กลมุ่ บรหิ ารงบประมาณ สรปุ รายงาน ผลการดาเนนิ งาน โรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์แมฮ่ ่องสอน สานกั บรหิ ารงานการศึกษาพิเศษ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
คำนำ รายงานผลการดำเนนิ งานตามแผนปฏบิ ตั ิการกลุ่มบรหิ ารงบประมาณ ประจำปีการศกึ ษา ๒๕๖3 ได้ จดั ทำขนึ้ เพือ่ สรปุ ภาพรวมการดำเนนิ งานของกล่มุ บริหารงบประมาณของโรงเรียนศกึ ษาสงเคราะห์แม่ฮ่องสอน ท่ีเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของงาน/โครงการและกิจกรรมท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีศักยภาพ การดำเนินงานที่ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนและหน่วยงานภายนอก รายงานฉบับน้ีได้รวบรวมผลการดำเนินงาน การ วเิ คราะห์ผลการดำเนินงานตามตวั ชีว้ ดั ความสำเรจ็ ของโครงการ การสรุปผลความสำเร็จและความพึงพอใจของ ผูท้ ี่มีส่วนรว่ มในการดำเนนิ งานและข้อเสนอแนะต่าง ๆ เพอื่ ปรบั ปรุงแก้ไขพัฒนาใหด้ ยี ่ิงขึน้ ข้อมูลท่ีได้จะใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนามาวางแผนการดำเนินงานในปีถัดไปโดยการ ใช้เป็นฐานข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจต่าง ๆ ของผู้บริหารเพ่ือพัฒนาคุณภาพ การจัดการศึกษาของ กลุ่มบริหารงบประมาณของโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์แม่ฮ่องสอนให้มีคุณภาพ สามารถพัฒนานักเรียนให้มี มาตรฐานการศึกษาตามทีก่ ำหนด และพัฒนางานในกลุม่ ให้มีศกั ยภาพและเกดิ ประสทิ ธิผลมากยิ่งขน้ึ ( นางศรญั ญา ทับน้อย ) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์แมฮ่ ่องสอน
สารบญั แ หน้า ส่วนที่ ๑ บทนำ ส่วนที่ ๒ - ประวัติความเปน็ มาของแผนปฏิบตั ิการ ๑ - วัตถปุ ระสงคข์ องกลมุ่ แผนงานและงบประมาณ ๒ - กลุ่มเปา้ หมายของการรายงาน ๒ - ระยะเวลาการดำเนนิ งาน ๒ - ผลท่คี าดว่าจะได้รบั ๒ เอกสารท่เี ก่ียวข้อง - แนวคิด หลักการจดั ทำแผนพัฒนาการจดั การศึกษา และแผนปฏิบตั กิ ารประจำปี ๓ - ยทุ ธศาสตร์การศึกษาชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙) ๑๒ - แผนการจดั การศึกษาชาติ พ.ศ.๒๕๖๐-๒๕๗๙ ๑๕ - นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖3 ๒๐ - นโยบายของสำนกั บริหารงานการศึกษาพิเศษ ปีงบประมาณ ๒๕๖3 ๒๓ - แผนพฒั นาการศึกษาของโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์แม่ฮ่องสอน พ.ศ. ๒๕๖๐ – พ.ศ. ๒๖ ๒๕๖๔ (ปรับปรุง ๒๕๖๒) - การปฏิบตั ิงานตามโครงสร้างการบริหารงานของโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์แม่ฮอ่ งสอน ๓๐ กลุ่มบรหิ ารงบประมาณ ปีการศึกษา ๒๕๖3 สว่ นท่ี ๓ วิธีดำเนนิ การ ๓๔ - ประชากรและกลุม่ ตัวอยา่ ง ๓๔ สว่ นท่ี ๔ - ขน้ั ตอนการดำเนนิ งาน ๓๕ สว่ นที่ ๕ - เคร่ืองมือทใี ช้ในการรวบรวมผลการดำเนินงาน ๓๖ - วิธีการเกบ็ รวบรวมข้อมูล ๓๖ - การวเิ คราะหข์ ้อมูล ๓๖ - สถิตทิ ่ีใชใ้ นการรายงาน ผลการดำเนนิ งาน ๓๗ - ผลการดำเนนิ งานกลุ่มบรหิ ารงบประมาณ ๔๒ - ความพงึ พอใจต่อการปฏิบตั ิงาน/โครงการ ตามแผนปฏิบตั กิ ารกลมุ่ บรหิ าร งบประมาณ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖3 ๖๔ สรปุ ผลและแนวทางการพฒั นา ๖๔ - ผลการดำเนนิ งานกล่มุ บรหิ ารงานงบประมาณ - ความเหมาะสม/ความพึงพอใจตอ่ การปฏบิ ัตงิ าน/โครงการ ตามแผนปฏิบตั ิการกลุ่ม บรหิ ารงบประมาณปีการศกึ ษา ๒๕๖3
๑ สว่ นท่ี ๑ บทนำ ความเป็นมา การบรหิ ารจัดการที่มปี ระสิทธิภาพ มปี ระสิทธิผล เท่าเทียมกัน จึงสง่ ผลต่อคณุ ภาพการศกึ ษา ได้มาตรฐานตามเป้าหมายของการจัดการศึกษา การบริหารงบประมาณเป็นส่ิงจำเป็นอย่างยิ่งในการ บริหารงาน ทุกกลุ่มงานจะต้องจัดทำงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ เพ่ือสามารถใช้งบประมาณท่ีมีอยู่ให้เกิด ประโยชน์สูงสุดรวมท้ังคาดการณ์ล่วงหน้าถึงการเปล่ียนแปลงทางการเงินท่ีจะเพ่ิมหรือลดในอนาคตด้วย เพ่ือ สามารถวางแผนแก้ปัญหาได้ทันการณ์และไม่เป็นเหตุให้การดำเนินงานต้องหยุดชะงัก งบประมาณเป็นสิ่งชี้บ่ง แนวความคิดในการบริหารงานตลอดจนวิธีการดำเนินงานงบประมาณ จึงมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับ วัตถุประสงค์ นโยบาย วิธีดำเนินงานและโครงสร้างของหน่วยงาน การดำเนินการกับงบประมาณในรูปแบบท่ี เหมาะสม มีความจำเป็นในการช่วยส่งเสริมการดำเนินงานของหน่วยงานองคก์ ารให้บรรลุวตั ถปุ ระสงคไ์ ด้อย่าง มีประสทิ ธิภาพและประสิทธผิ ล โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์แม่ฮ่องสอน สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษ าพิ เศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ มีการบริหารจัดการสถานศึกษาของรัฐมี ภารกิจและหน้าท่ี คือให้บริการการศึกษาแก่ประชาชน จึงต้องนำหลักการว่าด้วยการบริหารกิจการบ้านเมือง และสังคมท่ีดี ซ่ึงเรียกกันโดยท่ัวไปว่า “ธรรมภิบาล” ซึ่งมีหลักการ ได้แก่ หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลัก ความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่ามาบูรณาการเข้ากับการ ดำเนินงานด้านต่างๆ ของสถานศึกษาซ่ึงได้แก่ การดำเนินงานด้านบริหารวิชาการ การบริหารท่ัวไป การบริหารงานบุคคล การบริหารงบประมาณ และบริหารกิจการนักเรียน โดยเป้าหมายการจัดการศึกษา คือ ทำให้เด็กด้อยโอกาส เป็นคนดี เกง่ และมคี วามสขุ ตามศกั ยภาพของแตล่ ะบุคคล กลุ่มบริหารงบประมาณ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์แม่ฮ่องสอน มีการบริหารงานงบประมาณ ของสถานศึกษา โดยการใช้จ่ายงบประมาณตามระเบียบกระทรวงการคลัง ทำให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มรี ะบบการบริหารงานจัดการเชิงระบบตามบทบาทภาระงานที่กำหนดไว้ มีการเสนองาน เสนอโครงการเพ่ือ ปฏิบัติ จัดทำแผนปฏิบตั ิการประจำปีของกลุ่มงาน เพ่ือเป็นเครื่องค้ำประกันว่าเป้าหมายในการทำงานในแต่ละ ปีมีโอกาสบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ และยังเป็นสิ่งยืนยนั ว่าเป้าหมายที่ต้ังไว้นัน้ มีความเป็นไปได้ เพราะมี แผนงานรองรับที่ชัดเจน และถ้าแผนปฏิบัติการดำเนนิ การได้สำเร็จกจ็ ะสง่ ผลต่อความสำเร็จของการปฏบิ ตั ิงาน ของผู้ปฏิบัติงานตามงาน โครงการและกิจกรรมท่ีตนเองรับผิดชอบด้วย โดยปีการศึกษา ๒๕๖3 กลุ่มบริหาร งบประมาณ มภี าระงานตามโครงสรา้ ง จำนวน ๘ งาน ๑ โครงการ เพ่ือให้ทราบถึงผลการดำเนินงาน ประจำปีการศึกษา ๒๕๖3 จึงมอบหมายให้ผู้รับผิดชอบ งาน/โครงการสรุปรายงานผลการดำเนินงานว่าสำเร็จตามเป้าหมายท่ีวางไว้หรือไม่ พรอ้ มกับประเมินคุณภาพ งาน/โครงการ ความเหมาะสม/ความพงึ พอใจต่อการปฏิบัตงิ านจากผู้เกี่ยวข้องมาเป็นข้อมูลเพอื่ ปรบั ปรุงพัฒนา งานให้มีประสิทธภิ าพตอ่ ไป
๒ วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพือ่ รายงานผลการดำเนนิ งานกลุม่ บริหารงบประมาณ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖3 จำนวน ๘ งาน 1 โครงการ ๒. เพ่อื นำผลการดำเนนิ งานไปปรบั ปรงุ พฒั นางานให้มีประสิทธิภาพยิ่งข้ึน กลุ่มเปา้ หมายของการรายงาน ๑. งานตามโครงสร้างการบริหารงานกลุม่ บรหิ ารงบประมาณ จำนวน ๘ งาน 1 โครงการ ช่อื งาน สอดคล้องกบั กลยุทธ์ ๑. งานสำนักงาน กลยุทธท์ ่ี ๓ พฒั นาระบบการบรหิ ารจัดการ ๒. งานนโยบายและแผน กลยทุ ธ์ที่ ๓ พฒั นาระบบการบรหิ ารจดั การ ๓. งานบรหิ ารการเงนิ กลยทุ ธท์ ่ี ๓ พฒั นาระบบการบรหิ ารจดั การ ๔. งานบรหิ ารบัญชี กลยทุ ธ์ท่ี ๓ พัฒนาระบบการบริหารจัดการ ๕. งานบริหารพสั ดุและสนิ ทรัพย์ กลยุทธ์ที่ ๓ พฒั นาระบบการบรหิ ารจัดการ ๖. งานตรวจสอบภายใน กลยทุ ธท์ ี่ ๓ พฒั นาระบบการบริหารจดั การ ๗. งานสารสนเทศ/SET กลยุทธท์ ่ี ๓ พฒั นาระบบการบริหารจดั การ ๘. งานประกนั คุณภาพภายใน กลยทุ ธท์ ่ี ๓ พัฒนาระบบการบริหารจดั การ ๙. โครงการปรับปรงุ พฒั นางานพสั ดุ ครภุ ัณฑ์ กลยทุ ธท์ ี่ ๓ พฒั นาระบบการบริหารจดั การ ระยะเวลาการดำเนินงาน พฤษภาคม ๒๕๖3 – มนี าคม ๒๕๖๔ ผลท่ีคาดว่าจะไดร้ บั กลุ่มบรหิ ารงบประมาณ มีขอ้ มลู การปฏิบตั ิงาน เพ่ือนำไปพัฒนางานในกลมุ่ งาน ส่งผลให้การ ปฏบิ ตั ิงาน และผ้รู บั บริการได้รบั บรกิ ารท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพ
๓ ส่วนท่ี ๒ เอกสารทีเ่ กยี่ วขอ้ ง การรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีการศึกษา ๒๕๖3 ของกลุ่มบริหารงบประมาณ โรงเรียนศึกษา สงเคราะห์แม่ฮ่องสอน ได้กำหนดให้แต่ละงาน/โครงการ ศึกษาเอกสารแนวคิด หลักการ และนโยบายการจัด การศกึ ษาของหน่วยงานตน้ สงั กัด มรี ายละเอยี ดดังต่อไปน้ี ๑. แนวคิด หลักการจดั ทำแผนพัฒนาการจัดการศกึ ษา และแผนปฏบิ ตั ิการประจำปี ๒. ยุทธศาสตร์การศึกษาชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙) ๓. แผนการจัดการศึกษาชาติ พ.ศ.๒๕๖๐-๒๕๗๙ ๔. นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖3 ๕. นโยบายของสำนกั บริหารงานการศึกษาพิเศษ ปงี บประมาณ ๒๕๖3 ๖. แผนพฒั นาการศกึ ษาของโรงเรียนศึกษาสงเคราะหแ์ มฮ่ อ่ งสอน พ.ศ. ๒๕๖๐ – พ.ศ. ๒๕๖๔ (ปรับปรงุ ๒๕๖๒) ๗. การปฏิบตั งิ านตามโครงสรา้ งการบริหารงานของโรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์แมฮ่ ่องสอน กลมุ่ บรหิ ารงบประมาณ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ๑. แนวคดิ หลักการจดั ทำแผนพฒั นาการจัดการศึกษา และแผนปฏิบัตกิ ารประจำปี จากกฎกระทรวงว่าด้วย ระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๓ ข้อ ๑๔ ( ๒ ) กำหนดให้สถานศึกษาจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา โดยได้กำหนดเป้าหมาย หลักการ เน้ือหา กระบวนการจัดทำ และบทบาทหน้าที่ของ ผู้ที่เกี่ยวข้องที่สถานศึกษาต้องคำนึงและนำไปปฏิบัติ ภายใต้การส่งเสริม สนับสนุน ของหน่วยงาน ในกระทรวงศึกษาธกิ าร (ราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ ท่ี ๑๓๕ ตอนที่ ๘๒ ก หน้า ๑๓๗๔ วันท่ี ๑๓ ตลุ าคม ๒๕๖๑) สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ (๒๕๖๐) ได้จัดทำแผนพัฒนาการศึกษา ของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔) สำหรับเป็นเคร่ืองมือในการกำกับทิศทางการ ปฏิบัติงานของกระทรวงศึกษาธิการ และส่วนราชการ/หน่วยงานในสังกัด โดยได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงมาประยุกต์ใช้เป็นกรอบในการดำเนินงาน เพื่อสร้างผลผลิต ผลลัพธ์ให้เกิดกับผู้เรียนได้อย่างมีความ สอดคล้องกับทิศทางการพฒั นาประเทศในช่วงของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔) และยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี ซ่ึงได้ระบุสาระสำคัญเก่ียวกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ และกล ยุทธ์ ของกระทรวงศึกษาธิการ ที่สามารถตอบสนองต่อเป้าหมายของการพัฒนาประเทศได้ทั้งมิติความมั่นคง มติ เศรษฐกจิ มติ ิสงั คม และมิตกิ ารบริหารจดั การภาครฐั ได้อยา่ งเปน็ รูปธรรม สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (๒๕๖๑) ซ่ึงเป็นหน่วยงานทางการศึกษาท่ีสังกัดสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้ความสำคัญต่อการวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ได้ให้ ความหมายเก่ียวการวางแผนไว้ดังตอ่ ไปนี้ ๑. ความสำคัญของการวางแผน เป็นกระบวนการกำหนดทิศทาง เป้าหมายวัตถุประสงค์ท่ีต้องการให้ เกิดข้ึนในอนาคต โดยเลอื กวธิ กี ารทำงานที่ดีท่ีสุดให้บรรลุผลตามตอ้ งการภายในระยะเวลาท่ีกำหนด
๔ ช่วยกำหนดทิศทางการปฏิบัติงานสู่เป้าหมายท่ีกำหนดไว้ในสภาพปัจจุบันและอนาคต ช่วยประหยัดเวลา เพราะ ผรู้ ับผิดชอบรู้กรอบภารกจิ บทบาทหน้าที่และความรบั ผิดชอบของตนเอง ช่วยควบคุมตรวจสอบการปฏิบตั ิงานให้ เป็นไปตามเปา้ หมายและช่วยให้การใช้ทรัพยากรมคี วามคุ้มคา่ และประหยดั ๒. ประเภทของแผนประเภท นยิ มแบง่ ออกเป็น ๓ ประเภท คือ ๒.๑ แผนระยะส้นั หรือเรยี กว่า แผนปฏบิ ัติการประจำปี มีระยะเวลา ๑ ปี เปน็ แผนการดำเนนิ โครงการ/กจิ กรรมและงบประมาณตามนโยบาย มผี รู้ บั ผดิ ชอบ มีระยะเวลาดำเนินการ ที่ชัดเจนและยงั เปน็ แผนการปฏิบัติงานท่เี กิดผลเปน็ รปู ธรรมมากที่สุด ๒.๒ แผนระยะกลาง เป็นแผนพฒั นา ระยะ ๓-๕ ปี หรือเรียกว่า แผนพฒั นาการศกึ ษาข้ัน พืน้ ฐาน แผนกลยุทธห์ รอื แผนยทุ ธศาสตร์ เปน็ แผนทจ่ี ัดทำโดยการคาดคะเนว่าในช่วงเวลาดังกลา่ วจะทำอะไร ใช้ งบประมาณและทรัพยากรเท่าไร มีรายละเอียดการใช้งบประมาณอยา่ งหยาบและใช้เปน็ กรอบแนวทางในการ จดั ทำแผนปฏิบตั ิการประจำปี ๒.๓ แผนระยะยาว เป็นแผนที่มีระยะยาวตง้ั แต่ ๕ ปขี ้ึนไป เปน็ แผนที่กำหนดกรอบทิศทาง ในการพัฒนาในอนาคตอย่างกว้างๆโดยไม่กำหนดวงเงินงบประมาณ เชน่ แผนการศึกษาระดับชาติ เป็นตน้ ใชเ้ ปน็ แผนแมบ่ ทของการจัดทำแผนระยะกลางและระยะสัน้ ๓. ความเช่ือมโยงของแผน คือ ความต่อเนอ่ื งเช่อื มโยงของการจดั ทำแผนทีเ่ กยี่ วข้องแตล่ ะประเภท ตัง้ แต่แผนแม่บทลงมาตามลำดบั ดังแผนภูมิดังน้ี
๕ ๔. คำศพั ท์สำคญั ด้านการวางแผน ประกอบดว้ ย คำแปล วิสยั ทศั น์ ลำดับ คำศพั ท์ พนั ธกจิ ๑. Vision ยุทธศาสตร์ ๒. Mission กลยุทธ์ ๓. Strategic เป้าประสงคห์ ลกั ๔. Strategies เปา้ หมาย ๕. goals ตัวชี้วดั ๖. Target ขอ้ มลู พ้ืนฐาน ๗. KPI : Key Performance Indicators สภาพแวดล้อม (จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส ๘. Baseline Data อปุ สรรค) ๙. SWOT : Strength Weakness Opportunity การวิเคราะห์ การวางแผนกลยุทธ์ Threat นโยบาย ๑๐. Analysis สาธารณะ ๑๑. Strategic Planning กจิ กรรม ๑๒. Policy สัญญา/ขอ้ ตกลง ๑๓. Public แผนทีท่ างกลยุทธ์ ๑๔. Activity แผนปฏิบตั กิ าร ๑๕. MOU : Memorandum Of Understanding ผ้มู ีสว่ นไดเ้ สยี ๑๖. Strategy Map / Road Map การจดั ทำกรอบงบประมาณ ๑๗. Action Plan ๑๘. stakeholders แผนระยะสน้ั /แผนปฏิบตั ิการประจำปี ๑๙. MTEF : Medium Terms Expenditure แผนระยะกลาง/แผนกลยุทธ์ แผนระยะยาว/แผนแมบ่ ท Framework การเปรยี บเทยี บ ๒๐. Operational Plan / Action Plan การติดตาม ๒๑. Medium-range plan การประเมนิ ผล ๒๒. Long-range plan การรายงานผล ๒๓. Benchmarking ความตระหนัก , ความพยายาม , ๒๔. Monitoring ความสำเร็จ ,ความทัว่ ถงึ ท้ังปริมาณ ๒๕. Evaluation และคณุ ภาพ ๒๖. Report ประสทิ ธิภาพ ๒๗. ๔ A : Awareness , Attempt , Achievement , ประสิทธผิ ล ค่านยิ ม Accredited การบริหารจดั การภาครฐั (๗ หมวด) ๒๘. efficiency ๒๙. effectiveness ๓๐. Value ๓๑. PMQA : Public Sector Management Quality
ลำดบั คำศัพท์ ๖ Award คำแปล ๓๒. Good Governance ๑) การนำองคก์ ร ๒) การวางแผน ยทุ ธศาสตร์ ๓) ผรู้ บั บริการและผ้มู สี ่วน ได้ ๓๓. ARS : Action plan Report System เสยี ๔) การวัดการวิเคราะห์และ การจัดการ ๓๔ kRS : KPI Report System ความรู้ ๕) การมุ่งเน้นทรพั ยากรบคุ คล ๖) การจดั กระบวนการ และ ๗) ผลลพั ธ์การ ดำเนนิ งาน การบรหิ ารตามหลักธรรมาภิบาล (๖ หลกั ) ๑) นิติธรรม ๒) คณุ ธรรม ๓) ความ โปรง่ ใส ๔) การมีสว่ นร่วม ๕) ความรับผดิ ชอบ และ ๖)ความคมุ้ คา่ ระบบโปรแกรมการรายงานผลตัวชีว้ ดั ตาม แผนปฏิบัติการประจำปี (ก.พ.ร. สพฐ.) ระบบโปรแกรมการรายงานผลตัวชว้ี ัดตาม คำรับรองการปฏิบัตริ าชการประจำปี (ก.พ.ร. สพฐ.) ๕. หลักการวางแผน “วงจรคณุ ภาพ PDCA” เป็นหลักการท่ีง่ายต่อการนำมาใชว้ างแผนและจัดทำแผน นำส่ปู ฏิบัตไิ ดอ้ ย่างเปน็ ระบบ สามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ ดงั น้ี ๑. การวางแผน P : Plan หมายถึง การกำหนดกรอบงานท่ีตอ้ งการแก้ปัญหา ปรบั ปรงุ เปลี่ยนแปลง รวมถึงการ พัฒนาส่ิงใหม่ๆ โดยพิจารณาว่าต้องนำข้อมูลอะไรบ้างมาเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์และ กำหนด ทางเลือกในการดำเนินการปรับปรุงเปล่ียนแปลงหรือพัฒนา ดังนั้น การวางแผนจะช่วยให้สามารถ คาดการณ์ ความสำเร็จ ในอนาคตและชว่ ยลดความสญู เสยี ตา่ งๆท่ีอาจเกิดขึน้ ได้ ควรดำเนินการดงั น้ี ๑. ตอ้ งทบทวนแผนกลยุทธ์หรอื แผนพฒั นาการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน ระยะ ๔ ปี นโยบายต้นสังกัด ผลการปฏิบัติงานของปีท่ีผ่านมา และนำสู่การวิเคราะห์ SWOT เพ่ือกำหนดยุทธศาสตร์การ ขับเคล่ือนนโยบายท่ีกำหนดแต่ละปี ได้แก่ วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ กลยุทธ์ ตัวช้ีวัดความสำเร็จ วิธีการ ปฏิบัติสูเ่ ป้าหมายความสำเร็จ ๒. แต่งตั้งคณะกรรมการที่ประกอบไปด้วย บุคคลท่ีเกีย่ วขอ้ ง ทุกฝา่ ยเข้ามามี สว่ นร่วมคิด ร่วมทำ ได้แก่ ผู้แทนครูผูส้ อน ผู้แทนกรรมการสถานศึกษา ผ้แู ทนผปู้ กครอง ผเู้ รียน ผู้แทนองคก์ รและ ผูเ้ กี่ยวขอ้ ง เพื่อร่วมกำหนดกรอบยทุ ธศาสตร์แผนปฏบิ ัติการประจำปี ๓. กำหนดโครงการ/กจิ กรรม สนองกรอบยทุ ธศาสตรใ์ นรูปแผนปฏิบัติการ ประจำปีและเผยแพร่แก่ผ้เู กย่ี วข้องนำสู่การปฏบิ ตั ริ ่วมกัน ๒. การปฏิบตั ิ D : Do หมายถงึ การดำเนนิ การปฏบิ ตั ิใหเ้ ป็นไปตามแผนหรอื ทางเลอื กทก่ี ำหนด ไว้ว่ามีมากน้อยเพียงใด มีปัญหาอุปสรรคระหว่างการปฏิบัติงานหรือไม่ เช่น ทิศทาง นโยบาย เป้าหมาย งบประมาณ ระยะเวลา คน เป็นตน้ ถ้าพบปัญหากส็ ามารถปรบั เปล่ยี นทางเลอื กและวิธีการทีเ่ หมาะสมได้ ๓. การตรวจสอบ และการประเมินผล C : Check หมายถงึ การประเมินโครงการ/กจิ กรรม
๗ โดยมีรูปแบบของการประเมินผล และผลการประเมินเป็นไปตาม วัตถุประสงคแ์ ละเป้าหมายท่ีกำหนดไว้หรือไม่ มี ปัญหาอุปสรรค หรอื ข้อดี ขอ้ เสียอย่างไร ๔. การปรบั ปรงุ แก้ไขและพฒั นา A:Act หมายถงึ การนำผลจากการประเมินมาใชใ้ นการ ปรับปรุงแก้ไขหรือ ถ้าผลการปฏิบัติงานดี ให้มีการพัฒนาต่อยอด ให้ดีกว่าเดิม และถ้าผลยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์ จะต้องนำมาพิจารณาว่าควรปรบั ปรงุ แก้ไขอย่างไร จะดำเนนิ การตอ่ หรือหยุด ถ้าไม่คมุ้ คา่ ๖. การมีสว่ นรว่ มในการวางแผน ๖.๑ กลมุ่ ที่ ๑ บุคลากรภายในของสถานศึกษา ๑) ผูอ้ ำนวยการสถานศกึ ษา มที บาทหน้าที่ ๑.๑) ศึกษาและวเิ คราะห์นโยบาย ยุทธศาสตร์ของกระทรวง กรม เขตพ้ืนทกี่ ารศึกษา หรือ จงั หวัดและสภาพความต้องการของชุมชนท้องถน่ิ ปัญหา/ความจำเป็นและมาตรฐานการศึกษา เพื่อนำมากำหนด วสิ ยั ทัศน์ พันธกจิ เป้าประสงค์และตัวช้ีวัดเปา้ หมายความสำเร็จรว่ มกบั บคุ ลากรและผเู้ ก่ียวข้องทุกฝา่ ย ๑.๒) ส่งเสริมความรู้และความเข้าใจและความตระหนักในเร่ืองของการประกันคุณภาพ การศกึ ษากบั ครู บคุ ลากรทุกฝ่าย รวมทงั้ การจดั ระบบการประกันคณุ ภาพภายในของสถานศึกษา ๑.๓ ) แต่งตั้งคณะกรรมการ/คณะทำงาน และมอบหมายหน้าท่ีความรับผิดชอบ ในการ ดำเนินงานตามกระบวนการในการประกันคุณภาพการศึกษา กำหนดบทบาทหน้าที่และแนวทางความร่วมมือของ ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และองค์กรท้องถิ่น ๑.๔) จัดสรรงบประมาณและทรัพยากร เพ่ือใชใ้ นการจดั ทำแผนพัฒนาการศึกษา/ แผนปฏิบัตกิ ารประจำปี และอนุมตั โิ ครงการกิจกรรมของสถานศึกษา ๑.๕) รว่ มประชมุ ปฏบิ ัตกิ ารและระดมพลังสมองในการจัดทำแผนของสถานศึกษา ๑.๖) สนับสนุน อำนวยความสะดวก รวมท้ังการแก้ไข ปัญหาอุปสรรคต่างๆในการจัดทำ แผนของสถานศกึ ษา ท่มี ่งุ เน้นทีค่ ุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา ๑.๗) ตรวจสอบ กำกับ ติดตามกระบวนการจัดทำแผน รวมท้ังให้มีการประเมินคุณภาพ ของแผนงาน/โครงการแผนปฏิบัตกิ ารประจำปขี องสถานศึกษา ๑.๘) จดั ให้มีการประเมินคณุ ภาพภายในตามมาตรฐานของสถานศึกษา และจัดทำรายงาน ผลการปฏิบัตงิ านประจำปีนำเสนอต่อผมู้ ีสว่ นไดเ้ สยี และใช้เป็นขอ้ มลู ในการจดั ทำแผนในปีตอ่ ไป ๒) รองผูอ้ ำนวยการสถานศึกษา หัวหน้ากลุ่ม หัวหนา้ งาน หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ครแู ละ บุคลากรทางการศกึ ษา มบี ทบาทหนา้ ท่ี ๒.๑) สรุปข้อมูลสารสนเทศเก่ียวกับผลการดำเนินงานของสถานศึกษา ผลการประเมิน คณุ ภาพผู้เรียน ผลงานดีเดน่ ของผู้เรียน ครู สภาพการจัดการเรียนการสอน ปัญหาและสภาพความตอ้ งการจำเป็น ความต้องการของผูป้ กครอง ผเู้ รียนและชมุ ชน ๒.๒) ร่วมประชุมหารือ สัมมนา วิเคราะห์สภาพการบริหารจัดการศึกษา ปัญหาอุปสรรค และความต้องการจำเป็นเพอื่ กำหนดวิสยั ทัศน์ พันธกิจ เปา้ ประสงคแ์ ละตัวชว้ี ดั ความสำเร็จ
๘ ๒.๓) จัดทำโครงการ กิจกรรมและการดำเนินโครงการที่กำหนดไวใ้ ห้สำเร็จตามเป้าหมาย รวมทงั้ การประเมนิ ผลกิจกรรม/โครงการตามแผนปฏิบตั ิการประจำปีให้ครบถ้วน ๖.๒ กลมุ่ ที่ ๒ บุคลากรอ่ืนทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับสถานศกึ ษา ๑) คณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ๑.๑) ให้ข้อมูลและร่วมวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับชุมชน สภาพปัญหา และความ ต้องการของผู้ปกครอง ท้องถ่ิน ชุมชน ความต้องการของชุมชน แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญา วิทยากรท้องถ่ิน การ สนบั สนนุ จากชมุ ชน คุณภาพผู้เรียนและการศึกษาต่อ ๑.๒) ร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัดและเป้าหมายความสำเร็จของ สถานศกึ ษา ๑.๓) พิจารณาให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาและแผนปฏิบัติการประจำปี ตลอดจนการใชง้ บประมาณและทรพั ยากรอื่นท่เี กยี่ วข้อง ๑.๔) กำกับ ติดตามการดำเนินงานตามแผนปฏบิ ตั ิการของสถานศึกษา ๒) ผปู้ กครองนกั เรยี น ๒.๑) ให้ข้อมูลและร่วมวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศท่ีเกี่ยวกับชุมชน สภาพปัญหา ความตอ้ งการของผ้ปู กครองและผู้เรยี น ชว่ ยเหลือสนบั สนนุ โรงเรยี น พฒั นาคุณภาพผูเ้ รยี นและการศกึ ษาตอ่ ๒.๒) ร่วมประชุมหารือ สัมมนาเพื่อกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด ความสำเร็จของสถานศกึ ษา ๒.๓) สนับสนุนการใช้งบประมาณและทรัพยากรให้เป็นตามแผนท่ีมุ่งเน้นคุณภาพตาม มาตรฐานของสถานศกึ ษา ๓) องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ องค์กรเอกชนและชมุ ชน ๓.๑) ให้ข้อมูลและร่วมวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศท่ีเก่ียวกับชุมชน สภาพปัญหาความต้องการ ของท้องถ่ินชุมชน แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาและวิทยากรท้องถ่ิน นโยบายและทิศทางในการพัฒนาชุมชน การ ช่วยเหลือสนับสนุนงบประมาณและทรัพยากร การพัฒนาคณุ ภาพผ้เู รยี นและการศึกษาต่อ ๓.๒) รว่ มจัดทำแผนพัฒนาการศกึ ษาท่ีมุ่งเน้นคณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษาของ สถานศึกษา ๓.๓) ให้การสนับสนุนการใช้งบประมาณและทรัพยากรให้เป็นตามแผนท่ีมุ่งเน้นคุณภาพตาม มาตรฐานของสถานศึกษาและแผนปฏบิ ัติการประจำปี ๓.๔) รว่ มปฏิบัตใิ นกิจกรรมโครงการท่ีเก่ียวขอ้ งตามแผนปฏิบตั กิ ารประจำปี ๓.๕) ร่วมนำเสนอและสะท้อนผลการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของ สถานศึกษาสกู่ ระบวนการพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาของสถานศึกษาในปีต่อไป ๗. โครงสร้างและกระบวนการจัดทำแผนเชิงกลยุทธ์ การจัดทำแผนของหน่วยงานทั้งองค์กรโดย จัดลำดับการดำเนินการก่อนหลังอย่างเป็นระบบ ประกอบด้วย ๓ กระบวนงานหลัก คือ การศึกษาสภาพของ หนว่ ยงาน การกำหนดทศิ ทางของหนว่ ยงาน และการกำหนดกลยทุ ธ์ การศึกษาสภาพของหน่วยงาน เป็นการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ผลการดำเนินงานท่ีผ่านมาและ ความสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อมในเชิงโอกาส อุปสรรค จุดอ่อน จุดแข็ง เพ่ือนำมาเป็นข้อมูลพื้นฐานในการ
๙ กำหนดกรอบยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับภารกิจของหน่วยงาน ส่งิ ทค่ี วรคำนึง คือ ใหค้ วามสำคัญกับผู้มสี ่วนไดเ้ สีย หรือผเู้ กีย่ วข้องกับหน่วยงาน (Stakeholders) และการวิเคราะหส์ ภาพแวดล้อม (Environment Analysis) การกำหนดทิศทางของหน่วยงาน เป็นการนำผลจากการวิเคราะห์ SWOT ความโน้มเอียงไปทาง ใดใน จุดแข็ง (S: Strength) จุดอ่อน (W: Weakness) โอกาส (O: Opportunity) และปัญ หาอุปสรรค (T:Threat) ซึ่งเป็นข้นั ตอนเรม่ิ ต้นทีจ่ ะนำไปสู่การวางทิศทางของหน่วยงาน ๑) ความโน้มเอียงของสภาพแวดล้อมภายนอกระหว่างโอกาสและอุปสรรค แสดง ผลสรปุ จากการวิเคราะหส์ ภาพแวดล้อมภายนอกวา่ มีโอกาสมากกว่าอปุ สรรค หรอื อปุ สรรคมากกวา่ โอกาส ๒) ความโน้มเอียงของสภาพแวดล้อมภายในระหว่างจุดแข็งและจุดอ่อน แสดงผลสรุป จากการวิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายในวา่ มีจุดแข็งมากกว่าจดุ อ่อน หรือจดุ ออ่ นมากกว่าจุดแขง็ ๓) การประเมินความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสภาพแวดล้อมภายนอกและสภาพแวดล้อมภายใน เพ่ือกำหนดกลยทุ ธ์ การกำหนดกลยุทธ์ เป็นผลมาจากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อม SWOT แล้วนำมากำหนด วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์หลักของหน่วยงาน จากนั้นนำมากำหนดเป็น กลยุทธ์ เพื่อขับเคลื่อนกรอบ ยุทธศาสตร์ ท่ีเป็นทางเลือกหรือวิธีการทำงานสู่จุดหมายปลายทางอย่างมีทิศทาง เป็นการตอบคำถามท่ีว่า “เราจะไปถึงจุดนัน้ ได้อยา่ งไร” ๘. ขัน้ ตอนการจัดทำแผน ขัน้ ตอนท่ี ๑ แต่งต้งั คณะกรรมการ คณะทำงานจัดทำแผน จะตอ้ งประกอบดว้ ย บคุ คลที่
๑๐ เก่ียวข้องทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมคิดร่วมทำในส่วนของสถานศึกษาได้แก่ ผู้แทนครูผู้สอน ผู้แทนกรรมการ สถานศึกษา ผู้แทนผู้ปกครอง ผู้เรียน ผู้แทนองค์กรและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ และภาพความสำเร็จท่ีครอบคลุมภารกิจและความรบั ผดิ ชอบในการพัฒนาคณุ ภาพของสถานศึกษาทกุ ด้าน ข้ันตอนท่ี ๒ รวบรวมข้อมูลสารสนเทศและผลการดำเนินงานของปีท่ีผ่านมา เปน็ การรวบรวม ข้อมูลสภาพบริบทสถานศึกษา นโยบายและจุดเน้นของต้นสังกัด/โรงเรียน หรือชุมชน รวมถึงการนำผลของปี ท่ีผ่านมา เช่น สมศ. ผลการเรียนของนักเรียน การประกันคุณภาพภายใน รายงานโครงการ เป็นต้น เพ่ือนำไปใช้ เปน็ ขอ้ มูลพ้นื ฐานในการวางแผนและวิเคราะห์ใหค้ รอบคลุมทกุ ดา้ นในรูปของ SWOT ข้ันตอนท่ี ๓ วิเคราะห์ SWOT (จุดแข็ง จุดแข็ง / โอกาสและอุปสรรค) สำหรับสถานศึกษา ต้องวิเคราะห์ให้ครอบคลุมทุกด้าน ทุกประเด็นโดยนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการกำหนดทิศทางของหน่วยงานว่า เราจะพัฒนาไปในทศิ ทางใด ในปีตอ่ ไปอย่างตรงประเดน็ ขน้ั ตอนที่ ๔ การกำหนดกรอบยทุ ธศาสตร์ การกำหนดกรอบยทุ ธศาสตร์ (Road Map) ของหนว่ ยงาน ให้นำผลการวิเคราะห์ SWOT และโย บาย จุดเน้นปัจจุบันของต้นสังกัด หน่วยงาน หรือสถานศึกษามาประมวลเป็น วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ กล ยทุ ธแ์ ละตัวช้วี ดั ความสำเรจ็ โดยต้องตอบคำถามของหน่วยงานตามกรอบแนวทาง ดังน้ี ๔.๑ วสิ ยั ทศั น์ (Vision) เป็นสภาพการณ์ท่ีหน่วยงานต้องการใหเ้ กดิ ขน้ึ ในอนาคต มีพ้ืนฐานข้อมูลจาการวิเคราะห์ SWOT มาประกอบ วิสัยทัศน์ท่ีดี ต้องมีลักษณะ เข้าใจง่าย มีจุดมุ่งหมายทิศทาง และเห็นภาพได้ มีความเป็นไปได้มีจุดเน้น ยืดหยุ่น ท้าทายและเร้าใจ อยากนำไปปฏิบัติ วัดผลได้และเป็นที่ ยอมรบั และเกิดจากการมีส่วนร่วมจากทุกฝา่ ยของสถานศึกษา ๔.๒ พันธกิจ (Mission) เป็นการกำหนดขอบเขตและบทบาทหน้าท่ีของหนว่ ยงานท่ีต้อง ปฏิบตั ิในภารกิจหน้าทีต่ ามระเบียบกฎหมายกำหนดจนบรรลุวิสัยทัศน์ ๔.๓ เป้าประสงค์ (Goal) เป็นการระบุสภาพความต้องการหลักให้ไปสู่ความสำเร็จ ยกตัวอย่าง เช่น ประชากรวัยเรียนได้เข้าเรียนทุกคน นักเรียนสามารถสอบเรียนต่อได้ ครูและบุคลากรทางการ ศกึ ษาปฏบิ ตั ิงานอย่างมอื อาชีพ เปน็ ต้น ๔.๔ กลยทุ ธ์ (Strategies) เป็นการกำหนดกลวิธี มาตรการหรือแนวทางในการ ปฏิบัติงานทช่ี ัดเจน แยบยลเพอื่ ให้การปฏิบตั ิงานไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายและวิสยั ทัศน์ทกี่ ำหนด ๔.๕ ตัวช้ีวัด (KPI : Key Performance Indicators) /เป้าหมาย เป็นสิ่งที่ต้องการ สะท้อนถึงความสำเร็จของการปฏิบัติงานตามวิสัยทัศน์ เป้าประสงค์และกลยุทธ์ทก่ี ำหนด การกำหนดตัวชี้วัดต้อง คำนงึ ถึงประเด็นหลกั คือ ๑) มขี อ้ มลู พื้นฐานของการปฏบิ ัติงานท่ผี า่ นมาเพ่ือตง้ั เปา้ หมาย ๒) ใช้หลัก SMART คือ - S : Specific = มคี วามชัดเจน M : Measurable = สามารถวัดได้ A : Agreement = อา่ นแลว้ ต้องเขา้ ใจตรงกัน R : Realistic = เปน็ จรงิ ได้ T : Time frame = มีกำหนดเวลาแลว้ เสร็จ
๑๑ ขั้นตอนที่ ๕ กำหนดโครงการ กิจกรรมและงบประมาณ ๕.๑ การจัดทำโครงการ โครงการและกิจกรรมที่จัดทำข้ึน จะต้องสอดคล้องและครอบคลุมกลยุทธ์ ตัวชี้วัดที่ กำหนดไว้ มแี นวทางการจัดทำท่ีชัดเจน มกี ารกำหนดระยะเวลา ผู้รบั ผิดชอบและสามารถนำสู่การปฏบิ ัติ ได้อย่าง มีประสทิ ธิภาพเปน็ รูปธรรม ๕.๒ แนวทางการบริหารงบประมาณจดั ทำโครงการสำหรับสถานศกึ ษา ๑) งบประมาณของสถานศกึ ษา สถานศึกษาได้รับงบประมาณ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษาจัด การศึกษา ได้อย่างสะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าซ่อมแซมส่ิงก่อสร้าง ค่าวัสดุการศึกษา ค่าใช้จ่ายอ่ืนๆตามนโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน โดยงบประมาณในส่วนน้ีสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน ๒) การบรหิ ารงบประมาณสถานศึกษา การใช้งบประมาณจะต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของเจ้าของ งบประมาณโดยบูรณาการงบประมาณทั้งเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณให้คำนึงถึงความคุ้มค่า คุ้มทุน ประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียน สอดคล้องกับกลยุทธ์ จุดเน้นของสถานศึกษา และสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน โดยใช้งบประมาณหมวดเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียน (รายการท่ี ๑ ค่าจัดการ เรียนการสอน และรายการที่ ๕ คา่ กจิ กรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน) และงบประมาณทส่ี ำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษา หรือท่ีสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาจัดสรรมาให้ในปีงบประมาณนั้นๆ มาดำเนินงานจัดทำแผนปฏิบัติการ ประจำปีของสถานศกึ ษา ขนั้ ตอนท่ี ๖ จดั ทำรปู เล่มแผนพัฒนาการศึกษา การจดั ทำแผนปฏิบัตกิ ารประจำปี / แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน ระยะ ๔ ปี มอี งค์ประกอบหลายรูปแบบตามความเหมาะสมและความต้องการของหน่วยงาน ในสว่ นของสำนกั งาน เขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาจะจดั ทำรูปแบบมสี ่วนประกอบเนื้อหา ๕ ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ ๑ บทนำ ส่วนที่ ๒ การวิเคราะห์สภาพแวดล้อม ส่วนท่ี ๓ ทศิ ทางการพฒั นา ส่วนที่ ๔ แผนงานโครงการตามกรอบยุทธศาสตร์ สว่ นที่ ๕ การกำกบั ติดตาม ประเมนิ ผล และรายงาน ขั้นตอนท่ี ๗ เสนอแผนขอความเห็นชอบตอ่ คณะกรรมการบริหาร แผนปฏิบัตกิ ารประจำปี จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะสถานศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน โดย ผอ.รร. เปน็ ผู้อนุมัตโิ ครงการ เพ่ือนำไปดำเนินการใหบ้ รรลุผลและการเบิกจ่ายยืมเงนิ งบประมาณตามกำหนดเวลาและตาม ระเบียบตอ่ ไป
๑๒ การนำแผนปฏิบัติการประจำปีขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน โรงเรียนจะต้องนำเข้าในวาระการประชุมเพ่ือพิจารณา ไม่ใช่วาระเพื่อทราบและต้องจดรายงานการประชุม และ จัดทำหนังสือใหค้ วามเหน็ ชอบแผน ฯ ไวด้ ้วย ขั้นตอนท่ี ๘ ประชาสมั พนั ธผ์ ูเ้ กี่ยวขอ้ งนำสกู่ ารปฏบิ ตั ิ การนำแผนสกู่ ารปฏบิ ัตทิ ี่ดี มีประสิทธิภาพ ผบู้ ริหารหน่วยงาน ตอ้ งดำเนินการ ดงั นี้ ๑. ประชุมช้ีแจงส่ือสารทำความเข้าใจแก่ครู บุคลากรและผู้เก่ียวข้องรับรู้รับทราบ เขา้ ใจตรงกัน ๒. เนน้ ยำ้ การใหค้ วามสำคญั กับนโยบายและจุดเน้น สพป./สพฐ./รร. ๓. สร้างความตระหนัก ให้ครูและบุคลากรผู้รบั ผิดชอบให้ความสำคัญงบประมาณท่ี ไดร้ ับจัดสรรในภาพรวม และใหด้ ำเนินการตามระยะเวลากำหนด เพ่อื ให้การบรหิ ารงบประมาณสถานศึกษาเป็นไป อย่างคมุ้ ค่า ประหยัดและเกิดประโยชน์สงู สดุ ต่อผเู้ รยี น การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แผนพัฒนาการศึกษา แก่ผเู้ กีย่ วข้องนอกจากจะจดั ทำเป็นรูปเล่มแล้ว สามารถนำไปเผยแพร่ผ่านทาง Website เพือ่ สะดวกในการเรียกใชข้ อ้ มูลไดอ้ ย่างรวดเร็ว ๒. ยุทธศาสตรก์ ารศึกษาชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙) สำนักงานเลขานกุ ารของคณะกรรมการยทุ ธศาสตร์ชาติ (๒๕๖๐) ไดก้ ลา่ ววา่ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๙ มาตรา ๖๕ กำหนดให้มี “ยุทธศาสตร์ชาติ” เพ่ือเป็น ยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศไทยระยะยาว พร้อมกับการปฏิรูปและการพัฒนาระบบและกลไกการบริหาร ราชการแผ่นดินในการขับเคล่อื นยทุ ธศาสตร์ ให้สามารถนำไปสู่การปฏบิ ัติอย่างจริงจัง ซ่ึงจะช่วยยกระดับคุณภาพ ของประเทศในทุกภาคส่วนและนำพาประเทศให้หลุดพันหรือบรรเทาความรุนแรงของสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นใน ปัจจุบัน ทง้ั ปัญหาทางเศรษฐกิจ ปัญหาความเหลือ่ มลำ้ ปัญหาการทุจริตคอรปั ชั่น และปัญหาความขดั แยง้ ในสงั คม รวมถึงสามารถรับมือกับภัยคุกคามและบริหารจัดการความเสี่ยงท่ีจะเกิดข้ึนในอนาคตและสามาร ถเปล่ียนผ่าน ประเทศไปพร้อม ๆ กันกับการเปล่ียนแปลงภูมิทัศน์ใหม่ของโลกได้ ซ่ึงจะทำให้ประเทศไทยยังคงรักษาบทบาท สำคัญของเวทีโลก สามารถดำรงรักษาความเป็นชาติให้มีความม่ันคงและคนไทยในประเทศมีความอยู่ดีมีสุขอย่าง ทวั่ หน้ากัน สาระสำคัญของยุทธศาสตร์ชาติ ประกอบด้วย วิสัยทศั นแ์ ละเป้าหมายของชาติท่ีทุกองค์กรและคนไทย ทุกคนต้องมุ่งดำเนินการไปพร้อมกันอย่างประสานสอดคล้อง เพ่ือให้บรรลุซึ่งสิ่งที่คนไทยทุกคนต้องการ อันได้แก่ การเมืองภายในประเทศ การเมืองต่างประเทศ เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา การศึกษา การทหาร วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี การพลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีและการสอ่ื สาร ดงั น้ี วิสัยทัศน์ : ประเทศมีความม่ันคง มั่งค่ัง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตาม ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง หลักการ : เชิดชูสถาบัน ประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นฐานในการพัฒนา ประเทศและคา่ นยิ มความเป็นไทยเพ่ือสรา้ งความปรองดอง ซึ่งมีองค์ประกอบคอื ๑. แนวคิด : เปน็ ปรัชญาทช่ี ้แี นะแนวทางการดำรงอย่แู ละปฏิบตั ิตนในทางที่ควรจะเปน็ โดย มีพนื้ ฐานมาจากวิถีชวี ติ ดงั้ เดิมของคนไทย และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลย่ี นแปลงอยตู่ ลอดเวลา มุ่งเน้น การรอดพน้ จากภัยเพอื่ ความมนั่ คง ๒. คุณลักษณะ : เศรษฐกิจพอเพียง สามารถนำมาประยกุ ตใ์ ชก้ บั การปฏิบัติได้ในทุกระดับ โดยเนน้ การปฏิบตั บิ นทางสายกลาง และการพฒั นาอย่างเปน็ ขน้ั ตอน
๑๓ ๓. คา่ นิยม : ความพอเยงประกอบด้วย ๓ คณุ ลกั ษณะ ได้แก่ ความพอประมาณ คอื ความ พอดีที่ไม่น้อยหรือมากเกินไป ความมีเหตุผล คือการตัดสินใจโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัย และคำนึงถึงผลท่ีคากว่า จะเกิดข้ึนอย่างรอบคอบ การมีภูมิคุ้มกันท่ีดีในตัว คือการเตรียมพร้อมกับผลกระทบและความเปล่ียนแปลงท่ี คาดการณ์วา่ จะเกิดขนึ้ ในอนาคต ๔. เงือ่ นไข : การตดั สินใจและการดำเนนิ กิจกรรมตา่ ง ๆ ให้อยู่ในระดบั พอเพียงนน้ั ต้อง อาศัยความรู้และคุณธรรมเป็นพื้นฐาน ๒ เงื่อนไข ได้แก่ เง่ือนไขความรู้ อันประกอบด้วยความรู้เก่ียวกับวิชาการ ต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบท่ีจะใช้ความรู้น้ันมาพิจารณาให้เช่ือมโยงกัน เพื่อประกอบการ วางแผน มีความระมัดระวังในขั้นตอนการปฏิบัติ และเงื่อนไขคุณธรรมอันประกอบด้วย มีความซื่อสัตย์สุจริต มี ความอดทน มคี วามเพยี ร ใช้สติปัญญาในการดำรงชวี ิต วตั ถุประสงค์ ๑. เพ่อื สร้างความปรองดองสมานฉนั ท์ ๒. เพอื่ เพิม่ กระจายโอกาส และคณุ ภาพการให้บรกิ ารของรัฐอย่างทวั่ ถงึ เท่าเทยี ม เปน็ ธรรม ๓. เพ่อื ลดต้นทนุ ใหภ้ าคการผลติ และบรกิ าร ๔. เพือ่ เพิ่มมูลค่าสนิ คา้ เกษตร อุตสาหกรรม และบรกิ ารด้วยนวตั กรรม ยุทธศาสตร์ ๑. ยทุ ธศาสตร์สรา้ งความมัน่ คงใหก้ ับประเทศ เป็นการมุ่งเนน้ ความสามคั คที ้งั การรักษาความสงบ ภายในประเทศ โดยเสริมสร้างความม่ันคงของสถาบันหลักของชาติและการ ปกครองระบอบประชาธิปไตย การบริหารจัดการและการฟื้นฟู สภาพแวดล้อม และกลไกพ้ืนฐานด้านความมั่นคง การบริหาร จัดการและการ ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและกลไกพ้ืนฐานด้าน ความมั่นคง พัฒนากลไกการพัฒนางานความมั่นคง ขจัดการ ทุจริต และประพฤติมิชอบ การสร้างความเป็นธรรม ลดความ เหล่ือมล้าในทุกมิติ และสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการ ยตุ ธิ รรม ๒. ยุทธศาสตร์สร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เปน็ การเพม่ิ ผลิตภาพการผลิต (Productivity) บน พื้นฐานของการพัฒนาและใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การ วิจัยและพัฒนาและนวัตกรรม ท่ีผสมผสานกับการพัฒนา ทรัพยากรมนุษย์ให้สอดคล้อง ซึ่งเป้าหมายสำคัญ คือ ประเทศ ไทยถูกจัดอันดับไม่ต่ำ กว่า ๑ ใน ๑๐ ของการจัดอันดับ ความสามารถในการแข่งขันของโลก และเพิ่มผลิตภาพการผลิต รวมไม่ต่ำกว่า ร้อยละ ๓ ตอ่ ปี ๓. ยทุ ธศาสตร์การพฒั นาและเสรมิ สร้างศกั ยภาพคน เปน็ การวางรากฐานการพฒั นาทรัพยากร มนษุ ย์เป็นปัจจยั สำคัญในการนาพาประเทศไปสู่การเป็นประเทศ พฒั นาแล้ว โดยคนไทยในอนาคตต้องเป็นมนุษย์ ท่ีสมบูรณ์ มีความพร้อมทั้งกาย ใจ สติปัญญา สามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต มีทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ บนฐาน ของการร้คู ณุ คา่ ความเป็นไทย มคี ุณธรรมจรยิ ธรรม มวี ินัย ความรบั ผิดชอบต่อสงั คม และ มสี ุขภาวะทีด่ ี ๔. ยทุ ธศาสตร์สรา้ งโอกาสบนความเสมอภาพและความเทา่ เทยี มกันทางสงั คม เปน็ การลดความ เหลื่อมล้ำ และสรา้ งความเป็นธรรมใน สังคมตง้ั อยู่บนหลักการและพ้ืนฐานสำคัญคือการ สร้างสงั คมคณุ ภาพสังคม ในทุกๆ ด้านไปพรอ้ มกัน โดยไมท่ อดทิ้งใครไว้เบ้ืองหลัง โดยการสร้างความ มัน่ คงทางเศรษฐกิจและสงั คม (Socio- economic Security)
๑๔ ๕. ยุทธศาสตรก์ ารเติบโตบนคุณภาพชวี ติ ทเ่ี ปน็ มิตรกับสงิ่ แวดลอ้ ม เป็นการบริโภคทยี่ ั่งยนื และ การผลิตที่ยั่งยืน โดยเร่งวาง ระบบการอนุรักษ์ ฟื้นฟูและสร้างความม่ันคงของฐาน ทรัพยากรธรรมชาติ บริหาร จัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพ เน้น การปรับระบบการบริหารจัดการอุทกภัยอย่างบูรณาการ รวมท้ังยกระดับ ความสามารถในการป้องกันผลกระทบและ ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ ธรรมชาติ และปรับตวั ไปสู่รูปแบบของการผลติ และการบริโภค ท่ปี ล่อยคารบ์ อนตา่ งๆ และเป็นมิตรกบั สิง่ แวดล้อมมากข้ึน ๖. ยุทธศาสตร์การปรับสมดลุ และพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ เปน็ การปรบั เปลี่ยนภาครฐั ให้เป็น “ภาครัฐของประชาชน เพ่ือประชาชน” และแยกบทบาทหน่วยงานของรัฐท่ี ท าหน้าท่ีกำกับและเป็นผู้ ให้บริการในตลาดท่ีมีการ แข่งขันกับภาคเอกชนให้ชัดเจน มีขนาดท่ีเหมาะสมกับ บทบาทภารกิจ มีขีดสมรรถนะ สงู ปรบั วัฒนธรรมการทำงานที่ ม่งุ ผลสัมฤทธิ์และผลประโยชน์ส่วนรวม มีความทนั สมัยและ พร้อมที่จะปรับตัวให้ ทนั ตอ่ การเปล่ยี นแปลงของโลกอยู่ ตลอดเวลา ซ่ึงมีเปา้ หมาย ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑. เป้าหมายความมั่นคง หมายถึง ๑.๑ การมคี วามมน่ั คงปลอดภัยจากภยั และการเปล่ียนแปลงทั้งภายในประเทศและภายนอก ประเทศทั้งระดับประเทศ สังคม ชุมชน ครัวเรือน และปัจเจกบุคคล และมีความมั่นคงท้ังมิติเศรษฐกิจ สังคม สงิ่ แวดล้อมและการเมือง ๑.๒ ประเทศมคี วามมนั่ คงในเอกราชและอธปิ ไตย มีสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริยท์ ี่ เข้มแข็ง เป็นศูนย์กลางและท่ียึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน ระบบการเมืองมีความม่ันคงเป็นกลไกท่ีนำไปสู่การ บรหิ ารประเทศทตี่ ่อเนื่องและโปร่งใสตามหลักธรรมาภบิ าล ๑.๓ สงั คมมีความปรองดองและความสามัคคี สามารถผนึกกำลงั เพือ่ พัฒนาประเทศชุมชนมีความ เขม้ แข็ง ครอบครัวมีความอบอ่นุ ๑.๔ ประชาชนมีความม่ันคงในชวี ติ มงี าน รายไดท้ ม่ี ่นั คงพอเพียงกับการดำรงชวี ติ มที ีอ่ ยู่ อาศัยและความปลอดภยั ในชีวิตทรัพย์สนิ ฐานทรัพยากรและสิง่ แวดล้อม มีความม่ันคงของอาหาร พลังงาน และ น้ำ ๑. เป้าหมายของความมง่ั ค่งั หมายถงึ ๒.๑ ประเทศไทยมกี ารขยายตัวของเศรษฐกจิ อย่างตอ่ เนื่อง ยกระดบั เป็นประเทศในกลุ่มรายได้ สงู ความเหล่ือมลำ้ ของการพัฒนาลดลง ประชากรไดร้ ับผลประโยชนจ์ ากการพัฒนาอยา่ งเท่าเทยี มกนั มากขนึ้ ๒.๒ เศรษฐกิจมีความสามารถในการแข่งขนั สูง สามารถสรา้ งรายไดท้ ้งั ภายในและภายนอก ประเทศ สร้างฐานเศรษฐกิจและสังคมแห่งอนาคต และเป็นจุดสำคัญของการเชื่อมโยงในภูมิภาคทั้งการคมนาคม ขนสง่ การผลิต การค้าการลงทุนและการทำธุรกจิ มีบทบาทสำคญั ในระดับภมู ิภาคและระดับโลก เกิดสายสัมพันธ์ ทางเศรษฐกจิ และการคา้ อยา่ งมพี ลัง ๒.๓ ความสมบรู ณ์ในทุนท่จี ะสามารถสรา้ งการพัฒนาคนอย่างตอ่ เน่อื ง ไดแ้ ก่ ทนุ มนุษย์ ทนุ ปญั ญาทุนทางการเงิน ทุนที่เป็นเครือ่ งมอื เคร่ืองจักร ทุนทางสังคม และทนุ ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม ๒. เป้าหมายความย่ังยืน หมายถึง ๓.๑ การพฒั นาท่สี ามารถสร้างความเจริญ รายได้ และคณุ ภาพชวี ิตของประชาชนใหเ้ พิ่มข้ึน อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจที่ไม่ใช่ทรัพยากรธรรมชาติเกินพอดี ไม่สร้างมลภาวะต่อ สิ่งแวดลอ้ มจนเกนิ ความสามารถในการรองรบั และเยยี วยาของระบบนิเวศน์
๑๕ ๓.๒ การผลติ และการบรโิ ภคเปน็ มติ รกบั สิ่งแวดลอ้ ม และสอดคล้องกับกฎระเบียบของ ประชาคมโลกซ่ึงเป็นท่ียอมรับร่วมกัน ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมมีคุณภาพดีข้ึน คนมีความรบั ผิดชอบต่อสังคม มีความเออ้ื อาทร เสียสละเพ่ือผลประโยชน์ส่วนรวม ประชาชนทุกภาคส่วนในสังคม ยดึ ถือและปฏบิ ัติตามปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๓. แผนการจดั การศกึ ษาชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (๒๕๖๐) ได้กล่าวถึงสาระสำคัญของการจัดทำแผนการศึกษาชาติ พ.ศ.๒๕๖๐-๒๕๗๙ ด้านแนวคิดการจัดการศึกษา (Conceptual Design) ตามแผนการศึกษาแห่งชาติยึดหลัก สำคัญในการจัดการศึกษา ประกอบด้วย หลักการจัดการศึกษาเพื่อปวงชน (Education for All) หลักการจัดการ ศึกษาเพื่อความเท่าเทียมและทั่วถึง (Inclusive Education) หลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) และหลักการมีส่วนร่วมของทุกภาส่วนของสังคม (All for Education) อีกทั้งยึดตามเป้าหมายการ พัฒนาที่ย่ังยืน (Sustainable Development Goals : SDGs ๒๐๓๐) ประเด็นภายในประเทศ (Local Issues) อาทิคณุ ภาพ ของคนทุกช่วงวัย การเปล่ยี นแปลงโครงสร้างประชากรของประเทศ ความเหลือ่ มลำ้ ของสังคม แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ ได้นำยุทธศาสตร์ชาติ (National Strategy) มาเป็นกรอบ ความคิดสำคัญในการจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ โดยกำหนดวิสัยทัศน์ จุดมุ่งหมาย เป้าหมาย ตัวช้ีวัด และ ยุทธศาสตรข์ องแผนการศึกษาแห่งชาติ ไว้ว่า “คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดำรงชีวิต อย่างเป็นสุข สอดคล้องกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง และการเปลย่ี นแปลงของ โลกศตวรรษที่ ๒๑” โดยมวี ัตถปุ ระสงคใ์ นการจัดการศึกษา ๔ ประการ คือ ๑) เพื่อพัฒนาระบบและกระบวนการ จัดการศึกษาทม่ี ีคุณภาพและมปี ระสิทธิภาพ ๒) เพ่อื พฒั นาคนไทยใหเ้ ปน็ พลเมืองดี มีคุณลกั ษณะ ทักษะและสมรรถนะทสี่ อดคลอ้ งกบั บทบัญญัตขิ องรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พระราชบัญญัตกิ ารศกึ ษาแหง่ ชาตแิ ละยทุ ธศาสตร์ชาติ ๓) เพอ่ื พัฒนาสงั คมไทยให้เป็นสังคม แห่งการเรยี นรู้ และคุณธรรม จรยิ ธรรม รรู้ กั สามคั คี และ ร่วมมอื ผนึกกำลังมุ่งสกู่ ารพัฒนาประเทศ อยา่ งยงั่ ยืน ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง และ ๔) เพ่ือนำประเทศไทยก้าวข้ามกบั ดัก ประเทศท่ีมรี ายไดป้ านกลาง และความเหลือ่ มลำ้ ภายในประเทศลดลง เพือ่ ให้บรรลุวิสัยทศั นแ์ ละจุดมงุ่ หมายในการจัดการศกึ ษาดังกลา่ วข้างต้น ได้วางเป้าหมายด้านผู้เรียน (Learner Aspirations) โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มี คุณลักษณะและ ทกั ษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ ๒๑ (๓Rs๘Cs) ประกอบดว้ ย ทกั ษะและคุณลักษณะ ดังนี้ ๓Rs ไดแ้ ก่ การอ่านออก (Reading) การเขียนได้(Writing) และการคดิ เลขเป็น (Arithmetics) ๘Cs ได้แก่ ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา(Critical Thinking and Problem Solving)ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม(Creativity and Innovation)ทักษะดา้ นความเขา้ ใจ ส่วนเป้าหมายของการจัดการศึกษา (Aspirations) ๕ ประการ ซึ่งมีตัวช้ีวัดเพ่ือการบรรลุ เป้าหมาย ๕๓ ตัวชี้วัด ประกอบดว้ ย ๑) ประชากรทุกคนเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานอย่างท่ัวถึง (Access) มีตัวช้ีวัดท่ีสำคัญ เช่น ประชากรกลุ่มอายุ ๖-๑๔ ปีทุกคนได้เขา้ เรยี นในระดับประถมศึกษาและ มัธยมศึกษาตอนต้นหรือเทียบเท่าท่ี รัฐตอ้ งจัดใหฟ้ รีโดยไม่เกบ็ ค่าใช้จ่าย ผเู้ รยี นพกิ ารได้รบั การพัฒนาสมรรถภาพหรือบริการทางการศึกษาทเ่ี หมาะสม ทุกคน และประชากรวยั แรงงาน มีการศึกษาเฉล่ยี เพ่ิมข้ึน เป็นตน้
๑๖ ๒) ผู้เรียนทุกคน ทุกกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน อย่างเท่าเทียม (Equity) มีตัวช้ีวัดท่ีสำคัญ เช่น ผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานทุกคนได้รับ การสนับสนุนค่าใช้จ่ายใน การศึกษา ๑๕ ปี ๓) ระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ สามารถพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุขีดความสามารถ เต็มตามศักยภาพ (Quality) มีตัวชี้วัดที่สำคัญ เช่น นักเรียนมีคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษา ระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) แต่ละวิชาผ่านเกณฑ์คะแนนร้อยละ ๕๐ ข้ึนไปเพ่ิมข้ึน และคะแนนเฉล่ีย ผลการทดสอบโครงการประเมินผล นักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment : PISA) ของนักเรียนอายุ ๑๕ ปสี งู ขนึ้ ๔) ระบบการบริหารจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ เพ่ือการลงทุนทางการศึกษาที่ คุ้มค่าและบรรลุ เป้าหมาย (Efficiency) มีตัวชี้วัดท่ีสำคัญ เช่น ร้อยละของสถานศึกษาขนาดเล็ก ท่ีไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน คุณภาพภายนอกลดลง มีระบบการบริหารงานบุคคล ครูและบุคลากร ทางการศึกษาท่ีมีประสิทธิภาพและเป็นไป ตามเกณฑม์ าตรฐาน รวมท้ังมกี ลไกส่งเสรมิ ให้ ทุกภาคสว่ นสนบั สนนุ ทรัพยากรเพื่อการจดั การศกึ ษา ๕) ระบบการศึกษาที่สนองตอบและก้าวทันการเปล่ียนแปลงของโล กท่ีเป็นพลวัตและ บริบทที่ เปลี่ยนแปลง (Relevancy) มีตัวช้ีวัดท่ีสำคัญ เช่น อันดับความสามารถในการแข่งขันของ ประเทศดา้ นการศึกษา ดีข้ึน สัดส่วนผู้เรียนอาชีวศึกษาสูงขึ้นเมื่อเทียบกับผู้เรียนสามัญศึกษา และ จำนวนสถาบันอุดมศึกษาที่ติดอันดับ ๒๐๐ อันดบั แรกของโลกเพมิ่ ข้นึ ได้กำหนดช่วงเวลาในการดำเนินการในแตล่ ะเป้าหมายและตัวช้ีวัด เป็น ๕ ช่วง คือ ระยะ เรง่ ด่วน ระยะ ๕ ปแี รกของแผน ระยะ ๕ ปีท่สี องของแผน ระยะ ๕ ปีท่สี ามของแผน และระยะ ๕ ปสี ุดท้ายของแผน ยุทธศาสตร์ เป้าหมาย และตัวชีว้ ัด ดงั นี้ ยุทธศาสตรท์ ี่ ๑ : การจัดการศึกษาเพ่อื ความม่ันคงของสงั คมและประเทศชาติ มีเป้าหมาย ดังน้ี ๑.๑ คนทุกช่วงวัยมีความรกั ในสถาบันหลกั ของชาติ และยดึ มั่นการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีตัวชี้วัดที่สำคัญ เช่น การจัดกิจกรรมของ สถานศึกษาขั้น พื้นฐานที่ส่งเสริมการเรียนรู้ท่ีสะท้อนความรักและการธำรงรักษาสถาบันหลักของชาติ และการยึดมั่นในการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การจัดการเรียนการสอน/กิจกรรม เพ่ือ เสรมิ สร้างความเป็นพลเมอื ง (Civic Education) และ สง่ เสรมิ การอย่รู ่วมกนั ในสังคมพหุวัฒนธรรม เป็นตน้ ๑.๒ คนทกุ ชว่ งวยั ในเขตพฒั นาพิเศษเฉพาะกจิ จงั หวดั ชายแดนภาคใต้และพืน้ ท่ี พิเศษไดร้ ับ การศึกษาและเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ มตี ัวชี้วดั ท่ีสำคัญ เช่น นักเรียนในเขตพัฒนาพิเศษ เฉพาะกิจจังหวดั ชายแดน ภาคใต้และพ้ืนท่ีพิเศษมีคะแนนผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติ ข้ันพ้ืนฐาน (O-NET) แต่ละวิชาผา่ นเกณฑ์ คะแนนร้อยละ ๕๐ ขึ้นไปเพิ่มข้ึน สถานศึกษาจัดการ ศึกษาสำหรับกลุ่มชนต่างเช้ือชาติศาสนา ภาษา และ วฒั นธรรม กลุ่มชนชายขอบ และแรงงาน ต่างด้าวเพิ่มขึ้น และสถานศึกษาในพื้นที่พิเศษท่ีจัดอยู่ในมาตรการจูงใจ มรี ะบบเงนิ เดอื น ค่าตอบแทนท่ีสงู กว่าระบบปกติเพิม่ ขึ้น เป็นตน้ ๑.๓ คนทกุ ช่วงวัยไดร้ บั การศกึ ษา การดแู ลและปอ้ งกันจากภัยคกุ คามในชวี ิต รูปแบบใหม่ มี ตัวช้ีวัดท่สี ำคญั เช่น สถานศึกษาท่ีจัดกระบวนการเรียนรู้และปลูกฝังแนวทาง การจดั การความขัดแยง้ โดยแนวทาง สันติวธิ ีเพิ่มข้ึน มีการจัดการเรียนการสอน/กจิ กรรม เพื่อ เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเก่ียวกบั ภัยคกุ คาม ในรูปแบบใหม่เพิ่มขน้ึ มีระบบ กลไก และ มาตรการท่ีเข้มแข็งในการปอ้ งกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามในรปู แบบ ใหม่ และผู้เรียนในสถานศึกษา ท่ีมีคดีทะเลาะวิวาทลดลง เป็นต้น โดยได้กำหนดแนวทางการพัฒนา คือ พฒั นาการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้าง ความมั่นคงของสถาบันหลกั ของชาติและการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ยกระดับคุณภาพและส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาในเขตพัฒนา พิเศษ เฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่พิเศษ ท้ังที่เป็นพ้ืนที่สูง พ้ืนท่ีตามแนวตะเข็บชายแดน และพ้ืนที่
๑๗ เกาะแก่ง ชายฝ่ังทะเล ท้ังกลุ่มชนต่างเช้ือชาติศาสนา และวัฒนธรรม กลุ่มชนชายขอบ และแรงงานต่างด้าว พัฒนาการจัดการศึกษาเพื่อการจัดระบบการดูแลและป้องกันภัยคุกคามใน รูปแบบใหม่ อาทิอาชญากรรมและ ความรุนแรงในรูปแบบต่าง ๆ ยาเสพติด ภยั พบิ ัติจากธรรมชาติ ภยั จากโรคอุบัติใหม่ ภยั จากไซเบอร์ เป็นต้น และมี แผนงานและโครงการสำคัญ เช่น โครงการ ยกระดับคุณภาพการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัด ชายแดนภาคใตแ้ ละพ้นื ที่พเิ ศษ เป็นต้น ซ แผนการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ ยทุ ธศาสตรท์ ี่ ๒ : การผลติ และพัฒนากำลังคน การวิจัย และนวัตกรรรม เพอื่ สร้าง ขีดความสามารถ ในการแขง่ ขนั ของประเทศ มเี ปา้ หมาย ดังน้ี ๒.๑ กำลงั คนมีทกั ษะทส่ี ำคญั จำเปน็ และมีสมรรถนะตรงตามความตอ้ งการของ ตลาดงาน และการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ มีตัวช้ีวัดที่สำคัญ เช่น มีฐานข้อมูล ความต้องการกำลังคน (Demand) จำแนกตามกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างครบถ้วน สัดส่วนผู้เรียน อาชีวศึกษาสูงข้ึนเมื่อเทียบกับผู้เรียน สามัญศึกษา และสัดส่วนผู้เรียนวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสูงข้ึนเม่ือเทียบกับผู้เรียน สังคมศาสตรก์ ำลังแรงงานในสาขาอาชีพ ต่าง ๆ ทีไ่ ดร้ บั การยกระดับคุณวุฒิวชิ าชีพเพิ่มขึน้ เปน็ ต้น ๒.๒ สถาบนั การศกึ ษาและหนว่ ยงานท่จี ัดการศึกษาผลติ บณั ฑติ ที่มคี วามเชีย่ วชาญและเปน็ เลิศเฉพาะด้าน มีตัวชี้วัดที่สำคัญ เช่น สัดส่วนการผลิตกำลังคนระดับกลางและระดับสูง จำแนกตามระดับ/ ประเภทการศกึ ษา ในสาขาวิชาทส่ี อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของตลาดงานและการพฒั นาประเทศเพ่ิมขนึ้ ร้อยละของสถาบันการศึกษาจดั การศึกษารปู แบบ ทวภิ าคี/สหกิจศึกษา/หลักสูตรโรงเรียนในโรงงานตามมาตรฐาน ท่ีกำหนดเพิ่มข้ึน จำนวนหลักสูตรของสถานศึกษาท่ีจัดการศึกษาทวิวุฒิ(Dual Degree) เพิ่มขึ้น จำนวนสถาบัน อาชีวศึกษาและอุดมศึกษาที่จัดหลักสูตรสำหรับผู้มีความสามารถพิเศษเพ่ิมขึ้นและมีภาคีเครือข่ายความร่วมมือ ระหวา่ งรฐั เอกชนสถานประกอบการ สมาคมวชิ าชีพและหนว่ ยงานท่จี ัดการศกึ ษาเพม่ิ ขึ้น เป็นตน้ ๒.๓ การวิจัยและพัฒนาเพือ่ สรา้ งองค์ความรู้ และนวตั กรรมท่สี รา้ งผลผลิตและ มูลค่าเพม่ิ ทางเศรษฐกิจ มีตัวชี้วัดที่สำคัญ เช่น สัดส่วนเงนิ ลงทุนวจิ ัยและพัฒนาของภาคเอกชน เมื่อเทียบกับภาครัฐเพ่ิมขึ้น สัดส่วนค่าใช้จ่ายการลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนาเมื่อเทียบกับ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของ ประเทศเพ่ิมขึ้น โครงการ/งานวิจัยเพ่ือสร้าง องค์ความรู้/นวัตกรรมท่ีนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ เพ่ิมข้ึน บุคลากรด้านการวิจัยและ พัฒนาต่อประชากร ๑๐,๐๐๐ คน เพ่ิมข้ึน นวัตกรรม/สิ่งประดิษฐ์ ที่ได้จด สิทธิบัตรและทรัพย์สิน ทางปัญญาเพ่ิมขึ้น และผลงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในระดับนานาชาติเพ่ิมขึ้น เป็นต้น โดยได้กำหนดแนวทางการพัฒนา คือ ผลิตและพัฒนากำลังคนใหม้ ีสมรรถนะในสาขา ท่ีตรงตามความต้องการของ ตลาดงานและการพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมของประเทศ สง่ เสริม การผลิตและพัฒนากำลังคนที่มีความเช่ียวชาญ และเป็นเลิศเฉพาะด้าน ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา เพื่อสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมที่สร้างผลผลิตและ มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และมีแผนงานและ โครงการสำคัญ เช่น โครงการจัดทำแผนผลิตและพัฒนากำลังคนให้ ตรงกับความต้องการของ ตลาดงานในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เปน็ ต้น ฌ แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ ยุทธศาสตรท์ ่ี ๓ : การพัฒนาศกั ยภาพคนทกุ ชว่ งวยั และการสรา้ งสังคมแห่งการเรยี นรมู้ เี ปา้ หมาย ดงั นี้ ๓.๑ ผเู้ รียนมีทักษะและคุณลักษณะพน้ื ฐานของพลเมืองไทย และทกั ษะและ คุณลักษณะท่ี จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ มีตัวช้ีวัดท่ีสำคัญ เช่น ผู้เรียนท่ีมีคุณลักษณะและทักษะ การเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ เพ่ิมข้ึน ผู้เรียนทุกระดับการศึกษามีพฤติกรรมท่ีแสดงออกถึง ความมีวินัย และมีจิตสาธารณะเพิ่มข้ึน สถานศึกษา ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้นหรอื เทียบเท่าขน้ึ ไป ท่ีจดั กิจกรรมสะท้อนการสร้างวินัย จติ สาธารณะ และคุณลักษณะที่ พึงประสงค์เพม่ิ ขนึ้ เป็นต้น
๑๘ ๓.๒ คนทุกชว่ งวยั มีทกั ษะ ความรู้ความสามารถ และสมรรถนะตามมาตรฐาน การศกึ ษาและ มาตรฐานวิชาชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ตามศักยภาพมีตัวชี้วัดที่สำคัญเช่น เด็กแรกเกิด – ๕ ปีมีพัฒนาการ สมวัยเพิ่มขึ้น นักเรียนมีคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) แต่ละวิชาผ่านเกณฑ์ คะแนนร้อยละ ๕๐ ข้ึนไปเพ่ิมข้ึน ผู้สูงวัยที่ได้รับบริการการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพและทักษะชีวิตเพ่ิมขึ้น และมีสาขาและวิชาชีพ ที่เปิดโอกาสให้ผู้สูงวัยได้รับการส่งเสริมให้ทำงานและถ่ายทอดความรู้/ประสบการณ์ เพ่ิมข้นึ เป็นต้น ๓.๓ สถานศึกษาทุกระดับการศึกษาสามารถจัดกิจกรรม กระบวนการเรียนรู้ตามหลักสูตรอย่าง มีคุณภาพและมาตรฐาน มีตัวชี้วัดที่สำคัญ เช่น ศูนย์เด็กเล็ก/สถานศึกษาระดับก่อน ประถมศึกษาท่ีจัดกิจกรรม การเรียนรู้ได้คุณภาพและมาตรฐานเพิ่มข้ึน สถานศึกษา/สถานพัฒนา เด็กปฐมวัยจัดกิจกรรมท่ีสอดคล้องกับ หลักสูตรปฐมวัย และสมรรถนะของเด็กที่เช่ือมโยงกับ มาตรฐานคุณภาพเด็กปฐมวัยของอาเซียนเพ่ิมขึ้น สถานศึกษาในระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานท่ี จัดการศึกษาตามหลักสูตรท่ีมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะและ ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ เพิ่มข้ึน และสถาบันการศึกษาในระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษาที่จัด การศึกษาตามหลักสูตรท่ีมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศไทย ๔.๐ เพ่ิมขึ้น เป็นต้น ๓.๔ แหล่งเรียนรู้ สอื่ ตำราเรยี น นวัตกรรม และส่ือการเรียนรู้มีคุณภาพและ มาตรฐาน และ ประชาชนสามารถเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดเวลาและสถานท่ี มีตัวช้ีวัดที่สำคัญ เช่น แหล่งเรียนรู้ที่ได้รับการพัฒนาให้ สามารถจัดการศึกษา/จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิตท่ีมีคุณภาพ เพิ่มขึ้น ส่ือสารมวลชนที่เผยแพร่หรือจัด รายการเพื่อการศกึ ษาเพมิ่ ข้ึน สือ่ ตำราเรยี น และสอ่ื การเรียนร้ทู ีผ่ า่ นการรับรองมาตรฐานคุณภาพจากหน่วยงานท่ี รับผดิ ชอบ และไดร้ ับการพัฒนา โดย การมสี ่วนรว่ มจากภาครัฐและเอกชนเพ่มิ ข้ึน เปน็ ต้น ๓.๕ ระบบและกลไกการวัด การติดตาม และประเมินผลมีประสิทธิภาพ มีตัวช้ีวัด ที่สำคัญ เช่น มีระบบและกลไกการทดสอบ การวดั และประเมินความรู้ทักษะ และสมรรถนะของ ผู้เรียนทุกระดบั การศกึ ษา และ ทุกกลุ่มเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพ มีระบบติดตามประชากรวัยเรียน ท่ีขาดโอกาสหรือไม่ได้รับการศึกษา และ ผ้เู รียนที่มแี นวโนม้ จะออกกลางคัน เปน็ ต้น ญ แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ ๓.๖ ระบบการผลิตครู อาจารย์ และบคุ ลากรทางการศึกษา ได้มาตรฐานระดับ สากล มีตัวช้ีวัดที่ สำคัญ เช่น มีฐานข้อมูลความต้องการใช้ครูแผนการผลิตครูอาจารย์และ บุคลากรทางการศึกษาในระยะ ๑๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๙) จำแนกตามสาขาวิชา ขนาด สถานศึกษา และจังหวัด สัดส่วนของการบรรจุครูที่มาจาก การผลิตครูในระบบปิดเพิ่มข้ึน มีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขท่ีเอื้อให้ผู้สำเร็จการศึกษาจากสาขาวิชาอ่ืนและพัฒนา เพม่ิ เติมเพือ่ เข้าสู่ วชิ าชีพครเู ป็นตน้ ๓.๗ ครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศกึ ษา ไดร้ ับการพฒั นาสมรรถนะตาม มาตรฐาน มี ตัวชี้วัดท่ีสำคัญ เช่น ครูอาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาทุกระดับและประเภท การศึกษาได้รับการพัฒนาตาม มาตรฐานวิชาชีพ และสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้รับการพัฒนาให้สอดคล้องกับความ ตอ้ งการและยทุ ธศาสตร์ของหน่วยงานเพิ่มขึ้น และ ระดับความพงึ พอใจของครอู าจารย์และบุคลากรทางการศกึ ษา ที่มีต่อการพัฒนาและการใช้ ประโยชน์จากการพัฒนาเพ่ิมขึ้น เป็นต้น โดยได้กำหนดแนวทางการพัฒนา คือ ส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้สื่อตำราเรียน และส่ือการเรียนรู้ต่าง ๆ ให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และประชาชน สามารถเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้ โดยไม่จำกัดเวลาและสถานท่ี สร้างเสริมและปรับเปลี่ยนค่านิยมของคนไทยใหม้ ีวนิ ัย จิตสาธารณะ และพฤติกรรมที่พึงประสงค์และพัฒนาระบบและกลไกการติดตาม การวัด และประเมินผลผู้เรียน ให้มีประสทิ ธิภาพ และมีแผนงานและโครงการทีส่ ำคญั เชน่ โครงการผลติ ครูเพอื่ พฒั นา ท้องถิ่น เป็นต้น
๑๙ ยุทธศาสตร์ท่ี ๔ : การสรา้ งโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศกึ ษา มีเปา้ หมาย ดังน้ี ๔.๑ ผเู้ รียนทุกคนได้รับโอกาสและความเสมอภาคในการเข้าถึงการศึกษาทีม่ ี คุณภาพ มี ตัวชี้วัดท่ีสำคัญ เช่น ดัชนีความเสมอภาคของอัตราการเข้าเรียนระดับการศึกษา ขั้นพ้ืนฐานตามฐานะทาง เศรษฐกิจและพื้นที่ลดลง ความแตกต่างระหว่างคะแนนเฉลี่ย ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน (O-NET) ของนกั เรยี นระหว่างพนื้ ที่/ ภาคการศึกษาในวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษลดลง เปน็ ตน้ ๔.๒ การเพ่ิมโอกาสทางการศึกษาผา่ นเทคโนโลยดี จิ ิทัลเพอ่ื การศึกษาสำหรบั คนทุกชว่ งวยั มี ตวั ช้วี ัดทสี่ ำคญั เช่น มีระบบเครอื ข่ายเทคโนโลยดี จิ ิทัลเพ่ือการศกึ ษาท่ที ันสมยั สนองตอบความต้องการของผู้เรยี น และผู้ใช้บริการอย่างท่ัวถึงและมีประสิทธิภาพ และสถานศึกษา ทุกแห่งมีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและมีคุณภาพ เป็นตน้ ๔.๓ ระบบข้อมูลรายบุคคลและสารสนเทศทางการศึกษาที่ครอบคลุม ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน เพื่อ การวางแผนการบริหารจัดการศึกษา การติดตามประเมิน และรายงานผล ฎ แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ มีตัวชี้วัดท่ีสำคัญ เช่น มีระบบฐานข้อมูลรายบุคคลที่อ้างอิงจากเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก ที่สามารถเชื่อมโยง และแลกเปล่ียนฐานข้อมูล รวมทั้งใช้ประโยชน์ร่วมกันระหว่าง กระทรวงศึกษาธิการและ หน่วยงานอื่น ด้านสาธารณสุข สังคม ภูมิสารสนเทศ แรงงาน และ การศึกษา และมีระบบสารสนเทศด้าน การศึกษาและด้านอื่นที่เก่ียวข้อง ที่เป็นระบบเดียวกัน ท้ังประเทศ ครอบคลุม ถูกต้อง และเป็นปัจจุบัน สามารถ อ้างอิงได้เป็นต้น โดยได้กำหนดแนวทางการพัฒนา คือ เพ่ิมโอกาสและความเสมอภาคในการเข้าถงึ การศึกษาท่ีมี คุณภาพ พัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษาสำหรับคนทุกช่วงวัย พัฒนา ฐานข้อมูลด้านการศึกษาที่มี มาตรฐาน เชื่อมโยงและเข้าถึงได้และมีแผนงานและโครงการสำคัญ เช่น โครงการจัดทำฐานข้อมูลรายบุคคลทุก ช่วงวยั ท้ังด้านสาธารณสุข สงั คม ภูมิสารสนเทศ แรงงาน และการศกึ ษา เป็นตน้ ยุทธศาสตร์ที่ ๕ : การจัดการศกึ ษาเพอื่ สร้างเสรมิ คุณภาพชีวิตท่ีเปน็ มิตรกบั สงิ่ แวดลอ้ มมีเป้าหมาย ดังนี้ ๕.๑ คนทกุ ชว่ งวยั มจี ิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และ นำแนวคดิ ตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ มีตัวชี้วัดท่ีสำคัญ เช่น ครู/ บุคลากรทางการศึกษา ได้รับการอบรม พัฒนาในเรือ่ งการสร้างเสรมิ คุณภาพชวี ิตที่เป็นมติ รกบั ส่งิ แวดลอ้ มเพิ่มข้ึน ผู้เรยี นทุกระดับการศึกษามพี ฤตกิ รรมท่ี แสดงออกถึงความตระหนักใน ความสำคัญของการดำรงชวี ิตที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม ความมีคุณธรรม จริยธรรม และการประยุกต์ใช้ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนินชีวิตเพ่ิมขึ้น และสถาบันอุดมศึกษาที่ติด อันดับ มหาวทิ ยาลัยสีเขยี วของโลกเพม่ิ ข้ึน เปน็ ต้น ๕.๒ หลกั สูตร แหลง่ เรียนรู้ และส่ือการเรียนรู้ท่ีส่งเสรมิ คณุ ภาพชวี ิตท่ีเปน็ มติ รกบั สิ่งแวดล้อม คุณธรรม จริยธรรม และการนำแนวคิดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่ การปฏิบัติ มีตัวชี้วัด ที่สำคัญ เช่น สถานศึกษา/สถาบันการศึกษาจัดการเรียนการสอนและกิจกรรม เพ่ือปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และการนำแนวคิดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ เพิ่มขึ้น และสื่อสารมวลชนที่เผยแพร่หรือ ใหค้ วามร้เู กีย่ วกบั การสรา้ งเสรมิ คุณภาพชีวติ ทีเ่ ป็นมิตร กับสงิ่ แวดลอ้ มเพ่มิ ข้นึ เปน็ ตน้ ๕.๓ การวจิ ยั เพ่ือพฒั นาองคค์ วามรู้และนวตั กรรมดา้ นการสร้างเสรมิ คุณภาพชีวิต ท่เี ปน็ มิตร กับส่ิงแวดล้อม มีตัวชี้วัดที่สำคัญ เช่น มีฐานข้อมูลด้านการศึกษาที่เก่ียวข้องกับ การเปล่ียนแปลงภูมิอากาศใน สาขาต่างๆ เพ่ิมข้ึน เป็นต้น โดยได้กำหนดแนวทางการพัฒนา คือ ส่งเสริม สนับสนุนการสร้างจิตสำนึกรักษ์ ส่ิงแวดล้อม มีคุณธรรม จริยธรรม และนำแนวคิดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สู่การปฏิบัติในการ ดำเนินชีวิต ส่งเสริมและพัฒนาหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้แหล่งเรียนรู้และ ฏ แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ สื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ และพัฒนาองค์ความรู้งานวิจัย และนวัตกรรมด้านการสร้างเสริมคุณภาพ ชีวิต ท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม และมีแผนงานและโครงการสำคัญ เช่น โครงการน้อมนำศาสตร์พระราชา สู่การ พฒั นาและเพมิ่ ศักยภาพคนทุกช่วงวยั โครงการโรงเรียนคณุ ธรรม โครงการโรงเรียนสีเขียว เปน็ ตน้
๒๐ ยุทธศาสตรท์ ี่ ๖ : การพฒั นาประสิทธภิ าพของระบบบรหิ ารจัดการศึกษา มีเปา้ หมาย ดังนี้ ๖.๑ โครงสร้าง บทบาท และระบบการบรหิ ารจัดการการศึกษามคี วามคล่องตัว ชดั เจน และ สามารถตรวจสอบได้มีตัวชี้วัดที่สำคัญ เช่น มีการปรับปรุงโครงสร้างและระบบ บริหารราชการส่วนกลาง ส่วน ภูมิภาค และสถานศึกษาให้มีเอกภาพ สอดคล้องกับบริบทของพ้ืนท่ี และการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล เปน็ ตน้ ๖.๒ ระบบการบรหิ ารจดั การศกึ ษามปี ระสิทธิภาพและประสิทธผิ ลส่งผลตอ่ คณุ ภาพและ มาตรฐานการศึกษา มีตัวช้ีวัดที่สำคัญ เช่น สถานศึกษาขนาดเล็ก/สถานศึกษา ท่ีต้องการความช่วยเหลือและ พัฒนาเป็นพิเศษอย่างเร่งด่วน ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินคุณภาพ ภายนอกลดลง คะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบ ทางการศึกษาระดับชาติข้ันพื้นฐานของผู้เรียนที่เรียน ในกลุ่มสถานศึกษาท่ีเข้าสู่ระบบการบริหารจัดการแนวใหม่ สงู ขึน้ เปน็ ตน้ ๖.๓ ทุกภาคสว่ นของสงั คมมสี ่วนร่วมในการจดั การศึกษาทตี่ อบสนองความต้องการ ของ ประชาชนและพ้ืนท่ี มีตัวช้ีวัดท่ีสำคัญ เช่น จำนวนองค์กร สมาคม มูลนิธิหรือหน่วยงานอ่ืนท่ี เข้ามาจัดการศึกษา หรือร่วมมือกับสถานศึกษา ทั้งของรฐั เอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพิ่มขึ้น และสัดส่วนการมีส่วนร่วม สนับสนุนการศึกษาของภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาคี เครือขา่ ยเม่อื เทยี บกบั รฐั จำแนกตามระดบั การศึกษา สงู ข้นึ เป็นตน้ ๖.๔ กฎหมายและรปู แบบการบริหารจดั การทรัพยากรทางการศึกษารองรับ ลักษณะที่ แตกต่างกันของผูเ้ รยี น สถานศึกษา และความต้องการกำลงั แรงงานของประเทศ มตี ัวชว้ี ัดทีส่ ำคญั เชน่ มีกฎหมาย กฎ ระเบียบ และระบบการจัดสรรเงินเพื่อการศึกษาท่ีเอื้อและ สนองตอบคุณลักษณะที่แตกต่างกันของผู้เรียน ความต้องการกำลังแรงงานและสภาพปัญหา ที่แท้จริงของประเทศ มีรูปแบบ/แนวทาง กลไกการจัดสรร งบประมาณผา่ นด้านอุปสงคแ์ ละอปุ ทาน ในสดั ส่วนที่เหมาะสม เป็นตน้ ๖.๕ ระบบบรหิ ารงานบุคคลของครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษามีความ เป็นธรรม สร้างขวัญกำลังใจ และส่งเสริมให้ปฏิบัติงานได้อย่างเต็มตามศักยภาพ มีตัวช้ีวัด ท่ีสำคัญ เช่น สถานศึกษาท่ีมีครู เพียงพอต่อการจัดการเรียนการสอนเพ่ิมข้ึน ครู/ผู้ทรงคุณวุฒิจาก ภาคเอกชน/ผู้ประกอบการที่ปฏิบัติงาน สนับสนุนการเรียนการสอนเพิ่มขึ้น และสถานศึกษามี บุคลากรทางการศึกษาทำหน้าที่ปฏิบัติงานสนับสนุนการ เรยี นการสอนเพมิ่ ขน้ึ เปน็ ต้น ซ่ึง แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ ได้กำหนดแนวทางการพัฒนา คือ ปรับปรุงโครงสร้าง การบรหิ ารจัดการศึกษา เพิ่มประสทิ ธิภาพการบรหิ ารจัดการสถานศกึ ษา สง่ เสริมการมสี ว่ นร่วมของทกุ ภาคส่วนใน การจัดการศึกษา ปรับปรุงกฎหมายเก่ียวกับระบบการเงินเพื่อการศึกษา พัฒนาระบบบริหารงานบุคคลของครู อาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา และมีแผนงานและโครงการสำคัญ เช่น โครงการเพิ่ม ประสิทธิภาพการ บริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก โครงการพฒั นาระบบจัดสรรงบประมาณเพื่อ การศึกษา และโครงการทดลองนำ ร่องระบบการจดั สรรเงนิ ผ่านดา้ นอปุ สงคแ์ ละอุปทาน เป็นต้น ๔. นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖3 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน (๒๕๖3) ไดก้ ำหนดวิสยั ทัศน์เพื่อพฒั นา การศึกษาข้ันพนื้ ฐาน ว่า “สรา้ งคุณภาพทนุ มนษุ ย์ ส่สู งั คมอนาคตทีย่ งั่ ยืน”
๒๑ พันธกิจ ๑. จดั การศกึ ษาเพ่อื เสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาตแิ ละการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข ๒. พัฒนาศักยภาพผเู้ รียนเพ่ือเพิ่มขีดความสามารถในการแขง่ ขนั โดยพฒั นาคุณภาพ ผเู้ รยี นให้มีความรู้ ทักษะวิชาการ ทักษะชวี ิต ทักษะวชิ าชพี คุณลกั ษณะในศตวรรษท่ี ๒๑ ๓. ส่งเสริมการพฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศึกษาใหเ้ ปน็ มอื อาชพี ๔. สรา้ งโอกาส ความเสมอภาคลดความเหล่อื มลำ้ ให้ผูเ้ รียนทุกคนไดร้ บั บรกิ ารทาง การศึกษาอย่างท่วั ถึงและเทา่ เทยี ม ๕. สง่ เสรมิ การจัดการศกึ ษาเพ่ือพัฒนาคุณภาพชวี ติ ท่เี ปน็ มิตรกับสิ่งแวดลอ้ ม ยึดหลัก ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเปา้ หมายโลกเพอื่ การพัฒนาที่ย่งั ยืน (SDGs) ๖. พฒั นาระบบบริหารจดั การแบบบูรณาการ และส่งเสรมิ ให้ทุกภาคส่วนมสี ่วนรว่ มใน การจดั การศกึ ษา เปา้ หมาย ๑. ผเู้ รียน เป็นบคุ คลแห่งการเรยี นรู้ คิดรเิ รมิ่ และสร้างสรรคน์ วัตกรรม มคี วามรู้ มีทกั ษะและคุณลักษณะของผเู้ รียนในศตวรรษท่ี ๒๑ มสี ขุ ภาวะทเี่ หมาะสมตามวยั มคี วามสามารถในการพึง่ พา ตนเอง และปรบั ตวั ต่อ เปน็ พลเมอื งและพลโลกทด่ี ี ๒. ผเู้ รียนท่มี คี วามตอ้ งการจำเป็นพเิ ศษ กลมุ่ ชาติพนั ธ์ุ กลุ่มผูด้ อ้ ยโอกาส และกลุ่มทอ่ี ยู่ ในพ้นื ที่ห่างไกลทรุ กนั ดารไดร้ ับการศึกษาอย่างทว่ั ถึง เท่าเทียม และมีคณุ ภาพ พร้อมกา้ วส่สู ากล ตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๓. ครู เป็นผ้เู รียนรู้ มจี ิตวญิ ญาณความเปน็ ครู มคี วามแมน่ ยำทางวชิ าการ และมที กั ษะ การจดั การเรียนรทู้ ี่หลากหลายตอบสนองผูเ้ รียนเปน็ รายบุคคล เปน็ ผู้สรา้ งสรรคน์ วตั กรรม และทักษะในการใช้ เทคโนโลยี ๔. ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา มีความเปน็ เลศิ ส่วนบคุ คล คิดเชิงกลยทุ ธ์และนวัตกรรม มีภาวะ ผนู้ ำทางวชิ าการ มสี ำนึกความรบั ผิดชอบ (Accountability) และการบรหิ ารแบบร่วมมือ ๕. สถานศึกษา มีความเปน็ อิสระในการบริหารงานและจัดการเรยี นรู้ รว่ มมอื กับชมุ ชน ภาคเอกชน และผู้เกีย่ วขอ้ งในการจัดการศึกษาระดบั พืน้ ท่ี จดั สภาพแวดล้อมในโรงเรียนเพอื่ การเรยี นรใู้ น ทกุ มิติ เปน็ โรงเรียนนวตั กรรม ๖. สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา มีการบริหารงานเชิงบูรณาการ เป็นสำนกั งานแหง่ นวัตกรรมยุคใหม่ ใช้ขอ้ มลู สารสนเทศและการวิจัยและพัฒนาในการขบั เคลอื่ นคุณภาพ กำกบั ตดิ ตาม ประเมิน และรายงานผลอยา่ งเปน็ ระบบ ๗. สำนกั งานส่วนกลาง ปรับเปลี่ยนวฒั นธรรมการทำงาน โดย กระจายอำนาจการ บริหารงานและการจัดการศึกษาใหส้ ถานศึกษา บรหิ ารเชงิ บูรณาการ มรี ะบบข้อมูลสารสนเทศที่มปี ระสิทธิภาพ กำกับ ตดิ ตาม ประเมินผล และการรายงานผลอย่างเปน็ ระบบ ใช้วจิ ัยและนวัตกรรมในการขับเคล่อื นคณุ ภาพ นโยบาย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน นโยบายที่ ๑ จัดการศกึ ษาเพ่อื ความมัน่ คง กลยุทธท่ี ๑ พัฒนาการศึกษาของสถานศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดน ภาคใต้
๒๒ กลยุทธท่ี ๒ ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เรียนในเขตพื้นท่ีเฉพาะ กลุ่มชาติพันธ์ุ กลุ่มท่ีด้อยโอกาส และ กลุ่มที่อยู่ในพ้ืนท่ีห่างไกลทุรกันดาร เช่น พ้ืนท่ีสูง ชายแดน ชายฝั่งทะเล และเกาะแก่ง ได้รับการ บริการดา้ นการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน ทีม่ ีคณุ ภาพ และเหมาะสมตรงตามความ ต้องการ นโยบายที่ ๒ พฒั นาคุณภาพผเู้ รียน กลยุทธที่ ๑ ปรับปรุง และพัฒนาหลักสูตรทุกระดับการศึกษา ให้เอื้อต่อการพัฒนาสมรรถนะ ผู้เรียน เป็นรายบุคคล มีทักษะท่ีจำเป็นในศตวรรษท่ี ๒๑ นำไปสู่การจัดการศึกษาเพ่ือการมีงานทำ (Career Education) กลยุทธที่ ๒ พัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มีความรักในสถาบันหลักของชาติ และยึดม่ันการปกครอง ระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีทัศนคติท่ีดีต่อบ้านเมือง มีหลักคิด ที่ถูกต้อง เป็น พลเมอื งดีของชาตแิ ละพลเมอื งโลกท่ีดีมีคุณธรรม จรยิ ธรรม กลยุทธท่ี ๓ พัฒนาคุณภาพของผู้เรียน ให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ มีความเป็นเลิศ ดา้ นวิชาการ นำไปส่กู ารสร้างขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั กลยุทธท่ี ๔ พัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะอาชีพและทักษะชีวิต มีสุขภาวะที่ดีสามารถดำรงชีวิตอยู่ใน สงั คมได้อยา่ งมีความสุข กลยทุ ธท่ี ๕ การจัดการศึกษาเพ่ือการบรรลุเป้าหมายโลกเพื่อการพัฒนาอย่างย่ังยืน (SDGs) เพ่ือ สรา้ งเสริมคณุ ภาพชีวิตทีเ่ ปน็ มติ รกบั สิง่ แวดล้อม ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง กลยทุ ธที่ ๖ พฒั นาคุณภาพผูเ้ รยี นทม่ี ีความต้องการจำเปน็ พเิ ศษ กลยุทธที่ ๗ ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษา นำ Digital Technology มาใช้ในการจัดการ เรียนรู้ ให้แก่ผู้เรียนเป็นรายบุคคลตามสมรรถนะ ความต้องการ และความถนัด สร้างสังคม ฐานความรู้ (Knowledge-Based Society) เพือ่ การเรยี นรู้อยา่ งตอ่ เนื่องตลอดชวี ติ นโยบายที่ ๓ พัฒนาผบู้ ริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา กลยุทธที่ ๑ สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสถาบันทางการศึกษาท่ีผลิตครู ในการผลิตและ พฒั นาครู ใหต้ รงกบั สาขาวชิ า และสอดคลอ้ งกบั การพัฒนาในศตวรรษท่ี ๒๑ กลยุทธที่ ๒ พัฒนาผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกประเภท ให้มีสมรรถนะตาม มาตรฐาน วิชาชีพ มศี กั ยภาพ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม กลยุทธท่ี ๓ นำ Digital Technology มาใช้ในการพัฒนาผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการ ศึกษา ทกุ ประเภททัง้ ระบบ นโยบายท่ี ๔ สร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษาท่ีมีคุณภาพ มีมาตรฐาน และลดความเหลื่อมล้ำ ทางการศึกษา กลยทุ ธที่ ๑ ร่วมมอื กับองค์กรปกครองระดับท้องถ่ิน ภาคเอกชน หนว่ ยงานที่เกี่ยวข้องในการจัด การศึกษาใหส้ อดคลอ้ งกับบรบิ ทของพ้นื ที กลยุทธที่ ๒ ยกระดับสถานศึกษาในสังกัดทุกระดับ และทุกประเภท ให้มีมาตรฐานตามบริบท ของพ้ืนที่ เพอื่ ให้พัฒนาผเู้ รียน มีคณุ ภาพ มมี าตรฐานเสมอกนั กลยุทธที่ ๓ สร้างความเข้มแข็งในการบริหารจัดการศึกษาสำหรับผู้เรยี นท่ีมคี วามต้องการจำเป็น พิเศษ กลยทุ ธที่ ๔ จัดสรรงบประมาณสนับสนนุ ผู้เรยี น และสถานศึกษาอย่างเหมาะสม เพยี งพอ กลยุทธท่ี ๕ ส่งเสริม สนับสนุน ให้สถานศึกษา หน่วยงานทุกระดับนำ Digital Technology มา ใช้ เป็นเครอ่ื งมือในการพัฒนาคณุ ภาพของผ้เู รยี น
๒๓ ๕. นโยบายของสำนกั บริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ ปงี บประมาณ ๒๕๖3 สำนกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ (๒๕๖3) เปน็ หน่วยงานท่จี ัดขน้ึ ตามกฎกระทรวงแบ่งสว่ นราชการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ มีภารกิจในการสนับสนุน ส่งเสริมเก่ียวกับการจัดการศึกษาสำหรับเด็กพิการและเด็กด้อยโอกาสผ่านการให้บริการ จัดการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน เพื่อเด็กพิการและผู้ด้อยโอกาสทั้งระบบเพื่อให้เด็กพิการและผู้ด้อยโอกาสได้รับการศึกษาข้ันพื้นฐานท่มี ีคุณภาพ มี ทักษะชีวิต ท่ีดีสามารถพึ่งตนเองได้ อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข มีศักด์ิศรี มีคุณภาพที่ดี พร้อมรองรับการเข้าสู่ ประชาคมอาเซยี น โดยมอี ำนาจหน้าทคี่ วามรบั ผดิ ชอบ ดังนี้ ๑. อำนาจหน้าท่ีตามพระราชบัญญัติการบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.๒๕๔๖ และ กฎกระทรวง ๑.๑ จดั ทำข้อเสนอนโยบายและแผนการจดั การศึกษาพิเศษเพื่อคนพิการและผดู้ ้อยโอกาส รวมท้ังประเมนิ และรายงานผล ๑.๒ ดำเนินการเกยี่ วกับการจัดการศึกษาเพือ่ คนพิการและผดู้ ้อยโอกาส จดั ระบบสื่อและสง่ิ อำนวยความสะดวก รวมทงั้ ดำเนินการเก่ยี วกบั กองทุนการศึกษาสำหรบั คนพกิ ารและผู้ด้อยโอกาส ๑.๓ วิจัยและพฒั นาคณุ ภาพการเรียนการสอนและการเรยี นรขู้ องคนพิการและผูด้ ้อยโอกาส ๑.๔ ดำเนินการเกย่ี วกบั งานเลขานุการของคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาพิเศษ ๑.๕ ปฏิบัตงิ านรว่ มกนั หรือสนบั สนนุ การปฏบิ ัติงานของหนว่ ยงานอน่ื ท่ีเก่ียวขอ้ งหรือที่ได้รบั มอบหมาย นอกจากภาระหน้าท่ตี ามที่กำหนดไวต้ ามกฎหมายดังกล่าวแลว้ สำนกั บริหารงานการศึกษาพิเศษ ยังเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ขับเคล่ือนนโยบายและยุทธศาสตร์ของชาติในการส่งเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษา สำหรบั เด็กพิการและผูด้ อ้ ยโอกาสในสถานศึกษา ๓ ประเภท ไดแ้ ก่ ๑. ศูนย์การศึกษาพิเศษ ใหบ้ ริการชว่ ยเหลอื ระยะแรกเร่มิ ต้งั แตแ่ รกเกิดหรอื พบความพิการ ตลอดชีวิตในศูนย์การศึกษาพิเศษและให้บริการเด็กเจ็บป่วยเรื้อรังที่รับการรักษาในโรงพยาบาล รวมท้ังสนับสนุน ส่งเสริมการจัดการเรียนร่วมและเรียนรวมพร้อมทั้งห้องเรียนคู่ขนานสำหรับเด็กออทิสติกกับสำนักงานเขตพ้ืนท่ี การศึกษานอกจากน้ันยงั ส่งเสริมการจัดการศึกษาอกี หลายรูปแบบอาทิ ศนู ยก์ ารเรียนเฉพาะความพกิ าร ฯลฯ ๒. โรงเรยี นการศกึ ษาพิเศษ เป็นการจัดการศึกษาในรปู แบบประจำให้กับนักเรยี นพกิ ารที่มี ความพิการรุนแรงทไี่ ม่สามารถเขา้ เรียนรว่ มกับนกั เรียนท่วั ไปได้ ๓. โรงเรยี นการศกึ ษาสงเคราะห์ เปน็ การจัดการศึกษาในรูปแบบประจำ ไป-กลบั ใหก้ ับ ผูด้ อ้ ยโอกาสทางการศึกษาที่อยใู่ นสภาวะยากลำบากเปน็ พิเศษ ได้กำหนดกรอบวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ กลยุทธ์ จุดเน้นและมาตรการ ในการพัฒนาการจัด การศึกษาสำหรับคนพิการและเด็กด้อยโอกาส เพื่อสอดคล้องและเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐- ๒๕๗๙) ยุทธศาสตร์แผนการศึกษาชาติ (พ.ศ.๒๕๖๐-๒๕๗๙)และจุดเน้นนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึง ยุทธศาสตร์สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖3 ฯลฯ โดยมี สาระสำคัญ ดังน้ี วิสยั ทศั น์ คนพิการและเด็กด้อยโอกาสได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และมีคุณภาพ พร้อมก้าวสู่สากล ตาม หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง พนั ธกิจ
๒๔ ๑. เสริมสร้างโอกาสการเขา้ ถึงบริการทางการศึกษาอย่างท่ัวถึง เทา่ เทียม ด้วยระบบ และรปู แบบ การจดั การศึกษาท่ีหลากหลาย ๒. สง่ เสริม สนับสนนุ การจดั การศึกษา ใหม้ ีคณุ ภาพ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ๓. ส่งเสรมิ สนับสนุนให้หน่วยงานและสถานศึกษานำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารอยา่ ง มปี ระสทิ ธภิ าพ ๔. ส่งเสริม สนับสนุน ใหห้ นว่ ยงานและสถานศึกษานำหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็น แนวทางในการจัดการศึกษา ๕. ส่งเสริม สนับสนนุ ใหผ้ บู้ รหิ ารครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา มีความรทู้ ักษะและ ความสามารถตามมาตรฐานวิชาชีพ เป้าประสงค์ ๑. คนพิการและเด็กด้อยโอกาสได้รับบริการทางการศึกษาอย่างทั่วถึง เท่าเทียมด้วยระบบ และ รูปแบบ การจัดการศกึ ษาท่ีหลากหลาย ๒. คนพิการและเดก็ ดอ้ ยโอกาส มีคณุ ภาพ ตามมาตรฐานการศกึ ษาขน้ั พื้นฐานของแตล่ ะระดับ ๓. คนพิการและเด็กด้อยโอกาส ได้รับการพัฒนาทักษะด้านอาชีพ ทักษะการดำรงชีวิต มี คณุ ธรรม จริยธรรม และมจี ติ สาธารณะ ๔. คนพิการและเด็กด้อยโอกาสได้รับการส่งเสริม ให้มีความสามารถพิเศษ ทางวิชาการ ดนตรี กีฬา ศลิ ปะและเทคโนโลยี ๕. คนพิการและเด็กด้อยโอกาส ได้รบั สงิ่ อำนวยความสะดวก ส่ือ บริการ และความช่วยเหลืออื่น ใด ทางการศึกษา ๖. หนว่ ยงานและสถานศึกษามกี ระบวนการบรหิ าร และการจัดการโดยยดึ หลกั ธรรมาภิบาล ๗. หน่วยงานและสถานศึกษามีการนำระบบควบคุมภายในและเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหาร จดั การ ศึกษาอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ๘. หน่วยงานและ สถานศึกษา นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการจัด การศกึ ษา ๙. ผู้บรหิ าร ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาไดร้ ับการพัฒนาความรู้ ทักษะ และความสามารถตาม มาตรฐานวชิ าชีพ ๑๐. ผู้บรหิ าร ครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา มีความก้าวหน้าทางวชิ าชีพ กลยทุ ธ กลยทุ ธท์ ่ี ๑ เพ่มิ โอกาสใหค้ นพกิ ารและเด็กด้อยโอกาสเข้าถงึ บริการทางการศึกษา มาตรการ ๑. ให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่ม (Early Intervention: EI) ที่ศูนย์การศึกษาพิเศษ หน่วย บริการและที่บา้ น อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ๒. พัฒนาระบบการรับนักเรียน และการจัดทำฐานข้อมูลสารสนเทศท่ีครอบคลุมและมี ประสทิ ธิภาพ
๒๕ ๓. ส่งเสริม สนบั สนุนและพฒั นาการจัดการศึกษาสำหรับคนพกิ ารและเดก็ ด้อยโอกาส ดว้ ยระบบ และ รปู แบบทหี่ ลากหลาย ๔. ส่งเสรมิ สนับสนนุ การจัดการศึกษาในโรงเรยี นเรยี นรวมและศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการ กลยทุ ธ์ท่ี ๒ พัฒนาคณุ ภาพผู้เรียนให้เป็นไปตามเป้าหมายตามยุทธศาสตรก์ ารจดั การศึกษาของชาติ มาตรการ ๑. สง่ เสริมให้คนพิการและเด็กด้อยโอกาสไดร้ ับการพัฒนาเตม็ ศกั ยภาพ ๒. ปรับปรงุ และพัฒนากระบวนการวดั และประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ ๓. ส่งเสริม สนับสนุนการจัดกิจกรรมเพ่ือพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียน การส่ือสาร การคิด คำนวณ การคดิ วเิ คราะห์และการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ ๔. ส่งเสริม สนับสนุน การจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพ ทักษะการดำรงชีวิต ปลูกฝงั คุณธรรม จริยธรรม จติ สาธารณะและการดำรงชีวิตที่เป็นมติ รกบั สิ่งแวดล้อมตามหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ๕. ส่งเสริมการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนตามโครงการอนั เน่อื งมาจากพระราชดำริ ๖. ส่งเสรมิ สนับสนุน ให้ผู้เรียนมีทัศนคตทิ ี่ถูกต้องต่อการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอันมี พระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุข ๗. ส่งเสริม สนับสนุน การใช้ส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารอย่างถูกต้อง เหมาะสม และ สรา้ งสรรค์ ๘. ส่งเสริม สนับสนุน เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใด ทางการ ศกึ ษา ๙. ส่งเสริมและพัฒนาคนพิการและเดก็ ด้อยโอกาส ทมี่ ีความสามารถพิเศษในด้านวชิ าการ ดนตรี กีฬา ศลิ ปะ และอืน่ ๆ เพ่อื ยกระดบั ส่คู วามเป็นเลศิ พรอ้ มก้าวสู่สากล ๑๐. สง่ เสริม สนับสนนุ การนำระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้ในการจัดการเรยี นการสอน กลยุทธท์ ี่ ๓ พฒั นาระบบบรหิ ารจัดการตามหลกั ธรรมาภิบาลและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง มาตรการ ๑. จัดให้มรี ะบบการนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมนิ ผลการจัดการศึกษาเชงิ บูรณาการ ๒. จัดให้มีกลุ่มงานระบบประกันคุณภาพในสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เพ่ือส่งเสริม สนับสนนุ ให้ สถานศกึ ษามรี ะบบประกันคุณภาพภายในที่เข้มแข็ง ๓. พัฒนาระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ เพ่ือการบริหาร ทง้ั ในหน่วยงานและสถานศกึ ษา ๔. ส่งเสริม สนับสนุนกระบวนการบริหารจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ ตามหลักธรรมาภิบาล โดยการ มสี ว่ นร่วมของทกุ ภาคสว่ น ๕. ส่งเสริม สนับสนุนการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการบริหารและการ จดั การ ๖. ส่งเสริม สนบั สนนุ การเผยแพรป่ ระชาสัมพนั ธ์งานการศึกษาพิเศษ ๗. จดั วางระบบการควบคุมภายในของหนว่ ยงานและสถานศึกษาอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ๘. เสรมิ สรา้ งความเขม้ แขง็ และพัฒนาศกั ยภาพคณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน ๙. ส่งเสริม สนับสนุนใหห้ น่วยงานและสถานศึกษาจดั ทำ รวบรวม ผลติ พัฒนา และเผยแพร่ ส่ือ นวัตกรรม งานวจิ ัยทางการศึกษา
๒๖ ๑๐. สำรวจสภาพอาคารสถานที่ และสิ่งแวดล้อมในสถานศึกษา จัดทำผังบริเวณ จัดทำแบบรูป และ รายการสิ่งกอ่ สรา้ ง ๑๑. ส่งเสริม สนับสนุนให้มีแนวทางปฏิบัติและมาตรการรักษาความปลอดภัยของสถานศึกษา อยา่ งมี ประสิทธภิ าพ ๑๒. ส่งเสริม สนับสนุนให้เครือข่ายส่งเสรมิ ประสิทธิภาพและกลุ่มสถานศึกษา ขับเคลื่อนการจัด การศึกษา ใหม้ ีประสิทธิภาพ ๑๓. ส่งเสริม สนับสนุน การดำเนินงานของคณะอนุกรรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับ คนพิการจงั หวัด ๑๔. สง่ เสริม สนับสนุนสถานศกึ ษาพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนใหม้ ีประสิทธภิ าพ ๑๕. ส่งเสรมิ สนบั สนนุ การจัดสภาพแวดลอ้ มและแหลง่ เรยี นรู้ให้เอ้อื ต่อการจัดการศกึ ษา ๑๖. ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตร กระบวนการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับบริบทของ แตล่ ะ สถานศกึ ษา กลยุทธ์ท่ี ๔ พัฒนาผบู้ รหิ าร ครู และบคุ ลากรทางการศึกษา มาตรการ ๑. จัดสรรอัตรากำลงั ครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นไปตามเกณฑ์ท่กี .ค.ศ. กำหนด ๒. จัดให้มีบุคลากรทางการศึกษาอ่ืนตามมาตรา 38 ค (2) ในการจัดการศึกษาท่ีสอดคล้องกับ ความต้องการจำเปน็ ของสถานศึกษา ๓. พัฒนาผู้บริหารครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ทักษะความสามารถตามมาตรฐาน วิชาชีพ และมเี จตคตทิ ีด่ ตี ่อการจดั การศึกษาพิเศษพร้อมก้าวสู่สากล ๔. ปรับปรุงหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการสรรหาผบู้ รหิ าร ครูและบุคลากรทางการศึกษาให้สอดคล้องกับ บริบท ของการจัดการศึกษาพเิ ศษ ๕. ส่งเสรมิ สนบั สนุนให้หน่วยงาน สถานศึกษา ผู้บริหาร ครูและบุคลากร ใชก้ ระบวนการวิจยั มา พฒั นาการบรหิ ารจดั การและการจดั การเรยี นการสอน ๖. ส่งเสริม ผู้บริหาร ครูและบุคลากรให้มีความก้าวหน้าทางวิชาชีพและได้รับการยกย่องเชิดชู เกยี รต ๖. แผนพฒั นาการศกึ ษาของโรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์แมฮ่ อ่ งสอน ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ – พ.ศ. ๒๕๖๔ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๒) โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์แม่ฮ่องสอน เป็นสถานศึกษาที่ให้บริการเด็กด้อยโอกาสในวัยเรียน ได้จัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ๕ ปี (ปีการศึกษา ๒๕๖๐-๒๕๖๔) โดยมีการศึกษาทบทวน วเิ คราะหค์ วามเป็นมา สภาพปัจจุบัน ปัญหา โดยใชเ้ คร่ืองมือ SWOT Analysis เป็นการวิเคราะห์ จุดแข็ง จุดออ่ น โอกาส อุปสรรค โดยวเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ มภายใน สรปุ ผลดังตอ่ ไปนี้ ๑. ผลการศึกษาสภาพปัจจัยสภาพแวดลอ้ มภายนอก ประเด็นท่เี ป็นโอกาส ประเดน็ ที่เปน็ อปุ สรรค ๑.ชมุ ชนมีสว่ นร่วมในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและ ๑.สภาพสังคมทเ่ี ปลีย่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็ ทำใหน้ ักเรียน ประเพณีของท้องถนิ่ จงึ ทำให้นกั เรยี นมแี หลง่ เรียนรทู้ ี่ ได้รับการเลีย้ งดูและมีพฤตกิ รรมท่ีไม่เหมาะสม หลากหลาย ๒.ผู้ปกครองอยหู่ า่ งไกลจากสถานศกึ ษา ทำให้ไม่ ๒.หนว่ ยงานตา่ งๆ ให้การสนับสนุนด้านทรัพยากร จึง สามารถเข้าร่วมกจิ กรรมของโรงเรยี นไดท้ ุกครงั้
๒๗ ประเด็นที่เปน็ โอกาส ประเด็นทเ่ี ปน็ อุปสรรค ทำให้สามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่าง ๓.สภาพครอบครัวที่มีความแตกแยก ทำให้นักเรียนมี เหมาะสม พฤติกรรมทีไ่ มพ่ งึ ประสงค์ ๓.เคร่อื งมือการสื่อสารสะดวกและทนั สมยั ทำให้ ๔.สือ่ เทคโนโลยีมีความหลากหลายและกา้ วหน้าอย่าง ตดิ ตอ่ ส่ือสารกบั หน่วยงานชุมชนและผูป้ กครองได้ รวดเร็ว นักเรียนขาดภมู ิคมุ้ กันจงึ นำมาใช้ไม่เหมาะสม อย่างรวดเรว็ ๕.ผู้ปกครองส่วนหนึ่งอยู่ในพ้ืนที่ห่างไกล เทคโนโลยีการ ๔.ได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีจาก ส่ือสารเข้าไม่ถึง ทำให้ไม่สามารถติดต่อกับโรงเรียนได้ หน่วยงานต่างๆ ทำให้การจัดการเรียนการสอนได้ อย่างรวดเร็ว อยา่ งหลากหลาย ๖.ผ้ปู กครองมีรายไดน้ ้อยไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต จึง ๕.โรงเรียนได้รับงบประมาณสนบั สนุนอยา่ งเพียงพอ ทำให้นักเรียนมีคุณภาพชีวติ ท่ีไมด่ เี ท่าที่ควร ทำให้สามารถจดั การศึกษาได้อย่างเหมาะสม ๗.ค่าครองชีพในจังหวัดแม่ฮ่องสอนท่ีสูงกว่าจังหวัดอ่ืน ๖.สภาพเศรษฐกิจของสังคมในชุมชน ทำให้โรงเรียน ทำให้โรงเรยี นไม่สามารถจดั ซื้อวัสดุอุปกรณเ์ พ่อื ใชใ้ นการ ไดร้ บั การสนับสนนุ ชว่ ยเหลอื จัดการเรยี นการสอนไดอ้ ยา่ งเพียงพอ ๗.พระราชบญั ญัติการศึกษาแหง่ ชาตเิ ปดิ โอกาสให้ ๘.การเมอื งมีการเปลย่ี นแปลง นโยบายการศกึ ษามกี าร ชมุ ชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศกึ ษา เปล่ยี นแปลงบอ่ ยครั้ง สง่ ผลให้การจดั การศึกษาไม่ ๘.นโยบายเรียนฟรี ๑ ๕ ปี ส่งผลดีต่อการจัด ตอ่ เนื่อง การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน ๙.นักเรียนทจ่ี บการศึกษาส่วนหนงึ่ ไม่มหี ลักฐานทะเบียน ราษฎร์ ทำใหข้ าดโอกาสในการทำงานทมี่ คี วามม่ันคง ๒. ผลการศกึ ษาสภาพปจั จัยสภาพแวดลอ้ มภายใน ประเดน็ ทเ่ี ปน็ จุดแข็ง ประเด็นท่เี ปน็ จุดอ่อน ๑.มีโครงสร้างการบริหารงานในองค์กรท่ีชัดเจนทำ ๑.การดำเนินงานตามโครงสร้างยังไมเ่ ป็นระบบ ขาด ให้สามารถมอบหมายงานให้บุคลากรได้อย่างเป็น การนิเทศ กำกับ ตดิ ตาม ประเมนิ ผลอยา่ งเปน็ ระบบ รูปธรรมทำใหง้ านขาดประสทิ ธภิ าพ ๒.นักเรียนได้รับการบ่ มเพาะให้มีทักษะการ ๒.ไม่มีคู่มือการปฏิบัติงาน ส่งผลให้ผู้รับผิดชอบ ไม่ ดำรงชวี ิต สามารถพึ่งพาตนเองได้ ทำให้ผู้ปกครองมี เข้าใจขอ บ ข่าย บ ท บ าท ห น้ าท่ี ใน งาน ท่ี ต น ความเชอ่ื มัน่ ในการส่งบุตรหลานมาเรยี น รั บ ผิ ด ช อ บ จึ ง ท ำ ให้ ก า ร ด ำ เนิ น ง า น ข า ด ๓.นักเรียนได้รับการบ่มเพาะให้มีทักษะด้านอาชีพ ประสทิ ธิภาพ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ ทำให้มีรายได้ระหว่าง ๓.กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่ไม่เหมาะสม เรียน ช่วยลดภาระผู้ปกครอง และสามารถนำไป ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชาติ ของ ประกอบอาชีพตอ่ ไปได้ นักเรียนตำ่ กวา่ เกณฑท์ ่ีกำหนด ๔.บคุ ลากรมเี พยี งพอตอ่ จำนวนนกั เรยี นทำให้ ๔.นักเรยี นขาดเป้าหมายในชวี ติ ทำให้ขาดความ สามารถดูแลนกั เรียนได้อย่างทัว่ ถึง ตงั้ ใจ เอาใจใสก่ ารเรยี น สง่ ผลทำใหผ้ ลสมั ฤทธิ์ ๕.บคุ ลากรมคี วามรู้ความสามารถ สอนตรงตาม ทางการเรียนต่ำ วชิ าเอก ทำให้จดั การเรยี นการสอนได้อย่าง ๕.พ้ืนฐานทางสงั คมของนักเรยี นทแ่ี ตกต่างกนั ส่งผล เหมาะสมตามหลักสตู ร ใหเ้ กดิ ปัญหาการอยู่รว่ มกนั ในโรงเรยี น ๖.บคุ ลากรมคี วามสามัคคี ให้ความร่วมมือในการ ๖.บคุ ลากรขาดความกระตอื รือรน้ ในการทำงานทำ ดำเนนิ งานต่างๆ ของโรงเรยี น ให้การปฏบิ ัตงิ านในหนา้ ทีล่ ่าช้า ไม่มีประสิทธภิ าพ
๒๘ ประเดน็ ท่เี ปน็ จุดแข็ง ประเด็นที่เป็นจดุ ออ่ น ๗.บุคลากรมีประสบการณ์ในการจัดการศึกษา เทา่ ที่ควร สงเคราะห์ ๗.บคุ ลากรบางคน มีหน้าท่ีรับผิดชอบงานหลายด้าน ๘.โรงเรียนได้รับจัดสรรงบประมาณจากหน่วยงาน ทำให้การปฏิบัตงิ านทีไ่ ดร้ ับมอบหมายไมเ่ ต็ม ต้นสังกัดอย่างเพียงพอทำให้การบริหารจัดการ ประสิทธภิ าพ โรงเรียนดำเนนิ ไปได้ตามเป้าหมายท่ีกำหนด ๘.ทักษะกระบวนการจัดการเรียนรู้ของบุคลากร ๙.โรงเรียนมสี ือ่ วสั ดอุ ปุ กรณท์ ี่เพยี งพอต่อการจดั การ ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนไม่เป็นไป เรยี นการสอนให้กบั นักเรยี นในแต่ละระดับชั้น ตามที่กำหนด ๑๐.โรงเรียนมีอาคาร สถานท่ี สภาพแวดล้อมที่มี ๙.การอนมุ ัติงบประมาณของต้นสงั กดั บางครัง้ ล่าชา้ ความพร้อมสูงสามารถจัดการเรียนรู้และให้บริการ กะทนั หัน ทำให้การวางแผนใชง้ บประมาณไมเ่ กิด ชุมชน ประโยชนอ์ ย่างคุ้มค่า ๑๑.มกี ารกระจายอำนาจการบรหิ ารงานที่ชดั เจน ๑๐.ระเบยี บขอ้ จำกัดการใช้งบประมาณ เปิดโอกาสใหท้ ุกคนมีสว่ นรว่ มในการดำเนินงาน ทำใหไ้ ม่สะดวกต่อการดำเนนิ งานตามเปา้ หมาย ๑๒.มีการระดมทรัพยากรและใช้เทคโนโลยีในการ ๑๑.กระบวนการบริหารจัดการงบประมาณภายใน บริหารจัดการ ทำให้การบริหารงานสะดวกรวดเร็ว ส่งผลใหก้ ารปฏิบัตงิ านไม่มปี ระสิทธภิ าพ ๑๓.มีการบริหารจัดการองค์กรโดยยึดหลักธรรมาภิ ๑๒.ครแู ละบุคลากรขาดการบำรงุ รักษาส่ือ วัสดุ บาลและกัลยาณมิตร ทำให้ครูและบุคลากรอยู่ อปุ กรณ์ ท่ีจะนำไปใชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน รว่ มกนั อยา่ งมคี วามสุข ทำใหว้ ัสดอุ ุปกรณม์ ีอายกุ ารใชง้ านสน้ั ลง ๑ ๓ .ร ะ ย ะ เว ล า ใน ก า ร บ ริ ก า ร ส่ื อ เท ค โ น โ ล ยี เพ่ื อ การศึกษามจี ำกัด จึงทำให้นักเรยี นขาดโอกาสในการ แสวงหาความรเู้ พ่ิมเตมิ ดว้ ยตนเอง ๑๔.การประชาสัมพันธก์ ารดำเนนิ งานต่างๆภายใน ไมท่ ว่ั ถึง ทำใหข้ าดความรู้ความเขา้ ใจทช่ี ัดเจน ๑๕.การมอบหมายหน้าทีใ่ นการปฏบิ ัตงิ านให้ บุคลากรไม่เท่าเทยี มกนั ทำให้ผลงานขาด ประสิทธภิ าพ ๑๖.กระบวนการจดั ทำแผนพัฒนาคณุ ภาพ แผนปฏบิ ัตกิ ารประจำปี ไมเ่ ป็นระบบ สง่ ผลต่อ คุณภาพการปฏบิ ตั ิงานของแตล่ ะกลุ่มงาน ซง่ึ ทิศทางสถานภาพของสถานศึกษาของโรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์แม่ฮ่องสอน ตำแหน่งทิศทาง อยู่ในตำแหน่ง cash cows วัวแม่ลูกอ่อน หมายถึง สถานศึกษามีความพร้อม มีความเข้มแข็ง แต่มีอุปสรรคจาก ภายนอกเป็นปัญหา ดังน้ันในการกำหนดกลยุทธ์ของโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์แม่ฮ่องสอน จึงเป็นกลยุทธ์สร้าง ความเจริญเติบโต (กลยุทธ์ST) เพ่ือให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ว่า “คนพิการและเด็กด้อยโอกาส ได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และมีคุณภาพ พร้อมก้าวสู่สากล ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ตอ่ ไป ดังน้ันในการกำหนดกลยุทธ์ จึงเป็นกลยุทธ์เพ่ือสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นภายในองค์การ เพ่ือให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ว่า “โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์แม่ฮ่องสอน เป็นโรงเรียน
๒๙ มาตรฐานสากล ผู้เรียนเป็นผู้นำในการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นและมีทักษะการเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ ๒๑” จึง จำเป็นตอ้ งมกี ารพัฒนาดังต่อไปนี้ ๑. ด้านโครงสร้างและนโยบาย : การดำเนินงานตามโครงสร้างยังไม่เป็นระบบ ขาดการนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมนิ ผลอย่างเป็นรูปธรรมทำให้งานขาดประสทิ ธภิ าพ ไมม่ ีคูม่ ือการปฏิบัติงาน ส่งผลให้ผู้รับผิดชอบ ไม่ เข้าใจขอบขา่ ย บทบาท หน้าท่ใี นงานท่ตี นรับผิดชอบ จงึ ทำใหก้ ารดำเนินงานขาดประสิทธภิ าพ ๒. ด้านผลผลิตและการบริการ : กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้ผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนระดับชาติ ของนักเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด นักเรียนขาดเป้าหมายในชีวิต ทำให้ขาดความต้ังใจ เอาใจใส่การเรียน ส่งผลทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ พื้นฐานทางสังคมของนักเรียนที่แตกต่างกัน ส่งผลให้เกิด ปัญหาการอย่รู ว่ มกนั ในโรงเรยี น ๓. ดา้ นประสิทธิทางการเงนิ : การอนมุ ัตงิ บประมาณของต้นสงั กดั บางครั้งลา่ ช้า กะทันหนั ทำใหก้ าร วางแผนใชง้ บประมาณไมเ่ กดิ ประโยชน์อย่างคุ้มคา่ ระเบียบขอ้ จำกัดการใช้งบประมาณ ทำให้ไมส่ ะดวกต่อการ ดำเนนิ งานตามเป้าหมาย กระบวนการบริหารจัดการงบประมาณภายใน ส่งผลให้การปฏิบัตงิ านไม่มปี ระสิทธิภาพ ๔. ด้านบุคลากร : บุคลากรขาดความกระตือรือรน้ ในการทำงานทำให้การปฏิบัติงานในหน้าท่ีล่าช้า ไม่มี ประสิทธิภาพเท่าที่ควร บคุ ลากรบางคน มีหน้าท่รี ับผดิ ชอบงานหลายด้านทำให้การปฏบิ ัตงิ านทไ่ี ด้รับมอบหมายไม่ เต็มประสิทธิภาพ ทักษะกระบวนการจัดการเรียนรู้ของบุคลากรส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่ เปน็ ไปตามทก่ี ำหนด ๕. ด้านวัสดุ และอุปกรณ์ : ครูและบุคลากรขาดการบำรุงรักษาส่ือ วัสดุ อุปกรณ์ ท่ีจะนำไปใช้ในการ จดั การเรียนการสอน ทำใหว้ สั ดุอุปกรณ์มีอายกุ ารใชง้ านสั้นลง ระยะเวลาในการบริการส่ือเทคโนโลยเี พื่อการศึกษา มจี ำกดั จึงทำใหน้ กั เรียนขาดโอกาสในการแสวงหาความรู้เพ่มิ เตมิ ดว้ ยตนเอง ๖.ด้านการบริหารจัดการ : การประชาสัมพันธ์การดำเนินงานต่างๆภายในไม่ท่ัวถึง ทำให้ขาดความรู้ ความเข้าใจที่ชัดเจน การมอบหมายหน้าท่ีในการปฏิบัติงานให้บุคลากรไม่เท่าเทียมกัน ทำให้ผลงานขาด ประสิทธภิ าพ กระบวนการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพ แผนปฏิบัตกิ ารประจำปี ไม่เป็นระบบ ส่งผลต่อคณุ ภาพการ ปฏบิ ตั งิ านของแตล่ ะกลุ่มงาน ด้านการบรหิ ารจัดการระดับกลมุ่ งาน จะตอ้ งดำเนนิ การพฒั นาให้สามารถขับเคลือ่ นนโยบายของ ผู้บริหารให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการกำหนดมาตรการการปฏิบัติงาน การวิเคราะห์บทบาทภาระงาน การส่งเสริมสนับสนุนให้บุคลากรระดับหัวหน้ากลุ่มงานได้พัฒนาตนเอง ทั้งภาวะผู้นำทางวิชาการ และภาวะผู้นำ ทางสังคมให้มากยิ่งข้ึน ได้กำหนดกลยุทธ์ ที่จะนำมาขับเคลื่อนให้ลดปัญหาของสถานศึกษาที่มีจุดอ่อนภายใน สถานศกึ ษาเอง (WO) จำนวน ๖ กลยทุ ธค์ อื กลยทุ ธ์ที่ ๑ พัฒนาครูและบุคลากร กลยทุ ธท์ ี่ ๒ พัฒนาคุณภาพผู้เรยี น กลยุทธท์ ่ี ๓ พฒั นาระบบการบริหารจัดการ กลยุทธ์ท่ี ๔ พัฒนาอาคารสถานที่ สภาพแวดลอ้ ม และแหลง่ เรยี นรู้ กลยทุ ธ์ที่ ๕ ส่งเสรมิ สนบั สนนุ กระบวนการมีสว่ นรว่ มในการจดั การศึกษา กลยุทธ์ท่ี ๖ พฒั นาการกระบวนจดั การเรียนการสอน เพ่ือขับเคล่ือนกลยุทธ์ สู่เป้าหมายวิสัยทัศน์ที่ได้กำหนดว่า “เป็นโรงเรียนมาตรฐานสากล ผู้เรียนเป็นผู้นำ ในการอนรุ ักษว์ ฒั นธรรมท้องถิน่ และมที กั ษะการเรยี นรู้แหง่ ศตวรรษที่ ๒๑” ตอ่ ไป ๗. การปฏบิ ัตงิ านตามโครงสร้างการบรหิ ารงานของโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะหแ์ มฮ่ ่องสอน
๓๐ กลุ่มบรหิ ารงบประมาณ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖3 ๗.๑ โครงสรา้ งการบริหารงาน นายอดิศร แดงเรือน ผู้อำนวยการโรงเรียนศกึ ษาสงเคราะห์แมฮ่ ่องสอน นายโกสนิ ทร์ สวัสด์ิชัย รองผู้อำนวยการโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะหแ์ ม่ฮ่องสอน นายเอกชยั แสงโรจน์ หวั หน้ากล่มุ บรหิ ารงานงบประมาณ นางวธิ ิตา ชมพวู รี กลุ รองหัวหนา้ กลุม่ บรหิ ารงานงบประมาณ นางวณฐั หอมนาน นางวิธิตา ชมพวู ีรกลุ หัวหนา้ กลมุ่ งานการเงิน/บัญชี หวั หน้างานแผนงานและสารสนเทศ 1.งานบริหารการเงิน 1.งานนโยบานแผนงาน (นางวธิ ิตา) (นางวณัฐ,นายศุภษร,น.ส.พรทิพย)์ 2.งานสารสนเทศ/SET (น.ส.พรี ณฐั ) 2.งานบริหารบญั ชี (นางกชพร) 3.งานประกันคณุ ภาพภายใน 3. งานสำนักงาน (นางจิตราพร) (นางจิราภรณ์) 4. งานบรหิ ารพัสดุ และสินทรัพย์ (นายเอกชัย,น.ส.จริ าภรณ,์ น.ส.พมิ พอ์ ารยา,นาง พุฒิพรรณ) 5.งานตรวจสอบภายใน (นางวณฐั ) แผนภาพที่ ๑ โครงสรา้ งการบรหิ ารงงานกลุ่มบริหารงบประมาณ ๗.๒ บทบาทภาระงานกลุ่มบรหิ ารแผนงานและงบประมาณ ๗.๒.๑ งานสำนกั งาน มีหนา้ ท่ี ๑. ศึกษาระเบยี บงานสารบรรณ
๓๑ ๒. จดั ทำระบบการจดั เก็บเอกสาร ๓. การลงทะเบียนรับ-สง่ เอกสารและหนงั สือราชการของกล่มุ งาน ๔. การเก็บรักษาและทำลายหนังสือราชการ ๕. ประเมินผลการดำเนินงาน ๖. รายงานสรุปผลการดำเนนิ งาน ๗. ปฏิบัตหิ น้าท่ีอื่น ๆ ท่ไี ด้รบั มอบหมาย ๗.๒.๒ งานนโยบายและแผน มีหน้าที่ ๑. ศกึ ษากลยทุ ธ์ ศธ.และนโยบายทเ่ี กี่ยวข้อง ๒. ประชมุ วางแผนการดำเนนิ การ ๓. จัดประชมุ เชิงปฏิบัติการประจำปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ ๔. จัดทำแผนการพฒั นาการศึกษา ๕. จัดทำแผนการปฏิบตั ิการประจำปี ๖. จัดทำทะเบยี นควบคุมงบประมาณตามแผนปฏบิ ตั ิการประจำปี ๗. ตดิ ตามรวบรวมข้อมูล สรปุ ผลและประเมินผลการปฏบิ ตั ิงาน รายงานผลการปฏบิ ตั งิ าน ประจำปี ๘. รายงานสรุปผลการดำเนินงาน ๙. ปฏบิ ัตหิ น้าทอี่ นื่ ๆ ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ๗.๒.๓ งานบริหารการเงนิ มหี น้าที่ ๑. ศึกษาระเบยี บ ข้อบังคบั และกฎหมายทีเกย่ี วข้องกับกบั การปฏบิ ัตงิ านการเงนิ และการคลงั ภาครัฐ ๒. การเบกิ เงนิ ๓. การจา่ ยเงนิ ๔. การยืมเงนิ ๕. การรับเงิน ๖. การเกบ็ รกั ษาเงนิ ๗. การนำเงนิ สว่ นคลงั ๘. การกนั เงิน ๙. จัดเก็บเอกสารเกี่ยวกบั การเบกิ -จ่ายเงิน ๑๐. ประเมนิ และตรวจสอบการดำเนนิ การใชจ้ า่ ยเงนิ ๑๑. รายงานสรุปผลการดำเนนิ งาน ๑๒. ปฏบิ ตั ิหนา้ ทีอ่ ่ืน ๆ ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย ๗.๒.๔ งานบริหารบัญชี มีหนา้ ที่ ๑. ศกึ ษาหลักเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานด้านบญั ชขี องสว่ นราชการ ป๒ี ๕๖๒ และ ระเบียบทเี กีย่ วข้อง ๒. จดั ทำสมุดเงนิ สด/ใบสำคัญการลงบัญชีดา้ นรบั ๓. จัดทำสมุดเงินฝากธนาคาร/ใบสำคัญการลงบัญชีด้านรบั ๔. จัดทำสมุดบัญชีเงินสด/ใบสำคัญการลงบญั ชีดา้ นจา่ ย
๓๒ ๕. จัดทำสมุดรายวันเงนิ รับ ๖. จดั ทำสมดุ รายวนั เงินจา่ ย ๗. การทำสมดุ รายวันทั่วไป ๘. จดั ทำใบสำคัญการลงบัญชีดา้ นทัว่ ไป ๙. จัดทำสมดุ บญั ชีแยกประเภททั่วไป ๑๐. จัดทำการรับและการรบั และการนำเงินสง่ ๑๑. จดั ทำบันทึกทะเบียนคมุ (ฎกี า)การเบิกจ่ายเงนิ ๑๒. จดั ทำรายงานการเงิน ๑๓. จัดทำงบเทยี บยอดเงนิ ฝากธนาคาร ๑๔. ตรวจสอบการดำเนินงานโดยวธิ กี ารนิเทศ ๑๕. รายงานสรุปผลการดำเนนิ งาน ๑๖. ปฏบิ ตั หิ น้าที่อน่ื ๆ ทไี่ ด้รับมอบหมาย ๗.๒.๕ งานบริหารพสั ดุ และสินทรัพย์ มหี นา้ ท่ี ๑. ศึกษาระเบียบกระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยการจัดซือ้ จัดจ้างและการบริหารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ระเบียบขอ้ บงั คบั และกฎหมายทเ่ี กยี่ วข้อง ๒. การจดั ซอื้ /จัดจ้าง ๓. การควบคมุ พสั ดุ(การเกบ็ รักษาพสั ดุ/การเบิก-จ่ายพัสดุ) ๔. การควบคุมพสั ดุ(การยืมพัสด)ุ ๕. การขอขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ ๖. การตรวจสอบพสั ดุประจำปี ๗. การขอใชท้ ร่ี าชพัสดุ(การขอใชท้ ่รี าชพัสดุของสถานศึกษาทขี่ อใช้ทร่ี าชพัสดใุ นความดูแล ครอบครองของกระทรวง ทบวง กรม และองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ ๘. การขอรอ้ื ถอนอาคารและสง่ิ ปลูกสร้างท่ีราชพัสดุ ๙. การนิเทศการปฏิบัติงาน ๘. รายงานสรุปผลการดำเนนิ งาน ๙. ปฏิบตั หิ น้าทอ่ี ่นื ๆ ท่ีได้รบั มอบหมาย ๗.๒.๖ งานตรวจสอบภายใน มหี นา้ ท่ี ๑. ศึกษาวเิ คราะหส์ ภาพการดำเนินงานและแนวทางการตรวจสอบดา้ นการเงนิ บญั ชีและพสั ดุ ตามระเบยี บ กฎหมาย ๒. วางแผนการตรวจสอบ ระบบการเงิน ระบบบัญชี ระบบงบประมาณและการดูแลทรัพย์สิน ๓. สง่ เสรมิ และสนับสนนุ ให้ความรูแ้ ละแนวทางการปฏิบัติงานแก่ผปู้ ฏบิ ตั ิงานเก่ียวกับการ ตรวจสอบภายใน ๔. แตง่ ตั้งคณะกรรมการดำเนินการตรวจสอบภายใน ๕. จัดทำเครอื่ งมือและมาตรฐานการตรวจสอบภายใน ๖. ดำเนนิ การตรวจสอบภายใน การเงิน บัญชี และพสั ดุ จำนวน ๔ ครั้ง /ปงี บประมาณ ๗. ประชมุ สรปุ ผลการตรวจสอบ ๘. รายงานสรปุ ผลการดำเนนิ งาน ๙. ปฏบิ ัติหนา้ ทอ่ี นื่ ๆ ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย
๓๓ ๗.๒.๗ งานสารสนเทศ/SET มหี นา้ ท่ี ๑. ศกึ ษากลยุทธ์ ศธ.และนโยบายทเ่ี กย่ี วข้อง ๒. ประชมุ วางแผนการดำเนินงาน ๓. จัดทำค่มู ือการใชร้ ะบบโปรแกรม SET ๔. จัดระบบฐานขอ้ มลู ของสถานศกึ ษาให้เป็นปจั จุบันเพื่อใช้ในการบริหาร จัดการภายใน สถานศึกษา ๕. จดั ทำสารเทศโรงเรยี น ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ ๖. นเิ ทศการปฏบิ ัติงาน ๗. รายงานสรุปผลการดำเนินงาน ๘. ปฏบิ ัตหิ น้าท่อี ืน่ ๆ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ๗.๒.๘ งานประกันคุณภาพภายใน มีหนา้ ท่ี ๑. ศกึ ษาประกาศการใช้มาตรฐานการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน และนโยบายอน่ื ที่เกย่ี วข้อง ๒. จัดประชมุ ชีแ้ จงเกี่ยวกบั การประกันคณุ ภาพการศึกษา ๓. จดั ทำมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ๔. จดั ทำคู่มือการประเมินคุณภาพภายใน ๕. ตดิ ตามตรวจสอบระบบประกันคุณภาพภายใน ๖. ประเมนิ คุณภาพภายในจากผ้ทู รงคุณวฒุ ิ ๗. ดำเนินการจัดทำรายงานประจำป(ี SAR) ๘. ปฏบิ ตั หิ นา้ ทอี่ ่ืน ๆ ทไี่ ด้รับมอบหมาย ๗.๒.๙ งานอืน่ ๆ ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย มหี น้าท่ี ปฏิบัติงานตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของหน่วยงานและหน่วยงานต้นสังกัดท่ีเก่ียวข้องกับงาน งบประมาณ ตามท่ีได้รับมอบหมาย
๓๔ สว่ นท่ี ๓ วธิ ีดำเนินการ การรายงานผลการปฏบิ ัตงิ านประจำปีการศึกษา ๒๕๖3 กลุม่ บริหารงบประมาณ โรงเรียนศกึ ษา- สงเคราะหแ์ ม่ฮ่องสอน ได้ดำเนนิ การตามข้ันตอนต่อไปน้ี ประชากรและกลุ่มตวั อย่าง กลุ่มเป้าหมาย การรายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการกลุ่มบริหารงบประมาณ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖3 ใช้กลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงาน แต่ละงาน แต่ละโครงการ ตามความเหมาะสมได้ กลุ่มเปา้ หมาย รวม ๗๙ คน ดงั น้ี จำนวนกลุ่มเปา้ หมาย งาน/โครงการ ครู บุคลากร นักเรยี น ผ้ปู กครอง กรรมการ หน่วยงาน รวม สถานศกึ ษา องค์กรชมุ ชน ๑. งานสำนักงาน ๒. งานนโยบายและแผน หรอื อ่ืนๆ ๓. งานบรหิ ารการเงนิ ๔. งานบริหารบัญชี ๑๐ ๑ - - - - ๑๑ ๕. งานบริหารพัสดุและสนิ ทรัพย์ ๖. งานตรวจสอบภายใน ๓ --- - -๓ ๗. งานสารสนเทศ/SET ๘. งานประกนั คุณภาพภายใน ๔ ๑- - - -๕ ๙. งานอน่ื ๆ ตามที่ไดร้ บั มอบหมาย ๑๐. โครงการปรับปรงุ พัฒนางานพสั ดุ ๑ --- - -๑ ครุภณั ฑ์ 4 --- - -4 รวม คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๑ --- - -๑ ๓ --- - -๓ ๓ --- - -๓ ๑๐ ๑ - - - - ๑๑ 8 --- - -8 47 3 - - - - 50 ๙4.00 ๖.00 - - - - ๑๐๐ ขน้ั ตอนการดำเนินงาน ขน้ั ตอนท่ี ๑ แตง่ ต้งั คณะทำงาน สรปุ รายงานผลการดำเนินงานกลุ่มบริหารงบประมาณ ขั้นตอนท่ี ๒ จดั ทำแบบรวบรวมข้อมูลการดำเนนิ งาน ประกอบด้วย ๒.๑ แบบรายงานผลการดำเนนิ งาน/โครงการ จำนวน 8 งาน ๑ โครงการ ๒.๒ แบบประเมินความเหมาะสม/ความพงึ พอใจตอ่ การปฏบิ ตั งิ าน/โครงการ จำนวน 8 งาน ๑ โครงการ ข้ันตอนท่ี ๓ นำแบบประเมินไปใชใ้ นการดำเนินงานตามระยะเวลาทีก่ ำหนด ขน้ั ตอนท่ี ๔ จดั ทำรายงาน เสนอตอ่ ผู้อำนวยการ ขั้นตอนท่ี ๕ ประชุมวางแผนพัฒนางานต่อไป
๓๕ เคร่อื งมือท่ีใช้ในการรวบรวมผลการดำเนนิ งาน ๑. แบบรายงานผลการดำเนนิ งาน/โครงการ สำหรับให้ผู้ปฏบิ ตั งิ าน/โครงการ สรุปรายงานผลการดำเนินงาน ทก่ี ำหนดไวใ้ นแผนปฏิบัติการ ประจำปี ๒๕๖๓ ของกลมุ่ บรหิ ารงบประมาณ ประกอบดว้ ย สถานะงาน/โครงการ ช่ืองาน/โครงการ สอดคล้องกับกลยุทธ์ สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษา ผู้รับผิดชอบโครงการ วตั ถุประสงค์ เป้าหมาย ระยะเวลาดำเนินโครงการจรงิ ผลการดำเนินงาน ตามระยะเวลา ของกิจกรรม ผลการดำเนินงานตามเป้าหมายกิจกรรม ความสำเร็จตามตัวชี้วัดความสำเร็จของงาน/โครงการ ผลการเบิกจา่ ยงบประมาณ ผลการประเมินความเหมาะสม/ความพงึ พอใจการปฏิบตั ิงาน ปัญหา/อุปสรรคและ ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขการดำเนินงาน ความคิดเห็นของผู้บริหารตามลำดับช้ัน เป็นแบบเลือกตอบและ แบบปลายเปิด และภาพประกอบการดำเนินงานตามโครงการ/กิจกรรม (ไม่เกิน ๘ รูป พร้อมแนบไฟล์ JPEG Image ด้วย) ๒. แบบประเมนิ ความเหมาะสม/ความพงึ พอใจตอ่ การปฏิบัติงาน/โครงการ ใช้สำหรับสอบถามและประเมินความ เหมาะสม/ความพึงพอใจผู้เกี่ยวข้องแต่ละงาน แต่ละโครงการตามสภาพบริบทของการปฏิบัติงาน เมื่อสิ้นสุดการดำเนินงาน/โครงการ แบ่งเป็น ๓ ตอน ประกอบด้วย ตอนที่ ๑ สถานภาพของผู้ตอบแบบประเมิน และความเกี่ยวข้องกับงาน/โครงการ เป็นแบบ เลอื กตอบ ตอนที่ ๒ การประเมินความเหมาะสม/ความพึงพอใจต่อการปฏิบตั ิงาน/โครงการ เชิงระบบ ของ แต่ละกลุ่มงาน ประกอบด้วย จำนวนบุคลากรที่ปฏิบัติงาน/ผู้ปฏิบัติงานมีความรู้ ทักษะ ประสบการณ์การ ปฏิบัติงาน/การมีความเสียสละ รับผิดชอบ/การให้บริการของผู้ปฏิบัติงาน/งบประมาณที่ได้รับการสนับสนุน/ การใช้จ่ายเงินงบประมาณ/ความเหมาะสมของสถานที่/ความพร้อมของเอกสาร วัสดุ อุปกรณ์และความ เหมาะสมของระยะเวลาในการปฏิบัติงาน/ความเหมาะสมของข้ันตอนการดำเนินงาน/การมีส่วนร่วมระหว่าง ผรู้ ับผิดชอบและผู้เข้าร่วม/ประโยชน์ที่ได้จากงาน/ความพึงพอใจตอ่ การดำเนนิ งาน/วัตถุประสงค์ของงาน/งาน ท่ีจัดเกิดจากสภาพปัญหาและความต้องการอย่างแท้จรงิ ของสถานศึกษา เพ่อื นำมาปรับปรงุ พฒั นางาน ของแต่ ละกลมุ่ งาน เปน็ แบบประมาณค่า ๕ ระดบั ตอนท่ี ๓ ข้อเสนอแนะต่อการพัฒนางาน/โครงการ เปน็ แบบปลายเปิด การสรา้ งเครอ่ื งมือเพ่อื ใชใ้ นการรายงาน ๑. นำเครอื่ งมือทค่ี ณะกรรมการรว่ มกนั จัดทำ และผ่านความเหน็ ชอบของผู้อำนวยการและ คณะกรรมการสถานศึกษา แลว้ มาใชใ้ นการรวบรวมข้อมลู การดำเนนิ งาน ๒. ประชุมบุคลากรในกลุ่มบริหารงบประมาณ เพื่อชแี้ จงการนำเครอ่ื งมอื ทั้ง ๒ ฉบบั ไปใช้ ๓. มอบหมายผปู้ ฏบิ ตั ิงานดำเนนิ การระหวา่ งการปฏิบตั งิ าน (พ.ค ๒๕๖3 – ม.ี ค. ๒๕๖๔) ๔. รวบรวมข้อมูลการดำเนนิ งาน ในภาพรวมของกลุ่มบรหิ ารงบประมาณ (มี.ค. ๒๕๖๔) ๕. สรปุ รายงานผลต่อผู้บริหาร (เมษายน ๒๕๖๔) ๖. ประชมุ วเิ คราะห์ปญั หาและหาแนวทางแก้ไขการดำเนินงาน (เมษายน ๒๕๖๔)
๓๖ วธิ กี ารเกบ็ รวบรวมข้อมูล ๑. ใหผ้ ู้รับผดิ ชอบงาน/โครงการ จดั ทำสรุปรายงาน และประเมินความเหมาะสม/ความพงึ พอใจ ตอ่ งาน/โครงการเม่ือส้ินสุดการดำเนินงาน และรวบรวมส่งให้ผู้รบั ผิดชอบงานแผนปฏิบตั ิกลมุ่ บริหารงาน งบประมาณ ภายในเดือนมีนาคม ๒๕๖๔ ๒. ให้ผู้รับผดิ ชอบงานกล่มุ บรหิ ารงบประมาณ สรปุ รวบรวมผลการดำเนนิ งาน/โครงการ ในภาพรวมของแต่ละกลุม่ งาน และจัดทำรายงาน ภายในเดือนเมษายน ๒๕๖๔ การวิเคราะห์ขอ้ มลู วิเคราะหข์ ้อมูล โดย โปรแกรมสำเรจ็ รูป Microsoft Excel มีรายละเอยี ด ดังน้ี ๑. แบบประเมินความเหมาะสม/ความพงึ พอใจ ตอนท่ี ๑ คำนวณหาค่าร้อยละ ๒. แบบประเมนิ ความเหมาะสม/ความพึงพอใจ ตอนท่ี ๒ หาค่าเฉลย่ี และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน โดยแบบประเมินความเหมาะสม/ความพึงพอใจต่อการดำเนินงาน กำหนดไว้ ๕ ระดับ ซึ่งได้กำหนดเกณฑ์ ดงั น้ี คะแนนเฉล่ยี ๔.๕๑ -๕.๐๐ หมายถึง มคี วามเหมาะสม/ความพึงพอใจ มากทสี่ ุด คะแนนเฉลี่ย ๓.๕๑ -๔.๕๐ หมายถึง มคี วามเหมาะสม/ความพึงพอใจ มาก คะแนนเฉล่ยี ๒.๕๑ -๓.๕๐ หมายถงึ มีความเหมาะสม/ความพงึ พอใจ ปานกลาง คะแนนเฉล่ีย ๑.๕๑ -๒.๕๐ หมายถงึ มีความเหมาะสม/ความพงึ พอใจ น้อย คะแนนเฉลย่ี ๑.๐๐ -๑.๕๐ หมายถงึ มคี วามเหมาะสม/ความพึงพอใจ น้อยที่สุด สถติ ทิ ใี่ ชใ้ นการรายงาน รอ้ ยละ ความถ่ี ค่าเฉล่ยี (X) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
๓๗ สว่ นท่ี ๔ ผลการดำเนนิ งาน ………………………………………………………………. สรปุ ผลการดำเนินงานตามแผนปฏบิ ัติการกล่มุ บริหารงบประมาณ ของโรงเรียนศกึ ษา สงเคราะหแ์ ม่ฮ่องสอน ไดส้ รุปเนือ้ หาแบง่ เป็น ๒ ส่วน ดงั ต่อไปน้ี ๑. ผลการดำเนนิ งาน/โครงการ กลมุ่ บรหิ ารงบประมาณ ๒. ความพึงพอใจตอ่ การปฏิบตั งิ าน/โครงการ ตามแผนปฏิบตั กิ ารกล่มุ บรหิ ารงบประมาณ ปีการศกึ ษา ๒๕๖3 สรุปผลการดำเนินงานกลุม่ บรหิ ารงบประมาณ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖3
๓๘ ตอนที่ ๑ ผลการดำเนินงาน/โครงการตามแผนปฏบิ ัตกิ าร กลุม่ บริหารงบประมาณ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖3 ตารางที่ ๑ ผลการดำเนนิ งาน กลมุ่ บริหารงบประมาณ สถานะงาน/โครงการ สอดคล้องกับ สอดคล้องกบั ระยะเวลา เปา้ หมายที่ ผลสำเร็จตามตวั ช้วี ัด การใช้จ่าย วตั ถปุ ระสงค์ เป้าหมาย กำหนดไว้ งบประมาณ ท่ี งาน ยังไม่ได้ อยู่ ดำเนนิ ไมส่ อด เชิง เชิง ตาม ไมเ่ ปน็ ไป สูง ต่ำ ตาม สงู ต่ำ ดำเนนิ ระหว่าง การ คลอ้ ง ปรมิ าณ คุณภาพ ระยะ ตาม บรรลุ ไมบ่ รรลุ ตามเปา้ กวา่ กวา่ เป้า กวา่ กว่า การ สอดคล้อง เวลา เป้า เปา้ เปา้ ดำเนิน เสรจ็ ระยะเวลา เป้า การ แล้ว ๑ งานสำนกั งาน - - - - - - -- - ๒ งานนโยบายและแผน - - - - - - -- - ๓ งานบริหารการเงนิ - - - - - - -- - ๔ งานบริหารบัญชี - - - - - - -- - ๕ งานบริหารพสั ดุและสินทรพั ย์ - - - - - - -- - ๖ งานตรวจสอบภายใน - - - - - - -- - ๗ งานสารสนเทศ/SET - - - - - - -- - ๘ งานประกันคุณภาพภายใน - - - - - - -- - รวม - - ๘ ๘ - ๘ ๘ ๘ - ๘ - ๘ - - ๘ - - คดิ เป็นรอ้ ยละ - - ๑๐๐ ๑๐๐ - ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ - ๑๐๐ - ๑๐๐ - - ๑๐๐ - - จากตารางท่ี ๑ สรปุ การดำเนินงานของกล่มุ บรหิ ารงบประมาณ ๑. มงี าน ตามโครงสร้างการบริหารงาน จำนวน ๘ งาน ดำเนินงานเสรจ็ แล้ว ๘ งาน ๒. สามารถดำเนนิ งานได้ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ๘ งาน ๓. สามารถดำเนนิ การไดต้ ามเปา้ หมายเชงิ ปรมิ าณ ๘ งาน เชงิ คุณภาพ ๘ งาน ๔. สามารถดำเนินงานตามระยะเวลา ๘ งาน ไม่เป็นไปตามระยะเวลา..-.งาน ๕. ผลสำเรจ็ ตามตวั ชวี้ ัดตามตวั ชีว้ ัดทีก่ ำหนด ๘ งาน ๖. การใชจ้ ่ายงบประมาณ ตามแผนที่กำหนด ๘ งาน สงู กว่าตัวชวี้ ัดท่ีกำหนด….-……งาน สงู กวา่ แผนทกี่ ำหนด - งาน ตำ่ กวา่ ตัวชว้ี ัดท่ีกำหนด - งาน ต่ำกว่าแผนท่กี ำหนด - งาน
๓๙ ตารางท่ี ๒ ผลการดำเนินโครงการ กลมุ่ บริหารงานแผนงานและงบประมาณ สถานะงาน/โครงการ สอดคล้องกบั สอดคล้องกบั ระยะเวลา เปา้ หมายที่ ผลสำเรจ็ ตามตัวชวี้ ัด การใชจ้ ่าย วัตถุประสงค์ เป้าหมาย กำหนดไว้ งบประมาณ ท่ี โครงการ ยงั ไม่ได้ อยู่ ดำเนิน ไม่สอด เชงิ เชิง ตาม ไมเ่ ป็นไป สงู ตำ่ สูง ต่ำ ระหวา่ ง การ คลอ้ ง ปริมาณ คณุ ภาพ ดำเนิน ดำเนิน เสรจ็ สอดคล้อง ระยะ ตาม บรรลุ ไม่บรรลุ ตามเป้า กวา่ กว่า ตามเป้า กวา่ กวา่ การ แล้ว เวลา ระยะเวลา เปา้ เปา้ เป้า เปา้ การ ๑ โครงการปรับปรงุ พัฒนางานพสั ดุ - - - - - - - - - ครุภัณฑ์ รวม - - ๑ ๑ - ๑ ๑ ๑ - ๑ - ๑ - - ๑ - - คดิ เป็นรอ้ ยละ - - ๑๐๐ ๑๐๐ - ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ - ๑๐๐ - ๑๐๐ - - ๑๐๐ - - จากตารางที่ ๒ สรุปการดำเนินโครงการของกลุ่มบริหารงบประมาณ ๑. มีโครงการ ตามโครงสร้างการบริหารงาน จำนวน ๑ โครงการ ดำเนินงานเสร็จแลว้ ๑ โครงการ ๒. สามารถดำเนินงานได้ สอดคลอ้ งกบั วัตถปุ ระสงค์ ๑ โครงการ ๓. สามารถดำเนนิ การได้ตามเป้าหมายเชงิ ปรมิ าณ ๑ โครงการ เชิงคุณภาพ ๑ โครงการ ๔. สามารถดำเนินงานตามระยะเวลา ๑ โครงการ ไม่เป็นไปตามระยะเวลา……-….. โครงการ ๕. ผลสำเร็จตามตัวช้ีวดั ตามตวั ชว้ี ัดท่ีกำหนด ๑ โครงการ สูงกว่าตัวช้ีวดั ท่กี ำหนด…..-….. โครงการ ตำ่ กว่าตวั ชี้วดั ทีก่ ำหนด.…-…… โครงการ ๖. การใชจ้ ่ายงบประมาณ ตามแผนท่ีกำหนด....-.... โครงการ สงู กวา่ แผนที่กำหนด ๑ โครงการ ตำ่ กว่าแผนทก่ี ำหนด…-… โครงการ
๔๐ ตารางท่ี ๓ สรุปภาพรวมผลการดำเนินงานกลมุ่ บรหิ ารงบประมาณ ท่ีสอดคล้องกับกลยุทธ์ และมาตรฐานการศึกษา ท่ี ชอ่ื งาน/โครงการ กลยทุ ธข์ องโรงเรียนศกึ ษาสงเคราะหแ์ ม่ฮอ่ งสอน มาตรฐานการศกึ ษา ๑๒ ๓ ๔ มฐ.๑ มฐ.๒ มฐ.๓ ๑ งานสำนักงาน ๒ งานนโยบายและแผน ๓ งานบรหิ ารการเงนิ ๔ งานบรหิ ารบัญชี ๕ งานบรหิ ารพสั ดุและสนิ ทรัพย์ ๖ งานตรวจสอบภายใน ๗ งานสารสนเทศ/SET ๘ งานประกันคุณภาพภายใน สรปุ ๘ ๘ จากตารางที่ ๓ กลุ่มบริหารงบประมาณ มีภาระงานท้ังหมด ๘ งาน ซึ่ง สอดคล้องกับกลยุทธ์ของโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์แม่ฮ่องสอน กลยุทธ์ที่ ๓ พัฒนาระบบ การบริหารจัดการ จำนวน ๘ งาน สอดคลอ้ งกับมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์แม่ฮ่องสอน มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ จำนวน ๘ งาน ตารางที่ ๔ สรุปภาพรวมผลการดำเนนิ โครงการกลมุ่ บริหารงบประมาณทสี่ อดคล้องกับกลยุทธ์ และมาตรฐานการศึกษา
ที่ ช่ืองาน/โครงการ กลยุทธ์ของโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะหแ์ มฮ่ อ่ งสอน ๔๑ ๑ โครงการปรบั ปรงุ พฒั นางานพสั ดุ ครภุ ัณฑ์ ๑๒๓ ๔ มาตรฐานการศกึ ษา สรุป มฐ.๑ มฐ.๒ มฐ.๓ -- - - - -๑- - - ๑- จากตารางท่ี ๔ กลุ่มบรหิ ารงบประมาณ ไดจ้ ัดทำโครงการเพื่อพัฒนางาน จำนวน ๑ โครงการ ซง่ึ สอดคล้องกบั กลยทุ ธข์ องโรงเรยี นศึกษาสงเคราะหแ์ ม่ฮอ่ งสอน กลยุทธท์ ี่ ๓ พฒั นาระบบการบริหารจัดการ จำนวน ๑ โครงการ สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาของโรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์แม่ฮ่องสอน มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการ บรหิ ารและการจดั การ จำนวน ๑ โครงการ
๔๒ ตอนท่ี ๒ ผลการประเมนิ ความเหมาะสม/พึงพอใจต่อการปฏิบตั ิงาน/โครงการ ตามแผนปฏิบตั กิ าร กลมุ่ บริหารงบประมาณปีการศึกษา ๒๕๖3 ๒.๑ ผลการประเมนิ ความพึงพอใจต่อการปฏิบตั ิงานสำนักงาน กลมุ่ บริหารงบประมาณ ตารางที่ ๕ จำนวนรอ้ ยละผตู้ อบแบบประเมินความพงึ พอใจต่องานสำนกั งาน กลุ่มบริหารงบประมาณ หวั ข้อ ข้อมูลส่วนบุคคล จำนวน รอ้ ยละ สถานภาพผตู้ อบแบบสอบถาม ครู ๑๐ ๙๐.๙๐ ระยะเวลาการรว่ มงาน บคุ ลากร ๑ ๙.๑๐ ของสถานศกึ ษา นักเรียน - ความเกีย่ วข้องต่องาน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน - - หนว่ ยงาน - - หนว่ ยงานอนื่ ................... - - - นอ้ ยกวา่ ๑ ปี 2 ๑-๒ ปี 3 18.๑8 มากกวา่ ๒ ปี 6 27.27 54.54 เป็นคณะทำงาน ๑ เป็นผรู้ บั ประโยชนจ์ ากงาน ๑๐ ๙.๑๐ เป็นผ้สู นบั สนนุ งาน - ๙๐.๙๐ - จากตารางที่ ๕ พบว่า ผู้เก่ียวขอ้ งมคี วามเหน็ ต่องานสำนักงาน มคี วามเหมาะสมและพึงพอใจต่อการ ปฏบิ ัติงาน ส่วนใหญ่เป็นครู จำนวน ๑๐ คน และบคุ ลากร จำนวน ๑ คน จำแนกตามระยะเวลาร่วมงานของสถานศึกษา พบว่า มากกว่า ๒ ปี จำนวน 6 คน , ๑-๒ ปี จำนวน 3 คน และน้อยกวา่ 1 ปี จำนวน 2 คน จำแนกตามความเกย่ี วข้องกับงาน พบว่า เป็นผู้รับประโยชน์จากงาน มากท่ีสุด จำนวน ๑๐ คน , เป็น คณะทำงาน จำนวน ๑ คน
๔๓ ตารางที่ ๖ แสดงความพงึ พอใจตอ่ การปฏิบัติงานสำนกั งาน กลุ่มบริหารงบประมาณ ข้อ ประเด็นวดั และความเหมาะสม/พึงพอใจ X SD. ความหมาย ๑.การวางแผนการปฏิบตั ิงาน ๑.๑ การกำหนดวัตถุประสงค์และขอบเขตการดำเนินงาน ๔.๕๐ ๐.๗๑ มากทีส่ ดุ ๑.๒ การกำหนดผรู้ บั ผดิ ชอบงาน/โครงการ ๔.๖๐ ๐.๕๒ มากที่สุด ๑.๓ การกำหนดตวั ช้ีวดั และต้ังเป้าหมายการทำงาน ๔.๒๐ ๑.๐๓ มาก ๑.๔ การกำหนดลำดบั ข้นั ตอนการทำงาน ๔.๔๐ ๐.๘๔ มาก ๑.๕ การกำหนดปฏทิ นิ การทำงาน ๔.๓๐ ๐.๙๕ มาก ๔.๔๐ ๐.๘๑ รวมประเดน็ วดั ความพงึ พอใจ ๒.การดำเนนิ งานตามแผนงานทไี่ ด้กำหนดไว้ ๔.๕๐ ๐.๘๕ มาก ๒.๑ การดำเนินงานเป็นไปตามวัตถปุ ระสงค์และขอบเขตการดำเนนิ งาน ๔.๑๐ ๐.๘๘ มาก ๒.๒ การดำเนนิ งานเป็นไปเปา้ หมายทก่ี ำหนด ๔.๑๐ ๐.๘๘ มาก ๒.๓ การดำเนนิ งานเป็นไปตามลำดบั ข้ันตอนท่ีกำหนดไว้ ๔.๓๐ ๐.๖๗ มาก ๒.๔ การดำเนนิ งานเปน็ ไปตามระยะเวลาทกี่ ำหนด ๔.๗๐ ๐.๖๗ มาก ๒.๕ การดำเนนิ งานสอดคล้องกับกลยทุ ธ์และมาตรฐานของโรงเรียนฯ ๔.๓๔ ๐.๗๙ รวมประเด็นวัดความพงึ พอใจ ๔.๒๐ ๐.๗๙ มาก ๓.การนเิ ทศกำกบั ติดตาม ตรวจสอบการดำเนนิ งาน ๔.๓๐ ๐.๘๒ มาก ๓.๑ การตรวจสอบวิธกี ารและระยะเวลาทใ่ี ช้ในการปฏบิ ัติงาน ๓.๘๐ ๐.๙๒ มาก ๓.๒ การรายงานผลการปฏบิ ตั งิ านทเี่ ป็นระบบ ๔.๑๐ ๐.๙๙ มาก ๓.๓ การนิเทศติดตามงาน/โครงการในกล่มุ งานอย่างต่อเน่ือง ๔.๓๐ ๐.๘๒ มาก ๓.๔ การนำผลการนิเทศติดตามมาพัฒนางานอยา่ งต่อเนือ่ ง ๔.๑๔ ๐.๘๗ ๓.๕ การรายงานผลการนิเทศติดตามงานใหผ้ ู้บรหิ ารทราบ ๔.๐๐ ๐.๙๔ มาก รวมประเด็นวดั ความพงึ พอใจ ๔.๕๐ ๐.๘๕ มาก ๔.การทบทวนผลการดำเนินงานเพอ่ื นำมาปรบั ปรุงพัฒนางาน ๓.๘๐ ๑.๐๓ มาก ๔.๑ การประชมุ เพ่ือทบทวนผลการดำเนินงานของกลมุ่ งาน ๔.๓๐ ๐.๖๗ มาก ๔.๒ การวเิ คราะหผ์ ลสำเรจ็ ของงาน ๔.๔๐ ๐.๗๐ มาก ๔.๓ ข้อมลู สารสนเทศของกลมุ่ งานเปน็ ปัจจุบนั ๔.๒๐ ๐.๘๔ ๔.๔ การนำผลการนเิ ทศมาปรับใช้ในการปฏบิ ตั ิงาน ๔.๒๗ ๐.๘๓ มาก ๔.๕ การสรุปและรายงานผลที่เป็นระบบ ครอบคลุม ชัดเจน รวมประเด็นวัดความพึงพอใจ รวม/เฉล่ีย จากตารางที่ ๖ พบว่า ผู้เก่ียวข้องมีความเห็นต่องานสำนักงานมีความเหมาะสมและพึงพอใจต่อการ ปฏิบัติงาน ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ด้านการวางแผนการปฏิบัติงาน (���̅���=๔.๔๐), ด้านการ ดำเนินงานตามแผนงานท่ีได้กำหนดไว้ (���̅���=๔.๓๔) , ด้านการทบทวนผลการดำเนินงานเพื่อนำมาปรับปรุง พัฒนางาน (���̅���=๔.๒๐) , และด้านการนิเทศกำกบั ติดตาม ตรวจสอบการดำเนินงาน (���̅���=๔.๑๔)
ตารางท่ี ๗ ขอ้ เสนอแนะต่อการพัฒนางานสำนักงาน กลุ่มบริหารงบประมาณ ๔๔ ท่ี รายการ จำนวน รอ้ ยละ ๖๖.๖๖ ๑ บคุ ลากรขาดความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การดำเนนิ งานตาม ๒ ๓๓.๓๔ แผนปฏบิ ตั งิ าน ๒. บคุ ลากรไม่ไดด้ ำเนินงานตามแผนทีว่ างไว้ ๑ จากตารางที่ ๗ พบว่าผู้เกย่ี วข้องมีขอ้ เสนอแนะตอ่ การพัฒนางานสำนกั งาน กลมุ่ บรหิ ารงบประมาณ ส่วนใหญ่ บคุ ลากรขาดความรู้ความเข้าใจเกยี่ วกับการดำเนินงานตามแผน ร้อยละ ๖๖.๖๖ และ บคุ ลากรไมไ่ ด้ ดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ ร้อยละ ๓๓.๓๔ ๒.๒ ผลการประเมินความพึงพอใจต่อการปฏิบัติงานนโยบายและแผน ตารางที่ ๘ จำนวนรอ้ ยละผูต้ อบแบบประเมินความพึงพอใจตอ่ งานแผนงานและจัดตั้งงบประมาณ หัวข้อ ข้อมูลสว่ นบุคคล จำนวน ร้อยละ สถานภาพผ้ตู อบแบบสอบถาม ครู ๓ ๑๐๐.00 บุคลากร -- นักเรยี น -- คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน - - หนว่ ยงาน -- หนว่ ยงานอื่น................... -- ระยะเวลาการร่วมงาน นอ้ ยกว่า ๑ ปี -- ของสถานศกึ ษา ๑-๒ ปี -- มากกวา่ ๒ ปี ๓ ๑๐๐.00 ความเก่ียวข้องต่องาน เป็นคณะทำงาน ๓ ๑๐๐.00 เป็นผูร้ บั ประโยชนจ์ ากงาน -- เป็นผู้สนับสนุนงาน -- จากตารางท่ี ๘ พบวา่ ผเู้ กย่ี วขอ้ งมคี วามเห็นต่องานนโยบายและแผน มีความเหมาะสมและพงึ พอใจ ตอ่ การปฏิบัติงาน เป็นครู จำนวน ๓ คน จำแนกตามระยะเวลาร่วมงานของสถานศึกษา พบว่ามากกว่า ๒ ปี จำนวน ๓ คน จำแนกตามความ เกี่ยวขอ้ งกบั งาน พบวา่ เป็นคณะทำงาน จำนวน ๓ คน ตารางที่ ๙ แสดงความพึงพอใจตอ่ การปฏิบัติงานนโยบายและแผน
๔๕ ข้อ ประเด็นวัดความเหมาะสม/พงึ พอใจ X SD. ความหมาย ๑.การวางแผนการปฏบิ ัตงิ าน ๑.๑ การกำหนดวตั ถุประสงค์และขอบเขตการดำเนนิ งาน ๔.๕๐ ๐.๗๑ มาก ๑.๒ การกำหนดผู้รับผิดชอบงาน/โครงการ ๔.๖๐ ๐.๕๒ มาก ๑.๓ การกำหนดตวั ช้ีวดั และต้ังเป้าหมายการทำงาน ๔.๒๐ ๑.๐๓ มาก ๑.๔ การกำหนดลำดบั ข้ันตอนการทำงาน ๔.๔๐ ๐.๘๔ มาก ๑.๕ การกำหนดปฏิทินการทำงาน ๔.๓๐ ๐.๙๕ มาก รวมประเด็นวัดความพึงพอใจ ๔.๔๐ ๐.๘๑ ๒.การดำเนินงานตามแผนงานท่ไี ด้กำหนดไว้ ๒.๑ การดำเนินงานเป็นไปตามวตั ถุประสงค์และขอบเขตการดำเนนิ งาน ๔.๕๐ ๐.๘๕ มาก ๒.๒ การดำเนินงานเปน็ ไปเป้าหมายทีก่ ำหนด ๔.๑๐ ๐.๘๘ มาก ๒.๓ การดำเนินงานเปน็ ไปตามลำดับขั้นตอนที่กำหนดไว้ ๔.๑๐ ๐.๘๘ มาก ๒.๔ การดำเนนิ งานเป็นไปตามระยะเวลาท่กี ำหนด ๔.๓๐ ๐.๖๗ มาก ๒.๕ การดำเนนิ งานสอดคล้องกบั กลยทุ ธ์และมาตรฐานของโรงเรียนฯ ๔.๗๐ ๐.๖๗ มาก รวมประเดน็ วัดความพงึ พอใจ ๔.๓๔ ๐.๗๙ ๓.การนเิ ทศกำกบั ตดิ ตาม ตรวจสอบการดำเนนิ งาน ๓.๑ การตรวจสอบวิธีการและระยะเวลาที่ใช้ในการปฏิบัติงาน ๔.๒๐ ๐.๗๙ มาก ๓.๒ การรายงานผลการปฏิบัติงานทีเ่ ปน็ ระบบ ๔.๓๐ ๐.๘๒ มาก ๓.๓ การนเิ ทศติดตามงาน/โครงการในกลุ่มงานอย่างต่อเน่ือง ๓.๘๐ ๐.๙๒ มาก ๓.๔ การนำผลการนเิ ทศติดตามมาพัฒนางานอยา่ งต่อเนื่อง ๔.๑๐ ๐.๙๙ มาก ๓.๕ การรายงานผลการนิเทศตดิ ตามงานให้ผบู้ ริหารทราบ ๔.๓๐ ๐.๘๒ มาก รวมประเดน็ วัดความพงึ พอใจ ๔.๑๔ ๐.๘๗ ๔.การทบทวนผลการดำเนนิ งานเพือ่ นำมาปรับปรุงพฒั นางาน ๔.๑ การประชุมเพอื่ ทบทวนผลการดำเนินงานของกลุม่ งาน ๔.๐๐ ๐.๙๔ มาก ๔.๒ การวิเคราะห์ผลสำเร็จของงาน ๔.๕๐ ๐.๘๕ มาก ๔.๓ ข้อมูลสารสนเทศของกลุม่ งานเปน็ ปัจจุบนั ๓.๘๐ ๑.๐๓ มาก ๔.๔ การนำผลการนเิ ทศมาปรบั ใช้ในการปฏบิ ัติงาน ๔.๓๐ ๐.๖๗ มาก ๔.๕ การสรุปและรายงานผลทเี่ ปน็ ระบบ ครอบคลุม ชดั เจน ๔.๔๐ ๐.๗๐ มาก รวมประเดน็ วัดความพึงพอใจ ๔.๒๐ ๐.๘๔ รวม/เฉล่ยี ๔.๒๗ ๐.๘๓ มาก จากตารางท่ี ๙ พบว่า ผู้เกี่ยวข้องมีความเห็นต่องานนโยบายและแผน มีความเหมาะสมและพึงพอใจ ต่อการปฏิบัติงาน ส่วนใหญ่ มีความพึงพอใจอยู่ใน ระดับ มาก (���̅���=๔.๒๗) ด้านการวางแผนการปฏิบัติงาน (���̅���=๔.๔๐) ,ด้านการดำเนินงานตามแผนงานทไี่ ด้กำหนดไว้ (���̅���=๔.๓๔) , ด้านการทบทวนผลการดำเนินงาน เพื่อนำมาปรับปรุงพัฒนางาน (���̅���=๔.๒๐) , และด้านการนิเทศกำกับ ติดตาม ตรวจสอบการดำเนินงาน (���̅���=๔.๑๔) ตารางท่ี ๑๐ ข้อเสนอแนะต่อการพัฒนางานนโยบายและแผน
ท่ี รายการ จำนวน ๔๖ ๑- - ร้อยละ - ๒. - - - จากตารางท่ี ๑๐ พบวา่ ไมม่ ีข้อเสนอแนะต่อการพฒั นา ๒.๓ ผลการประเมนิ ความพึงพอใจต่อการปฏิบตั ิงานบริหารการเงิน ตารางที่ ๑๑ จำนวนผู้ตอบแบบประเมนิ ความพึงพอใจต่อการงานบริหารการเงิน หัวข้อ ขอ้ มูลส่วนบุคคล จำนวน รอ้ ยละ สถานภาพผ้ตู อบแบบสอบถาม ครู ๔ ๘๐.00 ระยะเวลาการรว่ มงาน บคุ ลากร ๑ ๒๐.00 ของสถานศกึ ษา นักเรยี น - ความเก่ยี วข้องกับงาน ผูป้ กครอง - - กรรมการสถานศึกษา - - หนว่ ยงาน - - อน่ื ................... - - - นอ้ ยกวา่ ๑ ปี - ๑-๒ ปี 2 - มากกว่า ๒ ปี 3 4๐.00 6๐.00 คณะทำงาน ๕ ผูร้ ับผลประโยชน์จากงาน - ๑๐๐.00 ผสู้ นบั สนนุ งาน - - อ่นื ๆ........................ - - - จากตารางท่ี ๑๑ พบวา่ ผู้ตอบแบบประเมนิ ความพึงพอใจต่อการปฏบิ ตั ิงานบรหิ ารการเงิน ส่วนใหญ่ เป็นครู จำนวน ๔ คน และเป็นบคุ ลากร จำนวน ๑ คน จำแนกตามระยะเวลาร่วมงานของสถานศกึ ษา พบวา่ มากกวา่ ๒ ปี จำนวน 3 คน , ๑-๒ ปี จำนวน 2 คน จำแนกตามความเก่ียวขอ้ งกบั งาน พบว่าเป็นคณะทำงาน จำนวน ๕ คน ตารางท่ี ๑๒ แสดงความพึงพอใจต่อการปฏิบัติงานบริหารการเงิน
ข้อ ประเด็นวดั ความเหมาะสม/พึงพอใจ ���̅��� S.D ๔๗ ๑.การวางแผนการปฏบิ ตั งิ าน ๔.๒๕ ๐.๗๙ ความหมาย ๑ การกำหนดวัตถปุ ระสงค์และขอบเขตการดำเนนิ งาน ๔.๔๘ ๐.๖๙ ๒ การกำหนดผรู้ บั ผดิ ชอบงาน/โครงการ ๔.๐๔ ๐.๙๑ พึงพอใจมาก ๓ การกำหนดตัวชว้ี ดั และต้ังเปา้ หมายการทำงาน ๔.๓๐ ๐.๗๗ พงึ พอใจมาก ๔ การกำหนดลำดบั ขัน้ ตอนการทำงาน ๔.๒๘ ๐.๘๐ พึงพอใจมาก ๕ การกำหนดปฏทิ ินการทำงาน/โครงการ ๔.๒๗ ๐.๗๙ พงึ พอใจมาก พึงพอใจมาก รวมประเด็นวัดความพึงพอใจ ๔.๒๙ ๐.๗๗ ๒.การดำเนินงานตามแผนงานทไี่ ด้กำหนดไว้ ๔.๓๓ ๐.๗๓ พึงพอใจมาก ๖ การดำเนินงานเปน็ ไปตามวตั ถุประสงค์และขอบเขตการดำเนนิ งาน ๔.๑๑ ๐.๘๙ พึงพอใจมาก ๗ การดำเนินงานเปน็ ไปเปา้ หมายทีก่ ำหนด ๔.๒๘ ๐.๗๖ พงึ พอใจมาก ๘ การดำเนินงานเป็นไปตามลำดบั ข้ันตอนท่ีกำหนดไว้ ๔.๒๖ ๐.๘๑ พงึ พอใจมาก ๙ การดำเนินงานเป็นไปตามระยะเวลาท่กี ำหนด ๔.๒๕ ๐.๗๙ พงึ พอใจมาก ๑๐ การดำเนินงานสอดคล้องกับกลยุทธ์และมาตรฐานของโรงเรียนฯ ๔.๓๑ ๐.๗๖ พึงพอใจมาก รวมประเดน็ วัดความพึงพอใจ ๔.๓๕ ๐.๗๑ พึงพอใจมาก ๓.การนเิ ทศกำกับ ตดิ ตาม ตรวจสอบการดำเนินงาน ๔.๐๔ ๐.๙๑ พงึ พอใจมาก ๑๑ การตรวจสอบวิธกี ารและระยะเวลาท่ใี ช้ในการปฏิบัติงาน ๔.๒๕ ๐.๘๒ พึงพอใจมาก ๑๒ การรายงานผลการปฏิบตั ิงาน ๔.๒๐ ๐.๘๕ พงึ พอใจมาก ๑๓ การนิเทศติดตามงานในกลุ่มงานอย่างต่อเนื่อง ๔.๒๓ ๐.๘๑ ๑๔ การนำผลการนเิ ทศตดิ ตามมาพัฒนางานอย่างต่อเนือ่ ง พงึ พอใจมาก ๑๕ การรายงานผลการนเิ ทศตดิ ตามงานใหผ้ บู้ รหิ ารทราบ ๔.๐๐ ๐.๘๒ พงึ พอใจมาก ๔.๕๐ ๐.๖๙ พึงพอใจพอใช้ รวมประเด็นวดั ความพงึ พอใจ ๓.๘๐ ๐.๙๔ พึงพอใจมาก ๔.การทบทวนผลการดำเนนิ งานเพ่อื นำมาปรบั ปรุงพฒั นางาน ๔.๓๐ ๐.๗๔ พึงพอใจมาก ๑๖ การประชุมเพอ่ื ทบทวนผลการดำเนนิ งานของกล่มุ งาน ๔.๔๐ ๐.๘๔ ๑๗ การวเิ คราะห์ผลสำเรจ็ ของงาน ๔.๒๐ ๐.๘๑ พงึ พอใจมาก ๑๘ ข้อมลู สารสนเทศของกล่มุ งานที่เปน็ ปจั จบุ นั ๔.๒๔ ๐.๘๐ ๑๙ การนำผลการนเิ ทศมาปรับใช้ในการปฏิบตั ิงาน ๒๐ การสรุปและรายงานผล รวมประเดน็ วดั ความพงึ พอใจ รวม/เฉลย่ี จากตารางที่ ๑๒ แสดงความพึงพอใจของผู้ตอบแบบประเมินความพึงพอใจต่อการปฏิบัติงานบริหาร การเงิน ปีการศึกษา ๒๕๖3 พบว่า ในภาพรวมมีความพึงพอใจมากท่ีสุด (���̅���=๔.๒๔) เรียงลำดับจากมากไปหา น้อย ดังน้ี การวางแผนการปฏิบัติงาน (���̅��� = ๔.๒๗) ด้านการดำเนินงานตามแผนงานที่ได้กำหนดไว้ (���̅��� = ๔.๒๕) การนิเทศกำกับ ติดตาม ตรวจสอบการดำเนินงาน (���̅��� = ๔.๒๓) การทบทวนผลการดำเนินงานเพื่อ นำมาปรับปรุงพฒั นางาน (���̅��� = ๔.๒๐) ตารางท่ี ๑๓ ขอ้ เสนอแนะต่อการพัฒนางานบรหิ ารการเงิน
Search