มสธ การก ยู้ มื เงนิ 3-1 หน่วยท ี่3 การกู้ยืมเงิน รองศาสตราจารย์เพช ราจารุส กุล มสธ มส ธมมสธสธมสธสธ ชอ่ื รองศ าสตราจารย์เ พ ชรา จารุ สกุล วฒุ ิ น.บ. (เกยี รตนิ ยิ มด ี), น.ม. มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ น .บ.ท., ประกาศนียบตั รก ฎหมาย ทรพั ย์สนิ ทางป ัญญา สาำ นักอ บรมศ ึกษาแห่งเ นติบ ณั ฑิต ยส ภา ตำาแหน่ง อาจารย์พเิ ศษสาขา วิชา นิตศิ าสตร์ มหาวิทยาลยั ส ุโขทัย ธรร มาธิร าช หน่วยท ป่ี รบั ปรงุ หนว่ ยท ี่ 3
มสธ 3-2 กฎหมายพ าณิชย์2:ยมื ฝากท รพั ย์ตัวแทนประกันภ ยั มสธ แผนการสอนประจำาห น่วยมส ชุดวชิ า กฎหมายพ าณชิ ย ์ 2 : ยืม ฝากท รพั ย ์ ตวั แทน ประกันภ ัย หนว่ ยที่ 3 การ กย ู้ ืม เงิน ตอนที่ 3.1 ลกั ษณะ ทั่วไปข อง การก ้ยู มื เงิน 3.2 การก ูย ้ ืม เงนิ ในล กั ษณะอ นื่ และ การ เลน่ แชร์ เปยี หวย 3.3 ดอกเบ้ยี 3.4 ความร ะงบั แหง่ ส ัญญาก ้ ยู ืม เงนิ และ การนำาส บื ก าร ใช เ้ งินก ู้ แนวคิด 1. ก ารก ย ู้ มื เ งนิ เ ปน็ น ติ กิ รรมส ญั ญาช นดิ ห นง่ึ ทม ่ี ค ี วามเ กยี่ วพ นั ก บั ก ารด าำ เนนิ ช วี ติ ป ระจาำ ว นั ข อง มนษุ ย ท์ งั้ ใ นท างส ว่ นต วั และท เ ี่ กย่ี ว กบั ธรุ กจิ ซงึ่ สญั ญา กย ู้ มื เ งนิ ม สี าระ สาำ คญั ใน เรอื่ ง หลกั ฐาน แห่งก าร ก ยู้ มื เ ปน็ ห นังสือใ นก รณ กี ู้ย มื เงนิ ก ว่า สองพ นั บ าท ข้นึ ไป 2. การ กู้ ยืม เงิน ของ สถาบัน การ เงิน และ การ กู้ ยืม เงิน ของ รัฐ มี ขั้น ตอน และ วิธี การ แตก ต่าง จาก การก ยู้ มื เ งิน ตามธ รรมดา 3. สญั ญา อ่ืนท ี ม่ ีล ักษณะเ ดยี วก บั สญั ญาก ย ู้ ืมเ งิน ได้แก ่ สัญญา เบิกเ งิน เกนิ บ ัญช ี สญั ญา ซอื้ ล ด ต๋ัว เงิน สญั ญา เลน่ แ ชร์ เปียห วย มี ลกั ษณะ คล้ายส ัญญา กย ู้ ืม เงิน 4. ดอกเบยี้ ทผ ่ี ใ ู้ หก ้ ยู้ มื ส ามารถ คดิ ได ต้ าม กฎหมาย ไม เ่ กนิ รอ้ ย ละ สบิ ห า้ ต อ่ ป ี และ การ คดิ ดอกเบย้ี ทบ ต้นใ น สัญญา กย ู้ ืม เงนิ ทำา ไม่ ได้ เวน้ แ ตจ ่ ะเ ข้าห ลักเ กณฑต ์ าม กฎหมาย 5. ความ ระงบั แห่ง สญั ญาก ย ู้ มื เงนิ เป็น ไป ตาม ความร ะงับ แหง่ ส ัญญา ยืม ใช้ สิ้นเ ปลือง วัตถุประสงค์ เมอ่ื ศึกษาห นว่ ย ที่ 3 จบแ ลว้ นักศึกษา สามารถ 1. อ ธบิ าย ได้ว า่ การ กู้ ยมื เงนิ เข้าม าเ กย่ี วขอ้ งก ับก าร ดำาเนนิ ช วี ติ ป ระจาำ ว นั ของม นุษย์อ ย่างไร และ สาระส ำาคัญ ของ สัญญาก ย ู้ มื เงนิ ม ีอ ะไรบ า้ ง ได้ 2. อ ธิบายถ ึง วธิ ก ี าร กู้ย มื เ งนิ และ แหลง่ เงนิ ก ขู้ องร ัฐ การก ู้ยืมเ งนิ ร ะหว่างส ถาบันก าร เงินต า่ งๆ ได ้ พอ สงั เขป 3. บ อกถ งึ ช นดิ ข องส ญั ญาอ นื่ ท ม ่ี ล ี กั ษณะเ ดยี วก บั ส ญั ญาก ย ู้ มื เ งนิ ได ้ และอ ธบิ ายถ งึ ค วามแ ตกต า่ ง ของ สญั ญาก ย ู้ ืม เงินแ ละ สัญญา ชนดิ อน่ื ท ี่ มีล กั ษณะ ใกล เ้ คียงก นั ไ ด้ ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การก ้ยู ืมเงนิ 3-3 4. อธบิ ายเ รื่อง การค ดิ ด อกเบี้ยต าม กฎหมาย และก าร คดิ ด อกเบ้ียท บต ้นใ นส ญั ญา กยู้ มื เ งนิ ได้ 5. อธิบายค วาม ระงบั แ ห่งส ัญญาก ู ้ยมื เ งินได้ 6. วนิ จิ ฉยั ป ัญหา อนั เ กิด ข้ึน เนอ่ื งจากก ารก ูย้ ืม เงนิ ได้ กิจกรรมระหว่างเรียน 1. ทาำ แ บบ ประเมินผ ลต นเอง กอ่ นเ รียนห น่วยท ี่ 3 2. ศึกษา เอกสารก ารส อนตอน ท่ ี 3.1-3.4 3. ปฏบิ ัติก จิ กรรมต ามท ่ีไ ด ้รับ มอบห มายใ นเ อกสาร การ สอน 4. ฟงั ซ ีด ีเสยี งป ระจำาช ดุ วชิ า 5. ชม รายการ วทิ ยุ โทรทศั น ์ (ถ้าม )ี 6. เข้า รับ การส อนเ สรมิ (ถา้ ม )ี 7. ทาำ แ บบ ประเมินผ ล ตนเอง หลังเ รียนห น่วย ที่ 3 สื่อการสอน 1. เอกสารก าร สอน 2. แบบฝ ึก ปฏิบตั ิ 3. ซีดีเ สียง ประจาำ ชุด วิชา 4. รายการ วิทยโ ุ ทรทศั น ์ (ถา้ ม)ี 5. การ สอน เสริม (ถา้ ม )ี การป ระเมินผ ล 1. ประเมนิ ผล จาก แบบป ระเมิน ผลต นเองก ่อนเ รียนแ ละห ลังเ รยี น 2. ประเมิน ผล จาก กิจกรรมแ ละแ นว ตอบท า้ ย เรื่อง 3. ประเมนิ ผ ลจ ากก าร สอบป ระจาำ ภ าคก าร ศกึ ษา เมื่ออ่านแ ผนการสอนแ ล้วขอให้ทำาแ บบป ระเมินผ ลต นเองก ่อนเรียน หน่วยท ี่3ในแบบฝ ึกปฏิบัติแล้วจ ึงศ ึกษาเอกสารก ารส อนต่อไป มสธ มส ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-4 กฎหมายพ าณชิ ย์2:ยืมฝากท รัพย์ตวั แทนประกนั ภ ยั ตอนท ี่3.1 ลักษณะท ั่วไปข องการกู้ยืมเงิน โปรดอ า่ นห ัวเ รือ่ ง แนวคดิ และว ตั ถปุ ระสงค์ ของ ตอน ท่ี 3.1 แล้วจ ึงศ ึกษา รายล ะเอียดต ่อ ไป หัวเรื่อง 3.1.1 การก ย ู้ ืมเ งนิ แ ละ สญั ญาอ นื่ ท่ มี ีล กั ษณะเ ดียว กับส ญั ญา ก ูย้ ืมเ งิน 3.1.2 สาระ สาำ คัญ ของส ัญญาก ยู้ มื เ งนิ แนวคิด 1. น อกจาก สัญญา กู้ ยืม เงิน แล้ว ยัง มี สัญญา อื่น ที่ มี ลักษณะ เดียว กับ สัญญา กู้ ยืม เงิน ได้แก่ การ เบิก เงนิ เกนิ บ ัญช ี และก าร ซื้อล ด ตวั๋ เงิน 2. ส าระส าำ คญั ข องส ญั ญาก ย ู้ มื เ งนิ ไดแ้ ก ่ การส ง่ ม อบเ งนิ ท ใ ี่ หก ้ ย ู้ มื หลกั ฐ านแ หง่ ก ารก ย ู้ มื เ งนิ ที่ เป็น หนังสือ ที่ ผู้ ให้ กู้ ยืม จำาเป็น ต้อง มี ไว้ เพื่อ ใช้ เป็น หลัก ฐาน ใน การ ฟ้อง ร้อง กรณี ผู้ กู้ ไมช ่ ำาระห นี้ วัตถุประสงค์ เมอ่ื ศ ึกษา ตอน ท ่ี 3.1 จบแ ล้ว นักศกึ ษา สามารถ 1. อธบิ ายก าร ก ยู้ ืม เงิน และส ญั ญาอ ่ืนท ่มี ล ี ักษณะเ ดียว กับส ญั ญาก ย ู้ มื เ งินได้ 2. อธิบาย สาระส าำ คญั ของ สญั ญาก ยู้ มื เ งนิ ได้ มสธ มส ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-5 การกยู้ มื เงนิ เรื่องที่3.1.1 การก ู้ยืมเงินแ ละสัญญาอ ื่นที่ม ีลักษณะเดียวก ับส ัญญาก ู้ย ืมเงิน การก ้ย ู มื เงนิ เป็น เอกเทศส ญั ญาช นดิ ห นงึ่ อ ยใู ่ น ปพพ. ลักษณะ 9 หมวด 2 ยมื ใ ชส ้ ้ิน เปลอื ง การ ก ยู้ มื เ งินไ ด ้เริม่ ม ม ี าต ัง้ แต่ส มยั โ บราณ เดมิ เปน็ การย ืมส ง่ิ ของ เครอ่ื ง ใช ้ เพอ่ื อ ปุ โภค เช่น ยืม ววั ควาย เพือ่ ใชง้ าน ยืมพ ืช ผลเ พ่ือ บรโิ ภค ตอ่ มาเ ม่ือม นษุ ยร ์ จู้ ัก ใชว ้ ตั ถุก ลางใ นก ารแ ลกเ ปลีย่ น เป็น เงิน มนษุ ย์จ ึง ใชเ ้ งิน แลก เปลี่ยน สิ่ง ที่ ต้องการ ดัง น้ัน จึง มี การ ยืม เงิน แทน การ ยืม วัตถุ ส่ิงของ ใน ชั้น แรก เป็นการ กู้ ยืม เงิน กัน ใน ระหวา่ ง เอกชน ต่อ มา เมอื่ การ คา้ ขยาย กว้าง ข้นึ ทาำ ให ้ระบบ เศรษฐกิจ เจรญิ ก้าวหนา้ มี การ ตง้ั สถาบนั การ เงิน อนั ไ ดแ้ ก ่ธนาคาร ธนาคารไ ด ้ต้ัง ข้ึน ในร าว ศตวรรษท ่ี 12 หลังจ าก พน้ ย ุค มืด การธ นาคาร ใน ยุโรป ฟื้น ตวั ขนึ้ เมอ่ื ส งั คมม ร ี ะเบยี บเ รยี บรอ้ ยก ารค า้ แ ละก ารพ าณชิ ยก ์ เ ็ จรญิ แ พรห ่ ลายข นึ้ จงึ ม ก ี ารก ย ู้ มื เ งนิ จ ากธ นาคาร มากข น้ึ ธนาคารใ นส มยั น นั้ เ ฟอื่ งฟ ู ผด ู้ าำ เนนิ ก จิ การธ นาคารใ นย คุ น นั้ ส ว่ นม ากเ ปน็ พ วกย วิ เ พราะพ ระใ นส มยั น้ัน รังเกียจ การ ให้ กู้ ยืม เงิน โดย คิด ดอกเบ้ีย พวก ยิว มี ความ ชำานาญ ทางการ เงิน รู้จัก ใช้ ต๋ัว แลก เงิน ให้ พวก ขุนนาง และ ประชาชนก ู้ เงินโ ดย มี ท่ีดิน เพชร พลอย และข องม ี ค่า อื่นๆ เป็น ประกัน และ คิด ดอกเบ้ีย แพง บางที ร้อยล ะ 20 ถงึ ร อ้ ยล ะ 30 เมื่อ พวกก ษัตริย ์และข ุนนางต ดิ หนี ส้ ิน รุงรงั จนไ ม่ม เี งิน ชำาระ คืน ก ็ตระบัดห น้ ี ใชอ้ าำ นาจข บั ไ ล พ่ วก ยิว ออกน อกป ระเทศ หลงั จ าก พวก ยิวถ ูก ขับไ ล ่ออก จาก อังกฤษ แล้ว ชาวล อม พาด จาก ฟลอ-เรนซ์ เวนสิ และ เยน วั ก็เ ขา้ ไปท ำา กิจการธ นาคาร แทนม ากข ้ึน ราวๆ ศตวรรษ ท่ี 14 ม ีการ ให ก้ ้เู งนิ โดย คดิ อ ตั ราด อกเบยี้ แ ละช าำ ระเ งนิ โ ดยก ารใ ชต ้ วั๋ แ ลกเ งนิ ในค รสิ ตศ ์ กั ราช 1546 กฎหมายอ นญุ าตใ หค ้ ดิ ด อกเบยี้ ได้ รอ้ ยล ะ 10 แต่อ ตั ราน ี้ ได ้เปล่ียนแปลงเ ร่ือยม า จนล ดล งเ หลือร ้อยล ะ 5 ในค ริสต ศ์ กั ราช 17141 ความห มายข องก ารกู้ยืมเงิน การ กู้ ยืม เงิน ใน ความ เข้าใจ ของ คน โดย ทั่วไป เข้าใจ ว่า การ กู้ ยืม เงิน คือ การ ยืม เงิน จาก ผู้ อื่น โดย ให้ ดอกเบ้ีย เป็น ส่ิง แลก เปลี่ยน2 ซึ่ง อาจ จะ ทำา หลัก ฐาน การ กู้ ยืม เงิน กัน ไว้ หรือ บาง ราย มิได้ ทำา หลัก ฐาน การ กู้ ยืม เนื่องจาก เช่ือ ใจ กัน การ กู้ ยืม เงิน กัน โดย ไม่มี หลัก ฐาน เป็น หนังสือ ถ้า เงิน จำานวน ไม่ มาก นัก ก็ ไม่มี ปัญหา ใด หาก เงิน ท่ี ให้ กู้ ยืม มี จำานวน มาก เกิน กว่า จำานวน ที่ กฎหมาย กำาหนด ให้ มี หลัก ฐาน เป็น หนังสือ การ ไมไ ่ ด ท้ าำ ห ลกั ฐาน เปน็ ห นังสืออ าจเ ป็นม ูล เหตใ ุ ห ้เกิด กรณีพ พิ าท ใน เรือ่ งก ารไ ม ช่ ำาระ หน เ้ี งนิ ท ่ีก้ย ู มื ไ ด้ การก ย ู้ มื เ งนิ อ าจม ห ี ลกั ป ระกนั ห รอื ไ มม่ ก ี ไ็ ดส ้ ดุ แ ลว้ แ ตผ ่ ใ ู้ หก ้ ย ู้ มื ก บั ผ ก ู้ ย ู้ มื ต กลงก นั หากม ท ี รพั ยส์ นิ ประเภท สังหาริมทรัพย์ เช่น เครื่อง ประดับ มา เป็น ประกัน ได้แก่ การ กู้ ยืม เงิน ท่ี มี การ จำานำา ทรัพย์สิน เป็น หลัก ประกัน หรือ กู้ ยืม เงิน โดย มี ท่ีดิน เป็น หลัก ประกัน โดย จด ทะเบียน จำานอง ที่ดิน หลัก ประกัน ก็ เป็น มสธ มส ธมมสธสธมสธสธ 1 วารี พงษเ์ วช การ เงิน และ การ ธนาคาร พมิ พ์ คร้งั ท ่ี 4 พระนคร: อตุ สาหกรรม การพ มิ พ ์ พ.ศ. 2502 น. 144, 146, 147. 2 พจนานกุ รม ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. 2542
มสธ 3-6 กฎหมายพาณชิ ย์2:ยืมฝากท รพั ย์ตัวแทนประกนั ภ ยั การ กู้ ยืม เงิน ท่ี มี สัญญา จำานอง เข้า มาเก่ียวข้อง ด้วย หรือ การ กู้ ยืม เงิน โดย ให้ บุคคล ค้ำา ประกัน โดย บุคคล นั้น มสธ ทำา สัญญา คำ้า ประกัน ให้ ผู้ ให้ กู้ ยืม เรียก ว่าการ กู้ ยืม เงิน โดย มี บุคคล ค้ำา ประกัน ซ่ึง การ กู้ ยืม เงิน ดัง กล่าว ข้าง มส ต้นม สี ัญญาก ู้ยมื เงินเ ป็น สญั ญาป ระธาน ม ีการ จาำ นาำ จำานอง และ การ คาำ้ ป ระกนั ซ่งึ เป็นเ อกเทศส ญั ญา อัน เปน็ สญั ญาอ ุปกรณเ์ ขา้ ม าเ ก่ียวข้องด ว้ ย ซงึ่ ต ้อง นาำ หลกั กฎหมายใ น สญั ญาน ้นั ๆ มาใ ชบ ้ ังคับก บั ค กู่ รณีด ้วย การกู้ย ืมเงินจ ากส ถาบันการเงินต่างๆ การ กู้ ยืม เงิน นอกจาก จะ กู้ ยืม จาก เอกชน ซ่ึง เป็น บุคคล ธรรมดา แล้ว ยัง มี การ กู้ ยืม เงิน จาก สถาบัน ท่ีด ำาเนินก ิจการใ ห้ กู้ ยืมเ งิน โดย เฉพาะ ได้แก่ การก ู้ย ืม เงินจ ากโ รง รับจ ำานำา การ กู้ย ืมจ ากธ นาคารพ าณิชย์ ท ่ีต้ังข ้ึน ด้วยอ ำานาจแ ห่งก ฎหมาย การ กู้ย ืมเ งินจ ากส ถาบัน การ เงิน อื่น3และต ่อไ ป น ้ีจะก ล่าว ถึง การก ู ย้ ืม เงิน จาก แหล่งก ารเ งนิ ท สี ่ าำ คัญๆ ดังนี้ 1. โรงรับจำ�น�ำ 4(PawnShop)โรงร ับจ ำานาำ เป็นแ หล่ง เงินก ทู้ ่คี นม ร ี ายไ ด น้ อ้ ย สามารถใ ช้ บริการ ได ้ จน ได้ ช่ือ ว่า เป็น ธนาคาร ของ คน ยาก การ กู้ ยืม เงิน จากโ รง รับ จำานำา ผู้ กู้ ต้อง มี ทรัพย์สิน เป็น หลัก ประกันก าร กู้ย ืม คอื ทรพั ย์สินท ่ ีจาำ นำา น่ันเอง อาจ เปน็ เ ครื่องป ระดบั เครื่อง ใช้ ซ่งึ ม รี าคา ไม ม่ าก นกั ได้แก ่ แหวน สร้อย พดั ลม เตารีด ต้เู ย็น วิทยุ โทรทศั น ์ ฯลฯ โรงร บั จาำ นาำ ใ ห ้กู้ย มื ใ นว งเงิน สูงสุดไ มเ ่ กนิ 100,000 บาท ปัจจุบนั มโ ี รง รับจ ำานำา 3 ประเภทค อื 1.1 โรง รับ จำานำา ที่ ดำาเนิน การ โดย เอกชน เป็น โรง รับ จำานำา ที่ ตั้ง ข้ึน โดย เอกชน ซึ่ง ใน ปัจจุบัน ไมม่ ก ี ารต งั้ โ รงร บั จ าำ นาำ ป ระเภทน ข ้ี นึ้ ม าอ กี นอกจากท ม ่ี อ ี ยแ ู่ ลว้ เนอ่ื งจากใ นภ ายห ลงั ไ ดม ้ ก ี ารอ อกก ฎหมาย ห้าม ต้ังโ รงร ับ จาำ นาำ โดย เอกชน 1.2 สถานธ นาน เ ุ คราะห์ เปน็ โ รง รับจ าำ นำาท ีด่ ำาเนินก ารโ ดยก รม ประชาสงเคราะห์ 1.3 สถานธ นาน บ ุ าล เปน็ โ รง รบั จ าำ นำา ที ่ดำาเนนิ ก ารโ ดย เทศบาล5 การด ำาเนิน กิจการใ ห้ก ู้ ยืม เงิน โดยโ รงร ับ จำานำาน ้ัน มีก ฎหมายท ่ี ใช้ บังคับเ ป็นพ ิเศษ ได้แก่ พระ ราช บญั ญตั โ ิ รงร บั จำานาำ พ.ศ. 2505 3 พระร าชบ ญั ญตั ด ิ อกเบย้ี เ งนิ ใ หก ้ ย ู้ มื ข องส ถาบนั ก ารเ งนิ พ.ศ. 2523 ใหค ้ วามห มายค าำ ว า่ ส ถาบนั ก ารเ งนิ ต ามม าตรา 3 ดงั นี้ (1) ธนาคารแ ห่ง ประเทศไทย (2) ธนาคารพ าณชิ ย์ ตามก ฎหมาย ว่า ดว้ ย การธ นาคาร พาณชิ ย์ (3) บริษัท เงิน ทุน บริษัท หลัก ทรัพย์ และ บริษัท เครดิตฟองซิเอร์ ตาม กฎหมาย ว่า ด้วย การป ระกอบธ ุรกิจ เงิน ทุน ธรุ กจิ ห ลักท รพั ย ์ และ ธุรกจิ เครดติ ฟองซเิ อร์ (4) สถาบัน การ เงิน อื่น ท่ี รัฐมนตรี กำาหนด โดย คำา แนะนำา ของ ธนาคาร แห่ง ประเทศไทย โดย ประกาศ ใน ราช กิจ จา- นเุ บกษา 4 มาตรา 4 พรบ.โรง รับ จาำ นาำ พ.ศ. 2505 หมายความว า่ ส ถานท ี ร่ ับ จาำ นาำ ซง่ึ ประกอบ การร ับ จำานำา สงิ่ ของเ ปน็ ประกัน หน้ี เงนิ ก เู้ ป็นป กต ธิ รุ ะแ ต่ละ ราย มี จาำ นวน เงินไ ม่เ กนิ ห นงึ่ แสนบ าท 5 สร ุ กั ษ ์ บนุ นาค และว ณ ี จงศ ิรวิ ัฒน์ การเงนิ และการธนาคาร พมิ พ์คร้งั ที่ 1 กรงุ เทพฯ ไทยวัฒนะพาณชิ ย ์ จาำ กดั น. 167, 168. ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การกูย้ มื เงนิ 3-7 2. ธน�ค�รพ�ณิชย์การ ให้ กู้ ยืม เงิน และ การ ให้ บริการ ใน ลักษณะ กู้ ยืม เงิน (การ ให้ สิน เชื่อ) โดย มสธ ธนาคารพ าณชิ ย์ มี 3 รปู แบบ คอืมส 2.1 การ กย ู้ ืม เงิน (Loans) 2.2 การ เบกิ เ งนิ เ กนิ บ ัญช ี (Overdrafts) 2.3 การซ อื้ ลดต ัว๋ เ งิน (Discount) 2.1 การก ย ู้ มื เ งนิ (Loans) การก ย ู้ มื เ งนิ ช นดิ น เ ี้ ปน็ การก ย ู้ มื ช นดิ ท ม ่ี ส ี ญั ญาก เ ู้ งนิ เ ปน็ ล ายล กั ษณ ์ อกั ษรซ งึ่ อ ยใ ู่ นบ ทบ งั คบั ข องบ ทบญั ญตั ิ ใน ปพพ. มาตรา 653 ถงึ ม าตรา 656 เชน่ การท ธ ี่ นาคารใ หล ้ กู คา้ ก ยู้ มื เ งิน เพอื่ เ ป็น ทนุ ใ นก ารค ้า เปน็ ตน้ ชนิด ของเ งิน ให้ กย ู้ ืม 2.1.1 การกู้ยืมเงินโดยแบง่ ตามวัตถปุ ระสงคท์ น่ี �าเงินไปใช้ 1) เงนิ ให้ก ู ย้ ืมเ พือ่ ก ารพ าณชิ ย ์ เช่น การ ใหก ้ ยู้ มื เพอื่ ค า้ เสอื้ ผ้า สำาเร็จรปู 2) เงิน ให้ กู้ ยืม เพ่ือ การ อุตสาหกรรม เช่น การ ให้ กู้ ยืม เพื่อ กิจการ โรงงาน ผลิต นา้ำ ตาล 3) เงนิ ใ หก ้ ย ู้ มื เ พอ่ื ก ารกส ก ิ รรม เชน่ การใ หก ้ ย ู้ มื เ งนิ เ พอ่ื ก จิ การเ ลย้ี งส กุ ร เลยี้ งไ ก ่ ทำาส วน ทำาน า 4) เงินใ หก ้ ยู้ ืมเ พือ่ ก ารบ รโิ ภค เช่น เงนิ ใ หก ้ ย ู้ มื เ พอ่ื ใ ชจ้ า่ ยส ่วนต ัว ปลกู บ า้ น ทนุ การศ ึกษา 2.1.2 การให้กยู้ มื เงินโดยแบ่งตามระยะเวลาครบก�าหนด 1) ระยะส ้ัน เชน่ 3 วนั 7 วนั หรอื เ ป็น เดอื น แต่ ไม เ่ กิน 1 ปี 2) ระยะก ลาง 3-5 ปี 3) ระยะย าว ไดแ้ ก ่ 10 ป ี ข้นึ ไป 2.1.3 การให้กยู้ มื เงนิ แบ่งโดยค�านงึ เรอ่ื งหลักประกัน 1) มห ี ลกั ประกนั ไดแ้ ก่ ใบรับฝ ากป ระจำา ใบหนุ้ ท่ดี ิน เคร่ืองจกั ร เปน็ ตน้ 2) ไม่มีห ลักป ระกัน6ได้แก่ การ ให้ก ู้ ยืม เงิน โดย ไม่มี หลัก ประกัน ใดๆ แต่ อาจใ ห้ ม ีคน คำ้าป ระกนั การ กู้ ยมื เงิน การใ หก ้ ู้ย ืม เงิน ดังก ลา่ วอ ยภ ู่ ายใ ต ้บงั คับ ของก ฎหมายล กั ษณะก ูย้ มื ตาม ปพพ. 6 เร่ืองเดียวกนั น. 262-263. ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-8 กฎหมายพ าณิชย์2:ยืมฝากท รัพย์ตวั แทนประกันภ ยั 2.2 การ เบกิ เ งนิ เกินบ ญั ชี (Overdrafts) การ เบกิ เงิน เกินบ ญั ชเี ป็น สัญญา ท ม่ี ล ี ักษณะเ ดียวก ับ มสธ มส สัญญาก ยู ้ มื เ งนิ ซึ่งม ส ี ญั ญาก ยู้ ืมเ งนิ ป ระกอบก บั ส ัญญาบ ญั ชเี ดนิ ส ะพดั 7ซ่งึ ใ นเ รื่องส ัญญาบ ัญชเ ี ดินส ะพดั น ้ี เป็น เอกเทศ สัญญาป ระเภท หน่งึ ซ่ึงบ ัญญัติไ ว้ใ น ปพพ. มาตรา 856-860 การเ บกิ เ งินเ กินบ ัญช เี ปน็ สัญญา กู้ ยืม เงิน ชนิด หน่ึง ซึ่ง ใช้ ปฏิบัติ กัน ระหว่าง ธนาคาร กับ ผู้ กู้ ยืม (ผู้ เบิก เงิน เกิน บัญชี) โดย ผู้ กู้ (เบิก เงิน เกิน บัญช)ี เปดิ บญั ช ีกระแสร าย วนั (current account)8 กับธ นาคาร และใ ช้เ ชค็ ส งั่ จ่าย เงิน จาก บญั ชี ม กี าร ตดั ทอน บัญชี หน ร้ี ะหว่าง กนั ตาม สัญญาบ ัญชเี ดนิ ส ะพัด โดยม ขี ้อ สญั ญาก บั ธนาคารใ หผ ้ มู้ บ ี ัญช ดี ัง กล่าว กหู้ รือ เบกิ เ งนิ เ กนิ ก วา่ เ งนิ ท ต ี่ นม อ ี ยใ ู่ นบ ญั ชภ ี ายในว งเงนิ ท ไ ่ี ดต ้ กลงก นั ไ ว ้ ซง่ึ บ างค รงั้ เ รยี กว า่ ส ญั ญาก เ ู้ บกิ เ งนิ เ กนิ บญั ช ี สญั ญาก เ ู้ บกิ เ งนิ เ กนิ บ ญั ชเ ี กดิ ข น้ึ เ มอ่ื ผ เ ู้ บกิ เ งนิ เ กนิ บ ญั ช ี เบกิ เ งนิ จ ากบ ญั ชก ี ระแสร ายว นั เ กนิ ก วา่ เ งนิ ท ่ี ตนม อ ี ยใ ู่ นบ ญั ช ี โดยธ นาคารก นั เ งนิ ไ วใ ้ หต ้ ามว งเงนิ เชน่ นาย แดงเ ปดิ บ ญั ชก ี ระแสร ายว นั ก บั ธ นาคารเ ขยี ว จำานวน เงนิ 100,000 บาท นาย แดง มี สทิ ธสิ ง่ั จา่ ยเ งนิ จาก บัญชีข องต น ดว้ ย เช็ค ธนาคาร จะ จ่ายเ งินใ ห ต้ าม จาำ นวนท เ ี่ ขยี นใ นเ ชค็ แตไ ่ มเ ่ กนิ จ าำ นวน 100,000 บาท หากน ายแ ดงไ ดต ้ กลงท าำ ส ญั ญาเ บกิ เ งนิ เ กนิ บ ญั ชก ี บั ธนาคารภ ายในว งเงนิ 200,000 บาท นายแ ดงก ม ็ ส ี ทิ ธส ิ ง่ั จ า่ ยเ งนิ จ ากบ ญั ชข ี องต นเ กนิ จ ากจ าำ นวนท ต ี่ นม อ ี ย ู่ ในบ ัญชไี ด้ อีก 200,000 บาท ตาม ตัวอยา่ ง ดงั ก ล่าว นาย แดง มเ ี งินใ น บัญชี 100,000 บาท นายแ ดง สามารถ เขยี นเ ชค็ สงั่ จา่ ย เงนิ ได เ้ กนิ ก วา่ เ งนิ ทต ี่ นม ใ ี นบ ญั ช ี กรณ นี น ้ี าย แดง อาจเ ขยี นเ ชค็ ส ง่ั จา่ ยเ งนิ จาำ นวน 250,000 บาท ดังน ้ีบัญชกี ระแส รายว ัน ของ นาย แดงจ ะ มี ยอดเ งนิ เ ปน็ ลูกห นี ธ้ นาคาร จำานวน 150,000 บาท เพราะ ใน บัญชี เดิม ของ นาย แดง มี เงิน อยู่ เพียง 100,000 บาท เมื่อ ส่ัง จ่าย เงิน 250,000 บาท ธนาคาร ต้อง จ่าย เงิน เกินจ าก บญั ชข ี องน าย แดง ใหอ้ กี 150,000 บาท ซึง่ อ ยู่ภ ายในว งเงิน ท ตี่ กลงก ันไ วเ ้ มื่อ ธนาคาร ได้จ ่าย เงนิ ให ้ (200,000) สัญญาก ูเ ้ บกิ เ งิน เกนิ บ ัญชเ ี กดิ ข น้ึ กรณน ี ี้ นาย แดงต ้อง เสยี ดอ ก เบี้ยใ หแ ้ กธ ่ นาคาร ในจ ำานวน ตน้ เงิน 150,000 บาท ทธ ่ี นาคารจ ่าย เกินจ ากบ ญั ชขี องน าย แดงต ามส ญั ญา และ เนือ่ งจาก บญั ช ที ี่ นายแ ดงม อ ี ย ู่ เปน็ บ ญั ชก ี ระแส รายว นั นายแ ดงอ าจจ ะน าำ เ งนิ ม าเ ขา้ บ ญั ชข ี องต นไ ดอ ้ กี เชน่ หลงั จากท น ี่ ายแ ดงไ ดเ ้ บกิ เ งนิ ไปจ าำ นวน 250,000 บาท แล้ว ใน เวลา 2 เดอื น ต่อม า นายแ ดงน ำา เงนิ มาเ ข้า บญั ชี จาำ นวน 250,000 บาท กรณี นี้ บัญชี กระแส ราย วัน ของ นาย แดง ก็ มี ยอด เงิน ใน บัญชี เป็น เจ้า หน้ี ธนาคาร แต่ ใน ระหว่าง 2 เดือน นั้น ธนาคาร จะค ดิ ด อกเบี้ยจ าก ยอดเ งินท น ี่ าย แดง เปน็ ล กู ห นี ้ธนาคาร และ หาก ใน ระหว่าง นั้นย งั ไมค ่ รบก ำาหนด ตาม สัญญา ทต ่ี กลงก นั ไ ว ้ เชน่ 6 เดือนห รอื 1 ปี นายแ ดงก ย ็ งั ม ส ี ิทธิ สัง่ จ า่ ย เงิน จาก บัญช กี ระแสร าย วนั ของ ตน ไดเ ้ กนิ กวา่ จ าำ นวน เงนิ ท ต ่ี น มี อย่ ูในบ ญั ช แี ตไ่ ม่ เกิน วงเงนิ ท ี่ ทาำ ส ญั ญาไ ว ก้ ับธ นาคาร นาย แดงส ามารถ ทาำ เช่น น้ี ได้ เรื่อย ไป จนกว่า จะ ครบ กำาหนด ตาม สัญญา หรือ ต่อ สัญญา และ เมื่อ ครบ กำาหนด สัญญา จะ มี การ หัก ทอน บญั ชี ชาำ ระ หน ก้ี ัน สัญญา เบิกเ งินเ กนิ บัญชีร ะหวา่ งน ายแ ดง กับธ นาคาร เป็นอ ันเ ลกิ ก ัน นาย แดง ก ก็ ลบั ไปใ ชบ ้ ญั ชก ี ระแสร ายว นั ข องต นเ ชน่ เ ดมิ ไ ด ้ แต ไ่ มม่ ส ี ทิ ธเ ิ บกิ เ งนิ เ กนิ ก วา่ จ าำ นวนท ม ่ี อ ี ยใ ู่ นบ ญั ชข ี องต นไ ดอ ้ กี จนกวา่ จะม ข ี อ้ ต กลงก ับธ นาคารว า่ จะท าำ สัญญา เช่นน ้ัน 7 มาตรา 856 ปพพ. “อนั วา่ ส ญั ญาบ ญั ชเี ดนิ ส ะพดั น น้ั คอื สญั ญาซ งึ่ บ คุ คลส องค นต กลงก นั ว า่ ส บื แ ตน่ นั้ ไปหรอื ในช ว่ั เวลา กำาหนดอันใดอันหนึ่งให้ตัดทอนบัญชีหน้ีท้ังหมดหรือแต่บางส่วนอันเกิดขึ้นแต่กิจการในระหว่างเขาท้ังสองนั้นหักกลบลบกัน และคง ชาำ ระห น้แี ตส่ ว่ นท ่ีเป็นจำานวนค งเหลือโดยด ุลยภาค” 8 ในต ้นร า่ งป ระมวลก ฎหมายแ พง่ แ ละ พาณิชย์ “บญั ช เี ดิน สะพดั ” ใช้ค าำ วา่ “current account” ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การก ้ยู มื เงิน 3-9 2.3 การซ อื้ ล ดต ว๋ั เ งนิ (Discount) กอ่ นจ ะเ ขา้ ใจค วามห มายข องค าำ ว า่ ซอื้ ล ดต วั๋ เ งนิ ตอ้ งเ ขา้ ใจ มสธ ความ หมาย ของ คำา ว่า ต๋ัว เสีย ก่อน ตั๋ว ใน ที่ น้ี หมาย ถึง ต๋ัว เงิน อัน ได้แก่ ต๋ัว แลก เงิน ต๋ัว สัญญา ใช้ เงิน และ มส เชค็ 9การ ซือ้ ลดต ว๋ั เปน็ ส ัญญาช นิดห นง่ึ ท ่ ีมี ลักษณะ เชน่ เ ดยี วกนั กบั การ ให ้ก ยู้ ืม โดย มต ี ว๋ั นน่ั เองเ ปน็ ป ระกนั 2.3.1 การซือ้ ลดต๋ัวแลกเงิน ตว๋ั แ ลกเ งนิ เปน็ ต๋วั เ งนิ ชนดิ ห นงึ่ ซ่ึงม ค ี กู่ รณี 3 ฝา่ ย ไดแ้ ก่ 1) ผู้ สง่ั จ ่าย 2) ผู้จ ่าย 3) ผรู้ ับ เงิน ตว๋ั แ ลกเ งนิ ต ามค วามห มายใ น ปพพ. มาตรา 908 บญั ญตั ิวา่ “อนั วา่ ต วั๋ แ ลกเ งนิ น นั้ ค อื หนังสือตราสาร ซ่ึง บุคคล หนึ่ง ที่ เรียก ว่า ผู้ สั่ง จ่าย สั่ง บุคคล อีก คน หนึ่ง เรียก ว่าผู้ จ่าย ให้ ใช้ เงิน จำานวน หน่ึง แก่ บุคคล คน หน่ึง หรือ ให้ ใช้ ตาม คำา สั่ง ของ บุคคล คน หน่ึง เรียก ว่าผู้รับ เงิน” ต๋ัว แลกเ งินต ้องม ีข ้อความต ามท ่ี ระบุ ไว้ ใน ปพพ. มาตรา 909 จึงจ ะเ ปน็ ต ั๋วแ ลกเ งินท ่สี มบรู ณ์ ผจ ู้ า่ ยเ งนิ ต ามต ว๋ั แ ลกเ งนิ ป กตจ ิ ะเ ปน็ ธ นาคารเ พราะเ ปน็ ส ถาบนั ก ารเ งนิ ท เ ่ี ชอ่ื ถ อื ไ ด ้ การ ขายล ดต ว๋ั แ ลกเ งนิ ปฏบิ ตั ทิ าำ นอง เดยี วก บั ก ารข ายต ว๋ั ส ญั ญา ใชเ ้ งนิ ซงึ่ จะก ลา่ ว ตอ่ ไ ปใ นข อ้ 2.3.2 ซง่ึ นยิ มท ี่ จะ นำาม าข าย ลดก นั มากกว่า ตั๋วเ งนิ ป ระเภทอ น่ื 2.3.2 การซ้ือลดตัว๋ สัญญาใช้เงนิ ตั๋วส ัญญา ใชเ ้ งนิ ตาม ความ หมาย ในม าตรา 982 แห่ง ปพพ. หมายความ ดงั นี้ “อันต ๋ัว สญั ญา ใช้เ งนิ นน้ั คือหนงั สือ ตราสาร ซ่ึง บคุ คลห นึง่ เรยี กว า่ ผู้อ อก ตว๋ั ให ค้ ำามน่ั สัญญา ว่า จะ ใช้ เงิน จำานวน หน่ึง ให้ แก่ บุคคล อีก คน หนึ่ง หรอื ใช้ ให้ ตาม คำา สง่ั ของ บุคคล อกี คน หนง่ึ เรียก ว่า ผรู้ บั เงนิ ” และ ตว๋ั ส ญั ญา ใช เ้ งนิ ตอ้ งม ร ี ายการด งั บญั ญตั ไ ิ ว ใ้ น ปพพ. มาตรา 983 จงึ จะ สมบรู ณเ ์ ปน็ ตวั๋ สญั ญา ใช้ เงิน ธนาคาร รับ ซื้อ ลด ต๋ัว สัญญา ใช้ เงิน จาก ผู้นำา มา ขาย ลด โดย ต๋ัว นั้น มี ผู้รับ รอง การ รับ ซ้ือ ลด เช่น น้ี ถือ เปน็ การ ให เ้ ครดติ อ นั เปน็ การ ให ้ (สนิ เ ชอ่ื ) ชนดิ ห นงึ่ ข องธ นาคาร ปกตธ ิ นาคาร อน่ื เปน็ ผ รู้ บั ร อง (อาว ลั ) ถา้ ธนาคาร ที่ รับ ซ้ือ ลด ต๋ัว เห็น ว่า ต๋ัว ฉบับ นน้ั น่า เชอ่ื ถือ ก็ จะ ซ้ือ ลด ตั๋ว ฉบบั นั้น ไว้ โดย หัก ส่วนลด (ดอกเบยี้ ) ไว ้ เชน่ บรษิ ทั เ หลอื ง จาำ กดั ออก ตว๋ั สญั ญาใ ช เ้ งนิ ใ หน ้ าย แดง เพอื่ ช าำ ระค า่ สนิ คา้ จาำ นวน 500,000 บาท ตวั๋ ครบ กำาหนด ใน เวลา อีก 3 เดือน ต่อ มา แต่ นาย แดง ต้องการ ใช้ เงิน ก่อน จึง นาำ ต๋ัว สัญญา ใช้ เงิน ฉบับ นั้น ไป ให้ ธนาคารช ว่ ยไ ทยร บั รอง แลว้ น าำ ต ว๋ั ฯ ฉบบั น นั้ ม าข ายล ดใ หธ ้ นาคารก อบก ไ ู้ ทยโ ดยน ายแ ดงส ลกั ห ลงั ต วั๋ ฉ บบั นนั้ ธนาคาร กอบก ไู้ ทย เหน็ วา่ ต วั๋ ฉ บบั น นั้ น า่ เ ชอ่ื ถอื แ ละ ม ธี นาคาร ชว่ ยไ ทยร บั รอง จงึ รบั ซอื้ ลด ตว๋ั นนั้ ไว โ้ ดย คิด ดอกเบ้ีย จาก วัน ที่ นาย แดง นาำ ต๋ัวฯ มา ขาย ลด จนถึง วัน ที่ ครบ กำาหนด ตาม ตั๋วฯ แล้ว ธนาคาร เพ่ือ ไทย หัก ส่วนลด จาก จาำ นวน เงิน ต้น 500,000 บาท นั้น เหลือ เท่าใด จึง เป็น เงิน ท่ี นาย แดง ได้ รับ สุทธิ จาก การ ขาย ลด ตวั๋ ฯ ซงึ่ ก าร ขาย ลด ตว๋ั นท ้ี าง ฝา่ ย เจา้ ห น ส้ี ามารถห กั เอาด อกเบย้ี ชาำ ระ ไดก ้ อ่ นไ ม เ่ หมอื นก บั ก าร ก ยู้ มื เ งนิ หรอื เบกิ เงิน เกิน บัญชี ซ่ึง ผู้ กู้ ยืม จะ ชาำ ระ ดอกเบี้ย ต่อ เมื่อ ได้ นาำ เงิน ที่ กู้ ยืม ไป ใช้ แล้ว อย่างไร ก็ตาม การ คดิ อตั รา ดอกเบย้ี ในก ารร ับซ อื้ ล ดต ัว๋ (ส่วนลด) น้ีต อ้ ง อยภ ู่ ายใน บังคับ แหง่ ปพพ. เชน่ เ ดยี วกัน 9 ปพพ. มาตรา 898 บญั ญัตว ิ ่า “อันต ั๋วเงนิ ต ามค วามหมายแ ห่งป ระมวลก ฎหมายนมี้ ีสามประเภทๆหน่งึ คอื ตั๋วแ ลกเงนิ ประเภทห นึง่ ค อื ต๋ัวสัญญาใชเ้ งนิ ประเภทหน่งึ ค อื “เชค็ ” ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-10 กฎหมายพ าณิชย์2:ยมื ฝากท รพั ย์ตวั แทนประกันภ ัย ใน ทาง ปฏิบัติ เม่ือ ธนาคาร รับ ซื้อ ลด ต๋ัว จาก ลูกค้า แล้ว ธนาคาร ก็ เป็น ผู้ทรง โดย ชอบ มสธ มส ธนาคาร จะเ กบ็ ต วั๋ ฉ บับ นน้ั ไ ว้จ นกว่า จะค รบก าำ หนด แลว้ นำาไ ป เรยี ก เกบ็ จากผ ูร้ ับ รอง กรณข ี ้างต ้น ธนาคาร เพ่ือไ ทยจ ะไ ปเ รียกเ ก็บ เงินจ ากธ นาคารช ่วยไ ทย หรอื ธ นาคาร ผู้รับ ซือ้ ล ด ต๋ัว ไว จ้ ะน ำา ตวั๋ ไป ขาย ชว่ งล ด (Re discount) ให้ กับ ธนาคาร กลาง หรือ ธนาคาร แห่ง ประเทศไทย ก็ได้ กรณี ท่ี ธนาคาร ผู้รับ ซ้ือ ลด ตั๋ว รอ ให้ ต๋ัว ครบก ำาหนด แล้วไปเ รียก เก็บเ งินต ามต ๋ัว จะ ได้ เงินเ ต็มจ ำานวนใ น ต๋ัว หาก กรณีน ำา ไป ขาย ช่วงล ด ก็ จะ ถูก หัก สว่ นลดเ ช่นก ัน ในป จั จบุ นั ธ นาคารเ ขา้ ไปม บ ี ทบาทใ นเ รอื่ งต วั๋ เ งนิ อ ยา่ งม าก พบว า่ แ นวโ นม้ ข องก ารซ อื้ ลด ต๋ัว สัญญา ใช้ เงิน ของ ธนาคาร มี แนว โน้ม สูง ขึ้น ตั๋ว สัญญา ใช้ เงิน ที่ ธนาคาร รับ ซื้อ ลด นั้น เกิด จาก กิจกรรม การ ค้า ใน ประเทศ และ จาก กิจกรรม การ ค้า ระหว่าง ประเทศ ด้วย ที่ สำาคัญ ปัจจุบัน ความ นิยม ของ การ ใช้ ตั๋ว เงิน ของ ประชาชน ทั่วๆ ไป ยัง ตำ่า ท้ังน้ี เพราะ ประเทศไทย ไม่ นิยม ดำาเนิน ธุรกรรม ทางการ ค้า โดย อาศัย เครอ่ื งม อื ท างเ ครดติ กจิ กรรม ทใ ี่ ชต ้ วั๋ ส ญั ญาใ ชเ ้ งนิ โ ดยม ากม กั จ ะม าจ ากก จิ กรรมท างการค า้ ร ะหวา่ งป ระเทศ และอ ตุ สาหกรรมเ ปน็ ส าำ คญั อาจม บ ี า้ งท ธ ี่ นาคารจ ะท าำ การร บั ซ อ้ื ต ว๋ั ส ญั ญาใ ชเ ้ งนิ ร ะยะส นั้ จ ากบ คุ คลท วั่ ๆ ไป บา้ ง แต ่ก ก็ าำ หนด กนั ใ น วงเงนิ ทจ ่ี าำ กดั 10และ การ รบั ซ อ้ื ตว๋ั ส ญั ญา ใช เ้ งนิ นน้ั โ ดย ทว่ั ๆ ไป ธนาคาร มกั ใ หผ ้ ข ู้ าย ลด ต๋ัวส ญั ญา ใช้ เงินก ับธ นาคาร ทาำ ห นังสอื ร ับรอง หรือ ทาำ สญั ญาค ำา้ ป ระกัน ตา่ งห าก อีก ทห ี นง่ึ 2.3.3 การซอื้ ลดเชค็ เชค็ เ ปน็ ต วั๋ เ งนิ ช นดิ ห นง่ึ ซ งึ่ ม ร ี ปู แ บบเ ฉพาะต า่ งห ากจ ากต วั๋ ส ญั ญา ใชเ ้ งินแ ละ ตวั๋ แ ลกเ งิน ดงั ค าำ อธบิ ายใ น ปพพ. มาตรา 987 ซึง่ บญั ญตั ิว า่ “อนั ว่าเ ช็คน น้ั คอื หนังสือต ราสาร ซ่ึงบ คุ คลห น่ึง เรียก วา่ ผ สู้ ่ังจ ่าย สง่ั ธ นาคารใ ห้ใ ช้เ งินจ ำานวน หนงึ่ เมอื่ ท วงถาม ให้ แก่บ ุค ลอ กี ค นห นึ่ง หรือ ให ้ใช้ ตามค าำ ส งั่ ข องบ คุ คลอ กี ค นห นง่ึ อนั เ รยี กว า่ ผ รู้ บั เ งนิ ” และเ ชค็ ต อ้ งม ร ี ายการต ามท ร ี่ ะบไ ุ วใ ้ นม าตรา 988 จงึ จ ะ เปน็ เ ช็ค ทีส ่ มบรู ณ ์ การซ อ้ื ล ดเ ชค็ เ ปน็ ส ญั ญาท ม ่ี ล ี กั ษณะเ ดยี วก บั ก ารก ย ู้ มื เ งนิ โดยผ นู้ าำ เ ชค็ ม าข ายล ดใ หก ้ บั ธนาคารผ รู้ บั ซ อ้ื ล ด เชน่ ในว นั ท ่ี 1 กนั ยายน พ.ศ. 2556 นายก จิ นาำ เ ชค็ ท ไ ่ี ดร ้ บั จ ากก ารข ายส นิ คา้ ใ หน ้ ายข งิ ซง่ึ เ ปน็ เชค็ ล งว ัน ท ลี่ ว่ ง หน้า เนอื่ งจาก นาย กจิ ให เ้ ครดิต แกน่ าย ขิง เป็น เวลา 3 เดอื น นายข งิ ได้ เขียน เช็คล งว ันท ี่ ล่วง หนา้ จ าำ นวน เงิน 100,000 บาท ให้ แก่ นายก จิ วนั ท่ีล ง ในเ ช็คเ ป็น วนั ท่ี 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ใน กรณีน ้ี นาย กจิ จะน าำ เชค็ ไ ป เบกิ เงนิ จ าก ธนาคาร ไม ไ่ ด้เ พราะเ ช็ค ยัง ไมถ ่ ึงก าำ หนด หาก นายก จิ มีค วามจ าำ เปน็ ต อ้ ง ใช้ เงนิ นาย กิจ จะ ทำาได ้โดย นำา เชค็ ฉบับ นน้ั ไป ขาย ลด ให ้กับ ธนาคาร ธนาคาร จะ รับ ซ้ือ ลด เช็ค ฉบบั น้ัน โดย พิจารณา ให้ ผู้นำา เช็ค มา ขาย ลด ทำา หนังสือร ับรอง ความ เสีย หาย กับ ธนาคาร หรือ ให้ มี ผู้ ค้ำา ประกันก าร รับ ซื้อ ลด เช็ค ของ ธนาคาร เช่น เดียว กับ การ ให้ กู้ ยืม เงิน ธนาคาร จะ หัก ส่วนลด จาก จำานวน เงิน ใน เช็ค และ จ่าย ส่วน ท ่ีเหลอื ใหแ ้ ก่ นายก ิจ ซึง่ กรณน ี ีน้ าย กจิ จะไ ด้เ งินจ ากก าร ขายล ด เชค็ ก่อนเ ช็คถ งึ ก ำาหนด ส่วน ทาง ธนาคาร ก็ จะ นาำ เช็คไ ปเ รียก เก็บ เงนิ เมื่อถ ึง วันท กี่ ำาหนด ใน เช็ค คือว ันท ี่ 1 ธนั วาคม พ.ศ. 2556 10 ปญั ญา อดุ มร ะต ิ เศรษฐศาสตร์ การเงนิ แ ละก ารธ นาคาร กรงุ เทพมหานคร มหาวทิ ยาลยั รามคาำ แหง พ.ศ. 2520 น. 115. ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การกูย้ ืมเงนิ 3-11 เมอื่ ไ ดก ้ ลา่ วถ งึ ก ารซ อื้ ล ดต วั๋ เ งนิ อ นั เ ปน็ ส ญั ญาท ม ่ี ล ี กั ษณะเ ดยี วกนั ก ารก ย ู้ มื เ งนิ ดงั น นั้ จ งึ ข อก ลา่ วถ งึ สงิ่ ท ่ี มล ี กั ษณะค ล้ายต ๋วั เ งินอ ีกช นิดห น่งึ ค ือ พนั ธบัตร (bond) พันธบัตร น ีม้ ิใช่ต ั๋วเ งินแ ต เ่ ป็นส งิ่ ท ่ีรัฐบาลอ อก เพอ่ื เ ปน็ ห ลกั ป ระกนั ก ารก ย ู้ มื เ งนิ จ ากป ระชาชนแ ละส ถาบนั ก ารเ งนิ ซง่ึ จ ะไ ดก ้ ลา่ วถ งึ ใ นเ รอื่ งท ี่ 3.2.1 การก ย ู้ มื เ งนิ ใ น ลกั ษณะ พเิ ศษ กิจกรรม3.1.1 1. ใหน ้ กั ศกึ ษาร ะบส ุ ญั ญาอ น่ื ท ม ่ี ล ี กั ษณะเ ดยี วก บั ก ารก ย ู้ มื และอ ธบิ ายถ งึ ล กั ษณะข องส ญั ญาช นดิ นั้นๆ พอส งั เขป 2. การ ขาย ลด เช็ค เปน็ สัญญา ท่ี ม ีลกั ษณะ อยา่ งไร แนวต อบก ิจกรรม3.1.1 1. สญั ญา ท่ีม ลี ักษณะเ ช่น เดยี ว กบั ก าร กย ู้ มื เ งิน ม ี 2 ชนดิ คอื 1) การเ บกิ เ งนิ เกินบ ญั ช ี (Overdrafts) 2) การ รับ ซ้อื ล ด ตว๋ั เงนิ (Discount) (1) การเ บิก เงนิ เกิน บัญชี คอื การ กู ้ยืมเ งนิ ประกอบ กบั สญั ญาบ ัญช เี ดนิ สะพดั (2) การ รบั ซือ้ ล ด ต๋วั เงนิ ไดแ้ ก่ การ รับซ ือ้ ลดต ๋วั แ ลก เงนิ ตั๋วส ญั ญาใ ช้เ งนิ เช็ค โดยม ตี ๋ัว นั่นเองเ ป็นป ระกนั 2. การข ายล ดเ ชค็ เ ปน็ ส ญั ญาช นดิ ห นง่ึ ท ม ่ี ล ี กั ษณะเ ชน่ เ ดยี วก บั ก ารก ย ู้ มื เ งนิ เ พราะก ารท ผ ี่ รู้ บั ซ อ้ื ล ด เชค็ ไ ดใ ้ หเ ้ งนิ แ กผ ่ นู้ าำ เ ชค็ ม าข ายล ดก อ่ นว นั ท ค ่ี รบก าำ หนดใ นเ ชค็ เปน็ การใ หเ ้ ครดติ อ ยา่ งห นง่ึ โดยห กั ส ว่ นลด ซงึ่ ถอื เปน็ ด อกเบย้ี จ ากผ ูน้ ำา มา ขาย ลด มสธ มส ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-12 กฎหมายพาณชิ ย์2:ยมื ฝากท รัพย์ตัวแทนประกนั ภ ยั มสธ เรื่องที่3.1.2มส สาระส ำาคัญของสัญญาก ู้ย ืมเงิน จากก ารท ไ ่ี ดก ้ ลา่ วถ งึ ช นดิ ข องก ารก ย ู้ มื เ งนิ ใ นห วั เ รอื่ งท ี่ 3.1.2 การก ย ู้ มื เ งนิ แ ละส ญั ญาอ นื่ ท ม ่ี ล ี กั ษณะ เดียวก บั ส ญั ญาก ยู้ ืมเ งนิ มาแ ล้ว ใน หัวเ ร่อื ง นี้ จะไ ด้ กลา่ ว ถงึ สาระ สำาคัญ ของส ญั ญาก ย ู้ ืมเ งิน สญั ญา กย ู้ ืม เงนิ เป็น สัญญา ชนิด หนึ่ง ต้อง มี สาระ สำาคัญ ตาม ท่ี กฎหมาย กำาหนด ตาม ลักษณะ ของ นิติกรรม สัญญา โดย ท่ัวไป ได้แก่ เรื่องว ตั ถุประสงค ์ ความ สามารถ ของค ู่สญั ญา เชน่ ในเ รื่อง วัตถุประสงคใ ์ นก ารท ำา สัญญา ดัง ตัวอย่าง ใน ฎ.707/2487 “ให ้กเู้ งินไ ป โดย ผ กู้ บ ู้ อก ให้ รว้ ู ่าจ ะเ อา ไป คา้ ฝิน่ เ ถอ่ื นน นั้ สญั ญา ก้ย ู อ่ มเ ปน็ โ มฆะ ผ ้ใู หก ้ ู ฟ้ อ้ ง เรียก เงินก ไ ู้ มไ ่ ด้” เพราะ สัญญาก ย ู้ ืมเ งนิ เ ชน่ น ้ มี ี วตั ถปุ ระสงคผ ์ ดิ กฎหมายต าม ปพพ. มาตรา 150 สัญญา ดัง กล่าว จึง เป็น โมฆะ ส่วน การ เล่น การ พนัน แล้ว ทำา สัญญา กู้ ยืม เงิน กัน ไว้ แทน การ ชำาระ หนี้ การ พนัน ไม่ สามารถ ฟ้อง บังคับ ให้ ใช้ หน้ี ตาม สัญญา กู้ ยืม เงิน ได้ เพราะ การ พนัน ขันต่อ หา ก่อ ให้ เกิด หน้ี ไม่ ตาม ปพพ. มาตรา 853 แตถ ่ า้ ก ารกร ะท าำ ข องโ จทกไ ์ มเ ่ ปน็ การต อ้ งห า้ มต ามก ฎหมาย สญั ญาก ย ู้ มื ร ะหวา่ งเ จา้ ห นแ ี้ ละล กู ห น ี้ จงึ ไ ม เ่ ป็น โมฆะ อุทาหรณ์ ฎ.101/2532 จำาเลย ตกลง ให้ โจทก์ ติดต่อ กับ บริษัท จัดหา งาน ส่ง จำาเลย ไป ทำางาน ต่าง ประเทศ โดย โจทกค ์ ดิ ค า่ บ รกิ าร 35,000 บาท และใ หจ ้ าำ เลยท าำ ส ญั ญาก ย ู้ มื เ งนิ โ จทกไ ์ ว ้ เมอ่ื ก ารกร ะท าำ ข องโ จทกไ ์ มเ ่ ปน็ การ ต้อง ห้ามต าม พรบ. จดั หาง าน และ คุ้มครอง คนห า งาน พ.ศ. 2511 แล้ว สญั ญาก ยู้ ืมร ะหวา่ ง โจทก์จ าำ เลย จงึ ไม เ่ ปน็ โมฆะ ตาม ปพพ. มาตรา 113 (ปจั จุบนั มาตรา 150) โจทก์ย อ่ ม นาำ สญั ญาก ยู้ ืมม าฟ ้อง ให้ จำาเลย ชาำ ระ เงิน ทีย่ งั คา้ งอ ย ไู่ ด้ สาระส าำ คญั ข องส ญั ญาก ย ู้ มื เ งนิ ท เ ่ี หน็ ไ ดช ้ ดั คอื เรอ่ื งก ารส ง่ ม อบท รพั ยส์ นิ ท ใ ี่ หย ้ มื แ ละเ รอื่ งห ลกั ฐ าน ของส ัญญา กย ู้ ืมเ งิน ซ่งึ จะแ ยกก ลา่ วเ ปน็ 3 หัวข้อด งั น้ี 1. การ สง่ มอบ ทรพั ย์สินท ก่ี ูย ้ ืม 2. หลักฐ านใ น การก ย ู้ มื เ งนิ 3. สัญญาก ้ย ู ืม เงนิ ต้องป ิด อากรแ สตมป์ 1. การส่งม อบทรัพย์สินท ี่ก ู้ย ืม สาระส าำ คญั ป ระการห นง่ึ ใ นส ญั ญาก ย ู้ มื เ งนิ คอื ก ารส ง่ ม อบท รพั ยส์ นิ ใ หก ้ ย ู้ มื การก ย ู้ มื เ งนิ เ ปน็ ส ญั ญา ยมื ใช ้สน้ิ เปลือง ดังน ้ัน ตอ้ งน ำา บทบญั ญัตใ ิ น เรอื่ ง ยืม ใช้ส ้นิ เ ปลือง มา ใช้ บงั คบั ด ว้ ย ดัง ทบ่ ี ญั ญัต ไิ วใ ้ น มาตรา 650 วรรค 2 ว่า “สัญญา น ้ีย่อม บริบรู ณ์ต อ่ เมอื่ ส ง่ ม อบ ทรัพย์สินท ่ีย ืม” ทรพั ย์สินท ี่ ตอ้ งส ง่ มอบ ในส ัญญาก ยู ้ ืม ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การก ยู้ ืมเงิน 3-13 เงนิ ก ค ็ อื เงนิ เมอื่ ทาำ สญั ญาก ย ู้ มื เ งนิ ก นั แ ลว้ ผใ ู้ หก ้ ต ู้ อ้ งส ง่ ม อบเ งนิ ใ หแ ้ กผ ่ ก ู้ ู้ สญั ญาก ย ู้ มื เ งนิ จ งึ บ รบิ รู ณ1์ 1ผใ ู้ ห ้มสธ ก ู้จะ ส่ง มอบ สงิ่ อ่นื แทนเ งิน ไม่ไ ด้ เว้นแ ตผ ่ ู้ก จ ู้ ะต กลงย อมเ ช่น นน้ั ซ่ึงก รณีจ ะเ ป็น เรอ่ื งท ่ ีผูก ้ ยู้ อมรับเ อาส ิง่ ของ มส หรือ ทรัพย์สิน อย่าง อ่ืน แทน จำานวนเ งิน ซ่ึง จะ ได้ กล่าวต ่อ ไป ใน หัว เร่ือง ท่ี 3.2.2 การ กู้ ยืม โดย วิธี เอา ส่ิงของ หรอื ท รัพย์สินอ ย่าง อื่น แทนจ าำ นวนเ งนิ การส ง่ ม อบเงนิ ใหแ้ กผ่ กู้ ใู้ นส ญั ญาย มื เงนิ เปน็ ข อ้ ก าำ หนดท เี่ ครง่ ครดั ห รอื ไ ม่ เมอ่ื ท าำ ส ญั ญาก ย ู้ มื เ งนิ ก นั ผู้ใ หก ้ จู ้ ะ ต้อง ส่ง มอบ เงิน ใหแ ้ ก ผ่ กู้ จ ู้ ึง จะท าำ ให้ สญั ญา กู้ย ืม เงิน บรบิ ูรณ์ ตวั อยา่ ง ตอ่ ไ ป น้ี ถือว่า ได ม้ กี าร สง่ ม อบ เงนิ ใ ห ้ผ กู้ ูแ ้ ลว้ อุทาหรณ์ ฎ.1374/2505ความว า่ “โจทกจ ์ าำ เลยค ดิ บ ญั ชห ี นเ ้ี ดมิ ก นั แลว้ จ าำ เลยท าำ ส ญั ญาก เ ู้ งนิ ใ หโ ้ จทกไ ์ วแ ้ ทน การจ า่ ยเ งนิ ท เ ี่ ปน็ ห นก ี้ นั เชน่ น ถ ้ี อื ไ ดว ้ า่ ม ก ี ารส ง่ ม อบเ งนิ ท ก ี่ ย ู้ มื ก นั เ ปน็ การบ รบิ รู ณแ ์ ลว้ ” ซง่ึ จ ะเ หน็ ไ ดว ้ า่ ไ ม ่ ไดม ้ ก ี ารส ง่ ม อบเ งนิ ใ หแ ้ กก ่ นั ต ามส ญั ญาก เ ู้ งนิ ท ไ ี่ ดท ้ าำ ข นึ้ จ รงิ ๆ เพยี งแ ตค ่ ส ู่ ญั ญาม เ ี จตนาจ ะก อ่ ใ หเ ้ กดิ ห นต ้ี าม สญั ญากู้ย มื เท่านั้น สัญญาก ย ู้ ืม เงินก นั เช่นน เี้ ป็นอ นั บ ริบูรณ์ ฎ.4252/2528จำาเลยท าำ สญั ญาก ย ู้ มื ไ ว แ้ ก โ่ จทก์แ ทนก าร วางม ดั จำา เปน็ เงินสดต ามส ัญญาจ ะซ ื้อข าย ทดี่ นิ แ ละส ง่ิ ป ลกู ส รา้ ง สญั ญาก ย ู้ มื จ งึ ม ม ี ลู ห นม ้ี าจ ากก ารท จ ี่ าำ เลยม ห ี นท ี้ จ ่ี ะต อ้ งว างม ดั จาำ ต ามส ญั ญาจ ะซ อื้ จ ะ ขาย ที่ดิน และ สิ่ง ปลูก สร้าง เม่ือ จำาเลย ผิด สัญญา จะ ซ้ือ จะ ขาย ซ่ึง โจทก์ม ี สิทธิ ริบ เงิน มัดจำา โจทก์ย ่อม มี สิทธิ ฟอ้ งบ งั คบั ต ามส ญั ญาก ย ู้ มื เ งนิ ได ้ เพราะม ม ี ลู ห นต ี้ อ่ ก นั และก รณเ ี ชน่ น ถ ้ี อื ไ ดว ้ า่ ไ ดม ้ ก ี ารส ง่ ม อบเ งนิ ใ หผ ้ ก ู้ แ ู้ ลว้ เมอ่ื ส ญั ญาก ย ู้ มื ค รบก าำ หนดจ าำ เลยไ มช ่ าำ ระห นโ ้ี จทกผ ์ ใ ู้ หก ้ ม ู้ ส ี ทิ ธฟ ิ อ้ งร อ้ งใ หจ ้ าำ เลยช าำ ระเ งนิ ได ้ โดย ถอื วา่ จ าำ เลยผ ดิ นดั ต งั้ แตถ ่ ดั จ ากว นั ค รบก าำ หนดต ามส ญั ญาก ย ู้ มื เ ปน็ ตน้ ไ ป และเ รยี กค า่ เ สยี ห ายร อ้ ยล ะเ จด็ ค รง่ึ ตอ่ ปเ ี ทา่ กับ ดอกเบย้ี โดยค ดิ ต้ังแต่ วนั ผิดนัด ได้ด ว้ ย ตาม ปพพ. มาตรา 224 แต ม่ บี างก รณีท ่ีค กู่ รณีเ จตนา จะ ก่อ ใหเ ้ กิด หนี้ ตามส ัญญาก ย ู้ มื เ งนิ แต่ม ไิ ด้ม กี าร ส่ง มอบเ งนิ แ กก ่ นั ก็ ถือว่า ม มี ลู หนต ี้ ่อ กนั แล้ว ฎ.1557/2524“ทำา สัญญา กู้ เปน็ ป ระกันว า่ ถ้าบ ุตร โจทก์ไ ม่ ได ไ้ ป ทำางานย ัง ต่าง ประเทศต าม ท จ่ี ำาเลย ชักนาำ จำาเลย จะ คืนเ งินท ี โ่ จทก เ์ สยี ไปแ กโ ่ จทก ์ เมื่อบ ตุ รไ ม ไ่ ด้ ทาำ งานต ามส ญั ญา จาำ เลย ตอ้ งค ืน เงนิ แ ก่ โจทก์ เปน็ เรอ่ื ง ม มี ลู ห นต ี้ อ่ กนั ต าม สัญญาก ู้ ไม่ จำาต ้อง รับเ งนิ ไ ปต ามส ัญญา” ฎ.3359/2531สญั ญา ก มู้ ีม ลู ห นี้ มาจ าก การ ท่ โี จทก์ ทดรองจ า่ ยเ งินใ นก ารซ ือ้ ข ายห ้นุ ใ ห จ้ ำาเลย การ ที่ โจทกอ ์ อกเ ชค็ ใ หจ ้ าำ เลยแ ละจ าำ เลยส ลกั ห ลงั ค นื แ กโ ่ จทกเ ์ ปน็ ว ธิ ก ี ารช าำ ระห นเ ี้ งนิ ท ดรองท โ ี่ จทกจ ์ า่ ยแ ทนจ าำ เลย ไปใ นก ารซ อ้ื ห นุ้ เ ทา่ นนั้ เจตนาอ นั แ ทจ้ รงิ เ ปน็ เ รอื่ งท โ ี่ จทกจ ์ าำ เลยต กลงร ะงบั ห นเ ี้ งนิ ท ดรองท โ ่ี จทกอ ์ อกไ ปโ ดย วธิ จ ี าำ เลยก เ ู้ งนิ โ จทกใ ์ ชห ้ น ้ี จาำ นวนเ งนิ ท โ ่ี จทกจ ์ ะต อ้ งจ า่ ยแ กจ ่ าำ เลยต ามส ญั ญาค อื จาำ นวนเ งนิ ท โ ่ี จทกน ์ าำ ไ ปช าำ ระ หน้ีเ งิน ทดรองจ ่าย นน้ั เอง เมอ่ื ป รากฏว า่ จ ำาเลย ลง ลายมอื ชือ่ ในส ญั ญา กูด ้ ัง กล่าวแ ละ โจทก์ไ ด น้ าำ จำานวน เงิน ตามส ญั ญาก ไ ู้ ปช าำ ระ หนเ ้ี งนิ ท ดรอง จนเ สรจ็ สน้ิ แลว้ จงึ ต อ้ งฟ งั วา่ จ าำ เลยเ ปน็ หนโ ี้ จทก ต์ าม จาำ นวน ทร ่ี ะบ ไุ ว ใ้ น สญั ญาก น ู้ นั้ จาำ เลยจ ะอ า้ งว า่ จ าำ เลยย งั ไ มไ ่ ดร ้ บั เ งนิ ต ามส ญั ญาก แ ู้ ละไ มต ่ อ้ งร บั ผ ดิ ต อ่ โ จทกต ์ ามส ญั ญาก ไ ู้ มไ ่ ด้ 11ดค ู าำ อ ธบิ ายเ รอ่ื ง สญั ญาบ รบิ รู ณใ ์ นห นว่ ยท ี่ 2 การย มื ใ ชส ้ นิ้ เ ปลอื ง, เพช รา จารส ุ กลุ , ความสบั สนของการใชค้ าำ ในกฎหมาย “ไมส่ มบรู ณ์” “ไมบ่ รบิ ูรณ”์ วารสาร กฎหมายส ุโขทยั ธรร มาธร ิ าช ปี ที่ 24 ฉบบั ท่ี 2 ธนั วาคม 2555 น. 5-6. ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-14 กฎหมายพาณชิ ย์2:ยืมฝากท รพั ย์ตัวแทนประกนั ภ ัย มสธ จากก ารว นิ จิ ฉยั ใ นค าำ พ พิ ากษาศ าลฎกี าท ย ี่ กม าเ ปน็ ต วั อยา่ งข า้ งต น้ จะเ หน็ ไ ดว ้ า่ ใ นเ รอื่ งก ารส ง่ ม อบ มส เงนิ ใ หแ ้ กผ ่ ก ู้ ใ ู้ นส ญั ญาก ย ู้ มื น นั้ ไมเ ่ ปน็ ข อ้ ก าำ หนดท เ ี่ ครง่ ครดั อาจม ก ี ารป ฏบิ ตั ก ิ นั อ ยา่ งอ น่ื ท ท ่ี าำ ใหส ้ ญั ญาก ย ู้ มื เงนิ บริบรู ณ์โ ดย ไม่ ตอ้ ง สง่ ม อบเ งนิ ใ ห แ้ ก่ กนั ด งั กล่าว แลว้ กไ็ ด้ อุทาหรณ์ ฎ.10227/2551โจทกแ ์ ละ จาำ เลย ท่ี 1 ตกลง กนั ให้น าำ ห น้ี พร้อม ดอกเบย้ี ที่ จาำ เลยท ่ี 1 ค้างช าำ ระโ จทก์ ซงึ่ เ ปน็ ม ลู ห นท ้ี ช ่ี อบด ว้ ยก ฎหมายม าเ ปน็ ตน้ เ งนิ ท าำ ส ญั ญาก นั ใ หม ่ ยอ่ มถ อื วา่ โ จทกไ ์ ดส ้ ง่ ม อบเ งนิ ท ก ่ี ย ู้ มื ต าม สญั ญา ให้จ ำาเลยท ่ี 1 โดยช อบแ ล้ว สัญญา ก ยู้ ืมเ งิน จงึ ส มบูรณ์ช อบด ว้ ยก ฎหมาย อนงึ่ กรณท ี ต ี่ อ่ สว ู้ า่ ส ญั ญาย มื ใ ชส ้ น้ิ เ ปลอื งไ มบ ่ รบิ รู ณเ ์ พราะย งั ม ไิ ดร ้ บั ม อบเ งนิ ท ก ่ี ย ู้ มื ไ ปส ามารถน าำ พยานบ ุคคล มา สืบไ ด้ ฎ.13825/2553โจทกฟ ์ อ้ ง ว่าจ าำ เลยก ยู้ มื เ งินจ าก โจทก์เ ม่ือ วนั ท ี่ 18 มนี าคม พ.ศ. 2542 และจ าำ เลย ได้ รับ เงิน กู้ ยืม ไป ครบ ถ้วน แล้ว จำาเลย ให้การ ว่า จำาเลย ไม่ เคย กู้ ยืม เงิน จาก โจทก์ และ ไม่ เคย ได้ รับ เงิน ไป จาก โจทก์ จำาเลย ทำา สัญญา จำานอง ที่ดิน เพ่ือ ประกัน การ ทำา สัญญา นาย หน้า จัด ส่ง คน งาน ไป ทำางาน ที่ ไต้หวัน เท่ากับ จำาเลย ให้การ ว่า สัญญา กู้ ยืม เงิน ตาม คำาฟ้อง ซึ่ง เป็นการ ยืม ใช้ ส้ิน เปลือง ไม่ สมบูรณ์ เพราะ ไม่มี การ ส่ง มอบ ทรัพย์สิน ที่ ยืม ตาม ปพพ. มาตรา 650 จำาเลย จึง ไม่ ต้อง ห้าม มิ ให้ นำาสืบ พยาน บุคคล ว่า สัญญา กู้ ยืมเ งนิ ต าม คาำ ฟ้องไ ม่ส มบูรณ ์ ตาม ปวพ. มาตรา 94 ข้อส งั เกต ตามค ำาพ พิ ากษาศ าล ฎีกา ข้าง ต้น ทศ่ี าลใ ชค ้ ำาว ่า “ไมส ่ มบูรณ์” นา่ จ ะเ ป็น เรอ่ื ง ไมบ ่ รบิ ูรณ์ ตามม าตรา 650 วรรค สอง กรณีไ ด ร้ บั เ งินก เ ู้ ปน็ ต ว๋ั สญั ญาใ ชเ้ งนิ เงนิ สด และเ ช็ค เทา่ กับ จำานวน เงินต าม สญั ญา ก ู้ ถือว่า ได้ รับ เงนิ ก ู้ไ ป แลว้ อทุ าหรณ์ ฎ.1255/2541การ ทีผ่ ู้ร ้อง ทำา สญั ญาก ู เ้ งินจ ากจ ำาเลย และร บั เ งินก ด ู้ ว้ ยต ว๋ั ส ัญญาใ ช้เ งิน เม่อื ผ ู้ รอ้ งไ ด้ รบั ต ว๋ั ส ญั ญาใ ชเ ้ งนิ ด งั ก ลา่ วแ ลว้ ผร ู้ อ้ งไ ดน ้ าำ ไ ปข ายล ดแ ละช าำ ระห นแ ้ี กบ ่ คุ คลอ นื่ โดยเ ฉพาะต ว๋ั ส ญั ญาใ ชเ ้ งนิ ท ่ี ผูร ้ ้อง นำาไ ปข าย ลดใ ห้ แกธ ่ นาคาร แม้ธ นาคาร จะ รับเ งิน ตามต ว๋ั ส ญั ญาใ ช้เ งนิ ไม่ไ ด ้ แตธ ่ นาคาร ก็ไดย ้ น่ื ข อรับ ชาำ ระห นจ ้ี ากก องท รพั ยส์ นิ ข องจ าำ เลยใ นม ลู ห นต ี้ ามต วั๋ ส ญั ญาใ ชเ ้ งนิ ด งั ก ลา่ ว ซง่ึ ศ าลช น้ั ต น้ ไ ดม ้ ค ี าำ ส งั่ อ นญุ าต ใหไ ้ ด ร้ ับช ำาระ หนี้ และธ นาคารไ ดร ้ บั ส ว่ นแ บ่ง จาก กองท รพั ยส์ นิ ข อง จำาเลยค ร้งั แ รก เป็นเ งิน 2 ลา้ น บาท เศษ นอกจากน ี้ ผู้ ร้อง ยัง ได้ รับ เงินสดแ ละเ ชค็ จากก ารก ู เ้ งินซ ่งึ เ มอื่ ร วม จำานวนเ งิน ตามต วั๋ สัญญา ใชเ ้ งนิ เชค็ และ เงินสด แล้ว เท่ากับ จำานวน เงิน ตาม สัญญา จึง ถือว่า ผู้ ร้อง ได้ รับ ประโยชน์ และ ได้ รับ เงิน กู้ จาก จำาเลย ไป แล้ว ผู้ รอ้ ง จึงต ้องร ับ ผิด ใชเ ้ งนิ ต าม สญั ญาก ู จ้ าก จาำ เลย ส่วน ใน การ กู้ ยืม เงิน กัน โดย ผู้ ให้ กู้ มอบ เช็ค ให้ แก่ ผู้ กู้ ก็ ถือว่า เป็นการ มอบ เงิน ให้ แก่ ผู้ กู้ แล้ว เช่น ธนาคาร มอบ เช็คข องธ นาคาร (Cashier order) ให้ ผู ้ก้ ูและ การก ยู้ ืมเ งนิ ใน ลักษณะ อน่ื เช่น การเ บกิ เงินเ กนิ บญั ช ีไม่ ตอ้ งม ีการ สง่ มอบตัว เงนิ ใ ห แ้ ก่ ผ้ กู โู้ ดยตรง เชน่ นาย แดง ทำาส ญั ญาเ บกิ เงนิ เกนิ บ ญั ชก ี ับ ธนาคาร ขาว ธนาคารไ มจ ่ าำ ต อ้ งส ง่ ม อบเ งนิ ใ หแ ้ กน ่ ายแ ดงโ ดยตรง เพยี งแ ตใ ่ หว ้ งเงนิ ต ามส ญั ญาใ นบ ญั ชก ี ระแสร ายว นั ข อง นาย แดง เม่ือ นาย แดง เขียน เช็ค สั่ง จ่าย เงิน จาก บัญชี ของ ตน ใน จำานวน ที่ อยู่ ใน วงเงิน ที่ ตกลง กัน ตาม สัญญา ธนาคาร จะจ า่ ยเ งนิ จ าำ นวน นน้ั ใ หแ ้ กน ่ ายแ ดงท นั ท ี ดงั นก ี้ ถ ็ อื วา่ เ ปน็ การส ง่ ม อบเ งนิ ใ หแ ้ กน ่ ายแ ดงแ ลว้ เ ชน่ ก นั ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การก ยู้ ืมเงนิ 3-15 มสธ ตวั อย่างต่อไปน ถี้ ือไม่ไดว้ า่ มมี ูลห นเ้ี งนิ กยู้ ืมมส ฎ.4951/2528จำาเลยเ ชา่ ซอื้ โ ทรทศั นจ ์ ากบ คุ คล อื่น โจทก์ คาำ้ ประกัน หลงั ค าำ้ ป ระกันเ พยี ง 3 ชว่ั โมง โจทกใ ์ หจ ้ าำ เลยท าำ ส ญั ญาก ใ ู้ หเ ้ พอ่ื ป ระกนั ค วามเ สยี ห ายใ นก ารค า้ำ ป ระกนั เมอื่ ค วามเ สยี ห ายจ ากก ารค า้ำ ป ระกนั การเ ชา่ ซ อ้ื ย งั ไ มเ ่ กดิ ข น้ึ แ ละย งั ค าำ นวณไ มไ ่ ด ้ จงึ เ ปน็ ห นท ้ี ย ี่ งั ไ มแ ่ นน่ อนไ มอ ่ าจน าำ ม าเ ปน็ ม ลู ห นใ ้ี นส ญั ญาก ไ ู้ ด ้ จำาเลย จึง ไมไ ่ ด้ ก้ เู งนิ โจทก ์ ผู้ค าำ้ ประกนั การก จู้ งึ ไ มต่ ้อง รบั ผ ิด ดังน ้นั การส ่งม อบเ งิน ให้ แก่ ผ ใู้ หก้ ู้อาจ จะม ไ ี ดห้ ลาย กรณี ดังต อ่ ไ ป นี ้ คือ สง่ ม อบก นั กอ่ น ทำาส ัญญา หรอื หลงั จาก ทาำ ส ญั ญาห รอื บ างก รณ กี ถ ็ ือวา่ ได้ม ี การส ่ง มอบเ งนิ ก นั แ ล้ว นอกจากน น้ั ใ นก รณท ี ่ีทาำ ส ัญญาก ยู้ มื เ งินแ ลว้ แตย ่ งั ไม ไ่ ดส ้ ง่ ม อบ เงิน ใหผ ้ ู้ก ู้ จะฟ ้อง ให ส้ ง่ ม อบเ งนิ ไม่ ได้ แตถ ่ า้ ท าำ ส ัญญาก ้ยู มื เงิน กันโ ดย ทาำ ส ัญญาต ่างต อบแทนก นั ไ วด ้ งั นม ้ี ีส ิทธฟ ิ ้อง ให ส้ ง่ มอบเ งนิ กนั ไ ด้ อุทาหรณ์ ฎ.2923/2525ผู้ ให้ กู้ ยืนยัน ตาม ข้อ ตกลง เปลี่ยนแปลง วงเงิน ท่ี ให้ ไว้ กับ ผู้ กู้ ย่อม เกิด สัญญา ผูกพัน ตามน นั้ จาำ เลยม ท ี ดี่ นิ ไ ดเ ้ สนอโ จทกเ ์ พอ่ื ร ว่ มท าำ โ ครงการจ ดั สรรท ดี่ นิ พรอ้ มบ า้ นก บั จ าำ เลยพ รอ้ มอ นมุ ตั ก ิ เ ู้ งนิ เพื่อ ลงทนุ ด ้วย โจทก ์อนมุ ตั ิ ได ท้ าำ สัญญาก นั 2 ฉบบั คือ สญั ญา ก้เู งินแ ละส ญั ญา ให ผ้ ู้ซื้อก ้เู งนิ โจทก์ ไป ซ้อื ทดี่ นิ แ ละบ า้ นต ามโ ครงการ ดงั น ี้ สญั ญาฉ บบั ห ลงั เ ปน็ ส ว่ นห นงึ่ ข องส ญั ญาฉ บบั แ รกข อ้ ความใ นส ญั ญาแ ตล่ ะ ฉบบั ม ผ ี ลผ กู พนั บ งั คบั ก นั ไ ด ้ ดงั น น้ั การต คี วามเ จตนาข องค ส ู่ ญั ญาจ งึ ต อ้ งแ ปลจ ากส ญั ญาท งั้ 2 ฉบบั ร วมก นั ไมใ่ ชย ่ กเ อาเ ฉพาะข อ้ ความ ตอนใ ดต อนห นงึ่ ห รอื ส ญั ญาฉ บบั ใ ดฉ บบั ห นง่ึ ห รอื ข อ้ ใ ดข อ้ ห นงึ่ ม าแ ปล จงึ ไ มใ่ ช ่ นติ กิ รรมอ าำ พราง และไ มใ่ ชส ่ ญั ญาก เ ู้ งนิ โ ดยว ธิ อ ี อกต วั๋ ส ญั ญาใ ชเ ้ งนิ อ ยา่ งเ ดยี วสญั ญาท งั้ 2ฉบบั จ งึ เปน็ ส ญั ญา ต่างตอบแทนกันเป็นพิเศษย่ิงกว่าสัญญากู้ธรรมดา คู่สัญญาแต่ละฝ่ายต่างมีสิทธิและหน้าที่จะต้องปฏิบัติ ตอบแทนซ งึ่ ก นั และก ันตามข ้อความท ร่ี ะบุไวใ้นส ญั ญา โจทก์ ยอม ให้ จำาเลย กู้ เงิน สูง กว่า จำานวน ที่ ขอ กู้ ใน การ เสนอ โครงการ คร้ัง แรก แสดง ว่า ได้ ตกลง เปลย่ี นแปลงว งเงนิ ก นั แ ลว้ เทา่ กบั เ ปน็ การย นื ยนั ต ามข อ้ ต กลงน นั้ ขอ้ ต กลงน จ ี้ งึ ผ กู พนั โ จทก ์ โจทกจ ์ ะป ฏเิ สธ ไม่ ใหจ ้ าำ เลย และ ผู้ซ ้อื ท ดี่ นิ ก บั บ ้านก ู้เงนิ ถ งึ จาำ นวน ดงั กลา่ ว ไมไ ่ ด้ เป็นการ ผดิ สญั ญา ส่วน การ ส่ง มอบ เงิน นั้น จะ ส่ง มอบ ให้ แก่ ใคร ท่ี เป็น ตัวแทน ของ ผู้ กู้ ยืม เงิน ก็ได้ เช่น พ่อ ทำา สัญญา ก ู้ย มื เ งินแ ลว้ ใ ห ้เจ้าห นส ี้ ง่ มอบ เงนิ ให้แ ก ่ลกู ก ็ ถือว่า พ่อ ไดร ้ ับเ งนิ ก ้ แู ล้ว ข้อสงั เกต เงนิ ท ี่ ให้ กเ ู้ ป็น ของ ใคร ไม่ส าำ คญั คน ที่ ทาำ สัญญา ก ต็ อ้ งร บั ผดิ ตาม สัญญา นนั้ เช่น ลูก นาำ เงนิ ข องพ อ่ ม าป ลอ่ ยใ หค ้ นก ู้ คนท ท ่ี าำ ส ญั ญาก ย ู้ มื ต อ้ งร บั ผ ดิ ต ามส ญั ญาจ ะป ฏเิ สธว า่ ไ มใ่ ชเ ่ งนิ ข องล กู ค นท เ ่ี ปน็ ผ ใู้ ห้ ก้ ยู ืม เพ่อื ตนจ ะ ไม่ ตอ้ งร ับผ ิดใ ชห้ นเ้ี งนิ กไ ู้ ม่ ได้ 2. หลักฐานในการกู้ยืมเงิน สาระส าำ คญั ข องส ญั ญาก ย ู้ มื เ งนิ อ กี เ รอื่ งห นงึ่ ค อื หลกั ฐ านใ นก ารก ย ู้ มื เ งนิ การก ย ู้ มื เ งนิ ก ฎหมายไ มไ ่ ด้ บังคับ ให้ ต้อง มี หลัก ฐาน เป็น หนังสือ ใน การ กู้ ยืม กัน ทุก ครั้ง ไป เพียง แต่ กฎหมายก ำาหนด จำานวน เงิน ข้ัน ตำ่า ไว้ เปน็ เ กณฑว ์ ่าห ากม ี การท ำาส ัญญาก ู ้ยืมเ งินก นั เ กินก วา่ จ ำานวนท ี่ก ฎหมายก าำ หนดใ หท ้ ำาห ลกั ฐ านเ ป็นห นงั สือ ลง ลายมือ ช่ือ ผู้ กู้ เป็น สำาคัญ เพื่อ เป็น ประโยชน์ ใน การ ฟ้อง ร้อง บังคับ คดี ระหว่าง คู่ สัญญา เกณฑ์ ข้ัน ต่ำา ท่ี กฎหมาย ให ้มี หลกั ฐาน เป็น หนงั สอื ได้ กาำ หนด ไว้ ใน มาตรา 653 วรรค หนงึ่ ซ่ึง บญั ญตั ิวา่ “การ กย้ ู ืม เงนิ กวา่ ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-16 กฎหมายพ าณชิ ย์2:ยมื ฝากท รัพย์ตัวแทนประกนั ภ ยั มสธ สองพ ัน บาท ข้ึน ไปน ้ัน ถ้าม ิได้ มีห ลัก ฐาน แห่งก าร กู้ย ืม เป็น หนังสืออ ย่างใ ดอ ย่างห นึ่ง ลง ลายมือผ ู้ย ืมเ ป็น สำาคัญ มส ท่าน ว่า จะ ฟ้อง ร้อง ให้ บังคับ คดี หา ได้ ไม่” ซ่ึง หมายความ ว่า หาก มี การ ทำา สัญญา กู้ ยืม เงิน กัน เป็น จำานวน กว่า 2,000 บาทข ้ึน ไปแ ล้ว ถ้าม ิได้ มี หลักฐ าน แห่ง การ กู้ ยืมเ งิน เป็น หนังสืออ ย่างใ ด อย่างห นึ่งล งล ายมือช ่ือผ ู้ ยืม เป็น สาำ คัญ ท่านว ่าจ ะฟ ้องร อ้ งใ ห้บ งั คบั ค ดีห า ได้ไ ม่ ฎ. 200/2496 (ป. ใหญ)่ เอา เงนิ เ ขา ไปโ ดยเ สยี ดอ กเ บี้ย แล้ว มอบ ทอง รูป พรรณ ไว้ เป็น ประกัน การ จำานำา โดย มูล หนี้ เดิม คือ กู้ ยืม เงิน ถ้า ไม่มี หลัก ฐาน เป็น หนังสือ จะ ฟอ้ งใ หล ้ ูก หนต ี้ อ้ งใ ช้ ส่วนท ่ ีขาดจ ากก ารบ ังคบั จาำ นำาไ มไ ่ ด้ กฎหมาย บังคับ ให้ มี หลัก ฐาน การ กู้ ยืม เงิน เป็น หนังสือ ลง ลายมือ ชื่อ ผู้ ยืม เป็น สำาคัญ เท่านั้น ดัง น้ัน สัญญา กู้ย มื เงนิ ท ไ่ี ม่มีล ายมือช ื่อ ผ ใู้ หก ้ ้ ยู ืม ก็ ใช ้เป็น หลักฐ านฟ ้องผ กู้ ู้ ยมื เงินได้ อุทาหรณ์ ฎ.2484/2533การ กย ู้ มื เ งิน เกนิ กวา่ ห้าส บิ บาท (ปัจจบุ นั สอง พนั บ าท) กฎหมายเ พียงแ ต่ บงั คบั ใ ห ้ มห ี ลกั ฐ านแ หง่ ก ารก ย ู้ มื เ ปน็ ห นงั สอื แ ละล งล ายมอื ช อ่ื ผ ก ู้ จ ู้ งึ จ ะฟ อ้ งร อ้ งบ งั คบั ค ดไ ี ด ้ โดยม ไิ ดบ ้ งั คบั ผ ใ ู้ หก ้ ต ู้ อ้ ง ลงล ายมือ ชื่อ แมส ้ ญั ญาก เู้ งนิ จ ะ เป็นน ิตกิ รรม สองฝ า่ ย แต ก่ ็ เป็นห ลกั ฐานแ ห่ง การ กย ู้ มื เ มือ่ จำาเลยล งล ายมือ ช่ือ ผ กู้ ู้แ ลว้ ก ช็ อบท ี่จะ ฟ้อง ร้องบ งั คบั ค ด ีได้ต าม ปพพ. มาตรา 653 ฎ.4537/2553ปพพ. มาตรา 653 วรรคแ รก (เดมิ ) บัญญตั ิ ว่า “การก ้ยู มื เงนิ กวา่ ห้าส บิ บ าทข น้ึ ไ ป นน้ั ถา้ ม ไิ ดม ้ ห ี ลกั ฐ านแ หง่ ก ารก ย ู้ มื เ ปน็ ห นงั สอื อ ยา่ งใ ดอ ยา่ งห นงึ่ ล งล ายมอื ช อ่ื ผ ย ู้ มื เ ปน็ ส าำ คญั ทา่ นว า่ จ ะฟ อ้ งร อ้ งใ ห ้ บงั คบั ค ดห ี าไ ดไ ้ ม”่ สาระส าำ คญั ข องห ลกั ฐ านเ ปน็ ห นงั สอื ต าม ปพพ. มาตรา 653 วรรคแ รก อยท ู่ ว ่ี า่ มก ี ารแ สดง ใหเ้ ห็นว ่าม ก ี ารก ย้ ู มื เ งินก ันก เ็ พียงพ อแล้ว ไมไ ่ ดบ ้ งั คับถ งึ ก บั จ ะต ้องร ะบชุ ่อื ข องผ ใ้ ู หก้ ไ้ ู ว ้ ดงั น น้ั เมอื่ โ จทกน์ ำา หนงั สือ สญั ญา ก้แ ู ละ ค้ำาป ระกนั มา ฟ้อง จาำ เลย ท้งั ส าม และป รากฏช ดั ว า่ เอกสาร พิพาท มี สาระ สาำ คัญ แสดง ให ้ เหน็ ว า่ จาำ เลยท ่ี 1 กย ู้ มื เ งนิ จ ากผ ใ ู้ หก ้ ู้ แมจ ้ ะไ มไ ่ ดร ้ ะบช ุ อื่ ผ ใ ู้ หก ้ ล ู้ งไ วใ ้ หถ ้ กู ต อ้ งแ ตร ่ ะบจ ุ าำ นวนเ งนิ แ ละจ าำ เลยท ่ี 1 ลงล ายมอื ช่ือไ ว้ ในฐ านะผ ูก ้ ู้ครบถ ว้ น จึงถ อื วา่ เ ป็นห ลักฐ านแ หง่ การก ย ู้ ืม และ คาำ้ ประกันข อง โจทก์ ได แ้ ล้ว นอกจาก นั้น หลัก ฐาน การ กู้ ยืม เงิน นั้น ไม่มี พยาน ลง ลายมือ ชื่อ ใน ขณะ ท่ี ทำา หนังสือ สัญญา กู้ ยืม เงิน กนั ก ็ ใช้ เป็น หลกั ฐาน ใน การฟ อ้ งร ้อง คดี ได้ อุทาหรณ์ ฎ.650/2536จาำ เลยก เ ู้ งนิ จ ากโ จทกจ ์ าำ นวน 120,000 บาท โดยไ มไ ่ ดท ้ าำ ห ลกั ฐ านเ ปน็ ห นงั สอื ไ ว ้ แลว้ ต อ่ มาจ าำ เลยไ ดท ้ าำ ห นงั สอื ส ญั ญาก เ ู้ งนิ ใ หโ ้ จทกไ ์ ว ้ ขณะท จ ี่ าำ เลยเ ขยี นส ญั ญาก เ ู้ งนิ แ ละล งชอื่ เ ปน็ ผ ก ู้ ใ ู้ นส ญั ญาน น้ั ไม่มี บุคคล อ่ืน ลงช่ือ เป็น พยาน ใน สัญญา โดย พยาน ดัง กล่าว ได้ ลงชื่อ เป็น พยาน ใน สัญญา กู้ เงิน ใน ภาย หลัง ก็ ไม่มี ผล ทำาให้ หนังสือ สัญญา กู้ เงิน เส่ือม เสีย ไป เพราะ ไม่มี กฎหมาย บัญญัติ ว่า หลัก ฐาน แห่ง การ กู้ ยืม เงิน เปน็ ห นงั สอื น น้ั จ ะต อ้ งม ล ี ายมอื ช อ่ื ข องพ ยานด ว้ ย แตถ ่ า้ ผ ก ู้ พ ู้ มิ พล ์ ายน วิ้ ม อื ใ นส ญั ญาต อ้ งม พ ี ยานร บั รองล าย พมิ พน ์ วิ้ มือ 2 คน หาก มี พยานร ับรอง ลาย พมิ พน์ ้วิ ม ือไ ม่ ครบ ถว้ น สญั ญา กูย้ ืม เงนิ นั้นจ ะถ อื เสมอก ับผ ู้ กู้ ลง ลายมือช ่อื ยงั ไ มไ ่ ด้ (ฎ. 7156/2541) ส่วน การ กู้ ยืม เงิน กัน จำานวน สอง พัน บาท หรือ ต่ำา กว่า สอง พัน บาท ผู้ ให้ กู้ ยืม ไม่ ต้อง มี หลัก ฐาน เป็น หนงั สือก ็ฟ ้องร ้องบ ังคบั ก นั ไ ด้ โดย นาำ พยานบ คุ คลม าส บื ดังน ั้น การ ก ู้ยมื เ งนิ กว่า 2,000 บาท ถ้าผ ู้ ให้ ยืม ไม่มี หลัก ฐาน แห่ง การ กู้ ยืม ดัง กล่าว มา แสดง ผู้ ให้ กู้ ยืม จะ นำา คดี มา ฟ้อง ร้อง ต่อ ศาล ว่า ผู้ กู้ ไม่ ชำาระ หนี้ ท่ี กู้ ยืม โดย นำาสืบพ ยานบ ุคคลแ ทนย อ่ ม ทาำ ไม่ไ ด้ ซ่ึงใ นเ รอ่ื ง การนำา สืบ น้ีไ ด บ้ ญั ญตั ิไว้ ใน ปวพ. มาตรา 94 ความว า่ ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การกยู้ ืมเงิน 3-17 “เม่ือ ใด มี กฎหมาย บังคับ ให้ ต้อง มี พยาน เอกสาร มา แสดง ห้าม มิ ให้ ศาล ยอมรับ ฟัง พยาน บุคคล ใน กรณี อย่าง ใด มสธ อย่าง หนึ่ง ดงั ต่อ ไปน ้ี แม ถ้ ึงว่า ค่ คู วาม อีกฝ ่าย หนง่ึ จ ะไ ดย้ ิน ยอมก ด็ ี ฯลฯ” ซ่งึ เร่อื ง การนาำ สืบ พยาน บคุ คลน ี้ม ไิ ด ้มส หา้ มโ ดยเ ดด็ ข าด มข ี อ้ ย กเวน้ ซง่ึ จ ะก ลา่ วไ วใ ้ นเ รอ่ื งก ารนาำ ส บื ก ารใ ชเ ้ งนิ ใ นต อนท ี่ 3.4 ความร ะงบั แ หง่ ส ญั ญา ก ู้ เงิน และ การนาำ สืบก ารใ ช้ เงิน กต ู้ ่อ ไป อนึ่ง กรณี ที่ ทำา หลัก ฐาน เป็น หนังสือ ไว้ แล้ว แต่ ต่อ มา หลัก ฐาน ดัง กล่าว ถูก เพิก ถอน ก็ ยัง ถือว่า การ กยู ้ มื เ งิน ไดม ้ หี ลัก ฐาน การ กย ู้ มื เงนิ แ ลว้ อทุ าหรณ์ ฎ. 2274/2531 หนังสือ สัญญา จำานอง มี ข้อความ ระบุ ว่า ให้ ถือ สัญญา จำานอง เป็น หลัก ฐาน แห่ง การ กู้ ยืม เงิน จำานวน 300,000 บาท แม้ ต่อ มา สัญญา จำานอง จะ ถูก เพิก ถอน ก็ ไม่ กระทบ กระเทือน ถึง ข้อความ ท่ี ระบไ ุ ว เ้ กยี่ วก บั การ กู ้ยืม ถอื ไ ด ้ว่าการ ก ้ยู ืมม หี ลัก ฐาน เป็นห นังสอื เจา้ ห นมี้ สี ิทธิ ขอรบั ช ำาระ หนไ้ ี ด้ ตาม พรบ. ลม้ ละล ายฯ มาตรา 92 การล งลายมือชอ่ื ผกู้ เู้ ป็นสำาคญั หลกั ฐาน การก ย ู้ มื เงนิ ท ่ีเป็นห นังสือ ดัง กล่าว ต้อง มี ลายมือ ชอื่ ผ ู้ กู้ เปน็ สาำ คญั ซงึ่ ล ายมอื ช อ่ื น ม ี้ ไิ ดก ้ าำ หนดเ ครง่ ครดั ว า่ จ ะต อ้ งเ ปน็ ล ายมอื ช อื่ ข องผ ก ู้ เ ู้ ทา่ นนั้ ผก ู้ อ ู้ าจจ ะท าำ เ ครอ่ื งหมาย แกงได ลายพ มิ พน ์ วิ้ ม อื หรอื ใ ชต ้ ราป ระทบั แ ทนล งล ายมอื ช อ่ื ซงึ่ ก ารกร ะท าำ ด งั ก ลา่ วก ถ ็ อื วา่ ม ผ ี ลส มบรู ณต ์ าม กฎหมาย (ปพพ. มาตรา 9 วรรค สอง)12 แต่ ใน เรื่อง การ พิมพ์ ลาย นิ้ว มือ แกงได หรือ เคร่ืองหมาย อื่น ทำานอง เช่น ว่า นี้ ย่อม นำา ไป ใช้ ใน เรื่อง สัญญา กู ้เงนิ ประเภท เบกิ เงนิ เกิน บญั ช ีไม่ ได้ เพราะ ใน การ ปฏบิ ัต ิตาม สัญญา เบกิ เงิน เกนิ บญั ชี ต้อง ม ีสญั ญา บัญชี เดินส ะพัด ควบคู่ กัน ไป การส ัง่ จ ่าย เงนิ ตอ้ งใ ช ้เชค็ ซง่ึ เ ป็น ตว๋ั เงนิ ช นดิ ห น่งึ ซึง่ ปพพ. มาตรา 900 วรรค สอง ได บ้ ญั ญัต หิ ้าม ใน เรื่อง การใ ช้เ คร่อื งหมายอ ย่าง อ่นื แทน การ ลง ลายมือช ื่อ เนื่องจาก สัญญา กู้ เงิน ประเภท สัญญา เบิก เงิน เกิน บัญชี เก่ียวข้อง กับ ธุรกิจ อัน เป็น ส่วน รวม ฉะน้ัน กฎหมายจ งึ ต อ้ งการใ หผ ้ ม ู้ ค ี วามร ส ู้ ามารถอ า่ นอ อกเ ขยี นไ ดด ้ าำ เนนิ ก าร ประกอบก บั ก ารเ บกิ เ งนิ เ กนิ บ ญั ชต ี อ้ ง ใช้ เชค็ หากอ นุญาต ให้ม กี าร ใช้ เครอ่ื งหมายอ ่ืน แทนก าร ลงล ายมอื ช่ือแ ลว้ อาจท ำาให ้เกดิ ผล เสยี ห ายไ ดง ้ า่ ย ใน สัญญา กู้ ยืม เงิน กฎหมาย ต้องการ หลัก ฐาน เป็น หนังสือ กรณี กู้ ยืม เงิน เกิน กว่า 2,000 บาท ซ่ึง มใิ ช่ เร่ือง แบบข องส ญั ญา อัน จะ ทำาให ส้ ัญญา กูย้ มื เงนิ ไม ส่ มบูรณ์ หาก ไมม่ ห ี ลกั ฐ าน ดังก ล่าว หลักฐ าน น้ีเ ปน็ หลัก ฐาน ที่ จะ นำา มา ฟ้อง ร้อง เท่านั้น ซึ่ง ใน เร่ือง หลัก ฐาน เป็น หนังสือ นี้ ได้ ปรากฏ ใน กฎหมาย ตรา สาม ดวง อัน เป็นก ฎหมาย ของ ประเทศไทย แต่ โบราณ ซ่งึ ใชบ้ ังคบั มาก อ่ น การ ประกาศ ใช ป้ ระมวล กฎหมาย แพง่ แ ละ พาณชิ ย ์ บัญญตั ิไว ใ้ น พระ ไอย การ ลักษณะ กห้ ู น ี้ ข้อ 9 ดังน้ี 1. มาตรา หนึ่ง ทวยร าษฎรก ห ู้ น้ถ ี ือส นี แกก่ นั แต่ ๑ ข้ึนไ ปใ ห ้กรม ทนั แกงไ ดเปน็ ส าำ คญั ให้ผ ูกดอกเ บ้ีย เดอื น ละ ๑ ถา้ ห า เอกสารส ำาคัญม ิไดม ้ าร อ้ งฟ ้อง ท่าน วา่ อยา่ ใ ห ้รบั ไ ว้บ งั คบั บญั ชา13 12 ลายพ มิ พน ์ วิ้ ม อื แกงได ตราป ระทบั หรอื เ ครอ่ื งหมายอ น่ื ท าำ นองเ ชน่ ว า่ น นั้ ทท ี่ าำ ล งใ นเ อกสารแ ทนก ารล งล ายมอื ช อ่ื หาก มพี ยาน ลงล ายมือ ชอ่ื ร บั รองไ ว ้ด้วย สอง คน แล้ว ให ถ้ ือ เสมือน กบั ลง ลายมอื ช ่อื 13 กรมศ ลิ ปากร เร่ืองกฎหมายต ราสามด วง ม.ป.ท. กรม ศิลปากร 2521 น. 365. ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-18 กฎหมายพ าณชิ ย์2:ยืมฝากท รัพย์ตัวแทนประกันภ ยั กฎหมายด งั ก ลา่ วม ใ ี จความส าำ คญั ว า่ หากม ก ี ารก ย ู้ มื เ งนิ ก นั ต ง้ั แต ่ 1 ชง่ั (80 บาท) ขน้ึ ไ ปใ หม ้ ห ี ลกั ฐ าน มสธ มส เป็น หนังสอื ล ง ลายมอื ชือ่ เปน็ สาำ คญั ใหค ้ ิด ดอกเบีย้ 1 บาท ฯลฯ สว่ น ใน วรรคส อง บัญญตั ิ วา่ ถา้ หา เอกสาร สำาคญั ด งั ก ลา่ วไ ม ไ่ ด ้ หาก มาฟ อ้ ง รอ้ งก นั กฎหมายห ้ามบ ังคบั ให ้ คอื ไ ม ่รบั ฟังแ ละก ฎหมายต รา สาม ดวงไ ด ้ บัญญัติ ไว้ เคร่งครัด กว่า ประมวล กฎหมาย แพ่ง และ พาณิชย์ ใน ปัจจุบัน เพราะ กรณี การ กู้ ยืม เงิน กัน โดย ไม่มี หลัก ฐาน เป็น หนังสือ ใน ส่วน ท่ี ไม่มี หลัก ฐาน เป็น หนังสือ กฎหมาย ห้าม คิด ดอกเบ้ีย ด้วย ดัง ข้อความ ใน พระ ไอ ยการ ลักษณะก ้ ูหนี้ ขอ้ 63 3. มาตราห นง่ึ ท าำ ส ารก รมท นั ก เ ู้ งนิ ท า่ น มใ ี นส ารก รมท นั ต น้ เ งนิ แ ตเ ่ ทา่ นนั้ ๆ แลว้ เ อาเ งนิ น อกก รมท นั นนั้ อ กี ม ากน อ้ ยเ ทา่ ใดก ด ็ ี และค ดิ เ อาด อกเบย้ี ม ไิ ดเ ้ ลย เพราะเ ปน็ เ งนิ น อกก รม14 หมายความว า่ การท าำ ห ลกั ฐ าน การก ู้ ยืมเ งิน กนั ไว จ้ าำ นวนห นึง่ แตไ ่ ดก้ ย ู้ ืมเ พิม่ อีกโ ดย ไมไ ่ ด ้ทำาห ลักฐ านเ ป็นห นงั สอื ผู้ใ ห ก้ จ ู้ ะ คิด ดอกเบ้ยี ใ น เงิน จาำ นวน ท่ีก ูไ้ ป ภายห ลงั ไม่ ได ้ เพราะไ มม่ ี หลักฐ าน การก ูย้ มื เ งนิ ใ น สว่ นน นั้ ส่วน การ กู้ ยืม เงิน กัน ไม่ เกิน ห้า สิบ บาท (ปัจจุบัน 2,000 บาท) กฎหมาย ไม่ ได้ กำาหนด ให้ ต้อง ทำา หลัก ฐาน การ กู้ ยืม เงิน เป็น หนังสือ แต่ ถ้า คู่ กรณี ได้ ทำา หลัก ฐาน เป็น หนังสือ ไว้ ก็ ย่อม ทำาได้ และ การ ฟ้อง ร้อง ให บ้ งั คับ คดก ี ็ต้องม ีห ลกั ฐาน เป็น หนังสือ (เทียบ ฎ. 110/2480) ลักษณะของหลกั ฐ านเป็นหนังสือ หลกั ฐานเ ปน็ หนงั สอื น้นั กฎหมาย ไม ไ่ ดก ้ าำ หนด รูป ลักษณะ ว่าจ ะ ตอ้ งท าำ ใ นร ปู ส ญั ญาก เ ู้ งนิ เ ทา่ นนั้ เพราะห ลกั ฐ านเ ปน็ ห นงั สอื ไ มใ่ ชแ ่ บบข องน ติ กิ รรมเ รอื่ งแ บบก าำ หนดไ วเ ้ ปน็ องคส ์ มบรู ณแ ์ หง่ น ติ กิ รรม ถา้ ไ มท ่ าำ ต ามก ารท ท ี่ าำ ไ ปต กเ ปน็ โ มฆะเ สยี เ ปลา่ (ปพพ. มาตรา 152) จะใ หส ้ ตั ยาบนั กันไ ม ไ่ ด ้ (ปพพ. มาตรา 172) การใ ดต ก เปน็ โ มฆะ ย่อมจ ะม กี ารร บั ชาำ ระห นี้ แกก ่ นั ไมไ ่ ด ้ เพราะโ มฆกรรม ไมก ่ อ่ ใ หเ ้ กดิ ห นท ้ี จ ่ี ะพ งึ ร บั ช าำ ระก นั ไ ด ้ สว่ นห ลกั ฐ านไ มใ่ ชอ ่ งคส ์ มบรู ณ แ์ หง่ น ติ กิ รรม นติ กิ รรม ทข ี่ าดห ลกั ฐ าน เปน็ แ ตฟ ่ อ้ งร อ้ งขอใ หบ ้ งั คบั ค ดไ ี มไ ่ ด ้ ไมใ่ ชโ ่ มฆะห รอื โ มฆยี ะ หนย ี้ อ่ มเ กดิ ข นึ้ แ มน ้ ติ กิ รรมส ญั ญาท เ ี่ ปน็ ม ลู น นั้ จะข าดห ลกั ฐ าน เพราะฉ ะนนั้ จ งึ อ าจม ก ี ารช าำ ระห นก ี้ นั ไ ดโ ้ ดยส มบรู ณ1์ 5นอกจากน นั้ ย งั ม ค ี าำ พ พิ ากษาข องศ าล ฎีกา ไดต ้ ัดสินท าำ นองเ ดยี วกัน ฎ.3464/2528หลกั ฐ านแ หง่ ก ารก ย ู้ มื เ ปน็ ห นงั สอื ม ใิ ชแ ่ บบข องน ติ กิ รรม ทงั้ ก ฎหมายก ม ็ ไิ ดบ ้ ญั ญตั ว ิ า่ หลกั ฐ าน นนั้ จะต อ้ งม ใ ี นข ณะ ท ใ่ี หก ้ ยู้ มื หลกั ฐ านแ หง่ การ ก ยู้ มื เ ปน็ ห นงั สอื จงึ อ าจ ม กี อ่ นห รอื ห ลงั ก าร ก ยู้ มื เงนิ กไ็ ด้ จาำ เลยจ าำ นองท ด่ี นิ พ รอ้ มส งิ่ ป ลกู ส รา้ งไ วแ ้ กโ ่ จทก ์ เพอ่ื เ ปน็ ป ระกนั ก ารช าำ ระห นเ ี้ งนิ ก ซ ู้ ง่ึ จ าำ เลยก จ ู้ าก โจทก์ เมื่อ หนังสือ สัญญา จำานอง เป็น หลัก ฐาน การ กู้ เงิน ด้วย และ จำาเลย มิได้ ปฏิเสธ ว่า ไม่ ได้ รับ เงิน ท่ี กู้ จาก โจทก ์ ดังน ห้ี นงั สือส ัญญา จาำ นองน น้ั ยอ่ มเ ปน็ หลกั ฐ าน แห่ง การ ก ยู้ ืม เป็นห นงั สอื 14 เรอื่ งเดยี วกันน. 371. 15 ธร ม์ สาร เล่ม 18 คำาพ ิพากษา ฎีกา พ.ศ. 2477 (บนั ทกึ ท ้าย คำาพ พิ ากษาศ าลฎ ีกา ท่ ี 534/2477) ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การกูย้ มื เงนิ 3-19 ฎ.320/2534ปพพ. มาตรา 653 วรรคห นึง่ ม ไิ ดบ ้ ังคบั ว่า หลกั ฐ าน แหง่ ก าร กย้ ู มื เปน็ หนงั สอื ต ้อง ม ี ขอ้ ความว า่ ใครเ ปน็ ผ ใ ู้ หก ้ ู้ ใครเ ปน็ ผ ก ู้ ู้ กย ู้ มื ก นั เ มอื่ ไร กาำ หนดช าำ ระเ งนิ ก นั อ ยา่ งไร อกี ท ง้ั ต ามม าตราด งั ก ลา่ วท ี่ วา่ ถ า้ ม ไิ ดม ้ ห ี ลกั ฐ านแ หง่ ก ารก ย ู้ มื เ ปน็ ห นงั สอื อ ยา่ งใ ดอ ยา่ งห นง่ึ ล งล ายมอื ช อ่ื ผ ย ู้ มื เ ปน็ ส าำ คญั น นั้ หาไ ดม ้ ค ี วาม หมาย เครง่ ครดั ว่า จะ ตอ้ ง มี ถอ้ ยคาำ วา่ กู้ ยมื ปรากฏ อย ู่ใน เอกสาร น้นั ไม ่ และ ขอ้ ความ ที ่จะ รับ ฟัง เปน็ หลกั ฐาน แหง่ การก ย ู้ มื ได น้ นั้ ไม จ่ าำ ต อ้ งม บี รรจ ุอยใ ู่ น เอกสาร ฉบบั เดยี วกนั อาจร วบรวม จาก เอกสาร หลาย ฉบบั ทเ ี่ กยี่ ว โยง เปน็ เ ร่อื ง เดยี วกนั และ รบั ฟังป ระกอบก นั เ ป็นห ลกั ฐ าน แหง่ การก ้ ูยืม ไดใ้ น ทาง ปฏบิ ตั ิส ัญญาก ู้ย ืมเ งิน เป็น สัญญา ท มี่ ี ค่าต อบแทน (ดอกเบีย้ เ ป็น ค่า ตอบแทน แก ผ่ ู้ใ หก ้ ู้) ดัง นั้น ใน ทาง ปฏิบัติ จึง มัก ทำา หลัก ฐาน ใน รูป ของ สัญญา กู้ ยืม เงิน (ดัง ตัวอย่าง หนังสือ สัญญา กู้ ข้าง ท้าย) ตัวอยา่ งห นังสือส ญั ญากยู้ มื เงิน มสธ มส เขยี น ท.่ี ........................... วนั ที่..........เดือน...........................พ.ศ.......... ข้าพเจ้า..................................................................................................................................ผู้ กู้ อายุ........................ปี อยบ ู่ า้ นเ ลขท ี่ ........................ตาำ บล.....................อาำ เภอ..........................................จงั หวดั ........................ไดท ้ าำ ห นงั สอื ส ญั ญาก เ ู้ งนิ ให ไ้ ว้แ ก.่ ............................................................................................................ดงั ม ีข้อความต ่อไ ป น้ี ธมมสธสธมสธสธ ขอ้ 1 ผู้ก ู้ไ ด้ย ืม เงินข อง ท่านผ ู้ ให้ก ู้ ไป เป็น จำานวนเ งิน...................................................................................................... (.......................................................................................) และ ได้ รับ เงิน ไปเ สร็จ แลว้ แต ่วนั ท าำ สัญญาน ้ี ขอ้ 2 ผู ก้ ้ยู อมใ ห้ ดอกเบ้ยี ตาม จำานวน เงิน ทก่ ี ้แู กผ ่ ู้ ให้ก ู้ใ น อตั ราร อ้ ย ละ..........................ตอ่ ป ี นบั แต ว่ นั ทาำ ส ญั ญาน ี้ เป็นต้น ไป จนกวา่ จ ะ ใช้ต ้น เงินเ สร็จ สิน้ ข้อ 3 ผู้ ก ยู้ อม สัญญาว ่าจ ะ นำา เงนิ ที ก่ ู ้น ม้ี า ชำาระ ใหแ ้ กผ ่ ใู้ ห ก้ ภู้ ายในว นั ท .ี่ ............เดือน.............พ.ศ... ข้อ 4 เพื่อ เป็น ประกัน ใน การ กู้ ยืม เงิน นี้ ผู้ กู้ ได้ นำา.......................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................................................ มอบใ ห้ ไว้ แกผ ่ ู้ให ก้ ู้เ พ่อื ย ดึ ไ ว้เ ป็นป ระกนั เ งินก ้ ู และผ ู้ก ร ู้ บั รองว ่าท รัพย์สินท ่ไ ี ดน ้ ำาม าม อบเ ปน็ ป ระกัน ไว้น เ ี้ ป็นท รพั ยส์ ินข อง ผก้ ู เ้ ู อง และม ไิ ด้ เปน็ ประกนั ห รอื ม ีภ าระต ดิ พนั ใ นห นส ี้ นิ ราย อื่น หรอื ข้อ 5 ผกู้ ต ู้ กลงใ ห้.............................เป็นผ คู้ าำ้ ป ระกันห นร้ี ายน ข้ี องข า้ พเจา้ และใ ห.้ ...............เปน็ ผ ูร้ บั ผ ดิ ร ว่ มก ับข า้ พเจา้ ในห น้ีร าย น ี้ จนกว่าจ ะช าำ ระห นเ ้ี สรจ็ ส ้ิน ขอ้ 6 ผก ู้ ย ู้ อมใ หส ้ ญั ญาว า่ ถา้ ผ ก ู้ ป ู้ ระพฤตผ ิ ดิ ส ญั ญาน ้ี แตข ่ อ้ ห นง่ึ ข อ้ ใ ดผ ก ู้ ย ู้ อมใ หผ ้ ใ ู้ หก ้ เ ู้ รยี กร อ้ งต น้ เ งนิ ก ค ู้ นื ท นั ทแ ี ละย อม เสยี ค า่ เ สยี ห าย ตา่ งๆ ตลอดจ น คา่ พ าหนะแ ละ คา่ ใ ช จ้ า่ ย อน่ื ๆ ท ่ตี อ้ งเ สยี ไ ป เนอื่ งจาก การท วงถาม และค ่าธ รรมเนียม ในก าร ฟอ้ งร อ้ ง คด ี ให แ้ กผ่ ู้ ใหก ้ ้ทู งั้ สนิ้ ข้อ 7 ผเ ู้ ขยี นส ญั ญาไ ดอ ้ า่ นข อ้ ความ ในส ญั ญาใ หผ ้ ก ู้ ฟ ู้ งั โ ดยต ลอดแ ลว้ และผ ก ู้ เ ู้ ขา้ ใจโ ดยล ะเอยี ดท กุ ข อ้ จงึ ล งล ายมอื ชอื่ ใ ห ้ ไว้ ตอ่ หน้า พยาน ลง ลายมือ ชอ่ื ............................................ผก ู้ ู้ ลงล ายมอื ช อื่ ........................................ผ ใู้ ห ก้ ู้ ลง ลายมอื ชื่อ........................................พยาน ลง ลายมอื ชอ่ื ........................................พยาน
มสธ 3-20 กฎหมายพ าณิชย์2:ยมื ฝากท รพั ย์ตวั แทนประกันภ ัย มสธ หลัก ฐาน การ กู้ ยืม เงิน จะ มี ลักษณะ รูป แบบ อย่าง ใดๆ ก็ได้ เพียง แต่ มี ลายมือ ช่ือ ผู้ กู้ เป็น สำาคัญ มี มส ข้อความ แสดง ว่า ได้ เป็น หนี้ กัน จริง ก็ ใช้ได้ ดัง คำา อธิบาย คำา ว่า หลัก ฐาน แห่ง การ กู้ ยืม เป็น หนังสือ ใน ฎ. 439/2493 ศาลฎ ีกา วนิ จิ ฉัย วา่ ปพพ. มาตรา 653 ทว ่ี ่า “ถา้ ม ิได้ม ีหลกั ฐ าน แห่งก าร ก้ย ู มื เป็น หนงั สือ อยา่ งใ ด อย่าง หนงึ่ ล ง ลายมอื ช ื่อ ผ ยู้ มื เปน็ ส ำาคญั ” นนั้ หา ไดม ้ ค ี วาม หมาย เครง่ ครดั ถงึ กบั วา่ จ ะต อ้ ง ม ถี อ้ ยคาำ วา่ ก ยู้ มื เปน็ หลัก ฐาน ใน เอกสาร น้ัน ไม่ เม่ือ โจทก์ ได้ ทำา หลัก ฐาน เป็น หนังสือ อย่าง ใด อย่าง หน่ึง แสดง ความ เป็น หน้ี สิน ลง ลายมอื ช อื่ ลกู ห นแ ี้ ละส บื พยาน หลกั ฐ านป ระกอบ อธบิ ายไ ดว ้ า่ หนส ี้ นิ น นั้ เปน็ หนส ้ี นิ แหง่ การก ย ู้ มื เอกสาร นนั้ ก ็เ ป็นห นงั สอื อ ันเ ปน็ ห ลกั ฐ าน แหง่ ก ารก ู้ ยืม แล้ว การล งล ายมอื ชื่อผ ู้ก ู้ยมื น นั้ จ ะ ลง ใน บรเิ วณใ ด ใน หนังสือ สัญญาก ู้ ยมื หรือห ลกั ฐานอ ื่นๆ กไ็ ด้ จะล งล ายมอื ช ือ่ เ ปน็ ช ่อื ตนเองห รอื ชอื่ บ คุ คลอ ่นื เม่อื ตน ไดล ้ งล ายมอื ชอื่ ใน ฐานะผ ู้ก ู้ย ืม ก็ ต้อง รับ ผิดต าม สัญญา กู้ ยืมเ งนิ ตัวอย่าง หลัก ฐาน แห่ง การ กู้ ยืม อื่นๆ เช่น จดหมาย (ฎ.483/2510) บันทึก การ เป็น หน้ี บันทึก เ ปรียบเ ทยี บ ของ อำาเภอ (ฎ. 1567/2499) รายงาน การ ประชมุ (ฎ. 368/2505) บันทกึ ประจำา วนั ข องส ถานี ตาำ รวจ (ฎ. 644/2509 และ ฎ. 3003/2538) เปน็ ตน้ แตเ ่ ชค็ ไ มใ่ ชห ่ ลกั ฐ านใ นก ารก ย ู้ มื เ งนิ ด งั ม ค ี าำ พ พิ ากษาข อง ศาลฎ กี าไ ดว ้ นิ จิ ฉยั ไ วใ ้ น ฎ. 914/2467 ฎ. 1595/2503 (ป.ใหญ)่ วนิ จิ ฉยั ว า่ “เชค็ ม ไิ ดม ้ ค ี าำ ว า่ ก ห ู้ รอื ย มื ขอ้ ความ ในเ ชค็ ก ไ ็ ม่มเ ี ค้า วา่ เ ป็นการก ย ู้ มื แ ตป ่ ระการใ ด สภาพข องเ ช็คเ ปน็ การใ ชเ ้ งิน ไมใ่ ชก่ าร กหู้ รอื ย ืมเ งิน ฉะน้นั เช็คจ งึ มใิ ชห ่ ลกั ฐ านแ หง่ ก ารก ย ู้ มื ” ใน ฎ. 159/2503 ไดม ้ บ ี นั ทกึ ห มายเหตท ุ า้ ยค าำ พ พิ ากษาฎ กี าข องอ าจารย ์ ยล ธรี ก ลุ วา่ “ปพพ. มาตรา 653 ใชค ้ าำ ว า่ “หลกั ฐ านแ หง่ ก ารก ย ู้ มื เ ปน็ ห นงั สอื ” (written evidence of the loan) ไมใ่ ช ่ “หลกั ฐานเ ปน็ ห นงั สอื ” เฉยๆ เหมอื นก รณอ ี น่ื ๆ ทัง้ นี้ หมายความ ว่า หลกั ฐาน แหง่ ก ารก ้ ยู ืมน ้นั ตอ้ งม ีอะไร บ่งแ สดงใ นห นังสอื น น่ั เองว ่า เป็นการ กย ู้ ืม ดว้ ย สาำ หรับ เชค็ นั้น ตาม มาตรา 987 บญั ญตั ิ แสดง อยว ู่ ่า เชค็ เ ปน็ หนังสือ สั่ง ให้ ธนาคาร จ่าย เงิน ให้ เขา ไป ไม่ใช่ เอา เงิน เขา มา ตาม ปกติ เช็ค ออก ให้ แก่ กัน เพื่อ ชำาระ หนี้ โดย สั่ง ธนาคาร ให้ จ่าย เงิน แก่ ผู้ทรง เช็ค นั้น ข้อความ ใน เช็ค ก็ มิได้ แสดง ให้ เห็น ได้ แต่ อย่างไร เลย ว่า เป็นการ กู้ ยืม ฉะน้นั จงึ เอาพ ยานบ คุ คลม าส ืบ แสดง วา่ ม ก ี ารก ู้ย มื กนั ไม ไ่ ด”้ เหตุผล ใน ท้าย คำา พิพากษา ศาล ฎีกา ดัง กล่าว มี เหตุผล อย่าง ชัดเจน ที เดียว ว่า เหตุ ใด เช็ค จึง ไม่ใช่ หลัก ฐานแ ห่ง การก ู้ย ืม แต่ม ี ปัญหาโ ต้เ ถียงใ น เร่ืองต ๋ัว สัญญาใ ช้ เงิน ว่า เป็น หลัก ฐานแ ห่งก ารก ู้ย ืม เงินห รือไ ม่ เพราะต ว๋ั ส ญั ญาใ ชเ ้ งนิ เ ปน็ ต ว๋ั เ งนิ ช นดิ ห นงึ่ เ ชน่ เ ดยี วก บั เ ชค็ ตาม ปพพ. มาตรา 898 ซงึ่ ใ นว งการธ รุ กจิ ป จั จบุ นั การ กู้ ยืม เงิน ระหว่าง สถาบัน การ เงิน หรือ แม้แต่ ระหว่าง บุคคล ธรรมดา ส่วน มาก ผู้ กู้ ยืม จะ ออก ต๋ัว สัญญา ใช้ เงิน เป็น หลัก ประกัน การ กู้ ยืม เงิน เพราะ ใน ตั๋ว สัญญา ใช้ เงิน นั้น เอง มี ข้อความ ท่ี แสดง ให้ เห็น ว่า เป็น หนี้ กัน อยู่ นกั ก ฎหมายม ค ี วามเ หน็ เปน็ สองฝ ่าย ฝา่ ย หนึง่ เหน็ ว ่า ต๋ัว สัญญาใ ช้ เงินไ มใ่ ชห ่ ลกั ฐ านแ ห่ง การก ้ ูยืมเ งิน โดย ให เ้ หตุผลท าำ นองเ ดียวก บั ใ นเ ร่อื งเ ช็คว า่ ส ภาพข อง ตว๋ั ส ัญญาใ ชเ ้ งนิ เ ป็นการใ ชเ ้ งินไ มใ่ ชก่ าร กห ู้ รอื ย มื เงนิ อีก ฝา่ ยห นงึ่ ม ค ี วามเ หน็ ว า่ ต วั๋ ส ญั ญาใ ชเ ้ งนิ เ ปน็ ห ลกั ฐ านแ หง่ ก ารก ย ู้ มื เ งนิ เพราะต ว๋ั ส ญั ญาใ ชเ ้ งนิ ม ข ี อ้ ความแ สดง ความเ ปน็ ห นก ้ี นั ซงึ่ ผ เ ู้ ขยี นม ค ี วามเ หน็ ด ว้ ยก บั ฝ า่ ยห ลงั เพราะเ หน็ ว า่ ต ว๋ั ส ญั ญาใ ชเ ้ งนิ ม ข ี อ้ ความแ สดงค วาม เปน็ ห นก ้ี นั จรงิ อ ยอ ู่ าจจ ะเ ปน็ ม ลู ห นท ี้ เ ี่ กดิ จ ากก ารซ อ้ื ข ายห รอื อ ยา่ งอ น่ื ก ไ็ ด ้ แตห ่ ลกั ฐ านแ หง่ ก ารก ย ู้ มื เ งนิ ก นั ไมจ ่ าำ ต อ้ งม ถ ี อ้ ยคาำ ว า่ ก ย ู้ มื เ ปน็ ห ลกั ฐ านใ นเ อกสารน นั้ ไ ม ่ (ฎ. 439/2493 (ป. ใหญ)่ ) เพยี งแ ตม ่ ข ี อ้ ความแ สดง ความเ ปน็ ห นต ี้ อ่ ก นั ก ใ ็ ชเ ้ ปน็ ห ลกั ฐ านแ หง่ ก ารก ย ู้ มื เ งนิ ได ้ ซง่ึ ข อ้ น ต ี้ า่ งก บั เ ชค็ ใ นแ งท ่ ว ่ี า่ เชค็ ไ มม่ ข ี อ้ ค วามใ ดๆ ที่แ สดงค วาม เป็นห น้ี กนั ผสู้ ัง่ จ า่ ยเ ช็คอ าจจ ะ เขียนเ ช็คส ั่ง จา่ ย เงิน ใหแ ้ กก ่ นั ใน กรณี ใดๆ ก็ได้ เช่น ใน กรณใ ี ห ้ ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การก ูย้ ืมเงิน 3-21 ดว้ ยค วามเ สนห่ าซ งึ่ เ ดมิ ม ไิ ดม ้ ห ี นต ี้ อ่ ก นั ม าก อ่ น เนอ่ื งจากเ ชค็ เ ปน็ เ ครอ่ื งม อื ใ นก ารด าำ เนนิ ธ รุ กจิ อ ยา่ งห นง่ึ ข อง มสธ ระบบเ ศรษฐกจิ ใ นป จั จบุ นั ซ งึ่ ถ อื วา่ ก ารใ ชเ ้ ชค็ เ ปน็ ว ธิ ห ี นงึ่ ท ก ี่ อ่ ใ หเ ้ กดิ เ งนิ ต ามบ ญั ชก ี ระแสร ายว นั อนั เ ปน็ เ งนิ มส ซง่ึ ส รา้ งโ ดยร ะบบธ นาคาร มว ี ธิ ส ี ง่ั จ า่ ยเ งนิ ด ว้ ยเ ชค็ ดงั น น้ั เชค็ จ งึ ม ใิ ชห ่ ลกั ฐ านแ หง่ ก ารก ย ู้ มื เ งนิ แมบ ้ างก รณ ี การ ออก เช็ค จะ มี มูล เหตุ จาก การ ให้ กู้ ยืม ก็ตาม ปัญหา เร่ือง ต๋ัว สัญญา ใช้ เงิน เป็น หลัก ฐาน แห่ง การ กู้ ยืม เ งนิ ห รอื ไ มน ่ น้ั ไ ดม ้ ค ี าำ พ พิ ากษาศ าลฎ กี าท ว ่ี นิ จิ ฉยั ไ วใ ้ น ฎ. 439/2493 ความว า่ โจทกฟ ์ อ้ งเ รยี กเ งนิ ก โ ู้ ดยอ า้ ง ต๋ัว สัญญา ใช้ เงิน ซึ่ง มี ข้อความ แสดง แต่ เพียง รับรอง ว่า จำาเลย มี หน้ี อัน จะ ต้อง ชำาระ แก่ โจทก์ โดย ไม่มี ถ้อยคำา ชดั ว่า เปน็ ห นี้ เงนิ กู้ หรือห น ี้อย่าง อน่ื โจทก์ย อ่ ม นาำ พยานห ลักฐ านม า สืบ ประกอบว า่ ห น้ ีนนั้ เป็น หนี้ เงิน ก้ ูได้ ประมวล กฎหมาย แพ่ง และ พาณิชย์ มาตรา 653 หา ได้ มี ความ หมาย เคร่งครัด ถึง กับ ว่า จะ ต้อง มี ถอ้ ยคาำ ว า่ ก ย ู้ มื เ ปน็ ห ลกั ฐ านใ นเ อกสารน นั้ ไ ม ่ เมอื่ โ จทกม ์ ห ี ลกั ฐ านเ ปน็ ห นงั สอื แ สดงค วามเ ปน็ ห นล ี้ งล ายมอื ช อื่ ลูกห น แ้ี ลว้ และส ืบพ ยานป ระกอบ อธบิ ายไ ด้ ว่า หน น้ี น้ั เ ป็น หนส ี้ นิ แ ห่ง การ ก ยู้ ืม เอกสารน ้ัน กเ ็ ปน็ หนังสอื อัน เปน็ ห ลกั ฐ านแ หง่ ก ารก ย ู้ มื แ ลว้ คาำ พ พิ ากษาศ าลฎ กี าว นิ จิ ฉยั โ ดยทป ่ี ระชมุ ใ หญแ ่ ละม บ ี นั ทกึ ท า้ ยค าำ พ พิ ากษา ฎีกา โดย อาจารย์ป ระกอบ หุต ะ สิงห์ “คำา พิพากษา คดี น้ี ได้ วางห ลัก ซึ่ง เก่ียว กับ บทบัญญัติ มาตรา 653 ประมวล แพ่ง และ พาณิชย์ ลง ไป ว่า หลัก ฐาน แห่ง การ กู้ ยืม ตาม มาตรา นี้ ไม่ จำาเป็น จะ ต้อง ถึง กับ มี คำา ว่า กู้ ยืม ปรากฏอ ยใ ู่ นเ อกสารน น้ั ด ว้ ย เปน็ แ ตเ ่ พยี งม ห ี ลกั ฐ านเ ปน็ ห นงั สอื ล งล ายมอื ช อ่ื ฝ า่ ยผ ก ู้ ต ู้ อ้ งร บั ผ ดิ อ นั แ สดงถ งึ การเ ปน็ ห นก ี้ นั อ ยก ู่ พ ็ อแลว้ ซงึ่ ผ อ ู้ า้ งเ อกสารน นั้ ย อ่ มม ส ี ทิ ธท ิ จ ี่ ะข อส บื พ ยาน เพอื่ แ สดงว า่ ห นต ี้ ามเ อกสารน นั้ เป็น หน ้แี หง่ การก ู ้ยมื ไ ดต ้ ามม าตรา 94 ปวพ. ความ จริง ถอ้ ยคาำ แ หง่ มาตรา 653 น้เี อง เป็น เหตุ ใหเ้ กดิ ค วาม สงสยั ข น้ึ ไ ด ใ้ นเ รอ่ื ง น ี้ เพราะ ในบ รรดา กจิ การ ทก ี่ ฎหมาย บญั ญตั วิ า่ ตอ้ ง มห ี ลกั ฐานเ ปน็ ห นงั สอื จงึ จะฟ อ้ ง รอ้ ง บงั คับ คดีไ ด น้ นั้ กฎหมายบ ัญญัตไ ิ ว ้ แต เ่ พยี งว ่าต ้องม หี ลกั ฐาน เปน็ ห นังสืออ ยา่ ง ใดอ ยา่ ง หน่งึ ล งล ายมอื ชอื่ ฝา่ ย ทตี่ อ้ ง รบั ผ ิด เป็น สาำ คัญ ดังเ ช่น บทบญั ญัตป ิ ระมวล แพ่ง และ พาณชิ ยม ์ าตรา 456, 538, 680 และ 851 เป็นตน้ แต่ ใน มาตรา 653 น้ เี ป็น พิเศษอ ย ู่ คือ กฎหมายบ ัญญตั วิ า่ ต ้องม หี ลักฐ านแ ห่ง การ กู้ ยืมเ ปน็ ห นงั สอื ลงล ายมอื ช ื่อ ผย ู้ มื จ งึ จะฟ ้องร ้องบ งั คับ คดไ ี ด้ จึงท ำาให้ เกิด ความส งสัยข นึ้ ด ังก ลา่ ว ซึง่ ศาล ฎกี าก ไ็ ด อ้ ธิบายไ ว้ ในค าำ พ พิ ากษาน แ ้ี ลว้ ว า่ ใ นเ อกสารน นั้ ไ มจ ่ าำ ต อ้ งม ถ ี อ้ ยคาำ ว า่ ก ย ู้ มื อ ยด ู่ ว้ ยก ฟ ็ อ้ งร อ้ งไ ด”้ ซง่ึ ใ นเ วลาต อ่ ม าก ม ็ ค ี าำ พิพากษาศ าลฎ กี าย ืนยนั ค วาม เห็นข อง อาจารย์ป ระกอบ หุต ะส งิ ห์ ดังน้ี ฎ.1776/2541คำา ว่า หลกั ฐานเ ปน็ ห นังสือต ามท ีบ ่ ัญญัติไ วใ ้ น ปพพ. มาตรา 653 วรรคห นง่ึ มไิ ด้ เคร่งครัด ถึง กับ ว่า จะ ต้อง มี ถ้อยคำา ว่า กู้ ยืม อยู่ ใน หนังสือ น้ัน เมื่อ เอกสาร มี ข้อความ ระบุ ว่า จำาเลย เป็น หนี้ กู้ ยืม เงิน โจทก์ รวม 116,000 บาท มี ลายมือ ชื่อ จำาเลย ลง ไว้ แม้ ลายมือ ชื่อ มิได้ อยู่ ใน ช่อง ผู้ กู้ แต่ มี ตัว โจทก์ มาส บื ป ระกอบอ ธบิ ายว า่ เ หตท ุ ใ ี่ หจ ้ าำ เลยก ย ู้ มื เ งนิ เ พราะเ หน็ ว า่ จ าำ เลยเ ปน็ ค นน า่ เ ชอ่ื ถ อื ไ ด ้ โดยจ าำ เลยก เ ู้ งนิ ไ ป เพอื่ ท าำ ส วน จาำ เลยเ องก เ ็ บกิ ค วามว า่ ต นม ส ี วนอ ย ู่ 80 ไร ่ ใชป ้ ยุ๋ ค รง้ั ล ะป ระมาณ 2 ตนั เปน็ เ งนิ เ กอื บ 20,000 บาท จาำ เลยถ กู ธ นาคารฟ อ้ งเ รยี กเ งนิ ท ก ่ี ย ู้ มื แสดงว า่ ฐ านะข องจ าำ เลยไ มด ่ น ี กั เมอื่ จ าำ เลยล งล ายมอื ช อื่ ใ นเ อกสารท ี่ มี ขอ้ ความ ระบุ ว่า จำาเลย เป็นห นี้ โจทก จ์ ึง ถอื วา่ เ ปน็ หลกั ฐานแ หง่ ก ารก ้ยู มื ได ้ จาำ เลยต ้องร ับผ ดิ ต ามเ นื้อค วาม ท ปี่ รากฏใ นเ อกสารน ้นั ผเู้ ขยี นเหน็ พ อ้ งด ว้ ยก บั ค วามเหน็ ด งั ก ลา่ วน ้ี เพราะแ มแ้ ตห ่ ลกั ฐ านอ น่ื ๆ เชน่ จดหมายโ ตต้ อบก นั ห รอื หลกั ฐ านอ นื่ ๆ ทม ่ี ข ี อ้ ความว า่ เ ปน็ ห นก ้ี นั โดยไ มม่ ค ี าำ ว า่ ก ย ู้ มื ใ นเ อกสาร กส ็ ามารถน าำ ม าเ ปน็ ห ลกั ฐ านฟ อ้ งร อ้ ง บ งั คบั ค ดเ ี รยี กห นจ ี้ ากผ ก ู้ ย ู้ มื ไ ดด ้ งั ก ลา่ วแ ลว้ ซงึ่ ใ นร ะยะต อ่ ๆ มายงั ไ มป ่ รากฏว า่ ม ค ี าำ พ พิ ากษาศ าลฎ กี าฉ บบั ใ ด ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-22 กฎหมายพ าณชิ ย์2:ยืมฝากท รัพย์ตวั แทนประกันภ ยั มสธ ท ว่ี นิ จิ ฉยั ใ นเ ร่ืองก ารใ ช ต้ ว๋ั ส ัญญาใ ช้เ งิน เปน็ ห ลัก ฐานแ ห่ง การ ก ยู้ ืม เงนิ ได้ ชัดเจน เท่า ฎ. 439/2493 นี้ แม จ้ ะ มส มค ี าำ พ พิ ากษาศ าลฎ กี าท ว ี่ นิ จิ ฉยั ใ นเ รอื่ งก ารก ย ู้ มื เ งนิ โดยอ อกต วั๋ ส ญั ญาใ ชเ ้ งนิ ช าำ ระห นใ ี้ หแ ้ กผ ่ ใ ู้ หก ้ ย ู้ มื กม ็ ไิ ด ้ วินจิ ฉัย ในป ระเดน็ ท ี่ว่า ตัว๋ สัญญาใ ช้เ งิน เป็นห ลกั ฐ านแ ห่งก ารก ูย ้ ืมเ งนิ หรอื ไม ่ ดังน ัย ฎ. ที่ 592/2510 ความ วา่ “จำาเลย ก เู้ งนิ โจทก์แ ลว้ ออกต ๋วั ส ญั ญา ใช้เ งินช ำาระห นี้ โจทก์ เม่ือโ จทกฟ ์ อ้ งเ รียก เงนิ ตาม ต๋ัวส ญั ญา ใช้เ งิน มิได้ ฟ้อง ตาม สัญญา กู้ ยืม เงิน จึง ไม่ ต้อง มี หลัก ฐาน การ กู้ ยืม เงิน เป็น หนังสือ มา แสดง เมื่อ จำาเลย ไม่ อาจ เถียง ได้ว ่า ต๋วั สญั ญาใ ช้ เงนิ น ัน้ ปราศจาก มลู ห นี้จ าำ เลยจ ึง ตอ้ งร ับผ ิด ตาม ตั๋วส ัญญา ใช ้เงิน นนั้ ” ในค ำา พพิ ากษาศ าล ฎกี าฉ บบั น ้ ี มิไดว ้ ินจิ ฉัย ตรงป ระเดน็ ท วี ่ ่า ตว๋ั สัญญาใ ช เ้ งนิ เ ป็นห ลกั ฐ านแ หง่ ก ารก ยู้ ืม เงนิ ห รอื ไ ม ่ เพราะโ จทก ์ ใน คดีน ้ี ฟ้องเ รียก หน้ี ตามต ๋ัวส ัญญาใ ช้เ งิน มิใช่เ รียกห น้ี ตาม สัญญาก ู้ ยืม เงิน หาก กรณีน ี้ โจทก์ฟ ้องเ รียก หนี้ ตาม สัญญา กู้ ยืม เงิน โดย อ้าง ต๋ัว สัญญา ใช้ เงิน เป็น หลัก ฐาน แห่ง การ กู้ ยืม เงิน ศาล ฎีกา จะ วินิจฉัย ไป ใน รูป ใด ผ้ เู ขยี น เห็นว ่าศ าลฎ กี าอ าจ จะ วินจิ ฉยั ย ืน ตาม ฎ. 439/2493 หรือว ินจิ ฉัย ตาม ฎ. 1595/2503 ก็อ าจเ ป็น ไป ได ต้ ามเ หตุผล ท ไี่ ด้ก ล่าว มา แล้ว ข้างต ้น ขอ้ ส งั เกต เหตท ุ ม ่ี ก ี ารโ ตเ ้ ถยี งก นั ว า่ ต วั๋ ส ญั ญาใ ชเ ้ งนิ ห รอื เ ชค็ เ ปน็ ห ลกั ฐ านแ หง่ ก ารก ย ู้ มื ก นั ห รอื ไ ม ่ ก ็ เพราะ คู่ส ัญญา จะอ าศยั ประโยชน์ จากเ รือ่ ง อายคุ วาม หากฟ อ้ ง โดย อาศยั เรอ่ื ง ตว๋ั สญั ญาใ ช ้เงิน หรอื เ ชค็ อาย ุ ความใ นก ารฟ อ้ งร อ้ งจ ะส น้ั เ พยี ง 3 ปห ี รอื 1 ป ี ตาม ปพพ. มาตรา 1001, 1002 สว่ นก ารฟ อ้ งร อ้ งต ามส ญั ญาก ย ู้ มื อายค ุ วามก ารฟ ้องร ้อง มีก าำ หนดถ ึง 10 ปี ตาม ปพพ. มาตรา 193/30 สว่ น เอกสารอ ่นื ๆ จะ ถอื เป็น หลกั ฐาน แห่ง การ กู้ ยืม เงิน หรือ ไม่ ดัง เช่น แบบ พิมพ์ ถอน เงิน ออมสิน ก็ มิใช่ หลัก ฐาน การ กู้ ยืม เงิน ดัง วินิจฉัย ใน ฎ. 1468/2511 “เอกสาร แบบ พิมพ์ ถอน เงิน ออมสิน จะ ต้อง พิจารณา รวม กัน ตลอด ทั้ง ฉบับ มิใช่ พิจารณา แบ่ง แยก เปน็ บ างส ว่ นบ างต อน เมอื่ อ า่ นร วมท งั้ ฉ บบั ก ไ็ ดค ้ วามว า่ โจทกผ ์ เ ู้ ปน็ เ จา้ ของบ ญั ชอ ี อมสนิ ไ ดถ ้ อนเ งนิ จ ากธ นาคาร ออมสิน เป็น จำานวน 9,800 บาท โดย มอบ ฉันทะ ให้ จำาเลย เป็น ผู้รับ เงิน แทน และ จำาเลย ได้ รับ เงิน จำานวน น้ัน จาก ธนาคารอ อมสนิ แ ลว้ เปน็ เ รอื่ งก ารม อบอ าำ นาจใ หผ ้ อ ู้ น่ื ร บั เ งนิ แ ทน มข ี อ้ ความเ ปน็ ค วามห มายช ดั แ จง้ นอกจากน น้ั เอกสารแ บบพ มิ พถ ์ อนเ งนิ อ อมสนิ ก ม ็ ไิ ดม ้ เ ี คา้ ม ลู ว า่ เ ปน็ การก ย ู้ มื แ ตป ่ ระการใ ด ฉะนน้ั จ งึ ไ มเ ่ ปน็ ห ลกั ฐ านแ หง่ ก าร ก ูย้ ืมต าม ปพพ. มาตรา 653 จะ นาำ สบื พ ยาน บุคคล ว่า เป็นห ลกั ฐ านแ หง่ การก ู้ยมื เงนิ ห า ได้ไ ม่” อยา่ งไรก ต็ าม แมห ้ ลกั ฐ านก ารก ย ู้ มื เ งนิ ไ มจ ่ าำ ต อ้ งม ข ี อ้ ความว า่ ก ย ู้ มื เ งนิ แตค ่ วรม ข ี อ้ ความใ ดท ท ่ี าำ ให ้ ผอ ู้ า่ นเ ขา้ ใจไ ดว ้ า่ ค ก ู่ รณม ี ห ี นก ี้ นั ต ามส ญั ญาก ู้ ดงั ต วั อยา่ งค าำ พ พิ ากษาศ าลฎ กี าต อ่ ไ ปน ไ ี้ มถ ่ อื วา่ เ ปน็ ห นก ี้ ย ู้ มื ก นั ฎ.3809/2526ตอนบ นข องเ อกสาร มชี อื่ แ ละน ามสกลุ ของจ าำ เลยถ ดั ไ ปเ ปน็ ร ายการ ลงว นั เ ดอื น ปแ ี ละ มข ี ้อความ ว่า “เอา เงิน” กบั จ าำ นวนเ งนิ ตา่ งๆ กัน รวม 12 รายการ อกี 5 รายการ ม ขี อ้ ความ วา่ “ขา้ วสาร” และ ลงจ ำานวนไ ว้ว ่า 1 กิโลกรมั บ ้าง 1 ถังบ ้าง 3 ถังบ ้าง และ ทุก รายการ มีช่อื จำาเลยล ง กาำ กับ ไว ้ ดงั นเี ้ อกสาร ดงั กล่าวไ มเ่ ป็น หลัก ฐานแ หง่ การ กู้ ยมื เงินต าม ปพพ. มาตรา 653 ฎ.2757/2528 ความ ใน เอกสาร มี ว่า อ. ท่ี นับถือ ผม ให้ ส. มา หา ผม กำาลัง ว่ิง หา ซ้ือ ของ จะ ขึ้น ไป หน่วย งาน ที่ ผม เรียน ไว้ เม่ือ เช้า ว่า จะ เอา คืน ก่อน 400,000 บาท ผม คิด รายการ ท่ี จำาเป็น จะ ต้อง ใช้ ดู ไม่ ค่อย พอด ี จงึ เ ขยี นเ ชค็ ม าใ ห ้ 450,000 บาท ขอใ หค ้ ณุ จ า่ ยธ นาคาร อ. ผมจ ะใ ห ้ ส. ไปท าำ แ คชเชยี รเ ์ ชค็ จ ากธ นาคาร ดังน้ี ไม่มี ข้อความ ตอน ใด พอท่ี จะ แสดง ว่า มี การ กู้ ยืม เงิน กัน หรือ จำาเลย เป็น ลูก หนี้ โจทก์ จะ ใช้ เงิน คืนให้ โจทก์ จึงไ มใ่ ช่ห ลกั ฐ านแ หง่ ก าร กย ู้ มื ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การกูย้ ืมเงิน 3-23 มสธ เช็ค ท่ี จำาเลย ลงชื่อ เป็น ผู้ สั่ง จ่าย มอบ ให้ แก่ โจทก์ ก็ ดี หรือ เช็ค ที่ โจทก์ ออก ให้ แก่ จำาเลย และ จำาเลย นำา มส ไปร ับ เงินแ ล้ว ก็ ด ี ไม่เ ป็น หลกั ฐ าน แหง่ การ กยู้ ตื าม ปพพ. มาตรา 653 กรณี ทำา สัญญา กู้ ยืม เงิน กัน โดย นำา ดอกเบี้ยเ กิน อัตราร วม เป็นต้น เงิน ด้วย เมื่อ แยก ดอกเบ้ียส ่วน ท่ี เป็นโ มฆะอ อก ส่วน ท่เ ี หลอื เปน็ เ งิน ตน้ สามารถน ำา มาเ ป็นห ลักฐ าน ในก าร ฟอ้ งร ้องบ ังคับ คดีไ ด้ อุทาหรณ์ ฎ.2657/2534โจทกใ ์ หจ ้ าำ เลยก ย ู้ มื เ งนิ โ ดยค ดิ ด อกเบยี้ เ กนิ อ ตั ราท ก ่ี ฎหมายก าำ หนด แตจ ่ าำ เลยย นิ ยอม ใหเ ้ อาด อกเบยี้ ร วมก บั ต น้ เ งนิ ก รอกล งใ นส ญั ญาก ู้ จงึ ไ มเ ่ ปน็ เ อกสารป ลอมโ ดยแ ยกส ว่ นต น้ เ งนิ ท ส ่ี มบรู ณอ ์ อก ตา่ งห าก ได ้ สัญญาก ค ู้ ง ตก เปน็ โมฆะ เฉพาะส ว่ นด อกเบยี้ หาต ก เปน็ โ มฆะท ้งั ฉ บบั ไม่ ฎ.4690/2540จาำ เลยท ี่ 1 และ จาำ เลยท ี่ 2 ทำาส ญั ญา กูย้ มื และค า้ำ ป ระกันก ับ โจทก์ ตาม ลาำ ดับ จำาเลย ทั้ง สอง รู้ และ ยินยอม ให้ โจทก์ คำานวณ ดอกเบี้ย เกิน กว่า อัตรา ท่ี กฎหมาย กำาหนด รวม เข้า เป็น เงิน ต้น ด้วย นั้น เป็น นิติกรรม ที่ มุ่งโ ดยตรง ต่อ การ ผูก นิติ สัมพันธ์ ข้ึนร ะหว่าง โจทก์ และ จำาเลย ท้ังส อง สัญญา กู้ ยืม และ สัญญา คา้ำ ป ระกนั ด งั ก ลา่ วม ผ ี ลใ ชบ ้ งั คบั ไ ดห ้ าเ ปน็ โ มฆะท ง้ั ฉ บบั ไ ม ่ เฉพาะด อกเบย้ี เกนิ ก วา่ อ ตั ราท ก ี่ ฎหมาย กาำ หนด และน าำ ไ ปค าำ นวณเ ปน็ เ งนิ ต น้ เ ป็นการก ระทำาท ม ี่ ว ี ตั ถปุ ระสงคเ์ ป็นการต ้องห ้ามช ัดแ จ้งโ ดยก ฎหมายย ่อมต ก เป็น โมฆะ นอกจากน ้ี การท าำ น ติ กิ รรมอ าำ พรางส ญั ญาก ย ู้ มื เ งนิ ส ญั ญาท ท ี่ าำ ข น้ึ เ พอื่ อ าำ พรางน ติ กิ รรมก ย ู้ มื เ งนิ จ ะ เป็นโ มฆะ แต่ถ ือว่า สัญญาน น้ั เป็น นติ ิกรรมส ัญญาก ย ู้ มื เงินท ีเ ่ ปน็ ลาย ลกั ษณ ์อักษร ฎ. 1050/2536 สัญญา จะ ซื้อ ขาย ที่ดิน ระหว่าง โจทก์ จำาเลย ซ่ึง ทำา เป็น หนังสือ ทำา ข้ึน เพ่ือ อำาพราง นิติกรรมก าร กู้ย ืม เงนิ นติ กิ รรม การ จะ ซอื้ ข ายจ งึ เ ป็น โมฆะ ตาม ปพพ. มาตรา 118 วรรค แรก หนง่ึ (มาตรา 155 วรรคห นง่ึ ) และต อ้ งบ งั คบั ต ามน ติ กิ รรมก ารก ย ู้ มื เ งนิ ซ งึ่ เ ปน็ น ติ กิ รรมท ถ ี่ กู อ าำ พรางไ วต ้ าม ปพพ. มาตรา 118 วรรค สอง เดิม (มาตรา 155 วรรค สอง) และ แม ้ใน กรณี เชน่ น้ ีจะ มไิ ด ้ม ีหลกั ฐาน แหง่ การ ก ู้ยมื เงิน เป็น หนังสืออ ย่าง ใด อย่างห นึ่ง ลง ลายมือช ื่อ จำาเลยเ ป็นส ำาคัญต ่างห ากจ ากส ัญญาจ ะซ ื้อข ายก ็ตาม ย่อม ถือ ได้ว ่า สญั ญาจ ะซ อื้ ขาย เปน็ น ิติกรรม สญั ญาก ยู้ ืมเ งนิ ท ท่ี าำ ก ัน ไว ้เปน็ ล าย ลกั ษณ ์อกั ษร ระหว่างจ ำาเลยก ับ โจทก์ จึงม ี ผลบ ังคับก นั ได้ เม่ือจ าำ เลย ยอมช ำาระ เงนิ ท ่ก ี ยู้ ืมค นื แ กโ ่ จทก์ โจทก ก์ ต ็ อ้ งค นื ท่ดี ิน พพิ าทท ่ีทำา กิน ต่าง ดอกเบี้ย และ นส.3 ก. ให แ้ ก่จ ำาเลย ฎ.1579/2552โจทกม ์ ห ี นงั สอื ส ญั ญาก ู้ 2 ฉบบั ทจ ี่ าำ เลยท ง้ั ส ามเ ถยี งว า่ โจทกล ์ วงใ หจ ้ าำ เลยท ี่ 1 ลงชอ่ื ผูกพันเ ปน็ ผู ้กู้ไ ว้ก ่อน อีก ท้ัง อ. พยานโ จทก ซ็ ง่ึ มี ตำาแหนง่ เ ป็น ผชู้ ่วย ผู้จ ดั การ ด้าน สนิ เชื่อ สาขาห าดใหญ่ ของ โจทกม ์ าเ บิก ความร ับรอง ดว้ ย วา่ หลัง จาก โจทก อ์ นุมัตใ ิ ห จ้ ำาเลย ท่ ี 1 ก้ ู จำาเลย ท่ี 1 กไ็ ดร ้ บั เ งิน กทู ้ ัง้ 2 จำานวน ไป จากโ จทก์ค รบถ ว้ นแ ล้ว โดย จำาเลย ท ่ี 1 ลงชื่อ รับ เงนิ ไ ว้ เมอ่ื จาำ เลย ท่ี 1 มิไดป ้ ฏเิ สธ ว่า ลายมือ ช่ือ ผู้ก ู้ มิใช ่ เป็นข อง จำาเลยท ่ี 1 จงึ ถือว่า โจทกม ์ ี หลักฐ านก ารก ู้ ยมื เ งนิ เป็นห นังสือ ตามก ฎหมาย แล้ว กรณี ท่ี มี หนังสือ สัญญา กู้ ยืม เงิน เป็น หลัก ฐาน การ กู้ ยืม ต่อ มา มี การ แก้ไข ต่อ เติม ตัวเลข ลง ใน ตัว หนงั สือ สญั ญาฉ บบั น ั้น ปญั หาเ ร่อื งก ารแ ก้ไขต อ่ เ ตมิ ต ัวเลขใ นห นังสอื ส ญั ญา กย้ ู มื เ งินน ั้น ตวั หนงั สอื สัญญา ก ูย้ ืมเ งินจ ะใ ช ้เปน็ หลกั ฐาน ในก ารฟ อ้ ง รอ้ งไ ดห้ รอื ไม่ ศาล ฎีกา ได ว้ นิ ิจฉัย ไวด ้ ังน้ี ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-24 กฎหมายพ าณิชย์2:ยมื ฝากท รัพย์ตัวแทนประกันภ ยั มสธ อุทาหรณ์มส ฎ.761/2509(ป.ใหญ)่ จาำ เลยท าำ สัญญา กเู้ งนิ ไ วใ ้ ห้โ จทก ์จำานวน หน่งึ ตอ่ มา โจทก ล์ อบเ ติมเ ลข 1 ลง หนา้ จ าำ นวนเ งนิ ใ นเ อกสารน นั้ ทาำ ใหจ ้ าำ นวนเ งนิ ก ม ู้ ากข น้ึ แ ลว้ เ อาเ อกสารน น้ั ม าฟ อ้ งเ รยี กเ งนิ จ ากจ าำ เลย ศาล พิพากษาใ หจ ้ ำาเลย ชาำ ระ เงนิ จ ำานวนเ ดมิ คอื จ าำ นวน ท่ีจ ำาเลยย ืมไ ป ได ้ การเตมิ เลข1ลงเพือ่ เพม่ิ จ าำ นวนเงินก ู้ เดิมไ มท่ าำ ใหห้ ลักฐ านการก ู้ยมื เงนิ เปน็ ห นังสือเดมิ เสียไป (ฎ.1149/2552) แต่ถ ้าไ ด้ ความว ่า สัญญาก ้ ูยืมเ งนิ เป็นเ อกสาร ปลอมก ็ ใชเ ้ ป็นห ลกั ฐ านใ น การก ้ ยู มื เ งิน ไมไ ่ ด้ อุทาหรณ์ ฎ. 431/2544 การ ท่ี โจทก์ กรอก ข้อความ ลง ใน สัญญา กู้ ยืม เงิน และ สัญญา ค้ำา ประกัน ท่ี จำาเลย ลง ลายมอื ช อ่ื แตย ่ งั ไ มไ ่ ดก ้ รอกข อ้ ความอ นื่ ใ ดว า่ ไ ดม ้ ก ี ารก ย ู้ มื เ งนิ แ ละค าำ้ ป ระกนั ใ นจ าำ นวนเ งนิ ถ งึ 100,000 บาท เกนิ กว่า จาำ นวน หนี้ ท่ ีเปน็ จรงิ โ ดยจ าำ เลยท ้ังส องม ิได้ รู้เ ห็น ยินยอมด ้วย สญั ญาก ย ู้ มื เงิน และส ัญญาค าำ้ ป ระกนั จึง ไม่ สมบูรณ์ ทำาให้ เอกสาร น้ัน เป็น เอกสาร ปลอม โจทก์ จึง อ้าง เอกสาร นั้น มา เป็น พยาน หลัก ฐาน ใน คดี อยา่ งใ ดไ มไ ่ ด ้ ฉะนน้ั การก เ ู้ งนิ แ ละก ารค าำ้ ป ระกนั ท ฟ ี่ อ้ ง จงึ ถ อื วา่ ไ มม่ พ ี ยานห ลกั ฐ านเ ปน็ ห นงั สอื ท จ ่ี ะฟ อ้ งร อ้ ง ให้บ งั คับค ดี ได้ต าม ปพพ. มาตรา 653 และ มาตรา 680 ฎ.1806/2546โจทก อ์ า้ งว ่า จาำ เลย ก้ ยู ืม เงนิ โจทก์ 110,000 บาท แต จ่ ำาเลย อา้ งว ่าก ้ ยู มื เงนิ โจทก์เ พยี ง 40,000 บาท สญั ญา ก ู้ยมื เ งิน เป็น เอกสารป ลอม โจทก์ มีหนา้ ท ีน่ ำาสบื ใ ห เ้ หน็ ว ่า สญั ญาก ย ู้ มื เงินเ ป็น เอกสาร ทแ่ี ทจ้ ริง เม่ือพ ยาน หลกั ฐ านโ จทก แ์ ละจ าำ เลยน ำาสบื ร บั ฟ งั ไดว ้ า่ สญั ญาก ย ู้ ืมเ งนิ เ ป็นเ อกสาร ปลอมโ ดย โจทก ์ กรอก ขอ้ ความ ภาย หลัง โจทกจ ์ ึงต อ้ ง เปน็ ฝ่าย แพ้ ฎ.2518/2547จำาเลย ได้ก ้ ูเงินไ ปเ พยี ง 30,000 บาท แต่ โจทก์ก ลับไ ป กรอกข อ้ ความใ น สญั ญาเ งินก ู้ เป็น เงินถ ึง 109,000 บาท โดย จาำ เลย ไม่ ไดย้ นิ ย อม สัญญา กูจ้ ึง เป็นเ อกสาร ปลอม โจทก์ ไม อ่ าจ นาำ มา ใชเ ้ ปน็ พยาน หลัก ฐาน ใน การ ฟ้อง คดี ได้ เม่ือ เงิน กู้ จำานวน ดัง กล่าว ไม่มี หลัก ฐาน เป็น หนังสือ ลง ลายมือ ช่ือ จำาเลย ซึ่ง เปน็ ผ ู้ก ม้ ู า แสดงโ จทก ์จึง ไม่อ าจฟ อ้ ง รอ้ ง บังคบั คดีใ ห จ้ ำาเลยร ับผ ดิ ชำาระ หน้ี เงนิ ก แ ู้ กโ ่ จทก์ ได้ ฎ.1539/2548ขอ้ เทจ็ จ รงิ ร บั ฟงั ได ้ว่า จาำ เลย ท่ี 1 กูย ้ ืมเ งนิ ไ ป จากโ จทก์เ พียง 45,000 บาท และล ง ลายมอื ช อ่ื ใน สัญญา กย ู้ มื เ งนิ ท ย ่ี งั ไ มไ ่ ดก ้ รอก จาำ นวนเ งนิ ไ ว ้ แล้วม กี ารนาำ ส ญั ญาก ย ู้ ืมเ งินไ ปก รอกจ าำ นวนเ งนิ กเ ู้ ปน็ 200,000 บาท ในภ ายห ลงั เ กนิ ก วา่ จ าำ นวนเ งนิ ก ท ู้ แี่ ทจ ้ รงิ โดยจ าำ เลยท ่ี 1 ไมไ ่ ดย้ นิ ย อม สญั ญาก ย ู้ มื เ งนิ ดงั ก ลา่ วจ งึ เ ปน็ เ อกสารป ลอม ถอื ไ ดว ้ า่ โ จทกม ์ ไิ ดม ้ ห ี ลกั ฐ านแ หง่ ก ารก ย ู้ มื เ งนิ เ ปน็ ห นงั สอื โจกท จ ์ งึ ไ มอ ่ าจฟ อ้ ง ร้องใ หบ ้ ังคับ คดไี ด ้ ตาม ปพพ. มาตรา 653 วรรค หนึ่ง ดัง นัน้ แม้ จำาเลย ท ่ี 1 ให้การ รับว า่ ไ ด้ก แู้ ละร บั เงนิ ก้ ู ไปเ ปน็ เงิน 45,000 บาท จาำ เลย ที่ 1 กไ ็ ม่ ต้อง รบั ผ ดิ ฎ.552/2548จาำ เลยท ี่ 1 กย ู้ มื เ งนิ โ จทก ์ 20,000 บาท โจทกค ์ ดิ ด อกเบย้ี อ ตั ราร อ้ ยล ะ 10 ตอ่ เ ดอื น จาำ เลย ท ่ี 1 ชาำ ระด อกเบยี้ แ กโ ่ จทกป ์ ระมาณ 50,000 บาท เมอ่ื จ าำ เลยท ี่ 1 หยดุ ช าำ ระด อกเบยี้ ด งั ก ลา่ ว โจทกจ ์ งึ น าำ ส ญั ญา ก้เู งนิ ท ่ ีจำาเลย ท่ี 1 ลง ลายมือช อื่ ไ ว้ และส ญั ญา ค้ำาป ระกนั ท ่ีจำาเลย ท ่ี 2 พิมพล ์ าย นว้ิ มอื ไวม ้ ากร อกข อ้ ความ ใน ภาย หลงั เกิน กว่าค วาม เป็นจ ริง โดย จาำ เลยท ้ัง สอง มไิ ด ร้ ู้เห็นย ินยอมด ว้ ย สัญญา ก้ เู งิน และส ญั ญา คำา้ ป ระกนั จงึ เป็น เอกสาร ปลอม ถือวา่ การก ยู้ มื เ งินแ ละก ารค ำา้ ประกนั ค ด นี ี้ไ มม่ หี ลกั ฐ าน เปน็ หนังสอื โจทก์ ไม ่อาจฟ ้อง บังคบั ให จ้ ำาเลย ท้งั สองช าำ ระ ต้น เงนิ พรอ้ ม ดอกเบี้ย แก โ่ จทก์ไ ด้ ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การก ยู้ ืมเงนิ 3-25 ฎ. 625/2548 ข้อ ที่ จำาเลย ทั้ง สอง ให้การ ต่อสู้ คดี ว่า ไม่ ต้อง รับ ผิด ตาม สัญญา กู้ เงิน ที่ โจทก์ นำา มา ฟ้อง มสธ เนื่องจากจ ำาเลยท ้ัง สอง กู้ ยืมเ งิน เพียง 100,000 บาท แต่ โจทก์ กรอกจ ำานวน เงิน ในส ัญญา กู้ เงินเ ป็น จำานวน มส 275,000 บาท โดยจ ำาเลยท ัง้ สองไ ม่ ยนิ ยอมส ัญญาก ู้เ งนิ จึงเ ป็น เอกสาร ปลอมน ั้น หากข อ้ เท็จ จริงร บั ฟังได ้ ตาม ท่ี จำาเลย ท้ัง สอง อ้าง ก็ ย่อม มี ผล ทำาให้ สิทธิ เรียก ร้อง ตาม คำาฟ้อง ของ โจทก์ ไม่ ได้ รับ การ บังคับ ให้ ตาม กฎหมายแ ละ ศาล ย่อม นำา มา เป็น เหตุ ยกฟ้อง ได้ อยู่ แล้ว จำาเลย ท้ัง สอง หา จำา ต้อง ฟ้อง แย้ง ขอ ให้ บังคับ โจทก์ รับช ำาระ หนี้ 100,000 บาท พรอ้ มด อกเบ้ยี และใ ห โ้ จทก์ส ง่ ม อบ สัญญาก เ ู้ งินป ลอมแ ก จ่ าำ เลย ทั้งส อง เพ่ือน าำ ไป ทำาลาย ประการ ใด ไม่ ท้ัง คำาขอ ตาม ฟ้อง แย้ง ดัง กล่าว ศาล ก็ ไม่ อาจ บังคับ ให้ ได้ เพราะ หาก สัญญา กู้ เงิน ตาม ฟ้อง เป็น เอกสาร ปลอม ก็ เท่ากับ การ กู้ ยืม เงิน ราย นี้ ไม่มี หลัก ฐาน เป็น หนังสือ โจทก์ ไม่ อาจ นำา มา ฟ้อง รอ้ งบ ังคบั เ อา แก่ จาำ เลยท ง้ั สอง ได้ ฎ.1651/2548 จาำ เลยก เ ู้ งนิ โ จทกจ ์ าำ นวน 10,000 บาท และไ ดล ้ งล ายมอื ช อื่ ไ วใ ้ นแ บบพ มิ พห ์ นงั สอื ส ญั ญา กู้ เงิน ที่ ยัง ไม่ ได้ กรอก ข้อความ มอบ ไว้ ให้ แก่ โจทก์ ต่อ มา โจทก์ ได้ กรอก ข้อความ และ จำานวน เงิน ใน หนังสือ สญั ญาก เ ู้ งนิ ว า่ จาำ เลยก เ ู้ งนิ โ จทกไ ์ ป 300,000 บาท โดยจ าำ เลยม ไิ ดร ้ เ ู้ หน็ ย นิ ยอมด ว้ ยส ญั ญาก เ ู้ งนิ ต ามฟ อ้ งจ งึ เปน็ เ อกสารป ลอม โจทกจ ์ งึ ไ มอ ่ าจอ า้ งเ อกสารด งั ก ลา่ วม าเ ปน็ พ ยานห ลกั ฐ านใ นค ดไ ี ด ้ ถอื วา่ โ จทกไ ์ มม่ ห ี ลกั ฐ าน แ หง่ การ กู้ ยมื เปน็ ห นังสอื ทจ ี่ ะฟ อ้ ง ร้อง ให้ บังคบั ค ดี ได้ ตาม ปพพ. มาตรา 653 วรรค หนึ่ง ฎ.1903/2548จำาเลยเ ขียน วัน ท ี่ ชอ่ื แ ละท อ ี่ ยู่ ของ จาำ เลย กับล งล ายมือช ่ือใ นช ่อง ผู้ก ใ้ ู น สญั ญา กแ ู้ ล้ว มอบ ไวแ ้ ก โ่ จทก ์ เมอื่ ม กี ารกร อกข อ้ ความ อนื่ ๆ รวม ทงั้ จาำ นวน เงนิ ก ลู้ งใ น สญั ญาก ใู้ น ภาย หลงั โ ดย จาำ เลย มไิ ด ้ รเ ู้ หน็ ยนิ ยอม สญั ญาก ด ู้ งั กลา่ ว จงึ เ ปน็ เอกสารป ลอม และ ถอื ได ว้ า่ โ จทกไ ์ มม่ พี ยานห ลกั ฐ านแ หง่ การก ย ู้ มื เงนิ ท ่ีจะ ฟอ้ ง บังคบั จ ำาเลยไ ด้ จาำ เลย จงึ ไม่ต อ้ งร ับ ผดิ ต่อ โจทก์ ฎ.7541/2548 จาำ เลยท ้งั สองไ ด้ล ง ลายมือช ื่อ ในห นังสือ สญั ญาก ู้เงิน ในช ่องผ ู้ก โ ู้ ดยย งั ไ ม่ม กี ารก รอก ขอ้ ความ โจทกไ ์ ดก ้ รอกข อ้ ความใ นภ ายห ลงั ซ ง่ึ จ าำ นวนเ งนิ น นั้ เ กนิ ก วา่ จ าำ นวนห นท ้ี เ ่ี ปน็ จ รงิ โดยจ าำ เลยท ง้ั ส อง มไิ ดร ้ เ ู้ หน็ ย นิ ยอม ดว้ ย หนงั สอื ส ญั ญาก เ ู้ งนิ จ งึ ไ มส ่ มบรู ณ ์ เอกสาร ดงั ก ลา่ ว จงึ เ ปน็ เ อกสาร ปลอม โจทก จ์ ะอ า้ ง เอกสารน น้ั ม าเ ปน็ พ ยานห ลกั ฐ านใ นค ดอ ี ยา่ งใ ดไ มไ ่ ด ้ การก ย ู้ มื เ งนิ ต ามฟ อ้ งจ งึ ไ มม่ ห ี ลกั ฐ านเ ปน็ ห นงั สอื ท จ ่ี ะ ฟอ้ ง ร้อง ให บ้ งั คับค ด ไี ด้ ตาม ปพพ. มาตรา 653 วรรค หน่ึง อนง่ึ กรณท ี ม ี่ ก ี ารก ย ู้ มื เ งนิ ก นั จ รงิ แตต ่ วั ห นงั สอื ส ญั ญาไ มต ่ รงก บั เ งนิ ท ไ ่ี ดก ้ ย ู้ มื ก นั ไ ป หนงั สอื ส ญั ญา กูย ้ ืมก ใ็ ช้ เปน็ หลัก ฐาน ในก ารฟ อ้ ง รอ้ ง คดี ได้ ฎ.2335/2548จำาเลย กู้ เงิน โจทก์ ไป 500,000 บาท ต่อ มา จำาเลย ได้ ติดต่อ ขอ กู้ เงิน โจทก์ อีก 4,000,000 บาท แลว้ โ จทกก ์ บั จ าำ เลยไ ดท ้ าำ ห นงั ส อ ื สญั ญ าก ย ู้ มื เ งนิ โ ดยร ะบร ุ วมเ อาจ าำ นวนเ งนิ 500,000 บาท ท จี่ ำาเลย ก จู้ ากโ จทกไ์ ป ก่อนห นา้ น ัน้ เข้า ไว้ ด้วย รวม เปน็ เ งนิ ท ั้งส น้ิ 4,500,000 บาท แมก ้ ารก เ ู้ งินก ัน จาำ นวน 4,000,000 บาท ใน ภายห ลงั จะไ ม่ เกิด ข้นึ หนังสอื สญั ญาก ย ู้ ืมเ งนิ ดัง กลา่ วก ย ็ งั มผ ี ลส มบรู ณ์ บังคบั กนั ไ ด ้ใน หน จ้ี ำานวน 500,000 บาท ท ีม่ ี การ ก ยู้ มื ก นั จริง และถ อื วา่ โ จทกม ์ ีหลักฐ าน เป็น หนังสอื ท ี จ่ ะฟ อ้ งร ้อง ให ้บังคับ คด ใี น หน้ี เงินก ูย้ ืมจ ำานวน 500,000 บาท แล้วต าม บทบัญญัติแ หง่ ปพพ. มาตรา 653 วรรคห นึ่ง ฎ.5685/2548หนงั สอื ส ญั ญาก เ ู้ งนิ ม ก ี ารกร อกข อ้ ความว า่ จ าำ เลยท ี่ 1 ไดก ้ เ ู้ งนิ โ จทกจ ์ าำ นวน 400,000 บาท และห นงั สอื ส ญั ญาค า้ำ ป ระกนั ม ก ี ารกร อกข อ้ ความว า่ จ าำ เลยท ่ี 2 คาำ้ ป ระกนั เ งนิ ก ด ู้ งั ก ลา่ วใ หแ ้ กโ ่ จทก ์ อนั เ ปน็ การ กรอกข อ้ ความท ม ี่ ม ี ลู ห นก ี้ นั จ รงิ แมจ ้ ะเ ปน็ การก รอกข อ้ ความภ ายห ลงั ท จ ี่ าำ เลยท งั้ ส องล งล ายมอื ช อื่ ใ นส ญั ญา ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-26 กฎหมายพ าณิชย์2:ยืมฝากท รพั ย์ตวั แทนประกนั ภ ัย มสธ กเ ู้ งนิ แ ละส ญั ญาค า้ำ ป ระกนั แ ลว้ กไ ็ มท ่ าำ ใหห ้ นงั สอื ส ญั ญาก เ ู้ งนิ แ ละห นงั สอื ส ญั ญาค าำ้ ป ระกนั เ ปน็ เ อกสารป ลอม มส หนงั สอื ส ญั ญาท ัง้ สองฉ บบั จ งึ ม ผี ล ผูกพัน โจทก์ก ับ จำาเลยท งั้ สอง ฎ.1149/2552โจทก ์มี หนังสือ สัญญา ก ู้ยืม ท่ี จาำ เลย ลง ลายมือ ช่อื เป็น ผ้ ูกู ้ระบุ ว่า จำาเลย กู้ ยืม เงนิ โจทก์ จำานวน 20,000 บาท เปน็ หลัก ฐานก าร ก้ ยู มื เป็น หนังสอื ซ ึ่ง จาำ เลย ตอ้ ง รับผ ดิ แมภ ้ าย หลังโ จทก ์แกไ้ ขจ ำานวน เงนิ ใ นส ญั ญาก ใ ู้ หส ้ งู ข น้ึ เ ปน็ 120,000 บาท ซง่ึ ไ มเ ่ ปน็ ไ ปต ามท โ ่ี จทกแ ์ ละจ าำ เลยต กลงก นั แตก ่ ไ ็ มท ่ าำ ใหห ้ ลกั ฐ าน การก ย้ ู มื เงนิ ทท่ ี ำา ไวแ ้ ต่ เดิม และ ม ีผล สมบูรณ ต์ ้องเ สยี ไ ป จาำ เลย ต้อง รับผ ิด ตอ่ โ จทก์ เทา่ ที่ก ไ้ ู ปจ ริง สรปุ จากต วั อยา่ งใ นค าำ พ พิ ากษาศ าลฎ กี าใ นเ รอ่ื งจ าำ นวนเ งนิ ต ามส ญั ญาก น ู้ น้ั หากไ มไ ่ ดร ้ ะบต ุ วั เลข ไว้ ใน หนังสือ สัญญา ผู้ ให้ กู้ ใส่ ตัวเลข ตาม จำานวน ที่แท้ จริง หนังสือ สัญญา กู้ ยืม ฉบับ น้ัน ใช้ เป็น หลัก ฐาน ใน การฟ ้องร อ้ ง บงั คับ ได้ แต่ หาก เว้น ช่องว า่ ง ไว้ ผูใ ้ ห้ ก ้กู รอก จำานวนเ งนิ มากกว่า จาำ นวนเ งนิ ที่ กย ู้ มื กัน สญั ญา กู้ เป็น สัญญา ปลอม หรือ จำานวน เงิน ใน เอกสาร กู้ ยืม เงิน เป็น จำานวน หนึ่ง ผู้ กู้ ยืม ได้ ขอยืม เงิน เพิ่ม และ ผู้ ให้ กู้ ยมื แ ก้ไข ตัวเลข ใน สญั ญาก ย ู้ ืม เพ่ิมข ึน้ หนงั สือ สญั ญาก ู้ ยืมน ้ันใ ช ้เป็น หลักฐ าน ในก ารก ย ู้ ืมเ งนิ ได ้ หรอื ผ้ใ ู ห้ ก้ ู แก้ไข จำานวน เงิน โดย พลการ หนังสือ สัญญา กู้ ยืม เงิน กัน ใช้ เป็น หลัก ฐาน บังคับ กัน ได้ เฉพาะ แต่ ตาม จำานวน เงนิ เ ดมิ ท ก ่ี ู้ กันจ รงิ กรณ มี หี ลักฐ านก ารก ยู้ มื เ งินเ ปน็ ห นังสอื ไม ว่ ่าจ ะ เปน็ ห ลกั ฐาน การย มื เ งินก ู้ หรอื ท ำาส ญั ญา ก ยู้ มื เ งนิ เป็น อย่างอ ่ืน กถ็ ือวา่ ม ห ี ลกั ฐ าน การ ก ยู้ มื เงนิ เปน็ ห นงั สอื ต าม มาตรา 653 แลว้ อุทาหรณ์ ฎ. 3775/2546 หนังสือ หลัก ฐาน การ รับ เงิน กู้ ท่ี จำาเลย ลง ลายมือ ช่ือ เป็น แบบ พิมพ์ ของ โจทก์ ที่ มี รายล ะเอยี ดร ะบถ ุ งึ ก ารก เ ู้ งนิ แ ละร บั เ งนิ ท ก ่ี ไ ู้ วอ ้ ยา่ งช ดั เจน ผท ู้ อ ่ี า่ นย อ่ มส ามารถเ ขา้ ใจไ ดโ ้ ดยง า่ ย ดงั น นั้ เมอื่ จำาเลย ได้ กู้ เงิน โจทก์ โดย ทำา สัญญา จำานอง เป็น ประกัน ไว้ จริง และ จำาเลย ได้ รับ เงิน ไป จาก โจทก์ ตาม หนังสือ หลัก ฐาน การ รับ เงิน กู้ ซ่ึง เอกสาร ดัง กล่าว สามารถ ใช้ เป็น หลัก ฐาน แห่ง การ กู้ ยืม ได้ จำาเลย จึง ต้อง รับ ผิด ต่อ โจทก์ สัญญา กู้ เงิน และ สัญญา จำานอง เป็น นิติกรรม คนละ ประเภท ที่ สามารถ แยก ออก จาก กัน ได้ โจทก์ ฟ้อง ขอ ให้ จำาเลย ชำาระ ต้น เงิน พร้อม ดอกเบ้ีย ตาม สัญญา กู้ เงิน เมื่อ สัญญา กู้ เงิน ไม่ อาจ รับ ฟัง เป็น พยาน หลักฐ าน ยอ่ มไ ม ่อาจ นาำ เอา อัตราด อกเบ้ียท ีก่ าำ หนด ไว ใ้ นส ญั ญา จาำ นอง มาบ ังคบั การ กู้ เงนิ ได้ อุทาหรณ์ ฎ.3826/2546โจทก์ นำาสืบ ว่า เมื่อ วัน ท่ี 5 มกราคม พ.ศ. 2538 จำาเลย ทำา สัญญา กู้ และ รับ เงิน ไป จาก โจทกจ์ าำ นวน 200,000 บาท กาำ หนด ชำาระ เงนิ ค ืน ภายในว นั ท ี่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2538 เพอื่ เปน็ ป ระกัน การช าำ ระห น ี้ จาำ เลยไ ดส ้ งั่ จ า่ ยเ ชค็ ธ นาคารก รงุ เทพ จาำ กดั (มหาชน) ใหไ ้ วต ้ ามเ อกสารส ญั ญาก ย ู้ มื เ งนิ แ ละเ ชค็ ส่วน จำาเลย ให้การ ต่อสู้ ว่า ไม่ ได้ กู้ ยืม เงิน และ ไม่ ได้ รับ เงิน ตาม สัญญา กู้ ยืม เงิน สัญญา กู้ เงิน ตาม ฟ้อง และ เช็ค ดัง กลา่ ว ทาำ เ พอื่ เป็นการ ประกนั ว่าจ าำ เลยไ ด้ รับง าน รบั เหมาก อ่ สร้าง จาก โจทก์ เท่ากับจ ำาเลย ให้การ รับ ว่าไ ด ้ ทาำ สญั ญา กู้ ยมื ตาม ฟ้อง ให้ โจทก ์จริง เพยี ง แต่ จาำ เลย ม เี จตนา ใน การ ทาำ สัญญา ก้เู ปน็ อย่าง อื่น เมอื่ จำาเลย ทำา สญั ญาก เ ู้ งนิ แ ละไ ดร ้ บั เ งนิ จ าำ นวน 200,000 บาท ไปจ ากโ จทกจ ์ รงิ ถอื ไ ดว ้ า่ โ จทกม ์ ห ี ลกั ฐ านแ หง่ ก ารก ย ู้ มื เ ปน็ หนังสือล ง ลายมอื ชอื่ จำาเลยผ ยู้ ืมเ ปน็ ส าำ คัญ โจทก จ์ ึงฟ อ้ ง ร้องใ หบ ้ งั คับค ดี ตาม ปพพ. มาตรา 653 ไม จ่ ำาต อ้ ง อาศยั พ ยานห ลกั ฐ านจ ากต วั เอกส ารน นั้ จงึ ไ มจ ่ าำ ต อ้ งว นิ จิ ฉยั ถ งึ ป ญั หาเ รอ่ื งอ ากรแ สตมปใ ์ นเ อกสารด งั ก ลา่ ว ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การกยู้ ืมเงิน 3-27 มสธ กรณม ี เ ี อกสารร ะบว ุ า่ ร บั เ งนิ ไ ปโ ดยไ มร ่ ะบว ุ า่ จ ะใ ชเ ้ งนิ ค นื โ จทกอ ์ ยา่ งไร ไมถ ่ อื เ ปน็ ห ลกั ฐ านก ารก ย ู้ มื มส ท เ่ี ปน็ ห นงั สือ ตาม ปพพ. มาตรา 653 ฎ.306/2506(ป.ใหญ)่ สว่ นเ อกสาร ทม ี่ ขี ้อความเ พียงว า่ ร บั เงินไ ป จาำ นวนห นงึ่ แ ลว้ ลงชอื่ จาำ เลย โดย ไม่มี ข้อความ แสดง ว่า ใน การ รับ เงิน จำาเลย เป็น ลูก หนี้ จะ ใช้ เงิน คืน แก่ โจทก์ แต่ อย่าง ใด น้ัน ฟัง เป็น หลัก ฐาน การก ยู้ มื เ งนิ ไ ม ไ่ ด้ ฎ. 7620/2540 แม้ จำาเลย ท้ัง สอง จะ นำาสืบ ให้ เห็น ได้ ว่า โจทก์ ยัง เป็น หนี้ กู้ ยืม จำาเลย ท้ัง สอง จำานวน 50,000 บาทจ ริง แต่ ตาม ปพพ. มาตรา 653 วรรค แรก กาำ หนด วา่ การก ู้ ยืม เงนิ ก ว่า ห้าส ิบบ าท (ปจั จบุ ัน 2,000 บาท) ขนึ้ ไปน ั้น ถา้ ม ไิ ดม้ ี หลกั ฐ านแ ห่ง การก ู้ ยมื เปน็ หนังสืออ ยา่ งใ ด อย่างห นงึ่ ลงล ายมอื ช ่อื ผ ู้ ยมื เปน็ สาำ คญั จะฟ ้องร อ้ งใ ห บ้ งั คบั ค ดห ี า ไดไ ้ ม่ ดังน ั้น หน เี้ งินก ู้ 50,000 บาท ดงั กลา่ ว จงึ เป็น หน ท้ี ่ ไี ม อ่ าจฟ อ้ งร อ้ ง ให ้บงั คับ คด ีกัน ได ้ เมอ่ื หนี้ ท ี่จาำ เลย ท้งั สอง อาศยั เป็น มูล เหต ุให ้ยืด ถือ โฉนด ที่ดนิ พพิ าท ไว ้ไม ่อาจ ฟอ้ ง ร้อง ให ้ บังคับ คดี ได้ จำาเลย ทั้ง สอง จึง ไม่มี สิทธิ ยึดถือ โฉนด ท่ีดิน พิพาท ต่อ ไป จำาเลย ทั้ง สอง จะ มี สิทธิ นำาสืบ ถึง หนี้ จำานวน ดงั ก ล่าวห รือ ไม่ ไมเ่ ปน็ ป ระโยชน์ แก่ คดี ของจ ำาเลยท ง้ั ส อง หมายเหต ุ หากก รณไ ี ดค ้ วามว า่ ไ มใ่ ชส ่ ญั ญาก ย ู้ มื เ งนิ ก นั เชน่ สญั ญาต า่ งต อบแทน การเ ลน่ แ ชรเ ์ ปยี หวย ก็ ไม ต่ อ้ ง มีห ลักฐ าน เปน็ หนงั สอื ก็ ฟอ้ ง ร้อง ตาม สญั ญาน ั้นๆ ได้ อทุ าหรณ์ ฎ.4805/2540กจิ การแ พป ลาข องโ จทกน ์ อกจากจ ะร บั ซ อ้ื ส ตั วน ์ าำ้ แ ลว้ โจทกย ์ งั ใ หย ้ มื เ งนิ แ ละท ดรอง จ่าย ค่า ใช้ จ่าย และ ค่า อุปกรณ์ เกี่ยว กับ เรือ ประมง ของ ผู้ ซึ่ง นำา สัตว์ นำ้า มา ขาย แก่ โจทก์ การ ชำาระ คืน ตกลง ให้ หกั เอาจ าก คา่ ป ลา หรือ สตั ว น์ ้ำาท ีน่ ำาม า ขาย จาำ เลยเ ปน็ เจา้ ของเ รอื ป ระมง 4 ลาำ และ เป็นผ นู้ ำา ปลาม าข าย แก ่ โจทก์ โดย โจทกใ ์ ห้จ าำ เลยย มื เงนิ และท ดรองจ ่าย ค่าใ ชจ ้ ่าย ตา่ งๆ เกี่ยวก บั เรอื ประมงข องจ าำ เลยไ ป ก่อน เม่ือ จำาเลย นำาส ัตว์น าำ้ มาข ายแ ก่ โจทก ์ โจทก จ์ ึงค ดิ ห กั หนเ ี้ งิน ท ี่จำาเลย รบั ลว่ งห น้า และ ทดรองจ า่ ยไ ป นติ ิส มั พันธ ์ ระหว่าง โจทก์ กับ จำาเลย ดัง กล่าว จึง มิใช่ เป็นการ กู้ ยืม แต่ เป็นการ รับ เงิน ไป เป็น ทุนหมุนเวียน ใน การ ทำาการ ประมง ของจ าำ เลย โดยโ จทกร ์ บั ด าำ เนนิ การใ นภ าระต า่ งๆ ทเ ี่ กย่ี วขอ้ งเ ฉพาะ กบั เ รอื ป ระมงท จ ่ี ะอ อกท ะเลโ ดย มงุ่ ท จ ่ี ะซ อื้ ส ตั วน ์ า้ำ จ ากเ รอื ข องจ าำ เลยส าำ หรบั ค า่ ใ ชจ ้ า่ ยต า่ งๆ ทโ ่ี จทกอ ์ อกไ ปจ ะน าำ ม าห กั ก บั ค า่ ซ อ้ื ข ายส ตั วน ์ า้ำ ทเ ่ี รอื แ ตล่ ะล าำ ไดม ้ า ตา่ งก บั ก ารก ย ู้ มื เ งนิ ท วั่ ๆ ไปท ไ ่ี มม่ ข ี ้อผ ูกมดั ว า่ จ ะต อ้ งจ า่ ยเ งนิ ไ ดเ้ ฉพาะเ รอ่ื ง และถ อื เ อา ผล ประโยชน์ จาก ดอกเบี้ย เป็น สำาคัญ นิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์กับจำาเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทนประเภท หนึ่ง เป็นนิติกรรมท่ีไม่มีแบบ ย่อมสมบูรณ์ด้วยการแสดงเจตนาและฟ้องร้องบังคับกันได้โดยไม่จำาต้องมี หลกั ฐ านเป็นห นงั สอื มาแสดง ฎ.2253/2518 การเ ลน่ วงแ ชร์ เปน็ สญั ญา ชนิด หน่ึง เกดิ ข ้ึน จากค วาม ตกลง ของ ผเู้ ลน่ ไม่ม กี ฎหมาย บงั คับ ว่า จะ ตอ้ ง ทำา สัญญา หรอื มีห ลกั ฐ าน เป็นห นงั สือ คงบ งั คับก ัน ไดต ้ าม หลัก สัญญาท ่วั ไป หลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินต้องมีในขณะใด หลัก ฐาน แห่ง การ กู้ ยืม เงิน น้ัน ไม่ จำา ต้อง มี ใน ขณะ ทำา สญั ญาก ย ู้ มื เ งนิ ก นั แมผ ้ ก ู้ ท ู้ าำ ใหใ ้ นภ ายห ลงั ม ล ี ายมอื ช อ่ื ผ ก ู้ เ ู้ ปน็ ส าำ คญั กน ็ าำ ม าฟ อ้ งร อ้ งบ งั คบั ค ดก ี นั ไ ด ้ คอื ใ ห ้ มห ี ลกั ฐ านแ สดงต อ่ ศ าลไ ดก ้ เ ็ ปน็ พ อ หลกั ฐ านต อ้ งม ก ี อ่ นฟ อ้ งค ด ี (ฎ. 3464/2528, 1286/2535) ดงั ต วั อยา่ งใ น ฎ. 28/2505 “ยมื เ งิน กัน โจทกใ ์ หเ้ งินไ ป กอ่ น แตย่ งั ไมไ ่ ด้ ทำาส ญั ญาก ภ้ ู าย หลงั จึง ทำา หนังสือ รับรองใ ช ห้ นี้ใ ห ้ ศาล ฎีกา วินิจฉัย ว่า จริง อยู่ ใน กรณี น้ี ใน เวลา ที่ อ้าง ว่า ได้ มี การ กู้ ยืม กัน นั้น คู่ กรณี หา ได้ ทำา หลัก ฐาน แห่ง การ ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-28 กฎหมายพ าณิชย์2:ยมื ฝากท รพั ย์ตัวแทนประกันภ ัย มสธ กย ู้ มื เ ปน็ ห นงั สอื ก นั ไ วไ ้ มแ ่ ตใ ่ นเ วลาต อ่ ม าถ า้ ไ ดม ้ ห ี ลกั ฐ านแ หง่ ก ารก ย ู้ มื เ ปน็ ห นงั สอื ล งล ายมอื ช อื่ ผ ต ู้ อ้ งร บั ผ ดิ มส เปน็ ส ำาคัญเ กดิ ข น้ึ แ ลว้ ผู้ ใหย ้ ืมก ย ็ อ่ มฟ อ้ งร อ้ งใ หบ ้ ังคบั ค ดนี ้ันไ ด”้ ซงึ่ อ าจารยพ์ จนป ์ ุษป าค ม ไดใ้ หค้ วามเ ห็น ในค ำาพ ิพากษา ฉบับ น วี้ ่า “เร่อื งน ี้มก ี ารส ง่ มอบ โดยตรงแ ลว้ และม หี นก ี้ ู ้ยมื เ กดิ ข ึ้นแ ลว้ แต่ ยังฟ ้องร ้อง ไม ไ่ ด ้ เพราะ ขาดห ลกั ฐ าน เปน็ ห นังสือ ตามท ่กี ฎหมาย ตอ้ งการ เมื่อ มี หลัก ฐานเ กิดข ้ึนแ ล้วส ิทธิฟ ้อง ร้องก ม็ ีข ้ึน หนี้ ท่ี มี อยู่ แล้ว เป็น หนี้ สมบูรณ์ แล้ว เพียง แต่ ขาด หลัก ฐาน เท่าน้ัน16ต่อ มา มี คำา พิพากษา ศาล ฎีกา 8175/2551 ก็ บญั ญตั ิ ไว้ เช่นเ ดยี วกัน ดงั น้ัน ถา้ ก ู้ย มื เ งิน กว่า 2,000 บาท ผใ ู้ ห ้กู้ไ มม่ หี ลกั ฐานก าร ให้ก ูย ้ มื จ ะ ฟ้อง รอ้ งบ งั คบั คดผ ี กู้ ้ไู ม ไ่ ด้ ฎ.200/2496(ป.ใหญ)่ เอาเ งนิ ข องเ ขาไ ปโ ดยเ สยี ดอ กเ บย้ี แ ลว้ ม อบท องร ปู พ รรณไ วเ ้ ปน็ ป ระกนั การ จาำ นำา โดยม ูลห น้ี เดมิ คือ ก ยู้ มื เ งนิ ถ้า ไม่มีห ลกั ฐ าน เป็นห นังสือ จะฟ ้อง ให ล้ ูกห น้ ีตอ้ งใ ชส ้ ว่ นท ่ีย งั ข าดจ ากก าร บังคับ จาำ นำาไ ม ไ่ ด้ หลกั ฐ านข องก ารก ยู้ มื ต ามส ญั ญาเบกิ เงนิ เกนิ บ ญั ชี ดงั ท ไ ี่ ดก ้ ลา่ วถ งึ ล กั ษณะข องก ารเ บกิ เ งนิ เ กนิ บ ญั ช ี มา บ้าง แล้ว ใน หัวข้อ ที่ 3.1.2 การ กู้ ยืม เงิน และ สัญญา อ่ืน ท่ี มี ลักษณะ เดียว กับ สัญญา กู้ ยืม เงิน การ เบิก เงิน เกิน บัญชี เป็นการ กู้ ยืม เงิน ชนิด หนึ่ง อัน ประกอบด ้วย สัญญา บัญชี เดิน สะพัดต าม ประมวล กฎหมายแ พ่ง และ พาณิชย์ มาตรา 85617และสญั ญาก ูย้ ืมเ งิน โดยผ ู้ เบกิ เ กนิ บ ญั ชต ี กลงก บั ธ นาคารใ นก ารข อเ บกิ เ งินเ กนิ บ ัญชี ตาม จำานวน เงิน ใน สัญญา ท่ี ตกลง กัน ไว้ ซึ่ง สัญญา เบิก เงิน เกิน บัญชี น้ี มี ข้อ แตก ต่าง จาก สัญญา กู้ ยืม เงิน อยู่ บ้าง ใน กรณี ที่ การ กู้ ยืม เงิน เกิน กว่า สอง พัน บาท ต้อง มี หลัก ฐาน แห่ง การ กู้ ยืม เงิน เป็น หนังสือ ลง ลายมือ ช่ือ ผู้ กู้ เป็น สำาคัญ จึง จะ ฟ้อง ร้อง บังคับ คดี กัน ได้ ส่วน การ เบิก เงิน เกิน บัญชี น้ัน แม้ ไม่มี หลัก ฐาน การ เบิก เงิน เกิน บัญชีเ ปน็ หนงั สอื ก ฟ ็ อ้ งร อ้ งบ งั คับ คดี กันไ ด ้ ดัง ตัวอยา่ ง ใน ฎ. 1446/2512 ซ่งึ ว นิ ิจฉยั ด ังน ี้ “คดี นีจ ้ ำาเลย ทาำ หนงั สอื ส ัญญาก ู้เบกิ เงินเ กนิ บ ัญชีเ พียง 50,000 บาท แต่ จาำ เลยเ บิกเ งนิ ไป ถงึ 2 แสน บาทเ ศษ และ นำา เงิน เข้า บัญชี เพียง แสน บาท เศษ หัก แล้ว คง ค้าง อีก แสน บาท เศษ ศาล ฎีกา วินิจฉัย ว่า “เร่ือง เบิก เงิน เกิน บัญชี ถือว่า เป็น เร่ือง ของ บัญชี เดิน สะพัด ซ่ึง ไม่ จำาเป็น ต้อง มี หลัก ฐาน เป็น หนังสือ แม้ เบิก เงิน ไป มากกว่า วงเงิน ที่ ก้ ู 50,000 บาท จาำ เลย ยงั ต อ้ งร บั ผิดใ น ยอดเ งิน ทเ่ี กนิ น ัน้ ดว้ ย” คำา วินิจฉัย ของ ศาล ฎีกา ฉบับ นี้ อาจารย์ พจน์ ปุษ ปา คม ได้ อธิบาย ถึง เหตุผล ใน การ ท่ี จำาเลย ต้อง รับ ผิด ใน ยอด เงิน ที่ เกิน บัญชี ไว้ อย่าง ชัดเจน ว่า “คำา วินิจฉัย ของ ศาล ฎีกา ใน คดี น้ี คง วินิจฉัย เฉพาะ กรณี ที่ กเ ู้ งนิ จาก ธนาคาร ม กี าร เบกิ เงนิ ท ก่ี โ ู้ ดย วธิ ใ ี ชต ้ ว๋ั เงนิ คอื เชค็ สงั่ ใ ห ธ้ นาคาร จา่ ย เงนิ และ ธนาคาร ไดจ ้ า่ ย เงนิ ไป ตาม เช็ค น้นั แลว้ จึง นาำ มาล ง ในบ ญั ชเ ี ดนิ ส ะพัดไ ด้ต าม มาตรา 857 บญั ญตั วิ ่า “การนำาต วั๋ เงนิ ล งเ ปน็ รายการ ใน บัญชี เดิน สะพัด น้ัน ท่าน ให้ สันนิษฐาน ไว้ ก่อน ว่า ได้ ลง ด้วย เง่ือนไข ว่า จะ มี ผู้ ชำาระ เงิน ตาม ต๋ัว เงิน นั้น ถ้า และ ต๋ัว เงนิ น้นั มิได ้ชำาระ เงิน ไซร ้จะ เพิก ถอน รายการ อนั นน้ั เสีย กไ็ ด”้ จงึ เห็น ได้ ว่า ถา้ ไม่ม ีหน้ ีแลว้ จะ นำา มา ลง บัญชี ไมไ ่ ดเ้ พราะบ ญั ชเ ี ดนิ ส ะพดั เ ปน็ บ ญั ชห ี นที้ งั้ ส องฝ ่ายแ ลว้ ห กั ก ลบล บก ัน จะถ อื เ ปน็ ห ลกั ท วั่ ไปว า่ การล งบ ญั ช ี 16 พจน ์ ปษุ ป าค ม คาำ อ ธบิ ายป ระมวลก ฎหมายแ พง่ แ ละพ าณชิ ยว ์ า่ ด ว้ ยย มื กย ู้ มื และฝ ากท รพั ย ์ กรงุ เทพมหานคร แสงทอง การ พมิ พ์ พ.ศ. 2511 น. 61. 17 มาตรา 856“อนั วา่ ส ญั ญาบ ญั ชเี ดนิ ส ะพดั น นั้ คอื ส ญั ญาซ ง่ึ บ คุ คลส องค นต กลงก นั ว า่ ส บื แ ตน่ น้ั ไปหรอื ในซ ง่ึ เวลาก าำ หนด อันใดอนั หนงึ่ ให้ตัดทอนบัญชีท้ังหมด หรือแ ต่บางสว่ นอนั เกดิ ขึ้นแต่กจิ การระหว่างเขาทั้งสองนัน้ หักกลบลบกัน และคงชาำ ระแต่ส่วน ทเี่ป็นจ าำ นวนคงเหลือโดยด ลุ ยภ าค” ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การก้ยู ืมเงนิ 3-29 เดิน สะพัด ก่อ ให้ เกิด หนี้ ไม่ ได้ ถ้า หนี้ น้ัน เป็นการ กู้ ยืม โดย เฉพาะ และ มิได้ เบิก เงิน โดย ต๋ัว เงิน เม่ือ ไม่มี มสธ หลัก ฐาน แห่ง การ กู้ ยืม เป็น หนังสือ ก็ ไม่ เกิด หนี้ ท่ี จะ เรียก ร้อง กัน ได้ การ หัก กลบ ลบ หนี้ ตาม บัญชี เดิน สะพัด มส ก็ต อ้ ง นาำ บทบญั ญตั ิเ รือ่ งห ักก ลบ ลบห น้ ตี าม ปพพ. มาตรา 341 ถงึ 348 มาใ ชด ้ ้วย สทิ ธ เิ รียกร ้อง ใดย ัง ม ี ข้อ ต่อสู้ อยู่ สิทธิ เรียก ร้อง นั้น ท่าน ว่า หา อาจ จะ นำา มา หัก กลบ ลบ หนี้ ได้ ไม่ ตาม ปพพ. มาตรา 344 เมื่อ หน้ี เงิน กู้ ไม่มี เอกสาร แห่ง การ กู้ ยืม หนี้ เช่น นี้ เอา มา หัก กลบ ลบ หน้ี ไม่ ได้ เพราะ เป็น หน้ี ท่ี มี ข้อ ต่อสู้”18 ซ่ึง ผู้เขียน เห็นว่า หาก จะ พิจารณา ดู เหตุผล ว่าที่ สัญญา เบิก เงิน เกิน บัญชี ไม่ จำาเป็น ต้อง มี หลัก ฐาน เป็น หนังสือ ผู้ กู้ โดย เบกิ เ งนิ เ กนิ บ ญั ชย ี งั ค งต อ้ งร บั ผ ดิ เนอื่ งจากใ นก ารท าำ ส ญั ญาบ ญั ชเ ี ดนิ ส ะพดั น น้ั ม ห ี ลกั ฐ านอ ยแ ู่ ลว้ ค อื ร ายการ หัก ทอน บัญชี ระหว่าง เจ้า หน้ี และ ลูก หนี้ ใน การ์ด ลง บัญชี ของ ลูก หนี้ และ นอกจาก นั้น ยัง มี เช็ค ซ่ึง เป็นการ สงั่ จ า่ ยเ งนิ จ ากบ ญั ช ี ซงึ่ ม ล ี ายมอื ช อ่ื ข องล กู ห นป ้ี รากฏอ ยแ ู่ ลว้ หลกั ฐ านท ง้ั ส องอ ยา่ งก น ็ า่ จ ะเ พยี งพ อ สาำ หรบั ยืนยันค วามเ ป็นห น ้ีได ้โดยไ ม่ จำาเป็นต ้องม ี หลักฐ านแ ห่งก าร กู้ เงินเ กินบ ัญชีเ ป็นห นังสืออ ีก ดังม ีต ัวอย่างใ น ฎ. 1122/2514 วนิ จิ ฉยั วา่ “การ ให ก้ เ ู้ บกิ เงนิ เกนิ บญั ช เี ปน็ คราวๆ โดย วธิ ใี ช เ้ ชค็ สง่ั จ า่ ย เงนิ และ ม กี าร ฝาก เงนิ เขา้ บ ัญชล ี ดห น ้เี ชน่ น้ี หาเ ข้า ลกั ษณะ การ ก้ยู มื เงนิ ตาม ปพพ. มาตรา 653 ไม่ แตเ่ ข้าลกั ษณะส ญั ญา บัญช ี เดิน สะพัด ตาม มาตรา 856 ซึ่ง ไม่ จำาเป็น ต้อง มี หลัก ฐาน เป็น หนังสือ” การ ท่ี ศาล ฎีกา วินิจฉัย ว่า “หา เข้า ลักษณะ การก ย ู้ มื เ งิน ตาม ปพพ. มาตรา 653 ไม่ แต เ่ ข้าล กั ษณะ สัญญาบ ญั ชี เดนิ ส ะพดั ซ่ึง นา่ จะ เขา้ ใจ ว่า ศาล ปฏิเสธ ไม่ ยอมรับ ว่าการ เบิก เงิน เกิน บัญชี เป็น สัญญา กู้ ยืม เงิน เฉพาะ เร่ือง ที่ ต้องการ หลัก ฐาน แห่ง การ กู้ ยืม เป็น หนังสือ ใน การ ฟ้อง ร้อง คดี เท่านั้น จะ ถือว่า สัญญา เบิก เงิน เกิน บัญชี ไม่ใช่ สัญญา กู้ ยืม เงิน เสีย เลย ที เดียว หา ได้ ไม่ เพราะ ลักษณะ ที่ ธนาคาร ให้ ลูก หนี้ เบิก เงิน ไป เกิน กว่า จำานวน ที่ ตน มี อยู่ ใน บัญชี เป็นการ ให้ เครดิตแ ก่ ลูกห น้ ี คือ การใ ห้ ก ยู้ ืม เงนิ ใ น ลักษณะ ท่มี ีส ัญญา บญั ช เี ดิน สะพดั ป ระกอบ ดว้ ย เพราะห ากต ีความ ว่า สัญญา เบิก เงิน เกิน บัญชี เป็น สัญญา บัญชีเดิน สะพัด เพียง อย่าง เดียว ก็ ไม่ ถูก ต้อง ท้ังหมด เพราะ มี สัญญา บัญชี เดิน สะพัด บาง อย่าง ซ่ึง ไม่ใช่ สัญญา กู้ ยืม เงิน กัน เช่น การ ตกลง ใน กิจการ ค้า ระหว่าง คู่ สัญญา ตกลง เปิดบ ัญชแ ี ล้ว หัก บัญชี กนั เช่น ใน ฎ. 81/2509 เปน็ เร่ืองท ี่ คส ู่ ัญญาต กลงก นั ใ หฝ ้ ่ายห นง่ึ อ อก ค่า ใช ้จา่ ย เมอื่ จับ ปลา ได้ จะ ส่ง มา ให้ ขาย หัก ค่า ขาย เหลือ เท่าใด จด บัญชี แล้ว หัก กัน เป็น คราวๆ เป็น กิจการ ค้า ระหว่าง คู่ สัญญา ตกลง เปิด บัญชี แล้ว หัก บัญชี กัน เข้า ลักษณะ บัญชี เดิน สะพัด แต่ ไม่ เข้า ลักษณะ กู้ ยืม เงิน เพราะ เงิน ท่ี จ่าย ไป เป็น ค่า จ้าง เบี้ย เล้ียง ลูก เรือ ค่านำ้า มัน เป็น เงิน ทดรอง ไม่ใช่ ยืม เป็น หน้ี ใน การ ค้า ค่า ขาย ปลา ก็ เป็น หน ใี้ นก าร คา้ เ อาม า หกั ก นั ” ดัง นั้น จึง เห็น ว่า สัญญา เบิก เงิน เกิน บัญชี เป็น สัญญา บัญชี เดิน สะพัด ประกอบ ด้วย สัญญา กู้ ยืม เงิน แม้ไ ม่มี หลัก ฐาน แห่ง การก ู้ เบิกเ งิน เกินบ ัญชี เป็น หนังสือก ็ ฟ้องร ้อง บังคับก ันไ ด้ แม้แต่จ ะ ไม่ ได้ม ี สัญญา เบิก เงิน เกิน บญั ช ตี อ่ กนั แต่ ถ้าค ูส่ ัญญา ได ้ปฏบิ ัตติ ่อ กนั เ ช่นอ ยา่ งส ญั ญา เบกิ เงินเ กินบ ัญชกี ็ ยัง ฟ้อง รอ้ งบ ังคับ คด ี กัน ไดเ ้ ช่นก นั ดงั ค ำา วินิจฉัยใ น ฎ. 1837/2524 ว่า “การฝ ากเ งินก ระแสร ายว ัน ถ้าไ ม่ต กลง เบกิ เงิน เกนิ บ ัญช ี หรอื ไ มม่ ร ี ะเบยี บก ารบ ญั ชเ ี งนิ ฝ ากป ระกอบแ ลว้ ธนาคารไ มจ ่ า่ ยเ งนิ เ กนิ บ ญั ชฝ ี าก แตจ ่ าำ เลยไ ดร ้ บั แ ละท ราบ ระเบยี บ การบ ัญชเี งินฝ ากก ระแส ราย วนั ของ ธนาคารโ จทก์ ดแี ล้ว จึง ยินยอม เขา้ ผ กู พันก ับ โจทกด์ ้วย การข อ เปดิ บ ญั ชเ ี งนิ ฝ ากก ระแสร ายว นั เ มอ่ื จ าำ เลยส งั่ จ า่ ยเ ชค็ ถ อนเ งนิ เ กนิ ก วา่ จ าำ นวนท จ ่ี าำ เลยม อ ี ยใ ู่ นบ ญั ชแ ี ละโ จทก ์ ไดผ ้ ่อน ผนั จา่ ย ใหไ ้ ป จำาเลย จงึ ต ้อง รับ ผดิ ต อ่ โจทก เ์ สมือนโ จทก์ กบั จ าำ เลยม สี ญั ญาเ บิกเ งนิ เกนิ บญั ชต ี ่อก ัน” 18 พจน ์ ปุษ ปา คม เรอ่ื งเดียว น. 217. ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-30 กฎหมายพาณชิ ย์2:ยืมฝากท รพั ย์ตวั แทนประกนั ภ ยั มสธ 3. สัญญากู้ยืมเงินต้องป ิดอ ากรแ สตมป์มส ดัง ท่ี ได้ กล่าว แล้ว ว่า หลัก ฐาน แห่ง การ กู้ ยืม นั้น ไม่ จำา ต้อง ทำา เป็น หนังสือ สัญญา กู้ ยืม กัน เป็น กิจจะ ลักษณะ อย่าง ชัด แจ้ง เพียง แต่ กฎหมาย บัญญัติ ว่า หาก มี การ กู้ ยืม เงิน เกิน กว่า สอง พัน บาท ข้ึน ไป ต้อง มี หลัก ฐาน เป็น หนังสือ ลง ลายมือ ช่ือ ผู้ ยืม เป็น สำาคัญ ถึง จะ ฟ้อง ร้อง บังคับ คดี กัน ได้ ซ่ึง กรณี ดัง กล่าว หลัก ฐาน แห่ง การ กู้ ยืม เหล่า น้ัน ไม่ ต้อง ปิด อากร แสตมป์ ก็ ใช้ เป็น หลัก ฐาน ฟ้อง ร้อง กัน ได้ ตาม กฎหมาย ซึ่ง ถ้า เป็น หลกั ฐาน เปน็ ห นังสือ อยา่ งอ น่ื ก ไ ็ ม ่ต้องป ดิ อ ากร แสตมปก ์ ็ ใชฟ้ อ้ งร ้อง บังคับ คดีก ันไ ด ้ ถา้ ทำาใ นร ปู สัญญาก ย ู้ ืม จึง ตอ้ ง ปดิ อากร แสตมป์ ตาม ประมวลร ษั ฎากร มาตรา 118 ดงั ตวั อย่าง ใน ฎ. 368/2506 ศาลฎ กี า วนิ จิ ฉัย วา่ “ท จ่ี าำ เลยฎ กี า วา่ รายงาน การ ประชุม ตาม เอกสารห มาย จ. 1-2 รบั ฟงั เป็น พยานไ มไ ่ ด้ เป็น หนงั สอื แสดงว า่ ได้ มี การ กู้ ยืม เงิน ราย น้ี กัน เท่าน้ัน จึง ไม่ อยู่ ใน ข่าย ท่ี จะ ต้อง ปิด อากร แสตมป์ เพราะ ไม่ ได้ ปิด อากร แสตมป์ ตามป ระมวลร ษั ฎากรร ับฟ งั เปน็ พ ยานไ ด”้ ฎ. 248/2507 “จาำ เลยท าำ ห ลกั ฐ านเ ปน็ รูป จดหมาย ให ไ้ วแ ้ กโ ่ จทก ์ ขอรบั ร อง และข อบคณุ โจทก ์ สาำ หรบั เงนิ กท ู้ โ ่ี จทก ใ์ ห จ้ าำ เลยก จ ู้ งึ เ ปน็ เ พยี งห นงั สอื รบั สภาพ วา่ เ ปน็ เ งนิ ทโ ี่ จทก ์ ใหจ้ าำ เลย ยมื อ ันเ ปน็ หลกั ฐาน แหง่ การ ก้ ูยืม ตาม มาตรา 653 แหง่ ประมวล กฎหมาย แพ่ง และ พาณชิ ย์ อยา่ ง หน่งึ เ ท่านนั้ หาใ ช ่เปน็ ลกั ษณะแ ห่ง ตราสารก าร กยู้ มื อนั จ ะถ งึ ต ้อง ปิดอ ากรแ สตมปไ ์ ม”่ นอกจากน น้ั บนั ทกึ เงิน ยมื เป็น เพียงห ลักฐ าน แหง่ การก ยู ้ ืม เปน็ ห นงั สือม ใิ ช ห่ นงั สอื ส ัญญาก ยู้ มื เ งนิ จงึ ไ มเ ่ ขา้ ล กั ษณะป ระมวลร ษั ฎากรแ มไ ้ มไ ่ ดป ้ ดิ อ ากรแ สตมปก ์ ร ็ บั ฟ งั เ ปน็ พ ยานห ลกั ฐ านไ ด ้ (ฎ. 10428/2551) อนงึ่ หากต อ้ งการ ใช้ สญั ญาก ูย้ มื เงินม า เป็น พยาน หลัก ฐาน ใน คดต ี อ้ งป ิด อากร แสตมปใ ์ ห ค้ รบ ถว้ น มิ ฉะนน้ั จะใ ช้เ ปน็ พยาน หลักฐ าน ใน คดี แพ่ง ไม่ ได้ เท่ากับไ มม่ หี ลกั ฐ าน ใน การฟ อ้ งร อ้ ง คดี อทุ าหรณ์ ฎ.692/2546โจทก ์ฟ้องจ าำ เลย โดยอ าศัย สญั ญา ก ยู้ มื เงนิ จาำ เลย ให้การว ่าก ูเ ้ งนิ จ ากโ จทก์ จรงิ แต ร่ บั เงนิ ไ ม่ถ ึงจ าำ นวน ทร ่ี ะบไ ุ ว้ ในส ัญญา จึง เป็นการก ลา่ วอ ้าง วา่ ส ัญญา บาง สว่ นไ มส ่ มบรู ณ์ ศาลจำาต้องใช้สัญญา กู้ยมื เงินมาเป็นพยานหลกั ฐานในคด ี การ รับ ฟัง พยาน เอกสาร ดงั กลา่ ว โจทก์ ต้อง ปดิ อากร แสตมป ์บน สญั ญา กย ู้ มื เงนิ ใหถ ้ กู ต อ้ ง บรบิ รู ณ ์ตาม ป.รษั ฎากรฯ มาตรา 118 เมอื่ สญั ญา กย ู้ มื เ งนิ ปดิ อากร แสตมป ์เพยี ง 20 บาท ซึ่ง ตาม บญั ชี อากร แสตมป์ ทา้ ย ป.รษั ฎากรฯ ต้องป ดิ อ ากรแ สตมป จ์ าำ นวน 30 บาท สัญญา ก ยู้ ืมเ งนิ จ งึ ปดิ อากร แสตมป์ ไม่ บริบูรณ์ ใช้ เป็น พยาน หลัก ฐาน ใน คดี แพ่ง ไม่ ได้ โจทก์ ไม่มี หลัก ฐาน แห่ง การ กู้ ยืม เงิน เป็น หนังสืออ ย่าง ใดอ ยา่ ง หน่งึ ลง ลายมือ ชือ่ ผ ู้ ยมื เป็นส ำาคัญจ งึ ฟ ้อง ร้อง ใหบ ้ งั คบั จ ำาเลย ไมไ ่ ด้ ฎ.1424/2548ศาลอ ทุ ธรณภ์ าค 1 วนิ จิ ฉยั ว ่า สญั ญาจ ำานองเ ปน็ เ พียงห ลกั ฐ านแ หง่ ก ารก ูย ้ มื เ งนิ เ ป็น หนงั สอื ตาม ปพพ. มาตรา 653 วรรคห นึง่ เท่านนั้ มิใชเ ่ ป็นห นังสือส ญั ญาก ยู้ ืมเ งิน ระหว่างโ จทก์ กบั จำาเลย อัน จะถ ือ เป็นต ราสารท ีต่ อ้ ง เสีย อากรโ ดยป ิดแ สตมปบ ์ ริบรู ณ์ ตามค วามม ุ่งห มาย แห่ง ป.รัษฎากรฯ มาตรา 103, 104 และ 118 แม้ ไม่ ได้ ปิด อากร แสตมป์ ก็ สามารถ ใช้ เป็น พยาน หลัก ฐาน ใน คดี ได้ เหตุผล เช่น ว่า น้ี ได้ กลา่ วโ ดยช ดั เจนแ ละช อบด ว้ ยบ ทบญั ญตั ข ิ องก ฎหมายแ ลว้ ฎกี าข องจ าำ เลยไ มอ ่ าจเ ปลยี่ นแปลงผ ลแ หง่ ค ดไ ี ด ้ ฎีกา ของ จำาเลย ใน ปัญหา ข้อ กฎหมาย เป็น ฎีกา ใน ข้อท ่ี เป็น สาระ แก่ คดี ไม่ ควร ได้ รับ การ วินิจฉัยจ าก ศาล ฎีกา ตาม ป.ว.พ. มาตรา 249 วรรค หน่ึง ศาล ฎกี าไ มว่ นิ ิจฉยั ซ ำ้าอ ีก (ฎ. 41/2541) ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การก ยู้ มื เงนิ 3-31 ส่วน กรณี ถ้า คู่ สัญญา กู้ ยืม เงิน กัน ไว้ ซึ่ง ใน สัญญา กู้ ยืม เงิน ดัง กล่าว มี ข้อความ โดย ละเอียด ชัดเจน มสธ และร ดั กุม และ ส่วนใ หญ่ มี ขอ้ ความท ่ีเปน็ ประโยชน ์ สาำ หรับผ ูใ้ หก้ ยู้ ืมเ งนิ ซง่ึ ม ี รายล ะเอยี ดใ นเ รื่อง จำานวน เงิน มส ท ่ีกย ู้ มื กนั อตั ราด อกเบี้ย กำาหนดเ วลาช าำ ระค นื (ตามต ัวอย่างส ัญญาก ้ย ู ืม ข้างต น้ ) และบ างก รณส ี ญั ญาก ู้ ยืม จะ มี ข้อความ สงวน สิทธิ ของ ผู้ ให้ กู้ ยืม ใน การ เปล่ียนแปลง เร่ือง อัตรา ดอกเบี้ย ใน กรณี ท่ี ผู้ ให้ กู้ ยืม เป็น สถาบัน การเ งนิ เชน่ ธนาคาร เปน็ ตน้ สญั ญาก ย ู้ มื เ งนิ ท ท ่ี าำ ข นึ้ ด งั ก ลา่ วก ฎหมายไ ดบ ้ ญั ญตั ใ ิ หป ้ ดิ อ ากรแ สตมปอ ์ นั เ ปน็ คา่ ธรรมเนยี ม ทเี่ ป็น ราย ไดข้ อง รัฐ หาก สัญญาก ู้ ยมื เ งนิ ฉ บับ ใด ไม ไ่ ด้ป ดิ อากร แสตมปไ ์ ว้ (อากร แสตมปท ์ ี่ป ิด สญั ญาก ย ู้ มื ปดิ ต ามจ าำ นวนเ งนิ ท ก ี่ ย ู้ มื ก นั หมน่ื ล ะห า้ บ าท) สญั ญาก ย ู้ มื ฉ บบั น นั้ ก ไ ็ มส ่ มบรู ณน ์ าำ ม าเ ปน็ ห ลกั ฐ าน ใน การ ฟ้อง ร้อง คดี หา ได้ ไม่ มิใช่ ว่า สัญญา กู้ ยืม ฉบับ น้ัน เสีย ไป ใช้ เป็น หลัก ฐาน การ กู้ ยืม ไม่ ได้ เพียง แต่ ไม่ สมบูรณ์ เท่าน้ัน หาก มี การ ปิด อากร แสตมป์ ให้ ครบ ถ้วน และ มี การ ขีด ฆ่า อากร แสตมป์ ก่อน ใช้ เป็น หลัก ฐาน ในก ารอ ้างอิงใ นศ าล สัญญาก ยู้ มื เ งนิ ฉ บบั น ัน้ ใ ช้ได้ สมบูรณ์ ตาม กฎหมาย ดังต วั อยา่ งใ น ฎ. 1873/2493 ซงึ่ วินิจฉัย ว่า “ประมวล รัษฎากร มาตรา 118 บังคับ แต่ เพียง จะ ใช้ ตราสาร เป็น พยาน หลัก ฐาน ใน คดี แพ่ง ไม่ ได้ จนกวา่ จ ะไ ด ป้ ิด อากร แสตมป ์บรบิ รู ณแ์ ละ ขดี ฆา่ แ ล้วเ ทา่ นัน้ ซ่ึงเ ปน็ ที่เ หน็ ไดช ้ ัด วา่ ตราสาร ทีม ่ ไิ ดป ้ ดิ อ ากร แสตมป์ บริบูรณ์ มา แต่ เดิม ก็ ดี ถ้า ได้ มี การ ปิด อากร แสตมป์ ข้ึน แล้ว ใน ภาย หลัง ก็ ย่อม ใช้ เป็น พยาน หลัก ฐาน ใน คดี แพง่ ได ้ทนั ท ี มไิ ด้ม ีอ ะไรส ญู เสยี ไ ป โจทกฟ ์ อ้ งเ รียกเ งนิ จ าก จาำ เลยต ามเ อกสารส ัญญา ก ู้ แต่ ปรากฏว ่า สญั ญาก ป ู้ ดิ อ ากรแ สตมปย ์ งั ไ มค ่ รบถ ว้ น เมอื่ ส บื พ ยานโ จทกเ ์ สรจ็ แ ลว้ สบื พ ยานจ าำ เลยเ สรจ็ แ ลว้ ศาลย อมใ ห ้ โจทก น์ ำาส ัญญาก ไู้ ปป ดิ อ ากรแ สตมป ค์ รบ ถ้วน บริบรู ณ์ ดังน้ศ ี าล ย่อมร ับ ฟัง สัญญาก เู้ ป็นพ ยานห ลกั ฐ าน ได้” ฎ.1400/2522เอกสาร กู้ เงิน ติด อากร แสตมป์ แต่ มิได้ ขีด ฆ่า ถือว่า ยัง ไม่ ติด อากร แสตมป์ บริบูรณ์ ไม อ่ าจ รับฟ งั เ ป็นพ ยานห ลัก ฐานใ น คดแ ี พง่ ไ ด้ การป ดิ อากรแ สตมปใ์ นห นังสอื ส ัญญาก ู้ ยืม เงนิ น ัน้ หากไ ม่ป ดิ ห รอื ป ดิ ไ ม ค่ รบถ ว้ นห รือป ดิ ครบถ ้วน แต ่ไมไ่ ด้ข ดี ฆ า่ ใช้ เป็น หลักฐ านใ นก ารใ ห ก้ ยู้ ืม ตาม ปพพ. มาตรา 653 ไม ไ่ ด้ คู่สญั ญาฝา่ ยท ตี่ ้องเป็นผ ู้เสยี ค า่ ใช้จา่ ยในก ารท ำาส ญั ญากูเ้ งิน คา่ ใ ชจ ้ า่ ยใ นก ารท าำ ส ญั ญาก ย ู้ มื เ งนิ ไ ดแ้ ก ่ คา่ อ ากรแ สตมปป ์ ดิ ส ญั ญา คา่ จ ดท ะเบยี นจ าำ นอง (กรณท ี ม ี่ ี ทด่ี นิ เ ปน็ ห ลกั ป ระกนั ) คา่ ใ ชจ ้ า่ ยต า่ งๆ อนั อ าจม ข ี น้ึ โดยป กตผ ิ ก ู้ ย ู้ มื เ ปน็ ผ เ ู้ สยี เนอ่ื งจากเ ปน็ ผ ไ ู้ ดร ้ บั ป ระโยชน ์ จากส ญั ญาก ยู้ ืม เงนิ ด งั ก ลา่ ว ตาม ปพพ. มาตรา 651 “ค่า ฤชา ธรรมเนียม ใน การท าำ สัญญา กด ็ ี คา่ ส ่งม อบแ ละ ส่ง คืนท รัพยส์ นิ ซ ่งึ ย ืม ก็ ด ี ย่อมต ก แก่ ผ ยู้ ืม เปน็ ผ ูเ้ สยี ” อย่างไร กด็ คี สู่ ญั ญา จะ ตกลง กนั อ ย่าง อ่นื กไ็ ด ้ คือจ ะ ตกลง ให้ ผู้ ให้ กู้ ยืม เป็น ผู้ เสีย หรือ แบ่ง กัน เสียคน ละ ครึ่ง ก็ได้ เพราะ ข้อ ตกลง ดัง กล่าว ไม่ ขัด ต่อ ความ สงบ เรียบร้อย และ ศีลธ รรม อนั ด ขี องป ระชาชน ตาม ปพพ. มาตรา 151 กิจกรรม3.1.2 1. ให ้นกั ศกึ ษาส รปุ สาระส าำ คญั ข อง สัญญาก ยู้ มื เ งิน 2. ใหน ้ ักศกึ ษา อธบิ ายว ่า ทำาไม สญั ญาก ช้ ู นดิ เ บิกเ งนิ เ กนิ บ ญั ชไี ม่ ต้อง มห ี ลกั ฐ าน แห่ง การ ก ู้ (เบิก เงนิ เกินบ ัญชี) เป็นห นังสือก ฟ็ อ้ ง ร้อง บังคบั คดีไ ด้ ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-32 กฎหมายพ าณิชย์2:ยมื ฝากท รพั ย์ตวั แทนประกนั ภ ยั แนวตอบก ิจกรรม3.1.2 1. สาระส าำ คญั ข องก ารก ย ู้ มื เ งนิ ตอ้ งม ก ี ารส ง่ ม อบท รพั ยส์ นิ ท ใ ่ี หก ้ ย ู้ มื และก ารก ย ู้ มื เ งนิ ก วา่ ส องพ นั บาท ตอ้ งม หี ลกั ฐ านแ ห่ง การ ก ยู้ มื เงนิ เ ป็นห นังสือ ลง ลายมอื ชอื่ ผ ู้ก ู้ยมื เป็นส ำาคัญ ม ฉิ ะนน้ั จะ ฟ้อง รอ้ งบ งั คบั คดีไ ม่ไ ด้ (ปพพ. มาตรา 653) 2. สญั ญาเ บิกเ งนิ เกนิ บ ญั ช ี เปน็ สญั ญา ก ู้ยมื เ งนิ ท่ีป ระกอบ ด้วย สญั ญา บัญชเ ี ดนิ ส ะพัด การนำา ตั๋ว เงิน ลงเ ป็น รายการ ใน บัญช เี ดนิ ส ะพัด นนั้ ท่าน ให ส้ ันนษิ ฐานไ วก ้ อ่ น ว่า ลง ดว้ ย เงอื่ นไขว ่าจ ะม ีผูช ้ าำ ระ เงนิ ต าม ตว๋ั เ งนิ น น้ั และถ า้ ต ว๋ั เ งนิ น น้ั ม ไิ ดช ้ าำ ระเ งนิ ไ ซรจ ้ ะเ พกิ ถ อนร ายการอ นั น น้ั เ สยี ก ไ็ ด ้ จงึ เ หน็ ไ ดว ้ า่ ถ า้ ไ มม่ ห ี นแ ี้ ลว้ จะน าำ ม าล งบ ญั ชไ ี มไ ่ ด ้ เพราะบ ญั ชเ ี ดนิ ส ะพดั เ ปน็ บ ญั ชห ี นท ี้ งั้ ส องฝ า่ ยแ ลว้ ห กั ก ลบล บก นั ดงั น นั้ สญั ญา เบกิ เงนิ เ กนิ บัญชี จงึ ไม่ ตอ้ ง มี หลกั ฐาน แห่งก ารก ู้ (เบกิ เ งิน เกนิ บ ัญชี) ก ฟ็ อ้ ง ร้องบ งั คับค ด ีได้ มสธ มส ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การกยู้ ืมเงิน 3-33 ตอนที่3.2 การก ู้ยืมเงินในลักษณะอ ื่นและก ารเล่นแ ชร์เปียหวย โปรด อา่ นห วั เรือ่ ง แนวคิด และว ัตถุประสงค์ ของต อน ท่ี 3.2 แล้วจ ึง ศกึ ษา รายล ะเอียดต ่อ ไป หัวเรื่อง 3.2.1 การ กย ู้ ืมเ งนิ ใ น ลกั ษณะ พิเศษ 3.2.2 การก ย ู้ มื เงนิ โดยว ธิ ี เอาส ่ิงของห รอื ทรพั ยส์ ิน อยา่ ง อื่นแ ทน จำานวนเ งิน 3.2.3 การ เล่น แชร เ์ ปยี หวย และ การก ย ู้ ืม เงิน ที่เ ปน็ การ ฉ้อโกงป ระชาชน มสธ มส แนวคิด 1. ก าร กู้ ยืม เงิน นอกจาก มี การ กู้ ยืม เงิน ระหว่าง เอกชน ด้วย กัน แล้ว ยัง มี การ กู้ ยืม เงิน ใน ลักษณะ พิเศษ อ่ืนๆ ใน ระหว่าง รัฐ กับ เอกชน และ รัฐ กับ รัฐ การ กู้ ยืม เงิน ระหว่าง รัฐ กับ สถาบนั การเ งินใ นป ระเทศแ ละ ต่างป ระเทศ เปน็ ตน้ 2. ก าร กู้ ยืม เงิน นอกจาก จะ ส่ง มอบ เงิน ให้ แก่ กัน แล้ว คู่ สัญญา สามารถ ตกลง กัน โดย ผู้ กู้ ยืม ยอมรบั ส ง่ิ ของห รอื ท รพั ยส์ นิ อ น่ื แ ทนจ าำ นวนเ งนิ ก ไ็ ด ้ โดยค ดิ เ ปน็ ห นค ้ี า้ งช าำ ระต ามจ าำ นวน เท่ากับ ราคาท ้องต ลาดแ หง่ ส ิ่งของห รือ ทรพั ย์สิน น้นั ใ นเ วลา แ ละ ณ สถาน ที่ ท่ีส ง่ มอบ 3. การ เล่น แชร์ เปีย หวย ไม่ใช่ สัญญา กู้ เงิน แต่ เป็น สัญญา ชนิด หนึ่ง ซ่ึง มี ผล บังคับ ได้ ตาม กฎหมาย การ เล่น แชร์ ท่ี เข้า ลักษณะ ของ การ ประกอบ ธุรกิจ มี ความ ผิด ทาง อาญา ตาม พรบ. การเ ลน่ แชร์ พ.ศ. 2534 และก าร ก ยู้ ืมเ งินท ี่ ม ลี กั ษณะเ ป็นการฉ อ้ โกง ประชาชนม ี ความ ผดิ ตามพ ระร าช กาำ หนดการ กู ้ยืมเ งนิ ที่เ ป็นการ ฉ้อโกงป ระชาชน พ.ศ. 2527 ธมมสธสธมสธสธ วัตถุประสงค์ เมื่อศ กึ ษา ตอน ท ี่ 3.2 จบ แลว้ นกั ศกึ ษาส ามารถ 1. อธิบายส าระ สาำ คัญข องก ารก ูย้ ืม เงินข องส ถาบัน การเ งินอ ่นื และก าร กยู้ มื เ งินข อง รฐั ได้ 2. อธิบาย ถงึ ว ิธี การก ู้ ยืมเ งนิ โดยย อมรับเ อา ส่ิงของ หรือ ทรัพยส์ นิ อ ืน่ แ ทนจ าำ นวน เงินได้ 3. อธิบาย ลักษณะ ของ การ เล่น แชร์ เปีย หวย การ เล่น แชร์ ที่ เข้า ลักษณะ ความ ผิด ทาง อาญา และ ลักษณะก ารก ยู้ ืมเ งินท เ ่ี ปน็ การฉ ้อโกง ประชาชน ได้
มสธ 3-34 กฎหมายพ าณิชย์2:ยืมฝากท รพั ย์ตวั แทนประกนั ภ ัย มสธ เรื่องที่3.2.1มส การก ู้ย ืมเงินในล ักษณะพ ิเศษ นอกจากก ารก ย ู้ มื เ งนิ ใ นร ะหวา่ งเ อกชนก บั เ อกชนแ ลว้ ยงั ม ก ี ารก ย ู้ มื เ งนิ ร ะหวา่ งร ฐั ก บั เ อกชน ระหวา่ ง รัฐ กับ สถาบัน การ เงิน ใน ประเทศ และ สถาบัน การ เงิน ต่าง ประเทศ ซ่ึง มี วิธี การ ใน ทาง ปฏิบัติ ต่าง ไป จาก การ ก้ ยู มื กนั ร ะหว่างเ อกชน กับ เอกชน ดังน้ี 1. การกู้ย ืมเงินร ะหว่างรัฐก ับเอกชน เมอื่ ร ฐั บาลต อ้ งการใ ชเ ้ งนิ ท นุ เ พอ่ื พ ฒั นาป ระเทศห รอื ท าำ ก จิ การใ ดเ พอ่ื ส าธารณปู โภค นอกจากร ายไ ด ้ จากก ารเ ก็บ ภาษ อี ากรจ ากร าษฎร แลว้ วิธี ทร ่ี ัฐ จะ ได้ มา ซึ่ง เงิน ทนุ ดังก ลา่ ว ทาำ ได้โ ดยก ารอ อกพ นั ธบตั ร หรือ ตว๋ั เ งนิ ค งคลงั 19 ในป ระเทศไทยเ มอ่ื ร ฐั บาลต อ้ งการเ งนิ ท นุ ด งั ก ลา่ ว รฐั จ ะอ อกพ นั ธบตั รร ฐั บาลม ก ี าำ หนดร ะยะ เวลา เชน่ 5 ปี 10 ป ี ตาม ความ เหมาะ สม และ จะ กำาหนด ดอกเบย้ี ใ นพ ันธบัตร รัฐบาล นั้นป กตจ ิ ะเ ทา่ กับ อตั รา ดอกเบี้ยเ งิน ฝาก ประจำา หรือส ูง กว่าเ ล็ก น้อย เพื่อ เป็นการจ ูงใจใ ห้ มี ผู้ซ ้ือ พันธบัตรม าก ข้ึน พันธบัตรร ัฐบาล นับเ ป็นห ลกั ประกนั ท ม่ี ั่นคง เม่ือผ ู้ ใด ถือพ ันธบัตร รฐั บาล20 ก็เ ทา่ กบั ผ ู้น ้นั เ ป็นเ จา้ ห นี้ รัฐบาลใ นจ าำ นวน เงนิ ท ี่ ปรากฏใ นพ ันธบตั ร21 นอกจากก ารอ อกพ นั ธบตั รเ ปน็ ท างใ หร ้ ฐั ไ ดม ้ าซ ง่ึ เ งนิ ท นุ เ ทา่ กบั ร ฐั ก ย ู้ มื เ งนิ จ ากป ระชาชนแ ลว้ แหลง่ เงินก ู้ ทส ่ี าำ คญั อีก แหลง่ ห นง่ึ ของ รัฐก ค ็ ือ ธนาคาร แห่ง ประเทศไทย รฐั จะก เ ู้ งนิ จาก ธนาคารแ ห่ง ประเทศไทย ตาม ระเบียบ วธิ ีก าร ทางการ เงนิ การธ นาคาร ของ ประเทศ 2. การกู้ยืมเงินระหว่างรัฐกับรัฐ ในก รณร ี ฐั บาลต อ้ งการเ งนิ ท นุ เ พอื่ จ ะด าำ เนนิ ก ารต ามโ ครงการใ ดข องร ฐั นอกจากว ธิ ก ี ารข อ้ 1 แลว้ รฐั ย งั มว ี ธิ ห ี าเงนิ ท นุ โ ดยก ย ู้ มื จ ากร ฐั ต า่ งป ระเทศโ ดยต วั แทนข องร ฐั บาล เชน่ นายกร ฐั มนตรจ ี ะเ จรจาก บั ต วั แทนข อง รัฐ ต่าง ประเทศ ถึง เร่อื ง ความ ตอ้ งการ ความ ช่วย เหลือ ทางการ เงนิ โดย วิธ ีกู้ เงิน ซ่งึ จะ ตกลง ใน เร่ือง จาำ นวน เงิน อัตราด อกเบ้ยี กำาหนด เวลาช าำ ระค นื ซ่งึ การใ หค ้ วาม ชว่ ย เหลอื ของร ฐั ตา่ ง ประเทศม ักจ ะ ให ้ความ ชว่ ยเ หลอื เพอื่ รฐั ผ กู้ ใู้ ช ใ้ นโ ครงการ ระยะย าว เช่น ใน โครงการแ ก๊ส ธรรมชาต ิ รฐั ส ามารถก ู้เ งนิ ไ ด้ จากม ิตรป ระเทศ เช่น ประเทศส หรฐั อเมริกา แคนาดา องั กฤษแ ละฝ รั่งเศส เปน็ ต้น โดย มกี ระทรวงก ารค ลงั เป็น ผ ู้ดาำ เนิน การก ้ ยู มื โดย ผา่ นธ นาคารแ หง่ ประเทศไทย 19 วารี พงษเ์ วช เร่อื งเดยี วกัน น. 91. 20 ผู้ถ อื พันธบัตร เปน็ ผู้ ซ้อื พ ันธบัตรจ ากร ัฐบาลแ ละเ ปน็ เจา้ ของพ นั ธบตั ร 21 ม.ร.ว. คกึ ฤ ทธ ์ิ ปราโมช การธ นาคารพ าณชิ ย ์ ธนาคารศ รนี ครจ ดั พ มิ พเ ์ ปน็ อ นสุ รณใ ์ นง านพ ระราชทานเ พลงิ ศ พพ ระยา- โทณวณิก มนต ร ี กรุงเทพมหานคร เกษมส มั พนั ธ ก์ าร พิมพ์ พ.ศ. 2516 น. 41. ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การก ู้ย ืมเงนิ 3-35 มสธ 3. การกู้ย ืมเงินข องส ถาบันก ารเงินในประเทศมส การก ้ยู ืม เงินข อง สถาบนั การเ งนิ ในป ระเทศ ได้แก่ 3.1 การก ้ยู มื เงินข องธ นาคาร พาณิชย์ 3.2 การก ู้ย ืม เงินข องบ ริษทั เงิน ทุน และค า้ ห ลักท รัพย ์ หรอื สถาบัน การ เงนิ อน่ื 3.1ก�รกู้ยืมเงินของธ น�ค�รพ �ณิชย์ การ ก ยู้ ืม เงิน ของ ธนาคารพ าณิชย ใ์ น ประเทศ ได้แก ่ การ ก ยู้ มื เงนิ ร ะหว่าง ธนาคารพ าณชิ ยก ์ บั ธนาคารพ าณชิ ย เ์ พอ่ื ด าำ รงเ งนิ สด สาำ รอง ตาม กฎหมาย และ อน่ื ๆ ธนาคาร พาณชิ ย์ ใน ประเทศไทยก ้ ูยืมเ งนิ ไ ด จ้ ากแ หลง่ ท ี ส่ ำาคัญ 3 แหล่ง คอื 1) ธนาคาร พาณชิ ย ใ์ น ต่างป ระเทศ 2) ธนาคารพ าณชิ ย ์ในป ระเทศ 3) ธนาคาร แห่ง ประเทศไทย ธนาคารพ าณชิ ยใ์ นป ระเทศไทยก ยู้ ืมเ งินจ ากธ นาคารพ าณชิ ยใ์ นต ่างป ระเทศเ ป็นจ ำานวนม ากท ส่ี ุด เม่ือเ ปรียบ เทียบ กบั การก จ ู้ ากแ หล่ง อ่ืนอ ีก 2 แหลง่ 22 สาเหต ุเพราะจ าก ลักษณะเ ฉพาะ ของก าร ดำาเนนิ งาน ของ ธนาคาร ใน ประเทศ อย่าง หน่ึง คือ การ ท่ี ธนาคาร ให้ เครดิต แก่ ลูกค้า เพื่อ การ ส่ง สินค้า ออก หรือ สั่ง สินค้า เขา้ แลว้ ธนาคาร มักจ ะไ ป ขอ เปิด Credit กับธ นาคารใ นต า่ ง ประเทศ ต่ออ ีก ที หนงึ่ โดย เฉพาะ เครดิตเ พอื่ ก าร สง่ั ส นิ ค้า เข้า เหตุส ำาคญั 2 ประการท ี่ธนาคาร พาณชิ ยใ ์ นป ระเทศม ักไ ป กย ู้ ืมเ งิน จากธ นาคารต า่ ง ประเทศ 1. ธนาคารพ าณชิ ยส ์ ามารถก ย ู้ มื จ ากต ลาดเ งนิ ใ นต า่ งป ระเทศเ กอื บจ ะไ มม่ ข ี อบเขตจ าำ กดั และเ สยี ดอ กเ บ้ีย ในอ ัตรา ตำ่าก วา่ ท ี่ธนาคาร แห่งป ระเทศไทย เรียก เกบ็ 2. ธนาคาร แห่งป ระเทศไทยร บั ซ ื้อล ดต ัว๋ เงินบ างป ระเภท เทา่ นั้น ซง่ึ ไ ด้แก ่ ต๋ัวเ งนิ เพือ่ การ สง่ ออก ตว๋ั เ งนิ เ พอื่ ก ารอ ตุ สาหกรรม และต วั๋ เ งนิ เ พอื่ ก ารเกษตรก รรม นอกจากน ย ี้ งั ม เ ี งอ่ื นไขว า่ ธ นาคารพ าณชิ ยต ์ อ้ ง นาำ ไ ปใ ช้ ใน กจิ การด ัง กลา่ ว การ กู้ ยมื ใ นร ูป แบบน ี จ้ ะ เรยี ก ดอกเบีย้ เ กินก วา่ อัตรา ทกี่ าำ หนด ไมไ ่ ด้ 1) การ กู้ ยืม เงิน ระหว่าง ธนาคาร พาณิชย์ ใน ประเทศ กับ ธนาคาร พาณิชย์ ต่าง ประเทศ กระทำา ได้ โดย การ ที่ ธนาคารพ าณิชย์ ใน ประเทศ เจรจา กับ ธนาคาร พาณิชย์ ใน ต่าง ประเทศต กลงใ น ความส ำาคัญ ว่า จะ กู้ เงิน จำานวน เท่าใด อตั รา ดอกเบีย้ ระยะ เวลา ชำาระ หน ้ี ทาำ เป็น ขอ้ ตกลง ผา่ น ธนาคาร แหง่ ประเทศไทย ซ่งึ ธนาคาร แห่ง ประเทศไทย ต้อง จด ทะเบียน (Register) การ กู้ ยืม นั้น เพราะ การนำา เงิน เข้า หรือ ออก จาก ประเทศ ตอ้ ง ผา่ น ธนาคารแ หง่ ประเทศไทย23 2) การ กู้ ยืม ระหว่าง ธนาคาร พาณิชย์ ใน ประเทศ การ กู้ ยืม เงิน กัน ใน ระหว่าง ธนาคาร พาณิชย์ ใน ประเทศ โดย หลัก แล้ว ธนาคาร พาณิชย์ สามารถ กู้ ยืม เงิน ตาม สัญญา กู้ ยืม เงินได้ แต่ ใน ทาง ปฏิบัติ มัก จะ กระทาำ โ ดยต กลงก นั ด ว้ ยว าจาก ย ู้ มื ก นั ใ นร ะยะส นั้ เรยี กว า่ Call loan หรอื Money at Call ระยะเ วลา 3 วนั 7 วัน โดยม ีตว๋ั ส ญั ญา ใช้เ งิน เป็น หลัก ประกัน การก ย ู้ ืมเ งินโ ดย วิธ นี ี้จ ึงท ำาโ ดยไ ม่ ต้องท ำา สัญญาก ู้ยมื เงนิ 22 เร่ืองเดยี วกนั น. 113. 23 สมั ภาษณน ์ ายพ นม ตง้ั น มิ ติ รม งคล ผอ ู้ าำ นวยก ารฝ า่ ยก ารธ นาคารต า่ งป ระเทศ ณ ธนาคารไ ทยท น ุ จาำ กดั (ปจั จบุ นั ค วบ รวม กบั ธ นาคาร ทหารไทยเ ปน็ ธนาคาร TMB) สาำ นักงานใ หญ ่ วนั ท่ ี 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2525 ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-36 กฎหมายพาณิชย์2:ยมื ฝากท รพั ย์ตวั แทนประกันภ ัย มสธ 3) การก ย ู้ มื เ งนิ ธ นาคารแ หง่ ป ระเทศไทย ธนาคารแ หง่ ป ระเทศไทยเ ปน็ แ หลง่ ก ย ู้ มื แ หลง่ ส ดุ ทา้ ย มส ของธ นาคารพ าณชิ ย ์ เพราะห ากธ นาคารพ าณชิ ยส ์ ามารถก ย ู้ มื ไ ดจ ้ ากธ นาคารอ น่ื ธนาคารแ หง่ ป ระเทศไทย จะไ มใ ่ หก ้ ู้ ธนาคารแ หง่ ป ระเทศไทยจ ะใ หธ ้ นาคารพ าณชิ ยก ์ ย ู้ มื เ งนิ เ พอ่ื ใ หธ ้ นาคารพ าณชิ ยด ์ าำ รงเ งนิ สดส าำ รอง ไว้ หรือ เพื่อ ผดุง ฐานะ ของ ธนาคาร พาณิชย์ เท่านั้น การ ให้ ธนาคาร พาณิชย์ กู้ ยืม น้ัน อาจ ไม่มี หลัก ประกัน ใด แต ่อยภ ู่ ายใ ต้เ ง่ือนไข การ ชำาระค นื ตามข ้อ กำาหนด ของ ธนาคาร แหง่ ประเทศไทย ธนาคารพ าณิชย์ กย ู้ มื เ งินจ าก ธนาคาร แห่ง ประเทศไทย ได้ 2 วิธี 1) กย ู้ มื โ ดยม ห ี ลกั ท รพั ยร ์ ฐั บาลไ ทย24 เปน็ ป ระกนั ธนาคารแ หง่ ป ระเทศไทยพ จิ ารณาใ หก ้ ย ู้ มื เป็น รายๆ ไป ตาม ความ จำาเป็น ของ แต่ละ ธนาคาร เช่น เพ่ือ ดำารง เงินสด สำารอง ให้ ถูก ต้อง ตาม ที่ กฎหมาย กำาหนด หรือ เพื่อ ช่วย เหลือ ธนาคาร โดย ทำา หนังสือ ขอ กู้ และ วาง หลัก ทรัพย์ รัฐบาล เป็น ประกัน ตาม ระเบียบ แลว้ ธนาคารแ หง่ ป ระเทศไทยจ ะจ า่ ยเ งนิ ก ใ ู้ หท ้ นั ท ี นอกจากน ธ ้ี นาคารพ าณชิ ยย ์ งั อ าจท าำ ห นงั สอื ค วามต กลง กู้ เงิน และ วาง หลัก ทรัพย์ รัฐบาล เป็น ประกัน ล่วง หน้า ได้ ด้วย และ เม่ือ มี ความ จำาเป็น ต้อง ใช้ เงิน ข้ึน ธนาคาร พาณชิ ย ก์ เ ็ พยี งแ ตอ ่ อก ตว๋ั ส ญั ญา ใชเ ้ งนิ ต าม จาำ นวน ทต ี่ อ้ งการ จะก ย ู้ มื ซ งึ่ แ ตล่ ะ ครงั้ มก ี าำ หนด ไมเ ่ กนิ 90 วนั 25 2) กู้ย ืมโ ดย ขอ ช่วง ลด ตว๋ั ส ญั ญาใ ช เ้ งินบ าง ชนิดจ ากธ นาคาร พาณิชย์ ซึ่งไ ดแ้ ก ่ ต๋ัวส ัญญา ใช เ้ งิน ท ่ีเกิดจ ากก ารส ่งส ินค้า ออก การ ประกอบก จิ การอ ตุ สาหกรรม และท ี่เ กิด จาก เกษตรกร 3.2ก�รก ยู้ มื เงนิ ข องบ รษิ ทั เงนิ ท นุ แ ละค �้ ห ลกั ท รพั ย์ หรอื ส ถ�บนั ก �รเงนิ อ น่ื (FinanceandSecurity Companies) ธรุ กจิ เงนิ ท นุ หมายถ ึง ธรุ กจิ ก ารเ งนิ เพือ่ การค ้า การบ ริโภค การล งทุน การ เคหะ ฯลฯ ส่วน ธรุ กจิ ก าร ค้า หลกั ท รัพย์ หมายถ ึง การเ ปน็ น าย หน้า และผ ู้ค ้าห ลักท รัพย ์ ซ่ึง ธรุ กิจท ้งั สอง ชนดิ มักจ ะ รวมอ ยด ู่ ว้ ย กนั แหล่งสำาคัญของเงินทุนของบริษัทเงินทุน การ กู้ ยืม เงิน จาก ประชาชน โดย วิธี ขาย ต๋ัว สัญญา ใช้ เงิน กำาหนด อายุ ใน ต๋ัว และ กำาหนด ดอกเบ้ีย ให้การ กู้ ยืม เงิน และ เบิก เงิน เกิน บัญชี จาก ธนาคาร พาณิชย์26 ส่วน สถาบนั การเ งินอ ่ืน เชน่ บริษัทเ ครดติ ฟองซเิ อรบ ์ ้าน และ ทีด่ ิน ทรสั ต์ ก ็มท ี าง หาเงิน ทุนโ ดย วธิ กี าร กย ู้ มื เ งิน ทางห นึง่ ซงึ่ ก็เ ปน็ ไปใ นท าำ นองเ ดียวก ับ สถาบัน การเ งิน ท่ี ได ้กล่าว มาแ ล้ว 4. การกู้ยืมเงินของร ัฐบาลกับสถาบันก ารเงินระหว่างป ระเทศ การ กู้ ยืม เงิน ใน ลักษณะ น้ี ของ รัฐบาล ก็ มี เง่ือนไข ใน การ ให้ กู้ ยืม ต่าง ไป ตาม สถาบัน นั้นๆ เช่น การ ก้ ยู มื เงนิ จาก ธนาคารโลก กองทนุ ก ารเ งินร ะหว่าง ประเทศ (IMF) ธนาคารพ ัฒนาเ อเชีย (ADB) ธนาคาร แหง่ ส หภาพย โุ รป (EBC) ธนาคารข องอ เมรกิ า (OECF) เปน็ ตน้ ซงึ่ ใ นท น ่ี จ ี้ ะข อย กต วั อยา่ งเ พอ่ื ใ หท ้ ราบถ งึ วตั ถุประสงค์ เงอ่ื นไข ของก ารก ้ ูยมื เงิน เฉพาะ สถาบนั ที่ สำาคญั ทส่ี ุด คอื ธนาคารโลก 24 หลกั ท รพั ยร ์ ัฐบาล ไดแ้ ก ่ พนั ธบตั ร รฐั บาล 25 ฝ่าย วิชาการ ธนาคาร แห่ง ประเทศไทย หนังสือ ท่ี ระลึก ครบ รอบ 30 ปี ประวัติ และ การ ดำาเนิน งาน ของ ธนาคาร แห่ง ประเทศไทย กรุงเทพมหานคร ห้างห ้นุ ส ่วน จำากัด ศวิ พ ร พ.ศ. 2515 น. 43. 26 สุร กั ษ ์ บุญนาค และ วณี จงศ ริ ิร ัตน ์ เรือ่ งเดยี วกัน น. 159. ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การก ูย้ ืมเงนิ 3-37 การกู้ยืมเงินของรัฐบาลกับธนาคารโลก ธนาคารโลก มีชื่อ เต็ม ว่า “International Bank of มสธ Reconstruction and Development” มีว ตั ถุประสงค์ ทจี ่ ะ ช่วยเ หลือท างการเ งินแ ก ช่ าตท ิ ี่เป็นส มาชกิ เพอื่ มส บรู ณะ ซอ่ มแซม และพ ฒั นา เศรษฐกจิ 27 ซง่ึ ก าร ให ค้ วาม ชว่ ยเ หลอื ดงั ก ลา่ ว ช่วย เหลือ โดยใ ห ค้ วาม สะดวก ใน การ ลงทุน ใน กิจการ ที ่จะ เพิม่ ผลผลิต รวมท ัง้ ฟนื้ ฟ เู ศรษฐกจิ ท่ี ถกู ท ำาลายห รือส ลายไ ป เนอื่ งจากส งครามแ ละ เพอ่ื ส ง่ เ สรมิ ใ หก้ ารค า้ ร ะหวา่ งป ระเทศเ จรญิ งอกเงยไ ดส ้ ว่ นสดั ใ นร ะยะน านแ ละใ หด ้ ลุ ช าำ ระเ งนิ ร ะหวา่ งป ระเทศ มี สมดุลโ ดยก าร สนับสนุนก าร ลงทุนร ะหว่าง ประเทศ เพื่อ พัฒนาท รัพยากรท ี่ จะเ พิ่มก ำาลังผ ลิตข อง ประเทศ สมาชิก นอกจากน ี้ ธนาคารโลกย ัง ช่วยเ หลอื ร ัฐบาล โดยท างอ อ้ ม โดยว ิธีค าำ้ ประกันห รอื เ ขา้ ร่วม กบั บุคคล อ่นื ใน การ ใหเ ้ อกชน กู ย้ มื แ ละ ลงทนุ ในต ่าง ประเทศ ประเทศ ที่ เป็น สมาชิก ของ ธนาคารโลก เวลา นี้ มี สมาชิก กว่า 185 ประเทศ28 รวม ท้ัง ประเทศไทย การช าำ ระ คา่ หุน้ ใ น ธนาคารโลกต ้อง ชำาระ เป็น ทองคาำ หรือด อลลาร์ส หรัฐอเมริกา รอ้ ย ละ 2 ของ จำานวน เงนิ ท่ ี จะต ้องช ำาระท งั้ หมด ส่วน อีก ร้อย ละ 18 จะ ตอ้ งช าำ ระเ ปน็ เงนิ ต ราข อง สมาชกิ ท ่ีซ้อื หนุ้ แ ละ ฝาก ไว ้ ณ ธนาคาร กลาง ของ ประเทศส มาชกิ เช่น เงนิ บ าทก ฝ ็ าก ไว้ ณ ธนาคาร แห่งป ระเทศไทย เปน็ ต้น29 โดย ท่ัวๆ ไป ธนาคารโลก มี อำานาจ กำาหนด อัตรา ดอกเบี้ย ระยะ เวลา และ กำาหนด เง่ือนไข ใน การ ไถ่ถอนเ งิน ทีธ ่ นาคาร ใหก้ ู้ไ ป และ กำาหนด เง่ือนไข ท ่ีธนาคาร จะ คาำ้ ป ระกัน เงนิ ก ขู้ อง สมาชกิ หรอื เอกชน เนื่องจาก ธนาคารโลก เป็น สถาบัน การ เงิน ท่ี สำาคัญ ท่ีสุด ดัง น้ัน จึง ได้ กำาหนด เง่ือนไข ใน การ ให้ ประเทศ สมาชิก กู้ ยืม เงิน หรือ คำ้า ประกันค ่อน ข้าง เคร่งครัด ซ่ึง จะ ขอ ยก ขึ้น มา กล่าว เป็น ตัวอย่าง พอ ให้ เห็น เป็นแ นวทางด ังน้ี เงื่อนไขใ นก าร ให้ กย ู้ มื และค ้ำา ประกนั ธนาคารโลกม เี งื่อนไขใ น การใ ห ้กยู ้ มื แ ละค ้าำ ป ระกันด ังน้ี 1. ธนาคารอ าจใ หก ้ ย ู้ มื ห รอื ค าำ้ ป ระกนั เ ฉพาะเ มอื่ พ อใจแ ลว้ ว า่ ผ ก ู้ ไ ู้ มส ่ ามารถก ย ู้ มื ไ ดจ ้ ากท างอ นื่ ใ น ข้อต กลง ทสี่ มควร 2. ยกเวน้ เ มอื่ ม เ ี หตกุ ารณพ ์ เิ ศษ เงนิ ก ท ู้ ธ ี่ นาคารจ ะใ หก ้ ย ู้ มื ห รอื ค า้ำ ป ระกนั น นั้ จ ะใ หก ้ ห ู้ รอื ค า้ำ ป ระกนั เฉพาะข อ้ ต กลงใ นโ ครงการเ พอื่ ก ารบ รู ณะแ ละพ ฒั นาเ ศรษฐกจิ กลา่ วโ ดยท วั่ ๆ ไป ธนาคารจ ะจ า่ ยเ งนิ ก เ ู้ ปน็ เงนิ ต ราต ่าง ประเทศใ ห้ สมาชกิ 3. เมื่อ รัฐบาล มิใช่ ผู้ กู้ เอง แต่ มี โครงการ จัด สร้าง ภายใน อาณาเขต ของ ตน อีก นัย หนึ่ง ว่า มี บริษัท กสิกรรม อุตสาหกรรม ของ เอกชน ต้องการ กู้ หรือ ให้ ธนาคาร คำ้า ประกัน ธนาคาร อาจ ไม่ ให้ กู้ หรือ ค้ำา ประกัน เว้น แต่ รัฐบาล ของ สมาชิก ธนาคาร กลาง หรือ ตัวแทน อ่ืน ซ่ึง มี ฐานะ เท่า เทียม กัน จะ ยอม คำ้า ประกัน การ ชำาระ คืน ท้งั หมดซ ่ึง เงนิ ต้น และด อกเบ้ยี ต ลอด จนค ่า ธรรมเนียม อ่ืนๆ 27 เรื่องเดียวกันน. 160. 28 www.worldbank.org/website/External/Countries 29 วารี พงษ์เวชเรอื่ งเดียวกนั น. 474, 475. ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-38 กฎหมายพาณิชย์2:ยืมฝากท รพั ย์ตวั แทนประกนั ภ ัย 4. ใน การ ให้ กู้ ยืม หรือ ค้ำา ประกัน ธนาคาร จะ พิจารณา ตาม สมควร ว่า ผู้ กู้ หรือ ผู้ คำ้า ประกัน มี ความ มสธ มส สามารถ ชำาระ หน้ี ธนาคาร จะ ตั้ง กรรมการ ผู้ เชี่ยวชาญ ทาง เทคนิค ข้ึน เพื่อ ศึกษา โครงการ และ รายงาน ว่า โครงการน นั้ จ ะเ พมิ่ ก าำ ลงั ผ ลติ จะเ พมิ่ พนู ท รพั ยแ ์ ละท รพั ยากรข องป ระเทศแ ละเ ปน็ ป ระโยชนช ์ ว่ ยใ หส ้ มาชกิ มฐี านะ ดี ขนึ้ ใ น ดลุ ช ำาระเ งินร ะหวา่ ง ประเทศเ พียง ใดห รอื ไ ม่ 5. สมาชกิ จ ะต ดิ ตอ่ ก บั ธ นาคารโ ดยผ า่ นก ระทรวงก ารค ลงั ธนาคารก ลางก องทนุ จ ดั เ สถยี รภาพห รอื ตวั แทนก ารค ลงั ท ท ี่ าำ ห นา้ ทค ี่ ลา้ ยคลงึ กนั และธ นาคารจ ะต ดิ ตอ่ ก บั ส มาชกิ โ ดยผ า่ นเ จา้ ห นา้ ทด ี่ งั ก ลา่ วเ ทา่ นน้ั 6. ธนาคารไ มบ่ งั คับห รอื ม เี ง่อื นไขว ่าเ งนิ ก ทู้ ผี่ กู้ ไ ู้ ดร ้ บั ไ ปน ั้น จะต ้องเ อาไ ปใ ชภ้ ายในอ าณาเขตข อง สมาชิก หรือ ของ บรรดา สมาชิก โดย เฉพาะ เงิน ท่ี กู้ ยืม ไป น้ัน สมาชิก จะ เอา ไป ใช้ ใน ประเทศ สมาชิก ใด ก็ได้ ฉะน้ัน ธนาคาร จึง ช่วย ให้ สมาชิก ได้ กู้ ยืม เงิน ใน ตลาด ทุน โดย เสียด อก เบี้ย ถูก และ ช่วย ให้ สมาชิก ได้ ใช้ เงิน ซื้อ วตั ถุดิบแ ละเ คร่ืองจักร ฯลฯ จาก ท ที่ ่ีม รี าคา ถูก30 รฐั บาลไ ทย สามารถ กย ู้ มื เงนิ จาก ธนาคารโลก ได้ ตาม เงอื่ นไขด ัง กล่าว ขา้ งต ้น ซงึ่ ธนาคารโลกไ ดใ ้ ห ้ ความช ว่ ยเ หลอื แ กร ่ ฐั บาลไ ทยใ นก ารพ ฒั นาป ระเทศม าโ ดยต ลอด ธนาคารโลกใ หก ้ ย ู้ มื ร ะยะย าวก วา่ ธ นาคาร พาณิชย โ์ ดยส ามารถก ไ ู้ ด้ ในร ะยะ ยาว 15–20 ปี ขยาย เวลา การ ชาำ ระ หนีค ้ ืน งวด แรกเ ปน็ 3–5 ป ี รัฐบาลข อง หลาย ประเทศท ี่ กำาลงั พฒั นา ให ก้ ้เ ู งนิ ไ ปเ พ่อื จ ัด ทาำ โ ครงการต ่างๆ เช่น ความ พยายาม ลด ความ ยากจน การ จดั บ ริการท างส งั คมก ารพ ิทกั ษส ์ ่ิงแ วดล้อม และก ารส นบั สนนุ ก ารเ ติบโตท างเ ศรษฐกจิ ซง่ึ จ ะน าำ ไ ปส ก ู่ ารย ก ระดบั มาตรฐานก ารค รอง ชีพ31 กิจกรรม3.2.1 ใหน ้ กั ศกึ ษาท บทวนเ นอ้ื หาข องเ รอ่ื งท ่ี 3.2.1 แลว้ ล องใ หค ้ าำ ต อบว า่ ธนาคารโลกใ หก ้ ย ู้ มื แ กป ่ ระเทศ สมาชิก เพื่อว ัตถปุ ระสงค์ใ ด แนวต อบกิจกรรม3.2.1 ธนาคารโลก ให้ ประเทศ สมาชิก กู้ ยืม เพ่ือ ช่วย เหลือ ใน การ บูรณะ และ พัฒนา ภายใน อาณาเขต ของ สมาชกิ 30 เรือ่ งเดยี วกนั น. 477-479. 31 www.worldbank.org/website/External/Countries. ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การก ูย้ ืมเงนิ 3-39 มสธ เรื่องท ี่3.2.2มส การก ู้ยืมเงินโดยว ิธีเอาส ิ่งของห รือทรัพย์สินอย่างอื่นแทนจำานวนเงิน การก ย ู้ มื เ งนิ โ ดยว ธิ เ ี อาส ง่ิ ของห รอื เ อาท รพั ยส์ นิ อ ยา่ งอ น่ื แ ทนจ าำ นวนเ งนิ น เ ี้ ปน็ การก ย ู้ มื เ งนิ ก นั โ ดย มิได ม้ ก ี ารส ง่ มอบ เงินใ ห้แ กก ่ ันต าม ลักษณะส ญั ญาย ืม ใช้ สิ้น เปลอื ง ทวั่ ไป ตาม ปพพ. มาตรา 650 วรรค สอง ซ่ึง บัญญัติ ว่า “สัญญานี้ย่อมบริบูรณ์ต่อเมื่อส่งมอบทรัพย์สินท่ียืม” ใน การ กู้ ยืม เงิน วัตถุ แห่ง สัญญา ต้อง มอบเ งินแ ก่ กัน แตต่ าม กรณ ที ่จ ี ะก ล่าวน ีเ ้ ปน็ การก ้ย ู ืมเ งินก ันโ ดย มวี ัตถ แุ ห่งส ญั ญาเ ปน็ ส ่ิงของ หรอื ท รัพย์สนิ อน่ื ซงึ่ ก รณน ี จ ้ี ะท าำ ไดเ ้ พยี งใ ดแ ละม ผ ี ลบ งั คบั ก นั ต ามก ฎหมายห รอื ไ ม ่ การก ย ู้ มื เ งนิ ก นั โ ดยม ว ี ตั ถแ ุ หง่ ส ญั ญา เปน็ ส ง่ิ ของ หรอื ท รพั ย์สินอ นื่ ไ ด้ บัญญัตไ ิ ว้ ใน ปพพ. มาตรา 656 ซง่ึ บ ัญญัตว ิ ่า “ถ้า ทาำ ส ญั ญา กู้ย ืมเ งนิ กัน แ ละ ผู้ กู้ ยืม ยอมรับ เอา ส่ิงของ หรือ ทรัพย์สิน อย่าง อ่ืน แทน จำานวน เงิน นั้น ไซร้ ท่าน ให้ คิด เป็น หนี้ เงิน ค้าง ชำาระ โดย จาำ นวนเ ทา่ กบั ร าคาท อ้ งต ลาดแ หง่ ส งิ่ ของห รอื ท รพั ยส์ นิ น นั้ ใ นเ วลาแ ละ ณ สถานท ส ี่ ง่ ม อบ” ดงั น นั้ จ ะเ หน็ ว า่ ก รณ ี ดัง กลา่ ว น ที้ ำาไดเ้ ม่ือผ ู้ก ู้ย ืม ยอมรับ เอา ส่ิงของ หรอื ท รพั ย์สนิ อ ยา่ งอ นื่ แทน จำานวนเ งินน ัน้ เชน่ กัง้ ยมื เงิน เข่ง โดยก ง้ั ผ ก ู้ ย ู้ มื ต กลงก บั เ ขง่ ผ ใ ู้ หก ้ ว ู้ า่ จ ะร บั เ อาข า้ วสาร หนงึ่ ก ระสอบ แทนจ าำ นวนเ งนิ ต ามก รณน ี ี้ กง้ั เปน็ ห นเ ี้ งนิ ค้าง ชำาระ แก่ เข่ง โดย จำานวน เท่ากับ ราคา ท้อง ตลาด แห่ง สิ่งของ หรือ ทรัพย์สิน น้ัน ใน เวลา และ ณ สถาน ที่ สง่ ม อบข า้ วสารน นั้ เชน่ ในข ณะท ส ่ี ง่ ม อบข า้ วสารก นั น น้ั ขา้ วสารม ร ี าคาใ นท อ้ งต ลาดก ระสอบล ะ 1,000 บาท กรณีน ถ ี้ อื ว่า กั้งเ ปน็ หน ี้เงนิ ค้างช ำาระ แก ่เขง่ จำานวน 1,000 บาท ตาม ราคา ข้าวสาร ในข ณะน ัน้ ในท างก ลบั ก นั ก รณก ี ารช าำ ระห นท ้ี ก ี่ ย ู้ มื ก นั ผก ู้ ต ู้ กลงก บั ผ ใ ู้ หก ้ ย ู้ มื เ งนิ ว า่ จ ะช าำ ระส ง่ิ ของห รอื ท รพั ยส์ นิ อนื่ แ ทนจ าำ นวนเ งนิ ท ก ่ี ย ู้ มื ก นั คส ู่ ญั ญาย อ่ มต กลงเ ชน่ น น้ั ไ ด ้ หากข อ้ ส ญั ญาด งั ก ลา่ วไ มข ่ ดั ต อ่ ม าตรา 656 วรรค สอง ซึ่ง บัญญัติ ว่า “ถ้า ทำา สัญญา กู้ ยืม เงิน กัน และ ผู้ ให้ กู้ ยืม ยอมรับ เอา สิ่งของ หรือ ทรัพย์สิน อย่าง อ่ืน เป็นการ ชาำ ระห นแ ้ี ทนเ งนิ ท ก ่ี ย ู้ มื ไ ซร ้ หนอ ้ี นั ร ะงบั ไ ปเ พราะก ารช าำ ระเ ชน่ น น้ั ทา่ นใ หค ้ ดิ เ ปน็ จ าำ นวนเ ทา่ กบั ร าคาท อ้ งต ลาด แ หง่ ส ่ิงของ หรือท รัพย์สิน นั้น ในเ วลาแ ละ ณ สถาน ท สี่ ง่ ม อบ” ปกติ ใน การ กู้ ยืม เงิน เวลา ชำาระ หน้ี ผู้ กู้ ต้อง ชำาระ คืนด้วย เงิน แต่ มี บาง กรณี ที่ ผู้ ให้ กู้ ยินยอม รับ เอา สง่ิ ของห รอื ท รพั ยส์ นิ อ ยา่ งอ นื่ แ ทนก ารช าำ ระห นด ี้ ว้ ยเ งนิ ก เ ็ ปน็ ไ ด ้ ซง่ึ ก ารย อมรบั ส ง่ิ ของห รอื ท รพั ยส์ นิ อ น่ื ใ ดน ้ี คู่ สัญญา จะ ตกลง กัน ไว้ ใน ขณะ ทำา สัญญา กู้ ยืม เงิน หรือ มา ตกลง กัน ใน ขณะ ชำาระ หน้ี ข้อ นี้ เห็น ว่า ตกลง กัน เ วลาใ ดก ไ็ ด ้ เพยี งแ ตผ ่ ใ ู้ หก ้ ย ู้ อมรบั ก เ ็ ปน็ อ นั ใ ชไ้ ด ้ ขอ้ ส าำ คญั ต อ้ งต กลงใ นเ รอื่ งร าคาส ง่ิ ของห รอื ท รพั ยส์ นิ อ น่ื ใ น เวลาแ ละ ณ สถานท ส ี่ ง่ ม อบ การป ฏบิ ตั เ ิ ชน่ น น้ั ก ถ ็ อื วา่ ใ ชไ้ ดต ้ ามก ฎหมาย เชน่ กงั้ กย ู้ มื เ งนิ เขง่ จาำ นวน 1,000 บาท โดย ตกลง กัน ว่า ใน เวลา ชำาระ หน้ี กั้ง จะ ชำาระ ด้วย ข้าวสาร จำานวน 1 กระสอบ แทน จำานวน เงิน 1,000 บาท ดงั น ัน้ เมอ่ื เ ข่ง ตกลงย นิ ยอมด ว้ ยใ นข ณะ ชำาระ หน ้ี โดยย อมรบั เอา ข้าวสารน นั้ แ ทน จำานวน เงนิ 1,000 บาท โดย คิด ราคา ข้าวสาร นั้น ตาม ราคา ท้อง ตลาด ใน เวลา และ ณ สถาน ที่ ส่ง มอบ เม่ือ เข่ง ยอมรับ ข้าวสาร นั้น ไว้เ ทา่ กับ เป็นการ ชำาระห น ี้ หนี้อ นั นั้น ก ร็ ะงบั ส ้นิ ไ ป เพราะ การ ชำาระ เช่นน ั้น ความต กลงข องค ู่ สัญญา ดงั ก ล่าว มี ผล บังคับ ได้ ซึ่ง การ ท่ี กฎหมาย บังคับ ไว้ เช่น นั้น เป็นการ ยุติธรรม สำาหรับ ผู้ ให้ กู้ ยืม และ ผู้ กู้ยืม คือ การ ให้ คิด ราคา ส่ิงของ หรือ ทรัพย์สิน อย่าง อ่ืน ที่ ส่ง มอบ เท่ากับ ราคา แห่ง ท้อง ตลาด แห่ง ส่ิงของ หรือ ทรัพย์สิน น้ัน ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-40 กฎหมายพาณิชย์2:ยืมฝากท รพั ย์ตัวแทนประกันภ ัย ใน เวลาแ ละ ณ สถาน ท ีท่ ส่ ี ง่ มอบ ไม ่วา่ สงิ่ ของ หรือท รัพยส์ นิ น ้ันจ ะ ม รี าคา สงู ข้นึ หรอื ลด ต่ำา ลงอ ย่างไร หาก มสธ คิด ราคา ทรัพย์สิน หรือ สิ่งของ ใน เวลา และ ณ สถาน ท่ี ที่ ส่ง มอบ ก็ ไม่ ทำาให้ ฝ่าย ใด เป็น ฝ่าย เสีย เปรียบ เช่น มส ขณะ ทำา สัญญา กู้ ยืม เงิน กัน ผู้ ให้ กู้ ส่ง มอบ ข้าวสาร 1 กระสอบ ให้ ผู้ กู้ ยืม โดย คิด เท่ากับ จำานวน เงิน ท่ี กู้ ยืม คือ จำานวน 1,000 บาท ซึ่ง เท่ากับ ราคา ข้าวสาร ใน ท้อง ตลาด ขณะ ส่ง มอบ อีก 1 เดือน ต่อ มา ผู้ กู้ นำา เงิน มา ชำาระ แก่ ผู้ ให้ กู้ จำานวน 1,000 บาท (ดอกเบ้ีย ตกลง กัน ต่าง หาก) แม้ ขณะ ท่ี ผู้ กู้ ชำาระ หนี้ ให้ ผู้ ให้ กู้ ราคา ข้าวสาร ใน ท้อง ตลาด จะ เพิ่ม ข้ึน เป็นก ระ สอบ ละ 1,500 บาท ผู้ กู้ ก็ ไม่ ต้อง ชำาระ เงิน ให้ ผู้ กู้ เท่า จำานวน ราคา ข้าวสาร ใน ขณะ นั้น ผู้ กู้ คง ชำาระ เงิน เท่ากับ ราคา ข้าวสาร ขณะ ส่ง มอบ เท่าน้ัน คือ 1,000 บาท หรือ กรณี กลับ กัน ผู้ กู้ ได้ กู้ เงิน จาก ผู้ ให้ กู้ 1,000 บาท ใน ขณะ ชำาระ หนี้ ผู้ ให้ กู้ ยินยอม จะ ให้ ผู้ กู้ ชำาระ คืน ด้วย ข้าวสาร ชนิด หนึ่ง ซ่ึง ใน ขณะ ท่ี ได้ กู้ ยืม เงิน กัน ราคา ข้าวสาร ชนิด น้ัน มี ราคา 1,500 บาท แต่ ขณะ ท่ี ผู้ กู้ ชำาระ หนี้ คืน ผู้ ให้ก ู้ ยืม ราคาใ น ท้องต ลาด ของ ข้าวสารด ัง กล่าว ลดล ง เหลือก ระ สอบ ละ 1,000 บาท ดัง น้ัน ผก ู้ ไ ู้ มจ ่ าำ ต อ้ งหาข า้ วสารช นดิ ร าคา 1,500 บาท มาช าำ ระใ หแ ้ กผ ่ ใ ู้ หก ้ ู้ ผก ู้ ช ู้ าำ ระข า้ วสารใ หแ ้ กผ ่ ใ ู้ หก ้ ต ู้ ามร าคาท อ้ ง ตลาดใ นข ณะน ้นั คือ 1,000 บาท หาก ผู้ ให ้ก ู้ยอมรบั ก าร ชำาระ หน ด้ี ว้ ยข ้าวสาร ซ่งึ เป็นการ รบั ชาำ ระห นด ้ี ้วย สิ่งของ หรือ ทรัพย์สิน อื่น ถือว่า หนี้ ได้ ระงับ สิ้น ไป เพราะ การ ชำาระ หนี้ นั้น ผู้ ให้ กู้ จะ บังคับ ให้ ผู้ กู้ ชำาระ หน้ี ด้วย ข้าวสารช นดิ ท ่ม ี ร ี าคาส ูง โดย คิดร าคาข ณะ ท ใ่ี หก้ ้ยู มื ไมไ ่ ด้ อน่ึง เดิม มี ประกาศห ้ามม ิ ให้ ตกข้าวแ ก่ ชาวนา จ.ศ. 1239 (พ.ศ. 2420) ซ่ึง ห้าม มิ ให้ ตกลงส ่ง ใช้ ตน้ เ งนิ แ ละด อกเบยี้ เ ปน็ ข า้ วโ ดยก าำ หนดจ าำ นวนข า้ วแ นน่ อนว า่ เ ปน็ จ าำ นวนเ ทา่ นน้ั เ ทา่ น ้ี ถา้ ไ ดต ้ กลงก นั เ ชน่ น ี้ เรียก ว่า ทาำ ส ญั ญา ตกขา้ ว ห้ามม ใิ ห้ศ าล บังคับค ดี ให ้ แตถ่ ้าค กู่ รณี ได ต้ ี ราคา ข้าว หรอื กาำ หนด ราคา ไว แ้ นน่ อน เชน่ กู้ ยมื เงิน ไป 1,000 บาท ให้ ชำาระ คืนด ว้ ยข ้าวสาร 1 กระสอบ ราคา 1,000 บาท ย่อมท าำ ได ไ้ ม่ ตอ้ ง ห้าม ตาม กฎหมาย เมื่อ มี ประมวลก ฎหมายแ พ่ง และพ าณิชย ใ์ ช ้ (1 เมษายน พ.ศ. 2472) ประกาศ ดังก ลา่ ว ไมไ ่ ด ้ นาำ ม าใ ชก ้ นั อ กี แ ละไ ดบ ้ ญั ญตั ม ิ าตรา 656 ไว ้ ตวั อยา่ งค าำ พ พิ ากษาศ าลฎ กี าว นิ จิ ฉยั ในเ รอ่ื งร บั เ อาส ง่ิ ของห รอื ทรัพย์สนิ อืน่ แ ทนจ ำานวน เงิน ใน ฎ. 645/2489 “ใน เรือ่ ง นจ้ี าำ เลย จะ รับ เอาผ ้า จาก โจทก์ไ ป ขาย 6 พับ ราคา 1,800 บาท โจทก์ไ ม่ เชอ่ื ใ จ จึงใ ห้ จาำ เลย ทำา เป็นส ัญญา กไ ู้ ว้เ ป็น เงิน 1,800 บาท เทา่ ร าคาผ า้ ดังนีศ ้ าล วนิ ิจฉยั วา่ เ ขา้ ล กั ษณะร บั เ อาส ง่ิ ของแ ทนจ าำ นวนเ งนิ ต าม มาตรา 656 วรรคห นงึ่ จงึ เ ปน็ ส ญั ญาก ย ู้ มื โ ดยช อบฟ อ้ งร อ้ ง บงั คับ ได ้ เพราะ คิด ราคา ตาม ทอ้ ง ตลาดใ น เวลา และส ถาน ท่ สี ่ง มอบ กนั ” ในเ รือ่ งค วามต กลง ในก รณ ที ี่ผ ก ู้ ้ยู อมรบั สง่ิ ของห รือ ทรัพย์สนิ อ่นื แ ทนจ าำ นวน เงิน ท่ ีก้ย ู ืม กันก ด ็ ี หรือ ผ ใู้ หก ้ ้ย ู อมรับส งิ่ ของ หรอื ท รัพยส์ นิ อ ่นื แ ทน การร บั ช าำ ระห นี้ ดว้ ย เงินก ็ ด นี ัน้ ขน้ึ อ ยก ู่ บั การย อมรับข องผ ู้ก ู้ และ ผู้ ให้ กู้ ดัง กล่าว คือ ความ ตกลง ของ ผู้ กู้ และ ผู้ ให้ กู้ น้ัน ต้อง ไม่ ขัด ต่อ บทบัญญัติ ของ กฎหมาย ใน เรื่อง จำานวน หนี้ ที่ ผู้ กู้ ค้าง ชำาระ หรอื จาำ นวน เงนิ ท่ ีผ ู้ก ู้จะ ตอ้ ง ชำาระ ให้ แก ่ผ้ ูก้ ูนน้ั ค ู่สัญญา ต้อง คาำ นึง ถึง เรอ่ื ง ราคา ของ สิ่งของ หรอื ทรพั ยส์ นิ อยา่ ง อน่ื เปน็ สาระส าำ คญั ใน ขณะย อมรบั ส งิ่ ของห รอื ทรพั ยส์ นิ อนื่ ซง่ึ ต อ้ งเ ปน็ ไป ตามร าคาท อ้ ง ตลาดแ หง่ ส งิ่ ของห รอื ท รพั ยส์ นิ ใ นเ วลาแ ละ ณ สถานท ส ่ี ง่ ม อบเ ปน็ ส าำ คญั ซงึ่ ใ นเ รอ่ื งค วามต กลงน ไ ้ี ดก ้ ลา่ วไ ว ้ ใน มาตรา 656 วรรคส าม ความว ่า “ความ ตกลง อยา่ งใด ๆ ขดั กบั ข อ้ ความ ดงั กล่าวมาน้ี ท่านว่าเป็นโมฆะ” ดัง ตัวอย่าง ใน คำาพ พิ ากษา ศาล ฎีกา ตอ่ ไ ปน ี้ ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การก ยู้ มื เงิน 3-41 มสธ ฎ.1683/2493 สัญญา กู้ เงิน มี ใจความ ว่า กู้ เงิน ไป จำานวน หน่ึง สัญญา จะ ใช้ คืน ภายใน กำาหนด และ มี มส ขอ้ ความว า่ ผ ก ู้ ไ ู้ ดน ้ าำ น าแ ปลงห นง่ึ ม าใ หผ ้ ใ ู้ หก ้ ย ู้ ดึ ไ วเ ้ ปน็ ป ระกนั โดยม บ ี นั ทกึ ว า่ นาร ายน ข ้ี า้ พเจา้ ไ มน ่ าำ ต น้ เ งนิ และ ดอกเบี้ย มา ให้ ท่าน ตาม สัญญา น้ี ข้าพเจ้า ยอม โอน ท่ี นา ราย นี้ ให้ แก่ ท่าน เป็น กรรมสิทธิ์ ดังน้ี ถือว่า เป็น สัญญาก หู้ นธี ้ รรมดาไ มใ่ ชส่ ัญญาจ ะซ อ้ื ข ายท น ่ี า ฉะนัน้ จ งึ ต ้องบ ังคบั ต ามก ฎหมายว ่าด ว้ ยย ืมใ ชส้ ิน้ เ ปลืองค อื ตาม ปพพ. มาตรา 650 เมอื่ ต กลงก นั ล ว่ งห นา้ ว า่ ถ า้ ไ มช ่ าำ ระห นภ ี้ ายในก าำ หนดย อมโ อนท น ่ี าใ หเ ้ ปน็ ก รรมสทิ ธ ิ์ จึงเป็นการเอาทรัพย์สินอย่างอ่ืนชำาระหน้ีแทนเงินกันทีเดียวโดยมิคำานึงถึงราคานาเสียเลย จึง เป็นการ ฝ่าฝืน มาตรา 656 วรรค สอง และ ตกเ ป็น โมฆะ ตามว รรคส าม ผู้ ให ก้ ้ จู ึง ไม่มส ี ทิ ธท ิ ี่จ ะ ฟ้องข อ ให้ บังคบั ผ ู้กโ้ ู อน ทีน ่ า ให้ แก่ ตน ตามส ัญญา ได้ ฎ.766–767/2506(ป.ใหญ่) “ข้อ ตกลง ใน สัญญา กู้ ท่ี ว่า เม่ือ ผู้ กู้ ไม่ ใช้ เงิน ต้อง โอน สิทธิ การ เช่า ให้ แก่ ผู้ ให้ กู้ โดย ไม่ ต้อง คำานึง ถึงว่า สิทธิ แห่ง การ เช่า นั้น มี ราคา เท่าใด ใน ท้อง ตลาด ใน เวลา ส่ง มอบ ย่อม ขัด กับ ปพพ. มาตรา 656 วรรค สอง จึง เป็น โมฆะ ตาม วรรค สาม ผู้ ให้ กู้ ไม่มี สิทธิ ฟ้อง ให้ โอน สิทธิ การ เช่า ดัง กล่าว” กรณี น ้แี ม้ข ้อ ตกลง ดงั กลา่ ว เป็นโ มฆะ แต ถ่ า้ ค ู่ กรณ ไี ดท ้ ำาส ญั ญาก ย ู้ ืม เงนิ กนั จริง ผู้ใ ห ก้ กู้ ็ม ี สิทธิ ฟอ้ งเ รียกเ งนิ ที่ ให้ กู้ ยมื คืนไ ด ้ แตต่ ่อม าม ี คาำ พิพากษาศ าลฎ ีกาท ่ ี 3052/2527 วินจิ ฉยั ไวด ้ งั น้ี “จำาเลยท าำ ส ัญญา โอน สทิ ธิ การ เชา่ อาคาร พาณิชย ์กบั โจทก ์มี ข้อความ ว่า ตาม ท ่ีจำาเลย ทำา สัญญา กู้ เงนิ โจทก์ จำาเลย ตกลง โอน สทิ ธิ การ เช่าใ หแ ้ ก่โ จทก์ และโ จทกต ์ กลง รับ โอน ภาย ใตเ ้ งอื่ นไขบ ังคบั กอ่ น วา่ การโ อนส ทิ ธ ิการเ ชา่ ราย นจี ้ ะบ ังเกดิ ผ ล สมบรู ณต ์ ามก ฎหมายก ต ็ อ่ เ มอื่ จ าำ เลยผ ดิ นดั ไ มช ่ าำ ระห นต ้ี ามส ญั ญาก เ ู้ งนิ ใ นก ารโ อนส ทิ ธก ิ ารเ ชา่ เมอ่ื ผ รู้ บั โ อน ตี ราคา สทิ ธ ิการ เช่า ตาม ราคา ทรพั ย์ ใน ทอ้ ง ตลาด ตาม นยั แหง่ มาตรา 656 ของ ปพพ. ใน เวลา และ สถาน ที่ สง่ ม อบแ ลว้ หากไ ดเ ้ งนิ ไ มพ ่ อช าำ ระห นจ ้ี าำ เลยย นิ ยอมช าำ ระห นส ี้ ว่ นท ข ี่ าดแ กโ ่ จทกจ ์ นค รบ และป รากฏต อ่ ม าว า่ จำาเลย ผิดนัด ชำาระ หนี้ เงิน กู้ ตาม สัญญา ดังน้ี หน้ี เงิน กู้ เดิม ซ่ึง เป็น หน้ี ประธาน มี อยู่ อย่างไร ก็ คง มี อยู่ อย่าง นั้น มิไดม ้ กี าร เปล่ยี น ส่งิ ซ่งึ เปน็ ส าระส าำ คัญอ ัน จะท าำ ให้ห นน ้ี ้นั เป็น อนั ระงับ สนิ้ ไป เพราะ เม่ือต ร ี าคาส ิทธิก าร เชา่ ตามร าคาท รัพยใ์ นท ้อง ตลาดต ามน ัย แห่ง มาตรา 656 ใน เวลาแ ละส ถานท ่ีท ี่ส ่งม อบแ ล้ว หากไ ด้เ งินไ ม่ พอ ชาำ ระห น ี้ จาำ เลยย นิ ยอมช าำ ระห นส ี้ ว่ นท ข ี่ าดจ นค รบ สญั ญาโ อนส ทิ ธก ิ ารเ ชา่ ด งั ก ลา่ วจ งึ เ ปน็ เ พยี งห ลกั ป ระกนั การ ชำาระห น้ ีเงิน ก เู้ พ่อื ใหโ ้ จทกส ์ ามารถบ ังคบั เอาช าำ ระห น้ีเ งนิ ก ู้ไ ด้ เทา่ นนั้ หาเ ป็นการ แปลง หนี้ ใหมไ ่ ม ่ เมื่อ โจทก์ไ ม่ สามารถร ับ โอน สิทธิ การ เช่า ตาม สัญญาเ น่ืองจาก จำาเลยอ ้าง ว่า ยัง มิได้ ผิด สัญญา จำาเลยก ็ ต้อง รับ ผิด ชาำ ระห นเ ้ี งินก ู้พ รอ้ ม ดอกเบี้ย ตามฟ อ้ ง” ความเ ป็นโ มฆะ ก เ็ ฉพาะ เรอ่ื งก าร คิดร าคา ไมท ่ ำาให ส้ ญั ญาก ้ เู สียไ ป ฎ.779/2497“การ กเ ู้ งิน โดย มข ี ้อ สญั ญาว ่าถ ้าไ มใ ่ ช้ เงินก ูค้ ืน ผู้ก ู ย้ อมโ อน กรรมสิทธ์ ทิ ่ี นาใ ห น้ ้นั ขอ้ ตกลง ทเ่ ี ปน็ โมฆะ ตาม มาตรา 656 วรรคส องแ ละว รรค สาม ก็เ ฉพาะ เรอ่ื งก าร คดิ ร าคา ทรัพยท ์ ใี่ ชแ ้ ทนเ งินก ู้ เท่าน้ัน หา ทำาให้ สัญญา กู้ เสีย ไป ทั้ง ฉบับ ไม่ ผู้ ให้ กู้ ฟ้อง เรียก เงิน คืน ได้” แต่ ถ้า เป็นการ สละ การ ครอบ ครอง ลว่ งห นา้ ท าำ ไดต ้ าม ฎ. 2146/2520 กเ ู้ งนิ แ ลว้ ม อบน าใ หท ้ าำ ก นิ ต า่ งด อกเบยี้ แ ละท าำ ห นงั สอื ย กน าใ หเ ้ จา้ ห นเ ้ี มอื่ ผก ู้ ต ู้ าย เปน็ การ สละก ารค รอบค รองล ว่ งห นา้ แ ทนก ารช าำ ระห นไ ้ี มข ่ ดั ต อ่ ม าตรา 656 วรรคส องแ ละว รรคส าม อทุ าหรณ์ ฎ.2033/2541ล. มี สิทธิ ได้ โควต้า สลาก กิน แบ่ง รัฐบาล จาก สภา สังคมสงเคราะห์ แห่ง ประเทศไทย งวด ละ 10 เล่ม คร่ึง ได้ มอบ โควต้า ให้ ส. ไป รับ สลาก กิน แบ่ง แทน โดย ส. ต้อง ชำาระ เงิน ให้ แก่ สภา สังคม ส ง เคราะห์ฯ ในน ามข อง ล. ไปก อ่ น ถอื ไดว้ ่า ล.เปน็ ต วั การ ให้ ส. เป็น ตวั แทน ตาม ปพพ. มาตรา 797 ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-42 กฎหมายพ าณชิ ย์2:ยมื ฝากท รพั ย์ตัวแทนประกนั ภ ยั มสธ เมอื่ ส. จ่าย เงินท ดรองค ่าส ลากก นิ แบง่ รฐั บาลไ ป กอ่ น ส. จงึ มี สทิ ธเ ิ รียก เอาเ งนิ ช ดใช ้จาก ล. ตวั การ รวม ท้ัง มส ดอกเบย้ี ได้ ตาม ปพพ. มาตรา 816 วรรคห นึง่ แ ละ วรรค สอง เมื่อ ส. กบั ล. ไดห ้ ักท อน บญั ชก ี นั แลว้ ล. ยงั เ ปน็ หนอี้ ยอ ู่ กี ล. จงึ ท ำา สญั ญา ก ยู้ ืม เงนิ ใ ห้ไ ว้ แต ่ ล. ยงั ไมไ ่ ด้ช าำ ระ หน ใ้ี ห้เ สร็จ ส้นิ การ ที่ จาำ เลยเ ปน็ ภ ริยา ของ ล. โอน สิทธ กิ ารเ ช่า ซือ้ ทีด่ นิ และ บา้ นพ พิ าทใ หแ ้ ก ่โจทกซ ์ ่ึง เปน็ ภรยิ า ของ ส. จึงน ่าเ ชื่อว า่ ล. กบั จ ำาเลย ได้ช ำาระห นเี ้ งิน ก ู้ยืมใ ห แ้ ก ่ ส. โดยก าร โอนส ทิ ธ กิ ารเ ช่าท ดี่ นิ และ บ้าน พิพาทใ ห แ้ ก่ โจทก์ เป็นการย อมรบั เอา สง่ิ ของห รอื ท รพั ยส์ นิ อ ยา่ งอ นื่ แ ทนก ารช าำ ระห นแี้ ทนเงนิ ก ู้แตไ่ มป่ รากฏว า่ ไ ดม้ กี ารตกลงว า่ ส ทิ ธกิ ารเชา่ ซ อ้ื ท ดี่ นิ และบ า้ นพ พิ าทท ต่ี ใี ชห้ นเี้ งนิ ย มื ม รี าคาเทา่ ใดเทา่ กบั ร าคาในท อ้ งต ลาดในเวลาแ ละส ถานท ม่ี อบห รอื ไ ม่ขอ้ ต กลง ดังกล่าวจึงขัดต่อปพพ.มาตรา656วรรคสองตกเป็นโมฆะตามมาตรา656วรรคสาม การ โอน สิทธิ การ เ ชา่ ซอื้ ท ีด่ นิ และบ า้ นพ ิพาทใ ห้แ ก โ่ จทกโ ์ ดยย ินยอมข อง ส. ยอ่ ม ไม่ม ผี ล บงั คับ ถือไ มไ่ ดว ้ ่าจ ำาเลยไ ดโ ้ อน สทิ ธ ิ การ เช่า ซ้ือ ท่ีดิน และ บ้าน พิพาท ให้ แก่ โจทก์ แม้ จะ มี การ ทำา สัญญา โอน สิทธิ การ เช่า ต่อ การ เคหะ แห่ง ชาติ และ โจทก์ ได้ ชำาระ ค่า เช่า ซ้ือ ให้ แก่ การ เคหะ แห่ง ชาติ เสร็จ ส้ิน ทั้ง ได้ จด ทะเบียน รับ โอน กรรมสิทธ์ิ ที่ดิน และ บา้ นพ ิพาท เป็นข องโ จทก แ์ ลว้ กต็ าม กห ็ าท าำ ใหโ ้ จทก เ์ ปน็ เ จ้าของ กรรมสทิ ธิท ์ ี่ดนิ แ ละบ า้ นด งั กล่าว ไม่ ฎ.6449/2544 จาำ เลย โอน กรรมสทิ ธ ิ์ทด่ี นิ ต ามฟ อ้ งเ พอ่ื ช าำ ระ หนข ี้ อง ป. ให้แ ก จ่ ำาเลยร ว่ มภ าย หลงั ท ่ี ศาลไ ดม ้ ค ี าำ ส ง่ั ต ง้ั โ จทกเ ์ ปน็ ผ จ ู้ ดั การม รดกข อง ป. ผต ู้ ายแ ลว้ แมจ ้ าำ เลยร ว่ มจ ะเ ปน็ ท ายาทข อง ป. ผต ู้ ายก เ ็ ปน็ บุคคลท ีไ่ ม่มส ี ิทธริ บั ช ำาระ หน้ีแ ทน ป. ผ ตู้ าย ประกอบ กับข ้อต กลงก ารโ อนข ายก รรมสทิ ธิ์ ทด่ี นิ ดังก ลา่ ว เพ่ือ ชำาระ หนเ ี้ งนิ ก ู้ยืม ไม่ ปรากฏ ว่า ได้ค ดิ เป็น หนเี้ งินท ่คี า้ ง ชำาระจ ำานวน เทา่ กับร าคา ท้อง ตลาดแ ห่ง ท่ดี ินใ นว นั ท ่ี จด ทะเบียน จึง เป็น ข้อ ตกลง ชำาระ หนี้ เงิน กู้ ยืม ด้วย ทรัพย์สิน อ่ืน แทน จำานวน เงิน ที่ กู้ ยืม โดย ไม่มี การ คำานวณ หนี้ เงิน ท่ี ค้าง ชำาระ เท่ากับ ราคา ท้อง ตลาด ของ ท่ีดิน ท่ี อ้าง ว่า โอน เพื่อ ใช้ หนี้ แทน ให้ จำาเลย ร่วม ข้อ ตกลง ดงั ก ลา่ วจ งึ ข ดั ต อ่ ปพพ. มาตรา 656 วรรคห นง่ึ ยอ่ มต กเปน็ โมฆะตามม าตรา 656 วรรคส าม การจ ดท ะเบยี น โอน ขายก รรมสิทธิ์ท ดี่ นิ ด ังก ลา่ วห า ทาำ ให ห้ น้ี เงิน ก้ รู ะงับไ ม่ ฎ.7378/2552 การ กู้ ยืม เงิน โดย ผู้ ให้ กู้ ยืม ยอมรับ เอา ท่ีดิน เป็นการ ชำาระ หนี้ แทน เงิน ท่ี กู้ ยืม น้ัน ปพพ. มาตรา 656 วรรค สอง บัญญัติ ให้ หนี้ เป็น อัน ระงับ ไป เพราะ การ ชำาระ เช่น นั้น ให้ ต้อง คิด เป็น จำานวน เท่ากับ ราคา ท้อง ตลาด แห่ง สิ่งของ หรือ ทรัพย์สิน น้ัน ใน เวลา และ ณ สถาน ท่ี ส่ง มอบ ใน วัน ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541 ซ่ึง เป็น วัน จด ทะเบียน โอน ที่ดิน ตี ราคา ที่ดิน 590,000 บาท ซึ่ง เป็น ราคา ประเมิน ของ กรม ท่ีดิน แม้ โจทก์ จำาเลย จะ มิได้ นำาสืบ ถึง ราคา ซ้ือ ขาย ใน ท้อง ตลาด ที่แท้ จริง ซึ่ง เป็น ราคา ท่ีดิน เป็น หลัก ใน การ คำานวณ ณ เวลา ที่ ส่ง มอบ แต่ ก็ เห็น ได้ ว่า ราคา ประเมิน ใน การ จด ทะเบียน สิทธิ และ นิติกรรม ของ กรม ที่ดิน ใน เบื้อง ต้น พอ จะ อนุมาน ได้ ว่า น่า จะ ใกล้ เคียง กับ ราคา ท้อง ตลาด และ ไม่ แตก ต่าง กัน มาก เว้น แต่ จะ มี เหตุผล พิเศษ สำาหรับ ท่ีดิน บาง แปลง เป็นการ เฉพาะ ราย เท่าน้ัน ราคา ท่ีดิน ขณะ จด ทะเบียน โอน กรรมสิทธ์ิ จึง สูง กว่า ภาระ หนี้ เงิน กู้ พร้อม ดอกเบี้ย ค้าง ชำาระ ตาม ท่ี จำาเลย อ้าง ซ่ึง มี อยู่ ประมาณ 230,000 บาท จำาเลย ก็ รับ ว่า มี ส่วน ต่าง อยู่ ประมาณ 300,000 บาท ดังน้ี ความตกลงดังกล่าวย่อมตก เป็นโมฆะ ตาม ปพพ. มาตรา 656 วรรค สาม ปัญหา ดัง กล่าว เป็น ข้อ กฎหมาย อัน เก่ียว ด้วย ความ สงบ เรียบร้อย ของ ประชาชน เพราะ เป็นการ เอา รัด เอา เปรียบ ผู้ กู้ และ ทำาให้ ผู้ ให้ กู้ ได้ เปรียบ ใน ทาง ทรัพย์สิน เงิน ทอง แม้ ไม่มี คู่ ความ ฝ่าย ใด ฎีกา และ เป็น ปัญหา ที่ มิได้ ว่า กัน มา โดย ชอบ ใน ศาล ล่าง ศาล ฎีกา ก็ มี อำานาจ ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การก ูย้ ืมเงนิ 3-43 มสธ หยบิ ยกข น้ึ ว นิ ิจฉัยไ ด้เ อง ตาม ป.ว.พ. มาตรา 142(5) ประกอบ มาตรา 246 และม าตรา 247 เม่ือ การโ อน มส กรรมสิทธ ทิ์ ด่ี ิน พพิ าท ตกเป็นโมฆะ จาำ เลย จึง ไมไ ่ ดท้ ดี่ นิ ไปท าง ทะเบยี น ฎ.6852/2553การโ อน ขายท ดี่ นิ ระหว่างโ จทกก์ บั จ าำ เลยท ี่ 1 เป็นก รณีส บื เน่อื งม าจ ากก าร ทโี ่ จทก ไ์ ด ้ กู้เ งนิ จ าก จาำ เลยท ี ่ 2 แลว้ ไ มช ่ ำาระ หน ้ีเงนิ ก ้ ู จาำ เลย ท่ ี 2 จงึ นาำ ห นังสือม อบ อำานาจ ทโ ี่ จทก์ ทำาใหไ้ ว้ มาโ อน ขาย ให้แ กจ ่ าำ เลยท ี่ 1 ผู้เ ป็น บดิ า กรณ จี งึ เป็น เรอ่ื ง นาำ ทรพั ย์สนิ ม าตร ี าคาช ำาระ เงินก ู้ ซ่งึ ต าม บทบัญญัติใ น ปพพ. มาตรา 656 วรรคส อง ขอ้ ตกลงเ ร่อื งก าร ท ผี่ ใู้ หก ้ ยู้ อมรบั เอา สงิ่ ของ หรอื ท รพั ย์สิน อย่าง อน่ื เป็นการ ชาำ ระห นี ้ แทน เงิน ท่ี กู้ ยืม น้ัน หนี้ เงิน กู้ จะ ระงับ ไป ต้อง คิด เป็น จำานวน เท่ากับ ราคา ท้อง ตลาด แห่ง สิ่งของ หรือ ทรัพย์สิน นั้น ใน เวลา และ ณ สถาน ที่ ส่ง มอบ และ หาก มี ข้อ ตกลง อย่าง ใดๆ ขัด กับ ข้อความ ดัง กล่าว น้ี ย่อม ตก เป็น โมฆะต าม มาตรา 656 วรรคส าม เมื่อส ัญญาซ ื้อ ขาย ที่ดนิ ระหวา่ ง โจทก์ก บั จาำ เลย ท่ ี 1 ตกลงซ ้ือข ายใ น ราคา 700,000 บาท เทา่ กบั จ าำ นวน เงนิ ท ่โ ี จทก์ก เู้ งิน จาก จำาเลย ท่ี 2 ส่วนค าำ ขอจ ด ทะเบียนส ทิ ธิแ ละ นิตกิ รรม และ บนั ทกึ ก ารป ระเมนิ ร าคาท รพั ยส์ นิ เ พอื่ จ ดท ะเบยี นส ทิ ธแ ิ ละน ติ กิ รรม ราคาป ระเมนิ ต ารางว าล ะ 130 บาท รวม ราคา ประเมนิ 270,400 บาท ราคาป ระเมินข อง เจา้ พนกั งานท ี่ดินเ ป็นร าคาป ระเมินเ พ่อื ใช เ้ ปน็ เกณฑ์ใ นก าร คาำ นวณ ภาษ จี ด ทะเบยี น สทิ ธ แิ ละ นติ กิ รรม หา ใช เ่ ปน็ ราคา ทอ้ ง ตลาด แหง่ ทด่ี นิ ไม ่ ทง้ั ร าคา ประเมนิ ของ ทดี่ นิ พิพาทเ มื่อว นั ท ่ี 10 มนี าคม พ.ศ. 2540 ในค ราว ท่ที าำ การ ประเมนิ เพ่อื จ ด ทะเบียนส ทิ ธิแ ละน ติ กิ รรมป ระเภท ขายฝ าก ก่อนจ ด ทะเบียนซ ้ือ ขาย วนั ท่ี 9 มนี าคม พ.ศ. 2542 ม รี าคาป ระเมนิ ถ งึ ต าราง วา ละ 1,000 บาท คดิ เปน็ เ งิน 2,080,000 บาท ยง่ิ กว่า น้ัน ราคา ประเมนิ ข อง ท่ีดินพ พิ าทใ นค ราว ท นี่ าำ ไป ใช้ ประกนั ผ ู้ต อ้ งหาเ ม่ือว นั ท่ี 3 มกราคม พ.ศ. 2544 กลบั มีร าคาส งู ข นึ้ ม าอ ีก จาก ตาราง วา ละ 130 บาท ในว นั ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2542 เปน็ ต ารางว าล ะ 1,000 บาท บง่ ช ว ้ี า่ ร าคาป ระเมนิ เ ฉพาะใ นว นั ท ี่ 9 มนี าคม พ.ศ. 2542 ซงึ่ เ ปน็ ว นั จ ดท ะเบยี น ซื้อ ขาย กัน จึง มี ราคา ตำ่า นอก น้ัน มี ราคา สูง หมด ทำาให้ รับ ฟัง เอา ความ จริง ไม่ ได้ ข้อตกลงในเอกสารสัญญา กู้ยืมเงินจึงเป็นเรื่องจำาเลยท่ี 2 ผู้ให้กู้ยอมรับเอาท่ีดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นเป็นการชำาระหนี้แทนเงินท่ี กู้ยืม โดยไม่ได้คิดเป็นจำานวนเงินเท่ากับราคาท้องตลาดแห่งส่ิงของหรือทรัพย์สินน้ันในเวลาและ ณ สถานที่ ส่งมอบ แต่ให้ยึดท่ีดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่วางประกันเอาชำาระหนี้ได้ทันที โดยไม่ต้องคำานวณราคา ทอ้ งต ลาดก ันอกี ข้อตกลงด งั กล่าวจ งึ ต กเป็นโมฆะตามปพพ.มาตรา656วรรคส าม ฎ. 10751/2553 การ ท่ี โจทก์ โอน ที่ดิน พิพาท ให้ จำาเลย เพ่ือ ชำาระ หนี้ จำานอง แก่ จำาเลย โดย มิได้ คำานึง ว่าทด ี่ นิ พ พิ าท มร ี าคาเ ทา่ ใดน ้ัน เปน็ ค วาม ตกลง ทข ี่ ัดต ่อ ปพพ. มาตรา 656 วรรค สองท ี่บ ัญญตั วิ ่า ถ้าท ำา สัญญา กู้ ยืม กัน และ ผู้ ให้ กู้ ยอมรับ เอา ส่ิงของ หรือ ทรัพย์สิน อย่าง อ่ืน เป็นการ ชำาระ หน้ี แทน เงิน ท่ี กู้ ยืม หนี้ อนั ร ะงบั ไ ปเ พราะก ารช าำ ระห นน ี้ นั้ ทา่ นใ หค ้ ดิ เ ปน็ จ าำ นวนเ ทา่ กบั ร าคาท อ้ งต ลาดแ หง่ ส งิ่ ของห รอื ท รพั ยส์ นิ น น้ั ในเ วลาแ ละส ถานท ส ่ี ง่ ม อบก ารโ อนท ดี่ นิ พ พิ าทแ ทนก ารช าำ ระห นด ้ี งั ก ลา่ วจ งึ ต กเ ปน็ โ มฆะ ตาม ปพพ. มาตรา 656 วรรคส าม ทาำ ใหถ้ ือไ ม่ไ ด ้วา่ มกี าร ชำาระห น้โ ี ดยช อบ แล้ว การ ท่ี จำาเลย เข้า ครอบ ครอง ทำา ประโยชน์ ใน ที่ดิน พิพาท สืบ เน่ือง มา จาก โจทก์ ยอม โอน ท่ีดิน พิพาท ให ้จาำ เลย เพอื่ ช าำ ระห นี้ แม้ การโ อน นนั้ จะ เปน็ โมฆะ ตาม ปพพ. มาตรา 656 วรรคท ้าย แต ก่ ็ แสดง วา่ โจทก์ ยินยอม ให้ จำาเลย เข้า ครอบ ครอง ทำา ประโยชน์ ใน ท่ีดิน พิพาท จึง ไม่ ถือว่า การ ครอบ ครอง ทำา ประโยชน์ ของ จำาเลย เป็นการก ระทำา ละเมิด ตอ่ โ จทก์ ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-44 กฎหมายพ าณชิ ย์2:ยืมฝากท รัพย์ตัวแทนประกันภ ยั จากต วั อยา่ งค าำ ว นิ จิ ฉยั ด งั ก ลา่ วข า้ งต น้ เ หน็ ว า่ เ มอ่ื ค ส ู่ ญั ญาต กลงข ดั ก บั ข อ้ ความใ นม าตรา 656 ความ ตกลง ดังก ลา่ วต กเ ปน็ โมฆะ บงั คับ กนั ตามส ัญญา ไม ไ่ ด้ เนอื่ งจากก ฎหมายด งั กลา่ ว บัญญัตเิ พื่อป ้องกนั ม ใิ ห ้ ผู้ ให้ กู้ ยืม เอา เปรียบ ผู้ กู้ เพราะ ใน ขณะ เดือด ร้อน ผู้ กู้ ย่อม ต้อง ยอม ตาม ท่ี ผู้ ให้ กู้ เรียก ร้อง ซึ่ง จะ เป็น ช่อง ทาง ทาำ ใหผ ้ ใ ู้ หก ้ ย ู้ มื เ งนิ เ อาเ ปรยี บผ ก ู้ ย ู้ มื เ กนิ ไ ป กฎหมายจ งึ บ ญั ญตั ป ิ อ้ งกนั ไ วใ ้ นม าตรา 656 วรรคส าม วา่ “ความ ตกลงก นั อยา่ งใ ด ๆ ขัดก ับข อ้ ความ ดัง กลา่ ว มา น ี้ ท่านว ่าเ ป็นโ มฆะ” ดงั น น้ั ในก รณท ี ผ ี่ ก ู้ น ู้ าำ ส งิ่ ของห รอื ท รพั ยส์ นิ อ น่ื ม าช าำ ระห นแ ี้ ทนเ งนิ น นั้ ตอ้ งม ก ี ารต ร ี าคาส งิ่ ของห รอื ทรพั ย์สนิ น น้ั เ สมอไ ม่ วา่ ท รพั ยส์ นิ นน้ั จ ะเ ป็นอ สงั หาริมทรพั ย ์ เชน่ ท ่ดี นิ ห รือ สงั หารมิ ทรพั ย์ เชน่ แหวน เพชร ขอ้ ต กลง นั้น จะ มี มาก อ่ น หรือ หลัง ใช ้หนก ้ี ไ็ ด้ มฉิ ะนั้น ข้อต กลง เปน็ โ มฆะต ามม าตรา 656 วรรค สาม เชน่ แดง กู้ เงิน ดาำ สามแ สน บาท โดยม ท ี ดี่ นิ เ ป็น หลกั ประกนั เม่อื ห น้ีถ งึ กาำ หนดแ ดงไ ม ใ่ ชห ้ นี้ เงนิ กู ใ้ หด ้ าำ แต่ ยอมใ ห ด้ าำ ยดึ ท ีด่ ิน ท ี่เปน็ ป ระกัน ใช ห้ น้ี ต่อม าร าคา ท่ีดิน เพ่ิมส ูง ขึ้น มาก แดง มาฟ ้อง ศาล ให ้ดาำ ค นื ทีด่ นิ แก ต่ น โดยอ า้ ง ว่า ในข ณะท ย ี่ กท ด่ี นิ ใ ชห ้ นใ ี้ หด ้ าำ ไ มไ ่ ดม ้ ก ี ารต ร ี าคาท ด่ี นิ ตาม ราคาท อ้ งต ลาด ในข ณะ นนั้ ขอ้ ต กลง ยอ่ ม เปน็ โ มฆะ ดำาต ้อง คืนท ีด่ ินใ ห้แ ดง ขอ้ ส ังเกตการชำาระห น้ีอย่างอ ื่นต่างจากก ารช ำาระหนีด้ ้วยสิ่งของห รือท รพั ยส์ นิ อ ืน่ การ ชำาระ หน้ ดี ว้ ยส ่งิ ของห รือท รัพย์สิน อย่างอ ่นื แ ทนเ งินไ ด ก้ ลา่ ว มาแ ล้ว ตาม มาตรา 656 วรรคส อง แต่ การช ำาระ หนี้อ ย่าง อ่ืนเ ปน็ ไป ตาม ปพพ. มาตรา 321 ถ้าเ จ้าห นีย้ อมรับ การ ชาำ ระห นี้อ ย่างอ ่ืนแ ทน การ ชาำ ระ หนท ้ี ่ไี ดต ้ กลง กันไ ว ้ หน ้ีนั้นเ ปน็ อนั ระงับ ส้ินไ ป การช ำาระ หนดี ้ ว้ ยส ิ่งของ หรือ ทรัพย์สิน อย่าง อื่น แทนเ งิน น้นั ตอ้ ง เปน็ ส่ิงของห รือ ทรพั ยส์ นิ อื่นไ ม่ใช ่ ตัวเ งินห รอื ส ิ่ง ทีใ ่ ชแ้ ทน เงิน ได้เ ช่น เชค็ แต่ การชำาระห นอ้ี ย่างอ นื่ แ ทน การ ชำาระห น ี้ท่ต ี กลง ไว น้ ้ัน การ ชำาระ หนี้ น้ัน ยัง คง เป็นการ ชำาระ หนี้ ด้วย เงิน แต่ เป็น เงิน ใน รูป แบบ อ่ืน คือ เช็ค ท่ี มี ค่า ตาม จำานวน ท่ี ลง ใน เช็ค ซึ่ง หาก เจา้ ห นี ้ยอมรับก าร ชาำ ระ หนอี้ ยา่ ง อืน่ แ ทนก ารช ำาระ หนี้ ที่ต กลงก นั ไ ว ้ หน้ี น้ัน ก็ ระงบั ส นิ้ ไป ตาม ปพพ. มาตรา 321 และห ากเ ปน็ การ ชาำ ระห น ดี้ ว้ ย เช็คห นน ี้ ้นั จ ะร ะงับ ส้ินไ ปเ ม่อื เช็คไ ดใ ้ ช ้เงนิ แ ล้วต ามม าตรา 321 วรรค สาม “ถา้ ช าำ ระห นด ้ี ว้ ยอ อก ดว้ ยโ อน หรอื ด ว้ ยส ลกั ห ลงั ต วั๋ เงนิ หรอื ป ระทวนสนิ คา้ ทา่ นว า่ ห นน ี้ น้ั จ ะร ะงบั ส นิ้ ไ ปต อ่ เ มอ่ื ตว๋ั เ งนิ ห รือป ระทวนสนิ คา้ น ัน้ ได้ ใช้เ งิน แล้ว” การช าำ ระห นด ี้ ว้ ยเ ชค็ ห รอื ต ว๋ั เ งนิ อ น่ื ๆ ไมใ่ ชเ ่ ปน็ การช าำ ระห นด ี้ ว้ ยส งิ่ ของห รอื ท รพั ยส์ นิ อ ยา่ งอ นื่ แ ทน เงินท ใี่ หก ้ ้ยู มื ต าม มาตรา 656 วรรค 2 แต่ เป็นการ ชำาระ หน้ อี ยา่ ง อน่ื ตาม ความ ในม าตรา 321 สว่ น หนึ่ง ตา่ ง หากเ พราะใ น การช ำาระ หนี้ ดว้ ยเ ชค็ หนย ี้ ัง ไม่ ระงบั ส้นิ ไป หน ก้ี ยู้ ืมท ่ี ไดร ้ ับ ชาำ ระ ด้วย เช็ค จะร ะงับ ไปต ่อ เมือ่ ม ี การใ ช้ เงิน ตามเ ช็ค แลว้ ตวั อยา่ ง เช่น ก้งุ ทาำ ส ญั ญาก ยู้ มื เงนิ เข้ม จำานวน 1,000 บาท กาำ หนดช ำาระ คืน ภายใน 1 ปี กุ้ง ชาำ ระ ดอกเบยี้ ท กุ เ ดอื น เมอื่ ค รบก าำ หนดก งุ้ ไ ดน ้ าำ เ งนิ สดจ าำ นวน 5,000 บาทแ ละเ ชค็ จาำ นวน 5,000 บาท มาช าำ ระค นื ดังนีจ้ ะถ ือวา่ ห นีร้ ะงบั ไ ปใ นข ้ันแ รก จำานวน 5,000 บาท ตาม จำานวน เงินสด ในส ว่ น ท่ี ชาำ ระ ดว้ ย เชค็ จะ ถือวา่ หน้ีร ะงับต อ่ เมือ่ เขม้ เรยี ก เกบ็ เ งนิ ตามเ ชค็ ไ ด้ แล้ว มสธ มส ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การก้ยู มื เงิน 3-45 มสธ อุทาหรณ์มส ฎ.905/2497(ป.ใหญ)่ จาำ เลยก เ ู้ งนิ โ จทกไ ์ ปซ อ้ื ร ถยนตแ ์ ลว้ โ จทกย ์ อมรบั โ อนร ถยนตจ ์ ากจ าำ เลยแ ทน การช ำาระ หนี้ เงินด ังน้ี เท่ากับโจทก์ยอมรับชำาระหนี้อย่างอื่นแทนหน้ีเงิน หนี้ส ิน ระหว่างโ จทก์ก ับจ ำาเลย ตาม หนังสอื ส ัญญาก ูเ ้ งนิ ยอ่ มร ะงบั ส ิน้ ไ ป ตาม ปพพ. มาตรา 321 โจทก จ์ ะ มา ฟ้องจ ำาเลยอ ีกห า ไดไ ้ ม ่ แม้ห นงั สือ สญั ญาก เ ู้ งนิ จ ะอ ยก ู่ บั โ จทกโ ์ ดยย งั ม ไิ ดค ้ นื ใหแ ้ กจ ่ าำ เลยก ต็ าม จาำ เลยน าำ สบื ถ งึ ก ารช าำ ระห นด ้ี ว้ ยพ ยานบ คุ คลไ ด้ ฎ.767/2505(ป.ใหญ่) การ ชำาระ เงิน กู้ ด้วย เช็ค เป็นการ ชำาระ หน้ี ด้วย การ ออก ตั๋ว เงิน ตาม ปพพ. มาตรา 321 วรรคส าม ย่อม ถอื ไ ด ว้ า่ เป็นการช ำาระห น้ีอย่างอื่น ซ่ึง มิใช ่การ ชำาระห นด ้ี ้วยเ งิน แม้ว่า การ ชาำ ระ หนี้เ งิน กู้ น้ันจ ะ ไม่มี หลัก ฐานเ ป็นห นังสือ ตาม ปพพ. มาตรา 653 วรรค สอง ศาล ก็ย อ่ ม รับฟ งั พ ยานบ คุ คล ท่ี นาำ สืบใ นเ ร่ืองก ารช ำาระห นน้ี ้ันไ ด้ ฎ.4643/2537ล. ทาำ ส ญั ญา ก เู้ งนิ จากโ จทก ์ 2 ครงั้ และไ ด ม้ อบส มุดค ่ฝู าก บญั ชี เงินฝ ากอ อม ทรพั ย ์ และบ ตั รถ อนเ งนิ อ ตั โนมตั ไ ิ วก ้ บั โ จทก ์ โดยม ข ี อ้ ต กลงใ หโ ้ จทกน ์ าำ ส มดุ ค ฝ ู่ ากเ งนิ ฝ ากอ อมท รพั ยแ ์ ละบ ตั รถ อน เงิน อัตโนมัติ ดัง กล่าว ไป เบิก เงิน จาก ธนาคาร เพ่ือ หัก ชำาระ หนี้ เงิน กู้ ได้ แม้ การ ใช้ เงิน กู้ จะ ไม่มี หลัก ฐาน เป็น หนงั สอื อ ยา่ งห นง่ึ อ ยา่ งใ ดล งล ายมอื ช อื่ ผ ใ ู้ หย ้ มื ม าแ สดง หรอื เ อกสารอ นั เ ปน็ ห ลกั ฐ านแ หง่ ก ารก ย ู้ มื ไ ดเ ้ วนคนื แล้ว หรอื ได้ แทงเ พิกถ อนล ง ในเ อกสาร นัน้ แล้ว ตาม ปพพ. มาตรา 653 วรรคส อง แตก ่ าร ที่ โจทก์ไ ดร ้ ับม อบ สทิ ธ ิในก ารเ บกิ เ งนิ จ าก ล. โดยน าำ บัตร ถอน เงินอ ตั โนมตั ไ ิ ป ถอนเ งินจ าก บัญชี เงิน ฝาก ออม ทรพั ย์ ของ ล. ท ่ี เปิด ไว้ กับ ธนาคาร ผ่าน เคร่ือง ถอน เงิน อัตโนมัติ ของ ธนาคาร น้ัน ถือว่าเป็นการชำาระหนี้อย่างอ่ืน ซ่ึง โจก ท์ ใน ฐานะ เจา้ หนไี ้ ดย ้ อมรบั แลว้ ตาม ปพพ. มาตรา 321 วรรคแ รก ฎ.6028/2539 จาำ เลยโ อนเ งนิ ท างโ ทรศพั ทเ ์ ขา้ บ ญั ชโ ี จทกเ ์ พอ่ื ช าำ ระห นเ ี้ งนิ ก ไ ู้ มต ่ อ้ งด ว้ ย ปพพ. มาตรา 653 แต่ เปน็ การ ชาำ ระ หน้ี อยา่ ง อนื่ เมอ่ื โจทกย ์ อมรับแ ล้ว หนี้ เงนิ ก จู ้ ึง ระงบั ลง กิจกรรม3.2.2 ให้ นักศึกษา ทำาความ เข้าใจ ใน หัว เร่ือง ที่ 3.2.2 และ ให้ วินิจฉัย ปัญหา ข้าง ล่าง นี้ โดย ให้ เหตุผล ประกอบ คาำ ตอบ นายข าว กู้ย ืม เงนิ น ายม ดื จำานวน 5,000 บาท เพื่อ ลงทนุ ซ อ้ื ปุ๋ย ใส่ใ น นาข ้าว นาย มดื ตกลง ใหก ้ ้ยู มื เงิน ดังก ล่าว โดย ตกลง กับน าย ขาว ว่า หาก นาย ขาว ไม่ สามารถ ชำาระห น้ี เงิน กู้ ดังก ล่าว ได้ภ ายในเ วลา 1 ปี ให้ นาย ขาว โอน ที่ นา ให้ แก่ ตน ดังน้ี เมื่อ นาย ขาว ไม่ สามารถ ชำาระ หนี้ ให้ แก่ นาย มืด ได้ ภายใน กำาหนด เวลา ท่ี ตกลงก ัน นายม ดื จ ะ บงั คับใ ห น้ าย ขาว โอนท น ่ี าใ ห้ แก่ ตนไ ด้ หรือไ ม ่ เพียงใ ด แนวต อบกิจกรรม3.2.2 นาย มืด จะ บังคับ ให้ นาย ขาว โอน ที่ นา ให้ แก่ ตน ไม่ ได้ เน่ืองจาก ข้อ ตกลง ดัง กล่าว ขัด กับ ปพพ. มาตรา 656 วรรคส อง เป็นโ มฆะต าม วรรค สาม เพราะ นายม ดื ไม่ไ ด ค้ ิดร าคา ส่งิ ของ (ที่ นา) กับ ราคาท อ้ ง ตลาดแ หง่ ส ง่ิ ของห รอื ท รพั ยส์ นิ น นั้ ใ นเ วลา แ ละ ณ สถานท ส ี่ ง่ ม อบ แตน ่ ายม ดื จ ะฟ อ้ งเ รยี กเ งนิ ท ใ ี่ หน ้ ายข าว กู้ ยืม ไป คนื จากน าย ขาว ได้ ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-46 กฎหมายพ าณชิ ย์2:ยืมฝากท รัพย์ตัวแทนประกนั ภ ยั มสธ เรื่องท ี่3.2.3มส การเล่นแ ชร์เปียห วยและการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงป ระชาชน การเล่นแ ชร์เปียห วย เหตุท น ่ี ำาเ ร่อื งก าร เล่น แชร์เ ปยี หวยม า กลา่ ว ไว ใ้ น ลักษณะก ูย ้ ืม เงนิ ด้วย เพราะก ารเ ล่นแ ชร ์เปยี หวย มี ลักษณะ ใกล้ เคียง กับ การ กู้ ยืม เงิน มาก ลักษณะ หน่ึง ประกอบ กับ การ เล่น แชร์ เปีย หวย เป็น ที่ นิยม เล่น กัน แพรห ่ ลาย ในร ะหวา่ งญ าต ิ เพอ่ื นฝ งู พนกั งานใ นห นว่ ยง านข องร ฐั แ ละเ อกชน และม ป ี ญั หาข อ้ พ พิ าทใ นเ รอื่ ง การเ ล่น แชร์ ดังก ล่าว อยู่เ สมอ วิเคราะห์ศัพท์ “แชร์ เปีย หวย เป็น คำา ผสม ระหว่าง อังกฤษ กับ จีน “แชร์” (Share) เป็น ภาษา อังกฤษ หมาย ถึง หุ้น ส่วน ใน กิจการ อย่าง ใด อย่าง หน่ึง “เปีย” เป็น ภาษา จีน แปล ว่า ประมูล ใน ราคา สูงสุด แขง่ ขนั ใ ห ร้ าคาส งู กวา่ “หวย” เปน็ ภ าษาจ นี แปลว ่า มา พบก นั มาร วมก นั สมาคม ประชมุ 32 ตาม รูป ศพั ท์ แชร์ เปีย หวย เม่ือ รวม เป็น คำา เดียวกัน น่า จะ แปล ได้ ว่า “กิจการ ท่ี เอา เงิน หรือ สิ่งของ มา ร่วม กันแล้ว ประมูล ให้ ราคา สูง กว่า” แต่ ความ หมาย ท่ี สมบูรณ์ หมาย ถึง คน กลุ่ม หนึ่ง ตกลง กัน ระหว่าง ผู้ เล่น ออก เงิน เป็น ราย เดือน ราย สัปดาห์ หรือ ราย วัน คนละ เท่าๆ กัน รวม เข้า กัน เป็น เงิน กอง กลาง แล้ผลัด กัน ชกั ทุน กองก ลางน น้ั ไ ปใ ช้สอยโ ดย เสยี ดอ ก เบยี้ อตั รา สงู สุดป ระจำา เดือน หรอื ร ะยะ เวลา น้นั ๆ33 การเ ลน่ แ ชรต ์ ามค วามเ ขา้ ใจข องค นท ว่ั ไป หมายถ งึ ก ารท บ ี่ คุ คลน าำ เ งนิ ม าร วมก นั โดยใ หบ ้ คุ คลห นง่ึ บุคคล ใด มีหน้า ที่ รวบรวม เงิน และ มี สิทธิ ใช้ เงิน น้ัน ได้ ก่อน และ ลูกวง ผลัด กัน นำา เงิน ไป ใช้ได้ โดย วิธี ประมูล ดอกเบ้ีย ใคร ประมลู ดอกเบยี้ ได้ สูง มี สิทธิ นำา เงนิ จำานวน น้ัน ไป ใช ้ ผู้ ตัง้ วง แชร์ จึง เปน็ ผู้ รวบรวม เงิน เรยี ก วา่ “เถา้ ” (เทา้ ) หรอื “ฮ่วย เถา้ ”34 ซึ่ง ใน ปัจจบุ นั ได ้มค ี ำา จาำ กดั ความ ของ คาำ ว่า “การ เลน่ แชร์” ไว ้ใน พระ ราช บัญญัติ การ เล่นแ ชร ์ พ.ศ. 2534 ว่า “การเ ลน่ แ ชร ์ หมายความว า่ การท บ ี่ คุ คลต งั้ แตส ่ ามค นข น้ึ ไ ปต กลงก นั เ ปน็ ส มาชกิ ว งแ ชรโ ์ ดยแ ตล่ ะ คนม ภ ี าระท จ ่ี ะส ง่ เ งนิ ห รอื ท รพั ยส์ นิ อ น่ื ใ ด รวมเ ขา้ เ ปน็ ท นุ ก องก ลางเ ปน็ ง วดๆ เพอื่ ใ หส ้ มาชกิ ว งแ ชรห ์ มนุ เวยี น กนั ร บั ทนุ กอง กลาง แตล่ ะ งวด นน้ั ไป โดย การ ประมลู หรอื โดย วธิ อ ี นื่ ใด และ ใหห ้ มายความ รวม ถงึ ก าร รวม ทนุ ในล กั ษณะอ นื่ ต ามท ่ีก าำ หนด ใน กฎก ระทรวงด ว้ ย”35 ในก ารเ ลน่ แ ชรจ ์ ะท าำ ไดต ้ อ่ เ มอ่ื ม บ ี คุ คลค นห นง่ึ ท เ ่ี รยี กว า่ “เถา้ ” หาล กู วงเ พอ่ื เ ลน่ แ ชรใ ์ หค ้ รบจ าำ นวน มอื ท ต ่ี ง้ั ไ ว ้ เชน่ แชร ์ 12 มอื มผ ี เ ู้ ลน่ 12 คน กาำ หนดม อื ล ะ 100 บาท กาำ หนดเ ลน่ ภ ายใน 12 เดอื น สมมตเ ิ รม่ิ ต น้ ในว นั ท ่ี 1 มกราคม พ.ศ. 2556 ในเ ดอื นแ รก “เถา้ ” จะเ ก็บ เงินจ ากล ูกวง คนละ 100 บาท โดย เถา้ ม สี ิทธน ิ ำา 32 ธรรมน ติ ย ์ วชิ ญเ นตน ิ ยั แชรเ ์ ปยี ห วยก บั ป ญั หาก ฎหมาย กรงุ เทพมหานคร บรษิ ทั ส ยามบ รรณ จาำ กดั พ.ศ. 2523 น. 5-6. 33 เรอ่ื งเดยี วกัน 34 เรอ่ื งเดียวกนั น. 7. 35 พรบ.การ เลน่ แ ชร ์ พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การก ยู้ ืมเงิน 3-47 เ งนิ ก องก ลางท ร ี่ วบรวมไ ดไ ้ ปใ ชก ้ อ่ นโ ดยไ มเ ่ สยี ดอ กเ บย้ี ในเ ดอื นต อ่ ๆ มาม ก ี ารป ระมลู ด อกเบย้ี ก นั ใ นร ะหวา่ ง มสธ ลกู วงเ รยี กว า่ “เปยี ” ลูกวง คน ใด ให้ร าคา (ดอกเบ้ีย) สูงสดุ ซ่งึ ถือวา่ เ ปียไ ด้ ม สี ทิ ธ ินำาเ งนิ ไ ปใ ช้ ก่อน โดย มส เถ้า เป็น ตัวแทน เก็บ เงิน จาก ลูกวง ทุก คน คนละ 100 บาท ให้ ลูกวง คน ที่ เปีย ได้ เดือน ต่อ มา ก็ มี การ ประมูล ดอกเบ้ีย กัน อีก ยกเว้น คน ที่ เปีย แล้ว ไม่มี สิทธิ เปีย นอก เสีย ว่า คนๆ น้ัน จะ เล่น แชร์ หลาย มือ เมื่อ คน ท่ี เปีย ได้ เดือน ถัด มา มส ี ทิ ธิ นาำ เงิน กอง กลางพ รอ้ มก ับ ดอกเบ้ีย ของ คน ท่ีเ ปีย ไป ก่อนแ ลว้ ไปใ ช ้ เช่น กงุ้ เปยี โดยใ ห ้ ดอกเบยี้ ส ูงสดุ 30 บาทใ น เดอื นท ่ี 2 ต่อ มาใ น เดอื นท ่ี 3 เขม้ เปยี ไ ด ้ เดอื น ที ่ 3 น ้ีกงุ้ ต้องช ำาระเ งนิ จ ำานวน 130 บาท สว่ นเ ดอื นท ี ่ 4 เขม้ ต อ้ ง ชำาระเ งิน 100 บาท บวกด ว้ ยด อกเบ้ยี ท ่ี เข้ม เปียไ ด ้ ส่วน กุ้งก ต็ อ้ ง ชาำ ระ เดอื นล ะ 130 บาท ทกุ ๆ เดอื นจ นกวา่ ผู้เ ล่นจ ะป ระมูล ครบ ทุก คน ซึ่งใ น มอื สดุ ทา้ ยเ รียกว า่ “บว๊ ย” ไม ่ตอ้ ง “เปยี ” จะไ ด้ เงนิ ท้งั จ าำ นวนพ รอ้ ม ดอกเบ้ีย ของ ลกู วงค น อ่นื ๆ ทีป่ ระมูลไ ด เ้ งินไ ปแ ลว้ ดอกเบี้ยใ น การ ประมลู (เปีย) แชรม ์ ที ั้งช นิด “ดอกต าม” และ “ดอก หัก” “แชรด ์ อกต าม” ไดแ้ ก ่ ผเ ู้ ลน่ ช าำ ระด อกเบยี้ ต ามท ต ี่ นไ ดป ้ ระมลู ไ วไ ้ ปพ รอ้ มก บั เ งนิ ท ต ่ี นต อ้ งส ง่ ค นื ท กุ ๆ เดอื น สว่ นแ ชร ์ “ดอกห กั ” นนั้ “เถ้า” แชร์ จะ หัก ดอกเบ้ีย ไว้ ก่อน เหลือ เท่าใด จะ ให้ ลูกวง ที่ เปีย ได้ การ เล่น แชร์ ดอก หัก มัก ไม่ นิยม เล่น กัน เพราะผ ูเ ้ ปยี จะ ถกู หัก ดอกเบี้ยไ ว้ กอ่ น ชนิดข องแชร์ แชร์ม ี 2 ชนดิ 1. แชร์ เชอื่ ใ จ กนั อาศัย ความ ไวเ ้ น้ือเ ชอ่ื ใ จก นั โ ดย ไมม่ หี ลัก ฐาน ใด เลย 2. แชรเ ์ ชค็ แชรช ์ นดิ น ม ้ี ก ี ารเ กบ็ เ งนิ เ ปน็ เ ชค็ จ า่ ยเ งนิ เ ปน็ เ ชค็ เถา้ ต งั้ แ ชรเ ์ กบ็ เ งนิ จ ากล กู วงแ ชร ์ โดย การร บั เ ช็ค ของ ลูก แชร์แ ตล่ ะค นม า ในข ณะเ ดยี วกัน เถ้า เอง ก จ็ ่ายเ ชค็ ของต น ให แ้ กล ่ กู แชรไ์ ป คนละใ บ ทกุ ค น แชรเ์ ชค็ นั้น เถา้ แชรต ์ อ้ งส ลกั ห ลังเ ช็คท ุก ใบ และ ตอ้ งร ับผ ดิ แทน ลกู วงไ ม ช่ าำ ระห น3้ี 6 เนอ่ื งจากก ารเ ลน่ แ ชรเ ์ ปยี ห วยเ ปน็ ท น ี่ ยิ มเ ลน่ ก นั ด งั ก ลา่ วแ ลว้ แมใ ้ นห นว่ ยง านข องร ฐั ซ งึ่ ม ค ี าำ ส ง่ั ห า้ ม การเ ลน่ แชร์เ ปียห วย (ตาม มติข องค ณะร ัฐมนตร ี ที่ น.ว. 12/2498) แตก ่ ็ย งั ม ก ี ารเ ล่น กนั อ ย่ ทู ว่ั ไป เนื่องจาก ม ีปญั หาก าร ฉ้อโกงแ ชร ก์ ัน อย เู่ สมอ ทั้งผ ู้ฉ ้อโกงแ ละ ผ้ ถู ูก ฉ้อโกงม ักจ ะ ตอ่ ส คู้ ด ี ใน เรือ่ งก าร เล่นแ ชร์เ ปยี ห วย วา่ เปน็ ส ัญญาก ู้ ยมื เงิน เพราะ หาก ปรับเ ข้า ลกั ษณะส ญั ญาก ู้ยืม เงินก ต ็ ้อง นำา บทบัญญตั ิข อง กฎหมาย ใน เรอ่ื ง การ กูย้ ืมเ งนิ ม า ใช้บ งั คับก ับค ู่ กรณ ดี ว้ ย ดงั น นั้ การ จะต ดั สนิ ว า่ สัญญาเ ล่นแ ชร์ เปียห วยเ ขา้ ลักษณะส ัญญาใ ด ก ็พิจารณาไ ด จ้ าก เหตุผลใ นค ำาพ ิพากษา ของ ศาลฎ ีกาท ี่ว นิ จิ ฉยั ใ นเ รือ่ ง น้ี ไว โ้ ดยส งั เขป อุทาหรณ์ ฎ.1631-1634/2508 การเ ล่น แชร์เ ปียห วยเ กิดข ึ้นจ าก ความ ตกลง กัน ใน ระหว่างผ ู้ เล่น จึงเ ป็นส ัญญา ชนิด หน่ึง เมื่อ ไม่มี กฎหมาย ห้าม ก็ ใช้ บังคับ ได้ แม้ จะ ไม่ เป็นการ กู้ ยืม นาย วง ก็ ไม่มี เหตุ ที่ จะ อ้าง ได้ ว่า นาย วง ได ท้ รพั ย์ไ ป โดย ไม่มีม ูล ท จี่ ะ อ้าง ได ต้ ามก ฎหมาย กรณีไ มเ ่ ป็น ลาภ มิ ควรไ ด้ ฎ.284/2516การเ ล่นแ ชร ์เปยี ห วย เกิด จาก การต กลง กนั ใน ระหวา่ ง ผ้ เู ล่น จงึ เ ปน็ ส ัญญาช นดิ หน่ึง เมอ่ื ไ ม่ม ีกฎหมาย หา้ ม ก ็ใหบ ้ งั คับ ได้ แม จ้ ะไ ม่ เปน็ การ กยู้ มื จ าำ เลย กไ็ มม่ ีเหตท ุ ่ีจ ะ อา้ ง ไดว้ ่าจ ำาเลยไ ด ท้ รัพย์ไ ป โดยไ มม่ มี ลู จะอ า้ งไ ด้ต าม กฎหมายก รณ ไี ม่ใช่ เป็นล าภ ม ิควร ได้ 36 ธรรมน ิตย ์ วชิ ญเ นตน ิ ยั น. 10 . ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-48 กฎหมายพาณิชย์2:ยืมฝากท รัพย์ตวั แทนประกนั ภ ัย มสธ ฎ.2253/2518 การเ ลน่ ว งแ ชรเ ์ ปน็ ส ญั ญาช นดิ ห นงึ่ เ กดิ ข นึ้ จ ากค วามต กลงร ะหวา่ งผ เ ู้ ลน่ ไมม่ ก ี ฎหมาย มส บังคับว ่าจ ะต ้อง ทำา สัญญาห รือม ี หลักฐ านเ ป็น หนังสือค ง บังคับก ันไ ด้ต าม หลัก สัญญาท ั่วไป เมื่อพ ฤติการณ์ เปน็ ท เ ี่ ขา้ ใจก นั ร ะหวา่ งผ เ ู้ ลน่ ว า่ จ าำ เลยเ ปน็ น ายว งต กลงย อมเ ปน็ ผ รู้ บั ผ ดิ ช อบใ นเ งนิ แ กล ่ กู วงท ย ี่ งั ไ มไ ่ ดป ้ ระมลู (เปยี ) ในเ ม่อื วง แชร์ล ม้ ด งั น ี้ เม่อื วงแ ชร์ ลม้ จ าำ เลย กต ็ อ้ งร บั ผ ิด ชอบต ่อ โจทก ์ ซ่ึง เป็นล กู วงแ ละย ัง มิได้ ประมูล จากค าำ พ พิ ากษาศ าลฎ กี าท ย ่ี กม าเ ปน็ ต วั อยา่ งข า้ งต น้ พ อท าำ ใหเ ้ ขา้ ใจใ นข นั้ ต น้ แ ลว้ ว า่ ส ญั ญาเ ลน่ แ ชร ์ เปยี ห วยไ มใ่ ชส ่ ญั ญาก ย ู้ มื เ งนิ แตจ ่ ะเ ขา้ ล กั ษณะส ญั ญาใ ดน นั้ ศ าลฎ กี าย งั ไ มไ ่ ดว ้ นิ จิ ฉยั ใ หช ้ ดั แ จง้ นกั ก ฎหมาย ไดพ้ ยายามป รบั เ รอื่ ง การเ ลน่ แ ชรเ ์ ปยี ห วยเ ขา้ ล กั ษณะส ัญญาต ่างๆ เชน่ ลักษณะส ญั ญาต วั แทนบ ้าง สญั ญา คา้ำ ประกัน บา้ ง ฯลฯ เพื่อว า่ จ ะ ไดน้ ำาก ฎหมายใ น ลักษณะน ้ัน มาใ ชบ ้ ังคับ แกค ่ กู่ รณี สัญญา เลน่ แชร์ เปีย หวย เปน็ ส ญั ญา ทไ ่ี ม่มช ี ือ่ ในป ระมวล กฎหมาย แพ่งแ ละพ าณชิ ย์ ดัง น้ัน จนบ ดั นี้ก ย็ ัง ไม่ส ามารถ ช ชี้ ดั ไ ดว้ า่ สัญญา เล่นแ ชร เ์ ปียห วย เปน็ สญั ญาช นดิ ใ ด แต ่ควรท ราบ ไว้ป ระการห นึง่ ว า่ สัญญาเ ล่นแ ชรเ ์ ปยี หวยไ มใ่ ชส่ ัญญา กย ู้ มื เ งนิ ดัง นน้ั จึงไ ม อ่ าจ นำา บทบัญญตั ิ ในเ ร่อื งก ้ย ู มื เงิน มาใ ช้ กับ การเ ล่นแ ชร์ เปยี หวยไ ด้ จงึ ตอ้ ง ทำา บทบัญญัตใ ิ นเ ร่ืองส ัญญา โดยท ว่ั ไปม า ใช บ้ ังคับ เมอ่ื ก ารเ ล่น แชรเ ์ ปยี ห วยไ มเ ่ ขา้ ล กั ษณะส ญั ญาก ย ู้ มื เ งนิ จงึ ไ มน ่ าำ เ รอื่ งก ารทาำ ห ลกั ฐ านก ารก ย ู้ มื เ งนิ กรณท ี ก ่ี ย ู้ มื เ งนิ ก วา่ ส อง พนั บ าทม า ใช้บ ังคบั ห มายความว า่ การเ ลน่ แ ชรเ ์ ปยี หวยแ ม้ มจ ี ำานวน กว่าห า้ ส ิบบ าท (ปจั จบุ ันส องพ นั บาท) ไม่ ต้อง ทำา หลัก ฐาน เป็น หนังสือ ก็ ฟ้อง ร้อง บังคับ คดี กัน ได้ (ฎ.629/2486) หรือ การ เล่น แชร์ เปีย หวย ไม่ ต้อง หา้ ม ในก ารค ดิ ด อกเบยี้ เ กนิ กว่าร อ้ ยล ะ สบิ ห า้ ตอ่ ป ี (ฎ.764/2502, และ 1631-1634/2508) วินิจฉัยว ่า “การ เล่น แชร เ์ ปีย หวย ไม่เ ป็นการก ยู้ ืม แม้ไ ม่มห ี ลกั ฐาน เป็นห นังสอื ก ็ ฟอ้ งร ้องก นั ได ้ การป ระมูล ใหด้ อกเบ้ีย กัน ถือไ ม่ ได้ว ่า เป็นการใ หด ้ อกเบ้ยี ใน การก ยู้ มื เปน็ ล กั ษณะก ารป ระมลู ว่าใ คร จะใ ห ป้ ระโยชน ส์ ูง กว่าก นั เทา่ นน้ั มไิ ด้ก ำาหนดอ ตั ราใ ห้ เรียก ร้องก นั ได แ้ ต่อ ย่างใ ด จึง ไม อ่ ยูใ ่ นบ งั คบั แ ห่ง ปพพ. มาตรา 654” อนง่ึ เ นอ่ื งจากม ก ี ารน ยิ มเ ลน่ แ ชรเ ์ ปน็ การแ พรห ่ ลายส ง่ ผ ลกร ะท บต อ่ ร ะบบเ ศรษฐกจิ โ ดยส ว่ นร วม จงึ ไดม ้ ก ี ารอ อก พรบ.การ เลน่ แ ชร์ พ.ศ. 2534 เพอ่ื บ รรเทา ความเ สยี หาย ทางเ ศรษฐกจิ เหตผุ ล ใน การป ระกาศ ใช ้ พรบ.ฉบบั น ี้ คอื เนอ่ื งจากใ นป จั จบุ นั ไ ดม ้ ผ ี ป ู้ ระกอบธ รุ กจิ เ ปน็ น ายว งแ ชรห ์ รอื จ ดั ใ หม ้ ก ี ารเ ลน่ แ ชรก ์ นั อ ยา่ ง กวา้ งข วาง การป ระกอบธ รุ กจิ ด งั ก ลา่ วน อกจากจ ะเ ปน็ อ นั ตรายต อ่ ป ระชาชนแ ลว้ ย งั ก ระทบต อ่ ก ารร ะดมเ งนิ ออม ของ สถาบัน การ เงิน ท่ีทาง ราชการ สนับสนุน และ รับ ผิด ชอบ และ ส่ง ผลก ระ ทบ ไป ถึง ระบบ เศรษฐกิจ โดย ส่วน รวม อีก ด้วย นอกจาก น้ี ยัง ปรากฏ ว่า ผู้ ประกอบ ธุรกิจ ดัง กล่าว หลาย ราย ได้ พยายาม ดำาเนิน การ ให้ ใกล้ เคียง กับ การ ประกอบ ธุรกิจ เงิน ทุน ซึ่ง มี กฎหมาย ควบคุม อยู่ แล้ว ใน การ นี้ เห็น สมควร ห้าม ประกอบ ธุรกิจ ประเภท นี้ ส่วน การ เล่น แชร์ ของ ประชาชน ทั่วไป ที่ มิได้ ดำาเนิน การ เป็น ธุรกิจ นั้น ยัง ให้ กระทำา ต่อ ไป ได้ จึง จำาเป็นต ้อง ตราพ ระ ราช บญั ญัตนิ ้ี พระ ราช บัญญตั ิ การ เลน่ แ ชร์ พ.ศ. 2534 ห้ามม ใ ิ หน้ ิตบิ คุ คลห รือ บุคคลธ รรมดา เปน็ นายแ ชร์ หรือ จัด ให้ มี การ เล่น แชร์ ตาม มาตรา 5 ผู้ ใด ฝ่าฝืน ต้อง ระวาง โทษ ตามพ ระ ราช บัญญัติ ดัง กล่าว ซ่ึง การ เล่น แชร์ ดัง กลา่ วต ้อง เป็น ไปใ นล กั ษณะข องก ารป ระกอบธ รุ กจิ ต าม มาตรา 6 คอื “ห้าม มิ ให้ บุคคล ธรรมดา เป็น นาย วง แชร์ หรือ จัด ให้ มี การ เล่น แชร์ ที่ มี ลักษณะ อย่าง หนึ่ง อย่าง ใด ดัง ต่อไ ป น้ี ธมมสธสธมสธสธ
มสธ การกู้ยมื เงิน 3-49 (1) เป็นน ายว ง แชร์ หรือ จัดใ หม้ ีก ารเ ล่นแ ชร์ ม จี าำ นวน วงแ ชรร ์ วมก ัน มากกว่า สามว งมสธ (2) ม ีจำานวน สมาชิกว ง แชร์ รวมก ันท กุ ว งม ากกว่าส ามสบิ คนมส (3) มท ี นุ กองก ลาง ต่อห นึ่ง งวดร วมก ันท ุกว งเ ป็นม ูลคา่ ม ากกว่า จาำ นวนท ่ก ี ำาหนด ไว้ใ น กฎก ระทรวง 37 (4) นายว งแ ชรห ์ รอื ห รอื ผ จ ู้ ดั ใ หม ้ ก ี ารเ ลน่ แ ชรน ์ นั้ ไ ดร ้ บั ป ระโยชนต ์ อบแทนอ ยา่ งอ นื่ น อกจากส ทิ ธท ิ จ ่ี ะ ได้ร ับท ุน กอง กลางเ ข้าร ว่ ม เล่น แชร์ ใน งวดห นง่ึ งวด ใด ได้โ ดย ไม่ ตอ้ ง เสียดอ ก เบย้ี ” เพอ่ื ป ระโยชนแ ์ หง่ ม าตราน ี้ ใหถ ้ อื วา่ ผ ท ู้ ส ่ี ญั ญาว า่ จ ะใ ชเ ้ งนิ หรอื ท รพั ยส์ นิ อ นื่ ใ ดแ ทนน ายว งแ ชร ์ หรอื ผจ ู้ ดั ให้ม กี ารเ ลน่ เปน็ นาย วงแ ชร์ หรือผ จู้ ัดใ ห้ ม กี าร เลน่ แชรด ์ ้วย ดงั น ้ัน บคุ คล หรอื น ิติบคุ คล ใดเ ปน็ น ายว งแ ชร ์หรอื จ ัดใ ห ม้ กี ารเ ลน่ แ ชร์ต าม ลักษณะข องม าตรา 6 ม ี ความผ ดิ ต ามพร ะร าชบ ญั ญตั แ ิ ละม โ ี ทษ ตามท บ ่ี ญั ญตั ไ ิ วใ ้ นม าตรา 16 ทว ี่ า่ “นติ บิ คุ คลใ ดท ฝ ี่ า่ ฝนื ม าตรา 5 ตอ้ ง ระวางโ ทษป รบั ต งั้ แตห ่ นงึ่ เ ทา่ หรอื ส ามเ ทา่ ข องกองก ลางแ ตล่ ะง วดข องท กุ ว งแ ชร ์ แตต ่ อ้ งไ มต ่ า่ำ ก วา่ ส องแ สนบ าท และใ ห ้ศาลส ัง่ ใ ห้น ิติบุคคลน ้ันห ยดุ ด ำาเนนิ การเ ปน็ นายว งแ ชร”์ หรือม าตรา 17 บัญญัติว ่า “ผใู้ ด ฝ่าฝนื มาตรา 6 ตอ้ ง ระวางโ ทษจาำ ค ุก ไม่ เกิน หกเ ดือน หรือ ปรบั ไม ่เกนิ ห น่งึ แสน บาท หรือ ทั้ง จำาท งั้ ปรับ” เปน็ ตน้ ดงั น น้ั ในป จั จบุ นั น ห ี้ ากบ คุ คลธ รรมดา หรอื น ติ บิ คุ คลใ ดจ ดั ใ หม ้ ก ี ารเ ลน่ แ ชรท ์ ม ี่ ล ี กั ษณะต ามม าตรา 6 แหง่ พ ระ ราช บัญญตั ิก ารเ ล่น แชร์ พ.ศ. 2534 มี ความ ผดิ ทางอ าญา และต ้องไ ด้ รับ โทษ ดงั ก ลา่ ว อยา่ งไรก ด็ ี กฎหมาย มไิ ด ก้ ำาหนดว า่ การเ ลน่ แชร์ต กเ ป็น โมฆะท งั้ หมด อทุ าหรณ์ ฎ.85/2543 จำาเลย เป็น ผู้ ลง ลายมือ ช่ือ ส่ัง จ่าย เช็ค พิพาท และ โจทก์ เป็น ผู้ทรง เช็ค พิพาท แม้ เช็ค ดงั ก ลา่ ว โจทก์ จะไ ดม ้ า จาก การเ ล่นแ ชร ซ์ ่งึ ตาม พรบ. การเ ลน่ แ ชร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 6 หา้ ม มิใ ห บ้ ุคคล ธรรมดาเ ปน็ น ายว งแ ชร ์ หรอื จ ดั ใ หม ้ ก ี ารเ ลน่ แ ชรท ์ ม ่ี ท ี นุ ก องก ลางต อ่ ห นงึ่ ง วดร วมท ง้ั ท กุ ว งเ ปน็ ม ลู คา่ ม ากกวา่ จาำ นวนท ก ี่ าำ หนดไ วใ ้ นก ฎก ระทรวง แ ตใ ่ นม าตรา 7 กบ ็ ญั ญตั ใ ิ หส ้ ทิ ธแ ิ กส ่ มาชกิ ว งแ ชรท ์ จ ่ี ะฟ อ้ งค ดห ี รอื ใ ชส ้ ทิ ธ ิ เรียก ร้อง เอา กับ นาย วง แชร์ หรือ ผู้ จัด ให ้มี การ เล่น แชร์ ได้ ย่อม แสดง ว่า กฎหมาย มิได้ มี กำาหนด ว่าการ เล่น แชร์ ดัง กล่าว ตก เป็น โมฆะ เสีย หมด การ นี้ โจทก์ จำาเลย กับ พวก ซึ่ง เป็น ผู้ เข้า ร่วม เล่น แชร์ มี การ ประมูล ระหว่าง กัน และ กัน และ จำาเลย ส่ัง จ่าย เช็ค พิพาท เพ่ือ ชำาระ หน้ี ค่า แชร์ แล้ว เช็ค มา อยู่ ใน ครอบ ครอง ของ โจทก์ ซึ่ง เป็น ลูกวง แชร์ ด้วยก ัน ย่อม ไม่ เป็นการ ฝ่าฝืน มาตรา 6 นิติกรรม การ เล่น แชร์ ของ โจทก ์จำาเลย จึง ไม่ ตกเ ป็นโ มฆะ ตาม ปพพ.มาตรา 173 จาำ เลยต อ้ ง รบั ผ ิด ใช้เ งนิ ตาม เชค็ ให้ โจทก์ อย่างไร กด ็ ี ผเู ้ ขา้ ร่วม เลน่ แ ชร ม์ ี การป ระมูลร ะหวา่ ง กนั ส ามารถฟ ้องร อ้ ง กัน ได้ 37 ใหก ้ าำ หนดท นุ ก องก ลางห า้ มม ใ ิ หบ ้ คุ คลธ รรมดาเ ปน็ การว งแ ชรห ์ รอื จ ดั ใ หม ้ ก ี ารเ ลน่ แ ชรต ์ อ่ ห นงึ่ ง วดร วมก นั ท กุ ว งเ ปน็ ม ลู คา่ มากกว่า สามแ สน บาท ธมมสธสธมสธสธ
มสธ 3-50 กฎหมายพาณชิ ย์2:ยมื ฝากท รัพย์ตัวแทนประกันภ ยั มสธ การก ู้ยืมเงินท ี่เป็นการฉ้อโกงป ระชาชนมส อนึ่ง เคย มี การ ให้ กู้ ยืม เงิน จาก บุคคล เป็น จำานวน มาก โดย ผู้ ยืม ได้ นำา เงิน ของ ผู้ ให้ กู้ ราย ใหม่ ไป หมนุ เวยี นจ า่ ยเ ปน็ ด อกเบยี้ ใ หแ ้ กผ ่ ใ ู้ หก ้ ร ู้ ายเ กา่ ท ต ี่ นก ย ู้ มื เ งนิ ไ ปซ ง่ึ เ รยี กก นั ว า่ “แชร”์ ในย คุ แ ชรแ ์ มช ่ มอ้ ย หรอื แชรแ ์ มน ่ กแกว้ หรอื แ ชรล ์ กู โซต ่ า่ งๆ ทท ี่ าำ โ ดยห ลอกผ เ ู้ ขา้ ร ว่ มล งทนุ ว า่ จ ะไ ดผ ้ ลต อบแทนเ ปน็ จ าำ นวนส งู ครง้ั แ รก กส ็ ามารถจ า่ ยผ ลต อบแทนไ ดส ้ งู จ รงิ ตอ่ ม าก ม ็ ผ ี ห ู้ ลงเ ชอื่ ค าำ ห ลอกล วงเ ขา้ ม าล งทนุ ผห ู้ ลอกล วงก น ็ าำ เ งนิ เ หลา่ น ้ี ไปจ า่ ยใ หผ ้ ล ู้ งทนุ เ ดมิ หากม ผ ี ม ู้ าร ว่ มล งทนุ ม ากเ ขา้ ผน ู้ นั้ ก ไ ็ มส ่ ามารถจ า่ ยค า่ ต อบแทนใ หผ ้ ร ู้ ว่ มล งทนุ ไ ดต ้ ามท ี่ โฆษณาไ ว ้ ซงึ่ แ ชรล ์ กู โซด ่ งั ก ลา่ วเ กดิ ข นึ้ ใ นส งั คมไ ทยเ ปน็ ร ะยะๆ ในร ปู แ บบต า่ งๆ เชน่ แชรน ์ าำ้ มนั แชรท ์ องคาำ ปจั จบุ นั (ปลายป ี 2556) มแ ี ชรล ์ อตเตอร ่ี หลอกใ หเ ้ ขา้ ล งทนุ 38,000 บาท จะไ ดร ้ บั เ งนิ ปนั ผลเ ดอื นล ะ 4,000 บาท กาำ หนดเ วลา 20 เดอื น หากผ ห ู้ ลงเ ชอื่ ไ ปห าล กู คา้ เ พม่ิ อ กี จ ะไ ดเ ้ พมิ่ ห วั ล ะ 1,000 บาท เทา่ กบั เ ปน็ การห ลอกล วง ผู้ เข้า ร่วม ลงทุน ซึ่ง การ เล่น แชร์ ลูกโซ่ ดัง กล่าว มิใช่ แชร์ ตาม สัญญา เล่น แชร์ เปีย หวย ตาม ท่ี กล่าว มา แล้ว แต่ เป็นการ กู้ ยืม เงิน ท่ี เป็นการ ฉ้อโกง ประชาชน ซ่ึง ทำาให้ ประชาชน ท่ี นำา เงิน ไป ให้ ผู้ กู้ ยืม เหล่า น้ัน นำา เงิน ไป หมุนเวียน โดย วิธี ดัง กล่าว เดือด ร้อน เป็น อัน มาก เนื่องจาก มิได้ รับ ต้น เงิน คืน เกิด ความ ปั่น ป่วน ใน ระบบ เศรษฐกจิ ของป ระเทศ เป็นอ ยา่ ง ย่ิง จงึ ไ ด ้มีก ารต รา พระร าช กำาหนดการ ก ยู้ มื เงนิ ท ่ เี ปน็ การฉ อ้ โกงป ระชาชน พ.ศ. 2527 ขนึ้ เพอ่ื ล งโทษ บคุ คล ทีด ่ ำาเนนิ ก าร ดงั ก ล่าวใ นท างอ าญา ซึ่งก าร กู้ ยมื เ งนิ ตามพระร าช กำาหนด นี้ ไดว ้ ิเคราะห์ศ พั ทต ์ าม มาตรา 3 ดงั นี้ “กู้ย มื เ งิน” “หมายความว ่าร บั เงิน ไม่ว ่าใ น ลักษณะ ของก ารร บั ฝาก การ ก ู้ การย มื การ รับ เขา้ ร ว่ มล งทุน หรือ ใน ลักษณะ อ่ืน ใด โดย ผู้ กู้ ยืม เงิน จ่าย ผล ประโยชน์ ตอบแทน หรือ ตกลง ว่า จะ จ่าย ผล ประโยชน์ ตอบแทน แก่ ผใ ู้ หก ้ ย ู้ มื เ งนิ ทงั้ นไ ี้ มว ่ า่ จ ะเ ปน็ การร บั เ พอื่ ต นเองห รอื ร บั ใ นฐ านะต วั แทนห รอื ล กู จา้ งข องผ ก ู้ ย ู้ มื เ งนิ ห รอื ข องผ ใ ู้ ห ้ กย้ ู มื เ งนิ ห รือใ น ฐานะ อื่นใ ด และไ ม่ วา่ การ รบั หรือ จา่ ย ตน้ เ งิน หรอื ผลป ระโยชน์ ตอบแทนน ้นั จะ กระทาำ อ ำาพราง ด้วย วิธก ี ารอ ยา่ งใ ด ๆ” ดัง น้ัน การก ระ ทำา ใด ที่ เป็นการ กู้ ยืม เงิน ใน พระ ราช กำา หนดฯ จึง ไม่ เหมือน กับ การ กู้ ยืม เงิน ตาม ประมวล กฎหมาย แพ่ง และ พาณิชย์ ที่ ได้ กล่าว มา แล้ว นอกจาก นั้น ผู้ กู้ ยืม เงิน ที่ จะ มี ความ ผิด ตามพ ระ ราช - กำา หนดฯ ต้องม ีก ารกร ะ ทำา ใน ลกั ษณะท ก ี่ ลา่ วไ ว ใ้ นม าตรา 4 แหง่ พ ระ ราช กำา หนดฯ ดงั น ี้ “ผู้ ใด โฆษณา หรือ ประกาศใ หป ้ รากฏ แก่ป ระชาชนห รอื กระทาำ ด ้วย ประการ ใด ๆ ใหป ้ รากฏ แก่บ คุ คล ต้ังแต่ส บิ ค น ขน้ึ ไปว า่ ในก าร กู้ ยืม เงิน ตน หรือ บุคคล ใด จะ จ่าย ผล ประโยชน์ ตอบแทน ให้ สูง กว่า อัตรา ดอกเบ้ีย สูงสุด ที่ สถาบัน การ เงิน ตาม กฎหมายว า่ ด ว้ ยด อกเบย้ี เ งนิ ใ หก ้ ย ู้ มื ข องส ถาบนั ก ารเ งนิ จ ะพ งึ จ า่ ยไ ดโ ้ ดยทต ่ี นร ห ู้ รอื ค วรร อ ู้ ยแ ู่ ลว้ ว า่ ตนห รอื บ คุ คล นน้ั จ ะน าำ เ งนิ จ ากผ ใ ู้ หก ้ ย ู้ มื เ งนิ ร ายน น้ั ห รอื ร ายอ น่ื ม าจ า่ ยห มนุ เวยี นใ หแ ้ กผ ่ ใ ู้ หก ้ ย ู้ มื เ งนิ ห รอื โ ดยทต ่ี นร ห ู้ รอื ค วรร อ ู้ ย ู่ แลว้ ว ่า ตนห รอื บ คุ คล นัน้ ไมส่ ามารถ ประกอบก ิจการใ ดๆ โดยช อบด ้วยก ฎหมายท จี่ ะ ให้ ผล ประโยชน์ต อบแทน พอ เพียง ที่ จะ นำา มา จ่าย ใน อัตรา นั้น ได้ และ ใน การ นั้น เป็น เหตุ ให้ ตน หรือ บุคคลอ่ื น ใด ได้ กู้ ยืม เงิน ไป ผู้ น้ัน กระทำา ความ ผิดฐ านก ู้ ยมื เ งิน ท่เ ี ปน็ การฉ อ้ โกงป ระชาชน” นอกจากน ้ัน พระ ราชก าำ หนดฯ ได้ก าำ หนด โทษบ ุคคลท ่กี ระทำา การ ตามม าตรา 5 ให ร้ ะวางโ ทษเ ชน่ เดยี ว กบั ผกู ้ ระทาำ ความ ผดิ ฐาน กู้ย มื เงินท ่เ ี ปน็ การฉ ้อโกง ประชาชน ตาม มาตรา 4 ด้วย ธมมสธสธมสธสธ
Search