Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Lecture 1

Lecture 1

Published by burning.legion555, 2016-08-29 05:05:12

Description: Document 1

Keywords: Suphakit Sanpipat

Search

Read the Text Version

ระบบปฏบิ ตั ิการเบ้อื งต้น 2204 - 2002

จุดประสงค์รายวิชา เพ่ือให้1. มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจเกีย่ วกบั หลกั การพ้นื ฐานของระบบคอมพิวเตอร์2. มีความรูเ้ กยี่ วกับการทางานของโปรแกรมระบบปฏบิ ตั ิการบนเคร่อื งแม่ขา่ ย เครือ่ งลกูขา่ ยและอปุ กรณ์พกพา3. มที ักษะในการติดตง้ั ใชง้ านระบบปฏบิ ัติการต่างๆ และโปรแกรมยทู ิลติ ี้4. มคี ณุ ธรรม จริยธรรม และค่านยิ มทีด่ ใี นการใชค้ อมพิวเตอร์

สมรรถนะรายวิชา1. แสดงความร้เู กย่ี วกบั หลกั การพน้ื ฐาน ของระบบคอมพวิ เตอรแ์ ละระบบปฏบิ ัติการ2. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั การทางานของโปรแกรมระบบปฏบิ ัติการบนเคร่อื งแม่ขา่ ย เครอื่ งลกู ขา่ ยและอปุ กรณ์พกพา3. ติดตง้ั และใช้ระบบปฏิบัตกิ ารทง้ั ระบบทเ่ี ปน็ มาตรฐานเปดิ (Proprietary) และระบบที่ เป็นมาตรฐานเปิด (Open Standard)

คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับองค์ประกอบของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ หลักการทางานของคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วง สื่อบันทึกข้อมูล ความหมายหน้าท่ีและความสาคัญของระบบปฏิบัติการ ประเภทของโปรแกรมระบบปฏิบัติการ การเลือกใช้และติดต้ังระบบปฏิบัติการต่างๆ ทั้งระบบทเ่ี ป็นมาตรฐานปิด (Proprietary) และระบบท่ีเป็นมาตรฐานเปิด (Open Standard)บนเคร่ืองแม่ข่าย ลูกข่ายและอุปกรณ์พกพา การใช้งานโปรแกรมระบบปฏิบัติการเบ้ืองต้น และโปรแกรมยทู ลิ ิตี้

เกณฑ์การตัดเกรด รายละเอียดการตดั เกรด0 – 49 = 0 จิตพิสยั = 20 คะแนน50 – 55 = 1 สอบกลางภาค = 20 คะแนน56 – 60 = 1.5 สอบปลายภาค = 20 คะแนน61 – 65 = 2 การบา้ น = 20 คะแนน66 – 70 = 2.5 งานในหอ้ งเรียน = 20 คะแนน71 – 75 = 3 รวม = 100 คะแนน76 – 80 = 3.581 – 100 = 4

องค์ประกอบและหลกั การทางานของคอมพวิ เตอร์

ความหมายของคอมพวิ เตอร์คอมพิวเตอร์ คืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ท่ีสามารถประมวลผลข้อมูลได้โดยอัตโนมัติตามโปรแกรมท่ีมนุษย์สั่งให้ทา นอกจากน้ี คอมพิวเตอร์ยังสามารถรับข้อมูลจ า ก ภ า ย น อ ก แ ล ะ น า ไ ป ป ร ะ ม ว ล ผ ล อ อ ก ม า เ ป็ นส า ร ส น เ ท ศ ต า ม ที่ ต้ อ ง ก า ร ส า ห รั บ ใ น ปั จ จุ บั นคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงมากเมื่อเทียบกับในอดีต อันเนื่องมาจากการได้ค้นพบเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สามารถนาทรานซิสเตอร์จานวนนับล้านตัวมาบรรจุลงชิปที่มีขนาดเลก็ ได้

คอมพวิ เตอรท์ ี่ใชห้ ลอดสญุ ญากาศ คอมพวิ เตอรท์ ี่ใชใ้ นปัจจบุ นั

ประเภทของคอมพิวเตอร์ การจาแนกประเภทคอมพิวเตอร์ จะพิจารณาถึงขนาดและขีดความสามารถของคอมพิวเตอร์เป็นหลัก ซง่ึ สามารถจัดแบ่งตามลาดบั ใหญส่ ดุ จนถึงเลก็ สุด ดงั รายละเอียดต่อไปน้ี 1. ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ 2. เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ 3. มนิ ิคอมพวิ เตอร์ 4. เวิรก์ สเตชน่ั 5. ไมโครคอมพวิ เตอร์

ซเู ปอรค์ อมพิวเตอร์ (Super Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ และมีขีดความสามารถสูงที่สุดในบรรดาคอมพิวเตอร์ทั้งหลายภายในซูเปอร์คอมพิวเตอร์สามารถรองรับโปรเซสเซอร์ได้นับพันตัว ทาให้มีพลังการประมวลผลสูงมากเหมาะกับงานคานวณท่ีมีความซับซ้อนค่อนข้างสูงอย่างงานด้านทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์วิศวกรรมศาสตร์ การพยากรณอ์ ากาศ และงานวจิ ยั นวิ เคลียร์ โดยขดี ความสามารถของซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะมพี ลังการประมวลผลชดุ คาสัง่ ได้มากถึงหลายล้านลา้ นคาส่ังต่อวินาที

เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ (Mainframe Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ รองจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ นิยมนามาใช้งานตามภาคธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น ธนาคาร บริษัทประกันภัย และสายการบิน เป็นต้น ตัวอย่างเช่น สายการบินได้นาเมนเฟรมคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อประมวลผลแบบศูนย์รวม ด้วยการจัดต้ังเป็นเครื่องแม่ข่ายเพ่ือบริการแก่เครื่องเทอร์มินัล (เครื่องลูกข่าย) ที่มีการเช่ือมต่อนับพันเครื่อง สาหรับความเร็วในการประมวลผลของเมนเฟรมคออมพิวเตอร์ จะมคี วามเรว็ ในระดบั พับลา้ นคาสั่งตอ่ วินาที

มินคิ อมพวิ เตอร์ เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดกลางที่มีขีดความสามารถต่ากว่าเมนฟรมคอมพิวเตอร์ มักนิยมนามาใช้กับธุรกิจขนาดกลางทั่วไป เช่น โรงพยาบาล โรงแรม และตามโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป อย่างไรก็ตามคอมพวิ เตอร์ระดับมนิ ิ ช่ือนี้กาลงั กลายเปน็ อดีต เน่อื งจากปัจจุบนั คอมพวิ เตอร์ระดับเมนเฟรมมีหลายขนาดด้วยกนั โดยเฉพาะเมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ขนาดเล้ก ที่มีขีดความสามารถเทยี บเท่าคอมพิวเตอร์ระดับมินิ อีกทั้งยังได้รับความนิยมสูงกว่า ประกอบกับเครื่องระดับสถานีวิศวกรรมหรือเครื่องเวิร์กสเตช่ัน ก็มีขีดความสามารถทดั เทยี บกบั มินิคอมพวิ เตอร์ จงึ ส่งผลใหม้ นิ ิคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบันไมค่ ่อยเป็นทีน่ ิยมกนั แลว้

เวริ ก์ สเตชน่ั (Workstation) รูปลักษณ์ภายนอกของเคร่ืองเวิร์กสเตชั่นหรือท่ีเรียกกันว่า เครื่องสถานีวิศวกรรมนั้นแลดูคล้ายกับเครื่องพีซี แล้วมันคือพีซีชนิดหนึ่งใช่หรือไม่ คาตอบก็คือ เวิร์กสเตชั่นไม่ใช่พีซีเพียงแตม่ ีรปู รา่ งคล้ายพีซีเท่านั้น ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดก็คือ สมรรถนะหรือขีดความสามารถของเคร่ืองเวิรก์ สเตชนั่ จะประมวลผลได้รวดเร็วมาก เหมาะกบั งานคานวณทางด้านวิศวกรรม งานออกแบบ งานการฟกิ และงานการแพทย์

ไมโครคอมพิวเตอร์ (Microcomputer) ไมโครคอมพิวเตอร์ เป็นคอมพิวเตอร์ระดับเล็กสุดเม่ือเทียบกับคอมพิวเตอร์ระดับต่างๆ ตามท่ีได้กล่าวมา สามารถนามาวางบนโต๊ะทางานเพ่ือใช้งานได้นอกจากน้ี ยงั สามารถนามาใช้งานส่วนบุคคลหรือใช้งานในระดับองค์กรก็ได้ ท่ีสาคัญ มีโปรแกรมประยุกต์ต่างๆมากมายให้เลือกใช้งานตามลักษณะงาน อีกท้ังยังมีราคาถูก ทาใหค้ นทวั่ ไปสามารถหาซื้อมาเป็นเจ้าของไดไ้ ม่ยาก

นอกจากไมโครคอมพิวเตอร์ในรูปแบบของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลท่ีสามารถวางบนโต๊ะเพ่ือใช้งานแล้วยังมีคอมพิวเตอร์ท่ีมีขนาดเล็กลงไปอีก ที่มุ่งเน้นความสะดวกต่อการเคล่ือนย้าย เช่นคอมพวิ เตอรโ์ น้ตบกุ๊ และแท็บเล็ตทสี่ ามารถพกพาไปไหนได้อยา่ งสะดวกคอมพวิ เตอร์โนต้ บกุ๊ แทบ็ เล็ต

องคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ องคป์ ระกอบพน้ื ฐานของระบบคอมพวิ เตอร์ ประกอบด้วย 1. ฮาร์ดแวร์ 2. ซอฟต์แวร์ 3. ข้อมลู 4. กระบวนการทางาน 5. บุคลากร

ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ฮาร์ดแวร์หมายถึงตัวเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณท์ เ่ี ก่ียวข้อง มีลักษณะทางกายภาพท่ีเราสามารถมอ งเห็นและสัมผัสได้ ตั ว อย่า งเช่น แผงว งจ รอิเล็กทรอนิกส์ ชิป และชิ้นส่วนประกอบเชิงกลไกต่างๆท่ีจะทางานประสานกันเพื่อให้เกิดการประมวลผล การจดั เกบ็ และการเผยแพรข่ า่ วสาร ฮาร์ดแวร์ในระบบคอมพิวเตอร์ ยังถูกแบ่งออกเป็น 5 ประเภทด้วยกัน อันได้แก่ อุปกรณ์นาเข้าข้อมูล หน่วยความจาหลัก หน่วยประมวลผลกลางอุปกรณแ์ สดงผล และหนว่ ยเก็บข้อมลู ภายนอก

ซอฟต์แวร์ (Software) ซอฟต์แวร์ หมายถึง โปรแกรมหรือชุดคาส่ังที่บอกคอมพิวเตอร์ว่าจะต้องทาอะไร โดยตัวโปรแกรมสั่งงานจะถูกเขียนข้ึนด้วยภาษาคมพิวเตอร์ จากนั้นก็จะถูกแปลเป็นภาษาเครื่องที่คอมพิวเตอร์เข้าใจ และคอมพิวเตอร์ก็นาคาสั่งเหล่านี้ไปควบคุมอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ให้ทางาน ดังน้ันลาพังเพียงอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ คงไม่สามารถทางานอะไรได้เลย หากปราศจากซอฟต์แวร์เข้าไปควบคุมการทางาน ซอฟต์แวร์ยังถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ ซอฟต์แวร์ระบบและซอฟต์แวร์ประยกุ ต์

ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ เป็นโปรแกรมที่สาคัญมากทาหน้าที่ควบคุมการทางานของคอมพิวเตอร์ และช่วยอานวยความสะดวกแก่ผใู้ ชง้ านในการโต้ตอบกบั คอมพวิ เตอร์ สาหรบั คอมพวิ เตอร์ทุกเคร่ืองจาเป็นต้องติดต้ังซอฟต์แวร์ระบบก่อน เพื่อสามารถให้คอมพิวเตอร์ทางานได้และดาเนินการอื่นๆ ต่อไป ตัวอย่างซอฟตแ์ วร์ระบบ เชน่ Windows 7 Windows 8.1 Windows Sever เป็นตน้

ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์ เป็นโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเพ่ือใช้งานด้านใดด้านหน่ึงโดยเฉพาะ เช่นโปรแกรม Microsoft Office ท่ีนามาใช้กับงานจัดการเอกสาร งานคานวณ และงานนาเสนอโปรแกรม Photoshop โปรแกรม Camera RAW และโปรแกรมตดั ตอ่ วดี ีโอ เป็นต้น

ข้อมลู (Data) ข้อมูลในท่ีน้ีหมายถึง ข้อมูลดิบท่ีเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับความจริงท้ังหลาย อาจอยู่ในรูปของตวั เลข ตัวอกั ษร หรอื รปู ภาพ เช่น รหัสนักเรียน ชื่อ ท่ีอยู่ อายุ และระดับชั้น ซึ่งเป็นข้อมูลที่ยังไม่ได้ผ่านการประมวลผลกระบวนการ (Procedures) หมายถึงขั้นตอนการทางานเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับทราบว่า จะมีวิธีการจัดการหรือปฏิบัติการกับข้อมูลเหล่านั้นอย่างไร จะต้องทาอะไรบ้าง เพื่อดาเนินงานกับข้อมูลที่ได้มา เมื่อดาเนินการเสร็จแล้วผลลพั ธท์ ไี่ ดอ้ อกมาคืออะไร

บคุ ลากร (People) หมายถึง บคุ ลากรทางคอมพวิ เตอร์ เชน่ บคุ ลากรท่ที าหน้าท่อี อกแบบและพฒั นาโปรแกรมก็คือนักวเิ คราะหร์ ะบบและโปรแกรมเมอร์ สว่ นบุคลากรที่ปฏบิ ตั ิหน้าท่ปี ระจาวนั กบั คอมพิวเตอร์กจ็ ะเรยี กว่าใช้ปลายทาง เช่น พนักงานป้อนข้อมูลเข้า จะทาหน้าท่ีป้อนข้อมูลประจาวันและส่ังพิมพ์รายงานต่างๆโดยพนักงานเหล่านี้จะต้องปฏิบัติงานตามขั้นตอนท่ีได้รับมอบหมาย เพ่ือให้กระบวนการทางธุรกิจท่ีตนรับผิดชอบอยภู่ ายในหน่วยงานนนั้ สาเร็จลุล่วงตามวัตถปุ ระสงค์

คณุ สมบตั ิของคอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอรท์ นี่ ิยมใช้งานอยทู่ ว่ั ไปนั้น มีคุณสมบัติสาคัญตา่ งๆ ดังต่อไปน้ี 1. ความเร็ว 2. ความนา่ เชื่อถอื 3. ความเที่ยงตรงและแม่นยา 4. จัดเก็บข้อมูลได้ปริมาณมาก 5. ความสามารถในการส่อื สารและเครือข่าย

ความเรว็ คอมพิวเตอร์ทางานได้รวดเร็วมาก สามารถประมวลผลข้อมูลให้สาเร็จได้ภายในไม่ก่ีวินาที ซ่ึงความรวดเร็วในการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ มีความสาคัญต่อธุรกิจในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านการบริการลูกค้าท่ีลูกค้าสามารถรอรับผลได้ทันทีรวมถึงผู้บริหารสามารถนาสารสนเทศที่ต้องการไปประกอบการตดั สนิ ได้ทันต่อเหตกุ ารณ์

ความนา่ เช่ือถอื การทางานของคอมพวิ เตอรม์ ีความนา่ เชอ่ื ถือสูง มีอตั ราการผิดพลาดตา่ ผดิ จากมนษุ ย์เมอ่ื มีการทางานหลายๆ ชั่วโมง ร่างกายจะมีความอ่อนล้า ส่งผลต่อการทางานท่ีมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดไดส้ ูง

ความเที่ยงตรงแม่นยา คอมพิวเตอร์สามารถประมวลผลข้อมูล และคานวณผลลัพธ์ได้อย่างถูกต้องและแม่นยากล่าวคือ ข้อมุลชุดเดียวกัน หากนามาผ่านการประมวลหลายคร้ัง ก็จะได้ผลลัพธ์เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ความเท่ียงตรงและความแม่นยาของการประมวลผลข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ ย่อมเกี่ยวข้องกับโปรแกรมส่ังการที่ถูกเขียนข้ึนอย่างถูกต้อง ไม่มีข้อผิดพลาด รวมถึงข้อมูลท่ีป้อนเข้าสู่ระบบก็ต้องมีความถกู ตอ้ งเชน่ กัน

จัดเก็บข้อมลู ได้ปริมาณมาก เทคโนโลยีอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลในยุคน้ีได้ก้าวล้าไปมาก ฮาร์ดดิสตัวหน่ึงๆ สามารถบรรจุข้อมูลได้มากถึงระดับเทระไบต์ เพื่อรองรับข้อมูลสาคัญต่างๆ ท่ีมีปราณมาก สามารถจัดเก็บข้อมูลอยู่ในคอมพิวเตอร์ได้แทบทง้ั หมด

ความสามารถในการสอื่ สารและเครอื ข่าย คอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน นอกจากจะนามาใช้งานสาหรับงานส่วนตัวแล้ว ยังสามารถนาไปเชื่อมต่อเป็นเครือข่าย เช่น เครือข่ายแลน เพ่ือแบ่งปันใช้ทรัพยากรบนเครือข่ายและการเชื่อมต่ออินเตอรเ์ นต็


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook