Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พรบ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ

พรบ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ

Description: พรบ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ

Search

Read the Text Version

พรบ.ขอมลู ขา วสาร โรงเรียนบา นระตะ สาํ นกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3 สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน

สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานพครณะระกาชรรบมญั กญารัตกิฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ขอ้ มูลข่าวสารของราชการ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี าพ.ศ. ๒๕๔๐สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ภูมพิ ลอดุลยเดช ป.ร. สาํ นกั งานคณะกรรมใหกไ้าวรก้ ณฤษวฎนั ีกทาี่ ๒ กนั ยายนสพําน.ศกั .งา๒น๕ค๔ณ๐ะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สเปําน็นกั ปงทีานี่ ๕คณ๒ะใกนรรรมชั กกาารลกปฤัจษจฎุบกี นัา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นพกั รงาะนบคาณทะสกมรเรดมจ็ กพารระกปฤษรมฎนิีกาทรมหาภูมิพลสอําดนุลกั ยงาเดนชคณมะีพกรระรมบกรามรรกาฤชษโอฎงกี กาารโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า โดยที่เป็นการสมควรให้มกี ฎหมายวา่ ด้วยขอ้ มูลขา่ วสารของราชการ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญตั ิขึ้นไว้โดยคาํ แนะนําและยินยอม สํานักงานขคอณงระฐั กสรภรมากดารังกตฤอ่ ษไปฎนีกา้ี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นมักางาตนรคาณ๑ะกรพรมระกรารากชฤบษัญฎีกญาัติน้ีเรียกว่า “สพํานรักะงราานชคบณัญะกญรัตรมิขก้อามรูกลฤขษ่าฎวสกี าารของราชการ สาํ นกั งานพค.ศณ.ะ๒ก๕รร๔ม๐กา”รกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นมักางาตนรคาณ๒ะ๑กรรพมรกะารรากชฤบษัญฎกีญาัตินี้ให้ใช้บังคสับําเนมกั ่ืองพาน้นคกณําหะกนรดรเมกก้าาสริบกฤวษันฎนกี ับาแต่วันประกาศ ในราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๓ บรรดากฎหมาย กฎ ระเบียบ และขอ้ บังคับอื่น ในส่วนท่ีบัญญัติไว้แล้วใน พระราชบัญญสัตํานิ น้ี ักหงราอืนซค่งึณขะัดกหรรรมือกแายร้งกกฤับษบฎทีกแา หง่ พระราชบสญั ํานญักตังาินนีใ้ คหณ้ใชะ้พกรรระมรกาาชรบกญัฤษญฎัตกี นิ าี้แทน สํานักงานคณะกรรมการกฤษมฎาตีการา ๔ ในพระสรําานชักบงัญานญคัตณินะกี้ รรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา “ข้อมูลข่าวสาร” หมายความว่า สิ่งที่สื่อความหมายให้รู้เรื่องราวข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือสงิ่ ใด ๆ ไมส่วําน่ากกั งาารนสคอ่ื ณคะวการมรหมมกาารยกนฤั้นษจฎะีกทาําไดโ้ ดยสภาพสขํานอักงงสาิ่งนนคั้นณเะอกงรหรรมือกโาดรยกผฤษ่านฎวกี ิธาีการใด ๆ และ สํานกั งานไมค่วณ่าะจกะรไรดม้จกัดารทกําฤไษวฎ้ในีกราูปของเอกสาสรํานแักฟง้มานรคาณยะงการนรมหกนาังรสกฤือษแฎผีกนา ผัง แผนท่ี ภสาําพนวักางดานภคาณพะถก่ารรยมฟกาิลร์มกฤษฎีกา การบันทึกภาพหรือเสียง การบันทึกโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือวิธีอ่ืนใดที่ทําให้สิ่งท่ีบันทึกไว้ปรากฏ ได้ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา “ข้อมูลขา่ วสารของราชการ” หมายความว่า ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครอง สาํ นักงานหครณือคะกวรบรคมุมกดารูแกลฤขษอฎงกี หาน่วยงานของสรําัฐนกัไมงา่วน่าคจณะะเปกร็นรขม้อกมารูลกขฤ่าษวฎสีกาารเกี่ยวกับการสดําํานเักนงินานงาคนณขะอกรงรรมัฐกหารรือกฤษฎีกา ขอ้ มูลข่าวสารเกี่ยวกบั เอกชน สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๑ ราชกจิ จานุเบกษา เล่ม ๑๑๔/ตอนท่ี ๔๖ ก/หนา้ ๑/๑๐ กันยายน ๒๕๔๐

- ๒ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา “หนว่ ยงานของรัฐ” หมายความว่า ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการ สํานักสง่วานนคทณ้อะงกถริ่นรมรกัฐารวกิสฤาษหฎกกี ิจา ส่วนราชกาสรําสนังกั กงาัดนรคัฐณสะภการรศมากลารเกฉฤพษาฎะกี ใานส่วนที่ไม่เกี่ยสาํวนกักับงากนาครณพะิจการรรณมกาารกฤษฎีกา พิพากษาคดี องค์กรควบคุมการประกอบวิชาชีพ หน่วยงานอิสระของรัฐและหน่วยงานอ่ืนตามที่ กาํ หนดในกฎกระสทาํ รนวกั งงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา “เจา้ หน้าทข่ี องรฐั ” หมายความว่า ผูซ้ ่ึงปฏิบตั งิ านให้แก่หน่วยงานของรฐั สาํ นกั งานคณะกรรมการก“ฤขษ้อฎมกีูลาข่าวสารส่วนบสําุคนคกั ลง”านหคมณาะยกครรวมากมาวร่ากฤขษ้อฎมีกูลาข่าวสารเกี่ยวสกาํ ับนสัก่ิงงเาฉนพคณาะะตกัรวรขมอกงารกฤษฎกี า บบุรครคดลาทเช่ีม่นชี ่ือกขาอรงศสผึํากู้นนษ้ันักาหงารฐนือาคมนณีเะละกกขารหรรมมเงากินยารรปกหฤรษัสะฎวหักีตราิสือุขสภิ่งาบพอกปลรักะษสวณําัตนิอะักอางชื่นานญทคี่ทาณกําะใรกหรร้รมรู้ตมหัวกผรารู้นือก้ันปฤไรษดะฎ้ วเีกชัตา่นิกาลราทยําพงิมาพน์ สาํ นักนงวิ้านมคอื ณแะผก่นรรบมนั กทารกึ กลฤักษษฎณีกาะเสียงของคนสหํารนือักรงปูานถคา่ ณยะแกลระรมใหก้หารมกาฤยษคฎวีกาามรวมถึงข้อมูลสขาํ น่าัวกสงาานรคเกณี่ยะวกกรรับมสก่ิงารกฤษฎกี า เฉพาะตวั ของผูท้ ี่ถึงแกก่ รรมแล้วด้วย ส“าํ คนณกั งะากนรครณมะกการรร”มกหามรกาฤยษคฎวากี มาว่า คณะกรรสมํากนากั รงขานอ้ คมณลู ขะกา่ รวรสมากราขรอกงฤรษาฎชีกกาาร “คนต่างด้าว” หมายความว่า บุคคลธรรมดาท่ีไม่มีสัญชาติไทยและไม่มีถิ่นท่ีอยู่ใน สาํ นกั ปงรานะคเทณศะไกทรยรมแลกาะรนกติ ฤิบษคุฎคกี ลา ดังตอ่ ไปนี้ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๑) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนที่มีทุนเกินกึ่งหนึ่งเป็นของคนต่างด้าว ใบหุ้นชนิดออก ให้แกผ่ ถู้ ือ ใหถ้ ือวส่าําในบกั หงาุ้นนนคนั้ ณคะนกตรรา่ มงดกา้ารวกเปฤษ็นฎผีกูถ้ าือ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๒) สมาคมที่มสี มาชิกเกนิ กึง่ หนง่ึ เป็นคนต่างด้าว สํานกั งานคณะกรรมการก(๓ฤ)ษสฎมกี าาคมหรอื มูลนสิธําิทนมี่ กั ีวงัตานถคปุ ณระะสกรงรคมเ์ พกา่อื รปกรฤะษโฎยกีชาน์ของคนตา่ งดสา้ําวนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ส(๔ําน)ักนงาิตนิบคุคณคะลกตรารมมก(า๑รก) ฤ(๒ษ)ฎ(กี ๓า) หรือนิติบุคสคําลนอัก่ืนงาในดคทณ่ีมะีผกู้จรัดรกมากรารหกรฤือษกฎรกีรามการเกินก่ึง หนึ่งเป็นคนต่างดา้ ว สํานักงานคณะกรรมการกนฤิตษิบฎุคกี คาลตามวรรคหสนํานึ่งักถง้าานเขค้าณไะปกเรปร็นมผกู้จารัดกกฤาษรฎหีกราือกรรมการ สสมํานาักชงิกานหครณือะมกีทรุรนมใกนารกฤษฎกี า นติ ิบคุ คลอน่ื ให้ถอื ว่าผู้จดั การหรอื กรรมการ หรอื สมาชิก หรือเจ้าของทุนดังกลา่ วเปน็ คนตา่ งด้าว สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๕ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และมีอํานาจออก สํานกั กงฎานกครณะทะกรรวรงมเพกอื่ารปกฏฤิบษตัฎติีกาามพระราชบัญสําญนัตักนิงา้ี นคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า กฎกระทรวงน้ัน เมือ่ ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาแลว้ ใหใ้ ช้บังคับได้ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๖ ให้จัดต้ังสํานักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการขึ้นใน สาํ นักสงําานนคักณงะากนรปรมลกัดาสรกําฤนษักฎนีกาายกรัฐมนตรสี ํามนีหักงนา้านทคี่ณปะฏกิบรัรตมิงกาานรกเกฤ่ียษฎวกีกาับงานวิชากาสราํ แนลักะงาธนุรคกณาะรกใรหร้มแกกา่ รกฤษฎีกา คณะกรรมการแลสะาํ คนณักงะากนรครณมะกการรรวมินกาิจรฉกัยฤกษาฎรกี เาปิดเผยข้อมูลขส่าํานวสักงาารนปคณระะสการนรมงกาานรกกับฤหษฎนกี่วายงานของรัฐ และให้คําปรกึ ษาแกเ่ อกชนเกี่ยวกบั การปฏบิ ัติตามพระราชบัญญัตนิ ้ี สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๑ สาํ นกั งานคณะกรรมกากรกาฤรษเปฎิดีกเาผยข้อมูลข่าวสสําานรกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๗ หน่วยงานของรัฐต้องส่งข้อมูลข่าวสารของราชการอย่างน้อยดังต่อไปน้ี ลงพิมพ์ในราชกิจสจาํ านนักุเงบานกคษณาะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการก(๑ฤ)ษโฎคีกรางสรา้ งและกาสรําจนดั ักองางนคคก์ ณรใะนกกรรามรดกาํารเนกฤนิ ษงฎานีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๒) สรุปอํานาจหน้าท่ที ีส่ ําคญั และวิธีการดาํ เนนิ งาน สํานักงานคณะกรรมการก(๓ฤ)ษฎสถกี าานที่ติดต่อเพส่ือําขนอักรงับานขค้อณมะูลกขร่ารวมสกาารรหกฤรษือฎคกีําาแนะนําในการสตําิดนตัก่องากนับคหณนะก่วยรรงมากนารกฤษฎกี า ของรัฐ ส(๔ําน)กั กงฎานมคตณคิ ะกณระรรมัฐกมารนกตฤรษี ฎขกี้อาบังคับ คําสั่ง สหํานนังกั สงือานเวคียณนะกรระรเมบกียาบรกแฤบษบฎแีกผา น นโยบาย หรือการตีความ ท้ังน้ี เฉพาะท่ีจัดให้มีขึ้นโดยมีสภาพอย่างกฎ เพ่ือให้มีผลเป็นการทั่วไปต่อเอกชนท่ี สาํ นกั เงกาี่ยนวคขณอ้ ะงกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สข(๕ํา้อน)มกั ขูลง้อาขนม่าคูลวณขสะ่าากวรรสใดรามทรกอี่ไาด่ืนร้มตกีกฤามาษรทฎจกี่คี ัดาณพะิมกพร์เรพม่ือกใาหร้แกสพําาํ นหรกั่หนงลดาานยคตณาะมกจรํารมนกวานรพกฤอษสฎมีกคาวรแล้ว ถ้ามี สํานักกงาารนลคงณพะิมกพรรใ์ มนกราารชกกฤจิ ษจฎาีกนาุเบกษาโดยอา้สงําอนงิักถงึงานสคิง่ พณิมะกพร์นรัน้มกกใ็าหรก้ถฤือษวฎ่าีกเปา็นการปฏิบัติตสาํานมักบงทานบคัญณญะัตกริวรรมรกคารกฤษฎกี า หนึ่งแล้ว สใาํหน้หักนงา่วนยคงณานะกขรอรงมรกัฐารรวกบฤษรวฎมกี แาละจัดให้มีข้อสมํานูลกั ขง่าาวนสคาณระตการมรวมรกราครกหฤนษ่ึงฎไกีว้เาผยแพร่เพื่อ ขายหรือจําหนา่ ยจ่ายแจก ณ ทท่ี ําการของหน่วยงานของรฐั แหง่ นน้ั ตามท่ีเห็นสมควร สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๘ ข้อมูลข่าวสารที่ต้องลงพิมพ์ตามมาตรา ๗ (๔) ถ้ายังไม่ได้ลงพิมพ์ในราช กจิ จานเุ บกษา จะสนํานาํ มักงาาในชคบ้ ณงั คะบักรใรนมทกาางรทก่ีไฤมษ่เฎปกี ็นาคณุ แกผ่ ใู้ ดไมสไ่ ํดาน้ เักวงน้ านแคตณ่ผูน้ะกน้ั รจระมไกดา้รรถู้กงึฤขษอ้ ฎมีกูลาข่าวสารน้ัน ตามความเปน็ จริงมาก่อนแล้วเปน็ เวลาพอสมควร สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมําานตักรงาาน๙คณะภการยรใมตก้บารังกคฤับษมฎาีกตารา ๑๔ และมสําานตกั รงาาน๑ค๕ณะหกนรร่วมยกงาารนกขฤอษงฎรกี ัฐาต้องจัดให้มี ข้อมลู ข่าวสารของราชการอยา่ งน้อยดงั ต่อไปนี้ไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และ สาํ นกั วงธิ ากีนาครณทะค่ี กณรระมกกรารรมกฤกษารฎกกี าําหนด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๑) ผลการพิจารณาหรือคําวินิจฉัยที่มีผลโดยตรงต่อเอกชน รวมท้ังความเห็นแย้ง และคําสงั่ ท่ีเกี่ยวขสอ้ํานงใักนงกานาครพณจิะการรรณมากวานิรกิจฤฉษัยฎดกีงั ากลา่ ว สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๒) นโยบายหรอื การตคี วามทไี่ ม่เขา้ ข่ายตอ้ งลงพมิ พใ์ นราชกจิ จานเุ บกษาตามมาตรา สํานกั ๗งา(น๔ค)ณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๓) แผนงาน โครงการ และงบประมาณรายจา่ ยประจาํ ปีของปีท่ีกําลังดาํ เนินการ ส(๔าํ น)ักคงู่ามนือคหณระือกครํารสมั่งกเากรี่ยกวฤกษับฎกีวิธาีปฏิบัติงานขสอํางนเจกั ้างาหนนค้าณทะ่ีขกอรงรรมัฐกซาร่ึงกมฤีผษลฎกกี ราะทบถึงสิทธิ หนา้ ท่ขี องเอกชน สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการก(๕ฤ)ษสฎ่งิกี พามิ พ์ทไ่ี ด้มกี ารสอํานา้ งักองาิงนถคึงตณาะมกมรรามตกราารก๗ฤวษรฎรีกคาสอง ส(าํ๖น)กั สงาัญนญคณาสะกัมรปรทมกานารกสฤัญษญฎกีาาที่มีลักษณะเปส็นํานกักางราผนูกคขณาะดกตรรัดมตกอานรกหฤรษือฎสีกัญา ญาร่วมทุน กับเอกชนในการจดั ทาํ บรกิ ารสาธารณะ สํานักงานคณะกรรมการก(๗ฤษ) ฎมีกตาิคณะรัฐมนตสรําี นหักรงือานมคตณิคะณกระรกมรกรามรกกฤาษรฎทีก่ีแาต่งต้ังโดยกฎสหํานมักางยานหครณือะโกดรยรมมกตาิ รกฤษฎีกา คณะรัฐมนตรี ท้ังนี้ ให้ระบุรายชื่อรายงานทางวิชาการ รายงานข้อเท็จจริง หรือข้อมูลข่าวสารที่ นาํ มาใชใ้ นการพิจสาํารนณกั งาาไนวค้ดณว้ ยะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๘) ขอ้ มลู ข่าวสารอื่นตามทีค่ ณะกรรมการกาํ หนด สาํ นักงานคณะกรรมการกขฤ้อษมฎูลกี ขา่าวสารที่จัดใหส้ปํานรกัะงชาานชคนณเขะก้ารตรรมวกจาดรกูไดฤ้ตษาฎมีกวารรคหน่ึง ถ้ามสีสําน่วนักงทา่ีตน้อคงณหะ้ากมรรมมิใกหา้ รกฤษฎีกา เปิดเผยตามมาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๕ อยู่ด้วย ให้ลบหรือตัดทอนหรือทําโดยประการอื่นใดที่ไม่เป็น การเปดิ เผยขอ้ มลู สขํา่านวกั สงาานรสค่วณนะนกร้นั รมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า บุคคลไม่ว่าจะมีส่วนได้เสียเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ตาม ย่อมมีสิทธิเข้าตรวจดู ขอสําเนา สํานักหงรานือคขณอสะกํารเนรมากทาี่มรีคกํฤารษับฎรกี อางถูกต้องของสขํา้อนมักูลงาขน่าควณสาะกรตรรามมกวารรรกคฤหษนฎ่ึงกี ไาด้ ในกรณีที่สสมําคนวักรงหานนค่วณยงะากนรรขมอกงารกฤษฎีกา รัฐโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ จะวางหลักเกณฑ์เรียกค่าธรรมเนียมในการนั้นก็ได้ ในการนี้ ให้คํานึงถึงการช่วสยาํ นเหักลงาือนผคู้มณีระากยรไรดม้นก้อารยกปฤรษะฎกกี อาบด้วย ทั้งนี้ สเวําน้นักแงตา่นจะคมณีกะกฎรหรมมากยารเฉกฤพษาฎะบกี าัญญัติไว้เป็น อยา่ งอื่น สาํ นักงานคณะกรรมการกคฤนษตฎ่ากีงดา า้ วจะมีสิทธติ สาํามนมกั งาาตนรคาณนะี้เพกรียรงมใดกาใหรก้เปฤษน็ ฎไปีกตา ามท่ีกําหนดโสดํายนกักฎงากนรคะณทะรกวรงรมการกฤษฎกี า สมําานตักรงาาน๑คณ๐ะกบรรทมบกัญารญกฤัตษิมฎาีกตารา ๗ และมาสตํานรกัางา๙นคไมณ่กะกรระรทมบกถารึงกขฤ้อษมฎูลีกขา่าวสารของ สํานกั รงาาชนกคาณระทก่ีมรกีรมฎกหามรกาฤยษเฉฎพกี าาะกาํ หนดให้มสีกําานรักเงผายนแคพณระห่ กรรือรมเปกิดารเกผฤยษดฎ้วีกยาวิธกี ารอย่างอสนื่ ํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมําานตักรงาาน๑ค๑ณะกนรอรกมจกาารกกขฤ้อษมฎูลกี ขา่าวสารของราสชํานกกัางราทน่ีลคงณพะิมกพรร์ใมนกราารชกกฤิจษจฎากี นาุเบกษาแล้ว หรือที่จัดไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้แล้วหรือท่ีมีการจัดให้ประชาชนได้ค้นคว้าตามมาตรา ๒๖ แล้ว สํานกั ถง้าานบคุคณคะลกใรดรขมอกขาร้อกมฤูลษขฎ่ากี วาสารอื่นใดขอสงํารนากั ชงากนาครณแะลกะรครํามขกอารขกอฤงษผฎู้นกี ั้นา ระบุข้อมูลขส่าาํวนสักางราทน่ีคตณ้องะกกรารรมใกนารกฤษฎกี า ลักษณะที่อาจเข้าใจได้ตามควร ให้หน่วยงานของรัฐผู้รับผิดชอบจัดหาข้อมูลข่าวสารนั้นให้แก่ผู้ขอ ภายในเวลาอันสมสคาํ นวรักงเาวนน้ คแณตะ่ผกนู้ รัน้รมขกอาจรํากนฤวษนฎมีกาากหรอื บ่อยครสงั้ําโนดักยงไามนม่คณเี หะตกุผรรลมอกนั าสรมกฤคษวฎรกี า ข้อมูลข่าวสารของราชการใดมีสภาพที่อาจบุบสลายง่าย หน่วยงานของรัฐจะขอ สาํ นักขงยานายคเณวะลการใรนมกกาารรจกัดฤษหฎาใีกหา้หรือจะจัดทําสสํานําักเนงาานใหค้ณในะสกภรรามพกอายรก่าฤงหษนฎกี่ึงอาย่างใดเพ่ือมิใสหาํ น้เกักิดงคานวคาณมเะสกียรหรมากยารกฤษฎีกา แกข่ ้อมลู ข่าวสารสนาํัน้ นกกั ไ็ งดา้นคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ข้อมูลข่าวสารของราชการท่ีหน่วยงานของรัฐจัดหาให้ตามวรรคหน่ึงต้องเป็นข้อมูล สํานักขงา่าวนสคาณระทก่ีมรอีรมยกู่แาลรว้กใฤนษสฎภกี าาพท่พี ร้อมจะใสหํา้ไนดกั ้ งมาใินชค่เณปน็ะกกรารรมตกอ้ างรไกปฤจษดัฎทกี ําา วเิ คราะห์ จาํสแํานนักกงารนวคบณรวะมกรหรมรกือารกฤษฎีกา จัดให้มีข้ึนใหม่ เว้นแต่เป็นการแปรสภาพเป็นเอกสารจากข้อมูลข่าวสารที่บันทึกไว้ในระบบการ บันทึกภาพหรือเสสียํานงักรงะานบคบณคะอกมรพรมิวกเตารอกรฤ์ ษหฎรีกือาระบบอ่ืนใด สทํา้ังนนัก้ีงตานาคมณทะี่คกณรระมกกรารรมกกฤาษรฎกีกําาหนด แต่ถ้า หน่วยงานของรัฐเห็นว่ากรณีที่ขอนั้นมิใช่การแสวงหาผลประโยชน์ทางการค้า และเป็นเรื่องที่จําเป็น สาํ นักเงพาื่อนปคณกปะก้อรงรสมิทกธาริเสกรฤีภษฎาพกี าสําหรับผู้น้ันหสรําือนเักปง็นานเรคื่อณงะทก่ีจรระมเปกา็นรปกรฤะษโฎยีกชาน์แก่สาธารณสะาํ นหักนง่าวนยคงณานะกขรอรงมรกัฐารกฤษฎกี า จะจัดหาข้อมลู ข่าวสารนน้ั ให้กไ็ ด้ สบําทนักบงัญานญคัตณิวะรกรรครสมากมารไกมฤ่เปษฎ็นกีกาารห้ามหน่วยสงําานนกั ขงอานงรคัฐณทะี่จกะรรจมัดกใาหร้มกีขฤ้อษมฎูลีกาข่าวสารของ ราชการใดขึ้นใหม่ให้แก่ผู้ร้องขอหากเป็นการสอดคล้องด้วยอํานาจหน้าท่ีตามปกติของหน่วยงานของ สํานักรงัฐานนัน้คณอยะกู่แรลรว้ มการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สใําหน้นักํางคานวคาณมใะนกรมรามตกราารก๙ฤษวฎรกีราคสอง วรรคสสาํามนกั แงลานะควรณระคกสรรี่ มมกาใาชรก้บฤังษคฎับีกแาก่การจัดหา ข้อมูลขา่ วสารให้ตามมาตรานี้ โดยอนโุ ลม สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๑๒ ในกรณีท่ีมีผู้ย่ืนคําขอข้อมูลข่าวสารของราชการตามมาตรา ๑๑ แม้ว่า ข้อมูลข่าวสารท่ีขสอาํ นจกัะงอายนู่ใคนณคะวการมรมคกวาบรคกุฤมษดฎูแีกลาของหน่วยงาสนําสน่วกั นงากนลคาณงหะกรรือรสม่วกนารสกาฤขษาฎขีกอางหน่วยงาน แห่งนน้ั หรอื จะอยูใ่ นความควบคุมดแู ลของหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นก็ตาม ให้หน่วยงานของรัฐที่รับคํา สาํ นักขงอานใหคค้ณาํ ะแกนรระมนกําาเรพก่ือฤไษปฎยีกื่นาคาํ ขอตอ่ หน่วสยํางนากั นงขานอคงณรัฐะทกร่ีครวมบกคามุรกดฤแู ษลฎขีกอ้ ามูลข่าวสารนน้ั สโาํ ดนยักไงมาน่ชคักณช้าะกรรมการกฤษฎีกา ถ้าหน่วยงานของรัฐผู้รับคําขอเห็นว่าข้อมูลข่าวสารท่ีมีคําขอเป็นข้อมูลข่าวสารท่ี จัดทําโดยหน่วยงสาํานนขกั องางนรคัฐณแะหก่งรอรื่นมกแาลรกะฤไษดฎ้ระกี บา ุห้ามการเปิดสเําผนยกั ไงวาน้ตคาณมระกะรเบรมียกบาทรกี่กฤําษหฎนกี ดาตามมาตรา สํานกั ๑ง๖านคใหณส้ ะ่งกคราํรขมอกานรน้ั กใฤหษ้หฎนีกว่ายงานของรฐั ผสําจู้ นัดกั ทงาํานขคอ้ ณมลูะกขรา่ รวมสกาารรนกนั้ฤพษฎจิ าีกราณาเพื่อมคี าํ สสงั่ ําตน่อักไงปานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๕ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๑๓ ผู้ใดเหส็นําวน่าักหงานน่วคยณงะากนรขรอมกงรารัฐกไฤมษ่จฎัดีกพาิมพ์ข้อมูลข่าวสําสนาักรงตาานมคมณาะตกรรรามก๗ารกฤษฎีกา หรือไม่จัดข้อมูลข่าวสารไว้ให้ประชาชนตรวจดูได้ตามมาตรา ๙ หรือไม่จัดหาข้อมูลข่าวสารให้แก่ตน ตามมาตรา ๑๑ หสราํ นือักฝง่าาฝนืนคหณระือกไรมรม่ปกฏาิบรกัตฤิตษาฎมกีพาระราชบัญญัตสินํานี้ หกั งราือนปคฏณิบะัตกิรหรนม้ากทารี่ลก่าฤชษ้าฎหีกราือเห็นว่าตน ไม่ได้รับความสะดวกโดยไม่มีเหตุอันสมควร ผู้นั้นมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการ เว้นแต่เป็นเรื่อง สํานักเงกาีย่ นวคกณับะกการรรมมีคกาาํ รสกงั่ ฤมษิใหฎกี้เปาิดเผยขอ้ มลู ขส่าําวนสักางราตนาคมณมะากตรรรามก๑า๕รกฤหษรฎือคีกาาํ ส่งั ไม่รับฟังคสําาํคนัดักคง้าานนคตณามะกมรารตมรกาารกฤษฎีกา ๑๗ หรอื คาํ สัง่ ไมแ่สใกํานน้ไกขักเรงปาณนลีคทีย่ ณี่นมะแีกกปารลรรงรมห้อกรางรอื เกรลฤียบษนขฎอ้ตีกม่อาูลคขณ่าวะสการรรสมว่ กนสาําบนรุคักตคงาลามนตควาณมรรมะคการตหรรนมา่ึกง๒ารค๕กณฤษะฎกกีรารมการต้อง สํานักพงิาจนาครณณะากใรหร้แมลก้วารเกสฤรษ็จฎภีกาายในสามสิบวสันํานนับกั งแาตน่วคันณทะ่ีไกดร้รรมับกคาํารรก้อฤงษเฎรกีียาน ในกรณีที่มสีเหํานตักุจงําาเนปค็นณใะหก้ขรรยมากยารกฤษฎีกา เวลาออกไปได้ แตต่ ้องแสดงเหตุผลและรวมเวลาทง้ั หมดแลว้ ตอ้ งไม่เกินหกสิบวัน สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า หมวด ๒ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า ขอ้ สมําูลนขักา่งวานสคารณทะ่ไีกมรต่รมอ้ กงาเปรกดิ ฤเผษยฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๑๔ ข้อมูลข่าวสารของราชการท่ีอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบัน สาํ นักพงรานะคมณหาะกกรษรตัมรกยิ าร์จกะฤเปษิดฎเกี ผายมไิ ด้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๑๕ ข้อมูลข่าวสารของราชการที่มีลักษณะอย่างหน่ึงอย่างใดดังต่อไปน้ี สํานักหงนาน่วคยณงาะนกรขรอมงกราัฐรหกฤรษือฎเจกี ้าาหน้าท่ีของรัฐสอําานจกั มงาีคนําคสณ่ังมะกิใหรร้เมปกิดาเรผกยฤกษ็ไฎดกี ้ าโดยคํานึงถึงกสาํารนปักฏงิบานัตคิหณนะ้ากทร่ีรตมากมารกฤษฎีกา กฎหมายของหนว่ ยงานของรัฐ ประโยชนส์ าธารณะ และประโยชนข์ องเอกชนที่เก่ยี วข้องประกอบกนั ส(๑าํ น)กั กงาานรเคปณดิ ะเกผรยรจมะกกา่อรกใหฤษ้เกฎิดีกคาวามเสียหายสตํา่อนคักวงาามนมคณ่ันคะกงรขรอมงกปารระกเฤทษศฎีกคาวามสัมพันธ์ ระหวา่ งประเทศ หรือความมั่นคงในทางเศรษฐกจิ หรือการคลงั ของประเทศ สํานกั งานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษกฎากี ราเปิดเผยจะทสําใําหนัก้กงาารนบคังณคะับกใรชร้กมฎกหารมกาฤยษเฎสกีื่อามประสิทธิภาสพํานหักรงือาไนมค่อณาะจกสรํารเมรก็จารกฤษฎกี า ตามวัตถุประสงค์ได้ ไม่ว่าจะเก่ียวกับการฟ้องคดี การป้องกัน การปราบปราม การทดสอบ การ ตรวจสอบ หรอื กาสรํานร้แูกั หงาลน่งคทณีม่ ะากขรอรมงขก้อารมกลู ฤขษา่ ฎวีกสาารหรือไมก่ ต็ าสมํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๓) ความเห็นหรือคาํ แนะนําภายในหน่วยงานของรฐั ในการดําเนินการเร่ืองหนึ่งเร่ือง สาํ นกั ใงดานแคตณ่ทะก้ังรนร้ี มไมก่รารวกมฤถษึงฎรกีายางานทางวิชาสกําานรกั รงาานยคงณานะขกร้อรเมทก็จาจรรกิงฤษหฎรกีือาข้อมูลข่าวสารสทาํ น่ีนักํางมาานใคชณ้ในะกกรารรมทกําารกฤษฎกี า ความเหน็ หรอื คาํ แสาํนนะกั นงําาภนคายณใะนกดรังรกมลกา่ารวกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๔) การเปิดเผยจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือความปลอดภัยของบุคคลหนึ่ง สํานกั บงุคานคคลณใดะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๕) รายงานการแพทย์หรือข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลซ่ึงการเปิดเผยจะเป็นการรุกลํ้า สทิ ธสิ ว่ นบุคคลโดสยาํ ไนมกั ส่ งมานคควณร ะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๖) ข้อมูลข่าวสารของราชการท่ีมีกฎหมายคุ้มครองมิให้เปิดเผย หรือข้อมูลข่าวสาร สํานักทงม่ีานีผคู้ใหณ้มะการโดรมยกไมารป่ กรฤะษสฎงีกคา์ให้ทางราชกาสรํานนาํ กั ไงปาเนปคดิ ณเผะกยรตรอ่ มผกู้อาร่ืนกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๗) กรณีอน่ื ตามที่กําหนดในพระราชกฤษฎีกา สคําํานสกั ่ังงมานิใหคณ้เปะิดกเรผรมยกขา้อรมกูลฤขษ่าฎวีกสาารของราชกสาํารนจกั ะงกาํานหคนณดะกเงรื่อรมนกไขารอกยฤ่าษงฎใดีกาก็ได้ แต่ต้อง สาํ นกั รงะาบนคุไวณ้ดะ้วกยรวร่ามทกาี่เปรกิดฤเษผยฎไีกมา่ได้เพราะเป็นสขําน้อักมงูลาขน่าควณสะากรรปรมระกเาภรกทฤใษดฎแีกลาะเพราะเหตุใดสาํ แนลักะงใาหนค้ถณือวะ่กากรรามรกมาี รกฤษฎีกา

- ๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คําส่ังเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการเป็นดุลพินิจ โดยเฉพาะของเจ้าหน้าท่ีของรัฐตามลําดับสาย สํานกั กงาานรบคณังคะักบรบรัญมกชาารกแฤตษ่ผฎู้ขีกอา อาจอุทธรณส์ตํา่อนักคงณานะคกณรระกมรกรามรกวาินรกิจฤฉษัยฎกีกาารเปิดเผยข้อมสูลํานขัก่างวาสนาครณไะดก้ตรารมมกทา่ี รกฤษฎกี า กําหนดในพระราชบัญญตั ิน้ี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๑๖ เพ่ือให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติว่าข้อมูลข่าวสารของราชการจะ สาํ นักเงปาิดนเคผณยะตก่อรบรมุคกคาลรใกดฤไษดฎ้หีกราือไม่ภายใต้เงสื่อํานนไักขงเาชน่นคใณดะกแรลระมสกมาครกวฤรษมฎีวกีิธีารักษามิให้ร่ัวไหสําลนใักหง้หานนค่วณยงะากนรรขมอกงารกฤษฎกี า รรักัฐกษําาหควนาดมวลิธับีกขาอรสงคําทุ้นมาักคงงรราาอนชงคกขณา้อะรมกูลรรขม่ากวาสรการฤนษ้ัฎนกี าทั้งนี้ ตามระสเบํานียักบงทาน่ีคคณณะะรกัฐรรมมนกตารรกีกฤําษหฎนีกดาว่าด้วยการ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๑๗ ในกรณที เี่ จา้ หน้าท่ีของรัฐเหน็ วา่ การเปิดเผยข้อมูลขา่ วสารของราชการ ใดอาจกระทบถึงปสํารนะกัโยงาชนนคไ์ ณดเ้ะสกียรรขมอกงาผรใู้ กดฤษใหฎเ้ กีจาา้ หน้าท่ีของรฐัสแํานจัก้งใงหาน้ผคนู้ ณัน้ ะเกสรนรอมคกาําครกดั ฤคษ้าฎนีกภาายในเวลาที่ กาํ หนด แตต่ ้องให้เวลาอนั สมควรทผี่ นู้ ้นั อาจเสนอคําคัดค้านได้ ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าสิบห้าวันนับแต่วันที่ สํานกั ไงดา้รนบั คแณจะ้งกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้ท่ีได้รับแจ้งตามวรรคหน่ึง หรือผู้ที่ทราบว่าการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการ ใดอาจกระทบถึงสปํารนะักโงยานชคนณ์ไดะก้เสรีรยมขกอางรตกนฤษมฎีสกี ิทา ธิคัดค้านกาสรําเนปกัิดงเาผนยคขณ้อะมกูลรรขม่ากวาสรากรฤนษ้ันฎไีกดา้โดยทําเป็น หนังสอื ถึงเจา้ หน้าท่ีของรัฐผู้รับผิดชอบ สํานักงานคณะกรรมการกในฤกษรฎณีกาที ่ีมกี ารคดั ค้าสนํานเจกั า้ งหานนคา้ ณทะี่ขกอรงรรมัฐกผาู้รรับกผฤษิดฎชกีอาบต้องพิจารณสาาํคนําักคงัดาคน้าคนณแะลกระรแมจก้งารกฤษฎกี า ผลการพจิ ารณาใหสาํผ้ นูค้ ักดั งคาน้าคนณทะรการบรโมดกยาไรมก่ชฤักษชฎา้ ีกาในกรณีท่ีมคี ําสสํา่ังนไมักงร่ าับนฟคงัณคะํากครัดรมคกา้ นารกเจฤ้าษหฎนีก้าาที่ของรัฐจะ เปิดเผยข้อมูลข่าวสารน้ันมิได้จนกว่าจะล่วงพ้นกําหนดเวลาอุทธรณ์ตามมาตรา ๑๘ หรือจนกว่า สาํ นกั คงณานะคกณระรกมรกรามรกวาินรกิจฤฉษัยฎกกี าารเปิดเผยข้อมสูลําขน่าักวงสานาครไณดะ้มกีครรํามวินกาิจรฉกัยฤใษหฎ้เีกปาิดเผยข้อมูลข่าสวาํ สนาักรงนานั้นคไณด้ะแกลรร้วมแกตา่ รกฤษฎกี า กรณี สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๑๘ ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐมีคําสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารใดตาม สํานกั มงาานตครณา ะ๑ก๔รรมหกราือรมกาฤตษรฎาีกา๑๕ หรือมีคําสสําั่งนไักมง่รานับคฟณังะคกํารครัดมคก้าารนกขฤอษงฎผีกู้มาีประโยชน์ไดส้เสาํ นียักตงาามนมคาณตะรการร๑ม๗การกฤษฎีกา ผู้นั้นอาจอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารภายในสิบห้าวันนับแต่วันท่ี ได้รับแจ้งคําสั่งน้ันสํานโดกั ยงายน่ืนคคณําะอกุทรรธมรกณา์ตรก่อฤคษณฎะีกการรมการ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๑๙ การพิจสาํารนณกั งาาเนกคี่ยณวกะกับรขร้อมมกาูลรขก่าฤวษสฎากี ราท่ีมีคําส่ังมิใหส้เปาํ นิดักเงผายนนคั้นณไะมก่วรร่ามจกะารกฤษฎีกา เป็นการพิจารณาสขําอนงกั คงาณนะคกณระรกมรกรมารกาครกณฤะษกฎรีกรามการวินิจฉัยสกําานรักเงปาิดนเคผณยะขก้อรมรมูลกขา่ารวกสฤาษรฎหีกราือศาลก็ตาม จะต้องดําเนินกระบวนการพิจารณาโดยมิให้ข้อมูลข่าวสารนั้นเปิดเผยแก่บุคคลอ่ืนใดท่ีไม่จําเป็นแก่ สาํ นักกงาารนพคจิณาะรกณรรามแกลาะรใกนฤกษรฎณกี าที ่จี าํ เป็นจะพจิสาํานรณักงาาลนบัคหณละกงั ครร่กู มรกณารีหกรฤือษคฎคู่ กี วาามฝา่ ยใดก็ไดส้ ํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมําานตกั งราานค๒ณ๐ะกรกรามรกเาปริดกฤเผษยฎขกี ้าอมูลข่าวสารสใําดนแกั มงา้จนะคเณข้ะากขร่ารยมตก้อารงกมฤีคษวฎาีกมารับผิดตาม กฎหมายใด ให้ถือวา่ เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั ไมต่ ้องรับผิดหากเป็นการกระทําโดยสุจรติ ในกรณดี ังตอ่ ไปนี้ สาํ นกั งานคณะกรรมการก(๑ฤ)ษขฎ้อกี ามูลข่าวสารตาสมํามนักาตงารนาค๑ณ๕ะกถรร้ามเจก้าารหกนฤ้าษทฎ่ีขกี อางรัฐได้ดําเนินสกําานรักโงดายนถคูกณตะ้อกงรรตมากมารกฤษฎกี า ระเบยี บตามมาตรา ๑๖ ส(าํ๒น)ักขงา้อนมคูลณขะ่ากวรรสมากราตรากมฤมษฎาตกี ารา ๑๕ ถ้าเจส้าําหนนัก้างาทน่ีขคอณงะรกัฐรใรนมรกะารดกับฤตษาฎมกี ทา ี่กําหนดใน สํานักกงฎานกครณะทะกรรวรงมมกาีครํากสฤ่ังษใฎหกี้เปา ิดเผยเป็นกาสรําทน่ัวกั ไงปานหครณือเะฉกพรรามะกแากร่บกฤุคษคฎลีกใาดเพื่อประโยชสนาํ ์อนันักงสาํานคคัญณยะ่ิงกกรรวม่ากทาี่ รกฤษฎกี า

- ๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะ หรือชีวิต ร่างกาย สุขภาพ หรือประโยชน์อ่ืนของบุคคล และคําสั่งนั้นได้ สํานกั กงรานะคทณําโะดกยรรสมมกคาวรกรฤแษกฎ่เหกี ตา ุ ในการน้ีจะสมําีกนาักรงากนําคหณนะดกขร้อรมจกําากรัดกหฤษรืฎอกีเงา่ือนไขในการใสชาํ ้ขน้อักงมาูลนขค่าณวะสการรรนมกั้นารกฤษฎกี า ตามความเหมาะสมก็ได้ สกําานรักเงปาิดนเคผณยะขกอ้ รมรูลมขกา่ารวกสฤาษรฎตกีามา วรรคหนึ่งไมส่เําปน็นักเงหาตนุใคหณ้หะนกร่วรยมงกาานรขกอฤงษรฎัฐกี พา้นจากความ รบั ผดิ ตามกฎหมายหากจะพงึ มีในกรณีดงั กลา่ ว สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการขก้อฤมษูลฎขกี า่ าหวมสวาดรส๓่วนบคุ สคําลนกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมําานตกั รงาาน๒ค๑ณะกเพรรื่อมปกราระกโยฤชษนฎกี์แาห่งหมวดนี้ “บสําุคนคกั ลง”านหคมณาะยกครรวมากมาวร่ากฤบษุคฎคกี ลาธรรมดาที่มี สญั ชาติไทยและบคุ คลธรรมดาท่ีไม่มีสญั ชาตไิ ทยแตม่ ีถ่นิ ทอี่ ย่ใู นประเทศไทย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๒๒ สํานักข่าวกรองแห่งชาติ สํานักงานสภาความม่ันคงแห่งชาติ และ หน่วยงานของรัฐสแาํ นหกั ่งงอาน่ืนคตณาะมกทรี่รกมํากหานรกดฤใษนฎกีกฎากระทรวง อสาําจนอักองากนรคะณเะบกียรบรมโกดายรคกฤวษามฎเีกหา็นชอบของ คณะกรรมการ กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่มิให้นําบทบัญญัติวรรคหน่ึง (๓) ของมาตรา สาํ นกั ๒ง๓านคมณาใะชก้บรังรคมกับากรบักขฤษ้อฎมกีลู าข่าวสารสว่ นบสคุ ํานคกัลงทาี่อนยคูใ่ณนะคกวรารมมคกวารบกคฤมุ ษดฎูแีกลาของหน่วยงานสาํดนงั ักกงลา่านวคกณ็ไะดก้ รรมการกฤษฎกี า สหํานนกั่วงยางนาคนณขะอกงรรรมัฐกแาหร่กงอฤษ่ืนฎทกี ่ีจาะกําหนดในกสฎํานกักรงะานทครณวงะกตรารมมวกรารรกคฤหษนฎึ่งีกนาั้น ต้องเป็น หน่วยงานของรัฐ ซึ่งการเปิดเผยประเภทข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลตามมาตรา ๒๓ วรรคหนึ่ง (๓) จะ สํานกั เงปา็นนอคุปณสะกรรรรคมรก้าายรแกรฤงษตฎอ่ ีกกาารดาํ เนนิ การสขําอนงกั หงนาน่วคยณงาะนกดรรงั มกกลาา่ รวกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมําานตกั รงาาน๒คณ๓ะกหรรนม่วกยางรากนฤขษอฎงีกราัฐต้องปฏิบัตสิเกํานี่ยักวงกาับนคกณาระจกัดรรรมะกบาบรกขฤ้อษมฎูลีกขา่าวสารส่วน บุคคลดงั ตอ่ ไปน้ี สํานักงานคณะกรรมการก(๑ฤ)ษฎตกี้อางจัดให้มีระบบสําขน้อกั มงูาลนขค่าณวสะการรรสม่วกนาบรกุคฤคษลฎเกีพาียงเท่าที่เก่ียวสขาํ ้อนงักแงลานะคจณําเะปก็นรรเพมก่ือารกฤษฎกี า การดําเนินงานของหน่วยงานของรัฐให้สําเร็จตามวัตถุประสงค์เท่าน้ัน และยกเลิกการจัดให้มีระบบ ดงั กลา่ วเมือ่ หมดคสาํวนากัมงจาํานเคปณน็ ะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๒) พยายามเก็บขอ้ มลู ข่าวสารโดยตรงจากเจ้าของข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณี สํานักทงจ่ีานะคกณระะทกรบรถมงึ กปารรกะฤโยษชฎนกี ์ไาดเ้ สียโดยตรงสขําอนงักบงุคานคคลณนะัน้ กรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส(าํ๓น)ักจงาัดนใคหณ้มะีกการรรพมกิมาพรก์ในฤษราฎชีกกาิจจานุเบกษสาําแนลกั ะงตานรควณจสะกอรบรแมกกา้ไรขกใฤหษ้ถฎูกกี ตา้องอยู่เสมอ เก่ียวกับสง่ิ ดงั ต่อไปน้ี สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎ(กีก)าประเภทของสบําุคนคักลงาทนี่มคีกณาะรกเกรร็บมขก้อามรกลู ฤไวษ้ฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (ข) ประเภทของระบบขอ้ มูลขา่ วสารส่วนบุคคล สํานกั (งคา)นคลณักษะกณระรมกการารใกชฤ้ขษอ้ ฎมกีลู าตามปกติ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (ง) วิธีการขอตรวจดูข้อมูลข่าวสารของเจ้าของข้อมูล สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎ(จีก)าวิธกี ารขอให้แสกําน้ไขกั เงปานลคี่ยณนะแกปรลรงมขก้อารมกูลฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (ฉ) แหลง่ ทม่ี าของขอ้ มูล ส(๔าํ น)ักตงรานวจคสณอะบกรแรกม้ไกขาขรอ้กมฤษูลฎขา่ีกวาสารส่วนบคุ คสลําในนกั คงาวนาคมณรับะกผริดรชมอกบารใกหฤถ้ ษูกฎตกี ้อางอยู่เสมอ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๘ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๕) จัดระบบรักษาความปลอดภัยให้แก่ระบบข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลตามความ สาํ นักเงหามนาคะณสะมกรเรพมือ่ กปาอ้รกงฤกษันฎมกีใิ หา ม้ ีการนําไปใสชําโ้ นดักยงไามนเ่ คหณมาะกะรสรมมหกราือรกเปฤน็ษฎผลีการ้ายตอ่ เจา้ ของสขํา้อนมักงลู านคณะกรรมการกฤษฎกี า ในกรณีท่ีเก็บข้อมูลข่าวสารโดยตรงจากเจ้าของข้อมูล หน่วยงานของรัฐต้องแจ้งให้ เจ้าของข้อมูลทรสาาํบนลกั ่วงงาหนคนณ้าหะกรรือรพมรก้อารมกกฤับษกฎากี ราขอข้อมูลถึงวสัตํานถกัุปงราะนสคงณคะ์ทกรี่จระมนกําาขรก้อฤมษูลฎมกี าาใช้ ลักษณะ การใช้ข้อมูลตามปกติ และกรณีท่ีขอข้อมูลนั้นเป็นกรณีที่อาจให้ข้อมูลได้โดยความสมัครใจหรือเป็น สาํ นกั กงราณนคีมณีกะฎกหรรมมากยาบรังกคฤบัษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วนบุคคลไปยังทสหี่ใําดนนซกั่ว่ึงงยจางนะาคเนปณข็นะอผกงรลรรใัฐมหตก้บ้อาุคงรแกคฤจลษ้งทใฎั่วหีกไ้เปาจท้าขรอาบงขข้อ้อมมูลูลทสขําร่านาวักบสงใาานรนกนคร้ันณณไะดกีม้ รีกเรวาม้นรกแใาหตร้จก่เปัดฤ็นษส่ฎงไปขีก้อตา มามูลลขัก่าวษสณาะร สาํ นกั กงาารนใคชณข้ ะอ้ กมรูลรมตกามารปกกฤตษิฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมําานตกั รงาานค๒ณ๔ะกหรรนม่วกยารงกาฤนษขฎอกี งารัฐจะเปิดเผยสําขน้อักมงูลานขค่าณวะสการรรสม่วกนารบกุคฤคษฎลีกทา่ีอยู่ในความ ควบคุมดูแลของตนต่อหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นหรือผู้อ่ืน โดยปราศจากความยินยอมเป็นหนังสือของ สํานกั เงจาา้ นขคอณงขะก้อรมรลูมทกาใ่ี หรกไ้ ฤว้ลษ่วฎงีกหานา้ หรอื ในขณสะํานนักั้นงมานิไดค้ ณเวะน้ กแรรตม่เปกา็นรกกาฤรษเฎปกีิดาเผย ดังตอ่ ไปนสี้าํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๑) ต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานของตนเพ่ือการนําไปใช้ตามอํานาจหน้าที่ของ หนว่ ยงานของรฐั แสหาํ น่งกันงัน้ านคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๒) เป็นการใช้ข้อมูลตามปกติภายในวัตถุประสงค์ของการจัดให้มีระบบข้อมูล สํานกั ขงา่าวนสคาณระสก่วรนรมบกุคาครลกนฤษ้ันฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส(าํ๓น)กั ตงา่อนหคนณ่วะยกงรารนมขกาอรงกรฤัฐษทฎี่ทีกําางานด้านการสวําานงักแงผานนหคณรือะกกรารรมสกถาิตรกิหฤรษือฎสกีําามะโนต่าง ๆ ซง่ึ มหี นา้ ท่ตี ้องรักษาข้อมลู ขา่ วสารสว่ นบคุ คลไวไ้ มใ่ หเ้ ปิดเผยตอ่ ไปยังผู้อ่นื สํานกั งานคณะกรรมการก(๔ฤ)ษเฎปีกน็ าการใหเ้ พื่อปรสะํานโยกั ชงานน์ใคนณกะากรรศรึกมษกาารวกิจฤัยษโดฎยกี ไาม่ระบุชื่อหรือสสาํ ่วนนักทงา่ีทนําคใณหะ้รกู้วร่ารเปมก็นารกฤษฎกี า ขอ้ มูลข่าวสารส่วนบคุ คลท่ีเก่ยี วกับบุคคลใด ส(ํา๕น)ักตงา่อนหคอณจะดกหรรมมากยาเรหกตฤุแษหฎ่งีกชาาติ กรมศิลปสาํากนรกั งหารนือคหณนะก่วยรรงมากนาอรื่นกฤขษอฎงรีกัฐาตามมาตรา ๒๖ วรรคหนง่ึ เพือ่ การตรวจดคู ุณคา่ ในการเกบ็ รกั ษา สํานกั งานคณะกรรมการก(๖ฤ)ษฎตีก่อาเจ้าหน้าที่ขอสงรํานัฐักเพงาื่อนกคาณระปก้อรงรกมันกากรากรฤฝษ่าฎฝกี ืนาหรือไม่ปฏิบัตสิตํานาักมงกาฎนคหณมะากยรรกมากรารกฤษฎกี า สบื สวน การสอบสวน หรือการฟ้องคดี ไม่วา่ เป็นคดีประเภทใดก็ตาม ส(าํ๗น)กั เงปา็นนคกณาระใกหร้ซรม่ึงกจาํารเกปฤ็นษเพฎีกื่อาการป้องกันหสรําือนรักะงงาับนคอณันตะกรรารยมตก่อาชรกีวฤิตษหฎรกีือาสุขภาพของ บคุ คล สาํ นกั งานคณะกรรมการก(๘ฤ)ษฎตีก่อาศาล และเจ้าสหํานนกั้างทาี่ขนอคณงระัฐกหรรรมือกหานรก่วฤยษงฎากีนาของรัฐหรือบสุคาํ คนลักทงา่ีมนีอคําณนะากจรตรมากมารกฤษฎีกา กฎหมายที่จะขอขส้อํานเทกั ็จงาจนรคิงณดงัะกกลรร่ามวการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๙) กรณอี ืน่ ตามท่ีกาํ หนดในพระราชกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการกกฤาษรเฎปีกิดาเผยข้อมูลข่าสวําสนาักรงสาน่วคนณบะุคกครลรมตกาามรวกรฤรษคฎหีกนา ่ึง (๓) (๔) (๕ส)ําน(๖ักง)า(น๗ค)ณ(ะ๘ก)รแรมลกะารกฤษฎกี า (๙) ให้มีการจัดทําบัญชีแสดงการเปิดเผยกํากับไว้กับข้อมูลข่าวสารนั้น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ี กาํ หนดในกฎกระสทาํ รนวกั งงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๒๕ ภายใต้บสัํางนคกัับงมานาตครณาะก๑ร๔รมแกลาระกมฤาษตฎรีกาา๑๕ บุคคลย่อสมาํ นมักีสงิทานธคิทณี่จะะกไรดร้รมู้ถกึงารกฤษฎกี า ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลท่ีเกี่ยวกับตน และเมื่อบุคคลน้ันมีคําขอเป็นหนังสือ หน่วยงานของรัฐท่ี ควบคุมดูแลข้อมูสลาํขน่ากั วงสาานรคนณ้ันะจกะรรตม้อกงาใรหก้บฤุคษคฎลกี านั้นหรือผู้กระสทําํานกกั างรานแคทณนะบกุครครมลกนาั้นรไกดฤ้ตษรฎวกี จาดูหรือได้รับ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๙ - สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สําเนาข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลนั้น และให้นํามาตรา ๙ วรรคสอง และวรรคสาม สาํ นกั มงาานใชคบ้ ณังะคกับรโรดมยกอารนกโุ ฤลษมฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า การเปดิ เผยรายงานการแพทยท์ ี่เก่ยี วกบั บุคคลใด ถ้ากรณีมเี หตอุ ันควรเจ้าหนา้ ทข่ี อง รัฐจะเปดิ เผยตอ่ เฉสาํพนากั ะงแาพนคทณยะ์ทกีบ่ รคุรมคกลานรัน้กฤมษอฎบกีหามายกไ็ ด้ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า ถ้าบุคคลใดเห็นว่าข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนส่วนใดไม่ถูกต้องตามท่ีเป็น สํานักจงราิงนคใณห้มะกีสริทรธมิยก่ืนารคกําฤขษอฎเกีปา็นหนังสือให้หสนําน่วยกั งงาานนคขณอะงกรรัฐรทมี่คกวาบรกคฤุมษดฎูแกี ลาข้อมูลข่าวสาสรําแนกัก้ไงขาเนปคลณี่ยะนกแรรปมลกงารกฤษฎีกา นหนั้รือทลรบาบขโ้อดมยูลไขม่า่ชวสักสาํชนาา้ รักสงา่วนนคนณั้นะไกดร้ รซม่ึงกหานรก่วฤยษงาฎนกี ขาองรัฐจะต้องสพําิจนากั รงณานาคคณําขะกอรดรังมกกลา่ารกวฤแษลฎะกี แาจ้งให้บุคคล สาํ นกั งานคณะกรรมการกในฤกษรฎณีกาีท่ีหน่วยงานขสอํางนรักัฐงไามน่แคกณ้ไะขกเรปรลม่ียกนารแกปฤลษงฎหีกราือลบข้อมูลข่าสวําสนาักรงใาหน้ตครณงะตการมรทมกี่มาี รกฤษฎีกา คําขอ ให้ผู้น้ันมีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารภายในสามสิบวันนับ แต่วันได้รับแจ้งคสําํานสักั่งงไามน่ยคิณนยะกอรมรมแกกา้ไรขกเฤปษลฎ่ียกี นา แปลงหรือลสบํานขัก้องมานูลคขณ่าะวกสรารรมกโาดรยกฤยษื่นฎคกี ําาอุทธรณ์ต่อ คณะกรรมการ และไม่ว่ากรณีใด ๆ ให้เจ้าของข้อมูลมีสิทธิร้องขอให้หน่วยงานของรัฐหมายเหตุคําขอ สํานกั ขงอานงตคนณแะนกรบรไมวก้กาับรกขฤ้อษมฎูลีกขา่าวสารสว่ นทเี่ สกําี่ยนวักขงอ้านงไคดณ้ ะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ให้บุคคลตามที่กําหนดในกฎกระทรวงมีสิทธิดําเนินการตามมาตรา ๒๓ มาตรา ๒๔ และมาตรานี้แทนสผาํ นู้เยักางาวน์ คคณนไะรก้ครรวมากมาสรากมฤาษรฎถีกาคนเสมือนไร้สคําวนากั มงสานามคณาระถกรหรมรือกาเจรก้าฤขษอฎงีกขา้อมูลท่ีถึงแก่ กรรมแลว้ ได้ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๔ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา เอกสารประวตั ิศาสตร์ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมาํ านตกั รงาาน๒คณ๖ะกขร้อรมมกูลาขร่ากวฤสษาฎรีกขาองราชการทส่ีหํานน่วกั ยงงานานคณขอะกงรรรัฐมไมกา่ปรรกะฤสษงฎคกี ์จาะเก็บรักษา หรือมอี ายคุ รบกาํ หนดตามวรรคสองนับแตว่ ันท่ีเสร็จสิ้นการจัดใหม้ ีขอ้ มลู ขา่ วสารนั้น ใหห้ นว่ ยงานของรฐั สาํ นกั สง่งามนอคบณใะหก้แรรกม่หกอาจรกดฤหษมฎาีกยาเหตุแห่งชาติสกํารนมกั ศงาิลนปคาณกะรกหรรรือมหกานร่วกยฤงษาฎนีกอาื่นของรัฐตามทสําี่กนําักหงนานดคในณพะกรระรรมากชารกฤษฎีกา กฤษฎีกา เพอื่ คดั เลือกไว้ให้ประชาชนไดศ้ ึกษาค้นควา้ สกาํ ํานหักนงาดนเควณละากตร้อรงมสก่งารขก้อฤมษูลฎขีก่าาวสารของราสชํากนาักรงตานามคณวระรกครรหมนก่ึงาใรหกฤ้แษยฎกกี ตาามประเภท ดังน้ี สาํ นักงานคณะกรรมการก(๑ฤ)ษขฎอ้ีกมา ลู ขา่ วสารขอสงํารนากัชงกาานรคตณาะมกมรารตมรกาาร๑กฤ๔ษเฎมกี อื่ าครบเจ็ดสิบหา้สปาํ นี ักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส(๒าํ น)กั ขงอ้านมคลู ณขะ่ากวรสรามรกขาอรงกรฤาษชฎกกี าารตามมาตรา ส๑ํา๕นักเงมาอ่ื นคครณบะยก่สีรรบิ มปกี ารกฤษฎกี า กําหนดเวลาตามวรรคสอง อาจขยายออกไปไดใ้ นกรณีดงั ตอ่ ไปน้ี สาํ นักงานคณะกรรมการก(๑ฤ)ษฎหีกนา่วยงานของรัฐสํายนังกัจงําาเนปค็นณตะ้อกงรเรกม็บกรารักกษฤาษขฎ้อีกมาูลข่าวสารขอสงาํรนาักชงกานารคไณวะ้เอกรงรเพมก่ือารกฤษฎกี า ประโยชน์ในการใช้สอย โดยต้องจัดเก็บและจัดให้ประชาชนได้ศึกษาค้นคว้าตามที่จะตกลงกับหอ จดหมายเหตุแห่งสชาํานตกั ิ งการนมคศณิละปการกรมรการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๒) หน่วยงานของรัฐเห็นว่า ข้อมูลข่าวสารของราชการนั้น ยังไม่ควรเปิดเผยโดยมี สาํ นักคงําาสนง่ัคขณยะากยรเรวมลกาากรํากกฤับษฎไวกี ้เาป็นการเฉพาะสรําานยักงคาํานสคั่งณกะากรรขรยมากยารเวกลฤาษนฎั้นกี ใาห้กําหนดระยสะําเนวักลงาาไนวค้ดณ้วยะกแรรตม่จกะารกฤษฎีกา กาํ หนดเกนิ คราวละห้าปไี ม่ได้ สกําานรักตงรานวคจณสอะกบรหรรมือกทารบกทฤวษนฎมีกาิให้มีการขยายสรําะนยกั ะงาเวนลคาณไะมก่เรปริดมเกผายรจกนฤษเกฎินีกคาวามจําเป็น สํานกั ใงหาเ้นปคน็ ณไะปกตรารมมหกาลรักกเฤกษณฎฑีกแ์าละวธิ ีการทกี่ สําําหนนกั ดงาในนคกณฎะกกรระรทมรกวางรกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๑๐ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา บทบัญญัติตามมาตราน้ีมิให้ใช้บังคับกับข้อมูลข่าวสารของราชการตามที่ สํานักคงณานะครณัฐะมกนรรตมรกีอาอรกกฤรษะเฎบกี ียาบกําหนดใหส้หํานน่วักยงางนาคนณขะอกงรรรัฐมหกราือรกเจฤ้าษหฎนีกา้าท่ีของรัฐจะตส้อํานงทักงําาลนาคยณหะรกือรรอมากจารกฤษฎีกา ทาํ ลายไดโ้ ดยไมต่ ้องเกบ็ รักษา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๕ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะกรรสมํานกักางราขน้อคมณูละขก่ารวรสมากราขรกอฤงษราฎชกี กาาร สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๒๗ ให้มีคณสะํานกกัรงรามนกคาณระขก้อรมรมูลกขา่ารวกสฤาษรฎขกี อางราชการ ปรสะํากนอักบงาดน้วคยณระัฐกมรนรมตกราี รกฤษฎกี า ซ่ึงนายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน ปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงเสกาํ ษนกัตงราแนคลณะะสกหรรกมรกณาร์ กปฤลษัดฎกีการะทรวงการสคํานลักังงาปนลคัณดกะกรระรทมกราวรงกกฤษารฎตีกา่างประเทศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการ สํานกั คงณานะคกณระรกมรกรมารกขาร้ากรฤาษชฎกกีาารพลเรือน เลขสําานธักิกงาารนสคภณาะคกวรารมมกมา่ันรคกฤงแษหฎ่กีงชาาติ เลขาธิกาสราํ สนภักางาผนู้แคทณนะรการษรมฎกรารกฤษฎีกา ผู้อํานวยการสํานักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้อํานวยการสํานักงบประมาณ และผู้ทรงคุณวุฒิอ่ืนจากภาครัฐ และภาคเอกชน ซสง่ึาํ คนณักงะารนัฐคมณนะตกรรรแี มตกง่ าตรั้งกอฤกี ษเฎกกี้าคา นเป็นกรรมกสาํารนกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ใ ห้ ป ลั ด สํ า นั ก น า ย ก รั ฐ ม น ต รี แ ต่ ง ตั้ ง ข้ า ร า ช ก า ร ข อ ง สํ า นั ก ง า น ป ลั ด สํ า นั ก สํานกั นงาานยคกณรฐั ะมกนรรตมรกคี านรกหฤนษึ่งฎเปกี น็า เลขานุการ แสลํานะกัองกี าสนอคงณคะนกเรปร็นมผกา้ชู รว่ กยฤเษลฎขาีกนา กุ าร สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๒๘ คณะกรรมการมอี ํานาจหน้าท่ี ดังต่อไปนี้ สํานกั งานคณะกรรมการก(๑ฤ)ษสฎอกี าดส่องดูแลแลสะําในหกั้คงําาแนนคะณนะํากเรกร่ียมวกการับกกฤาษรฎดีกําาเนินงานของเจสํา้านหักนง้าาทนคี่ขณองะรกัฐรแรมลกะารกฤษฎกี า หนว่ ยงานของรัฐในการปฏิบตั ติ ามพระราชบัญญัตนิ ี้ ส(ํา๒น)กั ใงหาน้คคําณปะรกึกรษรามแกการ่เกจฤ้าษหฎนกี ้าาท่ีของรัฐหรือสหํานน่วักยงางนาคนณขะอกงรรรัฐมเกกา่ียรวกกฤับษฎกีการาปฏิบัติตาม พระราชบญั ญตั ินี้ ตามทีไ่ ดร้ ับคําขอ สํานักงานคณะกรรมการก(๓ฤ)ษฎเสกี นาอแนะในการสตํานรักาพงารนะครณาะชกกรฤรมษกฎาีกรกาฤแษลฎะีกกาารออกกฎกระสาํทนรักวงงาหนรคือณระะกเรบรีมยกบารกฤษฎกี า ของคณะรัฐมนตรตี ามพระราชบญั ญตั นิ ี้ ส(๔าํ น)กั พงาจิ นาครณณะากแรลระมใกหา้ครกวฤาษมฎเหีกน็ าเรอ่ื งร้องเรยี นสําตนาักมงมานาตครณาะก๑ร๓รมการกฤษฎีกา (๕) จัดทํารายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้เสนอคณะรัฐมนตรีเป็น สาํ นักคงราน้ังคครณาะวกตรารมมคกวารากมฤเหษมฎาีกะาสม แตอ่ ยา่ งสนําอ้ นยักปงีลานะคหณนะ่ึงกครรรัง้ มการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส(๖าํ น)กั ปงาฏนบิ คัตณหิ ะนกา้รทรมี่อกื่นาตรกามฤษทฎ่กี ีกาํ าหนดในพระราสชํานบกัญั งญานัตคินณ้ี ะกรรมการกฤษฎกี า (๗) ดําเนนิ การเรื่องอน่ื ตามทีค่ ณะรฐั มนตรีหรอื นายกรฐั มนตรีมอบหมาย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๒๙ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซ่ึงได้รับแต่งต้ังตามมาตรา ๒๗ มีวาระอยู่ใน ตาํ แหน่งคราวละสสาํานมักปงนี านับคแณตะ่วกนั รทรีไ่มดก้ราับรกแฤตษง่ ฎตกีัง้ าผู้ท่ีพน้ จากตําสแําหนนกั งง่ าแนลค้วณอะากจรไรดม้รกบั าแรตกฤ่งตษง้ัฎใีกหาม่ได้ สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรากี า๓๐ นอกจากสํากนาักรงพา้นนคจณากะตกรํารแมหกนา่รงกตฤาษมฎวาีกราะ กรรมการผสู้ทาํ นรงักคงาุณนวคุฒณิซะกึ่งรไดรม้รกับารกฤษฎกี า แตง่ ต้ังตามมาตรา ๒๗ พ้นจากตําแหน่ง เมื่อ ส(๑าํ น)กั ตงาานยคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษลฎากี อาอก สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๑๑ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๓) คณะรัฐมนตรีให้ออกเพราะมีความประพฤติเสื่อมเสีย บกพร่อง หรือไม่สุจริตต่อ สํานักหงนานา้ คทณี่หะรกอื รหรยมอ่กานรคกวฤาษมฎสีกาามารถ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๔) เป็นบุคคลลม้ ละลาย ส(๕าํ น)ักเงปา็นนคคณนไะรกค้ รวรมามกสารากมฤาษรฎถกีหารอื คนเสมือนสไรําค้นวกั างามนสคาณมะากรถรรมการกฤษฎกี า (๖) ไดร้ ับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงท่ีสุดให้จําคุก เว้นแต่เป็นโทษสําหรับความผิด สาํ นักทงไ่ีาดนก้ครณะะทกาํรโรดมยกปารรกะฤมษาฎทกี หารอื ความผิดลสหําโุนทักษงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมําานตักรงาาน๓ค๑ณะกการรรปมรกะาชรกุมฤขษอฎงคกี าณะกรรมการตส้อํางนมกั ีกงรานรมคกณาะรกมรารปมรกะาชรกุมฤไมษฎ่นกี้อายกว่ากึ่งหน่ึง สาํ นักขงอานงจคําณนะวกนรกรรมรกมากรการฤทษ้ังฎหกี มาดจงึ จะเป็นองสคํา์ปนักระงาชนุมคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ให้ประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุม หรอื ไมอ่ าจปฏบิ ตั สิหาํ นนกั้าทงาี่ไนดค้ ใณหะ้กกรรรรมมกกาารรกทฤีม่ ษาฎปีกราะชมุ เลอื กกรรสมํานกกัารงาคนนคหณนะ่งึกเรปรน็มปการระกธฤาษนฎในกี าที่ประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่ง สาํ นกั ใงนากนาครณละงกครระมแกนานรกถฤ้าษคฎะกี แา นนเสียงเท่าสกําันนกั ใงหาน้ปครณะธะกานรรใมนกทาี่ปรกรฤะษชฎุมกี อาอกเสียงเพิ่มขสึ้นาํ นอักีกงเาสนียคงณหะนกึร่งรเปมก็นารกฤษฎกี า เสียงชี้ขาด สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๓๒ ให้คณะกรรมการมีอํานาจเรียกให้บุคคลใดมาให้ถ้อยคําหรือให้ส่งวัตถุ สาํ นกั เงอากนสคาณระหกรรรอื มพกยาารกนฤหษลฎกั ีกฐาานมาประกอสบํากนาักรงพานจิ คารณณะการไดรม้ การกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๓๓ ในกรณที ีห่ น่วยงานของรัฐปฏเิ สธวา่ ไม่มีขอ้ มูลข่าวสารตามท่ีมีคําขอไม่ว่า สาํ นกั จงะานเปค็นณกะกรรณรมีตกาามรมกาฤตษรฎาีกา๑๑ หรือมาตสรํานาัก๒งา๕นคถณ้าะผกู้มรีครมํากขาอรไกมฤ่เษชฎื่อกี วา่าเป็นความจสรําิงนแักลงะานร้อคณงเะรกียรนรมตก่อารกฤษฎีกา คณะกรรมการตามมาตรา ๑๓ ให้คณะกรรมการมีอํานาจเข้าดําเนินการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารของ ราชการท่เี กยี่ วข้อสงําไนดกัแ้ งลาะนแคจณง้ ะผกลรกรามรกตารรวกจฤสษอฎบกี ใาหผ้ รู้ อ้ งเรยี นทสรําานบักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าท่ีของรัฐต้องยินยอมให้คณะกรรมการหรือผู้ซึ่ง สาํ นกั คงณานะคกณระรกมรกรามรกมารอกบฤหษมฎากี ยาเข้าตรวจสอสบําขน้อกั มงาูลนขค่าณวสะการรรทมี่อกยารู่ในกฤคษวฎามีกาครอบครองขอสงําตนนักงไาดน้ไคมณ่ว่าะจกะรรเปมก็นารกฤษฎีกา ขอ้ มลู ขา่ วสารท่เี ปิดเผยไดห้ รือไม่ก็ตาม สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๓๔ คณะกรรมการจะแต่งต้ังคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติงาน สาํ นักองยาน่างคใณดะอกยร่ารงมหกนารึ่งกตฤาษมฎทีกี่คาณะกรรมการสมํานอกับงหานมคาณยกะก็ไดรร้ แมลกาะรใกหฤ้นษําฎคกี วาามในมาตรา ส๓าํ ๑นักมงาานใชค้บณังะคกับรรโมดกยารกฤษฎกี า อนุโลม สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานหคมณวะดกร๖รมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะกรรมการวนิ จิ ฉยั การเปดิ เผยขอ้ มลู ข่าวสาร สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๓๕ ให้มีคณสะํากนรักรงมานกคาณรวะิกนริจรฉมัยกการากรฤเปษิดฎเกี ผายข้อมูลข่าวสสาาํรนสักางขาานตค่าณงะกๆรรตมากมารกฤษฎกี า ความเหมาะสม ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งต้ังตามข้อเสนอของคณะกรรมการ มีอํานาจหน้าที่พิจารณา วินิจฉัยอุทธรณ์คําสสาํ นั่งมักงิใาหน้เคปณิดเะผกยรรขม้อกมาูลรขกฤ่าวษสฎากี ราตามมาตรา ๑ส๔ํานักหงราือนมคาณตะรการร๑ม๕กาหรกรฤือษคฎําสีกาั่งไม่รับฟังคํา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๑๒ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า คัดค้านตามมาตรา ๑๗ และคําสั่งไม่แก้ไขเปล่ียนแปลงหรือลบข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลตามมาตรา สาํ นัก๒ง๕านคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การแต่งต้ังคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามวรรคหนึ่ง ให้แต่งต้ัง ตามสาขาความเสชําี่ยนวักชงาานญคเณฉพะการะรดม้ากนารขกอฤงษขฎ้อีกมาูลข่าวสารขอสงํารนาักชงกานาครณเะชก่นรรคมวกาามรกมฤั่นษคฎงีกขาองประเทศ เศรษฐกิจและการคลงั ของประเทศ หรือการบังคบั ใชก้ ฎหมาย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ประกอบด้วยบุคสคมําลนาตตักางรมาานคคว๓ณา๖มะกจรําครเมปณก็นะารกแกตรฤ่รตษม้อฎงกกี ไาามร่นว้อินยิจกฉวั่ยาสกาสามํารคนเักนปงิดาแนเลผคะณยใขหะก้อ้ขร้ามรรมูลากขชา่ากรกวาฤรสษทาฎี่ครกีณคาณะกะรหรนมึ่กงาๆร สํานกั แงตานง่ ตคง้ัณปะฏกิบรรตั มิหกนาร้ากทฤีเ่ ษปฎน็ กีเลาขานุการและสผําู้ชน่วกั ยงเาลนขคาณนะุกการรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ในกรณีพิจารณาเก่ียวกับข้อมูลข่าวสารของหน่วยงานของรัฐแห่งใด กรรมการ วินิจฉัยการเปิดเผสยําขนอ้กั มงาูลนขคา่ ณวสะการรรซมง่ึ กมาารจกาฤกษหฎนีก่วายงานของรัฐแสําหนง่ กันงนั้ านจคะเณขะา้ กรร่วรมมพกิจารากรฤณษาฎดกี ้วายไมไ่ ด้ กรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร จะเป็นเลขานุการหรือผู้ช่วยเลขานุการ สํานกั ไงมาไ่นดค้ ณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมําานตักรงาาน๓คณ๗ะกใรหร้คมณกาะรกกฤรรษมฎกกี าารพิจารณาส่สงคํานําักองุทานธรคณณ์ะใหกร้ครณมกะากรรกรฤมษกฎาีกราวินิจฉัยการ เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร โดยคํานึงถึงความเช่ียวชาญเฉพาะด้านของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผย สาํ นกั ขง้อานมคูลณขา่ะกวสรรามรกแาตรล่ กะฤสษาฎขกี าาภายในเจ็ดวนั สนํานับกัแงตา่วนนัคทณ่ีคะกณระรกมรกรารมกกฤาษรฎไดีกร้าบั คาํ อทุ ธรณ์ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สคําํานวกั ินงาิจนฉคัยณขะอกงรครณมกะากรรกรฤมษกฎาีกราวินิจฉัยการเสปําิดนเักผงยานขค้อณมูละกขร่ารวมสกาารรใกหฤ้เษปฎ็นีกทา่ีสุด และใน การมีคําวินิจฉัยจะมีข้อสังเกตเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องปฏิบัติ สํานกั เงกาีย่ นวคกณบั ะกกรรณรมใี กดาตรากมฤทษี่เฎหกี ็นาสมควรกไ็ ด้ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ให้นําความในมาตรา ๑๓ วรรคสอง มาใช้บังคับแก่การพิจารณาอุทธรณ์ของ คณะกรรมการวินสจิ ําฉนัยกั กงาานรคเปณิดะเกผรยรขมอ้กมารูลกขฤา่ ษวฎสกี าารโดยอนโุ ลม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๓๘ อํานาจหสนําน้าทักง่ีขาอนงคคณณะะกกรรรมรกมากรากรฤวษินฎิจีกฉาัยการเปิดเผยสขาํ้อนมักูลงขาน่าควณสาะรกแรตรม่ลกะารกฤษฎกี า สาขา วิธีพิจารณาและวินิจฉัย และองค์คณะในการพิจารณาและวินิจฉัยให้เป็นไปตามระเบียบท่ี คณะกรรมการกําสหํานนดักโงดานยคปณระะกกรารศมใกนารรากชฤกษิจฎจกี าานุเบกษา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๓๙ ให้นําบสทําบนัักญงญานัตคิมณาะตกรรารม๒ก๙ารกมฤาษตฎรกีาา๓๐ มาตรา ๓สาํ๒นักแงลานะคบณทะกกํารหรมนกดารกฤษฎกี า โทษที่ประกอบกับสําบนทักบงาัญนญคณัตะิดกังรกรลม่ากวามรกาฤใชษ้บฎักีงคาับกับคณะกรสรํามนกักงาารนวคินณิจะฉกัยรกรามรกเาปริดกฤเผษยฎขกี ้อามูลข่าวสาร โดยอนุโลม สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า หมวด ๗ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษบฎทกี ากาํ หนดโทษ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๔๐ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของคณะกรรมการท่ีส่ังตามมาตรา ๓๒ ต้อง ระวางโทษจําคกุ ไสมาํ ่เนกักินงสาานมคเณดะือกนรรหมรกอื ารปกรฤับษไฎมีก่เกานิ หา้ พนั บาทสหํานรกัอื งทางั้นจคาํ ณทะงั้ กปรรรบัมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๑๓ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๔๑ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อจํากัดหรือเง่ือนไขท่ีเจ้าหน้าท่ีของรัฐ สํานกั กงาําหนคนณดตะการมรมมากตารรกาฤ๒ษ๐ฎีกตา้องระวางโทษสจําํานคกั ุกงาไนมค่เกณินะหกรนร่ึงมปกี าหรรกือฤปษรฎับกี ไาม่เกินสองหมส่ืนําบนาักทงาหนครือณทะก้ังจรรํามทก้ังารกฤษฎกี า ปรบั สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า บทเฉพาะกาล สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมาํ านตกั รงาาน๔คณ๒ะกบรทรมบกัญารญกัฤตษิมฎากีตารา ๗ มาตราส๘ํานแักงลาะนมคาณตะรการร๙มกมาิใรหก้ฤใชษ้บฎังกี คาับกับข้อมูล สาํ นักขง่าาวนสคาณระขกอรงรรมากชากรการฤทษฎ่ีเกกี ิดาข้ึนก่อนวันทพ่ีสํารนะักรงาาชนบคัญณญะกัตรินรม้ีใชก้บารงั กคฤบั ษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ให้หน่วยงานของรัฐจัดพิมพ์ข้อมูลข่าวสารตามวรรคหนึ่ง หรือจัดให้มีข้อมูลข่าวสาร ตามวรรคหนึ่งไวส้เาํพน่ือกั ใงหาน้ปครณะะชการชรมนกเขาร้ากตฤรษวฎจีกดาูได้ แล้วแต่กสรําณนกัี งทาน้ังคนณี้ ตะการมรหมลกัากรเกกฤณษฑฎกี์แาละวิธีการท่ี คณะกรรมการจะได้กาํ หนด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๔๓ ให้ระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๑๗ ใน ส่วนท่ีเก่ียวกับขอ้ สมําลู นขักา่งวานสคารณขะอกงรรรามชกการากรฤยษงั ฎคีกงาใชบ้ งั คบั ตอ่ ไปสไําดน้เักทง่าาทนคี่ไมณข่ ะัดกหรรรมือกแายร้งกตฤ่อษพฎรีกะาราชบัญญัติ นี้ เว้นแต่ระเบียบท่ีคณะรฐั มนตรกี ําหนดตามมาตรา ๑๖ จะได้กําหนดเป็นอยา่ งอืน่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ผูร้ ับสนองพระบรมราชโองการ สํานกั งานคพณละเกอรกรมชกวาลรติกฤษยฎงใีกจายทุ ธ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นายกรัฐมนตรี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๑๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ ในระบอบประชาธิปไตย การให้ สํานักปงรานะคชณาชะกนรมรีโมอกการากสฤกษวฎ้ากี งาขวางในการไสดํา้รนับกั ขงา้อนมคูลณขะ่ากวรสรมากรเากรก่ียฤวษกฎับีกกาารดําเนินการสตําน่าักงงๆานขคณองะรกัฐรรเปมก็นารกฤษฎกี า ส่ิงจําเป็น เพ่ือท่ีประชาชนจะสามารถแสดงความคิดเห็นและใช้สิทธิทางการเมืองได้โดยถูกต้องกับ ความเป็นจริง อันสาํเปนัก็นงกานารคสณ่งะเกสรรริมมใกหา้รมกีคฤวษาฎมกี เาป็นรัฐบาลโดสยําปนรกั ะงชานาคชณนะมการกรยมิ่งกขาร้ึนกฤสษมฎคีกวารกําหนดให้ ประชาชนมีสิทธิได้รู้ข้อมูลข่าวสารของราชการ โดยมีข้อยกเว้นอันไม่ต้องเปิดเผยท่ีแจ้งชัดและจํากัด สํานักเงฉาพนาคะณขะ้อกมรรูลมขก่าาวรสกาฤรษทฎ่ีหีกาากเปิดเผยแล้วสจํานะักเกงาิดนคควณามะกเสรรียมหกาายรตกฤ่อษปฎรีกะาเทศชาติหรือตส่อําปนักระงาโนยคชณน์ทะก่ีสรํารคมัญการกฤษฎีกา หขอนง้าเทอี่ขกอชนงตนทอัง้ ยน่าสี้ เงําพนเตื่อกั ็มพงาทัฒน่ี คนเพณาื่อระะทกบรี่จรอะมบปกปการรปกะักฤชรษาักฎธษิปีกาาไปตยระใหโยม้ ช่นั นค์ขงแอสลงําตะนนจกั ะไงดายน้อังคผีกณลปใะรหกะร้ปกรรามะรกชหาารนชก่ึงนฤดษม้วฎีโยอกี กปาารสะรกู้ถอึงบสกิทับธิ สาํ นกั สงมานคควณระคกุ้มรครมรกอางรสกิทฤษธิสฎ่วกี านบุคคลในส่วสนํานทักี่เงกาี่ยนวคขณ้อะงกกรรับมขก้อารมกูลฤขษ่าฎวกี สาารของราชกสาาํรนไักปงพานร้คอณมะกกันรรมจกึงารกฤษฎีกา จาํ เป็นตอ้ งตราพระราชบัญญัตนิ ี้ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สญั สชําัยนักศงาริ นเิ ดคณช/ะผกู้จรดัรมทกาํ ารกฤษฎกี า ๑๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๓ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า วชิ พงษ์/ปรับปรุง ๒๐ สพาํ ฤนศักจงาิกนาคยณนะ๒กร๕ร๕มก๖ารกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook