คร้งั ท่ี 13/2563 ช่ัวโมง PLC ท่ี 25-26 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563 วนั ท่ี 3 พฤศจิกายน 2563 เวลา 15.45 – 17.35 น. โรงเรยี นมัธยมวัดสงิ ห์ แบบบันทึกกำรปฏิบตั รกจิ กรรม “กำรสรำ้ งชมุ ชนแห่งกำรเรยี นรู้ทำงวิชำชพี ครู PLC” ชื่อกลุ่ม English & Chinese with Happiness ชื่อกจิ กรรมกล่มุ สมำชิกเขียนรำยงำนกำรใช้นวัตกรรม ช่อื - นำมสกลุ (ผูบ้ ันทกึ ) นำงสำวศศธิ ร นิลพุ่ม กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำตำ่ งประเทศ สมำชกิ ที่ ช่ือ – นำมสกลุ บทบำท ลำยมือช่ือ หมำยเหตุ 1 นางสาวณัชกมล หุ่นเกา่ ประธาน 2 นางสาวพรรัตน์ พาเชือ้ สมาชกิ 3 นายสชุ าติ จงประเสริฐกลุ สมาชิก 4 นางสาวฑชั ชานนั ทร์ ชราชติ สมาชิก 5 นางสาวชนวรรณ แปน้ งาม สมาชิก 6 นางสาวรงุ่ ฤดี ทองดี สมาชิก 7 นางสาวชรนี ุช สักดา สมาชิก 8 นางสาวศศิธร นลิ พมุ่ เลขานกุ าร (ผบู้ นั ทกึ ) ประเดน็ ปญั หำท่ีจะพฒั นำ การพัฒนาทกั ษะการจดจาคาศพั ท์ภาษาตา่ งประเทศของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนมกี ารจดจาคาศัพท์ได้ อยา่ งคงทน โดยมุ่งเน้นทว่ี ธิ กี ารสอน และกิจกรรมท่ีใชใ้ นช้นั เรียนทีน่ ่าสนใจ ทีส่ ามารถดึงดูดผเู้ รียนใหม้ คี วาม กระตือรือรน้ ในการเรยี นรู้ ตลอดจนการมีสว่ นร่วมในชนั้ เรียนอยา่ งเต็มที่ สำเหตุของปัญหำ 1. การขาดทกั ษะการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ระหวา่ งนักเรียนกับนักเรยี น 2. นักเรยี นขาดทักษะการสะกดคาศัพทภ์ าษาต่างประเทศ 3. นกั เรยี นขาดทักษะการเรยี นรูแ้ ละจดจาคาศพั ท์ภาษาตา่ งประเทศ 4. นกั เรียนขาดทักษะในการอ่านออกเสียงคาศัพทภ์ าษาตา่ งประเทศ ควำมรู้/หลกั กำรที่นำมำใชแ้ กป้ ญั หำ การสอนคาศพั ทม์ ีความสาคญั ตอ่ การเรยี นรู้ภาษาอังกฤษอย่างมาก เสมือนจดุ เรม่ิ ต้นทีจ่ ะนาไปสกู่ าร พฒั นาทักษะตา่ งๆ ทั้งการฟงั พดู อา่ นและเขียน ในขณะเดียวกันครูผู้สอนก็มบี ทบาทสาคัญในการนากลยทุ ธม์ า ใช้ในการสอนคาศัพท์ ที่ทาให้ผู้เรียนจดจาและเกิดการเรยี นรูส้ ามารถนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้ ซ่งึ เกมเปน็
กิจกรรมทีส่ รา้ งความสนใจและความสนกุ สนานให้แกผ่ เู้ รียน สง่ เสริมผูเ้ รยี นเกิดความเข้าใจและจดจาบทเรยี น ไดง้ า่ ย และพฒั นาทักษะตา่ งๆอยา่ งรวดเรว็ อกี ท้งั ยงั ส่งผลใหผ้ เู้ รียนไดร้ ู้จกั ทางานร่วมกัน กจิ กรรมท่ที ำ นางสาวณัชกมล หุน่ เก่า ประธานได้กลา่ วเปิดประชุมจากการประชุมครั้งท่แี ลว้ ไดส้ ะท้อนผลเพื่อ ปรบั ปรุง แก้ไขและพฒั นาให้ขอ้ เสนอแนะในคร้งั ต่อไป ดงั นนั้ การประชมุ ครง้ั น้สี มาชกิ เขียนรายงานการใชน้ วัตกรรม นายสุชาตจิ งประเสรฐิ กุล ไดเ้ ขยี นรายงานการใช้นวตั กรรมในหัวข้อต่างๆ ดงั น้ี ชื่อนวัตกรรม ชื่อ ผู้สร้างนวตั กรรม แนวทางในการคิดค้นนวตั กรรม การแก้ไขปัญหา ประเภท นวัตกรรมการเรียนการสอนความเปน็ มา และความสาคญั ของปญั หาที่ตอ้ ง สรา้ งนวตั กรรมการเรยี นการสอน วัตถปุ ระสงค์ของการสรา้ งนวตั กรรมการ เรียนการสอน กลมุ่ เป้าหมายหรอื กลุ่มตวั อย่าง พร้อมท้ังได้แลกเปลย่ี นความ คดิ เหน็ และให้ข้อเสนอแนะสมาชกิ ในกลุ่ม นางสาวศศิธร นลิ พ่มุ ไดเ้ ขยี นรายงานการใช้นวัตกรรมในหัวข้อต่างๆ ดังนี้ ชอื่ นวัตกรรม ชื่อผู้สรา้ งนวัตกรรม แนวทางในการคิดค้นนวตั กรรม การแก้ไขปญั หา ประเภทนวัตกรรมการเรียนการสอนความเป็นมา และความสาคญั ของ ปญั หาทต่ี อ้ งสร้างนวตั กรรมการเรยี นการสอน วัตถุประสงค์ของการสรา้ ง นวตั กรรมการเรียนการสอน กลมุ่ เป้าหมายหรือกล่มุ ตวั อย่าง พรอ้ มท้งั ได้ แลกเปลีย่ นความคิดเห็นและใหข้ อ้ เสนอแนะสมาชิกในกลุ่ม นางสาวฑชั ชานนั ทร์ ชราชติ ได้เขยี นรายงานการใชน้ วัตกรรมในหัวข้อต่างๆ ดงั น้ี ชื่อนวัตกรรม ชื่อผู้สร้างนวัตกรรม แนวทางในการคดิ ค้นนวัตกรรม การแก้ไขปัญหา ประเภทนวตั กรรมการเรียนการสอนความเป็นมา และความสาคัญของ ปญั หาที่ต้องสรา้ งนวตั กรรมการเรียนการสอน วัตถปุ ระสงค์ของการสรา้ ง นวตั กรรมการเรียนการสอน กลมุ่ เป้าหมายหรือกลุ่มตวั อย่าง พร้อมท้ังได้ แลกเปล่ยี นความคิดเห็นและใหข้ ้อเสนอแนะสมาชกิ ในกลุ่ม นางสาวชนวรรณ แป้นงาม ไดเ้ ขียนรายงานการใชน้ วตั กรรมในหัวข้อต่างๆ ดงั นี้ ชอ่ื นวัตกรรม ชื่อผสู้ รา้ งนวัตกรรม แนวทางในการคดิ คน้ นวัตกรรม การแก้ไขปญั หา ประเภทนวัตกรรมการเรยี นการสอนความเป็นมา และความสาคัญของ ปัญหาทตี่ อ้ งสรา้ งนวัตกรรมการเรยี นการสอน วตั ถุประสงค์ของการสร้าง นวตั กรรมการเรยี นการสอน กลุ่มเปา้ หมายหรือกลุ่มตัวอย่าง พร้อมทงั้ ได้ แลกเปล่ยี นความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะสมาชกิ ในกลุ่ม นางสาวร่งุ ฤดี ทองดี ได้เขยี นรายงานการใชน้ วตั กรรมในหัวข้อต่างๆ ดังนี้ ช่อื นวัตกรรม ชอ่ื ผู้สร้างนวัตกรรม แนวทางในการคดิ คน้ นวัตกรรม การแก้ไขปญั หา ประเภทนวัตกรรมการเรียนการสอนความเป็นมา และความสาคญั ของ ปัญหาท่ตี อ้ งสรา้ งนวตั กรรมการเรียนการสอน วัตถปุ ระสงค์ของการสร้าง
นางสาวชรีนชุ สกั ดา นวัตกรรมการเรยี นการสอน กลมุ่ เปา้ หมายหรือกลุ่มตวั อย่าง พร้อมทั้งได้ นางสาวพรรัตน์ พาเชื้อ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและใหข้ อ้ เสนอแนะสมาชิกในกลุ่ม นางสาวณชั กมล หุน่ เกา่ ได้เขยี นรายงานการใช้นวตั กรรมในหัวข้อต่างๆ ดังน้ี ช่ือนวัตกรรม ชอ่ื ผสู้ ร้างนวตั กรรม แนวทางในการคิดคน้ นวตั กรรม การแก้ไขปัญหา ประเภทนวตั กรรมการเรียนการสอนความเปน็ มา และความสาคญั ของ ปญั หาท่ีตอ้ งสรา้ งนวตั กรรมการเรียนการสอน วัตถุประสงค์ของการสรา้ ง นวตั กรรมการเรยี นการสอน กลมุ่ เปา้ หมายหรือกลมุ่ ตวั อย่าง พร้อมทัง้ ได้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและใหข้ อ้ เสนอแนะสมาชกิ ในกลุ่ม ไดเ้ ขียนรายงานการใชน้ วตั กรรมในหัวข้อต่างๆ ดังน้ี ชือ่ นวัตกรรม ชื่อผสู้ ร้างนวตั กรรม แนวทางในการคดิ คน้ นวตั กรรม การแก้ไขปญั หา ประเภทนวัตกรรมการเรยี นการสอนความเป็นมา และความสาคัญของ ปญั หาทต่ี อ้ งสร้างนวตั กรรมการเรยี นการสอน วตั ถุประสงค์ของการสรา้ ง นวตั กรรมการเรียนการสอน กลมุ่ เปา้ หมายหรือกลุ่มตัวอย่าง พร้อมทั้งได้ แลกเปล่ยี นความคิดเหน็ และให้ขอ้ เสนอแนะสมาชกิ ในกลุ่ม ประธานได้กล่าวปิดประชมุ เวลา 17.35 น. การประชมุ ครั้งนส้ี มาชิกในกลุ่ม ไดเ้ ขยี นเขยี นรายงานการใชน้ วัตกรรมในหวั ข้อต่างๆ ผลท่ไี ด้จำกกิจกรรม สมาชกิ ในกลุ่มไดเ้ ขียนรายงานการใชน้ วัตกรรม ในหวั ข้อต่างๆและได้แลกเปล่ียนเรยี นรู้ พรอ้ มทั้ง แสดงความคดิ เห็นและให้ขอ้ เสนอแนะกบั สมาชกิ ในกลุ่ม กำรนำผลที่ไดจ้ ำกกจิ กรรมไปใช้ สมาชิกได้มีการเขียนรายงานการใช้นวัตกรรม และไดม้ ีการนาไปปรบั ใช้ในหวั ข้ออนื่ ๆต่อไป ลงชอ่ื ………………………………………… ลงชอ่ื ………………………………………… (นางสาวศศธิ ร นลิ พ่มุ ) (นางสาวณชั กมล หุน่ เกา่ ) ผู้บันทกึ ข้อมลู ประธานกลุ่ม PLC ลงชื่อ………………………………………… ลงชอ่ื ………………………………………… (นางนราธิป พรหมโชติ) (นายเทพพร อาจเวทย์) รองผู้อานวยการโรงเรยี นกลุ่มบริหารงานวิชาการ ผอู้ านวยการโรงเรียนมัธยมวดั สิงห์
ภำพกำรประชุมกล่มุ PLC English & Chinese with Happiness ครัง้ ท่ี 13 วนั ท่ี 3 พฤศจกิ ำยน 2563 เวลำ 15.45 – 17.35 น.
ครั้งที่ 14/2563 ชวั่ โมง PLC ท่ี 27 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 วันที่ 5 พฤศจกิ ายน 2563 เวลา 15.45 – 17.35 น. โรงเรียนมัธยมวัดสงิ ห์ แบบบันทกึ การปฏบิ ัติกิจกรรม “การสรา้ งชุมชนแห่งการเรียนรูท้ างวิชาชพี ครู PLC” ชอ่ื กลุ่ม English & Chinese with Happiness ช่อื กจิ กรรมกลุม่ สรปุ การพัฒนาผลสัมฤทธิ์และความคงทนในการเรยี นรคู้ าศพั ท์ โดยการใช้เกม Emoji ช่อื - นามสกุล (ผ้บู นั ทกึ ) ณัชกมล หุน่ เกา่ กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ สมาชกิ ที่ ช่ือ – นำมสกุล บทบำท ลำยมือชื่อ หมำยเหตุ 1 นางสาวชนวรรณ แปน้ งาม ประธาน 2 นางสาวพรรัตน์ พาเชอื้ สมาชกิ 3 นายสชุ าติ จงประเสรฐิ กุล สมาชิก 4 นางสาวฑชั ชานันทร์ ชราชติ สมาชกิ 5 นางสาวศศธิ ร นิลพมุ่ สมาชกิ 6 นางสาวรุ่งฤดี ทองดี สมาชกิ 7 นางสาวชรนี ุช สกั ดา สมาชิก 8 นางสาวณัชกมล หุ่นเกา่ เลขานกุ าร (ผู้บันทึก) ประเด็นปญั หาทจ่ี ะพัฒนา การพฒั นาผลสมั ฤทธิท์ างความคงทนในการจาคาศัพท์ของนกั เรียน สาเหตุของปัญหา 1. นักเรยี นจาคาศัพทท์ ี่เรยี นไม่ค่อยได้ 2. นักเรียนจาคาศพั ท์ท่ีเรียนไดไ้ ม่แม่นยา ความรู้/หลกั การทน่ี ามาใชแ้ ก้ปญั หา 1. กลยุทธก์ ารจาคาศัพท์ของผู้เรียน โดยใช้ 6 วธิ ี และตอ้ งกระทาอย่างสม่าเสมอ คอื วิธี ทอ่ ง อ่าน เขยี น ฟัง พดู และการนาคาศพั ทม์ าเล่นเป็นเกมส์ โดยประยุกต์ใช้“Decoding Emojis” มาใช้ในการจดั การเรยี นรู้ กจิ กรรมทท่ี า นางสาวชนวรรณ แป้นงาม ประธานกล่าวเปิดการประชุม โดยการประชมุ ในครั้งน้ีเปน็ การสรุป การใช้ เกมส์ Emojis มาพัฒนาผลสมั ฤทธิแ์ ละความคงทนในการเรียนรคู้ าศัพท์วิชา ภาษาอังกฤษและภาษาจีนของนกั เรียน นางสาวศศิธร นิลพ่มุ การใช้เกมส์ Emojis มาพฒั นาผลสัมฤทธิแ์ ละความคงทนในการเรยี นรู้ คาศัพทท์ าใหน้ ักเรียนได้เกิดการเรยี นรูด้ ้วยตนเอง เป็นการจดั การเรียนการ
สอนทเ่ี น้นผ้เู รยี นเปน็ สาคญั เป็นวธิ ที ่ีทาให้นักเรยี นตื่นตัวในการเรยี นรู้ นางสาวพรรัตน์ พาเช้ือ การใชเ้ กมส์ Emojis มาพัฒนาผลสัมฤทธิ์และความคงทนในการเรียนรู้ คาศพั ทท์ าใหน้ ักเรยี นมีความสนกุ สนาน มกี ารชว่ ยเหลอื ซึง่ กันและกันในกลุ่ม มีการแบ่งงานตามหนา้ ที่กันอยา่ งชดั เจน ทาใหช้ ่วยส่งเสริมทักษะในดา้ นการ ทางานเปน็ ทมี ได้เปน็ อย่างดี นางสาวฑชั ชานันทร์ ชราชติ การใช้เกมส์ Emojis มาพัฒนาผลสัมฤทธแ์ิ ละความคงทนในการเรยี นรู้ คาศัพทท์ าให้นักเรยี นมีความสนใจในการเรยี นมากยิ่งขึ้น โดยร้สู กึ วา่ การ เรียนภาษาไมเ่ ป็นการนา่ เบ่อื ตามแบบเดมิ ท่เี คยเรียนมา นายสุชาติ จงประเสริฐกุล การใชเ้ กมส์ Emojis มาพัฒนาผลสัมฤทธิแ์ ละความคงทนในการเรยี นรู้ คาศพั ทท์ าใหน้ ักเรยี นเกิดความต่นื ตัว ทา้ ทาย โดยอยากจะเป็นผ้ชู นะ และ พชิ ิตในเปา้ หมายท่เี ปน็ เกมส์ที่นา่ สนใจ สง่ ผลใหน้ ักเรียนมีความกระตือรือร้น ในการจาคาศพั ทใ์ นบทเรยี น นางสาวรงุ่ ฤดี ทองดี การใชเ้ กมส์ Emojis มาพฒั นาผลสมั ฤทธ์ิและความคงทนในการเรยี นรู้ คาศพั ทส์ ง่ ผลใหน้ ักเรียนมผี ลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นทด่ี ีขึ้น และเป็นการ กระตุ้นนกั เรยี นอยากเรยี นรู้ในเน้อื หาต่อ ๆ ไป นางสาวชรนี ชุ สกั ดา การใชเ้ กมส์ Emojis มาพัฒนาผลสมั ฤทธ์ิและความคงทนในการเรียนรู้ คาศัพทท์ าใหน้ ักเรียนอยากแสดงออกในความสามารถของตนเองที่มอี ยู่ การเรยี นมีความสนุกสนาน ใช้ความเรว็ ในการเลน่ เป็นการกระตุ้นสมอง และความสามารถในการเชือ่ มโยงคาศัพท์ของนักเรียน นางสาวณัชกมล หุ่นเก่า การใช้เกมส์ Emojis มาพัฒนาผลสมั ฤทธแ์ิ ละความคงทนในการเรยี นรู้ คาศัพทท์ าใหน้ ักเรยี นสามารถเชอื่ มโยงคาศัพท์กับการฝึกแต่งประโยค โดยมี การร่วมมอื และช่วยเหลอื กนั ในกลมุ่ เพ่ือนนักเรียน อีกท้ังยงั เปน็ การทา้ ทาย ความสามารถในดา้ นภาษาอีกด้วย ประธำนกลำ่ วปิด ประธานกลา่ วสรุปสาระการประชุม ผลท่ไี ดจ้ ากกิจกรรม สมาชกิ ในกลมุ่ ได้มีการสรปุ ผลการใชเ้ กมส์ Emojis มาพัฒนาผลสมั ฤทธิแ์ ละความคงทนในการเรียนร้คู าศัพท์ การนาผลทไ่ี ดจ้ ากกจิ กรรมไปใช้ สามารถนาผลการใช้นวตั กรรมในคร้งั น้ีไปปรับใชก้ ับชิชาอนื่ หรอื ชน้ั เรยี นอื่นได้
ลงช่อื ………………………………………… ลงช่อื ………………………………………… (นางสาวณัชกมล หุ่นเกา่ ) (นางสาวชนวรรณ แป้นงาม) ผูบ้ นั ทึกขอ้ มูล ประธานกลมุ่ PLC ลงช่ือ………………………………………… ลงช่ือ………………………………………… (นางนราธิป พรหมโชติ) (นายเทพพร อาจเวทย)์ รองผ้อู านวยการโรงเรยี นกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ผู้อานวยการโรงเรียนมธั ยมวดั สงิ ห์
ภาพกระประชุม PLC กลุ่ม English & Chinese with Happiness ครง้ั ท่ี 14 วันท่ี 5 พฤศจกิ ายน 2563 เวลา 15.45 – 17.35 น.
ภาคผนวก แผนการจดั การเรียนรู้/แบบประเมินพฤติกรรมการเรยี นรู้/กิจกรรมการจดั การเรียนรู้
โรงเรยี นมัธยมวดั สิงห์ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 14 แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ า ภาษาจีน ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ (ภาษาจีน) จานวนหนว่ ยการเรียน 2.0 หนว่ ย (4 คาบต่อ สัปดาห)์ หนว่ ยท่ี 5 เร่อื ง การแนะตวั หน่วยยอ่ ยท่ี 13 เรื่อง 我们都是留学生 จานวน 2 ชวั่ โมง ********************************************************************************** 1. สาระการเรียนรู้ สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการสอ่ื สาร 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟ่ี ังและอา่ นจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น อยา่ งมี เหตุผล 3. ตวั ช้ีวดั มฐ.ต.1.1 ม.4/2 ระบสุ ัทอกั ษรพินอิน (拼音) อา่ นออกเสียงและประสมเสียงตามหลักการ มฐ.ต.1.1 ออกเสยี ง ม.4/3 บอกความหมายของคา กลมุ่ คา ประโยค หรือขอ้ ความสนั้ ๆ ตามท่ีฟังหรือ อา่ นจากส่ือท่ีเป็นความเรียงและไมใ่ ชค่ วามเรียงในรูปแบบตา่ ง ๆ 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรียนบอกพินอนิ ได้ตรงตามตวั อกั ษรจีน 2. นักเรียนอา่ นออกเสยี งพนิ อินและข้อความในบทเรียนได้ถูกต้อง 3. นกั เรียนสนทนาโตต้ อบแปลกเปลย่ี นขอ้ มลู ข่าวสารได้ 4. มคี วามมุง่ มน่ั ในการทางานและมีจติ สาธารณะ
5. สาระสาคญั การทักทายและการแนะนาตัวของชาวจนี ส่งิ ทีค่ วรทา เลือกคาทักทายหรือคาสรรพนามท่เี หมาะสม ควรนาหนา้ ด้วยแซ่ และ 先生 小姐 หรอื ตาแหนง่ ตา่ ง ๆ ไม่ควรเรยี กแซ่เฉยๆ คนจีนใหค้ วามสาคัญเร่ือง ระบบอาวโุ สและการใหเ้ กียรติ แตห่ ากเปน็ การเรียกชอ่ื เฉยๆ จะตอ้ งเป็นผู้ใหญเ่ รยี กผู้น้อยหรือเปน็ การเรียก ระหวา่ งเพ่ือนฝงู ซ่ึงมีความสนิทสนมกัน ผู้ที่อาวโุ สนอ้ ยกวา่ ควรเป็นฝ่ายทักทายผู้อาวโุ สก่อน หรือถา้ แนะนาตอ้ ง แนะนาผ้นู ้อยให้ผ้ใู หญ่รูจ้ กั ก่อน และต้องลุกขึน้ ยืนจนเสรจ็ ส้ินการทาความร้จู กั ทัง้ สองฝ่าย หากมีการพยกั หน้า กม้ หวั ควรค้อมลงให้ระดับหน้าอก แต่หากมีการจับมือพึงระมัดระวงั เป็นพิเศษ ควรจับมือฝ่ายหญิง เบาๆ และ พอเป็นพธิ ี ไม่ควรกมุ หรือบบี เพื่อแสดงความมั่นใจ เนอื่ งจากชาวจีนเหน็ ว่าการจบั มอื แน่นเกนิ ไป อาจเหมือน การประลองกาลงั หรือลองเชิงกัน แตห่ ากฝ่ายตรงขา้ มใชส้ องมอื กุมมืออีกฝา่ ยหมายถงึ การแสดงความอบอนุ่ เป็นกนั เอง การทักทายดว้ ยการไถ่ถาม เปน็ เร่ืองปกติ ถือเป็นมารยาทท่วั ไป ไม่ควรใชม้ อื ปิดปาก ปอ้ งปาก หรือ ทาปากขมุบขมิบ เพราะไม่สุภาพ ไม่ควรพดู เสยี งเบาไป เพราะอาจหมายถึงการนนิ ทา แต่กไ็ ม่ควรสง่ เสียงดงั เกนิ ไป เพราะแสดงถึงอานาจ พึงสารวมและออ่ นน้อมถ่อมตนในการพดู คุยกับชาวจนี ไม่ควรพูดตลกลามกแบบ สกปรก หากต้องการเล่าเรอื่ งขาขนควรเลอื กเร่ืองทค่ี มคายแฝงข้อคิด ชาวจีนถอื ว่าการตรงต่อเวลาเปน็ การให้ เกยี รตอิ ยา่ งหน่ึง ดงั นั้น ควรไปถึงก่อนเวลานดั หมาย 6. สาระการเรยี นรู้ 1. บทสนทนาการแนะนาตัว 2. การใช้都 ในการตอบคาถามท่วั ไป 3. สทั อกั ษรจีน 4. การใชค้ าศัพท์ในบทเรียนแต่งเป็นประโยค 7. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ มจี ิตสาธารณะ 8. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน มีความสามารถในการแก้ปัญหา 9. การบูรณาการกับปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 9.1 ความพอประมาณ นกั เรยี นภาคภูมใิ จในตนเอง เพราะสามารถสนทนาโต้ตอบได้ 9.2 ความมีเหตุผล นกั เรยี นมคี วามพยายามและความต้งั ใจในการฟงั พูด อา่ น และเขยี น เน้ือหาในบทเรียน ร้จู ัก คดิ วเิ คราะห์ในการตอบคาถาม 9.3 การมีภูมคิ ้มุ กนั ในตวั ท่ีดี
นกั เรียนมีความภูมิใจและยินดี เมื่อตนเองและเพ่ือนในชั้นเรยี นตอบคาถามไดถ้ ูกต้อง และมี ความสามารถในการตอบคาถาม 9.4 เงอื่ นไขความรู้ นักเรยี นสามารถบอกความหมายคาศัพท์และแต่งประโยคได้ 9.5 เงื่อนไขคณุ ธรรม ซอ่ื สตั ย์สจุ รติ 9.6 การบูรณาการกบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น กล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 10. ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน 1. กจิ กรรมกลุ่ม 2. การแตง่ ประโยค 11. หลกั ฐานหรือรอ่ งรอยของการเรียนรู้ / การวดั และประเมนิ ผล ดา้ นความรู้ ภาระงาน / ชน้ิ งาน วธิ ีการวัด เคร่อื งมือวดั เกณฑท์ ่ีใช้ ผปู้ ระเมนิ ประเมิน ครู 1. บอกคาแปลภาษา 1. การแปล 1. แบบประเมินกิจกรรม ไทยได้ถกู ตอ้ ง 2. เล่นเกมส์EMOJI 2. คาถาม นักเรยี นมผี ลการ แต่งประโยคเปน็ ประเมินกจิ กรรม ภาษาจนี โดยตอ้ งมผี ลการ ประเมนิ อยา่ งตา่ ร้อยละ 70 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ ภาระงาน / ช้ินงาน วิธกี ารวัด เคร่อื งมือวดั เกณฑ์ท่ใี ช้ ผูป้ ระเมิน ประเมิน ครู 1. การอ่านออกเสียงพิน 1. นกั เรยี นอา่ นพนิ อิน 1. แบบประเมินการอ่าน อนิ 3. การตอบคาถาม 2. แบบประเมินการพดู การประเมนิ จาก 3. แตง่ ประโยคภาษาจีน กิจกรรมในชน้ั เรียน โดยตอ้ งมผี ลการ ประเมนิ อยา่ งตา่ ร้อย ละ 70
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ภาระงาน / ชนิ้ งาน วิธีการวัด เครือ่ งมือวดั เกณฑ์ท่ใี ช้ ผปู้ ระเมนิ ครู ประเมนิ 1. การมจี ิตสาธารณะ 1. การสังเกต 1. แบบประเมนิ พฤติกรรม 1. การประเมนิ จาก โดยการทากจิ กรรมและ การแสดงออกในชัน้ เรียน การทางาน การสังเกต พฤติกรรม 2. การสังเกต โดยต้องมีผลการ ประเมนิ อยา่ งต่าร้อย ละ 70 12. การจัดกระบวนการเรียนรู้ ชวั่ โมงท่ี 53 ขั้นนำ ครทู ักทายนกั เรียน “สวสั ดี 你好” จากน้นั หวั หน้าห้องบอกให้นกั เรียนยืนข้ึนและพดู วา่ “老师好” เพ่อื เปน็ การทกั ทายซึ่งกันและกัน จากน้ันครูให้นักเรียนนั่งลง และเช็คชื่อ จากน้ันครูทกั ทาย สอบถามนักเรยี นเกย่ี วกบั เร่อื งทนี่ า่ สนใจ ข้ันสอน 1. ครูสอนคาศัพท์ในบทเรียน 2. ครอู า่ นบทสนทนาและให้นกั เรยี นช่วยแปลบทสนทนา 3. ครูนาอ่านบทสนทนาและให้นักเรยี นอ่านตาม 4. ครแู บง่ กลุม่ นักเรียนเปน็ กลุ่มละ 8 คน โดยคละความสามารถ จากน้นั ครอู ธิบายกติกาการเล่น เกมEMOJI โดยครใู ช้สญั ลักษณ์ EMOJI แทนคาศัพท์ในบทเรียน โดยดู EMOJI บน PPT ทคี่ รู โชว์วา่ ตรงกับคาศพั ท์คาใด จากนน้ั นักเรยี นนาคาศัพท์เหล่านน้ั แตง่ เปน็ ประโยค กลุ่มไหนยก มือตอบเรว็ ทส่ี ดุ และถกู ต้องจะได้ 1 คะแนน กลมุ่ ใดตอบถกู ต้องมากทีส่ ุดจะได้คะแนน 10 คะแนน รองลงมาคือ 9 8 7 ตามลาดบั ขนั้ สรปุ 1. ครูทวนรูปประโยคสาคัญในบทเรียน 13. สือ่ วสั ดแุ ละอุปกรณ์ 1. PPT 2. เกม 14. แหล่งกำรเรยี นรู้ Google 15. กจิ กรรมเสนอแนะ ฝกึ หาคาศัพทใ์ นอินเตอรเ์ น็ต
EMOJI
แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3 Challenge แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 15 บทเรยี นยอ่ ยท่ี 2 Present Perfect ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 รายวิชา ภาษาองั กฤษ 5 รหสั วิชา อ23101 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ครผู สู้ อน นางสาวศศิธร นิลพุม่ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรือ่ งทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อยา่ งมเี หตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ ความคดิ เหน็ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธร์ ะหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใชไ้ ด้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตัวชี้วัด ต 1.1 ม. 3/1 ปฏบิ ัติตามคาขอรอ้ ง คาแนะนา คาชแี้ จง และคาอธิบายที่ฟงั และอ่าน ต 1.1 ม. 3/3 ระบ/ุ เขยี นประโยคและข้อความให้สมั พันธ์กับสื่อทีไ่ ม่ใชค่ วามเรียงรูปแบบต่างๆที่อา่ น ต 1.2 ม. 3/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเก่ียวกบั ตนเอง เรื่องต่างๆใกลต้ วั สถานการณ์ ขา่ ว เร่ือง ที่อยูใ่ น ความสนใจของสังคมและส่อื สารอย่างต่อเน่ืองและเหมาะสม ต 2.1 ม. 3/1 เลือกใช้ภาษา นา้ เสียง และกริ ิยาท่าทาง เหมาะกับบคุ คลและโอกาสตามมารยาทสงั คม และ วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา 2. สาระสาคญั / ความคิดรวบยอด (Concept) อธบิ ายรปู แบบโครงสร้างของ Present Perfect Tense ทั้งแบบระโยคบอกเล่า ปฏิเสธ และคาถาม ไดส้ ามารถเปล่ียนคากริยาใหเ้ ปน็ อดีตช่องที่ 3 (Past Participle) ได้ถูกต้อง อีกท้ังยังสามารถพูด และตอบ คาถามโดยใช้ Present Perfect Tense ในสถานการณต์ า่ งๆได้
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เมือ่ จบหนว่ ยการเรยี นรู้แลว้ ผเู้ รยี นสามารถ 1. นักเรยี นสามารถอธบิ ายรูปแบบโครงสรา้ งของ Present Perfect Tense ไดถ้ กู ต้อง 2. นักเรียนสามารถพดู ตอบคาถาม และแต่งประโยคโดยใช้ Present Perfect Tense ได้ 3. นักเรยี นสามารถเปลี่ยนคากรยิ าให้เป็นอดตี ชอ่ งที่ 3 (Past Participle) ได้ถูกต้อง 4. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ - มีวนิ ยั - ใฝ่เรยี นรู้ - มงุ่ ม่นั ในการทางาน 5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน - ความสามารถในการสือ่ สาร - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ใชว้ ิธีสอนแบบ 4 MAT’s Learning (EPPA) 6.1 ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น (E - Experience: สรา้ งประสบการณ์) ครเู ริม่ ต้นโดยการตงั้ คาถามเกี่ยวกับความรทู้ ่ัวไป ดงั น้ี - Have you had breakfast? - Have you ever been to Japan? 6.2 ขน้ั จดั การเรียนรู้ (P – Presentation: นาเสนอเน้ือหา) 1) ครูสรปุ เนอื้ หาและโครงสร้างประโยค Present Perfect Tense พรอ้ มยกตัวอยา่ งคากริยา ทเี่ ปลยี่ นรปู เป็นช่องที่ 3 (Past Participle) 2) ครอู ฺธิบายวธิ ปี ฏิบตั ิกิจกรรมกลุม่ เรือ่ ง Present Perfect 6.3 ขัน้ ฝกึ ปฏิบัติ (P – Practice: ฝึกปฏบิ ตั ิ) 1) แบ่งนักเรียนเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน 2) ครแู จกใบท่รี วมรูป Emoji แตล่ ะรูปจะแทนตวั อักษรภาษาองั กฤษหรือสญั ลกั ษณ์ (ตามรูปท่ี 1) ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่ม กล่มุ ละ 1 ชุด
รปู ท่ี 1 3) ครูอฺธิบายวิธกี ารตอบคาถามแตล่ ะข้อ โดยตอบคาถามแบบอัตนยั ผ่านแอพพลเิ คชัน่ Kahoot! 4) ครเู ปิดโจทย์คาถามให้ดู แลว้ ให้นักเรียนแต่ละกล่มุ ถอดรหสั ภาพ Emoji ทเ่ี หน็ ให้เปน็ คากรยิ าชอ่ งที่ 3 หรือเตมิ ประโยคโดยใช้ Present Perfect Tense ให้สมบูรณ์และถูกต้อง (รปู ท่ี 2) กลุ่มที่ ตอบได้อันดับแรกจะไดค้ ะแนนสงู สุด ซ่งึ ในแตล่ ะขอ้ ครจู ะกาหนดคะแนนไวต้ า่ งกนั Example: What is the past participle of ________? รปู ที่ 2 (The answer is said.) 6.4 ข้ันสรุป และการประยกุ ต์ใช้ (A – Application: นาไปใช้) 1) ครูสรปุ เนอ้ื หาเกีย่ วกบั Present Perfect Tense พรอ้ มทบทวนคากรยิ าช่องที่ 3 2) ให้นักเรยี นทาใบงาน เรือ่ ง Present Perfect Tense เป็นการบา้ น 7. การวดั และประเมินผล วิธกี ารประเมนิ ผล เคร่ืองมอื ที่ใช้ เกณฑ์การประเมนิ 1) กิจกรรมกลุ่มในชั้นเรียน 1) Presentation เร่อื ง Present 1) เกณฑก์ ารประเมนิ ใบงาน เรอ่ื ง 2) ใบงาน เร่ือง Present Perfect Perfect Tense Present Perfect Tense Tense 2) แอพพลเิ คชน่ั ตอบคาถาม 2) แบบสังเกตพฤติกรรมความ Kahoot! กระตอื รือรน้ ในการร่วมกจิ กรรม ในชั้นเรยี น
8. สือ่ ทีใ่ ช้ / แหล่งเรียนรู้ 1) Presentation เรือ่ ง Present Perfect Tense 2) โจทย์คาถามเรอื่ ง Present Perfect Tense โดยใช้แอพพลิเคช่นั Kahoot! 9. ภาคผนวก 1) รปู Emoji และตัวอยา่ งโจทย์ เร่ือง Present Perfect Tense ท่ใี ชใ้ นการทากิจกรรม 2) ใบงาน เรื่อง Present Perfect Tense 3) เกณฑ์การประเมนิ ใบงาน 4) แบบสังเกตพฤตกิ รรมความกระตือรือร้นในการรว่ มกิจกรรมในชั้นเรียน
รปู Emoji ท่ใี ช้ในการทากจิ กรรม
ตวั อยา่ งโจทย์ เรือ่ ง Present Perfect Tense ตัวอย่างท่ี 1 ตัวอยา่ งท่ี 2 ใบงาน 1 เรอ่ื ง Present Perfect Tense
ใบงาน 2 เร่อื ง Present Perfect Tense
เกณฑ์การประเมนิ ใบงาน
ระดบั คะแนน ประเดน็ 5 4 3 2 1 การประเมนิ ความถกู ต้อง เขยี นตอบได้ เขยี นตอบได้ เขยี นตอบได้ เขยี นตอบได้ เขียนตอบได้ ของการทาใบ อย่างถูกต้อง อย่างถูกต้อง อย่างถูกต้อง อยา่ งถูกต้อง อยา่ งถูกต้อง ตามโครงสรา้ ง ตามโครงสรา้ ง ตามโครงสร้าง ตามโครงสรา้ ง ตามโครงสรา้ ง งาน เรอ่ื ง Present ประโยค ประโยค ประโยค ประโยค ประโยค Perfect Tense รอ้ ยละ 90- รอ้ ยละ 80-89 รอ้ ยละ 70-79 ร้อยละ 50-69 ตา่ กว่ารอ้ ยละ 100 50 ความหมายของระดับคะแนน 5 คะแนน ดเี ยี่ยม 4 คะแนน ดมี าก 3 คะแนน ดี 2 คะแนน พอใช้ 1 คะแนน ควรปรับปรุง
แบบสงั เกตพฤติกรรมความกระตอื รือรน้ ในการรว่ มกิจกรรมในชนั้ เรยี น กลุ่มท่ี_______________ ชอ่ื กลมุ่ __________________________ เลขที่ ช่ือ-สกุล 1. มีส่วนร่วมใน 2. ปฏิบตั ติ าม 3. กระตอื รือร้นใน 4. แก้ไขปัญหาใน กิจกรรม คาส่งั ในกิจกรรม การรว่ มกิจกรรม ระหว่างกจิ กรรมไดด้ ี 3213 2 1 3 21 3 2 1 ความหมายของระดับคะแนน 3 คะแนน = ดมี าก 2 คะแนน = ดี 1 คะแนน = พอใช้
กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้
กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้
กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้
กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้
กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้
กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้
กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้
กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้
Search