Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รั้วโรงโรงเรียน ฉ2

รั้วโรงโรงเรียน ฉ2

Description: รั้วโรงโรงเรียน ฉ2

Search

Read the Text Version

มูลนิธยิ วุ สถริ คณุ “ช่วยกนั สรา้ งคนดี ศูนยโ์ รงเรียนคณุ ธรรม ให้บ้านเมือง” ศูนย์จติ วทิ ยาการศกึ ษา FOUNDATION OF VIRTUOUS YOUTH เนอื่ งมาจากปก ๒๑๔ ถนนนครสวรรค์ แขวงวดั โสมนัส “มุง่ ท�ำความดี ไมม่ ีวนั สิน้ หวงั แม้ไร้แรงส่งิ หวัง เปรยี บดังไม้ขดี มอดไหม้ นอ้ มน�ำแบบอย่าง เขตปอ้ มปราบศัตรพู า่ ย กรุงเทพมหานคร ๑๐๑๐๐ แหง่ ความดีอันย่งิ ใหญ่ เกิดเปน็ พลงั ใจ ผลิบาน ผลใิ บ ตงั้ ใจใฝ่ทำ� ความด”ี โทรศัพท์ ๐ ๒๒๘๒ ๐๒๑๖ โทรสาร ๐ ๒๒๘๒ ๐๒๓๕ www.vyouth.org มูลนธิ ิยวุ สถิรคณุ ชวี นั วสิ าสะ ศนู ยส์ ถานศกึ ษาพอเพียง มูลนธิ ิยุวสถิรคุณ ๑๗๓ ถนนนครราชสมี า เขตดสุ ิต กรงุ เทพมหานคร ๑๐๓๐๐ โทรศัพท์ ๐ ๒๗๘๗ ๗๐๓๓-๔ โทรสาร ๐ ๒๒๘๒ ๘๒๒๖

แรงบันดาลใจ สารบญั ธ ทรงเป็นแรงบันดาลใจ แเธรองคบือันแดรางลบในัจด าลใจ ๓๘ ให้ชาวไทยใฝท่ ำ� ดี Best Practice เรื่อง : สกุณี ณัฐพูลวัฒน์ ๑๑๑๔๐๐ โรงเรียน ตชด. ศรีสมวงศ ์ ตลอดชว่ งระยะเวลาการข้ึนครองราชย์ โรงเรียนศรวี ิชยั วทิ ยา ๒๒๑๑๕๑๘๘ ขององคพ์ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมพิ ล ๒๘ อดลุ ยเดชจนกระทงั่ ปจั จุบนั พระองคท์ รงเปน็ ถอดความรจู้ ากกจิ กรรม ๓๖ มงิ่ ขวญั กำ� ลังใจ และแบบอยา่ งทด่ี ีงามให้แก่ ๓๗ พวกเราชาวไทยเสมอมา ทงั้ จากพระราชจรยิ วตั ร ศนู ย์โรงเรยี นคณุ ธรรม ๓๘ อันงดงาม การทรงงานหนักเพอ่ื ประชาชน ตลาดนดั ความรู ้ ๔๔ ชาวไทย และพระราชดำ� รสั ทมี่ อบใหแ้ กช่ าวไทย Growth Mindset ๕๐ ในวาระต่างๆ ที่เปน็ ด่ัง “คำ� พอ่ สอน” ใหล้ กู ๆ ๕๒ ไดน้ อ้ มนำ� ไปปรบั ใช้ เป็นแรงบนั ดาลใจใหล้ กู ๆ สัมภาษณ ์ ชาวไทยทกุ สาขาอาชีพได้นำ� ไปสรา้ งจดุ หมาย Echo English ชวี ิต ดงั เช่นเขม็ ทิศทช่ี ว่ ยให้กา้ วไปสจู่ ดุ มงุ่ หมาย ทกั ษะชีวติ ด้านการเงนิ อยา่ งมนั่ ใจ สัมภาษณ์ยอ่ ย แน่นอน บทความชิ้นเลก็ ๆ นีไ้ ม่อาจบรรจุ เรือ่ งเล่ารอบบา้ น เร่อื งราวแหง่ แรงบนั ดาลใจทั้งหมดท่ีเกดิ ขน้ึ ได้ เบิกบานงานประดษิ ฐ ์ จากการเรยี นรู้ผ่านค�ำสอนของพอ่ กระนนั้ กต็ าม บทความพิเศษ คำ� สอนตา่ งๆ ท่ี “พอ่ ” ของชาวไทยไดม้ ใี หล้ กู ๆ นน้ั ช่างเปย่ี มความหมายและเป็นแรงผลกั ดนั ใหเ้ กิด ร้วั โรงเรยี น 2 การงานและการใชช้ วี ติ ทม่ี งุ่ มนั่ ในหนทางแหง่ อาชพี ของตนตา่ งๆ กนั ไปมากมาย จึงอยากน�ำเสนอให้ ได้อา่ นและรว่ มเรยี นรไู้ ปด้วยกันผา่ นบทสัมภาษณ์ สน้ั ๆ ท่เี ตม็ ไปดว้ ยความสำ� นึกแห่งพระมหา กรุณาธคิ ณุ อนั ยิง่ ใหญ่ในเร่ืองเล่าถดั ไปจากนี้ ร้วั โรงเรยี น 3

พระเจ้าอยูห่ ัวสอนฉันให้ท�ำเพ่อื ผูอ้ น่ื และท่านองคมนตรี “พลากร สวุ รรณรฐั ” เล่าไวใ้ นหนงั สอื เลม่ เดยี วกนั ว่า “...การพฒั นาชนบท เป็นงานทีส่ �ำคญั เปน็ งานทีย่ าก เป็น “...ทรงให้ความสำ� คญั กบั การมสี ่วนร่วมของประชาชนและเจ้าหน้าทที่ กุ ระดับ งานทจ่ี ะต้องท�ำใหไ้ ด้ดว้ ยความสามารถ ดว้ ยความเฉลียวฉลาด คอื ทรงเปดิ พระราชหฤทยั กวา้ งรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ความต้องการของ ทั้งเฉลยี วทั้งฉลาด ต้องท�ำดว้ ยความบรสิ ุทธใิ์ จ มิใชม่ งุ่ ทจ่ี ะหากิน สาธารณชน โดยทรงระลกึ ถงึ ประโยชนส์ ว่ นรวมเปน็ ทต่ี งั้ ภายใตห้ ลกั การ ‘ขาดทนุ คอื กำ� ไร’ ดว้ ยวธิ กี ารใดๆ ใครอยากหากินขอให้ลาออกจากต�ำแหนง่ ทรงเน้นการ ‘ให’้ และ ‘เสียสละ’ เพ่ือผลก�ำไร น่นั คอื ‘ความอยู่ดมี ีสขุ ของราษฎร’ หรือ ไปท�ำการค้าดีกว่า เพราะว่าถ้าท�ำผดิ พลาดไปแล้วบา้ นเมืองเรา อธิบายได้วา่ ขาดทุนในดา้ นเศรษฐกจิ แต่ได้กำ� ไรในดา้ นสังคม ลม่ จม และเมื่อบา้ นเมืองของเราล่มจมแล้วเราอยู่ไมไ่ ด้ ก็เท่ากับ สำ� หรับข้าราชบริพาร สว่ นราชการตา่ งๆ ท่ีร่วมปฏิบตั งิ านถวาย จะไดเ้ ห็นพระองค์ทรงพระเกษมสำ� ราญ ทรงมี เสยี หมดทกุ อย่าง...” ความสขุ ท่ีไดช้ ว่ ยเหลอื พสกนิกรของพระองค์ และมพี ระราชประสงค์ใหท้ กุ คนมีความสุขท่ีได้ชว่ ยเหลอื ผูอ้ นื่ พระบรมราโชวาทพระราชทาน ดงั พระราชด�ำรัสครั้งหน่งึ ความว่า แกค่ ณะผบู้ รหิ ารงานเรง่ รดั พฒั นาชนบท ‘ท�ำงานกบั ฉนั ฉนั ไม่มอี ะไรจะให้ นอกจากการมคี วามสขุ รว่ มกนั ในการทำ� ประโยชนใ์ หก้ บั ผู้อน่ื ’…” ระดบั ผ้วู ่าราชการจังหวัด ณ พระทน่ี งั่ อัมพรสถาน วนั ศกุ รท์ ่ี ๑๓ มถิ นุ ายน ๒๕๑๒ ผมู้ บี ทบาททำ� งานเพอ่ื ประชาชนอีกท่านหนง่ึ ที่เคย ใหส้ ัมภาษณไ์ ว้ว่าได้รบั แรงบันดาลใจจากพระราชด�ำรสั ของ ท่านองคมนตรี “สวสั ดิ์ วฒั นายากร” ไดเ้ ลา่ ถงึ การท�ำงานถวายในหลวงและเรียนร้ผู ่านคำ� สอนอันมคี ่าไว้ในหนังสือ พระเจ้าอยู่หัว คอื แพทย์หญิงคณุ หญิงพรทิพย์ “พระเจ้าอยู่หัวกับองคมนตร”ี ความตอนหนึ่งวา่ โรจนสนุ นั ท์ “...ชว่ งหนงึ่ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงถามวา่ สนั ฝายอยทู่ ร่ี ะดบั เทา่ ไร ผอู้ ำ� นวยการกองฯ เกดิ จำ� ไมไ่ ด้ ตดั สนิ ใจดำ� นำ้� “…ในหลวงทรงเปน็ แรงบนั ดาลใจในการท�ำงานของหมอ กับตัวเลขทใี่ กล้เคียง สมมตวิ า่ ‘บวก ๓๕๐ พระพทุ ธเจ้าข้า’ (สูงกว่าระดบั น้�ำทะเล ๓๕๐ เมตร) พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั ทรงหยดุ นดิ หนงึ่ แล้วรบั สั่งวา่ ‘ถ้าระดบั ๓๕๐ น�ำ้ ก็ท่วมต�ำบลน้ีทงั้ ตำ� บล’ ทรงชี้ไปทีแ่ ผนที่ ๑ : ๕๐,๐๐๐ เสน้ บอกระดบั นำ้� ตำ� บล พระองคท์ รงเหน็ดเหนอ่ื ยเพอื่ ดแู ลให้พสกนิกรมี ทอี่ ย่เู หนอื น้ำ� อยทู่ ี่ ๓๔๙ นับแต่น้ันเปน็ ต้นมา ผมท่องเป็นคาถาเวลาถวายงานว่า ‘ห้ามเดา’ แต่ก็ยังไมว่ ายพลาดจนได้ ในชว่ งเวลา ความสุข หมอจงึ ตั้งปณธิ านท่จี ะท�ำหนา้ ทีด่ ูแล เรื่องความเปน็ ธรรมใหแ้ กป่ ระชาชน...” สามปีเศษทผ่ี มถวายงานในฐานะอธิบดี และตอ่ มาในฐานะกรรมการมูลนธิ ชิ ยั พฒั นา ผมได้ประสบการณ์ ไดเ้ รียนร้สู งิ่ ท่ีมคี ุณค่า ทีส่ ดุ ในชีวิตว่า เปน็ บญุ เหลอื เกินทีไ่ ดเ้ กดิ มาเปน็ คนไทย มีพระเจ้าแผน่ ดนิ ทยี่ อมตรากตร�ำพระวรกาย เสด็จฯ ไปในท้องที่ ร้วั โรงเรียน 5 ทรุ กนั ดารท่ามกลางแสงแดดทแี่ ผดเผาหรอื สายฝนทีก่ ระหน่�ำ ปีนป่ายขึน้ ไปบนภเู ขาสูง หรอื ไตล่ งไปในหบุ เหว ทเ่ี ตม็ ไปด้วยโคลนตม ปลิง และทาก ในป่าทรี่ กชฏั จนค่ำ� มดื ดกึ ด่นื โดยมีพระราชประสงค์ท่ีแน่วแนท่ จ่ี ะหาทางชว่ ยเหลือ พสกนกิ รของพระองค์ทา่ น โดยเฉพาะผ้ทู ีด่ อ้ ยโอกาส ยากจน มปี ัญหาอปุ สรรคในการทำ� มาหาเลย้ี งชพี ใหไ้ ดม้ โี อกาส และชวี ติ ความเป็นอยทู่ ด่ี ีขน้ึ คืนวันหนง่ึ ผมได้ร่วมโต๊ะเสวยหลงั จากท่พี ระองคท์ า่ นเสด็จฯ ไปทรงเยยี่ มราษฎรในพ้นื ที่ ทุรกันดารแหง่ หนง่ึ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พระราชกระแสรบั สั่งที่ยงั กอ้ งอยู่ในหขู องผมจนทุกวนั นี้ คือ ‘...ทเี่ ขายากจนตอ้ งมาทำ� มาหากนิ ในพน้ื ที่แหง้ แลง้ เช่นนี้ ไมใ่ ช่ว่าเขาอยากจะมา แตเ่ พราะเขาไมม่ ีทอ่ี น่ื จะ ไป ท่ฉี นั ช่วยเขา ไม่ใช่ว่าจะชว่ ยตลอดไป แต่ช่วยเพ่นื ใหเ้ ขาไดม้ ีโอกาสช่วยตวั เองต่อไป’.... ร้ัวโรงเรียน 4

มอี นาคตเพราะหลกั ปรัชญาของ พระราชดำ� รัส พระราชทานแก่ และแปรรปู เปน็ ผลติ ภณั ฑน์ มพาสเชอไรซ์ อกี คนหน่ึงที่ได้รบั แรงบนั ดาลใจจากพระบาทสมเดจ็ เศรษฐกจิ พอเพยี ง คณะบคุ คลตา่ งๆ ทเี่ ขา้ เฝา้ ฯ ถวายชยั มงคล รสต่างๆ ได้วันละ ๓๐๐ ลติ ร เพื่อส่งไปยัง พระเจ้าอยหู่ วั ทเี่ ราอยากกล่าวถึงแม้เขาจะจากไปแล้ว นน่ั คือ “...ค�ำวา่ พอเพยี งน้มี ีความหมาย เนอื่ งในโอกาสวนั เฉลิมพระชนมพรรษา ตลาดใน ๕ จังหวดั คอื ชุมพร ระนอง พระเอกหนุม่ ปอ-ทฤษฎี สหวงษ์ ผูซ้ ึ่งทุกคนท่ตี ิดตามเขาจะ กวา้ งกวา่ ยง่ิ กวา่ น้ีอกี คอื ค�ำว่า พอก็เพียง ณ ศาลาดสุ ิดาลัย สวนจติ รลดา ฯ ภเู กต็ สตลู และสรุ าษฎร์ธานี เขาเล่าว่า ทราบดีวา่ เขาทำ� สวนทบี่ ุรีรัมย์บา้ นเกิด และไดแ้ บ่งปนั ที่ดนิ ท�ำนา พอเพยี งนีก่ พ็ อ คนเราถา้ พอในความ พระราชวังดุสติ วนั ศุกร์ ที่ ๔ ธนั วาคม ไดน้ ้อมน�ำทฤษฎีเศรษฐกจิ พอเพยี งของ ให้กบั คนยากจนได้ใชโ้ ดยไม่คดิ ค่าใช้จา่ ย เขาเคยเลา่ ไว้ว่า ต้องการมันกม็ คี วามโลภน้อย เมอ่ื มี ๒๕๔๑ ในหลวงมาใช้ “ทำ� ทกุ อยา่ งทใ่ี ช้ ใชท้ กุ “เอาเข้าจริงแลว้ ผมว่า เราได้ยนิ พระราชดำ� รสั ในหลวงมา ความโลภน้อยกเ็ บียดเบียนคนอน่ื น้อย ปฏวิ ตั ิ อินทรแ์ ปลง เดก็ หนมุ่ อายุ อยา่ งทที่ ำ� ” ตามทใ่ี นหลวงรับส่ัง ฟาร์ม ตลอดครับ ตัง้ แตเ่ ดก็ จนโต แต่เราไม่เคยตงั้ ใจฟังจรงิ ๆ เลยสกั เรอ่ื ง ถา้ ประเทศใดมคี วามคดิ อนั นี้ ...มคี วามคดิ ๒๓ ปี เจ้าของทมี ฟาร์มโคนมขนาดเลก็ ที่ อนิ ทรแ์ ปลงทำ� แกส๊ ชวี ภาพเอง ใชพ้ ลงั งาน ตวั ผมเองก็เพ่ิงมาได้ฟังเขา้ จรงิ ๆ ตอนเริ่มศกึ ษาค�ำสอนของ วา่ ทำ� อะไรตอ้ งพอเพียง หมายความว่า ชื่อวา่ “ฟาร์มอนิ ทรแ์ ปลง” จังหวดั ชมุ พร จากแกส๊ ชีวภาพจากมูลววั กากตะกอน ในหลวงเหมือนกนั อย่างเรือ่ งความพอเพยี งน่ีเอาไปใชไ้ ด้กบั ทกุ พอประมาณไมส่ ดุ โตง่ ไม่โลภอยา่ งมาก คอื ผหู้ นึ่งท่ีท�ำให้เห็นวา่ คนเลก็ ๆ สามารถ บ่อแก๊สก็ทำ� ป๋ยุ ไวใ้ ช้ ไว้แจกใหค้ นใน เรอ่ื งเลยนะครบั ” คนเรากอ็ ยเู่ ปน็ สขุ พอเพยี งนอ้ี าจจะมมี าก ไปขา้ งหนา้ อยา่ งมอี นาคตได้ เพราะในหลวง ชุมชนเอาไปใสท่ แ่ี ปลงปลูกหญ้าและเกี่ยว “มันเร่ิมมาจากทผี่ มเริ่มต้นทีจ่ ะพอเพยี ง พอผมคดิ วา่ ผมมี อาจจะมขี องหรหู ราก็ได้ แตว่ า่ ต้องไม่ จากชีวิตครอบครวั ท่ียากล�ำบาก เพราะ หญา้ มาขายใหฟ้ ารม์ โคนมของเขา พอแลว้ ผมเลยเรมิ่ แบ่งปันให้คนอนื่ บา้ งครบั เบียดเบยี นคนอ่ืน ต้องใหพ้ อประมาณ พอ่ เสยี ชวี ติ ด้วยอุบัตเิ หตุตัง้ แต่เขาอายุ “ในหลวงทรงสอนใหแ้ บ่งพนื้ ท่ีการ หลงั จากทที่ �ำแบบน้ี ผมกไ็ ด้เพอื่ นใหมเ่ พิ่มมากขึน้ บางทผี ม พดู จาก็พอเพียง ทำ� อะไรก็พอเพยี ง เพยี ง ๑๒ ขวบ ตอ้ งอยกู่ บั แมเ่ พยี งสองคน ใชง้ านเพอื่ ให้เกดิ ประโยชนผ์ สมผสาน ไมว่ า่ งจะขึน้ ไป เขากช็ ว่ ยดแู ลนาผมให้ เราก็ช่วยๆ กนั แกป้ ัญหา ปฏิบตั ติ นกพ็ อเพียง...”    เขาจงึ หาเลีย้ งชีพรว่ มกบั แม่พร้อมกบั การ และเมอื่ มผี ลผลติ ออกมา และเราใสไ่ อเดยี บ้างกเ็ อาขา้ วมาแบ่งกัน ตัวผมเองก็กลายเป็นคนรับฟังคนอ่ืน เรยี นหนังสือไปดว้ ยโดยการเล้ยี งววั นม เข้าไป เกดิ เปน็ โปรดกั สใ์ หม่ๆ เราสามารถ มากขน้ึ ใหเ้ กียรติคนมากขน้ึ เคารพซ่ึงกันและกัน” ซงึ่ ไดแ้ รงบนั ดาลใจจากนมจิตรลดาทีเ่ ขา กำ� หนดราคาผลผลิตเองได้ ที่ผา่ นมา ทม่ี าภาพ: www.mmo-thai.com ได้ดม่ื ท่โี รงเรียน จากววั ตัวแรกทีข่ อจาก เราไมส่ ามารถก�ำหนดราคาเองได้ ตอ้ ง ตา เขายังไดเ้ ขียนจดหมายส่งไปยังโรงนม อาศยั กลไกพ่อคา้ คนกลาง เราอาศยั ความ ด้วยเนอ้ื ทห่ี นา้ กระดาษอนั จ�ำกัด ขอปดิ ทา้ ยเร่อื งราวแห่ง โคจติ รลดาเพื่อขอโคพระราชทาน เขาเลา่ เป็นเอกลกั ษณ์ทจ่ี ะทำ� ให้ผลติ ภณั ฑม์ ี แรงบนั ดาลใจจากในหลวงดว้ ยคำ� พดู ของนกั จัดละครเฉลิมพระเกยี รติเม่อื ว่า “ตน้ ปี ๒๕๔๙ พอสหกรณ์โคนมโทร ความแตกต่างและขายได้ เราตอ้ งเปน็ ธันวาคม ปี ๒๕๕๐ ผู้ชือ่ วา่ อรโุ ณชา ภาณุพนั ธ์ุ จากบริษทั บรอดคาซท์ มาแจ้งวา่ ทางจิตรลดาจะเอาวัวมาให้ ผม สมารต์ ฟารเ์ มอร์ นอกจากผลติ แลว้ เรา ไทย เทเลวิช่นั จำ� กัด ซ่งึ เปน็ เสมอื นค�ำพูดแทนใจของชาวไทยทกุ คนวา่ เปน็ เดก็ อายุ ๑๔ เหมอื นได้แจ็กพอต บญุ ต้องรู้จกั คิด วางแผนการตลาดโดยไม่เอา “หลายๆ คนไดช้ มเร่ืองพระบรมราโชวาทจากในละครกบ็ อกวา่ เปน็ หล่นทับวง่ิ ไปกอดแม่ พออาทติ ย์ถดั มาก็มี เปรียบคนอืน่ ” แรงบนั ดาลใจใหเ้ ขาเป็นคนดขี ้นึ ตัง้ ใจจะทำ� ดีต่อไป โคพระราชทานสง่ มาให้ถงึ บ้านเลย” “ผมกลา้ บอกทกุ คนวา่ ผมมอี าชพี ซง่ึ พระบรมราโชวาทของพระองค์ทา่ นมีมากมาย เราหยบิ มาเพียง ทุกวนั นปี้ ฏิวตั เิ ปน็ เจา้ ของโคนม เลีย้ งวัว ผมเปน็ เกษตรกร และผมจะเป็น สว่ นหน่ึงเท่านน้ั นอกจากพระองคท์ ่านจะไดใ้ ห้ ๓๕ ตัว บนเน้อื ท่ี ๒ ไร่ สามารถรดี นม เกษตรกรทมี่ แี รงบนั ดาลใจมาจากในหลวง” พระบรมราโชวาทแล้ว แตย่ ังใหแ้ รงบนั ดาลใจคนดูทีจ่ ะทำ� ดี ไม่เฉพาะต่อตวั เขาเอง แตย่ งั ทำ� ให้สงั คมดขี ้ึน...” รวั้ โรงเรยี น 6 รว้ั โรงเรยี น 7

“เธอคือแรงบันดาลใจ” คณุ ครูบอกว่าคนเราควรหา ฉนั จงึ หาอ่านในหนงั สือมากมาย ต้องการ แรงบันดาลใจสำ� หรบั การใชช้ ีวิต ท่ีเขียนเกี่ยวกบั ผู้คนทีย่ ิ่งใหญ่ ตอน แรงบนั ดาลใจ แรงบันดาลใจ ฉนั ไดท้ �ำงานช่วยเหลอื ผ้คู น ไดพ้ บคนดๆี อ่ิมเอิบใจไปกบั การเจอผูค้ น พบ ท่ีทำ� เพ่อื ผอู้ ืน่ หลายตอ่ หลายคน ทีเ่ ป็นแรงบันดาลใจใหฉ้ นั แรงบันดาลใจ เยอะแยะมากมาย เยอะแยะ ๑๐ วันผ่านไป เมอื่ ฉนั กลับบา้ น บ้านยังคงดสู ะอาด เรียบรอ้ ยเหมอื นเดมิ ฉันตัดสนิ ใจท�ำวนั ปิดเทอม ใหม้ ีความหมาย ด้วยการ ไปออกค่ายชนบท ๑๐ วนั ฉนั ก็เกิดความคิดว่า การที่บา้ นดเู รียบร้อยดี บา้ นควรจะตอ้ งถูกทำ� ความสะอาด แลว้ ใครล่ะทท่ี ำ� งานหาเงนิ เข้าบ้านและดแู ลบา้ น กอดอะไร มาช่วยกนั ทุกวันไดแ้ บบนี้ ตอ้ งมคี นดูแลเป็นอย่างดี ค่านำ้� ค่าไฟกต็ อ้ งมีคนจา่ ย ใหท้ กุ คนอยู่ไดอ้ ยา่ งสบายราวกับว่าชีวิตมัน ทำ� กบั ข้าวเลยพ่อรออยู่ เพราะบ้านจะสวยสะอาดเป็นปกตไิ ม่ได้ถา้ หมาแมวและคนในบ้าน ต้องดอี ยา่ งนี้อยูแ่ ลว้ แถมยงั ไม่ได้เงินจากการ ไม่มคี นท�ำ ไม่มคี นดูแลแต่ละชีวติ ในบา้ น ก็ตอ้ งมคี นหาขา้ ว ท�ำสง่ิ น้ดี ้วยนะ แมค่ ะ แมเ่ ปน็ แรงบันดาลใจ หาปลาให้กนิ ในชวี ติ หนคู ะ่ แถมยงั ท�ำ สวนสวยๆ รัว้ โรงเรยี น 9 อาหารอรอ่ ยอีก กต็ อ้ งมคี นรดน้�ำ รั้วโรงเรียน 8

BEST PRACTICE สอนใหเ้ ดก็ คดิ เปน็ ดว้ ย แลว้ เหตุใดการตั้งคำ� ถามจงึ ดีต่อการคดิ เพราะการใช้ คำ� ถามท่ีดีจะชว่ ยกระตุ้นใหเ้ กิดการสนใจใฝร่ ู้จากภายในตัวผเู้ รยี น “คำ� ถาม” และจากประสบการณใ์ นการใชก้ ารตงั้ ค�ำถาม ๓ ระดบั น้ันช่วยให้ เร่ือง : สกุณี นกั เรยี นในหอ้ งเรียนของช้ัน ป.๖ โรงเรยี น ตชด. โรงเรยี น ตชด. ศรสี มวงศ์ เปน็ โรงเรยี นขนาดเลก็ ทม่ี นี กั เรยี นเพยี ง ศรีสมวงศ์เปลีย่ นแปลงไปทุกคน ๗๑ คน มีครูผ้สู อนรวมทง้ั ผู้บริหาร ๗ คน ต้ังอยูใ่ นดนิ แดนห่างไกล ครูส้มเลือกช่วงเวลาหลงั เลกิ เรยี นบา่ ยสองครง่ึ ของเขตอำ� เภอแมฟ่ า้ หลวง จงั หวดั เชยี งราย นกั เรยี นสว่ นใหญเ่ ปน็ ชาวเขา ของทกุ วนั ซง่ึ เป็นชว่ งกจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพม่ิ เผ่าอาข่าและลาหู่ จึงต้องส่อื สารกันดว้ ยภาษาไทยกลาง เรยี นด้วย เวลารู้ สอนให้เดก็ นักเรยี นฝึกฝนการต้งั คำ� ถาม ๓ ระบบการศกึ ษาทางไกลจากโรงเรยี นไกลกังวล มีการสอนตง้ั แต่ระดับ ระดบั เพราะเชอื่ มน่ั วา่ “คำ� ถามทำ� ใหเ้ กดิ ความคดิ ” อนบุ าล-ประถมศกึ ษา ครปู ระจำ� ชั้นสอนทกุ วชิ าในช้นั เรียนของตน จงึ เม่ือเชือ่ ม่นั ดงั นนั้ ก็ต้องฝึกฝน และหัวใจส�ำคัญ รกั และผูกพนั กับนักเรียน และเหน็ พัฒนาการของนกั เรียนอยา่ งใกลช้ ิด ของการฝกึ ฝนท่ีครูสม้ อธิบายคือ ฝกึ ฝนอยา่ ง ดังเชน่ ทคี่ รูสม้ -รุจริ ดา ใจยะสขุ ครปู ระจำ� ชั้น ป.๖ เลา่ ถึงนักเรียนใน ต่อเนอ่ื งและทำ� ใหก้ ารฝกึ (คดิ ) นเ้ี ปน็ เร่ืองสนกุ หอ้ งว่า มอี ยทู่ งั้ สิ้น ๙ คน ชาย ๔ คน หญงิ ๕ คน ในห้องเรียนน้ี มเี ด็ก Socratic Teaching คืออะไร การตัง้ ค�ำถาม ๓ ระดบั ชายธงชยั ลาหูน่ ะ เรียนซ้ำ� ชน้ั ป.๖ มาสองปีแลว้ -วิธีสรา้ งทกั ษะการเรยี นรู้อย่างเป็นระบบ ท่ีใหค้ วามสำ� คัญกับ การตงั้ คำ� ถามท่ีดีจะชว่ ยกระตุ้นให้คิดในเร่อื งท่สี นใจได้ เปิดเทอมแรกได้ไมน่ าน ครสู ม้ ได้รับโอกาสเปน็ กระบวนการเรยี นรู้มากกว่าปรมิ าณเนอื้ หา ชัดเจน คดิ ได้ลกึ ซึง้ และกว้างขวางขนึ้ รวมทงั้ เป็นค�ำถามที่ช่วยให้ ตวั แทนโรงเรยี นไปอบรมรว่ มกับครโู รงเรยี นอ่นื ๆ ของ “ศนู ย์ -เป็นการสอนผา่ นการสนทนา (dialogue) โดยครูมหี น้าทีห่ ลัก เด็กสามารถเชือ่ มโยงเรอื่ งท่ีสนใจกบั ตัวเองได้ โดยประเภทของ จิตวทิ ยาการศกึ ษา” มูลนิธิยวุ สถริ คุณ ครสู ้มบอกว่าสงิ่ ทไ่ี ด้ คอื ตง้ั คำ� ถามให้ผเู้ รยี นตอบ และร่วมกันอภิปราย หลักสำ� คญั จึงไมใ่ ช่ คำ� ถามนัน้ แบง่ ได้หลายแบบ การแบง่ ระดบั ค�ำถามของ Art Costa ตดิ ตัวมาคือเทคนคิ ต่างๆ ทจี่ ะใชใ้ นการสอนเดก็ ซ่ึงในระหว่าง การสอน แต่เป็นการสรา้ งความร่วมมอื (cooperation) ในการ โดยแบ่งเปน็ ๓ ระดบั ก็เป็นหนึ่งในประเภทของคำ� ถามน่ันเอง การอบรมสองคนื สามวันนน้ั เธอต้งั ใจ เลือกใชเ้ ครื่องมอื ที่ คิดวิเคราะห์ คน้ หาความรรู้ ว่ มกัน และเครอ่ื งมือสำ� คญั คือการใช้ มาลองดูกนั ว่า คำ� ถาม ๓ ระดับแบ่งออกเป็นอย่างไร เรียกวา่ “Socratic Teaching-ครสู อนคิด” มาฝึกการเรียนรู้ ค�ำถามท่ีมคี ุณภาพ (quality questioning) • คำ� ถามระดับที่ ๑ ถามหาความเข้าใจเบือ้ งตน้ ลักษณะคำ� ถาม ให้กับนักเรียนของเธอ โดยใชเ้ ทคนคิ การตงั้ คำ� ถาม ๓ ระดับ เชน่ ใคร ท�ำอะไร ท่ีไหน เม่ือไร เปน็ หลัก • ค�ำถามระดับที่ ๒ ถามหาความเชอ่ื มโยง ลกั ษณะค�ำถาม เช่น รัว้ โรงเรยี น 10 อยา่ งไร ท�ำไม • ค�ำถามระดับที่ ๓ ถามโดยอาศยั ประสบการณข์ องผตู้ อบ ลักษณะคำ� ถาม เช่น อะไรจะเกดิ ขึ้นถ้า... ถ้าคุณอยูใ่ น เหตกุ ารณน์ น้ั คณุ จะ... รว้ั โรงเรยี น 11

จากแนวทางดังกล่าว ครูส้มเลอื กการฝึกฝนรว่ มกนั โดยใช้การอ่าน เอกสารสวยงามหนึ่งแผ่น ให้เดก็ เลอื กเรื่องที่ตนเอง นทิ านหรอื ข้อมูลความรงู้ า่ ยๆ ใหน้ กั เรยี นทัง้ ห้องฟงั แล้วใหฝ้ ึกตงั้ คำ� ถาม สนใจแล้วนำ� มาอา่ นและต้งั คำ� ถาม ระดับท่ี ๑ เพอ่ื สอนใหเ้ ด็กรู้จกั ทำ� ความเขา้ ใจเนื้อหาของเร่อื งทไี่ ดร้ บั รู้ และ เมอ่ื เดก็ ทำ� บอ่ ยๆ กเ็ รมิ่ เบอ่ื ครตู อ้ งหาโจทยท์ ยี่ ากขน้ึ เปน็ การฝึกทำ� ความเขา้ ใจการตงั้ คำ� ถาม หรอื ฝกึ คิดนั่นเอง “ตงั้ ใจใชเ้ วลา ครูส้มเลอื กภาพวาดที่ไมม่ ีตัวอักษร แล้วให้ทง้ั หอ้ งฝึก ใหม้ ากทส่ี ดุ เพอื่ ใหน้ กั เรยี นท้ังหมดเข้าใจว่าการตัง้ คำ� ถามเป็นอยา่ งไร ครู ตง้ั คำ� ถามจากภาพเดยี วกัน เช่น ภาพของการเตรยี มทำ� ใชเ้ วลาหน่ึงสปั ดาห์เต็มๆ สำ� หรับการฝกึ ตัง้ คำ� ถามแคข่ อ้ ๑ ข้อเดยี วค่ะ กระทงใบตอง ส่งิ นช้ี ว่ ยให้เด็กได้แลกเปลยี่ นหลังการตง้ั คำ� ถาม ยังไม่ข้ามไประดับท่ี ๒” เสรจ็ ส้ิน ครูจะชวนคุยจากค�ำถามทแี่ ตล่ ะคนตั้งมา คำ� ตอบทเี่ ด็ก เมื่อนกั เรียนตัง้ คำ� ถามใส่กระดาษ ส่งใหค้ รอู ่าน ครูจะเรยี กมาคุย ตอบคำ� ถามของเพ่อื น จะเป็นการกระตนุ้ ให้เดก็ รูจ้ กั คิด หดั มาแนะน�ำทลี ะคน จากนน้ั ครจู ะอา่ นคำ� ถามหนา้ หอ้ งโดยไม่บอกวา่ เป็น แลกเปลย่ี น และซึมซบั การเรียนรเู้ หล่านน้ั อยา่ งเปน็ ธรรมชาติ เชน่ ของใคร นักเรียนก็จะไดฟ้ ังคำ� ถามที่หลากหลาย และช่วยกนั ตอบ ถกเถียงปญั หากันในหอ้ งเรียนเร่อื งการใชก้ ระทงใบตองมปี ระโยชน์ ค�ำถามดว้ ยความสนกุ เพราะครูจะเนน้ ย�้ำวา่ ไมม่ ผี ดิ ไม่มถี กู ทกุ คน อย่างไร ใบตองสามารถใชท้ ำ� อะไรไดอ้ ีก ฯลฯ ตอ้ งลองฝกึ กนั ดู “เราจะเนน้ กับเดก็ เลยวา่ การตั้งคำ� ถาม ไม่มีผิด “ส่วนใหญเ่ รือ่ งทีเ่ ลอื กจะเปน็ เร่ืองใกล้ตัว หรือน�ำ ไม่มถี ูก ตรงน้ีจะช่วยใหเ้ ด็กมีความม่นั ใจมากข้นึ เพราะไม่มกี าร ไปปรับใช้ในชวี ติ ประจำ� วันได้ เดก็ กจ็ ะตงั้ คำ� ถามไดง้ า่ ย และ ตดั สินคะ่ ” นำ� ไปใชก้ ับชวี ิตจริงของเขาไดง้ า่ ยด้วย” เมอ่ื ถามครสู ้มว่าเห็นพฒั นาการของเดก็ อย่างไร และจากนน้ั จึงฝกึ ตง้ั ค�ำถามระดบั ที่ ๒ คำ� ตอบท่ีได้คอื และ ๓ ตามล�ำดับตอ่ ไป โดยทกุ คนจะ “เดก็ กล้าคิดกล้าแสดงออกมากข้นึ จากนักเรยี นท่ี เขียนค�ำถามลงในกระดาษของตนเอง เงียบๆ ก็จะรสู้ กึ ว่า ‘ผมท�ำได’้ ‘หนทู �ำได้’ ทุกคนจะรูส้ ึกวา่ แล้วทำ� เป็นงานส่งครู คำ� ถามทไี่ ด้จึงไม่ การคดิ หรอื การต้งั ค�ำถามน้ันไมย่ าก ทำ� ให้พวกเขาอยากมี เหมือนกนั ทงั้ ยังแสดงถึงความเขา้ ใจของเด็ก สว่ นรว่ มกบั เพอ่ื น และสนุกกับกจิ กรรมเพราะไมใ่ ชก่ ารเรยี น ที่ต่างกันไป ทำ� ให้ครูได้เห็นพัฒนาการของเด็ก ตวั อย่าง ธงชัย นกั เรยี นลาหู่ ซึง่ เรียนตกซำ้� ชั้นมาสองปแี ลว้ เมือ่ ผ่านการฝึกฝนอยา่ งต่อเนอ่ื ง ปกติเขาไม่ค่อยพดู เพราะพูดไทยไมช่ ัด จึงเงยี บและไมย่ งุ่ กับ ครสู ม้ เลา่ ตวั อยา่ งความสนกุ ของการแลกเปลย่ี นกนั ใคร แต่เม่อื ใหท้ �ำกิจกรรมน้ีเขากไ็ ดเ้ รียนรกู้ ารตั้งค�ำถาม พอ ต้งั คำ� ถามของแตล่ ะคนไปแล้วให้ฟงั เร่อื งหนง่ึ วา่ ให้ออกเสยี งถามหน้าห้องก็กล้าขึน้ ครกู ็จะบอกว่า ไม่เป็นไร “ถา้ ฉันกนิ กระแต จะอร่อยเหมือนทต่ี ัวละครกนิ พดู ช้าๆ ไมม่ ผี ดิ ไมม่ ีถกู ทุกวนั นเ้ี ขาเรียนจบ ผา่ นช้ัน ป.๖ อาหารน้ีไหม” ครสู ้มและเด็กลาหู่ตกใจว่าจะกนิ สตั ว์ แลว้ คะ่ ” ท่ีเรียกว่ากระแตเลยเหรอ (คำ� ว่า กระแตในภาษาเหนือ หมายถึงสตั ว์ทีค่ ลา้ ยกระต่าย) เมอ่ื ครูไดส้ อนใหน้ กั เรียนฝกึ ท่ีจะคิด เขาก็จะมี เด็กทีต่ ้งั ค�ำถามซึ่งเป็นชาวอาข่าจึงอธิบายวา่ กระแตในภาษาอาขา่ หมายถึงสับปะรด ความพึงพอใจตอ่ การคิด สนกุ กับการถามและการหา ทุกคนกไ็ ดเ้ ฮ หัวเราะกันในห้อง และไดแ้ ลกเปล่ยี นเรื่องค�ำศพั ท์กันเปน็ ที่สนกุ สนาน ค�ำตอบดว้ ยตนเอง และเม่อื นกั เรยี นมคี วามชำ� นาญ กจ็ ะ แตกฉานและคิดเปน็ ดงั นัน้ ไมว่ า่ จะอ่านหรือเหน็ อะไรกจ็ ะ คำ� ถาม ๓ ระดบั กับเดก็ ป.๖ โรงเรียน ตชด. ศรีสมวงศ์ รจู้ กั ต้ังค�ำถามโดยธรรมชาติ ทำ� ใหเ้ รยี นรไู้ ด้งา่ ยขึ้น คิดเปน็ เมอ่ื เดก็ เรยี นรเู้ รอ่ื งการตงั้ คำ� ถาม ๓ ระดบั แลว้ ครใู หเ้ ดก็ ฝกึ ฝน โดยใหเ้ ขา้ หอ้ งสมดุ คดิ ดี และคิดอยา่ งมีประโยชนม์ ากขน้ึ เลอื กหนงั สอื ทีต่ นเองชอบ แล้วนำ� กลับมาอา่ น และหัดตง้ั ค�ำถามของแตล่ ะคน ตรงน้ี รวั้ โรงเรียน 13 จะช่วยใหเ้ ดก็ มพี ัฒนาการในการคดิ มากข้นึ บางครงั้ ครกู ็หาข้อมูลความรมู้ าจดั ทำ� เป็น รวั้ โรงเรยี น 12

หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง คนใหม่ไดอ้ ยา่ งตอ่ เนื่อง และยงั สามารถสืบทอดการยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงใหเ้ ป็น กบั การเรยี นการสอนในโรงเรยี นศรีวชิ ยั วิทยา วฒั นธรรม เป็นอุดมการณ์ และเป็นเป้าหมายของโรงเรยี น และดว้ ยความมุ่งมน่ั ทำ� จรงิ โรงเรียน ศรวี ิชยั วทิ ยา จึงไดร้ บั เลือกให้เป็นที่ศกึ ษาดูงาน ของคสู่ มรสเอกอัครราชทตู ต่างประเทศประจำ� เร่ือง : สกุณี ณัฐพูลวัฒน์ ประเทศไทย ซง่ึ นบั เป็นเกียรติของโรงเรียน ผู้อำ� นวยการคนปจั จบุ ัน ดร.อาคม มากมที รพั ย์ เขา้ มารบั ต�ำแหน่งใน พ.ศ. ๒๕๕๗ ไดส้ านต่อ เชอื่ วา่ หลายๆ โรงเรยี นได้พยายามขบั เคล่ือนหลกั ปรัชญาของ แนวทางการนำ� หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใชใ้ นการเรยี นการสอนอยา่ งตอ่ เน่ือง และให้ เศรษฐกิจพอเพยี งภายในโรงเรียน แตอ่ าจยงั คงมคี ำ� ถามตอ่ การท�ำงานว่า ความส�ำคญั กบั ทกุ คนในโรงเรยี นเพราะเช่อื ว่าทุกคนคอื ฟันเฟอื งทสี่ �ำคัญในการรว่ มกนั ทำ� ให้หลกั แลว้ ท�ำอยา่ งไรจงึ จะสามารถท�ำใหห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ปรัชญาดงั กล่าวไปสกู่ ารดำ� เนินชีวติ ได้ เข้ามาอยใู่ นวชิ าเรยี น และอยูใ่ นชีวิตประจ�ำวันของทกุ คนในโรงเรียนได้ อย่างย่ังยืน ไมว่ ่าจะเปน็ ผูบ้ ริหาร คณะครู นักเรียน และนักการภารโรง ทกุ คน ค�ำถามน้ีมีคำ� ตอบ และผูท้ ี่จะตอบได้ดที ี่สดุ ก็คอื โรงเรียนทีไ่ ด้ช่ือว่า ฐานการเรียนร้ทู ่ีสอดแทรกหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เปน็ “ศนู ยก์ ารเรียนร้ตู ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้าน นอกจากการนำ� ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปส่กู ลมุ่ สาระวิชาตา่ งๆ แลว้ ท่โี รงเรยี น การศึกษา” อยา่ ง “โรงเรยี นศรวี ชิ ยั วิทยา” ซงึ่ ตง้ั อยทู่ ่ีต�ำบลวังตะกู ศรีวิชยั วทิ ยา ยงั มกี ารเรียนการสอนโดยจัดฐานกจิ กรรมเรยี นรู้จำ� นวนมาก มคี รูเปน็ ผูพ้ าทำ� อำ� เภอเมือง จงั หวัดนครปฐม ควบคไู่ ปกบั การสอดแทรกให้นกั เรียนเรียนรู้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งผ่านสง่ิ ท่ีตนลงมอื โรงเรยี นศรวี ชิ ัยวิทยา เปดิ สอนระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๖ นักเรยี น ท�ำจนสำ� เรจ็ ซ่ึงเม่อื ท�ำซ�ำ้ ๆ ท�ำบอ่ ยๆ เพือ่ ใหเ้ กดิ ประมาณ ๒,๐๐๐ กว่าคน มีการขบั เคลอ่ื นหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ กระบวนการคดิ และในที่สุดเมื่อนักเรยี นเขา้ ใจ พอเพยี งมาต้ังแต่ปลายปี ๒๕๔๙ ภายใต้วิสยั ทศั น ์ “รกั ความเป็นไทย เรอื่ งเศรษฐกิจพอเพียงอยา่ งถอ่ งแท้ ก็จะสามารถ น�ำมาประยุกตใ์ ชก้ บั ชีวติ ได้ เช่น ตัวอย่างจากฐาน ใฝเ่ รียนร ู้ คู่คุณธรรม นำ� สสู่ ากล บนพ้นื ฐานเศรษฐกจิ พอเพียง” ซง่ึ การเรียนรู้ “คลินกิ คณติ ” จากการศึกษาท�ำความเข้าใจหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ร่วมกันทง้ั คณะครแู ละผบู้ รหิ ารทำ� ให้ได้แนวคิดในการขบั เคล่ือน คลนิ กิ คณิต หลักเศรษฐกจิ พอเพียงว่า หลกั ปรชั ญาดงั กล่าวเปน็ เรือ่ งของวธิ คี ิด วิชาคณติ ศาสตร์เปน็ วชิ าท่ีเรยี กได้ว่ายาขมส�ำหรบั นักเรยี นหลายคน แต่จะท�ำ หลกั การใช้ชวี ติ และสามารถน้อมนำ� ไปปฏบิ ตั ไิ ด้ทุกคน สิ่งนเ้ี องได้ อยา่ งไรให้นกั เรียนร้สู ึกสนุกได้ กลมุ่ สาระวชิ าคณติ ศาสตร์จงึ คิดกจิ กรรมสร้างฐาน จดุ ประกายใหโ้ รงเรยี นจัดทำ� แผนการสอนและแผนการจัดการเรยี นรู้ การเรียนรคู้ ลินกิ คณติ ขึน้ เพราะเชื่อวา่ การเรยี นด้วยความสนุกจะช่วยกระตุน้ และน�ำไปสู่การบูรณาการการเรียนการสอนไดท้ ุกกลุ่มสาระ รวมไปถงึ การเรยี นรแู้ ละยง่ิ หากไดป้ รึกษาปญั หากบั เพ่ือนๆ หรือรนุ่ พแ่ี ทนคณุ ครู จะทำ� ให้ กจิ กรรมตา่ งๆ ที่ส�ำคญั ผบู้ รหิ ารคนกอ่ นสามารถสง่ ไม้ต่อไปยงั ผูบ้ รหิ าร นักเรยี นกล้าถามมากขนึ้ ดังนั้นฐานการเรียนรูน้ ีจ้ ึงเปิดโอกาสให้ร่นุ พี่ หรือเพือ่ นทมี่ ี ความสามารถกวา่ ไดแ้ สดงความมีน�้ำใจเป็นจิตอาสาช่วยสอนน้องๆ หรือเพ่อื นๆ ท่ี รั้วโรงเรียน 14 อ่อนในการเรียนคณิตศาสตร์ ท้งั นไ้ี ด้มีการออกแบบฐานการเรยี นรใู้ ห้เช่อื มโยงกับคลนิ ิกหมอที่รับรกั ษาโรค ใหร้ ุ่นพ่ีหรือเพ่อื นทีเ่ ช่ียวชาญหรือเกง่ คณิตมาเป็นหมอคณติ ศาสตร์ แล้วใหน้ ้องๆ หรอื เพอื่ นๆ เข้ามาพบคุณหมอเพื่อปรึกษารักษาอาการแก้ปัญหาโจทย์เลขไมไ่ ด้ ก่อนเข้ารบั การรักษาต้องมกี ารลงทะเบียนเข้ารบั บริการเหมือนคลินกิ รักษาคนไข้ ท่ัวไป คณุ หมอคณิตจะรกั ษาตามอาการของคนไข้ที่มาเข้ารบั การรักษา เชน่ โรค ความจ�ำสน้ั ตรีโกณมติ ิ ผดผืน่ เลขยกก�ำลงั โรคไข้หวัดลอการทิ มึ เปน็ ต้น ร้ัวโรงเรยี น 15

เม่อื ท�ำการวิเคราะหผ์ ลตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงพบว่า การทน่ี กั เรยี น แก้ปญั หาเปน็ รู้จักการแสวงหาความรู้ และใช้กระบวนการคิดเหล่านีว้ างแผน ส�ำหรบั ประเดน็ การวเิ คราะห์ ต้องมกี ารรว่ มประชมุ สำ� หรบั ผู้สนใจเป็นจิตอาสา ตอ้ งเรียนรูท้ จี่ ะวางแผนและร่วมกนั คิด ด้วยตนเอง มจี ิตสาธารณะรจู้ ักแบ่งปัน การท�ำงานในกลมุ่ ใหม้ ปี ระสิทธิภาพ การ ตาม ๓ ศาสตร์ คอื ศาสตรข์ องพระราชา รปู แบบของกิจกรรม จัดวางผู้เหมาะสมตามความถนัดในแต่ละหัวข้อความรู้ และจดั เตรยี ม ความรูเ้ ผยแพร่สู่ชมุ ชน โดยกิจกรรมในปี มภี มู ิคมุ้ กนั ท่ีดีในตัวเอง คอื กจิ กรรมได้ ศาสตรภ์ ูมปิ ญั ญา และศาสตร์สากล เอกสารบันทึกประวัติคนไขใ้ นโรคของคณติ ศาสตร์ จดั ตารางคุณหมอ จัดสถานที่ วนั นัด ๒๕๕๘ ทผ่ี ่านมา นักเรียนเลือกน�ำความรู้ ช่วยเปดิ โลกทศั น์ให้นกั เรียนมีความรู้ การ พบวา่ นกั เรียนเรยี นรู้ที่จะแกป้ ญั หา และช่วงเวลาในการรกั ษา โดยน�ำหลัก ๒ เงือ่ นไข ๓ หว่ ง และ ๔ มิติ มาก�ำกบั การท�ำงาน เรอ่ื งการทำ� นำ�้ ยาซกั ผา้ สำ� หรบั ใชใ้ นครวั เรอื น ท�ำงานโดยแสวงหาอยา่ งกว้างขวาง เพอ่ื จากจุดเล็ก การท�ำงานเปน็ ขนั้ เปน็ ตอน ทกุ ขัน้ ตอน ได้แก่ เงือ่ นไขความรู้ นกั เรยี นได้รู้จักข้นั ตอนการ และการทำ� บญั ชีครวั เรือนไปชกั ชวน น�ำความรู้ ประสบการณ์ และข้อคิดทไี่ ด้ ฝึกการคดิ แบบองคร์ วม และทำ� งาน ทำ� งานในโรงพยาบาล เรยี นรสู้ าระวชิ าคณติ ศาสตร์ และเรยี นรู้ ชมุ ชนบ้านวังตะกลู งมือทำ� ร่วมกนั จากการอ่านมาแบง่ ปันความรูส้ ่ชู ุมชน อย่างประหยดั และใหเ้ กดิ เปน็ ประโยชน์ เทคนคิ ในการถา่ ยทอดความรู้ สว่ นเงอ่ื นไขคณุ ธรรม ไดฝ้ ึก โดยน้อมนำ� หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ สว่ นผลทีเ่ กดิ ขึ้นในด้านวตั ถุ สงั คม ขณะเดยี วกนั กไ็ ดร้ อ้ื ฟน้ื การทำ� นำ้� ยาซกั ผา้ การมีจิตอาสา ความอดทน ความสามคั คี และความตรงเวลา พอเพียงมาประยกุ ต์ใช้ สิง่ ท่ีนกั เรียน สงิ่ แวดล้อม และด้านวฒั นธรรมนั้น ซง่ึ บางคนอาจเคยทำ� เป็นมาก่อนแล้ว ในหลกั คดิ ๓ ห่วง คอื ความมเี หตุมีผล ความพอ สะทอ้ นกลบั มาจากการไปรว่ มกจิ กรรม นกั เรยี นท�ำกจิ กรรมด้วยความประหยดั ได้ฝึกใหช้ าวบ้านทบทวนการทำ� บญั ชี ประมาณ และมภี ูมิคุม้ กันในตัวทด่ี ี นักเรยี นไดร้ จู้ กั การท�ำงาน คือได้รับความสุขและความภาคภูมิใจ ใช้ทรพั ยากรอยา่ งคุ้มคา่ ไดร้ ่วมลงมือ เพื่อได้ประโยชนต์ อ่ การดูแลครัวเรือน การเรยี นรู้ เลือกเร่อื งทีจ่ ะมาสอน และมีการวางแผนงานอย่าง จากการดำ� เนนิ กิจกรรม ทำ� งานใกลช้ ดิ กบั ชมุ ชน เรยี นรกู้ ารแบง่ งาน และพ่งึ ตนเองได้ รอบคอบ จัดเตรยี มเอกสารและเตรียมความรู้ใหพ้ ร้อมเพอ่ื “ยุวบรรณารกั ษ์ปนั ความรูค้ ู่เศรษฐกิจ กนั ทำ� ในกลมุ่ เพอ่ื น ทำ� ใหเ้ กดิ ความรกั ถา่ ยทอด ส�ำหรับความสมดุลใน ๔ มิติ คอื ดา้ นวตั ถุ สงั คม พอเพยี งสชู่ มุ ชน” นกั เรยี นไดม้ กี ารวเิ คราะห์ ความสามัคคีกัน สงิ่ แวดล้อม และวฒั นธรรม กเ็ กิดความรคู้ วามเข้าใจอยา่ ง การบูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ รอบด้านทั้งในแงก่ ารใชเ้ อกสารใหค้ มุ้ ค่า มกี ารทำ� งานเปน็ ทีม พอเพยี งในการปฏบิ ัติกจิ กรรมไดด้ งั น้ี ทำ� แล้วเกดิ ความสขุ ในการทำ� งาน มกี ารตกแต่งสถานท่ี ๒ เงอื่ นไข คอื ความรู้ ไดแ้ ก่ ไดร้ บั ด�ำเนนิ การอย่างเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย เรยี นรู้ภมู ิปัญญาไทย ความรูจ้ ากการสืบคน้ ข้อมูลสำ� หรับสิ่งท่ี ในการถา่ ยทอดเรือ่ งชง่ั ตวง วดั ในวิชาคณติ ศาสตร์ จะลงมอื ท�ำ ส�ำหรับกิจกรรมนีน้ ักเรยี น เมื่อวเิ คราะห์ผลตามหลกั การทรงงานของในหลวง และศาสตรข์ อง หาความรเู้ รื่องการท�ำน�้ำยาซักผ้า ท�ำใหม้ ี พระราชา ศาสตร์ภูมิปญั ญา และศาสตรส์ ากล สามารถวิเคราะหไ์ ด้วา่ ความรู้ และเง่อื นไขคณุ ธรรม คือ มกี ารแก้ปัญหาจากจดุ เลก็ ทำ� ตามล�ำดับขัน้ ตอน คดิ อยา่ งองคร์ วม นกั เรียนได้ฝกึ ฝนตนเองให้รจู้ กั รบั ผิดชอบ ทำ� ให้ง่าย และบริการท่จี ดุ เดียว ตลอดจนมกี ารน�ำมาตราชง่ั ตวง วดั มนี ้�ำใจ มจี ิตสาธารณะ มคี วามซ่ือสัตย์ แบบไทยซ่งึ เป็นศาสตร์ท้องถน่ิ มาใชใ้ นการคำ� นวณ สุจริต ตรงตอ่ เวลา มีความอดทน ยอมรบั ฟังความคิดเหน็ ของผ้อู ่นื ยุวบรรณารักษป์ ันความรู้คู่เศรษฐกิจพอเพียงสชู่ มุ ชน ๓ ประการ คอื ความพอประมาณ อีกหนึง่ กิจกรรมการเรยี นรทู้ ีใ่ หน้ กั เรยี นได้ฝกึ ฝนการ นักเรียนต้องร้จู กั แบ่งเวลาในการปฏิบตั ิ ทำ� งานร่วมกบั ผู้อื่นและการเป็นผูใ้ ห้ มกี ารดำ� เนินการโดยรับ กิจกรรมได้อยา่ งเหมาะสม และวางแผน สมคั รนักเรยี นทีส่ นใจเป็นยวุ บรรณารกั ษใ์ หเ้ รยี นรู้และ ใชท้ รพั ยากรอยา่ งประหยดั และคมุ้ คา่ ทส่ี ดุ วางแผนวา่ จะมกี ารนำ� ความรู้ใดที่ตนสนใจไปสชู่ มุ ชน ความมีเหตผุ ล คือ กจิ กรรมน้ที �ำขึน้ วตั ถปุ ระสงค์ของกจิ กรรมนกี้ ็เพื่อให้ยุวบรรณารกั ษ์ เพือ่ สง่ เสริมทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ คดิ มที ักษะในการท�ำงานร่วมกับผ้อู ่นื คิดเป็น ท�ำเป็น อยา่ งมวี ิจารณญาณ คิดอยา่ งมีเหตุผล รั้วโรงเรยี น 16 รัว้ โรงเรียน 17

ถอดความรู้จากกิจกรรม ๖ ใบงาน : เครอื่ งมือนำ� ทางความเข้าใจสู่โครงงานคุณธรรม การนงั่ ฟงั บรรยายเพียงอยา่ งเดยี วไมอ่ าจสร้างความเข้าใจที่ สร้างโรงเรยี นคณุ ธรรม ถูกตอ้ งได้ “ใบงาน” จึงเป็นเครอ่ื งมือสำ� คญั ของการอบรมเชงิ เปา้ หมายการแกป้ ญั หา วธิ แี กป้ ญั หา หลกั ธรรม คณุ ธรรมอตั ลกั ษณ์ ปฏบิ ัติการนี้ ซงึ่ จะท�ำใหค้ ณุ ครไู ด้คิด ได้ทบทวน ไดล้ งมือท�ำ ได้ และวธิ ีประเมนิ ผล ให้ลงทุนด้วยใจ ไมใ่ ชด่ ว้ ยเงิน ความเข้าใจทถี่ กู ต้อง และได้แนวทางท่ีจะกลบั ไปด�ำเนินโครงงาน ในข้นั ตอนน้เี ป็นโอกาสทผี่ เู้ ขา้ รว่ มอบรมจะได้ช่วยกนั เร่ือง : ปิยพร เศรษฐศิริไพบูลย์ คณุ ธรรม ทบทวน วิเคราะหข์ ้อมูล ปัญหา และสาเหตกุ นั อีกครง้ั ซ่งึ มคี วาม “ความขยัน เขา้ สอนตรงเวลา แตง่ กายถูกระเบยี บ พดู จา ส�ำคญั มาก เพราะหากระบปุ ัญหาหรือวิเคราะหส์ าเหตุทแี่ ท้จรงิ “ช่วยกนั สรา้ งคนดีใหแ้ กบ่ ้านเมือง” - พระราชประสงคใ์ นพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว ไพเราะ ความมวี นิ ัย” สิง่ ใดคอื คณุ ธรรม และส่งิ ใดคอื จริยธรรม ของปัญหาผดิ หรือไม่ชัดเจนจะสง่ ผลตอ่ การกำ� หนดวธิ แี กป้ ญั หา เมอื่ ครงั้ ทรงมีพระราชดำ� ริให้จดั ตง้ั “กองทนุ การศึกษา” มลู นิธิยุวสถิรคณุ จึงไดน้ ้อมน�ำ หลายคนถึงกบั งนุ งงเมอื่ ต้องหาคำ� ตอบ เพราะเรามักคนุ้ เคย และวธิ ีวดั ผลได้ ดังเชน่ โครงงานคณุ ธรรม “ครูดีวจเี พราะ” พระราชกระแสรับสั่งดงั กล่าวมาเปน็ วสิ ัยทัศน์ดำ� เนินงาน “ศนู ยโ์ รงเรียนคุณธรรม” เหมารวม (เขา้ ใจ) เรยี ก ๕ ส่ิงนีว้ า่ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม นั่นจงึ เปน็ ปัญหาคอื ครูพูดไม่เพราะ สาเหตุ คอื ๑. ครูไมย่ ัง้ คดิ ก่อนพดู “โรงเรียนคณุ ธรรมเน้นการสร้างคณุ ธรรมผ่านการออกแบบข้อปฏบิ ัติของผู้บริหาร ทมี่ าของใบงานที่ ๑ “ทดสอบความเขา้ ใจคณุ ธรรมและจรยิ ธรรม” ๒. ไมค่ ิดถึงคนฟัง ซึ่งวทิ ยากรได้ใหค้ วามเหน็ ว่ายงั ไมใ่ ชส่ าเหตทุ ี่ และตอกย�้ำว่าเขา้ ใจจรงิ ๆ (นะ) ดว้ ยใบงานท่ี ๒ “วเิ คราะห์ แท้จริง สาเหตทุ แ่ี ทจ้ ริงคือ ความเคยชิน หรอื นิสัยเปน็ แบบนัน้ ครบู าอาจารย์ และนกั เรียนทกุ คน เป็นข้อปฏิบตั ิทผี่ ู้ปฏบิ ตั ิกำ� หนดข้นึ เอง” - ศาสตราจารย์ คณุ ธรรมและจรยิ ธรรมจากสือ่ วดี ิทัศน”์ และ “การไมค่ ดิ ถึงคนอน่ื ” สามารถจดั เป็นปญั หาอกี ข้อได้ เกียรติคณุ นายแพทยเ์ กษม วัฒนชยั องคมนตรีและประธานกรรมการมลู นธิ ิยวุ สถิรคณุ สำ� หรบั ใบงานท่ี ๓ “คน้ หาปัญหาที่ส�ำคญั ” ผเู้ ข้ารว่ ม นอกจากนก้ี ารก�ำหนดวิธแี กป้ ัญหาก็เป็นส่งิ สำ� คญั ท่ีควรระบุใหเ้ ห็น แมว้ า่ “คูม่ อื การจดั กิจกรรมพฒั นาโรงเรยี นคุณธรรม” ซึ่งจัดท�ำโดยศูนย์ อบรมจะไดว้ ิเคราะห์และจดั ลำ� ดบั ปญั หาของตัวเองทต่ี ้องแกไ้ ข เปน็ รปู ธรรมวา่ จะทำ� อย่างไร มีวิธีการอย่างไร ซึง่ จะทำ� ใหก้ าร โรงเรียนคณุ ธรรม มลู นธิ ยิ ุวสถริ คุณ จะเปน็ เครอื่ งมือหนงึ่ ในการสรา้ งคณุ ธรรม เรง่ ดว่ น และนำ� มาแลกเปลี่ยนกบั เพ่อื นในกลมุ่ เพอื่ จัดล�ำดบั เป็น ดำ� เนินโครงงานคุณธรรมมีความชดั เจนและด�ำเนินการไดจ้ ริง จรยิ ธรรม แต่หากผใู้ ชค้ มู่ ือไม่มีความเขา้ ใจเสยี แลว้ เคร่ืองมอื ที่สำ� คญั น้ีก็จะไม่ ปญั หาของกลุม่ ในใบงานท่ี ๔ “ปัญหาของกล่มุ -สาเหต-ุ การนำ� เสนอโครงงานคณุ ธรรมของผเู้ ขา้ รว่ มอบรมแตล่ ะกลมุ่ เกดิ ประโยชน์ มลู นิธยิ ุวสถริ คณุ จงึ ไดจ้ ดั “การอบรมเชงิ ปฏิบัตกิ ารพฒั นา พฤตกิ รรมบ่งชเ้ี ชงิ บวก-คุณธรรม” เป็นการประมวลความร้คู วามเขา้ ใจ และชว่ ยให้เหน็ ถึงจดุ อ่อนท่ี ศักยภาพครูวิทยากรของศูนย์โรงเรียนคณุ ธรรม” ขน้ึ ซ่ึงครวู ทิ ยากรเป็น จากความเขา้ ใจความหมาย สกู่ ารวิเคราะห์ปัญหาที่ส�ำคัญ ต้องแกไ้ ข ซ่งึ จะท�ำใหผ้ ู้เขา้ อบรมมีความเขา้ ใจมากขน้ึ เมื่อต้องกลบั ผู้มีบทบาทส�ำคัญท่จี ะขับเคลือ่ นให้เกิดโครงงานคณุ ธรรมขึน้ ในโรงเรยี น รายบคุ คล แลกเปลยี่ นปัญหา คน้ พบปญั หารว่ มทเ่ี หมือนกนั น�ำไป ไปให้ความรูแ้ ละนำ� ทมี ดำ� เนินโครงการคุณธรรมในโรงเรียน โดยจะเปน็ ผูน้ �ำความรูแ้ ละกระบวนการจากการอบรมครั้งน้ีไป สูก่ ารคน้ หา “คุณธรรมอตั ลกั ษณ”์ ในใบงานท่ี ๕ ซง่ึ สมาชิกใน ถา่ ยทอดให้กบั ครูแกนน�ำและนักเรียนแกนน�ำทโี่ รงเรยี นและรว่ มกนั กลุ่มจะกำ� หนดคุณธรรมเป้าหมายทต่ี ้องการให้เกิดขน้ึ ในโรงเรียน ด�ำเนนิ โครงงานคุณธรรมของโรงเรยี น และพฤติกรรมบ่งชี้เชิงบวก (จริยธรรม) ตามหนา้ ทคี่ วามรบั ผดิ ชอบ ความรู้ + ความเขา้ ใจ + ปฏิบตั ิ => โรงเรียนคณุ ธรรม ของแตล่ ะกลมุ่ บคุ คล (ผบู้ รหิ าร ครู นกั เรยี น) มูลนธิ ิยุวสถริ คณุ ได้จัดอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารพฒั นาศักยภาพครวู ทิ ยากร ความรู้ ความเขา้ ใจ และแบบฝกึ ปฏิบตั เิ รอื่ งคณุ ธรรมและ ของศนู ยโ์ รงเรยี นคณุ ธรรมมาแลว้ ๒ รนุ่ สำ� หรบั รนุ่ ท่ี ๓ จดั ขนึ้ เมอื่ วนั ท่ี ๑๑-๑๒ จรยิ ธรรมคอ่ ยๆ เข้มข้นข้ึนตามใบงาน เพื่อท่เี ปา้ หมายสุดท้ายคือ มถิ นุ ายน ๒๕๕๙ การอบรมครงั้ น้ีมโี รงเรยี นในเขตพ้ืนทีภ่ าคกลางจ�ำนวน เกดิ โครงงานที่สามารถสรา้ งคณุ ธรรมจรยิ ธรรมในโรงเรยี นไดจ้ ริง ๒๓ โรงเรยี น บุคลากรครูกวา่ ๑๗๐ คนเขา้ รว่ มอบรม และมีทมี วิทยากรอาสา รวม ๑๓ คน ร่วมให้ความรู้ แนะแนวทาง สร้างความ ในใบงานท่ี ๖ “การสร้างความดีด้วย เข้าใจในประเด็นสำ� คัญ ๓ เรือ่ ง ได้แก่ ความรู้ความเข้าใจในสาระ โครงงานคณุ ธรรม” ผู้เขา้ อบรมในแตล่ ะกลุม่ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม วธิ กี ารค้นหาคุณธรรมอตั ลักษณ์ และการสรา้ ง ชว่ ยกนั ทำ� โครงงานคุณธรรมและนำ� เสนอ ความดีด้วยโครงงานคณุ ธรรม รายละเอยี ดของโครงงานผา่ นผงั ความคิด ร้ัวโรงเรียน 18 (mind map) ตงั้ แต่ปญั หา สาเหตุ เพอ่ื กำ� หนดวตั ถุประสงค์ รั้วโรงเรยี น 19

สวมบทบาทวิทยากรอบรมนักเรยี นแกนน�ำ กอ่ นเสร็จสนิ้ การอบรมเชงิ ปฏิบตั กิ ารพัฒนา “ตลาดนดั ความรู้” หลงั จากผูเ้ ขา้ อบรมได้ผา่ นการเรียนรู้ ศกั ยภาพครูวทิ ยากรของศูนยโ์ รงเรียนคณุ ธรรมใน และเข้าใจกระบวนการสร้างโครงงานคณุ ธรรม ครัง้ นี้ ครูผูเ้ ขา้ ร่วมอบรมและนักเรยี นไดร้ ว่ มกัน คา่ ยนกั เรยี นแกนนำ� พอเพยี ง ในวนั แรกแลว้ ในวนั ท่สี องของการอบรม ผเู้ ขา้ อบรมได้ลงมือฝึก กล่าวคำ� ถวายสัตยป์ ฏิญาณตอ่ หน้าพระบรม- เรื่อง : อรสรวง บุตรนาค ปฏิบตั อิ บรมใหน้ ักเรียนระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕ และ ฉายาลักษณ์พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว โดย มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ จากโรงเรยี นพกิ ลุ เงนิ โดยแต่ละกลมุ่ จะแบง่ จะปฏิบัตหิ นา้ ที่พัฒนาโรงเรยี นคณุ ธรรมดว้ ย “ปุ๋ยหมักด.ี .. ปุย๋ หมกั เด่น... เน้นคณุ ภาพ... ใช้แลว้ ด.ี .. มที ่นี ท่ี เ่ี ดยี ว... กบั ร้าน เป็น ๒ ทีม ทมี หนึ่งเป็นผู้ใหค้ วามรแู้ ละนำ� นักเรยี นปฏิบตั ิตาม ตน้ กลา้ สามคั ค.ี .. โปรโมชนั พเิ ศษวนั น้ี ซอ้ื ๒ แถม ๑ แตถ่ า้ ซอื้ ๓ แถมคนขายไปดว้ ยครบั ” ใบงาน อีกทีมเป็นผสู้ งั เกตการณ์ประเมินความเข้าใจของนักเรียน ความมุง่ มัน่ แนว่ แน่ อทุ ิศตนอย่าง เสยี งจากนอ้ งๆ หญงิ ชายกลมุ่ หนงึ่ กำ� ลงั โฆษณาเชญิ ชวนเพอื่ นๆ รว่ มคา่ ยใหไ้ ปเยย่ี มชม ตามใบงานท่ี ๗ “การสังเกตการณ์กล่มุ ในการฝึกปฏิบัต”ิ เต็มกำ� ลงั ความสามารถ เพอ่ื สนอง ร้านคา้ ของกลุ่มตนเองในกจิ กรรมทม่ี ีชือ่ เรยี กว่า “ตลาดนัดความรู”้ ซึ่งเปน็ ช่วงเวลาทแ่ี ตล่ ะ นักเรียนในแตล่ ะกลมุ่ จะเรมิ่ ตน้ เรยี นรู้เหมอื นครูผู้เข้าอบรม พระราชประสงคท์ ว่ี า่ “ให้โรงเรยี นสร้าง กล่มุ จะนำ� สินค้าของตนมาแลกเปล่ยี นกนั โดยสินคา้ ทวี่ า่ นีก้ ็คือ “ความร”ู้ ที่ทกุ คนไดร้ บั ตง้ั แตใ่ บงานท่ี ๑-๖ ซ่งึ ปัญหาส�ำหรับจัดท�ำเป็นโครงงานคณุ ธรรม คนดใี หแ้ ก่บา้ นเมอื ง” จากฐานการเรยี นร้ตู า่ งๆ ในช่วง ๒-๓ วนั ทีม่ าของการเขา้ คา่ ยนักเรียนแกนน�ำพอเพียง จะเป็นปัญหาของนักเรียนท่เี ดก็ ๆ ช่วยกันวเิ คราะห์ ครูประจำ� กล่มุ ดา้ นเด็กนักเรียนตัวนอ้ ยทมี่ าร่วม เรยี นรูก้ ารพฒั นาตามแนวพระราชดำ� ริ ท�ำหน้าที่อธบิ าย แนะนำ� ตง้ั คำ� ถาม ใหน้ กั เรยี นได้ท�ำความเขา้ ใจ การอบรมคร้งั นี้ นอ้ งใบตอง-ด.ญ.อมติ ตา เนอ้ื หาและวิธกี ารในแต่ละขั้นตอน จนน�ำเสนอเป็นโครงงาน กลัดแพ และน้องวรรณ-ด.ญ.เลศิ ลกั ษณ์ รั้วโรงเรยี น 21 คุณธรรมของนักเรียน แกว้ จลุ ลา นกั เรยี นชนั้ ป.๕ โรงเรยี นพกิ ลุ เงนิ การฝึกปฏิบตั ิอบรมนกั เรียนแกนน�ำเปน็ เวทีใหผ้ ู้เข้าอบรม บอกว่า ตอนแรกไมร่ ูว้ ่าตอ้ งมาท�ำ ได้พบกับสถานการณ์จรงิ จากคำ� ถามของเด็กๆ และเรยี นรู้วิธีการท่ี อะไร เข้าใจวา่ มาฟังบรรยายอย่างเดียว แต่มาแล้วมกี จิ กรรมให้ทำ� จะทำ� อยา่ งไรใหเ้ ดก็ ๆ เขา้ ใจทง้ั เนอ้ื หาและกระบวนการ นอกจากน้ี รู้สกึ สนกุ และได้ความรู้ด้วย เมอื่ ถามวา่ เพือ่ นๆ ทีโ่ รงเรียนมี การนำ� เสนอโครงงานคุณธรรมของนกั เรยี นจะสะท้อนใหเ้ ห็นว่า คณุ ธรรมจริยธรรมอะไรบา้ ง สองสาวบอกวา่ บางคนก็มบี างคนก็ ครผู ูเ้ ขา้ อบรมมคี วามเข้าใจต่อเนอื้ หาและกระบวนการพัฒนา ไม่มี คนทม่ี ี เช่น ไมพ่ ดู คำ� หยาบ โครงงานคุณธรรมเพมิ่ ข้นึ จากการอบรมในวนั แรกหรือไม่ ซง่ึ จะ “คณุ ธรรม คอื คดิ ดี จรยิ ธรรม คอื การแสดงออกจากสง่ิ ทคี่ ดิ ด”ี ช่วยให้ครูผ้เู ขา้ อบรมไดน้ �ำไปปรบั ปรุงและพฒั นาให้ดขี ้นึ เมอื่ ต้อง สองสาวชว่ ยกันใหค้ วามหมายของคณุ ธรรมจรยิ ธรรม และบอกว่า กลับไปดำ� เนนิ โครงการทโี่ รงเรียน ถา้ โรงเรยี นไม่มคี ุณธรรมจริยธรรม โรงเรยี นก็จะไม่เรียบร้อย สำ� หรบั คณุ ครกู ญั มลพรรณ พทุ ธา วทิ ยากรอาสา ซง่ึ ครง้ั หนง่ึ ก็เป็นครผู ู้เข้าร่วมอบรมโครงการเช่นกัน และได้กลับไปขับเคล่ือน โครงการคณุ ธรรมร่วมกบั เพือ่ นครูท่โี รงเรียนรุจิรพฒั น์ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี สะทอ้ นถงึ ปัจจัยสำ� คัญท่จี ะทำ� ให้โครงการคณุ ธรรม ประสบความสำ� เรจ็ คอื ผบู้ รหิ ารทเี่ ขา้ ใจ เหน็ ความสำ� คญั ของโครงการ และขบั เคลอ่ื นโครงการไปพรอ้ มกบั ครแู ละนกั เรยี น ซงึ่ สงิ่ ทจ่ี ะทำ� ให้ โครงงานยงั่ ยืนคือ เป็นโครงงานของทุกคนและทำ� ใหเ้ กดิ เป็นความ เคยชินจนกลายเป็นนสิ ยั ตดิ ตวั ซงึ่ ทุกวนั น้ีโรงเรียนรุจิรพฒั นก์ ็ยงั คงด�ำเนนิ โครงงานคุณธรรมอย่างต่อเนอื่ ง และแมค้ ณุ ครูกัญมล พรรณ จะย้ายไปสอนที่โรงเรยี นอืน่ แล้วกต็ าม แต่คณุ ครกู ัญมล พรรณกย็ งั คงปฏิบัตติ นและคอ่ ยๆ เร่ิมทำ� กิจกรรมคณุ ธรรมท่ี โรงเรยี นแหง่ ใหม่ คุณครูบอกว่า “เร่ิมตน้ ท่ตี วั เราเองก่อน เราตอ้ ง เปน็ แบบอยา่ ง เพ่อื ให้คนอื่นเหน็ ว่าสงิ่ ท่ที �ำส่งผลดีตอ่ เดก็ ” รั้วโรงเรียน 20

ค่ายนกั เรียนแกนน�ำพอเพยี งเรยี นร้กู ารพัฒนาตาม ครอบคลุมการเรียนรู้เกย่ี วกับการพัฒนาและหลกั การทรงงาน แนวพระราชดำ� ริ หรอื ที่พวกเรามกั จะเรยี กกันส้นั ๆ วา่ ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ผา่ นฐานการเรียนร้ตู ่างๆ “คา่ ยนกั เรยี นแกนนำ� ” เปน็ คา่ ยทศ่ี นู ยส์ ถานศกึ ษาพอเพยี ง อาทิ เรียนร้งู านของพอ่ สานต่อโครงการพระราชด�ำริ รวมทัง้ มูลนิธยิ ุวสถริ คณุ จัดท�ำข้นึ เพอ่ื เพ่ิมพนู ทักษะความรู้ ได้ฝึกการลงมือปฏบิ ัติจริงผ่านกิจกรรมต่างๆ ได้ฝึกคิด และประสบการณใ์ หกั ับนักเรยี นแกนน�ำและครจู าก วเิ คราะห์ ถอดบทเรียน และร่วมกันวางแผนในการขบั เคลอ่ื น โรงเรียนศนู ย์การเรยี นรู้ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ หลกั คดิ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสโู่ รงเรียนและภูมิภาค พอเพียงด้านการศกึ ษา (ศรร.) เพ่อื เปน็ วิทยากร ของตนเอง ขับเคล่อื นหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงใหม้ คี ณุ ภาพ ค่ายน้ี นอกจากจะมนี ้องๆ นักเรยี นแกนนำ� แล้ว ยงั เปิด มากยง่ิ ข้นึ โอกาสใหค้ ณุ ครูผ้ดู ูแลท่ีพานักเรยี นมาเขา้ ค่ายได้ร่วมกิจกรรม “การจะเรยี นรศู้ าสตร์พระราชาไดอ้ ยา่ งลึกซงึ้ ทง้ั หมดเชน่ เดยี วกบั นักเรยี น เพอื่ ให้คณุ ครูไดเ้ รยี นร้ไู ปพร้อม นักเรียนตอ้ งได้เห็นของจรงิ เราจึงจัดคา่ ย กบั นักเรียน และสามารถให้ค�ำปรกึ ษาไดเ้ มื่อต้องกลับไปทำ� นักเรียนแกนน�ำทกุ ครงั้ ทงั้ ในระดับประเทศ กจิ กรรมต่างๆ ที่โรงเรียนของตน และระดบั ภมู ภิ าคที่ศนู ย์ศึกษาการพฒั นาตาม หลงั พิธเี ปิดค่าย จะมีกจิ กรรมรู้รกั สามัคคี ซึง่ เป็น แนวพระราชดำ� ริ โดยเรามีหลกั สตู รสามเรอ่ื ง กิจกรรมกลมุ่ สมั พนั ธ์ กระตนุ้ ใหผ้ ้รู ว่ มค่ายไดแ้ สดงความ ด้วยกนั เรือ่ งแรกคอื เร่ืองหลกั การทรงงาน สามารถ เปดิ ใจใหพ้ รอ้ มสำ� หรบั การเรยี นรแู้ ละการแลกเปลยี่ น เรื่องทีส่ องศาสตร์พระราชา การพฒั นาตาม ระหว่างกนั เพราะตลอด ๓ คืน ๔ วันของการเขา้ คา่ ย แนวพระราชดำ� ริ และเรอื่ งทีส่ ามคอื ปรชั ญา อยู่ด้วยกนั น้นั นอ้ งๆ ทุกคนจะตอ้ งทำ� กิจกรรมการเรยี นรจู้ าก ของเศรษฐกิจพอเพยี ง ค่อยๆ ถอดบทเรียน ฐานตา่ งๆ ร่วมกนั รวมทัง้ ร่วมกันทบทวนและสะท้อนการ ท�ำทกุ ๆ ฐาน ความรู้กจ็ ะคอ่ ยๆ กระจ่างและ เรียนรู้ ด้วยการถอดบทเรยี นและนำ� เสนองานกลมุ่ กันใน ชัดเจนขึน้ กจ็ ะซึมซบั ไปในตวั เขาโดยทเ่ี ขา ตลาดนดั ความรู้ ไมร่ ตู้ วั การเรยี นรตู้ อ้ งใชเ้ วลา ฉะนน้ั นอ้ งทม่ี า ก่อนจะเปดิ ตลาด น้องๆ แต่ละกลมุ่ ค่ายน้ี อาจไมไ่ ด้เน้นวชิ าการความรู้มากนัก จะตอ้ งช่วยกันคดิ และเลอื กหัวข้อความรู้ แต่จะเน้นกจิ กรรม เนน้ ทกั ษะการเรยี นรู้ เน้น ทีต่ อ้ งการจะน�ำเสนอหรือถ่ายทอดใหก้ บั ความใฝร่ ู้ และสร้างแรงบันดาลใจให้เขา เพื่อนกลมุ่ อนื่ ๆ เมอื่ เลอื กหัวข้อไดแ้ ล้ว อยากจะไปเรยี นรตู้ อ่ ” ดร.ปรยี านชุ ธรรมปยิ า ก็จะตอ้ งชว่ ยกนั วิเคราะห์ ถอดบทเรยี น ผู้อ�ำนวยการศนู ยส์ ถานศกึ ษาพอเพยี ง กลา่ ว ความรูท้ ่ีได้ โดยใชห้ ลักของปรชั ญาของ ถึงหลกั สูตรและความตัง้ ใจของศนู ย์ฯ ในการ เศรษฐกจิ พอเพียง ซึ่งประกอบดว้ ย ๓ จัดค่ายนกั เรยี นแกนนำ� หว่ ง ๒ เงอ่ื นไข ๔ มติ ิ และ ๓ ศาสตร์ ระยะเวลาในการเข้าค่าย จะกำ� หนด มาเปน็ เกณฑใ์ นการวเิ คราะห์ อยู่ที่ ๓ คืน ๔ วัน เพือ่ ใหน้ อ้ งๆ ทีม่ าเขา้ คา่ ย หลังผ่านกระบวนการคิด วเิ คราะห์ ไดเ้ รยี นรูเ้ กยี่ วกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ และทบทวนความรทู้ ไ่ี ดใ้ นหวั ข้อทเ่ี ลอื ก พอเพยี งทม่ี ีเนื้อหาหลากหลายและเหมาะสม มาน�ำเสนอ แตล่ ะกลมุ่ จะเขยี นชาร์ตสรุป ตามแตล่ ะสภาพสังคม โดยเน้อื หาจะ เพือ่ เตรียม “ขาย” หรอื นำ� เสนอใหก้ บั ร้วั โรงเรยี น 22 ร้วั โรงเรยี น 23

“ลูกคา้ ” ซ่งึ ก็คอื เพอื่ นๆ จากกลมุ่ อืน่ ท่สี นใจอยากได้ “สนิ คา้ ” »ÃªÑ ÞҢͧàÈÃÉ°¡Ô¨¾Íà¾Õ§ สนุกกบั แคมปก์ ารเรียนรู้เรือ่ ง หรอื ความรใู้ นหวั ขอ้ ทหี่ ยบิ มาน�ำเสนอ เม่อื ถงึ เวลาเปดิ ตลาดนดั แตล่ ะกลุ่มจะไดเ้ วลากลุ่มละ ÊÁ´ØÅ / ¾ÃÍŒ ÁÃѺµÍ‹ ¡ÒÃà»ÅÕÂè ¹á»Å§ Growth Mindset ๓๐ วินาที ส�ำหรับการโฆษณาสนิ คา้ ของตัวเอง หลังการ ã¹´ÒŒ ¹ÇµÑ ¶Ø / Êѧ¤Á / ÊèÔ§áÇ´ÅÍŒ Á / Ç²Ñ ¹¸ÃÃÁ โฆษณาครบทกุ กลุ่ม ก็ไดเ้ วลาชอปปิงสนิ ค้าตามอธั ยาศัยหรอื เร่ือง : สกุณี ณัฐพูลวัฒน์ ความสนใจของแตล่ ะคน กลุ่มไหนโฆษณาดี พรีเซ็นเตอร์เดน่ ¹ÓÊÙ‹ มักจะมลี กู ค้าสนใจฟังแน่นขนดั เต็มหนา้ รา้ น แต่จะมีเงอื่ นไข ·Ò§ÊÒ¡ÅÒ§ >>> ¾Íà¾Õ§ จากการเรยี นรฝู้ กึ ฝนเพื่อเพ่มิ พนู ทักษะการใช้ ของการชอปปงิ ความรู้ว่าทกุ คนจะตอ้ งหมนุ เวยี นกนั เป็น Growth Mindset ในการสอนเม่ือ ๒๓ มีนาคมท่ีผา่ นมาใน “ผขู้ าย” หรือผู้พูดน�ำเสนอบ้าง เป็น “ผ้ซู ้อื ” หรือคนฟัง ¾Í»ÃÐÁÒ³ Growth Mindset Camp วชิ าคณติ ศาสตร์ และวิชาโยคะ เพ่ือนบ้าง โดยจะมีรอบของการชอปปิงทัง้ หมด ๓ รอบ สองวิชาทแ่ี มด้ ูจะแตกต่างกัน แต่ก็สามารถถอดกระบวนการ รอบละ ๕ นาที ÁÕà˵¼Ø Å ÁÕÀÙÁ¤Ô ŒÁØ ¡¹Ñ เรียนรจู้ ากกิจกรรมร่วมกนั ไดอ้ ย่างสนกุ สนานและชดั เจน ตลาดนดั ความรู้ จงึ เปรยี บเสมอื นเวทีทเี่ ปิดโอกาส ã¹µÑÇ·´èÕ Õ รูปแบบเริม่ ต้นง่ายๆ คอื มกี ารจำ� ลองการเรยี นการสอน ให้นอ้ งๆ ทกุ คนในคา่ ยไดแ้ สดงออก ไดเ้ ปน็ ผู้ประกาศ จรงิ ๆ ในหอ้ งเรยี น (สมมต)ิ ใหผ้ ู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมแสดงบทบาท เชญิ ชวนโฆษณา ไดเ้ ปน็ ตวั แทนกลมุ่ ในการถา่ ยทอด à§èÍ× ¹ä¢¤ÇÒÁÃÙŒ à§èÍ× ¹ä¢¤Ø³¸ÃÃÁ เป็นครูและนกั เรียนในวิชาคณติ ศาสตร์สำ� หรบั เด็กชัน้ ประถม ความรู้ ได้สลับสับเปลีย่ นกันทำ� หนา้ ทแี่ ละ ÃͺÃÙŒ Ãͺ¤Íº «èÍ× ÊµÑ ÂÊØ¨ÃµÔ Í´·¹ ปที ่ี ๑ และวิชาโยคะส�ำหรบั กลมุ่ นกั เรียนทเ่ี ริม่ ต้นใหม่ มีบทบาทท้งั ในฐานะผู้ให้ความรู้และผู้ฟงั ท่ดี ี à¾ÕÂà ÁÊÕ µÔ »˜ÞÞÒ ในวชิ าคณติ ศาสตรค์ รูสอนนักเรียนใหเ้ รียนคณติ ศาสตร์ หลังจบการชอปปงิ ในตลาดนดั ความรู้ ÃÐÁ´Ñ ÃÐÇѧ แบบอินเตอร์สำ� หรับการเรยี นรู้ในยคุ AEC คือทอ่ งตวั เลขเปน็ สนิ ค้าหรือความรู้ของทกุ กลุ่มทนี่ ำ� เสนอมา ภาษาอังกฤษอย่างเปน็ ธรรมชาติ ท่องเลข ๑-๑๐ และท่องสตู ร จะไดร้ บั การช้แี นะ แก้ไข หรอื แนะนำ� ให้ คูณแม่ ๒ เริ่มตน้ น้ันครใู หท้ ่องพร้อมกนั ฝกึ ฝน และให้นักเรียน กระจา่ งเกี่ยวกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ ตัวแทนออกมาท่องสูตรคณู หน้าหอ้ ง ในช่วงกระบวนการเรียน พอเพียงจากผู้อำ� นวยการศูนย์สถานศกึ ษา การสอน ครูคอ่ ยๆ ทำ� อย่างเป็นล�ำดับจากการท่องเลขงา่ ยๆ พอเพยี ง (หรอื ตวั แทนผูท้ รงคุณวุฒิของ ไปสู่การเรียนรู้ท่ยี ากข้ึน จากการชีต้ ัวเลขบนกระดานแล้วอ่าน ศูนยฯ์ ) เพอื่ ใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจทก่ี ระจา่ ง ออกมาเป็นตัวเลขภาษาองั กฤษ การทอ่ งเลข ๑๐ ย้อนกลบั มา และถกู ตอ้ ง สามารถนำ� ความรู้ ทกั ษะ และ สเู่ ลข ๑ แนวคดิ ทไี่ ดจ้ ากค่ายน้ีไปปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจำ� วัน เมื่อหมดเวลากจิ กรรมดังกลา่ ว ผเู้ ข้ารว่ มกจิ กรรมทกุ คน และสามารถเป็นแกนนำ� ในการจัดกจิ กรรมคา่ ย จงึ มาช่วยกนั ถอดบทเรียนโดยมีพ่ีเลยี้ งช่วยกระต้นุ และดงึ ความ พอเพียงหรอื ขบั เคลอ่ื นหลกั ปรัชญาของ เข้าใจในกรอบการเรยี นรแู้ บบ Growth Mindset ออกมา เศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรยี นของตนเองและ รว้ั โรงเรยี น 25 สถานศึกษาอื่นๆ ในภมู ภิ าคได้ตอ่ ไป รวั้ โรงเรยี น 24

ซงึ่ สามารถแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ การสอนท่ีมี ค่อยๆ เรียนรูก้ ารหาคำ� ตอบจนมั่นใจในคำ� ตอบ สำ� หรับการเรียนรผู้ า่ นการสอน สรปุ แนวทางการสรา้ ง Growth Mindset จากกจิ กรรมทผ่ี า่ นมา ท้งั สง่ เสรมิ Growth Mindset และบ่นั ทอน ของตวั เองมากขึน้ โยคะนัน้ ผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมสามารถดึง ตรงตามกับทฤษฎีทว่ี ่า Growth Mindset พบวา่ สำ� หรบั ขอ้ บ่นั ทอนนั้น คณุ ครตู อ้ งระวงั การ ความเขา้ ใจในกระบวนการเรียนรู้เร่อื ง • ใชว้ ธิ กี ารสอ่ื สารกับเด็ก สง่ เสรมิ ให้เดก็ มีความพยายาม สนใจ การสอนหรือคำ� พดู ของคุณครู ท่มี ีการ ชนื่ ชมนักเรียน หมายความถึงการปรบมือ หรอื Growth Mindset ออกมารว่ มกนั ได้ ในกระบวนการเรียนรู้ และไมย่ ่อท้อเมือ่ ยังไมถ่ งึ เป้าหมาย สง่ เสรมิ Growth Mindset เชน่ เนน้ ใหเ้ ดก็ เหน็ วา่ การพดู ว่า Very Good ซงึ่ feedback ทใี่ ห้ ชดั เจนขอ้ หน่งึ คือ เปน็ การเรียนรแู้ บบ • ให้เดก็ เหน็ คุณคา่ ของความพยายาม โดยการใหค้ ำ� ชมใน ไม่มีผดิ ถกู ตอบมาไดเ้ ลย ครูจะชว่ ยปรบั เป็นการ Active Learning Class เด็กนักเรยี นจะ ความพยายามของเด็ก เรียนรู้รว่ มกนั ของนักเรียนทงั้ ห้อง ซึง่ จากการ นกั เรยี นนั้นต้องเป็นการชนื่ ชมในความ เห็นความกา้ วหนา้ ในการเรียนรขู้ อง • ใส่ใจกับกระบวนการในการท�ำงานหรอื การเรยี นของเดก็ วิเคราะห์ ส่วนน้ีเองจะช่วยท�ำใหน้ ักเรียนมคี วาม พยายามของนกั เรียน ระบุพฤตกิ รรมท่รี ัก ตนเอง (Progressive) การสอนค่อยเปน็ เพอ่ื ใหเ้ ดก็ เห็นว่ากระบวนการ (Process) ส�ำคญั กว่าผลลัพธ์ กล้าท่ีจะตอบคำ� ถาม กล้าทจี่ ะเรียนรู้สงิ่ ใหมๆ่ เรยี นท�ำไดด้ ีได้อย่างชดั เจน คอ่ ยไป ไม่เรง่ เรา้ ให้เวลากับการฝึกฝน (Outcome) รวมถงึ การทค่ี ณุ ครูสอนทลี ะข้ันตอน มีรปู แบบ ในกจิ กรรมการเรียนร้ผู า่ นการสอน ตรงนี้จะชว่ ยทำ� ใหผ้ ู้เรียนค่อยๆ ท�ำ • ใชว้ ิธกี ารปรับค�ำพดู เพอื่ ปรับมุมมองใหเ้ ดก็ ไมย่ อ่ ทอ้ แม้ว่า การสอนจากง่ายไปหายาก สว่ นนจี้ ะช่วยให้เดก็ โยคะ คณุ ครูผู้สอนชกั ชวนให้นักเรียน ค่อยๆ ฝึกฝน และเมอื่ เหน็ วา่ คนอน่ื พอ ยงั ไมถ่ ึงเป้าหมายโดยการใช้ค�ำว่า “ยัง” (Power of yet) กล้าเรียนรเู้ พ่ิมความท้าทายให้กับเดก็ ดว้ ย (ผ้เู ข้ารว่ มกิจกรรม) ฝึกโยคะ โดยเรม่ิ จาก ทำ� ได้ เรากจ็ ะเพ่ิมความพยายามเข้าไป • ใหเ้ ด็กเรียนร้แู ละพฒั นาผ่านการให้ Feedback โดยบอกส่งิ ท่ี บทเรียนท่ยี ากขึ้น และเด็กสนกุ กบั การเรยี นมากขึน้ การพดู คุยเรอื่ งโยคะและขอ้ ดีจากโยคะ ในการฝึกฝน เป็นการกระตุ้นใหเ้ กิดความ ท�ำได้ดี และควรปรับปรุงแกไ้ ข เพราะหากเดก็ ท�ำพฤติกรรมที่ นอกจากน้ี ระหวา่ งการสอนคุณครูใชค้ �ำพดู วา่ “พยายาม จากนั้นจงึ ชวนให้เริ่มตน้ จากการฝกึ ลม พยายามโดยไม่เร่งหรือเปรียบเทียบกับ ผิดเปน็ ประจำ� โดยไม่มีคนบอกสิง่ ทีค่ วรปรบั ปรงุ แกไ้ ข กจ็ ะ อีกนิดนะ” นับเปน็ การกระตนุ้ ใหเ้ ด็กมพี ัฒนาการ และการทีค่ รู หายใจ ฝึกการยืดเส้นยืดสายอยา่ งง่ายๆ ผอู้ น่ื ท�ำใหพ้ ฤติกรรมนั้นคงอยู่กับเดก็ ไปเรอื่ ยๆ ค�ำกล่าวท่ีวา่ แนะนำ� ให้เด็กที่ยังไม่กลา้ ยกมอื ตอบค�ำตอบให้ตอบในใจกอ่ น แลว้ และจึงฝกึ ท่าโยคะอย่างง่ายๆ โดยใน สิ่งท่ที ุกคนเห็นพร้อมกันในการ การฝึกฝนท�ำให้เกดิ ความสมบรู ณแ์ บบนนั้ ไม่เป็นจรงิ ท้ังหมด คำ� ตอบข้อถดั ๆ ไปหากมนั่ ใจให้ตอบพรอ้ มเพ่อื น และถ้าม่ันใจมาก แต่ละขัน้ ตอนครผู ู้สอนรว่ มฝกึ ไปพร้อม ถอดความรจู้ ากวชิ าโยคะอกี ประการหนึ่ง การฝึกฝนในวิธีทีผ่ ิดท�ำใหเ้ กิดพฤติกรรมผิดๆ ที่คงทนถาวรได้ ขน้ึ จึงยกมอื ตอบ ถอื เปน็ การส่งเสริม Growth Mindset ในหลาย กับนักเรียน จากทา่ ท่งี ่ายไปสทู่ ่าที่ยากนั้น คือ คำ� พูดทว่ี า่ “แรกๆ ครกู ็ท�ำไมไ่ ด้ เช่นกนั ดงั นัน้ การฝกึ ฝนจงึ ควรควบคไู่ ปกับการให้ ประเด็น กระตุน้ ให้เดก็ มคี วามพยายามในการตอบคำ� ถาม และ คุณครจู ะคอยพดู ตลอดเวลาว่า “ลองฝนื ตวั เองทีละนิดๆ แต่ถา้ ฝืน เหมอื นกัน ครูใชเ้ วลาตั้ง ๓ วัน” ประโยค Feedback ท่ีดี มากก็หยดุ ” หรือการพดู ว่า “ถ้าท�ำไมไ่ ด้ไมใ่ ชเ่ รื่องแปลก ลอง นีช้ ่วยส่งเสรมิ ให้นักเรียนรู้สกึ ว่ามีโอกาส รวั้ โรงเรยี น 27 พยายามกนั ด”ู จนกระทง่ั ถงึ ทา่ ทยี่ ากมากๆ สำ� หรบั นกั เรยี นบางคน ทำ� ได้ ขณะทเ่ี ด็กนกั เรียนทที่ �ำไดแ้ ลว้ จะ ซ่งึ ท�ำไมไ่ ด้ คณุ ครใู ชค้ ำ� พูดวา่ “ใครยังทำ� ไมไ่ ด้ไมเ่ ป็นไร ทา่ นแี้ รกๆ รสู้ กึ ยิง่ สนุกและอยากทำ� ท่ายากขน้ึ ไปอกี ครกู ็ทำ� ไม่ไดเ้ หมือนกนั ครใู ช้เวลาต้ัง ๓ วัน” รั้วโรงเรยี น 26

สมั ภาษณ์ อรษุ นวราช นักธรุ กิจผขู้ บั เคลื่อนวถิ เี กษตรอนิ ทรีย์ อยากให้ชว่ ยเล่าถงึ หวั ใจในการปรับเปลย่ี นแนวคดิ และการใช้ ของเขาใหม่ อยา่ งเม่อื กอ่ นเขาแคไ่ ปฉีดยาก็เสรจ็ แต่น่ีเขาตอ้ ง เรื่อง : สกุณี ชีวติ จากเกษตรท่ีใช้สารเคมไี ปสู่เกษตรอนิ ทรีย์ เหนื่อยในการลงแรงมากข้นึ เพราะตอ้ งดแู ลตลอดทุกข้นั ทุกตอน ตอนแรกเกษตรกรท่เี ข้ามารว่ มกับเราเขาอาจเชอ่ื ครงึ่ ไมเ่ ช่อื ตั้งแตเ่ ตรียมดินจนถงึ เกบ็ เกีย่ วผลผลิต การทำ� เกษตรอินทรียม์ ีงาน ตลอดระยะเวลาช่วั โมงกวา่ ของการสัมภาษณ์ “อรษุ นวราช” นักธุรกจิ รนุ่ ใหมไ่ ฟแรงทา่ นนี้ ครึง่ ตอนนัน้ มนั ไม่มสี ูตรตายตวั จรงิ ๆ ผมแค่บอกว่า ทกุ อยา่ งตอ้ ง ต้องทำ� ตลอดเวลา ในขณะเดียวกนั เราก็หาช่องทางทางการตลาด ค�ำพดู ทไี่ ด้ยินเสมอคอื ค�ำวา่ การปรับเปล่ยี นวถิ ีชีวติ จากการใช้สารเคมีไปสวู่ ถิ เี กษตรอินทรยี ์ พสิ จู นก์ นั ดว้ ยเวลา เพราะผมทำ� ตอ่ เนอ่ื ง หวั ใจมนั คอื ความตอ่ เนอื่ ง ใหด้ ว้ ย ซง่ึ จรงิ ๆ คนกนิ มเี ยอะอยแู่ ลว้ ทง้ั รายยอ่ ย หรอื ธรุ กจิ โรงแรม ค�ำวา่ โซอ่ าหาร ค�ำวา่ ระบบการรบั รองอยา่ งมีสว่ นรว่ ม (Participatory Guarantee Systems เขาจะเหน็ ว่าเราจรงิ ใจ ไม่ได้เขา้ มาเหมือนท�ำๆ ไปแลว้ ไม่ไหวกเ็ ลิก ธรุ กจิ อาหาร หา้ ง ทกุ คนตอ้ งการสนิ คา้ อนิ ทรยี ห์ มด เพยี งแตส่ ว่ นใหญ่ หรือ PGS) คำ� วา่ ธุรกิจทเี่ ปน็ ธรรมและค�ำอ่นื ๆ อีกมากที่ชว่ ยท�ำให้เห็นวิธีคดิ เป้าหมาย และ อยา่ งที่เขาอาจเคยพบกับหน่วยงานอืน่ ๆ ถา้ ต้องซ้อื ผ่านพ่อค้าคนกลางราคากจ็ ะแพง จริงๆ กแ็ พงต้งั แต่ออก ความทมุ่ เทท�ำงานหนกั ด้วยความสขุ ใจของเขา ภายใตแ้ นวคดิ ของการเป็นนักธุรกจิ ซึง่ ยดึ หลัก สว่ นท่ีผมได้เปรียบและกล้ารับรองวา่ ทำ� ได้จรงิ คอื ผม จากเกษตรกรแลว้ ถ้าเปน็ ไปได้ผมเลยคดิ ว่ามนั ควรจะมจี ดุ เชอ่ื ม ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชด�ำรขิ องพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั สามารถบอกใหโ้ รงแรมผมซอ้ื ผลผลติ เหลา่ นัน้ ได้ หรือผมมีตลาด ตรงนี้ นั่นคือท่มี าของตลาดสขุ ใจ ทค่ี นซื้อกับคนปลูกมาพบกนั เลย รองรบั ทันที ตรงน้ีมันช่วยไดเ้ ยอะ ผมคดิ วา่ ปัญหาของเกษตรกร โดยตรง คนปลูกมาขายก็ได้ราคาดี คนซ้อื กไ็ ดร้ าคาดี ได้ของดดี ้วย วนั น้นี อกจากบทบาทหน้าที่ในตำ� แหน่งกรรมการผจู้ ดั การ สวนสามพรานและ ถา้ จะใหเ้ ขาปรบั ตอ้ งมแี รงจงู ใจทด่ี ซี งึ่ แรงจงู ใจทช่ี ดั ทสี่ ดุ คอื ชอ่ งทาง ผมว่าเกษตรกรท่ีท�ำจรงิ เขากท็ �ำได้อยแู่ ลว้ เขาจะลองผดิ ประธานโครงการสามพรานโมเดล คณุ อรุษยังเปน็ ทีร่ จู้ กั ในตำ� แหน่งเลขานุการ ทางการตลาด ถ้าเราจะพูดกนั จริงๆ เราควรมองวา่ แรงจูงใจท่ดี ี ลองถกู เขาจะอยใู่ นกล่มุ ซง่ึ มีการแลกเปล่ยี นกนั เอง ช่วงแรก เรา มลู นธิ ิสงั คมสขุ ใจ ซงึ่ ขบั เคลอ่ื นเร่อื งวถิ เี กษตรอนิ ทรีย์ในเขตสามพรานและอำ� เภอ ท่ีสดุ มนั ควรเปน็ เร่อื งสขุ ภาพของเขามากกวา่ แต่ถา้ เราไปพดู เรื่อง จะเจอกันอยเู่ รือ่ ยๆ ซ่ึงผมอาจจะมีเกษตรกรกล่มุ แรก เปน็ กลมุ่ ตา่ งๆ ในจังหวัดนครปฐม เปน็ ต้นแบบของการเช่อื มโยงกลุ่มเกษตรกรและ สุขภาพในตอนนนั้ คงไมม่ ีใครฟงั เพราะยังไม่มีอะไรบง่ ช้ชี ัดเจนว่า น�ำรอ่ งซงึ่ เขาช่วยผมเยอะ ทส่ี �ำคญั คือช่วยใหก้ ลุ่มอน่ื ไดเ้ รียนรู้ ไป ผลกั ดันธรุ กิจเกษตรอินทรยี ์ใหเ้ กิดข้นึ อยา่ งเปน็ รูปธรรม อาการป่วยที่เกดิ ข้นึ นัน้ มาจากการใช้สารเคมี ใหค้ วามมน่ั ใจ เพราะที่สดุ แลว้ เกษตรกรที่จะเปลีย่ นได้ ต้องมัน่ ใจ เริม่ ตน้ ทำ� เกษตรอนิ ทรีย์ได้อยา่ งไร ท้ังๆ ทด่ี ูไม่เก่ียวกับการบรหิ ารโรงแรม ในชว่ งแรกเรากห็ าเกษตรกรทพ่ี รอ้ มจะรว่ มมอื กับเรา ถอื ถา้ เขามน่ั ใจ และทำ� จรงิ ผมยงั ไมเ่ หน็ ใครไมป่ ระสบความสำ� เรจ็ เลย ตอนกลบั มาท�ำงานท่บี ้านผมได้โอกาสลองทำ� โปรแกรมสขุ ภาพ โดยใช้หลกั การ เปน็ ตน้ แบบที่ลยุ ไปด้วยกัน เรากเ็ ลยเร่ิมพัฒนาเขา ซ่ึงส่วนมาก ภูมปิ ัญญาแพทย์แผนไทย ซง่ึ เราไมเ่ นน้ เรื่องกนิ วติ ามนิ แต่เนน้ ธรรมชาตบิ �ำบัด ไมใ่ ชเ่ ร่ืองไมม่ คี วามร้นู ะครับ แตเ่ นน้ เรื่องทเี่ ขาต้องปรบั วถิ ชี วี ิต ผมเหน็ วา่ เรามพี ้ืนทีอ่ ย่จู งึ อยากปลกู ผักและผลไมอ้ ินทรียใ์ ห้กบั ลกู ค้า โดยเรมิ่ ไป บุกเบิกทดี่ ินอกี ฝงั่ หนึ่งของแม่นำ�้ นครชัยศรี ตรงข้ามกับโรงแรมของเรา เนื้อท่ีราว ร้ัวโรงเรยี น 29 สามสบิ กว่าไร่ ก็เร่มิ ท�ำไปแม้จะยงั ท�ำเกษตรไม่เปน็ และไปหาความร่วมมอื จากมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ แล้วกพ็ ยายามหาแนวร่วม ตอนนัน้ ก็ทำ� แบบงๆู ปลาๆ ไม่ได้มีผลผลิตออกมา เยอะเท่าไร เลยมาคิดวา่ เรานา่ จะร่วมกบั ชุมชนของเรา ในอำ� เภอสามพราน ใหเ้ ขาร่วมปลกู โดยเรารับซือ้ บางส่วนซ่ึงนน่ั กร็ าวๆ ๖ ปที แ่ี ลว้ รัว้ โรงเรยี น 28

งานแถลงขา่ วและพิธลี งนามบันทึกขอ้ ตกลงความรว่ มมอื (MOU) โครงการส่งเสรมิ ผูป้ ระกอบการไมซใ์ นการจัดซื้อสินคา้ เกษตรอินทรียจ์ ากเกษตรกรโดยตรง (Farm ผมเคยคยุ กบั เกษตรกรท่เี คยใชส้ ารเคมใี นการปลูกฝรั่ง ไปจัดการอะไร ธรรมชาติเขาจัดการกนั เอง เรากแ็ ขง็ แรงขนึ้ to Functions) คา่ ป๋ยุ เคมีเดือนละสี่หม่ืนบาท แต่พอตอนหลงั เขาปรับวถิ ีชีวติ มา เรอ่ื งความมเี หตผุ ล คนทำ� เกษตรอนิ ทรยี ์ เหมอื นเปน็ นกั วทิ ยาศาสตร์ ท�ำเกษตรอินทรยี ์ ตอนนเี้ หลือตน้ ทนุ แค่เดือนละหม่ืนเปน็ ค่า ในแปลง เขาจะรทู้ ี่มาทไ่ี ป ทำ� ไมแมลงมาตรงนี้ เขาจะสงั เกต แต่ อยากให้ช่วยเลา่ ถึงสามพรานโมเดล อินทรีย์ การทำ� งานของผมก็คอื พยายามหาแนวรว่ มทอี่ ยใู่ กลต้ ัว วตั ถดุ ิบท่เี ขาใช้ผลิต ซ่งึ เขาบอกว่า มันลงไปเจด็ สิบห้าเปอร์เซ็นต์ คนทีท่ �ำเกษตรเคมี เจออะไรเขากว็ งิ่ หาร้านยากอ่ น ร้านยาจัดให้ สามพรานโมเดล คือแนวคิดในการเชอื่ มตรงระหวา่ งผู้ผลติ ถา้ เราท�ำให้ผ้ปู ลกู ผบู้ รโิ ภคมาเจอกันก็ช่วยลดความเหลอื่ มลำ�้ ผม เลย ไม่นา่ เชื่อ คือการท�ำเกษตรอินทรยี น์ ม่ี ันเขา้ กบั หลกั ปรัชญา หมด ไมม่ ีการพฒั นาในเร่ืองความรเู้ ลย แต่คนทท่ี �ำเกษตรอนิ ทรีย์ กับผบู้ รโิ ภค โดยใชโ้ ซ่อาหารเปน็ ตวั เช่อื ม แตย่ กระดับโซ่เดมิ ๆ ให้ ว่าทำ� จดุ เดยี วแต่มันแกไ้ ด้ทุกจุด และเปน็ จุดท่สี �ำคญั เพราะเราตอ้ ง ของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปได้เองโดยอตั โนมัติ เช่น ถ้าคุณท�ำเกินตัว นับวันเขากจ็ ะเกง่ ข้นึ ทกุ ปี คือ เราย่ิงมัน่ ใจเวลาเหน็ เกษตรกรท่ี เปน็ โซ่ทีม่ ีคุณค่า โดยใช้อาหารอนิ ทรียเ์ พอ่ื ยกระดบั เกษตรกร ให้ กินทุกวนั วิธีที่จะเชือ่ มสงั คมได้ คอื เชือ่ มทโ่ี ซ่อาหาร เชื่อมกนั แบบ คุณกต็ ้องพึ่งสารเคมี กจ็ ะฝนื ธรรมชาติ พอฝนื ธรรมชาติ กไ็ ม่ยงั่ ยนื เขาประสบความส�ำเรจ็ เพ่ิมข้ึนเรอ่ื ยๆ เหน็ ไดช้ ดั ว่าชวี ติ เขาดขี น้ึ เขามีความรูม้ ากขึ้น จากเมอื่ ก่อนเขาเปน็ แค่แรงงาน ทผี่ ลิตแล้ว เปน็ ธรุ กิจก็ได้ ไม่ธรุ กิจก็ได้ สว่ นเรือ่ งภมู คิ ุ้มกัน ถ้าคณุ ท�ำเคมี คุณไมม่ ีภูมิคมุ้ กันเลย เพราะคุณ ทางดา้ นเศรษฐกิจดีข้ึนรายได้ดี ต้นทุนต่�ำ ส่ิงแวดลอ้ มดีขน้ึ สังคมดี ขายใหพ้ อ่ คา้ คนกลางซ่งึ เป็นคนกำ� หนดราคา แลว้ ปัจจัยการผลติ ก็ อะไรทที่ �ำให้เช่อื มั่นว่าจะเป็นไปได้ ตั้งแต่เรมิ่ ท�ำ เรมิ่ รวมกล่มุ ต้องพ่ึงพอ่ คา้ คนกลางคนเดียว ถ้าคณุ ทำ� เกษตรอนิ ทรีย์ คณุ ปลกู ข้ึน มีการรวมกลุ่ม รู้จกั ลกู ค้า ลูกค้ามาเป็นเพ่อื น รู้จักสังคมใหม่ ตอ้ งพง่ึ พิงสารเคมี เพิม่ ตน้ ทนุ การผลติ โดยท่เี ขาไม่สามารถกำ� หนด และทำ� มาจนถึงทุกวันนี้ แบบหลากหลาย ไม่ได้ปลูกเชงิ เด่ยี ว มนั เหมอื นมกี ารกระจาย ผา่ นโซ่อาหาร แล้วก็สขุ ภาพก็ดขี ึน้ แนน่ อน ราคาได้เอง อันนเี้ ป็นวงจรทเ่ี ขาไม่สามารถหลดุ ออกมาได้เลย เขา ผมเชื่อวา่ สินค้าเกษตรอินทรีย์ หรอื อาหารปลอดภัยเหล่านี้ ความเส่ียงในตัวเลย และภมู คิ ุม้ กนั โรคและแมลง มันก็สมดุลอยู่ และเม่อื เกษตรกรปรับวิถกี ารผลิต รายไดเ้ ขาดขี นึ้ เกือบเทา่ ก็จะวนเวียนอยู่กับพอ่ คา้ คนกลางและพอ่ คา้ สารเคมี เราเองซง่ึ อยู่ มันมีตลาดแนน่ อน และผมกเ็ หน็ เกษตรกรทที่ ำ� เกษตรอนิ ทรียอ์ ยู่ ในแปลงคือ การให้ธรรมชาติชว่ ยธรรมชาติ เพราะฉะน้ันเราไม่ต้อง ตวั เลย ตน้ ทนุ ลดลงครึ่งหนึง่ หรือบางทเี กินครึ่งเลย ตน้ ทุนลด ปลายโซ่ก็จ�ำเป็นต้องกินของท่ผี ลติ จากสารเคมี ทีนถี้ ้าเราสามารถ แล้ว เขากม็ ีชวี ิตทดี่ ีท่อี ยูไ่ ด้ และทสี่ �ำคญั คือผมเชือ่ มน่ั ว่า ถ้าคนเรา รายไดเ้ พม่ิ ผลผลติ อาจจะตกลงนดิ หนอ่ ย แต่โดยรวมแลว้ ได้ดีขนึ้ ปรับต้นนำ�้ ได้โดยหาทางใหเ้ ขาสามารถผลติ โดยไมใ่ ชส้ ารเคมดี ว้ ย ปรับ ก็เปลี่ยนได้ สขุ ภาพนไี่ ดเ้ ต็มๆ เลย ส่งิ แวดล้อมดขี ึ้น ระบบนิเวศกลบั มาสมดลุ และมีตลาดรองรับให้ด้วย ช่วงแรกความเช่อื มันกค็ ่อยๆ สะสมมาด้วย เพราะพอเหน็ เหมอื นเดิม ทีน้ีตน้ ทนุ เขาจะลดลงเร่อื ยๆ เพราะระบบนเิ วศเขา สิง่ ทผี่ มเน้นคือ เราไม่ไดร้ ับซือ้ ทงั้ หมดนะ เพราะถ้าเรารบั คนนเ้ี ปลยี่ นได้ คนนัน้ ก็เปลีย่ นได้ก็ทำ� ให้ผมยิง่ เชือ่ ม่นั สมยั เร่ิมตน้ กลับมาดี ตรงขา้ มกับการท�ำเกษตรทพี่ งึ่ พาสารเคมี สิง่ แวดลอ้ มจะ ซอ้ื เขากจ็ ะมาพึ่งเราอกี แต่เราเพยี งแนะน�ำตลาดใหเ้ ขา พอเขา ตอนไปพบคนทท่ี ำ� เกษตรอินทรีย์ คนท่ที ำ� จริงๆ ในอำ� เภอ แยล่ ง ต้นทนุ จะเพ่มิ ตลอด เช่ือมกบั ตลาดได้ เรากค็ อ่ ยๆ ถอยออก เมือ่ เขาร้จู ักตลาดเราก็ สามพรานมีน้อยแคร่ าย สองราย แตค่ นเหลา่ นีเ้ ขาจะไม่โฆษณา และไมใ่ ชแ่ ต่เกษตรกรทม่ี ีชวี ิตท่ดี ีขึ้น ผบู้ ริโภคก็ดีขึ้นด้วย แนะนำ� การวางแผนการผลติ การจดั การหลงั การเกบ็ เกย่ี ว แพก็ เกจจงิ ตัวเองคือ คนทีท่ �ำอนิ ทรียจ์ ริงๆ เขาจะไม่ทำ� ใหญ่ จะทำ� พอเพยี ง เช่นกนั แต่เรากต็ ้องรู้จกั ปรับการบริโภค ต้องเข้าใจฤดกู าลของ การขนสง่ ซ่ึงกจิ กรรมเหล่านี้ เรามแี นวรว่ มทจี่ ะมาช่วยท�ำ เชน่ ของเขา ส่วนคนท่ีท�ำเคมี คอื พวกทตี่ ้องการผลิตมากๆ ท�ำอะไร ผลผลติ แต่เช่ือเถอะครบั ผบู้ ริโภคปลายน้ำ� อยา่ งพวกเราปรบั นอ้ ย การจัดการหลงั การเกบ็ เกีย่ วเราร่วมกบั ศูนย์ logistic ของ เกนิ ตัว แต่ถ้าคุณท�ำพอตัว ใชแ้ รงงานในครอบครัว ในพืน้ ที่ทคี่ ณุ มี มาก เม่อื เทยี บกบั เกษตรกรท่ตี อ้ งปรบั เปลยี่ นวิถชี วี ติ มากกวา่ เรา มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ วทิ ยาเขตกำ� แพงแสน การพัฒนา อยู่ มันก็ไม่ตอ้ งไปเช่าที่เพิ่ม ขอ้ สำ� คัญคอื คนทที่ ำ� เกนิ ตวั แล้ว และตอ้ งปรับกนั ท้งั ครอบครวั ดว้ ย ตน้ นำ�้ เรอ่ื งระบบรบั รองแบบมสี ว่ นรว่ ม ซง่ึ เรอื่ งนสี้ ำ� คญั มากและไดร้ บั จมไมล่ ง ถ้ากลับไปทำ� อนิ ทรยี ์ เหมือนเสียศักด์ิศรี เขาก็จะหันมา ความรว่ มมอื จากกรมพัฒนาที่ดิน ส่วนตลาดสุขใจตอนน้กี ไ็ ปไดด้ ี ท�ำเกษตรอินทรยี ย์ ากหน่อย เพราะกรมการคา้ ภายในจะให้เปน็ ศูนยก์ ระจายสินค้าเกษตร รวั้ โรงเรยี น 30 รัว้ โรงเรียน 31

จากจดุ เร่มิ ตน้ จากเรอ่ื ง พดู อยา่ งงา่ ยๆ สำ� หรบั ผมคอื ทา่ นตโี จทยแ์ ตกและทา่ นกเ็ หน็ ตรงนี้ แนน่ อนเราไมป่ ฏิเสธเร่ืองเงนิ เราต้องมเี งินพอสมควรทีจ่ ะใชช้ ีวิตกบั ผมทำ� เพือ่ สังคมแบบไปรับทนุ เพื่อมาทำ� สุขภาพ มาเชอื่ มโยงระดับ มานานแลว้ มัน ไม่ใช่ต้องมีเยอะๆ มีมากเกนิ ไป ส�ำหรบั คนท�ำธุรกิจไมว่ ่าจะใหญห่ รอื อย่างนน้ั ผมไม่ตอ้ งการ สงิ่ ทผ่ี มท�ำน้นั ประเทศ ในแงม่ ุมนกั ธรุ กจิ จะสามารถใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ เล็กก็ตาม ถา้ เขาหาจุดสมดุลในการทำ� ธรุ กจิ ของเขาได้ มคี วามพอประมาณ เชื่อมโยงกับธุรกิจท่ที �ำอยู่ ขณะเดยี วกันก็ การปรบั การบริโภค พอเพียงได้ไหม มีเหตุผล มภี มู คิ ุ้มกนั มีความร้แู ละคุณธรรม เขาก็พบความพอเพยี งนะ เช่อื มกบั ธุรกจิ อื่นด้วย และท้งั หมดแล้ว เพราะหว่ งเรอ่ื งสขุ ภาพ เรยี กว่า ผมวา่ ทุกอยา่ งใชไ้ ด้เลยการท�ำธรุ กิจมนั ข้ึนอยู่กบั วา่ คณุ จะ มันเหมือนเป็นการรวมกลมุ่ ของธรุ กจิ ท่ี เป็น Micro Reform สว่ นการ วัดความส�ำเรจ็ ของธรุ กิจน้ันดว้ ยอะไร ถา้ วัดดว้ ยตวั เงนิ อยา่ งเดียว เรอ่ื งของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งนถ่ี า้ คณุ จะวดั เร่ืองเงินอยา่ งเดียว เปน็ ธรรม ซงึ่ เชอ่ื มโยงกนั ระหวา่ งผปู้ ลกู รวมกลุ่มเปน็ โครงการอย่าง ไมไ่ ด้หรอก มันยังมอี ยา่ งอน่ื การใช้ชีวติ หรอื อะไร ถา้ ใชว้ ัดด้วยเงิน คงใชไ้ มไ่ ด้ ข้นึ กบั ว่าเปา้ หมายของชีวติ คอื อะไร ถ้าใหผ้ มมองนะ ทุน ผบู้ ริโภค ตอนนถ้ี งึ ไมม่ ีทุนใหท้ �ำโครงการ สามพรานโมเดล ถือเป็น Mini เท่าน้ันชีวติ มนั ก็จบ ตอ่ ทุน แล้วกไ็ ปเรือ่ ยๆ มันเหมอื นเราตามไล่อะไรสักอยา่ ง ซ่งึ เมื่อ ของเรากย็ ังไปได้อยูเ่ พราะมกี ารซอ้ื ขาย Reform ซึง่ ผมมีแรงทำ� อยา่ งมากก็ ส่วนตัวผม ผมวัดดว้ ยความสุข คอื ไม่มหี นี้ หรอื มีหนี้ที่ ก่อนผมกค็ ิดคำ� ถามนี้ แลว้ ยังไง ธุรกิจก็ตอ้ งระดมเงินทุน จริง ไมไ่ ด้มใี ครไปช่วยใคร ผมไมเ่ หน็ ด้วย เฉพาะในพ้นื ทีข่ องผมหรืออย่างมากก็ บริหารได้ มสี ขุ ภาพดี มีสังคมท่ดี ี มคี วามเชื่อมโยงกบั คนอนื่ ๆ เขา้ ตลาด กเู้ พิม่ หาเพิม่ มนั กเ็ หมอื นไปเรื่อยๆ ไมเ่ จอจุด กบั คำ� วา่ “ช่วย” แบบไปช่วยซ้อื ชว่ ยหา ไม่ไกล เพราะหัวใจของการทำ� งาน มสี ่ิงแวดลอ้ มทด่ี ี มคี วามสขุ ผมเคยเปน็ นกั วเิ คราะหอ์ ยบู่ รษิ ทั ใน สมดลุ คือนักธุรกิจหลายคนเขาจะรู้สกึ อ้างวา้ งถ้าเขาไมม่ ี ตลาด เพราะจรงิ ๆ แลว้ มนั คอื การรว่ มมอื แบบนีค้ อื ความตอ่ เน่ือง เราตอ้ งเข้าไป ตลาดหลกั ทรพั ย์ และผมก็เคยท�ำบริษัทใหญๆ่ มาเยอะ ผมเหน็ มนั การขยายไปเรอื่ ยๆ เพอื่ จะใหช้ ีวติ เขาเหมือนมีอะไรท�ำ กัน ทุกคนตา่ งไดร้ บั ประโยชน์ ทกุ คนชว่ ย สรา้ งความมั่นใจใหก้ บั เกษตรกรวา่ เขามี ไปดา้ นเดียว ถงึ เวลานี้ผมก็ยงั มเี พ่อื นเยอะแยะไปหมดซง่ึ มีเงิน แตม่ นั ไม่เคยจบ เหมือนกับเปน็ การไลต่ ามหาอะไรไป กนั พัฒนาเศรษฐกิจสงั คม ส่งิ แวดลอ้ ม พันธมติ รพรอ้ มที่จะรว่ มมือกนั แตส่ ิ่งท่ีน่าสนใจคือ เดือนเปน็ ล้านแตส่ ุขภาพพวกเขาก็ไมเ่ หน็ จะดี ยังเครยี ด พอถาม เร่อื ยๆ จนตาย สุขภาพในตัว และกต็ อบโจทยค์ วามยงั่ ยนื หากกลมุ่ ที่เปน็ Mini Reform มเี ยอะๆ ในหลายๆ พ้ืนที่มันก็จะ ถงึ เปา้ หมายชีวติ กไ็ มอ่ าจตอบได้ ไม่รู้วา่ พอเกษียณแลว้ จะทำ� อะไร ถ้าอยา่ งน้ันมองว่าตัวเองเปน็ นกั ธรุ กจิ ไปในตัวท่ปี ระเทศชาติเรา แตต่ อ้ งมีคนท�ำ เปน็ Great Reform ของทง้ั ประเทศ ซ่งึ ในสว่ นท่ผี มท�ำ ต่อ อดุ มการณช์ วี ิตก็ไมม่ ี แลว้ กด็ ูเหมือนชีวิตไม่มคี วามหมาย หรือเปลา่ เยอะๆ เราไม่สามารถไปทำ� ไดท้ งั้ ประเทศ เราคิดแลว้ ว่าเราจะทำ� แคน่ ้ี ซึ่งต้องถามวา่ ถ้ามเี งินมากแล้วเปน็ อย่างน้ัน จะดีอยา่ งไร ผมมองวา่ ผมกย็ งั ทำ� ธรุ กจิ อยู่นะ ผมมองวา่ การสรา้ งการเปลยี่ นแปลง แตจ่ ะทำ� ใหม้ นั ลึกขึ้น ชัดขึ้น เพอ่ื เปน็ แนวทางใหค้ นอืน่ มาดู สว่ นการท�ำงานเพอ่ื สงั คมที่ทำ� นี้อยบู่ น ทกุ คนทำ� ไดห้ มด ไมต่ อ้ งเปน็ แคภ่ าคธรุ กจิ แล้วกลับไปท�ำในพ้นื ท่ีของตวั เอง เพราะแต่ละพนื้ ท่ีก็ไมเ่ หมือนกัน พื้นฐานของธรุ กจิ ทเ่ี ปน็ ธรรม แตใ่ ห้ อย่างคณุ เป็นผบู้ ริโภคก็บอกตวั เองเลย คนไมเ่ หมือนกัน ภมู สิ ังคมไมเ่ หมอื นกัน การท�ำงานแนวทางน้จี งึ รวั้ โรงเรยี น 33 วา่ ฉนั จะเลอื กกนิ ฉันจะไปเช่อื มกับ ไมม่ สี ูตรตายตัว แต่ผมบอกไดเ้ ลยวา่ ถา้ เร่มิ ตน้ แลว้ ตอ้ งท�ำตอ่ เนอ่ื ง เกษตรกร สง่ิ เหลา่ นเ้ี ปน็ การสรา้ งดมี านด์ ถา้ ความตอ่ เนื่องไมม่ นี ย่ี ากเลยท่ีจะใหค้ นเปลีย่ น และถา้ จะต่อ ใหเ้ กษตรกร ซ่งึ ทกุ คนลกุ ข้นึ มาทำ� ได้ เนอื่ งก็ต้องเป็นคนใกลต้ วั ทำ� ด้วยกัน ซึ่งนแ่ี หละครบั คือวัฒนธรรม และถา้ เราสามารถรว่ มมือกนั ได้ ไทยท้องถ่นิ คนใกลก้ นั มาช่วยเหลอื กัน ทำ� อะไรรว่ มกัน ส่งิ เหลา่ นี้ ประเทศก็นา่ จะดขี ้ึน และสามารถ มันอยู่ในวัฒนธรรมของเราอยู่แลว้ เปล่ยี นแปลงได้ ซ่งึ ผมหวังว่าจะได้เหน็ คณุ อรษุ พดู ถึงหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาโดยตลอด การเปล่ียนแปลงนใี้ นชวี ติ ของผม อยากถามถึงแรงบันดาลใจที่ได้รับจากในหลวง สำ� หรบั ผมมหี ลายอยา่ งนะครบั และเดย๋ี วนผ้ี มเขา้ ใจแลว้ วา่ ทำ� ไมในหลวงทา่ นถงึ เขา้ ใจและคดิ ถงึ เรอ่ื งหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้ เพราะพระองคล์ งพนื้ ทจ่ี รงิ ๆ พอทา่ นลงจรงิ ทา่ นกเ็ หน็ ปญั หา ทา่ นมองทกุ อยา่ งเปน็ ระบบ ทา่ นจะไมแ่ กแ้ คจ่ ดุ จดุ เดยี ว และ พอทา่ นเหน็ ทง้ั ระบบ กเ็ หน็ วา่ การทไ่ี มพ่ อเพยี งและขาดความสมดลุ มนั กไ็ มย่ ง่ั ยนื หลกั การของทา่ นคอื ใหเ้ หน็ ทงั้ ระบบ ไมใ่ ชแ่ คแ่ กจ้ ดุ เดยี ว ร้วั โรงเรยี น 32

แนะน�ำสื่อ อัจฉรยิ ะหรอื พรสวรรค์ ไมส่ ำ� คญั ...เท่า GROWTH MINDSET ศลี สมาธิ ปญั ญา จดั ทำ� โดยส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้นื ฐานและศนู ยจ์ ิตวทิ ยาการศกึ ษา มลู นิธยิ ุวสถริ คุณ กับความพอเพียง จากผลการวจิ ยั ดา้ นการศกึ ษาขนาดใหญร่ ะดบั โลก Visible Learning ปี ๒๐๑๑ โดย ศาสตราจารย์ John Hattie ท่ไี ดร้ วบรวมงานวิจัยกว่า ๕๗,๖๐๐ ชิ้น และ ๑,๐๐๐ meta โดย พระหลวงพ่อสุธีร์ ชาคโร analysis มาทำ� การสงั เคราะหอ์ ย่างเปน็ ระบบ ศึกษาปัจจัยท่ีมผี ลตอ่ ผลสมั ฤทธ์ิทางการ จดั ทำ� โดย วดั ปา่ บา้ นเหลา่ กกห่งุ ศกึ ษาในเดก็ นกั เรยี นกลมุ่ ตวั อยา่ งกวา่ ๒๕๐ ลา้ นคนทว่ั โลก ชใ้ี หเ้ หน็ วา่ ...“เรามวั แตพ่ ฒั นา อำ� เภอมญั จาคีรี จังหวัดขอนแกน่ สิ่งที่มปี ระสทิ ธภิ าพน้อย หรือไมไ่ ดผ้ ลต่อการพัฒนาการศกึ ษาอยา่ งแท้จรงิ ” สิ่งน้ันคือ อะไร ในหนังสือเล่มบางๆ เลม่ น้ีไดก้ ลา่ วถึงเร่ืองดงั กล่าวอยา่ งครอบคลุม ถอื เปน็ การสรุป เรื่อง : สกุณี แบบยน่ ย่อใหผ้ ู้ทส่ี นใจในการพัฒนาการศกึ ษาได้น�ำไปเรียนรแู้ ละต้ังเปา้ หมายในการสอน โดยนำ� หลกั การ “การพฒั นากรอบความคดิ ” Growth Mindset สอนใหเ้ ดก็ รจู้ กั ตง้ั เปา้ หมาย พระหลวงพอ่ สุธรี ์ ชาคโร ไดอ้ ธบิ ายแนวคดิ ปรัชญาของ “...ถาม คือ ท่ีสงสัยไวก้ ็คือวา่ เถยี งกันกบั น้องทอี่ อฟฟศิ ใหก้ ับตนเอง เพราะเชอ่ื วา่ จะสามารถพฒั นาศกั ยภาพของตนเองใหด้ ขี ึ้นกว่าเดิมได้ และ เศรษฐกิจพอเพียงเชือ่ มโยงเกีย่ วเน่อื งกบั หลกั ธรรมคำ� สอนใน นอ้ งท่อี อฟฟศิ บอกวา่ พอเพียงกค็ ือเรอ่ื งของความพอเพยี ง ไม่ นี่เองจะนำ� ไปสู่การเรยี นรูท้ ีม่ ปี ระสิทธิภาพสูง พทุ ธศาสนาไว้ด้วยกันหลายครัง้ หลายคราว หนงั สือ “ศลี สมาธิ เกี่ยวกบั พทุ ธศาสนา ในเล่มยังยกตวั อย่างโรงเรียนในประเทศอังกฤษที่ใช้ Growth Mindset จนสามารถ ปญั ญา กับความพอเพยี ง” เล่มน้ี เปน็ การรวบรวมวาระตา่ งๆ ทวี่ ่า ตอบ พอ เอ้า! ก็ไว้ใหว้ า่ งๆ จดชื่อมันมา ฉนั จะเสกคาถา พฒั นาโรงเรยี นจากโรงเรียนทต่ี อ้ งปรับปรงุ มาส่โู รงเรียนที่มคี ุณภาพการศกึ ษาโดดเด่น ซึ่ง นนั้ ไว้ด้วยกนั เพ่ือให้ผูท้ ส่ี นใจทางด้านพุทธศาสนาและหลักปรชั ญา ถาม เดีย๋ วส่งเบอร์โทรศัพทใ์ ห้ได้เลยนะคะ แม้จะนำ� มาบอกเลา่ แบบส้นั ๆ แตก่ ็ช่วยเสริมสรา้ งก�ำลงั ใจใหก้ บั ผทู้ ีส่ นใจไดอ้ ย่างมพี ลัง ของเศรษฐกจิ พอเพยี งไดศ้ กึ ษาเพอื่ ทำ� ความเขา้ ใจใหก้ ระจา่ ง ตอบ ไมเ่ อา ฉนั ขเี้ กยี จอธบิ ายมนั เยอะ เดยี๋ วกลวั มนั จะเกง่ ...” สามารถดาวนโ์ หลดเพ่อื อา่ นไดจ้ าก ในเบอ้ื งต้นน้นั เปน็ บทความทีพ่ ระหลวงพ่อสุธีร์เปน็ ผู้เขียน “…ไม่ใชแ่ คเ่ กย่ี ว หลวงพอ่ ก�ำลงั จะบอกเธอว่า มนั เปน็ ทาง... www.cepthailand.org/index.php?mo=10&art=42276421 ขน้ึ ในช่ือเรอ่ื ง “น่ีคอื ประเทศไทย” เพอ่ื สดุดียกยอ่ งสรรเสรญิ ใน เศษหนงึ่ สว่ นลา้ นของพระพทุ ธศาสนา เพราะหลวงพอ่ ปฏิบตั ิ เพ่ือ พระเกียรติคุณของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัว ขณะที่อีกสาม เปน็ ผูห้ ยุด ผูพ้ อ ผวู้ าง ฉนั เองเน่ีย... หลวงพ่อเป็นผู้ปฏิบตั ิ แลก คู่มือการจัดกจิ กรรม พัฒนาโรงเรียนคุณธรรม เรอื่ งเป็นบทสมั ภาษณ์ถามตอบ โดยบรษิ ทั สอ่ื ชือ่ ดัง และคำ� เทศน์ เปน็ แลกตาย เปน็ ไป เพอ่ื หยดุ เพอื่ พอ เพอื่ วาง แลว้ ผลจากหลวงพอ่ สน้ั ๆ สอนในหวั ข้อเกย่ี วกบั แนวคิดของความพอเพียง หยุด พอ วาง แล้วน่ี หลวงพ่อจงึ เปน็ ผเู้ กอื้ กูลสังคม ชัดไหม ตัวน.้ี .. จัดทำ� โดย ศนู ย์โรงเรียนคุณธรรม มูลนธิ ยิ วุ สถริ คณุ หนงั สือเล่มน้ีเหมาะมากทจี่ ะอ่านเพ่อื ยกระดับจติ ใจ ศกึ ษา เหมอื นเศรษฐกจิ พอเพยี ง เปน็ ตวั เดียวกนั ใชไ่ หม...” พุทธศาสนาอยา่ งถ่องแทผ้ า่ นครอู าจารย์ชัน้ ผ้ใู หญ่ผปู้ ฏิบัติดีปฏิบัติ สามารถดาวน์โหลดเพ่ืออ่านได้จาก “ตอ้ งทำ� ทัง้ โรงเรียน และทุกคนต้องท�ำ” นคี่ อื ปจั จยั ส�ำคญั ทท่ี �ำใหก้ ารพัฒนา ชอบ ทั้งยงั ได้ขอ้ คิดในการทำ� ความเข้าใจในประเดน็ ความสมดลุ www.sufficiencyeconomy.org/ebook/ebook101 โรงเรยี นประสบความส�ำเร็จในแงก่ ารพัฒนาศักยภาพและคุณภาพ ซ่ึงศาสตราจารย์ ของการดำ� เนนิ ชีวติ โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เกียรตคิ ณุ นายแพทยเ์ กษม วัฒนชยั องคมนตรี ประธานมูลนิธิยุวสถิรคุณ กล่าวย้ำ� เสมอมา โดยเฉพาะในช่วงหวั ขอ้ ทเี่ ป็นบทสัมภาษณ์นนั้ อ่านสนกุ มาก เพราะ ดงั น้นั การจะท�ำให้ทัง้ โรงเรียนได้เรียนร้แู ละลงมอื ไปในทิศทางเดยี วกนั มองเหน็ พระหลวงพ่อสธุ รี ท์ า่ นตอบค�ำถามอยา่ งชัดแจง้ ไมป่ ระนปี ระนอม เปา้ หมายในการสร้างโรงเรียนคณุ ธรรม สรา้ งคนดสี ู่สังคมไดน้ นั้ ตอ้ งมีการให้ความรู้ อบรม ตอ่ ความไมเ่ ข้าใจใดๆ โดยมุ่งหวงั ให้ผซู้ กั ถามเกิดความสว่างทาง แลกเปล่ยี น และมแี ผนการทำ� งานท่ชี ัดเจน โดยตอ้ งมีเครอ่ื งมอื ทชี่ ว่ ยใหก้ ารทำ� งานดงั กลา่ ว ปัญญาอยา่ งที่สุด (ซึ่งเราผู้อา่ นก็จะสามารถขจัดความมืดบอดทาง ไปสู่เป้าหมายทวี่ างไว้ ซึ่งคูม่ ือเล่มนม้ี เี นื้อหาที่จะช่วยอธบิ ายจุดมุ่งหมาย และแนวทาง ปัญญาได้เช่นกนั ) ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมการพัฒนาโรงเรยี นคณุ ธรรม ตัง้ แตก่ ารวางแผน จนถงึ การประเมินผลสำ� เร็จ เพื่อช่วยให้ทราบว่าโรงเรยี นมีพฤติกรรมทีพ่ ึงประสงค์เพิม่ ข้ึนหรือไม่ อย่างไร และต้อง รั้วโรงเรยี น 34 ท�ำงานรว่ มกนั อยา่ งมีขั้นมีตอนน้นั เปน็ เชน่ ไร สามารถดาวน์โหลดเพ่อื อ่านไดจ้ าก moralschools.org/download/ ร้วั โรงเรยี น 35

รู้เล็กๆ รู้ลึกๆ ทกั ษะชวี ิตด้านการเงนิ หยุดคิดสักนิดกอ่ นจับจ่ายใช้สอย Echo English จากหนังสือนิทานทมี่ ไี ม่ก่หี น้า ทว่าเมือ่ ตัง้ ใจอา่ นจงึ ได้ เขียนโดย : นกฮูก Most Commonly mispronounced Words ขอ้ คิดที่เป็นประโยชน์ หนงั สือทวี่ า่ นีค้ ือ “ห้าพ่นี อ้ งกบั ของเลน่ ใหม”่ ท่ีให้ขอ้ คดิ แก่เด็กและผใู้ หญ่ในสว่ นของการหาได้ใช้เปน็ ... เรียบเรียง : สกุณี กระทรวงศกึ ษาธิการและประชารัฐ หาไดม้ าก ใชห้ มด อดไม่เหลอื (มูลนิธิยวุ สถริ คุณ และ Enconcept) ได้ หาไดม้ าก ใช้มาก ยากจุนเจือ พัฒนาแอปพลเิ คชัน Echo English ซง่ึ เป็นคร้งั แรกทค่ี นไทยทกุ คนสามารถเรยี น หาได้มาก ใช้น้อย ออมเหลือเฟอื ภาษาองั กฤษกับเจ้าของภาษาได้ฟรีๆ หาได้น้อย ใช้นอ้ ย ค่อยเหลอื เฟอื ทกุ ท-ี่ ทกุ เวลา ผ่านทางมือถือและแท็บเลต็ เรียนรู้ได้งา่ ยและมบี ทเรียนทต่ี รงกับการ หาได้น้อย ใช้มาก ยากจนเจือ ใชง้ านมากทสี่ ดุ แล้วจะเหลอื ออมเก็บ อยา่ งไรกนั ลองมาดหู วั ขอ้ Thai’s Common Error in English เกยี่ วกบั คำ� ศัพทท์ คี่ นไทยมักออกเสยี งผดิ ซ่ึงจะท�ำใหผ้ ดิ ความหมาย หรือ มกั ออกเสยี งผิดเปน็ “เว็จ-เจ็ท-เท-เบิล” อ่านแลว้ นำ� มาตรองดู ไดข้ ้อคดิ ข้อท่ี ๓ รจู้ ักออม ท้งั ออมความดีและออมเงนิ ออมความดี ไมอ่ าจสอื่ สารตรงความเข้าใจได้ (Mispronunciation- Volume (เสยี ง) ต้องออกเสียงว่า “โวล-ยุ่ม” แตเ่ รามกั ๓ รูก้ อ่ นใชจ้ ่ายท่ที ำ� ใหช้ ีวมี สี ขุ คือ ดว้ ยมุง่ ทำ� ดี และออมบญุ ดว้ ยการ “ให้” หรือสละทรพั ย์สินตาม Miscommunication) โดยเฉพาะค�ำงา่ ยๆ ทเ่ี ห็นบอ่ ยเรากม็ ัก ออกเสยี งผิดเปน็ “วอ-ลมุ่ ” ขอ้ ท่ี ๑ รจู้ กั สรา้ งงบดลุ ชวี ติ นนั่ คอื ดวู ่าขณะหน่งึ ๆ เรามี กำ� ลงั กเ็ พอ่ื ลดความเห็นแก่ตัวลง ขณะทกี่ ารออมเงินนั้น ออมเพื่อ พลาดบอ่ ยๆ ลองดกู นั คะ่ iron (เตารดี , รีด) ต้องออกเสยี งวา่ “ไอ-เยริ ์น” แตม่ กั ทรพั ยส์ นิ มากกวา่ หนส้ี นิ อยูม่ ากน้อยเพยี งไร หากผลต่างเป็นบวก ตนเองในวันขา้ งหนา้ เพราะหากมีเหตฉุ ุกเฉนิ เหตจุ ำ� เป็น รวมท้ัง Receipt (ใบเสรจ็ ) ตอ้ งออกเสยี งวา่ “ร-ี ซทิ ” แตเ่ รามกั ออกเสียงผิดเป็น “ไอ-รอน” เราเรียกวา่ มีความม่นั คงทางการเงิน และถ้าเรามีงบดลุ ชวี ิต ยามทีไ่ ม่มรี ายไดป้ ระจ�ำ ทำ� ใหเ้ ราพ่งึ พาตนเอง ไม่เป็นภาระใหผ้ ู้อืน่ ออกเสียงผดิ เป็น “ร-ี ซิป” island (เกาะ) ต้องออกเสียงว่า “ไอ-เลินด์” แต่เรามกั เปน็ บวกพอดีๆ เวลาจะใชจ้ ่าย ก็ทำ� ไดด้ ้วยความสบายใจ ทั้งน้ี หากเราหมั่นพิจารณาทบทวนข้อคดิ ทัง้ ๓ รอู้ ยา่ ง juice (น�้ำสม้ ) ต้องออกเสียงว่า “จูซ” แตเ่ รามักออกเสียง ออกเสียงผิดเป็น “ไอส์-แลนด”์ ขอ้ ที่ ๒ รู้จักใชเ้ คร่ืองมอื ทท่ี รงพลงั คอื การท�ำบัญชรี ายรบั สมำ�่ เสมอ จะชว่ ยให้เรามีชวี ติ ทส่ี มดลุ และร่ำ� รวยความสุข ผดิ เปน็ “จุย๊ ส”์ suite (หอ้ งชุด) ตอ้ งออกเสียงวา่ “สะ-วที ” แตเ่ รามกั รายจ่ายทกุ ๆ วัน หรอื ทกุ ๆ สปั ดาห์ แตท่ ำ� แล้วตอ้ งรจู้ กั ใช้ error (ผิดพลาด) ต้องออกเสยี งวา่ “แอ-เร่อ” แตเ่ รามัก ออกเสยี งผดิ เปน็ “สทู ” ประโยชน์จากข้อมลู ทีจ่ ดไว้ จัดเป็นหมวดหมู่ เปรียบเทียบกบั ออกเสียงผิดเป็น “เออ-เร่อ” เรยี นรภู้ าษาองั กฤษไดด้ ว้ ยตวั เองอยา่ งงา่ ยๆ โดยแอปพลเิ คชนั ขอ้ มลู ในอดตี ทบทวนว่า รายรับและรายจา่ ยอะไรทไี่ ดร้ ับหรือต้อง onion (หวั หอม) ตอ้ งออกเสียงว่า “อนั -เยิน” แตเ่ รามัก Echo English สามารถโหลดไดท้ งั้ ระบบ Android และ iOS จา่ ยเป็นประจ�ำงวด สงิ่ ใดจำ� เป็น สิ่งใดลดละเลกิ ได้ รายจ่ายพเิ ศษ ออกเสียงผิดเปน็ “ออ-เน่ียน” ใดทพี่ อประมาณกบั ตวั เรา อยา่ งมเี หตมุ ผี ล ตามความเปน็ จรงิ comfortable (สบาย) ตอ้ งออกเสียงว่า “คมั ฟ-ทะ-เบลิ ” ไมเ่ ขา้ ข้างตวั เอง เช่น งานสังคม ท่องเทย่ี ว ทง้ั นี้ ตอ้ งไมเ่ บียดเบยี น แตเ่ รามกั ออกเสียงผิดเปน็ “คอม-ฟอร์ท-เท-เบลิ ” ตนเองและผอู้ น่ื พรอ้ มสร้างภมู คิ ้มุ กันตนเองทเี่ หมาะสม vegetable (ผกั ) ต้องออกเสยี งวา่ “เว็จ-ทะ-เบิล” แตเ่ รา รั้วโรงเรียน 36 ร้วั โรงเรียน 37

สัมภาษณ์ย่อย เพ่ือนช่วยเพือ่ น “ตอนแรกทีไ่ ด้ทนุ รวู้ ่าไดไ้ ป ดีใจท่ไี ด้โอกาสนีค้ ะ่ แต่พอเราไดโ้ อกาสน้ี เราก็ต้องทำ� ให้มันดมี ากท่สี ดุ ในเมื่อ ส่งต่อความรู้ “ให”้ เราเทา่ กนั เราได้ทุนมาแล้ว เราก็ตอ้ งทำ� ให้มันคมุ้ ทส่ี ุดกบั การที่เรา ไดไ้ ปเรยี น เพราะเราไดท้ นุ ไปฟรี ซง่ึ ถ้าเราไปเสียเงนิ เร่ือง : อรสรวง เรยี นเองก็เป็นเงินจ�ำนวนมากเหมือนกนั เม่อื ไปติวกลบั มาแล้ว สงิ่ แรกทีค่ ดิ เลยคอื เราต้องตวิ ใหเ้ พื่อนเข้าใจแบบ เมอื่ ศูนย์จิตวทิ ยาการศกึ ษา มลู นธิ ิยวุ สถริ คณุ จัดใหม้ ีโครงการ ท่เี ราเข้าใจ ทเี่ ราไดเ้ รียนมาแล้ว เราจะถ่ายทอดอยา่ งไร “Peer Tutoring พี่ชว่ ยน้อง ผองเพื่อนชว่ ยกัน” ขึ้นเพ่ือ ให้เพื่อนเขา้ ใจไดม้ ากท่ีสดุ ” สนบั สนนุ ใหน้ ักเรียนทเี่ รียนเก่งกวา่ หรอื รุ่นพชี่ ว่ ยเพ่อื นหรอื นอ้ ง กกุ๊ ก๊ิก-กลุ รตั น์ แตงเนอ้ื เหลอื ง นกั เรียนช้ัน ม.๕ ใหไ้ ด้รบั ความรคู้ วามเข้าใจในบทเรยี นมากขึ้น โดยมลู นิธิฯ เป็น โรงเรียนสตั ยาไส ตวิ เตอรว์ ิชาภาษาองั กฤษ กล่าวถงึ ผสู้ นบั สนุนทุนนกั เรียนจากโรงเรียนที่รว่ มโครงการให้เขา้ รบั การ ความรสู้ กึ และความรับผดิ ชอบท่ีเกดิ ขน้ึ เมื่อไดร้ ับทนุ เรยี นพิเศษเสรมิ จากสถาบนั กวดวชิ าต่างๆ เพ่อื น�ำความร้ทู ไี่ ด้ เรียนพิเศษจากมลู นิธิฯ กลับไปช่วยพัฒนาเพ่อื นๆ และนอ้ งๆ ในโรงเรยี นของตน ขณะที่ ฟองเบยี ร-์ นพรตั น์ เขม็ มา เพอื่ นรว่ มชัน้ เรยี นกับกกุ๊ กิก๊ เล่าความรู้สกึ ใน ฐานะของผไู้ ด้รบั การถ่ายทอดความรู้จากเพือ่ นใหฟ้ ังว่า “เราไม่ไดไ้ ปติว แตเ่ พอื่ นไปติวมา ก็ ร้วั โรงเรียน 38 เหมอื นเรามีผู้ร้อู ยใู่ กลๆ้ เราไมเ่ ขา้ ใจอะไรเราก็สามารถไปถามเขาได้ เพราะเราใกลช้ ดิ อยกู่ ับ เพอ่ื นมากทสี่ ดุ อยา่ งทก่ี กุ๊ กกิ๊ เอามาสอน การเรยี นคำ� ศพั ทจ์ ากเพลง คอื เปน็ เพลงทมี่ คี ำ� ศพั ท์ หลายๆ ค�ำรวมกัน มเี นอ้ื หาดี น่ารกั ตลก มนั เปน็ เพลง มีทำ� นอง มีจุดน่าสนใจก็ช่วยให้ เราจำ� ไดม้ ากขนึ้ และน�ำไปใช้ไดจ้ รงิ ๆ” และทน่ี ่าดีใจ คอื ประโยคปดิ ท้ายของฟองเบียร์ “เม่ือเราไดค้ วามรู้มาจากเพือ่ นแลว้ เราเปน็ โรงเรียน ประจำ� พกั อยหู่ อพัก ซงึ่ จะคละชั้นเรียนกัน ต้งั แต่ ป.๑ ถึง ม.๖ เลย เราก็จะสอนนอ้ งตอ่ อย่างน้อง บางคนมกี ารบา้ นหรือเรยี นตรงไหนไมเ่ ขา้ ใจ เรากจ็ ะชว่ ยสอนชว่ ยบอกให้นอ้ งไดเ้ ข้าใจ” รัว้ โรงเรียน 39

เซนเตอร-์ พลภทั ร กลุ เมือง นักเรยี นชัน้ ม.๒ โรงเรียนสตั ยาไส เปน็ อกี หนง่ึ คน “การเลือกเด็กเพื่อส่งไปติว เราไม่ไดเ้ ลือกทีเ่ กรด ไม่ไดเ้ น้นที่เขาเกง่ แต่จะเลือกทว่ี ่าเด็กมี ท่ไี ดร้ บั ทุน เล่าให้ฟงั ถงึ วธิ คี ิดและแรงบนั ดาลใจที่ท�ำใหส้ มัครขอรับทนุ เพ่ือกลบั ไปทำ� หนา้ ที่ ความพร้อมไหม ความพรอ้ มของเราก็คอื มคี วามตั้งใจ มีความรับผดิ ชอบ และเนน้ ทเี่ ขาสามารถ เป็นตวิ เตอร์ถ่ายทอดความรทู้ ไี่ ด้ให้กับเพอ่ื นๆ ถา่ ยทอดไดห้ รอื ไม่ เพราะกลบั มาเขาจะต้องถ่ายทอดใหเ้ พอื่ นได้จริงๆ” ครอู ้อ-นนั ทน์ ภัส ทรัพย์ “ทสี่ มคั รไปตวิ เพราะอยากช่วยเพอ่ื นดว้ ยครับ คือเราตอ้ งแบ่งเป็น ๒ ส่วน คอื เรา ท่พี ึ่ง ครูทป่ี รึกษาโครงการติวเตอร์ เลา่ ให้ฟงั ถงึ เกณฑ์ในการคัดเลือกเดก็ นกั เรยี นเพ่อื รบั ทนุ ใน ตอ้ งพัฒนาตนเองกอ่ น แลว้ ถงึ จะไปถ่ายทอดใหเ้ พ่ือน ตอนพัฒนาตนเองเราก็ตอ้ งขยนั และ โครงการ “Peer Tutoring พชี่ ่วยนอ้ ง ผองเพื่อนชว่ ยกนั ” ซึ่งอาจจะแตกตา่ งจากบางโรงเรยี น แตส่ ่งิ หนึ่งทเ่ี ปน็ เสมอื นแรงผลกั ดนั ให้กับเดก็ นักเรียนทไ่ี ดท้ นุ ก็คือ... มคี วามรับผิดชอบ เพอื่ ให้เรามคี วามรู้ และ สามารถไปถ่ายทอดใหเ้ พ่อื นเข้าใจ ใหเ้ พ่ือนมี “เราจะบอกเดก็ วา่ ทุนทเ่ี ราไดร้ ับมาจากมูลนิธิฯ เปน็ เงนิ ของ ความรู้เหมอื นกบั เรา เราไปตวิ แต่เพื่อนไมไ่ ด้ไปตวิ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว หนไู ปแล้วตอ้ งท�ำใหค้ ุ้มกบั ทเี่ ราได้ เรากต็ ้องเอาความร้ทู ่ีเราไปติวมาพฒั นาให้เพ่อื น ทุนมา มาถา่ ยทอดใหเ้ พื่อนใหไ้ ด้ เขาก็จะมีแรงฮึด ต้งั ใจทจ่ี ะน�ำ เข้าใจเหมือนกบั เรา หรอื เขา้ ใจมากขึ้นกว่า เมือ่ กอ่ น” ความรู้มาถ่ายทอดให้เพื่อนใหไ้ ดม้ ากที่สุด” “ดว้ ยความท่เี ป็นโรงเรียนประจ�ำ เรากจ็ ะอยดู่ ว้ ยกัน ก็จะรักกนั มาก ความ รวั้ โรงเรียน 41 เป็นเพื่อนกนั ก็จะดูออกว่าเวลาเรยี นใครเข้าใจใครไมเ่ ข้าใจ หลงั จากเลกิ ชัว่ โมงเรยี น ถา้ มีเวลาว่างเพอ่ื นกจ็ ะเข้ามาถาม เพราะเขามองวา่ เราเขา้ ใจเราทำ� ได้ เวลาเขามา ถาม เรากจ็ ะอธิบายให้ค�ำตอบเขา กบั ชว่ งใกล้สอบ กจ็ ะตวิ ให้เพ่ือน” เกมส์- ธรภทั ร โอหริ ัญกูล นักเรยี นช้ัน ม.๓ โรงเรยี นสตั ยาไส เลา่ ถงึ การช่วยเหลือแบ่งปนั ความรู้ในหมเู่ พอ่ื นทีท่ ำ� มาตลอด พรอ้ มกบั พูดถงึ ความรสู้ กึ ในการสลับบทบาท หน้าท่จี ากคนทมี่ กั เป็นผ้ชู ่วยเพอ่ื นมาเปน็ ผรู้ ับฟงั การถา่ ยทอดความรจู้ ากเพ่อื น “ตอนเรยี นในหอ้ งเรยี น เราเปน็ ผ้รู ู้ คอื เข้าใจสิ่งท่เี รยี นมากกวา่ (คณุ ครูแอบกระซิบวา่ เกมส์เปน็ เด็กเรยี นด)ี แตเ่ ม่ือเพอื่ นไปติวมาและนำ� ความรูม้ าบอก เพอ่ื นกก็ ลายเป็นผรู้ ู้ เรากลายเป็นผู้รบั เราก็ต้องตง้ั ใจฟงั เหมือนเวลาท่ีเพือ่ นมาถามเราและเขาก็ตั้งใจฟังเรา เวลาทเ่ี ขามาติวให้เรา เรากต็ อ้ งต้งั ใจฟัง เพราะเขาตัง้ ใจทจ่ี ะเอาความร้ทู ้งั หมดท่เี ขาได้รูม้ า ถา่ ยทอดใหเ้ ราร้เู หมอื นทเ่ี ขารู้ เราต้องเปน็ กำ� ลังใจใหเ้ ขาวา่ เขาสามารถ ทำ� ได้ เขาก็จะไดท้ �ำตอ่ ” ร้ัวโรงเรยี น 40

เมอื่ พอ่ ค้าต้งั ใจ เลือกขายส่ิงดี เรื่อง : สกุณี ทกุ วนั เสารแ์ ละอาทิตยบ์ รเิ วณลานจอดรถหน้าโรงแรมสามพรานรเิ วอรไ์ ซด์ ถูกปรับเปลย่ี น แสงดาว หารสระคู เป็น “ตลาดสขุ ใจ” พืน้ ทจี่ �ำหนา่ ยสนิ คา้ เกษตรอนิ ทรยี ์หลากหลายประเภท ท้งั พืชผกั ท้องถ่นิ พนักงานธนาคาร คุณแมน่ ้องลัคก้ี ผลไมต้ ามฤดกู าล ไม่เวน้ แมแ้ ต่กงุ้ และปลาทเี่ ลีย้ งแบบอนิ ทรยี ์ คือไมใ่ ช้สารเคมีใดๆ จากกลุม่ คุณแมล่ ูกหน่งึ ท่ีปรับเปลีย่ นวิถีการกินอย่หู ลงั จากมีลกู เล็ก เกษตรกรเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ของมูลนิธิสังคมสขุ ใจ อนั เป็นความตั้งใจของการสร้าง เธอต้งั ใจเสาะแสวงหาตลาดทางเลอื ก เลือกรบั ประทาน เลอื ก ตลาดทางเลอื กใหก้ บั ผบู้ ริโภค การใช้จา่ ย เลอื กบรโิ ภค เธอบอกว่าเปน็ การเลือกสรรสงิ่ ดีๆ ด้วย ความตั้งใจผลิตสนิ คา้ อินทรยี เ์ พอ่ื สง่ ตอ่ การบรโิ ภคทีป่ ลอดภัยใหก้ ับชมุ ชนและผสู้ นใจ ความสุข และพร้อมที่จะบอกตอ่ สง่ิ ดๆี สคู่ นรอบตวั ดว้ ยเชน่ กนั นั้น ไดส้ รา้ งแรงบันดาลใจ รับและส่งกันมาเป็นทอดๆ เรามาดูกนั วา่ ผผู้ ลิตหรอื เกษตรกร “ตลาดแบบน้ี (ตลาดสุขใจ) สรา้ งแรงบันดาลใจให้ จากรนุ่ สรู่ นุ่ น้ันเขาพดู ถึงการตัง้ ใจท�ำสง่ิ ดีๆ กันอย่างไร และแรงกระเพื่อมจากการสร้าง ครอบครัวเรามากคะ่ ต้ังแต่มลี ูกก็ต้งั ใจวา่ จะเลอื กของท่ดี มี ี ความดี ส่แู รงบนั ดาลใจในพื้นทเ่ี ล็กๆ แหง่ นใ้ี ห้ผลสง่ ตอ่ ถึงกันและกันอย่างไรเลา่ ประโยชน์และปลอดภัยใหก้ ับลกู และทสี่ ำ� คญั คือพอมีลกู ก็มีสงั คม แมๆ่ ของลูกเรากไ็ ด้บอกตอ่ ขอ้ มลู ดีๆ กัน สนทิ แดงพยนต์ เหมอื นการซอ้ื ยา ซอื้ อาหารตามทอ้ งตลาด การเตบิ โตของวิธนี ้ี ถา้ ในความรูส้ กึ ของครอบครวั เรานะคะ อยากให้ เนื้อสตั วท์ ี่บริโภควา่ มาจากไหน ทำ� ใหเ้ รารูถ้ ึงแหล่งผลิต และวธิ ี หัวหนา้ กลุม่ เกษตรกรท�ำประมงพัฒนาเกษตรพอเพยี ง ๔๙ จงึ ไปได้อยา่ งชา้ ๆ ขยายทีละน้อย ประเทศไทยมีตลาดอย่างนี้เยอะๆ เพราะว่ามีนอ้ ยเหลอื เกนิ ตลาด การปลกู เลี้ยง ดแู ล เรามัน่ ใจได้ในเรอ่ื งคณุ ภาพว่าปลอดภัย อ�ำเภอบา้ นแพว้ จงั หวดั สมทุ รสาคร กลุม่ พวกเราทีใ่ ชว้ ิธนี ้ีเพราะมีความคิดทวี่ ่า ถา้ เราตอ้ งการ อย่างนี้ท่ีบอกคือ ตลาดท่ที ำ� ให้ผู้บริโภคไดร้ บั รถู้ ึงท่มี าของพชื ผกั ทุกๆ สปั ดาหค์ รอบครวั เราจะขับรถมาจากสมุทรปราการ “คนเลย้ี งกงุ้ ส่วนใหญม่ ักพบปัญหาเล้ียงกุ้งแลว้ กุ้งออ่ นแอ ใหก้ งุ้ แข็งแรง เราตอ้ งทำ� ขึน้ เอง เราทำ� จลุ นิ ทรียผ์ ลไมห้ มกั เพื่อ เพอ่ื เลอื กสรรพืชผักผลไม้ เพราะวา่ ตัง้ แตเ่ รามลี กู ก็อยากใหล้ กู ได้ สว่ นใหญ่เขาจะใช้วิธีแก้ปญั หาดว้ ยการซ้อื ยา ซอื้ วิตามินแลว้ ก็ เลยี้ งก้งุ เราสร้างภมู คิ ุ้มกันใหก้ ับกุ้ง กเ็ ทา่ กบั เราสรา้ งภูมิคุ้มกันให้ บรโิ ภคของทปี่ ลอดภัย มาไกลหนอ่ ยแต่เราร้สู ึกว่าดกี ว่าเอาสะดวก หวา่ นใหก้ งุ้ กนิ ยง่ิ ซอื้ กย็ งิ่ ตอ้ งเพมิ่ ปรมิ าณ กลมุ่ เราจงึ ไดม้ กี ารรวมตวั ง่ายๆ แต่ไม่รวู้ า่ มสี ารพิษหรือสารเคมีอะไรไหม และหาความรเู้ พ่อื หาทางออก ได้ไปเรยี นรูเ้ รอ่ื งการท�ำจลุ นิ ทรีย์ ตัวเอง เรามกี ารประชมุ และ พอเราเห็นคนท�ำสง่ิ ดๆี อย่างน้ี ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรเอง ผลไม้หมกั มาผสมกบั อาหารเพอื่ น�ำมาเลี้ยงกงุ้ พบวา่ ก้งุ แข็งแรง บอกยำ้� กันเสมอวา่ การดแู ล คนท�ำตลาด หรอื ผ้บู ริโภคท่เี ปน็ เพอ่ื นๆ กนั เรากจ็ ะบอกตอ่ ขอ้ มูล สขุ ภาพดีขนึ้ และไม่ตอ้ งใช้ยาอีกเลย ตวั เอง ดูแลสิ่งแวดลอ้ ม ดแู ล กบั เพอ่ื นหรอื คนทสี่ นใจ ทง้ั บอกเลา่ เรอื่ งตลาดดๆี ไมว่ า่ จะตลาดทนี่ ี่ พอพวกเราทำ� เรากเ็ หน็ วา่ สง่ิ เหลา่ นี้ สงั คมเปน็ เร่ืองท่เี ราตอ้ ง และทีอ่ น่ื ๆ และก็แบ่งปันข้อมูลทม่ี ปี ระโยชนต์ ่างๆ เกี่ยวกบั การ มันดี คือ ไม่ตอ้ งใช้ยา ไมต่ อ้ งท�ำร้าย ชว่ ยกันรบั ผิดชอบ” ด�ำเนินชีวิตท่จี ะท�ำใหค้ ุณภาพชีวติ เราดีขน้ึ ค่ะ” สิง่ แวดล้อม เรากเ็ ลยคอ่ ยๆ ขยายความรู้ ใหก้ บั กลุม่ ผู้เลี้ยงกงุ้ ตงั้ ใจว่าอยากให้คน ได้ทำ� ในส่งิ เหลา่ นีไ้ ปด้วยกนั จะได้ช่วยกนั ดแู ลส่งิ แวดล้อม ดูแลแหลง่ น�ำ้ ไปด้วยกนั แตเ่ พราะวธิ ีนีค้ ่อนขา้ งย่งุ ยาก มันไม่ง่าย ร้ัวโรงเรียน 42 รวั้ โรงเรยี น 43

เร่ืองเล่ารอบบ้าน จากวนั นนั้ ถึงวนั นี้ ๑๑๖ ปีท่ีนางเลงิ้ นางเลงิ้ ในอดตี เรื่อง : สุภัทรา ณัฐพูลวัฒน์ เม่อื คร้งั สมัยรตั นโกสนิ ทร์ตอนต้น พ้นื ที่ ภาพ : สุทธนา ขจรวงศ์ นางเล้งิ มชี ือ่ เรียกตา่ งๆ อาทิ ทงุ่ สม้ ป่อย บา้ นสนามควาย ถอื เปน็ พน้ื ทร่ี กรา้ งหา่ งไกลพระนคร พน้ื ที่ดงั กลา่ วจงึ ถูกใชเ้ ล้ียงช้างหลวงทีม่ ิได้ข้ึน ระวางในราชการปล่อยใหห้ ากนิ เอง รวมถึงเปน็ พืน้ ทีพ่ ระราชทานเปน็ ถน่ิ อาศยั ของเชลยสงคราม และชาวตา่ งชาติ ดงั น้นั พื้นที่นางเลง้ิ หรอื ทุง่ ส้มปอ่ ย หรือบ้านสนามควายนจี้ ึงประกอบไปดว้ ย กลุ่มคนหลายเชอ้ื ชาติ ได้แก่ ชาวเขมร ชาวมอญ ชาวจนี รวมทงั้ ชาวไทยมสุ ลมิ พนื้ ทย่ี ่านนางเล้งิ ในอดีตนั้น ปัจจบุ นั ถกู แบ่งออก จนเมอ่ื มีการขุดคลองผดงุ กรงุ เกษมข้ึนในปี พ.ศ. ๒๓๙๔ เป็นชมุ ชนย่อยๆ ถึง ๔ ชุมชน คือ ชุมชนศภุ นิมิต ๑ ในสมัยลน้ เกล้าฯ รชั กาลที่ ๔ เพอ่ื ขยายพระนครจึงกินพื้นท่ี ชมุ ชนศภุ นมิ ิต ๒ ชุมชนวดั สุนทรธรรมทาน (วัดแค) บรเิ วณนางเลิ้งเขา้ ไปด้วย สง่ ผลใหน้ างเลิ้งคึกคกั ไปด้วยการซ้ือขาย ชุมชนวัดโสมนสั วรวหิ าร ลักษณะการแบง่ เป็นชมุ ชน ทางเรอื เต็มไปดว้ ยพอ่ คา้ แมค่ า้ และผู้คนเข้ามาจบั จ่ายใชส้ อยเพิ่ม ย่อยๆ ดงั กล่าวกเ็ พอ่ื ความสะดวกในการทำ� งาน ในการ ขึ้นอย่างรวดเรว็ ติดตอ่ หน่วยงานราชการ เพือ่ การปกครองหรือ ยา่ นนางเลง้ิ มีช่อื เสียงเรือ่ งคา้ ขายโอง่ หากพูดถึงโอ่งนางเลง้ิ อะไรก็แล้วแต่ หากจะถามถึงความผกู พนั การใชช้ วี ติ ในสมยั น้ัน ไดร้ ับความนิยมมากเน่ืองจากมีขนาดใหญ่สามารถจนุ ำ้� ประจ�ำวัน คนในชุมชนทง้ั ๔ กย็ ังรู้สึกเปน็ หน่งึ เดียวกัน ได้ถึง ๑๒ ปีบ๊ สง่ ผลใหม้ เี รือและแพเขา้ มาติดตอ่ ซอื้ ขายกนั เพ่มิ ข้ึน ไม่เปลย่ี นแปลง เฉกเช่นในอดตี ที่ผา่ นมา สงั เกตได้จาก มาก จนเป็นเหตใุ หต้ ลาดนำ�้ คลองผดุงกรุงเกษม มีความจอแจเกิน กิจกรรมของนางเล้ิงเคยมีมาอย่างไร ปัจจบุ นั คนรุน่ ลูก ไป จนต้องขยับขยายขึ้นมาบนบก มกี ารตดั ถนนเพ่ือใหก้ าร รุน่ หลานก็ยังคงรักษาและจัดสบื เนอื่ งตลอดมา คมนาคมทางบกเปน็ ไปดว้ ยความสะดวกรวดเร็ว ร้วั โรงเรียน 44 รัว้ โรงเรยี น 45

ตลาดบกแหง่ แรกของไทย ชอื่ ไหนดหี นอ ชนังเลง้ิ อีเล้ิง นางเล้งิ ตลาดนางเลง้ิ เปน็ ตลาดบกแหง่ แรก จากหลักฐานท่กี ลา่ วอ้างถงึ ที่มาของช่อื นางเล้ิงน้นั มีอยู่ ๒ ของประเทศไทย กอ่ ตั้งในสมัยลน้ เกลา้ ฯ แนวทาง แตท่ ้งั สองแนวทางกล็ ้วนเก่ยี วเนื่องกบั โอง่ หรอื ตมุ่ ใหญ่ รัชกาลท่ี ๕ มอี ายยุ าวนานหนงึ่ ร้อยกวา่ ปี อย่างแน่นอน มาแล้ว เปดิ ขน้ึ อย่างเปน็ ทางการเม่ือวนั ท่ี แนวทางแรก เช่อื ว่าคำ� ว่านางเล้ิงกร่อนมาจากภาษาเขมร ๒๙ มนี าคม พ.ศ. ๒๔๔๓ พระบาทสมเดจ็ คือคำ� วา่ “ชนัง” ในภาษาเขมรแปลวา่ โอ่งหรอื ตุ่มใหญ่ หลงั พระจุลจอมเกลา้ เจ้าอย่หู วั เสด็จเปน็ องค์ สงครามระหวา่ งไทยกบั เขมรเสร็จส้ินลงในสมยั รชั กาลท่ี ๑ ได้มี ประธานในพิธเี ปดิ เม่อื มีการตัดถนนแล้ว ชาวเขมรกลมุ่ หนง่ึ เข้ามาอาศัยอย่ใู นกรงุ เทพฯ โดยตงั้ ถน่ิ ฐานใน ตลาดนางเลิง้ จงึ ขยับขยายขนึ้ มาคา้ ขาย บา้ นสนามควาย จากถนนพะเนยี งไปจรดถนนหลานหลวงใน สนิ คา้ กนั บนบกมากขึ้น ประกอบกบั มี ปจั จบุ นั นนั้ มฝี มี อื ในการปน้ั ตมุ่ ไห โอง่ หมอ้ ดนิ เผา บา้ นสนามควาย อาคารร้านค้าให้เชา่ ตลาดนางเล้งิ จงึ ได้ จงึ ถกู เรยี กชอ่ื ตามโอง่ ของชาวเขมรกลมุ่ นว้ี า่ “ชนงั ลงิ ” จนลดทอน กลายเป็นตลาดบกอยา่ งเตม็ ตัว แตเ่ มอื่ ใหส้ น้ั ลง เปน็ “นงั เลิง” และเหลือเป็น “นางเลิ้ง” ในปัจจบุ นั ความเปลีย่ นแปลงจากตลาดนำ้� กลายมา แนวทางทสี่ อง คำ� วา่ “นางเลงิ้ ” เปน็ การกร่อนคำ� มาจาก เป็นตลาดบก การค้าขายโอง่ ท่ีเปน็ สินคา้ ภาษามอญ ว่า “อีเลิ้ง” โดยอ้างอิงถึงบรเิ วณทุ่งสม้ ป่อย ซึง่ เป็นถน่ิ ขนึ้ ชอื่ เม่อื ครั้งยงั เปน็ ตลาดนำ้� นัน้ ได้ค่อยๆ ที่อยู่อาศยั ของชาวรามัญ (มอญ) ทม่ี อี าชีพรบั ตุม่ ดนิ ขนาดใหญ่ หมดความนยิ มไป ตลาดนางเลง้ิ ไดก้ ลาย จากปทมุ ธานีท่เี รียกวา่ “ต่มุ อีเลิง้ ” มาวางขาย จนเม่ือ มาเปน็ ศนู ยร์ วมความบนั เทงิ ทม่ี ที ง้ั โรงลเิ ก ย่านนางเล้งิ มกี ารขยายตัว พ่อค้าและนักทอ่ งเท่ยี วจึง โรงภาพยนตร์ หรอื แม้แตส่ ำ� นกั โคมเขยี ว เรยี กย่านน้วี า่ “บ้านอเี ล้งิ ” ต่อมาคนท่วั ไปคงจะเห็น ควบค่ไู ปกับตลาดทเี่ ตม็ ไปด้วยสินคา้ พอ้ งกันว่าชอื่ “อเี ลิง้ ” น้นั ไมส่ ภุ าพ จงึ ไดเ้ ปล่ยี นเรยี ก ที่หลากหลาย ชวนใหผ้ ้คู นในสมัยนัน้ ได้ ใหมว่ า่ “นางเลิ้ง” เข้ามาจบั จ่ายใช้สอยหรือหาความส�ำราญ กับกจิ กรรมนานาทย่ี า่ นนางเลิง้ มใี ห้ รั้วโรงเรียน 47 ร้ัวโรงเรยี น 46

ณ นางเลงิ้ ๒๕๕๙ ศาลกรมหลวงชุมพร หากเข้ามา ศาลาเฉลิมบรุ ี บรเิ วณตลาด วัดสุนทรธรรมทาน เพยี งแค่เดิน สมัยกอ่ นย่านนางเล้ิงนับวา่ เปน็ ถึงตลาดนางเล้งิ แลว้ มองทใี่ จกลางดา้ น นางเลงิ้ ในปจั จุบันเรายงั คงไดเ้ ห็น “โรง ข้ามถนนพะเนียง ถนนเลก็ ๆ จะพบกับ ศูนยร์ วมความบันเทงิ ในกลางกรงุ มี ในจะเห็นศาลเสดจ็ พอ่ กรมหลวงชมุ พร หนังเฉลมิ ธานี” โรงหนังที่รุ่งเรอื งในอดตี วัดสุนทรธรรมทาน ซึง่ เปน็ วดั ท่ีสร้างข้นึ ราชตฤณมัยสมาคม (สนามม้านางเล้ิง) เขตอุดมศกั ด์ิ (เสด็จเตยี่ ) มลี กั ษณะ ตงั้ อย่รู ่วมกับชุมชนมาจนถงึ ปัจจบุ ัน หาก มาแต่คร้งั โบราณ เดมิ ชอ่ื วัดแค หรือวัด ทั้งยังมีโรงหนงั ศาลาเฉลมิ ธานี ชาวบา้ น คลา้ ยคลงึ กับศาลเจา้ ของจนี เนื่องจาก นับจากวนั เริ่มเปิด ๑๘ ธนั วาคม ๒๔๖๑ สนามกระบอื มีวหิ ารหลวงพ่อบารมี แถวนัน้ เรยี กกนั ตดิ ปากว่า “โรงหนงั ทาสีแดงท้ังศาล เป็นทเ่ี คารพกราบไหว้ จนถงึ วนั น้ี นบั ได้ ๙๘ ปี สง่ิ ศักด์ิสทิ ธค์ิ วู่ ัดเปน็ พระพุทธรปู ทช่ี าว นางเลงิ้ ” ซงึ่ ปจั จบุ นั ปลอ่ ยร้าง รอการ ของชาวบ้านย่านน้ี นางเลง้ิ เคารพและศรัทธา บูรณะซ่อมแซม ปัจจบุ ันตลาดนางเล้งิ เปน็ ของสำ� นกั งานทรัพย์สนิ สว่ นพระมหา กษตั ริย์ เปน็ แหลง่ รวมอาหารคาวหวาน และขนมโบราณทม่ี ชี อ่ื เสยี ง เช่น ขนม ทมี่ าภาพ : www.livingculturalsites.com ละครชาตรี บ้านนางเลิ้ง บา้ นเตน้ รำ� บา้ นนราศิลป์ จาก เบื้องโบราณ ร้านบะหมี่ ส.ร่งุ โรจน์ วดั แคเดนิ ลัดเลาะออกทาง ถ.หลานหลวง เลยี้ วซ้ายอกี นิดจะเจอ ไสก้ รอกปลาแนม ข้าวเกรยี บปากหม้อ ตรอกละคร เปน็ ท่ตี ้ังของคณะละครชาตรี ลิเก โขน เปน็ บา้ นท่ีมี นนั ทาขนมไทย ท�ำใหต้ ลาดนางเล้งิ ยงั คง ประวตั ศิ าสตรย์ าวนานจนปจั จุบนั ใกลก้ ันกบั ร้านกลว้ ยทอดชือ่ ดงั คกึ คกั ในระยะเวลาสนั้ ๆ คอื ชว่ งมอื้ อาหาร รา้ นเอ๊ยี มมว่ ง คอื “บา้ นนางเลง้ิ หรอื บ้านศลิ ปะ นับเป็นพน้ื ทเี่ ปดิ ตั้งแต่สายๆ จนถงึ บ่าย หลงั จากน้ัน ให้คนรนุ่ ใหมไ่ ดเ้ ข้าไปเรยี นรเู้ ก่ียวกับละครชาตรแี บบด้ังเดมิ ตวั ตลาดและร้านรวงตา่ งๆ กท็ ยอยเกบ็ ลกึ เขา้ ไปในตรอกเดียวกัน จะพบกับ “บา้ นเตน้ ร�ำ” ซง่ึ เปน็ ขา้ วของ บ้างก็เตรยี มวตั ถุดิบส�ำหรับการ พพิ ธิ ภณั ฑแ์ ละโรงเรยี นสอนลลี าศ ไมไ่ กลกนั นกั มี “บา้ นนราศลิ ป”์ คา้ ขายในวนั รุ่งข้นึ วนเวียนอยา่ งนี้ ทร่ี บั งานแสดงโขน ละครชาตรี และเป็น “บา้ นเครือ่ ง” ท่ผี ลติ มาตลอด นอกจากน้ใี นชมุ ชนนางเลง้ิ ยงั มี เครอ่ื งแต่งกายโขนให้กับคณะการแสดงต่างๆ สถานทีส่ ำ� คญั ๆ ใกล้เคียงกบั ตวั ตลาดรอ ให้เราเขา้ ไปเรยี นรูว้ ิถี วฒั นธรรม และ ขอบคณุ ข้อมลู จาก ศรทั ธาของคนนางเลิ้งอกี ดว้ ย คุณสมพงษ์ โชตวิ รรณ และคณุ ปยิ ดา สจุ ิรตั นนั ท์ คณะกรรมการชมุ ชนศภุ นิมิต ๒, เอกสารศาลาเฉลมิ ธานกี บั นางเล้ิง โดย โดม สขุ วงศ์ รัว้ โรงเรียน 48 www.facebook.com/Baannanglerng, www.Bangkok.co.th ร้วั โรงเรยี น 49

อุปกรณท์ ี่ตอ้ งมี เบิกบานงานประดิษฐ์ ไมย้ างพารา โคมไฟ ลวดกรงไก่ จากของเล่น เรื่องและภาพ : ปักเป้า ชุดหลอดไฟ ยามว่างจากการอ่านหนงั สอื ชวนมาท�ำโป๊ะไฟ เข็มขัดรดั ของ ชุดของเล่น สุดน่ารกั ไวใ้ ชท้ บ่ี า้ น จะต้ังสวยๆ สว่างใส อยู่ขา้ งเตยี ง หรอื วางไวบ้ นโตะ๊ อา่ นหนงั สอื ก็น่ารัก ก๊กุ กิ๊ก สดใสยามหันไปมอง ประกอบไม้เป็นฐานโคมไฟ ๑๒ ขนาด ๖x๖ น้ิว ตัดลวดกรงไก่ ขนาด ๑๒x๑๒ น้ิว มว้ นเปน็ วงกลมรดั ดว้ ยเขม็ ขดั รดั ของ ตดั สว่ นเกนิ ออก ประกอบชุดสายไฟตรงจดุ กึง่ กลาง ๓ คลอ้ งของเล่นไปกับลวดกรงไก่ ๔ ของฐานไม้ ร้ัวโรงเรยี น 50 รวั้ โรงเรียน 51

บทความพิเศษ นิตยสารร้ัวโรงเรยี น “…เศรษฐกจิ พอเพยี งหรอื ปรัชญาของ เปน็ นติ ยสารทม่ี ลู นธิ ยิ วุ สถริ คณุ จดั ทำ� ขน้ึ เพอ่ื สง่ ตอ่ เรอื่ งราวดๆี ในแวดวงการศกึ ษาไทยสเู่ ครอื ขา่ ยสถานศกึ ษา บคุ ลากรดา้ นการศกึ ษาและผสู้ นใจทว่ั ไป เศรษฐกิจพอเพยี ง ถา้ คดิ ให้กว้าง คดิ ใหไ้ กล ไม่ไป เขม้ งวดกบั ความหมาย แต่เอาหัวใจของปรัชญาของ เจา้ ของลิขสทิ ธิ์ : มูลนธิ ิยุวสถิรคุณ คณะบรรณาธกิ าร : ดร.ปรียานุช ธรรมปิยา ปราโมทย์ โชตมิ งคล นายแพทยธ์ ีระเกียรติ เจริญเศรษฐศลิ ป์ เศรษฐกิจพอเพียง คือความพอประมาณ ความมเี หตุผล ผาณิต เกดิ โชคชยั ณัฏฐา มูนจินดา สุดารัตน์ ภวภูตานนท์ แพทยห์ ญงิ ปยิ าภสั ร์ จิตภิรมย์ ชินธดิ า วิจติ รโสภาพนั ธ์ วินิทรา ชยั เฉนยี น การมภี มู ิคุม้ กัน การใช้คณุ ธรรมความดี และการใชค้ วามรู้ ธนนิ นาท เช่ยี วชาญพานิชย์ วัศพล ศรีระพกุ บรรณาธกิ ารเลม่ : ระพพี รรณ พฒั นาเวช ผู้ชว่ ยบรรณาธกิ ารเลม่ : อรสรวง บตุ รนาค ความสามารถอยา่ งรอบคอบ ระมัดระวัง และเหมาะสม ถา้ ใชป้ รชั ญา ภาพปก : ชีวัน วิสาสะ ศิลปกรรม : แกว้ ตา โภวาที พสิ ูจน์อกั ษร : สุดาพร แซ่อง้ึ จัดพิมพ์ : สหมิตร พริน้ ทต์ งิ้ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง ในความหมายเชน่ นี้ แลว้ น�ำมาประยกุ ต์ใช้ให้เป็นยทุ ธศาสตร์ และ สงวนลขิ สทิ ธิ์ตามพระราชบญั ญตั ลิ ิขสิทธ์ิ แผนงานในระดบั ประเทศและระดับโลก รวมทัง้ ทำ� ให้เปน็ ขบวนการทางสงั คม (Social Movement) ที่ทกุ ฝ่ายในสังคม รวมถึงฝา่ ยการเมอื ง ภาครัฐ ภาคธรุ กจิ ภาคประชาสังคม ภาคประชาชนและชุมชน ตลอดจนนกั การศาสนา นักวชิ าการ นกั วิชาชพี ศิลปนิ ฯลฯ มารว่ มกันขับเคลอ่ื น “ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง” โดยอาจ ดัดแปลงรูปแบบ กระบวนการ วิธกี าร ฯลฯ ให้เหมาะสมกับบรบิ ทและสถานการณ์ใน แต่ละกรณดี ้วยก็ได้ เชอ่ื ได้วา่ จะสามารถชว่ ยบรรเทาและแก้ปัญหา “อภิมหาอนั ตราย ของประเทศไทยและของโลก” ได้ แม้จะต้องใชเ้ วลาและความมานะพยายามอย่าง ย่ิงยวด เนอื่ งจากปญั หาทมี่ นุษย์ ประเทศ และโลกไดป้ ล่อยปละละเลยใหป้ ญั หาสงั่ สม มาเป็นเวลานานนบั ศตวรรษแล้ว…” เอกสาร “อภมิ หาอันตรายของประเทศไทยและของโลกกับ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง” เรียบเรียงจากข้อคดิ เหน็ ของนายไพบลู ย์ วัฒนศริ ิธรรม (พ.ศ. ๒๔๘๔-พ.ศ. ๒๕๕๕)  ในการประชมุ ของคณะกรรมการเตรียมงานประชุม ประจ�ำปี ๒๕๕๔ ของมูลนธิ ิสถาบันวิจัยและพฒั นาประเทศ ตามปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (มพพ.) ร้ัวโรงเรียน 52


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook