Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปีที่ 7 ฉบับที่ 2

วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปีที่ 7 ฉบับที่ 2

Published by sakdinan.lata, 2021-09-13 06:17:12

Description: วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปีที่ 7 ฉบับที่ 2

Search

Read the Text Version

94 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. การจัดซื้อจัดจ้างท่ีมีวงเงินเกินก�ำหนดที่กล่าวมา ก�ำหนดหลักเกณฑ์ท่ีส�ำคัญประการหน่ึงส�ำหรับ หน่วยงานของรัฐจะต้องจัดให้มีการประชุมกลุ่ม เจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั ผคู้ วบคมุ กระบวนการจดั ซอื้ จดั จา้ ง เพ่ือรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนเสียก่อน ใหต้ อ้ งเตรยี มชแี้ จงรายละเอยี ดเกยี่ วกบั การวเิ คราะห์ เพอ่ื ใหป้ ระชาชนผเู้ ปน็ เจา้ ของงบประมาณทแ่ี ทจ้ รงิ เปรียบเทียบราคา (Cost Comparison Analysis) มีโอกาสได้แสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วม ระหว่างข้อเสนอของผู้เข้าร่วมประมูลท้ังหมดเอาไว้ ในการตัดสินใจใช้จ่ายงบประมาณด้วย (public และเมื่อใดก็ตามที่ผู้เข้าร่วมประมูลต้องการทราบ participation) รายละเอียดเกี่ยวกับการพิจารณาข้อเสนอดังกล่าว 3.1.3 มาตรการระงับการจัดซื้อ เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั ผคู้ วบคมุ กระบวนการจดั ซอื้ จดั จา้ ง จัดจา้ งชว่ั คราว จะตอ้ งสามารถชแ้ี จงรายละเอยี ดไดเ้ สมอ เพอื่ แสดง มาตรการระงับการจัดซื้อจัดจ้าง ให้เห็นว่า การคัดเลือกเอกชนเข้าเป็นคู่สัญญาใน ชั่วคราวเป็นมาตรการแทรกแซงการตัดสินใจของ กระบวนการจดั ซอื้ จดั จา้ งของรฐั มคี วามโปรง่ ใส และ หนว่ ยงานของรฐั ทเ่ี ลอื กเอกชนคสู่ ญั ญาแลว้ กลา่ วคอื สามารถตรวจสอบได้ แมห้ นว่ ยงานของรฐั จะมมี ตคิ ดั เลอื กใหเ้ อกชนรายใด 3.2 สาธารณรฐั เกาหลี เข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐแล้วก็ตาม แต่ผู้อ�ำนวยการ การจัดซ้ือจัดจ้างของสาธารณรัฐเกาหลี ส�ำนักตรวจสอบความรับผิดยังคงมีอ�ำนาจที่จะ มีรูปแบบในการจัดซื้อจัดจ้างท่ีหลากหลายเช่นกัน คดั คา้ นการตดั สนิ ใจของหนว่ ยงานของรฐั ดงั กลา่ วได้ ได้แก่ การจัดซ้ือจัดจ้างแบบเปิด การเสนอชื่อเพ่ือ แม้มาตรการดังกล่าวจะไม่สามารถคัดค้านการ ประมลู การเขา้ ทำ� สญั ญาโดยตรง ทง้ั นี้ ผปู้ ระกอบการ ตัดสินใจเลือกคู่สัญญาได้โดยเด็ดขาด แต่ก็ถือว่า จะต้องลงทะเบียนกับ Public Procurement ช่วยตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้าท�ำสัญญากับรัฐ Service หรือ PPS ก่อนล่วงหน้า หน่วยงานท่ีมี ทางอ้อมได้ในระดบั หนึ่ง ความต้องการจัดซ้ือจัดจ้างก็จะแจ้งมายัง PPS 3.1.4 มาตรการเพกิ ถอนสทิ ธใิ นการ เพื่อตรวจสอบและจัดหาวัสดุตามท่ีหน่วยงานน้ัน เขา้ แขง่ ขนั ประกวดราคา ต้องการต่อไป จุดเด่นที่ส�ำคัญอีกประการหนึ่ง มาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการที่ใช้ ได้แก่ การเปิดเผยให้สาธารณชนทราบเพื่อใหม้ กี าร ลงโทษผู้เข้าประกวดราคาท่ีทุจริตควบคู่ไปกับ แขง่ ขนั กันอย่างท่ัวถงึ เท่าเทียมและเป็นธรรม มาตรการทางแพ่งและทางอาญาท่ีมีอยู่แล้วแต่เดิม ท้ังน้ี สาธารณรัฐเกาหลีได้น�ำเทคโนโลยี โดยมีผลบังคับ คือ หากผู้เข้าประกวดราคารายใด สารสนเทศมาใช้กับการจัดซื้อจัดจ้างท่ีเรียกว่า ถกู เพกิ ถอนสทิ ธใิ นการเขา้ แขง่ ขนั ประกวดราคาแลว้ Korea Online E-Procurement System หรือ ย่อมไม่สามารถเข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของ KONEPS ซึ่งท�ำให้เกิดความสะดวกแก่ทุกฝ่าย รัฐใด ๆ ได้อีกในช่วงระยะเวลาทีก่ �ำหนด ในการจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐ เนื่องจากด�ำเนินการ 3.1.5 มาตรการแจง้ ผลการประกวด โดยผ่านระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ทุกกระบวนการ ราคาใหแ้ ก่ผ้เู ขา้ รว่ มประมลู นอกจากน้ี ในสาธารณรฐั เกาหลยี งั พยายาม มาตรการดังกล่าวเกิดข้ึนจากการที่ ริเริ่มน�ำมาตรการป้องกันการทุจริตในกระบวนการ Federal Acquisition Regulations (FAR) ได้ จัดซื้อจัดจา้ งอกี หลายมาตรการมาใชบ้ งั คับ ไดแ้ ก่

ปที ี่ 7 ฉบบั ท่ี 2 (กรกฎาคม 2557) 95 3.2.1 มาตรการป้องกันการจัดซ้ือ 3.2.3 มาตรการป้องกันการปกปิด จัดจา้ งทไ่ี มต่ รงกับความตอ้ งการของรฐั การจัดซ้ือจดั จ้าง ในการปอ้ งกนั การจดั ซอ้ื จดั จา้ งทไ่ี มต่ รง สาธารณรัฐเกาหลีให้ความส�ำคัญ กับความต้องการของรัฐ สาธารณรัฐเกาหลีได้มี ต่อการส่งเสริมช่องทางการเข้าถึงข้อมูล และมีการ การจัดท�ำระบบท่ีเรียกว่า Government Goods เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับข้ันตอนกระบวนการจัดซ้ือ Management System (GGM) ข้ึน เพ่ือจัดการกับ จดั จา้ งเกอื บทง้ั หมด เพอ่ื สรา้ งความโปรง่ ใสใหเ้ กดิ ขน้ึ พัสดุที่รัฐครอบครองอยู่ เพราะเม่ือได้ทราบถึง โดยชอ่ งทางหลกั ทสี่ าธารณรฐั เกาหลใี ชเ้ ปน็ ชอ่ งทาง สถานะของพัสดุท่ีรัฐครอบครองอยู่แล้ว ย่อมท�ำให้ เผยแพร่ข้อมูลก็คือทาง Website ของหน่วยงาน ทราบได้อย่างชัดเจนว่าพัสดุใดมีความจ�ำเป็นที่จะ ท่ีเก่ียวข้องท้ังหมด โดยเฉพาะอย่างย่ิงการท่ี ต้องจัดซื้อจัดจ้างเพ่ิมเติมหรือไม่ และพัสดุใดที่ยัง สาธารณรัฐเกาหลีจัดให้มีระบบการจัดซ้ือจัดจ้าง ไมม่ คี วามจำ� เปน็ จะตอ้ งจดั ซอื้ จดั จา้ งเพม่ิ เตมิ (Choi แบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Procurement System) Tae Hee and Kim Dae Sik, 2013: 89) การทำ� งาน ยง่ิ เปน็ การสง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนสามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ของระบบดังกล่าวจะมีการก�ำหนดควบคุมจ�ำนวน ได้ง่ายมากยิ่งข้ึน รวมถึงการส่งเสริมให้เจ้าหน้าท่ี มาตรฐานของพสั ดุ ใหเ้ พยี งพอตอ่ การปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ภาครัฐที่เก่ียวข้องกับกระบวนการจัดซ้ือจัดจ้าง ของแต่ละหน่วยงาน (Full Number Control) ท�ำหน้าท่ีคอยตอบค�ำถามประชาชนเกี่ยวกับความ หากเม่ือใดท่ีจ�ำนวนพัสดุไม่เพียงพอต่อจ�ำนวน กา้ วหนา้ ของขนั้ ตอนการจดั ซอื้ จดั จา้ ง กระบวนการ มาตรฐานทก่ี ำ� หนดไว้ ซงึ่ อาจทำ� ใหก้ ารปฏบิ ตั ภิ ารกจิ และวธิ กี ารปฏบิ ตั ติ ่าง ๆ อกี ด้วย ของหน่วยงานไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ก็แสดงให้ 3.2.4 มาตรการป้องกันการจัดซ้ือ เห็นว่ามีความจ�ำเป็นจะต้องจัดหาพัสดุเพ่ิมเติม จดั จา้ งทีไ่ มเ่ ป็นกลาง นอกจากน้ี ยังมีการก�ำหนดระยะเวลาของการใช้ มาตรการดังกล่าวจะมีการใช้ระบบ พัสดุ (longevity) แต่ละชนดิ อีกด้วย จัดซื้อจัดจ้างแบบ Multiple-Supplier System 3.2.2 มาตรการในการก�ำหนด ที่เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันราคาระหว่างผู้เสนอ คุณสมบัติของผูเ้ ข้าแข่งขนั ราคา ราคาหลายคน และผู้เสนอราคาที่ถูกเลือกอาจมี สาธารณรัฐเกาหลีจัดให้มีระบบการ มากกว่า 1 คนก็ได้ แต่จะคัดเลือกอีกคร้ังหนึ่ง ตรวจสอบคุณสมบัติก่อนเข้าเป็นผู้ประกวดราคา โดยการใช้เกณฑ์คุณภาพเข้ามาพิจารณา ซึ่งการใช้ (pre-qualification system) โดยผู้ท่ีจะสามารถ เกณฑ์ (criteria) เข้ามาช่วยในการพิจารณา เขา้ เปน็ ผปู้ ระกวดราคาไดจ้ ะตอ้ งมปี ระวตั กิ ารทำ� งาน จะเปน็ การช่วยลดปญั หาการใช้ดลุ พินจิ โดยมชิ อบ ที่ดี มคี วามสามารถทางเทคนิคเพียงพอที่จะปฏบิ ตั ิ 3.2.5 มาตรการป้องกันการทุจริต ตามสัญญา มีความนา่ เช่อื ถือ เป็นต้น หากสามารถ ในชั้นของการตรวจรบั งาน ผ่านเกณฑ์ท่กี �ำหนดขนึ้ มาเหล่านไ้ี ด้ ก็จะรับเขา้ เป็น มาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการที่ ผู้มีสทิ ธิเขา้ แขง่ ขันราคาตอ่ ไปได้ กลา่ วถงึ การควบคมุ คณุ ภาพของงาน และการปฏบิ ตั ิ ตามสัญญา โดยจะมีการก�ำหนดให้เอกชนคู่สัญญา

96 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. ตอ้ งจดั ทำ� แผนการดำ� เนนิ การตามสญั ญา (fulfillment 3.3.1 มาตรการป้องกันการปกปิด plan) เพื่อใช้เป็นเคร่ืองมือในการตรวจสอบว่า ข้อมลู ในกระบวนการจัดซอื้ จัดจา้ ง การปฏิบัติงานของเอกชนคู่สัญญาเป็นไปตามท่ีได้ มาตรการดงั กลา่ วกำ� หนดใหก้ ารจดั ซอ้ื ตกลงเอาไวก้ บั รัฐหรือไม่ นอกจากน้ี ถา้ หากเอกชน จดั จา้ งภาครฐั ทมี่ กี ารกำ� หนดงบประมาณสำ� หรบั การ คสู่ ญั ญารายใดสามารถผา่ นการประเมนิ คณุ ภาพการ จัดซื้อจัดจ้างเกินกว่า 1,000,000 เหรียญไต้หวัน ทำ� งานไปได้ รฐั กจ็ ะจดั ใหเ้ อกชนรายนนั้ ไดร้ บั Quality (TWD) จะต้องมีการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดบน Certification Regime ซึ่งเอกชนท่ีได้รบั Quality เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ The Public Certification Regime จะคงไว้ซึ่งสิทธิพิเศษท่ีรัฐ Construction Commission (PCC) เพื่อให้ จะลดหลักเกณฑ์การตรวจสอบคุณสมบัติและ ประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบการด�ำเนินการ การทำ� งานของเอกชนรายนน้ั ในการเขา้ ทำ� งานกบั รฐั ใช้จ่ายงบประมาณท่ีมาจากภาษีของประชาชนได้ คร้งั ตอ่ ไป อย่างทว่ั ถงึ (thoroughly) 3.3 เขตเศรษฐกิจไต้หวนั 3.3.2 มาตรการป้องกันการเสนอ เขตเศรษฐกิจไต้หวันมีรูปแบบการจัดซ้ือ ประกวดราคาโดยสมยอมกนั จัดจ้างอยู่ 3 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ การเชิญชวน เดมิ เขตเศรษฐกจิ ไตห้ วนั ใชห้ ลกั เกณฑ์ ให้มีการจัดซื้อจัดจ้างแบบเปิดซึ่งเป็นกรณีทั่วไป คัดเลือกเอกชนรายที่เสนอราคาต่�ำสุดเข้าเป็น การเชิญชวนให้มีการจัดซื้อจัดจ้างแบบเลือก และ ค่สู ัญญา (The Best Price/ The Minimum Price) การเชิญชวนให้มีการจัดซ้ือจัดจ้างแบบจ�ำกัด ตอ่ มาไดเ้ ปลย่ี นมาใชห้ ลกั เกณฑก์ ารคดั เลอื กเอกชน แล้วแต่กรณีว่ามีความจ�ำเป็นจะต้องใช้วิธีการใด ท่ีเสนอผลงานที่มีคุณภาพ (Quality) ตรงความ ในการจดั ซอ้ื จดั จา้ ง ซง่ึ รปู แบบดงั กลา่ วคลา้ ยคลงึ กบั ต้องการของภาครัฐมากท่ีสุด เพ่ือให้สอดคล้องกับ กฎเกณฑ์ท่ีปรากฏในระเบียบส�ำนักนายกรัฐมนตรี การเข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์กรท่ีชื่อว่า The ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ของประเทศไทย World Trade Organization’s Agreement on อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่า กระบวนการของ Government Procurement (GPA) ในเดือน เขตเศรษฐกจิ ไตห้ วนั นนั้ มรี ายละเอยี ดในการดำ� เนนิ การ กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ซึ่งการแกไ้ ขกฎหมายในครั้งน้ี จดั ซอ้ื จดั จา้ งนอ้ ยกวา่ สหรฐั อเมรกิ าและสาธารณรฐั ส่งผลกระทบที่ส�ำคัญท�ำให้ถึงแม้จะมีการตกลง เกาหลี ท้ังยังมีระบบการเปิดเผยน้อยกว่าประเทศ สมยอมกันระหว่างบรรดาผู้เข้าร่วมประกวดราคา ทั้งสอง ซ่ึงอาจท�ำให้เกิดช่องทางในการแสวงหา ทงั้ หลาย หากขอ้ เสนอในการทำ� งานไมม่ คี ณุ ภาพตรง ประโยชน์โดยทจุ ริตในการจดั ซ้อื จดั จ้างได้งา่ ยกวา่ กับความต้องการของภาครัฐ ก็อาจไม่ได้รับการ อย่างไรก็ตาม ในการแก้ไขกฎหมายเก่ียว พจิ ารณาใหเ้ ขา้ เปน็ คสู่ ญั ญากบั ภาครฐั กไ็ ด้ มาตรการ กับการจัดซ้ือจัดจ้างในปี ค.ศ. 2011 ได้มีการน�ำ ดงั กลา่ วสามารถลดแรงจงู ใจในการเขา้ ประกวดราคา มาตรการต่าง ๆ มาใช้เพ่ือเสริมสร้างความโปร่งใส โดยสมยอมกันระหว่างบรรดาเอกชนลงไปได้ ให้แก่การจัดซอื้ จัดจ้างภาครฐั ได้แก่

ปีที่ 7 ฉบับท่ี 2 (กรกฎาคม 2557) 97 สรุปกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและมาตรการ เอกสารอ้างอิง ป้องกันการทุจริตในกระบวนการจัดซ้ือจัดจ้าง ณัฐนันทน์ อัศวเลิศศักด์ิ และคณะวิจัย. (2553). ของต่างประเทศ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต คณะผวู้ จิ ยั เหน็ วา่ กระบวนการจดั ซอื้ จดั จา้ ง ในองค์กรภาครัฐที่มุ่งเน้นการด�ำเนินการ ในเขตเศรษฐกิจไต้หวัน มีการก�ำหนดรายละเอียด ในเชิงธรุ กิจ. ของกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างน้อยกว่าใน ณัฐนันทน์ อัศวเลิศศักด์ิ และคณะวิจัย. (2548). สหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐเกาหลี อีกทั้งยังให้ กฎหมายเพ่ือแสดงความโปร่งใสในการ ความสำ� คญั กบั หลกั การเปดิ เผยใหส้ าธารณชนทราบ เกยี่ วกบั ขนั้ ตอนการจดั ซอ้ื จดั จา้ งภาครฐั นอ้ ยอกี ดว้ ย ท�ำงานของภาครัฐ (The Sunshine Act) ของสหรฐั อเมริกา. ในขณะท่ีทั้งในสหรัฐอเมริกาและในสาธารณรัฐ ปณั ณ์ อนนั อภบิ ุตร และคณะ. (2555). การปฏริ ปู เกาหลีต่างให้ความส�ำคัญกับการเปิดเผยข้อมูล ระบบงบประมาณของไทยเพ่ือต่อต้าน เก่ียวกับการจัดซ้ือจัดจ้างให้แก่ประชาชนทราบ เพื่อให้เกิดความโปรง่ ใสและเป็นธรรมแก่ประชาชน การทุจริต. กรุงเทพฯ: รายงานการวิจัย สำ� นักงาน ป.ป.ช. ทุกฝ่ายท่ีต้องการทราบหรือต้องการเข้าร่วมแข่งขัน พิสิฏฐ์ เกตุประเสริฐวงศ์. (2548). คอร์รัปชัน เพื่อท�ำสญั ญากับภาครัฐ อีกท้งั จากการศกึ ษาพบวา่ ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ: ในสาธารณรฐั เกาหลมี จี ดุ เดน่ ของกระบวนการจดั ซอื้ จดั จา้ งในแงท่ วี่ า่ มกี ารนำ� ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ กรณีศึกษา พฤติกรรม สาเหตุ และ การแกไ้ ข. สารนพิ นธ์รัฐประศาสนศาสตร มาประยุกต์ใช้ในทุกขั้นตอนของกระบวนการจัดซ้ือ มหาบัณฑติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. จัดจ้าง เพ่ือเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วให้แก่ วิศาล บุปผเวส, (2555). รายงานฉบับสมบูรณ์ ประชาชนท่ีต้องการเข้าเป็นคู่สัญญากับภาครัฐ โครงการศึกษาผลกระทบจากการเปิด นอกจากน้ี ในแง่ของมาตรการป้องกันการทุจริต ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง คณะผู้วิจัยพบว่า ตลาดการคา้ เสรภี ายใตก้ รอบอาเซียน+3 และอาเซียน+6 และแนวทางการเจรจา สหรฐั อเมรกิ าถอื เปน็ ตวั อยา่ งทด่ี ใี นการพฒั นากลไก ที่ เ ห ม า ะ ส ม ส� ำ ห รั บ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย . ป้องกันและตรวจสอบการทุจริตในกระบวนการ สถาบนั วจิ ยั เพอื่ การพฒั นาประเทศไทย. จดั ซอื้ จดั จา้ ง เพราะมที ง้ั มาตรการตรวจสอบประวตั ิ สังศิต พิริยะรังสรรค์. (2549). ทฤษฎีคอร์รัปชัน. การเข้าเป็นคู่สัญญากับภาครัฐ มาตรการท�ำ กรงุ เทพฯ: รว่ มดว้ ยช่วยกนั . ประชาพจิ ารณใ์ นการจดั ซอื้ จดั จา้ งทมี่ ตี น้ ทนุ สงู รวมถงึ สังศิต พิริยะรังสรรค์, นวลน้อย ตรีรัตน์ และ มาตรการส่ังระงับการจัดซื้อจัดจ้างท่ีมีเหตุน่าสงสัย นพนันท์ วรรณเทพสกุล. (2547). ว่าอาจมีการทุจริตเกิดขึ้น มาตรการเหล่าน้ีล้วนแต่ เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจในการน�ำมาประยุกต์ใช้กับ คอร์รัปชันนักการเมือง ข้าราชการและ นักธุรกิจ. กรุงเทพฯ: สภาที่ปรึกษา ประเทศไทยอย่างมาก เพราะจะท�ำใหก้ ระบวนการ เศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาต.ิ จดั ซอ้ื จดั จา้ งมคี วามโปรง่ ใส รวดเรว็ และมปี ระสทิ ธภิ าพ มากข้นึ

98 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. Choi Tae Hee and Kim Dae Sik. (2013). Lambsdorff, J. G. (2007). The Institutional Korean Government Procurement Economics of Corruption and Experience. Reform: Theory, Evidence and Heywood, Paul. (1997). Political Corruption. Policy. United States of America: Great Britain, Norwich: Page Bros. Cambridge University Press, New James H. Anderson. A Review of Gover- York. Public Procument Service. (2013). nance and Anticorruption Indicators 2012 Modularization of Korea’s in East Asia and Pacific. Paper for conference on Evidence-Based Development Experience: Korean Anti-Corruption Policy, organised Government Procurement by Thailand’s National Anti- Corruption Commission (NACC) in Experience. Korea: Ministry of collaboration with the World Bank, Strategy and Finance. 5-6 June 2009, Siam City Hotel, Sirilaksana Khoman, Chayun Tantivasdaharn Bangkok, Thailand. and Phongthorn Wrasai. (2009). Jennifer A. Bensch. (1993). Seventeen Years Comparative Study ofAnticorruption Later: Has Government Let the Sun Shine in. George Washington Law Measures and Procedures in Review. Joel D. Hesch. (2011). Whistleblower Selected APEC Economies. Right and Protections: Critiquing Yanagimachi, Isao. (2004). Chaebol Reform Federal Whistleblower Laws And Recommending Filling in Missing and Corporate Governance in Korea, Pieces to Form a Beautiful Patchwork Policy and Governance. Working Quilt. Liberty University Law Paper Series 18, Keio University, Review. Japan. Joseph A. Cosentino, Jr. (1998). New York Executive Yuan Republic of China (Taiwan). City’s Procurement System: Clean, Efficient Government. (2014). Reversing The Cycle of Corruption Retrieved January 8, 2014, Available and Reactionary Reform, New York from: http://www.ey.gov.tw Law School Law Review. L. Paige Whitaker and Others. (2012). CRS Kathleen Clark. (1996). Do we have enough Report for Congress: The Whistle- ethics in government yet?: An blower Protection Act: Overview. answer from fiduciary theory, Retrieved September 26, 2013, University of Illinois Law Review. Available from: https://www.fas.org/ sgp/crs/misc/R42727.pdf Public Construction Commission, Available from: http://www.pcc.gov.tw/ pccap2/TMPLfronted/EngIndex. do?site=004

ปที ี่ 7 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม 2557) 99 Public Procurement Service.Role of PPS. Retrieved January 25, 2013,Available from: http://www.pps.go.kr/english/ The White House. Procurement Policy. Retrieved January 10, 2013,Available from: http://www.whitehouse.gov/ omb/procurement_default Transparency International. Corruption Perceptions Index 2011. Retrieved January 8, 2013, Available from: http://www.transparency.org/ cpi2011/results

100 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. การจดั ทำ� Benchmark ด้านคอร์รปั ชันสำ�หรับประเทศไทย * Construction of Corruption Benchmark in Thailand วิชัย รูปขำ� ดี I บทคดั ยอ่ วัตถุประสงค์ของการศึกษา คือ การพัฒนาเครื่องมือส�ำหรับประเมินสถานการณ์เกี่ยวกับ การคอร์รัปชันในประเทศไทย โดยใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์ (Evidence-based) เพ่ิมเติมจากข้อมูลที่ หลายหน่วยงานได้รายงานไว้แล้วในรูปแบบข้อมูลเชิงทัศนคติหรือการรับรู้ (Perception-based) เพอ่ื จดั ทำ� เปน็ ขอ้ เสนอเบอื้ งตน้ เกย่ี วกบั ตวั ชวี้ ดั โดยวธิ กี ารวจิ ยั จากเอกสารและตรวจสอบความตรงประเดน็ (Objectivity) ของเครือ่ งมือ ผลของการจดั ท�ำไดเ้ ครอื่ งมือประเมินท่มี ตี วั ช้ีวดั ทัง้ หมดจำ� นวน 59 ตัวชว้ี ัด ในการน้ีได้แยกตัวช้ีวัด 22 ตัวชี้วัดที่หน่วยงานภาครัฐได้เก็บรวบรวมข้อมูลไว้แล้วและสามารถน�ำมาใช้ ประเมินไดท้ นั ที สว่ นทีเ่ หลอื อกี 37 ตวั ชีว้ ดั ยังมไิ ด้มกี ารเกบ็ รวบรวมข้อมูลมากอ่ นควรเลือกมาใชเ้ ปน็ ตัวช้วี ดั ในอนาคตต่อไป คำ� สำ� คัญ: คอร์รปั ชัน เกณฑ์มาตรฐานคอรร์ ัปชัน ดา้ นคอรร์ ปั ชัน Abstract This paper reports an attempt to construct an evidence-based instrument using corruption indicators to evaluate the corruption situation in Thailand. The research methodology included documentary reviews and two brainstorming seminars by experts on corruption. The final selection employed 22 of 59 indicators to evaluate the corruption situation in Thailand. The other 37 indicators may have greater utility in the future should relevant data become available. Keywords: corruption, corruption benchmark * บทความน้เี ปน็ สว่ นหนง่ึ ของโครงการวิจยั เร่อื ง “การจดั ท�ำ Benchmark ดา้ นคอร์รัปชันส�ำหรับประเทศไทย” โดยได้ รบั ทนุ สนบั สนนุ จากส�ำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. I อาจารยพ์ เิ ศษคณะพฒั นาสงั คมและสิ่งแวดลอ้ ม สถาบนั บณั ฑติ พฒั นบริหารศาสตร์

ปที ี่ 7 ฉบบั ท่ี 2 (กรกฎาคม 2557) 101 1. บทนำ� ได้คะแนนเฉล่ีย 3.31 คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ในช่วงเวลา 17 ปีทผ่ี ่านมา จดั อย่ใู นอนั ดบั สถานการณ์คอร์รัปชันยังคงเป็นปัญหาอยู่ ระหวา่ ง 78 ถงึ 84 จากประเทศทง้ั หมดราว 180 ในวงการการเมือง ธุรกจิ การเงิน การลงทุน และอ่นื ๆ ประเทศ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งของหลายประเทศ จนเปน็ ทส่ี นใจทำ� การ เพอื่ เปน็ การประเมนิ สถานการณค์ อรร์ ปั ชนั ศึกษาและติดตามประเมินผลของหน่วยงานด้าน ในประเทศไทย ซึ่งควรสร้างเคร่ืองมือ และเกณฑ์ การพัฒนาหลายแห่ง เช่น องค์การสหประชาชาติ มาตรฐาน (benchmark) เพอื่ วดั ระดบั ความรนุ แรง ธนาคารโลก สถาบันการบริหารจัดการระหว่าง ของปญั หา ประเทศ และองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ บทความนี้แบ่งเป็น 4 ส่วน ส่วนแรกเป็น เปน็ ตน้ บทน�ำ ส่วนท่ีสองเป็นการเสนอกลไกและรูปแบบ สำ� หรบั ประเทศไทย พฤตกิ รรมทจุ รติ ฉอ้ ฉล ของการคอร์รัปชัน เพ่ือใช้เป็นกรอบแนวคิดในการ ยังคงเป็นไปอย่างกว้างขวาง ตลอดจนมีแนวโน้ม สร้างเครื่องมือและเกณฑ์มาตรฐานในการวัดระดับ รุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น ดังจะเห็นได้จาก ความรุนแรงของการคอร์รัปชัน ส่วนการสร้างและ 1) การน�ำเสนอของสื่อมวลชนอยู่เป็นประจ�ำ พฒั นาตัวช้ีวัดและเกณฑ์มาตรฐานเสนอในสว่ นที่ 3 2) ผลการตัดสินคดีของศาล ซึ่งเพิ่มข้ึนเป็น สรุปผลการศึกษาในส่วนที่ 4 และสุดท้ายข้อเสนอ จ�ำนวนมาก และ 3) รูปแบบการคอร์รัปชันที่ยาก แนะในส่วนท่ี 5 จะติดตามตรวจสอบเอาผิดได้ เช่น การคอร์รัปชัน เชงิ นโยบาย การซื้อขายต�ำแหน่งในหนว่ ยงานของรฐั 2. แนวคิดเพื่อสร้างเคร่ืองมือและเกณฑ์ ฯลฯ ทผี่ า่ นมาประเทศไทยยงั ไมม่ เี ครอื่ งมอื วดั ระดบั มาตรฐาน ความรุนแรงของการทุจริตคอร์รปั ชนั 1 การรายงาน สถานการณ์คอร์รัปชันด�ำเนินการโดยองค์กร 2.1 กลไกและรปู แบบของการคอรร์ ปั ชนั เพ่ือความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency กลไกสำ� คญั ทท่ี ำ� ใหก้ ารคอรร์ ปั ชนั เกดิ International) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระต่อต้าน และดำ� เนนิ การไดค้ อื กลไกการใชอ้ ำ� นาจ “อำ� นาจ” คอร์รัปชัน มีส�ำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสหพันธ์ เป็นส่ิงส�ำคัญอย่างหนึ่งท่ีจะท�ำให้ความต้องการ สาธารณรัฐเยอรมนีได้ใช้เคร่ืองมือท่ีเรียกว่า ดัชนี ของมนุษย์บรรลุเป้าหมายได้ ดังน้ัน นักการเมือง การรบั รคู้ อรร์ ปั ชนั (Corruption Perception Index: ขา้ ราชการ จงึ ยอมลงทนุ ทจ่ี ะซอื้ เสยี ง หรอื ซอื้ ตำ� แหนง่ CPI) ประเมินความโปร่งใสเชิงเปรียบเทยี บระหว่าง เพ่ือให้ได้มาซ่ึงอ�ำนาจที่เป็นทางการ เพ่ือใช้เป็น ประเทศต้งั แตป่ ี พ.ศ. 2538 สรปุ ได้วา่ ประเทศไทย เครอื่ งมอื ในการไปตอ่ ยอดหรอื ไปแสวงหาผลประโยชน์ มีคะแนนความโปร่งใสอยู่ในกลุ่มต่�ำ กล่าวคือ ทงั้ ทเี่ ปน็ ตวั เงนิ หรอื สนิ ทรพั ยใ์ นรปู ตา่ ง ๆ นกั การเมอื ง 1 ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ไดม้ กี ารรเิ ริม่ สรา้ งเครอื่ งมือวดั ความโปร่งใสของหน่วยงานภาครฐั ทีเ่ ปน็ การใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ ในปี พ.ศ. 2552 และได้มกี ารประเมินหนว่ ยงานน�ำรอ่ งและหน่วยงานอาสาสมคั รในปี พ.ศ. 2554 จ�ำนวน 45 หน่วยงาน และปี พ.ศ. 2555 จ�ำนวน 147 หนว่ ยงาน

102 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. ในประเทศด้อยพฒั นาหรอื กำ� ลงั พฒั นา เปน็ จำ� นวน สนิ บน ซงึ่ มกั จะตดั สนิ ไดย้ ากเพราะเปน็ สว่ นทป่ี กปดิ ไมน่ อ้ ยทลี่ งสสู่ นามการเมอื ง โดยมจี ดุ มงุ่ หมายเขา้ ไป กันเป็นความลับเสมอ กอบโกยเงินทอง สร้างความร่�ำรวยให้กับตนเอง เช่นเดียวกับ Friedrich (1972) และครอบครัว โดยมิได้ค�ำนึงว่าความร�่ำรวยท่ี ท่ีกล่าวไว้ว่า การคอร์รัปชันอาจจะเกิดข้ึนได้ใน เกิดจากอ�ำนาจท่ีมีอยู่นั้นได้มาด้วยความสุจริต เมือ่ ผู้ได้รับอำ� นาจ (Power Holder) ได้กระท�ำการ หรือไม่ โดยชัยอนันต์ สมุทวณิช (2519) กลา่ วไว้ว่า อย่างใดอย่างหน่ึง เช่น ให้เป็นผู้รับผิดชอบปฏิบัติ เคร่ืองมือหรือกลไกของผู้มีอ�ำนาจทางการเมือง หน้าท่ีการงานหรือครองต�ำแหน่งใดถูกจูงใจด้วย ตามระบอบประชาธิปไตย ได้แก่ พรรคการเมือง อำ� นาจเงนิ หรอื สนิ จา้ งรางวลั อยา่ งอน่ื อนั มคิ วรไดร้ บั หรือ พันธมิตรของพรรคการเมอื งที่มีฐานก�ำลงั จาก โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้กระท�ำการต่าง ๆ อำ� นาจทางเศรษฐกจิ แตท่ างดา้ นความชอบธรรมนน้ั อนั เปน็ คณุ แกผ่ ใู้ หส้ นิ จา้ งรางวลั และการกระทำ� เชน่ น้ี องิ อย่กู ับประชาชนผูม้ ีสทิ ธิออกเสยี งเลอื กตัง้ ท�ำให้ เป็นที่เสียหายแก่สาธารณชนและส่วนได้เสียของ ข้าราชการ พลเรือนต้องตกอยู่ใต้อ�ำนาจและการ ประชาชน ควบคุมของนักการเมอื ง ดังน้นั เมอ่ื นักการเมืองได้ ทั้งนี้ Robert Klitgaard คณบดีของ รับเลือกต้ังจากประชาชนให้เข้ามาท�ำหน้าท่ีฝ่าย Rand Graduate School รฐั แคลฟิ อรเ์ นยี ประเทศ บรหิ ารและนิติบญั ญัตขิ าดจติ ส�ำนึกในขณะท่ีตวั เอง สหรัฐอเมริกา ได้คิดสูตรอธิบายการเกิดพฤติกรรม มีทั้งอ�ำนาจและเงินย่อมจะท�ำให้คอร์รัปชันเติบโต คอรร์ ปั ชนั ไวว้ า่ การทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั จะเกดิ ขน้ึ เมอ่ื มี ขึ้นและปราบปรามยากขึ้น โดยเฉพาะการจัดท�ำ การผกู ขาด (monopoly) หรอื รวบอำ� นาจไวท้ แี่ หลง่ โครงการขนาดใหญ่จะต้องผ่าน กระบวนการตรวจ เดยี ว ประกอบรว่ มกบั ที่วา่ ผลการตัดสินใจใด ๆ ขึน้ สอบหลายชน้ั จงึ มผี ทู้ เี่ กยี่ วขอ้ งเขา้ มารบั สว่ นแบง่ ผล กับการใชด้ ุลยพินจิ (discretion) ของผู้มอี ำ� นาจนนั้ ๆ ประโยชนห์ ลายราย ท�ำให้การคอร์รปั ชันมลี ักษณะ เป็นส�ำคัญ ดังนั้น ท่ีใดหากมีมูลค่ารวมของการ เป็นระบบ (systemic) หรอื เปน็ ขบวนการมากข้ึน ผูกขาดและการเปิดโอกาสให้ใช้ดุลยพินิจมากกว่า ส่วน Lord Acton (1902) กล่าวไวว้ า่ อ�ำนาจมักน�ำ ความรับผิดชอบ ตรวจสอบได้ (accountability) ไปสู่การคอร์รัปชัน และการมีอ�ำนาจเบ็ดเสร็จก็มัก โอกาสของการทุจริต ไม่โปร่งใสจะเกิดตามมา ตามมาด้วยการคอร์รัปชันแบบเบ็ดเสร็จ (Power (อา้ งถึงใน ทิพาวดี เมฆสวรรค,์ 2543) tends to corrupt, and absolute power ในส่วนรูปแบบของการคอร์รัปชันน้ัน corrupts absolutely) ซงึ่ อำ� นาจเปน็ สว่ นประกอบ อาจแบ่งไดเ้ ป็น 3 รปู แบบ ดังนี้ ส�ำคัญของการฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างหน่ึง 1) การฉ้อราษฎร์บังหลวง โดยเฉพาะอ�ำนาจท่ีเป็นทางการ และใช้ไปในทาง จากการศึกษาทบทวนการให้นิยามความ ท่ีหันเหจากจุดมุ่งหมายเดิมของผู้ยึดถืออ�ำนาจ หมายและลกั ษณะการคอรร์ ปั ชนั ในรปู แบบของการ (Heidenheimer, 1970) ระบบการให้ค่าบริการ ฉ้อราษฎร์บงั หลวงโดยนกั วิชาการที่เกีย่ วข้อง ได้แก่ ในตัวเองแล้วไม่ใช่เป็นการฉ้อราษฎร์บังหลวง Myrdal (1968) และ ปรุ ะชยั เปย่ี มสมบูรณ์ (2545) นอกจากว่าได้มีการให้กันโดยจงใจท่ีจะเป็นการให้ พบว่า

ปที ี่ 7 ฉบบั ที่ 2 (กรกฎาคม 2557) 103 การคอร์รัปชันในรูปแบบของการ เราเรียกว่า “ระบบธนาธิปไตยอุปถัมภ์” เป็นตัว ฉอ้ ราษฎรบ์ งั หลวงเปน็ การกระทำ� ทกุ ลกั ษณะทเ่ี ปน็ เหลือบโกงกินสัมปทานโครงการต่าง ๆ ของชาติ ไปโดยมชิ อบ หรอื เปน็ การกระทำ� ทเ่ี หน็ แกป่ ระโยชน์ ซงึ่ เปน็ ผลมาจากวงจรการซอื้ เสยี ง คอรร์ ปั ชนั โกงกนิ ส่วนตนโดยใช้อ�ำนาจและอิทธิพลท่ีมีอยู่ตาม เพ่ือถอนทุนสร้างเครือข่ายหัวคะแนนเพิ่ม เพ่ือซื้อ ต�ำแหน่งหน้าท่ี หรืออาศัยฐานต�ำแหน่งท่ีเห็นแก่ เสียงการเลือกตั้งครั้งต่อไป ยิ่งนับวันจะขยายตัว ประโยชน์ส่วนตนโดยใช้อ�ำนาจและอิทธิพลที่มีอยู่ ทัง้ ในแง่ปริมาณและความรนุ แรง ตามต�ำแหน่งหน้าท่ี หรืออาศัยฐานต�ำแหน่งพิเศษ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย (2543) ได้สะท้อนให้ ที่ตนมีอยู่ในชีวิตท่ีเก่ียวข้องอยู่กับกิจการสาธารณะ เห็นถึงการแข่งขันทางการเมือง กรณีการเลือกตั้ง ของข้าราชการและเจ้าหน้าท่ีของรัฐท่ีมีต�ำแหน่ง ผวู้ า่ ราชการกรงุ เทพมหานครทมี่ กี ารตอ่ สเู้ ขม้ ขน้ ไมแ่ พ้ ต้ังแต่ระดับปฏิบัติการไปจนถึงระดับบริหารซึ่งมี การเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะ อ�ำนาจตัดสินใจ โดยการฉ้อราษฎร์เป็นการกระท�ำ การด�ำรงต�ำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ของข้าราชการและเจ้าหน้าท่ีของรัฐที่มีต�ำแหน่งใน ซง่ึ มวี าระในการดำ� รงตำ� แหนง่ เพยี ง 4 ปี จะไดเ้ งนิ เดอื น ระดับปฏิบัติการ ส่วนการบังหลวงเป็นการกระท�ำ รวมไปถึงค่าเบี้ยเลี้ยงประมาณ 4.9 ล้านบาท ของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐท่ีมีต�ำแหน่งใน แต่ในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครน้ัน ระดบั บรหิ ารซึง่ มีอ�ำนาจตดั สินใจ ก�ำหนดวงเงินในการหาเสียงไว้ไม่ให้เกินรายละ 21 2) การคอร์รัปชันโดยการร่วมมือกัน ล้านบาท ดังน้ันจึงได้มีการค้นหามูลเหตุจูงใจ หลายฝา่ ย ให้มีผู้สมัครแข่งขันชิงต�ำแหน่งผู้ว่าราชการ เน่ืองจากการฉ้อราษฎร์บังหลวงเกิดโดย กรุงเทพมหานครกันมาก พบว่ากรุงเทพมหานคร ข้าราชการเป็นหลักและอยู่ในองค์กรภาครัฐ มงี บประมาณในการบรหิ ารถงึ ปลี ะ 3 หมนื่ ลา้ นบาท แต่รูปแบบการคอร์รัปชันนี้เกิดโดยมีบุคคลนอก ซงึ่ เปน็ งบประมาณกอ้ นใหญ่ ทสี่ ามารถสรา้ งผลงาน วงราชการมาเก่ียวข้องหลายฝ่าย เช่น ผู้มีอิทธิพล ให้กับผู้บริหารและเกี่ยวโยงถึงการประมูลงาน ในทอ้ งถนิ่ นายทนุ หรอื แมแ้ ตน่ กั การเมอื ง ดงั จะเหน็ รบั เหมากอ่ สรา้ งในโครงการ ตา่ ง ๆ ของกรงุ เทพมหานคร ได้จากการแสดงแนวคิดเกี่ยวกับมูลเหตุการณ์ ได้ด้วย ด้วยแนวคิดดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า คอร์รัปชันในสังคมไทยของหลักวิชาการและ การคอรร์ ปั ชนั ทเ่ี กดิ ขนึ้ ในสงั คมไทยมที มี่ าจากปจั จยั หน่วยงานเอกชน ทางการเมืองเข้าไปเกย่ี วขอ้ งดว้ ย เริม่ ตงั้ แตก่ ารเข้าสู่ ธรี ยทุ ธ บญุ มี (2541) กลา่ วไวว้ า่ สาเหตุท่ี ต�ำแหน่งทางการเมืองด้วยการเลือกสมัครเป็น ท�ำให้ระบบราชการเต็มไปด้วยคอร์รัปชัน เกิดจาก สมาชิกพรรคการเมือง การถูกคัดสรรให้เป็น กลุ่มอุปถัมภ์ในชนบท ที่ก่อตัวเป็นเครือข่ายของ ผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ เพอื่ ไดต้ ำ� แหนง่ สมาชกิ สภาผแู้ ทน ระบบหัวคะแนนของผู้มีอิทธิพลท้องถ่ิน โดยมีกลุ่ม ราษฎร รฐั มนตรี หรอื นายกรฐั มนตรี ลว้ นมที ม่ี าจาก ทุนอภสิ ทิ ธ์ิ ทนุ ผิดกฎหมาย เช่น ทุนโครงการขนาด การซื้อเสียง จากนั้นเมื่อได้ต�ำแหน่งทางการเมือง ใหญ่ ทุนสัมปทาน ทุนพนัน ทุนของเถื่อน เป็น จงึ ไดใ้ ชอ้ ำ� นาจโดยชอบธรรมในการกำ� หนดนโยบาย ผปู้ ระสานงานความเคล่อื นไหวระดบั ชาติให้ หรือที่ และการบริหาร ซึ่งเป็นที่มาของการ “ถอนทุน”

104 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. ดังนั้นกระบวนการดังกล่าวจึงเกิดข้ึนเป็นวงจรท่ีฝัง 2.2 แนวคิดท่ีเก่ียวกับการป้องกันและ รากลกึ และกลายเปน็ วฒั นธรรมทางการเมอื งทน่ี ยิ ม ปราบปรามคอรร์ ปั ชัน ปฏบิ ตั ิกันจนถงึ ปัจจุบนั น้ี 1) หลกั ธรรมาภบิ าล ประกอบดว้ ย 6 3) การคอรร์ ัปชันเชิงนโยบาย ประการ คือ (1) หลักนิติธรรม (2) หลักคุณธรรม นอกจากรูปแบบการฉ้อราษฎรบังหลวง (3) หลักความโปร่งใส (4) หลักการมีส่วนร่วม และรูปแบบร่วมมือบุคคลภายนอกหลายฝ่าย ยังมี (5) หลกั ความรบั ผิดชอบ และ (6) หลักความคุ้มค่า อกี รปู แบบหนงึ่ ของการคอรร์ ปั ชนั ทป่ี รากฏบอ่ ยครงั้ ขนึ้ 2) การมสี ว่ นรว่ ม การมสี ว่ นรว่ มของ ในสงั คมไทย นัน่ คือ การคอรร์ ปั ชนั เชงิ นโยบาย ประชาชนต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล และ เกษียร เตชะพีระ (2545) กล่าวไว้ว่า คนภายนอก เพื่อให้ประชาชนได้แก้ไขปัญหา คอร์รัปชันเชิงนโยบาย (Policy corruption) วางแผน ตัดสินใจ ด�ำเนินการใช้ประโยชน์และ เป็นการคอร์รัปชันรูปแบบใหม่ในยุคโลกาภิวัตน์ ประเมนิ ผลตา่ ง ๆ ดว้ ยตวั ของประชาชนเอง จะทำ� ให้ ท่ีจับไม่ใคร่มั่นค้ันไม่ค่อยตาย เพราะถูกกฎหมาย ประชาชนยอมรับ ผกู พัน ใช้ประโยชน์จากกจิ กรรม แต่ผิดหลักประโยชน์สาธารณะ ผิดหลักจริยธรรม ของรฐั และเป็นเคร่อื งชว้ี ่าการตัดสนิ ใจในโครงการ ในการก�ำหนดและด�ำเนินนโยบายสาธารณะ พัฒนามาจากความตอ้ งการของประชาชน เปน็ การเบยี ดราษฎรบ์ งั ประชาชน เอาเปรยี บผบู้ รโิ ภค 3) การส่งเสริมการปกครองท้องถ่ิน เงอื่ นไขทางการเมอื งของคอรร์ ปั ชนั เชงิ นโยบายกค็ อื ประชาชนในท้องถ่ินควรมีส่วนร่วมในการปกครอง การทก่ี ลมุ่ ทนุ ใหญเ่ ขา้ ยดึ กมุ อำ� นาจรฐั ผา่ นการเลอื กตง้ั ทอ้ งถิน่ จากแนวความคิดทว่ี ่าประชาชนในท้องถ่นิ แล้วใช้อ�ำนาจสาธารณะท่ีตนได้มาตามรัฐธรรมนูญ เท่าน้ัน ท่ีจะรู้ปัญหาและวิธีการแก้ไขของตนเอง ด�ำเนินนโยบายโดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อเอ้ือ อย่างแท้จริง หน่วยงานปกครองท้องถิ่นจึงจ�ำเป็น ประโยชนแ์ กธ่ รุ กจิ ในเครอื ขา่ ยตนเอง ซงึ่ การคอรร์ ปั ชนั ตอ้ งมคี นในทอ้ งถนิ่ มาบรหิ ารงาน เพอื่ ใหส้ มเจตนารมณ์ เชิงนโยบายอาจมาจากพันธมิตร 3 ฝ่าย ได้แก่ และความต้องการของชุมชน และอยู่ภายใต้ รัฐวิสาหกิจ/หน่วยราชการท่ีรับผิดชอบ กลุ่มทุน การควบคุมของประชาชนในท้องถ่ิน นอกจากน้ัน เสน้ สายอปุ ถมั ภ์ ทมี่ อี ดตี ขา้ ราชการและนกั การเมอื ง ยงั เปน็ การฝกึ ใหป้ ระชาชนในทอ้ งถน่ิ เขา้ ใจในระบบ เข้าไปท�ำธุรกิจท่ีเกี่ยวข้องและทุนใหญ่ของบรรษัท และกลไกของประชาธปิ ไตยอยา่ งแทจ้ รงิ อีกด้วย ขา้ มชาติ 4) การป้องกันและปราบปราม นิพนธ์ พัวพงศกร (2543) กล่าวไว้ว่า คอรร์ ปั ชันแบบองคร์ วม การคอร์รัปชันเชิงนโยบายเป็นเครือข่ายซึ่งมิได้ ก. ภาครัฐ จำ� กดั อยเู่ ฉพาะภายในหนว่ ยราชการ แตม่ กี ารขยาย (1) สนับสนุนให้องค์กรอิสระและ เครอื ขา่ ยไปยงั ขา้ ราชการบางคนในหนว่ ยราชการอนื่ หน่วยงานปราบปรามการคอร์รปั ชนั ใชอ้ ำ� นาจตาม ท่ีเกี่ยวข้องกับการอนุมัติโครงการ เช่น ส�ำนัก กฎหมายอยา่ งจริงจัง และมีความโปร่งใส พรอ้ มท้ัง งบประมาณ เป็นตน้ สรา้ งการมีส่วนร่วมจากประชาชนและสงั คม (2) มาตรการด้านกฎหมายต้องรุนแรง

ปีท่ี 7 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม 2557) 105 และเฉียบขาด ขณะทกี่ ระบวนการตรวจสอบตอ้ งมี ง. สือ่ มวลชน ความชัดเจน (1) ต้องท�ำหน้าท่ีในการเฝ้าระวังและ (3) รัฐบาล หัวหน้าส่วนราชการต้องเป็น ตรวจสอบผู้บริหารประเทศในเร่ืองพฤติกรรม แบบอยา่ ง ไม่ทจุ รติ ตรวจสอบได้ การคอรร์ ัปชนั (4) สนบั สนนุ คนดี ขา้ ราชการทด่ี ี ใหก้ า้ วหนา้ (2) ตอ้ งตแี ผค่ วามไมโ่ ปรง่ ใสใหส้ าธารณชน หรือมีโอกาสรบั ใช้บา้ นเมือง ได้รับรู้เกี่ยวกับผู้บริหารประเทศ ท้ังฝ่ายการเมือง (5) จดั ใหม้ หี ลกั สตู รการเรยี นการสอนชใ้ี ห้ และข้าราชการ เหน็ ถงึ ภยั จากการคอรร์ ปั ชนั และตระหนกั ถงึ วธิ กี าร (3) ต้องเชิดชูคนดีให้สาธารณชนได้รับรู้ แก้ไขปญั หาอย่างจรงิ จงั เพอื่ คนรนุ่ ใหมจ่ ะได้ยึดเป็นตน้ แบบ ในการปฏิบตั ิ (6) สนับสนุนให้มีการวิจัยในเรื่องการ ปอ้ งกันและปราบปรามการคอรร์ ปั ชัน 3. การสร้างและพัฒนาตัวช้ีวัดและเกณฑ์ (7) พัฒนาคุณภาพคนให้มีระเบียบวินัย มาตรฐาน ซ่อื สตั ย์สุจริต จากการทบทวนและวิเคราะห์แนวคิด (8) ผูน้ �ำตอ้ งมีคุณธรรมและจริยธรรม ทงั้ 3 สว่ น ดงั ไดก้ ลา่ วมาแลว้ ขา้ งตน้ ทำ� ใหไ้ ดข้ อ้ สรปุ ข. ภาคประชาชน พื้นฐานที่เป็นแนวทางการสร้างเกณฑ์มาตรฐาน (1) องค์กรภาคประชาชนต้องเข้ามามี ด้านคอร์รัปชันส�ำหรับประเทศไทย ดังแสดงไว้ใน สว่ นรว่ มในการตอ่ ตา้ นคอรร์ ปั ชนั ตง้ั แตร่ ะดบั ชมุ ชน แผนภาพที่ 1 ดงั นี้ ทอ้ งถ่ินและระดบั ชาติ 1) แบ่งองค์ประกอบของชุดตัวช้ีวัดออก (2) องค์กรภาคประชาชนต้องรณรงค์ เป็น 2 ด้าน คือ ด้านการเพิ่มความรุนแรงของ เพ่ือเปลี่ยนทัศนคติประชาชนไม่เลือกนักการเมือง คอร์รัปชันกับด้านลดความรุนแรงของคอร์รัปชัน ทม่ี าจากการซอื้ เสียง หรอื ดา้ นการปอ้ งกนั ปราบปรามทง้ั ระยะสน้ั ระยะยาว (3) รณรงค์สร้างจิตส�ำนึกและเปลี่ยน และมิติความร่วมมือเป็นองค์รวม เพื่อวิเคราะห์ คา่ นยิ มใหมใ่ หป้ ระชาชนในสงั คมรวู้ า่ เงนิ ไมใ่ ชป่ จั จยั ท่ี การจ�ำแนกและถ่วงดุลระหว่างดา้ น น�ำไปสู่ความส�ำเร็จท่ีแท้จริง และผู้น�ำท่ีร�่ำรวยจาก 2) พิจารณาเหตุปัจจัยด้านการเพ่ิมและ การทจุ รติ ไม่ใชผ่ ู้น�ำที่เก่งและไมใ่ ช่คนดี การลดความรุนแรงของคอร์รัปชัน ทั้งท่ีเป็นปัจจัย ค. ภาคการเมือง ภายในที่ควบคุมได้ และท่ีเป็นปัจจัยภายนอก (1) ต้องมีการจัดระบบพรรคการเมืองใหม่ ประเทศทอี่ าจควบคมุ ไมไ่ ด้ เพื่อได้นักการเมืองท่ีมีคุณภาพ คุณธรรม เข้ามา 3) เนน้ ใหไ้ ดต้ วั ชวี้ ดั ทเี่ กดิ จากการวเิ คราะห์ สงั กดั พรรคในอนาคต และตอ้ งใหป้ ระชาชนมสี ว่ นรว่ ม กรณีท่ีเกิดขน้ึ จริง เพื่อสามารถนำ� ไปสตู่ วั ชว้ี ดั ท่ีเปน็ ในการตรวจสอบการท�ำงานของพรรคการเมืองได้ ลักษณะ Evidence-based มากขนึ้ (2) ต้องเร่งปลุกจิตส�ำนึกนักการเมือง 4) การเลือกตัวชี้วัดทั้งด้านเพ่ิมและลด ใหเ้ หน็ ถงึ ภยั จากการคอรร์ ปั ชนั ทอี่ าจนำ� ประเทศไปสู่ ความรนุ แรงในแตล่ ะองคป์ ระกอบ และดชั นขี องชดุ ความหายนะได้ ตัวชี้วัด อาจมีลักษณะผสมของประเภทตัวช้ีวัด

106 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ระหว่างตัวชี้วัดประเภทปัจจัยน�ำเข้า ตัวชี้วัด ข้ันตอนท่ี 5 สร้างเกณฑ์การประเมิน ประเภทกระบวนการ ตวั ชี้วัดประเภทผลผลติ และ คอร์รัปชันส�ำหรับประเทศไทย ประกอบด้วย 9 ตัวช้ีวัดประเภทผลลัพธ์ โดยพิจารณาจากความ กิจกรรม เช่น ก�ำหนดเกณฑ์และมาตรฐานการ ชัดเจนของตวั ชว้ี ัดแต่ละตวั ประเมินและจัดสัมมนารับฟังความเห็นของ 5) ในแต่ละประเด็นของการเพ่ิมและลด ผ้เู กยี่ วขอ้ ง เป็นต้น ความรุนแรงคอร์รัปชันอาจมีตัวช้ีวัดจ�ำนวนมาก ในการคดั เลอื กกลน่ั กรองตวั ชว้ี ดั จงึ ตอ้ งพจิ ารณาจาก ความเปน็ จรงิ และตน้ ทนุ ในการไดม้ าหรอื การเขา้ ถงึ ขอ้ มลู แตล่ ะเรอื่ งอกี ดว้ ย 6) การก�ำหนดเกณฑ์มาตรฐานพิจารณา จากระดับความรุนแรงของสถานการณ์คอร์รัปชัน ในอดตี โดยแบง่ ระดบั การบรรลเุ ปา้ หมายของเกณฑ์ มาตรฐานตามช่วงเวลาทเี่ หมาะสม ข้นั ตอนของการสรา้ งตวั ชว้ี ดั มี 5 ข้นั ตอน คือ ข้ันตอนท่ี 1 ส�ำรวจรวบรวมแนวคิด หลักการและวิธีการจัดท�ำชุดตัวชี้วัดและเกณฑ์ มาตรฐาน ดา้ นคอร์รัปชัน ประกอบดว้ ยการดำ� เนิน การรวม 5 กิจกรรม เช่น การวิจัยเอกสาร การร่วม ประชุมสัมมนา เป็นตน้ ขั้นตอนที่ 2 ร่างชุดตัวช้ีวัดระดับความ รุนแรงของคอร์รัปชัน ซ่ึงประกอบด้วยกิจกรรม สำ� คญั เชน่ ศกึ ษาเจาะลกึ จาก 25 กรณศี กึ ษา เปน็ ตน้ ขั้นตอนท่ี 3 คัดสรรกล่ันกรองชุดตัวช้ีวัด ประกอบด้วยกิจกรรมหลัก เช่น ส�ำรวจความเห็น ต่อชุดตัวช้ีวัด และจัดสัมมนารับฟังความเห็นเพ่ือ คัดสรรชุดตัวชว้ี ดั เปน็ ต้น ขั้นตอนที่ 4 ส�ำรวจแหล่งข้อมูลและ สถานภาพการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลตามชุดตัวช้ีวัด ท่ไี ด้รบั การคดั สรรไว้ และ

แผนภาพท่ี 1: แนวคิดเชงิ ระบบในการสร้าง Benchmark ดา้ นคอรร์ ปั ชัน 1. ใชแ้ นวคิดเชิงระบบ 1.2 กระบวนการ 1.3 ผลผลิตและผลลัพธ์ 1.4 บริบทดา้ นสภาพแวดล้อม 1.1 ปจั จัยน�ำเขา้ 6 . ท6.ม่ี1 าใแชขลท้ ะอัง้ งEPตveiัวdrชceenว้ี pcดั teio-bna-bseadseddata 2. จำ� แนกเครอื่ งมอื ประเมนิ เปน็ 2 ดา้ น 7. จ�ำแนกกลุม่ ผู้เก่ียวข้อง เป็น 5 กลมุ่ 6.2 เนน้ Evidence-based 2.1 ดา้ นเพม่ิ ความรุนแรง 2.2 ดา้ นลดความรนุ แรง 6.3 แหลง่ ขอ้ มูล 1) ฝ่ายการเมอื ง 3. กำ� หนดระดับเคร่ืองมือประเมนิ เปน็ 3 ระดับ 2) ฝา่ ยปฏิบตั ติ ามนโยบาย 1) เอกสาร 200 เลม่ 3.1 องคป์ ระกอบ (Component) รวม 10 ด้าน 3) ฝา่ ยปอ้ งกนั ปราบปราม 2) ส่อื หนงั สือพิมพ์หลัก 3 ฉบบั 4) ฝา่ ยธรุ กจิ 3) กรณศี ึกษา 25 กรณี 3.2 ดัชนี (Index) 5) ฝ่ายประชาชนและส่ือ 3.3 ตัวชว้ี ดั (Indicators) 4) การสมั ภาษณ์ Key informants 30 ราย 4. พิจารณาสภาพแวดล้อมภายในสงั คมไทย ปีที่ 7 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม 2557) 107 5) สมั มนาเบือ้ งต้น 6) ส�ำรวจความคิดเห็น 1,250 ตวั อยา่ ง 7) ความเหน็ และขอ้ เสนอแนะจากการ สัมมนา 2 ครั้ง 5. พจิ ารณาสภาพแวดล้อมภายนอกประเทศและประเทศเพอ่ื นบา้ น 8. ข้นั ตอนการสร้าง ใชห้ ลกั ความเรียบงา่ ย (Simplicity) เพ่ือให้เกดิ ความสะดวกจึงใช้ตัวทอี่ ่านงา่ ย ไม่ซบั ซอ้ นต่อการเขา้ ถงึ ข้อมลู การวิเคราะห์ประเมิน และการน�ำไปใช้ปฏิบตั เิ พอ่ื ให้บรรลผุ ล โดยแบง่ เป็นเคร่อื งมอื ประเมนิ ท่มี กี ารเก็บขอ้ มลู แล้ว กับเคร่อื งมือ ประเมนิ ทย่ี ังไม่มีการเกบ็ ขอ้ มูล 9. ขั้นตอนการพฒั นา อาจพจิ ารณาเพ่ิม/ลดตวั ช้วี ดั ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ทเี่ ปล่ยี นแปลงไป โดยพจิ ารณาถึงบทบาทของกลุ่มผูเ้ กยี่ วข้องทงั้ 5 กลุ่ม

108 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. 4. สรปุ ผลการศกึ ษา +157 คะแนน และ (2) กลมุ่ ตัวช้ีวัดเชงิ ลบมี 16 ตัว ชวี้ ดั คะแนนเตม็ -92 คะแนน เมอ่ื นำ� มารวมกนั แลว้ 4.1 ตัวช้ีวัดและเกณฑ์การประเมิน จงึ เทยี บเปน็ คะแนนเตม็ 10 คอรร์ ัปชันในประเทศไทย 4.2.4 เกณฑ์น้ีใช้หลักการประเมิน จากการวจิ ยั เอกสารวชิ าการทเ่ี กยี่ วขอ้ ง จากความคดิ เหน็ หรอื การรบั รู้ (Perception based และงานวิจัยราว 200 รายการในประเด็น กลไก approach) โดยท�ำการส�ำรวจความคิดเห็นจาก รูปแบบ ปัจจัยเหตุและผลของการคอร์รัปชัน บุคคลทีเ่ ปน็ แหลง่ ขอ้ มลู 5 กลมุ่ คอื (1) ประชาชน ในสังคมไทย พบว่า ในภาพรวมการคอร์รัปชัน ทั่วไป (2) ผู้เช่ียวชาญในประเทศ (3) นักธุรกิจใน มแี นวโนม้ รนุ แรงสลบั ซบั ซอ้ นยากตอ่ การตรวจสอบ ประเทศ (4) นกั ธรุ กิจตา่ งชาติ และ (5) ส่อื มวลชน ปอ้ งกนั และแกไ้ ขมากขนึ้ เชน่ มลี กั ษณะการคอรร์ ปั ชนั โดยแต่ละกลุ่มมีข้อค�ำถามแตกตา่ งกนั เชิงนโยบายอย่างกว้างขวางในวงเงินที่มากข้ึน 4.2.5 เกณฑน์ ใ้ี ชห้ นว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ ง มีผู้เกีย่ วข้องมากข้นึ เปน็ ต้น ที่ผา่ นมาการประเมิน ท�ำการประเมินข้อมูลในประเทศต่าง ๆ ประมาณ สถานการณ์คอร์รัปชันของประเทศไทยมาจาก 180 ประเทศ แลว้ นำ� คะแนนท่ีได้มาจดั อนั ดับตั้งแต่ การสำ� รวจโดยเครอ่ื งมือ CPI ขององค์กรเพ่ือความ สูงสุดไปจนต่�ำสุด ซ่ึงประเทศไทยได้คะแนน โปร่งใสนานาชาติเป็นหลัก แต่ยังขาดการประเมิน อยู่ระหว่าง 2.7 ถึง 3.8 ในช่วง 17 ปีท่ีผ่านมา ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ (Evidence-based) (พ.ศ. 2538 - 2554) โดยมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ท่ี ทีเ่ กดิ ขน้ึ ในประเทศไทย 3.31 คะแนน จากคะแนนเตม็ 10 คะแนน 4.2 สาระส�ำคัญและเกณฑ์การประเมิน จดุ เดน่ ของ CPI คอื การคัดเลอื กชุด คอรร์ ปั ชนั ขององคก์ ารเพื่อความโปรง่ ใส ตัวชี้วัดท่ีสามารถสะท้อนสถานการณ์คอร์รัปชัน 4.2.1 CPI เป็นดัชนีที่สร้างขึ้นโดยมี จากการรับรู้ได้ชัดเจน และมีการพัฒนาชุดตัวชี้วัด วัตถุประสงค์ในการประเมินความโปร่งใสของ ใหท้ นั สมยั สอดคลอ้ งกบั สถานการณท์ เ่ี ปลยี่ นแปลงไป ประเทศตา่ ง ๆ ทว่ั โลกเพอ่ื ใชเ้ ปรยี บเทยี บและตดั สนิ ใจ ตลอดจนเก็บข้อมูลจากกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการลงทนุ หรอื การวเิ คราะหด์ า้ นอน่ื ๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ที่หลากหลายรวม 5 กลุ่ม โดยใช้เกณฑ์มาตรฐาน กับคอรร์ ัปชัน จากระบบคะแนนเตม็ 10 หรือ 100 เพอื่ อธบิ ายให้ 4.2.2 เกณฑ์ในการสร้าง CPI เขา้ ใจง่าย ประกอบด้วยชุดตัวช้ีวัด รวม 42 ตัว แยกเป็น อยา่ งไรก็ตาม เครอื่ งมอื นก้ี ็มขี อ้ จ�ำกดั ตวั ชว้ี ัดประเภทปจั จยั นำ� เข้า 9 ตวั ตวั ช้วี ดั ประเภท บางประการ คือ ขาดตัวชี้วัดที่ครอบคลุมปัจจัย กระบวนการ 14 ตวั ตวั ชว้ี ดั ประเภทผลผลติ /ผลลพั ธ์ เฉพาะด้านของแต่ละประเทศ เช่น ด้านสังคม จำ� นวน 15 ตัว และ ตัวชีว้ ัดประเภทวดั ประสิทธิผล วฒั นธรรม คา่ นยิ ม และดา้ นปจั จยั แวดลอ้ มภายนอก 4 ตวั ประเทศ เป็นต้น ส่วนลักษณะการประเมินเน้น 4.2.3 ตัวชี้วัดท้ัง 42 ตัว มีคะแนน การใช้ตัวช้ีวัดเชิงความคิดเห็นหรือการรับรู้ และน�้ำหนกั แตกตา่ งกนั แบ่งเป็น 2 กลมุ่ ใหญ่ คอื (Perception-based) มากกว่าการให้ความส�ำคัญ (1) กลุ่มตัวชวี้ ดั เชิงบวกมี 26 ตวั ชี้วัด คะแนนเต็ม

ปที ี่ 7 ฉบบั ท่ี 2 (กรกฎาคม 2557) 109 กับตัวชี้วัดท่ีประเมินด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ มเี พยี ง 22 ตวั ชี้วัดเท่านั้นที่มีการจดั เก็บข้อมูลแล้ว (Evidence-based) และประการส�ำคัญ คือ ทเ่ี หลอื อกี 37 ตวั ชว้ี ดั ยงั ไมม่ หี นว่ ยงานใดเกบ็ ขอ้ มลู เกณฑ์น้ีมีผลลัพธ์ของคะแนนรวมเป็นเลขตัวเดียว ไว้เป็นระบบ จงึ ไดจ้ ดั แบ่งตวั ช้วี ัดออกเป็น 2 บญั ชี จึงยากท่ีจะน�ำไปใช้ก�ำหนดยุทธศาสตร์การป้องกัน คือ บัญชี ก. ประกอบด้วยชุดตัวชี้วัดท่ีมีการเก็บ และปราบปรามคอรร์ ัปชนั ในทางปฏบิ ตั ิ ข้อมูลแล้วโดยหนว่ ยงานภาครฐั จำ� นวน 22 ตวั ช้วี ดั 4.3 การสรา้ งชดุ ตวั ชวี้ ดั คอรร์ ปั ชนั สำ� หรบั สำ� หรบั ชดุ ตวั ชว้ี ดั ทย่ี งั ไมม่ กี ารเกบ็ ขอ้ มลู ไดแ้ ยกไวใ้ น ประเทศไทย บัญชี ข. เพื่อสามารถคัดเลือกและจัดล�ำดับน�ำมา ในการวเิ คราะหแ์ ละระดมความคดิ เหน็ จัดเก็บข้อมูลเพ่ือให้เป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์ต่อไป เพอ่ื ประมวลคดั เลอื กตวั ชว้ี ดั ในการศกึ ษานี้ ทำ� ใหไ้ ด้ รายการตัวช้ีวัดบัญชี ก. และ บัญชี ข. ปรากฏ ชุดตัวชวี้ ดั ทีค่ ัดเลอื กแล้วรวม 59 ตวั ชี้วัด แต่พบว่า ในตารางที่ 1 และ ตารางที่ 2 ตามลำ� ดับ ตารางท่ี 1: ตัวชวี้ ดั บัญชี ก. จำ� นวน 22 ตวั ชีว้ ัด รหสั ด้านเพมิ่ ความรุนแรงของระดบั คอร์รปั ชัน รหสั ด้านลดความรนุ แรงของระดบั คอรร์ ัปชัน หมวด 1 สถานการณค์ อรร์ ปั ชนั ในภาพรวม หมวด 6 การมกี ฎระเบยี บการปอ้ งกนั และ ก.1 จ�ำนวนเร่ืองที่เข้าสู่การพิจารณาของ 5 ปราบปรามคอรร์ ปั ชนั ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพและ หน่วยงานหลักท่ีตรวจสอบฝ่ายราชการ ประสทิ ธผิ ล (ป.ป.ช., ป.ป.ท., ปปง., สตง., และผตู้ รวจ หมวด 6.1 การมีกฎระเบียบท่ีสามารถ การแผน่ ดิน) ปฏิบัติได้ผลกับกระบวนการปัญหา ก.2 จ�ำนวนเร่ืองท่ีเข้าสู่การพิจารณาของ 2 กลมุ่ เปา้ หมายทมี่ อี ทิ ธพิ ล และพฤตกิ ารณ์ หน่วยงานหลักที่ตรวจสอบฝ่ายการเมือง การใชอ้ ิทธพิ ลของผทู้ ุจรติ (กกต. และ ศาลรฐั ธรรมนูญ) ก.14 ร้อยละของการตรากฎหมายท่ีเก่ียวข้อง ก.3 คะแนน CPI ของประเทศไทย ตามบทบัญญัติของรฐั ธรรมนูญ ก.15 ร้อยละของการด�ำเนินมาตรการตามบท บญั ญตั ิของรฐั ธรรมนญู หมวด 2 สถานการณ์คอร์รัปชันจาก หมวด 7 การมอี งคก์ รป้องกนั และปราบ ตน้ นำ�้ ถึงปลายน้�ำ ปรามคอร์รัปชันที่มีความเข้มแข็งและมี หมวด 2.1 การเก็บภาษีและการดูแล สมรรถนะ รกั ษาทรพั ยากรธรรมชาติ หมวด 7.1 ความพรอ้ มดา้ นบคุ ลากร ก.4 รอ้ ยละของจำ� นวนพื้นทป่ี า่ ทีถ่ กู บกุ รกุ ก.16 สดั สว่ นของเจา้ หนา้ ทต่ี อ่ จำ� นวนคดที รี่ บั ผดิ ชอบ (ดา้ นการเมือง)

110 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. รหสั ด้านเพม่ิ ความรนุ แรงของระดับคอรร์ ปั ชัน รหสั ดา้ นลดความรนุ แรงของระดบั คอร์รปั ชนั หมวด 2.2 การบริหารงบประมาณ หมวด 7.2 ความพร้อมดา้ นงบประมาณ (เจตนาและความเส่ียง) ก.17 อัตราการเพิ่มของงบประมาณประจ�ำปีที่ ก.5 สัดส่วนของงบประมาณที่ไม่ผ่านสภา หน่วยงานได้รับเมื่อเปรียบเทียบกับ ผูแ้ ทนฯ และ พ.ร.บ.งบประมาณเทียบกบั ปงี บประมาณทผี่ ่านมา (ดา้ นราชการ) งบประมาณท้งั ปี ก.18 อัตราการเพิ่มของงบประมาณประจ�ำปีท่ี ก.6 สัดส่วนของงบประมาณประเภทกองทุน หน่วยงานได้รับเม่ือเปรียบเทียบกับ ประชานิยมที่มีความเสี่ยงด้านการจัดการ ปีงบประมาณท่ีผ่านมา (ด้านการเมอื ง) ให้เกิดความโปร่งใสเทียบกับงบประมาณ ทง้ั ปี หมวด 3 เหตุปัจจัยภายในประเทศ หมวด 8 การสร้างและใช้เครือข่าย ก.7 ขา้ ราชการมเี งินเดอื นไม่เพยี งพอ ตอ่ ต้านการคอร์รปั ชนั ก.8 ทัศนคติต่อการยอมรับของสาธารณชน ก.19 การมีและเพิ่มขึ้นของขบวนการหรือ ตอ่ การคอรร์ ัปชัน องค์กรเฝา้ ระวังการทจุ ริต หมวด 4 เหตปุ จั จยั จากภายนอกประเทศ หมวด 9 ผลสมั ฤทธิข์ องการปอ้ งกนั และ หมวด 4.1 แรงงานผดิ กฎหมาย ปราบปรามคอร์รปั ชัน ก.9 จำ� นวนคนงานตา่ งดา้ วทงั้ ถกู กฎหมายและ ก.20 ผลส�ำรวจความพึงพอใจของประชาชนต่อ ผิดกฎหมายที่เขา้ มาทำ� งานในประเทศ การป้องกันปราบปราบคอร์รัปชันของ ก.10 การหลอกลวงหรือการค้ามนุษย์เพื่อ รัฐบาล ท�ำงาน หมวด 4.2 สนิ ค้าผดิ กฎหมาย หมวด 10 ความเชอ่ื มน่ั ของสาธารณชน ก.11 การลักลอบขนยาเสพติดเขตชายแดน/ ตอ่ การแก้ปญั หาคอรร์ ปั ชนั ของสงั คม การผลิตและการจับกุมยาเสพติดของ ก.21 ผลส�ำรวจความเชื่อม่ันของประชาชน ประเทศเพื่อนบ้าน การลักลอบของหนี ต่อการป้องกันปราบปรามคอร์รัปชันของ ภาษี/สินค้าปลอม รัฐบาล ก.12 หมวด 5 การใช้อิทธิพลขบวนการและ ก.22 ผลส�ำรวจความเชื่อมั่นของประชาชน เครอื ขา่ ย ต่อการป้องกันปราบปรามคอร์รัปชันของ ก.13 สัดส่วนของงบประมาณจากนโยบาย 5 หนว่ ยงานหลกั ประชานิยมที่ผ่านเงินไปยังคนจนแล้วใช้ กลไกธรุ กจิ ดดู เงนิ กลบั ไปยงั ธรุ กจิ พวกพอ้ ง ฝา่ ยการเมอื งโดยผลกั ภาระใหค้ นชนั้ กลาง ทมี่ า: คณะผ้วู จิ ยั

ปีท่ี 7 ฉบับท่ี 2 (กรกฎาคม 2557) 111 ตารางที่ 2: ตวั ช้ีวดั บญั ชี ข. จ�ำนวน 37 ตวั ช้วี ัด รหัส ดา้ นเพ่มิ ความรุนแรงของระดบั คอร์รปั ชนั รหัส ดา้ นลดความรุนแรงของระดับคอร์รัปชนั หมวด 1 สถานการณ์คอร์รัปชนั หมวด 6 การมีกฎระเบียบการป้องกัน ข.1 จ�ำนวนข่าวเก่ยี วกบั เร่อื งคอร์รัปชันใน และปราบปรามคอรร์ ปั ชนั ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ และประสทิ ธิผล ประเทศไทย หมวด 2 สถานการณ์คอร์รัปชันจาก หมวด 6.1 การมีกฎระเบียบที่สามารถ ต้นนำ�้ ถงึ ปลายน�้ำ ปฏิบัติได้ผลกับกระบวนการปัญหา หมวด 2.1 การเก็บภาษีและการดูแล กลมุ่ เปา้ หมายทมี่ อี ทิ ธพิ ลและพฤตกิ ารณ์ รักษาทรพั ยากรธรรมชาติ การใชอ้ ทิ ธิพลของผทู้ ุจริต ข.2 ระบบภาษีที่ยังขาดประสิทธิภาพและ ข.15 จำ� นวนกฎหมาย/ระเบยี บทเ่ี กยี่ วขอ้ งไดร้ บั ความเปน็ ธรรม และยงั มกี ารเออื้ ประโยชน์ การปรับปรงุ แกไ้ ขในรอบปที ผ่ี ่านมา จากเจา้ หนา้ ที่ ข.16 จำ� นวนกฎหมาย/ระเบยี บทอี่ อกขน้ึ มาใหม่ ข.3 การทรี่ ฐั และเจา้ หนา้ ทเี่ ออ้ื ประโยชนบ์ รษิ ทั หมวด 6.2 ผลของการปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย ต่างชาติเก็บค่าภาคหลวงตำ�่ ในการใช้ ข.17 ร้อยละของจำ� นวนคดีท่ีศาลรบั ฟอ้ ง ทรพั ยากรปิโตรเลียม เม่อื เปรยี บเทียบกบั จำ� นวนคดที ี่ ป.ป.ช. หมวดท่ี 2.2 การบริหารงบประมาณ ส่งฟอ้ งศาลในรอบปที ีผ่ า่ นมา (เจตนาและความเสย่ี ง) ข.18 ร้อยละของจ�ำนวนคดที ี่ศาลรับฟอ้ ง ข.4 ความร่วมมือระหว่างฝ่ายการเมืองกับ เมื่อเปรียบเทียบกบั จ�ำนวนคดที ่ี ป.ป.ท. ขา้ ราชการในหนว่ ยงานราชการขนาดใหญ่ สง่ ฟ้องศาลในรอบปที ผี่ า่ นมา จัดสรรงบประมาณให้ สส. ในระบบ ข.19 รอ้ ยละของจำ� นวนคดที ยี่ ดึ ทรพั ยข์ อง ปปง. งบประเทศ ข.20 ร้อยละของจ�ำนวนคดีท่ีศาลตัดสินว่า หมวดที่ 2.3 การใช้งบประมาณประจำ� ปี มีความผิดเม่ือเปรียบเทียบกับจ�ำนวนคดี ข.5 อตั ราทบี่ รษิ ทั เอกชนตอ้ งจา่ ยใหผ้ มู้ อี ำ� นาจ ท่ศี าลพจิ ารณาในรอบปที ผ่ี า่ นมา ในการรับงาน ข.21 จำ� นวนคดคี อร์รปั ชันในรอบปที ่ีผ่านมา หมวด 3 เหตุปจั จยั ภายในประเทศ หมวด 7 การมอี งค์กรปอ้ งกนั และปราบ ข.6 การเรียกร้องเงินหรือผลประโยชน์จาก ปรามคอร์รัปชันที่มีความเข้มแข็งและ สถาบันการศึกษาเพ่ือแลกเปลี่ยนการให้ มีสมรรถนะ เด็กได้เข้าเรียน หมวดที่ 7.1 ความพรอ้ มดา้ นบุคลากร ข.7 การเรียกร้องเงินหรือผลประโยชน์จาก ข.22 สดั สว่ นของเจา้ หนา้ ทต่ี ่อจำ� นวนคดี ข้าราชการ/นกั การเมือง ผู้มีอ�ำนาจรบั คน ทร่ี ับผดิ ชอบ (ดา้ นราชการ) เขา้ ทำ� งาน บรรจแุ ตง่ ตงั้ และเลอ่ื นตำ� แหนง่

112 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. รหสั ดา้ นเพิ่มความรุนแรงของระดับคอร์รัปชัน รหสั ด้านลดความรุนแรงของระดบั คอรร์ ปั ชนั ข.8 การใชบ้ รษิ ทั ทเ่ี ปน็ พวกพอ้ งของขา้ ราชการ/ ข.23 ร้อยละของบุคลากรในองค์กรที่ได้รับการ นกั การเมอื งทม่ี อี ำ� นาจอนมุ ตั จิ ดั ซอ้ื จดั จา้ ง พฒั นาทกั ษะ/ความรดู้ ้านการปอ้ งกนั และ เข้าประมูลงาน ปราบปรามคอร์รัปชัน ข.9 การเรียกร้องเงินหรือผลประโยชน์อ่ืนใน หมวด 7.3 ความพร้อมด้านฐานข้อมูล การประมลู /ลงทุน/จัดซอ้ื จัดจ้าง และเครือขา่ ย ข.10 การไมป่ ฏบิ ตั งิ านตามหนา้ ทคี่ วามรบั ผดิ ชอบ ข.24 รอ้ ยละของหนว่ ยงานภาครฐั ทม่ี รี ะบบฐาน ของนกั การเมอื ง/ขา้ ราชการในการปลอ่ ยปละ ข้อมูลเช่ือมโยงกับระบบฐานข้อมูลของ ล ะ เ ล ย ใ ห ้ มี ก า ร ป ร ะ ก อ บ อ า ชี พ ที่ ผิ ด ป.ป.ช./ป.ป.ท. กฎหมาย ข.25 รอ้ ยละของหนว่ ยงานเอกชนและสอื่ มวลชน หมวด 5 การใชอ้ ทิ ธิพล ขบวนการ และ ทม่ี รี ะบบฐานขอ้ มลู เชอื่ มโยงกบั ระบบฐาน เครือข่าย ข้อมูลของ ป.ป.ช./ป.ป.ท. ข.11 จ�ำนวนโครงการระดับชาติที่ไม่เสร็จตาม หมวดที่ 7.4 ประสทิ ธภิ าพการดำ� เนนิ งาน แผนงานและกอ่ ให้เกดิ ความเสียหาย ของหนว่ ยงานหลกั ข.12 จ�ำนวนโครงการระดับท้องถ่ินท่ีไม่เสร็จ ข.26 ระยะเวลาดำ� เนนิ การเฉลย่ี ของการตรวจสอบ ตามแผนงานและ ก่อใหเ้ กดิ ความเสยี หาย การคอรร์ ปั ชนั (ตง้ั แตก่ ารรบั เรอื่ งรอ้ งเรยี น ข.13 การไม่สามารถรกั ษาสทิ ธิประโยชน์ การส่งเร่ืองให้อัยการส่งฟ้องศาล) โดย ของประชาชนดา้ นการส่ือสารและ หน่วยงานหลักดา้ นราชการ โทรคมนาคมของชาติ ข.27 ระยะเวลาดำ� เนนิ การเฉลยี่ ของการตรวจสอบ ข.14 การเปดิ เสรอี าเซยี นทสี่ ง่ ผลใหเ้ กดิ ความเสยี่ ง การทุจริตการเลือกต้ัง (ต้ังแต่การรับเร่ือง ตอ่ การทุจรติ มากขน้ึ เช่น การลกั ลอบน�ำ ร้องเรียน-การส่งเรื่องให้อัยการส่งฟ้อง ผลผลิตการเกษตรมาจ�ำน�ำกับรัฐบาล ศาล) โดยหน่วยงานหลกั ดา้ นการเมอื ง เปน็ ตน้ หมวด 7.5 ความร่วมมือของหนว่ ยงาน ภาครัฐในการป้องกันและปราบปราม คอร์รัปชนั ข.28 รอ้ ยละของผดู้ ำ� รงตำ� แหนง่ ทางการเมอื งใน ระดบั ชาตแิ ละทอ้ งถนิ่ ทไี่ ดจ้ ดั ทำ� มาตรฐาน จรยิ ธรรมให้กบั ผตู้ รวจการแผน่ ดิน ข.29 ร้อยละของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของ รัฐท่ีได้จัดท�ำมาตรฐานจริยธรรมให้กับ ผู้ตรวจการแผน่ ดิน

ปีที่ 7 ฉบบั ท่ี 2 (กรกฎาคม 2557) 113 รหัส ด้านเพ่มิ ความรนุ แรงของระดบั คอรร์ ัปชัน รหัส ดา้ นลดความรนุ แรงของระดับคอรร์ ัปชนั หมวด 7.6 ความพรอ้ มดา้ นการพฒั นา ข.30 หน่วยงานหลักด้านราชการมีการใช้ งบประมาณเพื่อการพัฒนาบุคลากรตาม แนวทางของ ก.พ. ข.31 หน่วยงานหลักด้านการเมืองมีการใช้ งบประมาณเพื่อการพัฒนาบุคลากรตาม แนวทางของ ก.พ. หมวด 8 การสรา้ งและใชเ้ ครอื ขา่ ยตอ่ ตา้ น การคอร์รปั ชนั ข.32 จำ� นวนองคก์ รทเ่ี ปน็ เครอื ขา่ ยความรว่ มมอื กบั 5 หน่วยงานหลกั ข.33 จ�ำนวนกิจกรรมในรอบปีท่ีผ่านมาของ เครือข่ายความร่วมมือกับ 5 หน่วยงาน หลกั ข.34 การมีนวัตกรรมทางสังคมหรือทางการ บริหารที่จูงใจให้ประชาชนร่วมมือป้องกัน แกไ้ ขปัญหาการทุจริต ข.35 การมฐี านภาษที ก่ี ว้างข้ึนและเป็นธรรม หมวด 9 ผลสัมฤทธิข์ องการปอ้ งกันและ ปราบปรามคอรร์ ปั ชนั ข.36 ร้อยละของจ�ำนวนผู้กระท�ำความผิดท่ีได้ กนั ไวเ้ ปน็ พยานใหค้ วามรว่ มมอื กบั ป.ป.ช./ ป.ป.ท. หมวด 10 ความเชอื่ มน่ั ของสาธารณชน ต่อการแก้ปญั หาคอรร์ ัปชันของสังคม ข.37 ประเทศไทยเปน็ ผนู้ ำ� และไดร้ บั การยอมรบั จากประเทศอาเซยี นเรอื่ งลดคอรร์ ัปชนั ที่มา: คณะผวู้ จิ ัย

114 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. 4.4 เกณฑม์ าตรฐานทใ่ี ชส้ ำ� หรบั ชดุ ตวั ชว้ี ดั 8) ระบุความส�ำคัญของตัวช้ีวัดเพื่อ เพอื่ เปน็ แนวทางในการวเิ คราะหแ์ ละ ประโยชน์ในการคัดเลือกจัดล�ำดับการก�ำหนด การประมวลผลขอ้ มลู ของตวั ชวี้ ดั ในบญั ชี ก. ตลอดจน สาระส�ำคัญดังกล่าวข้างต้นอาจยกตัวอย่างให้เห็น การคดั เลอื กจดั ลำ� ดบั ความสำ� คญั ในการจดั เกบ็ ขอ้ มลู ดังแสดงไวใ้ นตารางที่ 3 ในบัญชี ข. ต่อไป จึงได้ก�ำหนดและจ�ำแนกสาระ ส�ำคัญของชุดตัวชี้วัดเป็นรายตัวช้ีวัด การค�ำนวณ เกณฑน์ ำ�้ หนักและการน�ำไปใช้ ดงั นี้ 4.4.1 การก�ำหนดและจ�ำแนกสาระ สำ� คัญรายตัวชวี้ ดั 1) ตัวช้ีวัดท้ัง 59 ตัว ได้ก�ำหนดรหัส ตามบัญชี ก. และ บัญชี ข. ไว้เพื่อพัฒนาให้เป็น เกณฑท์ ค่ี รอบคลมุ ตวั ช้ีวดั ส�ำคัญได้สมบรู ณต์ อ่ ไป 2) แตล่ ะตวั ชวี้ ดั มกี ารจำ� แนกวา่ อยใู่ น องค์ประกอบด้านเพ่ิมหรือลดความรุนแรงของ คอร์รัปชนั 3) แต่ละตัวชี้วัดอยู่ในกลุ่มดัชนี (หมวด) ใด 4) ก�ำหนดหน่วยวัดของทุกตัวชี้วัด เชน่ รอ้ ยละ จ�ำนวนคดี จำ� นวนโครงการ ฯลฯ 5) ระบแุ หล่งขอ้ มูล (ถ้าม)ี 6) ระบกุ ลมุ่ ผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ซึง่ จ�ำแนกเป็น 5 กลุม่ คือ ฝ่ายการเมือง ขา้ ราชการ ฝ่ายปฏิบัติ ข้าราชการฝ่ายป้องกันปราบปราม ฝา่ ยนกั ธรุ กจิ และประชาชน/สอ่ื มวลชนเพอ่ื สามารถ วเิ คราะหค์ วามเกยี่ วขอ้ ง ปจั จยั เหตุ และการกำ� หนด เกณฑม์ าตรฐานในยทุ ธศาสตรป์ อ้ งกนั และปราบปราม คอร์รปั ชนั ต่อไป 7) ระบุประเภทของตัวชี้วัดเพื่อ ประโยชนข์ องการวเิ คราะหเ์ หตปุ จั จยั การคอรร์ ปั ชนั และการวางแผนแกไ้ ข

ตารางท่ี 3: การก�ำหนดและจำ� แนกสาระส�ำคญั ของตวั ช้ีวดั การประเมนิ ระดบั คอร์รัปชนั สำ� หรบั ประเทศไทย รหสั - องค์ประกอบ: เพิม่ /ลดความรุนแรง หนว่ ยวดั การจัดเก็บข้อมลู กล่มุ คนที่เกี่ยวขอ้ ง ประเภทตวั ชว้ี ดั ระดบั ความสำ� คญั ตวั ชี้วดั - ดชั นี (Index): หมวด แหลง่ ยงั มไิ ด้มี 1. ฝา่ ยการเมือง I= ปัจจัยน�ำเขา้ 1. ระดบั มาก ขอ้ มูล การเกบ็ 2. ขา้ ราชการฝา่ ยปฏบิ ตั ิ P=กระบวนการ 2. ระดับคอ่ นข้างมาก - ตัวชวี้ ดั (Indicator): ขอ้ ความ ขอ้ มลู 3. ฝา่ ยธุรกิจ O= ผลลัพธ์ 3. ระดบั คอ่ นข้างน้อย [ คำ� อธบิ ายและตัวอย่าง (ถา้ มี) ] 4. ขา้ ราชการฝ่ายป้องกนั E= ประสทิ ธิผล 4. ระดับน้อย ปราบปราม 5. ประชาชน/สื่อมวลชน กล่มุ ตัวชีว้ ัดด้านเพมิ่ ความรุนแรง ร้อยละ รายงาน - 1-5 O, I, E มาก หมวด 1 สถานการณ์คอรร์ ปั ชันในภาพรวม ประจำ� ปี - พิจารณาจากทั้งผลลัพธ์ ปัจจัยเหตุและ ของ 5 ปีที่ 7 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม 2557) 115 กระบวนการที่สมั พันธก์ นั อย่างซบั ซ้อน หนว่ ยงาน - สถานการณใ์ นภาพรวมบอกถงึ ระดบั ความ รุนแรงเชิงผลลัพธ์และประสิทธิผล แต่ขาด หลกั การจ�ำแนกผู้รับผดิ ชอบ 1 จ�ำนวนเร่ืองที่เข้าสู่การพิจารณาของ 5 หน่วยงานหลักที่ตรวจสอบฝ่ายราชการ ได้แก่ ป.ป.ช., ป.ป.ท., ปปง., สตง. และ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ท่ีมา: คณะผู้วิจัย

116 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. 4.4.2 การค�ำนวณระดับความรนุ แรง รวมและปรับค่าเป็นด้านเพิ่มความรุนแรงและ ของคอรร์ ัปช4นั .4ส.�ำ2หรกบัารปคราํะนเทวศณไทระยดบั ความรนุ แรงของดคา้ อนรลร์ ดปั คชวันามสรํานุหแรรับงปขรอะงเคทอศรไ์รทัปยชันเป็นสัดสว่ น 33 : เ พ่ื อ ใ ห ้ มี ก า ร ป ร ะ เ มิ น ผ ล ด ้ า น ล ด 67 ตามผล CPI ปี พ.ศ. 2554 โดยมสี ตู รการคำ� นวณ ควเาพม่อืรในุ หแ้มรีกงขาอรปงรระะดเมบั ินคผอลรร์ดปั า้ ชนนัลดโดคยวกามารนุ ำ�แคระงแขนอนงระดดบั ังคตอารรร์ าัปงทชัน่ี 4โดยการนําคะแนนในแต่ละตวั ชว้ี ัด ในแจตํานล่ วะนตวั 2ช2ว้ี ดัตัวจชำ� ้ีวนัดวหนล2กั 2มตาวัปชรว้ีะดั มหวลกัรวมมาแปลระมปวรลับค่าเปน็ ด้านเพิ่มความรนุ แรงและดา้ นลดความรุนแรงของคอรร์ ัปชันเป็นสัดส่วน 33 : 67 ตามผล CPI ปี ตาพรา.ศง.ท2่ี 45:54สตู โดรกยามรีสคตู ำ� รนกวาณรคาํ นวณดังตารางที่ 4 ตตวั าชร้ีวาัดงท่ี 4น: ำ�้สหูตนรกั า(รjค) ํานวณ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนเทยี บ คะแนนทไ่ี ด้ คะแนนถ่วงนำ้� หนกั ต(iวั) ช้วี ดั ตากมับะเเกปดรณ้าะบั หดฑคับมว์กาคาายวมรขาใสหมอํางค้สเรต�ำะ็จัวเแรตชน็จา้วีนมัดเเทปยี ้าบหกมบัายร (SMคะi)แนนที่ได้ (Wคj ะxแSนMนถi)ว่ งน้ําหนกั (i) น้าํ หนัก (j) (SMi) (Wj x SMi) 1 ข2องตวั ช3้ีวดั 4 5 KPI1.1 W1.1 1 2 3 4 5 SM1.1 (W1.1 x SM1.1) KPKI1P.I21.1 W1.2 W1.1 SM1.2SM1.1 (W1.2(xWS1M.11x.2S) M1.1) ทมี่ ทKาPี่มKK:IาP…PสI1:Iำ�….สน2าํักนงากั นง∑าWคWนณ…ค(ะjณ)ก∑WWะรW1กร…ม.(ร2jร)กมากรพารฒั พนฒั านระาบระบบรบาชรากชากร,าร2,525535. 3. SM…SSMM1….2 (∑W(…W(jxW(∑xWS1SM(.…W2M…jxxi))xSSSMMM…1i.))2) รอ้ รย้อลยะลผะลผรลวรมวคมะคแะนแนนเนฉลเฉีย่ ลถ่ยี ว่ ถงว่นง�้ำนหา้ํ นหกั นเักทเ่าทก่าบั กบั ∑ (Wj x SMi) x 10 หรอื (W1.1 x SM1.1) + (W1.2 x SM1.2) + … x 10 ∑Wj W1.1 + W1.2 + … โดยท่ี : หมายถึง นํา้ หนกั ความสาํ คญั ท่ีใหก้ ับตวั ช้ีวดั ทกี่ าํ หนดขึน้ และ W หมายถงึ ผลรวมของนํ้าหนกั ของทุกตัวชวี้ ดั เทา่ กบั 1 SM หมายถงึ คะแนนทไี่ ดจ้ ากการเทยี บกบั ระดบั เกณฑ์ท่ีกาํ หนด 1.1, 1.2 ในแต่ละตัวชี้วดั ลําดบั ที่ของตวั ช้ีวดั ทกี่ าํ หนด ซ่งึ มี 2 ตวั ชีว้ ดั ได้แก่ ตวั ชวี้ ดั ท่ี 1.1 และ ตัวช้วี ัดท่ี 1.2 4.4.3 การประมวลผลเปน็ ค่าดชั นีชี้วัดคอร์รปั ชันของประเทศไทย การคาํ นวณเพอื่ ทราบวา่ ระดบั คอรร์ ปั ชันของประเทศไทยในแตล่ ะปีมคี า่ เทา่ ใดสามารถคําน วณไดจ้ ากคะแนนของตวั ช้วี ดั ยอ่ ยในแตล่ ะดา้ นซ่งึ จะนํามารวมกนั เพอ่ื ให้เหน็ ภาพของแต่ละด้าน

ปที ี่ 7 ฉบบั ท่ี 2 (กรกฎาคม 2557) 117 4.4.3 การประมวลผลเป็นค่าดัชนี เกี่ยวข้องหรือผู้รับผิดชอบจึงแบ่งตัวช้ีวัดเป็น 5 ช้ีวัดคอร์รัปชนั ของประเทศไทย ลักษณะ คือ 1) ฝ่ายการเมือง 2) ข้าราชการและ การค�ำนวณเพ่ือทราบว่าระดับคอร์รัปชัน รฐั วสิ าหกจิ ฝา่ ยปฏบิ ตั ิ 3) ขา้ ราชการฝา่ ยปอ้ งกนั และ ของประเทศไทยในแต่ละปีมีค่าเท่าใด สามารถ ปราบปรามคอรร์ ปั ชนั 4) ธรุ กจิ เอกชน 5) ประชาชน คำ� นวณไดจ้ ากคะแนนของตวั ชวี้ ดั ยอ่ ยในแตล่ ะดา้ น และส่ือมวลชน ท้ังน้ีโดยแยกประเมินผลค�ำนวณ ซึ่งจะน�ำมารวมกันเพ่ือให้เห็นภาพของแต่ละด้าน เฉพาะกลุ่มบุคคลตามเกณฑ์การค�ำนวณดังกล่าว ได้แก่ คะแนนด้านเพิ่มความรุนแรงของคอร์รัปชัน แลว้ ข้างตน้ 67 คะแนน และด้านลดความรุนแรงของคอรร์ ปั ชัน 33 คะแนน จากนั้นจะน�ำคะแนนท้ัง 2 ด้าน 5. ขอ้ เสนอแนะ มารวมกันเพ่ือดูภาพรวมว่ามีคะแนนเป็นเท่าใด 1) สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ควรตงั้ คณะกรรมการ และน�ำตัวเลขทไ่ี ด้มาจดั ระดับคอร์รัปชนั ซึ่งจะมีค่า หรือคณะท�ำงานพิจารณาด�ำเนินการให้มีการน�ำ ระหว่าง 0 ถงึ 100 คะแนน เกณฑ์มาตรฐานไปสู่การปฏิบัติร่วมกันในกลุ่ม ผลรวมคะแนนตัวชี้วัดคอร์รัปชันของ หน่วยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ไดแ้ ก่ ป.ป.ช., ป.ป.ท., สตง., ประเทศไทยจะปรับเป็นค่าร้อยละเพ่ือให้เกิดความ ปปง. และหนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งอน่ื ในลกั ษณะเครอื ขา่ ย สะดวกในการพิจารณา และแปลผลตามการจัด อันจะท�ำให้เกิดความร่วมมือในการวางแผนจัดเก็บ ระดบั คอร์รัปชันดังน ้ี รวบรวมข้อมูลที่จะน�ำมาใช้ในการจัดท�ำและพัฒนา 1) มากทสี่ ดุ หมายถงึ มคี ะแนนตวั ชวี้ ดั รวม เกณฑ์มาตรฐานด้านคอรร์ ปั ชนั ตอ่ ไป ต้งั แต่ 80.01 คะแนนขึน้ ไป 2) วางแผนจัดเก็บรวบรวมขอ้ มูลประจ�ำปี 2) มาก หมายถึง มีคะแนนตัวชี้วัดรวม เพ่ือเป็นฐานของเกณฑ์มาตรฐานด้านคอร์รัปชัน ระหวา่ ง 60.01 ถึง 80.00 คะแนน สำ� หรบั ประเทศไทย ทส่ี อดคล้องกับระยะเวลาของ 3) ปานกลาง หมายถึง มีคะแนนตัวชี้วัด แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับท่ี 11 รวมระหว่าง 40.01 ถงึ 60.00 คะแนน (พ.ศ. 2555-2559) ท้งั น้อี าจพิจารณาขอ้ มูลท่ีมีอยู่ 4) น้อย หมายถึง มีคะแนนตัวช้ีวัดรวม ในปจั จบุ นั และขอ้ มลู ทส่ี ามารถจดั เกบ็ ยอ้ นหลงั ไป 3 ปี ระหวา่ ง 20.01 ถึง 40.00 คะแนน เพอื่ นำ� มาประกอบการพจิ ารณาคดั เลอื กตวั ชวี้ ดั จาก 5) น้อยที่สุด หมายถึง มีคะแนนตัวชี้วัด ข้อเสนอในรายงาน และเม่ือเลือกก�ำหนดตัวชี้วัดท่ี รวมระหวา่ ง 0.00 ถงึ 20.00 คะแนน เหมาะสมจากรายงานแล้ว จึงวางแผนงบประมาณ 4.4.4 เกณฑ์การประเมินผลการ เพอื่ จดั เกบ็ ขอ้ มลู สำ� หรบั ตวั ชว้ี ดั ทไี่ มม่ ขี อ้ มลู เดมิ และ ด�ำเนนิ งานแกป้ ญั หาคอร์รัปชัน ต้องจัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งน้ีอาจเลือกตัวชี้วัดที่ เพ่ือให้การประเมินผลสามารถสะท้อน ส�ำคัญเพ่ือเก็บข้อมูลเพ่ิมข้ึนตามความเป็นไปได้ ให้เห็นท้ังระดับภาพรวมของความรุนแรงของ ดา้ นงบประมาณ ซงึ่ จะทำ� ใหม้ กี ารพฒั นาเกณฑม์ าตรฐาน สถานการณ์คอร์รัปชันและสามารถจ�ำแนกความ ในชว่ ง 5 ปขี องแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ แตกต่างของผลการด�ำเนินงานในกลุ่มบุคคลที่ ฉบบั ท่ี 11 เพอ่ื สามารถนำ� ไปใชว้ เิ คราะหเ์ ปรยี บเทยี บ

118 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. กบั ช่วงเวลาในแผนพฒั นาฯ ฉบับตอ่ ไปได้ เอกสารอา้ งองิ 3) เมอื่ กำ� หนดกรอบตวั ชวี้ ดั แตล่ ะปใี นชว่ ง แผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี 11 แล้ว ควรเผยแพร่ให้ เกษยี ร เตชะพรี ะ. (2545, มกราคม 26). คา่ โง่กบั สาธารณะทราบถงึ กรอบตัวช้วี ัด เกณฑม์ าตรฐานท่ี การคอร์รปั ชันเชิงนโยบาย. มตชิ น, หน้า 6. จะใช้ ตลอดจนกลุ่มบุคคลผู้รับผิดชอบแต่ละกลุ่ม ตามเกณฑ์นี้ เพ่ือกระตุ้นการรับรู้และการให้ความ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สำ� คญั ของกลมุ่ ผรู้ บั ผดิ ชอบ โดยเฉพาะฝา่ ยการเมอื ง แหง่ ชาตริ ว่ มกบั ภาคกี ารพฒั นาทกุ ภาคสว่ น. และรัฐบาล บทสรปุ ยทุ ธศาสตรช์ าตวิ า่ ดว้ ยการปอ้ งกนั 4) นำ� เกณฑม์ าตรฐานนไี้ ปใชเ้ ปน็ เครอ่ื งมอื และปราบปรามการทจุ รติ . ยทุ ธศาสตรช์ าติ ของแผนยุทธศาสตร์การป้องกันปราบปรามและ วา่ ดว้ ยการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ . แก้ไขการคอร์รัปชัน เพ่ือจัดท�ำเป็นตัว KPI และ กรงุ เทพฯ. เกณฑ์การประเมินผลส�ำหรับหน่วยปฏิบัติต่อไป ส�ำหรับกลุ่มบุคคลฝ่ายการเมืองและประชาชน ชยั อนนั ต์ สมทุ วณชิ . (2519). ผลของการคอรร์ ปั ชนั ซง่ึ มไิ ดม้ แี ผนยทุ ธศาสตรเ์ หมอื นฝา่ ยปฏบิ ตั ิ ควรนำ� เสนอ ท่ีมีต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและ ผลแกส่ าธารณะเพอ่ื ใหท้ ราบคะแนนผลการประเมนิ การเมือง. กรุงเทพมหานคร : สถาบัน ด้านคอร์รัปชนั ในกลมุ่ ท่ีเกี่ยวขอ้ ง บณั ฑติ พัฒนบรหิ ารศาสตร.์ 5) ควรมีการปรับปรุงและพิจารณาเกณฑ์ มาตรฐานน้ีเป็นระยะทั้งการปรับปรุงด้านตัวชี้วัด ทิพาวดี เมฆสวรรค์. (2543). พฤติกรรมการ และเกณฑม์ าตรฐานทใ่ี ช้ เพอื่ ใหเ้ ปน็ เกณฑท์ เ่ี หมาะสม คอรร์ ปั ชนั ของขา้ ราชการไทย. กรงุ เทพฯ: สอดคล้องกับสถานการณ์ของสังคมและปัจจัย สำ� นกั งานคณะกรรมการขา้ ราชการพลเรอื น. ภายนอกท่เี กี่ยวขอ้ งอยู่เสมอ ธรี ยทุ ธ บญุ ม.ี (2541). ความจำ� เปน็ ของการมธี รรม รัฐในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: คณะ รฐั ศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั . นพิ นธ์ พัวพงศกร และคณะ. (2543). ยุทธศาสตร์ การต่อต้านคอร์รัปชันในในประเทศไทย พ.ศ.2543. รายงานการศึกษาได้รับทุน สนับสนุนจากธนาคารโลก ส�ำนักงาน คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน และ ส�ำนกั งานบรหิ ารหนสี้ าธารณะ ส�ำนักงาน เศรษฐกิจการคลงั . ประเวศ วะสี. (2543). รัฐบาลใหม่หลังปฏิรูป การเมืองคนไทยต้องการ. มูลนิธิองค์กร กลางเพ่ือประชาธิปไตย. ปรุ ะชัย เปยี่ มสมบรู ณ์. (2545, มิถุนายน 29 - 30). ปูน�ำร่องถอนราก ปราบ ขรก. ซ้ือขาย ต�ำแหน่ง 5 จว. ผจู้ ดั การรายวนั ,12.

ปที ่ี 7 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม 2557) 119 เปรม ติณสูลานนท์.(2544). มองกองทัพผ่าน ผลงานรฐั บรุ ษุ พลเอกเปรม ตณิ สลู านนท.์ กรุงเทพฯ: กองทัพบก และมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม. พรศักดิ์ ผอ่ งแผว้ . (2539). องค์ความรวู้ า่ ด้วยการ ทจุ รติ และประพฤตมิ ชิ อบในวงราชการไทย. รายงานการวิจัย. กรุงเทพฯ : ส�ำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทจุ รติ แห่งชาติ. พรศกั ด์ิ ผอ่ งแผว้ . (2543). ดชั นคี อรร์ ปั ชนั ของไทย: การสรา้ งและการตรวจสอบความเชอ่ื ถอื ได.้ กรุงเทพฯ: ส�ำนักงานคณะกรรมการ ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาต.ิ ศนู ยว์ จิ ยั กสกิ รไทย. (2543, กรกฎาคม). ศกึ ชงิ ผวู้ า่ ฯ กทม.: ขุมทรัพย์ 3 หมืน่ ล้าน. มติชน. อานนั ท์ ปนั ยารชนุ . (2543). ปาฐกถาพิเศษความ โปร่งใสและธรรมรัฐ. องค์การเพื่อความ โ ป ร ่ ง ใ ส ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย แ ล ะ ศู น ย ์ สาธารณประโยชน์และประชาสังคม. สถาบันบณั ฑติ พฒั นบรหิ ารศาสตร์. Friedrich, C.J.. (1972). The Pathology Politics; violence, betrayal, corruption, secrecy and propaganda. New York: Harper & Row. Heidenheimer, A.J.. (1970). Political Corruption: Readings in Comparative Analysis. New York : Holt, Rinehart and Winston, Inc. Myrdal, G.. (1968). The Folklore of Corruption. The Asian Magazine. 8 (24).

120 วารสารวิชาการ ป.ป.ช.

3ตอนที่ ป.ป.ช.ปกณิ กะ NACC Miscellaneous

122 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ยทุ ธศาสตรแ์ ละแผนงานดา้ นการวจิ ยั ของศนู ยว์ จิ ยั เพ่อื ต่อตา้ นการทจุ ริต ปว๋ ย อ๊ึงภากรณ์ ส�ำ นักงาน ป.ป.ช. ณัฐวุฒิ สมบูรณ์ย่งิ I การทุจริตเป็นปัญหาที่ทุกประเทศในโลก ไม่เคยได้คะแนนเกินกว่าคร่ึงหน่ึงของคะแนนเต็มท่ี ประสบอยู่ปัจจุบัน โดยมีระดับความรุนแรงและ ส�ำรวจเลย โดยในชว่ งปี พ.ศ. 2538 - 2554 ซ่งึ มี การรับรู้แตกต่างกันไป ดังเห็นได้จากการที่องค์กร ค่าคะแนนเต็ม 10 ประเทศไทยได้ค่าคะแนนเฉล่ีย เพ่ือความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency 3.3 คะแนน สูงสุด 3.8 คะแนน และต่�ำสุด 2.8 International - TI) ได้ท�ำการส�ำรวจภาพลักษณ์ คะแนน และในปี พ.ศ. 2555 องค์กรเพ่ือความ การคอร์รัปชันที่รู้กันโดยทั่วไปในนามดัชนีภาพ โปร่งใสนานาชาติมีการปรับเกณฑ์การประเมินเป็น ลักษณ์การคอร์รัปชัน (Corruption Perception คะแนนเต็ม 100 คะแนน ประเทศไทยได้คะแนน Index - CPI) 37, 35 และ 38 คะแนน ในปี พ.ศ. 2555, 2556 จากผลการส�ำรวจดัชนีภาพลักษณ์ และ 2557 ตามล�ำดับ ซึ่งค่าคะแนนน้อยหมายถึง การคอรร์ ปั ชนั ของประเทศไทย จะพบวา่ ประเทศไทย การรับรูภ้ าพลกั ษณก์ ารทจุ ริตของประเทศสงู คะแนน ทม่ี า : องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International-TI) I นกั วิจัยสงั คมศาสตรป์ ฏบิ ตั ิการ ศูนยว์ ิจยั เพ่อื ต่อต้านการทุจริต ป๋วย อ๊งึ ภากรณ์ ส�ำนกั งาน ป.ป.ช.

ปีท่ี 7 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม 2557) 123 ในสภาวการณ์ของโลกยุคโลกาภิวัตน์ (paradigm shift) ในรปู แบบใหม่ ๆ (Globalization) ท่ีมีลักษณะของ (1) การพัฒนา ศูนย์วิจัยเพื่อต่อต้านการทุจริต ป๋วย ของเทคโนโลยี การคมนาคมส่ือสาร และข่าวสาร อึ๊งภากรณ์ เป็นหน่วยหลักด้านการวิจัยของ สมัยใหม่ ท�ำให้การเปลี่ยนแปลงต่างๆ สามารถ สำ� นกั งาน ป.ป.ช. มหี น้าท่ขี บั เคล่ือนการดำ� เนนิ งาน เกิดขึ้นได้ในช่ัวพริบตา ทั้งในทางสร้างสรรค์และ ด้านการวิจัยเพ่ือสนับสนุนการด�ำเนินงาน ในทางท�ำลาย (2) การไหลเวียนของคน เงิน ทุน ดา้ นการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ ของสำ� นกั งาน ความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ท่ีเป็นไปอย่างกว้างขวาง ป.ป.ช. ท่ีเป็นหน่วยหลักด้านการป้องกันและ (3) เป็นโลกของสังคมแห่งความรู้ ข้อมูลข่าวสาร ปราบปรามการทจุ รติ ของประเทศไทย อำ� นาจหนา้ ท่ี ทเ่ี ผยแพร่อยา่ งมากมายมหาศาล และรวดเรว็ ฉบั ไว ของศูนยว์ จิ ัยฯ ตามประกาศคณะกรรมการปอ้ งกนั (4) มีปญั หาและความขดั แยง้ ใหม่ ๆ ทส่ี ลบั ซับซอ้ น และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เร่ือง การแบ่ง หลากหลาย ซ่งึ สถาบนั การเมอื ง การปกครอง และ สว่ นราชการภายในและอำ� นาจหนา้ ทขี่ องสว่ นราชการ สถาบนั สงั คมทด่ี ำ� รงอยอู่ าจไมม่ คี วามเขา้ ใจ และไมม่ ี ในสังกัดส�ำนักงานคณะกรรมการป้องกันและ ความสามารถในการแกไ้ ขไดโ้ ดยลำ� พงั แตต่ อ้ งอาศยั ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2554 “องค์ความรู้” ที่เท่าทันต่อสถานการณ์ และความ ประกอบด้วย (1) พัฒนานโยบายและยุทธศาสตร์ ร่วมมือจากหลายฝ่าย (5) เกิดระบบทุนนิยมที่ การวิจัยของส�ำนักงาน ป.ป.ช. (2) ส่งเสริมและ ไรพ้ รมแดน ซึ่งเป็นการเก็งก�ำไรในปริมณฑลท่ไี ม่ใช่ สนับสนุนการด�ำเนินงานวิจัยเพื่อพัฒนางาน ภาคเศรษฐกิจการผลิตผ่านการใช้เทคโนโลยี ด้านป้องกันและปราบปรามการทุจริต (3) ด�ำเนิน การคมนาคมสอ่ื สารและขา่ วสารสมยั ใหม่ โครงการเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยทั้งใน ซึ่งอาจพิเคราะห์และคาดการณ์ได้ว่า ประเทศและต่างประเทศ (4) ศึกษา วิเคราะห์ สถานการณ์และปัญหาด้านการทุจริตในอนาคตจะ รวบรวมประเด็นปัญหา และประเมินสถานการณ์ มีความซับซอ้ น เปล่ียนแปลงไปตามบริบทแวดลอ้ ม การทุจริตในปัจจุบัน รวมท้ังประเมินสถานการณ์ กา้ วข้ามเสน้ แบ่งของรฐั -ชาติ และตวั ปญั หาเองก็จะ ทสี่ ง่ ผลตอ่ ปญั หาการทจุ รติ (5) ศกึ ษาวจิ ยั ในประเดน็ มพี ฒั นาการในรปู แบบใหมๆ่ ทเ่ี ปลย่ี นแปลงไปจากเดมิ ส�ำคัญซ่ึงน�ำมาเป็นข้อมูลหรือสนับสนุนการปฏิบัติ ส่งผลให้การด�ำเนินงานด้านการป้องกันและ งานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และส�ำนักงาน ปราบปรามการทจุ รติ ทา่ มกลางสภาวการณด์ งั กลา่ ว ป.ป.ช. (6) ด�ำเนินงานเพ่ือใหม้ ีการเผยแพรผ่ ลงาน ในปัจจุบัน จะอาศัยเทคนิค/วิธีการ/องค์ความรู้ใน วิจัยและสนับสนุนให้มีการน�ำไปประยุกต์ใช้ในส่วน รปู แบบเดมิ อาจไมส่ ามารถชว่ ยแกไ้ ขปญั หาไดอ้ ยา่ ง ที่เกี่ยวข้องไดอ้ ย่างเปน็ รูปธรรม รวมท้ังจัดตั้งระบบ มีประสิทธิภาพอีกตอ่ ไป เนอื่ งดว้ ยสงั คมในปจั จุบัน ขอ้ มลู สารสนเทศงานวจิ ยั และ (7) ประสานงานและ มีลักษณะที่แตกต่างไปจากเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปฏบิ ัติงานร่วมกบั หรอื สนบั สนนุ การปฏบิ ัตงิ านของ เปน็ สงั คมแหง่ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ทเ่ี ผยแพรอ่ ยา่ ง หนว่ ยงานทีเ่ ก่ยี วข้อง มากมายมหาศาล และรวดเร็วฉับไว จึงจ�ำเป็นต้อง เพ่ือเป็นการขับเคล่ือนการวิจัยด้านการ อาศยั องคค์ วามรู้ และการปรบั เปลย่ี นกระบวนทศั น์ ป้องกันและปราบปรามการทจุ ริต ศนู ย์วิจัยฯ จงึ ได้

124 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. จดั ทำ� ยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั ของสำ� นกั งาน ป.ป.ช. ขน้ึ ซอื่ สตั ยส์ จุ รติ (3) การสรา้ งธรรมาภบิ าลในหนว่ ยงาน เพื่อเป็นแนวทางการด�ำเนินงานของส�ำนักงาน ของรัฐ (public governance) (4) การบรู ณาการ ป.ป.ช. เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล กบั ทกุ ภาคสว่ นใหม้ สี ว่ นรว่ มในการตอ่ ตา้ นการทจุ รติ สอดคล้องและเท่าทันสถานการณ์ของการทุจริต (5) การสร้างความร่วมมือกับต่างประเทศให้เกิด คอร์รัปชัน และสภาวการณ์ของประเทศไทยและ การยอมรับ สังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีการด�ำเนินการ ประกอบด้วยโครงการวิจัยและแผนการ ในลักษณะของการระดมสมอง (brainstorming) เผยแพร่องค์ความรู้ต่างๆ และผลงานวิจัย สร้าง จากผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัย เสรมิ /ความร/ู้ จติ สำ� นกึ ทศั นคติ /การสรา้ งเครอื ขา่ ย ในหลายสาขาวิชาในรูปแบบคณะท�ำงานพิจารณา ความร่วมมือเพื่อการป้องปรามการทุจริต และ กรอบยุทธศาสตร์แผนปฏิบัติงานของศูนย์วิจัย การพัฒนาการด�ำเนินงานภายในเพ่ือเพ่ิมศักยภาพ เพอื่ ตอ่ ตา้ นการทจุ รติ ปว๋ ย องึ๊ ภากรณ์ เพอ่ื ดำ� เนนิ การ ประสิทธิภาพ และประสิทธิผลของการด�ำเนินการ จัดท�ำยุทธศาสตร์และแผนงานด้านการวิจัยของ ทางวิชาการอันจะเป็นฐานสนับสนุนการปฏิบัติ ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ระยะ 3 ปี (ปีงบประมาณ 2558 - ภารกิจของส�ำนักงาน ป.ป.ช. และคณะกรรมการ 2560) ที่สอดรับกับยุทธศาสตร์ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ป.ป.ช. ใหบ้ รรลวุ ตั ถุประสงคแ์ ละพนั ธกิจการจดั ตงั้ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2556 - 2560) และยุทธศาสตรช์ าติ ส�ำนักงาน ป.ป.ช. มีรายละเอียดพันธกิจและ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ยุทธศาสตร์ตามแผนงานสรปุ ไดด้ งั นี้ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2556 - 2560) ภายใต้วิสัยทัศน์ พนั ธกจิ ท่ี 1 การสร้างองคค์ วามรแู้ ละนวัตกรรมใน “ศูนย์วิจัยฯ เป็นหน่วยงานวิเคราะห์วิจัยหลัก การตอ่ ต้านการทจุ ริต ท่ีสร้างองค์ความรู้และข้อมูลเพ่ือการป้องกันและ วตั ถปุ ระสงค์: เพอ่ื ใหม้ ขี อ้ มลู และความรู้ที่ ปราบปรามการทุจริต” เพื่อสนับสนุนการป้องกัน ทันเหตุการณ์เก่ียวข้องกับช่องทาง/รูปแบบ/และ และปราบปรามการทุจริตของส�ำนักงาน ป.ป.ช. ความเส่ียงของการทุจริตระดับต่าง ๆ โดยมี และของประเทศ โดยคณะท�ำงานพิจารณากรอบ ยุทธศาสตร์ดงั นี้ ยทุ ธศาสตรแ์ ผนปฏบิ ตั งิ านของศนู ยว์ จิ ยั เพอื่ ตอ่ ตา้ น ยุทธศาสตร์ที่ 1: สร้างและสนับสนุนงาน การทุจริต ป๋วย อ๊ึงภากรณ์ ได้ร่วมจัดท�ำพันธกิจ วจิ ัยทเี่ กีย่ วข้องกับการป้องกันการทุจรติ ยุทธศาสตร์ และแผนงานด้านการวิจัย ระยะ 3 ปี ยุทธศาสตร์ท่ี 2: สร้างและสนับสนุนงาน ของศูนย์วิจัยฯ ส�ำนักงาน ป.ป.ช. โดยเริ่มต้ังแต่ วิจยั ทีเ่ กยี่ วข้องกับการปราบปรามการทุจริต ปงี บประมาณ 2558 - 2560 ซงึ่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยุทธศาสตร์ที่ 3: สนับสนุนงานวิจัยเพ่ือ เมอ่ื คราวการประชมุ ครงั้ ท่ี 594-62/2557 วนั ท่ี 21 ปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของระบบ สิงหาคม 2557 มีมติเห็นชอบในหลักการของ การตรวจสอบทรัพย์สินและหน้สี ิน ยทุ ธศาสตร์และแผนงานดา้ นการวจิ ยั แล้ว ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 4: บรู ณาการความรดู้ า้ นตา่ ง ๆ ยทุ ธศาสตรแ์ ละแผนงานดา้ นการวจิ ยั ระยะ ในการต่อต้านการทุจริต โดยเฉพาะในมิติด้าน 3 ปี มวี ัตถุประสงค์ เพอ่ื (1) การขจัด/ลดปญั หาการ กฎหมายและสังคมศาสตร์ คอร์รัปชันของสังคม (2) ส่งเสริมวัฒนธรรมความ

ปีท่ี 7 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม 2557) 125 พันธกิจที่ 2 สร้างเครือข่ายและความร่วมมือทาง วตั ถปุ ระสงค:์ สรา้ งผลงานวจิ ยั ทมี่ คี ณุ ภาพ เทคนิคและวิชาการกับหน่วยงานท้ังในและต่าง และมาตรฐานเพอื่ พฒั นาการปฏบิ ตั งิ านของสำ� นกั งาน ประเทศ ป.ป.ช. โดยมยี ทุ ธศาสตรด์ งั น้ี วัตถุประสงค์: เพ่ือแลกเปล่ียนความรู้ ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 1: ปรบั ปรงุ ระบบบรหิ ารงาน ทรัพยากรบุคคล และสร้างความร่วมมือด้านการ ของสำ� นกั งาน ป.ป.ช. ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพและมคี วาม ตอ่ ตา้ นการทจุ รติ ในเครอื ขา่ ยวชิ าการทง้ั ในและตา่ ง คลอ่ งตวั มากขึน้ ประเทศ โดยมียุทธศาสตร์ดงั นี้ ยทุ ธศาสตร์ที่ 2: ประยุกต์ใช้หลกั Quality ยทุ ธศาสตร:์ พฒั นาประสทิ ธภิ าพของความ management ในงานวิจยั ร่วมมือทางวิชาการกับหน่วยงานท้ังในและต่าง ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 3: พฒั นาทรพั ยากรมนษุ ยใ์ น ประเทศเพื่อปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริต แตล่ ะภารกิจของส�ำนักงาน ป.ป.ช. พันธกิจที่ 3 เผยแพร่องค์ความรู้และข้อมูลการ เพอื่ สนองพนั ธกจิ และยทุ ธศาสตรข์ า้ งตน้ ตอ่ ต้านการทุจรติ จึงมีแผนงานและโครงการวิจัยในระหว่าง วัตถุประสงค์: เพ่ือถ่ายทอดความรู้และ ปงี บประมาณ 2558 - 2560 เปน็ 4 แนวทางคอื ส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับการต่อต้านการทุจริต 1. ด้านการป้องกัน (Prevention) ที่ได้จากงานวิจัยไปสู่ภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคม การทจุ รติ คอร์รัปชัน ประกอบด้วย โดยมียทุ ธศาสตรด์ ังน้ี 1.1 โครงการวิจัยท่ีสนับสนุนพันธกิจ ยุทธศาสตร์ท่ี 1: จัดท�ำส่ือส่ิงพิมพ์และ ที่ 1 การสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมในการ สื่ออ่ืนๆ เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยในการต่อต้าน ต่อตา้ นการทุจริต อาทิ การทจุ ริต (1) โครงการศึกษาวิจัยการประเมิน ยทุ ธศาสตร์ท่ี 2: การจดั ประชมุ สัมมนากับ ประสทิ ธิภาพของผูแ้ จ้งเบาะแส (Whistle Blower) หนว่ ยงานทั้งในและต่างประเทศ (2) โครงการเฝา้ ระวงั และปอ้ งกนั การทจุ รติ พนั ธกิจที่ 4 สนับสนุน/เสริมสร้างวฒั นธรรมสุจริต จากนโยบายและโครงการของรัฐ และธรรมาภบิ าล (3) แนวทางการเสริมสร้างการมีส่วนร่วม วตั ถุประสงค:์ เพื่อให้มีโครงการ/งานวิจยั / ต่อต้านการทจุ ริตคอรร์ ปั ชนั ส�ำหรับสอื่ มวลชน กิจกรรมที่ก่อให้เกิดความรู้และความเข้าใจในการ (4) การวิเคราะห์การสอบถามทัศนคติใน สรา้ งสงั คมสจุ รติ และธรรมาภบิ าล โดยมยี ทุ ธศาสตร์ เรอ่ื งการทจุ ริตคอรร์ ปั ชนั ดังน้ี (5) นโยบายประชานิยม: ผลกระทบและ ยทุ ธศาสตร์: เพ่ือสนบั สนนุ งานวิจัยทีส่ รา้ ง แนวทางการรบั มอื จิตส�ำนึก/ค่านิยม/บรรทัดฐาน/พฤติกรรมและนิสัย (6) การแสวงหาผลประโยชน์จากการ สุจรติ อนุญาตโดยใชอ้ ำ� นาจรฐั พันธกิจที่ 5 สร้างผลงานวิจัยที่มีคุณภาพและ (7) การศึกษากลุ่มอิทธิพลซ่ึงน�ำไปสู่การ มาตรฐานงานวิจัยท่ีสามารถสนับสนุนพันธกิจของ ทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบ (organized- ส�ำนักงาน ป.ป.ช. corruption) จ�ำแนกตามภาคเศรษฐกจิ

126 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. (8) การพัฒนาเครื่องมือตรวจสอบและ (2) การด�ำเนินการของส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประเมินความเส่ยี งการคอร์รัปชัน เพ่อื รองรับการตดิ ตามทรพั ย์สินคนื (9) การเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพของ informative (3) การติดตามการแก้ไขปัญหาข้อไม่ agents ต่างๆ (เช่น ผู้ตรวจราชการ/ผู้ตรวจสอบ สมบูรณ์ของคณะท�ำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุด บญั ช/ี ผตู้ รวจปฏบิ ตั กิ าร (performance auditors) และคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพ่อื ปอ้ งกันการทจุ รติ ในระบบราชการไทย) (4) การพัฒนารูปแบบและวิธีการเพื่อเพ่ิม (10) การประเมนิ ศกั ยภาพและประสทิ ธภิ าพ ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลของระบบการตรวจสอบ ของกลไกรฐั สภาในการตดิ ตาม ตรวจสอบ ฝา่ ยบรหิ าร ทรัพยส์ นิ และหน้สี นิ (11) การปอ้ งกนั การทจุ ริตจากการแต่งตง้ั (5) การประเมนิ ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ล โยกย้ายบุคลากรภาครัฐจ�ำแนกตามกลุ่มงานและ ขององคก์ รอสิ ระตามรัฐธรรมนญู ระดับต�ำแหนง่ 3. การสรา้ งทศั นคตแิ ละจติ สำ� นกึ ซอื่ สตั ย์ (12) การทจุ รติ ในการทำ� สญั ญาทางการคา้ ของพลเมอื ง (Public Consciousness) ประกอบดว้ ย ระหว่างไทยและต่างประเทศ (FTA) โครงการวิจัยที่สนับสนุนพันธกิจท่ี 4 สนับสนุน/ (13) การปรับปรุงระบบตรวจสอบภายใน สรา้ งวัฒนธรรมสจุ ริตและธรรมาภบิ าล อาทิ และ MIS เพอ่ื การปอ้ งกนั การทจุ รติ ในองคก์ รภาครฐั (1) การพัฒนาประชาคมและเครือข่าย 1.2 โครงการวิจัยทส่ี นับสนุนพนั ธกจิ ที่ 4 ตอ่ ตา้ นการทจุ รติ สนับสนุน/สร้างวัฒนธรรมสุจริตและธรรมาภิบาล (2) ศกึ ษาแนวทางการสง่ เสรมิ บทบาทของ อาทิ กล่มุ ผู้มีสว่ นไดเ้ สีย (Stakeholders) ในการตอ่ ตา้ น (1) การส�ำรวจการรับรู้ด้านความขัดกัน การทุจริต แห่งผลประโยชน์ (conflict of interest) ในกลมุ่ (3) การปฏิรูปการศึกษาไทยเพื่อปลูกฝัง ขา้ ราชการระดับสงู จิตส�ำนกึ เพอื่ ส่วนรวมและวฒั นธรรมสุจรติ (2) การเพ่ิมประสิทธิผลความร่วมมือของ 4. การสร้างความเข้มแข็งด้านสถาบัน องคก์ รภาครัฐในการต่อตา้ นการทจุ รติ (Institutional Building) ซึ่งเปน็ โครงการวจิ ยั ท่ี 2. ดา้ นการปราบปรามและการบงั คบั ใช้ สนับสนนุ ในทกุ พันธกจิ ของส�ำนักงาน ป.ป.ช. อาทิ กฎหมาย (Enforcement) ประกอบดว้ ยโครงการ (1) การวิจัยการเพ่ิมประสิทธิภาพการ วจิ ยั ทส่ี นบั สนนุ พนั ธกจิ ที่ 1 การสรา้ งองคค์ วามรแู้ ละ ท�ำงานของสำ� นกั งาน ป.ป.ช. นวตั กรรมในการต่อตา้ นการทุจรติ อาทิ (2) การศกึ ษาแนวทางการเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพ (1) การศกึ ษากฎหมายตา่ งประเทศเกยี่ วกบั และศักยภาพของผปู้ ฏิบตั งิ านในส�ำนักงาน ป.ป.ช. การตดิ ตามทรพั ยส์ นิ คนื เพอ่ื การปฏริ ปู กฎหมายและ เป้าหมายการจัดท�ำยุทธศาสตร์และ ก�ำหนดแนวทางในการอนุวัติการกฎหมายใน แผนงานดา้ นการวิจัยระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2558-2560) ประเทศ ของศนู ยว์ จิ ยั ฯ สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ขา้ งตน้ เปน็ ไปเพอ่ื

ปที ่ี 7 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม 2557) 127 สนบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ านการปอ้ งกนั และปราบปราม การทุจริตของส�ำนักงาน ป.ป.ช. ตามหลักการให้ องค์ความรู้เป็นเคร่ืองมือและอาวุธท่ีส�ำคัญในการ แก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันที่มีประสิทธิภาพ และมปี ระสทิ ธผิ ล และเปน็ เครอ่ื งชนี้ ำ� ในการแกไ้ ขปญั หา อยา่ งไม่ไร้ทศิ ทาง ดงั ค�ำกล่าวของลโี อนาโด ดาวนิ ชี ที่วา่ “ผทู้ ่รี ักการปฏบิ ตั ิโดยปราศจากทฤษฎีนั้น เปรียบเสมือนกลาสที ่ลี งเรือ โดยปราศจากหางเสอื และเข็มทิศและไม่อาจรู้ว่าจะถกู โยนไปที่ใด.” “He who loves practice without theory is like the sailor who boards ship without a rudder and compass and never knows where he may cast.”

แผนภาพ : พนั ธกจิ และยทุ ธศาสตร์ด้านการวิจัย 128 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. วิสยั ทัศน์ : ศูนยว์ จิ ัยฯ เป็นหนว่ ยงานวิเคราะหว์ ิจัยหลกั ที่สร้างองค์ความรูแ้ ละเครือขา่ ยการเรยี นรเู้ พ่อื การป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ พนั ธกิจที่ 1 พนั ธกิจท่ี 2 พันธกิจท่ี 3 พันธกิจท่ี 4 พันธกิจที่ 5 การสรา้ งองค์ความรแู้ ละ สรา้ งเครือขา่ ยและความร่วมมือ เผยแพรอ่ งค์ความรู้และข้อมูล สนบั สนนุ /เสริมสร้างวัฒนธรรม สรา้ งผลงานวิจัยทม่ี คี ุณภาพ นวัตกรรมในการตอ่ ต้านการ และมาตรฐานงานวจิ ยั ทส่ี ามารถ ทางเทคนิคและวิชาการกับ การตอ่ ตา้ นการทุจริต สจุ รติ และธรรมาภิบาล สนบั สนุนพันธกจิ ของสำ� นกั งาน ทจุ ริต หน่วยงานทง้ั ในและตา่ งประเทศ วัตถปุ ระสงค์ วัตถุประสงค์ วัตถปุ ระสงค์ ป.ป.ช. เพ่อื ให้มีข้อมูลและความรูท้ ี่ทนั วตั ถุประสงค์ เพ่อื ถ่ายทอดความรแู้ ละส่งเสริม เพื่อให้มโี ครงการ/งานวิจัย/ วัตถปุ ระสงค์ เหตุการณ์เกีย่ วกบั ชอ่ งทาง/รปู เพอื่ แลกเปลย่ี นความรู้ การเรียนร้เู กี่ยวกบั การตอ่ ตา้ น กจิ กรรมทีก่ อ่ ใหเ้ กิดความรแู้ ละ สรา้ งผลงานวิจยั ท่ีมีคุณภาพและ แบบ/และความเสย่ี งของการ ทรัพยากรบคุ คล และสรา้ ง การทจุ ริตที่ไดจ้ ากงานวจิ ัยไปสู่ ความเข้าใจในการสรา้ งสังคม มาตรฐานเพื่อพัฒนาการปฏบิ ัติ ทุจริตในระดบั ต่าง ๆ ความร่วมมือดา้ นการตอ่ ต้าน งานของส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ยุทธศาสตรท์ ี่ 1 : สร้างและ การทุจรติ ในเครือข่ายวิชาการ ภาคส่วนตา่ ง ๆ ของสงั คม สจุ ริตและธรรมาภบิ าล ยุทธศาสตร์ท่ี 1 : ปรบั ปรงุ สนับสนนุ งานวจิ ัยท่เี กี่ยวข้อง ท้งั ในและตา่ งประเทศ ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 1 : จัดท�ำส่อื ยทุ ธศาสตร์ : เพอ่ื สนบั สนนุ ระบบบรหิ ารงานของ กบั การป้องกันการทจุ ริต ยุทธศาสตร์ : พฒั นา สิ่งพมิ พ์และสื่ออ่นื ๆ เพอ่ื งานวิจยั ทสี่ ร้างจติ ส�ำนึก/ ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 2 : สรา้ งและ ประสิทธิภาพของความร่วมมือ เผยแพร่ผลงานวิจยั ในการ ค่านิยม/บรรทัดฐาน/พฤติกรรม ใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพและ สนับสนนุ งานวจิ ัยท่เี กี่ยวข้อง ทางวิชาการกับหน่วยงานทั้งใน ตอ่ ต้านการทุจริต และนิสยั สุจริต มคี วามคล่องตวั มากข้นึ กบั การปราบปรามการทจุ รติ และต่างประเทศเพ่ือป้องกัน ยทุ ธศาสตร์ท่ี 2 : การจัด ยทุ ธศาสตร์ท่ี 2 : ประยกุ ต์ใช้ ยุทธศาสตรท์ ่ี 3 : สนบั สนนุ และปราบปรามการทจุ ริต ประชุมสมั มนากับหน่วยงาน หลกั Quality management งานวิจัยเพือ่ ปรับปรงุ ประสทิ ธิภาพ ทัง้ ในและตา่ งประเทศ ในงานวจิ ยั และประสิทธผิ ลของระบบการ ยุทธศาสตรท์ ่ี 3 : พัฒนา ตรวจสอบทรพั ยส์ ินและหน้สี นิ ทรพั ยากรมนษุ ย์ในแตล่ ะ ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 4 : บรู ณาการ ภารกิจของสำ� นักงาน ป.ป.ช. ความร้ดู า้ นตา่ ง ๆ ในการต่อต้าน การทุจรติ โดยเฉพาะในมิติดา้ น กฎหมายและสงั คมศาสตร์

ปีที่ 7 ฉบบั ที่ 2 (กรกฎาคม 2557) 129 เอกสารอ้างอิง ไชยรตั น์ เจรญิ สนิ โอฬาร. (2549). รฐั -ชาตกิ บั (ความไร)้ ระเบียบโลกชุดใหม่. กรุงเทพฯ: ส�ำนัก พมิ พว์ ภิ าษา.

130 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. หลกั เกณฑก์ ารสง่ บทความลงพมิ พ์ “วารสารวชิ าการ ป.ป.ช.” 1. เป็นบทความวิจัยหรือบทความวิชาการ 4.6 สรุปและข้อเสนอแนะจากผลการ ทั่วไปด้านการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ ริต วิจัยประมาณ 10-15 บรรทัดหรือรวมข้อเสนอแนะ 2. เปน็ บทความทไี่ มเ่ คยตพี มิ พท์ ใ่ี ดมากอ่ น ไมเ่ กนิ 20 บรรทัด หรือไม่อยู่ระหว่างการเสนอขอลงพิมพ์ในวารสาร/ 4.7 เชิงอรรถ เรียงล�ำดับหมายเลขใน สิ่งพมิ พ์อืน่ เนื้อหา 3. เน้อื หาตน้ ฉบบั ภาษาไทย มีจ�ำนวนหน้า 4.8 หนังสอื อา้ งองิ หรอื บรรณานุกรม สงู สดุ ไม่เกิน 25 หน้าพมิ พ์ (กระดาษ A4) ตน้ ฉบับ หมวดภาษาไทยมาก่อนหมวดภาษาอังกฤษ ส�ำหรับ ภาษาไทยพมิ พด์ ว้ ยขนาดตวั อกั ษร 16 แบบอกั ษร TH หนงั สอื ระบใุ ห้ชัดเจนถงึ ช่อื ผู้แต่ง ปพี ิมพ์ ช่ือหนังสือ SarabunPSK หรือ Browallia UPC ตน้ ฉบบั ภาษา ส�ำนักพิมพ์ เมือง/ประเทศที่พิมพ์ ระบุรหัส ISBN/ องั กฤษพิมพ์ดว้ ยขนาดตัวอักษร 12 แบบอักษร TH ISSN (ถ้าม)ี จำ� นวนหน้าและหน้าที่อา้ งองิ (ถา้ อ้างอิง SarabunPSK หรือ Times New Roman เฉพาะส่วนย่อยหรือเรื่องยอ่ ยในเลม่ ) 4. ส่วนประกอบส�ำคญั ของบทความ 4.9 การอ้างอิง Websites หรือส่ือ 4.1 ชื่อเรื่อง หรือ ช่ือหัวข้อ ภาษาไทย electronic ต่าง ๆ หรืออืน่ ๆ ให้เป็นหมวดตอ่ ทา้ ย และภาษาองั กฤษ หนังสือและสง่ิ พมิ พ์ตา่ ง ๆ ตามขอ้ 4.8 4.2 ช่ือผู้เขียน ภาษาไทยและภาษา 5. ตวั อย่างการจดั หนา้ พิมพ์ อังกฤษ (ระบุสถานที่ติดต่อ และ อีเมล์, โทรศัพท์/ โทรสาร) 4 ซ.ม. 4.3 บทคัดย่อภาษาไทยและภาษา 4 ซ.ม. 2.5 ซ.ม. อังกฤษ ประมาณ 10-15 บรรทัด (ภาษาไทย) หรือ ประมาณ 100-150 คำ� (ภาษาองั กฤษ) 4.4 เน้อื หาไมเ่ กนิ 25 หน้า 4.5 รูปและตารางประกอบ เท่าท่ี จ�ำเป็น พร้อมค�ำบรรยาย (อธิบายประกอบภาพ) รวมแลว้ ไมเ่ กิน 4 หนา้ 3 ซ.ม.

ปีท่ี 7 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม 2557) 131 6. การพิจารณาการรับบทความ 6.1 บทความทไ่ี ดร้ บั การพจิ ารณาใหล้ ง พิมพ์ในวารสารวิชาการ ป.ป.ช. ต้องผ่านความเห็น ชอบและ หรือผู้เขียนได้ปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอ แนะของกองบรรณาธิการหรือผู้ได้รับมอบหมายให้ เป็นผพู้ จิ ารณาบทความ (ถา้ ม)ี 6.2 ผเู้ ขยี นบทความทไี่ ดร้ บั การคดั เลอื ก ให้ลงพิมพ์ในวารสารวิชาการ ป.ป.ช. จะได้รับ คา่ ตอบแทนผลงานละไมเ่ กิน 3,000 บาท 6.3 กองบรรณาธกิ ารแจง้ ผลการพจิ ารณา ให้ผู้เขียนบทความทราบหลังจากท่ีได้พิจารณา บทความใหล้ งพิมพ์ได้ 6.4 การพิจารณาบทความถือเป็นสิทธิ์ ของกองบรรณาธกิ าร สถานทตี่ ดิ ต่อ กองบรรณาธิการวารสารวิชาการ ป.ป.ช. ศูนย์วจิ ัยเพ่ือต่อตา้ นการทุจรติ ปว๋ ย อึ๊งภากรณ์ สำ� นกั งาน ป.ป.ช. 361 ถนนนนทบรุ ี ต�ำบลท่าทราย อำ� เภอเมอื งนนทบรุ ี จงั หวัดนนทบุรี 11000 โทร. 0 2528 4800 ต่อ 5814 โทรสาร 0 2528 4703

132 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. Call for Papers National Anti-Corruption Commission Journal (NACC Journal) The Office of NationalAnti-Corruption 4 cm Commission (ONACC) publishes an academic journal on combating corruption 4 cm 2.5 cm (the NACC Journal) in January and July each year. Articles can be submitted for 3 cm consideration all year round. The NACC Journal is a peer- 3. Authors should submit two hard reviewed social science and humanities copies of their papers and a diskette or email publication, providing a forum to present the attachment. latest research findings, perspectives and 4. The manuscript should include case studies on anti-corruption activities the following components: worldwide. 4.1 Article title or topic in English Instructions to Authors and (optionally) in Thai, 4.2 Names of author in English 1. Manuscripts are submitted on the (both Thai and English for Thai authors) explicit understanding that they are original, with institutional affiliation and contact unpublished works of the author(s), and are information (email address, telephone) not also being submitted for publication 4.3 Abstract in Thai and English elsewhere. of approximately 10-15 lines for Thai or 2. Manuscripts must be submitted in 100-150 words for English, double space with margins as shown, with 4.4 Keywords (max 5 words) references on separate pages and a maximum describing the article’s primary focus, length of 25 pages including tables and 4.5 Content: from 10-25 pages, figures. Fonts must be TH SarabunPSK 4.6 Figures and tables must be or Browallia UPC 16 for articles written in numbered and have titles and captions. An Thai or TH SarabunPSK 16 or Times New article should not contain more than 4 pages Roman for papers in English. of figures and tables,

ปที ่ี 7 ฉบบั ท่ี 2 (กรกฎาคม 2557) 133 4.7 Conclusions and Recommen- Editorial Board, NACC dations based on the research findings or paper’s discussion, not exceeding 20 lines, Puey Ungphakorn Anti-Corruption 4.8 Footnotes must be sequentially Research Center. numbered, 361 Nonthaburi Road, 4.9 The bibliography or reference Thasaai District, list should appear at the end of the text. Amphur Muangnonthaburi, The references list should include every Nonthaburi Province 11000 work cited in the text. Please ensure that the Thailand dates, spelling and title used in the text are Tel: 66 2528 4800 Ext. 5814 consistent with those listed in the references. Fax: 66 2528 4703 For articles written in Thai, works cited that are written in Thai should appear first. The Journal prefers the reference system of the American Psychological Association (APA) which can be found at http://www.liu.edu/ CWIS/CWP/library/workshop/citapa.htm. Books appear before other kinds of materials and each reference should contain the author, year of publication, title, publisher’s name and town/city in which the publisher is located. Please include the ISBN/ISSN, if any. For references mentioned specifically in the article, the page(s) from which the quotation was taken must be included as part of the reference, 4.10 References to websites or other electronic forms should appear after the references to books and articles. Manuscripts should be submitted to the Puey Ungphakorn Anti-Corruption Research Center, Office of the National Anti-Corruption Commission at the following address:

แบบบอกรบั เปน็ สมาชกิ “วารสารวชิ าการ” ชื่อ–สกลุ ...................................................................................................................................................... ตำ�แหนง่ งาน............................................................................................................................................... หนว่ ยงานทีส่ ังกดั ....................................................................................................................................... ท่อี ยทู่ สี่ ะดวกในการติดต่อ......................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... โทรศัพท์..............................................................โทรศัพท์เคลือ่ นที่........................................................... E–mail…………………………………………………………………………………………………………….................………… ข้อเสนอแนะ เนอ้ื หาสาระเกี่ยวกับการต่อตา้ นการทจุ ริตในวารสารวชิ าการ ป.ป.ช. ท่ีทา่ นอยากเห็นคอื เรอื่ งใด ประเดน็ ใด โปรดระบุตามลำ�ดบั ความสำ�คัญ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... สถานที่ตดิ ตอ่ : กองบรรณาธกิ ารวารสารวิชาการ ป.ป.ช. ศูนย์วิจัยเพือ่ ต่อตา้ นการทุจรติ ป๋วย อ๊ึงภากรณ์ สำ�นักงาน ป.ป.ช. 361 ถนนนนทบุรี ตำ�บลทา่ ทราย อำ�เภอเมอื งนนทบุรี จงั หวัดนนทบรุ ี 11000 โทรศพั ท์ / โทรสาร: 0 2528 4800 ตอ่ 5814 / 0 2528 4703 เวบ็ ไซต์: http://www.nacc.go.th

NACC Journal Subscription Form Name......................................................................................................................................................... Position..................................................................................................................................................... Affiliation................................................................................................................................................. Postal Address....................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... Telephone………..................................................Mobile Phone......................................................... E–mail………………………………………………………………………………………..……............………………..……….. Suggestions In your opinion, what anti-corruption issues would you like to see emphasized in the NACC Journal? Please list them in order of importance. ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... Address: Editorial Board, NACC Journal Puey Ungphakorn Anti-Corruption Research Center, Office of the National Anti-Corruption Commission, 361 Nonthaburi Road, Thasaai District, Amphur Muangnonthaburi, Nonthaburi 11000 Telephone / Fax: 66 2528 4800 Ext. 5814 Website: http://www.nacc.go.th

ส�านกั งานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาติ Office of the National Anti-Corruption Commission 361 ถนนนนทบุรี ตา� บลทา่ ทราย อา� เภอเมือง จงั หวัดนนทบรุ ี 11000 โทรศพั ท์ 0 2528 4800 ตอ่ 5814 โทรสาร 0 2528 4703 E-mail: [email protected] Website: http://www.nacc.go.th


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook