Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อะไรเอ่ย เฉลยหน่อย

อะไรเอ่ย เฉลยหน่อย

Published by Sirikanda Udornphaew, 2020-10-11 08:40:06

Description: โครงงาน-รวมใหม่

Search

Read the Text Version

รายงานโครงงานภาษาไทย เรื่อง อะไรเอ่ย เฉลยหนอ่ ย จดั ทำโดย นางสาวอัญรยิ า พง่ี พบ รหสั นสิ ติ 60010514025 นางสาวกลุ นันท์ สโุ พธิคำ รหัสนสิ ติ 60010514028 นายสพุ ัฒนพ์ งศ์ บุญเศษ รหัสนิสติ 60010514044 นางสาวสิริกานดา อดุ รแผว้ รหสั นสิ ติ 60010514066 กศ.บ.วิชาภาษาไทย คณะศึกษาศาสตร์ ช้นั ปีที่ 4 กลุ่มเรยี นท่ี 2 เสนอ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์เพญ็ ประภา สิงหส์ วสั ดิ์ รายงานโครงงานน้เี ป็นส่วนหน่งึ ของรายวิชา 0563402 ทกั ษะทางภาษาเชิงวชิ าการสำหรบั ครภู าษาไทย (Academic Language Skills for Thai Language Teachers) ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2560 มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม

ก ชือ่ เร่อื ง อะไรเอย่ เฉลยหน่อย ผู้จดั ทำโครงงาน 1. นางสาวอัญรยิ า พ่ีงพบ รหสั นสิ ิต 60010514025 2. นางสาวกุลนันท์ สโุ พธิคำ รหัสนสิ ติ 60010514028 3. นายสพุ ฒั นพ์ งศ์ บญุ เศษ รหัสนิสิต 60010514044 4. นางสาวสิรกิ านดา อดุ รแผ้ว รหสั นิสติ 60010514066 ระดับการศกึ ษา ช้นั ปีที่ 4 สาขาวิชาภาษาไทย รายวิชา 0563402 ทกั ษะทางภาษาเชงิ วิชาการสำหรบั ครภู าษาไทย อาจารยท์ ่ปี รกึ ษาโครงงาน ผูช้ ่วยศาสตราจารย์เพ็ญประภา สงิ หส์ วสั ด์ิ สถานศกึ ษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ระยะเวลาในการดำเนนิ งาน 1 เดือน (12 กนั ยายน - 12 ตลุ าคม 2563) ปีการศกึ ษา 2563 บทคดั ยอ่ การจัดทำโครงงาน เรื่อง “อะไรเอ่ย เฉลยหน่อย” มีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อศึกษาความรู้และเผยแพร่ ปริศนาคำทาย รวมทั้งศึกษาคำคล้องจองที่ปรากฏในปริศนาคำทาย เป็นการฝึกความมีปฏิภาณไหวพริบใน การแก้ปัญหา อีกทั้งยังส่งเสริมการอนุรักษ์ภูมิปัญญาทางภาษาและวรรณกรรมท้องถิ่น นอกจากนี้ การทำ โครงงานดังกล่าวยังช่วยสง่ เสริมการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยกลุ่มของข้าพเจ้าได้ดำเนินการศึกษาตาม ขั้นตอน เริ่มจากการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับปริศนาคำทาย โดยมีประเด็นศึกษา คือ ความหมาย ความเป็นมา จุดมุ่งหมายของปริศนาคำทาย และลักษณะของปริศนาคำทาย วิธีการถายปริศนา ส่วนประกอบและประเภท ของปริศนาคำทาย รวมทั้งประโยชน์และคุณค่าของปริศนาคำทาย จากนั้นจึงรวบรวมปริศนาคำทาย ทั้งส่วน คำถามและคำตอบ แล้วนำปริศนาคำทายมาคัดเลือกและจัดหมวดหมู่ ตรวจทานความถูกต้องของข้อมูล ทั้งด้านเนื้อหาและการใช้ภาษา และจัดทำสมุดเล่มเล็กปริศนาคำทาย ผลการศึกษาพบว่า ปริศนาคำทาย สามารถแบ่งได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้ในการแบ่ง และจากการศึกษารวบรวมข้อมูลในครั้งน้ี สามารถจัดหมวดหมู่ตามลักษณะเนื้อหาได้ 8 ประเภท ได้แก่ ปริศนาคำทายที่เกี่ยวกับสัตว์ ปริศนาคำทาย ที่เกี่ยวกับพืชผัก ผลไม้ ปริศนาคำทายที่เกี่ยวกับอาหาร ปริศนาคำทายที่เกี่ยวกับสิ่งของเครื่องใช้ ปริศนา คำทายที่เกี่ยวกับเครื่องมือทำมาหากินและการประกอบอาชีพ ปริศนาคำทายที่เกี่ยวกับบุคคลและอาชีพ ปริศนาคำทายทเี่ กยี่ วกับอวยั วะ และปรศิ นาคำทายที่เก่ยี วกับปรากฎการณท์ างธรรมชาติ การทำโครงงานภาษาไทย เรื่อง “อะไรเอ่ย เฉลยหน่อย” ผลการศึกษาบรรลุตามวัตถุประสงค์ เนื่องจากอาศัยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชั้นรอง คือ หนังสือ เอกสาร และการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เนต็ ทำให้ได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ได้รับการยอมรับ และมีหลักฐานอ้างอิงชัดเจน ทำให้ได้รับความรู้และข้อมูลที่เป็น จริง สามารถนำความรูท้ ีไ่ ด้มาวิเคราะห์และเผยแพร่ให้เปน็ ผลงาน เพอื่ ใหผ้ ศู้ กึ ษาไดร้ ับประโยชน์จากการศึกษา และสามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้ในวชิ าภาษาไทย ตลอดจนบูรณาการสกู่ ลุ่มสาระอื่น ๆ ตอ่ ไป

ข กิตตกิ รรมประกาศ โครงงานเรื่องนี้เป็นการศึกษาเกี่ยวกับปริศนาคำทายในบริบทของภาคกลาง โดยค้นคว้าหาความรู้ จากเอกสารและสืบค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ต การจัดทำโครงงานครั้งนี้ก็ได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ช่วย ศาสตราจารย์เพ็ญประภา สิงห์สวัสดิ์ อาจาร์ที่ปรึกษาโครงงาน และได้รับความร่วมมือจากสมาชิกในกลุ่ม ในการจดั ทำโครงงานเปน็ อย่างดี คณะผู้จัดทำโครงงานขอขอบพระคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์เพ็ญประภา สิงห์สวัสดิ์ ที่ให้ความรู้ และคำแนะนำเกี่ยวกับการจัดทำโครงงาน ตั้งแต่การคัดเลือกหัวข้อโครงงาน ตลอดจนติดตามความคืบหน้า พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะตลอดการดำเนินงาน ขอขอบคุณสมาชิกในกลุ่มที่ให้ความร่วมมือ และมีความมุ่งมั่น ตั้งใจในการจัดทำโครงงาน ทั้งการศึกษารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปริศนาคำทาย จัดหมวดหมู่ข้อมูล วิเคราะห์ ข้อมูล ตลอดจนจัดทำรายงานโครงงานและจัดทำนิทรรศการนำเสนอโครงงาน ส่งผลให้โครงงานเล่มนี้สำเร็จ ลุล่วงตามความมุ่งหมาย คณะผู้จัดทำโครงงาน จึงใคร่ขอขอบพระคุณทุกท่านดังกล่าวข้างต้นไว้ ณ ที่นี้เป็น อยา่ งสงู คณะผจู้ ัดทำ

ค คำนำ รายงานโครงงานฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอโครงงานภาษาไทย เรื่อง “อะไรเอ่ย เฉลยหน่อย” คณะผู้จดั ทำได้จดั ทำเน้ือหาครบถว้ นตามกระบวนการทางวชิ าการ มีวัตถปุ ระสงค์เพ่อื ใหผ้ ู้อ่านมีความรู้เกี่ยวกับ ปริศนาคำทาย ตลอดจนเข้าใจกระบวนการและขั้นตอนในการดำเนินงาน โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับความหมาย ประวัติความเป็นมา ประเภท ลักษณะ ส่วนประกอบ และจุดมุ่งหมายของปริศนาคำทาย ตลอดจนวธิ ีการทาย ปริศนา และประโยชน์ของปริศนาคำทาย รวมไปการรวบรวมปริศนาคำทายโดยจำแนกออกเป็น 8 หมวดหมู่ ได้แก่ ปริศนาคำทายที่เกี่ยวกับสัตว์ ปริศนาคำทายที่เกี่ยวกับพืชผัก ผลไม้ ปริศนาคำทายที่เกี่ยวกับอาหาร ปริศนาคำทายท่ีเก่ียวกับส่ิงของเครอ่ื งใช้ ปรศิ นาคำทายทีเ่ กี่ยวกบั เคร่ืองมือทำมาหากนิ และการประกอบอาชีพ ปริศนาคำทายที่เกี่ยวกับบุคคลและอาชีพ ปริศนาคำทายที่เกี่ยวกับอวัยวะ และปริศนาคำทายที่เกี่ยวกับ ปรากฎการณ์ธรรมชาติ ทั้งนี้ เนอื้ หาสว่ นใหญ่ไดร้ วบรวมมาจากหนงั สอื เอกสาร และสืบคน้ ขอ้ มูลบางส่วนจากอนิ เทอรเ์ น็ต คณะผู้จัดทำสร้างองค์ความรู้ในเนื้อหาด้วยความพยายามเต็มศักยภาพที่มี จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงาน โครงงานฉบับน้ี จะเปน็ ประโยชน์ต่อผทู้ ่ีต้องการศึกษาได้อย่างมีคณุ ภาพ หากมีข้อเสนอแนะใด ๆ คณะผู้จัดทำ จะนำไปปรับปรุงแก้ไข เพอื่ พัฒนาการเรียนร้ตู อ่ ไป คณะผูจ้ ัดทำ

ง สารบัญ เรื่อง หน้า บทคัดยอ่ ……………………………………………………………………………………………………………………... ก กิตตกิ รรมประกาศ ………………………………………………………………………………………………………... ข คำนำ …………………………………………………………………………………………………………………………... ค สารบัญ ………………………………………………………………………………………………………………………... ง สารบญั (ต่อ) …………………………………………………………………………………………………..…………... จ สารบญั ตาราง ………………………………………………………………………………………….…………………... ฉ บทท่ี 1 บทนำ …………………………………………………………………………………………..………………... 1 ที่มาและความสำคัญ ……………………………………………………………………………………………… 1 วัตถปุ ระสงค์ ………………………………………………………………………………………….……………... 1 ขอบเขตของการศกึ ษา ……………………………………………………………………………………….…... 1 นยิ ามศัพท์เฉพาะ ……………………………………………………..………………………………………….... 1 ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะได้รบั ……………………………………………………………………………………... 1 บทที่ 2 เอกสารทเ่ี ก่ียวข้อง ………………………………………………………………………………..………... 3 ความหมายของปริศนาคำทาย ………………………………………………………………………………... 3 ประวัตคิ วามเป็นมาของปรศิ นาคำทาย ……………………………………………………………..……... 3 จดุ มุ่งหมายของปริศนาคำทาย ………………………………………………………………………………... 3 ลกั ษณะของปรศิ นาคำทาย ……………………………………………………………………………………... 3 วธิ กี ารทายปริศนา ……………………………………………………………………………………….………... 4 ส่วนประกอบของปริศนาคำทาย ……………………………………………………………………………... 5 ประเภทของปรศิ นาคำทาย …………………………………………………………………………..………... 6 ประโยชน์และคณุ คา่ ของปริศนาคำทาย …………………………………………………….……………... 7 บทสรุป ………………………………………………………………………………………………………………... 7 บทท่ี 3 วิธีการดำเนนิ งาน ………………………………………………………………….………………………... 8 ขนั้ ตอนการดำเนนิ งาน …………………………………………………………………………………………... 8 แผนการปฏบิ ัตงิ าน ………………………………………………………………………………………………... 9 เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการศึกษา ……………………………………….……………………………………………... 9 การเก็บขอ้ มลู ……………………………………………………………………………..………………………... 10 การวิเคราะห์ขอ้ มูล ………………………………………………………………………………………………... 10 งบประมาณ …………………………………………………………………………………………..……………... 10

จ สารบญั (ตอ่ ) เรื่อง หน้า บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน ………………………………………………………………….………………………... 11 ปรศิ นาคำทายท่ีเก่ยี วกบั สัตว์ …………………………………………………………………………………... 11 ปรศิ นาคำทายทเี่ กีย่ วกับพืชผัก ผลไม้ ……………………………………………………………….……... 12 ปริศนาคำทายที่เกี่ยวกบั อาหาร …………………………………………………………………………..…... 13 ปริศนาคำทายทเ่ี ก่ยี วกบั ส่งิ ของเครื่องใช้ …………………………………………………………………... 14 ปรศิ นาคำทายทเี่ ก่ยี วกบั เคร่ืองมือทำมาหากนิ และการประกอบอาชีพ ……………………….... 15 ปรศิ นาคำทายที่เกย่ี วกบั บุคคลและอาชพี ……………………………………………………….………... 16 ปริศนาคำทายที่เกี่ยวกบั อวยั วะ …………………………………………………………………….………... 17 ปรศิ นาคำทายที่เกย่ี วกับปรากฎการณ์ธรรมชาติ ………………………………………………………... 19 บทที่ 5 สรุปผลการดำเนนิ งาน ……………………………………………………………………………………... 21 สรุปผลการศกึ ษา …………………………………………………………………………………………………... 21 ผลอภปิ ราย …………………………………………………………………………………………………………... 21 ประโยชนท์ ีไ่ ด้รับ ……………………………………………………..…………………………………………..... 21 ขอ้ เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………….……... 21 เอกสารอ้างอิง ……………………………………………………………………………………………………….……... 22 ภาคผนวก

ฉ สารบัญตาราง เร่อื ง หน้า ตาราง 1 แผนการปฏบิ ตั ิงาน …………………………………………………………………………………….…... 9

1 บทท่ี 1 บทนำ 1. ท่มี าและความสำคัญ จากการเรียนวิชาภาษาไทยในชั่วโมงเรียนชั่วโมงหนึ่ง ซึ่งคุณครูได้ใช้คำถามที่มีลักษณะเป็นปริศนา คำทายทีข่ นึ้ ต้นด้วยคำว่า “อะไรเอย่ ” มาใหน้ กั เรยี นไดร้ ่วมทายกนั เล่นก่อนหมดคาบเรยี น ซึง่ เป็นคำถามท่ีสนุก และกระตุ้นความสนใจของนักเรยี นในหอ้ งเรียนเปน็ อย่างมาก โดย “อะไรเอย่ ” เป็นคำถามทีพ่ วกเราค้นุ เคยกัน มาบ้างในบางครัง้ ทง้ั จากคุณพ่อคณุ แม่ คณุ ครู และเพอ่ื น ๆ ในช้นั เรียน กลุ่มของข้าพเจ้าจึงได้แบ่งกันไปสืบค้น ปริศนาคำทายที่มีอยู่อย่างมากมายเพื่อที่จะนำมาทายปัญหากันเล่นสร้างความสนุกสนาน จากความสนใจใน ครั้งนี้ทำให้กลุ่มของข้าพเจ้าเกิดความคิดอยากที่จะรวบรวมปริศนาคำทายที่ได้จากการไปสืบค้นของเพื่อน ๆ แตล่ ะคนในกลมุ่ มาจดั แบง่ เปน็ ปรศิ นาคำทายประเภทตา่ ง ๆ แล้วจดั ทำเปน็ หนังสอื เลม่ เล็กปริศนาคำทายเอาไว้ ให้กับพี่ ๆ น้อง ๆ และเพื่อน ๆ ในโรงเรียนไว้อ่านเล่นทายปัญหาสนุกกัน ทั้งนี้จากการศึกษา สังเกตพบว่า ปรศิ นาคำทายสว่ นใหญ่จะปรากฏคำคล้องจองในสำนวนนนั้ ๆ อยู่ด้วย กลมุ่ ของข้าพเจ้าจึงได้สรปุ คำคล้องจอง ที่ปรากฏในแต่ละปริศนาคำทายเอาไว้ใหพ้ ่ี ๆ น้อง ๆ และเพ่อื น ๆ ได้ศึกษาหาความรูเ้ พมิ่ เติมในหนงั สือเล่มเล็ก เนื่องจากเห็นวา่ ปริศนาคำทายถือเป็นพื้นฐานในการแต่งคำคลอ้ งจอง คำขวัญ และคำประพันธ์ประเภทต่าง ๆ ในระดับช้ันทีส่ ูงข้นึ จากความสำคัญดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการจัดทำโครงงานปริศนาคำทายท่ีมีช่ือว่า “อะไร เอ่ย เฉลยหน่อย” นี้ข้นึ 2. วตั ถุประสงค์ 1. เพอื่ ศึกษาความรู้เก่ียวกับปริศนาคำทาย 2. เพื่อศึกษาคำคล้องจองที่ปรากฏในปรศิ นาคำทาย 3. เพือ่ ฝึกความมีปฏิภาณไหวพริบในการแก้ปัญหา 4. เพ่ือส่งเสรมิ การอนรุ ักษภ์ ูมิปัญญาทางภาษาและวรรณกรรมทอ้ งถิน่ 5. เพอ่ื เปน็ การเผยแพรป่ ริศนาคำทาย 6. เพอ่ื ส่งเสริมการใช้เวลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ 3. ขอบเขตของการศกึ ษา หนังสอื สารานกุ รมไทยสำหรับเยาวชนฯ เลม่ ที่ 34 เร่อื งท่ี 3 ปรศิ นาคำทายของไทย, หนังสืออะไรเอ่ย เรียบเรียงโดย รศ.วิเชยี ร เกษประทุม และการสืบคน้ ขอ้ มลู จากอนิ เอรเ์ น็ต 4. นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ ปริศนาคำทาย หมายถึง ถ้อยคำหรือสำนวนภาษาที่ผูกเป็นเงื่อนงำ เพื่อมุ่งทดสอบเชาว์ปัญญาใน การทายเพ่ือความสนุกสนาน นยิ มเล่นกนั ในหมู่เพื่อน ๆ เครือญาติ เม่ือยามว่างหลังจากเสรจ็ ภารกิจประจำวัน ปรศิ นาคำทายมีมาแตส่ มยั โบราณ เปน็ การแสดงภูมปิ ัญญากันว่า ผ้ตู อบคำถามจะมีความเฉลยี วฉลาดเพียงใด 5. ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะไดร้ ับ 5.1 ไดศ้ กึ ษาความรู้เกี่ยวกบั ปรศิ นาคำทาย 5.2 ได้ศึกษาคำคลอ้ งจองท่ีปรากฏในปรศิ นาคำทาย

2 5.3 ฝกึ ความมีปฏภิ าณไหวพริบในการแก้ปัญหา 5.4 ส่งเสรมิ การอนรุ ักษ์ภมู ิปัญญาทางภาษาและวรรณกรรมท้องถ่ิน 5.5 เปน็ การเผยแพรป่ ริศนาคำทาย 5.6 ส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เกดิ ประโยชน์

3 บทที่ 2 เอกสารทเี่ ก่ียวขอ้ ง 1. ความหมายของปรศิ นาคำทาย “ปริศนา” ตามความหมายของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน (2525 : 509) ให้ความหมายว่า “สิ่งหรือถอ้ ยคำท่ีผกู ข้ึนเปน็ เงื่อนงำ เพ่อื ให้แกใ้ ห้ทาย\" ปริศนาคำทาย หมายถึง ถ้อยคำที่ผูกเป็นเงื่อนงำ เพื่อให้แก้ให้ทายระหว่างบุคคล ในสังคมเดียวกัน หรือบุคคลที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน เช่น เครือญาติ มิตรสหาย การเล่น ปริศนาคำทายเพื่อมุ่งที่จะทดสอบ เชาว์ปญั ญาและความสนุกสนาน นิยมเลน่ กันมากในหมู่ เด็ก ๆ เมื่อยามวา่ งหลังจากเสรจ็ ภารกจิ ประจำวนั การทายปริศนาจัดว่าเป็นประเพณีเก่าแก่ดั้งเดิม เป็นระบบสื่อสารของสังคมและ ส่วนใหญ่จะแพร่ กระจายไปในลักษณะของมุขปาฐะ (ปากต่อปากพูดต่อกันมา) เช่นเดียวกับ คติชนที่ใช้ถ้อยคำอื่น ๆ เช่น สุภาษิต แต่จะต่างจากสุภาษิตตรงที่ปริศนาเป็นการพูดที่แสดง ให้เห็นความเฉลียวฉลาดของผู้พูด (ผู้ถ าม) และท้าทายไหวพริบของผู้ฟัง (ผู้ตอบ) ดังนั้น การทายปริศนาจึงมีความสำคัญในแง่ที่แสดงให้เหน็ สามัญสำนึก ความเฉลียวฉลาด เชาว์ ปัญญา และไหวพรบิ ของท้ังสองฝ่าย 2. ประวัติความเป็นมาของปริศนาคำทาย ความเป็นมาของปริศนาคำทายตามคำกล่าวของ บุปผา บุญทิพย์ (2543 : 69-71) ได้กล่าวไว้ดังน้ี ในสมัยโบราณ การลองภูมิปัญญาว่าผู้นั้นจะมีความเฉลียวฉลาดหรือไม่เพียงไร วิธีหนึ่งก็คือ การทายปริศนา หรือการทายปัญหา อาจเป็นปริศนาที่ถามตรง ๆ บ้างหรือผูกเป็นแยบยลบ้างสุดแต่ละคิดกัน มีทั้งปัญหาทาง โลกและปัญหาทางธรรม มีเรื่องราวต่าง ๆ ที่เล่าถึงการแก้ปัญหาและผู้ทายปริศนาได้ถูกต้องไว้มากมายหลาย เรอ่ื งด้วยกัน บางครั้งอาจท้าทาย มีเดมิ พนั กันถึงชวี ิต เช่น พระพรหมกบั พระขันฑกุมาร พระพรหมทายปัญหา และพระขันกุมาร ถ้าพระขนั ฑกุมารตอบได้ พระพรหมจะถูกตัดพระเศียร พระขันฑกุมารทายปัญหาได้ถูกต้อง ดังนั้น พระพรหมจึงถูกตัดพระเศียร (อันเป็นตำนานของประเพณีสงกรานต์) บางเรื่องอาจเป็นการใช้ปริศนา เป็นสื่อสวาทหรือเครื่องมือหาคู่ เช่น เจ้าเมืองมีพระธิดาองค์เดียว อยากได้ลูกเขยที่มีปัญญาฉลาดหลักแหลม เจ้าเมืองจึงผูกปริศนาขึ้นมา เมื่อชายใดแก้ปริศนานั้นได้ถูกต้องก็จะได้อภิเษกกับพระราชธิดา และได้ ครอบครองบา้ นเมืองด้วย 3. จดุ ม่งุ หมายของปรศิ นาคำทาย 3.1 เพอื่ พกั ผ่อนหย่อนอารมณ์ 3.2 ส่งเสริมการใชค้ วามคดิ สรา้ งสติปัญญา 3.3 เพอ่ื ให้ทราบภาพชวี ิตความเป็นอย่ขู องคนไทย วัฒนธรรม และความเชื่อ 3.4 เพอื่ สอนให้เด็กร้จู ักธรรมชาติส่งิ แวดล้อม 4. ลักษณะของปรศิ นาคำทาย 4.1 นิยมใช้คำคล้องจองกันโดยไม่กำหนดจำนวนคำในแต่ละวรรค เป็นข้อความสั้น ๆ กะทัดรัด หรืออาจผูกเปน็ ปริศนากลอน ซึง่ บ่งบอกถึงความเปน็ คนเจ้าบทเจา้ กลอนทำใหจ้ ำได้งา่ ย

4 4.2 เนื้อหาน้ันมักจะนำมาจากสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเรา เช่น ของใช้ คน สัตว์ ผัก พืช เวลา สถานที่ เครื่องใช้ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เชาว์ปัญญา ฯลฯ ซึ่งผู้ผูกปริศนาจะต้องเป็นคนช่างสังเกต แล้วนำเอาสิ่ง ท่ีสังเกตเห็นมาผูกปริศนาให้ผอู้ ่ืนใชป้ ัญญาเพือ่ แก้หรือทาย 4.3 จำนวนข้อความคำถามจะมีความสั้นยาวไม่เท่ากัน คือ อาจจะมีเพียงตอนเดียว สองตอน สามตอน หรือมากกว่านี้ แต่ข้อความทุกตอนจะเป็นการบอกคำตอบอยู่ในตัวเป็นนัย ๆ ซึ่งเมื่อนำคำตอบ มารวมกันจะเปน็ ลกั ษณะของสงิ่ ทท่ี ายนัน่ เอง 5. วิธีการทายปริศนา ลักษณะการทายปริศนาดังที่จะกล่าวต่อไปนี้ เป็นส่วนหนึ่งของวิธีการทายปริศนาเท่านั้น เนื่องจาก การคิดวิธีการทายปริศนาของแต่ละบุคคลอาจจะแตกต่างกันออกไปได้อย่างหลากหลาย แล้วแต่กลวิธีของ ผูท้ าย ตวั อย่าง วธิ กี ารทายปริศนา 5.1 การทายด้วยคำพูด ผู้ทายจะคิดปัญหาที่เป็นปริศนาอะไรก็ได้ โดยการพูดออกมาในลักษณะ เป็นประโยค, เป็นคำ ๆ, เป็นสำนวนคำ, คำกลอน หรือเป็นสุภาษิตคำคมอะไรก็ได้ ผู้ตอบคำปริศนาก็จะต้อง เดาว่าเปน็ อะไร ตัวอย่าง - อะไรเอย่ อีกนามของพระราชา ชาวพารารักใคร่เทดิ ทูน (กษตั ริย์) - อะไรเอ่ย ใช้เรยี กช่ือสถานท่ีเฉพาะเหมาะที่จะพดู ความลบั (รโหฐาน) - อะไรเอย่ เปน็ ของท่รี ะลกึ นา่ รัก เขามักแจกวนั แต่งงาน (ของชำร่วย) - อะไรเอ่ย เปน็ ช่ือโรคทีน่ ่ากลัว เพราะทง้ั ตวั เคลอ่ื นไหวไม่ได้ (อมั พาต) - มีทั้งหางและหูดูน่าขัน จะใช้มันต้องเอาหัวไปมุดหาง จับตัวมาแนบไว้ไม่ปล่อยวาง สว่ นตรงกลางมดุ หูรหู้ รือยัง (เข็มขดั ) 5.2 การทายดว้ ยภาพ ผทู้ ายจะหยบิ ยกปัญหาเปน็ ปรศิ นาคำทายต่าง ๆ โดยการให้ผู้เล่นดูจากภาพ ปริศนา แล้วทายวา่ เป็นเรื่องอะไร ตัวอยา่ ง - ผู้ทายหาภาพคนที่กำลังสาวไส้ของสัตว์ให้กากิน ผู้ทายก็จะทายเป็นสำนวนไทยว่า “สาวไสใ้ หก้ ากิน” 5.3 การทายด้วยลายแทง ต้องมีภาพลายแทงเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องการทายนำมาให้ดูด้วย วิธีการนี้ ควรใช้คำพูดเป็นการใช้คำประกอบการทาย การทายลักษณะนี้จะยุ่งยากพอควรเพราะผู้เล่นจะเดายาก ถา้ ไม่รจู้ กั หรอื ไม่เคยไดย้ นิ เรือ่ งน้นั มาก่อน ตวั อย่าง ผู้ทายนำภาพแผนที่ประเทศไทยมาให้ดู ในตัวแผนที่มีเฉพาะชื่อจังหวัดครบทุกจังหวัด ของประเทศไทยเท่านั้น แล้วบอกให้เพียงว่าสิ่งที่จะทายต่อไปนี้จะเป็นคำขวัญประจำจังหวัด ซึ่งอยู่ในภาคใด ภาคหน่ึงของประเทศไทย ผู้ทายจะใชค้ ำใหว้ า่ คำขวัญต่อไปน้ีอยูภ่ าคใดของจังหวัดอยา่ งเดยี ว โดยผทู้ ายต้องคิด คำตอบในเวลาทีก่ ำหนดให้ เชน่ ภาคเหนือ - แข่งเรือลือเรื่อง เมอื งงาช้างดำ จติ กรรมวัดภูมนิ ทร์ แดนดินส้มสีทอง เร่ืองรองพระ ธาตแุ ชแ่ หง้ (น่าน)

5 - หมอกสามฤดู กองมูเสียดฟ้า ป่าเขียวขจี ผู้คนดี ประเพณีงาม ลือนามถิ่นบัวตอง (แมฮ่ ่องสอน) ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ - พระมงคลมิ่งเมือง แหล่งรุ่งเรืองเจ็ดลุ่มน้ำ งามล้ำถ้ำศักดิ์สิทธิ์ เทพนิมิต พระเหลา เกาะแก่งเขาแสนสวย เลอคา่ ดว้ ยผา้ ไหม ราษฎรเลอ่ื มใสใฝธ่ รรม (อำนาจเจรญิ ) - เมืองฟ้าแดดสงยาง โปงลางเลิศล้ำ วัฒนธรรมผู้ไทย ผ้าไหมแพรวา ผาเสวยภูพาน มหาธารลำปาว ไดโนเสารส์ ัตว์โลกลา้ นปี (กาฬสินธุ์) ภาคกลาง - ถิ่นวีรชนคนกล้า คู่หล้าพระนอน นามกระฉ่อนปลาแม่ลา ย่านการค้า ภาคกลาง (สิงหบ์ รุ )ี - พระพุทธบาทสูงค่า เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ฐานผลิตอุตสาหกรรม เกษตรนำล้ำแหล่ง ทอ่ งเทีย่ ว หนงึ่ เดียวกะหรี่ปั๊บนมดี ประเพณีตักบาตรดอกไม้งาม เหลอื งอร่ามทุ่งทานตะวัน ลือลั่นเมืองชุมทาง (สระบรุ )ี ภาคใต้ - เมืองพระยารัษฎา ชาวประชาใจกว้าง หมูย่างเลิศรส ถิ่นกำเนิดยางพารา เด่นสง่า ดอกศรีตรัง ปะการังใต้ทะเล เสนห่ ห์ าดทรายงาม น้ำตกตระการตา (ตรงั ) - บูดสู ะอาด หาดทรายสวย รวยน้ำตก นกเขาดี ลูกหยีอรอ่ ย หอยแครงสด (ปตั ตาน)ี 5.4 การทายด้วยวัตถุและสิ่งของ ผู้ทายสามารถหาวัตถุและสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวันมาทาย สิ่งของที่ทายนั้นก็คงต้องใช้คำพูดอธิบายถึงสิ่งของที่ต้องการทาย หรืออาจใช้การใบ้คำเป็นคำถามก่ีข้อก็ได้ แลว้ แต่จะตกลงกนั เมือ่ เฉลยคำทายส่ิงของหรือวัตถชุ นิดน้ันควรเป็นของจรงิ ทนี่ ำมาใหด้ ูได้ วธิ ีการทายประเภท นไี้ มค่ อ่ ยนยิ มนำมาเล่นกัน เพราะไม่สะดวกเทา่ ทค่ี วร ในบางครั้งปริศนาคำทายอาจนำเกมโชว์ต่าง ๆ หรือการใช้คำเพื่อทายก็ได้ นอกจากนี้ปริศนาคำทาย อาจใช้ท่าทางประกอบคำทายโดยไม่ต้องอาศยั คำพูดเลย เช่น เร่อื ง มโหสถ (ซึ่งเปน็ พระชาติหน่งึ ในทศชาติของ พระพทุ ธเจ้า) เสาะหาคคู่ รองได้ไปพบหญิงท่ีถูกใจนางหนึ่ง แตไ่ มท่ ราบว่านางมสี ามีแล้วหรือยังจึงยืนอยู่ห่าง ๆ และกำมือออกไปเป็นเชิงถามวา่ นางมีเจ้าของหรอื ยัง นางก็เข้าใจท่าปริศนาของพระมโหสถ จึงเผยมือออกมา หมายความว่า ยังว่างเปล่าอยู่ มโหสถถามชื่อนาง นางก็มิได้บอกตรง ๆ กลับพูดเป็นปริศนาวา่ “สิ่งที่ดิฉันไม่มี ทัง้ อดีต อนาคต และปจั จบุ ัน นนั่ แหล่ะคอื ชือ่ ของดิฉนั ” มโหสถก็คิดออกวา่ นางนี้ชื่อ อมร เพราะความไม่ตาย เป็นสิ่งท่ไี ม่มอี ยู่ในโลก 6. ส่วนประกอบของปริศนาคำทาย 6.1 อารัมภบท เป็นคำที่ใช้ขึ้นต้นในการทายปริศนา จะมีคำอารัมภบทที่ใช้ในการทายปริศนานั้น มากมายสามารถจะแบง่ ออกเป็นแตล่ ะภาคได้ดงั น้ี - ภาคกลาง จะใชอ้ ารัมภบทวา่ “อะไรเอย่ ” ตวั อย่างเชน่ อะไรเอย่ ? เขยี วชอุ่ม พ่มุ ลออ ลกู กับพ่อราคาเทา่ กัน (ตำลึง) - ภาคใต้ จะใชอ้ ารัมภบทวา่ “ไอ้ไหรหา” ตัวอย่างเชน่ ไอ้ไหรหา ? ส่ีตีนเขอื่ ง ๆ ไมม่ ุงกระเบ้ืองแตม่ งุ เข็ม (เมน่ ) - ภาคเหนือ จะใช้อารัมภบทวา่ “อะหยังเก๊าะ” ตัวอย่างเช่น อะหยังเก๊าะ ? กลนื ทางท้อง ซือ้ อกทางหลงั (กบไสไม้)

6 - ภาคอสี าน จะใช้อารัมภบทวา่ “อนั หยงั เกาะ” ตวั อยา่ งเช่น อนั หยงั เกาะ ? คนซื้อบไ่ ด้ใช้ คนใช้บ่ได้ซื้อ (โลงศพ) การใช้อารัมภบทส่วนมากจะใช้คำว่าอะไรเอ่ย ? มากกว่า แต่ที่ยกมาให้ดูเป็นเพียงคำอารัมภบท ของแตล่ ะภาคเวลาทายกนั ในภาคของตนหรือท้องถ่นิ ของตน 6.2 บอกสมญา เปน็ การบอกตวั ปริศนาตัวน้นั วา่ มลี กั ษณะอย่างไร เช่น สูง ต่ำ ดำ ขาว เพื่อจะใหผ้ ู้เล่น สามารถที่จะทายได้ เช่น อะไรเอ่ย ? เด็ก ๆ นุ่งขาว สาว ๆ นั่งเขียว แก่ ๆ นุ่งแดง (พริก) หรือ ดำสะอาด ขาวสกปรก (กระดานดำ) 6.3 พรรณนาลักษณะ คือ อธิบายลักษณะรูปพรรณสัณฐานของตัวปริศนา ขยายความให้เห็นตัว ปริศนาว่ามีลักษณะอย่างไร ดังตัวอย่าง ลอยข้ามทะเล (พรรณนาคุณสมบัติ ของพระจันทร์) ข้ามทุ่งสามแสน (พรรณนาคณุ สมบัตขิ องร้งุ ) หรอื คำ่ ๆ ออกเรียง (พรรณนา คุณสมบตั ขิ องดาว) เปน็ ต้น 6.4 จุดบอด หรือ จุดสะดุดใจ คือส่วนที่อธิบายลักษณะเพิ่มเติมเชิงเปรียบเทียบ ซึ่งอาจทำให้ผู้ทาย สับสนหรือเกดิ ความสนใจยิง่ ข้ึน 6.5 บทสรุป คือ ส่วนที่เน้นคำถามให้ชัดเจน อธิบายจุดบอด หรือเป็นตอนสรุปคำ ถาม เช่น กินกัน ว่นุ วาย หรือ ใครทายไดจ้ ะใหแ้ หวน ฯลฯ 6.6 คำเฉลย คอื คำตอบผ้ทู ่ที ายจะสงวนไวบ้ อกภายหลัง ใหส้ ังเกตตัวอย่างคำปริศนาต่อไปน้ี ภาคกลาง - อะไรเอ่ย สี่มุมสี่แง่ สแ่ี ครจ่ ัตรุ ัส ผู้คนแออัด กนิ กันวุน่ วาย (เลน่ หมากรกุ ) ภาคเหนือ - อะหยังเกา๊ ะ หวั เป็นหนาม ถามบป่ าก บ่เคยี วหมาก ปากแดง เสยี เวย้ (พระพุทธรูป) ภาคอสี าน - ไกบ่ ักลาย ตาอยู่ป่าอ้อย คนสามรอ้ ย ปาดกนั ก็บ่เหมดิ แม่นหยงั (สับปะรด) ภาคใต้ - ไอ้ไหรหา คนั เบ็ด เจ็ดท่งุ ข้ามคงุ้ พระยาแมน ใครทายโอจ้ ะให้แหวน (กงุ้ ) 7. ประเภทของปรศิ นาคำทาย การตั้งคำปริศนานั้น มักจะนำสิ่งรอบตัว เช่น เครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันมาเป็นปริศนา โดยอธบิ ายวตั ถุสิ่งของเหล่าน้ันด้วยสำนวนถ้อยคำท่ีคล้องจองแสดงความหมายโดยนัยของวตั ถุสิ่งของ บางคร้ัง ก็พยายามใช้ถ้อยคำท่ีสื่อความหมายสองแง่ เพื่อความขบขันและปดิ อำผู้ตอบอีกด้วย เช่น อะไรเอ่ย รีรีเหมือน ใบพลู มีรูอยตู่ รงกลาง (ดอกหน้าววั ) การจัดแบ่งประเภทของปริศนาคำทายจะใช้เกณฑ์ว่าคำปริศนานั้น ๆ เกี่ยวข้องกับเรื่องใด เช่น คำปริศนาเกี่ยวกับมนุษย์ เครื่องมือทำมาหากิน เครื่องใช้ในบ้านเรือน อาหาร พืชผลไม้ และกิจกรรม ฯลฯ เป็นต้น ประเภทของปรศิ นาคำทาย แบ่งตามลกั ษณะเน้อื หาได้ดังต่อไปน้ี 1. ปรศิ นาคำทายท่เี กย่ี วกบั สัตว์ 2. ปริศนาคำทายทเ่ี กี่ยวกบั พืชผัก ผลไม้ 3. ปริศนาคำทายที่เกย่ี วกบั อาหาร 4. ปริศนาคำทายที่เกย่ี วกบั ส่งิ ของเครอื่ งใช้ 5. ปริศนาคำทายทเ่ี กี่ยวกบั เครื่องมือทำมาหากินและการประกอบอาชีพ 6. ปรศิ นาคำทายท่เี กย่ี วกับบุคคลและอาชพี 7. ปริศนาคำทายที่เก่ยี วกบั อวัยวะ 8. ปรศิ นาคำทายที่เกยี่ วกบั ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ

7 8. ประโยชน์และคุณคา่ ของปริศนาคำทาย 1. ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศในการเรียนการสอนภาษาไทย ให้น่าสนใจ เกิดความสนุกสนาน มชี ีวติ ชวี า 2. นกั เรยี นไดร้ ้จู ักฝึกการใช้ความคดิ ทำใหม้ ไี หวพรบิ มีการสังเกตสามารถตคี วามของปริศนาคำทาย 3. เป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนจากการใบ้ และทายปริศนาคำ 4. ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้คำคล้องจองผ่านปริศนาคำทาย ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานในการนำไปใช้ใน การแตง่ คำขวัญและคำประพันธต์ ่าง ๆ ในระดบั ชน้ั ท่ีสงู ขนึ้ 5. การเรียนร้จู ากการเลน่ นีจ้ ะช่วยให้นักเรียนเกดิ การเรยี นรู้เน้อื หาไดเ้ ร็วและจดจำได้นาน 6. ฝกึ ใหน้ ักเรยี นเป็นคนเคารพระเบยี บกฎเกณฑ์ 7. ฝึกใหน้ กั เรียนเปน็ คนกลา้ แสดงออกถึงความสามารถของตน 8. เป็นการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมทางดา้ นภาษาไทยท่ีเป็นวรรณกรรมมุขปาฐะให้คงอยู่ตลอดไป 9. ฝึกใหน้ กั เรยี นเปน็ นกั คดิ ส่งเสริมความคิดสรา้ งสรรค์ สามารถสร้างปริศนาคำทายใหม่ ๆ ได้ 10. ฝึกใหเ้ ป็นนักสะสม รวบรวมคำปรศิ นาคำทายไวท้ ายเล่น ๆ ต่อไป 9. บทสรุป ปริศนาคำทาย หมายถึง ถ้อยคำหรือสำนวนภาษาที่ผูกเป็นเงื่อนงำ เพื่อมุ่งทดสอบเชาว์ปัญญา ในการทายเพื่อความสนุกสนาน นิยมเล่นกันในหมู่เพื่อน ๆ เครือญาติ เมื่อยามว่างหลังจากเสร็จภารกิจ ประจำวัน ปริศนาคำทายมีมาแต่สมัยโบราณ เป็นการแสดงภูมิปัญญากันว่าผู้ตอบคำถามจะมีความเฉลียว ฉลาดเพียงใด ปริศนาคำทายมีหลายประเภท โดยหากแบ่งปริศนาคำทายตามลักษณะเนื้อหา สามารถแบ่งได้ 8 ประเภทดงั นีค้ อื ปรศิ นาทเี่ กี่ยวกับอวัยวะ, เกย่ี วกับสิ่งของเครอื่ งใช้, เก่ยี วกบั ปรากฏการณธ์ รรมชาติ, เกี่ยวกับ อาหาร, เกี่ยวกับบุคคลและอาชีพ, เกี่ยวกับสัตว์, เกี่ยวกับเครื่องมือทำมาหากิน และเกี่ยวกับพืชและผลไม้ โดยทั่วไปแล้ว ปริศนาคำทายมีส่วนประกอบคือ อารัมภบท (คำขึ้นต้น) บอกสมญา (ลักษณะของปริศนา) พรรณนาลักษณะ (อธิบายรูปร่าง, ขยายความ) จุดบอด (จุดที่น่าสนใจเพิ่มเติม) บทสรุป (เน้นคำถามให้ชัดเจน ยิ่งขึ้น) และคำเฉลย (คำตอบสุดท้าย) วิธีการทายปริศนา ทายด้วยคำพูด รูปภาพ ลายแทง หรือวัตถุสิ่งของ ปริศนาคำทายมีคุณค่าและประโยชน์ตอ่ ผเู้ รยี นในแงข่ ของการฝึกปฏิภาณไหวพริบ และเชาวป์ ัญญาในการตอบ คำถาม รวมถึงฝึกทักษะในการฟัง และการพูดจากการใบ้และทายปริศนา นอกจากนี้ ผู้เรียนยังได้เรียนรู้เรื่อง คำคล้องจองผ่านปริศนาคำทาย ซึ่งเป็นพื้นฐานความรู้ท่ีสามารถนำไปใช้ในทักษะการแต่งคำขวัญและคำ ประพันธ์ต่าง ๆ ในระดับชั้นที่สูงขึ้น ในการนำปริศนาคำทายมาใช้สอนในวิชาภาษาไทย เป็นการฝึกปฏิภาณ ไหวพริบ และทดสอบเชาวป์ ัญญา เกดิ การเรยี นรูใ้ นเน้ือหาได้อยา่ งรวดเรว็ สง่ เสริมความคิดสร้างสรรค์ สามารถ ฝึกทักษะทางภาษาได้ทุกรูปแบบ ที่สำคัญคือ เกิดความสนุกสนาน มีชีวิตชีวา ตลอดจนสร้างเสริมบรรยากาศ ในการเรียนได้ดีมากข้นึ

8 บทที่ 3 วธิ ีการดำเนนิ งาน ในการดำเนินการจดั ทำโครงงานภาษาไทย เรื่อง อะไรเอ่ย เฉลยหน่อย มกี ารดำเนินงานดังนี้ 1. ขน้ั ตอนการดำเนินงาน 1. สืบค้นขอ้ มลู เกี่ยวกบั ปริศนาคำทาย โดยมปี ระเดน็ ศึกษาดงั นี้ - ความหมายของปรศิ นาคำทาย - ความเปน็ มาของปรศิ นาคำทาย - จดุ มงุ่ หมายของปริศนาคำทาย - ลกั ษณะของปรศิ นาคำทาย - วิธีการถายปรศิ นา - ส่วนประกอบของปรศิ นาคำทาย - ประเภทของปริศนาคำทาย - ประโยชน์และคุณค่าของปริศนาคำทาย 2. รวบรวมปริศนาคำทาย ท้งั ส่วนคำถามและคำตอบ 3. นำปริศนาคำทายมาคดั เลือกและจัดหมวดหม่ตู ามลักษณะเนื้อหา โดยแบ่งเป็น 8 หมวดหมู่ ดงั นี้ - ปริศนาคำทายที่เกย่ี วกับสตั ว์ - ปรศิ นาคำทายทเ่ี กย่ี วกบั พืชผัก ผลไม้ - ปริศนาคำทายทเ่ี กย่ี วกับอาหาร - ปรศิ นาคำทายทีเ่ กี่ยวกับสง่ิ ของเคร่ืองใช้ - ปรศิ นาคำทายท่ีเกี่ยวกบั เครื่องมือทำมาหากนิ และการประกอบอาชีพ - ปริศนาคำทายทีเ่ ก่ยี วกับบุคคลและอาชพี - ปริศนาคำทายทเ่ี กี่ยวกบั อวัยวะ - ปริศนาคำทายท่ีเกย่ี วกับปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ 4. ตรวจทานความถูกต้องของขอ้ มูล ทั้งด้านเน้ือหาและการใชภ้ าษา 5. จัดทำสมุดเล่มเลก็ ปริศนาคำทาย

9 2. แผนการปฏบิ ัตงิ าน ท่ี กิจกรรม สถานท่ี ผู้รับผดิ ชอบ สปั ดาหท์ ี่ 1 ประชมุ สมาชิกในกลุ่มเพอื่ เลือกหวั ข้อในการทำ ทำกจิ กรรม 1234 โครงงานและจัดทำโครงร่างโครงงาน อาคาร สมาชกิ ในกลมุ่ ✓ 2 เสนอหวั ขอ้ และโครงรา่ งโครงงาน พร้อมทัง้ วทิ ยพัฒนา สมาชิกในกลุ่ม ✓ ขอคำแนะนำ อาคาร อาจารยท์ ีป่ รึกษา 3 ประชุมวางแผนการดำเนนิ งาน/แบง่ หน้าที่ ราชนครนิ ทร์ สมาชกิ ในกลมุ่ ✓ รับผิดชอบ/จดั ทำปฏิทินปฏบิ ัตงิ าน สำนัก สมาชกิ ในกลุ่ม ✓ 4 ค้นควา้ เอกสารและสบื คน้ ข้อมลู จากอินเทอร์เน็ต วทิ ยบริการ สมาชกิ ในกลมุ่ ✓ 5 รวบรวมและจดบนั ทึกขอ้ มูล สำนัก วิทยบริการ สมาชิกในกลุ่ม ✓ 6 นำข้อมลู มาคดั เลือก และจัดหมวดหมู่ สำนกั สมาชกิ ในกลุ่ม ✓ 7 รายงานความก้าวหน้าของโครงงานคร้งั ที่ 1 วทิ ยบริการ อาจารย์ทป่ี รึกษา ✓ 8 ปรบั ปรงุ และแก้ไขโครงงาน สำนกั สมาชกิ ในกลุ่ม วิทยบรกิ าร 9 รายงานความก้าวหนา้ ของโครงงานครั้งที่ 2 สมาชกิ ในกลมุ่ ✓ อาคาร อาจารย์ท่ีปรึกษา ✓ 10 จดั ทำสมุดเลม่ เล็ก ราชนครนิ ทร์ สมาชกิ ในกลมุ่ 11 จดั ทำเอกสารรายงานโครงงานและสรปุ ผล อาคาร การปฏบิ ัติกจิ กรรม วทิ ยพฒั นา สมาชกิ ในกลุ่ม ✓ 12 จัดทำเอกสารเผยแพรผ่ ลงาน อาคาร สมาชิกในกลมุ่ ✓ ราชนครนิ ทร์ 13 จดั นทิ รรศการแสดงผลงาน สมาชิกในกลุ่ม ✓ อาคาร 14 นำเสนอผลงานและรายงานผลการปฏบิ ัติงาน วทิ ยพัฒนา สมาชิกในกลมุ่ ✓ หน้าชั้นเรยี น อาจารย์ทป่ี รึกษา ตาราง 1 แผนการปฏิบตั งิ าน อาคาร วทิ ยพัฒนา อาคาร วิทยพฒั นา อาคาร ราชนครนิ ทร์ อาคาร ราชนครนิ ทร์ 3. เคร่ืองมือที่ใช้ในการศึกษา 1. สมดุ บนั ทกึ 2. ปากกา 3. หนงั สือ/เอกสารต่าง ๆ

10 4. คอมพิวเตอร์ 5. โทรศัพทม์ ือถือ/สมาร์ทโฟน 6. กล้องถา่ ยรูป 4. การเกบ็ ขอ้ มลู 1. ศกึ ษาจากหนังสือ/เอกสาร 2. สบื ค้นข้อมลู ทางอินเทอรเ์ น็ต 5. การวิเคราะห์ข้อมูล รวบรวมขอ้ มลู คัดเลือก จัดหมวดหมู่ จดั ทำสมุดเลม่ เล็ก และสรปุ เปน็ รายงานโครงงาน 6. งบประมาณ ในการจัดทำโครงงาน ใช้งบประมาณในการดำเนนิ งานรวมทงั้ สิน้ 800 บาท โดยมรี ายละเอยี ดดงั นี้ 1. บอรด์ นทิ รรศการ ราคา 170 บาท 2. อุปกรณส์ ำนักงาน ราคา 330 บาท 3. จดั พมิ พ์เอกสาร ราคา 300 บาท

11 บทที่ 4 ผลการดำเนนิ งาน จากการสำรวจรวบรวมข้อมูลและค้นคว้าข้อมูลจากหนังสือ เอกสารต่าง ๆ และในอินเทอร์เน็ต ผู้ศึกษาได้รวบรวมปริศนาคำทายที่เป็นภาษาไทยในบริบทภาคกลาง และได้จัดหมวดหมู่ของปริศนาคำทาย โดยแบง่ ตามลักษณะเน้ือหา เป็น 8 ประเภท ประเภทละ 10 คำถาม รวมทง้ั หมด 80 คำถาม ซง่ึ มีรายละเอียด ดังน้ี 1. ปรศิ นาคำทายทเ่ี กี่ยวกบั สัตว์ 1. อะไรเอย่ เอาใยออกจากก้น สานไว้บนก่ิงไม้ ถกั ไปมาจนพอใจ ตวั เองอาศยั อยู่ตรงกลาง ตอบ แมงมุม คำคล้องจองที่ปรากฏ คอื คำวา่ กน้ กับคำวา่ บน , ไม้ กบั คำว่า ไป , ใจ กบั คำว่า อาศัย 2. อะไรเอย่ ไถนาวนเวียน ลากเกวยี นไปมา เมื่อถึงเวลา ชอบหาปลักนอน ตอบ ควาย คำคล้องจองที่ปรากฏ คอื คำว่า เวียน กบั คำวา่ เกวยี น , มา กับคำวา่ เวลา และหา 3. อะไรเอ่ย สองหยู าวตั้ง ขนปุยเป็นมนั หางส้นั สขี่ า ดวงตาแจ๋วแหวว ตอบ กระตา่ ย คำคล้องจองที่ปรากฏ คอื คำว่า มัน กับคำวา่ สัน้ , ขา กับคำวา่ ตา 4. อะไรเอย่ ส่ตี ีนเดนิ มาหลงั คามงุ กระเบ้ือง ตอบ เต่า คำคลอ้ งจองท่ีปรากฏ คอื คำว่า มา กบั คำวา่ หลงั คา 5. อะไรเอ่ยช่ือเหมือนคนตายมีปกี บนิ ได้ หากินกับดอกไม้ ตอบ ผีเสื้อ คำคลอ้ งจองทีป่ รากฏ คอื คำวา่ บิน กบั คำวา่ กนิ , ได้ กบั คำว่า ไม้ 6. อะไรเอ่ย เปน็ เพ่ือนทด่ี ี มคี วามซือ่ สตั ย์ เสียงดงั ฟังชดั หัดไวเ้ ฝ้าบา้ น ตอบ สุนขั /หมา คำคลอ้ งจองที่ปรากฏ คอื คำวา่ ดี กบั คำวา่ มี , สัตย์ กบั คำว่า ชดั และหดั , ดัง กับคำวา่ ฟงั 7. อะไรเอ่ย ตวั ใหญ่เท่าฟ้า มีขาสขี่ า มีงวงมีงา ตาเล็กนดิ เดียว ตอบ ช้าง คำคลอ้ งจองทีป่ รากฏ คือคำวา่ ฟ้า กับคำวา่ ขา , ขา กบั คำว่า งา และตา

12 8. อะไรเอ่ย สี่ตีนเดินมา ท่าทางซุกซน เขาเป็นบรรพบุรุษคน มีขนเตม็ ตัว ตอบ ลิง คำคล้องจองท่ีปรากฏ คือคำว่า มา กับคำวา่ ท่า , ซน กบั คำว่า คน และขน 9. อะไรเอย่ แปดตีนเดินมาขาเก เดินเซซ้าย เซขวา ชอบยกกล้าม เวลาเดนิ มาหลงั คามุงสังกะสี ตอบ ปู คำคล้องจองทป่ี รากฏ คือคำวา่ เก กบั คำว่า เซ , มา กับคำว่า หลังคา 10. อะไรเอย่ คำหนา้ เรียก \"อี\" มสี ดี ำทัง้ ตวั คำหลงั นัน้ รกู้ ันทั่ว คนนำมาตม้ น้ำกนิ ตอบ อกี า คำคล้องจองท่ปี รากฏ คือคำว่า อี กบั คำวา่ มี และสี , ดำ กบั คำว่า คำ และนำ , ตวั กบั คำว่า ท่ัว 2. ปรศิ นาคำทายทเี่ ก่ียวกับพชื ผกั ผลไม้ 1. อะไรเอ่ย มรี สหวานอมเปรี้ยว ออกลกู หัวเดียว มตี ารอบตัว ตอบ สับปะรด คำคล้องจองทป่ี รากฏ คือคำวา่ เปรย้ี ว กบั คำวา่ เดียว 2. อะไรเอย่ ตน้ เท่านิ้วกอ้ ย ใบย้อยถงึ ดิน เด็กเก็บมากิน ร้องให้รำ่ ไร ตอบ ตน้ พริก คำคลอ้ งจองทป่ี รากฏ คือคำว่า กอ้ ย กับคำวา่ ยอ้ ย , ดนิ กบั คำว่า กิน 3. อะไรเอ่ย ต้นเท่าครก ใบปรกดนิ ตอบ ตะไคร้ คำคลอ้ งจองที่ปรากฏ คือคำวา่ ครก กบั คำวา่ ปรก 4. อะไรเอย่ แก่เรียกห้าว สาวเรียกอ่อน ตอบ มะพรา้ ว คำคลอ้ งจองที่ปรากฏ คือคำวา่ หา้ ว กบั คำว่า สาว 5. อะไรเอย่ ตน้ เท่าขา ใบวาเดียว ตอบ ต้นกล้วย คำคลอ้ งจองทป่ี รากฏ คือคำว่า ขา กบั คำว่า วา 6. อะไรเอ่ย ใบเปน็ หยัก ลูกรักเต็มคอ ตอบ ต้นมะละกอ คำคล้องจองทป่ี รากฏ คือคำว่า หยกั กบั คำวา่ รัก

13 7. ผกั อะไรเอ่ย ชอบถือศีล มีกลน่ิ เป็นเอกลกั ษณ์ คนมักโรยหนา้ ตอบ ผักชี คำคล้องจองทปี่ รากฏ คือคำวา่ เอกลกั ษณ์ กับคำว่า มัก 8. ดอกอะไรเอย่ ไมเ่ คยหวนั่ ไหว ส้แู สงแดดได้ ตอบ ดอกทานตะวัน คำคล้องจองที่ปรากฏ คือคำว่า ไม่ กับคำวา่ ไหว 9. ดอกอะไรเอย่ หอมชวนชม ช่างสวยสม มีหนามแหลมคม ตอบ ดอกกหุ ลาบ คำคลอ้ งจองทป่ี รากฏ คือคำวา่ ชม กับคำว่า สม และแหลมคม 10. ดอกอะไรเอย่ ชอบข้นึ ตามตม ดอกใหญใ่ บกลม คนนยิ มบชู า ตอบ ดอกบวั คำคลอ้ งจองทป่ี รากฏ คือคำว่า ตม กบั คำว่า กลม , คน กับคำวา่ นิยม 3. ปรศิ นาคำทายทเี่ กีย่ วกบั อาหาร 1. ปลาอะไรเอย่ ไม่มชี วี ิต ติดอยู่ในท่แี คบ ตอบ ปลากระปอ๋ ง คำคล้องจองทป่ี รากฏ คือคำวา่ ชวี ติ กบั คำว่า ตดิ 2. อะไรเอ่ย มะพรา้ ว ขา้ วเหนียว ถวั่ คลุกใหท้ ่ัว ไปสุกในไม้ไผ่ ตอบ ข้าวหลาม คำคล้องจองที่ปรากฏ คือคำวา่ พรา้ ว กับคำวา่ ข้าว 3. อะไรเอย่ ปิดข้างหนา้ เห็นนม ปิดขา้ งหลังเห็นขน ตอบ ขนม คำคลอ้ งจองทปี่ รากฏ คือคำวา่ นม กับคำวา่ ขน 4. อะไรเอ่ย ชือ่ เป็นอาหารหวาน แตท่ ่จี รงิ เปน็ อาหารคาว ซำ้ ชื่อเปน็ ตา่ งด้าว ทำด้วยขา้ วเจา้ อย่างเดยี ว ตอบ ขนมจีน คำคล้องจองทป่ี รากฏ คือคำว่า คาว กับคำวา่ ดา้ ว และข้าว 5. ขา้ วอะไรเอ่ย กลบั ไปกลบั มา แลน่ บนเวหา เดก็ ว่าดีจรงิ ตอบ ขา้ วเกรยี บวา่ ว คำคลอ้ งจองท่ีปรากฏ คือคำว่า มา กับคำวา่ เวหา และวา่

14 6. อะไรเอ่ย หน้างอคอหัก เขามักจัดไว้เป็นคู่ อาศยั อยู่ในเข่ง ตอบ ปลาทู คำคล้องจองทีป่ รากฏ คือคำวา่ หกั กบั คำวา่ มัก , คู่ กับคำว่า อยู่ 7. อะไรเอย่ หัวแหลมท้ายแหลม ลอ่ งลอยในมหาสมทุ ร มนุษย์ชมว่าอรอ่ ยนัก ตอบ ลอดชอ่ ง คำคลอ้ งจองท่ปี รากฏ คือคำวา่ มหาสมทุ ร กับคำว่า มนุษย์ 8. อะไรเอ่ย รูปรา่ งกลม ๆ คนนิยมมองเห็นบนฟ้า ตอบ ไข่ดาว คำคล้องจองทป่ี รากฏ คือคำว่า กลม กบั คำวา่ นยิ ม 9. อะไรเอ่ยหน้าดำ ฟันขาว เหมือนชาวนโิ กร ตะโก้ก็ไม่ใช่ ตอบ ขนมเปียกปนู คำคล้องจองท่ปี รากฏ คือคำวา่ ขาว กบั คำวา่ ชาว , นโิ กร กับคำวา่ ตะโก้ 10. อะไรเอย่ กลมเหมือนพระจันทร์ มงี าต้ังพนั แทงคนไม่เข้า ตอบ ข้าวเกรยี บงา คำคลอ้ งจองทีป่ รากฏ คือคำว่า จันทร์ กับคำว่า พนั 4. ปริศนาคำทายทเี่ กย่ี วกบั สิ่งของเครอ่ื งใช้ 1. อะไรเอ่ย ปากเทา่ กระโถน ชอบตะโกนในงานวดั คำตอบ ลำโพง คำคลอ้ งจองที่ปรากฏ คือคำวา่ กระโถน กับคำว่า ตะโกน 2. อะไรเอย่ ทุกคร้ังที่กางขา ตอ้ งอา้ ปากทกุ ที คำตอบ กรรไกร คำคล้องจองทปี่ รากฏ คือคำว่า ขา กับคำวา่ อา้ 3. อะไรเอ่ย มหี สู องหู มีขาสองขา เวรหนกั หนา เอาขาแยงหู คำตอบ ปิน่ โต คำคล้องจองที่ปรากฏ คือคำว่า ขา กับคำวา่ หนา 4. อะไรเอย่ สี่ตีนเกาะฝา อ้าปากกินคน คำตอบ มุง้ คำคล้องจองทป่ี รากฏ คือคำวา่ ฝา กบั คำวา่ อา้

15 5. อะไรเอย่ กลางวันใช้กนั ไปทุกมมุ ห้อง กลางคืนเชญิ น้องไปไว้มุม คำตอบ ไม้กวาด คำคลอ้ งจองทป่ี รากฏ คอื คำวา่ หอ้ ง กบั คำว่า นอ้ ง 6. อะไรเอ่ย หนา้ งอคออ่อน กินขา้ วกอ่ นพระ คำตอบ ทัพพี หรือชอ้ น คำคล้องจองท่ีปรากฏ คือคำวา่ ออ่ น กับคำวา่ กอ่ น 7. อะไรเอ่ย ตวั เป็นไม้ฟนั เป็นเหล็ก มะพร้าวใหญเ่ ล็กกนิ ไม่เหลอื คำตอบ กระตา่ ยขูดมะพรา้ ว คำคลอ้ งจองทป่ี รากฏ คือคำวา่ เหล็ก กบั คำว่า เลก็ 8. อะไรเอย่ เปน็ ของใช้ยาวเล็ก คนเจ๊กใช้คีบอาหาร คำตอบ ตะเกยี บ คำคล้องจองท่ีปรากฏ คือคำว่า เล็ก กับคำว่า เจก๊ 9. อะไรเอย่ เป็นของใช้ทีจ่ ำเปน็ เชา้ และเย็นถูตวั อาบน้ำ คำตอบ สบู่ คำคลอ้ งจองท่ีปรากฏ คือคำวา่ เปน็ กบั คำว่า เย็น 10. อะไรเอย่ หบุ เท่ากระบอก ออกเทา่ กระดง้ คำตอบ ร่ม คำคลอ้ งจองทปี่ รากฏ คือคำว่า กระบอก กับคำวา่ ออก 5. ปรศิ นาคำทายทเ่ี กย่ี วกับเคร่ืองมือทำมาหากนิ และการประกอบอาชีพ 1. อะไรเอย่ มหี าง มีปาก มีตา กนิ ปลาเป็นอาหาร ตอบ แห คำคลอ้ งจองทีป่ รากฏ คือคำวา่ ตา กับคำว่า ปลา 2. อะไรเอ่ยตัวอยนู่ า ตาอยู่บ้าน อยูน่ ากดั ข้าว อยบู่ ้านกัดฝา ตอบ ตะปู คำคลอ้ งจองทีป่ รากฏ คือคำว่า นา กับคำวา่ ตา 3. อะไรเอ่ย ขา้ งโน้นกเ็ สาข้างน้กี ็เสา เรือสำเภาแลน่ ตรงกลาง ตอบ กีท่ อผ้า คำคลอ้ งจองที่ปรากฏ คือคำวา่ เสา กับคำวา่ เรอื สำเภา

16 4. อะไรเอย่ หลังงอ ๆ มคี อไว้จบั ชาวนาขนานนบั กินขา้ วหมดท่งุ ตอบ เคียวเกยี่ วข้าว คำคล้องจองทป่ี รากฏ คือคำว่า งอ กบั คำว่า คอ , จับ กบั คำวา่ นับ 5. อะไรเอย่ คนแกห่ ลังโกง โค้งลงในนำ้ ตามจับตัวปลา ตอบ เบด็ ตกปลา คำคล้องจองทป่ี รากฏ คือคำว่า โกง กับคำว่า โคง้ , นำ้ กบั คำว่า ตาม 6. อะไรเอ่ยตวั พลิกแผ่นดิน ช่อื บินลอยฟ้า ตอบ ไถ คำคล้องจองที่ปรากฏ คือคำวา่ ดิน กับคำวา่ บนิ 7. มหี าง มีปาก มตี า กนิ ปลาเปน็ อาหาร ตอบ แห คำคล้องจองทป่ี รากฏ คือคำว่า ปาก กบั คำวา่ ปลา , ตา กับคำว่า อา 8. เมอื่ จะใชเ้ อาไปทอด เมอื่ จะจอดเอาไปท้งิ ตอบ สมอเรอื คำคลอ้ งจองที่ปรากฏ คือคำวา่ ทอด กับคำวา่ จอด 9. อะไรเอ่ย ตวั ยาวเกือบวา ฟนั หน้าซี่เดียว กินดินเปน็ อาจิณ ตอบ จอบ คำคล้องจองทป่ี รากฏ คือคำวา่ วา กบั คำวา่ หนา้ 10. อะไรเอ่ย สห่ี พู นั ตา กนิ ปลาในนำ้ ตอบ ยอ คำคล้องจองทปี่ รากฏ คือคำวา่ ตา กบั คำวา่ ปลา 6. ปริศนาคำทายทเี่ กีย่ วกบั บุคคลและอาชพี 1. อะไรเอ่ย ขาวเหมือนแม่ชี นำ้ ใจแสนดี ใครไปหาแลว้ สบาย ตอบ อาชีพพยาบาล คำคลอ้ งจองทป่ี รากฏ คือคำว่า แมช่ ี กบั คำว่า แสนดี 2. อะไรเอ่ย ถือเข็มคอยทา่ ใคร ๆ มาชอบใชเ้ ข็มแทง ตอบ อาชีพหมอ คำคล้องจองทีป่ รากฏ คือคำว่า ทา่ กบั คำวา่ มา

17 3. อะไรเอ่ย ตวั อยบู่ กอกอยู่ฟ้า ตาอยลู่ กึ คอยป้องกนั ขา้ ศึก ทงั้ กลางวันและกลางคนื ตอบ อาชีพทหาร คำคล้องจองที่ปรากฏ คือคำว่า ฟา้ กบั คำว่า ตา , ลกึ กบั คำวา่ ศกึ 4. อะไรเอย่ ใคร ๆ เรียกหาให้มาอย่ใู กล้ แตพ่ วกคนร้ายชอบไปห่าง ๆ ตอบ อาชีพตำรวจ คำคล้องจองทปี่ รากฏ คือคำว่า ใกล้ กับคำวา่ ไป 5. อะไรเอ่ย สองมอื สองขา สองตาปากเดียว ชอบถือไม้เรยี ว มลี ูกกราวเกรียว เต็มบ้านเต็มเมือง ตอบ อาชีพครู คำคลอ้ งจองทปี่ รากฏ คือคำว่า ขา กบั คำวา่ ตา , เรยี ว กบั คำว่า เกรยี ว 6. อะไรเอ่ย อีกนามของราชา ชาวพารารักใคร่เทิดทูน ตอบ กษตั รยิ ์ คำคล้องจองท่ีปรากฏ คือคำวา่ ราชา กับคำว่า พารา 7. อะไรเอย่ เปิดประตูเขา้ ออก ผคู้ นมาบอกเมื่อยามมีภัย ตอบ อาชีพยาม คำคล้องจองทป่ี รากฏ คือคำวา่ ประตู กับคำวา่ ผู้ , ออก กบั คำวา่ บอก 8. ไมม่ เี มีย ไม่มลี ูก ไม่มขี า้ วปลูก แต่มีข้าวกนิ ตอบ พระ คำคล้องจองทีป่ รากฏ คือคำว่า ลกู กับคำว่า ปลูก 9. อะไรเอ่ย ตื่นนอนแตเ่ ชา้ รีบเขา้ โรงเรยี น หดั อ่านหัดเขยี น ไปเรยี นทุกวนั ตอบ นักเรียน คำคลอ้ งจองทป่ี รากฏ คือคำว่า เชา้ กบั คำว่า เข้า , เขียน กบั คำว่า เรยี น 10. อะไรเอ่ย ทำงานบนท้องฟา้ นำพาผู้คน ขนส่งท่ัวโลก ตอบ อาชีพนักบนิ คำคล้องจองทีป่ รากฏ คือคำวา่ ฟา้ กบั คำวา่ พา , คน กบั คำว่า ขน 7. ปริศนาคำทายทเี่ กี่ยวกบั อวัยวะ 1. อะไรเอย่ ตดั โคนก็ไม่ตาย ตดั ปลายก็ไมเ่ นา่ ตอบ ผม คำคลอ้ งจองที่ปรากฏ คือคำวา่ ตาย กบั คำวา่ ปลาย

18 2. อะไรเอย่ ไม่ใกล้ ไมไ่ กล มองเหน็ รำไร ตอบ จมูก คำคล้องจองที่ปรากฏ คือคำว่า ใกล้ กับคำว่า ไกล และรำไร 3. อะไรเอ่ย เวลาเรานอนมนั ยนื ตอนกลางคนื มันยืนเรานอน ตอบ เทา้ คำคล้องจองทป่ี รากฏ คือคำว่า ยนื กับคำวา่ คืน 4. อะไรเอย่ พน่ี ้องทัง้ ห้า โสภาผุดผอ่ ง คนกลาง สูงสุด คนโตเตี้ยใหญ่ ตอบ นิ้วมอื คำคล้องจองที่ปรากฏ คือคำวา่ หา้ กบั คำว่า โสภา 5. อะไรเอ่ย พ่นี ้องท้องเดียว แลเหลยี วไมเ่ ห็นกัน ตอบ ใบหู คำคลอ้ งจองที่ปรากฏ คือคำว่า เดยี ว กับคำว่า เหลยี ว 6. อะไรเอย่ ช่อื เรยี กเหมือนยักษ์ แต่ไมร่ ้จู ักกินคน คำตอบ ยกั คว้ิ คำคล้องจองทปี่ รากฏ คือคำวา่ ยกั ษ์ กับคำวา่ จัก 7. อะไรเอ่ย ดำเหมือนหมี ตีไมต่ าย คำตอบ เงา คำคลอ้ งจองท่ปี รากฏ คือคำวา่ หมี กับคำว่า ตี 8. อะไรเอ่ย เกดิ มาเปน็ คู่ อย่ใู กล้ ๆ กัน ในนนั้ มสี ีดำขาว คำตอบ ตา คำคล้องจองทป่ี รากฏ คือคำว่า คู่ กับคำวา่ อยู่ , กนั กับคำว่า นั้น 9. อะไรเอ่ย มีขนบนล่าง ตรงกลางวงกลม คำตอบ ดวงตา คำคลอ้ งจองที่ปรากฏ คือคำว่า ล่าง กบั คำว่า กลาง 10. อะไรเอ่ย อยบู่ นใบหน้า นำพาดมกล่ิน คำตอบ จมกู คำคลอ้ งจองท่ีปรากฏ คือคำวา่ หนา้ กบั คำวา่ พา

19 8. ปริศนาคำทายที่เกยี่ วกบั ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ 1. อะไรเอ่ย กลางวนั เก็บใสก่ ระบาย กลางคนื กระจายเตม็ ท้องฟ้า คำตอบ ดาว คำคล้องจองทปี่ รากฏ คือคำว่า กระบาย กับคำว่า กระจาย 2. อะไรเอย่ เขยี วเมื่อเหน็ เย็นสะเดด็ มีแต่เมด็ ไมม่ ใี บ คำตอบ ฝน คำคล้องจองทป่ี รากฏ คือคำวา่ เหน็ กับคำวา่ เยน็ , เด็ด กบั คำว่า เม็ด 3. อะไรเอ่ย คนจับไม่ไดเ้ พราะไม่มีตัวตน แตถ่ ้ามันจบั คน หนา้ มืดตามวั คำตอบ ลม คำคลอ้ งจองทป่ี รากฏ คือคำว่า ตน กับคำวา่ คน 4. อะไรเอย่ สงู กวา่ นำ้ ต่ำกวา่ เรอื คำตอบ ฟองนำ้ คำคลอ้ งจองที่ปรากฏ คือคำว่า น้ำ กับคำว่า ต่ำ 5. อะไรเอ่ย ตวั ยาวหลายวา กายาเจ็ดสี กนิ วารเี ปน็ อาหาร คำตอบ สายรุ้ง คำคล้องจองทีป่ รากฏ คือคำว่า วา กับคำวา่ กายา , สี กับคำว่า รี 6. อะไรเอย่ น้ำขน้ึ ก็หด น้ำลดกโ็ ผล่ คำตอบ ตอ คำคลอ้ งจองทีป่ รากฏ คือคำวา่ หด กับคำวา่ ลด 7. อะไรเอย่ สูงเทียมฟา้ ตำ่ กวา่ หญา้ นดิ เดียว คำตอบ ภเู ขา คำคลอ้ งจองที่ปรากฏ คือคำวา่ ฟ้า กับคำว่า กวา่ 8. อะไรเอ่ย โตเท่าภเู ขา เบานิดเดยี ว คำตอบ เมฆ คำคลอ้ งจองทป่ี รากฏ คือคำว่า เขา กบั คำว่า เบา 9. อะไรเอ่ย สกุ ไมห่ อม งอมไม่หล่น คนกนิ ไมไ่ ด้ กระตา่ ยอยู่ในนั้น คำตอบ พระจันทร์ คำคลอ้ งจองทปี่ รากฏ คือคำว่า หอม กับคำวา่ งอม , หลน่ กบั คำว่า คน

20 10. อะไรเอ่ย เกิดจากไฟ หายไปกับลม คำตอบ ควนั คำคล้องจองที่ปรากฏ คือคำวา่ ไฟ กบั คำวา่ ไป

21 บทที่ 5 สรุปผลการดำเนินงาน 1. สรปุ ผลการการศึกษา จากการทำโครงงานภาษาไทย เรื่อง “อะไรเอ่ย เฉลยหน่อย” โดยการศึกษาจากหลักฐานชั้นรอง (ทุติยภูมิ) คือ หนังสือเอกสารจากห้องสมุด เว็บไซต์ พบว่า ปริศนาคำทายสามารถแบ่งได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้ในการแบ่ง และจากการศึกษารวบรวมข้อมูลในครั้งนี้ สามารถจัดหมวดหมู่ตามลักษณะ เน้ือหาได้ 8 ประเภท ได้แก่ ปริศนาคำทายที่เกยี่ วกบั สัตว์ ปรศิ นาคำทายทีเ่ กีย่ วกบั พชื ผกั ผลไม้ ปรศิ นาคำทาย ที่เกี่ยวกับอาหาร ปริศนาคำทายที่เกี่ยวกับสิ่งของเครื่องใช้ ปริศนาคำทายที่เกี่ยวกับเครื่องมือทำมาหากิน และการประกอบอาชีพ ปริศนาคำทายทเ่ี ก่ยี วกบั บุคคลและอาชีพ ปรศิ นาคำทายท่ีเกยี่ วกับอวยั วะ และปริศนา คำทายท่เี กย่ี วกับปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ 2. ผลอภิปราย จากการทำโครงงานภาษาไทย เรื่อง “อะไรเอ่ย เฉลยหน่อย” ปรากฏว่า ผลการศึกษาบรรลุตาม วัตถุประสงค์ เนื่องจากอาศัยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชั้นรอง คือ หนังสือ เอกสาร และการสืบค้นข้อมูล ทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ได้รับการยอมรับ และมีหลักฐานอ้างอิงชัดเจน ตลอดจนได้รับ ความรู้และข้อมูลที่เปน็ จริง สามารถนำความรูท้ ี่ไดม้ าวิเคราะห์และเผยแพร่ให้เป็นผลงาน เพื่อให้ผูศ้ ึกษาไดร้ ับ ประโยชน์จากการศึกษา และสามารถนำความรู้มาประยุกตใ์ ช้ในวิชาภาษาไทย ตลอดจนบูรณาการสู่กลุ่มสาระ อ่ืน ๆ ตอ่ ไป 3. ประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับ 1. ไดศ้ ึกษาความรูเ้ ก่ียวกบั ปริศนาคำทาย 2. ไดศ้ ึกษาคำคลอ้ งจองที่ปรากฏในปรศิ นาคำทาย 3. ฝกึ ความมีปฏิภาณไหวพริบในการแก้ปญั หา 4. ส่งเสรมิ การอนรุ ักษ์ภูมปิ ญั ญาทางภาษาและวรรณกรรมท้องถ่ิน 5. เปน็ การเผยแพรป่ ริศนาคำทาย 6. ส่งเสรมิ การใช้เวลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ 4. ข้อเสนอแนะ ในการจัดทำโครงงานครงั้ ต่อไป ควรหาโอกาสไปสมั ภาษณ์หรอื สอบถามผรู้ ู้ในท้องถิน่ ตา่ ง ๆ เพ่อื ศกึ ษา เปรียบเทยี บความแตกตา่ งของปรศิ นาคำทายในบรบิ ทภาคกลางกบั ปริศนาคำทายในภูมิภาคอ่นื ๆ

22 เอกสารอ้างองิ มูลนิธิสารานกุ รมไทยสำหรบั เยาวชน. (2550). ปริศนาคำทายของไทย. [ออนไลน์]. ได้จาก: http://saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book=34&chap=3&page=chap3.htm [สืบคน้ เมอื่ วันที่ 3 ตลุ าคม 2563]. ราชบัณฑิตยสถาน. (2546). พจนานกุ รม ฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ: นานมบี ๊คุ ส์ พบั ลเิ คชั่นส์. วเิ ชยี ร เกษประทุม. (2562). อะไรเอย่ . กรุงเทพฯ: พ.ศ. พัฒนา จำกัด. ศรณั ย์ กจิ สริ ไิ พศาล และคณะ. (2561). 100 คำถามอะไรเอย่ . กรงุ เทพฯ: เอ็มไอเอส จำกัด.

ภาคผนวก

ภาพประกอบการดำเนนิ กจิ กรรม ประชุมวางแผนการดำเนินงาน/แบง่ หนา้ ทรี่ ับผดิ ชอบ ค้นควา้ เอกสารและสืบคน้ ข้อมลู จากอินเทอร์เน็ต รวบรวมและจดบนั ทึกข้อมลู

นำข้อมลู มาคดั เลือก จดั หมวดหมู่ และจัดทำเอกสารรายงานโครงงาน จดั ทำสมดุ เลม่ เล็กและจดั นิทรรศการแสดงผลงาน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook