เมืองเก่าตรัง 2.33 อาคารริมถนนไทรงาม “ถนนไทรงาม” เป็นถนนสายย่อยที่เชื่อมต่อระหว่างถนนราชดำเนินกับถนนห้วยยอดเป็นที่ต้ัง ของอาคารเรือนแถวไม้ที่เก่าแก่ซึ่งรอดพ้นจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ย่านตลาดเก่ามาได้ ย่านถนนไทรงามจึง เปน็ อกี ยา่ นหนึง่ ทเ่ี ป็นแหลง่ มรดกทางสถาปัตยกรรมในอดตี ทย่ี งั คงหลงเหลอื อยู่ในปัจจุบนั รปู ที่ ผ-34: ตวั อยา่ งอาคารรมิ ถนนไทรงาม 2.34 อาคารริมถนนบ้านโพธิ์ “ถนนบ้านโพธิ์” เป็นถนนสายรองนอกเมืองตรัง ตัดผ่านชุมชนดั้งเดิมซึ่งเป็นชุมชนชาวนา ในยา่ นบ้านโพธิ์จึงสามารถพบเหน็ เรือนพนื้ ถ่ินทีม่ ยี ุ้งข้าวเปน็ อาคารประกอบอยู่จำนวนหนึ่ง ส่วนบริเวณริม ถนนบ้านโพธิ์จะเป็นที่ตั้งของบ้านร้านค้าแบบที่ก่อสร้างแบบเรียบง่าย ไม่ประดับตกแต่งมากนัก และมี คุณลกั ษณะของบ้านสำหรับการอยู่อาศัยมากกว่าบา้ นทท่ี ำหนา้ ทเี่ ปน็ พ้ืนทีพ่ าณิชยกรรม รูปท่ี ผ-35: ตัวอยา่ งอาคารริมถนนบ้านโพธ์ิ 2.35 อาคารริมถนนทา่ กลาง “ถนนท่ากลาง” เป็นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างย่านศูนย์กลางพาณิชยกรรมเก่าแก่ย่านถนนราช ดำเนินกับชุมชนท่าเรือชาวจีนที่ท่าจีน สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่ที่พบเป็นเรือนไม้แบบจีนทั้งแบบชั้นเดียว และ 2 ชนั้ รวมทัง้ ตกึ แถวผนงั หล่อสลบั กัน รูปที่ ผ-36: ตัวอยา่ งอาคารริมถนนท่ากลาง ผ-29
โครงการกำหนดขอบเขตพนื้ ทีเ่ มอื งเก่า 2.36 เรอื นพืน้ ถิน่ ยา่ นทา่ จนี “ย่านท่าจีน” เป็นย่านชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำตรังฝั่งตรงข้ามวัดประสิทธิชัย (วัดท่าจีน) อาคาร ทรงคุณค่าที่พบส่วนใหญ่เป็นเรือนพื้นถิ่นยกใต้ถุนสูง นิยมใช้วัสดุธรรมชาติ และสร้างบ้านให้สอดคล้องกับ สภาพแวดล้อมทางกายภาพ 2.37 สถานรี ถไฟตรัง สถานีรถไฟตรัง ตั้งอยู่ที่ตำบลทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เปิดใช้ ครั้งแรกในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2456 ก่อนที่จะมีการย้ายศูนย์กลางการปกครองมายังตำบลทับเที่ยงเป็น เวลา 2 ปี โดยตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552 มีการจัดตลาดนัดถนนคนเดินในช่วงเย็นของวันศุกร์ถึง วนั อาทติ ยบ์ รเิ วณด้านหนา้ สถานรี ถไฟตรัง กลายเป็นแหล่งทอ่ งเทย่ี วทีส่ ำคัญของเมอื งตรัง รปู ท่ี ผ-37: สถานีรถไฟตรัง 2.38 สวนสมเดจ็ พระศรีนครนิ ทร์ 95 จงั หวดั ตรัง “สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 95” หรือ “เขาแปะช้อย” เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดใจกลาง เมืองตรัง สภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่ม และปกคลุมไปด้วยต้นราโพ เมื่อปี พ.ศ. 2529 เทศบาลนครตรัง ได้พัฒนาเป็นสวนสาธารณะ โดยออกแบบให้เป็นสถานที่พักผ่อนของชาวเมืองตรัง เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2545 รปู ท่ี ผ-38: สวนสมเดจ็ พระศรีนครินทร์ 95 2.39 สวนสาธารณะอนสุ าวรยี ์พระยารษั ฎานปุ ระดษิ ฐม์ หิศรภกั ดี “สวนสาธารณะอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี๊ ณ ระนอง)” ตั้งอยู่ห่าง จากใจกลางเมืองประมาณ 1 กิโลเมตร เดิมบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของพระตำหนักผ่อนกาย ที่ใช้รับเสด็จ พระมหากษัตริย์และเจ้านายหลายพระองค์ ต่อมา จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้มีดำริเสนอให้สร้าง ผ-30
เมืองเกา่ ตรัง อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี๊ ณ ระนอง) เพื่อระลึกถึงคุณูปการของท่านที่มีต่อ ชาวตรังในฐานะอดีตเจา้ เมืองตรังอีกดว้ ย รูปท่ี ผ-39: สวนสาธารณะและอนุสาวรยี พ์ ระยารษั ฎานุประดษิ ฐ์มหศิ รภักดี (คอซิมบ๊ี ณ ระนอง) 2.40 สวนสาธารณะสระกะพังสรุ ินทร์ “สวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์” ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครตรัง ห่างจากศาลากลางจังหวัด ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นหนองน้ำธรรมชาติขนาดใหญจ่ ำนวน 52 ไร่ พื้นดิน 22 ไร่ เริ่มก่อสร้างข้ึนตัง้ แต่ สมัยพระยาสุรินทราชาเมื่อปี พ.ศ. 2508 และเคยใช้เป็นสถานที่รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 สระน้ำมีลักษณะเป็นโพรงหินปูน มีน้ำขังอยู่ตลอดทั้งปี ถือว่าเป็นแหล่งน้ำอันสำคัญ ของชาวกะพังสุรินทร์และชุมชนใกล้เคียง เพราะช่วยให้บ่อน้ำตื้น ๆ ในละแวกใกล้เคียงนั้นได้รับน้ำ ใตด้ นิ ไปเปน็ นำ้ สำหรบั อปุ โภคบริโภค รูปที่ ผ-40: สวนสาธารณะสระกะพังสุรนิ ทร์ ผ-31
โครงการกำหนดขอบเขตพน้ื ที่เมอื งเกา่ ผ.3 บัญชีรายชือ่ อาคาร สถานที่ และโบราณสถานที่มีคุณค่า (Inventory) ในพื้นที่เมืองเก่าตรัง และ บริเวณโดยรอบ ปัจบุ นั ในพ้นื ทีเ่ มอื งเก่าตรงั และบริเวณโดยรอบ มอี าคาร สถานที่และโบราณสถานจำนวนมากท่ี มีคุณค่า ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการอนุรักษ์ บูรณะฟื้นฟูและพัฒนาไปในทิศทางที่เหมาะสม ด้วยสิ่งเหล่านี้มี คุณค่าทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี คุณค่าด้านอายุและความเก่าแก่ คุณค่าด้านสถาปัตยกรรม และศิลปกรรม คุณค่าด้านการเป็นองค์ประกอบเมืองเก่า และคุณค่าความสำคัญต่อสังคมและชุมชน จากการสำรวจพื้นที่เมืองเก่าตรัง และบริเวณโดยรอบ พบอาคาร สถานที่ และโบราณสถานที่มีคุณค่า มรี ายละเอียดที่สำคญั ในแตล่ ะแห่งสรุปไดด้ งั ตาราง ผ-1 ผ-32
เมอื งเก่าตรัง หมายเลขอ้างองิ 1 ช่อื แมน่ ำ้ ตรัง ประเภท แมน่ ้ำ/คูคลอง พิกัด 7°33'23.8\"N 99°34'39.7\"E ที่ต้งั ทิศตะวันตกของเมืองเก่าตรงั กรรมสทิ ธ์ิ กรมชลประทาน ข้อมลู โดยสงั เขป / สภาพปัจจุบัน / การใช้ประโยชน์ “แม่น้ำตรัง” เป็นแม่น้ำสายสำคัญของจังหวดั ตรัง มีความยาวประมาณ 175 กิโลเมตร มีต้นน้ำในเขตปา่ ดิบช้ืนบน “เขาหลวง” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “ทิวเขานครศรีธรรมราช” ในเขตอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในอดีตเป็นเส้นทางสัญจรสำคัญท่ี ใช้ในการเดนิ ทางเช่อื มตอ่ ไปยงั “ปากน้ำกันตัง” ออกสู่ทะเลอนั ดามัน ส่วนใหญใ่ ชใ้ นการเกษตรกรรม หมายเลขอา้ งองิ 2 ชื่อ คลองน้ำเจด็ ประเภท แม่นำ้ /คูคลอง พกิ ดั 7°33'51.2\"N 99°37'28.5\"E ท่ีต้งั ทศิ ตะวันออกของเมอื งเกา่ ตรงั กรรมสิทธ์ิ กรมชลประทาน ข้อมลู โดยสงั เขป / สภาพปัจจบุ ัน / การใช้ประโยชน์ “คลองน้ำเจ็ด” เป็นลำคลองที่รับน้ำจากเทือกเขาบรรทัด ไหลผ่านตำบลบ้านนาหมื่นสี อำเภอนาโยง เข้าสู่ตำบลนาพละ อำเภอ เมอื งตรัง และเมอ่ื ไหลผ่านตำบลนาโพธ์ิ มีช่อื เรียกวา่ “คลองนำ้ เจ็ด” ซ่ึงไหลตอ่ เน่อื งไปจนเขา้ เขตตวั เมืองตรงั หมายเลขอา้ งองิ 3 ชื่อ คลองนางนอ้ ย ประเภท แมน่ ำ้ /คูคลอง พิกดั 7°34'43.1\"N 99°40'44.5\"E ที่ตัง้ ทิศตะวนั ออกของเมอื งเก่าตรงั กรรมสิทธิ์ กรมชลประทาน ขอ้ มลู โดยสงั เขป / สภาพปจั จุบนั / การใชป้ ระโยชน์ “คลองนางน้อย” มตี ้นน้ำอยทู่ ี่ตำบลบา้ นนาหมนื่ สี อำเภอนาโยงเชน่ เดียวกบั คลองนำ้ เจ็ด ไหลต่อเน่ืองไปจนเขา้ เขตตัวเมืองตรัง โดยไหลโอบทางด้านตะวันออกของเมืองและกระหวัดลงทางด้านใต้เมืองในตำบลทับเที่ยง และมีลำคลองน้ำเจ็ดไหลมาบรรจบ ตรงมมุ ทางดา้ นใต้ของวดั คลองน้ำเจด็ แลว้ ไหลต่อเนอื่ งไปบรรจบกบั แม่น้ำตรงั ที่ตำบลบางรกั อำเภอเมืองตรัง ผ-33
โครงการกำหนดขอบเขตพ้นื ทเ่ี มืองเกา่ หมายเลขอา้ งองิ 4 ชื่อ คลองปอน ประเภท แม่น้ำ/คคู ลอง พิกดั 7°34'10.4\"N 99°36'01.8\"E ทตี่ ั้ง ทิศตะวันออกของเมืองเกา่ ตรงั กรรมสทิ ธ์ิ กรมชลประทาน ข้อมูลโดยสงั เขป / สภาพปจั จบุ ัน / การใชป้ ระโยชน์ “คลองปอน” เป็นสาขาของแม่น้ำตรัง คลองสายนี้ไหลเข้ามาถึงในตัวเมืองตรัง ใช้เป็นเส้นทางคมนาคมซึ่งใช้ประโยชน์เป็น เส้นทางการคา้ ของชาวจนี ทีเ่ ข้ามาต้ังถิ่นฐานในเขตเมืองตรังจนเกดิ ข้นึ เปน็ ชุมชน ได้ช่ือวา่ “ชุมชนทา่ จนี ” และเรียกแม่น้ำช่วงน้ี วา่ “คลองท่าจีน” โดยเส้นทางการคา้ หลักในยคุ นน้ั อาศัยการลอ่ งเรือเลาะมาทางคลองปอนและมาข้ึนฝัง่ ทีต่ ำบลทับเทยี่ ง หมายเลขอา้ งองิ 5 ชื่อ คลองหว้ ยยาง ประเภท แมน่ ้ำ/คูคลอง พิกดั 7°35'10.7\"N 99°37'33.2\"E ทีต่ ั้ง ทศิ ตะวันออกของเมอื งเกา่ ตรงั กรรมสิทธิ์ กรมชลประทาน ขอ้ มูลโดยสงั เขป / สภาพปัจจบุ ัน / การใช้ประโยชน์ “คลองห้วยยาง” เป็นส่วนหนึ่งของคลองปอน เป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อให้เข้ามาในตัวเมืองตรังในย่านศูนย์กลางพาณิชยกรรม ซึ่งในอดีตใช้ลำคลองเส้นนี้ในการคมนาคมขนส่งและประกอบกิจการต่าง ๆ ในชุมชนบริเวณนั้น โดยคลองห้วยยางไหลผ่าน สถานทต่ี า่ ง ๆ ตั้งแต่ทางรถไฟบรเิ วณโรงแรมธรรมรนิ ทร์ธนา ครสิ ตจักรตรงั และยา่ นศนู ยก์ ลางพาณิชยกรรมถนนราชดำเนิน หมายเลขอ้างอิง 6 ช่อื วัดตันตยาภริ ม ประเภท วดั /ศาสนสถาน พกิ ัด 7°33'40.1\"N 99°35'59.5\"E ทตี่ งั้ ถนนท่ากลาง ตำบลทับเทยี่ ง อำเภอเมือง จังหวัดตรงั กรรมสิทธ์ิ วัดตันตยาภิรม ขอ้ มูลโดยสงั เขป / สภาพปจั จุบนั / การใช้ประโยชน์ “วัดตันตยาภิรม” เดิมชื่อ “วัดต้นสะตอ” หรือที่เรียกในภาษาถิ่นใต้ว่า “วัดต้นตอ” ด้วยเคยมีต้นสะตอขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีคู่เมืองตรัง สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นสถานท่ี ประกอบพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาในปี พ.ศ. 2461 ภายในผังบริเวณมีอาคารสำคัญคือพระอุโบสถ เจดีย์ทรงบาตรคว่ำ เรยี งซ้อน 5 ชน้ั ภายในมภี าพจิตรกรรมฝาผนังพุทธประวตั ิ และพระวหิ าร 200 ปี ประดิษฐานพระพุทธสิหงิ ค์เมอื งตรัง ผ-34
เมืองเกา่ ตรัง หมายเลขอ้างอิง 7 ช่อื วัดกุฏยาราม ประเภท วัด/ศาสนสถาน พกิ ดั 7°34'13.0\"N 99°36'35.8\"E ทีต่ ้ัง ถนนเพลนิ พิทักษ์ ตำบลทบั เท่ียง อำเภอเมอื ง จังหวัดตรัง กรรมสิทธิ์ วดั กฏุ ยาราม ขอ้ มลู โดยสังเขป / สภาพปจั จบุ ัน / การใชป้ ระโยชน์ “วัดกุฏยาราม” ตั้งอยู่ที่ถนนเพลินพิทักษ์ ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง มีชื่อในท้องถิ่นเรียกว่า “วัดกุฏนอก” เนื่องจากสมัยก่อนมีวัดนิโครธาราม ที่เรียกกันว่า “วัดกุฏใน” ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ติดกับคลองปอนซึ่งเกิดน้ำท่วมบ่อยครั้ง จึงมีการ หาทำเลเพื่อปลูกสร้างกุฏิที่น้ำไม่ท่วม ต่อมาจึงสร้างอุโบสถและเสนาสนะอื่น ๆ จึงขนานนามว่าวัดกุฏนอก และเรียก วัดนิโครธารามวา่ วัดกฏุ ใน หมายเลขอ้างองิ 8 ช่ือ วัดควนวเิ ศษ ประเภท วัด/ศาสนสถาน พกิ ดั 7°33'08.1\"N 99°36'31.9\"E ท่ีต้ัง 156 ถนนวิเศษกุล ตำบลทบั เทย่ี ง อำเภอเมอื ง จังหวัดตรงั กรรมสิทธ์ิ วัดควนวเิ ศษ ข้อมูลโดยสังเขป / สภาพปัจจุบนั / การใช้ประโยชน์ “วัดควนวิเศษ” เป็นวัดสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สร้างเมื่อ พ.ศ. 2467 สมัยพระยาสุรินทร์ราชา (นกยูง วิเศษกุล) เป็น สมุหเทศาภิบาลมณฑลภเู กต็ วัดแหง่ นไ้ี ดร้ บั พระราชทานวสิ งุ คามสีมาเมือ่ วันท่ี 8 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2492 หมายเลขอ้างอิง 9 ชอื่ วดั คลองน้ำเจ็ด ประเภท วัด/ศาสนสถาน พกิ ัด 7°32'22.8\"N 99°36'24.2\"E ทีต่ ัง้ ถนนวดั คลองน้ำเจ็ด ตำบลทบั เทย่ี ง อำเภอเมอื ง จงั หวดั ตรงั กรรมสทิ ธิ์ วัดคลองนำ้ เจ็ด ขอ้ มลู โดยสงั เขป / สภาพปัจจุบัน / การใชป้ ระโยชน์ “วัดคลองน้ำเจ็ด” ตั้งอยู่ที่ ถนนวัดคลองน้ำเจ็ด ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง นอกจากเสนาสนะต่าง ๆ ภายในวัดแล้ว ยังมี การสร้างพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหินหยกขนาดใหญ่ มีพุทธศาสนิกชนชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาสักการะบูชาเป็น จำนวนมาก ผ-35
โครงการกำหนดขอบเขตพน้ื ทเ่ี มอื งเกา่ หมายเลขอ้างอิง 10 ชื่อ วดั นโิ ครธาราม ประเภท วดั /ศาสนสถาน พิกัด 7°34'29.3\"N 99°36'41.5\"E ทต่ี ง้ั ถนนเพลนิ พทิ ักษ์ ตำบลทับเท่ยี ง อำเภอเมอื ง จงั หวัดตรัง กรรมสิทธิ์ วดั นิโครธาราม ขอ้ มลู โดยสังเขป / สภาพปัจจบุ ัน / การใช้ประโยชน์ “วัดนิโครธาราม” หรือที่ชาวบ้านเรียกในท้องถิ่นว่า “วัดกุฏใน” ตั้งอยู่ที่ ถนนเพลินพิทักษ์ ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง สร้างข้ึนเมือ่ ประมาณ พ.ศ. 2392 ทว่าทำเลท่ีต้ังนน้ั เป็นพ้นื ทนี่ ำ้ ทว่ มเปน็ ประจำ จึงยา้ ยมายังทำเลท่ีตง้ั ใหม่ ทง้ั นี้ ผู้คนในท้องถิ่น เรียกวา่ “วัดไทรขนนุ ” เนอื่ งจากในพืน้ ทผ่ี ังบรเิ วณวัดนั้นมตี ้นไทรใหญ่จำนวนมาก หมายเลขอ้างองิ 11 ช่อื วดั ประสิทธิชยั ประเภท วัด/ศาสนสถาน พิกัด 7°33'24.3\"N 99°34'43.6\"E ท่ีต้งั รมิ แมน่ ้ำตรงั เชิงสะพานทา่ จนี ตำบลบางรัก อำเภอเมอื ง จังหวัดตรัง กรรมสิทธิ์ วัดประสทิ ธชิ ยั ข้อมลู โดยสงั เขป / สภาพปจั จุบนั / การใชป้ ระโยชน์ “วัดประสิทธิชัย” หรือที่ชาวบ้านมักเรียกกันว่า “วัดท่าจีน” ตั้งอยู่ที่บ้านท่าจีน ตำบลทับเที่ยง ใกล้แม่น้ำตรัง เดิมในท้องถิ่น เรียกกันว่า “วัดปอน” เนื่องจากอยู่ใกล้กับคลองปอน ซึ่งไหลผ่านตลาดทับเที่ยง แล้วไหลผ่านวัดประสิทธิชัยลงสู่แม่น้ำตรัง ตรงทำเลท่เี รียกว่า “ปากคลองปอน” วดั แห่งนี้เรยี กอีกช่ือว่า “วดั ทา่ จีน” เนอ่ื งจากอยูใ่ กล้กับบรเิ วณชมุ ชนทา่ จีนน่นั เอง หมายเลขอา้ งองิ 12 ช่ือ วัดมัชฌิมภูมิ ประเภท วัด/ศาสนสถาน พกิ ัด 7°33'16.2\"N 99°36'08.5\"E ทต่ี ั้ง ตั้งอยเู่ ลขที่ 86 ถนนบ้านหนองยวน ตำบลทบั เทย่ี ง อำเภอเมือง จังหวดั ตรัง กรรมสิทธิ์ วัดมัชฌิมภูมิ ขอ้ มลู โดยสังเขป / สภาพปจั จุบัน / การใชป้ ระโยชน์ “วัดมัชฌิมภูมิ” ผู้คนในท้องถิ่นเรียกว่า “วัดหน้าเขา” หรือ “วัดเขาหนองยวน” ตั้งขึ้นในคราวที่พระธรรมวโรดม (เซ่ง อุตฺตโม) เจ้าคณะมณฑลนครศรีธรรมราชและมณฑลภูเก็ต เดินทางมาตรวจราชการคณะสงฆ์ที่จังหวัดตรัง ได้ทราบว่ามีที่ดินว่างอยู่ ประมาณ 4 ไร่ หนา้ เขาหนองยวน จงึ ให้ “ขุนสมัครอนศุ ษิ ฎ์” ขออนญุ าตตง้ั วัด และภายหลังจงึ ขอเปลี่ยนชอื่ เปน็ “วดั มชั ฌิมภูม”ิ ผ-36
เมอื งเก่าตรัง หมายเลขอ้างอิง 13 ชือ่ วัดกะพังสุรินทร์ ประเภท วัด/ศาสนสถาน พิกดั 7°34'17.2\"N 99°37'28.5\"E ที่ตั้ง ตำบลทบั เที่ยง อำเภอเมือง จงั หวดั ตรัง กรรมสิทธิ์ วัดกะพังสุรินทร์ ขอ้ มลู โดยสังเขป / สภาพปจั จบุ ัน / การใช้ประโยชน์ “วัดกะพังสุรินทร์” ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2440 เดิมชื่อว่า “วัดกะพัง” ด้วย ทำเลท่ีตั้งอยู่ใกล้หนองน้ำที่เรียกว่า “สระกะพัง” ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดกะพังสุรินทร์” ตามชื่อพระยาสุรินทราชา (นกยูง วิเศษกุล) ภายในวัดมีพระอุโบสถท่ีมีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น โบราณสถานโดยกรมศลิ ปากร หมายเลขอ้างอิง 14 ช่ือ วัดนิคมประทีป ประเภท วดั /ศาสนสถาน พิกดั 7°32'34.3\"N 99°37'37.7\"E ท่ีต้ัง เลขท่ี 18 บ้านโคกหล่อ ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง กรรมสิทธิ์ วดั นคิ มประทีป ข้อมลู โดยสังเขป / สภาพปัจจุบัน / การใช้ประโยชน์ “วดั นิคมประทปี ” สร้างข้นึ เม่อื พ.ศ. 2423 เดิมชอื่ “วดั โคกหลอ่ ” เพราะตงั้ อยบู่ นโคกซึ่งมีตน้ หลอ่ ขึ้นอยู่จำนวนมาก ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2484 ไดเ้ ปลย่ี นช่อื เปน็ “วัดนิคมประทปี ” แหลง่ โบราณสถานท่ีสำคัญในวดั คอื อโุ บสถซ่งึ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป ปางมารวิชัย สร้างเมอ่ื พ.ศ. 2490 หมายเลขอ้างองิ 15 ชื่อ ศาลเจ้ากวิ ออ๋ งเอ่ยี ประเภท วัด/ศาสนสถาน พิกัด 7°33'35.3\"N 99°35'57.3\"E ที่ตง้ั ถนนท่ากลาง ตำบลบางรกั อำเภอเมอื ง จงั หวัดตรัง กรรมสทิ ธิ์ ศาลเจา้ กิวอ๋องเอ่ยี ข้อมูลโดยสงั เขป / สภาพปจั จบุ นั / การใช้ประโยชน์ “ศาลเจ้ากิวอ๋องเอี่ย” เป็นเจ้าฮกเกี้ยนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของจังหวัดตรงั มีประวัติว่าในราว 160 ปี มาแล้ว ชาวจีนฮกเก้ยี น อพยพเข้ามาทางเรือตามแม่น้ำตรังมาตั้งถิ่นฐาน โดยตกลงให้นายลิ่มก๊กจุ้ยอัญเชิญกระถางธูปของเทพเจ้าเก้าองค์ตามคัมภีร์ สวดมนตป์ ก๊ั เตา้ เก็ง ไดแ้ ก่ พระพุทธเจ้า 7 องค์ และพระโพธิสัตว์ 2 องค์ มาประดิษฐานไว้เพื่อประกอบพธิ กี รรมตามความเช่ือ ผ-37
โครงการกำหนดขอบเขตพนื้ ท่เี มอื งเก่า หมายเลขอา้ งอิง 16 ชอ่ื ศาลเจ้าทา่ มกงเยยี่ ประเภท วัด/ศาสนสถาน พิกัด 7°33'58.7\"N 99°36'54.6\"E ที่ตั้ง ถนนเจิมปญั ญา ตำบลทับเท่ยี ง อำเภอเมือง จงั หวดั ตรัง กรรมสทิ ธ์ิ มูลนธิ ิธรรมคง ขอ้ มูลโดยสงั เขป / สภาพปัจจบุ ัน / การใช้ประโยชน์ “ศาลเจ้าท่ามกงเยี่ย” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “โรงพระท่ามกงเยี่ย” เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวตรังนับตั้งแต่แรกเกิด เมื่ออายุ ครบเดือนบิดามารดาจะพามาไหว้เพื่อขอให้พระท่ามกงเยี่ยรับไว้เป็นบุตร ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่าง ลูกหลานชาวจีน คือ กวางตุ้ง ฮกเกี้ยน รวมถึงชาวไหหลำ ส่วนภายนอกอาคารศาลมีอาคารเป็นเรือนนอนรักษาผู้ป่วย อาคาร โรงครวั โรงงิ้ว สระน้ำ และศาลากลางนำ้ เปน็ ต้น หมายเลขอ้างองิ 17 ชือ่ ศาลเจา้ พ่อหมื่นราม ประเภท วดั /ศาสนสถาน พกิ ัด 7°33'13.2\"N 99°36'42.4\"E ท่ีต้ัง ถนนรษั ฎา ตำบลทับเทยี่ ง อำเภอเมอื ง จงั หวดั ตรงั กรรมสิทธิ์ มลู นิธหิ มื่นราม เพ่ือสังคมและการกศุ ล ขอ้ มูลโดยสังเขป / สภาพปัจจุบัน / การใชป้ ระโยชน์ “ศาลเจ้าพ่อหมื่นราม” ตามประวัติคือ ในปี พ.ศ. 2493 นายย้ง ซึ่งเป็นลูกศิษย์เจ้าพ่อเขาตกที่จังหวัดสระบุรีได้ทำพิธีเชิญ กระถางธูปมาบชู าท่ีจังหวดั ตรงั และมีชาวเมืองตรงั ใหค้ วามเคารพนับถอื จึงมีการสรา้ งศาลเจา้ พอ่ หม่ืนรามข้นึ เม่ือปี พ.ศ. 2500 หมายเลขอา้ งองิ 18 ชือ่ วิหารครสิ ตจกั รตรงั ประเภท วดั /ศาสนสถาน พิกัด 7°33'32.2\"N 99°36'17.7\"E ที่ต้ัง ริมถนนหว้ ยยอด ตำบลทับเท่ยี ง อำเภอเมือง จังหวัดตรงั กรรมสทิ ธ์ิ คริสตจกั รตรัง ขอ้ มลู โดยสังเขป / สภาพปจั จบุ นั / การใช้ประโยชน์ “ครสิ ตจกั รตรัง” ต้ังอยูร่ มิ ถนนห้วยยอด ตำบลทบั เที่ยง อำเภอเมอื ง จังหวัดตรงั เปน็ หลักฐานสำคัญแสดงถึงการเขา้ มาเผยแพร่ ศาสนาคริสต์นิกายโปแตสแตนท์ในจังหวัดตรังเมื่อประมาณ 100 ปีก่อน อาคารคริสตจักรตรังที่เห็นในปัจจุบันสร้างขึ้นใน พ.ศ. 2458 เปน็ รปู แบบสถาปัตยกรรมตะวันตกตามแบบแผนของโบสถ์คริสต์ ทวา่ ก่อสร้างโดยชา่ งฝีมอื ชาวจนี ผ-38
เมอื งเกา่ ตรงั หมายเลขอ้างอิง 19 ช่อื มสั ยิดมะดีนะตลุ อิสลาม ประเภท วัด/ศาสนสถาน พิกัด 7°33'04.4\"N 99°36'18.9\"E ทต่ี ง้ั ถนนหนองยวน ตำบลทับเทย่ี ง อำเภอ เมอื ง จงั หวดั ตรัง กรรมสิทธ์ิ มัสยิดมะดีนะตลุ อสิ ลาม ข้อมูลโดยสงั เขป / สภาพปจั จบุ นั / การใชป้ ระโยชน์ “มัสยิดมะดีนะตุลอิสลาม” สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2536 ด้วยแรงศรัทธาของชาวมุสลิมในเมืองตรังที่ย้ายมาจากอำเภอกันตังและ อำเภอปะเหลียนช่วยกันสร้างขึ้น เดิมอาคารมัสยิดเป็นอาคารชั้นเดียวขนาดเล็ก ปัจจุบันก่อสร้างอาคารมัสยิดหลังใหม่ขึ้นมา เพื่อรองรบั การประกอบศาสนกจิ หมายเลขอ้างองิ 20 ชื่อ พระบรมราชานุสาวรยี ร์ ัชกาลท่ี 5 ประเภท วดั /ศาสนสถาน พกิ ดั 7°33'29.7\"N 99°36'37.4\"E ทีต่ ้งั หนา้ อาคารศาลากลางจังหวัดตรัง ตำบลทับเทย่ี ง อำเภอเมือง จังหวดั ตรงั กรรมสิทธ์ิ จงั หวดั ตรงั ขอ้ มูลโดยสังเขป / สภาพปจั จุบนั / การใช้ประโยชน์ “พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5” ตั้งอยู่บริเวณลานด้านหน้าศาลากลางจังหวัดตรังหลังเก่า ริมถนนเพชรเกษม ทั้งนี้เม่ือ ก่อสร้างแล้วเสร็จ ได้มีการจัดพิธีสมโภชพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ขึ้นเม่ือ วนั ที่ 12 ตุลาคม 2553 หมายเลขอา้ งองิ 21 ชอื่ หอนาฬกิ าจังหวัดตรงั ประเภท หอนาฬิกา พิกัด 7°33'24.5\"N 99°36'35.7\"E ทตี่ ้ัง วงเวยี นหอนาฬกิ า ถนนพระราม 6 ตำบลทับเทีย่ ง อำเภอเมือง จังหวดั ตรัง กรรมสทิ ธิ์ จังหวดั ตรงั ขอ้ มูลโดยสังเขป / สภาพปจั จุบัน / การใชป้ ระโยชน์ “หอนาฬิกาจังหวัดตรัง” เป็นจุดหมายตาที่โดดเด่น ตั้งอยู่ตรงสี่แยกถนนวิเศษกุลและถนนพระราม 6 หน้าศาลากลางจังหวัด เดิมเป็นที่ตั้งหอกระจายข่าวของเทศบาลนครตรัง ซึ่งเรียกกันว่า “หอแหลงได้” จากการถ่ายทอดวิทยุกระจายเสียง ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2504 จงึ สร้างหอนาฬิกาความสงู 15 เมตรขึน้ แทน ซง่ึ คอื หอนาฬกิ าหลงั ปัจจุบนั ผ-39
โครงการกำหนดขอบเขตพืน้ ทเี่ มืองเกา่ หมายเลขอ้างอิง 22 ชื่อ บ้านไทรงาม ประเภท ตกึ แถว พกิ ดั 7°33'28.8\"N 99°36'17.3\"E ทต่ี ั้ง ซอยเชื่อมระหว่างถนนราชดำเนิน- ถนนห้วยยอด ซอย 2 ตำบลทับเที่ยง กรรมสิทธ์ิ อำเภอเมอื ง จงั หวัดตรงั เอกชน ขอ้ มลู โดยสังเขป / สภาพปัจจบุ นั / การใชป้ ระโยชน์ “บ้านไทรงาม” เป็นมรดกทางสถาปัตยกรรมสำคัญของเมืองตรัง โดยมีรูปแบบเป็น “ตึกแถวแบบสรรค์ผสาน (Eclectic Style)” โดยมีนายฟอง ไทรงาม ซง่ึ เปน็ ชาวจีนกวางตุ้ง ซึง่ ประกอบธรุ กจิ บรษิ ทั ฟองจันพน่ี อ้ ง จำกดั แต่เดิมมุ่งหมายจะใช้เป็น โรงแรมจงึ ออกแบบใหม้ พี นื้ ทีใ่ ชส้ อยขนาดใหญแ่ ต่ก็ไมไ่ ด้ดำเนินการ จึงใช้เปน็ ทีพ่ กั อาศัยของครอบครวั และรับรองแขกสำคัญ หมายเลขอ้างอิง 23 ชอ่ื บา้ นเลขท่ี 324 บางรกั ประเภท บ้านพกั อาศัย พิกดั 7°32'29.1\"N 99°35'53.3\"E ทีต่ ้ัง 324 ถนนกันตงั ตำบลทับเทย่ี ง อำเภอเมอื ง จังหวัดตรัง กรรมสิทธิ์ เอกชน ข้อมูลโดยสงั เขป / สภาพปัจจุบัน / การใช้ประโยชน์ “บ้านเลขที่ 324” หรือ “บ้านโบราณ 2486” ออกแบบโดยนายตุย ธนทวี ซึ่งเป็นชาวจีนไหหลำ ใช้ช่างท้องถิ่นตรังในการ ก่อสร้าง วัสดุก่อสร้างนำเข้าจากปีนังโดยการขนส่งทางเรือ รวมไปถึงเครื่องเรือนและเครื่องใช้บางส่วน ส่วนประตูและหน้าต่าง นำเข้าจากกรุงเทพฯ ขนส่งทางรถไฟ นอกจากนี้ ที่บ้านโบราณ 2486 มีประเพณีประจำบ้านที่สืบทอดกัน คือ งานส่งเทวดา ซง่ึ จัดขึ้นหลังตรษุ จีน 1 สัปดาห์ โดยภายในพิธจี ะมกี ารจดั ไหว้เพอื่ ส่งเทวดาสสู่ รวงสวรรค์ และจัดรำมโนราหถ์ วาย หมายเลขอ้างองิ 24 ช่อื ร้านค้าสิรบิ รรณ ประเภท ตกึ แถว พิกัด 7°33'27.6\"N 99°36'30.7\"E ท่ตี ้งั ริมถนนราชดำเนนิ ตำบลทับเทย่ี ง อำเภอเมือง จงั หวัดตรัง กรรมสทิ ธ์ิ เอกชน ข้อมลู โดยสังเขป / สภาพปัจจบุ ัน / การใช้ประโยชน์ “ร้านค้าสิริบรรณ” สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2478 เป็นอาคารที่ตั้งอยู่มุมหัวถนน รูปแบบสถาปัตยกรรมเป็น “ตึกแถวแบบสรรค์ผสาน (Eclectic Style)” บ้านร้านค้ารูปแบบนี้พัฒนาต่อจากบริบทท้องถิ่นสู่ความมั่งคั่งร่ำรวยของคหบดีชาวตรังที่มีความสัมพันธ์กบั เมืองชายฝ่ังทะเลในมหาสมุทรอนิ เดยี เมอื งอน่ื ๆ ผ-40
เมืองเกา่ ตรัง หมายเลขอา้ งอิง 25 ชอ่ื โรงแรมจรงิ จริง ประเภท อาคารสาธารณะ พกิ ัด 7°33'20.1\"N 99°36'24.5\"E ทตี่ งั้ รมิ ถนนพระราม 6 ตำบลทับเท่ียง อำเภอเมอื ง จังหวดั ตรงั กรรมสทิ ธ์ิ เอกชน ขอ้ มูลโดยสงั เขป / สภาพปัจจบุ นั / การใช้ประโยชน์ “โรงแรมจริงจริง” มีสถาปัตยกรรมเป็นแบบ “บ้านร้านค้าแบบท้องถิ่น ระยะที่ 3 (Localization Step 3)” เนื่องจากความ เคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจภายในและความไม่คล่องตัวทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากภาวะสงคราม ส่งผลให้รูปแบบบ้านร้านค้ามี การตกแตง่ น้อยลง คงเหลือการตกแต่งเฉพาะองค์ประกอบท่ีจาํ เป็น หมายเลขอา้ งอิง 26 ช่ือ จวนผวู้ า่ หรอื บ้านพกั ผูว้ า่ ราชการ จังหวดั ตรงั ประเภท บ้านพกั อาศยั พิกัด 7°33'39.7\"N 99°36'45.1\"E ที่ตง้ั ตำบลทับเท่ยี ง อำเภอเมอื ง จังหวดั ตรงั กรรมสิทธิ์ จังหวดั ตรัง ขอ้ มูลโดยสังเขป / สภาพปจั จุบัน / การใชป้ ระโยชน์ “จวนผู้วา่ ” หรอื “บา้ นพักผูว้ ่าราชการจังหวัดตรัง” ต้งั อยใู่ นตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จงั หวัดตรงั ตง้ั อย่บู นยอดเนิน เรียกว่า “ควนคีรี” สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นช่วงเดียวกับศาลากลางจังหวัดเมื่อ พ.ศ. 2461 จวนผู้ว่าราชการจังหวัดตรังเป็นอาคารที่มี รูปแบบสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและสอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศที่หลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งในจังหวัดตรัง จึงได้รับการข้ึน ทะเบียนเป็นโบราณสถานในปี พ.ศ. 2545 หมายเลขอ้างองิ 27 ชอ่ื อาคารสโมสรข้าราชการจังหวัดตรัง ประเภท อาคารสาธารณะ พิกัด 7°33'30.5\"N 99°36'46.9\"E ท่ีตง้ั ตำบลทบั เทย่ี ง อำเภอเมือง จังหวดั ตรงั กรรมสทิ ธิ์ จังหวัดตรงั ขอ้ มูลโดยสังเขป / สภาพปัจจุบนั / การใชป้ ระโยชน์ “อาคารสโมสรข้าราชการจังหวัดตรัง” ตั้งอยู่ในตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง สันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นหลัง พ.ศ. 2471 จากเอกสารแบบแปลน Club House in Trang ลงวนั ท่ี 5 มถิ ุนายน ค.ศ. 1928 เพอ่ื ใช้เป็นสโมสรข้าราชการ เป็นอาคาร ไม้ชน้ั เดยี ว มรี ปู แบบสถาปตั ยกรรมแบบตะวนั ตก ได้รบั การขึ้นทะเบยี นเปน็ โบราณสถานเมอ่ื ปี พ.ศ. 2545 ผ-41
โครงการกำหนดขอบเขตพืน้ ทีเ่ มืองเกา่ หมายเลขอ้างอิง 28 ช่อื อาคารริมถนนราชดำเนนิ ประเภท ตึกแถว พกิ ัด - ทีต่ ้ัง ถนนราชดำเนนิ ตำบลทบั เทย่ี ง อำเภอเมอื ง จังหวัดตรัง กรรมสิทธิ์ เอกชน ขอ้ มลู โดยสงั เขป / สภาพปัจจุบนั / การใชป้ ระโยชน์ “ถนนราชดำเนิน” เป็นถนนสายเก่าแก่ของจังหวัดตรัง เป็นที่ตั้งของย่านการค้าเก่าแก่ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ตลาดสดเทศบาล นครตรัง สถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าซึ่งพบในย่านถนนราชดำเนินส่วนใหญ่เป็นบ้านค้าขาย (Shop House) ที่มีรูปแบบท่ี หลากหลาย รวมทั้งอาคารที่ก่อสร้างใหม่ในชั้นหลังเพื่อแทนที่บา้ นร้านค้าท่ีเป็นเรือนแถวไม้ท่ีถูกไฟไหมเ้ สียหายไป นับเป็นถนน ทม่ี กี ารกระจกุ ตวั ของมรดกทางวฒั นธรรมท่หี นาแนน่ มากที่สดุ ในจังหวัดตรัง หมายเลขอา้ งองิ 29 ชื่อ อาคารริมถนนกนั ตัง ประเภท ตึกแถว พิกดั - ทต่ี ้ัง บริเวณรมิ ถนนกันตงั ตำบลทบั เทย่ี ง อำเภอเมอื ง จังหวัดตรัง กรรมสทิ ธ์ิ เอกชน ข้อมลู โดยสงั เขป / สภาพปจั จบุ นั / การใชป้ ระโยชน์ “ถนนกันตัง” เป็นถนนสายเก่าแก่ที่ตัดผ่านย่านเมืองเก่าตรัง เชื่อมตัวเมืองตรังในตำบลทับเที่ยงกับอำเภอกันตัง เหตุนี้ถนน กันตังจงึ เปน็ ท่ตี ง้ั ของอาคารทีม่ ีความสำคญั และเปน็ แหล่งมรดกทางสถาปตั ยกรรมจำนวนมาก หมายเลขอ้างอิง 30 ชือ่ อาคารรมิ ถนนพระราม 6 ประเภท ตกึ แถว พกิ ดั - ทต่ี ้งั บริเวณริมถนนพระราม 6 ตำบลทบั เทยี่ ง อำเภอเมอื ง จังหวดั ตรงั กรรมสิทธิ์ เอกชน ข้อมูลโดยสงั เขป / สภาพปจั จุบัน / การใช้ประโยชน์ “ถนนพระราม 6” เป็นถนนสายสำคัญเสมือนแกนกลางของเมืองเกา่ ตรัง เพราะเปน็ ถนนท่ีเชอ่ื มต่อสถานทสี่ ำคัญหลายแห่งเข้า ไว้ด้วยกัน คือ สถานีรถไฟตรัง หอนาฬิกา และศูนย์ราชการจังหวัดตรัง ถนนสายนี้จึงเป็นที่ตั้งของอาคารที่มีความสำคัญและ เป็นแหลง่ มรดกทางสถาปัตยกรรมจำนวนมาก ผ-42
เมอื งเกา่ ตรงั หมายเลขอ้างองิ 31 ช่อื อาคารริมถนนห้วยยอด ประเภท ตึกแถว พิกัด - ทต่ี ัง้ บริเวณรมิ ถนนหว้ ยยอด ตำบลทบั เทยี่ ง อำเภอเมือง จังหวดั ตรงั กรรมสทิ ธ์ิ เอกชน ขอ้ มูลโดยสังเขป / สภาพปจั จบุ นั / การใชป้ ระโยชน์ “ถนนห้วยยอด” คือชื่อเรียก “ถนนเพชรเกษม” ในช่วงที่เชื่อมต่อเมืองตรังกับเมืองห้วยยอด ซึ่งในอดีตนั้นห้วยยอดเป็น ศูนย์กลางการทำเหมืองดีบุกที่สำคัญอีกแห่งของภาคใต้ อาคารที่พบริมถนนห้วยยอดส่วนใหญ่เป็นอาคารบ้านร้านค้า และมี คริสตจกั รตรังเปน็ อาคารโบราณสถานสำคัญบนถนนเส้นนี้ หมายเลขอา้ งองิ 32 ชอื่ อาคารริมถนนวิเศษกุล ประเภท ตึกแถว พกิ ดั - ที่ตงั้ บรเิ วณรมิ ถนนวเิ ศษกุล ตำบลทบั เทย่ี ง อำเภอเมอื ง จังหวัดตรัง กรรมสทิ ธ์ิ เอกชน ข้อมูลโดยสงั เขป / สภาพปัจจุบัน / การใชป้ ระโยชน์ “ถนนวิเศษกลุ ” เป็นถนนสายส้ัน ๆ ตัดผ่านสถานที่สำคัญของเมอื งเก่าตรังหลายแห่ง เช่น วัดควนวิเศษ บ้านนายชวน หลีกภยั หอนาฬิกา ย่านศูนยก์ ลางราชการ และโรงภาพยนตรต์ รงั รามา เปน็ ถนนสายสำคญั ทีเ่ ป็นท่ตี ้งั ของอาคารเก่าแก่หลายแหง่ หมายเลขอ้างองิ 33 ชือ่ อาคารเรอื นแถวไมย้ า่ นถนนไทรงาม ประเภท เรือนแถวไม้ พกิ ัด - ท่ตี ง้ั บริเวณรมิ ถนนไทรงาม ตำบลทบั เท่ียง อำเภอเมือง จงั หวัดตรงั กรรมสิทธ์ิ เอกชน ขอ้ มลู โดยสงั เขป / สภาพปัจจุบัน / การใชป้ ระโยชน์ “ถนนไทรงาม” เป็นถนนสายย่อยที่เชื่อมต่อระหว่างถนนราชดำเนินกับถนนห้วยยอด เป็นที่ตั้งของอาคารเรือนแถวไม้ที่เก่าแก่ ซึ่งรอดพ้นจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ย่านตลาดเก่ามาได้ ย่านถนนไทรงามจึงเป็นอีกย่านหนึ่งที่เป็นแหล่งมรดกทางสถาปัตยกรรม ในอดีตท่ยี งั คงหลงเหลอื อยู่ในปัจจุบัน ผ-43
โครงการกำหนดขอบเขตพื้นทีเ่ มอื งเก่า หมายเลขอ้างอิง 34 ชอ่ื อาคารรมิ ถนนบา้ นโพธ์ิ ประเภท ตึกแถว พกิ ัด - ที่ตงั้ บริเวณริมถนนบ้านโพธิ์ ตำบลทบั เทีย่ ง อำเภอเมอื ง จงั หวดั ตรัง กรรมสทิ ธิ์ เอกชน ขอ้ มลู โดยสังเขป / สภาพปจั จุบัน / การใชป้ ระโยชน์ “ถนนบ้านโพธิ์” เป็นถนนสายรองนอกเมืองตรัง ตัดผ่านชุมชนดั้งเดิมซึ่งเป็นชุมชนชาวนา ในย่านบ้านโพธิ์จึงสามารถพบเห็น เรอื นพื้นถิ่นทม่ี ยี ุ้งข้าวเปน็ อาคารประกอบอยูจ่ ำนวนหนง่ึ สว่ นบริเวณริมถนนบ้านโพธจ์ิ ะเป็นที่ตั้งของบ้านร้านค้าแบบท่ีก่อสร้าง แบบเรียบง่าย ไม่ประดับตกแต่งมากนัก และมีคุณลักษณะของการอยู่อาศัยมากกว่าบ้านที่ทำหน้าที่เป็นพื้นที่พาณิชยกรรม เนอื่ งมาจากเปน็ ย่านท่ีอยหู่ ่างจากศูนย์กลางทางเศรษฐกิจหลัก บทบาททางเศรษฐกิจจึงมีน้อยกว่าใจกลางเมอื ง หมายเลขอ้างองิ 35 ชื่อ อาคารริมถนนทา่ กลาง ประเภท ตึกแถว พกิ ดั - ทต่ี งั้ บรเิ วณริมถนนท่ากลาง ตำบลทบั เท่ยี ง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง กรรมสิทธิ์ เอกชน ข้อมูลโดยสงั เขป / สภาพปัจจบุ ัน / การใชป้ ระโยชน์ “ถนนท่ากลาง” เป็นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างย่านศูนย์กลางพาณิชยกรรมเก่าแก่ย่านถนนราชดำเนินกับชุมชนท่าเรือชาวจีน ทท่ี ่าจีน สถาปตั ยกรรมสว่ นใหญท่ ีพ่ บเปน็ เรือนไมแ้ บบจนี ท้ังแบบชนั้ เดียวและ 2 ชนั้ รวมทงั้ ตกึ แถวผนงั หลอ่ สลบั กัน หมายเลขอา้ งอิง 36 ช่ือ เรอื นพนื้ ถนิ่ ย่านทา่ จนี ประเภท บ้านพักอาศยั พิกดั - ที่ตง้ั ตำบลบางรกั อำเภอเมือง จังหวัดตรัง กรรมสิทธิ์ เอกชน ข้อมูลโดยสังเขป / สภาพปจั จุบัน / การใช้ประโยชน์ “ยา่ นทา่ จีน” เปน็ ยา่ นชุมชนเก่าแก่รมิ แมน่ ำ้ ตรังฝั่งตรงข้ามวัดประสิทธชิ ัย (วัดท่าจีน) อาคารทรงคุณคา่ ท่พี บส่วนใหญ่เป็นเรือน พ้นื ถนิ่ ยกใต้ถนุ สูง นยิ มใช้วัสดุธรรมชาติ และสร้างบา้ นใหส้ อดคล้องกับสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ ผ-44
เมอื งเก่าตรัง หมายเลขอา้ งอิง 37 ชอ่ื สถานีรถไฟตรัง ประเภท สถานรี ถไฟ พกิ ัด 7°33'16.1\"N 99°36'16.7\"E ที่ต้ัง ถนนสถานี ตำบลทบั เทยี่ ง อำเภอเมือง จงั หวัดตรัง กรรมสิทธิ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย ข้อมูลโดยสงั เขป / สภาพปัจจุบนั / การใช้ประโยชน์ “สถานีรถไฟตรัง” ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครตรัง ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เปิดใช้ครั้งแรกในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2456 ก่อนที่จะมีการย้ายศูนย์กลางการปกครองของเมืองตรังจากกันตังมายังตำบลทับเที่ยง โดยตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552 มีการจดั ตลาดนัดถนนคนเดนิ ในช่วงเย็นของวันศกุ ร์ถึงวันอาทติ ย์ บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟตรังจงึ กลายเป็นแหล่ง ทอ่ งเท่ยี วท่ีสำคัญของเมืองตรังอกี แหง่ หนงึ่ หมายเลขอ้างอิง 38 ชื่อ สวนสมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทร์ 95 จงั หวดั ตรงั ประเภท พื้นท่โี ลง่ พกิ ัด 7°34'15.5\"N 99°35'54.3\"E ทต่ี ัง้ ถนนน้ำผดุ ตำบลบางรกั อำเภอเมอื ง จังหวดั ตรัง กรรมสิทธ์ิ เทศบาลนครตรัง ขอ้ มลู โดยสงั เขป / สภาพปจั จบุ ัน / การใช้ประโยชน์ “สวนสมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทร์ 95” มชี ือ่ เรยี กอกี ชื่อวา่ “เขาแปะชอ้ ย” เป็นสวนสาธารณะที่ใหญท่ ่สี ุดกลางเมืองตรัง สภาพพื้นที่ เป็นที่ราบลุ่มและปกคลุมด้วยต้นราโพ เมื่อปี พ.ศ. 2529 เทศบาลนครตรัง ได้พัฒนาเป็นสวนสาธารณะโดยออกแบบก่อสร้าง สถานที่พกั ผอ่ น โดยเปดิ ใหบ้ ริการเม่ือวันท่ี 2 เมษายน พ.ศ. 2545 หมายเลขอ้างอิง 39 ช่ือ สวนสาธาณะอนุสาวรีย์พระยารัษฎาฯ ประเภท สวนสาธารณะ พกิ ดั 7°33'54.1\"N 99°37'22.2\"E ทีต่ ้ัง วงเวียนพระยา ถนนรษั ฎา ตำบลทบั เท่ียง อำเภอเมอื ง จังหวดั ตรัง กรรมสิทธ์ิ เทศบาลนครตรัง ข้อมูลโดยสังเขป / สภาพปจั จบุ ัน / การใช้ประโยชน์ “สวนสาธารณะอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี” ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 1 กิโลเมตร โดยทำเลที่ตั้ง ดังกล่าวสันนิษฐานว่าเป็นที่ตั้งของพระตำหนักผ่อนกาย ที่ใช้รับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ต่อมาในรัฐบาลของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม มีดำริให้สร้างอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี๊ ณ ระนอง) เพอื่ ระลึกถงึ คุณปู การของทา่ นทีม่ ตี ่อชาวตรงั ในฐานะอดีตเจ้าเมอื งตรังอีกด้วย ผ-45
โครงการกำหนดขอบเขตพ้ืนที่เมอื งเก่า หมายเลขอา้ งองิ 40 ชอ่ื สวนสาธารณะสระกะพังสรุ ินทร์ ประเภท สวนสาธารณะ พกิ ัด 7°34'30.0\"N 99°37'26.8\"E ท่ตี ัง้ เขตเทศบาลนครตรัง ตำบลทับเทีย่ ง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง กรรมสทิ ธิ์ เทศบาลนครตรงั ขอ้ มูลโดยสังเขป / สภาพปจั จบุ ัน / การใชป้ ระโยชน์ “สวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์” ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครตรัง ห่างจากศาลากลางจังหวัด ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นหนอง น้ำธรรมชาตขิ นาดใหญ่ กอ่ สร้างข้นึ เมอื่ ปี พ.ศ. 2508 สระนำ้ มลี ักษณะเปน็ โพรงหินปนู มนี ้ำขังอย่ตู ลอดทง้ั ปี ถอื วา่ เป็นแหล่งน้ำ อันสำคญั ของชุมชน เพราะชว่ ยให้บ่อนำ้ ต้ืน ๆ ในละแวกใกล้เคียงนั้นได้รบั นำ้ ใต้ดนิ ไปเปน็ นำ้ สำหรบั อุปโภคบรโิ ภค ผ.4 การวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คุณค่าองคป์ ระกอบท่ีสำคญั ของเมอื งตรงั เมืองตรังที่ทับเที่ยงเป็นเมืองที่เกดิ ขึ้นริมแม่น้ำตรังบรเิ วณที่ชื่อวา่ “ท่าจีน” ต่อมาเมืองขยายตวั ไปตั้งศูนย์กลางบริเวณที่ราบริมคลองห้วยยาง เริ่มจากการเป็นตลาดค้าขายจนพัฒนาขยับขยายจนเป็น ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจทส่ี ำคญั ของจังหวดั ตรงั จนมีการสร้างทางรถไฟสายอนั ดามันในปี พ.ศ. 2456 และ มีการย้ายศูนย์กลางการปกครองเมืองตรังจากเมืองท่าเรือกันตังไปตั้งที่ตำบลทับเที่ยงในปี พ.ศ. 2458 ทำให้เมืองตรังซึ่งมีศูนย์กลางด้านพาณิชยกรรมอยู่ริมถนนราชดำเนินริมคลองห้วยยางเติบโตขึ้นอย่าง รวดเร็ว และเมื่อเมืองในเกาะเมืองเก่าตรังย่านที่ล้อมรอบด้วยถนนวิเศษกุล ถนนพระราม 6 ถนนกันตัง และถนนราชดำเนิน เติบโตจนเต็มพื้นที่แล้ว เมืองจึงขยายตัวออกไปตามถนนชานเมืองหลายสาย เช่น ถนนกันตัง ถนนห้วยยอด ถนนพัทลุง ถนนตรัง-ย่านตาขาว ถนนรัษฎา ถนนเพลินพิทักษ์ และถนนศรีตรัง และจากการวิเคราะห์การกระจุกตัวของแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมในเมืองตรัง พบว่า ย่านที่มีการกระจุก ตัวอย่างหนาแน่นของแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม สามารถจำแนกออกเป็น 3 ย่าน ได้แก่ ย่านที่ 1 ย่าน การค้าบริเวณเกาะเมืองเก่าตรัง ครอบคลุมพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยถนนสายสำคัญคือ ถนนพระราม 6 ถนน วิเศษกุล ถนนกันตัง และถนนราชดำเนินเป็นแหล่งรวมอาคารเรือนแถวและตึกแถวแบบจีนและแบบจีน ผสมยุโรปจำนวนมากและมีอาคารพาณิชย์ที่มีคุณค่าเป็นเอกลักษณ์ของเมืองตรัง หลายหลัง เช่น ร้านค้า สิริบรรณ ร้านขายยา จ. จินฉุ้น บ้านไทรงาม โรงแรมจริงจริง เป็นต้น ย่านที่ 2 เป็นย่านศูนย์กลางราชการ ดั้งเดิม ครอบคลุมพื้นที่เนินสำคัญ 2 เนินที่ล้อมรอบด้วย ถนนพระราม 6 ถนนวิเศษกุล ถนนเพชรเกษม (ถนนพัทลุง) ถนนประชาอุทิศและซอยอุดมลาภ เป็นที่ตั้งของอาคารราชการที่มีคุณค่าและได้รับการขึ้น ทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากร ได้แก่ จวนผู้ว่าหรือบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง อาคาร สโมสรข้าราชการ และยังเป็นที่ตั้งของอาคารราชการและบ้านพักข้าราชการที่ทรงคุณค่าจำนวนมาก นอกเหนือจากย่านที่สำคัญและมีคุณค่าทั้ง 2 ย่านแล้ว ในเขตเทศบาลนครตรังยังมี ย่านที่ 3 ซึ่ง ผ-46
เมอื งเก่าตรัง ประกอบด้วยชุมชนเก่าแก่ที่ทรงคุณค่าในเขตชานเมืองหลายชุมชน เช่น ชุมชนท่าจีน ชุมชนท่ากลาง ชุมชนบ้านโพธ์ิ และชมุ ชนกะพงั สุรนิ ทร์ เปน็ ตน้ จากการวิเคราะห์และประเมินคุณค่าด้านต่าง ๆ ขององค์ประกอบที่สำคัญของเมืองเก่าตรัง ทั้งหมด 42 แห่ง ทั้งเกณฑ์คุณค่าด้านความสำคัญต่อสังคมและชุมชนคุณค่าด้านประวัติศาสตร์และ โบราณคดี ดา้ นองคป์ ระกอบและภาพลกั ษณข์ องเมอื ง (Image of City) ดา้ นสถาปัตยกรรมและศลิ ปกรรม ด้านอายุและความเกา่ แก่ ดา้ นคณุ ภาพและสภาพอาคาร สถานที่ และแหลง่ โบราณสถานเม่ือนำค่าคะแนน ที่ได้จากการประเมินคุณค่าในทุกด้านมารวมกัน และจัดแบ่งกลุ่มคะแนนรวมขององค์ประกอบของเมืองที่ สำคัญดังกล่าว สามารถแบ่งกลุ่มคะแนนตามศักยภาพขององค์ประกอบเมืองได้ 3 ระดับ มีรายละเอียด ดงั น้ี (แผนที่ ผ-6 และตารางท่ี ผ-1) 4.1 กลุม่ องค์ประกอบเมอื งที่มีศักยภาพระดับสูง องค์ประกอบของเมืองกลุ่มนี้ มี 13 แหล่ง ได้แก่ แม่น้ำตรัง บ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง อาคารสโมสรข้าราชการจังหวัดตรัง วิหารคริสตจักรตรัง วัดกะพังสุรินทร์ วัดนิคมประทีป วัดประสิทธิชัย วัดมัชฌิมภูมิ ศาลเจ้ากิวอ๋องเอี่ย ศาลเจ้าท่ามกงเยี่ย ศาลเจ้าพ่อหมื่นราม พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 และหอนาฬิกาจังหวัดตรัง องค์ประกอบของเมืองในกลุ่มนี้ถือว่าเป็นองค์ประกอบที่มีคุณค่าและความสำคัญ อย่างมากต่อเมืองตรัง มีทั้งองค์ประกอบที่เป็นมรดกทางธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรม เนื่องจากเป็น องค์ประกอบของเมืองที่มีคุณค่าในระดับสูงเกือบทุกด้าน ทั้งด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี ด้านอายุและ ความเก่าแก่ โดยเป็นหลักฐานสำคัญที่ปัจจุบันยังหลงเหลือและปรากฏให้เห็นอยู่ องค์ประกอบที่มีศักยภาพ สูงของเมืองตรังเหล่านี้ส่วนใหญ่ตั้งกระจุกตัวอยู่ในย่านศูนย์กลางพาณิชยกรรมดั้งเดิมของเมือง คือ ย่าน ถนนราชดำเนิน ถนนพระราม 6 ถนนกันตัง และถนนวิเศษกุล และย่านศูนย์กลางราชการ ซึ่งเป็นบริเวณที่ อยู่ติดกัน ทำให้ย่านเก่าแก่บริเวณนี้ยังคงรักษาภูมิทัศน์ของเมืองเก่าอันเป็นชุมทางการค้าขายริมคลองปอน ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต และยังคงแสดงบทบาทในฐานะศูนย์กลางพาณิชยกรรมของเมืองตรังหรือเมืองทับเทีย่ ง มาจนกระทั่งปัจจบุ นั ส่วนคุณค่าด้านภาพลกั ษณข์ องเมือง (Image of City) โดยเฉพาะหอนาฬกิ าจังหวัดตรัง ถือเป็น ที่หมายตาที่สำคัญ (Landmark) ของเมืองตรัง เป็นอาคารที่โดดเด่นอยู่กลางสี่แยกถนนราชดำเนินและ ถนนพระราม 6 ชาวตรังถือเป็นศูนย์กลางของเมืองตรังหรือเมืองทับเที่ยงมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีจุดหมายตาที่สำคัญอีก 2 แห่ง คือ พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 และบ้านพัก ผู้วา่ ราชการจังหวัดตรัง ซง่ึ ตง้ั อยู่บนเนินทสี่ ูงท่สี ดุ ในยา่ นเมอื งเก่าตรังเปน็ จุดหมายตาที่โดดเด่นเป็นสง่างาม มีความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์การสร้างเมืองตรังหรือเมืองทับเที่ยง และสะท้อนภูมิปัญญาในการเลือก ทำเลที่ตัง้ เมืองของบรรพชนชาวตรงั ในอดีต ผ-47
โครงการกำหนดขอบเขตพน้ื ท่เี มอื งเกา่ 4.2 กลุ่มองคป์ ระกอบเมอื งทม่ี ีศักยภาพระดับปานกลาง องค์ประกอบของเมืองกลุ่มนี้ มี 26 แหล่ง ได้แก่ คลองน้ำเจ็ด คลองนางน้อย คลองปอน คลอง ห้วยยาง วัดตนั ตยาภริ ม วดั กุฏยาราม วดั ควนวิเศษ วัดคลองน้ำเจด็ วดั นิโครธาราม มสั ยิดมะดีนะตลุ อสิ ลาม บ้านไทรงาม ร้านค้าสิริบรรณ โรงแรมจริงจริง บ้านเลขที่ 324 บางรัก สถานีรถไฟตรัง อาคารพาณิชยกรรม ริมถนนราชดำเนิน อาคารพาณิชยกรรมริมถนนกันตัง อาคารพาณิชยกรรมริมถนนพระราม 6 อาคารพาณิชยกรรมริมถนนห้วยยอด อาคารพาณิชยกรรมริมถนนวิเศษกุล อาคารพาณิชยกรรมริมถนน บ้านโพธิ์ อาคารพาณิชยกรรมริมถนนท่ากลาง อาคารเรือนแถวไม้ย่านถนนไทรงาม เรือนพื้นถิ่นย่านท่าจีน สวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์ และสวนสาธารณะอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี องค์ประกอบเมืองในกลุ่มที่มีคุณค่าระดับปานกลางนี้ ส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์ เรือนแถว และอาคาร บ้านเดี่ยวของเอกชน ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งเรียงรายอยู่บนถนนสายสำคัญทั้ง 4 สายคือ ถนนราชดำเนิน ถนนพระรามหก ถนนกันตัง และถนนวิเศษกุล มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นการผสมผสานของฝีมือช่าง ชาวจีนและอิทธิพลศิลปะแบบยุโรป ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่ค่อนข้างดี เนื่องจากมีการปรับปรุงซ่อมแซม อย่างสม่ำเสมอ ส่วนศาสนสถานทางพุทธศาสนาที่เป็นองค์ประกอบของเมืองในกลุ่มนี้ แม้ว่าจะเป็นวัดซึ่ง เป็นแหล่งประกอบศาสนกิจที่สำคัญของเมือง แต่ยังมีความสำคัญรองลงมาจากศาสนสถานในกลุ่มแรก เนื่องจากมคี วามสัมพนั ธ์กบั เหตุการณท์ างประวัตศิ าสตรค์ ่อนข้างน้อย 4.3 กลมุ่ องคป์ ระกอบเมืองทม่ี ศี ักยภาพระดบั ตำ่ องค์ประกอบเมืองที่มีศักยภาพระดับต่ำ มี 1 แหล่ง ได้แก่ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 95 เป็นองค์ประกอบของเมืองที่เกิดขึ้นใหม่ มีความสัมพันธ์กับประวัติศาสตร์ของเมืองค่อนข้างน้อย ภายใน สวนสาธารณะไมพ่ บแหลง่ มรดกทางวัฒนธรรมประเภทอาคารหรอื สถานทสี่ ำคญั ท่สี ่งเสรมิ ความเป็นเมืองเก่า ผ-48
เมอื งเก่าตรงั ผ-49
โครงการกำหนดขอบเขตพืน้ ท่เี มืองเก่า ผ-50
เมอื งเก่าตรงั ผ-51
โครงการกำหนดขอบเขตพืน้ ท่เี มืองเก่า ผ-52
เมอื งเก่าตรงั ผ-53
โครงการกำหนดขอบเขตพืน้ ท่เี มืองเก่า ผ-54
เมอื งเก่าตรงั ผ-55
โครงการกำหนดขอบเขตพื้นทีเ่ มืองเกา่ ผ.5 การประชุมเพ่อื รบั ฟังความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะ ตอ่ ขอบเขตพ้ืนท่เี มอื งเกา่ ตรงั การดำเนินงานกำหนดขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าและบริบทของพื้นที่เมืองเก่า ภายใต้โครงการ อนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า: เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการอนุรักษ์และพัฒนา เมอื งเกา่ หนึ่งในขั้นตอนการดำเนินงานที่สำคญั คอื กระบวนการมีสว่ นรว่ มจากภาคส่วนทเ่ี กีย่ วข้องในพ้ืนที่ เมืองเกา่ เป้าหมาย อยา่ งนอ้ ย 2 ครง้ั ตอ่ เมือง เพ่ือรว่ มกนั พจิ ารณา แสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่อ (รา่ ง) ขอบเขตพื้นที่เมืองเก่า และ (ร่าง) การแบ่งเขตพื้นท่ี (Zoning) ภายในขอบเขตพื้นที่เมืองเก่า สำหรบั การกำหนดขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าตรัง ได้จัดให้มีการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อ (ร่าง) ขอบเขตพืน้ ทเ่ี มอื งเก่าตรัง จงั หวัดตรงั ครงั้ ที่ 1 ซึง่ มีรายละเอยี ดการดำเนินงานสรุปได้ ดังน้ี 5.1 การประสานงานเบื้องต้นกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดตรัง เพื่อชี้แจงรายละเอียด โครงการฯ การดำเนินงานกำหนดขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าตรัง เริ่มต้นจากที่ปรึกษาได้ดำเนินการ ประสานงานกับทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตรัง เพื่อเข้าพบ นายวุฒิชัย พริ ุณสนุ ทร ผ้อู ำนวยการสำนกั งานทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มจังหวัดตรัง เม่ือวนั ท่ี 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 10.30 น. ณ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตรัง การเข้าพบครั้งน้ี ทางที่ปรึกษาได้ชี้แจงรายละเอียดและวิธีการดำเนินงานของโครงการฯ ในการกำหนดขอบเขตพื้นที่เมือง เก่าตรัง รวมทั้งเพื่อขอความอนุเคราะห์ให้ช่วยประสานงานการเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และส่วน ราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในจังหวัดตรัง เพื่อขอนัดประชุมชี้แจงรายละเอียดและวิธีการดำเนินงานของ โครงการฯ ซึ่งทางที่ปรึกษาก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและ ส่งิ แวดลอ้ มจงั หวัดตรัง จากนั้นที่ปรึกษาได้ดำเนินการไปพบหน่วยงานราชการแต่ละแห่งในจังหวัดตรัง เพื่อชี้แจง รายละเอียดและวิธีการดำเนินงานโครงการฯ ในการกำหนดขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าตรัง รวมทั้งขอความ ร่วมมือและขอการสนับสนุนข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ในการกำหนดขอบเขตเมืองเก่าตรัง ส่วนราชการที่ทางที่ปรึกษาเข้าพบประกอบด้วย สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดตรัง สำนักงาน ธนารักษ์พนื้ ทีต่ รัง สำนกั งานวฒั นธรรมจังหวัดตรัง และเทศบาลนครตรัง ผ-32: การเข้าพบนายวุฒชิ ัย พิรุณสนุ ทร ผอู้ ำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมจงั หวดั ตรงั เพื่อช้ีแจงรายละเอยี ดโครงการฯ ผ-56
เมืองเก่าตรัง 5.2 การประชมุ เพ่ือรบั ฟังความคดิ เหน็ ต่อขอบเขตพ้ืนที่เมอื งเก่าตรัง คร้งั ที่ 1 5.2.1 การประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงโครงการฯ และรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) ขอบเขตพื้นท่เี มืองเก่าตรงั การจัดประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดตรัง เพื่อชี้แจงรายละเอียดโครงการฯ และร่วม รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ต่อ (ร่าง) ขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าตรัง ครั้งที่ 1 จัดขึ้นในวันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 9.00–12.00 น. ณ ห้องประชมุ มรกต ชัน้ 5 ศาลากลางจังหวัดตรงั ในการ นีผ้ ู้วา่ ราชการจงั หวัดตรังไดม้ อบหมายให้ นายไพบลู ย์ โอมาก รองผู้ว่าราชการจงั หวัดตรงั เป็นประธานการ ประชุม โดยมีผู้แทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม จำนวน 18 คน ประกอบด้วย ผู้แทนจาก สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตรัง สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดตรัง สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ตรัง สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดตรัง สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง สำนักงานจังหวัดตรัง เทศบาลนครตรัง และหน่วยอนุรักษ์ สิ่งแวดลอ้ มธรรมชาติและศลิ ปกรรมทอ้ งถน่ิ จังหวัดตรัง ในที่ประชุมฯ ที่ปรึกษาได้แจกเอกสารชี้แจงโครงการฯ (ร่าง) แผนที่ขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าตรัง และแบบสอบถามความคดิ เห็นต่อ (รา่ ง) ขอบเขตพ้ืนท่เี มืองเกา่ ตรงั ใหแ้ กผ่ ้เู ข้ารว่ มประชมุ ทุกทา่ น ผลสรปุ การจัดประชุมฯ พบว่า ผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดให้ความสนใจและยอมรับให้มีการกำหนดเขต เมืองเก่าตรัง ด้วยอยากให้พื้นที่ในตัวเมืองตรังได้รับการพัฒนาและฟื้นฟูเมือง จากการประกาศเป็นพื้นที่ เมืองเก่าอย่างเป็นทางการ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการอนุรักษ์และพัฒนากรุง รัตนโกสินทร์ และเมืองเก่า พ.ศ. 2546 ทั้งนี้ เพื่อที่ทางจังหวัดตรัง เทศบาลนครตรัง และส่วนราชการที่ เกย่ี วข้องจะได้มีความชดั เจนในการทำงานร่วมกันในการอนรุ ักษ์และพฒั นาเมืองเกา่ ตรงั ให้ย่งั ยืนต่อไป ในที่ประชุมฯ ที่ปรึกษาได้นำเสนอ (ร่าง) ขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าตรัง ต่อที่ประชุม เพื่อให้ ผู้เข้าร่วมประชุมได้พิจารณาและเปิดโอกาสให้เสนอแนะแนวเขตพื้นที่เมืองเก่าตามที่ต้องการ ผลสรุปจาก ผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่เห็นชอบกับแนวเขตพื้นที่หลักของเมืองเก่า (แนวเส้นสีแดง) ซึ่งครอบคลุมย่าน การค้าเก่าแก่ของเมืองตรังบริเวณริมถนนสายสำคัญ 4 สาย คือ ถนนราชดำเนิน ถนนพระราม 6 ถนน กันตัง และถนนวิเศษกุล และในที่ประชุม นายไพบูลย์ โอมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เสนอให้ ขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าตรังควรขยายออกไปให้ครอบคลุมพื้นที่ย่านราชการเก่าของเมืองซึ่งที่ดินส่วนใหญ่ เป็นที่ราชพัสดุ เพื่อให้คุ้มครององค์ประกอบเมืองที่สำคัญ ได้แก่ บ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง อาคาร สโมสรข้าราชการจังหวัดตรงั สระน้ำข้างบา้ นพกั ผู้ว่าราชการ อนุสาวรีย์พระยารษั ฎานุประดิษฐ์มหิศรภกั ดี และอาคารสำนักงานเก่าแก่ของหน่วยงานราชการ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นตัวอย่างในการอนุรักษ์มรดกทาง วัฒนธรรมในย่านเมืองเกา่ ตรังแก่ภาคเอกชน ซึ่งจะทำให้เกดิ ความร่วมมอื ในการอนรุ ักษ์และพฒั นาบริเวณ เมืองเก่าตรังอยา่ งยงั่ ยนื ในอนาคต ผ-57
โครงการกำหนดขอบเขตพ้ืนที่เมอื งเก่า รปู ที่ ผ-33: การประชมุ สว่ นราชการที่เกย่ี วขอ้ งเพือ่ ชแี้ จงโครงการฯ และรบั ฟังความคิดเห็น ตอ่ (ร่าง) ขอบเขตพ้ืนทเี่ มอื งเกา่ ตรัง จงั หวดั ตรงั ครัง้ ที่ 1 5.2.2 การประชุมภาคประชาชนเพื่อชี้แจงโครงการฯ และรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) ขอบเขตพื้นท่เี มอื งเกา่ ตรงั การจัดประชุมภาคประชาชนในเขตเทศบาลนครตรัง เพื่อชี้แจงรายละเอียดโครงการฯ และร่วม รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อ (ร่าง) ขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าตรัง ครั้งที่ 1 จัดขึ้นในวันอังคารท่ี 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 13.00–16.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 1 อาคารอเนกประสงค์ เทศบาลนครตรัง ในการประชุมครั้งนี้ นายวุฒิชัย พิรุณสุนทร ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดตรัง เป็นประธานการประชุมฯ มีผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งประกอบด้วย ประธานชุมชนและตัวแทนจาก ชุมชนในเขตเทศบาลนครตรัง กลุ่มเครือข่ายเมืองเก่าทับเที่ยง ภาคประชาสังคม และนักศึกษาใน สถาบนั อุดมศกึ ษา จำนวนทงั้ ส้ิน 63 คน ในที่ประชุมฯ ทางที่ปรึกษาได้แจก (ร่าง) แผนที่ขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าตรัง และแบบสอบถาม ความคิดเห็นต่อ (ร่าง) ขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าตรัง ให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน ผลสรุปการจัดประชุมฯ พบว่า ผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดเห็นด้วยกับการให้พื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองตรังได้รับการกำหนดเขต เมืองเก่าตรัง จากการประกาศเป็นพื้นที่เมืองเก่าอย่างเป็นทางการ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ผ-58
เมืองเกา่ ตรัง ว่าด้วยการอนุรกั ษแ์ ละพฒั นากรุงรัตนโกสนิ ทร์ และเมอื งเก่า พ.ศ. 2546 ดว้ ยภาคประชาชนอยากให้พ้ืนท่ี ในตัวเมอื งตรงั ไดร้ ับการพัฒนาและอนรุ กั ษ์เมอื งอย่างมที ิศทางที่ถกู ต้องและเหมาะสม ในที่ประชุมฯ ที่ปรึกษาได้นำเสนอ (ร่าง) ขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าตรัง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้ พิจารณาและเปิดโอกาสให้เสนอแนะแนวเขตพื้นที่เมืองเก่าตามที่ต้องการ ผลสรุปจากผู้เข้าร่วมประชุม ส่วนใหญ่เห็นชอบกับแนวเขตพื้นที่หลักของเมืองเก่า (แนวเส้นสีแดง) ซึ่งครอบคลุมองค์ประกอบที่สำคัญ ของเมืองตรังเกือบทั้งหมด มีผู้เข้าร่วมประชุมบางส่วนเสนอให้ขยายขอบเขตเมืองเก่าตรังออกไปทางด้าน ทิศเหนือ ให้ครอบคลุมพื้นที่เนิน (ควน) สำคัญ 2 เนิน คือ เนินอาคารราชการซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงาน เทศบาลนครตรัง ศาลากลางจังหวัดตรัง ศาลจังหวัดตรัง สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง อาคาร ราชการอื่น ๆ และเนินบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการรักษาบรรยากาศ ภาพลักษณ์ และสภาพภูมิทัศน์ของความเป็นเมืองเก่าตรังได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนั้นยังมีผู้ทรงคุณวุฒิด้าน ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจังหวัดตรัง ได้เสนอให้มีการขยายขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าตรังออกไปทางด้านทิศ ตะวนั ตก ใหค้ รอบคลมุ ไปถงึ แนวเขตคลองหว้ ยยางดา้ นทศิ เหนอื เพื่อรักษาสภาพแวดลอ้ มและภูมิทัศนข์ อง คลองห้วยยาง ซึ่งเป็นคลองสายสำคัญเป็นจุดเริ่มต้นของย่านการค้าขายของเมืองตรัง และเป็นแหล่งที่ต้ัง ถิ่นฐานยุคแรก ๆ ของเมืองเก่าตรังอีกด้วย ทั้งนี้ ชาวเมืองตรังสนใจและอยากให้มีการอนุรักษ์และพัฒนา เมอื งเกา่ ตรงั เกิดขึน้ ทั้งน้ี เพื่อเป็นมรดกเก็บไวใ้ ห้ลูกหลานชาวตรังสืบต่อไป ทง้ั น้ี ผลจากการจัดประชมุ ท้ังหมดทีป่ รกึ ษาจะไดร้ วบรวมเพ่ือนำไปผา่ นความเหน็ จากสำนักงาน นโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะอนุกรรมการกลั่นกรองและพิจารณา แผนการดำเนินงานในพื้นที่เมืองเก่าเพื่อให้ข้อคิดเห็น แล้วจะนำกลับมาเสนอในการประชุมฯ ครั้งที่ 2 เพอ่ื ร่วมกนั พจิ ารณาปรับปรงุ แก้ไข (ร่าง) ขอบเขตพื้นทเ่ี มอื งเกา่ ตรงั อีกคร้ังหนง่ึ รปู ท่ี ผ-34: การประชุมภาคประชาชนในเขตเทศบาลเมอื งตรงั เพอ่ื ชแ้ี จงโครงการฯ และรับฟังความคดิ เห็นตอ่ (ร่าง) ขอบเขตพน้ื ท่ีเมืองเกา่ ตรัง จงั หวัดตรงั ครงั้ ท่ี 1 ผ-59
โครงการกำหนดขอบเขตพ้ืนท่ีเมอื งเกา่ 5.3 การประชุมเพ่ือรบั ฟงั ความคิดเหน็ ต่อขอบเขตพื้นทีเ่ มืองเก่าตรัง ครั้งท่ี 2 การจัดประชมุ เพอ่ื รบั ฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ คร้งั ที่ 2 เรอ่ื ง การกำหนดขอบเขตพื้นที่ เมืองเก่าตรัง ภายใต้โครงการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า: เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า จัดขึ้นในวันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.00– 17.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 1 อาคารอเนกประสงค์ เทศบาลนครตรัง ในการประชุมครั้งนี้ นายไพบูลย์ โอมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานการประชุมฯ และนายวุฒิชัย พิรุณสุนทร ผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมจังหวัดตรัง เป็นผ้กู ลา่ วรายงาน ในครง้ั นี้มีผู้เข้าร่วมประชุมฯ จำนวนทง้ั สิน้ 122 คน ประกอบดว้ ย -ผู้แทนจากสว่ นราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดตรัง จำนวน 17 คน ประกอบด้วย ท่ีว่าการอำเภอ เมืองตรัง สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตรัง สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดตรัง สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ตรัง สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง องค์การบริหารส่วน จังหวัดตรัง หอการค้าจังหวัดตรัง สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดตรัง สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง หนว่ ยอนรุ ักษ์สงิ่ แวดลอ้ มธรรมชาตแิ ละศลิ ปกรรมทอ้ งถ่นิ จังหวดั ตรงั และปราชญท์ อ้ งถิ่น เปน็ ต้น -ผู้แทนจากเทศบาลนครตรัง จำนวน 5 คน ประกอบด้วย หัวหนา้ สว่ นและผแู้ ทนจากหน่วยงาน ภายในเทศบาลนครตรงั -ผู้แทนจากวัด หรือสถาบันศาสนาในเขตเทศบาลนครตรัง จำนวน 3 คน ประกอบด้วย วดั กะพังสุรนิ ทร์ วดั นิโครธาราม และวดั มชั ฌิมภูมิ -ประธานชุมชนและผู้แทนจากชุมชน จำนวน 62 ชุมชนในเขตเทศบาลนครตรัง กลุ่มเครือข่าย เมอื งเก่าทับเทย่ี ง ภาคประชาสังคม กลมุ่ องค์กรเอกชน และนักศึกษาในสถาบนั อุดมศกึ ษาจำนวน 97 คน รายละเอียดโดยสรุปของผลการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในครั้งที่ 2 ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ให้ความสนใจกับการประชุมฯ เป็นอย่างดี ในการนี้ที่ปรึกษาได้นำเสนอ (ร่าง) ขอบเขต พื้นที่เมืองเก่าตรัง ซึ่งเป็นแนวเขตที่ผ่านความเห็นชอบจากการประชุมฯ ครั้งที่ 1 ทั้งจากส่วนราชการที่ เก่ยี วขอ้ งในจงั หวัดตรัง และภาคประชาชนในเขตเทศบาลนครตรัง รวมทง้ั ได้ผา่ นที่ประชมุ คณะอนกุ รรมการ กลัน่ กรองและพจิ ารณาแผนการดำเนนิ งานในพื้นทีเ่ มืองเก่าเพ่ือให้ขอ้ คิดเห็น แล้วจึงนำมาเสนอต่อท่ีประชุม ในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมฯ ได้พิจารณาและเสนอแนะแนวเขตพื้นที่เมืองเก่าตรังอีกครั้ง ในการ ประชุมครั้งที่ 2 ผู้เข้าร่วมประชุมฯ ส่วนใหญ่เห็นชอบกับแนวเขตพื้นที่เมืองเก่า (แนวเส้นสีแดง) ที่นำเสนอ ในที่ประชุมครั้งนี้ ครอบคลุมองค์ประกอบที่สำคัญของเมืองตรังเกือบทั้งหมด ทั้งแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม ที่จับต้องได้และไม่ได้ โดยเฉพาะแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมประเภทศาสนสถานรวมถึงแนวเขตพ้ืนที่ต่อเน่ือง (แนวเส้นประสีนำ้ เงิน) โดยผ้เู ขา้ รว่ มประชมุ ฯ ไดใ้ หข้ ้อเสนอแนะ ดังน้ี - ในแผนที่แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมในพื้นท่ีศึกษา การสำรวจยังไมค่ รอบคลุมถึงอาคารศาลเจ้า เก่าแก่บริเวณริมแม่น้ำท่าจีนตรงปากคลองปอน ซึ่งเป็นศาลเจ้าแห่งแรกที่ตั้งโดยชาวจีนที่เข้า มาทำการค้าในพื้นที่เมืองตรังยุคแรก ๆ รวมถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ผ-60
เมอื งเก่าตรัง ควรครอบคลุมถึงประเพณี งานเทศกาล และพิธีกรรมที่เป็นอัตลักษณ์ของเมืองตรัง เช่น เทศกาลถือศีลกนิ เจ ประเพณีลากพระ เป็นต้น - การกำหนดขอบเขตพื้นที่ฯ ควรขยายผลไปสู่การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยเฉพาะใน แหล่งโบราณสถานที่สำคัญ คือ พระอุโบสถวัดกะพังสุรินทร์พระอารามหลวง อุโบสถวัดนิคม- ประทีป อาคารสโมสรข้าราชการจังหวัดตรัง บ้านพักผูว้ ่าราชการจังหวัดตรัง วิหารคริสตจกั รตรงั และถ้ำเขาสามบาตร และควรพัฒนาคลองห้วยยางให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวและนันทนาการ อย่างเรง่ ด่วน เพราะเป็นคลองทมี่ คี วามสำคัญทางประวัตศิ าตร์ของเมืองตรัง - การจัดตั้งคณะอนุกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าตรัง ซึ่งดำเนินการโดยสำนักงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตรัง จะต้องให้ความสำคัญกับเครือข่ายภาค ประชาชน โดยการกำหนดสัดส่วนของภาคประชาชนในคณะอนุกรรมการฯ ด้วย เพื่อให้การ ดำเนินงานด้านการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าตรังสามารถตอบสนองความต้องการของ ประชาชนทีอ่ าศยั อยูใ่ นพน้ื ท่ี และมคี วามสอดคลอ้ งกบั บริบทของเมอื งเก่าตรงั ในทกุ มติ ิ - การตรวจสอบชื่อสถานที่ ถนน คลอง ทางแยก และองค์ประกอบเมืองอื่น ๆ ที่เป็นชื่อเรียก ปัจจบุ ัน ควรใส่ชอ่ื เรยี กเดมิ หรอื ท่ีประชาชนคุ้นเคย เพ่ือใหเ้ กดิ การสอ่ื สารท่ีถูกต้องและตรงกนั รูปท่ี ผ-35: การประชมุ เพอ่ื รบั ฟงั ความคิดเห็นตอ่ และขอ้ เสนอแนะ ครงั้ ที่ 2 ผ-61
โครงการกำหนดขอบเขตพนื้ ท่เี มืองเกา่ ผ.6 สรปุ สาระสำคญั ภาพรวมของเมืองเกา่ ตรงั เมืองตรังหรือเมืองทับเที่ยง เป็นเมืองเก่าที่สำคัญเมืองหนึ่งของประเทศไทย เรื่องราวของเมือง ตรังปรากฏครั้งแรกในตำนานสำคัญของภาคใต้ คือ ตำนานพระบรมธาตุนครศรีธรรมราชและตำนานเมือง พัทลุงกล่าวไว้ว่า ตรังเป็นท่าเรือทางผ่านในเส้นทางที่จะไปพระบรมธาตุนครศรีธรรมราชเป็นหนึ่งใน จำนวน 12 เมอื งนกั ษตั ร คอื เมอื งตรามา้ ประจำปมี ะเมีย ซ่งึ เปน็ เมืองบรวิ ารของเมอื งนครศรีธรรมราช นอกจากนี้ตำนานเมืองพัทลุงยังกล่าวถึงนางเลือดขาวและพระกุมารสามีเดินทางจากเมือง พัทลุงมาลงเรอื ท่ีทา่ เรอื ตรังเพ่ือเดินทางไปยังลังกา ตอนกลับได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาด้วยและสร้างวัด ชื่อ “วัดพระศรีสรรเพชญพุทธสิหงิ ค์” ปัจจุบันตั้งอยู่ที่อำเภอนาโยง ใกล้กับคลองนางนอ้ ย การสร้างวัดขึน้ แสดงว่ามีชุมชนโบราณตามเส้นทางคลองนางน้อยไปจนถึงแนวเทือกเขาบรรทัด ในเส้นทางการเดินทาง ของนางเลือดขาวจากพัทลุงถึงแม่น้ำตรังเข้าสู่คลองนางน้อยและออกสู่แม่น้ำตรังที่บ้านท่าจีน ซึ่งในสมัย น้ันยงั ไม่มีบา้ นเรอื นผคู้ นมากนกั การตั้งถิ่นฐานของเมืองตรังในยุคแรกเกิดขึ้นบริเวณริมแม่น้ำตรัง เกิดขึ้นจากการอพยพของชาว จีนท่ีเข้ามาตัง้ ถิ่นฐานในคาบสมทุ รมลายูช่วงต้นกรุงรัตนโกสนิ ทร์ โดยเดินทางทางเรือมาตั้งรกรากในชุมชน เมืองริมฝั่งทะเล และมีชาวจีนบางส่วนอพยพเข้ามาในลุ่มแม่น้ำตรัง และพบว่าบริเวณริมน้ำตอนในเข้าไป จากปากแม่น้ำมีความอุดมสมบูรณ์และมีทำเลเหมาะสมจึงตั้งถิ่นฐานเพื่อเป็นสถานีการค้า เรียกว่า “ทา่ จนี ” ชุมชนบริเวณทา่ จนี มีการเตบิ โตของการค้าอย่างรวดเร็ว สง่ ผลใหค้ นจนี อพยพเขา้ มาต้ังถ่ินฐานใน ชุมชนมากขึ้น ชุมชนท่าจีนจึงเริ่มขยายตัวจากทางด้านทิศตะวันออกแถบบางรัก หนองปรือ และท่ากลาง และช่วงปี พ.ศ. 2380 มีชาวจีนมาเก๊าคนหนึ่งเข้ามาบุกเบิกทำสวนพริกไทยข้ึนในบริเวณที่เป็นเมือง ทับเที่ยงในปัจจุบัน ซึ่งเป็นสวนพริกไทยที่ใหญ่ที่สุดในขณะนั้น ต่อมาชาวจีนท่านนี้ได้รับบรรดาศักดิ์เป็น หลวงภิรมย์สมบัติ เนื่องจากมีคุณงามความดีทำให้เศรษฐกิจของชุมชนดีขึ้นเพราะพริกไทยในช่วงนั้นราคาสงู และสามารถผลิตพริกไทยที่มีคุณภาพดีจนเป็นที่รู้จักกันในตลาดโลก ซึ่งในขณะนั้นศูนย์กลางการปกครอง เมืองตรังยังต้งั อยู่ท่ีอำเภอกนั ตัง การขยายตัวของเมืองจากชุมชนท่าจีนมาที่ชุมชนท่ากลางและชุมชนบางรัก ทำให้เกิดการตั้งถิ่น ฐาน เป็นชุมชนการค้าขึ้นในตัวเมืองทับเที่ยง ประกอบกับการสร้างทางรถไฟสายใต้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2454 โดยทางสายประธานจะผ่านเมืองหาดใหญ่ไปจนถึงมลายู ส่วนทางสายแยกสร้างจากท่าเรือ กันตังไปบรรจบกับเส้นทางสายประธานที่สถานีชุมทางทุ่งสง ระยะทาง 93 กิโลเมตร ดำเนินการเสร็จ เรียบร้อย เปิดให้บริการเดินรถจากสถานีห้วยยอดถึงสถานีชุมทางทุ่งสงเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2457 โดยมีสถานีรถไฟตรังเป็นสถานีสำคัญสถานีหนึ่ง จึงส่งผลให้เมืองตรังหรือเมืองทับเที่ยงที่กระจุกตัวอยู่ตรง ย่านการค้าริมคลองห้วยยางขยายตัวมากขึ้นจากการทำการค้าผ่านเส้นทางรถไฟ เมืองตรังหรือเมือง ทับเที่ยงในช่วงปี พ.ศ. 2450–2460 จึงเป็นสถานีการค้าที่สำคัญของจังหวัดตรัง ในขณะที่เมืองกันตังเป็น ศูนยก์ ลางการปกครองและท่าเรือค้าขายกบั ต่างประเทศ จนกระท่ังในปี พ.ศ. 2458 สมยั ทพ่ี ระยารษั ฎานปุ ระดิษฐ์ (สนิ ธ์ุ เทพหสั ดิน ณ อยธุ ยา) เป็นผู้ว่า ราชการเมือง มหาอำมาตย์โท พระยาสรุ นิ ทรราชาเป็นสมหุ เทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต เหน็ ว่าเมอื งท่ีกันตังอยู่ ผ-62
เมืองเก่าตรัง ในทำเลไม่เหมาะสม หลังจากทีพ่ ระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจ้าอยูห่ ัว รัชกาลที่ 6 เสด็จฯ เมืองตรังในปี พ.ศ. 2458 แล้ว จึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตย้ายเมืองไปตั้งที่อำเภอบางรัก (ปัจจุบันคือตำบล บางรักในอำเภอเมืองตรัง) การย้ายที่ตั้งเมืองในปี พ.ศ. 2458 ทำให้ศูนย์กลางการปกครองย้ายมาตั้งอยู่ที่ เมืองทับเที่ยงซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าและความเจริญมาแต่เดิมแล้ว และยังเป็นศูนย์กลางการติดต่อ ราชการที่ดีเพราะตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางของจังหวัด ส่วนอำเภอรอบนอกเป็นเหมือนรัศมีสามารถเดิน ทางเข้ามาติดต่อในตัวเมืองได้อย่างสะดวก แต่ในขณะนั้นยังไม่มีสถานที่ว่าราชการจึงต้องใช้ตำหนักผ่อน กายเป็นศาลากลางจังหวัดชั่วคราว ในปี พ.ศ. 2461 สมัยพระราชโยธา (เจิม ปันยารชุน) เป็นผู้ว่าราชการ จังหวัดได้เริ่มสร้างศาลากลางเป็นอาคารไม้ชั้นเดียว เปิดทำการในปี พ.ศ. 2463 จากนั้นมีการก่อสร้าง สถานทรี่ าชการอื่น ๆ เชน่ จวน ศาล เรือนจำ สถานีตำรวจ และสโมสรเสอื ปา่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2463 พระยาสุรินทราชา (นกยูง วิเศษกุล) เป็นสมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต เมืองตรังได้พัฒนาข้ึนอีกหลายด้าน มีการตัดถนนสำคัญ ได้แก่ “ถนนพระราม 6” ซึ่งได้รับพระราชทาน นามจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจ้าอย่หู ัว รัชกาลท่ี 6 เม่อื ปี พ.ศ. 2464 พระยาสรุ นิ ทราชามีดำริท่ี จะสรา้ ง “ลุมพนิ ีน้อย” ท่ีสระกะพงั เมือ่ เทศบาลดำเนินการจดั สรา้ งแล้วเสรจ็ จึงใช้ช่ือ “สระกะพงั สุรินทร์” เพื่อเป็นที่ระลึกให้กับพระยาสุรินทราชา นอกจากนี้ยังมีชื่อ “ถนนวิเศษกุล” และ “วัดควนวิเศษ” เพื่อระลึกถึงเทศาภิบาลผู้นี้เช่นกัน ส่วนถนนอื่น ๆ ที่ปรากฏในแผนที่เมืองตรังช่วงปี พ.ศ. 2471 ได้แก่ “ถนนเจิมปัญญา” เป็นที่ระลึกถึงพระยาตรังคภูมาภิบาล (เจิม ปันยารชุน) ถนนซิมบ๊ี ปัจจุบันคือ ถนนรษั ฎาฯ เปน็ ที่ระลกึ ถงึ พระยารษั ฎานุประดิษฐ์มหิศรภกั ดี (คอซมิ บี๊ ณ ระนอง) ส่วนถนนราชดำเนินใน สมัยนั้นเรียกว่าถนนไปพัทลุง สันนิษฐานว่าน่าจะใช้ชื่อถนนราชดำเนินหลังจากที่พระบาทสมเด็จ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว รชั กาลท่ี 7 เสด็จฯ ประพาสจงั หวัดตรงั ในปี พ.ศ. 2471 กล่าวได้ว่า พัฒนาการการตั้งถิ่นฐานในเมืองตรังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 200 ปี จนกระทั่ง ปัจจุบัน เมืองเก่าทับเที่ยงย่านตลาดเก่ายังคงแสดงบทบาทในฐานะศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและศูนย์กลาง การปกครองของจังหวัดตรังในปัจจุบนั ถอื เป็นเมอื งเก่าทม่ี ีการตั้งถิ่นฐานต่อเนอ่ื งยาวนาน และยังคงสภาพ ความเป็นเมืองเอาไว้ได้ แม้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงและการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ลด บทบาทความสำคญั ของเมืองเก่าตรงั ลงไปได้ การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของเมืองทับเที่ยงค่อย ๆ คลี่คลายตามพัฒนาการของสภาพ เศรษฐกิจ การเมือง สังคม และวัฒนธรรม จากท่าเรือ สวนพริกไทย เป็นสวนยาง สวนจันทน์เทศ เปลี่ยนเป็นย่านตลาดการค้า เมื่อกลายเป็นศูนย์กลางของจังหวัดจึงเกิดกลุ่มสถานที่ราชการข้ึน เกิดศาสนสถาน สถานศึกษา สถานบันเทิง เกิดย่านตลาดหรือชุมชนเมืองที่ขยายตัวออกไปรอบทิศ และ การคมนาคมที่เจริญเต็มที่ทำให้การเดินทางติดต่อระหว่างอำเภอเป็นไปได้โดยสะดวก ปัจจุบันเมืองตรัง ยังคงรักษาความเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญของภูมิภาค และค่อย ๆ พัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์กลางที่อยู่ อาศยั กึง่ พาณิชย์ และศนู ย์กลางการให้บริการดา้ นการศกึ ษาในอนาคตอนั ใกล้ ในปัจจุบันเมืองเก่าตรังหรือเมืองทับเที่ยงมีแหล่งมรดกทางธรรมชาติและแหล่งมรดกทาง วัฒนธรรมที่มีความสำคัญและมีคุณค่า ทั้งที่เป็นโบราณสถาน อาคาร และสถานที่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผ-63
โครงการกำหนดขอบเขตพน้ื ทเ่ี มอื งเกา่ ทางสถาปัตยกรรม มีทั้งหมด 40 แห่ง จากการประเมินคุณค่าและความสำคัญในด้านต่าง ๆ ของแหล่ง มรดกทางธรรมชาติและแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม ซ่งึ เปน็ องคป์ ระกอบของเมอื งทม่ี ีอยใู่ นเมืองตรัง รวมท้ัง การจัดลำดับความสำคัญตามระดับศักยภาพขององค์ประกอบของเมืองเหล่านั้น พบว่า องค์ประกอบของ เมืองตรังที่มีคุณค่าและความสำคัญมาก หรือมีระดับศักยภาพสูงถึงปานกลาง มีจำนวนมากถึง 39 แห่ง ส่วนใหญต่ ง้ั เกาะกลมุ่ อย่ใู นบริเวณตอนกลางของเมืองตรัง ส่วนองค์ประกอบของเมอื งทมี่ รี ะดบั ศักยภาพต่ำ มเี พยี ง 1 แหง่ เนอื่ งจากเป็นองค์ประกอบของเมืองทีเ่ กิดขน้ึ ใหม่ มีความสัมพนั ธก์ บั ประวัติศาสตรข์ องเมือง ค่อนข้างน้อย ภายในสวนสาธารณะไม่พบแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมประเภทอาคารหรือสถานที่สำคัญท่ี ส่งเสริมเมืองเกา่ จากการกำหนดขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าตรัง ซึ่งผ่านการกระบวนการจัดประชุมเพื่อรับฟังความ คิดเห็นและข้อเสนอแนะ เรื่อง การกำหนดขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าตรัง จำนวน 2 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ผู้แทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดตรัง ผู้แทนจากเทศบาลนครตรัง ผู้แทนจากวัด หรือสถาบันศาสนาในเขตเทศบาลนครตรัง ประธานชุมชนและผู้แทนจากชุมชน จำนวน 64 ชุมชนในเขต เทศบาลนครตรัง ผู้แทนจากกลุ่มเครือข่ายเมืองเก่าทับเที่ยง ผู้แทนจากกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชนที่ ดำเนินกิจกรรมด้านการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าตรัง ตัวแทนสื่อมวลชนท้องถิ่น และตัวแทนเยาวชน ซึ่งข้อคดิ เห็นและข้อเสนอแนะจากการประชุมท้ังหมดไดน้ ำมาใช้กำหนดขอบเขตพื้นทีเ่ มืองเก่าตรัง ได้ดังน้ี พื้นที่เมืองเก่าตรัง (แนวเส้นสีแดง) มีเนื้อที่ประมาณ 1.91 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,192.95 ไร่ และพื้นท่ี ต่อเนื่องของเมืองเก่าตรัง (แนวเส้นประสีน้ำเงิน) มีเนื้อที่ประมาณ 4.05 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,528.92 ไร่ (แผนท่ี 5 และแผนท่ี 6) ทั้งน้ี แนวเขตพื้นที่เมืองเก่าตรัง (แนวเส้นสีแดง) ได้ครอบคลุมองค์ประกอบที่สำคัญส่วนใหญ่ ของเมืองตรัง ใน 2 ย่านหลัก ได้แก่ ย่านศูนย์กลางพาณิชยกรรมเก่าแก่ของเมือง หรือเกาะเมืองเก่า ทับเที่ยงครอบคลุมพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยถนน 4 สาย คือ ถนนพระราม 6 ถนนวิเศษกุล ถนนราชดำเนิน และถนนกันตัง และย่านศนู ย์กลางราชการ ซึง่ ล้อมรอบด้วยถนนวิเศษกลุ ถนนพระราม 6 ถนนรัษฎา และ ถนนพัทลุง ส่วนพื้นที่ต่อเนื่องของเมืองเก่าตรัง (แนวเส้นประสีน้ำเงิน) ได้ครอบคลุมถึงองค์ประกอบทาง ธรรมชาติที่ช่วยส่งเสริมภูมิทัศน์เมือง ได้แก่ คลองน้ำเจ็ด คลองห้วยยาง และเขาหนองยวน ซึ่งจะส่งผลดี ต่อการรักษาบรรยากาศ ภาพลกั ษณ์ และสภาพภูมิทศั น์ของความเป็นเมืองเกา่ ตรงั ไดอ้ ย่างสมบูรณ์ ผ-64
เมืองเก่าตรัง รายชอ่ื ผู้ดำเนินโครงการ กองจัดการสิง่ แวดลอ้ มธรรมชาตแิ ละศิลปกรรม สำนักงานนโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม ทป่ี รกึ ษา เลขาธิการสำนกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ 1. นางรววี รรณ ภรู เิ ดช ส่งิ แวดล้อม รองเลขาธกิ ารสำนกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ 2. นายประเสรฐิ ศริ นิ ภาพร และส่งิ แวดลอ้ ม ผ้อู ำนวยการกองจัดการสงิ่ แวดลอ้ มธรรมชาติและศิลปกรรม 3. นางกิตตมิ า ยนิ เจรญิ คณะกรรมการตรวจรับพัสดใุ นงานจา้ งท่ีปรึกษาโดยวธิ คี ดั เลอื ก 1. นางสาวสิรวิ รรณ สโุ อฬาร นกั วิชาการสง่ิ แวดล้อมชำนาญการพเิ ศษ 2. นางสาวกนกกาญจน์ โกตริ มั ย์ นกั วชิ าการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพเิ ศษ 3. นางสาวปวณี ์ริศา อาจสาลี นักวิชาการส่งิ แวดล้อมชำนาญการ 4. นางสาวนิลอบุ ล ไวปรีชี นักวชิ าการสง่ิ แวดล้อมชำนาญการ 5. นางสาวน้ำทพิ ย์ ศรวี งษ์ฉาย นกั วิชาการสง่ิ แวดล้อมชำนาญการ ทป่ี รกึ ษาด้านประวตั ิศาสตรท์ อ้ งถ่นิ ผู้ทรงคุณวุฒิ อดตี หัวหนา้ หอจดหมายเหตุ 1. นางสาวสุนทรี สังขอ์ ยทุ ธ์ แห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ จงั หวดั ตรงั กรรมาธิการฝ่ายกิจกรรมเมอื งและนโยบาย 2. นายยิง่ ยศ แก้วมี สาธารณะ สมาคมสถาปนกิ สยามฯ คณะผู้วจิ ัย หัวหนา้ โครงการ 1. รองศาสตราจารย์ ดร.เกรียงไกร เกิดศริ ิ ผู้เชย่ี วชาญดา้ นสังคมวิทยา-มานุษยวทิ ยา 2. ศาสตราจารย์ ดร.เสมอชัย พูลสุวรรณ ผู้เช่ยี วชาญด้านผงั เมือง และสิ่งแวดลอ้ ม 3. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.วิลาวัณย์ ภมรสวุ รรณ ผเู้ ชย่ี วชาญด้านผงั เมอื ง และสงิ่ แวดล้อม 4. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ตรีชาติ เลาแกว้ หนู ผ้เู ชี่ยวชาญดา้ นพฒั นาชุมชนและ 5. ดร.สิโรตม์ ภินันทร์ ชั ตธ์ ร การมสี ่วนร่วม ผเู้ ชี่ยวชาญดา้ นประชาสัมพนั ธแ์ ละ 6. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.นันทวรรณ ม่วงใหญ่ สง่ เสริมการทอ่ งเทยี่ ว ผู้เชี่ยวชาญดา้ นอนรุ กั ษ์สถาปัตยกรรม 7. นางสาวปัทม์ วงค์ประดษิ ฐ์ ผ้เู ช่ยี วชาญดา้ นสถาปตั ยกรรมและ 8. ดร.อิสรชยั บูรณะอรรจน์ สถาปัตยกรรมพืน้ ถิน่ ผเู้ ชีย่ วชาญด้านประวัติศาสตรแ์ ละโบราณคดี 9. นายกติ ตคิ ณุ จนั ทรแ์ ย้ม ผ-65
โครงการกำหนดขอบเขตพื้นทีเ่ มืองเก่า ขอ้ มูลบรรณานกุ รม ชื่อโครงการ โครงการอนุรกั ษแ์ ละพัฒนาเมืองเกา่ : เสริมสร้างความร้คู วามเข้าใจเพื่อเพม่ิ ประสิทธิภาพ ISBN การอนรุ ักษแ์ ละพฒั นาเมอื งเกา่ ผู้จดั ทำ 978-616-316-614-2 สำนกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม ผศู้ ึกษา กองจดั การสงิ่ แวดล้อมธรรมชาติและศลิ ปกรรม 60/1 ซอยพิบลู วัฒนา 7 ถนนพระรามท่ี 6 พญาไท กรงุ เทพฯ 10400 การอา้ งองิ โทรศพั ท์/โทรสาร 0 2265 6584 http://www.onep.go.th คำสบื คน้ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร พิมพ์เมอ่ื 31 ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรงุ เทพฯ 10200 ผู้พิมพ์ โทรศพั ท์ 0 2221 5877 โทรสาร 0 2223 9288 จำนวนพิมพ์ สำนักงานนโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม. จำนวนหนา้ โครงการกำหนดขอบเขตพน้ื ท่เี มอื งเก่า: เมอื งเก่าตรงั . กรุงเทพฯ: คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร, 2563 การกำหนดขอบเขตพ้ืนท่เี มอื งเก่าตรัง กันยายน 2563 คณะสถาปตั ยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศลิ ปากร 150 เลม่ 132 หนา้ สงวนลขิ สิทธิ์ในประเทศไทย ตามพระราชบัญญตั ลิ ขิ สทิ ธ์ิ พ.ศ. 2537 โดย สำนกั งานนโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม พ.ศ. 2563 ผ-66
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140