Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Tianjin Normal University CHINA

Tianjin Normal University CHINA

Published by roongroj.uta, 2020-05-16 07:27:18

Description: Tianjin Normal University CHINA

Search

Read the Text Version

รายงานการอบรมภาษาและวฒั นธรรมจีน ณ สาธารณรัฐประชาชนจนี 3 – 17 ธนั วาคม 2562 ว่าที่ร้อยเอกรงุ่ โรจน์ อุตมาตร ครชู านาญการ แผนกวชิ าช่างอิเล็กทรอนกิ ส์ วทิ ยาลัยเทคนิคมีนบุรี สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ

รายงานความก้าวหน้าและผลสมั ฤทธ์ิ (Progress Report) เขา้ คา่ ยฝึกอบรมภาษาและวัฒนธรรมจนี จดั โดย ศูนย์ประสานงานสถาบันการอาชีวศกึ ษา สถาบนั ขงจ่ือเส้นทางสายไหมทางทะเล และ Tianjin Normal University ระหวา่ งวันที่ ๓ – ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๒ ณ มหาวิทยาลัยครุศาสตร์เทียนจิน สาธารณรัฐประชาชนจนี ผจู้ ดั ทา ว่าทร่ี อ้ ยเอกรุ่งโรจน์ อตุ มาตร ครูชานาญการ วทิ ยาลัยเทคนคิ มีนบรุ ี เสนอตอ่ สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ประจาปี ๒๕๖๒





รายงานความก้าวหน้าและผลสมั ฤทธ์ิ (Progress Report) เขา้ คา่ ยฝึกอบรมภาษาและวัฒนธรรมจนี จดั โดย ศูนย์ประสานงานสถาบันการอาชีวศกึ ษา สถาบนั ขงจ่ือเส้นทางสายไหมทางทะเล และ Tianjin Normal University ระหวา่ งวันที่ ๓ – ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๒ ณ มหาวิทยาลัยครุศาสตร์เทียนจิน สาธารณรัฐประชาชนจนี ผจู้ ดั ทา ว่าทร่ี อ้ ยเอกรุ่งโรจน์ อตุ มาตร ครูชานาญการ วทิ ยาลัยเทคนคิ มีนบรุ ี เสนอตอ่ สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ประจาปี ๒๕๖๒

1 รายงานความกา้ วหนา้ และผลสัมฤทธิ์ (Progress Report) ชอ่ื -สกุล วา่ ทีร่ ้อยเอกรุ่งโรจน์ อุตมาตร ตาแหน่ง ครชู านาญการ สังกดั วทิ ยาลยั เทคนิคมีนบุรี อา้ งถงึ หนงั สือสานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ท่ี ศธ ๐๖๑๔/๗๘๕๒ ลงวันที่ ๑๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๒ เรอื่ งอนุมตั ใิ หข้ ้าราชการครแู ละบคุ ลากรอาชวี ศกึ ษา จานวน ๒๐ คน เดนิ ทางไปราชการ ณ สาธารณรัฐ ประชาชนจนี และคาส่งั วิทยาลัยเทคนคิ มนี บุรี ท่ี ๑๙๔๔ / ๒๕๖๒ เรอ่ื งใหข้ า้ ราชการครู ไปราชการเพื่อเข้ารับ ทนุ อบรมเขา้ คา่ ยภาษาจนี ลงวันท่ี ๒๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๒ ซง่ึ ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรอาชวี ศึกษา จะได้รับ ทุนเพ่ือเข้าค่ายฝึกอบรมภาษาและวัฒนธรรมจีน ของสถาบันขงจ่ือเส้นทางสายไหมทางทะเล และจะเป็นการ พัฒนาครูและบุคลากรในการเตรียมความพร้อมที่จะเชือ่ มต่อการบรหิ ารและจัดการอาชีวศึกษาในสาขาวิชาชีพ ใหมท่ ่ีสอดคล้องกบั นโยบายของรฐั บาลทีม่ ุ่งสู่การพัฒนาประเทศไทยแลนด์ ๔.๐ และนโยบาย One Belt One Road ระหว่างวันที่ ๓ – ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๒ ณ มหาวิทยาลัยครุศาสตร์เทียนจิน สาธารณรัฐประชาชนจีน รวมระยะเวลา ๑๕ วัน นั้น ในการน้ี ขา้ พเจา้ ว่าทีร่ ้อยเอกรุ่งโรจน์ อุตมาตร ตาแหน่ง ครูชานาญการ แผนกวชิ าช่างอิเล็กทรอนิกส์ ได้เข้ารับการฝึกอบรมโครงการดังกล่าวข้างต้นเป็นท่ีเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับรายงานความก้าวหน้าและ ผลสมั ฤทธ์ิ (Progress Report) รวมถงึ แนวทางการนาไปใช้ประโยชนใ์ ห้แก่สถานศกึ ษา ดงั น้ี มหาวิทยาลัยครุศาสตรเ์ ทียนจนิ (Tianjin Normal University) Tianjin Normal University (TNU) ต้ังอยู่ในเมืองเทียนจิน ซึ่งใช้เวลาราวประมาณ 70 นาที จาก ปักกิ่ง โดยรถไฟ และเป็น 1 ใน 4 มหานคร ที่รัฐบาลเข้ามาดูแลโดยตรง และเป็นศูนย์กลางของรัฐบาลจีน TNU ก่อต้งั คร้งั แรกเมอ่ื ปี 1958 ปจั จบุ นั เป็นมหาวทิ ยาลยั หลัก ๆ ในเทยี นจิน อาจารยม์ เี ทคนคิ การสอนท่ีโดด เด่น มีคณะฑูตจากสถานฑูตเมืองปักก่ิง และผู้อาวุโสทางการศึกษา คอยดูแล เช่นเดียวกับท่ี Chinese- Speaking-Contest ผ้ชู นะอยู่ภายใต้การดแู ลของทีน่ ่ี มกี ารอนญุ าตใหม้ สี ิทธพิ เิ ศษ เป็น 1 ใน 94 มหาวทิ ยาลัย ทมี่ สี ภาพความเป็นอยู่ที่ดี มกี ารรบั นกั เรียนทนุ ชาวต่างชาติ โดยโปรแกรมทุนของรัฐบาลจีน เน้นหนกั ไปในการ วิจัยสาหรบั การศึกษาเก่ียวกบั สภาพมนุษย์ โดยกระทรวงศึกษาธิการจีน จึงเปน็ 1 ใน 9 มหาวทิ ยาลยั ตน้ ๆ ท่ี

2 มีทุนการศึกษา ที่เมืองจีนมีโปรแกรมอาสาสมัครสอนภาษาจีนนานาชาติ 1 ใน 16 มหาวิทยาลัย และที่ มหาวิทยาลัยยังมสี ถาบนั ขงจ้อื เป็นสถาบนั สาหรับสอบ HSK ในเมอื งจนี Tianjin Normal University เป็นมหาวทิ ยาลยั ทส่ี าคญั ในเทยี นจนิ ก่อต้งั ขึน้ ในปี 1958 หรอื ทรี่ ู้จักใน ชื่อ Tianjin Normal University และเปล่ียนชื่อเป็น Tianjin Normal University ในปี 1982 ในปี 1999 อดีตมหาวิทยาลัยเทียนจินปกติวิทยาลัยครูแห่งเทียนจินและวิทยาลัยการศึกษาเทียนจินได้รวมตัวกันเป็น มหาวิทยาลยั แหง่ ใหมข่ องเทยี นจิน มหาวิทยาลัยครอบคลุมพื้นท่ี 3,500 mu และพื้นท่ีอาคาร 860,000 ตารางเมตร ในปี 2005 วิทยาเขตแห่งใหม่ของ Tianjin Normal University ซ่ึงตั้งอยู่ในเขต Xiqing เปิดอย่างเป็นทางการและ สภาพแวดล้อมของมหาวิทยาลัยได้รับการปรับปรุงให้ดีข้ึนเป็นพ้ืนฐานวางรากฐานที่แข็งแกร่งสาหรับการ พัฒนามหาวทิ ยาลยั ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมีฝ่ายงานและหน่วยงานภาครัฐ 27 แห่งแผนกวิชาการ 2 แห่งวิทยาลัย 20 แห่งและหน่วยงานในเครือ 17 แหง่ ปัจจุบันมีสาขาวชิ าระดบั ปริญญาตรี 70 สาขาระดับปริญญาเอก 8 สาขา ทไี่ ด้รับอนญุ าต 1 สาขาระดับปริญญาเอก 1 หลกั สตู รสาหรบั การศึกษา 35 สาขาวิชาระดับปรญิ ญาโททไ่ี ด้รับ อนุญาต 35 สาขาและปริญญาโท 16 ประเภทครอบคลุมปรัชญาเศรษฐศาสตร์เศรษฐศาสตร์กฎหมายและ การศึกษา 10 สาขาวิชา ได้แก่ วิทยาศาสตร์วรรณคดีประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์วิศวกรรมการจัดการและ ศิลปะ ปัจจุบันมหาวิทยาลยั มีผู้ช้ีแนะคนหนึ่งและสมาชิกของคณะกรรมการประเมินผลงานวนิ ัยแห่งที่เจ็ดของ คณะกรรมการการศึกษาของสภาแห่งรัฐรองประธานหน่ึงคนและสมาชิกหนึ่งคนของคณะกรรมการการศึกษา และการศึกษาระดับมืออาชีพหน่ึงคนและรองประธานคณะกรรมการ มีสมาชิก 12 คน สมาชิกสภารอง ผู้อานวยการ 1 คน ของคณะกรรมการดาเนินการฝึกอบรมครูผู้สอนระดับประถมศึกษาของ กระทรวงศึกษาธิการ 1 คน คณะกรรมการอานวยการฝึกอบรมครูผสู้ อนระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น 1 คน และ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิหลักสูตรการศึกษาแห่งชาติ มี 2 สาขาวิชาท่ีสาคัญในประเทศ ได้แก่ 7 สาขาวิชาใน เทียนจิน 7 สาขาวิชาหลัก 18 สาขาในเทียนจินสาขาวิชาพิเศษ 15 สาขา (กลุ่ม) ในเทียนจินและสาขาวิชา เคมีได้อันดับ 1% ของการจัดอันดับ \"ESI\" เป็นเวลา 6 ปีติดต่อกัน วิทยาลัยคีย์มาร์กซ์แห่งชาติ จากผลการ ประเมินของกระทรวงศึกษาธิการและศูนย์พัฒนาการศึกษาบัณฑิตวิทยาลัยสาขาวิชารัฐศาสตร์ส่ีแห่งของเรา , ทฤษฎีมาร์กซ,์ จิตวิทยา, ประวตั ิศาสตร์โลก, และปรญิ ญาโทดา้ นการศกึ ษาไดเ้ ข้าเรียนในระดับ B +, และสาขา การศึกษาสองภาษาและวรรณคดีจีน อนั ดบั ของคลาส มสี ถานท่กี ่อสร้างพิเศษ 6 แหง่ ของกระทรวงศึกษาธิการ

3 16 สถานท่ีก่อสร้างพิเศษในเทียนจิน, 5 สถานท่ีก่อสร้างพิเศษที่เก่ียวข้องกับอุตสาหกรรมเกิดใหม่เชิงกลยุทธ์ ในเทียนจิน, 8 สถานท่ีก่อสร้างพิเศษในเทียนจิน, และ 12 สถานท่ีก่อสร้างพิเศษในเทียนจิน จุด มีศูนย์สาธิต การสอนทดลองแห่งชาติ 2 แห่ง, มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ 3 จังหวัดและเทศบาล, ศูนย์วิศวกรรม จังหวัดและเทศบาล 7 แห่ง, ศูนย์วิจัยร่วมระหว่างประเทศและห้องปฏิบัติการสาคัญ, และสถานีเคลื่อนท่ีวิจัย หลังปริญญาเอก 7 แห่ง โรงเรียนได้สร้างหลักสูตรการแบ่งปันทรัพยากรคุณภาพระดับชาติ 9 หลักสูตร หลักสูตรคุณภาพระดับเมือง 25 หลักสูตรหลักสูตรสร้างบูติคในเมืองเทียนจิน 6 หลักสูตรหลักสูตรการ ก่อสร้างบูติกในเทียนจิน 1 ทีมการสอนระดับชาติ 1 แห่งทีมการสอนระดับเทศบาล 13 คน 2 เทียนจิน \"สิบ หา้ ป\"ี ทมี นวัตกรรมการสอนการลงทุนท่ีครอบคลุม เขาไดร้ บั รางวลั ชนะเลิศหนงึ่ รางวัลและรางวลั ท่สี องในสาม รางวัลความสาเร็จการศึกษาระดับชาติเพ่ือการศึกษาข้ันพ้ืนฐานรางวัลที่สองในรางวัลความสาเร็จการศึกษา ระดับชาตเิ พอ่ื การศกึ ษาระดบั อุดมศึกษาและรางวัลชนะเลิศอนั ดบั หนง่ึ ในกล่มุ ศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัย ตีพิมพ์วารสาร 10 ฉบับ เช่นวารสารมหาวิทยาลัยเทียนจินครูวิจัยทางจิตวิทยาและ พฤติกรรมนิทรรศการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เยาวชน วารสารการศึกษาคณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์ยุค กลางประวัติศาสตร์ความคิดทางการเมืองทบทวนประวัติศาสตร์เศรษฐกิจและสังคมและเพ่ือนร่วมช้ัน มี นักศึกษาปริญญาตรีเต็มเวลา 24,528 คน นักศึกษาปริญญาโทเต็มเวลา 4,526 คน นักศึกษาปริญญาเอก 429 คนและนกั ศึกษาต่างชาติ 2,150 คนในทกุ ระดับ มีคณาจารย์ 2,343 คนรวมทง้ั อาจารยป์ ระจา 1461 คนตาแหน่งอาวโุ ส 703 คนและปรญิ ญาเอก 871 คน มหาวิทยาลัยมปี ระวตั ิศาสตร์อันยาวนานของมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ให้ความสนใจกบั การสร้าง รถถังคิดใหม่และให้บริการงานปาร์ตี้และรัฐบาลเพ่ือการตัดสินใจทางวิทยาศาสตร์ มุ่งม่ันพัฒนาสาขา วิทยาศาสตร์ธรรมชาติและสร้างมหาวิทยาลัยท่ีครอบคลุม เน้นคุณลักษณะของการศึกษาของครูและสร้าง แบบจาลองการศึกษาของครูที่ผสมผสานวิชาการศึกษาวิชาชีพกับการศึกษาเพ่ือพัฒนาครูมืออาชีพ สารวจ การศึกษารอบด้านและรอบด้านอย่างจริงจังและได้สร้างระบบการศึกษาตามการบูรณาการทั้งห้าของ \"ช้ัน เรียนและช้ันเรียน, ทีมงาน, โครงการศึกษา, ออนไลน์และออฟไลน์และภายในและภายนอกโรงเรียน\" \"สาม คาถามและสามทาง\", \"แปดบรรยาย\" และการสอนภาคปฏิบัติ \"หา้ เหมอื นกัน\" ของบทเรียนเชิงอุดมการณ์และ การเมืองเชิงสร้างสรรค์ได้รับการส่งเสริม โรงเรียนของเราได้สร้างประสบการณ์ใหม่ในการปฏริ ูปการเรียนการ สอนวิชาอุดมการณ์และการเมืองและได้รับรายงานจากส่ือกลางและหนังสือพิมพ์มากกว่า 50 ครั้ง กระทรวงศึกษาธิการได้รับการอนุมัติให้เป็นฐานมรดกสืบทอดทางวัฒนธรรมแบบจีนชุดแรกสานักวิชา การเมอื งและการปกครองได้รบั รางวลั ชอื่ กลุ่มระบบการศึกษาข้ันสูงแหง่ ชาติ ชอื่ ของ \"แบบจาลองการสอน\" ใน ช้ันทฤษฎีอุดมการณ์และการเมือง \"ครูดีเด่น\" ในประเทศและ \"ครูท่ีสวยท่ีสุดในชั้นลัทธิและการเมือง\" มหาวิทยาลยั ได้ยดึ ม่ันในการเปดิ โรงเรียนเสมอและสร้างความสัมพนั ธฉ์ นั มิตรและความรว่ มมือกบั มหาวทิ ยาลัย สถาบันหรือรัฐบาลท้องถิ่นใน 167 ประเทศและภูมิภาค มันเป็นชุดแรกของฐานการสาธิตการศึกษาแห่งชาติ ในประเทศจีน โฮสต์สถาบันขงจื่อส่ีแห่งชนะการประกวด \"สถาบันขงจ้ือข้ันสูง\" 10 คร้ังได้รับรางวัลเกียรติยศ สงู สดุ จากการกอ่ ต้ังสถาบันขงจ้ือครั้งเดียวและไดร้ บั การจัดอันดับให้เป็น \"โรงเรยี นขงจอื้ สถาบนั ขงจ้อื ขั้นสูง\" มหาวิทยาลัยได้รับรางวัลอย่างต่อเน่ืองเกือบ 100 รางวัลจากคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อการสร้าง อารยธรรมทางจิตวิญญาณหน่วยอารยธรรมแห่งชาติรางวัลแรงงานแห่งชาติวันท่ี 1 พฤษภาคมรางวัลธง แห่งชาติ \"8 มีนาคม\" ธงแห่งชาติครูต้นแบบแห่งชาติ มหาวิทยาลัยปฏิบัติตามคาขวัญของมหาวิทยาลัย“ คน ขยันหม่ันเพียรสร้างตนเอง” และปลูกฝังรูปแบบมหาวิทยาลัย“ เน้นการเรียนรู้และคิดความเป็นอันหนึ่งอัน เดยี วกันของความรู้และการกระทา” และสไตล์มหาวิทยาลัยของ“ ความซือ่ สตั ย์และไวว้ างใจได้ความกล้าหาญ และความรับผิดชอบ” “ การสร้างคนท่ีมีคุณธรรม” อย่างใกล้ชิดโดยยึดมั่นในยุทธศาสตร์การพัฒนาของ“

4 มหาวิทยาลัยท่ีมีลักษณะเฉพาะมหาวิทยาลัยท่ีมีคุณภาพความสามารถและการปฏิรูปและนวัตกรรม” และ มุ่งมั่นท่ีจะสร้าง“ คุณภาพการสอนในประเทศความสามารถในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ชั้นหนึ่งและมุ่งมั่นท่ี จะสรา้ งมหาวิทยาลยั ใหเ้ ป็นมหาวิทยาลยั ทคี่ รอบคลุมชนั้ หนึง่ ในประเทศสาหรับการศกึ ษาของครู ผ้บู รหิ ารมหาวทิ ยาลัยครุศาสตร์เทยี นจิน เลขาธิการคณะกรรมการฝ่ายโรงเรยี น: Jang Ling 校党委书记:张玲 เป็นประธานในการทางานของคณะกรรมการพรรคของโรงเรียนและการสรา้ งทีมผนู้ าในความดูแลของ สานักงานคณะกรรมการฝ่ายสานักงานใหญ่ของการวิจัยการพัฒนาและนโยบายและงานร้องเรียนติดต่อ โรงเรียนศลิ ปะมาร์กซ์กฎหมายและฟสิ ิกสแ์ ละวสั ดุศาสตร์ รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการพรรคและประธานมหาวิทยาลัย: Zhong Yinghua 校党委副书记、校长:钟英华 เปน็ ประธานในการบรหิ ารงานของโรงเรียนในดา้ นการสรา้ งวินัยการตรวจสอบการแลกเปล่ียนระหว่าง ประเทศการศึกษาสาหรับนักเรียนต่างชาติคณะกรรมการพรรค Balitai งาน Balitai วิทยาเขตติดต่อโรงเรียน ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโรงเรียนการเมืองและการปกครองและโรงเรี ยนการศึกษาและการแลกเปล่ียน ระหว่างประเทศ

5 รายละเอียดเก่ียวกับการฝึกอบรม สัมมนา ดูงาน อบรมเรอื่ ง ภาษาและวฒั นธรรมจนี กาหนดการฝกึ อบรม ๓ ธนั วาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๑.๔๐ น. ออกเดินทางจากสนามบนิ สวุ รรณภมู ิ ๓ ธนั วาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๗.๑๐ น. เดินทางถงึ สนามบนิ เทยี นจิน สาธารณรฐั ประชาชนจีน เวลา ๑๐.๓๐ น. เดนิ ทางโดยรถบัสถึงท่ีพัก Tianjin Normal University เวลา ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. รบั ประทานอาหารกลางวัน เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๔.๐๐ น. Noon Break เวลา ๑๔.๐๐ – ๑๕.๐๐ น. พธิ ีเปิด Opening Ceremony 开班典礼 เวลา ๑๕.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. Surrounding 熟悉周边 เวลา ๑๗.๓๐ รบั ประทานอาหารเย็น 晚餐 ๔ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๗.๓๐ น. รับประทานอาหารเชา้ 早餐 เวลา ๐๙.๕๐ – ๑๑.๓๐ น. Oral Chinese 汉语口语 (อาจารย์ 杜 艳) เวลา ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. รบั ประทานอาหารกลางวัน เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๔.๐๐ น. Noon Break เวลา ๑๔.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. Visit the main campus เวลา ๑๗.๓๐ 参观新校区,了解图书馆 รับประทานอาหารเยน็ 晚餐 ๕ ธนั วาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๗.๓๐ น. รบั ประทานอาหารเชา้ 早餐 เวลา ๐๘.๐๐ – ๐๙.๓๕ น. Comprehensive Chinese 综合汉语 (อาจารย์ 李 晴 ) เวลา ๐๙.๓๕ – ๑๑.๓๐ น. Oral Chinese 汉语口语 (อาจารย์ 杜 艳) เวลา ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. รบั ประทานอาหารกลางวัน เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๔.๐๐ น. Noon Break เวลา ๑๔.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. Culture: Traditional handcraft 中国剪纸体验课 (อาจารย์ )刘树芝 เวลา ๑๗.๓๐ รับประทานอาหารเยน็ 晚餐 ๖ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๗.๓๐ น. รบั ประทานอาหารเช้า早餐 เวลา ๐๘.๐๐ – ๐๙.๓๕ น. Comprehensive Chinese 综合汉语 (อาจารย์ 李 晴 ) เวลา ๐๙.๓๕ – ๑๑.๓๐ น. Oral Chinese 汉语口语 (อาจารย์ 杜 艳) เวลา ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. รบั ประทานอาหารกลางวนั เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๔.๐๐ น. Noon Break

๖ ธันวาคม ๒๕๖๒ (ต่อ) เวลา ๑๔.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. 6 เวลา ๑๗.๓๐ Free time 自由活动 ๗ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๗.๐๐ น. รบั ประทานอาหารเย็น 晚餐 เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. รับประทานอาหารเชา้ 早餐 ๘ ธนั วาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๗.๓๐ ศึกษาวัฒนธรรม Culture: Visit Tiananmen Square เวลา ๐๗.๐๐ น. The forbidden City เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. Temple of Heaven เวลา ๑๗.๓๐ 北京文化考察:天安门广场、故宫、天坛 ๙ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๗.๓๐ น. รับประทานอาหารเยน็ 晚餐 เวลา ๐๘.๐๐ – ๐๙.๓๕ น. รบั ประทานอาหารเช้า早餐 เวลา ๐๙.๓๕ – ๑๑.๓๐ น. ศึกษาวัฒนธรรม เวลา ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. Culture: Visit the Great Wall เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๔.๐๐ น. at Badaling เวลา ๑๔.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. 北京文化考察:八达岭长城 เวลา ๑๗.๓๐ รบั ประทานอาหารเย็น 晚餐 ๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๗.๓๐ น. เวลา ๐๘.๐๐ – ๐๙.๓๕ น. รับประทานอาหารเช้า 早餐 Calligraphy 中国书法体验 เวลา ๐๙.๓๕ – ๑๑.๓๐ น. (อาจารย์ )李国忠 เวลา ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. Oral Chinese 汉语口语 (อาจารย์ 杜 艳) เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๔.๐๐ น. รับประทานอาหารกลางวนั เวลา ๑๔.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. Noon Break Lecture 中国文化讲座 เวลา ๑๗.๓๐ (อาจารย์ )高爱辉 รบั ประทานอาหารเยน็ 晚餐 รบั ประทานอาหารเช้า早餐 Comprehensive Chinese 综合汉语 (อาจารย์ 李 晴 ) Oral Chinese 汉语口语 (อาจารย์ 杜 艳) รบั ประทานอาหารกลางวัน Noon Break Visit Tianjin Maritime College 参观天津海运职业学院 รับประทานอาหารเย็น 晚餐

๑๑ ธนั วาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๗.๓๐ น. 7 เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๑.๓๐ น. รับประทานอาหารเชา้ 早餐 เวลา ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. Visit Tianjin Normal University เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๔.๐๐ น. Attached Elementary School เวลา ๑๔.๐๐ – ๑๕.๓๐ น. 参观师大附小 เวลา ๑๗.๓๐ รบั ประทานอาหารกลางวัน ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๗.๓๐ น. Noon Break เวลา ๐๘.๐๐ – ๐๙.๓๕ น. Chinese character education เวลา ๐๙.๓๕ – ๑๑.๓๐ น. 汉字与汉字教学 เวลา ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๔.๐๐ น. (อาจารย์ 高 影) เวลา ๑๔.๐๐ – ๑๕.๓๐ น. รบั ประทานอาหารเย็น 晚餐 เวลา ๑๗.๓๐ รบั ประทานอาหารเชา้ 早餐 Calligraphy 中国书法体验 ๑๓ ธนั วาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๗.๓๐ น. (อาจารย์ )李国忠 เวลา ๐๘.๐๐ – ๐๙.๓๕ น. Oral Chinese 汉语口语 (อาจารย์ 杜 艳) รับประทานอาหารกลางวนั เวลา ๐๙.๓๕ – ๑๑.๓๐ น. Noon Break เวลา ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. Culture: Traditional handcraft เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๔.๐๐ น. เวลา ๑๔.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. 中国剪纸体验课 เวลา ๑๗.๓๐ (อาจารย์ )刘树芝 ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๗.๓๐ น. รบั ประทานอาหารเย็น 晚餐 เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. รบั ประทานอาหารเชา้ 早餐 เวลา ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. Calligraphy 中国书法体验 เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๔.๐๐ น. (อาจารย์ )李国忠 เวลา ๑๔.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. Oral Chinese 汉语口语 (อาจารย์ 杜 艳) รบั ประทานอาหารกลางวนั เวลา ๑๗.๓๐ Noon Break Free time 自由活动 รบั ประทานอาหารเย็น 晚餐 รับประทานอาหารเช้า 早餐 Culture: Visit Tianjin Museum 文化考察:天津博物馆 รบั ประทานอาหารกลางวัน Noon Break Visit Ancient culture street 文化考察:古文化街 รบั ประทานอาหารเย็น 晚餐

8 ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๗.๓๐ น. รบั ประทานอาหารเช้า早餐 เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๑.๓๐ น. Visit Yang liuqing woodblock New Year painting museum เวลา ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๔.๐๐ น. 文化考察:杨柳青年画博物馆 เวลา ๑๔.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. รบั ประทานอาหารกลางวนั เวลา ๑๗.๓๐ Noon Break Culture: Visit JOY CITY ๑๖ ธนั วาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๗.๓๐ น. เวลา ๐๘.๐๐ – ๐๙.๓๕ น. 商业文化考察:天津大悦城 เวลา ๐๙.๓๕ – ๑๑.๓๐ น. รบั ประทานอาหารเย็น 晚餐 เวลา ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๔.๐๐ น. รบั ประทานอาหารเชา้ 早餐 เวลา ๑๔.๐๐ – ๑๕.๓๐ น. Calligraphy 中国书法体验 (อาจารย์ )李国忠 เวลา ๑๗.๓๐ Oral Chinese 汉语口语 (อาจารย์ 杜 艳) รบั ประทานอาหารกลางวนั ๑๗ ธนั วาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๗.๓๐ น. Noon Break เวลา ๐๙.๐๐ น. Culture: Tai chi เวลา ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. 太极拳体验 ( 逸夫楼 1 楼集合) เวลา ๑๖.๓๐ น. (อาจารย์ )姚希虹 เวลา ๑๗.๓๐ น. รบั ประทานอาหารเยน็ 晚餐 เวลา ๒๐.๑๐ น. เวลา ๐๐.๓๐ น. รบั ประทานอาหารเชา้ 早餐 พธิ ีปดิ Graduation Ceremony ผ้เู ขา้ รับการอบรม ประกอบด้วย ครู ๑. วา่ ท่รี ้อยเอก รงุ่ โรจน์ อตุ มาตร ครู 结业典礼 ๒. นางสาวจนั ทรเ์ พ็ญ โชคธนานกุ ูล ครู ๓. นางสาวยอแสง โกวิททวี ครู รับประทานอาหารกลางวนั ๔. นางสาวเทพธิดา สัมมา ครู เดนิ ทางโดยรถบสั จากทพ่ี ัก ๕. นางสาวนฤมล วงคเ์ คียน ครู Tianjin Normal University ๖. นางนภาภรณ์ ฤทธวิ ัชร์ เดนิ ทางถงึ สนามบนิ เทยี นจนิ ออกเดินทางจากสนามบินเทียนจิน เดนิ ทางถึงสนามบนิ ดอนเมือง วทิ ยาลัยเทคนิคมีนบรุ ี วิทยาลัยการอาชีพวังไกลกงั วล วทิ ยาลัยสารพัดช่างสาพระยา วทิ ยาลัยเทคนคิ กาญจนาภิเษกอดุ รธานี วิทยาลยั พณิชยการเชตุพน วิทยาลัยพณชิ ยการเชตุพน

9 ๗. นายเอกลักษณ์ ต้นตพิ ิริยะ ครู วิทยาลัยเทคนิคกาญจนบรุ ี ครู วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี ๘. นางประไพ แกว้ วิลัย ครู วิทยาลยั อาชีวศกึ ษาเสาวภา ครู วิทยาลัยอาชวี ศึกษาเสาวภา ๙. วา่ ท่รี อ้ ยตรี ศุภกิจ ดวงไพสิฐ ครู วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาสุราษฎรธ์ านี ครู วิทยาลัยอาชีวศึกษานครปฐม ๑๐.นางสาววรวลญั ช์ วงค์ขมภู ครู วิทยาลยั พณชิ ยการธนบุรี ครูอตั ราจ้าง วทิ ยาลัยการอาชีพกาญจนบรุ ี ๑๑.นางสาวนารรี ตั น์ อู้สกลุ วฒั นา ครจู ้างสอน วิทยาลัยเทคนคิ พทั ยา พนกั งานราชการ วิทยาลยั การอาชีพวเิ ศษชัยชาญ ๑๒.นางสาวขลขวญั แสงเทียน รองผอู้ านวยการวิทยาลัยการอาชวี ศึกษาปทมุ ธานี นักวิชาการศกึ ษาชานาญการ สานักความรว่ มมือ ๑๓.นางสนฎิ ฐา วฒุ ิวิกัยการ สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ผ้อู านวยการศูนย์ประสานงานสถาบนั การอาชีวศึกษา ๑๔.นางสาวนภิ า ตันตพิ ิริยะ ๑๕.นางสาวกรกฎ อุดมภ์ ๑๖.นายโสภณ ผาปาน ๑๗.นางญาณนี าถ วิริยะ ๑๘.นางสาวปนัสยา มานะ ๑๙.นางณัฏฐี ศรสี วัสด์ิ ชอ่ื วิทยากร 1. อาจารย์ Qing Li (李 晴) อาจารยส์ อนดา้ นทกั ษะภาษาจนี (Comprehensive Chinese : )综合汉语 - Ren shi ni hengaoxing - Ni jiaoshenmeming zi - Mingtian shi Tiantian de sheng ri - Maishenme li wu - Ni men chi dianr shen me - Wo xiangmai yi jian qi pao - Mingtian bi jintian re - Ditie zhanzai nar

10 2. อาจารย์ Yan Du (杜 艳) อาจารย์สอนดา้ นการออกเสยี งภาษาจีน (Oral Chinese :汉语口语) - Ren shi ni hengaoxing - Ni jiaoshenmeming zi - Mingtian shi Tiantian de sheng ri - Maishenme li wu - Ni men chi dianr shen me - Wo xiangmai yi jian qi pao - Mingtian bi jintian re - Ditie zhanzai nar 3. อาจารย์ Liu Shuozhi (刘树芝) อาจารยส์ อนวัฒนธรรมจีน ดา้ นศิลปะการตัดกระดาษจนี (Traditional handcraft : )中国剪纸体验课

11 ศลิ ปะการตดั กระดาษแบบจีนเริ่มข้นึ สมัยซีฮ่ัน(西汉) กอ่ นหน้าซึ่งยังไม่มีการคิดคน้ กระดาษขน้ึ มานั้น ก็มีความนิยมในการตัด ฉลุ เจาะ แผ่นทอง แผ่นหนัง ผืนผ้า แม้กระทั่งใบไม้ให้มีลวดลายต่างๆ เกิดขึ้นมาแล้ว โดยในประเทศจีนมีการค้นพบศิลปะการตัดกระดาษครั้งแรกเม่ือปี 1967 เมื่อนักโบราณคดีค้นพบกระดาษท่ี ตัดแบบจีน 2 ใบ แปะอยู่ในบริเวณสุสานโบราณเมืองทูลูฟัน ในเขตปกครองตนเองซินเกียง โดยกระดาษท่ีใช้ ทามาจากใบปอ กระดาษ เป็นวัสดุท่ีขึ้นราและเปือ่ ยง่าย ยิ่งในสภาพถูมิอากาศร้อนชื้นอย่างจีนตะวันออกเฉียงใต้ และ ฝนที่มักจะตกในเดือน พฤษภาคมถึงมิถุนายน ด้วยแล้วย่ิงทาให้กระดาษเป่ือยและขึ้นรา ซ่ึงศิลปะการตัด กระดาษพ้ืนบ้านน้ันเป็นศิลปะมวลชน ผู้คนจะไม่เก็บรักษาอย่างดีเหมือนศิลปะล้าค่าอื่นๆ หากผุพังแล้วก็ สามารถตัดขึ้นมาใหม่ได้ ส่วนทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนซ่ึงแห้งแล้งน้ัน กระดาษไม่ค่อยข้ึนราหรือเปื่อย ย่ยุ จึงอาจเป็นเหตผุ ลหนึง่ ท่ที าใหม้ กี ารคน้ พบศิลปะการตดั กระดาษทท่ี ลู ูฟันกเ็ ปน็ ได้ สมัยถงั การตัดกระดาษมีการพัฒนาขึ้นอย่างมากแลว้ ในบทกวีของตฝู้ ู กล่าวไว้วา่ “นา้ อ่นุ รนิ รดเท้าข้า กระดาษตัดมาชี้นาวิญญาณ” โดยในสมัยนั้น การใช้กระดาษตัดเรียกวิญญาณ เป็นท่ีนิยมอย่างมากในหมู่ ชาวบ้าน การใช้กระดาษตัดเรียกวิญญาณน้ัน ใช้กับวิญญาณที่ตายอย่างไม่ปกติ เช่น อุบัติเหตุ โดยส่วนใหญ่ ผู้ทาพิธีต้องเกี่ยวข้องกับผู้ตายทางสายเลือด ชาวจีนผู้เคยร่วมในพิธีเรียกวิญญาณเล่าว่าการใช้กระดาษเรียก วิญญาณน้ัน จะต้องตัดกระดาษเป็นรูปเรือใบ นามาห่อยอดข้าวเกาเหลียง และเม่ือถึงวันทาพิธีฝังศพ ให้ญาติ (หากเป็นลูกชายจะดมี าก)สวมผ้ากระสอบ ในมือถือกระดาษเรียกวญิ ญาณที่เตรียมไว้นี้ เดินนาหน้าหบี ศพ เพอ่ื เปน็ การชกั นาดวงวิญญาณให้หาทางกลับบา้ นถูก และไปส่สู ขุ คติเมอื่ ทาพิธฝี งั เรยี บร้อย นอกจากนี้ในสมัยถังยังใช้รูปตัดกระดาษเป็นแบบในการพิมพ์ผ้า โดยนากระดาษหนามาตัดเป็น ลวดลายต่างๆ ทาบลงบนผ้าแล้วจึงลงสีไปบนผ้าส่วนที่พ้นจากกระดาษออกมา กลายเป็นลวดลายท่ีงดงาม ต่างๆ การตัดกระดาษสมัยซ่งพัฒนาถึงข้ันท่ีเริ่มอยู่ตัว กระดาษกลายเป็นสินค้าท่ีผู้คนนิยมซื้อหา ซ่ึงเป็นการ ยกระดับศิลปะการตัดกระดาษด้วย เช่น กลายเป็นของขวัญ เป็นที่ตกแต่งโคมไฟ เป็นต้น ผู้คนในสมัยซ่งใช้ กระดาษตัดในโอกาสที่หลากหลายขึ้น เตาเผาจี๋โจว ที่เจียงซี นากระดาษตัดมาใช้เป็นลวดลายของ เคร่ืองป้ันดินเผา เมื่อผ่านการเคลือบ และเผาก็จะงดงามมากขึ้น นอกจากน้ีลวดลายของศิลปะการพิมพ์ผ้าสี ขาว-ครามนั้นยงั ใช้การฉลกุ ระดาษใหเ้ ปน็ ลายก่อน แล้วจงึ พิมพล์ ายลงบนผ้า สมัยหมิงและชิงน้ัน เป็นช่วงท่ีศิลปะการตัดกระดาษพัฒนาถึงขีดสุด การใช้สอยก็กว้างขวางมากข้ึน โดยเฉพาะชาวบ้านนิยมใช้กระดาษตัดมาประดับตกแต่งบ้านกันอย่างแพร่หลาย เช่นท่ีประตู หนา้ ต่าง ห้งิ หรือ

12 เพดาน ต่างก็มีการใช้กระดาษฉลุลายตกแต่งทั้งส้ิน ซึ่งหากไม่นับช่างตัดกระดาษในสมัยหนานซ่งแล้ว หลังจาก ยุคนั้น ผู้ที่เชี่ยวชาญการตัดกระดาษแทบทั้งสิ้นเป็นหญิงชาวบ้าน โดยพวกเขาเรียนรู้จากรุ่นสู่รุ่น นอกจากน้ี สัญลักษณ์หน่ึงของชาวจีนโบราณคือ ช่างปักหญิง ซึ่งคุณสมบัติท่ีสาคัญของช่างปักก็คือ ต้องสามารถตัด กระดาษแบบจนี ได้นั่นเอง ดงั น้นั การตัดกระดาษจึงกลายเป็นงานฝีมือที่ผ้หู ญิงจาเป็นที่จะต้องมีความเช่ียวชาญ ความชานาญในการตัดกระดาษยงั เปน็ สิ่งท่คี นใช้ประเมินว่าใครจะเปน็ เจ้าสาวทด่ี ีไดด้ ว้ ย การตัดกระดาษไม่ได้ใช้เคร่ืองจักร แต่เป็นงานฝีมือท่ีทาจากมือ ซึ่งวิธีทาหลัก ๆ มีอยู่ 2 วิธี คือ ใช้ กรรไกรตัด และ ใช้มดี ตัด วธิ ีการใชก้ รรไกรตัด หลงั จากตัดเสร็จแล้ว จะนากระดาษมาซ้อนกนั หลายๆ แผน่ (ไม่ เกิน 8 แผ่น) แล้วจึงตกแต่งด้วยมีดอีกครั้งให้เรียบร้อย ส่วนการใช้มีดตัดนั้น จะต้องนากระดาษท่ีจะตัดมา ซ้อนๆกันก่อน แล้ววางลงบนดินน้ามันหรือไขที่มีความอ่อนนุ่ม แล้วจึงค่อยใช้มีดเล็กมาเร่ิมต้นตัด ซึ่งวิธีใช้มีด ตัดจะสะดวกกวา่ ใช้กรรไกรตดั เล็กน้อย เนือ่ งจากตัดแคร่ อบเดียว ศิลปะการตัดกระดาษ เป็นศิลปะพ้ืนบ้านอันเป็นท่ีนิยมย่ิงอย่างหนึ่งในประเทศจีน ศิลปะการตัด กระดาษมักใช้ในพิธีทางศาสนา และใช้ในการประดับตกแต่ง สร้างสรรค์งานศิลปะต่างๆ ในอดีต มีการนิยมนา กระดาษมาสร้างเป็นรูปคน รูปสัตว์ในอิริยาบถต่างๆ แล้วจึงนาไปเผาหรือฝังไปพร้อมกับผู้เสียชีวิตใน งาน ฌาปนกจิ ศพ ซึง่ ประเพณเี ชน่ นี้ อาจจะยังสามารถพบได้ในบางพื้นที่แถบชนบทของประเทศจีน นอกจากน้ันยัง ถูกนาไปใชป้ ระดับตกแตง่ ในพธิ บี ชู าบรรพบรุ ษุ และเทพเจ้าตา่ งๆ ปัจจุบันน้ี ศิลปะการตัดกระดาษใช้มากท่ีสุดในงานประดับตกแต่ง เช่นกาแพง ประตู-หน้าต่าง เสา บ้าน กระจก และโคมไฟ เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นเคร่ืองตกแต่งของขวญั ของฝาก หรือตัวกระดาษ ท่ีถูกตัดเรียบร้อยแล้วน้ียังสามารถท่ีจะใช้เป็นของขวัญของฝากได้อีกด้วย ในสมัยโบราณกระดาษที่ถูกตัดแล้ว ยงั ถกู นาไปใช้เป็นแม่แบบในการเย็บปักและการพน่ สีอีกด้วย 4. อาจารย์ Li Guozhong (李国忠) อาจารย์สอนวัฒนธรรมจีน ศิลปะการประดิษฐต์ ัวอักษรจีนดว้ ยพกู่ ัน (Calligraphy : )中国书法体验

13 書法(ซูฝ่า)การเขียนพู่กันจีนมีประวัติความเป็นมายาวนานคู่กัประเทศจีน ถือเป็นศิลปะขั้นสูงหนึ่งในสี่ อย่างของชนชาติจีน คือ การเขียนพู่กันจีน การวาดภาพ การบรรเลงเครื่องสาย และการเล่นหมากรุกจีน นอกจากประเทศจีนแล้ว การเขียนพู่กันจีนยังเป็นท่ีนิยมในหมู่ชาวเอเชียอย่าง ญ่ีปุ่น เกาหลี เวียตนามและ สงิ คโปร์ ผู้ท่ีจะเรียนพ่กู ันจนี ควรมีพืน้ ความรูภ้ าษาจีน เพอื่ ท่จี ะรู้วธิ เี ขียนองค์ประกอบอักษรแต่ละตัวตามลาดับ ให้เป็น การเขียนพู่กันจีนเป็นท้ังศาสตร์และศิลป์ ไม่เพียงส่ือสารความคิดของผู้เขียน ยังแสดงถึงลักษณะเส้น สายที่มีจังหวะการเขียนและองค์ประกอบของตัวหนังสือที่งดงาม บ่งบอกถึงลักษณะนิสัยของเจ้าของลายมือ และเปน็ การฝึกสมาธทิ ีด่ อี ยา่ งหนง่ึ อีกด้วย การเขียนพู่กันจีนเป็นศิลปะอันงดงามท่ีสืบทอดมาแตโ่ บราณของจีน ศิลปะการเขียนลายเสน้ ชนดิ นใ้ี ช้ พู่กนั เปน็ อปุ กรณ์ในการเขยี นออกมาเป็นตัวอักษรจนี มีกาเนิดในสมยั ราชวงศซ์ างเม่ือ 3,000 ปีมาแล้ว ศิลปะ ชนิดนี้ไม่เพียงแต่มีคุณค่าด้านการใช้งานที่กว้างขวาง ขณะเดียวกันยังมีคุณค่าด้านความงามท่ีไม่ด้อยไป กว่า ศิลปะแขนงอ่ืน ศิลปะการเขียนพู่กันจีนมีลายเส้นและเค้าโครงท่ีเรียบง่าย แต่กลับสามารถสะท้อนให้เห็น ความคิดอันซับซ้อนและหลากหลายของผู้เขียน ทั้งยังทาให้ผู้ชมได้สัมผัสและดื่มด่ากับความงามอันเรียบง่าย ด้วยศิลปะแขนงน้ี สะท้อนให้เห็นกฎเกณฑ์พ้ืนฐาน “เอกภาพแห่งความแตกต่าง”ของสรรพสิ่ง และยังสะท้อน ให้เห็นถึงจิตวิญญาน อุปนิสัยการเรียนรู้และการเพาะบ่มทางจิตใจ ซึ่งเป็นส่ิงสาคัญของมนุษย์อีกด้วย แบบ ตัวอกั ษรท่ีใชเ้ ขยี นพู่กันจีน มี 5 แบบ คือ 1. จ้วนซู กาหนดรปู แบบขึ้นมาในสมัยราชวงศเ์ ฉนิ เปน็ แบบทเ่ี กา่ ท่สี ุดเป็นอักษรท่เี น้นความสวยงาม และยงั ใช้ฝึกเขียนจนทุกวนั นี้ ตราประทบั มกั แกะสลักดว้ ยตวั หนงั สอื ประเภทนี้ 2. ลี่ซู นิยมเขียนกนั มากในสมยั ราชวงศ์ฮ่ันตัหนังสือจะออกแปน้ ๆ การเขยี นเน้นท่ีการลากหางเป็น เสน้ หนา ปจั จุบนั ใช้ในเรือ่ งทีเ่ ปน็ ราชการ งานตกแต่งหรืองานศลิ ปะ 3. เฉ่าซู ลักษณะตัวหนงั สือแบบหวดั คาว่า เฉ่า มหี ลายความหมาย แปลวา่ หญ้า รีบรอ้ น เร่งดว่ น ลวก ๆ เราจะเขียนเปน็ ศิลปะเรียกวา่ ตัวหวัด 4. สงิ ซู ลักษณะตวั หนงั สือหวัดแกมบรรจง 5. ขา่ ยซู ลักษณะตัวหนงั สอื เป็นลายมอื มาตรฐานธรรมดาเรยี กวา่ ตวั บรรจง ชนิดของอุปกรณ์ท่ีใช้ในการเขียนพู่กันจีน อุปกรณ์ที่ใช้ในการเขียนพู่กันจีน เรียกว่า “เหวินฝางซ่ือ ปา่ ว” หรอื รัตนะท้ังส่ีในห้องหนังสือเปน็ มรดกทางวัฒนธรรมซงึ่ เป็นทีภ่ าคภูมิใจของชาวจีน\"เหวนิ ฝาง\" กค็ ือ\"ซู ฝาง\" หรือห้องหนังสือ ชาวจีนสมัยโบราณเรียกอุปกรณ์เคร่ืองเขียนท่ีใช้ในห้องหนังสอื ส่ีชนิด ได้แก่ พู่กัน หมึก กระดาษและที่ฝนหมึกว่า \"เหวนิ ฝางซ่อื ปา่ ว\" 1. \"ปี่\" bǐ ก็คือ \"เหมาป่ี\" máobǐ (พู่กัน) เป็นเคร่ืองเขียนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของจีน พู่กันมีขนาด ต่าง ๆ ส่วนมากด้ามใช้ไม้ไผ่ ถ้าจะประดิษฐ์เป็นของศิลปะก็ใช้หิน ใช้หยก ส่วนท่ีสาคัญคือส่วนพู่ของพู่กันนยิ ม ใช้ขนต่าง ๆ กันแล้วแต่ความสะดวก ขนาดต่าง ๆ กัน มีขนแกะ ขนกระต่าย ขนของอีเห็น ขนสุนัขป่า พู่กันที่ ราคาแพงเขียนได้ละเอียด ทาด้วยขนในหูสุนัขป่า ปัจจุบันอาจใช้วัสดุสังเคราะห์ เนื่องจากทาจากขนสัตว์ต่าง ๆ จงึ เรียกเคร่อื งเขยี นชนิดนีว้ า่ \"เหมาป่\"ี หรอื เคร่อื งเขยี นท่ีทาจากขนสัตว์ ในสมัยชนุ ชวิ กม็ กี ารประดษิ ฐ์ \"เหมา ป\"่ี ขนึ้ ใช้แล้ว 2. \"ม่อ\" mò หมายถึงหมึกสีดาที่ใช้ในการเขียนหนังสือหรือวาดภาพ ส่วนใหญ่ทาจากเขม่าควันที่เกิด จากการเผาไมส้ น และน้ามันผสมปั้นให้มีลักษณะเป็นก้อนเปน็ แทง่ สาหรับฝนกบั ทีฝ่ นหมึก โดยเหยาะนา้ ใส่ใน แท่นฝนหมึก ปัจจบุ ันคนชอบใชห้ มึกใสข่ วดพลาสติกนามาเทใสแ่ ท่นฝนหมึก ไม่ต้องเสยี เวลามานั่งฝนหมึก 3. \"จ่ือ\" zhǐ หรือกระดาษ กระดาษเป็นหน่ึงในสี่สิ่งประดิษฐ์สาคัญของจีนโบราณ ภายหลังสมัย ราชวงศถ์ ังและซ่ง ไดม้ ีการผลติ \"เซวยี นจอื่ \" xuānzhǐ ซึง่ เปน็ กระดาษทม่ี ีคุณภาพสงู ขนึ้ เซวยี นจอ่ื มีคุณสมบัติ

14 พิเศษคือ สีกระดาษขาวสะอาด เนื้อกระดาษละเอียด นุ่มและเบา กระจายน้าหมึกได้สม่าเสมอและชัดเจน ไม่ เป่ือยยยุ่ งา่ ย กระดาษก็มีหลายลักษณะ สว่ นมากทาด้วยเย่ือของพชื ต่าง ๆ ข้อสาคญั ไมใ่ ช่กระดาษแบบที่เราใช้ เขียนท่วั ไป 4.\"เยี่ยน\"yànหรือแท่นฝนหมึกมีความเป็นมายาวนานถึง 5,000 ปี พบครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ฮ่ัน จากน้ัน \"เย่ียน\" ก็ค่อยๆ เข้ามามีบทบาทในศิลปะการเขียนตัวอักษรจีนและการวาดภาพแบบโบราณ มักจะใช้ หนิ เนือ้ ละเอียดในการทาแท่นฝนหมึก นิยมแกะเป็นลวดลายทส่ี วยงามต่าง ๆ หรือประดิษฐเ์ ป็นรูปร่าง แต่งนิด หน่อย เหมอื นเปน็ ศลิ ปะของมันเอง ทม่ี ชี อ่ื เสียงมากแหล่งหนง่ึ อยู่แถวเมอื งกวางตุ้ง (กวางโจว) นอกจากรตั นะทงั้ ส่ี ยังมีของประกอบที่สาคัญได้แก่ ตราประทบั ชื่อ (ใช้ประทับตราประจาตวั เพ่อื แสดง ความเป็นเจ้าของผลงานการเขียน) คนจีนไม่นิยมเซ็นช่ือ มักใช้ตราประทับ ไม่ใช้หมึกstamp แบบปัจจุบัน แต่ ใช้ชาดสีแดง ตัวตราเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ใช้หินหยกแกะตรา ตัวอักษรนิยมใช้จ้วนซู และยังมีอุปกรณ์เสริมท่ี ควรใชใ้ นการเขยี นพ่กู ันจนี เพ่มิ เติม ได้แก่ ภาชนะใส่น้า หินทับกระดาษ ท่ีแขวนพู่กนั กระบอกใส่พ่กู นั 5. อาจารย์ Guo Aihui (高爱辉) อาจารย์สอนวฒั นธรรมจีน ด้านอาหารจนี (Lecture: )中国文化讲座 จีนมีประวัติศาสตร์กว่า 5 พันปี วัฒนธรรมอาหารการกินก็มีความเป็นมากว่า 5 พันปีเช่นกัน ความมี เอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตนน้ี โดยหลักๆ มี 5 ประเด็น หนึ่งคือมีรสชาติหลากหลาย จีนมีคาพูดที่ว่า \"ภาคใต้ นิยมหมภี่ าคเหนือนยิ มเมย่ี น\" กค็ อื คนในภาคใต้ชอบทานขา้ ว และคนในภาคเหนอื ชอบทานพวกเส้น นอกจากนี้แล้ว ยังมีคาพูดท่ีว่า \"ภาคใต้นิยมรสหวาน ภาคเหนือนิยมรสเค็ม ภาคตะวันออกนิยมรส เปรีย้ ว ภาคตะวันตกนยิ มรสเผด็ \" ซง่ึ ชาวจีนทอ่ี าศัยอยูท่ กุ มณฑลจะมรี สนิยมที่แตกตา่ งกันตามภมู ิประเทศ ในปัจจุบันอาหารจีนจาแนกออกเป็น 8 กลุ่มใหญ่ๆ อันได้แก่ อาหารกวางตุ้ง อาหารซานตง อาหาร เสฉวน อาหารหหู นาน อาหารฮกเกี้ยน อาหารเจียงซู อาหารเจ้อเจยี ง และอาหารอนั ฮุย โดยอาหารเสฉวนจะมี รสเผ็ด อาหารกวางตุ้งจะมีรสหวาน อาหารซานตงจะมีรสเค็ม อาหารเจียงซูจะมีรสเปร้ียว แต่ละประเภทจะ เน้นรสชาติท่ตี า่ งกันถอื เปน็ ลกั ษณะพิเศษของตน

15 เอกลักษณพ์ ิเศษอย่างท่ี 2 ของอาหารจนี คือ มีความแตกต่างกันตามแต่ฤดูในรอบปขี องจีน ชาวจีนจะ ทากับข้าวตามการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล ฤดูร้อนมักจะเป็นอาหารจืด ฤดูหนาวมักจะเป็นอาหารท่ีมีรสจัด เข้มข้น อันน้ีก็เพราะว่าชาวจีนได้รวบรวมประสบการณ์จากสมัยโบราณพบว่า คนในอากาศที่หนาว ต้องการ พลังไปต่อสู้กับความหนาว รสชาติเข้มข้นจะชวนให้เกิดความอยากอาหารทาให้สามารถทานได้มากยิ่งข้ึน จะ เปน็ ผลดีตอ่ สขุ ภาพ ส่วนข้อท่ี 3 คือ เน้นความสวยงามของรูปลักษณ์อาหาร ชาวจีนรับประทานอาหารไม่เพียงแต่ให้ ความสาคัญต่อรสชาติเท่าน้ัน หากยังเน้นความสวยงามของอาหารด้วย ไม่ว่าเป็นแครอทหรือหัวไชเท้า ต่างก็ สามารถแกะเป็นรูปต่างๆนานา นอกจากนี้ ยังเน้นการประสานกลมกลืนกันของอาหาร เคร่ืองปรุงท่ีจะใส่ อาหารและส่ิงแวดล้อมขณะรับประทานอาหารดว้ ย อาหารจีนได้รับความนิยมในท่ัวโลก เม่ือพิจารณาสาเหตุท่ีทาไมจึงเป็นที่นิยมของท่ัวโลกนั้น นอกจาก รสชาติแล้ว ความสวยงามของอาหารกเ็ ปน็ ปัจจัยอย่างหน่ึงที่ดงึ ดูดความสนใจ ถอื เป็นเนอ้ื หาพ้ืนฐานอย่างหน่ึง ของวัฒนธรรมอาหารจนี และเป็นเสน่ห์สาคญั ของอาหารรจนี ด้วย 6. อาจารย์ Guo Ying (高 影) อาจารยส์ อนวฒั นธรรมจีน ด้านตวั อกั ษรจนี (Chinese character education : )汉字与汉字教学

16 ตัวอักษรจีนเป็นหนึ่งในตัวอักษรที่เก่าแก่ท่ีสุดในโลก และยังเป็นตัวอักษรที่ คนใช้มากท่ีสุดในโลก เช่นเดียวกัน จานวนของตัวอักษรจีนมีมากกว่า 6 หม่ืนตัว ในน้ีมีตัวอักษรท่ีใช้บ่อย 6000 ตัว ตัวอักษรจีนมี ประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีต้นกาเนิดมาจากการจดบันทึกรูปภาพ ตัวอักษรจีนท่ีเก่าแก่ที่สุดที่ได้ขุดค้นพบ ในขณะนี้คือ \"เจี๋ยกู่เหวิน \"甲骨文 ซึ่งเป็นตัวอักษรที่มีอายุมากกว่า 3400 ปีมาแล้วและ ยังถือเป็นตัวอักษรท่ี สมบูรณ์มาก อักษรบนกระดองเตา่ เจี๋ยกเู่ หวนิ 甲骨文 รูปลักษณะของตัวอักษรจีนต้ังแต่อดีตจนมาถึงปัจจุบันนี้มีการเปล่ียนแปลงไปมาก จากเดิมที่เป็น ตัวอักษรภาพไดก้ ลายเป็นตัวอักษรสเ่ี หลี่ยมที่ใช้ขดี ประกอบกันขน้ึ ดังน้นั โดยท่วั ไปแลว้ จงึ เรียกตวั อกั ษรจีนว่า \"ฟางไคว้เหวินจื้อ \"方块字 (ตวั อักษรสเี่ หล่ียม) ซง่ึ ได้ ววิ ัฒนาการมาจาก \"เจ๋ียกเู่ หวิน\" \"จนิ เหวนิ 金文 อกั ษรที่ถูก ค้นพบบนเคร่ือง ทองเหลืองโบราณ ถูกค้นพบตอนปลายสมัยราชวงศ์ซาง\" \"เส่ียวจว้น 小篆 เป็นอักษร มาตรฐานสมัยราชวงศ์จิ้น\" \"ล่ีซู 隶书 อักษรมาตรฐานในสมัยราชวงศ์ฮ่ัน\" \"ไข่ซู 楷书 อักษรมาตรฐานสมัย ราชวงศ์ฮั่นเชน่ กนั \" เปน็ ตน้ ฟางไคว้เหวินจอ้ื \"方块字 (ตัวอกั ษรส่เี หลย่ี ม)

17 จนิ เหวนิ 金文 อักษรบนเครอ่ื งทองเหลือง เส่ยี วจว้น 小篆 อกั ษรสมยั ราชวงศจ์ ้นิ ล่ซี ู 隶书 อักษรมาตรฐานในสมัยราชวงศ์ฮ่นั ไขซ่ ู 楷书 อักษรมาตรฐานสมัยราชวงศฮ์ ่ัน

18 วธิ กี ารสร้างตัวอักษรจนี ท่สี าคัญมี 4 วิธี ดงั ต่อไปนี้ 1 \"เซ่ียงสิง 象形\" เป็นวิธีสร้างตัวอักษรท่ีวาดรูปเลียนแบบตามรูปร่างลักษณะ ของส่ิงต่าง ๆ เช่น \"月\" เขยี นคลา้ ยกบั รปู พระจนั ทร์โคง้ ๆ 2 \"จื้อซ่ือ 指事\" เป็นวิธีการสร้างตัวอักษรโดยการเติมสัญลักษณ์หรือเคร่ืองหมาย ให้กับตัว \"เซี่ยงสิง\" หรืออาจจะสร้างสัญลักษณ์ขึ้นใหม่เลย เช่น “刃 เย้ิน” เติมจุด ให้กับ(刀 เตา หมายถึงมีด) บอกถึงตาแหน่งน้ัน เปน็ ตาแหน่งทีม่ คี มมีดอยู่ จึงหมายความวา่ คมมดี ววิ ฒั นาการตวั อกั ษร 刀 ทีแ่ ปลวา่ มดี เตมิ จดุ ให้กบั (刀 ) บอกถึงตาแหน่งน้ันเป็นตาแหน่งท่ีมคี มมดี อยู่ จงึ หมายความว่าคมมดี

19 3 \"ฮุ่ยอ้ี 会意\" คือการเอาเครื่องหมายสองอันหรือมากกว่ามารวมประกอบเข้าไว้ ด้วยกัน เป็นวิธีท่ี แสดงถึงความหมายใหม่แบบหนึ่ง เช่น “明” เป็นการเอา “日” (พระอาทิตย์) กับ “月”(พระจันทร์)มารวมกัน พระอาทคิ ย์กบั พระจันทรร์ วมกัน กแ็ ปลว่าแสงสวา่ ง “明” เป็นการเอา “日” (พระอาทิตย์) กับ “月”(พระจันทร)์ มารวมกันพระอาทิคยก์ ับพระจนั ทร์รวมกัน ก็ แปลว่าแสงสวา่ ง 4 \" สิงเซิง 形声\" เป็นการใช้ส่วนท่ีบอกความหมาย(สิงผาง)กับส่วนท่ีบอกเสียง อ่าน(เซิงผาง)มาประ กอปกันเป็นตัวอักษรใหม่ เช่น “湖”ส่วนท่ีบอกความหมายคือ ภาษาจีนกลางเรียกว่าตัว \"ซานเต่ียนสุ่ย\" จะ บอกไดว้ ่าหากมตี วั น้ีจะเกย่ี วข้อง กับน้า “胡”เป็นตวั บอกเสียงอ่านว่า \"หู\" เมอ่ื มารวมกนั จะหมายถึงแมน่ ้าหู พันกวา่ ปีมานี้ ชาวจีนได้ใชอ้ ักษรจีนแบบตวั เต็มในการเขียน แต่ตวั เต็มน้ี มีจานวนขดี มาก ยากตอ่ การ เรียนรู้ จดจา และเขียน ดังนั้นเพ่ือสนองความ ต้องการทางด้านการขยายการศึกษา ในปี ค.ศ.1949 เป็นต้น มารัฐบาลจีนจึง ได้กาหนดการย่อตัวอักษรจีนให้เป็นหน่ึงเดียวอย่างกว้างขวาง ปัจจุบันอักษรจีน แบบตัวย่อ 2000กว่าตวั ได้เขา้ มาแทนท่ีอักษรจนี แบบตัวเต็ม นอกจากนนั้ อกั ษร จนี แบบตัวยอ่ ยงั เปน็ ภาษาทางการภาษา หนึ่งของสหประชาชาติ

20 7. อาจารย์ Yao Xihong (姚希虹) อาจารยส์ อนวฒั นธรรมจีน ด้านวิชามวยไทเ่ กก๊ (Culture: Tai chi : )太极拳体验 ( 逸夫楼 1 楼集合) วิชามวยไท่เก๊ก หรือ ไท่เก๊กคุ้ง (จีนตัวย่อ: ;太极拳 จีนตัวเต็ม: ;太極拳 พินอิน: Tàijíquán) เรียกชื่อ ภาษาจีนแต้จ๋ิวตามชาวไทยเชอ้ื สายจีน อ่านแบบจีนกลางว่า ไท่จี๋เฉวียน เขียนเป็นภาษาอังกฤษคือ Taijiquan หรือ Tai'chi Chuan แตใ่ นประเทศไทยเรียกกนั หลายสาเนียงทง้ั ไทเ่ ก๊ก ไทเกก็ ไทเ้ ก๊ก ไทจ่ ๋ี ไทจ้ ี๋ ไทชิ ไทก๊ิบ วิชามวยไท่เก๊กเป็นศิลปยุทธ์ท่ีมีช่ือเสียงในประเทศจีน เชื่อกันว่าปรมาจารย์ผู้ให้กาเนิดมวยไท่เก๊กคือนักพรต ช่อื จางซานฟง (เตยี ซาฮงในภาษาแตจ้ ว๋ิ ) ซง่ึ มชี ีวิตอย่ในชว่ งคริสต์ศตวรรษที่ 12-14 แตว่ ชิ านม้ี ามีช่อื เสียงเอา ในสมยั ราชวงศช์ งิ โดยท่านหยางล่ฉู านซ่งึ เป็นผใู้ หก้ าเนดิ มวยไท่เก๊กตระกูลหยาง และภายหลงั ได้แพร่ขยายขจร ขจายไปทั่วโลก สาหรับในประเทศไทยอาจารย์ต่งอิงเจ๋ีย (ต่ังเองเกี๊ยก) นามวยไท่เก๊กมาเผยแพร่ในเมืองไทย เม่อื พ.ศ. 2498 ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2499 อาจารย์ตง่ ส่งบุตรชายของท่านคืออาจารย์ต่งหูหลง่ิ (ตั่งโหวเน่ยี ) มา เป็นครูมวยไท่เกก๊ คนแรกในประเทศไทย จงึ กล่าวไดว้ า่ มวยไท่เก๊กในไทยนนั้ สบื สายมาจากมวยไท่เกก๊ ตระกูลห ยาง

21 ในปัจจุบัน มวยไท่เก๊กท่ีแพร่หลายกันอยู่ทั่วไปมีอยู่มากมายหลายสาย หลายตระกูล ซ่ึงสายมวยอัน เป็นที่ยอมรับในปัจจบุ ันมีอยู่ 5 สายหลักคือ ไท่เก๊กตระกูลเฉิน, ตระกูลหยาง, ตระกูลอู่, ตระกูลอู๋ และตระกูล ซุน ซึ่งภายหลังรัฐบาลจีนได้นาท่ามวยของทั้งห้าตระกูลมาเรียบเรียงข้ึนเพ่ือใช้ในการแข่งขันลีลายุทธ์ด้วย นอกจากห้าตระกูลน้ีแล้ว ภายหลังยังมีมวยไท่เก๊กตระกูลอ่ืนๆ ซ่ึงแตกแยกย่อยไปจากห้าตระกูลนี้ รวมถึงยัง ปรากฏมวยไท่เก๊กประจาถิ่นอีกหลายๆ สายปรากฏออกมาอีกมากมาย หากไม่ว่าจะเป็นมวยไท่เก๊กสายใด ตระกูลใด แมท้ ว่ งทา่ จะแตกต่างกนั แตย่ งั อิงเคลด็ ความเดยี วกัน และลว้ นนับถอื ท่านจางซานฟงเป็นปรมาจารย์ เชน่ เดียวกนั มวยไท่เก๊กมีลักษณะนุ่มนวล โอนอ่อน ผ่อนคลาย การเคลื่อนไหวล่ืนไหลต่อเนื่อง การหายใจสอด ประสานไปกับการเคล่ือนไหว พร้อมท้ังต้องตั้งจิตติดตามการเคล่ือนไหวของร่างกายไปตลอดทาให้เกิดสมาธิ เน่ืองจากไม่มีการเกร็งกล้ามเน้ือ หรือการออกแรงกระแทก จึงมีโอกาสเกิดการบาดเจ็บร่างกายได้น้อยเม่ือ เทียบกับกีฬาท่ีใช้แรงชนิดอื่นๆ ทาให้เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย แม้แก่ชราอายุ 90-100 กว่าปีก็ยังฝึกฝนได้ ประโยชน์ท่ีได้รับนอกจากจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจแล้ว ยังสามารถใช้เป็นศิลปะป้องกัน ตัวได้หากไดร้ บั การฝึกฝนเพื่อใชต้ ่อสู้ ในปจั จบุ นั ไท่เก๊กมผี ู้นิยมฝึกฝนกันอยา่ งแพรห่ ลายทว่ั โลกและเป็นท่ีเข้าใจ ว่าไทเก๊กนัน้ เป็นท่ีนิยมกนั ในวัยผสู้ งู อายุจึงเป็นการทาทา่ ท่เี กก๊ ของไทย ศกึ ษาดูงานสถานทสี่ าคัญ 1. ศึกษาวัฒนธรรม พระราชวังตอ้ งหา้ ม (Gu Gong Imperial Palace ; Forbidden City) หรอื พระราชวังก้กู ง และจตั รุ ัสเทยี นอันเหมนิ (Tiananmen Square) 北京文化考察:天安门广场、故宫、天坛 พระราชวังต้องห้าม (Gu Gong Imperial Palace ; Forbidden City) หรือพระราชวังกู้กง จากช่ือ ภาษาจีน แปลตามตัวอักษรได้ว่า \"เมืองต้องห้ามสีม่วง\" พระราชวังต้องห้ามตั้งอยู่ใจกลางของกรุงปักกิ่ง เมือง หลวงของ เป็นพระราชวังหลวงมาต้ังแต่สมัยกลางราชวงศ์หมิงจนถึงราชวงศ์ชิง พระราชวังต้องห้ามยังรู้จักกนั ในนาม พิพิธภัณฑ์พระราชวัง ครอบคลุมพ้ืนท่ี ๗๒๐,๐๐๐ ตารางเมตร หรือ ๔๕๐ ไร่(๐.๗๒ ตร.กม.) อาคาร ๙๘๐ หลัง มีห้องท้ังหมด ๙,๙๙๙ ห้องและมีพระที่นั่ง ๗๕ องค์ หอพระสมุด ห้องหับต่าง ๆ อีกมาก รวมท้ังยัง มีสวน ลานกว้าง ทางเดินเชื่อมกันโดยตลอด มีคูและกาแพงท่ีสูงถึง ๑๑ เมตร ล้อมรอบ ใช้ระยะก่อสร้าง ประมาณ ๑๔ ปี ตง้ั แต่ พ.ศ. ๑๙๔๙ จนถึง พ.ศ. ๑๙๖๓ พระราชวังตอ้ งห้ามตั้งอย่ทู างทิศเหนอื ของจตั ุรัสเทียน

22 อันเหมิน นักท่องเท่ียวสามารถเข้าสู่พระราชวังต้องห้ามได้ทางจัตุรัสน้ี ผ่านประตูเทียนอันเหมิน บริเวณรอบ จัตุรัสเทียนอันเหมิน เรียกว่า อาณาเขตหลวง โดยมีสิ่งก่อสร้างสาคัญอยู่โดยรอบ เช่น มหาศาลาประชาคม ใน อดีต พระราชวังแห่งน้ี เป็นเขตหวงห้ามไม่ไห้ประชาชนเข้า แม้ข้าราชการช้ันสูง ยังต้องขออนุญาต เป็นกรณี พิเศษ จึงเรียกพระราชวังนี้ว่า \"พระราชวังต้องห้าม\" จักรพรรดิจะทรงประทับอยู่ในพระราชวังแห่งนี้ ก้ัน พระองค์จากโลกภายนอก โดยมีสนมกานัล ขันที และข้าหลวงรับใช้ซ่ึงคนเหล่านี้ต้องอาศัยอยู่ในนครต้องหา้ ม ตลอดชีวิต เพ่ือความสาราญของจักรพรรดิ ในวังจะมีวิเสท ๖,๐๐๐ คน ประกอบพระกระยาหาร มีสนมกานลั ๙,๐๐๐ นาง ซึ่งมีขันที ๗๐,๐๐๐ คน คอยดูแลให้ มีคาเล่าลือกันว่า พระนางซูสีไทเฮา เวลาเสวยก็จะมีพระ กระยาหารถึง ๑๔๘ ชุด และทรงส่งขันทีไปเสาะหาชายหนุ่มซึ่งเข้าวังแล้วจะไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลย แม้ว่า ประเทศจีนจะไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์แลว้ พระราชวังต้องห้ามก็ยังคงเปน็ สัญลักษณ์ของประเทศจีน และ ภาพประตูเทียนอันเหมินก็ยังปรากฏอยู่ในตราประจาสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกด้วย นอกจากนี้ พระราชวัง ต้องห้ามยังเป็นสถานที่ท่องเท่ียวท่ีมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งไม่นานมานี้ ทางรัฐบาลจีนได้มีนโยบาย จากัดปริมาณนักท่องเท่ียวเพ่ือจะอนุรักษ์สภาพของอาคารและสวนหย่อมไว้ ยูเนสโกได้ประกาศให้พระราชวัง ต้องห้ามร่วมกับพระราชวังเส่ินหยางเป็นหน่ึงในมรดกโลกในนาม พระราชวังหลวงแห่งราชวงศ์หมิงและ ราชวงศช์ งิ ในปกั กิ่งและเสนิ่ หยาง เมือ่ พ.ศ. ๒๕๓๐ จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square) ขึ้นชื่อว่าเป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในโลก ต้ังอยู่ใจกลางกรุง ปักก่ิง เป็นสถานท่ีสาคัญทางประวัติศาสตร์ทางการเมืองของประเทศจีน บริเวณตรงกลางจัตุรัสเป็นท่ีต้ังของ อนุสาวรีย์วีรบุรุษ ด้านทิศใต้ของจัตุรัสติดกับหอระลึกท่านประธานเหมาเจ๋อตง (Chairman Mao Memorial Hall) และถัดมาก็เป็นที่ต้ังของศาลาประชาคมหรือท่ีประชุมรัฐสภานน่ั เอง จุดถ่ายรูปยอดนิยมในบรเิ วณน้ี คือ ซุ้มประตขู องพระราชวงั โบราณทส่ี ร้างข้นึ ในสมยั ราชวงศห์ มิงหรือท่ีรู้จักกนั ในนาม “พลับพลาเทยี นอันเหมนิ ”

23 2. ศึกษาวัฒนธรรม กาแพงเมืองจนี (Great Wall at Badaling ):北京文化考察:八达岭长城 Great Wall กาแพงเมืองจีน Chángchéng \"ฉางเฉิง\" เป็นกาแพงท่ีมีป้อมคั่นเป็นช่วง ๆ ของจีนสมัย โบราณ กาแพงส่วนใหญ่ที่ปรากฏในปัจจุบันสร้างขึ้นในสมัย ราชวงศ์ฉิน ท้ังนี้เพ่ือป้องกันการรุกรานจาก ชาว ฮัน หรอื ซยฺ งหนู คาวา่ ซฺยงหนู บางทกี ็สะกดว่า ซุงหนู หรือ ซวงหนู ทีเ่ ป็นไม้เบื่อไมเ้ มากับอารยธรรมจนี ในยุค ต้นๆ ต้ังแต่สมัยราชวงศ์โจว (ราว ๔๐๐ ปีก่อนคริสตกาล) เน่ืองจากจะเข้ามารุกรานจีนตามแนวชายแดนทาง เหนือ ในสมัยราชวงค์ฉิน ได้ส่ังให้สร้างกาแพงหมื่นล้ีตามชายแดน เพ่ือป้องกันพวกซยงหนูเข้ามารุกรานและ พวกเตริ ์กจากทางเหนือ หลงั จากนั้นยังมกี ารสร้างกาแพงต่ออีกหลายครงั้ ดว้ ยกนั แตภ่ ายหลังกม็ เี ผ่าเร่ร่อนจาก มองโกเลียและแมนจูเรียสามารถบุกฝ่ากาแพงเมืองจีนได้สาเร็จ กาแพงเมืองจีนยังคงเรียกว่า \"กาแพงหม่ืน ล้ี\" สานักงานมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติจีน ประกาศเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ว่านักโบราณคดีได้ ตรวจวัดความยาวของส่ิงก่อสร้างจากน้ามือมนุษย์ที่ใหญ่ท่ีสุดในโลกหรือ \"กาแพงเมืองจีน\" อย่างเป็นทางการ นานร่วม ๕ ปี ตั้งแต่ ๒๐๐๘-๒๐๑๒ และพบว่ายาวกวา่ ทบ่ี นั ทึกไวเ้ ดมิ กว่า ๒ เทา่ หรือ ๒๑,๑๙๖.๑๘ กโิ ลเมตร จากเดิม ๘,๘๕๐ กโิ ลเมตร ครอบคลุมพ้นื ท่ี ๑๕ มณฑลท่ัวประเทศ และนับเป็น ๑ ใน ๗ ส่งิ มหศั จรรยข์ องโลก 3. ศึกษาวัฒนธรรม พพิ ธิ ภัณฑ์เทยี นจิน (Tianjin Museum )文化考察:天津博物馆

24 ภายในพิพธิ ภัณฑ์ ทาใหท้ ราบประวตั ิศาสตรข์ องจีน โจวเอินไหล เป็นผู้ริเริ่มนโยบาย 4 ทันสมัย ที่มุ่งเน้นสร้างจีนข้ึนมาใหม่จากความผิดพลาดของ นโยบายเหมาเจอ๋ ตงในอดีต โดยเปดิ รบั ความทันสมัยจากนานาประเทศเข้ามาปรบั ใชใ้ ห้เข้ากบั บรบิ ทของจีนใน 4 มิติ น่ันคือ การเกษตร การอุตสาหกรรม การป้องกันประเทศ และการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เขาเปน็ คนวางตัว เติ้งเสย่ี วผงิ ข้นึ มาเปน็ ผนู้ าจีนรนุ่ ที่ 2 เต้ิงเส่ียวผิง เร่ิมต้นกระบวนการปฏิรูปประเทศ โดยเรียนรู้โมเดลพัฒนาของต่างประเทศเพ่ือกาหนด มาตรฐานในการปฏริ ปู เศรษฐกิจของจีน ซึ่งประเทศทเี่ ตง้ิ เลือกท่จี ะเดินทางไปเยือนเป็นประเทศแรกๆ หลังการ ขึ้นสอู่ านาจในปี 1976 คอื ประเทศไทย ต่อดว้ ยสิงคโปร์ และฮ่องกง อาจกล่าวได้ว่าระดับการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนจะแบ่งออกเป็น 4 ช่วง นั่นคือ ‘อดอยากปากแห้ง’ ในสมัยของเหมาเจ๋อตง (1949-1976) ‘พอมีพอกิน’ ในสมัยของเติ้งเส่ียวผิง (1976-1993) ‘กินอิ่ม นอน อุ่น’ คือมีอาหารกินครบ 3 ม้ือ มีบ้านอยู่ และมีพลังงานเพียงพอไม่หนาวตายในฤดูหนาวในยุคของเจียงเจ๋อห มนิ (1993-2003) และ ‘เหลือกนิ เหลอื ใช้’ ในยุคของผนู้ ารนุ่ ท่ี 4 หูจิ่นเทา (2003-2013) ยุคสีจิ้นผิง ผู้นารุ่น 5 จาเป็นต้องปฏิรูประบบเศรษฐกิจอีกรอบ โดยลดการพึ่งพาการส่งออก และให้ ความสาคัญกับการบริโภคภายในประเทศเพ่ือขับเคล่ือนเศรษฐกิจ สืบเนื่องจากความไม่แน่นอนจากวิกฤต การเงินทว่ั โลก จีนในปจั จุบันเปรียบเสมอื นบรรษทั ขนาดใหญ่ เพราะจีนยอมรับและแข่งขนั ในระบบกลไกตลาด แต่ใน ขณะเดียวกันก็มีผู้นาท่ีส่ังการได้เหมือนบริษัทเอกชน มีกรรมการกรมการเมือง (Politburo Commitee) ทา หนา้ ที่เหมือนกรรมการบริหารหรือบอรด์ มีประธานาธิบดเี ปน็ CEO และมีนายกรฐั มนตรีเปน็ COO 1. การเปลย่ี นความคิดของลูกค้าให้มาสนบั สนนุ บริษทั เกดิ ขึ้นจากกลยุทธ์ CSR พรรคคอมนิวนิสต์จีนมองว่าการพ่ายแพ้สงครามฝ่ินคร้ังที่ 1 คือจุดเริ่มต้นของความล้มเหลวท้ังปวง โดยสงครามฝ่ินครั้งที่ 1 (First Opium War ;第一次鴉片戰爭 Dìyīcì Yāpiàn Zhànzhēng) เกิดข้ึนในระหว่าง ปี 1839-1842 ในรัชสมัยของจักรพรรดิเต้ากวง (Daoguang) แห่งราชวงศ์ชิง น่ีคือหมุดหมายสาคัญเพราะ เป็นครั้งแรกท่ีจีนต้องพ่ายแพ้อย่างย่อยยับให้กับชาติตะวันตก กลุ่มคนท่ีราชวงศ์จีนไม่เคยเห็นอยู่ในสายตา และเป็นครัง้ แรกทจี่ ีนสูญเสียอย่างหมดทางสู้ต่อลัทธลิ า่ อาณานคิ ม

25 จนี เสียดนิ แดน เสยี อานาจอธิปไตย เสียสิทธสิ ภาพนอกอาณาเขตตอ่ นานาประเทศทั่วโลก ไมว่ ่าจะเป็น อังกฤษ ฝร่ังเศส เยอรมนี สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และแม้แต่กับญ่ีปุ่น น่ันทาให้จีนกลายเป็นคนป่วยแห่งเอเซีย เพราะตลอดช่วงปลายของราชวงศ์ชิงหรือแมนจู จีนไม่ได้ผลิตเพ่ือความมั่งค่ังม่ันคงของตนเองอีกต่อไป แต่ กลายเปน็ จีนทตี่ ้องไปสรา้ งความมัง่ คงั่ ใหก้ บั เจา้ อาณานิคม การปฏิวัติ ‘ซินไฮ่’ (辛亥革命; Xīnhài Gémìng) คือปฏิกิริยาท่ีทาให้คนจีนหัวสมัยใหม่รวมตัวกัน ภายใต้ช่อื พรรคชาตินยิ ม หรือพรรคก๊กมินตัง๋ (Chinese Nationalist Party / :中國國民黨 ออกเสียงในภาษาจีน กลางว่า กั๋วหมินตั่ง) ภายใต้การนาของ ดร.ซุนยัตเซน (Sun Yat-Sen / :孫逸仙 ออกเสียงในภาษาจีนกลางว่า ซนุ จงซาน) อยา่ งไรก็ตาม สาธารณรฐั จนี ภายใต้การนาของพรรคก๊กมินตง๋ั ที่ยึดมัน่ ในระบบทุนนิยมประชาธิปไตยก็ ถูกส่ันคลอนโดยพิษคอร์รัปชัน และทาให้คนจีนท่ัวทั้งแผ่นดินเดือดร้อน ท้ังจากความยากจน ภาวะขาดแคลน อาหาร และอัตราเงนิ เฟอ้ ทพ่ี งุ่ สูงกว่า 3,000% ในช่วงสดุ ท้ายก่อนการเปลยี่ นผา่ นระบบในปี 1949 คาถามที่สาคัญก็คือ พรรคคอมมิวนิสต์จีน (Communist Party of China: CPC / )中国共产党 ซึ่ง ก่อต้ังข้ึนเม่ือวันที่ 23 กรกฎาคม 1921 และมีแกนนาอย่าง เหมาเจ๋อตง (Mao Zedong )毛泽东 ท่ีอดีตเป็น เพียงครูประชาบาล จะสามารถนากองทัพคอมมิวนิสต์ท่ีเพ่ิงจัดตั้งขึ้นให้สามารถทาสงครามยืดเย้ือกับกองทัพ ของสาธารณรัฐจีนที่นาโดยนายพล เจียงไคเชก (Chiang Kai-shek / :蔣介石 ออกเสียงในภาษาจีนกลางว่า เจ่ียงเจี้ยสือ) จอมทัพท่ีจบโรงเรียนนายร้อยจากญ่ีปุ่น ได้อย่างยืดเย้ือตลอดเวลากว่า 22 ปี (1927-1949) จนสามารถกาชยั ชนะและเปลี่ยนผ่านประเทศไปสรู่ ะบอบใหม่ได้อย่างไร คาตอบก็คือ พรรคคอมมิวนิสต์จีนท่ีนาโดยเหมาใช้วิธีแบบสงครามกองโจรควบคู่กับการทา CSR (Corporate Social Responsibility, บรรษัทบริบาล) ในห้วงเวลาท่ี KMT กาลังเชื่อว่า การพัฒนาเมืองใหญ่ ใหเ้ ข้มแขง็ กลายเป็นเมอื งอุตสาหกรรมที่มีความเจริญจะสามารถส่งผา่ นความเจริญไปทั่วๆ ประเทศจีน และท่ัว ทุกชนชั้นได้ ตามแนวคิดแบบ Trickle-Down Theory แตพ่ รรคคอมมวิ นิสต์ไมเ่ ช่ือดงั นน้ั และไมเ่ ช่ือด้วยว่าชน ช้ันกรรมาชีพในเมอื งจะสามารถนาการเปล่ียนผา่ นไปสู่สังคมนิยมคอมมิวนสิ ต์ได้ ส่วนหนึ่งเพราะจีนยังไม่มีชนช้ันแรงงานที่มากเพียงพอในการทาให้เกิดโมเมนตัมแห่งการเปล่ียนผ่าน ได้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนภายใต้การนาของเหมาเลือกที่จะเดินทัพทางไกล (Long March) โดยเริ่มต้นจาก

26 มณฑลเจียงซีไปทางทิศตะวันตก แล้วย้อนขึ้นไปทางทิศเหนือ เป็นระยะทางประมาณ 12,500 กิโลเมตร (8,000 ไมล์) ผ่านดินแดนทุรกันดารทางตะวันตกของประเทศจีน ใช้ระยะเวลากว่า 370 วัน ไปยังมณฑล ส่านซี โดยตลอดระยะทางไกลน้ี สิ่งที่เหมาประกาศให้พลพรรคกองทัพแดงทาไปตลอดการเดินทัพทางไกล คือ ถ้าไปในพื้นที่ไหนแลว้ พบเกษตรกรกาลังดานา กาลงั หวา่ นเมล็ดพันธุ์ กาลงั เก็บเกย่ี วผลผลิตทางการเกษตร ให้กองทัพแดงของเขาทา CSR โดยการหยุดเดินและเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรเหล่านั้นทาไร่ไถนา โดยไม่คิด คา่ แรง ไมห่ วงั ผลตอบแทน และเมื่อเสร็จกิจการงานในท้องไร่ท้องนา ก็ใหพ้ ลพรรคกองทัพแดงต้มเบยี ร์และอบ ขนมปังเล้ยี งชาวบา้ น โดยระหว่างกนิ ขนมปงั ด่ืมเบยี ร์กัน ก็นั่งลงและเริ่มการกล่าวสุนทรพจน์ เพ่ือให้การศึกษา กลมุ่ เปา้ หมายให้มคี วามรู้และเห็นประโยชน์ของแนวคดิ ใหม่ นน่ั คือ สังคมนิยม-คอมมิวนิสต์ และนั่นก็ทาให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนประสบความสาเร็จในการได้เกษตรกรทั่วท้ังแผ่นดินจีนมาเป็น แนวร่วมและสามารถเปลยี่ นผา่ นระบอบ ขบั ไล่รัฐบาลและกองทัพของเจียงไคเชก ไปต้ังรฐั บาลพลัดถ่ินบนเกาะ ไตห้ วัน และเหมาเจอ๋ ตง โจวเอินไหล และแกนนาพรรคคอมมิวนิสต์จีนกส็ ามารถเดินทางจากถนนฉางอัน เข้าสู่ ประตูเทียนอันเหมิน และชักธงชาติจีนสีแดงที่มีดาว 5 ดวง พร้อมกับร้องเพลงมาร์ชทหารอาสา และสถาปนา ‘สาธารณรัฐประชาชนจีน’ (People’s Republic of China / )中华人民共和国 ได้สาเร็จในวันท่ี 1 ตุลาคม 1949 2. เลอื กคนใหถ้ ูกกับสถานการณ์ ผู้นามสี องประเภท ผูน้ าในสถานการณว์ กิ ฤตท่ีสามารถนาพาการเปลีย่ นผ่านไปสู่ระบบใหม่ และผนู้ าที่ สามารถสร้างความเจริญเติบโตวัฒนาสถาวรในภาวะปกติ แต่เป็นเรื่องยากที่จะหาผู้นาที่มีความสามารถในท้ัง สองสถานการณ์ ประธานเหมาก็เป็นเช่นน้ัน เขาคือสุดยอดผู้นาในภาวะวิกฤต สามารถวางยุทธศาสตร์ให้จีน สามารถเปลย่ี นเข้าสู่ระบอบใหม่ ล้างอายจากศตววรษแห่งความอัปยศอดสไู ด้ 3. รู้เขาร้เู รา Benchmarking และตั้งเปา้ หมายให้กา้ วหน้าท่ีสดุ เทา่ ท่จี ะทาได้ สองผนู้ าทีค่ นจนี รกั มากและช่นื ชมมากทส่ี ดุ รวมทั้งหาขอ้ ติแทบจะไม่ได้คือ โจวเอนิ ไหล (Zhou Enlai / )周恩来 นายกรฐั มนตรแี ละนักการทูตที่มีบทบาทสาคัญท่สี ุดท่ีทาหนา้ ท่เี ช่อื มโยงจีนเข้ากับประชาคมโลกตั้งแต่ วันที่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 1949 จนถึงในวันท่ีจีนกลายเป็นที่ยอมรับในเวทีความสัมพันธ์ ระหว่างประเทศ และในขณะเดียวกันก็พยายามขัดง้างความมั่นใจในตัวของตัวเองแบบเกินเหตุเกินการของ เหมา จนทาใหค้ วามเสยี หายของนโยบายทีผ่ ดิ พลาดของเหมาลดทอนลง และจบสิ้นลงไดใ้ นทสี่ ดุ 4. การบรหิ ารโดยเน้นผลสมั ฤทธ์ิ (RBM: Results-based Management) โดยเน้นเป้าหมายท่ชี ัดเจน ทฤษฎีเติ้งเสี่ยวผิงที่คนกล่าวถึงและรู้จักกันมากที่สุดก็คือ คากล่าวที่ว่า “ไม่ว่าจะเป็นแมวสีดา หรือแมวสีขาว ขอให้เป็นแมวที่จับหนูได้ก็เป็นแมวที่ดี (黑猫白猫,能捉到老鼠就是好猫 / It doesn’t matter whether a cat is black or white, as long as it catches mice.”) ซงึ่ น่ันคือแนวคดิ ทม่ี งุ่ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ในท่ีนค้ี อื ปัญหา ‘อดอยากปากแหง้ ’ ท่ีตอ่ เน่อื งมาตลอด 30 ปีแรกของสาธารณรฐั ประชาชนจนี 5. เมือ่ สิง่ แวดลอ้ มเปล่ยี น ก็ต้องยอมรับกฎกติกา และร้จู ักปรบั ใช้ เม่ือการปฏิรูประบบเศรษฐกิจ และการเมืองของจีนเร่ิมต้นขึ้นในปี 1978 สถานการณ์ต่างๆ ก็เร่ิมดี ขึ้น จนถึงทศวรรษ 1990 สงครามเย็นยุติลง สหภาพโซเวียตล่มสลาย สหรัฐอเมริกากลายเป็นมหาอานาจ เดี่ยวที่มีศักยภาพในการวางระเบียบโลก สหรัฐฯขยายอิทธิพลทางความคิดเข้าควบคุมรูปแบบการพัฒนา เศรษฐกจิ ผ่านธนาคารโลก (World Bank) ควบคุมการปริวรรตเงินตรา และการชาระเงินระหว่างประเทศผ่าน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) และเริ่มควบคุมกติกาการค้าและ

27 การลงทุนระหว่างประเทศผ่าน General Agreements on Tariff and Trade (GATT) ที่ต่อไปจะพัฒนาไป เป็นองคก์ ารการคา้ โลก (World Trade Organisation: WTO) 6. บรรษัทภิบาล (Good Governance) เพ่อื รบั มอื กบั ความไมแ่ นน่ อน แต่แล้วสถานการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดข้ึน เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ Sub-Prime Crisis ที่ทาให้กาลังซื้อของยุโรป และสหรัฐฯ ซ่ึงเป็นลกู คา้ หลักของจนี ถดถอย และนน่ั ก็ทาใหเ้ ศรษฐกิจเริ่มไม่ขยายตวั ในอตั ราสูงกว่า 10% อีก ต่อไป จีนท่ีพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก ต้องปฏิรูประบบเศรษฐกิจอีกรอบ โดยเท่ียวนี้ จีนเรียกมันว่า New Normal (新常态) ซึ่งเกิดขึ้นพรอ้ มกับการเปลีย่ นเข้าสยู่ ุคสมัยของผู้นารุ่นท่ี 5 สจี น้ิ ผิง (Xi Jinping / )习近平 กบั ความไม่แน่นอนครั้งใหม่ ซ่งึ จีนตอ้ งปฏิรูปเศรษฐกจิ อยา่ งน้อยใน 2 มติ ิ น่นั คอื – การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้ลดการพึ่งพาตลาดภายนอก แต่เน้นให้การบริโภคภายในประเทศ เป็นปัจจัยหลักในการขับเคล่ือนเศรษฐกิจ โดยจีนเร่งทาใน 2 มิติ นั่นคือ ด้านอุปทาน จีนเร่งพัฒนาให้สินค้าที่ ผลิตในจีนกลายเป็นสินค้าคุณภาพสูง ผ่านนโยบาย ‘Made in China 2025’ ที่สนับสนุนให้ผู้ผลิตสินค่า Hi- End และ Hi-Tech ท่ัวโลกมาต้ังสานักงานใหญ่ในจีน และถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ผู้ผลิตจีน (ซ่ึงส่วนหนึ่งเป็น วิสาหกิจของรัฐบาล) แลกกับการส่งเสริมการลงทุนที่ให้สิทธิพิเศษที่ใครก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ (ซึ่งสหรัฐฯ มอง วา่ น่คี อื การแข่งขนั อยา่ งไม่เป็นธรรม และใช้นโยบายสงครามการค้าตอบโต้) ในขณะท่ีดา้ นอปุ สงคจ์ ีนก็เนน้ การ สร้างฐานะให้คนจีนรวยขึ้น แก้ไขความยากจน เพ่ือให้คนจีนที่รวยข้ึนเป็นตลาดสาคัญในการซื้อสินค้าท่ีผลิต ภายในประเทศ ที่คุณภาพดีขึ้น เพราะหากทาสาเร็จ น่ันเท่ากับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจของจีนจากวิกฤต เศรษฐกิจภายนอกจะลดลง โดยปัจจุบันจีนทาได้แล้วในระดับหนึ่ง โดยการบริโภคภายในประเทศของจีน ขยายตวั ข้ึนสรู่ ะดบั 40% ของ GDP – การหาพันธมิตรใหม่ทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ท้ังนี้เพื่อหาทางเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ หาทางเข้าสู่แหล่งทรัพยากร (ทั้งทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากรมนุษย์) และเพื่อระบายกาลังการผลิต ส่วนเกินภายในประเทศ ซ่ึงปัจจุบันกลไกหลักท่ีทาหน้าท่ีนี้คือ อภิมหาโครงการความริเริ่มแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI) 7. การกระจายอานาจการตัดสินใจและการตดั สนิ ใจบนข้อมูลที่แมน่ ยามากทีส่ ุด แม้จนี และพรรคคอมมิวนิสตจ์ ะเป็นรฐั ราชการขนาดใหญ่ แต่ตั้งแต่ปี 1949 เปน็ ตน้ มาสง่ิ หนึ่งที่รัฐจีน พยายามทาอย่างยิ่งคือการกระจายอานาจการตัดสินใจโดยให้แต่ละจังหวัด แต่ละเมือง แต่ละมณฑลมีกลไก และมีอานาจหน้าที่ท่ีสามารถตัดสินใจได้เองภายในพื้นที่ในระดับหน่ึง เช่น โครงการขนาดมูลค่าไม่เกินเท่านี้ สามารถตัดสินใจได้ในระดับจงั หวัด ถ้าเกินจากนี้ต้องให้ตัดสินใจระดับมณฑล ทาให้เหลือโครงการท่ีส่วนกลาง ต้องเข้าไปดแู ลในระดบั ท่สี ามารถบรหิ ารจดั การได้



29 ภาคผนวก - รปู ภาพ - ประกาศนียบัตร ผลการฝกึ อบรม - ผลการทดสอบ HSK ระดับ 2 - คาสง่ั - หนังสอื อนุมัติ จากสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา - หนงั สอื ขอความอนุเคราะห์กระทรวงตา่ งประเทศ - บันทึกข้อความ - หนงั สอื เชญิ จากมหาวทิ ยาลยั ครุศาสตรเ์ ทยี นจนิ - กาหนดการฝกึ อบรม

30 ภาพประกอบการเดนิ ทางไปราชการ ของวา่ ที่รอ้ ยเอกรุ่งโรจน์ อุตมาตร เข้ารับการฝึกอบรมภาษาและวัฒนธรรมจีน ณ Tianjin Normal University สาธารณรัฐประชาชนจนี ระหว่างวนั ที่ ๓ – ๑๗ ธนั วาคม ๒๕๖๒ ๒ ธนั วาคม ๒๕๖๒ เข้าพบสมเดจ็ พระมหารชั มงคลมนุ ี เตรียมความพร้อมในการเดินทางและการฝึกอบรม

31 ภาพประกอบการเดินทางไปราชการ ของว่าทีร่ ้อยเอกรุ่งโรจน์ อุตมาตร เข้ารบั การฝึกอบรมภาษาและวฒั นธรรมจีน ณ Tianjin Normal University สาธารณรฐั ประชาชนจนี ระหว่างวนั ท่ี ๓ – ๑๗ ธนั วาคม ๒๕๖๒ ๓ ธนั วาคม ๒๕๖๒ เดนิ ทางจากสนามบินสวุ รรณภมู ิ ถงึ สนามบินเทียนจิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

32 ภาพประกอบการเดนิ ทางไปราชการ ของวา่ ทรี่ ้อยเอกรุ่งโรจน์ อตุ มาตร เขา้ รับการฝกึ อบรมภาษาและวัฒนธรรมจนี ณ Tianjin Normal University สาธารณรัฐประชาชนจนี ระหวา่ งวนั ที่ ๓ – ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๒ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๒ เดนิ ทางจากสนามบนิ เทียนจิน ถงึ ท่ีพัก Tianjin Normal University

33 ภาพประกอบการเดินทางไปราชการ ของว่าทรี่ ้อยเอกรุ่งโรจน์ อตุ มาตร เข้ารบั การฝึกอบรมภาษาและวัฒนธรรมจนี ณ Tianjin Normal University สาธารณรัฐประชาชนจนี ระหวา่ งวนั ที่ ๓ – ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๒ ๓ ธนั วาคม ๒๕๖๒ พธิ เี ปิดการฝกึ อบรมและรบั อุปกรณ์การเรียน โดยมี Zhang lin รองผอู้ านวยการฝา่ ยแลกเปลี่ยนระหวา่ งประเทศ Shi jie รองผ้อู านวยการสถาบนั แลกเปลย่ี นการศกึ ษานานาชาติ Liu yong รองผอู้ านวยการสานักงานการจัดการนักศึกษาจีนและตา่ งประเทศของสถาบัน แลกเปลย่ี นการศึกษานานาชาติ และ Chen yongjing ครูประจาชน้ั เขา้ ร่วมพิธเี ปดิ

34 ภาพประกอบการเดินทางไปราชการ ของว่าท่รี อ้ ยเอกรุ่งโรจน์ อตุ มาตร เข้ารบั การฝึกอบรมภาษาและวฒั นธรรมจนี ณ Tianjin Normal University สาธารณรฐั ประชาชนจนี ระหว่างวันท่ี ๓ – ๑๗ ธนั วาคม ๒๕๖๒ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๒ วันแรกของการเรียนและฝึกอบรม

35 ภาพประกอบการเดินทางไปราชการ ของว่าทีร่ ้อยเอกรุ่งโรจน์ อตุ มาตร เขา้ รบั การฝกึ อบรมภาษาและวัฒนธรรมจนี ณ Tianjin Normal University สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ ๓ – ๑๗ ธนั วาคม ๒๕๖๒ เรียน Oral Chinese 汉语口语 (อาจารย์ 杜 艳)

36 ภาพประกอบการเดินทางไปราชการ ของว่าทีร่ ้อยเอกรุ่งโรจน์ อตุ มาตร เขา้ รบั การฝกึ อบรมภาษาและวัฒนธรรมจนี ณ Tianjin Normal University สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ ๓ – ๑๗ ธนั วาคม ๒๕๖๒ เรียน Oral Chinese 汉语口语 (อาจารย์ 杜 艳)

37 ภาพประกอบการเดินทางไปราชการ ของว่าที่รอ้ ยเอกรุ่งโรจน์ อตุ มาตร เข้ารบั การฝึกอบรมภาษาและวฒั นธรรมจีน ณ Tianjin Normal University สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันท่ี ๓ – ๑๗ ธนั วาคม ๒๕๖๒ เรียน Comprehensive Chinese 综合汉语 (อาจารย์ 李 晴 )

38 ภาพประกอบการเดินทางไปราชการ ของว่าท่ีร้อยเอกรุ่งโรจน์ อุตมาตร เข้ารับการฝึกอบรมภาษาและวัฒนธรรมจนี ณ Tianjin Normal University สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหวา่ งวนั ท่ี ๓ – ๑๗ ธนั วาคม ๒๕๖๒ ๔ ธนั วาคม ๒๕๖๒ ศึกษาดงู าน the main campus 参观新校区,了解图书馆

39 ภาพประกอบการเดินทางไปราชการ ของว่าทร่ี อ้ ยเอกรุ่งโรจน์ อุตมาตร เข้ารับการฝึกอบรมภาษาและวฒั นธรรมจนี ณ Tianjin Normal University สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหวา่ งวนั ท่ี ๓ – ๑๗ ธนั วาคม ๒๕๖๒ ๔ ธนั วาคม ๒๕๖๒ ศึกษาดงู าน the main campus 参观新校区,了解图书馆

40 ภาพประกอบการเดินทางไปราชการ ของว่าทร่ี อ้ ยเอกรุ่งโรจน์ อุตมาตร เข้ารับการฝึกอบรมภาษาและวฒั นธรรมจนี ณ Tianjin Normal University สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหวา่ งวนั ท่ี ๓ – ๑๗ ธนั วาคม ๒๕๖๒ ๔ ธนั วาคม ๒๕๖๒ ศึกษาดงู าน the main campus 参观新校区,了解图书馆

41 ภาพประกอบการเดินทางไปราชการ ของวา่ ทีร่ ้อยเอกรุ่งโรจน์ อุตมาตร เข้ารบั การฝกึ อบรมภาษาและวฒั นธรรมจีน ณ Tianjin Normal University สาธารณรฐั ประชาชนจนี ระหวา่ งวนั ท่ี ๓ – ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๒ ๕, ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๒ เรียน Traditional handcraft 中国剪纸体验课 (อาจารย์ )刘树芝

42 ภาพประกอบการเดนิ ทางไปราชการ ของว่าท่รี อ้ ยเอกรุ่งโรจน์ อุตมาตร เขา้ รับการฝึกอบรมภาษาและวฒั นธรรมจนี ณ Tianjin Normal University สาธารณรฐั ประชาชนจีน ระหวา่ งวนั ท่ี ๓ – ๑๗ ธนั วาคม ๒๕๖๒ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๒ ศกึ ษาดงู าน Tiananmen Square, The forbidden City Temple of Heaven 北京文化考察:天安门广场、故宫、天坛

43 ภาพประกอบการเดนิ ทางไปราชการ ของวา่ ทรี่ ้อยเอกรุ่งโรจน์ อุตมาตร เข้ารบั การฝกึ อบรมภาษาและวฒั นธรรมจนี ณ Tianjin Normal University สาธารณรฐั ประชาชนจนี ระหว่างวันที่ ๓ – ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๒ ๘ ธนั วาคม ๒๕๖๒ ศึกษาดงู าน the Great Wall at Badaling 北京文化考察:八达岭长城

44 ภาพประกอบการเดินทางไปราชการ ของว่าท่ีรอ้ ยเอกรุ่งโรจน์ อตุ มาตร เข้ารบั การฝึกอบรมภาษาและวฒั นธรรมจีน ณ Tianjin Normal University สาธารณรัฐประชาชนจนี ระหว่างวนั ที่ ๓ – ๑๗ ธนั วาคม ๒๕๖๒ ๙, ๑๖ ธนั วาคม ๒๕๖๒ เรยี น Calligraphy 中国书法体验 (อาจารย์ )李国忠

45 ภาพประกอบการเดนิ ทางไปราชการ ของวา่ ทีร่ ้อยเอกรุ่งโรจน์ อตุ มาตร เขา้ รบั การฝกึ อบรมภาษาและวฒั นธรรมจีน ณ Tianjin Normal University สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวนั ที่ ๓ – ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๒ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๒ ศกึ ษาดงู าน Tianjin Maritime College 参观天津海运职业学院


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook