1.ระเบียบงานสารบรรณ สวนสุนันทา ดร

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๑.๓ ชนิดของหนงั สอื สว่ นท่ี ๖ หนงั สอื ท่เี จา้ หนา้ ท่ที าํ ข้ึนหรอื รบั ไวเ้ พอ่ื เป็น หลกั ฐานในราชการ ขอ้ ๒๓ หนังสือท่ีเจา้ หน้าท่ีทําข้ึนหรือรบั ไวเ้ ป็ นหลกั ฐานในราชการ คือ หนังสือท่ีทางราชการทําข้ึนนอกจากท่ีกล่าวมาแลว้ ขา้ งตน้ หรือหนังสือท่ีหน่วยงาน อน่ื ใดซ่ึงมิใช่สว่ นราชการหรอื บคุ คลภายนอกมีมาถงึ สว่ นราชการ และสว่ นราชการรบั ไวเ้ ป็ นหลกั ฐานของทางราชการมี ๔ ชนิด คือ หนังสอื รบั รอง รายงานการประชุม บนั ทกึ และหนงั สอื อน่ื

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ข้อ ๒๔ หนังสือรบั รอง คือ หนังสือท่ีส่วนราชการ ออกให้เพื่อรบั รองแก่บุคคล นิ ติบุคคลหรือหน่วยงาน เพื่อ วตั ถปุ ระสงคอ์ ย่างหนึ่งอย่างใดให้ปรากฏแก่บุคคลโดยทวั่ ไป ไม่จาํ เพาะเจาะจง ใช้กระดาษตราครุฑ และให้จดั ทําตาม แบบท่ี ๑๐ ท้ายระเบยี บ โดยกรอกรายละเอียดดงั นี้ ข้อ ๒๕ รายงานการประชุม คือ การบนั ทึกความ คิดเห็นของผู้มาประชุม ผู้เข้าร่วมประชุม และมติของที่ ประชุมไว้เป็ นหลักฐาน ให้จัดทําตามแบบท่ี ๑๑ ท้าย ระเบียบ โดยกรอกรายละเอียดดงั นี้

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั

แบบรายงานการประชมุ ศาสตราจารยแ์ พบลบทตี่ าํ ๑ร๑วจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั (ตามระเบยี บขอ้ ๒๕) รายงานการประชมุ ................................ ครงั้ ท.่ี ...................... เมอ่ื .................................... ณ.................................................... -------------------------------------------------------------------- ผมู้ าประชมุ ผไู้ มม่ าประชุม (ถา้ ม)ี ผเู้ ขา้ รว่ มประชุม (ถา้ ม)ี เรม่ิ ประชมุ เวลา (ขอ้ ความ)................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... เลกิ ประชมุ เวลา ...................................................... ผจู้ ดรายงานการประชุม

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ข้อ ๒๖ บนั ทึก คือ ข้อความซึ่งผ้ใู ต้บงั คบั บญั ชาเสนอ ต่อผ้บู งั คบั บญั ชา หรือผบู้ งั คบั บญั ชาสงั่ การแก่ผ้ใู ต้บงั คบั บญั ชา หรือข้อความที่เจ้าหน้ าที่หรือหน่ วยงานระดับตํ่ากว่าส่วน ราชการระดบั กรมติดต่อกนั ในการปฏิบตั ิราชการ โดยปกติให้ ใช้กระดาษบนั ทึกข้อความ และให้มีหวั ข้อดงั ต่อไปนี้

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๒๖.๑ ชื่อหรือตาํ แหน่งที่บนั ทึกถึงโดยใช้คาํ ขึน้ ต้นตามท่ี กาํ หนดไว้ในภาคผนวก ๒ ๒๖.๒ สาระสําคญั ของเร่ือง ให้ลงใจความของเร่ืองที่ บนั ทึก ถ้ามีเอกสารประกอบกใ็ ห้ระบไุ ว้ด้วย ๒๖.๓ ช่ือและตําแหน่ง ให้ลงลายมือช่ือและตําแหน่ง ของผบู้ นั ทึก และในกรณีที่ไม่ใช้กระดาษบนั ทึกข้อความ ให้ลง วนั เดือน ปี ที่บนั ทึกไว้ด้วย การบนั ทึกต่อเน่ือง โดยปกติให้ผ้บู นั ทึกระบุคาํ ขึ้นต้น ใจความบนั ทึก และลงช่ือเช่นเดียวกบั ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น และ ให้ลงวนั เดือน ปี กาํ กบั ใต้ลายมือชื่อผ้บู นั ทึก หากไม่มีความ เหน็ ใดเพิ่มเติมให้ลงช่ือและวนั เดือน ปี กาํ กบั เท่านัน้

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ข้อ ๒๗ หนังสืออื่น คือ หนังสือหรือเอกสารอื่นใดท่ีเกิดขึ้น เนื่องจากการปฏิบตั ิงานของเจ้าหน้าท่ีเพ่ือเป็ นหลกั ฐานในราชการ ซ่ึง รวมถึงภาพถ่าย ฟิ ลม์ แถบบนั ทึกเสียง แถบบนั ทึกภาพ และส่ือกลาง บนั ทึกข้อมูลด้วย หรือหนังสือของบุคคลภายนอก ท่ียื่นต่อเจ้าหน้าท่ี และเจ้าหน้ าท่ีได้รบั เข้าทะเบียนรบั หนังสือของทางราชการแล้ว มี รูปแบบตามที่กระทรวง ทบวง กรม จะกําหนดขึ้นใช้ตามความ เหมาะสม เว้นแต่มีแบบตามกฎหมายเฉพาะเร่ืองให้ทําตามแบบ เช่น โฉนด แผนท่ี แบบ แผนผงั สญั ญา หลกั ฐานการสืบสวนและ สอบสวน และคาํ ร้องเป็นต้น สื่อกลางบนั ทึกข้อมลู ตามวรรคหนึ่ง หมายความถึง สื่อใด ๆ ที่ อาจใช้บนั ทึกข้อมลู ได้ด้วยอปุ กรณ์ทางอิเลก็ ทรอนิกส์ เช่น แผน่ บนั ทึก ข้อมูล เทปแม่เหลก็ จานแม่เหลก็ แผ่นซีดี อ่านอย่างเดียวหรือแผ่น ดิจิทลั อเนกประสงค์ เป็นต้น

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ส่วนที่ ๗ บทเบด็ เตล็ด หนังสือราชการด่วน หนังสือเวียน และหนังสือราชการลับ

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ข้อ ๒๘ หนังสือท่ีต้องปฏิบตั ิให้เรว็ กว่าปกติ เป็ นหนังสือที่ ต้องจดั ส่งและดาํ เนิ นการทางสารบรรณด้วยความรวดเรว็ เป็ นพิเศษ แบง่ เป็น ๓ ประเภท คือ ๒๘.๑ หนังสือด่วนท่ีสุด เป็ นหนังสือท่ีเจ้าหน้าท่ีต้องปฏิบตั ิ ในทนั ทีท่ีได้รบั หนังสือนัน้ ๒๘.๒ หนังสือด่วนมาก เป็ นหนังสือท่ีเจ้าหน้าท่ีต้องปฏิบตั ิ โดยเรว็ ๒๘.๓ หนังสือด่วน เป็ นหนังสือที่เจ้าหน้าท่ีต้องปฏิบตั ิให้เรว็ กว่าปกติเท่าที่จะทาํ ได้

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ให้ระบุชนั้ ความเรว็ ด้วยตวั อกั ษรสีแดง ขนาดไม่เล็ก กว่าตวั พิมพโ์ ป้ ง ๓๒ พอยท์ ให้เห็นได้ชดั บนหนังสือและบน ซอง ตามที่กาํ หนดไว้ในแบบที่ ๑ แบบท่ี ๒ แบบที่ ๓ และ แบบท่ี ๑๕ ท้ายระเบยี บ โดยให้ระบคุ าํ ว่า ด่วนที่สดุ ด่วนมาก หรือด่วน สําหรบั หนังสือตามข้อ ๒๘.๑ ข้อ ๒๘.๒ และ ข้อ ๒๘.๓ แล้วแต่กรณี ในกรณีท่ีต้องการให้หนังสือส่งถึงผู้รบั ภายในเวลาที่ กําหนด ให้ระบุคําว่า ด่วนภายในแล้วลง วนั เดือน ปี และ กาํ หนดเวลาท่ีต้องการให้หนังสือนัน้ ไปถึงผ้รู บั ซึ่งระบุบนหน้า ซองภายในเวลาที่กาํ หนด

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ข้อ ๒๙ การตดิ ต่อราชการนอกจากการจะดําเนินการโดยหนังสอื ท่ี เป็นเอกสาร สามารถดาํ เนินการดว้ ยระบบสารบรรณอเิ ลก็ ทรอนิกสไ์ ด้ ในกรณีทต่ี ดิ ต่อราชการดว้ ยระบบสารบรรณอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ใหผ้ ูส้ ่ง ตรวจสอบผลการส่งทุกครงั้ และใหผ้ ูร้ บั แจง้ ตอบรบั เพ่อื ยนื ยนั ว่าหนังสอื ได้ จดั สง่ ไปยงั ผรู้ บั เรยี บรอ้ ยแลว้ และส่วนราชการผสู้ ง่ ไม่ตอ้ งจดั ส่งหนงั สอื เป็น เอกสาร เว้นแต่กรณีเป็นเร่อื งสําคญั จําเป็นต้องยนื ยนั เป็นเอกสาร ให้ทํา เอกสารยนื ยนั ตามไปทนั ที การสง่ ขอ้ ความทางเครอ่ื งมอื สอ่ื สาร เช่น โทรเลข วทิ ยุโทรเลข โทรพมิ พ์ โทรศพั ท์ วทิ ยุส่อื สารวทิ ยุกระจายเสยี ง หรอื วทิ ยุ โทรทศั น์ เป็นต้น ใหผ้ ูร้ บั ปฏบิ ตั เิ ช่นเดยี วกบั ไดร้ บั หนังสอื ในกรณีทจ่ี ําเป็น ตอ้ งยนื ยนั เป็นหนงั สอื ใหท้ าํ หนงั สอื ยนื ยนั ตามไปทนั ที การส่งขอ้ ความทางเคร่อื งมอื ส่อื สารซ่งึ ไม่มหี ลกั ฐานปรากฏชดั แจง้ เชน่ ทางโทรศพั ท์ วทิ ยสุ อ่ื สารวทิ ยกุ ระจายเสยี ง หรอื วทิ ยโุ ทรทศั น์ เป็นตน้ ใหผ้ สู้ ง่ และผรู้ บั บนั ทกึ ขอ้ ความไวเ้ ป็นหลกั ฐาน

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๓. หนังสือราชการลบั ชนั้ ความลบั ของหนังสือ (๑) ลบั ที่สดุ (T0P SECRET) (๒) ลบั มาก (SECRET) (๓) ลบั (CONFIDENTIAL) (๔) ปกปิ ด (RESTRICTED)

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ข้อ ๓๐ หนังสือท่ีจดั ทําขึ้นโดยปกติให้มีสําเนาคู่ฉบบั เก็บไว้ที่ ต้นเร่ือง ๑ ฉบบั และให้มีสาํ เนาเกบ็ ไว้ที่หน่วยงานสารบรรณกลาง ๑ ฉบบั สาํ เนาค่ฉู บบั ให้ผลู้ งชื่อลงลายมือช่ือหรือลายมือช่ือย่อ และให้ ผรู้ ่าง ผ้พู ิมพ์ และผตู้ รวจ ลงลายมือชื่อหรือลายมือชื่อย่อไว้ท่ีข้างท้าย ขอบล่างด้านขวาของหนังสือ ข้อ ๓๑ หนังสือที่เจ้าของหนังสือเห็นว่ามีส่วนราชการอ่ืนที่ เก่ียวข้องควรได้รบั ทราบด้วย โดยปกติให้ส่งสาํ เนาไปให้ทราบโดยทาํ เป็นหนังสือประทบั ตรา สาํ เนาหนังสือนี้ให้มีคาํ รบั รองว่าสาํ เนาถกู ต้อง โดยให้เจ้าหน้าท่ี ตงั้ แต่ระดบั ๒ หรือเทียบเท่าขึ้นไป ซึ่งเป็ นเจ้าของเรื่องลงลายมือชื่อ รบั รอง พร้อมทงั้ ลงช่ือตวั บรรจงและตาํ แหน่งท่ีขอบล่างของหนังสือ

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ข้อ ๓๒ หนังสือเวียน คือ หนังสือที่มีถึงผ้รู บั เป็นจาํ นวน มาก มีใจความอย่างเดียวกนั ให้เพ่ิมรหสั ตวั พยญั ชนะ ว หน้า เลขทะเบียนหนังสือส่งซ่ึงกําหนดเป็ นเลขที่หนังสือเวียน โดยเฉพาะ เร่ิมตัง้ แต่เลข ๑ เรียงเป็ นลาํ ดบั ไปจนถึงสิ้นปี ปฏิ ทิ น หรือใช้เลขท่ีของหนังสือ ทัว่ ไปตามแบบหนังสือ ภายนอกอย่างหน่ึงอย่างใด เม่ือผ้รู บั ได้รบั หนังสือเวียนแล้วเห็นว่าเรื่องนัน้ จะต้อง ให้หน่วยงานหรือบุคคลในบงั คบั บญั ชาในระดบั ต่าง ๆ ได้รบั ทราบด้วย กใ็ ห้มีหน้าที่จดั ทําสาํ เนาหรือจดั ส่งให้หน่วยงาน หรือบคุ คลเหล่านัน้ โดยเรว็

เร่อื งท่ี ๒ การเขียนหนงั สอื ราชการ การเขียนหนังสือราชการให้ได้ดี : ๑. เขียนให้ถกู ต้อง ๒. เขียนให้ชดั เจน ๓. เขียนให้รดั กมุ ๔. เขียนให้กระทดั รดั ๕. เขียนให้บรรลวุ ตั ถปุ ระสงคแ์ ละเป็นผลดี

การเขียนหนังสือราชการให้ได้ดี : ๑. เขียนให้ถกู ต้อง โดย - ถกู แบบ - ถกู เนื้อหา - ถกู หลกั ภาษา - ถกู หลกั นิยม - ถกู ใจผลู้ งนาม ๒. เขียนให้ชดั เจน โดย - ชดั เจนในเนื้อความ - ชดั เจนในจดุ ประสงค์ - กระจ่างในวรรคตอน ๓. เขียนให้รดั กมุ โดยเขียนให้มีความหมายแน่นอน ดิ้นไม่ได้ ไม่มี ช่องโหว่ให้โต้แย้ง ๔. เขียนให้กะทดั รดั โดยเขียนให้สนั้ ไม่ใช้ข้อความเยิ่นเย้อหรือใช้ ถ้อยคาํ ฟ่ มุ เฟื อย โดยไมจ่ าํ เป็น ๕. เขียนให้บรรลุวตั ถปุ ระสงคแ์ ละเป็ นผลดี โดยเขียนให้ผ้รู บั หนังสือ เข้าใจว่าผ้มู ีหนังสือไปต้องการอะไร จะให้ผ้รู บั หนังสือปฏิบตั ิอย่างไร และ โน้มน้าวจงู ใจให้ผรู้ บั หนังสือปฏิบตั ิตามนัน้ โดยเป็นผลดีคือไม่มีผลกระทบ ถึงความสมั พนั ธอ์ นั ดี หรือไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้รนุ แรง

๑. เขียนให้ถกู ต้อง :- ๑.๑ การเขียนให้ถกู แบบ การเขียนหนังสือราชการต้องเขียน ให้ถกู แบบตามระเบียนสาํ นักนายกรฐั มนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ ซ่ึง กาํ หนดไว้เป็นแบบ ๑.๒ เขียนให้ถกู เนื้อหา โดย (๑) ศึกษาเรื่อง (๒) จบั ประเดน็ ของเรอื่ ง (๓) ย่อเร่ือง ๑.๓ การเขียนให้ถกู หลกั ภาษา หลกั ภาษาไทยท่ีควรระวงั ในการเขียนหนังสือราชการคือ - รปู ประโยค - ความสมั พนั ธข์ องข้อความ

ตวั อย่างข้อความสบั สน ขอเชิญชวนให้ทุกท่านนําของขวญั ไปคนละชิ้นเพ่ือจบั สลากกนั ของท่ีจะนําไปนั้น ควรห่อให้เรียบร้อย และเขียนชื่อเจ้าของด้วย จะขอบคณุ มาก ขอเชิญชวนให้ทุกท่านนําของขวญั ไปคนละชิ้นเพื่อจบั สลากกนั ข อ ง ท่ี จ ะ นํ า ไ ป นั ้น โ ป ร ด ห่ อ ใ ห้ เ รี ย บ ร้ อ ย แ ล ะ เ ขี ย น ช่ื อ เ จ้ า ข อ ง ด้ ว ย จะขอบคณุ มาก

๑.๔ เขียนให้ถกู ความนิยม (๑) ใช้ภาษาราชการ ตวั อย่าง ๑ พร้อมกนั นี้ได้แจ้งให้จงั หวดั ทราบแล้วเหมือนกนั แก้เป็ น พรอ้ มกนั นี้ได้แจ้งให้จงั หวดั ทราบด้วยแล้ว

ตวั อย่าง ๒ คาํ อทุ ธรณ์ของผรู้ ้องไมม่ ีข้อเทจ็ จริงอะไรเพิ่มเติม แก้เป็ น คาํ อทุ ธรณ์ของผรู้ ้องไม่มีข้อเทจ็ จริงอนั ใดเพ่ิมเติม

ตวั อย่าง ๓ ประชาชนได้รบั ความเดือนร้อนแสนสาหสั แก้เป็ น ประชาชนได้รบั ความเดือนร้อนเป็นอย่างย่ิง

(๒) ไมใ่ ช้คาํ เช่ือมซา้ํ กนั ที่-ซึ่ง-อนั คาํ ๓ คาํ นี้มีความหมายอย่างเดียวกนั ใช้แทนกนั ได้ คนที่เป็ นพลเมืองของประเทศใดที่ทําการท่ีเป็ นการ บนั่ ทอนความมนั่ คงของประเทศนัน้ ควรได้รบั การประนามว่า เป็นผทู้ รยศต่อประเทศชาติ แก้เป็ น คนที่เป็ นพลเมืองของประเทศใดซึ่งทาํ การอนั เป็ นการ บนั่ ทอนความมนั่ คงของประเทศนัน้ ควรได้รบั การประนามว่า เป็นผทู้ รยศต่อประเทศชาติ

และ – กบั – รวมทงั้ – ตลอดจน คาํ ๔ คาํ นี้ ความหมายอย่างเดียวกนั ใช้แทนกนั ได้ ตวั อย่าง ๑ การจดั ระเบยี บพนักงานเทศบาลและการกาํ หนด ตาํ แหน่งและอตั ราเงินเดือนพนักงานเทศบาล ให้ตราเป็น พระราชกฤษฎีกา แก้เป็ น การจดั ระเบียบพนักงานเทศบาล รวมทงั้ การกาํ หนด ตําแหน่งและอตั ราเงินเดือนพนักงานเทศบาล ให้ตราเป็ น พระราชกฤษฎีกา

ตวั อย่าง ๒ จะถือว่าผ้ใู ดกระทาํ ผิดฐานทุจริตต่อหน้าท่ีราชการได้กต็ ่อเมื่อ ผ้นู ัน้ มีหน้าท่ีราชการ และได้กระทําการหรือละเว้นกระทําการตาม หน้าท่ีนัน้ โดยมิชอบ และจะต้องมีเจตนาท่ีจะให้ตนเองหรือผ้อู ื่นได้ ประโยชน์อนั มิควรได้ด้วย ควรเขียนว่า จะถือว่าผใู้ ดกระทาํ ผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการได้กต็ ่อเม่ือ ผ้นู ัน้ มีหน้าที่ราชการ และได้กระทาํ การหรือละเว้นกระทาํ การตาม หน้าท่ีนัน้ โดยมิชอบ กบั จะต้องมีเจตนาท่ีจะให้ตนเองหรือผ้อู ื่นได้ ประโยชน์อนั มิควรได้ด้วย

(๓) ถ้าใช้คาํ เช่ือมคาํ เดียวกนั เช่ือมคาํ หลายคาํ ใส่เพียงคาํ เช่ือมคาํ สดุ ท้าย ให้นาย ก. นาย ข. และนาย ค. มาอย่เู วรเฝ้ าสาํ นักงาน นาย ก. นาย ข. กบั นาย ค. ออกไปด้วยกนั นาย ก. นาย ข. หรือนาย ค. รา่ งหนังสือฉบบั นี้ (๔) ใช้กริยา “บญั ญตั ิ” สาํ หรบั พระราชบญั ญตั ิ ใช้กริยา “กาํ หนด” สาํ หรบั กฎ ระเบยี บ ตวั อย่าง กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรอื น บญั ญตั ิว่าให้ ดาํ เนินการสอบสวนตามหลกั เกณฑ์ และวิธีการที่กาํ หนดในกฎ ก.พ.

(๕) ใช้ “ฝ่าฝื น” สาํ หรบั ข้อห้าม ใช้ “ไม่ปฏิบตั ิตาม” สาํ หรบั ข้อปฏิบตั ิ เช่น มาตรา ๖๕ ข้าราชการพลเรอื นสามญั ต้องรกั ษาวินัยโดย เคร่งครดั อย่เู สมอ ผใู้ ดฝ่าฝื นหรือไม่ปฏิบตั ิตาม ถือว่าผนู้ ัน้ กระทาํ ผิด วินัย จกั ต้องได้รบั โทษตามท่ีบญั ญตั ิไว้ในหมวดนี้ (๖) คาํ ท่ีใช้แทนกนั ได้และแทนกนั ไมไ่ ด้ กบั (ติดกนั ,เท่ากนั ,ด้วยกนั ) แก่ (สาํ หรบั ) แด่ (สาํ หรบั ,ถวาย,อทุ ิศ,เพ่ือ) ต่อ (กระทาํ ต่อฝ่ายเดียว,ตาม) และ (ทงั้ หมด) หรอื (อย่างไหนกไ็ ด้) และหรือ (ทงั้ หมดกไ็ ด้ อย่างเดียวกไ็ ด้)

(๗) คาํ เบา - คาํ หนักแน่น จะ – จกั จะ (ธรรมดา - ใช้กรณีทวั่ ไป) จกั (หนักแน่น - ใช้ในคาํ ขู่ คาํ สงั่ คาํ กาํ ชบั ) ตวั อย่าง มาตรา ๔๗ การแต่งตงั้ ข้าราชการพลเรือนสามญั ให้ดาํ รง ตาํ แหน่งที่ ก.พ. ยงั มิได้กาํ หนดตามมาตรา ๓๒ จะกระทาํ มิได้ ขอได้โปรดนําเสนอ ก.พ. พิจารณาด้วย จะขอบคณุ มาก มาตรา ๖๕ ข้าราชการพลเรือนสามญั ต้องรกั ษาวินัยโดย เคร่งครดั อยู่เสมอ ผ้ใู ดฝ่ าฝื นหรือไม่ปฏิบตั ิตาม ถือว่าผ้นู ัน้ กระทาํ ผิด วินัย จกั ต้องได้รบั โทษ ตามที่บญั ญตั ิไว้ในหมวดนี้ จึงขอกาํ ชบั มาเพ่ือจกั ได้สงั วรระมดั ระวงั มิให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึน้ อีก

ควร - พึง - ย่อม - ต้อง - ให้ ควร (เป็นคาํ แนะนําทวั่ ไป มีผลบงั คบั ทางจิตใจ) พึง (เป็นการวางมาตรฐาน มีผลบงั คบั ทางสงั คม) ย่อม (เป็นคาํ บงั คบั เป็นทางการ แต่ไม่เดด็ ขาด ให้ใช้ดลุ พินิจได้) ให้ (เป็นคาํ บงั คบั เป็นทางการโดยเดด็ ขาด) ตัวอย่าง ข้าราชการเสพสรุ าในขณะปฏิบตั ิราชการควรลงโทษสถานหนัก ครพู ึงให้เกียรติครดู ้วยกนั ข้าราชการครเู ล่นการพนัน ย่อมถกู ลงโทษสถานหนัก ข้าราชการพลเรอื นผใู้ ดกระทาํ ผิดวินัยอย่างร้ายแรงใหล้ งโทษ ไล่ออก หรือให้ออก

(๘) คาํ บงั คบั - คาํ ขอรอ้ ง คาํ บงั คบั คาํ ขอร้อง ขอให้ส่ง โปรดส่ง ให้ไปติดต่อ โปรดไปติดต่อขอให้นําเสนอต่อไป โปรดนําเสนอต่อไป (๙) คาํ ทาํ ลาย - คาํ เสริมสรา้ ง คาํ ทาํ ลาย คาํ เสริมสรา้ ง ไม่ตงั้ ใจศึกษาจึงสอบตก ถ้าตงั้ ใจศึกษากค็ งจะสอบได้ โครงการท่ีท่านเสนอใช้ไม่ได้ โครงการท่ีท่านเสนอกน็ ับว่าดี แต่เกรงว่า จะยงั ทาํ ไมไ่ ด้ในขณะนี้ ท่านเข้าใจผิด ความเข้าใจของท่านยงั คลาดเคลื่อนอยู่

การเขียนหนงั สอื ราศชากสตารราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั โครงสรา้ งของหนังสือภายนอก ส่วนที่ ๑ หวั หนังสือ ส่วนท่ี ๒ เหตทุ ่ีมีหนังสือไป ส่วนที่ ๓ จดุ ประสงคท์ ่ีมีหนังสือไป ส่วนท่ี ๔ ท้ายหนังสือ

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๑๑.๑ ท่ี ให้ลงรหสั ตวั พยญั ชนะ และเลขประจาํ ของเจ้าของเรื่อง ตามที่กาํ หนดไว้ในภาคผนวก ๑ ทบั เลข ทะเบียนหนังสือส่ง สาํ หรบั หนังสือของคณะกรรมการ ให้ กาํ หนดรหสั ตวั พยญั ชนะเพิ่มขึน้ ได้ตามความจาํ เป็น

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั เลขที่หนังสือ ประกอบด้วย ๑. รหสั พยญั ชนะประจาํ กระทรวง เช่น สาํ นักนายกรฐั มนตรี นร ๒. เลขรหสั ประจาํ กรม ใช้เลขที่เรียงตามลาํ ดบั ส่วนราชการ ตามที่กฎหมายกาํ หนด ๓. เลขรหสั ประจาํ กอง/สาํ นัก ใช้เลขที่เรียงตามลาํ ดบั ส่วนราชการ ตามท่ีกฎหมายกาํ หนด ๔. เลขทะเบยี นหนังสือส่งออก ใช้เลขเรียงลาํ ดบั ตามจาํ นวน หนังสือส่งออก ในรอบ ๑ ปี ปฏิทิน

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั รหสั พยญั ชนะประจาํ กระทรวง ๑. สาํ นักนายกรฐั มนตรี นร ๑๑. กระทรวงพลงั งาน พน ๒. กระทรวงกลาโหม กห ๑๒. กระทรวงพาณิชย์ พณ ๓. กระทรวงการคลงั กค ๑๓. กระทรวงมหาดไทย มท ๔. กระทรวงการต่างประเทศ กต ๑๔. กระทรวงยตุ ิธรรม ยธ ๕. กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา กก ๑๕. กระทรวงแรงงาน รง ๖. กระทรวงการพฒั นาสงั คม พม ๑๖. กระทรวงวฒั นธรรม วธ ๗. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กษ ๑๗. กระทรวงวิทยาศาสตร์ วท ๘. กระทรวงคมนาคม คค ๑๘. กระทรวงศึกษาธิการ ศธ ๙. กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติ ทส ๑๙. กระทรวงสาธารณสขุ สธ และสิ่งแวดล้อม ๑๐. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ ทก ๒๐. กระทรวงอตุ สาหกรรม อก และการสื่อสาร

กระบ่ี กบ เชียงใหม่ ชม บรุ ีรมั ย์ บร กรงุ เพมหานคร กท กาญจนบรุ ี กจ ตรงั ตง ปทมุ ธานี ปท กาฬสินธ์ุ กส กาํ แพงเพชร กพ ตราด ตร ประจวบคีรีขนั ธ์ ปข ขอนแก่น ขก จนั ทบรุ ี จบ ตาก ตก ปราจีนบรุ ี ปจ ฉะเชิงเทรา ฉช ชลบรุ ี ชบ นครนายก นย ปัตตานี ปน ชยั นาท ชน ชยั ภมู ิ ชย นครปฐม นฐ พะเยา พย ชมุ พร ชพ เชียงราย ชร นครพนม นพ พระนครศรีอยธุ ยาอย นครราชสีมา นม พงั งา พง นครศรีธรรมราช นศ พทั ลงุ พท นครสวรรค์ นว พิจิตร พจ นนทบรุ ี นบ พิษณุโลก พล นราธิวาส นธ เพชรบรุ ี พช น่าน นน แพร่ พร

เลขท่ีหนังสือศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ประกอบด้วย นร ๐๐ ๐๐ นร รหสั ประจาํ กระทรวง ตวั เลขสองตวั แรก ๐๐ รหสั ประจาํ กรม ตวั เลขสองตวั หลงั ๐๐ รหสั ประจาํ สาํ นัก/กอง

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ตวั อย่าง ท่ี ศธ ๐๕๗๙.๐๑/๔๑๒๙ ท่ี ตช ๐๐๒๘.๓๕๑/๙ ที่ สธ ๑๐๑๐/๑๕๕๖ รหสั ประจาํ รหสั ประจาํ รหสั ประจาํ กระทรวง กรม สาํ นัก/กอง

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๑๑.๒ ส่วนราชการเจ้าของหนังสือ ให้ลงช่ือส่วน ราชการ สถานท่ีราชการหรือคณะกรรมการซึ่งเป็ นเจ้าของ หนังสือนัน้ และโดยปกติให้ลงท่ีตงั้ ไว้ด้วย ถ้าหัวกระดาษหรือท้ายกระดาษมีชื่อหน่ วยงานแล้ว ไม่ต้องพิมพซ์ า้ํ ไปอีก

ชนั้ ความเรว็ ชนั้ ความลบั ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ท่ี ตช ๐๐๒๘/๑๒๓๔ โรงเรยี นนายรอ้ ยตาํ รวจ สามพราน นครปฐม ๗๓๑๑๐ ๑๕ มนี าคม ๒๕๖๑ เรอ่ื ง เรยี น อา้ งถงึ (ถา้ ม)ี สงิ่ ทส่ี ง่ มาดว้ ย (ถา้ ม)ี (ขอ้ ความ)................................................................................................................. ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... .......................... ขอแสดงความนบั ถอื

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๑๑.๓ วนั เดือน ปี ให้ลงตวั เลขของวนั ท่ี ช่ือเตม็ ของ เดือน และตวั เลขของปี พทุ ธศกั ราชที่ออกหนังสือ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๑ ๑๑.๔ เร่ือง ให้ลงเรื่องย่อที่เป็ นใจความสนั้ ท่ีสุดของ หนังสือฉบบั นัน้ ในกรณีท่ีเป็ นหนังสือต่อเน่ืองโดยปกติให้ลง เร่ืองของหนังสือฉบบั เดิม

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั การเขียน “เร่ือง” ต้องเขียนให้บรรลจุ ดุ ม่งุ หมายอย่างน้อย ๒ ประการ คือ ๑. ให้พอร้ใู จความท่ีสนั้ ที่สดุ ของหนังสือ ๒. ให้สะดวกในการเกบ็ ค้นและอ้างอิง เกบ็ ค้นอ้างอิงได้ง่าย ผเู้ กบ็ อ่านช่ือเร่ืองกส็ ามารถแยกเกบ็ เข้าหมวดหมตู่ ามประเภทเรื่องได้ ผคู้ ้น พอบอกชื่อเร่ืองกส็ ามารถค้นหาได้ โดยไมย่ ่งุ ยาก ผอู้ ้างอิง สามาถบอกชื่อเรื่องให้ผอู้ ่ืนเข้าใจได้ โดยไม่สบั สนไขว้เขว

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั “เรื่อง” ท่ีเขียนดี มีลกั ษณะดงั นี้ ๑. ย่อสนั้ ที่สดุ ๒. เป็นประโยคหรือวลี ๓. พอร้คู วามหมายว่าเป็นเรื่องอะไร ๔. เกบ็ ค้น อ้างอิง ได้ง่าย ๕. แยกความแตกต่างจากเร่ืองอ่ืนได้

แบบฝึ กปฏิบตั ิท่ี ๒ ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั โปรดอ่านร่างหนังสือต่อไปนี้ สาํ นกั งาน ป.ป.ส. ท่ี ยธ ๑๑๐๔/๔๑๒๙๖ ๕ ถนนดนิ แดง เขตพญาไท กทม. ๑๐๔๐๐ ๓ สงิ หาคม ๒๕๖๑ เรอ่ื ง ............................................................................... เรยี น ศาสตราจารย์ พลตํารวจโทหญงิ ดร. นยั นา เกดิ วชิ ยั สง่ิ ทส่ี ง่ มาดว้ ย โครงการฝึกอบรม จาํ นวน ๑ ชดุ ดว้ ยสํานักงาน ป.ป.ส. จะเปิดการฝึกอบรมหลกั สูตร “คอมพวิ เตอรร์ ะบบสารบรรณอเี ลก็ ทรอนิกส”์ สาํ หรบั เจา้ หน้าทส่ี าํ นักงาน ป.ป.ส. ในวนั ท่ี ๑๖ สงิ หาคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๘.๓๐ น. ณ หอ้ งประชุม ๒ ชนั้ ๓ อาคาร ๒ สาํ นักงาน ป.ป.ส. ซง่ึ ท่านรบั จะเป็นผูบ้ รรยายเร่อื ง “เทคนิคการจดั การงานสารบรรณยคุ ใหม”่ ในวนั เดยี วกนั น้ี เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. จงึ ขอเชญิ มาเพอ่ื โปรดใหเ้ กยี รตไิ ปรว่ มในพธิ เี ปิดการฝึกอบรมตามหลกั สตู รน้ี และบรรยายเรอ่ื งดงั กล่าวตามกาํ หนดการขา้ งตน้ ดว้ ย ขอแสดงความนบั ถอื (..................................) เลขาธกิ าร ป.ป.ส. สถาบนั พฒั นาบุคคลากรดา้ นการป้องกนั และปรามปราบยาเสพตดิ โทรศพั ท/์ โทรสาร ๐-๒๒๔๕-๙๘๘๓

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั โปรดเลือกช่ือเร่ืองขอหนังสือนี้ ก. เปิ ดการฝึ กอบรม ข. ขอเชิญไปในการฝึ กอบรม ค. ขอเชิญไปเปิ ดการฝึ กอบรมและบรรยาย ง. ขอเชิญร่วมพิธีเปิ ดการฝึ กอบรมและบรรยาย

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ๑๑.๕ คําขึ้นต้น ให้ใช้คําขึ้นต้นตามฐานะของผู้รบั หนังสือ ตามตารางการใช้คาํ ขึน้ ต้น สรรพนามและคาํ ลงท้าย ที่กาํ หนดไว้ในภาคผนวก ๒ แล้วลงตาํ แหน่งของผ้ทู ี่หนังสือ นัน้ มีถึง หรือช่ือบุคคลในกรณีท่ีมีถึงตัวบุคคลไม่เก่ียวกับ ตาํ แหน่งหน้าท่ี

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั ผรู้ บั หนังสือ คาํ ขึน้ ต้น คาํ ลงท้าย ๑. สมเดจ็ พระสงั ฆราชเจา้ ขอประทานกราบทูล ควรมิควรแล้วแต่จะ (ออกพระนาม) โปรดเกล้าโปรดกระหมอ่ ม ๒. สมเดจ็ พระสงั ฆราช กราบทูล ควรมิควรแล้วแต่จะโปรดเกล้า ๓. สมเดจ็ พระราชาคณะ นมสั การ.......... ขอนมสั การด้วยความเคารพอย่างย่ิง รองสมเดจ็ พระราชาคณะ ๔. พระราชาคณะ นมสั การ............ ขอนมสั การด้วยความเคารพอย่างสงู ๕. พระภิกษุทวั่ ไป นมสั การ............... ขอนมสั การด้วยความเคารพ

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั การใช้คาํ ขึน้ ต้น คาํ ขึน้ ให้ใช้คาํ ขึน้ ต้นตามฐานะผรู้ บั หนังสือตามที่ภาคผนวก ๒ ท้าย ระเบยี บสาํ นักนายกรฐั มนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖ กาํ หนด แล้วลงตาํ แหน่งของผทู้ ี่หนังสือนัน้ มีถึง หรอื ชื่อบคุ คล เช่น กราบเรียน นายกรฐั มนตรี ไม่มีคาํ ว่า ฯพณฯ ท่าน หน้าตาํ แหน่ง กราบเรียน ฯพณฯ นายกรฐั มนตรี ×เรียน รองนายกรฐั มนตรี เรียน ท่านรองนายกรฐั มนตรี เรียน นายภาคภมู ิ ภมู ิใจตน

ศาสตราจารย์ พลตาํ รวจโทหญิง ดร. นัยนา เกิดวิชยั