คู่มือการตรวจการจ้างและการควบคุมงานก่อสร้าง โดยกองอาคารและสถานที่ ม.ขอนแก่น

๙๒. พัดลม (๖) ตรวจดกู นั ไฟฟ้าแรงสงู ฟวิ สต์ ดั ตอนและ GROUND ROD ไดม้ าตรฐาน ตามแบบ ๙๓. ระบบล่อฟ้าและไลฟ่ ้า (๗) ตรวจหม้อแปลงไฟฟา้ ต้องใชห้ มอ้ แปลงของการไฟฟา้ เทา่ นั้น ( LIGHTNING PROTECTION ) (๘) การปักเสาไฟตอ้ งเป็นแนวตรงขนานกับถนนห่างจากไหลถนนไม่น้อย ( สายล่อฟา้ ) กว่า ๕๐ ซม. (๙) ตรวจดวู า่ เสาทกุ ต้นมกี ารเทคอนกรีตหุม้ เสาไม่นอ้ ยกวา่ ดา้ นละ ๐.๒๕ ม. และลึกลงไปในดิน ๐.๕๐ ม. (๑๐) ระยะหา่ งของเสาไฟฟ้าแตล่ ะต้นไม่มากกวา่ ๕๐ ม. ( กรณสี าย อลมู เิ นียมเปลอื ย ) (๑๑) ระยะหา่ งเสาไฟฟ้าแต่ละตน้ ๑๐๐ ม. ( กรณสี ายอลมู ิเนียมเปลือย แกนเหล็ก ) (๑๒) ตรวจดวู า่ สายไฟฟา้ ทเ่ี ดินพาดอยบู่ นลูกถ้วยซง่ึ ตรึงอยบู่ นไมค้ อน และ ต้องพันยดึ ด้วย TIE WIRE (๑๓) กรณตี อ่ สายไฟต้องตอ่ ทไ่ี มค้ อนสายเทา่ น้นั หา้ มตอ่ ระหว่างช่วงเสา เด็ดขาด (๑๔) ตรวจดูวา่ การตดิ ตงั้ หมอ้ แปลง มกี ารตดิ ตัง้ กนั ฟ้าลง และตัดตอนแรง สงู ด้วยหรือไม่ และตามมาตรฐานของการไฟฟา้ ด้วย (๑๕) งานอื่น ๆ ใหถ้ อื ตามมาตรฐานของการไฟฟ้า พดั ลม (๑) ตรวจดู ชือ่ ผลิตภัณฑส์ นิ คา้ หรือ BRAND NAME ใหถ้ ูกต้องตรง ตามท่ีผู้วา่ จา้ ง อนุมตั แิ ละให้ความเหน็ ชอบแลว้ (๒) ตรวจดู ชนดิ ขนาด และความสามารถ ของพดั ลมให้ไดต้ รงตาม Specification ตามในตารางความสามารถ และคมู่ อื ที่มากบั ผลิตภณั ฑ์ สนิ ค้า และท่ไี ด้มาตรฐานตาม มอก.ปจั จบุ ัน ชนิดของพดั ลม ๑. พัดลมตดิ เพดาน ๒. พดั ลมดดู อากาศ ๓. พัดลมดูดควันไฟ ระบบลอ่ ฟ้าและไลฟ่ ้า ( LIGHTNING PROTECTION ) ตรวจดงั นี้.- ผู้ควบคมุ งานกาํ กับดูแลการตดิ ตงั้ โดยผ้ชู าํ นาญงานของ บรษิ ทั ผู้ผลิต และ ใหเ้ ปน็ ไปตามแบบรปู รายการและสัญญาท่ีกาหนด (๑) ระบบลอ่ ฟา้ ผลิตตามมาตรฐาน NESC อาทิเชน่ Furse , Alloy , ABSO ฯลฯ (๒) เสาลอ่ ฟ้าเปน็ แท่งทองแดงกลมปลายแหลมตามแบบกาหนด (๓) หลักสายดนิ ใชแ้ ทง่ ทองแดงขนาด Ø ๕/๘\" ยาว ๓.๐๐ ม. ปักลงใน

๙๔. ระบบดบั เพลงิ ในอาคาร ดินลึก ๖๐ ซม. ( ต่อสายดว้ ยวิธเี ชอื่ มร้อน ) ( FIRE PROTECTION ) สายล่อฟ้า (๑) ตรวจดวู า่ การตดิ ตงั้ เปน็ ไปตามแบบกาํ หนด ๙๕. หัวตอ่ ดบั เพลิง (๒) สายทองแดงทน่ี าํ มาใช้หากแบบไม่กาํ หนดให้ใชข้ นาด ๒๕ มม.๒ ( รายละเอยี ดการต่อทอ่ ดับเพลิง ) (๓) สายตวั นาเป็นทองแดงตเี กลยี วเปลือยสายนาลงดิน ตลบั เปน็ ทองแดง ขนาด ๕๐ มม.๒ ระบบดับเพลิงในอาคาร ( FIRE PROTECTION ) (๑) ตรวจดวู สั ดุทอ่ วา่ ตอ้ งเปน็ ชนิดท่อเหลก็ อาบสงั กะสี ( GALVANIZED STEEL PIPE ) ชนดิ ต่อด้วยเกลยี ว ส่วนท่อสง่ น้าดบั เพลิง ( FIRE PIPE ) จะตอ้ งเป็นทอ่ เหลก็ อาบสังกะสี ชนดิ ข้อตอ่ เกลียวให้ไดม้ าตรฐาน มอก. ปจั จุบนั หรือ BS ๑๓๘๗ - ๑๙๐๗ (๒) ตรวจดอู ปุ กรณ์ประกอบทใี่ ชใ้ นการเดนิ ทอ่ ส่งดบั เพลิง จะต้องเปน็ อปุ กรณ์ประกอบท่อเหล็ก ชนิดเดยี วกับเหล็กหล่อเหนียวตอ่ ดว้ ยเกลยี วผิว อาบสงั กะสี คุณสมบตั ิไดม้ าตรฐานตาม มอก.ปัจจบุ นั หรือ BS ๑๒๕๖ - ๑๙๖๘ (๓) AIR RELIEF VALVE ใหต้ รวจดวู า่ ตอ่ ดว้ ย COPPER ALLOY สว่ น SPRING ต้องทาดว้ ย STANLESS STEEL รับแรงดนั ได้ไมน่ อ้ ยกวา่ ๒๕๐ ปอนด์/นิ้ว๒ (๔) ตเู้ ก็บอุปกรณด์ ับเพลงิ ใหต้ รวจดวู า่ ชนิดของตตู้ อ้ งเปน็ สี่เหลยี่ มทาดว้ ย เหลก็ แผน่ เบอร์ ๒๐, บนกระจกตอ้ งมีคาวา่ “ FIRE ” ตวั อักษรขนาดสงู ๑๕ ซม. หนา ๕ ซม. ดว้ ยสแี ดง (๕) ตอ้ งกาํ กบั ดแู ลการตดิ ตงั้ โดยผู้ชํานาญงานของ บรษิ ทั ผผู้ ลติ และให้ เปน็ ไปตามแบบรูปรายการและสญั ญาทก่ี ําหนด พรอ้ มการทดสอบการ ทาํ งานของระบบ และระยะเวลา Service Metainace ถ้ามี หวั ต่อดบั เพลงิ ตรวจดดู งั ตอ่ ไปน.ี้ - (๑) ตรวจดวู า่ การติดตง้ั ตรงตามแบบกาํ หนดหรือไม่ (๒) ต้องให้ผ้รู บั จ้างทาสแี ดงทท่ี ่อดับเพลงิ ท่เี ปน็ เหลก็ หล่อหรอื ทองเหลือง หลอ่ (๓) ตรวจดูวา่ ชนิดของหวั ตอ่ สามารถตอ่ เขา้ กับท่อดดู ของทอ่ ดบั เพลิงของ หนว่ ยที่มีอยู่ และต่อกับรถดบั เพลงิ ของทางราชการได้หรือไม่ รายละเอยี ดการต่อท่อดับเพลงิ (๑) ให้ผรู้ ับจา้ งทาสที ่อส่งดบั เพลงิ ด้วยสีแดง (๒) ตอ้ งใหม้ คี าแนะนาวิธใี ชอ้ ปุ กรณ์ดับเพลงิ เปน็ ภาษาไทย ตดิ ไวท้ ่ตี ู้ ดับเพลิง

(๓) ตอ้ งให้มกี ารทดสอบความดนั ด้วยวิธี HYDROSTATIC PRESSURE TEST ทคี่ วามดนั ๑๕๐ ปอนด์/นวิ้ ๒ เปน็ เวลา ๑๕ นาที แลว้ ดวู า่ ทอ่ นั้น จะตอ้ งไมร่ ว่ั ซมึ ๙๖. ระบบขนสง่ และถา่ ยเท ระบบขนสง่ และถ่ายเท ( CONVEYING SYSTEM ) ( CONVEYING SYSTEM ) (๑) ลฟิ ต์โดยสาร ( ELEVATORS ) ๙๗. เครือ่ งปรับอากาศ ( AIR (๒) ลิฟต์สง่ ของ ( PALLET LIFTS ) CONDITION ) (๓) ปัน้ จนั่ และรอก ( HOISTS & CRANES ) เครือ่ งปรับอากาศ ๙๘. การติดตงั้ เครอื่ งปรบั อากาศ (๑) เคร่อื งปรบั อากาศและอุปกรณต์ ้องได้ตามมาตรฐานสากล อาทิ เช่น และอุปกรณ์ AMCA , ARI , IEC , BS , ASTM ฯลฯ (๒) สถาบันทอี่ นุญาตใหท้ ดสอบและรับรองมาตรฐานของวัสดอุ ปุ กรณม์ ี ๙๙. การติดต้ังเครื่องปรบั อากาศ ดงั ต่อไปน.ี้ - ชนดิ แยกส่วน ( SPLIT-TYPE ) สถาบัน ที่ได้รบั ความเหน็ ชอบและอนุมัติจาก ผอู้ อกแบบ (๓) เคร่ืองปรับอากาศท่นี าํ มาตดิ ตง้ั ต้องใหม่ ไม่เคยใชง้ านมาก่อน การติดตัง้ เครอื่ งปรบั อากาศ และอปุ กรณ์ (๑) ตรวจแบบรูปรายการว่า เครอ่ื งปรบั อากาศท่ีจะนํามาตดิ ต้งั เปน็ แบบใด ขนาดใด BTU แล้วตรวจดใู หไ้ ด้มาตรฐานตามแบบ (๒) ตรวจดูอปุ กรณ์ทน่ี ํามาใช้ เชน่ สายไฟฟา้ แกนค่หู มุ้ ฉนวน P.V.C. ให้ ได้มาตรฐานตาม มอก. ปจั จุบันหรือสายไฟแกนเดยี่ ว THW. สายทองแดง หมุ้ พนั ฉนวนได้มาตรฐานตามกาหนดหรอื ไม่ (๓) ตรวจดสู วิทซต์ ัดตอนว่าไดม้ าตรฐานตาม IEC ๙๔๗ - ๒ (๔) ตรวจดทู ่อนาํ้ ยาวา่ เป็นท่อทองแดงหรือท่ออลมู เิ นยี มหรือทอ่ เหล็กไมเ่ ป็น สนิม ไมม่ รี อยตะเขบ็ เป็นชนิด “ L” (๕) ฉนวนหมุ้ ท่อนํ้ายาต้องใชช้ นดิ ไมต่ ดิ ไฟความหนา ๓/๔” (๖) แผ่นเหล็กอาบสังกะสีสาํ หรบั ทําท่อลมให้ได้มาตรฐานตาม มอก. ปจั จบุ ัน (๗) ตรวจดวู า่ การทาํ ท่อลมใชฉ้ นวนหุ้มถกู ต้อง แผน่ ใยแหง้ หรือใย ASBESTOS กรภุ ายนอกถกู ตอ้ ง (๘) ฟลนิ้ ทโ์ คททีท่ าเคลอื บท่อลมกอ่ นบุใชเ้ บอร์ ๓ การตดิ ตง้ั เคร่อื งปรับอากาศชนดิ แยกส่วน ( SPLIT-TYPE ) ต้องตรวจ ดังตอ่ ไปน.้ี - (๑) ตรวจดวู า่ เครอื่ งส่งลมเย็น ( FANCOIL UNIT ) ติดตงั้ อยใู่ นทท่ี ่ี เหมาะสม (๒) การตดิ ตัง้ ต้องมั่นคงและไมม่ กี ารส่นั สะเทือนเกดิ เสียงรบกวน

๑๐๐ เคร่อื งปรับอากาศชนดิ (๓) ท่ตี งั้ ตอ้ งสามารถให้ จนท.เขา้ ไปดแู ลรกั ษาได้สะดวก หน้าตา่ ง ( WINDOWS TYPE ) (๔) ตรวจดวู า่ สถานท่ตี ดิ ตง้ั ต้องใหท้ ่อระบายนํ้าทง้ิ มีความลาดระบายน้ําทง้ิ ออกไปได้ (๕) FAN COIL UNIT ตอ้ งเปน็ ผลติ ภัณฑ์เดียวกันกบั CONDENSING UNIT (๖) ตรวจดอู ุปกรณ์ในเครื่องระบายความรอ้ น ( CONDENSING UNIT ) วา่ ใหม่ และใชก้ ารได้ (๗) ตรวจดูระบบทอ่ นา้ํ ยาวา่ ใชท้ อ่ ทองแดงทาง SUCTION หุ้มฉนวน และ หนาไมต่ าํ่ กวา่ ๒๐ มม. (๘) การเดินทอ่ น้ํายาตอ้ งควบคมุ ใหเ้ ป็นแนวขนาน หรอื ตั้งฉากกบั อาคาร (๙) ตรวจดวู า่ ทอ่ ท่เี จาะทะลุผนงั ทุกแห่งมกี ารอดุ ชอ่ งวา่ งดว้ ยวสั ดกุ นั นาํ้ เรยี บร้อย (๑๐) ตรวจดวู า่ มกี ารตดิ ตงั้ FILTER , DRYER และ SIGHT GLASS ทีท่ ่อ นาํ้ ยากอ่ นเขา้ เคร่อื งเปา่ ลมเย็นทกุ ชนดิ (๑๑) ตรวจดทู ่อนาํ้ ท้ิงวา่ เปน็ P.V.C. CLASS ๑๓.๕ หุ้มด้วยฉนวนชนิด เดียวกนั หนา ๑/๒” หรอื ไม่ (๑๒) ตรวจดูทอ่ ลมวา่ ทาํ ดว้ ยเหล็กอาบสงั กะสี มีมาตรฐานความหนาตาม กาํ หนดในตาราง (๑๓) ตรวจดูท่อทกุ ขนาดวา่ มกี ารเสริมด้วยการพบั ขึน้ รูป หรือเสรมิ เหลก็ ฉากถกู ตอ้ ง แขง็ แรง ทุกทางแยกตอ้ งมี SPLITTER DAMPER ขอ้ โคง้ ตอ้ ง เป็นแบบ FULL RADIUS (๑๔) ต้องควบคมุ ให้มกี ารตดิ ตงั้ ชอ่ งบรกิ ารขนาด ๓๐ x ๓๐ ซม. เพ่ือ บรกิ าร FIRE DAMPER และ SPLITTER DAMPER ทุกจดุ (๑๕) ต้องกาํ หนดให้มีช่องเปดิ ฝ้าเพดาน เพือ่ เข้าไปบรกิ ารซ่อมบาํ รงุ รกั ษา ทอ่ ลม (๑๖) ตรวจดวู ่าการแขวนและยดึ ท่อลมเปน็ ไปตามขอ้ กําหนดถกู ตอ้ ง แขง็ แรง (๑๗) ตรวจดูวา่ การตดิ ตงั้ DAMPER ในท่อลมทุกชนดิ ถกู ตอ้ งหรือไม่ พร้อม ทง้ั ควบคมุ เวลาตดิ ตง้ั อยา่ งใกล้ชดิ (๑๘) ตรวจดูฉนวนหุม้ ท่อลม ( DUCT INSULATE ) วา่ มคี วามหนาตาม กาํ หนดกรรมวิธกี ารตดิ ต้ังถกู ตอ้ งหรอื ไม่ (๑๙) ตรวจดวู า่ เคร่อื งเปา่ ลมเยน็ ขนาดใหญแ่ บบต้งั พน้ื มกี ารตดิ ตงั้ AIR PLENUM OUTLET อยา่ งถกู ตอ้ งทง้ั วสั ดุทีน่ ามาใช้ และวิธีการตดิ ตั้ง การติดตัง้ เครอื่ งปรับอากาศชนดิ หนา้ ตา่ ง (๑) ตรวจดขู อบประตหู น้าต่าง ท่ีจะตดิ ต้งั ตอ้ งมคี วามม่นั คงแขง็ แรงตาม

แบบ (๒) การตดิ ตงั้ เครอ่ื งกับวงกบเหล็กต้องจัดให้มแี ผ่นยางรองกนั สะเทอื นด้วย (๓) ตรวจดูตาํ แหน่งตดิ ตั้งสวทิ ซ์ และท่อระบายน้าํ วา่ อยใู่ นตาํ แหนง่ ที่ เหมาะสมสะดวกต่อการใช้งาน แหล่งท่ีมาของข้อมลู - กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๔ ( พ.ศ. ๒๕๓๘ ) ออกตามความในพระราชบญั ญัตคิ วบคมุ อาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ - ประกาศกระทรวงวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละส่ิงแวดล้อม เร่ือง กาหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้าทงิ้ จากอาคารบางประเภท และบางขนาด ตีพมิ พใ์ นราชกจิ จานุเบกษา ฉบบั ประกาศทวั่ ไป เล่ม ๑๑๑ ตอนพิเศษ ๙ ง ลงวนั ที่ ๔ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๓๗ การแบ่งประเภทของอาคาร แบ่งประเภทของอาคารออกเป็น ๔ ประเภท คือ (๑) ประเภทของอาคาร ก. ก ) อาคารชดุ ตามกฎหมายวา่ ด้วยอาคารชดุ ท่มี จี านวนหอ้ งชดุ รวมกนั ทกุ ชนั้ ในอาคารหลังเดยี วกันหรือหลายหลงั รวมกนั เกนิ ๕๐๐ หอ้ งชดุ ข ) โรงแรมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงแรมทม่ี ีจานวนห้องพกั รวมกันทุกช้นั ในอาคารหลังเดียวกันหรอื หลายหลังรวมกันเกนิ ๒๐๐ ห้อง ค ) สถานพยาบาลตามกฎหมายวา่ ด้วยสถานพยาบาลทีม่ จี าํ นวนเตยี งรับผู้ปว่ ยไวค้ ้างคืนรวมกันทกุ ชนั้ ในอาคารในอาคาร หลังเดียวกันหรือหลายหลงั รวมกนั เกนิ ๓๐ เตียง ง ) อาคารที่กอ่ สรา้ งในที่ดนิ ของบุคคลทีไ่ ดร้ บั อนญุ าตใหจ้ ดั สรรที่ดินตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการจดั สรรท่ดี ินเกิน ๕๐๐ หลัง จ ) สถานศกึ ษาทีม่ พี ืน้ ท่รี วมกนั ทุกช้นั ในอาคารหลงั เดยี วกันหรอื หลายหลังรวมกนั เกิน ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตร ฉ ) อาคารทที่ าการของทางราชการ รฐั วสิ าหกจิ องคก์ ารระหวา่ งประเทศหรือเอกชนทม่ี ีพน้ื ทีร่ วมกันทุกช้ันในอาคารหลัง เดยี วกันหรอื หลายหลงั รวมกันเกนิ ๕๕,๐๐๐ ตารางเมตร ช ) ห้างสรรพสินค้าหรือศนู ยก์ ารคา้ ที่มพี ้ืนทีร่ วมกนั ทกุ ชัน้ ในอาคารหลังเดยี วกนั หรอื หลายหลงั รวมกนั เกิน ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตร ซ ) ตลาดทีม่ ีพ้นื ทีร่ วมกนั ทุกชนั้ ในอาคารหลงั เดียวกันหรือหลายหลงั รวมกันเกนิ ๒,๕๐๐ ตารางเมตร ฌ ) ภตั ตาคารหรือรา้ นอาหารทีม่ พี ื้นทีร่ วมกันทุกชนั้ ในอาคารหลังเดยี วกันหรือหลายหลงั รวมกนั เกิน ๒,๕๐๐ ตารางเมตร (๒) ประเภทของอาคาร ข. ก ) อาคารชุดตามกฎหมายวา่ ดว้ ยอาคารชดุ ที่มจี านวนหอ้ งชดุ รวมกนั ทกุ ชนั้ ในอาคารหลังเดยี วกนั หรือหลายหลังรวมกัน เกนิ ๑๐๐ ห้องชุด แตไ่ มเ่ กิน ๕๐๐ ห้องชุด ข ) โรงแรมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงแรมทม่ี จี านวนห้องพกั รวมกนั ทุกช้ันในอาคารหลังเดียวกนั หรอื หลายหลังรวมกันเกนิ ๖๐ หอ้ ง แตไ่ มเ่ กนิ ๒๐๐ ห้อง ค ) หอพักตามกฎหมายวา่ ดว้ ยหอพกั ทม่ี ีจานวนห้องพักรวมกนั ทกุ ช้ันในอาคารหลังเดยี วกนั หรอื หลายหลังรวมกนั เกนิ ๒๕๐ หอ้ ง ง ) สถานบรกิ ารตามกฎหมายวา่ ด้วยสถานบริการทมี่ ีพื้นทรี่ วมกนั ทุกชั้นในอาคารหลงั เดียวกันหรอื หลายหลงั รวมกันเกิน ๕,๐๐๐ ตารางเมตร

จ ) สถานพยาบาลตามกฎหมายวา่ ดว้ ยสถานพยาบาลทมี่ ีจาํ นวนเตยี งรบั ผ้ปู ่วยไวค้ า้ งคนื รวมกนั ทุกช้นั ในอาคารในอาคาร หลงั เดียวกันหรอื หลายหลงั รวมกนั เกนิ ๑๐ เตียง แต่ไม่เกิน๓๐ เตยี ง ฉ ) อาคารทกี่ อ่ สรา้ งในทดี่ นิ ของบคุ คลท่ีไดร้ ับอนญุ าตใหจ้ ดั สรรทด่ี ินตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการจดั สรรท่ีดนิ เกิน ๑๐๐ หลงั แตไ่ ม่เกิน ๕๐๐ หลัง ช ) สถานศกึ ษาท่ีมีพืน้ ท่ีรวมกนั ทกุ ช้ันในอาคารหลังเดยี วกันหรือหลายหลงั รวมกันเกนิ ๕,๐๐๐ ตารางเมตร แตไ่ ม่เกนิ ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตร ซ ) อาคารทีท่ าการของทางราชการ รัฐวสิ าหกจิ องค์การระหวา่ งประเทศหรอื เอกชนทมี่ ีพื้นท่รี วมกันทุกชน้ั ในอาคารหลงั เดยี วกันหรือหลายหลังรวมกันเกนิ ๑๐,๐๐๐ ตารางเมตรแตไ่ มเ่ กนิ ๕๕,๐๐๐ ตารางเมตร ฌ ) ห้างสรรพสินคา้ หรอื ศูนยก์ ารคา้ ท่ีมพี ้นื ทรี่ วมกนั ทกุ ชนั้ ในอาคารหลงั เดยี วกนั หรอื หลายหลังรวมกันเกนิ ๕,๐๐๐ ตาราง เมตร แต่ไม่เกิน ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตร ญ ) ตลาดทม่ี พี ้นื ท่ีรวมกันทุกช้นั ในอาคารหลงั เดียวกันหรอื หลายหลังรวมกันเกนิ ๑,๕๐๐ ตารางเมตรแตไ่ มเ่ กิน ๒,๕๐๐ ตารางเมตร ฎ ) ภตั ตาคารหรือรา้ นอาหารท่มี พี น้ื ท่ีรวมกันทกุ ชน้ั ในอาคารหลงั เดยี วกนั หรอื หลายหลังรวมกนั เกิน ๕๐๐ ตารางเมตร แต่ ไม่เกิน ๒,๕๐๐ ตารางเมตร ฏ ) อาคารอยูอ่ าศัยรวมทม่ี พี น้ื ท่ีรวมกนั ทุกชนั้ ในอาคารหลังเดยี วกันหรอื หลายหลงั รวมกันเกนิ ๑๐,๐๐๐ ตารางเมตร (๓) ประเภทของอาคาร ค. ก ) อาคารชุดตามกฎหมายวา่ ด้วยอาคารชดุ ทม่ี จี านวนห้องชดุ รวมกนั ทกุ ชั้นในอาคารหลงั เดยี วกันหรอื หลายหลังรวมกันไม่ เกนิ ๑๐๐ หอ้ งชุด ข ) โรงแรมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงแรมทม่ี จี านวนหอ้ งพกั รวมกันทุกชน้ั ในอาคารหลงั เดียวกันหรือหลายหลังรวมกนั ไมเ่ กิน ๖๐ หอ้ ง ค ) หอพักตามกฎหมายวา่ ดว้ ยหอพกั ที่มจี านวนหอ้ งพักรวมกนั ทกุ ชั้นในอาคารหลงั เดยี วกนั หรอื หลายหลงั รวมกนั เกนิ ๕๐ ห้อง แตไ่ มเ่ กิน ๒๕๐ ห้อง ง ) สถานบรกิ ารตามกฎหมายวา่ ดว้ ยสถานบริการท่ีมีพืน้ ท่รี วมกันทกุ ช้ันในอาคารหลังเดยี วกนั หรอื หลายหลังรวมกันเกนิ ๑,๐๐๐ ตารางเมตร แตไ่ มเ่ กิน ๕,๐๐๐ ตารางเมตร จ ) อาคารท่กี อ่ สรา้ งในทดี่ นิ ของบคุ คลท่ีไดร้ บั อนุญาตใหจ้ ัดสรรท่ีดนิ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการจดั สรรที่ดนิ เกนิ ๑๐ หลัง แต่ ไมเ่ กิน ๑๐๐ หลงั ฉ ) อาคารทท่ี าการของทางราชการ รัฐวิสาหกิจ องคก์ ารระหว่างประเทศหรือเอกชนทมี่ พี ้ืนที่รวมกนั ทกุ ชัน้ ในอาคารหลัง เดยี วกันหรอื หลายหลังรวมกันเกนิ ๕,๐๐๐ ตารางเมตร แต่ไมเ่ กิน ๑๐,๐๐๐ ตารางเมตร ช ) หา้ งสรรพสินคา้ หรอื ศูนยก์ ารคา้ ที่มีพ้ืนทีร่ วมกนั ทุกชั้นในอาคารหลังเดยี วกันหรือหลายหลงั รวมกนั เกนิ ๑,๐๐๐ ตาราง เมตร แตไ่ ม่เกิน ๕,๐๐๐ ตารางเมตร ซ ) ตลาดท่ีมีพื้นทรี่ วมกันทกุ ชนั้ ในอาคารหลังเดยี วกนั หรือหลายหลังรวมกนั เกนิ ๕๐๐ ตารางเมตร แตไ่ ม่เกิน ๑,๕๐๐ ตารางเมตร ฌ ) ภตั ตาคารหรือรา้ นอาหารท่มี ีพน้ื ท่ีรวมกนั ทกุ ช้ันในอาคารหลงั เดียวกนั หรือหลายหลงั รวมกนั เกนิ ๑๐๐ ตารางเมตร แต่ ไมเ่ กนิ ๕๐๐ ตารางเมตร

ญ ) อาคารอยู่อาศยั รวมท่มี พี น้ื ทีร่ วมกันทกุ ช้นั ในอาคารหลงั เดยี วกนั หรอื หลายหลังรวมกันเกิน ๒,๐๐๐ ตารางเมตร แต่ไม่ เกนิ ๑๐,๐๐๐ ตารางเมตร (๔) ประเภทของอาคาร ง. ก ) หอพักตามกฎหมายวา่ ดว้ ยหอพกั ที่มีจานวนห้องพกั รวมกนั ทุกชัน้ ในอาคารหลังเดยี วกันหรือหลายหลังรวมกันไมเ่ กนิ ๕๐ หอ้ ง ข ) สถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบรกิ ารที่มีพนื้ ทีร่ วมกนั ทกุ ชน้ั ในอาคารหลงั เดียวกันหรอื หลายหลังรวมกนั ไม่เกนิ ๑,๐๐๐ ตารางเมตร ค ) สถานพยาบาลตามกฎหมายวา่ ด้วยสถานพยาบาลทมี่ จี าํ นวนเตยี งรับผู้ปว่ ยไว้คา้ งคืนรวมกนั ทุกช้ันในอาคารหลัง เดียวกนั หรือหลายหลังรวมกันไมเ่ กนิ ๑๐ เตยี ง ง ) สถานศกึ ษาทีม่ พี ้นื ทร่ี วมกนั ทุกชนั้ ในอาคารหลังเดยี วกนั หรอื หลายหลงั รวมกันไม่เกนิ ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตร จ ) อาคารทที่ าการของทางราชการ รัฐวสิ าหกจิ องคก์ ารระหวา่ งประเทศหรอื เอกชนทม่ี ีพน้ื ท่รี วมกันทกุ ชัน้ ในอาคารหลงั เดียวกันหรอื หลายหลงั รวมกนั ไมเ่ กิน ๕,๐๐๐ ตารางเมตร ฉ ) หา้ งสรรพสนิ คา้ หรือศนู ยก์ ารคา้ ท่มี พี ้นื ท่รี วมกนั ทกุ ชั้นในอาคารหลงั เดยี วกันหรือหลายหลงั รวมกนั ไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐ ตารางเมตร ช ) ตลาดทมี่ พี ื้นท่ีรวมกันทุกชน้ั ในอาคารหลงั เดยี วกันหรอื หลายหลงั รวมกนั ไม่เกิน ๕๐๐ ตารางเมตร ซ ) ภตั ตาคารหรือรา้ นอาหารทมี่ พี นื้ ทีร่ วมกนั ทกุ ชน้ั ในอาคารหลงั เดยี วกนั หรือหลายหลังรวมกันไม่เกิน ๑๐๐ ตารางเมตร ฌ ) อาคารอยู่อาศัยรวมทม่ี พี นื้ ทรี่ วมกนั ทุกชน้ั ในอาคารหลังเดยี วกนั หรอื หลายหลังรวมกันไม่เกนิ ๒,๐๐๐ ตารางเมตร ( กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๔ ( พ.ศ. ๒๕๓๘ ) ออกตามความในพระราชบัญญัตคิ วบคมุ อาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ )