Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สื่อกลาง61 แก้

สื่อกลาง61 แก้

Published by khanthana06022545, 2020-06-27 06:00:56

Description: สื่อกลาง61 แก้

Search

Read the Text Version

สอื่ กลาง การสื่อสารขอ้ มลู

สือ่ กลาง การส่ือสารข้อมลู สาระสาคัญ สื่อกลางทางกายภาพและสือ่ กลางไรส้ าย เป็น สอ่ื กลางการสือ่ สารข้อมลู เพอื่ ให้ผสู้ ง่ ขอ้ มลู ทาการส่ง ข้อมูลไปยงั ผรู้ บั ได้ ซง่ึ มลี ักษณะและวิธีการใช้งานที่ แตกต่างกนั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. สามารถบอกลักษณะของสื่อกลางแตล่ ะชนดิ ได้ 2. เลือกใชง้ านสื่อกลาง และอปุ กรณ์ต่างๆ ได้อย่าง เหมาะสม krunok

สอื่ กลางการส่อื สารขอ้ มลู สอ่ื กลางในการสือ่ สารข้อมูล หมายถึง การสือ่ สาร ข้อมูลทุกชนดิ ตอ้ งอาศยั สือ่ กลางในการสง่ ผา่ นขอ้ มลู เพือ่ นา ข้อมลู ไปยังจุดหมายปลายทาง เชน่ การคุยโทรศพั ท์อาศัย สายโทรศพั ทเ์ ปน็ ส่อื กลางในการส่งสญั ญาณคล่ืนเสียงไปยงั ผู้รับ เปน็ ตน้ สอ่ื ทใี่ ชส้ ่งข้อมลู ในระบบเครอื ข่ายในปัจจบุ ัน สามารถแบ่งส่ือกลางได้เป็น 2 ประเภท คือ 1.ส่ือกลางท่กี าหนดเสน้ ทางได้ (Guided media) หรอื ระบบใชส้ าย (Wired system) 2. สอื่ กลางที่กาหนดเสน้ ทางไม่ได้ (Unguided media) krunok

สายคู่บิดเกลียว (Twisted Pair Cable) เป็นสื่อ หรือตัวกลางที่มีราคาถูกท่ีสุดและนิยมใช้มากท่ีสุด ภายใน ประกอบด้วยลวดทองแดง 2 เส้น แต่ละเส้นมีฉนวนหุ้มแล้ว นามาพันกนั เป็นเกลียว สายคู่บดิ เกลยี วแบ่งเปน็ 2 ชนิด คอื สายคู่บดิ เกลยี วไม่หุม้ ฉนวน (Unshielded Twisted Pair หรอื UTP) หรือสายยทู ีพี หรือสายโทรศพั ท์ มที ้งั หมด 8 เสน้ ซึ่งแตล่ ะเสน้ กจ็ ะมสี ี แตกต่างกันไปตลอดทัง้ สายจะถูกหุม้ ด้วยพลาสติก ลักษณะสายเป็นเกลยี ว เพือ่ ชว่ ย ปอ้ งกันสญั ญาณรบกวนจากอปุ กรณไ์ ฟฟา้ อ่ืนๆ เช่น เคร่อื งถา่ ยเอกสารทอ่ี ยู่ใกล้ๆ ปัจจบุ ันยูทีพเี ป็นสายท่ีได้รับความนิยมมากท่ีสดุ เน่อื งจากราคาถกู และตดิ ต้งั ไดง้ า่ ย ข้อดขี องสาย UTP krunok มีราคาถกู ใช้งานง่ายมคี วามยืดหย่นุ ในการใช้งาน ติดตง้ั ง่ายและมนี ้าหนกั เบา ขอ้ เสยี งสาย UTP ถกู รบกวนจากสัญญาณภายนอกไดง้ า่ ย ระยะทางจากดั

สายคู่บิดเกลยี วห้มุ ฉนวน (Shielded Twisted Pair หรอื STP) หรอื สายเอสทีพเี ปน็ สายคู่ มลี กั ษณะคลา้ ยกบั สายยูทพี ี มีฉนวนปอ้ งกนั สญั ญาณรบกวนไดม้ ากกว่า สายยทู พี สี ายคู่บิดเกลยี วหุ้มฉนวนจะมีโลหะถกั เป็นตา ข่ายโลหะ ซงึ่ มคี ุณสมบัตเิ ปน็ เกราะในการป้องกนั สัญญาณต่างๆ ขอ้ ดีของสาย STP - สง่ ขอ้ มูลด้วยความเรว็ สงู กว่า UTP - ป้องกนั คล่ืนแม่เหล็กไฟฟา้ และคลื่นวทิ ยุ ขอ้ เสียของสาย STP - มีขนาดใหญแ่ ละไม่ค่อยยดื หยุ่นในการงอพับสายมากนกั - ราคาแพงกว่าสาย UTP krunok

สายโคแอก็ เชยี ล (Coaxial Cable) นิ ย ม เ รี ย ก กั น ส้ั น ๆ ว่ า ส า ย โ ค แ อ็ ก เ ป็ น ส่ื อ ห รื อ ตัวกลางที่มีส่วนของสายส่งข้อมูลเป็นลวดทองแดงอยู่ตรง กลาง หุ้มด้วยพลาสติก ส่วนชั้นนอกหุ้มด้วยโลหะหรือ ฟอยล์ถักเป็นร่างแหเพื่อป้องกันสัญญาณรบกวน สาย โคแอ็กมี 2 แบบ ได้แก่ แบบหนาและแบบบาง ส่วนใหญ่ใช้ เช่ือมต่อระหว่างเคร่ืองคอมพิวเตอร์โดยตรง ไม่ต้องใช้ อปุ กรณ์รวมสายหรือฮับ (Hub) แต่ปัจจุบันมีการใช้น้อยลง เน่ืองจากถูกแทนท่ีด้วยสายยูทีพีท่ีมีราคาถูกกว่า และ สามารถติดต้ังได้ง่ายกวา่ ขอ้ ดีของสาย Coaxial 1.ราคาถูก 2. มีความยืดหยนุ่ ในการใชง้ าน 3. ติดตัง้ ง่าย และมนี า้ หนักเบา ข้อเสียของสาย Coaxial 1. ถกู รบกวนจากสญั ญาณภายนอกได้ง่าย 2.ระยะทางจากดั krunok

สายใยแก้วนาแสง (Fiber Optic Cable) เป็นส่ือหรือตัวกลางท่ใี ช้ส่งข้อมูลในรูปของแสง โดย เปล่ียนสัญญาณข้อมูลหรือสัญญาณไฟฟ้าให้เป็นคลื่นแสง ก่อน แล้วส่งผ่านใยนาแสงไปยังปลายทางลักษณะ เส้นใยนาแสงจะส่งสัญญาณเพื่อป้องกันความเสียหายและ การสูญเสียของสัญญาณ การส่งข้อมูลผ่านใยนาแสงมีข้อดี ตรงที่ส่งสัญญาณได้ในระยะทางไกลโดยไม่มีสัญญาณ รบกวน มคี วามคุม้ ค่าสูงเพราะส่งขอ้ มูลได้มากกว่าการส่งผ่าน สายคู่บิดเกลียวและสายโคแอ็กเชียล สามารถติดตั้งได้ใน บริเวณที่มีไฟฟ้าแรงสูงหรือเกิดฟ้าผ่าขึ้นหลายคร้ัง และข้อมูล รว่ั ไหลไดย้ ากจึงทาใหก้ ารลักลอบขโมยสัญญาณทาไดย้ าก ขอ้ ดีของ Fiber oftic krunok - มคี วามปลอดภยั สูงเนื่องจากการขโมยสญั าณ - เสน้ ใยแก้วนาเสยี งมีอายกุ ารใชง้ านทนี่ าน ขอ้ เสยี ของ Fiber oftic - เส้นใยแก้วนาแสงเปราะบางและแตกหักงา่ ย - ไมส่ ามารถโคง้ งอได้เหมอื นสายทองแดง

ส่อื กลางที่กาหนดเสน้ ทางไมไ่ ด้ (Unuided media) เป็นระบบทไ่ี ม่ใชส้ ายสญั ญาณเป็นตวั นาข้อมูล เช่น ระบบไมโครเวฟ ระบบดาวเทยี ม ระบบอนิ ฟราเรด ระบบวทิ ยุ เป็นต้น อนิ ฟราเรด (Infrared) เป็นสื่อสารท่ีใช้คลื่นแสงที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า สามารถส่งข้อมูลด้วยคล่ืนอินฟราเรดต้องส่งในแนวเส้นตรง และไม่สามารถทะลสุ ิ่งกดี ขวางทม่ี คี วามหนาได้ นิยมใช้ในการส่ง ถ่ายโอนข้อมูลสาหรับอุปกรณ์แบบพกพา เช่น โน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องพีดีเอไปยังคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เป็นต้น คล่ืนวทิ ยุ (Radio Wave) เป็นการสื่อสารโดยใช้คลื่นวิทยุจากอุปกรณ์ไร้สายต่างๆ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรืออุปกรณ์ที่สามารถเปิดเข้าถึงเว็บไซต์ ได้ เป็นตน้ ผใู้ ชบ้ างรายใช้โทรศพั ทเ์ คลื่อนทใ่ี นการเชื่อมต่อเพื่อใช้ บริการอินเทอรเ์ นต็ krunok

ไมโครเวฟ (Microwave) เป็นการสื่อสารโดยใช้คลื่นวิทยุความเร็วสูง สามารถส่งสัญญาณเป็นทอดๆ จากสถานีหนึ่งไปยัง อีกสถานีหนึ่งในแนวเส้นตรง ไม่สามารถโค้งหรือหัก เลี้ยวได้ สามารถรับ ส่งได้ในระยะทางใกล้ๆ นิยมใช้ สาหรับการสอ่ื สารระหว่างอาคารที่อยู่ในเมืองเดียวกัน สาหรับระยะทางไกลๆ ต้องใช้สถานีรับส่งสัญญาณ เป็นทอดๆ โดยติดต้ังในพ้ืนท่ีสูง เช่น ยอดเขา หอคอย ตกึ เป็นต้น krunok

ดาวเทยี ม (Satellite) เป็นการสื่อสารโดยคลื่นไมโครเวฟแต่เน่ืองจากเป็น คลื่นที่เดินทางในแนวตรง ทาให้พื้นท่ีท่ีมีลักษณะภูมิประเทศเป็น ภูเขาหรือตึกสูงมีผลต่อการบดบังคล่ืน จึงมีการพัฒนาดาวเทียม ให้เป็นสถานีไมโครเวฟท่ีอยู่เหนือพ้ืนผิวโลก ทาหน้าที่เป็นสถานี ส่งและรับข้อมูล ถ้าเป็นลักษณะการส่งข้อมูลจากภาคพื้นดินไป ยังดาวเทียม ระบบเทคโนโลยีที่นิยมและอาศัยการทางานของ ดาวเทียมเป็นหลกั คอื ระบบจพี ีเอส (Global Positioning System : GPS) ท่ีช่วยตรวจสอบตาแหน่งที่อยู่บนพ้ืนผิวโลก เช่น การติดต้ังอุปกรณ์จีพีเอสไว้ในรถและทางานร่วมกับแผนท่ี ผู้ใช้ สามารถขับรถไปตามระบบนาทางได้ นอกจากน้ียังได้นาอุปกรณ์ จพี เี อสมาตดิ ต้ังในระบบโทรศพั ทเ์ คลือ่ นทีด่ ้วย krunok

เครอ่ื งทวนสัญญาณ (Repeater) เปน็ อุปกรณ์ทท่ี าหน้าที่ขยายหรอื เพมิ่ ระยะ ทางการสื่อสารของเครือข่ายในการสง่ ข้อมูลในระบบ เครอื ข่ายตามมาตรฐานต่าง ๆ เช่น ในมาตรฐานการสง่ ข้อมลู ในระบบเครือข่ายใช้ 10 Baset ซงึ่ มขี อ้ กาหนด ของมาตรฐานการเชอ่ื มตอ่ ระบบไดใ้ นระยะทางไมเ่ กนิ 100 เมตร ถา้ ความยาวของระบบมากกว่า 100เมตร ตอ้ งมีเครือ่ งทวนสญั ญาณในการขยายสัญญาณเพอ่ื ให้ เปน็ ระบบเครือข่ายเดยี วกัน krunok

บริดจ์ (Bridge) เปน็ อปุ กรณ์ท่ใี ช้เชอ่ื มต่อระบบ LAN เขา้ ดว้ ยกัน โดยออกแบบมาเพอ่ื ใช้ติดต่อระหว่างเครอื ขา่ ยท้องถิ่น LAN จานวน 2 เครอื ขา่ ย ที่มโี ปรโตคอลเหมอื นกนั หรอื ตา่ งกัน เพือ่ ใหส้ ามารถขยายขอบเขตของ LAN ออกไป ได้ โดยประสิทธิภาพในทางรวมลดลงไมม่ ากเนอื่ งจาก การติดต่อของเคร่อื งอยูใ่ นเซกเมนดเ์ ดยี วกนั จะไม่มกี าร ส่งผ่านตา่ งเซกเมนด์ (Segment) krunok

ฮบั (Hub) เป็นอุปกรณ์ที่ทาหน้าท่ีกระจายช่องทางการ สอ่ื สารขอ้ มูลได้หลายช่องทางในระบบเครอื ข่าย โดยการ ขยายสัญญาณท่ีส่งผ่านมา ทาให้สามารถเชื่อมต่อ อุปกรณ์ต่างๆ ผ่านสายเคเบิลได้ใกล้ขึ้น และใช้กับระบบ เครือข่ายแบบ Star ในปจั จุบัน Hub มีความเร็วในการ ส่ือสารแบบ 10 และ 100 Mbps ลักษณะการทางาน ของ Hub จะแบ่งความเร็วตามจานวนช่องสัญญาณ (Port) ท่ีใช้งานตามมาตรฐานความเร็วเช่น ระบบ เครือข่ายใชม้ าตรฐานความเร็วเป็นแบบ 10 Mbpsและมี เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต่อในระบบ 5 เคร่ืองแต่ละเครื่อง สามารถส่ือสารกันภายในระบบโดยใช้ความเร็วเท่ากับ 10/5 คอื 2Mbps krunok

สวติ ช์ (Switch) สวติ ซ์ เป็นอุปกรณ์ท่ีทาหนา้ ท่กี ระจายช่อง ทางการส่ือสารขอ้ มลู หลายช่องทางในระบบเครอื ข่าย คล้ายกับ Hubตา่ งกันตรงท่ีลกั ษณะการทางานและ ความสามารถในเรอ่ื งของความเรว็ การทางานของ Switch ไม่ได้แบง่ ความเรว็ ตามจานวนช่องสญั ญาณ (port)ตามมาตรฐานความเรว็ เหมือน Hub โดยแต่ละ ช่องสญั ญาณ (port)จะใช้ความเรว็ เป็นอสิ ระต่อกันตาม มาตรฐานความเร็ว krunok

เราทเ์ ตอร์ (Router) เป็นอุปกรณ์ทที่ าหนา้ ทเี่ ช่ือมต่อระบบเครือขา่ ยต่าง ชนิดกันหรือใช้โปรโตคอลต่างกนั เขา้ ด้วยกัน คลา้ ย ๆ กบั Bridge แตล่ ักษณะการทางานของ Router นั้นจะซบั ซอ้ น กวา่ เพราะนอกจากจะเชื่อมต่อแลว้ ยงั เก็บสภาวะของ เครอื ข่ายแต่ละสว่ น (Segment) ด้วย และสามารถทาการ กรอง (Filter)หรอื เลอื กเฉพาะชนดิ ของข้อมูลทีร่ ะบไุ วว้ ่าให้ ผ่านไปได้ทาใหช้ ว่ ยลดปญั หาการจราจรที่คบั ค่ังของขอ้ มูล และเพม่ิ ระดับความปลอดภัยของเครือขา่ ย krunok

เกตเวย์ (Gateway) เป็นอุปกรณ์ท่ีทาให้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ 2 เครือข่ายหรือมากกว่าที่มีลักษณะไม่เหมือนกันสามารถ ติดต่อกันได้เหมือนเป็นเครือข่ายเดียวกันเปรียบเสมือน เ ป็ น ป ร ะ ตู ท า ง ผ่ า น ใ น ก า ร ส่ื อ ส า ร ข้ อ มู ล ร ะ ห ว่ า ง คอมพิวเตอร์ต่างชนิดกัน เช่น ระหว่างเคร่ือง ไมโครคอมพิวเตอร์ทั่ว ๆไปกับเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ หรือเมนเฟรมซ่ึงเป็นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ เป็นต้น อปุ กรณ์ที่ทาหน้าที่เปน็ Gateway นั้นอาจจะใช้ คอมพิวเตอร์เคร่ืองใดเครอ่ื งหน่ึงทาหน้าท่ีก็ได้ krunok

อ้างองิ https://sites.google.com/site/brrcngiphone http://www.chakkham.ac.th/technology/network/equ.html https://9mza.blogspot.com/2017/06/device-network.html https://pubhtml5.com /tail/tmvp/


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook