โรงเรยี นยางรากวิทยา สาํ นกั งานเขตพนื ทีการศกึ ษามัธยมศกึ ษาลพบรุ ี EDUCATION PLAN ประมวลรายวิชา / โ ค ร ง ก า ร จั ด ก า ร เ ร ีย น รู ้ ว23103 ออกแบบและเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึ กษาขันพืนฐาน พุ ทธศั กราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุ ทธศั กราช 2560) ผู้สอน นายสาธิต ศรีวรรณะ ตําแหน่ง ครูผู้ช่วย โทร. 08 5725 9364 ID Line : mmai853
โรงเรียนยางรากวิทยา สํานักงานเขตพืนทีการศึกษามธั ยมศกึ ษาลพบุรี แ ผ น ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น รู็ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขันพืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2560) ชือรายวิชา ออกแบบและเทคโนโลยี ว23103 จาํ นวนชัวโมง 1 ชัวโมง / สัปดาห์ 20 ชัวโมง / ภาคเรียน จาํ นวนหน่วยกิต 0.5 หน่วยกิต กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชัน ชันมัธยมศึ กษาปที 3 ภาคเรียนที 1 ปการศึ กษา 2564 ผู้สอน นายสาธิต ศรีวรรณะ ตําแหน่งครูผู้ช่วย บูรณาการ STEM / บูรณาการสมรรถนะ ICT / บูรณาการทกั ษะในศตวรรษที 21 / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สอนครั้งท่ี 9 รายวชิ า เทคโนโลยแี ละการออกแบบ (ว20293) หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ืองเทคโนโลยใี นการแก้ปญั หา ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 เรือ่ ง การคิดสรา้ งสรรค์งาน จำนวนคาบ 50 นาที ต่อสัปดาห์ สาระสำคัญ ความคิดสร้างสรรค์คือ ความคิดเชื่อมโยงที่พยายามหาทางออกหลาย ๆ ทาง ใช้ความคิดที่หลากหลาย แสวงหา ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ และนอกกรอบ คัดสรรค์หาทางเลือกใหม่ ๆ และพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมีวิธีการอยู่ 6 ขนั้ ตอน คอื 1. แสวงหาขอ้ บกพรอ่ ง (Mess Finding) 2. รวบรวมข้อมลู (Data Finding) 3. มองปญั หาทกุ ดา้ น (Problem Finding) 4. แสวงหาความคิดทหี่ ลากหลาย (Idea Finding) 5. หาคำตอบท่ีรอบดา้ น (Solution Finding) 6. หาขอ้ สรุปทีเ่ หมาะสม (Acceptance Finding) กระบวนการของความคดิ สร้างสรรค์ อาจเกดิ ขึ้นโดยบงั เอิญหรอื โดยความตั้งใจ ซ่งึ สามารถทำไดด้ ้วยการศกึ ษา การ อบรมฝึกฝน การระดมสมอง (Brain-Storming) มากกว่าครึ่งหนึ่งของการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ของโลก เกิดจากการค้นพบโดย บังเอิญ (Serendity) หรือการคน้ พบส่ิงหน่ึงซ่ึงใหม่ ในขณะท่ีกำลงั ต้องการคน้ พบส่งิ อ่ืนมากกวา่ สมรรถนะประจำหน่วย 1. ความรู้ ความเขา้ ใจของการคิดสรา้ งสรรค์ช้ินงาน 2. ใช้เทคโนโลยใี นการแก้ปญั หาได้ คำศัพท์สำคัญ 1. แบบจำลองทางสถาปัตยกรรม หมายถงึ การแสดงทางกายภาพของโครงสร้าง สรา้ งขึน้ เพ่อื ศึกษาแงม่ ุมของ การ ออกแบบสถาปตั ยกรรม หรอื เพ่อื สอื่ สารแนวคดิ การออกแบบ 2. แบบจำลอง 3 มิติ หมายถึงกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการสร้างแบบจำลองโดยอาศัยโครงสร้าง wireframe เพอ่ื แสดงวัตถใุ นสามมติ ิทง้ั แบบทเ่ี คล่อื นไหวไดแ้ ละไม่เคลือ่ นไหว โดยใชซ้ อฟตแ์ วรส์ ามมิติสร้างขึ้น เพอ่ื ให้ได้ผลลพั ธอ์ อกมาเป็น โมเดลสามมติ ิ ซ่งึ สามารถนำมาแสดงผลด้วยกระบวนการ 3D rendering หรือ 3D projection หรือ การพิมพ์ 3 มิติ (3D printing) ที่ใช้สร้างวัตถุท่ีจับต้องได้จริง ๆ ได้ โมเดลสามมิตินี้อาจถูก สรา้ งขึ้นโดยอตั โนมตั หิ รือโดยใช้คนทำขน้ึ 3. การคิดเชิงสร้างสรรค์ (Creative thinking) หมายถึง ความสามารถในการมองเห็นความสัมพันธ์ของสิ่ง ต่างๆ การขยายขอบเขตความคดิ ออกไปจาก กรอบความคดิ เดมิ ท่มี อี ยู่สูค่ วามคดิ ใหมๆ่ ทไี่ ม่เคยมมี ากอ่ น เพื่อ ค้นหา คําตอบที่ดีที่สุดให้กับปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม เป็นความคิดที่ หลากหลาย คิดได้กว้างไกล หลายแง่หลายมุม เน้นทั้งปริมาณและคุณภาพ องค์ประกอบของความคิด สร้างสรรค์ ได้แก่ ความคิดนั้นต้องเป็นสิ่งใหม่ไม่เคยมีมาก่อน (New Original) ใช้การได้ (Workable) และมี ความเหมาะสม (Appropriate) การคิดเชิงสร้างสรรค์จงึ เปน็ การคดิ เพื่อการเปล่ียนแปลงจากสิ่งเดมิ ไปสสู่ ง่ิ ใหม่ ทีด่ กี วา่ ซงึ่ จะไดผ้ ลลพั ธ์ทตี่ ่างไปโดยสิ้นเชงิ หรอื ทเ่ี รียกวา่ \"นวัตกรรม\" (Innovation)
แผนการจดั การเรียนรู้ กล่มุ สาระวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี สอนคร้ังท่ี 9 รายวิชา เทคโนโลยีและการออกแบบ (ว20293) หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ืองเทคโนโลยใี นการแก้ปญั หา ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 เรือ่ ง การคดิ สร้างสรรค์งาน จำนวนคาบ 50 นาที ต่อสปั ดาห์ จดุ ประสงค์การสอน / การเรียนรู้ • จุดประสงค์ / บรู ณาการหลักสตู รฐานสมรรถนะ ICT / บรู ณาการ STEM / บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. การประยกุ ตใ์ ชค้ วามร้กู ารแก้ปัญหาหรอื พัฒนางานอาชพี ตามกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม (K) 2. ออกแบบเทคโนโลยใี นการแกป้ ญั หาพฒั นางานอาชีพตามกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม (K) 3. นำเสนอแผนงานการแกป้ ญั หาพัฒนางานอาชพี ตามกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม (K) 4. ปฏบิ ัติงานตามขั้นตอนออกแบบเทคโนโลยีในการแก้ปญั หาพัฒนางานอาชีพตามกระบวนการออกแบบเชิง วิศวกรรม (P) 5. ปฏิบัติงานไดต้ รงตามแผนงาน (A) ทักษะการเรียนรู้ศตวรรษท่ี 21 ผเู้ รยี นสร้างความเขา้ ใจเกยี่ วกับการระบบฐานขอ้ มูล 1. มีทักษะในการคดิ วิเคราะห์ การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ และแก้ไขปญั หาได้ (Critical Thinking and Problem Solving) 2. ความร่วมมือ การทำงานเปน็ ทมี และภาวะผ้นู ำ (Collaboration Teamwork and Leadership) 3. ทักษะการใช้คอมพวิ เตอร์ และการร้เู ทา่ ทันเทคโนโลยี (Computing and ICT Literacy) 4. มีคุณธรรม มเี มตตา กรณุ า มรี ะเบยี บวนิ ยั ซงึ่ เป็นคุณลักษณะพนื้ ฐานสำคัญของทักษะข้นั ต้นทง้ั หมด และเป็น คณุ ลักษณะที่เดก็ ไทยจำเปน็ ต้องมี (Compassion) มาตรฐานการเรยี นรู้ ที่ 4 เทคโนโลยี ว 4.1, ว 4.1 ม.3/1, ว 4.1 ม.3/2, ว 4.1 ม.3/3, ว 4.1 ม.3/4, ว 4.1 ม.3/5 สาระ รวม 5 ตวั ชว้ี ดั มาตรฐานและตวั ชว้ี ัด สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน การรเู้ ทา่ ทันสือ่ สารสนเทศ และดจิ ิทัล (Media, Information and Digital Literacy : MIDL) 1. รจู้ กั และเลอื กใช้เครือ่ งมือ แหล่งสื่อสารสนเทศเพ่อื การสืบคน้ และเขา้ ถึงข้อมลู ทตี่ อ้ งการอยา่ งเหมาะสมกับวัย 2. ใช้ส่ือและจดั การเวลาในการใช้ส่อื อย่างระมดั ระวงั โดยไมใ่ ห้เกดิ ผลเสยี ต่อตนเองและผ้อู ืน่ 3. ตัดสินใจอย่างมีเหตุผลที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ปฏิบัติตามหรือไม่ปฏิบัติตามส่ือ สารสนเทศ และเทคโนโลยีดิจิทลั โดยรู้ว่าสือ่ มีวัตถปุ ระสงคใ์ นการสื่อสาร 4. เลือกสาระที่มีประโยชน์ที่ได้จากสื่อสารสนเทศ ไปใช้ในชีวิตประจำ วัน ให้เกิดประโยชน์กับตนเอง และ ครอบครัว 5. เลอื กสรรข้อมูล และสรา้ งส่ือสารสนเทศในแบบต่าง ๆ แลว้ สือ่ สารโดยคำ นึกถงึ ผลทีเ่ กิดข้ึนตอ่ ตนเองและผู้อน่ื
แผนการจดั การเรียนรู้ กล่มุ สาระวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สอนครงั้ ท่ี 9 รายวิชา เทคโนโลยีและการออกแบบ (ว20293) หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เรอ่ื งเทคโนโลยใี นการแกป้ ญั หา ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 เรื่อง การคดิ สร้างสรรคง์ าน จำนวนคาบ 50 นาที ต่อสัปดาห์ กรอบแนวคิด แผนการจดั การเรยี นรู้ การจดั การเรยี นรโู้ ดยใช้รูปแบบแนวคิดเชงิ วศิ วกรรม ซ่ึงดงึ จากการจดั การเรียนการสอน STEM โดยเน้นท่ี Engineering (วิศวกรรมศาสตร)์ และนำหลักการของ ADDIE Model เพอื่ ให้นกั เรยี นเกดิ ผลลัพธ์จากการเรยี นเชิงประจักษ์ กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม กระบวนการ ADDIE เศรษฐกจิ พอเพียง ระบุปญั หา (Problem Identification) การวิเคราะห์ (Analysis) หลกั ภมู คิ ุมกนั รวบรวมขอ้ มลู และแนวคดิ ที่เกย่ี วขอ้ งกับปญั หา (เง่ือนไขความร้)ู (Related Information Search) การออกแบบ (Design) ออกแบบวิธกี ารแก้ปัญหา (Solution Design) การพฒั นา หลักความพอประมาณ วางแผนและดำเนนิ การแก้ปัญหา (เง่อื นไขความรู้, เงื่อนไขคณุ ธรรม) (Planning and Development) (Development) ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรงุ แก้ไขวิธกี าร หลกั การมเี หตผุ ล แก้ปัญหาหรือช้ินงาน (Testing, Evaluation and การดำเนินการ (เง่อื นไขความรู้, เงือ่ นไขคณุ ธรรม) Design Improvement) (Implement) นำเสนอวธิ กี ารแกป้ ญั หา ผลการแก้ปญั หาหรอื ชนิ้ งาน (Presentation) การประมนิ ผลงาน (Evaluation) กจิ กรรมการเรียนรู้ คาบที่ 9 ว 4.1, ว 4.1 ม.3/1, ว 4.1 ม.3/2, ว 4.1 ม.3/3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เทคโนโลยีในการแกไ้ ขปัญหา มาตรฐานตัวชว้ี ัด กจิ กรรมการเรยี นของผเู้ รียน กจิ กรรมการสอนของผู้สอน • ขน้ั เตรียม • ขัน้ เตรียม 1. ผ ู ้ เ ร ี ยนจั ดเ ตรี ยม อุ ป กร ณ์การเรียน คอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มอื ถอื ของตนเอง 1. ผู้สอนจดั เตรียม https://www.tinkercad.com/dashboard 2. ผสู้ อนจดั เตรยี มหอ้ งเรียนระบบอเิ ล็กทรอนกิ ส์ทางไกล (Online) 3. ผสู้ อนจดั เตรียมใบความรู้อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 4. ผู้สอนจดั เตรยี มวดิ ีทศั น์ เทคโนโลยี VR https://www.youtube.com/watch?v=Dj8yR3LI WDM&t=2s 5. ผสู้ อนจัดเตรียมสอ่ื ประเภทวัสดุ 6. ผสู้ อนจดั เตรียม https://padlet.com/mmai853/6d76gz2nq8bhd wav
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี สอนคร้ังท่ี 9 รายวชิ า เทคโนโลยแี ละการออกแบบ (ว20293) หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรือ่ งเทคโนโลยีในการแก้ปญั หา ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 เร่ือง การคดิ สรา้ งสรรค์งาน จำนวนคาบ 50 นาที ต่อสปั ดาห์ กจิ กรรมการสอนของผู้สอน กิจกรรมการเรยี นของผเู้ รียน • ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรียน • ข้ันนำเขา้ สู่บทเรียน 1. ผู้สอนนำเสนอวดิ ีทศั นเ์ ทคโนโลยี VR 2. ผู้สอนบรรยายการพัฒนาเทคโนโลยี และการสรา้ ง 1. ผู้เรยี นรบั ฟังการนำเสนอวิดีทศั นเ์ ทคโนโลยี VR เทคโนโลยีเสมือนจรงิ เบ้ืองต้น 2. ผู้เรยี นรับฟังการบรรยายการพฒั นา 3. ผสู้ อนแนะนำการตดิ ต้ัง Application ThinkerCad เทคโนโลยี และการสรา้ งเทคโนโลยีเสมือน จรงิ เบือ้ งต้น 3. ผเู้ รยี นรับฟงั คำแนะนำและตดิ ตง้ั Application กิจกรรมการสอนของผู้สอน กิจกรรมการเรยี นของผูเ้ รยี น • ขน้ั เรียน / กิจกรรม • ขน้ั เรยี น / กจิ กรรม 1. ผู้สอนให้ผเู้ รียนเปดิ Application ThinkerCad 1. ผู้เรยี นเปิด Application ThinkerCad สำรบั 2. ผู้สอนแนะนำแทบเคร่อื งมือ อปุ กรณ์ ใน Application นักเรียนทม่ี ีคอมพวิ เตอร์ท่ีบา้ นพัก ThinkerCad 2. ผูเ้ รยี นรับฟงั การแสดงตัวอย่างการต่อวงจรไฟ 3. ผสู้ อนแนะนำวงจรอิเล็กทรอนิกสต์ ัวอย่างให้กบั ผู้เรยี น กระพริบ IC555 ภาพที่ 1 วงจรไฟกระพริบ IC555 • ข้ันสรุป 4. ผ้สู อนแสดงตัวอยา่ งการตอ่ วงจรใน ThinkerCad และ 1. ผู้เรยี นรว่ มกับผู้สอนสรปุ ประโยชน์ของ VR แสดงผล 2. ผ้เู รยี นรบั มอบหมายงานใหผ้ เู้ รยี นค้นคว้า • ข้ันสรุป Websit, Application หรอื โปรแกรมที่ สามารถสรา้ งงาน 3 มติ ิ 1. ผูส้ อนร่วมกบั ผเู้ รยี นสรปุ ประโยชน์ของ VR 2. ผสู้ อนมอบหมายงานใหผ้ เู้ รยี นคน้ ควา้ Websit, Application หรอื โปรแกรมทสี่ ามารถสรา้ งงาน 3 มิติ สง่ ท่ี padlet.com
แผนการจัดการเรียนรู้ กล่มุ สาระวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี สอนครงั้ ท่ี 9 รายวชิ า เทคโนโลยแี ละการออกแบบ (ว20293) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่อื งเทคโนโลยีในการแก้ปญั หา จำนวนคาบ 50 นาที ต่อสัปดาห์ เร่อื ง การคิดสร้างสรรค์งาน งานท่มี อบหมายหรือกจิ กรรมการวัดผลและประเมนิ ผล กอ่ นเรียน -ไมม่ ี- ขณะเรียน 1. แบบบนั ทึกการสังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมรายบุคคล หลังเรียน 1. แบบประเมนิ พฒั นาการในการเรียนร้ขู องผเู้ รยี น 2. บันทกึ ขอ้ ปญั หาในการปฏบิ ตั งิ าน Padlet.com ผลงาน / ชน้ิ งาน / ความสำเรจ็ ของผเู้ รียน 1. ช้นิ งานตามแผนงานท่ผี เู้ รยี นวางแผนไว้ 2. บนั ทึกขอ้ ปัญหาในการปฏบิ ตั งิ าน ส่ือการเรยี นการสอน / การเรียนรู้ • สื่อวัสดุ 1. วัสดอุ เิ ลก็ ทรอนิกสเ์ บอ้ื งตน้ • สือ่ อุปกรณ์ 1. คอมพิวเตอร์ 2. โทรศพั ทเ์ คลอ่ื นที่ • สอ่ื เทคนคิ 1. การยกตัวอย่าง 2. การต้งั คำถาม • สอ่ื คอมพวิ เตอร์ 1. www.youtube.com 2. https://www.tinkercad.com/ 3. https://padlet.com/dashboard 4. https://meet.google.com/ 5. Program : OBS Studio
แผนการจัดการเรียนรู้ กลมุ่ สาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สอนครัง้ ท่ี 9 รายวิชา เทคโนโลยแี ละการออกแบบ (ว20293) ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เรอ่ื งเทคโนโลยีในการแกป้ ญั หา จำนวนคาบ 50 นาที ต่อสปั ดาห์ เรื่อง การคดิ สรา้ งสรรคง์ าน แหล่งการเรยี นรู้ ในสถานศกึ ษา 1. ห้องสมดุ ดจิ ติ อลโรงเรียนยางรากวทิ ยา นอกสถานที่ 1. จุดบริการเช่อื มตอ่ เนต็ ประชารฐั 2. โทรศพั ทม์ อื ถือ คอมพวิ เตอร์ อนิ เทอรเ์ น็ต เวบ็ ไซตท์ างอิเลก็ ทรอนกิ ส์ การบูรณาการ / ความสัมพันธ์กบั วิชาอื่น ๆ 1. บูรณาการวิทยาการคำนวณ 2. บูรณาการรายวิชาโครงการ STEM 3. หลกั สตู รฐานสมรรถนะ ICT 4. บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง รายละเอียดการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ➢ จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ข้อท่ี 1 การประยุกต์ใชค้ วามรูก้ ารแก้ปญั หาหรือพัฒนางานอาชพี ตามกระบวนการ ออกแบบเชงิ วศิ วกรรม (K) วธิ กี ารประเมนิ : การสรา้ งสรรค์ชิ้นงาน เครอื่ งมือ: แบบบนั ทกึ การสงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมรายกลุ่ม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน: การประยุกต์ใช้ความรกู้ ารแกป้ ญั หาหรือพัฒนางานอาชีพตามกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมผ่านตามเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ 70 ➢ จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ขอ้ ท่ี 2 ออกแบบเทคโนโลยใี นการแกป้ ญั หาพฒั นางานอาชีพตามกระบวนการออกแบบ เชงิ วิศวกรรม (K) วธิ กี ารประเมนิ : การสรา้ งสรรคช์ ้ินงาน เครื่องมือ: แบบบันทกึ การสงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมรายกล่มุ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน: ออกแบบเทคโนโลยใี นการแกป้ ญั หาพัฒนางานอาชีพตามกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ผ่านตามเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ 70 ➢ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ข้อที่ 3 นำเสนอแผนงานการแก้ปญั หาพฒั นางานอาชีพตามกระบวนการออกแบบเชิง วิศวกรรม (P) วิธกี ารประเมิน: การฝกึ ปฏิบตั ิการใช้เครอื่ งมอื ในโปรแกรม ThinkerCAD เครื่องมอื : แบบบนั ทกึ การสังเกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมรายบคุ คล เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน: การออกแบบช้ินงาน และการใช้เครอื่ งมือของโปรแกรม ผา่ นตามเกณฑ์การประเมิน รอ้ ยละ 70
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สอนครงั้ ที่ 9 รายวชิ า เทคโนโลยแี ละการออกแบบ (ว20293) หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรื่องเทคโนโลยีในการแกป้ ัญหา ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3 เรอื่ ง การคดิ สรา้ งสรรค์งาน จำนวนคาบ 50 นาที ต่อสปั ดาห์ ➢ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 4 ปฏิบัตงิ านตามข้ันตอนออกแบบเทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาพฒั นางานอาชพี ตาม กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม (P) วิธีการประเมิน: การฝึกปฏบิ ตั กิ ารใช้เคร่อื งมอื ในโปรแกรม ThinkerCAD เครือ่ งมือ: แบบบนั ทึกการสังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมรายบคุ คล เกณฑ์การให้คะแนน: ปฏิบัตงิ านตามขั้นตอนออกแบบเทคโนโลยใี นการแก้ปญั หาพฒั นางานอาชพี ตามกระบวนการ ออกแบบเชิงวิศวกรรม ผา่ นตามเกณฑ์การประเมิน รอ้ ยละ 70 ➢ จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อท่ี 5 ปฏบิ ัติงานไดต้ รงตามแผนงาน (A) วธิ กี ารประเมิน: การฝึกปฏบิ ัติการใชเ้ คร่ืองมือในโปรแกรม ThinkerCAD เครื่องมือ: แบบบนั ทกึ การสังเกตและประเมินผลพฤตกิ รรมรายบุคคล เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน: ปฏบิ ัติงานไดต้ รงตามแผนงาน ผา่ นตามเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ 70
แบบประเมนิ พฒั นาการในการเรียนร้ขู องนกั เรียน หน่วยการเรยี นรู้ เรอื่ ง ............................................... ช้ัน............... คำชแี้ จง 1. ใหบ้ ันทึกคะแนนท่ไี ด้จากการทำแบบทดสอบก่อนเรยี น – หลงั เรียนของนักเรียนแตล่ ะคนลงในช่อง คะแนนแบบทดสอบ 2. นำคะแนนหลังการเรยี นลบคะแนนก่อนเรียน เป็นคะแนนพฒั นาการ 3. ประเมนิ คะแนนพฒั นาการในการเรยี นรูโ้ ดยเปรยี บเทยี บกบั เกณฑค์ ะแนนพัฒนาการแลว้ ทำ เคร่ืองหมาย ลงในชอ่ งความหมายของการพัฒนาการเรยี นรูใ้ ห้ตรงกับความเป็นจริง คะแนนแบบทดสอบ คะแนน พฒั นาการในการเรยี นรู้ เลขที่ ชอื่ – สกลุ ก่อนเรียน หลังเรียน พฒั นาการ ดมี าก ดี ปานกลาง ปรับปรุง นกั เรียน (หลงั -กอ่ น) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 เกณฑ์คะแนนพฒั นาการ ลงช่ือ...........................................ผู้ประเมิน ดมี าก 9-10 ดี 7-8 (……………………………………………….) ปานกลาง 5-6 นอ้ ย น้อยกว่า 5
แบบประเมนิ ผลงานรายกจิ กรรมกลมุ่ วชิ า . . หนว่ ยที่ . . เร่อื ง . . ชอ่ื สมาชิกกลุ่ม. . ชนั้ . . . วันท่ี . ปรับปรุง รายการประเมนิ ดี พอใช้ (1) (3) (2) 1. การคิดวิเคราะห์ 2. การสอ่ื ความ ด้วยการเขยี น ด้วยภาพ 3. มีความคดิ สร้างสรรค์ 4. ประโยชน์ของการนำข้อมลู ไปใช้ คะแนนเตม็ 12 คะแนน ได้ . . คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน 1. การคดิ วิเคราะห์ 3 คะแนน มกี ารจบั ประเดน็ สำคญั ขยายความ ยกตัวอยา่ ง เปรยี บเทยี บและสรปุ ความคดิ รวบยอดไดด้ ี 2 คะแนน มีการจบั ประเดน็ สำคญั ได้ แตข่ ยายความหรือยกตัวอยา่ งไม่ได้ 1 คะแนน มกี ารจับประเด็นสำคญั นอ้ ย 2. การสอ่ื ความ ด้วยการเขียน ด้วยภาพ 3 คะแนน สือ่ ความไดถ้ ูกต้องตามอักขรวธิ ี รปู ภาพส่ือ ตรงประเดน็ และเขา้ ใจงา่ ย 2 คะแนน สอื่ ความไม่ถูกต้องตามอักขรวิธี รปู ภาพสือ่ ไมต่ รงเปน็ บางประเด็น 1 คะแนน สือ่ ความหมายไดน้ อ้ ย ไมต่ รงประเด็น 3. มคี วามคดิ สร้างสรรค์ 3 คะแนน ผลงานมรี ปู แบบน่าสนใจ มคี วามสมั พนั ธก์ ับหวั ขอ้ ทกี่ ำหนด สวยงาม 2 คะแนน ผลงานมคี วามสมั พันธ์กบั หวั ข้อท่ีกำหนด แตไ่ มด่ ึงดดู ความสนใจ 1 คะแนน ผลงานมีความสมั พนั ธก์ ับหวั ขอ้ ทก่ี ำหนดนอ้ ยมาก 4. ประโยชน์ของการนำขอ้ มลู ไปใช้ 3 คะแนน สามารถนำไปประยกุ ต์กบั สถานการณ์ในชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2 คะแนน สามารถนำไปประยกุ ต์กับสถานการณ์ในชีวิตประจำวันไดบ้ ้าง 1 คะแนน สามารถนำไปใช้ประโยชน์ไดน้ ้อยมาก เกณฑ์การประเมนิ คะแนน 12-9 = ดี (3) คะแนน 8-5 = พอใช้ (2) คะแนน 4-0 = ควรปรบั ปรงุ (1) ลงช่ือผูป้ ระเมนิ .................................................................
แบบบนั ทึกการสังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมรายบุคคล ครั้งที่ ………… เรือ่ ง ................................................................ รหัสวชิ า .......................... ภาคเรยี นท่ี…....ปกี ารศึกษา………… ช้ัน................ โรงเรยี น .................................. พฤติกรรม / ระดับคะแนน ความสนใจใน การมสี ่วนร่วม การตอบ การยอมรับฟงั ทำงานตามที่ ลำดับท่ี ชอ่ื – สกลุ การทำ ในการแสดง คำถาม ความคิดเหน็ ได้รบั รวม กิจกรรม ความคิดเหน็ ผูอ้ ื่น มอบหมาย 321321 3213213 21 เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การประเมนิ คะแนนเต็ม 15 คะแนน ระดบั 3 หมายถงึ มีพฤตกิ รรมในระดบั ดี คะแนน 13 - 15 หมายถึง ดี ระดบั 2 หมายถึง มีพฤตกิ รรมในระดับ ปานกลาง คะแนน 9 - 12 หมายถึง ปานกลาง ระดับ 1 หมายถงึ มพี ฤติกรรมในระดบั ปรับปรงุ คะแนน 5 - 8 หมายถงึ ปรบั ปรุง เกณฑ์ การผ่าน ร้อยละ 60 ( 9 คะแนน ) ลงชอื่ ................................................ () ครผู สู้ อน / ผปู้ ระเมิน
รายวชิ า เทคโนโลยี รหัสวชิ า ว23103 ระดับชัน� มัธยมศกึ ษาปี ที� เร่อื ง จาลองวงจรอเิ ล็กทรอนกิ ส์อย่างง และกลไก ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส(์ 2 ครสู าธิต ศรวี รรณะ ครผู ู้ช่วย
3 งา่ ย 2)
จาลองวงจรอิเล็กทรอน ไฟฟ้าและอิเล
นกิ ส์อย่างง่ายและกลไก ลก็ ทรอนกิ ส(์ 2)
จดุ ประสงค 1. อธิบายกลไกไฟฟ้า 2. จาลองวงจรอเิ ล็กท
ค์การเรยี นรู้ าและอเิ ล็กทรอนกิ ส์ได้ ทรอนิกสอ์ ย่างงา่ ยได้
ทบทวนค เรือ่ ง จาลองวงจรอเิ ล็กทร ไฟฟา้ และอเิ
ความรเู้ ดมิ รอนิกส์อย่างงา่ ยและกลไก เลก็ ทรอนิกส์
กลไก ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ เปน็ องคป์ ระกอบสาคัญในส่ิงข เคร่อื งใช้ ท่ีช่วยใหม้ นษุ ยท์ างา ไดส้ ะดวกและมปี ระสทิ ธิภาพ มากขน้ึ
กส์ ของ าน พ อา้ งองิ รปู จาก :: http://img.kapook.com/u/surauch/home/faifa01.jpg (สืบค้นวันที่ 18 ส.ค.62)
สัญลกั ษณ์ของอุปกรณไ์ ฟฟ และอิเลก็ ทรอนกิ ส์พื้นฐาน เช่น
ฟา้ น อ้างองิ รูปจาก::สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สืบค้นวนั ที่ 18 ส.ค.62)
วงจรไฟฟ การตอ่ วงจรไฟฟา้ อย่างง่ายม 1.แหล่งให้กาเนดิ พล 2.ตวั นาไฟฟา้ 3.อุปกรณไ์ ฟฟา้
ฟา้ พ้นื ฐาน มอี งคป์ ระกอบหลัก ๆ ไดแ้ ก่ ลังงานไฟฟ้า
ตวั อยา่ งวงจรไฟฟ้าอย่า • วงจรไฟฟ้าของไฟฉาย ซง่ึ ป หลอดไฟ อ้างอิงรปู จาก : สถาบนั ส่งเสริมกา
างงา่ ย ประกอบดว้ ย สวติ ช์ แบตเตอรี่ ารสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
การตอ่ วง แบ่งออกเปน็ 3 วิธีคอื 1. การต่อวงจรไฟฟ 2. การต่อวงจรไฟฟ 3. การตอ่ วงจรไฟฟ
งจรไฟฟ้า ฟา้ แบบอนกุ รม ฟา้ แบบขนาน ฟา้ แบบผสม
การต่อวง ยกตวั อย่าง 2 วธิ คี อื 1. การต่อวงจรไฟ 2. การต่อวงจรไฟ
งจรไฟฟา้ ฟฟา้ แบบอนกุ รม ฟฟ้าแบบขนาน
ตวั อยา่ ง การตอ่ วงจรไฟฟา้ วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม อ้างองิ รูปจาก : สถาบนั ส่งเสรมิ กา
วงจรไฟฟา้ แบบขนาน ารสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
สาธิต การต่อวงจรไฟฟา้ แบบ อา้ งอิงรูปจาก::สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
บท่ี 1 วงจรไฟฟา้ แบบอนกุ รม
สาธิต การตอ่ วงจรไฟฟา้ แบบ อ้างอิงรปู จาก::สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
บท่ี 2 วงจรไฟฟา้ แบบขนาน
กิจกรรม เรือ่ ง สมบัตแิ ละหน คาช้ีแจง ให้นักเรยี นต่อวงจรตามข สมบัตแิ ละหน้าทีข่ องตวั ตา้ นทาน 1. แบบที่ 1 วงจรสาธิตท่ไี ม่ม 2. แบบท่ี 2 วงจรสาธติ ที่มีต นักเรยี นแตล่ ะคนคาดคะเนความสว่างข และอภิปราย
มท่ี 5.2 น้าท่ขี องตวั ตา้ นทาน ขน้ั ตอนใบงานท่ี 5.2 ดังนี้ มตี ัวตา้ นทาน ตวั ตา้ นทาน ของหลอดไฟและบนั ทกึ ลงในใบกจิ กรรม
สาธิต กิจกรรมที่ 5.2 สมบตั ิและห อ้างอิงรปู จาก::สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชุดสาธิตซึ่งประกอบดว้ ย สวิตช์ถา่ นไฟฉาย สายไฟ หลอดไฟ
หนา้ ที่ของตวั ต้านทาน (แบบท่ี 1)
เมือ่ ต่อวงจรสาเร็จ อา้ งอิงรูปจาก::สถาบันส่งเสรมิ การ
สมบัติและหน้าท่ขี องตวั ต้านทาน (แบบท่ี 1) รสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สาธิต กิจกรรมที่ 5.2 สมบัตแิ ละห อ้างองิ รปู จาก::สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชุดสาธติ ซง่ึ ประกอบด้วย สวิตชถ์ า่ นไฟฉาย สายไฟ หลอดไฟ ตวั ต้านทาน
หนา้ ที่ของตวั ต้านทาน (แบบท่ี 2)
เมือ่ ต่อวงจรสาเร็จ อา้ งอิงรูปจาก::สถาบันส่งเสรมิ การ
สมบัติและหน้าท่ขี องตวั ต้านทาน (แบบท่ี 2) รสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สาธิต กิจกรรมที่ 5.2 สมบัต เปรียบเทยี บและคาดคะเน สมบัตแิ ละหน้าทขี่ อง ตัวตา้ นทานแบบที่ 1 และแบบท บันทกึ ผลลงตาราง
ตแิ ละหนา้ ที่ของตวั ตา้ นทาน ที่ 2
Search
