Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สงครามครูเสด

สงครามครูเสด

Published by Guset User, 2021-09-13 07:01:33

Description: สงครามครูเสด

Search

Read the Text Version

สงครามครูเสด

สงครามครูเสด คืออะไรบ้าง สงครามครูเสด เป็นสงครามที่ยิ่งใหญ่แห่งมวลมนุษยชาติในครั้ง อดีต เป็นสงครามระหว่างศาสนา โดยส่วนใหญ่หมายความถึงสงครามครั้ง ใหญ่ระหว่างชาวมุสลิมและชาวคริสต์ ในช่วงศตวรรษที่ 11 ถึง 13 ดินแดน ที่ทำการสู้รบและแย่งชิงพื้นที่กัน เป็นสถานที่สำคัญของสามศาสนาได้แก่ อิสลาม ยูได และ คริสต์ ซึ่งในปัจจุบัน ก็คือบริเวณประเทศอิสราเอล ปาเลสไตน์ และเลบานอน ชาวมุสลิมครอบครอง เมืองนาซาเรธ เบธเลเฮม และเมืองสำคัญ ทางศาสนาอีกหลายเมือง ในยุคของคอลีฟะหฺอุมัร (634-44) ซึ่งเป็นผู้นำ ทางศาสนาและการเมืองของอาณาจักรอิสลามในยุคนั้น บทสรุปของสงครามในครั้งนั้นคือกองทัพมุสลิมสามารถยึดดิน แดนศักดิ์สิทธิ์คืนจากชาวคริสต์ได้ และขับไล่ผู้รุกรานต่างดินแดนออกไป ซึ่ง ยังคงดำรงชาติมุสลิมสืบต่อมาจนถึงทุกวันนี้

สงครามครูเสด ความหมายของสงครามครูเสด สงครามครูเสด มีความหมายว่า เป็นการต่อสู้เพื่อความถูกต้องชอบธรรม เป็นความถูกต้องชอบธรรมตามหลักศรัทธาทางศาสนา เป็นสงครามที่ต่อสู้เพื่อ ความถูกต้องตามพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งชาวมุสลิมใช้คำว่า จิฮัด ในภายหลังคำว่า สงครามครูเสดถูกนำไปใช้ในทำนองการรณรงค์ต่อสู้เพื่อ ความชอบธรรมด้านต่าง ๆ เป็นสงครามศักดิ์สิทธิ์ตามพระประสงค์ของพระผู้เป็น เจ้า ฆ่าคนนอกรีต-คนต่างศาสนา นอกจากไม่บาปแล้ว ยังได้ขึ้นสวรรค์

สงครามครูเสด ในมุมมองศาสนา สงครามครูเสดในมุมมองศาสนาคริสต์ คือ สงครามไม้กางเขน เดิม มาจากคำว่า \"ครอส\" (Cross) และชาวคริสต์อ้างว่าเดิมทีดินแดน ศักดิ์สิทธิ์ เยรูซาเล็ม (Jerusalem) นั้น เป็นของชาวคริสต์ แต่ถูก ชาวมุสลิมรุกรานแย่งชิงไป ฝ่ายคริสต์จึงมีการประกาศความชอบ ธรรมในการทำสงครามรวมทั้งการยกหนี้สินให้กับคนที่เข้าร่วม สงคราม ผู้นำศาสนายังประกาศอีกว่า ผู้ใดที่ร่วมรบจะได้ขึ้นสวรรค์ สงครามครูเสดในมุมมองศาสนาอิสลามคือการรุกรานของชาว คริสต์ที่กระทำต่อมุสลิม สาเหตุสงครามเกิดจากการที่ชาวคริสต์ไม่ พอใจชาวมุสลิมที่ไม่ต้อนรับพวกตนในการเข้าไปแสวงบุญที่ เยรูซาเล็ม ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลข้ออ้าง อย่างนี้เป็นต้น

สงครามครูเสด สาเหตุุของสงคราม สาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดสงครามครูเสด 1. สงครามครูเสดเป็นผลของความขัดแย้งกันเป็นเวลาช้านาน ระหว่างคริสตจักรทางภาคตะวันตกกับ ทางภาคตะวันออก ต่างฝ่ายต่างก็พยายามที่จะมีอำนาจเหนืออีกฝ่ายหนึ่ง โดยนำเสนอความเป็นผู้นำใน การรบเพื่อทวงคืนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และหยุดยั้งการแพร่ขยายของศาสนาอิสลามที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว จนก่อให้เกิดความหวาดกลัวขึ้นทั่วไปในหมู่ชาวคริสเตียนในยุโรป ด้วยเหตุดังกล่าว ในศตวรรษที่ 11 ชาว คริสเตียนจึงได้ส่งกองกำลังมาปะทะกับมุสลิม 2. ความกระตือรือร้นในการไปแสวงบุญของชาวคริสเตียนยังนครเยรูซาเล็มมีมากกว่าที่เคยเป็นมา ใน ช่วงนั้น เยรูซาเล็มตกอยู่ภายใต้การปกครองของมุสลิม ผู้แสวงบุญชาวคริสเตียนจึงมีความต้องการดิน แดนเยรูซาเล็มเป็นของตนเอง เพื่อความสะดวกในการแสวงบุญมากยิ่งขึ้น 3. ช่วงเวลาระหว่างนั้น เป็นระยะเวลาที่ระส่ำระสายอยู่ทั่วไปในยุโรป พวกเจ้าเมืองต่าง ๆ ต่างก็ต่อสู้ทำ สงครามซึ่งกันและกัน พระสันตะปาปามีความเห็นว่า ถ้าปล่อยให้อยู่ในสภาพเช่นนี้ จะทำให้ชาวคริสเตียนใน ยุโรปต้องอ่อนแอลง เขาจึงยุยงปลุกระดมให้ประชาชนหันมาต่อสู้กับชาวมุสลิมแทนเสียเอง โดยอ้างว่าจะ ได้รับกุศลผลบุญ และทำสงครามเพื่อชิงเอานครอันศักดิ์สิทธิ์ \"เยรูซาเล็ม\" กลับคืนมา 4. มุสลิมได้กลายเป็นมหาอำนาจทางการค้าแถบชายฝั่ งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 เป็นต้นมา การค้าพาณิชย์ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจึงตกอยู่ในความควบคุมของมุสลิมอย่างเต็มที่ ดังนั้น ชาวคริสเตียนในยุโรปจึงต้องการทำสงครามกับมุสลิม เพื่อหยุดยั้งความเจริญก้าวหน้าของมุสลิม 5. สันตะปาปา เออร์แบนที่ 2 ประสงค์จะรวมคริสตจักรของกรีกมาไว้ใต้อิทธิพลของท่านด้วย จึงได้ เรียกประชุมชาวคริสเตียนที่เมืองเลอมองส์ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 1095 และรบเร้าให้ชาวคริสเตียนทำสงครามกับชาวมุสลิม ท่านได้สัญญาว่าผู้ที่เข้าร่วม ในการต่อสู้จะได้รับการยกเว้นจากบาปที่เคยทำมา และผู้ที่ตายในสงครามก็จะได้ขึ้นสวรรค์ ภายในเวลาไม่นานก็รวบรวมคนได้ถึง 150,000 คน ส่วนมากเป็นชาวแฟรงค์ (Frank) และนอร์แมน (Norman) คนเหล่านี้ได้มาชุมนุมกันที่เมืองเยรูซาเล็ม สงครามจึงเริ่มขึ้น

สงครามครูเสด จุดเริ่มต้นของสงคราม ในความรู้สึกของชาวยุโรปนั้นกำลังถูกรุกรานจากพวกตะวันออก คือ โลกมุสลิมมาอย่างต่อ เนื่อง นับตั้งแต่ ค.ศ. 632 เป็นต้นมา อิสลามได้ขยายอำนาจเข้าไปในเขตแดนที่ตะวันตกเคยมี อำนาจ เช่น ซีเรีย อียิปต์ แอฟริกาเหนือ ตลอดจนคาบสมุทรไอบีเรีย (สเปนและโปรตุเกส) ซ้ำ ยังคุกคามจักรวรรดินิยมที่ยิ่งใหญ่ในโลกตะวันตกคือไบแซนไทน์ และสร้างความสั่นสะเทือนให้ แก่สถาบันที่เป็นหัวใจของ แรงจูงใจสำคัญที่ทำให้ชาวยุโรปเดินทางฝ่าอันตรายไปยังโลก อิสลาม คือ กษัตริย์ฝรั่งเศสและเยอรมันต้องการดินแดนเพิ่ม บรรดาอัศวินและขุนนางก็ ต้องการผจญภัยและแสดงความกล้าหาญตามอุดมคติของอัศวินที่ดี พวกทาสต้องการเป็น อิสระ เสรีชนต้องการความร่ำรวยและแสดงความศรัทธาต่อศาสนา รวมทั้งความพยายาม ของพระสันตะปาปาในอันที่จะรวมคริสต์ศาสนานิกายออร์โธดอกซ์ให้เข้ากับนิกาย โรมันคาทอลิก ภายใต้การบังคับบัญชาของตนแต่เพียงผู้เดียว พระสันตะปาปาเออร์บานที่ 2 ได้จัดประชุมกันที่เคลมองต์ (Clermont) ในประเทศฝรั่งเศส เรียกร้องให้ประชาชนทำ สงครามครูเสด เพื่อกอบกู้สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ คือ กรุงเยรูซาเล็มคืนจากอิสลาม คำปราศรัย ของพระสันตะปาปามีใจความว่า \"ด้วยบัญชาของพระเจ้า ให้เจ้าหยุดยั้งการทำสงครามกันเอง และให้เขาเหล่านั้นหันมาถืออาวุธมุ่งหน้าไปทำลายผู้ปฏิเสธ (มุสลิม)\" ปรากฏว่าพระสันตะปาปา สามารถรวบรวมคนได้ถึง 150,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวฝรั่งเศส ไปร่วมทำสงครามครู เสด มีทั้งบาทหลวง บรรดาเจ้าชาย อัศวิน และนักรบ ในขณะนั้นเอง ยังมีกองทัพของ ประชาชนผู้มีศรัทธาแรงกล้าในการร่วมสงครามครูเสด เดินทัพมาก่อนแล้วในปี ค.ศ. 1094 ตามคำชักชวนของ ปีเตอร์ นักพรต (Peter of Amines) แต่มาถึงเพียงฮังการี เกิดขาด อาหารลง ไปทำการปล้นสะดมจึงถูกประชาชนแถบนั้นต่อต้าน และส่วนใหญ่ตายเสียตามทาง ที่เหลือรอดมาจำนวนเล็กน้อย เมื่อเผชิญกับพวกซัลจู๊คจึงถูกตีแตกพ่ายกลับไป สงคราม ครั้งนี้มิได้ก่อให้เกิดผลสะท้อนใด ๆ นอกจากจะกระตุ้นให้ชาวยุโรปมีความเกลียดชังมุสลิมมาก ขึ้นไปอีก

สงครามครูเสด จุดเริ่มต้นของสงคราม สงครามครูเสด เกิดขึ้นครั้งแรกใน ค.ศ.1096 โดยมีอัศวินประมาณ 50,000 คนเข้าร่วม ส่วน ใหญ่มาจากฝรั่งเศส เส้นทางที่นักรบครูเสดจะต้องเดินทางมานั้นมีระยะทาง 2,000 ไมล์ทหารครู เสดที่มาในครั้งนั้นอยู่ภายใต้การนำของ โรเบิร์ตแห่งนอร์มังดี ทหารบางคนเข้าร่วมสงครามครั้ง นี้ด้วยเหตุผลทางศาสนาบางคนเข้าร่วมเพราะต้องการผจญภัยหรือแสวงโชค ใน ค.ศ.1099 ทหารครูเสดได้มาถึงด้านนอกกำแพงเมืองเยรูซาเล็ม ฝ่ายมุสลิม (ซึ่งพวกทหารครู เสดเรียกว่า ซาราเซ็น) ได้ต่อสู้ป้องกันอย่างเข้มแข็ง ทหารครูเสดปิดล้อมเมืองอยู่เดือนกว่าจึง ฝ่ากำแพงเข้าไปได้ และเมื่อเข้าเมืองได้ ทหารคริสเตียนก็ฆ่ามุสลิมทุกคนที่พวกเขาพบ เพราะ ถือว่าชาวมุสลิมทุกคนคือผู้ไม่ศรัทธาในเมืองศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า ในปี ค.ศ. 1144 ฝ่ายมุสลิมยึดเมืองอีเดสซากลับคืนได้ สงครามครูเสดครั้งที่สองเกิดขึ้น เพราะพวกยุโรปต้องการที่จะยึดเยรูซาเล็มคืน แต่ต้องประสบความล้มเหลว ต่อมาใน ค.ศ.1187 ผู้นำมุสลิมคนใหม่คือ เศาะลาฮุดดีน (ซาลาดิน) ได้โจมตีอาณาจักรของ คริสเตียนโดยเริ่มจากสงครามฮิตตินก่อน หลังจากนั้นก็เข้าไปยึดเมืองเยรูซาเล็มกลับคืนได้ ทหารมุสลิมต้องการที่จะประหารชาวคริสเตียนทั้งหมดที่อยู่ในเมือง แต่ซาลาดินไม่อนุญาต สงครามครูเสดครั้งที่สามเกิดขึ้น เพราะคริสตจักรมีความต้องการที่จะขับไล่ซาลาดินออก จากแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งในบรรดาแม่ทัพที่นำทหารครูเสดมาในครั้งนั้นคือ กษัตริย์ริชาร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษหรือที่รู้จักกันดีว่า \"ริชาร์ดใจสิงห์\" (Richard the Lionheart) ริชาร์ดได้ทำสงครามนองเลือดกับซาลาดินหลายครั้ง แต่ทหารของซาลาดินเข้มแข็งกว่า ดัง นั้นจึงทำสัญญาสงบศึกกันในปี ค.ศ.1192 สัญญานี้ระบุว่าให้พวกคริสเตียนอาศัยอยู่ในเมือง ต่างๆได้ เช่น เมืองอัครา บนฝั่ งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และสามารถไปเยี่ยมแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ได้ หลังจากนั้นอีกหนึ่งศตวรรษ มุสลิมก็สามารถยึดเมืองคริสเตียนต่างๆกลับคืนได้ทั้งหมด กองทหารครูเสดได้ถูกส่งมาช่วยเมืองเหล่านี้หลายครั้ง แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ

สงครามครูเสด บทสรุปของสงครามครูเสด โดยสรุปแล้ว ในสงครามครูเสดมีการทำสงครามกัน 8 ครั้ง กินระยะเวลานานประมาณ 200 ปี มีผู้คนล้มตายกว่า 7,000,000 คน และสุดท้ายดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตกเป็นของมุสลิม บทสรุปการทำสงครามแต่ละครั้งมีดังนี้ ครั้งที่ 1 ค.ศ. 1092 - 1099 กล่าวกันว่าเป็นครั้งเดียวที่ชาวคริสเตียนรบด้วยอุดมการณ์ เป็นครั้งที่พระเจ้าแผ่นดินในยุโรปหลายพระองค์ได้ไปร่วมรบ และเป็นครั้งเดียวที่สามารถเอาชนะพวก เติร์ก เปิดทางให้คริสต์ศาสนิกชนสามารถไปนมัสการที่ฝังศพพระเยซูได้สะดวก ครั้งที่ 2 ค.ศ. 1147 - 1149 พระเจ้าหลุยส์ที่ 7 ของฝรั่งเศส กับ พระเจ้าคอนราดที่ 3 ของ เยอรมัน นำทัพไป แต่ต้องแพ้ย่อยยับกลับมา ครั้งที่ 3 ค.ศ. 1189 - 1192 พระเจ้าเฟรเดริกที่ 1 (เยอรมัน) ฟิลิปป์ออกุสต์ (ฝรั่งเศส) และริ ชาร์ด ไลออนอาร์ท (อังกฤษ) นำทัพและพากันแพ้กลับมาอีก และพระเจ้าเฟรเดริกจมน้ำตาย ครั้งที่ 4 ค.ศ. 1202 - 1204 แทนที่กองทัพครูเสดจะไปรบพวกเติร์ก กลับไปรบพวกคริสเตียนด้วย กันเอง ครั้งที่ 5 ค.ศ. 1217 - 1221 เซนเญอร์ของฝรั่งเศส ชื่อ ยองเลอเบรียน กับพระเจ้าแผ่นดิน ฮังการี ไปรบพวกเติร์กในประเทศอียิปต์ ไม่ได้ผลทางชัยชนะ ครั้งที่ 6 ค.ศ. 1228 - 1229 พระเจ้าเฟรเดริกที่ 2 (เยอรมัน)นำทัพ แต่แทนที่จะไปรบ กลับ ไปทำไมตรีกับพวกอาหรับ สามารถทำให้พวกอาหรับยอมให้พวกคริสเตียนเดินทางเข้าเมืองเยรูซาเล็มได้ อีกครั้ง ครั้งที่ 7 ค.ศ. 1248 – 1249 และ ครั้งที่ 8 ค.ศ. 1270 สงครามครูเสดได้กระทำกันใน ประเทศอียิปต์ เพราะพวกหัวหน้าเติร์กมีถิ่นสำคัญตั้งอยู่ที่นั่น และแซงต์หลุยส์ (ฝรั่งเศส) นำทัพทั้งสอง ครั้ง จนสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1270 สงครามครูเสดจึงสุดสิ้นลงในครั้งนี้

สงครามครูเสด ผลของสงครามครูเสด ผลของสงครามครูเสด หลังจากพวกคริสเตียนได้ครองแผ่นดินส่วนหนึ่งของอาณาจักรแห่ง เยรูซาเล็ม บางเมืองอยู่ยาวนานกว่า 200 ปี การเข้ามาอยู่ในดินแดนที่มีมุสลิม อาศัยอยู่โดยรอบ ทำให้พวกคริสเตียนและมุสลิมเกิดการหลอมรวมวัฒนธรรมกัน พวกคริสเตียนประทับใจในศิลปะการตกแต่งของมุสลิม เช่น พรม เครื่องใช้และ กระเบื้องเคลือบ และพวกเขายังได้กินอาหารรสชาติใหม่ ๆ เช่น ผลแอปริคอท มะเดื่อ น้ำตาลและมะนาว ทางด้านเครื่องแต่งกายชาวคริสเตียนได้เรียนรู้การใช้ ผ้าฝ้ายและผ้าไหมทำเสื้อผ้า ทางด้านสถาปัตยกรรมพวกคริสเตียนได้เรียนรู้เรื่อง การใช้เสาและคานรูปโค้งแบกรับน้ำหนักจากสิ่งที่ปลูกสร้างของมุสลิม นอกจากนี้ ยังได้เรียนรู้ถึงวิธีการป้องกันปราสาทโดยการใช้หอคอยทรงกลมและช่องทาง เดินบนกำแพง ที่ทำให้คนที่อยู่ข้างบนสามารถยิงธนูหรือโยนหินเข้าใส่ผู้เข้ามา โจมตีได้ ส่วนพวกมุสลิมนั้นได้การค้าที่เพิ่มขึ้นกับอิตาลี มีอาวุธที่ดีขึ้น และการ สำรวจพื้ นที่เพื่ อทำการสงคราม นอกจากนี้ สงครามครูเสดทำให้พวกตะวันตกได้รับความรู้ใหม่ ๆ หลาย อย่างจากพวกมุสลิม เช่น เรื่องโรงสีลม การใช้เข็มทิศในการเดินทางเรือ ทำให้ อุตสาหกรรมเจริญขึ้นหลายอย่าง

เหตุผลที่เลือกหัวข้อ สงครามครูเสด อยากศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสงครามครูเสด รู้ถึงความเป็นมาของ สงครามครูเสดและสาเหตุที่เกิด ได้รู้บทสรุปของสงคราม

จัดทำโดย น.ส. จีรานันท์ สุวรรณะ เลขที่13 ชั้นม.5/9 น.ส. ณัฐพร เชื้อจีน เลขที่14 ชั้นม.5/9 น.ส. ปาณิตา หุตะจูฑะ เลขที่16 ชั้นม.5/9 น.ส. ภัทรภรณ์ มาลัย เลขที่20 ชั้นม.5/9


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook