Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือประวัติศาสตร์ชุมชนตำบลพ่วงพรมคร

หนังสือประวัติศาสตร์ชุมชนตำบลพ่วงพรมคร

Published by veevieww, 2021-11-29 09:46:48

Description: หนังสือประวัติศาสตร์ชุมชนตำบลพ่วงพรมคร

Search

Read the Text Version

ห นั ง สื อ ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ตำบล พ่ วงพรมคร โดย วิศวกรสังคม

คำนำ หนังสือประวัติศาตร์ชุมชนเล่มนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลเนื้อหาของ ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอ เคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกอบไปด้วย ขนาดและที่ตั้ง ลักษณะภูมิประเทศ แม่น้ำสำคัญ ภูมิอากาศ ทรัพยากรธรรมชาติ การคมนาคม ประวัติความเป็นมาของชุมชน โครงสร้างของชุมชน โครงสร้างด้านเศรษฐกิจและอาชีพ ความเชื่อ ประเพณี และพิธีกรรม สถานที่สำคัญ การ เปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม ได้มีการดำเนินโครงการยกระดับเศรษฐกิจ และสังคมราย ตำบลแบบบรูณาการ การพัฒนาสัมมาชีพ และสร้างอาชีพใหม่ (การยกระดับสินค้า OTOP/อาชีพ อื่น) การสร้างและพัฒนา Creative Economy (การยกระดับการท่องเที่ยว) การส่งเสริมด้านสิ่ง แวดล้อม/Circular Economy (การเพิ่มรายได้หมุนเวียนให้แก่ชุมชน) เพื่อเป็นแนวทางในการ พัฒนาต่อแก่ผู้ที่สนใจศึกษา ทางวิศวกรสังคมตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าหนังสือประวัติศาสตร์ชุมชนเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนในที่จะศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตำบล พ่วงพรมครต่อไป วิศวกรสังคมตำบลพ่วงพรมคร คณะผู้จัดทำ

สารบัญ 02 ส่วนที่ 1.ประวัติความเป็นมา 31 ส่วนที่ 5.ความเชื่อ ประเพณีและ ตำบลพ่วงพรมคร พิธีกรรม 11 ส่วนที่ 2.ข้อมูลพื้นฐานตําบล 37 ส่วนที่ 6.สถานที่สําคัญ 12 เนื้อที่และอาณาเขต 13 ลักษณะภูมิประเทศ 45 ส่วนที่ 7.การเปลี่ยนแปลงทาง 13 ลักษณะภูมิอากาศ สังคมและวัฒนธรรม 14 ทรัพย์พยากรธรรมชาติ 15 แม่น้ำสำคัญ 48 ส่วนที่ 8 การดำเนินงานโครงการ 15 การคมนาคม ยกระดับเศรษฐกิจและสังคม รายตำบลแบบบูรณาการ 16 ส่วนที่ 3.โครงสร้างของชุมชน 17 ด้านการปกครอง 52 บรรณานุกรม 18 ด้านประชากร 53 ภาคผนวก 19 ด้านการศึกษา 29 ส่วนที่ 4.โครงสร้างทางด้าน เศรษฐกิจ และอาชีพ

1 ส่วนที่ 1 ประวัติความเป็นมา ตำบลพ่วงพรมคร PUANGPROMKON

2 จากคำบอกเล่าของผู้อาวุโสได้เล่าต่อๆ กันมาหลายกระแส บ้างก็กล่าวว่าในอดีตบุคคลกลุ่มแรกที่ได้เข้ามา อาศัยอยู่ใน ตำบลนี้มีชื่อว่า ตาพ่วง ยายพรมโดยทั้งสองเป็นคนจังหวัด นครศรีธรรมราชจึงตั้งชื่อสถานที่นี้ว่า พ่วงพรมคร บ้างก็กล่าว ว่าแต่เดิมนั้นมีผู้คนอพยพมาจากหลายพื้นที่โดยส่วนใหญ่มา จากจังหวัดนครศรีธรรมราชและมาอาศัยอยู่บริเวณริมลุ่ม แม่น้ำตาปี(ปัจจุบันคือหมู่ที่ 5 บ้านคลองโร)ในสมัยนั้นการ เดินทางยากลำบากจึงต้องเดินทางโดยเรือแต่เนื่องด้วยกระแส น้ำไหลรุนแรงทำให้ต้องพ่วงเรือหลายๆลำเข้าด้วยกันจึงทำให้ เรียกชื่อตำบลนี้ว่า “พ่วงพรมคร”

3 อีกกระแสหนึ่งคือในสมัยก่อนพื้นที่ของตำบลพ่วงพรมคร มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นอย่างมากประชาชนส่วนใหญ่ในสมัยนั้นสร้างบ้านเรือนอยู่ติดกับริมแม่น้ำ ตาปีซึ่งบริเวณนั้นเป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก การดำรง ชีวิต แต่ประสบปัญหาในการเดินทาง เพราะถนนหนทางในสมัยนั้นเป็นป่ารก ทึบ มีสัตว์ร้ายมากมายคนส่วนใหญ่จึงนิยมเดินทางด้วยเรือเป็นหลักจึงทำให้มี ความผูกพันธ์กับแม่น้ำลำคลอง และแม่น้ำยังเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ราษฎรในสมัยนั้นจึงมีอาชีพการหาไข่เต่า และนอกจากการหาไข่เต่าแล้วยังมี การหาน้ำผึ้ง ซึ่งราษฎรที่ต้องการขายไข่เต่าหรือน้ำผึ้งก็จะต้องเสียภาษี ในสมัย นั้นจะต้องเสียภาษีที่อำเภอซึ่งในขณะ นั้นตำบลพ่วงพรมครอยู่ในเขตอำเภอบ้านนา การเสียภาษีจะเรียกชื่อตามสิ่ง นั้นๆ เช่น ถ้าขายไข่เต่าเมื่อเสียภาษีจะเรียกภาษีนั้นว่าภาษีไข่เต่า ถ้าขายน้ำผึ้ง เมื่อเสียภาษีเรียกว่าภาษีน้ำผึ้งการเก็บภาษีไข่เต่าจะเริ่มเก็บในช่วงที่เต่าเริ่ม วางไข่ คือประมาณมีนาคม-ปลายพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงหน้าแล้งเหมาะแก่การ วางไข่ของเต่า ชาวบ้านจะเรียกเต่านั้นว่า“เต่าแม่ท่า” ซึ่งเต่าชนิดนี้จะมีกระดอง สีน้ำตาลออกแดงอ่อนๆผิวเรียบและมีขนาดใหญ่สามารถขึ้นนั่งบนกระดองได้ วิธีเก็บไข่เต่าของชาวบ้านจะเริ่มตั้งแต่รับขวัญเต่าที่บริเวณหาดขวัญ (ตำบล อรัญคามวารีในปัจจุบัน) จากนั้นเมื่อถึงเวลาประมาณ 16.00 น.ของทุกๆ วัน ชาวบ้านจะนำเชือกผูกทุ่นไปขึงขวางแม่น้ำเอาไว้เพื่อไม่ให้มีการสัญจรไปมาใน บริเวณนั้นซึ่งการนำเชือกไปขวางแม่น้ำจะทำ 2 จุด คือ จุดแรกที่หาดขวัญมี นายพรมทำหน้าที่เฝ้า และอีกจุดหนึ่งบริเวณหาดทางด้านต้นแม่น้ำซึ่งเป็นพื้นที่ ระหว่างหาดที่มีความเหมาะสมในการวางไข่ของเต่า เมื่อชาวบ้านสัญจรไปมา เห็นเชือกที่ขึงขวางแม่น้ำอยู่ก็จะรู้ว่าบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณที่เต่าวางไข่ห้าม ไม่ให้ผู้ใดผ่านเข้าไปจนกว่าจะสว่าง ในเวลาต่อมามีผู้คนอพยพมาอาศัยอยู่ บริเวณนี้มากขึ้น จึงทำให้นายพรมและชาวบ้านเดินทางไปยังอำเภอเพื่อขอจัด ตั้งเป็นตำบลทางอำเภอจึงอนุญาตให้จัดตั้งเป็นตำบล ส่วนชื่อตำบลนั้นชาว บ้านได้ใช้ชื่อสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้านดังกล่าวจึงตั้งชื่อตำบลนี้ว่า “พ่วง พรมคร” เพราะในสมัยนั้นมีการเก็บไข่เต่าขายโดยจะที่มีการขึงเชือกขวาง แม่น้ำและมีทุ่นห้อยพ่วงกันเอาไว้และมีนายพรมเฝ้าอยู่ทุกปี ในช่วงที่มีการเก็บ ไข่เต่าจึงได้นำคำทั้งสองมารวมกันแต่ยังไม่ไพเราะจึงเพิ่มคำว่าครลงไปเพื่อ บอกลักษณะความเป็นเมืองและได้กลายเป็นชื่อตำบลว่าพ่วงพรมครในปัจจุบัน โดยในช่วงแรกๆ แบ่งการปกครองออกเป็น 7 หมู่บ้านต่อมาเมื่อมีประชากรเพิ่ม มากขึ้นได้แบ่งการปกครอง

4 หมู่ที่ 1 บ้านควนสามัคคี ในอดีตหมู่บ้านควนสามัคคีแห่งนี้เรียกว่า“บ้านควน ชะอวด”ผู้ที่มาอยู่ครั้งแรกมาจาก อำเภอชะอวด จังหวัด นครศรีธรรมราช ซึ่งตอนนั้นสภาพพื้นที่เป็นป่าทึบ ควน ชะอวด เป็นคำเรียกของถิ่นเดิม บุคคลที่เข้ามาอยู่ครั้งแรก ประมาณปี พ.ศ.2500 โดยมี นายปาน จันทร์รอด (หลวง พ่อปาน) นายหลุบ นายดำ และชาวบ้านอีกหลายคน เมื่อปี พ.ศ. 2504 มาจนกระทั่งปี พ.ศ. 2507 ได้มีการ เปิดการเรียนการสอนโรงเรียนแห่งแรกของบ้านควน สามัคคี โดยมี นาย สุรพล คล้ายอุดม มาร่วมการเปิดพิธี และได้มาเห็นชาวบ้านช่วยกันก่อสร้างโรงเรียนอย่าง สามัคคี จึงตั้งชื่อสถานที่แห่งนี้ว่า “โรงเรียนบ้านควน สามัคคี” จากนั้นได้มีการเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านเพื่อ สอดคล้องกับชื่อโรงเรียน หมู่ที่ 1 บ้านควนสามัคคี มี พื้นที่ทั้งหมดจำนวน 3,000 ไร่ สถานที่ราชการ หมู่ที่ 1 บ้านควนสามัคคี - โรงเรียนบ้านควนสามัคคี - โรงเรียนพ่วงพรมครวิทยาคม - โรงเรียนอนุบาลพฤกษชาติ - โรงเรียนอนุบาลบัณฑิตา - โรงเรียนอนุบาลเพ็ญพักตร์ - วัดควนสามัคคี - องค์การบริการส่วนตำบลพ่วงพรมคร

5 หมู่ที่ 2 บ้านควนคีรีวงศ์ ในอดีตชื่อ บ้านพรุส้ม เนื่องจากในหมู่บ้านมีส้มพีเป็น หมู่ที่ 3 บ้านปลายควน จำนวนมาก โดยผู้มาอาศัยอยู่ในช่วงแรกๆคือ นายชื่น หวานแก้ว และลูกหลาน หมู่ 2 ได้แยกพื้นที่มาจาก หมู่1เนื่องจากเป็นหมู่บ้านใหญ่การดูแลไม่ทั่วถึง จึงได้มี การเปลี่ยนชื่อจากบ้านพรุส้ม โดยใช้ชื่อว่าบ้านควนคีรีวงศ์ ที่มาของชื่อเนื่องจากในพื้นที่จะเป็นเขาล้อมรอบบริเวณ หมู่บ้าน โดยนายคล่องเป็นคนตั้งชื่อ หลังจากนั้นได้มีการ สร้างโรงเรียน และได้ใช้ชื่อว่าโรงเรียนบ้านควนคีรีวงศ์ มี เนื้อที่หมู่บ้านทั้งหมด 6,000 ไร่ อาชีพหลัก ทำการเกษตร ได้แก่ทำสวนยางพารา และ สวนปาล์มน้ำมัน สถานที่สำคัญ ของหมู่ที่ 2 บ้านควนคีรีวงศ์ - โรงเรียนบ้านควนคีรีวงศ์ - สหกรณ์กองทุนสวนยางพ่วงพรมคร จำกัด - สำนักสงฆ์บ่อถ่านศิลา ก่อนจะมาเป็นหมู่บ้านบ้านปลายควน เดิมตำบลพ่วงพรม ครมี 7 หมู่บ้าน หมู่ที่ 3 เดิมมีชื่อเรียกว่าบ้านสี่แยกคลอง ศิลา โดยมีผู้ใหญ่พ่วงเป็นผู้ใหญ่บ้าน ต่อมาบ้านสี่แยก คลองศิลาแยกออกเป็นหมู่ที่ 9 โดยใช้ชื่อเดิมว่าบ้านสี่ แยกคลองศิลา โดยมีผู้ใหญ่บ้านคนเดิมชื่อนายพ่วงและ หมู่ที่ 3 ที่เหลือจากการแยกไปหมู่ที่ ได้ตั้งชื่อใหม่ว่าบ้าน ปลายควน ที่ได้ชื่อว่าบ้านปลายควนเพราะว่าตอนนั้นมี ทหารเข้ามาในพื้นที่ มองเห็นว่าที่ตรงนี้มีเนินเยอะทำให้ ทหารเรียกกัน ว่าบ้านปลายควน หลังจากนั้น ชาวก็เอาชื่อ ที่ทหารเรียกนั้นมาตั้งเป็นชื่อหมู่บ้าน ตั้งหมู่บ้านว่าบ้าน ปลายควนจนถึงปัจจุบัน ​ สถานที่สำคัญ ของหมู่ที่ 3 บ้านปลายควน - อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำแดง

6 หมู่ที่ 4 บ้านบางดี หมู่บ้านบางดี ก่อนจะมาเป็นหมู่บ้านบางดีเดิมชื่อ “บาง เด” เพราะชาวบ้านที่มาอาศัยเป็นคนแรกๆไปจับปลาได้ ปลาเดมาเยอะมาก ชาวบ้านแถวนั้นเลยเรียกว่าหมู่บ้า นบางเด ต่อมาได้เพี้ยนมาเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นหมู่บ้าน บางดีในปัจจุบันนี้อีกหนึ่งความเชื่อคือ หมู่บ้านบางดี ใน อดีตมีคลองไหลผ่านหมู่บ้านบางดี ชื่อคลองเหนียนใน คลองแห่งนั้นมีปลากระดี่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านเลยพา กันรียกว่าหมู่บ้านบางดี หมู่ที่ 5 บ้านคลองโร สถานที่สำคัญ ของหมู่ที่ 4 บ้านบางดี - อ่างเก็บน้ำบ้านบางดี หมูบ่ ้านคลองโรเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ ซึ่งได้ตั้งเป็นหมู่บ้าน มาเป็นเวลาร้อยกว่าปี ไม่มีประวัติว่ามีใครมาอาศัยอยู่ใน หมู่บ้านเป็นคนแรก สาเหตุที่หมู่บ้านคลองโรได้ตั้งเป็น ชุมชนแรก เนื่องจากภูมิประเทศที่ติดกับ แม่น้ำตาปี ซึ่งใน สมัยก่อนการเดินทางจำเป็นต้องอาศัยการสัญจรทางน้ำ และเป็นหมู่บ้านหน้าด่านในการเดินทางไปหมู่บ้านอื่น ๆ ​ตั้งแต่อดีตมา ก่อนหน้านี้หมู่บ้านคลองโร และอำเภอ เคียนซาขึ้นกับอำเภอบ้านนาสาร และได้แยกเป็นกิ่ง อำเภอเคียนซาเมื่อปี 2513 และได้แยกเป็นตำบลพ่วง พรมคร สาเหตุที่เรียกชื่อคลองโร เนื่องจากในบริเวณ ชุมชนมี “ต้นโร” เป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันหาดูยากแล้ว หมู่บ้านคลองโรจัดตั้งเป็นหมู่บ้านอาสาพัฒนาและ ป้องกันตนเอง (อพป.) ตั้งแต่ปี 2532 และเป็นหมู่บ้าน กองทุนแม่ของแผ่นดินเมื่อปี พ.ศ. 2554 เมื่อเนื้อที่รวม ประมาณ 45,000 ไร่ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร และประมง สถานที่สำคัญ หมู่ที่ 5 บ้านคลองโร - โรงเรียนบ้านคลองโร - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านคลองโร - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพ่วงพรมคร

7 หมู่ที่ 6 บ้านพรหมรังสิต หมู่บ้านพรหมรังสิต เดิมชื่อบ้านปลายด่าน พ่อเฒ่า (ตา) ขาวมาสร้างที่นั่น สร้างในที่นา ทางเดิมมาจากบ้านคลอง โร เป็นพื้นที่ติดป่า และเนินเขาสูง มีไม้ซุงเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านได้ใช้ช้างช่วยในการลากซุงจาก บนเนินสูงลงมาจน สุดทาง เพราะเป็นเส้นทางปลายสุด ชาวบ้านจึงเรียกเป็น บ้านปลายด่าน หลังจากนั้นหม่อมเจ้าหญิงวิภาวดี ได้เดิน ทางไปเยี่ยมราษฎรบ้านบางดี โดยผ่านทางหมู่ 6 ชาวบ้าน จึงได้ทำหนังสือทูลขอให้มีโรงเรียนประชาบาล พ.ศ. 2513 ได้รับอนุมัติให้จัดสร้างอาคารเรียน ชาวบ้านได้ทูลขอ หม่อมเจ้าหญิงวิภาวดีอีกครั้งเพื่อให้ตั้งชื่อโรงเรียน ปี พ.ศ. 2516 ได้รับชื่อใหม่ว่า โรงเรียนบ้านพรหมรังสิต ต่อมาชาว บ้านจึงได้เรียกชื่อหมู่บ้านตามชื่อของโรงเรียน เรียกต่อ ๆ กันมา ว่า “หมู่บ้านพรหมรังสิตจนถึงปัจจุบัน” สถานที่สำคัญ หมู่ที่ 6 บ้านพรหมรังสิต - โรงเรียนบ้านพรหมรังสิต - สำนักสงฆ์พรหมรังสิต หมู่ที่ 7 บ้านสองพี่น้อง แยกหมู่บ้านจากหมู่ที่ 4 บ้านบางดีเป็นหมู่ที่ 7 บ้านไส เหนือที่เรียกว่าบ้านไสเหนือเพราะในอดีตอยู่เหนือกว่า หมู่บ้านอื่น จากนั้นเปลี่ยนชื่อเป็นบ้านสองพี่น้อง ชื่อนี้มา จากสายน้ำของลำห้วย 2 สาย สายที่ชาวบ้านข้ามผ่านเวลา เดินทางมาที่หมู่บ้านแห่งนี้ จึงนำชื่อลำห้วย 2 สายมาตั้ง เป็นชื่อหมู่บ้าน การตั้งชื่อนี้เพื่อใช้ในการเรียกขานเวลาทาง ราชการส่งจดหมายหรือคำสั่งเข้ามาในหมู่บ้าน สถานสำคัญ หมู่ที่ 7 บ้านสองพี่น้อง - สหกรณ์กองทุนสวนยางสองพี่น้องคลองศิลา จำกัด - บ่อน้ำร้อนบ้านสองพี่น้อง

8 หมู่ที่ 8 บ้านควนลางสาด ก่อนจะมาเป็นหมู่บ้านควนสางสาด อดีตเป็นหมู่ 6 บ้าน พรหมรังสิต ต่อมาในปี 2530 ได้มีการแยกหมู่บ้าน จาก หมู่ 6 บ้านพรหมรังสิต เป็นหมู่ 8 บ้านควนลางสาด ที่ได้ ชื่อว่า บ้านควนลางสาดเพราะว่า เมื่อก่อนพื้นที่บริเวณนี้ เป็นป่า ชาวบ้านมีการถางป่าเพื่อจับจองพื้นที่ พอถึงเวลา พักเที่ยงทุกคนก็จะมารวมตัวกันรับประทานอาหารกัน ใต้ ต้นลางสาด เพราะเมื่อก่อนมีต้นลางสาดป่าเยอะ ชาวบ้าน แถวนั้นเลยเรียกว่าหมู่บ้านควนลางสาดมาจนถึงปัจจุบันนี้ หมู่ที่ 9 บ้านสี่แยกคลองศิลา พ.ศ. 2500 ได้มีราษฎรไร้ที่ทำกินจากจังหวัด นครศรีธรรมราชได้มาจับจองที่ดินถางป่าทำไร่สร้างสวน บริเวณสี่แยก เมื่อมาอยู่กันหลายครอบครัวกลายเป็นชุมชน จึงพากันเรียกชุมชนนี้ว่า “ บ้านสี่แยก ” พ.ศ. 2503 ได้มี ราษฎรที่ไร้ที่ทำกินจากจังหวัดพัทลุงจำนวนหนึ่งมาจับจอง ที่ดินถางป่าทำไร่ สร้างสวนที่บริเวณคลองศิลา เมื่อมาอยู่ หลายครอบครัวกลายเป็นชุมชนจึงพากันเรียกชุมชนนี้ว่า “ บ้านคลองศิลา ” และเมื่อมาจากจังหวัดอื่น ๆ มารวมอยู่ ด้วย เมื่อแยกหมู่บ้านออกจากหมู่ที่ 3 (บ้านปลายควน) ตั้ง หมู่ที่ขึ้นมาใหม่เอาชื่อของ 2 ชุมชนนี้มารวมเรียกกันว่า “ บ้านสี่แยกคลองศิลา ” สถานที่สำคัญ หมู่ที่ 9 บ้านสี่แยกคลองศิลา - โรงเรียนบ้านสี่แยกคลองศิลา - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสี่แยกคลองศิลา

9 หมู่ที่ 10 บ้านไร่ยาว อดีตเป็นส่วนหนึ่งของบ้านคีรีวงศ์ หมู่ที่ 2 ตำบลพ่วงพรมคร โดยมีนายกัน หวานแก้ว เป็นผู้ใหญ่บ้าน ได้แยกหมู่บ้าน ออกมาเป็นหมู่ที่ 10 บ้านไร่ยาว โดยมีนายเติม พูลนวล เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรก เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ.2535 ประชากรส่วนใหญ่อพยพมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช คำ ว่า “บ้านไร่ยาว” เป็นการเรียกตามลักษณะของพื้นที่ หมู่บ้าน เนื่องจากพื้นที่ของหมู่บ้าน เป็นพื้นที่เกิดจากการ จัดสรรที่ดินของแกนนำในสมัยก่อน โดยการแบ่งเป็นแปลง ๆและจะมีส่วนยาวมากกว่าส่วนกว้าง และชาวบ้านทำไร่ทำ สวน เป็นแนวยาวตลอดหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงตั้งชื่อหมู่บ้าน ว่า “บ้านไร่ยาว” สถานที่สำคัญ หมู่ที่ 10 บ้านไร่ยาว - โรงเรียนบ้านไร่ยาว หมู่ที่ 11 บ้านห้วยลึก เป็นหมู่บ้านที่อยู่ในการดูแลของตำบลพ่วงพรมคร เดิม หมู่บ้านห้วยลึกเป็นเขตปกครองของหมู่ที่ 4 บ้านบางดี แต่ เนื่องจากมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้น และมีอาณาเขตที่กว้าง จึงทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง ผู้ใหญ่บ้านจึงได้มีการยื่นคำร้อง เสนอทางอำเภอเคียนซา เพื่อแบ่งเขตการปกครอง โดย แยกหมู่บ้านมาเป็น หมู่ที่ 11 บ้านห้วยลึก ใน พ.ศ. 2538 ซึ่งตอนนั้นผู้ใหญ่บ้านที่เป็นคนแยกคือ นายสาคร เพชร น้อย และชื่อที่มาของบ้านห้วยลึกมาจากต้นน้ำที่ไหลมาก จากหมู่ที่ 7 ตัดผ่าน หมู่ที่ 11 ซึ่งช่วงหมู่ที่ 11 เป็นบริเวณ น้ำลึก สถานที่สำคัญ หมู่ที่ 11 บ้านห้วยลึก - โรงเรียนบ้านบางดี

10 หมู่ที่ 12 บ้านสมบ ูรณ์ประชาสรรค์ หมู่บ้านสมบูรณ์ประชาสรรค์ ในอดีตเป็นหมู่เดียวกับหมู่ 3 ผู้ใหญ่บ้านได้แยกพื้นที่หมู่บ้านเนื่องจากพื้นที่มีจำนวนมาก เกินไปจนทำให้ปกครองไม่ทั่วถึง จึงจำเป็นต้องแยกพื้นที่ อีกหนึ่งหมู่ คือหมู่ 12 บ้านสมบูรณ์ประชาสรรค์ เหตุที่ใช้ชื่อ นี้เพราะ ในอดีตโรงเรียนได้ตั้งขึ้นก่อนหมู่บ้าน และคนใน หมู่บ้านคุ้นชินกับชื่อนี้ จึงนำมาตั้งเป็นชื่อหมู่บ้าน ซึ่งชื่อ โรงเรียนนั้นชาวบ้านได้ลงความเห็นกันว่าให้เป็นชื่อบุคคล ที่บริจาคที่ดินแก่โรงเรียน นั้นคือ นายสมบูรณ์ แก้วประไพ สถานที่ราชการ หมู่ที่ 12 บ้านสมบูรณ์ประชาสรรค์ - โรงเรียนบ้านสมบูรณ์ประชาสรรค์ หมู่ที่ 13 บ้านบกหุ้น บ้านบกหุ้น เป็นหมู่บ้านที่อยู่ในการดูแลของตำบลพ่วงพรม คร เดิมหมู่บ้านบกหุ้นเป็นเขตการปกครองของหมู่ที่ 10 บ้านไร่ยาว แต่เนื่องจากประชาชนมีจำนวนเพิ่มขึ้น และมี อาณาเขตกว้างจึงทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านจึง ได้มีการยื่นคำร้องเสนอทางอำเภอเคียนซา เพื่อแบ่งเขต การปกครองเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มหมู่บ้าน เป็นหมู่ที่ 13 บ้านบก หุ้น ปี 2542 แบ่งแยกหมู่บ้านเมื่อวันที่ 22 กันยายน ผู้ใหญ่บ้านคนแรกคือนายสมมุ่ง ฤกษ์คง เดิมบ้านบกหุ้น มีชื่อเรียกกันมาจากต้นไม้สองต้น ซึ่งมีลักษณะคล้ายหุ่นที่ อยู่ใกล้กัน คือต้นบกและต้นยาง โดยโคนต้นของต้นบกมี ลักษณะคล้ายกับอวัยวะเพศของผู้ชาย ส่วนบริเวณโคนต้น ยางคล้ายกับอวัยวะเพศของผู้หญิง ซึ่งเหมือนหุ่นผู้หญิงและ ผู้ชาย จึงมีชื่อเรียกว่าบ้านบกหุ่น ส่วนคำว่า บก นั้นมาจาก ต้นบกต่อมาเสียงเพี้ยนเป็น“ บ้านบกหุ้น ”

11 ส่วนที่ 2 ข้อมูลพื้นฐานตำบล PUANGPROMKON

12 ข้อมูลพื้นฐานตำบลพ่วงพรมคร เนื้อที่และอาณาเขต ตำบลพ่วงพรมครมีเนื้อที่ทั้งหมด 137,500 ไร่ (ประมาณ 220 ตารางกิโลเมตร) พื้นที่ส่วนใหญ่เป็น ที่ราชพัสดุ เนื้อที่ของเกษตรกรที่ได้รับหนังสืออนุญาตให้ทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินรวม 3,073 ราย จำนวน 39,876 ไร่ 3 งาน 68 ตารางวา ที่ตั้ง ตำบลพ่วงพรมคร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของที่ว่าการอำเภอเคียนซา จังหวัด สุราษฎร์ธานี ระยะทาง ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 16 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองจังหวัด สุราษฎร์ธานี ประมาณ 65 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอใกล้เคียงดังนี้ ทิศเหนือ จดตำบลอรัญคามวารี อำเภอเคียนซา ทิศใต้ จดตำบลอิปัน และตำบลสาคู อำเภอพระแสง ทิศตะวันออก จดแม่น้ำตาปี และตำบลควนศรี อำเภอบ้านนาสาร ทิศตะวันตก จดตำบลบ้านเสด็จ อำเภอเคียนซา

13 ลักษณะภูมิประเทศ ภูมิอากาศ สภาพโดยทั่วไปส่วนใหญ่เป็นที่ราบ ได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตก สลับเนินดิน ส่วนฝั่งตะวันออกติดกับ เฉียงใต้ ซึ่งทำให้มีช่วงฤดูฝนที่ แม่น้าตาปีเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำ และมี ยาวนาน และยังมีมรสุม ตะวันออก น้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก พื้นที่ทอดยาว เฉียงเหนือพัดผ่าน ทำให้มีฤดูร้อน จากทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตก และฤดูฝนที่มีระยะใกล้เคียงกัน ซึ่งมี ผลทำให้ช่วงฤดูฝนมักจะมีน้ำมาก สภาพพื้นที่เหมาะแก่การเพาะปลูก เกินไป และช่วงฤดูร้อนก็มักจะ และทำการเกษตร ขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ในช่วงฤดูที่ แล้ง

14 ทรัพยากรธรรมชาติ - แม่น้ำตาปี 1 สาย - ลำห้วย / ลำคลอง จำนวน 20 แห่ง ได้แก่ ลำห้วยเชย , ลำห้วยครูทวน , ลำห้วยบอน , ลำห้วยเจ้านวย , ลำห้วยยูง , ลำหารแล , ลำหารดำ , ลำหารคน , ห้วยสวนเรียน , ลำคลองศิลา, ลำคลองเหยียน ,ลำห้วยใย , ลำห้วยบ่อถ่าน , ห้วยน้ำแดง , หนองน้ำบ่อถ่าน , หนองผักฉีด , หนองทุ่งบางกุล , ลำห้วยเชย , ลำห้วยคลอง โร , ลำห้วยคลองบางประ - หนองน้ำ 4 แห่ง หนองน้ำเจ้านวย , หนองน้ำซอยบางใหญ่ , หนองน้ำขาว , ทำนบดินคลองศิลา - ฝายน้ำล้น จำนวน 13 แห่ง หมู่ที่ 3 บ้านปลายควน 1 แห่ง ห้วยน้ำแดง หมู่ที่ 4 บ้านบางดี 2 แห่ง ฝายคลองเหยน ฝายปากบางดี หมู่ที่ 6 บ้านพรหมรังสิต 3 แห่ง ฝายคลองชลประทาน จำนวน 2 แห่ง ฝายอ่างเก็บน้ำ หมู่ที่ 7 บ้านสองพี่น้อง 3 แห่ง ฝายซอยสุขใจ ฝายสวนโกพ้าง ฝายวังครก หมู่ที่ 8 บ้านควนลางสาด 1 แห่ง ฝายห้วยบอน หมู่ที่ 9 บ้านสี่แยกคลองศิลา 3 แห่ง ฝายห้วยสวนเรียน ฝายลำคลองศิลา จำนวน 2 แห่ง หมู่ที่ 11 บ้านห้วยลึก 1 แห่ง ฝายยายซ้วน

15 อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำแดง หมู่ที่ 3 บ้านปลายควน จำนวน 34 ไร่ อ่างเก็บน้ำควนช้างหัน หมู่ที่ 6 บ้านพรหมรังสิต จำนวน 20 ไร่ อ่างเก็บน้ำคลองศิลา หมู่ที่ 9 บ้านสี่แยกคลองศิลา จำนวน 7 ไร่ อ่างเก็บน้ำบ้านบางดี หมู่ที่ 4 บ้านบางดี จำนวน 300 ไร่ - ลักษณะดิน ส่วนใหญ่เป็นดินร่วนเป็นดินทรายเหมาะสำหรับทำการเกษตร เช่น สวนยางพารา สวนปาล์ม น้ำมัน สวนผลไม้พืชผัก ต่างๆ และการเกษตรอื่นๆ - การคมนาคม การเดินทางของชุมชนส่วนใหญ่ เดินทางโดยใช้รถส่วนตัว รถประจำทาง

16 ส่วนที่ 3 โครงสร้างของชุมชน PUANGPROMKON

17 ด้านการปกครอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพ่วงพรมคร นายพยูน นุ่นชูคัน ดำรงตำแหน่ง ปี 2555 - ปัจจุบันปัจจุบันตำบลพ่วงพรมครได้มีการแบ่งเขตการ ปกครองของตำบลพ่วงพรมคร ออกเป็น 13 หมู่บ้านดังนี้ หมู่ที่ ชื่อ-สกุล ตำแหน่ง ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง 1 นายเรวัฒน์ แก้วประกอบ ผู้ใหญ่บ้าน ปี 2545 - ปัจจุบัน 2 นายสุทิพงษ์ หวานแก้ว กำนัน ปี 2538 - ปัจจุบัน 3 นายเทียนชัย สีที ผู้ใหญ่บ้าน ปี 2553 - ปัจจุบัน 4 นายโสรัช จันทร์ทอง ผู้ใหญ่บ้าน ปี 2548 - ปัจจุบัน 5 นายวัชระ วรดิถี ผู้ใหญ่บ้าน ปี 2547 - ปัจจุบัน 6 นายสุทธิ ไชยกุล ผู้ใหญ่บ้าน ปี 2549 - ปัจจุบัน 7 นายฉลอง พรหมศิลป์ ผู้ใหญ่บ้าน ปี 2560 - ปัจจุบัน 8 นายชาคริต เกิดกุล ผู้ใหญ่บ้าน ปี 2560 - ปัจจุบัน 9 นายโผน ประสมรอด ผู้ใหญ่บ้าน ปี 2556 - ปัจจุบัน 10 นายเดชา จันทร์พร้อย ผู้ใหญ่บ้าน ปี 2561 - ปัจจุบัน 11 นายนรินทร์ศักดิ์ บุญสุข ผู้ใหญ่บ้าน ปี 2549 - ปัจจุบัน 12 นายสุรกิจ ริยาพันธ์ ผู้ใหญ่บ้าน ปี 2553 - ปัจจุบัน 13 นายไชยา วิเชียร ผู้ใหญ่บ้าน ปี 2547 - ปัจจุบัน

18 ด้านประชากร ประชากรทั้งสิ้นจำนวน 11,744 คน 5,829 คน 5,915 คน จำนวนครัวเรือน 4,460 หลัง หมู่ที่ จำนวนประชากร จำนวนประชากร รวม จำนวนครัวเรือน หลัง ชาย หญิง 1893 1222 925 1.บ้านควนสามัคคี 943 940 794 405 724 298 2.บ้านควนคีรีวงศ์ 589 633 717 264 842 298 3.บ้านปลายควน 396 398 545 275 545 181 4.บ้านบางดี 396 329 1261 222 923 436 5.บ้านคลองโร 380 336 845 406 742 240 6.บ้านพรหมรังสิต 406 436 701 264 11,744 240 7.บ้านสองพี่น้อง 264 281 4,460 8.บ้านควนลางสาด 265 280 9.บ้านสี่แยกคลองศิลา 589 672 10.บ้านไร่ยาว 456 467 11.บ้านห้วยลึก 426 419 12.บ้านสมบูรณ์ประชาสรรค์ 352 390 13.บ้านบกหุ้น 366 335 รวม 5,829 5,915

19 ด้านการศึกษา จำนวนสถานศึกษาในพื้นที่ มี 13 แห่ง ดังนี้ - โรงเรียนประถมศึกษา 8 แห่ง 1. โรงเรียนบ้านควนสามัคคี ที่ตั้ง หมู่ที่1 บ้านควนสามัคคี ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เรื่องเดิม บ้านควนสามัคคีอยู่ห่างจากโรงเรียนบ้านคลองโรประมาณ 6 กิโลเมตร ทำให้นักเรียนต้อง เดินทางตามเส้นทางธุระกันดาร ไปโรงเรียนยากลำบาก จึงมีบุคคลหนึ่งชื่อ นายปาน จันทร์รอด (ตา หลวง ปาน) นายมนัส แก่นแก้ว และนายสมปอง บุญช่วย เห็นความสำคัญในการก่อตั้งโรงเรียนในพื้นที่ แห่งนี้ จึงได้ ชักชวนรวมตัวกันก่อสร้างโรงเรียนเพื่อให้ลูกหลานได้เรียนหนังสือ เริ่มจากการก่อสร้าง อาคารเรียน ขนาด 10x18 เมตร ปัจจุบัน นายศรีพัฒ ริยาพันธ์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านควนสามัคคี

20 2. โรงเรียนบ้านคลองโร ที่ตั้ง หมู่ที่ 5 บ้านคลองโร ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อต้นปี พ.ศ. 2488 นายแดง ชัยกุล และนายปั้น ทิพย์เกิด ได้ชักชวนราษฎรหมู่บ้าน คลองโร บ้านควนลางสาด บ้านหารดำ และบ้านปลายด่าน ได้ช่วยกันสร้างโรงเรียนโดยนาง ช้ำ บุญเอี่ยม และ นายแดง ชัยกุล ได้มอบที่ดินให้เป็นสมบัติของโรงเรียนจำนวน 16 ไร่ 3 งาน20 ตารางวา ชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างอาคารเรียนชั่วคราวขึ้น 1 หลัง ขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว7 เมตร หลังคามุงจาก พื้นดินมีฝากั้น มีมูลค่าขณะนั้น 500 บาท มอบให้เป็นสมบัติของทางราชการ พ.ศ. 2525 คณะครูกรมการศึกษาและผู้ปกครองได้สละเงินและวัสดุ ร่วมกันสร้างโรงครัวโครงการ อาหารกลางวัน มอบให้โรงเรียน 1 หลัง และได้บริจาคเงินซื้อเครื่องใช้ในโรงครัว ในปีเดียวกันได้ รับเงินจากมูลนิธิช่วยเหลือนักเรียนขาดแคลนในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำมาจ่ายในโครงการ อาหารกลางวันของโรงเรียน พ.ศ. 2527 ได้รับงบซ่อมแซมอาคารเรียนแบบ ป.1ก จำนวน 3 ห้องเรียน พ.ศ. 2528 ได้รับงบประมาณสร้างอาคารอเนกประสงค์ 1 หลังและได้รับงบประมาณ สร้างเรือนเพาะชำ 1 หลังพ.ศ. 2530 โรงเรียนได้นำเงินที่ได้รับการสนับสนุนไปจัดซื้อเครื่องสูบน้ำ ไฟฟ้ามอเตอร์ ท่อส่งน้ำ และอุปกรณ์ในการกระจายข่าวเสร็จตามกำลังงบ พ.ศ. 2531 เกิด อุทกภัยครั้งใหญ่ในภาคใต้ ระดับน้ำท่วมถึงอาคารเรียน สร้างความเสียหายให้กับโรงเรียน พ.ศ. 2532 โรงเรียนได้งบประมาณซ่อSมแeซมlอfา-คารCเรียaนre ปัจจุบันนางสาวปวิชญา สินน้อย ได้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคลองโรมีนี กเรียน ชาย 99 คน หญิง 80 รวมทั้งหมด 179 คน ห้องเรียนทั้งหมด 12 ห้องเรียน

21 3. โรงเรียนบา้ นสี่แยกคลองศิลา ที่ตั้ง ตั้งอยู่ที่หมู่ 9 บ้านสี่แยกคลองศิลา ต.พ่วงพรมคร อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี โรงเรียนบ้านสี่แยกคลองศิลา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3 เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น มีเขตพื้นที่ บริการหมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 9 และ หมู่ที่ 9 เหตุที่ก่อตั้งโรงเรียนบ้านสี่แยกคลองศิลาเพราะชาวบ้านต้องส่งบุตรหลานไปเรียนที่โรงเรียนบ้านควน สามัคคีที่มีระยะทาง 5 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง ประกอบด้วย นาย เฟื่อง เรืองศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 กับคณะ 13 คน ได้เห็นความสำคัญของการศึกษาจึงได้ร่วมกันก่อตั้งโรงเรียน บ้านสี่แยกคลองศิลา ปี 2514 ก่อตั้งโรงเรียนบ้านสี่แยกคลองศิลาขึ้นในเดือน เมษายน เป็นอาคารเรียน ชั่วคราว ขนาด 1 ห้องเรียน เปิดสอน เมื่อวันพฤหัสบดที่ 15 กรกฎาคม 2514 โดย มีนายว้า อภินันทชาติ ครูใหญ่โรงเรียนบ้านคลองโร ศึกษาธิการ อำเภอเคียนซา นานจรัล หนูศรีแก้ว กำนัน ตำบลพ่วงพรมคร นายจิตร คงประชุม ครูใหญ่โรงเรียนบ้านควน สามัคคี นายเฟื่อง เรืองศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ทำพิธีเปิด ผู้รับมอบหมายงานคนแรกคือ นายเสถียร คงประชุม ย้ายมาจากโรงเรียนบ้านควนสามัคคีรักษาการ แทนครูใหญ่ในขณะนั้น มีนักเรียนทั้งหมด 42 คน เปิดสอนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1

22 4. โรงเรียนบ้านควนคีรีวงศ์ ที่ตั้ง หมู่ที่ 2 ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2520 โดยมีการเปิดเรียนครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2520 ซึ่งถือ เป็นวันกำเนิด โรงเรียนเปิดสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีนักเรียน ทั้งหมด 35 คน มีครูมาทำการสอนคือ นายสมจิตร ศรีวารินทร์ และนายไสว อ่อนเกตพล ปัจจุบัน ทำการสอนชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่6 โดยมีนักเรียนรวมทั้งหมด 125 คน

23 5. โรงเรียนบ้านบางดี ที่ตั้ง หมู่ที่ 11 บ้านบางดี ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา จังหวัด สุราษฎร์ธานี ปัจจุบันมี นางพัชรา ไทยเสน รักษาการแทนผู้อำนวยการโรงเรียน บ้านบางดี มีนีกเรียน ชาย 46 คน หญิง 39 รวมทั้งหมด 85 คน ห้องเรียนทั้งหมด 9 ห้องเรียน

24 6. โรงเรียนบ้านสมบูรณ์ประชาสรรค์ ที่ตั้ง หมู่ที่ 12 บ้านสมบูรณ์ประชาสรรค์ ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี การก่อตั้งโรงเรียน เริ่มโดยชาวบ้านปลายควน บ้านทับส้มนาว และบ้านทับชัน ได้ประชุมกัน นายสมบูรณ์ แก้วประไพ มอบที่ดินให้จำนวน 35 ไร่ และได้เสนอไปยังสำนักงานประถมศึกษา อำเภอเคียนซาได้มาสำรวจพื้นที่ ปรากฎว่าพื้นที่ไม่เหมาะสมต่อการก่อสร้างโรงเรียน นางยิน ธุระกิจ ได้เสนอแลกเปลี่ยน กับที่ดินของตนเองในจำนวน เนื้อที่เท่ากัน ราษฎรในหมู่บ้านได้ร่วมกันสละทรัพย์และแรงงาน ร่วมกันก่อสร้าง อาคารเรียนชั่วคราว ขนาด1 ห้องเรียน หลังคามุงสังกะสี ฝากั้นด้วยไม้ไผ่ และได้สร้างโต๊ะม้านั่งนักเรียน จำนวน 13 ตัว โต๊ะครู 1 ตัว โดยไม่ได้ใช้ งบประมาณของทางราชการ โรงเรียนได้เปิดเรียนเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2528 โดยมีชั้นเรียนประถม ศึกษาปีที่1 จำนวน 1 ห้อง และในปีเดียวกันได้ขยายชั้นเรียนโดยเปิดชั้นเรียนประถมศึกษาปีที่2 เป็นห้องเรียนที่ 2 ของ โรงเรียน และเป็นสาขาของโรงเรียนบ้านสี่แยกคลองศิลา มีนักเรียนชั้นป.1 จำนวน 21 คน ชั้นป.2 จำนวน 9 คน โดย มีนายศักดิ์สิทธิ์ พรมมาคร เป็นครูคนแรกของโรงเรียน

25 7. โรงเรียนบ้านพรหมรังสิต ที่ตั้ง หมู่ที่ 6 บ้านพรหมรังสิต ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

26 8. โรงเรียนบ้านไร่ยาว ที่ตั้ง หมู่ที่ 10 บ้านไร่ยาว ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี โรงเรียนบ้านไร่ยาว สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต 3 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เปิดทำการสอน ครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2533 ปัจจุบันเปิดสอนในระดับชั้นอนุบาล 1 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน จำนวน 278 คน ครูประจำการ 12 คน ครูอัตราจ้าง 1 คน และนักการภารโรง 1 คน มีนายพันธ์ สุขทองเส้ง เป็นผู้อำนวยการสถานศึกษา นายสมคิด แก่นแก้ว เป็นประธานคณะกรรมการ สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และมีกรรมการที่ปรึกษา 40 คน มีเขตพื้นที่บริการ 4 หมู่บ้าน ได้แก่หมู่ที่ 8 บ้านราษฎร์พัฒนา ตำบลไทรโสภา อำเภอ พระแสง หมู่ที่ 10 บ้านไร่ยาว หมู่ที่ 12 บ้านสมบูรณ์ประชาสรรค์ และหมู่ที่ 13 บ้านบกหุ้น ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา (โรงเรียนขยายโอกาสจากระดับก่อนประถมศึกษาถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 2 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนบ้านคลองโร และโรงเรียนบ้านสี่แยกคลองศิลา)

27 โร1ง. เโรรียงเนรียมันธพย่วม งศพึรกมษคารวิ1ทยแาห่ง ที่ตั้ง หมู่ที่1 บ้านควนสามัคคี ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอ กรมสามัญศึกษาอนุญาตให้หน่วยเรียนระดับศึกษาตอน เคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ต้น โรงเรียนพระแสงวิทยา(สาขา) โดยมีนายสุเทพ เทือก สุบรรณ สมาชิกผู้แทนราษฎร เขต 2 ได้จัดงบพัฒนาตาม อดีตนายปาน จันทร์รอด (หลวงพ่อปาน) นาย ข้อเสนอของ ส.ส. จำนวนเงิน 200,000 บาท จัดซื้อวัสดุ ปลอด นิลวาโย กำนัน/ประธานสภาตำบล นายล่อง สมทบอาคารเรียน ขนาดกว้าง 8 x 28 เมตร พร้อมห้องน้ำ จันทร์แก้ว ผู้นำท้องถิ่นและราษฎรพ่วงพรมครร่วมกัน 2 ห้อง เสนอเรื่อง ขอเปิดโรงเรียนมัธยมศึกษาประจำตำบลพ่วง นายเดโช นาคทองคง ผู้อำนวยการโรงเรียนพระแสงวิทยา พรมคร โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นสมาชิกผู้แทน ปฏิบัติหน้าที่ครูใหญ่โรงเรียนพระแสงวิทยา(สาขา) ได้รับ ราษฎร เขต 2 เป็นผู้ประสานงานกับหน่วยงานต้นสังกัด จัดสรรบุคลากรจากกรมสามัญศึกษา จำนวน 4 อัตรา และ โดยใช้ที่ดินราชพัสดุ ที่ สฎ 84 จำนวน35 ไร่ กรรม ดำเนินการขอจัดตั้งโรงเรียนมัธยมประจำตำบลพ่วงพรมคร สามัญศึกษาอนุมัติให้เปิดหน่วยเรียนระดับมัธยมศึกษา โดยมีผู้บริจาคที่ดิน จำนวน 5 รายประกอบด้วย ตอนต้นที่ตำบลพ่วงพรมคร โดยมอบให้โรงเรียนพระแสง 1. นายมี แก่นแก้ว จำนวน 10 ไร่ วิทยารับผิดชอบจัดการเรียนการสอน โดยมีนายสาธร 2. นายช่วง หนูแก้ว จำนวน 7 ไร่ 2 งาน ลิกขะไชย เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และนายสุรชาติ รัตตา 3. นายปาน จันทร์รอด (หลวงพ่อปาน) จำนวน 2 ไร่ 2 นุกูล อาจารย์ 2 ระดับ 6 ทำหน้าที่รักษาการแทนคณะ งาน ทำงาน โดยมีคณะครูมาจากโรงเรียนพระแสงวิทยามา 4. นายเยื้อน ขาวเรือง จำนวน 7 ไร่ 2 งาน ช่วยจัดการการเรียนการสอนคือ นายสุวิทย์ อ่าวเจริญ 5. นายจ้วน ชูรินทร์ จำนวน 7 ไร่ 2 งาน และนางสาวศุภลักษณ์ เนตรรุ่ง ทั้งนี้ นายเสถียร คง ได้รับบริจาคที่ดินสร้างถนนเข้าโรงเรียนจากนายวาด ประชุม อาจารย์ใหญ่โรงเรียนบ้านควนสามัคคี ให้ความ จันทร์รอด นายวัชรินทร์ จันทร์รอด และนายเยื้อน ขาวเรือง อนุเคราะห์ใช้ห้องเรียนในการจัดการเรียนการสอน รวมเนื้อที่กว้าง 20 เมตร ยาว 488 เมตร แต่งตั้งให้นาย จำนวน5 ห้องเรียน เจนจัด ภักดีไทย ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่โรงเรียนบ้านนาเดิม วิทยาคม มาดำรงตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนพ่วงพรมครวิ ทยา กรมสามัญศึกษาได้อนุญาตให้เปิดทำการเรียนการ สอนระดับศึกษาตอนปลายโรงเรียนเปลี่ยนไปสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวง ศึกษาธิการตามโครงสร้างการบริหารส่วนราชการของการ ปฏิรูประบบราชการ ปัจจุบันโรงเรียนพ่วงพรมครวิทยาคม มีนางสาวนิภาพร บินสัน เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน และเปิดการเรียนการ สอนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอน ระดับชั้น 1-6 โดยมีนักเรียนทั้งหมดจำนวน 186 คน

28 โรงเรียนอนุบาลเอกชน 3 แห่ง และ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 1 แห่ง 1.โรงเรียนอนุบาลพฤกษชาติ 2. โรงเรียนอนุบาลบัณฑิตา ที่ตั้ง หมู่ที่1 บ้านควนสามัคคี ตำบลพ่วงพรมคร ที่ตั้ง หมู่ที่1 บ้านควนสามัคคี ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระดับชั้นที่เปิดสอน : อนุบาล 1 – อนุบาล 3 ก่อตั้ง 25 กุมภาพันธ์ 2543 เนื้อที่ : 3 ไร่ 2 งาน 3. โรงเรียนอนุบาลเพ็ญพักตร์ ในอดีตโรงเรียนอนุบาลพฤษชาติ แห่งนี้เป็น ที่ตั้ง หมู่ที่ 1 บ้านควนสามัคคี ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา สถานรับเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียน มีจุดประสงค์ใน จังหวัดสุราษฎร์ธานี การเปิดการเรียน คือ ช่วยดูแลเด็กเล็กที่พ่อ-แม่ ก่อตั้ง พ.ศ. 2551 ทำงานไม่มีเวลาดูแลบุตรและเพื่อช่วยให้คนใน สังกัด สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน พื้นที่ มีงานทำ เปิดการเรียนการสอนระดับชั้นอนุบาล 1 – 3 ปัจจุบัน นางสาว เพ็ญพัก แซ่เลี้ยง เป็นผู้บริหาร ปัจจุบัน โรงเรียนอนุบาลพฤษชาติ เปิด การเรียนการสอนระดับชั้นอนุบาล 1 - 3 และชั้น - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านคลองโร ประถมศึกษา 1 – 6 โดยมี นางลำพอง สุขช่วย ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ที่ตั้ง หมู่ที่ 5 บ้านคลองโร ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียน ซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

29 ส่วนที่ 4 โครงสร้างทางด้าน เศรษฐกิจและอาชีพ PUANGPROMKON

30 โครงสร้างด้านเศรษฐกิจและอาชีพ อาชีพโดยส่วนใหญ่ของราษฎรตำบลพ่วงพรมคร ประกอบอาชีพทาง เกษตรกรรมทำสวนยางพารา และปาล์มน้ำมัน สวนผลไม้ เป็นต้น - สวนยางพาราประมาณ 68,049 ไร่ - สวนปาล์มน้ำมันประมาณ 6,663 ไร่ - สวนเงาะประมาณ 115 ไร่ - สวนมังคุดประมาณ 84 ไร่ - สวนทุเรียนประมาณ 154 ไร่ - ข้าวไร่ประมาณ 150 ไร่

31 ส่วนที่ 5 ความเชื่อ ประเพณี และพิธีกรรม PUANGPROMKON

32 ความเชื่อ ประเพณีและพิธีกรรม ส่วนใหญ่ประชากรในพื้นที่ตำบลพ่วงพรมคร นับถือศาสนาพุทธมีความเชื่อเรื่องการ นับถือบรรพบุรุษนี้เกี่ยวข้องโดยตรงประเพณีของตำบลพ่วงพรมคร เป็นชาวไทยถิ่นใต้ ประชาชนโดยส่วนมากแล้วก็จะมีการไหว้บรรพบุรุษกันทุกปี เช่น การไหว้เจ้าที่เจ้าทาง การ ไหว้ปู่ย่าตายาย ครูบาอาจารย์ที่นับถือที่ได้ล่วงลับไปแล้ว ประเพณีและพิธีกรรม ประเพณีและพิธีกรรม ที่ประชาชนเชื่อถือและได้ยึดแนวปฏิบัติสืบต่อกันมา จนเป็น แบบแผนขนบธรรมเนียมของพื้นที่ ตำบลพ่วงพรมคร











38 6 สถานที่สำคัญ ตำบลพ่วงพรมคร

1.39คี วัดควนสามัค วัดควนสามัคคี ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านควนสามัคคี ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา จังหวัด สุราษฎร์ธานี ผู้บุกเบิกวัดควนสามัคคีคือหลวงพ่อปาน กันตะธรรมโมหรือพ่อหลวงปาน จันทร์รอด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2510 ในอดีตชื่อว่า สำนักสงฆ์ควนสามัคคี ต่อมาในปี พ.ศ.2556 ได้ยกระดับจากสำนักสงฆ์ควน สามัคคี เป็นวัดควนสามัคคี โดยมี พระอธิการประจวบ ปญญาคโม เป็นเจ้าอาวาส พ่อหลวงจวบวัดควน สามัคคี ท่านมีบุตรสาว มีชื่อว่า อรอุมา สิทธิรักษ์ นักวอลเลย์บอลทีมชาติไทย อรอุมา สิทธิรักษ์ ก็ถือได้ว่าเป็น จุดประกายส่วนหนึ่งในการร่วมสร้าง ร่วมพัฒนาวัดควนสามัคคีร่วมกับพี่น้องประชาชนและผู้นำตำบลพ่วงพรม คร ปัจจุบันถือได้ว่าเป็นวัดที่มีการพัฒนาซึ่งเป็นอันดับต้นๆของอำเภอเคียนซา โดยมีการพัฒนามาตลอดและ ต้องยอมรับว่าพระอธิการประจวบถือได้ว่าเป็นพระนักพัฒนาวัดควนสามัคคี หรือใครที่ผ่านไปมาสามารถแวะมากราบพ่อหลวงปาน กันตะธรรมโม หรือพ่อหลวงปาน จันทร์รอด ตั้งอยู่ ปากทางเข้าวัดควนสามัคคีและในวัดยังมีรูปหล่อหลวงพ่อคล้าย วาจาสิทธิ์(วัดสวนขัน) และรูปหล่อหลวงพ่อ ทวด (วัดช้างไห้) วัดควนสามัคคีมีสถานที่กว้างขวางมมีลานจอดรถที่ใหญ่สบายที่จะมาร่วมพิธีทางศาสนาหรือแวะมาพักผ่อน จิตใจ ขณะนี้วัดควนสามัคคีกำลังเริ่มก่อสร้างเจดีย์ขนาดใหญ่โดยใช้งบประมานในการก่อสร้าง ประมาณ14ล้านบาท

2.บ่ 40าม อถ่านศิลาสย บ่อถ่านศิลาสยาม มีความสำคัญทาง ประวัติศาสตร์ เป็นพื้นที่ที่ รัชกาลที่ 6 มีพระบรม ราชโองการให้สงวนที่ดินในตำบลพ่วงพรมครไว้เป็น ที่ขุดถ่านหิน มีบริษัทบ่อถ่านหินศิลาสยาม ดำเนิน กิจการเหมือง ในช่วงปี 2463 -2468 ในปี 2470 เหมืองได้ปิดกิจการลงเนื่องจากช่วง นั้นบริษัทขาดเเคลนเครื่องมือจักรกลและถ่านหินที่ ขุดได้นั้นยังอ่อนประโยชน์ไม่คุ้มทุนจึงหยุดดำเนิน กิจการไปถูกปล่อยทิ้งร้างไปจนหมดเวลาที่ได้รับ สัมปทาน ต่อมาได้โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำ จากกรม ทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อม ได้ให้งบประมาณเพื่อเทคอนกรีตล้อมรอบ แหล่งน้ำเพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ และพระในสา นักสงฆ์บ่อถ่านหินและกรรมการได้ดูแลพื้นที่ บ่อ ถ่านศิลาตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 2

41 3 . อ ง ค์ ก า ร บ ริห า ร ส่ ว น ตำ บ ล พ่ ว ง พ ร ม ค ร จัดตั้งเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2540 ซึ่งอยูํในการกำกับดูแลของ นายอำเภอ ผู้ว่าราชการ จังหวัด และกระทรวงมหาดไทย โดยมี นายกองค์การบริหารส่วนตาบลพ่วงพรมคร เป็นผู้ บริหารสูงสุด มีภารกิจอำนาจหน้าที่ภายใต้ระเบียบ กฎหมาย ข้อบังคับ และมติ ครม.ที่ เกี่ยวข้อง

4 . โ ร ง พ ย า บ า ล ส่ ง เ ส ริม สุ ข ภ า พ 42 ตำ บ ล พ่ ว ง พ ร ม ค ร ก่อสร้างเมื่อปีพ.ศ. 2508 ซึ่งในสมัยนั้นเรียกชื่อเป็น สํานักงานผดุงครรภ์บ้านคลองโร ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ หมู่ที่ 5 ตําบลพ่วงพรมคร โดยมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานคนแรกชื่อ นางสาวธนาภรณ์ สถิตเสถียร ตําแหน่ง เจ้า หน้าที่ผดุงครรภ์และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลแห่งนี้เป็น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลแห่งแรก ของตําบลพ่วงพรมคร ซึ่งในขณะนั้นรับผิดชอบดูแลสุขภาพของ ประชาชนทั้งตําบล ต่อมาในปี พ.ศ. 2514 ทางราชการได้ยกฐานะขึ้นเป็น สถานีอนามัยตําบลพ่วงพรมคร อําเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปี พ.ศ. 2534 ทางราชการได้จัดสรรงบประมาณให้สําหรับก่อสร้างอาคารสถานีอนามัยหลังใหม่ เนื่องจากตัวอาคาร หลังเก่าชํารุดและทรุดโทรมมาก ไม่สามารถใช้เป็นที่ทำการบริการประชาชนได้ และประกอบ กับพื้นที่ใน บริเวณนั้นไม่เหมาะสมกับสถานที่ราชการในการบริการและดูแลสุขภาพของประชาชน จึงได้ย้ายที่ ก่อสร้าง อาคารสถานีอนามัยในพื้นที่ใหม่ ซึ่งห่างจากสถานที่เดิมประมาณ 400 เมตร โดยได้รับการบริจาคที่ดินที่ สาธารณะประโยชน์ของหมู่บ้าน จํานวน 5 ไร่ ในปัจจุบัน สถานีอนามัยตําบลพ่วงพรมคร ได้ยกฐานะเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลพ่วงพรมคร เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2554 มีเขตบริการที่รับผิดชอบ จํานวน 6 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ที่ 1 บ้านควน สามัคคี, หมู่ที่ 4 บ้านบางดี, หมู่ที่ 5 บ้านคลองโร, หมู่ที่ 6 บ้านพรหมรังสิต, หมู่ที่ 8 บ้านควนลางสาด และ หมู่ ที่ 11 บ้านห้วยลึก (พื้นที่โดยประมาณ 105 ตารางกิโลเมตร)

43 5.สหกรณ์ กองทุนสวนยาง พ่วงพรมคร จำกัด สหกรณ์กองทุนสวนยางพ่วงพรมคร จำกัด ตั้งอยู่ หมู่ที่ 2 ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

6.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 44 บ้านสี่แยกคลองศิลา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสี่แยกคลองศิลา หมู่ 9 ต.พ่วงพรมคร อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ปี 2529 เริ่มก่อสร้าง เนื่องจากในตำบลพ่วงพรมคร มีสถานี อนามัยแค่ 1 แห่ง คือสถานีอนามัยพ่วงพรมคร ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 5 บ้านคลองโร ทำให้ประชาชนที่อยู่ห่างไกลจาก สถานีอนามัยพ่วงพรมคร เดินทางไปใช้บริการไม่สะดวก ประกอบกับมี นายเจริญ นางสว่าง ศรีวารินทร์ เป็น ผู้บริจาคที่ดินให้ประมาณ 2 ไร่ จึงได้มีการก่อสร้างสถานีอนามัยบ้านสี่แยกคลองศิลาเพิ่มขึ้นโดยมีพื้นที่เขตรับ ผิดชอบ คือ ม.2 ม.3 ม.7 ม.9 ม.10 ม.12 และ ม.13 ปี 2530 ก่อตั้งเป็นสถานีอนามัยบ้านสี่แยกคลองศิลา ปี 2553 ยกระดับสถานีอนามัยบ้านสี่แยกคลองศิลาเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสี่แยก คลองศิลา ปี 2559เปลี่ยนจากหัวหน้าสถานีอนามัยเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ปัจจุบัน มีการรักษาเบื้องต้น ทันตกรรม แพทย์แผนไทย กายภาพบำบัด ปี 2555-2564 นายจรินทร์ รัตนวุฒิ เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสี่แยกคลองศิลา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสี่ แยกคลองศิลา ตั้งอยู่หมู่ที่ 9 บ้านสี่แยก คลองศิลา ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอ เคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

45 ส่วนที่ 7 การเปลี่ยนแปลง ทางสังคมและ วัฒนธรรม PUANGPROMKON

46 การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม ส่งเสริมให้มีการฝึกอบรม แก่ผู้นำท้อง ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการบริหาร ถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาคม ฯลฯ งานภาคประชาชน ร่วมประชุมประจำ เพื่อนำความรู้ไป เป็นแนวทางในการ เดือนกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อรับ ทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทราบถึงปัญหาของประชาชนอย่าง แท้จริง สนับสนุนงบประมาณในการ สนับสนุนและส่งเสริม พร้อม ศึกษาดูงานแก่ผู้บริหาร จัดหาอุปกรณ์ ในการ สมาชิกสภาอบต. บุคลากร ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนได้ ผู้นำท้องถิ่น และ กลุ่มองค์กร รับข้อมูล ข่าวสารในด้านต่าง ๆ ต่าง ๆ เพื่อนำความรู้ มาปรับใช้ อย่างทั่วถึง สะดวกและรวดเร็ว กับท้องถิ่นของตนเองให้มี ความเข้มแข็งและมี ประสิทธิภาพมากขึ้น กำหนดมาตรการ ในการรักษาความ ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดย การมีส่วนร่วมของ ประชาชน และ ความร่วมมือจากหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง

47 การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ จัดทำโครงการ คนดีของสังคม โดย เครื่องใช้ ในการรักษาความปลอดภัย การมอบโล่เกียรติคุณเชิดชูเกียรติ และบรรเทาสาธารณภัย ตามความ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ ให้กับ เหมาะสม สังคมที่ดีในการพัฒนาคุณภาพของ ชุมชนต่อไป ส่งเสริมสนับสนุนให้ชุมชนมี ส่งเสริมสนับสนุนการจัดงาน วัน ส่วนร่วมในกิจกรรม ด้านการ สำคัญต่างๆ ของชาติ และวัน อนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรม สำคัญทางศาสนา ตามนโยบาย ท้องถิ่น และเทศกาลสำคัญ ของทางราชการ ต่าง ๆ ในเขตองค์การบริหาร ส่วนตำบลพ่วงพรมคร