เทคนิคการสร้างสื่อสไลด์และนำเสนอ

เทคนิคการสร้างส่ือและนาเสนอผลงาน คดั ลอกและแก้ไขจากส่ือการสอน อ.สุทธิวัฒน์ บุญเลศิ

วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อทำควำมเขำ้ ใจหลกั กำรสร้ำงส่ือกำรนำเสนอดว้ ย โปรแกรม PowerPoint 2. เพ่อื ใหส้ ำมำรถออกแบบและผลิตส่ือกำรนำเสนอได้ อยำ่ งเหมำะสม และมีประสิทธิภำพ 3. เพื่อสร้ำงควำมมนั่ ใจในกำรนำสื่อกำรนำเสนอไปใช้ ในกำรพดู ในท่ีประชุม 2

หัวข้อการสร้างส่ือการนาเสนอโดยใช้ PowerPoint 1. กำรวำงโครงเร่ือง, โครงสร้ำงสไลด์ 2. แบบและขนำดตวั อกั ษร 3. สี, พ้นื หลงั 4. งำนกรำฟฟิ ค 5. กำรสะกดกำรันตแ์ ละไวยำกรณ์ 6. กำรสรุป, กำรซกั ถำม 3

แนวคดิ พืน้ ฐานทสี่ ่งผลต่อการนาเสนออย่างมปี ระสิทิิาาพ 1. ในกำรบรรยำยแต่ละคร้ัง ผฟู้ ังจะฟังเพยี ง 25% - 50% ของ เวลำท้งั หมด 2. ควำมจำระยะส้นั ของคนเรำสำมำรถจดจำไดเ้ พยี ง 5-7 ประเดน็ จำกส่ิงท่ีไดฟ้ ังท้งั หมด 3. คนเรำโดยทว่ั ไปจะจำไดเ้ พียง 10% ในสิ่งที่ไดย้ นิ และ 50% จำกกำรอ่ำน 4 (ณัฐกร สงคราม, 2551)

ผลเสียที่เกิดจากการนาเสนอท่ีไร้ประสิทธิภาพ 5 (เกรียงศกั ดิ์ นิรัติพฒั นะศยั , 2550)

ผลเสียทเี่ กดิ จากการนาเสนอทไ่ี ร้ประสิทิิาาพ ❖เอด็ เวริ ์ด ทฟั เต (Edward Tufte) ผเู้ ชี่ยวชำญดำ้ นกำรสื่อสำรและกำร นำเสนอของสหรัฐอเมริกำไดย้ กตวั อยำ่ งเหตุกำรณ์ท่ีเกิดข้ึนในองคก์ ำรนำ ซ่ำ (NASA) ซ่ึงเป็นผลเสียท่ีเกิดจำกกำรนำเสนอที่ไร้ประสิทธิภำพ โดย เขำเล่ำวำ่ ▪ ทกั ษะในกำรนำเสนอท่ีไม่เก่งของวศิ วกรจำกองคก์ รหน่ึงผนวกกบั เพำเวอร์พอยท์ ท่ีอดั แน่น ไปดว้ ยขอ้ มูล ทำใหผ้ บู้ ริหำรของนำซ่ำไม่สำมำรถเช่ือและเขำ้ ใจวำ่ กระสวยอวกำศโคลมั เบียมี ควำมเสี่ยงดำ้ นเทคนิค ในท่ีสุดกระสวยอวกำศโคลมั เบียกป็ ระสบอุบตั ิเหตุข้ึน เมื่อวนั ที่ 1 กมุ ภำพนั ธ์ ค.ศ. 2003 เป็นเหตุใหน้ กั บินอวกำศท้งั เจด็ คนตอ้ งเสียชีวติ ▪ ท้งั น้ีหำกวศิ วกรจำกบริษทั ดงั กล่ำวมีทกั ษะในกำรนำเสนอที่ดีและใชเ้ พำเวอร์พอยท์ ที่สื่อ ควำมไดอ้ ยำ่ งมีประสิทธิภำพแลว้ โศกนำฏกรรมคร้ังน้นั อำจจะไม่เกิดข้ึน ❖ฉะน้นั กำรเขำ้ ใจหลกั กำรออกแบบและใชเ้ พำเวอร์พอยท์ เพือ่ กำรนำเสนอ อยำ่ งมีประสิทธิภำพ จึงเป็นทกั ษะพ้นื ฐำนทจ่ี ำเป็นสำหรับผปู้ ฏิบตั ิงำน เพอื่ ใหง้ ำนสำเร็จลุล่วงตำมเป้ำหมำยและกำ้ วหนำ้ ต่อไปในอำชพี 6 (เกรียงศกั ด์ิ นิรัติพฒั นะศยั , 2550)

1. โครงเรื่อง (Outlines) ◼ ออกแบบสไลดท์ ่ี 1 และท่ี 2 เป็นสไลดน์ า • สไลดท์ ่ี 1 : ช่ือเร่ือง, ชื่อผนู้ าเสนอ • สไลดท์ ี่ 2 : เป็นวตั ถปุ ระสงค์ หรือหวั ขอ้ การนาเสนอ สไลด์ท่ี 1 สไลด์ที่ 2 7

1. โครงเรื่อง (Outlines) ◼ การวางโครงเร่ือง สไลด์ท่ี 1 : ชื่อเรื่อง, ช่ือผนู้ าเสนอ สไลด์ที่ 2 : วตั ถุประสงคก์ ารนาเสนอ *สไลด์ที่ 3 : หวั ขอ้ ท่ีจะนาเสนอ/บรรยาย สไลด์ถัดมา: เน้ือหาท่ีเรียงตามลาดบั หวั ขอ้ สไลด์รองสุดท้าย : การสรุป หรือ ซกั ถาม สไลด์สุดท้าย : เอกสารอา้ งอิง 8

ตวั อย่างการกาหนดหัวข้อสาคญั ของสไลด์ ❖หวั ขอ้ เรื่อง :กำรพฒั นำคูม่ ือกำรฝึกอบรมกำรวจิ ยั เพอ่ื พฒั นำ พ้นื ท่ีสำหรับบุคลำกรมหำวทิ ยำลยั ❖หวั ขอ้ สำคญั ▪ กำรฝึกอบรม ▪ กำรพฒั นำคู่มือ ▪ กำรวจิ ยั เพอื่ พฒั นำพ้ืนท่ี ▪ งำนวจิ ยั ท่ีเก่ียวขอ้ ง 9

การพฒั นาคู่มือการฝึกอบรมการวจิ ยั เพ่อื พฒั นาพ้นื ที่ สาหรับบุคลากรมหาวทิ ยาลยั การ การพฒั นา การวจิ ยั เพื่อ งานวิจยั ฝึ กอบรม คูม่ ือ พฒั นาพ้ืนที่ ที่เก่ียวขอ้ ง 1.1 1.2 1.3 2.1 2.2 2.3 3.1 3.2 3.3 ในประเทศ ต่าง ประเทศ 1.1.1 1.1.2 1.1.3 10

1. โครงสร้างของสไลด์ (Slide Structure) โครงสร้างของสไลด์ โครงสร้างสไลด์ โครงสร้างสไลด์ ที่ดี ที่ไม่ดี 11

1. โครงสร้างของสไลด์ (Slide Structure) ◼ โครงสร้างของสไลดท์ ี่ดี • จะตอ้ งเนน้ แนวคิด “หน่ึงสไลด์ ต่อหนึ่งความคดิ ” • มีการสรุปประเดน็ หรือสาระสาคญั โดยอยภู่ ายใต้ เกณฑค์ วบคุม 3 ประการ คือ 12

1. โครงสร้างของสไลด์ (Slide Structure) ◼ เกณฑค์ วบคุม 3 ประการ • Works ตอ้ งสามารถสื่อความหมายไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว • Organizes จดั ลาดบั เน้ือหาเป็นระเบียบดูง่าย ไม่สบั สน • Attracts ตอ้ งสะดุดตา น่าสนใจ 13

1. โครงสร้างของสไลด์ (Slide Structure) ◼ โครงสร้างของสไลดท์ ด่ี ี ▪ ใชส้ ไลด1์ -2 สไลดใ์ นการนาเสนอต่อ 1 นาที ▪ เสนอเฉพาะจุดสาคญั ไม่ตอ้ งใชป้ ระโยคเตม็ ▪ แต่ละรายการควรจบในบรรทดั เดียวกนั อยรู่ ะหวา่ ง 6-8 คา ในภาษาองั กฤษ หรือไม่เกิน 10 คาในภาษาไทย ▪ นาเสนอรายการส้นั ๆ (Bullet Point) ทีละบรรทดั 14

1. โครงสร้างของสไลด์ (Slide Structure) ◼ โครงสร้างของสไลดท์ ด่ี ี ◼ เน้ือหาในแต่ละสไลดไ์ ม่ควรเกิน 6 รายการ ในแต่ละหนา้ ◼ หากเป็นบรรทดั กไ็ ม่ควรเกิน 8-10 บรรทดั ในแต่ละสไลด์ 1 2 3 4 5 6 7 15

1. โครงสร้างของสไลด์ (Slide Structure) ◼ โครงสร้างของสไลดท์ ดี่ ี ◼ หากไม่สามารถหลีกเล่ียงได้ ใหใ้ ชเ้ ทคนิคการเนน้ Main idea ของแต่ละรายการ หรือในยอ่ หนา้ ดว้ ยสีที่โด่ดเด่น 16

1. โครงสร้างของสไลด์ (Slide Structure) ◼ โครงสร้างของสไลดท์ ด่ี ี 17 เน้ือหาตน้ ฉบบั เน้ือหาท่ีนาเสนอในลกั ษณะส่ือ

1. โครงสร้างของสไลด์ (Slide Structure) ◼ โครงสร้างของสไลดท์ ด่ี ี • ออกแบบเน้ือหาอยภู่ ายในกรอบนาเสนอ • สาหรับเน้ือหาที่สาคญั จะตอ้ งอยภู่ ายในพ้ืนท่ีใชง้ าน 18

ระยะหา่ งจากขอบประมาณ 1 น้ิว ระยะหา่ งจากขอบ ขนาดของพ้นื ท่ใี ชง้ าน ระยะหา่ งจากขอบ ประมาณ 2 น้ิว ประมาณ 2 น้ิว ระยะหา่ งจากขอบ19ประมาณ 1 น้ิว

1. โครงสร้างของสไลด์ (Slide Structure) ◼ โครงสร้างของสไลดท์ ี่ไม่ดี • ในหน่ึงหนา้ มีเน้ือหาสาระมากเกินไป • ความเร็วในการนาเสนอไม่สมั พนั ธ์การการนาเสนอเน้ือหา • ใชก้ ารนาเสนอแบบเคลื่อนไหวที่ไม่เหมาะสม ผู้ฟังต้องใช้ความพยายามและใช้เวลามากในการอ่านพร้อมๆ กบั การฟังการนาเสนอของผู้นาเสนอในเวลาเดยี วกนั 20

ประวตั ิความเป็ นมาของเขตรักษาพนั ธ์สัตว์ห้วยขาแข้ง กรมป่ าไมไ้ ดเ้ ขา้ ไปดาเนินการ เพอื่ จดั การป่ าหว้ ยขาแขง้ ใหเ้ ป็นเขตรักษาพนั ธุ์ สตั วป์ ่ ามาต้งั แต่ปี พ.ศ. 2508 แต่ในเวลาน้นั ทางราชการไม่สนบั สนุนใหม้ ีการจดั ต้งั เขต รักษาพนั ธุ์สัตวป์ ่ าเขตรักษาพนั ธุ์ สตั วป์ ่ า จนกระทงั่ ถึงปี พ.ศ.2515 เมื่อนโยบายทาง ราชการเปล่ียนแปลงไป จึงไดม้ ีการดาเนินการอยา่ งจริงจงั ดว้ ยออกพระราชกฤษฎีกา กาหนดป่ าหว้ ยขาแขง้ ใหเ้ ป็นเขตรักษาพนั ธุ์สัตวป์ ่ าตาม กฎหมาย โดยประกาศของคณะ ปฏิวตั ิฉบบั ท่ี 201 ลงวนั ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2515 ต่อมาเม่ือวนั ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ.2529 ไดม้ ี พระราชกฤษฎีกาขยายเขตเพิ่ม เน้ือท่ีใหม้ ากข้ึน สืบเน่ืองมาจากความอุดมสมบูรณ์ของป่ าไมแ้ ละสัตวป์ ่ าจนเป็นที่ ยอมรับของนกั วจิ ยั ชาวไทยและ ชาวตา่ งประเทศวา่ เป็นพ้นื ที่ป่ า อนุรักษข์ นาดใหญ่ มี ความหลากหลายของพนั ธุ์สตั วแ์ ละพรรณพืช ดงั น้นั ในปี พ.ศ.2534 เขตรักษาพนั ธุ์สัตว์ ป่ าหว้ ยขาแขง้ รวมกบั เขต รักษาพนั ธุ์สตั วป์ ่ าทุ่งใหญ่นเรศวรจึงไดร้ ับการข้ึนทะเบียน เป็นพ้นื ท่ีมรดก ทางธรรมชาติของโลก โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ มรดกโลก ตวั อยา่ งในการประชุมคร้ังท่ี 15 ณ เมืองคาร์เถจ ประเทศตูนีเซีย 21

ประวตั ิความเป็ นมาของเขตรักษาพนั ธ์สัตว์ห้วยขาแข้ง ▪ เป็นเขตรักษาพนั ธุ์สตั วป์ ่ ามาต้งั แต่ปี พ.ศ. 2508 ▪ ประกาศของคณะปฏิวตั ิฉบบั ท่ี 201 ลงวนั ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2515 ออกพระราชกฤษฎีกากาหนดใหเ้ ป็นเขตรักษาพนั ธุ์ สตั วป์ ่ าตามกฎหมาย ▪ พ.ศ.2534 ไดร้ ับการข้ึนทะเบียนเป็นพ้ืนท่ีมรดก ทาง ธรรมชาติของโลก ในการประชุมคร้ังท่ี 15 ณ เมืองคาร์เถจ ประเทศตูนีเซีย ตวั อยา่ ง 22

1. โครงสร้างของสไลด์ (Slide Structure) ◼ โครงสร้างของสไลดท์ ไี่ ม่ดี • การใชก้ ารแสดงผลพิเศษ (Effect) ที่มากเกินไป ทา ใหด้ ูไม่น่าเชื่อถือ และน่าราคาญ • อยา่ ให้ Effect ขโมยซีน ผนู้ าเสนอคือศูนยก์ ลางความ สนใจไม่ใช่ Effect ท่ีมากจนเกินพอดี 23

วัตถุประสงค์ 1. เพื่อการจดั การส่ิงแวดลอ้ มภายในบริเวณวดั เสริมสร้างศกั ยภาพ พ้นื ที่ในการรองรับสาหรับการท่องเท่ียว 2. เพื่อที่จะได้รับความร่วมมือจากชุมชน องค์กรปกครองส่วน ทอ้ งถ่ินและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวขอ้ ง 3. เพื่อเป็ นการฟ้ื นฟู บูรณะ โบราณสถาน โบราณวตั ถุ รวมไปถึง ศิลปกรรม 4. เพ่ือการอนุรักษอ์ ยา่ งเห็นคุณค่าของโบราณสถานภายในบริเวณวดั ตวั อยา่ ง 24

2. แบบและขนาดตวั อกั ษร (Fonts) ◼ การเลือกใชต้ วั อกั ษรอยา่ งเหมาะสม • เลือกใชร้ ูปแบบตัวอกั ษรทมี่ หี ัวเพอื่ ใหอ้ า่ นง่าย • ไม่ควรใชต้ วั อกั ษรเกิน 2 แบบในแต่ละ สไลด์ • ใช้แบบตวั อกั ษรมาตรฐาน เช่น Angsana New สาหรับ ภาษาไทย หรือ Times New Roman สาหรับภาษาองั กฤษ ตวั อยา่ งอกั ษรแบบท่ี 1 - sample text ตวั อยา่ งอกั ษรแบบที่ 2 - sample text 25

2. แบบและขนาดตวั อกั ษร (Fonts) ◼ การเลือกใชต้ วั อกั ษรอยา่ งเหมาะสม • ใชล้ กั ษณะพเิ ศษของตวั อกั ษร เพอ่ื แบ่งแยกหรือเนน้ เน้ือหา เช่น การขีดเส้นใต้ ใส่เงาตวั อกั ษร ตัวเอียง อกั ษรตวั เอียง จะใชก้ ต็ ่อเมื่อ... • ใชเ้ พอ่ื เขียน “อ้างอิง” • ใชเ้ พ่ือเน้นเน้ือหา • ใชเ้ ขียนชื่อหนงั สือ วารสาร นิตยสาร • ใชเ้ ม่ือกล่าวถึงขอ้ ความหรือคาพดู ของผอู้ ่ืน 26

2. แบบและขนาดตวั อกั ษร (Fonts) ◼ การเลือกใชต้ วั อกั ษรอยา่ งเหมาะสม • ไม่ควรใชข้ อ้ ความภาษาองั กฤษแบบตวั ใหญ่ท้งั หมด (Capitalize) เพราะจะอ่านไดย้ าก LOVE IS A WAR, EASY TO START BUT VERY HARD TO STOP. Love is a war, easy to start but very hard to stop. 27

2. แบบและขนาดตวั อกั ษร (Fonts) ❖ตวั พมิ พใ์ หญ่ ▪ใชเ้ ฉพาะ คายอ่ ▪ไม่ควรใชเ้ นน้ คา 28

2. แบบและขนาดตวั อกั ษร (Fonts) ◼ การเลือกใชต้ วั อกั ษรอยา่ งเหมาะสม • ควรใชต้ วั อกั ษรขนาดใหญ่เพือ่ ใหม้ องเห็นไดง้ ่าย โดยใชป้ ระมาณ 36-50 พอยต์ (Point) สาหรับเน้ือหา และ 54-60 พอยต์ สาหรับหวั ขอ้ เรื่อง - ตวั อกั ษรขนาดใหญ่ สาหรับหวั ขอ้ หลกั - ตวั อกั ษรขนาดกลาง สาหรับหวั ขอ้ รอง - ตวั อกั ษรขนาดเล็ก สาหรับเน้ือความ 29

ผลกระทบ 28 pt 20 pt • พ้ืนท่ีป่ าลดลง • ถ่ินที่อยอู่ าศยั ของพืชสตั วถ์ ูกเบียดเบียน • สตั วป์ ่ าบางชนิดสูญพนั ธุ์ และสตั วป์ ่ าอีกหลายชนิดอยใู่ นสถานภาพใกลจ้ ะสูญพนั ธุ์ • เกิดความขดั แยง้ ระหวา่ งคนกบั สตั วป์ ่ า • สตั วบ์ างชนิดไม่สามารถเอาตวั รอดไดใ้ นสภาพป่ าท่ีเปล่ียนแปลง • สตั วบ์ างชนิดเกิดการผสมในกลุ่มเดียวกนั ทาใหส้ ายพนั ธุ์อ่อนแอ ตวั อยา่ ง 30

ผลกระทบ 54 pt • พ้ืนท่ีป่ าลดลง • ถ่ินท่ีอยอู่ าศยั ของพชื สตั วถ์ ูกเบียดเบียน • สตั วป์ ่ าบางชนิดสูญพนั ธุ์ และสตั วป์ ่ าอีกหลายชนิดอยใู่ น 36 pt สถานภาพใกลจ้ ะสูญพนั ธุ์ • เกิดความขดั แยง้ ระหวา่ งคนกบั สตั วป์ ่ า • สตั วบ์ างชนิดไม่สามารถเอาตวั รอดไดใ้ นสภาพป่ าท่ีเปลี่ยนแปลง • สตั วบ์ างชนิดเกิดการผสมในกลุ่มเดียวกนั ทาใหส้ ายพนั ธุ์อ่อนแอ ตวั อยา่ ง 31

3. สี (Color) และพ้ืนหลงั (Background) ◼ การเลือกใชส้ ีตวั อกั ษรอยา่ งเหมาะสม • การใชส้ ีตวั อกั ษรเพอื่ เนน้ ความแตกต่าง ไม่ควรใชส้ ีมากเกินไป • ใชส้ ีตวั อกั ษรตดั กบั พ้นื หลงั เช่น ตวั อกั ษรสีน้าเงินบนพ้นื หลงั สีขาว In every beginning think of the end ในการเร่ิมตน้ ทุกคร้ัง จงคิดถึงจุดจบดว้ ย 32

3. สี (Color) และพ้ืนหลงั (Background) ◼ การเลือกใชส้ ีตวั อกั ษรท่ีไม่เหมาะสม • ใชส้ ีตวั อกั ษรที่ไม่ตดั กบั พ้ืนหลงั ท่ียากต่อการอ่าน It takes two flints to make a fire. ตอ้ งใชห้ ินถึง 2 กอ้ นถึงจะเกิดไฟได้ • สร้างสรรคแ์ ต่ไม่น่าสนใจ (Trying to be creative can also be bad) การใชส้ ีเพ่ือการตกแต่งมากเกินไป นอกจากทาใหเ้ สียเวลาใน การผลิตแลว้ ยงั จะทาใหน้ ่าราคาญต่อการอ่านดว้ ย 33

3. สี (Color) และพ้ืนหลงั (Background) ◼ วงลอ้ สี Yellow on Blue 34

ตัวอย่างการใช้แถบสีแบ่งบรรทัด นายพงษศ์ กั ด์ิ วิทยเกียรติ นกั เทคโนโลยกี ารศึกษา 2 พ.ย. 2535 นายณรงค์ สุบงกช นกั เทคโนโลยกี ารศึกษา 13 พ.ค. 2536 นางปพชิ ญา สุกหอม พ.บริการโสตทศั นูปกรณ์ 20 พ.ค. 2536 นางศศิธร ครองสวสั ด์ิกลุ พ.บริการโสตทศั นูปกรณ์ 1 พ.ย. 2536 นายประพนั ธ์ พนั ธุ์อนุกลู นกั เทคโนโลยกี ารศึกษา 16 มี.ค. 2537 นายชยั สิทธ์ิ เปล่งวฒุ ิไกร นกั เทคโนโลยกี ารศึกษา 20 ก.ค. 2537 นายทวศี กั ด์ิ ชานิพงษ์ พ.บริการโสตทศั นูปกรณ์ 3 ม.ค. 2538 ตวั อยา่ ง 35

ตัวอย่างการใช้แถบสีแบ่งบรรทัด นายพงษศ์ กั ด์ิ วทิ ยเกียรติ นกั เทคโนโลยกี ารศึกษา 2 พ.ย. 2535 นายณรงค์ สุบงกช นกั เทคโนโลยกี ารศึกษา 13 พ.ค. 2536 นางปพชิ ญา สุกหอม พ.บริการโสตทศั นูปกรณ์ 20 พ.ค. 2536 นางศศิธร ครองสวสั ด์ิกลุ พ.บริการโสตทศั นูปกรณ์ 1 พ.ย. 2536 นายประพนั ธ์ พนั ธุ์อนุกลู นกั เทคโนโลยกี ารศึกษา 16 มี.ค. 2537 นายชยั สิทธ์ิ เปล่งวฒุ ิไกร นกั เทคโนโลยกี ารศึกษา 20 ก.ค. 2537 นายทวศี กั ด์ิ ชานิพงษ์ พ.บริการโสตทศั นูปกรณ์ 3 ม.ค. 2538 ตวั อยา่ ง 36

3. สี (Color) และพ้ืนหลงั (Background) ◼ การเลือกใชพ้ ้นื หลงั อยา่ งเหมาะสม • ใชพ้ ้นื หลงั แบบใดแบบหน่ึงคงที่ในการนาเสนอสไลดแ์ ต่ละชุด • สีของพ้ืนหลงั ตอ้ งตดั กบั ตวั อกั ษร • ควรใชพ้ ้นื หลงั สีเขม้ กบั หอ้ งที่มีผฟู้ ังนง่ั ไม่เกิน 6 เมตร หาก ไกลกวา่ น้นั ไม่ควรใช้ (ใชส้ ีสวา่ งแทน) • พ้นื หลงั ซ่ึงมีลวดลายไม่ควรใชท้ ี่มีลายเยอะจนเกินไป 37

3. สี (Color) และพ้นื หลงั (Background) ◼ การเลือกใชพ้ ้ืนหลงั อยา่ งเหมาะสม • การใชพ้ ้ืนหลงั ที่เป็นรูปภาพปรับความเขม้ -ความสวา่ งของ พ้นื หลงั หรือ ใชก้ รอบสีเขา้ มาช่วยเพอ่ื ใหม้ องเห็นตวั อกั ษรได้ ชดั เจนข้ึน 38

3. สี (Color) และพ้นื หลงั (Background) ❖ตวั หนงั สือขาวบนพ้ืนดา จะไม่ดีสาหรับหอ้ งขนาดใหญ่ ผฟู้ ังหลงั หอ้ งไกลกวา่ ๖ เมตร ❖อยา่ ใชฟ้ อนตส์ ีเขม้ บนพ้ืนเขม้ ❖อยา่ ใชฟ้ อนตส์ ีออ่ นบนพ้ืนสีอ่อน ❖อยา่ ใส่สีพ้ืนอ่อนในหอ้ งมืด ❖แสงจากฉากหลงั สีขาวมีพลงั งานมากกวา่ แสงจาก ตวั หนงั สือสีขาว 39

ภาพพ้ืนหลงั ที่ไม่ไดท้ าการแกไ้ ข 40

ภาพพ้ืนหลงั ท่ีแกไ้ ขใหส้ วา่ งข้ึน 41

ภาพพ้ืนหลงั ที่แกไ้ ขใหเ้ ขม้ ข้ึน 42

ภาพพ้นื หลงั ท่ีไม่แกไ้ ข แต่ใส่กรอบสีรอบบริเวณตวั อกั ษร 43

พืน้ หลงั ทไ่ี ม่น่าสนใจ (Background – Bad) ❖เล่ียงการใชพ้ ้นื หลงั ท่ียากต่อการอ่านสไลดแ์ ละไม่ น่าสนใจ 44

4. งานกราฟฟิ ค (Graphics) • สุภาษิตจีนบอกไวว้ า่ “ภาพหน่ึงภาพบอกไดม้ ากกวา่ คาพดู หมื่นคา” • ควรเปล่ียนขอ้ ความใหเ้ ป็นรูปภาพหรือ รูปแบบอื่นที่ น่าสนใจเพอื่ ช่วยใหเ้ ขา้ ใจไดง้ ่ายข้ึน เช่น แผนภูมิ แผนภาพ ตารางแสดงสถิติ 45

4. งานกราฟฟิ ค (Graphics) ❑ หลกั ในการเลือกใชร้ ูปภาพในการนาเสนอ • การแทรกรูปภาพ ภาพควรมีความสมั พนั ธ์กบั เน้ือหา • ไม่ควรใชภ้ าพ Clipart ปนกบั Photo • ไม่ควรใชภ้ าพการ์ตูนเคลื่อนไหว (.gif) 46

ทุเรียน • ทุเรียน เป็นไมผ้ ลในวงศฝ์ ้าย (Malvaceae) ในสกลุ ทเุ รียน (Durio) เป็นผลไมซ้ ่ึงไดช้ ่ือวา่ เป็นราชาของผลไม้ • ผลทุเรียนมีขนาดใหญ่และมีหนามแขง็ ปกคลุมทว่ั เปลือก อาจมี ขนาดยาวถึง 30 ซม. และอาจมีเส้นผา่ ศูนยก์ ลางยาวถึง 15 ซม. โดยทว่ั ไปมีน้าหนกั 1-3 กิโลกรัม ผลมีรูปรีถึงกลม เปลอื กมีสีเขียว ถึงน้าตาล เน้ือในมีสีเหลืองซีดถึงแดง แตกต่างกนั ไปตามสปี ชีส์ ตวั อยา่ ง 47

ทุเรียน • ทุเรียน เป็นไมผ้ ลในวงศฝ์ ้าย (Malvaceae) ในสกลุ ทเุ รียน (Durion) เป็นผลไมซ้ ่ึงไดช้ ่ือวา่ เป็นราชาของผลไม้ ตวั อยา่ ง 48

ทุเรียน • ทุเรียน เป็นไมผ้ ลในวงศฝ์ ้าย (Malvaceae) ในสกลุ ทเุ รียน (Durion) เป็นผลไมซ้ ่ึงไดช้ ่ือวา่ เป็นราชาของผลไม้ ตวั อยา่ ง 49

4. งานกราฟฟิ ค (Graphics) ❑ การแทรกแผนภูมิกราฟ และตาราง สิ่งท่ีไม่เหมาะสม ◼ ใชพ้ ้นื หลงั แบบตารางโดยไม่จาเป็น ◼ ตวั อกั ษรขนาดเลก็ เกินไป และมากเกินไป ◼ สีที่ใชย้ ากในการอ่าน ◼ ขาดหวั เรื่อง ◼ ใหเ้ งาแบบที่ไม่น่าสนใจ 50