Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นวัตกรรมการการนิเทศการศึกษา SUPER Model โรงเรียนยางรากวิทยา จ.ลพบุรี

นวัตกรรมการการนิเทศการศึกษา SUPER Model โรงเรียนยางรากวิทยา จ.ลพบุรี

Published by Star Mai, 2021-08-25 06:22:54

Description: นวัตกรรมการการนิเทศการศึกษา SUPER Model โรงเรียนยางรากวิทยา อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี

Search

Read the Text Version

บทสรปุ ผู้บริหาร โรงเรียนยางรากวิทยา สำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษามัธยมศึกษาลพบรุ ี ได้ดำเนินงานพฒั นา นวัตกรรมการนิเทศการสอนแบบร่วมพัฒนา โดย SUPER Model เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนและคุณภาพผู้เรียนของโรงเรียนยางรากวิทยา ได้ดำเนินงานตามโครงการ Innovation For Thai Education (IFTE) นวัตกรรมการศกึ ษา เพื่อพฒั นาการศกึ ษาจงั หวัดลพบรุ ี ของสำนกั งานศึกษา ธการจงั หวัดลพบุรี ดงั น้ี องค์ประกอบที่ ๑ ด้านความสำคัญของรูปแบบ/แนวทางการพัฒนานวัตกรรมการนิเทศ แบบร่วมพัฒนา โดย SUPER Model ของสถานศึกษา องคป์ ระกอบที่ ๒ ด้านกระบวนการพฒั นารปู แบบ/แนวทางการพฒั นานวตั กรรมการนิเทศ แบบร่วมพัฒนา โดย SUPER Model ของสถานศกึ ษา องค์ประกอบที่ ๓ ด้านผลที่เกิดข้ึนจากการดำเนินงานตามรูปแบบ/แนวทางการพัฒนา นวตั กรรมการนเิ ทศแบบร่วมพัฒนา โดย SUPER Model ของสถานศกึ ษา ผลการดำเนนิ งาน ส ถ า น ศ ึ ก ษ า ม ี ร ะ บ บ แ ล ะ ก ล ไ ก ก า ร น ิ เ ท ศ ภ า ย ใ น ส ถ า น ศ ึ ก ษ า ท ี ่ พ ั ฒ น า ข ึ ้ น อ ย ่ า ง มี ประสิทธิภาพมีระบบติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการดาเนินงานการควบคุมคุณภาพอย่าง เป็นระบบและตอ่ เนอ่ื ง มีคู่มือการนิเทศการเรยี นการสอนแบบร่วมพฒั นา ตาม SUPER Model แบบ ประเมินการนิเทศการสอนของครูผู้สอน และรายงานกจิ กรรมชุมชนแห่งการเรยี นรู้ (PLC) ทำให้ครู และบุคลากรได้ศกึ ษารายละเอยี ดตา่ ง ๆ ของสถานศกึ ษาพรอ้ มตัวอย่างการพัฒนารปู แบบการสอน ของครูผู้สอน อีกทัง้ มกี ารเผยแพรข่ ้อมลู ข่าวสารที่เป็นปัจจบุ ันเกี่ยวกับการเปลีย่ นแปลงของระบบ การนิเทศ กำกับ ติดตามและประเมนิ ผลการศกึ ษาเป็นระยะ ๆ ทำให้ครูและบุคลากรไดร้ ับข่าวสาร ที่เป็นปัจจุบันและมีความรู้ความเข้าใจที่ตรงกันในการดำเนินงานตามระบบนิเทศการสอนเพื่อ รองรบั การประเมนิ และการตดิ ตาม ตรวจสอบ

ครูผู้สอนและบุคลากรทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องการมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของการ ดำเนนิ งานตามระบบการนเิ ทศแบบรว่ มพัฒนา โดย SUPER Model ภายในสถานศึกษา ต้งั แต่การมี ส่วนร่วมในการวิเคราะห์สภาพปัญหา กำหนดมาตรฐานการศึกษา การกำหนดเป้าหมายโดยใช้ ข้อมูลสารสนเทศจากผลการประเมนิ การปฏิบตั งิ านจริงของครูผู้สอนมาใช้เป็นฐาน ไปจนถงึ เป็นผู้มี ส่วนร่วมในการนิเทศ กำกับ ติดตามและประเมินผลภายในสถานศึกษา ให้ข้อเสนอแนะที่เป็น ประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบการนิเทศภายในสถานศึกษาของโรงเรียนยางรากวิทยา โดยใช้ “SUPER Model” ตลอดจนนำข้อมลู สารสนเทศท่ีได้ ไปใช้ในการปรับปรงุ การดำเนินงานของตนเอง ในปีต่อไป ก่อให้เกิดวัฒนธรรมการทางานตามระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาของ โรงเรียนวัดคูยาง โดยใช้ “SUPER MODEL” ตามวงจรคุณภาพ PDCA อย่างแท้จริง ทำให้ครูและ บุคลากรตระหนกั ถึงบทบาทหน้าท่ีและเหน็ ความสำคัญของการพฒั นาระบบนิเทศแบบรว่ มพัฒนา ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรเป็นไปตามเป้าหมายที่สถานศึกษา กำหนด มีพัฒนาการของผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ (O – NET) สูงขึ้นทุกวิชาใน การศึกษาผ่านมา และเป็นผู้เรียนที่มีคุณภาพมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์อยู่ในระดับดี พร้อมที่ พัฒนาสู่ทกั ษะในศตวรรษที่ ๒๑

คำนำ โรงเรียนยางรากวิทยาเปน็ โรงเรียนมัธยมขนาดเล็กมีครูที่เป็นครบู รรจุใหม่มีประสบการณ์ในการสอนเฉล่ีย 3 ปี มคี รผู ู้สอนตรงตามวิชาเอก แต่ผลการทดสอบระดบั ชาติ O-NET ต่ำต่อเนื่องในหลายรายวิชา จากกระบวนการ นเิ ทศภายในโรงเรยี น การนิเทศเยี่ยมชั้นเรียน พบว่าครูขาดความเขา้ ใจการวิเคราะห์หลักสูตร มีรูปแบบการสอนท่ี ไม่หลากหลาย ไมม่ ีเทคนิคการถ่ายทอดองค์ความรู้ นกั เรียนขาดความกระตือรือร้น สง่ ผลต่อการรับรู้ และเรียนรใู้ น เน้ือหาวิชา ทำให้ผลการทดสอบระดับชาติ O-NET ไม่มีการพัฒนา จากปัญหาดังกล่าว ฝ่ายบริหารและคณะกรรม บริหารวชิ าการ ร่วมถึงคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นั พน้ื ฐานโรงเรยี นยางรากวิทยาจงึ ประชมุ ปรึกษาหารือ หาวธิ กี าร ท่ีจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวและได้ข้อคิดเห็นว่าควรมีการพัฒนาครูให้มีความสามารถในการจัดการเรียนการสอนที่มี คุณภาพเพ่ือพัฒนาผเู้ รยี น ให้มคี ุณภาพตามจุดมุ่งหมายของหลกั สตู ร การจัดการศึกษาเพื่อให้ผูเ้ รยี นบรรลุผลสำเร็จ ตามจุดหมายของหลักสูตรอย่างมีคณุ ภาพและเป็นไปตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ต้องอาศัย กระบวนการ พัฒนา 3 ด้าน คอื กระบวนการบรหิ าร กระบวนการนิเทศ กระบวนการจดั การเรียนการสอน โดยมที ุก ฝา่ ยช่วยส่งเสริมสนับสนุน และโรงเรยี นได้ศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับการนิเทศ การจัดการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพ ผู้เรยี น เน้นกระบวนการ PLC ตลอดจนงานวิจยั ต่าง ๆ และไดจ้ ดั ทำผลงานการยกระดับผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนและ คณุ ภาพผู้เรียนโดยนวัตกรรมการนิเทศแบบรว่ มพัฒนาด้วย SUPER Model มาใช้พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ของเรยี นยางรากวทิ ยา คณะผู้จัดทำ

สารบญั หนา้ เรือ่ ง 1 บทสรุปผู้บรหิ าร 2 คำนำ 3 1. ความเปน็ มาของรปู แบบ/แนวทางการพฒั นาการจัดการเรียนรู้ 4 5 1.1 ความเป็นมาและสภาพปญั หา 5 6 1.2 ผลการวิเคราะห์ SWOT 7 1.3 แนวทางการแก้ไขปัญหาและพัฒนา 1.4 วตั ถุประสงค์เปา้ หมายการพัฒนา 11 12 1.5 ขอบเขตการดำเนนิ งาน 13 1.6 กรอบการดำเนินงาน 13 14 1.9 ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะไดร้ บั จากการพัฒนา 15 2. หลกั การ ทฤษฎี แนวคิดการพัฒนาและรูปแบบนวัตกรรม 15 3. ผลการดำเนนิ งาน ปัญหาอปุ สรรค และข้อเสนอแนะ 15 3.1 ผลการดำเนนิ งานดา้ นกระบวนการพัฒนารปู แบบ/แนวทาง 16 3.1.1 การออกแบบแนวทางการพฒั นา 3.1.2 การมสี ว่ นรว่ มในการพฒั นา 17 3.1.3 การนำไปใช้ 17 3.1.4 การประเมินและการปรบั ปรงุ 3.2 ผลการดำเนินงานด้านผลทเี่ กดิ ขึน้ จากการดำเนินงานตามรปู แบบ/แนวทาง 19 22 3.2.1 ด้านสถานศึกษา 26 (ขอ้ มูลสถานศึกษา การดำเนนิ งาน/การบริหารจัดการ การมีส่วนร่วม และการ 35 ยอมรบั ) 38 3.2.2 ดา้ นครผู ู้สอน (การออกแบบการจัดการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การพัฒนาสอื่ การเรยี นรู้ การวดั และประเมินผล 3.2.3 ด้านผเู้ รยี น (คุณลกั ษณะของผ้เู รียน ทกั ษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21) 3.3 ปจั จัยที่ส่งผลสำเร็จ 4. ปญั หา อปุ สรรค ขอ้ เสนอแนะ ภาคผนวก - ผลสัมฤทธิ์โรงเรยี นยางรากวิทยา - ผลการทดสอบระดับชาติของผเู้ รยี น O-NET - โครงการและแผนงานที่เกยี่ วขอ้ งกับการพัฒนานวัตกรรม - โครงการพัฒนาหลักสตู รและเพม่ิ ประสิทธภิ าพครใู หม้ ีความเชยี่ วชาญทางวิชาชีพ - โครงการ Innovation For Thai Education (IFTE) พฒั นานวตั กรรมการศึกษาการศกึ ษา โรงเรยี นยางรากวทิ ยาฯ

สารบญั (ตอ่ ) หน้า เรอื่ ง 47 ภาคผนวก 50 - คำส่ังโรงเรยี นยางรากวทิ ยา เรอื่ ง จดั อบรมพฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศึกษา โครงการ 52 54 อบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร พัฒนานวัตกรรมการศกึ ษาของโรงเรียนยางรากวิทยา 57 - แบบนเิ ทศการออกแบบการจัดการเรียนรู้ - แบบนเิ ทศการจัดกิจกรรมการเรยี นรู 58 - แบบเย่ยี มชั้นเรยี น 59 - รูปภาพการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาเพอ่ื ใหช้ ุมชนไดม้ สี ว่ นร่วมในการกำหนด 60 วิสยั ทศั นแ์ ละค่าเป้าหมายของโรงเรียน - รูปภาพผู้บรหิ ารและคณะครรู ว่ มกันประชุมวางแผนการนเิ ทศ ติดตามนวตั กรรมโดยการ 61 นิเทศแบบพฒั นาร่วมด้วย SUPER MODEL - รปู ภาพการจัดบรรยากาศในห้องเรียนให้มีบรรยากาศที่สอดคลอ้ งกบั เกณฑก์ ารนเิ ทศแบบ ร่วมพัฒนา ดว้ ย SUPER MODEL - รปู ภาพกระบวนการนิเทศแบบร่วมพฒั นา SUPER Model ดว้ ยกิจกรรมชุมชนการเรียนรู้ ทางวชิ าชพี (Professional Learning Community: PLC) - การประชาสัมพันธ์รูปแบบการใชน้ วตั กรรมแบบร่วมพัฒนาด้วย SUPER Model

การยกระดับผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนโดยใชก้ ารนเิ ทศภายใน SUPER Model รายงานผลการดำเนินงานพัฒนารปู แบบ/แนวทางการพฒั นานวตั กรรมการศกึ ษาตาม โครงการ IFTE (Innovation For Thai Education) สำนกั งานศึกษาธกิ ารจงั หวัดลพบรุ ี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 เร่ือง การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและคุณภาพผูเ้ รยี น โดยนวัตกรรมการนิเทศแบบร่วมพัฒนา ด้วย SUPER MODEL ของโรงเรียนยางรากวิทยา สำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษามธั ยมศึกษาลพบรุ ี (สพม.ลพบุรี) 1. ความเปน็ มาของรปู แบบ/แนวทางการพฒั นาการจดั กาเรยี นรู้ ๑.๑ ความเป็นมาและสภาพปัญหา การศกึ ษาเปน็ กระบวนการท่มี ่งุ พัฒนาคนให้เป็นมนุษยท์ ี่มีคุณภาพมีความสามารถเตม็ ศกั ยภาพ ที่ สมดุลทั้งสติปัญญา จิตใจ ร่างกาย และสังคม เป็นกระบวนการถ่ายทอดและเรียนรูใ้ นการทีจ่ ะสร้างสรรค์ และ พัฒนาคนทั้งใน แง่ความรู้ ความคิด ตลอดจนคุณธรรมและจริยธรรมเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ใน สงั คมได้อย่างมีความสุข สามารถสนองตอบทศิ ทางในการพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมของประเทศชาติ ที่ให้ ความสำคญั กับการพัฒนาคนโดยอาศัยการศึกษาเปน็ เคร่อื งมอื โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ทศิ ทางการเปล่ียนแปลง ไปสู่ยุคอุตสาหกรรมที่ผ่านมาและการก้าวสู่สังคมแหง่ การ เรียนรู้ในทศวรรษที่21 ดังนั้นระบบการศึกษา ของประเทศไทยจึงถูกท้าทายจากแรงผลักดันการเปลี่ยนแปลงทาง สังคมค่อนข้างมากกระแสเศรษฐกิจ สงั คม วัฒนธรรม คา่ นยิ มต่างชาตไิ ดแ้ พร่กระจายมาสูป่ ระเทศ ตาม พระราชบญั ญตั กิ ารศึกษา พ.ศ.2542 การจดั การศกึ ษาคำนึงถงึ หลกั ท่ีว่าผู้เรยี นจะต้องมีความสำคัญท่ีสุด สามารถพฒั นาตนเองเต็มตามศักยภาพ ตามมาตราท่ี 22 โดยสถานศกึ ษาจะต้องดำเนนิ งานจัดกจิ กรรมให้สอดคลอ้ งกับความสนใจ ความถนัด ฝึก ทกั ษะกระบวนการคิด การเรยี นร้จู ากประสบการณ์จรงิ บรู ณาการความรู้ด้านต่าง ๆ ตลอดจนส่งเสริม ให้ ผู้สอนจัดการเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ตามมาตรา 24 (กระทรวงศึกษาธิการ, 2546:11-12) จำเปน็ อย่างยิง่ ทจ่ี ะต้องมีการพฒั นาครใู หป้ รบั พฤติกรรมการสอน จากเดมิ ๆ เป็นแบบใหม่เป็นอนั ดบั แรก แตก่ ารพัฒนาครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาให้ประสบความสำเร็จ นั้น ต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจจากบุคลากรที่เกีย่ วข้อง ที่สำคัญต้องมีความเข้าใจพื้นฐานท่ีตรงกันใน การพัฒนาและสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการโดยด่วนเพื่อนำไปสู่การพัฒนา การเรียนการสอนก็คือ การพัฒนา คุณภาพของครู (อรรณพ พงษว์ าท, 2539:16-17) การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคนเพื่อรองรับกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น คุณภาพครูเป็นส่ิง สำคัญของในที่สุด (สำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติ,2540:4) ดังนั้น โรงเรียนยางรากวิทยา กระบวนการพฒั นา หนึ่งที่ใชใ้ นการสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพครูตลอดจนพฒั นาคุณภาพการเรียนการ สอนให้ บรรลุตามที่ต้องการคือ กระบวนการนิเทศการศึกษา เพราะการนิเทศการศึกษาจะช่วยกระตุ้น ส่งเสริมและ ปรับปรุงกระบวนการการสอนของครูให้บรรลุตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตรที่กำหนด การ นเิ ทศการศึกษาภายใน โรงเรียนก็เปน็ กระบวนการหนง่ึ ที่จะช่วยให้ครูสามารถพัฒนาการเรียนการสอนของ ตนไดต้ รงตามสภาพของปัญหา และความตอ้ งการท่ีแท้จรงิ ของผู้เรียนโดยอาศยั ความรว่ มมือของผู้บริหาร โรงเรยี นและครเู พ่ือก่อใหเ้ กดิ การพัฒนา ตนเอง พฒั นางานและนำไปสกู่ ารพฒั นาผู้เรยี นจงึ แรงบันดาลใจ ในการออกแบบวธิ กี ารสอนท่ีจะทำใหน้ กั เรียนเรยี นร้อู ย่างสนุกสนานและเข้าใจบทเรยี นมากข้ึนทั้งรวบรวม แผนการสอนทีค่ รูผูส้ อนสามารถนำไปปรบั ใชไ้ ดแ้ ละมคี ลงั สื่อประกอบการสอนในรปู แบบท่หี ลากหลาย ๑

การยกระดบั ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นโดยใช้การนิเทศภายใน SUPER Model และคลงั ข้อสอบที่นกั เรียนสามารถฝึกฝนดว้ ยตนเองได้ ทงั้ น้ีเพือ่ มุง่ เนน้ ให้ครูและนักเรียนโรงเรียนยางราก วิทยา สามารถเข้าถึงส่อื เทคโนโลยีในการจัดการเรยี นรู้ที่ทันสมัยและ สอดคลอ้ งกบั ความต้องการ คณะครู ได้รับการพัฒนาอยา่ งต่อเนื่อง ให้มีการจัดรูปแบบ เนื้อหา วิธีการและใช้เทคโนโลยี เป็นเครื่องมือในการ จัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับยุคสมัย ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนให้ครูมีสื่อในการจัดการเรียนรู้ อย่างมี ประสิทธภิ าพ เพ่อื พฒั นาคณุ ภาพครูพฒั นานกั เรียนและการศึกษาอยา่ งยัง่ ยืน ทำให้นกั เรียน มีแหล่งศึกษา ค้นควา้ ขอ้ มลู เพ่ิมเตมิ ทำใหน้ ักเรยี นได้รบั การพฒั นาศักยภาพบรรลุตามวัตถปุ ระสงค์ของหลักสูตรโรงเรียน ยางรากวิทยา ทง้ั นีเ้ พอ่ื ให้การจดั กจิ กการเรียนการสอนของโรงเรียนยางรากวทิ ยา บรรลุ ตามวตั ถุประสงค์ ทางโรงเรียนได้ดำเนินโครงการนิเทศการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ดำเนินการมาอยา่ ง ต่อเนื่องและ เข้มข้นทุกภาคเรยี น เพราะทางโรงเรียนตระหนักถงึ ความสำคญั ของกระบวนการนเิ ทศวา่ เป็น กระบวนการ เรียนรู้ร่วมกันของ บุคลากรทุกฝ่ายในโรงเรียนอันส่งผลในการที่จะพัฒนาบุคลากรทุกคน ให้สามารถ ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาผู้เรียนได้เต็มตามศักยภาพ การนิเทศภายในมิใช่การตรวจสอบ จับผิด แต่เป็น การ ชว่ ยเหลือสง่ เสรมิ เติมสว่ นท่ีขาดใหก้ ันและกัน การนเิ ทศภายในโรงเรยี นจึงควรจัดให้มขี นึ้ อย่างมีระบบ มีการวางแผนรายละเอียดร่วมกัน แต่ละขั้นตอนบอกระยะเวลาในการนเิ ทศ ทางปฏบิ ตั ผิ ลทีค่ าดวา่ จะได้รับ และขณะ ดำเนินการ ควรมีการบันทึกผล เพื่อปรับปรุงเป็นระยะ (นิพนธ์กินาวงศ์, 2526:6) การนิเทศ ภายในที่ประสบ ผลสำเร็จจะทำให้เกิดการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมการสอนของครูและบุคลากรทุกฝ่ายจะ ร่วมมอื กนั ในการพฒั นา ตนเองตามศักยภาพ ชืน่ ชมกบั ความสำเร็จของตนเองส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพ ของผ้เู รยี น หวั ใจของการนเิ ทศ ภายในนัน้ คือ การเรยี นรู้ของครเู พ่อื การพัฒนาตนเองใหม้ ีความรู้ท่ีทันสมัย ทนั ต่อเหตุการณ์จนเข้าใจวิธีการต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งชดั เจนและมองภาพอนาคตได้อย่างตลอดแนว วิธีการที่ทำ ให้ครูสามารถพัฒนาตนเองไดม้ ีหลายวธิ ีการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเพื่อนครูและบคุ คลที่เกี่ยวข้องกับ การเรียนร้ขู องนักเรยี น มีโอกาสไดร้ ับความรถู้ ่ายทอด ความร้แู ลกเปลี่ยนความรู้และร่วมคดิ วเิ คราะหป์ ญั หา เกี่ยวกับ การจัดการเรียนรู้ทั้งปัญหาของตนเอง เพื่อน ครู และพ่อแม่หาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน (สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ, 2541:87) การนิเทศการจัดกิจกรรมการเรียนการ สอนทำให้ครผู ู้สอนหรือผมู้ ีสว่ นรว่ มในการจัดกจิ กรรมการเรียนการ สอน เปล่ียนแนวคิด และวธิ กี ารในการ จดั กระบวน การเรียนร้เู พอื่ ใหผ้ ู้เรยี นได้เกิดการเรียนรูอ้ ยา่ งแท้จริง สามารถ ทจ่ี ะทำใหผ้ เู้ รียนได้พัฒนาเต็ม ตามศักยภาพ สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 (2540-2544) ที่เน้นใน เร่ืองการพฒั นาคุณภาพคนเปน็ สำคัญ เพราะเป็นการพัฒนาทีย่ ่ังยนื 1.2 ผลการวิเคราะห์ SWOT โรงเรียนยางรากวิทยาซ่ึงเปน็ โรงเรียนมัธยมขนาดเล็กมีผลคะแนนการทดสอบระดับชาติ (O-net) อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องในหลายรายวิชา (อ้างอิง : ภาคผนวก…) ที่ต้องการพัฒนาอย่างเร่งด่วนด้านการ จัดการเรียนการสอน จะต้องมีการพัฒนาครูให้ปรับพฤติกรรมการสอนจากเดิม ๆ เป็นแบบใหม่แต่การ พฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศึกษาใหป้ ระสบความสำเร็จนน้ั ต้องอาศัยความร่วมแรงรว่ มใจจากบุคลากร ทเ่ี กี่ยวข้อง มสี ำคัญต้องมีความเขา้ ใจพน้ื ฐานท่ีตรงกนั ในการพัฒนาและสิ่งทต่ี ้องเร่งดำเนนิ การโดยด่วนเพ่ือ นำไปสู่การพัฒนา การเรียนการสอนก็คือ การพัฒนาคุณภาพของครู (อรรณพ พงษ์วาท, 2539:16-17) กระบวนการหนงึ่ ที่ใชใ้ นการสนบั สนนุ การพัฒนาคุณภาพครู ตลอดจนพัฒนาคณุ ภาพการเรียนการสอนให้ ๒

การยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนโดยใช้การนเิ ทศภายใน SUPER Model บรรลตุ ามที่ต้องการคอื กระบวนการนิเทศการศกึ ษา เพราะการนเิ ทศการศกึ ษาจะชว่ ยกระตนุ้ สง่ เสริมและ ปรับปรุงกระบวนการการสอนของครูให้บรรลุตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตรที่กำหนด และ การนิเทศ การศึกษาภายในโรงเรียนก็เป็นกระบวนการหนง่ึ ที่จะช่วยให้ครูสามารถพฒั นาการเรียนการสอนของตนได้ ตรงตามสภาพของปญั หาและความตอ้ งการท่ีแทจ้ รงิ ของผเู้ รียนโดยอาศัยความรวมมอื ของผู้บรหิ ารโรงเรียน และครูเพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาตนเอง พัฒนางานและนำไปสู่ การพัฒนาผู้เรียนในที่สุด (สำนักงานการ ประถมศึกษาแห่งชาติ, 2540: 4) แนวคิดเก่ียวกับการนิเทศการศึกษาภายในโรงเรียน การจัดการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เน้นกระบวนการ (Professional Learning Community : PLC) “ชุมชนการ เรยี นรทู้ างวชิ าชีพ” ตลอดจนงานวิจยั ต่าง ๆ โรงเรยี นยางรากวิทยาจึงมีแนวคิด ใช้รูปแบบการนิเทศร่วมพัฒนา SUPPER Model เพื่อส่งเสรมิ การจัดการเรยี นรู้ เน้นกระบวนการ (Professional Learning Community : PLC) สำหรับโรงเรียนยาง รากวิทยา เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เนื่องมาจากข้อจำกัดของโรงเรียนเกี่ยวกับการจัดการ เรียนรู้ของครทู ่ีมีประสบการณ์การสอนน้อย ได้มีรูปแบบวธิ ีการสอนที่สามารถจัดการเรียนการสอนได้ตรง ตามเป้าหมายและเกิดคุณภาพต่อผู้เรียนและ โรงเรียนมีรูปแบบการนิเทศภายในอยา่ งมคี ุณภาพ สอดคล้อง กับสภาพการปฏบิ ัตงิ านของครูและส่งเรมิ การจัดการเรียนรู้ เน้น กระบวนการ (Professional Learning Community : PLC) สำหรบั โรงเรียนยางรากวิทยา สงั กดั สำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษามธั ยมศึกษา ลพบุรี ได้ อย่างมีประสทิ ธิภาพและสง่ ผลให้ผูเ้ รยี นมผี ลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนสูงขนึ้ ๑.๓ แนวทางการแกไ้ ขปญั หาและการพฒั นา โรงเรียนยางรากวทิ ยา วิเคราะห์ผลสัมฤทธิแ์ ละคุณภาพของผู้เรียน ทั้งในภาพรวมและรายบุคคล เพื่อกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนของครูผู้สอน พบว่าครูผู้สอนขาด ประสบการณ์ในการจัดรูปแบบการเรียนการสอน ดังนั้นผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ ครูผู้สอน บุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษา ได้ร่วมกันกำหนดแนวทาง นิเทศ ติดตามและ ประเมินผลการจัดการเรยี นการสอน ตามวสิ ัยทศั น์ พนั ธกิจ เปา้ ประสงค์ กลยุทธ์มาวิเคราะห์จัดทำแผนกล ยุทธ์ มีการประชุมพิจารณาประเด็นนโยบาย ทางการศึกษาและรายงานผลการดำเนินงานพร้อม ข้อเสนอแนะของปีที่ผ่านมาเป็นข้อมูล โดยให้หัวหน้างาน ครูผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษา ภายใน กลุ่มงานรว่ มประชุมกลุ่มบริหารงาน วิเคราะหป์ จั จัยภายในกลุ่มงาน วเิ คราะหจ์ ดุ แข็ง และจดุ ออ่ น 7 ด้าน คอื โครงสร้างองคก์ ร ระบบองคก์ ร ทักษะและประสบการณ์ คุณคา่ รว่ ม อตั รากำลงั คน รูปแบบการบริหาร จัดการ วิเคราะห์โอกาสและภาวะคุกคาม 5 ด้าน คือด้านพฤติกรรมผู้รับบริการ ด้านนโยบาย ด้าน งบประมาณ ด้านสงั คม ด้านระบบไอที การยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ิและคณุ ภาพการศึกษาของผเู้ รียนที่ผ่านมาไดม้ กี ารทบทวนระบบและกลไก การนเิ ทศ กำกับ ติดตามและประเมินผลการจัดรูปแบบการเรียนการสอนของครูผู้สอนภายในสถานศึกษา โดยใช้ SUPER MODEL ซึ่งได้จากการสังเคราะห์ข้อมูล เอกสาร บทความงานวิจัยของนักวิชาการทาง การศึกษา ซึง่ การดำเนินงานให้เปน็ ไปตามรูปแบบหลักการ PDCA ดังน้ี 1. การวางแผน (Planning) 2. การปฏิบตั ิ (Doing) 3. การตรวจสอบ การนิเทศ (Check) ๓

การยกระดบั ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นโดยใช้การนิเทศภายใน SUPER Model 4. การแสดงผล ดำเนินการซ้ำและการปรับปรุง (Action) 1. การวางแผน (Planning) ผู้บริหารคณะครู คณะกรรมการสถานศึกษา ครูผู้สอนและบุคลากร ทางการศึกษาร่วมวางแผนค้นคว้า สำรวจขอ้ มูลสภาพปัจจุบนั สภาพการดำเนนิ งานการนเิ ทศ ติดตาม และ ประเมินผลการศกึ ษาของโรงเรยี นรว่ มกนั วิเคราะห์ปญั หา รว่ มกันกำหนดสภาพความต้องการร่วมมือกันใน การพัฒนา กำหนดกิจกรรมนำไปทำรปู แบบการจดั การเรยี นการสอนของผูส้ อน 2. การปฏิบัติ (Doing) ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ และหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ดำเนินการนเิ ทศการสอนของครูผสู้ อน และครูผสู้ อนจดั การนเิ ทศการสอน ดว้ ยกระบวนการชมุ ชนแห่งการ เรยี นรู้ (PLC) 3. การตรวจสอบการนิเทศ (Check) ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ และหัวหน้ากลุ่มสาระ การเรียนรู้ ดำเนนิ การนเิ ทศการสอนของครผู ู้สอน ได้ประเมินผลการจัดการเรียนการสอน เพอื่ ใหค้ ำแนะนำ แกผ่ ู้รบั การนเิ ทศการสอน 4. การแสดงผล ดำเนนิ การซำ้ และการปรับปรงุ (Action) ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา ศกึ ษานิเทศก์ และ หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ มกี ารนิเทศการสอนอย่างสม่ำเสมอ เพือ่ กำกบั ติดตาม ให้คำแนะนำและการ พัฒนารปู แบบการเรยี นการสอนร่วมกนั กับผสู้ อนหรอื ผรู้ ับการนเิ ทศ ๑.๔ วัตถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายการพัฒนา วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อสรา้ งรูปแบบการนิเทศการจดั การเรยี นการสอนของครผู สู้ อน 2. เพ่ือยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นและคุณภาพของผูเ้ รียน 3. เพอ่ื พฒั นารูปแบบการจดั การเรยี นการสอนของครูผสู้ อน เปา้ หมาย เชิงปริมาณ 1. รอ้ ยละ 100 ของครผู ู้สอนและบุคลากรทางการศกึ ษา โรงเรียนยางรากวทิ ยา มสี ่วน รว่ มในการนิเทศการศึกษาแบบร่วมพัฒนา 2. ร้อยละ 100 ของครูผู้สอนและบุคลากรทางการศกึ ษา โรงเรียนยางรากวทิ ยา ได้รบั การส่งเสริมความรู้ อบรม นเิ ทศ ติดตามและประเมินการจดั การเรียนการสอน 3. ร้อยละ 100 ของครูผ้สู อนและบุคลากรทางการศกึ ษา โรงเรียนยางรากวิทยา มีสว่ น ร่วมในการพัฒนาการนิเทศการศึกษา “SUPER MODEL” ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและ คณุ ภาพของผู้เรียน เชิงคุณภาพ 1. โรงเรียนยางรากวิทยามีกระบวนการนิเทศ ติดตามและประเมินผลในสถาศึกษา ท่ี พฒั นาขึ้นนอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ไดร้ บั การยอมรบั จากผ้ปู กครอง ชุมชนและสงั คม ๔

การยกระดบั ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นโดยใช้การนเิ ทศภายใน SUPER Model ๒. ครูผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษามีรปู แบบการสอน การปฏิบัตงิ านเป็นเลิศ (Best Practice) ทีต่ รงตามหลกั สูตร มาตรฐานการเรยี นรู้และ ตัวชว้ี ัด ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศักราช 2560) 3. โรงเรียนยางรากวิทยาพัฒนาการนิเทศการศึกษา “SUPER MODEL” เพื่อยกระดับ ผลสมั ฤทธแิ์ ละคณุ ภาพการศึกษาของผู้เรยี น 1.5 ขอบเขตการดำเนินงาน ขอบเขตด้านประชากรและกลมุ่ ตวั อย่าง ประชากร ได้แก่ นักเรียนโรงเรียนยางรากวิทยา สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษาลพบุรี ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 183 คน กลมุ่ ตัวอย่าง ไดแ้ ก่ นกั เรียนโรงเรียนยางรากวทิ ยา สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษาลพบุรี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน รวม ๑๘๓ คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) กรอบการดำเนินงาน ศกึ ษา วเิ คราะห์สภาพการจัด กจิ กรรมการเรยี นการสอน วางแผนระบบการนเิ ทศรว่ ม พัฒนา ด้วย SUPER MODEL พัฒนากระบวนการนเิ ทศร่วม พฒั นา ดว้ ย SUPER MODEL ปฏิบตั ิการนิเทศ / ทดลองใชน้ วตั กรรม ประเมินผลการใช้วตั กรรมการนิเทศ นวัตกรรมทางการศกึ ษา ผลสัมฤทธท์ิ ทางการเรียน Best Practical และคณุ ภาพผูเ้ รยี น ๕

การยกระดับผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นโดยใช้การนเิ ทศภายใน SUPER Model การพัฒนาครใู นโรงเรยี นขนาดเลก็ เกี่ยวกับสภาพปญั หา อปุ สรรค และความตอ้ งการในการนิเทศ พบว่าสภาพปัญหาอุปสรรคในการนิเทศ มีดังนี้ การนิเทศภายในสถานศึกษามีวัตถุประสงค์เป้าหมาย วิธีการ การประเมินผล การแจ้งผลให้ผู้รับการนิเทศทราบ เพื่อพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาและสร้าง ความเข้าใจที่ตรงกันจะช่วยให้ครูได้พัฒนาการจัดการเรียนรู้ ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ส่งเสริมให้ครูได้ เพิ่มพูนความรู้ความสามารถและนำความรู้มาปรับปรุงวิธีสอนกระตุ้นให้เกิดแนวคิดใหม่แก่ครู โรงเรียน ขนาดเลก็ แต่ละแหง่ มสี ภาพปญั หาและความต้องการท่ตี า่ งกนั การพัฒนานวัตกรรมการศึกษา ผู้บริหารและ ครูมีความคุ้นเคย และทราบสภาพปัญหาในโรงเรียน จึงมีความพร้อมและความสามารถที่จะให้ความ ชว่ ยเหลือครูได้สะดวก รวดเรว็ ตรงวัตถุประสงค์ยงั เปน็ การเสริมสร้างขวัญและกำลงั ใจของครูในการทำงาน ใหม้ ีความภมู ใิ จในวิชาชพี ครู ๑.๖ ประโยชน์ท่ีได้รับ 1. สถานศึกษามนี วัตกรรมการนิเทศแบบร่วมพฒั นาด้วย SUPER MODEL 2. ผู้สอนมีนวตั กรรมการเรียนการสอน การปฏบิ ัตงิ านเป็นเลิศ (Best Practice) เป็นของ ตนเอง 3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นและคณุ ภาพผู้เรยี นเพิม่ สงู ขึ้นตามเปา้ หมาย ๖

การยกระดบั ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นโดยใชก้ ารนิเทศภายใน SUPER Model ๒. หลกั การทฤษฎี แนวคดิ ในการพฒั นา การนิเทศการศึกษา หมายถึง การให้ความช่วย เหลอื แนะนำ หรือปรับปรุงเกย่ี วกับการศึกษาโดย เฉพาะในโรงเรยี นไดม้ ีผใู้ ห้ความหมายคำวา่ การนเิ ทศการศึกษาไวแ้ ตกต่างกัน ดังน้ี คำว่า “การนิเทศ” มาจากภาษาองั กฤษว่า “Supervision” จากความหมายตามรูปศัพท์คือ การ ให้ความช่วยเหลือ แนะนำ และการปรับปรุง ตามรู้ศัพท์จากพจนานุกรม หมายถึง การชี้แจง การแสดง การจำแนก ความหมายโดยรวมการนิเทศคือกระบวนการท่ีจะทำใหเ้ กิดการปรบั ปรงุ การเรียนการสอนของ ครู โดยการทำงานร่วมกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง เป็นการกระตุ้นความเจริญก้าวหน้าของครู และมุ่งหวังที่จะ ช่วยเหลือครูเพื่อให้ครูช่วยเหลือตนเองได้ (Spears. 1967) โดยเป็นการให้บริการเกี่ยวกบั ความชำนาญ ทางเทคนิคด้านวิชาการในการเรียนการสอน การจัดสื่อการสอน สิ่งอำนวยความสะดวก การเตรียมและ พัฒนาครู รวมทัง้ การประเมินผลการเรยี นการสอน (Glickman. 1990) และปรับปรุงสภาพการเรียนและ พฒั นาการของผู้เรียน (Burton and Bruckner. 1995) ใหเ้ หมาะสมกับสถานการณ์และส่งผลสะท้อนไป ถงึ การพัฒนานกั เรยี นด้วย (Harris; Marks and Others. 1978) โดยผูน้ เิ ทศช่วยในการให้คำแนะนำแก่ครู หรือผู้อื่นท่ีทำหน้าที่เกีย่ วข้องกบั การศึกษา กระตุ้นให้ให้มีการพัฒนาการท่ีจะนำวธิ กี ารสอน สื่อการเรยี น การสอนมาใช้ โดยเน้นถึงทักษะในการติดต่อสื่อสาร (Goldhammer and Other. 1980) และการช้ี ช่องทางในลักษณะที่เป็นกันเองแก่ครูและนักเรียน เพื่อการปรับปรุงตัวเอง และสภาพการเรียนการสอน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่พึงประสงค์ สามารถปรับปรุงการสอนของตนให้ดีขึ้น ช่วยให้เกิดความเจริญงอก งามในด้านอาชีพ ช่วยพัฒนาความสามารถของครู (Good) แนวคิดในปัจจุบันที่มีนักวิชาการนำมา ประยกุ ต์ใชใ้ นการนเิ ทศการจัดการเรยี นการสอน ท้งั การนิเทศครปู ระจำการภายในระบบโรงเรียน และการ นเิ ทศนิสิต นกั ศกึ ษาฝึกหัดครทู ีท่ ำการฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ในสถาบันอุดมศึกษาอย่างได้ผลมีหลากหลาย วิธี ไม่ว่าจะเป็น การนิเทศแบบคลินิก การนิเทศแบบประชาธิปไตยการนิเทศแบบร่วมพัฒนา การนิเทศ แบบมีส่วนรว่ ม การนิเทศแบบพัฒนาการและการนิเทศเพือ่ การเปล่ียนแปลง (Samart Thimnark, 2011: 494; Rungchatchadaporn Vehachat, 2014: 163-184) แนวคิดกระบวนการสอนงานและการเป็น พี่เลี้ยง (coaching and mentoring) การพัฒนาบทเรียนร่วมกัน (lesson study) และการเรียนรู้แบบ ผสมผสาน (blended learning) ก็เปน็ แนวคดิ ท่ีสามารถนำมาประยกุ ต์ใช้กับการนิเทศในปัจจุบันท่ีมุ่งเน้น การพัฒนาการจัดการเรยี นรู้ที่ส่งผลตอ่ คุณภาพของผู้เรียน ผา่ นกระบวนการร่วมแรงร่วมใจของบุคลากรท่ี อยใู่ นบรบิ ทการเรยี นรู้เดยี วกนั โดยอาศัยความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยมี าสนับสนุนกระบวนการนิเทศให้มี ประสิทธิภาพย่ิงขน้ึ ทิศนา แขมมณี และคณะ (2553) กล่าวสรุปถึงการพัฒนาการทำงานของครูว่าการนิเทศ การศึกษาเป็นการพัฒนาคน การนิเทศกระบวนการทำงานร่วมกันกับผู้บรหิ ารและครูเพือ่ ให้พัฒนาตนเอง เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการทำงานไปในทางทด่ี ีข้ึน การนิเทศการศึกษามเี ปา้ หมายสงู สุดมงุ่ ลงสู่ผู้เรยี น ซง่ึ เป็นผลผลิตของการจัดการเรยี นการสอน โดยเหตุนี้การนิเทศที่จัดขึ้นจึงมีจุดมุ่งหมายทีจ่ ะพัฒนางาน คือ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีดีข้นึ การนเิ ทศการศึกษาเพ่ือสร้างการประสานสัมพนั ธ์ระหว่างผู้นิเทศ และผู้รบั การนิเทศ ซ่ึงเป็นผลมาจากการทำงานร่วมกันรับผดิ ชอบร่วมกันมีการแลกเปล่ียนเรยี นรู้ซึ่งกันและ กัน ซึ่งไม่ใช่เป็นการทำงานภายใต้การถูกบังคับและคอยตรวจการนิเทศโดยผู้บริหารระดับรองลงมามี ความสำคญั อยา่ งมากเพราะผู้บริหารเป็นผู้อยู่ใกล้ชิดกบั ครู นักเรียนและบคุ ลากรทางการศึกษา จึงยอ่ ม ๗

การยกระดับผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นโดยใช้การนิเทศภายใน SUPER Model ทราบปัญหาต่าง ๆ ได้ดีกว่าบุคคลภายนอก การนิเทศภายในโรงเรยี น เป็นกระบวนการในการปฏิบัติงาน รว่ มกนั ระหวา่ งผบู้ รหิ ารและครใู นโรงเรยี น เพอ่ื หาแนวทางปรับปรงุ พฒั นา สนับสนนุ การจดั การเรียนการ สอนของสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพมากยิง่ ขึน้ อนั จะส่งผลให้ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นของนักเรียนสูงข้ึน และนกั เรยี นมีคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ การนิเทศแบบร่วมพัฒนา หมายถึงปฏิสัมพันธ์ทางการนิเทศระหว่างผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศกแ์ ละครู ในกระบวนการนิเทศการศึกษาทีม่ ุ่งแกป้ ัญหาและพัฒนาการเรียนการสอนอย่างเปน็ ระบบ โดยใช้เทคนคิ การนิเทศการสอนเป็นปัจจยั หลกั บนพ้ืนฐานของสัมพนั ธภ์ าพแห่งการร่วมคิด ร่วมทำ พึง่ พา ช่วยเหลือ ยอมรับซงึ่ กนั และกัน ให้เกยี รตแิ ละจริงใจตอ่ กนั ระหวา่ งผนู้ ิเทศ ผู้สอนและคู่สัญญา เพื่อ ร่วมกันพัฒนาทักษะวิชาชีพ อันจะส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ คือ การวางแผนการดำเนนิ การ การเสริมสร้างความรู้ในการปฏิบัติงาน การปฏิบัติงานตาม แผน การประเมินผลการปฏบิ ตั ิงานและการเผยแพรข่ ยายผล (อามีเนาะ สาเล็ง, 2562: 16) การนิเทศแบบร่วมพัฒนาวิชาชีพ (Coo-perative Professional Development) เป็นรูปแบบ การนิเทศการสอนที่ครูตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ซึ่งอาจจะมีปัญหาเดียวกันน สอนอยู่ในระดับชั้นเดียวกัน หรือ สอนรายวิชาเดยี วกัน ตกลงที่จะทำงานร่วมกันเพ่ือพฒั นา การจัดการเรียนการสอนซ่ึงกันและกนั ครูจะมี บทบาทเป็นทั้งผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ โดยการแลกเปลี่ยนกันสังเกตการสอนในชั้นเรียน การให้ข้อมูล ย้อนกลบั แก่กนั และการปรกึ ษาหารือในประเดน็ หรือข้อกงั วลทเี่ ก่ียวขอ้ งกับการเรยี นการสอนของแต่ละคน การนิเทศแบบร่วมพัฒนาวิชาชีพเป็นแนวคิดเดียวกบั การนเิ ทศครู โดยเพื่อนครู (Peer Supervision) การ นิเทศระหว่างเพื่อนร่วมงาน (Collegial Supervision) การนิเทศแบบคู่สัญญา (Buddy Supervision) และการศึกษาบทเรียน (Lesson Study) ซึ่งมีหลักการและกระบวนการในการดำเนินการคล้ายคลึงกัน (ปญั ญา อคั รพุทธพงศ์ และจไุ รรตั น์ สุดรงุ่ , 2559 : 333) การนิเทศแบบเพื่อนร่วมพัฒนาวิชาชีพเป็นอีกแนวคิดหนึ่งในหลาย ๆ แนวคิดทางด้านการนิเทศ การสอน ซึ่งเป็นวิธีการนเิ ทศการสอนวธิ หี นึง่ ที่มีเปา้ หมายอยู่ที่การปรับปรงุ พัฒนาการจดั การเรียนการสอน ของตนเองหรืองานที่ตนเองรับผิดชอบร่วมกัน การนิเทศแบบเพื่อนร่วมพัฒนาวิชาชีพ (Cooperation Professional Development) ในยุคปัจจุบันน่าจะเป็นวิธีการนิเทศที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากการนิเทศ การสอนแบบเพื่อนร่วมพัฒนาวิชาชีพเป็นกระบวนการนิเทศที่ครูตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปหรือครูกับผู้นิเทศ ร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติงานเพื่อปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียนการสอนของตนเอง หรืองานที่ตนเอง รบั ผดิ ชอบร่วมกนั โดยมีการสงั เกตการสอนซ่งึ กันและกัน (วชั รา เล่าเรยี นดี, 2553: 13,15,134) โรงเรียนยางรากวิทยามีการนำผลการสังเคราะห์ หลักการ แนวคิด ทฤษฎีมาใช้ในการออกแบบ แนวทางการพัฒนา โดยมีนักวิชาได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับกระบวนการนิเทศแบบร่วมพัฒนาวิชาชีพ (Glatthorn, 1997) การนเิ ทศครโู ดยเพ่อื นครู (สมนกึ ปฏปิ ทานนท์, 2549) การนเิ ทศแบบค่สู ัญญา (บูร ชยั ศริ มิ หาสาคร, 2545) และการศึกษาบทเรียน (Fernandez and Chokshi, 2002) ซ่งึ สามารถสรุปได้ เป็นกระบวนการ 5 ขนั้ ตอน ดงั น้ี ขั้นตอนที่ 1 การรวมกันวิเคราะห์ปัญหา กำหนดเป้าหมาย (Setting) เป็นขั้นตอนที่ผู้นิเทศและ ผูร้ ับการนิเทศวิเคราะห์สภาพปัญหา กำหนดเปา้ หมายของการพฒั นารูปแบบการจัดการเรียนการสอน ขนั้ ตอนท่ี 2 การพัฒนารปู แบบการเรยี นการสอน (Upgrade) ของผู้รบั การนเิ ทศ เพ่อื ให้ผู้รับการ นิเทศนวัตกรรมการเรยี นการสอนการปฏบิ ัติทเ่ี ป็นเลศิ (Best Practice) ของตนเอง ๘

การยกระดบั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใชก้ ารนเิ ทศภายใน SUPER Model ข้ันตอนท่ี 3 การออกแบบการจัดการเรยี นการสอน (Process) ของผ้รู ับการนเิ ทศ เพ่อื นำไปใช้ใน การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ขั้นตอนที่ 4 การกำกับ ติดตาม ประเมินผล (Evaluation) ของผู้รับการนิเทศ เพื่อให้ผู้นิเทศได้ แนะนำรูปแบบการจดั การเรยี นการสอน โดยผรู้ ับการนเิ ทศนำไปพัฒนาและปรับปรงุ การออกแบบการเรยี น การสอนของตนเอง ขั้นตอนที่ 5 การนำเสนอ รายงาน (Review) เม่อื ผูร้ บั การนิเทศได้รูปแบบการเรียนการสอนของ ตนเองเป็นการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ได้จากการทดลองใช้ การนิเทศ กำกับ ติดตาม และ ประเมนิ ผลจากผนู้ เิ ทศแล้ว ๙

นวตั กรรมการนเิ ทศแบบร่วมพฒั นาดว้ ย SUPER MODEL ของโรงเร ผู้บริหารสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา คณะครูแล กากกราวารารววงาแางผงแแนผผนน วิเคราะห์ผลสัมฤทธ์ิและคุณภาพผู้เรีย (P(l(PaPlnlaannninnignin:ggP::)PP)) เปา้ หมายทช่ี ดั เจนในการ SWOT การปฏบิ ตั งิ าน (Doing: D) 10 การตรวจสอบ (Checking: C) การนำเสนอ,ปรับปรงุ (Acting: A)

การยกระดับผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นโดยใช้การนเิ ทศภายใน SUPER Model รยี นยางรากวิทยา สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษามธั ยมศกึ ษาลพบุรี ละบุคลากร ชมุ ชนและหนว่ ยงานอน่ื นักเรียน ยนทงั้ ในภาพรวมและรายบุคคลเพือ่ กำหนด รพัฒนาตามรปู แบบ/แนวทาง T Analysis Revised No Yes 0 ๑๐

การยกระดับผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นโดยใชก้ ารนเิ ทศภายใน SUPER Model ๓. ผลการดำเนินงาน ปญั หาอุปสรรค และขอ้ เสนอแนะ 3.1 ผลการดำเนินงานด้านกระบวนการพัฒนารูปแบบ/แนวทาง 3.1.1 การออกแบบแนวทางการพฒั นา การยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิและคุณภาพการศกึ ษาของผู้เรยี นที่ผ่านมาได้มกี ารทบทวนระบบและ กลไกการนิเทศ กำกับ ติดตามและประเมินผลการจัดรูปแบบการเรียนการสอนของครูผู้สอนภายใน สถานศึกษา โดยใช้ SUPER MODEL ซึ่งได้จากการสังเคราะห์ข้อมูล เอกสาร บทความงานวิจัยของ นักวชิ าการทางการศึกษา ซ่งึ การดำเนนิ งานให้เป็นไปตามรูปแบบหลักการ PDCA ดังนี้ 1. การวางแผน (Planning) 2. การปฏบิ ัติ (Doing) 3. การตรวจสอบ การนิเทศ (Check) 4. การแสดงผล ดำเนินการซ้ำและการปรบั ปรงุ (Action) 1. การวางแผน (Planning) ผูบ้ ริหารคณะครู คณะกรรมการสถานศึกษา ครูผ้สู อนและบุคลากร ทางการศึกษาร่วมวางแผนค้นคว้า สำรวจข้อมูลสภาพปัจจุบนั สภาพการดำเนินงานการนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการศึกษาของโรงเรียนร่วมกันวิเคราะห์ปัญหา ร่วมกันกำหนดสภาพความต้องการ ร่วมมอื กนั ในการพฒั นา กำหนดกจิ กรรมนำไปทำรูปแบบการจดั การเรียนการสอนของผู้สอน 2. การปฏิบัติ (Doing) ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ และหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ดำเนินการนเิ ทศการสอนของครูผู้สอน และครูผู้สอนจดั การนเิ ทศการสอน ด้วยกระบวนการชุมชนแห่ง การเรียนรู้ (PLC) 3. การตรวจสอบการนิเทศ (Check) ผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา ศึกษานิเทศก์ และหัวหน้ากล่มุ สาระ การเรียนรู้ ดำเนินการนิเทศการสอนของครูผู้สอน ได้ประเมินผลการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้ คำแนะนำแกผ่ ูร้ บั การนเิ ทศการสอน 4. การแสดงผล ดำเนินการซ้ำและการปรับปรงุ (Action) ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ และหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ มีการนิเทศการสอนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกำกับ ติดตาม ให้คำแนะนำ และการพฒั นารูปแบบการเรียนการสอนร่วมกันกับผู้สอนหรือผู้รับการนิเทศ มีนักวิชาได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับกระบวนการนิเทศแบบร่วมพัฒนาวิชาชีพ (Glatthorn, 1997) การนเิ ทศครูโดยเพ่อื นครู (สมนึก ปฏปิ ทานนท์, 2549) การนเิ ทศแบบค่สู ัญญา (บรู ชยั ศริ มิ หา สาคร, 2545) และการศึกษาบทเรียน (Fernandez and Chokshi, 2002) ซึ่งสามารถสรุปได้เป็น กระบวนการ 5 ข้ันตอน ดังน้ี ข้นั ตอนที่ 1 การรวมกนั วเิ คราะหป์ ัญหา กำหนดเป้าหมาย (Setting) เปน็ ขน้ั ตอนท่ีผูน้ ิเทศและ ผรู้ ับการนิเทศวิเคราะห์สภาพปัญหา กำหนดเปา้ หมายของการพฒั นารูปแบบการจัดการเรยี นการสอน ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนารูปแบบการเรยี นการสอน (Upgrade) ของผู้รับการนิเทศ เพื่อให้ผูร้ ับ การนิเทศนวตั กรรมการเรียนการสอนการปฏิบตั ทิ ีเ่ ป็นเลิศ (Best Practice) ของตนเอง ขนั้ ตอนท่ี 3 การออกแบบการจดั การเรยี นการสอน (Process) ของผ้รู ับการนิเทศ เพอ่ื นำไปใช้ ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน ๑๑

การยกระดบั ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนโดยใช้การนเิ ทศภายใน SUPER Model ข้ันตอนที่ 4 การกำกบั ติดตาม ประเมนิ ผล (Evaluation) ของผรู้ ับการนเิ ทศ เพ่ือให้ผ้นู เิ ทศได้ แนะนำรปู แบบการจัดการเรียนการสอน โดยผู้รับการนิเทศนำไปพัฒนาและปรับปรุงการออกแบบการ เรียนการสอนของตนเอง ขั้นตอนที่ 5 การนำเสนอ รายงาน (Review) เมื่อผู้รับการนิเทศได้รูปแบบการเรียนการสอน ของตนเองเป็นการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ได้จากการทดลองใช้ การนิเทศ กำกับ ติดตาม และประเมินผลจากผู้นิเทศแล้ว 3.1.2 การมีส่วนรว่ มในการพฒั นา การวเิ คราะห์ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นและคุณภาพการศึกษาของผเู้ รยี น เพื่อคน้ หาจดุ แข็ง จุด จุดอ่อน โอกาส อุปสรรค หรือสิ่งที่อาจเป็นปญั หาสำคัญในการดำเนินงานสู่สภาพที่ต้องการในอนาคต SWOT เปน็ ตัวย่อท่มี ีความหมายดังน้ี S : Strengths หมายถึง จดุ แขง็ (ข้อไดเ้ ปรยี บ) W : Weaknesses หมายถึง จดุ อ่อน (ข้อเสยี เปรยี บ) O : Opportunities หมายถึง โอกาส (ปัจจัยที่จะส่งผลให้สามารถดำเนินการได้) T : Threats หมายถงึ อปุ สรรค (ปจั จัยท่ีคกุ คามการดำเนินงาน) หลักการสำคัญ คือ การวิเคราะห์โดยการสำรวจจากสภาพการณ์ 2 ด้าน คือ สภาพการณ์ ภายในและสภาพการณ์ภายนอก ดังนั้นการวิเคราะห์ SWOT จึงเรียกได้ว่าเป็นการวิเคราะห์ สภาพการณ์ (Situation Analysis) ซง่ึ เปน็ การวิเคราะห์จุดแข็ง จุดออ่ น โรงเรยี นยางรากวทิ ยา เพื่อให้รู้ ตนเอง (รู้เรา) รู้จักสภาพแวดล้อม (รู้เขา) ชัดเจน และวิเคราะหโ์ อกาส-อุปสรรค โดยความร่วมมือกัน ระหว่าง ผู้บริหารสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา คณะครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง การวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ ทั้งภายนอกและภายในสถานศึกษา ซึ่งจะช่วยให้ ผู้บริหารของสถานศึกษาทราบถึงการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายนอกสถานศึกษา ทั้งสิ่งที่ได้ เกิดขึน้ แลว้ และแนวโน้มการเปลย่ี นแปลงในอนาคต รวมทง้ั ผลกระทบของการเปลยี่ นแปลง โดยมีผ้เู รียน เป็นผู้สะท้อนปัญหา เพื่อให้ได้มาซึ่งปัญหา แนวทางการแกป้ ัญหา กำหนดจุดมุ่งหมาย วิสัย เป้าหมาย ของโรงเรียนยางรากวิทยา เมอื่ วิเคราะหป์ ัญหาจากการพัฒนารปู แบบการสอนของครผู สู้ อน โดยมีจดุ ม่งุ หมายเพ่อื ยกระดับ ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนและคุณภาพผู้เรยี นแล้ว จงึ ได้พฒั นากระบวนการนิเทศรว่ มพัฒนา โดย SUPER Model ซ่ึงเป็นนวตั กรรมทีผ่ ูบ้ ริหาร คณะครูและบคุ ลากกรได้พฒั นาเปน็ นวัตกรรมในการพฒั นารูปแบบ การเรียนการสอนของครูผู้สอน จุดเดน่ ของการนเิ ทศแบบรว่ มพฒั นา คือการแลกเปล่ียนการเรียนรู้ซ่งึ กนั และกันระหว่างผู้นเิ ทศกับผู้รับการนิเทศได้ ทำให้มีความเขา้ ใจในปัญหาหรอื ส่ิงที่ตอ้ งการพัฒนาในการ จัดการเรียนการสอนอย่างชัดเจน โดยไม่รู้สึกว่าเป็นกระบวนการเข้มงวดและต้องปฏิบัติตามอย่าง เคร่งครัด ทั้งนี้มีการศึกษาวิจัยในต่างประเทศพบว่า ครูส่วนใหญ่ชอบที่จะปรึกษาหารือ ขอความ ช่วยเหลือ และให้คุณค่ากับข้อเสนอแนะ (Holdaway and Millikan cited in Glatthorn, 1997) ดังนั้นโรงเรียนจึงสามารถใช้การนิเทศแบบร่วมพัฒนากับผู้สอนได้อยา่ งชัดเจน และง่ายต่อการพัฒนา รปู แบบการจดั การเรยี นการสอน การนิเทศแบบรว่ มพฒั นามีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อครูทุก คนในโรงเรียน โดยสง่ เสรมิ ใหค้ รผู สู้ อนมสี ว่ นรว่ มในการพัฒนารูปแบบการจดั การเรยี นการสอนหรอื ๑๒

การยกระดับผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนโดยใชก้ ารนเิ ทศภายใน SUPER Model ชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) ได้มาซึ่งนวัตกรรม การศกึ ษา นำไปใช้เพอื่ ยกระดับผลสัมฤทธิ์และคุณภาพผ้เู รียน การตรวจสอบคุณภาพนวัตกรรมที่สำคัญคือ การหาความตรงเชิงเนื้อหาของนวัตกรรมนั้น มี ความเหมาะสม ถูกต้อง หรือสอดคล้องกับปัญหา เน้ือหา จดุ ประสงค์ วัยของผู้เรยี น หรือไม่ โดยคณะ ผจู้ ดั ทำนำเสนอนวัตกรรมของโรงเรียนให้ผู้เชี่ยวชาญหรือผทู้ รงคุณวุฒิ หรอื ผมู้ ปี ระสบการณ์ในเรื่องนั้น อย่างน้อยทีส่ ุด 3 คน ได้ตรวจสอบนวัตกรรมนั้น ดี เหมาะสม ใช้ได้หรือไม่ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ หรือตามเจตนาของคณะผู้จัดทำ การตรวจสอบคุณภาพของนวัตกรรมโดยผู้เชี่ยวชาญเป็นการนำ นวัตกรรม นิยมหาดัชนีความสอดคล้อง (Index item – objective congruence: IOC) โดยกำหนด เกณฑ์การใหค้ ะแนนจากการพจิ ารณาดงั นี้ (เกษม สาหรา่ ยทิพย์. 2539: 183) +1 หมายถงึ แน่ใจวา่ ลักษณะของนวตั กรรมสอดคล้องกับจุดประสงค์ 0 หมายถงึ ไมแ่ น่ใจลักษณะของนวตั กรรมสอดคลอ้ งกับจุดประสงค์ -1 หมายถงึ แนใ่ จวา่ ลักษณะของนวตั กรรมไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์จากนน้ั นำคะแนนความ คิดเหน็ ของผู้เช่ยี วชาญท้งั 3 ทา่ น เกณฑก์ ารพจิ ารณาค่าดัชนีความสอดคล้อง ขอ้ คำถามที่มคี ่าดัชนีความสอดคลอ้ ง ตง้ั แต่ 0.50-1.00 มีค่าความเทีย่ งตรง ใชไ้ ด้ ขอ้ คำถามทมี่ คี า่ ดัชนีความสอดคล้อง ตำ่ กว่า 0.50 ตอ้ งปรบั ปรุง ยงั ใชไ้ มไ่ ด้ นำคะแนนความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ มาหาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อสอบกับ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ พบวา่ นวตั กรรมการศึกษามคี า่ ดัชนีความสอดคลอ้ งระหว่างนวตั กรรมการศึกษา “SUPER MODEL” กับวัตถุประสงค์ของโครงการอยู่ที่ 0.62 – 1.00 ซึ่งมีค่ามากกว่า 0.5 แสดงว่า นวตั กรรมการศึกษามีความตรงเชงิ เน้อื หา (เกษม สาหร่ายทพิ ย์. 2539 : 183) จึงสามารถนำไปใช้ในการ นเิ ทศแบบรว่ มพฒั นา กำกับ ตดิ ตาม และประเมนิ ผลในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอนได้ ๓.๑.๓ การนำไปใช้ กลุ่มบรหิ ารวชิ าการ โรงเรียนยางรากวิทยาไดน้ ำนวัตกรรมการนเิ ทศแบบรว่ มพัฒนา โดย SUPER Model จัดทำคู่มือการนิเทศการศึกษาประจำปีการศึกษา ๒๕๖๓ และประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔ กระบวนการนเิ ทศการศึกษา เป็นภารกิจจำเป็นต่อการจัดการศึกษาท่ตี อ้ งอาศัยความร่วมมอื จาก บุคลากรหลายฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิง่ ทางด้านการพฒั นาคุณภาพการเรียนการสอนท่ีเป็นเปา้ หมายของ โรงเรียน จำเป็นต้องพัฒนาและปรับปรุงตนเองให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นแนวทางการขับเคลื่อนการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานในการ พัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี นด้วยกระบวนการนเิ ทศแบบร่วมพฒั นา โดย SUPER Model ทั้งนี้การนำนวตั กรรมการนิเทศแบบร่วมพัฒนา โดย SUPER Model ได้สร้างความเข้าใจ ให้กับผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ โดยผ่านการจัดการส่งเสริม อบรม และพัฒนารูปแบบการสอน ตาม โครงการที่กลุ่มบริหารวิชาการ โรงเรียนยางรากได้จัดทำขึน้ ได้แก่ Innovation For Thai Education (IFTE) พัฒนานวตั กรรมการศึกษาการศกึ ษาโรงเรียนยางรากวิทยา ข้นึ เพ่อื ยกระดบั ผลสมั ฤทธิ์ทางการ ๑๓

การยกระดับผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นโดยใชก้ ารนิเทศภายใน SUPER Model เรียน และคุณภาพของผู้เรียนได้รบั การพัฒนาทัง้ ด้านทักษะการเรียนรู้ ทักษะอาชีพ และทักษะชีวิตใน ศตวรรษท่ี 21 ด้วยกระบวนการนเิ ทศการสอน โดยวิทยากรทม่ี ีความร้คู วามชำนาญภายนอกสถานศกึ ษา ครูผู้สอนสามารถออกแบบกจิ กรรมการเรยี นการสอนของตนเอง โดยใช้รปู แบบการสอนการปฏิบตั ิท่ีเป็น เลศิ (Best Practice) ของตนเอง ซึง่ ผนู้ เิ ทศจะใช้กระบวนการนิเทศแบบรว่ มพฒั นาตาม SUPER Model และมีการนิเทศการสอนแบบร่วมพัฒนาภายในห้องเรียน การนิเทศแบบร่วมพัฒนา โดย SUPER Model ยังสามารถให้ครูผู้สอนกบั ครูผู้สอนนิเทศการสอนกันเองได้ โดยผ่านกระบวนการ “ชุมชนแหง่ การเรยี นรู้” (Professional Learning Community : PLC) และกำกับ ติดตาม ประเมนิ ผลการจัดการ เรียนการสอนของผู้สอนเป็นระยะ 3.1.4 การประเมินและการปรบั ปรุง การยกระดบั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนและคณุ ภาพผเู้ รียน โดยนวตั กรรมการนิเทศแบบร่วม พัฒนาด้วย SUPER MODEL ของโรงเรยี นยางรากวิทยา แบ่งเป็น ๔ ประเภทโดยการประเมนิ และการ ปรับปรงุ ดังน้ี ๓.๑.๔.๑ การตรวจสอบคุณภาพนวัตกรรมที่สำคัญ ครูผู้สอนและบุคลากรทุกฝ่ายที่ เกี่ยวข้องการมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของการดำเนินงานตามระบบการนิเทศแบบร่วมพัฒนา ภายใน สถานศึกษา ตั้งแต่การมีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรฐานการศึกษา การกำหนดเป้าหมายโดยใช้ข้อมลู สารสนเทศจากผลการประเมินการปฏิบัตงิ านจรงิ ของครูผู้สอนมาใช้เป็นฐาน ไปจนถงึ เปน็ ผมู้ ีส่วนร่วมใน การนเิ ทศแบบรว่ มพฒั นาภายในสถานศึกษา หรอื ติดตาม ตรวจสอบ ใหข้ อ้ เสนอแนะทเี่ ป็นประโยชน์ต่อ การพัฒนาระบบการนิเทศร่วมพัฒนาภายในสถานศึกษาของโรงเรียนยางรากวิทยา โดยใช้ “SUPER Model” ตลอดจนนำข้อมูลสารสนเทศที่ได้ ไปใช้ในการปรับปรุงการดำเนินงานของตนเองในปีต่อไป กอ่ ใหเ้ กดิ วฒั นธรรมการทำงานตามระบบนิเทศการศกึ ษาภายในสถานศึกษาของโรงเรียนยางรากวิทยา โดยใช้ “SUPER Model” ตามวงจรคณุ ภาพ PDCA อยา่ งแท้จรงิ ทำให้ครูผ้สู อนและบุคลากรตระหนัก ถงึ บทบาทหน้าท่ีและเห็นความสำคัญของการนเิ ทศแบบร่วมพัฒนาภายในสถานศึกษา ๓.๑.๔.๒ การประเมินคณุ ภาพของแผนการจัดการเรยี นรู้จงึ ตอ้ งมีความครอบคลุมถงึ องคป์ ระกอบสำคัญของแผนข้นั ตอนการเขียนแผน ข้อรายการประเมนิ ต่าง ๆ ตอ้ งชดั เจนต่อการปฏิบัติ เพ่ือครผู สู้ อนจะได้นำผลการประเมนิ ท่ีได้รบั ไปปรบั ปรงุ แก้ไข พฒั นาแผนการจัดการเรียนรู้ของตนให้มี คุณภาพ เพราะแผนการจัดการเรยี นท่ีดีมีคุณภาพเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้นำไปสู่การจดั การเรยี นการ สอนและการประเมนิ ผลท่ีมีคณุ ภาพ พร้อมทง้ั สง่ ผลตอ่ ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนรู้ของผ้เู รียนได้ในที่สุด ยึด หลักการออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน ให้เป็นไปตามหลักการตัดสินโดยผู้เชี่ยวชาญ (Expert Judgment) บนพื้นฐานของร่องรอยหลักฐานเชิงประจักษ์ที่เกิดจากการปฏิบัติงานตามสภาพจริงของ สถานศึกษา (Evidence based) และมีการทบทวนผลการประเมิน ติดตามโดยบุคคลระดับเดียวกัน (peer review) ซึ่งเป็นระบบการตรวจสอบ ติดตาม ประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิทีม่ ีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์คล้ายกัน เพื่อร่วมกันวิเคราะห์และให้ข้อสังเกต ข้อเสนอแนะเชิงพัฒนาในการ ปฏิบัติงาน ประเมินโดยกัลยาณมิตร ทาให้ได้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมา จริงใจ และปราศจากอคติ แบบ ประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ของครู ระดับชั้นมัธยมศึกษา มีองค์ประกอบคือ (1) สาระสำคัญ (2) จุดประสงค์ (3) สาระการเรยี นรู้ (4) กจิ กรรมการเรยี นรู้ (5) สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ (6) การวัดและ ๑๔

การยกระดับผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนโดยใชก้ ารนิเทศภายใน SUPER Model ประเมนิ ผลการเรียนรู้สามารถประเมินการขัน้ ตอนและองค์ประกอบสำคญั ในการจัดทำแผนการจัดการ เรียนรู้ของครูระดับชั้นมัธยมศึกษาได้ตรงกับสภาพจริงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากมีการ ประเมินจากหลกั ฐานจริงการปฏิบัตติ ามกระบวนการจดั ท าแผนการจัดการเรียนรู้ที่มีขั้นตอน สะท้อน ให้แผนการจดั การเรียนร้นู น้ั มีคณุ ภาพอยู่ในเกณฑ์ดแี ละมีคณุ ภาพ ๓.๑.๔.๓ การนิเทศแบบรว่ มพฒั นา โดย SUPER Model มีการประเมนิ คณุ ภาพเปน็ ประจำทุกปีการศกึ ษา โดยเป็นการนเิ ทศแบบร่วมพัฒนา ซึ่งเป็นการใช้การนิเทศการสอนที่ครูตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ซ่ึงอาจจะมีปญั หาเดียวกนั น สอนอยูใ่ นระดับชั้นเดียวกัน หรือสอนรายวชิ าเดยี วกนั ตกลงที่จะ ทำงานรว่ มกนั เพอ่ื พัฒนา การจดั การเรยี นการสอนซงึ่ กนั และกัน ครูจะมบี ทบาทเปน็ ทงั้ ผู้นิเทศและผู้รับ การนิเทศ โดยการแลกเปลี่ยนกันสังเกตการสอนในชั้นเรียน การให้ข้อมูลย้อนกลับแก่กันและการ ปรึกษาหารือในประเด็นหรือข้อกังวลที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนของแตล่ ะคน การนิเทศแบบร่วม พัฒนาวิชาชีพเป็นแนวคิดเดียวกับการดำเนินกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ (Professional Learning Community : PLC) ๓.๑.๔.๔ ครแู ละบคุ ลากรมีขวัญกำลงั ใจ และทัศนคติทดี่ ีและถกู ตอ้ งต่อการดำเนนิ งาน นิเทศการศึกษาแบบรว่ มพฒั นาด้วย SUPER Model และนำไปเปน็ ส่วนหน่งึ ในการทำงาน ส่งผลให้เกิด การยกระดับผลสัมฤทธิแ์ ละคุณภาพการศึกษาของผู้เรียน ของโรงเรียนยางรากวิทยา โดยใช้ “SUPER Model” อย่างมคี ุณภาพ ผู้บริหาร ครูและบุคลากรมีความร่วมมือ มุ่งมั่น กระตือรือร้นและทำงานเป็น ทีมในด้านต่าง ๆ รวมถึงการดำเนินงานด้านการประกันคุณภาพการศึกษา มีการนำผลการประเมินมา ปรบั ปรงุ และพฒั นาหนว่ ยงาน เพือ่ ใหบ้ รรลุตามเปา้ หมายทสี่ ถานศกึ ษากำหนด 3.2 ผลการดำเนนิ งานด้านผลที่เกดิ ข้นึ จากการดำเนนิ งานตามรูปแบบ/แนวทาง 3.2.1 ด้านสถานศึกษา สถานศกึ ษามรี ะบบและกลไกการนิเทศภายในสถานศกึ ษาท่พี ัฒนาขนึ้ อยา่ งมี ประสิทธิภาพมีระบบติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินงานการควบคุมคุณภาพอย่างเป็น ระบบและต่อเนื่อง มีคู่มือการนิเทศการเรียนการสอนแบบร่วมพัฒนา ตาม SUPER Model แบบ ประเมินการนเิ ทศการสอนของครผู ู้สอน และรายงานกิจกรรมชมุ ชนแหง่ การเรียนรู้ (PLC) ทำให้ครูและ บุคลากรได้ศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ของสถานศึกษาพร้อมตัวอย่างการพัฒนารูปแบบการสอนของ ครผู ู้สอน อีกทง้ั มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารทีเ่ ปน็ ปัจจุบนั เก่ียวกับการเปลี่ยนแปลงของระบบการนิเทศ กำกับ ติดตามและประเมินผลการศึกษาเป็นระยะ ๆ ทำให้ครูและบุคลากรได้รับข่าวสารที่เป็นปัจจุบัน และมคี วามรู้ความเขา้ ใจทีต่ รงกันในการดำเนนิ งานตามระบบนเิ ทศการสอนเพือ่ รองรับการประเมนิ และ การติดตาม ตรวจสอบ ๓.๒.๒ ด้านครผู สู้ อน โรงเรียนยางรากวิทยานำผลการทดสอบ O–NET ประจำปีการศึกษา 2562 – 2563 มา วิเคราะห์ ในภาพรวมของสถานศึกษา และรายมาตรฐานการเรียนรู้ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดย เปรียบเทียบคะแนนเฉล่ียของสถานศึกษากับคะแนนเฉล่ียระดบั ประเทศ พร้อมทั้งคะแนนของนักเรียน เป็นรายบคุ คล โดยกำหนดเป้าหมายการจัดการเรยี นรู้ด้านองค์ความรู้ทักษะกระบวนการตามมาตรฐาน ตวั ชีว้ ัด และยดึ รายละเอียดตาม Test Blueprint ของการทดสอบ O-NET ผนู้ ิเทศใชก้ ระบวนการนิเทศ ๑๕

การยกระดบั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนโดยใชก้ ารนิเทศภายใน SUPER Model แบบร่วมพัฒนา SUPER Model ผู้นิเทศใช้แบบนิเทศการออกแบบการจัดการเรียนรู้ โดยให้ผู้รับการ นิเทศ ดำเนินการศึกษาหลักสูตรสถานศึกษา จัดทำโครงสร้างรายวิชาและจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ พร้อมออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับมาตรฐานและตัวชี้วัด จากนั้นใช้แบบนิเทศการจัด กิจกรรมการเรยี นรู้และแบบเยี่ยมชั้นเรียน ประเมินผู้รับการนิเทศ เพื่อให้ผู้นิเทศจัดกิจกรรมการเรียน การสอน ทน่ี ำเทคนิคการเรียนการสอนทีเ่ ป็นเลิศ (Best Practice) ใชก้ บั นักเรียน โดยให้นักเรยี นมีส่วน ร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ใช้สื่อเทคโนโลยีและสารสนเทศที่หลากหลาย ผู้นิเทศพัฒนาสื่อการ เรยี นรู้ ออกแบบและพฒั นาสอ่ื นวตั กรรมเทคโนโลยีทม่ี ีความเหมาะสมกับผ้เู รียน รวมทัง้ กำหนดเกณฑ์ การประเมนิ ไดอ้ ย่างชัดเจน ใชผ้ ลของการวดั และประเมนิ ผลเพื่อออกแบบวางแผนและดำเนนิ การพัฒนา คุณภาพทางการศกึ ษาเพือ่ ให้คะแนน O-NET ในปีการศกึ ษาต่อไปใหม้ ีผลคะแนนเพ่มิ สูงข้ึน ครูผู้สอนและบุคลากรทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องการมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของการ ดำเนินงานตามระบบการนิเทศแบบร่วมพัฒนา โดย SUPER Model ภายในสถานศึกษา ตั้งแต่การมี ส่วนร่วมในการวิเคราะห์สภาพปัญหา กำหนดมาตรฐานการศึกษา การกำหนดเป้าหมายโดยใช้ข้อมูล สารสนเทศจากผลการประเมนิ การปฏิบัติงานจริงของครูผู้สอนมาใช้เป็นฐาน ไปจนถงึ เป็นผู้มีสว่ นร่วมใน การนิเทศ กำกับ ติดตามและประเมินผลภายในสถานศึกษา ให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการ พัฒนาระบบการนิเทศภายในสถานศึกษาของโรงเรียนยางรากวิทยา โดยใช้ “SUPER Model” ตลอดจนนำข้อมูลสารสนเทศที่ได้ ไปใช้ในการปรับปรุงการดำเนนิ งานของตนเองในปีต่อไป ก่อให้เกิด วัฒนธรรมการทางานตามระบบประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษาของโรงเรียนวดั คยู าง โดยใช้ “SUPER MODEL” ตามวงจรคุณภาพ PDCA อย่างแท้จริง ทำให้ครูและบุคลากรตระหนักถึงบทบาท หนา้ ท่ีและเหน็ ความสำคัญของการพฒั นาระบบนเิ ทศแบบรว่ มพฒั นา ๓.๒.๓ ดา้ นผู้เรยี น ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรเป็นไปตามเป้าหมายที่สถานศึกษา กำหนด มพี ฒั นาการของผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติ (O – NET) สงู ขน้ึ ทุกวิชาในการศึกษา ผ่านมา และเป็นผู้เรยี นที่มคี ุณภาพมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์อยูใ่ นระดับดี พร้อมที่พัฒนาสู่ทักษะใน ศตวรรษท่ี ๒๑ กระบวนการนิเทศแบบรว่ มพัฒนา SUPER Model และทำใหผ้ ้รู ับการนิเทศและนักเรียน ได้เข้าร่วมงานวิชาการ งานประชุมเชิงวิชาการระดับนานาชาติ Thailand-Japan Student Science Fair 2020 (TJ-SSF 2020) เ ร ื ่ อ ง A humidity control system in an automatic mushroom house.ทโี่ รงเรียนวทิ ยาศาสตร์จุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ลพบุรี โดยการนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษให้กับ ผู้เข้าร่วมการประชุม และเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆอีกมากมาย จาการที่ผู้นิเทศนำเทคนิคการการสอนท่ี เป็นเลิศ (Best Practice) มาใชใ้ นการจัดการเรียนการสอน นกั เรยี นเกิดความรู้และทักษะกระบวนการ เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ทักษะพื้นฐานการคน้ คว้า ใฝ่หาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย การคิด คำนวณ การใช้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ ทักษะการคิด นักเรียนใช้เหตุผลและความคิดในการวิเคราะห์ และสังเคราะห์ ประเมินคา่ คิดสร้างสรรค์ ตัดสินใจและแก้ปัญหาได้อย่างดี ทักษะการทำงาน นักเรียน ประยกุ ตใ์ ช้ความร้แู ละทกั ษะในการทำงาน การตดิ ต่อส่อื สาร การทำงานเปน็ ทีมรว่ มกบั ผู้อ่ืน และทักษะ การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ไดแ้ ก่ สามารถรับรู้ เขา้ ใจการใชแ้ ละการจัดการสอื่ สารสนเทศ เปดิ ใจรบั ๑๖

การยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นโดยใช้การนเิ ทศภายใน SUPER Model สารและเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างเท่าทัน สามารถบริหารจัดการเทคโนโลยี เรียนรู้เทคนิควิทยาการ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และสามรถนำข้อมูลเหล่าน้ันมาใช้อย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสม และเป็นประโยชน์ทั้งตอ่ ตนเองและผู้อืน่ ทักษะการใชช้ ีวติ นักเรียนมีความกระตือรอื รน้ ในความรู้ สามารถดำรงชีวิตดว้ ยความ รบั ผิดชอบตอ่ ตนเองและผู้อื่น ส่งผลให้นักเรยี นเกิดพฒั นาทง้ั สามด้าน ด้านความรู้ ด้านทักษะ และด้าน เจคตใิ นการเรียน ๓.๓ ปัจจยั ทส่ี ง่ ผลสำเร็จ ๓.๓.๑ ผบู้ ริหารสถานศึกษารว่ มมือกับคณะกรรมการสถานศึกษา เครือข่ายผู้ปกครอง และผู้มี สว่ นเกีย่ วขอ้ ง วิเคราะห์ สงั เคราะห์ สภาพปญั หาจากผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นและคณุ ภาพของผ้เู รยี น ๓.๓.๒ ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครูผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษา มีการดำเนินงานนิเทศ แบบร่วมพัฒนาทั้งในผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้นิเทศ ศึกษานิเทศก์เป็นผู้นิเทศ ครูผู้สอนเป็นผู้นิเทศ กันเอง จดั ทำรายงานการประเมินการนเิ ทศการสอนและรบั การประเมินการนเิ ทศการสอน ตามกำหนด ๓.๓.๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้/หัวหน้าสายชั้น เห็นความสำคัญและให้ความร่วมมือกับ สถานศึกษาในการดำเนินการนเิ ทศแบบรว่ มพฒั นา โดยมีการแตง่ ตั้งผู้นิเทศการสอน ประจำกลุ่มสาระ การเรยี นรู้ ๓.๓.๔ บุคลากรของสถานศึกษามีความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มุ่งมั่นในการทำงาน มี ความรู้ ความเข้าใจและตระหนักในบทบาทหน้าที่ของตนตามระบบการนิเทศการสอน กำกับ ติดตาม และประเมินผล ๓.๓.๕ มกี ารบริหารจัดการฐานข้อมูลสารสนเทศหลักอยา่ งสม่ำเสมอ ๓.๓.๖ มีการให้ความรู้ที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบันด้านการนิเทศการสอน และรูปแบบการจัด กิจกรรมการเรยี นการสอนอยา่ งตอ่ เนอ่ื งแก่ครูผู้สอนในโรงเรยี น 4. ปัญหา อปุ สรรค ข้อเสนอแนะ ในการจัดทำนำนวตั กรรมการนิเทศแบบพัฒนารว่ ม โดย SUPER Model พบปัญหาและอปุ สรรค เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้ครูผู้สอนต้องมีการปรับ รูปแบบการเรยี นการสอนของตนเองใหเ้ ข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขนึ้ เป็นการเรียนในรูปแบบ Online, On-Hand และ On-Demand ดังน้ันผู้บริหารสถานศกึ ษา หวั หน้ากล่มุ บรหิ ารวชิ าการ หัวหน้ากลมุ สาระฯ จึงมีความจำเป็น ทเ่ี ข้ารว่ มนเิ ทศการสอนแบบพัฒนารว่ ม กำกับ ตดิ ตาม ให้คำแนะนำและประเมินผลการสอนเป็นระยะ ๑๗

การยกระดบั ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนโดยใชก้ ารนิเทศภายใน SUPER Model ภาคผนวก ๑๑

ขอ้ มลู ผลสัมฤทธิ์ทางวชิ าการ ตารางคา่ เฉลี่ยผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑-๒๕๖๓ (ชั้น ม.๑ - ม.๖) กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ ๒๕๖๒ ๒๕๖๓ ภาษาไทย ๘๒.๘๙ ๗๙.๗๗ 77.38 คณติ ศาสตร์ ๔๘.๒๗ ๔๓.๐๐ 36.58 วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๖๖.๙๐ ๗๑.๔๑ 67.37 สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๖๔.๓๗ ๖๔.๓๓ 65.87 สุขศึกษาและพลศกึ ษา ๘๕.๗๔ ๗๗.๙๐ 92.02 ศิลปะ ๖๖.๑๙ ๗๗.๖๕ 72.43 การงานอาชีพ ๗๙.๑๔ ๗๙.๔๖ 60.93 ภาษาต่างประเทศ (องั กฤษ) ๓๖.๖๗ ๔๗.๘๙ 25.11 เฉลีย่ ๖๖.๓๑ ๖๗.๖๔ 87.91 จากตาราง สรุปได้วา่ ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนของนกั เรียนปีการศึกษา 2563 วิชาภาษาไทย คา่ เฉลี่ย ร้อยละ 77.38 วิชาคณิตศาสตร์ ค่าเฉลี่ยร้อยละ 36.58 วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ค่าเฉลี่ยร้อยละ 67.37 วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ค่าเฉลี่ยร้อยละ 65.87 วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ค่าเฉลี่ย ร้อยละ 92.02 วิชาศิลปะ ค่าเฉลี่ยร้อยละ 72.43 วิชาการงานอาชีพ ค่าเฉลี่ยร้อยละ 60.93 และวิชา ภาษาต่างประเทศ(ภาษาองั กฤษ) คา่ เฉล่ียรอ้ ยละ 25.11 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ รอ้ ยละของนกั เรียนทีได้อยู่ใน ระดบั ดีขึ้นไปคดิ ตามคา่ เป้าหมายท่แี ต่ละกลมุ่ สาระการเรียนร้กู ำหนด กราฟแสดงค่าเฉล่ียผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๑-๒๕๖๓ (ชน้ั ม.๑ - ม.๖) 19

ตารางแสดงผลการประเมนิ คณุ ลักษณะองั พึงประสงค์ ปกี ารศกึ ษา 2563 (ชัน้ ม.1 - ม.6) รอ้ ยละของจำนวนนกั เรียนทีม่ ีคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ (ระดบั ดีขน้ึ ไป) ภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ เฉล่ยี คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 96.38 91.74 94.06 สงั คมศึกษา ฯ สุขศึกษาและพลศึกษา 97.29 94.06 95.67 ศิลปะ การงานอาชีพ 97.13 94.97 96.05 ภาษาต่างประเทศ (องั กฤษ) 94.55 95.96 95.25 เฉล่ียรอ้ ยละ 96.01 94.05 95.03 100 93.72 96.86 93.28 97.84 95.56 79.06 65.57 72.31 94.21 90.99 92.60 จากตาราง สรุปได้ว่า ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ปีการศึกษา 2563 นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีท่ี 1 – 6 มีค่าเฉลี่ยดังนี้ กลุ่มสาระภาษาไทย มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 94.06 วิชาคณิตศาสตร์ มี ค่าเฉลี่ยร้อยละ 95.67 วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 96.05 วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 95.25 วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 95.03 วิชาศิลปะ มี ค่าเฉลีย่ ร้อยละ 96.86 วิชาการงานอาชีพ มคี ่าเฉลย่ี ร้อยละ 95.56 และวชิ าภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ) มคี ่าเฉลีย่ รอ้ ยละ 72.31 ตามลำดับ ตารางแสดงผลการประเมนิ อา่ น คดิ วิเคราะห์ เขียน ปีการศึกษา ๒๕๖๓ (ชนั้ ม.๑ - ม.๖) ร้อยละของจำนวนนักเรียนด้านการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ เขยี น ปีการศึกษา ๒๕๖๓ (ระดับดีข้ึนไป) ภาคเรยี นท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ เฉล่ีย ภาษาไทย 96.05 91.74 93.90 คณติ ศาสตร์ 97.29 94.06 95.67 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 87.74 89.58 88.66 สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 94.84 96.94 95.89 สุขศึกษาและพลศกึ ษา 96.01 90.48 93.24 ศลิ ปะ 98.15 92.67 95.41 การงานอาชีพ 93.28 97.84 95.56 ภาษาตา่ งประเทศ (องั กฤษ) 24.36 65.57 44.96 เฉล่ียร้อยละ 85.96 89.86 87.91 จากตาราง สรุปได้ว่า ผลการประเมินอ่าน คิดวิเคราะห์ เขียน ปีการศึกษา 2563 นักเรียนช้ัน มัธยมศึกษาปีท่ี 1 – 6 มีค่าเฉลี่ยดังนี้ กลุ่มสาระภาษาไทย มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 93.90 วิชาคณิตศาสตร์ มี ค่าเฉลี่ยร้อยละ 95.67 วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 88.66 วิชาสังคมศึกษา ศาสนา 20

และวัฒนธรรม มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 95.89 วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 93.25 วิชาศิลปะ มี คา่ เฉลี่ยร้อยละ 95.41 วิชาการงานอาชพี มคี า่ เฉลย่ี รอ้ ยละ 95.56 และวิชาภาษาตา่ งประเทศ(ภาษาอังกฤษ) มคี ่าเฉลยี่ ร้อยละ 44.96 ตามลำดบั 21

ผลการทดสอบระดับชาติของผเู้ รียน ผลการทดสอบระดับชาตขิ องผเู้ รยี นปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๑ – ๒๕๖๓ ระดบั ชั้น ม.๓ และ ม.๖ ตารางท่ี 1 แสดงการเปรียบเทยี บผลทดสอบระดับชาติ (O-NET)ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปี 3 ระหวา่ งปกี ารศกึ ษา 256๑ และ ปีการศกึ ษา 256๒ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ปกี ารศกึ ษา ผลการเปรยี บเทียบ 256๑ 2562 เพิ่ม/ลด รอ้ ยละการเพิ่ม/ลด ภาษาไทย ๔๙.๐๔ 47.19 -1.85 -3.77 คณิตศาสตร์ ๒๖.๐๗ 22.10 -3.97 -15.23 วิทยาศาสตร์ ๓๓.๔๑ 28.05 -5.36 -16.04 ภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ) ๒๘.๒๒ 28.10 -0.12 -0.43 เฉลยี่ 4 กลมุ่ สาระ ๓๔.๑๘ 31.36 -2.83 -8.28 จากตารางที่ 1 สรุปได้วา่ ผลการทดสอบทางการศกึ ษาแหง่ ชาติขัน้ พน้ื ฐาน (O-NET) ชัน้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 3 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนยางรากวิทยา เมื่อพิจารณาในภาพรวม พบว่า มีคะแนน O-NET ลดลง ร้อยละ 8.28 เมื่อพิจารณารายกลุ่มสาระ พบว่าในปีการศึกษา 2562 ทุกกลุ่มสาระมีผลสัมฤทธิล์ ดลงจากปี การศึกษา 2561 คือ กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ ลดลง ร้อยละ 16.04 กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ลดลง ร้อยละ 15.23 กลุม่ สาระภาษาไทย ลดลง รอ้ ยละ 3.77 และกล่มุ สาระภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ลดลง ร้อย ละ 0.43 ตามลำดับ ตารางท่ี ๒ แสดงการเปรียบเทยี บผลทดสอบระดับชาติ (O-NET) ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปี 3 ระหวา่ ง ปกี ารศกึ ษา 2562 และ ปกี ารศึกษา 2563 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ปีการศกึ ษา ผลการเปรียบเทยี บ 2562 2563 เพม่ิ /ลด ร้อยละการเพ่ิม/ลด ภาษาไทย 47.19 51.02 +3.83 +8.11 คณิตศาสตร์ 22.10 21.09 -1.01 -4.57 วิทยาศาสตร์ 28.05 25.29 -2.76 -9.83 ภาษาตา่ งประเทศ (อังกฤษ) 28.10 30.91 +2.81 +10.00 เฉลยี่ 4 กลุ่มสาระ 31.36 32.07 +0.71 +2.26 จากตารางท่ี 2 สรุปได้วา่ ผลการทดสอบทางการศกึ ษาแหง่ ชาติขนั้ พ้นื ฐาน (O-NET) ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 3 ปกี ารศกึ ษา 2563 โรงเรียนยางรากวทิ ยา เม่ือพจิ ารณาในภาพรวม พบวา่ มคี ะแนน O-NET เพมิ่ ข้ึนร้อย ละ 2.26 เมื่อพิจารณารายกล่มุ สาระ พบวา่ ในปีการศึกษา 2563 กลมุ่ สาระทม่ี ผี ลสมั ฤทธ์เิ พิ่มขน้ึ จากปี การศึกษา 2 5 6 2 คอื กลมุ่ สาระภาษาไทย เพิ่มข้นึ รอ้ ยละ 8 . 1 1 และกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) เพมิ่ ข้นึ ร้อยละ 10.00 ตามลำดับ และกล่มุ สาระที่มีผลสมั ฤทธ์ลิ ดลงจากปกี ารศึกษา 2562 คอื กลุม่ สาระคณิตศาสตร์ ลดลง ร้อยละ 4 . 5 7 กล่มุ สาระวิทยาศาสตร์ ลดลง ร้อยละ 9 . 8 3 ตามลำดบั 22

ตารางท่ี ๓ แสดงการเปรียบเทียบผลทดสอบระดับชาติ (O-NET) ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ระหวา่ งการศึกษา 256๑ และ ปกี ารศึกษา 256๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ปกี ารศึกษา ผลการเปรียบเทียบ 2561 2562 เพมิ่ /ลด ร้อยละการเพ่มิ /ลด ภาษาไทย 41.05 34.17 -6.88 -16.76 คณติ ศาสตร์ 22.50 16.46 -6.04 -26.84 วทิ ยาศาสตร์ 28.37 25.67 -2.70 -9.52 สงั คมศึกษา ศาสนาและ 32.81 31.83 -0.93 -2.83 วัฒนธรรม ภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ) 23.15 22.81 -0.34 -1.47 เฉลยี่ 5 กลมุ่ สาระ 29.58 26.19 -3.38 -11.48 จากตารางที่ 3 สรปุ ได้วา่ ผลการทดสอบทางการศกึ ษาแห่งชาตขิ น้ั พน้ื ฐาน (O-NET) ชน้ั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 6 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนยางรากวิทยา เมื่อพิจารณาในภาพรวม พบว่า มีคะแนน O-NET ลดลง ร้อยละ 11.48 เมื่อพิจารณารายกลุ่มสาระ พบว่าในปีการศึกษา 2562 กลุ่มสาระท่ีมผี ลสัมฤทธ์ิลดลงจากปี การศึกษา 2561 คอื กลุ่มสาระภาษาไทย ลดลง รอ้ ยละ 16.76 กลมุ่ สาระคณติ ศาสตร์ ลดลง ร้อยละ 26.84 กลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์ ลดลง ร้อยละ 9.52 กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ลดลง รอ้ ยละ 2.83 และกล่มุ สาระภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ลดลง ร้อยละ 1.47 ตามลำดบั ตารางที่ ๔ แสดงการเปรยี บเทียบผลทดสอบระดับชาติ (O-NET) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ระหว่าง ปีการศึกษา 2562 และ ปีการศึกษา 2563 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ปีการศึกษา ผลการเปรยี บเทียบ 2562 2563 เพ่ิม/ลด รอ้ ยละการเพิ่ม/ลด ภาษาไทย 34.39 40.38 +5.99 +17.41 คณิตศาสตร์ 16.99 16.60 -0.39 -2.29 วทิ ยาศาสตร์ 25.67 26.71 -1.04 -4.05 สงั คมศึกษา ศาสนาและ 31.83 32.00 +0.17 +0.53 วัฒนธรรม ภาษาตา่ งประเทศ (อังกฤษ) 22.81 23.67 +0.86 +3.77 เฉลี่ย 5 กลุ่มสาระ 32.92 34.84 +1.92 +5.83 จากตารางที่ 4 สรปุ ไดว้ า่ ผลการทดสอบทางการศกึ ษาแหง่ ชาติขั้นพ้นื ฐาน (O-NET) ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 6 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนยางรากวทิ ยา เมื่อพิจารณาในภาพรวม พบว่า มีคะแนน O-NET ลดลง ร้อยละ 5.83 เมื่อพิจารณารายกลุม่ สาระ พบว่าในปีการศึกษา 2563 กลุ่มสาระที่มีผลสัมฤทธิ์เพ่ิมขึ้นจากปี การศึกษา 2562 คือ กลุ่มสาระภาษาไทย เพิ่มขึ้น ร้อยละ 17.41 กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม เพ่มิ ขึ้น ร้อยละ 0.53 กลุม่ สาระภาษาตา่ งประเทศ(อังกฤษ) เพ่ิมข้ึน ร้อยละ 3.77 ตามลำดับ และ กลุ่มสาระที่มีผลสัมฤทธิ์ลดลงจากปีการศึกษา 2562 คือ กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ลดลง ร้อยละ 2.29 กลุ่ม สาระวิทยาศาสตร์ ลดลง รอ้ ยละ 4.05 กลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์ ลดลง รอ้ ยละ 9.52 ตามลำดบั 23

ผลการทดสอบระดบั ชาตขิ องผู้เรยี นปีการศึกษา ๒๕๖๑ – ๒๕๖๓ ระดบั ช้ัน ม.๓ และ ม.๖ วชิ า มธั ยมศึกษาปีที่ 3 มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 2561 2562 2563 2561 2562 2563 ภาษาไทย 49.04 47.19 51.02 41.05 34.17 40.38 คณิตศาสตร์ 26.07 22.1 21.09 22.5 16.46 16.60 วิทยาศาสตร์ 33.41 28.05 25.29 28.37 25.67 26.71 สงั คมศึกษา ศาสนาและ - - - 32.81 31.83 32.00 วฒั นธรรม ภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ) 28.22 28.1 30.91 23.15 22.81 23.67 เฉลี่ย 4 วชิ า 34.19 31.36 32.07 - - - เฉล่ยี 5 วชิ า - - - 29.58 26.19 27.87 จากตารางผลการทดสอบระดบั ชาติ (O-NET) ปีการศึกษา ๒561 – 2563 สรุปได้ว่า ผลการ ทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติข้ันพ้นื ฐาน (O-NET) ปีการศกึ ษา 2563 นกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 มี คา่ เฉลีย่ 4 วชิ า ร้อยละ 32.07 และนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 มีค่าเฉลยี่ 5 วชิ า รอ้ ยละ 27.87 24

กราฟเปรยี บเทยี บคะแนนผลสมั ฤทธกิ์ ารทดสอบระดบั ชาติ (O-NET) ปีการศึกษา ๒๕๖๑ – ๒๕๖๓ กราฟเปรยี บเทยี บคะแนนผลสมั ฤทธกิ์ ารทดสอบระดบั ชาติ (O-NET) ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ – ๒๕๖๓ 25

โครงการและแผนงานทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การพัฒนานวัตกรรม โรงเรยี นยางรากวิทยาจังหว โครงการท่ี ๑ พฒั นาผเู้ รียนใหม้ คี วามสามารถในทกั ษะการคดิ และก ผ้รู ับผดิ ชอบโครงการ นางสาวศริ นิ ญา ภูอ่ ยู่ งานกระบวนการจดั กจิ กรรมท่เี นน้ ผ กลยุทธโ์ รงเรียนขอ้ ……๑…. พัฒนาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น และคณุ ลักษณะอนั พึงปร มาตรฐานโรงเรยี นที่…….. มาตรฐานด้านคณุ ภาพผู้เรยี น ลกั ษณะโครงการ ❑ ช่วงเวลาดำเนินการ  งบประมาณปี 256๔ ช่วงท่ี 1 (1 ตุลาคม 25๖๓ - 31 มนี ภาคเรียนที่ 2/๖๓  งบประมาณปี 256๔ ช่วงที่ 2 (1 เมษายน 256๔ - 30 ก ภาคเรยี นท่ี 1/6๔ 1. หลกั การและเหตุผล ตามที่พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา 6 กล่าวไว้ว่า จติ ใจ สติปัญญา ความรแู้ ละ คุณธรรม มจี รยิ ธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สาม การประเมินภายนอกสถานศึกษาระดับการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐานสำนกั งานรบั รองมาตรฐา มกราคม 2556 (กรณีประเมนิ ซำ้ ) คะแนนตัวบ่งชีท้ ่ี 3 คะแนนเตม็ 10 โรงเรยี นไ ดงั น้ัน โรงเรียนยางรากวิทยา จึงจดั โครงการ พฒั นาผูเ้ รียนมีความสามารถใ พัฒนาผู้เรียนมคี วามสามารถในการคิดอยา่ งเป็นระบบ และคิดได้ตลอดแนว มีการจั

วัดลพบรุ ี ปีงบประมาณ 256๔ การสื่อสารเพ่อื การแก้ปัญหา ผู้เรียนรู้เปน็ สำคัญ กลุ่มบริหารงานวชิ าการ ระสงค์ ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ❑ ใหม่  ต่อเนอ่ื ง นาคม 256๔) กันยายน 256๔) การจัดการศึกษาต้อง เป็นไป เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ทีส่ มบูรณ์ทั้งร่างกายและ มารถอยูร่ ว่ มกบั ผอู้ ืน่ ได้อยา่ งมคี วามสขุ จากพระราชบัญญัติดังกลา่ ว จากการรายงานผล านและการประเมนิ คุณภาพการศึกษาภายนอกรอบสาม ของสถานศกึ ษา เม่ือวันที่ 2-4 ไดค้ ะแนนประเมนิ 8.34 พบว่าอยู่ในระดบั คุณภาพ ดี ในการคิดอย่างเปน็ ระบบ คดิ สร้างสรรค์ตัดสนิ ใจแก้ปญั หาได้อย่างมีสติสมเหตุผล เพ่ือ ดระเบียบความคิด ใช้เหตุและผลในการอ้างอิงแนวคิด สรุปความคิดจากเร่ืองที่อ่าน ฟงั 26

และ ดู สื่อสารโดยการพูดหรือเขียนตามความคิดของตนเอง นำเสนอวิธีคิด วิธีแก้ป ภาคภมู ใิ จ กำหนดเปา้ หมายคาดการณ์ และตัดสินใจแก้ปญั หาโดยมเี หตุผลประกอบ เพื่อให้การดำเนินงานและพัฒนาเป็นไปตามประกาศให้ใช้มาตรฐานการศกึ ษา 2554 สำหรับสถานศกึ ษาทกุ สังกัดท่จี ัดการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน ใชเ้ ปน็ เป้าหมายในการพ สังคมแหง่ การเรียนรู้ คณุ ภาพด้านคุณภาพผู้เรยี น รวมท้ังคุณภาพด้านมาตรการส่งเสร โครงการพัฒนาผเู้ รยี นให้มคี วามสามารถในการคิดอยา่ งเปน็ ระบบ คดิ สรา้ งสรรค์ ตดั ส 2. วตั ถุประสงค์ ( เพื่อพัฒนา / เพอื่ สง่ เสริม / เพ่ือยกระดับ / เพื่อแก้ปญั หา / เพ่ือส 1. เพ่อื ส่งเสริมให้ผเู้ รียนสรุปความคดิ จากเรื่องที่อ่าน เขยี น การส่ือสาร และ 2. เพ่อื สง่ เสรมิ ให้ผเู้ รยี นสามารถคิดวิเคราะห์ คิดวจิ ารณญาณ อภปิ ราย และ ได้ ๓. เพ่ือส่งเสรมิ ให้นกั เรยี นสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารได ๓. เปา้ หมาย 1. เป้าหมายเชงิ ปริมาณ 1.๑ ผู้เรียน ร้อยละ 6๐ สรปุ ความคิดจากเร่อื งท่อี า่ น ฟงั และดู และสือ่ สา ช่วงชัน้ 1.๒ ผเู้ รยี น รอ้ ยละ ๖๐ นำเสนอวิธีคดิ วธิ แี ก้ปัญหาดว้ ยภาษาหรอื วธิ ีการข ๑.๓ ผ้เู รียน ร้อยละ 6๐ กำหนดเป้าหมาย คาดการณ์ ตัดสินใจแกป้ ัญหาโด 2. เป้าหมายเชงิ คณุ ภาพ ๒.๑ ผู้เรียนสามารถสรปุ ความคิดจากเร่ืองทอ่ี า่ น ฟงั ส่ือสาร และการคิดค ๒.๒ ผู้เรยี นสามารถนำเสนอวธิ ีคดิ วธิ แี กป้ ัญหาด้วยภาษาหรอื วิธกี ารของต ๒.๓ ผเู้ รียนสามารถกำหนดเปา้ หมาย คาดการณ์ และตดั สินใจแก้ปญั หาได

ปัญหาด้วยภาษาหรือวิธีการของตนเอง มีความคิดริเริ่ม และสร้า งสรรค์ผลงานด้วยความ าขัน้ พื้นฐาน เพ่อื การประกันคณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษา เมอื่ วันท่ี 16 กมุ ภาพนั ธ์ พฒั นาและยกระดบั คณุ ภาพผเู้ รยี น คุณภาพการจัดการศกึ ษา คุณภาพดา้ นการสรา้ ง ริม บรรลุตามเปา้ หมายเกิดประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธิผล โรงเรยี นยางรากวทิ ยา จงึ จดั ทำ สนิ ใจแก้ปญั หาไดอ้ ย่างมีสติสมเหตุผลข้ึน สรา้ งเสริม / .............) ะการคิดคำนวณได้ ะเปลย่ี นความคิดเหน็ และการแก้ปญั หา ด้ าร การคดิ คำนวณตามเกณฑข์ องแตล่ ะ ของตนเอง ดยมีเหตุผลประกอบ คำนวณได้ ตนเองได้ ด้ด้วยวิธกี ารของตนเองได้อยา่ งมีเหตุผล 27

๔. กจิ กรรมและการดำเนินงาน ข้นั ตอน กิจกรรม / ธดี ำเนินการ เป้าหมาย/ตวั ชี้วดั ๑. วางแผน ๑.ประชุมวางแผน สามารถเขยี น กัน (Plan) โครงการ ๒.เขียนโครงการเสนอ โครงการไดต้ าม ๒. ดำเนินการ ขออนมุ ตั ิ (Do) ๓.กำหนดหน้าที่ กำหนดเวลาที่ต้งั ไว้ รับผดิ ชอบ สามารถดำเนิน พ. กิจกรรมทีด่ ำเนินการ กจิ กรรมท่ี ๑ รกั การ กิจกรรมได้บรรลุตาม อ่าน วตั ถุประสงค์ - ครูกลุม่ สาระฯ ประชุม วางแผนกจิ กรรม - กำหนดวันดำเนนิ กิจกรรม, - ดำเนนิ กิจกรรม กิจกรรมที่ ๒ คลินกิ รัก ภาษา กิจกรรมท่ี ๓ ๑๘๐ IQ กจิ กรรมที่ ๔ สปั ดาห์ วทิ ยาศาสตร์

ระยะเวลา(ว/ด/ป) งบประมาณ ผ้รู บั ผดิ ชอบ นยายน ๒๕๖๓ - ศิรนิ ญา ภู่อยู่ ทศพล พลอยเพ็ชร นิลาวรรณ กันทา นัฐพร ม่วงแก้ว .ย.๖๓ -ส.ค.๖๔ ๑,๐๐๐ นิลาวรรณ กันทา ๑,๐๐๐ ศริ นิ ญา ภ่อู ยู่ ๑,๐๐๐ ทศพล พลอยเพช็ ร ๒,๕๐๐ กชกร เกษมสุวรรณ ๒,๕๐๐ นฐั พร มว่ งแก้ว 28

ขัน้ ตอน กจิ กรรม / ธีดำเนินการ เป้าหมาย/ตัวชวี้ ดั กจิ กรรมที่ ๕ วันสนุ ทรภู่ และสปั ดาหห์ อ้ งสมดุ ๓.ตรวจสอบ ผู้บรหิ ารนิเทศตดิ ตาม สามารถทำงานได้ กนั (Check) ตลุ การดำเนินงานและคอย ตรงตาม ๔. ประเมนิ ผลและ รายงาน อำนวยความสะดวกใน วัตถุประสงค์ (Action) การดำเนนิ กิจกรรมของ ผเู้ ก่ยี วข้องให้เป็นไปตาม ภาระงานที่โครงการฯ กำหนด - สรุปผลการประเมิน สามารถสรุป โครงการ โครงการและนำไป - จัดทำรายงานโครงการ พัฒนาในการทำ นำเสนอ โครงการ ปีงบประมาณถดั ไป

ระยะเวลา(ว/ด/ป) งบประมาณ ผ้รู บั ผิดชอบ นยายน 2564 - ศิรินญา ภอู่ ยู่ ลาคม ๒๕๖๔ ทศพล พลอยเพช็ ร นลิ าวรรณ กันทา นฐั พร มว่ งแก้ว - ศริ ินญา ภอู่ ยู่ ทศพล พลอยเพช็ ร นิลาวรรณ กันทา นฐั พร ม่วงแก้ว 29

๕. รายละเอยี ดงบประมาณทีใ่ ช้ ❑ งบประมาณปี 256๔ ชว่ งท่ี 1 (1 ตุลาคม 25๖๓ - 31 มนี าคม 256 ๑. กิจกรรมรกั การอ่าน ทรพั ยากรท่ใี ชใ้ นการทำกจิ กรรม รายการกจิ กรรม จำนวน ราคาต่อ จำนว ๕๐ ท่ี ที่ตอ้ งใช้งบประมาณ หน่วย ๑ วสั ดุสำนกั งาน ๒ ๓ รวม ( ห้าร้อยบาทถว้ น ) ๒. กิจกรรมคลินกิ รักภาษา ทรพั ยากรทใ่ี ชใ้ นการทำกิจกรรม รายการกจิ กรรม จำนวน ราคาตอ่ จำนว ๕๐ ท่ี ท่ีต้องใช้งบประมาณ หนว่ ย ๑ วัสดสุ ำนกั งาน ๒ ๓ รวม ( หา้ รอ้ ยบาทถว้ น )

6๔) ภาคเรียนท่ี 2/๖๓ งบประมาณ จำนวนเงนิ วนเงิน แหลง่ งบประมาณ ( บาท ) ๕๐๐ ๐๐  อดุ หนนุ รายหัว กจิ กรรมพัฒนาฯ อื่นๆ งบประมาณ จำนวนเงนิ วนเงนิ แหลง่ งบประมาณ ( บาท ) ๐๐  อดุ หนนุ รายหวั ๕๐๐ กจิ กรรมพฒั นาฯ อ่นื ๆ 30

๓. กจิ กรรม ๑๘๐ IQ ทรัพยากรที่ใช้ในการทำกจิ กรรม รายการกิจกรรม จำนวน ราคาตอ่ จำนว ๕๐ ที่ ทตี่ ้องใชง้ บประมาณ หน่วย ๑ วัสดสุ ำนักงาน ๒ ๓ รวม ( หา้ ร้อยบาทถว้ น ) ❑ งบประมาณปี 256๔ ชว่ งที่ 2 (1 เมษายน 256๔ - 30 กนั ยาย ๑. กจิ กรรมสัปดาหว์ ทิ ยาศาสตร์ ทรพั ยากรทีใ่ ชใ้ นการทำกจิ กรรม รายการกิจกรรม จำนวน ราคาตอ่ จำนว ที่ ที่ต้องใชง้ บประมาณ หน่วย ๕๐ ๑,๐ ๑ ของรางวัล ๑,๐ ๒ วัสดุสำนักงาน ๓ วสั ดอุ ุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ รวม ( สองพนั หา้ ร้อยบาทถ้วน )

งบประมาณ จำนวนเงิน วนเงนิ แหล่งงบประมาณ ( บาท ) ๐๐  อดุ หนนุ รายหวั ๕๐๐ กิจกรรมพัฒนาฯ อน่ื ๆ ยน 256๔) ภาคเรยี นที่ 1/6๔ งบประมาณ จำนวนเงนิ วนเงนิ แหลง่ งบประมาณ ( บาท ) ๐๐  อดุ หนุนรายหัว ๒,๕๐๐ ๐๐๐ กิจกรรมพัฒนาฯ ๐๐๐ อนื่ ๆ 31

๒. กิจกรรมวนั ภาษาไทยและวันสนุ ทรภู่ ทรัพยากรทใ่ี ช้ในการทำกิจกรรม รายการกิจกรรม จำนวน ราคาต่อ จำนว ที่ ที่ต้องใชง้ บประมาณ หนว่ ย ๑,๕ ๑,๐ ๑ ของรางวลั ๒ วสั ดุสำนกั งาน ๓ รวม ( สองพนั หา้ ร้อยบาทถว้ น ) ๓.กจิ กรรมรักการอา่ น ทรัพยากรทใ่ี ช้ในการทำกิจกรรม รายการกจิ กรรม จำนวน ราคาต่อ จำนว ๕๐ ท่ี ทต่ี ้องใชง้ บประมาณ หน่วย ๑ วสั ดสุ ำนักงาน ๒ ๓ รวม ( หา้ ร้อยบาทถว้ น )

งบประมาณ จำนวนเงิน วนเงนิ แหล่งงบประมาณ ( บาท ) ๕๐๐  อดุ หนนุ รายหัว ๒,๕๐๐ ๐๐๐ กิจกรรมพฒั นาฯ อ่นื ๆ งบประมาณ จำนวนเงิน วนเงิน แหล่งงบประมาณ ( บาท ) ๐๐  อุดหนุนรายหวั ๕๐๐ กจิ กรรมพัฒนาฯ อื่นๆ 32

๔. กจิ กรรม ๑๘๐ IQ ทรัพยากรทีใ่ ช้ในการทำกิจกรรม รายการกิจกรรม จำนวน ราคาตอ่ จำนว ๕๐ ท่ี ที่ต้องใชง้ บประมาณ หนว่ ย ๑ วัสดสุ ำนักงาน ๒ ๓ รวม ( หา้ ร้อยบาทถว้ น ) ๕. กิจกรรมคลินกิ รักภาษา ทรัพยากรท่ใี ช้ในการทำกจิ กรรม รายการกจิ กรรม จำนวน ราคาต่อ จำนว ๕๐ ที่ ท่ตี ้องใช้งบประมาณ หนว่ ย ๑ วสั ดสุ ำนกั งาน ๒ ๓ รวม ( ห้ารอ้ ยบาทถ้วน )

งบประมาณ จำนวนเงิน วนเงนิ แหล่งงบประมาณ ( บาท ) ๐๐  อุดหนุนรายหวั ๕๐๐ กิจกรรมพัฒนาฯ อน่ื ๆ งบประมาณ จำนวนเงิน วนเงิน แหลง่ งบประมาณ ( บาท ) ๐๐  อุดหนนุ รายหวั ๕๐๐ กจิ กรรมพัฒนาฯ อ่ืนๆ 33

๖. การวิเคราะห์ความเสย่ี งโครงการ 1. ใช้เงนิ ไม่ตรงตามโครงการท่กี ำหนด 2. นกั เรยี นไม่ได้มผี ลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนทเ่ี พม่ิ ข้นึ ๗. ตวั ชี้วดั และคา่ เป้าหมาย เป้าหมาย วธิ ีการวดั และ เครอ่ื งมอื ทีใ่ ช้ ตวั ช้ีวัด ประเมินผล ตัวช้วี ดั ความสำเรจ็ สามารถคิด แบบประเมินการอ่าน วิเคราะห์ได้ ประเมนิ จากการอ่าน 1. ผ้เู รียน ร้อยละ 6๐ สรปุ ความคดิ จากเรื่องทีอ่ า่ น แบบประเมนิ ความคิด ฟงั และดู และสือ่ สาร การคิดคำนวณตามเกณฑข์ อง สามารถ ประเมินความคดิ แตล่ ะชว่ งชนั้ แก้ปัญหาได้ แบบประเมินการคิด 2. ผูเ้ รยี น ร้อยละ ๖๐ นำเสนอวิธีคดิ วธิ ีแกป้ ัญหาด้วย สามารถ ประเมนิ จากการอ่าน วิเคราะห์ ภาษาหรือวิธีการของตนเอง ตดั สนิ ใจได้ คิดวเิ คราะห์ ผู้เรยี น รอ้ ยละ 6๐ กำหนดเปา้ หมาย คาดการณ์ ตดั สินใจแกป้ ัญหาโดยมีเหตผุ ลประกอบ ๘. ผลทีค่ าดวา่ จะไดร้ บั 1. นกั เรียนมที ักษะในการอ่าน ฟัง ดู และสื่อสาร คิดคำนวณพัฒนามากข้ึน 2. นกั เรียนร้วู ิธกี ารนำเสนอวิธคี ดิ วิธีแกป้ ญั หาด้วยภาษาหรอื วิธกี ารของตนเอง ๓. นกั เรียนสามารถตัดสนิ ใจ แก้ปญั หาได้อย่างมีเหตผุ ล ๑. ผเู้ สนอกิจกรรม 2. ความเหน็ ของหวั หน้างานแผนงานและนโยบาย o เหน็ ควรอนุมตั ติ ามที่เสนอ ลงชอ่ื ………………………………..…………… o อ่ืนๆ……………….……………………. ( นางสาวศริ ินญา ภ่อู ยู่ ) ลงช่อื ………………..………………………. หวั หนา้ โครงการหลกั ที่ ๑ ( นายธนภทั ร วัฒนวงศ์ ) หัวหน้างานแผนงานและนโยบาย ๓. ความเห็นของหวั หนา้ กลุม่ บริหารงบประมาณ o เหน็ ควรอนมุ ัติตามที่เสนอ ๔. ความเห็นของผู้บรหิ ารโรงเรียน o อ่ืนๆ……………….……………………. อนุมัติ ลงชื่อ………………..………………………. ( นายณฐั พล จักรเพชร ) ไม่อนุมตั ิ………………………… หวั หน้ากลุ่มบรหิ ารงบประมาณ ลงช่อื ……………………..………………..………… ( นางพรรณพร โพธจิ ันทร์ ) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นยางรากวิทยา 34

ชอ่ื โครงการ พัฒนาหลกั สตู รและเพิ่มประสิทธภิ าพครใู ห้มคี วามเช่ยี วชาญทางวชิ าชีพ ช่อื กจิ กรรม กจิ กรรมส่งเสรมิ ครูเข้ารับการอบรมทางวิชาชีพ โรงเรยี นยางรากวิทยา วัตถปุ ระสงค์ ด้านปรมิ าณ ๑. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาไดร้ ับการพัฒนาตนเอง ร้อยละ ๘๕ โดยการอบรม สัมมนาและศึกษาดูงานอยา่ งนอ้ ย ๕๐ ช่ัวโมงต่อปี - ด้านคณุ ภาพ ๑. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รบั การพัฒนาตนเอง เขา้ รับการอบรม สมั มนา และ ศึกษาดูงานอยา่ งน้อย ๕๐ ช่ัวโมงต่อปี 2. ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ท่เี ข้ารับการอบรมทางวิชาชพี มีจำนวน ๒๒ คน แต่มี ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา ทีป่ ฏิบัติหนา้ ทีค่ รบตามปงี บประมาณ ๒๕๖๓ จำนวน ๑๗ คน สถานท่ดี ำเนินการโรงเรียนยางรากวิทยา เมอื่ วันที่ ๑ ตลุ าคม ๒๕๖๒ – ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๓ ดังน้ี ขนั้ ตอนการดำเนนิ การ ๑. ประชมุ ชแี้ จงรายละเอียดโครงการ เพอื่ เสนอขอพจิ ารณาอนุมตั ิ ๒. แต่งตัง้ คณะทำงาน ผู้รบั ผิดชอบ ผู้ดูแล และผู้ติดตามงาน ๓. ดำเนินงานตามโครงการ โดยสง่ เสริมสนับสนุนขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา เขา้ รับการ พัฒนา และความรู้และเพิม่ พูนประสบการณ์ ตามรายละเอยี ดทไี่ ด้ชแี้ จง ๔. สรุปผลการดำเนินงานตามโครงการและประเมินผลการดำเนนิ โครงการ โดยจดั ทำเอกสารสรุปผล การดำเนนิ งานเปน็ รปู เล่มเพอ่ื เสนอตอ่ ผู้บริหาร ๕. นำผลการประเมินโครงการมาเปรยี บเทยี บ ปรับปรุง พัฒนา เพอ่ื ดำเนนิ การในคร้งั ตอ่ ไป ผลการดำเนินงาน - ดา้ นปรมิ าณ ๑. ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาได้รบั การพฒั นาตนเอง คิดเปน็ รอ้ ยละ ๘๖.๓๖ ๒. ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาได้รบั การพัฒนาตนเอง โดยบุคลากรทีเ่ ข้ารบั การอบรม สัมมนา และศกึ ษาดูงาน มากกวา่ ๕๐ ช่ัวโมงต่อปี คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๗๒.๒๒ 35