๑ รวมคาสอน สมเด็จพระพฒุ าจารย์ โต พรหมรงั สี วัตถปุ ระสงค์ของการสร้างพระสมเดจ็ วัตถมุ งคลท้ังหลายท่ีสรา้ งขึน้ มาแลว้ ก็ดี จะเก่าหรือใหมน่ ั้น อยู่ที่ เจตนาของผสู้ รา้ ง ว่าใหไ้ ปเพื่ออะไร บคุ คลใดครอบครองแล้วทําใหม้ กี าํ ลังใจ ประกอบคณุ งามความดแี ลว้ ไซร้ นน่ั เรียกวา่ เป็นของมงคล แต่บุคคลผู้ใดได้ ครอบครองแลว้ แต่จิตใจนน้ั ไมต่ ั้งอยใู่ นกศุ ลทาน ในศีล ในธรรมแล้ว ของนั้น เรียกวา่ เป็นของอปั มงคลโดยแท้ หาได้มคี วามศกั ด์ิสิทธ์ไิ ม่ เข้าใจไหมจ๊ะ... ดงั นั้นมนั ต้องอยู่ท่ีเจตนาผสู้ รา้ ง เจตนาผ้รู ับมนั ถึงจะเกดิ ผล ดงั นั้นถา้ เจตนาไม่ดแี ล้วไซร้ ต้นเหตมุ นั ไม่ดี ผลมนั ออกมาไม่ดแี น่ ในขณะน้ี ปจั จบุ นั นี้ จงึ ผดิ วัตถปุ ระสงค์ เพราะสร้างข้ึนมาแลว้ มเี จตนาดว้ ยความโลภน้นั แล ดว้ ย ความหลง เมอ่ื เจตนามันเปน็ อยา่ งน้ัน บคุ คลที่ไดค้ รอบครองแล้วไซร้ ความ ศักดส์ิ ิทธม์ิ นั ก็ไมบ่ งั เกดิ เพราะเจตนาคนสรา้ ง เปน็ เจตนาท่ีมมี ิจฉาทิฐิ ความ ขลงั ความศกั ด์สิ ิทธม์ิ นั จะมไี ด้อย่างไรเล่า... เพราะเขาทําดว้ ยความอยาก ด้วย
๒ ความหลง ด้วยอํานาจแห่งไฟสามกอง มันก็ไปสมุ อยู่ในสง่ิ ทโ่ี ยมน้ันได้นําพาไป บูชา จิตโยมกไ็ ปผกู อยู่กบั สิ่งนน้ั มันกห็ ามีความสงบไม่ ดังนั้นไม่วา่ โยมจะรับส่ิงใดไป สิง่ นัน้ หากวา่ โยมรบั แล้วเกดิ กาํ ลงั จติ กาํ ลงั ใจ เกิดปติ ิสขุ ขอใหร้ ู้เอาไว้ว่า น้ันเรยี กว่า เกดิ พทุ ธคณุ โดยแท้ ถ้าโยมรบั ไปแล้วมคี วามอยากได้ใคร่ดี ปรารถนา มโี ทสะ มรี ษิ ยาแลว้ ไซร้ สิง่ นัน้ เรียกวา่ เปน็ ของอัปมงคล หาไดม้ ีพทุ ธคณุ ไม่ คําวา่ \"พุทธคณุ \" นัน้ ตอ้ งให้คณุ ในทางที่ดี ถา้ เปลี่ยนแปลงให้โยมดไี มไ่ ด้ แสดงวา่ ของนั้น ไมศ่ ักดส์ิ ทิ ธิ์ อย่าเอามาห้อยให้ มันหนกั คอ อยา่ เอามาบูชาให้หนกั หิ้งหนักคอ ถ้าเปน็ อย่างน้นั ไม่ควรจะมเี ลย เสยี ดีกว่า อปุ มาเหมอื นมีมิตร แต่มิตรนั้น ไม่แท้ ไมจ่ ริง เปน็ มติ รเทยี ม คบพระ ธรรมจะดีกวา่ คบตัวเองจะดกี วา่ ... ฉันมาน้นั กไ็ มไ่ ดใ้ ห้โยมมาลมุ่ หลงงมงายนะ พระสมเด็จทีท่ ําไปนั้น ก็ ไม่ไดใ้ ห้โยมนั้นหลง หรอื มีความอยากได้ใคร่ดมี าครอบครอง นั่นผิด วตั ถุประสงค์ เมอื่ ผดิ วตั ถุประสงค์แลว้ ไซร้ ส่ิงทง้ั หลายท้ังปวงทโี่ ยมตามหา โยม ยอ่ มหาไม่เจอ เพราะวา่ โยมจะเจอแต่ของปลอม ถงึ แมโ้ ยมสัมผัสของจริง แต่ จติ และใจของโยมน้นั ยงั ไม่เคยจรงิ โยมกไ็ ม่รูไ้ ด้วา่ ของจรงิ ของปลอมเปน็ เชน่ ไร ... วา่ สมเด็จโดยแทอ้ ยู่ที่ใด สมเด็จโดยแทน้ นั้ จะอย่กู บั ผทู้ มี่ ศี ีล มีธรรม มีบารมี เก่า เรยี กวา่ ตอ้ งตกทอดมา ถงึ แมโ้ ยมได้ครอบครอง ไม่นานก็ยอ่ มอนั ตรธาน หายไป เพราะส่งิ ทโี่ ยมครอบครองไวเ้ ปน็ ของโจร สิ่งไหนกต็ ามท่โี ยมไดม้ าโดย ไมช่ อบธรรมแลว้ ไซร้ คําวา่ \"ธรรม\" ย่อมมีธาตกุ ายสิทธิ์อยู่ ยอ่ มลอ่ งหนหายได้ ในบดั ดล นั้นสง่ิ ใดกต็ ามท่โี ยมนนั้ จะตามหา อยา่ ไดแ้ สวงหา แตใ่ ห้มีความ ปรารถนา ดังน้นั บุคลคลใดเจริญแล้วในพระคาถา พระคาถานั้นแล ที่ฉนั ได้ เสกสันปน้ั แต่งให้เกิดสมเด็จ ในอทิ ธฤิ ทธิใ์ นพทุ ธคุณข้นึ มา
๓ ดังนั้นผใู้ ดสาธยายมนต์เจรญิ มนตใ์ นพระคาถาชินบญั ชรแล้ว ๓ จบก็ดี ๕ จบก็ดี ๙ จบกด็ ี ๑๐ จบกด็ ี ๑๐๘ จบกด็ ี หรือกี่จบก็ได้ ภาวนากด็ ี เมื่อโยมมี ความปรารถนา สมเด็จนน้ั ท่านจะมาบิณฑบาตทหี่ น้าบ้านโยมเอง เข้าใจไหม จะ๊ ... แล้วถา้ โยมมแี ลว้ ถามว่าโยมจะเอาไปทาํ อะไร สมเด็จแท้ขายไมไ่ ด้นะจะ๊ เดย๋ี วนี้สมเด็จปลอมถงึ จะมีราคา เพราะมนษุ ยน์ น้ั ไม่ร้วู า่ สมเด็จแทน้ ั้นเป็น อยา่ งไร ใชไ่ หมจะ๊ เพราะมนั ปลอมจนเหมือนแท้แลว้ แท้ทจ่ี ริงแล้วสมเดจ็ ไม่ได้ ปลอมจ้ะ แต่คนทมี่ ันปลอมตา่ งหากทไ่ี ปปลอมสมเดจ็ คําวา่ สมเด็จก็คือสมเดจ็ แต่บคุ คลใดไมม่ ีศลี มธี รรม จะเข้าถึงสมเดจ็ ไม่ได้ ดงั น้นั ผทู้ ่ียังมีไฟอยู่จะ ครอบครองก็ครอบครองได้ไม่นาน เชน่ เดยี วกับผู้ที่จะเจริญมนตห์ รอื ภาวนา หรือเจริญสมาธินนั้ ใจก็ต้องสงบแลว้ ร่มเย็นแล้ว หลงั คาบ้านไม่รั่วแลว้ น่นั แล สมเด็จถงึ จะเสด็จไปประทับ ไปเมตตาไปอนุเคราะห์ได้ เข้าใจไหมจะ๊ ... ดงั นั้น ทบี่ อกวา่ สมเด็จน้ันชอบแตผ่ ู้มีเงิน มอี ัฐ มีเบีย้ นนั้ ไมจ่ รงิ เพราะ รวยจนน้ันมนั กแ็ คส่ มมุติขึน้ มา แตค่ นรวยท่แี ทจ้ ริงนะ คอื มคี ําว่า \"พอ\" น่นั แหละจ้ะ ผทู้ เี่ รยี กว่าเศรษฐแี ลว้ ดงั น้ัน บคุ คลผ้ทู เ่ี จริญมนตแ์ ลว้ มีความ ปรารถนาแล้ว อธษิ ฐานไวแ้ ล้ว ไม่เกินทีโ่ ยมจะยงั อยู่ หรอื มีชวี ิตอยหู่ รอกจ๊ะ โยมจะไดพ้ บปาฏิหารยิ ์ในพระคาถา ในคาํ อธิฐาน แตห่ าคา่ ทีส่ ุดมไิ ดน้ นั้ คือ ธรรมอัศจรรย์ทส่ี มเดจ็ นั้น เขาจะพาโยม ทะลุหว้ งเวลาของมายา ออกจาก วัฏสงสารและภยั แหง่ โลกใบนีต้ า่ งหาก นั้นเรียกว่าส่งิ ทีโ่ ยมปรารถนามานัน้ จะ สมปรารถนาในไม่ชา้ น้ี เพราะวา่ สมเดจ็ บคุ คลได้เจรญิ มนต์แลว้ ในพระคาถา ชินบัญชรแลว้ บคุ คลผู้นั้นไมร่ ้ตู ัวด้วยซาํ้ วา่ มีสมเดจ็ อยู่ เพราะถูกสลายเป็นธาตุ กายสทิ ธิ์ ครอบกระหม่อมอินทรีย์ ตา หู จมูก ไว้ เม่อื โยมมีศรัทธา มคี วามเช่อื ในพระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์แลว้ ไซร้ สมเดจ็ ที่โยมปรารถนาไวก้ จ็ ะเกดิ พุทธคุณขึน้ มา เรยี กว่านาํ ทางใหโ้ ยมน้นั เขา้ สู่ความสงบ ไมว่ า่ มเี คราะหม์ ภี ยั
๔ อนั ใด จะเกดิ ตัวรู้ เรยี กว่าสมเด็จจะเตือนอยตู่ ลอดเวลา นเ่ี รยี กผ้นู นั้ มสี มเด็จ จรงิ จะไมม่ ีใครหรอื โจรหนา้ ไหนขโมยของโยมไปได้ เข้าใจไหมจ๊ะ... เพราะท่แี ท้จริงแล้วของน้ัน ถา้ ดีจริงจะไม่มรี าคาคา่ งวดทต่ี ง้ั ขนึ้ มา แต่ ทต่ี ั้งขน้ึ มาเรยี กว่า สมมตุ ขิ น้ึ มา ของทุกอยา่ งมนั ต้องได้มาจากใจ ในความพอใจ อานภุ าพพระคาถาชนิ บญั ชร “...การสาธยายมนตช์ ินบัญชรพระคาถานี้ มีอานภุ าพอย่างไรเลา่ .. ก็มีอยวู่ า่ ถา้ มีวิญญาณ ที่อาฆาตพยาบาท มาสงิ สู่โดยไม่รตู้ ัว มาตามทางกด็ ี ตามปาุ ชา้ ก็ดี หรอื มาจากคุณไสยกด็ ี ...สวดแรก ๆ กม็ ียื้อย้งั กันเป็นธรรมดา สวด ๆ ไปแน่นหน้าอก แสดงวา่ มีผลแลว้ เชน่ ถา้ กนิ ยาแล้วไมเ่ กิดปฏกิ ริ ิยา กแ็ สดงว่ายานน้ั ไมอ่ อกฤทธิ์ เขา้ ใจไหมจะ๊ ...ถา้ สวดแล้วเป็นปกติ แสดงวา่ เราไม่มีอะไรกบั ใคร
๕ จาํ ไวน้ ะ.. ไม่ใชส่ วด ๆ ไปหาวา่ คาถานสี้ งู สวดไมไ่ ด้ สงสัยตอ้ งไดร้ บั บญั ชามาก่อนถึงจะสวดได้ น้เี รยี กว่า.. งมงาย.. ขาดปญั ญา...” ธรรมเทศนาจากญาณจิต...สมเดจ็ ฯ โต พรหมรงั สี ณ สถานปฏบิ ตั ธิ รรม พรหมรังสี จ.เพชรบุรี สงครามโลก คร้ังที่ ๓ “.....สิง่ ที่มองไมเ่ หน็ แต่เป็นอณูนแี่ หละ คอื นวิ เคลยี ร์ นิวเคลยี รท์ ่ี แทจ้ รงิ คอื จติ ใจของมนุษย์ทมี่ ีโลภโมโทสัน ทีม่ ีอานุภาพแห่งกรรมทาํ ลายลา้ ง โลก ยิง่ มคี วามรนุ แรง ประหัสประหารกนั มาก นน้ั คือการเตือนภยั แล้ว เมื่อมี เลอื ดหลั่งธรณี สองมีสภาวะนิวเคลยี ร์ บรรยากาศทุกอยา่ งจะผดิ ปกติทง้ั หมด ทกุ อย่างจะถูกปนเป้อื น.....
๖ .....ดงั น้ันโยมตอ้ งเจริญสติ แผ่เมตตาใหม้ าก ๆ แล้วผใู้ ดมีจติ ใจทีม่ ่ันคง ไมม่ คี วามอาฆาตพยาบาท ผนู้ น้ั ย่อมรอดพ้นจากภัยได้ บคุ คลทจี่ ะมเี วรภยั เพราะเขามีเวรกรรมร่วมกนั เขาจงึ ถงึ นําพาเข้าไป ผ้ใู ดไมส่ รา้ งเวรมา สร้างแต่ กรรมดี แรงเหว่ยี งแห่งบุญกุศล จะมีตาข่ายทองมาครอบคลมุ ไว้ดว้ ยธรรม ดว้ ย บุญทส่ี ะสมมา. .....ดังนัน้ เมื่อรแู้ ลว้ วา่ มนษุ ยท์ ั้งหลายนมี้ เี ฉพาะความโลภ ความโกรธ โทสะ โมหะ มันจงึ ประหสั ประหารกัน เมื่อเกดิ สงคราม ทกุ อย่างจะขาดแคลน คําวา่ \"แผน่ ดนิ ธรรม แผ่นดนิ ทอง อขู่ ้าวอนู่ ํ้า\" ต่อไปสวุ รรณภมู นิ ้นั ก็จะเปน็ ท่ี หมายตาต่อผ้อู ื่นอีกมากมาย แผ่นดนิ ทกุ ตารางน้ิวของสยามประเทศ จะแพง กวา่ ทอง .....เมือ่ นน้ั ศาสนากต็ าม คาํ สัง่ สอนองค์สมณะโคดมกต็ าม จะรงุ่ เรือง ไพบลู ยอ์ ีกครั้งหน่งึ แล้วผู้คนทงั้ หลายจะแกง่ แย่งชงิ ดีไขวค่ วา้ หาทางหลดุ พน้ กัน ยง่ิ ขึ้น มีความเมตตา ให้เกยี รติกนั มากย่ิงข้ึน แต่กอ่ นจะเกดิ อย่างนัน้ มันต้องมี เชอื ดไกใ่ ห้ลงิ ดูก่อน เลือดต้องนองแผน่ ดินก่อน แผน่ ดินจะวปิ โยคหนง่ึ ครงั้ แม่ คงคาจะล้างเลอื ดอีกหนง่ึ คร้งั ศีลมนุษย์จึงจะบังเกดิ ขน้ึ .....” เทศนาธรรมของ...สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรงั สี จากการทรงญาณสมาธิ ณ สถานปฏิบัติธรรมพรหมรังสี จ.เพชรบรุ ี
๗ การอธิษฐานบญุ -ต่ออายสุ ังขาร ................................................. จงจําไว้ ความตายเปน็ เรอ่ื งธรรมดา ถ้าโยมไม่ตาย น้ันแหละจ้ะ
๘ ผดิ วสิ ัยของมนษุ ย์ธรรมดา ลมหายใจมวี นั หมด น้ันคือ หมดอายขุ ัย คาํ วา่ ขยั เหมือนไสต้ ะเกียง ถา้ ไสม้ ันหมดแล้ว ถงึ โยมจะมีเชือ้ โยมจะไปจดุ มนั ติดไหมจ๊ะ... แตถ่ า้ โยมยงั มไี ส้อยู่ แตเ่ ช้ือของมันหมด โยมไปจุดมันตดิ ไหมจ้ะ... คอื การอธษิ ฐานขอต่อลองวา่ ... “...ลมหายใจทขี่ ้าพเจ้ามีอยู่น้ี กายของขา้ พเจ้านี้ ท่ไี ดม้ าจากฟาู ไดม้ าจากบิดามารดา ผ้ใู ห้กาํ เนดิ หล่อหลอมกายสังขาร ขอเอาลมหายใจ อายุขัยทีม่ อี ยนู่ ี้ ตอบแทนพระพุทธศาสนา ตอบแทนผู้ให้กาํ เนดิ และแผน่ ดนิ ผใู้ หไ้ ดเ้ หยยี บยาํ่ ทําคุณงามความดี...” …นีแ่ หละจ้ะ ฟาู และดินจะดูแลโยม... เขา้ ใจไหมจ๊ะ บคุ คลทีอ่ ธิษฐานแบบนี้ เรยี กวา่ ร้ทู ่ีสงู และทีต่ ํา่ ไม่ว่าเทา้ บคุ คลผูน้ ี้ผนู้ ้ัน จะเหยยี บอยทู่ ี่ใด ทน่ี ้ันจะมเี ทวดารกั ษา... แตต่ รงกนั ขา้ ม ถ้าบคุ คลใดเป็นผู้ทาํ ลาย ไม่รูจ้ กั ท่สี งู ท่ตี ํ่า ไม่วา่ บุคคลผ้นู ัน้ จะอยู่ ณ ที่แหง่ ใด จะไมร่ อดพน้ ภยั ได้ เพราะว่าธรณีจะสูบ เคยได้ยนิ ไหมจ๊ะ
๙ …หนงึ่ ถ้าไมถ่ กู สูบก็จะถูกดดู จากโคลน จากลาวา จากน้ํา ถกู ดดู จากอากาศ คาํ วา่ ถกู ดูดจากอากาศ หมายถงึ ว่า อากาศมันหมุน เข้าใจไหมจ๊ะ ฉนั จงึ บอกวา่ สงิ่ ใดที่โยมไม่เจอ โยมจะได้เจอ จงจําไว้ มนั มาพร้อมกนั หมด เข้าใจไหมจ๊ะ แต่มันจะมาน้อยมามาก ก็สุดแลว้ แตธ่ รรมชาติ ดังน้นั ตอนทโี่ ยมยงั สงบอยู่ โยมจงเอาความสงบน้ี เจรญิ บญุ กุศล เจริญความเพยี รให้มาก ................................................. ธรรมเทศนาจากญาณจติ ...สมเดจ็ ฯ โต พรหมรงั สี ณ สถานปฏบิ ัตธิ รรม พรหมรงั สี จ.เพชรบรุ ี
๑๐ \" อานิสงส์ของการสวดมนต์ \" .............................................. การสาธยายมนตน์ ี้มีอานสิ งส์มาก ชว่ ยดบั ให้จติ โยมน้ันสงบ สอง ขับไลส่ ่ิงอัปมงคล สาม เปน็ ทานแห่งเสยี ง แล้วขั้นท่ีสาํ คญั ท่ีสุด ถ้าโยมสวดมสี ติ มสี มาธิ ร้จู กั อักขระคาถา รู้คําแปลแล้ว เข้าถึงแลว้ ในความหมาย กส็ ามารถบรรลธุ รรมได้
๑๑
๑๒ \"ฌานเสือ่ มเพราะอะไร\" ฌานเม่ือคงที่ไวด้ ้วยกุศล แตเ่ ม่อื เราสรา้ งอกุศล แนน่ อนมนั ย่อมเส่ือม ราศีมันเสื่อม มันกห็ มอง ตาน้ีตัวปญั ญามนั จะเกดิ มันก็เกดิ ช้าแลว้ เพราะอะไรจะ๊ ...เพราะกิเลสมันมาบดบงั มนั เร่ิมหนาข้นึ พอมนั หนาข้นึ มนั จึงมองไม่เหน็ ตาท่ีมันเป็นหมอกเปน็ ควนั มันก็เริม่ หลงอีกแล้ว กลบั ไปทีว่ ัฏฏะ วังวนท่เี ดิม แตค่ นทเ่ี คยทาํ ได้ คนทมี่ บี ุญแบบน้นั พอวนกลับมาทเ่ี ดมิ เขาก็เบือ่ หน่ายอีก เขาก็เดินออกไปอีกเหมือนเดิม ซา้ํ แล้วซ้ําเลา่ ...
๑๓ บุคคลที่เจรญิ ฌานด้วยปัญญาแล้ว ไมพ่ น้ ชาตนิ ้หี รืออีกเจด็ ชาติ เขาตอ้ งบรรลุธรรม เพราะเขาเห็นความไม่เท่ียงนน่ั เอง ท่ีเขาเห็นไม่ชัดเพราะวา่ มนั เบ่ือหน่ายไมจ่ ริง คอื ปัญญามนั ไมแ่ จง้ ปัญญามนั จะแจง้ ...กด็ ้วยความเพยี ร ความเพียรจะมีกาํ ลงั ...กต็ อ้ งด้วยขนั ติ ขนั ตมิ ันจะศักด์สิ ิทธิ์...มันต้องมีสจั จะ สจั จะมันจะเขม้ ขลงั ...ตอ้ งอธิษฐานจิต เขา้ ใจไหมจ๊ะ... เขาเรียกวา่ ...ปลุกระดมใหม้ ันฮกึ เหิม
๑๔ “เวร...ระงบั ด้วยการไม่จองเวร” ...ถ้าเราถูกว่า.....เราเคยว่าเขา ...ถา้ เราถูกตี......เราเคยตีเขา ...ถ้าเราถูกดถู ูก..เราเคยดูถูกเขา ...ฉนั จงึ บอกวา่ เวรตอ่ เวรมันจงึ ทาํ กนั ได้ ...จึงให้ผลขา้ มภพขา้ มชาติ ...แต่เวรตอ่ เวรที่ไม่ให้ผล คอื การใหอ้ ภัย ...จงึ จบกนั ในชาติน้ไี ด้ \"โยมว่าองคม์ ีจรงิ ไหมจ๊ะ... ...เขาบอกวา่ ฉันมาเทศนา บอกว่าองคส์ มเดจ็ เหรอจะ๊ ถา้ โยมบอกวา่ องค์ธรรมได้ ถา้ องคไ์ หน ๆ ไม่ใช่ ทุกอย่างได้แคอ่ าศยั เป็นแค่ องคป์ ระกอบเป็นแคป่ ัจจยั ใหเ้ ก้อื หนุน สง่ิ ใดสงิ่ หนง่ึ ให้เกดิ ขึ้นแค่นั้น ถา้ ใครคิด
๑๕ ว่าสง่ิ นัน้ เป็นองค์นั้นองคน์ ้ี นัน้ ก็เรยี กวา่ หลงเชน่ กนั แสดงวา่ ธรรมน้นั ไมเ่ กดิ ประโยชนก์ ับบคุ คลผ้นู นั้ เลย เข้าใจไหมจะ้ ... ...แมใ้ นอดตี หรือในอนาคตทยี่ งั มาไมถ่ ึง ถ้าไปหลงกไ็ มเ่ ห็นธรรมอยู่ดี เพราะส่งิ ท่ีคลาดเคล่ือนผา่ นมาแล้วไม่สามารถแก้ไขได้ แต่ถา้ ใครไปกําหนดรูใ้ น อดตี และเหน็ ข้อผิดพลาด นนั้ แหละจะ้ จะไดป้ ระโยชน์ในอดีตน้นั และ สามารถกาํ หนดอนาคตได้ เรียกว่า ผู้น้ันเจรญิ ปญั ญาอยใู่ นขณะนัน้ แตถ่ า้ ใคร ไปเพ่งอยใู่ นอดีตและจมปลักอยู่ในอดตี ... ...นน่ั แหละจ้ะ เขาเรยี กวา่ ขาดปญั ญา ขาดการพจิ ารณา จึงเรยี กว่าขาดสติ \"เขาบอกว่า...ต่อไปสยามจะเกดิ ภยั พบิ ัติ น่ันกไ็ ม่ใช่เร่อื งมสุ าอะไร เพราะว่าเหตุมนั เป็นอยา่ งนน้ั เมืองหลวงจะตง้ั ทใี่ ด แล้วทีใ่ ดจะเป็นเกาะ แลว้ ทใี่ ดจะเปน็ ทางขน้ึ แหง่ เกาะ
๑๖ แลว้ ที่ใดจะเป็นถนนเชือ่ มต่อไปสเู่ มือง เห็นไหมจ๊ะ...แผนทโี่ ลกจะเปล่ียนใหม่อกี แล้ว \" ส ม า ธิ คื อ อ ะ ไ ร “ โยมจะเขา้ หาสมาธิ โยมต้องมีอุบาย อบุ ายนั้นวา่ ... ...สาํ นกั นน้ั ให้ภาวนา ...อกี สํานกั บอกว่ายบุ หนอ-พองหนอ ...อีกสาํ นักหนึง่ ให้ดูลมหายใจเข้า-ออก ไม่ต้องบริกรรมใดๆ ...บางสํานักใหด้ ูจดุ กระทบลม ...บางสาํ นกั ให้ดูความว่างเปน็ อารมณ์ แลว้ ถา้ มี ๑,๐๐๐ สํานัก กม็ ี ๑,๐๐๐ รูปแบบ ๑,๐๐๐ อาจารย์ น่ีคอื ความหลงที่ไม่เขา้ ใจในสมาธิ ”
๑๗ หมดเชื้อมนษุ ย์ “…ในโลกน้หี รือโลกหนา้ ไม่มีอะไรทาํ ลายดวงจิตได้ นอกจากไฟ ๓ กอง ถ้าโยม ดบั ไฟ ๓ กอง จติ ท่ีโยมบําเพญ็ แลว้ จะไปอยู่ในขุมนรก หรอื ขุมไหน ๆ ที่นัน้ ยอ่ ม รับดวงจติ แห่งบุญกศุ ลไม่ได้ เขา้ ใจไหมจะ๊ ถึงไฟมันจะรอ้ นแคไ่ หน หมื่นองศา แค่ไหน ดวงจติ โยมกจ็ ะไม่เรา่ ร้อน เพราะโยมไม่มเี ชอื้ เชน่ หมดเชื้อมนุษย์ หมดเชื้อแหง่ สตั ว์นรก มันกต็ อ้ งไปตามบุญกศุ ลบารมนี น้ั ๆ... …มเี คล็ดลับอยู่ว่า มนษุ ยน์ ัน้ ท่ีเปน็ มนษุ ย์ ที่เป็นคน จะทําใหค้ นนั้นเตม็ คนตอ้ ง เต็มด้วยศีล เมอื่ โยมมศี ีลเต็มดแี ลว้ ศีลโยมบรบิ รู ณ์ ในทางโลกโยมก็จะบริบรู ณ์ แต่เม่อื โยมบรบิ รู ณ์แลว้ แลว้ ได้อาศัยแล้วในความบริบรู ณ์ ในบุญบารมีของโยม นนั้ แล้ว โยมไม่ยดึ ไม่ตดิ น้นั แล เชือ้ มนุษยก์ ็จะหมดไป เช้ือเทพ เชือ้ พรหม ก็จะ คืนกลับมา...
๑๘ …ดังน้นั มนุษย์น้นั มกี ายเทพ กายพรหม มนั ซ้อนอยู่ คาํ ว่า ซอ้ นนนั้ คอื มิติ คาํ วา่ มิติน้ันแล คือภพภมู ิ คําวา่ ภพภมู นิ ัน้ แล คือภพ คือชาติ คือการเสวย โยมเสวย อารมณแ์ บบใด กายน้ันมนั กเ็ รยี กว่าไดม้ าใช้ มีแสงสวา่ ง หรอื กายนน้ั เรมิ่ บัง เกิดขนึ้ เรมิ่ มีเช้อื หรอื วา่ เรียกวา่ เปน็ กระแส โยมอยากทําให้กระแสโสดาบัน บังเกิด ก็เสวยอารมณค์ วามเชอ่ื มัน่ ความตง้ั มั่น ในพระรัตนตรยั ใหม้ าก ในการ เจรญิ ความเพียรให้มาก กระแสนิพพานกบ็ งั เกิด กายแห่งพรหมมันกส็ ว่างไสว นนั้ กค็ ือ เพียรรกั ษาพรหมจรรยใ์ หม้ าก เราไมส่ ามารถรกั ษาได้ตลอดก็ไมเ่ ปน็ ไร .. ...เราอธฐิ านรักษา ๑ ช่ัวยามกด็ ี ไม่ถงึ ชว่ั ยามกด็ ี ชวั่ อึดพระพทุ ธก็ดี คืออึดใจ ของเราคือ พระพุทธ เขา้ ใจไหมจ้ะ...”
๑๙
๒๐ ถา้ เราเลีย้ งจิตไม่ดี อุปมาก็เหมือนเลย้ี งโจร แล้วโจร โยมคิดว่า มันจะซื่อสัตย์ไหมจะ๊ ...อืม \"
๒๑
๒๒ อยา่ หว่นั ไหวในการสร้างความดี “ โยมจงมีสติ ตงั้ มัน่ เชือ่ มั่นในบุญกศุ ลเถดิ ถ้าเราไปฟังตามใคร แล้วเราเชอื่ ในสงิ่ นั้น แต่บุคคลท่เี ราไปเช่ือ หาได้มศี ีลมธี รรมไม่ แสดงว่าเขามบี ารมมี ากกวา่ โยม จําเอาไว้ แล้วเมือ่ อยา่ งน้ัน โยมจะทําการสง่ิ ใดก็ทาํ ไดย้ าก เมอื่ เราเช่อื ในบญุ กุศลของเรา เช่ือในพระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ สง่ิ นี้แลจะชว่ ยปูองกันภยั ใหโ้ ยมได้ ถ้าเรามเี จตนาท่เี ป็นกุศลเสียแล้ว อย่าหวั่นไหวในการสรา้ งความดี
๒๓ ความดีนน้ั แลทาํ ได้ยาก ถ้าทําแลว้ อย่าไดถ้ อย ถา้ ถอยแล้ว กเ็ ชน่ เดียวกบั ทําความชัว่ เมอ่ื ขห่ี ลงั เสือแลว้ กล็ งยาก ความดกี ็เชน่ กัน อยา่ กล้า ๆ กลัว ๆ แลว้ มันจะมีภยั ถ้าโยมเชอ่ื มนั่ ในความดี ความดนี ั้นแล แม้โยมจะตาย มีอาวุธกระสุนห่ายิงออกมา ย่อมไม่ระคายผวิ โยมเลย เพราะความดีน้ันแล คือศลี คอื ธรรม จะปกปอู งคมุ้ ครองภัยให้โยมเอง คนทีก่ ลัวย่อมมภี ยั ตลอดเวลา เพราะความกลัวทําให้ขาดสติ คนทีไ่ มก่ ลวั แสดงวา่ สมาธิเขาตั้งม่ัน ย่อมมีสติทัว่ พรอ้ มตลอดเวลา อยา่ งนน้ั อยา่ ไดก้ ลัวในการสร้างความดี เพราะจงจาํ ไว้ โยมอยู่ทไี่ หนก็ตอ้ งตายอยูด่ ี แตเ่ กิดมาแลว้ ท้งั ที จะทิ้งดไี ว้หรอื ไม่ ”
๒๔
๒๕
๒๖ \"พญานาคนส้ี รา้ งเพ่อื อะไร\" เม่อื พระพทุ ธมาแลว้ ตอ่ ไปเรากต็ ้องสร้างพญานาค แล้วพญานาคสร้างเพอ่ื อะไร พญานาคนเี้ ขาอธิฐานจิตจะขอปกปกั รักษา แผ่นดินสยามแผ่นดินพระพุทธศาสนา และยงั เป็นตน้ ตระกลู บรรพชน ของโยมอกี มากมายอีกหลายคน จะเกดิ ความร่มเย็นเป็นสขุ ดังนนั้ คําวา่ “นาคปรก” น้ี จะคอยปกปอู งดแู ลรกั ษาโยม
๒๗ \"โยมกนิ เจเพื่ออะไร\" ...คนทบ่ี อกวา่ กนิ เจทาํ ใหไ้ ปสวรรค์นพิ พาน ...ไม่จรงิ หรอกจ้ะ...ทโ่ี ยมกินนน้ั เพอ่ื อะไร ...เพราะโยมอยากได้บุญไม่ใช่เหรอจะ๊ ...โยมกินดว้ ยความอยากไมใ่ ชเ่ หรอจะ๊ ...บญุ มนั อยูท่ ีโ่ ยมไมส่ ร้างเวรเพิ่มตา่ งหาก
๒๘ \" อ ย่ า ทา ล า ย ผู้ ใ ห้ คุ ณ \" --------------------------------------- อย่าไปแก้ไขธรรมหรอื พระไตรปฎิ ก...มนั จะเปน็ บาปเปน็ กรรม เพราะโยมจะรูไ้ ม่ได้เลย...วา่ มนั ถูกหรือไม่ถูก แตท่ างทอี่ งค์สมั มาสัมพุทธเจ้าทา่ นทิง้ ไว้ให้เดินน้ัน...ถกู ทางแนน่ อน ถ้าทําให้โยมน้ันปลดและวางสิง่ ทีเ่ ป็นอกุศลได้
๒๙ ไขปรศิ นาธรรม คาทานายแหง่ ยุค...\" ถ่ินกาขาว - ชาวศิวิไลซ์ \" ---------------------------------------------------------------- \"...แท้ที่จริงแล้วกานน้ั เป็นสีดํา หาว่าจะเป็นสขี าวไม่ ทว่ี า่ กาขาวนนั้ เขาบอกว่า มนั มีท้งั สิ่งทีด่ ี และสิง่ ไม่ดีปนเปอ้ื นกันอยู่ จึงแยกกันไมอ่ อก น้ันเรียกว่า ความจรงิ ก็เปน็ เทจ็ ความเท็จกเ็ ป็นจริงในยุคสมยั น้ี...\"
๓๐
๓๑ มนุษย์ทจี่ ะฟงั ธรรมได้นั้น มี ๓ ประเภท ๑. ต้องเปน็ มนุษย์ทมี่ ีทกุ ข์แลว้ ๒. มนุษยน์ ัน้ อยากพน้ ทุกข์แลว้ ๓. บารมีทสี่ ะสมมาแต่ชาตปิ างก่อนไดม้ าถงึ แล้ว
๓๒ บญุ สาํ เรจ็ ดว้ ยการรักษาศีล... บุญสําเรจ็ ด้วยการเจรญิ ภาวนา... บญุ สําเรจ็ ดว้ ยการอบรมบม่ จิตให้เกิดปญั ญา... เรยี กวา่ ทาน ศลี ภาวนา โยมต้องทําใหค้ รบองคส์ าม น่ันเรยี กว่า พระรตั นตรยั เมือ่ จติ โยมเปน็ หนึง่ ตั้งมั่น สวา่ งไสว มกี าํ ลงั ใหอ้ ธิษฐานความปรารถนาในสง่ิ นัน้ เพราะเปน็ สิทธ์อิ ันชอบธรรมทบ่ี คุ คลควรกระทาํ ไดอ้ ธิษฐานได้ ธรรมเทศนาของ... สมเดจ็ พระพฒุ าจารย์ โต พรหมรงั สี จากการทรงญาณสมาธิ ณ สถานปฏบิ ตั ธิ รรม พรหมรงั สี
๓๓ ทรงญาณสมาธิ \" จิตท่ีมีกาํ ลงั ทีฝ่ ึกดแี ลว้ เมอื่ ปรารถนาสง่ิ ใด ย่อมจะสมปรารถนาได้ทุกสิ่งทกุ อย่าง...จําไว้ \"
๓๔ อย่ารบกวนผู้ท่ีกาลงั ทาความเพยี ร ---------------------------------------- \" บคุ คลท่ีเขาเจรญิ จิตภาวนาอยู่ ไมค่ วรรบกวน เพราะจะเปน็ บาปอย่างยิ่ง ควรให้เกียรติ อยา่ งน้อยโยมโมทนากบั เขา เมื่อเราน้ันละความเพียรแล้ว โยมกจ็ ะไดบ้ ุญอกี ทอดหนง่ึ โดยไม่ตอ้ งลงทุน แต่อย่าได้ทําลายบญุ ตัวเอง ด้วยการรบกวนบุคคลท่ีเจรญิ จิตภาวนา \"
๓๕ นพิ พานในตารา \"...คนที่รูจ้ รงิ รูแ้ ล้ว ต้องไมต่ ดิ รู้ นัน่ เรียกว่า เชอื่ ดว้ ยปัญญา เข้าใจไหมจะ๊ นจี่ ึงว่าสอนยาก เพราะว่ามันร้ไู ปหมด มนั เรยี นมากน่ันเอง แตม่ นั ไมค่ ่อยปฏบิ ัติ จึงเรียกวา่ นิพพานในตาํ รา...\"
๓๖ “...จิตไมม่ ีวนั ตาย เชน่ เดียวกับอาตมา กไ็ มไ่ ดต้ ายไปไหน เพยี งสังขาร นัน้ มนั ตายลงไป สลายลงไป เพราะวา่ ดนิ นาํ้ ลม ไฟ ประกอบธาตขุ นั ธ์ไมไ่ ด้ นัน่ เอง สังขารเลยใชก้ ารไม่ได้ แตจ่ ิตที่สะสมบารมแี ล้ว ถ้าปรารถนาใหเ้ ปน็ ส่ิง ใด ก็สามารถปรารถนาสงิ่ น้นั ได้... ...เพราะฉะนั้น จิตก็เหมือนคลนื่ ชนิดหนง่ึ เป็นคลนื่ สื่อรบั เมอ่ื มีสอ่ื สญั ญาณทีร่ ับได้ คล่ืนเดียวกนั ก็สามารถแปลงสภาพ เป็นพลงั งานได้ เช่นเดียว ในขณะนี้ อาตมาใชส้ ัญญาณสมาธสิ ่งจติ มาผ่านคุณแดงเขา ก็สามารถบรรยายออกมาเป็นธรรมใหโ้ ยมไดเ้ ขา้ ใจได้...
๓๗ ...เชน่ เดยี วกัน คุณแดงกไ็ ด้เรยี นรู้ รบั รู้ไปในตวั นี่แหละจะ๊ เขาเรยี ก “ธรรมทานทางจิต” เมอ่ื โยมรับรแู้ ล้ว ก็ควรฝึกจิตนนั้ เถดิ ...” การเรียนรทู้ างโลกไมม่ วี นั ส้ินสุด แตถ่ า้ โยมทง้ั หลายนัน้ มาเรยี นรู้ ในทางธรรมย่อมมีทสี่ ้ินสดุ \"บุคคลใดประมาท ในสขุ ก็ดี ในทุกขก์ ด็ ีนน้ั ย่อมเป็นทางหายนะท่ีจะ เกิดขน้ึ ถา้ โยมเหน็ วา่ ...ว่ามันเปน็ ทุกข์กด็ ี ตอ้ งการละลดลง ใหก้ ิเลสตณั หาทีม่ ัน ทําให้เราหนกั หนว่ งอยู่ เกดิ ความพอใจ ไม่พอใจน้ันแล โยมก็ต้องมาเจริญ ปญั ญา ตัว 'ปัญญา' จะเกิดได้ ก็ตอ้ งอาศยั 'ภูมิความรู้' ความรู้จะเกดิ ได้ ก็ เพราะโยมน้ันตอ้ งไป 'กําหนดรู้' ตัวกําหนดรู้จะเกดิ ได้ โยมตอ้ ง 'ต้งั สติ' ...เม่อื ตงั้ สตแิ ลว้ โยมถึงจะไปร้สู ิ่งน้ันได้ คือกาํ หนดรู้ นนั่ เรยี กว่ามี จุดหมายปลายทาง ท่ไี ปกําหนด ว่าโยมต้องการรูอ้ ะไร? นกี้ ็ต้องมาดวู า่ รู้ทาง โลกกับทางธรรมนนั้ ยอ่ มตา่ งกัน การรูท้ างโลกของโยมนัน้ จะไมม่ ีทางเรียนรู้ ไม่มีที่สน้ิ สุดของตวั รู้ เพราะความอยากกด็ ี ความพอใจก็ดีนนั้ เรียกว่ากเิ ลสนั้น มนุษยน์ ั้น ไม่มีคําวา่ พอ ...แตถ่ ้าโยมทั้งหลายนัน้ มาเรยี นรู้ในทางธรรม ย่อมมี 'ทสี่ ้นิ สดุ ' เรยี กวา่ ถ้าโยมมาเรยี นรู้อยู่ 'ภายในกาย' ของตน เม่ือมนั ถึงความสงบ แลว้ มนั ก็ไมต่ อ้ งการอะไรอกี เมอ่ื โยม 'เห็นทกุ ข์' แล้ว โยมกจ็ ะ 'เห็นภยั ' โยมก็ จะ 'ต่ืนร'ู้ แตถ่ า้ โยมยังเพลดิ เพลินสุขอยู่ โยมไปเสพมากเท่าไหร่ มนั ก็ติดมาก เท่านน้ั บคุ คลพอใจในสุขมาก เรยี กวา่ ภพข้างหน้าก็ยอ่ มทุกขม์ าก แต่บุคคลใด ไดม้ ีสติ ใหเ้ หน็ โทษภัยในทกุ ขอ์ ยบู่ อ่ ย ๆ บคุ คลนน้ั เรียกวา่ ข้ามพ้นแหง่ ทกุ ข์ใน ขณะน้นั ได้\"
๓๘ ธรรมะมหัศจรรย์...ยึดมน่ั ในพระรัตนตรยั \" พทุ ธงั สรณงั คัจฉามิ...ธมั มงั สรณัง คจั ฉามิ...สงั ฆงั สรณัง คัจฉามิ...สามพระ รัตนตรยั น้ี ถ้าโยมระลกึ ม่ันแลว้ ไม่มีอันตรายใดๆท่จี ะมากลํา้ กลายโยมได้ ฉัน ไปธดุ งค์นั้นฉนั กม็ ี สามคํานี้ \" . ธรรมเทศนาของ... สมเดจ็ พระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี จากการทรงญาณสมาธิ ณ สถานปฏบิ ตั ธิ รรม พรหมรงั สี
๓๙ ธรรมะมหัศจรรย์...มนุษยต์ า่ งดาว คืออะไร? \" มนษุ ย์ตา่ งดาว เขาก็เห็นว่าโยมนนั้ เป็นตา่ งดาวสาํ หรบั เขา แตแ่ ทท้ ี่จรงิ แลว้ โยมกเ็ คยไปเกิดในโลกเขา กเ็ รียกว่า...เขากม็ เี ช้อื ในเผา่ พนั ธุ์มนุษยส์ ่วนหนึ่ง คาํ ว่าตา่ งดาวเขาเรยี กวา่ ...ต่างมิตินน่ั เอง \" ธรรมะมหศั จรรย์...ผู้วางอาวธุ .......................................... “...ในคร้ังหนงึ่ องคส์ มั มาสัมพทุ ธเจ้า สัพพัญญแู หง่ ยุค ไมไ่ ดใ้ ชอ้ าวุธไปรบอะไร เลย ก็ยงั สามารถเอาชนะบคุ คลทงั้ หลายท้ังปวงที่เป็นคนพาลได้ โยมจงเอา ธรรมแล เอาศลี แล เอาปัญญาแล เอาเมตตานัน้ แล ไปปราบพยศของตวั เองได้ น่ันเรยี กว่า ผูม้ ีฤทธมิ์ ีเดชทแี่ ทจ้ รงิ ...” .......................................... ธรรมเทศนาของ... สมเดจ็ พระพฒุ าจารย์ โต พรหมรงั สี จากการทรงญาณสมาธิ ณ สถานปฏิบัติธรรม พรหมรงั สี จ.เพชรบุรี โทร. ๐๖๑-๔๒๔ ๑๙๒๔
๔๐ ธรรมะมหศั จรรย์...มจิ ฉาทิฎฐิ -------------------------------------------- “…กาลขา้ งหนา้ น้นั เขาบอกวา่ คาํ สอนกด็ ี การประพฤติปฏบิ ตั ิกด็ ี จะ ออกนอกล่นู อกทาง เพราะมนุษยน์ น้ั มคี วามโลภ มคี วามหลง มตี ้นทนุ แหง่ กเิ ลส มนษุ ย์ทง้ั หลายทอี่ ยทู่ ุกวันน้ีกเ็ รยี กเปน็ การอาศยั มนษุ ยบ์ างกลมุ่ ทีม่ ี มจิ ฉาทฎิ ฐิ ก็ดนี ้นั ก็เรยี กอาศยั ศาสนามาสร้างประโยชน์ให้ตน ยอ่ มทาํ ใหป้ ระโยชน์ ส่วนรวมน้ันเสียหาย นีก่ ็เปน็ กรรมอย่างหน่ึง... ...ดังนัน้ โยมจะฟงั เหน็ สิ่งใด รู้ส่งิ ใดนั้น ขอใหม้ สี ตินอ้ มนาํ มาพิจารณา เสียก่อนวา่ ตอ้ งการประโยชน์อะไรจากสง่ิ ท่ีได้ยนิ ได้ฟงั ไมใ่ ช่วา่ เชอ่ื เพราะวา่ เราพอใจ...แต่โยมตอ้ งเอาไปนอ้ มนาํ ไปพิจารณา ไปลองประพฤติดกู อ่ น ของ ทั้งหลายถา้ โยมไม่ลองชิมดู โยมจะไม่รรู้ สได้ กาลว่าไม่ร้รู สแล้วบอกวา่ รสมัน เป็นเชน่ โน้นเปน็ เชน่ น้ี เอาใจน้นั ตัดสนิ ใจลงไป นัน้ ไมเ่ รียกปญั ญาทพี่ จิ ารณา นนั้ เขาเรยี กขาด ประมาท ขาดสติ น้ันเรยี กวา่ วปิ สั สนึก ไม่ใชว่ ปิ ัสสนา จะ บังเกดิ ขน้ึ ได้แน่นอน เมอ่ื ประพฤตปิ ฏิบตั ิไป ตามไป นนั้ เขาเรยี กว่ามันเกิดตวั
๔๑ หลงไดง้ า่ ย... ...ดงั นั้น โยมอยากรู้ว่าธรรมที่ฉนั กล่าวนั้นให้ผลอย่างไร โยมต้องสมั ผัส ลิ้มรสเอง ร้เู อง ถงึ จะรเู้ อง หลกั ของศาสนานั้น ผ้ใู ดต้องการมาพสิ จู น์ มันต้อง นอ้ มนาํ จติ นอ้ มนาํ กาย วาจา ใจ น้ันเขา้ มาสมั ผัส มาประพฤติ ปฏิบัติดูถึงจะ เขา้ ใจวา่ ทางแหง่ มรรค ทางหลุดพน้ นน้ั หรือทางแหง่ การสร้างบารมนี น้ั มันมี จรงิ อยหู่ รือไม่...” ธรรมเทศนาของ... สมเด็จพระพฒุ าจารย์ โต พรหมรงั สี วนั ที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๙ ช่วงเวลาที่ ๐๐.๑๕.๐๐ น. ธรรมะมหัศจรรย์...ฉนั ไดแ้ ค่ช้ที าง ----------------------------------------- ฉนั นนั้ ไม่บังอาจไปสอนใครหรอกจะ้ เพราะมนษุ ยน์ ้นั มนั สอนยาก ฉันได้แค่ ช้ีแนะ ชที้ าง บุคคลจะเห็นทางทฉี่ นั ชห้ี รือไมน่ ั้น ก็โปรดไปพิจารณาเอา ฉนั ไม่มี สทิ ธ์ิไปบังคับใคร จะให้เชือ่ หรือเดินตาม ฉนั นนั้ มบิ ังอาจ บารมีฉันกไ็ มถ่ งึ ขนาด น้ัน . แต่ส่ิงทฉ่ี นั กล่าวไป กเ็ รียกเปน็ ความหวังดี หาไดม้ เี จตนาทีจ่ ะหวังไม่ดีกับใคร ดังน้ันส่ิงทง้ั หลายเม่ือโยมสดับแลว้ กอ็ ย่าเพิง่ ไดเ้ ช่ือ จงนอ้ มนําไปพจิ ารณา เสยี ก่อน โยมไปพจิ ารณาดู วา่ โยมนนั้ สดบั แลว้ เข้าใจเหน็ ไปในทางใด . เพราะว่ามนุษยม์ นั สอนกนั ไม่ได้ คนท่ีจะสอนได้ บุคคลน้ันตอ้ งสอนตัวเองได้ กอ่ น นนั้ คอื สามารถตําหนติ น เตือนตน พจิ ารณาตนได้ วางตนได้ ออ่ นน้อม ถอ่ มตนได้ นัน่ แล ถงึ จะกล่าวและหยบิ ยื่นวิชาความร้ใู ห้ได้ หากไมอ่ ย่างน้นั
๔๒ สมัยนัน้ สมยั นี้ ยุคนี้ เขาเรียกว่าเปน็ ศษิ ย์ล้างครเู สียมากกวา่ ดังนนั้ ธรรม เม่ือกลา่ วไปแลว้ ยอ่ มไม่มีใครเป็นเจ้าของ เพราะเรยี กว่าเปน็ “ธรรมทาน” คําว่า ธรรมทาน จึงไมม่ ีใครครอบครองได้ เมื่อมเี จตนาจติ ท่ี เมตตา อยากใหม้ นษุ ยแ์ ละสตั ว์ทั้งหลายเขาพ้นทุกข์ หากเขาได้สดับแลว้ เปน็ ประโยชน์ก็ดี เขาเรียกวา่ เปน็ บุญกศุ ล เปน็ วาสนาบารมีต่อกัน หากว่าสง่ิ ไหน สดับไปแล้วไม่เขา้ ใจ ไม่ควรยดึ กข็ อให้วางไวเ้ สีย . แตเ่ มือ่ เราเกิดสติ เกดิ ตัวรู้ เกิดตัวปญั ญา ก็นอ้ มระลกึ ถงึ เมือ่ ใด หากวา่ คราวใด มีสติ มีปัญญามากพอ ท่จี ะหยบิ ยกมาพจิ ารณา ก็ขอใหโ้ ยมท้ังหลายจงเลอื ก เฟนู เข้าไปในธรรมท้ังหลายทโี่ ยมนัน้ ถกู จริต กเ็ อาจรติ วาสนานัน้ แล มา พิจารณา และใหด้ ับวาสนาในความอยากรูอ้ ยากเหน็ ได้ . เมื่อนัน้ แลความสงบในจิตในใจก็จะบังเกดิ ข้นึ ตัวรู้ ตวั สงสยั มันก็จะระงบั ดับ หายไป...” ----------------------------------------- ธรรมเทศนาของ... สมเดจ็ พระพฒุ าจารย์ โต พรหมรังสี จากการทรงญาณสมาธิ ณ สถานปฏิบตั ธิ รรม พรหมรังสี จ.เพชรบรุ ี โทร. ๐๖๑-๔๒๔ ๑๙๒๔ ธรรมะมหศั จรรย์...\"ทาบญุ อยา่ หวังผล\" -------------------------------------------- ทําบุญ...อย่าเพ่งิ หวัง ให.้ ..อยา่ เพ่งิ อยากไดร้ บั กลบั
๔๓ ธรรมะมหศั จรรย์...สาเหตแุ ห่งความกลัว -------------------------------------------------- “...ความกลวั นี้มนั มกี ันทกุ คน ฉันจะบอกโยมต้องแก้อะไร เขาบอกวา่ โยมกลวั อะไร โยมต้องไปทาํ สิ่งนั้น ความกลัวนี้ เพราะโยมยังไม่รจู้ รงิ ถา้ รจู้ ริงเมอื่ ไหร่ เกิดปญั ญา ความกลวั มันกจ็ ะน้อยลงไป เข้าใจไหมจะ๊ ... ดงั นน้ั โยมต้องมีองค์ ภาวนาตลอดเวลา ถึงแมโ้ ยมห้อยหลวงพ่อเปน็ พวง ผกี ็เข้าโยมได้ เพราะโยมมี ความกลวั ผีมันสงิ อยขู่ า้ งใน มันไมไ่ ด้ปรากฏอยภู่ ายนอกใหเ้ หน็ แต่มันถูกขงั อยู่ ภายในจติ น่นั เขาเรียกวา่ เรามีผรี ้าย อสรู กายอยู่ เราจึงตอ้ งมีการแผเ่ มตตาจิต อย่บู ่อย ๆ อโหสกิ รรมอยู่บ่อย ๆ เขาเรียกวญิ ญาณตามตดิ เขา้ ใจไหมจ๊ะ... ...วญิ ญาณตามตดิ น้ี มันเปน็ อปุ สรรคย่งิ นกั แมใ้ นทางโลกก็ตาม ในการปฏบิ ตั ิ ตาม ทําให้จิตใจเรานน้ั ไมต่ งั้ มั่น เกิดสมาธไิ ด้ยาก แม้เกิดแลว้ ก็ไมป่ ะตดิ ปะตอ่ จติ ไม่เป็นหนึ่ง รวมตัวไดย้ าก เพราะธาตดุ ิน น้ํา ไฟ ลม ไมเ่ สมอเหมือน... ดังน้นั จงึ บอกว่า ศลี เรานนั้ ชํารดุ บกพรอ่ ง ต้องไปแก้ไข ใหศ้ ลี เราน้ันเป็นปกติ นนั้ คือ ทําใจใหเ้ ป็นปกตเิ สยี ก่อน ค่อยอทุ ิศบญุ กศุ ลขอขมากรรม ไม่ได้ใหไ้ ปจดุ ธปู กลางแจ้ง ๑๐๐ ดอก ๑,๐๐๐ ดอก ให้ขอขมากรรมในจติ ของเรา นน้ั คือ สํานึกบาปด้วยใจจริง ตงั้ สัจจะอธษิ ฐานลงไปว่า... . ...กรรมใด ๆ ทขี่ า้ พเจ้าประพฤติชั่ว ทางกาย วาจา ใจ ไปล่วงเกินผู้ใดทที่ ําให้ เกดิ อาฆาต พยาบาท มเี วรภัยต่อกนั แลว้ ไซร้ ในบุญกศุ ลท่ขี า้ พเจา้ ไดเ้ จรญิ ภาวนา เจรญิ ศลี นี้ ขอพระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ จงเป็นทพิ ญาณในบญุ กศุ ล อดุ หนนุ คํ้าชูใหข้ า้ พเจา้ นัน้ จงพ้นจากเวรภยั ท้ังหลาย ขอให้เจ้ากรรมนายเวร ดวงวญิ ญาณท้งั หลายนนั้ จงมาโมทนาอโหสิกรรมให้ข้าพเจา้ หากบญุ ของ ขา้ พเจา้ ยังสร้างไม่พอ ก็ขอให้รับรูใ้ นการกระทาํ ของขา้ พเจา้ ...
๔๔ ...ให้อธิฐานไป บญุ เมือ่ เราแผ่เมตตาไปแลว้ กเ็ หมือนกบั เราใหอ้ าหารกบั บคุ คลท่ี เขาหวิ โหย แม้วา่ บุคคลผ้นู น้ั จะมีอาฆาตพยาบาทต่อเรา แตใ่ นความหวิ โหยนน้ั มันมมี ากกวา่ โยมว่าเขาจะสํานกึ ไหมจ๊ะ...อยา่ งนอ้ ยเขาก็ลดโทสะ พยาบาทลง กบั เราได้ เขา้ ใจไหมจะ๊ ... เพราะบคุ คลท่ลี ่วงไปแลว้ ตายไปแล้ว เสียไปแลว้ ไม่ สามารถสรา้ งบญุ กศุ ลได้ สรา้ งไดย้ าก แตเ่ รานตี่ า่ งหากทีส่ ามารถทาํ ได้ ไมว่ ่าสง่ิ การใดทีเ่ รากลวั นแ้ี หละจ้ะ... เราเคยทําชวี ติ ให้ล่วงตกลงไป นน่ั คอื การปาณาติ- บาต มนั จงึ ทําใหเ้ กิดความกลวั จงึ มีวญิ ญาณ ผี สาง มาสงิ สู่ เขา้ ใจไหมจะ๊ ... ...ดงั น้นั ตอ้ งพาใหเ้ ขาไปเกิด การไปเกดิ กเ็ กดิ ด้วยบุญกศุ ล เมอ่ื เขาเกดิ ภพเป็น เทวดา เขากจ็ ะเหน็ ผดิ เปน็ ชอบ เรยี กวา่ “เป็นสัมมาทิฐิ” เมอ่ื เขาเป็นตามน้นั บญุ กศุ ลที่เราทําเขาก็จะรับได้ แตถ่ ้าเราไม่เคยระลกึ ไม่เคยอธษิ ฐาน เขาจะรบั บญุ ไดย้ าก เพราะเขายังไม่เชื่อศรัทธา มันก็ไมต่ ่างอะไรกับเราท่ียงั ไมเ่ ช่ือศรัทธา เราตอ้ งทําใหเ้ ขาเห็น วา่ เราทาํ ได้ นั้นแหละจะ๊ ...เขาถึงจะรบั ได้ . ...ใหเ้ ขายอมรบั ในตัวของเราก่อน เช่นเดียวกบั โยมจะยอมรบั ใคร จะเช่ือใคร โยมตอ้ งเช่อื ตัวเองกอ่ น ศรัทธาตวั เองก่อน เขา้ ใจไหมจ๊ะ...โยมถงึ จะพาสง่ิ ทั้งหลายทง้ั ปวงใหเ้ ขาหลดุ พน้ ไดจ้ รงิ ถา้ โยมยงั ไมม่ คี วามออ่ นน้อมต่อพระ รัตนตรัยเม่อื ไหร่ โยมกพ็ าผอู้ นื่ ดวงอน่ื จิตอ่นื ข้ามพ้นไปได้ยาก...” -------------------------------------------------- ธรรมเทศนาของ... สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรงั สี จากการทรงญาณสมาธิ ณ สถานปฏิบตั ิธรรม พรหมรังสี จ.เพชรบุรี โทร. ๐๖๑-๔๒๔ ๑๙๒๔
๔๕
๔๖ ธรรมะมหศั จรรย์...\"บญุ \" สาเรจ็ ด้วยการรกั ษาศลี คอื รกั ษากาย วาจา ใจ ให้เปน็ ปกติ ได้ชื่อวา่ ...รักษาของดี ไว้ ๑ ส่งิ ใครรักษา ไวไ้ ดอ้ ยู่บอ่ ย ๆ ไมใ่ หใ้ จนนั้ ผดิ ปกติ ไมใ่ หใ้ จน้นั เศรา้ หมอง ไมใ่ ห้ใจนั้นมโี ลภ โกรธ หลง มากจนเกนิ ไปแล้วไซร้ เขาเรยี ก...คุณวเิ ศษจะบงั เกิดขน้ึ กับผนู้ ั้น ฌานกด็ ี ญาณกจ็ ะบงั เกิดข้นึ น้ันคอื ตัวรู้ ตวั ปญั ญา . เมอ่ื ใครทําให้เกิดตวั ปญั ญา เกดิ ตวั ร้แู ลว้ ตวั รนู้ ี้กจ็ ะไมม่ ีวันดบั หายไปไหนจะติด ตวั ตดิ วญิ ญาณไปอยใู่ นภพชาตภิ พภมู นิ น้ั เรียกว่า “คณุ วิเศษ” แหง่ วาสนา บารมที ี่ทําแลว้ จะไมม่ ขี โมยกบั โจรทไี่ หนขโมยของโยมไปได้ . \"อรยิ ทรัพย์\" สะสมเข้าไป... สะสมเขา้ ไป... เทศนาธรรมของ... สมเดจ็ พระพฒุ าจารย์ โต พรหมรงั สี จากการทรงญาณสมาธิ ณ สถานปฏบิ ตั ิธรรม พรหมรงั สี จ.เพชรบุรี โทร. ๐๖๑-๔๒๔ ๑๙๒๔ ธรรมะมหศั จรรย์...บุญหนกั ...วันนที้ ี่ฉนั กลา่ วไปเปน็ บญุ หนักหนา เพราะบญุ มันหนัก ธรณีเบอ้ื ง ลา่ งจงึ แยก รอยร้าวจึงบังเกดิ ขึน้ กเ็ ปน็ ของธรรมดา ใชไ่ หมจ๊ะ... ครั้งหน่งึ องค์ สมั มาสมั พุทธเจา้ ได้ประสูติบงั เกดิ ขึ้น แผน่ ฟูาแผน่ ดินก็สะเทือนเช่นกัน เมอ่ื ท่านตรสั ร้แู ผน่ ฟาู แผน่ ดนิ กส็ ะเทือนเชน่ กัน เมอ่ื ทา่ นปรินิพพานกส็ ะเทือน เชน่ กนั เหมอื นกันทง้ั ๓ คาบ ใช่ไหมจะ๊ ... ...บญุ คร้งั นกี้ เ็ ช่นกนั เพราะจะเกดิ มหาวิปโยคเกิดข้นึ เพราะเกดิ จาก ภัยพบิ ตั ิ ไม่ได้ให้โยมมาหลงงมงาย วา่ ฉันมาบอกอะไรโยม แต่ส่ิงทโี่ ยมไมเ่ คย
๔๗ เห็นโยมจะได้เห็น ฉันไมอ่ ยากให้พนั ธ์มุ นั สญู ไป เพราะโยมยังมีบุญกศุ ลอยู่ เม่ือ โยมมีต้นทนุ นน้ั แล ทุนนจี้ งึ รอ้ นไปถึงฉัน จึงอยู่สุขอยเู่ ฉยไมไ่ ด้... ...ครง้ั นี้เมอื่ โยมได้สดบั แล้ว ไดฟ้ งั แลว้ กด็ ี ก็ขอใหโ้ ยมไปพจิ ารณา ไตรต่ รองใหด้ ี โยมจะคิดอยา่ งไร ฉันไม่ไดว้ ่าอะไร แต่ขอใหส้ าํ คญั ไวว้ า่ อยา่ งไร โยมก็ต้องตายอยู่แล้ว กอ่ นตายโยมสรา้ งอะไรไวก้ ่อน สร้างบญุ สรา้ งทาน สร้าง ศีลไว้... แลว้ โยมจะกลบั บา้ นเกา่ โยมถกู ถ้าโยมกลบั บ้านเก่าโยมไม่ถกู เมื่อไหร่ ความหลงกบ็ ังเกดิ แลว้ โยมก็ตอ้ งเกิดอีกเป็นภพเป็นชาติอยูอ่ ย่างน้นั ถา้ โยม กลับบา้ นเกา่ โยมถูก สังขารกายท่โี ยมอยูน่ ั้นจะถกู เผาและถูกฌาปนกจิ ด้วย กสุ ลาธรรมมา อภธิ รรม ๗ คมั ภรี ์ ๗ บท นนั่ แหละจ้ะ โยมถึงจะไปเกิดทีส่ ุคติ- ภมู ิ จะไมก่ ลับมาเกดิ อกี ... ...หน้าท่ีของโยมจงไปบอก จงรบั บุญครงั้ นี้ พจิ ารณาเอง ฉันน้ันมาได้ แค่บณิ ฑบาต แลว้ กบ็ อกแค่น้ี กาํ หนดการฉนั กบ็ อกปไี ปแลว้ ระยะเวลาฉนั ก็ บอกไปแล้ว สิ่งการณใ์ ดทจ่ี ะใหท้ ําอะไร ฉนั ก็บอกไปแล้ว อยู่ท่ใี จโยมรบั ได้ หรอื ไมใ่ นบญุ ครง้ั น้ี... ...................................................................... เทศนาธรรมของ... สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรงั สี จากการทรงญาณสมาธิ ณ สถานปฏบิ ัตธิ รรม พรหมรงั สี จ.เพชรบรุ ี โทร. ๐๖๑-๔๒๔ ๑๙๒๔ เทศนาธรรมวันท่ี ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๙ เวลา ๒.๐๕.๔๙
๔๘ ธรรมะมหศั จรรย์...อธิษฐานบญุ ให้มารดา ------------------------------------------------ \"...จงระลึกถงึ บญุ กุศลของมารดาผู้ให้กาํ เนดิ ทเ่ี ขาตอ้ งทนทกุ ขท์ รมาน คอย ดูแลปกปักรักษา คอยทํานุบาํ รงุ ครรภ์ กเ็ รยี กว่า คอยทาํ นบุ ํารงุ ตวั เรา เมื่อ มารดาเขานน้ั ในขณะนจี้ ะอย่หู รอื ไม่อยู่กต็ าม กข็ อให้พจิ ารณาถงึ ... . ...ถ้าทา่ นยังอยู่ ก็ขอใหท้ า่ นน้ันจงมสี ขุ ภาพพลานามัยที่แขง็ แรง อายยุ ืน ม่ันคง ปราศจากภัยพาล ด้วยอํานาจแห่งจิต พุทธคุณ ธรรมคุณ สงั ฆคุณ อํานาจแหง่ การภาวนาจิตอันเป็นกุศลของข้าพเจา้ ... . ...ขอบญุ กุศลทขี่ ้าพเจ้าได้กระทําทัง้ หลายท้ังปวง ในทุก ๆ ชาตทิ ุก ๆ ภมู ิ ด้วย อาํ นาจแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ท่ีขา้ พเจ้ายึดมัน่ ถือม่นั เป็นสรณะ เปน็ ทพี่ ัก เปน็ ท่ีอาศัย ขอเทพเทวดา เทพพรหมทัง้ หลาย เจา้ ทีเ่ จา้ ทาง จงเปน็ สกั ขพี ยานในบุญคร้งั นี้ของข้าพเจ้า... . ...ขอแม่พระธรณีจงรับทราบ โปรดอนโุ มทนาบญุ กศุ ลของขา้ พเจา้ ดว้ ยอาํ นาจ แหง่ บุญน้ี ก็ขอพรเทพเทวดา เทพพรหมท้งั หลาย ประสทิ ธิป์ ระสาทพรอนั นี้ สง่ ถงึ บิดารมารดาใหค้ งอยู่ปลอดภยั อายมุ ั่นขวญั ยืน ตราบเทา่ ทบี่ ญุ กุศลของเรา นั้นจะพงึ ปรารถนาได้...\" เทศนาธรรมของ... สมเด็จพระพฒุ าจารย์ โต พรหมรงั สี จากการทรงญาณสมาธิ ณ สถานปฏบิ ัตธิ รรม พรหมรงั สี จ.เพชรบุรี โทร. ๐๖๑-๔๒๔ ๑๙๒๔
๔๙ ธรรมะมหัศจรรย์...คนทมี่ ีสขุ ไมค่ วรฟงั ธรรม ------------------------------------------------------- “...คนทีม่ ีความสขุ นั้น ไมค่ วรมาฟังธรรม เพราะจะฟังธรรมไมร่ ู้เร่ือง คนท่มี ีสุข น้ันเรียกว่า ยังยึดอยู่ คนท่ีมีทกุ ข์เทา่ นั้นที่จะเขา้ ใจในธรรม เข้าใจไหมจ๊ะ... . ...เพราะคนท่มี นั สุขน้นั แล มนั ยงั ยดึ อตั ตาตัวตน ยงั หลงกาย หลงตนอยู่ หลง ความสบายอยู่ ยังมีความเพลดิ เพลินอยู่ นั้นเรยี กวา่ เขายงั ไม่เห็นภัยในวฏั ฏะ ยังไม่เห็นภัยในทกุ ข์ . ...เมอ่ื ไมเ่ หน็ ภยั ในทกุ ข์ ในวัฏฏะ ในสงั ขารน้ี เหตุใดเหลา่ เขาจะเข้าใจในธรรม ได้ เขาก็แคไ่ ดส้ ดบั ไดเ้ ข้าใจ แตเ่ ข้าไม่ถึง...” ธรรมะมหัศจรรย์...ขอขมากรรม (ไมส่ มหวงั ในคูค่ รอง) ---------------------------------------------------------------- ...บคุ คลใดทีค่ รองโสดก็ดี หรือไม่มคี ่กู ็ดี ปฐมเหตเุ กิดมาจากการติดสัญญากรรม ดงั นั้น ท่ีฉันให้โยมน้ันได้ขอขมากรรมอย่บู อ่ ย ๆ แมภ้ ายในสมาธกิ ็ดี แมใ้ นการ อธิฐานก็ดี เพือ่ ใหโ้ ยมน้นั ตัดวิบากกรรม วิบากกรรมเกิดไดท้ างไหนบ้าง เกิด จากใจท่ีไปสัญญา เกดิ จากกายท่ไี ปกระทํา เกิดทางวาจาท่ไี ปกล่าวไว้ ดังนน้ั ตอ้ งมีการขอขมากรรม น่ีคือ การตัดกรรม... ...ดังนั้นการสวดสาธยายมนต์นน้ั เพือ่ ให้โยมน้นั เกิดความสงบ เกิดศีล เกดิ สติ แล้วเอาสตินนั้ ทีต่ ง้ั มั่นด้วยศลี ดว้ ยธรรม ไปอธฐิ านจติ น่นั เอง จึงเรยี กเปน็ บท ตดั กรรมข้นึ มา...
๕๐ ...ดงั นัน้ บุคคลทง้ั หลายทวี่ า่ ไม่เคยลงเอย ไม่เคยสมหวังในคูท่ ั้งหลาย เม่ือทุก ครง้ั โยมได้มาประพฤตปิ ฏบิ ัตแิ ลว้ ขอใหอ้ ธฐิ านในวาระกรรมในจิตวา่ ... . \"...ไมว่ ่าขา้ พเจา้ นั้นจะเคยไปละเมิดด้วย กาย วาจา ใจ กรรมท้งั หลายใด ๆ ก็ ตาม ในชาตใิ ดภพใดกต็ าม ขอบุญกศุ ลแห่งข้าพเจา้ ได้เจริญภาวนานี้ แหง่ ข้าพเจา้ ไดเ้ จรญิ กรรมฐานน้ี แห่งข้าพเจ้าไดส้ าธยายมนต์นี้ ข้าพเจ้าขออธิษฐาน จติ ออกจากสญั ญากรรมทงั้ หลายท้งั ปวง ทข่ี า้ พเจ้าไปตดิ ค้างไว้ ขอกรรม ทง้ั หลายเหล่านี้ ท่ีข้าพเจา้ ได้กระทําแล้ว ในขณะน้ี จงเปน็ ปัจจยั เกื้อหนนุ ให้ ข้าพเจา้ พน้ จากบ่วงภัยท้งั หลาย อยา่ ได้มีเวรภยั ตอ่ กัน...\" . ...สง่ิ เหล่านีเ้ ม่ือโยมกระทาํ แล้วอธฐิ านแลว้ ด้วยอํานาจบญุ กุศลทโี่ ยมอา้ งมา ดว้ ยจรงิ แลว้ จะเป็นการเปดิ ทางเรียกวา่ เป็นการเกิดใหม่ ไม่มีมลทินแลว้ ... ---------------------------------------------------------------- เทศนาธรรมของ... สมเดจ็ พระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี จากการทรงญาณสมาธิ ณ สถานปฏบิ ตั ธิ รรม พรหมรังสี จ.เพชรบุรี โทร. ๐๖๑-๔๒๔ ๑๙๒๔ ธรรมะมหัศจรรย์...รักท่ีแทจ้ ริง ---------------------------------------------------------------------- บคุ คลใดแมย้ ังไม่ได้ห่มเหลอื ง แตโ่ ยมห่มดว้ ยศลี กเ็ รยี กวา่ เป็นผู้ออกบวช เชน่ กนั คือ “การละ” เม่ือกาลเม่อื ถงึ พร้อมว่าตอ้ งบวชด้วยกายและใจเป็นหนึ่ง แลว้ โยมก็จะมีการถอื พรหมจรรย์ คือ “รักพรหมจรรย์อย่างเดียว”
Search