Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Guideline_in_Child_Health_Supervision_theAsianparent

Guideline_in_Child_Health_Supervision_theAsianparent

Published by Nutjarin Upawatthananun, 2020-08-14 00:51:02

Description: Guideline_in_Child_Health_Supervision_theAsianparent

Search

Read the Text Version

ÃÒªÇ·Ô ÂÒÅÑ¡ØÁÒÃá¾·ÂᏠ˧‹ »ÃÐà·Èä·Â ÊÁÒ¤Á¡ÁØ ÒÃá¾·ÂᏠˋ§»ÃÐà·Èä·Â Guideline in Child Health Supervision พงษศ์ กั ดิ์ น้อยพยคั ฆ์ วินดั ดา ปิยะศิลป์ วนั ดี นงิ สานนท์ ประสบศรี องึ้ ถาวร (บรรณาธิการ)



ÊÒèҡ»Ãиҹ ราชวิทยาลัยกมุ ารแพทย์แห่งประเทศไทย เดก็ เป็นอนาคตของชาติ การเลี้ยงเดก็ ใหม้ คี ณุ ภาพถือเป็นเรื่อง ส�าคัญ และเป็นหนา้ ที่ความรับผิดชอบของ พอ่ แม่ ผู้ปกครอง ป่ยู า่ ตา ยาย บุคคลในครอบครัวรวมถงึ ครู แพทยท์ ั่วไป และกุมารแพทย์ ราชวิทยาลยั กุมารแพทยแ์ หง่ ประเทศไทย เลง็ เหน็ ความสา� คญั ในเร่ืองนี้ จงึ ไดจ้ ัดทา� หนงั สอื เลม่ นขี้ น้ึ เพอ่ื เปน็ แนวทางใหบ้ คุ ลากรท่ีมหี นา้ ที่เกยี่ วกบั การเล้ียงดเู ดก็ ได้ใช้เปน็ คมู่ อื ในการดแู ลเด็กอย่างถกู ตอ้ งและมี มาตรฐาน โดยครอบคลมุ ตงั้ แตเ่ ร่ืองการสง่ เสริมสขุ ภาพทั้งในเรื่อง ครอบครัว การเจริญเติบโต การพัฒนาการ การสร้างเสริมภมู คิ มุ้ กนั โรค การดูแล ความปลอดภยั และปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตุ การคดั กรองและปอ้ งกนั ปญั หาที่พบ บ่อย การให้ค�าแนะน�าตามช่วงวัย รวมถงึ แหล่งทรัพยากรและความช่วย เหลือในชุมชนและสังคม ซงึ่ เขียนโดยกุมารแพทย์เฉพาะทางในเร่ืองนั้นๆ จากสถาบนั ตา่ งๆ หวังเป็นอย่างย่ิงว่า หนังสือคู่มือการดูแลเด็กเล่มนจี้ ะเป็น ประโยชนก์ บั บคุ ลากรทกุ ฝา่ ยท่ีเกย่ี วขอ้ งได้ใชเ้ ปน็ แนวทางในการเลยี้ งดูให้ เยาวชนของเราได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มคี ณุ ภาพในทกุ ๆ ด้านตอ่ ไป (ศ.นพ.สมศกั ดิ์ โลห่ ์เลขา) ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แหง่ ประเทศไทย นายกสมาคมกุมารแพทยแ์ หง่ ประเทศไทย 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 1

ÊÒúÞÑ หนา้ 1 สารจากประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แหง่ ประเทศไทย แนวทางการดแู ลสขุ ภาพเด็กไทย 3 9 • เด็กวยั 1-4 เดอื น 15 • เด็กวัย 6-12 เดอื น 19 • เดก็ วัย 18 เดือน 24 • เด็กวยั 2 ปี 30 • เด็กวัย 3-5 ปี 37 • เด็กวยั 6-10 ปี 43 • วยั รุ่น (11-21 ปี) 47 เกณฑพ์ ัฒนาการตามช่วงวัยของเดก็ ปฐมวัย รายช่ือคณะอนกุ รรมการ ทบทวนระบบการดูแลสุขภาพเดก็ ดี พ.ศ. 2556-2557

เด็กวัย 1-4 เดอื น ประเมนิ สขุ ภาพและปัญหาทวั่ ไป • ทักทายและสอบถามปญั หาหรือความ กังวล ความเจ็บป่วย การเปล่ียนแปลง ภายในครอบครัว บทบาทการท�างานและความรับผิดชอบ ของพอ่ แม่ ความตงึ เครียดในบา้ น • สอบถามอาการตามระบบ การเจริญเตบิ โต พัฒนาการและ พฤตกิ รรมของเดก็ กจิ วตั รประจา� วนั ของเดก็ เชน่ การกนิ นม การนอน เป็นตน้ ตรวจรา่ งกาย • สังเกตปฏิสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับพ่อแม่ วิธีการที่ พ่อแม่ตอบสนองต่อความต้องการของเด็ก วิธีการจัดการ ปญั หาท่ีเกดิ ขึ้น เช่น เด็กร้องในขณะตรวจ เป็นต้นรวมท้ัง สอบถามความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั การเลยี้ งดเู ดก็ ซงึ่ อาจมคี วาม ขัดแย้งกนั • ตรวจประเมนิ การเจริญเตบิ โต : ช่งั น�้าหนกั วัดส่วนสงู และ บนั ทกึ ลงในกราฟการเจริญเตบิ โตวดั เสน้ รอบศรี ษะและคลา� กระหม่อมของเดก็ 3

• ตรวจรา่ งกายตามระบบ: รวมท้ังฟงั เสยี งหวั ใจ ตรวจตาเพอื่ ดกู ารสะทอ้ นแสงจากจอประสาทตา (red reflex) ตรวจ สอบว่าแก้วตาขุ่นหรือไม่ ในเด็กต้ังแต่ 4 เดือนขึ้นไปควร เร่ิมตรวจภาวะตาเหล่ (strabismus) ตรวจขอ้ สะโพกเพอื่ คดั กรองภาวะขอ้ สะโพกหลดุ ตรวจทอ้ งเพอื่ หาความผิดปกติ เชน่ กอ้ นในชอ่ งทอ้ ง ตรวจอวัยวะเพศโดยเฉพาะภาวะอัณฑะไม่ เล่อื นลงถุงอณั ฑะของเด็กผชู้ าย และ labial adhesion ใน เดก็ ผหู้ ญิง การคดั กรอง • เฝา้ ระวงั และตดิ ตามพัฒนาการ โดยการซกั ถามและสังเกต พฤติกรรม ดงั นี้ เดอื น เดก็ ควรยกศรี ษะได้เล็กน้อยในทา่ นอนคว่�า กระพริบ ตาเมื่อเจอแสงจ้า จ้องและมองตามวัตถุ ตอบสนองต่อ เสียงดงั เดือน เดก็ เร่ิมชนั คอได้ จ้องหนา้ สบตา ยิ้ม และส่งเสยี งออ้ แอ้ เดือน เด็กควรจะคอแข็ง ชันคอได้ดี เริ่มพลิกคว�า่ นา� มอื มาจับกนั ตรงกลาง เร่ิมควา้ ของ หัวเราะเสียงดงั 4

• ประเมินการได้ยินโดยการซักถามหรือใช้อุปกรณ์พิเศษ ในกรณีท่ียังไม่ได้ตรวจต้ังแต่แรกเกิด หรือบิดามารดามี ความกังวล • คดั กรองวณั โรคในเดก็ ที่เปน็ กลมุ่ เสย่ี ง เชน่ มารดาหรือบคุ คล ใกล้ชิดเปน็ วณั โรคในระยะตดิ ต่อ วัคซนี • ทบทวนตารางการใหว้ คั ซีน • ให้วัคซีนตามอายดุ งั นี้ 1 เดือน วคั ซนี ตับอักเสบบี เข็มที่ 2 ในกรณที ี่แม่เปน็ พาหะ ตับอักเสบบี 2 เดือน วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก และโปลิโอ คร้ังท่ี 1 วคั ซนี ตบั อกั เสบบีคร้ังท่ี 2 (ถา้ ไดร้ ับตอนอายุ 1 เดอื นแลว้ ไมต่ ้องใหอ้ กี ) 4 เดอื น วคั ซนี คอตบี ไอกรน บาดทะยกั และโปลโิ อ ครงั้ ที่ 2 • พจิ ารณาใหว้ คั ซนี เสริมหรอื วคั ซนี ทางเลอื กตามความเหมาะสม 5

แนะน�าพอ่ แม่ การเล้ียงดู • รัก ดูแลใกล้ชิด เอาใจใส่เด็ก สังเกตและตอบสนองความ ต้องการอย่างเหมาะสม สังเกตลักษณะเฉพาะตัวและพ้ืน อารมณข์ องลกู โดยดูจากการตื่น นอน กิน รอ้ งไห้ ซ่ึงจะ แตกต่างกันในเดก็ แตล่ ะคน • ให้นมเด็กเท่าที่ต้องการ ไม่ให้อาหารอื่นนอกเหนือจากนม กรณีที่ ให้นมแม่ควรให้ข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาการดูดใน แตล่ ะมอ้ื ทา่ ทางในการใหน้ มที่เหมาะสม การเปลยี่ นเตา้ นม และใหแ้ มก่ นิ อาหารที่มปี ระโยชน์ใหเ้ พียงพอและดมื่ น้�ามากๆ ในกรณีท่ีเดก็ กินนมผสม ควรพูดถงึ ชนดิ ของนมท่ีเหมาะสม การท�าความสะอาดขวดนม และแนะนา� ทา่ ทางในการใหน้ ม • ไม่แนะน�าให้อุ้มกล่อมเด็กจนหลับคามือ ควรวางเด็กลงบน ที่นอนต้ังแต่เด็กเริ่มเคล้ิมเพื่อส่งเสริมให้เด็กกล่อมตัวเอง จนหลับได้ • พดู คุยกบั ลูกเพอ่ื สง่ เสริมพัฒนาการดา้ นภาษา • พ่อแม่ควรแบ่งเวลามาท�ากิจกรรมกับลูกทุกคน และเปิด โอกาสให้พ่ีมสี ่วนรว่ มในการดแู ลนอ้ ง • พอ่ แมค่ วรมีเวลาเปน็ สว่ นตัวบ้าง 6

ป้องกนั อุบตั เิ หตแุ ละลดความเสี่ยง • ช่องซี่ราวเตยี งเด็กหรือเปลต้องห่างไม่เกนิ 6 ซม. ผนังด้าน ศรี ษะและปลายเทา้ ไมม่ รี ชู อ่ งโหวเ่ กนิ กวา่ 6 ซม. เพอื่ ปอ้ งกนั ไม่ให้ล�าตัวลอดตกออกมาไม่ควรมีหมอนหรือตุ๊กตาขนาด ใหญ่บนที่นอนเด็กเพราะอาจกดทับใบหน้าเด็กและท�าให้ หายใจไมอ่ อก แนะน�าให้เด็กนอนหงายหรือนอนตะแคง ไม่ ควรนอนควา่� • อย่าทง้ิ เด็กไวต้ ามลา� พังบนเตยี ง โตะ๊ โซฟา เนอ่ื งจากเดก็ สามารถถีบขาดันกับส่ิงต่างๆ จนเคล่ือนที่ ไปในทิศทาง ตรงขา้ มจึงมโี อกาสตกจากท่ีสูงได้ ถา้ มคี วามจ�าเป็นตอ้ งวาง เด็กบนที่สูงช่วั ขณะ เช่น เพือ่ หยบิ ผา้ อ้อม ผูด้ แู ลต้องเอามือ ขา้ งหน่งึ วางไว้บนตัวเด็กเสมอ • หา้ มจับเดก็ เขยา่ โดยเฉพาะถา้ พอ่ แมห่ งดุ หงดิ กบั การรอ้ งไห้ ของเดก็ • การโดยสารรถยนตอ์ ยา่ งปลอดภยั ควรใชท้ ี่นงั่ นริ ภยั สา� หรับ เด็กทารกโดยติดต้ังท่ีนั่งด้านหลังและหันหน้าเด็กไปทาง ด้านหลงั รถ อยา่ ทงิ้ เด็กไว้ในรถตามลา� พัง 7

กอ่ นกลับ • เปิดโอกาสให้ถามสิง่ ท่ีสงสัย และทบทวนสรุปเร่ืองท่ีพูดคุย หรือแนวทางแก้ไขปญั หาท่ี ได้ในวนั นี้ • ชื่นชมและให้ก�าลังใจท่ีพอ่ แม่ดูแลลกู อยา่ งเหมาะสม • แจ้งวันนัดพบครั้งตอ่ ไป 8

เดก็ วยั 6-12 เดือน ประเมินสุขภาพและปญั หาทว่ั ไป • ทักทายและสอบถามปัญหาหรือ ความกังวล ความเจ็บป่วย การ เปล่ยี นแปลงภายในครอบครัว บทบาท การท�างานและความรับผิดชอบของพอ่ แม่ ความตงึ เครียด ในบ้าน • สอบถามอาการตามระบบ การเจริญเตบิ โต พัฒนาการและ พฤตกิ รรมของเดก็ กจิ วตั รประจา� วนั ของเดก็ เชน่ การกนิ นม การนอน เปน็ ต้น ตรวจรา่ งกาย • สงั เกตปฏสิ มั พันธร์ ะหวา่ งเดก็ กบั พอ่ แม่ สอบถามและสงั เกต พื้นอารมณ์ของเด็ก วิธีการท่ีพ่อแม่ตอบสนองต่อความ ตอ้ งการของเดก็ วิธกี ารจัดการปญั หาท่ีเกดิ ขน้ึ รวมท้ังสอบถาม ความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การเลย้ี งดเู ดก็ ซง่ึ อาจมคี วามขดั แยง้ กนั • ตรวจประเมนิ การเจริญเตบิ โต : ชงั่ นา้� หนกั วดั สว่ นสงู และ บันทึกลงในกราฟการเจริญเติบโต วัดเส้นรอบศีรษะและ คลา� กระหมอ่ มของเดก็ 9

• ตรวจรา่ งกายตามระบบ: รวมทั้งฟงั เสยี งหวั ใจ ตรวจตาเพอื่ ดูการสะท้อนแสงจากจอประสาทตา (red reflex) ตรวจ ภาวะตาเหล่ (strabismus) ตรวจข้อสะโพกเพ่ือคัดกรอง ภาวะข้อสะโพกหลุด ตรวจท้องเพื่อหาความผิดปกติ เช่น ก้อนในช่องท้อง ตรวจอวัยวะเพศโดยเฉพาะภาวะอัณฑะ ไม่เลื่อนลงถุงอัณฑะของเด็กผู้ชายและตรวจ labial adhesion ในเด็กผูห้ ญิง การคดั กรอง • เฝา้ ระวงั และตดิ ตามพัฒนาการ โดยการซกั ถามและสงั เกต พฤติกรรม ดังน้ี เดือน เด็กควรนง่ั เองไดช้ ว่ั ครู่ ใชม้ อื หยิบของ และเปลย่ี น มอื ถอื ของได้ หนั หาเสยี งเรียกชื่อ สง่ เสยี งท่ีมเี สยี งพยญั ชนะ เช่น ปะ มะ เป็นต้น รู้จักคนแปลกหนา้ เดอื น สามารถเกาะยืนได้ ใช้นวิ้ หยบิ ของชิ้นเลก็ ได้ เข้าใจ สหี น้าทา่ ทาง ทา� ตามสัง่ งา่ ยๆ ที่มีท่าทางประกอบได้ เปลง่ เสยี งพยญั ชนะไดห้ ลายเสยี งแตย่ งั ไมม่ คี วามหมาย เชน่ ปาปาปา จะจะจะ เปน็ ต้นเล่นจะ๊ เอ๋ได้ เดอื น ยนื เองไดช้ วั่ ครู่ เดนิ เอง หรือเดนิ โดย จงู มือเดียว หยบิ ของใสถ่ ้วยหรือกล่องได้ พูดคา� ท่ี 10

มคี วามหมายไดอ้ ยา่ งนอ้ ย 1 คา� เรียกพ่อ/แม่ได้ เลียนแบบ ทา่ ทาง โบกมอื ลา สวัสดี ชว่ ยยกแขนขาในเวลาท่ีแตง่ ตัวให้ • คดั กรองพัฒนาการด้วยเครื่องมอื มาตรฐานที่อายุ 9 เดอื น • ประเมินการได้ยินโดยการซักถามหรือใช้อุปกรณ์พิเศษใน กรณที ่ียงั ไมไ่ ดต้ รวจตง้ั แตแ่ รกเกดิ หรือพอ่ แมม่ คี วามกงั วล • ระดับฮีมาโทคริต เพื่อคัดกรองภาวะซีดจากการขาดเหล็ก อยา่ งนอ้ ย 1 ครั้งในช่วงอายุ 6-12 เดอื น วคั ซนี • ทบทวนตารางการให้วคั ซีน • ใหว้ คั ซีนตามอายดุ งั นี้ เดอื น วัคซีนคอตบี ไอกรน บาดทะยกั โปลิโอ และวคั ซนี ตบั อกั เสบบีคร้ังที่ 3 - เดอื น วคั ซนี หัด คางทมู หัดเยอรมัน คร้ังที่ 1 • พจิ ารณาใหว้ คั ซนี เสริมหรอื วคั ซนี ทางเลอื กตามความเหมาะสม แนะน�าพอ่ แม่ การเ ี้ยงด • รัก ดแู ลใกลช้ ิด เอาใจใสต่ ่อตัวเด็ก สังเกตและตอบสนอง ความตอ้ งการอยา่ งเหมาะสม 11

• ควรจับใหเ้ ดก็ ไดเ้ หน็ สงิ่ ตา่ งๆ รอบตวั เลน่ และพดู คยุ กบั เดก็ บ่อยๆ และอ่านหนังสือนิทานท่ีมีรูปภาพให้เด็กฟังเพื่อ ส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษา ให้เด็กคลานหรือเดินบ่อยๆ โดยจัดสภาพแวดล้อมใหเ้ หมาะสม ปลอดภยั • ไมใ่ ห้ดโู ทรทัศน์หรือใชส้ อื่ ผ่านจออิเลก็ ทรอนกิ สท์ ุกประเภท • ท�ากิจกรรมกับลูกทุกคน และเปิดโอกาสให้พ่ีมีส่วนร่วมใน การดูแลนอ้ ง • พ่อแม่ควรมเี วลาเป็นสว่ นตัวบ้าง การ งเ ริม ขุ นิ ัยท่ดี ี • ให้นมแม่อย่างต่อเนื่อง กรณีท่ี ให้กินนมผสม ควรอธิบาย ชนดิ ของนมและปริมาณที่เหมาะสม วิธกี ารท�าความสะอาด ขวดนม ควรให้อาหารตามวัย ดังน้ี อายุ 6 เดอื นควรไดร้ ับ 1 มือ้ 9 เดอื นควรไดร้ ับ 2 ม้ือ และ 12 เดือนควรไดร้ ับ 3 ม้อื อาหารดงั กล่าวควรเป็นอาหารที่มธี าตเุ หลก็ เพียงพอ หรือพิจารณาให้ธาตุเหล็ก • เดก็ วยั นสี้ ามารถนอนตดิ ตอ่ กนั ไดน้ านขน้ึ ควรลดนมในเวลา กลางคืน • ฝึกให้เด็กท�ากิจวัตรประจ�าวันให้เป็น เวลา เช่น การกินอาหาร เข้านอน เป็นต้น 12

• ดแู ลสขุ ภาพฟนั โดยใชผ้ า้ สะอาดชุบนา�้ เชด็ ฟนั และกระพุง้ แกม้ วนั ละ 2 ครั้ง ใหฟ้ ลูออไรด์เสริมถา้ อย่ใู นพนื้ ท่ีมฟี ลูออไรด์ ในนา�้ ดม่ื ตา�่ และไมไ่ ดร้ ับฟลอู อไรดจ์ ากแหลง่ อ่ืน พจิ ารณาสง่ ตอ่ บุคลากรทางทันตกรรมตง้ั แต่อายุ 1 ปีขนึ้ ไป ป้องกนั อบุ ัติเหตแุ ละลดความเส่ียง • ระวังการพลดั ตกจากท่ีสงู และการกระแทก ไม่ควรใช้รถหัด เดินแบบท่ีมลี กู ล้อเพราะมคี วามเสี่ยงต่อการเกดิ อุบตั เิ หตุท่ี เป็นอนั ตราย • เลอื กของเลน่ ที่เหมาะกบั เดก็ ไมค่ วรใหเ้ ดก็ เลน่ ของเลน่ ขนาด เล็กท่ีสามารถอมเข้าปากได้ หรือมีชิ้นส่วนที่อาจหลุดหรือ แตกเป็นชิน้ เล็ก เพราะเด็กอาจสา� ลักลงไปในทางเดนิ หายใจ • อยา่ อมุ้ เดก็ ในขณะที่ถอื ของรอ้ น และควรเกบ็ สายไฟของกานา้� รอ้ นไว้ไกลมอื เดก็ อยา่ วางของรอ้ นบนพน้ื ระวงั อนั ตรายจาก ไฟดดู โดยตดิ ตั้งปลก๊ั สงู จากพื้นอยา่ งน้อย 1.5 เมตร หรือ ใชอ้ ุปกรณ์ ปดิ ปลัก๊ ไฟ • ไมป่ ลอ่ ยใหเ้ ด็กนงั่ เล่นน้�าตามลา� พังแม้เพียงชัว่ ขณะ • การโดยสารรถยนตอ์ ยา่ งปลอดภยั ควรใชท้ ี่นงั่ นริ ภยั สา� หรับ เดก็ ทารก โดยตดิ ตง้ั ท่ีน่ังดา้ นหลังและหันหนา้ ไปด้านหลัง รถ อย่าทิ้งเด็กไว้ในรถตามลา� พัง 13

ก่อนกลบั • เปิดโอกาสให้ถามสิง่ ท่ีสงสัย และทบทวนสรุปเร่ืองท่ีพูดคุย หรือแนวทางแก้ไขปญั หาที่ ได้ในวนั นี้ • ชื่นชมและให้ก�าลังใจท่ีพ่อแม่ดูแลลกู อยา่ งเหมาะสม • แจ้งวันนัดพบครั้งตอ่ ไป 14

เด็กวยั 18 เดอื น ประเมนิ สุขภาพและปญั หาท่วั ไป • ทักทายและสอบถามปัญหาหรือความกังวล ในชว่ งที่ผา่ นมา • วยั นเี้ ริ่มมคี วามเปน็ ตวั ของตวั เอง ประเมนิ วา่ เดก็ มพี ฤตกิ รรม เปลี่ยนแปลงอย่างไร วิธีการส่ือสารของเด็กในสถานการณ์ ตา่ งๆ และพ่อแมต่ อบสนองตอ่ พฤตกิ รรมเหลา่ นอ้ี ยา่ งไร • สอบถามอาการตามระบบ การเจริญเตบิ โตพัฒนาการและ พฤตกิ รรมของเดก็ การเปลย่ี นแปลงภายในครอบครัว ความ ตงึ เครียดในบา้ น ตรวจรา่ งกาย • สงั เกตปฏสิ มั พันธร์ ะหวา่ งเดก็ กบั พอ่ แม่ สงั เกตวิธกี ารท่ีพอ่ แม่ดแู ลเด็กรวมท้ังท่าที น้า� เสยี งที่พ่อแม่ใช้ • ประเมนิ การเจริญเตบิ โต: ชงั่ นา้� หนกั วดั สว่ นสงู วดั เสน้ รอบ ศีรษะ และบนั ทึกลงในกราฟการเจริญเติบโต • ตรวจร่างกายตามระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเร่ือง ฟันผุ ทา่ ยืน ทา่ เดนิ 15

การคัดกรอง • เฝ้าระวงั และติดตามพัฒนาการ โดยซกั ถามรว่ มกับสงั เกต พฤตกิ รรม วยั นค้ี วรพดู เปน็ คา� เด่ียวมคี วามหมาย อยา่ งนอ้ ย 3-6 ค�า ท�าตามค�าส่ังง่ายๆ ที่ ไม่มีท่าทางประกอบได้ ช้ี อวัยวะในรา่ งกายได้ 1 สว่ น เดนิ เกาะราวขึน้ บนั ไดได้ หรือ เด็กบางคนอาจว่ิงได้ จับดนิ สอขีดเสน้ ยุ่งๆ ได้ ถอดกางเกง ไดเ้ อง • ประเมนิ การไดย้ นิ จากพัฒนาการดา้ นภาษาและการสอื่ สาร • คดั กรองความเสย่ี งตอ่ การสมั ผสั โรควณั โรค สารตะกว่ั และ ภาวะไขมันในเลือดสงู โดยการซกั ประวัติ วคั ซนี • ทบทวนตารางการใหว้ คั ซนี • ใหว้ ัคซีนตามอายุดงั น้ี - เดือน วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี 2 เข็มห่างกัน 4 สัปดาห์ 16

เดอื น วคั ซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยกั โปลิโอ ครั้งท่ี 4 • พจิ ารณาใหว้ คั ซนี เสริมหรอื วคั ซนี ทางเลอื กตามความเหมาะสม แนะน�าพอ่ แม่ การเลย้ี งดู • รักและเอาใจใส่ ตอบสนองพอเหมาะตอ่ ตวั เดก็ • ส่งเสริมพัฒนาการทกุ ดา้ น • สร้างกฎกตกิ าใหเ้ หมาะสมตามวยั สง่ เสริมทักษะสา� คญั และสุขนสิ ัยทดี่ ี • แนะน�าเรื่องอาหารเหมาะกับวยั : อาหาร 5 หม่เู ปน็ อาหาร หลกั 3 มอ้ื รว่ มกบั ดมื่ นมรสจดื เปน็ อาหารเสริม มอื้ ละ 6-8 ออนซ์ วนั ละ 2-3 มือ้ ด่ืมนมจากแกว้ หรือกล่อง ไม่ใช้ขวด นมเปน็ ภาชนะ • นอนหลบั พักผอ่ นใหเ้ พียงพอ ประมาณ 10-12 ชม ตอ่ วนั . • สุขภาพชอ่ งปาก ให้แปรงฟันทุกวันอย่างนอ้ ยวนั ละ 2 คร้ัง แนะนา� พบบุคลากรทางทันตกรรมทุกปี • ฝึกระเบียบวินัยในการใช้ชีวิต โดยก�าหนดเวลากินอาหาร นอน เลน่ ให้เปน็ เวลา • ฝกึ ใหเ้ ดก็ มีส่วนร่วมในการชว่ ยเหลือตนเอง เช่น กินอาหาร อาบนา�้ น่งั กระโถน แตง่ ตัว เมือ่ เดก็ ทา� ได้ ควรช่ืนชม การ ลงโทษควรใช้วิธเี พิกเฉยหรือตัดสิทธ์ิ หลีกเลย่ี งการตี 17

ป้องกนั อุบตั เิ หตุและลดความเสยี่ ง • เด็กควรอยู่ในสายตาของผู้เลี้ยงดู จัดบ้านและบริเวณรอบ บา้ นเพอื่ ปอ้ งกนั การพลัดตกหกลม้ การชนกระแทก จมน�า้ ถกู สารพษิ สตั วก์ ดั ความรอ้ นลวก อนั ตรายจากไฟฟา้ และ การถกู รถชน • แนะนา� ใหเ้ ริ่มสอนใหเ้ ดก็ วยั นรี้ จู้ ักหลกี เลย่ี งการเขา้ ใกลแ้ หลง่ น้า� และจุดอันตรายอ่ืนๆ • ไมใ่ หเ้ ดก็ ดโู ทรทัศนห์ รือใชส้ อ่ื ผา่ นจออเิ ลก็ ทรอนกิ สท์ กุ ประเภท • การโดยสารรถยนตอ์ ยา่ งปลอดภยั ควรใชท้ ่ีนงั่ นริ ภยั สา� หรับ เด็กทารก โดยตดิ ต้ังท่ีนงั่ ดา้ นหลังและหันหน้าไปดา้ นหลงั รถ อย่าทงิ้ เด็กไว้ในรถตามลา� พัง กอ่ นกลบั • เปิดโอกาสใหถ้ ามสิง่ ท่ีสงสยั • ชื่นชมและใหก้ า� ลังใจพอ่ แมท่ ่ีฝึกฝนลกู ในทางท่ีเหมาะสม • ทบทวนสรุปเร่ืองที่พูดคุยหรือแนวทางแก้ไขปัญหาท่ี ได้ใน วันน้ี • แจ้งวันนดั พบคร้ังตอ่ ไปท่ีอายุ 2 ปี 18

เด็กวยั 2 »‚ ประเมนิ สขุ ภาพและปัญหาทว่ั ไป • ทักทายและสอบถามปญั หาหรือความ กังวล ความเจ็บป่วย การเปล่ียนแปลงภายในครอบครัว ความตงึ เครียดในบา้ นในช่วงท่ีผ่านมา • วัยนเ้ี ปน็ วัยซุกซน สอบถามเร่ืองอบุ ัตเิ หตุ การเจริญเตบิ โต พัฒนาการและพฤติกรรม โดยเฉพาะดา้ นการสื่อสาร การ ชว่ ยเหลือตนเองในกจิ วตั รประจา� วัน ตรวจร่างกาย • สังเกตปฏิสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับพ่อแม่ สังเกตวิธีการท่ี พ่อแมด่ แู ลเด็กรวมท้ังทา่ ที นา�้ เสยี งท่ีพอ่ แม่ใช้ • ประเมนิ การเจริญเตบิ โต: ชงั่ นา้� หนกั วดั สว่ นสงู วดั เสน้ รอบ ศีรษะ และบนั ทึกลงในกราฟการเจริญเตบิ โต • ตรวจร่างกายตามระบบ เน้นเรื่องฟันผุ เหงือกอักเสบ ประเมินตาเหล่ ตาเข และดบู าดแผลหรือรอยฟกช้า� ตามตัว เพื่อประเมินความปลอดภยั ในการเล้ยี งดู • ติดตามพัฒนาการโดยการซักถามและสังเกตพฤติกรรม 19

วยั นี้ชอบเลน่ เลยี นแบบผู้ใหญ่ เลน่ สมมตุ งิ า่ ยๆ พดู ค�าเดี่ยว อย่างน้อย 50 ค�า เริ่มพูดเป็นวลี 2 ค�าติดกัน ท�าตาม คา� สงั่ 2 ข้นั ตอนได้ วาดเสน้ ตรงแนวนอน เปิดหนังสือได้ ทีละหนา้ เดนิ ขน้ึ และลงบนั ไดไดท้ ีละข้ัน และวิ่งคลอ่ ง การคัดกรอง • ประเมินการไดย้ ินโดยดจู ากพัฒนาการดา้ นการพดู และการ สื่อสาร • ซักประวัติเพื่อคัดกรองความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรควัณโรค สารตะก่วั และภาวะไขมันในเลอื ดสงู วัคซีน • ทบทวนตารางการใหว้ คั ซนี • ใหว้ คั ซีนไขส้ มองอักเสบเจอี ครั้งท่ี 3 (1 ปหี ลังจากไดร้ ับชุดแรก) • พิจารณาให้วัคซีนเสริมหรือวัคซีนทางเลือก ตามความเหมาะสม 20

แนะน�าพอ่ แม่ การเลีย้ งดู • รักและเอาใจใส่ โดยไมต่ ามใจ • เข้าใจอารมณ์และพฤติกรรมเพราะเด็กจะมีความเปน็ ตวั ของ ตัวเองเพิม่ ขึ้น แตพ่ ดู สื่อสารทา� ได้ไม่ดี จึงทา� ใหเ้ ดก็ หงดุ หงดิ งา่ ย แสดงพฤตกิ รรมไมเ่ หมาะสม เชน่ กรีดร้อง/ด้นิ กับพื้น เมอื่ ไม่ไดด้ ั่งใจ • สร้างกฎเกณฑ์กตกิ าใหเ้ หมาะสมตามวยั • ส่งเสริมพัฒนาการทกุ ด้าน โดยเฉพาะทางด้านภาษา ผา่ น การเล่นและการอา่ นนทิ านรูปภาพ สง่ เสริมทกั ษะส�าคัญ • ฝึกให้เด็กช่วยเหลือตนเอง โดยให้ท�าส่ิงต่างๆ ด้วยตัวเอง เพ่ิมขึ้น เช่น ขับถ่ายโดยนั่งกระโถน กินข้าว ถอดกางเกง โดยสร้างแรงจูงใจ ไม่บีบบังคับ และชมเชยเม่ือเด็กท�าได้ แม้วา่ จะไมเ่ รียบร้อยในชว่ งแรก • การฝกึ ระเบียบวินยั ในการใชช้ ีวิต โดยกา� หนดเวลากนิ อาหาร นอน เลน่ ให้เป็นเวลา เมือ่ เดก็ ท�าได้ ควรชื่นชม การลงโทษ ควรใช้วิธเี พิกเฉยหรือตดั สิทธิ์ และหลกี เล่ียงการตี 21

ส่งเสริมสุขนสิ ัยที่ดี • กินอาหาร 5 หม่เู ปน็ อาหารหลัก 3 มือ้ ร่วมกบั ด่มื นมรสจดื เปน็ อาหารเสริม มอ้ื ละ 6-8 ออนซ์ วนั ละ 2-3 มอื้ ดมื่ นม จากแกว้ หรือกลอ่ ง ไมใ่ ช้ขวดนมเปน็ ภาชนะ • นอนหลบั พักผอ่ นใหเ้ พียงพอ ประมาณ 10-12 ชม. ต่อวนั • ส่งเสริมให้ออกกา� ลังกายกลางแจง้ • ฝกึ ใหแ้ ปรงฟันเองดว้ ยยาสฟี นั ทกุ วนั โดยวิธี “สครับ” และ ผปู้ กครองแปรงซา้� และสง่ พบบคุ ลากรทางทันตกรรมทกุ ปี ป้องกนั อุบตั ิเหตแุ ละลดความเส่ยี ง • การใชส้ อ่ื ผา่ นจออเิ ลก็ ทรอนกิ สท์ กุ ชนดิ รวมแลว้ ไมเ่ กนิ 1-2 ช่ัวโมงต่อวัน ควรเลือกรายการให้เหมาะกบั เดก็ และนง่ั ดู รว่ มกนั เพอ่ื ใหม้ ปี ฏสิ มั พันธ์ พดู คยุ ชี้แนะ ระหว่างผู้เล้ียงดู กบั เด็ก • ผู้เล้ียงดูควรดูแลใกล้ชิด จัดบ้านและ บริเวณรอบบา้ นให้ปลอดภยั เช่น ตู้วาง ของต้องวางมั่นคง ไม่ล้มง่ายเม่ือเด็ก โหนหรือปนี ปา่ ย ตรวจสอบความมั่นคง 22

ของประตูรั้วบ้าน เก็บสารมีพิษให้พ้นสายตา หากเด็กกิน สารพษิ ใหต้ ิดตอ่ ศูนยพ์ ษิ วิทยาหมายเลข 0 2201 1083, 0 2246 8282 • แนะนา� ใหเ้ ร่ิมสอนใหเ้ ดก็ วยั นร้ี จู้ ักหลกี เลย่ี งการเขา้ ใกลแ้ หลง่ นา้� และจุดอนั ตรายอื่นๆ ไมใ่ หเ้ ลน่ กบั สนุ ขั จรจัด และลกู สนุ ขั แรกเกิดที่มแี มอ่ ยดู่ ว้ ย ไมใ่ ห้รังแกสัตว์ • แนะน�าการใช้หมวกนริ ภัยและที่นั่งนริ ภยั เมื่อต้องโดยสาร ยานพาหนะ กอ่ นกลับ • เปดิ โอกาสให้ถามสงิ่ ท่ีสงสยั • ชื่นชมและใหก้ า� ลังใจพ่อแม่ท่ีฝกึ ฝนลูกในทางท่ีเหมาะสม • ทบทวนสรุปเรื่องที่พูดคุยหรือแนวทางแก้ไขปัญหาท่ี ได้ใน วนั นี้ • แจ้งวนั นัดพบคร้ังต่อไปที่อายุ 3 ปี 23

เด็กวยั 3-5 ปี ประเมินสขุ ภาพและปญั หาท่วั ไป • ทักทายและสอบถามปญั หาหรือความกงั วล ความเจ็บปว่ ย การเปล่ียนแปลงภายในครอบครัว ความตึงเครียดในบ้าน ในช่วงท่ีผา่ นมา • สอบถามอาการตามระบบ การเปลยี่ นแปลงภายในครอบครัว ความตงึ เครียดในบ้าน • สอบถามการเจริญเติบโต พัฒนาการและพฤตกิ รรม โดย เฉพาะด้านการสื่อสาร การช่วยเหลือตนเอง และกิจวัตร ประจา� วนั ตรวจร่างกาย • สังเกตปฏิสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับพ่อแม่ สังเกตวิธีการท่ี พอ่ แม่ดูแลเดก็ รวมท้ังทา่ ที น้า� เสยี งท่ีพอ่ แม่ใช้ 24

• ตรวจประเมิน: การเจริญเติบโดยการประเมินสัดส่วนของ น้�าหนักต่อส่วนสูง ช่ังน�้าหนัก วัดส่วนสูงและบันทึกลงใน กราฟการเจริญเติบโต วัดความดนั โลหติ • ตรวจรา่ งกายตามระบบ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ เร่ือง ฟนั ผุ แผน่ คราบฟัน สขี องฟนั และสขุ ภาพเหงือก เหงอื กอกั เสบ การคัดกรอง • เฝา้ ระวงั และตดิ ตามพัฒนาการ โดยการซกั ถาม และสงั เกต พฤติกรรม: 3 ปี ชว่ ยตวั เองในกจิ วตั รประจา� วนั ไดด้ ี และชอบเลน่ สมมติ เลน่ ร่วมกบั ผู้อื่น บอกชื่อตวั เองและเพศของตนเอง บอก ความตอ้ งการได้ เดนิ ขน้ึ บนั ไดสลบั เทา้ ขี่จักรยาน วาดรปู วงกลมตามแบบ 4 ปี พูดได้ชัด บอกช่ือ-นามสกุลของตนเอง รจู้ ักสี 4 สี วาดรูปส่ีเหลย่ี มจัตุรัสได้ แตง่ ตวั ได้เอง คงสมาธิในการ ฟงั นทิ านไดด้ ี รจู้ ักรอคอย เลน่ สมมตไิ ด้ • ตรวจวดั สายตาโดยใช้ picture tests (1 ครั้งในชว่ งอายุ 3-6 ปี) • ประเมนิ การไดย้ นิ โดยดจู ากพัฒนาการการพดู และการสอ่ื ภาษา รวมทั้งการสงั เกตความชัดของค�าพดู ของเดก็ (1 ครั้งในชว่ งอายุ 3-6 ป)ี 25

• ตรวจดฟู ันผุ แผ่นคราบฟัน สีของฟัน และสุขภาพเหงือก เช่น เหงือกอกั เสบ • ตรวจคัดกรองภาวะซีดโดยวัดระดับฮีโมโกลบินหรือ ฮมี าโทคริต (1 ครั้งในชว่ งอายุ 3-6 ป)ี • ซักประวัติเพ่ือคัดกรองความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรควัณโรค สารตะกว่ั และภาวะไขมันในเลือดสูง วคั ซีน • ทบทวนตารางการให้วคั ซีน • ใหว้ ัคซีนตามอายดุ งั น้ี วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลโิ อ คร้ังที่ 5 (1 คร้ังในชว่ งอายุ 4-6 ปี) วคั ซนี โรคหดั คางทมู หัดเยอรมนั คร้ังท่ี 2 (1 ครั้งในช่วงอายุ 4-6 ป)ี • พจิ ารณาใหว้ คั ซนี เสรมิ หรอื วคั ซนี ทางเลอื กตามความ เหมาะสม แนะน�าพอ่ แม่ การเลย้ี งดู • รัก ใกลช้ ิดและไม่ตามใจ เป็นแบบอย่างที่ดี 26

ให้ลูก ส่ือสารเชิงบวก ไม่พูดค�าหยาบคาย ใจเย็นรอคอย ควบคุมอารมณ์ได้เวลาไมพ่ อใจ ส่งเสริมพัฒนาการทุกด้าน • สง่ เสริมให้เดก็ เปน็ ตัวของตัวเอง เช่น ชว่ ยตวั เอง มสี ว่ นรว่ ม ในการคดิ เลือก และตดั สินใจในบางเร่ือง ให้เรียนรู้โดยใช้ วิธีลองผิดลองถกู เด็กจะภาคภมู ิใจเม่ือทา� ได้ส�าเรจ็ • สรา้ งกฎเกณฑก์ ตกิ าใหเ้ หมาะสมตามวยั และจัดระเบียบวินยั ในกจิ วตั รประจา� วัน • เนน้ การคดิ ดี ท�าดี คอื ช่วยตัวเองและช่วยคนในบา้ น พดู ด้านดีเชงิ บวก • ให้เวลาฝกึ ฝนเด็กให้เกดิ ความสามารถหลายดา้ น เชน่ ใหร้ ับ ผิดชอบ ทา� งานบ้าน จัดกระเป๋า เปน็ ตน้ อย่าเน้นดา้ นการ เรียนเพียงอยา่ งเดียว ควรช่ืนชมเมอ่ื เดก็ ทา� ได้ การลงโทษ ควรใชว้ ิธีเพิกเฉยหรือตัดสทิ ธ์ิ และหลีกเลีย่ งการตี สง่ เสริมทักษะส�าคัญ • สง่ เสริมการอา่ นหนงั สอื นทิ าน ทา� กจิ กรรมวาดรปู เลน่ รว่ ม กบั คนอ่ืน และออกกา� ลงั กายกลางแจ้ง • เริ่มฝกึ ควบคมุ ความโกรธเบ้ืองตน้ ชว่ ยใหเ้ ดก็ เลา่ เรื่องท่ีท�าให้ ไม่พอใจ โกรธ เสียใจ หงุดหงิด ดี ใจ และการปรับตัวให้อยู่ รว่ มกนั กบั พี่นอ้ ง เพื่อนๆ ได้อย่างสนั ติ 27

• ฝกึ ใหช้ ว่ ยเหลอื งานบา้ นงา่ ยๆ เชน่ เกบ็ ของเลน่ ของใช้ ใหร้ ับผิดชอบตนเอง • ฝึกระเบียบวินัยในกิจวัตรประจ�าวัน เช่น กา� หนดเวลากิน นอน เลน่ ให้เป็นเวลา • ส่งเสริมให้พี่น้องเล่นด้วยกัน ช่วยเหลือกัน และกนั ปรับตวั เขา้ หากนั สง่ เสริมสุขนสิ ยั ทด่ี ี • อาหาร 5 หมเู่ ปน็ อาหารหลกั 3 มอ้ื รว่ มกบั ดมื่ นมรสจดื เปน็ อาหารเสริม หลกี เลยี่ งอาหารรสหวาน แปรงฟนั ดว้ ยยาสฟี นั วันละ 2 คร้ังและผปู้ กครองแปรงซ้�า และสง่ พบบุคลากร ทางทันตกรรมทกุ ปี • นอนหลบั พักผ่อนใหเ้ พียงพอ ประมาณ 8-10 ชม. ต่อวนั • ฝกึ ให้ขับถา่ ยเปน็ เวลา โดยชว่ ยตัวเองให้มากที่สุด • เน้นการออกก�าลังกายกลางแจง้ ป้องกนั อุบตั ิเหตุและลดความเส่ียง • การใชส้ อ่ื ผา่ นจออเิ ลก็ ทรอนกิ สท์ กุ ชนดิ รวมแลว้ ไมเ่ กนิ 1-2 ชวั่ โมงตอ่ วนั ควรเลอื กรายการใหเ้ หมาะกบั เดก็ และนงั่ ดรู ว่ ม กนั เพอื่ ใหม้ ปี ฏสิ มั พันธ์ พดู คยุ ชี้แนะ ระหวา่ งผเู้ ลย้ี งดกู บั เดก็ 28

• ใหผ้ เู้ ลย้ี งดคู วรดแู ลใกลช้ ดิ จัดบา้ นและบริเวณรอบบา้ นเพอ่ื ป้องกันอันตราย จากการพลัดตกหกล้ม การชนกระแทก การจมน้�า สารพษิ สตั ว์กดั ความร้อนลวกและอันตรายจาก ไฟฟา้ เกบ็ สงิ่ ของอนั ตราย เชน่ ปนื สารเคมี ยา ในท่ีปลอดภยั ให้พน้ สายตาและมอื เด็ก • ห้ามเด็กข้ามถนนโดยล�าพัง สอนให้หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ แหล่งน้�าและจุดอันตรายอ่ืนๆ ฝึกสอนทักษะการลอยตัว และวา่ ยน�้าระยะสั้น • สอนใหร้ ะวงั ภยั จากคนแปลกหนา้ และวิธกี ารแก้ไขสถานการณ์ งา่ ยๆ • แนะน�าการใช้หมวกนริ ภัยและท่ีน่ังนริ ภัยเมื่อต้องโดยสาร ยานพาหนะ ก่อนกลับ • เปิดโอกาสให้ถามสง่ิ ที่สงสยั และทบทวนสรุปเรื่องที่พูดคยุ หรือแนวทางแก้ไขปญั หาท่ี ได้ในวันน้ี • ชื่นชมเด็กที่แสดงความสามารถได้ และให้ก�าลังใจพ่อแม่ที่ ฝกึ ฝนลกู ในทางท่ีเหมาะสม • แจง้ วนั นดั พบคร้ังตอ่ ไป ท่ีอายุ 6 ปี 29

เดก็ วยั 6-10 »‚ ประเมนิ สขุ ภาพและปญั หาทว่ั ไป • ทักทายและสอบถามปญั หาหรือความกงั วลท่ีมี ในชว่ งที่ผา่ น มา • ทบทวนความเจ็บปว่ ยที่ผ่านมา การเข้าเรียนระดบั ประถม ศกึ ษา การดา� เนนิ ชีวิต เพอ่ื น ปฏิสมั พันธ์กบั พอ่ แม่ ครู • สอบถามอาการตามระบบ การเจริญเตบิ โตและพัฒนาการ ตามวัย ความเครียด การเปล่ยี นแปลงภายในครอบครัว • ประเมนิ พฤตกิ รรม การใหค้ วามรว่ มมอื ความรับผิดชอบตอ่ ตนเอง ครอบครัว และที่โรงเรียน 30

ตรวจรา่ งกาย การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตปฏสิ มั พันธ์ระหวา่ งเดก็ กบั พอ่ แม่ หรือผู้เล้ยี งดู • ชง่ั นา้� หนัก วดั สว่ นสูง ประเมนิ สดั สว่ นของน�า้ หนักตอ่ สว่ น สูง วดั ความดันโลหติ ลงขอ้ มูลในตาราง growth chart • ตรวจรา่ งกายตามระบบ ดรู ่องรอยการถูกทา� ร้าย รอยด�า ด้านหลงั คอในกรณอี ว้ น • ตรวจสขุ ภาพชอ่ งปาก ฟัน และการสบกนั ของฟนั • ประเมินการเปลีย่ นแปลงทางรา่ งกายเขา้ สวู่ ยั หน่มุ สาว • ประเมนิ พฤตกิ รรม ความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว การเรียนและความสมั พันธก์ บั เพ่อื นที่โรงเรียน การคัดกรอง • ตรวจสายตาโดยใช้เคร่ืองมือ เช่น Snellen test หรือ E-chart ถา้ การมองเหน็ ท่ีอยตู่ ัง้ แต่ 20/40 หรือ 6/12 ขนึ้ ไปอยา่ งนอ้ ยหนึ่งข้าง ควรสง่ ตอ่ จักษแุ พทย์ (1 ครงั้ ทช่ี ว่ งอายุ 3-6 ปี และตดิ ตามทอ่ี ายุ 8 ปแี ละ 10 ป)ี • ตรวจการได้ยินโดยการซักถามและใช้เทคนิค ก า ร ต ร ว จ อ ย ่า ง ง ่า ย โ ด ย ใช ้นิ้ว หัว แ ม ่มือ แ ล ะ น้ิว ชี้ ถูกันเบาๆ ห่างจากรูหูประมาณ 1 นวิ้ ตรวจหทู ีละขา้ ง ถ ้ า ข ้ า ง ใ ด ไ ม ่ ไ ด ้ ยิ น เ สี ย ง ให ้ ส ง สั ย ว ่ า หู ข ้ า ง น้ั น มี 31

ความผิดปกติ สาเหตุที่พบบ่อยคือ ขี้หูอุดตนั และหชู นั้ กลางอกั เสบ (1 คร้ังท่ีช่วงอายุ 3 -6 ปี) • ตรวจค่าความเข้มข้นเลือด เพื่อคัด กรองภาวะซีด ถ้าค่าฮีมาโทคริต Hct < 35 % หรือ ฮโี มโกลบิน: Hb < 11.5 g/dl เดก็ ควร ไดร้ ับการรักษาหรือสง่ ตอ่ (1 ครั้งท่ีชว่ งอายุ 3 -6 ป)ี และ ติดตามเป็นระยะในเด็กที่มีความเสี่ยง เช่น น้�าหนักตัวต่�า กว่าเกณฑ์ • วัดระดับตะก่ัว หรือไขมันในเลือด หรือทดสอบวัณโรค ในกรณีที่มขี อ้ บง่ ช้ี วัคซนี • ทบทวนตารางการใหว้ คั ซีน • ให้วัคซนี ตามอายดุ ังนี้ วัคซีน คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอคร้ังที่ 5 (1 ครงั้ ในชว่ งอายุ 4-6 ป)ี หดั หดั เยอรมนั คางทมู ครงั้ ที่ 2 (1 ครงั้ ในชว่ งอายุ 4-6 ป)ี • พิจารณาให้วัคซีนเสริมหรือวัคซีนทางเลือกตามความ เหมาะสม 32

แนะนา� พอ่ แม่ การเลยี้ งดู • รัก เอาใจใสต่ อ่ ตวั เดก็ ตอบสนองพอเหมาะ ไมต่ ามใจ ตดิ ตาม การปรับตวั ท่ีโรงเรียน • ปรับกฎเกณฑ์กติกาให้เหมาะสมตามวัยและให้ใกล้เคียง โรงเรียน • ให้ช่วยตนเองและผู้อ่ืน ให้ท�างานบ้าน เพิ่มความสามารถ ในการแก้ปญั หา • ฝึกใหเ้ ด็กคิดดี พูดดีด้านบวก ทา� ดี โดยส่งเสริมใหเ้ ด็กเปน็ ตัวของตัวเองมากขึ้น สง่ เสริมทักษะสา� คัญ • ฝกึ ความรับผิดชอบตอ่ ตนเอง ของใช้ ใหช้ ว่ ยงานบา้ นและรับ ผิดชอบงานที่ โรงเรียน • ฝึกเร่ืองความอดทน อดกลั้น การตรงเวลา รักการอ่าน หนงั สอื • ให้เผชิญสภาพแวดล้อมหลายแบบเพื่อให้เด็กปรับ ตวั และเพิม่ ความสามารถในการแกป้ ญั หา ส่งเสริมสุขนสิ ยั ท่ีดี • อาหารใหค้ รบ 5 หมู่ หลกี เลยี่ งอาหารหวาน เคม็ และไขมนั สงู 33

• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 8-10 ชม. ต่อวนั • ออกกา� ลงั กายสมา่� เสมอทกุ วนั หรือ มีกิจกรรมท่ีออกแรงอย่างน้อย 30 นาทีตอ่ วนั • สนบั สนนุ ชว่ ยเหลอื ดา้ นการเรียน ให้แบ่งเวลาเรียนใหเ้ หมาะสม แนะวิธจี ัดการความเครียด • แปรงฟนั และใช้ไหมขดั ฟัน พบบคุ ลากรทางทันตกรรมปีละ 1-2 ครั้ง โรงเรียนและการเรียน • ตดิ ตามการบา้ น สง่ เสริมทักษะด้านการอ่าน เขียนหนังสือ และการคดิ ค�านวณ สรา้ งนสิ ยั ชอบคน้ ควา้ หาความรจู้ ัดหาที่ สงบให้เดก็ ไดท้ �าการบ้านและทบทวนแบบเรียน • พจิ ารณาแผนการเรียนรเู้ ฉพาะบคุ คลในรายที่มปี ญั หาความ พกิ าร • ฝกึ ใหเ้ ลน่ เปน็ หลายดา้ น เปดิ โอกาสไดเ้ ลน่ กฬี ากบั เพอื่ น สง่ เสริมการคบเพ่ือนหลายกลมุ่ • สง่ เสริมการปรับตวั ในหลายสถานการณ์ พัฒนาความสามารถ รอบด้าน การท�ากิจกรรมทั้งในและนอกหลักสูตร • ปลูกฝงั การมจี ิตสาธารณะ ช่วยเหลอื ผอู้ ่ืน 34

ป้องกนั อบุ ตั ิเหตแุ ละลดความเส่ียง • การใชส้ อ่ื ผา่ นจออเิ ลก็ ทรอนกิ สท์ กุ ชนดิ รวม แล้วไม่เกิน 1-2 ช่ัวโมงต่อวัน โดยเลือก รายการใหเ้ หมาะสมกบั วยั นงั่ ดรู ว่ มกบั เดก็ และมกี ารพดู คยุ ช้ีแนะ ควรใชเ้ วลาสว่ นใหญ่ ทา� กิจกรรมอื่นๆ ร่วมกบั เด็ก • สอนทักษะความปลอดภยั ทางนา้� โดยใหร้ จู้ ักหลกี เลยี่ งแหลง่ นา�้ ท่ีมคี วามเสยี่ ง ฝกึ ลอยตัวและว่ายนา�้ ระยะสน้ั ใชช้ ูชีพเม่ือ ตอ้ งเดินทางทางน�้า ชว่ ยเหลอื ผ้จู มนา้� โดยการตะโกน • ฝกึ ใหข้ ่ีจักรยานเมอ่ื อายมุ ากกวา่ 5 ปี อยา่ งถกู วิธแี ละปลอดภยั (ขี่จักรยานริมทาง ขับไม่สวนทาง ท�าตามกฎจราจร) และ ไมใ่ หเ้ ด็กโดยสาร นงั่ หรือยนื ดา้ นหลังรถกระบะ เด็กที่อายุ น้อยกว่า 9 ปี ต้องใชท้ ่ีนัง่ เสริมใหส้ ูงพอท่ีจะใช้เข็มขัดนริ ภัย • แนะนา� การใชห้ มวกนริ ภยั เมอ่ื โดยสารรถจักรยานยนต์ และ ใช้ที่นั่งนริ ภัยหรือเขม็ ขัด (> 9 ปี) เมื่อโดยสารรถยนต์ • ไมป่ ลอ่ ยใหเ้ ดก็ อยกู่ บั คนแปลกหนา้ ตามลา� พัง และสอนเดก็ ให้ไม่รับของหรือไปกับคนแปลกหน้า ให้อยู่ในบริเวณท่ี ปลอดภยั ที่ถกู กา� หนดไว้ • หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ โดยสอนเด็กที่เริ่มเป็น หนมุ่ เปน็ สาวใหห้ ลกี เลย่ี งการคบหากบั ผู้ใหญห่ รือ เพื่ อ น ต ่ า ง เพ ศ ท่ี บ อ ก ให ้ เ ด็ ก พู ด โก ห ก เรื่องความสัมพันธ์ต่อพ่อแม่ หรือผูป้ กครอง 35

• สอนให้เด็กป้องกันตัวและบอก เม่ือมีผู้อ่ืนมากระท�าหรือ ปฏบิ ตั ิโดยมิชอบตอ่ รา่ งกาย • แนะน�าเร่ืองโทษของ เหล้า บุหร่ี และสารเสพติด กอ่ นกลับ • เปิดโอกาสให้ถามสงิ่ ที่สงสยั • ชื่นชมความสามารถของเด็กในระหวา่ งการประเมนิ • ชื่นชมและใหก้ �าลังใจพ่อแม่ท่ีฝึกฝนลูกในทางท่ีเหมาะสม • ทบทวนสรุปเรื่องท่ีพูดคุยหรือแนวทางแก้ไขปัญหาท่ี ได้ใน วันนี้ • แจ้งวนั นัดพบครั้งตอ่ ไปท่ีอายุ 8 ปีและ 10 ปี 36

วยั รนุ่ (11-21 ป)ี วัยรุ่น 3 ช่วงได้แก่ วัยรุ่น ตอนตน้ (11-14 ป)ี ตอนกลาง (15-17 ป)ี และตอนปลาย (18-21 ป)ี สามารถ ให้การดูแลสุขภาพคล้ายๆ กัน จึงขอ กลา่ วโดยรวมดงั น้ี ประเมนิ สขุ ภาพและปญั หาท่ัวไป • ทักทายและสอบถามปัญหาหรือความกังวลในชว่ งท่ีผ่านมา • ทบทวนความเจบ็ ปว่ ยท่ีผ่านมา การเรียน การด�าเนนิ ชีวิต เพอื่ น ปฏิสมั พันธก์ บั พอ่ แม่ ครู • สอบถามอาการตามระบบ การเจริญเตบิ โตและพัฒนาการ ตามวยั ความเครียด การเปลยี่ นแปลงของรา่ งกาย อารมณ์ ความคิด จิตใจ และการเปลย่ี นแปลงในครอบครัว ประเมนิ ความเสีย่ ง • ซักถามวัยรุ่นตามล�าพัง เก่ียวกับความสัมพันธ์ภายในบ้าน การกินอาหาร การเรียนหรือการงาน กิจกรรมและเพื่อน 37

การใช้ยาหรือสารเสพติด พฤติกรรมทางเพศ อารมณ์และ ความรู้สกึ เศร้า ความร้สู กึ อยากทา� รา้ ยตัวเอง ความรุนแรง และความปลอดภยั รวมท้ังประเมนิ ความรุนแรงของปญั หา ท่ีพบ (HEEADSSS: Home, Eating/Education/Employment, Activity and friends, Drugs, Sexuality, Suicidal ideation/mood, Safety and violence) ตรวจรา่ งกาย • ชงั่ นา�้ หนกั วัดส่วนสงู วัดความดนั คา� นวณค่า ดชั นมี วลกาย (BMI) ลงขอ้ มูลในตาราง growth chart • ตรวจร่างกายตามระบบ ดูร่องรอย สิว รอยสัก รอยเจาะ รอ่ งรอยการถกู ท�าร้าย รอยด�าดา้ นหลงั คอในกรณีอ้วน • กระดกู สนั หลงั : ดูการโค้งงอของสนั หลัง(scoliosis) โดย ใช้ Adam’s Forward bending test • ดูการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเข้าส่วู ัยหน่มุ สาว • ตรวจหน้าอก ดูการเปลี่ยนแปลงของเตา้ นมท้ังหญงิ ชาย • อวัยวะเพศ 38

หญงิ : ดลู กั ษณะขนหัวหน่าว (SMR) อาการบง่ ช้ีว่าติดเชื้อ, ตรวจภายใน กรณมี ตี กขาว หรือเลอื ดออกผิดปรกติ เปน็ ตน้ ชาย : ดขู นาดของอัณฑะและขนหวั หนา่ ว (SMR) อาการบ่ง ช้ีวา่ ตดิ เชื้อ ภาวะไสเ้ ลอื่ น ถงุ นา้� กอ้ น เสน้ เลอื ดขอด เปน็ ตน้ การคัดกรอง • ตรวจสายตาโดยใชเ้ คร่ืองมือ เช่น การใช้ Snellen chart ถา้ การมองเหน็ ต้ังแต่ 20/40 หรือ 6/12 ข้ึนไปอย่างนอ้ ย หน่งึ ข้างควรส่งพบจักษุแพทย์ • ตรวจการไดย้ นิ โดยการซกั ถามและใชเ้ ทคนคิ การตรวจอยา่ ง งา่ ยโดยใชน้ วิ้ หวั แมม่ อื และนวิ้ ชี้ถกู นั เบาๆ หา่ งจากรหู ปู ระมาณ 1 นว้ิ ตรวจหทู ีละข้าง (1 ครั้งท่ีช่วงอายุ 11-21 ปี) • ตรวจค่าความเข้มข้นเลือด เพ่ือคัดกรองภาวะซีด ในวัยรุ่น หญงิ ท่ีมปี ระจา� เดอื นหรือขาดอาหาร หรือรับประทานมงั สวิรัติ ถา้ ค่าฮมี าโทคริต Hct < 35 % หรือ ฮโี มโกลบิน: Hb < 11.5 g/dl ควรได้รับการรักษา หรือสง่ ต่อ (1 คร้ังที่ช่วงอายุ 11 -21 ปี) • วดั ระดบั ตะกัว่ หรือไขมันในเลือด หรือทดสอบวัณโรค ใน กรณที ี่มีข้อบ่งชี้ • ตรวจหาโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ในกรณที ี่มีขอ้ บง่ ช้ี 39

วัคซีน • ทบทวนตารางการให้วคั ซนี • ใหว้ คั ซีนตามอายุดงั นี้ อายุ 11 ปี ฉีดวัคซีน คอตีบ บาดทะยกั และให้ซา�้ ทกุ 10 ปี • พจิ ารณาใหว้ คั ซนี เสริมหรอื วคั ซนี ทางเลอื กตามความเหมาะสม ค�าแนะน�า การเล้ยี งดู • ทา� ความเขา้ ใจพัฒนาการของวยั รนุ่ ท่ีมกี ารเปลย่ี นแปลง ทกุ ดา้ น รบั ฟงั เขา้ ใจความคดิ ความรสู้ กึ สง่ เสริมให้ แสดงความคิดเห็นของตนเอง รวมท้ังอธิบายให้ วยั รนุ่ เขา้ ใจสง่ิ ท่ีเกดิ ขน้ึ กบั ตวั เอง • เปน็ แบบอยา่ งที่ดี เปน็ ท่ีปรึกษาและช้ีแนะวยั รนุ่ ไดเ้ หมาะสม ปลูกฝงั การมจี ิตสาธารณะ • ปรับกตกิ าในบา้ นใหเ้ หมาะสมกบั วยั รุน่ มอบงานที่เหมาะสม ให้รับผิดชอบ • สนบั สนนุ เรื่องเรียนและการทา� กจิ กรรมตา่ งๆ ยามวา่ ง เพอื่ ใหม้ ีประสบการณ์ • ส่งเสริมให้เป็นตัวของตัวเอง แต่พร้อมขัดขวางถ้าวัยรุ่นท�า พฤตกิ รรมเสย่ี งหรือไม่เหมาะสม 40

ส่งเสริมสุขนสิ ัยทีด่ ี • นอนหลบั พักผอ่ นให้เพียงพอ ประมาณ 8-10 ชม.ตอ่ วัน • อาหารใหค้ รบ 5 หมู่ ไดแ้ คลเซยี ม 1,000-1,300 มก. ตอ่ วนั รวมท้ังไดพ้ ลงั งานท่ีพอเพียงตอ่ วนั สา� หรับวยั รุน่ หญงิ 1,600- 1,800 กโิ ลแคลอรี วัยรุ่นชาย 1,800-2,200 กโิ ลแคลอรี • ออกก�าลังกายสม�่าเสมอทุกวันหรือมีกิจกรรมท่ีออกแรง อย่างน้อย 1 ชม.ตอ่ วัน ใช้เวลากบั สื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์ หรือ คอมพวิ เตอร์ไม่ควรเกนิ 2 ชม.ต่อวัน • สนบั สนนุ ชว่ ยเหลอื ดา้ นการเรยี น ใหแ้ บง่ เวลาเรยี นใหเ้ หมาะสม แนะวิธจี ัดการความเครียด • แปรงฟนั และใช้ไหมขดั ฟนั พบบคุ ลากรทางทันตกรรม ปลี ะ 1-2 ครั้ง แนวทางลดความเส่ียง • ให้ความรู้เร่ืองเพศศึกษา สอนให้งดหรือหลีกเลี่ยงการมี เพศสัมพันธ์ ส�าหรับผู้ที่มีความเส่ียงเรื่องเพศให้แนะน�าวิธี ปอ้ งกนั การต้ังครรภ์และการตดิ เชื้อทางเพศสัมพันธ์ • งดหรือหลกี เลย่ี งการสบู บหุ ร่ี ดม่ื แอลกอฮอลแ์ ละใชส้ ารเสพ ตดิ ทกุ ชนดิ กรณที ี่ใชอ้ ยแู่ นะนา� ใหล้ ดการใชแ้ ละปอ้ งกนั ภาวะ แทรกซอ้ นที่อาจเกิดขนึ้ ได้ • หลกี เลย่ี งสถานการณอ์ นั ตรายตอ่ การถกู ทา� รา้ ย 41

หรือถูกลว่ งละเมดิ ฝึกการปฏิเสธและการแก้ปญั หาเฉพาะ หนา้ ในสถานการณท์ ี่เสย่ี งสงู ไมใ่ ชค้ วามรุนแรงเพอ่ื แกป้ ญั หา • สง่ เสริมการปฏบิ ตั ติ ามกฏจราจร สวมหมวกนริ ภยั หรือคาด เข็มขัดนริ ภัยทกุ คร้ังท่ีขับข่ี ก่อนกลับ • เปดิ โอกาสใหถ้ ามส่งิ ที่สงสัย • ทบทวนสรุปเร่ืองที่พูดคุยหรือแนวทางแก้ไขปัญหาที่ ได้ใน วนั น้ี • แจง้ วันนดั พบครั้งตอ่ ไป • ใหเ้ บอร์โทรศพั ทต์ ดิ ตอ่ แก่วัยรุน่ กรณีมีปญั หาหรือข้อสงสัย 42

เก ั นาการตามชว งวยั องเดก็ ป มวยั มาตร าน ราชวทิ ยา ยั กมุ ารแ ทยแหง ประเทศไทย ศ 2557 เก พ ั นาการของเด็กป มวัย (0-6 ป) น้ี จัดทาขน้ โดยค ะกรรมการ กอบรมและ สอบ อนสุ าขาพั นาการและพ ตกิ รรม รว มกบั ชมรมพั นาการและพ ตกิ รรมเดก็ แหง ประเท ไทย า น ความเหน็ ชอบของค ะกรรมการบรหิ ารราชวทิ ยาลยั กมุ ารแพทยแ หง ประเท ไทย พ 2 เพอื่ ใชเ ปน เก อางองิ เบ้อื งตน สาหรบั เดก็ ทว่ั ไปวา เด็กสามาร ทาอะไรไดในแตล ะชว งวัย ซง่ อาจมีทกั ะบางอยา ง ทเี่ ดก็ ปกตจิ านวนหนง่ ทาไดเ รว็ หรอื ชา กวา เก น เี้ ลก็ นอ ย เก พ ั นาการของเดก็ ป มวยั ชดุ นจี้ งไมใ ช เครอื่ งมือที่ใชในการวินจิ ฉัยปญหาดานพั นาการของเดก็ อายุ ั นาการ 1 เดือน (GM) ยกคางจากท่นี อนชว่ั ครใู นทานอนคว่า (FM) มองตามวัต ุได งกง่ กลางลาตัว (PS) จองหนา EL: รองไห RL: ตอบสนองตอเสยี งที่ไดยินโดยการสะดุง หรอื เบงิ่ ตามอง 2 เดอื น (GM) ชนั คอ 4 อง าในทานอนคว่า (FM) มองตามวัต ไุ ดขา ม านก่งกลางลาตวั (PS) ยมิ้ และสบตา EL: สง เสียงในลาคอเชน อู อา RL: ตอบสนองตอเสียงท่ีไดยนิ โดยการกระพรบิ ตา หรอื เงียบเพอ่ื งเสยี งที่ไดย นิ 4 เดือน (GM) ทา นอนควา่ อกพน พนื้ พยงุ ลาตวั ดว ยแขนทอ นลา ง ทา นงั่ ชนั คอไดด ี พลกิ ควา่ หรอื พลกิ หงาย (FM) มองตามวัต จุ ากดานหน่งของลาตัวไป งอกี ดา นหน่ง (180 อง า) ไขวค วา ของใกลต ัว (PS) ต่ืนเตน ดใี จอยา งชดั เจนเม่ือเห็นนมแมห รอื ขวดนม EL: สงเสยี ง อู อา โตตอบเมือ่ มคี นคยุ ดวย หวั เราะ RL: หันหาเสยี ง 43

อายุ ั นาการ 6 เดือน (GM) ดงขน้ นง่ั รี ะไมห อ ย พลกิ ควา่ และพลกิ หงาย ทา นอนควา่ ยกอกและทอ งสว นบนพยงุ ลาตัวดวย ามือ นงั่ ไดโ ดยใชม อื ยันพืน้ (FM) หยบิ ของดวย ามือ (PS) หัวเราะเมื่อ กู เอา า คลมุ รี ะออก เรม่ิ ตดิ แม EL: เลน หรือเลยี นเสียง ไดแก เลยี นเสยี งจุปาก เดาะล้นิ สงเสียงที่ใชอวัยวะในปาก เพอ่ื ให เกดิ เสียงพยญั ชนะ ไดแ ก ปาปา ดาดา RL: หันหาเสียงเรยี กช่อื -8 เดอื น (GM) นง่ั ทรงตวั ไดเองโดยไมตอ งชวยพยงุ (FM) มองตามของตก เปลย่ี นมือ ือของ ใชม อื ือกอนไมข างละกอ น (PS) สนกุ กบั การเลน เมื่อเอา า คลุม ีร ะออก EL: ทาเสยี งพยางคเ ดียวเชน จะ หมา่ RL: มองตามสง่ิ ที่ เู ล้ยี งดูช้ี -10 เดอื น (GM) ลกุ นัง่ จากทานอน, คลาน เหน่ียวตวั ขน้ ยืน, เกาะยนื (FM) ใชนว้ิ ชแี้ ละน้ิวหัวแมมอื หยิบของ (PS) เลนจะเอ, โบกมอื บาย-บาย EL: เลยี นเสียงพูดคยุ เรียก พอ และ แม แตย งั ไมเฉพาะเจาะจง RL: เร่ิมทาตามคาสง่ั งาย ได เชน โบกมอื บายบาย หยดุ การกระทาเมอ่ื ไดย ินคาวา ไม 11-12 เดอื น (GM) ยืนไดเองช่วั ครูห รอื ตง้ั ไข จงู เดนิ (FM) ปลอยของเมือ่ ขอ (PS) เลียนแบบทา ทาง EL: สง เสยี งท่เี ปนเสยี งรมิ ป ากแบบมเี สียงสูงเสียงตา่ เร่มิ เรยี กชอื่ คนใกลช ดิ ท่ีคุนเคย เรียก พอ และ แม แบบเฉพาะเจาะจงได RL: เริ่มเขา ใจความหมายของคาพยางคเ ดียว ตอบสนองตอ คา ามงาย ได เชน แมอ ยู ไหน ลูกบอลอยูไ หน เดก็ อาจมองไปในทิ ทางของของทอี่ ยู 13-1 เดือน (GM) เดินไดเอง (FM) หยิบจบั ดินสอขีดเขียน (PS) ใชทา ทางหรอื ช้บี อกความตอ งการ เรม่ิ ชห้ี รอื ทาทาแสดงบอก งสงิ่ ท่ีตนเองสนใจ EL: พดู คาท่ีมคี วามหมายได 1-3 คา ซ่งเปนคาที่เพม่ิ เตมิ จากคาทใ่ี ชเรียกคนคุน เคยหรอื สัตวเลย้ี งในบา น RL: เมอ่ื บอกใหไ ปหยบิ ของทค่ี นุ เคยจากอกี หอ ง เดก็ เขา ใจและทาได เชน ลกู บอลอยไู หนนะ ไปเอารองเทา เปนตน 44

อายุ ั นาการ 16-18 เดอื น (GM) เกาะราวหรือจูงมือเดินขน้ บันได น่ังบนเกา อ้เี ลก็ ไดม่นั คง (FM) ตอสงิ่ ของในแนวตงั้ ได 2-3 ช้นั ขดี เสน ยุง ไปมา (PS) รูจกั ป เิ ส หยิบอาหารปอนตัวเองได EL: พดู คาทมี่ คี วามหมายเพอ่ื แสดงความตอ งการไดห ลายคา, มคี าพดู รวมโดยเฉลยี่ 10-20 คา RL: ชีอ้ วัยวะไดอ ยางนอ ย 3 สวน (ไดแก ตา จมูก ปาก) เขาใจความหมายของคาประมา 0 คา รูจ ักชอื่ สัตว สงิ่ ของ 1 -24 เดอื น (GM) เตะบอล วงิ่ เดินขน้ บนั ไดโดยกาวเทาตาม (FM) ตอส่งิ ของในแนวตง้ั ได -6 ชิ้น เริ่มเปดหนา หนงั สือไดท ีละหนา (PS) ใชชอ นตกั อาหารกินได EL: พูดไดประมา 0 คา เร่มิ พดู คาทมี่ คี วามหมายสองคาตดิ กัน เชน กินขาว แมอุม RL: ชไ้ี ปยงั สงิ่ ของหรอื รปู าพตามทบ่ี อกไดอ ยา งหลากหลาย ชอี้ วยั วะไดอ ยา งนอ ย 6 สว น 2 -30 เดอื น (GM) กระโดดสองเทา เดินเขยงเทา (FM) ขีดเสนตรงในแนวตง้ั หรอื แนวนอน ขดี เขยี นเปนเสนวน (PS) เลนเลียนแบบและเลน สมมตงิ า ย EL: พูดเปนวลี 2-3 คา หรือเปนประโยคสัน้ มจี านวนคา พั ทรวมประมา 200 คา RL: ทาตามคาส่ังสองขน้ั ตอนได สามาร ตดิ ตาม งเรือ่ งเลาสนั้ ได 31-36 เดือน (GM) ยนื ขาเดยี ว 2-3 วนิ าท,ี ขจี่ กั รยาน 3 ลอ ขน้ บนั ไดเองสลบั เทา ลงบนั ไดโดยกา วเทา ตาม (FM) ตอสิง่ ของในแนวตง้ั ได 8 ชิน้ หรือมากกวา เลยี นแบบการวาดรูปวงกลม (PS) เลนสมมตทิ ีซ่ ับซอ นขน้ เลนกับเด็กอน่ื EL: เรม่ิ เลา เรือ่ งได งเขา ใจแตอาจไมท ้ังหมด บอกเวลาตอ งการขบั าย บอกช่อื ตนเอง เพ หรืออายุ พอได RL: รจู ักสีอยา งนอย 1-2 สี เขาใจคากริยาทแี่ สดงการกระทา ไดแก หมากาลงั วง่ิ เดก็ กาลงั กนิ เขา ใจคาคุ พั ท ไดแ ก รอ น เยน็ เหนอ่ื ย เขา ใจคาบพุ บทงา ย ไดแ ก บน ใน 3 -48 เดอื น (GM) กระโดดขาเดียว ลงบนั ไดสลบั เทา (FM) วาดรปู วงกลมตามแบบ วาดเสน สองเสน ตดั กนั ตามแบบ ( ) ตอ แทง ไม 3 ชน้ิ เปนสะพาน (PS) เลน เกมทมี่ กี ตกิ างา ย กบั คนอนื่ ได รจู กั รอคอย ใสก างเกง และใสเ สอื้ ยดื สวมหวั เองได EL: พดู เลา เรือ่ งเปนประโยคยาว ใหค นอนื่ เขา ใจได บอกสีไดห ลายสี นบั ของทีละชน้ิ ได อยาง กู ตองเรยี งตามลาดบั ของการนบั ประมา -10 ชนิ้ RL: เขาใจประโยคคา ามทซ่ี ับซอ นมากขน้ ไดแ ก อยางไร ทาไม เขา ใจคาสัง่ 3 ขั้นตอน เขา ใจจานวน หน่ง และ หลาย ไดแก หยิบของ 1 ชิน้ หรือหลาย ชิน้ ได ูกตอ ง เขาใจคาบุพบทเพมิ่ เติม ไดแก ดา นหนา ดานขา ง ใต 45

อายุ ั นาการ 4 -60 เดอื น (GM) กระโดดสลบั เทา กระโดดขาเดียว กระโดดขา มสิ่งกีดขวางเตยี้ เดนิ ตอเทา เปนเสนตรง (tandem gait) (FM) วาดรูปส่ีเหลีย่ มตามแบบ วาดรปู คนที่มอี วยั วะ 3 สวนหรือมากกวา เรม่ิ ใชก รรไกร ตดั กระดา (PS) แตงตัวและแปรง นเองไดโดยไมตองชวย EL: คาพดู ชัดเจน งเขา ใจทั้งหมด รจู กั ามความหมายของคาหรอื วลีทไี่ มเ ขาใจ เรมิ่ รูจกั ามคา าม อยา งไร หรือ ทาไม ได บอกชอ่ื พยญั ชนะไทยทพ่ี บบอ ยบางตัวได ไดแ ก ก ไก ง งู รองเพลงส้นั หรอื ทอ งอาขยานท่ีไดยนิ บอย ได รจู กั จานวนนบั 1- บอกไดอ ยา ง กู ตอ งหลงั จากนบั วา มขี องรวมทง้ั หมด 4 ชนิ้ หรอื ชนิ้ RL: เขาใจคา าม เมื่อไร เรม่ิ เขาใจซา ย-ขวา เขาใจขนาดเลก็ -ใหญ ยาว-สน้ั 61- 2 เดอื น (GM) เดนิ บนสน เทา เดนิ ตอ เทา อยหลงั รบั ลกู บอลโดยใชส องมอื กระโดดไกล 120 เซนตเิ มตร (FM) วาดรปู สามเหลยี่ ม วาดรปู คนทม่ี อี วยั วะ 6 สว นหรอื มากกวา เลยี นแบบการเขยี นพยญั ชนะ งา ย บางตัวได (PS) แตงตัว และเตรยี มอาหารงา ย ไดเ องโดยไมต องมคี นชวย EL: อ บิ ายความหมายของคาในชวี ิตประจาวันได ไดแ ก ลกู บอล บาน บอกความแตกตาง ของสง่ิ ของ 2 สงิ่ ได รจู กั จานวนนบั 1-10 บอกจานวนนบั รวมทง้ั หมดไดอ ยา ง กู ตอ ง บอกช่ือของตัวพยญั ชนะไทยสวนใหญได กู ตอ ง แมไ มมรี ปู าพประกอบ ไดแก บอกได วา ก ชื่อ ก ไก RL: เขาใจเรื่องขาขนั ของเด็ก เขาใจลาดับของเหตุการ  ไดแก เร่ืองในอดีต ปจจบุ นั เขา ใจวาตัวพยญั ชนะไทยแตล ะตวั มีเสยี ง ไดแ ก ตวั ก มเี สียง กอ (หรือเกอะ) ตวั ท และ มีเสียงเดียวกนั คือ ทอ (หรอื เทอะ) เขาใจสัญลัก ต ัวเลขวา มคี า เปน จานวนตาง ในชวง 1-10 หมายเหตุ M t , M f ne t , P pe nal al R e ept ve lan ua e, E e p e ve lan ua e 46

กาหนดการดแ สุ า เดก็ ไทย โดยราชวทิ (Re ended u del ne f P event ve Ped at Healt กจิ กรรม -7 วนั 1 เดอื น วัยทารก 9 เดือน 11 1 ประวตั ิ สมั า 11 2 เดือน 4 เดอื น 6 เดอื น 1 การตรวจรา งกาย 111 ั นาการ 111 ติดตามเ าระวัง ั นาการ ตรวจคัดกรองพั นาการ (devel p ental een n ) 11111 1 ประเมินป หาทางจิตใจ สงั คม แ ะ ตกิ รรม 1* การวดั แ ะประเมนิ ชัง่ นา้ หนกั 11111 1 วดั สว นสง วดั เสน รอบ ีร ะ 11111 1 นา้ หนกั ตวั เมอเทยี บกับความสงู ดชั นีมวลกาย ( MI) 11111 1 11111 1 ความดนั โลหิต การคดั กรอง 1 วดั สายตาโดยใชเ ครืองมือ 11 1 การไดยิน - ดว ยเครองมอื พเิ (ทาเมอมคี วามพรอ มของอปุ กร ) 1 - โดยการซัก ามและใชเทคนคิ การตรวจอยา งงาย 1 ตรวจเลือดคดั กรองทารกแรกเกิด 22 ตรวจระดับฮีโมโกลบิน ฮีมาโตคริต 2 ตรวจคัดกรองโรค 2 - วั โรค 11111 - ตะกวั่ - ไขมันในเลอื ด 11111 1 - โรคติดตอทางเพ สัมพัน  11111 1 วัคซีนปองกันโรค 11111 1 การใหค าปรก าแนะนา สง เสริมสุ า การเ ย้ี งดเดก็ ตามวัยแ ะสงเสรมิ ั นาการ 11111 1 โ ชนาการแ ะการออกกา ังกาย การดแ สุ า ชองปากแ ะ น - สง ตอ บคุ ลากรทางทันตกรรม การปองกนั อุบตั เิ หตุ สารเสพตดิ อนามัยเจริญพัน ุ พ ติกรรมเส่ยี งอน หมายเหตุ 1 แนะนาใหท า 2 ควรทา 2 ควรทาในเด็ก ห ิง 2B ควรทาใน ที่มคี วาม

ทยา ัยกมุ ารแ ทยแหง ประเทศไทย ศ 2557 a e T e R al lle e f Ped at an f T a land, 2014) ชวงอายุ วยั เรียน วยั รุน ป มวยั น 12 เดือน 18 เดอื น 2 ป ป 4 ป 6 ป 8 ป 1 ป 11-14 ป 15-17 ป 18-21 ป 11 1 1 111 1 1 1 1 11 1 1 111 1 1 1 1 1 1 111111111 1* 1* 1 1 111111111 1 1 111111111 1 1 111111111 1 11 11 111 1 1 11 1 11111 1 11111 1 11 1 1 2A 2 22 22 2 22 222 1 1 11 1 11111 1 1 111111111 1 1 111111111 1 1 111111111 1 1 1 111111111 111111 มเส่ียง แนะนา าไมม ี อ จากัด ทาอยา งนอย 1 ครั้งในชว งอายดุ งั ก า ว


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook