Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือผู้รับบริการฐานการเรียนรู้ เรื่องเปิดโลกพลังงานเพื่อชีวิต

คู่มือผู้รับบริการฐานการเรียนรู้ เรื่องเปิดโลกพลังงานเพื่อชีวิต

Published by E-book, 2019-06-17 06:19:11

Description: คู่มือผู้รับบริการกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยด้านค่ายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เป็นเอกสารสำหรับให้ผู้รับบริการปฏิบัติกิจกรรมที่กำหนดไว้ในฐานการเรียนรู้ค่ายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้รับบริการมีสมรรถนะด้านค่ายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ได้เรียนรู้ในองค์ความรู้และทักษะทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สามารถนำมาแก้ปัญหาในชีวิตจริง ผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ซึ่งกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยด้านค่ายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม จะเป็นกิจกรรมที่ทดสอบความรู้ความเข้าใจ และฝึกทักษะประสบการณ์ที่จำเป็นในฐานการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ

Search

Read the Text Version

ค่มู อื ผรู้ บั บรกิ ารกจิ กรรมการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ด้านคา่ ยวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสงิ่ แวดลอ้ ม เรื่อง เปดิ โลกพลงั งานเพอ่ื ชวี ติ สแกนเพื่ออ่าน E-Book ศูนยว์ ทิ ยาศาสตรเ์ พื่อการศกึ ษาสระแกว้ สานักงานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธกิ าร จัดทาโดย นางสาวเยาวลกั ษณ์ กล้วยนอ้ ย

คำนำ คูม่ อื ผรู้ ับบริการกจิ กรรมการศึกษาตามอธั ยาศัยด้านคา่ ยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เป็น เอกสารสาหรับให้ผู้รับบริการปฏิบัติกิจกรรมที่กาหนดไว้ในฐานการเรียนรู้ค่ายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ สง่ิ แวดล้อม โดยมวี ัตถปุ ระสงคเ์ พอื่ ให้ผรู้ ับบรกิ ารมีสมรรถนะด้านค่ายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและส่ิงแวดล้อม ได้เรียนรู้ในองค์ความรู้และทักษะทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สามารถนามาแก้ปัญหาในชีวิตจริง ผ่าน กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและส่ิงแวดล้อม ซ่ึงกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยด้านค่าย วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและส่ิงแวดล้อม จะเป็นกิจกรรมท่ีทดสอบความรู้ความเข้าใจ และฝึกทักษะ ประสบการณ์ท่ีจาเป็นในฐานการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ท่ี สนุกสนานและท้าทายซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ผู้รับบริการมีศักยภาพในการเรียนรู้เพ่ิมข้ึน โดยกิจกรรม จะ ประกอบด้วยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น การแลกเปล่ียนเรยี นรู้ที่เกิดจากการทางานร่วมกันในการรวบรวม ค้นหา ข้อมลู สรรหาและเลอื กวธิ กี ารแกป้ ัญหา จนเกิดองค์ความรู้ที่สามารถแก้ปัญหาในกิจกรรมได้ตามเงื่อนไขและ ขอ้ จากดั ต่าง ๆ ภายใตก้ ารอานวยความสะดวกของผู้จัดกิจกรรม ทั้งนี้ ผู้รับบริการจะปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ท่ี เกยี่ วขอ้ งกบั ฐานการเรียนรูค้ า่ ยวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม และกิจกรรมท่ีกาหนดจะมีเฉลยแนว คาตอบใหผ้ ูร้ บั บริการได้ตรวจสอบไดด้ ว้ ยตนเอง และแบบทดสอบหลงั เรยี นพรอ้ มเฉลยคาตอบ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพ่ือการศึกษาสระแก้วหวังว่า คู่มือผู้รับบริการกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย ด้านค่าย วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม จะเป็นประโยชน์ต่อผู้รับบริการ เม่ือผู้รับบริการได้เรียนรู้จากคู่มือ ดังกล่าว พร้อมไดท้ ดสอบและปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามคาแนะนาในเอกสารอย่างสมบูรณ์ครบถ้วนแล้ว ผู้รับบริการ จะประสบความสาเร็จในการเรยี นรูแ้ ละปฏิบัติกจิ กรรมจากฐานการเรยี นรไู้ ดอ้ ย่างมคี ุณภาพ (นางยวุ ดี แจ้งกร) ผ้อู านวยการศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพ่อื การศึกษาสระแก้ว พฤษภาคม 2562

สำรบัญ หนำ้ ก คำนำ ข สำรบญั 1 ฐำนกำรเรยี นรู้ เร่ืองเปดิ โลกพลังงำนเพอ่ื ชวี ติ 2 2 กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ เร่อื งเปดิ โลกพลังงานเพอ่ื ชีวิต กจิ กรรมการทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง เปิดโลกพลงั งานเพื่อชีวติ 4 กจิ กรรมการแลกเปล่ยี นเรียนรู้ เร่อื ง เปิดโลกพลงั งานเพ่ือชีวติ 5 กิจกรรมสนุกกบั พลังงาน ใบความรู้ เร่ือง ความหมาย ความสาคัญ ประเภท และการกาหนดของไฟฟา้ 6 ใบกจิ กรรม เร่ืองโซลาเซลล์ 15 กจิ กรรมการทดสอบหลังเรียน เรอ่ื ง เปิดโลกพลังงานเพ่ือชีวติ 16 กิจกรรมการประเมนิ ความพึงพอใจของผ้รู ับบริการ เรือ่ ง เปิดโลกพลังงานเพ่ือชีวิต เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 17 เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น 18 18

หน้า | 1 ฐานการเรียนรู้ เร่อื ง เปดิ โลกพลังงานเพื่อชีวติ

หน้า | 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ เร่ือง เปดิ โลกพลังงานเพ่ือชวี ติ แนวคิด เปิดโลกพลังงานเพ่อื ชวี ิต เป็นการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรเ์ ก่ยี วกบั พลังงานไฟฟ้า ประโยชน์และผลกระทบ ของพลังงาน และประเภทพลังงานท่ีผลิตกระแสไฟฟ้า ซ่ึงมีความจาเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันของ ประเทศ อาเซยี น และโลก ที่มกี ารใช้พลังงานอย่างสิน้ เปลอื ง ทาใหต้ ้องมีการนาพลังงานทดแทนมาใช้ และหา แนวทางแก้ไข ปอ้ งกัน ให้พลงั งานไฟฟ้าดารงคงอยูส่ ่งผลถึงคนรุ่นหลังตอ่ ไป วัตถุประสงค์ เมือ่ ส้นิ สุดแผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรนู้ ้แี ลว้ ผู้รับบริการสามารถ 1. อธบิ ายความหมาย ความสาคัญ ประเภท และการกาเนดิ ของไฟฟา้ 2. อธบิ ายประโยชนแ์ ละผลกระทบของพลังงานไฟฟา้ 3. อธิบายความหมาย และประเภทพลงั งานทีผ่ ลติ กระแสไฟฟา้ 4. ปฏบิ ตั ิการทดลองประเภทพลังงานทผี่ ลิตกระแสไฟฟา้ 5. เหน็ ความสาคัญของพลงั งานไฟฟ้า เนื้อหา 1. พลังงานไฟฟ้า 2. ประโยชน์และผลกระทบของพลงั งาน 3. ประเภทพลังงานทผี่ ลิตกระแสไฟฟ้า 3.1 พลงั งานฟอสซิล 3.2 พลังงานทดแทน ข้ันตอนการปฏิบตั ิกิจกรรมของผ้รู ับบรกิ าร กิจกรรมการทดสอบกอ่ นเรียน ใหผ้ ู้รบั บรกิ ารทาแบบทดสอบก่อนเรยี นเรือ่ งเปดิ โลกพลังงาน ซง่ึ ขอ้ สอบท้ังหมดจานวน 5 ขอ้ (เม่ือผู้รบั บริการทาแบบทดสอบเสร็จเรยี บรอ้ ยแล้ว ผูร้ บั บรกิ ารสามารถตรวจคาตอบได้ตามเฉลยคาตอบท้าย กจิ กรรม)

หน้า | 3 แบบทดสอบก่อนเรียน คะแนนทีไ่ ด.้ ....................คะแนน เร่อื งเปิดโลกพลังงานเพ่ือชวี ิต คะแนนเต็ม 5 คะแนน คาช้ีแจง 1. ใหผ้ ู้รับบรกิ ารกาเครือ่ งหมาย x (กากบาท) หน้าข้อทถี่ กู ต้องเพียงข้อเดียว 2. แบบทดสอบนี้มีขอ้ สอบจานวน 5 ขอ้ ๆ ละ 1 คะแนน 3. เมอ่ื ผรู้ ับบรกิ ารทาแบบทดสอบเสร็จเรียบร้อยแลว้ ผรู้ บั บริการสามารถตรวจคาตอบได้ตามเฉลย คาตอบทา้ ยกิจกรรม 1. ประเภทของไฟฟ้า แบ่งออกเป็นก่ีประเภท ก. 1 ประเภท ข. 2 ประเภท ค. 3 ประเภท ง. 4 ประเภท 2. แหลง่ พลงั งานทใ่ี ช้แล้วหมดไป หรือพลังงานสน้ิ เปลือง คอื ขอ้ ใด ก. ถา่ นหิน ข. นา้ มันปโิ ตรเลียม ค. กา๊ ซธรรมชาติ. ง. ถูกทุกข้อ 3. พลงั งานทดแทน คือขอ้ ใค ก. นา้ มนั ปโิ ตรเลยี ม ข.พลังงานชวี มวล ค.นา้ มันปโิ ตรเลียม ง. ไมม่ ขี ้อถกู 4. ขอ้ ใดไม่ใช่พลงั งานสะอาด ก. พลงั งานลม ข. พลังงานนา้ ค. กา๊ ซธรรมชาติ. ง. พลงั งานแสงอาทิตย์ 5. ประโยชน์ของไฟฟ้ากระแสสลบั ก. ใชก้ บั ระบบแสงสว่างได้ดี ข. ใช้กับเคร่อื งใช้ไฟฟ้าที่ต้องการกาลังมากๆ ค. ใชก้ ับเครอื่ งอานวยความสะดวกและอปุ กรณ์ไฟฟ้าได้เกือบทกุ ชนิด ง. ถกู ทุกขอ้

หน้า | 4 กิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรยี นรเู้ รอ่ื ง เปดิ โลกพลงั งานเพอื่ ชวี ิต คาช้แี จง 1. ใหผ้ ู้รับบรกิ ารตอบคาถาม จานวน 3 ประเด็นดงั นี้ ประเดน็ ท่ี 1 “ท่านคดิ วา่ ไฟฟ้าเกิดข้ึนมาได้อยา่ งไร” ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ประเดน็ ที่ 2 “ท่านคิดวา่ ปจั จุบันไฟฟ้ามคี วามสาคญั ในการดาเนินชวี ิตประจาวนั ของคนเรา อยา่ งไร อธิบายพอสงั เขป” …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ประเดน็ ท่ี 3 “ท่านคิดวา่ กระแสไฟฟ้าทใี่ ช้ตามบา้ นเรือนของทา่ นเปน็ กระแสไฟฟ้าชนดิ ใด” ...................................................................................................................................................... 2. ให้ผู้รับบริการและผู้จัดกิจกรรมสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรมการแลกเปล่ียนเรียนรู้เร่ือง เปดิ โลกพลังงานเพือ่ ชีวิต ร่วมกนั ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... เฉลยแนวคาตอบ ประเดน็ ท่ี 1 “ทา่ นคดิ ว่า ไฟฟ้าเกิดขนึ้ มาได้อยา่ งไร” เกดิ จากมนษุ ย์ผลติ ขึน้ มาโดยอาศัยแหล่งเชอ้ื เพลงิ ต่างๆ เช่นน้ามัน ถ่านหนิ ประเด็นท่ี 2 “ทา่ นคิดว่า ปจั จุบันไฟฟ้ามีความสาคัญในการดาเนนิ ชวี ิตประจาวนั ของคนเรา อยา่ งไร อธบิ ายพอสงั เขป” ช่วยอานวยความสะดวก ทาให้เครื่องมอื เครอื่ งใช้สามารถทางานได้ ประเดน็ ท่ี 3 “ทา่ นคิดว่า กระแสไฟฟ้าทใ่ี ช้ตามบา้ นเรือนของท่านเปน็ กระแสไฟฟ้าชนิดใด” ไฟฟา้ กระแสตรง ไฟฟ้ากระสลบั กิจกรรมสนกุ กับพลงั งาน คาช้แี จง 1. ผจู้ ดั กิจกรรมแจกใบความรู้สาหรบั ผรู้ บั บรกิ ารเรอ่ื งเปิดโลกพลังงานเพือ่ ชวี ิต ให้ผรู้ บั บริการศกึ ษา พร้อมท้งั ใหผ้ ู้รบั บรกิ ารปฏบิ ตั ิกิจกรรม เร่ือง สนุกกับพลังงาน 2. ผู้จัดกิจกรรมอธิบายความหมายและความสาคัญพลังงานเพอื่ ชีวิต 3. ผูร้ บั บริการและผู้จัดกจิ กรรมสรปุ สิ่งทไ่ี ดเ้ รียนรู้จากกจิ กรรมสนุกกบั พลังงาน

หน้า | 5 ใบกิจกรรม เรื่อง สนกุ กบั พลงั งาน วตั ถุประสงค์ 1. ผรู้ ับบรกิ ารอธิบายความหมาย ความสาคญั ประเภท และการกาเนิดของไฟฟา้ 2. ผรู้ ับบริการอธิบายประโยชน์และผลกระทบของพลงั งานไฟฟ้า 3. ผรู้ ับบริการอธิบายความหมาย และประเภทพลังงานทีผ่ ลติ กระแสไฟฟ้า เนือ้ หา 1. ความหมาย ความสาคญั ประเภท การกาเนดิ ของไฟฟ้า 2. ประโยชนแ์ ละผลกระทบของพลงั งานไฟฟ้า 3. ประเภทพลงั งานท่ีผลิตกระแสไฟฟ้า วสั ดุอปุ กรณ์ ใบความรูส้ าหรบั ผู้รบั บริการ คาชีแ้ จง 1. ผู้จัดกิจกรรมเชื่อมโยงเน้ือหาในขั้นตอนท่ี 1 เร่ือง ความหมาย ความสาคัญ ประเภท และการ กาเนิดของไฟฟ้า ประโยชน์และผลกระทบของพลงั งานไฟฟา้ และประเภทพลงั งานทผี่ ลติ กระแสไฟฟ้า โดยแบง่ ผ้รู ับบรกิ ารออกเปน็ 3 กลุ่ม ใหป้ ฏบิ ัติกจิ กรรม เพ่ือนาเสนอต่อกลุ่ม ตามใบกิจกรรมท่ี 1 โดย มีรายละเอียดของแต่ละกลุม่ ดงั นี้ กลุ่มที่ 1 ปฏิบัติกิจกรรมโดยสรุปเน้ือหา เรื่อง ความหมาย ความสาคัญ ประเภท และการ กาเนดิ ของไฟฟ้า กลมุ่ ที่ 2 ปฏิบัตกิ ิจกรรมโดยสรุปเน้ือหา เร่ือง ประโยชนแ์ ละผลกระทบของพลังงานไฟฟ้า กลุ่มท่ี 3 ปฏิบตั ิกจิ กรรมโดยสรุปเนื้อหา เรื่อง ประเภทพลังงานทีผ่ ลิตกระแสไฟฟา้ 2. ให้ตัวแทนของแตล่ ะกล่มุ นาเสนอต่อกลุ่มใหญ่ หลงั จากน้ันผจู้ ดั กิจกรรมและผู้รับบริการสรุปส่ิงที่ได้ เรยี นร้รู ว่ มกนั

หน้า | 6 ใบความรู้ เร่อื ง ความหมาย ความสาคญั ประเภท และการกาเนิดของไฟฟ้า วัตถุประสงค์ 1. อธบิ ายความหมาย ความสาคัญ ประเภท และการกาเนิดของไฟฟา้ 2. อธิบายประโยชน์และผลกระทบของพลังงานไฟฟ้า 3. อธบิ ายความหมาย และประเภทพลงั งานที่ผลิตกระแสไฟฟา้ เนือ้ หา 1. พลังงานไฟฟา้ 2. ประโยชนแ์ ละผลกระทบของพลังงาน 3. ประเภทพลงั งานท่ีผลิตกระแสไฟฟ้า 3.1 พลังงานฟอสซลิ 3.2 พลงั งานทดแทน 1. พลังงานไฟฟ้า ปัจจุบันไฟฟ้าเป็นปัจจัยสาคัญในการดารงชีวิตประจาวัน จะเห็นได้ว่าไฟฟ้าเป็นพลังงานชนิดหน่ึงท่ี มนุษย์นามาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ การเพิ่มผลผลิต ทั้งเกษตรกรรมและ อุสาหกรรมที่สามารถกระจายรายได้ และขยายขีดความสามารถในการแข่งขันในด้านการผลิตและการขาย สนิ ค้า ซง่ึ เป็นเป้าหมายสาคญั ในการพัฒนาเศรษฐกจิ สถานการณ์พลังงานไฟฟ้าในปจั จุบนั มแี นวโน้มใช้พลังงานเพ่มิ มากขนึ้ แต่แหล่งท่ีมาของการผลิต พลงั งานเร่ิมลดลง จงึ จาเป็นต้องมีการนาพลงั งานทดแทนมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าใหเ้ พียงพอกับความ ตอ้ งการของประชาชนในอนาคต 1.1 ความหมายของไฟฟ้า ตามศัพท์บัญญัติของราชบัณฑิตยสถานให้คานิยามของไฟฟ้า คือ การเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนหรือ พลังงานรูปหนึ่งซ่ึงเกี่ยวข้องกับการแยกตัวออกมา หรือโปรตอน หรืออนุภาคอื่นที่มีสมบัติแสดงอานาจ คล้ายคลึงกับอิเล็กตรอนหรือโปรตอน ใช้ประโยชน์ก่อให้เกิดพลังงานอ่ืน เช่น ความร้อน แสงสว่าง การเคล่อื นท่ี 1.2 ความสาคัญของไฟฟ้า ไฟฟ้าเป็นพลังงานชนิดหน่ึงท่ีมนุษย์นามาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง นอกจากจะให้แสงสว่างเวลา ค่าคืนแล้ว ยังให้ความร้อนในการหุงต้มและรีดผ้า ใช้ในการหมุนมอเตอร์ เช่น เครื่องดูดฝุ่น เคร่ืองปั่น และ เคร่อื งทาความเย็น ไฟฟ้าจงึ มคี วามสาคัญและจาเปน็ ต่อการดารงชวี ติ ของคนเรา ปัจจุบันไฟฟ้าเป็นปัจจัยสาคัญท่ีสุดปัจจัยหนึ่งสาหรับการดารงชีวิตประจาวันของชนในชาติ การ ส่ือสาร การคมนาคม การใหค้ วามรู้ การศกึ ษา และการมีส่วนร่วมในกระบวนการประชาธปิ ไตย ซ่ึงเป็นเงื่อนไข สาคญั ต่อการมนุษยชนจะเกิดขึน้ และมปี ระสทิ ธภิ าพไมไ่ ด้ถ้าขาด “ไฟฟ้า” “ไฟฟา้ ”เปน็ ตวั แปรสาคญั ในการพัฒนาเศรษฐกิจ การเพ่ิมผลผลิตทั้งเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมท่ี ทันสมัย การกระจายรายได้ และสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันในด้านการผลิต และการขายสินค้า ซ่งึ เป็นเป้าหมายสาคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ

หน้า | 7 1.3 ประเภทของไฟฟา้ แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท คอื 1.3.1 ไฟฟ้าสถติ (Static electricity หรอื Electrostatic Charges) ไฟฟ้าสถิต คือ ปริมาณประจุไฟฟ้าบวกและลบที่ค้างอยู่บนพื้นผิววัสดุมีไม่เท่ากันและไม่ สามารถท่ีจะไหลหรือถ่ายเท่ไปที่อ่ืน ๆ ได้เน่ืองจากวัสดุนั้นเป็นฉนวนหรือเป็นวัสดุที่ไม่นาไฟฟ้า จะแสดง ปรากฏการณใ์ นรปู การดึงดดู การพลักกันหรอื เกิดประกายไฟ เกิดข้ึนได้จากการเอาอาพันถูกับผ้าขนสัตว์แล้ว แท่งอาพันจะดูดวัตถุเบาๆ ได้ ดังเห็นได้จากในชีวิตประจาวันของเรา สามารถพบไฟฟ้าสถิตได้เสมอ เช่น เมื่อเรานามือเข้าไปใกล้จอโทรทัศน์ที่เพง่ิ ปดิ ใหมๆ่ หรอื เมอ่ื เราหวีผมเส้นผมมักจะชูตามหวีขึ้นมาด้วย หรือการ ท่ีเรานาไม้บรรทดั พลาสตกิ มาถูทผี่ มของเราจากนน้ั ไม้บรรทัดจะมพี ลงั สามารถท่ีจะดูดเศษกระดาษชิ้นเล็กๆ ได้ เราเรยี กพลงั งานเหลา่ นว้ี ่า ไฟฟ้าสถิต ปรากฏการณ์การเกิดไฟฟ้าสถิตในธรรมชาติ เช่น ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง และ ฟ้าผ่า เราสามารถประโยชน์จากไฟฟ้าสถิตได้หลายอย่าง เช่น ทาให้เกิดภาพบนจอโทรทัศน์ ทาให้เกิดภาพใน เครื่องถ่ายเอกสาร เคร่ืองเอกซเรย์ ช่วยในการพ่นสีรถยนต์ จนถึงการทางานของไมโครชิพในเคร่ือง คอมพวิ เตอร์ เปน็ ต้น 1.3.2 ไฟฟ้ากระแส ไฟฟ้ากระแส คอื การไหลของอิเล็กตรอนภายในตัวนาไฟฟ้าจากทห่ี นึง่ ไปอกี ท่หี นง่ึ เช่น ไหลจาก แหล่งกาเนิดไฟฟ้าไปสู่แหล่งท่ีต้องการใช้กระแสไฟฟ้า ซึ่งก่อให้เกิดแสงสว่าง เม่ือกระแสไฟฟ้าไหลผ่านลวด ความต้านทานสูงจะก่อใหเ้ กิดความร้อน เราใชห้ ลักการเกิดความร้อนเช่นน้ีมาประดิษฐ์อุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เตา หุงต้ม เตารดี ไฟฟ้า เป็นต้น ไฟฟ้ากระแสแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ (1) ไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current หรือ DC) เป็นไฟฟ้าท่ีมีทิศทางการไหลไปทางเดียวตลอดระยะเวลาท่ีวงจรไฟฟ้าปิด กล่าวคือ กระแสไฟฟ้าจะไหลจากขั้วบวกภายในแหล่งกาเนิดผ่านตัวต้านทาน หรือโหลดผ่านตัวนาไฟฟ้าแล้วย้อนกลับ เข้าแหล่งกาเนิดที่ข้ัวลบเป็นทางเดียวเช่นน้ีตลอดเวลา แหล่งกาเนิดท่ีเรารู้จักกันดี เช่น ถ่านไฟฉาย ไดนาโม เปน็ ต้น ไฟฟ้ากระแสตรงแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประเภทที่ 1 ไฟฟ้ากระแสตรงประเภทสมา่ เสมอ (Steady DC) เป็นไฟฟ้ากระแสตรง ท่ีไหลอย่างสมา่ เสมอ ไฟฟ้ากระแสตรงประเภทนีไ้ ด้มาจากแบตเตอรี่ หรอื ถ่านไฟฉาย ประเภทท่ี 2 ไฟฟ้ากระแสตรงประเภทไม่สมา่ เสมอ (Pulsating DC) เป็นไฟฟ้า กระแสตรงที่เป็นช่วงคล่ืนไม่สม่าเสมอ ไฟฟ้ากระแสตรงชนิดนี้ได้มาจากเคร่ืองกาเนิดไฟฟ้ากระแสตรง หรือ วงจรเรยี งกระแส คณุ สมบัติของไฟฟ้ากระแสตรง 1. กระแสไฟฟ้าไหลไปทศิ ทางเดยี วกันตลอด 2. มีค่าแรงดนั หรอื แรงเคลือ่ นเป็นบวกอยู่เสมอ 3. สามารถเก็บประจุไว้ในเซลล์ หรอื แบตเตอรไี่ ด้ ประโยชน์ของไฟฟ้ากระแสตรง 1. ใช้ในการชุบโลหะต่างๆ 2. ใช้ในการทดลองทางเคมี เช่น การนาน้ามาแยกเปน็ ออกซเิ จน และไฮโดรเจนเปน็ ต้น 3. ใช้เชื่อมโลหะและตดั แผ่นเหลก็ 4. ทาให้เหล็กมอี านาจแม่เหลก็ 5. ใช้ในการประจุกระแสไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ 6. ใช้ในวงจรอิเลก็ ทรอนกิ ส์

หน้า | 8 7. ใช้เป็นไฟฟ้าเดินทาง เช่น ไฟฉาย (2) ไฟฟ้ากระแสสลบั (Alternating Current หรือ AC) เปน็ ไฟฟ้าท่มี กี ารไหลกลบั ไปกลับมา ท้งั ขนาดของกระแสและแรงดันไม่คงที่ เปลย่ี นแปลง อยเู่ สมอ คอื กระแสจะไหลไปทางหนง่ึ ก่อน ต่อมาก็จะไหลสวนกลับ แล้วก็เริม่ ไหลเหมือนครั้งแรก กระแสไฟฟ้าจะไหลจากแหล่งกาเนิดไปตามลกู ศรเส้นทึบ เริม่ ตน้ จากศูนย์ แลว้ ค่อยๆ เพ่ิมขน้ึ เรอ่ื ยๆ จนถงึ จดุ สูงสุด แล้วมนั จะค่อยๆ ลดลงมาเป็นศนู ย์อกี ตอ่ จากนัน้ กระแสไฟฟ้าจะไหลจากแหล่งกาเนิดไป ตามลูกศรเส้นประลดลงจนถึงจุดต่าสุด แล้วค่อยเพิ่มขึ้นจนถึงศูนย์ตามเดิมอีก เมื่อเป็นศูนย์แล้วกระแสไฟฟ้า จะไหลไปทางลูกศรเส้นทึบอีกเป็นดังนี้เร่ือยไป การที่กระแสไฟฟ้าไหลไปตามลูกศร เส้นทึบด้านบนคร้ังหนึ่ง และไหลไปตามเส้นประด้านล่างอีกครัง้ หนง่ึ เวยี นกว่า 1 รอบ (Cycle) ความถี่ หมายถงึ จานวนลกู คลืน่ ไฟฟ้ากระแสสลับที่เปลย่ี นแปลงใน 1 วนิ าที กระแสไฟฟ้า สลับในเมอื งไทยใช้ไฟฟ้าท่ีมีความถี่ 50 เฮิรตซ์ ซึ่งหมายถึง จานวนลูกคลื่นไฟฟ้าสลับท่ีเปลี่ยนแปลง 50 รอบ ในเวลา 1 วนิ าที คณุ สมบัตขิ องไฟฟ้ากระแสสลบั 1.กระแสไฟฟ้าและค่าแรงดนั มกี ารเปล่ยี นแปลงขนาดและทศิ ทางบวกลบตามเวลา 2. สามารถควบคุมความถีใ่ ห้คงท่ไี ด้ตลอดเวลา 3. สามารถแปลงแรงดันให้สูงขน้ึ หรือตา่ ลงได้ตามตอ้ งการโดยการใช้หมอ้ แปลง ประโยชน์ของไฟฟ้ากระแสสลับ 1. ใช้กับระบบแสงสว่างได้ดี 2. ใช้กบั เคร่ืองใช้ไฟฟ้าท่ีต้องการกาลังมากๆ 3. ใช้กับเครือ่ งอานวยความสะดวกและอปุ กรณ์ไฟฟ้าได้เกอื บทุกชนิด 1.4 การกาเนดิ ของไฟฟา้ แหล่งกาเนดิ ไฟฟ้าในโลกน้มี หี ลายวธิ ีทงั้ ทเี่ กดิ โดยธรรมชาติ เช่น ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า เป็นต้น และท่ีมนษุ ย์ ได้คน้ พบการกาเนดิ พลงั งานไฟฟ้าทส่ี าคัญๆ มดี งั น้ี 1.4.1 ไฟฟ้าทเ่ี กิดจากการเสียดสขี องวัตถุ เป็นไฟฟ้าท่เี กิดขน้ึ จากการนาวัตถตุ ่างกนั 2 ชนดิ มาขัดสกี ันเช่น จากแท่งยางกับผ้าขนสัตว์ แท่งแก้วกับผ้าแพร แผ่นพลาสติกกับผ้า และหวีกับผม เป็นต้น ผล ของการขัดสีดังกล่าวทาให้เกิดความไม่สมดุลขึ้นของประจุไฟฟ้าในวัตถุท้ังสองเนื่องจากเกิดการถ่ายเทประจุ ไฟฟ้าวัตถุทั้งสองจะแสดงศักย์ไฟฟ้าออกมาต่างกนั วตั ถุชนิดหน่งึ แสดงศกั ย์ไฟฟ้าบวก (+) ออกมา วัตถุอีกชนิด หนง่ึ แสดงศกั ย์ไฟฟ้าลบ (-) ออกมา เกิดเป็นไฟฟ้าสถติ 1.4.2 ไฟฟ้าทเี่ กิดจากการทาปฏิกริ ิยาทางเคมี โดยการนาโลหะ 2 ชนดิ ทแี่ ตกต่างกัน เช่น สงั กะสกี บั ทองแดงจุ่มลงในสารละลายอเิ ลก็ โทรไลท์โลหะทัง้ สองจะทาปฏกิ รยิ าเคมีกับสารละลายอิเล็กโทรไลท์ ปฏิกิรยิ าทางเคมีแบบนี้ เรยี กว่า โวลตาอกิ เซลล์ เชน่ แบตเตอร่ี และถ่านอัลคาไลน์ (ถา่ นไฟฉาย) เป็นต้น 1.4.3 ไฟฟ้าที่เกิดจากความร้อน โดยการนาแท่งโลหะหรือแผ่นโลหะต่างชนิดกันมา 2 แทง่ เชน่ ทองแดงและเหล็ก นาปลายข้างหนงึ่ ของโลหะท้งั สองต่อติดกันโดยการเช่ือมหรือยึดด้วยหมุดปลายท่ีเหลือ อีกดา้ นนาไปต่อกับมเิ ตอร์วัดแรงดัน เมือ่ ให้ความร้อนทป่ี ลายด้านต่อติดกันของโลหะท้งั สอง ส่งผลใหเ้ กดิ การ แยกตัวของประจไุ ฟฟ้าเกดิ ศักย์ไฟฟ้าขน้ึ ท่ีปลายด้านเปิดของโลหะ แสดงค่าออกมาทม่ี ิเตอร์ 1.4.4 ไฟฟ้าเกดิ จากพลงั งานแสงอาทติ ย์ โดยเราสามารถสร้างเซลลแ์ สงอาทติ ย์ (Solar Cell)

หน้า | 9 ที่ทาหน้าที่เปล่ียนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ปัจจุบันเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดใช้พลังงาน แสงอาทติ ย์ได้ เชน่ นาฬิกาข้อมือ เครื่องคิดเลข เป็นต้น แต่ค่าใช้จ่ายในการผลิตกระแสไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ คอ่ นขา่ งสงู 4.5 ไฟฟ้าเกิดจากพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าท่ีได้มาจากพลังงานแม่เหลก็ โดยวธิ กี ารใช้ ลวดตัวนาไฟฟ้าตัดผ่านสนามแม่เหลก็ หรือการนาสนามแม่เหลก็ วงิ่ ตดั ผ่านลวดตวั นาอย่างใดอย่างหน่ึง ท้ังสอง วิธีนจ้ี ะทาให้มีกระแสไฟฟ้าไหลในลวดตัวนานั้น กระแสทผ่ี ลิตได้มที ง้ั กระแสตรงและกระแสสลับ 2. ประโยชนแ์ ละผลกระทบของพลงั งาน พลงั งานไฟฟ้า เป็นพลงั งานที่สามารถนามาเปลี่ยนรปู เป็นพลังงานอื่น ตามทเี่ ราต้องการใช้ประโยชน์ ได้อยา่ งทันที พลงั งานไฟฟ้าเป็นพลังงานทสี่ ะอาด ควบคุมได้งา่ ย มีประสทิ ธิภาพสูง และสะดวกในการนาไปใช้ งาน ปัจจุบันพลังงานไฟฟ้ามีความจาเป็นอย่างมากต่อการพัฒนาประเทศ และต่อการดารงชีวิตของมวล มนุษยชาติ และมีแนวโน้มการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นทุกปีตามอัตราการเพิ่มจานวนประชากร และความ เจริญเตบิ โตทางด้านเศรษฐกจิ โดยประโยชน์และผลกระทบของพลงั งานไฟฟ้าอาจจาแนกออกเปน็ ด้านต่างๆ ดงั น้ี 2.1 ด้านคมนาคม 2.1.1 ประโยชน์ของพลังงานไฟฟ้าดา้ นคมนาคม รถไฟความเร็วสงู หรอื ไฮสปีดเรล (high-speed rail - HSR) เปน็ รถไฟโดยสารท่ีใช้ พลังงานไฟฟ้าเป็นตัวขับเคล่ือนมอเตอร์และมีความเร็วสูงกว่าความเร็วรถไฟท่ัวไป ทาให้การเดินทางมีความ สะดวกรวดเร็ว ปลอดภยั และบริการผู้โดยสารได้มากข้นึ อกี ท้ังไม่กอ่ ใหเ้ กดิ มลพิษทางอากาศ รถยนต์ไฟฟา้ หลกั การทางานทัว่ ๆ ไปในรถยนต์ไฟฟ้า จะเรมิ่ ต้นจากพลงั งานเคมีถูกเกบ็ ไว้ ในแบตเตอร่ีซึ่งแปรรูปเป็นไฟฟ้า และส่งต่อไปยังชุดมอเตอร์ขับเคล่ือนที่จะเปล่ียนไฟฟ้าให้เป็นพลังงานกล ส่งผลให้รถยนต์สามารถขับเคล่ือนไปได้ ซ่ึงจะไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง และ มลภาวะทางเสียงเหมอื นกบั รถยนต์ที่ใชน้ า้ มนั ท่วั ไป จักรยานไฟฟ้า มสี ว่ นประกอบหลกั ๆ ในการทางานอยู่ 3 ส่วน คอื มอเตอร์ กล่อง ควบคมุ และคนั เร่ง ใช้ในการเดนิ ทางระยะส้นั ทดแทนการใช้นา้ มนั ที่แพงขึ้นทุกวนั และกาลงั จะหมดไป ซ่ึงเป็น มติ รกบั สิง่ แวดล้อม จกั รยานยนต์ไฟฟา้ หลกั การทางานท่ัวๆ ไปจะใกล้เคียงกบั รถยนต์ไฟฟ้าทาใหป้ ระหยดั คา่ ใชจ้ ่ายในเรอื่ งของเชอ้ื เพลิง เมือ่ เทียบกบั การใช้นา้ มัน ทงั้ ไม่กอ่ ใหเ้ กดิ มลพษิ ทางอากาศและมลภาวะทางเสียง กระเชา้ ไฟฟ้า หลกั การท่ัวไปของการขบั เคลอื่ นกระเชา้ ไฟฟ้า จะใช้พลงั งานไฟฟ้าเปน็ ตัวขับเคล่ือนการเคลื่อนท่ีของกระเช้าไปตามสายเคเบิล เพื่ออานวยความสะดวกในการเดินทางในพ้ืนท่ีท่ี ยานพาหนะชนดิ อื่นไม่สามารถไปถึง และประหยัดเวลาในการเดินทาง เช่น บนภเู ขาสงู เกาะ หรือข้ามแม่นา้ เปน็ ต้น การจัดการจราจร เปน็ อกี ตวั อย่างหนึง่ ของการประยุกต์ใช้พลังงานไฟฟ้าในด้านการ คมนาคมสัญญาณไฟจราจร และระบบไอทีส่ือสารระหว่างสี่แยกไปยังศูนย์ควบคุมการจราจร จาเป็นต้องใช้ พลงั งานไฟฟ้า ซ่งึ เป็นแหล่งพลงั งานเดียวท่ีขบั เคลอ่ื น การคมนาคมทางอากาศ ก็จาเป็นต้องใช้ไฟฟ้าเป็นแหล่ง พลังงานสาหรับหอควบคมุ การจราจรสนามบินและสัญญานไฟจราจรทร่ี นั เวย์ (runway) 2.1.2 ผลกระทบที่เกดิ จากพลังงานไฟฟ้าดา้ นคมนาคม เมือ่ พลังงานไฟฟ้าเกิดขัดข้อง หรอื ไฟฟ้าดับ จะส่งผลกระทบต่อการคมนาคมเปน็ อย่าง มากไม่ว่าจะเป็นการคมนาคมทางบก ทางอากาศ และทางน้า ทาให้ผู้คนเดินทางล้าช้า เกิดความวุ่นวาย อาจ กอ่ ใหเ้ กิดอบุ ัตเิ หตุ และอาจก่อใหเ้ กิดความเสยี หายในเรอื่ งของการขนส่งสนิ ค้าไม่ทันตามกาหนดเวลา

หน้า | 10 2.2 ด้านเศรษฐกิจ 2.2.1 ประโยชน์ของพลงั งานไฟฟ้าดา้ นเศรษฐกจิ ต้นทุน พลังงานไฟฟ้ามีผลต่อระบบการผลิตในเร่ืองของต้นทุน หากระบบไฟฟ้า ไม่มคี วามมัน่ คงและต่อเนอ่ื ง จะทาให้การเดนิ เคร่ืองจักรในระบบการผลิตสินค้าเกิดความขดั ข้อง ความเสียหาย ทีเ่ กดิ ขนึ้ จะมีต้นทุนการผลิตท่ีสงู ข้ึน ดังนั้น พลงั งานไฟฟ้าจะต้องมีความต่อเนื่อง ม่ันคงทั้งในด้านคุณภาพและ ราคาถูก ซ่ึงจะเป็นตัวสะท้อนราคาของสินค้าได้ รายได้ พลงั งานไฟฟ้ามบี ทบาทต่อการขับเคลือ่ นเศรษฐกิจ เช่น ภาคธุรกิจ หรอื อุตสาหกรรมจาเป็นต้องมสี นิ ค้าและบรกิ ารจาหน่ายอย่างต่อเนอ่ื ง ซึ่งไฟฟ้าก็เป็นปัจจัยท่ีสาคัญในกระบวนการ ผลิต ทั้งปริมาณและคุณภาพของสินค้าอย่างต่อเนื่อง ทาให้เกิดการจ้างงานในภาคประชาชนและมีรายได้ เพม่ิ ขนึ้ เป็นต้น ผลผลิต พลงั งานไฟฟ้าทาให้กระบวนการผลติ สินค้าและบริการเป็นไปอยา่ งต่อเน่ือง เช่น โรงงานอุตสาหกรรมสามารถผลิตสินค้าได้อย่างต่อเนื่องไม่มีการชะงักระหว่างกระบวนการผลิตทาให้ ผลติ ภัณฑ์ที่ผลติ มีออกมาอย่างต่อเน่อื งตลอดเวลา และรวมไปถึงธุรกิจบริการท่ีมีการใช้ไฟฟ้าเป็นปัจจัยหลักก็ สามารถเปดิ ให้บริการได้ตลอดเวลา เป็นต้น การเพมิ่ มูลค้าให้ทรพั ยากรในท้องถิน่ พลงั งานไฟฟ้าช่วยพัฒนาสินค้าในท้องถ่นิ ใหม้ มี ลู ค่าและราคาเพ่ิมข้นึ เช่น การผลิตบรรจุภัณฑ์ การแปรรูปสินค้าทางการเกษตร ซ่ึงต้องใช้ไฟฟ้าช่วยใน การทากจิ กรรมดงั กล่าว เป็นต้น 2.2.1 ผลกระทบของพลังงานไฟฟ้าดา้ นเศรษฐกจิ ถ้ากรณไี ฟฟ้าขดั ขอ้ ง หรือไฟดบั ในวงกว้าง จะทาให้ทกุ ภาคส่วนเกดิ ความเสยี หาย ซง่ึ ส่งผล กระทบต่อด้านเศรษฐกจิ โดยตรง เช่น ภาคอตุ สาหกรรมจะขาดความต่อเนอ่ื งในระบบการผลิตสินค้า อาจทาให้ สินค้าเกิดความเสียหาย ทาให้ขาดแคลนสินค้า สินค้ามีราคาสูงขึ้น มีผลกระทบต่อการจ้างงานและรายได้ใน ภาคประชาชน 2.3 ด้านอุตสาหกรรม 2.3.1 ประโยชน์ของพลังงานไฟฟ้าด้านอุตสาหกรรม ปจั จุบนั การใชไ้ ฟฟ้าในภาคอตุ สาหกรรม ได้มีการใช้ไฟฟ้าอยู่ในระดบั ทีส่ ูงมาก คิดเป็นร้อยละ 44 ของการใช้ไฟฟ้าทงั้ ประเทศ เพราะเครื่องจักรท่ีใช้ในการผลิตสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อตุ สาหกรรมสง่ิ ทอ อุตสาหกรรมโลหะ อตุ สาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส์ อตุ สาหกรรมอาหาร เปน็ ต้น ล้วนจาเป็นต้องใช้ไฟฟ้าเป็นปจั จยั หลกั ในกระบวนการผลิตทั้งสิน้ 2.3.2 ผลกระทบของพลงั งานไฟฟ้าด้านอุตสาหกรรม กระบวนการผลติ สินค้าในภาคอตุ สาหกรรมส่วนใหญ่มีการดาเนินการอย่างต่อเน่ือง เพื่อ ผลิตสินค้าได้ตามเป้าหมาย และคุ้มค่ากับการลงทุน ดังนั้นหากเกิดกรณีไฟฟ้าขัดข้อง หรือไฟดับ อาจทาให้ กระบวนการผลิตหยุดชะงกั ขาดความต่อเนอื่ ง และทาให้สินค้าเกิดความเสยี หาย ส่งผลให้ความเชื่อม่ันของนัก ลงทุนต่างประเทศลดลง น อ ก จ า ก นี้ห า ก ก ร ณีร า ค า ค่ า ไ ฟ ฟ้า สูง ขึ้น จ ะ ส่ ง ผ ล ใ ห้ต้น ทุน ก า ร ผ ลิต สิน ค้ า สูง ขึ้น ย่อมส่งผลให้ราคาสนิ ค้าสงู ขน้ึ ตามไปด้วย ทาให้การส่งออกสนิ ค้าไม่สามารถแข่งขนั กบั ต่างประเทศได้

หน้า | 11 2.4 ด้านคุณภาพชีวติ 2.4.1 ประโยชน์ของพลงั งานไฟฟ้าด้านคณุ ภาพชีวิต เคร่ืองอานวยความสะดวกในชีวิตประจาวัน พลังงานไฟฟ้าเป็นปัจจัยหลักท่ี อานวยความสะดวกในการดารงชีวิตของมนุษย์ โดยมีเคร่ืองใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ระบบส่ือสาร อุปกรณ์และ เครื่องมือแพทย์ รวมถึงสงิ่ ทีใ่ ห้ความบนั เทิงในชีวติ ประจาวันล้วนใช้พลังงานไฟฟ้าท้ังสิ้น และมีแนวโน้มในการ ใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าท่เี พิ่มขน้ึ ทกุ ปี ตวั อย่างเช่น 2.4.2 ผลกระทบของพลงั งานไฟฟ้าดา้ นคุณภาพชวี ติ ไฟฟ้ามปี ระโยขน์อยา่ งมากมายต่อชวี ติ และทรัพย์สนิ รวมไปถึงความเป็นอยู่ของประชาชนเมอื่ เกิดเหตกุ ารณ์บางอย่างขน้ึ กับไฟฟ้า เชน่ ไฟฟ้าดับ อาจส่งผลให้ขาดความสะดวกสบายในการดาเนินชีวิต รวม ไปถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพราะอาจเป็นช่องทางให้โจรขโมยหรือผู้ร้าย สามารถเข้ามาปล้น หรือทาร้ายเจ้าของทรัพย์สินได้ 2.5 ดา้ นเกษตรกรรม 2.5.1 ประโยชน์ของพลงั งานไฟฟ้าดา้ นเกษตรกรรม พลังงานไฟฟ้าได้ถูกนามาใช้ประโยชน์ในภาคเกษตรกรรมมีแนวโน้มเพ่ิมขึ้น เนื่องจากมีการ เจริญเติบโตของประเทศส่งผลให้ต้องมีการพัฒนาสินค้าทางการเกษตรจานวนมาก เช่น การแปรรูปผลผลิต การบรรจุภณั ฑ์เป็นต้น การเพาะปลูก ปัจจุบนั มีการพัฒนาและอนรุ ักษ์พนั ธ์ุพชื ใหม้ คี วามต้านทานโรคโดยใชเ้ ทคโนโลยี ในการตัดแต่งพันธุกรรม และรักษาพันธุ์พืชดั้งเดิม เพ่ือเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรกรรม รวมไปถึงการดูแล พืชผลทางการเกษตรต่างๆ เช่น การรดน้าด้วยระบบอัตโนมัติ การให้แสงสว่างในเวลากลางคืนกับพืชท่ี เพาะปลูก เป็นต้น จึงจาเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นแหล่งจ่ายพลังงานให้กับห้องปฏิบัติการ และอุปกรณ์ ตา่ งๆ ท่ีเกย่ี วข้อง การประมง พลังงานไฟฟ้าได้ถกู นามาใช้ในการประมง อาทเิ ช่น เปน็ แหล่งพลังงานใหก้ ับเครอื่ ง ปม๊ั ออกซเิ จนในบ่ออนุบาลเพาะเลย้ี งพนั ธุ์สัตว์น้า และใช้ในการทาประมงชายฝ่ัง รวมถงึ อตุ สาหกรรมห้องเย็นที่ ใชแ้ ช่แข็งผลผลติ ที่ได้มาจากการทาประมง เช่น อาหารทะเลแช่แขง็ เป็นต้น การปศุสัตว์ เน่ืองจากการทาฟาร์มเลี้ยงสตั ว์ขนาดใหญ่เพื่อการบรโิ ภคภายในประเทศ และ การสง่ ออก จาเป็นต้องใช้พลงั งานไฟฟ้าในการให้แสงสว่างและรักษาอุณหภูมิในฟาร์มอย่างต่อเน่อื ง 2.5.2 ผลกระทบของพลงั งานไฟฟ้าดา้ นเกษตรกรรม ถา้ ขาดพลงั งานไฟฟ้า อาจส่งผลให้สินค้าภาคเกษตรกรรมเสียหาย เช่น ผลผลิตเน่าเสยี พืชท่ี เพาะเล้ียงไว้อาจตายได้ หรอื อาจทาให้การบรรจผุ ลติ ภัณฑ์ล่าช้า 2.6 ด้านบริการ 2.6.1 ประโยชน์ของพลงั งานไฟฟ้าดา้ นบรกิ าร ภาคธนาคาร/สถาบนั การเงนิ ปัจจุบนั ภาคธนาคารและสถาบันการเงินมีการพฒั นา ระบบการให้บริการ และการนาเสนอข้อมลู ดว้ ยเทคโนโลยที ีท่ ันสมยั เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ในทุกๆ ด้าน ทั้ง ในประเทศ และทั่วโลก ซง่ึ มกี ารเปลยี่ นแปลงตลอดเวลา เช่น อัตราแลกเปล่ียนเงินตราระหว่างประเทศ ราคา ทองคา ราคาน้ามัน และราคาหลักทรัพย์ เป็นต้น จาเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นแหล่งจ่ายให้กับระบบไอที ระบบออนไลน์ และอุปกรณท์ ่ีเกย่ี วขอ้ ง ในการอานวยความสะดวกเพือ่ ให้บรกิ ารดา้ นธุรกรรมของธนาคาร และ การซ้อื ขายหลกั ทรพั ย์ในตลาดหลกั ทรพั ย์อย่างต่อเนื่อง

หน้า | 12 การทอ่ งเทย่ี วและการโรงแรม เน่ืองจากประเทศไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวทาให้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับนักท่องเท่ียวจากทั่วโลกจานวนมาก จึง จาเป็นต้องใช้พลงั งานไฟฟ้าในธรุ กจิ ที่เกี่ยวเนอ่ื งกบั อุตสาหกรรมการท่องเทย่ี วทเ่ี ตบิ โตตามจานวนนักท่องเท่ียว ท่เี พิม่ ขนึ้ ทกุ ปี เชน่ โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร/ภัตตาคาร ห้างสรรพสนิ ค้า สถานบันเทิง ฯลฯ 2.6.2 ผลกระทบของพลงั งานไฟฟ้าดา้ นบริการ ถา้ ไฟฟ้าดับเพียงชัว่ ขณะหรือดับเป็นเวลานาน ยอ่ มส่งผลต่อการใหบ้ รกิ ารขัดขอ้ ง และทาใหเ้ กิด ความเสยี หายในเรอื่ งของรายได้ลดน้อยลง รวมทัง้ ภาพลกั ษณ์การท่องเทย่ี วของประเทศ 3. ประเภทพลงั งานทีผ่ ลิตกระแสไฟฟ้า 3.1 พลงั งานฟอสซิล พลังงานฟอสซิล หมายถึง พลังงานของสารเชื้อเพลิงท่ีเกิดจากซากพืชซากสัตว์ที่ทับถมจมอยู่ใต้พื้น พิภพเป็นเวลานานหลายพันล้านปี โดยอาศัยแรงอัดของเปลือกโลกและความร้อนใต้ผิวโลก มีท้ังของแข็ง ของเหลวและก๊าซ ได้แก่ ถ่านหนิ น้ามนั และก๊าซธรรมชาติ แหล่งพลังงานน้ีเป็นแหล่งพลังงานที่สาคัญในการ ผลติ ไฟฟ้าในปัจจบุ ัน สาหรบั ประเทศไทยได้มีการนาเอาพลงั งานฟอสซลิ มาใช้ในการผลติ ไฟฟ้าประมาณร้อยละ 70 ของแหล่งพลังงานทั้งหมด ในการผลิตพลังงานไฟฟ้าจะนาพลังงานฟอสซิลมาใช้เป็นวัตถุดิบ (Fuel) ได้ 3 รปู แบบ คอื ถ่านหนิ (Coal) นา้ มนั ปิโตรเลยี ม (Petroleum Oil) และก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas) 3.1.1 ถา่ นหนิ ถ่านหนิ เปน็ เชอ้ื เพลิงประเภทฟอสซลิ (Fossil Fuel) ทีอ่ ยู่ในสถานะของแข็งเกิดจากการทับถม กนั ของซากพชื ในยุคดกึ ดาบรรพ์ ถา่ นหนิ มปี ริมาณมากกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลชนิดอ่ืนๆ และมีแหล่งกระจายอยู่ ประมาณ 70 ประเทศทั่วโลก เช่น อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย แอฟริกา เป็นต้น จากการคานวณอัตราการผลิต และการใช้ถ่านหนิ ในปัจจุบัน คาดว่า ถ่านหินจะมีเพียงพอต่อการใช้งานไปอีกอย่างน้อย 192 ปี ทั้งนี้ถ่านหิน ถกู จาแนกออกเป็น 5 ชนิด ตามอายกุ ารเกิด และคุณภาพ ดงั นี้ 3.1.2 นา้ มัน น้ามันเปน็ เชือ้ เพลิงประเภทฟอสซลิ ทม่ี สี ถานะของเหลว เกิดจากซากสัตว์และซากพชื ทับถมเปน็ เวลาหลายล้านปี สว่ นมากมีสดี าหรือสนี ้าตาล มอี งค์ประกอบของสารไฮโดรคาร์บอนชนดิ ต่างๆ ปะปนอยู่ และ ในบางครงั้ อาจมสี ารอืน่ ประกอบอยู่ด้วย เชน่ กามะถนั ไนโตรเจน ออกซเิ จน เป็นต้น ด้วยเหตนุ น้ี ้ามันดิบท่ีขุด ข้ึนมาจากใต้ดนิ ยังไม่สามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้ทนั ที ต้องมีการนามาแยกสารประกอบไฮโดรคาร์บอนตา่ งๆ ออกก่อน จึงจะสามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้ กระบวนการแยกสารท่ปี นอยู่ในนา้ มนั ดิบออก เรียกว่า การกลน่ั นา้ มันดบิ หลงั ผ่านกระบวนการกลนั่ นา้ มนั ดบิ จะได้ผลิตภณั ฑ์นา้ มันสาเรจ็ รูปชนิดต่างๆ ซ่งึ มีคณุ สมบตั ิเฉพาะ แตกตา่ งกนั ไป เช่น นา้ มนั เบนซนิ นา้ มันดเี ซล นา้ มันก๊าด และนา้ มันเตา เป็นต้น นา้ มนั ท่ีใช้ในการผลติ ไฟฟ้ามี 2 ประเภท คือ นา้ มันเตา ใช้สาหรบั โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่เปน็ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนทั่วไป เช่น โรงไฟฟ้าบางปะกง โรงไฟฟ้าพระนครใต้ โรงไฟฟ้าพลงั ความร้อนกระบ่ี และ โรงไฟฟ้าราชบรุ ี เป็นต้น นอกจากนี้น้ามันอีกประเภทท่นี ามาใช้ผลติ ไฟฟ้า คอื นา้ มันดีเซล ใช้สาหรบั โรงไฟฟ้า ขนาดเล็ก โรงไฟฟ้าท่ีใช้น้ามันดีเซลจึงมักเป็นโรงไฟฟ้าประเภทความร้อนร่วม โรงไฟฟ้ากังหันก๊าซ สาหรับ โรงไฟฟ้าท่ีใช้น้ามนั เป็นเชอ้ื เพลงิ ในประเทศไทยได้แก่ โรงไฟฟ้าบางปะกง โรงไฟฟ้าราชบรุ ี สาหรับการใช้น้ามัน มาผลิตไฟฟ้าน้ันมักจะใช้เป็นเชื้อเพลิงสารองในกรณีที่เชื้อเพลิงหลัก เช่น ก๊าซธรรมชาติ มีปัญหาไม่สามารถ นามาใช้ได้

หน้า | 13 3.1.3 ก๊าซธรรมชาติ กา๊ ซธรรมชาติ เปน็ เชอ้ื เพลงิ ประเภทฟอสซลิ ทมี่ ีสถานะเปน็ ก็าซ ซึง่ เกดิ จากการทับถมของซาก สัตว์และซากพชื มานานนับล้านปี มคี ุณสมบตั ิเปน็ เชือ้ เพลิงท่ีให้พลงั งานสะอาด เน่ืองจากมีการเผาไหม้ได้อย่าง สมบรู ณจ์ ึงส่งผลกระทบต่อสง่ิ แวดล้อมน้อยกว่าเช้อื เพลิงฟอสซิลประเภทอ่ืนๆ ก๊าซธรรมชาติเป็นสารประกอบ ไฮโดรคาร์บอนชนดิ หน่งึ ประกอบด้วยก๊าซมเี ทนประมาณร้อยละ 70 ข้ึนไป 3.2 พลังงานทดแทน พลังงานทดแทน (Alternative Energy) เป็นพลงั งานทีใ่ ช้ทดแทนพลงั งานจากเชื้อเพลงิ ฟอสซิล ซึง่ จดั เป็นพลงั งานหลกั ทใ่ี ช้กนั อยู่ท่ัวไปในปัจจุบัน พลงั งานทดแทนท่สี าคัญสามารถจาแนกประเภทได้ดังน้ี 3.2.1 พลงั งานลม ลมเปน็ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เกดิ จากการทพ่ี ื้นทบ่ี นโลกได้รบั ความร้อนจากดวงอาทติ ย์ไม่ เท่ากัน บริเวณทม่ี อี ณุ หภมู ิสูงกว่าจะมีความหนาแน่นน้อย เกิดการขยายตัวและลอยตัวสูงข้ึน ทาให้อากาศใน บรเิ วณท่เี ย็นกว่ามีความหนาแน่นมากกว่าจะเคล่ือนเข้ามาแทนที่ เกิดการไหลของอากาศหรือที่เรียกกันทั่วไป ว่า กระแสลม มนุษย์เราได้ใชป้ ระโยชน์จากพลังงานลมมานานหลายพนั ปี ในการอานวยความสะดวกสบายแก่ ชีวติ เช่น การแล่นเรอื ใบขนส่งสินค้าไปได้ไกลๆ การหมุนกังหันวิดน้า ปัจจุบันมนุษย์จึงได้ให้ความสาคัญและ นามาใช้ประโยชน์มากขึ้น โดยการนามาใช้ผลิตเป็นพลังงานที่สะอาดไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสภาพแวดล้อม และสามารถนามาใช้ประโยชน์ได้อย่างไม่รู้จักหมดสิ้น สาหรับการผลิตกระแสไฟฟ้า จะใช้กังหันลม เป็น อุปกรณ์ในการเปลี่ยนพลังงานลมเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยจะต่อใบพัดของกังหันลมเข้ากับเครื่องกาเนิดไฟฟ้า เม่อื ลมพดั มาปะทะจะทาให้ใบพัดหมนุ แรงจากการหมนุ ของใบพดั จะทาให้แกนหมนุ ท่เี ชือ่ มอยู่กับเครื่องกาเนิด ไฟฟ้า อย่างไรก็ดีการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานลมก็จะข้ึนกับความเร็วลมด้วย สาหรับประเทศไทยมีศักยภาพ พลังงานลมตา่ ทาให้ผลติ ไฟฟ้าได้จากัดไม่เตม็ กาลังการผลติ ตดิ ตัง้ 3.2.2 พลังงานนา้ น้า ถือเปน็ ทรพั ยากรธรรมชาติทมี่ ีปรมิ าณมากและมีความสาคัญยงิ่ ต่อส่งิ มชี ีวิตทัง้ หลาย หากน้า มีการเคลอ่ื นจะมพี ลงั งานสะสมอยู่มาก มนุษย์จึงนาเอาพลังงานน้ีมาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆมากมาย เช่น มี การสร้างเขื่อนกักเก็บน้าเพ่ือใช้ผลิตไฟฟ้า โดยการปล่อยน้าให้ไหลลงมาจากอ่างเก็บน้าลงไปหมุนกังหันของ เคร่ืองกาเนิดไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าพลังน้า ซึ่งจะเกิดการเหน่ียวนาได้พลังงานไฟฟ้าออกมา น้าถือเป็นทรัพยากร หมนุ เวียน และไม่กอ่ ใหเ้ กดิ มลภาวะ 3.2.3 พลงั งานแสงอาทิตย์ พลังงานจากดวงอาทติ ย์จัดเปน็ พลงั งานหมุนเวยี นทส่ี าคัญท่สี ุด เป็นพลงั งานสะอาดไม่ทาปฏิกริ ยิ า ใดๆ อันจะทาให้ส่ิงแวดล้อมเป็นพิษ ปัจจุบันได้มีการนาเอาพลังงานจากดวงอาทิตย์มาใช้ผลิตไฟฟ้ากันอย่าง กว้างขวาง โดยใช้เซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Cell) ซ่ึงเป็นสิ่งประดิษฐ์ทางอิเล็คทรอนิคส์ชนิดหนึ่งที่สามารถ เปลยี่ นพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง ส่วนใหญ่เซลล์แสงอาทิตย์ทามาจากสารก่ึงตัวนา พวกซิลิคอน มีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้สูงถึงร้อยละ 22 แม้ พลงั งานแสงอาทิตย์จะเปน็ พลงั งานสะอาดแต่กม็ ขี ้อจากัดในการผลติ ไฟฟ้า โดยสามารถผลิตไฟฟ้าได้แค่ช่วงที่มีแดด 3.2.4 พลังงานชีวมวล พลังงานชวี มวลเป็นพลงั งานความร้อนที่เกิดจากการเผาไหม้เช้อื เพลิงทีม่ าจากชวี มวลหรือส่งิ มชี วี ิต เชน่ ไม้ฟืน แกลบ กากอ้อย เศษไม้ เศษหญ้า เศษเหลือท้งิ จากการเกษตร เหล่านี้มาเผาให้ความร้อนในหม้อไอ น้า จนกลายเป็นไอนา้ ท่ีร้อนจัดและมีความดันสงู ไอนา้ จะไปป่ันกังหันท่ีต่ออยู่กับเครื่องกาเนิดไอน้า ทาให้เกิด กระแสไฟฟ้าออกมา นอกจากนี้ยังรวมถึงกระบวนการเปล่ียนเช้ือเพลิงชีวมวล เช่น มูลสัตว์ และของเสียจาก

หน้า | 14 โรงงานแปรรูปทางการเกษตร เช่น เปลือกสบั ปะรดจากโรงงานสบั ปะรดกระป๋อง หรือ น้าเสียจากโรงงานแป้ง มนั ใหเ้ ปน็ แก๊สเช้อื เพลงิ เรยี กว่า ก๊าซชีวภาพ นาไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในเคร่ืองยนต์สาหรับผลิตไฟฟ้าได้อีกด้วย โดยเหตุท่ีประเทศไทยทาการเกษตรอย่างกว้างขวาง วัสดุเหลือใช้จากการเกษตร เช่น แกลบ ข้ีเล่ือย ชานอ้อย กากมะพร้าว ซง่ึ มีอยู่จานวนมาก (เทียบได้นา้ มันดบิ ปีละไม่นอ้ ยกว่า 6,500 ล้านลิตร) ก็ควรจะใช้เป็นเช้ือเพลิง ผลิตไฟฟ้าในเชงิ พาณิชย์ได้ 3.2.5 พลงั งานความร้อนใต้พิภพ พลังงานความร้อนใตพ้ ภิ พเปน็ พลงั งานความร้อนตามธรรมชาติที่ได้จากแหล่งความร้อนท่ีถกู กกั เกบ็ อยู่ภายใต้ผวิ โลก โดยปกติอณุ หภูมิใต้ผิวโลกจะเพ่ิมข้ึนตามความลึก และเมื่อยิ่งลึกลงไปถึงภายในใจกลาง ของโลก จะมแี หล่งพลงั งานความร้อนมหาศาลอยู่ ความร้อนที่อยู่ใต้ผิวโลกนี้มีแรงดันสูงมาก จึงพยายามท่ีจะ ดันตัวออกจากผิวโลกตามรอยแตกต่างๆ แหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพ มักพบในบริเวณที่เรียกว่า จุดร้อน (hot spots) โดยบริเวณน้ันจะมีค่าการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิตามความลึก และมีการไหลหรือแผ่กระจาย ของความร้อนจากภายใต้ผิวโลกข้ึนมาสู่ผิวดินมากกว่าปกติประมาณ 1.5 - 5 เท่า เน่ืองจากในบริเวณดังกล่าว เปลือกโลกมีการขยับตัวเคลื่อนท่ีทาให้เกิดรอยแตกของช้ันหิน ไอน้าจึงสามารถแทรกตัวผ่านรอยแตกของช้ัน หนิ ขน้ึ มาได้ สามารถนาไอน้าเหล่าน้ีไปหมนุ กงั หนั ไอน้าเพือ่ ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 3.2.6 พลงั งานนวิ เคลียร์ พลงั งานนิวเคลียร์เป็นพลังงานท่ีเกิดจากปฏิกิริยาทางนิวเคลยี ร์ซงึ่ เป็นกระบวนการแบ่งแยก นวิ เคลยี สของธาตหุ นกั บางชนดิ แล้วมกี ารปลดปล่อยพลังงานความร้อนมหาศาล ความร้อนที่เกิดขึ้นน้ีสามารถ นา มาใหค้ วามร้อนกับน้า จนเดือดกลายเป็นไอน้า ไปหมุนกังหันไอน้า เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าได้สาหรับธาตุที่ สามารถนามาใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ คือ ยูเรเนียม-235 ซึ่งเป็นธาตุตัวหนึ่งที่มีอยู่ใน ธรรมชาติ พลงั งานนิวเคลียร์ถอื เปน็ พลงั งานสะอาดเน่ืองจากในการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ไม่มีการเผาไหม้เช้ือเพลิงจึงไม่มีการปล่อยก๊าซทีเ่ ป็นอันตรายต่อสขุ ภาพ เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ ไดออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ แตอ่ ย่างไรกด็ ีเชอื้ เพลงิ ใช้แลว้ จะกลายเป็นกากกมั มันตรังสีทีต่ ้องมีการจัดการ เป็นพิเศษ กจิ กรรมโซลาเซลล์ คาชแี้ จง 1. ผู้จดั กิจกรรมแจกวัสดุอปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการทดลองการผลติ ไฟฟา้ โดยพลงั งานแสงอาทิตย์ 2. ผู้จัดกิจกรรมบรรยายเร่ือง วิธกี ารใช้งานของวัสดุอปุ กรณ์ในการผลิตไฟฟา้ โดยพลังงานแสงอาทติ ย์ ตามใบความรู้สาหรับผ้จู ดั กิจกรรมเรื่องเปดิ โลกพลงั งานเพ่อื ชีวิต 3. ใหผ้ ู้รับบรกิ ารแตล่ ะกลุ่มปฏิบัตกิ ิจกรรมตามใบกิจกรรมที่ 2 เร่อื งโซลา่ เซลล์ โดยมีรายละเอียด ดังน้ี 3.1 ต่อสายไฟแผงโซล่าเซลล์กับแอมมเิ ตอร์ ขนาด 100 mA 3.2 ให้แผงโซลา่ เซลล์รบั แสงแล้วนาหนังสอื ปิดแผงโซลา่ เซลล์ อา่ นค่าแอมมิเตอร์ บันทกึ ผล 3.3 เอาหนังสือออก อา่ นคา่ แอมมเิ ตอรอ์ ีกคร้ัง บนั ทกึ ผล 3.4 ให้แผงโซลา่ เซลลร์ ับแสงอาทติ ย์แลว้ อา่ นค่าแอมมเิ ตอร์ บนั ทึกผล 3.5 ตอ่ แผงโซล่าเซลล์กบั มอเตอร์ แลว้ นาไปรับแสงอาทิตย์สงั เกตการณ์เปลย่ี นแปลง 4. ผจู้ ดั กิจกรรมและผู้รบั บรกิ ารสรปุ สิง่ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้ร่วมกัน

หน้า | 15 ใบกิจกรรม เร่อื ง โซลาเซลล์ วัตถปุ ระสงค์ สรปุ ความสัมพนั ธ์ระหว่างพลงั งานแสงอาทิตยแ์ ละกระแสไฟฟ้า เนือ้ หา ปฏบิ ตั กิ ารทดลองประเภทพลงั งานทผี่ ลติ กระแสไฟฟ้า วัสดอุ ปุ กรณ์ 1. สายไฟ 2. แผงโซลาเซลล์ 3. แอมมิเตอร์ ขนาด 100 mA 4. มอเตอร์ 5. ใบพัดเล็ก (ใชส้ าหรับต่อกบั มอเตอร์) ผลการทากิจกรรม 1. นาหนงั สอื ปิดแผงเซลล์อ่านคา่ ได้ ...................... mA 2. นาหนังสอื ออกจากแผงเซลล์อ่านค่าได้ ........... mA 3. นาแผงโซลาเซลลร์ ับแสงอาทิตยอ์ ่านค่าได้ ................. mA 4. ต่อแผงโซลาเซลลก์ บั มอเตอรแ์ ลว้ นาไปรับแสงอาทิตย.์ ........................................................... สรุปผลการทากิจกรรม 1. ปรมิ าณกระแสไฟฟ้าจะมากหรอื น้อยขึน้ อยกู่ บั ......................................................... 2. เพราะเหตใุ ดใบพดั จงึ หมนุ ได้……………………………………………………………..

หน้า | 16 กิจกรรมแบบทดสอบหลงั เรียนเร่ือง เปดิ โลกพลงั งานเพือ่ ชวี ติ คาช้ีแจง ใหผ้ ้รู บั บริการทาแบบทดสอบหลงั เรียนเรอื่ งเปิดโลกพลงั งานเพือ่ ชีวติ ซงึ่ ขอ้ สอบทั้งหมดจานวน 5 ขอ้ (เม่ือผู้รบั บริการทาแบบทดสอบเสร็จเรยี บร้อยแล้ว ผู้รบั รกิ ารสามารถตรวจคาตอบไดต้ ามเฉลยคาตอบทา้ ย กิจกรรม) แบบทดสอบหลงั เรยี น คะแนนทไี่ ด้..........คะแนน เร่ือง เปิดโลกพลงั งานเพ่ือชวี ติ คะแนนเต็ม 5 คะแนน คาชี้แจง 1. ให้ผู้รับบริการกาเคร่อื งหมาย x (กากบาท) หน้าข้อที่ถูกต้องเพียงข้อเดยี ว 2. แบบทดสอบน้ีมีข้อสอบจานวน 10 ขอ้ ๆ ละ 1 คะแนน 3. เมื่อผ้รู ับบรกิ ารทาแบบทดสอบเสรจ็ เรยี บร้อยแลว้ ผูร้ ับรกิ ารสามารถตรวจคาตอบไดต้ ามเฉลย คาตอบทา้ ยกิจกรรม 1. ประเภทของไฟฟา้ แบ่งออกเป็นก่ี ประเภท ก. 1 ประเภท ข. 2 ประเภท ค. 3 ประเภท ง. 4 ประเภท 2. แหลง่ พลงั งานทใ่ี ช้แลว้ หมดไป หรอื พลงั งานสน้ิ เปลือง คอื ข้อใด ก. ถา่ นหนิ ข. นา้ มันปิโตรเลยี ม ค. ก๊าซธรรมชาติ. ง. ถกู ทกุ ข้อ 3. พลังงานทดแทน คอื ข้อใค ก. น้ามันปโิ ตรเลียม ข.พลงั งานชีวมวล ค.นา้ มนั ปโิ ตรเลียม ง. ไมม่ ีขอ้ ถกู 4. ขอ้ ใดไม่ใชพ่ ลังงานสะอาด ก. พลงั งานลม ข. พลังงานน้า ค. กา๊ ซธรรมชาติ. ง. พลงั งานแสงอาทติ ย์ 5. ประโยชน์ของไฟฟ้ากระแสสลบั ก. ใชก้ บั ระบบแสงสว่างได้ดี ข. ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าทีต่ ้องการกาลงั มากๆ ค. ใชก้ ับเคร่ืองอานวยความสะดวกและอปุ กรณ์ไฟฟ้าได้เกือบทุกชนิด ง. ถูกทกุ ข้อ

หน้า | 17 กจิ กรรมการประเมินความพึงพอใจของผูร้ ับบริการเร่อื งเปดิ โลกพลงั งานเพ่อื ชวี ติ คาช้ีแจง ให้ผ้รู บั บริการทาแบบประเมินความพงึ พอใจของผู้รับบรกิ ารกิจกรรมการศกึ ษาตามอัธยาศัย ด้าน วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิง่ แวดลอ้ ม แบบประเมินความพงึ พอใจของผู้รบั บรกิ าร กจิ กรรมการศึกษาตามอัธยาศยั ด้านวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ชอ่ื -สกลุ ผรู้ บั บริการ.................................................................................................................................... ชื่อฐานการเรยี นร.ู้ .......................................................ชอ่ื – สกุล ผจู้ ัดกจิ กรรม.......................................... วันท่.ี ...........เดอื น...........................พ.ศ................... เวลา..................น. ความพงึ พอใจท่ีมตี ่อการจัดกิจกรรม ประเดน็ ระดับความพึงพอใจ 5 4 3 21 1. กิจกรรมตรงตามความถนัดและต้องการของผรู้ บั บริการ 2. ข้นั ตอนการทากิจกรรมมีความชดั เจน 3. สอื่ /วสั ดุ/อุปกรณ์ทใี่ ช้ทากจิ กรรมมีความเหมาะสม 4. ระยะเวลาท่ใี ชใ้ นการทากจิ กรรมมีความเหมาะสม 5. ความรูท้ ไ่ี ดร้ บั สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตจรงิ ได้ 6. ผ้รู ับริการมีความสุข/สนกุ ในการทากิจกรรม ความพึงพอใจในภาพรวมตอ่ การจดั กิจกรรม ระดบั 5 หมายถึง ระดบั 4 หมายถึง ระดบั 3 หมายถึง ระดบั 2 หมายถงึ ระดับ 1 หมายถึง พึงพอใจมากท่ีสุด พงึ พอใจมาก พึงพอใจปานกลาง พงึ พอใจนอ้ ย พึงพอใจนอ้ ยทส่ี ุด ความร้ปู ระสบการณท์ ี่ไดร้ บั ความคดิ เหน็ เพ่มิ เตมิ .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... .........................................................................

หน้า | 18 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรอื่ งเปดิ โลกพลงั งานเพื่อชีวิต 1. ข. 2 ประเภท 2. ง. ถูกทกุ ข้อ 3. ข.พลงั งานชวี มวล 4. ค. กา๊ ซธรรมชาติ 5. ง. ถกู ทุกข้อ เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน เรื่องเปิดโลกพลังงานเพื่อชีวิต 1. ข. 2 ประเภท 2 ง. ถกู ทุกข้อ 3. ข.พลังงานชีวมวล 4. ค. กา๊ ซธรรมชาติ. 5. ง. ถูกทุกข้อ