Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 1

หน่วยที่ 1

Published by สมศักดิ์ พิทักษ์, 2021-11-04 04:17:20

Description: หน่วยที่ 1

Search

Read the Text Version

1.1.1 ไฟฟ้าทาอนั ตรายแก่ร่างกายไดอ้ ย่างไร ผูท้ ี่ไดร้ บั อนั ตรายจากไฟฟ้าเน่ืองจากส่วนหน่ึงส่วนใดของร่างกายบงั เอิญไปสมั ผัสส่วนของ วงจร ที่มีกระแสไฟฟา้ ร่วั (Leakage Current) ในขณะที่รา่ งกายอื่นสมั ผสั อย่กู บั พืน้ ดินท่ีชืน้ กระแสไฟฟ้า (Current) จะสามารถไหลผา่ นรา่ งกายลงสดู่ ินครบวงจร ไฟฟ้าทาอนั ตรายแกร่ ่างกายไดเ้ มื่อกระแสไฟฟ้าร่ัวไหลผา่ นร่างกายลงดิน

ดงั นนั้ ไฟฟา้ จะทาอนั ตรายตอ่ รา่ งกายและชีวิตของมนษุ ยไ์ ดเ้ มื่อเกิดเหตกุ ารณ์ ดงั นี้ 1. เกดิ จากกระแสไฟฟ้าใช้ร่างกายเป็ นทางเดินผ่านลงดนิ เนื่องจากระบบจาหน่ายไฟฟ้า ทงั้ ดา้ นแรงดนั ไฟฟ้าสูงและแรงดนั ไฟฟ้าต่า มีการต่อวงจรส่วนหน่ึงลงดินไว้ ไฟฟ้าจึงพยายามจะไหล ลงดนิ เพ่ือใหค้ รบวงจรกบั ดิน (Ground) 2. เกิดจากการทร่ี ่างกายต่อเป็ นส่วนหนึ่งของวงจรไฟฟ้าโดยไม่ผ่านลงดิน เช่น บคุ คลผู้ หนึ่งยืนอย่บู นพืน้ ที่เป็นฉนวนอย่างดี แลว้ ใชม้ ือทง้ั สองขา้ งจับปลายสาย 2 ขา้ งของสายเสน้ เดียวกนั ซ่ึง บงั เอิญขาดหรือใชม้ ือจบั สายเสน้ มีไฟ 2 เสน้ พรอ้ มกนั ทาใหก้ ระแสไฟฟ้าผ่านอวยั วะของร่างกายออกไป ครบวงจร 3. เกิดจากความร้อนและแสงสว่างที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร ซึง่ อาจเกิดอนั ตราย แกด่ วงตา เนื่องจากแสงสวา่ งทมี่ ีความเขม้ มากหรอื เศษโลหะทีห่ ลอมละลายมีความรอ้ นสงู กระเด็นเขา้ ตา ทาใหต้ าบอดไดแ้ ละเกิดบาดแผลไหมแ้ กร่ า่ งกายสว่ นที่เขา้ ไปใกล้ หรอื สมั ผสั กบั จดุ ท่ีกระแสไฟฟ้าลดั วงจร (Short–Circuit Current)

1.1.2 องคป์ ระกอบทก่ี อ่ ใหเ้ กิดความรุนแรงของอุบตั ภิ ยั จากไฟฟ้า อนั ตรายจากกระแสไฟฟ้ามีผลให้ผูป้ ระสบอุบัติภัยเกิดอันตรายแตกต่างกัน อาจบาดเจ็บ เล็กนอ้ ย บาดเจ็บสาหสั หรือถึงแก่ความตายได้ มีองคป์ ระกอบที่เป็นตวั กาหนดความรุนแรงของอบุ ตั ิภยั ดงั นี้ 1. ปริมาณของกระแสไฟฟ้าท่ีไหลผ่านร่างกาย เป็นองคป์ ระกอบท่ีมีความสาคัญมาก ถา้ กระแสไฟฟา้ ไหลผ่านรา่ งกายในปรมิ าณมาก ความรุนแรงของอบุ ตั ิภยั จะมากตามขนึ้ ไปดว้ ย ตารางท่ี 1.1 ปรมิ าณกระแสไฟฟา้ และอาการทเ่ี กิดขนึ้ แกร่ า่ งกาย

2. ระยะเวลาทก่ี ระแสไฟฟ้าผ่านร่างกายทตี่ อ่ เป็ นสว่ นหนึ่งของวงจรไฟฟ้า เน่ืองจากผทู้ ี่ ถกู ไฟฟา้ ดดู สว่ นมากไมส่ ามารถควบคมุ ตวั เองใหห้ ลดุ พน้ จากไฟฟ้า จึงถกู กระแสไฟฟ้าไหลผ่านรา่ งกาย เป็นเวลานาน ระยะเวลาที่กล่าวนีน้ ับแต่เริ่มมีอาการระบบการหายใจและการทางานของหัวใจจ ะ หยดุ ชะงกั ตารางท่ี 1.2 ระยะเวลาท่ีกระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นรา่ งกายทีท่ าใหเ้ สียชีวิตได้

3. ความต้านทานของร่างกายต่อไฟฟ้า ผิวหนงั เป็นตวั ควบคมุ ปรมิ าณของกระแสไฟฟ้าให้ ไหลผ่านเขา้ ไดม้ ากหรอื นอ้ ยได้ ถา้ ผิวหนงั มีสภาพแหง้ สนทิ จะมีความตา้ นทานรา่ งกาย (Body Resistance) ตอ่ ไฟฟ้าสูงมาก แต่ถา้ ผิวหนงั เปียกหรอื ชืน้ ความตา้ นทานจะลดต่าลงเหลือเพียงประมาณร้อยละ 1 ของ ผิวหนงั แหง้ 4. แรงดนั ไฟฟ้า มีสว่ นช่วยใหเ้ กิดอนั ตรายเป็นอย่างมากเช่นกนั แรงดนั ไฟฟ้า (Voltage) ท่ีคน ประสบอุบัติภัยส่วนใหญ่อยู่ในประมาณ 110–400 โวลต์ เพราะเป็ นแรงดันไฟฟ้าท่ีใช้งานท่ัวไป แรงดนั ไฟฟ้าตง้ั แต่ 240 โวลตข์ นึ้ ไป สามารถทาใหผ้ ิวหนงั ท่สี มั ผสั ทะลฉุ ีกขาด 5. เสน้ ทางทกี่ ระแสไฟฟ้าไหลผ่านอวยั วะภายในร่างกาย ถา้ เสน้ ทางของกระแสไฟฟ้าผ่าน สมอง หวั ใจ และปอดจะเป็นอนั ตรายมาก ดงั นน้ั ถา้ กระแสไฟฟ้าไหลผ่านเขา้ ทางศีรษะออกทางฝ่าเทา้ ทงั้ สองขา้ งแลว้ จะมอี นั ตรายมากท่สี ดุ

1.2.1 การตอ่ ลงดิน (Ground) เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าสว่ นใหญ่จะมีโครงสรา้ งภายนอกเป็นโลหะ เช่น เครอ่ื งซกั ผา้ และตู้เย็น เป็นตน้ เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าเหลา่ นเี้ มื่อเกิดชารุด เช่น ฉนวนเส่อื มสภาพหรอื มกี ารแตกหกั ของฉนวน ทาใหส้ ายไฟฟ้าไป สมั ผสั กบั โครงโลหะของเครอ่ื งไฟฟา้ นนั้ ๆ กระแสไฟฟา้ ก็สามารถร่วั ไหลมายงั โครงนนั้ ได้ วิธีการป้องกันอุบัติภัยดังกล่าว คือ การต่อสายดินเข้ากับระบบสายดิน เพื่ อเป็นทางให้ กระแสไฟฟา้ ทอ่ี าจจะร่วั ไหลออกมาจากเครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าเหลา่ นน้ั ลงดนิ แทนทจี่ ะไหลผ่านตวั ผไู้ ปสมั ผสั 1.2.2 การใชฉ้ นวนป้องกันการสัมผัส (Insulation) ฉนวนหมุ้ สายไฟฟ้าหรือหมุ้ สายของเครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าตา่ ง ๆ นน้ั เป็นส่ิงที่ชารุดฉีกขาดได้ จึงใช้ วสั ดทุ เี่ ป็นฉนวนไฟฟ้ามาหอ่ หมุ้ ปอ้ งกนั การสมั ผสั ได้ เช่น การใชเ้ ทปพนั สายไฟฟ้า ซึ่งมีความเป็นฉนวนสงู ใชง้ านงา่ ยและใชไ้ ดน้ าน 1.2.3 การใช้เคร่ืองตดั ไฟร่ัว (Residual Current Device: RCD) การใชเ้ ครอื่ งตดั ไฟร่วั คือ การใชอ้ ปุ กรณห์ รือเครื่องมือท่ีช่วยเพิ่มความปลอดภัยภายในบา้ น ซง่ึ วงจรไฟฟ้าปกตทิ ่วั ไปทาไมไ่ ด้ หนา้ ทข่ี องอปุ กรณเ์ หลา่ นคี้ ือช่วยตรวจสอบการร่วั ไหลของกระแสไฟฟ้า

เครอื่ งตดั ไฟร่วั ครอบคลมุ ถงึ ระบบและอปุ กรณค์ ือ เครอื่ งตดั ไฟร่วั ลงดนิ อตั โนมตั ิ เซอรก์ ิตเบรก– เกอรป์ อ้ งกนั กระแสไฟฟา้ ร่วั และชดุ ควบคมุ วงจรไฟฟ้าแบบมีเครอ่ื งตดั ไฟร่วั ลงดนิ อตั โนมัติ เคร่อื งตดั ไฟร่วั ทาหนา้ ที่ตดั วงจรไฟฟ้า เม่ือเกิดไฟฟ้าร่วั ไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าลดั วงจร หรือใชไ้ ฟฟ้า เกินขนาด มหี ลกั การทางานเบือ้ งตน้ คือ ใชต้ รวจจบั ความไมส่ มดลุ ระหว่างกระแสไฟฟ้าเขา้ และออก เมื่อมี กระแสไฟฟ้าร่วั อปุ กรณต์ รวจจบั ความผิดปกติ คือ หมอ้ แปลงกระแส (Current Transformer: CT) จะเกิด กระแสเหนี่ยวนาไปส่งั การทางานของอปุ กรณค์ วบคมุ การตดั วงจร วงจรการทางานของเคร่ืองตดั ไฟร่ัวลงดนิ อตั โนมัติ

ตวั อยา่ งเคร่ืองตดั ไฟร่ัวลงดนิ อตั โนมัติ

1.3.1 การปฏิบตั เิ พอ่ื ใหเ้ กิดความปลอดภยั ขณะปฏิบตั งิ านตดิ ตั้งไฟฟ้า 1. ชา่ งผตู้ ดิ ตง้ั ระบบไฟฟา้ ตอ้ งเป็นผมู้ คี วามรู้ ประสบการณ์ และความชานาญเท่านน้ั และคา ถงึ ถงึ ความปลอดภยั เป็นอนั ดบั แรกเสมอ 2. การปฏิบัติงานเกี่ยวกบั การติดตง้ั ไฟฟ้าตอ้ งร่วมกันอย่างนอ้ ย 2 คน เพื่อจะไดช้ ่วยเหลือ กนั ได้ เมอ่ื เกิดอบุ ตั ภิ ยั 3. การเดินสายไฟฟ้าและติดตง้ั อุปกรณไ์ ฟฟ้า ตอ้ งเป็นไปตามมาตรฐานการติดตง้ั ไฟฟ้าแห่ง ประเทศไทย (วสท.) หรอื มาตรฐานอ่นื ที่การไฟฟา้ ฯ ยอมรบั 4. ถา้ ผูป้ ฏิบตั ิงานเก่ียวกับไฟฟ้าหยุดพกั เม่ือกลบั มาปฏิบัติงานต่อ ตอ้ งตรวจสอบคตั เอาต์ หรอื เซอรก์ ิตเบรกเกอรก์ ่อนที่จะปฏิบตั ิงานตอ่ ไป

หลงั หยุดพกั ตอ้ งตรวจสอบคัตเอาตก์ ่อนทจี่ ะปฏิบตั ิตอ่ ไป 5. ก่อนทางานกบั เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้า ตอ้ งแนใ่ จวา่ เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ เหลา่ นนั้ ไมม่ ีไฟ 6. ผปู้ ฏิบตั ิงานติดตง้ั ไฟฟ้าตอ้ งใชอ้ ปุ กรณป์ อ้ งกนั อนั ตรายทกุ ครงั้ เช่น ถงุ มือยาง หมวกนิรภยั รองเทา้ นริ ภยั และปา้ ยเตอื นภยั ตา่ ง ๆ เป็นตน้ 7. ผปู้ ฏิบตั งิ านติดตงั้ ไฟฟา้ ในเขตทีก่ าลงั กอ่ สรา้ ง ควรสวมหมวกนริ ภยั

8. ผปู้ ฏิบตั ิงานติดตงั้ ไฟฟ้าควรยืนบนพืน้ ท่ีฉนวน เช่น พืน้ ไมแ้ หง้ และแผ่นยาง เป็นตน้ และไม่ ยืนดว้ ยเทา้ เปลา่ บนพืน้ ปนู หรอื พืน้ ที่เปียกแฉะ 9. ผปู้ ฏิบตั งิ านติดตง้ั ไฟฟ้าตอ้ งใชเ้ ครอื่ งมือและบารุงรกั ษาใหถ้ กู ตอ้ งตามเครอื่ งมือนน้ั ๆ เช่น ไมน่ าคีมมาใชเ้ ป็นคอ้ น เป็นตน้ 10. การทดสอบสายเสน้ มีไฟหรอื ไมม่ ไี ฟ หรอื ตรวจสอบกระแสร่วั ใหใ้ ชเ้ ครอื่ งมือ เชน่ ไขควง– วดั ไฟ เป็นตน้ หา้ มใชม้ ือแตะ 11. ถา้ จาเป็นตอ้ งปฏิบตั ิงานในบรเิ วณทไ่ี มส่ ามารถตดั ไฟออกได้ จะตอ้ งกน้ั เขตใหช้ ดั เจนเพื่อ ปอ้ งกนั บคุ คลที่ไมเ่ ก่ียวขอ้ งเขา้ ใกลแ้ ละมชี อ่ งทางหนไี ฟได้

1.3.2 การปฏบิ ตั ิเพอื่ ใหเ้ กิดความปลอดภยั ในชีวิตและทรัพยส์ นิ 1. เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ที่มีเปลือกหอ่ หมุ้ ภายนอกทาดว้ ยโลหะทกุ ชนิด ตอ้ งใชก้ บั เตา้ เสียบชนิดมีขว้ั สายดินกบั เตา้ รบั ชนิดมีขว้ั สายดนิ ทเี่ ป็นมาตรฐานเดียวกนั ในระบบสายดิน 2. อปุ กรณไ์ ฟฟ้าท่ีจะนาไปติดตง้ั ใชง้ าน เช่น สายไฟฟ้า สวิตชต์ ดั ตอน คาร์ทริดจฟ์ ิ วส์ หลอด ฟลอู อเรสเซนต์ บลั ลาสต์ เป็นตน้ เลอื กใชแ้ ตช่ นดิ ท่มี คี ณุ ภาพดี และมเี ครอ่ื งหมายมาตรฐาน อุปกรณไ์ ฟฟ้าทจ่ี ะนาไปติดต้งั ใช้งาน ตอ้ งมีเครื่องหมายมาตรฐานผลติ ภณั ฑอ์ ุตสาหกรรม

3. อปุ กรณไ์ ฟฟา้ ทตี่ ากแดดตากฝนอยเู่ สมอ เชน่ สวิตชก์ ระด่งิ ไฟฟา้ ตอ้ งใชแ้ บบกนั นา้ 4. อยา่ เดินสายไฟฟา้ ทตี่ อ้ งใชแ้ บบช่วั คราว เพราะอาจทาใหเ้ กิดอนั ตรายได้ 5. อย่าเดินสายไฟฟ้าติดรว้ั สงั กะสีหรือโครงเหล็กโดยไม่ใชว้ ิธีรอ้ ยสายในท่อ หรือใชส้ ายที่มี ฉนวนหมุ้ 2 ชน้ั 6. เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ทกุ ชนิด ถา้ มีกระแสร่วั ไหลตอ้ งซอ่ มทนั ที เคร่ืองใช้ไฟฟ้ามีกระแสร่ัว ตอ้ งรีบซ่อมทนั ที อยา่ ซอ่ มเครื่องใช้ไฟฟ้าเองโดยไม่มีความรู้

7. อยา่ ซอ่ มเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ เองโดยไมม่ ีความรูค้ วามชานาญเพราะทาใหเ้ กิดอนั ตรายถงึ แก่ชีวิตได้ 8. ทกุ ครงั้ ที่เลิกใชเ้ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ใหป้ ิดสวิตชเ์ ครื่องใชไ้ ฟฟ้าก่อนและดงึ เตา้ เสียบออกจากเตา้ รบั ทกุ ครง้ั เพ่ือไมใ่ หเ้ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ชารุดงา่ ยและยืดอายกุ ารใชง้ าน 9. หม่นั ตรวจสอบอปุ กรณต์ ิดตง้ั ทางไฟฟ้าเป็นประจาอยา่ งนอ้ ยปีละ 1 ครง้ั 10. เครื่องใชไ้ ฟฟ้าที่เปิดปิดดว้ ยรีโมทคอลโทรล เมื่อปิดเคร่ืองจะมีไฟเลีย้ งวงจรควบคุมตลอด เวลา ดงั นน้ั เม่ือเลิกใชจ้ ะตอ้ งดงึ เตา้ เสยี บออกจากเตา้ รบั ทกุ ครงั้ เพื่อปลดไฟออก 11. อยา่ ใชส้ ายไฟเสียบเตา้ รบั โดยไมม่ ีเตา้ เสียบ จะเกิดอนั ตราย ตอ้ งซอ่ มแกไ้ ขใหเ้ รียบรอ้ ยก่อน นามาใชง้ าน อย่าใช้สายไฟเสียบแทนเตา้ เสียบ อย่าดึงเตา้ เสยี บทสี่ ายไฟฟ้า ควรจบั ทตี่ ัวเต้าเสียบ

12. อยา่ ดงึ เตา้ เสียบของเครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าทกุ ชนิดขณะท่ีเคร่อื งยงั ทางานและดงึ ใหถ้ กู วิธี โดยปิด สวิตชท์ เ่ี ครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ก่อนดงึ เตา้ เสยี บเสมอ 13. อยา่ ติดตง้ั เตา้ รบั ต่าเกินไป และอยา่ ปลอ่ ยใหเ้ ดก็ เลน่ กบั อปุ กรณใ์ ชไ้ ฟฟ้า อย่าปล่อยใหเ้ ดก็ เล่นกบั อุปกรณใ์ ช้ไฟฟ้า อยา่ ใหข้ องหนักทบั สายไฟฟ้า

14. อย่าปล่อยใหส้ ายไฟของเครื่องใชไ้ ฟฟ้าลอดใตเ้ สื่อหรือพรม หรือปล่อยใหข้ องหนกั ทบั สายไฟ เพราะอาจทาใหฉ้ นวนแตกชารุด 15. อยา่ เปิดเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ขณะตวั เปียกหรอื อยใู่ นทช่ี ืน้ แฉะ อยา่ เปิ ดเครื่องใชไ้ ฟฟ้าขณะตวั เปี ยกชืน้ อยา่ นาเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าทเ่ี ปี ยกนา้ ไปใชง้ าน

16. อยา่ นาเครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าทเ่ี ปียกนา้ ไปใชง้ านเพราะจะเกิดอนั ตรายจากกระแสไฟฟ้าร่วั ได้ 17. อยา่ ทางานเก่ียวกบั ไฟฟา้ ในขณะทต่ี วั เปียกหรอื ยนื บนพืน้ เปียกแฉะ อยา่ ทางานเกี่ยวกบั ไฟฟ้าในขณะที่ อยา่ ใช้สายไฟฟ้าเป็ นจุดยึดทาราวตากผ้า ตวั เปี ยก หรือยนื บนพนื้ เปี ยกแฉะ

18. อยา่ ใชส้ ายไฟฟา้ เป็นจดุ ยดึ ทาราวตากผา้ 19. อยา่ ใชเ้ ตา้ รบั หรอื เตา้ เสยี บทชี่ ารุดเสียหาย หากฝืนใชจ้ ะเกิดอนั ตราย อย่าใชเ้ ต้ารับหรือเต้าเสยี บทชี่ ารุดเสยี หาย อยา่ ใชเ้ คร่ืองใช้ไฟฟ้าทกุ กรณี ทต่ี วั ผู้ใช้สมั ผัสอยกู่ ับน้า

20. อยา่ ใชเ้ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าทกุ กรณีที่ตวั ผใู้ ชส้ มั ผสั อย่กู บั นา้ หากมีความจาเป็นใหย้ า้ ยขนึ้ ไปใช้ บนทส่ี งู พน้ นา้ 21. เตา้ รบั ท่มี ีนา้ ทว่ ม หา้ มใชง้ านโดยเดด็ ขาดเพราะจะทาใหไ้ ฟดดู เต้ารับทม่ี ีนา้ ทว่ ม หา้ มใช้งานโดยเดด็ ขาด หากพบผู้ถกู กระแสไฟฟ้าดูด ใหช้ ่วยเหลอื และรีบนาส่งโรงพยาบาล

22. หากพบผถู้ กู กระแสไฟฟ้าดดู อยา่ สมั ผสั ใหช้ ่วยเหลอื โดยใชไ้ มแ้ หง้ เขยี่ สายไฟฟ้าออกก่อน หรอื ปลดสวิตชแ์ ละทาการปฐมพยาบาลเบือ้ งตน้ กอ่ นนาสง่ โรงพยาบาล 23. เมื่อมีการเปลี่ยนฟิ วส์ อย่าใช้ฟิ วส์ใหญ่เกินกาลังไฟฟ้าของสายไฟฟ้าแล ะอย่าใช้ ลวดทองแดงแทนฟิ วส์ 24. อยา่ จบั ปลาดว้ ยไฟฟ้า เพราะผิดกฎหมายและมีอนั ตรายถงึ ชีวิต อย่าจบั ปลาด้วยไฟฟ้า อยา่ ยิงนกทเี่ กาะอยู่บนสายไฟฟ้า หรือลกู ถ้วยแรงสงู

25. อย่ายิงนกท่ีเกาะอย่บู นสายไฟฟ้าหรอื ลูกถว้ ยแรงสูง เพราะอาจทาใหส้ ายไฟฟ้าหรือลกู ถว้ ยแรงสงู เสียหายและกอ่ ใหเ้ กิดอนั ตรายกบั ตนเองและผอู้ ืน่ 26. หากพบสายไฟฟ้าขาดหรือเสาลม้ อย่าจับตอ้ งใหร้ ีบแจง้ การไฟฟ้าในทอ้ งถิ่นของท่าน เพ่ือทาการแกไ้ ข 27. อย่าตัดตน้ ไมก้ ่ิงไม้ที่อยู่ใกล้สายไฟฟ้าแรงสูงดว้ ยตนเอง ควรแจ้งใหก้ ารไฟฟ้ามาตัด เพ่ือความปลอดภยั อย่าตัดต้นไม้ กง่ิ ไม้ทอ่ี ย่ใู กล้สายไฟฟ้าแรงสงู

28. เมื่อทางานก่อสรา้ งใกลส้ ายไฟฟ้าแรงสงู ใหร้ ะมดั ระวงั เพ่ือความปลอดภยั และใหต้ ิดต่อ การไฟฟ้าในทอ้ งถ่ินทป่ี ฏิบตั งิ าน ทางานก่อสร้างใกล้สายไฟฟ้าแรงสูง ใหร้ ะมัดระวัง

1.4.1 วธิ ีช่วยเหลือผู้ถกู กระแสไฟฟ้าดูด อย่าใชอ้ วัยวะร่างกายของท่านแตะตอ้ งร่างกายหรือเสือ้ ผ้าที่เปียกชืน้ ของผู้ถูกไฟดูดเป็น อนั ขาด มิฉะนนั้ ท่านจะถูกไฟดดู ไปดว้ ย การช่วยเหลือใหพ้ น้ จากกระแสไฟฟ้า ใหเ้ ลือกใช้วิธีใดวิธีหน่ึง ดงั นี้ 1. ตดั กระแสไฟฟา้ โดยปลดสวิตชห์ รอื คตั เอาต์ หรอื เตา้ เสียบออก 2. หากตดั กระแสไฟฟ้าไม่ได้ ใหใ้ ชไ้ มแ้ หง้ หรือวัสดเุ ป็นฉนวนไฟฟ้า เข่ียสิ่งท่ีมีกระแสไฟฟ้า ออกไปใหพ้ น้ 3. ให้ใช้ผ้าหรือเชือกแหง้ คล้องแขน ขา หรือลาตัวผูถ้ ูกไฟดูดชักลากออกไปให้พ้นสิ่งที่มี กระแสไฟฟา้ หากผถู้ กู ไฟดดู สลบหมดสตใิ หท้ าการปฐมพยาบาลใหฟ้ ื้น 4. รบี นาสง่ โรงพยาบาลทนั ทีและปฐมพยาบาลตอ่ เนือ่ งจนถงึ มือแพทย์

1.4.2 การช่วยเหลอื ดว้ ยวิธีการปฐมพยาบาล การช่วยเหลือดว้ ยวิธีการปฐมพยาบาลดว้ ยการนวดหวั ใจและผายปอด มวี ิธีการดงั นี้ 1. ตรวจการหายใจและตรวจชีพจร โดยใชห้ ฟู ังและใชน้ วิ้ จบั ชีพจร ตรวจการหายใจและตรวจชีพจร

2. เปิดทางลมหายใจ ใชห้ วั แม่มืองา้ งปลายคางผูป้ ่ วยใหป้ ากอา้ ออก หากมีเศษอาหารหรือ วสั ดุใด ๆ ใหล้ ว้ งออกใหห้ มด แลว้ จบั ศีรษะใหเ้ งยหนา้ มาก ๆ และเป่ าลมเขา้ ไปอย่างแรงจนปอดผูป้ ่ วย ขยายออก (ซี่โครงและหนา้ อกพองขนึ้ ) และปลอ่ ยใหล้ มหายใจของผปู้ ่วยออกเอง แลว้ เป่ าอีกทาเช่นนีเ้ ป็น จงั หวะ ๆ (ผใู้ หญ่นาทีละ 12–15 ครงั้ เด็กเล็กนาทีละ 20–30 ครงั้ ) เปิ ดทางลมหายใจและเป่ าปาก

3. นวดหวั ใจ โดยเอามือกดตรงที่ตง้ั หวั ใจใหย้ บุ ลงไป 3–4 เซนติเมตร เป็นจงั หวะ ๆ เท่ากับ จงั หวะการเตน้ ของหวั ใจ (ผใู้ หญ่วินาทีละ 1 ครงั้ เด็กเล็กวินาทีละ 2 ครงั้ ) นวด 10–15 ครงั้ เอาหแู นบฟัง ครง้ั หนงึ่ นวดหวั ใจ

4. ทาการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องจนถึงมือแพทย์ ถา้ ผูป้ ่ วยหวั ใจหยดุ เตน้ และไม่หายใจดว้ ย ใหน้ วดหวั ใจสลบั กบั การเป่าปาก ถา้ มีผชู้ ่วยเหลือเพียงคนเดยี วก็ใหเ้ ป่าปาก 2 ครง้ั สลบั กบั การนวดหวั ใจ 15 ครงั้ หรอื ถา้ มีผชู้ ว่ ยเหลอื 2 คนก็ใหน้ วดหวั ใจสลบั กบั การเป่าปากเป็นทานองเดยี วกนั นวดหวั ใจ

ระบบการจา่ ยกาลงั ไฟฟ้าทใี่ ชท้ ่วั ไปตามบา้ นพกั อาศยั โรงงาน และสถานประกอบกิจการตา่ ง ๆ เป็นระบบไฟฟ้าที่ผ่านกระบวนการปรบั ลดแรงดนั ไฟฟ้ามาจากเครื่องกาเนิดไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต มาสสู่ ถานีจาหนา่ ยไฟฟา้ ยอ่ ยของการไฟฟ้าสว่ นภมู ิภาค ตามลาดบั ระบบการจ่ายกาลงั ไฟฟ้าแรงดนั ต่า (Low Voltage System) หมายถึง ระบบไฟฟ้าที่มีแรงดนั ไฟฟ้า ระหว่างเฟส (Phase) ไม่เกิน 1,000 โวลต์ โดยท่วั ไปมี 2 ระบบ คือ ระบบไฟฟ้า 1 เฟส และระบบ ไฟฟา้ 3 เฟส

ระบบการจา่ ยกาลงั ไฟฟ้า

1.5.1 ระบบไฟฟ้า 1 เฟส ระบบไฟฟ้าท่ีใชใ้ นบา้ นพกั อาศยั ท่วั ไปมีสายไฟฟ้า 2 สายคือ สายเสน้ ไฟ (Line Conductor: L) และสายนิวทรลั (Neutral : N) หรอื สายศนู ย์ ซงึ่ สายเสน้ ไฟเป็นเสน้ ที่มีอนั ตราย ไมส่ ามารถแตะหรือสมั ผสั ได้ ระบบไฟฟ้า 1 เฟส มี 2 ระบบ คอื ระบบไฟฟา้ 1 เฟส 2 สาย และระบบไฟฟา้ 1 เฟส 3 สาย 1. ระบบไฟฟ้า 1 เฟส 2 สาย ต่อจากหมอ้ แปลงไปยงั ผูใ้ ชไ้ ฟหรือไปยงั ถนนสายต่าง ๆ ส่วน ใหญ่ใชใ้ นทอ้ งถิ่นที่มีบา้ นอยหู่ า่ งไกลกนั และใชป้ รมิ าณไฟฟ้านอ้ ย มแี รงดนั ไฟฟ้าระหว่างสายกบั สายนิวทรลั (Line–to–Neutral Voltage) 230 โวลต์ 2. ระบบไฟฟ้า 1 เฟส 3 สาย ตอ่ จากหมอ้ แปลงไปยงั ผใู้ ชไ้ ฟหรอื ถนนสายตา่ ง ๆ มใี ชใ้ นทอ้ งถ่ิน ที่มีผูใ้ ชไ้ ฟมากขึน้ และใชก้ ับหมอ้ แปลงขนาดใหญ่ขึน้ แรงดนั ไฟฟ้าระหว่างสายกบั สายนิวทรลั 230 โวลต์ (สายเสน้ ไฟนเี้ รยี กอีกอยา่ งหนง่ึ วา่ สายเฟส)

ระบบไฟฟ้า 1 เฟส 2 สาย

(ต่อ) ระบบไฟฟ้า 1 เฟส 2 สาย

ระบบไฟฟ้า 1 เฟส 3 สาย มีสายเส้นไฟ 2 สายและสายนิวทรัล 1 สาย

1.5.2 ระบบไฟฟ้า 3 เฟส ระบบไฟฟ้า 3 เฟส ท่ีนิยมใชใ้ นโรงงานอตุ สาหกรรมและสถานประกอบการต่าง ๆ มี 2 ระบบ คอื ระบบ 3 เฟส 4 สาย และระบบ 3 เฟส 3 สาย 1. ระบบไฟฟ้า 3 เฟส 4 สาย เป็นระบบท่ีใช้ไฟฟ้าไดท้ ั้งระบบ 1 เฟสและระบบ 3 เฟส โดยจ่ายแรงดนั ไฟฟ้า 230 V ใหก้ บั โหลดแสงสว่างและเครื่องใชไ้ ฟฟ้าตามอาคารและบา้ นพกั อาศยั และ จา่ ยแรงดนั ไฟฟ้า 400 V ใหก้ บั มอเตอรไ์ ฟฟ้า 3 เฟส ระบบไฟฟ้า 3 เฟส 4 สาย

2. ระบบไฟฟ้า 3 เฟส 3 สาย เป็นระบบไฟฟ้าที่จ่ายกาลงั ไฟฟ้าใหก้ บั มอเตอรไ์ ฟฟ้า 3 เฟส โดยท่วั ไปจะจา่ ยใหโ้ หลด 3 เฟสสมดลุ ระบบไฟฟ้า 3 เฟส 3 สาย

1. ไฟฟ้าจะทาอันตรายต่อร่างกายและชีวิตของมนุษย์ได้ต่อเมื่อเกิดเหตุการณ์ คือ กระแสไฟฟา้ ใชร้ า่ งกายเป็นทางผา่ นลงดนิ รา่ งกายตอ่ เป็นสว่ นหนงึ่ ของวงจรไฟฟา้ โดยไมผ่ ่านลงดิน 2. การปอ้ งกนั อบุ ตั ิภยั จากไฟฟา้ พอจาแนกวิธีปอ้ งกนั หลกั ๆ ไดค้ ือการตอ่ ลงดิน การใชฉ้ นวน ปอ้ งกนั การสมั ผสั และการใชเ้ ครอื่ งตดั ไฟร่วั 3. การปฏิบตั ิเพ่ือใหเ้ กิดความปลอดภยั ขณะปฏิบัติงานเก่ียวกับไฟฟ้า เช่น คานึงถึงความ ปลอดภยั เป็นลาดบั แรก ช่างตดิ ตงั้ ตอ้ งเป็นผมู้ ีความรูแ้ ละประสบการณ์ 4. การปฏิบตั ิเพ่ือใหเ้ กิดความปลอดภยั ในชีวิตและทรพั ยส์ ิน เช่น ใชเ้ ตา้ รบั และเตา้ เสียบชนิด มขี ว้ั สายดิน ใชอ้ ปุ กรณท์ ่ีมีคณุ ภาพผ่านการรบั รองตามมาตรฐาน 5. ระบบการจ่ายกาลงั ไฟฟ้าแรงดันต่า หมายถึง ระบบไฟฟ้าท่ีมีแรงดนั ไฟฟ้าระหว่างเฟส (Phase) ไมเ่ กิน 1,000 โวลต์ โดยท่วั ไปมี 2 ระบบ คือ (1) ระบบไฟฟ้า 1 เฟส มี 2 ระบบ คอื ระบบไฟฟา้ 1 เฟส 2 สายและระบบไฟฟา้ 1 เฟส 3 สาย (2) ระบบไฟฟา้ 3 เฟส มี 2 ระบบ คือ ระบบไฟฟ้า 3 เฟส 3 สายและระบบไฟฟา้ 3 เฟส 4 สาย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook