ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั การใช้คาํ นําหน้านาม ให้ใช้คาํ นํานามตามท่ีกฎหมายกาํ หนด ได้แก่ นาย นาง นางสาว ยศ บรรดาศกั ด์ิ ฐานันดรศกั ด์ิ คณุ หญิง ท่านผหู้ ญิง
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั การใช้ตาํ แหน่งทางวิชาการเป็นคาํ นําหน้านาม ระเบยี บสาํ นักนายกรฐั มนตรี ว่าด้วย การใช้ตาํ แหน่ง ทางวิชาการเป็นคาํ นําหน้านาม พ.ศ. ๒๕๓๖ กาํ หนดให้ใช้ ศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ เป็น คาํ นําหน้านาม × × ×ดร. นายแพทย์ แพทยห์ ญิง เภสชั กร ไม่ใช่คาํ นําหน้านาม จึงนํามาใช้เป็นคาํ นําหน้านามมิได้
ระเบยี บ ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๑.๖ อ้างถงึ (ถ้ามี) ให้อ้างถึงหนังสือที่เคยมีติดต่อกนั เฉพาะ หนังสือที่ส่วนราชการผ้รู บั หนังสือได้รบั มาก่อนแล้ว จะจากส่วน ราชการใดก็ตาม โดยให้ลงช่ือส่วนราชการเจ้าของหนังสือและ เลขท่ีหนังสือ วนั ที่ เดือน ปี พทุ ธศกั ราชของหนังสือนัน้ การอ้างถึง ให้อ้างถึงหนังสือฉบบั สุดท้ายท่ีติดต่อกนั เพียง ฉบบั เดียว เว้นแต่มีเร่ืองอื่นท่ีเป็ นสาระสาํ คญั ต้องนํามาพิจารณา จึงอ้างถึงหนังสือฉบบั อื่น ๆ ท่ีเกี่ยวกบั เรื่องนัน้ โดย เฉพาะให้ทราบ ด้วย ๑๑.๗ ส่ิงที่ส่งมาด้วย (ถ้ามี) ให้ลงช่ือส่ิงของ เอกสารหรือ บรรณสารที่ส่งไปพร้อมกบั หนังสือนัน้ ในกรณีท่ีไม่สามารถส่งไปใน ซองเดียวกนั ได้ให้แจ้งด้วยว่าส่งไปโดยทางใด
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั โครงสร้างของหนังสือภายนอก ส่วนที่ ๑ หวั หนังสือ ส่วนที่ ๒ เหตทุ ี่มีหนังสือไป ส่วนท่ี ๓ จดุ ประสงคท์ ี่มีหนังสือไป ส่วนที่ ๔ ท้ายหนังสือ
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๑๑.๘ ข้อความ ให้ลงสาระสาํ คญั ของเรื่องให้ชดั เจน และเข้าใจง่าย หากมีความประสงค์หลายประการให้ แยกเป็นข้อ ๆ
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั เหตุท่ีมีหนังสือไป คือ ข้อความที่ผ้มู ีหนังสือไปแจ้งเหตุ ที่มีหนังสือไปยังผู้รบั หนังสือ อาจเป็ นข้อความตอนเดียว หรือ ๒ ตอน หรือ ๓ ตอนกไ็ ด้ การขึน้ ต้นข้อความในส่วนท่ีเป็นเหตทุ ี่มีหนังสือไป - ถ้าติ ดต่อกันเป็ นครัง้ แรก (หนังสือก่อใหม่) ขึน้ ต้นหนังสือว่า “ด้วย” หรือ “เนื่องจาก”
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ถ้าเป็ นหนังสือตอบหรือมีการอ้างถึงเร่ืองเดิมที่เคย ติดต่อกนั มาก่อน (หนังสือสานต่อ) ขึ้นต้นโดยใช้คาํ ว่า “ตาม” “ตามท่ี” หรือ “อนุสนธิ” แล้วสรุปใจความสัน้ ๆ ท่ี ครอบคลมุ เนื้อหาสาระของหนังสือฉบบั ท่ีอ้างถึง จบความด้วย คาํ ว่า “นัน้ ” แล้วขึน้ ย่อหน้าใหม่ เขียนข้อความที่สืบเนื่องหรือ ผลต่อเนื่องกบั หนังสือท่ีอ้างถึงนัน้ ว่าดาํ เนิ นการอะไรไปแล้ว บา้ ง เพ่ือเช่ือมโยงวตั ถปุ ระสงคใ์ นย่อหน้าต่อไป
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั สานต่อ ขึน้ ต้นว่า “ตาม” “ตามท่ี” หรือ“อนุสนธิ” ก่อใหม่ ขึน้ ต้นว่า “ด้วย” หรือ “เนื่องจาก”
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั การใช้คาํ ว่า “ด้วย” การเร่ิมต้นโดยใช้คาํ ว่า “ด้วย” ควรใช้ในกรณีที่บอก กล่าวเล่าเหตทุ ี่มีหนังสือไป โดยเกริ่นขึน้ มาลอย ๆ ตัวอย่าง ด้วยสาํ นักงานคณะกรรมการอาหารและยา จะเปิ ดการ อบรมเพิ่ มศักยภาพบุคลากรในงานสารบรรณ ในวันท่ี ๒๔ - ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๑ ณ โรงแรมสกั ภู เดือน เขาใหญ่ จงั หวดั นครราชสีมา จึงขอให้ส่งพนักงานธรุ การของส่วน ๑ คน ไปเข้ารบั การ ฝึ กอบรมครงั้ นี้ด้วย
การใช้คาํ ว่า “เนื่องจาก” ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั การเริ่มต้นโดยใช้คาํ ว่า “เนื่องจาก” ควรใช้ในกรณีท่ี อ้างเป็นเหตทุ ี่หนักแน่น ที่จาํ เป็นต้องมีหนังสือไป เพื่อให้ผรู้ บั หนังสือดาํ เนินการอย่างใดอย่างหน่ึง ตวั อย่าง เน่ืองจากท่านได้หยุดงานไป ๓ วนั โดยไม่ได้ยื่นใบลา ตามระเบยี บ จึงขอให้ท่านชี้แจงเหตผุ ลท่ีหยดุ งานครงั้ นี้โดยด่วน
ข้อสงั เกตุ ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๑. หนังสือที่ขึ้นต้นด้วยคาํ ว่า “ด้วย” หรือ “เนื่องจาก” อาจมี เหตุที่มีหนังสือไป ประกอบด้วยข้อความตอนเดียวหรือ ๒ ตอน หรือ ๓ ตอนกไ็ ด้ แต่จะมีข้อความกี่ตอนกต็ าม จะไม่มีคาํ ว่า “นัน้ ” อยู่ท้าย ตอนใดเลย ๒. หนังสือท่ีขึ้นต้นด้วยคาํ ว่า “ตาม” “ตามท่ี” หรือ “อนุสนธิ” จะมีเหตุที่มีหนังสือไป ๒ ตอนเสมอ คือ มีการอ้างอิงเรื่องเดิมตอน หนึ่ง และมีเรื่องต่อเนื่องอีกตอนหนึ่ง และอาจมีเร่ืองสืบเน่ืองต่อมา หรอื มีผลสืบเนื่องต่อไป หรือเร่ืองเกี่ยวข้องอีกตอนหนึ่งกไ็ ด้ หนังสือที่ขึ้นต้นด้วยคาํ ว่า “ตาม” “ตามที่” หรือ “อนุสนธิ” จะต้องมีคาํ ว่า “นัน้ ” อย่ทู ้ายตอนแรกเสมอ
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ตวั อย่าง เรียน เลขาธิการวฒุ ิสภา ต า ม ที่ มี ข่ า ว ใ น ห นั ง สื อ พิ ม พ์ว่ า ข้ า ร า ช ก า ร ข อ ง สํา นั ก บริหารงานกลางทจุ ริตยกั ยอกเงินของสาํ นักงาน นัน้ สาํ นักบริหารงานกลางได้สอบสวนแล้ว ปรากฏว่าไม่มีมูล ความจริงดงั ที่หนังสือพิมพล์ งข่าวแต่ประการใด จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั แบบฝึ กปฏิบตั ิ สมมุติว่าท่านเป็ นข้าราชการกองคลงั ผ้อู าํ นวยการกองคลงั สงั่ ให้ท่านร่างหนังสือของอธิบดี ถึงผ้อู าํ นวยการสาํ นักงบประมาณ แจ้งว่า คณะรฐั มนตรีมีมติให้ใช้เงินงบกลางสร้างอาคารท่ีทาํ การของ กรมนี้ ขอให้สาํ นักงบประมาณจดั สรรเงินงบกลางให้กรมนี้ด้วย ในการร่างหนังสือฉบบั นี้ ท่านจะเลือกคาํ ใดเป็ นคาํ เริ่มต้น แจ้งเหตทุ ่ีมีหนังสือไป ก. ตาม ข. ตามที่ ค. อนุสนธิ ง. ด้วย จ. เน่ืองจาก
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั เฉลย ข้อ จ. เพราะเร่ืองตามหนังสือที่ร่างนี้ เป็ นเร่ืองใหม่ท่ีไม่เคย ติ ดต่อหรือรับรู้กันมาก่อนระหว่างผู้มีหนังสือไปกับผู้รับ หนังสือ และเป็ นกรณี ท่ีต้องอ้างเป็ นเหตุผลอันหนักแน่ น เพ่ือให้สาํ นักงบประมาณจดั สรรเงินให้
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั โครงสร้างของหนังสือภายนอก ส่วนที่ ๑ หวั หนังสือ ส่วนที่ ๒ เหตทุ ี่มีหนังสือไป ส่วนท่ี ๓ จดุ ประสงคท์ ี่มีหนังสือไป ส่วนที่ ๔ ท้ายหนังสือ
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั โครงสร้างในส่วนที่ ๓ จดุ ประสงคท์ ี่มีหนังสือไป จดุ ประสงคท์ ี่มีหนังสือไป คือ ข้อความแสดงความมุ่งหมาย ท่ีมีหนังสือไปว่าประสงคจ์ ะให้ผ้รู บั หนังสือทาํ อะไร หรือทาํ อย่างไร เช่น เพื่อทราบ เพื่อให้นําเสนอต่อไป เพื่อพิจารณา เพื่อสงั่ การ เพ่ือ ยึดถือเป็นหลกั ปฏิบตั ิ หรอื เพ่ืออนุมตั ิ เป็นต้น วตั ถปุ ระสงคข์ องเรื่องอาจเป็ นลกั ษณะคาํ ขอ คาํ สงั่ คาํ อนุมตั ิ หรอื ข้อตกลงกไ็ ด้ โดยย่อหน้าใหม่ ขึน้ ต้นด้วยคาํ ว่า “จึง” แล้วต่อ ด้วยความม่งุ หมายหรอื วตั ถปุ ระสงคข์ องเรอ่ื ง
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๓.๑ ลกั ษณะของจดุ ประสงคท์ ี่มีหนังสือไป จดุ ประสงคท์ ี่มีหนังสือไปอาจมีลกั ษณะและความมงุ่ หมาย อย่างใดอย่างหน่ึงดงั ต่อไปนี้ ลกั ษณะ ความมงุ่ หมาย คาํ แจ้ง เพื่อทราบ คาํ ขอ เพ่ือให้พิจารณา เพื่อให้ดาํ เนินการ เพื่อให้ความร่วมมอื เพื่อให้ความช่วยเหลือ
ลกั ษณะ ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั คาํ ซกั ซ้อม ความม่งุ หมาย คาํ ชี้แจง คาํ ยืนยนั เพื่อให้เข้าใจ คาํ เตือน เพื่อให้เข้าใจ คาํ กาํ ชบั เพื่อให้แน่ใจ เพื่อไม่ให้ลืมปฏิบตั ิ คาํ ถาม เพ่ือให้ปฏิบตั ิตาม คาํ หารือ เพื่อสงั วร ระมดั ระวงั เพื่อขอทราบ เพ่ือขอความช่วยเหลือ
ลกั ษณะ ความมุ่งหมาย การเขยี นจุดประสงค์ คาํ แจ้ง เพื่อทราบ จึงเรียนมาเพ่ือทราบ เพ่ือใหพ้ จิ ารณา จึงขอแจง้ ใหท้ ราบไวล้ ่วงหนา้ เพ่ืออนุมตั ิ เพื่อใหด้ าํ เนินการ เพ่ือใหค้ วามร่วมมือ เพ่ือถือปฏิบตั ิ คาํ ขอ เพื่อพิจารณา จึงเรียนมาเพอื่ ขอไดโ้ ปรดพิจารณาอนุมตั ิใหด้ ว้ ย เพ่ือใหช้ ่วยเหลือ จึงเรียนมาเพอื่ โปรดนาํ เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไปดว้ ย เพื่อใหค้ วามร่วมมือ จึงเรียนมาเพื่อขอไดโ้ ปรดใหค้ วามร่วมมือในการน้ีตามสมควรดว้ ย เพ่ือให้ ดาํ เนินการ จึงเรียนมาเพื่อกรุณาอนุมตั ิในขอ้ ...................................... จึงเรียนมาเพือ่ กรุณาพิจารณา หากเห็นสมควรกรุณาอนุมตั ิในขอ้ … คาํ ซักซ้อม เพื่อใหเ้ ขา้ ใจ จึงขอเรียนซอ้ มความเขา้ ใจมาเพ่ือถือเป็นหลกั ปฏิบตั ิต่อไป คาํ ชี้แจง เพ่ือใหเ้ ขา้ ใจ จึงเรียนช้ีแจงมาเพ่ือทราบ คาํ ยนื ยนั จึงเรียนช้ีแจงมาเพอื่ โปรดเขา้ ใจตามน้ีดว้ ย คาํ ส่ัง เพ่ือใหแ้ น่ใจ คาํ เตอื น จึงขอเรียนยนื ยนั มาเพือ่ ทราบ คาํ กาํ ชับ เพ่ือใหป้ ฏิบตั ิ จึงขอเรียนยนื ยนั ขอ้ ตกลงดงั กล่าวมา ณ ท่ีน้ี เพื่อไม่ใหล้ ืมปฏิบตั ิ จึงเรียนมาเพื่อถือเป็นหลกั ปฏิบตั ิต่อไป จึงเรียนมาเพื่อดาํ เนินการต่อไป เพ่ือใหป้ ฏิบตั ิตาม เพ่ือใหส้ งั วรระมดั ระวงั จึงขอเรียนเตือนมาเพ่ือโปรดดาํ เนินการเรื่องน้ีใหเ้ สร็จโดยด่วนดว้ ย จึงเรียนมาเพอ่ื จกั ไดป้ ฏิบตั ิตามมติคณะรัฐมนตรีดงั กล่าวโดยเคร่งครัด ต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดกาํ ชบั เจา้ หนา้ ท่ีใหร้ ะมดั ระวงั มิใหเ้ กิดกรณีเช่นน้ี ข้ึนอีก คาํ ถาม เพื่อขอทราบ จึงเรียนมาเพ่ือขอทราบวา่ ................................................ คาํ หารือ เพื่อขอความเห็น จึงขอเรียนหารือมาวา่ …………........................................ จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาวินิจฉยั แลว้ แจง้ ผลใหท้ ราบดว้ ยจะขอบคุณมาก
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๓.๒ หลกั ในการเขียนจดุ ประสงค์ การเขียน “จดุ ประสงคท์ ่ีมีหนังสือไป” ในหนังสือติดต่อ ราชการ พึงยึดหลกั ดงั นี้ ๑ เขียนให้ตรงกบั ลกั ษณะและความม่งุ หมาย เมื่อจะเขียน “จุดประสงคท์ ่ีมีหนังสือไป” ในลกั ษณะใด โดยมีความมุ่งหมายอย่างไรกต็ ้องเขียนในลกั ษณะนัน้ โดยมี ข้อความแสดงความมงุ่ หมายนัน้
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๒ - เขียนแจ้งจดุ ประสงคใ์ ห้ชดั เจน การเขียน“จุดประสงค์ท่ีมีหนังสือไป” ในหนังสือติ ดต่อ ราชการต้องเขียนแจ้งจุดประสงค์ให้ชดั เจนว่าผ้มู ีหนังสือไปต้องการ ให้ผ้รู บั หนังสือทาํ อะไรหรือทาํ อย่างไร ถ้ามีจุดประสงค์หลายประการ กต็ ้องแจ้งให้ครบทกุ ประการ เช่น ถ้าจุดประสงค์ต้องการถามและขอให้ตอบด้วย ก็ต้องเขียน ทงั้ ถามและขอให้ตอบด้วย เช่น จึงเรียนมาเพื่อขอทราบว่าท่ านจะไปร่วมงานนี้ ได้ หรือไม่ ขอได้โปรดแจ้งให้ทราบด้วย จะขอบคณุ มาก
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ถ้าจดุ ประสงคต์ ้องการขอหลาย อย่าง กต็ ้องเขียนให้ครบ ทกุ อย่าง ตวั อย่าง จึงเรียนมาเพ่ือทราบและขอได้โปรดไปร่วมประชมุ ตามวนั เวลา และสถานที่ดงั กล่าวด้วย
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๓ - เขียนโดยใช้ถ้อยคาํ ให้เหมาะสมตามควรแก่กรณี การเขียน “จดุ ประสงคท์ ่ีมีหนังสือไป” ในหนังสือติดต่อ ราชการ ต้องใช้ถ้อยคาํ ให้เหมาะสมกบั ตวั บุคคล และลกั ษณะ ของจดุ ประสงค์ เช่น ๑. หนังสือถึงผดู้ าํ รงตาํ แหน่งท่ีใช้คาํ ขึน้ ต้นว่า “เรียน” กเ็ ขียนจดุ ประสงคว์ ่า “จึงเรียน....................” ถ้าหนังสือถึง ผู้ดํารงตําแหน่ งท่ีใช้คําขึ้นต้นว่า “กราบเรียน” ก็เขียน จดุ ประสงคว์ ่า “จึงกราบเรียน.........”
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๓. หนังสือถึงผ้มู ีฐานะเป็ นผ้ใู หญ่กว่า เช่น หนังสือจาก อธิ บดีถึงปลัดกระทรวงควรเพิ่ มคําว่า “โปรด” ด้วย ไม่ว่า “จดุ ประสงคท์ ่ีมีหนังสือไป” จะเป็นลกั ษณะใด ตวั อย่าง จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ส่วนหนังสือถึงผมู้ ีฐานะเท่ากนั หรอื ตา่ํ กว่า ถ้า “จดุ ประสงค์ ท่ีมีหนังสือไป” ไม่ใช่ลกั ษณะ “คาํ ขอ” ไม่จาํ เป็ นต้องเพ่ิมคาํ ว่า “โปรด” ตวั อย่าง หนังสือจากอธิบดีถึงอธิบดี จึงเรียนมาเพ่ือทราบ
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๔. หนังสือถึงผอู้ ยู่ใต้บงั คบั บญั ชา ท่ีมิใช่ข้าราชการชนั้ ผ้ใู หญ่ แม้จะเป็ น “คาํ ขอ” จะไม่เพิ่มคาํ ว่า “โปรด” กไ็ ด้ โดยถือเป็ น ลกั ษณะของ “คาํ สงั่ ” ส่วนหนังสือถึงผู้อยู่ใต้บงั คับบญั ชาท่ีเป็ นข้าราชการ ชนั้ ผใู้ หญ่ เพ่ิมคาํ ว่า “โปรด” ด้วยกด็ ี เช่น หนังสือจากปลดั กระทรวง ถึง อธิบดี (ชนั้ ผใู้ หญ่) จึงเรียนมาเพ่ือโปรดดาํ เนินการต่อไป
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๔. การใช้ถ้อยคาํ ให้เหมาะสมกบั ลกั ษณะของจดุ ประสงค์ คาํ ขอร้อง ในกรณีที่จะต้องขอให้ผู้รบั หนังสือช่วยทําอะไรบาง อย่างให้ จะต้องเขียน “คาํ ขอร้อง” ประกอบ “จุดประสงคท์ ี่มี หนังสือไป” เพื่อความสุภาพ และโน้มน้าวใจให้ผ้รู บั หนังสือ ยินดีทาํ ตามจดุ ประสงค์ เช่น จึงเรียนขอความอนุเคราะหม์ าเพ่ือขอได้โปรดอนุญาต ให้ใช้ห้องฝึ กอบรมดงั กล่าว จึงเรียนขอความกรุณามาเพื่อได้โปรดช่วยเหลือ ค่าใช้จ่ายในการนี้ตามสมควรด้วย
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั คาํ ขอบคณุ ในกรณีที่จะต้องขอความช่วยเหลือจากผ้รู บั หนังสือ ควรเขียน “คาํ ขอบคณุ ” ประกอบเพื่อให้เป็นไปตามประเพณี ในสงั คม และผกู มดั จิตใจของผรู้ บั หนังสือให้ช่วยเหลือตาม จดุ ประสงค์ เช่น จึงเรียนมาเพ่ือโปรดนําเสนอนายกรฐั มนตรีพิจารณา ต่อไปด้วยจะขอบคณุ มาก
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั จึงเรียนมาเพื่อขอได้โปรดพิจารณาอนุญาตด้วย จะเป็น พระคณุ ยิ่ง จึงเรียนมาเพื่อขอได้โปรดอนุญาตให้ใช้ห้องฝึ กอบรม ดงั กล่าวด้วย ทงั้ นี้ หวงั ว่าคงจะได้รบั ความอนุเคราะห์จาก โรงเรียนนายร้อยร้อยตาํ รวจ จึงขอขอบคณุ มา ณ ท่ีนี้ จึงเรียนมาเพื่อขอได้โปรดช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการนี้ ตามสมควรด้วย ทงั้ นี้ หวงั เป็ นอย่างยิ่งว่าคงจะได้รบั ความ กรณุ าจากท่าน จึงขอขอบคณุ มา ณ ท่ีนี้
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั แต่ถ้า “จุดประสงค์ท่ีมีหนังสือไป” เป็ นลกั ษณะอื่น ไม่ใช่ลกั ษณะ “คาํ ขอ” ไม่ต้องต่อท้ายด้วย “คาํ ขอบคุณ” เว้นแต่ “จุดประสงค์ท่ีมีหนังสือไป” นัน้ จะมีความหมาย เป็นคาํ ขออย่ดู ้วยจึงจะต่อท้ายด้วย “คาํ ขอบคณุ ” ตวั อย่าง จึงเรียนมาเพ่ือทราบ และถือเป็นหลกั ปฏิบตั ิต่อไป จึงเรียนหารือมา ทงั้ นี้ขอได้โปรดแจ้งผลการ พิจารณาให้ทราบด้วย จะขอบคณุ มาก
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั เร่ืองเกี่ยวเน่ือง บางกรณีมีเรื่องเกี่ยวเน่ืองจะต้องแจ้งไปยงั ผ้รู บั หนังสือด้วย กเ็ ขียนเร่อื งเก่ียวเนื่องนัน้ ต่อจาก “จดุ ประสงคท์ ี่มีหนังสือไป” เช่น เร่ืองแจ้งให้ทราบการตงั้ ผ้รู บั หนังสือเป็นกรรมการ “จดุ ประสงค์ ที่มีหนังสือไป” ก็คือ แจ้งให้ทราบว่า ผู้รบั หนังสือได้รบั แต่งตัง้ เป็ น กรรมการ แต่ถ้าแจ้งให้ทราบเพียงการตงั้ กรรมการผ้รู บั หนังสือกอ็ าจ สงสัยว่าเมื่อเป็ นกรรมการแล้วจะให้ทําอย่างไร เม่ือใด จึงควรแจ้ง เพิ่มเติมเป็ นเรื่องเก่ียวเน่ืองเพ่ือให้ผ้รู บั หนังสือหายสงสยั ว่าจะให้ทํา อะไรกนั ต่อไป เช่นแจ้งว่า จึงเรียนมาเพื่อทราบ ส่วนกาํ หนดการประชมุ คณะกรรมการนี้ จะได้เรียนให้ทราบต่อไปเมื่อประธานกรรมการนัดประชมุ
แบบฝึ กหดัศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั หนังสือภายนอก จากอธิบดีถึงเลขาธิการ ก.พ. ขอให้นํา เรือ่ งเสนอ ก.พ. พิจารณาอนุมตั ิ เขียน “จดุ ประสงคท์ ่ีมีหนังสือไป” ว่าอย่างไร ก. จึงเรียนมาเพื่อขอให้นําเสนอ ก.พ.พิจารณาอนุมตั ิด้วย ข. จึงเรียนมาเพ่ือโปรดนําเสนอ ก.พ.พิจารณาอนุมตั ิด้วย ค. จึงเรียนมาเพื่อโปรดนําเสนอ ก.พ. พิจารณาอนุมตั ิด้วย จะขอบคณุ มาก ง. จึงเรียนมาเพ่ือโปรดนําเสนอ ก.พ. พิจารณาอนุมตั ิด้วย จะเป็นพระคณุ ย่ิง
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั โครงสร้างของหนังสือภายนอก ส่วนที่ ๑ หวั หนังสือ ส่วนที่ ๒ เหตทุ ี่มีหนังสือไป ส่วนท่ี ๓ จดุ ประสงคท์ ี่มีหนังสือไป ส่วนที่ ๔ ท้ายหนังสือ
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๑๑.๙ คาํ ลงท้าย ให้ใช้คาํ ลงท้ายตามฐานะของผ้รู บั หนังสือ ตามตารางการใช้คาํ ขึ้นต้น สรรพนาม และคาํ ลง ท้าย ที่กาํ หนดไว้ในภาคผนวก ๒ แบบฝึ กปฏิบตั ิ ข้อ ๑. หนังสือภายนอก จากอธิบดีถึงรฐั มนตรีว่าการ กระทรวง ใช้คาํ ลงท้ายอย่างไร ก. ด้วยความเคารพ ข. ด้วยความเคารพนับถือ ค. ขอแสดงความนับถืออย่างสงู ง. ขอแสดงความนับถือ
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๑๑.๑๐ ลงช่ือ ให้ลงลายมือชื่อเจ้าของหนังสือ และให้พิมพช์ ื่อ เตม็ ของเจ้าของลายมือชื่อไว้ใต้ลายมือช่ือ ตามรายละเอียดที่กาํ หนด ไว้ในภาคผนวก ๓ ๑๑.๑๑ ตาํ แหน่ง ให้ลงตาํ แหน่งของเจ้าของหนังสือ กฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผน่ ดิน การรกั ษาราชการแทน หมายถึง การปฏิบตั ิหน้าที่แทนผดู้ าํ รงตาํ แหน่ง ในกรณีท่ีไม่มีผดู้ าํ รงตาํ แหน่ง หรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบตั ิหน้าที่ได้ การปฏิ บตั ิ ราชการแทน หมายถึง การปฏิ บตั ิ หน้ าที่แทนผู้ดํารง ตาํ แหน่งตามที่ผดู้ าํ รงตาํ แหน่งมอบหมาย หรือมอบอาํ นาจ โดยผดู้ าํ รง ตาํ แหน่งยงั คงอย่ปู ฏิบตั ิหน้าท่ีของตนในเร่ืองท่ีมิได้มอบหมายผใู้ ด
ขอแสดงความนับถือ ขอแสดงความนับถอื ๑ ๒ (นาย............................) (นาย............................) ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ รองปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบตั ิราชการแทน ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ขอแสดงความนับถือ ๓ (นาย............................) รองปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบตั ิราชการแทน ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ขอแสดงความนับถือ ๔ (นาย............................) รองปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบตั ิราชการแทน ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๑๑.๑๒ ส่วนราชการเจ้าของเรื่อง ให้ลงชื่อส่วน ราชการเจ้าของเร่ืองหรือหน่วยงานที่ออกหนังสือ ถ้าส่วน ราชการที่ออกหนังสืออยู่ในระดบั กระทรวงหรือทบวง ให้ลง ช่ือส่วนราชการเจ้าของเร่ืองทงั้ ระดบั กรมและกอง ถ้าส่วน ราชการที่ออกหนังสืออยู่ในระดบั กรมลงมา ให้ลงชื่อส่วน ราชการเจ้าของเร่ืองเพียงระดับกองหรือหน่ วยงานท่ี รบั ผิดชอบ ๑๑.๑๓ โทร. ให้ลงหมายเลขโทรศัพท์ของส่วน ราชการเจ้าของเรื่องหรือหน่ วยงานที่ออกหนังสือและ หมายเลขภายในต้สู าขา (ถ้ามี) ไว้ด้วย
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๑๑.๑๔ สาํ เนาส่ง (ถ้ามี) ในกรณีท่ีผ้สู ่งจดั ทาํ สาํ เนา ส่งไปให้ส่วนราชการหรือบุคคลอื่นทราบ และประสงค์จะให้ ผ้รู บั ทราบว่าได้มีสาํ เนาส่งไปให้ผ้ใู ดแล้ว ให้พิมพช์ ื่อเตม็ หรือ ช่ือย่อของส่วนราชการหรือชื่อบุคคลที่ส่งสาํ เนาไปให้ เพ่ือให้ เป็นท่ีเข้าใจระหว่างผ้สู ่งและผ้รู บั ถ้าหากมีรายช่ือที่ส่งมาก ให้ พิ มพ์ว่าส่งไปตามรายชื่อท่ีแนบและแนบรายชื่อไปด้วย
ท่ี ใหล้ งรหสั ตวั พยญั ชนะและเลขประจาํ ของเจา้ ของเร่อื ง สว่ นราชการเจา้ ของหนงั สอื ตามท่กี าํ หนดไวใ้ นภาคผนวก ๑ ทบั เลขทะเบยี นหนงั สอื สง่ ๑. ย่อสน้ั ท่สี ดุ ยาวเกนิ ไป ๒. เป็นประโยคหรอื วลี สานตอ่ ข้ึนตน้ วา่ “ตาม” ๓. พอรูค้ วามหมายวา่ เป็น “ตามท่”ี หรอื “อนุสนธ”ิ เร่อื งอะไร กอ่ ใหม่ ข้ึนตน้ ว่า “ดว้ ย” ๔. เกบ็ คน้ อา้ งองิ ไดง้ า่ ย หรอื “เน่ืองจาก” ๕. แยกความแตกต่างจาก เร่อื งอน่ื ได้ สว่ นราชการเจา้ ของเร่อื ง ผูบ้ งั คบั บญั ชาของ สว่ นราชการเจา้ ของหนงั สอื
ท่ี ใหล้ งรหสั ตวั พยญั ชนะและเลขประจาํ ของเจา้ ของเร่อื ง สาํ นวนการเขียน ตามท่กี าํ หนดไวใ้ นภาคผนวก ๑ ทบั เลขทะเบยี นหนงั สอื สง่ ใชไ้ ม่ไดเ้ ลย สานต่อ ข้ึนตน้ วา่ “ตาม” “ตามท่”ี หรอื “อนุสนธ”ิ กอ่ ใหม่ ข้ึนตน้ วา่ “ดว้ ย” หรอื “เน่ืองจาก” จุดประสงคท์ ่มี ีหนงั สอื ไป สว่ นราชการเจา้ ของเร่อื ง
ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ที่ นร ๑๐๐๒/ว ๓ สาํ นักนายกรฐั มนตรี ทาํ เนียบรฐั บาล กทม ๑๐๓๐๐ ๑๙ มกราคม ๒๕๓๓ เรื่อง คาํ อธิบายประกอบระเบียบสาํ นักนายกรฐั มนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๓๓ เรียน เลขาธิการ ก.พ. อ้างถึง หนังสือสาํ นักเลขาธิการคณะรฐั มนตรี ที่ สร ๐๒๐๓/ว ๖๔ ลงวนั ที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๒๖ สิ่งที่ส่งมาด้วย คาํ อธิบายประกอบระเบยี บสาํ นักนายกรฐั มนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ.๒๕๒๖ ตามหนังสือท่ีอ้างถึง สาํ นักเลขาธิการคณะรฐั มนตรีได้แจ้งเวียนระเบยี บสาํ นักนายกรฐั มนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖ มาเพ่ือทราบและถือปฏิบตั ิ นัน้ บดั นี้ ปลดั สาํ นักนายกรฐั มนตรีอาศยั อาํ นาจตามความในข้อ ๘ แห่งระเบียบสาํ นักนายกรฐั มนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖ โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการพิจารณาปรบั ปรงุ และพฒั นาระเบยี บ สาํ นักนายกรฐั มนตรี ได้กาํ หนดคาํ อธิบายประกอบระเบียบสาํ นักนายกรฐั มนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖ ดงั มีรายละเอียดปรากฏตามส่ิงท่ีส่งมาด้วย ท่ีแนบมาพร้อมนี้ จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ และกรณุ าแจ้งให้ส่วนราชการในสงั กดั ทราบต่อไปด้วย ขอแสดงความนับถือ (ลงช่ือ) อภิลาศ โอสถานนท์ (นายอภิลาศ โอสถานนท)์
เร่อื งท่ี ๕ การเขียนรายงานการประชมุ ขอ้ ๒๕ รายงานการประชมุ คอื การบนั ทกึ ความคดิ เหน็ ของผูม้ า ประชุม ผูเ้ ขา้ ร่วมประชุมและมติของท่ีประชุมไวเ้ ป็ นหลกั ฐาน ใหจ้ ดั ทํา ตามแบบท่ี ๑๑ ทา้ ยระเบยี บ
แบบรายงานการประชมุ แบบท่ี ๑๑ (ตามระเบยี บข้อ ๒๕) รายงานการประชมุ ................................ ครงั้ ที่....................... เมอื่ .................................... ณ.................................................... ----------------------------------------------------------------------------- ผมู้ าประชมุ ผไู้ มม่ าประชมุ (ถา้ มี) ผเู้ ข้ารว่ มประชมุ (ถ้ามี) เร่ิมประชมุ เวลา (ข้อความ)........................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... เลิกประชมุ เวลา ...................................................... ผจู้ ดรายงานการประชมุ
ใหล้ งช่ือคณะท่ปี ระชมุ ช่ือการประชมุ น้นั ครง้ั ท่ี ใหล้ งครง้ั ท่ปี ระชมุ เม่อื ใหล้ งวนั เดอื นปีท่ปี ระชมุ มตทิ ่ปี ระชมุ ไม่ใช่เร่อื งท่ปี ระธานแจง้ ใหท้ ่ปี ระชมุ ทราบ
มตทิ ่ปี ระชมุ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159