Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง ความน่าจะเป็น

ผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง ความน่าจะเป็น

Published by Zeleb Sassymint, 2021-04-07 05:25:46

Description: รวมทุกอย่างเป็น e-book

Search

Read the Text Version

จุดประสงค์การเรยี นรู้ การวดั ผล การประเมนิ ผล ท่ีต้องการวดั และประเมินผล เครื่องมือวัดผล : ถ้า นักเรียน แสดงออกให้เหน็ เพียงเลก็ น้อย แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ของนักเรียน จะได้คะแนน 1 คะแนน ถ้า นกั เรียน ไม่แสดงออกเลย จะได้คะแนน 0 คะแนน เกณฑก์ ารประเมินผล : ถ้า นักเรยี น ได้คะแนน มากกว่า 4 คะแนนข้ึนไป คดิ เป็น รอ้ ยละ 75 ถือว่า “ผ่าน”

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานของนกั เรยี น ชือ่ กิจกรรม : ใบกิจกรรม “191” , ใบกิจกรรม “Balloon Games”, ใบกิจกรรม “Concert” , ใบกจิ กรรม “Lottery”, ใบกจิ กรรม “Tourism” และ ใบกจิ กรรม “รบั ตรง มศว” การใหค้ ะแนน : ถา้ แสดงพฤติกรรมให้เห็นอยา่ งเด่นชดั จะได้คะแนน 2 คะแนน ถ้าแสดงพฤติกรรมใหเ้ หน็ เพยี งเลก็ น้อย จะได้คะแนน 1 คะแนน ถา้ ไม่แสดงพฤตกิ รรมเลย จะได้คะแนน 0 คะแนน เลขท่ี พฤติกรรมท่ตี ้องการวดั และประเมินผล รวม ผลการ คะแนน ประเมนิ 1. มี “ส่วนร่วม” ใน 2. มี “ความกลา้ แสดงออก” 3. มี “ความกล้า” ใน กจิ กรรมในชัน้ เรียน ในการอภิปรายและ การแสดงความ นำเสนอ หนา้ ชนั้ เรียน คดิ เหน็ ในชนั้ เรียน 1 2 2 2 6 ผ่าน 2 2 1 1 4 ผ่าน 3 2 2 1 5 ผา่ น 4 2 0 2 4 ผา่ น 5 2 1 1 4 ผา่ น 6 1 0 1 2 ไม่ผ่าน 7 2 2 1 5 ผา่ น 8 2 0 1 3 ไม่ผ่าน 9 1 2 1 4 ผ่าน 10 2 0 1 3 ไมผ่ า่ น 11 1 1 1 3 ไมผ่ า่ น 12 1 0 0 1 ไม่ผา่ น 13 1 0 0 1 ไม่ผา่ น 14 2 1 0 3 ไม่ผา่ น 15 2 1 1 4 ผ่าน 16 2 0 1 3 ไมผ่ า่ น 17 2 2 2 6 ผา่ น 18 2 1 1 4 ผา่ น 19 2 1 1 4 ผา่ น 20 2 0 2 4 ผา่ น 21 2 0 2 4 ผ่าน

เลขท่ี พฤติกรรมทต่ี ้องการวดั และประเมนิ ผล รวม ผลการ คะแนน ประเมนิ 1. มี “ส่วนร่วม” ใน 2. มี “ความกลา้ แสดงออก” 3. มี “ความกล้า” กิจกรรมในชน้ั เรยี น ในการอภิปรายและ ในการแสดงความ นำเสนอ หน้าชน้ั เรียน คดิ เห็นในช้นั เรยี น 22 1 0 1 2 ไมผ่ ่าน 23 1 2 2 5 ผ่าน 24 1 1 1 3 ไมผ่ า่ น 25 2 1 1 4 ผ่าน 26 2 2 2 6 ผ่าน 27 2 1 0 3 ไม่ผา่ น 28 2 2 1 5 ผา่ น 29 2 1 1 4 ผา่ น 30 2 1 0 3 ไมผ่ า่ น 31 1 1 2 4 ผา่ น 32 1 0 1 2 ไมผ่ ่าน 33 1 0 1 2 ไม่ผ่าน 34 2 0 1 3 ไม่ผ่าน 35 1 0 2 3 ไมผ่ า่ น 36 2 0 2 4 ผา่ น 37 1 0 2 3 ไมผ่ ่าน 38 1 1 1 3 ไมผ่ า่ น 39 1 1 2 4 ผา่ น

7. บนั ทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้ 7.1 ผลการจัดการเรยี นรู้ นกั เรียนให้ความสนใจกับใบกิจกรรม เน่อื งจากมีความเกีย่ วข้องกับชีวติ ประจำวนั และเป็นเหตกุ ารณ์ทเี่ กิดข้ึน จริง ณ ตอนน้ัน และนักเรยี นตอ้ งลงมือค้นหาความรู้ดว้ ยตนเอง นกั เรยี นสว่ นใหญเ่ กดิ ข้อสงสยั และยกมือถามในคำถาม แรก แตเ่ ม่ือนักเรียนเขา้ ใจในวิธกี าร นักเรียนสว่ นใหญส่ ามารถทำข้อต่อ ๆ ไปได้ และสามารถออกมานำเสนอหนา้ ห้องได้ เปน็ อยา่ งดี และสามารถทำให้เพอ่ื นเขา้ ใจในคำถามตา่ ง ๆ ทตี่ นเองนำเสนอได้เป็นอย่างดี 7.2 ปญั หาและอุปสรรค นกั เรยี นบางคนไม่เข้าใจในสัญลกั ษณ์ท่ีใช้ในเรื่องความนา่ จะเปน็ 7.3 แนวทางแก้ไข ครูอธบิ ายเพ่ือใหเ้ กิดความเข้าใจเป็นรายบคุ คล ลงชื่อ ดาวใจ ศรสี อาด ผสู้ อน ( นางสาวดาวใจ ศรสี อาด)

ชือ่ - นามสกลุ ..............................................................ช้ัน .............................เลขที่ ................ ใบกิจกรรมท่ี 1 ผลสรุปการรบั แจง้ เหตใุ นเขตกรุงเทพมหานคร ยงั ถกู เกบ็ บันทกึ ไวโ้ ดยเจา้ หนา้ ทเี่ ปน็ ประจำ ทกุ เดอื น ยกตัวอย่างยอดประชาชนโทรเขา้ มาขอความชว่ ยเหลอื เมื่อเดือนกมุ ภาพันธ์ 2561 ที่ ผา่ นมา อันดบั ท่ี 1. อบุ ัตเิ หตกุ ารจราจร 2,461 ราย 2. ตดิ ตอ่ ราชการ 2,375 ราย 3. ทะเลาะ วิวาท 2,309 ราย 4. สอบถามหมายเลขโทรศัพท์ 2,179 ราย 5. กอ่ ความเดอื ดรอ้ นรำคาญ 1,602 ราย 6. ขอความชว่ ยเหลือ 1,132 ราย 7. เมาสุราเสยี งดงั 1,129 ราย 8. ปรึกษาขอ้ กฎหมาย 524 ราย 9. ทำร้ายบาดเจบ็ 513 ราย และ 10. ยาเสพติด 464 ราย ขอบคุณท่ีมาจาก : ไทยรัฐออนไลน์ วนั ท่ี 26 มีนาคม 2561 15 : 24 1. ประชาชนโทรเข้ามาขอความช่วยเหลอื เมือ่ เดือนกุมภาพนั ธ์ 2561 จำนวนก่ีราย ………………………………………………….................................………………...... 2. จงหาความน่าจะเป็นท่ีคนจะโทรมาแลว้ ขอความชว่ ยเหลือ ………………………………………………….................................………………...... 3. จงหาความน่าจะเปน็ ทค่ี นจะโทรมาเพอ่ื กอ่ ความเดือดร้อนรำคาญ ………………………………………………….................................………………...... 4. จงหาความน่าจะเปน็ ที่คนจะโทรมาเพื่อแจ้งเมาสรุ าเสียงดงั ………………………………………………….................................………………...... 5. จงหาความน่าจะเป็นทค่ี นจะโทรมากอ่ ความเดอื ดรอ้ นรำคาญ ………………………………………………….................................……………….... 6. จากขอ้ 5. ถา้ นกั เรียนเป็นตำรวจที่รบั โทรศพั ทด์ งั กลา่ วนักเรียนจะรู้สึกอยา่ งไรเพราะเหตุใด ………………………………………………….................................………………......

เฉลยใบกิจกรรมที่ 1 ผลสรุปการรับแจ้งเหตใุ นเขตกรุงเทพมหานคร ยงั ถูกเก็บบนั ทกึ ไว้โดยเจา้ หน้าที่เป็นประจำ ทกุ เดอื น ยกตวั อยา่ งยอดประชาชนโทรเขา้ มาขอความช่วยเหลอื เมอ่ื เดอื นกมุ ภาพันธ์ 2561 ที่ ผา่ นมา อันดับท่ี 1. อบุ ตั เิ หตกุ ารจราจร 2,461 ราย 2. ตดิ ต่อราชการ 2,375 ราย 3. ทะเลาะ ววิ าท 2,309 ราย 4. สอบถามหมายเลขโทรศพั ท์ 2,179 ราย 5. ก่อความเดือดรอ้ นรำคาญ 1,602 ราย 6. ขอความช่วยเหลอื 1,132 ราย 7. เมาสรุ าเสียงดัง 1,129 ราย 8. ปรกึ ษาข้อ กฎหมาย 524 ราย 9. ทำรา้ ยบาดเจ็บ 513 ราย และ 10. ยาเสพตดิ 464 ราย ขอบคุณท่มี าจาก : ไทยรัฐออนไลน์ วนั ที่ 26 มนี าคม 2561 15 : 24 1. ประชาชนโทรเข้ามาขอความช่วยเหลือเมอ่ื เดอื นกุมภาพันธ์ 2561 จำนวนก่ีราย 14,688 ราย 2. จงหาความน่าจะเป็นทค่ี นจะโทรมาแล้วขอความชว่ ยเหลือ 1,132 14, 688 3. จงหาความน่าจะเปน็ ท่คี นจะโทรมาเพื่อกอ่ ความเดอื ดรอ้ นรำคาญ 1, 602 14, 688 4. จงหาความน่าจะเป็นทีค่ นจะโทรมาเพื่อแจง้ เมาสรุ าเสียงดงั 1,129 14, 688 5. จงหาความน่าจะเป็นที่คนจะโทรมาก่อความเดือดรอ้ นรำคาญ 1, 602 14, 688 6. จาก ขอ้ 5. ถา้ นักเรียนเป็นตำรวจทรี่ ับโทรศพั ทด์ งั กลา่ วนักเรียนจะร้สู กึ อยา่ งไร เพราะเหตุ ใด รสู้ ึกหมดกำลังใจในการรับโทรศัพท์ และสงสารประชาชนคนที่เดอื ดรอ้ นจรงิ ๆที่กำลัง ต้องการความช่วยเหลือ

ชือ่ - นามสกุล ....................................................................ชน้ั ........................เลขท่ี ................ ใบกิจกรรมท่ี 2 สวัสดีค่ะ วนั นีเ้ รากับน้องสาวไปเดนิ เลน่ งานเทศกาลนมสั การองคพ์ ระปฐมเจดีย์ 2561 ท่ี จดั ขึน้ ระหว่างวันท่ี 19-27 พฤศจกิ ายน มาคะ่ ในงานด้านหนา้ จะมรี ้านปาลกู โปง่ มากมายหลาย รา้ นทีเดียวคะ่ เจ้าน้องสาวตัวแสบเกดิ อยากได้ต๊กุ ตาข้ึนมาก็ขอรอ้ งให้เราชว่ ยปาโปง่ ให้ เข้าเรอ่ื ง เลยนะคะ กฎคือ 5 ดอก 20 บาท ต้องปาใหแ้ ตก 7 ลูกจึงจะได้ของรางวัล หรือ 2 ดอก 80 บาท ตอ้ งปาให้แตก 2 ลูกจึงจะได้รบั ของรางวัล หรือ 1 ดอก 100 บาท ปาให้แตก 1 ลกู กจ็ ะได้รับของ รางวัล 1. จงหาความน่าจะเป็นทีจ่ ะไดร้ ับของรางวลั จากการปาลกู ดอกในราคา 20 บาท ………………………………………………………………………………………… 2. จงหาความน่าจะเปน็ ที่จะไดร้ ับของรางวัลจากการปาลูกดอกในราคา 80 บาท ………………………………………………………………………………………… 3. จงหาความน่าจะเป็นท่ีจะได้รับของรางวลั จากการปาลูกดอกในราคา 100 บาท ………………………………………………………………………………………… 4. นักเรียนจะแนะนำให้พ่ีสาวเลือกปาลกู โปง่ ดว้ ยวธิ ีใดท่ีจะมโี อกาสไดร้ างวัลมากทส่ี ดุ เพราะ เหตใุ ด …………………………………………………………………………………………

เฉลยใบกจิ กรรมท่ี 2 สวัสดีค่ะ วนั นเ้ี รากับนอ้ งสาวไปเดินเล่นงานเทศกาลนมัสการองคพ์ ระปฐมเจดีย์ 2561 ท่ี จัดขึ้นระหว่างวนั ท่ี 19-27 พฤศจิกายน มาคะ่ ในงานดา้ นหน้าจะมรี ้านปาลูกโป่งมากมายหลาย รา้ นทเี ดียวคะ่ เจ้านอ้ งสาวตวั แสบเกดิ อยากได้ตุ๊กตาข้ึนมาก็ขอรอ้ งให้เราชว่ ยปาโปง่ ให้ เข้าเร่ือง เลยนะคะ กฎคือ 5 ดอก 20 บาท ตอ้ งปาใหแ้ ตก 7 ลกู จงึ จะได้ของรางวัล หรือ 2 ดอก 80 บาท ต้องปาใหแ้ ตก 2 ลูกจงึ จะได้รับของรางวัล หรือ 1 ดอก 100 บาท ปาใหแ้ ตก 1 ลกู กจ็ ะได้รบั ของ รางวลั 1. จงหาความน่าจะเป็นที่จะไดร้ บั ของรางวัลจากการปาลกู ดอกในราคา 20 บาท ……………………………………… 1 ……………………………………… 32 2. จงหาความน่าจะเป็นที่จะได้รับของรางวัลจากการปาลูกดอกในราคา 80 บาท ……………………………………… 1 ……………………………………… 4 3. จงหาความน่าจะเป็นทีจ่ ะไดร้ บั ของรางวลั จากการปาลกู ดอกในราคา 100 บาท ……………………………………… 1 ……………………………………… 2 4. นักเรยี นจะแนะนำใหพ้ ่สี าวเลอื กปาลูกโปง่ ดว้ ยวิธีใดทจ่ี ะมีโอกาสไดร้ างวัลมากทสี่ ุด เพราะ เหตใุ ด ....เลือก 1 ดอก 100 บาท เพราะมีโอกาสได้ของรางวัลมากท่ีสุด หรอื คิดเปน็ 50 %....

ชื่อ - นามสกลุ ................................................................ช้ัน ..........................เลขที่ ................ ใบกจิ กรรมท่ี 3 มารนู ไฟฟ์ (Maroon 5) วงป็อบร็อคสดุ ฮอตที่มี ยอดขายระดบั มัลติ-แพลททินั่ม (Multi-Platinum) และ เจา้ ของ 3 รางวลั แกรมม่ี (Grammy Awards) เตรียม กลับมาตอกย้ำความมันส์ในประเทศไทยอกี ครั้ง กับทวั ร์ คอนเสริ ์ตล่าสดุ “มารนู ไฟฟ์ : เรด พลิ ล์ บลูส์ ทวั ร์ 2019” (Maroon 5: Red Pill Blues Tour 2019) ซึ่งจะ ระเบดิ ขนึ้ ในวันเสารท์ ี่ 9 มีนาคม 2562 ท่ีอิมแพ็ค ชาเลน เจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี จัดโดย ไลฟ์ เนชัน่ บอี ีซี-เท โร (Live Nation BEC-Tero) เตย้ เปน็ แฟนคลับของ Maroon 5 ซึ่งชวน มนิ้ แต๋วและมิว ไปดูคอนเสิรต์ ด้วยกนั 1. จงหาความน่าจะเป็นที่ มิ้น แต๋ว และมวิ ตอบตกลงไปกับ เต้ย …………………………………………………………………...……………………… …………………………………………………………………...……………………… 2. จงหาความน่าจะเปน็ ที่มีเพอ่ื นหน่งึ คนไปเปน็ เพื่อนเต้ย …………………………………………………………….…….……………………… …………………………………………....…………………………………………….. 3. จงหาความน่าจะเปน็ ที่มเี พอื่ นสองคนไปเป็นเพื่อนเต้ย …………………………………………………………….…….……………………… …………………………………………………………………...……………………… 4. จงหาความน่าจะเปน็ ทมี่ ีเพ่อื นอยา่ งน้อยสองคนไปเป็นเพือ่ นเตย้ …………………………………………………………….…….……………………… …………………………………………………………………...……………………… 5. จงหาความน่าจะเป็นที่ไม่มใี ครไปเป็นเพอื่ นเต้ย …………………………………………………………….…….………………………

…………………………………………เ…ฉ…ล…ย……ใ…บ…ก……จิ ..ก.…ร…ร…ม……ท…่ี …3…… มารนู ไฟฟ์ (Maroon 5) วงปอ็ บร็อคสุดฮอตท่มี ียอดขาย ระดับ มัลติ-แพลททนิ ่มั (Multi-Platinum) และเจ้าของ 3 รางวัล แกรมมี่ (Grammy Awards) เตรียมกลบั มาตอกยำ้ ความมนั สใ์ น ประเทศไทยอีกครั้ง กบั ทัวร์คอนเสริ ์ตลา่ สุด “มารูน ไฟฟ์: เรด พลิ ล์ บลสู ์ ทวั ร์ 2019” (Maroon 5: Red Pill Blues Tour 2019) ซ่ึงจะ ระเบิดขึ้นในวนั เสารท์ ี่ 9 มีนาคม 2562 ทอ่ี ิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมอื งทองธานี จัดโดย ไลฟ์ เนชัน่ บีอซี ี-เทโร (Live Nation BEC- Tero) เตย้ เปน็ แฟนคลับของ Maroon 5 ซ่งึ ชวน มิ้น แตว๋ และมิว ไปดคู อนเสิรต์ ด้วยกัน 1. จงหาความน่าจะเปน็ ที่ มิ้น แต๋ว และมวิ ตอบตกลงไปกับ เต้ย ……………………………… 1 ……………….………………………... 8 2. จงหาความน่าจะเป็นที่มีเพ่ือนหนึ่งคนไปเปน็ เพอื่ นเต้ย ……………………………… 3 ………………………………………… 8 3. จงหาความน่าจะเปน็ ทม่ี เี พอ่ื นสองคนไปเปน็ เพ่ือนเตย้ ………………………….…… 3 …….…………………………………... 8 4. จงหาความน่าจะเปน็ ที่มเี พอ่ื นอย่างน้อยสองคนไปเป็นเพอื่ นเตย้ ……………………………… 4 = 1 ……………………………………... 82 5. จงหาความน่าจะเป็นท่ไี มม่ ใี ครไปเปน็ เพ่ือนเต้ย ……………………………… 1 …….……………………..……………... 8

ช่อื - นามสกลุ .............................................................ช้ัน .............................เลขที่ ................ ใบกจิ กรรมท่ี 4 ประชากรไทยยังนิยมการเสยี่ งโชค รฐั บาลได้ออกสลากกินแบ่งหรือท่รี จู้ กั กนั ในนาม ลอตเตอรี่ หรือ หวยรัฐบาล ตวั เลขของสลากกินแบ่งมี 6 ตัวเลข ซึง่ ก็มีจำนวนสลากทั้งสน้ิ 1 ล้าน ฉบับ มีรางวัลตา่ งๆดงั ต่อไปน้ี วรี นชุ อธิจิต ณชั ชา จิดาภา และ ศตพร ล้วนเป็นหน่งึ ในนกั เสยี่ งโชคท่ีซ้อื สลากกินแบ่งรัฐบาลคน ละ 1 ใบ และรฐั บาลไดจ้ ำหน่ายชดุ สลากหมดเปน็ ทเี่ รยี บร้อย 1. จงหาความน่าจะเป็นท่ี วรี นชุ จะถกู รางวลั ที่ 1 …………………………………………………………………………… 2. จงหาความน่าจะเปน็ ที่ อธิจิต จะถูกรางวัลที่ 2 …………………………………………………………………………… 3. จงหาความน่าจะเป็นที่ ณัชชา จะถูกรางวลั ท่ี 3 …………………………………………………………………………… 4. จงหาความน่าจะเป็นที่ จิดาภา จะถกู รางวลั ที่ 4 …………………………………………………………………………… 5. จงหาความน่าจะเป็นที่ ศตพร จะถูกรางวลั ที่ 5 ……………………………………………………………………………

เฉลย ใบกิจกรรมท่ี 4 ประชากรไทยยงั นยิ มการเส่ียงโชค รัฐบาลได้ออกสลากกนิ แบ่งหรือที่รจู้ ักกนั ในนาม ลอตเตอร่ี หรอื หวยรัฐบาล ตวั เลขของสลากกนิ แบง่ มี 6 ตวั เลข ซงึ่ ก็มจี ำนวนสลากทง้ั สิน้ 1 ล้าน ฉบับ มีรางวัลตา่ ง ๆ ดังต่อไปนี้ วีรนุช อธจิ ิต ณชั ชา จิดาภา และ ศตพร ล้วนเป็นหนึง่ ในนักเส่ยี งโชคที่ซอื้ สลากกินแบง่ รัฐบาลคน ละ 1 ใบ และรัฐบาลได้จำหน่ายชดุ สลากหมดเปน็ ทเ่ี รียบรอ้ ย 1. จงหาความน่าจะเป็นท่ี วีรนุช จะถูกรางวลั ท่ี 1 ……………… 1 ……………………… 1, 000, 000 2. จงหาความน่าจะเปน็ ท่ี อธิจิต จะถูกรางวลั ท่ี 2 ………… 5 = 1 ……………….. 1,000,000 200,000 3. จงหาความน่าจะเป็นท่ี ณัชชา จะถกู รางวลั ที่ 3 ………… 1, 10 = 1 ……………….. 000, 000 100,000 4. จงหาความน่าจะเปน็ ท่ี จิดาภา จะถูกรางวัลที่ 4 ………… 50 = 1 ……………….. 1,000,000 20,000 5. จงหาความน่าจะเป็นที่ ศตพร จะถกู รางวัลท่ี 5 ………… 100 = 1 ……………….. 1, 000, 000 10,000

ชอื่ - นามสกุล ................................................................ชนั้ .....................เลขที่ ................ ใบกิจกรรมท่ี 5 การท่องเทยี่ วในชว่ งปีใหม่เปน็ ทนี่ ยิ มของหมู่นกั ทอ่ งเท่ยี วอย่างมาก การเกบ็ ข้อมลู การเขา้ พกั ของโรงแรมแห่งหน่ึงพบว่า ลกู ค้าบางคนเข้ามาพัก 1 วนั บางคนพกั 2 วัน บางคนพกั 3 และ บางคนพกั 4 วันดังน้ี จำนวนวันท่ีเขา้ พัก จำนวน(คน) 1 700 2 350 3 150 4 200 1. จงหาความน่าจะเป็นทีน่ ักท่องเทีย่ วจะเข้าพกั 1 วัน ………………………………………………………………………………………… 2. จงหาความน่าจะเป็นทีน่ กั ทอ่ งเทีย่ วจะเขา้ พัก 2 วัน ………………………………………………………………………………………… 3. จงหาความน่าจะเป็นท่นี กั ท่องเท่ียวจะเข้าพกั 3 วัน ………………………………………………………………………………………… 4. จงหาความน่าจะเป็นทน่ี ักทอ่ งเที่ยวจะเขา้ พัก 4 วัน …………………………………………………………………………………………

เฉลย ใบกิจกรรมท่ี 5 การทอ่ งเท่ยี วในช่วงปีใหมเ่ ป็นทน่ี ิยมของหมูน่ ักท่องเท่ยี วอย่างมาก การเก็บขอ้ มลู การเข้าพกั ของ โรงแรมแหง่ หนง่ึ พบวา่ ลกู ค้าบางคนเข้ามาพัก 1 วัน บางคนพกั 2 วนั บางคนพัก 3 และบางคนพัก 4 วัน ดังนี้ จำนวนวนั ทีเ่ ข้าพกั จำนวน(คน) 1 700 2 350 3 150 4 200 1. จงหาความน่าจะเปน็ ทน่ี กั ท่องเท่ยี วจะเขา้ พัก 1 วนั 700 = 1 ……………………… 2 ……………………… 1,400 2. จงหาความน่าจะเปน็ ทีน่ กั ท่องเทย่ี วจะเขา้ พกั 2 วนั ……………………… 350 = 1 ……………………… 1, 400 4 3. จงหาความน่าจะเปน็ ทนี่ ักท่องเที่ยวจะเข้าพัก 3 วัน ……………………… 150 = 3 ……………………… 1,400 28 4. จงหาความน่าจะเปน็ ที่นักท่องเที่ยวจะเขา้ พัก 4 วัน ……………………… 200 = 1 ……………………… 1, 400 7

ช่ือ - นามสกลุ .............................................................ชัน้ .............................เลขที่ ................ ใบกิจกรรมท่ี 6 ในหลายปีทผี่ ่านมา กวา่ จะสอบเข้ามหาวทิ ยาลยั นั้นต้องผา่ นการสอบหลายครั้ง ทง้ั การสอบข้อสอบ กลางอย่าง GAT-PAT, 9 วชิ าสามัญ และ O-Net ทจ่ี ดั ตลอดท้งั ปี อีกทั้งบางมหาวทิ ยาลยั ก็มีการจัดสอบตรง ของตนเอง และมีการรับที่หลายรอบเกนิ ไป เกิดการวงิ่ สอบและกันท่ีเกิดขนึ้ รวมท้ังเงนิ ค่าสมัครและคา่ ใชจ้ า่ ย ตา่ งๆ ทเ่ี สยี ซำ้ ซ้อนและมากเกินไป อีกทงั้ การสอบและการรับนิสิตนกั ศกึ ษาใหม่ที่มตี ลอดปี ทำให้การเรียน ม.6 ของแต่ละคนเรยี นได้อย่างไม่เต็มท่ี คณุ ครูกต็ ้องเรง่ สอนเพ่ือใหท้ นั การสอบ ดว้ ยความวุ่นวายเหล่าน้ี เลยมีการ เปล่ียนแปลงครั้งใหญ่และครั้งใหมก่ บั นักเรียนระดบั ช้ันม.6 ปี 2561 TCAS หรือ Thai University Center Admission System เป็นระบบการคดั เลือกบุคคลเข้าศึกษา ต่อในระดับมหาวทิ ยาลยั ซึง่ จะเร่มิ นำมาใช้ในปีการศึกษา 2561 เป็นระบบที่ออกแบบโดยทป่ี ระชุมอธิการบดี แหง่ ประเทศไทย (ทปอ.) ระบบ TCAS ทท่ี าง ทปอ. ได้ประกาศออกมา มี 5 ขนั้ ตอน ดังน้ี 1. คดั เลือกโดย การสง่ แฟม้ สะสมผลงาน (Portfolio) 2. สมัครโควตาแบบมีสอบข้อเขียน สำหรบั นักเรยี นในพ้นื ท่ี 3. การ รบั ตรงรว่ มกัน 4. การรับ Admission 5. การรบั ตรงแบบอสิ ระ ตารางข้างล่างแสดงถึงจำนวนนักเรียนท่ีคณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ สาขาทรี่ บั จำนวนนกั เรยี นในแตล่ ะรอบ ดงั นี้

ถา้ แต่ละสาขา รอบท่ี 1 มีผู้สมัครจำนวน 100 คน รอบท่ี 2 มีผสู้ มัครจำนวน 50 คน รอบท่ี 3 มผี ้สู มัครจำนวน 1,000 คน รอบที่ 4 มีผู้สมัครจำนวน 1,000 คน รอบที่ 5 มีผสู้ มัครจำนวน 1,000 คน 1. จงหาความนา่ จะเปน็ ท่ีจะสอบตดิ สาขาคณติ ศาสตร์(กศ.บ.) รอบที่ 2 ………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………… 2. จงหาความน่าจะเป็นทจ่ี ะสอบติดสาขาชวี วทิ ยา รอบที่ 3 ………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………… 3. จงหาความน่าจะเป็นที่จะสอบตดิ สาขาเคมรี อบท่ี 4 ………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………… 4. จงหาความนา่ จะเป็นท่จี ะสอบติดสาขาวิชาวทิ ยาศาสตรท์ ่วั ไป(กศ.บ.) รอบท่ี 4 ………………………………………………………………………………………... ………………………………………………………………………………………... 5. จงหาความนา่ จะเปน็ ที่จะสอบติดจลุ ชีววทิ ยา รอบที่ 3 ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… 6. นกั เรียนคดิ ว่าสาขาวิชาใดในรอบใดมโี อกาสสอบตดิ มากท่ีสุด เพราะเหตุใด ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………..

ช่อื - นามสกุล ....................................................................ช้นั ........................เลขที่ ................ ใบกจิ กรรมที่ 6 ในหลายปที ผี่ า่ นมา กว่าจะสอบเข้ามหาวทิ ยาลยั นน้ั ต้องผา่ นการสอบหลายครัง้ ทัง้ การสอบข้อสอบ กลางอยา่ ง GAT-PAT, 9 วิชาสามัญ และ O-Net ทจ่ี ดั ตลอดทงั้ ปี อีกท้ังบางมหาวทิ ยาลัยก็มีการจดั สอบตรง ของตนเอง และมีการรับท่ีหลายรอบเกนิ ไป เกิดการวิง่ สอบและกนั ที่เกดิ ขึ้น รวมทั้งเงินค่าสมัครและคา่ ใชจ้ ่าย ตา่ งๆ ทเ่ี สียซ้ำซ้อนและมากเกนิ ไป อีกทงั้ การสอบและการรบั นสิ ิตนกั ศกึ ษาใหม่ทีม่ ตี ลอดปี ทำให้การเรียน ม.6 ของแต่ละคนเรียนได้อย่างไม่เตม็ ที่ คณุ ครูกต็ ้องเร่งสอนเพื่อใหท้ นั การสอบ ดว้ ยความวุ่นวายเหลา่ นี้ เลยมีการ เปลยี่ นแปลงครงั้ ใหญ่และคร้ังใหมก่ บั นักเรียนระดบั ชน้ั ม.6 ปี 2561 TCAS หรอื Thai University Center Admission System เปน็ ระบบการคดั เลือกบุคคลเข้าศึกษา ต่อในระดบั มหาวิทยาลยั ซงึ่ จะเรมิ่ นำมาใชใ้ นปีการศึกษา 2561 เป็นระบบที่ออกแบบโดยทปี่ ระชมุ อธิการบดี แห่งประเทศไทย (ทปอ.) ระบบ TCAS ท่ีทาง ทปอ. ไดป้ ระกาศออกมา มี 5 ขั้นตอน ดังน้ี 1. คัดเลอื กโดย การส่งแฟม้ สะสมผลงาน (Portfolio) 2. สมัครโควตาแบบมสี อบขอ้ เขียน สำหรับนักเรียนในพืน้ ที่ 3. การ รับตรงรว่ มกนั 4. การรบั Admission 5. การรบั ตรงแบบอิสระ ตารางข้างลา่ งแสดงถงึ จำนวนนกั เรียนทค่ี ณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวิโรฒ สาขาทรี่ บั จำนวนนักเรียนในแต่ละรอบ ดังน้ี

ถา้ แตล่ ะสาขา รอบที่ 1 มีผสู้ มัครจำนวน 100 คน รอบท่ี 2 มีผู้สมัครจำนวน 50 คน รอบท่ี 3 มผี ู้สมัครจำนวน 1,000 คน รอบท่ี 4 มีผูส้ มัครจำนวน 1,000 คน รอบที่ 5 มผี ู้สมัครจำนวน 1,000 คน 1. จงหาความน่าจะเป็นท่จี ะสอบติดสาขาคณิตศาสตร์(กศ.บ.) รอบที่ 2 …………………………………… 4 = 2 ………………………………………… 50 25 2. จงหาความนา่ จะเปน็ ท่จี ะสอบติดสาขาชีววิทยา รอบที่ 3 ………………………………….. 40 = 1 ……………………………………… 1000 25 3. จงหาความน่าจะเปน็ ที่จะสอบติดสาขาเคมรี อบที่ 4 …………………………………… 23 ……………......………………………… 1, 000 4. จงหาความนา่ จะเป็นท่จี ะสอบตดิ สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ทัว่ ไป(กศ.บ.) รอบที่ 4 …………………………………… 10 ……….…………….........……………… 1, 000 5. จงหาความนา่ จะเปน็ ทีจ่ ะสอบตดิ จุลชวี วทิ ยา รอบที่ 3 ………………………………… 40 = 1 ……………………………........…… 1, 000 25 6. นกั เรียนคดิ วา่ สาขาวิชาใดในรอบใดมีโอกาสสอบตดิ มากทีส่ ุด เพราะเหตุใด รอบที่ 2 สาขาวิทยาการคอมพวิ เตอร์ ความน่าจะเป็นในการสอบตดิ คือ 1 10 คดิ เปน็ ร้อยละ 10 ซง่ึ มโี อกาสสอบตดิ มากทส่ี ุด

กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ ปีการศึกษา 2563 ภาคเรยี นท่ี 2 แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 3 รหสั วชิ า ค 23102 รายวิชา คณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน 6 เวลา 100 นาที หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 เรื่อง ความน่าจะเป็น เรื่อง ความน่าจะเป็นกบั การตดั สนิ ใจ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3/4 ผสู้ อน นางสาวดาวใจ ศรสี อาด จำนวน 2 คาบ มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชวี้ ดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 5.2 ใช้วธิ ีการทางสถิตแิ ละความรเู้ กย่ี วกับความนา่ จะเปน็ ในการคาดการณไ์ ด้ อยา่ งสมเหตุสมผล มาตรฐาน ค 5.3 ใชค้ วามรูเ้ ก่ยี วกับสถิตแิ ละความนา่ จะเป็นชว่ ยในการตัดสินใจและแกป้ ัญหา มาตรฐาน ค 6.1 มคี วามสามารถในการแกป้ ัญหา การให้เหตุผล การส่อื สาร การสอ่ื ความหมาย ทางคณิตศาสตร์และการนำเสนอ การเชอ่ื มโยงความรตู้ า่ ง ๆ ทางคณิตศาสตร์ และ เชือ่ มโยงคณิตศาสตรก์ ับศาสตรอ์ ่ืน ๆ และมีความริเร่ิมสร้างสรรค์ ตวั ช้วี ัด หาความนา่ จะเป็นของเหตกุ ารณ์จากการทดลองสมุ่ ทผ่ี ลแต่ละตัวมโี อกาสเกดิ ขน้ึ เท่า ๆ กัน ค.5.2 ม.3/1 และใชค้ วามรู้เกย่ี วกบั ความน่าจะเปน็ ในการคาดการณ์ได้อย่างสมเหตสุ มผล ใชค้ วามรู้เกย่ี วกับสถิติและความนา่ จะเปน็ ประกอบการตดั สนิ ใจในสถานการณต์ า่ ง ๆ ค.5.3 ม.3/1 ใชค้ วามรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ และเทคโนโลยใี นการแก้ปัญหาใน ค.6.1 ม.3/2 สถานการณต์ ่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม เชอ่ื มโยงความรูต้ า่ งๆ ในคณิตศาสตร์ และนำความรู้ หลกั การ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไป ค.6.1 ม.3/5 เชือ่ มโยงกับศาสตรอ์ ่นื ๆ 1. สาระสำคญั ในทางสถติ ิไดน้ ำความนา่ จะเป็นของเหตุการณ์และผลตอบแทนของการเกิดเหตุการณน์ ั้นมาพิจารณาประกอบกัน เปน็ ค่าคาดหมาย ซึง่ หาไดจ้ ากผลรวมของผลคูณระหวา่ งความนา่ จะเป็นของเหตกุ ารณ์กับผลตอบแทนของเหตุการณ์ 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ด้านความร้ทู างคณติ ศาสตร์(Knowledge) : เพ่ือให้นักเรียน 2.1.1 ใช้ความรเู้ กย่ี วกบั ความน่าจะเปน็ ประกอบการตัดสนิ ใจในสถานการณ์ต่าง ๆ 2.2 ด้านทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ (Process and Skill) : เพื่อใหน้ ักเรยี น 2.2.1 ใชค้ วามรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ และเทคโนโลยใี นการแก้ปญั หาในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2.3 ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (Aptitude) : เพอ่ื ให้นกั เรยี น

2.3.1 มสี ่วนร่วมในกจิ กรรมการเรยี นรู้ กล้าแสดงออก และกลา้ แสดงความคิดเห็น 3. สาระการเรียนรู้ ในงานเลย้ี งแห่งหนึง่ เจตรินและอำพลนั่งโต๊ะเดียวกัน ในระหวา่ งรออาหารอยูน่ ้ันเจตรนิ ได้หยิบเหรยี ญบาทออกมา 2 เหรียญ แลว้ ทา้ พนนั อำพล โดยมีกตกิ าวา่ “ใหอ้ ำพลโยนเหรียญ 2 เหรียญ พร้อมกนั หน่ึงคร้ัง ถ้าเหรียญที่โยนออกหวั ท้งั คู่แล้ว เจตรินจะจ่ายเงนิ ให้อาพล 2 บาท แต่ถ้าเหรียญออกเป็ นอย่างอื่น อาพลต้องจ่ายให้เจตริน 1 บาท” ถ้ามีการพนนั โยนเหรยี ญกันแบบนไ้ี ปเร่อื ย ๆ หลาย ๆ คร้ัง นกั เรยี นคิดว่าเจตรินหรอื อำพลจะได้เงนิ มากกวา่ กนั จงอธิบาย ในการตอบคำถามข้างต้น เราอาจใชค้ า่ คาดหมายมาชว่ ยในการพจิ ารณา ดังน้ี ในการโยนเหรยี ญบาทที่เที่ยงตรง 2 เหรียญพรอ้ มกนั หน่งึ ครัง้ ผลลพั ธท์ ัง้ หมดที่อาจจะเกิดข้ึนไดม้ ี 4 แบบ คือ HH , TT , HT , และ TH ความนา่ จะเป็นของเหตุการณ์ทเี่ หรยี ญออกหัวทง้ั คู่ เท่ากับ 1 4 ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่เหรียญไม่ออกหวั ทงั้ คู่ เท่ากับ 3 4 เน่ืองจากแตล่ ะคร้งั ที่อำพลโยนเหรยี ญ ถา้ เหรยี ญทโ่ี ยนออกเปน็ HH เจตรินจะจา่ ยเงนิ ให้อำพล 2 บาท ดังนั้น ผลตอบแทนของเหตุการณท์ ีอ่ ำพลไดเ้ งนิ 2 บาท จงึ แทนด้วย +2 เน่อื งจากแตล่ ะครง้ั ท่โี ยนเหรียญ ถ้าเหรยี ญทโี่ ยนไมอ่ อก HH อำพลตอ้ งจา่ ยเงินให้เจตริน 1 บาท ดงั นนั้ ผลตอบแทนของเหตุการณท์ อ่ี ำพลเสียเงนิ 1 บาท จึงแทนดว้ ย -1 การพนันโยนเหรยี ญหน่งึ คร้ังค่าคาดหมายที่อำพลจะไดเ้ งนิ เป็นดังนี้ คา่ คาดหมาย = (ผลตอบแทนที่ได้ x ความนา่ จะเปน็ ของเหตุการณ์ที่เหรียญออกหวั ท้งั คู่) + (ผลตอบแทนที่ เสีย x ความนา่ จะเปน็ ของเหตกุ ารณท์ ี่เหรียญไม่ออกหวั ทงั้ คู่) =  2  1  +  −1 3   4   4  = 1 +  − 3  2  4 

= - 0.25 น่ันคอื ค่าคาดหมายท่อี ำพลจะไดเ้ งิน เท่ากบั -0.25 บาท แสดงวา่ ถ้ามกี ารพนันโยนเหรียญกนั แบบนี้ไปเร่อื ย ๆ หลาย ๆ ครง้ั โดยเฉล่ียอำพล จะเสียเงินคร้งั ละ 0.25 บาท หรือกลา่ วไดว้ า่ เจตรินจะได้เงินมากกว่าอำพล ถ้าการพนนั โยนเหรยี ญสองเหรียญขา้ งตน้ เปลย่ี นกติกาเปน็ ดังน้ี “ใหอ้ ำพลโยนเหรียญ 2 เหรียญ พร้อมกนั หน่ึงคร้ัง ถ้าเหรียญที่โยนออกหัวท้งั คู่แล้ว เจตรินจะจ่ายเงินให้อาพล 3 บาท 4. สอ่ื การเรยี นรู้ / แหล่งการเรียแตน่ถรู้้าเหรียญออกเป็ นอย่างอื่น อาพลต้องจ่ายให้เจตริน 1 บาท” การพนนั โยนเหรียญหน่งึ ครั้งจะมีคา่ คาดหมายท่ีอำพลจะได้เงนิ เปล่ยี นแปลงเปน็ ดังน้ี คา่ คาดหมาย = (ผลตอบแทนท่ีได้ x ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่เหรยี ญออกหัวท้ังคู่) + (ผลตอบแทนที่ เสยี x ความนา่ จะเป็นของเหตกุ ารณท์ เ่ี หรียญไม่ออกหัวทั้งคู่) =  3 1  +  −1 3   4   4  = 3 +  − 3  4  4  =0 นน่ั คือ ค่าคาดหมายทอ่ี ำพลจะได้เงิน เท่ากับ 0 บาท แสดงว่า ถา้ มีการพนันโยนเหรยี ญกนั แบบน้ีไปเรอื่ ย ๆ หลาย ๆ ครง้ั โดยเฉล่ียท้งั อำพลและเจตรินจะเสมอตวั ไม่มี ใครได้เงินมากกว่ากัน ถ้าการพนันโยนเหรยี ญสองเหรยี ญข้างต้น เปล่ียนกติกาเป็นดงั นี้ “ใหอ้ ำพลโยนเหรียญ 2 เหรียญ พร้อมกนั หน่ึงคร้ัง ถ้าเหรียญท่ีโยนออกหวั ท้งั คู่แล้ว เจตรินจะจ่ายเงินให้อาพล 8 บาท 4. สอื่ การเรยี นรู้ / แหลง่ การเรียแตน่ถรู้้าเหรียญออกเป็ นอย่างอื่น อาพลต้องจ่ายให้เจตริน 2 บาท” การพนันโยนเหรียญหน่ึงคร้ังจะมคี า่ คาดหมายท่ีอำพลจะไดเ้ งินเปลี่ยนแปลงเป็นดังนี้ ค่าคาดหมาย = (ผลตอบแทนที่ได้ x ความน่าจะเปน็ ของเหตุการณท์ ่ีเหรยี ญออกหวั ทั้งคู่) + (ผลตอบแทนที่ เสีย x ความนา่ จะเป็นของเหตกุ ารณ์ที่เหรียญไม่ออกหวั ทงั้ คู่) =  8  1  +  −2  3   4   4  = 2 +  − 6   4  = 0.50 บาท นัน่ คอื ค่าคาดหมายทอี่ ำพลจะไดเ้ งิน เท่ากบั 0.50 บาท แสดงวา่ ถา้ มกี ารพนนั โยนเหรียญกนั แบบนี้ไปเรอ่ื ย ๆ หลาย ๆ คร้งั โดยเฉล่ยี อำพลจะได้เงนิ ครัง้ ละ 0.50 บาท หรอื กลา่ วไดว้ า่ อำพลจะไดเ้ งินมากกว่าเจตรนิ

4. ส่ือการเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ 4.1 หนงั สือเรียนคณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 หนา้ 63 – 74 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 5.1 ขั้นนำ ขน้ั นใี้ ช้เวลาประมาณ 5 นาที ซึ่งมีรายละเอยี ดดังนี้ 5.1.1 ครทู บทวนเร่อื งความน่าจะเป็น โดยต้ังคำถามเพื่อถามนกั เรียนดังนี้ “ เราสามารถหาความนา่ จะเป็นได้ อยา่ งไร” [นกั เรียนควรตอบวา่ P(E) = n(E) , เมื่อ n(E) คือจำนวนผลลัพธ์ของเหตุการณ์ทสี่ นใจ n(S) และ n(S) จำนวนผลลัพธ์ท้ังหมดทีอ่ าจจะเกิดขึน้ ได้ ] 5.1.2 ครนู ำเข้าสู่บทเรยี นเร่ือง ความนา่ จะเปน็ กับการตดั สินใจ โดยตั้งคำถามเพื่อถามนักเรียนดังน้ี “ ในงานเล้ยี งแห่งหนึ่งเจตรินและอำพลน่ังโตะ๊ เดยี วกนั ในระหว่างรออาหารอย่นู ้ันเจตรินได้หยบิ เหรียญบาท ออกมา 2 เหรียญ แล้วท้าพนันอำพล ให้อำพลโยนเหรยี ญ 2 เหรยี ญ พรอ้ มกนั หน่ึงครงั้ ถา้ เหรียญที่โยนออกหวั ทัง้ ค่แู ล้ว เจตรนิ จะจ่ายเงินให้อำพล 2 บาท แตถ่ ้าเหรยี ญออกเป็นอย่างอ่นื อำพลต้องจ่ายให้เจตริน 1 บาท ” นักเรยี นคิดวา่ ใครจะ ไดเ้ ปรยี บมากกว่ากัน พร้อมท้ังให้เหตผุ ล 5.1.3 ครใู หน้ กั เรยี นเลอื กน่งั เป็นสองฝง่ั คือ ฝงั่ ที่คิดวา่ อำพลจะได้เปรยี บมากกว่า และ ฝงั่ ท่ีคดิ วา่ เจตรินจะไดเ้ ปรียบ มากกว่า และให้ทั้งสองฝ่งั อภิปรายวา่ ทำไมถึงคดิ วา่ คนที่ตนเลือกถึงไดเ้ ปรียบมากกวา่ 5.2 ขนั้ สอน ขั้นนี้ใชเ้ วลาประมาณ 80 นาที ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 5.2.1 เมื่อนักเรียนอภิปรายเสรจ็ เรยี บร้อยครไู ด้เฉลยวิธีการคดิ วา่ ใครจะได้เปรียบมากกว่ากนั ในกติกา “ ถา้ เหรียญที่โยนออกหวั ท้ังคู่แล้ว เจตรินจะจ่ายเงินให้อำพล 2 บาท แตถ่ า้ เหรยี ญออกเป็นอยา่ งอืน่ อำพลตอ้ งจ่ายให้ เจตรนิ 1 บาท ” และครูได้ให้ความหมายของคำว่า ผลตอบแทนทไี่ ด้ หรือ ผลตอบแทนท่ีเสีย และ วิธกี ารหาค่า คาดหมาย 5.2.2 ครใู หค้ ะแนนนักเรยี นฝ่ังทตี่ อบถกู และครูสร้างกติกาต่อไปวา่ “ใหอ้ ำพลโยนเหรียญ 2 เหรยี ญ พร้อมกัน หนึง่ ครั้ง ถา้ เหรยี ญทีโ่ ยนออกหัวทง้ั ค่แู ลว้ เจตรินจะจ่ายเงินใหอ้ ำพล 3 บาท แต่ถ้าเหรยี ญออกเปน็ อย่างอนื่ อำพลตอ้ ง จา่ ยให้เจตริน 1 บาท ” ครใู ห้เวลานักเรยี น 1 นาทใี นการเลือกฝัง่ เช่นเดิม 5.2.3 ครใู ห้นกั เรยี นอภิปรายเกีย่ วกบั สง่ิ ทีค่ ิดวา่ ฝง่ั ท่ตี นเลือกจะชนะ โดยส่งตวั แทนให้ข้อมูล และวธิ ีคดิ อย่าง ละเอยี ด หลังจากนนั้ ครสู รปุ ความรู้ทีไ่ ดจ้ ากการอภิปราย พร้อมทั้งให้คำแนะนำ 5.2.4 ครูสร้างกตกิ าต่อไปวา่ “ใหอ้ ำพลโยนเหรียญ 2 เหรียญ พรอ้ มกันหนึ่งครงั้ ถ้าเหรยี ญทโ่ี ยนออกหัวทง้ั แล้ว เจตรินจะจา่ ยเงินให้อำพล 8 บาท แตถ่ ้าเหรยี ญออกเปน็ อย่างอน่ื อำพลต้องจ่ายใหเ้ จตริน 2 บาท” ครใู หเ้ วลานกั เรยี น 1 นาทใี นการเลือกฝั่งเชน่ เดิม 5.2.5 ครใู หน้ กั เรยี นอภปิ รายเกี่ยวกบั สงิ่ ทคี่ ิดว่าฝ่งั ทีต่ นเลือกจะชนะ โดยส่งตัวแทนใหข้ อ้ มูล และวธิ ีคิดอยา่ ง ละเอยี ด หลงั จากน้ันครสู รุปความรู้ท่ีไดจ้ ากการอภปิ ราย พร้อมท้ังใหค้ ำแนะนำ 5.2.6 ครูใหน้ กั เรียนแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 3 - 4 คน ทำใบงานที่ 3 เรื่อง สลากกินแบง่ รัฐบาล 5.2.7 ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอวิธีการคิดใบงานที่ 3 เรื่อง สลากกินแบ่งรัฐบาล

5.2.8 ครแู ละนกั เรยี นรว่ มสรุปความร้ทู ีไ่ ด้จากใบงานที่ 3 เรื่องสลากกนิ แบง่ รฐั บาล 5.3 ขั้นสรปุ ข้ันนีใ้ ช้เวลาประมาณ 5 นาทีซึ่งมรี ายละเอียดดงั นี้ ครตู งั้ คำถามเพอ่ื ถามนักเรียนดังนี้ “นักเรยี นคิดว่า ค่าคาดหมายมปี ระโยชน์อย่างไร ให้นักเรยี นช่วยกนั อภปิ ราย” 6. การวัดผลและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ทีส่ อดคล้องกับจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ มีดงั นี้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ การวดั ผล การประเมนิ ผล ที่ตอ้ งการวดั และประเมินผล 1. ดา้ นความรทู้ างคณิตศาสตร์: วธิ วี ดั ผล: เกณฑ์การใหค้ ะแนน : 1.1 ใช้ความรูเ้ กีย่ วกบั ความน่าจะเป็น พิจารณาความถูกตอ้ งของ ในแต่ละข้อของคำถามในใบกิจกรรม ประกอบการตัดสนิ ใจในสถานการณ์ การแสดงวธิ ีหาคำตอบและการ ถ้านักเรียนสามารถหาคำตอบได้ ตา่ ง ๆ อภิปราย ถกู ต้องจะได้ 1 คะแนน เครอื่ งมอื วัดผล: ถา้ นักเรียนหาคำตอบไม่ถูกต้องหรอื 1. ใบงานท่ี 3 เรอ่ื ง สลากกนิ แบ่ง ไม่ตอบคำถามจะได้ 0 คะแนน รฐั บาล เกณฑ์การประเมนิ ผล : ในแตล่ ะใบกจิ กรรม ถ้านักเรียนได้ คะแนนมากกว่า 80% ถือว่า \"ผ่าน\"

จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผล การประเมินผล ทต่ี ้องการวดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การใหค้ ะแนน : 2.ด้านทักษะและกระบวนการทาง วธิ วี ดั ผล : นกั เรียนสามารถนำเสนอ อภิปราย คณิตศาสตร์ : พจิ ารณาความถูกต้องของ และให้เหตุผลถกู ต้องและชัดเจน จะได้ 2 คะแนน 2.1 ใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการ การแสดงวิธหี าคำตอบและการ นักเรยี นสามารถนำเสนอ อภิปราย ทางคณิตศาสตร์ และเทคโนโลยใี นการ นำเสนอ การอภิปรายและให้เหตผุ ล และให้เหตผุ ล ได้บางส่วน จะได้ 1 คะแนน แกป้ ญั หาในสถานการณต์ า่ ง ๆ ได้อยา่ ง เครื่องมือวดั ผล : นกั เรยี นไมส่ ามารถนำเสนอ เหมาะสม คำถามทคี่ รตู ัง้ ข้นึ อภิปรายและใหเ้ หตุผล จะได้ 0 คะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ผล : ถา้ นกั เรยี นได้คะแนน 2 คะแนน ถอื วา่ \"ผา่ น\" 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ : วธิ วี ดั ผล : เกณฑก์ ารให้คะแนน : 3.1 มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นรู้ กลา้ แสดงออก และกล้าแสดงความ พิจารณาพฤติกรรมที่นักเรียน ในแตล่ ะขอ้ ของแบบสังเกต คดิ เหน็ แสดงออกขณะทำกิจกรรมที่ได้รับ พฤติกรรม มอบหมาย โดยมีครูเป็นผู้สังเกตแล้ว ถา้ นักเรียนแสดงออกให้เหน็ บันทึกในแบบพฤติกรรมการทำงาน อย่างเดน่ ชัด ของนกั เรยี น จะได้ คะแนน 2 คะแนน เครือ่ งมอื วัดผล : ถา้ นักเรียน แสดงออกให้เห็น แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน เพียงเล็กน้อย ของนักเรียน จะได้คะแนน 1 คะแนน ถา้ นกั เรยี น ไม่แสดงออกเลย จะได้คะแนน 0 คะแนน เกณฑ์การประเมินผล : ถา้ นกั เรียน ไดค้ ะแนน มากกว่า 4 คะแนนขึ้นไป คดิ เปน็ ร้อยละ 75 ถือวา่ “ผ่าน”

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานของนักเรยี น ชือ่ กิจกรรม : ความนา่ จะเป็นกบั การตัดสินใจ การให้คะแนน : ถา้ แสดงพฤติกรรมให้เห็นอย่างเดน่ ชดั จะได้คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ถ้าแสดงพฤติกรรมให้เหน็ เพียงเล็กน้อย จะได้คะแนน 0 คะแนน ถา้ ไม่แสดงพฤตกิ รรมเลย จะได้คะแนน เลขท่ี พฤตกิ รรมท่ตี ้องการวัดและประเมนิ ผล รวม ผลการ คะแนน ประเมิน 1. มี “ส่วนรว่ ม” ใน 2. มี “ความกลา้ แสดงออก” 3. มี “ความกล้า” ใน กิจกรรมในชัน้ เรยี น ในการอภปิ รายและ การแสดงความ นำเสนอ หน้าช้ันเรยี น คิดเห็นในชัน้ เรียน 1 1 2 0 3 ไมผ่ ่าน 2 2 1 2 5 ผ่าน 3 2 2 1 5 ผา่ น 4 2 2 1 5 ผา่ น 5 0 1 1 2 ไม่ผา่ น 6 1 2 2 5 ผา่ น 7 0 2 1 3 ไม่ผ่าน 8 2 0 1 3 ไม่ผ่าน 9 1 1 2 4 ผ่าน 10 2 1 2 5 ผ่าน 11 2 2 2 6 ผา่ น 12 2 2 1 5 ผา่ น 13 2 2 1 5 ผา่ น 14 2 1 0 3 ไมผ่ า่ น 15 2 1 1 4 ผา่ น 16 2 0 1 3 ไม่ผ่าน 17 1 2 2 5 ผ่าน 18 1 1 1 3 ไม่ผ่าน 19 2 1 1 4 ผา่ น 20 2 0 2 4 ผ่าน 21 2 1 1 4 ผ่าน 22 1 1 1 3 ไมผ่ า่ น

เลขท่ี พฤติกรรมท่ีต้องการวัดและประเมนิ ผล รวม ผลการ คะแนน ประเมิน 1. มี “ส่วนร่วม” ใน 2. มี “ความกล้าแสดงออก” 3. มี “ความกล้า” กจิ กรรมในชน้ั เรียน ในการอภิปรายและ ในการแสดงความ นำเสนอ หน้าชัน้ เรียน คดิ เหน็ ในชน้ั เรยี น 23 2 1 2 5 ผ่าน 24 2 1 1 4 ผ่าน 25 2 1 1 4 ผ่าน 26 2 2 1 5 ผ่าน 27 2 1 1 4 ผ่าน 28 2 2 0 4 ผา่ น 29 2 1 1 4 ผา่ น 30 2 2 0 4 ผา่ น 31 1 2 0 3 ไมผ่ ่าน 32 1 0 0 1 ไม่ผ่าน 33 1 0 1 2 ไมผ่ า่ น 34 2 0 1 3 ไม่ผา่ น 35 1 0 1 2 ไมผ่ า่ น 36 2 0 0 2 ไม่ผา่ น 37 1 0 2 3 ไม่ผ่าน 38 2 0 1 3 ไม่ผา่ น 39 2 1 2 5 ผ่าน

7. บนั ทกึ หลังการจัดการเรียนรู้ 7.1 ผลการจดั การเรียนรู้ นักเรียนไดน้ ำเสนอความคิดเหน็ การให้เหตผุ ล รบั ฟังความคิดของผู้อ่ืนและไดแ้ นวคิดใหม่ ๆ จากการใหเ้ หตผุ ล กจิ กรรมที่ครูต้งั ข้ึนในคำถาม การโยนเหรียญของเจตรนิ และอำพล นกั เรยี นมีความกระตือรอื ร้นและความสนุกสนาน ในการที่จะพยายามคดิ และให้เหตุผลในการเลอื กวา่ จะอยฝู่ า่ ยใด เม่อื ครเู ฉลยนักเรียนตั้งใจฟังอยา่ งมากและเมื่อครู เปลยี่ นกตกิ านักเรียนพยายามคิดจากความรูท้ ่ีครูใหแ้ ละนักเรียนพยายามคิดใหถ้ ูกต้องในครง้ั ตอ่ ไป ในการเปลี่ยน กติกาครง้ั ท่ี 3 นกั เรียนประมาณ 80% ตอบถูก เพราะนักเรียนไดเ้ รยี นรูจ้ ากครง้ั ก่อนและนักเรียนได้ใช้ความรู้ควบคู่ กบั การให้เหตุผลและการตัดสนิ ใจ จากใบงานที่ 3 สลากกินแบ่งรฐั บาล นักเรยี นไดเ้ รยี นรู้และได้คำตอบจากกิจกรรม นี้ วา่ ถ้าหากเราซ้ือสลากกนิ แบง่ รฐั บาลไปเรอ่ื ย ๆ เราจะขาดทุนฉบับละ 32 บาท ทำให้นักเรยี นเหน็ ถงึ ความสำคัญ ของกจิ กรรมในวันนแ้ี ละสามารถเช่ือมโยงได้ในชีวิตประจำวัน 7.2 ปญั หาและอุปสรรค - 7.3 แนวทางแก้ไข - ลงชอื่ ดาวใจ ศรีสอาด ผสู้ อน ( นางสาวดาวใจ ศรีสอาด)

ชือ่ - นามสกุล ..............................................................ชั้น .............................เลขที่ ................ ใบงานที่ 2 สลากกนิ แบง่ รฐั บาล สลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นเร่ืองทใี่ กลช้ ิดและอย่คู ู่กบั สังคมไทยมาตลอด ระยะเวลาท่ีผ่านมา เปน็ วิถีชวี ิต แบบไทย และเป็นกิจการที่ตอบสนอง ความตอ้ งการในเรื่องความเสี่ยงทาย ความตื่นเต้น ความเชอ่ื ความหวงั ซ่งึ ลว้ นแล้วเปน็ วิถขี องสังคมไทยรวมถงึ สังคมโลกบางส่วน ใน ขณะเดยี วกัน สลากกนิ แบง่ รัฐบาลถือว่าเป็นเกม เสี่ยงโชคชนดิ หน่งึ มี อยู่มากมายหลายแบบ อาทิ สลากแบบด้ังเดิม สลากกนิ แบง่ รัฐบาล สลากรู้ผลทนั ทีสลากตวั เลข สลากกีฬา นอกจากนีย้ งั มีเกมการเส่ยี งโชค อีกหลายชนิดท่ีเป็นที่นิยมในท่ีต่างๆ ทวั่ โลก ซ่งึ ในปจั จุบนั มีองค์การ สลากนานาชาตไิ ด้รวมตัวกันก่อตัง้ เปน็ สหพันธ์สลากกนิ แบ่งโลก (World Lottery Association : WLA) ซง่ึ มปี ระเทศไทยเป็นสมาชิก อยู่ด้วย ถ้าจำหนา่ ยหมด กำหนดรางวัลต่อชดุ ดังน้ี สลาก 1 ชดุ มี 1 ลา้ นฉบับ ราคาฉบบั ละ 80 บาท เงื่อนไขเงนิ รางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ จำนวนรางวลั (รางวัล) รางวัลละ (บาท) 6,000,000 บาท รางวลั ที่ 1 1 รางวัล ขา้ งเคียง รางวลั ท่ี 1 รางวัลที่ 2 รางวัลท่ี 3 รางวลั ท่ี 4 รางวัลที่ 5 เลขหนา้ 3 ตัว เสี่ยง 2 ครงั้ เลขท้าย 3 ตวั เส่ียง 2 คร้งั เลขท้าย 2 ตวั

สลาก 1 ชุด มี 14,168 รางวัล เปน็ เงิน 48,000,000 ถ้าสลาก 1 ฉบับ ถูกรางวัลไดเ้ พียงรางวลั เดยี ว จากข้อมูลขา้ งตน้ ถ้ามาร์ก้ีตอ้ งการเสีย่ งโชค โดยซอ้ื สลากกนิ แบ่งรฐั บาลมา 1 ฉบบั นักเรยี นคดิ ว่าโอกาสท่มี าร์ก้ีจะ ถูกแตล่ ะรางวัลมีเท่าไร และซือ้ สลากกนิ แบ่งรัฐบาลไปเร่ือย ๆ จะขาดทุนฉบบั ละเท่าไร จงอธบิ าย นักเรียนสามารถหาคำตอบได้โดยเตมิ ตารางต่อไปน้ีให้สมบูรณ์ เหตุการณ์ ผลตอบแทน (บาท) ความน่าจะเปน็ ผลตอบแทน x ความนา่ จะ เปน็ รางวลั ที่ 1 ข้างเคยี ง รางวลั ท่ี 1 รางวัลที่ 2 รางวลั ที่ 3 รางวลั ที่ 4 รางวัลที่ 5 เลขหนา้ 3 ตัว เสี่ยง 2 ครงั้ เลขทา้ ย 3 ตวั เสย่ี ง 2 ครง้ั เลขท้าย 2 ตวั ไม่ถูกรางวัลเลย ค่าคาดหมายของการซอ้ิ สลากหนึง่ ฉบับ เท่ากบั ดังน้นั ถ้าซ้ือสลากกินแบง่ รฐั บาลไปเร่ือย ๆ จะขาดทนุ ฉบบั ละ ……........................………………………….. บาท

ช่อื - นามสกุล ..............................................................ชั้น .............................เลขท่ี ................ เฉลย ใบงานท่ี 2 สลากกินแบ่งรัฐบาล สลากกินแบง่ รฐั บาลเปน็ เร่ืองท่ีใกล้ชดิ และอย่คู ูก่ บั สังคมไทยมาตลอด ระยะเวลาทผ่ี ่านมา เปน็ วถิ ีชีวติ แบบไทย และเปน็ กิจการทต่ี อบสนองความ ตอ้ งการในเร่อื งความเส่ยี งทาย ความต่ืนเต้น ความเชอื่ ความหวัง ซ่งึ ลว้ น แล้วเปน็ วถิ ขี องสงั คมไทยรวมถึงสงั คมโลกบางส่วน ในขณะเดยี วกนั สลากกิน แบ่งรัฐบาลถอื ว่าเปน็ เกม เสีย่ งโชคชนิดหนึง่ มอี ยมู่ ากมายหลายแบบ อาทิ สลากแบบดัง้ เดิม สลากกินแบง่ รฐั บาล สลากรู้ผลทนั ทสี ลากตวั เลข สลาก กีฬา นอกจากนยี้ งั มเี กมการเสย่ี งโชคอีกหลายชนิดทีเ่ ปน็ ทนี่ ิยมในที่ตา่ งๆ ท่ัว โลก ซ่งึ ในปจั จุบนั มีองค์การ สลากนานาชาตไิ ดร้ วมตวั กนั กอ่ ตงั้ เป็นสหพนั ธ์ สลากกนิ แบง่ โลก (World Lottery Association : WLA) ซง่ึ มปี ระเทศไทย เปน็ สมาชกิ อยดู่ ว้ ย ถ้าจำหนา่ ยหมด กำหนดรางวลั ต่อชดุ ดงั น้ี สลาก 1 ชดุ มี 1 ล้านฉบบั ราคาฉบบั ละ 80 บาท เงอ่ื นไขเงนิ รางวลั สลากกินแบง่ รฐั บาล รางวัลท่ี จำนวนรางวลั (รางวัล) รางวัลละ (บาท) 6,000,000 บาท รางวลั ที่ 1 1 รางวัล 100,000 บาท 200,000 บาท ขา้ งเคยี ง รางวลั ที่ 1 2 รางวลั 80,000 บาท 40,000 บาท รางวลั ที่ 2 5 รางวัล 20,000 บาท รางวัลท่ี 3 10 รางวลั 4,000 บาท 4,000 บาท รางวัลท่ี 4 50 รางวัล 2,000 บาท รางวัลที่ 5 100 รางวลั เลขหนา้ 3 ตัว เสยี่ ง 2 ครง้ั 2,000 รางวลั เลขทา้ ย 3 ตัว เส่ียง 2 ครงั้ 2,000 รางวัล เลขทา้ ย 2 ตัว 10,000 รางวัล

สลาก 1 ชดุ มี 14,168 รางวลั เปน็ เงนิ 48,000,000 ถ้าสลาก 1 ฉบบั ถูกรางวัลได้เพยี งรางวัลเดยี ว จากข้อมูลข้างต้น ถ้ามารก์ ต้ี ้องการเสยี่ งโชค โดยซ้ือสลากกินแบง่ รัฐบาลมา 1 ฉบบั นกั เรียนคดิ ว่าโอกาสทมี่ ารก์ ี้จะ ถูกแต่ละรางวัลมีเท่าไร และซอ้ื สลากกินแบ่งรัฐบาลไปเร่ือย ๆ จะขาดทนุ ฉบบั ละเทา่ ไร จงอธิบาย นักเรยี นสามารถหาคำตอบได้โดยเติมตารางต่อไปนีใ้ หส้ มบูรณ์ เหตุการณ์ ผลตอบแทน (บาท) ความน่าจะเป็น ผลตอบแทน x ความน่าจะ เป็น รางวลั ที่ 1 6,000,000 บาท 1 1  6,000,000 = 6 ขา้ งเคียง รางวัลท่ี 1 100,000 บาท 1, 000, 000 1, 000, 000 รางวลั ที่ 2 200,000 บาท 2 =1 รางวลั ที่ 3 80,000 บาท 1,000,000 500,000 1 100, 000 = 0.2 รางวลั ที่ 4 40,000 บาท 5 =1 500, 000 รางวัลท่ี 5 20,000 บาท 1,000,000 200,000 4,000 บาท 10 = 1 1  200,000 =1 เลขหนา้ 3 ตวั เสย่ี ง 2 1,000,000 100,000 200, 000 คร้งั 50 = 1 1,000,000 20,000 1 80,000 = 0.8 100 = 1 100, 000 1,000,000 10,000 2, 000 = 1 1  40, 000 = 2 1, 000, 000 500 20, 000 เลขท้าย 3 ตวั เสีย่ ง 2 4,000 บาท 2, 000 = 1 1  20,000 = 2 ครั้ง 1, 000, 000 500 10, 000 เลขท้าย 2 ตวั 2,000 บาท 10,000 = 1 1  4,000 = 8 ไม่ถูกรางวลั เลย 0 บาท 1,000,000 100 500 985,832 1  4,000 = 8 500 1, 000, 000 1  2,000 = 20 ค่าคาดหมายของการซิอ้ สลากหน่ึงฉบับ เท่ากับ 100 985,832  0 = 0 1, 000, 000 6 + 0.2 + 1 + 0.8 + 2 + 2 + 8 + 8 + 20 + 0 = 48 ดงั นัน้ ถา้ ซื้อสลากกนิ แบง่ รัฐบาลไปเรอ่ื ย ๆ จะขาดทุนฉบบั ละ 80 – 48 = 32 บาท

แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 เรื่อง ความน่าจะเป็น ชื่อ - นามสกลุ ......................................................................ชน้ั ม. ……………./…………..เลขที…่ ….............. คำสงั่ : จงเลือกคำตอบทีถ่ กู ตอ้ งท่ีสุดเพยี งข้อเดียว (ข้อละ 1 คะแนน) 1. จงหาผลลพั ธ์ท้งั หมดท่ีอาจจะเกดิ ขึน้ ได้จากการทดลองส่มุ จับสลาก 1 ใบ จากสลากซง่ึ มีหมายเลข 0 – 8 1. 7 แบบ 2. 8 แบบ 3. 9 แบบ 4. 10 แบบ 2. จงหาผลลัพธท์ ้งั หมดท่ีอาจจะเกดิ ข้ึนได้จากการหยบิ ลกู แก้ว 2 ลกู พรอ้ มกนั จากกล่องซึง่ บรรจุลูกแก้วสแี ดง 2 ลูก สขี าวและสีเหลอื งอย่างละลกู 1. 5 แบบ 2. 6 แบบ 3. 7 แบบ 4. 8 แบบ 3. จงหาผลลพั ธ์ท้งั หมดที่อาจจะเกดิ ข้ึนจากการโยนเหรยี ญ 3 อัน พร้อมกนั 1 ครั้ง 1. 2 แบบ 2. 3 แบบ 3. 6 แบบ 4. 8 แบบ 4. จงหาความนา่ จะเปน็ ทหี่ ยบิ ได้สลากหมายเลข 5 หรอื 6 หรอื 7 หรอื 8 หรอื 9 จากสลาก 10 ใบ ซง่ึ เขยี นหมายเลข 1 ถึง 10 กำกับไว้ 1. 1 2. 2 3. 1 4. 1 10 5 2 5 5. จงหาความนา่ จะเป็นท่ีไดค้ ำตอบจากครอบครัว 3 ครอบครัววา่ มีจกั รเย็บผา้ ใช้ทง้ั สามครอบครัว 1. 1 2. 1 3. 1 4. 1 2 3 8 10 6. จงหาความน่าจะเปน็ ท่ีได้แตม้ เหมือนกนั หรือได้แตม้ 3 จากลกู เต๋าใดลกู หนงึ่ ในการทอดลูกเต๋าพร้อมกนั สอง ลกู 1. 1 2. 2 3. 3 4. 4 9 9 99 7. จงหาความนา่ จะเปน็ ที่ได้หัวและแต้มที่มากกว่า 4 จากการโยนเหรียญหนง่ึ เหรียญและทอดลูกเตา๋ หนึง่ ลกู หนง่ึ ครัง้ พรอ้ มกนั 1. 1 2. 1 3. 2 4. 1 6 2 3 4 8. กลอ่ งทบึ ใบหนงึ่ ใส่ลูกบอลสแี ดง 5 ลกู สีเขียว 6 ลกู และ สีขาว 4 ลูก สมุ่ หยิบลกู บอล 1 ลกู จงหาความ น่าจะเป็นของเหตุการณท์ ี่ได้ลูกบอลสแี ดง 1. 1 2. 1 3. 1 4. 1 6 5 4 3 9. ไพ่สำรับหน่งึ มี 52 ใบ สลบั กันจนทวั่ แลว้ ส่มุ หยบิ ข้นึ มา 1 ใบ จงหาความน่าจะเป็นของเหตุการณท์ ี่หยิบได้คิง หรือควนี หรอื แจ็ค 1. 1 2. 1 3. 2 4. 3 6 5 3 13

แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 เรื่อง ความน่าจะเปน็ 10. ไพส่ ำรับหนง่ึ มี 52 ใบ สลับกันจนทัว่ แล้วสมุ่ หยบิ ขน้ึ มา 1 ใบ จงหาความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ทหี่ ยบิ ได้ โพแดง 1. 1 2. 1 3. 1 4. 1 52 13 4 3 11. นักศึกษากลุม่ หน่ึงชน้ั ปีท่หี น่งึ มี 5 คน ปีท่สี อง 4 คน ปีท่สี าม 7 คน และปีท่สี ี่ 4 คน เลือกตวั แทน 1 คน อย่างสมุ่ จากนกั ศกึ ษากลุ่มนี้ จงหาความน่าจะเปน็ ทจ่ี ะเปน็ นักศึกษาปีท่สี อง 1. 1 2. 1 3. 1 4. 1 7 6 5 4 12. ชายคนหน่ึงซื้อสลากจำนวนหนง่ึ จากสลากทั้งหมด 1,000 ใบ ซ่งึ มีรางวัลเพียงรางวัลเดียว จงหาความนา่ จะ เปน็ ทจ่ี ะถูกรางวัล เมอ่ื ชายผู้นซ้ี อื้ สลาก 10 ใบ 1. 1 2. 1 3. 1 4. 1 10 100 1,000 13. โยนลกู เตา๋ ทเ่ี ที่ยงตรง 3 ลูก 1 ครงั้ จงหาความนา่ จะเปน็ ของเหตกุ ารณ์ที่ผลรวมของลูกเต๋าทุกลกู เท่ากับ 5 1. 1 2. 1 3. 1 4. 1 3 6 36 216 14. โยนเหรียญบาทเทยี่ งตรง 3 อันพร้อมกนั 1 ครั้ง จงหาความนา่ จะเปน็ ของเหตุการณ์ ท่เี หรยี ญขน้ึ หวั มากกว่ากอ้ ย 1. 1 2. 1 3. 1 4. 1 2 4 8 15. โยนลกู เต๋า 1 ลกู และ หยบิ ไพ่ 1 ใบจากสำรบั อย่างสุม่ จงหาความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่ ลกู เตา๋ หงาย แตม้ 6 และหยบิ ไพ่ได้คิงโพแดง 1. 1 2. 1 3. 1 4. 1 6 52 58 312 16. มีตะปู 3 ตวั และน็อต 3 ตวั ปนกันอยู่ ถ้าหยิบมาอยา่ งสุ่ม 2 ตัว จงหาความน่าจะเป็นที่จะหยบิ ได้ตะปู และนอ็ ตอย่างละหนึง่ ตวั 1. 1 2. 1 3. 2 4. 3 2 9 55 17. นักเรยี นหญิง 5 คน มีตาสีนำ้ ตาล 3 คน นอกนนั้ มตี าสีดำ ถ้าสุม่ นกั เรียนเหลา่ น้มี า 2 คน จงหาความน่าจะ เปน็ ของเหตุการณ์ทจี่ ะสุ่มได้นักเรียนหญงิ ที่มตี าสนี ำ้ ตาล 2 คน 1. 2 2. 3 3. 2 4. 1 15 10 5 5 18. แมทมีเส้ือ 5 ตวั เป็นสีขาว 3 ตัว สีแดง 2 ตวั มกี ระโปรง 4 ตวั เป็นสขี าว 1 ตวั สีเขยี ว 3 ตัว ถา้ แมท แต่งตวั ออกจากบา้ นโดยไม่เจาะจง จงหาความน่าจะเป็นท่ีเธอสวมเส้อื และกระโปรงสีต่างกัน 1. 4 2. 5 3. 11 4. 17 20 20 20 20

แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 เร่ือง ความน่าจะเปน็ 19. ฟลิ ์มกับเดชน่ังเลน่ ทส่ี นามหญ้าในโรงเรยี น ฟิล์มหยิบเหรยี ญบาทออกมาสองเหรียญเพื่อโยนเลน่ เดชจึง ออกความคดิ ให้ฟิลม์ โยนเหรียญ โดยมีกตกิ าว่า ถ้าฟิล์มโยนเหรียญ 2 เหรยี ญ พร้อมกนั 1 คร้งั ถ้าเหรยี ญ ออกก้อยท้งั คู่ เดชจะจา่ ยเงินใหฟ้ ลิ ม์ 5 บาท ถา้ เหรยี ญออกเป็นอย่างอืน่ ฟลิ ์มต้องจ่ายใหเ้ ดช 2 บาท คา่ คาดหมายเป็นเท่าใด 1. -0.5 2. -0.25 3. 0.25 4. 0.50 20. ร้านค้าร้านหนึ่งจดั การปาเปา้ เพื่อการเสย่ี งโชค โดยทำแปน้ ปาเปา้ เปน็ รปู วงกลม มีตัวเลข 1 – 9 เรียงกนั ตามช่องที่แบง่ เท่ากนั บนแป้นวงกลมใหล้ ูกคา้ ใชล้ ูกดอกปาเป้าเส่ยี งโชค โดยมกี ติกาวา่ ให้ลูกคา้ ปาเป้าเสีย่ ง โชคหนงึ่ ครั้ง ถา้ ลูกดอกติดท่ชี อ่ งตวั เลข 5 หรือ 9 แลว้ รา้ นคา้ นนั้ จะจ่ายเงนิ ใหล้ กู คา้ 45 บาท แต่ละครง้ั ท่ี ปาเปา้ ลูกคา้ ต้องจา่ ยเงินซือ้ ต๋ัวหนึ่งใบราคา 20 บาท ถา้ อภิชัยซือ้ ตัว๋ เพื่อปาเปา้ เส่ยี งโชคหน่งึ ใบ จงหาค่า คาดหมายท่ีอภชิ ัยจะไดเ้ งินเป็นเท่าใด 1. -20 2. -10 3. 10 4. 20

ตาราง 6 คะแนนผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนการจดั การเรียนรูโ้ ดยใช้ปญั หาเป็นฐาน เรื่อง ความนา่ จะเปน็ คนที่ กอ่ นเรียน หลังเรียน คนที่ ก่อนเรยี น หลังเรยี น 20 1 6 17 16 14 18 20 2 5 18 17 9 16 16 3 4 18 18 14 17 16 4 13 19 19 1 16 17 5 13 20 20 8 18 18 6 13 18 21 10 16 20 7 14 20 22 4 15 18 8 12 18 23 5 9 8 17 24 9 10 4 18 25 10 11 8 17 26 9 12 14 20 27 4 13 3 17 28 15 14 13 20 29 2 15 5 15 30 10

ตาราง 6 (ต่อ) คะแนนผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนการจัดการเรียนรโู้ ดยใช้ปญั หาเปน็ ฐาน เรอ่ื ง ความนา่ จะเป็น คนที่ ก่อนเรยี น หลังเรียน 31 2 15 32 9 18 33 8 16 34 8 15 35 10 18 36 3 17 37 13 19 38 4 16 39 14 20