ญาท้องถ่นิ จำนวน 21 แหง่ ภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ ความรู้ความสามารถ ทีอ่ ยู่ 1.นายคำ สายแวว จกั สาน ม.7 บ้านเขาชะโงกเหนือ ต.บ้านกล้วย 2.นางมลฑา ภดู วงดาษ บายศร/ี รอ้ ยมาลัย 49 ม.7 บ้านเขาชะโงกเหนือ 3.นายธวัช จนั ทา รกั ษาโรคกระดกู หัก/หมอเป่า ต.บา้ นกลว้ ย 4.นายสายรุ้ง ดษิ ทอง หมอดูดวง/ต้ังศาลพระภมู ิ ม.4 บ้านเขาชะโงก ต.บา้ นกล้วย 5.นายไพรวงษ์ คชสาร การทำปุ๋ยชีวภาพ, การเล้ียงไก่ไข่ ม.5 บา้ นเขาคณฑา ต.บ้านกลว้ ย 6.นางขจร คชสาร การทำนำ้ พริกแกง 150 ม.17 บา้ นโคกตายอ ต.ดงขยุ 7.นางปราณี พุทธปญั ญา การเพาะเหด็ นางฟ้า 150 ม.17 บา้ นโคกตายอ ต.ดงขุย 8.นางปานทิพย์ มณธี รรม การแปรรปู สมุนไพร (การทำน้ำพริก) 150 ม.6 บ้านหนองระมาน ต.ดงขยุ 9.นางคำพนั ธ์ เทยี นบัว การทำถ่านอัดแท่ง 10.นายประพิศ ชมู าลยั วงศ์ การเพาะเห็ดฟาง ม.4 บ้านเขาสกั ต.ตะกุดไร 11.นายอทุ ยั สายพนิ เกษตรผสมผสาน ม.2 บ้านเนินสว่าง ต.ตะกดุ ไร 12.นายมานพ เอมโอช เกษตรผสมผสาน/เกษตรทฤษฎีใหม่ ม.2 บา้ นเนินสวา่ ง ต.ตะกุดไร 13.นายจำปี จานสิบสี เกษตรผสมผสาน/เกษตรทฤษฎใี หมก่ ารเลย้ี ง 134 ม.4 บา้ นชนแดน ต.ชนแดน แพะ 97 ม.3 บ้านชนแดนเหนอื ต.ชนแดน 14.นายสมยศ มณโี ชติ เกษตรผสมผสาน/เกษตรทฤษฎใี หม่การปลูก 111 ม.13 บา้ นโคกเจริญเหนือ พชื สมนุ ไพร ต.ชนแดน ม.10 บ้านคลองหว้ ยนา ต.ชนแดน
15.นายสมจติ ร ชัยหอมหวล การแปรรปู มะขามหวาน 16 16.นายวฑิ รู ย์ ยอดทหาร การเพาะเหด็ นางฟา้ และเห็ดขอนมะมว่ ง 7 ม.8 บ้านโป่งตาเบ้า ต.ชนแดน 17.นายปราโมทย์ ทองยิ้ม การทำปุย๋ ชีวภาพ สมุนไพรแปรรูป 261/3 ม.7 บา้ นโคกเจริญ 18.นายพินจิ อน้ อม่ิ ดนตรไี ทย ต.ชนแดน 19.นายชูชาติ พลอยมณี การขยายพนั ธพ์ุ ืช 159 ม.1 บ้านหว้ ยตูม ต.พทุ ธบาท 20.นางบญุ จันทร์ ดอกไม้ การนวดแผนไทย 48 ม.1 บา้ นห้วยตมู ต.พทุ ธบาท 21.นายณรงค์ ป่ินบาง การทำไมเ้ ฟอรน์ เิ จอร์ 142 ม.2 บ้านนำ้ พุ ต.พทุ ธบาท 58 ม.1 บา้ นห้วยตูม ต.พทุ ธบาท 8 ม.23 บ้านหว้ ยงาช้างบน ต.พทุ ธบาท รวมจำนวน 21 แห่ง แหลง่ เรียนรอู้ ่ืน จำนวน 61 แห่ง ประเภทแหล่งเรยี นรู้ ทต่ี งั้ แหลง่ เรยี นรอู้ ่ืน ศาสนาและวฒั นธรรม 111 ม.4 บ้านชนแดน ต.ชนแดน ผักปลอดสารพิษ การเลี้ยงไก่ไข่ 134 ม.4 บา้ นชนแดน ต.ชนแดน 1. วัดพระพุทธบาทชนแดน ผักปลอดสารพิษ ม.3 บ้านชนแดนเหนอื ต.ชนแดน 2.ศนู ยเ์ รยี นร้กู ารปลกู ผักเกษตรอนิ ทรีย์ ผกั ไฮโดรโปรนกิ ส์ ม.7 บา้ นโคกเจรญิ ต.ชนแดน 3.ศูนยเ์ รียนรกู้ ารปลกู ผักปลอดสารพษิ 4.ศนู ย์เรียนรูก้ ารปลกู ผักไฮโดรโปรนกิ สศ์ นู ย์ การเพาะเหด็ ม.13บ้านโคกเจรญิ เหนือ เรียนรู้ ต.ชนแดน 5.กลมุ่ การเพาะเห็ด แหล่งทอ่ งเทย่ี วธรรมชาติ ม.8 บา้ นผาทอง ต.พุทธบาท แหลง่ ท่องเที่ยวธรรมชาติ ม.13 บ้านลาดน้อย ต.พุทธบาท 6.ถำ้ ผาทอง แหลง่ ทอ่ งเท่ียวธรรมชาติ ม.13 บ้านลาดน้อย ต.พุทธบาท 7.นำ้ ตกแสนสมบูรณ์ แหล่งท่องเท่ยี วธรรมชาติ ม.5 บ้านหนองตาด ต.พทุ ธบาท 8.อา่ งเกบ็ น้ำบ้านลาดนอ้ ย ศาสนาและวัฒนธรรม ม.11 บ้านถำ้ เขาเครือ ต.พุทธบาท 9.อ่างเกบ็ น้ำบา้ นหนองตาด อุตสาหกรรมครวั เรือน ม.17 บ้านห้วยตูม ต.พุทธบาท 10.วดั ถ้ำเขาเครือ แหล่งท่องเทยี่ วธรรมชาติ ม.4 บา้ นกุฏพิ ระ ต.ท่าข้าม 11.กลุ่มสตรีแมบ่ ้านหว้ ยตูม (นำ้ พริก) เกษตรกรรม ม.1 บา้ นท่าขา้ ม ต.ท่าขา้ ม 12.อ่างเก็บนำ้ กุฏิพระ เกษตรกรรม ม.1 บา้ นทา่ ข้าม ต.ท่าขา้ ม 13.ศูนย์เรยี นรเู้ ศรษฐกิจพอเพียง 14.โรงสีข้าวชมุ ชน ตามโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใตร้ ่มพระบารมี
15.โรงสีขา้ วชมุ ชน ตามโครงการ 9101 เกษตรกรรม 17 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใตร้ ม่ พระบารมี เกษตรกรรม ม.2 บา้ นวังปลาชอ่ น ต.ทา่ ขา้ ม 16.โรงสขี า้ วชุมชน ตามโครงการ 9101 เกษตรกรรม ม.3 บ้านโคกสูง ต.ทา่ ข้าม ตามรอยเทา้ พ่อ ภายใตร้ ม่ พระบารมี เกษตรกรรม ม.4 บา้ นกฎุ ิพระ ต.ท่าขา้ ม 17.โรงสีข้าวชุมชน ตามโครงการ 9101 เกษตรกรรม ม.5 บา้ นตะกุดเป้า ต.ท่าข้าม ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี ม.6 บ้านดงแขวน ต.ท่าข้าม 18.โรงสีข้าวชมุ ชน ตามโครงการ 9101 เกษตรกรรม ตามรอยเท้าพ่อ ภายใตร้ ่มพระบารมี เกษตรกรรม ม.7 บ้านหนองโก ต.ทา่ ข้าม 19. โรงสขี า้ วชุมชน ตามโครงการ 9101 เกษตรกรรม ม.8 บา้ นตะกุดจ่นั ต.ท่าข้าม ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้รม่ พระบารมี เกษตรกรรม ม.9 บา้ น กม.39 ต.ท่าข้าม - การเล้ยี งไก่ไข่ ตามโครงการ 9101 เกษตรกรรม ม.10 บ้านเขาบ่อทอง ต.ทา่ ข้าม ตามรอยเทา้ พ่อ ภายใตร้ ่มพระบารมี แหล่งท่องเทีย่ วธรรมชาติ ม.11 บ้านเขาดิน ต.ท่าข้าม 20.การเลย้ี งไกไ่ ข่ ตามโครงการ 9101 อตุ สาหกรรม ม.21 บา้ นซบั ตะเคยี น ต.ลาดแค ตามรอยเทา้ พ่อ ภายใตร้ ม่ พระบารมี เกษตรกรรม ม.14 บ้านหนองใหญใ่ ต้ ต.ลาดแค 21.โรงสขี ้าวชมุ ชน ตามโครงการ 9101 เกษตรกรรม ม.15 บ้านซบั มว่ ง ต.ลาดแค ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เกษตรกรรม ม.17 บา้ นคลองโปรง่ ต.ลาดแค 22.การเล้ยี งไก่ไข่ ตามโครงการ 9101 เกษตรกรรม ม.16 บ้านดงลานใต้ ต.ลาดแค ตามรอยเท้าพ่อ ภายใตร้ ม่ พระบารมี ศาสนาและวฒั นธรรม ม.10 บ้านโคกหนองจอก 23.การเลย้ี งไกไ่ ข่ ตามโครงการ 9101 ต.ลาดแค ตามรอยเทา้ พ่อ ภายใตร้ ่มพระบารมี ม.4 บา้ นเขาชะโงก ต.บ้านกลว้ ย 24.การเลี้ยงไก่ไข่ ตามโครงการ 9101 ตามรอยเทา้ พ่อ ภายใต้รม่ พระบารมี 25.วดั ภพู ระธาตุ 26.กลมุ่ ถ่านอัดจากซงั ข้าวโพด 27.แหล่งเรยี นรเู้ ศรษฐกิจพอเพยี ง 28.การเล้ียงไกไ่ ข่ ตามโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี 29.การปลูกหอมแดง ตามโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใตร้ ม่ พระบารมี 30.การปลกู ผกั ตามโครงการ 9101 ตามรอยเทา้ พ่อ ภายใต้รม่ พระบารมี 31.วดั ถ้ำมงคลเขาชะโงก
32.กล่มุ สตรีแมบ่ า้ นเขาชะโงกเหนอื หตั ถกรรม 18 (ทอผ้ากีก่ ระตกุ ) อตุ สาหกรรม 33.เฟอรน์ เิ จอรไ์ ม้ ม.7 บ้านเขาชะโงกเหนือ ต.บ้านกลว้ ย 34.ศนู ยเ์ รียนรู้ปยุ๋ หมักชีวภาพ เกษตรกรรม ม.7 บ้านเขาชะโงกเหนือ 35.ศนู ยเ์ รียนรู้สมนุ ไพรพ้ืนบ้าน เกษตรกรรม ต.บา้ นกลว้ ย 36.วดั เทพธรรมรังษี ศาสนาและวฒั นธรรม ม.8 บา้ นโคกสำราญ ต.บา้ นกลว้ ย 37.ศนู ย์เรียนรกู้ ารเพาะเห็ดนางฟ้า เกษตรกรรม ม.8 บา้ นโคกสำราญ ต.บ้านกลว้ ย 38.การเลย้ี งไก่ไข่ ตามโครงการ 9101 เกษตรกรรม ม.12 บ้านใหม่พัฒนา ต.บ้านกล้วย ตามรอยเทา้ พ่อ ภายใตร้ ม่ พระบารมี ม.5 บา้ นเขาคณฑา ต.บ้านกล้วย 39.โรงสีขา้ ว ตามโครงการ 9101 เกษตรกรรม ม.1 บ้านวังรวก ต.บ้านกล้วย ตามรอยเท้าพ่อ ภายใตร้ ่มพระบารมี 40.การเลย้ี งไก่ไข่ ตามโครงการ 9101 เกษตรกรรม ม.2 บา้ นโคกสำราญ ต.บา้ นกลว้ ย ตามรอยเท้าพ่อ ภายใตร้ ่มพระบารมี 41.การเลย้ี งปลาดกุ ตามโครงการ 9101 เกษตรกรรม ม.3 บ้านกลว้ ย ต.บา้ นกล้วย ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี 42.การเลย้ี งไก่ไข่ ตามโครงการ 9101 เกษตรกรรม ม.4 บ้านเขาชะโงก ต.บ้านกล้วย ตามรอยเท้าพ่อ ภายใตร้ ่มพระบารมี 43.การเลย้ี งปลาดกุ ตามโครงการ 9101 เกษตรกรรม ม.5 บ้านเขาคณฑา ต.บ้านกล้วย ตามรอยเทา้ พ่อ ภายใตร้ ม่ พระบารมี 44.การเลี้ยงไก่ไข่ ตามโครงการ 9101 เกษตรกรรม ม.6 บ้านเขาฝาง ต.บ้านกล้วย ตามรอยเทา้ พ่อ ภายใต้รม่ พระบารมี 45.การเลี้ยงหม,ู การเลย้ี งกบ,การเลีย้ งปลาดุก, เกษตรกรรม ม.7 บ้านเขาชะโงกเหนือ การเพาะเห็ด ตามโครงการ 9101 ตามรอยเท้า ต.บา้ นกลว้ ย พอ่ ภายใต้รม่ พระบารมี เกษตรกรรม ม.8 บ้านโคกสำราญเหนือ 46.การเลี้ยงไกไ่ ข่ ตามโครงการ 9101 ต.บ้านกล้วย ตามรอยเท้าพ่อ ภายใตร้ ม่ พระบารมี เกษตรกรรม 47.การเล้ยี งไก่ไข่ ตามโครงการ 9101 ม.9 บ้านวังรวกเหนือ ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้รม่ พระบารมี เกษตรกรรม ต.บ้านกล้วย 48.การเลยี้ งไก่ไข่ ตามโครงการ 9101 ม.10 บ้านกล้วยเหนอื ตามรอยเทา้ พ่อ ภายใตร้ ่มพระบารมี ต.บา้ นกลว้ ย ม.11 บา้ นล่องบง ต.บ้านกล้วย
49.การเยบ็ ผ้า ตามโครงการ 9101 อตุ สาหกรรม 19 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้รม่ พระบารมี 50.การเลี้ยงไก่ไข่ ตามโครงการ 9101 เกษตรกรรม ม.12 บา้ นใหม่พัฒนา ตามรอยเท้าพ่อ ภายใตร้ ่มพระบารมี ต.บ้านกลว้ ย 51.การเล้ียงไก่ไข่ ตามโครงการ 9101 เกษตรกรรม ม.13 บ้านกล้วยงาม ต.บ้านกล้วย ตามรอยเทา้ พ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี 52.การเยบ็ ผา้ ตามโครงการ 9101 อุตสาหกรรม ม.14 บ้านเนนิ ตาแปน้ ตามรอยเท้าพ่อ ภายใตร้ ม่ พระบารมี ต.บา้ นกล้วย 53.การเลี้ยงไก่ไข่ ตามโครงการ 9101 เกษตรกรรม ม.15 บ้านสุขสำราญ ตามรอยเทา้ พ่อ ภายใต้รม่ พระบารมี ต.บ้านกลว้ ย 54.การเลี้ยงปลาดกุ ตามโครงการ 9101 เกษตรกรรม ม.16 บ้านรอ่ งเข้ ต.บา้ นกล้วย ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้รม่ พระบารมี 55.วดั วารีล้อม ศาสนาและวฒั นธรรม ม.17 บ้านเกษตรหลวง 56.ศนู ย์ผลติ ภัณฑ์ร้านค้าชมุ ชน ต.ดงขยุ วสิ าหกจิ ชมุ ชน ต.บ้านกลว้ ย 57.ศูนยเ์ รยี นรบู้ ้านเขาสัก อุตสาหกรรม ม.5 บ้านดงขุยใต้ ต.ดงขุย 58.ศนู ย์เรยี นร้เู ศรษฐกิจพอเพียง เกษตรกรรม ม.3 บ้านดงขยุ ต.ดงขยุ 59.แหลง่ เรยี นรู้ตำบลศาลาลาย เกษตรกรรม ม.4 บ้านเขาสกั ต.ตะกดุ ไร 60.ภูเขาหนิ ปะการงั แหลง่ ท่องเท่ียวธรรมชาติ ม.4 บา้ นเขาสัก ต.ตะกุดไร 150/2 ม.10ต.ศาลาลาย 61.อ่างเกบ็ นำ้ ซับเจริญ แหล่งท่องเท่ยี วธรรมชาติ ม.8 บ้านเขาเพิ่มพฒั นา ต.ซบั รวมจำนวน 61 แห่ง พุทรา ม.3 บ้านซบั เจรญิ ต.ซบั พทุ รา
ภาคีเครือข่าย 20 ภาคีเครือข่าย ทอี่ ยู่/ท่ีตั้ง 1.ทว่ี ่าการอำเภอขนแดน ม.4 บา้ นชนแดน ต.ชนแดน 2.องค์การบริหารสว่ นตำบลชนแดน ม.4 บา้ นชนแดน ต.ชนแดน 3.เทศบาลตำบลชนแดน ม.4 บา้ นชนแดน ต.ชนแดน 4.วัดพระพุทธบาทชนแดน ม.4 บา้ นชนแดน ต.ชนแดน 5.กองพนั ทหารสื่อสารที่ 11 ม.4 บา้ นชนแดน ต.ชนแดน 6.โรงเรยี นชนแดนวิทยาคม ม.4 บ้านชนแดน ต.ชนแดน 7.โรงเรียนเสรีศกึ ษา ม.4 บา้ นชนแดน ต.ชนแดน 8.โรงเรยี นเซนตม์ ารอี า ม.4 บา้ นชนแดน ต.ชนแดน 9.โรงเรยี นอนุบาลชนแดน ม.4 บ้านชนแดน ต.ชนแดน 10สาธารณสขุ อำเภอชนแดน ม.4 บา้ นชนแดน ต.ชนแดน 11.สำนักงานพฒั นาชุมชน ม.4 บ้านชนแดน ต.ชนแดน 12.สถานีตำรวจภธู รชนแดน ม.4 บ้านชนแดน ต.ชนแดน 13.โรงพยาบาลอำเภอชนแดน ม.7 บา้ นโคกเจรญิ ต.ชนแดน 14.องค์การบริหารสว่ นตำบลพทุ ธบาท ม.24 บ้านเนินไพร ต.พุทธบาท 15.โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพชุมชนบ้านนำ้ ลัด ม.3 บ้านน้ำลัด ต.พุทธบาท 16.โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพชุมชนตำบลห้วยงาชา้ ง ม.17 บ้านหว้ ยงาชา้ ง ต.พทุ ธบาท 17.โรงเรียนบ้านผาทอง ม.8 บ้านผาทอง ต.พุทธบาท 18.องค์การบรหิ ารสว่ นตำบลทา่ ข้าม ม.4 บา้ นกุฏพิ ระ ต.ท่าข้าม 19.เทศบาลตำบลท่าข้าม ม.1 บ้านทา่ ข้าม ต.ทา่ ข้าม 20.โรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพชุมชนตำบลทา่ ขา้ ม ม.6 บ้านดงแขวน ต.ทา่ ขา้ ม 21.องค์การบริหารส่วนตำบลลาดแค ม.17 บ้านคลองโปรง่ ต.ลาดแค 22.โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพชมุ ชนตำบลลาดแค ม.5 บา้ นลาดแค ต.ลาดแค 23.โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพชุมชนตำบลหนองใหญ่ ม.8 บา้ นหนองใหญ่ ต.ลาดแค 24.องค์การบรหิ ารสว่ นตำบลบา้ นกลว้ ย ม.5 บา้ นเขาคณฑา ต.บา้ นกล้วย 25.โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพชุมชนตำบลบ้านกล้วย ม.10 บา้ นกล้วยเหนอื ต.บา้ นกลว้ ย 26.โรงเรียนบา้ นเขาชะโงก ม.4 บ้านเขาชะโงก ต.บ้านกล้วย 27.โรงเรียนบา้ นวงั รวก ม.1 บ้านวังรวก ต.บา้ นกล้วย 28.โรงเรยี นบ้านโคกสำราญ ม.8 บา้ นโคกสำราญเหนือ ต.บ้านกล้วย 29.โรงเรียนบ้านเขาคณฑา ม.5 บา้ นเขาคณฑา ต.บา้ นกล้วย 30.โรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพชมุ ชนตำบลบา้ นร่องเข้ ม.16 บ้านรอ่ งเข้ ต.บ้านกล้วย
21 31.องค์การบรหิ ารสว่ นตำบลดงขยุ ม.14 บา้ นวารีวงษ์ ต.ดงขยุ 32.เทศบาลตำบลดงขยุ ม.1 ต.ตะกุดไร ต.ตะกุดไร 33..องคก์ ารบรหิ ารส่วนตำบลตะกุดไร ม.7 บา้ นโป่งนกแก้ว ต.ตะกุดไร 34.โรงเรยี นสง่ บา้ นเนนิ สว่าง ม.2 บา้ นเนินสว่าง ต.ตะกดุ ไร 35.โรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพชุมขนตำบลตะกุดไร ม.1 บา้ นตะกุดไร ต.ตะกดุ ไร 36.เทศบาลตำบลศาลาลาย ม.10 บ้านเนินพฒั นา ต.ศาลาลาย 37.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชมุ ชนศาลาลาย ม.10 บ้านเนนิ พัฒนา ต.ศาลาลาย 38.โรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพตำบลซับพุทรา ม.3 บา้ นซับเจรญิ ต.ซบั พทุ รา 39.องค์การบริหารสว่ นตำบลซบั พุทรา ม.7 บ้านซบั อปี กุ ต.ซับพุทรา รวมจำนวน 39 แห่ง
22 บทท่ี 2 เอกสารท่เี ก่ยี วข้อง ทศิ ทางการดำเนนิ งานของสถานศกึ ษา ปีงบประมาณ 2564 ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้กำหนดทิศ ทางการดำเนินงาน ตามแผนพฒั นาคุณภาพการศึกษา และแผนปฏิบัติการประจำปี 2563 โดยมีรายละเอยี ด ดงั น้ี วสิ ยั ทัศน์ เป็นองค์กรหลักในการร่วมสร้างโอกาสทางการศึกษา ให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับการศึกษา ตลอดชีวิตท่ีมีคุณภาพอย่างท่ัวถึง มีทักษะท่ีจำเป็นในโลกศตวรรษท่ี 21 มีจิตอาสา เสียสละ และสามารถ พึ่งพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง คำขวญั ศษิ ย์หลวงพ่อทบคิดเป็น มีจติ อาสาพัฒนาตนเอง ชมุ ชนและสังคม ปรัชญา พัฒนาคนให้คิดเป็น มีจิตอาสาพฒั นาชมุ ชนและสังคม อย่างพอเพียง อัตลกั ษณ์ คดิ เปน็ มจี ติ อาสา พฒั นาตนเอง อยู่อยา่ งพอเพยี ง เอกลกั ษณ์ จัดการศึกษาอย่างหลากหลาย ภาคีเครอื ขา่ ยมีสว่ นร่วม ศูนยร์ วมแหล่งเรยี นรู้ มุ่งสูค่ วามพอเพยี ง สปี ระจำสถานศึกษา : สีแสด ขาว สแี สด หมายถงึ ความสว่างไสวแห่งปัญญา ความเป็นปึกแผ่น มิตรภาพความร่วมมือร่วมใจ และความ สามัคคี สขี าว หมายถึง คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีน้ำใจใสสะอาดบรสิ ุทธิ์ และโปร่งใสในการบรหิ ารจดั การ ดอกไม้สถานศึกษา : ดอกเฟ่ืองฟ้า ดอกเฟอ่ื งฟ้า หมายถงึ ความสว่างไสว ความเบิกบาน ความรุ่งเรืองท่ีก้าวไกลแห่งชวี ติ พันธกิจ 1. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับหลัก ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพ่อื สร้างสังคมแหง่ การเรียนรตู้ ลอดชีวติ 2. ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายและชุมชน ในการจัดการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ส่งเสรมิ กิจกรรมจิตอาสาในการพฒั นาชมุ ชนและสังคม
23 3. ส่งเสริมและพัฒนาการนำเทคโนโลยที างการศึกษา และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ ให้เกดิ ประสิทธภิ าพในการจดั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย 4. พฒั นารปู แบบการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ และนวตั กรรมการวดั และประเมินผล ในทุกรปู แบบ 5. พัฒนาบุคลากรและระบบการบริหารจัดการเพ่ือมุ่งจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ โดยยึดหลัก ธรรมาภบิ าลและการมีสว่ นรว่ ม เป้าประสงค์ 1. ประชาชนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษาได้รับโอกาสทางการศึกษาในรูปแบบ การศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานท่ีมีคุณภาพ อยา่ งท่ัวถงึ และเท่าเทียม 2. ประชาชนกลุ่มเป้าหมายพิเศษได้รับโอกาสทางการศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศยั ทเ่ี ปน็ ไปตามสภาพ ปญั หา และความตอ้ งการของแตล่ ะกลุ่ม 3. ชุมชนมีส่วนร่วมในการขับเคล่ือนกิจกรรมการเรียนรู้ของชุมชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี งและปรัชญาคดิ เป็น อาทิ หมบู่ ้านตามรอยพระยุคลบาท หมู่บา้ นแห่งการอ่าน บ้านหนังสอื ชุมชนแหล่ง การเรยี นรู้ชมุ ชน 4. ประชาชนได้รับการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตและ เสริมสร้างความเขม้ แข็งให้กับชุมชน โดยมี กศน.ตำบล ศูนย์การเรียนชุมชน และแหล่งการเรียนรู้อ่ืนในชุมชน เป็นกลไกในการจดั การเรยี นรู้ 5. ประชาชนได้รับโอกาสในการเรียนรู้และมีเจตคติทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีท่ีเหมาะสม สามารถประยุกต์ใช้ในการแกป้ ัญหา และพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ได้อย่างสร้างสรรค์ 6. ชุมชนมีการจัดการความรู้ของชุมชน เพื่อพัฒนาไปสู่ความม่ันคงและยั่งยืนทางด้านเศรษฐกิจ สงั คม วฒั นธรรม ประวัติศาสตร์ และส่ิงแวดล้อม 7. ชุมชนและทุกภาคส่วน ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการดำเนินงาน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั 8. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนาและนำส่ือ เทคโนโลยีทางการศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสอ่ื สาร มาใชใ้ นการเพิม่ โอกาสและยกระดบั คุณภาพในการจดั การเรียนรู้ 9. บุคลากรของหน่วยงานและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาเพ่ือเพิ่มสมรรถนะในการปฏิบัติงาน การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอย่างทั่วถึง 10. หนว่ ยงานและสถานศึกษามีระบบการบริหารจดั การตามหลกั ธรรมาภบิ าล
24 เปา้ ประสงค์และตวั ช้วี ัดตัวช้ีวัดเชิงปรมิ าณ เปา้ หมาย/คน ร้อยละ หมายเหตุ ความสำเรจ็ ที่ กิจกรรม 140 ร้อยละ 80 1. การศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน 226 รอ้ ยละ 80 - การสง่ เสรมิ การรู้หนังสือ 354 รอ้ ยละ 80 - ระดบั ประถมศกึ ษา ( ภาคเรยี นที่ 1/63) 515 ร้อยละ 80 - ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ ( ภาคเรยี นที่ 1/63) 17 ร้อยละ 80 - ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ( ภาคเรยี นที่ 1/63) - เทียบโอนความรูร้ ะดับการศึกษามติ ิความรคู้ วามคิด 74 รอ้ ยละ 80 232 ร้อยละ 80 2. การศึกษาตอ่ เนื่อง 232 ร้อยละ 80 2.1 การศกึ ษาเพอื่ พัฒนาอาชพี /โครงการศูนย์อาชีพชุมชน 326 รอ้ ยละ 80 323 ร้อยละ 80 (1) 1 อำเภอ 1 อาชพี 323 ร้อยละ 80 (2) พฒั นาอาชีพระยะสัน้ ไม่เกิน 30 ช่วั โมง (กล่มุ สนใจ) (3) หลกั สตู รชนั้ เรยี นวชิ าอาชพี 31 ชม.ขน้ึ ไป(ช่างพืน้ ฐาน) 1 แห่ง รอ้ ยละ 80 2.2 การศกึ ษาเพอื่ พฒั นาทักษะชวี ิต 2.3 การจัดการเรียนร้ตู ามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2,700 คน ร้อยละ 80 2.4 การศกึ ษาเพื่อพฒั นาสงั คมและชุมชน 3,000 คน รอ้ ยละ 80 3. การศกึ ษาตามอัธยาศยั 320 คน รอ้ ยละ 80 (1) โครงการจดั สรา้ งแหล่งเรียนรชู้ มุ ชนในตำบล(จัดซือ้ 620 คน ร้อยละ 80 หนังสอื พิมพ/์ ส่ือ สำหรับ กศน.ตำบล) (2) โครงการสง่ เสริมบ้านหนังสือชมุ ชน -- (3) หอ้ งสมุดประชาชน (4) อาสาสมคั รส่งเสริมการอ่าน 35 คน ร้อยละ 80 (5) ห้องสมุดเคลื่อนท่ีสำหรบั ชาวตลาดตามพระราชดำริ 270 คน รอ้ ยละ 80 สมเดจ็ พระเทพฯ (6) บรกิ ารเคล่ือนท่ี(รถโมบาย) - - 4 โครงการทเี่ ก่ียวข้อง ของ กศน.อำเภอชนแดน - - 1 โครงการภาษาองั กฤษเพ่ือการส่อื สารด้านอาชีพ 2. โครงการอบรมใหค้ วามรปู้ ระชาชนหลักสูตรดิจทิ ลั 3. โครงการ Smart ONIE เพ่อื สร้าง Smart Farmer 4. โครงการความรว่ มมือการผลติ ผดู้ แู ลผสู้ ูงอายุ
25 เป้าประสงค์และตวั ช้วี ดั ตัวชีว้ ดั เชงิ คณุ ภาพ ตวั ชี้วดั ความสำเรจ็ เปา้ ประสงค์ รอ้ ยละ 80 1.จำนวนผเู้ รียนผรู้ ับบรกิ ารได้รบั บริการการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน้ พนื้ ฐานโดยไม่เสีย ร้อยละ 80 ค่าใชจ้ า่ ย 2.จำนวนผู้เรียนผู้รับบริการ ที่เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/ได้รับบริการกิจกรรมการศึกษาต่อเนื่อง ร้อยละ 80 และการศกึ ษาตามอัธยาศยั ท่สี อดคลอ้ งกบั สภาพ ปัญหา และความต้องการ 3.ร้อยละของผู้เรียนและผู้รับบริการที่มีผลสัมฤทธ์ิตามจุดมุ่งหมายการเรียนรู้ของแต่ละหลักสูตร / ร้อยละ 80 กิจกรรม ร้อยละ 80 4.ร้อยละของผไู้ มร่ ้หู นังสือทผี่ า่ นการประเมนิ การร้หู นงั สือตามหลกั สูตรส่งเสรมิ การรู้หนังสือ 5.รอ้ ยละของชุมชนที่มกี ารจัดการความรู้และกระบวนการเรยี นรู้อนั เปน็ ผลเนอ่ื งจากการเข้ารว่ ม รอ้ ยละ 80 กิจกรรมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รอ้ ยละ 80 6.รอ้ ยละของชุมชนทใ่ี ช้แหล่งการเรยี นรชู้ ุมชนในการจัดกระบวนการเรยี นรใู้ นชุมชน 7.จำนวนประชาชนกลุ่มเป้าหมายท่ีได้รับการศึกษาอบรมในหลักสูตรภาษาอังกฤษ และภาษากลุ่ม ร้อยละ 80 ประเทศอาเซยี น 8. ร้อยละของผู้รบั การฝึกอบรมในหลักสูตรภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษากลุ่มประเทศอาเซียนและ ร้อยละ 80 อาเซียนศึกษาทผี่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ ตามหลักสูตร 9. จำนวนกิจกรรม/หลักสูตรที่ใช้กระบวนการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์/เทคโนโลยีที่เหมาะสมเป็น ร้อยละ 80 กระบวนการ/สาระในการเรยี นรู้ 10. จำนวนองค์กรภาคส่วนต่างๆ ท้ังในและต่างประเทศ ท่ีร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการดำเนินงาน รอ้ ยละ 80 การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย 11. จำนวน/ประเภทของส่ือ และเทคโนโลยีทางการศึกษาที่มีการจัดทำ/พัฒนาและนำไปใช้เพ่ือ ร้อยละ 80 ส่งเสริมการเรียนรขู้ องผเู้ รยี น/ผู้รบั บริการการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศยั 12. จำนวนนักเรียน นักศึกษา และประชาชนท่ัวไปที่เข้าถึงบริการความรู้นอกระบบและการศึกษา ร้อยละ 80 ตามอธั ยาศัยผา่ นช่องทางสอ่ื เทคโนโลยที างการศกึ ษา และเทคโนโลยีการส่อื สาร 13. จำนวนบุคลากรของหน่วยงานและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาเพ่ือเพิ่มสมรรถนะในการ รอ้ ยละ 80 ปฏิบัติงานการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั รอ้ ยละ 80 14. สถานศึกษาในสังกัดท่มี รี ะบบประกนั คณุ ภาพภายในและมีการจดั ทำรายงานการประเมินตนเอง รอ้ ยละ 80 15. ของสถานศกึ ษาท่ผี า่ นการประเมนิ คุณภาพภายนอกของ สมศ. 16. สถานศึกษา กศน. ที่มีการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการจัดทำฐานข้อมูล รอ้ ยละ 80 ชมุ ชนและการบริหารจัดการ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตาม อธั ยาศัยขององคก์ าร 17. สถานศึกษา กศน. ที่สามารถดำเนินงานโครงการ/กิจกรรมตามบทบาทภารกิจท่ีรับผิดชอบได้ สำเร็จตามเป้าหมายทกี่ ำหนดไว้อยา่ งโปรง่ ใส ตรวจสอบได้ โดยใช้ทรพั ยากรอย่างประหยดั /ตามแผน ทก่ี ำหนดไว้
26 ยทุ ธศาสตร์และจดุ เนน้ การดำเนนิ งานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย อำเภอชนแดน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอชนแดน ได้กำหนดยุทธศาสตร์และจุดเน้นการ ดำเนินงาน กศน.อำเภอชนแดน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยมุ่งหวังท่ีจะให้ บรรลุ เปา้ หมาย ตามวิสัยทศั น์ กศน.อำเภอชนแดนดังน้ี กลยทุ ธ์ กลยทุ ธท์ ่ี 1 ลยุ ถงึ ท่ี (การเข้าถงึ กลุม่ เป้าหมายอย่างหลากหลายและทั่วถึง) โดยการดำเนินงานประชาสัมพันธ์กิจกรรมงานการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย มีการ ประสานความร่วมมือในการจัดกิจกรรมจากเครอื ข่ายทัง้ ภาครัฐและเอกชนอยา่ งท่วั ถงึ กลยทุ ธ์ท่ี 2 มภี าคีเครือขา่ ย (สร้างความสมั พนั ธอ์ นั ดรี ะหว่างหนว่ ยงานและเครอื ข่ายระดบั พืน้ ท่)ี โดยการให้ความร่วมมือกับเครือข่ายในการจัดและส่งเสริมการเรยี นรู้ กำหนดให้มีการข้อตกลงความ ร่วมมือระหว่างหน่วยงาน กำหนดให้มีการสนับสนุนงบประมาณระหว่างหน่วยงาน สร้างความสัมพันธ์ให้ เครือข่ายเข้าใจงาน กศน. การเข้าร่วมงานกิจกรรมของหน่วยงานเครือข่าย การจัดกิจกรรมและมีส่วนร่วมของ เครือขา่ ยอยา่ งต่อเน่ือง กลยุทธท์ ี่ 3 หลากหลายแหลง่ เรียนรู้ (ส่งเสริมและพฒั นาแหลง่ เรยี นรชู้ มุ ชน) โดยการประสานความรว่ มมือจากหน่วยงานเครือขา่ ย องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น ผู้นำทอ้ งถิ่นในการ สนับสนุนส่งเสริมการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ประเภทศูนย์การเรียนชุมชน แหล่งเรียนรู้ของชุมชน ห้องสมุด ประชาชนอำเภอ สำนักงานศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ การพัฒนาครูและ บุคลากร คณะกรรมการศูนย์การเรียนชุมชนในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานในการ ประเมิน กศน.ตำบล ส่งเสริมการประเมินสุดยอดแหล่งเรียนรู้และการจัดทำระบบสารสนเทศแหล่งเรียนรู้ให้ เปน็ ปัจจบุ นั กลยทุ ธ์ที่ 4 สใู่ จผ้เู รียน (พัฒนากระบวนการจดั กจิ กรรมการเรียนรทู้ ่ีหลากหลาย) โดยวิธีการสำรวจและศึกษาข้อมูลชุมชน นำสภาพปัญหาและข้อมูลตามความต้องการของ กลุ่มเป้าหมายมาจัดทำแผนการพัฒนาและออกแบบการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย จากการมีส่วนร่วมของ บุคลากรและผู้เก่ียวข้อง ในการจดั ทำหลกั สตู รและการจดั กระบวนการเรยี นร้ทู ่ีเนน้ กระบวนการคิด วิเคราะห์ และตดั สินใจ ในการดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลยทุ ธท์ ่ี 5 บรกิ ารเปย่ี มคุณภาพ (การพัฒนาการบรหิ ารจดั การทมี่ คี ณุ ภาพของสถานศกึ ษา) การวางโครงสร้างการบริหารงานสถานศึกษา การมอบหมายหน้าที่ในการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถในการปฏิบัติงาน พัฒนาระบบการประกัน คุณภาพภายในสถานศกึ ษา สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ตามปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง การพฒั นาระบบ การทำงานเปน็ ทีม ตลอดจนการสร้างเสริมขวญั กำลังใจของบุคลากรอย่างต่อเนอื่ ง
27 นโยบายและจดุ เนน้ การดาํ เนินงาน สํานักงาน กศน. ประจําปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 วิสยั ทศั น์ คนไทยทกุ ช่วงวยั ได้รบั โอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมคี ุณภาพ มีทักษะที่จาํ เป็น และสมรรถนะท่ีสอดรับกับทิศทางการพฒั นาประเทศ สามารถดํารงชีวติ ได้อย่างเหมาะสมบนรากฐานของหลัก ปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง พนั ธกจิ 1. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่มีคุณภาพ สอดคล้อง กับหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม เพ่ือยกระดับการศึกษา และ พัฒนาสมรรถนะ ทักษะการเรียนรู้ของประชาชนกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย ให้พร้อมรับ การ เปล่ียนแปลงและการปรับตัวในการดํารงชีวิตได้อย่างเหมาะสม ก้าวสู่การเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต อยา่ งยัง่ ยนื 2. พัฒนาหลักสูตร รปู แบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือและนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการศึกษา การ วัดและประเมินผลในทุกรูปแบบให้มีคุณภาพและมาตรฐานสอดคล้องกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้และบริบท ในปัจจบุ ัน 3. ส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีทางการศึกษา และนําเทคโนโลยีมาพัฒนาเพื่อเพ่ิมช่องทางและ โอกาส การเรียนรู้ รวมถึงการเพมิ่ ประสิทธิภาพในการจัดและใหบ้ รกิ ารการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศัย ให้กบั ประชาชนกลุ่มเป้าหมายอยา่ งทั่วถงึ 4. ส่งเสริมสนับสนุน แสวงหา และประสานความร่วมมือเชิงรุกกับภาคีเครือข่าย ให้เข้ามามีส่วนร่วม ในการสนับสนุนและจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิตในรูปแบบ ต่าง ๆ ให้กับประชาชน 5. ฒนาระบบการบริหารจัดการภายในองค์กรให้มีเอกภาพ เพื่อการบริหารราชการที่ดี บนหลัก ของ ธรรมาภบิ าล มีประสิทธภิ าพ ประสิทธิผล และคลอ่ งตัวมากย่ิงข้ึน 6.ยกระดับการบริหารและการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีความรู้ ทักษะ สมรรถนะ คุณธรรม และ จริยธรรมท่ีดี เพือ่ เพ่ิมประสทิ ธิภาพของการให้บรกิ ารทางการศึกษาและการเรยี นรู้ทีม่ คี ุณภาพมากยิง่ ข้นึ
28 เปา้ ประสงค์ 1. ประชาชนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษารวมทั้งประชาชนท่ัวไปได้รับโอกาส ทาง การศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน การศึกษาต่อเน่ือง และการศึกษา ตาม อัธยาศัยที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง เป็นไปตามบริบท สภาพปัญหาและความต้องการของแต่ละ กลุ่มเป้าหมาย 2. ประชาชนได้รบั การยกระดบั การศึกษา สรา้ งเสรมิ และปลกู ฝังคุณธรรม จรยิ ธรรม หนา้ ท่ีความเป็น พลเมืองที่ดีภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ท่ีสอดคล้องกับหลัก ปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง อนั นําไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชมุ ชน เพ่ือ พฒั นา ไปสูค่ วามมั่นคงและยง่ั ยืนทางดา้ นเศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรม ประวัตศิ าสตร์ และสิ่งแวดลอ้ ม 3. ประชาชนได้รับการพัฒนาทักษะการเรียนรู้และแสวงหาความรู้ด้วยตนเองผ่านแหล่งเรียนรู้ ช่อง ทางการเรียนรู้ และกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบต่าง ๆ รวมท้ังมีเจตคติทางสังคม การเมือง วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม สามารถคิดวิเคราะห์ แยกแยะอย่างมีเหตุผล และนําไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวัน รวมถงึ การแกป้ ัญหาและพฒั นาคุณภาพชวี ติ ไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ 4. หน่วยงานและสถานศึกษา กศน. มีหลักสูตร ส่ือ นวัตกรรม ช่องทางการเรียนรู้ และกระบวนการ เรียนรู้ในรูปแบบท่ีหลากหลาย ทันสมัย และรองรับกับสภาวะการเรียนรู้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตตามความต้องการของประชาชนและชุมชน รวมท้ังตอบสนองกับการเปล่ียนแปลง บรบิ ท ดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม การเมอื ง วัฒนธรรม ประวตั ิศาสตร์ และส่งิ แวดล้อม 5. หน่วยงานและสถานศึกษา กศน. สามารถนําเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีดิจิทัล มา พัฒนาเพื่อเพ่ิมช่องทางการเรียนรู้ และนํามาใช้ในการยกระดับคุณภาพในการจัดการเรียนรู้และโอกาสการ เรยี นรู้ ให้กับประชาชน 6. ชุมชนและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการศึกษา นอก ระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั รวมทงั้ การขบั เคล่อื นกจิ กรรมการเรยี นรู้ของชมุ ชน 7. หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบการบริหารจัดการองค์กรที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และเป็นไป ตามหลกั ธรรมาภิบาล 8. บุคลากร กศน. ทุกประเภททุกระดับได้รับการพัฒนาเพ่ือเพ่ิมทักษะและสมรรถนะในการ ปฏิบัติงาน และการให้บริการทางการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมถึงการปฏิบัติงานตาม สายงานอยา่ งมี ประสิทธิภาพ
29
30 จดุ เน้นการดาํ เนนิ งานประจาํ ปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 1. น้อมนําพระบรมราโชบายด้านการศึกษาสู่การปฏบิ ตั ิ 1.1 สืบสานศาสตรพ์ ระราชา โดยการสร้างและพัฒนาศูนย์สาธิตและเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” เพ่ือเป็นแนวทางในการจัดการบริหารทรัพยากรรูปแบบต่าง ๆ ท้ังดิน น้ำ ลม แดด รวมถึงพืชพันธ์ุต่าง ๆ และ ส่งเสรมิ การใชพ้ ลงั งานทดแทนอย่างมีประสิทธภิ าพ 1.2 จัดใหม้ ี “หนงึ่ ชมุ ชน หนึง่ นวัตกรรมการพัฒนาชุมชน” เพ่อื ความกินดี อยู่ดี มีงานทาํ 1.3 การสร้างกลุ่มจิตอาสาพัฒนาชุมชน รวมท้ังปลูกฝังผู้เรียนให้มีหลักคิดท่ีถูกต้องด้านคุณธรรม จริยธรรม มที ัศนคติทด่ี ีต่อบ้านเมือง และเป็นผมู้ ีความพอเพียง ระเบยี บวนิ ัย สุจริต จิตอาสา ผ่านกิจกรรมการ พฒั นา ผู้เรียนโดยการใช้กระบวนการลกู เสือและยวุ กาชาด 2. สง่ สรมิ การจัดการศึกษาและการเรียนร้ตู ลอดชวี ิตสําหรับประชาชนท่ีเหมาะสมกับทุกช่วงวยั 2.1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทํา ในรูปแบบ Re-Skill& Up-Skill และการสร้าง นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีความหลากหลาย ทันสมัย และตอบสนองความต้องการของประชาชน ผู้รบั บริการ และสามารถออกใบรบั รองความรูค้ วามสามารถเพ่อื นําไปใชใ้ นการพัฒนาอาชพี ได้ 2.2 ส่งเสริมและยกระดับทักษะภาษาอังกฤษให้กับประชาชน (English for ALL) 2.3 ส่งเสริมการเรียนการสอนที่เหมาะสมสําหรับผู้ท่ีเข้าสู่สังคมสูงวัย อาทิ การฝึกอบรมอาชีพ ที่ เหมาะสมรองรับสังคมสูงวยั หลักสูตรการพฒั นาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมสมรรถนะผสู้ ูงวัย และหลักสตู ร การ ดแู ลผู้สงู วยั โดยเน้นการมสี ว่ นรว่ มกบั ภาคีเครอื ข่ายทกุ ภาคส่วนในการเตรียมความพรอ้ มเข้าสู่สังคมสูงวยั 3. พฒั นาหลักสตู ร ส่ือ เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษา แหลง่ เรยี นรู้ และรูปแบบ การจดั การศกึ ษา และการเรียนรู้ ในทุกระดับ ทุกประเภท เพื่อประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาที่เหมาะสม กับทุก กลุ่มเป้าหมาย มีความทันสมัย สอดคล้องและพร้อมรองรับกับบริบทสภาวะสังคมปัจจุบัน ความต้องการ ของผเู้ รยี น และสภาวะการเรียนรใู้ นสถานการณต์ ่าง ๆ ทจ่ี ะเกิดข้นึ ในอนาคต 3.1 พั ฒ น า ร ะ บ บ ก า ร เรี ย น รู้ ONIE Digital Leaming Platform ท่ี ร อ ง รั บ DEEP ข อ ง กระทรวงศกึ ษาธิการ และชอ่ งทางเรียนรรู้ ปู แบบอนื่ ๆ ทง้ั Online On-site และ On-air 3.2 พัฒนาแหล่งเรียนรู้ประเภทต่าง ๆ อาทิ Digital Science Museum/ Digital Science Center/ Digital Library ศูนย์การเรียนรู้ทุกช่วงวัย และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ กศน. (Co-Learning Space) เพ่ือให้ สามารถ “เรียนร้ไู ดอ้ ย่างทว่ั ถึง ทกุ ท่ี ทกุ เวลา” 3.3 พัฒนาระบบรับสมัครนักศึกษาและสมัครฝึกอบรมแบบออนไลน์ มีระบบการเทียบโอนความรู้ ระบบสะสมหน่วยการเรียนรู้ (Credit Bank System) และพัฒนา/ขยายการให้บริการระบบทดสอบ อเิ ล็กทรอนิกส์ (E-exam)
31 4. บรู ณาการความร่วมมือในการสง่ เสริม สนับสนุน และจัดการศึกษาและการเรยี นรใู้ ห้กับ ประชาชนอย่าง มีคณุ ภาพ 4.1 ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายท้ังภาครัฐ เอกชน ประชาสงั คม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้ง ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน อาทิ การส่งเสริมการฝึกอาชีพที่เป็นอัตลักษณ์และบริบทของ ชุมชน ส่งเสริมการตลาดและขยายชอ่ งทางการจาํ หน่ายเพื่อยกระดบั ผลติ ภณั ฑ์/สนิ ค้า กศน. 4.2 บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งในส่วนกลาง และ ภูมภิ าค 5. พัฒนาศกั ยภาพและประสิทธิภาพในการทาํ งานของบคุ ลากร กศน. 5.1 พัฒนาศักยภาพและทักษะความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy & Digital Skills) ให้กับบุคลากรทุกประเภททุกระดับ รองรับความเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ รวมท้ังพัฒนา ครูให้มีทักษะ ความรู้ และความชํานาญในการใช้ภาษาอังกฤษ การผลติ สื่อการเรียนรู้และการจัดการเรียนการ สอนเพ่ือฝึกทกั ษะ การคิดวเิ คราะหอ์ ยา่ งเปน็ ระบบและมีเหตผุ ล เปน็ ขัน้ ตอน 5.2 จัดกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ ของบุคลากร กศน.และกิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพ ในการ ทํางานร่วมกันในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การแข่งขันกีฬา การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาประสิทธิภาพ ในการ ทํางาน 6. ปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างและระบบบริหารจัดการองค์กร ปัจจัยพ้ืนฐานในการจัดการศึกษา และ การประชาสมั พนั ธ์สร้างการรับรตู้ อ่ สาธารณะชน 6.1 เร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. ... ให้สําเร็จ และปรับโครงสร้าง การ บริหารและอัตรากําลงั ใหส้ อดคลอ้ งกับบริบทการเปลย่ี นแปลง เรง่ การสรรหา บรรจุ แต่งตง้ั ทม่ี ีประสทิ ธิภาพ 6.2 นํานวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการ พัฒนาระบบการทํางานและข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษาท่ีทันสมัย รวดเร็ว และสามารถใช้งานทันที โดยจัดต้ังศูนย์ข้อมูลกลาง กศน. เพ่ือ จัดทาํ ข้อมลู กศน. ท้งั ระบบ (ONE ONIE) 6.3 พัฒนา ปรับปรุง ซ่อมแซม ฟื้นฟูอาคารสถานที่ และสภาพแวดล้อมโดยรอบของหน่วยงาน สถานศึกษา และแหล่งเรยี นรทู้ ุกแห่ง ให้สะอาด ปลอดภัย พร้อมให้บริการ 6.4 ประชาสมั พันธ์/สรา้ งการรับรใู้ ห้กบั ประชาชนทวั่ ไปเก่ยี วกับการบรกิ ารทางวชิ าการ/กจิ กรรม ดา้ น การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และสร้างช่องทางการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านวิชาการ ของ หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัด อาทิ ข่าวประชาสัมพันธ์ ผ่านส่ือรูปแบบต่าง ๆ การจัดนิทรรศการ / มหกรรม วิชาการ กศน.
32 การจัดการศกึ ษาและการเรียนรูใ้ นสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ของสาํ นักงาน กศน. จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) เมื่อเดือนธันวาคม 2562 ส่งผลกระทบต่อระบบการจดั การเรียนการสอนของไทยในทกุ ระดบั ชั้น ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ได้ ออกประกาศและมีมาตรการเฝา้ ระวงั เพ่ือป้องกนั การแพรก่ ระจายของเชื้อไวรัสดังกล่าว อาทิ กาํ หนดให้มี การ เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ห้ามการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษา ทุก ประเภท เพื่อจัดการเรียนการสอน การสอบ ฝึกอบรม หรือการทํากิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจํานวนมาก การปิดสถานศึกษาด้วยเหตุพิเศษ การกําหนดให้ใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ อาทิ การจัดการ เรียนรู้ แบบออนไลน์ การจัดการเรียนรู้ผ่านระบบการออกอากาศทางโทรทัศน์ วิทยุ และโซเซียลมีเดีย ต่าง ๆ รวมถงึ การสอ่ื สารแบบทางไกลหรอื ดว้ ยวธิ ีอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ในส่วนของสํานักงาน กศน. ได้มีการพัฒนา ปรับรูปแบบ กระบวนการ และวิธีการดําเนินงานใน ภารกจิ ตอ่ เน่ืองต่าง ๆ ในสถานการณ์การใช้ชวี ิตประจําวนั และการจดั การเรยี นรูเ้ พอ่ื รองรับการชีวติ แบบปกติ วถิ ีใหม่ (New Normal) ซ่งึ กจิ กรรมการเรียนรู้ตา่ ง ๆ ได้ให้ความสาํ คัญกับการดําเนินงานตามมาตรการการ ป้องกนั การแพรร่ ะบาดของเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COMID - 19) อาทิ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ทุกประเภท หากมีความจําเป็นต้องมาพบกลุม่ หรืออบรมสัมมนา ทางสถานศกึ ษาต้องมีมาตรการป้องกันท่ีเข้มงวด มเี จล แอลกอฮอลล้างมือ ผรู้ ับบรกิ ารต้องใสห่ นา้ กากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ต้องมีการเวน้ ระยะหา่ งระหว่างบุคคล เน้นการใชส้ อ่ื ดิจทิ ลั และเทคโนโลยีออนไลนใ์ นการจดั การเรียนการสอน ภารกิจตอ่ เนอ่ื ง 1. ด้านการจดั การศกึ ษาและการเรียนรู้ 1.1 การศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน 1) สนบั สนนุ การจดั การศึกษานอกระบบตัง้ แตป่ ฐมวยั จนจบการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐานโดยดาํ เนินการ ใหผ้ ู้ เรียาใช้จ่าย 2) จัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พนื้ ฐานให้กับกลุ่มเป้าหมายผดู้ ้อย พลาด และขาด โอกาสทางการศึกษา ผ่านการเรียนแบบเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง การพบกล่มุ การเรียนแบบช้ันเรยี น และการจัด การ ศกึ ษนไดร้ บั การสนับสนนุ คา่ จัดซอ้ื หนงั สอื เรียน ค่าจดั กจิ กรรมพฒั นาคุณภาพผู้เรียน และค่าจัดการเรยี น การ สอนอย่างท่ัวถงึ และเพียงพอเพือ่ เพม่ิ โอกาสในการเข้าถงึ บริการทางการศึกษาท่มี คี ุณภาพโดยไม่เสยี คา่ ทางไกล 3) พัฒนาประสทิ ธภิ าพ คุณภาพ และมาตรฐานการจดั การศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ขน้ั พื้นฐาน ท้ังด้านหลักสตู รรูปแบบ/กระบวนการเรียนการสอน สอ่ื และนวัตกรรม ระบบการวดั และประเมนิ ผล การเรียน และระบบการใหบ้ รกิ ารนักศึกษาในรปู แบบอืน่ ๆ 4) จดั ใหม้ ีการประเมินเพื่อเทียบระดบั การศึกษา และการเทยี บโอนความรู้และประสบการณ์ ท่ีมี ความโปร่งใส ยตุ ิธรรม ตรวจสอบได้ มีมาตรฐานตามท่ีกําหนด และสามารถตอบสนองความต้องการ ของ กลมุ่ เปา้ หมายได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
33 5) จัดให้มีกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนท่ีมีคุณภาพท่ีผู้เรียนต้องเรียนรู้และเข้าร่วมปฏิบัติ กิจกรรม เพอื่ เป็นส่วนหนึ่งของการจบหลกั สูตร อาทิ กิจกรรมเสรมิ สรา้ งความสามคั คี กจิ กรรมเกี่ยวกับการป้องกัน และ แก้ไขปัญหายาเสพติดการแข่งขันกีฬา การบําเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างต่อเน่ือง การส่งเสริมการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด กิจกรรม จิตอาสา และการจัดตั้งชมรม/ชุมนุม พร้อมท้ังเปิดโอกาสให้ผู้เรียนนํากิจกรรมการบําเพ็ญประโยชน์ อืน่ ๆ นอกหลกั สูตรมาใชเ้ พ่ิมชัว่ โมงกิจกรรมให้ผเู้ รียนจบตามหลกั สูตรได้ 1.2 การสง่ เสรมิ การรู้หนงั สอื 1) พฒั นาระบบฐานข้อมลู ผไู้ มร่ ้หู นงั สอื ใหม้ ีความครบถ้วน ถูกต้อง ทนั สมัยและเป็นระบบเดยี วกัน ทั้ง สว่ นกลางและส่วนภูมภิ าค 2) พัฒนาและปรับปรุงหลักสูตร สื่อ แบบเรียนเคร่ืองมือวัดผลและเคร่ืองมือการดําเนินงานการ ส่งเสรมิ การรหู้ นงั สอื ท่ีสอดคล้องกับสภาพและบริบทของแตล่ ะกล่มุ เป้าหมาย 3) พัฒนาครู กศน. และภาคีเครือข่ายท่ีร่วมจัดการศึกษา ให้มีความรู้ความสามารถ และทักษะการ จดั กระบวนการเรียนรู้ใหก้ ับผ้ไู ม่รู้หนังสืออยา่ งมีประสิทธิภาพ และอาจจัดให้มีอาสาสมัครสง่ เสริมการร้หู นังสือ ใน พน้ื ที่ทม่ี คี วามตอ้ งการจําเป็นเป็นพิเศษ 4) ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมส่งเสริมการรู้หนังสือ การคงสภาพการรู้หนังสือ การ พัฒนาทักษะการรู้หนังสือให้กับประชาชนเพ่ือเป็นเคร่ืองมือในการศึกษาและเรียนรู้อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต ของประชาชน 1.3 การศกึ ษาต่อเนือ่ ง 1) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทําอย่างยั่งยืน โดยให้ความสําคัญกับการจัดการศึกษาอาชีพ เพ่ือ การมีงานทําในกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม คหกรรม และอาชีพเฉพาะทางหรือการ บริการ รวมถึงการเน้นอาชีพช่างพ้ืนฐาน ที่สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียน ความต้องการและศักยภาพของ แต่ละพ้ืนท่ี มีคุณภาพได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ สอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงาน และการพัฒนา ประเทศ ตลอดจน สร้างความเข้มแข็งให้กับศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน โดยจัดให้มีการส่งเสริมการรวมกลุ่มวิสาหกิจ ชุมชน การพัฒนา หนึ่งตําบลหน่ึงอาชีพเด่น การประกวดสินค้าดีพรีเมี่ยม การสร้างแบรนด์ของ กศน. รวมถึง การส่งเสริมและจัดหาช่องทางการจําหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ และให้มีการกํากับ ติดตาม และรายงานผล การจัดการศึกษาอาชพี เพอ่ื การมงี านทําอย่างเปน็ ระบบและต่อเนื่อง 2) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตให้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะคนพิการ ผู้สูงอายุ ที่ สอดคล้องกับความต้องการจําเป็นของแต่ละบุคคล และมุ่งเน้นให้ทุกกลุ่มเป้าหมายมีทักษะการดํารงชีวิต ตลอดจน สามารถประกอบอาชีพพ่ึงพาตนเองได้มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการชีวิตของตนเองให้ อยู่ในสังคม ได้อย่างมีความสุขสามารถเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดข้ึนในชีวิตประจําวันได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และเตรียมพรอ้ มสาํ หรับการปรับตัวให้ทันต่อการเปล่ียนแปลงของข่าวสารข้อมูลและเทคโนโลยี
34 สมัยใหม่ในอนาคต โดยจัดกิจกรรมที่มีเนื้อหาสําคัญต่าง ๆ เช่น การอบรมจิตอาสา การให้ความรู้เพื่อการป้อง การการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COMID - 19) การอบรมพัฒนาสุขภาพกายและสุขภาพจิต การอบรมคุณธรรม และจริยธรรม การป้องกันภัยยาเสพติด เพศศึกษา การปลูกฝังและการสร้างค่านิยมที่พึง ประสงค์ ความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน ผ่านการอบรมเรียนรู้ในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ค่ายพัฒนาทักษะ ชีวติ การจัดต้ังชมรม/ชุมนมุ การอบรมส่งเสรมิ ความสามารถพิเศษต่าง ๆ เป็นต้น 3) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน โดยใช้หลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้ แบบ บูรณาการในรูปแบบของการฝึกอบรมการประชุม สัมมนา การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดกิจกรรม จิต อาสา การสร้างชุมชนนักปฏิบัติ และรูปแบบอ่ืนๆ ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และบริบทของชุมชน แต่ละ พ้นื ท่ี เคารพความคิดของผ้อู ่นื ยอมรบั ความแตกตา่ งและหลากหลายทางความคิดและอุดมการณ์ รวมท้ังสังคม พหุวัฒนธรรม โดยจัดกระบวนการให้บุคคลรวมกลุ่มเพ่ือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันสร้างกระบวนการจิต สาธารณะ การสร้างจิตสํานึกความเป็นประชาธปิ ไตย การเคารพในสิทธิและเสรีภาพ และรบั ผิดชอบต่อหน้าที่ ความเป็นพลเมือง ที่ดีภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การส่งเสริม คุณธรรม จริยธรรม การเป็นจิตอาสา การบําเพ็ญประโยชน์ในชุมชนการ บริหารจัดการนํ้า การรับมือกับสา ธารณภัย การอนุรักษ์พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม การช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการพัฒนา สังคมและชมุ ชนอยา่ งยง่ั ยืน 4) การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงผา่ นกระบวนการเรียนร้ตู ลอดชีวิต ใน รูปแบบต่าง ๆ ให้กับประชาชน เพ่ือเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างม่ันคง และมีการบริหาร จัดการ ความเสย่ี งอยา่ งเหมาะสม ตามทศิ ทางการพฒั นาประเทศสคู่ วามสมดลุ และย่ังยืน 1.4 การศกึ ษาตามอธั ยาศยั 1) พัฒนาแหล่งการเรียนรู้ท่ีมีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอ้ือต่อการอ่านและพัฒนาศักยภาพ การเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ให้เกิดข้ึนอย่างกว้างขวางและท่ัวถึง เช่น การพัฒนา กศน. ตําบล ห้องสมุด ประชาชนทุกแห่งให้มีการบริการท่ีทันสมัย ส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน การสร้าง เครือข่าย ส่งเสริมการอ่าน จัดหน่วยบริการห้องสมุดเคลื่อนท่ี ห้องสมุดชาวตลาด พร้อมหนังสือและอุปกรณ์ เพอ่ื จัดกิจกรรม ส่งเสรมิ การอ่านและการเรียนรู้ท่ีหลากหลายให้บริการกบั ประชาชนในพื้นท่ีตา่ ง ๆ อย่างทั่วถึง สม่ำเสมอ รวมท้ัง เสริมสร้างความพร้อมในด้านบุคลากร สื่ออุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการอ่าน และการจัด กจิ กรรมเพอ่ื ส่งเสริมการอ่าน อย่างหลากหลายรปู แบบ 2) จัดสร้างและพัฒนาศูนย์วิทยาศาสตร์เพ่ือการศึกษา ให้เป็นแหล่งเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตลอดชีวิต ของประชาชน เป็นแหล่งสร้างนวัตกรรมฐานวิทยาศาสตร์และเป็นแหล่งท่องเท่ียวเชิงศิลปะวิทยาการประจํา ท้องถ่ิน โดยจัดทําและพัฒนานิทรรศการสื่อและกิจกรรมการศึกษาที่เน้นการเสริมสร้างความรู้และสร้างแรง บันดาลใจ ด้านวิทยาศาสตร์สอดแทรกวิธีการคิดเชิงวิเคราะห์ การคิดเชิงสร้างสรรค์ และปลูกฝังเจตคติทาง วิทยาศาสตร์ ผ่านการกระบวนการเรียนรู้ท่ีบูรณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ควบคู่กับเทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์และคณิตศาสตร์ รวมท้ังสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง บริบทของชุมชน
35 และประเทศ รวมท้ังระดับภมู ิภาค และระดบั โลกเพ่ือให้ประชาชนมีความร้แู ละสามารถนําความรูแ้ ละทกั ษะไป ประยุกต์ใช้ในการดําเนินชีวิต การพัฒนา อาชีพ การรักษาส่ิงแวดล้อม การบรรเทาและป้องกันภัยพิบัติทาง ธรรมชาติ รวมทั้งมีความสามารถในการปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงของโลกที่เป็นไปอย่าง รวดเร็วและรุนแรง (Disruptive Changes) ไดอ้ ยา่ ง มปี ระสิทธิภาพ 3) ประสานความร่วมมือหน่วยงาน องค์กร หรือภาคส่วนต่าง ๆ ท่ีมีแหล่งเรียนรู้อื่น ๆ เพื่อส่งเสริม การจัดการศึกษาตามอัธยาศัยให้มีรูปแบบที่หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของประชาชน เช่น พพิ ธิ ภณั ฑ์ ศนู ย์เรียนรู้ แหล่งโบราณคดี วดั ศาสนาสถาน หอ้ งสมุด รวมถึงภมู ิปัญญาทอ้ งถน่ิ เป็นต้น 2. ด้านหลักสูตร สือรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลงานบริการ ทางวิชาการ และการประกนั คุณภาพการศึกษา 2.1 ส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้และกิจกรรมเพื่อส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท่ีหลากหลาย ทันสมัย รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรฐาน สมรรถนะ และ หลักสูตรท้องถิ่นที่สอดคล้องกับสภาพบรบิ ทของพ้ืนท่แี ละความตอ้ งการของกล่มุ เป้าหมายและ ชุมชน 2.2 ส่งเสริมการพัฒนาสื่อแบบเรียน สื่ออิเล็กทรอนิกส์และส่ืออ่ืน ๆ ท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน กลมุ่ เป้าหมายทว่ั ไปและกลมุ่ เป้าหมายพิเศษ เพื่อใหผ้ เู้ รียนสามารถเรียนร้ไู ด้ทุกที่ ทกุ เวลา 2.3 พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาทางไกลให้มีความทันสมัย หลากหลายช่องทางการเรียนรู้ ด้วย ระบบห้องเรียนและการควบคุมการสอบรูปแบบออนไลน์ 2.4 พัฒนาระบบการประเมินเพื่อเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ เพื่อให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้ง มกี ารประชาสมั พันธใ์ ห้สาธารณชนได้รับรู้และสามารถเข้าถงึ ระบบการประเมนิ ได้ 2.5 พัฒนาระบบการวัดและประเมินผลการศึกษานอกระบบทุกหลักสูตร โดยเฉพาะหลักสูตร ใน ระดับการศึกษาขัน้ พื้นฐานให้ได้มาตรฐานโดยการนาํ แบบทดสอบกลาง และระบบการสอบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-Exam) มาใช้อย่างมปี ระสิทธิภาพ 2.6 ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ การ วัดและประเมินผล และเผยแพร่รูปแบบการจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษา ตามอัธยาศัย รวมท้ังให้มีการนําไปสู่การปฏิบัติอย่างกว้างขวางและมีการพัฒนาให้เหมาะสมกับ บริบทอยา่ งตอ่ เนื่อง 2.7 พัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาให้ได้มาตรฐาน มีการพัฒนาระบบการประกัน คุณภาพ ภายในท่ีสอดคล้องกับบริบทและภารกิจของ กศน. มากขึ้น เพื่อพร้อมรับการประเมินคุณภาพภายนอก โดย พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงความสําคัญของระบบการประกันคุณภาพ และสามารถ ดําเนินการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาได้อย่างต่อเน่ืองโดยใช้การประเมินภายในด้วยตนเอง และ
36 จัดให้มี ระบบสถานศึกษาพ่ีเลี้ยงเข้าไปสนับสนุนอย่างใกล้ชิด สําหรับสถานศึกษาที่ยังไม่ได้เข้ารับการประเมิน คณุ ภาพ ภายนอก ให้พัฒนาคณุ ภาพการจัดการศึกษาให้ไดค้ ุณภาพตามมาตรฐานท่กี ําหนด 3. ดา้ นเทคโนโลยเี พื่อการศกึ ษา 3.1 ผลิตและพัฒนารายการวิทยุและรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษาเพ่ือให้เช่ือมโยงและตอบสนอง ต่อการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษาเพื่อกระจายโอกาสทาง การศกึ ษา สาํ หรับกลมุ่ เป้าหมายต่าง ๆ ให้มีทางเลือกในการเรียนรูท้ ี่หลากหลายและมคี ุณภาพ สามารถพัฒนา ตนเองให้รู้เท่าทัน ส่ือและเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการส่ือสาร เช่น รายการพัฒนาอาชีพเพ่ือการมีงานทํา รายการติวเข้มเติมเต็มความรู้ รายการ รายการทํากินก็ได้ ทําขายก็ดี ฯลฯ เผยแพร่ทางสถานีวิทยศุ ึกษา สถานี วิทยุโทรทศั นเ์ พ่อื การศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ (ETV) และทางอินเทอร์เน็ต 3.2 พัฒนาการเผยแพร่การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยโดยผ่านระบบ เทคโนโลยีดิจิทัล และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Youtube Facebook หรือ Application อื่น ๆ เพื่อ ส่งเสริม ให้ครู กศน. นําเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Do It Yourself : DIY) 3.3 พัฒนาสถานีวิทยุศึกษาและสถานีโทรทัศน์เพ่ือการศึกษาเพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิต และการ ออกอากาศให้กลมุ่ เป้าหมายสามารถใช้เป็นชอ่ งทางการเรียนรู้ทม่ี ีคุณภาพได้อย่างต่อเนือ่ งตลอดชีวิต โดยขยาย เครือข่ายการรับฟังให้สามารถรับฟังได้ทุกท่ี ทุกเวลา ครอบคลุมพ้ืนที่ทั่วประเทศและเพิ่มช่องทาง ให้สามารถ รับชมรายการโทรทัศน์ได้ทง้ั ระบบ Ku - Band C - Band Digital TV และทางอินเทอร์เน็ต พร้อมที่จะ รองรับ การพัฒนาเป็นสถานีวิทยุโทรทศั นเ์ พ่อื การศึกษาสาธารณะ (Free ETV) 3.4 พัฒนาระบบการใหบ้ รกิ ารส่ือเทคโนโลยีเพ่อื การศกึ ษาเพื่อให้ได้หลายชอ่ งทางท้งั ทาง อินเทอร์เน็ต และรปู แบบอื่น ๆ อาทิ Application บนโทรศัพทเ์ คลื่อนที่ และ Tablet รวมทง้ั ส่ือ Offline ในรูปแบบ ต่าง ๆ เพื่อใหก้ ลมุ่ เปา้ หมายสามารถเลือกใชบ้ รกิ ารเพ่ือเขา้ ถงึ โอกาสทางการศึกษาและการเรยี นรูไ้ ด้ตามความต้องการ 3.5 สาํ รวจ วจิ ยั ตดิ ตามประเมนิ ผลด้านการใช้สื่อเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาอยา่ งต่อเนอื่ งเพ่อื นําผล มา ใช้ในการพัฒนางานให้มีความถูกต้อง ทันสมัยและสามารถส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต ของ ประชาชนได้อย่างแท้จริง 4. ด้านโครงการอนั เนื่องมาจากพระราชดาํ ริ หรือโครงการอนั เกย่ี วเนอื่ งจากราชวงศ์ 4.1 ส่งเสริมและสนับสนุนการดําเนินงานโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดําริหรือโครงการ อัน เกีย่ วเนื่องจากราชวงศ์ 4.2 จดั ทําฐานข้อมูลโครงการและกจิ กรรมของ กศน.ท่ีสนองงานโครงการอันเน่ืองมาจาก พระราชดาํ ริ หรือโครงการอันเก่ียวเน่ืองจากราชวงศ์เพื่อนาํ ไปใช้ในการวางแผน การติดตามประเมนิ ผลและการ พัฒนางาน ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ
37 4.3 ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายการดําเนินงานเพ่ือสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ เพื่อใหเ้ กดิ ความเข้มแข็งในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั 4.4 พัฒนาศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”เพื่อให้มีความพร้อมในการจัดการศึกษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ตามบทบาทหน้าทที่ ีก่ ําหนดไว้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ 4.5จัดและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชนบนพื้นท่ีสูง ถิ่น ทรุ กันดาร และพืน้ ทชี่ ายขอบ 5. ดา้ นการศกึ ษาในจังหวดั ชายแดนภาคใต้ พื้นทีเ่ ขตเศรษฐกจิ พิเศษและพน้ื ทบ่ี ริเวณ ชายแดน 5.1 พฒั นาการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ในจังหวดั ชายแดนภาคใต้ 1) จัดและพัฒนาหลักสูตร และกิจกรรมส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ท่ีตอบสนองปัญหา และ ความตอ้ งการของกลุ่มเปา้ หมายรวมทั้งอตั ลกั ษณแ์ ละความเปน็ พหวุ ฒั นธรรมของพน้ื ที่ 2) พัฒนาคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเข้มข้นและต่อเน่ืองเพื่อให้ ผ้เู รียนสามารถนําความรทู้ ีไ่ ดร้ ับไปใช้ประโยชน์ได้จรงิ 3) ให้หน่วยงานและสถานศึกษาจัดให้มีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยแก่บุคลากรและ นักศึกษา กศน.ตลอดจนผ้มู าใชบ้ ริการอย่างท่วั ถงึ 5.2 พัฒนาการจัดการศึกษาแบบบรู ณาการในเขตพัฒนาเศรษฐกจิ พเิ ศษ 1) ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เก่ียวข้องในการจัดทําแผนการศึกษาตามยุทธศาสตร์ และ บรบิ ทของแต่ละจงั หวดั ในเขตพฒั นาเศรษฐกจิ พิเศษ 2) จัดทําหลักสูตรการศึกษาตามบริบทของพ้ืนท่ี โดยเน้นสาขาที่เป็นความต้องการของตลาด ให้เกิด การพฒั นาอาชีพได้ตรงตามความต้องการของพนื้ ท่ี 5.3 จัดการศึกษาเพอื่ ความมั่นคงของศูนย์ฝกึ และพัฒนาอาชพี ราษฎรไทยบรเิ วณชายแดน(ศฝช.) 1) พัฒนาศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน เพ่ือให้เป็นศูนย์ฝึกและสาธิต การ ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบการจัดกิจกรรมตามแนวพระราชดําริปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพียง สําหรับประชาชนตามแนวชายแดนดว้ ยวธิ ีการเรยี นรทู้ ีห่ ลากหลาย 2) มุ่งจัดและพัฒนาการศึกษาอาชีพโดยใช้วิธีการหลากหลายใช้รูปแบบเชิงรุกเพ่ือการเข้าถึง กลุ่มเป้าหมาย เช่น การจัดมหกรรมอาชีพ การประสานความร่วมมือกับเครือข่าย การจัดอบรมแกนนําด้าน อาชีพ ท่ีเน้นเร่ืองเกษตรธรรมชาติที่สอดคลอ้ งกับบริบทของชมุ ชนชายแดน ใหแ้ ก่ประชาชนตามแนวชายแดน
38 6. ดา้ นบคุ ลากรระบบการบรหิ ารจัดการ และการมีส่วนรว่ มของทุกภาคสว่ น 6.1 การพัฒนาบุคลากร 1) พัฒนาบุคลากรทุกระดับทุกประเภทให้มีสมรรถนะสูงขึ้นอย่างต่อเน่ือง ท้ังก่อนและระหว่าง การ ดาํ รงตําแหน่งเพื่อให้มีเจตคติที่ดีในการปฏิบัติงานให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐานตําแหน่ง ให้ตรงกับสาย งาน ความชํานาญ และความต้องการของบุคลากรสามารถปฏิบัติงานและบริหารจัดการการดําเนินงานของ หน่วยงานและ สถานศึกษาไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพรวมทัง้ ส่งเสริมให้ข้าราชการในสังกัดพัฒนาตนเองเพื่อเล่ือน ตาํ แหนง่ หรอื เล่ือนวทิ ยฐานะโดยเน้นการประเมินวทิ ยฐานะเชงิ ประจักษ์ 2) พัฒนาศึกษานิเทศก์ กศน. ให้มีสมรรถนะที่จําเป็นครบถ้วน มีความเป็นมืออาชีพ สามารถ ปฏิบัติการนิเทศได้อย่างมีศักยภาพ เพื่อร่วมยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตาม อธั ยาศัยในสถานศึกษา 3) พัฒนาหัวหน้า กศน.ตําบล/แขวงให้มีสมรรถนะสูงขึ้น เพื่อการบริหารจัดการ กศน.ตําบล/แขวง และการปฏิบัติงานตามบทบาทภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการเป็นนักจัดการความรู้และผู้อํานวย ความสะดวกในการเรยี นรเู้ พ่ือให้ผ้เู รยี นเกดิ การเรียนรู้ทมี่ ปี ระสทิ ธิภาพอยา่ งแทจ้ รงิ 4) พัฒนาครู กศน. และบุคลากรท่ีเก่ียวข้องกับการจัดการศึกษาให้สามารถจัดรูปแบบการเรียนรู้ ได้ อยา่ งมีคุณภาพโดยสง่ เสริมให้มีความรู้ความสามารถในการจัดทาํ แผนการสอน การจัดกระบวนการเรียนรู้ การ วดั และประเมินผล และการวจิ ัยเบื้องต้น 5) พัฒนาศักยภาพบุคลากร ท่ีรับผิดชอบการบริการการศึกษาและการเรียนรู้ ให้มีความรู้ ความสามารถและมคี วามเปน็ มืออาชีพในการจดั บรกิ ารสง่ เสรมิ การเรยี นรู้ตลอดชวี ติ ของประชาชน 6) ส่งเสริมให้คณะกรรมการ กศน. ทุกระดับ และคณะกรรมการสถานศึกษา มีสว่ นร่วมในการ บรหิ าร การดาํ เนินงานตามบทบาทภารกจิ ของ กศน.อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 7) พัฒนาอาสาสมัคร กศน. ให้สามารถทําหนา้ ท่ีสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษา ตามอัธยาศัยไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ 8) พัฒนาสมรรถนะและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรรวมทั้งภาคีเครือข่ายทั้งใน และ ต่างประเทศในทุกระดับ โดยจัดให้มีกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างสัมพันธภาพและเพ่ิมประสิทธิภาพในการทํางาน ร่วมกันในรูปแบบท่ีหลากหลายอย่างต่อเนื่องอาทิ การแข่งขันกีฬา การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนา ประสิทธภิ าพ ในการทาํ งาน 6.2 การพัฒนาโครงสรา้ งพน้ื ฐานและอตั รากําลัง 1) จัดทําแผนการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานและดําเนินการปรับปรุงสถานที่และวัสดุอุปกรณ์ ให้มี ความพร้อมในการจดั การศกึ ษาและการเรียนรู้ 2) สรรหา บรรจุ แต่งตั้ง และบริหารอัตรากําลังท่ีมีอยู่ท้ังในส่วนท่ีเป็นข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ให้เป็นไปตามโครงสร้างการบริหารและกรอบอัตรากําลัง รวมท้ังรองรับกับบทบาทภารกิจตามท่ี กําหนดไว้ ใหเ้ กดิ ประสิทธภิ าพสงู สุดในการปฏบิ ัตงิ าน
39 3) แสวงหาความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการระดมทรัพยากรเพ่ือนํามาใช้ ในการ ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้มีความพร้อมสําหรับดําเนินกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตาม อธั ยาศัย และการส่งเสรมิ การเรยี นรสู้ ําหรบั ประชาชน 6.3 การพัฒนาระบบบริหารจัดการ 1) พัฒนาระบบฐานขอ้ มูลให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และเชื่อมโยงกนั ท่ัวประเทศ อย่างเป็น ระบบเพอื่ ใหห้ น่วยงานและสถานศกึ ษาในสงั กัดสามารถนาํ ไปใชเ้ ป็นเครื่องมือสําคญั ในการบริหาร การวางแผน การปฏบิ ัตงิ าน การตดิ ตามประเมนิ ผล รวมท้ังจดั บริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อยา่ ง มีประสทิ ธภิ าพ 2) เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการงบประมาณ โดยพัฒนาระบบการกํากับ ควบคุม และเร่งรัด การเบิกจา่ ยงบประมาณให้เปน็ ตามเป้าหมายทีก่ ําหนดไว้ 3) พัฒนาระบบฐานข้อมลู รวมของนักศึกษา กศน. ให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทนั สมยั และ เช่ือมโยง กันท่ัวประเทศ สามารถสืบค้นและสอบทานได้ทันความตอ้ งการเพื่อประโยชน์ในการจัดการศึกษาให้กับ ผู้เรยี น และการบริหารจดั การอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 4) ส่งเสริมให้มีการจัดการความรู้ในหน่วยงานและสถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้งการศึกษาวิจัย เพ่ือ สามารถนํามาใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพการดําเนินงานท่ีสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และ ชมุ ชนพร้อมท้ังพฒั นาขีดความสามารถเชิงการแข่งขนั ของหนว่ ยงานและสถานศึกษา 5) สร้างความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ท้ังภาครัฐ เอกชน ประชาสังคมท้ังในประเทศ และต่างประเทศ รวมท้ังส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนรว่ มของชุมชนเพ่ือสร้างความเข้าใจ และให้เกิดความ ร่วมมอื ในการสง่ เสรมิ สนับสนุน และจดั การศกึ ษาและการเรียนรูใ้ ห้กบั ประชาชนอยา่ งมีคุณภาพ 6) ส่งเสริมการใช้ระบบสํานักงานอิเล็กทรอนิกส์ (e-office) ในการบริหารจัดการ เช่น ระบบการ ลา ระบบสารบรรณอเิ ล็กทรอนิกส์ ระบบการขอใช้รถราชการ ระบบการขอใช้หอ้ งประชุม เปน็ ต้น 7) พัฒนาและปรับระบบวิธีการปฏิบัติราชการให้ทันสมัย มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริต และ ประพฤติมชิ อบ บรหิ ารจดั การบนข้อมลู และหลักฐานเชงิ ประจักษ์ มงุ่ ผลสัมฤทธมิ์ ีความโปร่งใส 6.4 การกํากบั นิเทศติดตามประเมิน และรายงานผล 1) สร้างกลไกการกํากับ นิเทศ ติดตาม ประเมิน และรายงานผลการดําเนินงานการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยใหเ้ ชอื่ มโยงกบั หนว่ ยงาน สถานศกึ ษา และภาคีเครือขา่ ยทัง้ ระบบ 2) ให้หน่วยงานและสถานศึกษาที่เกี่ยวข้องทุกระดับ พัฒนาระบบกลไกการกํากับ ติดตามและ รายงานผลการนํานโยบายสกู่ ารปฏบิ ัติ ใหส้ ามารถตอบสนองการดําเนินงานตามนโยบายในแต่ละเรื่องได้อย่าง มี ประสิทธภิ าพ 3) สง่ เสริมการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร และสื่ออื่น ๆ ทเี่ หมาะสม เพือ่ การกํากับ นเิ ทศ ตดิ ตาม ประเมนิ ผล และรายงานผลอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
40 4) พัฒนากลไกการติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคํารับรองการปฏิบัติราชการประจําปี ของหน่วยงาน สถานศึกษา เพื่อการรายงานผลตามตัวช้ีวัดในคํารับรองการปฏิบัติราชการประจําปี ของ สํานกั งาน กศน.ใหด้ าํ เนนิ ไปอย่างมปี ระสิทธภิ าพ เปน็ ไปตามเกณฑ์ วิธกี าร และระยะเวลาท่ีกาํ หนด 5) ให้มีการเชื่อมโยงระบบการนิเทศในทุกระดับ ทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกองค์กร ต้ังแต่ ส่วนกลาง ภูมิภาค กลุ่มจังหวัด จังหวัด อําเภอ/เขต และตําบล/แขวง เพ่ือความเป็นเอกภาพในการใช้ข้อมูล และการพัฒนางานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั
41 บทที่ 3 ผลการดำเนนิ งาน โครงการห้องสมุดประชาชนเคลื่อนที่ ปงี บประมาณ 2564 ที่ กิจกรรม เปา้ หมาย ผลการ รอ้ ยละ หมายเหตุ (คน) ดำเนินงาน ความสำเร็จ 1. โครงการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชน 1.1 กิจกรรมภาษาพาที 30 30 100 1.2 ครอบครวั รักการอา่ น 20 20 100 2. โครงการส่งเสรมิ การเรียนรู้สำหรบั นกั ศึกษาและ 50 71 100 ประชาชน 20 30 100 2.1 กิจกรรมสบื สานวัฒนธรรมประเพณีลอยกระทง 50 57 100 2.2 ปริศนา...อ่านคำ 180 203 100 2.3 อ่านดีมรี างวลั 2.4 สุภาษติ สำนวนไทย 30 30 100 150 161 100 3. โครงการสง่ เสรมิ การเรียนรสู้ ำหรับผู้สูงอายุ 3.1 ภาษาจนี เบื้องตน้ 3.2 ปริศนาสุภาษิตไทย
42 1.ชื่อโครงการ โครงการจัดการศกึ ษาตามอัธยาศยั กิจกรรมที่ 1 โครงการส่งเสรมิ การเรยี นรู้สำหรบั เด็กและเยาวชน กิจกรรมพาษาภาที 2. สอดคล้องกับนโยบาย/ยุทธศาสตรแ์ ละจดุ เนน้ การดำเนนิ งาน สำนักงาน กศน. : 2.1 12 ภารกิจ “เร่งด่วน” ข้อที่ 2 ขับเคลื่อนนโยบายของรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร (นายณัฏฐพล ทีปสวุ รรณ) และ รฐั มนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร (ดร.กนกวรรณ วลิ าวัลย์) ให้เกดิ ผลเป็นรูปธรรม 2.2 สอดคลอ้ งกบั มาตรฐาน กศน. มาตรฐานการศกึ ษาตามอธั ยาศัย มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้รบั บริการการศึกษาตามอธั ยาศยั ตวั บง่ ชท้ี ี่ 1.1 ผรู้ ับบริการมคี วามรู้ หรอื ทักษะ หรอื ประสบการณ์ สอดคล้องกบั วัตถปุ ระสงค์ของโครงการ หรือกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศยั มาตรฐานที่ 2 คุณภาพการจดั การศึกษาตามอัธยาศยั ตัวบ่งชี้ที่ 2.1 การกำหนดโครงการหรอื กิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศยั ตัวบ่งช้ีที่ 2.2 ผู้จัดกิจกรรมมีความรู้ ความสามารถในการจดั การศึกษาตามอธั ยาศัย ตัวบ่งช้ีที่ 2.3 ส่อื หรอื นวตั กรรม และสภาพแวดล้อมที่เอ้ือต่อการจัดการศกึ ษาตาม อธั ยาศัย ตัวบ่งช้ีที่ 2.4 ผู้รบั บริการมีความพงึ พอใจต่อการจดั การศึกษาตามอธั ยาศัย มาตรฐานท่ี 3 คุณภาพการบริหารจัดการของสถานศึกษา ตวั บ่งชี้ที่ 3.1 การบรหิ ารจัดการของสถานศึกษาทเี่ น้นการมีส่วนร่วม ตัวบ่งชีท้ ่ี 3.2 ระบบการประกนั คุณภาพการศึกษาของสถานศกึ ษา ตัวบ่งชี้ท่ี 3.5 การกำกับ นเิ ทศ ตดิ ตาม ประเมินผลการดำเนนิ งานของสถานศึกษา ตัวบ่งชี้ท่ี 3.7 การส่งเสริม สนับสนนุ ภาคเี ครือขา่ ยใหม้ ีส่วนรว่ มในการจดั การศึกษา ตัวบง่ ช้ีท่ี 3.8 การสง่ เสริม สนบั สนนุ การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ 2.3 ของเสนอแนะ ของ สมศ. ข้อที่ 1 ในการดำเนินแผนงาน/โครงการ สถานศึกษาควรมีการติดตามตรวจสอบการดำเนินงานทุก ระยะ ขั้นตอนของการดำเนินงาน เพื่อประเมินผลและนำผลการประเมินมาปรับปรุงและพัฒนาให้เป็นระบบครบ วงจร PDCA และในการประเมินความพึงพอใจ ควรเพ่ิมข้อเหตุผล ข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะว่าเพราะเหตุใด ข้อน้ันจึงให้คะแนนมากหรอื น้อย
43 ข้อท่ี 13 ในการบริหารจัดการการดำเนินโครงการ กิจกรรมต่างๆ สถานศึกษาควรดำเนินการให้ ครบถ้วนเป็นระบบครบวงจร PDCA และในโครงการกิจกรรมควรกำหนดวัตถปุ ระสงคเ์ ปน็ รูปธรรม มกี ารออกแบบ ประเมินให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ มีการดำเนินการนิเทศ กำกับ ติดตาม และประเมินผลอย่าง ต่อเนอื่ งและนำผลการประเมนิ ท่ไี ด้ไปวิเคราะห์ถึงอุปสรรค และนำไปวางแผน ปรับปรงุ พฒั นาในปตี ่อไป 3. หลักการและเหตุผล เด็กเป็นทรัพยากรบุคลากรที่มีคุณค่า และเป็นอนาคตท่ีสำคัญของชาติ ในหลายประเทศล้วนมุ่งเน้นการ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งจะต้องเริ่มจากเด็ก โดยเฉพาะในช่วงแรกเกิด 0 – 6 ปี ซ่ึงเป็นช่วงที่เร่ิมมีการพัฒนาใน ด้านต่างๆอย่างรวดเร็ว ทั้งทางด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ จิตใจ และสังคม เด็กในวัยนี้ถ้าจะได้รับการเลี้ยงดทู ี่ เหมาะสม มีการตอบสนองความต้องการขั้นพ้ืนฐาน และมีการส่งเสรมิ พัฒนาการท่ีดีในแต่ละด้าน ก็จะทำให้เด็กนั้น เติบโตเป็นผู้ใหญ่ท่ีมีคุณภาพในอนาคตซ่ึงพัฒนาการเด็กเกิดจากการเปล่ียนแปลงหลายด้านผสมผสานกัน โดย พัฒนาการทุกดา้ นไม่ว่าจะเป็นดา้ นทางรา่ งกาย สตปิ ัญญา อารมณ์ จิตใจ และสงั คม ลว้ นมคี วามสำคญั และเกย่ี วข้อง สัมพันธ์กันหมด การเปล่ียนแปลงของพัฒนาการด้านหน่ึงย่อมมีผลให้พัฒนาการอีกด้านหนึ่งเปลี่ยนแปลงไปด้วย เช่น เด็กทีมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์มักเคล่ือนไหวคล่องแคล่ว สามารถช่วยเหลือตนเองได้ มีอารมณ์แจ่มใส รู้จัก ควบคุมอารมณ์ เข้ากับผู้อื่นได้ดี และมีความสนใจเรียนรู้ส่ิงรอบตัว ในทางตรงข้ามเด็กที่มีสุขภาพไม่ดี มักประสบ ปญั หาด้านการเจริญเติบโตของร่างกายล่าช้า หรอื หยุดชะงกั ชั่วขณะ อารมณ์หงุดหงิดง่าย มีอาการเศร้าซึม ปรับตัว เข้ากบั ผูอ้ ื่นยาก และขาดสมาธิในการเรยี นรู้สง่ิ ตา่ งๆ ห้องสมุดประชาชน เป็นแหล่งความรทู้ ่ีสำคัญของชุมชน มีบทบาทหน้าที่ในการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย และการศึกษานอกโรงเรียน โดยมีส่ือความรู้ ในการให้บริการและจัดกระบวนการเรียนรู้ ให้กลุ่มเป้าหมายได้รับ การศึกษา สร้างนิสัยรักการอา่ น ศึกษาค้นคว้า สนองความสนใจใฝ่รู้ รู้จกั วิธีการค้นคว้าด้วยตนเองอยู่ตลอดเวลา ตลอดชีวิต การรับรู้ข้อมูลข่าวสารจึงเป็นสิ่งท่ีจำเป็นสำหรับคนในชุมชน การจัดกิจกรรมในเชิงรุก เพ่ือให้เกิดการ เรียนรขู้ องคนในชุมชน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอชนแดน จึงมอบหมายให้ห้องสมุดประชาชน อำเภอชนแดน จัดทำโครงการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชน เพ่ือกระตุ้นและส่งเสริมให้เด็กและ เยาวชนมีนิสัยรักการอ่าน ส่งเสริมทักษะและพัฒนาการทางด้านร่างกายและจิตใจ ส่งเสริมมีนิสัยรักการอ่านและ การเรียนรู้อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต ช่วยวางรากฐานให้เยาวชนเป็นผู้รักการเรียนรู้ และสนใจเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อ นำไปสู่กระบวนการสร้างพลเมืองทม่ี คี ณุ ภาพเป็นกำลังสำคัญท่จี ะพฒั นาประเทศชาติบ้านเมืองต่อไปในอนาคต 4. วตั ถุประสงค์ 1. เพอ่ื ส่งเสรมิ ให้มีนสิ ยั รักการอ่านและการเรียนรู้อย่างต่อเนอื่ งตลอดชวี ติ 2. เพ่อื กระตุ้นและสง่ เสรมิ นิสัยใหเ้ ดก็ และเยาวชนมนี ิสัยรักการอา่ น 3. เพอ่ื ส่งเสรมิ ทักษะและพัฒนาการทางด้านรา่ งกายและจิตใจของเดก็ และเยาวชน 4. เพื่อสง่ เสริมใหเ้ ด็กและเยาวชนมคี วามคิดสร้างสรรคแ์ ละมจี ินตนาการ
44 5. เปา้ หมาย จำนวน 30 คน เชิงปริมาณ เด็กและเยาวชน เชิงคุณภาพ 1. สง่ เสริมใหม้ ีนสิ ยั รักการอา่ นและการเรยี นรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชวี ิต 2. กระตนุ้ และสง่ เสริมนสิ ยั ใหเ้ ด็กและเยาวชนมีนสิ ยั รกั การอา่ น 3. ส่งเสรมิ ทักษะและพัฒนาการทางดา้ นร่างกายและจติ ใจของเด็กและเยาวชน 4. ส่งเสรมิ ให้เด็กและเยาวชนมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์และมีจินตนาการ 6. ผลการดำเนินงาน ผลผลติ (คน) งบประมาณ (บาท) 30 - เปา้ หมาย (คน) 30 จากการการดำเนนิ โครงการจากกลุม่ เป้าหมายจำนวน 30 คน สามารถดำเนนิ การได้ จำนวน 30 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 จากผเู้ ข้ารว่ มโครงการ 30 คน เด็กและเยาวชนไดร้ ับการส่งเสรมิ ทักษะและพฒั นาการทางดา้ นร่างกาย และจิตใจ กอ่ ให้เกดิ ความคิดสร้างสรรค์และมีจนิ ตนาการ ส่งเสรมิ มีนสิ ยั รักการอ่านและการเรยี นรู้อย่างต่อเนื่อง ตลอดชวี ิตชว่ ยวางรากฐานใหเ้ ยาวชนเป็นผู้รักการเรยี นรู้ และสนใจเรียนร้ตู ลอดชวี ติ จำนวน 30 คน คิดเป็น รอ้ ยละ 100 7. ปญั หาอุปสรรค เน่อื งจากเป็นโรงเรยี นบ้านหว้ ยตมู ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ เปน็ โรงเรียนขนาดเล็ก ทำใหม้ ีการ รวมห้องเรยี น ระดบั ชัน้ ป.3 และ ป.4 ทำให้การเรียนรู้ของเดก็ แต่ละคนตา่ งกนั 8. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการดำเนนิ งานตอ่ ไป จากการสำรวจความต้องการของนักเรยี น นกั เรียนอยากเรียนรู้ทางด้านการประกอบอาชพี การทำอาหาร และขนม
45 ภาพกจิ กรรม โครงการสง่ เสริมการเรียนร้สู ำหรับเดก็ และเยาวชน กิจกรรม ภาษาพาที วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ณ โรงเรียนบา้ นห้วยตูม หมู่ที่ 1 ต.พุทธบาท อำเภอชนแดน จงั หวัดเพชรบรู ณ์
46 1.ชื่อโครงการ โครงการจดั การศึกษาตามอัธยาศยั กิจกรรมที่ 1 โครงการสง่ เสรมิ การเรียนรูส้ ำหรับเด็กและเยาวชน กจิ กรรมครอบครวั รกั การอา่ น 2. สอดคล้องกับนโยบาย/ยุทธศาสตร์และจดุ เนน้ การดำเนนิ งาน สำนกั งาน กศน. : 2.1 12 ภารกจิ “เร่งดว่ น” ข้อท่ี 2 ขบั เคล่ือนนโยบายของรัฐมนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร (นายณฏั ฐพล ทปี สุวรรณ) และ รัฐมนตรีช่วยวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.กนกวรรณ วิลาวลั ย์) ใหเ้ กิดผลเป็นรูปธรรม 2.2 สอดคล้องกับมาตรฐาน กศน. มาตรฐานการศกึ ษาตามอัธยาศัย มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพของผู้รบั บรกิ ารการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ตวั บง่ ช้ที ่ี 1.1 ผรู้ บั บรกิ ารมีความรู้ หรอื ทักษะ หรอื ประสบการณ์ สอดคล้องกับ วัตถปุ ระสงค์ของโครงการ หรอื กจิ กรรมการศึกษาตามอัธยาศยั มาตรฐานที่ 2 คุณภาพการจดั การศึกษาตามอธั ยาศัย ตวั บง่ ชี้ที่ 2.1 การกำหนดโครงการหรือกิจกรรมการศึกษาตามอธั ยาศัย ตวั บง่ ชี้ที่ 2.2 ผจู้ ัดกจิ กรรมมีความรู้ ความสามารถในการจัดการศึกษาตามอธั ยาศัย ตวั บง่ ชี้ที่ 2.3 สื่อหรอื นวัตกรรม และสภาพแวดล้อมทเี่ อ้ือต่อการจัดการศกึ ษาตาม อัธยาศัย ตัวบ่งช้ีท่ี 2.4 ผู้รบั บรกิ ารมีความพึงพอใจต่อการจัดการศกึ ษาตามอัธยาศยั มาตรฐานที่ 3 คณุ ภาพการบรหิ ารจดั การของสถานศึกษา ตัวบ่งชที้ ่ี 3.1 การบริหารจัดการของสถานศกึ ษาท่ีเน้นการมสี ว่ นร่วม ตัวบ่งช้ที ่ี 3.2 ระบบการประกนั คุณภาพการศึกษาของสถานศกึ ษา ตัวบ่งช้ที ่ี 3.5 การกำกับ นิเทศ ตดิ ตาม ประเมินผลการดำเนินงานของสถานศึกษา ตวั บ่งชี้ที่ 3.7 การสง่ เสรมิ สนับสนนุ ภาคเี ครอื ข่ายให้มีส่วนร่วมในการจัดการศกึ ษา ตวั บ่งชท้ี ี่ 3.8 การส่งเสรมิ สนบั สนนุ การสร้างสงั คมแหง่ การเรียนรู้ 2.3 ของเสนอแนะ ของ สมศ. ข้อที่ 1 ในการดำเนินแผนงาน/โครงการ สถานศึกษาควรมีการติดตามตรวจสอบการดำเนินงานทุก ระยะ ขั้นตอนของการดำเนินงาน เพ่ือประเมินผลและนำผลการประเมินมาปรับปรุงและพัฒนาให้เป็นระบบครบ วงจร PDCA และในการประเมินความพึงพอใจ ควรเพ่ิมข้อเหตุผล ข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะว่าเพราะเหตุใด ข้อนั้นจึงให้คะแนนมากหรือน้อย ข้อที่ 13 ในการบริหารจัดการการดำเนินโครงการ กิจกรรมต่างๆ สถานศึกษาควรดำเนินการให้ ครบถ้วนเป็นระบบครบวงจร PDCA และในโครงการกิจกรรมควรกำหนดวัตถุประสงค์เปน็ รูปธรรม มกี ารออกแบบ
Search