Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore OPSPlan59Report

OPSPlan59Report

Published by s_ec0835, 2020-03-16 03:37:40

Description: OPSPlan59Report

Search

Read the Text Version

36 เกณฑ์การประเมินความโปร่งใสท้ัง 4 มิติ 13 ตัวชี้วัด ที่สานักงาน ก.พ. กาหนด ซึ่งสามารถดาเนินการได้ คิดเปน็ รอ้ ยละ 99.6 สรุปไดว้ า่ สามารถดาเนินการบรรลเุ ป้าหมายท่ีกาหนดไว้ 1.2.6 การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดาเนินงานท่ีมีคุณธรรมและความโปร่งใส ของหน่วยงานในสังกัดสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดาเนินการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสการดาเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment–ITA) ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕9 ตามข้ันตอนและกระบวนการ ที่สานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สานักงาน ป.ป.ท.) ซ่ึงผลการประเมิน คุณธรรมและความโปร่งใสโดยภาพรวมได้คะแนนเท่ากับร้อยละ 77.84 สรุปได้ว่ายังไม่สามารถดาเนินการ บรรลุเปา้ หมายทกี่ าหนดไว้ ตาราง 4 ผลการบรรลุเปา้ ประสงค์ที่ 1 หน่วยงานมรี ะบบบริหารจัดการที่มีประสิทธภิ าพตามหลักธรรมาภิบาล ตัวชว้ี ัดเปา้ ประสงค์ ค่าเป้าหมาย ผลการดาเนินงาน ผลการบรรลุ ทีเ่ กิดข้นึ เป้าประสงค์ 1. จานวนนโยบายและแผนท่ีนาไปสู่ 8 8 บรรลุ การปฏบิ ตั ิ แผน แผน 2. จานวนรายงานผลการติดตาม 13 N/A N/A ประเมนิ ผลการดาเนนิ งานตามนโยบาย ฉบับ ยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ ในพ้นื ที่ 3. จานวนโครงการ/กิจกรรมความ 27 38 บรรลุ ร่วมมือดา้ นการศึกษากับตา่ งประเทศ โครงการ/กจิ กรรม โครงการ/กจิ กรรม 4. ร้อยละของหนว่ ยงานในสังกดั สป. ร้อยละ 90 ร้อยละ 96.05 บรรลุ เบกิ จ่ายงบประมาณเป็นไปตาม เปา้ หมาย 5. รอ้ ยละความคดิ เห็นในการประเมิน รอ้ ยละ 80 ร้อยละ 99.6 บรรลุ มาตรฐานความโปร่งใสในระดับดขี น้ึ ไป 6. ร้อยละของหน่วยงานในสงั กัด สป. ร้อยละ 90 ร้อยละ 77.84 ไมบ่ รรลุ มีการดาเนนิ งานท่มี ีคณุ ธรรมและ ความโปร่งใส

37 กล่าวโดยสรุปแล้ว เป้าประสงค์ท่ี 1 หน่วยงานมีระบบบริหารจัดการท่ีมีประสิทธิภาพตามหลัก ธรรมาภิบาล มีผลการดาเนินงานที่บรรลุเป้าประสงค์ตามตัวชี้วัดท่ีกาหนดข้ึน จานวน 4 ตัวช้ีวัด ไม่สามารถ ดาเนินการบรรลุเป้าประสงค์ จานวน 1 ตัวชี้วัด และไมส่ ามารถตดิ ตามผลการดาเนินงานตามตวั ช้ีวัดเนื่องจาก เกิดการเปล่ียนแปลงตามคาสง่ั หวั หนา้ คณะรกั ษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2559 จานวน 1 ตวั ช้ีวดั 1.3 ผลการดาเนนิ งานที่สาคญั สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ดาเนินโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีความสอดคล้อง และสนองตอบตอ่ เป้าประสงค์ที่ 1 ดงั น้ี 1.3.1 การยกร่างแผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) ดาเนินการวางแผนระยะกลางเพื่อพัฒนาการศึกษาให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ฉบับท่ี 12 ในการจัดทาร่างแผนพัฒนาการศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) ได้กาหนดวิสัยทัศน์ไว้ว่า “มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้คู่คุณธรรม มีคุณภาพชีวิตท่ีดี มีความสุข ในสังคม” ประกอบด้วย 6 ยทุ ธศาสตร์ ได้แก่ (1) ยุทธศาสตร์พัฒนาหลักสูตร กระบวนการเรียนการสอน การ วดั และประเมินผล (2) ยุทธศาสตร์ผลติ พฒั นาครู คณาจารย์และบคุ ลากรทางการศึกษา (3) ยุทธศาสตร์ผลิต และพัฒนากาลงั คน รวมท้ังงานวิจยั ท่ีสอดคล้องกบั ความต้องการของการพัฒนาประเทศ (4) ยทุ ธศาสตรข์ ยาย โอกาสการเข้าถึงบริการทางการศึกษาและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต (5) ยุทธศาสตร์ส่งเสริมและ พฒั นาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเพือ่ การศกึ ษา และ (6) ยุทธศาสตร์พัฒนาระบบบรหิ ารจัดการและส่งเสริมให้ทุก ภาคสว่ นมีสว่ นรว่ มในการจัดการศกึ ษา 1.3.2 ความรว่ มมอื ด้านการศึกษากับต่างประเทศ มกี ารดาเนนิ โครงการ/กิจกรรมสาคัญดงั นี้ 1) การอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการพัฒนาทักษะและการสอนภาษาฝร่ังเศสสาหรับครู ภาษาฝรั่งเศส ประจาปี 2558 ได้ดาเนินความร่วมมอื กับมูลนิธกิ ารศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม และโรงเรียน Ecole Nouvelle de la Suisse Romande (ENSR) ประเทศสวติ เซอร์แลนด์ โดยใหก้ ารสนบั สนุนผู้เชีย่ วชาญ ในการจัดอบรมพัฒนาเทคนิคการจดั การเรียนการสอน การจัดกจิ กรรมสง่ เสริมการเรียนการสอนภาษาฝรั่งเศส รวมทั้งการผลิตส่ือการเรียนการสอนภาษาฝร่ังเศส ให้แก่ครูผู้สอนวิชาภาษาฝร่ังเศสของประเทศไทย จานวน 18 คน ซ่ึงผลของการฝึกอบรมดังกล่าวทาให้ครูผู้สอนวชิ าภาษาฝร่ังเศสของไทยได้รับการพัฒนาประสทิ ธิภาพ ในการจดั การเรยี นการสอน อนั จะสง่ ผลต่อผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนวชิ าภาษาฝร่งั เศสของผูเ้ รียน 2) โครงการอาสาสมัครช่วยสอนภาษาต่างประเทศ ได้ดาเนินความร่วมมือกับหน่วยงาน/ องค์กรระหว่างประเทศ ได้แก่ บริติช เคานซิล สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส สถานเอกอัครราชทูตเยอรมัน สถานเอกอัครราชทูตญ่ีปุ่น และสถานบันการศึกษาในสาธารณรัฐประชาชานจีน เพื่อดาเนินโครงการ อาสาสมัครสอนภาษาต่างประเทศ เข้ามาช่วยสอนภาษาให้นักเรียนและครูได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะด้าน

38 ภาษา ซ่ึงมีจานวนอาสาสมัครผู้ช่วยสอนภาษาต่างประเทศท่ีเข้ามาปฏิบัติหน้าที่รวม 192 คน โดยปฏิบัติ หนา้ ทีใ่ นสถานศกึ ษา จานวน 151 แห่ง ดงั นี้  ดาเนนิ โครงการผชู้ ว่ ยภาษาอังกฤษ ร่วมกับ บรติ ชิ เคานซิล โดยมีนักศึกษาสมัครเข้า มาปฏิบตั หิ น้าท่ี จานวน 92 คน มสี ถานศึกษาเขา้ ร่วมโครงการ จานวน 56 แห่ง  ดาเนินโครงการร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตฝร่ังเศส โดยมีนักศึกษาสมัครเข้ามา ปฏิบัตหิ นา้ ท่ี จานวน 14 คน มสี ถานศึกษาเข้าร่วมโครงการจานวน 14 แหง่  ดาเนินโครงการผู้ช่วยสอนภาษาเยอรมัน ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตเยอรมัน โดย มนี กั ศกึ ษาสมคั รเข้ามาปฏบิ ตั ิหน้าท่ี จานวน 10 คน มสี ถานศึกษาเข้าร่วมโครงการ จานวน 10 แหง่  ดาเนินโครงการผู้ช่วยสอนภาษาจีน ร่วมกับมหาวิทยาลัยกุ้ยโจว มีนักศึกษาสมัคร เข้ามาปฏบิ ัตหิ น้าท่ี จานวน 16 คน มีสถานศึกษาเขา้ รว่ มโครงการ จานวน 11 แห่ง  ดาเนินโครงการผชู้ ่วยสอนภาษาญีป่ ่นุ ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตญีป่ ุ่น มีนักศึกษา สมคั รเขา้ มาปฏบิ ตั หิ น้าท่ี จานวน 60 คน มสี ถานศึกษาเขา้ ร่วมโครงการ จานวน 60 แหง่ 3) โครงการสานสัมพันธ์เพื่อนบ้าน ดาเนินการจัดฝึกอบรมให้แก่บุคลากรจากประเทศ เพ่ือนบา้ น รวมจานวน 115 คน ใน 2 หลกั สูตร โดยมอบหมายให้หนว่ ยงานท่ีเกี่ยวข้องเปน็ ผดู้ าเนนิ การ ไดแ้ ก่  มหาวิทยาลยั ราชภัฏเชยี งราย ดาเนินการจดั ฝึกอบรมอาชพี (หลักสตู รการท่องเท่ยี ว) ใหแ้ ก่ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จานวน 20 คน  มหาวิทยาลยั ราชภัฏกาแพงเพชร วทิ ยาเขตแม่สอด ดาเนนิ การจัดฝกึ อบรมหลักสูตร ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารเบ้ืองต้นให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ จานวน 50 คน  มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ดาเนินการจัดฝึกอบรมหลักสูตรภาษาไทยเพื่อการส่ือสาร เบ้ืองต้นให้แกบ่ ุคลากรทางการศึกษาจากราชอาณาจักรกัมพูชา จานวน 25 คน  สานักงานศึกษาธิการภาค 8 ฝึกอบรมหลักสูตรภาษาไทยเพื่อการสื่อสารเบื้องต้น ให้แก่ครูและบุคลากรทางการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการประเทศมาเลเซีย จานวน 20 คน 4) โครงการค่ายเยาวชนไทย – จีน เฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 40 ปี จัดข้ึนระหว่างวันที่ 15 – 21 มีนาคม 2559 โดยกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ดาเนินการโดยได้รับการ สนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงการต่างประเทศ มีผู้เข้าร่วมโครงการทง้ั ส้ินจานวน 190 คน ประกอบด้วย เยาวชนจากประเทศจีน จานวน 70 คน ครูชาวจีน จานวน 25 คน เยาวชนไทย จานวน 74 คน และครูชาวไทย จานวน 21 คน 5) โครงการค่ายเยาวชนไทย – สิงคโปร์ เป็นการดาเนินโครงการภายใต้กรอบความ ร่วมมือระหว่างหน่วยงานข้าราชการพลเรือนไทย – สิงคโปร์ (Singapore – Thailand Civil Service Exchange Programme: CSEP) ซึ่งในปีงบประมาณ 2559 ประเทศสิงคโปร์ได้เป็นเจ้าภาพจัดโครงการดังกล่าว โดยมี วตั ถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างเยาวชนไทย – สิงคโปร์ รวมท้ังเพ่ือแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม

39 ระหว่างกัน ผู้เข้าร่วมโครงการประกอบด้วยนักเรียน และครูจากโรงเรียนเครือข่าย จาก 10 โรงเรียน รวม 119 คน เข้าร่วมโครงการ กิจกรรม ประกอบด้วย กิจกรรมละลายพฤติกรรมระหว่างนักเรียนไทย – สิงคโปร์ กิจกรรมกลุ่มยอ่ ยเสริมสร้างความรู้ ทัศนศึกษา ณ สวนพฤกษศาสตร์ การเย่ยี มชมหอศลิ ป์ National Gallery Singapore และการแสดงเพื่อแลกเปล่ียนวฒั นธรรมของนักเรียนไทย และสิงคโปร์ กจิ กรรม Home stay ณ Dairy Farm Adventure Centre (DFAC) 6) การเย่ียมคารวะ ในระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 มีหน่วยงาน/องค์กรต่างประเทศ เข้าเย่ียมคารวะผู้บริหารระดับสูงจานวนรวมท้ังสิ้น 25 คณะ โดยจาแนกเป็น ระดับรัฐมนตรี จานวน 18 คณะ และระดับปลัดกระทรวง จานวน 7 คณะ อาทิเช่น คณะของ H.E. Dr. Nath Buroeun รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงการศึกษาเยาวชน และกีฬา ราชอาณาจักรกัมพูชาเข้าพบหารือในโอกาสเดินทางมาศึกษาดูงาน ด้านหลักสูตรการศึกษาของไทย คณะของผู้อานวยการ Asian Development Bank แห่งประเทศไทย (ADB) เข้าพบหารือเก่ียวกับความร่วมมือระหว่างรัฐ และเอกชน (Public-Private Partnership: PPP) เพื่อให้มีส่วนร่วม และช่วยสนับสนุนเกี่ยวกับปฏิรูปการศึกษาตลอดจนคาปรึกษาในการพัฒนาคุณภาพบุคลากร คณะของนาง หยาง ส่ิวผิง (Yang Xiuping) เลขาธิการศูนย์อาเซียน-จีน (ASEAN – China Centre : ACC) ณ กรุงปักก่ิง เข้าพบหารือการส่งเสริมการเคลื่อนย้ายนักเรียนแลกเปลี่ยนระหว่างกันซ่ึงมีเป้าหมายการเพิ่มจานวนนักเรียน แลกเปลี่ยนให้ได้ 100,000 คน ภายในปี 2563 คณะของ H.E. Mr. Noh Kwang-Il เอกอัครราชทูต สาธารณรัฐเกาหลีเข้าพบหารือความร่วมมือทางการศึกษาเก่ียวข้องกับการจัดการศึกษาด้านอาชีวศึกษา คณะของนายคิริลล์ บาร์สกี (H.E. Mr. Kirill Barsky) เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจาประเทศไทย เข้าพบหารือเก่ียวกับการสนับสนุนให้นักศึกษาไทยไปศึกษาต่อในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและ เศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะดา้ นพลังงานนวิ เคลยี ร์ เป็นต้น 7) การจัดประชุมหารือความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างไทย กับ ติมอร์ – เลสเต้ โดย กระทรวงศึกษาธิการได้เชิญผู้แทนกระทรวงศึกษาของการของสาธารณรฐั ติมอร์ – เลสเต้ เขา้ รว่ มประชุมหารือ ความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างไทยกับติมอร์ – เลสเต้ เม่ือวันที่ 5 กันยายน 2559 โดยมีปลัดกระทรวง ศึกษาธิการ เป็นประธาน และมีผู้แทนหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องเข้าร่วมประชุม ซ่ึงสรุปสาระของการประชุมได้มี การแลกเปล่ียนข้อมูลเก่ียวกับการจัดการศึกษาของไทยและสาธารณรัฐติมอร์ – เลสเต้ และพิจารณา รายละเอียดเกี่ยวกับการยกร่างบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษา โดยจะมี สาระสาคัญเก่ียวกับการแลกเปล่ียนครู อาจารย์ และผู้บริหารทุกระดับ การส่งเสริมความร่วมมือในลักษณะ โรงเรียนพี่โรงเรียนน้อง การทาวิจัยร่วม และกิจกรรมนักเรียน การรับรองวุฒิการศึกษา การพัฒนาครูและ ผู้บริหาร ทุนการศึกษา และการฝึกงานในระดับอาชีวศึกษาและเทคนิคศึกษา เป็นต้น ทั้งน้ี จะมีกลไก การดาเนินงานโดยผ่านคณะทางานร่วม (Joint Working Group)

40 8) การเจรจาต่างประเทศ ซ่ึงสามารถดาเนินการได้ 38 โครงการ/กิจกรรม โดย กระทรวงศึกษาธิการได้มีแสดงบทบาททางด้านการศึกษาในเวทีระดับโลกและระดับนานาชาติ รวมถึง การเสริมสร้างความสมั พนั ธร์ ะหว่างประเทศ การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครอื ข่ายในการพัฒนาการศึกษา ทั้งในระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ ก่อให้เกิดการเจรจาความร่วมมือเพ่ือพัฒนาการศึกษาของประเทศ ไทยกับประเทศต่างๆ อาทิเช่น การเข้าร่วมการประชุมสมัยสามัญของยูเนสโก ครั้งท่ี ๓๘ และการประชุม Leaders’ Forum ระหว่างการประชุมสมัยสามัญของยูเนสโก ครั้งที่ 38 ณ สานักงานใหญ่องค์การยูเนสโก กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส การเข้าร่วมการประชุมระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกด้านการศึกษาปี ๒๐๓๐ (Asia-Pacific Meeting on Education 2030- APMED 2030) การเข้าร่วมประชุมคณะทางานร่วม ด้านการศึกษาไทย-ออสเตรเลีย คร้ังที่ 4 (Australia-Thailand Joint Working Group on Education and Training Meeting : JWG) ณ กรงุ แคนเบอร์ร่า และนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย การเข้าร่วมประชุมระดับ โลกด้านการศึกษา ประจาปี ๒๕๕๙ (The Education World Forum 2016) การจัดประชุมเพื่อพิจารณา ทา่ ทีของประเทศไทยต่อ (ร่าง) ปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการสร้างความเข้มแข็งทางการศกึ ษาให้แกเ่ ด็กตกหล่น (ASEAN Declaration for Out-of-School Children) การเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีศึกษาอาเซียน ณ รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซยี เป็นต้น 9) การประชุมเจ้าหน้าท่ีอาวุโสด้านการศึกษาของอาเซียน ครั้งที่ 10 การประชุม เจ้าหน้าท่ีอาวุโสด้านการศึกษาของอาเซียนบวกสาม คร้ังที่ 6 และการประชุมเจ้าหน้าท่ีอาวุโสด้านการศึกษา ของการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก วาระเฉพาะ ดาเนินการจัดประชุมระหว่างวันท่ี 1 – 2 ธันวาคม 2558 โดยมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และ/หรือผู้แทนของประเทศสมาชิกอาเซียน อาเซียนบวกสาม เอเชีย ตะวันออก ผู้แทนจากสานักงานเลขาธิการซีมีโอ (SEAMEO Secretariat) สานักงานเลขานุการเครือข่าย มหาวิทยาลัยอาเซียน (ASEAN University Network : AUN) สานักงาน EU –SHARE สานักงาน GIZ สาขา เวียดนาม และสานกั งานระดบั ภูมภิ าคของ USAID เข้าร่วมการประชุม ซง่ึ สรุปสาระสาคญั ของการประชุมดังนี้  การประชุมเจ้าหน้าท่ีอาวุโสด้านการศึกษาของอาเซียน คร้ังท่ี 10 มีประเด็นสาคัญ อาทิเช่น การรับรองปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยการอุดมศึกษา (Kuala Lumper Declaration on Higher Education) การดาเนนิ ความรว่ มมอื ด้านการศกึ ษาระหวา่ งประเทศสมาชิกและกับประเทศคเู่ จรจา ไดแ้ ก่ การดาเนิน ความรว่ มมือภายใต้แผนปฏบิ ัตกิ ารดา้ นการศึกษาอาเซยี นบวกสาม (ASEAN Plus Three Plan of Action on Education) การดาเนินความร่วมมือภายใต้แผนปฏิบัติการสุดยอดเอเชียตะวันออกด้านการศึกษา (EAS Education Plan of Action) และการดาเนินความร่วมมอื ดา้ นการศึกษากับประเทศคู่เจรจา ไดแ้ ก่ สาธารณรฐั ประชาชนจนี สหภาพยุโรป เยอรมนี และสหรัฐอเมรกิ า • การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการศึกษาของอาเซียนบวกสาม คร้ังที่ 6 (6th SOM-ED + 3) ประเด็นสาคัญ อาทิเช่น ข้อเสนอเกี่ยวกับ “China – ASEAN Year of Educational Exchanges” เพ่ือเฉลิมฉลองในโอกาสท่ีครอบรอบ 25 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน – จีน ผลการดาเนินงาน

41 ภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อจัดทาข้อเสนอของกลุ่มวิสัยทัศน์เอเชียตะวันออก รุ่นที่ 2 รายงานผลการดาเนิน ความรว่ มมือภายใตแ้ ผนปฏิบตั กิ ารด้านการศึกษาอาเซยี นบวกสาม แนวทางการดาเนนิ ความร่วมมือเพือ่ พัฒนา การศึกษาในกรอบ EAS ยุคหลังปี 2015 1.3.3 การตดิ ตามการใชจ้ ่ายงบประมาณตามมาตรการกระตุน้ การลงทนุ ขนาดเลก็ ของรฐั บาล สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้ดาเนินการติดตามตรวจสอบหน่วยงานที่ได้รับ งบประมาณตามมาตรการกระตุ้นการลงทนุ ขนาดเล็กของรัฐบาล ซ่ึงเป็นส่วนหน่ึงของการเบกิ จ่ายงบประมาณ ของหน่วยงาน โดยสุ่มติดตามหน่วยรับตรวจ จานวน ๖๓ แห่ง สรุปผลได้ว่าหน่วยงานในสังกัดกระทรวง ศึกษาธกิ ารสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ ร้อยละ ๗๘.๔๕ ก่อหนี้ผกู พนั แล้วแต่ยังไม่เบกิ จ่าย รอ้ ยละ ๑๑.๘๘ รวมเป็นงบประมาณที่สามารถดาเนินการได้ตามนโยบายฯ ร้อยละ ๙๐.๓๓ รายการท่ีไม่สามารถก่อหน้ีผูกพัน ได้ทันส้ินเดือนธันวาคม ๒๕๕๘ (งบประมาณตกไป) ร้อยละ ๒.๔๑ และมีเงินคงเหลือจากการทาสัญญาอีก ร้อยละ ๗.๒๖ ท้งั นี้สาเหตุท่ีการใช้จ่ายงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการไม่เป็นไปตามเป้าหมายของ รัฐบาลมีหลายสาเหตุ อาทเิ ชน่ ไม่มีผเู้ สนอราคา ต้องการดาเนินการจัดจ้างมากกว่า ๒ ครงั้ หรือดาเนนิ การจา้ ง ด้วยวิธีพิเศษ หน่วยงานบางแห่งไม่มีผู้ท่ีมีความรู้ในการกาหนดราคากลางส่งผลให้ทาแบบรูปรายการล่าช้า มีการกาหนดแบบรูปรายการและประมาณราคากลางใหม่ รายละเอยี ด/ปรมิ าณงานมากทาให้ต้องใช้ระยะเวลา ในการดาเนินงานนาน และเน้ืองานย่งุ ยากทาใหไ้ ม่มผี ู้มาเสนอราคา เปน็ ต้น 1.3.4 การพัฒนา เผยแพร่ ติดตาม และบังคับใช้กฎหมายของกระทรวงศึกษาธิการ มีการ ดาเนินการทสี่ าคญั ดงั นี้ 1) การเสนอกฎหมาย โดยได้รวบรวมและจัดทาแผนการเสนอร่างกฎหมายในระยะ 1 ปี ของส่วนราชการ รวมจานวนทั้งสิ้น 18 ฉบับ ซ่ึงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จานวน 8 ฉบับ อาทิเช่น พระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจาตาแหน่งข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับท่ี 3) พ.ศ.2558 พระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมคุณภาพ การเรียนรู้ พ.ศ. ... พระราชบัญญัตสิ ถาบนั เทคโนโลยเี พ่อื การศึกษา พ.ศ. … พระราชบัญญัติกองทนุ พัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. … เปน็ ต้น 2) การฝึกอบรมความรู้เกี่ยวกับกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาและการกระทาความผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เป็นกิจกรรมเพ่ือให้ข้าราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการมีความรู้และความเข้าใจ เกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา ข้ันตอนการย่ืนขอจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา และการปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทาความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ซึ่งมีผู้เข้ารับการอบรม จานวน 106 คน

42 3) การเสริมสร้างและพัฒนาวินัยข้าราชการสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นกิจกรรมในการพัฒนาข้าราชการในสังกัดสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มิให้กระทาความผิดวินัย และเป็นการปลูกจิตสานึก สร้างค่านิยมให้ตระหนักรู้ในเร่ืองความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรมจริยธรรม เพื่อเป็น ภมู คิ ้มุ กันดา้ นจิตใจของขา้ ราชการ ซง่ึ ดาเนินการ จานวน 2 รนุ่ และมผี ู้เขา้ รบั การอบรม รวมทัง้ สิน้ 99 คน 4) การอบรมหลักสตู รการดาเนินการทางวินัยตามกฎ ก.พ.ว่าด้วยการดาเนินการทางวนิ ัย พ.ศ.2556 เป็นกิจกรรมเพ่ือสร้างความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับวินัยข้าราชการและวิธีการดาเนินการทางวินัย รวมทง้ั กฎหมายสาคัญอนื่ ๆ ที่เก่ียวข้อง ซึ่งมีผู้เข้ารับการอบรมเป็นข้าราชการในสังกัดสานักงานปลัดกระทรวง ศกึ ษาธิการ จานวน 45 คน 5) การอบรมหลักสูตรการใช้กระบวนการสันติวิธีในสถานศึกษา เป็นกิจกรรมเพ่ือให้ ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการใช้กระบวนการสันติวิธีไปใช้ในสถานศึกษา ซึ่งมีผู้เข้ารับการอบรมเป็นผู้บริหาร สถานศกึ ษา ครู และผูท้ ี่เกี่ยวขอ้ งในภาคตะวันออก จานวน 80 คน 6) การอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการบุคลากรในสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล เป็นกิจกรรมเพือ่ สร้างความรู้ความเขา้ ใจการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล การไกลเ่ กล่ยี และการรอ้ งทุกข์ร้องเรยี น ด้วยการบริหารความขัดแย้งโดยสันติวิธี ซึ่งมีผู้เข้ารับการอบรมเป็นผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ในสงั กดั กศน. จานวน 77 คน 1.3.5 การปอ้ งกันปราบปรามการทจุ ริต กระทรวงศึกษาธิการ มกี ารดาเนินการทส่ี าคัญ ดังน้ี 1) การแก้ไขปัญหาการทุจริต จากการประชุมคณะกรรมการอานวยการขับเคลื่อนแก้ไข ปัญหาการทุจริตกระทรวงศึกษาธิการ โดยมี พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน และได้มกี ารติดตามการดาเนินงานของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทุจริตของหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ พบว่า กระทรวงศึกษาธิการ มีเร่ืองทุจริต จานวนทั้งส้ิน 620 เร่ือง โดยได้ ดาเนินการไปแล้ว 210 เร่ือง เหลืออยู่ระหว่างดาเนินการ 410 เร่ือง และหากพิจารณาเร่ืองทุจริตในส่วนที่ เก่ียวข้องกบั สานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร ปรากฏผลวา่ สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ ารมเี ร่อื งทจุ ริต จานวน 224 เรือ่ ง คิดเปน็ รอ้ ยละ 36.13 ของจานวนเร่อื งทุจรติ ทั้งหมดของกระทรวงศกึ ษาธิการ จาแนกเป็น เรอ่ื งทด่ี าเนนิ การไปแลว้ 81 เร่อื ง อยรู่ ะหวา่ งดาเนนิ การ 143 เรื่อง และยงั ไมไ่ ดด้ าเนนิ การ 1 เรอ่ื ง 2) การประเมินมาตรฐานความโปร่งใสของสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ประจาปี งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการดาเนินการประเมินมาตรฐานความโปร่งใส ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามข้นั ตอนกระบวนการและเกณฑ์การประเมินความโปร่งใสท้ัง 4 มิติ 13 ตวั ชี้วัดที่สานักงาน ก.พ. กาหนด ซงึ่ ผลการประเมนิ มาตรฐานความโปร่งใสตามเกณฑ์การประเมินความโปร่งใสฯ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ดาเนนิ การได้คดิ เปน็ รอ้ ยละ 99.6 และสามารถสรปุ ผลในแตล่ ะมิติ ดงั นี้  มิติที่ 1 ด้านนโยบาย/ผู้บริหาร และความพยายาม/ริเริ่ม ของหน่วยงานในการสร้าง ความโปร่งใสมีการประกาศนโยบายเกี่ยวกับความโปร่งใสและตรวจสอบได้ของสานักงานปลัดกระทรวง

43 ศกึ ษาธกิ ารมีการใช้แบบประเมินคุณลักษณะทีด่ ีตามประมวลจริยธรรมขา้ ราชการพลเรือนและข้อบังคับว่าด้วย จรรยาข้าราชการในการประเมินตัวช้ีวัดรายบุคคล มีการกาหนดและจัดทาแผนปฏิบัติการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สานักงานปลัด กระทรวงศึกษาธิการ ระยะ ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๖๐)  มิติที่ 2 ด้านความเปิดเผย การมีระบบตรวจสอบภายในองค์กร และการมีส่วนร่วม มกี ารจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสารของสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ บริเวณชั้น ๑ อาคารเสมารักษ์ สาหรับ ให้บริการข้อมูลข่าวสารตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 เพื่อให้ ประชาชนสามารถเขา้ ตรวจสอบและสืบคน้ ขอ้ มลู ข่าวสารไดส้ ะดวก รวดเรว็ มขี อ้ มูลข่าวสารตามมาตรา ๗ และ มาตรา 9 เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ www.ops.moe.go.th และมีการ เผยแพร่ผลการปฏิบัติงานประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 และผลประเมินการตรวจสอบภายในของ หน่วยงาน มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder) ท่ีเกี่ยวข้องผ่าน ช่องทางของเว็บไซต์แต่ละหน่วยงาน และมีศูนย์บริการประชาชนสาหรับให้บริการประชาชนในภาพรวมของ สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการมีหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน สป. ๑๕๗๙ กศน. ๑๖๖๐ และ สช. ๑๖๙๓ เพื่อเปดิ รับฟังความคิดเห็นของประชาชน  มิติท่ี 3 ด้านการใช้ดุลยพินิจมีหลักเกณฑ์หรือแนวทางในการปฏิบัติงานที่อยู่ใน ภารกิจหลักของหน่วยงาน มีคู่มือการปฏิบัติงานและการดาเนินงานของกระบวนการหลัก มีการวิเคราะห์และ จัดทาแนวทางการดาเนินการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรของหน่วยงานที่เป็นไปตาม กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ตามที่ ก.พ. กาหนด และตามแผน HR Scorecard และนาเร่ือง Competency มาใช้ในกระบวนการสรรหาและ คัดเลือก เพื่อให้ได้ผู้ท่ีมีความสามารถมาปฏิบัติงาน มีการประกาศเผยแพร่หลักเกณฑ์ แนวทางสรรหาและ คัดเลอื กบุคลากร ทางเวบ็ ไซต์ www.moe.go.th/webhr  มิติท่ี 4 ด้านการมีระบบ/กลไกจัดการรับเรื่องร้องเรียนมีการจัดตั้งศูนย์บริการ ประชาชน มีช่องทางรับเร่ืองร้องเรียน ร้องทุกข์หลากหลายช่องทาง เช่น สายด่วนการศึกษา ๑๕๗๙ เว็บไซต์ www.1579.moe.go.th มีการส่งเร่ืองร้องเรียนให้ผู้รับผิดชอบดาเนินการตามข้ันตอนการปฏิบัติงานในการ จัดการข้อร้องเรียน และแผนผังกระบวนการการจัดการข้อร้องเรียนของสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมจัดทาสถิติและรายงานผล มีการรายงานผลการดาเนนิ การต่อเรื่องร้องเรียนให้กับปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีทราบ โดยวิธีจัดทาเป็นสถิติและรายงานประจาเดือน และมีการนาข้อร้องเรียนไปปรับปรุง คุณภาพในการปฏบิ ตั งิ านต่อไป 3) การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดาเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 (Integrity and Transparency Assessment : ITA) โดยสานักงาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้เข้าร่วมและดาเนินการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสการดาเนินงาน ของ หนว่ ยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment–ITA) ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕9 ตามขัน้ ตอน

44 และกระบวนการท่ีสานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สานักงาน ป.ป.ท.) ซ่ึงผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสการดาเนินงานของสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยภาพรวมได้คะแนนเท่ากับร้อยละ 77.84 ซึ่งถือว่ามีคุณธรรมและความโปร่งใสในการดาเนินงานระดับสูง ท้ังนี้ หากพิจารณาจาแนกตามการวิเคราะห์ดัชนีของการประเมินเชิงภาพลักษณ์ (Perception-Based) จานวน 5 ดัชนี สรปุ ผลได้ดงั น้ี  ดัชนีความโปร่งใส (Transparency Index) ได้คะแนนเท่ากับร้อยละ 80.41 อยู่ใน ระดับสงู มาก  ดัชนีความพร้อมรับผิด (Accountability Index) ได้คะแนนเท่ากับร้อยละ 73.49 อยใู่ นระดับสงู  ดัชนีความปลอดจากทุจริตในการปฏิบัติงาน (Corruption-Free Index) ได้คะแนน เทา่ กบั รอ้ ยละ 97.68 อย่ใู นระดบั สูงมาก  ดัชนีวัฒนธรรมคุณธรรมในองค์กร (Integrity Culture Index) ได้คะแนนเท่ากับ รอ้ ยละ 67.95 อยู่ในระดบั สงู  ดัชนีคุณธรรมการทางานในหน่วยงาน (Work Integrity Index) ได้คะแนนเท่ากับ ร้อยละ 63.01 อยู่ในระดบั สงู 4) กจิ กรรมยกย่องเชิดชเู กียรติบุคลากรดีเด่น “คนดศี ักดิ์ศรีแห่ง สป.” ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕9 ของสานักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ โดยดาเนินการส่งเสริม สนบั สนนุ และสร้างขวญั กาลังใจ ให้บุคลากรในสังกัดสานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร ผปู้ ระพฤติปฏบิ ตั ิตนตามหลกั คุณธรรม จริยธรรม และ ธรรมาภิบาล และสมควรเป็นแบบอย่างท่ีดีของบุคลากรในองค์กร ซึ่งมีผู้ได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้เข้ารับ รางวัลบคุ ลากรดเี ด่น “คนดีศักด์ิศรีแห่ง สป.” จานวนทั้งสิ้น 9 คน โดยแบ่งออกเป็น สานักงาน กศน. จานวน 4 คน สานักงาน ก.ค.ศ. จานวน 1 คน สานักงาน สช. จานวน 2 คน และ สป. (เดิม) จานวน 2 คน และ ได้ดาเนินการมอบรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติบุคลากรดีเด่น “คนดีศักดิ์ศรีแห่ง สป.” เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑8 กันยายน ๒๕๕9 ณ โรงแรมจอมเทียน ปาลม์ บชี รสี อร์ท เมืองพัทยา จงั หวัดชลบุรี

45 เปา้ ประสงค์ที่ 2 ประชาชนไดร้ ับโอกาสทางการศกึ ษาอย่างทว่ั ถึง ครอบคลุม และเปน็ ธรรม 2.1 บทนา ภายใต้เป้าประสงค์ของการเพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต มีกลยุทธ์ ท่ีสาคัญ 2 กลยุทธ์ ได้แก่ (1) ส่งเสริมให้เอกชนและทุกภาคส่วนร่วมจัดและสนับสนุนการจัดการศึกษา และ (2) เพ่ิมและกระจายโอกาสทางการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยให้ประชาชน สามารถเข้าถึง โอกาสทางการเรียนรู้ได้อย่างหลากหลาย ครอบคลุมทุกพ้ืนท่ีและกลุ่มเป้าหมาย และมีการกาหนดตัวชี้วัดและ ค่าเป้าหมายในการบรรลุเป้าประสงค์ จานวน 11 ตัวชี้วัด ได้แก่ (1) จานวนผู้เรียน บุคลากรทางการศึกษา และผู้บริหารโรงเรียนเอกชนที่ได้รับการพัฒนา (2) จานวนนักเรียนโรงเรียนเอกชนที่ได้รับการส่งเสริมและ พฒั นาคุณภาพชีวิต (3) ร้อยละของนักเรียนโรงเรยี นเอกชนมีภาวะทพุ โภชนาการลดลง (4) จานวนประชาชน กลุ่มเป้าหมายที่ลงทะเบียนเรียนในทุกหลักสูตร/กิจกรรมการศึกษาต่อเนื่อง (5) จานวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้สูงอายุ (6) ร้อยละของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนท่ัวไปมีความพึงพอใจต่อการรับบริการความรู้นอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยผ่านช่องทางสื่อเทคโนโลยีทางการศึกษาและเทคโนโลยีการสื่อสาร (7) จานวน นักเรียนท่ีได้รับทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีทั้งในประเทศและต่างประเทศ รุ่นท่ี 3 และ 4 (8) จานวน ผู้เรียนการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานท่ีได้รับการสนับสนุนค่าใ ช้จ่ายตามสิทธิท่ีกาหนดไว้ (9) จานวนนักเรียนและนกั ศึกษาในโรงเรียนเอกชนได้รับการสนบั สนุนการจดั การศึกษาขั้นพนื้ ฐาน (10) จานวน ปีการศึกษาเฉลี่ยของประชากรวัยแรงงาน และ (11) สัดส่วนผู้เรียนอาชีวศึกษา : สามัญศึกษาในระดับ มัธยมศกึ ษา (ปวช.1 : ม.4) 2.2 ผลการบรรลุเป้าประสงค์ จากการติดตามผลสาเร็จ และ/หรือ ผลการดาเนินงานภายใต้เป้าประสงค์ที่ 2 สามารถสรุปผล การบรรลเุ ป้าประสงค์ รายละเอียดดงั ตาราง 5 ดังน้ี 2.2.1 จานวนผู้เรียน บุคลากรทางการศึกษา และผู้บริหารโรงเรียนเอกชนที่ได้รับการพัฒนา ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการสามารถพัฒนาผู้เรียน บุคลากรทางการศึกษาและผู้บริหาร โรงเรยี นเอกชน จานวน 56,461 คน สรปุ ไดว้ ่าสามารถดาเนินการบรรลุเป้าหมายท่ีกาหนดไว้ 2.2.2 จานวนนักเรียนโรงเรยี นเอกชนท่ีไดร้ ับการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชวี ิต ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้การอุดหนุนเป็นเงินค่าอาหารเสริม (นม) สาหรับนักเรียนโรงเรียน เอกชนทรี่ บั เงินอุดหนุนต้งั แต่ระดับช้ันอนบุ าล 1 ถงึ ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เพ่อื พฒั นาคุณภาพชีวิตในเรอ่ื ง สุขภาพพลานามัยทแี่ ขง็ แรงสมบูรณ์ มีน้าหนกั และส่วนสูงเป็นไปตามเกณฑม์ าตรฐาน ปลกู ฝังการดืม่ นมในเด็ก และเยาวชน ให้พัฒนาร่างกายและสติปัญญา จานวน 1,602,014 คน 5,323 โรง (อัตราวันละ 7 บาท ปีละ 260 วัน หรือคนละ 1,820 บาท ต่อปี) และ (2) อุดหนุนเป็นเงินค่าอาหารกลางวันสาหรับนักเรียน

46 โรงเรียนเอกชน ต้ังแต่ชั้นอนุบาล 1 ถึงระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 สาหรับนักเรียนในโรงเรียนการกุศลทุก คน และนักเรียนในโรงเรียนสามัญทั่วไปท่ีประสบภาวะทุพโภชนาการและขาดแคลนอาหารกลางวัน จานวน 465,581 คน 2,278 โรง (คนละ 20 บาทต่อวัน ปีละ 200 วัน หรือคนละ 4,000 บาท ต่อปี) สรุปได้ว่า สามารถดาเนนิ การบรรลุเปา้ หมายท่ีกาหนดไว้ 2.2.3 ร้อยละของนักเรียนโรงเรียนเอกชนมีภาวะทุพโภชนาการลดลง ปรากฏผลว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 สานักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ ารให้การอดุ หนุนเป็นค่าอาหารกลางวันสาหรับ นักเรียนโรงเรียนเอกชน ต้ังแต่ช้ันอนุบาล 1 - ประถมศึกษาปีที่ 6 สาหรับนักเรียนในโรงเรียนการกุศลทุกคน และนักเรียนในโรงเรียนสามัญท่ัวไปท่ีประสบภาวะทุพโภชนาการและขาดแคลนอาหารกลางวัน จานวน 465,581 คน 2,278 โรง ในขณะท่ีปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ให้การอุดหนุนเป็นเงินค่าอาหารกลางวัน นักเรียนจานวน 405,169 คน 1,971 โรง ดังนั้น ในปีงบประมาณ พ.ศ.2559 นักเรียนโรงเรียนเอกชน มีภาวะทุพโภชนาการลดลง รอ้ ยละ 0.58 สรุปได้ว่าไมส่ ามารถดาเนินการบรรลเุ ปา้ หมายท่ีกาหนดไว้ 2.2.4 จานวนประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ลงทะเบียนเรียนในทุกหลักสูตร/กิจกรรมการศึกษา ต่อเนือ่ ง ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการดาเนินโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชมุ ชน (กศน.ฝึกอาชีพ ให้ประชาชน หน่ึงคนหน่ึงอาชีพ) โดยมีผู้ลงทะเบียนเข้ารับการฝึกอาชพี ท้ังส้ิน จานวน ๗๖๓,๓๙๓ คน สรุปได้ว่า สามารถดาเนินการบรรลุเป้าหมายที่กาหนดไว้ 2.2.5 จานวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมผู้สูงอายุ ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดาเนินการจัดกจิ กรรมตามโครงการเสรมิ สร้างคณุ ภาพชีวิตสาหรับผู้สงู อายุ ได้ดาเนินการใน 928 อาเภอ/เขต ใน 77 จังหวัด/กทม. โดยมีกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุท่ีเข้าร่วมกิจกรรมคงภาวะติดสังคมให้แก่ผู้สูงอายุในชุมชน เชน่ การทาดอกไม้จนั ทน์ การทาเหรยี ญโปรยทาน การฟังธรรม การรอ้ งคาราโอเกะ ผูเ้ ฒ่าเล่าเรอ่ื ง การออกกาลังกาย กจิ กรรมฝึกสมอง ศิลปะ ดนตรี และวฒั นธรรมทอ้ งถิน่ รวมท้งั ส้ิน 113,216 คน สรปุ ได้ว่าสามารถดาเนนิ การ บรรลุเป้าหมายทกี่ าหนดไว้ 2.2.6 ร้อยละของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนท่ัวไปมีความพึงพอใจต่อการรับบริการ ความรู้นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยผ่านช่องทางส่ือเทคโนโลยีทางการศึกษาและเทคโนโลยี การส่ือสาร ปรากฏผลว่า นักเรียน นักศึกษา และประชาชนท่ัวไป มีความพึงพอใจต่อการรับบริการความรู้ นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยผ่านช่องทางสื่อเทคโนโลยี (กิจกรรมติวเข้มเติมเต็มความรู้สัญจร) รอ้ ยละ 82.40 สรุปได้ว่าสามารถดาเนินการบรรลเุ ป้าหมายทีก่ าหนดไว้ 2.2.7 จานวนนักเรียนท่ีได้รับทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีท้ังในประเทศและต่างประเทศ รุ่นที่ 3 และ 4 ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการสามารถดาเนินการสนับสนุนทุนการศึกษา ให้แก่นักเรียนในโครงการ จานวน 1,254 คน โดยจาแนกเป็น รุ่นท่ี 3 จานวน 686 คน (ในประเทศ 164 คน และต่างประเทศ 522 คน) และรุ่นท่ี 4 จานวน 568 คน (ในประเทศ 284 คน และต่างประเทศ 284 คน) สรุปได้ว่าสามารถดาเนนิ การบรรลเุ ป้าหมายท่กี าหนดไว้

47 2.2.8 จานวนผู้เรียนการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานท่ีได้รับการสนับสนุน ค่าใช้จ่ายตามสิทธิที่กาหนดไว้ ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการจัดสรรงบประมาณ เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาข้ันพ้ืนฐานให้กับผู้เรียนการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันฐาน จานวน 1,235,195 คน สรปุ ไดว้ ่าไมส่ ามารถดาเนนิ การบรรลเุ ป้าหมายทก่ี าหนดซง่ึ ต่ากว่าเป้าหมาย 2.2.9 จานวนนักเรียนและนักศึกษาในโรงเรียนเอกชนได้รับการสนับสนุนการจัดการศึกษา ข้ันพ้ืนฐาน ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการจัดสรรเงินอุดหนุนเป็นค่าใช้จ่ายในการจัด การศึกษาขั้นพื้นฐานให้กับนักเรียนในระดับช้ันอนุบาล 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จานวน 3,533 โรง นักเรียน 2,062,850 คน (ได้ตัดโรงเรียนประเภทอาชีวศึกษาออกจากระบบการให้เงนิ อุดหนุนแล้ว) สรุปได้ว่า ไมส่ ามารถดาเนินการบรรลเุ ป้าหมายทีก่ าหนดซง่ึ ตา่ กวา่ เป้าหมาย 2.2.10 จานวนปีการศึกษาเฉล่ียของประชากรวัยแรงงาน ปรากฏผลว่า สานักงานเลขาธิการ สภาการศกึ ษา ได้รายงานผลจานวนปกี ารศึกษาเฉลี่ยของประชากรในแต่ละชว่ งวยั ของปีการศึกษา 2558 ดังนี้  อายุ 15 – 39 ปี มจี านวนปกี ารศึกษาเฉลี่ย 10.5 ปี  อายุ 40 – 59 ปี มจี านวนปีการศกึ ษาเฉลย่ี 7.8 ปี  อายุ 15 – 59 ปี มีจานวนปีการศกึ ษาเฉล่ยี 9.3 ปี ดังนั้นเม่ือนาข้อมูลจานวนปีการศึกษาเฉลี่ยของประชากรวัยแรงงาน ปีการศึกษา 2558 เปรียบเทียบกับค่าเป้าหมายในแผนปฏิบัติราชการฯ ท่ีกาหนดไว้ พบว่า ในช่วงอายุ 40 – 59 ปี และ ช่วงอายุ 15 – 59 ปี มีจานวนปีการศึกษาเฉล่ียท่ีบรรลุตามเป้าหมายที่กาหนด จึงสรุปได้ว่าไม่สามารถ ดาเนินการบรรลุเป้าหมายท่ีกาหนด 2.2.11 สัดส่วนผูเ้ รียนอาชวี ศึกษา : สามัญศึกษาในระดับมธั ยมศึกษา (ปวช.1 : ม.4) ปรากฏผลว่า ไม่สามารถติดตามผลการดาเนินการจานวนผู้เรียนสายอาชีวศึกษาในสถานศึกษาเอกชน เนื่องจาก มีการเปลี่ยนแปลง การปฏิรูปการศึกษาและการบริหารราชการในกระทรวงศึกษาธิการ ตามคาส่ังหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่8/2559 เร่ือง การบริหารจัดการรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาครัฐ และภาคเอกชน โดยสาระสาคัญที่เก่ียวข้อง คือ ให้โอนบรรดาอานาจหน้าท่ีของสานักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมการศึกษาเอกชน สานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ ในส่วนท่ีเก่ียวกับการดาเนินงาน โรงเรียนในระบบ ประเภทอาชีวศึกษา ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน และของข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างของสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ ในส่วนที่เก่ียวกับการดาเนินงานโรงเรียนในระบบ ประเภทอาชีวศึกษา ตามที่บัญญัติไว้ ในกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน ไปเป็นอานาจหน้าท่ีของสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ หรือของข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างของสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร แล้วแตก่ รณี

48 ตาราง 5 ผลการบรรลุเป้าประสงค์ที่ 2 ประชาชนได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างท่ัวถึง ครอบคลุม และ เป็นธรรม ตวั ช้วี ดั เป้าประสงค์ ค่าเป้าหมาย ผลการดาเนนิ งาน ผลการบรรลุ ท่เี กดิ ขึ้น เปา้ ประสงค์ 1. จานวนผเู้ รยี น บคุ ลากรทางการ 45,089 คน 56,461 คน บรรลุ ศกึ ษา และผูบ้ ริหารโรงเรยี นเอกชน 1,593,897 คน 1,602,014 คน บรรลุ ท่ีได้รับการพัฒนา ร้อยละ 0.58 ไมบ่ รรลุ 2. จานวนนกั เรยี นโรงเรยี นเอกชน ร้อยละ 1 ๗๖๓,๓๙๓ คน บรรลุ ทไี่ ดร้ ับการสง่ เสริมและพัฒนา 531,600 คน 113,216 คน บรรลุ คณุ ภาพชวี ิต 94,340 คน 3. รอ้ ยละของนักเรยี นโรงเรยี นเอกชน มภี าวะทพุ โภชนาการลดลง 4. จานวนประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ท่ลี งทะเบียนเรยี นในทุกหลกั สูตร/ กจิ กรรมการศึกษาต่อเนอ่ื ง 5. จานวนผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมผสู้ ูงอายุ 6. รอ้ ยละของนักเรยี น นักศกึ ษา ร้อยละ 80 รอ้ ยละ 82.40 บรรลุ และประชาชนท่วั ไปมีความพึงพอใจ ตอ่ การรับบริการความรนู้ อกระบบและ 1,254 คน 1,254 คน บรรลุ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ผา่ นช่องทาง 1,325,462 คน 1,235,195 คน ไมบ่ รรลุ สือ่ เทคโนโลยที างการศึกษาและ 2,314,737 คน 2,059,594 คน ไม่บรรลุ เทคโนโลยกี ารสอื่ สาร 7. จานวนนกั เรียนทไี่ ดร้ ับ ทนุ การศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ทั้งในประเทศและตา่ งประเทศ รุ่นท่ี 3 และ 4 8. จานวนผู้เรยี นการศึกษานอกระบบ ระดับการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐานทีไ่ ดร้ ับ การสนับสนุนค่าใชจ้ ่ายตามสิทธิ ท่กี าหนดไว้ 9. จานวนนกั เรียนและนักศึกษา ในโรงเรยี นเอกชนไดร้ ับการสนับสนุน การจดั การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน

49 10. จานวนปกี ารศกึ ษาเฉล่ยี 10.9 ปี 10.5 ป*ี ไม่บรรลุ ของประชากรวัยแรงงาน 7.4 ปี 7.8 ป*ี N/A 9.2 ปี 9.3 ป*ี - อายุ 15-39 ปี 45 : 55 N/A - อายุ 40-59 - อายุ 15-59 ปี 11. สดั สว่ นผู้เรียนอาชีวศึกษา : สามัญศึกษาในระดบั มธั ยมศกึ ษา (ปวช.1 : ม.4) กล่าวโดยสรุปแลว้ เป้าประสงคท์ ี่ 2 ประชาชนได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างทัว่ ถึง ครอบคลุม และเป็นธรรม มีผลการดาเนินงานที่บรรลุเป้าประสงค์ตามตัวชี้วัดท่ีกาหนดขึ้น จานวน 6 ตัวชี้วัด ไม่สามารถ ดาเนินการบรรลุเป้าประสงค์ จานวน 4 ตัวช้ีวัด และไม่สามารถติดตามผลการดาเนินงานตามตัวช้ีวัด เน่ืองจากมีการเปลี่ยนแปลง การปฏิรูปการศึกษาและการบริหารราชการในกระทรวงศึกษาธิการ ตามคาส่ัง หัวหน้าคณะรกั ษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 8/2559 จานวน 1 ตวั ช้วี ัด 2.3 ผลการดาเนนิ งานที่สาคญั สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ดาเนินโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ท่ีมีความสอดคล้อง และสนองตอบตอ่ เป้าประสงค์ที่ 2 ดังนี้ 2.3.1 การพัฒนาผู้เรียน บุคลากรทางการศึกษา และผู้บริหารโรงเรียนเอกชน ได้รับการพัฒนา จานวน 56,461 คน ซึง่ มีกจิ กรรมสาคญั ดังนี้ 1) โครงการพัฒนาครูท้ังระบบ พัฒนาผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาเอกชน จานวน 43,127 คน ให้มีความรู้ความในหลักสูตรท่ีสอดคล้องกับความจาเป็นของบริบทโรงเรียนเอกชน ในแต่ละจังหวัดรวมท้ังเน้นการพัฒนา ทักษะในการจัดการเรียนรู้และเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ พัฒนาทักษะชีวิต มีจิตสานึกต่อสังคม และความเป็นพลเมือง เสริมสร้างเครือข่ายพัฒนาการศึกษาเอกชน และเพิ่มศักยภาพการจัดการศึกษาของ โรงเรียนเอกชนนอกระบบ 2) โครงการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมนักเรียนนักศึกษาโรงเรียนเอกชน ได้รับการ ส่งเสรมิ และพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม ท้งั สน้ิ 4,469 คน โดยดาเนินการ  อบรมเทคนิคและวิธีการสอนค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการสู่กระบวนการ เรียนรู้ให้กับผู้บริหารและครูโรงเรียนเอกชน จานวน 920 คน ให้สามารถนาความรู้ไปใช้ในกระบวนการ จัดการเรียนการสอนในโรงเรียน และจัดกิจกรรมเพ่ือบูรณาการในทุกรายวิชาตามนโยบายลดเวลาเรียน เพม่ิ เวลารู้ ใหแ้ ก่นักเรยี นในโรงเรยี นได้

50  อบรมบุคลากรทางการลูกเสือสาหรับผู้บริหาร และครูโรงเรียนเอกชน จานวน 199 คน ให้สามารถทาหน้าท่ีผู้กากับลูกเสือ ผู้ให้การฝึกอบรมวิชาผู้กากับลูกเสือ และนาความรู้ ทักษะ ไปใชใ้ นการจัดกิจกรรมพฒั นานักเรียนโดยใชก้ ระบวนการลูกเสือไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและประสิทธผิ ลเพมิ่ ข้ึน อบรมหลักสตู รการฝึกอบรม ผ้กู ากับลูกเสือสารอง ขัน้ ความรูเ้ บอ้ื งต้น (C.B.T.C.) ผูบ้ รหิ ารและครูเขา้ อบรม  ทดสอบทักษะวิชาเพื่อส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าทางคุณภาพการศึกษาของ โรงเรียนในสังกัดเพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเต็มศักยภาพ เป็นต้นแบบในการพัฒนาการเรียนการสอน และ เพ่อื ปลกู ฝังด้านคณุ ธรรม จริยธรรมกับการพัฒนาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นของนกั เรียน จานวน 3,350 คน 3) โครงการพัฒนาศักยภาพครูภาษาไทย วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ จานวน 1,873 คน โดยดาเนินการ  ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จานวน 483 คน มีความรู้ ความเข้าใจ และมีทกั ษะการใช้เทคนคิ การสอนเชงิ การคิด วิเคราะห์ และสรา้ งสรรค์ รวมทั้งการใช้ภาษาในการสือ่ สาร และ นาไปประยกุ ตใ์ ช้ในการจดั การเรยี นการสอนไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ  ครู และบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนเอกชน จานวน 184 คน ตระหนักถึง ความสาคัญของการพัฒนาแนวทางการจัดการเรียนการสอน สามารถใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์แก้ปัญหา คณติ ศาสตร์และวิทยาศาสตรไ์ ปปรบั ใช้กับการทางาน  ครูผู้สอนระดับปฐมวัยโรงเรียนเอกชน จานวน 348 คน มีความรู้ ความเข้าใจ เทคนิค และกระบวนการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ และสามารถนาความรู้ที่ได้ไปจัดการเรียนการสอน ในห้องเรยี นได้  ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ จานวน 858 คน มคี วามรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะการใช้เทคนิคการสอนเชงิ การคิด วิเคราะห์ และสร้างสรรค์ สามารถจัดการ เรียนการสอนตามแนวทางสะเต็มศึกษาประเทศไทย (STEM Education Thailand) ให้เกิดข้ึนในทุกระดับชั้น และนาไปประยุกต์ใช้ในการจดั การเรียนการสอนได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 4) เงินอุดหนุนค่าตอบแทนพิเศษครูที่สอนนักเรียนพิการในโรงเรียนเอกชน ให้การอุดหนุน เปน็ ค่าตอบแทนครูทีส่ อนนกั เรียนพิการในโรงเรียนเอกชน 30 โรง จานวน 201 คน คนละ 2,000 บาท/เดอื น 5) เงินอุดหนุนสิ่งอานวยความสะดวกและส่ือบริการของนักเรียนพิการ ให้การอุดหนุน สง่ิ อานวยความสะดวกและส่ือบริการของนักเรียนพิการในโรงเรียนเอกชน 15 โรง 6 ศนู ย์ นกั เรยี น 3,841 คน 6) เงินอุดหนุนค่าก่อสร้างและปรับปรุงโรงเรียนเอกชนการกุศล ให้การอุดหนุนเป็นเงิน ค่าก่อสร้างและปรบั ปรงุ อาคารเรยี นและอาคารประกอบโรงเรยี นเอกชนการกศุ ล 22 โรง 7) โครงการตรวจติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาโรงเรียนเอกชน จัดอบรม คณะกรรมการตรวจติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษา เพ่ือให้ คณะกรรมการตรวจติดตามประเมินผลได้รับความรู้ ความเข้าใจในหลักเกณฑ์และสามารถตรวจติดตาม

51 ประเมินผลการจัดการศึกษาของโรงเรียนเอกชน และดาเนินการตรวจติดตามประเมินผลการจัดการศึกษา โรงเรียน จานวนท้ังสิ้น 1,609 โรง จาแนกเป็น (1) โรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษา จานวน 1,130 โรง (2) โรงเรียนเอกชน ประเภทนานาชาติ จานวน 33 โรง และ (3) โรงเรียนเอกชนประเภทนอกระบบ จานวน 446 โรง 2.3.2 การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนเอกชน มีนักเรียนโรงเรียนเอกชน ไดร้ บั การส่งเสริมและพฒั นาคุณภาพชวี ติ จานวน 1,518,033 คน มีการดาเนินงานดังนี้ 1) ให้การอุดหนุนเป็นเงินค่าอาหารเสริม (นม) สาหรับนักเรียนโรงเรียนเอกชนท่ีรับเงิน อุดหนุน ตง้ั แตร่ ะดับช้ันอนุบาล 1 ถึงระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 ทุกคน (อัตราวันละ 7 บาท ปลี ะ 260 วัน) เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตในเร่ืองสุขภาพพลานามัยท่ีแข็งแรงสมบูรณ์ มีน้าหนักและส่วนสูงเป็นไปตามเกณฑ์ มาตรฐาน ปลูกฝังการด่ืมนมในเด็กและเยาวชน ให้พัฒนาร่างกายและสติปัญญา จานวน 1,518,033 คน 3,220 โรง 2) ให้การอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวนั สาหรับนักเรยี นโรงเรียนเอกชน ตั้งแต่ระดับชั้น อนุบาล 1 - ประถมศึกษาปีที่ 6 สาหรับนักเรียนในโรงเรียนการกุศลทุกคน และนักเรียนในโรงเรียนสามัญ ทั่วไปท่ีประสบภาวะทุพโภชนาการและขาดแคลนอาหารกลางวันอันเป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต ของนักเรียนให้มีพัฒนาการด้านต่างๆ เป็นไปอยา่ งเต็มศักยภาพในโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญท่ัวไป (คนละ 20 บาท/วัน ปีละ 200 วัน) จานวน 465,581 คน 2,278 โรง 2.3.3 โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน (กศน. ฝึกอาชีพให้ประชาชน หน่ึงคนหน่ึงอาชีพ) โดยมุ่งเน้นการฝึกอาชีพในรูปแบบของกลุ่มสนใจ และในรูปแบบช้ันเรียนวิชาชีพ (ระยะสั้น และระยะยาว) เพ่ือให้ผู้เข้ารับการฝึกอาชีพมีช่องทางในการประกอบอาชีพ มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น โดยการสร้างอาชีพใหม่ ต่อยอดอาชีพเดิม หรือทาเป็นอาชีพเสริมได้ ซ่ึงผลการดาเนินงาน สามารถจัดหลักสูตรให้ผู้เข้ารับการฝึกอาชีพได้ จานวน 5 หลักสูตร ได้แก่ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรมและบริการ ความคิดสร้างสรรค์ และกลุ่ม อาชีพเฉพาะทาง และมีผู้เข้ารับการฝึกอาชีพ 763,393 คน ท้ังน้ี จากการสารวจการนาความรู้ไปใช้ พบว่า หลักสูตรที่มีการนาความรู้ไปใช้มากท่ีสุด คือ หลักสูตรกลุ่มอาชีพพาณิชยกรรมและบริการ ร้อยละ 49 รองลงมา ได้แก่ หลักสูตรกลุ่มอาชีพความคิดสร้างสรรค์ หลักสูตรกลุ่มอาชีพเกษตรกรรมหลักสูตรกลุ่มเฉพาะ ทางและกลุ่มอาชพี อุตสาหกรรม คดิ เปน็ ร้อยละ 31.62, 23.06, 19.67, 13.13 และ 12.52 ตามลาดบั 2.3.4 การส่งเสริมคณุ ภาพชวี ิตของผู้สงู อายุ ได้มีการขับเคลอ่ื นโดยจัดทาโครงการย่อยเพอ่ื รองรับ การสง่ เสริมคุณภาพชวี ิตผ้สู ูงอายุ จานวน 2 โครงการย่อย คอื  เสริมสร้างคุณภาพชีวิตสาหรับผู้สูงอายุด้วยการจัดกิจกรรมคงภาวะติดสังคมให้แก่ ผสู้ ูงอายุในชุมชน จานวน 113,216 คน ในรูปแบบท่ีเหมาะสมกับวัยและความต้องการ มคี วามรู้ความเข้าใจ ในการดูแลสุขภาพและอนามัยของตนเอง ไม่เป็น “ผู้สูงอายุในภาวะพึ่งพิง” ในบั้นปลายชีวิต รวมทั้งให้เยาวชน และคนวัยทางานตระหนักและเห็นคุณค่าของผู้สูงอายุ เกิดการเกื้อกูลระหว่างวัยภายในครอบครัวและชุมชน โดยกิจกรรมที่ดาเนินการเป็นเร่ืองท่ีเกี่ยวกบั การออม การทางานท่ีเหมาะสมกับวัย การรักษาและดูแลสุขภาพ อนามัย การดูแลและรักษาสุขภาพจิต การออกกาลังท่ีเหมาะกับวัย การป้องกันการลืมหนังสือ (โดยการร้องเพลง จากคาราโอเกะ) อาหารและโภชนาการทเี่ หมาะกับวัย และการทากจิ กรรมเพื่อสังคมรว่ มกบั คนทกุ วยั ในชุมชน

52  จัดหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุกระทรวงศึกษาธิการ ดาเนินการในลักษณะบูรณาการ ระหว่างหน่วยงานในระดับกระทรวง เพ่ือพัฒนาผู้ดูแลผู้สูงอายุในระดับชมุ ชนท่ีมีศักยภาพในการดูแลผู้สูงอายุ ภาวะพึ่งพิงในครอบครัว หรือประกอบอาชีพดูแลผู้สูงอายุภาวะพึ่งพิงได้ โดยกาหนดเป้าหมายท่ีจะดาเนินการ อบรมผูด้ ูแลผสู้ ูงอายุ จานวน 3,560 คน ในพื้นที่ 76 จงั หวดั (ยกเว้นกรงุ เทพมหานคร) รวม 89 อาเภอ และ ใช้หลักสตู รและวิทยากรของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ จานวน 2 หลกั สูตร คอื (1) หลักสูตรระยะสั้น 420 ช่ัวโมง และ (2) หลักสูตรระยะสั้น 70 ชั่วโมง สามารถจัดอบรมได้ จานวน 80 อาเภอ ซึ่งมีผลการ ดาเนนิ งานสามารถจัดได้ 80 แหง่ รวมทั้งสน้ิ มผี ้เู ขา้ อบรม 7,665 คน 2.3.5 การรับบริการความรู้นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยผ่านช่องทางสื่อเทคโนโลยี ทางการศึกษาและเทคโนโลยีการส่ือสาร โดยสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้ดาเนินกิจกรรมติวเข้ม เติมเต็มความรู้สัญจร ซ่ึงเป็นการจัดการเรียนการสอนการศึกษาในและนอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน โดยออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์เพ่ือการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ (ETV) สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่ง ประเทศไทย (NBT) และสถานีวิทยุโทรทัศน์อ่ืนๆ ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายท่ีรับชมรายการผ่านช่องทางส่ือและ กจิ กรรม รวมทง้ั ส้ิน 2,449,731 คน และมผี ลการดาเนินงานดังน้ี  ผลิตรายการโทรทัศน์เพ่ือการศึกษาออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 9.00 – 10.00 น. ทางสถานีวทิ ยโุ ทรทศั น์ ช่อง 11 และทางสถานี ETV รายการติวเข้มเติมเตม็ ความรู้ จานวน 98 รายการ  จัด ผลิตรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษานอกระบบ ตามหลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน วิชาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาไทย ระดับประถมศึกษาปีท่ี 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 จานวน 21 รายการ  จัด ผลิตรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษาเพื่อพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต โดยสามารถผลิต รายการต่างๆ ได้ 261 รายการ ดังนี้ (1) ผลิตรายการ กศน. เพ่ือนเรียนรู้ จานวน 48 รายการ (2) ผลิตรายการห้องเรียนของหนู จานวน 26 รายการ (3) ผลิตรายการคิดส์ดีแฟมิล่ี จานวน 52 รายการ (4) ผลิตรายการ BIKE GURU จานวน 22 รายการ (5) ผลิตรายการกฎหมายคลายเครียด จานวน 45 รายการ (6) ผลติ รายการเรียนนอกรวั้ จานวน 48 รายการ และ (7) ผลิตรายการ กศน.บอกต่ออาชพี จานวน 20 รายการ  จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จาก ETV โดยดาเนินการจัดกิจกรรม ติวเข้มเติมเต็มความรู้สัญจร จานวน 9 คร้ัง มีผู้เข้าร่วมจานวน 8,599 คน จัดพิมพ์เอกสารประกอบการรับชม รายการ จานวน 8,700 เล่ม จัดทาเอกสารอิเล็กทรอนิกส์เผยแพร่ทางเว็บไซต์ www.etvthai.tv จานวน 26 เรื่อง นอกจากน้ี ยังมีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ อาทิเช่น แผ่นพับ เว็บไซต์ เฟสบุ๊ค สปอตโทรทัศน์ และป้าย อัจฉรยิ ะ 2.3.6 การสนับสนุนทุนการศึกษา โดยสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้ดาเนินโครงการ หน่ึงอาเภอหนึ่งทุน ให้การสนับสนุนทุนการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีทั้งในประเทศและต่างประเทศ แก่นักเรียน นักศึกษาไทย เพ่ือพัฒนาศักยภาพของนักเรียน นักศึกษาให้ได้เรียนรู้ความก้าวหน้าทางวิทยาการ ภาษาต่างประเทศ และทักษะต่างๆ ท่ีจาเป็นโดยนาความรู้และความเช่ียวชาญของต่างประเทศที่ไปศึกษา ท่ีหลากหลาย และเป็นสาขาที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน ท้องถ่ิน และทิศทาง การพัฒนาประเทศ ซึง่ ถอื เป็นการลงทุนดา้ นทรัพยากรมนุษย์ทจ่ี ะสง่ ผลตอ่ การเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกจิ และสังคมของประเทศไทย

53 ในระยะยาวและย่ังยืน สาหรับผลการดาเนินงานโครงการตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ – ๒๕๕๘ มีผู้เข้าร่วมโครงการ รวม ๔ รุ่น จานวน ๓,๐๙๓ คน  มีผู้สาเร็จการศึกษาแล้ว จานวน 1,635 คน จาแนกตามรุ่น ดังนี้ รุ่นท่ี ๑ จานวน 830 คน รุ่นที่ ๒ จานวน 764 คน รุ่นที่ 3 จานวน 41 คน โดยกลับมาทางาน (๑) ภาคเอกชน ร้อยละ 69.32 (๒) รับราชการ ร้อยละ 14.44 (๓) ศกึ ษาต่อ ร้อยละ 10.74 (๔) ประกอบธุรกิจส่วนตัว รอ้ ยละ 1.48 และ (๕) รัฐวสิ าหกจิ รอ้ ยละ 1.17  มีผู้ท่ีอยู่ระหว่างการศึกษาท้ังในประเทศและต่างประเทศ จานวน 1 ,203 คน แบง่ ออกเป็นรนุ่ ที่ ๓ จานวน 638 คน และรนุ่ ท่ี ๔ จานวน 565 คน นอกจากน้ี สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดาเนินการจัดสอบคัดเลือกนักเรียน เพ่ือรับทุนรัฐบาลคูเวต ประจาปี 2559 – 2560 เพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ณ มหาวิทยาลัยคูเวต ในสาขาวิชา (1) อิสลามศึกษา ครุศาสตร์ อักษรศาสตร์ หรือสังคมศาสตร์ จานวน 1 ทุน และ (2) อักษรศาสตร์ จานวน 1 ทุน โดยมีผู้สมัครทั้งส้ิน จานวน 30 คน มีคุณสมบัติเข้าสอบข้อเขียน จานวน 28 คน สาหรับ การสอบสัมภาษณ์จะพิจารณาจากผู้ท่ีมีคะแนนจากการสอบข้อเขียนสูงสุด 10 อันดับแรก ผลการพิจารณา คัดเลือกปรากฏดังนี้ (1) นางสาวเกศินี บินหะยี อับดุบรามัน จากโรงเรียนอิสลามสันติชน กรุงเทพฯ ได้รับ การพิจารณาให้ได้รับทุนเพ่ือเข้าศึกษาในสาขาอิสลามศึกษา ครุศาสตร์ อักษรศาสตร์ หรือสังคมศาสตร์ และ (2) นางสาวซัลมียา่ แอนดะรสิ จากโรงเรียนศาสนวทิ ยา กรุงเทพฯ ได้รบั การพจิ ารณาให้ไดร้ ับทนุ เพื่อเขา้ ศกึ ษา ในสาขาอกั ษรศาสตร์ 2.3.7 การสนับสนุนค่าใช้จ่ายการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาข้ันพื้นฐาน โดยสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้รับงบประมาณสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ใหก้ ับนักเรยี น นักศกึ ษาในโรงเรียนเอกชน จานวน 28,461,040,090 บาท และสามารถจัดสรรเงินอดุ หนนุ เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐานให้กับนักเรียนในระดับช้ันอนุบาล 1 ถึง ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 จานวน 3,533 โรง นักเรียน 2,062,850 คน (ได้ตัดโรงเรียนประเภทอาชีวศึกษาออกจากระบบการให้เงิน อุดหนุนแล้ว) และจัดสรรเงินอุดหนุนค่าครองชีพชั่วคราวครูโรงเรียนเอกชนท่ีมีวุฒิต่ากว่าปริญญาตรี จานวน 2,430 คน ในขณะเดียวกัน สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการยังได้รับงบประมาณสนับสนุนค่าใช้จ่าย ในการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน จานวน 6,536,359,100 ล้านบาท ซึ่งมีผู้เรียน การศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ ฐานได้รับการสนบั สนนุ ค่าใชจ้ ่าย จานวน 1,235,195 คน

54 เป้าประสงค์ที่ 3 ประชาชนไดร้ บั การศึกษาทีม่ คี ุณภาพ 3.1 บทนา ภายใต้เป้าประสงค์ของการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาในระบบ นอกระบบ และ การศึกษาตามอัธยาศัย มีกลยุทธ์ท่ีสาคัญ 2 กลยุทธ์ ได้แก่ (1) พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานผู้เรียนท้ังในระบบ นอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย และ (2) พัฒนาการศึกษาในเขตจังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีการ กาหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายในการบรรลุเป้าประสงค์ จานวน 13 ตัวชี้วัด ได้แก่ (1) ระดับคะแนนเฉล่ีย ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) 5 วิชาหลักในทุกระดับชั้นเพิ่มข้ึน (2) ระดับ คะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติด้านอาชีวศึกษา (V-NET) เพ่มิ ข้ึน (3) ระดับคะแนนเฉล่ีย ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอิสลามศกึ ษา(I-NET) เพ่ิมข้ึนทุกระดับหลักสูตร (4) ระดับคะแนน เฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) เพ่ิมขึ้นทุกระดับช้ัน (5) จานวนผู้ท่ีได้รับการส่งเสริมและพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม (6) จานวนครู คณาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา และบุคลากรท่ีเกี่ยวข้องผ่านการฝึกอบรมเปน็ ผู้บังคับบัญชาลูกเสือระดับต่างๆ (7) ร้อยละของ ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาที่ฝึกอบรมเป็นผู้บังคับบัญชาลูกเสือระดับต่าง ๆ ผ่านการประเมินทุกระดับ (8) พัฒนาและปรับปรงุ ค่ายลกู เสอื (9) จานวนนักเรียน นกั ศกึ ษา ครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษาในเขตพัฒนา พิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการพัฒนา (10) จานวนผผู้ ่านการอบรมการศึกษาต่อเน่อื งในเขต พัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (11) จานวนผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา และผู้เรียน โรงเรียนเอกชนในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการพัฒนา (12) การรณรงค์ป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด และ (13) ร้อยละของสถานศึกษาท่ีร่วมโครงการ TO BE NUMBER ONE มีนโยบายส่งเสริมค่านิยม สร้างความตระหนัก ความรู้ ความเข้าใจดาเนินกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ให้สุขภาพ รา่ งกายมีการเจรญิ เติบโตตามสขุ ภาวะหา่ งไกลยาเสพติดทกุ ประเภท 3.2 ผลการบรรลเุ ปา้ ประสงค์ จากการติดตามผลสาเร็จ และ/หรือ ผลการดาเนินงานภายใต้เป้าประสงค์ที่ 3 สามารถสรุปผล การบรรลุเป้าประสงคร์ ายละเอยี ดดงั ตาราง 15 ดังนี้ 3.2.1 ระดับคะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพื้นฐาน (O-NET) 5 วิชา หลักในทุกระดับช้ันเพิ่มข้ึน ปรากฏผลว่า คะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) 5 วชิ าหลักในระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ระดับมัธยมศึกษาปที ่ี 3 และระดบั มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 เพมิ่ ขึ้น คิดเป็นร้อยละ 5.85 7.53 และ 5.49 ตามลาดับ สรุปได้ว่าสามารถดาเนินการบรรลุเป้าหมายทกี่ าหนดไว้ โดยมีรายละเอยี ดดังน้ี

55 1) ระดับประถมศึกษาปีท่ี 6 พบว่า คะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ขนั้ พน้ื ฐาน (O-NET) 5 วิชาหลักเพ่ิมข้นึ 2.80 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5.85 ตาราง 6 คะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพน้ื ฐาน (O-NET) ระดับประถมศึกษาปีท่ี 6 ของสถานศกึ ษาในสงั กัด สช. ค่าเฉล่ียรายวิชา วชิ า ปีการศกึ ษา ปีการศึกษา ผลต่าง คดิ เปน็ ร้อยละ ภาษาไทย 2557 2558 4.96 10.40 สงั คมศึกษา -2.17 3.90 ภาษาองั กฤษ 47.71 52.67 5.11 10.95 คณติ ศาสตร์ 6.20 14.42 วทิ ยาศาสตร์ 55.7 53.53 -0.11 0.24 2.80 5.85 ค่าเฉลีย่ รวม 46.65 51.76 43.00 49.2 46.08 45.97 47.83 50.63 2) ระดับมธั ยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า คะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ขน้ั พน้ื ฐาน (O-NET) 5 วิชาหลกั เพมิ่ ขึ้น 2.72 คิดเปน็ รอ้ ยละ 7.53 ตาราง 7 คะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพ้ืนฐาน (O-NET) ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของสถานศึกษาในสังกดั สช. คะแนนเฉลย่ี วิชา ปีการศึกษา ปกี ารศึกษา ผลตา่ ง คดิ เปน็ ร้อยละ ภาษาไทย 2557 2558 7.4 21.11 สังคมศึกษา -0.26 0.56 ภาษาอังกฤษ 35.05 42.45 4.38 14.94 คณติ ศาสตร์ 3.12 10.19 วทิ ยาศาสตร์ 46.73 46.47 -1.02 2.61 2.72 7.53 คา่ เฉลยี่ รวม 29.31 33.69 30.61 33.73 39.07 38.05 36.15 38.88

56 3) ระดับมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 พบว่า คะแนนเฉลย่ี ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ข้นั พนื้ ฐาน (O-NET) 5 วชิ าหลักเพิ่มขนึ้ 1.81 คดิ เป็นร้อยละ 5.49 ตาราง 8 คะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพ้ืนฐาน (O-NET) ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของสถานศกึ ษาในสงั กัด สช. คะแนนเฉลี่ย วิชา ปีการศกึ ษา ปีการศึกษา ผลต่าง คดิ เปน็ ร้อยละ ภาษาไทย 2557 2558 -0.83 1.71 สังคมศึกษา 3.03 8.51 ภาษาอังกฤษ 48.53 47.7 1.54 5.93 คณิตศาสตร์ 4.53 20.45 วทิ ยาศาสตร์ 35.62 38.65 0.76 2.36 1.81 5.49 คา่ เฉล่ยี รวม 25.95 27.49 22.15 26.68 32.15 32.91 32.9 34.7 3.2.2 ระดับคะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอาชีวศึกษา (V-NET) เพ่ิมขึ้น ปรากฏผลว่า ไม่สามารถติดตามคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอาชีวศึกษา (V-NET) เนื่องจากมีการเปล่ียนแปลงการปฏิรูปการศึกษาและการบริหารราชการในกระทรวงศึกษาธิการ ตามคาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่8/2559 เรื่อง การบริหารจัดการรวมสถานศึกษา อาชีวศึกษาภาครัฐและภาคเอกชน โดยสาระสาคัญท่ีเกี่ยวข้อง คือ ให้โอนบรรดาอานาจหน้าที่ของสานักงาน คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ ในส่วนที่เกี่ยวกับ การดาเนินงานโรงเรียนในระบบ ประเภทอาชีวศึกษา ตามท่ีบัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน และ ของข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างของสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สานักงาน ปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการ ในส่วนที่เก่ียวกับการดาเนินงานโรงเรียนในระบบ ประเภทอาชีวศึกษา ตามท่ีบัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน ไปเป็นอานาจหน้าที่ของสานักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ หรือของข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างของสานักงาน คณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ แล้วแต่กรณี 3.2.3 ระดับคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอิสลามศึกษา (I-NET) เพ่ิมข้ึนทุกระดับหลกั สูตร ปรากฏผลว่า คะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอิสลามศึกษา (I –NET) ในระดับอิสลามตอนต้น ระดับอิสลามตอนกลาง และระดับอิสลามตอนปลาย เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.56 6.15 และ 12.47 ตามลาดับ สรุปได้ว่าไม่สามารถดาเนินการบรรลุเป้าหมายที่กาหนดไว้ เน่ืองจาก

57 คะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอิสลามศึกษา (I –NET) ในระดับอิสลามตอนต้น เพิ่มข้นึ ไม่ถงึ ร้อยละ 2 โดยมีรายละเอยี ดดังนี้ 1) ระดับอิสลามตอนต้น พบว่า คะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ด้านอิสลามศึกษา (I–NET) เพมิ่ ขึน้ 0.23 คิดเปน็ รอ้ ยละ 0.56 ตาราง 9 คะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอิสลามศึกษา (I –NET) ระดับอิสลาม ตอนตน้ คะแนนเฉลี่ย วชิ า ปกี ารศึกษา ปกี ารศึกษา ผลต่าง คิดเป็นร้อยละ อัลกุรอาน-อลั ตัฟซีร 2557 2558 4.28 12.51 อัลหะดษิ 0.70 1.47 อัลอากีดะฮฺ 34.22 38.50 4.81 14.34 อัลฟกิ ฮฺ -4.88 -11.60 อัตตารคี 47.61 48.30 -0.99 -2.19 อัลอคั ลาค -0.41 -0.79 ภาษามลายู 33.54 38.35 1.88 4.91 ภาษาอาหรับ -3.56 -9.84 42.08 37.20 0.23 0.56 ค่าเฉล่ียรวม 45.16 44.17 52.21 51.80 38.30 40.18 36.18 32.62 41.16 41.39 2) ระดับอิสลามตอนกลาง พบวา่ คะแนนเฉล่ยี ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ด้านอสิ ลามศึกษา (I–NET) เพ่ิมขน้ึ 2.65 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 6.15 ตาราง 10 คะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอิสลามศึกษา (I –NET) ระดับอิสลาม ตอนกลาง คะแนนเฉล่ยี วชิ า ปีการศึกษา ปกี ารศึกษา ผลตา่ ง คิดเป็นรอ้ ยละ อลั กรุ อาน-อัลตัฟซีร 2557 2558 13.19 36.53 อลั หะดิษ 1.30 2.99 อลั อากีดะฮฺ 36.11 49.29 6.03 12.38 อัลฟิกฮฺ 3.53 8.84 อัตตารคี 43.55 44.84 0.72 2.07 อลั อัคลาค -2.09 -3.26 ภาษามลายู 48.70 54.74 -0.29 -0.69 ภาษาอาหรับ -1.21 -3.40 ค่าเฉล่ยี รวม 39.95 43.48 2.65 6.15 34.86 35.58 64.06 61.97 41.86 41.57 35.58 34.37 43.08 45.73

58 3) ระดับอิสลามตอนปลาย พบว่า คะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ดา้ นอิสลามศกึ ษา (I –NET) เพม่ิ ขึน้ 4.59 คิดเป็นรอ้ ยละ 12.47 ตาราง 11 คะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอิสลามศึกษา (I –NET) ระดับอิสลาม ตอนปลาย คะแนนเฉล่ีย วิชา ปกี ารศกึ ษา ปกี ารศึกษา ผลตา่ ง คิดเปน็ ร้อยละ อลั กรุ อาน-อัลตัฟซรี 2557 2558 4.02 11.54 อัลหะดิษ 16.10 47.49 อัลอากีดะฮฺ 34.85 38.87 8.67 21.62 อลั ฟกิ ฮฺ 4.95 13.47 อตั ตารีค 33.90 50.00 6.60 21.17 อัลอคั ลาค -10.33 -18.73 ภาษามลายู 40.10 48.77 10.11 36.95 ภาษาอาหรับ -3.40 -9.68 36.76 41.71 4.59 12.47 คา่ เฉล่ยี รวม 31.18 37.78 55.14 44.80 27.36 37.47 35.12 31.73 36.80 41.39 3.2.4 ระดับคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบ โรงเรียน (N-NET) เพิ่มขึ้นทุกระดับชั้น ปรากฏผลว่า ระดับคะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศึกษา ระดบั ชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) ในระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เพ่ิมข้ึน ร้อยละ 5.70 และร้อยละ 4.34 ตามลาดับ ในขณะที่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นมีระดับคะแนนเฉล่ีย ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.86 สรุปได้วา่ ไมส่ ามารถดาเนนิ การบรรลุเป้าหมายทกี่ าหนดไว้ เนอ่ื งจากคะแนนเฉล่ยี ผลการทดสอบทางการศกึ ษา ระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เพ่ิมขึ้น ไม่ถึงร้อยละ 2 โดยมี รายละเอยี ดดงั น้ี

59 1) ระดับประถมศึกษา พบว่า คะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ด้านการศึกษานอกระบบโรงเรยี น (N-NET) เพ่มิ ขึน้ 2.26 คิดเปน็ ร้อยละ 5.70 ตาราง 12 คะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) ระดับประถมศกึ ษา คะแนนเฉลี่ย วิชา ปกี ารศึกษา ปีการศกึ ษา ผลตา่ ง คดิ เป็นร้อยละ 2/2558 1/2559 สาระทักษะการเรยี นรู้ 36.68 37.13 0.45 1.23 สาระความรู้พื้นฐาน 32.52 35.77 3.25 9.99 สาระการประกอบอาชีพ 39.92 43.79 3.87 9.69 สาระทกั ษะการดาเนนิ ชวี ิต 45.84 48.09 2.25 4.91 สาระการพฒั นาสงั คม 43.19 44.66 1.47 3.40 คา่ เฉล่ียรวม 39.63 41.89 2.26 5.70 2) ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น พบว่า คะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศึกษา ระดบั ชาติดา้ นการศกึ ษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) เพ่มิ ขนึ้ 0.34 คดิ เปน็ ร้อยละ 0.86 ตาราง 13 คะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น คะแนนเฉลีย่ วิชา ปีการศึกษา ปีการศกึ ษา ผลต่าง คดิ เป็นร้อยละ สาระทักษะการเรยี นรู้ 2/2558 1/2559 -1.37 -3.15 สาระความรู้พืน้ ฐาน -0.54 -1.61 สาระการประกอบอาชพี 43.44 42.07 4.17 11.50 สาระทกั ษะการดาเนนิ ชวี ติ -0.18 -0.39 สาระการพฒั นาสงั คม 33.57 33.03 -0.34 -0.88 0.34 0.86 คา่ เฉลย่ี รวม 36.26 40.43 45.89 45.71 38.74 38.40 39.58 39.92

60 3) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย พบว่า คะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศึกษา ระดับชาติด้านการศกึ ษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) เพมิ่ ข้ึน 1.43 คิดเปน็ ร้อยละ 4.34 ตาราง 14 คะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย คะแนนเฉล่ีย วชิ า ปีการศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา ผลต่าง คดิ เป็นร้อยละ 2/2558 1/2559 สาระทกั ษะการเรียนรู้ 33.95 42.44 8.49 25.01 สาระความรู้พนื้ ฐาน 27.51 29.90 2.39 8.69 สาระการประกอบอาชีพ 35.58 27.82 -7.76 -21.81 สาระทักษะการดาเนนิ ชวี ิต 41.44 38.17 -3.27 -7.89 สาระการพฒั นาสงั คม 27.41 34.72 7.31 26.67 คา่ เฉล่ียรวม 33.17 34.61 1.44 4.34 3.2.5 จานวนผู้ท่ีได้รับการส่งเสริมและพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ปรากฏผลว่า สานักงาน ปลดั กระทรวงศึกษาธิการได้ดาเนินการส่งเสริมและพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม จานวน 88,513 คน โดยมกี าร ดาเนินงานท่ีสาคัญ อาทิเช่น ส่งเสริมเยาวชนลูกเสือมีระเบียบวินัยในสังคม จานวน ๔๑,๐๘๒ คน ส่งเสริม กิจกรรมลูกเสือป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จานวน 8,160 คน จัดโครงการค่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่ ใฝ่ค่านิยมในส่วนภูมิภาค จานวน ๑๕ รุ่น รุ่นละ ๒๐๐ คน และในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จานวน ๓ รุ่น จานวน 3,228 คน จัดกิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์ยุวกาชาด จานวน 10,4๖๐ คน เป็นต้น สรุปได้ว่าสามารถ ดาเนนิ การบรรลุเป้าหมายทก่ี าหนดไว้ 3.2.6 จานวนครู คณาจารย์ บุคลากรทางการศกึ ษา และบุคลากรที่เกี่ยวข้องผา่ นการฝึกอบรม เป็นผู้บังคับบัญชาลูกเสือระดับต่าง ๆ ปรากฏผลว่า สานักงานลูกเสือแห่งชาติได้มีการจัดฝึกอบรมหลักสูตร การเป็นผบู้ ังคับบัญชาลูกเสือระดับต่าง ๆ คือ หลักสตู รผกู้ ากบั ลูกเสือประเภทสารอง , สามัญ , สามัญรุ่นใหญ่ และวิสามญั ข้นั ความร้ทู ่วั ไป และขัน้ ความรูเ้ บื้องตน้ / หลกั สตู รผกู้ ากบั ลกู เสือประเภทสารอง , สามัญ , สามัญ รุ่นใหญ่ และวสิ ามญั ขัน้ ความรู้ช้ันสงู (๒ ท่อน) / หลักสูตรบคุ ลากรทางการลูกเสือระดบั ผู้นา ขั้นความรู้ช้ันสูง (๒ ท่อน) / หลักสูตรบุคลากรทางการลูกเสือขั้นผู้ช่วยหัวหน้าผู้ให้การฝึกอบรมผู้กากับลูกเสือ (๓ ท่อน) และ หลักสูตรบุคลากรทางการลูกเสือข้ันหัวหน้าผู้ให้การฝึกอบรมผู้กากับลูกเสือ (๔ ท่อน) ซึ่งมีครู คณาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา และบุคลากรที่เกี่ยวข้องผ่านการฝึกอบรมฯ ดังกล่าว จานวน ๒๖,๐๓๔ คน สรุปได้ว่า ไมส่ ามารถดาเนนิ การบรรลเุ ปา้ หมายท่ีกาหนดไว้

61 3.2.7 ร้อยละของ ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาท่ีฝึกอบรมเป็นผู้บังคับบัญชา ลูกเสือระดับต่างๆ ผ่านการประเมินทุกระดับ ปรากฏว่า สานักงานลูกเสือแห่งชาติดาเนินการออกหนังสือ สาคัญในการแต่งตั้งให้มีคุณวุฒิวูดแบดจ์ และมีสิทธิประดับเครื่องหมายวูดแบดจ์ จานวน ๑๑,๐๕๕ ราย จากจานวนผู้ผา่ นการฝึกอบรม ๑๒,๒๘๔ ราย หลกั สูตรผู้กากบั ลกู เสือประเภทสารอง , สามัญ , สามัญรุ่นใหญ่ และวิสามัญ ขั้นความรู้ชั้นสูง (๒ ท่อน) / หลักสูตรบุคลากรทางการลูกเสือระดับผู้นา ขั้นความรู้ช้ันสูง (๒ ท่อน)/ หลักสูตรบุคลากรทางการลูกเสือขั้นผู้ช่วยหัวหน้าผู้ให้การฝึกอบรมผู้กากับลูกเสือ (๓ ท่อน) และ หลักสูตรบุคลากรทางการลูกเสือข้ันหัวหน้าผู้ให้การฝกึ อบรมผู้กากบั ลูกเสือ (๔ ท่อน) คิดเป็น รอ้ ยละ ๘๙.๙๙ สรุปไดว้ ่าดาเนินการบรรลเุ ปา้ หมายทกี่ าหนดไว้ 3.2.8 พัฒนาและปรับปรุงค่ายลูกเสือ ปรากฏผลว่า สานกั งานลูกเสือแห่งชาติได้รับงบประมาณ ในการปรับปรุงค่ายลูกเสือเป็นจานวนเงิน 16,470,000 บาท จานวน 10 แห่ง ดังนี้ (1) คา่ ยลูกเสอื วชิราวุธ จังหวัดชลบุรี ดาเนินการปรับปรุงตึกอานวยการ (2) ค่ายลูกเสือจังหวัดชัยภูมิ ดาเนินการปรับปรุง ตึกอานวยการ หอประชุม และระบบไฟฟ้า (3) ค่ายลูกเสือจังหวัดพังงา ดาเนินการปรับปรุงอาคาร อเนกประสงค์ (4) ค่ายลูกเสือไทยเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดตรงั ดาเนนิ การปรับปรุงหอประชุม (5) ค่ายลูกเสือ จังหวัดน่าน ปรับปรงุ หอประชุม ท่ีพกั เข้ารับการฝกึ อบรม (6) ค่ายลูกเสอื จังหวัดนครพนม ดาเนินการปรับปรุง ท่ีพักเข้ารับการฝึกอบรม (7) ค่ายลูกเสือสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ ดาเนินการปรับปรุงระบบไฟฟ้าและระบบ สุขาภิบาล (8) ค่ายลูกเสือจังหวัดศรีสะเกษ ดาเนินการปรับปรุงโรงอาหาร (9) ค่ายลูกเสือจังหวัดลาปาง ดาเนินการปรับปรุงอาคารอเนกประสงค์ และ (10) ค่ายหลวงบ้านไร่ จังหวัดราชบุรี ดาเนินการปรับปรุง ลานอเนกประสงค์ สรุปได้ว่าไมส่ ามารถดาเนนิ การบรรลเุ ป้าหมายทก่ี าหนดไว้ 3.2.9 จานวนนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการพัฒนา ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการดาเนินการพัฒนา นักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ จานวน 40,568 คน ซึ่งสอดคล้องกับตามจุดเน้น 6 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาคุณภาพการศึกษา การส่งเสริม และสนับสนุน การพัฒนากีฬาเข้าสู่ระบบการศึกษา การส่งเสริมความปลอดภัย สวัสดิการครูและบุคลากร ทางการศึกษา การเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษา การจัดการศึกษาเพ่ือการมีอาชีพ และการเสริมสร้าง การศึกษาเพ่ือความม่ันคง โดยมีการดาเนินงานท่ีสาคัญ อาทิเช่น ส่งเสริมการใช้หลักสูตรสังคมพหุวัฒนธรรม จังหวัดชายแดนภาคใต้ พัฒนาผู้นาการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ ส่งเสริมพัฒนาระบบอิสลามศึกษาจงั หวัดชายแดน ภาคใต้ จัดค่ายเรียนรู้โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นต้น สรุปได้ว่าสามารถ ดาเนินการบรรลุเป้าหมายทก่ี าหนดไว้ 3.2.10 จานวนผู้ผ่านการอบรมการศึกษาต่อเนื่องในเขตพัฒนาพเิ ศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดน ภาคใต้ ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการดาเนินการจัดอบรมการศึกษาต่อเนื่องในเขตพัฒนา พิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากศูนย์การศึกษาตลอดชีวิตชุมชน ทั้งกิจกรรมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน

62 กิจกรรมส่งเสริมทักษะชีวิต โครงการน้อมนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถาบันศึกษาปอเนาะ และ โครงการส่งเสริมหมู่บ้านเรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาท รวมท้ังส้ิน จานวน 60,605 คน สรุปได้ว่าสามารถ ดาเนนิ การบรรลเุ ป้าหมายท่กี าหนดไว้ 3.2.11 จานวนผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา และผู้เรียนโรงเรียนเอกชนในเขตพัฒนา พิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการพัฒนา ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สามารถพัฒนาผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา และผู้เรียนโรงเรียนเอกชนในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จงั หวัดชายแดนภาคใต้ จานวน 175,938 คน สรุปไดว้ า่ สามารถดาเนินการบรรลุเปา้ หมายที่กาหนดไว้ 3.2.12 การรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวง ศึกษาธิการดาเนินการกิจกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จานวน 1 กิจกรรม โดยมีเป้าหมาย สร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 – 6 ในสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร ท้ังโรงเรียนรัฐบาลและเอกชน จานวนประมาณ 4,800,000 คน ทั่วประเทศ ในช่วงตุลาคม 2557 – กันยายน 2558 และการจัดกิจกรรมป้องกัน เฝ้าระวังปัญหายาเสพติด ในสถานศึกษา โดยเป็นสถานศึกษาที่เปดิ สอนระดับชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1 – มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 (ขยายโอกาส), มัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา และมีผลการดาเนินงาน คือ มีนักเรียนช้ันประถมศึกษา ปีท่ี 1 – 6 ได้รับการสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดที่ผ่านเกณฑ์เชิงคุณภาพ จานวน 3,713,942 คน และ สถานศึกษาระดับชั้นขยายโอกาส มัธยมศึกษา อาชีวศึกษาและอุดมศึกษา มีการดาเนินกิจกรรมป้องกัน เฝ้าระวัง และแก้ไขปัญหายาเสพติดท่ีผ่านเกณฑ์เชิงคุณภาพ จานวน 10,353 แห่ง นอกจากนี้ยังได้มีการดาเนินงาน ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษาเชิงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอ่ืน เช่น สานักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) อาทิเช่น การจัดกิจกรรมอบรมลูกเสือต้านภัยยาเสพ ติด ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 – 3 จานวน 664,619 คน การจัดต้ังหน่วยลูกเสือต้านภัยยาเสพติด ในโรงเรียน จานวน 13,624 แห่ง มีวิทยากรป้องกันยาเสพติดเข้าสอนในโรงเรียน (ครูผู้สอน ครูพระสอน ศีลธรรม ครู D.A.R.E.) จานวน 36,942 คน ในโรงเรียน 13,522 แห่ง สรุปได้ว่าสามารถดาเนินการบรรลุ เปา้ หมายท่กี าหนดไว้ 3.2.13 ร้อยละของสถานศึกษาที่ร่วมโครงการ TO BE NUMBER ONE มีนโยบายส่งเสริม ค่านิยม สร้างความตระหนัก ความรู้ ความเข้าใจดาเนินกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ให้สุขภาพร่างกายมีการ เจริญเติบโตตามสุขภาวะห่างไกลยาเสพติดทุกประเภท ปรากฏผลว่า ร้อยละ 100 ของสถานศึกษาที่ร่วม โครงการ TO BE NUMBER ONE มีนโยบายส่งเสริมค่านิยม สร้างความตระหนัก ความรู้ ความเข้าใจดาเนิน กิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ให้สุขภาพร่างกายมีการเจริญเติบโตตามสุขภาวะห่างไกลยาเสพติดทุกประเภท โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ดาเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ต้ังแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 ซง่ึ มอบหมายให้องค์กรหลักท่มี ีสถานศกึ ษาจัดทาแผนปฏิบัติการในการขบั เคล่ือนกิจกรรมตามยทุ ธศาสตร์และ จัดตั้งชมรมและศูนย์เพ่ือนใจ TO BE NUMBER ONE ทั้งน้ีปัจจุบันมีสมาชิก TO BE NUMBER ONE

63 รวมจานวนทั้งส้ิน 25,053,602 คน มีสถานศึกษาท่ีเข้าร่วมเป็นชมรม TO BE NUMBER ONE จานวน 25,932 แห่ง และมีการจัดตั้งศูนย์เพื่อนใจในสถานศึกษา จานวน 5,425 คน (ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2559) ตาราง 15 ผลการบรรลุเปา้ ประสงค์ท่ี 3 ประชาชนได้รับการศกึ ษาที่มคี ุณภาพ ตวั ชวี้ ัดเปา้ ประสงค์ คา่ เป้าหมาย ผลการดาเนนิ งาน ผลการบรรลุ ทีเ่ กดิ ขึ้น เปา้ ประสงค์ 1.ระดบั คะแนนเฉล่ียผลการทดสอบ เพมิ่ ขึ้นร้อยละ 2 - ระดับประถมศึกษา บรรลุ ทางการศึกษาระดับชาติข้นั พื้นฐาน ปที ่ี 6 เพม่ิ ขึน้ (O-NET) 5 วชิ าหลกั ในทุกระดบั ชน้ั เพม่ิ ขนึ้ ร้อยละ 2 รอ้ ยละ 5.85 N/A เพิ่มขึ้น เพิม่ ขึ้นร้อยละ 2 - ระดับมัธยม ไม่บรรลุ เพิม่ ขน้ึ ร้อยละ 2 ศกึ ษาปีที่ 3 เพ่มิ ขึน้ ไมบ่ รรลุ 2. ระดบั คะแนนเฉล่ยี ผลการทดสอบ 80,000 คน รอ้ ยละ 7.53 ทางการศกึ ษาระดบั ชาติด้าน - ระดับมัธยม บรรลุ อาชวี ศึกษา (V-NET) เพิ่มขนึ้ ศึกษาปีท่ี 6 3. ระดบั คะแนนเฉลีย่ ผลการทดสอบ เพิม่ ขน้ึ ทางการศกึ ษาระดับชาติด้านอิสลาม รอ้ ยละ 5.49 ศกึ ษา (I-NET) เพม่ิ ข้นึ ทุกระดับ หลักสูตร N/A 4. ระดบั คะแนนเฉลย่ี ผลการทดสอบ - ระดับอิสลามตอนตน้ ทางการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษา เพมิ่ ขนึ้ ร้อยละ 0.56* นอกระบบโรงเรยี น (N-NET) เพมิ่ ขึน้ - ระดับอสิ ลาม ทกุ ระดับช้ัน ตอนกลาง เพม่ิ ข้นึ รอ้ ยละ 6.15 5. จานวนผทู้ ไี่ ดร้ ับการสง่ เสริมและ - ระดบั อิสลาม พัฒนาคณุ ธรรม จริยธรรม ตอนปลาย เพ่ิมขน้ึ ร้อยละ 12.47 - ระดับประถมศึกษา เพ่มิ ขึน้ ร้อยละ 5.70 - ระดับมัธยมศกึ ษา ตอนตน้ เพ่ิมขึน้ ร้อยละ 0.86* - ระดบั มัธยมศึกษา ตอนปลาย เพ่ิมขนึ้ ร้อยละ 4.34 88,513 คน

64 ตวั ชว้ี ดั เป้าประสงค์ ค่าเป้าหมาย ผลการดาเนินงาน ผลการบรรลุ ที่เกดิ ขึน้ เปา้ ประสงค์ 6. จานวนครู คณาจารย์ บุคลากร 38,500 คน ทางการศึกษา และบุคลากรที่เกย่ี วข้อง 26,034 คน ไมบ่ รรลุ ผา่ นการฝกึ อบรมเป็นผู้บงั คบั ร้อยละ 80 บัญชาลูกเสอื ระดับตา่ งๆ รอ้ ยละ ๘๙.๙๙ บรรลุ 7. ร้อยละของ ครู คณาจารย์และ 11 แหง่ บุคลากรทางการศึกษาท่ฝี กึ อบรม 34,246 คน 10 แห่ง ไม่บรรลุ เปน็ ผ้บู ังคับบญั ชาลกู เสือระดับต่างๆ 40,568 คน บรรลุ ผา่ นการประเมินทกุ ระดบั 40,136 คน 125,006 คน 60,605 คน บรรลุ 8. พัฒนาและปรับปรุงคา่ ยลูกเสอื 175,938 คน บรรลุ 1 กจิ กรรม 9. จานวนนักเรยี น นกั ศึกษา ครู และ รอ้ ยละ 75 1 กิจกรรม บรรลุ บคุ ลากรทางการศึกษาในเขตพัฒนา รอ้ ยละ 100 บรรลุ พเิ ศษเฉพาะกิจจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ ไดร้ บั การพฒั นา 10. จานวนผผู้ า่ นการอบรมการศึกษา ตอ่ เนอื่ งในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกจิ จังหวัดชายแดนภาคใต้ 11. จานวนผู้บริหาร ครู บุคลากร ทางการศกึ ษา และผเู้ รยี นโรงเรียน เอกชนในเขตพฒั นาพเิ ศษเฉพาะกิจ จังหวดั ชายแดนภาคใต้ได้รบั การ พฒั นา 12. การรณรงคป์ ้องกันและแก้ไข ปัญหายาเสพติด 13. ร้อยละของสถานศึกษาที่ร่วม โครงการ TO BE NUMBER ONE มีนโยบายส่งเสรมิ ค่านิยม สร้างความ ตระหนัก ความรู้ ความเขา้ ใจดาเนิน กจิ กรรมเชงิ สรา้ งสรรค์ใหส้ ุขภาพ รา่ งกายมีการเจรญิ เติบโตตามสุขภาวะ ห่างไกลยาเสพตดิ ทุกประเภท

65 กล่าวโดยสรุปแล้ว เป้าประสงค์ท่ี 3 ประชาชนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ มีผลการดาเนินงาน ที่บรรลุเป้าประสงค์ตามตัวช้ีวัดท่ีกาหนดขึ้น จานวน 8 ตัวชี้วัด ไม่สามารถดาเนินการบรรลุเป้าประสงค์ จานวน 4 ตัวช้ีวัด และไม่สามารถติดตามผลการดาเนินงานตามตัวชี้วัดเน่ืองจากมีการเปล่ียนแปลงการปฏิรูป การศึกษาและการบริหารราชการในกระทรวงศึกษาธิการ ตามคาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ท8ี่ /2559 จานวน 1 ตัวช้วี ัด 3.3 ผลการดาเนนิ งานทีส่ าคัญ สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ดาเนินโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ท่ีมีความสอดคล้อง และสนองตอบต่อเปา้ ประสงค์ท่ี 3 ดังนี้ 3.2.1 การพัฒนาคณุ ภาพและมาตรฐานการศึกษาในโรงเรียนเอกชน มกี จิ กรรมทสี่ าคญั อาทิเชน่  โครงการ “ลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้” มีโรงเรียนเอกชนสมัครเป็นโรงเรียนนาร่อง เพ่ือดาเนินการตามนโยบาย “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” จานวน 665 โรง จาแนกเป็นระดับประถมศึกษา 379 โรง ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 24 โรง และโรงเรียนท่ีเปิดสอนท้ังในระดับประถมศึกษาและมธั ยมศึกษา ตอนต้น 223 โรง ซ่ึงโรงเรียนส่วนใหญ่ใช้เวลาจัดกิจกรรมตามนโยบายครอบคลุมทั้ง Head Heart Hand Health วันละ 1 ช่ัวโมง โดยใช้เวลาในช่ัวโมงสุดท้ายของแต่ละวัน ทั้งน้ีแต่ละโรงเรียนมีแนวทางในการจัด กจิ กรรมแตกต่างกัน โดยพจิ ารณาจากศักยภาพ และความสามารถของครูในโรงเรียน รวมทั้งความร่วมมือของ ชุมชนและผู้ปกครอง สาหรับการดาเนินการขยายผลในปีการศึกษา 2559 ได้ดาเนินการจัดประชุมสัมมนา ผู้บริหารและครูโรงเรียนเอกชน เพ่ือร่วมกันพัฒนาหลักสูตรกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้” เพ่ือพัฒนา คุณภาพและเสริมสร้างความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกับการบริหารจดั การเวลาเรียน การจัดทาโครงสร้างเวลาเรียน และการจัดตารางเรยี นใหส้ อดคล้องกับนโยบาย “ลดเวลาเรียน เพิม่ เวลารู้” จานวน 4 รุ่น รวมทั้งส้ิน 1,030 คน และโรงเรียนที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการในปีการศึกษา 2559 นี้ ได้มีการเตรียมการปรับโครงสร้างเวลาเรียน ให้พร้อมดาเนนิ การในปีตอ่ ไป  โครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนเอกชน เพ่ือพัฒนาศักยภาพนักเรียน ที่มีทักษะและความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ให้เป็นนักวิทยาศาสตร์ หรือ นกั วจิ ัยต่อไปในอนาคต มีผูเ้ ข้ารว่ มโครงการ 57 คน  โครงการแข่งขันทักษะวิชาชีพนักเรียนโรงเรียนนอกระบบ จานวน 3 คร้ัง ได้แก่ (1) การแข่งขันทักษะวิชาชีพนักเรียนโรงเรียนนอกระบบ วิชาดนตรี จานวน 828 คน และ (2) การแข่งขัน ทักษะวิชาชีพนักเรียนโรงเรียนนอกระบบ วิชาศิลปศึกษา (วาดภาพ ระบายสี) จานวน 183 คน (3) การแข่งขัน ทักษะวิชาชีพนักเรียนโรงเรียนนอกระบบ วิชาเสริมสวย ได้แบ่งการแข่งขันออกเป็น 6 ประเภท คือ เกล้าผม เจ้าสาว แต่งหน้าเจ้าสาว ซอยผมฟรสี ไตล์ชาย ซอยผมฟรีสไตล์หญิง ตัดผมชายด้วยปัตตะเลี่ยน และการไดร์ผม ฟารา่ ห์ จานวน 564 คน

66 3.3.2 การพัฒนาศักยภาพครูภาษาไทย วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ มีผู้เขา้ ร่วมโครงการ ท้ังส้ิน 1,556 คน มกี ิจกรรมสาคญั ดงั น้ี  กาหนดแผนพัฒนาศักยภาพครูภาษาไทย วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ โดยกาหนดแนวทางในการพัฒนาศักยภาพครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ และ คณิตศาสตร์ ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะการใช้เทคนิคการสอนเชิงการคิด วิเคราะห์ และสร้างสรรค์ รวมทั้งการใช้ภาษาในการส่ือสาร และสามารถจัดการเรียนการสอนตามแนวทางสะเต็มศกึ ษา (STEM Education) ให้เกิดข้ึนในทุกระดับช้ัน และนาไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีผู้เข้าร่วม ประชมุ 141 คน  พัฒนาศักยภาพครูวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ได้ร่วมมือกับสถาบันส่งเสริม การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) อบรมผู้บริหารและครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการใช้เทคนิคการสอนเชิงการคิดวิเคราะห์ และสร้างสรรค์ สามารถจัดการเรียนการสอนตามแนวทางสะเต็มศึกษาของประเทศไทย (STEM Education Thailand) เป็นระยะเวลา 3 ปี (ปี พ.ศ.2558 – 2560) ในโรงเรียนเอกชน 118 โรง 42 จงั หวัด ซ่ึงสามารถดาเนนิ การอบรม ไปแลว้ จานวน 858 คน  อบรมครูผู้สอนระดับปฐมวัยโรงเรียนท่ีเข้าร่วมโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทยเพื่อพัฒนาศักยภาพครูผู้สอนระดับปฐมวัยโรงเรียนเอกชนให้มีความรู้ ความเข้าใจเทคนิค และ กระบวนการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ และสามารถนาความรู้ที่ได้ไปจัดการเรียนการสอนในห้องเรียน จานวน 2 รุ่น รวมท้งั สนิ้ 222 คน  พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์การแก้ไขปัญหาทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนา ครู และบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนเอกชนตระหนักถึงความสาคญั ของการพัฒนาแนวทางการจัดการเรียน การสอน สามารถใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์แก้ปัญหาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ไปปรับใช้กับการทางาน มีผเู้ ขา้ ร่วมอบรม 150 คน  แข่งขันทักษะวิชาการเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านภาษาไทยนักเรียน โรงเรียนเอกชน ประเภทสามัญศึกษาเพ่ือส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนโรงเรียนเอกชนมีโอกาสแสดงความรู้ความสามารถ ทางด้านทักษะวิชาภาษาไทย ปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน และการคิดวิเคราะห์ รวมท้ังฝึกการเขียนภาษาไทย ท่ีถูกต้องตามหลักภาษาไทย จัดการแข่งขันทักษะ 4 ด้าน ได้แก่ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน จานวน 2 รุ่น รวม 730 คน  พัฒนาศักยภาพครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และ มที ักษะการใช้เทคนิคการสอนเชิงการคิด วิเคราะห์ และสร้างสรรค์ รวมทั้งการใชภ้ าษาในการสื่อสาร และนาไป ประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซงึ่ จะดาเนินการจัดอบรมเชิงปฏบิ ัติการครูผู้สอน

67 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดับประถมศึกษา จานวน 2 รุ่น รวมทั้งสิ้น 420 คน และจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ ครูผสู้ อนกล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ จานวน 2 รุน่ รวม 220 คน 3.2.3 การพัฒนาผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษาและผู้เรียนโรงเรียนเอกชนในเขตพัฒนา พิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับการพัฒนา รวมจานวนทั้งสิ้น 175,938 คน โดยมีกิจกรรม ท่สี าคัญ ได้แก่  พัฒนาผู้บริหาร ครูโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม สถาบันศึกษาปอเนาะ และศูนย์ การเรียนรู้ศาสนาอิสลามประจามัสยิด (ตาดีกา) สนับสนุนค่าธรรมเนียมการศึกษาในการเข้าศึกษาหลักสูตร ป.บัณฑิต ด้านวิชาชีพครู จานวน 240 คน โดยเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (มหาวิทยาลัยสงลานครินทร์ (วิทยาเขตปัตตานี) มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ยะลา และมหาวิทยาลัยฟาฏอนี)  พัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้โรงเรียนเอกชนที่จัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน : อบรม โครงการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้โรงเรียนเอกชนท่จี ัดการศึกษาข้ันพื้นฐาน หลักสูตร การอบรมเชิงปฏิบัตกิ าร การจัดการเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับพัฒนาการทางสมอง (BBL) ชุด \"พัฒนาการเรียนรู้ภาษาไทย และทักษะ การคิดพ้ืนฐาน ตามแนวคิด BBL\" ให้กับครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดับประถมศึกษาปีที่ 1 จานวน 225 คนให้มีความรู้ ความสามารถในการสอนภาษาไทย นาไปพฒั นากระบวนการจดั การเรยี นการสอน สามารถยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นของนักเรยี นใหส้ ูงข้ึน  โครงการส่งเสริมการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน และหลักสูตรอิสลามศึกษาแบบ บูรณาการ : ได้พัฒนาหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐานและหลักสูตรอิสลามศึกษาแบบบูรณาการ โดยปรับ โครงสร้างหลักสูตรให้มีสัดส่วนการเรียนวิชาพ้ืนฐานเพ่ิมข้ึนจากเดิมที่สัดส่วนวิชาพ้ืนฐาน : ศาสนา อยู่ที่ 50 : 50 ปรับเป็น 70 : 30 เพื่อให้ผู้เรียนได้รับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานท่ีมีคุณภาพ และได้คู่มือการพัฒนาหลักสูตร ในระดับช้ัน ป.2 ป.5 ม.2 และม.5 จานวน 28 เล่ม มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการเพ่ือใช้หลักสูตร 38 โรง ครูจานวน 657 คนเข้าร่วมพัฒนาหลกั สูตร และเข้าร่วมอบรม มีทักษะ มคี วามรู้ ความสามารถ เพื่อถ่ายทอด ให้กับนักเรียนในโรงเรียนที่สอนได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นการพัฒนา และกระตุ้น ให้เกิดความสนใจ ด้านวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอสิ ลามจงั หวัดชายแดนภาคใต้  โครงการส่งเสริมการพัฒนาโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในโครงการตาม พระราชดารสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดาสยามบรมราชกุมารใี หม้ คี ุณภาพ : ส่งเสริมสนบั สนุนการพัฒนาการจัด การศึกษาของโรงเรียนในโครงการ 15 แห่ง และมีผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา และผู้เรียนโรงเรียน เอกชน จานวน 1,687 คน ดงั นี้ (1) ด้านกายภาพ ไดส้ นบั สนนุ งบประมาณเพอ่ื พฒั นาอาคารสถานท่ี 11 โรง และสนับสนุนครุภัณฑ์ในการจัดการศึกษา 2 โรง และ (2) ด้านวิชาการ ได้สนับสนุนให้โรงเรียนท้ัง 15 โรง โดยจัดกิจกรรมเพ่ือยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน ได้แก่ การส่งเสริมศักยภาพในการพัฒนามาตรฐาน

68 การจัดการศึกษาของโรงเรียน การพัฒนาศักยภาพของผู้บริหารและครูผู้สอน และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ของผู้เรยี น  โครงการพัฒนาครูสอนอิสลามศึกษาในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม : สนับสนุน ค่าธรรมเนียมการศีกษาของครูสอนอิสลามศึกษา (อุ๊สต๊าส) หลักสูตรอนุปริญญา 170 คน โดยเข้าศึกษา ในวิทยาลัยชมุ ชนปตั ตานี ยะลา และนราธิวาส  โครงการพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนเอกชนในพ้ืนที่จังหวัด ชายแดนภาคใต้: พัฒนาประสิทธิภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนเอกชนในพื้นท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ 199 โรง นักเรียน 91,281 คน  โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้: เบิกจ่ายเงินพัฒนา คุณภาพการศึกษา คนละ 1,000 บาท ต่อเดือน ให้แก่ข้าราชการ 183 คน และพนักงานราชการ 608 คน รวมท้ังสิ้น 791 คน และอุดหนุนเงินพัฒนาคุณภาพการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้สาหรับครู โรงเรียนเอกชนในระบบ 8,816 คน ๆ ละ 2,500 บาท/เดอื น  โครงการเสริมสร้างความเข้าใจในสถานศึกษาเอกชน : มีผู้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 74,326 คน โดยแบ่งออกเป็น 4 กิจกรรม ดังนี้ (1) กิจกรรม เปิดโลกทัศน์นอกสถานที่ : จัดทัศนศึกษาดูงาน สังคมพหุวัฒนธรรมและแหล่งเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ให้กับผู้บริหาร ครูผู้สอน ผู้เรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในสถาบันศึกษาปอเนาะ จานวน 7 รุ่นๆละ 232 คน รวมทั้งส้ิน 1,678 คน (2) กิจกรรมติวเตอร์แนะแนวการศึกษาต่อสาหรับนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผู้เข้าร่วม โครงการทั้งส้ิน 17,085 คน (3) กิจกรรมอบรมผู้นาการเปลี่ยนแปลงให้กับผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียน เอกชนสอนศาสนา จานวน 600 คน และ (4) กิจกรรมการมีส่วนรว่ มของชุมชนรอบสถานศกึ ษา เช่น จัดงาน เมาลิดสัมพันธ์ แข่งขันกีฬาพ้ืนบ้าน ตาดีกาสัมพันธ์ บรรยายธรรม กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ โดยผู้เข้าร่วม โครงการเกิดสัมพันธ์ที่ดีต่อชุมชนรอบสถานศึกษา ชุมชนรอบสถานศึกษามีทัศนคติท่ีดีในด้านการศึกษา ท่เี หมาะสมตามสงั คมพหวุ ฒั นธรรม มีผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรม 54,963 คน  เงินอุดหนุนศูนย์การศึกษาอิสลามประจามัสยิด ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ : จัดสรรเงิน เป็นค่าตอบแทนและค่าบรหิ ารจัดการเพ่อื สนับสนุนการจัดการเรยี นการสอนของศูนย์การศึกษาอิสลามประจา มัสยิด(ตาดกี า) ใน ๕ จงั หวัดชายแดนภาคใต้ จาแนกเป็นคา่ ตอบแทนผสู้ อน 11,978 คน คนละ 2,000 บาท ค่าบรหิ ารจัดการ 2,085 ศูนย์ ศูนย์ละ 2,000 บาท/เดือน 3.3.4 การสนับสนนุ การจัดการศกึ ษาของโรงเรยี นเอกชนพ้ืนที่เสีย่ งภัย โดยดาเนินการ ดังน้ี  เงินอุดหนุนศูนย์การศึกษาอิสลามประจามัสยิด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจัดสรร เงินเป็นค่าตอบแทนและค่าบริหารจัดการเพ่ือสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนของศูนย์การศึกษาอิสลาม ประจามัสยิด (ตาดีกา) ใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ จาแนกเป็นคา่ ตอบแทนผ้สู อน จานวน 11,978 คน คนละ 2,๐๐๐ บาท คา่ บรหิ ารจดั การ 2,085 ศนู ย์ ศูนย์ละ 2,๐๐๐ บาทตอ่ เดือน

69  เงินอุดหนุนสถาบันศึกษาปอเนาะ โดยจัดสรรเป็นคา่ ตอบแทนโต๊ะครู ผ้ชู ่วยโต๊ะครู และ ค่าบริหารจัดการสถาบันศึกษาปอเนาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส) จาแนกเป็น ค่าบริหารจัดการปอเนาะ 379 แห่ง แห่งละ ๑,๐๐๐ บาทต่อเดือน และค่าตอบแทนโต๊ะครู/ผู้ช่วยโต๊ะครู จานวน 1,180 คน คนละ ๒,๐๐๐ บาทตอ่ เดอื น  เงินอุดหนุนพัฒนาโครงสร้างด้านกายภาพโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามและสถาบัน ศึกษาปอเนาะ อุดหนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านกายภาพแก่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม รวม 23 แห่ง จานวน ๓๕๐,๐๐๐ บาท  เงินอุดหนุนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามควบคู่วิชาสามัญสาหรับครูผู้สอนศาสนา (ประเภทโรงเรียนในระบบ) โดยจัดสรรเงินเป็นค่าตอบแทนครูสอนศาสนาใน ๓ จังหวัดชายแดนใต้ (จังหวัด ยะลา ปัตตานี นราธิวาส) เพื่ออุดหนุนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามควบคู่วิชาสามัญสาหรับครูผู้สอน ศาสนา (ประเภทโรงเรียนในระบบ) จานวน 163 แห่ง ผู้สอนศาสนา 646 คน คนละ ๒,๐๐๐ บาท ต่อเดอื น  เงินอุดหนุนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามท่ีสอนศาสนาอย่างเดียว (ประเภท โรงเรียนนอกระบบ) โดยจัดสรรเงินค่าตอบแทนครูสอนศาสนา ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส) เพ่ืออุดหนุนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามที่สอนศาสนาอย่างเดียว (ประเภทโรงเรียน นอกระบบ) จานวน 23 แห่ง แห่งละ ๑,๐๐๐ บาทต่อเดือน และครูผู้สอนศาสนา จานวน 69 คน คนละ ๒,๐๐๐ บาทตอ่ เดือน  เงินอุดหนุนปรับความรู้พื้นฐานและประเมินผลสัมฤทธิ์นักเรียนโรงเรียนเอกชนสอน ศาสนาอิสลามควบคู่สามัญ โดยจัดสรรเป็นเงินค่าตอบแทนครูและค่าบริหารจัดการแก่โรงเรียนท่ีเปิดสอน ปรับความรู้พ้ืนฐานและประเมินผลสัมฤทธิ์นักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามควบคู่สามัญ จานวน 205 โรง และนกั เรียน 21,395 คน 3.3.5 การจัดค่ายพรีโอลิมปิกวิชาการ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการดาเนินงานร่วมกัน ระหว่างสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) องค์การยูนิเซฟแห่งประเทศไทย ศนู ย์อานวยการบริหารจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ สถาบนั อดุ มศกึ ษาในเขตพื้นที่จังหวดั ชายแดนภาคใต้ และสานกั งาน เขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 15 โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือกระตุ้นและผลักดันให้เกิดความตื่นตัวในการ จัดการเรียนการสอนและพัฒนากาลังคนด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และทักษะชีวิตที่จะช่วยยกระดับ ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักเรียนในพน้ื ทีจ่ ังหวัดชายแดนภาคใตใ้ หส้ ูงขึ้น โดยมนี ักเรียนสนใจสมคั รเขา้ รว่ ม โครงการมากถึง 1,312 คน และมีนักเรียนสอบคัดเลือกผ่าน 605 คน ซึ่งได้เข้ารับการอบรมวิชาฟิสิกส์ เคมี ชีววทิ ยา คณิตศาสตร์ และทักษะชีวิต การทางานเปน็ ทมี ท้งั ภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ เปน็ เวลา 10 วนั คือ

70  ค่ายที่ 1 ระหว่างวันที่ 25 เมษายน - 4 พฤษภาคม 2559 โดยจัดอบรมวิชาฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์ และทักษะชีวิต การทางานเป็นทีม ณ ศูนย์มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ วิทยาเขต ปัตตานี ศูนยม์ หาวทิ ยาลยั นราธวิ าสราชนครินทร์ และศูนยม์ หาวทิ ยาลัยราชภฏั ยะลา  ค่ายที่ 2 ระหว่างวันท่ี 24 กรกฎาคม - 2 สิงหาคม 2559 โดยจัดอบรมวิชาฟิสิกส์ และคณิตศาสตร์ ท่ีศูนย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี อบรมวิชาเคมี ท่ีศูนย์มหาวิทยาลัย ราชภฏั ยะลา และอบรมวชิ าชีววิทยา ทศ่ี ูนยม์ หาวทิ ยาลยั นราธิวาสราชนครินทร์ 3.3.6 การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยดาเนินการ ดงั นี้  โครงการส่งเสรมิ ภาษาเพื่อการเรียนรู้และส่ือสาร มีผู้เข้าร่วมโครงการ จานวน 12,273 คน จาแนกเป็น (1) พัฒนาหลักสูตรภาษาไทยเพื่อการส่ือสาร (หลักสูตร ๕๐ ชั่วโมง)และพัฒนาหลักสูตรภาษา มาลายูถ่ินเพ่ือการสื่อสาร (หลักสูตร ๕๐ ช่ัวโมง) (2) ส่งเสริมภาษาไทยเพื่อการสื่อสารให้แก่ผู้นาศาสนาและ ผู้นาท้องถิ่น จานวน 10,630 คน และ (3) ส่งเสริมภาษามลายูถ่ินเพ่ือการส่ือสารให้แก่ข้าราชการตารวจ ทหารและพลเรือนจานวน 11,023 คน  โครงการเยาวชนสานสมั พันธ์ สร้างสรรค์คนดีมีการจัดต้ังชมรมเยาวชนคนดีศรีชายแดนใต้ ใน 44 อาเภอ 5 จังหวัดชายแดนใตจ้ ัดกจิ กรรมจัดคา่ ยเยาวชนปลูกฝังค่านยิ ม 12 ประการ และจัดทัศนศกึ ษา รว่ มแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ศาสนา วัฒนธรรม ประวัตศิ าสตรไ์ ทย – มสุ ลิม จานวน 1,543 คน  โครงการน้อมนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถาบันศึกษาปอเนาะส่งเสริมการเรียนรู้ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้แก่โต๊ะครู ผู้ช่วยโต๊ะครู นักศึกษาในสถาบันศึกษาปอเนาะ จานวน 1,264 คน และมีการจัดฐานการเรียนรู้ด้านอาชีพและจัดมุมหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามบริบทของ สถาบนั ศึกษาปอเนาะต้นแบบใน 5 จังหวัดชายแดนใต้ จานวน 75 แหง่  โครงการกีฬา กศน.สายสัมพันธ์ชายแดนใต้ มีการจัดตั้งชมรมกีฬาในสถาบันศึกษา ปอเนาะ 42 แห่ง จัดกิจกรรมมอบอุปกรณ์กีฬาพร้อมป้ายชมรม และจัดการแข่งขันกีฬานักศึกษาในสถาบัน ศกึ ษาปอเนาะ ซ่ึงมีนักศกึ ษา กศน.เข้ารว่ ม จานวน 11,922 คน  โครงการฝึกอาชีพจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ตามแนวทางโรงเรยี นพระดาบส ดาเนนิ การจัด อบรมกระบวนการเรียนรู้ฝึกทักษะอาชีพระยะส้ันและพัฒนาคุณภาพชีวิต จานวน 2 รุ่น รวม 120 คน และ จัดกิจกรรมพระดาบสเคล่ือนที่ร่วมกับ กศน.บริการประชาชนโดยให้บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าและซ่อมรถ มอเตอร์ไซด์  โครงการพฒั นาบุคลากรเพือ่ เสริมสรา้ งสมรรถนะครู กศน.ในจังหวดั ชายแดนใต้ โดยจัด อบรมเชิงปฏิบัติการ“การพัฒนากระบวนการคิด 5Q สู่คุณภาพทางการศึกษาและสังคมสันติสุข” มีผู้เข้าร่วม โครงการ จานวน 1,092 คน

71  โครงการลูกเสือ กศน.ชายแดนใต้โดยจัดค่ายลูกเสือ กศน.ชายแดนใต้ ระดับจังหวัด ให้กับผู้บริหาร นักศึกษา กศน. ครู กศน. จานวน 1,760 คน และจัดงานชุมนุมลูกเสือสัมพันธ์ กศน.ชายแดนใต้ ระดับกลุ่มจังหวัดชายแดนใต้ ณ ค่ายลูกเสือกองร้อยบังคับการและบริการ (ท่าสาบ) จังหวัดยะลา จานวน 1,034 คน  โครงการส่งเสริมการเรียนรู้สู่สถาบันศึกษาปอเนาะมีสถาบันปอเนาะใน 5 จังหวัด จานวน 478 แห่ง มีครูปอเนาะ จานวน 379 คน มีนักศึกษาจานวน 33,077 คน โดยจัดกิจกรรมหลัก คือ พัฒนากระบวนทัศน์การบริหารจดั การในสถานศึกษาปอเนาะโดยการอบรมให้กับโต๊ะครู และผู้ช่วยโต๊ะครู จานวน 383 คนเสริมสร้างทักษะวิชาชีพสาหรับนักศึกษาในสถาบันศึกษาปอเนาะ จานวน 9,930 คน และ พัฒนามุมเรียนรู้ในสถาบันปอเนาะ จานวน 380 แห่ง จัดกิจกรรม 1 ปอเนาะ 1 โครงการ ตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพียง จานวน 380 แหง่  โครงการติดตามและประสานแผนการดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้านการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพื่อแก้ไขปัญหาในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนใต้ ได้มีการดาเนินการประชุม ขับเคลื่อนแนวทางการดาเนินการในการพัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ จานวน 6 คร้ัง ประชุม คณะกรรมการติดตามและประเมินผล จานวน 1 ครั้ง และสรุปผลการดาเนินงานตามโครงการพัฒนา การศกึ ษาจังหวัดชายแดนใต้  โครงการเพิ่มระดับความปลอดภัยให้แก่หน่วยงานและสถานศึกษาชายแดนใต้ มีการ จดั ซือ้ กล้องวงจรปดิ และตดิ ต้งั กล้องวงจรปดิ จานวน 220 ตวั ให้กบั จังหวัดชายแดนใต้ 56 อาเภอ 3.3.7 การพฒั นาการศึกษาเพ่ือความมั่นคงเหมาะสมกบั พนื้ ท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดาเนินการ ภายใตจ้ ุดเน้นการพฒั นา 6 ด้าน ไดแ้ ก่ การพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา การสง่ เสริมและสนับสนุนการพัฒนากีฬา เข้าสู่ระบบการศึกษา การส่งเสริมความปลอดภัย สวัสดิการครูและบุคลากรทางการศึกษา การเสริมสร้าง โอกาสทางการศึกษา การจัดการศึกษาเพ่ือการมีอาชีพ และการเสริมสร้างการศึกษาเพ่ือความม่ันคง ซ่ึงมี กจิ กรรมสาคญั อาทเิ ช่น  ด้านการพัฒนาคุณภาพการศึกษา อาทิเช่น อบรมครูแบบแจกลูกสะกดคาทั้งโรงเรียน ภาครัฐและเอกชน เพือ่ ให้ โรงเรยี นจัดการเรยี นร้ภู าษาไทยอยา่ งมีประสิทธิภาพมากยง่ิ ข้ึน ใชส้ ือ่ ทางไกล DLTV ทาให้นักเรียนมีความสนใจมากข้ึนและเรียนรู้ได้ดีขึ้น จัดการเรียนรู้ตามนโยบายเก่ียวกับสะเต็มศึกษา (STEM Education) และลดเวลาเรียนเพ่ิมเวลารู้ จัดทาบัญชีคาภาษามลายูตามหลักสูตรอิสลามศึกษา ส่งเสริมการใช้ หลักสูตรสังคมพหุวัฒนธรรม จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อใช้สาหรับเป็นคู่มือครู และแผนการจัดการเรียน การสอนสาระหลกั สูตร “สงั คมพหุวัฒนธรรม จงั หวัดชายแดนภาคใต้” (ประวัตศิ าสตร์ท้องถน่ิ ) เป็นต้น  ด้านการส่งเสริมละสนับสนุนการพัฒนากีฬาเข้าสู่ระบบการศึกษา ดาเนินการจัดการ ศึกษาโปรแกรมวิทยาศาสตร์- กีฬา และ ศิลป์ – กีฬา ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 ในโรงเรียนของรัฐ

72 5 จังหวัด จานวน 6 โรง ตั้งแต่ปีการศึกษา 2558 รับนักเรียนได้ 535 คน และได้จัดสรรทุนการศึกษา คนละ 20,000 บาท /คน /ภาคเรยี น  ด้านการส่งเสริมความปลอดภัย สวัสดิการครูและบุคลากรทางการศึกษา ดาเนินงาน ร่วมกับหน่วยงานความม่ันคง โดยจัดทาแผนรักษาความปลอดภัยครูและบุคลากรทางการศึกษา และ สถานศึกษา และมีผู้ประสานงานระดับอาเภอ จานวน ๔6 คน สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาและสถานศึกษา จดั จ้างพนักงานรกั ษาความปลอดภยั จานวน 833 อตั รา แยกเป็นสานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษา 7 เขตพ้ืนท่ี จานวน 31 อัตรา สถานศึกษา 753 แห่ง จานวน 802 อัตรา สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา และมัธยมศึกษา จานวน 11 เขตพ้ืนที่ มีรถยนต์กันกระสุนไว้ใช้ในราชการ เพ่ือเสริมสร้างมาตรการรักษา ความปลอดภยั เขตพนื้ ทลี่ ะ 1 คนั  ด้านการเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษา จัดสรรทุนการศึกษาแก่นักเรียนนักศึกษา ที่ยากจน ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ รวมจานวน ๑๕,๓๓๑ ทุน มีการระดมทุนสร้างบ้าน ให้นกั เรียนท่ดี ้อยโอกาส จานวน ๓ หลัง พฒั นาครูและบุคลากรทางการศึกษา พัฒนาฐานข้อมูลนักเรียนที่ออก กลางคัน สามารถติดตามนักเรียนกลับเข้ามาเรียนสู่ระบบการศึกษา ส่งผลให้นักเรียนที่ออกกลางคันลดลง จากปกี ารศึกษา ๒๕๕๗ รอ้ ยละ ๐.๐๓  ด้านการส่งเสริมการศึกษาสายอาชีพ อาทิเช่น จัดมหกรรมวิชาการและการศึกษาเพ่ือ การมีงานทา จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีนักเรียนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ท่ีกาลังอยู่ในช่วงช้ันที่ 2 3 และ 4 จัดโครงการเสรมิ สร้างโอกาสทางการศึกษาและการมีงานทา โดยจัดกิจกรรมค่ายค้นหาตวั เอง เรียนรู้อาชีพ ตา่ ง ๆ รู้จกั ตัวต้น รูจ้ ักอาชีพที่เหมาะสมกบั ลกั ษณะนิสัย  ด้านการเสริมสร้างการศึกษาเพ่ือความม่ันคง โดยดาเนินการส่งเสริมและพัฒนา กจิ กรรมยุวกาชาดโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอสิ ลามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3.3.8 การส่งเสรมิ และพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม มีกิจกรรมทีส่ าคญั ดงั นี้  จัดงานวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ประจาปี ๒๕๕๙ ในวันศุกร์ท่ี ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ณ ศาลาวชริ าวธุ และสนามศภุ ชลาศยั สนามกีฬาแห่งชาติ โดยพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทิ - นดั ดามาตุ เสด็จแทนพระองค์ทรงเป็นประธานในพิธี ซงึ่ มีลูกเสือ เนตรนารี ยวุ กาชาด บุคลากรทางการลูกเสือ เขา้ ร่วมงานจานวน ๒๐,๐๐๐ คน โดยมีกิจกรรม ดังน้ี (๑) พิธที างศาสนาโดยนิมนตพ์ ระสงฆ์ ๙ รูป จากวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ณ อาคารศาลาวชิราวุธ สานักงานลูกเสือแห่งชาติ (๒) พิธีถวายพระพรชัยมงคล และ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เน่ืองในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ ณ สนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ (3) พิธีทบทวน คาปฏิญาณและสวนสนาม ณ สนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ และ (๔) พิธีพระราชทานเหรียญลูกเสือ สรรเสรญิ ประจาปี ๒๕๕๙ รวม ๑๑ ราย

73  การนาขบวนการกิจกรรมลูกเสือ ยุวกาชาด และกิจการนักเรียนมาใช้ในการพัฒนา อาทิเช่น ส่งเสริมเยาวชนลูกเสือมีระเบียบวินัยในสังคม เข้าร่วมกิจกรรมงาน “วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ๒๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๘” จัดโครงการลูกเสือจิตอาสาบาเพญ็ ประโยชน์เพ่ือส่งเสริมกิจกรรมรางวลั ลกู เสือโลก (Scouts of the World Award) จัดประกวดระเบียบแถวลูกเสือ เนตรนารี ท่ัวประเทศ ซ่ึงมีผู้เข้าร่วม โครงการทั้งสิ้น ๔๑,๐๘๒ คน ส่งเสริมกิจกรรมลูกเสือป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยโดยดาเนินการ จัดกิจกรรมสนับสนุนการฝึกอบรมลูกเสือป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และจัดกิจกรรมลูกเสือบาเพ็ญ ประโยชนเ์ พือ่ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั มผี ู้เขา้ ร่วมโครงการทงั้ สนิ้ 8,160 คน  จัดค่ายพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม อาทิเช่น จัดค่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่ใฝ่ค่านิยม โดยดาเนินการในส่วนภูมิภาค จานวน ๑๕ รุ่นๆ ละ ๒๐๐ คน และในเขตกรงุ เทพและปริมณฑล จานวน ๓ รุ่น จานวน 3,228 คน จัดค่ายปรับเปล่ียนพฤติกรรม จานวน ๔ รุ่น จานวน 274 คน จัดค่ายพัฒนานักเรียน นักศกึ ษาเพ่อื สร้างตน้ แบบความดีตามค่านิยมหลัก 12 ประการ จานวน 71 คน เปน็ ตน้  จัดกิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์ยุวกาชาด ประจาปี ๒๕๕9 มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมบาเพ็ญ ประโยชน์ยุวกาชาด จานวน 10,4๖๐ คน โดยดาเนินการจัดกิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์ 2 คร้ัง ได้แก่ คร้ังที่ 1 ระหว่างวันที่ 7 – 10 ธันวาคม 2558 ณ โรงเรียนภูเรือวิทยา อาเภอภูเรือ จังหวัดเลย และคร้ังท่ี 2 ระหว่าง วนั ท่ี 22 - 23 มกราคม 2559 ณ โรงเรยี นหว้ ยน้าขุ่นวิทยา อาเภอแม่สรวย จังหวัดเชยี งราย ซ่ึงประกอบดว้ ย กิจกรรมตา่ งๆ อาทิเชน่ กจิ กรรมมอบผ้าห่ม เสื้อกันหนาว ให้ผู้สูงอายุและนักเรยี น มอบผ้าหม่ ยาสามัญประจาบ้าน อุปกรณ์การเรียน ให้กับโรงเรียน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้ดาเนินการโอนจัดสรรงบประมาณให้สถานศึกษา จัดกจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชน์ จานวน ๔๑ โรงเรยี น มผี เู้ ข้าร่วมโครงการ จานวน ๗,๘๘๕ คน  จัดกิจกรรมครอบครัวสุขสันต์สร้างสรรค์สังคมไทย ได้ดาเนินโอนจัดสรรงบประมาณ ไปยังศูนย์เสมารักษ์ ประจาสานักงานศึกษาธิการภาค เพ่ือดาเนินโครงการจัดกิจกรรมครอบครัวสุขสันต์ สร้างสรรค์สังคมไทยจานวน ๑๓ ครั้งๆ ละ ๗๐๐ คน ท่ัวประเทศ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งส้ิน 9,620 คน และ โครงการจัดกิจกรรมครอบครัวผูกพันสมานฉันท์สังคมไทย ดาเนินการโอนจัดสรรงบประมาณ เพ่ือดาเนินการ จัดโครงการจัดกิจกรรมครอบครัวผูกพันสมานฉันท์สังคมไทย จานวน ๒ คร้ัง คร้ังละ ๑๐๐ คน มีผู้เข้าร่วม กจิ กรรม จานวน ๒๓๙ คน

74 เป้าประสงค์ที่ 4 ขา้ ราชการ ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา มคี วามก้าวหนา้ ในวชิ าชพี มศี กั ยภาพในการปฏบิ ัตงิ าน และการจดั การศึกษาที่มคี ุณภาพ 4.1 บทนา ภายใต้เป้าประสงค์ของการพัฒนาระบบบริหารงานบุคคล ข้าราชการ ครู คณาจารย์และ บุคลากรทางการศกึ ษาใหไ้ ด้มาตรฐาน มีกลยทุ ธท์ ส่ี าคัญ 1 กลยุทธ์ ไดแ้ ก่ พัฒนาระบบการบริหารงานบุคคลและ พัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงานของข้าราชการ ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา และมีการกาหนด ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายในการบรรลุเป้าประสงค์ จานวน 6 ตัวชี้วัด ได้แก่ (1) จานวนข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษาได้รับความรู้และพัฒนาด้านการบริหารงานบุคคล ด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และ ความก้าวหน้าในวิชาชีพ (2) การพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลสาหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (3) การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน (4) จานวนประชาชนกลุ่มเป้าหมายท่ีได้รับบริการ/เข้าร่วม กจิ กรรมการเรียนรดู้ ้านภาษาอังกฤษและภาษาในประเทศอาเซียน (5) จานวนผ้บู ริหาร ครูผูส้ อนและบุคลากร ทางการศึกษาเอกชนได้รับการพฒั นาเพ่อื เตรียมความพร้อมส่ปู ระชาคมอาเซียน และ (6) รอ้ ยละของผู้บริหาร ครู ขา้ ราชการและบคุ ลากรทางการศกึ ษาท่ีเข้ารบั พัฒนาผ่านเกณฑท์ ่ีกาหนด 4.2 ผลการบรรลเุ ป้าประสงค์ของยุทธศาสตร์ จากการติดตามผลการดาเนินงานหรือผลสัมฤทธ์ิภายใต้เป้าประสงค์ที่ 4 สามารถสรุป ผล การบรรลเุ ปา้ ประสงค์ รายละเอยี ดดงั ตาราง 16 ดงั น้ี 4.2.1 จานวนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับความรู้และพัฒนาด้านการบริหารงาน บุคคล ด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และความก้าวหน้าในวิชาชีพ ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวง ศึกษาธิการดาเนินการให้ความรู้และพัฒนาด้านการบริหารงานบุคคล ด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และ ความก้าวหน้าในวิชาชีพ จานวน 351,012 คน โดยดาเนินกิจกรรมสาคัญอาทิเช่น การประชุมสัมมนาการ บริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ใน 4 ภูมภิ าค การเสรมิ สร้างจติ สานึกการมีวนิ ัยทางการเงินและการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงให้แก่แก่ครูผู้ช่วย การประชุมและศึกษาดูงานโครงการตามแนวพระราชดาริและศิลปวัฒนธรรม ณ จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ให้แก่ข้าราชการครูท่ีได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ท่ีมีความประพฤติดี ทุ่มเท เสยี สละ และมผี ลงานดีเด่น เปน็ ตน้ สรุปได้วา่ สามารถดาเนินการบรรลุเปา้ หมายท่ีกาหนดไว้ 4.2.2 การพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลสาหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการสามารถพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลฯ จานวน 11 เรื่อง ได้แก่ (1) การดาเนินงานของ ก.ค.ศ. อ.ก.ค.ศ.วิสามัญ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเฉพาะกิจฯ กศจ./ อกศจ. (2) การสรรหา การบรรจุและการแต่งต้ัง (3) การวางแผนและการจัดระบบอัตรากาลังของส่วนราชการ (4) การกาหนด

75 ตาแหน่ง และวิทยฐานะ (5) การจัดระบบเงินเดือน เงินวิทยฐานะและเงินประจาตาแหน่ง (6) การจัดระบบ ค่าตอบแทน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์เก้ือกูล (7) การส่งเสริมและการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา (8) การเสริมสร้างและพัฒนาวินัย การออกจากราชการ การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ (9) การกากับ ติดตามและประเมินผลการบริหารงานบุคคล (10) การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการบริหารงานบุคคลให้ทันสมัย และ (11) การแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู สรุปได้ว่าสามารถ ดาเนินการบรรลุเปา้ หมายที่กาหนดไว้ 4.2.3 การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวง ศึกษาธิการ ดาเนินกิจกรรมการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน จานวน 4 กิจกรรม ได้แก่ (1) การพัฒนา ทักษะด้านภาษาอังกฤษให้แก่บุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการ (2) การจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษภายในศูนย์การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ (English Zone) (3) การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการครูสอน ภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาศักยภาพในการให้คาปรึกษา/เป็นกรรมการตัดสินการแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์ เป็นภาษาอังกฤษในที่ชุมชนตามหลักกติกาสากล และการฝึกอบรมนักเรียน/นักศึกษา และ (4) การจัดการ แข่งขันกล่าวสุนทรพจน์เป็นภาษาอังกฤษในที่ชุมชนตามหลักกติกาสากล ท้ังน้ี กิจกรรมการพัฒนาสื่อ เพ่ือเสริมสร้างความเข้าใจการดาเนินงานของอาเซียนภายหลังปี 2558 จานวน 2 ประเภท คือ สื่อสิ่งพิมพ์ และบอรด์ นทิ รรศการ อยรู่ ะหว่างการดาเนินการ สรุปไดว้ า่ ไมส่ ามารถดาเนนิ การบรรลุเป้าหมายที่กาหนดไว้ 4.2.4 จานวนประชาชนกลุ่มเป้าหมายท่ีได้รับบริการ/เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ด้าน ภาษาองั กฤษและภาษาในประเทศอาเซียน ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ ารสามารถใหบ้ ริการ หรือสนับสนุนประชาชนกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษและภาษาในประเทศ อาเซียน จานวน 4,295,592 คน สรุปได้ว่าสามารถดาเนินการบรรลุเป้าหมายท่ีกาหนดไว้ โดยดาเนินการ ผา่ นกิจกรรมที่สาคญั ดังนี้ (1) ผลิตรายการโทรทัศน์เพ่ือการศึกษาส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับภาษาอาเซียน จานวน 134 รายการ อาทิเช่น รายการ “เตือนภัย ชุด รอบรู้ภัยพิบัติ” รายการ “Welcome to Thailand” รายการ “วถิ อี าเซียน”รายการ “ต้นกล้าอาเซียน” จานวน 30 รายการ (2) จัดและผลิตรายการวิทยุเพ่ือการศึกษาส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับภาษาอาเซียน โดยผลิตรายการเก่ียวกับภาษาต่างประเทศและสาระความรู้ท่ีเก่ียวข้องกับประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน จานวน 912 รายการ ผลติ เอกสารประกอบการรบั ฟังรายการภาษาเวยี ดนาม กมั พูชา พม่า จานวน 1,500 เลม่ (3) ผลิตส่ือการศึกษาอาเซียนสาหรับคนพิการ โดยผลิตรายการวีดิทัศน์เพ่ือคนพิการ ที่บกพร่องทางการได้ยิน จานวน 52 รายการ หนังสือเสียงเกี่ยวกับอาเซียน จานวน 100 รายการ และ หนังสืออกั ษรเบรลล์เกย่ี วกบั อาเซียน จานวน 1,825 หนา้ เบรลล์

76 (4) ผลิตสื่อ VCD/DVD ส่งเสริมความรู้อาเซียน จานวน 63,000 แผ่น พร้อมจัดส่ง ไปยังห้องสมุดประชาชนจังหวัด/อาเภอ/รัชมังคลาภิเษก รวมทั้งเรือนจา ทัณฑสถาน แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ จานวน 905 แหง่ 4.2.5 จานวนผู้บริหาร ครูผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษาเอกชนได้รับการพัฒนาเพ่ือเตรียม ความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการสามารถพัฒนาผู้บริหาร ครูผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาเพือ่ เตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน จานวน 945 คน โดยดาเนินการอบรมภาษาอังกฤษเชิงปฏิบัตกิ ารสาหรบั ครผู ู้สอนภาษาอังกฤษในโรงเรยี นเอกชนประเภทสามัญ ศกึ ษาให้มีความรู้ความเข้าใจในกรอบอ้างอิงความสามารถทางภาษาอังกฤษตามกรอบ CEFR และอบรมภาษา เพื่อนบ้าน 5 ภาษา (เวียดนาม พม่า เขมร บาฮาซา และลาว) สรุปได้ว่าสามารถดาเนินการบรรลุเป้าหมาย ทก่ี าหนดไว้ 4.2.6 ร้อยละของผู้บริหาร ครู ข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษาที่เข้ารับพัฒนาผ่านเกณฑ์ ท่ีกาหนด ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยสถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากร ทางการศึกษา ไดด้ าเนินโครงการและกจิ กรรมในการพฒั นาผ้บู รหิ าร ครู ขา้ ราชการและบุคลากรทางการศกึ ษา จานวน 9 โครงการ รวมผู้เข้ารับการพฒั นาท้ังสิ้น 1,791 คน ดงั น้ี (1) โครงการพัฒนานักบริหารระดับสูง กระทรวงศึกษาธิการ (นบส.ศธ.) รุ่นที่ 6 มีผู้เข้ารับการพัฒนาได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการคัดเลือกผู้เข้ารับการพัฒนา และได้รับอนุมัติ ใหเ้ ขา้ รบั การพัฒนาจากคณะกรรมการตดิ ตามและกากบั ดูแลการดาเนินงาน จานวนท้ังสิ้น 57 คน ซึ่งผู้เข้ารับ การพัฒนาทุกคน มีผลสัมฤทธ์ิในการพัฒนาผ่านเกณฑ์ที่กาหนดและสามารถนาความรู้ที่ได้ไปใช้ในการ ปฏิบัติงานเพ่ือการขบั เคลอื่ นนโยบายด้านการศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธกิ ารให้บรรลผุ ลสาเร็จ (2) โครงการพัฒนานักบริหารระดับกลาง กระทรวงศึกษาธิการ (นบก.ศธ.) รุ่นท่ี 3 มผี ู้เข้ารับการพัฒนาได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการคัดเลือกผู้เข้ารับการพัฒนา และได้รับอนุมัตใิ ห้เข้า รับการพัฒนา จานวนทั้งสิ้น 39 คน ซึ่งผู้เข้ารับการพัฒนาทุกคนมีผลสัมฤทธิ์ของการพัฒนาตามเกณฑ์ ที่หลกั สตู รกาหนด (3) โครงการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดารง ตาแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหารการศึกษา มีผู้เข้ารับการพัฒนาตาแหน่งผู้อานวยการ/ รองผอู้ านวยการสถานศึกษา สังกัด สพฐ. ผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามหลกั สตู รที่กาหนด จานวนทั้งสน้ิ 547 คน (4) โครงการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งต้ังให้มีและเลื่อน เป็นวิทยฐานะชานาญการพิเศษ และวิทยฐานะเช่ียวชาญ มีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทาง การศึกษากอ่ นแต่งตั้งใหม้ ีและเลอื่ นเปน็ วิทยฐานะชานาญการพเิ ศษ และวทิ ยฐานะเช่ียวชาญ ณ สถาบันพัฒนา ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา จานวนท้ังส้ิน 322 คน ซ่ึงผู้เข้ารับการพัฒนาทุกคนผ่านเกณฑ์ การประเมินด้านเวลาและการวดั ผลสมั ฤทธิก์ ารพฒั นาตามหลักสตู ร

77 (5) โครงการพัฒนาผู้บริหารการศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษาในการขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์การพัฒนาเพ่ือเสริมความม่ันคงของชาติ พ.ศ. 2556 – 2560 มีผู้เข้ารับการพัฒนาผ่านการพัฒนา ตามหลักเกณฑท์ ก่ี าหนด จานวนท้งั สนิ้ 159 คน (6) โครงการฝึกอบรมหลักสูตร “การสร้างสมรรถนะผู้นาทางการศึกษาท่ียั่งยืนเพอื่ เข้าสู่ ประชาคมอาเซียนและประชาคมโลก” (Capacity Building for Sustainable Education Leaders towards Becoming Regional and Global Citizen: CBSEL) มีผู้เข้ารับการพัฒนาจานวน 30 คน ซึ่งผู้เข้ารับการพัฒนา มคี วามพึงพอใจอย่ใู นระดบั มากทส่ี ดุ (7) โครงการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารสถานศกึ ษาและสมรรถนะครูสู่การเป็นประชาคม อาเซียน มผี บู้ รหิ ารสถานศึกษาผ่านการพฒั นาตามหลักสูตร 39 คน และครูผ่านการพฒั นาตามหลักสตู ร 42 คน (8) โครงการพัฒนาบุคลากรสังกัดสานักงานศึกษาธิการภาค และสานักงานศึกษาธิการ จังหวัด เพ่ือสนับสนุนการขับเคล่ือนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค : หลักสูตร การวางแผนยุทธศาสตร์ และการกากับ ติดตาม ประเมินผลการปฏิบัติงานตามนโยบายและจุดเน้นของ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร มผี ูเ้ ข้ารับการพฒั นาบุคลากรของสานกั งานศึกษาธิการภาคและศึกษาธกิ าร จานวนทัง้ สิ้น 452 คน ซง่ึ ผเู้ ขา้ รบั การพัฒนามีความพึงพอใจตอ่ โครงการคิดเป็นรอ้ ยละ 84.77 (9) โครงการพัฒนาบุคลากรสังกัดสานักงานศึกษาธิการภาค และสานักงานศึกษาธิการ จังหวัด เพ่ือสนับสนุนการขับเคล่ือนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค : หลักสูตรการ พัฒนางานประจาโดยอาศยั การวจิ ยั (Routine to Research – R2R) มกี ารพัฒนาบคุ ลากรตามกลุ่มเป้าหมาย จานวน 3 รุ่น จานวนท้ังสิ้น 104 คน ซ่ึงผู้เข้ารับการพัฒนาสามารถดาเนินการจัดทาโครงการพัฒนางาน ประจาโดยอาศยั การวิจัย จานวน 104 โครงการ ท้ังน้ี โครงการดังกล่าวข้างต้น ได้มีการกาหนดหลักเกณฑ์ท่ีผู้เข้ารับการพัฒนาต้องผ่าน การประเมนิ ตามหลกั สูตร ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 80 ท้ังดา้ นระยะเวลาการเขา้ รบั การพัฒนาและการวดั ผลสัมฤทธ์ิ ซึ่งผู้เข้ารับการพัฒนาในแต่ละโครงการสามารถผ่านการประเมินตามหลักสูตรได้ ร้อยละ 100 (ยกเว้น 2 โครงการ ได้แก่ โครงการฝึกอบรมหลักสตู ร “การสร้างสมรรถนะผู้นาทางการศกึ ษาที่ยงั่ ยืนเพื่อเข้าสูป่ ระชาคม อาเซียนและประชาคมโลก” และโครงการพัฒนาบุคลากรสังกัดสานักงานศึกษาธิการภาค และสานักงาน ศึกษาธิการจังหวัด เพ่ือสนับสนุนการขับเคล่ือนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค : หลักสูตร การวางแผนยุทธศาสตร์ และการกากับ ติดตาม ประเมินผลการปฏิบัติงานตามนโยบายและจุดเน้น) สรปุ ได้วา่ สามารถดาเนนิ การบรรลุเป้าหมายทีก่ าหนดไว้

78 ตาราง 16 ผลการบรรลุเป้าประสงค์ท่ี 4 ข้าราชการ ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา มีความก้าวหน้า ในวชิ าชพี มศี ักยภาพในการปฏบิ ัติงาน และการจัดการศกึ ษาที่มีคณุ ภาพ ตวั ชีว้ ดั เปา้ ประสงค์ คา่ เปา้ หมาย ผลการดาเนินงาน ผลการบรรลุ ทีเ่ กดิ ข้นึ เปา้ ประสงค์ 1. จานวนขา้ ราชการครูและบคุ ลากร 350,000 คน 351,012 คน บรรลุ ทางการศึกษาได้รับความรูแ้ ละพฒั นา ดา้ นการบรหิ ารงานบุคคล ดา้ นวนิ ัย 11 เร่ือง 11 เรอื่ ง บรรลุ คณุ ธรรม จริยธรรม และความก้าวหน้า 5 กจิ กรรม 4 กิจกรรม ไม่บรรลุ ในวชิ าชีพ 2,800,000 คน 4,295,592 คน 2. การพฒั นาระบบบริหารงานบุคคล 640 คน 945 คน บรรลุ สาหรบั ข้าราชการครูและบคุ ลากร ร้อยละ 80 รอ้ ยละ 100 บรรลุ ทางการศกึ ษา บรรลุ 3. การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคม อาเซยี น 4. จานวนประชาชนกลมุ่ เป้าหมาย ท่ีไดร้ ับบริการ/เขา้ รว่ มกิจกรรมการ เรยี นรดู้ า้ นภาษาองั กฤษและภาษา ในประเทศอาเซยี น 5. จานวนผ้บู ริหาร ครผู ู้สอนและ บุคลากรทางการศึกษาเอกชนได้รับ การพัฒนาเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ ประชาคมอาเซยี น 6. ร้อยละของผู้บรหิ าร ครู ข้าราชการ และบคุ ลากรทางการศึกษาที่เขา้ รบั พฒั นาผ่านเกณฑท์ ่ีกาหนด กล่าวโดยสรุปแล้ว เป้าประสงค์ที่ 4 ข้าราชการ ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา มีความก้าวหน้าในวิชาชีพ มีศักยภาพในการปฏิบัติงาน และการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ มีผลการดาเนินงาน ท่ีบรรลุเป้าประสงค์ตามตัวช้ีวัดท่ีกาหนดขึ้น จานวน 5 ตัวชี้วัด และไม่สามารถดาเนินการบรรลุเป้าประสงค์ จานวน 1 ตัวช้ีวดั

79 4.3 ผลการดาเนินงานที่สาคญั สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ดาเนินโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีความสอดคล้อง และสนองตอบต่อเปา้ ประสงค์ท่ี 4 ดังน้ี 4.3.1 การพัฒนาระบบการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มกี ารดาเนนิ กจิ กรรมสาคัญ อาทิเช่น  พัฒนานโยบายและระบบตาแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค (2) โดยดาเนินการปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการสอบแข่งขันบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็น ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอ่ืนตามมาตรา ๓๘ ค.(๒) และ ปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคลากรทางการศึกษาอ่ืนตามมาตรา ๓๘ ค.(๒) ในสายงานนิติการ ให้ได้รับเงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งท่ีมีเหตุพิเศษ ตาแหน่งนิติกร (พ.ต.ก.) และ (๑.๓) แก้ไข กฎ ก.ค.ศ. การจัด ประเภทตาแหน่ง ระดับตาแหน่งการให้ได้รับเงินเดือน และเงินประจาตาแหน่งของบุคลากรทางการศึกษาอ่ืน ตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยเปน็ ไป เพ่ือให้ได้รบั สิทธิประโยชน์ ไม่เกดิ ความเหลอื่ มล้า สอดคลอ้ งกบั แนวทาง ที่ ก.พ. กาหนด  การกาหนดและพัฒนากฎระเบียบ หลักเกณฑ์และวิธีการในการกาหนดตาแหน่ง ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยดาเนินการจัดประชุมเพื่อปรับปรุงมาตรฐานตาแหน่งและ มาตรฐานวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยจะให้ความสาคัญกับมาตรฐานตาแหน่ง ในสายงานบริหารสถานศึกษา เป็นลาดับแรก และปรับระบบการสรรหาและย้ายข้าราชการครูและบุคล ากรทางการศึกษาให้มีความสอดคล้องและเช่ือมโยงกัน  การพัฒนาระบบการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยดาเนินการ ออกหลักเกณฑ์เพื่อพัฒนาระบบการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้แก่ หลักเกณฑ์และ วิธีการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชา หลักเกณฑ์และ วิธีการพัฒนาก่อนแต่งตั้งใหด้ ารงตาแหน่งรองผู้อานวยการและผ้อู านวยการสถานศึกษา หลักเกณฑ์และวธิ ีการ พฒั นาก่อนแต่งต้ังให้มีหรือเลื่อนเป็นวทิ ยฐานะชานาญการพเิ ศษและวิทยฐานะเช่ียวชาญ และระเบียบ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการส่งเสริมสนับสนุนให้ไปศึกษา ฝึกอบรม ดูงาน และปฏิบัติงานวิจัยและพัฒนา ฯลฯ รวมทั้งอยู่ ระหว่างดาเนินการปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณากาหน ดตาแหน่งทางวิชาการของคณาจารย์ ในสถาบันอุดมศึกษา และได้มีประกาศคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) เร่ือง มาตรฐานภาระงานทางวิชาการของผู้ดารงตาแหน่งอาจารย์ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และ ศาสตราจารย์ พ.ศ. 2558 โดยประกาศในราชกิจจานเุ บกษา ฉบับประกาศ และงานทั่วไป เล่ม 132 ตอนท่ี 82 ง วันที่ 20 สงิ หาคม 2558 เรียบรอ้ ยแล้ว

80  การให้คาปรึกษา กากับ ติดตาม และประเมินผลการบริหารงานบุคคลสาหรับ ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยดาเนินการจัดทาคู่มอื การวิเคราะห์คาขอเกี่ยวกับการบริหารงาน บุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สาหรับใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานให้เป็นมาตรฐาน เดียวกนั สาหรบั เจา้ หน้าทสี่ านกั งาน ก.ค.ศ.  การพัฒนารูปแบบคาสั่ง และคู่มือการตรวจสอบคาสั่งการบริหารงานบุคคลของ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยดาเนินการจัดทาคู่มือการปฏิบัติงานการออกคาส่ังบรรจุและ แต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ประกอบด้วย ตัวอย่างคาส่ังการบริหารงานบุคคลของ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในเรื่องการออกคาสั่งบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาที่เป็นมาตรฐานสาหรับหน่วยงานทางการศึกษาและส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ใช้เป็นรูปแบบเดียวกัน คู่มือการปฏิบัติงานการออกคาสั่งบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา และข้อมูลต้นแบบสาหรับการออกคาส่ังบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ด้วยระบบอเิ ล็กทรอนิกส์  การจัดทาแนวทางการดาเนินการบริหารงานบุคคลสาหรับข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) โดยดาเนินการจัดเตรียม (ร่าง) หลักเกณฑ์และ วิธีการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในช่วงเปล่ียนผ่านให้กับคณะกรรมการ ศกึ ษาธิการจงั หวดั (กศจ.) ดาเนนิ การตอ่ ไปไดอ้ ย่างตอ่ เนื่อง  การประชุมสัมมนาการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับกฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์ และวิธีการ รวมท้ังแนวปฏิบัติเก่ียวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จานวน 4 คร้ัง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดขอนแก่น มีผู้เข้าร่วม ท้งั ส้ินประมาณ 3,794 คน 4.3.2 การพัฒนาค่าตอบแทน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์เก้ือกูลของข้าราชการครูและ บคุ ลากรทางการศึกษา มีการดาเนินกิจกรรมสาคัญ อาทิเชน่  จัดทา (ร่าง) กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา พ.ศ. … และจัดทาคู่มือปฏิบัติงานการออกคาส่ังเลื่อนขั้นเงินเดือนและการปรับเงินเดือน ตามคุณวุฒิของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซ่ึงจะเป็นคู่มือหรือต้นแบบการปฏิบัติงานสาหรับ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ส่วนราชการ และสานักงาน ก.ค.ศ. ผู้บริหารสานักงาน ก.ค.ศ. ผู้อานวยการ กลุม่ บรหิ ารงานบุคคลสานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา และเจา้ หนา้ ทสี่ านักงาน ก.ค.ศ.  เสริมสร้างจิตสานึกการมีวินัยทางการเงินและการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ปฏิบัติตน ความก้าวหน้าในวิชาชีพ และการดารงตน ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง แก่ครูผชู้ ว่ ย จานวน 306 คน

81  เสริมสร้างขวัญกาลังใจข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ปฏิบัติงานในเขตพัฒนา เฉพาะกิจจังหวัดชายแดนใต้ เฉพาะจังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี และ 4 อาเภอ ในจังหวัด สงขลา (อาเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย) โดยให้สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาและ สานักงานเขตพื้นท่ีมัธยมศึกษา 12 เขต คัดเลือกข้าราชการครูที่มีความประพฤติดี ทุ่มเท เสียสละ และมีผลงานดีเด่น จานวน 40 คน เข้าร่วมการประชุมและศึกษาดูงานโครงการตามแนวพระราชดาริและ ศิลปวัฒนธรรม ณ จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เพ่ือพัฒนาการจัดการเรียนการสอนและถ่ายทอดความรู้ ใหก้ ับนักเรยี นต่อไป 4.3.3 การพัฒนากฎหมาย กฎ ระเบียบเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา ดาเนินการจัดทาคู่มือการบริหารงานบุคคลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อใช้เป็นเอกสารอ้างอิงในการปฏิบัติงานให้ได้มาตรฐานและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมุ่งรวบรวม มติ 3 มติ คือ (1) อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (2) อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเก่ียวกับการอุทธรณ์และการร้องทุกข์ และ (3) อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเก่ียวกับการร้องทุกข์และ การร้องเรียน ขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ทที่ าการแทน ก.ค.ศ. 4.3.4 การพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงานของข้าราชการ ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา มีการดาเนนิ กิจกรรมสาคัญ อาทเิ ชน่  พัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งในระดับ ที่สูงขึ้น โดยดาเนินการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งผู้บริหาร สถานศึกษาและผู้บริหารการศึกษา ดาเนินการร่วมกับสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พัฒนา ผู้อานวยการสถานศึกษา จานวน 421 คน (10 รุ่น) และรองผู้อานวยการสถานศึกษา จานวน 126 คน (3 ร่นุ ) รวมท้ังสิน้ 547 คน และพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษากอ่ นแตง่ ต้ังให้มีและเลอื่ นเป็น วิทยฐานะชานาญการพเิ ศษ และวทิ ยฐานะเช่ยี วชาญ จานวนท้งั ส้ิน 322 คน  พัฒนาผู้บริหารการศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษาในการขับเคล่ือนยุทธศาสตร์การพัฒนา เพื่อเสริมความม่ันคงของชาติ พ.ศ. 2556-2560 โดยดาเนินการพัฒนาผู้บริหารการศึกษาและผู้บริหาร สถานศึกษาตามหลักสูตรการจัดการกระบวนการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข จานวน 2 รุ่น รวมท้ังส้ิน 82 คน และพัฒนาผู้บริหารการศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษาตามหลักสูตร การบริหารยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาเพ่ือเสริมความม่ันคงของชาติสกู่ ารปฏบิ ัตจิ านวน 2 รนุ่ รวมทั้งสนิ้ 77 คน  พัฒนาบุคลากรสังกัดสานักงานศึกษาธิการภาคและสานักงานศึกษาธิการจังหวัด เพ่ือสนับสนุนการขบั เคลอ่ื นการปฏิรปู การศึกษาของกระทรวงศกึ ษาธิการในภมู ิภาค จานวน 2 หลักสตู ร ได้แก่ (1) หลกั สตู รการวางแผนยุทธศาสตร์ และการกากับ ติดตามประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานตามนโยบายและจุดเน้น ของกระทรวงศึกษาธิการดาเนินการพัฒนาบุคลากรของสานักงานศึกษาธิการภาคและศึกษาธิการจังหวัด

82 รวม 6 รุ่น จานวนทั้งส้ิน 452 คน และ (2) หลักสูตรการพัฒนางานประจาโดยอาศัยการวิจัย (Routine to Research– R2R) ดาเนินการพัฒนาบคุ ลากรตามกลุ่มเป้าหมาย จานวน 3 รุน่ จานวนทง้ั ส้นิ 104 คน  พัฒนาสถานศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 มีผู้เข้ารับการพัฒนา จากสถานศึกษา จานวน ๑๒ แหง่ ประกอบดว้ ย ผ้บู รหิ ารบุคลากรทางการศึกษา ครหู ัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู้ รองผูอ้ านวยการสานักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาและ ศึกษานิเทศก์ ซ่ึงเป็นตน้ สังกัดของสถานศึกษาทเี่ ข้ารบั การพฒั นา รวม จานวน ๔๐ คน  สร้างและพัฒนาเครือข่ายเพื่อการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยดาเนินการ พัฒนาบุคลากรเครือข่ายแกนนาคุณภาพให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคการเป็นวิทยากร และส่งเสริม สนับสนุนงบประมาณให้หน่วยงาน เครือข่ายสานักงานศึกษาธิการในภาคพ้ืนท่ีเศรษฐกิจพิเศษ 5 จังหวัด (จงั หวดั ตาก สระแกว้ ตราด มกุ ดาหาร สงขลา) เพอ่ื การพฒั นาครูและบุคลากรทางการศกึ ษา หลักสตู รเทคนิค การจัดการเรียนรู้สู่ความเป็นเลิศ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ผู้เข้ารับการพัฒนา เป็นครูผู้สอนภาษาอังกฤษ ระดบั ประถมศึกษาในสังกัดสานกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาตราด จานวน 41 คน  พัฒนาหลักสูตรบทเรียนอีเลิร์นนิ่ง เพ่ือพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยดาเนินการอบรมเชิงปฏิบัติการเป็นขั้นตอน จานวน 5 คร้ัง ดังน้ี ครั้งที่ 1 การจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management) คร้ังที่ 2 การพัฒนาเนื้อหา (Content Development) ครั้งท่ี 3 ออกแบบ การเรียนการสอน (Instructional Design) คร้ังที่ 4 การออกแบบ (ID Template) และคร้งั ท่ี 5 การพัฒนาเทมเพลต สาหรับระบบบริหารจดั การ (Instructional Design Template) ซง่ึ ผ้เู ขา้ รว่ มโครงการมีความรคู้ วามเข้าใจเกยี่ วกับ การพัฒนาเนื้อหาและการออกแบบการเรียนการสอนสาหรบั จัดทาบทเรียนอีเลิร์นนิง่ เนื้อหารายวิชาที่จะจัดทา บทเรียนอเี ลิรน์ น่งิ และรปู แบบการพฒั นาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาดว้ ยบทเรยี นอเี ลิร์นน่งิ  จัดทาสูตรพฒั นาผู้บรหิ ารโรงเรียนขนาดเล็กเพื่อยกระดับคุณภาพการศกึ ษา โดยทดลอง นาร่องพัฒนาผู้บริหารและครูโรงเรียนขนาดเล็กในเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จานวน 20 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสานกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาจังหวดั ขอนแกน่ เขต 1 – 5 และสานักงาน เขตพืน้ ที่การศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 25 จานวนเขตละ 3 แหง่  พัฒนาผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสานักงานการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน และสานักงานคณะกรรมการการ อาชีวศกึ ษาในเขตภาคเหนือตอนบน และภาคใต้ฝ่ังทะเลอนั ดามัน ในด้านการเรียนรเู้ พ่ือสู้ภัยพิบตั ิ จานวน 30 คน

83 4.3.5 การพัฒนาข้าราชการ ครู คณาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา และประชาชนเพื่อเตรียม ความพร้อมเข้าส่ปู ระชาคมอาเซียน มกี ารดาเนินกจิ กรรมสาคัญ อาทิเชน่  พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของบุคลากรกระทรวงศึกษาธิการ ประจาปี 2559 ดาเนินการใน 2 กิจกรรม ดังน้ี (1) ดาเนินการร่วมกับ บริติช เคานซิล ประเทศไทย ดาเนินโครงการพัฒนา ทักษาภาษาอังกฤษของบุคลากรกระทรวงศึกษาธิการ โดยแบ่งการอบรมเป็น 4 หลักสูตร จานวนผู้เข้าอบรม หลกั สตู รละ 20 คน รวม 80 คน หลกั สูตรทเี่ ปดิ อบรม ได้แก่ หลกั สตู รการนาเสนอเปน็ ภาษาองั กฤษ (English for Presentation) หลักสูตรการเขียนบทกล่าวสุนทรพจน์ (Speech Writing) หลักสูตรภาษาอังกฤษเพ่ือ การสื่อสาร 1 (English for Communication 1) และหลักสูตรภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร 2 (English for Communication 2 และ (2) ดาเนินการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยการจัดกิจกรรม เรียนรู้ภาษากับเจ้าของภาษาภายในศูนย์การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ (English Zone) ทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 ชว่ั โมง จานวน 20 ครงั้ มผี ้เู ขา้ รว่ มกจิ กรรมรวม 300 คน  พัฒนาบุคลากรด้านภาษาจีน ดาเนินโครงการพัฒนาบุคลากรด้านภาษาจีนให้แก่ บุคลากรใน สังกัดกระทรวงศึกษาธิการใน 2 หลักสูตร หลักสูตรละ 24 ชั่วโมง ได้แก่ (1) หลักสูตรภาษาจีน ระดับ A สาหรับผู้ท่ีไม่มีพ้ืนฐานภาษาจีน โดยเน้นเนื้อหา PINYIN คาศัพท์อย่างง่าย ประโยคอย่างง่าย มีผู้เข้ารับการอบรม จานวน 20 คน และ (2) หลักสูตรภาษาจีนระดับ B สาหรับผู้ที่มีพื้นฐานภาษาจีน ที่สามารถอ่าน PINYIN ได้ เน้นการพูด ฟัง และการเขียน ประโยคง่าย ๆ และการเตรียมสอบวัดระดับ HSK ระดับ 1 มผี เู้ ข้ารับการอบรม จานวน 14 คน  ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการครูสอนภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาศักยภาพในการให้คาปรึกษา/ เป็นกรรมการตัดสินการแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์เป็นภาษาอังกฤษในท่ีชุมชนตามหลักกติกาสากล และ การฝึกอบรมนักเรียน/นักศึกษา และการจัดการแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์เป็นภาษาอังกฤษในที่ชุมชนตามหลัก กติกาสากล โดยสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการร่วมกับสมาคมการพูดภาษาอังกฤษ (ประเทศไทย) (English Speaking Union, Thailand) ดาเนินการจัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการครูสอนภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนาศักยภาพในการให้คาปรึกษา/เป็นกรรมการตัดสินการแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์เป็นภาษาอังกฤษ ในท่ีชุมชนตามหลักกติกาสากล และการฝึกอบรมนักเรียน/นักศึกษา และการจัดการแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์ เป็นภาษาอังกฤษในที่ชมุ ชนตามหลักกติกาสากล ระหว่างวันที่ 23 – 24 มกราคม 2559 โดยมีวัตถุประสงค์ เพ่ือสรา้ งความรู้ความเข้าใจ และเตรียมความพร้อมในการแข่งขนั กล่าวสนุ ทรพจน์ภาษาองั กฤษในทชี่ ุมชนตาม หลักเกณฑ์ของสมาคมการพูดภาษาอังกฤษ (English Speaking Union) ณ สหราชอาณาจักร โดยในภาคปฏิบัติ นักเรียนจะได้ฝึกปฏิบัติการกล่าวสุนทรพจน์ฯ สาหรับครู อาจารย์ท่ีเข้าร่วมโครงการ จะได้ฝึกปฏิบัติในการ เป็นกรรมการตัดสินการกล่าวสุนทรพจน์ฯ กับวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญในการตัดสินการแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์ ระดับนานาชาติ และจาก British Council ผู้เข้าร่วมโครงการประกอบด้วยครู/อาจารย์ จานวน 70 คน และ นกั เรียน นักศึกษา จานวน 71 คน และมนี ักเรียนท่ไี ด้รับคัดเลือกจากการแข่งขันกลา่ วสนุ ทรพจนภ์ าษาองั กฤษ

84 ในท่ีชุมชนระดับชาติ (รอบรองชนะเลิศ) จานวน 10 คน และดาเนินการจัดแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เม่ือวันท่ี 11 มีนาคม 2559 เพอ่ื คดั เลอื กนกั เรียน/นักศกึ ษา จานวน 1 คน เพ่ือไปเข้าร่วมการแขง่ ขันกลา่ วสุนทรพจน์ ภาษาอังกฤษในท่ีชุมชนระดับนานาชาติ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร โดยผู้ชนะเลิศ ได้แก่ นางสาว พิมพ์พลอย รเิ กอร์ จากโรงเรียนสายปญั ญารังสิต  พัฒนาผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาเอกชนเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและ การศึกษานานาชาติมีผู้บริหาร ครูผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษาเอกชน จานวน 932 คน โดยจัดอบรม ภาษาอังกฤษเชิงปฏิบัติการสาหรับครูผู้สอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษาให้มีความรู้ ความเข้าใจในกรอบอ้างอิงความสามารถทางภาษาอังกฤษตามกรอบ CEFR และนาไปปรับใช้ในการจัดการ เรียนการสอนในรูปแบบมุ่งเน้นการสื่อสารภาษาอังกฤษในช้ันเรียน (Communicative Language Teaching) จานวน 11 รุ่น 750 คน และจัดอบรมภาษาเพื่อนบ้าน 5 ภาษา (เวียดนาม พม่า เขมร บาฮาซา และลาว) สาหรับผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาเอกชน จานวน 195 คน (ภาษาเวียดนาม 38 คน พม่า 63 คน ภาษาเขมร 41 คน และภาษาลาว 53 คน) ให้มีทกั ษะการส่อื สารภาษาเพอ่ื นบา้ น 4 ภาษา (เวยี ดนาม พม่า เขมร บาฮาซา และลาว) ในชีวิตประจาวันและการทางาน เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ วฒั นธรรมความเปน็ อยไู่ ด้เป็นอย่างดี

85 เปา้ ประสงค์ท่ี 5 ผรู้ บั บรกิ ารมแี ละใช้ ICT ทมี่ ีประสทิ ธิภาพในการเรยี นร้แู ละบริหารจัดการ ให้ได้มาตรฐานและมีคณุ ภาพ 5.1 บทนา ภายใต้เป้าประสงค์ของการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร มีกลยุทธ์ท่ีสาคัญ 1 กลยุทธ์ ได้แก่ เร่งรัด พัฒนาและส่งเสริมการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร เพื่อการจัด การศึกษาให้เกิดประสิทธิภาพ และมีการกาหนดตัวช้ีวัดและค่าเป้าหมายในการบรรลุเป้าประสงค์ จานวน 4 ตัวชี้วัด ได้แก่ (1) จานวนระบบข้อมูลสารสนเทศท่ีให้บริการ (2) ร้อยละความพึงพอใจของผู้ใช้บริการระบบ ข้อมูลสารสนเทศระดบั ดีขึ้นไป (3) ร้อยละของผู้ผา่ นการอบรมด้าน ICT นาความรู้ไปใช้ในการปฏิบัติงาน และ (4) จานวนหน่วยงานและสถานศึกษาท่ีใช้บริการเครอื ข่ายอนิ เทอร์เน็ต 5.2 ผลการบรรลเุ ป้าประสงค์ของยทุ ธศาสตร์ จากการติดตามผลสาเร็จ และ/หรือ ผลการดาเนินงานภายใต้เป้าประสงค์ท่ี 5 สามารถสรุปผล การบรรลเุ ป้าประสงคร์ ายละเอยี ดดังตาราง 17 ดังน้ี 5.2.1 จานวนระบบข้อมูลสารสนเทศท่ีให้บริการ ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวง ศึกษาธิการ มีระบบสารสนเทศกลางของกระทรวง จานวน 8 ระบบ ได้แก่ (๑) ระบบตรวจสอบข้อมูล รายบุคคล (๒) ระบบสารสนเทศพื้นฐานด้านการศึกษา (๓) ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ด้านการศึกษา (๔) ระบบสารสนเทศเพ่ือการบริหารจัดการด้านการศึกษา (EIS) (๕) ระบบฐานข้อมูลประชากรในวัยเรียน ระดับการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน (๖) ระบบมาตรฐานขอ้ มูลเพอ่ื บูรณาการระบบสารสนเทศทางการศึกษา (๗) ระบบ แอปพลเิ คชัน่ \"กดดูรู้ที่เรยี น” และ (8) ระบบคลงั ข้อมลู กลางดา้ นการศกึ ษา สรุปไดว้ า่ สามารถดาเนนิ การบรรลุ เป้าหมายท่กี าหนดไว้ 5.2.2 ร้อยละความพึงพอใจของผู้ใช้บริการระบบข้อมูลสารสนเทศระดับดีขึ้นไป ปรากฏผลว่า สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการดาเนินการสารวจความพึงพอใจ ความไม่พึงพอใจและความคาดหวัง ต่อการให้บริการข้อมูลสารสนเทศต่อการให้บริการข้อมูลสารสนเทศทางการศึกษาของศูนย์เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร สป. ผ่านเอกสารแบบสารวจและผ่านระบบออนไลน์ เพื่อสารวจความคิดเห็นของ ผรู้ บั บริการ โดยกลุ่มเปา้ หมายประกอบดว้ ย หน่วยงานและผู้ท่ีเข้ามารับบริการข้อมูลสารสนเทศทางการศึกษา และดาเนินการสารวจ ต้ังแต่วันท่ี 5 – 23 กันยายน 2559 พบว่า มีความพึงพอใจต่อการให้บริการข้อมูล สารสนเทศทางการศกึ ษา คดิ เปน็ ร้อยละ 72.60 สรปุ ได้วา่ ไมส่ ามารถดาเนนิ การบรรลเุ ปา้ หมายท่กี าหนดไว้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook