Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการเรียนรู้ สังคม ม.1 ครูศรีมูล สมบุตร

แผนการเรียนรู้ สังคม ม.1 ครูศรีมูล สมบุตร

Published by ศรีมูล สมบุตร, 2021-07-16 07:42:20

Description: แผนการเรียนรู้ สังคม ม.1 ครูศรีมูล สมบุตร

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรู้องิ มาตรฐานการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ า สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รหสั วชิ า ส21101 หน่วยที่ 3 เรอื่ ง กฏหมายคมุ้ ครองสทิ ธบิ ุคคล ระดับมัธยมศกึ ษาปีที่ 1 นายศรมี ลู สมบุตร ตาแหน่ง ครู คศ.2 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่ สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง กฎหมายคุ้มครองสทิ ธขิ องบคุ คล แผนจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรื่อง กฎหมายคุ้มครองเด็ก รายวชิ า สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รหสั วิชา ส21101 ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1 น้าหนักเวลาเรยี น 1.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ เวลาท่ีใชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 2 ชั่วโมง *********************************** 1. สาระสาคญั (ความเขา้ ใจท่ีคงทน) 1) กฎหมายในการคุ้มครองสิทธขิ องบุคคล เชน่ กฎหมายคุ้มครองเด็ก 2) ประโยชนข์ องการปฏิบัติตนตามกฎหมายค้มุ ครองสิทธขิ องบุคคล 2. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชวี้ ัด/ผลการเรียนร/ู้ เปา้ หมายการเรยี นรู้ ส 2.1 เขา้ ใจและปฏบิ ตั ติ นตามหนา้ ที่ของการเป็นพลเมอื งดี มคี ่านิยมทด่ี งี าม และธารงรกั ษาประเพณแี ละ วัฒนธรรมไทย ดารงชีวติ อยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสงั คมโลกอย่างสันติสขุ ส 2.1 ม.1/1 ปฏิบตั ติ ามกฎหมายในการคมุ้ ครองสิทธขิ องบุคคล 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ หลกั การ เจตนารมณ์ โครงสรา้ ง และสาระสาคัญ พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา ของรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทยฉบบั ปัจจุบัน 4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของนกั เรยี น คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวินัย 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุง่ มนั่ ในการทางาน 2.1 ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ 2.2 ทักษะการคดิ สงั เคราะห์ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ

5. ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) บนั ทกึ การปฏบิ ัตติ นตามกฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธขิ องบคุ คล 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : วธิ สี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ช่วั โมงที่ 1 ขัน้ นาเขา้ ส่บู ทเรียน 1. ครูแจง้ ให้นกั เรยี นทราบถงึ วธิ สี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ช่อื เรอื่ งท่ี จะเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ และผลการเรยี นรู้ 2. ครใู ห้นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรียนร้ทู ี่ 3 เรือ่ ง กฎหมายคุ้มครองสทิ ธขิ องบคุ คล ขน้ั จดั กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ ที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ครูนานกั เรียนสนทนาถึงความสาคัญและประโยชน์ของการปฏิบตั ิตนตามกฎหมายคุ้มครองสิทธิของบคุ คล โดยครูตัง้ คาถามในประเดน็ คาถาม ดงั นี้ - นักเรียนมสี ิทธิตามกฎหมายอะไรบ้าง และนักเรียนปฏิบบัติตนในการใช้สิทธนิ ้นั อย่างไร แนวตอบ มสี ทิ ธิตามกฎหมาย เช่น สทิ ธทิ างการศกึ ษา สิทธผิ บู้ รโิ ภค ซง่ึ เราสามารถปฏิบตั ติ นใน การใชส้ ทิ ธิ เชน่ พจิ ารณาถึงคุณภาพ ราคา ก่อนการเลือกซือ้ สนิ คา้ ในสิทธิผบู้ ริโภค เปน็ ตน้ 2. ครูเกริน่ นาเกี่ยวกบั สทิ ธิของบคุ คลทพี่ ึงได้รบั ตามกฎหมาย ครใู ชเ้ ทคนคิ การต้งั คาถามเพื่อกระตุ้นความสนใจ ของนักเรยี น เชน่ - เมอ่ื นักเรียนคิดถงึ สทิ ธบิ ุคคลที่พงึ มี นกั เรยี นคิดถึงสิทธติ ามบทบัญญัตขิ องกฎหมายเก่ยี วกับอะไรบ้าง แนวตอบ สิทธิในทรัพย์สิน สิทธิในการประกอบอาชพี สิทธิในการรบั บริการสาธารณสขุ ของรัฐ เป็น ตน้ 3. ครูนาข่าวจากหนังสือพิมพ์ท่ีเก่ียวกับเร่ืองสิทธิของบุคคลมาให้นักเรียนดู แล้วอธิบายเนื้อหาข่าวเพ่ื อ เชอื่ มโยงเขา้ สู่ความสาคัญของกฎหมายคุ้มครองสทิ ธขิ องบคุ คล ขน้ั ท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore) 1. ครใู ห้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 5 – 7 คน สบื คน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ความสาคัญของกฎหมายคมุ้ ครองสิทธิของ บุคคล จากหนังสือเรียนสังคมศึกษา ศาสนาละวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น หอ้ งสมุด อนิ เทอร์เนต็ เป็นตน้ 2. ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิม สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายคุ้มครองสิทธิของบุคคลสาคัญ โดยเฉพาะ กฎหมายคมุ้ ครองเด็ก จากหนงั สือเรยี นสังคมศกึ ษา ศาสนาละวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 1

ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. สมาชิกแตล่ ะคนในกลุ่มนาขอ้ มูลที่ตนไดจ้ ากการรวบรวม มาอธิบายแลกเปล่ียนความรู้ระหว่างกัน 2. จากนั้นสมาชกิ ในกลมุ่ ช่วยกันคดั เลือกขอ้ มลู ทน่ี าเสนอเพื่อใหไ้ ด้ขอ้ มูลท่ถี กู ตอ้ ง 3. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ สง่ ตวั แทนนาเสนอข้อมูลหน้าช้นั เรยี นตามประเดน็ ที่ศึกษา และอภิปรายรว่ มกัน 4. ครูสุ่มตัวแทนนักเรียนโดยให้เลือกหลักการและแนวคิดสาคัญที่เกี่ยวกับสิทธิเด็กมาอธิบายหน้าชั้นเรียน พร้อมยกตวั อยา่ งเหตกุ ารณ์ หรือกรณีศกึ ษาประกอบการอธิบาย 5. ครูให้นักเรียนร่วมกันเขียนแผนผังสรุปความข้าใจที่มีต่อหลักการและแนวคิดที่เก่ียวกับ สิทธิเด็ก บริเวณ หน้าช้นั เรียน 6. นกั เรียนแต่ละคนรว่ มกันยกตัวอย่างบทบาทหน้าที่ของผู้ปกครอง และบทบาทหน้าท่ีของรัฐท่พี ึงปฏิบัติต่อ เดก็ 7. ครูยกตัวอย่างเพิ่มเติมให้นักเรียนฟังถึงกรณีตัวอย่างหรือเหตุการณ์สมมติที่อธิบายถึงบทบาทหน้าที่ของ ผู้ปกครองที่พงึ ปฏิบตั ิตอ่ เดก็ 8. ครูทาการแนะนาอธิบายเพิม่ เติม ช่วั โมงที่ 2 ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (ตอ่ ) 9. ครซู กั ถามเพ่ือเปน็ การทบทวนความรู้ทศี่ ึกษาเก่ียวกบั สิทธิเดก็ เมื่อช่ัวโมงท่ี 1 10. ครูให้นักเรยี นใช้สมาร์ทโฟนสบื คน้ ตัวอย่างขา่ วทีเ่ กี่ยวกับเดก็ ท่ีพงึ ได้รับการสงเคราะห์ และเด็กทพี่ งึ ไดร้ ับ การค้มุ ครองสวัสดภิ าพ ตามพระราชบัญญญตั ิคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 11. ครูสุม่ นกั เรยี นมานาเสนอข่าวหน้าช้ันเรียน และเปิดโอกาสใหเ้ พ่อื นในชั้นเรียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครูแนะนาเพ่ิมเติม 12. ครใู ห้นักเรียนรว่ มกนั ยกตัวอย่างบทบาทหน้าทีข่ องตนเองทส่ี อดคล้องกับมาตรการส่งเสรมิ ความประพฤติ ของนักเรียนและนกั ศกึ ษา 13. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมทเี่ กยี่ วกบั กฎหมายคมุ้ ครองเด็ก ในแบบฝึกสมรรถนะฯ หน้าทพ่ี ลเมือง ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 ข้ันที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand) 1. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกนั เกี่ยวกับกฎหมายคุม้ ครองเดก็ ในประเดน็ ตา่ งๆ 2. ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง กฎหมายคมุ้ ครองเด็ก 3. ครูดแู ลใหค้ าแนะนานกั เรียนเพิม่ เติม ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)

1. ครใู ห้นกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งของการทาใบงานที่ 3.1 เรอ่ื ง กฎหมายคมุ้ ครองเดก็ 2. ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ ในสว่ นทนี่ กั เรยี นไม่เขา้ ใจ ขั้นสรุป ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ ความรู้และความสาคัญของกฎหมายคมุ้ ครองเด็ก ขนั้ ประเมิน 1. ครูประเมนิ ผลโดยสงั เกตจากการตอบคาถาม การรว่ มกนั ทางาน และการนาเสนอผลงานหน้าชัน้ เรยี น 2. ครูตรวจสอบและประเมนิ ผลจากการทาแบบฝกึ สมรรถนะฯ หนา้ ทพ่ี ลเมือง ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 1 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวัด วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ 7.1 การวดั และประเมินผล - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบกอ่ นเรียน - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ กอ่ นเรยี น ก่อนเรยี น - แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรือ่ ง กฎหมายคุ้มครอง สทิ ธิของบคุ คล 8.2 การวดั และประเมินผล ระหวา่ งการจัดกจิ กรรม การเรียนรู้ ) 1) การอธบิ าย วิเคราะห์ - ตรวจใบงานที่ 3.1 - ใบงานที่ 3.1 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ และปฏิบตั ิตนตาม สาระสาคัญของ กฎหมายคมุ้ ครอง เด็กได้ 2) การนาเสนอผลงาน - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมิน - ระดับคณุ ภาพ 2 ผลงาน ผลการนาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์ 3) พฤติกรรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดับคุณภาพ 2 รายบคุ คล การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ 4) พฤติกรรมการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2 กลมุ่ การทางานกลมุ่ - ประเมนิ คุณลักษณะ การทางานกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์ 5) คุณลกั ษณะ - แบบประเมนิ - ระดบั คณุ ภาพ 2

อนั พึงประสงค์ อันพงึ ประสงค์ คุณลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์ อันพึงประสงค์ 8. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 ส่อื การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น สงั คมศึกษา ศาสนาละวฒั นธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 2) แบบฝกึ สมรรถนะฯ หน้าที่พลเมือง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) หนงั สอื คน้ ควา้ เพ่ิมเตมิ - สภาทนายความ. 2540. กฎหมายเบอ้ื งต้นสาหรับประชาชน. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ์ เรอื นแกว้ การพิมพ.์ 4) บตั รภาพ การกระทาของบุคคลท่ีปฏบิ ัติตอ่ เด็ก 5) ใบงานที่ 3.1 เรื่อง กฎหมายคมุ้ ครองเดก็ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งสมุด 2) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ - http://www.kc.hri.tu.ac.th - http://www.pchit.ago.go.th

9. การบรู ณาการตามจุดเน้นของโรงเรยี น หลกั ปรชั ญา ครู นกั เรียน ของเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ความพอประมาณ พอดดี า้ นเทคโนโลยี พอดีดา้ นจิตใจ รู้จกั ใช้เทคโนโลยีมาผลิตส่อื ที่ มีจติ สานึกทีด่ ี จติ สาธารณะรว่ ม 2. ความมเี หตุผล อนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติและ เหมาะสมและสอดคลอ้ งเน้อื หาเป็น สิ่งแวดลอ้ ม ประโยชน์ต่อนักเรียนและพฒั นาจาก ภูมปิ ัญญาของนกั เรียน ศกึ ษาหาความรู้ดว้ ยตนเอง เพ่ือค้นหา ยดึ ถือการประกอบอาชพี ด้วยความ คาตอบเพื่อให้หลุดพ้นจากความไม่รู้ ถูกต้อง สจุ ริต 3. มภี มู ิคมุ กันในตัวทด่ี ี ภมู ปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภมู ปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ 4. เงื่อนไขความรู้ ระมัดระวงั รับผดิ ชอบ ระมัดระวัง สร้างสรรค์ 5. เงอ่ื นไขคุณธรรม ความรอบรู้ เรอื่ ง กฎหมายคมุ้ ครอง ความรอบรู้ เรื่อง กฎหมาย เด็ก ที่เกย่ี วข้องรอบด้าน นาความร้มู า คมุ้ ครองเด็ก ในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม เช่อื มโยงประกอบการวางแผน การ ตามใบงานที่ 3.1 สามารถนาความรู้ ดาเนินการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ใหก้ บั เหล่าน้ันมาพจิ ารณาให้เกิดความ นักเรยี น เชอื่ มโยง สามารถประยุกต์ใชใ้ น ชีวิตประจาวนั ได้ ความซอ่ื สัตย์สจุ ริตและอดทน มี มีคณุ ธรรม ซื่อสัตย์สุจรติ และอดทน ความเพยี ร ใช้สติปญั ญาในการดาเนนิ ใช้สติปัญญาในการเรยี นและดาเนิน ชีวิต ชีวติ สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ครู นักเรยี น -- - ส่ิงแวดลอ้ ม ครู นกั เรียน -- -

แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 3 เร่ือง กฎหมายคุ้มครองสิทธขิ องบุคคล *********************** คาช้ีแจง : ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. นางดวงคลอดบุตรแลว้ หนอี อกจากโรงพยาบาลโดยท้ิงบุตรไว้ที่โรงพยาบาล การกระทาของดวงแสดงถงึ ไม่ ปฏิบัตติ ามบทบาทหน้าท่ีของผูป้ กครองอยา่ งไร ก. ทอดทิง้ เด็ก ข. ขาดการดูแลเด็ก ค. เลีย้ งดเู ดก็ โดยมิชอบ ง. ละเลยชวี ติ เด็ก 2. พนักงานเจา้ หนา้ ที่จะดาเนนิ การสงเคราะหห์ รือคุ้มครองสวสั ดิภาพเด็กในกรณใี ด ก. ผ้ปู กครองพิการ ข. ผปู้ กครองมฐี านะยากจนมาก ค. ผู้ปกครองใช้เด็กให้ทางานหารายได้ ง. ผู้ปกครองกระทาการขัดขวางตอ่ การเจริญเตบิ โตของเดก็ 3. ขอ้ ความใดทีเ่ กี่ยวกบั สิทธทิ ีจ่ ะไดร้ บั ความปลอดภัยในการใช้สนิ ค้า ก. อาหารกระปอ๋ งทกุ ประเภทจะต้องกาหนดวันผลิต ข. ผู้ซ้อื ยาประเภทมอี นั ตรายจะต้องมใี บสงั่ ยาของแพทย์ ค. ฉลากยาทาแผลสดไดร้ ะบุไว้วา่ ห้ามใช้ทาบริเวณใกล้ตา ง. องคก์ ารอาหารและยากาหนดใหย้ าทกุ ประเภทต้องมคี าช้แี จงในฉลาก 4. โรงเรยี นเพมิ่ พนู วทิ ยา มกี ฎระเบียบหา้ มนักเรียนไปเล่นเกมคอมพิวเตอร์ในร้านเกมข้อความดงั กลา่ วสอดคล้อง เร่ืองใด ก. หนา้ ทขี่ องโรงเรยี น ข. ความมีชือ่ เสียงของโรงเรียน ค. การปฏบิ ัติตามนโยบายของรัฐบาล ง. มาตรการสง่ เสรมิ ความประพฤตนิ กั เรยี น 5. สถานศกึ ษาทส่ี งั กัดองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่นมจี านวนมากขน้ึ ในปจั จบุ นั ข้อความน้สี อดคลอ้ งกับเรอ่ื งใด ก. การรวมอานาจทางการศกึ ษา ข. การประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา ค. การกาหนดมาตรฐานการศกึ ษา ง. การกระจายอานาจทางการศึกษา 6. ระบบการศกึ ษาของไทย มีระบบอย่างไรบา้ ง ก. การศึกษาในระบบ การศึกษาวชิ าชพี ข. การศกึ ษาในระบบ การศกึ ษาหลายระบบ ค. การศึกษาตามอธั ยาศยั การศกึ ษาวิชาชีพ ง. การศึกษาในระบบ นอกระบบ ตามอัธยาศัย 7. การละเมดิ ลขิ สิทธ์ิของผ้อู ืน่ ถา้ เป็นการกระทาเพ่ือการคา้ ผกู้ ระทาต้องระวางโทษในข้อใด ก. จาคุกตั้งแต่หนงึ่ เดอื นถงึ หน่ึงปี หรือปรบั ตั้งแตส่ องหมน่ื บาทจนถงึ ส่ีหมืน่ บาท ข. จาคุกตง้ั แต่หนึง่ ปีถงึ สองปี หรือปรับต้งั แต่ห้าหมน่ื บาทจนถึงสแ่ี สนบาท ค. จาคุกตง้ั แต่สามเดอื นถงึ สองปี หรือปรับต้งั แตห่ ้าหมื่นบาทจนถึงสแี่ สนบาท ง. จาคกุ ตง้ั แต่สามเดอื นถงึ สองปี หรือปรับตงั้ แต่ห้าหมื่นบาทจนถึงห้าแสนบาท หรือทั้งจาท้ังปรับ 8. การศกึ ษาทใ่ี ห้ผ้เู รียนได้เรียนรูด้ ้วยตนเองตามความสนใจ ศักยภาพความพรอ้ มและโอกาส เปน็ การศกึ ษาในระบบ ใด

ก. การศึกษาวิชาชพี ข. การศกึ ษาในระบบ ค. การศึกษานอกระบบ ง. การศึกษาตามอัธยาศัย 9. นกั เรียนทกุ คนเรยี นตามหลักสูตรการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน แสดงวา่ นกั เรยี นเรยี นในระบบใด ก. การศกึ ษาในระบบ ข. การศกึ ษานอกระบบ ค. การศึกษาวชิ าสามญั ง. การศกึ ษาตามอธั ยาศยั 10. ยาทกุ ประเภทจะมคี าพรรณนาคุณและโทษ ข้อความนส้ี อดคล้องกบั สทิ ธิในเรอื่ งใด ก. สิทธทิ ่ีจะมีอสิ ระในการเลือกซอ้ื สนิ ค้า ข. สิทธิทจี่ ะได้รบั ความปลอดภัยในการใช้สนิ คา้ ค. สิทธทิ จี่ ะได้รบั การพิจารณาและชดเชยความเสยี หาย ง. สทิ ธทิ จ่ี ะไดค้ าพรรณนาคณุ ภาพท่ีถกู ตอ้ งและเพยี งพอเก่ยี วกบั สินคา้ 11. สินค้าท่ีควบคมุ ฉลากตามท่ีคณะกรรมการวา่ ด้วยฉลาก กาหนดนนั้ จะเป็นสนิ ค้าตามข้อใด ก. สนิ คา้ ที่เป็นอันตรายตอ่ สุขภาพของเยาวชน ข. สินค้าประเภทเครื่องดืม่ มสี ารเสพติดเจอื ปนอยู่ ค. สนิ ค้าทป่ี ระชาชนทวั่ ไปหาซ้ือไดง้ ่ายและเป็นสินคา้ ที่จาเปน็ ง. สนิ คา้ นัน้ อาจก่อให้เกิดอนั ตรายแก่สขุ ภาพ รา่ งกายและจิตใจจากการใช้สินค้า 12. ประชาชนที่รับประทานปลากระปอ๋ งแล้วท้องเสยี ควรพากนั ไปร้องทุกขก์ บั ใคร ก. ตารวจ ข. ผู้วา่ ราชการจงั หวดั ค. คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ง. รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสุข 13. ขอ้ ใดจดั อยู่ในประเภทของเดก็ ท่ีพงึ ไดร้ บั การคมุ้ ครองสวสั ดภิ าพ ก. ตาลเป็นเด็กพกิ าร ข. ตัม้ เป็นเด็กยากจน ค. ต้อมเปน็ เด็กเร่ร่อน ง. ต้อยถูกพอ่ เลี้ยงทารา้ ยรา่ งกาย 14. ข้อใดจดั เป็นงานอนั มลี ขิ สิทธิ์ ก. งานแต่งเพลง ข. ทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ ค. ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ ง. งานอภปิ รายในห้องประชุม 15. บิดามารดาหรือผปู้ กครองตอ้ งให้บุตรหรือผู้อยูใ่ นความดแู ลใหไ้ ดร้ บั การศึกษาภาคบงั คบั จานวนกป่ี ี ก. 5 ปี ข. 7 ปี ค. 9 ปี ง. 12 ปี

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรอื่ ง กฎหมายคุ้มครองสิทธขิ องบุคคล *********************** ข้อ คาตอบ ขอ้ คาตอบ 1ก 9ก 2ง 10 ง 3ค 11 ง 4ง 12 ค 5ง 13 ง 6ง 14 ก 7ค 15 ง 8ง

ใบงานท่ี 3.1 เรอื่ ง กฎหมายค้มุ ครองเด็ก รายวิชา สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้ยมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 คาช้ีแจง : ตอนที่ 1 : ใหน้ กั เรยี นเขยี นแผนผงั ความคดิ สรุปความรเู้ กย่ี วกับสทิ ธเิ ดก็

คาช้แี จง : ตอนที่ 2 : ให้นกั เรียนวเิ คราะห์กรณีศึกษา แลว้ ตอบคาถาม เรอื่ ง คมุ้ ครองเด็ก ในการประชมุ ของคณะกรรมการของมูลนิธิสงเคราะห์เดก็ เพ่ือหาแนวทางแก้ไขปัญหาและสงเคราะห์เด็ก หรอื หาแนวทางส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพเด็ก กรรมการได้สนทนาเกี่ยวกับเรือ่ งปัญหาและแนวทางปกป้อง คมุ้ ครองเด็ก กานดา : ในช่วงเดือนนม้ี ีขา่ วลงในหนังสือพิมพเ์ กี่ยวกบั เด็กถกู ทาร้าย เชน่ เด็กถูกพ่อเล้ียงหรือแม่เลย้ี งทา ร้าย แม่คลอดลูกแล้วนาไปท้ิงกองขยะทาให้เด็กเสียชีวิต อีกทั้งเด็กบางคนไม่ได้เรียน หนงั สอื ปราณี : ดฉิ นั ไดอ้ า่ นข่าวกิจกรรมหลายอยา่ งท่ีนา่ ช่นื ใจ เช่น พ่อแม่พาลูกเขา้ วัด ฟงั ธรรม รว่ มกจิ กรรมวัน สาคญั ของศาสนา ครอบครวั อบอ่นุ ดว้ ยการนันทนาการ ทะนง : เด็กสมัยน้ีเขาก้าวหน้าไปมากเลย เด็กจานวนมากสามารถสื่อสารและสืบค้นข้อมูลกันทาง อนิ เทอรเ์ น็ต แต่ผู้ปกครองจะตอ้ งดูแลการเลอื กข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ตะวัน : ผปู้ กครองของเดก็ ส่วนใหญต่ า่ งก็ใหค้ วามสาคญั ในการเลีย้ งดู อบรมสั่งสอน และพัฒนาเด็ก กานดา : มูลนิธิสงเคราะห์เด็กต่างก็ช่วยกันสนับสนุนหน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการ คุ้มครอง สิทธเิ ดก็ ตามกฎหมายค้มุ ครองเด็ก พ.ศ. 2546 ปราณี : ปจั จุบันนี้สถานศึกษาทุกระดับและทุกสังกัดหน่วยงาน ต่างก็มีมาตรการส่งเสริมความประพฤติ แก่ นกั เรยี นและนกั ศึกษาไว้ ทะนง : ถา้ ในสังคมยงั มีเด็กที่ถกู ทอดท้ิง ไมไ่ ดร้ บั การดูแลเอาใจใสจ่ ากครอบครัวและสงั คมก็จะทาให้เกิด ปญั หาสังคมเป็นภาระของรัฐบาลและสงั คมเช่นกนั คาถาม 1. การกระทาใด จดั ว่าเป็นการละเมดิ สิทธิท่ีจะมีชีวติ ของเดก็ 2. การกระทาใด จดั ว่าเป็นการละเมดิ สิทธเิ ด็กในด้านสิทธทิ ่ีจะไดร้ บั การปกป้อง 3. การกระทาใด จดั ว่าเป็นการละเมิดสิทธิเด็กในดา้ นสทิ ธทิ ี่จะได้รับการพฒั นา 4. หน้าทส่ี าคญั ของผปู้ กครองท่ีมีต่อเด็กและเยาวชน ไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง

5. ถ้าในสงั คมยงั มเี ดก็ ถูกทอดทง้ิ ไมไ่ ดร้ ับการดูแลเอาใจใสจ่ ากครอบครวั จะทาใหเ้ กดิ ผลเสยี อย่างไร เฉลยใบงานที่ 3.1 เร่อื ง กฎหมายคมุ้ ครองเด็ก รายวชิ า สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชัย้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ********************* คาชี้แจง : ตอนที่ 1 : ใหน้ ักเรยี นเขียนแผนผังความคิด สรุปความรู้เก่ียวกับสทิ ธิเด็ก 1) สิทธิท่จี ะมชี ีวติ อยู่รอด 1) ประโยชน์สูงสดุ ของเด็กและไมเ่ ลือกปฏิบัติ 2) สทิ ธิทจ่ี ะได้รับการพฒั นาสง่ เสริม 2) ยอมรบั นับถอื อานาจปกครองของบดิ ามารดาและ 3) สทิ ธิท่จี ะได้รับการปกป้องคุม้ ครอง 4) สทิ ธิท่ีจะมสี ่วนร่วม หลกั การทีว่ ่าเด็กยอ่ มเหมาะสมที่จะอยูร่ ว่ มกับบดิ า มารดาผู้ให้กาเนิดเพ่อื คงไวซ้ ่งึ สถาบันครอบครัว 3) แทรกแซงอานาจปกครองของบดิ ามารดา โดยอานาจรฐั สิทธพิ ื้นฐาน หลกั การและ สาหรบั เดก็ แนวคิดเกี่ยวกับ สทิ ธเิ ดก็ ใน พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก เด็กท่ีพึงได้รบั 1) เดก็ ทถ่ี กู ทารณุ กรรม การคุ้มครอง 2) เดก็ ทเ่ี สย่ี งต่อการกระทาผดิ สวัสดิภาพ 3) เดก็ ทอ่ี ย่ใู นสภาพทจ่ี าเป็นตอ้ งไดร้ บั การคมุ้ ครอง สวสั ดภิ าพตามบทบญั ญตั ขิ องกฎหมาย

คาช้แี จง : ตอนที่ 2 : ให้นกั เรยี นวิเคราะหก์ รณีศึกษา แล้วตอบคาถาม เรือ่ ง คมุ้ ครองเด็ก ในการประชุมของคณะกรรมการของมลู นิธิสงเคราะห์เด็กเพอ่ื หาแนวทางแกไ้ ขปญั หาและสงเคราะหเ์ ด็ก หรือหาแนวทางสง่ เสริมและพัฒนาคณุ ภาพเด็ก กรรมการได้สนทนาเก่ียวกับเรื่องปัญหาและแนวทางปกป้อง คุม้ ครองเดก็ กานดา : ในช่วงเดือนนมี้ ีข่าวลงในหนังสอื พมิ พ์เก่ียวกบั เดก็ ถูกทาร้าย เช่น เด็กถูกพ่อเล้ียงหรอื แม่เล้ียงทา ร้าย แม่คลอดลูกแล้วนาไปทิ้งกองขยะทาให้เด็กเสียชีวิต อีกท้ังเด็กบางคนไม่ได้เรียน หนงั สือ ปราณี : ดฉิ ันไดอ้ า่ นขา่ วกิจกรรมหลายอยา่ งที่น่าช่ืนใจ เชน่ พ่อแม่พาลูกเขา้ วัด ฟงั ธรรม รว่ มกจิ กรรมวัน สาคญั ของศาสนา ครอบครวั อบอนุ่ ด้วยการนันทนาการ ทะนง : เด็กสมัยนี้เขาก้าวหน้าไปมากเลย เด็กจานวนมากสามารถส่ือสารและสืบค้นข้อมูลกันทาง อินเทอรเ์ น็ต แต่ผปู้ กครองจะต้องดแู ลการเลือกข้อมลู จากอนิ เทอร์เน็ต ตะวนั : ผ้ปู กครองของเด็กส่วนใหญ่ต่างก็ให้ความสาคญั ในการเล้ียงดู อบรมสง่ั สอน และพัฒนาเด็ก กานดา : มูลนิธิสงเคราะห์เด็กต่างก็ช่วยกันสนับสนุนหน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการ คุ้มครอง สทิ ธเิ ดก็ ตามกฎหมายคุม้ ครองเดก็ พ.ศ. 2546 ปราณี : ปัจจุบันน้ีสถานศึกษาทุกระดับและทุกสังกัดหน่วยงาน ต่างก็มีมาตรการส่งเสริมความประพฤติ แก่ นกั เรียนและนักศกึ ษาไว้ ทะนง : ถ้าในสังคมยงั มเี ด็กท่ีถกู ทอดท้ิง ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัวและสังคมก็จะทาให้เกิด ปญั หาสังคมเป็นภาระของรัฐบาลและสังคมเชน่ กนั คาถาม 1. การกระทาใด จดั ว่าเปน็ การละเมดิ สทิ ธิทีจ่ ะมชี ีวิตของเด็ก แม่คลอดลูกแลว้ นาไปท้งิ กองขยะทาให้เด็กเสียชวี ติ 2. การกระทาใด จัดว่าเป็นการละเมิดสิทธิเด็กในดา้ นสิทธทิ ี่จะได้รับการปกป้อง เดก็ ถูกพ่อเล้ยี งหรอื แมเ่ ล้ียงทาร้ายร่างกาย 3. การกระทาใด จัดวา่ เปน็ การละเมดิ สทิ ธเิ ดก็ ในด้านสิทธิที่จะได้รบั การพัฒนา เดก็ ไมไ่ ดร้ ับการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน 4. หน้าทีส่ าคัญของผู้ปกครองที่มีต่อเดก็ และเยาวชน ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง การอบรมเลย้ี งดู สง่ั สอนคณุ ธรรมจรยิ ธรรม และขนบธรรมเนยี ม ประเพณีและวัฒนธรรม ฯลฯ 5. ถ้าในสงั คมยงั มเี ดก็ ถกู ทอดทิ้ง ไมไ่ ด้รับการดูแลเอาใจใสจ่ ากครอบครวั จะทาใหเ้ กดิ ผลเสยี อย่างไร ทาใหเ้ กิดปญั หาสงั คมเปน็ ภาระของรัฐบาลและสงั คม

แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 เรอื่ ง กฎหมายคุ้มครองสทิ ธขิ องบุคคล แผนจดั การเรียนร้ทู ่ี 2 เร่อื ง กฎหมายการศึกษา รายวชิ า สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รหสั วชิ า ส21101 ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 1 น้าหนักเวลาเรยี น 1.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 3 ชัว่ โมง/สัปดาห์ เวลาท่ใี ช้ในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1 ชั่วโมง *********************************** 1. สาระสาคัญ (ความเขา้ ใจท่คี งทน) 1) กฎหมายในการคุม้ ครองสิทธขิ องบคุ คล เช่น กฎหมายการศกึ ษา 2) ประโยชน์ของการปฏิบตั ิตนตามกฎหมายคุ้มครองสิทธิของบุคคล 2. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้/เป้าหมายการเรียนรู้ ส 2.1 เขา้ ใจและปฏบิ ัติตนตามหนา้ ที่ของการเป็นพลเมืองดี มีคา่ นยิ มที่ดีงาม และธารงรกั ษาประเพณแี ละ วฒั นธรรมไทย ดารงชวี ิตอยู่รว่ มกันในสังคมไทยและสงั คมโลกอย่างสนั ตสิ ุข ส 2.1 ม.1/1 ปฏิบัตติ ามกฎหมายในการค้มุ ครองสทิ ธิของบคุ คล 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิ่น 1) กฎหมายในการคุม้ ครองสทิ ธขิ องบคุ คล เชน่ พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา กฎหมายการศึกษา 2) ประโยชนข์ องการปฏบิ ัติตนตามกฎหมาย คมุ้ ครองสิทธิของบคุ คล 4. สมรรถนะสาคญั ของนักเรยี นและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของนักเรียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. ซื่อสัตย์สุจริต 2. ความสามารถในการคิด 2. มีวินยั 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน 2.1 ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 2.2 ทักษะการคิดสงั เคราะห์ 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

5. ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) บันทกึ การปฏิบัติตนตามกฎหมายคุ้มครองสทิ ธขิ องบคุ คล 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : วิธีสอนโดยการจดั การเรยี นรแู้ บบร่วมมอื : เทคนคิ คูค่ ิดสี่สหาย ช่วั โมงที่ 1 ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น 1. ครูแจง้ ใหน้ ักเรยี นทราบถงึ วธิ ีสอนโดยการจัดการเรียนร้แู บบรว่ มมอื : เทคนคิ คู่คดิ สี่สหาย ชอื่ เร่อื งทีจ่ ะ เรียนรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ และผลการเรยี นรู้ 2. ครูใหน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง กฎหมายคมุ้ ครองสิทธิของบุคคล 3. ครูสอบถามนักเรียนถึงความคิดเห็นและความรู้สึกต่อระบบการจดั การศึกษาของไทย รวมถงึ การศึกษาท่ี นกั เรยี นพบในชีวติ ประจาวัน 4. ครูให้นักเรยี นอ่านบทกลอนสภุ าษิตทเี่ กีย่ วกบั การปลกู ฝงั ให้เดก็ ๆ ศกึ ษาเล่าเรียน และแสดงความคดิ เห็น ร่วมกนั (ตวั อย่างบทกลอนสภุ าษิต) เดก็ เอ๋ยเดก็ น้อย ความรเู้ รายังดอ้ ยเรง่ ศกึ ษา เมอื่ เติบใหญ่เราจะไดม้ ีวชิ า เปน็ เครือ่ งหาเลี้ยงชีพสาหรับตน ได้ประโยชนห์ ลายสถานเพราะการเรยี น จงพากเพียรไปเถดิ จะเกิดผล ถงึ ลาบากตรากตรากจ็ าทน เกิดเปน็ คนควรหมั่นขยันเอย 5. ครูตั้งประเด็นใหน้ กั เรียนร่วมกนั อภปิ รายถึงความสาคัญของการศกึ ษา ขน้ั จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

1. ครูให้นักเรียนแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 6 – 8 คน สบื คน้ ข้อมลู เกยี่ วกบั กฎหมายการศึกษา จากหนงั สอื เรยี น สงั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 และแหล่งขอ้ มูลต่าง ๆ เช่น ห้องสมุด อนิ เทอรเ์ น็ต เป็นต้น ตามประเดน็ ดังน้ี 1) ความมุง่ หมายและหลักการ 2) สทิ ธแิ ละหน้าทีท่ างการศึกษา 3) ระบบการศึกษา 4) แนวทางการจัดการศึกษา 2. สมาชิกแตล่ ะคนในกลุ่มนาข้อมูลท่ีตนไดจ้ ากการรวบรวม มาอธบิ ายแลกเปลีย่ นความร้รู ะหว่างกนั 3. จากนน้ั สมาชิกในกลุ่มชว่ ยกันคัดเลือกข้อมลู ทีน่ าเสนอเพ่ือใหไ้ ด้ขอ้ มูลทีถ่ กู ต้อง 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนาเสนอขอ้ มูลหน้าช้ันเรียนตามประเด็นท่ีศึกษา อภิปราย และตอบคาถาม ร่วมกัน 5. ครใู หน้ กั เรียนเรียนร้ดู ว้ ยคาถามร่วมกัน เชน่ - เหตุใดการจัดกระบวนการเรยี นรู้ ต้องมุ่งปลูกฝังจิตสานึกท่ีถูกต้องเก่ียวกับการเมือง การปกครองใน ระบอบประชาธปิ ไตย อันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข แนวตอบ เพอื่ ให้ผเู้ รยี นไดต้ ระหนักถงึ ความสาคญั และสามารถปฏบิ ัติตนไดเ้ หมาะสมกับการปกครอง ระบอบประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมขุ 6. ครใู ห้นกั เรียนรว่ มกันสรุปความมงุ่ หมายและหลกั การสาคญั ของ พ.ร.บ. การศกึ ษาแหง่ ชาตฉิ บบั ปจั จุบัน 7. ครถู ามคาถามเพ่อื เป็นการอธิบายความรู้เพ่ิมเตมิ เชน่ - รฐั ควรจัดให้มีการจัดการศึกษาอยา่ งมคี ุณภาพตามหลกั การศึกษาขน้ั พนื้ ฐานอย่างไร แนวตอบ จะต้องจัดการศึกษาข้ันพ้ืนฐานให้บุคคลท่ัวไปอย่างท่ัวถึงและมีคุณภาพ โดยที่ไม่ต้องเสีย คา่ ใชจ้ ่ายใด ๆ - รัฐตอ้ งจัดการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานเป็นพิเศษ สาหรบั บคุ คลประเภทใดบ้าง แนวตอบ บุคคลทีม่ ีความบกพร่องในดา้ นตา่ ง ๆ เช่น ผู้พิการ ผู้ยากไร้ ผ้ดู อ้ ยโอกาส เป็นต้น 8. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั เขียนอธบิ ายและยกตวั อย่างสิทธทิ างการศกึ ษาทีน่ กั เรยี นพงึ ได้รบั พรอ้ มทง้ั บอก ประโยชนแ์ ละผลดจี ากการจดั การศกึ ษาของรฐั 9. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพิ่มเติมเก่ียวกับรูปแบบของการจัดระบบการศึกษาของไทย พร้อมทั้ง อธบิ ายถึงระบบการศกึ ษาทน่ี กั เรียนกาลังศึกษาอยู่ รวมถึงประโยชนแ์ ละสทิ ธทิ นี่ ักเรยี นไดร้ ับ โดยครู แนะนาเพิ่มเตมิ 10. ครูให้นักเรียนทากิจกรรมท่ีเกี่ยวกับ กฎหมายการศึกษา ในแบบฝึกสมรรถนะฯ หน้าท่ีพลเมือง ช้ัน มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 11. ครใู ห้สมาชกิ ในแต่ละกลุ่มจับคู่กัน 3 – 4 คู่ และใหแ้ ต่ละค่ทู าใบงานท่ี 3.2 เรื่อง กฎหมายการศึกษา 12. ครใู หน้ ักเรียนแต่ละค่มู ารวมกลุ่มกันตามเดิมแลว้ รว่ มกนั เฉลยคาตอบจากการทาใบงานท่ี 3.2 เรือ่ ง กฎหมาย การศกึ ษา

13. ครูอธิบายคาตอบเพมิ่ เติมในส่วนท่ีนกั เรียนไม่เข้าใจ ขั้นสรุป ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปความรแู้ ละความสาคัญของกฎหมายการศกึ ษา ข้นั ประเมนิ 1. ครปู ระเมนิ ผลจากการตอบคาถาม การร่วมกันทางาน และการนาเสนอผลงานหน้าชั้นเรยี น 2. ครูตรวจสอบความถกู ต้องของขอ้ มลู จากการทาใบงานท่ี 3.2 เรอ่ื ง กฎหมายการศกึ ษา และจากการทา แบบฝึกสมรรถนะฯ หน้าทพ่ี ลเมือง ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 7. การวดั และประเมินผล รายการวดั วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ 7.1 การวดั และประเมินผล - ตรวจใบงานท่ี 3.2 - ใบงานท่ี 3.2 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ระหวา่ งการจดั กจิ กรรม การเรยี นรู้ - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมิน - ระดับคุณภาพ 2 1) การอธบิ ายความมุ่ง ผลงาน ผลการนาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์ หมายหลกั การของ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคณุ ภาพ 2 กฎหมายการศกึ ษาได้ การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ 2) การอธิบายสทิ ธแิ ละ หนา้ ทีท่ างการศกึ ษาได้ 3) การวเิ คราะห์และอธบิ าย ระบบการศึกษาและแนว การจัดการศกึ ษาได้ 4) การนาเสนอผลงาน 5) พฤตกิ รรมการทางาน รายบุคคล 6) พฤติกรรมการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2 กลุ่ม การทางานกลุ่ม การทางานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์ - ประเมนิ คุณลักษณะ - แบบประเมนิ - ระดบั คุณภาพ 2 7) คุณลกั ษณะอันพงึ อนั พึงประสงค์ คุณลักษณะ ผ่านเกณฑ์ ประสงค์ อนั พงึ ประสงค์

8. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สอ่ื การเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 2) แบบฝกึ สมรรถนะฯ หนา้ ท่พี ลเมือง ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 3) บทเรยี นคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite หนา้ ทพี่ ลเมอื งฯ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 บริษทั เพลยเ์ อ เบิล จากดั 4) บทกลอนสุภาษิต 5) ใบงานท่ี 3.2 เรอื่ ง กฎหมายการศกึ ษา 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ - http://www.kc.hri.tu.ac.th - http://www.pchit.ago.go.th - http://www.tmd.go.th/documents/copyright.pdf 9. การบรู ณาการตามจดุ เนน้ ของโรงเรียน

หลักปรชั ญา ครู นักเรยี น ของเศรษฐกิจพอเพยี ง 1. ความพอประมาณ พอดีด้านเทคโนโลยี พอดีดา้ นจิตใจ รจู้ กั ใช้เทคโนโลยมี าผลติ ส่อื ท่ี มีจติ สานึกท่ีดี จิตสาธารณะรว่ ม 2. ความมเี หตุผล อนรุ ักษ์ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ เหมาะสมและสอดคล้องเน้อื หาเป็น สงิ่ แวดลอ้ ม ประโยชนต์ อ่ นักเรียนและพฒั นาจาก ภูมิปญั ญาของนักเรียน ศกึ ษาหาความรู้ด้วยตนเอง เพอื่ ค้นหา ยึดถอื การประกอบอาชพี ดว้ ยความ คาตอบเพ่อื ให้หลุดพน้ จากความไมร่ ู้ ถกู ตอ้ ง สุจรติ 3. มีภูมิคมุ กันในตัวท่ีดี ภูมปิ ญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภมู ปิ ัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ 4. เงื่อนไขความรู้ ระมดั ระวงั รบั ผดิ ชอบ ระมัดระวงั สร้างสรรค์ 5. เงื่อนไขคุณธรรม ความรอบรู้ เรื่อง กฎหมาย ความรอบรู้ เรื่อง กฎหมาย การศกึ ษา ทเ่ี กีย่ วข้องรอบดา้ น นา การศกึ ษา ในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมตาม ความร้มู าเช่ือมโยงประกอบการ ใบงานที่ 3.2 สามารถนาความรู้ วางแผน การดาเนินการจัดกจิ กรรม เหล่านน้ั มาพิจารณาให้เกิดความ การเรียนรูใ้ ห้กบั นกั เรียน เชอ่ื มโยง สามารถประยุกตใ์ ช้ใน ชวี ติ ประจาวนั ได้ ความซื่อสัตย์สจุ ริตและอดทน มี มคี ณุ ธรรม ซื่อสตั ย์สจุ ริตและอดทน ความเพยี ร ใช้สตปิ ัญญาในการดาเนิน ใชส้ ติปัญญาในการเรียนและดาเนิน ชวี ิต ชีวติ สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ครู นกั เรียน -- - ส่งิ แวดล้อม ครู นักเรยี น -- - ใบงานที่ 3.2 เรอ่ื ง กฎหมายการศกึ ษา

รายวิชา สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชย้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ********************* คาช้แี จง : ตอนที่ 1 : ให้นักเรยี นเขยี นแผนผังความคิด สรุปความรเู้ กี่ยวกบั กฎหมายการศกึ ษา คาช้แี จง :

ตอนที่ 2 : ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. เมื่อประชาชนทกุ คนได้รบั การศึกษาขน้ั พืน้ ฐานตาม พ.ร.บ. การศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 (ฉบับแกไ้ ขเพม่ิ เติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2545) แล้วจะมผี ลดีตอ่ ประชาชนและประเทศชาติอยา่ งไร 2. นกั เรยี นสามารถปฏบิ ัติตนตาม พ.ร.บ. การศกึ ษาแห่งชาติ ฉบบั ปัจจบุ ัน ไดอ้ ย่างไรบ้าง 3. หนา้ ทข่ี องภาครัฐในดา้ นการจัดการศึกษา มอี ะไรบา้ ง 4. การศึกษาตามอัธยาศัยมีลกั ษณะอย่างไร 5. นักเรียนคดิ วา่ หากไมม่ ี พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 จะส่งผลอย่างไรต่อประชาชน เฉลยใบงานท่ี 3.2 เรือ่ ง กฎหมายการศกึ ษา

รายวชิ า สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชัย้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 ********************* คาชีแ้ จง : ให้นกั เรยี นเขียนแผนผังความคิด สรุปความร้เู กี่ยวกบั กฎหมายการศึกษา 1) การศึกษาในระบบ 1) เปน็ การศกึ ษาตลอดชีวิตสาหรบั ประชาชน 2) การศกึ ษานอกระบบ 2) ให้สงั คมมสี ว่ นร่วมในการศกึ ษา 3) การศึกษาตามอธั ยาศัย 3) การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรูใ้ ห้ เป็นไปอย่างตอ่ เน่อื ง รปู แบบการ หลกั การจัด จดั การศึกษา การศึกษา ความมงุ่ หมาย 1) การจดั การศึกษาต้องเป็นไปเพ่อื พฒั นา คนไทยให้เปน็ มนุษย์ท่ีสมบูรณ์ 2) กระบวนการเรยี นรตู้ ้องมงุ่ ปลกู ฝังจิตสานกึ ทถ่ี ูกต้องเกีย่ วกบั การเมืองการปกครอง 3) ยึดหลักการจดั การศึกษาตลอดชวี ิตสาหรับ ประชาชน 4) การจัดระบบโครงสร้างและกระบวนการ จดั การศกึ ษาให้ยึดหลกั การมีเอกภาพ ดา้ นนโยบาย (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู ู้สอน)

คาชีแ้ จง : ตอนที่ 2 : ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1. เมอื่ ประชาชนทุกคนไดร้ ับการศกึ ษาข้นั พื้นฐานตาม พ.ร.บ. การศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 (ฉบับแกไ้ ขเพิม่ เตมิ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2545) แล้วจะมผี ลดีต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างไร ผลดีตอ่ ประชาชน คอื ทาให้มีความรแู้ ละประสบการณ์พ้นื ฐานต่อการศึกษา หรอื เป็นแนวทางการ ประกอบอาชพี เพื่อนารายไดม้ าใช้จา่ ยในการดารงชีวิต ผลดีต่อประเทศชาติ คือ เมอ่ื ประชาชนมีการศกึ ษายอ่ มนาความรไู้ ปใช้ในการพฒั นาอาชีพ มรี ายได้ ทาให้รฐั บาลมีรายได้จากภาษี นอกจากนั้นยังนาความรู้มาชว่ ยพัฒนาประเทศในดา้ นต่างๆ 2. นกั เรยี นสามารถปฏบิ ตั ิตนตาม พ.ร.บ. การศึกษาแหง่ ชาติ ฉบบั ปัจจบุ นั ไดอ้ ย่างไรบ้าง เขา้ รบั การศกึ ษาภาคบงั คบั จานวน 9 ปี และตั้งใจศึกษาหาความรู้ นาความรมู้ าพัฒนาตนเองให้เตม็ ตาม ศักยภาพพัฒนาตนเองทั้งดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ สตปิ ัญญา มคี ุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมในการดารงชีวติ ใฝ่ เรียนรู้ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง 3. หนา้ ทข่ี องภาครัฐในด้านการจัดการศกึ ษา มอี ะไรบ้าง รัฐต้องจัดการศกึ ษาขั้นพื้นฐานไมน่ อ้ ยกว่า 12 ปี รฐั ต้องจดั การศึกษาขั้นพ้นื ฐานเปน็ พเิ ศษสาหรับบุคคล บกพรอ่ ง สามารถดูแลตนเองไดโ้ ดยไม่เสียค่าใช้จา่ ย 4. การศกึ ษาตามอัธยาศัยมีลกั ษณะอย่างไร เป็นการศกึ ษาให้ผู้เรยี นเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองตามความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อมและโอกาส โดยศกึ ษา จากบุคคล ประสบการณ์ สงั คม สภาพแวดล้อม ส่ือหรอื แหล่งความรอู้ น่ื ๆ 5. นักเรียนคิดว่า หากไม่มี พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 จะส่งผลอย่างไรตอ่ ประชาชน (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้อยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผ้สู อน) แผนการจัดการเรยี นรู้

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 3 เรอ่ื ง กฎหมายค้มุ ครองสทิ ธขิ องบุคคล แผนจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค รายวชิ า สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวชิ า ส21101 ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 น้าหนกั เวลาเรียน 1.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 3 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ เวลาท่ีใชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1 ช่ัวโมง *********************************** 1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจที่คงทน) 1) กฎหมายในการคุม้ ครองสิทธขิ องบคุ คล เช่น กฎหมายคมุ้ ครองผู้บรโิ ภค 2) ประโยชน์ของการปฏบิ ัตติ นตามกฎหมายคมุ้ ครองสิทธขิ องบุคคล 2. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู/้ เปา้ หมายการเรยี นรู้ ส 2.1 เข้าใจและปฏบิ ัติตนตามหนา้ ท่ขี องการเปน็ พลเมอื งดี มีคา่ นยิ มท่ีดีงาม และธารงรักษาประเพณแี ละ วฒั นธรรมไทย ดารงชวี ิตอยู่รว่ มกนั ในสงั คมไทยและสังคมโลกอย่างสันตสิ ขุ ส 2.1 ม.1/1 ปฏิบัตติ ามกฎหมายในการคมุ้ ครองสิทธิของบุคคล 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ 1) กฎหมายในการคุ้มครองสทิ ธิของบคุ คล เช่น พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา กฎหมายคมุ้ ครองผ้บู ริโภค 2) ประโยชน์ของการปฏบิ ัติตนตามกฎหมาย ค้มุ ครองสิทธขิ องบคุ คล 4. สมรรถนะสาคัญของนักเรยี นและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของนักเรยี น คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ความสามารถในการคดิ 2. มีวินยั 3. ใฝ่เรยี นรู้ 2.1 ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ 4. มุ่งมัน่ ในการทางาน 2.2 ทักษะการคิดสังเคราะห์ 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 5. ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

บันทกึ การปฏบิ ตั ิตนตามกฎหมายค้มุ ครองสิทธขิ องบคุ คล 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : วิธีสอนโดยใช้บทบาทสมมติ (Role Playing Model) ช่วั โมงที่ 1 ขัน้ นาเข้าส่บู ทเรยี น 1. ครแู จง้ ใหน้ กั เรียนทราบถึงวิธีสอนโดยใชบ้ ทบาทสมมติ (Role Playing Model) ชื่อเร่ืองทจี่ ะเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ และผลการเรียนรู้ 2. ครูสอบถามนักเรียนถึงพฤติกรรมการเปน็ ผูบ้ ริโภคของนักเรยี น รวมถงึ บคุ คลที่นักเรยี นพบเหน็ ในชีวติ ประจาวนั ข้นั จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันท่ี 1 นาเสนอสถานการณ์ปญั หา 1. ครูนาภาพตวั อย่างการโฆษณาสนิ คา้ มาให้นักเรยี นดู แล้วให้นกั เรยี นช่วยกนั วเิ คราะห์ถึงประโยชนแ์ ละ โทษของการโฆษณาผลิตภณั ฑด์ งั กลา่ ว พรอ้ มทัง้ อธิบายเหตผุ ล 2. ครูตัง้ คาถามเพื่อกระตุ้นความสนใจของนกั เรียน เชน่ - ในฐานะทีน่ กั เรียนเปน็ ผ้บู ริโภคคนหนึ่ง นักเรยี นมีสิทธิทจี่ ะได้รับสง่ิ ใดบ้างในฐานะท่ีเปน็ ผบู้ ริโภค แนวตอบ มสี ิทธิทจี่ ะได้รับขา่ วสารรวมทัง้ คาพรรณนาคุณภาพทถ่ี ูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกบั สินคา้ และบริการ ซง่ึ เปน็ ไปตามพระราชบญั ญตั ิคุม้ ครองผูบ้ ริโภค) 3. ครใู ห้นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 5 – 7 คน ศึกษาเพ่ือแสดงบทบาทสมมตเิ กี่ยวกับกฎหมายคมุ้ ครอง ผู้บริโภค จากหนังสือเรียนสังคมศึกษา ศาสนาละวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 และแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น ห้องสมดุ อนิ เทอรเ์ น็ต เปน็ ตน้ โดยใชเ้ วลากลุม่ ละ 3 นาที ตามประเด็น ดงั นี้ 1) สิทธขิ องผ้บู ริโภค 2) อานาจหนา้ ทขี่ องคณะกรรมการคุม้ ครองผูบ้ รโิ ภค 3) กลไกการคุม้ ครองผบู้ ริโภคในด้านตา่ ง ๆ ขน้ั ที่ 2 เลือกผู้แสดง ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะกล่มุ คดั เลือกผู้แสดง ตามความเหมาะสมของบทบาทสมมติท่เี กย่ี วกับกฎหมายคมุ้ ครอง ผูบ้ ริโภค ตามประเดน็ ทีก่ ลุ่มของตนเองทาการศกึ ษา ขน้ั ที่ 3 จัดฉาก สมาชกิ แต่ละคนในกลมุ่ รว่ มกนั จัดฉากเพื่อใช้ในการแสดงบทบาทสมมติ

ข้นั ที่ 4 เตรยี มผู้สงั เกตการณ์ ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มท่ไี มใ่ ชก่ ล่มุ ผูแ้ สดงในขณะนน้ั เตรยี มตัวบันทกึ ถึงข้อควรสงั เกตเก่ียวกบั กฎหมายคมุ้ ครองผ้บู ริโภคในประเด็นตา่ ง ๆ ตลอดจนการปฏบิ ตั ติ นขณะทีเ่ พือ่ นกาลังทาการแสดง ขัน้ ท่ี 5 แสดง ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลมุ่ แสดงบทบาทสมมตติ ามประเดน็ ทีต่ นไดร้ บั มอบหมายตามลาดับ จนครบทุกกลมุ่ ข้ันท่ี 6 อภปิ รายและประเมินผล นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั อภิปราย และตอบคาถามเกย่ี วกบั เรื่องทที่ าการแสดง ขั้นที่ 7 แสดงเพมิ่ เติม ครใู ห้นักเรียนกลุม่ ท่ีมีขอ้ ผดิ พลาด หรือข้อเสนอแนะหลงั การอภปิ ราย แสดงบทบาทสมมติเพมิ่ เตมิ ขน้ั ท่ี 8 อภปิ รายและประเมินผลอีกคร้ัง นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันอภปิ ราย และตอบคาถามเกีย่ วกับเร่ืองทีท่ าการแสดงเพ่ิมเตมิ ขั้นท่ี 9 แลกเปลยี่ นประสบการณ์และสรุปการเรียนรู้ 1. ครซู ักถามขอ้ สงสยั ของนกั เรยี นเพ่ิมเตมิ 2. ครูให้นักเรียนอภิปรายเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิผู้บริโภคของนักเรียนในชีวิตประจาวัน พร้อมท้ังเสนอแนะ สทิ ธิผ้บู ริโภคที่นกั เรียนคิดวา่ ควรมเี พ่ิมเติม 3. ครูสุ่มนักเรียนให้ออกมาเล่าประสบการณ์ของตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดที่เกี่ยวกับการถูกละเมิดสิทธขิ อง ผ้บู ริโภค 4. ครสู ุ่มนกั เรยี นคนอ่ืนที่ไม่ได้เป็นผู้เล่า เสนอความคิดเห็นว่า จากประสบการณ์ที่เพ่อื นได้นาเสนอไป ควรมี หน่วยงานใดทมี่ บี ทบาทในการคมุ้ ครองสทิ ธติ ามกรณีดังกล่าว พรอ้ มท้ังชแี้ จงเหตผุ ลเพิ่มเติม 5. ครูให้นักเรียนรว่ มกันอภิปรายเพ่ิมเติมถึงกลไกการคุ้มครองผู้บรโิ ภคในดา้ นต่าง ๆ ไดแ้ ก่ ดา้ นการโฆษณา ดา้ นฉลากสินค้า และดา้ นสัญญา รวมถงึ ประโยชน์ท่ผี ู้บรโิ ภคจะไดร้ บั จากกลไกการคุ้มครองผูบ้ ริโภคในด้านต่าง ๆ 6. ครูให้นักเรียนทากจิ กรรมเกย่ี วกบั กฎหมายคุ้มครองผูบ้ รโิ ภค ในแบบฝึกสมรรถนะฯ หนา้ ท่พี ลเมอื ง ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 7. ครใู ห้นกั เรยี นรว่ มกนั ทาใบงานที่ 3.3 เรื่อง กฎหมายคุ้มครองผบู้ ริโภค 8. ครูดแู ลให้คาแนะนานกั เรยี นเพิ่มเตมิ ขั้นสรปุ 1. ครูอธบิ ายเพ่มิ เติมในสว่ นทีน่ กั เรยี นไม่เขา้ ใจ 2. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ ความรู้และสาคญั ของกฎหมายคุ้มครองผบู้ รโิ ภค

ขน้ั ประเมิน 1. ครปู ระเมนิ ผลจากการตอบคาถาม การร่วมกันทางาน และการนาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรยี น 2. ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ งของข้อมูลจากการทาใบงานท่ี 3.3 เร่ือง กฎหมายคุ้มครองผ้บู รโิ ภค และจากการ ทา แบบฝกึ สมรรถนะฯ หนา้ ทีพ่ ลเมือง สงั คมศกึ ษา ศาสนาละวฒั นธรรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 7. การวัดและประเมินผล รายการวดั วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ 7.1 การวัดและประเมนิ ผล - ตรวจใบงานท่ี 3.3 - ใบงานท่ี 3.3 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ระหว่างการจดั กจิ กรรม การเรียนรู้ - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมินการ - ระดับคณุ ภาพ 2 1) อธิบายสิทธขิ องผ้บู รโิ ภคได้ ผลงาน นาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์ 2) อธบิ ายอานาจหน้าทข่ี อง - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2 คณะกรรมการคุ้มครอง การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ ผู้บรโิ ภคได้ - สังเกตพฤตกิ รรม การทางานรายบคุ คล - ระดับคณุ ภาพ 2 3) อธิบายกลไกการคุ้มครอง การทางานกลุม่ - แบบสงั เกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ ผบู้ ริโภคในดา้ นตา่ ง ๆ ได้ - สังเกตความมวี ินัย การทางานรายกล่มุ - ระดบั คุณภาพ 2 4) วเิ คราะหป์ ระโยชน์และ ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มนั่ - แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์ ปฏบิ ตั ิตนตามกฎหมาย ในการทางาน คุณลักษณะ คมุ้ ครองผู้บริโภคได้ อนั พึงประสงค์ 5) การนาเสนอผลงาน 6) พฤติกรรม การทางานรายบุคคล 7) พฤตกิ รรม การทางานกล่มุ 8) คุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์

8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 ส่อื การเรียนรู้ 1) หนังสือเรยี น สังคมศกึ ษา ศาสนาละวัฒนธรรม ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 2) แบบฝึกสมรรถนะฯ หน้าทพี่ ลเมือง ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 3) บทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite หน้าทพี่ ลเมืองฯ ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 บริษัท เพลยเ์ อ เบิล จากัด 4) บตั รภาพ การโฆษณาสนิ คา้ ต่างๆ 5) ใบงานท่ี 3.3 เรื่อง กฎหมายคมุ้ ครองผ้บู ริโภค 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมุด 2) แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ - http://www.kc.hri.tu.ac.th - http://www.pchit.ago.go.th - http://www.tmd.go.th/documents/copyright.pdf - http://www.dol.go.th/it/index.php?option=com_content&task=view&id=210

9. การบูรณาการตามจุดเนน้ ของโรงเรยี น หลักปรัชญา ของเศรษฐกจิ ครู นักเรียน พอเพยี ง 1. ความ พอดีดา้ นเทคโนโลยี พอดีด้านจิตใจ พอประ รูจ้ ักใชเ้ ทคโนโลยีมา มจี ิตสานึกทดี่ ี จติ สาธารณะร่วมอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ มาณ ผลติ ส่อื ที่เหมาะสม สงิ่ แวดล้อม และสอดคล้องเน้อื หา เป็นประโยชนต์ อ่ นกั เรียนและพัฒนา จากภมู ิปญั ญาของ นักเรียน 2. ความมี ยดึ ถือการประกอบ ศึกษาหาความรดู้ ้วยตนเอง เพอื่ ค้นหาคาตอบเพื่อใหห้ ลดุ พน้ จากความ เหตผุ ล อาชพี ด้วยความ ไมร่ ู้ ถูกต้อง สจุ ริต 3. มีภูมิ ภูมิปญั ญา : มีความรู้ ภมู ปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ รับผิดชอบ ระมดั ระวงั สรา้ งสรรค์ คุมกนั ในตัวที่ดี รอบคอบ และ ระมัดระวงั 4. เง่ือนไข ความรอบรู้ เรอ่ื ง ความรอบรู้ เรอื่ ง กฎหมายคุ้มครองผ้บู รโิ ภค ในการปฏบิ ตั ิ ความรู้ กฎหมายคุ้มครอง กจิ กรรมตามใบงานที่ 3.3 สามารถนาความรู้เหล่านัน้ มาพิจารณาให้ ผบู้ รโิ ภค ท่เี กยี่ วข้อง เกดิ ความเชอ่ื มโยง สามารถประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวันได้ รอบดา้ น นาความรูม้ า เช่ือมโยงประกอบการ วางแผน การ ดาเนนิ การจัดกจิ กรรม การเรยี นรู้ใหก้ บั นักเรียน หลกั ปรัชญา ของเศรษฐกจิ ครู นักเรียน พอเพียง

5. เง่ือนไข ความซอ่ื สัตย์สจุ ริต มคี ุณธรรม ซื่อสัตย์สจุ รติ และอดทน ใช้สติปัญญาในการเรยี นและ คณุ ธรรม และอดทน มีความ ดาเนนิ ชีวิต เพียร ใช้สตปิ ัญญาใน การดาเนนิ ชีวิต สวน ครู นกั เรยี น พฤกษศาสตร์ โรงเรยี น -- - สิ่งแวดลอ้ ม ครู นักเรียน -- -

ใบงานท่ี 3.3 เรือ่ ง กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค รายวิชา สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้ยมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ********************* คาชีแ้ จง : ตอนท่ี 1 : ใหน้ ักเรียนเขยี นแผนผงั ความคดิ แสดงถงึ สทิ ธิของผู้บริโภค

คาชแี้ จง : ตอนท่ี 2 : ให้นกั เรียนอ่านกรณีศึกษา แลว้ ตอบคาถาม เรื่อง หนตู อ้ ยไปตลาด คณุ แม่พาต้อยไปตลาดใกล้บ้านเพอ่ื ซ้อื ส่ิงของเครอ่ื งใช้สาหรับสมาชิกในครอบครัว ตอ้ ย : คณุ แม่ขา ซื้อแชมพูสระผมให้หนูด้วยคะ่ คณุ แม่ : ลกู จะใช้แชมพูยห่ี ้ออะไรละ่ ต้อย : หนูขออา่ นสรรพคณุ ของแชมพยู ห่ี ้อตา่ งๆ ก่อน แล้วคอ่ ยตัดสินใจ หนูอยากได้แชมพชู นิดที่ทาให้ เส้นผมนุม่ คณุ แม่ : ก็ดีเหมือนกนั เพราะแชมพแู ต่ละประเภทนั้นมสี รรพคณุ แตกตา่ งกนั ต้อย : หนเู ลือกแชมพูได้แล้ว คณุ แม่จะซือ้ อะไรในร้านนอ้ี กี คะ คุณแม่ : แมจ่ ะซอื้ สบู่และยาสฟี นั ต้งั ใจว่าจะเปล่ยี นใชส้ บู่และยาสีฟนั ชนดิ ใหม่ ปัจจบุ ันนมี้ ีใหเ้ ลือกหลาย ชนดิ หลายยหี่ อ้ การทีผ่ ู้ผลิตหลายแห่งแขง่ ขนั กนั นน้ั ทาใหเ้ รามีโอกาสเลอื กชนดิ ท่ีมีคณุ ภาพ ตอ้ ย : ตามที่เราตอ้ งการ หนูเห็นรา้ นขายเครือ่ งใช้ไฟฟา้ ตรงมมุ ถนนตดิ ประกาศลดราคาสนิ คา้ ทุกประเภท และรับเปลยี่ น คุณแม่ : สินค้าที่ชารุดหรอื มปี ัญหาภายในเวลา 7 วนั ด้วย เดยี๋ วนผ้ี ู้ผลิตและผู้จาหน่ายสนิ คา้ จะตอ้ งสร้างความมนั่ ใจใหแ้ กล่ ูกคา้ ในสินค้าของตน และถ้า ตอ้ ย : สนิ ค้าชารุด เขาก็ต้องเปลยี่ นใหห้ รือให้ค่าชดเชยความเสียหาย คุณแม่ : เราจะไปซอื้ อะไรอีกคะคณุ แม่ เราไปซอ้ื อาหารแหง้ เช่น ปลากระปอ๋ ง นา้ ปลา ซอส นา้ มันพชื ก่อน แล้วคอ่ ยเดินเขา้ ไปในตลาด ต้อย : สด เพ่ือซ้ือหมแู ละผักสด หนอู า่ นขา่ วจากหนังสือพมิ พฉ์ บบั เม่ือวานนี้ทม่ี คี นไปร้องทกุ ขก์ บั ผูส้ ่ือข่าววา่ ปลากระปอ๋ งยห่ี อ้ คณุ แม่ : หนึ่ง มีส่งิ ปนเป้ือนเข้าไป ทาใหเ้ กิดความไมป่ ลอดภัยในการบริโภค เรื่องนจ้ี ะต้องไปแจ้งต่อหนว่ ยงานที่ทาหนา้ ท่คี ุ้มครองผู้บรโิ ภค คอื สานักงานคณะกรรมการ ตอ้ ย : คุ้มครองผู้บริโภค อาหารแห้งทีค่ ุณแมจ่ ะซื้อ เชน่ นา้ ปลา น้ามัน นน้ั จะตอ้ งผา่ นการตรวจสอบคุณภาพจาก คณุ แม่ : สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซงึ่ เป็นหนว่ ยงานค้มุ ครองผู้บริโภคเช่นกนั ใช่ไหมคะ ถกู ต้องลูก เราซ้ือของเสรจ็ แล้วรีบกลับบ้านกันนะ เพราะคุณพ่อจะไปเยี่ยมคุณปู่ทีเ่ ชยี งใหม่ แม่จะ ต้อย : ฝากของไปให้คุณปู่ด้วย คุณแม่ : คณุ พอ่ จะเดินทางไปทางรถไฟ รถยนต์ หรอื เครอ่ื งบนิ คะ คุณพอ่ เดนิ ทางไปทางเคร่ืองบินจะ้ แต่บางครัง้ คุณพอ่ ก็เดินทางโดยทางรถไฟและรถยนต์

คาถาม 1. การกระทาในขอ้ ใด แสดงถงึ สิทธิในการรบั ข่าวสาร รวมทั้งคาพรรณนาคณุ ภาพท่ถี กู ต้อง และสิทธิ ดังกลา่ วมผี ลดีตอ่ ผบู้ ริโภคอยา่ งไร 2. การกระทาในข้อใด แสดงถงึ สิทธิของผู้บรโิ ภคในการเลอื กหาสินค้าและบรกิ าร 3. การกระทาใด ทแ่ี สดงว่า ผู้บริโภคมสี ิทธไิ ด้รบั การพจิ ารณาและชดเชยความเสียหาย 4. การกระทาใด ท่แี สดงวา่ ผู้บรโิ ภคมสี ิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สนิ ค้า

เฉลยใบงานท่ี 3.3 เรอื่ ง กฎหมายคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค รายวชิ า สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัย้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 ********************* คาชแ้ี จง : ตอนท่ี 1 : ใหน้ กั เรียนเขยี นแผนผงั ความคิดแสดงถึงสทิ ธขิ องผู้บรโิ ภค 1. สิทธิทจ่ี ะได้รบั 2. สิทธิที่จะมอี ิสระใน ขา่ วสารรวมทงั้ คา การเลือกหาสนิ ค้า พรรณนาคุณภาพท่ี หรือบริการ ถกู ต้องและเพียงพอ กบั สนิ ค้าหรือบริการ สิทธิของผู้บรโิ ภค ท่ีได้รับความคมุ้ ครอง 3. สทิ ธิท่จี ะไดร้ ับความ 4. สทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั 5. สิทธิทจี่ ะได้รบั การ ปลอดภัยจากการใช้ ความเป็นธรรมใน พิจารณาและชดเชย สนิ ค้าหรือบรกิ าร การทาสญั ญา ความเสยี หาย

คาช้ีแจง : ตอนท่ี 2 : ให้นกั เรียนอ่านกรณีศึกษา แลว้ ตอบคาถาม เรื่อง หนูต้อยไปตลาด คณุ แม่พาต้อยไปตลาดใกล้บ้านเพอ่ื ซอื้ ส่ิงของเคร่ืองใชส้ าหรบั สมาชกิ ในครอบครวั ตอ้ ย : คณุ แม่ขา ซื้อแชมพสู ระผมใหห้ นดู ว้ ยคะ่ คณุ แม่ : ลกู จะใช้แชมพูยห่ี ้ออะไรละ่ ตอ้ ย : หนูขออา่ นสรรพคุณของแชมพูยี่ห้อตา่ งๆ กอ่ น แล้วคอ่ ยตัดสินใจ หนูอยากได้แชมพชู นิดท่ีทาให้ เส้นผมนุม่ คณุ แม่ : ก็ดีเหมือนกนั เพราะแชมพูแต่ละประเภทน้ันมสี รรพคุณแตกตา่ งกนั ตอ้ ย : หนเู ลือกแชมพูได้แล้ว คณุ แม่จะซอื้ อะไรในร้านนอี้ กี คะ คุณแม่ : แมจ่ ะซอื้ สบู่และยาสฟี ัน ต้ังใจว่าจะเปลยี่ นใชส้ บู่และยาสฟี นั ชนดิ ใหม่ ปัจจบุ ันนมี้ ใี หเ้ ลือกหลาย ชนดิ หลายยหี่ อ้ การทีผ่ ู้ผลิตหลายแห่งแข่งขันกันนน้ั ทาให้เรามีโอกาสเลอื กชนดิ ทีม่ ีคณุ ภาพ ตอ้ ย : ตามที่เราตอ้ งการ หนูเห็นรา้ นขายเคร่อื งใช้ไฟฟา้ ตรงมมุ ถนนตดิ ประกาศลดราคาสนิ ค้าทุกประเภท และรับเปล่ียน คุณแม่ : สินค้าที่ชารุดหรอื มีปัญหาภายในเวลา 7 วันด้วย เดยี๋ วนผ้ี ู้ผลิตและผู้จาหน่ายสินค้าจะต้องสร้างความม่ันใจใหแ้ กล่ ูกคา้ ในสินค้าของตน และถา้ ตอ้ ย : สนิ ค้าชารุด เขาก็ต้องเปลีย่ นใหห้ รอื ใหค้ ่าชดเชยความเสียหาย คณุ แม่ : เราจะไปซอื้ อะไรอกี คะคณุ แม่ เราไปซอ้ื อาหารแห้ง เช่น ปลากระป๋อง นา้ ปลา ซอส นา้ มันพชื ก่อน แล้วคอ่ ยเดินเขา้ ไปในตลาด ต้อย : สด เพอื่ ซื้อหมแู ละผักสด หนอู า่ นขา่ วจากหนังสือพมิ พ์ฉบบั เมอ่ื วานนีท้ ม่ี คี นไปร้องทุกขก์ บั ผูส้ อ่ื ขา่ ววา่ ปลากระปอ๋ งย่หี อ้ คณุ แม่ : หนึ่ง มีสิ่งปนเป้อื นเข้าไป ทาใหเ้ กิดความไมป่ ลอดภัยในการบรโิ ภค เรื่องนจ้ี ะต้องไปแจ้งต่อหน่วยงานทท่ี าหน้าทีค่ มุ้ ครองผ้บู ริโภค คอื สานกั งานคณะกรรมการ ตอ้ ย : คุ้มครองผู้บริโภค อาหารแห้งทีค่ ุณแมจ่ ะซื้อ เชน่ นา้ ปลา นา้ มัน นน้ั จะต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพจาก คณุ แม่ : สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งเป็นหนว่ ยงานคมุ้ ครองผูบ้ ริโภคเช่นกันใชไ่ หมคะ ถกู ต้องลูก เราซ้ือของเสรจ็ แล้วรีบกลับบ้านกันนะ เพราะคณุ พ่อจะไปเยี่ยมคุณปู่ทีเ่ ชยี งใหม่ แม่จะ ตอ้ ย : ฝากของไปให้คุณปดู่ ้วย คณุ แม่ : คณุ พอ่ จะเดินทางไปทางรถไฟ รถยนต์ หรอื เครื่องบนิ คะ คุณพอ่ เดนิ ทางไปทางเคร่ืองบนิ จะ้ แต่บางครง้ั คุณพอ่ กเ็ ดนิ ทางโดยทางรถไฟและรถยนต์

คาถาม 1. การกระทาในข้อใด แสดงถึงสิทธิในการรับขา่ วสาร รวมทง้ั คาพรรณนาคณุ ภาพที่ถูกตอ้ ง และสิทธิ ดังกลา่ วมผี ลดีต่อผู้บริโภคอย่างไร ฉลากปดิ ขวดแชมพทู บ่ี รรยายสรรพคณุ ของแชมพู มีผลดี คอื ทาใหผ้ บรโิ ภคเลือกซื้อสินค้าท่มี คี ุณภาพ ได้ ตามความต้องการ 2. การกระทาในขอ้ ใด แสดงถึงสิทธขิ องผู้บริโภคในการเลือกหาสนิ คา้ และบริการ - การเลอื กใช้สบแู่ ละยาสฟี นั - การเลือกเดินทางโดยยานพาหนะต่างๆ เชน่ รถไฟ รถยนต์ เครือ่ งบนิ 3. การกระทาใด ทแี่ สดงว่า ผู้บริโภคมสี ิทธิไดร้ ับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย การซ้อื สนิ คา้ ในร้านจาหนา่ ยเครอื่ งไฟฟ้า ถา้ สินคา้ ชารดุ หรอื มีปัญหา สามารถนาไปเปลย่ี นทีร่ า้ นได้หรอื ไดร้ บั การชดใช้คา่ เสียหาย 4. การกระทาใด ทแี่ สดงวา่ ผู้บริโภคมสี ิทธทิ ่ีจะไดร้ บั ความปลอดภัยจากการใช้สนิ ค้า การตรวจสอบคุณภาพสินคา้ ชนดิ ต่างๆ ของสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา

แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เร่อื ง กฎหมายคุ้มครองสทิ ธิของบคุ คล แผนจัดการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง กฎหมายลิขสิทธ์ิ รายวชิ า สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวชิ า ส21101 ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1 น้าหนกั เวลาเรยี น 1.5 (นน./นก.) เวลาเรียน 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ เวลาทใ่ี ช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1 ช่ัวโมง *********************************** 1. สาระสาคญั (ความเขา้ ใจทคี่ งทน) 1) กฎหมายในการค้มุ ครองสทิ ธขิ องบคุ คล เช่น กฎหมายลิขสทิ ธิ์ 2) ประโยชนข์ องการปฏบิ ตั ิตนตามกฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธิของบคุ คล 2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้/เป้าหมายการเรียนรู้ ส 2.1 เขา้ ใจและปฏิบัติตนตามหน้าทขี่ องการเปน็ พลเมอื งดี มคี ่านิยมท่ีดงี าม และธารงรักษาประเพณแี ละ วฒั นธรรมไทย ดารงชวี ติ อยรู่ ว่ มกนั ในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสันตสิ ขุ ส 2.1 ม.1/1 ปฏิบตั ิตามกฎหมายในการคมุ้ ครองสทิ ธิของบคุ คล 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่ิน พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1) กฎหมายในการค้มุ ครองสทิ ธขิ องบุคคล เช่น กฎหมายลิขสิทธิ์ 2) ประโยชนข์ องการปฏิบตั ิตนตามกฎหมาย คุม้ ครองสิทธิของบคุ คล 4. สมรรถนะสาคัญของนกั เรยี นและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของนกั เรยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 2. ความสามารถในการคดิ 2. มีวนิ ยั 3. ใฝเ่ รียนรู้ 2.1 ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ 4. มงุ่ มน่ั ในการทางาน 2.2 ทักษะการคิดสงั เคราะห์ 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

5. ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) บนั ทกึ การปฏบิ ัติตนตามกฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธขิ องบคุ คล 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : วิธสี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ช่วั โมงที่ 1 ข้ันนาเข้าสบู่ ทเรียน ครูสอบถามนักเรียนถงึ ความหมายของคาว่า “ลิขสิทธ์ิ” ในความรู้ ความเข้าใจของนกั เรียน ขน้ั จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engage) 1. ครนู าขา่ วเกี่ยวกับการละเมดิ ลิขสิทธ์ิ มาใหน้ กั เรยี นอ่าน พร้อมท้ังวิเคราะหร์ ว่ มกนั เก่ยี วกับการกระทา ของบคุ คลในขา่ ว 2. ครูตั้งคาถามเพื่อกระตนุ้ ความสนใจของนกั เรียน เชน่ - งานสร้างสรรคป์ ระเภทใดทมี่ ักมผี ู้ฉกฉวยโอกาสนาผลงานไปแสวงหาประโยชน์ แนวตอบ งานศิลปะ เพลง หนังสือ ซ่งึ ผลงานเหลา่ นม้ี ักมผี นู้ าไปทาซ้า ดัดแปลง ลอกเลียนแบบ เพ่ือแสวงหาผลกาไร ขน้ั ท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore) 1. ครใู ห้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 – 7 คน ศึกษาและอภิปรายเก่ียวกับกฎหมายลิขสิทธ์ิ จากหนังสือเรียน สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 และแหล่งขอ้ มลู ต่าง ๆ เช่น หอ้ งสมดุ อินเทอร์เน็ต เป็นต้น ตามประเดน็ ดงั น้ี 1) งานอันมลี ขิ สทิ ธิ์ 2) การคมุ้ ครองลขิ สทิ ธ์ิ 3) การละเมดิ ลขิ สทิ ธ์ิ 4) บทกาหนดโทษการละเมิดลขิ สทิ ธิ์ ขน้ั ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain) 1. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนาขอ้ มูลท่ีตนได้จากการรวบรวม มาอธิบายแลกเปลย่ี นความรูร้ ะหว่างกัน 2. จากนั้นสมาชกิ ในกลมุ่ ช่วยกนั คัดเลือกขอ้ มูลท่ีนาเสนอเพ่ือให้ไดข้ อ้ มลู ทถี่ ูกต้อง 3. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มสง่ ตวั แทนนาเสนอขอ้ มลู หน้าชนั้ เรยี นตามประเดน็ ทศ่ี กึ ษา อภปิ ราย และตอบ คาถาม รว่ มกนั

4. ครสู นทนาเกีย่ วกับการคมุ้ ครองลขิ สิทธเ์ิ พมิ่ เติม โดยครตู ั้งคาถาม เช่น - ในการคุม้ ครองลขิ สิทธิ์ เจา้ ของลิขสทิ ธ์ิมีสทิ ธิอย่างไรในผลงานของตนเอง แนวตอบ เจ้าของลขิ สิทธิ์ มีสิทธิแตเ่ พียงผู้เดียวในการทาซา้ ดัดแปลง เผยแพร่ตอ่ สาธารณะ นอกจากนี้ เจ้าของลขิ สิทธส์ิ ามารถโอนลขิ สทิ ธ์ิของตนทงั้ หมด หรอื เพยี งบางสว่ นให้แก่ผู้อนื่ ได้ - ในกรณีทีผ่ ู้กระทาความผิด ทาการละเมิดลขิ สิทธเิ์ พือ่ การคา้ จะต้องไดร้ บั โทษอยา่ งไร แนวตอบ ระวางโทษจาคุกตั้งแต่ 3 เดอื น ถงึ 2 ปี หรอื ปรับตั้งแต่ 50,000 บาท ถึง 400,000 บาท หรือ ทั้งจาทง้ั ปรบั 5. ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างข่าวในหนังสือพิมพ์หรือกรณีศึกษาอื่น ๆ ท่ีเก่ียวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ แล้ว อภปิ รายและแสดงความคดิ เห็นร่วมกัน 6. ครูให้นักเรียนศึกษาเพิ่มเติม “เสริมสาระ” จากหนังสือเรียนสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 1 เก่ียวกับการแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา โดยครูใช้คาถามเพื่อเป็นการอธบิ าย ความรู้ เช่น - ส่งิ ใดบ้างท่ีสามารถย่ืนแจ้งข้อมลู ลิขสิทธไิ์ ด้ แนวตอบ วรรณกรรม ศิลปกรรม ภาพยนตร์ ส่ิงบันทึกเสยี ง งานแพรเ่ สียงแพร่ภาพ ฯลฯ - หลกั เกณฑ์ใดบ้างท่ใี ช้ในการพิจารณางานลขิ สิทธ์ิ แนวตอบ เปน็ งานที่แสดงออกถึงความคิด เป็นงานทร่ี ิเริ่มสร้างสรรคด์ ้วยตนเอง การทุม่ เทกาลัง ความรู้ ความสามารถ ความต้ังใจ วริ ิยอุตสาหะในการสร้างสรรค์ มีลักษณะเขา้ ข่ายตามประเภท ของงานที่กฎหมายลิขสิทธ์ิ รับรอง และเปน็ งานท่ไี มข่ ัดต่อกฎหมาย และศลี ธรรมอนั ดี - ช่องทางใดบ้างท่สี ามารถยน่ื แจง้ ขอ้ มูลลิขสทิ ธ์ิได้ แนวตอบ กรมทรพั ยส์ นิ ทางปัญญา สานกั งานพาณิชยจ์ ังหวดั - หากมีการละเมิดลิขสิทธ์ิเป็นประจา โดยไม่มกี ฎหมายคุ้มครอง นักเรียนคิดว่าจะเกดิ ผลเสียอย่างไร แนวตอบ กฎหมายลิขสทิ ธ์นิ ั้นมีความสาคัญตอ่ การสร้างสรรคผ์ ลงานที่มีคุณค่า และส่งผลประโยชน์ ตอ่ การพัฒนางานด้านต่าง ๆ ซง่ึ หากมกี ารละเมิดลิขสิทธิ์โดยไม่มกี ารคุ้มครองดูแล ก็จะทาใหไ้ ม่มกี าร คิดคน้ สรา้ งสรรคส์ ง่ิ ใหม่ ๆ เพราะผู้สร้างสรรคจ์ ะเกิดความท้อแท้ใจในการถกู ละเมดิ สง่ ผลตอ่ เนื่องใหส้ งั คมไมม่ คี วาม เจริญกา้ วหนา้ ต่อไปในอนาคต 7. ครนู าข่าวเกี่ยวกับการปฏบิ ตั ติ นตามกฎหมายคุม้ ครองสทิ ธขิ องบุคคลมาเลา่ ใหน้ กั เรียนฟงั แล้วร่วมกนั แสดง ความคดิ เห็นตอ่ ประเด็นในข่าว 8. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพิ่มเติมถึงแนวทางการปฏิบัติตนตามกฎหมายคุ้มครองสิทธิบุคคลและ ประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั 9. ครใู ห้นักเรียนทากิจกรรมที่ เกยี่ วกับ กฎหมายลิขสิทธิ์ ในแบบฝกึ สมรรถนะฯ หนา้ ที่พลเมอื ง ชน้ั มธั ยมศกึ ษา ปี ที่ 1 ขัน้ ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand)

1. ครูให้นักเรียนร่วมกนั สรุปเกี่ยวกับกฎหมายลิขสทิ ธิ์ 2. ครูใหน้ ักเรยี นทาใบงานที่ 3.4 เร่ือง กฎหมายลิขสิทธ์ิ 3. ครูดูแลให้คาแนะนานักเรยี นเพ่ิมเตมิ ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของข้อมูลจากการทาใบงานท่ี 3.4 เรอื่ ง กฎหมายลขิ สิทธ์ิ 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมในสว่ นทีน่ ักเรียนไม่เขา้ ใจ ขั้นสรปุ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ ความสาคญั ของกฎหมายลขิ สทิ ธ์ิ รวมถึงกฎหมายคุม้ ครองสทิ ธขิ องบุคคล ข้นั ประเมนิ 1. ครปู ระเมนิ ผลโดยสงั เกตจากการตอบคาถาม การร่วมกันทางาน และการนาเสนอผลงานหน้าชน้ั เรียน 2. ครูตรวจสอบและประเมนิ ผลจากการทาแบบฝึกสมรรถนะฯ หนา้ ท่พี ลเมอื ง ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 3. ครูใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรยี นหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เร่อื ง กฎหมายคุม้ ครองสทิ ธิของบคุ คล 7. การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน 7.1 การวัดและประเมนิ ผล - ตรวจใบงานที่ 3.4 - ใบงานที่ 3.4 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ระหว่างการจดั กิจกรรม การเรียนรู้ - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมินการ - ระดบั คณุ ภาพ 2 1) อธิบายและวิเคราะห์ ผ่านเกณฑ์ สาระสาคัญ รวมถึงผลท่ี ผลงาน นาเสนอ ได้รบั ของกฎหมาย - ระดับคณุ ภาพ 2 ลิขสิทธิ์ได้ ผลงาน ผา่ นเกณฑ์ 2) การนาเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2 3) พฤตกิ รรมการทางาน ผา่ นเกณฑ์ รายบุคคล การทางานรายบุคคล การทางานรายบคุ คล - ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 4) พฤติกรรม - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม การทางานกลมุ่ การทางานรายกลุ่ม 5) คุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ - สงั เกตความมวี ินัย - แบบประเมิน ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่ันใน คณุ ลกั ษณะ การทางาน อันพงึ ประสงค์

7.2 การวดั และประเมินผล - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรียน - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ หลังเรียน หลงั เรยี น - แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 เร่ือง กฎหมายคุ้มครอง สิทธขิ องบคุ คล 8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรียน สงั คมศกึ ษา ศาสนาละวฒั นธรรม ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 2) แบบฝกึ สมรรถนะฯ หน้าทพี่ ลเมือง ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 3) ใบงานที่ 3.4 เร่ือง กฎหมายลิขสิทธ์ิ 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.kc.hri.tu.ac.th

ใบงานที่ 3.4 เรอื่ ง เร่อื ง กฎหมายลขิ สิทธ์ิ รายวิชา สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชย้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ********************* คาช้แี จง : ตอนที่ 1 : ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ 1. งานอันมลี ิขสิทธ์ิตามกฎหมายลิขสทิ ธ์ิ ได้แกง่ านอะไรบ้าง 2. เจ้าของลิขสิทธิ์ยอ่ มมีสิทธิในงานสรา้ งสรรค์ของตนอย่างไร 3. ผทู้ ่ีละเมดิ ลิขสิทธิด์ ้วยการคา้ เทปเพลงของนักรอ้ ง นกั แสดง หรอื จาหนา่ ยหนงั สือทล่ี อกตน้ ฉบับ ของผมู้ ีลขิ สทิ ธิ์ ต้องมโี ทษอย่างไร

คาชแี้ จง : ตอนท่ี 2 : ให้นกั เรยี นอา่ นกรณศี ึกษา แลว้ ตอบคาถาม เรื่อง ใครผดิ เด็กชายกล้าและเดก็ ชายกอ้ นไปรับจ้างขายของท่ีตลาด มนี ายหาญเป็นผู้นาสินค้าประเภทต่างๆ จากนายทนุ ท่ีผลติ มาใหเ้ ดก็ ท้งั สองขาย โดยใหค้ ่าจา้ งขายวนั ละ 250 บาท ของทน่ี ามาให้ขาย ไดแ้ ก่ ซดี ี เพลงลกู ท่งุ เพลงลูกกรงุ เพลงไทยเดมิ ซดี ีภาพยนตร์ไทย ภาพยนตร์อินเดยี ภาพยนตรเ์ กาหลี หนงั สือ การต์ ูน และภาพจติ รกรรมฝาผนงั กล้าและก้อนมีรายไดด้ กี ว่าไปรบั จา้ งขายของประเภทอื่น ต่อมาวัน หนง่ึ ตารวจไปจับกลา้ และกอ้ น โดยแจง้ ข้อหาจาหน่ายส่งิ ของทีผ่ ดิ กฎหมายลิขสิทธ์ิ และอธิบายว่า ส่งิ ของทงั้ หมดท่ีพวกเขาขายนั้น เปน็ ของผิดกฎหมายทั้งสนิ้ คาถาม 1. กล้าและก้อนทาผิดกฎหมายลิขสิทธใ์ิ นงานประเภทใด 2. ผู้กระทาผิดกฎหมายลิขสิทธใิ์ นเรือ่ งน้ี นอกจากกล้าและก้อนแล้วยังมีใครบา้ ง และเขาทาผิดอย่างไร 3. การทก่ี ฎหมายลิขสิทธิม์ บี ทลงโทษผู้กระทาผิดต้ังแตข่ นั้ ปรับถึงจาคกุ นั้น มีผลดีอยา่ งไร

เฉลยใบงานท่ี 3.4 เร่ือง กฎหมายลิขสทิ ธ์ิ รายวิชา สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชยั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ********************* คาชี้แจง : ตอนที่ 1 : ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. งานอันมลี ิขสิทธ์ิตามกฎหมายลขิ สทิ ธิ์ ไดแ้ กง่ านอะไรบา้ ง งานสรา้ งสรรค์ประเภทวรรณกรรม นาฏกรรม ศลิ ปกรรม ดนตรี โสตทัศนวสั ดุ ภาพยนตร์ ส่งิ บันทึกเสียง งานแพรเ่ สยี ง แพรภ่ าพ หรืองานอนื่ ใดในแผนกวรรณคดี แผนกสอื่ วิทยาศาสตรห์ รือแผนกศลิ ปะของผ้สู รา้ งสรรค์ 2. เจา้ ของลขิ สิทธ์ยิ ่อมมสี ิทธใิ นงานสร้างสรรค์ของตนอยา่ งไร เจา้ ของลขิ สิทธ์ยิ ่อมมีสิทธดิ ังตอ่ ไปนี้ 1) ทาซา้ หรอื ดัดแปลง 2) เผยแพร่ต่อสาธารณะ 3. ผ้ทู ่ีละเมิดลิขสิทธิ์ดว้ ยการคา้ เทปเพลงของนักรอ้ ง นักแสดง หรือจาหนา่ ยหนังสือที่ลอกตน้ ฉบับ ของผู้มีลิขสิทธิ์ ต้องมีโทษอย่างไร ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ต้งั แต่ 3 เดือน ถึง 2 ปี ปรับต้ังแต่ 50,000 - 100,000 บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ

คาชแี้ จง : ตอนท่ี 2 : ให้นกั เรียนอา่ นกรณศี ึกษา แลว้ ตอบคาถาม เรอ่ื ง ใครผิด เดก็ ชายกล้าและเด็กชายกอ้ นไปรบั จ้างขายของที่ตลาด มีนายหาญเป็นผูน้ าสินค้าประเภทตา่ งๆ จากนายทนุ ท่ีผลิตมาใหเ้ ดก็ ท้ังสองขาย โดยใหค้ ่าจ้างขายวนั ละ 250 บาท ของที่นามาใหข้ าย ไดแ้ ก่ ซีดี เพลงลกู ทุ่ง เพลงลกู กรงุ เพลงไทยเดมิ ซีดีภาพยนตร์ไทย ภาพยนตรอ์ ินเดีย ภาพยนตรเ์ กาหลี หนังสือ การต์ ูน และภาพจิตรกรรมฝาผนงั กล้าและกอ้ นมรี ายได้ดีกว่าไปรบั จ้างขายของประเภทอ่นื ตอ่ มาวัน หนึง่ ตารวจไปจบั กลา้ และกอ้ น โดยแจง้ ขอ้ หาจาหน่ายสิ่งของทผี่ ดิ กฎหมายลขิ สิทธิ์ และอธิบายว่า สง่ิ ของทั้งหมดทพี่ วกเขาขายน้ัน เปน็ ของผิดกฎหมายท้งั สิน้ คาถาม 1. กล้าและก้อนทาผดิ กฎหมายลิขสทิ ธิ์ในงานประเภทใด งานสร้างสรรคป์ ระเภทวรรณกรรม ดนตรี ภาพยนตร์ ส่ิงบนั ทกึ เสียง ศิลปกรรม 2. ผู้กระทาผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ในเร่อื งน้ี นอกจากกลา้ และก้อนแล้วยงั มีใครบา้ ง และเขาทาผิดอย่างไร นายหาญและนายทนุ ผ้ผู ลิตเทปซดี ีเพลง ซดี ภี าพยนตร์ หนังสือการ์ตนู และภาพจิตรกรรมฝาผนงั โดยลอกเลียนแบบหรอื ก๊อปปีข้ องซ่ึงมเี จา้ ของลขิ สิทธ์ิ 3. การท่กี ฎหมายลขิ สิทธิ์มบี ทลงโทษผกู้ ระทาผิดตั้งแตข่ ั้นปรับถึงจาคุกน้ัน มีผลดีอยา่ งไร มีผลดที ี่ทาใหบ้ คุ คลเกิดความเกรงกลวั และตระหนักถึงความสาคัญของการเคารพสิทธิของผู้อ่ืน และทาให้ เจา้ ของผลงานต่างๆ มคี วามมนั่ ใจในการสร้างสรรค์และพัฒนางานของตนใหม้ ีคณุ ภาพอนั จะเกดิ ประโยชน์ทงั้ สว่ นตน สงั คม และประเทศชาติ

แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 เรื่อง กฎหมายคุ้มครองสิทธิของบุคคล *********************** คาชแี้ จง : ให้นักเรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ระบบการศกึ ษาของไทย มรี ะบบอย่างไรบ้าง ก. การศกึ ษาในระบบ นอกระบบ ตามอธั ยาศัย ข. การศึกษาตามอธั ยาศยั การศึกษาวิชาชพี ค. การศกึ ษาในระบบ การศกึ ษาหลายระบบ ง. การศึกษาในระบบ การศึกษาวชิ าชีพ 2. ขอ้ ใดจดั เป็นงานอนั มลี ขิ สิทธ์ิ ก. งานอภปิ รายในหอ้ งประชมุ ข. ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ ค. ทฤษฎที างคณิตศาสตร์ ง. งานแต่งเพลง 3. การละเมิดลขิ สิทธขิ์ องผูอ้ ื่นถา้ เป็นการกระทาเพ่ือการค้า ผกู้ ระทาตอ้ งระวางโทษในข้อใด ก. จาคุกตง้ั แต่สามเดอื นถงึ สองปี หรอื ปรับตง้ั แต่หา้ หมนื่ บาทจนถึงห้าแสนบาท หรอื ทัง้ จาทง้ั ปรับ ข. จาคกุ ตง้ั แต่หน่งึ เดือนถงึ หนงึ่ ปี หรอื ปรับต้ังแต่สองหม่ืนบาทจนถึงส่ีหม่ืนบาท ค. จาคุกต้ังแตห่ น่งึ ปถี งึ สองปี หรือปรบั ต้งั แต่ห้าหมน่ื บาทจนถงึ สแ่ี สนบาท ง. จาคุกตง้ั แต่สามเดือนถึงสองปี หรอื ปรบั ต้งั แต่หา้ หม่นื บาทจนถึงสีแ่ สนบาท 4. การศึกษาทีใ่ ห้ผู้เรยี นได้เรียนรดู้ ว้ ยตนเองตามความสนใจ ศกั ยภาพความพรอ้ มและโอกาส เปน็ การศึกษา ในระบบใด ก. การศึกษาตามอธั ยาศยั ข. การศึกษานอกระบบ ค. การศกึ ษาในระบบ ง. การศกึ ษาวิชาชพี 5. พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีจะดาเนนิ การสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวสั ดิภาพเด็กในกรณีใด ก. ผปู้ กครองกระทาการขดั ขวางตอ่ การเจริญเติบโตของเด็ก ข. ผูป้ กครองใชเ้ ด็กใหท้ างานหารายได้ ค. ผู้ปกครองมฐี านะยากจนมาก ง. ผปู้ กครองพกิ าร 6. ข้อความใดท่ีเก่ยี วกบั สทิ ธิท่ีจะได้รับความปลอดภยั ในการใชส้ ินคา้ ก. องคก์ ารอาหารและยากาหนดใหย้ าทุกประเภท ต้องมคี าช้ีแจงในฉลาก ข. ฉลากยาทาแผลสดได้ระบุไวว้ า่ หา้ มใชท้ าบริเวณใกล้ตา ค. ผูซ้ ้ือยาอันตรายจะต้องมใี บส่งั ยาของแพทย์ ง. อาหารกระปอ๋ งทุกประเภทจะตอ้ งกาหนดวันผลิต 7. ข้อใดจดั อยู่ในประเภทของเดก็ ทพี่ งึ ได้รับการคมุ้ ครองสวัสดภิ าพ ก. ตอ้ ยถกู พ่อเล้ียงทาร้ายรา่ งกาย ข. ต้อมเป็นเดก็ เร่ร่อน ค. ตม้ั เป็นเด็กยากจน ง. ตาลเปน็ เด็กพกิ าร 8. สนิ คา้ ที่ควบคมุ ฉลากตามทค่ี ณะกรรมการวา่ ดว้ ยฉลากกาหนดน้ันจะเปน็ สินค้าตามข้อใด ก. สินค้านัน้ อาจก่อใหเ้ กิดอนั ตรายแก่สุขภาพรา่ งกาย และจิตใจจากการใช้สนิ คา้

ข. สนิ คา้ ท่ปี ระชาชนทว่ั ไปหาซื้อไดง้ า่ ยและเป็นสนิ ค้าทจ่ี าเปน็ ค. สินค้าประเภทเคร่อื งดืม่ มีสารเสพติดเจอื ปนอยู่ ง. สนิ คา้ ท่ีเปน็ อันตรายตอ่ สขุ ภาพของเยาวชน 9. นางดวงคลอดบตุ รแลว้ หนีออกจากโรงพยาบาลโดย ท้ิงบุตรไว้ทโ่ี รงพยาบาล การกระทาของดวงแสดงถึง ไม่ ปฏบิ ัตติ ามบทบาทหนา้ ที่ของผู้ปกครองอยา่ งไร ก. ละเลยสิ่งที่จาเป็นต่อชีวติ เด็ก ข. เลี้ยงดูเดก็ โดยมิชอบ ค. ขาดการดแู ลเดก็ ง. ทอดทงิ้ เด็ก 10. สถานศึกษาท่ีสังกัดองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นจานวนมากข้นึ ในปัจจุบนั ข้อความนีส้ อดคล้องกับเรื่องใด ก. การกระจายอานาจทางการศกึ ษา ข. การกาหนดมาตรฐานการศึกษา ค. การประกันคุณภาพการศกึ ษา ง. การรวมอานาจทางการศึกษา 11. โรงเรยี นเพ่ิมพนู วทิ ยา มกี ฎระเบียบหา้ มนักเรยี นไป เลน่ เกมคอมพวิ เตอร์ในร้านเกม ข้อความดังกลา่ ว สอดคลอ้ งกบั เรอ่ื งใด ก. มาตรการสง่ เสริมความประพฤตินกั เรยี น ข. การปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ค. ความมชี ื่อเสียงของโรงเรยี น ง. หนา้ ทขี่ องโรงเรยี น 12. นักเรยี นทกุ คนเรียนตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน แสดงว่า นกั เรยี นเรียนในระบบใด ก. การศึกษาตามอัธยาศยั ข. การศกึ ษาวิชาสามัญ ค. การศึกษานอกระบบ ง. การศกึ ษาในระบบ 13. ประชาชนทร่ี ับประทานปลากระปอ๋ งแลว้ ท้องเสยี ควรพากันไปร้องทกุ ข์กบั ใคร ก. รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสุข ข. คณะกรรมการคมุ้ ครองผูบ้ ริโภค ค. ผวู้ า่ ราชการจงั หวัด ง. ตารวจ 14. บิดามารดาหรอื ผปู้ กครองตอ้ งให้บตุ รหรือผูอ้ ยูใ่ นความดแู ลใหไ้ ด้รับการศกึ ษาภาคบงั คบั จานวนกีป่ ี ก. 5 ปี ข. 7 ปี ค. 9 ปี ง. 12 ปี 15. ยาทุกประเภทจะมคี าพรรณนาคุณและโทษ ข้อความนส้ี อดคลอ้ งกับสิทธิในเรอ่ื งใด ก. สทิ ธทิ จ่ี ะไดค้ าพรรณนาคณุ ภาพท่ีถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสนิ คา้ ข. สทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั การพจิ ารณาและชดเชยความเสียหาย ค. สิทธทิ จ่ี ะได้รบั ความปลอดภยั ในการใชส้ นิ ค้า ง. สิทธิท่จี ะมีอสิ ระในการเลือกซ้อื สินค้า

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรอื่ ง กฎหมายคุ้มครองสทิ ธขิ องบุคคล *********************** ข้อ คาตอบ ขอ้ คาตอบ 1ก 9ง 2ง 10 ก 3ง 11 ก 4ก 12 ง 5ก 13 ข 6ข 14 ง 7ก 15 ก 8ก

แบบบันทกึ หลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เร่ือง กฎหมายคุ้มครองสิทธิของบคุ คล แผนการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง กฎหมายคมุ้ ครองเดก็ รายวชิ า สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 1 รหสั วิชา ส21101 ครผู ้สู อน นายศรมี ลู สมบุตร ตาแหนง่ ครู คศ. 2 เวลาท่ใี ช้ 2 ชวั่ โมง ************************* ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้อคน้ พบระหวา่ ง ปญั หาที่พบ แนวทางแก้ไข ทมี่ ีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อประกอบการเรียนรู้ พฤตกิ รรม/การมสี ่วนรว่ มของ นกั เรยี น ลงชอื่ …..........………….......................…….. ครูผจู้ ัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นายศรีมูล สมบุตร) ตาแหนง่ ครู คศ. 2 ………../………………../……………..


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook