1 รายงานผล โครงการ Smart ONIE เพ่อื สร้าง Smart Farmer วันท่ี 19 - 21 มีนาคม 2561 ณ กศน.ตาบลนาปา่ หมทู่ ี่ 7 ตาบลนาปา่ อาเภอเมอื งชลบรุ ี จังหวดั ชลบรุ ี จัดโดย กศน.ตาบลนาปา่ ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอเมอื งชลบุรี
2 คานา นายกรฐั มนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) มีนโยบายช่วยเหลอื เกษตรกร โดยช้นี า เกษตรกรไทยต้องเปน็ Smart Farmers คือต้องนาความรู้ หลกั วิชาการ และเทคโนโลยสี มัยใหม่ เข้า มาชว่ ยในการทาเกษตรโดยต้องทาใหน้ ้อยลง ได้ผลผลติ มากขน้ึ ใชพ้ ้นื ท่ใี หน้ ้อยลง ใชน้ ้าใหน้ ้อยลง ผลผลิตเพิม่ ขน้ึ สานักงาน กศน.จึงจัดทาโครงการ Smart ONIE เพ่ือสร้าง Smart Farmers เพื่อ สง่ เสริมสนบั สนุนให้ประชาชนไดพ้ ฒั นาความรู้ด้านการเกษตร และยกระดับเกษตรกรให้เป็น Smart Farmers ตามความเหมาะสมของบริบท และความต้องการของท้องถ่ิน/ชุมชน ผ่านวิธีการและ กระบวนการท่หี ลากหลาย ทัง้ นจี้ ึงจดั สรรเงนิ งบประมาณ รายจ่ายประจาปี พ.ศ. 2561 ตามโครงการ Smart ONIE เพ่ือสร้าง Smart Farmers ดังน้ัน กศน.ตาบลนาป่า ได้เล็งเห็นความสาคัญ จึงได้ จดั ทาโครงการ Smart ONIE เพอื่ สรา้ ง Smart Farmers ขึ้น ท้ายสุดนข้ี อขอบคณุ ผู้เขา้ ร่วมโครงการ คณะกรมการดาเนินงาน หากมีข้อมูลผิดพลาด ประการใด คณะผจู้ ัดทาขออภัยมา ณ โอกาสน้ี กศน.ตาบลนาป่า มีนาคม 2561
3 สารบญั หน้า บทที่ 1 บทนา............................................................................................................................. 1 หลักการและเหตุผล................................................................................................. 1 วัตถปุ ระสงค์.............................................................................................................1 เปา้ หมาย..................................................................................................................1 ผลลพั ธ์.....................................................................................................................2 ดัชนวี ดั ผลสาเรจ็ ของโครงการ..................................................................................2 2 เอกสารการศกึ ษาและรายงานที่เกี่ยวข้อง.....................................................................3 ยทุ ธศาสตรแ์ ละจดุ เน้นการดาเนนิ งาน สานักงาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2561……………………………………………………………………………..........................3 แนวทาง/กลยทุ ธก์ ารดาเนนิ งานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ของ กศน.และ กศน.อาเภอเมืองชลบุรี...................................................................17 กรอบการจัดโครงการ Smart ONIE เพ่อื สร้าง Smart Farmers สานกั งาน กศน. .....................................................................................................22 แนวทางการจัดโครงการ Smart ONIE เพือ่ สรา้ ง Smart Farmers สานักงาน กศน.......................................................................................................22 การขายออนไลน์ ผลผลิตทางการเกษตร................................................................25 3 วิธดี าเนินงาน...............................................................................................................38 ประชมุ บุคลากรกรรมการสถานศกึ ษา....................................................................38 จัดตั้งคณะทางาน...................................................................................................38 ประสานงานกบั หนว่ ยงานและบุคคลที่เกย่ี วข้อง....................................................39 ดาเนินการตามแผน................................................................................................39 สรุปผลและรายงาน................................................................................................39
4 สารบัญ หนา้ บทที่ 4 ผลการดาเนนิ งานและการวิเคราะห์ขอ้ มูล....................................................................41 ตอนท่ี 1 ข้อมูลสว่ นตวั ผู้ตอบแบบถามของผเู้ ข้าร่วมโครงการ Smart ONIE เพอ่ื สรา้ ง Smart Farmers...................................................................................41 ตอนท่ี 2 2 ข้อมูลเกีย่ วกับความคิดเห็นของผูเ้ ข้ารว่ มโครงการ Smart ONIE เพ่ือสรา้ ง Smart Farmers....................................................................................44 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ.....................................................................46 ผลที่ปรากฏ.............................................................................................................4 6 สรปุ ผล....................................................................................................................46 อภิปรายผล.............................................................................................................47 ขอ้ เสนอแนะ...........................................................................................................47 บรรณานกุ รม ภาคผนวก
5 สารบญั ตาราง ตารางที่ หน้า 1 แสดงคา่ ร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามเพศ....................................42 2 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอายุ....................................42 3 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอาชพี .................................42 4 ผลการประเมินโครงการ Smart ONIE เพอื่ สรา้ ง Smart Farmers…………………..4
1 บทที่ 1 บทนา หลักการและเหตุผล นายกรฐั มนตรี (พลเอกประยุทธ์ จนั ทรโ์ อชา) มนี โยบายช่วยเหลือเกษตรกร โดยช้นี า เกษตรกรไทยต้องเป็น Smart Farmers คือต้องนาความรู้ หลักวิชาการ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เขา้ มาชว่ ยในการทาเกษตรโดยต้องทาใหน้ ้อยลง ได้ผลผลิตมากขึน้ ใช้พ้นื ทใี่ ห้น้อยลง ใช้นา้ ใหน้ ้อยลง ผลผลิตเพิม่ ขึ้น เพ่ือเป็นการสนองตามนโยบายของรฐั บาลดังกลา่ ว กศน.ตาบลนาป่า จึงจัดทา โครงการ Smart ONIE เพื่อสร้าง Smart Farmers เพอ่ื สง่ เสริมสนับสนนุ ใหป้ ระชาชนไดพ้ ฒั นา ความรดู้ ้านการเกษตร และยกระดับเกษตรกรให้เปน็ Smart Farmers ตามความเหมาะสมของ พ้ืนท่ีและเหน็ ช่องทางหรือการพฒั นาอาชีพ ดังนนั้ กศน.ตาบลนาปา่ ไดเ้ ลง็ เห็นความสาคัญ จึงไดจ้ ัดทาโครงการ Smart ONIE เพอ่ื สร้าง Smart Farmers ขึ้น วัตถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหเ้ กษตรกรและประชาชนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในการเป็น Smart Farmers 2. เพอ่ื สง่ เสริมใหเ้ กษตรกรและประชาชนมีความรู้ความเขา้ ใจในเรอ่ื งการทาการเกษตร ตามความเหมาะสม ของพื้นที่และเหน็ ช่องทางหรือการพัฒนาอาชีพ เปา้ หมาย เชิงปรมิ าณ เกษตรกรและประชาชนตาบลนาป่า ที่มีความสนใจ จานวน 20 คน เชิงคุณภาพ
2 เกษตรกรและประชาชนตาบลนาป่า เขา้ รว่ มโครงการฯ มีความรู้ความเข้าใจในการ เป็น Smart Farmers การทาการเกษตร ตามความเหมาะสมของพ้ืนทีแ่ ละเห็นช่องทางหรอื การ พัฒนาอาชีพ ผลลพั ธ์ 1. เกษตรกรและประชาชนมีความรคู้ วามเข้าใจในการเปน็ Smart Farmers 2. เกษตรกรและประชาชนมีความรคู้ วามเข้าใจในเรื่องการทาการเกษตร ตามความเหมาะสม ของพ้ืนทแ่ี ละเหน็ ชอ่ งทางหรือการพัฒนาอาชพี ดชั นตี วั ช้ีวัดผลสาเรจ็ ของโครงการ 1. เชิงปริมาณ - มผี ้เู ขา้ รว่ มโครงการ ไมน่ ้อยกว่า ร้อยละ 80 ของกลุม่ เปา้ หมาย - ผเู้ ข้าร่วมโครงการมีความพงึ พอใจในระดบั ดขี นึ้ ไปไม่น้อยกว่า รอ้ ยละ 80 ของ กลุม่ เป้าหมาย 2. เชิงคณุ ภาพ ผู้เขา้ รว่ มโครงการร้อยละ 80 มคี วามรคู้ วามเข้าใจในการเปน็ Smart Farmers การ ทาการเกษตร ตามความเหมาะสมของพ้ืนทีแ่ ละเหน็ ชอ่ งทางหรอื การพฒั นาอาชพี
3 บทที่ 2 เอกสารการศกึ ษาและรายงานทเ่ี กี่ยวข้อง ในการจดั ทารายงานโครงการ Smart ONIE เพอ่ื สร้าง Smart Farmer ครงั้ น้ี ผู้จัดทา โครงการได้ทาการค้นควา้ เนื้อหาเอกสารการศกึ ษาและงานวจิ ัยท่ีเก่ียวขอ้ ง ดังน้ี 1. ยุทธศาสตรแ์ ละจุดเน้นการดาเนนิ งาน สานักงาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 2. แนวทาง/กลยทุ ธก์ ารดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ของ กศน.และ กศน.อาเภอเมืองชลบุรี 3. แนวทางการดาเนินงานการจัดโครงการ Smart ONIE เพ่อื สรา้ ง Smart Farmer สานักงาน กศน. 4. การขายออนไลน์ ผลผลติ ทางการเกษตร 1.ยุทธศาสตรแ์ ละจดุ เนน้ การดาเนนิ งาน สานกั งาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 วิสยั ทัศน์ คนไทยไดร้ บั โอกาสการศึกษาและการเรยี นรู้ตลอดชวี ิตอย่างมคี ุณภาพ สามารถดารงชีวิตท่ี เหมาะสมกับช่วงวยั สอดคลอ้ งกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และมที ักษะท่จี าเป็นในโลก ศตวรรษท่ี 21 พนั ธกิจ 1. จดั และสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ทม่ี ีคุณภาพ เพอื่ ยกระดับการศึกษาพัฒนาทักษะการเรยี นรขู้ องประชาชนทุกกล่มุ เป้าหมายให้เหมาะสมทุกชว่ งวยั และ พร้อมรบั การเปลย่ี นแปลงบริบททางสังคม และสร้างสงั คมแห่งการเรียนรตู้ ลอดชวี ติ 2. สง่ เสรมิ สนับสนุน และประสานภาคเี ครือขา่ ย ในการมีส่วนร่วมจดั การศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศัย และการเรียนรตู้ ลอดชวี ิต รวมทงั้ การดาเนนิ กจิ กรรมของศูนย์การเรียน และแหล่งการเรียนรู้อ่นื ในรูปแบบตา่ งๆ 3. ส่งเสริมและพฒั นาการนาเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยดี ิจิทัลมาใช้ให้เกดิ ประสิทธิภาพในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ใหก้ ับประชาชนอยา่ งท่ัวถึง 4. พัฒนาหลกั สูตร รปู แบบการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือและนวัตกรรม การวัดและ ประเมินผลในทุกรูปแบบใหส้ อดคล้องกบั บรบิ ทในปจั จบุ นั
4 5. พัฒนาบุคลากรและระบบการบรหิ ารจัดการให้มปี ระสทิ ธิภาพ เพือ่ มุ่งจัดการศกึ ษาและการเรียนรทู้ ี่ มคี ณุ ภาพ โดยยึดหลักธรรมาภบิ าล เปา้ ประสงค์ 1. ประชาชนผูด้ อ้ ย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา รวมทัง้ ประชาชนท่วั ไปได้รับ โอกาสทางการศึกษาในรปู แบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัยที่มคี ุณภาพ อยา่ งเทา่ เทยี มและทวั่ ถึง เป็นไปตามสภาพ ปญั หา และความ ตอ้ งการของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย 2. ประชาชนได้รับการยกระดับการศกึ ษา สรา้ งเสรมิ และปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และ ความเปน็ พลเมืองอันนาไปสูก่ ารยกระดับคุณภาพชีวิตและเสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งใหช้ มุ ชน เพอ่ื พัฒนาไปสคู่ วามม่ันคงและยง่ั ยนื ทางดา้ นเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวตั ศิ าสตร์ และส่งิ แวดล้อม 3. ประชาชนไดร้ ับโอกาสในการเรยี นรูแ้ ละมีเจตคตทิ างวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีที่ เหมาะสมสามารถคิด วิเคราะห์ และประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั รวมทง้ั แกป้ ญั หาและพัฒนาคณุ ภาพ ชวี ิต 4. ประชาชนได้รับการสรา้ งและสง่ เสรมิ ให้มนี ิสยั รักการอ่านเพื่อการแสวงหาความรดู้ ว้ ย ตนเอง 5. ชมุ ชนและภาคีเครอื ขา่ ยทุกภาคส่วน รว่ มจัด สง่ เสรมิ และสนับสนุนการดาเนนิ งาน การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย รวมทั้งการขบั เคลือ่ นกจิ กรรมการเรยี นรู้ของชมุ ชน 6. หนว่ ยงานและสถานศึกษาพัฒนา เทคโนโลยีทางการศึกษา เทคโนโลยดี ิจทิ ลั มาใช้ใน การยกระดบั คุณภาพในการจัดการเรยี นรู้และเพ่ิมโอกาสการเรยี นรูใ้ หก้ ับประชาชน 7. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนาสือ่ และการจัดกระบวนการเรียนรเู้ พ่ือแก้ปัญหาและ พฒั นาคณุ ภาพชวี ิต ท่ตี อบสนองกบั การเปลี่ยนแปลงบรบิ ทด้านเศรษฐกิจ สงั คม การเมอื ง วฒั นธรรม ประวัติศาสตร์ และส่งิ แวดล้อม รวมทั้งตามความต้องการของประชาชน และชมุ ชนในรูปแบบท่ี หลากหลาย 8. บุคลากรของหน่วยงานและสถานศึกษาไดร้ ับการพัฒนาเพ่อื เพ่ิม สมรรถนะในการปฏิบัตงิ านการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอย่างมปี ระสิทธิภาพ 9. หนว่ ยงานและสถานศึกษามีระบบการบรหิ ารจัดการตามหลกั ธรรมาภิบาล
5 ตวั ชีว้ ดั ตวั ชี้วัดเชิงปรมิ าณ 1. จานวนผู้เรียนการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พนื้ ฐานท่ีไดร้ ับการสนับสนนุ ค่าใช้จ่ายตามสทิ ธิท่ีกาหนดไว้ 2. จานวนของคนไทยกลุ่มเปา้ หมายต่างๆ ที่เข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้/ไดร้ ับบรกิ าร กิจกรรมการศึกษาต่อเนือ่ ง และการศึกษาตามอัธยาศยั ท่สี อดคล้องกับสภาพ ปญั หา และความ ต้องการ 3. จานวนผู้รับบรกิ ารในพื้นทเ่ี ป้าหมายไดร้ บั การส่งเสรมิ ดา้ นการรูห้ นังสือและการพฒั นา ทักษะชวี ติ 4. จานวนผู้ผ่านการอบรมตามหลักสูตรทีก่ าหนดของกิจกรรมสรา้ งเครือข่ายดิจทิ ลั ชมุ ชน ระดับตาบล 5. จานวนประชาชนไดร้ บั การอบรมตามหลักสตู รภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสารด้านอาชีพ (ระยะสนั้ )สาหรบั ประชาชนในศูนยอ์ าเซยี นศึกษา กศน. 6. จานวนประชาชนทไ่ี ด้รับการอบรมให้มีความรู้ ในอาชีพการเกษตรที่เหมาะสมกบั สภาพ บรบิ ท และความตอ้ งการของพนื้ ท/่ี ชุมชน 7. จานวนนกั เรยี น นักศึกษา และประชาชนทว่ั ไปท่ีเจ้าถงึ บริการการศึกษาตามอัธยาศัย 8. จานวนนักเรียน นักศึกษาทไี่ ดร้ ับบริการตวิ เข้มเต็มความรู้ 9. รอ้ ยละของสถานศึกษาทีม่ ีระบบประกนั คุณภาพภายใน และมีการจดั ทารายงานการ ประเมนิ ตนเอง 10. ร้อยละของหน่วยงานและสถานศึกษาทม่ี ีการใช้ระบบเทคโนโลยดี จิ ิทัลในการจัดทา ฐานข้อมูลชมุ ชนและการบรหิ ารจดั การเพ่ือสนับสนนุ การดาเนินงานการศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอัธยาศยั 11. จานวนบคุ ลากรของหน่วยงานและสถานศกึ ษาไดร้ บั การพฒั นาเพ่ือเพิม่ สมรรถนะใน การปฏบิ ัตงิ านการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 12. จานวนองคก์ รภาคสว่ นต่าง ๆ ท้ังในและตา่ งประเทศ ที่รว่ มเป็นภาคีเครือข่ายในการ ดาเนนิ งานการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย
6 ตวั ชว้ี ัดเชิงคณุ ภาพ 1. รอ้ ยละของกาลงั แรงงานที่สาเรจ็ การศกึ ษาระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ หรอื เทียบเทา่ ไดร้ บั การศกึ ษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลายหรอื เทยี บเทา่ 2. ร้อยละทีเ่ พ่ิมข้นึ ของคะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติ การศกึ ษา นอกระบบโรงเรียน(N-NET) 3. รอ้ ยละของนักเรยี น/นักศึกษาทีม่ ีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนในวชิ าที่ไดร้ ับบริการติวเข้ม เตม็ ความรเู้ พ่ิมสงู ข้ึน 4. รอ้ ยละของผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรมทส่ี ามารถอ่านออกเขยี นได้และคิดเลขเปน็ ตามจุดมุง่ หมาย ของกิจกรรม 5. รอ้ ยละผู้จบหลกั สูตร/กจิ กรรมการศึกษานอกระบบทสี่ ามารถนาความรู้ความเข้าใจไป ใช้ไดต้ ามจดุ มงุ่ หมายของหลักสตู ร/กจิ กรรมที่กาหนด 6. รอ้ ยละของประชาชนกลุ่มเปา้ หมายทีล่ งทะเบียนเขา้ ร่วมกิจกรรม มีรายไดเ้ พ่ิมขึ้นจาก การพัฒนาอาชีพตามโครงการศนู ย์ฝึกอาชีพชมุ ชน 7. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายท่ผี ่านการอบรมตามหลักสูตรภาษาอังกฤษเพ่ือการ สื่อสารดา้ นอาชีพ (ระยะสนั้ ) มีความรู้ในการส่ือสารภาษาอังกฤษ และสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการ ดาเนนิ ชวี ติ ได้ 8. รอ้ ยละของผู้เขา้ รบั การอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านเกณฑ์ การอบรมตามหลกั สูตรทีก่ าหนด 9. รอ้ ยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ ได้รบั การพฒั นาศักยภาพ ทักษะอาชีพ สามารถมงี านทาหรือนาไปประกอบอาชีพได้ 10. ร้อยละของตาบล/แขวง ที่มปี รมิ าณขยะลดลง 11. รอ้ ยละการอ่านของคนไทยเพ่ิมข้ึน 12. รอ้ ยละของครู กศน. ทสี่ ามารถจดั กระบวนการเรยี นรู้ภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสารได้ อยา่ งสอดคล้องกับบริบทของผู้เรยี น 13. ร้อยละของคะแนนการประเมนิ คุณธรรมและความโปร่งใสของการดาเนนิ งานของ หน่วยงาน
7 นโยบายเรง่ ดว่ นเพือ่ ร่วมขับเคล่อื นยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 1. ยทุ ธศาสตรด์ า้ นความมน่ั คง 1.1 สง่ เสรมิ การจัดการเรียนรตู้ ามพระบรมราโซบายดา้ นการศกึ ษาของ รชั กาลท่ี 10 1) เสริมสร้างความร้คู วามเข้าใจทถ่ี ูกตอ้ งในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ มีความเป็นพลเมืองดี เคารพความคิดของผู้อน่ื ยอมรบั ความแตกตา่ ง และหลากหลายทางความคดิ และอดุ มการณ์ รวมทง้ั สังคมพหวุ ัฒนธรรม 2) ส่งเสรมิ การจัดกิจกรรมการเรยี นรทู้ ป่ี ลกู ฝังคณุ ธรรม สร้างวนิ ัย จิตสาธารณะ และอุดมการณ์ความยดึ มนั่ ในสถาบนั หลักของชาติ รวมทง้ั การมจี ติ อาสา ผ่านกจิ กรรมลกู เสอื กศน. และกิจกรรม อ่ืนๆ ตลอดจนสนบั สนุนใหม้ กี ารจัดกิจกรรมเพอื่ ปลูกฝงั คุณธรรม จริยธรรมให้กับ บคุ ลากรในองค์กร 1.2 พฒั นาการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยในเขตพืน้ ที่พิเศษ 1) เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจงั หวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นท่ชี ายแดน 1.1 พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ใหม้ ี ความสอดคล้องกบั บริบทของสังคม วฒั นธรรม และพนื้ ที่ เพ่ือสนับสนุนการแก้ไขปญั หาและพัฒนา พ้นื ท่ี 1.2 เรง่ จัดทาแผนและมาตรการด้านความปลอดภยั ทช่ี ัดเจนสาหรบั หนว่ ยงาน และสถานศึกษารวมท้งั บุคลากรท่ีปฏิบัตงิ านในพื้นทเี่ ขตพัฒนาพิเศษ โดยบูรณาการแผนและ ปฏบิ ตั ิงานรว่ มกับหน่วยงานความมน่ั คงในพน้ื ท่ี 1.3 สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การจัดกระบวนการเรยี นรใู้ นสถาบนั ศกึ ษาปอเนาะ ใน รปู แบบต่างๆ ทหี่ ลากหลายตรงกับความต้องการของผเู้ รียน อาทิ การเพมิ่ พูนประสบการณ์ การเปิด โลกทัศน์ การยึดม่นั ในหลกั คุณธรรมและสถาบนั หลักของชาติ 1.4 สนับสนุนให้มกี ารพฒั นาบุคลากรทุกระดับทุกประเภทใหม้ สี มรรถนะทีส่ งู ขน้ึ เพ่อื ใหส้ ามารถปฏิบตั ิงานได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 2) เขตพฒั นาเศรษฐกจิ พิเศษ และพ้นื ทร่ี ะเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวนั ออก โดย ส่งเสรมิ การจัดการศึกษาเพื่อยกระดบั การศึกษาและพัฒนาศักยภาพประชาชน สร้างงานและพฒั นา อาชพี ทเี่ ป็นไปตามบริบทและความตอ้ งการของประชาชนในพ้นื ที่
8 2. ยุทธศาสตรด์ ้านการพฒั นากาลังคน การวิจัย และนวัตกรรมเพื่อสร้างขีดความสามารถในการ แขง่ ขันของประเทศ 2.1 ขับเคลอื่ น กศน. สู่ “Smart ONIE” ในการจัดการศึกษาและการเรยี นรูท้ ีเ่ สรมิ สร้าง ศกั ยภาพของประชาชนให้สอดคลอ้ งกบั การพฒั นาประเทศ 1. พฒั นาความรู้ความสามารถ ทักษะการใชภ้ าษาอังกฤษของครูและบคุ ลากร และ ขยายผลไปยงั การพัฒนาทกั ษะภาษาอังกฤษของประชาชนในรปู แบบต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม เช่น Boot Camp หลักสตู รภาษาอังกฤษ การจดั หลักสูตรภาษาเพือ่ อาชีพ 2. พฒั นาความร้แู ละทกั ษะเทคโนโลยดี จิ ิทัล การใช้ Social Media และ Application ต่างๆ เพ่อื พัฒนารูปแบบการจดั การเรียนการสอน ของครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา 2.2 พฒั นากาลังคนให้เป็น “Smart Digital Persons (SDPs)” ทมี่ ที ักษะด้านดจิ ิทลั เพื่อ รองรับการพัฒนาประเทศ 1. ส่งเสรมิ การจดั การเรียนร้ดู ้าน Digital เพ่ือใหป้ ระชาชน มีความรู้พ้นื ฐานด้าน Digital และความรเู้ รื่องกฎหมายว่าดว้ ยการกระทาความผิดเกย่ี วกบั คอมพวิ เตอร์ สาหรับการใช้ ประโยชน์ ในชีวติ ประจาวัน รวมทงั้ การพฒั นาและการเข้าสอู่ าชีพ 2. สรา้ งความร้คู วามเขา้ ใจและทักษะพน้ื ฐานใหก้ บั ประชาชน เกี่ยวกบั การทาธุรกิจ และ การค้าออนไลน์ (พาณชิ ย์อิเลก็ ทรอนิกส์) เพ่ือรว่ มขบั เคล่อื นเศรษฐกจิ ดจิ ทิ ัล 3. พฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพอ่ื การสื่อสารของประชาชนในรปู แบบตา่ งๆ อยา่ ง เปน็ รูปธรรม โดยเนน้ ทกั ษะภาษาเพ่ืออาชีพ ทั้งในภาคธุรกิจ การบริการ และการท่องเท่ียว 3. ยทุ ธศาสตรด์ ้านการพัฒนาและเสรมิ สร้างศักยภาพคนให้มีคุณภาพ 3.1 เตรยี มความพร้อมการเข้าส่สู ังคมผู้สูงอายุอยา่ งมีคุณภาพ (Smart Aging Society) 1. สง่ เสรมิ การจดั กิจกรรมให้กบั ประชาชนเพื่อสรา้ งตระหนกั ถงึ การเตรยี มพรอ้ ม เข้าส่สู งั คมผู้สงู อายุ (Ageing Society) มคี วามเข้าใจในพัฒนาการของชว่ งวัย รวมทั้งเรียนรู้และมสี ่วน ร่วมในการดแู ลรบั ผิดชอบผู้สูงอายุในครอบครัวและชมุ ชน 2. พฒั นาการจดั บริการการศึกษาและการเรยี นรู้สาหรบั ประชาชนในการเตรียม ความพร้อมเข้าสู่วยั สูงอายทุ ่ีเหมาะสมและมีคณุ ภาพ 3. จดั การศึกษาเพ่ือพัฒนาคุณภาพชวี ติ สาหรบั ผู้สูงอายุภายใต้แนวคิด “Active Aging”การศึกษาเพ่ือพฒั นาคุณภาพชวี ติ และพฒั นาทักษะชีวิต ให้สามารถดูแลตนเองทงั้ สุขภาพกาย และสขุ ภาพจิตและรู้จักใชป้ ระโยชน์จากเทคโนโลยี
9 4. สรา้ งความตระหนกั ถงึ คุณคา่ และศักด์ิศรขี องผสู้ งู อายุ เปดิ โอกาสใหม้ ีการ เผยแพร่ภมู ปิ ญั ญาของผ้สู งู อายุ และให้มีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมด้านต่างๆ ในชมุ ชน เช่น ดา้ นอาชีพ กีฬา ศาสนาและวัฒนธรรม 3.2 สง่ เสริมการจดั การเรยี นร้ดู า้ นเกษตรกรรม (Smart Farmer : เกษตรกรปราดเปรือ่ ง) โดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและนวตั กรรมในการจดั กระบวนการเรียนรูด้ ้านเกษตรกรรมท่เี หมาะกับ บริบทของพนื้ ที่และความต้องการของชมุ ชน รวมทง้ั การเพ่ิมมลู คา่ สินค้าทางการเกษตรและสรา้ งช่อง ทางการจาหนา่ ยสินคา้ ผา่ นชอ่ งทางตา่ งๆ โดยตระหนักถงึ คณุ ภาพของผลผลติ ความปลอดภัยตอ่ ระบบ นเิ วศน์ ชุมชน และผบู้ รโิ ภค 3.3 ส่งเสรมิ ใหม้ กี ารจัดการเรียนการสอนแบบ “สะเตม็ ศกึ ษา” (STEM Education) สาหรับนักศกึ ษาและประชาชน โดยบูรณาการความรดู้ า้ นวิทยาศาสตร์ ควบคู่กับเทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณติ ศาสตร์เพ่ือประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวัน พัฒนาทักษะชวี ติ สกู่ ารประกอบ อาชีพ 3.4 เพม่ิ อตั ราการอา่ นของประชาชน โดยการจัดกจิ กรรมสง่ เสริมการอ่านในรูปแบบตา่ งๆ เชน่ อาสาสมคั รส่งเสริมการอา่ น หอ้ งสมดุ ประชาชน บ้านหนงั สอื ชุมชน ห้องสมุดเคล่อื นที่ เพ่อื พัฒนา ใหป้ ระชาชนมีความสามารถในระดับอา่ นคลอ่ ง เขา้ ใจความคดิ วิเคราะห์พื้นฐาน และสามารถรับรู้ ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและทันเหตกุ ารณ์ รวมท้งั นาความรู้ท่ไี ด้รบั ไปใช้ปฏบิ ตั จิ รงิ ในชวี ิตประจาวัน 3.5 ศูนยฝ์ ึกอาชพี ชุมชน สู่ “วสิ าหกิจชุมชน : ชมุ ชนพึง่ ตนเอง ทาได้ ขายเปน็ ” 1. ส่งเสรมิ การจัดการศึกษาอาชีพทส่ี อดคลอ้ งกับศักยภาพของชุมชน และความ ตอ้ งการของตลาด รวมทั้งสรา้ งเครอื ข่ายการรวมกลุม่ ในลักษณะวิสาหกิจชมุ ชน สร้างรายไดใ้ หก้ ับ ชมุ ชน ใหช้ มุ ชนพ่งึ พาตนเองได้ 2. ส่งเสริมการใชเ้ ทคโนโลยีในการสร้างมูลคา่ เพมิ่ ใหก้ บั สินคา้ การทาช่องทาง เผยแพร่และจาหน่ายผลติ ภัณฑข์ องวิสาหกิจชมุ ชนให้เป็นระบบครบวงจร 3.6 จดั กระบวนการเรยี นรตู้ ามแนวทางเกษตรธรรมชาติสู่การพฒั นาอาชพี เกษตรกรรม อย่างยั่งยืน 1. พฒั นาบคุ ลากรและแกนนาเกษตรกรในการเผยแพรแ่ ละจัดกระบวนการเรียนรู้ ตามแนวทางเกษตรธรรมชาติส่กู ารพัฒนาอาชพี เกษตรกรรม 2. จัดต้ังศูนยก์ ารเรยี นร้ตู ้นแบบระดับตาบลด้านเกษตรธรรมชาตสิ ู่การพฒั นาอาชีพ เกษตรกรรม เพื่อถา่ ยทอดความรูด้ า้ นเกษตรธรรมชาติสู่การพฒั นาอาชีพเกษตรกรรมให้กับชุมชน 3. ส่งเสรมิ ใหม้ กี ารบูรณาการระหว่าง ศฝช. และ กศน.อาเภอ ในการจดั กระบวนการเรียนรู้ตามแนวทางเกษตรธรรมชาติสกู่ ารพฒั นาอาชพี เกษตรกรรมให้กับประชาชน
10 3.7 ยกระดบั คุณภาพการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน โดยพฒั นา หลกั สูตร รูปแบบการจัดการเรียนการสอน และกจิ กรรมพัฒนาคณุ ภาพผูเ้ รียน คุณภาพของสื่อและ 3.2 ส่งเสรมิ การจดั การเรียนรูด้ า้ นเกษตรกรรม (Smart Farmer : เกษตรกรปราดเปร่ือง) โดยใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและนวตั กรรมในการจดั กระบวนการเรียนรู้ด้านเกษตรกรรมทเ่ี หมาะกับ บริบทของพืน้ ทีแ่ ละความต้องการของชมุ ชน รวมทั้งการเพิ่มมลู คา่ สนิ คา้ ทางการเกษตรและสรา้ งช่อง ทางการจาหนา่ ยสนิ คา้ ผา่ นช่องทางต่างๆ โดยตระหนักถึงคณุ ภาพของผลผลิตความปลอดภยั ต่อระบบ นิเวศน์ ชมุ ชน และผ้บู รโิ ภค 3.3 สง่ เสรมิ ให้มีการจดั การเรยี นการสอนแบบ “สะเตม็ ศกึ ษา” (STEM Education) สาหรบั นกั ศกึ ษาและประชาชน โดยบูรณาการความรูด้ า้ นวิทยาศาสตร์ ควบคู่กับเทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์เพ่ือประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั พฒั นาทักษะชีวติ สูก่ ารประกอบ อาชีพ 3.4 เพ่ิมอัตราการอา่ นของประชาชน โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในรปู แบบตา่ งๆ เช่นอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน ห้องสมดุ ประชาชน บ้านหนงั สือชมุ ชน หอ้ งสมดุ เคล่อื นที่ เพอ่ื พฒั นา ให้ประชาชนมีความสามารถในระดับอา่ นคลอ่ ง เข้าใจความคิด วเิ คราะห์พน้ื ฐาน และสามารถรับรู้ ขอ้ มูลขา่ วสารท่ีถูกต้องและทันเหตกุ ารณ์ รวมทั้งนาความรู้ท่ไี ดร้ บั ไปใช้ปฏบิ ัตจิ ริงในชีวิตประจาวัน 3.5 ศูนยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน สู่ “วสิ าหกจิ ชุมชน : ชมุ ชนพ่ึงตนเอง ทาได้ ขายเป็น” 1. สง่ เสรมิ การจัดการศึกษาอาชีพท่สี อดคล้องกับศักยภาพของชุมชน และความ ต้องการของตลาด รวมทัง้ สรา้ งเครือขา่ ยการรวมกลุม่ ในลกั ษณะวิสาหกิจชมุ ชน สรา้ งรายได้ใหก้ บั ชมุ ชน ให้ชุมชนพง่ึ พาตนเองได้ 2. ส่งเสรมิ การใชเ้ ทคโนโลยีในการสรา้ งมูลค่าเพิ่มให้กบั สินค้า การทาช่องทาง เผยแพรแ่ ละจาหน่ายผลติ ภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนใหเ้ ปน็ ระบบครบวงจร 3.6 จดั กระบวนการเรียนรตู้ ามแนวทางเกษตรธรรมชาติสู่การพัฒนาอาชพี เกษตรกรรม อยา่ งย่ังยืน 1. พฒั นาบุคลากรและแกนนาเกษตรกรในการเผยแพร่และจัดกระบวนการเรยี นรู้ ตามแนวทางเกษตรธรรมชาติสกู่ ารพฒั นาอาชีพเกษตรกรรม 2. จัดตง้ั ศนู ย์การเรียนรูต้ ้นแบบระดับตาบลด้านเกษตรธรรมชาติสู่การพฒั นาอาชีพ เกษตรกรรม เพ่ือถา่ ยทอดความรดู้ า้ นเกษตรธรรมชาตสิ ู่การพฒั นาอาชีพเกษตรกรรมให้กบั ชมุ ชน 3. ส่งเสรมิ ใหม้ ีการบูรณาการระหว่าง ศฝช. และ กศน.อาเภอ ในการจัด กระบวนการเรียนรตู้ ามแนวทางเกษตรธรรมชาติสู่การพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมให้กบั ประชาชน 3.7 ยกระดับคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พื้นฐาน โดยพัฒนา หลักสูตร รูปแบบการจดั การเรยี นการสอน และกจิ กรรมพัฒนาคุณภาพผ้เู รียน คุณภาพของสื่อและ
11 นวตั กรรม รวมทัง้ มาตรฐานของการวดั และประเมนิ ผล เพื่อสร้างความเชื่อมัน่ ให้สังคมเก่ียวกบั คุณภาพการจดั การศกึ ษาของสานกั งาน กศน. 4. ยุทธศาสตรด์ ้านการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา 4.1 ส่งเสรมิ การนาระบบคูปองการศึกษา มาใช้ เพ่ือสรา้ งโอกาสในการเข้าถึงบริการ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ทส่ี อดคล้องกบั ความต้องการของประชาชน ผูร้ ับบรกิ าร 4.2 สร้างกระบวนการเรียนรู้ในรูปแบบ E-learning ที่ใช้ระบบเทคโนโลยเี ข้ามาบริหาร จัดการเรียนรู้ เพื่อเปน็ การสร้างและขยายโอกาสในการเรียนรู้ใหก้ บั กล่มุ เป้าหมายได้สะดวก รวดเร็ว ตรงตามความตอ้ งการของประชาชนผู้รับบริการ 4.3 เพมิ่ อัตราการร้หู นงั สือและยกระดับการรู้หนังสือของประชาชน 1. เร่งจดั การศกึ ษาเพ่ือเพิ่มอัตราการร้หู นังสือ และคงสภาพการรูห้ นงั สือ ให้ ประชาชนสามารถอ่านออก เขียนได้ และคิดเลขเป็น โดยเฉพาะประชาชนในเขตพัฒนาพเิ ศษเฉพาะ กจิ จังหวดั ชายแดนภาคใต้และพ้ืนทห่ี ่างไกล โดยมกี ารวดั ระดับการรหู้ นงั สือ การใชส้ ื่อ กระบวนการ และกิจกรรมพฒั นาทักษะในรปู แบบตา่ งๆ ท่เี หมาะสม และสอดคลอ้ งกบั สภาพพนื้ ท่ีและ กลุม่ เป้าหมาย ใหป้ ระชาชนสามารถฟงั พูด อา่ น และเขยี น ภาษาไทย เพื่อประโยชน์ในการใชใ้ น ชีวติ ประจาวนั 2. ยกระดับการรหู้ นงั สือของประชาชน โดยจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการรหู้ นังสอื ในรปู แบบต่างๆ รวมท้ังทักษะดา้ นเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั เพ่ือเป็นเครอื่ งมือในการเรียนรตู้ ลอดชีวติ ของ ประชาชน 4.4. ยกระดบั การศึกษาใหก้ ับกลุ่มเป้าหมายทหารกองประจาการรวมท้ังกลุ่มเป้าหมาย พเิ ศษอนื่ ๆ เชน่ คนพกิ าร เด็กออกกลางคัน ใหจ้ บการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สามารถนาความรู้ทไ่ี ดร้ ับไปพัฒนาตนเองไดอ้ ย่างต่อเนื่อง 4.5 พลกิ โฉม กศน. ตาบล สู่ “กศน.ตาบล 4 G” 1. พัฒนาครู กศน. และบุคลากรที่เกีย่ วข้องกับการจัดกิจกรรมการศึกษาและการ เรียนรู้ : Good Teacher ใหเ้ ปน็ ตวั กลางในการเช่ือมโยงความรูก้ บั ผูร้ บั บรกิ าร มีความเป็น “ครมู ือ อาชพี ” มีจิตบรกิ ารมีความรอบรู้และทันต่อการเปล่ยี นแปลงของสังคม เปน็ ผู้จดั กิจกรรมการเรียนรู้ และบรหิ ารจดั การความรทู้ ด่ี ีรวมท้งั เป็นผปู้ ฏิบัตงิ านอย่างมีความสขุ 2. พฒั นา กศน.ตาบล ให้มีบรรยากาศและสภาพแวดลอ้ มเออื้ ต่อการเรยี นร้อู ยา่ ง ต่อเนือ่ ง :Good Place Best Check-In มีความพร้อมในการใหบ้ รกิ ารการศึกษาและการเรียนรู้ มสี งิ่ อานวยความสะดวก เป็นแหล่งขอ้ มลู สาธารณะที่ง่ายต่อการเขา้ ถึง และสะดวกต่อการเรียนรูต้ ลอด ชวี ิตอยา่ งสรา้ งสรรค์ดึงดดู ความสนใจ และมีความปลอดภัยสาหรบั ผูร้ บั บรกิ าร
12 3. ส่งเสริมการจดั กิจกรรมการเรยี นรภู้ ายใน กศน.ตาบล : Good Activities ให้มี ความหลากหลายน่าสนใจ ตอบสนองความต้องการของชุมชน เพือ่ พฒั นาศักยภาพการเรยี นรู้ของ ประชาชน รวมทงั้ เปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามาจัดกจิ กรรมเพื่อเช่อื มโยงความสัมพันธข์ องคนในชุมชน 4. เสรมิ สรา้ งความรว่ มมือกับภาคเี ครือข่ายทงั้ ภาครฐั ภาคเอกชน องค์กรปกครอง สว่ นท้องถิ่น และการมสี ่วนรว่ มของชุมชน : Good Partnership เพ่อื สร้างความรู้ ความเขา้ ใจ และ ความร่วมมือในการส่งเสรมิ สนับสนนุ และจัดการศึกษาและการเรยี นรใู้ ห้กับประชาชนอย่างมี คณุ ภาพ 4.6. ประสานความร่วมมือหนว่ ยงาน องคก์ ร หรือภาคส่วนตา่ งๆ ทมี่ ีแหล่งเรียนรู้ อ่นื ๆ เชน่ พพิ ธิ ภณั ฑ์ ศูนยเ์ รียนรู้ แหลง่ โบราณคดี ห้องสมดุ เพ่ือส่งเสรมิ การจดั การศกึ ษาตามอธั ยาศัยให้มี รูปแบบที่หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของประชาชน 5. ยุทธศาสตร์ดา้ นสง่ เสริมและจัดการศึกษาเพ่ือเสริมสรา้ งคณุ ภาพชวี ิตที่เปน็ มิตรกบั ส่ิงแวดลอ้ ม 5.1 ส่งเสรมิ ให้มกี ารให้ความรู้กบั ประชาชนเกย่ี วกับการป้องกันผลกระทบและปรับตวั ต่อ การเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติธรรมชาติ 5.2 สรา้ งความตระหนกั ถึงความสาคัญของการสรา้ งสังคมสเี ขียว การกาจัดขยะและ มลพิษในเขตชมุ ชน 5.3 สง่ เสรมิ ใหห้ น่วยงานและสถานศึกษาใชพ้ ลงั งานท่เี ปน็ มิตรกับสงิ่ แวดล้อม รวมทงั้ ลด การใชท้ รพั ยากรทีส่ ง่ ผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดล้อม 6. ยทุ ธศาสตรด์ า้ นการพฒั นาประสิทธภิ าพระบบบริหารจัดการ 6.1 พัฒนาระบบฐานข้อมลู สารสนเทศดา้ นการศึกษาเพ่อื การบรหิ ารจดั การอย่างเป็น ระบบและเช่ือมโยงกบั ระบบฐานขอ้ มูลกลางของกระทรวงศึกษาธกิ าร เพื่อการบรหิ ารจดั การและ บรู ณาการข้อมลู ของประชาชนอย่างเป็นระบบ 6.2 ส่งเสริมการใชร้ ะบบสานักงานอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (E-office) ในการบริหารจดั การ เช่น ระบบการลาระบบสารบรรณอเิ ล็กทรอนิกส์ ระบบการขอใช้รถราชการ ระบบการขอใชห้ อ้ งประชมุ เปน็ ตน้ 6.3 พัฒนาระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือชว่ ยในการบรหิ ารจดั การอย่างเตม็ รปู แบบ ทั้ง ระบบการจดั ทาแผนปฏิบัติการ และระบบการรายงานผลการดาเนนิ งานประจาปี รวมทั้งระบบการ ประกนั คุณภาพของสถานศึกษา 6.4 สง่ เสริมการพัฒนาบุคลากรทกุ ระดับ ใหม้ ีความรแู้ ละทักษะตามมาตรฐานตาแหนง่ ให้ ตรงกับสายงานหรือความชานาญ
13 ภารกิจต่อเน่ือง 1. ด้านการจดั การศึกษาและการเรยี นรู้ 1.1 การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน 1) สนับสนนุ การจัดการศึกษานอกระบบตั้งแต่ปฐมวยั จนจบการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน โดยดาเนินการใหผ้ ้เู รียนไดร้ บั การสนบั สนุนคา่ จดั ซื้อหนังสอื เรยี น คา่ จดั กิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และค่าจดั การเรียนการสอนอยา่ งทว่ั ถงึ และเพยี งพอ เพ่ือเพ่ิมโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการศึกษา ท่มี คี ณุ ภาพโดยไม่เสยี ค่าใช้จา่ ย 2) จัดการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐานใหก้ ับกล่มุ เป้าหมายผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศกึ ษา ท้ังระบบการให้บริการ ระบบการเรยี นการสอน ระบบการวดั และประเมินผลการเรียน ผ่านการเรยี นแบบเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง การพบกลุ่ม การเรียนแบบช้นั เรยี น และการจดั การศึกษาทางไกล 3) จดั ให้มกี ารประเมนิ เพ่ือเทียบระดบั การศกึ ษา และการเทียบโอนความรูแ้ ละ ประสบการณ์ทมี่ ีความโปร่งใส ยุตธิ รรม ตรวจสอบได้ มมี าตรฐานตามท่กี าหนด และสามารถ ตอบสนองความต้องการของกลมุ่ เปา้ หมายได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ 4) จัดให้มกี ิจกรรมพฒั นาคุณภาพผู้เรียนทมี่ คี ุณภาพทีผ่ ู้เรยี นต้องเรียนรแู้ ละเขา้ ร่วม ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม เพ่ือเป็นสว่ นหนึ่งของการจบหลักสูตร อาทิ กิจกรรมเสรมิ สรา้ งความสามัคคี กจิ กรรม เก่ยี วกับการป้องกนั และแก้ไขปญั หายาเสพติด การบาเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างต่อเน่ือง การ ส่งเสรมิ การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมุข กจิ กรรมลกู เสือ เนตรนารี และยุวกาชาด กิจกรรมจิตอาสา และการจัดตง้ั ชมรม/ชุมนุม พร้อมท้งั เปดิ โอกาสให้ผเู้ รียน นากิจกรรมการบาเพ็ญประโยชนอ์ นื่ ๆ นอกหลักสูตรมาใช้เพ่ิมชว่ั โมงกจิ กรรมใหผ้ เู้ รยี นจบตาม หลกั สูตรได้ 1.2 การสง่ เสริมการรูห้ นงั สือ
14 1) พฒั นาระบบฐานขอ้ มลู ผไู้ ม่รู้หนังสือ โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษจงั หวัด ชายแดนใต้ ใหม้ คี วามครบถ้วน ถกู ต้อง ทนั สมัยและเปน็ ระบบเดียวกันทั้งส่วนกลางและพนื้ ที่ 2) พฒั นาหลักสตู ร สอ่ื แบบเรียนเคร่อื งมือวัดผลและเครือ่ งมือการดาเนินงานการ สง่ เสรมิ การรู้หนงั สือทีส่ อดคล้องกบั สภาพแตล่ ะกลุ่มเปา้ หมาย 3) พัฒนาครู กศน.และภาคีเครือข่ายร่วมจัด ใหม้ คี วามรู้ ความสามารถ และทกั ษะ กระบวนการเรยี นรู้ให้กับผูไ้ ม่ร้หู นังสืออย่างมปี ระสิทธภิ าพ และอาจจัดใหม้ ีอาสาสมคั รการร้หู นงั สอื ใน พื้นทที่ ่ีมคี วามต้องการจาเป็นเปน็ พเิ ศษ 4) ส่งเสริม สนับสนนุ ใหส้ ถานศึกษาจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การร้หู นงั สอื การคงสภาพ การรหู้ นังสอื การพฒั นาทกั ษะการรูห้ นงั สอื ให้กับประชาชนเพ่ือเป็นเครื่องมือในการศึกษาและเรยี นรู้ อยา่ งต่อเน่อื งตลอดชวี ิตของประชาชน 1.3 การศึกษาตอ่ เนื่อง 1) จดั การศึกษาอาชีพเพ่ือการมงี านทาอยา่ งยง่ั ยนื โดยให้ความสาคญั กบั การจัด การศกึ ษาอาชพี เพื่อการมงี านทา และอาชพี ทสี่ อดคล้องกบั ศักยภาพของผ้เู รยี นและศักยภาพของแต่ ละพ้นื ท่ี 2) จัดการศึกษาเพ่ือพฒั นาทักษะชวี ิตให้กบั ทุกกล่มุ เป้าหมาย โดยเฉพาะคนพิการ ผสู้ ูงอายทุ สี่ อดคล้องกับความตอ้ งการจาเปน็ ของแต่ละคนบุคคล และมุ่งเนน้ ให้ทุกกลุ่มเป้าหมายมี ทกั ษะการดารงชีวิตตลอดจนสามารถประกอบอาชีพพง่ึ พาตนเองได้ มคี วามรู้ความสามารถในการ บริหารจัดการชวี ติ ของตนเองให้อยู่ในสังคมได้อย่างมคี วามสขุ มีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม รวมท้ังสามารถใช้ เวลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ตอ่ ตนเอง ครอบครัว และชมุ ชน โดยจดั กจิ กรรมการศึกษาในรปู แบบต่าง ๆ อาทิ ค่ายพฒั นาทักษะชีวิต การจดั ตั้งชมรม/ชุมนมุ การสง่ เสริมความสามารถพเิ ศษตา่ ง ๆ 3) จดั การศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชมุ ชน โดยใชห้ ลักสูตรและการจัด กระบวนการเรยี นรู้แบบบรู ณาการในรปู แบบของการฝกึ อบรม การเรียนทางไกล การประชมุ สัมมนา การจัดเวทแี ลกเปล่ยี นเรียนรู้ การจัดกจิ กรรมจิตอาสา การสร้างชุมชนนักปฏิบัติ และรปู แบบอ่นื ๆ ท่ี เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และบริบทของชุมชนแต่ละพ้ืนที่ โดยเนน้ การสรา้ งจิตสานกึ ความเปน็
15 ประชาธิปไตย ความเป็นพลเมอื งดี การส่งเสริมคุณธรรมและจรยิ ธรรมในชุมชน การบาเพ็ญประโยชน์ การขับเคลื่อนการเปน็ สมาชิกประชาคมอาเซียน การบรหิ ารจดั การนา้ การรับมอื กบั สาธารณภัย การ เพิ่มระสิทธภิ าพการบรหิ ารจัดการขยะมูลฝอยของชมุ ชน การอนุรักษ์พลังงาน การอนรุ ักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม 1.4 การศกึ ษาตามอัธยาศัย 1) สง่ เสรมิ ใหม้ ีการพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ในระดับตาบล เพอื่ การถา่ ยทอดองค์ ความรู้ และจดั กิจกรรมเพ่ือเผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ในชุมชนได้อย่างทว่ั ถึง 2) จดั กจิ กรรมสง่ เสริมการเรียนรู้เพอื่ ปลูกฝังนิสยั รกั การอ่าน และพฒั นา ความสามารถในการอ่านและศักยภาพการเรียนรขู้ องประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย 3) สง่ เสริมให้มีการสร้างบรรยากาศ และสิง่ แวดลอ้ มท่เี อ้ือต่อการอา่ นให้เกดิ ขน้ึ ใน สังคมไทยโดยสนบั สนุนการพัฒนาแหลง่ การเรยี นรูใ้ ห้เกดิ ขึ้นอย่างกว้างขวางและทัว่ ถงึ เช่น พัฒนา ห้องสมุดประชาชนทุกแห่งให้เปน็ แหลง่ เรยี นรู้ตลอดชวี ิตของชมุ ชน สง่ เสริมและสนับสนุนอาสาสมคั ร ส่งเสริมการอา่ น การสรา้ งเครือข่ายสง่ เสรมิ การอ่าน จดั หน่วยบริการเคล่ือนท่ีพร้อมอุปกรณ์เพื่อ ส่งเสริมการอ่านและการเรยี นรทู้ หี่ ลากหลายออกใหบ้ ริการประชาชนในพน้ื ท่ีต่าง ๆ อย่างทว่ั ถงึ สมา่ เสมอ รวมทง้ั เสริมสรา้ งความพรอ้ มในดา้ นส่ืออปุ กรณ์ เพ่ือสนบั สนนุ การอา่ น และการจดั กิจกรรมเพอ่ื สง่ เสริมการอ่านอยา่ งหลากหลาย 4) จัดสรา้ งและพฒั นาศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ใหเ้ ป็นแหลง่ เรียนรู้ วทิ ยาศาสตรต์ ลอดชวี ติ ของประชาชนและเปน็ แหล่งท่องเท่ียวประจาท้องถน่ิ โดยจัดสรา้ งและพัฒนา นทิ รรศการ พัฒนาสื่อทีส่ ร้างแรงบนั ดาลใจสงู และจัดกิจกรรมการศึกษาที่เนน้ การเสรมิ สรา้ งความรู้ สอดแทรกวธิ ีการคดิ แบบวิทยาศาสตรก์ ารฝึกทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละปลูกฝงั เจตคติ ทางวิทยาศาสตร์ โดยบรู ณาการความรดู้ ้านวทิ ยาศาสตร์ ควบคู่กบั เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตรแ์ ละ คณติ ศาสตร์ อย่างสอดคลอ้ งกบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง บรบิ ทของของชมุ ชน ประเทศ รวมทงั้ การเปล่ยี นแปลงระดับภูมภิ าคและระดบั โลก เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ มคี วามสามารถในการ คดิ เชงิ วิเคราะห์ มีทกั ษะทจี่ าเป็นในโลกศตวรรษท่ี 21 มีความสามารถในการปรบั ตัวรองรับการ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ และสามารถนาความรู้และ
16 ทกั ษะไปประยุกตใ์ ช้ในการดาเนนิ ชีวิต การพัฒนาอาชีพ การรกั ษาส่ิงแวดลอ้ ม การบรรเทาและ ป้องกนั ภยั พิบัติทางธรรมชาติ 2. ด้านหลกั สูตร สื่อ รูปแบบการจดั กระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมนิ ผล งานบริการ ทางวิชาการ และการประกนั คุณภาพการศึกษา 2.1 ส่งเสรมิ การพฒั นาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนร้แู ละกิจกรรม เพอื่ ส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่หลากหลาย ทนั สมยั รวมทั้งหลกั สตู ร ท้องถิน่ ทส่ี อดคล้องกบั สภาพบรบิ ทของพน้ื ท่ี และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและชุมชน 2.2 ส่งเสรมิ การพฒั นาสื่อแบบเรยี น สือ่ อิเล็กทรอนิกสแ์ ละสื่ออ่ืนๆ ที่เอ้ือตอ่ การ เรียนรขู้ องผู้เรยี นกลุ่มเป้าหมายทวั่ ไปและกลุม่ เป้าหมายพเิ ศษ 2.3 พฒั นารูปแบบการจัดการศึกษาทางไกลให้มีความทันสมัยด้วยระบบห้องเรียน และการควบคมุ การสอบออนไลน์ 2.4 พฒั นาระบบการประเมินเพื่อเทยี บระดับการศึกษา และการเทยี บโอนความรู้ และประสบการณ์ให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 2.5 พฒั นาระบบการวัดและประเมินผลการศกึ ษานอกระบบทุกหลักสตู ร โดยเฉพาะหลักสตู รในระดับการศกึ ษาข้ันพื้นฐานใหไ้ ด้มาตรฐาน โดยการนาแบบทดสอบกลาง และ ระบบการสอบอิเล็กทรอนิกส(์ e-Exam) มาใชอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ 2.6 ส่งเสรมิ และสนับสนุนการศึกษาวิจยั พฒั นาหลักสตู ร รูปแบบการจดั กระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล และเผยแพร่รูปแบบการจัด ส่งเสรมิ และสนับสนุนการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศัย เพ่ือใหม้ ีการนาไปสู่การปฏบิ ัติอย่างกว้างขวางและมี การพฒั นาให้เหมาะสมกบั บริบทอยา่ งต่อเน่ือง 2.7 พัฒนาระบบประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาให้ได้มาตรฐาน เพ่อื พร้อมรับ การประเมินคุณภาพภายนอก โดยพฒั นาบคุ ลากรให้มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนกั ถึงความสาคัญ ของระบบการประกนั คุณภาพ และสามารถดาเนนิ การประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษาได้อย่าง
17 ต่อเนือ่ งโดยใช้การประเมินภายในด้วยตนเอง และจดั ใหม้ ีระบบสถานศึกษาพีเ่ ลย้ี งเขา้ ไปสนับสนุน อยา่ งใกลช้ ดิ สาหรับสถานศึกษาทีย่ งั ไม่ไดเ้ ขา้ รบั การประเมินคณุ ภาพภายนอก ให้พฒั นาคณุ ภาพการ จัดการศึกษาให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่กาหนด 3. ดา้ นเทคโนโลยเี พื่อการศึกษา 3.1 ผลิตและพฒั นารายการวิทยุและรายการโทรทศั น์เพ่ือการศึกษาใหเ้ ชือ่ มโยงและ ตอบสนองตอ่ การจดั กจิ กรรมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยของสถานศึกษาเพ่ือ กระจายโอกาสทางการศึกษาสาหรับกล่มุ เปา้ หมายต่างๆ ให้มที างเลอื กในการเรียนรู้ทีห่ ลากหลายและ มคี ณุ ภาพ สามารถพัฒนาตนเองให้รู้เทา่ ทันสอื่ และเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการสื่อสาร เช่น รายการ พัฒนาอาชีพเพ่ือการมีงานทา รายการติวเข้มเติมเต็มความรู้ ฯลฯ เผยแพรท่ างสถานีวทิ ยศุ ึกษา สถานี วทิ ยุโทรทศั นเ์ พ่ือการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ (ETV)และทางอินเทอรเ์ น็ต 3.2 พฒั นาชอ่ งทางการเผยแพรก่ ารจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยผ่าน ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารแบบออนไลน์ เพ่อื ส่งเสริมใหค้ รู กศน. นาเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ในการสรา้ งกระบวนการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง (Do It Yourself : DIY) 3.3 พฒั นาสถานวี ทิ ยศุ ึกษา และสถานโี ทรทัศนเ์ พื่อการศึกษาเพื่อเพมิ่ ประสทิ ธิภาพการผลติ และการออกอากาศใหก้ ลุ่มเป้าหมายสามารถใช้เป็นช่องทางการเรียนรู้ท่มี ีคุณภาพได้อยา่ งตอ่ เน่ือง ตลอดชวี ติ โดยขยายเครอื ข่ายการรับฟังให้สามารถรับฟังไดท้ ุกที่ ทุกเวลา ครอบคลุมพ้ืนทท่ี ั่วประเทศ และเพ่ิมช่องทางใหส้ ามารถรับชมรายการโทรทัศน์ได้ท้ังระบบ Ku - Band , C - Band และทาง อินเทอรเ์ น็ต พร้อมท่จี ะรองรับการพฒั นาเปน็ สถานีวิทยุโทรทศั นเ์ พื่อการศกึ ษาสาธารณะ (Free ETV) 3.4 พัฒนาระบบการให้บรกิ ารสอื่ เทคโนโลยเี พื่อการศกึ ษาใหไ้ ด้หลายช่องทางทั้งทาง อนิ เทอรเ์ นต็ และรปู แบบอน่ื ๆ เช่น Application บนโทรศัพท์เคล่ือนท่ี และ Tablet, DVD, CD, VCD และ MP3 เป็นตน้ เพ่ือใหก้ ลุ่มเปา้ หมายสามารถเลือกใช้บริการเพ่ือเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา และการเรยี นรู้ไดต้ ามความต้องการ 3.5 สารวจ วิจยั ติดตามประเมนิ ผลดา้ นส่ือเทคโนโลยเี พ่ือการศกึ ษาอย่างตอ่ เนื่อง และนาผล มาใช้ในการพฒั นางานให้มคี วามถกู ต้อง ทันสมัยและสามารถส่งเสรมิ การศึกษาและการเรียนร้ตู ลอด ชวี ติ ของประชาชนได้อยา่ งแท้จริง
18 4. ดา้ นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดาริ หรือโครงการอนั เกีย่ วเน่ืองจากราชวงศ์ 4.1 ส่งเสรมิ และสนบั สนุนการดาเนินงานโครงการอนั เนื่องมาจากพระราชดาริ หรอื โครงการ อันเก่ยี วเน่ืองจากราชวงศ์ 4.2 จดั ทาฐานขอ้ มูลโครงการและกจิ กรรมของ กศน. ที่สนองงานโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดาริ หรือโครงการอนั เก่ยี วเนื่องจากราชวงศ์ ทสี่ ามารถนาไปใชใ้ นการวางแผน การตดิ ตาม ประเมินผลและการพัฒนางานได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 4.3 สง่ เสรมิ การสรา้ งเครือข่ายการดาเนนิ งานเพื่อสนบั สนุนโครงการอนั เนื่องมาจาก พระราชดาริเพือ่ ให้เกดิ ความเข้มแข็งในการจดั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย 4.4 พฒั นาศนู ยก์ ารเรยี นชุมชนชาวไทยภเู ขา “แม่ฟ้าหลวง” ให้มคี วามพร้อมในการจัด การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ตามบทบาทหน้าทท่ี ี่กาหนดไว้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 4.5 จัดและสง่ เสรมิ การศกึ ษาตลอดชีวิตใหส้ อดคล้องกับวถิ ชี ีวติ ของประชาชนบนพน้ื ทสี่ ูง ถิ่นทุรกนั ดาร และพื้นที่ชายขอบ 5. ดา้ นการศึกษาในจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ พ้นื ทเี่ ขตเศรษฐกิจพเิ ศษ และพ้นื ทบ่ี ริเวณชายแดน 5.1 พัฒนาการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 1) จดั และพัฒนาหลกั สูตร และกจิ กรรมส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ท่ี ตอบสนองปัญหาและความต้องการของกลมุ่ เป้าหมายรวมท้ังอัตลักษณ์และความเป็นพหุวฒั นธรรม ของพนื้ ท่ี 2) พฒั นาคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พนื้ ฐานอย่าง เข้มข้นและต่อเนอ่ื งเพ่ือให้ผเู้ รียนสามารถนาความรู้ที่ได้รบั ไปใช้ประโยชนไ์ ด้จริง 3) ให้หน่วยงานและสถานศึกษาจัดใหม้ มี าตรการดูแลรกั ษาความปลอดภยั แก่บุคลากรและ นักศึกษา กศน. ตลอดจนผู้มาใช้บริการอย่างทว่ั ถงึ 5.2 พฒั นาการจัดการศึกษาแบบบรู ณาการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ
19 1) ประสานความรว่ มมือกบั หนว่ ยงานทเี่ ก่ียวข้องในการจดั ทาแผนการ ศึกษาตามยุทธศาสตรแ์ ละบริบทของแตล่ ะจังหวดั ในเขตพัฒนาเศรษฐกจิ พเิ ศษ 2) จัดทาหลกั สูตรการศึกษาตามบรบิ ทของพน้ื ท่ี โดยเนน้ สาขาทเ่ี ป็นความ ตอ้ งการของตลาด ให้เกิดการพัฒนาอาชีพได้ตรงตามความต้องการของพ้ืนท่ี 5.3 จัดการศึกษาเพ่ือความม่ันคงชายแดนของศนู ย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบรเิ วณ ชายแดน (ศฝช.) 1) พฒั นาศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน ใหเ้ ป็นศนู ย์ ฝกึ อาชพี ชมุ ชนตน้ แบบดา้ นเกษตรกรรม เปน็ ศูนย์สาธติ การประกอบอาชีพ ศนู ยก์ ารเรยี นรูต้ น้ แบบ การจัดกจิ กรรมตามแนวพระราชดารปิ รัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สาหรับประชาชนตามแนวชายแดน ด้วยวธิ ีการเรียนรทู้ ่หี ลากหลาย 2) มุ่งจัดและพัฒนาการศึกษาอาชพี โดยใชว้ ธิ กี ารหลากหลาย ใชร้ ปู แบบเชงิ รุกเพ่ือ การเขา้ ถงึ กลุ่มเป้าหมาย เช่น การจดั มหกรรมอาชีพ การประสานความร่วมมือกับเครือข่าย การจัด อบรมแกนนาดา้ นอาชีพที่เนน้ เร่ืองเกษตรธรรมชาติท่สี อดคล้องกับบรบิ ทของชมุ ชนชายแดน ให้แก่ ประชาชนตามแนวชายแดน 6. ดา้ นบคุ ลากร ระบบการบรหิ ารจัดการ และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน 6.1 การพัฒนาบุคลากร 1) พฒั นาบคุ ลากรทุกระดับ ทกุ ประเภทให้มสี มรรถนะสงู ข้ึนอยา่ งต่อเน่ือง ท้งั ก่อน และระหว่างการดารงตาแหน่งเพอ่ื ให้มเี จตคติท่ีดใี นการปฏิบตั งิ าน สามารถปฏิบตั ิงานและบริหาร จดั การการดาเนนิ งานของหน่วยงานและสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธภิ าพ รวมท้ังส่งเสริมให้ บคุ ลากรในสงั กัดพัฒนาตนเองเพอ่ื เลอื่ นตาแหน่งหรอื เลื่อนวิทยฐานะโดยเน้นการประเมินวทิ ยฐานะ เชิงประจกั ษ์
20 2) พฒั นาศึกษานเิ ทศก์ กศน. ใหม้ ีสมรรถนะท่ีจาเปน็ ครบถ้วน มีความเปน็ มอื อาชพี สามารถปฏิบตั ิการนเิ ทศได้อยา่ งมศี ักยภาพ เพือ่ รว่ มยกระดบั คุณภาพการจดั การศกึ ษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในสถานศกึ ษา กศน. 3) พัฒนาหวั หน้า กศน. ตาบล/แขวง ให้มีสมรรถนะสูงข้ึนในการบรหิ ารจัดการ กศน. ตาบล/แขวงและการปฏบิ ัติงานตามบทบาทภารกจิ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการเปน็ นัก จัดการความรแู้ ละผู้อานวยความสะดวกในการเรยี นรเู้ พื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่มปี ระสิทธภิ าพ อย่างแท้จริง 4) พฒั นาครู กศน. และผู้ท่ีเกี่ยวขอ้ งให้สามารถจัดรปู แบบการเรยี นร้ไู ด้ อยา่ งมีคณุ ภาพโดยส่งเสริมให้มคี วามรู้ความสามารถในการจัดทาแผนการสอน การจดั กระบวนการ เรียนรู้ การวัดและประเมนิ ผลและการวจิ ยั เบื้องต้น 5) พัฒนาศักยภาพบุคลากร ที่รบั ผิดชอบการบริการการศึกษาและการ เรยี นรู้ ให้มคี วามร้คู วามสามารถและมีความเปน็ มืออาชพี ในการจดั บรกิ ารสง่ เสรมิ การเรียนร้ตู ลอด ชีวติ ของประชาชน 6) ส่งเสริมและพฒั นาศักยภาพคณะกรรมการ กศน. ตาบล/แขวง เพื่อการ มีส่วนรว่ มในการบรหิ ารการดาเนินงานตามบทบาทภารกิจของ กศน. ตาบล/แขวง อย่างมี ประสิทธิภาพ 7) พฒั นาอาสาสมคั ร กศน. ใหส้ ามารถทาหนา้ ทีเ่ ป็นผ้จู ัด ส่งเสรมิ และ สนบั สนุนการจดั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 8) พัฒนาสมรรถนะและเสริมสรา้ งสัมพันธ์ระหว่างบุคลากร รวมทั้งภาคี เครอื ข่ายทั้งในและตา่ งประเทศในทุกระดบั โดยจดั ให้มีกจิ กรรมการพฒั นาสมรรถนะ และเสรมิ สรา้ ง ความสมั พนั ธภ์ าพและเพม่ิ ประสิทธิภาพในการทางานร่วมกันในรูปแบบท่ีหลากหลายอย่างต่อเน่ือง 6.2 การพัฒนาโครงสรา้ งพื้นฐานและอตั รากาลัง 1) จดั ทาแผนการพฒั นาโครงสร้างพื้นฐานและดาเนนิ การปรบั ปรงุ สถานท่ี และวัสดอุ ปุ กรณ์ ให้มีความพรอ้ มในการจัดการศกึ ษาและการเรียนรู้
21 2) บริหารอตั รากาลงั ทมี่ ีอยู่ท้ังในสว่ นทีเ่ ป็นขา้ ราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ใหเ้ กดิ ประสิทธภิ าพสงู สดุ ในการปฏิบัตงิ าน 3) แสวงหาภาคเี ครือขา่ ยในท้องถิ่นเพ่ือการมีสว่ นรว่ มในการดาเนนิ กจิ กรรม การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย รวมทงั้ ระดมทรพั ยากรเพื่อนามาใช้ในการปรับปรุง โครงสร้างพนื้ ฐานใหม้ ีความพรอ้ มสาหรับดาเนินกจิ กรรมสง่ เสริมการเรียนรู้ของประชาชน 6.3 การพฒั นาระบบบรหิ ารจัดการ 1) พฒั นาระบบฐานขอ้ มูลให้มีความครบถ้วน ถกู ต้อง ทันสมยั และ เชอ่ื มโยงกนั ท่วั ประเทศอย่างเป็นระบบเพื่อใหห้ น่วยงานและสถานศึกษาในสังกดั สามารถนาไปใช้เปน็ เครื่องมอื สาคัญในการบริหาร การวางแผนการปฏบิ ัติงาน การตดิ ตามประเมนิ ผล รวมท้ังจัดบรกิ าร การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อย่างมีประสิทธภิ าพ 2) เพิม่ ประสิทธิภาพการบริหารจัดการงบประมาณ โดยพัฒนาระบบการกากบั ควบคมุ และเร่งรดั การเบิกจ่ายงบประมาณใหเ้ ป็นตามเปา้ หมายทีก่ าหนดไว้ 3) พฒั นาระบบฐานข้อมลู รวมของนักศึกษา กศน. ใหม้ ีความครบถ้วน ถูกตอ้ ง ทนั สมยั และเช่ือมโยงกันท่วั ประเทศ สามารถสืบคน้ และสอบทานได้ทนั ความต้องการเพ่ือประโยชน์ ในการจดั การศึกษาให้กบั ผูเ้ รียนและการบรหิ ารจัดการอย่างมปี ระสิทธิภาพ 4) สง่ เสรมิ ให้มีการจัดการความรู้ในหน่วยงานและสถานศึกษาทุกระดับ รวมทง้ั การศึกษาวจิ ยั เพื่อสามารถนามาใช้ในการพฒั นาประสิทธิภาพการดาเนนิ งานท่สี อดคล้องกับความ ต้องการของประชาชนและชุมชนพร้อมท้ังพัฒนาขดี ความสามารถเชิงการแข่งขนั ของหน่วยงานและ สถานศกึ ษา 5) สร้างความรว่ มมือของทุกภาคส่วนทัง้ ในประเทศและต่างประเทศ ในการพฒั นา และสง่ เสรมิ การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั และการเรียนรตู้ ลอดชวี ติ 6.4 การกากับ นิเทศ ตดิ ตาม ประเมิน และรายงานผล
22 1) สร้างกลไกการกากับ นิเทศ ติดตาม ประเมนิ และรายงานผลการ ดาเนนิ งานการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ให้เชอื่ มโยงกับหนว่ ยงาน สถานศึกษา และ ภาคเี ครือขา่ ยท้ังระบบ 2) ให้หนว่ ยงานและสถานศึกษาทเี่ ก่ียวข้องทุกระดับ พฒั นาระบบกลไก การกากับ ตดิ ตามและรายงานผลการนานโยบายสู่การปฏิบตั ิ ใหส้ ามารถตอบสนองการดาเนนิ งาน ตามนโยบายในแตล่ ะเรื่องได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ 3) ส่งเสรมิ การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร และส่อื อื่น ๆ ท่ี เหมาะสม เพอื่ การกากบั นเิ ทศ ตดิ ตาม ประเมนิ ผล และรายงานผลอย่างมีประสิทธิภาพ 4) พฒั นากลไกการติดตามประเมินผลการปฏบิ ตั ิราชการตามคารบั รอง การปฏบิ ัติราชการ ประจาปีของหน่วยงาน สถานศึกษา เพื่อการรายงานผลตามตัวช้ีวัดในคารับรอง การปฏิบัตริ าชการประจาปี ของสานักงาน กศน. ใหด้ าเนนิ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ เป็นไปตามเกณฑ์ วธิ กี าร และระยะเวลาทก่ี าหนด 5) ให้มกี ารเชื่อมโยงระบบการนเิ ทศในทุกระดับ ทัง้ หน่วยงานภายในและ ภายนอกองค์กร ต้ังแตส่ ่วนกลาง ภมู ภิ าค กลมุ่ จงั หวดั จังหวดั อาเภอ/เขต และตาบล/แขวง เพ่อื ความเปน็ เอกภาพในการใชข้ ้อมูล และการพัฒนางานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย 2. แนวทาง/กลยุทธ์การดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยของ กศน.อาเภอ เมอื งชลบุรี ปรัชญา “คดิ เป็น ทาเปน็ เน้น ICT” วิสัยทัศน์ “จัดการศึกษาตลอดชีวติ ผูกมติ รกบั เครือข่าย กระจายความรู้สูช่ ุมชน ทกุ ท่ีทุกเวลาดว้ ย ICT มอี าชพี และแขง่ ขันในประชาคมอาเซยี นอย่างยัง่ ยืน\" อัตลกั ษณ์
23 “กา้ วไปในยุคดิจทิ ัล” เอกลกั ษณ์ “องค์กรออนไลน์” พันธกิจ 1. จัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ท่ีมีคุณภาพ เพื่อยกระดบั การศึกษา พัฒนาทกั ษะการเรยี นรู้ของประชาชนทุกกลมุ่ เป้าหมายใหเ้ หมาะสมทุกชว่ งวยั และพร้อมรบั การ เปลยี่ นแปลงบริบททางสงั คม และสรา้ งสังคมแห่งการเรียนรตู้ ลอดชวี ิต 2. ส่งเสริม สนบั สนนุ และประสานภาคีเครือข่าย ในการมีส่วนรว่ มจัดการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย และการเรยี นรู้ตลอดชีวิต รวมทงั้ การดาเนนิ กจิ กรรมของศนู ยก์ ารเรยี น และแหลง่ การเรียนรู้อ่นื ในรูปแบบต่างๆ 3. ส่งเสรมิ และพฒั นาการนาเทคโนโลยที างการศึกษา และเทคโนโลยีดจิ ิทลั มาใชใ้ ห้เกิด ประสทิ ธภิ าพในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยให้กบั ประชาชนอยา่ งท่วั ถึง 4. พัฒนาหลักสูตร รปู แบบการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ สือ่ และนวตั กรรม การวัดและ ประเมนิ ผล ในทุกรูปแบบให้สอดคล้องกับบริบทในปจั จุบัน 5. พฒั นาบคุ ลากรและระบบการบริหารจัดการให้มปี ระสทิ ธิภาพ เพ่อื มุ่งจัดการศึกษาและ การเรยี นร้ทู มี่ ีคณุ ภาพ โดยยดึ หลกั ธรรมาภิบาล เป้าประสงค์ 1. ประชาชนผ้ดู อ้ ย พลาด และขาดโอกาสทางการศกึ ษา รวมท้ังประชาชนท่วั ไปได้รับ โอกาสทางการศึกษาในรปู แบบการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน การศึกษาต่อเน่ือง
24 และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ที่มีคุณภาพ อยา่ งเท่าเทียมและทว่ั ถงึ เป็นไปตามสภาพ ปัญหา และความ ต้องการของแตล่ ะกลุ่มเป้าหมาย 2. ประชาชนได้รบั การยกระดับการศกึ ษา สรา้ งเสรมิ และปลูกฝงั คุณธรรม จรยิ ธรรม และ ความเป็นพลเมืองอันนาไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและเสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งใหช้ ุมชน เพื่อ พัฒนาไปสคู่ วามม่นั คงและยง่ั ยนื ทางดา้ นเศรษฐกจิ สังคม วัฒนธรรม ประวตั ศิ าสตร์ และสงิ่ แวดล้อม 3. ประชาชนได้รบั โอกาสในการเรียนรู้และมเี จตคติทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ี เหมาะสมสามารถคิด วเิ คราะห์ และประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวัน รวมทัง้ แก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพ ชีวิตได้อย่างสร้างสรรค์ 4. ประชาชนไดร้ บั การสรา้ งและส่งเสริมให้มีนิสัยรักการอา่ นเพ่ือการแสวงหาความรูด้ ว้ ย ตนเอง 5. ชุมชนและภาคีเครือขา่ ยทกุ ภาคสว่ น ร่วมจดั สง่ เสริม และสนับสนุนการดาเนนิ งาน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั รวมทงั้ การขับเคลื่อนกจิ กรรมการเรียนรู้ของชมุ ชน 6. กศน.อาเภอเมืองชลบุรี ต้องพัฒนา เทคโนโลยที างการศึกษา เทคโนโลยดี ิจิทลั มาใช้ในการ ยกระดับคุณภาพในการจัดการเรียนรแู้ ละเพ่ิมโอกาสการเรียนรูใ้ หก้ ับประชาชน 7. กศน.อาเภอเมืองชลบุรี ต้องพัฒนาสื่อและการจัดกระบวนการเรยี นรูเ้ พ่ือแกป้ ัญหาและ พัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ทต่ี อบสนองกบั การเปลี่ยนแปลงบรบิ ทดา้ นเศรษฐกจิ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวตั ิศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม รวมทัง้ ตามความต้องการของประชาชน และชุมชนในรูปแบบที่ หลากหลาย 8. บุคลากร กศน.อาเภอเมอื งชลบุรี ตอ้ งได้รบั การพัฒนาเพือ่ เพม่ิ สมรรถนะในการปฏิบตั ิงาน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อย่างมปี ระสิทธิภาพ 9. กศน.อาเภอเมืองชลบุรี ต้องมีระบบการบริหารจัดการตามหลกั ธรรมาภบิ าล
25 ตวั ช้วี ัด ตวั ชี้วดั เชิงปริมาณ 1.จานวนผ้เู รียนการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพื้นฐานทีไ่ ดร้ บั การสนับสนนุ คา่ ใช้จา่ ยตามสิทธิท่ีกาหนดไว้ 2. จานวนกลุ่มเปา้ หมายตา่ งๆ ที่เขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นร้/ู ได้รบั บรกิ ารกจิ กรรมการศึกษา ต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัยที่สอดคล้องกับสภาพ ปัญหา และความต้องการ 3. จานวนผ้รู บั บริการในพน้ื ที่เปา้ หมายได้รบั การส่งเสริมดา้ นการรหู้ นงั สือและการพฒั นา ทกั ษะชวี ิต 4. ร้อยละการอา่ นของคนไทยเพ่ิมข้ึน 5. จานวนนักศกึ ษาที่ไดร้ บั บรกิ ารตวิ เข้มเติมเตม็ ความรู้ 6. จานวนแหลง่ เรยี นร้ใู นระดบั ตาบลท่ีมคี วามพร้อมในการใหบ้ ริการการศกึ ษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศยั 7. จานวนประชาชนได้รบั การอบรมตามหลักสูตรภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ (ระยะสัน้ ) สาหรบั ประชาชนในศูนย์อาเซยี นศึกษา กศน. 8. จานวน นกั ศึกษาและกล่มุ เป้าหมายเขา้ ถึงบริการความรู้นอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศัยผา่ นชอ่ งทางสือ่ เทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีการสือ่ สาร 9. จานวนผู้ผ่านการอบรมตามหลักสตู รทก่ี าหนดของโครงการสรา้ งเครือข่ายดจิ ิทลั ชุมชน ระดบั ตาบล 10. จานวนบคุ ลากรของกศน.อาเภอเมืองชลบรุ ีไดร้ ับการพัฒนาเพ่ือเพิม่ สมรรถนะในการ ปฏบิ ตั งิ านการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย 11. กศน.อาเภอเมืองชลบุรีมีระบบประกนั คุณภาพภายในและมกี ารจัดทารายงานการ ประเมนิ ตนเอง
26 ตัวชว้ี ัดเชงิ คุณภาพ 1. ร้อยละท่เี พ่ิมขน้ึ ของคะแนนเฉลย่ี ผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติ การศกึ ษา นอกระบบโรงเรียน (N-NET) 2. รอ้ ยละของกาลังแรงงานท่สี าเร็จการศกึ ษาระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ หรือเทยี บเท่า ไดร้ ับ การศกึ ษาระดบั มัธยมศึกษาตอนปลายหรอื เทียบเทา่ 3. รอ้ ยละของนักศึกษาท่ีมผี ลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นในวิชาทไ่ี ดร้ ับบริการติวเขม้ เติมเตม็ ความรู้เพมิ่ สูงขึน้ 4. รอ้ ยละผู้จบหลกั สูตร/กิจกรรมการศกึ ษานอกระบบทีส่ ามารถนาความรู้ความเข้าใจไป ใชไ้ ด้ตามจุดมงุ่ หมายของหลักสูตร/กิจกรรมที่กาหนด 5. ร้อยละของผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมทส่ี ามารถอา่ นออกเขยี นได้และคิดเลขเป็น เป็นไปตาม จุดมุง่ หมายของกิจกรรม 6. รอ้ ยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายทลี่ งทะเบียนเรียนทีม่ ีรายได้เพ่ิมขึ้นจากการพฒั นา อาชพี ตามโครงการศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน 7. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเปา้ หมายทผี่ ่านการอบรมตามหลักสตู รภาษาองั กฤษเพ่ือการ สอ่ื สารดา้ นอาชีพ (ระยะส้นั ) มคี วามรใู้ นการส่อื สารภาษาอังกฤษ และสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการ ดาเนินชวี ิตได้ 8. ร้อยละของ กศน.ตาบล ท่สี ามารถดาเนินงานโครงการ/กจิ กรรมตามบทบาทภารกิจท่ี รบั ผิดชอบไดส้ าเร็จตามเปา้ หมายท่กี าหนดไวอ้ ย่างโปรง่ ใส ตรวจสอบได้ โดยใช้ทรัพยากรอยา่ งคุ้มค่า/ ตามแผนท่ีกาหนดไว้ กลยุทธ์ 1. มี กศน.ตาบลเปน็ หลกั แหล่ง 2. มีคอมฯ/อุปกรณค์ รบทุก กศน.ตาบล
27 3. ใหท้ ุกคนมีความรู้ ICT 4. มีระบบจัดเก็บ/รายงานผา่ นออนไลน์ 5. ภายใน1-2 ปีตอ้ งเป็น 1 ใน กศน.จงั หวดั 6. ภายใน 3 ปีตอ้ งเป็น 1-5 ของสานกั งาน กศน. การบริหารนา ICT ส่กู ารปฏิบัติ 1.การจดั หาคอมฯ/อปุ กรณ์ 2.ขั้นการพฒั นา 3.การประเมนิ ผล/รายงาน 1. การจัดหาคอมฯ/อุปกรณ์ 1.1 การเปดิ ตวั กศน.ตาบล โดย 1) เชญิ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.),สมาชกิ วุฒสิ ภา (ส.ว.) เป็นตน้ 2) นานกั ศึกษา กศน. หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 ปจั จบุ นั มีทั้งส้นิ 4,621 คน 3) เชิญภาคีเครือข่าย อาทเิ ช่น โรงเรียน, อบต., เทศบาล, อบจ. , อาเภอ เป็นตน้ 4) เสนอโครงการพัฒนา กศน.ตาบล ใหเ้ ปน็ แหล่งเรียนรดู้ ้านดิจทิ ลั 1.2 เชิญส.ส./ส.ว. เขา้ รว่ มทุกกจิ กรรม 1) โครงการเข้าค่ายต่าง ๆของนกั ศึกษา กศน. 2) โครงการวันวชิ าการ ของนักศกึ ษา กศน. 3) โครงการ อนื่ ๆ
28 2. ข้ันการพัฒนา 2.1 พัฒนาระบบ จะพฒั นาระบบการจัดเก็บ/รายงานตา่ งๆผา่ นออนไลน์ 2.2 พฒั นาคน 1) ครู กศน./จนท.ทุกคน 2) นกั ศกึ ษา กศน.หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ท้งั 2 กลุม่ เปา้ หมาย ต้องมคี วามรู้ ด้าน ICT และสามารถนาไปประยุกต์ใชไ้ ด้ สาหรบั ในส่วนของนกั ศึกษา กศน. หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 กศน.อาเภอเมืองชลบรุ ี จะต้องประกาศเปน็ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ พร้อมทั้งใชง้ บอดุ หนุน (กิจกรรมพฒั นาคุณภาพ ผ้เู รยี น) ในการขบั เคลื่อน โดยจัดโครงการพัฒนาคุณภาพผเู้ รียน ด้าน ICT พรอ้ มทั้งจดั ทาสรุปเป็น รปู เลม่ ( 5 บท) 3.การประเมินผล/รายงาน 3.1 รายงานผา่ นออนไลน์ โดยผา่ นทางเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ต http://118.172.227.194:7003/choncity/ และจดั ทา Application รายงานผ่านทางสมาร์ทโฟน 3.2 รายงานสรุปผลเปน็ รปู เลม่ (5 บท) จดั ทาสรุปผลโครงการ/กจิ กรรม เปน็ รปู เลม่ (5บท) เพื่อรองรับการประเมนิ คุณภาพ โดยตน้ สงั กดั และภายนอก
29 4. กรอบการจดั โครงการ Smart ONIE เพ่ือสร้าง Smart Farmers สานักงาน กศน. ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและนวตั กรรมในการจัดกระบวนการเรียนรู้ดา้ น เกษตรกรรมที่เหมาะกับบรบิ ทของพื้นท่ีและความต้องการของชุมชน รวมทง้ั การเพิ่มมูลค่าสนิ ค้าทาง การเกษตร และสร้างชอ่ งทางการจาหน่ายสินคา้ ผา่ นชอ่ งทางต่างๆ โดยตระหนักถงึ คุณภาพของ ผลผลติ ความปลอดภยั ดงั น้ัน ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมิงชลบุรี โดย กศน.ตาบล ห้วยกะปิ ดาเนนิ การจดั โครงการ Smart ONIE เพ่ือสรา้ ง Smart Farmers จานวน 18 ชัว่ โมง ใหก้ ับเกษตรกรและประชาชนตาบลหว้ ยกะปิ ทสี่ นใจได้ใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ ณ กศน.ตาบล ห้วยกะปิ อาเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบรุ ี 5.แนวทางการจดั โครงการ Smart ONIE เพ่อื สร้าง Smart Farmers สานกั งาน กศน. หลกั การและเหตผุ ล นายกรฐั มนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทรโ์ อชา) มีนโยบายช่วยเหลอื เกษตรกร โดยชนี้ าเกษตรกรไทย ตอ้ งเป็น Smart Farmers คอื ตอ้ งนาความรู้ หลกั วชิ าการ และเทคโนโลยีสมยั ใหม่ เข้ามาช่วยในการ ทาเกษตรโดยต้องทาให้นอ้ ยลง ไดผ้ ลผลติ มากข้นึ ใช้พน้ื ที่ใหน้ ้อยลง ใชน้ า้ ใหน้ ้อยลง ผลผลิตเพม่ิ ข้นึ สานกั งาน กศน.จึงจดั ทาโครงการ Smart ONIE เพ่ือสร้าง Smart Farmers เพอ่ื ส่งเสรมิ สนบั สนุนให้ประชาชนไดพ้ ฒั นาความร้ดู า้ นการเกษตร และยกระดับเกษตรกรให้เปน็ Smart Farmers ตามความเหมาะสมของบรบิ ท และความต้องการของท้องถ่ิน/ชมุ ชน ผา่ นวธิ ีการและ กระบวนการทหี่ ลากหลาย ท้ังนี้จึงจัดสรรเงนิ งบประมาณ รายจ่ายประจาปี พ.ศ. 2561 ตามโครงการ Smart ONIE เพอื่ สรา้ ง Smart Farmers ใหแ้ ก่สานักงาน กศน.จังหวดั ทกุ แห่ง/กทม. กศน.ตาบล ทุกแห่ง/แขวง ๆ ละ 15,200 บาท(หนง่ึ หม่ืนหา้ พันสองร้อยบาทถ้วน) เพ่ือเป็นคา่ ใชจ้ า่ ยในการ ดาเนินการอบรมประชาชน ตาบล/แขวง แห่งละ 10 คนข้นึ ไป ดงั นนั้ กศน.ตาบลหว้ ยกะปิ ได้เล็งเห็นความสาคัญ จงึ ได้จัดทาโครงการ Smart ONIE เพ่ือ สร้าง Smart Farmers ขน้ึ วัตถปุ ระสงค์
30 2.1. เพื่อส่งเสรมิ ให้เกษตรกรและประชาชนมีความร้คู วามเขา้ ใจในการเป็น Smart Farmers 2.2. เพ่ือสง่ เสริมให้เกษตรกรและประชาชนมีความรูค้ วามเข้าใจในเร่ืองการทา การเกษตร ตามความเหมาะสม ของพ้นื ทแ่ี ละเหน็ ช่องทางหรอื การพัฒนาอาชีพ 2.3 เพ่อื ส่งเสริมให้ประชาชนทผี่ ่านการอบรม สามารถยกระดบั เปน็ Smart Farmers ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กลุม่ เปา้ หมาย ประชาชน ตาบล/แขวง จานวน 7,424 แห่ง ๆ ละ 10 คน ข้นึ ไป แนวทางการเบิกจ่ายงบประมาณ ให้เบิกจา่ ยงบประมาณจากแผนบูรณาการยกระดับคณุ ภาพการศึกษาและการเรยี นรู้ ตลอดชวี ติ โครงการขยายโอกาสทางการศกึ ษาและเรยี นรูตลอดชวี ติ : Smart ONIE เพื่อสรา้ ง Smart Farmers งบรายจ่ายอน่ื โครงการ Smart ONIE เพ่ือสรา้ ง Smart Farmers ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 โดยใหเ้ ป็นไปตามค่มู อื การจดั กจิ กรรมการฝกึ อบรมประชาชน ตามหลกั เกณฑ์การเบิก ค่าใช้จา่ ยในการจดั กิจกรรมฝกึ อบรมประชาชนของสถานศึกษา ในสังกดั สานกั งาน กศน. วธิ กี ารดาเนนิ งาน 1. สานักงาน กศน. โอนงบประมาณให้แก่ สานักงาน กศน. จงั หวดั ทุกแหง่ /กทม. เพอื่ เป็นคา่ ใช้จา่ ยในการดาเนินการจดั อบรมประชาชนของ กศน.ตาบล/แขวง แห่งละ15,200 บาท 2. ครู กศน.ตาบล/แขวง ทุกแห่ง ดาเนินการจัดอบรมให้ประชาชนแห่งละ 10 คน ข้ึนไป จานวน 18 ชว่ั โมง(3 วนั ) ใหแ้ ล้วเสร็จในไตรรมาสท่ี 3 (มิถุนายน 2561) โดยให้ความรูเ้ บอื้ งตน้ แก่ผู้เข้ารบั การอบรม ให้ครบทกุ หัวขอ้ จานวน 6 หวั ข้อ ดังนี้ 2.1 ความรู้ในเร่ืองทีท่ าอยู่ในพืน้ ทข่ี องกลุ่มเป้าหมาย เช่น การเปน็ เกษตรกร หรือกิจกรรมอาชพี และผลผลติ ในพื้นท่ีของแตล่ ะตาบล/แขวง
31 2.2 การเขา้ ถึงข้อมลู เพ่อื ประกอบการตดั สนิ ใจ เชน่ การเข้าถึงแหลง่ ข้อมูล ผ่านทางระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารจาก internet, Mobile Phone, Smart Phone สาหรบั สบื คน้ ขอ้ มลู ทางการเกษตร 2.3 การบรหิ ารจดั การผลผลิตและการตลาด เชน่ การบรหิ ารปัจจยั การ ผลิต และการตลาด รวมถงึ การจัดการของเหลอื จากการผลิตทมี่ ปี ระสิทธภิ าพ (Zero waste management) 2.4 ความตระหนักถงึ คุณภาพสินค้าและความปลอดภัยของผู้บรโิ ภค เชน่ ความรูด้ า้ นกระบวนการผลติ ท่สี อดคล้องกับมาตรฐาน GAP GMP เกษตรอนิ ทรีย์ หรือมาตรฐานอืน่ ๆ 2.5 ความรบั ผิดชอบต่อส่งิ แวดลอ้ ม/สังคม เชน่ มีความรู้ดา้ นกระบวนการ ผลิตทไ่ี ม่ก่อให้เกิดมลภาวะ และไม่ทาลายส่ิงแวดลอ้ ม (Green Economy) 2.6 ความภูมใิ จในความเปน็ เกษตรกร เชน่ มคี วามมุ่งมัน่ ในการประกอบ อาชีพ รกั และหวงแหนพื้นที่ และอาชีพทางการเกษตรไว้ใหร้ ุน่ ต่อไป มีความสุข และพึงพอใจในการ ประกอบอาชีพเกษตรโดยการทากจิ กรรมทางการเกษตรในแปลงดว้ ยตวั เอง และปรบั ปรุง กระบวนการผลิตทางการเกษตรให้ดีขึ้นจากข้อมูลหรือองค์ความรู้ที่ไดร้ ับเพิ่มเติม และสามารถยืนยนั ได้วา่ การประกอบอาชีพเกษตรทาให้มีรายไดม้ ีคุณภาพชวี ิตที่ดี อนงึ่ เมื่อดาเนินการให้ความร็ครบทุกหัวข้อดงั กลา่ วข้างตน้ แลว้ ขอใหค้ รู กศน.ตาบล/แขวง พจิ ารณา และคัดเลือกหัวข้อ ทีไ่ ด้รับความสนใจจากกลุม่ เป้าหมาย เพื่อให้ความรู้เชงิ ลึก และเกิด ประโยชน์สูงสุดสามารถนาไปปฏบิ ัตไิ ด้อย่างปน็ รปู ธรรม และพัฒนาใหเ้ ป็น Smart Farmers ได้ 3. สังเกตถึงการเปล่ียนแปลงของผเู้ ข้ารบั การอบรมที่สามารถนาความรูไ้ ปประยุกต์ใช้ เพ่ือ ปีงบประมาณต่อไป สามารถพัฒนาไปสู่ Master Trainer ของโครงการ Smart ONIE เพ่ือสรา้ ง Smart Farmers รายงานผลการดาเนินงาน 1.เม่ือครู กศน.ตาบล/แขวง จัดกิจกรรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขอใหร้ ายงานผลการจดั กจิ กรรม ดังนี้
32 1.1 รายงานผลการดาเนินการในระดับตาบล/แขวง ผ่านช่องทาง http://goo.gl/forms/x4J6r0lgCJlROlq73 1.2 รวบรวม และสรปุ แบบสอบถามความพงึ พอใจของผ้เู ข้ารบั การอบรม ให้กับ กศน. อาเภอ/เขต เพ่ือสรุปสง่ สานักงาน กศน.จงั หวัดทกุ แหง่ /กทม. 2. สานกั งาน กศน.จงั หวัดทกุ แหง่ /กทม. ขอให้ดาเนินการ ดงั น้ี 2.1 รายงายผลการจดั กจิ กรรมตามแบบรายงานที่ 1 เปน็ ไฟล์ Excel และ จดั สง่ มายงั สานกั งาน กศน. Email : [email protected] ดังน้ี - รอบท่ี 1 ภายในวันท่ี 10 เมษายน 2561 - รอบท่ี 2 ภายในวนั ท่ี 10 กรกฎาคม 2561 2.2 สรุปแบบสอบถามความพึงพอใจในภาพรวมของสานักงาน กศน. จงั หวัด/กทม. และจัดสง่ มายังสานกั งาน กศน. ภายในวนั ท่ี 10 กรกฎาคม 2561 2.3 จดั ทาสรปุ ผลการดาเนนิ งานจดั อบรมโครงการ Smart ONIE เพ่ือ สร้าง Smart Farmers จานวน 1 เลม่ พร้อม CD และจดั ส่งมายังสานกั งาน กศน.ภายใน 31 กรกฎาคม 2561 หมายเหตุ : สาหรบั การอบรมประชาชนของ กศน.ตาบล/แขวง สามารถประสานงานกบั สานกั งานเกษตรอาเภอ/เขต เพ่อื เข้ามาเป็นวิทยากร หรือให้การสนับสนนุ ส่อื เอกสารประกอบต่าง ๆ หรือจากหนว่ ยงานภาคเี ครอื ข่าย อ่ืน ๆ โดยขอให้มีเน้อื หาทีส่ อดคล้องกบั รายละเอยี ดในการอบรมใน การพัฒนาไปสกู่ ารเป็น Smart Farmers ทงั้ น้ี สานักงาน กศน. ไดจ้ ัดทาหนงั สือขอความอนเุ คราะห์ ไปยังกรมส่งเสรมิ การเกษตร ให้การสนับสนุนบคุ ลากรในพ้นื ท่ี ในการขับเคลือ่ นการดาเนินกิจกรรม ตามโครงการ Smart ONIE เพื่อสร้าง Smart Farmers เรียบรอ้ ยแลว้
33 4. การขายออนไลน์ ผลผลติ ทางการเกษตร ทกุ วนั นมี้ ีผู้คนมากมายสนใจอยากเรม่ิ ขายของออนไลน์ เพราะดูเป็นส่ิงท่ีทาได้ง่าย แถมไม่ ต้องลงทุนอะไรมากนกั แต่ที่จรงิ แลว้ การท่รี า้ นจะประสบความสาเร็จไดน้ น้ั จาเป็นต้องมีการเตรียม ตวั ทดี่ ี เพราะไม่อยา่ งนัน้ แลว้ อาจจะขาดทุน จนอาจทาใหต้ ้องล้มเลิกไปได้ วนั นี้ เราเลยอยากขอนา 9 อย่างท่คี วรมีก่อนเริ่มเปิดร้านออนไลนม์ าบอกคณุ ผู้อ่าน เพ่ือใหไ้ ด้ เตรียมตวั ก่อนเร่ิมเปดิ ร้านออนไลน์กันค่ะ 1. ช่อื ร้าน หลายคนคดิ ว่าจะตง้ั ชื่อรา้ นอะไรก็ไดต้ ามใจชอบ ย่ิงถา้ แปลกไม่ซ้าใครย่ิงดี (บางที ถงึ กบั เปิดดิกชนั นารีหากันดว้ ยซ้า) แต่หารไู้ มว่ ่าชอ่ื ท่ีอ่านออกเสียงยาก ไม่คนุ้ หูคนไทย ก็มีผลทาให้ ลูกคา้ ไม่จดจารา้ น หรอื บางทีกไ็ ม่กล้าแนะนารา้ นของคุณกับคนรู้จกั เพราะกลัวออกเสยี งผิด เทา่ กับ คุณเสยี โอกาสไดล้ กู ค้าใหม่ๆ ไปอีกคน เพราะอย่างนี้ คณุ ควรคิดใหด้ ีว่าอยากไดช้ ื่อทีด่ ูหรูแต่จายาก หรือชอ่ื เบสิกทจ่ี างา่ ย นอกจากนี้ จะดมี ากถา้ ช่ือร้านของคุณมีความสมั พนั ธก์ ับสินค้าท่ีคุณขาย เช่น ถา้ คณุ ขายนาฬกิ าและต้งั ชอ่ื ให้มีคาวา่ Time หรือ Watch ลูกคา้ กจ็ ะสามารถจดจาและหารา้ นของ คณุ เจอได้ง่ายยิ่งขนึ้ 2. สินค้า สนิ ค้าท่ีคณุ เลอื กขายอาจเป็นสิง่ ที่คุณชอบกไ็ ด้ เพราะคุณจะร้รู อบรู้ลึกเก่ยี วกบั ตัวสินคา้ น้ันๆ ทาให้เวลาขายสามารถใหข้ ้อมูลลูกคา้ ได้ ไม่นับวา่ การไดข้ ายของทีช่ อบจะทาให้คณุ มีความสุข เหมือน ไดท้ าสิง่ ท่ีรัก แตถ่ ้าคุณไม่ได้ชื่นชอบอะไรเปน็ พิเศษ แค่อยากมีร้านคา้ เปน็ ของตัวเอง คณุ อาจจะเริ่ม โดยการสารวจตลาดว่าสินคา้ อะไรกาลังเปน็ ทีต่ ้องการและนา่ จะทากาไรได้ดี ยกตวั อย่างเช่น ในชว่ งที่ คนสว่ นมากหันมาใช้สมารท์ โฟน การขายแบตสารองหรอื เคสโทรศัพท์มอื ถือกเ็ ป็นความคดิ ที่ไมเ่ ลว แตไ่ ม่ว่าคุณจะเลือกขายอะไร อย่าลมื คิดถงึ ราคาต้นทุนและกาไรทจี่ ะได้รับ เพราะการขายของ ออนไลน์มกี ารตัดราคากันอยู่บ่อยคร้งั ทางท่ีดีทสี่ ดุ คุณควรเรมิ่ ด้วยสินคา้ ท่ีมีราคาต้นทุนต่า
34 3. เงนิ ทุน เงินที่คณุ จะนามาลงทุนในการเรม่ิ ร้านออนไลน์ไมค่ วรจะครอบคลุมแค่ค่าสินคา้ ท่ีคุณจะสั่งมา ขาย แต่ควรรวมค่าใช้จ่ายอ่ืนๆ ทีค่ ุณอาจต้องเสีย เช่น คา่ โฆษณา ค่าจองพืน้ ที่ออกร้าน ฯลฯ ดงั นั้น คณุ ควรวางแผนให้ดี วา่ เงนิ ทุนของคณุ นจ้ี ะสามารถทาใหค้ ุณดาเนินการไดแ้ บบไม่ต้องไปขอยืมคนอื่น ทหี ลัง ยง่ิ ถา้ คุณคดิ จะลาออกจากงานประจามาขายของออนไลน์ดว้ ยแล้ว คุณย่ิงต้องคดิ ใหร้ อบคอบ 4. จดุ ยนื ของร้าน เมือ่ มสี ินคา้ แลว้ ก็ถงึ เวลาคิดวา่ สนิ คา้ ของคุณเหมาะทจ่ี ะขายสง่ หรือขายปลกี มากกวา่ กนั บางครงั้ การเลอื กขายสนิ คา้ ส่งในราคาถูก เอากาไรนอ้ ย อาจทาให้คุณรวยแบบไม่รเู้ ร่ืองก็ได้ ในขณะที่ สินคา้ บางอย่าง เชน่ สนิ คา้ แฟชั่น กเ็ หมาะท่ีจะขายปลีกแบบเอากาไรสูง 5. ชอ่ งทางจาหน่าย ชอ่ งทางจาหน่ายก็เปน็ อกี ปัจจยั ทม่ี ีผลตอ่ ความสาเร็จของร้านคณุ หากคณุ คดิ จะเปิดร้านค้า ออนไลน์ ชอ่ งทางจาหน่ายท่งี ่ายท่สี ดุ ก็คือ การเปิดเพจ Facebook เพราะทั้งเข้าถึงกลุ่มลูกคา้ ไดง้ า่ ย กวา่ ช่องทางอ่ืนๆ อย่าง เวบ็ ไซต์ สามารถลงโฆษณาได้ตามงบและตามกลมุ่ เป้าหมายที่คุณกาหนดเอง แถมยงั อพั เดทได้ง่ายอีกดว้ ย 6. แผนการตลาด แผนการตลาด เปน็ ส่ิงสาคญั ที่จะกาหนดชะตาของร้านคุณ เพราะถงึ คุณจะมีสินค้าคุณภาพดี ราคาถกู แต่ถ้าไม่มีใครร้จู กั ร้านของคณุ ก็ไม่มีประโยชน์ คณุ จงึ ควรวางแผนให้ดีวา่ จะโปรโมตร้านค้า หรอื สนิ ค้าของคุณอย่างไร จะดึงดดู ลกู คา้ อยา่ งไร และจะทาให้อย่างไรใหร้ ้านคุณทเี่ พง่ิ เปิดใหม่ เอาชนะรา้ นอ่ืนๆ ที่เปิดมาก่อนหน้าคณุ ได้ การวางแผนการตลาดอาจเริ่มจากขั้นตอนต่อไปน้ี - วาดภาพเป้าหมายใหช้ ัดเจน - มขี ้ันตอนการปฏิบัติเพื่อให้บรรลเุ ปา้ หมาย เช่น เม่อื เปิดเพจแลว้ จะทาใหค้ นรูจ้ ักอย่างไร - วางงบประมาณท่ีจะใช้เพอื่ ทาใหข้ น้ั ตอนต่างๆ สาเรจ็ - วางกาหนดเวลาเพื่อประเมิน ตรวจสอบ และปรบั ปรงุ แผน
35 7. ช่องทางการชาระเงิน การชาระเงนิ ควรเปน็ เร่อื งงา่ ยสาหรบั ลกู คา้ คณุ ควรเปดิ บญั ชีสาหรับร้านของคุณกบั ธนาคาร ทคี่ นสว่ นใหญใ่ ช้บรกิ าร แทนทีจ่ ะเลือกธนาคารที่ไม่เป็นทีน่ ิยมแต่ให้ดอกเบย้ี ดี นอกจากนี้ ถา้ คณุ วางแผนจะขายสนิ ค้าให้กบั ลูกค้าที่อยู่ตา่ งประเทศ คณุ กค็ วรมบี ญั ชที ี่รองรับการโอนเงินจาก ตา่ งประเทศ (และมีแผนสาหรับการจัดส่งสนิ ค้าไปตา่ งประเทศแบบท่คี ุณไม่ขาดทนุ ) บญั ชี Paypal นบั ว่าเป็นทางเลือกทด่ี แี ละสามารถสมคั รใชง้ านงา่ ย 8. ความอดทนและมุ่งม่นั หลายคนเร่ิมธรุ กิจดว้ ยความรู้สึกอยากรวยเรว็ เราหวังใหก้ ารลงทนุ ของเราผลดิ อกออกผล เปน็ กาไรต้ังแตว่ นิ าทที ่ีเราเร่ิมเปิดร้าน แตน่ ั่นแทบจะเรยี กได้ว่าเป็นความเพ้อฝัน เพราะเมื่อคุณเริ่ม เปิดร้าน เปน็ ไปไดว้ า่ คณุ จะไม่มีลกู ค้าเลยในอาทิตย์แรกๆ (ไมน่ บั เพ่ือน ญาติ และคนรู้จัก) อาจมลี กู ค้า หลายคนมาให้ความสนใจสินค้าของคุณแต่กจ็ ากไป คณุ จะเริม่ สงสัยว่าคณุ ทาอะไรผิด บางคร้ังอาจถงึ ขั้นอยากลดราคาแลว้ ขายทกุ อย่างเพือ่ ให้คนื ทุน อยา่ ทาแบบนน้ั คณุ ตอ้ งม่ันใจและหม่ันตรวจสอบ แผนการตลาดของคุณวา่ ได้ผลตามคาดหรือไม่ และหัดปรับเปลย่ี น ทาอะไรใหม่ๆ เพ่ือเรยี กลกู คา้ และ อย่าท้อแท้ 9. เวลา ถา้ คุณเตรียมตวั จะยึดการขายของออนไลน์เปน็ อาชีพก็แล้วไป แต่ถา้ หากคุณเปน็ คนทย่ี ังต้อง ทางานประจา คุณควรวางแผนบริหารเวลาให้ดี เพราะบางที “ความอยากได้” ของลูกค้ากม็ ี ระยะเวลาจากดั การท่ีคุณไม่สามารถโต้ตอบลูกคา้ ไดท้ ันเวลา อาจหมายถึงการเสยี ลกู คา้ ไป คุณอาจใช้ ตัวช่วยอย่างระบบตอบกลบั อัตโนมตั ิของ Page365ตอบบทสนทนาจากลูกค้าในเวลาท่ีคุณไม่ว่าง เพอื่ เปน็ การซอื้ เวลาไมใ่ หล้ ูกคา้ รูส้ ึกว่าถกู ทอดท้ิงก็ได้ ทงั้ หมดน้ี เปน็ คาแนะนาเบอื้ งต้นที่เราหวงั ว่าคณุ พอ่ ค้าแม่ค้าในอนาคตจะนาไปปรบั ใช้เพ่ือ เตรยี มตัวเปิดรา้ นออนไลน์ ถ้าอ่านจนจบแล้วยงั ร้สู ึกไมม่ ่ันใจ คุณอาจเร่ิมต้นด้วยการใช้งาน Page365 ท่จี ะช่วยให้ร้านมีระบบการจัดการท่ดี ีต้งั แตเ่ รม่ิ เรารวู้ ่าการจะเรม่ิ ต้นทาอะไรบางครงั้ ก็เป็นเร่อื งน่า กลัว แตข่ อให้คุณผู้อา่ นมีความกล้าสกั นิด ถ้าไมล่ องก็คงไม่มีวนั ได้รนู้ ะคะ ไม่แน่คณุ อาจจะเป็นเศรษฐี ร้อยล้านคนต่อไปก็ได้
36 บทบาทของการตลาดในระบบการเกษตรแบบยั่งยืน การเกษตรแบบยั่งยนื ได้ให้ความหมายจากนักเศรษฐศาสตร์ในหลายด้านแต่ในทนี่ ้ผี ้เุ ขยี น บทความน้คี ือ ดร.จอหน์ ไอเคิรส ได้กลา่ วถึงคาจากัดความของ (Allen) อาแลนด์ และคณะ กล่าวคอื จอห์น ได้ให้ความเหน็ ว่า การเกษตรแบบยั่งยืนเป็นการมองทัง้ ระบบของการทาการผลิตทาง การเกษตรโดยทว่ั ไปแล้ว การเกษตรแบบย่ังยนื จะเปน็ การพจิ ารณาถงึ ระบบนิเวศน์วทิ ยา เศรษฐศาสตร์ และการตอบสนองต่อความต้องการของสงั คม ในอดีตทผี่ า่ นมามุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ ได้มงุ่ เนน้ ไปท่ีการลดต้นทุนการผลิตทาง การเกษตร โดยวิธกี ารลดการข้อปจั จยั การผลิตอนั เปน็ ตน้ ทุนหลกั ในขบวนการผลิตเม่ือเรามอง ภาพรวมของการผลิตทางการเกษตร สามารถกลา่ วได้วา่ เกษตรกรมักทาการผลิตสนิ คา้ เกษตรโดยมุ่ง ตอบสนองความต้องการของตลาด หรอื ความต้องการของผู้บรโิ ภคเป็นประการสาคญั เกษตรกรมกั จะ ผลติ สนิ ค้าเกษตรโดยพื้นฐานชนิดเดยี วกนั และซา้ กันหลายปอี ยา่ งต่อเนอ่ื ง การผลติ สนิ ค้าขั้นพนื้ ฐาน ของเกษตรกรที่เหมือนกนั จะต้องประสบปญั หาการแข่งขันทางการตลาดท้ังตลาดภายในประเทศและ ตลาดต่างประเทศ ดร. จอหน์ ไอเคริ ส ไดใ้ หแ้ นวความคดิ เก่ียวกับผลผลติ ตอ่ หน่วยเมอ่ื เปรยี บเทียบกบั 2 ระบบการผลติ นั่นคือ 1) การผลิตระบบดงั่ เดิม และ 2) การผลติ ระบบทางเลอื ก ราคาของผลผลิต ทางการเกษตรทเี่ กษตรกรไดร้ ับจะแตกตา่ งกันออกไปตามวิถีการตลาด ระดบั ของตลาด และปริมาณผลผลติ ทางการเกษตร ยกตัวอย่างเช่น การเพิ่มขน้ึ ของราคา จากผลผลติ เกษตรชนดิ พเิ ศษ หรอื ตน้ ทนุ ท่ีสูงขน้ึ เช่น การผลติ ผลผลติ ทคี่ านงึ ถงึ คุณภาพ เมอื่ เข้าสู่ ระดบั ตลาดทั่วไป ตน้ ทุนเหลา่ นอี้ าจไมไ่ ดน้ ามาคานวณ ดังน้ันการเพ่ิมคุณค่าทางการตลาดของสินค้า เกษตร อาจมีความสาคญั มากกว่าการพยายามลดต้นทนุ การผลิตทางการเกษตรโดยการผลติ ทาง การเกษตรนั้นจะต้องคานึงถงึ ระบบนิเวศน์ การจัดการฟารม์ ตอบสนองต่อระบบเศรษฐกิจ และ คานึงถึงความรับผิดชอบท่ีมตี ่อสงั คม หลายครั้งเมือ่ เราพิจารณาถึงระดับการผลิตขั้นตน้ ของระบบการเกษตร จะพบว่าการเกษตร ยังขาดระบบการตลาดแบบทางเลอื ก น้ันคือระบบการตลาดแบบทางเลือกเป็นหัวใจหลักสาคัญใน ขบวนการเกษตรแบบย่ังยนื โดยเฉพาะในภูมิภาคทางใต้ของประเทศสหรฐั อเมริกา “การตลาด” จึงถอื เปน็ หวั ใจสาคัญของการเกษตรแบบยัง่ ยนื โดยอาศัยแนวทางในการศึกษาและวจิ ยั เป็นแนวทางสาคัญ
37 ซ่ึงในอเมรกิ าจะจัดการในแนวทางนี้เรยี กว่า “โปรแกรมการศึกษาและวิจัยเพ่ือเกษตรแบบย่งั ยืน” หรือ (Sustainable Agricultural Rescarch and Education : SARE) ซง่ึ โปรแกรมนี้ได้ดาเนนิ การ ไปทว่ั ทกุ ภูมิภาคของสหรฐั อเมริกา ดังนน้ั ข้อมูลการตลาดจึงมคี วามจาเปน็ ในการเผยแพร่ไปยงั เกษตรกรผู้ผลติ ทั่วทุกภมู ิภาค น่ันคือข้อมูลการตลาดจะนามาซง่ึ การจดั การการตลาดทม่ี ีประสทิ ธภิ าพ การตลาดท่ีเกษตรกรมุ่งหวงั และผลกาไรตามมา นอกจากน้ียังเพิม่ ช่องทางการตลาดสินคา้ เกษตร ประเภทอาหารอีกดว้ ย การจัดองค์กรการตลาด การจดั องคก์ รการตลาดเปน็ หัวใจสาคญั ของการจัดการตลาด นั้นคือจะต้องเขา้ ใจถึง ความสมั พนั ธ์การตลาดกับการเกษตรแบบยั่งยืนซึ่งเป็นหัวใจสาคัญในอนาคตซึ่งเกี่ยวข้องกบั การตลาด , การผลิต และนโยบายสาธารณะ ระบบการผลติ สนิ คา้ เกษตร และตวั สนิ คา้ เกษตรเองเปน็ วัตถดุ ับ ของอตุ สาหกรรมอน่ื ๆ ในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา เมือ่ ประมาณ 100 ปี ทผี่ ่านมา สหรัฐอเมรกิ านับเปน็ สงั คมเกษตรกรรม ดังนน้ั ทรพั ยากรธรรมาชาติทั้งหมดจึงถูกใช้ไปในการผลิต อาหารและเครอ่ื งนงุ่ หม่ เพื่อผลติ อาหารเลีย้ งคนทัง้ ประเทศ และผลติ เส้นใยในอตุ สาหกรรม เครอ่ื งนุ่งห่ม ตน้ ทนุ การผลิตอาหารและเส้นใยในอตุ สาหกรรมส่ิงทอมกั มีความแตกต่างกันออกไปตาม สภาพภมู ิศาสตร์ การเกษตรของอเมริกัน เป็นลักษณะการค้า , การผลิตเฉพาะอยา่ ง การผลิตเปน็ ชีวติ ประจาวนั การเกษตรนั้นมงุ่ เน้นการผลิตอาหารเพ่ือเลี้ยงผูค้ นในประเทศมากกว่าการประกอบ ธรุ กิจเพือ่ มงุ่ เนน้ กาไร การผลิตแบบอตุ สาหกรรมจงึ เริ่มจากการนาเครื่องจกั รมาใช้แทนแรงงานสัตว์ใน ภาคการผลิตทางการเกษตร ภาคการเกษตรของอเมริกาในปัจจุบนั จึงทาการผลิตสนิ คา้ เกษตรใน ลักษณะเดียวกับขบวนการผลิตทางอุตสาหกรรม หรือการประกอบชิน้ สว่ นของโรงงานในอุตสาหกรรม การผลติ การตลาดมวลรวมได้ถูกนามาใชเ้ พ่ือตอบสนองการผลติ และผลผลติ ปรมิ าณมาก โรงงานแปร รูปผลติ ผลการเกษตรจึงมีความจาเป็นท่ีจะปรับเปลย่ี นขบวนการผลติ ใหส้ อดรับกบั ปริมาณผลผลติ ทาง การเกษตรจานวนมาก และการขยายขนาดของการผลติ เพื่อก่อให้เกิดการประหยัดต่อขนาด เช่นเดียวกบั อตุ สาหกรรมการผลิตรถยนต์ ยกตัวอย่างโรงงานผลิตรถยนต์ฟอร์ด ซ่ึงถือเป็นตน้ แบบ มาตรฐานของขบวนการผลิตรถยนตข์ องประเทศสหรัฐอเมริการ จากอดตี ถงึ ปัจจุบันโรงงานการ ประกอบรถยนต์ฟอร์ดไดป้ รับเปล่ยี นรปู แบบ ขนาด สี และลกั ษณะพิเศษอนื่ ๆ ตามกระแสการ
38 เปลย่ี นแปลงของเวลา แม้เวลาเปลีย่ นไปและการเปลี่ยนแปลงสว่ นประกอบอ่ืน ๆ เปลีย่ นไป แต่ อตุ สาหกรรมรถยนต์ฟอรด์ ยังคงไว้ซงึ่ แนวคิดของการตลาดเพื่อมวลชน เน่อื งจากฟอรด์ เป็นรถยนต์ที่ ได้รับความนยิ มเปน็ อย่างมากในประเทศสหรัฐอเมริกา บริษทั รถยนต์ฟอร์ดได้ทมุ่ เทงบประมาณเพ่ือ การโฆษณาเป็นจานวนเงินหลายล้านเหรยี ญสหรัฐอเมรกิ า เพือ่ ดารงค์ไวซ้ งึ่ ปรชั ญาของการตลาดแบบ มวลรวมเพ่ือคนทั้งประเทศ การเกษตรในปจั จบุ นั ไดท้ าการผลติ เปรยี บเสมอื น อตุ สาหกรรมรถยนตด์ ังที่ได้กล่าวมาแล้ว แตก่ ารทาการเกษตรมกั มงุ่ เนน้ การผลิตสินค้าพ้ืนฐาน เช่น ขา้ วโพด ขา้ วสาลี ถ่ัวเหลอื ง สกุ ร โค กระบือ เพื่อป้อนตลาดของผู้บริโภคทงั้ ประเทศ ภาคการเกษตรจึงเปรียบเสมือนแหลง่ อาหารเพื่อผูบ้ รโิ ภคและแหล่งวตั ถุดบิ ของอตุ สาหกรรมอื่น ๆ ภายในประเทศ กลยทุ ธ์การจดั การการเกษตรและธุรกิจเกษตรจงึ มุ่งเนน้ ไปทค่ี วามสาเรจ็ ของการตลาดเพ่ือ กอ่ ใหเ้ กิดการกระจายสนิ คา้ เกษตรและอาหารสู่ผบู้ ริโภคทง้ั ประเทศ ในปี ค.ศ.1890 (ข้อมลู โดย กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา) สัดส่วนของประชากรที่ทาอาชีพการเกษตรและอาศัยในภาค การเกษตรมนี อ้ ยกวา่ 2 เปอรเ์ ซน็ ต์ ของประชากรท้ังประเทศท่ีน่าสนใจไปกวา่ นั้น อาชีพนอกภาค การเกษตรให้รายได้มากกวา่ ภาคการเกษตรถึง 1 เท่า ในขณะที่การคาดการณ์กนั ว่า ผู้บรโิ ภคจ่าย ค่าอาหารเปน็ สดั ส่วนถงึ 11 เปอร์เซ็นตข์ องรายได้ ในขณะที่เกษตรกรจะไดร้ ับรายได้เพียงแค่ 22 เซน็ ต์ต่อเงนิ 1 ดอลล์ ่าร์ ที่ผู้บริโภคจ่ายเป็นค่าอาหาร คร่งึ หนึ่งของต้นทุนการผลิตทางการเกษตรเปน็ ค่าใช้จ่ายในการซอื้ ปจั จัยการผลิต เกษตรกรจะได้รับแค่ 10 เซ็นต์เมอื่ เทยี บกบั เงนิ 1 ดอล์ลา่ ร์ ที่ ผ้บู รโิ ภคจ่ายเปน็ ค่าอาหาร โดยหลักการอตุ สาหกรรมแล้ว การจัดการอุตสาหกรรมจดั เปน็ หนทางประการหน่งึ ในการ นามาใชก้ ับภาคการผลิตทางการเกษตรและอตุ สาหกรรมเกษตร ในยคุ อตุ สาหกรรมการผลติ ทาง อตุ สาหกรรมได้ถูกกระต้นุ โดยความต้องการของคนสว่ นใหญน่ น่ั คอื ผบู้ รโิ ภคสว่ นใหญต่ อ้ งการสนิ ค้า จากภาคอตุ สาหกรรม ก่อให้เกิดการขยายตวั ในภาคอตุ สาหกรรมและนาไปสกู่ ารใช้พลังงานทเ่ี พม่ิ มาก ขน้ึ การเกษตรก็เช่นกนั น่นั คือการขยายตวั ทางการเกษตรกอ่ ใหเ้ กิดการใชพ้ ลงั งานมากย่งิ ขนึ้ การ ผลติ กม็ ากขนึ้ สามารถตอบสนองผู้บริโภคไดม้ ากขนึ้ และราคาอาหารถูกลง นนั่ คือการขยายขนาดการ ผลิตและการประหยดั ต่อขนาดน่นั เอง สนิ คา้ อาหารมีราคาถูกมากเพื่อเปรียบเทยี บกับรายได้ของ
39 ผ้บู ริโภคในสหรัฐอเมริกา และส่งผลใหส้ ัดสว่ นท่เี กษตรกรได้รบั ก็นอ้ ยลงตามไปดว้ ย แต่ถึงอยา่ งไร ประเทศชาติและผู้บริโภคท้งั หมดกย็ ังคงต้องการอาหารราคาถูกเพื่อตอบสนองความต้องการของ ผ้บู ริโภคได้ ปัญหาทเ่ี ห็นได้ชดั เจนคอื สัดส่วนทีเ่ กษตรกรได้รับจากการผลิตทางการเกษตรลดลง ผลตอบแทนจากการทาการเกษตรนอ้ ยกว่า 10 เปอร์เซน็ ต์ เม่อื เป็นเช่นนเี้ กษตรกรหลายคนได้ออก จากภาคเกษตรและหนั ไปประกอบอาชีพอย่างอื่นแทน ดังนัน้ การทาการเกษตรจงึ ไม่ประสบผลสาเร็จมากนกั ในแง่ของกาไรจากการประกอบการแต่ ในสภาพความเป็นจริง ภาคเกษตรยงั คงเป็นตวั จกั รสาคญั ในการขบั เคล่ือนเศรษฐกิจการเตบิ โตของ เศรษฐกิจ การใช้ทรพั ยากรและทาลายสิง่ แวดล้อม และการคานงึ ถงึ สภาพทางสังคม ซ่ึงทั้งหมดนั้นจะ ทาใหผ้ ลการประกอบการลดลง ทางเลอื กการเกษตรแนวทางใหมจ่ ึงจัดการเพอื่ ใหส้ อดคล้องกับเศรษฐกิจ สิ่งแวดลอ้ ม ระบบ นเิ วศน์ และสภาพสังคม เกษตรกรจึงพิจารณาถงึ ความต้องการแนวใหม่ ในการประกอบอาชีพ การเกษตรซ่ึงเก่ียวขอ้ งและคานึงถึงระบบนิเวศนแ์ ละสง่ิ แวดล้อมเป็นประการสาคัญ แนวทางการดาเนนิ ธรุ กจิ ดร.โจ บาร์เกอร์ ไดอ้ ธิบายว่าแนวทางการดาเนนิ ธรุ กจิ ประกอบดว้ ยหลักการใหญ่ ๆ 2 ส่วน คือ 1) การกาหนดขอบเขตของตลาด 2) การกาหนดมาตรฐานเพือ่ มุ่งเนน้ ความสาเร็จโดยคานงึ ถึง พฤติกรรมผู้บรโิ ภคในขอบเขตตลาดทีเ่ รากาลังพิจารณา ดร.โจ ไดอ้ ธบิ ายเพ่ิมเตมิ โดยยกตัวอย่างการ เล่นเทนนิส น่นั คอื ผูเ้ ล่นจะแลเห็นขอบเขตของสนามเทนนสิ อย่างชดั เจน และพ้ืนทนี่ อกเขตสนาม เทนนสิ นัน่ คอื ผเู้ ล่นจะต้องตลี ูกบอลให้ขา้ มตาขา่ ยและไปตกในพืน้ ที่อีกฝ่ายหน่ึง กฎเกณฑก์ ารประกอบธรุ กิจจึงเป็นเรื่องดูเหมอื นง่ายซงึ่ คลา้ ยกับการอธิบายของ ดร.โจ โดย เปรยี บเทียบการเล่นเทนนสิ หรืออาจมองในแง่ความซบั ซ้อน เช่น รูปแบบโมเดลการพัฒนาเศรษฐกจิ อย่างไรก็ตามการกาหนดขอบเขตและทิศทางยงั คงเป็นปัจจัยสาคญั ในการดาเนนิ การ ทรัพยากรธรรมชาติ เปรยี บเสมอื นปจั จัยภายนอกในขบวนการผลติ ทางการเกษตร ซงึ่ ทรัพยากรธรรมชาติมกั แตกต่างกันออกไปตามสภาพภมู ศิ าสตร์
40 ความสาเรจ็ ของการประกอบการธุรกิจมักจะวดั จากผลกาไรจากการประกอบการ และการ เติบโตทางธรุ กจิ ธรุ กิจมกั มงุ่ เนน้ ไปท่กี ารทากาไรระยะสน้ั และการเติบโตในระยะยาว ทุก ๆ อยา่ งใน องค์กรได้ถกู นามาใชอ้ ยา่ งคุ้มคา่ เพื่อก่อให้เกดิ ผลกาไรและการเจรญิ เติบโต แนวทางท่ีเป็นไปได้ในการทากาไรดูเหมือนจะต้องลดต้นทุนการผลิต และการขยายส่วนแบง่ การตลาดธรุ กิจจะต้องพจิ ารณาถงึ รสนยิ มและความชืน่ ชอบของผู้บริโภคเปน็ ประการสาคัญ การมอง หากลุ่มผู้บรโิ ภคขนาดใหญ่ และสว่ นแบง่ ตลาดขนาดใหญ่เพือ่ การผลติ ที่ประหยัดต่อขนาดซึง่ การผลิต ขนาดใหญจ่ ะก่อใหเ้ กิดต้นทนุ ต่อหน่วยที่ตา่ จึงก่อใหเ้ กดิ กาไรและการขยายตวั ทางธรุ กิจ แนวปฏิบัตโิ ดยมงุ่ เน้นทางเศรษฐศาสตร์ ระบบนิเวศน์ ความตอ้ งการของสงั คมพ้นื ท่เี กษตร ธรุ กิจ ชมุ ชน และสงั คม ลว้ นเป็นปัจจัยสาคัญในการทาการเกษตรแบบยั่งยืน ระบบนเิ วศนแ์ ละความ รับผดิ ชอบตอ่ สังคมเป็นหวั ใจสาคญั ของการเกษตรแบบย่ังยนื นอกจากนีร้ ะบบนเิ วศนย์ งั นบั เป็นปัจจัย ทม่ี ีผลกระทบด้านบวกต่อการผลติ ทางการเกษตร ข้อจากดั ยังคงเปน็ กฎหมาย และมนุษยห์ รอื ผ้บู รโิ ภค การพจิ ารณาการเกษตรแบบยงั่ ยืนตอ้ งพิจารณาท้งั ระบบหรอื องค์รวม (holistic) จดุ มงุ่ หมาย คือการเกษตรแบบยง่ั ยืนมากกวา่ การม่งุ เน้นกาไรในระยะส้ัน การดาเนนิ ธรุ กิจจะตอ้ งพิจารณาถึงปจั จยั หลัก 2 ประการ คอื เศรษฐศาสตรแ์ ละระบบ นิเวศน์ การทาการผลิตทางการเกษตรจะตอ้ งสอดคลอ้ งกับทรัพยากรธรรมชาติทมี ีอยใู่ นท้องถิ่นนน้ั ๆ การเกษตรแบบยงั่ ยืนยงั เน้นความเป็นตวั ของตัวเองน่ันคือความพรอ้ มในตวั เองนัน่ เอง การจัดการและ การจ้างแรงงานจะต้องใหส้ อดคลอ้ งกับความรู้ ความสามารถ ความปรารถนาหรือม่งุ หวังในการ ทางานโดยใชแ้ รงงานทม่ี คี วามชานาญ สอดคล้องกบั ทรพั ยากรธรรมชาติ ตลาดของผบู้ รโิ ภคและ ขบวนการผลติ แนวคิดการผลติ แบบย่ังยนื จะต้องอาศัยความชานาญของแรงงานทั้งปริมาณและคณุ ภาพของ แรงงาน ตลอดทง้ั การจัดการทีม่ ปี ระสทิ ธภิ าพ เพื่อให้สอดรับกับท่ีดินและทนุ ที่มีอยู่ การจัดการที่มปี ระสิทธิภาพนั้นจะต้องสัมพนั ธก์ ับปรมิ าณเงินลงทนุ อย่างคุม้ ค่าของแรงงานจ้าง การ พจิ ารณาถงึ สัดส่วนของแรงงานต่อพน้ื ที่การผลิตเปน็ เอเคอร์ ดังน้นั การเกษตรแบบย่งั ยืนจาเปน็ ต้อง
41 อาศยั การจดั การทีด่ ีและแรงงานท่ีมคี ุณภาพซึ่งดเู หมือนว่าการเกษตรแบบยั่งยนื ต้องการการดูแลเอา ใจใสค่ รอบครัวของเกษตรกรเปน็ อยา่ งดี ซึ่งแตกต่างจากระบบการทาฟาร์มโดยทวั่ ไป ขนาดของฟาร์มในการเกษตรยัง่ ยนื อาจจะลดลง น่นั คือขนาดเล็กลงภายใตแ้ นวคดิ ของ การเกษตรแบบยัง่ ยืน อยา่ งไรก็ตามขนาดท่เี ลก็ ลงจะต้องมีความพรอ้ มในการแข่งขัน และการ ประกอบการตามความชานาญเฉพาะดา้ น โดยฟาร์มขนาดเลก็ จะต้องแข่งขันกับขนาดใหญ่ภายใต้ ทรพั ยากรที่มีอยอู่ ย่างจากัด และแรงงานท่ีมคี ุณภาพ ในทางปฏบิ ตั ิฟาร์มขนาดเลก็ จะเนน้ ในการ จดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละทรพั ยากรมนุษยซ์ ึง่ ถอื ว่ามีค่าสงู สดุ ในบรรดาทรพั ยากรท้ังหมด น่นั คอื การม่งุ เนน้ การจดั การทรพั ยากรมนษุ ยม์ ากกวา่ ทรัพยากรด้านอ่นื ๆ โดยนาเอาความรูค้ วามสามารถ ของทรพั ยากรมนุษย์ออกมาใชป้ ระโยชนใ์ หม้ ากทสี่ ุด เพื่อผลประโยชน์สูงสุดนนั่ เอง ความชานาญและ ทกั ษะในการผลติ สินคา้ เกษตรมีความสาคัญในเชงิ เศรษฐศาสตร์และระบบนิเวศน์ อย่างไรกต็ าม ความสามารถในการจดั การตลาดนับวา่ เปน็ ปจั จัยสาคัญไม่ยงิ่ หยอ่ นไปกว่าความสามารถและทักษะใน การผลติ รปู แบบฟาร์มและการจดั การอาจถูกเปลย่ี นแปลงไปในอนาคต การจา้ งแรงงานในภาคการ ผลติ และการตลาดนบั เป็นหัวใจสาคญั ของการเกษตรแบบยั่งยืน ในอดตี ทีผ่ า่ นมาการเน้นการลด ตน้ ทุนการผลิตโดยการลดปจั จยั การผลติ ทางการเกษตร อยา่ งไรก็ตามคา่ ใช้จา่ ยในการผลิตคดิ เปน็ สดั ส่วน 10 เปอร์เซน็ ตข์ องการใช้จา่ ยของรายจ่ายผู้บรโิ ภคเท่านนั้ ในขณะท่ีค่าใชจ้ า่ ยการตลาดคดิ เป็น 80 เปอรเ์ ซน็ ต์ของรายจ่ายผู้บริโภค นนั่ คอื ความเปน็ ไปได้ในการทากาไรโดยลดค่าใชจ้ ่ายใน การตลาดลง แทนการลดคา่ ใช้จ่ายในการรับปัจจัยการผลิต อย่างไรก็ตามคุณภาพและลักษณะของ สินคา้ ยังคงมรี ปู ลักษณ์และมาตรฐานดงั้ เดิมตามความต้องการของการตลาด หัวใจสาคญั คอื การทา ฟาร์มที่ขนาดเลก็ ลง มีความชานาญเฉพาะดา้ นและมุ่งเน้นการเกษตรแบบย่ังยืน หลกั การพ้ืนฐานของการตลาด หลักการการตลาดแนวใหมค่ ือ การเนน้ ขอบเขตการตลาด การถา่ ยทอดแนวความคิดเกี่ยวกบั ธรรมชาติและความชานาญสู่องค์ความรู้ คณุ คา่ ทางเศรษฐศาสตร์ นบั เปน็ ความมุ่งหวังของการจดั การ การตลาดและความเข้าใจในพ้ืนฐานการตลาด การตลาดโดยทว่ั ไปมุ่งเนน้ การเปลยี่ นแปลงรปู รา่ งของสนิ ค้าจากวัตถดุ บิ ส่สู นิ คา้ สาเร็จรปู เพอ่ื ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ยกตวั อยา่ งเช่น การเปลี่ยนแปลงรูปแบบทางกายภาพ รวม
42 กระท่ังการคัดมาตรฐานและการทาความสะอาดสินค้า นอกจากนกี้ ารขนส่งยงั มีความสาคัญตอ่ สนิ คา้ เกษตรจากแหล่งผลิตจนกระท่ังถงึ มือผูบ้ รโิ ภคคนสุดท้ายในตลาด ในบางคร้ังสินค้าเกษตรก็ยงั มีการ ขนส่งจากทวีปหน่ึงไปยังอกี ทวีปหนง่ึ กาลเวลามีความสาคัญตอ่ สนิ ค้าเกษตร เชน่ เกษตรกรตอ้ งเกบ็ เก่ยี วตรงเวลา และหลังจากนั้นสาเหตเุ กบ็ ในโกดงั สนิ คา้ ไดเ้ พื่อสามารถนาไปใชไ้ ดต้ รงเวลาตามความ ตอ้ งการของผู้บริโภคหรอื โรงงานแปรรูป และมีสนิ ค้าบรโิ ภคตลอดทัง้ ปี บทบาทของการตลาดยังทาให้ เกิดการเปลีย่ นแปลงความเป็นเจา้ ของจากคนหน่งึ ไปยงั อีกคนหนง่ึ เพ่ือสนองตอบความต้องการของ เขาได้โดยเฉพาะสนิ คา้ ประเภทอาหารและเส้นใย การเปลย่ี นแปลงรปู แบบสนิ ค้า และมูลคา่ การตลาดโดยการเปล่ยี นรปู แบบสนิ ค้า สถานท่ี ระยะเวลาและลักษณะความเป็นเจา้ ของโดยขบวนการของการตลาดทุก ๆ ขน้ั ตอนของกระบวนการ ตลาดก่อให้เกิดมูลคา่ เพม่ิ ของสินคา้ ในขณะเดียวกนั ก็ก่อให้เกิดต้นทนุ ทางการตลาด มูลค่าเพ่ิมนามา ซ่ึงกาไร จากขบวนการตลาด เช่น ความเป็นเจ้าของ การขนส่ง การเก็บรกั ษา และนายหนา้ ซ่งึ ส่วน ตา่ งระหว่างราคาแต่ละขน้ั ตอนกอ่ ใหเ้ กิดกาไรน่นั เอง หลักการตลาดดังกล่าวฟังดูเหมือนเปน็ หลกั การ ขนั้ พ้นื ฐานโดยท่วั ไป อย่างไรก็ตามหลักการง่าย ๆ ดังกลา่ วนี้เป็นขบวนการเพิม่ คุณคา่ ของสินคา้ เกษตรในแนวด่งิ การตลาดสินคา้ เกษตรโดยทัว่ ไปกระทากบั สินคา้ เกษตรโดยพน้ื ฐาน เชน่ ข้าวโพด ขา้ วสาลี หมู โค กระบือ ขา้ วโพดโดยส่วนใหญม่ ักนามาใชเ้ ปน็ วตั ถดุ ินในอาหารสตั ว์ โดยเฉพาะใน อตุ สาหกรรมโคขุน สนิ ค้าเกษตรทีเ่ กษตรกรท่วั ไปผลติ ได้มักมีลักษณะคลา้ ยกันหรือเหมือนกนั ดังน้ัน เกษตรกรจะต้องประสบกับสภาวะของการแข่งขนั โดยสมบูรณแ์ บบ โดยมผี ูซ้ อื้ และผู้ขายหลายคนเข้า ออกในตลาดสนิ ค้าเกษตรได้อย่างสะดวก ความแตกต่างของราคาระหว่าง 2 ตลาด สะท้อนใหเ้ ห็นถึง ตน้ ทนุ ของการขนสง่ ในขณะเดียวกนั ความแตกตา่ งของราคาของ 2 ฤดกู าลสะท้อนถงึ ต้นทุนของการ เก็บรักษา สินคา้ เกษตรส่วนใหญ่มกั มีการตดั สินใจการตลาดอยา่ งชดั เจนโดยเฉพาะในเรอื่ งของ ระยะเวลา เนือ่ งจากสนิ ค้าเกษตรอาศัยระยะเวลาในการผลิต เกษตรกรผ้ผู ลิตสามารถลดความเสยี่ ง จากการเคล่อื นไหวของสินคา้ เกษตรทต่ี ัวเขาเองผลิตได้ โดยการขายในตลาดลว่ งหน้าสินค้าเกษตร การซ้ือขายกนั ในตลาดลว่ งหน้ามักจะได้ราคาที่สูงกวา่ ราคาในปัจจุบนั การขายสินค้าเกษตรท่ี
43 เกษตรกรผลิตได้โดยการรอ ชว่ งจงั หวะของเวลาท่สี ินคา้ เกษตรมีราคาสูงเกษตรกรจงึ นาออกขายใน ตลาด แต่ทงั้ นรี้ าคาท่ไี ด้รับจะตอ้ งคุ้มกับตน้ ทุนของการเกบ็ รกั ษาสินค้าในโกดงั หรอื เกษตรกรสามารถ ขายผ่ายนายหน้าหรือผู้เกรง็ กาไร ซง่ึ ทาการซ้ือขายนน่ั เอง เกษตรกรโดยสว่ นใหญ่มักเปน็ ผู้เกรง็ กาไร น้อย น่นั คือปล่อยในนักเกรง็ กาไรมืออาชีพเข้ามาทาการซ้ือขาย แทนท่ีจะกระทาดว้ ยตนเองโดย เกษตรกรพยายามขายให้คุม้ ค่าต่อต้นทนุ การเก็บรกั ษาในสภาวะของตลาดแขง่ ขันสมบูรณ์ การตลาดสินค้าเกษตรมักมีความแตกต่างกนั ออกไป ในขณะทสี่ นิ ค้าเกษตรมีความคล้ายคลึง กันเป็นส่วนใหญ่ ในตลาดสนิ ค้าเกษตรบางประเภท มูลคา่ สนิ คา้ มีความแตกต่างออกไปตามสภาพและ ระยะทางของตลาด การเปล่ยี นแปลงรปู ลักษณ์ของสนิ ค้าเพื่อให้เกดิ ความแตกต่างและเพ่ิมชอ่ ง ทางการตรลาดและมโี อกาสในการเพ่ิมกาไรจากตวั สนิ คา้ สินค้าเกษตรจากการผลติ แบบยั่งยนื ยอ่ มมี ราคาสูงกวา่ สินคา้ เกษตรแบบขบวนการผลติ โดยทั่วไป ในบางคร้ังผู้บรโิ ภคคงไม่ค่อยเต็มใจในการจา่ ย แพงกวา่ ราคาสนิ คา้ เกษตรมีการแตกต่างกนั ออกไปตามมลู ค่าสนิ คา้ และต้นทนุ การตลาด เช่น การเปลย่ี นแปลงจากวัตถดุ ิบเปน็ สินคา้ แปรรูป ขบวนการผลติ บางประเภท โรงงานฆา่ สตั ว์ และแปร รูปเน้อื สตั ว์ สืบเน่ืองจากการแปรรปู แบบสนิ ค้าทาใหเ้ กิดมลู คา่ เพิ่ม เชน่ การคดั แยกประเภทของ เนื้อสัตวแ์ ต่ละประเภท อยา่ งไรก็ตามขบวนการผลติ สามารถเปล่ยี นรูปแบบสนิ ค้าเกษตรอยา่ งสิน้ เชงิ เชน่ การแปรรูปจากผลองุน่ มาเปน็ ไวน์ รา้ นค้าปลีกหลายแห่งมกั จะเก็บไวน์เพ่ือจาหนา่ ยแกผ่ ้ผู ลิตและ ทากาไรจากการรจาหนา่ ยไวน์แก่ลูกค้า ขบวนการเปลย่ี นแปลงรปู แบบสินคา้ เป็นหนง่ึ ในหลาย ๆ ขบวนการในการตลาด ผลไม้กส็ ามารรถคัดแยกเป็นประเภทไดแ้ ละราคาขายในแต่ละประเภทจะ แตกต่างกนั ออกไป สนิ คา้ เกษตรอาจเปลีย่ นแปลงแตกตา่ งไปจากเดิม เม่ือเวลาเปล่ยี นไป ยกตวั อย่างเช่น ใน ภมู ิภาคแถบอากาศอบอุน่ การเพาะปลูกมะเขือเทศในเรอื นกระจกมีตน้ ทุนการผลิตมะเขือเทศสงู กว่า การผลติ มะเขอื เทศในแถบแคลิฟอรเ์ นียหรอื การผลิตในแถบแมกซโิ ก รูปแบบของการผลิตเมอื่ ผล มะเขือเทศสุกงอมแล้วผผู้ ลติ จะได้ทาการแปรรูปเป็นผลติ ภณั ฑอ์ น่ื ทส่ี ามารถเพ่ิมมลู คา่ ได้แทนทจี่ ะทง้ิ ไปความสามารถในการจัดการการตลาดของผลผลติ เกษตรไดท้ นั เวลานบั เปน็ ความสาคัญประการหนึ่ง
44 สถานทแ่ี ละทตี่ ง้ั ของตลาดเป็นปจั จยั อีกประการหนงึ่ ท่ที าใหม้ ลู ค่าของสนิ คา้ มคี วามแตกตา่ ง กนั ออกไป เกษตรกรที่อยูใ่ กล้กบั ชมุ ชนสามารถได้เปรียบเกษตรกรที่อย่หู ่างไกลชุมชนในการจัด จาหน่าย และกระจายสนิ ค้า ยกตวั อย่างการจัดจาหน่ายผัก ผลไมส้ ดจากแหล่งผลิตมายังชุมชน เพื่อ สนองตอบต่อความต้องการของผ้บู ริโภคในเมืองใหญ่ ตลาดของเกษตรกรหรอื ท่ีเรยี กวา่ Famer s markets มกั จะจัดจาหนา่ ยผลผลิตทางการเกษตรแบบสดและใหม่เนื่องจากเป็นผลผลติ จากฟาร์ม แหล่งผลติ มักจะไม่อยไู่ กลชุมชนออกไปเพอื่ สะดวกต่อการขนส่ง และเพ่ือไม่ใหร้ ะยะทางเปน็ อุปสรรค ต่อขบวนการตลาดอีกตอ่ ไป การทาการตลาด หรอื การจัดการการตลาดต้องคานึงถึงรปู ร่าง ระยะเวลา และสถานท่ี อย่างไรก็ตามคุณค่าขงิ ผลิตภัณฑ์ จะมคี วามสาคัญตอ่ การเกษตรแบบย่ังยนื ในบางคร้งั สินค้าเกษตร ประเภทเดยี วกันแต่มีความแตกต่างกันระหวา่ งกลุ่มผูบ้ รโิ ภคทงั้ 2 กล่มุ ผู้ผลติ สนิ คา้ เกษตรสามารถต้งั ราคาทแ่ี ตกต่างกนั ระหว่างตลาดท้งั 2 กล่มุ สนิ คา้ เกษตรเฉพาะอยา่ งท่ีผบู้ รโิ ภคต้องการ สามารถต้งั ราคาสงู ได้ และทาใหช้ ดเชยต้นทุนที่เพ่ิมขึน้ ได้ การตอบสนองความต้องการของผู้บรโิ ภคในตลาด โดยเฉพาะนับเป็นความฝนั ของการจัดการการตลาดอยา่ งมีประสิทธิภาพและประสบผลสาเร็จ การตลาดทีด่ ี การตลาดท่ดี ีตามอุดมคติประกอบด้วยความคาดหวังของท้ังผซู้ ือ้ และผู้ขายตลาดที่ดีอาจจะไม่ มขี นาดใหญ่ ผ้เู ขียนเปรียบเสมอื นทางเดนิ เส้นแคบๆ บนหาดทราย ตลาดท่ีดแี ละตลาดในฝนั อาจ แตกต่างกนั ไปจากตลาดโดยทั่ว ๆ ไป โดยการระบอุ ย่างชัดเจนถงึ รูปร่าง เวลา สถานท่ี และ ผ้ปู ระกอบกิจการตา่ งๆ ยกตัวอย่างเช่นตลาดผกั สดและผลไมต้ ามฤดกู าลในแต่ละท้องถ่ิน ในเมือง เซน็ ตห์ ลยุ รฐั มิสซูร่จี ะมตี ลาดท่ีดเี ฉพาะกล่มุ เชื้อชาติ เปน็ ต้น โดยมกี ารจดั จาหนา่ ยสนิ ค้าประเภท อาหารตามลักษณะของเช้ือชาติ ยกตัวอยา่ งเชน่ ผูบ้ รโิ ภคบางกล่มุ ต้องการซปิ หรอื ของว่างสีน้าเงินซ่งึ ทาจากข้าวโพดสนี ้าเงนิ นน้ั เอง หรือผบู้ รโิ ภคบางกลมุ่ นิยมบริโภค ผกั และผลไม้สดเทา่ น้นั ราคาของ สนิ คา้ เฉพาะกลุ่มเหล่านี้มักจะสูงกวา่ สนิ ค้าโดยทว่ั ไปการตลาดทดี่ ีจึงเปน็ การเพิ่มมูลค่า
45 การผลผลติ ทางการเกษตรโดยการตอบสนองในด้านรปู รา่ ง ระยะเวลา และการขนส่งที่ตรงเวลา แต่ ในทางปฏบิ ัตแิ ลว้ การตลาดท่ีดีมักจะพจิ ารณาจากความแตกต่างในด้านความรับผิดชอบและรสนยิ ม ของผบู้ รโิ ภคเป็นหลกั สาคัญ การผลิตแบบอตุ สาหกรรมก่อให้เกดิ ตลาดท่ีดี ความหลากหลายของสินค้าเกิดจากความ แตกตา่ งของความชอบและรสนิยมของผู้บรโิ ภค ถา้ หากการกล่าวอา้ งนเ้ี ปน็ จริง อุตสาหกรรมการ ผลติ สนิ คา้ ก็คงทาการผลติ สนิ ค้าทีม่ ีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นนน้ั เอง การยอมรบั การตอบสนอง สนิ ค้าที่ผลิต รปู แบบของสนิ ค้าตามความต้องการของผู้บรโิ ภค ยกตวั อยา่ ง เชน่ บรษิ ัทผู้ผลิต รถยนตฟ์ อรด์ ทาการผลติ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการขบั ขี่ อตุ สาหกรรมการเกษตรสามารถกอ่ ให้เกิดความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มผบู้ ริโภค โดยเฉพาะสนิ คา้ ประเภทอาหาร ผ้ผู ลติ มักกาหนดราคาถกู และเขา้ ถงึ ผบู้ รโิ ภคโดยการโฆษณาและการ ผลติ สนิ คา้ ทแี่ ตกต่างไปจากเดิมเพ่ือก่อใหเ้ กิดการตลาดในกลุ่มผบู้ ริโภคใหม่และชอ่ งทางการตลาดใหม่ และการวางสินค้าในช้นั สนิ คา้ ใหม่เพ่ือเกดิ แรงจูงใจแกผ่ ู้บริโภค เชน่ ในตลาด ซปุ เปอรม์ าร์เกต็ ของอเมริกาเนือ้ ววั จะถกู แบ่งเป็นเกรดตามคณุ ภาพและตรายห่ี ้อในการผลติ นอกจากนรี้ าคาก็แตกตา่ งกนั ออกไปด้วย ผกั และผลไม้มมี ากมายหลายย่หี ้อในตลาดสหรฐั อเมริกา ผักสด และผลไม่สด คงมยี ี่ห้อไมม่ าก นักประมาณ 1-2 ยี่หอ้ แต่สินคา้ พวกอาหารกระปํองมักมีความหลากหลายในเรื่องราวของตรา ผลติ ภัณฑ์ อยา่ งไรกต็ ามอาหารทบี่ รรจุภายในกระป๋องมกั เปน็ ประเภทเดียวกัน กลยทุ ธ์ทาง การตลาดมักนามาใช้ในการดึงดดู ผูบ้ รโิ ภค การกาเนิดของอตุ สาหกรรมอาหารประเภทจานด่วน อาหารประเภทพร้อมรบั ประทน เนอื้ ไก่ มันฝรงั่ และผลติ ภัณฑอ์ าหารท่ีพรอ้ มในการบรโิ ภคในกลุม่ ผบู้ ริโภคท้งั ประเทศเม่อื ผลติ ภัณฑ์ใดเป็นทนี่ ิยมของตลาดนั้นคือ มรี สชาด สีสนั และบรรจุภัณฑเ์ ป็นที่ ตอ้ งการของผบู้ รโิ ภค สนิ ค้านกี้ ็คงอยู่ในตลาดตลอดไป ในขณะท่สี ินคา้ ใดไม่เปน็ ที่นิยมของผบู้ รโิ ภค สนิ คา้ นัน้ มักจะออกไปจากตลาดในที่สดุ การตลาดโดยทั่วไปผู้คนมักมีความสบั สนกับตลาดทดี่ ี โดยทวั่ ไปสนิ ค้าทีว่ างขายในตลาดมกั เป็นสินคา้ พืน้ ฐานโดยเฉพาะสินคา้ ประเภทอปุ โภคบริโภค สนิ ค้าอาหารทสี่ ะดวก รวดเร็ว ราคาถกู และสะอาดมักไดร้ บั ความนยิ มจากผู้บริโภคในตลาด เช่น เนอ้ื ววั พรอ้ มรบั ประทาน บ๊อคโคลี่ เปน็ ตน้
Search