Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบความรู้ เรื่องหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์

ใบความรู้ เรื่องหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์

Published by chanthong20, 2018-05-03 00:53:48

Description: แผนการสอน เรื่องหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์

Search

Read the Text Version

แผนการสอน/แผนการเรียนรู้ภาคทฤษฏีเทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชีพ

1 แผนการสอน/แผนการเรยี นรู้ภาคทฤษฎี หนว่ ยที่ 1 สอนสัปดาหท์ ี่ 1 แผนการสอน/การเรียนร้ภู าคทฤษฎี ชอ่ื วชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชีพ คาบรวม 4 จานวนคาบ 4 ชื่อหน่วย ระบบคอมพิวเตอร์และหลักการทางานชอ่ื เรื่อง ระบบคอมพิวเตอร์และหลกั การทางานหวั ข้อเรอื่ ง ดา้ นความรู้ 1 ความหมายของคอมพิวเตอร์ 2 ประเภทของคอมพวิ เตอร์ตามความสามารถของระบบ 3 องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ ดา้ นทักษะ 1 อธบิ ายหลักการทางานของคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 2 ติดต้งั คอมพิวเตอร์ อุปกรณร์ อบขา้ งได้ 3 ถูกตอ้ งและใชง้ านได้ ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม 1. ความรับผิดชอบ 2. ความสนใจใฝร่ ู้สาระสาคัญ 1 ความหมายของคอมพวิ เตอร์ 2 ประเภทของคอมพิวเตอร์ตามความสามารถของระบบ 3 องค์ประกอบของคอมพวิ เตอร์สมรรถนะอาชีพประจาหนว่ ย 1 อธิบายระบบคอมพวิ เตอร์และหลักการทางานได้จดุ ประสงค์การสอน/การเรยี นรู้ • จดุ ประสงค์ทัว่ ไป / บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1 เพ่ือใหม้ คี วามรเู้ กีย่ วกบั ความหมายของคอมพวิ เตอรไ์ ด้อยา่ งถกู ต้อง 2 เพ่อื ให้มีทักษะ เกยี่ วกบั ประเภทของคอมพวิ เตอรต์ ามความสามารถของระบบได้อยา่ งถูกต้อง 3 เพื่อให้มีเจตคติท่ีดีต่อการเตรียมความพร้อมด้าน วัสดุ อุปกรณ์ และการปฏิบัติงานอย่างถูกต้องสาเรจ็ ภายในเวลาทก่ี าหนด มีเหตแุ ละผลตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม)

2• จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม / บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1 จากการปฏบิ ตั งิ านทาใหน้ กั ศกึ ษามีความรู้และมีคุณธรรมรอบรใู้ นการติดตั้งเคร่ืองคอมพิวเตอรแ์ ละ สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั ในบ้านของนักศกึ ษาลดค่าใชจ้ ่าย ตามแนวปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพียง(ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง) 2 การเตรียมความพรอ้ มดา้ นการเตรียม วสั ดุ อุปกรณน์ กั ศกึ ษาจะต้องกระจายงานได้ทว่ั ถงึ และตรง ตามความสามารถของสมาชิกทกุ คน มีการจัดเตรียมสถานที่ สอ่ื วสั ดุ อุปกรณไ์ ว้อย่างพร้อมเพรียง (ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง) 3 ความมีเหตุมผี ลในการปฏบิ ตั ิงาน ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง นกั ศกึ ษาจะต้องมกี ารใช้ เทคนคิ ทีแ่ ปลกใหมใ่ ชส้ ่อื และเทคโนโลยปี ระกอบการนาเสนอท่ีนา่ สนใจนาวัสดใุ นท้องถน่ิ มา ประยกุ ตใ์ ช้ อยา่ งคุ้มคา่ และประหยดั (ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง)

3เนอื้ หาสาระการสอน/การเรยี นรู้• ด้านความร(ู้ ทฤษฎี) คอมพิวเตอร์คือ อุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ (electronic device) ที่มนุษย์ใช้เป็นเครื่องมือช่วยใน การจัดการกับข้อมูลที่อาจเป็นได้ทั้งตัวเลข ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์อ่ืนท่ีใช้แทนความหมายในส่ิงต่าง ๆ โดย คุ ณ ส ม บั ติ ท่ี ส า คั ญ ข อ งค อ ม พิ ว เต อ ร์ คื อ ก า ร ท่ี ส า ม า ร ถ ก า ห น ด ชุ ด ค า สั่ ง ล่ ว ง ห น้ า ได้ ห รื อ โป ร แ ก ร ม ได้ (programmable) นน่ั คือคอมพวิ เตอร์สามารถทางานได้หลากหลายรปู แบบ ข้ึนอยูก่ ับชดุ คาส่ังท่ีเลอื กมาใชง้ าน ทาใหส้ ามารถนาคอมพวิ เตอร์ไปประยกุ ตใ์ ชง้ านได้อย่างกวา้ งขวาง จาแนกออกได้เปน็ 4 ชนดิ โดยพิจารณาจาก ความสามารถในการเกบ็ ขอ้ มลู และ ความเร็วในการประมวลผล เปน็ หลัก ดงั น้ีซุปเปอร์คอมพวิ เตอร์ (Super Computer)หมายถงึ เครื่องประมวลผลข้อมูลทมี่ ีความสามารถในการประมวลผลสงู ทีส่ ุด โดยท่วั ไปสรา้ งขึน้ เป็นการเฉพาะเพ่ืองานด้านวทิ ยาศาสตรท์ ี่ต้องการการประมวลผลซบั ซอ้ น และต้องการความเร็วสูง เชน่ งานวจิ ัยขีปนาวธุ งานโครงการอวกาศสหรฐั (NASA) งานสอื่ สารดาวเทียม หรอื งานพยากรณอ์ ากาศ เป็นต้นเมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ (Mainframe Computer)หมายถึง เครือ่ งประมวลผลข้อมลู ท่มี สี ว่ นความจาและความเรว็ น้อยลง สามารถใช้ข้อมลู และคาส่งั ของเครื่องรุ่นอ่ืนในตระกลู (Family) เดยี วกันได้ โดยไม่ตอ้ งดดั แปลงแก้ไขใดๆ นอกจากนน้ั ยงั สามารถทางานในระบบเครอื ข่าย(Network) ไดเ้ ป็นอย่างดี โดยสามารถเชอื่ มตอ่ ไปยงั อุปกรณ์ทเ่ี รยี กว่า เครือ่ งปลายทาง (Terminal) จานวนมากได้สามารถทางานได้พรอ้ มกันหลายงาน (Multi Tasking) และใชง้ านไดพ้ รอ้ มกันหลายคน (Multi User) ปกติเครื่องชนิดนน้ี ยิ มใช้ในธุรกิจขนาดใหญ่ มรี าคาตั้งแตส่ ิบล้านบาทไปจนถึงหลายร้อยลา้ นบาท ตวั อยา่ งของเคร่อื งเมนเฟรมท่ีใชก้ ันแพร่หลายก็คอื คอมพิวเตอรข์ องธนาคารท่เี ชื่อมต่อไปยังตู้ ATM และสาขาของธนาคารทวั่ ประเทศนั่นเองมนิ ิคอมพวิ เตอร์ (Mini Computer)ธรุ กิจและหน่วยงานที่มขี นาดเลก็ ไม่จาเปน็ ต้องใชค้ อมพวิ เตอรข์ นาดเมนเฟรมซง่ึ มรี าคาแพง ผ้ผู ลิตคอมพวิ เตอร์จงึพัฒนาคอมพวิ เตอร์ใหม้ ีขนาดเลก็ และมีราคาถกู ลง เรยี กว่า เคร่อื งมินิคอมพิวเตอร์ โดยมีลักษณะพิเศษในการทางานรว่ มกับอุปกรณป์ ระกอบรอบข้างทมี่ คี วามเร็วสงู ได้ มกี ารใชแ้ ผน่ จานแม่เหล็กความจุสงู ชนดิ แข็ง (Harddisk)ในการเก็บรกั ษาข้อมูล สามารถอ่านเขียนข้อมูลไดอ้ ย่างรวดเร็ว หน่วยงานและบรษิ ัททใ่ี ชค้ อมพิวเตอร์ขนาดนี้ ไดแ้ ก่กรม กอง มหาวิทยาลัย หา้ งสรรพสนิ คา้ โรงแรม โรงพยาบาล และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆไมโครคอมพิวเตอร์ (Micro Computer)หมายถงึ เครื่องประมวลผลข้อมลู ขนาดเลก็ มสี ่วนของหนว่ ยความจาและความเร็วในการประมวลผลน้อยทส่ี ดุสามารถใชง้ านไดด้ ้วยคนเดียว จึงมกั ถูกเรียกวา่ คอมพิวเตอร์สว่ นบคุ คล (Personal Computer : PC)

4 ปจั จบุ นั ไมโครคอมพวิ เตอร์มีประสิทธภิ าพสูงกว่าในสมยั กอ่ นมาก อาจเทา่ กบั หรอื มากกวา่ เครื่องเมนเฟรมในยคุ กอ่ น นอกจากนั้นยังราคาถูกลงมาก ดงั น้นั จงึ เป็นทนี่ ิยมใช้มาก ทงั้ ตามหนว่ ยงานและบริษัทหา้ งรา้ น ตลอดจนตามโรงเรยี น สถานศึกษา และบ้านเรือน บรษิ ัทท่ีผลติ ไมโครคอมพวิ เตอรอ์ อกจาหน่ายจนประสบความสาเรจ็ เปน็บรษิ ัทแรก คือ บริษัทแอปเปลิ คอมพวิ เตอร์เคร่อื งไมโครคอมพิวเตอร์ จาแนกออกไดเ้ ป็น 2 ประเภทใหญๆ่ คือ 1. แบบติดต้ังใชง้ านอย่กู ับที่บนโต๊ะทางาน (Desktop Computer) 2. แบบเคลอื่ นย้ายได้ (Portable Computer) สามารถพกพาตดิ ตัว อาศยั พลงั งานไฟฟ้าจากแบตเตอรจ่ี าก ภายนอก ส่วนใหญม่ ักเรยี กตามลักษณะของการใชง้ านวา่ Laptop Computer หรอื Notebook Computerองคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์1. ฮาร์ดแวร์ ( Hardware ) ฮาร์ดแวร์เป็นองค์ประกอบของตัวเคร่อื งทส่ี ามารถจับต้องได้ ได้แก่ วงจรไฟฟา้ตัวเครื่อง จอภาพ เครื่องพมิ พ์ คีร์บอรด์ เปน็ ตน้ ซึ่งสามารถแบ่งสว่ นพน้ื ฐานของฮาร์ดแวรเ์ ปน็ 4 หน่วยสาคัญ1.1 หนว่ ยรับขอ้ มูลหรืออนิ พตุ ทาหนา้ ทร่ี บั ขอ้ มูลและโปรแกรมเข้า เครอ่ื ง มีโครงสรา้ งดงั รปู 1.3 ได้แก่ คยี บ์ อรดืหรอื แป้นพมิ พ์ เมาส์ เคร่อื งสแกน เครอ่ื งรดู บัตร Digitizer เปน็ ตน้1.2 ระบบประมวลผลกลางหรอื ซพี ียู (CPU : Central Processing Unit) ทาหน้าทีใ่ นการทางานตามคาส่ังที่ปรากฏอยใู่ นโปรแกรม ปัจจบุ นั ซพี ียูของเคร่อื งพซี ี รูจ้ ักในนามไมโครโปรเซสเซอร์ ( MicroProcessor) หรอื Chip ไมโครโปรเซสเซอร์ มีหนา้ ทีใ่ นการประมวลผลข้อมลู ในลกั ษณะของการคานวณและเปรยี บเทียบ โดยจะทางานตามจงั หวะเวลาที่แน่นอน เรยี กว่าสญั ญาณ Clock เมื่อมีการเคาะจงั หวะหน่งึ คร้ัง

5 ก็จะเกิดกิจกรรม 1 คร้ัง เราเรยี กหนว่ ย ทใี่ ชใ้ นการวัดความเรว็ ของซพี ยี ูวา่ “เฮริ ์ท”(Herzt) หมายถึงการทางานได้ก่คี ร้งั ในจานวน 1 วนิ าที เชน่ ซีพยี ู Pentium4 มคี วามเร็ว 2.5 GHz หมายถงึ ทางานเร็ว 2,500 ลา้ นครงั้ในหนึ่งวินาที กรณที ส่ี ญั ญาณ Clock เร็วก็จะทาให้คอมพวิ เตอร์เคร่อื งนน้ั มคี วามเร็วสงู และ ซพี ียูท่ที างานเรว็ มากราคากจ็ ะแพงข้ึนมากตามไปด้วย1.3 หนว่ ยเกบ็ ข้อมูล ( Storage ) ซ่งึ สามารถแยกตามหน้าที่ไดเ้ ปน็ 2 ลักษณะ คอื 1.3.1 หน่วยเก็บขอ้ มูลหลกั หรือความจาหลกั ( Primary Storage หรอื MainMemory) ทาหนา้ ทเ่ี กบ็โปรแกรมหรือข้อมลู ทีร่ บั มาจากหนว่ ยรบั ข้อมลู เพ่ือเตรียมสง่ ให้หนว่ ยประมวลผลกลางทาการประมวลผล และรบัผลลพั ธท์ ่ีได้จากการประมวลผลเพื่อสง่ ออกหน่วยแสดงขอ้ มูลต่อไปซง่ึ อาจแยกไดเ้ ป็น 2 ประเภท คือ RAM (Random Access Memory ) ทสี่ ามารถอา่ นและเขียนขอ้ มลู ไดใ้ นขณะทเี่ ปดิ เคร่อื งอยู่ แต่เมื่อปิดเครื่องข้อมลูใน RAM จะหายไป และ ROM ( Read Only Memory ) จะอ่านไดอ้ ย่างเดียว เชน่ BIOS (Basic Input Outputsystem) โปรแกรมฝังไว้ใช้ตอนสตาร์ตเครื่อง เพ่อื เคร่อื งคอมพวิ เตอรเ์ ริ่มต้นทางาน เปน็ ตน้ 1.3.2 หนว่ ยเกบ็ ข้อมูลสารอง ( Secondary Storage ) เป็นหน่วยทท่ี าหนา้ ท่เี กบ็ ขอ้ มูล หรอื โปรแกรมที่จะป้อนเข้าสหู่ น่วยความจาหลักภายในเครอ่ื งกอ่ นทาการประมวลผลโดยซพี ียู รวมทัง้ เป็นท่เี ก็บผลลพั ธ์จากการประมวลผลด้วย ปัจจุบันรู้จักในนามฮารด์ ดิสก์ (Hard disk) หรือแผ่นฟรอ็ ปปดี ิสก์ (Floppy Disk) ซึง่ เมื่อปดิ เครื่องขอ้ มูลจะยงั คงเกบ็ อยู่1.4 หน่วยแสดงขอ้ มูลหรือเอาต์พตุ ( Output Unit ) ทาหนา้ ทีใ่ นการแสดงผลลพั ธ์ทีไ่ ด้จากการประมวลผล ได้แก่จอภาพ และเครือ่ งพมิ พ์ เปน็ ตน้ ทัง้ 4 สว่ นจะเช่อื มตอ่ กันด้วยบสั ( Bus )2 ซอฟต์แวร์ ( Software ) ซอฟตแ์ วร์ คือโปรแกรมหรือชุดคาสัง่ ท่ีส่ังใหฮ้ าร์ดแวรท์ างาน รวมไปถงึ การควบคุมการทางาน ของอุปกรณแ์ วดล้อมต่างๆ เช่น ฮาร์ดดสิ ก์ ดสิ กไ์ ดร์ฟ ซดี รี อม การด์ อินเตอรเ์ ฟสต่าง ๆ เป็นต้น ซอฟต์แวร์เป็นสง่ิ ที่มองไมเ่ ห็นจบั ต้องไม่ได้ แต่รบั รู้การทางานของมนั ได้ ซ่งึ ตา่ งกับ ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ที่สามารถจบั ต้องได้ ซึ่งแบง่ เปน็ 2 ประเภทคือ 2.1 ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ ( System Software ) คอื โปรแกรม ทใ่ี ชใ้ นการควบคุมระบบการ ทางานของเครือ่ งคอมพวิ เตอรท์ งั้ หมด เชน่ การบตู เครอื่ ง การสาเนาขอ้ มูล การจัดการระบบของดิสก์ ชดุ คาสั่งทีเ่ ขยี นเปน็ คาส่งัสาเรจ็ รปู โดยผูผ้ ลิตเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ และมีมาพรอ้ มแลว้ จากโรงงานผลิต การทางานหรือการประมวลผล ของซอฟต์แวรเ์ หลา่ น้ี ขนึ้ กับเครอ่ื งคอมพวิ เตอรแ์ ต่ละเครื่อง ระบบของซอฟต์แวร์เหลา่ น้ี ออกแบบมาเพือ่ การปฏบิ ัติควบคุม และมคี วามสามารถในการยืดหยนุ่ การประมวลผลของเครื่องคอมพวิ เตอร์ แบง่ ออกเปน็ 4 ประเภทคือ 2.1.1 โปรแกรมระบบปฏบิ ัตกิ าร (Operating System) เปน็ โปรแกรมที่ใช้ควบคุม และตดิ ตอ่ กบัอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเครือ่ งคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะการจัดการระบบของดสิ ก์ การบริหารหน่วยความจาของระบบกลา่ วโดยสรปุ คอื หากจะทางานใดงานหนึ่ง โดยใชค้ อมพวิ เตอร์เปน็ เครือ่ งมือ ในการทางาน แล้วจะตอ้ งตดิ ต่อกับซอฟต์แวรร์ ะบบกอ่ น ถ้าขาดซอฟต์แวรช์ นิดนี้ จะทาให้เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ ไมส่ ามารถทางานได้ ตวั อย่างของซอฟตแ์ วร์ประเภทน้ไี ดแ้ ก่ โปรแกรมระบบปฏบิ ตั กิ าร Unix Linux DOSและWindows (เวอรช์ ่นั ต่าง ๆ เชน่ 9598 me 2000 NT XP Vista ) เป็นตน้

6 2.1.2 ตัวแปลภาษา (Translator) จาก Source Code ใหเ้ ปน็ Object Code (แปลจากภาษาท่ีมนษุ ย์เขา้ ใจ ให้เป็นภาษาท่ีเครอื่ งเขา้ ใจ เปรียบเสมอื นลา่ มแปลภาษา) เป็นซอฟตแ์ วร์ท่ีใชใ้ นการแปลภาษาระดับสงูซงึ่ เปน็ ภาษาใกลเ้ คยี งภาษามนษุ ย์ ใหเ้ ปน็ ภาษาเคร่อื งก่อนท่จี ะนาไปประมวลผล ตัวแปลภาษาแบ่งออกเปน็ สองประเภทคอื คอมไพเลอร์ (Compiler) และอนิ เตอรพ์ ที เตอร์ (Interpeter) คอมไพเลอรจ์ ะแปลคาสงั่ ในโปรแกรมท้งั หมดกอ่ น แลว้ ทาการลงิ้ (Link) เพือ่ ให้ไดค้ าสง่ั ทเ่ี ครื่องคอมพิวเตอรเ์ ข้าใจ สว่ นอินเตอร์พที เตอรจ์ ะแปลทลี ะประโยคคาส่ัง แล้วทางานตามประโยคคาส่ังน้นั การจะเลอื กใชต้ ัวแปลภาษาแบบใดนัน้ จะขนึ้ อยู่กบั ภาษาท่ใี ชใ้ นการเขียนโปรแกรม ซงึ่ มี 2 แบบไดแ้ ก่ ภาษาแบบโครงสร้าง เชน่ ภาษาเบสิก (Basic) ภาษาปาสคาล(Pascal) ภาษาซี (C) ภาษาจาวา(Java)ภาษาโคบอล (Cobol) ภาษา SQL ภาษา HTML เป็นต้น ภาษาแบบเชงิวัตถุ ( Visual หรอื Object Oriented Programming ) เชน่ Visual Basic,Visual C หรอื Delphi เป็นต้น 2.1.3 ยตู ลิ ิตี้ โปรแกรม (Utility Program) คอื ซอฟตแ์ วรเ์ สริมช่วยให้เคร่ืองทางานมีประสทิ ธภิ าพ มากข้ึน เชน่ ชว่ ยในการตรวจสอบดิสก์ ชว่ ยในการจดั เกบ็ ขอ้ มูลในดิสก์ ชว่ ยสาเนาขอ้ มูล ชว่ ยซ่อมอาการชารดุ ของดิสก์ ช่วยค้นหาและกาจดั ไวรัสฯลฯ เปน็ ต้นโปรแกรมในกลุ่มนไี้ ด้แก่โปรแกรม Norton Winzip Scan virus Sidekick Scandisk Screen Saver ฯลฯ เปน็ ตน้ 2.1.4 ติดต้ังและปรบั ปรงุ ระบบ (Diagonostic Program) เป็นซอฟตแ์ วรท์ ่ีใชใ้ นการตดิ ตง้ั ระบบเพอื่ ให้คอมพิวเตอรส์ ามารถตดิ ตอ่ และใชง้ านอุปกรณต์ ่าง ๆ ท่ีนามาตดิ ต้ังระบบ ได้แก่ โปรแกรม Setupและ Driver ตา่ ง ๆ เชน่ โปรแกรม Setup Microsoft Office โปรแกรม Driver Sound , Driver Printer ,Driver Scanner ฯลฯ เปน็ ตน้ 2.2 ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ (Application Software)คือ ซอฟต์แวรห์ รอื โปรแกรมทที่ าให้คอมพิวเตอร์ทางานตา่ งๆ ตามท่ผี ใู้ ชต้ ้องการ ไม่ว่าจะด้านเอกสาร บัญชี การจดั เกบ็ ข้อมูล เป็นตน้ ซอฟตแ์ วร์ประยุกต์สามารถจาแนกได้เปน็ 2 ประเภท คอื 2.2.1 ซอฟตแ์ วร์สาหรบั งานเฉพาะด้าน (Special Purpose Software) คอื โปรแกรมซึ่งเขียนข้ึนเพ่อื การทางานเฉพาะอย่างท่เี ราตอ้ งการ บางท่เี รียกวา่ User’s Program เช่น โปรแกรมการทาบัญชจี า่ ยเงนิ เดอื น โปรแกรมระบบเช่าซอื้ โปรแกรมการทาสินค้าคงคลงั เป็นต้น ซงึ่ แต่ละโปรแกรมกม็ กั จะมเี งื่อนไข หรอืแบบฟอร์มแตกตา่ งกนั ออกไปตามความตอ้ งการ หรือกฏเกณฑข์ องแต่ละหนว่ ยงานท่ีใช้ ซึง่ สามารถดดั แปลงแก้ไขเพิ่มเตมิ (Modifications) ในบางส่วนของโปรแกรมได้ เพอ่ื ให้ตรงกบั ความตอ้ งการของผใู้ ช้ และซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์ทเี่ ขียนขน้ึ น้ีโดยสว่ นใหญ่มกั ใช้ภาษาระดับสูงเป็นตัวพฒั นา 2.2.2 ซอฟตแ์ วร์สาหรบั งานทว่ั ไป (General Purpose Software) เป็นโปรแกรมประยุกตท์ ีม่ ีผจู้ ัดทาไว้ เพือ่ ใชใ้ นการทางานประเภทตา่ งๆ ทัว่ ไป โดยผู้ใชค้ นอื่นๆ สามารถนาโปรแกรมน้ีไปประยุกต์ใชก้ บั ข้อมูลของตนได้ แต่จะไม่สามารถทาการดดั แปลง หรือแกไ้ ขโปรแกรมได้ ผใู้ ชไ้ ม่จาเป็นตอ้ งเขียนโปรแกรมเอง ซึง่ เปน็ การประหยดั เวลา แรงงาน และคา่ ใช้จา่ ยในการเขยี นโปรแกรม นอกจากนี้ ยงั ไม่ตอ้ งเวลามากในการฝกึ และปฏบิ ัติ ซ่ึงโปรแกรมสาเรจ็ รปู นี้ มักจะมกี ารใชง้ านในหนว่ ยงาน ซ่ึงขาดบคุ ลากรทมี่ คี วามชานาญเปน็ พิเศษในการเขียนโปรแกรม ดงั นนั้ การใช้โปรแกรมสาเรจ็ รปู จงึ เปน็ สง่ิ ท่ีอานวยความสะดวกและเป็นประโยชน์อยา่ งย่งิ ตัวอยา่ งโปรแกรมสาเรจ็ รปู ทน่ี ิยมใช้ไดแ้ ก่ MS-Office, Lotus, Adobe Photoshop, SPSS, Internet Explorer

7 และเกมส์ต่างๆ เปน็ ตน้3 บุคลากร ( Peopleware ) บคุ ลากรจะเปน็ ส่งิ สาคญั ท่จี ะเปน็ ตัวกาหนดถึงประสทิ ธิภาพถงึ ความสาเรจ็ และความคุ้มคา่ ในการใชง้ านคอมพวิ เตอร์ ซ่ึงสามารถแบง่ บคุ ลากรตามหนา้ ท่ีเกยี่ วขอ้ งตามลกั ษณะงานได้ 6 ด้าน ดังนี้ 3.1 นักวเิ คราะห์และออกแบบระบบ (Systems Analyst and Designer : SA ) ทาหน้าทศี่ ึกษาและรวบรวมความตอ้ งการของผใู้ ช้ระบบ และทาหน้าทเ่ี ป็นสื่อกลางระหวา่ งผใู้ ชร้ ะบบและนกั เขียนโปรแกรม(Programmer) หรอื ปรับปรงุ คณุ ภาพงานเดิม นักวเิ คราะหร์ ะบบต้องมคี วามร้เู กยี่ วกบั ระบบคอมพวิ เตอร์ พื้นฐานการเขยี นโปรแกรม และควรจะเปน็ ผมู้ ีความคิดริเริ่มสรา้ งสรรค์มมี นษุ ย์สมั พนั ธท์ ่ดี ี 3.2 โปรแกรมเมอร์ ( Programmer ) คอื บคุ คลทท่ี าหนา้ ท่เี ขยี นซอฟต์แวร์ต่างๆ(Software )หรอื เขยี นโปรแกรมเพอ่ื ส่งั งานให้เคร่อื งคอมพวิ เตอรท์ างานตามความต้องการของผใู้ ช้ โดยเขยี นตามแผนผังทนี่ กั วิเคราะห์ระบบไดเ้ ขยี นไว้ 3.3 ผูใ้ ช้ ( User ) เป็นผูใ้ ช้ระบบคอมพวิ เตอร์ ซ่งึ จะเปน็ ผปู้ ฏิบัตหิ รือกาหนดความต้องการในการใช้ระบบคอมพวิ เตอร์ว่าทางานอะไรได้บา้ ง ผ้ใู ช้งานคอมพิวเตอร์ทัว่ ไป จะต้องเรียนร้วู ิธีการใช้เครือ่ ง และวิธกี ารใชง้ านโปรแกรม เพือ่ ใหโ้ ปรแกรมทม่ี ีอยู่สามารถทางานได้ตามทต่ี อ้ งการ 3.4 ผู้ปฏบิ ตั ิการ (Operator ) สาหรับระบบขนาดใหญ่ เช่น เมนเฟรม จะตอ้ งมีเจ้าหน้าท่คี อมพิวเตอร์ที่คอยปิดและเปดิ เครื่อง และเฝา้ ดจู อภาพเมือ่ มีปญั หาซึง่ อาจเกิดขัดข้อง จะต้องแจง้ System Programmer ซ่งึเป็นผูด้ แู ลตรวจสอบแกไ้ ขโปรแกรมระบบควบคุมเครื่อง (System Software) อีกทหี น่งึ 3.5 ผบู้ ริหารฐานขอ้ มูล ( Database Administrator : DBA ) กลุม่ บุคคลท่ที าหนา้ ท่ีดแู ลขอ้ มูลผา่ นระบบจัดการฐานข้อมลู ซง่ึ จะควบคมุ ให้การทางานเปน็ ไปอย่างราบรื่น นอกจากนีย้ งั ทาหนา้ ที่กาหนดสทิ ธกิ ารใชง้ านขอ้ มลู กาหนดในเรือ่ งความปลอดภยั ของการใช้งาน พรอ้ มทง้ั ดูแลดาต้าเบสเซริ ์ฟเวอร์ (Database Server) ให้ทางานอย่างปกติด้วย 3.6 ผู้จัดการระบบ (System Manager) คอื ผู้วางนโยบายการใชค้ อมพิวเตอร์ใหเ้ ปน็ ไปตามเป้าหมายของหนว่ ยงาน เป็นผู้ทม่ี ีความหมายตอ่ ความสาเรจ็ หรอื ลม้ เหลวของการนาระบบคอมพิวเตอร์เขา้ มาใชง้ านเป็นอยา่ งมาก4. ขอ้ มลู และสารสนเทศ 4.1 ข้อมูล (Data) หมายถงึ ขอ้ เท็จจริงหรือเหตกุ ารณท์ ่เี กดิ ข้นึ แล้วใชต้ วั เลขตวั อักษร หรอื สัญลักษณ์ตา่ งๆ ทาความหมายแทนสงิ่ เหลา่ น้นั เชน่ 4.2 สารสนเทศ (Information) หมายถงึ ขอ้ สรุปต่างๆ ท่ีไดจ้ ากการนาขอ้ มลู มาทาการวิเคราะห์ หรือผ่านวธิ กี ารที่ ไดก้ าหนดขนึ้ ทงั้ นี้เพื่อนาข้อสรุปไปใชง้ านหรอื อา้ งอิง เช่น5. กระบวนการทางาน ( Procedure ) องค์ประกอบดา้ นนี้หมายถึงกระบวนการทางานเพอื่ ให้ไดผ้ ลลพั ธต์ ามต้องการ ในการทางานกบั คอมพิวเตอรผ์ ู้ใชจ้ าเปน็ ต้องทราบข้นั ตอนการทางานเพอ่ื ให้ได้งานที่ถกู ตอ้ งและมี

8 ประสิทธภิ าพ ซึง่ อาจจะมีขนั้ ตอนสลบั ซบั ซอ้ นหลายขน้ั ตอน ดงั นั้นจึงมคี วามจาเปน็ ต้องมีค่มู อื ปฏิบตั ิงานเชน่ คู่มอื ผูใ้ ช้ ( user manual ) หรือคู่มอื ผู้ดูแลระบบ ( operation manual ) เป็นตน้ดา้ นทักษะ(ปฏบิ ตั ิ) (จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ท่ี 1-2) 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยที่ 1 2. ใบงาน หนว่ ยท่ี 1 3. แบบฝึกหัด หนว่ ยท่ี 1 4. กจิ กรรมนาสอู่ าเซียน หนว่ ยที่ 1 5. กิจกรรมบรู ณาการในชีวติ ประจาวนั หนว่ ยที่ 1 6. กิจกรรมบูรณาการ 3D หนว่ ยท่ี 1 7. แบบประเมินผเู้ รยี นในช้ันเรียน 8. แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยท่ี 1• ด้านคุณธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียง (จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมขอ้ ท่ี 3-4) 1. การเตรียมความพร้อมด้านการเตรียม วัสดุ อุปกรณ์นักศึกษาจะต้องกระจายงานได้ท่ัวถึง และตรงตาม ความสามารถของสมาชกิ ทกุ คน มกี ารจัดเตรยี มสถานที่ ส่ือ วสั ดุ อุปกรณไ์ วอ้ ยา่ งพรอ้ มเพรียง 2. ความมีเหตุมีผลในการปฏิบัตงิ าน ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง นักศึกษาจะตอ้ งมีการใช้ เทคนิคที่แปลกใหม่ใช้ส่ือและเทคโนโลยีประกอบการนาเสนอที่น่าสนใจนาวัสดุในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ อย่างคุ้มคา่ และประหยดั

9 กิจกรรมการเรียนการสอนหรือการเรยี นรู้ขน้ั ตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ขน้ั ตอนการเรียนรหู้ รอื กิจกรรมของนักเรยี น1 ครูชแี้ จงรายละเอยี ดของหลกั สตู ร จุดประสงค์ 1 นักศกึ ษาฟังครูชี้แจงรายละเอยี ดต่างๆ ด้วยความต้งั ใจรายวิชา คาอธบิ ายรายวชิ า และโครงการสอน การวัดผลและประเมินผล ระเบียบขอ้ บังคบั ของ วิทยาลยัฯ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม สมรรถนะที่พึงประสงค์ ชี้แจงเรื่องของความปลอดภยั ในการทางาน การใชเ้ ครอ่ื งคอมพิวเตอรอ์ ยา่ งถูกวิธี 2 นกั ศกึ ษาฟงั ครแู นะนา และอธิบาย เพอื่ นาเข้าสู่2 ครูนาเข้าสูบ่ ทเรียน โดยกลา่ วถงึ ความสาคัญของ บทเรียนโปรแกรมสาเรจ็ รูปในการพัฒนางานและการเลือกใช้งานโปรแกรมสาเรจ็ รปู ใหเ้ หมาะสมกบั ลักษณะงาน3 ครถู ามคาถามใหน้ กั ศึกษาตอบเกย่ี วกับความหมาย 3 นักศึกษาตอบคาถามหลายๆ รูปแบบ ตามความของคอมพวิ เตอร์ คดิ เห็น4 ครูอธิบายสรปุ ความหมายของคอมพวิ เตอร์ และ 4 นกั ศกึ ษาฟงั ครูอธบิ ายสรปุ และตอบคาถามมอบหมายใหน้ กั ศกึ ษาทาการศกึ ษาคน้ ควา้ เก่ยี วกับประเภทของคอมพิวตเอร์และความสามารถของระบบวิธีการจดั หาโปรแกรมสาเร็จรูปรวมถึงการพจิ ารณาเลือกใชโ้ ปรแกรมสาเรจ็ รูป และการพจิ ารณาซอฟต์แวร์ตามหลักการของลิขสทิ ธ์ิ พร้อมทง้ั ตั้งกระทู้คาถามให้นักศกึ ษาตอบ5 ครูสรปุ สาระสาคัญ โดยสรุปจากการตอบคาถามของ 5 นกั ศึกษาฟังครอู ธิบายสรุปนกั ศึกษา6 ครมู อบหมายให้นกั ศึกษา ทาการศึกษาองค์ประกอบ 6 นกั ศกึ ษาฟังครูอธิบายและการศกึ ษาองค์ประกอบของของเครอ่ื งคอมพิวเตอร์จากอุปกรณ์จริงทีค่ รจู ดั เตรียม เครือ่ งคอมพิวเตอร์จากอปุ กรณ์จรงิ ทค่ี รจู ัดเตรยี มไว้ไว้ พร้อมท้ังสอบถามปัญหาท่ีสงสยั7 ครูมอบหมายใหน้ กั ศกึ ษาปฏิบตั ติ ามใบงานท่ี 1 7 นักศึกษาทาใบงานที่ 1 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1พรอ้ มท้งั บนั ทึกขัน้ ตอนการปฏิบัตงิ านและปัญหาท่ีเกดิ ขน้ึ ในระหว่างการปฏิบตั ิงาน โดยครคู อยดแู ลและตรวจสอบขน้ั ตอนการปฏิบัติ และการฝกึ ทกั ษะการเรยี นรู้ของนักศกึ ษาให้ถูกต้องและครบถว้ น8 ครูและนักศกึ ษาร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ที่เกิดจาก 8 นกั ศกึ ษาใหค้ วามร่วมมอื ในการสรปุ องคค์ วามรทู้ ไี่ ด้เรียนรู้จากหนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 จากการเรียนรู้9 ครแู จกแบบทดสอบหลงั การเรียนรู้ 9 นักศกึ ษาทาแบบทดสอบด้วยความซอ่ื สัตย์สจุ ริต10 ครูสัง่ ให้นกั ศึกษากลับไปทบทวนเนอ้ื หาท่ไี ดเ้ รียนรู้ 10 นกั ศึกษาอ่านใบความรู้ในหนว่ ยท่ี 1 ตามครูสัง่ และตามใบความรหู้ นว่ ยที่ 1 และใหน้ ักศกึ ษาทา ทาแบบฝกึ หัดทบทวนความรู้และส่งตามกาหนดแบบฝึกหัดทบทวนความรู้ โดยกาหนดส่งในวนั รุ่งข้นึ

10ข้นั ตอนการสอนหรอื กิจกรรมของครู ข้ันตอนการเรยี นหรือกิจกรรมของนกั ศึกษา11 ครใู ห้นกั ศกึ ษาอ่านเน้อื หาในใบความรหู้ น่วยท่ี 2 11 นักศึกษาปฏบิ ตั ติ ามทค่ี รสู ่ังมาล่วงหน้า12 ครูกลา่ วขอบใจนักศกึ ษาทตี่ ั้งใจเรียนและปฏบิ ตั ติ น 12 นกั ศึกษา ฟังครูอยา่ งตั้งใจถูกตอ้ งตามระเบยี บ13 ครูดูแลการทาความสะอาดและจัดเคร่อื งมือให้ 13 นกั ศึกษาทาความสะอาดเครื่องคอมพวิ เตอร์ และเรียบร้อยและปิดหอ้ งปฏบิ ัติการเมื่อเลกิ ใชง้ าน อปุ กรณต์ ่าง ๆ14 ครูบนั ทกึ ขอ้ มูลเก่ียวกบั กจิ กรรมการเรยี นการสอน 14 นักศึกษาบนั ทึกผลการปฏบิ ตั งิ านของตนเองเพือ่ ที่จะเพือ่ ใช้แก้ปัญหาทอ่ี าจเกิดขนึ้ กบั กล่มุ อืน่ ๆ ตอ่ ไป หรอื ไดท้ ราบปญั หาที่เกดิ ข้นึ ในระหว่างการเรียนตลอดจนองค์ความรทู้ เี่ กิดข้นึ วิธีการแกป้ ญั หาดังกลา่ วโดยครคู อยใหค้ าปรกึ ษาอยา่ ง ใกลช้ ดิ15 ครูให้นกั ศกึ ษาเขา้ แถวหน้าหอ้ งเรยี น เพอ่ื บอก 15 นักศกึ ษาเขา้ แถวด้วยความเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ยปลอ่ ยแถว หวั หนา้ ห้องบอกใหเ้ พ่อื นร่วมหอ้ ง กลา่ วคาขอบคณุ ครูผสู้ อนด้วยความอ่อนน้อม

11งานที่มอบหมายหรอื กจิ กรรมการวัดผลและประเมนิ ผล กอ่ นเรียน 1. จดั เตรียมเอกสาร ส่อื การเรยี นการสอนหนว่ ยที่ 1 2. ทาความเข้าใจเก่ยี วกบั จดุ ประสงคก์ ารเรียนของหน่วยท่ี 1 และให้ความร่วมมือในการทากิจกรรมใน หน่วยที่ 1 ขณะเรียน 1. ปฏิบัตติ ามกจิ กรรมหน่วยที่ 1 2. ปฏบิ ัตติ ามใบงาน 3. รว่ มกันสรุป “ระบบคอมพวิ เตอร์และหลักการทางาน” หลังเรยี น 1. ทาแบบประเมินการเรียนรู้ 2. ทาแบบฝึกหัด หนว่ ยที่ 1ผลงาน/ชิ้นงาน/ความสาเร็จของผเู้ รยี น กจิ กรรมท่ี 1 เรอื่ ง ระบบคอมพวิ เตอร์และหลักการทางานสมรรถนะทพี่ ึงประสงค์ ผเู้ รยี นสรา้ งความเขา้ ใจเกย่ี วกับ ระบบคอมพิวเตอรแ์ ละหลกั การทางาน 1. วิเคราะห์และตีความหมาย 2. ตั้งคาถาม 3. อภิปรายแสดงความคดิ เห็นระดมสมอง 4. การประยุกต์ความรสู้ ูง่ านอาชพีสมรรถนะการสรา้ งคา่ นิยม ปลกู ฝงั คณุ ธรรม จริยธรรมสมรรถนะการปฏบิ ัติงานอาชีพ 1. อธิบายหลักของระบบคอมพวิ เตอร์และหลกั การทางานได้สมรรถนะการขยายผล -

12สอื่ การเรียนการสอน/การเรียนรู้สื่อสิ่งพิมพ์ 1. เอกสารประกอบการสอนวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชพี (ใช้ประกอบการเรยี นการสอนจดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรมข้อท่ี 1-2) 2. แบบฝกึ หดั หน่วยที่ 1 เรอื่ ง ระบบคอมพิวเตอร์และหลกั การทางาน (ใช้ประกอบการเรียนการสอนขั้นให้ความรู้ เพ่อื ใหบ้ รรลุจดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมข้อท่ี 1-2) 3. แบบประเมนิ ผเู้ รยี นในชน้ั เรียน ใช้ประกอบการสอนข้ันประยกุ ตใ์ ช้ ข้อ 1-2ส่ือโสตทศั น์ (ถ้าม)ี 1. บทเรียนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน เรื่อง ระบบคอมพวิ เตอร์และหลักการทางานสอ่ื ของจริง 1. ระบบคอมพิวเตอร์และหลกั การทางาน (ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนจดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมข้อที่ 1-2)แหล่งการเรยี นรู้ในสถานศึกษา 1. หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั การอาชพี เซกา 2. ห้องปฏบิ ัติการคอมพิวเตอร์ ศกึ ษาหาขอ้ มลู ทางอินเทอร์เน็ตนอกสถานศึกษา ผปู้ ระกอบการรา้ นคอมพิวเตอร์ สถานประกอบการ ในทอ้ งถ่ินการบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ บั วิชาอื่น 1. บูรณาการกบั วิชาชีวติ และวฒั นธรรมไทย ดา้ นการพดู การอ่าน การเขียน และการฝกึ ปฏิบตั ติ นทาง สังคมด้านการเตรียมความพร้อม ความรบั ผดิ ชอบ และความสนใจใฝ่รู้ 2. บรู ณาการกับวชิ าการบรหิ ารการจดั ซอ้ื ด้านการซอ้ื การแสวงหาผลติ ภัณฑ์ 3. บรู ณาการกับวชิ ากีฬาเพอ่ื พัฒนาสุขภาพและบคุ ลกิ ภาพ ดา้ นบุคลิกภาพในการนาเสนอหน้าช้ันเรยี น 4. บูรณาการกับวิชาหลกั เศรษฐศาสตร์ ดา้ นการเลอื กใช้ทรพั ยากรอย่างประหยัด

13การประเมินผลการเรยี นรู้ • หลกั การประเมินผลการเรียนรู้ กอ่ นเรียน ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน ขณะเรียน 1. ตรวจผลงานตาม แบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 1 2. สังเกตการทางาน หลงั เรยี น 1. ตรวจแบบฝึกหดั ทดสอบความเข้าใจ 2. ตรวจกจิ กรรม หนว่ ยท่ี 1 3. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน 4. สลับกนั ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียนคาถาม 1. หน่วยรบั ขอ้ มูล หมายถึง 2. ประเภทของซดี ีรอม ประกอบด้วยอะไรบา้ ง 3. จอภาพแบบแอลซดี ี หมายถงึผลงาน/ชนิ้ งาน/ผลสาเรจ็ ของผู้เรียน แบบฝกึ หัด หนว่ ยที่ 1 เร่ือง ระบบคอมพวิ เตอร์และหลักการทางานสมรรถนะท่พี ึงประสงค์ ผู้เรียนสร้างความเขา้ ใจเกย่ี วกับการพัฒนาและความสาคญั ของการขาย 1. วิเคราะห์และตคี วามหมาย 2. ตัง้ คาถาม 3. อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ ระดมสมอง 4. การประยกุ ต์ความรูส้ งู่ านอาชีพ

14รายละเอียดการประเมินผลการเรยี นรู้• จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ข้อที่ 1 ระบบคอมพวิ เตอรแ์ ละหลักการทางานได้1. วิธกี ารประเมนิ : ทดสอบ2. เคร่อื งมือ : แบบทดสอบ3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : หลกั การทางานของระบบคอมพวิ เตอร์ จะได้ 1 คะแนน• จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม ขอ้ ท่ี 2 อธิบายหลกั การทางานระบบคอมพิวเตอรแ์ ละหลักการทางานได้1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ2. เครือ่ งมอื : แบบทดสอบ3. เกณฑ์การใหค้ ะแนน : อธบิ ายหลกั การทางานของระบบ คอมพวิ เตอร์ จะได้ 1 คะแนน• จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ขอ้ ที่ 3 การเตรยี มความพร้อมดา้ นการเตรยี ม วัสดุ อุปกรณน์ ักศกึ ษาจะต้องกระจายงานไดท้ ่ัวถึง และตรงตามความสามารถของสมาชกิ ทกุ คน มีการจดั เตรยี มสถานที่ สือ่ วสั ดุอุปกรณ์ไวอ้ ย่างพร้อมเพรียง1. วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ2. เครือ่ งมอื : แบบทดสอบ3. เกณฑ์การใหค้ ะแนน : การเตรียมความพรอ้ มดา้ นการเตรียม วัสดุ อุปกรณน์ ักศกึ ษาจะต้องกระจายงานไดท้ ว่ั ถึง และตรงตาม ความสามารถของสมาชกิ ทุกคน มีการจดั เตรยี มสถานท่ี สอื่ วสั ดุ อปุ กรณ์ไวอ้ ยา่ งพร้อมเพรยี ง จะได้ 4 คะแนน• จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 4 ความมีเหตุมผี ลในการปฏิบตั ิงาน ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี งนกั ศกึ ษาจะตอ้ งมีการใช้ เทคนคิ ทแี่ ปลกใหม่ใช้สอ่ื และเทคโนโลยีประกอบการนาเสนอทน่ี า่ สนใจนาวัสดใุ นทอ้ งถนิ่ มาประยุกต์ใช้ อยา่ งคมุ้ ค่าและประหยดั1. วิธีการประเมนิ : ตรวจผลงาน2. เครือ่ งมือ : แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม3. เกณฑก์ ารให้คะแนน : ความมเี หตมุ ผี ลในการปฏิบตั งิ าน ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงนักศกึ ษาจะต้องมกี ารใช้ เทคนิคที่แปลกใหมใ่ ชส้ อ่ื และเทคโนโลยี ประกอบการนาเสนอท่นี า่ สนใจนา วัสดใุ นทอ้ งถ่นิ มาประยกุ ต์ใชอ้ ยา่ ง คุ้มคา่ และประหยัด จะได้ 2 คะแนน

15 แบบทดสอบ / แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 1 เรื่อง ระบบคอมพิวเตอรแ์ ละหลักการทางานคาสั่ง จงเลอื กคาตอบทถี่ กู ต้อง1. คอมพิวเตอรช์ นดิ ใดทีเ่ หมาะสมกบั งานวจิ ยั ขปี นาวธุ งานส่อื สารดาวเทียม หรืองานพยากรณอ์ ากาศก. Micro Computer ข. Mini Computerค. Mainframe Computer ง. Super Computer2. ข้อใดเปน็ อุปกรณ์นาเขา้ ขอ้ มูลก. เมาส์ (Mouse) ข. คยี บ์ อร์ด (Keyboard)ค. สแกนเนอร์ (Scanner) ง. ถูกทุกข้อ3. ขอ้ ใดเป็นอปุ กรณแ์ สดงผลข้อมูลก. เมาส์ (Mouse) ข. เครอื่ งพิมพ์ (Printer)ค. สแกนเนอร์ (Scanner) ง. คียบ์ อร์ด (Keyboard)4. โปรแกรมท่ชี ่วยจัดเกบ็ ขอ้ มลู มาก ๆ เชน่ การเกบ็ สินค้าคงคลงั การเกบ็ ประวัตพิ นักงาน การเกบ็ รายชอื่นกั เรียนในโรงเรยี น เป็นตน้ คอื โปรแกรมด้านใดก. โปรแกรมประมวลผลคา (Word Processor)ข. โปรแกรมกระดานคานวณ (Spreedsheet)ค. โปรแกรมจดั การฐานข้อมูล (Database)ง. โปรแกรมกราฟิก (Graphic)5. ขอ้ ใดเป็นโปรแกรมประมวลผลคาก. Microsoft Access ข. Microsoft Excelค. Microsoft PowerPoint ง. Microsoft Word6. คอมพิวเตอรป์ ระเภทใดท่ีมผี นู้ ยิ มใช้มากที่สุดก. Micro Computer ข. Mini Computerค. Mainframe Computer ง. Super Computer7. คอมพิวเตอร์ทมี่ ปี ระสิทธิภาพในการทางานสดุ คอื ขอ้ ใดก. Micro Computer ข. Mini Computerค. Mainframe Computer ง. Super Computer8. ข้อใด ไม่ใช่ หนว่ ยแสดงผลก. LED Monitor ข. 3D Printerค. Scanner ง. Keyboard9. Operating System หมายถงึก. Max OS X ข. Microsoft Officeค. Photoshop ง. Sony Vegas10. การพิมพร์ ายงานเปน็ กระบวนการใดของคอมพิวเตอร์ก. ป้อนข้อมลู ข. ประมวลผลข้อมูลค. แสดงผลขอ้ มลู ง. จัดเก็บข้อมูล

16 แบบประเมินผลการนาเสนอผลงาน ช่ือกลุม่ ……………………………………………ช้ัน………………………หอ้ ง........................... รายชือ่ สมาชิก 1……………………………………เลขท…ี่ …. 2……………………………………เลขท…่ี …. 3……………………………………เลขท…่ี …. 4……………………………………เลขท…่ี ….ท่ี รายการประเมิน คะแนน ข้อคดิ เห็น 32 11 เน้อื หาสาระครอบคลุมชดั เจน (ความรเู้ กยี่ วกบั เนื้อหา ความถกู ต้อง ปฏิภาณในการตอบ และการแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหน้า)2 รปู แบบการนาเสนอ3 การมีสว่ นร่วมของสมาชิกในกล่มุ4 บุคลิกลักษณะ กิริยา ท่าทางในการพูด น้าเสียง ซงึ่ ทาให้ผู้ฟังมีความ สนใจ รวม ผ้ปู ระเมิน………………………………………………… เกณฑ์การให้คะแนน 1. เนื้อหาสาระครอบคลมุ ชดั เจนถกู ต้อง 3 คะแนน = มสี าระสาคญั ครบถว้ นถกู ตอ้ ง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระสาคัญไม่ครบถว้ น แต่ตรงตามจดุ ประสงค์ 1 คะแนน = สาระสาคัญไม่ถูกต้อง ไมต่ รงตามจดุ ประสงค์ 2. รูปแบบการนาเสนอ 3 คะแนน = มรี ปู แบบการนาเสนอทเ่ี หมาะสม มกี ารใช้เทคนคิ ที่แปลกใหม่ ใชส้ ือ่ และเทคโนโลยี ประกอบการ นาเสนอท่นี า่ สนใจ นาวสั ดใุ นท้องถน่ิ มาประยกุ ต์ใช้อยา่ งคมุ้ ค่าและประหยัด คะแนน = มีเทคนคิ การนาเสนอทแ่ี ปลกใหม่ ใช้สอื่ และเทคโนโลยปี ระกอบการนาเสนอทีน่ า่ สน ใจ แต่ขาด การประยกุ ต์ใช้ วสั ดุในท้องถิ่น 1 คะแนน = เทคนิคการนาเสนอไมเ่ หมาะสม และไม่นา่ สนใจ 3. การมสี ว่ นร่วมของสมาชิกในกลมุ่ 3 คะแนน = สมาชิกทกุ คนมบี ทบาทและมสี ่วนร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 2 คะแนน = สมาชกิ สว่ นใหญ่มีบทบาทและมสี ่วนร่วมกจิ กรรมกล่มุ 1 คะแนน = สมาชิกสว่ นน้อยมบี ทบาทและมีสว่ นร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 4. ความสนใจของผฟู้ ัง 3 คะแนน = ผฟู้ ังมากกวา่ ร้อยละ 90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมือ 2 คะแนน = ผู้ฟังร้อยละ 70-90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมือ 1 คะแนน = ผู้ฟงั นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 70 สนใจ และให้ความรว่ มมอื

17แบบประเมนิ กระบวนการทางานกล่มุชอื่ กลุม่ ……………………………………………ชัน้ ………………………หอ้ ง...........................รายชื่อสมาชกิ 2……………………………………เลขท…่ี …. 4……………………………………เลขท…ี่ …. 1……………………………………เลขท…ี่ …. 3……………………………………เลขท…่ี ….ท่ี รายการประเมนิ คะแนน ข้อคดิ เหน็1 การกาหนดเปา้ หมายร่วมกัน 3212 การแบง่ หน้าที่รบั ผดิ ชอบและการเตรยี มความพร้อม3 การปฏิบตั หิ นา้ ท่ีทไี่ ดร้ บั มอบหมาย4 การประเมินผลและปรบั ปรงุ งาน รวม ผ้ปู ระเมนิ ………………………………………………… วันท…่ี ………เดือน……………………..พ.ศ…………...เกณฑ์การให้คะแนน1. การกาหนดเป้าหมายร่วมกนั 3 คะแนน = สมาชกิ ทกุ คนมีส่วนรว่ มในการกาหนดเปา้ หมายการทางานอยา่ งชัดเจน 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญม่ สี ่วนรว่ มในการกาหนดเปา้ หมายในการทางาน 1 คะแนน = สมาชิกสว่ นน้อยมสี ่วนรว่ มในการกาหนดเป้าหมายในการทางาน2. การมอบหมายหน้าทร่ี ับผิดชอบและการเตรยี มความพรอ้ ม 3 คะแนน = กระจายงานได้ทั่วถึง และตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจัดเตรียมสถานท่ี สอ่ื / อปุ กรณไ์ วอ้ ยา่ งพรอ้ มเพรยี ง 2 คะแนน = กระจายงานไดท้ ั่วถงึ แตไ่ มต่ รงตามความสามารถ และมสี ่ือ / อปุ กรณ์ไวอ้ ย่างพร้อมเพรียง แต่ขาด การจัดเตรยี มสถานท่ี 1 คะแนน = กระจายงานไมท่ ว่ั ถึงและมสี อ่ื / อุปกรณไ์ ม่เพียงพอ3. การปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ที ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย 3 คะแนน = ทางานได้สาเร็จตามเป้าหมาย และตามเวลาท่ีกาหนด 2 คะแนน = ทางานไดส้ าเรจ็ ตามเปา้ หมาย แตช่ ้ากว่าเวลาท่ีกาหนด 1 คะแนน = ทางานไมส่ าเรจ็ ตามเปา้ หมาย4. การประเมินผลและปรับปรงุ งาน 3 คะแนน = สมาชิกทกุ คนรว่ มปรึกษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเป็นระยะ 2 คะแนน = สมาชิกบางสว่ นมสี ่วนร่วมปรกึ ษาหารือ แตไ่ ม่ปรับปรงุ งาน 1 คะแนน = สมาชกิ บางสว่ นไม่มสี ว่ นรว่ มปรกึ ษาหารือ และปรบั ปรงุ งาน

18หน่วยท่ี 1 จานวน 4 ชัว่ โมง แผนการจัดการเรียนรู้วชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ รหัส 3001-2001ชื่อหน่วย ระบบคอมพิวเตอรแ์ ละหลกั การทางานผสู้ อน / ผู้ตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ ลงชื่อ…………………………….…….. ( นายวรี พันธ์ จันทรท์ อง ) ผสู้ อน / ผู้บนั ทึกแผนการจัดการเรียนรู้ ………./……………..……/…….…… ลงชอื่ …………………………….…….. ( นายวีรพันธ์ จนั ทรท์ อง ) หัวหน้าสาขาวิชาวชิ า ………./……………..……/…….…… ลงชอ่ื …………………………….…….. ( นายวทิ ยา สายเนตร ) รองผู้อานวยการฝ่ายวิชาการ ………./……………..……/…….……

19 บนั ทึกหลงั การสอน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 รหัส3001-2001 วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชีพ ระดบั ชนั้ ปวส. จานวน 3 หน่วยกติ ชอื่ หนว่ ย ระบบคอมพวิ เตอรแ์ ละหลักการทางาน เวลาสอน 4 ชั่วโมงช่ือเรื่อง ระบบคอมพวิ เตอร์และหลกั การทางาน เวลาสอน 4 ช่วั โมง (1) ผลการใชแ้ ผนการสอน 1. เนอ้ื หามคี วามสอดคล้องกบั จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 12345 2. เวลาทท่ี ากิจกรรมการเรียนรู้ 3. การเรียนการสอนแบบเน้นผ้เู รียนเปน็ สาคญั ………… ………… ………… ………… ………… 4. ผเู้ รียนมีสว่ นร่วมในกจิ กรรม ………… ………… ………… ………… ………… 5. การใชส้ ื่อการเรยี นการสอน ………… ………… ………… ………… ………… (2) ผลการเรียนของผู้เรยี น ………… ………… ………… ………… ………… 1. ความสนใจใฝ่รู้และความรว่ มมือในการทากจิ กรรมกลุม่ 2. การแสดงความคดิ เห็นของผู้เรียน ………… ………… ………… ………… ………… 3. ความม่นั ใจในการเสนอผลงาน ………… ………… ………… ………… ………… 4. ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นของผเู้ รียน (3) ผลการสอนของครู ………… ………… ………… ………… ………… 1. การวางแผนและความมน่ั ใจในการสอน ………… ………… ………… ………… ………… 2. ความราบรนื่ ของกระบวนการและกิจกรรมการสอน ………… ………… ………… ………… ………… 3. เอกสารจากแหลง่ ความรู้ และขอ้ มูลสารสนเทศมีเพียงพอ ………… ………… ………… ………… ………… 4. การเรียนการสอนครบตามเนื้อหาหลักสูตรและทันเวลา ………… ………… ………… ………… ………… (4) อนื่ ๆ 1. ………………………………………………………………….. ………… ………… ………… ………… ………… 2. ………………………………………………………………….. ………… ………… ………… ………… ………… ………… ………… ………… ………… ………… รวม ………… ………… ………… ………… ………… ………… ………… ………… ………… ………… ………… ………… ………… ………… ………… ………… ………… ………… ………… ………… …………. ………… ………… ………… …………หมายเหตุ คะแนน 1-2 = ต้องปรบั ปรุง, คะแนน 3 = พอใช้, คะแนน 4 = ดี, คะแนน 5 = ดมี าก 1. รายละเอยี ดทีผ่ ูเ้ รยี นมีสว่ นรว่ ม 1 ………………………………………….………………………………………………………………………………………………… 2 ……………………………………………..……………………………………………………………………………………………… 2. สรปุ และปญั หาท่ีพบ ……………………………………………………………………………………………………………………................................ 3 ขอ้ เสนอแนะ จากครู ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… จากผเู้ รียน ………………………………………………………………………………………………………………………………...................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผู้บันทึก………………………. ……………………..…………( นายวีรพันธ์ จนั ทร์ทอง ) ( นายวิทยา สายเนตร ) รองผ้อู านวยการฝา่ ยวิชาการ ผ้สู อน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook