Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รั่วโรงเรียน เล่ม 1 Magazine

รั่วโรงเรียน เล่ม 1 Magazine

Description: รั่วโรงเรียน เล่ม 1 Magazine

Search

Read the Text Version

มูลนิธิยุวสถริ คุณ FOUNDATION OF VIRTUOUS YOUTH ๒๑๔ ถนนนครสวรรค แขวงวัดโสมนัส เขตปอ มปราบศัตรพู าย กรุงเทพมหานคร ๑๐๑๐๐ โทรศพั ท ๐ ๒๒๘๒ ๐๒๑๖ โทรสาร ๐ ๒๒๘๒ ๐๒๓๕ www.vyouth.org มูลนิธยิ วุ สถริ คณุ ศนู ยส ถานศึกษาพอเพยี ง มลู นธิ ิยวุ สถิรคุณ ๑๗๓ ถนนนครราชสีมา เขตดุสติ กรงุ เทพมหานคร ๑๐๓๐๐ โทรศพั ท ๐ ๒๗๘๗ ๗๐๓๓-๔ โทรสาร ๐ ๒๒๘๒ ๘๒๒๖

“ชว่ ยกันสรา้ งคนดี ให้บา้ นเมอื ง”

สารบญั เรอื่ งเดน่ ประจำ� ฉบับ ๓ บทสัมภาษณ์ประธานมูลนิธิ “มลู นธิ ยิ วุ สถริ คุณกบั เปา้ หมายสร้างเดก็ ไทย ให้ม่ันคงอยูใ่ นคุณความด”ี ศนู ย์สถานศึกษาพอเพียง ๑๐ ศูนย์สถานศกึ ษาพอเพียงกับกลยุทธก์ ารพัฒนาสถานศึกษาพอเพียง ใหเ้ ขม้ แข็งและย่งั ยืน โรงเรียนอนบุ าลประชารฐั สามัคคี ไอ เลิฟ ยู ชู ๕ นวิ้ ๑๘ สู่ “ศูนยก์ ารเรยี นร้ตู ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งด้านการศกึ ษา” ศูนยโ์ รงเรยี นคุณธรรม ๒๐ ๒๔ พฒั นาโรงเรียนสร้างคนดี เป้าหมายหลกั “ศูนย์โรงเรียนคุณธรรม มลู นธิ ยิ ุวสถริ คุณ” ถอดรหสั ความสำ� เร็จ “บางมูลนากภมู ิวิทยาคม” โรงเรยี นตน้ แบบคุณธรรมจรยิ ธรรม Kid SD ๓๒๒๘ ศนู ย์จติ วทิ ยาการศกึ ษากับแนวทางการปรบั “ใจ” เพ่ือการศกึ ษาไทยก้าวหนา้ เปิดใจเชอื่ มใจ โรงเรยี นวดั รางบวั ครู-นักเรียน-ผู้ปกครอง ชวนคุย ๓๖ ชวนอ่าน...หนงั สือดี ๔๒ เบกิ บานงานประดิษฐ์ ๔๖ บทความพเิ ศษ ๔๘ อุปนิสัยศกึ ษา รัว้ โรงเรยี น 2

เร่ืองเด่นประจ�ำฉบับ มูลนธิ ยิ ุวสถิรคณุ กับเปา้ หมายสรา้ งเดก็ ไทยให้มนั่ คงอยใู่ นคณุ ความดี ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เปน็ ปรชั ญาทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พระราชทานใหก้ บั คนไทย ทัง้ ประเทศตัง้ แต่ปี พ.ศ.๒๕๔๒ เพ่อื เป็นหลกั คิดและหลักปฏบิ ัติใหก้ บั ประชาชนคนไทยได้ยดึ เปน็ แนวทางในการดำ� เนนิ ชวี ติ อยรู่ ว่ มกนั อยา่ งมคี วามสขุ ทา่ มกลางกระแสการเปลยี่ นแปลงทงั้ ทางสงั คม และเศรษฐกจิ ทถ่ี าโถมเขา้ มาอยา่ งรวดเรว็ การน้อมนำ� หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจ�ำวัน จึงเป็นหนทางทจ่ี ะชว่ ยนำ� พาคนไทยและประเทศไทยใหผ้ า่ นพ้นวกิ ฤติในทกุ ๆ ดา้ นและเจริญก้าวหน้าต่อไปอย่างเข้มแข็งและยง่ั ยืน “มูลนธิ ยิ วุ สถริ คณุ ” เป็นหนว่ ยงานหน่งึ ท่ีตง้ั ข้นึ ภายใตจ้ ดุ ม่งุ นายแพทย์เกษม วัฒนชยั องคมนตรี ในฐานะประธานมูลนิธ ิ หมายเพือ่ ขบั เคลอ่ื นปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสสู่ ถานศึกษา แมจ้ ะ ยุวสถิรคณุ ได้ใหเ้ กยี รติเลา่ ถงึ ทมี่ าของมลู นิธิ เป้าหมาย โครงสรา้ ง เพง่ิ จดทะเบยี นก่อตัง้ มูลนธิ ขิ ้ึนเม่อื วันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๗ แต่กเ็ กดิ การทำ� งาน และการน้อมน�ำแนวพระราชด�ำริของพระบาทสมเด็จ จากการตอ่ ยอดของกลุ่มบุคคลและองคก์ รทข่ี ับเคลื่อนเร่ืองปรชั ญาของ พระเจ้าอยู่หวั มาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนสูส่ ถานศึกษาเพือ่ สรา้ ง เศรษฐกิจพอเพยี งส่กู ารปฏบิ ัติมายาวนานกว่า ๑๐ ปี ศาสตราจารย์ เยาวชนทีด่ ี มีคุณธรรม และมคี ณุ ภาพทางการศึกษา รวั้ โรงเรียน 3

“ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งนีเ้ ปน็ กลไกสำ� คัญในการทำ� ใหค้ นหายจน ทำ� ใหช้ มุ ชน เข้มแขง็ ท�ำใหอ้ งคก์ รเขม้ แขง็ ท�ำให้ธุรกจิ เอกชนมธี รรมาภบิ าลมากขน้ึ ฉะนน้ั ประโยชนข์ อง ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งนั้นส�ำคญั เหลือเกนิ มหี นว่ ยงานหลายแหง่ คดิ ตรงกันว่า เราจะ น�ำเอาปรัชญานีไ้ ปเผยแพรอ่ ย่างไรเพอื่ ให้เกิดประโยชน์สูงสดุ สถานทห่ี น่งึ ที่เราคดิ ว่าควรแก่ การเผยแพรค่ ือ สถานทีเ่ กีย่ วกับการอบรมศึกษาของเยาวชน จะเห็นวา่ ทั้งสำ� นักงานคณะ กรรมการพัฒนาการเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ทง้ั สำ� นกั งานทรัพยส์ ินสว่ นพระมหากษัตรยิ ์ ไดร้ ่วมกันทำ� โครงการเผยแพรป่ รัชญานไ้ี ปยงั สถานศกึ ษาทุกระดับ ต้งั แตป่ ระถม มัธยม อาชีวะ และมหาวทิ ยาลยั ดร.ปรยี านชุ ธรรมปิยา (เดิม พิบูลสราวุธ) ได้ทำ� งาน ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการมาประมาณ ๙-๑๐ ปแี ลว้ โดยความร่วมมอื ของผบู้ รหิ าร ครูอาจารย์ รวมท้งั นกั เรียน นิสติ นกั ศึกษาดว้ ย มสี ถานศึกษาหลายแห่งท่ไี ดน้ �ำเอาปรชั ญานีไ้ ปใช้แล้วเกิดประโยชน์ ทัง้ ตอ่ ตนเองและต่อส่วนรวมด้วย ท่านผอู้ ำ� นวยการสำ� นกั งานทรพั ยส์ นิ สว่ นพระมหากษตั รยิ ์ ดร.จริ ายุ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา จงึ มคี วามเหน็ ว่า นา่ จะตง้ั เป็นมูลนิธขิ ึน้ มา กลา่ วถึงการกอ่ ตงั้ มลู นิธิกต็ ้องย้อนไปอกี สกั นดิ เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๓ เราได้เริ่มโครงการโรงเรยี นคณุ ธรรมท่ีโรงเรียน บางมูลนากภมู วิ ิทยาคม อ.บางมลู นาก จ.พิจติ ร หลังจากได้ท�ำสักปี เศษๆ กไ็ ด้ถอดบทเรียนว่า เกดิ อะไรขนึ้ ผลลัพธเ์ ป็นอยา่ งไร ผลกระทบ เปน็ อย่างไร ก็ออกมาในทางบวกมากเลย หลงั จากนนั้ อกี ๒ ปี คือ พ.ศ.๒๕๕๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ทรงมีพระราชด�ำริและได้ พระราชทานพระราชทรพั ยจ์ ัดตั้งกองทนุ การศกึ ษาขึน้ โดยมีสมเดจ็ พระเทพรตั นฯ ทรงเปน็ องค์ทปี่ รึกษา แล้วกใ็ ห้คณะองคมนตรี และผู้ หลกั ผูใ้ หญ่ในบ้านเมอื งน้มี าเป็นอาสาสมัครท�ำงานในโครงการกองทนุ การศึกษา โครงการกองทนุ การศกึ ษาจงึ มวี ตั ถปุ ระสงคใ์ หโ้ รงเรยี นสรา้ งคนดี ใหก้ ับบ้านเมือง และมีพระราชกระแสทรงแนะนำ� วา่ ให้เลือกโรงเรยี น ที่คอ่ นขา้ งจะขาดแคลนในภาคกลาง แลว้ ลองทำ� ดสู ักปีสองปี ถา้ ท�ำ สำ� เรจ็ มีความม่นั ใจ มีรูปแบบ ใหข้ ยายไปจงั หวดั อื่น เราก็ไดเ้ ลือก โรงเรยี นสามัญในภาคกลาง ๑๙ โรง รวมอาชวี ะ และปตี ่อมา ๒๕๕๖ ก็เหมือนกัน มีอะไรทเี่ ราจะช่วยครู เพื่อใหค้ รูพร้อมทจี่ ะสอนให้ดีทีส่ ดุ ก็เลอื กโรงเรยี นสามญั ไดอ้ กี ๓๕ โรงในภาคกลาง ทง้ั ๒ ปี เรานอ้ มนำ� นักเรียนก็เชน่ กันนะครบั ทำ� อย่างไรเราจะช่วยนักเรยี นให้พรอ้ มทจี่ ะ แนวพระราชดำ� รขิ องพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ ัว โดยเราจะชว่ ย เรยี นอย่างดีที่สดุ อันน้ีเราเรียกวา่ การสรา้ งความพรอ้ ม ซึง่ ก็จะมี โรงเรียน ๒ เรือ่ งดว้ ยกัน คอื หนึง่ ช่วยสรา้ งความพร้อมใหก้ ับโรงเรียน โครงการย่อยๆ เยอะแยะเลยนะครบั สอง ชว่ ยสร้างความดใี หเ้ กิดข้นึ ในโรงเรียนใหไ้ ด้ ส่วนเร่อื งการน�ำความดีเขา้ สูโ่ รงเรยี น เรากเ็ อาโมเดลของ เร่อื งสร้างความพรอ้ มใหก้ บั โรงเรยี น เรากม็ หี ลกั คดิ งา่ ยๆ วา่ เรา โรงเรียนคุณธรรม ซ่ึงเราไดถ้ อดบทเรียนมาจากโรงเรียนบางมูลนาก จะเข้าไปสนับสนุนผูบ้ รหิ าร มีอะไรท่ขี าดตกบกพร่อง ช่วยเขาได้ เราจะ ภมู วิ ิทยาคมไปใส่ หลังจากทำ� ไปแล้วเกิดผลในแงท่ ี่วา่ โรงเรยี นทกุ แหง่ ช่วยเต็มที่ เพือ่ ให้ผู้บรหิ ารพร้อมท่จี ะบริหารโรงเรียนใหด้ ีทีส่ ุด สว่ นครู เกดิ การเปลี่ยนแปลงในทางทดี่ ีขน้ึ หมดเลย ทัง้ ท่ีเปน็ เปา้ หมายของเราก็ รัว้ โรงเรยี น 4

ของชอ่ื “มูลนิธิยวุ สถริ คณุ ” ว่า “ยุว” หมายถงึ เยาวชน “สถริ ” คือ เสถียร หมายถงึ ความมนั่ คง ส่วนคำ� วา่ “คณุ ” คือ ความดีงาม นัน่ เอง แปลกนั ง่ายๆ คอื เปน็ มูลนธิ ิทจ่ี ะให้เยาวชนไทยม่ันคงอยู่ในความดี คือ เรอื่ งโรงเรียนของคนดี และผลตามมาอีกอนั หน่ึงท่ีเราไม่ได้คาดคิด ๓ ศนู ย์ ๓ กลไก เพอื่ ขับเคลื่อนสเู่ ปา้ หมาย ก็คือ การสอบโอเน็ตของทกุ โรงเรียนดีขึน้ มาหมดเลย เด็กถา้ จบ ม.๖ ก็ สามารถเข้ามหาวิทยาลัยทด่ี ๆี สาขาทด่ี ๆี จบ ม.๓ ก็ไปตอ่ โรงเรียนท่ี ในการขบั เคล่ือนการท�ำงานของมลู นิธิ ท่านประธานมูลนิธิ ดีๆ ไดห้ มด อนั น้กี ย็ งั ความปลืม้ อกปลื้มใจให้กบั ครู นักเรยี น ผู้ปกครอง ยวุ สถิรคุณ ไดเ้ ลา่ ถึงโครงสรา้ งการท�ำงานทสี่ อดประสานและเสรมิ และชุมชน นีเ่ ป็นบทเรียนท่เี ราได้ หลงั จากทีเ่ ราท�ำโครงการกองทุนการ ซง่ึ กันและกนั ว่า มลู นธิ ิมีโครงสร้างการท�ำงานทแี่ บง่ ออกเป็น ๓ ศนู ย์ ศกึ ษาพระเจา้ อยหู่ วั ไป ปรากฏการณอ์ นั หนง่ึ เกดิ ขน้ึ กค็ อื อยา่ งที่ จ.ลพบรุ ี ประกอบดว้ ย ศนู ยโ์ รงเรยี นคุณธรรม ศูนย์สถานศึกษาพอเพียง เราไปท�ำท่ีโรงเรยี นชยั บาดาลโรงเรยี นเดยี ว ปรากฏว่าอีก ๑๑ โรง เขา และศนู ยจ์ ิตวทิ ยาการศกึ ษา “เราไดต้ ้งั เจตนาหรือวตั ถุประสงคข์ อง ก็ขอวา่ ชว่ ยทำ� ให้เขาหน่อยได้ไหม หรอื อย่างที่บางมูลนาก กม็ อี ีก ๑๐ มูลนธิ ิไว้ ๓ ขอ้ หลกั ๆ คอื เราจะส่งเสริมกิจกรรมที่จะนำ� ไปสู่การ กว่าโรงขอให้ทำ� ให้เขาหน่อย ที่อืน่ จังหวัดอืน่ กเ็ ชน่ กัน เราเรยี กโรงเรยี น สรา้ งคุณธรรม ซ่ึงเปน็ เง่ือนไขของการน�ำเอาปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอ สว่ นน้กี ันวา่ เปน็ สว่ นขยาย ซง่ึ ตรงน้ี ทา่ น ดร.จริ ายุ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา เพยี งไปใช้เป็นการสรา้ งคุณธรรม ซึ่งตรงนีเ้ รามีรูปแบบจากโรงเรยี น ท่านก็เกดิ ความคดิ ข้นึ มาวา่ ถ้าจะท�ำส่วนขยายใหเ้ ตม็ ที่ คงตอ้ งต้ังหน่วย บางมลู นากภมู วิ ทิ ยาคม ในโครงการของพระเจา้ อย่หู วั แล้ว เรากเ็ ลยมา งานอีกหน่วยงานหนึ่งรองรบั กเ็ ลยเกิดมูลนิธิยวุ สถริ คณุ ข้นึ มา เพ่อื จะ ต้ังเป็นศูนยใ์ นมลู นธิ ิ คือ ศนู ยโ์ รงเรียนคณุ ธรรม ใชว้ ทิ ยากรชดุ เดยี วกนั ได้ลงทุนลงแรงกบั สว่ นขยายนี้ และท่ีอ่ืนๆ อกี ที่เราจะเดนิ ตามแนว น่ีแหละ โดยมคี ุณปราโมทย์ โชตมิ งคล เปน็ ผู้อ�ำนวยการศูนย์ พระราชด�ำรขิ องพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวออกไปขยายผล” ส่วนท่ีสองเรากไ็ ดท้ ีมเดิมของสำ� นักงานทรพั ยส์ นิ ส่วน ศาสตราจารย์ นายแพทยเ์ กษม วัฒนชยั ประธานมูลนิธยิ วุ สถิรคณุ พระมหากษตั รยิ ท์ ไี่ ดท้ ำ� เรอ่ื ง ขบั เคลอ่ื นเศรษฐกจิ พอเพยี งในสถานศกึ ษา กลา่ วถงึ ทีม่ าในการกอ่ ตงั้ มลู นธิ ิยุวสถริ คณุ พร้อมกับอธบิ ายความหมาย คือ ดร.ปรยี านชุ และทีมงาน ซึ่งทำ� งานขบั เคลอ่ื นเรือ่ งนีม้ า ๙ ปีแลว้ ก็มาตง้ั ศูนยใ์ นมูลนธิ ิ เรียกวา่ ศูนย์สถานศึกษาพอเพียง สว่ นศูนยท์ ่ีสาม คอื ศนู ย์จิตวทิ ยาการศึกษา เป็นศนู ยใ์ หมเ่ อีย่ ม เนน้ เรือ่ งจิตวิทยาการศกึ ษา เราโชคดที ่คี ุณหมอธีระเกียรติมาเปน็ ผู้นำ� ท่านเปน็ คนไทยนแ่ี หละ แต่ย้ายครอบครัวไปอย่ทู อ่ี งั กฤษเปน็ ผู้หลัก ผู้ใหญ่ทอ่ี งั กฤษ แตว่ ่าเมอื่ ท่านทราบวา่ สำ� นักงานทรัพย์สินไดต้ ัง้ มลู นธิ ิ นีข้ ึ้นมา ท่านกป็ วารณาตัวเองขอท�ำงานท่ีนดี่ ว้ ย ตรงนี้ก็เลยเกดิ เปน็ โครงสรา้ งของมลู นธิ นิ ี้ขน้ึ มา” พรอ้ มกันนี้ ทา่ นประธานมูลนธิ ยิ ังไดเ้ ลา่ ถงึ การทำ� งานและวัตถุประสงค์หลักของมลู นธิ ิว่า “เพราะทกุ คนเหน็ วา่ งานทมี่ ลู นธิ ทิ ำ� จะเป็นประโยชน์ต่อการ ศึกษาของชาติ ทุกคนกก็ ลุ ีกุจอเขา้ มาชว่ ยกันเตม็ ที่ ฉะนนั้ ขณะนเี้ รามี เครอื ขา่ ยเดมิ และบวกเครอื ขา่ ยใหมเ่ สรมิ เขา้ มา จรงิ ๆ มลู นธิ ิเพง่ิ ตง้ั เม่อื รัว้ โรงเรียน 5

ตน้ ปี ๒๕๕๗ น่เี อง แตค่ วามเก๋าของทมี งาน ทีแ่ น่นแฟน้ นนั้ เกิดจากการที่ทุกคนเห็นวา่ งาน ธ ประสงคใ์ ด... เขาทำ� มาหลายสบิ ปี เพราะฉะนัน้ ถงึ แม้ว่า ที่มูลนิธทิ �ำจะเป็นประโยชน์ต่อการศกึ ษาของ เป้าหมายของมลู นธิ ิ เราเพิง่ จะต้งั มูลนธิ ใิ หม่ แต่วา่ ประสบการณ์ ชาติ เครือข่ายการขบั เคลื่อนจึงขยายตวั เพิม่ ของคนท�ำงานมาแลว้ เป็นหลายๆ ปี ในช่วงท่ี ขึ้นเร่ือยๆ ศาสตราจารย์ นายแพทยเ์ กษม วฒั นชยั ผา่ นมากไ็ ด้ขับเคล่อื นกิจกรรมต่างๆ ไปคอ่ น “เรารบั รู้วา่ ปรัชญานใี้ นหลายสถาน องคมนตรี ในฐานะประธานมูลนิธิยวุ สถริ คุณ ขา้ งมาก โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ กจิ กรรมทีเ่ ก่ียว ศึกษาม่นั คงอยแู่ ล้ว มตี ัวอยา่ งดงี ามหลาย ได้กลา่ วถึงเปา้ หมายของมูลนธิ ิวา่ “เรามอง กบั เร่อื งปฏสิ ัมพนั ธ์ระหว่างครูกับนกั เรยี นใน ด้านด้วยกัน เราก็เชญิ ชวนมาเป็นตัวอยา่ งให้ โรงเรียนเหมอื นเหรียญหน่ึงเหรยี ญ มีสองดา้ น หอ้ งเรยี น และในโรงเรยี น รวมท้ังการท่เี รา กับโรงเรยี นอนื่ ท่จี ะเขา้ มาทำ� งานด้วย เราจะ เราตอ้ งการจะสร้างโรงเรียนคุณภาพดา้ นหนึ่ง จะเชิดชเู กยี รตศิ กั ด์ิ เชดิ ชูศกั ด์ศิ รขี องครบู า พยายามร่วมมอื กับกระทรวงศกึ ษาธิการและ และโรงเรยี นคุณธรรมอีกด้านหนึง่ โรงเรยี น อาจารยข์ ึ้นมา ซง่ึ เปน็ วัตถปุ ระสงค์หนง่ึ ของ องค์กรต่างๆ ท่ีเหน็ ความสำ� คญั ของการวาง คณุ ภาพกห็ มายถงึ ความพร้อมของโรงเรียนทั้ง มลู นธิ ิยวุ สถริ คุณ เราก็ขับเคลอื่ นไปได้มากพอ รากฐานดา้ นการศกึ ษาทม่ี ่นั คงมาช่วยกันท�ำให้ สามดา้ นทกี่ ลา่ ว (ผ้บู รหิ าร ครู และนักเรียน) สมควร” การศกึ ษาของชาตอิ อกมาในเรอื่ งการสร้างเดก็ ส่วนโรงเรยี นคณุ ธรรมก็คือโมเดลของ เพราะมลู นธิ ฯิ ให้ความสำ� คญั กับการ หรอื เยาวชนใหเ้ ขาเป็นคนดี เปน็ คนเก่ง ท�ำให้ บางมูลนากที่เราเอามาใช้ ประกอบกับพระ สร้างเครอื ขา่ ยความรว่ มมอื และการท�ำงาน ตัวเขาเองมีความสขุ ครอบครวั เขามคี วามสุข ราชกระแสของพระเจ้าอย่หู วั ท่ีพระราชทาน รว่ มกนั อย่างต่อเน่อื ง โดยเฉพาะการเชิญชวน และบ้านเมืองก็มคี วามสขุ ด้วย” มาเมือ่ กลางปี ๒๕๕๕ เราคิดว่าเรามีปรัชญา อาสาสมคั รท่มี ีใจตรงกนั เข้ามาร่วมทำ� งาน น�ำของมูลนิธิ โดยเฉพาะเรอื่ งเกยี่ วกบั นักเรยี น หนึง่ ในนน้ั ไดแ้ ก่ ดร.ปรยี านุช ธรรมปิยา และครู ผมจะขออนุญาตอนั เชิญพระราช ผอู้ �ำนวยการศูนย์สถานศกึ ษาพอเพียง กระแส ๓ ขอ้ ท่เี ก่ียวกบั นักเรยี นและครู อาจารยป์ ราโมทย์ โชตมิ งคล ผอู้ �ำนวยการ นะครบั คือ ศูนยโ์ รงเรยี นคุณธรรม และนายแพทย์ ธรี ะเกยี รติ เจริญเศรษฐศิลป์ ผู้อำ� นวยการ ศูนยจ์ ติ วิทยาการศึกษา ซ่ึงบคุ คลเหล่าน้ีลว้ น เป็นก�ำลังสำ� คัญของชาติในการปฏริ ปู ระบบ การศึกษาไทย นอกจากนี้ มูลนธิ ิก็ยงั มีการ ขยายไปยงั เครือข่ายด้านสอ่ื สารมวลชน ทัง้ วทิ ยุ โทรทศั น์ และหนังสือพิมพ์ โดยเครอื ขา่ ย รวั้ โรงเรียน 6

ป»รÃัชѪญÞาÒข¢อÍง§เàศÈรÃษÉฐ°ก¡ิจÔ¨พ¾อÍเพà¾ียÂÕ ง § ¡ÒกÃร¨ะบ´Ñ ว¡นÒกÃารµจÒดั ÁกาËรÅตา¡Ñ ม»หÃลกัªÑ ปÞรÒัชญàÈาÃขอÉงเ°ศ¡รษ¨Ô ฐ¾กÍจิ พà¾อเÕÂพ§ยี ง ÊÁ´ØÅ / ¾ÃÍŒ ÁÃºÑ µÍ‹ ¡ÒÃà»ÅÂÕè ¹á»Å§ Çѵ¶Ø • Êѧ¤Á • ÊÔ§è áÇ´ÅÍŒ Á • Ç²Ñ ¹¸ÃÃÁ ã¹´ÒŒ ¹Çѵ¶Ø / 椄 ¤Á / ÊÔè§áÇ´ÅÍŒ Á / Ç²Ñ ¹¸ÃÃÁ • ¤Ø³¸ÃÃÁ • ¾Í»ÃÐÁÒ³ • ÊÁ´ØÅ ¹ÓÊ‹Ù • ¤ÇÒÁÌ٠• ÁàÕ Ëµ¼Ø Å • ¾ÃŒÍÁÃºÑ ·Ò§ÊÒ¡ÅÒ§ >>> ¾Íà¾Õ§ • ÀÙÁ¤Ô ŒÁØ ¡¹Ñ ã¹µÇÑ ·è´Õ Õ à§èÍ× ¹ä¢¢Ñ¹é ¾é¹× °Ò¹ ¡ÒÃà»ÅÂèÕ ¹á»Å§ ¡Òè´Ñ ¡ÒáÃкǹ¡Òà à»Ò‡ ËÁÒ ¾Í»ÃÐÁÒ³ ÁàÕ Ëµ¼Ø Å ÁÀÕ ÙÁÔ¤ŒØÁ¡¹Ñ วัตถุประสงค์ของมลู นิธิ ã¹µÇÑ ·´Õè Õ ส่งเสริมและสนบั สนนุ à§×è͹䢤ÇÒÁÌ٠à§Íè× ¹ä¢¤³Ø ¸ÃÃÁ ๑.จัดกิจกรรมเพื่อเสรมิ สรา้ งความสมั พันธ์และการเรยี นรรู้ ะหวา่ งครู ÃͺÌ٠Ãͺ¤Íº ÃÐÁ´Ñ ÃÐÇ§Ñ «Íè× ÊѵÂʏ ¨Ø ÃµÔ Í´·¹ และนกั เรียนในสถานศึกษากล่มุ เปา้ หมาย ให้มคี วามรู้ ความเข้าใจ สามารถ à¾ÕÂà ÁÊÕ µÔ »˜ÞÞÒ เขา้ ถงึ และนำ� หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาพฒั นาตนเอง สถาน ศกึ ษา และชุมชน รวมถึงการบ่มเพาะความซอ่ื สตั ย์สจุ ริต การปลูกฝงั อบรม พระราชกระแสข้อท่หี นงึ่ พระเจ้าอย่หู ัวทรงมีรบั สง่ั ว่า จริยธรรมให้เดก็ และเยาวชนเปน็ คนดีมีคณุ ธรรม ท�ำอยา่ งไรจะใหค้ รูรักเด็กนกั เรียน และใหเ้ ด็กนกั เรยี นรักครู ๒.จดั กจิ กรรมเพ่ือเสรมิ สรา้ งความสมั พนั ธ์ท่ดี ีระหวา่ งครแู ละเด็ก ให้ ซ่งึ ตรงน้ีเป็นหวั ใจของการศกึ ษา สมมตุ เิ รามีครเู ก่ง แต่ไม่คอ่ ย ครูรกั เมตตาและหว่ งใยเด็ก และใหเ้ ด็กเคารพนบั ถอื ครู ตามจารีตประเพณี จะห่วงใยเดก็ ไมค่ ่อยจะรักเด็กเท่าไหร่ เรากจ็ ะได้ครทู ่ีทำ� ตาม ๓.เสริมสรา้ งเกยี รติยศศกั ดศิ์ รแี ละอดุ มการณข์ องครู เพอ่ื ใหค้ รเู ป็น ตารางสอน แต่ถา้ ครเู กง่ ด้วยและรกั เด็กดว้ ยเราจะไดค้ รูซ่งึ มจี ิต แบบอย่างท่ดี ีในเร่ืองของคณุ ธรรม ความซอ่ื สัตย์สุจรติ และการอุทศิ ตนเพ่ือ วญิ ญาณของความเป็นครูท่ีอยากเห็นลกู ศิษย์เขาเจรญิ เติบโต ประโยชนข์ องส่วนรวม เพราะฉะน้ัน แทนที่เราจะไดเ้ พียงครูทส่ี อนตามตารางสอน เรา ๔.มอบทุนการศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรใี หก้ บั นกั เรยี นกลุ่มเป้าหมาย จะไดค้ รูทีส่ อนทัง้ ตามตารางสอนด้วยและสอนคนด้วย สอนคน และทุนการศึกษาสำ� หรบั นักศึกษาสาขาครศุ าสตร/์ ศกึ ษาศาสตร์ เพือ่ ให้ ใหเ้ ติบใหญใ่ หเ้ ป็นคนดีด้วย เพราะฉะนน้ั ตรงนี้ คือส่ิงท่ีเราอยาก กลับไปปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีเปน็ คร/ู บุคลากรทางการศึกษาในชมุ ชนหรือท้องถิน่ ใน เหน็ ตรงน้จี ะต้องชว่ ยกนั ระหว่างโรงเรยี นคุณภาพและโรงเรียน ภูมลิ �ำเนาของตวั เอง คณุ ธรรม เรามองกนั ว่า ถ้าเดก็ ไมเ่ คารพครู เรยี นไมไ่ ดเ้ ตม็ ทแี่ ลว้ ๕.เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ และสื่อสารเพอ่ื การสร้างภาคีเครอื ขา่ ย เดก็ กจ็ ะดอ้ื ตอ่ ครู เดก็ กจ็ ะเปน็ เดก็ ดยี ากเหลอื เกนิ เพราะฉะนนั้ ครู บคุ ลากรทางการศกึ ษา เดก็ และเยาวชน รวมทงั้ จัดทำ� และผลติ สอื่ การ พระราชกระแสข้อแรกนี้ส�ำคญั เปน็ หวั ใจของการศึกษา เรยี นการสอนทีห่ ลากหลาย และการจดั อบรมในรปู แบบตา่ งๆ เพ่ือเสริมสร้าง ความเข้าใจและเหน็ คุณคา่ ในปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๖.จดั ต้งั สถาบันการเรยี นรู้เพือ่ การศกึ ษาและจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ท่หี ลากหลายทง้ั ในและนอกประเทศหรือส่งเสริมให้เดก็ และเยาวชนมคี วามรู้ และคุณธรรม ๗.ศึกษาวจิ ยั และให้ทนุ เพื่อพฒั นาการเรยี นการสอนท่ีสนบั สนุนใหค้ รู และเดก็ มีความรูแ้ ละคุณธรรม สามารถน้อมน�ำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไปประยกุ ตใ์ ช้และเผยแพร่ขยายผลอย่างมีประสทิ ธิภาพ รัว้ โรงเรียน 7

พระราชกระแสขอ้ ท่ีสอง รับสง่ั ไว้ พระราชกระแสข้อทีส่ าม อย่างน้ีครับว่า ให้ครูสอนนักเรียนใหม้ นี ำ้� ใจ ขอ้ นสี้ ำ� คญั เหลอื เกนิ สำ� หรบั บ้าน กับเพ่ือน แล้วทรงยกตวั อย่างว่าในหอ้ งเรียน เมืองไทยในปัจจบุ ัน พระองค์ หนง่ึ ๆ ใหค้ รูจัดให้เพื่อนทเี่ รียนเกง่ ติวใหเ้ พือ่ น รบั สั่งอย่างนีค้ รบั ว่า อยากให้ครู ที่เรียนช้า เพราะทุกคนต้องแขง่ กบั ตนเอง จดั กจิ กรรมให้เด็กท�ำเปน็ หมู่คณะ ตรงนผี้ มคิดว่าจะเอามาแกไ้ ขปัญหาคุณภาพ เพอื่ เขาจะไดเ้ หน็ ความส�ำเรจ็ ที่ การศกึ ษาไทยไดอ้ ยา่ งดเี ลย เรามกี ารสอบโอเนต็ เกิดจากความสามคั คี พูดง่ายๆ ทีเ่ ปน็ การสอบระดับชาตมิ า ๙ ปแี ล้ว ถา้ เรา ก็คือว่า เด็กจะได้เห็นวา่ การท่ี ไปวเิ คราะหค์ ะแนนของแตล่ ะวชิ านะครับ เรา ท�ำเปน็ หมูค่ ณะจะท�ำใหง้ านยาก จะมเี ดก็ อยู่ ๓-๕ เปอรเ์ ซน็ ตท์ ีส่ อบทุกวชิ าเลย สำ� เรจ็ ได้ จากความพยายามของหมคู่ ณะ และเมือ่ ส�ำเร็จแลว้ กเ็ ปน็ ได้ ๙๐-๑๐๐ คะแนน ในแต่ละวชิ า พวกท่ี ความส�ำเร็จของทุกคนในหมคู่ ณะเขา ตัวนลี้ ะม้ังทเี่ ปน็ หวั ใจสำ� คญั เหลืออีก ๙๕ เปอรเ์ ซ็นต์ สอบได้คะแนนเฉล่ยี ของการสรา้ งความสามคั คปี รองดองในบา้ นเมอื ง ไมใ่ ชแ่ ก่งแย่งกัน ๓๐ กวา่ คะแนน เพราะอะไร เพราะวา่ ระบบ ไม่ใช่เก่งแลว้ ก็ไปแกง่ แยง่ และเอาเปรียบคนทเ่ี กง่ นอ้ ยกว่า เหมือนท่ี การศึกษาที่ผ่านมา เราไปยวั่ ยใุ หเ้ ดก็ แข่งเอา กำ� ลงั เกิดขน้ึ ท่วั โลกตอนนี้ ท่หี น่งึ ทส่ี องกัน แล้วไม่เอ้ือเฟือ้ เพอื่ น กับเรื่อง เพราะฉะน้นั ผมคิดวา่ เราก�ำลังขบั เคลือ่ นพระราชกระแส ของคุณภาพในหอ้ งเรยี นไมเ่ ป็นทพี่ อใจ ผู้ ทั้งสามองค์น้ี เพื่อน�ำไปสหู่ ้องเรยี น น�ำไปสโู่ รงเรยี น ท้ังกจิ กรรม ปกครองตอ้ งควักเงิน เพ่อื ให้ลกู ไปกวดวิชา ในหลกั สตู ร กจิ กรรมเสรมิ หลกั สตู ร ถา้ มพี ระราชกระแสน้ี เปน็ ใครมีเงินแล้วใกลแ้ หล่งกวดวชิ าทดี่ ี ลกู กจ็ ะ อดุ มการณน์ ำ� เชอื่ วา่ จะทำ� ใหค้ ณุ ภาพการศกึ ษาไทยดขี น้ึ ได้ ผบู้ รหิ าร ได้ ๙๐-๑๐๐ คะแนน แตถ่ า้ ลกู ตาสตี าสาคนไมม่ ี การศกึ ษา ครู และนกั เรยี น ผปู้ กครอง ต้องช่วยกัน แต่ละโรงเรยี น สตางค์กไ็ ม่มโี อกาส หรอื มตี ังคแ์ ตว่ ่าอยไู่ กล ช่วยกัน เป้าหมายกค็ ือ การสร้างตัวอย่างท่ีดี ตน้ แบบทด่ี ี โดยมี เมืองใหญก่ ไ็ มม่ ีโอกาส แตถ่ ้าหากเรานำ� พระ- พระราชกระแส ๓ ข้อเป็นอดุ มการณ์ นค่ี ือเป้าหมายท่ีแทจ้ รงิ ” ราชกระแสขอ้ สองมาชว่ ยกนั คอื ทำ� อยา่ งไรให้ เดก็ ชว่ ยกนั ทงั้ เดก็ เกง่ เดก็ เรยี นชา้ ต้องช่วยตัว เองใหด้ ขี ้นึ เร่อื ยๆ ตรงน้ีเราจะไดเ้ ดก็ เรยี นดขี ึ้น ท้งั ๑๐๐ เปอร์เซน็ ต์ ไมใ่ ชด่ ีอยู่ ๕ เปอร์เซน็ ต์ ซึง่ ตรงนี้ จากการพิสจู น์โรงเรียน คณุ ธรรม ปี ๕๕-๕๖ แลว้ เราไปดูผลโอเน็ต ของแตล่ ะโรงเรยี น ดีทัง้ โรงเรียน เราใช้คำ� ว่า ดยี กแผง เปน็ สงิ่ ทที่ ำ� ได้ แตค่ รตู อ้ งชว่ ย และถา้ มจี ิตวิทยาการศกึ ษาที่อาจารย์หมอธรี ะเกยี รติ ก�ำลังท�ำอยกู่ บั โรงเรยี นวัดรางบัว กับโรงเรียน ตา่ งๆ ก�ำลังดอู ยวู่ ่าถ้าเพือ่ นช่วยเพ่ือน ชว่ ยตวิ กัน ช่วยเรียน ช่วยสอนกนั ก็นา่ จะดีทัง้ แผง ไม่ใช่ดเี ฉพาะสว่ น เหมือนท่ผี า่ นมา รวั้ โรงเรียน 8

ความกา้ วหน้า เครอ่ื งหมายมูลนธิ ิ และความคาดหวงั เครอ่ื งหมายมลู นธิ ิหรอื ทีช่ อบเรยี ก มูลนิธฯิ ทำ� งานขบั เคลอื่ นฯ ภายใต้ กนั สั้นๆ วา่ ตราหรอื โลโก้ เป็นรปู ทรง โครงสรา้ งทอี่ อกแบบมาอยา่ งดี มที ง้ั ทมี บคุ ลากร ตดั ทอนแทนความหมายของเยาวชน ซ่ึงมี ทม่ี ปี ระสบการณ์ และเครือข่ายทท่ี ำ� งานร่วม ขนาดแตกต่างกันตามวยั หรอื ชว่ งอายุ โดย กนั มาเป็นเวลาหลายปี ทำ� ใหก้ ารท�ำงานของ ใชส้ ี ๓ สี คือ ขาว แดง น�้ำเงนิ เพ่ือสอ่ื ถงึ มลู นธิ ิฯ ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว สู่เป้าหมาย ความหมาย ดังนี้ การสรา้ งความพร้อมและสรา้ งความดีให้กบั สขี าว หมายถงึ ความมคี ุณธรรม ความดีงาม การแสดงออกท่สี ะท้อนถึงความดี และรู้ถงึ สิง่ ที่ โรงเรยี น เพ่ือใหโ้ รงเรียนสร้างคนดีใหก้ ับบา้ น ถูกตอ้ งในการประพฤตปิ ฏบิ ัตติ น เมือง “ผมคดิ วา่ เราต้องมแี ผนระยะกลาง สแี ดง หมายถึง ความเป็นไทย บ่งบอกถึงเกียรติภมู คิ วามเปน็ ไทยกัน ระยะยาว มูลนิธิก็เหมอื นกนั ตอ้ งมีแผน ๕ สนี ำ�้ เงนิ หมายถึง สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ซึง่ เป็นศูนยร์ วมแห่งความจงรักภักดี เป็นที่ยึด ปี แผน ๑๐ ปี ตอ้ งถอดแผนออกมาเปน็ แผน เหน่ยี วจิตใจ ตลอดจนเป็นท่เี คารพรักเทิดทูนอย่างสูงย่งิ ของประชาชนชาวไทย ประจำ� ปี แล้วทุม่ เทเตม็ ที่ เพื่อใหแ้ ผนประจ�ำปี สดี นิ หรือสนี ้ำ� ตาลของตัวหนงั สอื “ยุวสถริ คณุ ” เป็นการสอ่ื ถงึ ความหนักแนน่ มั่นคงของ บรรลเุ ป้าหมาย ถา้ บรรลุเปา้ หมายกจ็ ะได้ก้าว แผน่ ดิน บันไดขน้ั ต่อไปในปีตอ่ ไปได้ อนั นีค้ อื วิธีคดิ พ้ืนสฟี า้ หมายถึง ความสดใส ความร่มเย็นเป็นสขุ ของผมในการท�ำงาน เพียงแคน่ ั้น เราไม่สามารถทำ� หน้าท่แี ทนรฐั บาลและไม่ควรดว้ ย แต่ว่าเราสามารถท�ำงานร่วม มลู นธิ นิ เี้ พงิ่ ต้ังมาได้ไมค่ รบปี เราได้ กบั รฐั บาล แลว้ กด็ ึงเอาส่งิ ดๆี งามๆ ท้งั ส่งิ ท่ีเป็นภูมิปัญญาทอ้ งถน่ิ ภมู ปิ ญั ญาของแตล่ ะโรงเรียน รวบรวมสรรพก�ำลงั เข้ามา และมีเป้าหมาย บวกกับศาสตรส์ ากล ซ่ึงก็คอื นวตั กรรมทางการศกึ ษาทวั่ โลกท่ีก้าวหน้าไม่หยดุ หย่อน เราก็ไปดงึ ชดั เจน ๓ ข้อ ขอ้ แรก เราตอ้ งการสร้าง มาแลว้ น�ำมาใส่ในโรงเรียน และบวกกับศาสตรพ์ ระราชาก็คือ กระแสพระราชดำ� ริ ๓ ขอ้ คุณธรรม เพ่ือเปน็ พ้นื ฐานในการนำ� ปรัชญา ที่พระราชทานให้ อันน้คี อื การรวมศาสตร์ ศาสตรข์ องโรงเรียน ศาสตรส์ ากลจากทีอ่ น่ื และ ของเศรษฐกิจพอเพยี งไปใช้ ขอ้ สอง ต้องการ ศาสตร์พระราชา ผมคิดวา่ จะทำ� ใหภ้ ารกิจของการศึกษานีส้ มบูรณม์ ากขน้ึ เราตอ้ งการเพียง สรา้ งสง่ิ ดๆี งามๆ ทเี่ ป็นปฏิสมั พนั ธ์หรือ แค่นี”้ ประธานมลู นธิ ยิ วุ สถิรคุณกล่าวปดิ ท้ายถึงเปา้ หมายและความคาดหวงั ในการทำ� งานของ สัมพันธภาพระหว่างครูกับนกั เรียน และ มลู นิธิ ข้อสาม เราตอ้ งการจะยกย่องเชิดชคู รใู หเ้ ปน็ และเมื่อท�ำงานมาระยะหน่ึง มูลนิธไิ ด้ก�ำหนดจัดงาน “มหกรรมมลู นิธยิ วุ สถริ คณุ ” อาชพี ท่มี ีเกียรตยิ ศ มเี กยี รตศิ ักด์ิ ถ้าเราท�ำ ขึ้น เพื่อนำ� เสนอผลการท�ำงานและความก้าวหนา้ ของมลู นธิ ิ โดยประธานมูลนธิ ยิ วุ สถิรคุณ อย่างนนั้ ได้ เรากจ็ ะไดบ้ ุคลากรทส่ี ำ� คัญในการ ไดก้ ล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงาน วา่ “งานทจี่ ะจดั ขน้ึ เปน็ การตกผลึกประสบการณข์ องทงั้ พฒั นาการศึกษาและพัฒนาประเทศตอ่ ไป ๓ ศนู ย์ แลว้ นำ� เสนอตอ่ สาธารณชน เราจะทำ� ทกุ ปี ตงั้ ใจใหเ้ ปน็ forum แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ โดยขอบเขตและขนาดของมูลนธิ คิ งไม่ ปีแรกจะเป็นการน�ำเสนองานของมูลนธิ ิ โดยดงึ ตวั อยา่ งดีงามทางการศกึ ษามาเผยแพร่ ใหญ่โตพอท่จี ะไปทำ� ครอบคลมุ ทั้งหมดได้ แต่ปีทส่ี องอาจจะมีเครอื ขา่ ยต่างๆ มารว่ มมือกนั ครบั ” งานมหกรรมมูลนธิ ิยวุ สถริ คณุ นั่นเป็นหนา้ ท่ีของรัฐบาล แตเ่ ราจะทำ� หนา้ ที่ จะจดั ขนึ้ ในเดอื นมถิ ุนายน ๒๕๕๘ ผู้สนใจตดิ ตามรายละเอยี ดได้ที่ www.vyouth.org และ เพียงวา่ เราจะดงึ เอาตวั อย่างท่ีดีๆ งามๆ นิตยสารรว้ั โรงเรียน ฉบบั เดอื นพฤษภาคม ๒๕๕๘ ข้นึ มา แล้วกม็ าเผยแพร่ ผมคดิ วา่ เราคาดหวงั รวั้ โรงเรียน 9

ศูนย์สถานศึกษาพอเพียง ศนู ยส์ ถานศกึ ษาพอเพยี ง กบั กลยทุ ธก์ ารพฒั นาสถานศกึ ษาพอเพยี งใหเ้ ขม้ แขง็ และยง่ั ยนื ศูนย์สถานศกึ ษาพอเพียง มลู นธิ ยิ วุ สถิรคุณ (ศสพ. มยส.) เป็น ๑ ใน ๓ ศูนย์หลักของมูลนิธิยวุ สถิรคณุ เรม่ิ เปิดดำ� เนนิ การเมือ่ วนั ที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๗ โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์หลัก เพ่ือเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แกส่ ถานศกึ ษาพอเพียงให้ สามารถเป็นแบบอยา่ งที่ดีและยัง่ ยืนในการจดั กจิ กรรม การเรียนรู้ทบ่ี ่มเพาะหลกั คิดและหลักปฏิบัตเิ ศรษฐกจิ พอเพยี งจนเกดิ เปน็ อปุ นสิ ัยของผ้เู รียน และเพือ่ พฒั นานวัตกรรมการเรียนรู้ การพัฒนาตามแนว พระราชด�ำริ หลกั การทรงงาน และการปฏบิ ัติตน ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมถงึ เพอ่ื สนับสนนุ ภาคเี ครอื ขา่ ยในการ ขับเคลือ่ นปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งดา้ น การศกึ ษา ดร.ปรียานชุ ธรรมปิยา ผอู้ ำ� นวยการศูนยส์ ถานศึกษาพอเพียง ความศรทั ธาต่อหลักเศรษฐกิจพอเพยี งว่า มูลนิธยิ ุวสถริ คณุ (เดมิ ท่ีปรกึ ษาโครงการสนบั สนนุ การขับเคลื่อน “พวกเราทท่ี ำ� งานดว้ ยกนั มามคี วามเชอื่ วา่ หลกั ของความพอ เศรษฐกจิ พอเพยี งดา้ นการศกึ ษาและเยาวชน สำ� นกั งานทรัพยส์ ินส่วน เพยี ง หรือเศรษฐกิจพอเพยี งจะนำ� พาประเทศไทยใหเ้ จริญก้าวหนา้ และ พระมหากษัตรยิ )์ เลา่ ถึงจดุ เรมิ่ ต้นของการขบั เคลอ่ื น ซ่งึ กำ� เนดิ จาก รอดพน้ จากภยั ตา่ งๆ ได้ในโลกปจั จุบันซงึ่ มกี ารเปลย่ี นแปลงท่ีส่งผล รัว้ โรงเรียน 10

กระทบตอ่ ชีวติ ความเป็นอยขู่ องทกุ คนอยา่ ง รวดเรว็ และกว้างขวาง เพราะเราเชื่อและ ศรัทธาว่า สง่ิ ที่พระเจา้ อยหู่ วั พระราชทานมา ทกุ เร่อื งมพี ระราชประสงค์เดียวคือ เพอ่ื ให้ คนไทย ประเทศไทยเจรญิ ข้นึ ในทางทดี่ งี าม อะไรก็ตามทพี่ ระองคพ์ ระราชทานไม่ใช่เพื่อ พระองคเ์ อง แต่เพ่ือพวกเราทุกคน คนไทย จะไดเ้ จรญิ ก้าวหน้า แล้วก็ไมพ่ ลาดพลัง้ หรอื เกดิ ความเสย่ี งอันตราย นค่ี ือ หลกั ภมู ิคุ้มกนั คำ� ว่าภูมคิ ้มุ กนั คือ อยรู่ อดปลอดภัยภายใน โลกทม่ี กี ารเปลีย่ นแปลงตลอดเวลาอยา่ งทเ่ี รา เห็นในปัจจบุ ัน” จากความเช่อื และศรทั ธา จงึ เปน็ ท่ีมาสูก่ ารปฏบิ ตั ิ “เม่ือเราเชือ่ และศรัทธา เรากจ็ ะทำ� ในสง่ิ ทเี่ ราเช่อื ด้วยความมั่นใจ คอื นำ� หลกั เศรษฐกิจพอเพยี งไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ในชีวติ หลกั เศรษฐกิจ พอเพยี งเปน็ หลักคดิ และหลักปฏิบตั ใิ นการด�ำเนินชีวติ หมายถึง หลกั พอประมาณ มีเหตผุ ล การมีภมู ิคมุ้ กนั ในตวั ที่ดี บนพ้ืนฐานจิตใจทีม่ ี คุณธรรม และใชค้ วามรูอ้ ย่างรอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวัง เพือ่ ให้ชวี ติ สมดลุ และพร้อมรับต่อการเปลีย่ นแปลงในดา้ นวัตถุ สังคม ส่งิ แวดลอ้ ม และวฒั นธรรม ที่เรียกกันย่อๆ ว่า หลกั การพอเพยี ง ๓ ห่วง ๒ เงือ่ นไข ๔ มติ ิ พวกเราท่รี ว่ มขบั เคลือ่ นกันมามคี วามคิดท่ีอยากให้ประเทศไทย เป็นประเทศทที่ กุ คนใชช้ วี ติ บนพ้นื ฐานความเปน็ จริง รูจ้ ักตวั เอง พอ ประมาณกบั ตัวเอง พอประมาณแบบมเี หตผุ ล แลว้ ก็รอบร้สู ถานการณ์ รอบดา้ นดว้ ย ถงึ จะเจริญก้าวหนา้ อย่างมคี วามสขุ ได้ เพราะคำ� ว่า พอประมาณ ไมใ่ ช่คดิ แคเ่ รอื่ งของตวั เอง แต่ตอ้ งพอเหมาะพอดกี บั สถานการณ์ สง่ิ แวดลอ้ มในแต่ละเวลาด้วย คือต้องมสี ติ รูท้ ัน และใช้ ปญั ญาคดิ หาเหตหุ าผล เพอ่ื ทำ� ความเขา้ ใจกบั สงิ่ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในทกุ เรอื่ ง ทกุ ขณะตามความเปน็ จรงิ บนฐานขอ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ งวา่ ขณะนสี้ ถานการณ์ โลกเปน็ อยา่ งไร ประเทศไทยเราเปน็ อยา่ งไร ชุมชนท่ีเราอาศัยอยเู่ ป็น อย่างไร แล้วตัวเราเป็นอย่างไร ตอ้ งรอบรู้ คือ ทงั้ Inside-Out และ Outside-In เมือ่ รอบรแู้ บบนี้ เวลาจะท�ำอะไร กจ็ ะมกี ารวางแผนและท�ำงานได้อยา่ งสอดคลอ้ งกับความเปน็ จรงิ ไม่ประมาท ไมเ่ สี่ยง น่นั คอื มคี วามรอบคอบเสมอ ในชว่ ง ๘-๙ ปีท่ีอาจารย์ทำ� งานขับเคลอ่ื นดา้ นการศกึ ษามาน้นั งานหลักๆ กค็ อื ไดช้ ว่ ยเหลอื ด้านวิชาการใหก้ ับ หนว่ ยงานตา่ งๆ เป็นวทิ ยากรบา้ ง เปน็ ที่ปรกึ ษาบา้ ง เป็นประธานคณะท�ำงานบา้ ง ได้มีโอกาสช่วยภาคการศกึ ษาตาม ทีห่ น่วยงานต่างๆ เขาขอให้เราช่วย มาถงึ ตอนนี้ทีม่ กี ารกอ่ ตัง้ มลู นธิ ยิ วุ สถริ คุณและมศี นู ยส์ ถานศกึ ษาพอเพยี งเกิดข้นึ ซึ่งมีความพรอ้ มทัง้ ดา้ นทรัพยากร กำ� ลังคน งบประมาณ จึงทำ� ใหก้ ารทำ� งานสนับสนุนการขบั เคลอื่ นของเราสามารถ รวั้ โรงเรยี น 11

การอบรมผ้บู รหิ ารระดบั สงู ของ ศรร. หลกั สูตร “Systematic Problem Solving and Decision Making” ระหว่างวันที่ ๑๘- ๒๑ สงิ หาคม ๒๕๕๗ ทำ� อะไรไดม้ ากกว่าทีเ่ ราเคยท�ำมาในอดตี เพราะสามารถวางแผนงาน ศกึ ษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ โครงการทเ่ี ปน็ ระบบและต่อเน่อื ง และในบางเร่อื งสามารถรเิ ร่ิมทำ� งาน พอเพยี ง ในจุดท่ีควรทำ� แตย่ ังไมม่ หี น่วยงานไหนทำ� เช่น การสนบั สนุนให้รักษา จากการดำ� เนินการดงั กลา่ ว คณุ ภาพของสถานศึกษาพอเพียงใหเ้ ข้มแขง็ และย่ังยืน” ท�ำให้ในปี ๒๕๕๔ มีสถานศกึ ษาผา่ น การประเมินเปน็ สถานศกึ ษาพอเพยี ง ๑,๒๖๑ แหง่ และตอ่ มาหนว่ ย การขบั เคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง งานตา่ งๆ โดยเฉพาะสำ� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานได้ ด้านการศึกษา ขบั เคลือ่ นอยา่ งตอ่ เนื่อง จนในปัจจบุ นั มีสถานศึกษาพอเพียงรวมทุก สงั กัดทง้ั สน้ิ ๑๔,๖๐๒ แห่ง กระจายอยู่ทว่ั ประเทศ ซึ่งในจ�ำนวนน้มี ี ปวงชนชาวไทยไดเ้ ริม่ รับร้แู ละเรียนรพู้ ระราชดำ� รสั เก่ยี วกับ สถานศึกษา ๔๗ แห่ง ทไ่ี ดร้ บั การประเมินผ่านให้เป็น “ศูนย์การเรยี นรู้ เศรษฐกจิ พอเพียงมาตัง้ แตป่ ี ๒๕๔๐ และในปี ๒๔๔๒ สำ� นักงาน ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งดา้ นการศกึ ษา (ศรร.)” กล่าวคือ คณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ (สศช.) ได้รับ เป็นสถานศกึ ษาพอเพียงท่มี ีคณุ ภาพและศักยภาพทจ่ี ะเปน็ พีเ่ ลีย้ งใหก้ ับ พระราชทานพระบรมราชานญุ าตเผยแพรค่ �ำนยิ าม “ปรัชญาของ สถานศกึ ษาท่ัวไปในการพัฒนาไปสู่สถานศึกษาพอเพยี ง เศรษฐกิจพอเพียง” และน้อมน�ำมาเป็นแนวทางในการท�ำแผนพฒั นา “โรงเรยี นศูนยก์ ารเรียนร้ฯู นอกจากจะพง่ึ ตนเองได้ในเรอ่ื งการ ประเทศ ต่อมาได้มีการนอ้ มนำ� หลักเศรษฐกจิ พอเพียงบรรจุเข้าสู่ เปน็ แบบอย่างของการบรหิ ารและจดั การเรียนรู้ตามหลกั เศรษฐกจิ พอ หลกั สูตรการศึกษาข้ันพืน้ ฐานต้ังแต่ปกี ารศึกษา ๒๕๔๔ สง่ ผลให้เกิด เพยี งจนเหน็ ผลท่คี ุณลักษณะของผูเ้ รียนแล้ว ยงั สามารถเปน็ ทพ่ี ่ึงให้ การจดั การการเรยี นรู้เก่ียวกับ “หลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง” อย่างแพร่ กับผู้อ่นื ในการเป็นพีเ่ ลี้ยงและแหล่งศึกษาดูงานไดด้ ว้ ย คือมีนำ�้ ใจและ หลายในโรงเรยี นทวั่ ไป ศกั ยภาพที่จะช่วยโรงเรียนอ่ืนใหพ้ ฒั นาเปน็ สถานศึกษาพอเพียงได้” จนเมือ่ ปี ๒๕๔๙ รัฐบาลประกาศให้ “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอ ผูอ้ �ำนวยการศูนย์สถานศึกษาพอเพียง มลู นธิ ยิ ุวสถริ คณุ สรปุ ความ เพียง” เปน็ นโยบายหลักในการพัฒนาประเทศ กระทรวงศึกษาธกิ าร หมายของโรงเรียนศนู ยก์ ารเรยี นรฯู้ ได้อยา่ งกระชับและชดั เจน และหนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งจึงเริ่มผลักดนั ใหผ้ ูบ้ ริหารสถานศึกษานอ้ มนำ� ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการบริหารสถานศกึ ษา และจัดการศึกษาในทกุ มิตขิ องสถานศึกษา รวมถึงการพฒั นาบคุ ลากร ให้เปน็ แบบอย่างในการใช้ชวี ิตอยา่ งพอเพยี ง ซง่ึ เป็นท่มี าของการจัดท�ำ ยทุ ธศาสตรข์ ับเคล่อื น “สถานศกึ ษาพอเพียง” (๒๕๕๐-๒๕๕๔) ของ กระทรวงศึกษาธกิ าร ซงึ่ มเี ป้าหมายพฒั นาและขยายผลให้มีสถาน ศกึ ษาที่เปน็ แบบอยา่ งในการจดั การเรียนการสอนและการบริหารสถาน รัว้ โรงเรยี น 12

การด�ำเนนิ งานของศูนยส์ ถานศึกษาพอเพยี ง แผนการดำ� เนนิ งานของศนู ยส์ ถานศกึ ษาพอเพยี ง มลู นธิ ยิ วุ สถริ คณุ มูลนธิ ยิ วุ สถิรคณุ แบง่ ออกได้เปน็ ๒ หัวข้อใหญๆ่ คอื พัฒนาคุณภาพสถานศึกษาพอเพียง ให้เขม้ แขง็ และยั่งยืน คือ หน่ึงการสนับสนุนสถานศกึ ษาพอเพยี งให้ “มาถงึ วันน้ี กระทรวงศกึ ษาธิการและหน่วยงานต่างๆ ไดร้ ว่ มมอื สามารถคงสภาพและมีการพฒั นาคุณภาพการจัดการเรยี นรไู้ ด้อยา่ งตอ่ กันดำ� เนนิ การขับเคลอื่ นมาจนได้สถานศึกษาพอเพียงมากว่า ๑๔,๐๐๐ เนื่อง โดยในระยะตน้ ไดใ้ ชก้ ลยุทธค้นหาผทู้ ่ีมกี ารปฏบิ ตั ิเป็นเลศิ มาถอด แหง่ แล้ว ซงึ่ เปน็ ความสำ� เร็จเชงิ ปริมาณ แต่ก็ยังมีค�ำถามอยู่เสมอเร่ือง บทเรียนและเตมิ ความเขม้ แข็งใหท้ ้งั โรงเรียน แล้วสรา้ งเครือข่ายเรียน คณุ ภาพและความยั่งยืน จงึ จำ� เป็นตอ้ งมีงานเชงิ วิชาการและกิจกรรม รูเ้ พอ่ื ใหม้ เี พ่อื นชว่ ยกระตนุ้ และหนุนเสริม เดินไปดว้ ยกนั การคัด ตา่ งๆ มาหนนุ เสริมให้สถานศกึ ษาพอเพยี งได้รับการพัฒนาและรกั ษา เลอื กการปฏิบตั ิเป็นเลิศนัน้ ไดค้ ดั เลือกจากกลุม่ ผู้บรหิ าร คุณครู และ คณุ ภาพอย่างตอ่ เนอื่ ง หมายความวา่ ทำ� อยา่ งไรจะใหโ้ รงเรยี นเหล่านี้ นักเรียนจากสถานศกึ ษาพอเพยี ง โดยพิจารณาใน ๔ ดา้ น ไดแ้ ก่ รักษาความเป็นแบบอยา่ งของการเป็นสถานศกึ ษาพอเพียงไปไดต้ ลอด • คณุ ลกั ษณะ : มีความชัดเจนในการปฏบิ ตั ิตามหลกั ปรัชญา และมีการพัฒนาคณุ ภาพให้ไดม้ าตรฐานที่ดียิ่งๆ ขึน้ ทา่ มกลางการ ของเศรษฐกิจพอเพียง เปลย่ี นแปลงตา่ งๆ เช่น การจัดการศกึ ษาเพือ่ การพฒั นาอย่างย่ังยืน • คุณภาพ : มนี วตั กรรมและคุณภาพในการท�ำงาน การเชือ่ มโยงกบั การเปิดการค้าเสรี ASEAN การบูรณาการทักษะที่ • คณุ ประโยชน์ : เกดิ ประโยชนต์ อ่ ตนเอง ผูอ้ น่ื และสว่ นรวม จำ� เปน็ ในศตวรรษที่ ๒๑ เปน็ ต้น โดยใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอ • คณุ ค่า : สร้างแรงบนั ดาลใจ ส่งผลกระทบทีด่ ีในวงกวา้ ง เพยี งเป็นกรอบในการตดั สนิ ใจและทำ� งาน นี่คือ เป้าหมายการท�ำงาน ของศูนยส์ ถานศกึ ษาพอเพียง เมอ่ื เปา้ หมายชัดเจนแลว้ ยทุ ธศาสตรข์ องเรา กค็ ือ การยึดหลัก การทรงงานของพระเจา้ อยหู่ วั คือในท้ายท่ีสุดแลว้ ตอ้ งใหเ้ ขาพ่ึงตนเอง ไดใ้ นระยะยาว ถา้ โรงเรยี นสามารถพึ่งตนเองได้และพัฒนาย่ิงๆ ขึน้ ได้ ดว้ ยตนเอง เราก็มีความสุขแล้ว ฉะนั้น เราก็จะพยายามสรรหาหลัก วิชาการ ความรู้ และเทคนิคตา่ งๆ รวมถงึ การพัฒนาเครอื ข่าย มาช่วย เสรมิ หนุนใหส้ ถานศึกษาพอเพยี งมีศกั ยภาพทจี่ ะรักษาและพฒั นา คุณภาพได้ดว้ ยตนเอง เพอื่ ว่าวนั หนึง่ ข้างหนา้ หากไมม่ มี ลู นธิ ิ ไม่มี ศูนย์สถานศึกษาพอเพียง โรงเรยี นเขากย็ งั สามารถเปน็ แหลง่ เรยี นร้ทู ่มี ี คุณภาพในการบม่ เพาะนกั เรียนให้มจี ติ ส�ำนกึ และอปุ นสิ ยั พอเพียงให้ กบั ประเทศชาตไิ ด้ อนั นคี้ อื เปา้ หมายในการทำ� งานของเรา” ดร.ปรยี านชุ ธรรมปิยา ผู้อ�ำนวยการศูนย์สถานศึกษาพอเพียง กล่าวถึงเป้าหมาย และแนวทางการท�ำงานของศนู ยฯ์ รัว้ โรงเรยี น 13

ยง่ั ยนื อย่างเชน่ หลกั สตู รการพฒั นาบคุ ลากร หลงั จากคดั เลือกได้แลว้ ศนู ย์สถานศึกษาพอเพียง กจ็ ะร่วมมอื กบั หน่วยงานทีเ่ กย่ี วขอ้ งพัฒนาทง้ั หลกั สูตรแบบไหนทีจ่ �ำเปน็ และเสรมิ สร้าง โรงเรียนใหเ้ ปน็ แบบอยา่ งปฏิบตั ทิ ีด่ ขี องสถานศึกษาพอเพยี งทีเ่ ขม้ แขง็ สามารถพฒั นาตนเองได้ ศกั ยภาพของผบู้ รหิ ารในการบริหารจัดการ อยา่ งต่อเนอ่ื งอยา่ งมคี ุณภาพ หลักสูตรสำ� หรบั คุณครูควรเปน็ อย่างไร คา่ ย การท�ำงานอีกเรื่องหนง่ึ คือ พัฒนาโรงเรียนศนู ยก์ ารเรยี นรูต้ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ เรียนรู้สำ� หรับนักเรยี นแกนนำ� ควรออกแบบ พอเพียงด้านการศกึ ษา (ศรร.) ให้เปน็ หน่วยคุณภาพเพื่อขยายผลการขับเคล่ือนฯ ดว้ ยการพัฒนา อย่างไร เราเป็นหน่วยร่วมวจิ ยั พัฒนากับโรง ความเขม้ แข็งโดยรวมของสถานศึกษาและคุณภาพของบุคลากรผา่ น ๓ กจิ กรรมหลกั คือ การ เรียนศูนยฯ์ ในการที่จะศึกษาว่าทำ� อยา่ งไร วจิ ยั เพ่อื พฒั นาคุณภาพของ ศรร. การประเมนิ ตนเองแบบมสี ่วนร่วมสกู่ ารพฒั นาที่ยั่งยืน และ ถึงจะช่วยใหส้ ถานศกึ ษาพอเพียง ม่นั คง เขม้ การพัฒนาบุคลากรทุกระดบั ใหส้ ามารถเปน็ วิทยากรขยายผลอย่างมคี ณุ ภาพ แข็ง ยง่ั ยืน บางกิจกรรมกไ็ ด้รับความรจู้ าก “โรงเรยี นศนู ยฯ์ เปรยี บเสมือนเป็นหนว่ ยย่อยให้เราเขา้ ไปศกึ ษาวิจัยเกีย่ วกับวธิ กี าร ต่างประเทศ อยา่ งเชน่ เรอ่ื งโรงเรยี นประเมนิ พัฒนาสถานศึกษาพอเพียงใหเ้ ขม้ แข็งและย่ังยืน เราเรยี นรูจ้ ากการทรงงานของพระบาทสมเดจ็ ตนเอง (School Self Assessment) เป็น พระเจา้ อยหู่ วั วา่ กอ่ นทเี่ สนอแนะหรอื ขยายผลอะไรกต็ าม เราต้องทดลองปฏิบัติจนเป็นท่มี ั่นใจ กระบวนการท�ำงานทป่ี ระเทศองั กฤษ ซ่งึ เรา แลว้ จริงๆ ว่าส่งิ ทีเ่ ราจะด�ำเนินการน้นั จะเกดิ ประโยชน์กับสังคมส่วนรวม และไม่มคี วามเสีย่ งท่ี เรยี นรู้ผา่ นองค์กรยูนเิ ซฟที่นำ� มาเผยแพร่ แต่ จะกอ่ ปัญหาอ่นื ๆ ตามมา เราเรียนรู้จากการที่พระองค์ท่านพระราชทานปลานลิ ให้คนไทยได้มี เรากไ็ ม่มั่นใจวา่ จะเข้ากบั บรบิ ทของโรงเรยี น แหล่งโปรตนี เปน็ อาหาร ได้ทรงทดลองเลี้ยงก่อนในบอ่ เล้ยี งของพระองค์ท่านในพระราชวงั สวน ไทยได้ไหม กต็ ้องวจิ ยั พัฒนากอ่ น เพือ่ ศึกษา จติ รลดา เมอื่ ทรงทดลองจนมน่ั ใจแล้ววา่ ปลาเหล่านจี้ ะไม่ก่อความเดอื ดร้อนให้กับพชื หรือสตั ว์ วธิ กี ารวา่ สอดคลอ้ งกบั สภาพการดำ� เนินงาน ตา่ งๆ ที่เป็นสตั วด์ ง้ั เดิมของไทยและมปี ระโยชน์จริง จึงได้ขยายผล จนพวกเรามีปลานลิ เปน็ แหลง่ ของโรงเรียนในประเทศไทยไหม ท�ำแลว้ จะ อาหารโปรตีนท่สี ำ� คญั ของคนไทยทง้ั ประเทศ เห็นผลหรอื ไม่ นำ� ไปสู่การพฒั นาทยี่ ั่งยืน การจะพัฒนาสถานศึกษาพอเพียงซงึ่ มอี ยู่จ�ำนวนมากทัว่ ประเทศกเ็ ชน่ เดียวกัน เราก็ หรือไม่ จ�ำเป็นตอ้ งมกี ิจกรรมเสรมิ เพมิ่ เติม ชวนโรงเรยี นศูนยฯ์ มาทดลองทำ� งานร่วมกัน กจิ กรรมแบบน้ีใช้ได้ไหม วิธกี ารไหนจะท�ำให้ อะไรบา้ ง ซึง่ ก็มาทดลองดำ� เนินการกันใน โรงเรียนศนู ยฯ์ ก่อน ถา้ ไดผ้ ลดี เกดิ ประโยชน์ รัว้ โรงเรยี น 14 เรากจ็ ะเผยแพรต่ อ่ สสู่ ถานศกึ ษาพอเพยี งตอ่ ไป แตถ่ ้าไมไ่ ด้ผลเรากห็ าทางปรับเปลย่ี นหรอื หา วิธีการใหม่ ฉะนนั้ ส่ิงที่เราท�ำ อาจจะไดผ้ ลแค่ บางเร่ือง บางเร่ืองอาจจะไมไ่ ด้ผลตามที่ คาดหวงั ถ้าผบู้ ริหาร ครู เขาบอกว่าไม่ได้ผล ไมเ่ ขา้ กับบริบทสงั คมไทย วัฒนธรรมไทย เรากต็ ้องชว่ ยกันหาวิธีการปรบั เปลี่ยน หาวิธี การอนื่ มาทำ� พยายามไปจนกว่าเราจะ ค้นพบปลานลิ ของเรา ปลานิลของเราก็ คอื วิธกี ารพฒั นาคุณภาพโรงเรียนไทยใหม้ ี ความเข้มแข็งและยง่ั ยืน” ผู้อ�ำนวยการศนู ย์ สถานศกึ ษาพอเพียง มลู นธิ ิยุวสถิรคณุ สรุปปิดทา้ ย

“¤ÇÒÁÃÙ‡·Õè¨ÐÈÖ¡ÉÒÁÕÍÂÙ‹ÊÒÁʋǹ ¤×Í ¤ÇÒÁÃÙ‡ÇÔªÒ¡Òà ¤ÇÒÁÃÙ‡»¯ÔºÑµÔ¡Òà áÅФÇÒÁ¤Ô´Í‹Ò¹µÒÁà˵ؼŤÇÒÁ໚¹¨ÃÔ§ «Öè§áµ‹ÅФ¹¤ÇÃàÃÕ¹ÃÙ‡ãËŒ¤Ãº à¾×èÍÊÒÁÒö¹Óä»ãªŒ»ÃСͺ¡Ô¨¡Òçҹ áÅÐá¡Œ»˜ÞËÒ·Ñ駻ǧ䴌Í‹ҧÁÕ»ÃÐÊÔ·¸ÔÀÒ¾” ¾ÃкÃÁÃÒâªÇÒ· ã¹¾Ô¸¾Õ ÃÐÃÒª·Ò¹»ÃÞÔ ÞҺѵâͧÁËÒÇÔ·ÂÒÅÑÂÁË´Ô Å Çѹ¾ÄËÑʺ´Õ·Õè ò ¡Ã¡®Ò¤Á òõóõ แนวทางการขบั เคลือ่ นสถานศกึ ษาพอเพียงสูค วามเขมแข็งและยง่ั ยืน • ภาคอีสาน ๒๘-๒๙ ต.ค.๒๕๕๗ มิถุนายน ๒๕๕๘ • ภาคเหนอื ๑๐-๑๑ พ.ย.๒๕๕๗ • ภาคใต ๑๓-๑๔ พ.ย.๒๕๕๗ มีนาคม ๒๕๕๘ • ภาคกลาง ๑๙-๒๐ พ.ย.๒๕๕๗ ๘ เพอ่ื ตรวจสอบและเกบ็ ขอมลู รวั้ โรงเรยี น 15

สถานศึกษาพอเพียง โรงเรียนอนุบาลประชารัฐสามคั คี ไอ เลิฟ ยู ชู ๕ น้ิว สู่ “ศนู ย์การเรยี นร้ตู ามหลัก ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งด้านการศึกษา” “ผมปลูกบวบ แตไ่ ม่ไดห้ วงั ท่จี ะไดผ้ ลบวบ แต่หวงั ใหล้ ูกๆ ได้รจู้ ักการปลกู รู้จักรักษา รจู้ กั ชอบ ปลกู แลว้ มดมากดั ตอ้ งรู้จักอดทน รจู้ ักเสียสละ น่ีคือเงอ่ื นไขที่จะปลกู ฝงั ใหอ้ ยใู่ นวถิ ีชีวติ ของ ลกู ๆ ตอ่ ไป ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ก็ไดใ้ ห้ไปนิมนต์พระมาชว่ ยสอนภาคปฏิบตั ิ ด้าน ศีล ปญั ญา สมาธิ องค์ความรกู้ ็จะซึมซับ เปล่ยี น พฤตกิ รรมได้ เพราะฉะน้นั แนวคดิ ในการ บริหารโรงเรยี น ในชว่ งเริม่ ตน้ นค้ี อื ท�ำ บริบทใหส้ วยงาม มอบหมายงานใหด้ ี ครตู ั้งใจสอนตามบทบาทและเนื้อหา นักเรยี นจะไดค้ วามร้ตู ามศกั ยภาพ ของแต่ละคน” ผู้อ�ำนวยการ ธีรเชษฐ์ ปอ้ งจนั มณีสกุล ผอู้ ำ� นวยการโรงเรยี นอนุบาล ประชารฐั สามคั คี ใชต้ ัวอยา่ ง อธบิ ายแนวคิดการบรหิ ารงาน เรมิ่ แรกของการน�ำพาโรงเรยี น อนุบาลประชารฐั สามัคคีก้าวสู่ ผูอ้ �ำนวยการธีรเชษฐ์ ป้องจนั มณีสกลุ เสน้ ทาง แห่งความพอเพยี ง ผ้อู ำ� นวยการโรงเรยี นอนุบาลประชารัฐสามคั คี รัว้ โรงเรียน 16

โรงเรยี นอนบุ าลประชารัฐสามัคคี เร่มิ ขบั เคลื่อนงานตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงตั้งแตป่ ี ๒๕๕๐ โดยเร่ิมจาก พฒั นาครูเปน็ อนั ดับแรก และในปีเดยี วกนั โรงเรียนก็ผา่ นการประเมินเป็น “สถานศึกษา พอเพียง” “ชว่ งเร่มิ ต้นเรายงั ไม่ร้วู ่าการเรียนการ สอนทจี่ ะมุ่งเนน้ การสร้างอุปนสิ ัยพอเพยี งให้ กบั เดก็ นั้นตอ้ งท�ำอย่างไร ครแู กนนำ� ๘ กลมุ่ สาระจงึ ไปอบรมพัฒนาการเรยี นการสอนและกลับมาทำ� แผนการ สอนตามหลกั ปรัชญาแนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพียง หลังจากน้นั ไดน้ ำ� ความรู้มาขยายผลใหค้ รทู ่านอนื่ ๆ ในโรงเรยี นตอ่ ไป โดยครไู ด้ ชว่ ยกนั บรู ณาการหลักสูตรการศกึ ษาเขา้ กบั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง วเิ คราะหแ์ ละปรบั ปรงุ แผนการสอนใน ๘ กลมุ่ สาระ ตง้ั แต่ จดั ทำ� ค�ำอธบิ ายรายวิชา ท�ำโครงสรา้ งรายวชิ า แล้วจงึ ทำ� หนว่ ยการ เรยี นร้อู อกมาทั้งหมด ท�ำอย่างไร จะสอนอยา่ งไร และน�ำมาพูดคุย กนั ว่าจะเป็นอย่างไรไดบ้ า้ ง จะสอดแทรกตรงไหนอยา่ งไรบา้ ง” ครู สกุ ฤตา ศภุ เดชววิ ัฒน์ ครูแกนนำ� สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม และครเู นตรนภา สีโนรกั ษ์ ครูแกนนำ� กลมุ่ สาระการงานอาชพี และ เทคโนโลยี ผู้รับหนา้ ทแี่ ปลงนโยบายส่กู ารปฏบิ ตั ิ ช่วยอธิบายการ ทำ� งานของคณะครแู กนนำ� ในระยะเร่มิ ตน้ จาก “สถพพ.” สู่ “ศรร.” การกา้ วยา่ งจากสถานศึกษาทว่ั ไปสู่ “สถานศกึ ษาพอเพียง” ในปี ๒๕๕๐ และ พัฒนาตอ่ เนือ่ งสกู่ ารเปน็ “ศนู ยก์ ารเรียนรู้ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งด้าน การศึกษา” ในปี ๒๕๕๔ “ส่ิงแรกที่ทำ� คอื การปรับกาย ปรบั ใจ หมายถงึ ปรบั ปรงุ บรบิ ทแหลง่ เรียนรู้ ใหเ้ ออ้ื ตอ่ การบรหิ ารจดั การการเรยี นการสอนดา้ นศกั ยภาพและเขา้ ถงึ ชุมชน สองคอื การจดั เตรียมบุคลากรให้ทำ� งานด้วยใจรัก โดยจัดการอบรมและใชว้ ิธปี รกึ ษาหารอื รว่ มกนั ระหวา่ งครู กรรมการสถานศึกษา และเครือขา่ ยผู้ปกครองสกู่ ารบูรณาการ แผนการสอน และครจู ะต้องดึงแผนการสอนท่เี ปน็ เสาหลักที่ตนเองมัน่ ใจวา่ สามารถ ปลกู ฝงั อปุ นิสยั พอเพยี งใหล้ กู ๆ อยา่ งนอ้ ย ๑ หน่วยการเรียนรู้ เรียกวา่ เปน็ Best Practice ของตนเองมาแสดงให้เหน็ เป็นรูปธรรมเพ่ือน�ำไปเผยแพร่ต่อไป” กลยุทธ์ พชิ ิตเปา้ หมายที่ผู้อ�ำนวยการธีรเชษฐเ์ ลา่ ใหฟ้ ังดว้ ยความภาคภมู ิใจ รัว้ โรงเรียน 17

สคู่ วามยง่ั ยนื โรงเรยี นอนุบาลประชารัฐสามคั คี ได้ แสดงสญั ลักษณด์ ้วยมือท่สี อ่ื ความหมายวา่ “ไอ เลฟิ ยู” ชู ๕ น้ิว มาใชเ้ พ่อื สรา้ งแรงจูงใจใน การทำ� งานและสรา้ งความยง่ั ยืนในฐานะ “ศูนย์ การเรยี นรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอ เพยี งด้านการศกึ ษา” โดยแตล่ ะนว้ิ แทนความ หมายของบุคลากรในแตล่ ะส่วน น้วิ หวั แม่มือ หมายถงึ ผบู้ ริหารโรงเรยี น ท่ีตอ้ งม่งุ สร้างงาน สรา้ งคน สรา้ งตน ดว้ ยความศรัทธา น้ิวช้ี หมายถึง ครู ตอ้ งสร้าง Best Practice ของการเรยี นร้ดู ้วยตนเอง นิ้วกลาง หมาย ถงึ นักเรียนตอ้ งเป็นคนดี น้วิ นาง หมายถึง ผปู้ กครองต้องมีส่วนรว่ ม และ น้วิ กอ้ ย หมายถงึ กรรมการสถานศกึ ษาต้องชว่ ยสนบั สนุนและสง่ เสรมิ เปน็ สัญลกั ษณอ์ อกมาด้วยรกั สามคั คี “ไอ เลฟิ ย”ู ชู ๕ นิ้ว “ผมบรหิ ารงานด้วย “ไอ เลิฟ ย”ู ชู ๕ นิ้ว ผมจงึ สือ่ ความหมาย สนองพระราชด�ำริท่วี ่า ‘ด้วยรกั สามคั คี’ โดยดแู ลเดก็ อย่างเปน็ รปู ธรรม ชกั ชวนผ้ปู กครองเข้ามามสี ่วนร่วมและใหก้ ารยอมรับ ดว้ ยกติกาท่ีทุกคน ร่วมสรา้ งและร่วมกันปลูกฝัง ทงั้ ครู นกั เรียน ผู้ปกครอง กรรมการสถาน ศึกษา ชุมชน และมลู นิธิ “ผู้อำ� นวยการธรี เชษฐ์ กล่าวพรอ้ มแสดงสญั ลกั ษณ์มือ ผลดิ อกออกผล ผลของการบูรณาการหลักการเรียนการสอนตามหลักปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดยใชห้ ลักการบริหารจดั การ ๕ นิว้ ของ โรงเรียนอนบุ าลประชารฐั สามัคคไี ดส้ รา้ งความเปลยี่ นแปลงใน หลายดา้ น “ต่างกนั ราวฟ้ากับดนิ เม่ือกอ่ นครูต่างคนต่างอยู่ โรงเรยี นเลกิ ตา่ งคนกก็ ลับบ้าน ไมค่ อ่ ยไดพ้ ูดคยุ กัน เด็กก็ ขาดเหตผุ ล ความคิดไม่รอบคอบ ขาดความระมัดระวัง แตเ่ ด๋ยี วน้ไี ดม้ าทำ� งานร่วมกัน ช่วยกนั คดิ ช่วยกนั แก้ไข และใชเ้ หตุผลมากขึ้น อย่างเดก็ บางคนพอ่ กับแม่ ไปคนละทาง เราต้องทำ� ความเขา้ ใจ เขาอาจจะเกเรบา้ ง ต้องปลุกปั้นเขาขึ้นมา แม้จะเหน่ือยแต่คุ้มค่า” ครูสกุ านดา แม้นรักษา ครแู กนน�ำกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ผเู้ ชีย่ วชาญการถอดทักษะชวี ิตเล่าถงึ ความ เปล่ยี นแปลงท่ีเกดิ ขึ้น “คณุ ครเู ขากม็ เี หตผุ ลนะครบั เวลาเราไม่ไดท้ ำ� การบา้ นมาส่งครู คณุ ครกู ็จะถามกอ่ นทกุ ครั้ง วา่ ท�ำไมถึงไมท่ �ำการบา้ นมาส่ง นักเรยี นบางคนเขาไมม่ ีเวลา เพราะตอ้ งไปชว่ ยพ่อแม่ขายของ กลับมา รวั้ โรงเรยี น 18

เย็น ไมม่ ีเวลาทำ� การบา้ น ต่างจากเมือ่ ก่อน จนวนั นลี้ กู ชายตวั โตสงู ใหญม่ าก พอคุณครูมาถึงหวดเลย หวดเสร็จแลว้ ค่อยไป ก็ยังกอดกันเหมอื นเดิมทุกวัน ถามทหี ลงั ” ด.ช.ศิขเรศ สภุ าพ นกั เรยี นชน้ั ทปี่ ้ายรถเมล์ หรอื บางทเี ขา ป.๕/๑ กล่าวยืนยัน เก็บของได้ เขากม็ าเล่าให้ฟังว่า “จากการได้ท�ำกจิ กรรมและอบรม ‘วันนเี้ กบ็ โทรศัพทไ์ ด้นะ เอาไป ร่วมกับโรงเรียน รวมถงึ การไดร้ ับโอกาสจาก ใหค้ ุณครแู ล้ว เดี๋ยวคุณครจู ะ โรงเรยี นในการร่วมเปน็ วทิ ยากร สามารถนำ� ประกาศหาเจ้าของให’้ เราฟงั ความรกู้ ลบั ไปใชใ้ นครอบครัวจนเป็นตัวอย่าง แลว้ รสู้ ึกไดว้ ่าลกู เราเปน็ คนดี มีความซื่อสัตย์ มีคุณธรรม” นางกุลธดิ า โคตรสงคราม กรรมการ ให้คนรอบขา้ งเหน็ ว่า เราใชช้ วี ติ อย่างนีน้ ะ ลกู สถานศกึ ษาและ อสม.(อาสาสมัครสาธารณสขุ ประจ�ำหมู่บา้ น) ดา้ นโภชนาการ กล่าวช่ืนชมใน เราถงึ ไม่เกเร ไมย่ งุ่ เกี่ยวอบายมุข ไมซ่ ื้อหวย ความสำ� เรจ็ จากความร่วมมือของทกุ ฝ่ายในโรงเรียนอนบุ าลประชารัฐสามัคคี อย่างม่ันอกม่นั ใจ ไมเ่ ล่นไพ่ ไมด่ มื่ สรุ า ไม่มีหนสี้ ิน หลังบ้านก็ โรงเรยี นอนุบาลประชารัฐสามคั คใี นวนั น้ี ได้ขยายผลแนวรกุ จากภายในสูส่ ังคม ปลูกหมดท้งั ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ในสังคม หมบู่ ้านเราไปชว่ ยเขาไดห้ มด ญาตพิ ่ีนอ้ งเราก็ ภายนอก เร่ิมจากการปกั หมดุ สร้างเด็กให้เป็นคนดี โดยเปิดโอกาสทกุ คนทกุ ฝา่ ยได้ แนะน�ำกนั ซง่ึ เปน็ งานทตี่ อ้ งเสียสละ แตส่ ิง่ ท่ี รว่ มคิด ร่วมท�ำ พร้อมเสริมสรา้ งศักยภาพทางความคดิ ตดิ อาวธุ ทางปัญญา ไดร้ บั กลบั มานั้นเงินซือ้ ไม่ไดน้ ะคะ ถา้ เรามวั ดว้ ยความมีเหตแุ ละผลในการดำ� เนินงานทกุ ขนั้ ตอน เพ่อื มุ่งน�ำพาชุมชน แต่หาเงนิ แลว้ ลกู เราเสยี ติดยาเสพติด เงนิ กี่ ใหพ้ บกับความสขุ ทยี่ ่ังยืน โรงเรยี นอนบุ าลประชารัฐสามคั คีมี ลา้ นก็ซื้อลกู เรากลบั มาไมไ่ ด้” นางอุดมพร เอกลักษณท์ ่โี ดดเด่น ท่มี รี ปู แบบการบรหิ ารการสอน การ ชดิ สงู เนนิ เครือขา่ ยผปู้ กครองโรงเรียนอนุบาล เรียนรู้ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ได้ ประชารัฐสามคั คกี ล่าว มาตรฐาน โดยมตี วั บง่ ชอ้ี อกมาในรปู อัตลกั ษณท์ ่เี หน็ “มวี นั หน่ึงลูกชายเรียนอย่ชู ้นั ม.๑ ท่ี เป็นรปู ธรรมของทุกคน มีอุปนสิ ัยใฝเ่ รียนรู้ ควบคู่ เขาเคยเรยี นท่ีโรงเรียนอนุบาลประชารฐั คุณธรรม มีการบริหาร จดั การสอน การเรียนรู้ มี สามัคคมี าก่อน เขาเดนิ มาบอกวา่ ‘แม.่ ..มา ความเปน็ ไทย จิตใจที่พอเพียง ไดเ้ ห็นความคุม้ ค่า สรา้ งภมู ิคมุ้ กัน’ แลว้ เขาก็เขา้ มากอดเรา การพฒั นาคนดเี กดิ ข้นึ ที่โรงเรียนอนุบาลประชา รฐั สามคั คไี ดต้ ลอดเวลาอย่างยั่งยืน รัว้ โรงเรียน 19

ศูนย์โรงเรียนคุณธรรม พัฒนาโรงเรยี นสรา้ งคนดี เปา้ หมายหลกั ศนู ยโ์ รงเรยี นคณุ ธรรม มลู นธิ ยิ วุ สถริ คณุ เพราะการขาดคณุ ธรรมจรยิ ธรรม ส่งผลใหเ้ กดิ ปญั หาต่างๆ ตาม มามากมายในสงั คมปจั จุบัน การปลูกฝงั และฟื้นฟูเร่อื งของคณุ ธรรม จริยธรรมแก่เดก็ และเยาวชน ซ่ึงเป็นรากฐานของการพฒั นาประเทศ จึงถอื เปน็ เร่ืองสำ�คญั ทต่ี ้องเร่งดำ�เนินการเพอื่ ช่วยให้บ้านเมืองดำ�เนิน ตอ่ ไปอย่างมนั่ คงในอนาคต จดุ เรม่ิ ต้นโรงเรยี นคณุ ธรรม “ผมอยากจะเลา่ ให้ฟงั ถงึ ความเปน็ มาของโรงเรยี นคุณธรรมที่เกดิ ขน้ึ เม่ือปี ๒๕๕๓ ตอนนั้น ทา่ นองคมนตรีนายแพทย์เกษม วัฒนชยั ประธานกรรมการมลู นธิ ยิ วุ สถริ คณุ ซ่ึงเปน็ ศษิ ย์เก่าโรงเรียน บางมลู นากภูมวิ ทิ ยาคม มาปรารภกับผมซ่งึ เปน็ ศษิ ยเ์ กา่ ร่นุ น้องของท่านที่โรงเรียนบางมลู นากฯ วา่ โรงเรยี นแหง่ นเี้ สอื่ มโทรมลงทกุ ที อะไรทไี่ มด่ ที ง้ั หลาย มอี ยใู่ นโรงเรยี นนหี้ มด ยาเสพตดิ สบู บหุ ร่ี กินเหลา้ นักเรียนตีกัน มที ้องระหว่างวัยเรยี น ครูทะเลาะเบาะแว้ง เอาเวลาไปหาประโยชน์ สว่ นตัว พอ่ แมผ่ ู้ปกครองของคนท่อี ย่ใู นพืน้ ที่ ถา้ เขาพอมีความสามารถเขาจะไม่สง่ ลูก เข้าโรงเรยี นนี้ เพราะไม่มคี วามหวัง วชิ าการกแ็ ย่ พฤตกิ รรมกแ็ ย่ ท่านองคมนตรี หมอเกษม ในฐานะศิษยเ์ ก่ากอ็ ดสใู จ ทำ� ไมโรงเรียนเราเปน็ อยา่ งน้ี ท่านก็ปรารภว่า เรามาหาหนทางชว่ ยฟืน้ ฟูโรงเรยี นไดไ้ หม ในฐานะศษิ ยเ์ ก่า เวลาน้นั ผมท�ำหน้าทป่ี ระธานผตู้ รวจการแผ่นดนิ ซึ่งมภี าระความรบั ผิด ชอบของผตู้ รวจการแผน่ ดิน คอื ดูแลเรอื่ งจรยิ ธรรมของผู้ดำ� รงตำ� แหนง่ ทางการ เมอื งของขา้ ราชการ พนกั งาน เจ้าหน้าท่รี ัฐวิสาหกิจ เจา้ หนา้ ทรี่ ัฐทัง้ หมด ซึ่ง ครกู อ็ ยใู่ นข่ายน้ี ผมกม็ าปรกึ ษาผู้เกีย่ วขอ้ งวา่ เร่อื งคณุ ธรรมจริยธรรม ในประเทศไทยเรามีหนว่ ยงานไหนเป็นหนว่ ยงานหลัก ก็พบว่า ศูนย์คณุ ธรรม สังกัดสำ� นักนายกรฐั มนตรี เป็นหน่วยงาน ดแู ลเร่อื งคณุ ธรรมขององค์กรทัง้ หลายโดยเฉพาะภาค รัฐ ผมกเ็ ชญิ มาปรึกษาวา่ ถา้ เราจะฟน้ื ฟูโรงเรียน โดยเร่ิมจากโรงเรยี นบางมลู นากฯ ใชก้ ารพฒั นา คุณธรรมจรยิ ธรรมจะท�ำกันไหม กต็ กลงรว่ มมือกนั รัว้ โรงเรียน 20

๓ หน่วย คือ ส�ำนักงานผูต้ รวจการแผน่ ดนิ โดยกระบวนการทใ่ี ช้ฟน้ื ฟู “ใช้ระยะเวลาประมาณ ๑ ปี มัน ศูนยค์ ุณธรรม และโรงเรยี นบางมลู นากฯ คณุ ธรรมจริยธรรมทีโ่ รงเรยี น เกดิ การเปลยี่ นแปลงในโรงเรียนนี้ ทีไ่ มพ่ ึง รว่ มกบั คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย ประสงคท์ ้ังด้านกายภาพท้ังดา้ นพฤติกรรม ศรนี ครินทรท์ รวิโรฒ” อาจารย์ปราโมทย์ บางมลู นากฯ ซง่ึ ถือเป็น ของผู้บรหิ าร ครู นักเรยี น เปลย่ี นหมด ผู้ โชติมงคล ผอู้ ำ� นวยการศูนยโ์ รงเรยี นคณุ ธรรม โรงเรยี นต้นแบบนัน้ เริม่ ตน้ บรหิ ารทเ่ี คยหาประโยชน์ไม่มีแลว้ ครทู ี่เคย มูลนิธยิ วุ สถริ คณุ เล่าถึงเหตอุ นั เป็นท่มี าของ จากการประชุมผเู้ ก่ยี วข้อง มาสายก็มาเชา้ ครูท่เี คยกวดวชิ าเดก็ ตาม โรงเรยี นคณุ ธรรม บา้ นแล้วเอาสตางค์ บัดนี้ยงั กวดวชิ าอยู่แต่มา โดยกระบวนการที่ใชฟ้ ้ืนฟคู ณุ ธรรม ทกุ ระดบั กวดวชิ าที่โรงเรยี นไมเ่ อาสตางค์เดก็ โรงเรียน จรยิ ธรรมท่โี รงเรยี นบางมูลนากฯ ซึง่ ถือเปน็ จดั ทีใ่ หจ้ ดั น้�ำให้ เพราะรูส้ ึกรบั ผดิ ชอบใน โรงเรียนต้นแบบนั้น เริม่ ต้นจากการประชมุ ซือ่ สัตย์อยา่ งไร คณุ ตอ้ งบอกมา ครจู ะซ่ือสัตย์ หน้าทขี่ องครู นักเรยี นก็เหมอื นกัน เดก็ เกง่ ผูเ้ ก่ยี วขอ้ งทกุ ระดับ ทัง้ ฝ่ายบริหาร ครู ยังไงกต็ อ้ งบอก นักเรยี นจะซ่ือสัตย์ยังไงกว็ า่ หลายคนต้ังกลมุ่ ตวิ เพือ่ นทไี่ ม่เก่ง ตวิ หนง่ึ ติว นกั เรียน กรรมการสถานศึกษา ผปู้ กครอง มา เร่ืองความรับผิดชอบกเ็ หมอื นกนั ผู้บรหิ าร สอง ติว สาม ท�ำอย่างนี้ทกุ อาทติ ยเ์ ดก็ ทีไ่ ม่ ชมุ ชนรอบโรงเรยี น กระทง่ั พระสงฆ์ ก็นมิ นต์ จะรับผิดชอบอย่างไร ทกุ อัตลกั ษณท์ กุ กลุ่ม เกง่ เร่มิ เขา้ ใจ เมือ่ ไปสอบก็ท�ำได้ ในโรงเรยี น มาร่วมประชุม วา่ เหน็ ปญั หาเดียวกนั หรอื ต้องไปแปลงอตั ลกั ษณ์นัน้ เปน็ ผลปฏิบตั ใิ ห้ได้ อะไรท่ีไมด่ แี ก้หมด บหุ รี่ ยา ไม่ อยากจะช่วยฟน้ื ฟโู รงเรียนไหม เมื่อเห็น แล้วลงมือทำ� ไมใ่ ชท่ ่องจำ� ไมใ่ ช่นำ� มาตดิ ขา้ ง เสพติดไมม่ ี ลดลงไปแลว้ จาก พ้องตอ้ งกนั จงึ ร่วมกนั ก�ำหนดอัตลกั ษณข์ อง ฝา ตอ้ งแสดงพฤติกรรมที่เปน็ รูปธรรมท่ีจับ โรงเรียน ยงั ขยายออกไป ความดีทอี่ ยากจะทำ� ต้องไดท้ ่ปี ระพฤติปฏบิ ัติได้ให้เห็นว่า ๓ เร่อื ง ช่วยชุมชนรอบๆ ไปช่วยสอน “ความดีมอี ยเู่ ยอะแยะ ความซอ่ื สตั ย์ ทก่ี �ำหนดไว้ แต่ละกลมุ่ คุณจะท�ำอะไรกนั บ้าง ความมีวินัย ความเสยี สละ กเ็ ป็นความ คุณไปคดิ กันเอง แล้วลงมือทำ� ส�ำคัญคือ ตอ้ ง ดี ความดีมีเยอะแยะท่ีเขยี นตดิ ฝาไว้ มนั ลงมอื ท�ำ” เป็นนามธรรม มันยงั ลอ่ งลอยอยู่บนอากาศ นอกจากน้ีกย็ ังใชว้ ธิ สี ัมมนา ฝึกอบรม เราพยายามแปลงให้เป็นรูปธรรม เปน็ สง่ิ ท่ี และพาไปดูงานท่ีมูลนิธิฉือจี้ ประเทศไตห้ วนั ประพฤติปฏิบัตไิ ด้ ก็คยุ กนั ว่าอยา่ เพง่ิ ทำ� เยอะ ซง่ึ เนน้ เรอื่ งจิตอาสา การท�ำเพอ่ื สว่ นรวม ท�ำเทา่ ท่ีท�ำได้ แลว้ คอ่ ยๆ เพม่ิ ไป สุดทา้ ยเขา เพือ่ คนอืน่ ไม่นึกถึงแต่ตนเอง เพือ่ ให้เกดิ แรง เลือกทำ� ๓ เร่อื ง คอื ซือ่ สัตย์ รับผิดชอบ และ บนั ดาลใจ เกิดการสะกดิ ใจวา่ ท�ำไมคนอ่ืน พอเพยี ง เอามาแปลงเป็นรูปธรรม ผู้บริหารจะ ทำ� ได้ ทำ� ไมเราจะท�ำไม่ได้ รวั้ โรงเรยี น 21

เดก็ เล็ก ไปชว่ ยคนแก่ ไปช่วยกวาดพื้นท่ีรอบโรงเรียน ท้ังหมด มันดีขน้ึ หมดเลย ในเวลา ๑ ปี ผลพลอยไดก้ ็คือ เม่อื เดก็ เปน็ คนดี มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม ความเก่งมนั ตามมาเอง” นี่คอื ผลสรุปของโรงเรียนบางมูลนากภมู ิวทิ ยาคม หรือท่ี เรยี กกนั ว่า “บางมลู นากโมเดล” โรงเรยี นต้นแบบด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ต่อยอดกองทนุ การศกึ ษาพระเจ้าอยู่หวั สู่ศูนย์โรงเรยี น คุณธรรม มลู นธิ ยิ วุ สถริ คณุ เม่อื เดอื นกมุ ภาษพันธ์ ๒๕๕๕ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัว พระราชทานทุน ทรัพยส์ ่วนพระองคแ์ กค่ ณะองคมนตรี ใหน้ ำ� ไปสรา้ งความพรอ้ มแก่โรงเรยี น เพื่อให้ โรงเรียนสร้างคนดี “พระเจา้ อยู่หัวทรงรับส่ังว่า อยา่ ไปยงุ่ กับสว่ นราชการเขา อย่าไปทำ� ให้เขาล�ำบาก ใหไ้ ปช่วยในสง่ิ ที่เขาไมท่ ำ� เรอ่ื งวิชาการ เขาขาดตรงไหน เชน่ ขาดครู ขอราชภฏั ในพื้นที่ มาเปน็ หนว่ ยวิชาการ คณะศกึ ษาศาสตร์ ช่วยเอาครูมาอบรม ช่วยส่งนกั ศึกษาฝึกสอน ในสาขาทข่ี าด อยา่ งนเี้ ป็นตน้ และกไ็ ปชว่ ยทำ� โรงเรียนคุณธรรม ทำ� เหมือนโรงเรยี น บางมูลนากนี่แหละ โดยเบือ้ งแรกมี ๑๙ โรงเรยี นสามญั กบั ๑ วิทยาลยั เทคนคิ ” อาจารย์ ปราโมทย์ เลา่ ถงึ การขยายผลโรงเรยี นคณุ ธรรมภายใตก้ องทุนการศึกษาพระเจา้ อยูห่ วั ท่ี ได้ผลดเี หมือนกับโรงเรียนบางมลู นากฯ เพราะเกดิ ความรับผิดชอบ ความเอาใจใส่ และผลพลอยไดท้ างวชิ าการทีด่ ีขนึ้ “ทีน้คี ุณหมอเกษม วัฒนชัย ซงึ่ ดแู ลเรอื่ งโรงเรียนคณุ ธรรมของกองทนุ การศกึ ษาพระเจา้ อยหู่ ัว กค็ ดิ วา่ ท�ำอยา่ งไรจะให้โรงเรยี นคุณธรรม ขยายผลให้มากข้ึน จะใช้พระราชทรพั ยท์ ่พี ระราชทานใหก้ ม็ ีจำ� กดั เม่อื คณุ หมอเกษมมโี อกาสหารือกับ ดร.จริ ายุ อิศรางกรู ณ อยุธยา ซึง่ เปน็ ผ้อู �ำนวยการสำ� นกั งานทรพั ย์สนิ ส่วนพระมหากษัตริย์ ทา่ นก็เหน็ ประโยชนอ์ ยา่ งยิ่งวา่ เปน็ เร่อื งท่ดี ี จงึ ได้จัดตง้ั มลู นธิ ิยุวสถริ คุณขนึ้ โดยมศี นู ยส์ ถาน ศึกษาพอเพียง ศนู ย์จิตวทิ ยาการศกึ ษา และศูนย์โรงเรียนคณุ ธรรมท่ีใชแ้ นวทางของกองทุนการศกึ ษาพระเจ้าอยหู่ วั มาขยายผล เพือ่ ช่วยทำ� โรงเรียน ให้มคี วามพรอ้ มทจี่ ะขบั เคลอ่ื นเป็นโรงเรียนคณุ ธรรมจริยธรรม ใหเ้ น้นโรงเรยี นสร้างคนดี รัว้ โรงเรียน 22

พระเจา้ อยู่หัวทรงมีสายพระเนตรทยี่ าว ทศิ ทางการท�ำงานของศนู ย์ ดี มลู นธิ กิ ด็ ี ไมใ่ ช่หน่วยบังคบั บัญชาท่จี ะไป ไกล บา้ นเมืองทุกวันนี้ มปี ัญหาเสือ่ มทราม โรงเรยี นคณุ ธรรม สัง่ เขา เราเปน็ หนว่ ยอาสา พระเจา้ อยหู่ ัวมี ในเกือบจะทุกดา้ น โดยเฉพาะเร่อื งทุจรติ พระราชดำ� รอิ ยากจะไปชว่ ย มูลนิธอิ ยากจะไป คอรร์ ปั ช่ัน คนเห็นแก่ตวั ไมร่ ู้จกั การแบ่งปัน ศนู ย์โรงเรยี นคุณธรรม จงึ มงุ่ เน้นขยาย ชว่ ย โรงเรยี นกับชุมชนคุณยนิ ดีจะมาช่วยกัน ไมร่ ูจ้ กั การเสียสละ ไม่สามัคคี ผลต่อจากกองทนุ การศกึ ษาพระเจ้าอยูห่ ัว มยั้ ถ้าคณุ ไมย่ ินดีก็กลับบ้าน คุณตอ้ งสมคั รใจ เพราะฉะนั้น การพฒั นาโรงเรยี น โดยในปี ๒๕๕๗ น้ไี ด้ตง้ั เป้าหมายจะขยายผล คุณตอ้ งเต็มใจ หัวใจส�ำคัญคอื ทกุ คนสมัครใจ คุณธรรมโดยเฉพาะทีไ่ ปทำ� กับฐานราก คอื โรงเรยี นคณุ ธรรม ๒๗ โรงเรียน ใน ๓ จังหวัด เตม็ ใจ พร้อมใจกนั ท�ำ ผบู้ ริหาร ครู นกั เรียน เดก็ เลก็ เดก็ ประถม เดก็ มัธยม จะเป็นสว่ น คือท่ีจังหวดั พจิ ติ ร ลพบรุ ี และสระบุรี ซง่ึ ทงั้ ๓ กรรมการสถานศึกษา ผ้ปู กครอง ชุมชน สำ� คัญทจี่ ะชว่ ยแก้ปญั หาบ้านเมืองในอนาคต จงั หวดั น้ี มีโรงเรยี นตน้ แบบเป็นศูนยก์ ลางอยู่ พร้อมเป็นหน่งึ เดยี ว กองทุนพระเจ้าอยู่หัวก็ เพราะเมอื่ คนเป็นคนดีความเก่งกต็ ามมา แต่ แลว้ ดี มูลนธิ ิกด็ ี เป็นตวั ไปกระตนุ้ ไปเร้า ไปปลุก ถา้ เปน็ คนเก่งแตไ่ มเ่ ป็นคนดี กจ็ ะใชค้ วามเก่ง ผ้อู ำ� นวยการศนู ยโ์ รงเรยี นคณุ ธรรมเลา่ สำ� นึก ไปสรา้ งแรงจูงใจ ไปใชเ้ ทคนิควธิ กี าร หาประโยชน์ บา้ นเมืองก็จะเสียหาย เพราะ ให้ฟงั ถึงรปู แบบการทำ� งานของศูนยฯ์ ในการ ให้เกิดแรงฮึด ซึ่งมันจะสำ� เรจ็ ด้วยตรงน้ี ถา้ มี ฉะน้ัน น่จี ึงเป็นภารกิจหลักของเราทจี่ ะท�ำอยู่ พฒั นาโรงเรยี นเป้าหมายวา่ “การทำ� งานของ ใจจะทำ� ทำ� ง่ายท�ำยากตรงนนั้ ไมเ่ ปน็ ปัญหา ในนามของมูลนิธยิ ุวสถริ คุณ” เรา เราจะนำ� ผ้เู กีย่ วขอ้ งท้ังหมด โดยเฉพาะ แลว้ ขอให้ตงั้ ใจจะท�ำ คณุ ยินดีจะทำ� แต่ ผบู้ รหิ ารโรงเรยี น คณุ ครู และนกั เรยี น รวมทง้ั คุณขาดทรพั ยากร คณุ ขาดความรู้ คณุ ขาด ผูป้ กครอง ชมุ ชนใกล้ๆ ทอ้ งถิน่ ท่เี กย่ี วข้อง เทคโนโลยี เราไปชว่ ย อยา่ งนีก้ จ็ ะส�ำเรจ็ ” มาร่วมรับฟงั ถ้าอยากจะช่วยกัน รว่ มกนั พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวทรง เปล่ยี นแปลงพัฒนาโรงเรยี นของท่าน โรงเรียน เนน้ ย้�ำอย่เู สมอถึงเร่ืองคุณธรรม เพราะ ของทา่ นนะ ไม่ใชโ่ รงเรยี นของกระทรวงศึกษา คณุ ธรรมจะเปน็ ตวั ก�ำกบั ความคดิ และ ไม่ใช่โรงเรียนของ ผอ. เปน็ โรงเรยี นของทา่ น พฤติกรรมของเราใหด้ �ำเนนิ ไปในทศิ ทาง เอง ใหท้ ุกคนรสู้ ึกวา่ เป็นเจ้าของรว่ มกนั อยาก ที่ถกู ตอ้ งและดงี าม การปลกู ฝังคณุ ธรรม จะเห็นความเปลี่ยนแปลงดๆี เกดิ ข้ึนไหม ถ้า จริยธรรมใหก้ บั เดก็ ๆ และเยาวชน จงึ เปรยี บ อยากจะเห็นมาช่วยกันทำ� ความสำ� คญั อยู่ เสมือนการเพาะเมล็ดพนั ธุแ์ ห่งความดีไว้ใน ตรงน้ี ทกุ คนย่อมอยากจะเหน็ สิง่ ดๆี ทีจ่ ะเกดิ จิตใจของพวกเขา เมอื่ โตข้นึ เขาก็จะเป็นคน ขึ้น เรื่องน้ีกองทนุ การศกึ ษาพระเจ้าอยหู่ ัวก็ ดีของสงั คม รัว้ โรงเรยี น 23

ศูนย์โรงเรียนคุณธรรม ถอดรหสั ความสำ�เร็จ “บางมูลนากภมู ิวิทยาคม” โรงเรยี นต้นแบบคุณธรรมจรยิ ธรรม เรอ่ื ง : พหี่ มบี หู ์ วันหน่ึง พหี่ มบี ูหไ์ ด้มีโอกาสเขา้ พบทา่ น อาจารยป์ ราโมทย์ โชตมิ งคล ผอู้ ำ� นวยการ ศนู ยโ์ รงเรยี นคณุ ธรรม มูลนธิ ิยวุ สถิรคณุ ท่านไดช้ วนไปดูตน้ แบบโรงเรยี นคณุ ธรรม หรอื เรียกกันค้นุ หวู า่ “บางมลู นากโมเดล” ทโี่ รงเรียนบางมูลนากภูมวิ ิทยาคม เพื่อจะได้ เข้าใจและเหน็ คุณลกั ษณะพิเศษของโรงเรยี น คณุ ธรรมได้ชัดเจนย่ิงขนึ้ ดร.มานพ เกตุเมฆ ผอู้ ำ�นวยการ โรงเรียนบางมูลนากภูมวิ ิทยาคม พห่ี มบี หู จ์ งึ ขออาสาเป็นตัวแทนทีมงานไปเย่ียมชมโรงเรียน บคุ ลากรภายนอกคอื เครอื ข่ายผู้ปกครองซึ่งถอื เปน็ ผู้มสี ่วนรว่ มทสี่ ำ� คัญ บางมูลนากภูมวิ ิทยาคม อ.บางมลู นาก จ.พจิ ิตร และน�ำมาเล่าสู่กนั ฟัง ของโรงเรยี นบางมูลนาก ทา่ นมาทำ� งานดว้ ยจิตอาสา มาทุกวนั เรม่ิ ยงั ไมท่ ันเข้าไปในโรงเรยี นก็เห็นบรรยากาศของระเบียบวนิ ัย ตง้ั แต่ 6 โมงครึง่ ก็จะมเี ครือขา่ ยผู้ปกครอง กรรมการเครอื ขา่ ย มายนื นกั เรียนเดนิ กนั เปน็ แถวเปน็ แนวเข้าโรงเรียนต้ังแตป่ ระตู “ดุสติ ” รบั นกั เรยี นทหี่ นา้ โรงเรยี น มผี มซงึ่ ตอ้ งมารบั ทกุ วนั ครบั และครูเวรมาช่วย ทด่ี ้านหนา้ โดยมผี ู้อำ� นวยการและคุณครูเวรประจำ� วันยืนรอรับเดก็ ๆ รบั นกั เรียนด้วยความยิ้มแยม้ แจม่ ใส เดก็ จะทำ� ความเคารพและเดนิ ที่แปลกตาไปกวา่ โรงเรียนอื่นๆ คือ มกี ลุ่มผู้ปกครองยืนชว่ ยรับนักเรยี น เขา้ โรงเรยี นอย่างเป็นระเบยี บ” ผู้อำ� นวยการ โรงเรยี นบางมลู นาก อยูด่ ้วย ภูมิวทิ ยาคม ดร.มานพ เกตเุ มฆ อธิบายให้พหี่ มบี หู ฟ์ งั ถึงการตอ้ นรับ “นอกจากบุคลากรภายในซึ่งหมายถึงผู้บรหิ ารและครแู ล้ว นักเรยี นเขา้ สโู่ รงเรยี นและการมีสว่ นรว่ มของคนในชมุ ชน รัว้ โรงเรยี น 24

กอ่ นถึงเวลาเขา้ แถวเคารพธงชาติ ทโ่ี รงเรยี นมีกจิ กรรม ให้พี่หมบี ูห์ได้ตื่นตาตืน่ ใจอกี เมอ่ื เสยี งเพลง “เดก็ ด”ี ดังขึ้น นกั เรียนท่ีเล่นอยู่หรอื นัง่ คุยอยจู่ ะพากันลกุ ขนึ้ ทำ� กจิ กรรมดูแล สภาพแวดล้อมของโรงเรียน บางกลุ่มเกบ็ ใบไม้ บางกลุ่มกวาด ทางเดิน บางกลมุ่ เชด็ กระจก บางกลุ่มถูลานหน้าเสาธง เรยี กได้ ว่ามองไปทางไหนกจ็ ะเห็นภาพนักเรยี นชว่ ยกันคนละไม้ละมือ เพือ่ ให้โรงเรยี นของพวกเขาดูเรยี บร้อยสะอาดตา จบเพลงเด็กดีแลว้ ต่อด้วยเพลงสานคุณธรรมและเพลง เดก็ ดีอีกรอบกอ่ นจะปดิ ท้ายดว้ ยเพลงประจ�ำโรงเรียน รวมเวลา ประมาณ ๒๐ นาที เมอ่ื เพลงประจำ� โรงเรยี นจบลง นกั เรยี นทกุ คน อยปู่ ระจ�ำท่ใี นแถวเรียบร้อยพร้อมเข้าสกู่ ิจกรรมหน้าเสาธง ขณะทีน่ ักเรียนก�ำลังทำ� กจิ กรรมดูแลสภาพแวดล้อมของโรงเรียน เครือขา่ ย ผู้ปกครองและคณุ ครทู ่ปี รึกษาก็จะเชิญกลมุ่ ผู้ปกครองทมี่ าในวนั นนั้ เดนิ เยี่ยมส่วน ตา่ งๆ ของโรงเรียน เพ่ือให้ผปู้ กครองไดเ้ หน็ บรรยากาศของสถานศึกษาท่ีลูกๆ หลานๆ เขาเรยี นอยู่ ภาพท่ีนา่ ประทับใจอยา่ งมากส�ำหรับพ่หี มบี ูหใ์ นเชา้ นั้นก็คอื หลงั จากเสรจ็ การเดินชมโรงเรียน กล่มุ ผู้ปกครองทัง้ หมดท่ีมาในวนั นนั้ จะมาตั้งแถว เพ่อื รอ้ งเพลงชาติร่วมกนั ทั้งโรงเรียน เห็นบรรยากาศความพรอ้ มเพรียง ความรว่ มไมร้ ่วมมือ และความมีระเบียบ วินยั ของนกั เรียนโรงเรียนบางมูลนากภูมวิ ิทยาคมแลว้ พหี่ มีบูหอ์ ดสงสยั ไม่ได้วา่ อะไรคอื ตัวกระตุ้นใหน้ ักเรยี น คุณครู รวมไปถึงผ้กู ลมุ่ ปกครองมพี ฤติกรรมทน่ี า่ ชื่นชมขนาดนน้ั ๓ ยุทธศาสตร์ ๖ กิจกรรม เพ่ือ ๓ เปา้ หมาย ความส�ำเรจ็ ของโรงเรียนบางมลู นากภมู วิ ิทยาคมในฐานะโรงเรยี นต้นแบบด้านคณุ ธรรม จริยธรรมนน้ั เกิดจากกระบวนการมสี ่วนรว่ มของทกุ ฝ่าย ท้ังผ้บู ริหารโรงเรียน ครู นักเรยี น ผปู้ กครอง และชุมชนรอบๆ โรงเรียน “เร่ิมจากการประชมุ แลกเปลยี่ นความคิดเหน็ จากทกุ ฝา่ ยว่าเหน็ ปญั หาอะไรในโรงเรยี นบ้าง อยากจะชว่ ยแกป้ ัญหาไหม แตล่ ะฝ่ายท�ำอะไรไดอ้ ย่างไร โดยตัง้ เป้าความดที อี่ ยากทำ� เพื่อน�ำไปส่กู าร แก้ปัญหา เราเรมิ่ ตน้ จากสงิ่ ท่เี ป็นปัญหา เลือกปัญหาที่ใหญ่ทส่ี ดุ ๒-๓ ปญั หา และแกป้ ัญหาท่ีหนกั ท่สี ดุ ก่อน โดยใชร้ ะบบ ๓-๖-๓” ผู้อ�ำนวยการมานพ กล่าวถึงกลยุทธทใี่ ชใ้ นการพฒั นาก่อนจะขยาย ความถึงระบบ ๓-๖-๓ ใหฟ้ งั ว่า ๓ แรก คอื การพัฒนาครู พัฒนานักเรยี น และพัฒนาสภาพแวดล้อม โดยใช้กจิ กรรมหลกั ๖ กจิ กรรมเพอื่ พฒั นาคณุ ธรรมจรยิ ธรรมของนกั เรยี น คอื การเสรมิ สรา้ งระเบยี บวนิ ยั เสรมิ สรา้ งความดี ส่งเสริมความกตญั ญกู ตเวที พัฒนาจริยธรรม ส่งเสรมิ จติ อาสา และพฒั นาโรงเรียนสขี าวเพ่อื กระตุน้ รวั้ โรงเรียน 25

ใหเ้ กิดการนำ� ไปสคู่ ุณธรรมหรือความดี ๓ ประการท่กี ำ� หนดไว้ คือ ความซ่อื สัตย์ ความ รับผดิ ชอบ และความพอเพยี ง นอกจากน้ียังมีการกำ� หนดอตั ลกั ษณ์ ของครู นกั เรียน และสภาพแวดล้อมของ โรงเรียน ว่าแต่ละด้านจะตอ้ งเป็นอย่างไร และคัดขอ้ สำ� คญั ๆ จดั ทำ� เปน็ บอร์ดขนาดใหญ่ ติดเอาไว้เตือนใจใหเ้ หน็ ตลอดเวลา โครงงานคณุ ธรรม วธิ กี าร บางคนวา่ ก็แล้ว เกบ็ เงนิ กแ็ ล้ว ยงั มาสาย เขาจงึ เร่มิ หนั มาใชว้ ิธี หัวใจหลักของการพัฒนานักเรยี น การทเ่ี รียกว่ากลั ยาณมิตร โดยใช้การจบั คดู่ แู ลซง่ึ กันและกัน เดก็ ทม่ี า สายกป็ รบั เปล่ยี นไป” เช้าวันนั้นกอ่ นทเี่ พลงเดก็ ดีจะดังขึ้น พห่ี มบี ูหม์ โี อกาสได้คุยกับ ท่พี หี่ มบี หู เ์ ลา่ มาน้ี เป็นแค่บางสว่ นของกระบวนการทที่ ำ� ให้ น้องๆ กลุม่ หนง่ึ ทีน่ ั่งสานเสอื่ จากหลอดพลาสตกิ ทำ� เป็นอาสนะของ โรงเรยี นบางมลู นากภมู ิวทิ ยาคมประสบความส�ำเรจ็ ในการแกป้ ญั หา พระสงฆ์เพอื่ นำ� ไปถวายวดั น้องๆ บอกว่า นีเ่ ปน็ สว่ นหนึ่งของโครงงาน และพัฒนามาจนเป็นโรงเรยี นต้นแบบด้านคุณธรรมจรยิ ธรรม ยังมี คณุ ธรรม ซึง่ นักเรยี นทุกคนจะต้องมสี ว่ นรว่ มในโครงงานคุณธรรมอยา่ ง รายละเอยี ดปลีกย่อยของงานคุณธรรมท่โี รงเรยี นท�ำควบคู่อย่ดู ้วย นอ้ ย ๑ โครงงานตอ่ ๑ ห้อง ไมว่ า่ จะเปน็ เร่อื งงานวินยั หรอื การบูรณาการสอดแทรกไวใ้ นสาระ “โครงงานคุณธรรมก็คือ การร่วมกันท�ำดอี ย่างมีปัญญา” การเรยี น วันน้ี พ่ีหมบี ูห์ขอน�ำตวั อย่างจากโรงเรยี นบางมลู นากภูมิ ครปู กาศิต เรีย่ มสวุ รรณ ครชู �ำนาญการ หวั หนา้ ศูนยก์ ารเรียนรู้ วิทยาคมมาเผยแพร่ เผ่ือนกั เรียน คุณครู หรือผบู้ รหิ ารท่านใดจะนำ� โรงเรียนต้นแบบดา้ นคุณธรรมจริยธรรม กล่าวถึงนยิ ามของโครงงาน ไปปรับใชก้ บั โรงเรยี นของตนได้นะคะ คณุ ธรรมกอ่ นจะอธิบายใหพ้ ีห่ มบี หู ฟ์ งั วา่ “โครงงานคณุ ธรรมเปน็ หวั ใจหลกั ในเรอ่ื งการพฒั นากระบวนการ คดิ ของเดก็ อยา่ งเปน็ ระบบ โดยเดก็ ร่วมคดิ ร่วมทำ� ร่วมแสดงความคดิ เหน็ โดยกระบวนการคดิ เด็กจะคดิ เองทงั้ หมด และลงมอื ท�ำดว้ ยตวั เอง สว่ นครูมีหน้าท่ีดูแลเป็นพเี่ ลย้ี งหรอื ชว่ ยเหลือในส่วนท่เี ด็กไม่สามารถ ทำ� ได้ หวั ใจของการท�ำโครงงานคือ ท�ำตามหลักอริยสจั ๔ คอื ทกุ ข์ สมทุ ยั นโิ รธ มรรค โครงงานจะเกดิ จากโจทย์หรือปัญหาทอ่ี ยากแก้ กับความดีทีอ่ ยากทำ� โดยเริ่มจากปัญหา น่คี อื ทกุ ข์ เดก็ อยากจะแก้ ปัญหา เขาก็จะเริ่มหาสาเหตุ นี่คอื สมทุ ยั เดก็ จะต้องวเิ คราะห์หาสาเหตุ ของปญั หาให้ได้วา่ มาจากอะไร เป้าหมายคือให้ปญั หาลดลง สุดทา้ ย คือกระบวนการในการแกป้ ัญหา ซ่ึงเดก็ จะได้เรยี นรู้ ยกตัวอยา่ งการ แกป้ ญั หาเพ่อื นมาสาย ทแี รกเดก็ จะใชม้ าตรการคลา้ ยการลงโทษ เชน่ การเกบ็ เงิน ซ่งึ เปน็ สิง่ ที่เขาคิดกนั เอง ครูก็ปล่อยเขา เขาจะไดเ้ รียนรู้ถึง รัว้ โรงเรยี น 26

ºÒ§ÁÅÙ ¹Ò¡âÁà´ÅµÑǤÃÙ ÊÀÒ¾áÇ´ÅŒÍÁ áÅСÒÃÁÊÕ Ç‹ ¹ÃÇ‹ Á ÍµÑ Å¡Ñ É³+ ẺÍ‹ҧ+¾ÄµÔ¡ÃÃÁ ¤ÃÙáÅй¡Ñ àÃÕ¹ ¼»ŒÙ ¡¤Ãͧ+ªØÁª¹ «èÍ× Êѵ ¾Íà¾ÂÕ § ·§éÑ âçàÃÕ¹ ªØÁª¹/᡹¹Ó/¨ÔµÍÒÊÒ • äÁ‹àºÕ´àºÂÕ ¹àÇÅÒÃÒª¡Òà • »ÃÐË嫄 ·Ã¾Ñ ÂҡâͧâçàÃÕ¹ µÇÑ ¹¡Ñ àÃÕ¹ ¼Í./áÁ‹¤ÒŒ ÃдºÑ âçàÃÂÕ ¹ • äÁ‹áÊǧËҼŻÃÐ⪹ • àÊÕÂÊÅРầ‹ »¹˜ Ãͧ ¼Í./¹Ñ¡¡Òà ÃдºÑ ÊÒªé¹Ñ ËÇÑ Ë¹ŒÒ¡Å‹ØÁ§Ò¹ ÃдºÑ ªÑ¹é àÃÂÕ ¹ ¨Ò¡¹¡Ñ àÃÂÕ ¹áÅÐâçàÃÂÕ ¹ µ‹Í¹Ñ¡àÃÂÕ ¹áÅÐà¾èÍ× ¹Ã‹ÇÁ§Ò¹ ¡¨Ô ¡ÃÃÁ¾Ñ²¹Ò¼àÙŒ ÃÂÕ ¹ • äÁ‹â¡Ë¡áÅÐÁÊÕ Ñ¨¨Ð ËÑÇ˹Ҍ ÃдºÑ • äÁ‹ÊÌҧ¤ÇÒÁᵡá¡ §Ò¹Ç¹Ô ÂÑ ¹Ñ¡àÃÕ¹ ¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹ ÃÒÂÇÔªÒ ã¹ËÁ¤‹Ù ³Ð ÃºÑ ¼Ô´ªÍº û٠ẺãËÁ‹ ËÅÒ¡ËÅÒ ÊÌҧÊÃä Í.·»Õè Ã¡Ö ÉÒ • µÃ§µ‹ÍàÇÅÒ ·Ò§µÃ§+·Ò§ÍŒÍÁ â¤Ã§§Ò¹¤³Ø ¸ÃÃÁ Í.»ÃШÓÇÔªÒ ªÁØ ª¹/¡Å‹ÁØ Â‹Í • ᵋ§¡Ò¶¡Ù ÃÐàºÕº¢Í§âçàÃÂÕ ¹ (·Ø¡ª‹Í§·Ò§) (ªØÁª¹) ¤³Ð¡ÃÃÁ¡ÒùѡàÃÂÕ ¹ ᡹¹Ó áÅзҧÃÒª¡Òà • ¨µÔ ÍÒÊÒ ÃºÑ ¼´Ô ªÍºµ‹Í˹Ҍ ·Õè ·äèÕ ´ŒÃºÑ ÁͺËÁÒ ÍѵÅѡɳ+ ẺÍÂÒ‹ §+¾Äµ¡Ô ÃÃÁ • ÂéÁÔ äËÇŒ ·¡Ñ ·Ò «Íè× Êѵ ÃºÑ ¼Ô´ªÍº ¾Íà¾Õ§ • äÁ¾‹ ´Ù ¤ÓËÂÒº/ÇÒ¨ÒÊÀØ Ò¾ • ᵋ§¡Ò¶¡Ù ÃÐàºÕº • ÁÕ¹éÓ㨠àÊÂÕ ÊÅÐ ªÇ‹ ÂàËÅÍ× ¼ÙÍŒ ¹è× • ËÒ‹ §ä¡ÅÂÒàʾµÔ´ • ¡ÒÃà´¹Ô á¶Ç/ࢌÒá¶Ç äÁ‹ËÇѧ¼ÅµÍºá·¹ • äÁ‹·ÐàÅÒÐÇÇÔ Ò· • ¡ÒÃÇÒ§Ãͧà·ÒŒ • Á¤Õ ÇÒÁ¾Íà¾Õ§ (»ÃÐË嫄 ) • Ã¡Ñ ¹ÇÅʧǹµÑÇ • ¡Ô¨¡ÃÃÁ˹Ҍ àÊÒ¸§ • »ÃÐË嫄 ·Ã¾Ñ ÂҡâͧâçàÃÂÕ ¹ • äÁà‹ Å‹¹¡Òþ¹Ñ¹ • ÂéÔÁ äËÇŒ ·¡Ñ ·Ò • äÁÅ‹ Ñ¡¢âÁÂ/äÁ¡‹ ÃÃ⪡·Ã¾Ñ  • ÁÊÕ ÁÑ ÁÒ¤ÒÃÇÐ (ÍÍ‹ ¹¹ŒÍÁ ¶Í‹ Áµ¹) • ªÇ‹ ÂàËÅÍ× ¼Ù»Œ ¡¤Ãͧ • µÍºá·¹¼ÁÙŒ ¾Õ ÃФ³Ø • àªÍè× ¿˜§¾‹ÍáÁ‹/¼ŒÙ»¡¤Ãͧ • ¢Â¹Ñ Í´·¹ àÍÒã¨ãÊ¡‹ ÒÃàÃÂÕ ¹ µÑǪÇéÕ ´Ñ (Indicators) µÇÑ ªÇÕé Ñ´ (Indicators) µÇÑ ªÕéÇ´Ñ (Indicators) ¤ÃÙµ¹Œ Ẻ ¹Ñ¡àÃÂÕ ¹µ¹Œ Ẻ ÊÀÒ¾áÇ´ÅÍŒ Á/¡ÒÂÀÒ¾/ªÇÕ ÀÒ¾/¡ÒÃÁÕʋǹÃÇ‹ Á รวั้ โรงเรยี น 27

KidSD ศนู ยจ์ ติ วทิ ยาการศึกษา กบั แนวทางปรบั “ใจ” เพอื่ การศกึ ษาไทยกา้ วหนา้ ศูนยจ์ ติ วิทยาการศึกษา ถอื เปน็ ศนู ยใ์ หมท่ ส่ี ุดในโครงสร้างการ ท�ำงานของมลู นธิ ิยวุ สถริ คุณ โดยมีนายแพทย์ธรี ะเกียรติ เจริญเศรษฐศลิ ป์ จติ แพทยเ์ ด็กและวยั รุ่น ซ่งึ เป็น คนไทยทไ่ี ด้รบั เกียรตเิ ปน็ สมาชิกของราชวิทยาลัย จิตแพทย์แหง่ สหราชอาณาจักร (Royal College of Psychiatrists) และเป็นจติ แพทย์เดก็ และวัยรุ่น อาวุโสกติ ติมศกั ดิ์ทโี่ รงพยาบาล Royal Free ลอนดอน สหราชอาณาจกั ร ขณะนด้ี ำ� รงตำ� แหนง่ เป็นผู้ชว่ ยรฐั มนตรวี ่าการกระทรวง ศกึ ษาธิการ พรอ้ มรบั อาสาชว่ ย งานมลู นิธยิ วุ สถริ คุณ ในฐานะ ผอู้ ำ� นวยการศนู ย์จิตวทิ ยา การศกึ ษา “การศกึ ษาหรือที่เราเรยี กว่า Education มีรากศัพท์มาจาก เรมิ่ ตน้ โดยหมนั่ ตง้ั คำ� ถาม กระตนุ้ ใหเ้ ดก็ รจู้ กั คดิ ฝกึ ใหเ้ ดก็ รกั ทจ่ี ะเผชญิ ภาษาละตนิ แปลว่า การดงึ ส่งิ ที่ดีท่สี ดุ ในตัวมนษุ ยอ์ อกมา” คณุ หมอ อปุ สรรค ตัง้ เป้าหมายทท่ี ้าทาย สง่ เสริมใหเ้ กิดการเรยี นรู้ และที่สำ� คญั ธีระเกยี รติ เจรญิ เศรษฐศิลป์ จิตแพทยเ์ ดก็ และวัยรนุ่ ซงึ่ ขณะน้ดี �ำรง ครแู ละเดก็ ตอ้ งมคี วามสัมพันธ์อนั ดรี ะหว่างกนั ครตู อ้ งมีใจพรอ้ มทจี่ ะ ตำ� แหนง่ เปน็ ผชู้ ่วยรฐั มนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และผู้อ�ำนวย สอน เด็กก็ต้องมีใจพรอ้ มทีจ่ ะเรยี นเราจะทำ� อยา่ งไรให้ใจของครูและใจ การศูนย์จิตวทิ ยาการศกึ ษา เริม่ ตน้ อธบิ ายความหมายของการศึกษา ของเด็กมาเจอกัน เพราะเมือ่ ๒ อย่างนี้เจอกนั เรากจ็ ะได้สิ่งท่ดี ที สี่ ดุ “แล้วเราจะเอาสงิ่ ท่ดี ีทส่ี ุดในตวั มนุษยอ์ อกมาไดอ้ ย่างไรครูจะต้องเปน็ ผู้ ในตวั เดก็ ออกมา ไดผ้ ลสมั ฤทธท์ิ างการศกึ ษาทด่ี ที สี่ ดุ นเี่ ปน็ เรอ่ื งพน้ื ฐาน รวั้ โรงเรียน 28

ของสิง่ ท่ีเรยี กว่า จิตวทิ ยาการศกึ ษา หรอื Educational Psychology” “ฉะน้นั หน้าท่หี ลักของศูนยจ์ ติ วทิ ยา การศึกษา คือ การนำ� ปัจจยั ทมี่ ผี ลตอ่ การ พฒั นาการศึกษาอย่างมาก มาใชเ้ พ่ือแก้ ปัญหาการศึกษาทเ่ี รามอี ยตู่ อนนี้ พรอ้ มๆ กบั ศึกษาวิจยั วธิ กี ารพัฒนาครู เพราะเราตอ้ งการ ให้สาธารณชนเกิดความเชือ่ มั่นในครแู ละใน ระบบการศึกษาไทย นี่คอื เปา้ หมายหลักของ ศูนยเ์ รา” “เปิดใจ” ใหเ้ ห็นปัญหา “ปรบั ใจ” ไปสูท่ างออก “ขณะนก้ี ารศกึ ษาของเราอยใู่ นขัน้ จากผลงานวจิ ัยดา้ นการศึกษาระดับ วิกฤต ทุกคนตระหนกั ดี สังคมไม่มัน่ ใจใน โลก ต่างสรปุ ไปในทิศทางเดยี วกนั วา่ หวั ใจ ระบบการศึกษา มกี ารวิจารณว์ ่า ระบบสอน สำ� คญั ในการปฏิรูปการศกึ ษาเป็นเพียงเร่อื ง มันแย่ ครูไทยไมด่ ี ถามว่าท่เี ขาพดู กันนน้ั ใจกับใจ ความสมั พันธ์ระหวา่ งครูกบั เด็ก จริงหรือเปลา่ หรอื ว่าเป็นแค่ความรูส้ ึกสว่ นตวั ส�ำคัญทสี่ ดุ ถา้ ความสมั พนั ธไ์ ม่ดี ตอ่ ใหค้ รูเกง่ ทกุ ๆ ปี World Economic Forum หรือ แคไ่ หน ครูกส็ อนได้ไมด่ ี ดงั นั้น แนวทางการ เวทีเศรษฐกิจโลก จะมีการจดั อนั ดับความ ปฏริ ปู การศกึ ษา จะตอ้ งเร่มิ จากคนื ครใู ห้กับ สามารถในการแขง่ ขันระดบั โลก ซงึ่ ใน เดก็ ท�ำอย่างไรใหค้ รมู ใี จพรอ้ มท่จี ะสอน เด็ก ปี ๒๕๕๗ คุณภาพระบบการศกึ ษาไทยถกู จัดอยู่ในอันดับที่ ๘๖ ของโลก หรอื อันดับท่ี ๗ ของ อาเซยี น ชนะเพียงเวยี ดนาม กัมพูชา และพม่า นอกจากน้ี PISA หรือ Programme for International Student Assessment องค์กรนานาชาตทิ ่ีประเมนิ เรอื่ งการศกึ ษา โดย United Nations Development Programme พบว่า ปี ๒๕๕๕ การศกึ ษาประเทศไทยอยู่อนั ดบั ท่ี ๕๐ จาก ๖๕ ประเทศสมาชิกทวั่ โลก แตท่ น่ี ่าเสยี ใจคอื เราลงทนุ ดา้ นการศึกษาถึง ๕ แสนลา้ นบาท คดิ เปน็ ๕ เปอร์เซน็ ตข์ อง GDP หากคิดเป็นสัดส่วน เราลงทนุ เปน็ อนั ดบั หน่ึงของโลก เรามโี รงเรียนในภาครฐั ๔๐,๐๐๐ โรง เรามคี รู ๔๐๐,๐๐๐ คน เราไมไ่ ด้ขาดอะไรเลย ถือวา่ ประเทศเราลงทุนดา้ นการศกึ ษาเยอะมาก แต่ทำ� ไมผลตอบลัพธ์ถงึ ไม่ดี เมอื่ ไหรก่ ็ตามที่เราลงทนุ เยอะมาก แล้วผลผลติ มันไมไ่ ดต้ ามท่ีเรา ตอ้ งการมนั มภี าษางา่ ยๆ เรียกว่า ไมม่ ีประสิทธภิ าพ คือ ลงทุนเยอะ แต่ได้ผลน้อย” รวั้ โรงเรยี น 29

มใี จพร้อมท่ีจะเรยี น ลดงานกระดาษของครู ใหค้ รูไดก้ ลบั เข้าห้องเรียน Peer Tutoring (พีช่ ว่ ยนอ้ ง ผองเพอื่ นชว่ ยกัน) : การสง่ เสริมให้ สอนหนังสือเดก็ ด้วยความรกั และสง่ เสริมผูป้ กครองให้มีสว่ นรว่ มในการ เพ่อื นท่ีเรยี นเกง่ ช่วยเพือ่ นทเ่ี รยี นชา้ กว่า เปน็ อีกหนง่ึ วธิ กี ารท่ีช่วยเพ่มิ เรียนการสอนและกิจกรรมของโรงเรยี นมากข้นึ ดงั นน้ั ภารกจิ ของศนู ย์ฯ ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนใหก้ บั เด็กไดด้ ี พบวา่ เดก็ ท่ีเป็นผูส้ อนและผู้เรียน จงึ มงุ่ เนน้ การปรับเปลีย่ นแนวทางการพฒั นาการศกึ ษาด้วย ๖ โครงการ จะเกง่ ขึน้ ทงั้ คูอ่ กี ท้ังช่วยสร้างความรกั และสามคั คีใหเ้ กิดขึ้นในโรงเรียน พฒั นาการศกึ ษาที่มปี ระสิทธิภาพสูงได้แก่ และฝึกทกั ษะการสื่อสาร ความรับผิดชอบ และเรียนรถู้ งึ คุณคา่ ในการ Growth Mindset (พัฒนากรอบความคดิ ) : ศกั ยภาพของคน ชว่ ยเหลอื ผอู้ ื่นอกี ดว้ ย เราสามารถพัฒนาได้ คนที่มี Growth Mindset หรือกรอบความคดิ แบบเตบิ โต คอื ผ้ทู มี่ คี วามคิดท่อี ยากจะเรยี นรอู้ ยตู่ ลอดเวลา ไม่ย้อท้อ ต่ออปุ สรรค และมองความทา้ ทายเปน็ โอกาส ดังน้นั ต้องเริ่มต้นจากครู เปน็ ตัวอย่างของการมี Growth Mindset ดว้ ยการให้เด็กตง้ั เปา้ หมาย ในการเรียนและคุณครคู วรใช้เทคนิค Feedback ท่เี หมาะสม เพ่ือชว่ ย พฒั นาเด็กไดฝ้ ึกฝนและพฒั นาต่อไป Socratic Teaching (ครูสอนคิด) : มที ีม่ าจากนกั ปราชญ์ โสเครตีส ชาวกรกี โดยครมู หี น้าทีต่ ัง้ คำ� ถามให้นักเรียนคิดและร่วมกัน อภิปราย การสอนรูปแบบนี้ จะเปน็ การกระตุ้นใหเ้ ด็ก รจู้ กั ถามและ คน้ หาค�ำตอบด้วยตัวเองมากกวา่ การเชื่อในสิง่ ทคี่ นอืน่ บอก ครูควรมี ทกั ษะในการต้งั คำ� ถามทดี่ ีเพ่อื กระตนุ้ ใหเ้ ด็กไดค้ ิดในเรอื่ งทีส่ นใจได้ ชัดเจน ลกึ ซ้งึ และช่วยใหเ้ ดก็ สามารถเชอ่ื มโยงเรื่องทส่ี นใจกับตวั เองได้ Student-Teacher Relationship (การพฒั นาความสมั พันธ์ ระหวา่ งครูกบั เดก็ ) : เมอื่ เด็กมีความสมั พันธ์ท่ีดกี บั ครู เดก็ กจ็ ะร้สู ึกว่า โรงเรยี นเปน็ ท่ีทมี่ ีความอบอ่นุ และปลอดภัย สง่ เสรมิ ให้เกิดพฒั นาการ ทดี่ ีทงั้ ทางดา้ นอารมณ์ สงั คม และการเรียนรู้ นับเปน็ ปัจจยั พนื้ ฐานที่ ส�ำคัญในการเรียนของเดก็ ท้ังน้ที างฝ่ายนโยบายจะตอ้ งช่วยเออื้ ให้ครูได้ มเี วลาวางแผนการเรียนการสอนและมีเวลาดแู ลเอาใจใส่เด็กมากขนึ้ รัว้ โรงเรียน 30

Inclusion (การพัฒนาครเู พอ่ื การดูแลเดก็ พเิ ศษในเบอ้ื งต้น) : เดก็ ทม่ี ีความต้องการพิเศษคือเด็กทม่ี ีความบกพรอ่ งหรือปัญหาในการ เรยี นรู้ และพฒั นาการต่างๆ ที่ไมเ่ ทา่ เทียมกับเดก็ ทัว่ ๆไปในระดบั อายุ เดยี วกนั ครูผ้สู อนตอ้ งอาศยั ความรู้ ความเขา้ ใจ และใหก้ ารชว่ ยเหลอื เพื่อใหเ้ ดก็ พเิ ศษสามารถเรยี นอย่ใู นชั้นเรียนปกติได้ และสามารถพัฒนา ไปไดต้ ามศกั ยภาพของตน Parental Involvement (การมสี ่วนรว่ มของผู้ปกครอง) : การใหพ้ ่อแม่ผ้ปู กครองมีส่วนรว่ มในการเรยี นของเด็กให้มากข้ึน เช่น กจิ กรรมวันพบผูป้ กครองท่ีเปิดโอกาสใหผ้ ู้ปกครองพบครูครบทุก รายวชิ า หรือการเขียนสมดุ พกโดยเนน้ ใส่ใจในรายละเอยี ดของเด็ก แตล่ ะคน เพ่อื ให้เกดิ การพฒั นาด้านการศกึ ษาและความสมั พันธท์ ี่ดี ระหว่างครู ผู้ปกครอง และเด็ก โรงเรียนทเี่ ขา้ ร่วมในโครงการ ได้แก่ โรงเรยี นวดั รางบวั โรงเรยี น จติ รลดา กรงุ เทพมหานคร โรงเรยี นสตั ยาไส จ.ลพบรุ ี และโรงเรียน บางมูลนากภมู ิวทิ ยาคม จ.พิจติ รสามารถตดิ ตามความคืบหนา้ ของ โครงการในแตล่ ะโรงเรยี นไดท้ ี่ www.kidsd.org เปา้ หมายในปี ๒๕๕๘ ศนู ย์จิตวิทยาการศกึ ษา จะพฒั นา ผอู้ ำ� นวยการศนู ยจ์ ิตวิทยาการศกึ ษา ไดก้ ลา่ วถงึ ทิง้ ทา้ ย ๖ โครงการพฒั นาการศึกษาทมี่ ีประสิทธิภาพสูง เปน็ หลกั สูตร วา่ “ถึงเวลาแลว้ ทีเ่ ราตอ้ งเลิกพฒั นาสงิ่ ไกลตัว ทัง้ หมดนีเ้ ป็นเรอ่ื ง Instructional Leadership Program เพือ่ พฒั นาผูน้ �ำการศึกษาในทุก แคใ่ จกบั ใจ คืนครูใหก้ ับนกั เรยี น คนื ความไวว้ างใจในระบบการ ระดับอย่างเข้มข้น โดยผ้นู ำ� สถานศึกษาที่สนใจสามารถติดตอ่ เข้ามาเพือ่ ศกึ ษาไทยใหก้ ับสาธารณชน ยกระดับการปฏริ ปู การศกึ ษาไทยให้มี สมัครเข้าร่วมโครงการนไ้ี ด้ อกี ทงั้ ผลติ ส่ือเพอื่ เผยแพรอ่ งคค์ วามร้ดู ้าน ประสิทธิภาพ ตามพระราชกระแสฯ “ให้ครูรักเดก็ และเด็กรกั ครู” การพฒั นาการศกึ ษาไทยประสทิ ธิภาพสูงอย่างตอ่ เน่ือง เพ่อื ใหโ้ รงเรยี น ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว” ท่อี ยหู่ า่ งไกลสามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู และได้รับประโยชนเ์ ทา่ เทียมกัน รัว้ โรงเรยี น 31

KidSD เปดิ ใจเชอ่ื มใจ โรงเรียนวดั รางบวั คร-ู นักเรียน-ผู้ปกครอง โรงเรียนวัดรางบวั เขตภาษีเจรญิ กรงุ เทพมหานคร เปน็ โรงเรียนระดบั มัธยมศึกษาขนาดเล็กที่มคี วามมงุ่ มั่นในการ พฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอนอย่างตอ่ เน่ืองอาจารย์บสุ บง พรหมจนั ทร์ ผู้อำ� นวยการโรงเรยี นวดั รางบัวเล่าให้ฟงั วา่ เม่อื ปีการศึกษาที่ผ่านมา โรงเรยี นวดั รางบัวไดเ้ ข้ารว่ มโครงการกับ ศูนยโ์ รงเรียนคณุ ธรรม ดังนัน้ ในปกี ารศกึ ษานี้ โรงเรียนจึงไม่ลงั เลใจเลยท่ีจะเข้ารว่ ม เป็นเครือขา่ ยของศนู ยจ์ ติ วิทยาการศึกษา มูลนิธยิ วุ สถริ คณุ ผู้อำ� นวยการบสุ บง พรหมจนั ทร์ ผูอ้ �ำนวยการโรงเรยี นวัดรางบัว รวั้ โรงเรียน 32

“กิจกรรมทศี่ ูนย์จิตวิทยาการศกึ ษาได้ท�ำทโี่ รงเรียนแลว้ เกือบ แรอพงทผยอู้ ์ห�ำญนวิงยปกิยาารภศสั นู รย์ จ์ฯิตฝภา่ิรยมวยชิ ์ าการและวิจัย ท้งั หมด “อย่างกจิ กรรม Growth Mindset เปน็ จุดเรม่ิ ต้นทดี่ ีมาก อาจารย์ลดิ ดา โตอดิเทพย์ เนอ้ื หาของกจิ กรรมเป็นการเปิดมมุ มอง เปลีย่ นทัศนคติวา่ คนเราทุก คนมศี ักยภาพ สามารถพัฒนาใหด้ ขี นึ้ ได้ หนา้ ทข่ี องคุณครคู ือ จะทำ� อยา่ งไรที่จะส่งเสริมให้เด็กเชอ่ื ว่า คนเราประสบความสำ� เรจ็ ไดโ้ ดยไม่ จำ� เปน็ ตอ้ งฉลาดหรอื มีพรสวรรค์ ขอเพยี งมีจติ ใจท่ีอยากจะเรยี นรูอ้ ยู่ ตลอดเวลา ไม่ยอ่ ท้อตอ่ อุปสรรค แต่ในขณะเดยี วกันก็คอยให้ก�ำลงั ใจ เดก็ ดว้ ยอย่างเดก็ ทีไ่ ม่ต้งั ใจเรียน ไมส่ นใจเรยี นคุณครูจะต้องทำ� ใหเ้ คา้ เห็นวา่ จรงิ ๆ แล้วเคา้ ก็มีดีอย่ใู นตวั เหมอื นกนั เช่น เขาเป็นคนมีนำ้� ใจ กบั เพอื่ น ช่วยเหลือเพื่อนอย่เู สมอๆ เป็นคนท่มี ีจติ อาสา ท�ำให้มีเพอื่ น เยอะ เป็นทร่ี กั เพื่อใหเ้ คา้ มีก�ำลงั ใจอยากท่ีจะพัฒนาตนเองในด้านอื่นๆ ตอ่ ไป” ในส่วนของโครงการพฒั นาครเู พื่อการดูแลเดก็ ท่มี ีความตอ้ งการ พิเศษในเบ้อื งต้น (Inclusion) จะมวี ทิ ยากรผ้เู ชีย่ วชาญมาชว่ ยให้ความ รูก้ บั ครทู ย่ี งั ไมร่ หู้ รอื รแู้ ลว้ แตย่ งั ไมช่ ดั เจน ใหเ้ ขา้ ใจเดก็ วา่ เดก็ พเิ ศษเหลา่ นนั้ เขาต้องการอะไร เขามีความผิดปกตติ รงไหน จะแก้อย่างไรจึงจะถูกจุด เปน็ การให้ความรู้กบั ครู เพื่อให้เขา้ ใจเด็กได้อย่างถูกตอ้ ง ไมม่ องวา่ เดก็ เป็นปญั หา”อาจารย์ลิดดา โตอดิเทพย์ ครชู �ำนาญการพิเศษ ผูส้ อนวิชา สขุ ศึกษาและรบั ผดิ ชอบดแู ลเดก็ พเิ ศษกลา่ ว สร้างสายสัมพนั ธ์ “พชี่ ่วยน้อง ผองเพื่อนช่วย กัน” และ “ครู-ผู้ปกครองช่วยกัน” นอกจากการพฒั นาบคุ ลากรครูในโรงเรียนแลว้ การสร้างความ สมั พนั ธอ์ นั ดีระหวา่ งครูกบั นกั เรียน รนุ่ พก่ี ับรุ่นนอ้ ง ผ้ปู กครองกับ คุณครู กถ็ ือเป็นปัจจยั ท่ีสำ� คัญมากตอ่ การพัฒนาผลสมั ฤทธทิ์ างการ ศึกษาของเด็ก รัว้ โรงเรยี น 33

แพทยห์ ญงิ ปยิ าภสั ร์ กลา่ วเสรมิ วา่ “ทงั้ โครงการ Peer Tutoring และ Parental Involvement เป็นโครงการทเ่ี ป็นประโยชน์มาก จะเห็นว่าเพียงเทอมเดยี วความ สมั พนั ธ์ระหวา่ งครู เดก็ และผู้ปกครองกด็ ีข้นึ และผลสัมฤทธทิ์ างการศึกษาของเดก็ ๆ กพ็ ัฒนาข้ึนอีกดว้ ย กญุ แจความสำ� เร็จของทง้ั ๒ โครงการนี้อยทู่ ี่ทางโรงเรยี นได้น�ำไป วางเป็นนโยบายของโรงเรยี นและปฏิบัตใิ หเ้ ห็นเป็นรูปธรรมอยา่ งจริงจงั ” ผู้อำ� นวยการบสุ บง ไดเ้ ล่าถึงกจิ กรรมโครงการด้วยสีหน้าย้มิ แย้มและความ รู้สกึ ยินดีอยา่ งย่งิ กบั ผลตอบรับในทางบวกจากผู้ปกครอง “ส�ำหรับโครงการพช่ี ่วยนอ้ งผองเพือ่ นชว่ ยกนั ศูนย์จิตวิทยา การศึกษาใหโ้ รงเรยี นคดั เด็กนกั เรียนที่มผี ลการเรียนดี ต้งั แต่ เกรด ๓ ขึ้นไป ให้ทนุ ไปเรียนพเิ ศษเพือ่ เก็บเก่ยี วความรู้และ เทคนคิ ตา่ งๆ กลบั มาเปน็ ตวิ เตอรส์ อนเพอ่ื นสอนนอ้ ง เบอ้ื งตน้ ใหท้ นุ มา ๓๒ ทนุ ตอนน้ใี หเ้ พิม่ อีกเปน็ ๙๖ ทนุ ที่จะให้เดก็ ไปเรยี นพเิ ศษในเดอื นตุลาคมซึง่ เป็นช่วงปดิ เทอม สว่ นกิจกรรมพบผู้ปครอง นเี่ ปน็ ครั้งแรกทเี่ ริ่มท�ำ ผลตอบ รับ..ดีมาก ผู้ปกครอง อยากใหจ้ ัดอกี ทกุ ภาค เรยี น โดยเราเชิญผ้ปู กครองมาพบครรู ายวิชา ทำ� วนั ละชนั้ เรยี นตงั้ แต่ ม.๑-ม.๖ สมมตุ วิ า่ ม. ๖ เราเปดิ ๑๕ รายวชิ า ครูทกุ รายวิชาจะ ตอ้ งมาน่ังประจ�ำโต๊ะเปรียบเหมอื นคุณหมอ เป็นคลินกิ ท่ผี ู้ปกครองนำ� ลกู มาพบกับคุณครู รายวชิ า อยากเขา้ คลนิ กิ รายวชิ าไหนเขา้ ไดเ้ ลย จนครบทัง้ ๑๕ รายวิชาผู้ปกครองจะทราบ หมดเลยวา่ ลกู เราเรยี นดไี ม่ดยี ังไง และสิง่ หน่งึ ที่สะท้อนกลบั มาอกี อนั คือ ผูป้ กครองบอกวา่ ทำ� ใหเ้ ขาสามารถแนะแนวลูกได้ เพราะเขา มารู้ เชน่ ลกู เราเก่งภาษาองั กฤษ แตอ่ อ่ นวชิ า ภาษาไทยกจ็ ะไดช้ ใ้ี หล้ กู เรยี นไปตามทีถ่ นัด อยา่ งนีเ้ ป็นตน้ รวั้ โรงเรยี น 34

ส่วนด้านคุณครูของเราก็จะได้ความสัมพนั ธท์ ใ่ี กลช้ ิดกับ ผู้ปกครองมากข้นึ เหมอื นชอ่ งวา่ งระหว่างครกู ับผู้ปกครองลดลง ผูป้ กครองกน็ ่าจะศรัทธาในโรงเรยี นมากขึน้ เชื่อมัน่ ในการดแู ล เอาใจใส่ลูกหลานเขามากข้นึ เด็กนกั เรยี นกน็ า่ จะเริม่ ตง้ั ใจเรยี นมากขึ้น เพราะเมอ่ื คุณครู กบั ผู้ปกครองใกล้ชดิ กนั มากขึน้ ตา่ งฝ่ายต่างหม่นั สังเกตพฤติกรรม และมกี ารสอื่ สารแลกเปลี่ยนกนั เด็กก็จะระวังตัวเองมากขนึ้ อยใู่ น ระเบยี บวนิ ัย มีวนิ ยั ในตนเองมากข้นึ มคี วามรบั ผิดชอบมากข้ึน ใฝ่ เรยี นรมู้ ากขึน้ กค็ ือ เปน็ การชว่ ยกันบ่มเพาะเด็กทั้งทโ่ี รงเรยี นและ ก็ท่บี า้ น” “กจิ กรรมที่กล่าวมามนั ถกู ร้อยรัดกนั ดว้ ยความลงตวั เริ่มจากปรับความเชอื่ ความคิดของครู การไดม้ าเขา้ ใจว่าเด็ก พิเศษคอื อะไร การให้ผู้ปกครองไดเ้ ขา้ มามีสว่ นรว่ มเพ่ิมความ สมั พันธใ์ กล้ชิดกันมากขึ้น เดก็ กบั เดก็ กใ็ กลช้ ดิ กนั มากขึน้ จาก การท่ีพ่สี อนนอ้ ง เพ่ือนสอนเพื่อน โดยเฉพาะโครงการแรก คอื Growth Mindset นนั้ ส�ำคญั ทสี่ ุด เปน็ จดุ เปลีย่ นเลยกว็ า่ ได้ คะ่ ” ผู้อ�ำนวยการโรงเรยี นวดั รางบัว สรุปปดิ ท้าย รวั้ โรงเรยี น 35

ชวนคุย คอลัมน์ “ชวนคุย” เปน็ คอลมั น์ท่ีทมี งาน เครือขา่ ยผูป้ กครองจติ อาสา นติ ยสารตงั้ ใจเปดิ เปน็ พน้ื ทสี่ ะทอ้ นมมุ มอง หลกั คดิ และความรสู้ ึกจากบุคคลในกลมุ่ ตา่ งๆ ท่มี สี ่วน เครอื ข่ายผปู้ กครองจติ อาสา เป็นอีกหนึ่งภาคสี �ำคัญของโรงเรยี น เกีย่ วข้องในโครงการต่างๆ ท่ีแตล่ ะศนู ยฯ์ บางมลู นากภูมวิ ิทยาคม ท่ีมีส่วนช่วยในการบ่มเพาะนักเรยี นซ่งึ เปน็ ลกู ขบั เคลื่อนผา่ นสถานศกึ ษาต่างๆ เพื่อสะท้อนให้ หลานของพวกเขาใหเ้ ป็นคนดี มีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม โดยทกุ ๆ เชา้ ของ เห็นรูปแบบ กระบวนการ หรือผลลพั ธ์ท่ีเกดิ ข้ึน แตล่ ะวนั ผูป้ กครองจิตอาสาจะมาชว่ ยงานโรงเรียนและครู ตัง้ แต่เรื่อง ดงั เชน่ บางความรสู้ กึ บางมมุ มองของ ของการดูแลความปลอดภยั ของนักเรยี นบรเิ วณหน้าโรงเรียน การสรา้ ง นกั เรยี น คณุ ครู และผปู้ กครอง ทม่ี สี ว่ นรว่ มใน ความสมั พันธ์กบั กลุ่มผูป้ กครองดว้ ยกัน รวมถึงการเสนอแนะแนวทาง กจิ กรรม ดังต่อไปนี้ แกป้ ญั หาและการพัฒนาโรงเรียนในด้านต่างๆ อาทิ สภาพแวดล้อมของ โรงเรียน พฤตกิ รรมนักเรียน หรือปญั หาอ่นื ๆ ทม่ี ีผลกระทบตอ่ นกั เรยี น ท้ังนี้ โรงเรยี นยงั ไดใ้ หก้ ารสนับสนุนการท�ำงานของเครือข่าย ผู้ปกครองจิตอาสาในทกุ รปู แบบ รวมทั้งจัดพนื้ ทอ่ี าคารหลังเลก็ ๆ เพ่ือ ให้เป็นสถานที่ท�ำงานและการประชุมปรกึ ษาหารือกนั ระหวา่ งกลุ่ม ผปู้ กครอง “จดุ เริม่ ต้นที่ตอบรับเปน็ เครือขา่ ยคือ เรามีลูกเรยี นอย่ทู ี่น่ี แต่ก่อนเรามาสง่ แล้วกก็ ลบั ไมร่ ้เู ลยวา่ ลกู อยโู่ รงเรียนเป็นอยา่ งไรบา้ ง การเรยี นการสอนเปน็ อยา่ งไร หรอื สภาวะแวดล้อม ในโรงเรียนเป็นอย่างไรบ้าง เมอื่ โรงเรียนจัดพน้ื ทใี่ ห้เราได้เข้ามาเรียนรู้ มามีส่วนรว่ ม เรากย็ ินดี เพราะหนึ่ง เราไดม้ าดลู ูกเรา ไดม้ าดูสถานท่ี มาช่วยกันปรับปรุงให้สะดวกและปลอดภยั กับลกู หลานเรา ประเด็นแรกนค่ี อื เพอื่ ลกู กอ่ นเลยคะ่ ประเด็นต่อมาคอื การมาเปน็ จิตอาสาก็เหมือนกับการทำ� บุญ ท�ำบุญให้กับเด็กๆ มาท�ำบุญ ในโรงเรียน ซึง่ เรามองว่าตรงน้เี ห็นเปน็ รูปธรรมดว้ ย เพราะเรามองเหน็ พฒั นาการของเขาชดั เจน เหน็ เด็กพัฒนาขนึ้ เรากม็ ีความสขุ ตวั เองกเ็ ปน็ ศิษย์เกา่ ทน่ี ี่ เคยมองเห็นตั้งแตโ่ รงเรยี นตดิ ลบ โรงเรียนไม่ใช่แคศ่ ูนยน์ ะคะ คือ ติดลบลงไปแลว้ ชว่ งกอ่ นทีจ่ ะเป็นโรงเรยี นคณุ ธรรม แต่ตอนนี้ เด็กมคี วามประพฤติดีขึ้น มีคะแนนท่ีดีขึ้น สามารถไปสอบเรียนต่อได้มากขึน้ เรากไ็ ม่น่าทีจ่ ะหยุด ท�ำตรงน้ี” คุณกรณว์ รัตต์ โสภณพเิ ชฐ คณะกรรมการเครอื ข่ายผ้ปู กครองจิตอาสา โรงเรียนบางมูลนากภมู ิวทิ ยาคม รวั้ โรงเรยี น 36

“หวั ใจสำ� คญั ของเครอื ขา่ ยเราเลย คอื หอ้ งเครอื ขา่ ย หรอื ชมรมเครอื ขา่ ยผปู้ กครองจติ อาสา จ.ส.อ.เกรียงไกร มีสายมงคล ทีน่ น่ั มเี วทพี ูดคยุ ๒ เวทีด้วยกัน คอื เวทีส�ำหรับครทู ่ีปรึกษาพบปะกบั ผู้ปกครอง พดู คุยแลก ประธานเครือข่ายผ้ปู กครองจติ อาสา เปลี่ยนถามไถ่กนั ว่า ท่ีโรงเรยี นลกู เราเปน็ ยงั ไง ผลการเรียนเป็นอย่างไร เด็กอย่บู า้ นเปน็ ยังไง เนน้ การส่ือสารแลกเปล่ียนคยุ กัน ตรงนี้ผมว่าเปน็ ส่งิ ท่สี ำ� คัญมาก ปกตผิ ู้ปกครองมาสง่ ลกู แล้วก็ โรงเรียนบางมูลนากภูมวิ ทิ ยาคม กลับบา้ น โอกาสท่ีจะได้พดู คยุ กบั คณุ ครูมนี อ้ ยมาก เวทนี จ้ี งึ เป็นเวทีทส่ี �ำคัญในการแลกเปลย่ี น สรา้ งความเขา้ ใจท่ตี รงกัน จากนั้นเม่ือครูกลับข้นึ ไปสอนนักเรียน เครือข่ายผปู้ กครองกจ็ ะยังน่ัง คยุ กัน อันนี้กจ็ ะเปน็ อีกเวทที ส่ี ำ� คัญ เราก็จะคุยกนั ว่ามีอะไรทย่ี ังปรบั ปรงุ ได้ อยากเสนอแนะอะไร ผ้ปู กครองไดม้ โี อกาสเดินดรู อบๆ โรงเรยี น ยังมอี ะไรไม่ดีตรงไหน อยากใหโ้ รงเรยี นทำ� อะไร เพม่ิ เติมตรงไหน ความปลอดภยั ความมีระเบยี บ เมอื่ เชา้ บรรดาผู้ปกครองได้ยืนดเู ดก็ นกั เรียน เปน็ ยงั ไงบ้าง จากน้ันพวกเราก็ชว่ ยกันรวบรวมข้อเสนอแนะเป็นลายลักษณอ์ ักษรในสง่ิ ทผ่ี ปู้ กครอง อยากได้ สง่ิ ที่ผู้ปกครองอยากใหเ้ ป็น สง่ิ เหลา่ น้ีฝา่ ยผบู้ ริหารโรงเรียนกจ็ ะน�ำไปขับเคล่อื นแกไ้ ข แลว้ กม็ สี รปุ วา่ อะไรทโี่ รงเรยี นนำ� ไปทำ� แลว้ กำ� ลงั จะทำ� หรอื ทำ� ไมไ่ ดด้ ว้ ยเหตผุ ลอะไร กจ็ ะชแี้ จงกนั ผปู้ กครองเขา้ ใจตรงกับคุณครู ครูเข้าใจตรงกับผปู้ กครอง ผปู้ กครองเขา้ ใจเด็ก โรงเรยี น เขา้ ใจกนั ผมเช่ือมนั่ ว่าปญั หาตา่ งๆ จะลดลง เราทำ� กันมาแบบนี้ ปีน้ีกเ็ ขา้ ปีที่ ๕ ไม่มใี ครบงั คบั ใหท้ �ำ พวกเราอาสามาท�ำ เพราะท�ำแล้วเกิดความสขุ ครบั ” เชน่ เดยี วกบั ความรสู้ กึ ของ เรยี นการสอน แล้วกม็ ัน่ ใจวา่ ลูกเราเม่ือเข้ามาในโรงเรียนแล้ว เขาจะ คณุ มชั ฌมิ า ปญั จพทุ ธา ไม่มที างออกนอกโรงเรียนแล้ว แรกๆ กจ็ ะแอบดูอยู่ทุกวันเลยวา่ หลัง ผปู้ กครองนกั เรยี นชนั้ ม.๑ จากทีเ่ ราสง่ แลว้ เขาจะกลบั ออกไปนอกโรงเรยี นรเึ ปลา่ แต่ตรงนกี้ ค็ ือ โรงเรยี นบางมูลนากภูมิ อาจารยใ์ ห้ความม่นั ใจกบั เราได้ว่า เม่ือลูกเข้ามาในโรงเรียนแล้ว เขาจะ วิทยาคม ทีเ่ พิ่งมโี อกาสได้ ไมห่ นีออกไปไหน” มาร่วมกจิ กรรมตอนเชา้ เปน็ ครัง้ แรก ตั้งแต่การรบั นักเรียนเขา้ โรงเรยี น เดินดู สภาพแวดล้อมภายใน โรงเรียน และร่วมกิจกรรม หนา้ เสาธงกบั คุณครูและ นักเรียนทัง้ โรงเรยี น “รู้สึกดีใจคะ่ ดีแลว้ ทีล่ ูกมาเรยี นโรงเรยี นน้ี เพราะมีความอุ่นใจขึ้นเยอะมาก และพฤติกรรมของลูกก็ เปลี่ยนแปลงไปนะ จากอยู่ประถมก็ยังเด็กเนาะ มาถึงกโ็ ยน เหวย่ี ง รองเท้าลากมาแล้วต้งั แตย่ ังไม่ถงึ บ้านเลย เดย๋ี วนี้เขาเร่มิ เปลย่ี นแปลงไป กด็ เู รยี บรอ้ ยขึ้นกวา่ เม่อื กอ่ น ท่นี ม่ี ีระเบยี บในการ รัว้ โรงเรยี น 37

โครงการ Peer Tutoring พ่ี ชว่ ยนอ้ ง ผองเพ่อื นชว่ ยกัน การให้เพอื่ นทีเ่ รยี นเกง่ ชว่ ยเพอื่ นที่ เรียนช้ากว่า เปน็ วธิ หี นึง่ ทีช่ ว่ ยเพม่ิ ผลสมั ฤทธ์ิ ทางการเรยี นได้ดี ทง้ั เดก็ ท่เี ป็นผสู้ อน (Tutor) และผ้เู รยี น (Tutee) และช่วยเพม่ิ ความ รักและสามคั คีใหเ้ กดิ ข้ึนในโรงเรียน พร้อม เป็นการฝกึ ทักษะการส่อื สาร ฝึกความรบั ผิด ชอบ และไดร้ ับรูถ้ ึงคณุ คา่ ในการช่วยเหลอื ผู้ อนื่ โดยมีครูช่วยดแู ลเนือ้ หาใหถ้ กู ตอ้ ง ครูมี บทบาทดา้ นการจดั การ การกำ� หนดเปา้ หมาย และให้คำ� แนะนำ� เปน็ ที่ปรกึ ษาใหก้ บั เด็กๆ ใน การจัดกจิ กรรม เป็นการแสดงออกถึงความ ยอมรับและเช่อื มน่ั ในศกั ยภาพของเดก็ นกั เรียนกลุม่ Tutor และผเู้ รียน ด.ญ.วรรณษา แสงดี “ประมาณ 3 โมง 10 นาที คอื เวลา ตวิ เตอร์วชิ าภาษาองั กฤษ เลกิ เรียน เราก็จะขึน้ ไปทีห่ ้องเรียน เป็นหอ้ ง ปฏบิ ัติการ หอ้ งเพอื่ นสอนเพือ่ นคะ่ ห้องนี้เปน็ ด.ญ.วรรณษา แสงดี นกั เรียนชัน้ ม. ด.ญ.บศุ ยมาศ สาหร่ี ห้องของรุ่นพ่มี .ปลายเรียนค่ะ บางทีรุ่นนอ้ งก็ ๒/๑ โรงเรยี นวัดรางบวั ติวเตอร์วชิ าภาษา ติวเตอรว์ ิชาคณติ ศาสตร์ ยงั ไม่เคยเขา้ ไป วนั ทเ่ี ราไปติวพวกเราก็จะได้ อังกฤษ เล่าใหฟ้ ังถึงบรรยากาศหลงั เลกิ เข้าไปในห้องน้ี โดยหลังเลกิ เรียนหนกู จ็ ะเดิน เรยี น ซงึ่ เป็นชว่ งเวลาของการกิจกรรม Peer ประกาศวา่ วนั น้จี ะตวิ วชิ าอะไร เพื่อนก็จะเดิน Tutoring พร้อมกบั บอกเหตุผลทม่ี าเปน็ กนั ไปทหี่ อ้ งตวิ ในหอ้ งหนกู จ็ ะแนะนำ� วา่ วนั น้ี ตวิ เตอรเ์ พ่ือนสอนเพอ่ื นอยา่ งมอี ารมณข์ ันว่า จะสอนเรอื่ งอะไร แล้วก็จะถามเพอื่ นดว้ ยว่า “เพ่ือนมาถามบอ่ ยคะ่ การบา้ นก็มาถาม เรยี น ไมเ่ ข้าใจเรอ่ื งไหนหรอื เปล่า เพราะบางทเี พอ่ื น อยูก่ ็สะกดิ ถาม บางทีเขากไ็ มเ่ ข้าใจ เราก็อยาก อาจจะเขา้ ใจบางเรอื่ ง บางเรอื่ งไม่เข้าใจ เรอ่ื ง มาสอนหลงั เลกิ เรยี นนะ ก็จะบอกเพือ่ นไปวา่ เก่ายงั ไมเ่ ขา้ ใจ มาเรอื งใหมอ่ กี แล้ว เรากจ็ ะ ถ้าไมเ่ ข้าใจในห้องกฟ็ งั อาจารย์ไปกอ่ น แลว้ สอนเรื่องทีเ่ พื่อนไมเ่ ข้าใจ” หลงั เลกิ เรียนคอ่ ยมาทบทวนกัน ก็จะสอนให้ เข้าใจเลย จะได้ไม่ต้องมาถามบ่อยๆ (หัวเราะ) น.ส.เบญจรตั น์ ภู่สวัสด์ิ และตวั เราเองก็ได้ทบทวนความรขู้ องตัวเอง ตวิ เตอรว์ ชิ าชีววิทยา พรอ้ มท้งั พฒั นาทกั ษะการส่ือสารด้วยค่ะ” รวั้ โรงเรยี น 38

น.ส.ณฤทยั ทอง ตวิ เตอร์วิชาภาษาองั กฤษ นายสทุ ธริ ตั น์ สิงสหะ ขณะท่ี น.ส.ณฤทัย ทองมี เพอื่ นรว่ ม ตวิ เตอร์วชิ าภาษาไทย ห้อง ม.๖/๑ ติวเตอรว์ ชิ าภาษาองั กฤษเสริม ว่า “นอกเหนือจากความรู้ความเขา้ ใจในวิชา นายนฤเดช ศรภี งู า ต่างๆ ท่เี พมิ่ ข้นึ ยังไดค้ วามสมั พันธภ์ ายใน รุน่ น้องทีม่ าตวิ โรงเรยี นระหว่างพก่ี ับน้องด้วยค่ะอยา่ งนอ้ ง ม.๔ เป็นเด็กใหม่ เป็นเด็ก ม.ตน้ ท่ีเพิง่ ขน้ึ มา น้องเขาจะกลัวว่าพี่ดุ ไม่กลา้ เขา้ หาพี่ แตพ่ อ มกี จิ กรรมเขา้ มา ไดร้ จู้ กั กนั มากขนึ้ ไดพ้ ดู คยุ กนั การสันทนาการ การสอน การถาม อย่างถา้ นอ้ งไมเ่ ข้าใจวิชาอน่ื ๆ หรือมกี ารบา้ น นอ้ งก็ สามารถเขา้ มาถามได้ น้องก็จะร้สู ึกวา่ พใี่ จดี เขากจ็ ะกล้าพดู กล้าถามมากข้ึนค่ะ” นอกจากการได้ทบทวนความรู้ ได้ช่วย พัฒนาเพ่อื นๆ และน้องๆ แลว้ การไดม้ าเปน็ ตวิ เตอร์ยังเปน็ การจุดประกายความฝนั ในเสน้ ทางการเป็นครูให้กบั นกั เรยี นบางคน อย่าง เช่น สุทธิรัตน์ สิงสหะนักเรยี นชนั้ ม.๖/๑ ติวเตอรว์ ิชาภาษาไทย “ตอนแรกผมกไ็ ม่ไดร้ สู้ กึ อะไร แตพ่ อ มาเปน็ ติวเตอรต์ วิ ให้น้องๆ ก็รู้สึกเหมอื นมี แรงบนั ดาลใจวา่ อยากเป็นครู หรอื ว่าอยาก ถา่ ยทอดอะไรตา่ งๆ กเ็ ลยคดิ วา่ ผมจะเลอื ก คณะครศุ าสตร์ น่ีเปน็ แรงบนั ดาลใจทผ่ี มได้ จากโครงการนี้ จากเดิมทผ่ี มอยากเรียนพวก นเิ ทศศาสตร์ พอได้มาติวก็รูส้ กึ วา่ เรามีความ สุขเวลาไดท้ �ำแบบนี้ กเ็ ลยมแี รงบนั ดาลใจข้ึน มาวา่ อยากจะเรียนครศุ าสตรค์ รบั ” รวั้ โรงเรียน 39

ความร้สู ึกของผู้ปกครองเมื่อลูกเปน็ Tutor “ตง้ั แต่มกี ารตวิ เขากก็ ลบั บ้านดึก เพราะเขาต้องรบั ผิดชอบตรงนี้ ซึ่งแรกๆ เรากร็ สู้ กึ ว่าท�ำไมกลับบา้ นดกึ จงั เขา ก็บอกว่า ..แม่ เราทำ� แลว้ เรากต็ อ้ งทำ� ให้ส�ำเรจ็ เรากห็ ว่ ง เขาเวลากลับบา้ นดกึ ๆ ล่ะนะ แตก่ ว็ า่ ดี เขาก็จะไดเ้ ป็นผใู้ หญ่ มากข้นึ ไม่ใชเ่ ป็นเดก็ ไปวันๆ ไม่ได้รับผดิ ชอบอะไร เขามา ท�ำตรงนก้ี ็ทำ� ให้เขาเกดิ ความรบั ผดิ ชอบมากขน้ึ วา่ เขามงี าน ตอ้ งท�ำนะ ต้องสอนน้องนะ ตอ้ งทำ� โครงการนใ้ี หส้ �ำเรจ็ ให้ ดีขึน้ นะ เรากร็ ู้สกึ ภมู ใิ จท่ีลูกมีความสามารถ เป็นทไ่ี วว้ างใจ ของคณุ ครูทใ่ี หเ้ ขามีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงเรยี น” อัจฉรา กรปรีชา ผูป้ กครอง น.ส.ธิดารตั น์ กรปรชี า “เรากเ็ ห็นวา่ เขาทำ� ในสง่ิ ท่ดี ี กร็ ูส้ ึกดี อย่างเรอ่ื งตวิ นคี่ ดิ วา่ เปน็ โครงการที่ดนี ะคะ เพราะอยา่ งก่อนหน้านี้ ตอนเขาอยู่ ม.๔ ม.๕ ไมม่ ี ใครงการนี้ กต็ อ้ งไปหาทเ่ี รยี นพเิ ศษเอาเอง ถา้ มีโครงการนเ้ี รากจ็ ะให้ติว ที่โรงเรียนดีกว่า คอื อยูใ่ นโรงเรยี นเรากไ็ มต่ อ้ งห่วงมาก ทแี รกเราก็ไม่เขา้ ใจนะวา่ ท�ำไมเขากลบั บา้ นช้ากว่าเมื่อกอ่ น จาก เดิมถงึ บ้านประมาณ ๖ โมง เดีย๋ วนี้ ๒ ทุ่ม กเ็ ปน็ ห่วง แตห่ ลังๆ มา คณุ ครูเขาอธิบายให้ฟงั กเ็ ขา้ ใจ ก็รสู้ ึกดี ยนิ ดเี ป็นอยา่ งยิ่งเลย แรกๆ กว็ ่า เขาไมไ่ ด้ตวิ ทกุ วันแตท่ ำ� ไมกลับคำ่� ทุกวัน เขากบ็ อกวา่ เวลาไมไ่ ดต้ วิ เขา ก็ต้องน่งั ฟงั เพอื่ เอาความรู้ เผ่อื จะได้สอนนอ้ งได้ดว้ ยเวลามีน้องมาถาม ก็จะไดช้ ่วยเสริมใหไ้ ด้ แตพ่ อเขามาท�ำตรงนี้ เวลาวา่ งเขาจะน้อยมาก นอนดกึ ขนึ้ เพราะเขาตอ้ งเตรยี มการสอนวันพรุง่ นใ้ี ห้น้อง แรกๆ เขาก็มี บ่นนะว่าเหนอื่ ย แต่ตอนน้ีเร่มิ จัดเวลาได้แล้ว ไม่บน่ แลว้ คะ่ ” เสาวนยี ์ วงศ์เจริญลลี า ผูป้ กครอง น.ส.ทิพยธ์ ดิ า วงศเ์ จรญิ ลลี า รัว้ โรงเรียน 40

การบม่ เพาะหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงจากร่นุ สู่ร่นุ ศูนยก์ ารเรียนรูต้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา (ศรร.) เปน็ สถาน ศกึ ษาท่ศี นู ยส์ ถานศึกษาพอเพยี ง มลู นิธิยุวสถริ คุณ ร่วมพฒั นาและขยายผลตอ่ ยอดมาจาก โรงเรียนท่ีเป็นสถานศกึ ษาพอเพียง (สศพ.) โดย ศรร. ทีก่ ล่าวน้ี นอกจากจะพงึ่ ตนเองไดแ้ ล้ว ยงั เปน็ ทีพ่ ่งึ หรือเป็นพ่ีเลยี้ งนำ� หลักวชิ า ความรู้ และเทคนคิ เขา้ ไปหนนุ เสริมใหก้ บั สถานศึกษา พอเพยี งและสถานศกึ ษาอื่นๆ ให้มคี วามเข้มแขง็ และพรอ้ มพัฒนาสกู่ ารเปน็ ศรร. และ สศพ.ผ่านครูแกนน�ำ “เร่ิมต้นตอนแรกเรายงั ไม่รู้วา่ การเรียนการสอนท่ีจะมงุ่ เนน้ การบ่มเพาะอปุ นิสัยพอเพยี ง ให้กับเด็กเปน็ อยา่ งไรและตอ้ งท�ำอยา่ งไรบ้าง เราก็สง่ ครแู กนน�ำ ๘ กลุม่ สาระไปอบรมเรื่องการ ท�ำแผนการสอนเพ่ือกลับมาจะไดพ้ ัฒนาการเรียนการสอนของเราและมาดูว่าจะขยายผลการ จัดการเรียนการสอนกนั อยา่ งไรให้สอดรบั กบั หลักสูตรทีเ่ ราไปเรยี นรู้มา แล้วเราก็ไปอบรมอกี รอบสอง ไปประมาณ ๓-๔ รอบสำ� หรบั แกนนำ� จากนัน้ จงึ น�ำความรู้ มาขยายผลใหค้ รใู นโรงเรียนตอ่ ทีนี้ครูในโรงเรียนก็พากันจัดการเรยี นการสอน และน�ำมาคยุ กัน ว่าจะเปน็ อย่างไรบ้าง ครจู ะสอดแทรกแนวคดิ และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งตรงไหน อยา่ งไรไดบ้ ้าง” คุณครเู นตรนภา สโี นรักษ์ ครูแกนนำ� กลมุ่ สาระการงานอาชพี ฯ การพฒั นา บคุ ลากรและการบรหิ ารท่ัวไป โรงเรียนอนุบาลประชารัฐสามัคคี เล่าใหฟ้ ังถึงประสบการณ์การ พัฒนาการเรียนการสอนจนมาเปน็ อยา่ งเชน่ ในปัจจุบนั เชน่ เดยี วกบั คุณครูสกุ านดา แม้นรักษา ครูแกนน�ำกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนรู้ ซึง่ ทุกวันนไี้ ด้ รบั การกลา่ วขานให้เป็นผพู้ ัฒนาผูเ้ รยี นและชุมชนมือฉกาจของโรงเรยี นอนุบาลประชารัฐสามคั คี ได้ยกตวั อยา่ งผลลัพธท์ ่เี กดิ ขนึ้ กบั เด็กนกั เรยี นให้ฟงั อยา่ งภาคภมู ใิ จวา่ “เมื่อก่อนเราสอน แตไ่ มล่ งหลักปรัชญาฯ เรากส็ อนเน้นแต่ความรู้ แตพ่ อเรามาคิดว่าให้ เดก็ ลงมอื ปฏิบตั ินา่ จะดกี วา่ เพราะวา่ เดก็ เมอื่ ปฏบิ ตั แิ ล้วจะมีความยั่งยนื ในตวั เดก็ ๆ อย่างชดั เลย ยกตวั อย่างตอนทีม่ ีผมู้ าตรวจโรงเรียนพระราชทาน เขาก็แหย่เดก็ ถามวา่ ให้ท�ำพรมเชด็ เทา้ วนั เดียวไดไ้ หม เดก็ กม็ องหนา้ แล้วก็คดิ ปกตเิ ด็กจะไมไ่ ดค้ ิด มักจะตอบทันทวี ่า ไดค้ รับคือตอบไป ก่อน แตน่ เ่ี ดก็ คดิ แล้ว เห็นวา่ มันเปน็ ไปไม่ไดแ้ นๆ่ แสดงว่าเมอื่ เขาลงปฏิบตั ดิ ้วยตนเอง เขาจะรู้ เขาจะคิดเป็น ครูคิดวา่ การสอดแทรกหลักคิดนี้เขา้ ไปในวิชาท่ีสอน ท�ำบอ่ ยๆ ท�ำเรือ่ ยๆ จนเป็น นิสัยติดตัว ถึงแม้จะช้าแต่ได้ผลคมุ้ ค่า” รัว้ โรงเรยี น 41

ชวนอ่าน ดว้ ยพระเมตตา พลิกฟ้นื พัฒนาลุ่มน�้ำปากพนงั จัดพิมพโ์ ดย สำ� นกั งานทรัพย์สนิ สว่ นพระมหากษตั ริย์ หนงั สือดว้ ยพระเมตตา พลกิ ฟ้นื พัฒนาลุ่มน�้ำปากพนัง ถือว่า ท่ีอย่อู าศัยใชป้ ระโยชน์จากลุ่มนำ้� หลากสาขาอาชพี ไมว่ ่าจะใช้นำ้� จดื เปน็ หนงั สือเล่าเร่ืองราวความเปน็ มาของการพัฒนาลุ่มนำ้� ปากพนังตาม นำ�้ เคม็ หรอื นำ้� กรอ่ ยในภาคการเกษตร อกี ท้งั ยังชว่ ยแก้ปญั หาน�ำ้ แล้งใน โครงการในพระราชด�ำรขิ องพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั ฯ ท่ลี ะเอยี ด ฤดูแล้ง และแก้ปญั หาน้ำ� ท่วมในฤดูฝน หนงั สือเล่มนี้บรรจุเนอื้ หาอย่าง และสมบูรณม์ ากเลม่ หนงึ่ เนือ้ หากล่าวถงึ ความส�ำคัญและความรุ่งเรอื ง ละเอยี ดทกุ ขั้นทกุ ตอนในพระราชวนิ จิ ฉัยโครงการ พระองค์ทรงมี ของลมุ่ น้ำ� ปากพนงั นับแตส่ มัยก่อนสงครามโลกคร้ังทสี่ อง ซ่งึ เคยเปน็ พระเมตตา ทมุ่ เทพระกำ� ลงั เพอื่ พัฒนาและแก้ปญั หาของราษฎรอยา่ ง อขู่ า้ วอ่นู �้ำทแ่ี ทจ้ ริงของดนิ แดนตอนใตข้ องประเทศ จนกระทงั่ ประสบ จริงจงั ในทา้ ยเลม่ คอื บทพิสูจน์ความส�ำเร็จและการแกป้ ญั หาอย่าง กบั วาตภยั ครง้ั ร้ายแรงทีส่ ดุ ที่แหลมตะลุมพกุ ตามตอ่ ด้วยการแย่งดึง ยง่ั ยืนของโครงการพัฒนาล่มุ น้�ำปากพนังแห่งน้ี ทรัพยากรน้�ำเพ่ือใช้ประโยชนข์ องราษฎรตามลมุ่ นำ�้ และความผันแปร ผ้สู นใจหนงั สอื ด้วยพระเมตตา พลิกฟืน้ พฒั นาลุ่มนำ้� ปากพนงั ตามธรรมชาติในแตล่ ะฤดกู าล จนเกิดความแตกแยกของชมุ ชนและการ สามารถดาวนโ์ หลด ebook ฟรีไดท้ ่ี www.crownproperty.or.th ลม่ สลายของส่งิ แวดล้อมในเวลาตอ่ มา หรือ www.sufficiencyeconomy.org ดว้ ยพระเมตตาของพระบาทสมเด็จพระเจา้ หวั อยู่ฯ ทรงพลิกฟืน้ และพฒั นาลุ่มนำ้� ปากพนังจนกลบั กลายมาเป็นลุ่มนำ้� อนั อุดมสมบรู ณ์ เปน็ แหล่งอยู่อาศยั ท�ำมาหากินของราษฎร นำ� ความสขุ ความเจริญกลบั มาสูล่ ุ่มน�้ำแหง่ นีอ้ ีกคร้ัง พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัวฯ ทรงมพี ระราชด�ำริ และพระราช ด�ำรสั ตอ่ โครงการพฒั นาลุ่มน้ำ� ปากพนงั ตลอดระยะเวลานบั แต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๑–๒๕๔๕ ท่แี ลว้ เสรจ็ ทรงตดิ ตามชว่ ยเหลอื และทรงสนับสนุน อยา่ งใกลช้ ิดเน่ืองจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ มอี ุปสรรคนานัปการ ก็มทิ รงย่อทอ้ เพือ่ ขจัดทุกข์เข็ญของราษฎร จวบจนกระทง่ั โครงการ อันเนอ่ื งมาจากพระราชด�ำรแิ ห่งนส้ี ำ� เรจ็ ลลุ ว่ งยังประโยชน์สุขแกป่ วงชน รัว้ โรงเรยี น 42

โรงเรียนคุณธรรม ขึ้น นักเรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๖ สอบเข้ามหาวทิ ยาลยั ของรฐั ไดเ้ กอื บ ชว่ ยกนั สร้างคนดใี ห้บา้ นเมือง ท้งั หมด จงึ ท�ำให้เห็นวา่ เม่ือมคี ุณธรรมความเก่งกจ็ ะตามมา เราจะเห็นภาพของโลกปัจจบุ นั พฤติกรรมของมนุษย์โดยรวม ศ.นายแพทยเ์ กษม วัฒนชัย กอ่ นจะยอ้ มกลบั มาทป่ี ระเทศไทย ศาสตราจารยน์ ายแพทย์เกษม จัดพมิ พโ์ ดย มลู นธิ ิยุวสถิรคุณ วัฒนชัย ชี้ให้เห็น “ไทยในทศวรรษแห่งความมืดมน” ผา่ นปรากฏการณ์ โรงเรยี นคณุ ธรรมหมายถงึ อย่างไร ทำ� อยา่ งไร มคี วามเป็นรูป ทเ่ี กิดขนึ้ ในสังคมปจั จุบนั อาทิ จรยิ ธรรมเสอื่ มถอย ทุนมนษุ ยท์ ่ีออ่ นแอ ธรรมหรือไม่ ทำ� ไมตอ้ งโรงเรียนคุณธรรม ในหนังสือเล่มนมี้ คี �ำตอบ ทุนธรรมชาตทิ เ่ี สื่อมโทรม ระบบการเมืองทใ่ี ชเ้ งนิ ตรา ความมัง่ คั่งที่ โรงเรยี นบางมลู นากภูมิพทิ ยาคม จังหวัดพจิ ิตร เปน็ โรงเรียน กระจุกตัว พร้อมกบั เกดิ ค่านยิ มที่ผิดเพีย้ น กลา่ วคอื เกรงใจคนโกง คุณธรรมทปี่ ระสบความส�ำเรจ็ จนเกดิ การเปลย่ี นแปลงในทางสรา้ งสรรค์ ทรี่ วย อุปถัมภ์คนผิดทเี่ ออื้ ประโยชนต์ น เนน้ เพยี งรปู แบบฉาบฉวย เปน็ ทปี่ ระจักษ์ในทุกด้าน เมอื่ ทุกคนทุกฝ่ายมีความเหน็ รว่ มกันว่าจะ มกั งา่ ย เกดิ การคอรร์ ปั ชน่ั ทกุ หยอ่ มหญา้ เช่นนี้ สังคมไทยจะอย่กู ัน ตั้งตน้ ด�ำรงไวซ้ ่งึ “คุณธรรมพึงประสงค”์ อันได้แก่ ความซือ่ สัตย์ ความ อย่างไรตอ่ ไป รบั ผดิ ชอบและจติ อาสา พรอ้ มกบั มุ่งขจัด “พฤตกิ รรมไมพ่ ึงประสงค”์ ถงึ เวลาแลว้ หรือยงั ทจ่ี ะ “ช่วยกนั สร้างคนดีใหบ้ ้านเมือง” ออกไปใหไ้ ด้ ในทา้ ยทีส่ ุด ผลประเมินในรอบหน่งึ ปี คือ พฤตกิ รรมไมพ่ ึง โรงเรยี นคุณธรรมท่ีบางมลู นากจึงก่อเกดิ ขนึ้ จากการสนบั สนนุ ของคณะ ประสงค์ลดลง พฤติกรรมอันพงึ ประสงค์เพ่ิมข้ึน คะแนนสอบโอเนตเพ่ิม ศษิ ย์เกา่ แล้วส่งเสรมิ ให้ครู นักเรียน ผ้บู ริหารโรงเรียน ผู้บรหิ ารชุมชน และผู้ปกครองได้มโี อกาสท�ำงานร่วมกันเพอ่ื ใหเ้ กิดคุณธรรมท้งั ภายใน และภายนอกรวั้ โรงเรียน เมือ่ เหน็ ผลดแี ลว้ จึงขยายผลตอ่ ยอดออกไปยัง สถานศึกษาต่างๆ รวมถงึ สถานพยาบาลตอ่ ไป หนงั สอื เลม่ นจี้ ึงเป็นเสมอื นแนวทางเพ่ือความเขา้ ใจและฉายให้ เหน็ ทกุ มติ ขิ องโรงเรยี นคณุ ธรรม เพอื่ เปน็ ประกายความคดิ ใหแ้ กผ่ บู้ รหิ าร และผูท้ ่เี กีย่ วขอ้ งกับสถานศกึ ษาทุกท่าน ผสู้ นใจหนงั สอื โรงเรยี นคณุ ธรรม ชว่ ยกนั สรา้ งคนดใี หบ้ า้ นเมอื ง สามารถดาวนโ์ หลด ebook ฟรไี ดท้ ่ี www.vyouth.org รวั้ โรงเรยี น 43

คณุ ครูท่ีรกั รบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง ต่อครอบครัว ตอ่ หน้าทีก่ ารงาน และตอ่ สงั คม ประเทศชาติ ดงั น้แี ล้ว หนา้ ท่ขี องครูจึงเปน็ หน้าท่ีอันย่งิ ใหญ่ ทรงเกยี รติ ศ.นายแพทยเ์ กษม วัฒนชยั และน่าภาคภูมยิ ่งิ ในเลม่ มไิ ดก้ ลา่ วแต่เฉพาะคำ� สวยหรูที่จับตอ้ งไมไ่ ด้ จัดพมิ พ์โดย มลู นิธิยุวสถิรคณุ ตรงกนั ขา้ มกลบั เปน็ ข้อเขียนทเี่ รยี บงา่ ย ชดั เจน ใหแ้ รงบนั ดาลใจ แม้หนังสือมีช่ือวา่ คณุ ครูท่รี ัก ทวา่ เนือ้ หากล่าวครอบคลุมไปถงึ ปจั จุบนั เราได้ยินประโยคน้บี อ่ ยจนเช่อื เอาตามนั้นว่า “นกั เรยี น ผู้บรหิ าร ครู และตวั นกั เรียน อาจจะเรยี กได้ว่าเป็นหนังสอื แห่งความ สมัยนีไ้ มเ่ หมอื นสมยั กอ่ น” ซ่งึ หมายถึง เด็กดี ใฝ่รู้ มีความประพฤตดิ ี ภมู ิใจในความเป็นผู้สอนหรือผู้ให้ เปน็ หนงั สือเรียกคืนจติ สำ� นกึ อัน และมคี ณุ ธรรม ฯลฯ จนอาจจะหลงลืมไปวา่ เราทุกคนล้วนไมเ่ หมือน งดงามแหง่ ความเปน็ “ครู” คนสมยั กอ่ น ดงั น้ัน กลบั มาเรม่ิ ที่ตวั เราก่อน ดว้ ยการอ่าน “คุณครู ผเู้ ขียนเปดิ ด้วยประเด็นใหญอ่ ย่างนิยามและเปา้ หมายของ ที่รกั ” เล่มนี้ และใช้เปน็ เครื่องมอื หนึง่ เพอ่ื น�ำทางแก่ “นกั เรียนทร่ี กั ” การเรยี นรู้ กลา่ วคอื การเรียนรทู้ ท่ี �ำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ๓ ด้าน ไปสู่จุดหมายปลายทางของการศึกษา คือ เรียนให้รู้ถงึ การเรยี นร้วู ่ามี คอื ๑) เปลย่ี นใจ เปล่ยี นคา่ นยิ มและความคิดความเชื่อเพอื่ ใหย้ ึด ความหลากหลาย เรียนเพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ชุดใหม่ เรียนเพอ่ื ไดท้ กั ษะ มนั่ ในความดี ความจรงิ และความงาม คือ ผู้เรยี นไดค้ ณุ ธรรมชดุ หนง่ึ ชุดใหม่ และเรยี นเพอ่ื ใหไ้ ดค้ ณุ ธรรมจรยิ ธรรม อนั เป็นเปา้ หมายแห่ง ๒) เปล่ียนให้เป็นผู้รใู้ นเนอื้ หาวิชาความรู้ คอื ผเู้ รยี นไดค้ วามรชู้ ุดใหม่ การเรียนรูส้ �ำหรบั ครสิ ศตวรรตท่ี ๒๑ ๓) เปล่ยี นใหเ้ ป็นผทู้ ำ� ไดท้ �ำเปน็ คือผูเ้ รยี นไดท้ ักษะชุดใหมแ่ ละการเรยี น ผู้สนใจหนังสอื คณุ ครูท่ีรกั สามารถดาวนโ์ หลด ebook ฟรไี ดท้ ่ี รู้ยังผลให้แต่ละคนไดแ้ สดงความรับผิดชอบในชีวติ ๔ ประการ ได้แก่ www.vyouth.org รวั้ โรงเรยี น 44

เปล่ยี น Mindset ชวี ติ เปล่ียน กรอบความคดิ และทฤษฎใี หม่ของความส�ำเร็จ ผูเ้ ขียน : Carol S. Dweck, Ph.D. ผแู้ ปล : วิโรจน์ ประสิทธว์ิ รนนั ท์ เปา้ หมายความส�ำเรจ็ แตล่ ะคนนน้ั แตกตา่ งกนั ความส�ำเร็จในหนังสอื เลม่ นี้ก็มคี วาม แตกตา่ งหลากหลายเชน่ กนั เพราะมิได้มุ่งไปท่ีความสำ� เรจ็ ด้านเงินตรา หรือหนา้ ทก่ี ารงานเพียง เทา่ นั้น แตห่ มายรวมถึงความสำ� เรจ็ เล็กๆ น้อยๆ ท่ีแต่ละคนตง้ั เปา้ หมายเอาไว้ เช่น เพียงการลด นำ�้ หนกั ให้ได้ตามเป้าหมาย การเรยี นเทควนั โด การเรียนวาดรูป ฯลฯ เหลา่ นี้ล้วนมี Mindset หรือกรอบความคิดเป็นตวั ก�ำหนดความสำ� เร็จหรอื ล้มเหลว และกรอบความคดิ ตามทฤษฎขี อง ดอ็ กเตอรแ์ ครอล เอส เวค็ แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ กรอบความจำ� กัดและกรอบความคดิ เตบิ โต ซงึ่ แนน่ อนวา่ ผู้ท่มี กี รอบความเติบโตย่อมมโี อกาสประสบความส�ำเร็จตามเป้าหมาย มากกวา่ ผ้ทู ม่ี กี รอบความคิดจำ� กดั กรอบความคิดเติบโต ไม่ได้หมายความวา่ การคดิ ทกุ อยา่ ง การท�ำทกุ อย่างอย่างใหญโ่ ต แตใ่ นความเปน็ จริง กรอบความคดิ เตบิ โตของดอ็ กเตอร์แครอล หมายถึงการคดิ อยา่ งมเี หตุผล มีความพอประมาณกบั ตนเอง และตอ้ งมีภมู ิคุ้นกันตวั เองดว้ ย เพราะกรอบความคดิ จะเป็นตัวกำ� หนดเปา้ หมาย ทัศนคติตอ่ การด�ำเนนิ ชวี ิตและ ความสัมพนั ธ์กับบุคคลรอบขา้ ง หากบคุ คลทมี่ กี รอบความคิดจ�ำกดั กย็ ่อมมโี อกาสท่จี �ำกัดดว้ ยเชน่ กนั ในการเดินไปสู่เปา้ หมาย แต่เราจะมวี ธิ ฝี กึ ฝน กรอบความคิดเตบิ โตไดอ้ ย่างไร ในหนังสือ เปลี่ยน Mindset ชวี ติ เปลีย่ น กรอบความคิดและทฤษฎใี หมข่ องความส�ำเร็จเล่มนี้มคี �ำตอบ คัมภีร์การเล้ียงลกู นพ.ธรี ะเกียรติ เจรญิ เศรษฐศิลป์ พิมพ์ครั้งที่ ๒ จดั พิมพโ์ ดย มลู นธิ ิยวุ สถริ คณุ ลูกของคณุ ป็นคนอย่างไร ขน้ึ อย่กู ับวา่ พ่อแม่จะเล้ียงดูเค้าใหเ้ ปน็ อยา่ งไร การเล้ยี งลกู ใหเ้ ป็นคนเก่งและคนดนี ัน้ มปี จั จยั ท่ีต่างกนั คมั ภีร์การเลีย้ งลกู ไดส้ รุปแนวทาง การเลยี้ งลกู ใหเ้ ป็นคนเก่ง คนดี หรอื จะเล้ียงใหเ้ ปน็ คนกร้าวร้าวไดอ้ ย่างน่าสนใจ รูปเลม่ น่าอา่ น เนื้อหากระชับ เข้าใจงา่ ย สำ� หรับผู้ทส่ี นใจรับหนงั สอื ฟรี เพยี งส่ง e-mail มาท่ี [email protected] แลว้ ตอบค�ำถามว่า “ท่านคดิ วา่ ๖ โครงการพฒั นาการศึกษาประสิทธภิ าพสงู โครงการใดทเ่ี หมาะสมกบั โรงเรยี น ของทา่ นมากที่สดุ ” มจี �ำนวนจำ� กัดสำ� หรบั ๑๐๐ ท่านแรกเทา่ นั้น รัว้ โรงเรียน 45

เบิกบานงานประดิษฐ์ ไขควง แขวนได้ อา่ นได้ ไมย้ างพารา เร่ือง/ภาพ : ปลาวาฬ สพี ลาสติก อยากมที ่แี ขวนของตดิ ผนงั เก๋ไก๋ แปรงทาสี กระดาษทราย ไม่ซำ�้ ใคร มแี ผ่นไมเ้ หลือใช้ จะท้ิงก็ ตะขอแขวน, ขดั ไม้ เสียดาย มาท�ำ D.I.Y. กนั วธิ ที �ำ นอต, ตะปู เลือกแผ่นไม้ขนาด ๕x๗ นิ้ว ขดั ไมใ้ ห้เนยี น เขยี นลายให้สวยงาม ไดท้ ่ี ๑ ๒ แขวนผนังอันใหม่ ไว้ใช้แขวนสารพนั ทัง้ ยังให้เดก็ ๆ ฝึกจำ� -อา่ นค�ำภาษา อังกฤษได้อีกดว้ ย ท�ำกรอบไม้ขนาด 5 x 7 น้วิ ลงสรี องพน้ื สีขาวเปน็ สีที่ 1 ๕ ใช้กระดาษทรายขัดให้ผิวเรีบยเนยี น ๔ ๓ ทาสีรอบสองดว้ ยสที ตี่ อ้ งการ รอใหแ้ หง้ สนทิ ขดั สดี ว้ ยกระดาษทรายของกรอบไมอ้ อก รา่ งแบบท่ีต้องการ จะทำ� ให้เห็นสีรองพน้ื ที่ ๑ ผวิ ไมด้ ูเปน็ ไมเ้ ก่า ตามตอ้ งการ รัว้ โรงเรยี น 46

๖ ใชส้ ีอะครลี ิกเขียนลวดลายตามชอบและตดิ ตะขอแขวนของ สมคั รสมาชกิ รัว้ โรงเรยี น 47 นิตยสารร้วั โรงเรยี น เป็นนติ ยสารราย ๖ เดือน มูลนธิ ยิ ุวสถริ คุณ จัดท�ำขึ้นเพือ่ ส่งตอ่ เรอื่ งราวดีๆ ในแวดวงการศึกษาไทย สู่เครอื ขา่ ยสถานศกึ ษา บคุ ลากรดา้ นการศึกษา และประชาชนทว่ั ไป ........................................................ ผสู้ นใจสามารถดาวน์โหลด นิตยสาร “ร้วั โรงเรยี น” ได้ที่...สือ่ิ ออนไลน์ www.vyouth.org มลู นิธิยุวสถริ คุณ ๒๑๔ ถนนนครสวรรค์ แขวงวดั โสมนสั เขตป้อมปราบศตั รพู ่าย กรงุ เทพมหานคร ๑๐๑๐๐

บทความพิเศษ อุปนิสัยศึกษา อปุ นิสยั ศึกษา คือการจัดกิจกรรมทง้ั ในและนอกหลักสูตร รวมทั้งการจัดสิ่งแวดลอ้ มและ สร้างวัฒนธรรมภายในสถานศกึ ษา เพ่อื ให้ผเู้ รยี นได้พัฒนาอุปนิสัยชดุ หนึ่งที่สถานศึกษาเช่อื วา่ จะเป็นประโยชน์ต่อท้งั ผู้เรยี นและสังคมโดยรวม ผู้ที่ควรมสี ่วนส่วนกำ� หนดชดุ อปุ นิสยั ท่พี ึงประสงคค์ วรจะรวมท้ังผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา คณะกรรมการนโยบาย คณะผู้สอน คณะผูป้ กครอง และผเู้ กี่ยวข้องอนื่ ตัวอยา่ งชุดอปุ นิสยั ท่สี ถานศึกษาแหง่ หนึ่งกำ� หนดไว้ ประกอบด้วย • ความจงรกั ภกั ดตี ่อแผน่ ดินไทย • ความเป็นพลเมืองดี • ความเปน็ คนมคี ุณธรรม • ความเป็นคนรักงาน ทำ� งานเปน็ เม่อื กำ� หนดเช่นนแ้ี ล้ว ผู้บรหิ ารตอ้ งสรา้ งส่งิ แวดล้อมโรงเรียนและสร้างวัฒนธรรมโรงเรยี น ให้สอดคล้องและสะดวกแก่การท่ีผู้เรยี นจะพฒั นาอุปนสิ ัยดงั กลา่ ว รวมทงั้ การก�ำหนดให้มี โครงการกจิ กรรมนอกหลกั สตู ร และการบรู ณาการความคดิ ดงั กลา่ วเขา้ ในรายวชิ าในหลกั สตู รดว้ ย เมือ่ ผ่านไประยะหนง่ึ ก็ควรท่จี ะประเมนิ ว่า ผู้เรยี นไดพ้ ฒั นาอปุ นสิ ยั ดงั กล่าวไดห้ รือไม่ โดย เฉพาะศษิ ยเ์ ก่าของสถานบนั การศกึ ษา หากไม่ถึงเปา้ หมายกค็ วรจะทบทวนและพัฒนากจิ กรรม ตอ่ ไปจนบรรลเุ ปา้ หมาย หากสถานศึกษาทุกแหง่ ในประเทศไทยมีความสุจริตใจและความมงุ่ ม่นั แล้ว เชื่อว่าจะเกิด ผลดตี อ่ ประเทศชาติแน่นอน ศาสตราจารย์ นายแพทยเ์ กษม วัฒนชยั องคมนตรี รัว้ โรงเรียน 48


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook