Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการเก็บตัวอย่าง

คู่มือการเก็บตัวอย่าง

Description: คู่มือการเก็บตัวอย่าง

Search

Read the Text Version

ค�ำ น�ำ คมู่ อื การเกบ็ ตวั อยา่ งสง่ ตรวจทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ในการจัดท�ำเพ่ือเป็นแนวทาง การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ีหรือเกษตรกร ประชาชนท่ีมีความประสงค์จะใช้บริการทางห้อง ปฏิบัติการ สามารถเก็บตัวอย่างได้อย่างถูกต้อง เพื่อห้องปฏิบัติการจะได้ด�ำเนินการตรวจวินิจฉัย โรคได้อย่างถูกต้อง แม่นย�ำ และรวดเร็ว ซึ่งเป็น ประโยชน์ในการควบคุม ป้องกัน และรักษาโรคท่ี เกิดแก่สัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ให้โรคแพร่ กระจายต่อไป หากการเก็บตัวอย่างไม่ถูกต้องหรือ ไม่เหมาะสม การตรวจวินิจฉัยโรคจะไม่สามารถ ดำ� เนนิ การไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง แมน่ ยำ� และการควบคมุ โรคก็จะไม่ประสบความส�ำเร็จ ดังนั้น คู่มือฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการและการควบคุมโรค ในประเทศไทย

สารบัญ การเก็บตัวอยา่ งสัตว์ปว่ ย ซาก และอวัยวะ...............................................................................................1 การเก็บตัวอย่างลูกสัตว์แท้ง.....................................................................................................................3 การเก็บตวั อยา่ งจากปา้ ยส�ำลี (Swab)......................................................................................................4 การเก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ....................................................................................6 การท�ำเลือดป้ายสไลด์............................................................................................................................10 การเก็บตัวอยา่ งซีรัม...............................................................................................................................11 การเก็บตัวอย่างอุจจาระ........................................................................................................................17 การเก็บตัวอย่างพยาธิภายในและภายนอก............................................................................................18 การเก็บตัวอย่างเพ่ือส่งตรวจสารก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์.........................................................................19 การเก็บตัวอย่างน้�ำเสียจากฟาร์มสุกรและโรงฆ่าสัตว์.............................................................................21 การเก็บและส่งตัวอย่างตรวจวิเคราะห์ทางชีวเคมี..................................................................................26 การเก็บและส่งตวั อย่างตรวจวิเคราะหส์ ารพษิ จากเชอื้ รา.......................................................................28 การเก็บและส่งตัวอย่างตรวจวิเคราะห์แร่ธาตุและวิตามิน......................................................................30 การเก็บตัวอย่างปัสสาวะเพ่ือการตรวจวินิจฉัยโรคเลปโตสไปโรสิส........................................................34 การเก็บตัวอย่างผึ้ง.................................................................................................................................37 เทคนคิ การตัดขลบิ ขากงุ้ (Pleopod clipping) เพ่อื การตรวจดว้ ยวิธีพซี ีอาร์ (PCR)..............................41 เทคนิคการเจาะเลอื ดกงุ้ (Hemolymph) เพอ่ื การตรวจด้วยวธิ พี ซี ีอาร์ (PCR)......................................42 เทคนิคการเกบ็ และการเตรียมตวั อย่างอจุ จาระกุ้ง เพอื่ การตรวจด้วยวธิ ีพซี อี าร์ (PCR).........................43 การบันทกึ รายละเอียดตัวอยา่ งก่อนส่งตัวอยา่ ง......................................................................................46 การบรกิ ารทางวิชาการของสถาบันสขุ ภาพสตั วแ์ หง่ ชาติ (สสช.) ศูนยว์ ิจยั และพฒั นาการสตั วแพทย์ ประจำ� ภมู ภิ าค (จงั หวดั ล�ำปาง / พิษณโุ ลก / ชลบรุ ี / ราชบรุ ี / ขอนแกน่ / สรุ ินทร์ / นครศรีธรรมราช) และศูนยอ์ า้ งองิ โรคปากและเท้าเปอ่ื ยภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ (ศออ.).......................................47

การเกบ็ ตวั อย่างสตั ว์ปว่ ย ซากและอวัยวะ ตวั อย่างประกอบดว้ ย 2. ซาก 3. อวัยวะ 1. สัตว์ป่วย สตั วป์ ่วย ควรเลือกสัตวป์ ่วยทม่ี ีชวี ิตมาเพอ่ื ทำ� การผ่าซากตรวจซาก จ�ำนวน 2-3 ตวั เพราะการ ตรวจวินิจฉัยทางพยาธิวิทยาในสัตว์ท่ีตายใหม่ จะได้ผลดีกว่าสัตว์ที่ตายแล้วหลายชั่วโมง ทั้งนี้ซากสัตว์ท่ี เนา่ เปอ่ื ย (Autolysis) ไมม่ ปี ระโยชนใ์ นการอา่ นรอยโรคทางจลุ พยาธวิ ทิ ยา เนอื่ งจากเซลลเ์ กดิ การเสอื่ มสลาย ทำ� ให้โครงสร้างปกติของเซลลส์ ญู เสยี ไป ค่มู ือการเกบ็ ตวั อย่าง 1

ซากหรอื อวัยวะ ควรรบี สง่ ตวั อย่างโดยเรว็ ท่สี ดุ เทา่ ทจี่ ะทำ� ได้ ถา้ ไม่สามารถท�ำไดค้ วรเกบ็ ใน หอ้ งเยน็ หรอื กลอ่ งโฟมบรรจนุ �ำ้ แข็ง (4oC) ไมเ่ กนิ 24-48 ชั่วโมง ไมค่ วรแช่แข็งเนื่องจากผลกึ นำ้� ในเซลล์ จะทำ� ใหโ้ ครงสรา้ งของเซลลเ์ สยี หาย ผดิ รปู รา่ ง ไมเ่ หมาะสมสำ� หรบั การดรู อยโรคทางพยาธวิ ทิ ยา ตวั อย่างทไ่ี ม่เหมาะสม คือซากหรอื อวัยวะที่เนา่ มีกลนิ่ เหมน็ มลี ักษณะสเี ทาขุน่ สารละลายทใี่ ช้ในการดองชน้ิ เนอ้ื เพอ่ื ปอ้ งกนั การเน่า คอื 10% บฟั เฟอร์ฟอร์มาลิน ซง่ึ เป็นน�้ำยา คงสภาพทด่ี ที สี่ ุดและนยิ มใช้มากท่ีสดุ กรณที ำ� การผา่ ซากและเกบ็ ชนิ้ เนอ้ื เอง ควรระมดั ระวงั สขุ อนามยั ของผู้ผ่าซาก โดยควรสวมเสอ้ื กาวน์ ถงุ มือ หมวก คลมุ ผม และผา้ ปดิ ปาก เป็นตน้ ช้ินเนือ้ ทเี่ ก็บควรมีท้งั สว่ น ที่ปกติและผิดปกติ ตัดหนาประมาณ 0.5 เซนติเมตร แช่ใน น�้ำยา 10% บัฟเฟอร์ฟอร์มาลิน ปริมาตร 10 เท่าของชิ้นเน้ือ ทบี่ รรจใุ นขวดแกว้ หรอื ขวดพลาสตกิ ทมี่ ฝี าปดิ มดิ ชดิ ควรปอ้ ง กันการรั่วซึมของน้�ำยาโดยใช้กระดาษกาวย่นรัดรอบปาก ขวดอกี คร้งั เขียนหมายเลขตัวอยา่ งทข่ี วดและฝาขวดดงั รปู จากนัน้ จัดสง่ มาท่หี อ้ งปฏิบัตกิ าร ตง้ั ขวดใหต้ รงอย่าใหข้ วดล้ม เพราะ นำ�้ ยาฟอรม์ าลนิ อาจรวั่ ซมึ ได้ (ทง้ั นไี้ มต่ อ้ งนำ� ขวดแชเ่ ยน็ หรอื แชแ่ ขง็ ) พรอ้ มมใี บ ประวตั ิสตั วป์ ่วยทีม่ ีรายละเอียดมากทสี่ ุดแนบมาดว้ ย 2 คมู่ ือการเกบ็ ตวั อย่าง

การเกบ็ ตัวอย่างลูกสตั วแ์ ท้ง การสง่ ตัวอย่างลูกสตั วท์ ่ีแท้งสามารถสง่ ได้ 3 วิธี คอื 1. ส่งท้งั ตัว โดยการเก็บลกู ทีแ่ ท้งท้ังตัวพร้อมรกใสใ่ นถุงพลาสตกิ ทีใ่ หมแ่ ละสะอาด 2 ช้นั มัดปากถุงใหแ้ น่น พรอ้ มทัง้ เขยี นรายละเอยี ดของตวั อยา่ งท่สี ง่ ช่อื -ที่อย่ขู องเจา้ ของสตั ว์ ชนดิ ของตัวอย่าง ประวัติ วันทีเ่ ก็บ ตวั อย่าง และผู้ส่งให้ละเอียด น�ำใสก่ ล่องโฟมพร้อมน�้ำแขง็ เพ่อื รักษาอณุ หภูมิให้ได้ 4°C โดยประมาณ 2. ของเหลวในกระเพาะแท้ เกบ็ โดยใช้ไซรงิ ค์ และเข็มเบอร์ 18 ยาว 1.5 นว้ิ ท่ใี หม่และสะอาด เจาะลงในกระเพาะและดูดสว่ น ทเ่ี ป็นของเหลว 10-20 มิลลลิ ิตร ใส่ในหลอดทส่ี ะอาด ปดิ ฝาหลอดใหส้ นทิ พร้อมเขียนรายละเอียดของ ตัวอยา่ ง แชใ่ นกระตกิ น้�ำแขง็ พร้อมนำ้� แข็งส่งห้องปฏิบตั กิ าร 3. อวัยวะสัตวแ์ ทง้ เช่น ปอด ตับ และไต โดยใช้กรรไกรจมุ่ แอลกอฮอล์แลว้ เผาไฟ ทง้ิ ไว้สกั พกั ให้เย็น แลว้ ตัดชนิ้ ส่วนของอวัยวะตา่ งๆใสถ่ งุ พลาสตกิ ที่ใหมแ่ ละสะอาด 2 ชัน้ แยกอวยั วะไม่ปะปนกันและอปุ กรณ์ท่ตี ดั กไ็ ม่ปนกนั ดว้ ย แลว้ มดั ปากถงุ ใหแ้ น่น เขียนรายละเอยี ดในการสง่ ตัวอย่าง นำ� สง่ ห้องปฏบิ ตั ิการ คู่มือการเกบ็ ตัวอยา่ ง 3

การเก็บตวั อย่างจากปา้ ยส�ำลี (Swab) ตัวอย่างจากป้ายส�ำลี (Swab) ที่ส่งหอ้ งปฏบิ ัติการได้แก่ 1. ป้ายส�ำลีในจมูก (Nasal swab) 2. ป้ายส�ำลีในหลอดลม (Tracheal swab) 3. ปา้ ยส�ำลใี นทวาร (Cloacal/ Rectal swab) Transport media หมายถงึ อาหารเลยี้่ งเชอ้ื สำ� หรบั เกบ็ ตวั อยา่ งระหวา่ งการขนยา้ ยไปยงั หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร ซึ่งแตกต่างตามชนดิ ของเชอื้ วธิ ีการเก็บตัวอย่าง 1. ปา้ ยส�ำลีในจมูก (Nasal swab) ใชไ้ มพ้ นั สำ� ลจี มุ่ ในอาหารเลย้ี งเชอื้ transport media สอดส่วนท่ีพันส�ำลเี ข้าในรจู มกู ลึก ๆ แลว้ ถเู ข้า-ออกให้สมั ผัส ผนงั ของรจู มูกดา้ นในแล้วนำ� ออกมา แช่สว่ นสำ� ลีบรรจุลงใน transport media หักส่วนปลายไม้ท่ีพ้นปากขวดท้ิง แล้ว ปดิ ฝาให้สนทิ 2. ป้ายสำ� ลใี นหลอดลม (Tracheal swab) ในสตั ว์มชี วี ิต เชน่ ในสตั วป์ ีก โดยแหยป่ ลายสำ� ลีลงใน หลอดลมลกึ ๆ เบา ๆ และนม่ิ นวล ส่วนในสัตว์ตาย เชน่ สุกร โดยจะทำ� หลงั จากน�ำปอดและหลอดลมออกจากซากแล้ว ใช้ มีดกรีดตามยาวของหลอดลม หมุนปลายสำ� ลีไปตามยาวของ ผนังด้านในหลอดลมแล้วน�ำปลายส�ำลีไปเก็บใน transport media หกั ส่วนปลายไม้ทีพ่ น้ ปากขวดทงิ้ แลว้ ปดิ ฝาให้สนทิ 4 คู่มือการเก็บตวั อยา่ ง

3. ป้ายส�ำลใี นทวาร (Cloacal/ Rectal swab) ใชไ้ มพ้ ันส�ำลจี ุม่ ใน transport media สอดเข้าในรู ทวาร แล้วหมนุ ให้สัมผสั ผนังล�ำไสใ้ หญ่ น�ำส่วนปลายสำ� ลีจ่มุ เก็บใน transport media แล้วหักปลายไม้ทิ้งเช่นกัน เช่น การเก็บตัวอยา่ งตรวจโรคไข้หวัดนกและนิวคาสเซิล เป็นต้น วิธกี ารน�ำส่ง ปดิ จกุ หลอดหรอื ภาชนะใสต่ วั อยา่ งใหส้ นทิ บรรจลุ งในถงุ พลาสตกิ 2 ชนั้ รดั ยาง เขยี นรายละเอยี ด ของตัวอย่างใหช้ ัดเจนถึงชอ่ื ท่อี ยเู่ จา้ ของสตั ว์ ผู้ส่งตวั อย่าง ชนดิ ของตวั อย่าง วันท่ีเกบ็ ตัวอย่าง และ รายละเอียดที่สามารถตดิ ต่อกลบั ไดเ้ ป็นตน้ แลว้ ใสร่ วมกันในกระติกพรอ้ มน้�ำแขง็ น�ำสง่ ห้องปฏิบัตกิ าร (กรณีตรวจทางไวรัสวิทยา ใหเ้ กบ็ ตัวอยา่ งป้ายสำ� ลี 5 ตวั อยา่ งต่อ transport media 1 ขวด กรณีตรวจทางปรสิตวิทยา ให้เกบ็ ตวั อย่างในอณุ หภูมหิ ้อง) ชนดิ ตวั อย่างทีไ่ มเ่ หมาะสม 1. ตัวอย่างทสี่ ่งมาโดยไม่แชเ่ ย็น (4°C) หรอื ไมใ่ ส่กระติกบรรจนุ ้�ำแข็ง 2. หลอดหรอื ภาชนะบรรจตุ วั อย่างมีการแตกหักหรือชำ� รุด ทำ� ให้ transport media ไหลซึมออกมาได้ 3. ตวั อยา่ งแหง้ เน่ืองจากไม่มหี รอื ไมไ่ ด้แช่ใน transport media 4. ตวั อยา่ งที่มีการปนเปื้อนเช้อื รา แบคทเี รยี คู่มอื การเกบ็ ตัวอย่าง 5

เลอื ดสามารถนำ� มาใชใ้ นการตรวจทงั้ ดา้ นโลหติ วทิ ยา เคมคี ลนิ กิ จลุ ชวี วทิ ยา และซรี มั วทิ ยา เปน็ ตน้ โดยจะตอ้ งเกบ็ เลอื ดจากสตั ว์ที่ยังมชี ีวติ อยู่เทา่ น้นั การเก็บเลอื ดสัตว์ในท้องท่ี สามารถเจาะเลอื ดได้ท้ัง เสน้ เลือดดำ� และเส้นเลือดแดง ตารางแสดงต�ำแหน่งและขนาดเขม็ ท่ีใชเ้ จาะเลอื ดสตั ว์ ชนดิ สตั ว์ ตำ�แหนง่ ที่เจาะเลอื ด เบอรเ์ ข็ม ความยาวเขม็ (นิ้ว) มา้ เส้นเลือดดำ�ทค่ี อ (Jugular vein) 16 - 19 1.5 - 2 โค เสน้ เลือดดำ�ทค่ี อ (Jugular vein) 16 - 19 1.5 - 2 เส้นเลือดดำ�ทโี่ คนหาง (Coccygeal vein) เส้นเลือดดำ�ที่หู (Ear vein) แกะ แพะ เสน้ เลือดดำ�ที่คอ (Jugular vein) 18 - 20 1.5 - 2 สุกร เส้นเลือดดำ�บริเวณระหว่างคอและหนา้ อกตอนบน 20 1.5 - 4 (Anterior vena cava) 20 1 เส้นเลือดดำ�ที่หู (Ear vein) สุนขั เส้นเลือดดำ�ท่ขี าหนา้ (Cephalic vein) 20 - 22 1.5 เสน้ เลอื ดดำ�ทข่ี าหลงั (Saphenous vein และ Femoral vein) แมว เส้นเลอื ดดำ�ที่ขาหนา้ (Cephalic vein) 22 - 25 1 เสน้ เลอื ดดำ�ทข่ี าหลงั (Saphenous vein และ Femoral vein) ไก่ เส้นเลอื ดดำ�บรเิ วณใตป้ กี (Wing vein) หรอื คอ (Jugular vein) 22 - 26 1 6 คมู่ ือการเกบ็ ตัวอยา่ ง

วสั ดแุ ละอุปกรณ์ 1. กระบอกฉดี ยา (syringe) ท่ีปลอดเชื้อ 2. เขม็ ฉดี ยา ที่ปลอดเช้อื 3. สำ� ลชี ุบแอลกอฮอล์ 4. ภาชนะทใ่ี ช้บรรจุเลือด ใช้หลอดแกว้ ซง่ึ ปลอดเชอื้ และควรเปน็ หลอดฝาเกลียว หรอื มีจุกยางปดิ แน่น ท่ีภายในหลอดมีสารปอ้ งกนั การแขง็ ตวั ของเลือด 5. ท่ีวางหลอดเลอื ด (rack) ขั้นตอนการเก็บตัวอยา่ งเลือด 1. เชด็ ท�ำความสะอาดบริเวณทีจ่ ะเจาะด้วยแอลกอฮอล์ 2. ใช้นว้ิ กดบรเิ วณเสน้ เลอื ดด�ำตรงต�ำแหนง่ ที่จะเจาะเลอื ด 3. ใชเ้ ขม็ แทงตามแนวเสน้ เลือด พรอ้ มท้ังดูดเลอื ดทนั ที 4. เมื่อดูดเลือดได้ปริมาณตามที่ต้องการแลว้ ใชส้ �ำลชี ุบแอลกอฮอล์กดแล้วดึงเข็มออกมา 5. ถอดเข็มออก แล้วถา่ ยเลอื ดประมาณ 1-2 มลิ ลิลิตร ลงในหลอดเกบ็ เลือดอย่างช้า ๆ พลิกหลอด กลบั ไปมาเบา ๆ เพอ่ื ให้เลือดผสมกนั กับสารปอ้ งกันการแข็งตัวของเลอื ด 6. รายละเอียดทคี่ วรแนบมาด้วย ได้แก่ ช่ือสตั ว์ เบอร์สัตว์ ชนิดสัตว์ ประวัตสิ ัตว์ วนั ท่ีเกบ็ สถานที่เกบ็ เจ้าของสตั ว์ ลกั ษณะอาการ การรกั ษา เปน็ ต้น ภาพที่ 1 การเจาะเลอื ดในโค กระบอื คู่มอื การเก็บตัวอยา่ ง 7

ภาพท่ี 2 การเจาะเลือดในแพะ ภาพที่ 3 การเจาะเลือดในสุกร ภาพท่ี 4 การเจาะเลอื ดในไก่ ภาพที่ 5 การเจาะเลือดในเปด็ 8 คมู่ อื การเกบ็ ตวั อยา่ ง

สารปอ้ งกนั การแขง็ ตวั ของเลอื ด (Anticoagulants) มหี ลายชนดิ แตท่ ่ีนยิ มใช้ ไดแ้ ก่ 1. EDTA (Ethylenediaminetetraacetic acid) ปรมิ าณทใี่ ช้ 10-20 มลิ ลกิ รมั (0.1 มลิ ลลิ ติ ร ของสารละลาย 10% ท�ำใหแ้ หง้ ในอุณหภูมิห้อง หรือในตู้อบ) ตอ่ เลอื ด 10 มิลลิลติ ร มี ฤทธป์ิ อ้ งกนั เลอื ดแขง็ ตวั ไดน้ าน 6 ชว่ั โมง ถา้ ใชเ้ กนิ ปรมิ าณทก่ี ำ� หนด จะทำ� ใหเ้ มด็ เลอื ดหดตวั 2. Heparin ปริมาณทใี่ ช้ 1-2 มิลลกิ รมั (0.2 มลิ ลลิ ติ ร ของสารละลาย 1% อาจเคลอื บในเขม็ หรือกระบอกฉีดยา) ต่อ เลือด 10 มิลลลิ ติ ร มฤี ทธ์ปิ อ้ งกันเลือดแข็งตัวได้นาน 8 ชว่ั โมง ภาพที่ 6 การพลิกหลอดเก็บเลือด ไมม่ ผี ลตอ่ ขนาดเมด็ เลอื ดแดง และไมท่ ำ� ใหเ้ มด็ เลอื ดแตก แตอ่ าจ กลบั ไปมาเบา ๆ ทำ� ใหเ้ ม็ดเลือดขาวจับกลมุ่ เกาะตัว การนำ� สง่ ตวั อย่างเลอื ด เกบ็ โดยแชเ่ ยน็ ไวท้ ่ี 4oC และตอ้ งน�ำส่งห้องปฏบิ ตั กิ าร โดยแชใ่ นกระติกน�้ำแข็ง เพือ่ ตรวจภายใน 24 ชวั่ โมง การแตกของเมด็ เลอื ดแดงขณะเจาะเลือด จะท�ำให้ระดับสารเคมีในส่ิงส่งตรวจเปล่ียนแปลง สารในเม็ดเลอื ดแดงอาจไปรบกวนการตรวจวดั หรือสารในเมด็ เลือดแดงออกมาปนในซีรัมหรอื พลาสมา โดยตรง สาเหตกุ ารแตกของเมด็ เลือดแดง ไดแ้ ก่ 1. แอลกอฮอลท์ ่ใี ช้ทำ� ความสะอาดบริเวณทีเ่ จาะเลือดยงั ไม่แห้ง 2. เข็มทีใ่ ชเ้ จาะเลือดเล็กเกนิ ไป 3. การดดู เลอื ดออกจากรา่ งกายสตั ว์ท่รี นุ แรงเกนิ ไปและไมส่ ม่�ำเสมอ 4. การถา่ ยเลือดใส่หลอดเกบ็ เลอื ด โดยไม่ถอดเข็มเจาะเลือดออก 5. การสมั ผสั กับนำ�้ 6. การเกบ็ เลือดไว้ในชอ่ งแช่แขง็ คมู่ อื การเก็บตวั อย่าง 9

การท�ำเลือดป้ายสไลดท์ ดี่ ีควรทำ� ทนั ทีหลังเจาะเลอื ด โดยไม่ จำ� เปน็ ต้องใชส้ ารป้องกันการแข็งตัวของเลอื ด หรอื สามารถทำ� เลอื ด ป้ายสไลด์จากเลือดทใ่ี ส่สารป้องกนั การแขง็ ตวั ของเลอื ด ดังน ี้ ข้ันตอนการท�ำเลือดปา้ ยสไลด์ 1. หยดเลอื ดลงบนแผ่นสไลด์ 1 หยดเลก็ ลงไปทีต่ �ำแหน่ง 1 ใกล้ปลายสไลดข์ ้างหนง่ึ 2. ใชป้ ลายของสไลดอ์ กี แผน่ แตะทห่ี ยดเลือดโดยวางท�ำมุม 30-45 องศากบั สไลด์แผน่ แรก ให้หยดเลือดแผก่ ระจายไปตามขอบ ของสไลด์แผ่นบน 3. คอ่ ย ๆ เลอื่ นสไลดไ์ ปขา้ งหน้าด้วยความเร็วคงท่ีสม่�ำเสมอ ตลอดความยาวของสไลด์ และไมก่ ดหนักจนเกนิ ไป 2 4. รีบทำ� ใหแ้ หง้ โดยโบกไปมาในอากาศอย่างเร็ว 5. ทิ้งไว้ให้แห้งสนิทสักครู่ แล้วน�ำไปแช่ใน absolute methanol เปน็ เวลา 5 นาที เพือ่ ปอ้ งกนั การเปลย่ี นแปลงของเลอื ด ป้ายสไลด์เน่ืองจากอณุ หภมู ขิ องอากาศ ความช้นื และระยะเวลาท่ี เกบ็ จากนนั้ จึงส่งตรวจต่อไป 3 หมายเหตุ ควรลา้ งและเชด็ สไลด์ใหส้ ะอาดก่อนนำ� ไปใช้ทุกครั้ง ภาพที่ 6 การทำ�เลอื ดปา้ ยสไลด์ การนำ�สง่ ตวั อยา่ งเลือดป้ายสไลด์ ถ้าบรรจุในกล่องใส่สไลด์ ควรใช้เทปกาวยึดแผ่นสไลด์ให้ติดกับกล่องไว้ เพื่อป้องกันการ กระทบกระเทือนจากการขนสง่ ซ่งึ จะทำ�ใหส้ ไลด์แตกได้ ถา้ สไลด์มีจำ�นวนน้อย ควรหอ่ ด้วยกระดาษนุ่ม หรือกระดาษทชิ ชู เป็นแผ่น ๆ แลว้ จึงมัดรวมกนั เป็นหอ่ เล็ก ๆ อกี ครงั้ 10 คมู่ ือการเก็บตวั อยา่ ง

การเก็บตัวอยา่ งซรี มั เพ่ือให้ได้ตัวอย่างซีรัมท่ีมีคุณภาพและเหมาะสมในการตรวจทาง ห้องปฏบิ ัติการ เจา้ หน้าทข่ี องกรมปศุสัตว์ สัตวแพทยห์ รอื เกษตรกรที่ผา่ นการ อบรม ควรปฏิบัติดังตอ่ ไปน้ี 1. ข้ันตอนการเก็บตัวอยา่ งซรี ัม 1. ใช้ส�ำลีชบุ แอลกอฮอลเ์ ช็ดบรเิ วณตำ� แหนง่ ที่จะเจาะเลอื ด 2. ใช้นว้ิ กดบริเวณตำ� แหน่งที่จะเจาะเลอื ด 3. แทงเข็มตามแนวเส้นเลอื ด พร้อมทั้งดดู เลอื ดอยา่ งระมดั ระวงั ไม่เรว็ หรือช้าเกนิ ไป 4. ดดู เลอื ดตามทตี่ อ้ งการ (ประมาณ 5-20 มลิ ลลิ ติ ร) ใชส้ ำ� ลชี บุ แอลกอฮอลก์ ดตรงทเี่ จาะแลว้ ดงึ เขม็ ออก 5. ถ่ายเลอื ดจากกระบอกฉีดยาใส่หลอดแก้วหรือขวดที่สะอาดและแห้ง ตั้งท้ิงไว้ 4-6 ชั่วโมงที่ อณุ หภูมิห้อง (25-30oC) (หา้ มแช่ในตเู้ ย็น กระตกิ น้ำแข็งหรือในช่องแช่แข็ง) หลังตั้งท้ิงไว้สามารถเก็บ ในตู้เย็น 4oC ไม่เกิน 1 คนื ถ้านานกว่านที้ ำ� ให้เมด็ เลอื ดแตกจะได้ซีรัมสีแดงซง่ึ จะเน่าเสียงา่ ย 6. เมอื่ เลอื ดแขง็ ตวั แลว้ แยกเอาสว่ นซรี มั ใสใ่ นหลอด หรอื ขวดทแ่ี หง้ สะอาดมฝี าปดิ หรอื จกุ ปดิ แนน่ สนทิ 7. ในกรณที ี่แยกซรี มั แล้วมีเม็ดเลือดแดงปนอยู่มาก ควรท�ำการปั่นเหวี่ยงด้วยเคร่ืองปั่น 2,000- 3,000 รอบตอ่ นาที นาน 10-20 นาที เพือ่ ใหเ้ มด็ เลือดตกตะกอนก่อนจงึ แยกซีรัม ถา้ ไมม่ เี คร่ืองป่ัน ให้ น�ำซรี ัมท่ีแยกได้ เก็บไว้ในต้เู ย็นหรอื กระติกนำ้� แขง็ 12-24 ช่วั โมง (หา้ มแชใ่ นช่องแชแ่ ข็ง) เมด็ เลอื ดที่ เหลืออยูจ่ ะตกตะกอนแลว้ ให้แยกซรี ัมใสใ่ นหลอดหรอื ขวดใหม่ ปดิ ฝาใหแ้ นน่ 8. ติดฉลากหมายเลขตัวอย่าง แล้วแช่ในกระติกน�้ำแข็งหรือตู้เย็น เพ่ือป้องกันการเน่าเสียแล้ว น�ำส่งห้องปฏบิ ตั ิการ หรอื เกบ็ ในช่องแช่แขง็ ในกรณีท่จี ะเกบ็ ไวน้ านเพ่อื รอการส่งตรวจต่อไป คมู่ อื การเกบ็ ตวั อย่าง 11

2. ขนั้ ตอนการน�ำส่ง 1. นำ� หลอดเก็บซีรัมใส่ถงุ พลาสตกิ ไมค่ วรเกนิ 50 ตัวอย่างตอ่ ถุง เรียงตามลำ� ดับเลข ติดเทปกาว แตล่ ะถงุ พรอ้ มเขยี นลำ� ดบั ของซรี มั ทอ่ี ยใู่ นถงุ แลว้ ใสถ่ งุ พลาสตกิ อกี 1 ชนั้ มดั ปากถงุ เพอื่ ปอ้ งกนั นำ้� ซมึ เขา้ ถงุ 2. ใส่ลงในกระติกหรอื กล่องโฟม แล้วใส่น้�ำแข็งคลมุ ถงุ พลาสตกิ ให้ทว่ั 3. ปิดฝากระตกิ หรอื กลอ่ งโฟม พร้อมแนบรายละเอียดตัวอย่าง 3. การบนั ทึกรายละเอียดตวั อย่าง 1. กรอกรายละเอยี ดลงในแบบฟอร์มรบั ตัวอยา่ ง เพื่อตรวจทางหอ้ งปฏิบัติการชันสตู รโรคสตั ว์ ใหค้ รบถว้ น เชน่ ชนดิ ชอื่ หมายเลขสตั ว์ เลา้ คอก วนั ทเี่ กบ็ และควรระบุโรคทต่ี ้องการทดสอบดว้ ยทกุ ครั้ง (สามารถดาวโหลดแบบฟอรม์ รบั ตวั อย่างจาก http://dld.go.th/niah/files/case_submit.pdf) 2. กรณที ่มี ีจำ� นวนตัวอย่างซีรัมมากกว่า 1 ตัวอย่าง หมายเลขหลอดซีรัมต้องตรงกับล�ำดับเลข ในประวตั สิ ตั ว์ ชนิด เพศ พนั ธ์ุ อายุ วันทเ่ี กบ็ ตวั อยา่ ง อาการของสตั ว์ปว่ ย ฯลฯ ใหบ้ นั ทกึ รายละเอียด ตัวอยา่ งซีรมั แตล่ ะตวั อย่างในแบบฟอร์มส่งตัวอยา่ งซรี ัม โดยให้แยก 1 รายต่อ 1 แบบฟอรม์ 3. หนงั สอื น�ำสง่ ตวั อย่าง ให้ระบุกิจกรรมที่ส่งตรวจ เช่น ชันสูตร โครงการวิจยั ตรวจสุขภาพ ทดสอบโรค จ�ำนวนซรี มั ที่ส่งตรวจใหค้ รบถ้วน 12 คู่มอื การเก็บตวั อยา่ ง

4. คณุ ภาพและลักษณะของซีรัมที่ดี 1. มปี รมิ าณมากเพียงพอท่ีจะตรวจแตล่ ะหอ้ งปฏิบัตกิ ารอยา่ งน้อย 2-10 มลิ ลลิ ติ ร 2. ไมม่ ีเม็ดเลือดปนและไม่มเี มด็ เลอื ดแดงแตก ถา้ แตกจะสงั เกตเหน็ ซรี ัมมีสีแดง 3. ซรี ัมทีม่ คี ณุ ภาพดี (เหมาะสม) ต้องมีลักษณะเหลว ใส สีเหลืองอ่อน ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่มีส่ิงแปลก ปลอมต่าง ๆ กรณที ม่ี ีคุณภาพไม่ดี (ไมเ่ หมาะสม) คอื มลี กั ษณะขุ่น เหนยี วหนดื มสี ีแดงถงึ แดงเข้ม มกี ล่ินเหม็น ส่ิงแปลกปลอม ตะกอน จะไม่สามารถตรวจรับได้ เน่ืองจากมีผลโดยตรงตอ่ การทดสอบ ซีรัมคณุ ภาพดี (เหมาะสม) ซีรัมคณุ ภาพไม่ดี (ไมเ่ หมาะสม) 4. หลอดหรอื ขวดเกบ็ ซรี มั ตอ้ งตดิ ชอื่ หรอื หมายเลขสตั วห์ รอื หมายเลขหลอดใหช้ ดั เจน ควรใชป้ ากกาทห่ี มกึ ไม่ ละลายนำ�้ และเทปเหนียวชนิดท่กี ันนำ�้ ซึม เพอ่ื ไมใ่ หล้ บเลอื นและลอกหลุด 5. มีชอ่ื เจา้ ของ ประวตั สิ ตั ว์ หมายเลขประจำ� ตวั สัตวต์ รงกับหมายเลขหลอด 6. ในกรณที ีต่ ้องการตรวจหาวติ ามินเอ ต้องใช้หลอดกันแสง เพ่ือป้องกันไม่ให้วิตามินเอในซีรัมถูกแสง ทำ� ลายและตอ้ งรบี นำ� ส่งตรวจภายใน 24 ชว่ั โมง ในกรณีสงสยั มีการระบาดของโรคสามารถเก็บซรี ัมมาตรวจวา่ สตั วม์ กี ารตดิ โรคนัน้ หรือไม่ โดยเกบ็ ซรี ัม 2 ชุด เปรยี บเทยี บผลทดสอบ ซีรัมชดุ แรกเกบ็ เมอ่ื สตั ว์มอี าการป่วยอยา่ งเฉียบพลนั ชดุ ที่ 2 เก็บจากสตั ว์ปว่ ยตวั เดยี วกันหา่ งจากครงั้ แรก 3-4 สัปดาห์ หรือชุดแรกจากสัตวท์ ่ีปกติ และชุดที่ 2 เก็บจากสตั ว์ทมี่ อี าการหนกั ทสี่ ุด ในฝงู คูม่ อื การเกบ็ ตวั อย่าง 13

5. ข้อควรระวัง 1. เลอื ด ซีรมั ไม่ควรให้ถกู แสงแดด 2. เมด็ เลอื ดท่แี ตก จะมีผลตอ่ การตรวจ 3. เมอ่ื เจาะเลอื ดใส่หลอดแล้ว ควรวางในอณุ หภมู ิห้องเป็นเวลาไม่นอ้ ยกว่า 4 ชั่วโมง เพอื่ เกดิ การแยกซีรัมจากเกลด็ เลือดได้มากขนึ้ ไมค่ วรน�ำหลอดเลอื ดทเี่ พ่งิ เจาะมาใหมเ่ ข้าตเู้ ย็นทันที เพราะท�ำให้ ซีรัมไมแ่ ยกชน้ั หรอื แยกได้น้อย 4. เมด็ เลือดแดงแตกอาจเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น มีการดูดเลือดเร็วและแรงระหว่างการเจาะ การเก็บตัวอยา่ งทไี่ ด้ไวใ้ นทท่ี ีม่ ีอณุ หภูมสิ ูง การแช่แข็งเลอื ดกอ่ นแยกซรี มั ต้งั เลอื ดทเี่ จาะไว้นานเกนิ เวลา กอ่ นแยกซรี มั หรอื มีการปนเปือ้ นของเชื้อแบคทเี รีย 5. ไม่ควรท้ิงเลือดที่เจาะไว้ในกระบอกฉีดยาเพื่อให้เม็ดเลือดแดงตกตะกอนเพราะจะท�ำให้เกิด ความยุ่งยาก ไมส่ ะดวกในการแยกซีรมั 14 คมู่ ือการเกบ็ ตัวอยา่ ง

รูปแสดงตำ� แหนง่ เจาะเลอื ดบนตวั สัตว์ กระบอื โค สกุ ร แพะ ไก่ เป็ด ค่มู ือการเกบ็ ตวั อยา่ ง 15

รูปแสดงข้นั ตอนการแยกตวั อยา่ งซรี ัมท่ดี ี 16 คมู่ อื การเก็บตวั อยา่ ง

ข้นั ตอนการเก็บตวั อย่างอจุ จาระ 1. ลว้ งเกบ็ อุจจาระจากทวารหนกั จะไดอ้ ุจจาระท่ีสด หรอื เกบ็ อจุ จาระทถี่ ่ายใหม่ ๆ อุจจาระของ สตั ว์กนิ เนือ้ ควรเก็บประมาณ 10 กรัม แตใ่ นสตั วเ์ ค้ยี วเออ้ื ง ควรเกบ็ ใหม้ ากกว่าประมาณ 2 เทา่ 2. เกบ็ อุจจาระใสถ่ ุงพลาสติก แยกตัวละถุง แลว้ ปดิ ปากถุงเพือ่ ปอ้ งกันการปนเปือ้ น 3. รายละเอียดท่ีควรแนบมาด้วย ได้แก่ ช่ือสัตว์ เบอร์สัตว์ ชนิดสัตว์ วันที่เก็บ สถานที่เก็บ เจ้าของสตั ว์ ความผิดปกติต่าง ๆ (ถา้ มี) การนำ�ส่งตัวอย่างอจุ จาระ อุจจาระทีเ่ กบ็ ไว้ไม่ควรนานเกนิ 6 ชัว่ โมง เพราะระยะต่าง ๆ ของพยาธิในอุจจาระจะเปลย่ี นแปลง ทำ� ใหย้ ากตอ่ การตรวจ หากยงั ไมส่ ง่ ตรวจทนั ที ใหเ้ กบ็ อจุ จาระโดยใสใ่ นถงุ พลาสตกิ และแชเ่ ยน็ ทอ่ี ณุ หภมู ิ 4oC หรอื แช่ในกระติกน้�ำแข็ง นำ� ส่งห้องปฏบิ ตั ิการภายใน 2 วัน คูม่ อื การเก็บตวั อยา่ ง 17

1. พยาธภิ ายใน (Endoparasites) ควร เก็บพยาธิในแอลกอฮอลล์ 70% ใส่ในภาชนะที่มี ฝาหรือจุกปดิ สนทิ 2. พยาธิภายนอก (Ectoparasites) ท่พี บสว่ นใหญ่ ไดแ้ ก่ เหบ็ หมดั เหา และไร ใหเ้ กบ็ ใสใ่ น ภาชนะทบี่ รรจแุ อลกอฮอลล์ 70% ถ้าเป็นตัวอย่างแมลง เช่น ริ้น และยุง การดักจับแมลงจะใช้สวิง หรือ Light-traps วางใกลค้ อกสัตว์ และเก็บแมลงไวใ้ นขวดแก้ว ถงุ พลาสตกิ หรอื เก็บไว้ในแอลกอฮอลล์ 70% 18 คมู่ อื การเก็บตัวอยา่ ง

การเกบ็ ตวั อย่างเพอื่ ส่งตรวจสารกำ� จดั ศตั รพู ชื และสตั ว์ โดยท่ัวไปให้เก็บตัวอย่างแต่ละชนิดแยกในภาชนะที่สะอาดและเขียนฉลากก�ำกับทุกตัวอย่าง ภาชนะทใี่ ชค้ วรเปน็ ชนิดท่ีแชแ่ ขง็ ได้ เชน่ ถงุ พลาสติก ห้ามแชแ่ ขง็ ตวั อยา่ งของเหลวทบี่ รรจใุ นภาชนะแกว้ ควรระวงั ตวั อยา่ งปนเป้ือน ตัวอย่างท่สี ง่ ตรวจควรมีปริมาณและการเกบ็ รักษาตัวอยา่ งตามที่ระบุ การเก็บตัวอยา่ งท่ถี ูกตอ้ ง - บ่งชร้ี ายละเอียดของตัวอย่างชัดเจน - ตวั อยา่ งน�้ำที่เกบ็ สามารถใช้ขวดพลาสติกหรือ ขวดประเภทอน่ื ๆ ที่สะอาดได้ - ตวั อยา่ งทีเ่ กบ็ สามารถใช้ถงุ พลาสติกประเภทอ่ืน ๆ ที่สะอาดได้ ปิดหรือมัดปากถงุ ใหแ้ นน่ ค่มู ือการเกบ็ ตัวอยา่ ง 19

การเก็บและส่งตวั อยา่ งตรวจวเิ คราะห์สารกำ� จดั ศตั รพู ชื และสัตว์ ชนดิ ตวั อย่าง ปริมาณ ภาชนะที่ใช้เกบ็ การเก็บรกั ษา ตบั 100 กรัม ถงุ พลาสตกิ แช่แข็ง/ แช่เย็น ไต 100 กรัม ถุงพลาสติก แชแ่ ข็ง/ แชเ่ ย็น อาหารในกระเพาะ 100 กรมั ถุงพลาสติก แช่แขง็ / แช่เย็น ล�ำไส้ 100 กรัม ถุงพลาสติก แช่แข็ง/ แชเ่ ย็น อาหารส�ำเรจ็ รปู 200 กรัม ถุงพลาสติก อุณหภมู ิห้อง วัตถดุ ิบอาหารสตั ว์ 100 กรมั ถุงพลาสตกิ อณุ หภูมหิ ้อง พชื อาหารสตั ว์ 100 กรัม ถุงพลาสตกิ อณุ หภมู หิ อ้ ง น้ำ� 1 ลติ ร ขวดพลาสตกิ , ขวดสะอาด แช่เย็น ดิน 50 กรมั ถงุ พลาสติก อนื่ ๆ 100 กรัม ถงุ พลาสตกิ อณุ หภูมหิ อ้ ง อณุ หภูมหิ ้อง 20 คูม่ ือการเกบ็ ตวั อยา่ ง

การเก็บตัวอย่างน้�ำเสียจากฟารม์ สกุ รและโรงฆา่ สตั ว์ การเกบ็ ตวั อยา่ งนำ้� เสยี จากฟาร์มสุกรและโรงฆ่าสัตว์เพือ่ นำ� มาวเิ คราะหม์ คี วามส�ำคัญตอ่ ผลการ วเิ คราะหม์ าก เน่อื งจากตัวอย่างน�้ำท่ีเก็บจะต้องเป็นตัวแทนของแหล่งน้�ำซ่ึงต้องการทราบคุณภาพ หากตวั อย่างไม่ไดเ้ ปน็ ตัวแทนทงั้ หมดของนำ�้ แลว้ ผลการวิเคราะห์จะไมถ่ ูกต้องตามความเปน็ จริง วิธีการเก็บตัวอย่างน้�ำ แบ่งออกเป็น 2 วิธี 1. การเกบ็ ตวั อย่างนำ�้ แบบแยกหรือ แบบจว้ ง (Grab sample) เป็นการเก็บตัวอย่างแบบจ้วง เอา แล้วน�ำไปวิเคราะหต์ ามพารามิเตอร์ ที่ต้องการ มักใช้เก็บตัวอย่างน�้ำที่มี การเปลี่ยนแปลงคณุ ภาพอยา่ งชา้ ๆ เชน่ น้�ำในแม่น�้ำใหญ่ น้�ำในบ่อลึก น�้ำใน บรเิ วณท่มี ีการขงั นาน ๆ 2. การเกบ็ ตวั อยา่ งนำ้� แบบรวม (Composite sample) เป็นการเกบ็ ตวั อยา่ งน้�ำแบบหลาย ๆ คร้ังต่อช่วงการผลิต ตัวอย่างน้�ำจะถูกเก็บทุก ๆ ช่วงเวลา ทุกช่ัวโมงหรือทกุ สองช่ัวโมง นำ� ตวั อย่างน�้ำที่เก็บมารวมเป็นตัวอย่างเดียวกันในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง ปรมิ าณการเก็บขน้ึ อยู่กบั การไหลของนำ้� ตวั อยา่ งทไี่ ดถ้ อื เปน็ ตวั อยา่ งเฉลีย่ ภายใตส้ ภาวะทีเ่ กบ็ คูม่ อื การเก็บตัวอยา่ ง 21

ภาชนะเกบ็ ตัวอย่างน�้ำเสยี ขวดพลาสติกฝาเกลยี วประเภทโพลเี อทิลนี (polyethylene) หรือโพลโี พรไพลนี (polypropylene) ทม่ี คี วามจุ 1 ลติ ร สามารถทนการกดั กร่อนของกรดได้ จดุ เก็บตัวอยา่ งนำ้� เสียจากฟารม์ สุกรและโรงฆา่ สตั ว์ จุดเก็บตัวอยา่ งน้�ำเสียจากฟารม์ สกุ รและโรงฆา่ สตั ว์ มี 3 จุด ดังน้ี - จุด L คือ จุดรวมน้�ำเสยี ก่อนเข้าระบบบำ� บดั นำ�้ เสยี - จุด W คอื จุดรวมน้ำ� บ่อสดุ ทา้ ย - จุด O คือ จดุ ปลอ่ ยน�้ำทิง้ ออกนอกเขตพ้ืนท่ี การรักษาสภาพตัวอย่างนำ้� การรักษาสภาพตัวอย่างน้�ำเป็นการรักษาคุณสมบัติบางประการของตัวอย่างน้�ำให้มีสภาพ ใกล้เคียงกับสภาพทีเ่ ป็นอยูต่ ามปกตใิ ห้มากทสี่ ดุ ก่อนน�ำไปวเิ คราะห์ในห้องปฏิบตั ิการ การรกั ษาตวั อย่าง นำ้� ให้อยใู่ นอณุ หภมู ิ 4oC การเติมสารเคมีเพ่ือรักษาสภาพตวั อยา่ งนำ้� ขณะเดียวกนั ตอ้ งส่งตัวอยา่ งนำ้� ให้ ถึงหอ้ งปฏิบตั กิ ารใหเ้ ร็วทส่ี ดุ เท่าทจี่ ะทำ� ได้ การสง่ ตวั อย่างควรอยู่ภายในระยะเวลา 8 ชั่วโมง ไม่ควร เกิน 24 ช่วั โมง ขณะขนส่งจะต้องไม่ใหต้ วั อย่างถกู แสงแดด ใส่นำ�้ แขง็ แชต่ วั อยา่ งและต้องกรอกราย ละเอียดในฉลากติดขวดตวั อย่างนำ�้ ใหค้ รบถ้วน วธิ ีการเก็บตัวอยา่ งนำ�้ เสยี จากฟาร์มสกุ รและโรงฆา่ สัตว์ การเกบ็ ตัวอยา่ งน้�ำเสียใช้การเก็บแบบจ้วง ซึ่งปกติการเก็บตัวอย่างแบบจ้วงนี้จะเลือกจุดเก็บ ตรงกลางของบอ่ พักน้�ำเสยี หรือห่างจากขอบบอ่ 1 เมตร ลึกกงึ่ กลางของน้�ำในบ่อและเก็บตัวอย่างจุด ละ 1 ตวั อย่าง ใหเ้ ก็บจดุ O จดุ ปลอ่ ยน้�ำทิ้งออกนอกเขตพืน้ ที่ (ในกรณที ฟ่ี าร์มสกุ รหรือโรงฆ่าสตั ว์ไมม่ ีจุด O ใหเ้ ก็บจุด W จดุ รวมน้�ำบ่อสุดท้าย) เก็บตัวอย่างน�้ำ จ�ำนวน 2 ขวด โดยใช้ตัวอย่างน้�ำล้างขวด ก่อน 2–3 ครั้ง ก่อนเก็บตวั อย่าง ขวดที่ 1 วเิ คราะห์ pH BOD SS ใหเ้ ก็บตัวอยา่ งน้�ำใหเ้ ตม็ ขวด ขวดที่ 2 วเิ คราะห์ COD TKN ใหเ้ กบ็ ตัวอยา่ งน้�ำประมาณพรอ่ งคอขวด แลว้ เตมิ กรดซัลฟรู ิค เขม้ ข้น 1-2 มลิ ลลิ ิตร เพอ่ื ให้ได้ pH ประมาณ 1-2 22 คมู่ ือการเก็บตัวอย่าง

ฉลากติดขวดเก็บตัวอย่างนำ�้ เสยี ครง้ั ทเี่ ก็บตวั อยา่ ง............................วนั /เดอื น/ปีที่เกบ็ ตัวอยา่ ง................................................................. ชอ่ื / เจ้าของฟาร์ม,โรงฆา่ สตั ว์...................................................................................................................... ตำ� แหนง่ ที่เก็บ (จุดเกบ็ )........................................เวลา.............................ค่า pH...................................... ประเภทตัวอย่าง ฟาร์มสกุ ร โรงฆา่ สัตว์ อื่น ๆ.............................................. ส่งตรวจท่หี อ้ งปฏบิ ตั ิการ............................................................................................................................ พารามิเตอร์ทต่ี ้องการตรวจ ไม่เติมกรด (ตรวจ pH, BOD, SS) เตมิ กรด (ตรวจ COD, TKN) อืน่ ๆ ระบ.ุ ................................................................. ช่อื - สกลุ ผู้เก็บตัวอย่าง (ตัวบรรจง)...................................................หนว่ ยงาน...................................... ................................................................................................................................................................... คู่มอื การเก็บตัวอยา่ ง 23

การเก็บรกั ษาคุณสมบตั ขิ องตัวอยา่ งน�ำ้ เสยี จากฟาร์มสกุ รและโรงฆา่ สัตว์ พารามเิ ตอร์ วธิ รี ักษาคณุ สมบตั ขิ องน�้ำ ระยะเวลาเกบ็ รักษา พีเอช (pH) แช่เยน็ ทนั ที ส่งหอ้ งปฏิบัตกิ ารทันทีหรืออยา่ ง บีโอดี (BOD) แชเ่ ย็นทนั ที ช้าทสี่ ดุ ไมเ่ กิน 24 ชว่ั โมง ของแข็งแขวนลอย (SS) แช่เยน็ ทนั ที ซีโอดี (COD) เตมิ กรดซลั ฟรู คิ 1-2 มลิ ลลิ ติ ร และแชเ่ ยน็ TKN เตมิ กรดซลั ฟรู คิ 1-2 มลิ ลลิ ติ ร และแชเ่ ยน็ (Total Kjeldahl nitrogen) การเก็บตัวอย่างน�้ำเพือ่ การวิเคราะหค์ ณุ ภาพนำ้� อนื่ ๆ นอกเหนอื จากฟารม์ สกุ รและโรงฆา่ สตั ว์ เช่น น�้ำใชใ้ นฟาร์มปศสุ ตั ว์ น้�ำบอ่ เลย้ี งปลา กุ้ง วธิ ีการเก็บและภาชนะท่ีใช้เก็บเหมือนกบั การเก็บตวั อยา่ ง จากฟารม์ สกุ รและโรงฆา่ สตั วแ์ ตป่ รมิ าณขนึ้ กบั พารามเิ ตอรท์ ตี่ อ้ งการตรวจ ดงั ตารางแสดงปรมิ าณตวั อยา่ ง ท่เี กบ็ และการเกบ็ รักษาตวั อยา่ งนำ้� เพอ่ื ตรวจวเิ คราะห์คณุ ภาพนำ�้ 24 คู่มอื การเก็บตัวอยา่ ง

ตารางแสดงปริมาณตวั อยา่ งทเี่ กบ็ และการเกบ็ รักษาตวั อย่างนำ้� เพอื่ ตรวจวเิ คราะห์คุณภาพน�้ำ รายการวิเคราะห์ ปริมาณตวั อย่างที่สง่ ตรวจ การเกบ็ รกั ษา ระยะเวลาที่ใช้ (มิลลลิ ติ ร) ในการวิเคราะห์ pH แช่เยน็ Chemical oxygen demand (COD) 100 เตมิ กรดซลั ฟรู คิ 1-2 มลิ ลลิ ติ ร และแชเ่ ยน็ (วันท�ำการ) Biochemical oxygen demand 500 (BOD) 1,000 แชเ่ ยน็ 1 Total Kjeldahl nitrogen (TKN) 2-3 Suspended solids (SS) 500 เตมิ กรดซลั ฟรู คิ 1-2 มลิ ลลิ ติ ร และแชเ่ ยน็ 6-8 Chloride 1,000 แช่เยน็ Total hardness 500 แชเ่ ยน็ 2-3 Chlorine 500 แช่เยน็ 2-3 Ammonia 2-3 Nitrite 500 แช่เยน็ 2-3 Nitrate 500 เตมิ กรดซลั ฟรู คิ 1-2 มลิ ลลิ ติ ร และแชเ่ ยน็ 2-3 Turbidity 500 แชเ่ ย็น 2-3 Color 500 แช่เย็น 2-3 Total dissolved solid (TDS) 100 แช่เย็น 2-3 Conductivity 100 แชเ่ ยน็ 1 Salinity 100 แช่เยน็ 1 100 แช่เยน็ 2-3 100 แชเ่ ยน็ 1 1 ค่มู ือการเก็บตัวอย่าง 25

การเก็บและส่งตัวอย่างตรวจวิเคราะห์ทางชวี เคมี การตรวจวเิ คราะห์ ภาชนะทใี่ ชเ้ ก็บตวั อยา่ ง ปริมาณตวั อย่างทสี่ ง่ ตรวจ ระยะเวลาท่ใี ช้ การส่งส่ิงส่งตรวจและข้อควรระวงั (มิลลิลติ ร) ในการวเิ คราะห์ Alanine หลอดพลาสตกิ ควรน�ำตัวอย่างส่งห้องปฏิบัติการโดยทันที aminotransferase โพลีโพรไพลนี ปดิ ฝาสนิท เลือด ซีรัม (วนั ทำ� การ) ในกรณตี วั อยา่ งเลือด ถา้ ส่งไมไ่ ด้ในทนั ที ควรปัน่ 5 0.5 2 แยกซีรัม แล้วเก็บแชเ่ ย็นเพือ่ รอการนำ� สง่ Aspartate 5 0.5 2 หมายเหตุ aminotransferase - ขณะนำ� ตวั อย่างสง่ หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร ควรบรรจุ 5 0.2 2 ตัวอยา่ งในภาชนะทมี่ ิดชดิ และแช่เยน็ Blood urea หลอดพลาสตกิ - หลีกเลย่ี งการนำ� ส่งตัวอยา่ งทม่ี ีภาวะเมด็ เลอื ด nitrogen โพลีโพไพลีน ปดิ ฝาสนทิ 5 0.2 2 แดงแตก (hemolysis) - ระดบั ของเอนไซมจ์ ะลดลงภายใน 3 วนั Total bilirubin หลอดพลาสติก ควรน�ำตัวอย่างส่งห้องปฏิบัติการโดยทันที ใน โพลโี พรไพลนี ปิดฝาสนิท กรณีตัวอย่างเลือด ถ้าส่งไม่ได้ในทันที ควรปั่น แยกซีรมั แลว้ เกบ็ แช่เย็นเพื่อรอการนำ� สง่ หมายเหตุ - ขณะน�ำตวั อยา่ งส่งห้องปฏบิ ตั กิ าร ควรบรรจุ ตัวอย่างในภาชนะทีม่ ดิ ชิด และแช่เย็น - หลกี เล่ยี งการนำ� สง่ ตัวอยา่ งที่มภี าวะเมด็ เลือด แดงแตก (hemolysis) และภาวะไขมนั ใน เลือดสงู (lipemic) ควรน�ำตัวอย่างส่งห้องปฏิบัติการโดยทันที ในกรณตี ัวอย่างเลือด ถ้าสง่ ไมไ่ ด้ในทนั ที ควรปัน่ แยกซรี มั แลว้ เก็บแชเ่ ย็นเพ่อื รอการนำ� ส่ง หมายเหตุ - ป้องกนั ตัวอย่างไม่ใหโ้ ดนแสง - ขณะน�ำตวั อย่างส่งห้องปฏิบตั ิการ ควรบรรจุ ตัวอย่างในภาชนะทีม่ ิดชิด และแช่เยน็ - หลกี เลีย่ งการนำ� สง่ ตัวอยา่ งทม่ี ีภาวะเมด็ เลือด แดงแตก (hemolysis) และภาวะไขมนั ใน เลือดสงู (lipemic) 26 คูม่ อื การเก็บตวั อย่าง

การเก็บและส่งตวั อย่างตรวจวเิ คราะหท์ างชีวเคมี การตรวจวิเคราะห์ ภาชนะทใ่ี ช้เก็บตัวอยา่ ง ปรมิ าณตัวอยา่ งทีส่ ง่ ตรวจ ระยะเวลาท่ใี ช้ การสง่ สิ่งส่งตรวจและขอ้ ควรระวงั Glucose หลอดพลาสตกิ (มลิ ลิลติ ร) ในการวิเคราะห์ โพลีโพรไพลีน ปิดฝาสนิท ควรปั่นแยกซีรมั ภายในคร่ึงชวั่ โมงหลงั เกบ็ Alkaline เลอื ด ซรี ัม (วนั ท�ำการ) ตวั อย่าง แล้วนำ� ซรี มั สง่ หอ้ งปฏิบตั กิ ารโดยทันที phosphatase หลอดพลาสตกิ 5 0.5 2 หมายเหตุ Creatinine โพลีโพรไพลีน ปดิ ฝาสนทิ - ขณะนำ� ตัวอยา่ งสง่ หอ้ งปฏบิ ัตกิ าร ควรบรรจุ Creatine kinase 5 0.2 2 ตวั อยา่ งในภาชนะทีม่ ดิ ชดิ และแช่เย็น Total protein 5 0.5 2 - หลีกเลยี่ งการน�ำส่งตวั อยา่ งทม่ี ีภาวะเม็ดเลือด 5 0.5 2 แดงแตก (hemolysis) 5 0.2 2 ควรน�ำตวั อยา่ งส่งห้องปฏิบตั ิการโดยทนั ที ใน กรณตี วั อยา่ งเลือด ถา้ สง่ ไม่ไดใ้ นทันที ควรปั่น แยกซรี ัม แลว้ เก็บแช่เย็นเพ่อื รอการนำ� สง่ หมายเหตุ - ขณะนำ� ตัวอย่างส่งห้องปฏบิ ตั ิการ ควรบรรจุ ตัวอย่างในภาชนะท่มี ิดชดิ และแชเ่ ยน็ - หลีกเลีย่ งการน�ำสง่ ตวั อย่างท่ีมีภาวะเม็ดเลือด แดงแตก (hemolysis) Triglyceride 5 0.2 2 Total cholesterol 5 0.2 2 Albumin 5 0.2 2 Uric acid 5 0.2 2 Cholinesterase 5 0.5 2 คู่มอื การเก็บตัวอย่าง 27

การเกบ็ และส่งตัวอยา่ งตรวจ รายการวเิ คราะห์ ชนดิ ตัวอยา่ ง ปริมาณตวั อยา่ ง ภาชนะบรรจุ การเก็บรกั ษาต อะฟลาทอกซนิ อาหารเมด็ 500-1,000 กรมั ขณะขนส ฟโู มนิซิน ส�ำเร็จรูป บรรจุถงุ พลาสติกปิดสนิท ออคราทอกซิน 500-1,000 กรัม เขยี นรายละเอียดตัวอย่าง อณุ หภูมิปกติ ซีราลีโนน อาหารขน้ ให้ชดั เจน อาหารผสมเอง บรรจถุ ุงพลาสตกิ ปิดสนิท อณุ หภูมปิ กติ เขยี นรายละเอยี ดตวั อยา่ ง ให้ชดั เจน วตั ถดุ บิ อาหารสตั ว์ 500-1,000 กรมั บรรจถุ งุ พลาสติกปดิ สนทิ อณุ หภูมิปกติ เขยี นรายละเอยี ดตัวอยา่ ง ใหช้ ัดเจน อะฟลาทอกซิน น�้ำนมดิบ 100 มิลลลิ ิตร ขวดแก้วหรอื ขวด แช่เย็น ในน้�ำนม พลาสติกปดิ ฝาสนิท 28 คู่มือการเก็บตวั อยา่ ง

จวิเคราะหส์ ารพิษจากเชื้อรา ตัวอยา่ ง ระยะเวลาการนำ� ส่ง จดุ ทส่ี ุม่ เกบ็ ตัวอย่าง หมายเหตุ สง่ หลังเกบ็ ตัวอยา่ ง ภายใน 1 วัน สุ่มเกบ็ อยา่ งนอ้ ย 3 จุด คือ กน้ ถุง กรณีไม่สามารถสง่ ได้ภายในก�ำหนด กลางถงุ และปากถงุ และควรเกบ็ ให้เก็บแช่เยน็ หากเกิน 3 วัน ภายใน 1 วนั อาหารในรางร่วมด้วย ใหเ้ กบ็ ในตู้แช่แข็ง สุ่มเก็บอย่างนอ้ ย 3 จดุ คือ กรณีไม่สามารถสง่ ไดภ้ ายในก�ำหนด ดา้ นบน ตรงกลางและด้านลา่ ง ให้เกบ็ แช่เยน็ หากเกิน 3 วัน ของกองอาหารหรือกองวตั ถุดิบ ใหเ้ กบ็ ในตแู้ ชแ่ ข็ง อาหารสัตว์ ภายใน 1 วัน ภายใน 1 วัน สมุ่ เกบ็ ในถังรวมนมสหกรณ์ หรอื กรณีไม่สามารถส่งไดภ้ ายในก�ำหนด ถงั รวมนมจากฟารม์ ใหเ้ กบ็ แช่เย็น หากเกิน 3 วัน ให้เก็บในตู้แช่แขง็ ห้ามใช้ขวดแก้วถา้ ต้องเก็บตัวอยา่ ง ไวใ้ นตแู้ ช่แข็ง คมู่ อื การเกบ็ ตัวอยา่ ง 29

การเก็บและส่งตวั อยา่ งตรว รายการวเิ คราะห์ ชนิดตวั อยา่ ง ปริมาณตัวอยา่ ง ภาชนะบรรจุ แคลเซียม (Ca) ซีรมั ทองแดง (Cu) 3 มิลลิลิตร หลอดพลาสติกชนิดโพลโี พไพรลีนปดิ ฝาสนิท เหล็ก (Fe) เลือดแข็งตวั แมกนีเซียม (Mg) 5-10 มลิ ลลิ ิตร หลอดพลาสตกิ ชนิดโพลีโพรไพลีน/ แมงกานสี (Mn) น้�ำบรโิ ภค น้�ำจาก 500 มิลลลิ ิตร หลอดแก้วปิดฝาสนทิ โซเดียม (Na) ฟารม์ เล้ยี งสัตว์ ขวดพลาสติกชนดิ โพลโี พรไพลีน ปดิ ฝาสนิท โปแตสเซยี ม (K) ตับ ไต สังกะสี (Zn) อาหารสัตว์สำ� เร็จรูป 100 กรัม ถุงพลาสติกปดิ สนิท 2 ชัน้ ซรี มั 200 กรัม ถุงพลาสติกปดิ สนิท 2 ชนั้ อาร์เซนกิ (As) ฟอสฟอรัส (P) เลอื ดแขง็ ตัว 3 มิลลิลติ ร หลอดพลาสติกชนดิ โพลีโพรไพลีน ปิดฝาสนทิ ซีลีเนยี ม (Se) 5-10 มลิ ลลิ ติ ร หลอดพลาสตกิ ชนิดโพลีโพรไพลนี / น�้ำบริโภค น้�ำจาก 500 มิลลลิ ิตร หลอดแกว้ ปดิ ฝาสนิท ฟารม์ เล้ยี งสัตว์ ขวดพลาสตกิ ชนดิ โพลีโพรไพลนี ปิดฝาสนิท อาหารสตั ว์สำ� เร็จรปู 200 กรัม ถงุ พลาสติกปิดสนทิ 2 ชนั้ 30 คมู่ อื การเก็บตัวอย่าง

วจวิเคราะห์แรธ่ าตุและวิตามนิ การเก็บรักษาตัวอยา่ ง ระยะเวลาการนำ� สง่ หมายเหตุ ขณะขนส่ง หลังเกบ็ ตัวอยา่ ง ตอ้ งไม่มีเม็ดเลือดแดงปน หากไมส่ ามารถสง่ ได้ ภายใน 1 วัน ภายในกำ� หนด ให้แช่แขง็ แชเ่ ยน็ หากไมส่ ามารถส่งไดภ้ ายในก�ำหนด ให้แช่เยน็ อุณหภูมิปกติ ภายใน 1 วนั หากไม่สามารถส่งได้ทนั ภายในก�ำหนด ใหเ้ ติมกรดไนตรกิ ให้มี pH น้อยกว่า 2 แชเ่ ย็น ภายใน 1 วัน หากไม่สามารถสง่ ได้ภายในก�ำหนด ให้แช่แข็ง แชเ่ ย็น ภายใน 1 วนั ตอ้ งไมม่ ีเมด็ เลอื ดแดงปน หากไมส่ ามารถสง่ ได้ อุณหภูมปิ กติ ภายใน 1 วัน ภายในกำ� หนดให้แช่แข็ง หากไม่สามารถสง่ ได้ภายในก�ำหนด ให้แช่เยน็ แชเ่ ย็น ภายใน 1 วัน หากไมส่ ามารถสง่ ไดภ้ ายในก�ำหนด ให้แช่เย็น อณุ หภมู ปิ กติ ภายใน 1 วัน อณุ หภูมปิ กติ ภายใน 1 วัน อณุ หภูมปิ กติ ภายใน 1 วัน คู่มือการเก็บตัวอยา่ ง 31

การเก็บและส่งตวั อย่างตรว รายการวิเคราะห์ ชนิดตัวอย่าง ปรมิ าณตวั อย่าง ภาชนะบรรจุ ตะก่วั (Pb) เลอื ดเต็มสว่ น 10 มลิ ลลิ ติ ร หลอดพลาสตกิ ชนิดโพลโี พไพลนี /หลอดแก้วปดิ (Whole blood) หฝาลสอนดิทแกว้ ปิดฝาสนิท ตะกั่ว (Pb) น�้ำบริโภค นำ�้ จาก 500 มลิ ลลิ ติ ร ขวดพลาสตกิ ชนิดโพลีโพไพลีน แคดเมยี ม (Cd) ฟารม์ เล้ียงสัตว์ ปิดฝาสนิท โครเมียม (Cr) ตับ ไต 100 กรัม ถงุ พลาสตกิ ปิดสนิท 2 ชั้น วิตามนิ เอ อาหารในกระเพาะ วติ ามินอี อาหารสัตว์สำ� เร็จรปู 100 กรัม ถุงพลาสติกปิดสนิท 2 ชัน้ พชื อาหารสัตว์ 200 กรมั ถุงพลาสตกิ ปดิ สนิท 2 ชัน้ วตั ถุดบิ อาหารสตั ว์ ซีรมั 3 มิลลิลติ ร หลอดพลาสตกิ ชนิดโพลโี พไพลนี ปดิ ฝาสนทิ เลือดแข็งตวั 5-10 มลิ ลลิ ติ ร หลอดพลาสตกิ ชนิดโพลโี พไพลนี /หลอดแก้วปดิ หฝาลสอนดทิแกว้ ปดิ ฝาสนิท 32 คมู่ อื การเก็บตัวอยา่ ง

วจวิเคราะห์แร่ธาตแุ ละวติ ามิน การเก็บรกั ษาตวั อย่าง ระยะเวลาการนำ� สง่ หมายเหตุ ขณะขนส่ง หลังเกบ็ ตัวอย่าง ด แช่เยน็ ภายใน 1 วนั ใส่ heparin ปอ้ งกันเลอื ดแขง็ ตวั ในอัตราสว่ น 1 มิลลิลิตร: เลือด 10 มลิ ลิลิตร เก็บแช่เยน็ ได้ไม่เกนิ 1 วัน แช่เยน็ ภายใน 1 วนั หากไมส่ ามารถสง่ ไดภ้ ายในก�ำหนด เตมิ กรดไนตริกใหม้ ี pH นอ้ ยกวา่ 2 แชเ่ ย็น ภายใน 1 วนั หากไม่สามารถสง่ ไดภ้ ายในก�ำหนด ให้แช่แข็ง อุณหภูมิปกติ ภายใน 1 วัน หากไมส่ ามารถส่งไดภ้ ายในก�ำหนด ให้แช่เย็น อณุ หภูมปิ กติ ภายใน 1 วนั แชเ่ ยน็ ภายใน 1 วนั หากไม่สามารถส่งได้ภายในก�ำหนด ใหแ้ ชแ่ ขง็ ด อณุ หภูมปิ กติ ภายใน 1 วัน หากไม่สามารถส่งได้ภายในก�ำหนด ใหแ้ ช่เย็น คมู่ อื การเกบ็ ตัวอย่าง 33

การเก็บตัวอย่างปสั สาวะ เพอ่ื การตรวจวินิจฉัยโรคเลปโตสไปโรสสิ 1. เตรยี มอุปกรณ์ ภาพที่ 1 Transport media (ซา้ ย) และ 1. สารละลายสำ� หรบั เจือจางตัวอย่างปัสสาวะ ได้แก่ ตวั อยา่ งขวดเก็บตวั อย่าง transport media (ตดิ ตอ่ ขอไดท้ สี่ ถาบนั สขุ ภาพสตั วแ์ หง่ ชาติ หรือศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ประจ�ำภูมิภาค) หรือ สารละลาย phosphate buffered saline (PBS) pH 7.0-7.2 หรือสารละลายนำ้� เกลือ 0.85% ท่ีน่ึงฆ่าเช้อื แลว้ 2. ขวดหรอื ภาชนะทเ่ี ปน็ แก้วหรือพลาสติกที่สะอาด ปราศจากเชื้อและป้องกันน้�ำได้ มีฝาปิดแน่นมดิ ชดิ สำ� หรบั เก็บตัวอย่างปัสสาวะ (ภาพท่ี 1) 3. ถุงมอื 2. วิธีการเกบ็ ภาพที่ 2 การทำ�ความสะอาดบรเิ วณรอบๆ 1. สวมถุงมอื เพ่ือปอ้ งกนั การสมั ผสั ปัสสาวะโดยตรง ทางเปิดของทางเดนิ ปัสสาวะ 2. ควรเก็บตวั อย่างปัสสาวะในระยะหลงั จากสัตวแ์ สดง อาการป่วยแล้ว 2 สปั ดาห์ 3. กอ่ นเก็บตวั อย่างปสั สาวะ ควรลา้ งทำ� ความสะอาด บริเวณรอบ ๆ ทางเปดิ ของทางเดินปัสสาวะใหส้ ะอาด เพ่อื ปอ้ งกันไม่ให้ส่ิงสกปรกท่ีติดตัวสัตว์เข้าไปในขวดเก็บตัวอย่าง ปสั สาวะ (ภาพที่ 2) 34 คู่มือการเก็บตัวอยา่ ง

4. รอใหส้ ตั วป์ สั สาวะ หากสตั วไ์ มป่ สั สาวะใหก้ ระตนุ้ โดยการเกาบรเิ วณรอบ ๆ ทางเปดิ ของทางเดนิ ปสั สาวะของสตั ว์ (ภาพที่ 3) ภาพท่ี 3 การกระต้นุ ใหส้ ัตว์ปัสสาวะ 5. ตวั อยา่ งปสั สาวะทเ่ี กบ็ จะตอ้ งเปน็ ปสั สาวะใหม่ โดยเกบ็ จากปสั สาวะชว่ งกลาง (mid-stream urine) (ภาพท่ี 4) ภาพที่ 4 การเกบ็ ปสั สาวะชว่ งกลาง 5.1. การเกบ็ ตวั อยา่ งปสั สาวะเพอื่ สง่ ตรวจหาเชอ้ื เลปโตสไปรา ดว้ ย dark field microscope - ถา้ หากไมส่ ามารถตรวจปสั สาวะไดภ้ ายใน 20 นาที หลังเกบ็ ตัวอยา่ งปสั สาวะ จะต้องปรับสภาพความเปน็ กรด-ดา่ ง ของปสั สาวะใหเ้ ป็นกลาง (pH 7.0-7.2) โดยหยด 0.1 N HCl หรือ 0.1 N NaOH เก็บตัวอยา่ งไวท้ ่อี ณุ หภมู หิ อ้ ง แลว้ ส่งตัวอย่างให้เรว็ ทีส่ ดุ - เพื่อเป็นการรกั ษารูปร่างของเชื้อเลปโตสไปรา ให้เติม 10% formalin จ�ำนวน 1.5 มลิ ลลิ ติ ร ลงในปสั สาวะ 20 มลิ ลลิ ติ ร จะชว่ ยใหส้ ามารถรกั ษารปู รา่ งของเชอ้ื ในตวั อยา่ งปสั สาวะไวท้ อี่ ณุ หภมู ิ หอ้ งได้ 2-3 วนั คู่มอื การเก็บตัวอย่าง 35

5.2. การเกบ็ ตัวอยา่ งปัสสาวะเพ่อื ส่งตรวจหาเชอ้ื เลปโตสไปรา ด้วยการเพาะแยกเชือ้ - เจือจางตวั อย่างปสั สาวะในอัตราส่วน 1:10 ด้วย transport media หรอื สารละลาย phosphate buffered saline (PBS) pH 7.0-7.2 หรือสารละลายน้�ำเกลือ 0.85% ทน่ี ่ึงฆา่ เชอ้ื แล้ว (ใสป่ ัสสาวะ 1 มิลลลิ ิตรลงในสารละลาย 9 มิลลลิ ิตร) เก็บตวั อยา่ งไว้ท่ีอณุ หภมู หิ อ้ งและควรส่งตวั อยา่ ง ภายใน 1 สปั ดาห ์ 5.3. การเก็บตัวอย่างปัสสาวะเพื่อส่งตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อเลปโตสไปรา ด้วย เทคนิค polymerase chain reaction (PCR) - แชเ่ ยน็ ตวั อยา่ งปสั สาวะดว้ ยนำ�้ แขง็ หรอื ในตเู้ ยน็ และควรสง่ ตวั อยา่ งภายใน 1 สปั ดาห์ - ถ้ายังไม่สามารถส่งตัวอย่างได้ ใหเ้ กบ็ ตัวอยา่ งในต้เู ยน็ ช่องแช่แข็ง (0oC ถงึ -20oC) และควรส่งตัวอยา่ งภายใน 1 เดอื น 6. เขยี นชื่อหรือหมายเลขประจ�ำตวั สัตว์ ทีข่ า้ งขวดเกบ็ ตัวอยา่ งใหช้ ดั เจน (รปู ที่ 5) ภาพที่ 5 ตวั อยา่ งขวดเก็บปสั สาวะ 36 คู่มอื การเก็บตัวอยา่ ง

การเก็บตัวอย่างผ้งึ กรณที สี่ งสยั ว่าเกดิ โรคกับตวั อ่อน ตวั เต็มวัย และรังผ้ึง เมอ่ื สังเกตเหน็ ความผิดปกติ เชน่ ฝาหลอดรวงปดิ ไม่สนทิ ตวั ออ่ นตาย หลอดรวงมีสีนำ้� ตาลเขม้ ถงึ ด�ำ มีกล่นิ เหมน็ รงั เนา่ ตัวแก่พกิ ารหรอื ตาย ผึง้ งานเกบ็ ซากของตวั ออ่ นมาทิ้งหน้ารัง ให้เก็บตัวอย่างดังน้ี 1. ตดั สว่ นของรงั บริเวณที่พบวา่ มกี ารตายของตัวอ่อนมากที่สดุ ขนาด 10 ตารางเซนติเมตร ใส่ใน ถงุ พลาสติกที่สะอาด ปดิ ปากถงุ ให้แนน่ เขยี นหมายเลขและชอ่ื ให้ชดั เจนดว้ ยปากกากันนำ้� ที่ถุงพลาสติก จากน้ันสวมด้วยถุงพลาสตกิ อีกหน่ึงช้นั 2. การเก็บตัวเตม็ วยั ใหใ้ ช้กระบอกพลาสตกิ ฝาเกลียว สะอาด ขนาดพอเหมาะเกบ็ ตวั ผ้งึ หรอื ตกั ตวั ผึง้ จากฝารงั ประมาณ 100 ตัวตอ่ 1 ตวั อยา่ ง ระวงั อย่าให้มผี งึ้ นางพญาตดิ มาด้วย รีบปิดฝาใหส้ นทิ แล้วปิดทบั ด้วยเทปพันสายไฟ เขียนหมายเลขและชื่อให้ชดั เจน ดว้ ยปากกาหมึกกันนำ�้ ทีส่ ่วนบนของฝา จากน้ันสวมด้วยถงุ พลาสตกิ อีกหนงึ่ ช้นั คมู่ อื การเก็บตวั อยา่ ง 37

กรณที ต่ี วั อ่อนและตวั เต็มวยั ยังไม่แสดงอาการป่วย การเกบ็ ตวั อย่างตรวจเพ่อื การเฝ้าระวงั โรค ใหพ้ จิ ารณาเกบ็ ตัวอยา่ งดังนี้ 1. การเก็บตัวออ่ น อายุ 4-5 วนั จนถงึ ระยะดักแดใ้ ส่ในหลอดกาแฟ 15 ตวั ต่อ 1 รัง สำ� หรับ 1 ตัวอย่าง และท�ำการส่มุ ทกุ จุดที่เลย้ี งผึ้ง จดุ ละ 1 ตัวอยา่ ง โดยเลือกรงั ทต่ี ัวผงึ้ ออ่ นแอทีส่ ดุ ตามวธิ ีดงั น้ี 1.1 เตรยี มหลอดกาแฟแบบยาวขนาดใหญช่ นิดใส (เพือ่ ให้สังเกตเหน็ ตวั ออ่ นได้ชัดเจน) ที่เปิดห่อใหม่มาตัดออกเปน็ 4 สว่ นเท่า ๆ กัน 1.2 ใชไ้ ฟลนดา้ นใดดา้ นหนงึ่ ของหลอด รีบบีบให้ตดิ กัน ไมม่ ีรูรว่ั จะได้หลอดปลายปิด หนง่ึ ขา้ ง 38 คมู่ ือการเกบ็ ตัวอย่าง

1.3 นำ� หลอดทไี่ ดเ้ ก็บไว้ในถุงพลาสตกิ โดยให้ปลายเปิดหันเข้าด้านในถุง เพื่อป้องกัน สง่ิ สกปรกกระเด็นเข้าไปในหลอด ถงุ ละ 15 หลอด ปิดปากถุงให้สนิทเพื่อเตรยี มไปใสต่ วั อย่าง 1.4 ใชป้ ากคบี ปลายเลก็ (ปลายมน ไมค่ ม) หรือใช้ดา้ นปา้ นของไม้จ้ิมฟันทส่ี ะอาดสองอัน คีบตัวออ่ นแทนกไ็ ด้ น�ำตวั ออ่ นใสใ่ นหลอดกาแฟทเ่ี ตรยี มไว้ เคาะเบา ๆ ใหต้ ัวออ่ นลงดา้ นล่าง จากนั้นรบี ใชไ้ ฟลนปากหลอดแล้วบีบปดิ ให้สนทิ ค่มู ือการเกบ็ ตัวอย่าง 39

1.5 ท�ำเชน่ เดียวกับขอ้ 1.4 ทลี ะตัวจนครบ 15 ตัวต่อ 1 ตัวอยา่ ง โดยการส่มุ เก็บกระจาย ใหท้ ว่ั คอนทกุ คร้งั ทค่ี บี ตัวออ่ น ให้เช็ดปากคีบด้วยส�ำลีชบุ แอลกอฮอล์ 70% ทุกครัง้ หรือถ้าใชไ้ มจ้ ้มิ ฟัน ตอ้ งเปลี่ยนอนั ใหม่ทุกคร้งั และควรระวังไม่ให้มนี ้�ำผ้ึงปนมากบั ตัวอ่อน จากนน้ั น�ำหลอดทม่ี ีตัวออ่ น 15 หลอดใส่ในถุงพลาสตกิ เขยี นหมายเลขและชอ่ื ใหช้ ดั เจนดว้ ยปากกาหมกึ กนั นำ้� ทถี่ งุ พลาสตกิ จากนนั้ สวมดว้ ย ถงุ พลาสตกิ อกี หนง่ึ ชนั้ 2. การเก็บตัวเต็มวัย ทำ� การส่มุ ทุกจุดท่เี ล้ียงผ้ึงจุดละ 1 ตวั อยา่ ง การเก็บตวั อย่างให้ทำ� เช่นเดียว กบั กรณีที่สงสยั ว่าเกดิ โรค 3. การเก็บตวั อยา่ งแมลงศตั รผู ง้ึ ใชป้ ากคบี คบี ดว้ งตวั เตม็ วยั หรอื ตวั ออ่ นในเอธลิ แอลกอฮอล์ 70% ในขวดปากกว้างปิดฝาให้สนิท เขียนหมายเลขและช่ือให้ชัดเจนด้วยปากกาหมึกกันน�้ำท่ีส่วนบนของฝา จากนนั้ สวมดว้ ยถงุ พลาสตกิ อกี หนึ่งชัน้ การบรรจแุ ละการขนส่ง ตรวจสอบการบรรจตุ วั อยา่ ง ปดิ ปากภาชนะทบี่ รรจอุ ยา่ งมดิ ชดิ เขยี นหมายเลขตวั อยา่ ง ชอื่ เจา้ ของ อย่างชัดเจน น�ำมาแชใ่ นกล่องโฟมหรอื กระติกน�้ำแขง็ ควรระวงั อย่าให้น�้ำแขง็ กดทบั ตวั อยา่ งท่ีเปน็ หลอด กาแฟ และขนส่งให้ถึงห้องปฏบิ ตั กิ ารภายใน 24 ชวั่ โมงพรอ้ มใบประวัตกิ ารเลี้ยง 40 คู่มือการเก็บตัวอย่าง

เทคนิคการตดั ขลิบขากุ้ง (Pleopod clipping) เพ่อื การตรวจดว้ ยวธิ พี ซี อี าร์ (PCR) ขั้นตอนและเทคนคิ 1. สง่ิ สำ� คญั ทส่ี ดุ ในการตดั ขลบิ ขากงุ้ โดยไมท่ ำ� ใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ ตวั กงุ้ กค็ อื ตอ้ งตดั ขลบิ ขาใหห้ า่ ง จากสว่ นท้อง ดงั แสดงในภาพ 2. หา้ มตัดขลบิ ขาวา่ ยนำ้� (pleopods) คแู่ รก (คูท่ ่ใี กล้กับส่วนหวั ทีส่ ดุ ) เนอ่ื งจากขาคู่นีใ้ ช้สำ� หรบั การผสมพนั ธ์ุ 3. จบั ตัวกุง้ หงายทอ้ งด้วยอุ้งมือ โดยให้งอหลังกุ้งเลก็ นอ้ ย วธิ นี จี้ ะชว่ ยไมใ่ ห้กุ้งด้นิ ขณะตัดขา 4. ปลอ่ ยกุ้งทต่ี ัดขลบิ ขาเรยี บรอ้ ยแลว้ ทนั ทลี งในถงั หรอื บอ่ ทมี่ นี ำ�้ สะอาด อาจเตมิ ออกซเิ จนดว้ ยกไ็ ด้ 5. หลกี เลย่ี งการปลอ่ ยกงุ้ ลงในถงั ทม่ี นี ำ้� อยเู่ พยี งเลก็ นอ้ ย เพราะจะทำ� ใหก้ งุ้ กระโดดหนแี ละเครยี ดมาก 6. ใช้กรรไกรผา่ ตัดส�ำหรบั ตัดขากุ้ง ห้ามใช้กรรไกรท่รี ้อนหรอื ใชล้ วดความรอ้ นจบ้ี รเิ วณแผล 7. จ่มุ กรรไกรลงในเอทิลแอลกอฮอล์ 70% หรอื สารละลายไอโอดีน กอ่ นและหลังใช้กรรไกรตดั ขา กงุ้ แต่ละตวั เพอื่ ฆ่าเชื้อ 8. อาจใชป้ ากคีบหรือคมี ผา่ ตดั ชว่ ยจบั ขากงุ้ โดยตอ้ งจมุ่ ปากคบี หรอื คมี ลงในแอลกอฮอล์ 70% เชน่ กนั คู่มือการเกบ็ ตวั อย่าง 41

9. หยอ่ นขากงุ้ ท่ตี ดั แล้วลงในหลอดทดลอง Eppendorf ปลอดเชือ้ ขนาด 1.5 มลิ ลิเมตร หรือลง ในถงุ พลาสตกิ สะอาด 10. เก็บที่อุณหภูมิ -70oC จนกระทั่งพร้อมที่จะบดเน้ือเย่ือ (อาจเก็บที่ -20oC หรือน�้ำแข็งก็ได้ หากจ�ำเปน็ ) หรืออาจเตมิ เอทานอล (95% ethanol) ลงไปในหลอด Eppendorf หากจะตรวจด้วยวิธีพี ซอี าร์ (PCR) เทคนิคการเจาะเลือดกุ้ง (ฮโี มลิมฟ์,Hemolymph) เพ่อื การตรวจด้วยวิธีพซี ีอาร์ (PCR) ส�ำหรบั การตรวจหาเชือ้ ไวรัส (IHHNV,WSSV,TSV และ YHV) 1. วสั ดุและอุปกรณ์ - หลอด Eppendorf ปลอดเชอ้ื ขนาด 1.5 มลิ ลเิ มตร (หนง่ึ หลอดตอ่ กงุ้ หนง่ึ ตวั หรอื หนงึ่ หลอดตอ่ กงุ้ หา้ ตัว) - แอลกอฮอล์ 95% ถงึ 96% (1 มิลลลิ ติ ร ตอ่ หลอด) - กระบอกฉีดยา ชนิดใชค้ ร้ังเดียวแล้วทงิ้ (ขนาด 1 มิลลิลิตร) พร้อมเข็มฉีดยาขนาด 26G ถงึ 28G (หนง่ึ กระบอกต่อก้งุ หนง่ึ ตัว) - ไมโครไปเปต (micropipette) ขนาด 1,000 ไมโครลติ ร หนึ่งอนั พร้อม micropipette tips - ไมพ้ นั สำ� ลี (cotton buds หนง่ึ อันตอ่ กงุ้ สองตวั ) - beaker ขนาด 200 ถึง 250 มิลลิลิตร - tube rack สำ� หรับวางหลอด Eppendorf - paraffilm สำ� หรบั ปิดหลอด Eppendorf - ปากกาทนน้�ำ ทนแอลกอฮอล์ - ตารางบนั ทกึ ข้อมูล เช่น เบอร์ก้งุ แหลง่ ทีม่ าของกุ้ง เบอรบ์ ่อ เพศ เป็นตน้ - ดนิ สอ 42 คมู่ ือการเก็บตัวอย่าง

2. ขน้ั ตอน 2.1 เตรียมอปุ กรณ์ 2.1.1 วางหลอดลงใน tube rack ตามจ�ำนวนก้งุ 2.1.2 เขียนหมายเลขหลอด 2.1.3 ใช้ไปเปตดูดแอลกอฮอล์ลงในหลอด หลอดละ 1 มิลลิลิตร 2.1.4 เตมิ แอลกอฮอล์ 50 มิลลลิ ติ ร ลงใน beaker 2.2 การเจาะเลอื ดกงุ้ 2.2.1 จบั ก้งุ หงายท้องขน้ึ 2.2.2 ใช้ cotton bud ชุบแอลกอฮอล์ท่อี ยู่ใน beaker เช็ดตวั กงุ้ บรเิ วณท่จี ะเจาะเลือด 2.2.3 ส�ำหรับกุ้งเพศเมยี แทงเข็มลงท่ีฐานของขาเดนิ (pereiopods) คู่ทีห่ า้ ทขี่ าขา้ งใด ขา้ งหนึ่ง ตามแนวขนานลำ� ตวั กงุ้ หากจับตัวกุ้งงอ ตอ้ งแนวของเขม็ ตอ้ งขนานกบั หวั (ภาพที่ 1) สำ� หรบั กุ้งเพศผู้ แทงเขม็ ท่ฐี านของขาเดินคทู่ ีส่ ่ี หา้ มแทงเขม็ ต้งั ฉากกับลำ� ตวั กงุ้ (ภาพท่ี 2) ข้อควรรู้ เลอื ดกุง้ อยใู่ นไซนัส (ventral sinus) ซง่ึ อยู่ชิดติดกับเปลือกกุ้ง (cuticular epithelium) ซงึ่ บางมาก จึงไม่ควรแทงเข็มลกึ 2.2.4 เรมิ่ ดดู เลอื ดกงุ้ ในทนั ทที เี่ ขม็ ผา่ นเปลอื กลงไป ปรมิ าตรเลอื ดสำ� หรบั การสกดั ดเี อน็ เอ (DNA) หรอื อาร์เอ็นเอ (RNA) เทา่ กบั 200 ไมโครลิตร (0.2 มลิ ลลิ ิตร) หากตอ้ งการสกัดทง้ั สองอยา่ ง ตอ้ ง เกบ็ เลอื ด 400 ไมโครลติ ร 2.2.5 ใส่เลอื ดลงในหลอด Eppendorf ที่มีแอลกอฮอล์ 2.2.6 ปิดหลอดด้วย paraffilm ใหส้ นิท เพ่ือปอ้ งกนั แอลกอฮอล์หกระหวา่ งขนส่ง 2.2.7 บนั ทกึ ขอ้ มูลก้งุ ลงในตารางบนั ทึกขอ้ มูลอย่างละเอยี ด คู่มือการเกบ็ ตัวอยา่ ง 43

ภาพที่ 1 การเจาะเลอื ดกุง้ ท่ถี ูกตอ้ ง (ที่มา: Diagnosis of Shrimp Diseases, with emplasis on the black tiger shrimp (Penaeus monodon) โดย V.Alday และ T.W.Flegel,ISBN 974-662-093-2) ภาพที่ 2 การเจาะเลือดกงุ้ ทีไ่ ม่ถูกต้อง (ท่ีมา: Diagnosis of Shrimp Diseases, with emplasis on the black tiger shrimp (Penaeus monodon) โดย V.Alday และ T.W.Flegel,ISBN 974-662-093-2) 44 คมู่ ือการเกบ็ ตัวอยา่ ง

เทคนิคการเกบ็ และการเตรียมตัวอย่างอุจจาระกุ้งเพ่ือการตรวจดว้ ยวธิ พี ีซีอาร์ (PCR) ส�ำหรับการตรวจหาเชอื้ ไวรสั ในทางเดินอาหาร (HPV,BP, อ่ืนๆ) และ/หรือเชอ้ื แบคทเี รีย (NHP) การตรวจอุจจาระกุ้งนั้นมกั ท�ำในกงุ้ พอ่ แมพ่ ันธุ์ ซง่ึ การเก็บตัวอยา่ งอจุ จาระน้ันกอ็ าจจะเกบ็ ได้จาก ถงั วางไข่ (spawning tank) แต่ละใบหรอื เกบ็ หลงั ยา้ ยก้งุ จากถังพอ่ แมพ่ นั ธ์ไุ ปยังถงั พลาสติกส�ำหรบั เล้ียง เดยี่ วทเี่ ตรยี มไวเ้ พอื่ รอเกบ็ อจุ จาระกงุ้ โดยเฉพาะ อจุ จาระกงุ้ ทเี่ กบ็ ไดค้ วรถกู ถนอมโดยใชแ้ อลกอฮอล์ 95% (95% ethanol) โดยปรมิ าตรของแอลกอฮอลท์ ใี่ ชค้ อื ใชแ้ อลกอฮอลห์ นง่ึ สว่ นตอ่ อจุ จาระกงุ้ หนงึ่ สว่ น และ อยา่ งนอ้ ยทสี่ ุดควรเก็บอจุ จาระ 0.5 มลิ ลลิ ติ ร และควรปอ้ งกนั การเกดิ cross contamination ระหว่าง ตวั อย่างแต่ละตัวอย่าง โดยเฉพาะอย่างย่ิงในกรณที ต่ี อ้ งการประเมนิ ความชุกโรค (prevalence) โดยการ ปอ้ งกนั นีท้ �ำได้หลายวธิ ีเช่น การใช้ไปเปตพลาสติก (plastic pipette) หน่งึ อันสำ� หรับดดู ตัวอย่างอจุ จาระ แตล่ ะตวั อยา่ ง หากวธิ นี ไ้ี มส่ ะดวกในฟารม์ กอ็ าจเลอื กใชว้ ธิ ที เี่ หมาะสมอน่ื ๆ เชน่ ใชป้ ากคบี หรอื คมี สำ� หรบั เกบ็ อุจจาระ แตจ่ ะต้องจมุ่ ปากคบี หรือคีมน้นั ลงในนำ้� ยาฆ่าเชอ้ื (10% bleach โดยปริมาตร,V/V) แล้วจมุ่ ลา้ งในน้ำ� สะอาด ทัง้ กอ่ นและหลังจากการใช้อุปกรณ์นั้นในการเก็บตัวอย่างแต่ละตวั อยา่ ง คูม่ ือการเกบ็ ตัวอยา่ ง 45

การบรกิ ารทางวิชาการของสถาบันสขุ ภาพสตั ว์แห่งชาติ (สสช.) ศนู ย์วิจัยและพฒั นาการสตั วแพทย์ประจำ� ภมู ิภาค (ศวพ.ล�ำปาง/ศวพ.พษิ ณุโลก/ศวพ.ชลบุร/ี ศวพ.ราชบรุ ี/ศวพ.ขอนแก่น/ ศวพ.สุรินทร/์ ศวพ.นครศรีธรรมราช) และศนู ยอ์ ้างอิงโรคปากและเท้าเปอื่ ยภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ (ศออ.) ชนิดของบริการ ตวั อย่างที่ส่ง วธิ ีการตรวจ ระยะเวลาการตรวจ 1. การตรวจทางพยาธิวทิ ยา 12 วนั ทำ� การ 1.1 ผา่ ซาก ตรวจวเิ คราะห์พ้นื ฐานทาง แบคทเี รียวิทยา ไวรัสวิทยา ปรสติ วิทยา จลุ พยาธิวทิ ยา ทำ� ลายซาก 12 วันทำ� การ 12 วันทำ� การ - โค กระบือ ม้า และสตั วใ์ หญ่ชนิดอนื่ ๆ สัตวป์ ว่ ย, ซากสตั ว์ ผา่ ซาก / จลุ พยาธิวทิ ยา ตรวจหาเชือ้ / เพาะแยกเชือ้ 10 วันทำ� การ 10 วันทำ� การ - สกุ ร แพะ แกะ สัตว์เลก็ ชนิดอื่นๆ สัตวป์ ่วย, ซากสตั ว์ ผ่าซาก / จุลพยาธิวทิ ยา 10 วันทำ� การ ตรวจหาเชือ้ / เพาะแยกเชื้อ 10 วันทำ� การ 10 วนั ทำ� การ - สัตว์ปีก สตั ว์ปว่ ย, ซากสัตว์ ผ่าซาก / จุลพยาธิวทิ ยา 10 วันทำ� การ ตรวจหาเช้อื / เพาะแยกเช้อื 11 วันทำ� การ 2 วนั ทำ� การ - สตั วน์ �้ำ สัตวป์ ว่ ย, ซากสัตว์ ผา่ ซาก / จลุ พยาธวิ ิทยา 2 วันทำ� การ ตรวจหาเช้อื / เพาะแยกเชื้อ 13 วนั ทำ� การ 1.2 ผา่ ซาก ตรวจรอยโรค ทีเ่ ห็นดว้ ยตาเปล่า ตรวจทางจุลพยาธิวทิ ยา ทำ� ลายซาก - โค กระบอื มา้ และสัตวใ์ หญ่ชนดิ อื่นๆ สตั วป์ ่วย, ซากสตั ว์ ผ่าซาก / จลุ พยาธิวทิ ยา - สกุ ร แพะ แกะ สตั ว์เล็กชนิดอ่ืนๆ สตั ว์ปว่ ย, ซากสตั ว์ ผ่าซาก / จุลพยาธวิ ทิ ยา - สตั ว์ปีก สตั ว์นำ้� สตั ว์ปว่ ย, ซากสัตว์ ผา่ ซาก / จุลพยาธวิ ทิ ยา 1.3 ส่งชิน้ เนื้อ ตรวจทางจลุ พยาธวิ ทิ ยา - โค กระบอื มา้ และสตั ว์ใหญช่ นิดอ่ืนๆ ช้นิ เนื้อ จลุ พยาธวิ ิทยา - สกุ ร แพะ แกะ สัตว์เล็กชนดิ อนื่ ๆ ช้ินเน้ือ จุลพยาธวิ ทิ ยา - สตั ว์ปีก สตั ว์นำ�้ ชนิ้ เนอ้ื จลุ พยาธวิ ทิ ยา 1.4 สง่ ช้นิ เนื้อ ตรวจทางอิมมูโน-พยาธิวิทยา ช้ินเนือ้ อมิ มูโนพยาธวิ ิทยา 1.5 การตรวจด้วยกล้องจลุ ทรรศน์อิเลก็ ตรอน - ใชก้ ล้องจลุ ทรรศนอ์ เิ ล็กตรอนชนิดลำ� แสง ตวั อย่างบน grid - สอ่ งผา่ น - ใชก้ ล้องจุลทรรศนอ์ เิ ล็กตรอนชนิดลำ� แสง ตวั อย่างบน stub - สอ่ งกราด - เตรียมตัวอยา่ งส�ำหรบั ตรวจดว้ ยกลอ้ ง ตัวอย่างขนาด 1 ลบ.มม. - จุลทรรศนอ์ เิ ล็กตรอนชนิดล�ำแสงส่องผา่ น 46 คมู่ อื การเก็บตัวอยา่ ง