การออกแบบแผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ า สุขศกึ ษา รหสั วชิ า พ 14101ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2561 เวลาทงั้ หมด 20 ชั่วโมง จัดทาโดย นางสาวอรณชั ชา เจรญิ สุข ตาแหนง่ พนักงานราชการ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ตาบลช่างเคง่ิ อาเภอแม่แจ่ม จงั หวดั เชยี งใหม่ สานักบริหารงานการศึกษาพเิ ศษ สานักงานการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
แผนการจดั การเรียนรู้ จานวน 11 ช่วั โมงหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรื่อง โรคติดต่อ จานวน 2 ช่ัวโมงแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 เรอ่ื ง โรคอหวิ าตกโรคและการปูองกนักลุม่ สาระการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษาช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31ครผู สู้ อน นางสาวอรณัชชา เจรญิ สขุ1. สาระสาคญั โรคอหิวาตกโรคเป็นโรคติดต่อในระบบทางเดินอาหารท่ีระบาดบ่อยท่ีสุด ซ่ึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของ คนไทย ดังนั้นจึงควรศกึ ษาอาการของโรค สาเหตุการตดิ ตอ่ และการรกั ษาโรค2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัดชนั้ ปี/ผลการเรียนร/ู้ เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การปูองกันโรคและการสร้างเสริมสมรรถภาพเพอ่ื สขุ ภาพ ตัวช้วี ดั พ 4.1 ป.6/2 วิเคราะห์ผลกระทบท่ีเกิดจากการระบาดของโรคและเสนอแนวทางการปอู งกนั โรคติดต่อสาคัญท่พี บในประเทศไทย จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) บอกอาการของผทู้ เ่ี ปน็ โรคอหวิ าตกโรคได้ 2) อธิบายสาเหตุ การติดต่อ และการรกั ษาโรคอหวิ าตกโรคได้ 3) วเิ คราะห์ผลกระทบและบอกแนวทางการปูองกนั โรคอหิวาตกโรคได้3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนอื้ หาสาระหลัก : Knowledge 1. โรคตดิ ต่อสาคญั ท่ีระบาดในปจั จบุ ัน 2. ผลกระทบทเี่ กิดจากการระบาดของโรค 3. การปูองกนั การระบาดของโรค 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1. นักเรียนสามารถการวิเคราะหโ์ รคตดิ ตอ่ สาคัญทร่ี ะบาดในปัจจบุ นั 2. นกั เรยี นสามารถการวิเคราะหผ์ ลกระทบทเ่ี กดิ จากการระบาดของโรค 3. นกั เรียนสามารถบอกการปอู งกันการระบาดของโรค 3.3 คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ : Attitude 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเุ รียนรู้ 3. มีความรบั ผิดชอบ4. สมรรถนะสาคัญของนกั เรียน 4.1 ความสามารถในการคิด - ทักษะการวเิ คราะห์ 4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต5. คณุ ลักษณะของวิชา - ความรับผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลมุ่
6. คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ 1. มคี วามรบั ผดิ ชอบ 2. ใฝเุ รยี นรู้ 3. ประหยดั7. ชน้ิ งาน/ภาระงาน นาเสนองาน8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ชั่วโมงท่ี 1 1. นกั เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 2. นกั เรียนตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ - สัตว์ตา่ งๆ รอบตวั ของนักเรียน มชี นิดใดบ้างท่สี ามารถเป็นพาหะนาโรคตดิ ต่อมาส่คู นได้ (สัตวท์ ี่เปน็ พาหะนาโรคติดต่อมาสู่คน เชน่ หมู หนู ไก่ แมลงสาบ เปน็ ตน้ ) 3. ครูนาบัตรคาชื่อโรคต่างๆ มาแจกให้นักเรียน คนละ 1 ใบ แล้วให้นักเรียนพิจารณาว่า บัตรคาที่ตนเองได้รับนนั้ เปน็ โรคติดต่อ หรอื โรคไมต่ ิดต่อ พรอ้ มอธิบายเหตผุ ลประกอบ 4. ครูเฉลยคาตอบทีถ่ กู ตอ้ ง โดยจาแนกบตั รคาบนกระดานหน้าชัน้ เรียน ดงั นี้ 1) โรคตดิ ตอ่ ไดแ้ ก่ โรคตาแดง โรคไข้หวัด โรคไข้เลอื ดออก 2) โรคไม่ติดต่อ ได้แก่ โรคหวั ใจ โรคอว้ น โรคเบาหวาน 5. ครูอธิบายปัจจยั ของการเกดิ โรคตดิ ตอ่ ให้นักเรียนมีความรู้ความเขา้ ใจมากย่ิงขึ้น 6. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่งปานกลางค่อนข้างอ่อน และอ่อน จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มกาหนดหมายเลขประจาตัว 1-4 ตามลาดับแล้วให้นกั เรียนแตล่ ะหมายเลขศึกษาความรู้เรื่อง โรคอหวิ าตกโรค จากหนังสือเรยี น ห้องสมุด หรือแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ตามประเด็น ทก่ี าหนดให้ ดังน้ี - หมายเลข 1 ศึกษาความรู้เร่อื ง อาการ - หมายเลข 2 ศึกษาความรเู้ ร่อื ง สาเหตแุ ละการตดิ ตอ่ - หมายเลข 3 ศกึ ษาความรู้เร่ือง การรักษา - หมายเลข 4 ศึกษาความรู้เรอ่ื ง การปูองกนั แล้วบนั ทกึ ความรูท้ ไี่ ดล้ งในแบบบนั ทึกการอา่ น 7. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนาความรู้ที่ได้จากการศึกษามาอธิบายให้เพ่ือนในกลุ่มฟังเรียงตามลาดับหมายเลข 1-4 ผลัดกนั ซกั ถามข้อสงสยั และผลดั กันอธิบาย จนทุกคนมีความเข้าใจชัดเจนตรงกัน 8.นักเรยี นตอบคาถามกระต้นุ ความคดิ - นักเรยี นคิดวา่ อะไรเป็นสาเหตหุ ลักของการติดโรคอหิวาตกโรค จงอธิบาย
ชวั่ โมงที่ 2 1. นักเรยี นแต่ละกล่มุ นาความรู้ทีไ่ ด้จากการศกึ ษาชว่ั โมงที่แล้ว มาอภิปรายรว่ มกันในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี - โรคอหิวาตกโรคมผี ลกระทบต่อสุขภาพอยา่ งไร - โรคอหวิ าตกโรคมีแนวทางในการปูองกนั การเกิดโรคอย่างไร 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลการอภิปรายหน้าช้ันเรียน ครูและเพื่อนนักเรียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ และให้ขอ้ เสนอแนะ 3. นักเรียนแต่ละคนทาใบงานที่ 1.1 เร่ือง โรคอหิวาตกโรค เมื่อทาเสร็จแล้วให้ตรวจความเรียบร้อยกอ่ นนาสง่ ครูตรวจ 4. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ ขอ้ 1-2 1) การดื่มน้าทสี่ กุ สะอาด จะสามารถปูองกันการติดต่อจากโรคอหิวาตกโรคได้หรือไม่ เพราะเหตุใด (ปูองกันได้เพียงส่วนหนึ่งเท่าน้ัน เพราะนอกจากจะดื่มน้าท่ีสะอาดแล้ว จะต้องรับประทานอาหารทส่ี ุก สะอาดดว้ ย จึงจะสามารถปอู งกนั โรคได้ดี) 2) นกั เรียนมวี ธิ กี ารปอู งกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคอหวิ าตกโรคได้อย่างไรบ้าง 5. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคาตอบในใบงานที่ 1.1 และสรุปความรู้เร่ือง โรคอหิวาตกโรค ในประเด็นตอ่ ไปนี้ 1) อาการ 2) สาเหตแุ ละการติดต่อ 3) การรกั ษา 4) การปอู งกัน9. ส่ือการเรยี นการสอน / แหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ป.6 2. บตั รคา 3. ห้องสมดุ ในโรงเรียนและอนิ เทอรเ์ น็ต 4. ใบงานท่ี 1.1 เรือ่ ง โรคอหวิ าตกโรค10. การวดั ผลและประเมินผล วธิ กี าร เครื่องมอื เกณฑ์ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 (ประเมนิ ตามสภาพจริง)ตรวจใบงานที่ 1.1 ใบงานที่ 1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ตรวจแบบบันทึกการอา่ น แบบบนั ทกึ การอา่ น ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สงั เกตการใฝุเรยี นรู้ มุ่งม่นั ในการทางาน มีความ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์รับผดิ ชอบ และมีจติ สาธารณะ
บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ......................................................... (นางสาวอรณัชชา เจรญิ สุข) ครผู ้สู อนขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ .......................................................... (นางสาวจิตตานาถ เทพวงศ์) ครูพเ่ี ล้ียงขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .......................................................... ( นางวิลาวลั ย์ ปาลี ) ผู้อานวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31
บตั รคา โรคตาแดง โรคไขห้ วัด โรคไข้เลือดออก โรคหัวใจ โรคอว้ น โรคเบาหวาน
ใบงานที่ 1.1 โรคอหวิ าตกโรค1.1คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ 1. ผ้ปู ุวยท่ตี ดิ เช้ืออหวิ าตกโรค จะมีอาการอยา่ งไร 2. สาเหตขุ องการตดิ เชื้ออหวิ าตกโรคเกิดจากอะไร 3. ผู้ปวุ ยทม่ี อี าการถา่ ยและอาเจยี นเลก็ นอ้ ยร่วมดว้ ย ควรทาอย่างไร 4. ผู้ปวุ ยทมี่ ีอาการรนุ แรง จะแสดงอาการอยา่ งไร 5. การเลือกรับประทานอาหารอย่างไร จึงจะชว่ ยใหป้ ลอดภัยจากเชอ้ื อหิวาตกโรค 6. การแพรร่ ะบาดของโรคอหวิ าตกโรค สง่ ผลกระทบตอ่ สังคมอย่างไรบ้าง จงอธบิ าย 7. นกั เรยี นมีวธิ กี ารปอู งกันโรคอหวิ าตกโรคอยา่ งไรบ้าง จงอธิบาย
ใบงานที่ 1.1 โรคอหิวาตกโรค(เฉลย)คาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้ 1. ผูป้ ุวยที่ตดิ เช้อื อหวิ าตกโรค จะมีอาการอย่างไร ผปู้ วุ ยจะมอี าการอุจจาระเปน็ นา้ คร้งั ละมากๆ หรือถา่ ยอจุ จาระเหลวคล้ายน้าซาวขา้ ว 2. สาเหตขุ องการติดเชอ้ื อหวิ าตกโรคเกิดจากอะไร เกิดจากการรบั ประทานอาหาร และน้าดืม่ ที่ปนเป้ือนเช้ืออหิวาตกโรคเข้าไป 3. ผู้ปุวยทม่ี ีอาการถา่ ยและอาเจยี นเลก็ นอ้ ยร่วมดว้ ย ควรทาอยา่ งไร ผปู้ ุวยควรดม่ื นา้ มากๆ หรือดื่มนา้ ผสมสารละลายนา้ ตาลเกลือแร่ จะชว่ ยใหม้ อี าการดีข้นึ 4. ผู้ปวุ ยที่มีอาการรนุ แรง จะแสดงอาการอย่างไร ผปู้ ุวยจะมีอาการกระหายน้า กระสบั กระสา่ ย ชีพจรเตน้ ช้า ถ้ามอี าการรุนแรงอาจถงึ ขั้นเสียชีวิตได้ 5. การเลอื กรบั ประทานอาหารอย่างไร จงึ จะช่วยใหป้ ลอดภัยจากเช้อื อหวิ าตกโรค จะตอ้ งเลือกรับประทานอาหารที่ปรงุ สกุ ใหม่ๆ สะอาด ไม่มีแมลงวนั ตอม 6. การแพร่ระบาดของโรคอหวิ าตกโรค ส่งผลกระทบต่อสงั คมอยา่ งไรบ้าง จงอธบิ าย (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้อยใู่ นดลุ ยพินิจของครผู ู้สอน) 7. นักเรียนมวี ิธกี ารปอู งกันโรคอหวิ าตกโรคอยา่ งไรบ้าง จงอธบิ าย (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยให้อยูใ่ นดลุ ยพินิจของครูผ้สู อน
แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรื่อง โรคตดิ ตอ่ จานวน 11 ช่ัวโมงแผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 2 เรอื่ ง โรคไข้หวดั ใหญ่สายพันธใ์ุ หม่และวิเคราะหผ์ ลกระทบ จานวน 2 ชั่วโมงกลุ่มสาระการเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษาชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31ครผู สู้ อน นางสาวอรณชั ชา เจรญิ สขุ1. สาระสาคัญ โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ (H1N1) เป็นโรคติดต่อซ่ึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนไทย ดังนั้นจึงควรศกึ ษาอาการของโรค สาเหตุ การติดตอ่ และการรักษาโรค2. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชวี้ ัดชน้ั ปี/ผลการเรียนรู/้ เปา้ หมายการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การปูองกันโรคและการสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพเพอ่ื สขุ ภาพ ตวั ชว้ี ดั พ 4.1 ป.6/2 วิเคราะห์ผลกระทบท่ีเกิดจากการระบาดของโรคและเสนอแนวทางการปอู งกนั โรคตดิ ต่อสาคัญทีพ่ บในประเทศไทย จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกอาการของผทู้ ีเ่ ป็นโรคไขห้ วัดใหญส่ ายพนั ธใุ์ หม่ (H1N1) ได้ 2. อธบิ ายสาเหตุ การตดิ ต่อ และการรกั ษาโรคไขห้ วดั ใหญส่ ายพันธุ์ใหม่ (H1N1) ได้ 3. วเิ คราะหผ์ ลกระทบและบอกแนวทางการปอู งกนั โรคไขห้ วัดใหญ่สายพันธุใ์ หม่ (H1N1) ได้3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลกั : Knowledge 1. โรคตดิ ต่อสาคัญทร่ี ะบาดในปจั จบุ นั 2. ผลกระทบทเี่ กิดจากการระบาดของโรค 3. การปูองกนั การระบาดของโรค 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process 1. นักเรียนสามารถการวเิ คราะหโ์ รคตดิ ต่อสาคัญท่รี ะบาดในปจั จบุ ัน 2. นกั เรยี นสามารถบอกผลกระทบท่เี กิดจากการระบาดของโรค 3. นกั เรียนสามารถบอกการปอู งกันการระบาดของโรค 3.3 คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ : Attitude 1. มีวินัย 2. ใฝเุ รียนรู้ 3. มีความรับผิดชอบ4. สมรรถนะสาคญั ของนักเรียน 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการวเิ คราะห์ 4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
5. คณุ ลักษณะของวิชา - ความรับผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม6. คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ 1. มีความรับผิดชอบ 2. ใฝเุ รยี นรู้ 3. ประหยัด7. ช้นิ งาน/ภาระงาน นาเสนองาน8. กิจกรรมการเรยี นรู้ชวั่ โมงที่ 1 1. ครูให้นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่า การใช้หน้ากากอนามัย สามารถช่วยปูองกันโรคติดต่อไดจ้ รงิ หรือไม่ เพราะเหตุใด 2. ครูแสดงความคิดเห็นเพ่ิมเติม และอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า การใช้หน้ากากอนามัยสามารถปูองกันการติดเช้อื ท่ผี ่านเข้ามาทางเดนิ หายใจได้ 3. นกั เรยี นช่วยกันยกตวั อย่างโรคติดตอ่ ที่สามารถแพร่เช้อื ผา่ นทางเดนิ หายใจได้ 4. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ - นกั เรยี นคดิ วา่ การปูองกันตนเองจากโรคติดตอ่ วธิ ีใดทท่ี าได้ง่ายทสี่ ดุ เพราะเหตใุ ด 5. นักเรียนรวมกลมุ่ เดมิ แล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนในการศึกษาและสืบค้นความรู้เร่ือง ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ุใหม่ (H1N1) จากหนังสือเรียน ห้องสมุด หรือแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ในประเด็นท่ีครูกาหนดดังนี้ 1) อาการ 2) สาเหตแุ ละการติดตอ่ 3) การรักษา 4) การปูองกนั 6. สมาชิกในแต่ละกลุ่มแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบในการศึกษาและสืบค้นประเด็นความรู้ ตามความเหมาะสม แลว้ บันทกึ ความรูท้ ่ไี ดล้ งในแบบบนั ทกึ การอา่ นช่วั โมงที่ 2 1. สมาชิกแตล่ ะกลุม่ ศกึ ษาความรเู้ รือ่ ง โรคไข้หวัดใหญ่สายพนั ธ์ใุ หม่ (H1N1) ตามทีไ่ ดว้ างแผนร่วมกัน 2. สมาชิกในแต่ละกลุ่มผลัดกันอธิบายความรู้จากการศึกษาและสืบค้นความรู้เรื่อง โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ (H1N1) ตามประเด็นท่ีรับผิดชอบ จากชั่วโมงที่แล้ว จากน้ันตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอความรู้หน้าช้นั เรยี น 3. ครตู ั้งคาถามจากการนาเสนอความรเู้ รือ่ ง โรคไขห้ วดั ใหญส่ ายพนั ธ์ใุ หม่ (H1N1) เช่น - ผู้ทมี่ ีอาการลักษณะใดที่ควรสงสยั วา่ อาจเปน็ โรคไข้หวดั ใหญ่สายพนั ธใ์ุ หม่ (H1N1) - ถา้ สงสยั วา่ อาจเป็นโรคไขห้ วดั ใหญ่สายพันธุ์ใหม่ (H1N1) ควรทาอยา่ งไร - เพราะเหตใุ ด จึงควรลา้ งมอื บ่อยๆ ดว้ ยน้าและสบู่ 4. นักเรียนร่วมกันอภิปรายว่า โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ุใหม่ (H1N1) มีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไรและมแี นวทางในการปูองกนั การเกิดโรคไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง
5. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ ความรเู้ รอื่ ง โรคไข้หวดั ใหญส่ ายพันธุใ์ หม่ (H1N1) 6. นักเรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด ขอ้ 1-2 1) โรคไข้หวดั ใหญ่สายพนั ธ์ใุ หม่ (H1N1) กับโรคไข้หวัดใหญ่ มีความแตกตา่ งกันอย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยให้อยใู่ นดุลยพินจิ ของครผู ้สู อน) 2) นกั เรียนมีวธิ กี ารปอู งกันตนเองให้ปลอดภยั จากโรคไข้หวดั ใหญส่ ายพันธ์ใุ หม่ (H1N1) ได้อยา่ งไร (พิจารณาตามคาตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครผู ้สู อน)9. ส่อื การเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียน สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ป.6 2. หอ้ งสมดุ ในโรงเรียนและอนิ เทอรเ์ น็ต10. การวัดผลและประเมินผลวิธกี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์ตรวจแบบบนั ทึกการอ่าน แบบบันทึกการอา่ น ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตการใฝุเรยี นรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีความ แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์รับผิดชอบ และมีจติ สาธารณะ
บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ......................................................... (นางสาวอรณัชชา เจรญิ สขุ ) ครูผู้สอนขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ .......................................................... (นางสาวจติ ตานาถ เทพวงศ์) ครูพีเ่ ลยี้ งขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ .......................................................... ( นางวลิ าวลั ย์ ปาลี ) ผูอ้ านวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31
แผนการจดั การเรียนรู้ จานวน 11 ช่ัวโมงหน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรอ่ื ง โรคตดิ ต่อ จานวน 2 ช่ัวโมงแผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 3 เรือ่ ง โรคไขห้ วดั นกและการปูองกนั โรคไขห้ วัดนกกล่มุ สาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษาชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31ครูผู้สอน นางสาวอรณัชชา เจริญสุข1. สาระสาคัญ โรคไข้หวัดนก (H5N1) เป็นโรคติดต่อซงึ่ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนไทย ดังน้ันจึงควรศึกษาอาการของโรค สาเหตุการตดิ ต่อ และการรกั ษาโรค2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ัดชัน้ ป/ี ผลการเรยี นร/ู้ เปา้ หมายการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การปูองกันโรคและการสรา้ งเสริมสมรรถภาพเพอ่ื สุขภาพ ตัวช้วี ดั พ 4.1 ป.6/2 วิเคราะห์ผลกระทบท่ีเกิดจากการระบาดของโรคและเสนอแนวทางการปูองกนั โรคติดต่อสาคัญที่พบในประเทศไทย จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกอาการของผทู้ เ่ี ปน็ โรคไขห้ วัดนก (H5N1) ได้ 2. อธบิ ายสาเหตุ การตดิ ต่อ และการรักษาโรคไข้หวัดนก (H5N1) ได้ 3. วเิ คราะหผ์ ลกระทบและบอกแนวทางการปูองกนั โรคไข้หวดั นก (H5N1) ได้3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เน้ือหาสาระหลัก : Knowledge 1. โรคตดิ ต่อสาคัญที่ระบาดในปจั จบุ ัน 2. ผลกระทบที่เกิดจากการระบาดของโรค 3. การปอู งกันการระบาดของโรค 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process 1. นักเรียนสามารถบอกอาการของผู้ทเี่ ปน็ โรคไข้หวัดนก (H5N1) ได้ 2. นกั เรียนสามารถอธิบายสาเหตุ การตดิ ต่อ และการรักษาโรคไข้หวัดนก (H5N1) ได้ 3. นกั เรียนสามารถวิเคราะหผ์ ลกระทบและบอกแนวทางการปูองกนั โรคไข้หวดั นก (H5N1) 3.3 คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์ : Attitude 1. มวี ินัย 2. ใฝเุ รยี นรู้ 3. มีความรับผดิ ชอบ4. สมรรถนะสาคัญของนักเรยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการวิเคราะห์ 4.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
5. คุณลกั ษณะของวชิ า - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุม่ - ความรับผิดชอบ6. คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 2. ใฝุเรยี นรู้ 3. ประหยดั7. ชิ้นงาน/ภาระงาน นาเสนองาน8. กิจกรรมการเรียนรู้ชวั่ โมงที่ 1 1. นกั เรียนตอบคาถามกระต้นุ ความคดิ - เพราะเหตุใด ในชว่ งทีม่ ีโรคไขห้ วัดนกระบาดคนท่ัวไปจงึ ไมน่ ิยมรบั ประทานไก่ (เพราะไก่เป็นสัตว์ปีกชนดิ หน่งึ ท่เี ป็นพาหะในการแพร่เชื้อไข้หวดั นกได้) 2. นกั เรยี นรวมกลุ่มเดิม (จากแผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1) แล้วให้นักเรียนบอกวิธีการเลือกรับประทานอาหารทป่ี รงุ จากเนอ้ื เป็ด หรือเนอื้ ไก่ ให้ปลอดภยั จากโรคไขห้ วัดนก (H5N1) ตามความเขา้ ใจของนกั เรียน 3. ครสู มุ่ เรียกตวั แทนนกั เรยี น 2-3 กลุม่ อธบิ ายวิธีการเลอื กรับประทานอาหารท่ีปรุงจากเน้ือเป็ด หรือเนือ้ ไก่ให้ปลอดภยั จากโรคไขห้ วัดนก (H5N1) หน้าชน้ั เรยี น 4. ครูให้ขอ้ เสนอแนะเพมิ่ เตมิ เกย่ี วกับวิธีการเลือกรับประทานอาหารท่ีปรุงจากเนื้อเป็ด หรือเนื้อไก่ให้ปลอดภัยจากโรคไข้หวัดนก (H5N1) เพ่อื ใหน้ กั เรียนนาความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจาวันได้ 5. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาและสืบค้นความรู้เรื่อง โรคไข้หวัดนก (H5N1) จากหนังสือเรียน ห้องสมุดหรอื แหล่งข้อมูลสารสนเทศ ในประเด็นที่ครกู าหนด ดงั น้ี 1) อาการ 2) สาเหตแุ ละการตดิ ตอ่ 3) การรักษา 4) การปอู งกนั 6. สมาชิกในแต่ละกลุ่มแบ่งหน้าท่ีกันรับผิดชอบในการศึกษาและสืบค้นประเด็นความรู้ตามความเหมาะสม แลว้ บนั ทกึ ความรทู้ ี่ไดล้ งในแบบบันทึกการอ่าน 7. สมาชกิ แต่ละคนในกลุ่มผลัดเปลี่ยนกันอธิบายและสรปุ ความรู้ตามประเด็นท่ีไดศ้ ึกษาและสบื คน้ ผลัดกันซกั ถามหากมีขอ้ สงสยั และอธิบาย จนทกุ คนมีความเขา้ ใจชัดเจนตรงกัน 8. นักเรยี นแตล่ ะคนทาใบงานที่ 1.2 เร่ือง โรคไข้หวัดนก เสรจ็ แลว้ นาส่งครตู รวจชวั่ โมงที่ 2 1. นักเรียนกลุ่มเดิมร่วมกันทบทวนความรู้จากการศึกษาและสืบค้นความรู้เร่ือง โรคไข้หวัดนก(H5N1) จากชั่วโมงท่ีแล้ว แล้วร่วมกันอภิปรายถึงผลกระทบท่ีเกิดข้ึนต่อสุขภาพ และแนวทางในการปูองกันการเกดิ โรคไข้หวัดนก (H5N1) 2. ครูตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียน โดยการตั้งคาถาม เชน่ - โรคไข้หวัดนกเกดิ จากสาเหตใุ ด
- ถ้าสงสัยว่าสัตว์ท่ีนักเรียนเลย้ี งอาจมีอาการปุวยเป็นโรคไขห้ วดั นก (H5N1) ควรทาอยา่ งไร - การสวมหน้ากากอนามยั ช่วยปอู งกันโรคไข้หวดั นกได้อย่างไร - อาหารชนิดใดที่ไม่ควรกนิ ขณะเกิดโรคไข้หวดั นกระบาด 3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสุขภาพ และแนวทางในการปูองกันการเกดิ โรคไขห้ วัดนก (H5N1) 4. ครูแนะนาให้นกั เรยี นนาความรทู้ ไ่ี ด้จากการศกึ ษาไปประยกุ ต์ใชใ้ นการดาเนนิ ชวี ิตประจาวนั เพอ่ื ปูองกนั ตนเองจากโรคไขห้ วัดนก (H5N1) 5. ครวู ดั และประเมนิ ผลนักเรยี นจากการทาใบงานที่ 5.2 แลว้ ใหน้ กั เรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ - นกั เรียนมีวิธีการปูองกันตนเองใหป้ ลอดภัยจากโรคไข้หวดั นก (H5N1) ได้อยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยให้อยูใ่ นดุลยพนิ ิจของครูผูส้ อน)9. สอ่ื การเรยี นการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน สุขศึกษาและพลศกึ ษา ป.6 2. ห้องสมุดในโรงเรียนและอินเทอรเ์ น็ต 3. ใบงานที่ 1.2 โรคไข้หวดั นก10. การวัดผลและประเมนิ ผล วิธกี าร เครอื่ งมอื เกณฑ์ตรวจใบงานท่ี 1.2 ใบงานที่ 1.2 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ตรวจแบบบนั ทึกการอ่าน แบบบันทึกการอ่าน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สังเกตการใฝุเรยี นรู้ ม่งุ มั่นในการทางาน มคี วาม แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์รับผดิ ชอบ และมจี ติ สาธารณะ
บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรียนรู้ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ......................................................... (นางสาวอรณัชชา เจรญิ สขุ ) ครูผู้สอนขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื .......................................................... (นางสาวจติ ตานาถ เทพวงศ์) ครูพีเ่ ลยี้ งขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ .......................................................... ( นางวลิ าวลั ย์ ปาลี ) ผู้อานวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31
ใบงานที่ 1.2 โรคไขห้ วัดนกคาชี้แจง ใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้ 1. สง่ิ คดั หล่ังจากสตั ว์ปีกท่ีเปน็ สาเหตทุ าใหต้ ิดเช้ือไข้หวดั นก มอี ะไรบา้ ง 2. อาการแทรกซ้อนที่เกดิ ขึน้ จากการปุวยเป็นโรคไขห้ วดั นก จะมลี กั ษณะอย่างไร 3. การรกั ษาตนเองเบือ้ งต้นเมื่อสงสัยวา่ ตดิ เช้ือโรคไขห้ วัดนกจะตอ้ งปฏิบตั ิอย่างไร 4. ถา้ จาเป็นจะต้องสมั ผัสกับสัตว์ปีก จะต้องปฏบิ ตั ิอยา่ งไร 5. ถ้าต้องการที่จะนาไข่มาประกอบอาหารในช่วงท่ีโรคไขห้ วัดนกระบาด จะตอ้ งปฏบิ ัตอิ ยา่ งไร
ใบงานที่ 1.2 โรคไขห้ วดั นก(เฉลย)คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้ 1. สง่ิ คัดหลั่งจากสัตวป์ ีกที่เป็นสาเหตทุ าให้ตดิ เช้ือไข้หวดั นก มีอะไรบา้ ง สงิ่ คดั หลง่ั ได้แก่ นา้ มูก น้าตา น้าลาย ปสั สาวะ อจุ จาระ 2. อาการแทรกซ้อนท่ีเกดิ ขึ้นจากการปุวยเปน็ โรคไขห้ วัดนก จะมีลักษณะอยา่ งไร จะมีอาการปอดบวม และเกิดระบบหายใจล้มเหลว โดยเฉพาะในผู้ปว่ ยทเ่ี ป็นเดก็ และผสู้ ูงอายุ 3. การรักษาตนเองเบอ้ื งต้นเมื่อสงสยั ว่า ติดเชือ้ โรคไขห้ วัดนกจะตอ้ งปฏิบัตอิ ย่างไร หากมไี ข้จะตอ้ งกินยาลดไขพ้ าราเซตามอล รักษารา่ งกายใหอ้ บอ่นุ ดืม่ น้าตามมากๆ และพกั ผอ่ นให้เพยี งพอ 4. ถา้ จาเปน็ จะต้องสัมผสั กับสตั วป์ กี จะตอ้ งปฏบิ ัตอิ ยา่ งไร จะตอ้ งสวมใสเ่ สื้อผา้ ใหม้ ดิ ชิด สวมถงุ มือ และสวมหนา้ กากอนามัย 5. ถา้ ตอ้ งการที่จะนาไข่มาประกอบอาหารในช่วงทโี่ รคไขห้ วดั นกระบาด จะต้องปฏบิ ัติอยา่ งไร จะต้องเลอื กไข่ทส่ี ด สะอาด ไม่มขี ไ้ี กต่ ิดอยบู่ นเปลอื กไข่ และควรล้างก่อนน้ามาปรงุ อาหารใหส้ ุก สะอาด
แผนการจัดการเรยี นรู้ จานวน 11 ชว่ั โมงหน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เรอื่ ง โรคตดิ ตอ่ จานวน 2 ชั่วโมงแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 4 เรอื่ ง โรคไข้ไทฟอยด์และการปูองกนั โรคไข้ไทฟอยด์กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษาชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31ครผู ูส้ อน นางสาวอรณัชชา เจรญิ สขุ1. สาระสาคญั โรคไขไ้ ทฟอยด์ หรอื ไขร้ ากสาดน้อย เป็นโรคตดิ ต่อซง่ึ ส่งผลกระทบตอ่ สุขภาพของคนไทย ดังนั้นจึงควรศกึ ษาอาการของโรค สาเหตุ การติดต่อ และการรกั ษาโรค2. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ัดชั้นปี/ผลการเรยี นรู้/เปา้ หมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การปูองกันโรคและการสร้างเสรมิ สมรรถภาพเพ่ือสขุ ภาพ ตวั ชีว้ ัด พ 4.1 ป.6/2 วิเคราะห์ผลกระทบท่ีเกิดจากการระบาดของโรคและเสนอแนวทางการปอู งกนั โรคติดตอ่ สาคัญทีพ่ บในประเทศไทย จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกอาการของผ้ทู เี่ ป็นโรคไข้ไทฟอยด์ได้ 2. อธิบายสาเหตุ การติดต่อ และการรักษาโรคไข้ไทฟอยด์ได้ 3. วิเคราะหผ์ ลกระทบและบอกแนวทางการปูองกันโรคไข้ไทฟอยด์ได้3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เน้ือหาสาระหลกั : Knowledge 1. โรคติดต่อสาคญั ทีร่ ะบาดในปจั จุบนั 2. ผลกระทบทเี่ กดิ จากการระบาดของโรค 3. การปอู งกนั การระบาดของโรค 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process 1. นักเรยี นสามารถบอกอาการของผทู้ เ่ี ป็นโรคไข้ไทฟอยดไ์ ด้ 2. นกั เรียนสามารถอธิบายสาเหตุ การตดิ ต่อ และการรกั ษาโรคไขไ้ ทฟอยด์ได้ 3. นกั เรียนสามารถวิเคราะหผ์ ลกระทบและบอกแนวทางการปูองกนั โรคไขไ้ ทฟอยด์ได้ 3.3 คุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ : Attitude 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเุ รยี นรู้ 3. มีความรบั ผดิ ชอบ4. สมรรถนะสาคัญของนกั เรยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการวเิ คราะห์ 4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
5. คุณลกั ษณะของวิชา - ความรับผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม6. คณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ 1. มคี วามรับผิดชอบ 2. ใฝเุ รยี นรู้ 3. ประหยดั7. ช้นิ งาน/ภาระงาน นาเสนองาน8. กิจกรรมการเรียนรู้ช่วั โมงท่ี 1 1. นกั เรยี นรวมกลุ่มเดมิ แล้วใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันยกตัวอย่างโรคท่ีมีแมลงวันเป็นพาหะนาโรคและอธบิ ายลกั ษณะการตดิ ตอ่ ของโรคประกอบอยา่ งคร่าวๆ 2. ครชู แี้ จงใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจว่า แมลงวนั เป็นพาหะในการแพร่เช้ือของเชือ้ โรคตา่ งๆ โดยเฉพาะโรค ไข้ไทฟอยด์ หรอื ไข้รากสาดน้อย 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มกาหนดหมายเลขประจาตัว 1-4 ตามลาดับ แล้วให้นักเรียนแต่ละหมายเลขศึกษาความรูเ้ ร่ือง โรคไขไ้ ทฟอยด์ หรอื ไข้รากสาดนอ้ ย จากหนังสือเรียน ห้องสมุด หรือแหล่งข้อมูลสารสนเทศตามประเดน็ ที่กาหนด ดังน้ี - หมายเลข 1 ศึกษาความรเู้ ร่ือง อาการ - หมายเลข 2 ศึกษาความรู้เรือ่ ง สาเหตุและการติดต่อ - หมายเลข 3 ศกึ ษาความร้เู รอื่ ง การรกั ษา - หมายเลข 4 ศกึ ษาความรเู้ รื่อง การปอู งกัน แลว้ บนั ทกึ ความรทู้ ไ่ี ด้ลงในแบบบนั ทกึ การอ่าน 4. นักเรียนแต่ละหมายเลขนาความรู้ที่ได้จากการศึกษามาเล่าให้เพื่อนในกลุ่มฟังแบบเล่าเร่ืองรอบวงเรยี งตามลาดับหมายเลข 1-4 ผลัดกนั ซกั ถามหากมีขอ้ สงสัย และอธบิ ายจนทุกคนมคี วามเข้าใจชัดเจนตรงกนัชวั่ โมงที่ 2 1. นักเรียนรวมกลุ่มเดิมแล้วร่วมกันทบทวนความรู้เดิมจากช่ัวโมงท่ีแล้ว จากนั้นให้ร่วมกันอภิปรายและวิเคราะห์ถึงผลกระทบที่เกิดข้ึนต่อสุขภาพ และแนวทางในการปูองกันการเกิดโรคไข้ไทฟอยด์ หรือไข้รากสาดน้อย แล้วสรุปองคค์ วามรู้ทัง้ หมดเป็นแผนผงั ความคดิ 2. ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอแผนผังความคิดหน้าชั้นเรียน แล้วให้เพื่อนกลุ่มอื่นได้นาเสนอเพม่ิ เติมในส่วนที่แตกตา่ งกันออกไป และครเู สนอแนะเพมิ่ เติม 3. นกั เรียนตอบคาถามกระต้นุ ความคิด ข้อ 1-2 1) การล้างมือให้สะอาดหลังการขับถ่ายทุกคร้ังเป็นวิธีการปูองกันการติดเช้ือโรคไข้ไทฟอยด์หรือไข้รากสาดน้อยได้หรือไม่ อย่างไร (การล้างมือให้สะอาดและถูกวิธี จะช่วยปูองกันการติดเชื้อไข้ไทฟอยด์หรอื ไขร้ ากสาดน้อยได)้ 2) ถ้าท้องถ่ินที่นักเรียนอาศัยอยู่มีการแพร่ระบาดของโรคไข้ไทฟอยด์ หรือไข้รากสาดน้อยนกั เรยี นจะมวี ิธีปูองกนั ตนเองและคนในครอบครัวจากโรคน้ไี ด้อย่างไรบา้ ง (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรียน โดยให้อยใู่ นดุลยพินจิ ของครูผู้สอน)
9. สือ่ การเรยี นการสอน / แหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ป.6 2. ห้องสมดุ ในโรงเรยี นและอินเทอร์เนต็10. การวดั ผลและประเมนิ ผลวธิ ีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ตรวจแบบบนั ทึกการอ่าน แบบบันทึกการอ่าน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ประเมินการนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่สงั เกตการใฝเุ รยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน มคี วาม แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์รบั ผดิ ชอบ และมจี ติ สาธารณะ
บันทึกผลหลังการจัดการเรยี นรู้ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ ......................................................... (นางสาวอรณชั ชา เจรญิ สุข) ครผู ูส้ อนขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ .......................................................... (นางสาวจติ ตานาถ เทพวงศ์) ครพู เ่ี ลี้ยงขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .......................................................... ( นางวลิ าวัลย์ ปาลี ) ผอู้ านวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31
แผนการจัดการเรยี นรู้ จานวน 11 ชั่วโมงหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่อื ง โรคตดิ ตอ่ จานวน 2 ช่วั โมงแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 5 เรอื่ ง โรคฉหี่ นูและการปอู งกันโรคฉ่หี นูกลมุ่ สาระการเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษาช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31ครูผ้สู อน นางสาวอรณชั ชา เจริญสุข1. สาระสาคัญ โรคฉ่ีหนู หรือโรคเลปโตสไปโรซิส เป็นโรคติดต่อซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนไทย ดังน้ันจึงควรศกึ ษาอาการของโรค สาเหตุ การตดิ ตอ่ และการรักษาโรค2. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ัดช้ันปี/ผลการเรยี นร/ู้ เปา้ หมายการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การปูองกันโรคและการสรา้ งเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ ตัวชี้วัด พ 4.1 ป.6/2 วิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดจากการระบาดของโรคและเสนอแนวทางการปูองกนั โรคตดิ ตอ่ สาคัญทีพ่ บในประเทศไทย จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกอาการของผู้ทีเ่ ป็นโรคฉห่ี นูได้ 2. อธิบายสาเหตุ การตดิ ต่อ และการรกั ษาโรคฉหี่ นูได้ 3. วิเคราะหผ์ ลกระทบและบอกแนวทางการปูองกนั โรคฉีห่ นไู ด้3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนื้อหาสาระหลกั : Knowledge 1. โรคตดิ ต่อสาคัญที่ระบาดในปัจจบุ ัน 2. ผลกระทบทเ่ี กิดจากการระบาดของโรค 3. การปูองกนั การระบาดของโรค 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process 1. นกั เรียนสามารถบอกอาการของผทู้ เี่ ป็นโรคฉีห่ นไู ด้ 2. นกั เรียนสามารถอธิบายสาเหตุ การติดต่อ และการรักษาโรคฉหี่ นไู ด้ 3. นกั เรียนสามารถ วเิ คราะห์ผลกระทบและบอกแนวทางการปูองกันโรคฉีห่ นูได้ 3.3 คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ : Attitude 1. มวี นิ ยั 2. ใฝุเรยี นรู้ 3. มีความรบั ผิดชอบ4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรยี น 4.1 ความสามารถในการคิด - ทักษะการวเิ คราะห์ 4.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
5. คุณลกั ษณะของวชิ า - ความรบั ผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม6. คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ 1. มคี วามรบั ผดิ ชอบ 2. ใฝเุ รียนรู้ 3. ประหยัด7. ชิน้ งาน/ภาระงาน นาเสนองาน8. กิจกรรมการเรยี นรู้ชัว่ โมงที่ 1 1. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สนทนาเกยี่ วกบั อันตรายและโรคตา่ งๆ ท่ีเกิดข้นึ ในช่วงนา้ ทว่ ม 2. ครูแสดงความคิดเห็นเพ่ิมเติม จากน้ันให้นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างช่ือโรคท่ีเกิดข้ึนในช่วงน้าท่วมและอาการของโรคดังกล่าว 3. ครชู ้แี จงให้นักเรียนเข้าใจว่า ในช่วงน้าท่วมมักจะเกิดโรคฉี่หนู หรือโรคเลปโตสไปโรซิส ท่ีมีหนูเป็นพาหะนาโรค 4. นกั เรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ - ถ้าบ้านนักเรียนไม่มีหนู นักเรียนคิดว่า ตนเองมีความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคฉี่หนูหรือไม่เพราะเหตุใด (พิจารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพินิจของครผู ูส้ อน) 5. นักเรียนรวมกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1) แล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนในการศึกษาและสืบค้นความรู้เร่ือง โรคฉี่หนู หรือโรคเลปโตสไปโรซิส จากหนังสือเรียน ห้องสมุด หรือแหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ ตามประเด็นท่ีกาหนด ดงั น้ี 1) อาการ 2) สาเหตแุ ละการตดิ ต่อ 3) การรักษา 4) การปูองกนั 6. สมาชิกในแต่ละกลุ่มแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบในการศึกษาและสืบค้นประเด็นความรู้ ตามความเหมาะสม 7. นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาและสืบค้นความรู้เร่ือง โรคฉ่ีหนู หรือโรคเลปโตสไปโรซิส ในประเด็นที่กาหนด ตามที่ไดว้ างแผนร่วมกนั ไว้ แลว้ บันทึกความรูท้ ไี่ ดจ้ ากการศกึ ษาลงในแบบบันทึกการอา่ นชัว่ โมงท่ี 2 1. นกั เรยี นตอบคาถามกระต้นุ ความคิด - ถา้ ตอ้ งไปในท่ที ่ีมนี ้าท่วมขัง ควรทาอยา่ งไรเพื่อให้ปลอดภัยจากโรคฉีห่ นู (ควรแตง่ กายใหร้ ดั กุม สวมถุงมือ ถุงเท้ากันน้า และรองเท้าบูต) 2. สมาชกิ แต่ละคนในกลมุ่ ผลัดกนั อธิบายและสรุปความรู้ที่ได้จากการศึกษาและสืบค้นความรูเ้ ร่ือง โรคฉีห่ นู หรือโรคเลปโตสไปโรซิส จากชั่วโมงท่ีแลว้ ตามประเด็นทร่ี ับผดิ ชอบ 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายว่า โรคฉ่ีหนู หรือโรคเลปโตสไปโรซิส มีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร และมแี นวทางในการปูองกนั การเกิดโรคไดอ้ ย่างไร แล้วออกมานาเสนอหนา้ ชั้นเรยี น
4. ครูสังเกตและตรวจสอบความถูกต้องของการอภิปรายของนักเรียน แล้วตั้งคาถามเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจ เช่น - ผู้ท่ีมพี ฤตกิ รรมอย่างไร ทีจ่ ะเส่ียงต่อการเปน็ โรคฉีห่ นู - ถา้ ตอ้ งการทางานหรอื เดินทางในบริเวณทีม่ ีนา้ ทว่ มขงั ควรปฏิบตั ิตนอยา่ งไรใหป้ ลอดภัย จากโรคฉหี่ นู 5. ครูและนักเรียนร่วมกันวิเคราะห์และสรุปผลกระทบต่อสุขภาพ และบอกแนวทางในการนาความรู้ไปใช้ในการปอู งกันตนเองและผอู้ ื่นให้ปลอดภัยจากโรคฉ่หี นู หรือโรคเลปโตสไปโรซิส9. สอ่ื การเรยี นการสอน / แหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป.6 2. ห้องสมุดในโรงเรียนและอินเทอรเ์ น็ต10. การวัดผลและประเมินผล วธิ กี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์ แบบบนั ทึกการอา่ น ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ตรวจแบบบันทกึ การอ่าน แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ประเมินการนาเสนอผลงาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่มสงั เกตการใฝเุ รยี นรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มคี วามรบั ผิดชอบ และมจี ติ สาธารณะ
บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ......................................................... (นางสาวอรณัชชา เจรญิ สขุ ) ครูผู้สอนขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ .......................................................... (นางสาวจติ ตานาถ เทพวงศ์) ครูพีเ่ ลยี้ งขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ .......................................................... ( นางวลิ าวลั ย์ ปาลี ) ผูอ้ านวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31
แผนการจัดการเรียนรู้ จานวน 11 ชวั่ โมงหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรื่อง โรคตดิ ตอ่ จานวน 1 ชว่ั โมงแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 6 เรอื่ ง โรคเอดส์กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษาช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31ครผู สู้ อน นางสาวอรณชั ชา เจรญิ สุข1. สาระสาคญั โรคเอดส์ เป็นโรคติดต่อท่ีร้ายแรงที่สุด ซ่ึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนไทย ดังนั้นจึงควรศึกษาอาการของโรค สาเหตุ การติดต่อ และการรักษาโรค พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางในการปูองกันโรค เพื่อจะได้ปูองกันตนเองได้อย่างปลอดภัย2. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชี้วัดชนั้ ป/ี ผลการเรยี นรู้/เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การปูองกันโรคและการสร้างเสริมสมรรถภาพเพ่ือสุขภาพ ตัวช้วี ัด พ 4.1 ป.6/2 วิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดจากการระบาดของโรคและเสนอแนวทางการปูองกนั โรคตดิ ตอ่ สาคัญที่พบในประเทศไทย จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกอาการของผทู้ ่เี ป็นโรคเอดส์ได้ 2. อธิบายสาเหตุ การติดตอ่ และการรกั ษาโรคเอดสไ์ ด้ 3. วเิ คราะห์ผลกระทบและบอกแนวทางการปอู งกันโรคเอดส์ได้3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนือ้ หาสาระหลัก : Knowledge 1. โรคติดตอ่ สาคญั ที่ระบาดในปัจจบุ ัน 2. ผลกระทบท่ีเกดิ จากการระบาดของโรค 3. การปอู งกนั การระบาดของโรค 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1. นักเรียนสามารถบอกอาการของผู้ทเ่ี ป็นโรคเอดส์ได้ 2. นักเรยี นสามารถอธิบายอธบิ ายสาเหตุ การติดตอ่ และการรักษาโรคเอดส์ได้ 3. นักเรยี นสามารถวเิ คราะห์ผลกระทบและบอกแนวทางการปอู งกนั โรคเอดสไ์ ด้ 3.3 คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ : Attitude 1. มีวินยั 2. ใฝุเรยี นรู้ 3. มคี วามรบั ผิดชอบ4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการวิเคราะห์ 4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
5. คุณลักษณะของวิชา - ความรบั ผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลมุ่6. คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ 1. มีความรบั ผดิ ชอบ 2. ใฝุเรยี นรู้ 3. ประหยัด7. ชน้ิ งาน/ภาระงาน นาเสนองาน8. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาคลิปวิดีโอรณรงค์การใช้ถุงยางอนามัย มาเปิดให้นักเรียนดู แล้วให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ ว่า การใชถ้ งุ ยางอนามยั มีประโยชน์อย่างไรบ้าง โดยครูคอยกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงความคดิ เห็น 2. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า การใช้ถุงยางอนามัยสามารถปูองกันเชื้อเอดส์ และโรคต่างๆ ท่ีเกิดจากการมีเพศสัมพนั ธไ์ ด้ 3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ - นักเรยี นรสู้ ึกอยา่ งไรต่อผ้ปู วุ ยท่ีตดิ เชอ้ื เอดส์ 4. นักเรียนรวมกลุ่มเดมิ (จากแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1) แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มกาหนดหมายเลข1-4 ตามลาดับ จากนั้นใหน้ กั เรียนแตล่ ะหมายเลขศกึ ษาความรูเ้ รอ่ื ง โรคเอดส์ จากหนังสือเรียน ห้องสมุด หรือแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ ตามประเด็นทกี่ าหนดให้ ดังนี้ - หมายเลข 1 ศกึ ษาความรเู้ รื่อง อาการ - หมายเลข 2 ศึกษาความรู้เรื่อง สาเหตุและการติดตอ่ - หมายเลข 3 ศกึ ษาความรู้เร่ือง การรกั ษา - หมายเลข 4 ศึกษาความรเู้ รือ่ ง การปอู งกนั แล้วบนั ทึกความร้ทู ่ีได้ลงในแบบบันทกึ การอ่าน 5. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนาความรู้ท่ีได้จากการศึกษามาอธิบายให้เพื่อนในกลุ่มฟัง เรียงตามลาดับหมายเลข 1-4 ผลดั กนั ซกั ถามข้อสงสัยและผลดั กนั อธบิ าย จนทุกคนมคี วามเขา้ ใจชดั เจนตรงกนั 6. นกั เรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด ขอ้ 1-2 1) นักเรียนคดิ วา่ วยั ของนกั เรียนเส่ยี งตอ่ การติดเช้ือเอดส์หรอื ไม่ เพราะเหตุใด (พิจารณาตามคาตอบของนกั เรียน โดยให้อยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู ู้สอน) 2) นักเรียนมีวิธกี ารเผยแพรค่ วามรู้เรือ่ ง การปอู งกันโรคเอดสอ์ ยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยให้อย่ใู นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 7. นักเรียนแตล่ ะกลุม่ นาความรู้ที่ได้จากการศกึ ษามาอภปิ รายและสรุปร่วมกันในประเดน็ ต่อไปนี้ - โรคเอดสม์ ผี ลกระทบตอ่ สขุ ภาพอย่างไร - โรคเอดส์มีแนวทางในการปอู งกนั การเกดิ โรคอย่างไร
9. สือ่ การเรยี นการสอน / แหล่งเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน สุขศึกษาและพลศกึ ษา ป.6 2. หอ้ งสมุดในโรงเรยี นและอินเทอร์เนต็3. คลปิ วิดีโอรณรงคก์ ารใชถ้ ุงยางอนามยั10. การวัดผลและประเมินผลวิธกี าร เครือ่ งมือ เกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ตรวจแบบบันทกึ การอา่ น แบบบนั ทกึ การอา่ น ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่มสงั เกตการใฝเุ รยี นรู้ มงุ่ ม่นั ในการทางาน มคี วาม แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์รับผิดชอบ และมีจติ สาธารณะ
บันทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ......................................................... (นางสาวอรณัชชา เจรญิ สุข) ครูผู้สอนขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ .......................................................... (นางสาวจิตตานาถ เทพวงศ์) ครพู เี่ ล้ยี งขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ .......................................................... ( นางวลิ าวัลย์ ปาลี ) ผู้อานวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31
แผนการจดั การเรยี นรู้หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรือ่ ง ภยั ธรรมชาติ จานวน 6 ชั่วโมงแผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 7 เรอื่ ง รจู้ ักภัยธรรมชาติและภยั ธรรมชาติท่พี บในประเทศไทย จานวน 2 ช่ัวโมงกลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษาชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31ครผู สู้ อน นางสาวอรณัชชา เจรญิ สขุ1. สาระสาคญั ภัยธรรมชาติมีผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจ และสังคม เราจึงควรศึกษาความรู้เก่ียวกับภัยธรรมชาติแต่ละชนดิ ภัยธรรมชาติเป็นภยั ทเ่ี กิดข้ึนเองตามธรรมชาติ ซ่ึงมีผลกระทบตอ่ ชีวติ และความเป็นอย่ขู องมนุษย์2. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชว้ี ัดช้นั ปี/ผลการเรียนร/ู้ เปา้ หมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การปูองกันโรคและการสร้างเสริมสมรรถภาพเพ่ือสขุ ภาพ ตัวชว้ี ัด พ 4.1 ป.6/1 วเิ คราะห์ผลกระทบจากความรุนแรงของภัยธรรมชาติทม่ี ตี อ่ รา่ งกาย จติ ใจ และสังคม จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกความหมายของภัยธรรมชาติได้ 2. อธบิ ายลักษณะของการเกดิ ภัยธรรมชาติทีพ่ บในประเทศไทยแต่ละชนดิ ได้3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลัก : Knowledge ภัยธรรมชาติ - ลกั ษณะของภัยธรรมชาติ 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process 1. นักเรยี นสามารถบอกบอกความหมายของภัยธรรมชาติได้ 2. นกั เรียนสามารถอธิบายอธบิ ายลกั ษณะของการเกดิ ภยั ธรรมชาติท่พี บในประเทศไทยแต่ ละชนดิ ได้ 3.3 คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ : Attitude 1. มวี ินัย 2. ใฝุเรียนรู้ 3. มีความรับผิดชอบ4. สมรรถนะสาคัญของนักเรยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการวเิ คราะห์ 4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ5. คุณลักษณะของวิชา - ความรบั ผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุม่
6. คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ 1. มีความรบั ผดิ ชอบ 2. ใฝุเรยี นรู้ 3. ประหยดั7. ช้นิ งาน/ภาระงาน นาเสนองาน8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ชั่วโมงที่ 1 1. นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 2. ครใู หน้ ักเรยี นดคู ลปิ วดี โิ ออทุ กภัยครั้งใหญ่ พ.ศ. 2554 แล้วให้นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี - นักเรยี นคิดว่า ปญั หาอทุ กภัยเกิดจากสาเหตใุ ดบ้าง - ถ้าบ้านของนักเรียนประสบอทุ กภยั นกั เรยี นจะมวี ธิ ีการรบั มืออยา่ งไร 3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ - นักเรียนคดิ ว่า ภัยธรรมชาตกิ ับภัยทีเ่ กดิ จากน้ามอื ของมนุษย์อยา่ งใดอนั ตรายกว่ากนั จงอธบิ าย(พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพนิ ิจของครูผู้สอน) 4. ครแู บง่ นกั เรยี นเปน็ กลุม่ กลุ่มละ 7 คน คละกนั ตามความสามารถ คอื เกง่ ปานกลางคอ่ นข้างเก่ง ปานกลางคอ่ นขา้ งอ่อน และอ่อน จากนั้นครูแจกภาพตอ่ (Jigsaw) แสดงภัยธรรมชาตแิ ต่ละชนดิ พรอ้ มอปุ กรณ์ในการทากิจกรรม 5. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มช่วยกันตอ่ ภาพตอ่ จนเสร็จ จากนนั้ ครูตรวจสอบความถูกต้องก่อนท่นี ักเรยี น จะทากาวภาพตอ่ 6. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันพิจารณาภาพต่อทีก่ ลุม่ ของตนได้รบั วา่ เป็นภัยธรรมชาติใด และมีสาเหตุสาคัญมาจากอะไร แล้วครูสุ่มเรียกนักเรียนตอบเป็นรายกลุ่ม ครูและเพื่อนกลุ่มอ่ืนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง 7. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง ความหมายของภัยธรรมชาติ จากหนังสือเรียนหอ้ งสมุด หรอื แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ แล้วบนั ทกึ ความรู้ทีไ่ ดล้ งในแบบบันทึกการอ่าน 8. นักเรียนแต่ละกลมุ่ นาความรทู้ ีไ่ ดจ้ ากการศกึ ษามาอภิปรายร่วมกนั ในประเดน็ ท่วี ่า ภัยธรรมชาติ คืออะไร แลว้ ผลัดกันซกั ถามหากมีขอ้ สงสยั และอภิปรายรว่ มกัน จนทุกคนมคี วามเข้าใจชดั เจน ตรงกนั 9. นกั เรียนแต่ละกลุม่ สง่ ตวั แทนออกมานาเสนอผลการศึกษาและอภิปรายหน้าช้ันเรียน ครูและเพื่อนกลุม่ อื่นรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น และใหข้ ้อเสนอแนะ 10. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปความรู้ท่ีได้จากการศึกษาและการอภิปรายร่วมกันลงในกระดาษท่ีครูแจกให้ 11. นกั เรียนตอบคาถามกระตุน้ ความคิด - ภัยธรรมชาติครง้ั ลา่ สุดทีเ่ กิดข้ึนในประเทศไทยคอื อะไร และนกั เรียนคดิ วา่ เกดิ มาจาก สาเหตใุ ด จงอธบิ าย(พิจารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยให้อยูใ่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผู้สอน) 12. ครูแนะนาให้นักเรียนนาความรู้ท่ีได้จากการศึกษาไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาความรู้เรื่อง ภัยธรรมชาติ ตอ่ ไป
13. ครูวดั และประเมินผลนกั เรยี นจากการนาเสนอผลการศึกษาและอภิปรายความรู้ 14. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ - นักเรยี นคดิ ว่า เราสามารถปอู งกนั ภัยธรรมชาตไิ ม่ให้เกิดข้นึ ได้อีกหรือไม่ อธิบายเหตุผลชว่ั โมงที่ 2 1. นกั เรียนรวมกลมุ่ เดิมจากนัน้ ครูแจกภาพภยั ธรรมชาตปิ ระเภทต่างๆ และบัตรคาแสดงช่อื ภยั ธรรมชาตใิ ห้นกั เรียนกลมุ่ ละ 1 ชดุ 2. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ช่วยกนั พจิ ารณาภาพที่ได้ แล้วจับคูภ่ าพกบั บตั รคาใหถ้ กู ตอ้ ง จากนั้นครูสมุ่ เรียก นักเรยี นตอบเป็นรายกลุ่ม ครูและเพอ่ื นนักเรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 3. ครูช้แี จงให้นกั เรยี นเขา้ ใจว่า ภัยธรรมชาตดิ งั กล่าวเป็นภัยธรรมชาตทิ ่พี บไดท้ ง้ั ในประเทศไทยและ ตา่ งประเทศ 4. นกั เรียนกลุม่ เดิม กาหนดหมายเลขประจาตวั 1-7 ตามลาดับ เรียกกลุ่มนว้ี ่า กลุ่มบา้ น แล้วให้ นกั เรยี นท่ีมหี มายเลขเดยี วกนั ไปรวมกันเปน็ กลุม่ ใหม่ เรียกกลุ่มน้วี า่ กล่มุ ผเู้ ชีย่ วชาญ 5. นักเรียนกลมุ่ ผู้เช่ยี วชาญรว่ มกันศกึ ษาความร้เู รอ่ื ง ภัยธรรมชาติทพี่ บในประเทศไทย จาก หนังสือเรียน หรือแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ตามประเดน็ ท่กี าหนด ดงั นี้ - กลมุ่ หมายเลข 1 ศกึ ษาความรู้เรือ่ ง ภยั แล้ง - กลุ่มหมายเลข 2 ศกึ ษาความรู้เรือ่ ง วาตภัย - กลุ่มหมายเลข 3 ศกึ ษาความรู้เรอ่ื ง คลื่นพายุซดั ฝง่ั - กลมุ่ หมายเลข 4 ศึกษาความรู้เรอ่ื ง อทุ กภัย - กลุ่มหมายเลข 5 ศกึ ษาความรเู้ รื่อง โคลนถลม่ - กลุ่มหมายเลข 6 ศึกษาความรเู้ รื่อง แผน่ ดนิ ไหว - กลุม่ หมายเลข 7 ศกึ ษาความรู้เรอื่ ง คลื่นสึนามิ แลว้ บันทกึ ความรูท้ ไี่ ด้ลงในแบบบันทึกการอา่ น 6. นกั เรียนกล่มุ ผู้เช่ียวชาญรว่ มกันอภปิ รายความรู้ที่ไดจ้ ากการศึกษา ผลัดกันซักถามข้อสงสัยและ รว่ มกนั อภปิ ราย จนทุกคนมีความเขา้ ใจชดั เจนตรงกนั 7. นักเรียนกลมุ่ ผู้เชย่ี วชาญแยกยา้ ยกนั กลบั เขา้ สกู่ ลมุ่ บ้าน แล้วนาความร้ทู ไี่ ด้จากการศึกษามาเล่าให้ เพ่ือนในกลุม่ บ้านฟังเรยี งตามลาดบั หมายเลข 1-7 ผลัดกันซกั ถามขอ้ สงสัยและร่วมกนั อภปิ ราย จนทกุ คนมีความเขา้ ใจชัดเจนตรงกัน 8. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ - ในทอ้ งถน่ิ ที่นกั เรียนอาศยั อยู่มโี อกาสเกิดภยั ธรรมชาตใิ ดไดบ้ า้ ง จงอธบิ าย (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้อยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู ูส้ อน)9. สื่อการเรยี นการสอน / แหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป.6 2. ห้องสมดุ ในโรงเรียนและอินเทอร์เน็ต 3. ภาพตอ่ (Jigsaw) แสดงภัยธรรมชาติแต่ละชนิด 4. อปุ กรณใ์ นการทากจิ กรรม 5. คลปิ วดิ โี ออทุ กภัยครัง้ ใหญ่ พ.ศ. 2554 6. บัตรคา 7. บตั รภาพ
10. การวัดผลและประเมนิ ผลวิธกี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 (ประเมินตามสภาพจรงิ )ตรวจแบบบันทกึ การอา่ น แบบบนั ทกึ การอา่ น ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สังเกตความมีวนิ ยั ใฝเุ รียนรู้ และมุ่งม่นั ในการ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ทางาน
บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรียนรู้ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ......................................................... (นางสาวอรณัชชา เจรญิ สขุ ) ครูผู้สอนขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื .......................................................... (นางสาวจติ ตานาถ เทพวงศ์) ครูพีเ่ ลยี้ งขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ .......................................................... ( นางวลิ าวลั ย์ ปาลี ) ผู้อานวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31
บตั รคำ ภยั แลง้ วาตภัย คลืน่ พายซุ ดั ฝง่ั อุทกภัย โคลนถล่ม แผน่ ดินไหว คลื่นสนึ ามิ
บตั รภำพ ภาพภยั แล้ง ภาพวาตภยัภาพคลนื่ พายซุ ดั ฝ่ัง ภาพอุทกภยัภาพโคลนถลม่ ภาพแผ่นดินไหว ภาพคลื่นสนึ ามิ
แผนการจัดการเรยี นรู้ จานวน 6 ชั่วโมงหนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เร่ือง ภยั ธรรมชาติ จานวน 2 ชั่วโมงแผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 8 เร่อื ง ภยั ธรรมชาติท่ีและผลกระทบทีเ่ กดิ จากภยั ธรรมชาติกลุ่มสาระการเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษาชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31ครผู ู้สอน นางสาวอรณัชชา เจรญิ สขุ1. สาระสาคญั ภัยธรรมชาติเป็นภัยท่ีเกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ ซึ่งมีผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของมนุษย์ความรุนแรงของภัยธรรมชาติมีผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจ และสังคม เราจึงควรศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบจากความรนุ แรงของภยั ธรรมชาติที่เกิดข้ึน เพื่อหาแนวทางในการปอู งกันและแก้ไข2. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้ีวดั ชัน้ ป/ี ผลการเรียนรู้/เปา้ หมายการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การปูองกันโรคและการสรา้ งเสริมสมรรถภาพเพอื่ สุขภาพ ตวั ชวี้ ดั พ 4.1 ป.6/1 วิเคราะห์ผลกระทบจากความรนุ แรงของภัยธรรมชาติที่มตี อ่ ร่างกาย จิตใจ และสงั คม จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายลกั ษณะของการเกิดภัยธรรมชาติท่ีพบในประเทศไทยแตล่ ะชนดิ ได้3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge ภัยธรรมชาติ - ลักษณะของภยั ธรรมชาติ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายอธบิ ายลักษณะของการเกิดภัยธรรมชาตทิ ี่พบในประเทศไทยแต่ ละชนดิ ได้ 3.3 คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ : Attitude 1. มีวินยั 2. ใฝเุ รียนรู้ 3. มีความรบั ผิดชอบ4. สมรรถนะสาคัญของนกั เรยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการวิเคราะห์ 4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ5. คุณลกั ษณะของวชิ า - ความรับผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม
6. คณุ ลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 2. ใฝุเรียนรู้ 3. ประหยัด7. ชนิ้ งาน/ภาระงาน 1. ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง ภยั ธรรมชาตทิ พ่ี บในประเทศไทย 2. ใบงานท่ี 2.2 เรือ่ ง ผลกระทบท่ีเกิดจากภยั ธรรมชาติ8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ชว่ั โมงท่ี 1 1. นกั เรยี นกลมุ่ เดมิ ร่วมกนั ทบทวนความรู้เดิมจากชัว่ โมงที่แล้ว 2. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันทาใบงานท่ี 2.1 เร่ือง ภัยธรรมชาตทิ ่พี บในประเทศไทย 3. นักเรียนแต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอผลงานในใบงานที่ 2.1 ครูและเพื่อนกลุม่ อน่ื รว่ มกันตรวจสอบ ความถูกต้องและให้ขอ้ เสนอแนะ 4. นักเรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันสรปุ ความรูเ้ รอ่ื ง ภยั ธรรมชาตทิ ่ีพบในประเทศไทยช่วั โมงท่ี 2 1. นักเรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ - ภยั ธรรมชาติก่อใหเ้ กิดผลกระทบอยา่ งไรบา้ ง อธบิ ายประกอบ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้อยูใ่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 2. ครใู ห้นกั เรียนดคู ลปิ วดิ โี อประมวลภาพนา้ ท่วมประเทศไทย พ.ศ. 2554 แลว้ ร่วมกนั แสดงความ คิดเห็นเก่ยี วกับผลกระทบทเี่ กิดข้ึน 3. ครอู ธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจวา่ ภยั ธรรมชาติส่งผลกระทบตอ่ ร่างกาย จติ ใจ และสังคม 4. นกั เรยี นรวมกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1) แลว้ รว่ มกนั ศกึ ษาความรู้เร่ือง ผลกระทบท่ี เกดิ จากภยั ธรรมชาติ จากหนังสือเรียน ห้องสมุด หรือแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ตามประเด็นท่ี กาหนด ดงั น้ี 1) ด้านร่างกาย 2) ดา้ นจิตใจ 3) ดา้ นสังคม 5. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มหาข่าวภัยธรรมชาติท่ีส่งผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจ และสังคม ไม่ซ้ากันแล้วใหช้ ่วยกนั วิเคราะห์ผลกระทบทเ่ี กิดขึน้ จากข่าว ลงในใบงานท่ี 2.2 เรื่อง ผลกระทบที่เกดิ จากภยั ธรรมชาติ 6. ตัวแทนกลุ่มออกมานาเสนอผลการวิเคราะห์ข่าวในใบงานที่ 2.2 หน้าช้ันเรียน ครูและเพ่ือนกลุ่มอ่ืนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งและให้ข้อเสนอแนะ 7. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรู้เกย่ี วกบั ผลกระทบทีเ่ กิดจากภัยธรรมชาติ9. สอื่ การเรยี นการสอน / แหล่งเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.6 2. ห้องสมดุ ในโรงเรยี นและอินเทอร์เนต็ 3. ใบงานท่ี 2.1 เรื่อง ภัยธรรมชาตทิ ี่พบในประเทศไทย 4. ใบงานท่ี 2.2 เรอื่ ง ผลกระทบทเี่ กิดจากภัยธรรมชาติ
10. การวดั ผลและประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์ ใบงานท่ี 2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ วธิ กี าร ใบงานท่ี 2.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ตรวจใบงานที่ 2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ตรวจใบงานท่ี 2.2 แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุสงั เกตความมวี นิ ยั ใฝุเรียนรู้ และมุง่ มน่ั ในการทางาน
บันทึกผลหลังการจัดการเรยี นรู้ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ......................................................... (นางสาวอรณชั ชา เจรญิ สุข) ครผู ูส้ อนขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ .......................................................... (นางสาวจติ ตานาถ เทพวงศ์) ครพู เ่ี ลี้ยงขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .......................................................... ( นางวลิ าวัลย์ ปาลี ) ผู้อานวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31
ใบงานท่ี 2.1 ภัยธรรมชาติท่ีพบในประเทศไทยคาชี้แจง ใหน้ กั เรียนหาภาพขา่ วภัยธรรมชาติทเ่ี กดิ ในประเทศไทย ติดลงในกรอบ แลว้ ตอบคาถามต่อไปน้ี (ตดิ ภาพข่าว) 1. ภยั ธรรมชาติน้ี คือ 2. สาเหตุของการเกิด คอื 3. มีผลกระทบ คอื
ใบงานที่ 2.2 ผลกระทบที่เกิดจากภัยธรรมชาติคาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นแผนผังความคิด แสดงผลกระทบท่เี กิดจากความรุนแรงของภัยธรรมชาติ ในด้านต่างๆดา้ นรา่ งกาย ดา้ นจิตใจ ผลกระทบทีเ่ กิดจาก ภัยธรรมชาติดา้ นสังคม
แผนการจัดการเรยี นรู้หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง ภัยธรรมชาติ จานวน 6 ช่วั โมงแผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 9 เรือ่ ง การเตรียมความพร้อมเพอ่ื ความปลอดภัยจากภยั ธรรมชาติและการปฏบิ ัติตนเพอื่ ความปลอดภัยจากภยั ธรรมชาติ จานวน 2 ชั่วโมงกล่มุ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษาชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31ครูผู้สอน นางสาวอรณัชชา เจริญสุข1. สาระสาคัญ การเตรียมความพร้อมเพื่อความปลอดภัยจากภัยธรรมชาติอย่างถูกต้อง จะช่วยลดผลกระทบจากความรุนแรงของภัยธรรมชาติ การปฏิบัติตนเพ่ือความปลอดภัยจากภัยธรรมชาติอย่างถูกต้อง จะช่วยลดผลกระทบจากความรนุ แรงของภยั ธรรมชาตทิ ีม่ ีต่อร่างกาย จติ ใจ และสังคม2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี/ผลการเรยี นร/ู้ เปา้ หมายการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 5.1 ปูองกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเส่ียง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยาสารเสพตดิ และความรุนแรง ตัวช้ีวดั พ 5.1 ป.6/2 ระบวุ ธิ ีปฏิบัตติ นเพื่อความปลอดภยั จากธรรมชาติ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายวิธกี ารเตรียมความพร้อมเพอื่ ความปลอดภยั จากภยั ธรรมชาตไิ ด้ 2. ระบุวธิ ีปฏิบัตติ นเพ่อื ความปลอดภยั จากภัยธรรมชาติได้3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เน้อื หาสาระหลกั : Knowledge การปฏบิ ัตติ นเพอื่ ความปลอดภัยจากภยั ธรรมชาติ 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process 1. นักเรียนสามารถอธิบายวิธีการเตรียมความพร้อมเพ่ือความปลอดภัยจากภัยธรรมชาติได้ 3.3 คุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ : Attitude 1. มวี ินัย 2. ใฝุเรียนรู้ 3. มีความรบั ผดิ ชอบ4. สมรรถนะสาคญั ของนักเรยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการระบุ 4.2 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี5. คณุ ลักษณะของวิชา - ความรับผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม
6. คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ 1. มีความรับผดิ ชอบ 2. ใฝเุ รียนรู้ 3. ประหยัด7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1. ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง ภัยธรรมชาติท่ีพบในประเทศไทย 2. ใบงานที่ 2.2 เรื่อง ผลกระทบทเ่ี กดิ จากภยั ธรรมชาติ8. กิจกรรมการเรียนรู้ช่วั โมงท่ี 1 1. นกั เรียนรวมกลุ่มเดิมแลว้ ร่วมกนั ทบทวนความรู้เรอ่ื ง ภัยธรรมชาติ และผลกระทบท่เี กิดจากภยั ธรรมชาติ 2. ครูให้นักเรียนดูภาพยนตร์เกี่ยวกับภัยธรรมชาติ เช่น ภาพยนตร์เร่ือง 2012 สึนามิ วันโลกสังหารหรือภาพยนตร์เร่ือง ตะลุมพุกมหาวาตภัยล้างแผ่นดิน (ครูเลือกเฉพาะตอนที่เก่ียวกับภัยธรรมชาติ) แล้วให้นกั เรียนช่วยกันแสดงความคดิ เห็นวา่ ถา้ นกั เรียนอยใู่ นสถานการณ์ดังกล่าว นกั เรยี นจะปฏบิ ตั ติ นอย่างไร 3. ครอู ธบิ ายใหน้ ักเรยี นเข้าใจวา่ การปฏิบตั ติ นที่ถกู ต้องและเหมาะสมจะช่วยให้นักเรียนปลอดภัยจากอันตรายตา่ งๆ ทีเ่ กดิ ขึ้นจากภยั ธรรมชาติ 4. ครูให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมาจับสลาก เลือกการปฏิบัติตนเพ่ือความปลอดภัยจากภัยธรรมชาติดังนี้ 1) ภยั แลง้ 2) วาตภัย 3) อุทกภัย 4) คลื่นพายซุ ดั ฝ่ัง 5) แผน่ ดนิ ไหว 6) โคลนถลม่ 7) คล่ืนสึนามิ 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนในการศึกษาความรู้และออกแบบวิธีนาเสนอเร่ือง การเตรียมความพร้อมและการปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ แล้วแบ่งหน้าท่ีกันรับผิดชอบตามความเหมาะสม 6. นกั เรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ - นักเรยี นคดิ ว่า ภยั ธรรมชาติท่อี ันตรายมากทีส่ ุดสาหรับนักเรยี นคืออะไร จงอธบิ าย 7. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้และออกแบบวิธีนาเสนอเร่ือง การเตรียมความพร้อมและการปฏิบัติตนเพ่ือความปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ จากหนังสือเรียน ห้องสมุด หรือแหล่งข้อมูลสารสนเทศตามแผนทีไ่ ดร้ ว่ มกันวางไว้ชัว่ โมงที่ 2 1. ครใู ห้นกั เรยี นทบทวนความรเู้ ดิมจากชัว่ โมงที่แล้ว จากน้ันให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มผลัดเปล่ียนกันอธิบายความรู้เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อม และการปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยจากภัยธรรมชาติต่างๆ ท่ีเกดิ ขนึ้ ตามประเด็นทร่ี บั ผิดชอบ 2. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอความรู้ที่ร่วมกันอภิปราย และออกแบบการนาเสนอเกี่ยวกับการเตรยี มความพร้อม และการปฏบิ ัตติ นเพ่ือความปลอดภัยจากภัยธรรมชาตหิ น้าชั้นเรยี น 3. นักเรียนรว่ มกนั สรุปความรเู้ รอ่ื ง การปฏิบตั ิตนเพือ่ ความปลอดภยั จากภัยธรรมชาติ 4. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ
- ถ้าเกดิ ภัยธรรมชาตขิ ึ้นในท้องถิน่ ทน่ี กั เรยี นอาศยั อยู่ นักเรียนจะมวี ธิ ปี ฏบิ ัตติ นอย่างไร ให้ปลอดภยั จากภยั ธรรมชาตดิ งั กลา่ ว5. ครูใหน้ กั เรยี นทาแบบฝกึ กจิ กรรม ภัยธรรมชาติ จากแบบวัดฯ เป็นการบ้าน เสร็จแล้วนาส่งครูตรวจในชั่วโมงถัดไป 6. นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 69. ส่อื การเรียนการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ป.62. หอ้ งสมุดในโรงเรยี นและอินเทอรเ์ น็ต 3. ภาพยนตร์เกี่ยวกับภยั ธรรมชาติ 4. ใบงานท่ี 2.2 เร่อื ง ผลกระทบที่เกิดจากภัยธรรมชาติ10. การวัดผลและประเมินผล วิธีการ เครือ่ งมอื เกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สังเกตความมีวนิ ัย ใฝเุ รยี นรู้ และมุง่ มั่นในการ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ทางาน
บันทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ......................................................... (นางสาวอรณัชชา เจรญิ สขุ ) ครผู ้สู อนขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ .......................................................... (นางสาวจิตตานาถ เทพวงศ์) ครูพีเ่ ล้ียงขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื .......................................................... ( นางวิลาวลั ย์ ปาลี ) ผู้อานวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31
แผนการจัดการเรียนรู้ จานวน 3 ชวั่ โมงหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่อื ง สารเสพตดิ จานวน 1 ช่ัวโมงแผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 10 เรอ่ื ง สาเหตขุ องการติดสารเสพตดิกลุ่มสาระการเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษาชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31ครูผู้สอน นางสาวอรณชั ชา เจริญสุข1. สาระสาคัญ การตดิ สารเสพติดมีสาเหตุหลายประการ เราจึงควรศึกษาทาความเข้าใจสาเหตุดังกล่าวให้เข้าใจ เพื่อจะได้ปูองกันตนเองจากการติดสารเสพตดิ2. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ดั ช้ันปี/ผลการเรียนร้/ู เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 5.1 ปูองกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเส่ียง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยาสารเสพติด และความรุนแรง ตวั ชี้วัด พ 5.1 ป.6/3 วิเคราะหส์ าเหตขุ องการติดสารเสพติดและชักชวนให้ผอู้ นื่ หลีกเล่ียงสารเสพตดิ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. วิเคราะหส์ าเหตุของการติดสารเสพติดได้3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนือ้ หาสาระหลัก : Knowledgeสาเหตุของการตดิ สารเสพตดิ 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process 1. นกั เรียนสามารถวเิ คราะหส์ าเหตุของการตดิ สารเสพตดิ ได้ 3.3 คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ : Attitude 1. มีวินัย 2. ใฝุเรียนรู้ 3. มีความรับผดิ ชอบ4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการวเิ คราะห์ 4.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 4.3 ความสามารถในการส่อื สาร5. คณุ ลักษณะของวิชา - ความรบั ผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม6. คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝุเรยี นรู้ 3. ม่งุ มนั่ ในการทางาน
7. ช้ินงาน/ภาระงาน 1. ใบงานที่ 3.1 เร่อื ง สาเหตขุ องการติดสารเสพติด8. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 2. ครูใหน้ ักเรยี นดูภาพยนตร์ เรอ่ื ง เสียดาย ของหมอ่ มเจ้าชาตรเี ฉลมิ ยุคล (ครคู ัดเลือกเฉพาะตอนท่ีมีเนื้อหาเก่ยี วกบั สารเสพตดิ ) แล้วใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ - เพราะเหตุใด วยั รุ่นจึงเปน็ วยั ทเ่ี สยี่ งต่อการตดิ สารเสพติด - การติดสารเสพตดิ ในวยั ร่นุ มกั มีสาเหตุมาจากอะไร 3. ครแู บ่งนกั เรียนเปน็ กล่มุ กลมุ่ ละ 4 คน คละกันตามความสามารถ คือ เกง่ ปานกลางค่อนขา้ งเก่ง ปานกลางค่อนขา้ งอ่อน และออ่ น แลว้ ให้นกั เรยี นแตล่ ะคนศึกษาความรูเ้ รอ่ื ง สาเหตขุ องการติด สารเสพติด จากหนังสอื เรยี น แลว้ ทาใบงานที่ 3.1 เร่อื ง สาเหตขุ องการติดสารเสพติด 4. นักเรียนผลัดกันอธิบายความรู้ที่ได้จากการศึกษาและการทาใบงานท่ี 3.1 ให้เพื่อนในกลุ่มฟังแบบเล่าเรื่องรอบวงทีละคน จากน้ันผลัดกันซักถามข้อสงสัยและผลัดกันอธิบาย จนทุกคนมีความเข้าใจชัดเจนตรงกนั 5. ครูและนกั เรยี นชว่ ยกันเฉลยคาตอบในใบงานท่ี 3.1 6. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปความรู้เรือ่ ง สาเหตุของการติดสารเสพตดิ 7. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด ขอ้ 1-2 1) สาเหตขุ องการติดสารเสพตดิ ทีส่ าคัญคอื อะไร จงอธิบาย 2) นักเรยี นเหน็ ด้วยหรอื ไม่กับคากล่าวที่วา่ “ยาเสพติดเป็นภัยตอ่ ชวี ติ เปน็ พษิ ตอ่ สังคม” จงอธิบาย 1. ครูให้นักเรียนทบทวนความรเู้ ดมิ จากช่วั โมงที่แล้ว จากน้ันให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มผลัดเปลี่ยนกันอธิบายความรู้เก่ียวกับการเตรียมความพร้อม และการปฏิบัติตนเพ่ือความปลอดภัยจากภัยธรรมชาติต่างๆ ท่ีเกิดข้นึ ตามประเด็นท่รี ับผดิ ชอบ 2. นกั เรียนแต่ละกลุม่ ออกมานาเสนอความรู้ท่ีร่วมกันอภิปราย และออกแบบการนาเสนอเก่ียวกับการเตรียมความพร้อม และการปฏบิ ตั ิตนเพ่ือความปลอดภยั จากภัยธรรมชาตหิ น้าชัน้ เรียน 3. นักเรียนร่วมกนั สรุปความร้เู รือ่ ง การปฏบิ ตั ติ นเพอ่ื ความปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ 4. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด - ถ้าเกิดภยั ธรรมชาติข้ึนในท้องถนิ่ ท่นี ักเรียนอาศัยอยู่ นกั เรยี นจะมีวธิ ีปฏบิ ัตติ นอย่างไร ใหป้ ลอดภัยจากภยั ธรรมชาติดังกลา่ ว 5. ครูใหน้ ักเรยี นทาแบบฝกึ กจิ กรรม ภัยธรรมชาติ จากแบบวัดฯ เป็นการบ้าน เสร็จแล้วนาส่งครูตรวจในชวั่ โมงถัดไป 6. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรยี นรู้ที่ 69. ส่ือการเรยี นการสอน / แหล่งเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป.6 2. หอ้ งสมดุ ในโรงเรยี นและอนิ เทอรเ์ น็ต 3. ภาพยนตร์ เรือ่ ง เสียดาย 4. ใบงานท่ี 3.1 เร่ือง สาเหตุของการตดิ สารเสพติด
10. การวัดผลและประเมนิ ผล วิธกี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 (ประเมินตามสภาพจริง)ตรวจใบงานที่ 3.1 ใบงานที่ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์สังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สงั เกตความมวี ินยั ใฝเุ รียนรู้ และมงุ่ ม่ันในการ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ทางาน
Search