แผนรายวิชา การป้องกันทุจริตศึกษา

แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ าการป้องกันการทุจริต สค 32036 ระดับ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ตามหลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภออ่ทู อง สำนักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั สำนกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธกิ าร

ก คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชา หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยมีเนื้อหาสาระ เกยี่ วกบั โครงสรา้ งหลักสูตร แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชา และแนวทางกระบวนการเรียนรู้ที่ครอบคลมุ เน้ือหา วิชา การป้องกันการทุจริต โดยเฉพาะครูที่มีหน้าที่ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนอย่างเป็นข้ันตอน เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นสามารถเรยี นรู้ และเข้าใจในเนอ้ื หา แผนการจัดการเรียนรูร้ ายวิชา ครง้ั น้ี ขอขอบคุณผู้อำนวยการ อาจารย์ ท่ีปรึกษาทุกท่าน ที่ใหค้ วามรู้ คำแนะนำ และคำปรึกษา ซึ่งเป็นแนวทางในการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชา จนสำเร็จเป็นรูปเล่ม สมบูรณ์ คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้นำไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ หากพบข้อผิดพลาดหรือมีข้อเสนอแนะประการใด คณะผู้จัดทำขอน้อมรับไว้แก้ไข ปรับปรงุ ด้วยความขอบคณุ ยง่ิ กศน.อำเภออู่ทอง

สารบญั ข คำนำ หนา้ สารบญั ก แผนการจดั การเรยี นรู้สอนเสริม ครง้ั ที่ 1 ข - แบบทดสอบก่อนเรียน 1 - ใบงาน 3 แผนการจัดการเรยี นร้สู อนเสรมิ ครัง้ ท่ี 2 6 - ใบงาน 8 - แบบทดสอบหลังเรยี น 10 12

แผนการจดั การเรยี นรู้ (สอนเสริม) รายวิชา การป้องกนั การทุจริต สค32036 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ครั้งท่ี 1 จำนวน 3 ชัว่ โมง เรอื่ ง บทท่ี 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนกบั ผลประโยชนส์ ่วนรวมและ บทที่ 2 ความละอาย และความไม่ทนตอ่ การทุจริต ตัวช้ีวดั บทที่ 1 การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนกบั ผลประโยชน์สว่ นรวม 1. สาเหตุของการทุจรติ และทิศทางการปอ้ งกันและการทุจรติ ในประเทศไทย 2. ทฤษฎี ความหมายและรูปแบบของการขดั กนั ระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน และผลประโยชน์ ส่วนรวม (โลก) 3. กฎหมายทเ่ี กีย่ วข้องกบั การขดั กันระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนกบั ผลประโยชนส์ ว่ นรวม 4. คิดวเิ คราะห์กระบวนการ “คิดเปน็ ” 5. บทบาทของรัฐ/เจ้าหนา้ ท่ีของรัฐทีเ่ กี่ยวข้องกับการป้องกนั ปราบปรามเกี่ยวกบั การทุจรติ บทท่ี 2 ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต 1. การทุจริตของประเทศไทย/โลกได้ 2. ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ ได้ เนอ้ื หา บทท่ี 1 การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนกบั ผลประโยชนส์ ว่ นรวม เรื่องที่ 1 สาเหตุของการทจุ รติ และทศิ ทางการปอ้ งกันและการทจุ ริตในประเทศไทย เรื่องท่ี 2 ทฤษฎี ความหมายและรปู แบบของการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตน และผลประโยชน์ สว่ นรวม (โลก) เรอื่ งท่ี 3 กฎหมายทเ่ี ก่ียวข้องกับการขัดกนั ระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนกบั ผลประโยชน์สว่ นรวม เร่อื งท่ี 4 การคิดเป็น เร่อื งที่ 5 บทบาทของรัฐ/เจ้าหนา้ ท่ีของรฐั ท่ีเก่ยี วข้องกบั การปอ้ งกนั ปราบปรามเกี่ยวกับการทจุ รติ บทที่ 2 ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ รติ เรอ่ื งที่ 1 การทจุ ริต เรื่องที่ 2 ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต ข้ันตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้ ขัน้ ท่ี 1 การกำหนดสภาพปัญหา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ 1. ครูผ้สู อนให้นักศึกษารว่ มกันทำความสะอาดศูนยก์ ารเรยี น หลงั จากน้นั ครใู ห้ตวั แทนนักศกึ ษานำ สวดมนต์ไหวพ้ ระประจำศูนย์การเรยี น โดยสวดมนต์พร้อมกนั 2. ครูผู้สอนเล่าข่าวที่เกี่ยวข้องกับความรู้ท่ัวไปที่ควรรู้ที่ได้จากส่ือต่าง ๆ และให้ผู้เรียนแสดงความ คดิ เห็นร่วมกัน 3. ครผู สู้ อนช้แี จงผลการเรียนรูท้ ่ีคาดหวงั และเรื่องท่ตี อ้ งศึกษาในรายวิชาตามผงั นโนทศั น์ ขน้ั ท่ี 2 การแสวงหาข้อมูลและจัดการเรียนรู้ 1. ครูผสู้ อนตั้งประเดน็ ศกึ ษา ออกเปน็ 7 ประเด็น ตามหวั ข้อ เรอื่ ง การคดิ แยกแยะระหว่าง ผลประโยชน์สว่ นตนกบั ผลประโยชน์สว่ นรวม และความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต พร้อมทง้ั สรปุ เนอ้ื หาท่ีสำคัญเพื่อให้ผ้เู รียนไดร้ ับข้อมลู ที่ถกู ตอ้ งในแต่ละเรื่อง 2. ครูใหน้ ักศึกษาแบ่งกลุม่ ๆ ละ 3-4 คน และจับสลากเลือกหวั ขอ้ ดังนี้

เร่ืองที่ 1 สาเหตุของการทุจริตและทิศทางการปอ้ งกันและการทุจริตในประเทศไทย เรื่องท่ี 2 ทฤษฎี ความหมายและรูปแบบของการขัดกันระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตน และผลประโยชน์สว่ นรวม (โลก) เร่อื งที่ 3 กฎหมายที่เกีย่ วขอ้ งกบั การขัดกันระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนกบั ผลประโยชน์ สว่ นรวม เรอ่ื งท่ี 4 การคิดเปน็ เรอ่ื งท่ี 5 บทบาทของรฐั /เจ้าหน้าทข่ี องรัฐทีเ่ กี่ยวข้องกบั การป้องกันปราบปรามเกี่ยวกับ การทุจรติ เรื่องที่ 6 การทุจริต เรื่องที่ 7 ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต โดยมอบหมายให้แตล่ ะกลุ่มศึกษาประเดน็ ตามละหัวเรอ่ื ง พรอ้ มทง้ั ครูผู้สอนแจกใบความรู้ ใบงาน พรอ้ มทั้งนำเสนอในรปู แบบแผงผงั ความคิด และนำเสนอหนา้ ชนั้ เรียน ขัน้ ท่ี 3 การปฏบิ ตั ิและนำไปประยกุ ต์ใช้ - ครูผู้สอนและนักศึกษารว่ มกันสรุปประเด็น เรือ่ ง การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตนกับ ผลประโยชนส์ ่วนรวม และความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ รติ และวเิ คราะห์กรณีศึกษาในใบงาน ขน้ั ที่ 4 การประเมินผล - สังเกตการณ์เข้ารว่ มกจิ กรรมในชนั้ เรียน - การรายงานหนา้ ชนั้ เรียน สอ่ื - หนังสือเรียน รายวชิ า สค32036 การป้องกนั การทุจรติ - สือ่ อนิ เตอรเ์ นต็ - ใบงาน ใบความรู้ การวดั ผลประเมินผล - การมสี ว่ นรว่ มและการแสดงความคดิ เห็น สงั เกต - ใบงาน/แบบฝกึ หัด

แบบทดสอบ การปอ้ งกันการทจุ รติ สค32036 แบบทดสอบกอนเรียน 1. ขอใดไมใชสาเหตขุ องการทจุ รติ ก. กฎหมาย ระเบียบ ขอกําหนดมชี องวาง ข. เจาหนาท่ีมอี าํ นาจสทิ ธิขาดในการใชดุลพินิจ ค. ไมมีกลไกท่ีมีประสิทธิภาพในการควบคุม ง. การเปลย่ี นตาํ แหนงของผูปฏิบัติงาน 2. ขอใดไมเกย่ี วของกบั ทิศทางการปองกนั และการทุจริตในประเทศไทย ก. แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหงชาติฉบบั ที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) ข. รัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทยพทุ ธศักราช 2560 ค. ยทุ ธศาสตรชาติระยะ 20 ป (พ.ศ. 2561 - 2580) ง. พระราชบญั ญตั ิการศกึ ษาแหงชาติ 3. ขอใดคือหลักสําคญั ในการควบคุมพฤตกิ รรมของเจาหนาที่ของรฐั ก. หลักธรรม ข. คตธิ รรม ค. จริยธรรม ง. มโนธรรม 4. บริษทั ใหของขวญั เปนทองคาํ แกเจาหนาท่ี เจาหนาทก่ี เ็ รงรัดคืนภาษใี หกอนโดยวธิ ีลัดควิ เพื่อตองการ ไดของขวัญอีกคร้งั เปนการทจุ รติ ในรูปแบบใด ก. การรูขอมลู ภายใน ข. การรบั ผลประโยชน ค. คสู ญั ญากบั เอกชน ง. การสรางถนนในชุมชน 5. ขอใดสําคญั ทสี่ ุดในการจดั กระบวนการคิดเปน ก. ผูเรียน ข. ผูสอน ค. กระบวนการ ง. สภาพปญหา 6. เมอื่ นาํ ผลการตดั สินใจไปปฏิบตั ิแลวยงั ไมพอใจ ควรทาํ อยางไร ก. ทง้ิ ไวระยะหนง่ึ เพ่อื ใหสภาพสังคมมกี ารเปล่ียนแปลง ข. คนควาหาขอมลู เพ่ิมเติม แลวกลบั ไปดาํ เนินการตามกระบวนการใหม ค. ยกเลิกผลการตัดสินใจนนั้ เพราะเหน็ วาไมถกู ตอง ง. ใหกลับไปทบทวนกระบวนการใหม เพ่อื หาขอบกพรอง

7. กรณใี ดเขาขายการทจุ ริต ก. การลกั ทรพั ย ข. การซ้อื ขายหวยใตดนิ ค. หวั หนางานขมขูพนกั งาน ง. ลาปวยโดยใชใบรบั รองแพทยปลอม 8. สิ่งที่ทาํ ใหเกิดการทจุ ริต ก. โอกาส ความกดดนั จติ ใจ ความเครียด ข. แรงจงู ใจ เหตุผล ความยากจน ค. โอกาส แรงจงู ใจ ความยากจน ง. โอกาส แรงจงู ใจ เหตุผล 9. ขอใดตรงกับความหมายคาํ วาทุจริต ก. ลูกขอเงินไปเท่ียว ข. ผูเรียน กศน. มาพบกลุม ค. พนักงานบรษิ ัทใหเพ่อื นลงช่ือทํางานแทน ง. ผูปกครองซือ้ อปุ กรณการสอนใหโรงเรียน 10. การปฏบิ ตั ติ นในขอใดแสดงถึงความมวี นิ ัยในตนเอง ก. การเขาคิวซ้อื อาหาร ข. การแบงขนมใหเพ่ือน ค. การทาํ ความสะอาดบาน ง. การมอบของขวญั ใหผูใหญ 11. ถาทานรูวาส่ิงท่กี ระทํานั้นไมดี ไมถูกตองตรงกบั ความหมายขอใด ก. ความไมทน ข. ความละอาย ค. ความไมกลัว ง. ความเกรงใจ 12. ความไมทนตอการทจุ ริตตรงกบั ความหมายขอใด ก. ใหเพ่อื นลอกการบาน ข. มีคนแซงควิ กอนหนาจึงเขาไปเตือน ค. ใชรถยนตของราชการไปเทยี่ วในวนั หยดุ ง. เหน็ คนหยบิ สนิ คา แลวไมจายเงินกท็ ําเฉย ๆ 13. การทุจริตขอใดกอใหเกิดความเสยี หายตอสงั คม ก. คายาเสพติด ข. ลกู พูดโกหกพอแม ค. เพอื่ นขอลอกขอสอบ ง. จางเพ่ือนทาํ ชนิ้ งานสงครู

14. ขอใดไมใชสาเหตขุ องการทุจริต ก. โครงสรางสงั คมไทยระบบอปุ ถมั ภ ข. กระบวนการยตุ ิธรรมไมเขมแขง็ ค. กระแสบรโิ ภคนิยม วตั ถนุ ยิ ม ง. ความรูเทาไมถงึ การณ 15. การทุจริตในดานศีลธรรม ตรงตามขอใด ก. การลกั ทรัพย ข. การโกหก ค. การเห็นแกตวั ง. การหลงผิด 16. ขอใดเปนความหมายของคําวา“พลเมือง” ก. ปฏบิ ตั ิตนตามหนาทเ่ี ทานั้น ข. ยอมรับกฎหมาย นโยบาย กิจกรรมตาง ๆ ของรัฐ ค. บทบาท หนาที่ และความรบั ผดิ ชอบของสมาชกิ สังคมที่มตี อรัฐ ง. อํานาจอันชอบธรรมที่ตองทําระหวางบุคคล 17. ขอใดไมใชความหมายของ “พลเมืองศกึ ษา” ก. ใหมีความภาคภูมใิ จในความเปนพลเมืองดี ข. การจดั การศึกษาและประสบการณเรียนรเู พอื่ พัฒนาใหเปนพลเมอื งดี ค. ตนเองเปนเพียงผนู อยตองคอยรับการอุปถมั ภจากผูอน่ื ง. สนใจเรียนรูเกี่ยวกับรัฐบาล กฎหมาย ระบบการเมืองการปกครอง 18. ความเปนพลเมืองไดแกขอใด ก. ศกั ดิศ์ รีความเปนมนุษย ข. เคารพหลักความเสมอภาค ค. รับผดิ ชอบตอสังคมและสวนรวม ง. การรบั รู เขาใจกับการนบั ถือความรู ความสามารถ 19. ขอใดเปนลักษณะของการเปนพลเมืองดี ก. รับฟงความคิดเหน็ ตางไดเสมอ ข. กระตอื รอื รนทีจ่ ะมสี วนรวมแกปญหา ค. เคารพกฎ ระเบยี บของชุมชน ง. ถูกทกุ ขอ 20. ขอใดเปนแนวทางในการสรางสํานึกความเปนพลเมือง ก. รับฟงความคดิ เหน็ ของผูอน่ื ข. เขาไปมีสวนรวมในกิจการของชมุ ชน ค. เคารพกฎหมายของทกุ ประเทศ ง. ถกู ทุกขอ

ใบงาน ท่ี 1 เรอื่ ง การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนกบั ผลประโยชนส์ ่วนรวม และ ความละอายและความไม่ทน ตอ่ การทจุ รติ 1. ให้ผูเ้ รียนยกตวั อย่างกิจกรรมการเลือกตงั้ ในชุมชนทส่ี ง่ ผลต่อการทุจริต พรอ้ มท้ังระบแุ นวทางการ ปอ้ งกนั การทจุ ริตเรื่องดงั กล่าวได้ ................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................... ............................................................................................................................. .................................... ................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................... 2. ใหผ้ เู้ รียนตอบคำถามต่อไปน้ี 1.สินบน...................................................................................................................... ........................... 2.ตดิ สนิ บน............................................................................................................................................ 3.เรียกรับสนิ บน..................................................................................................................................... 4.ส่วย..................................................................................................................................................... 5.กนิ ตามนำ้ .................................................................................................................. .......................... 3. ใหผ้ ู้เรยี นแสดงความคดิ เห็นดงั ต่อไปนี้ ผลกระทบของความไม่ซือ่ สตั ย์ ก. ความซื่อสตั ย์ ข้อดีของความซ่ือสตั ย์ ข. ความมีวนิ ยั ผลกระทบของความไม่มวี ินัย ข้อดีของความมีวินัย ค. ความตอ่ เวลา ผลกระทบของความไม่ต่อเวลา ขอ้ ดีของความต่อเวลา

ง. ความรับผดิ ชอบในการทำงาน ผลกระทบของความไม่รับผิดชอบในการทำงาน ข้อดีของความรบั ผิดชอบในการทำงาน 4. ถา้ ผ้เู รยี นพบเห็นบุคคลท่ีแต่งกายไม่เหมาะสมมาเรียนกบั สถานที่ ผเู้ รยี นจะมวี ิธีการแนะนำอยา่ งไร ............................................................................................................................. .................................... ................................................................................................................................ ................................. .................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. .................................... ............................................................................................................................................................. .... ............................................................................................................................. ............................. ชอ่ื - สกุล ..................................................................................................

แผนการจดั การเรียนรู้ (สอนเสรมิ ) รายวชิ า การป้องกันการทจุ ริต สค32036 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ครัง้ ที่ 2 จำนวน 3 ชวั่ โมง เร่อื ง : บทที่ 3 STRONG : จติ พอเพียงตา้ นการทจุ ริต และ บทที่ 4 พลเมืองกับความรับผดิ ชอบต่อสงั คม ตัวชว้ี ดั 1. จติ พอเพยี งตานการทจุ ริต 2. อธิบายแบบอยา่ งความพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู ิพลอ ดุลยเดช มหาราชบรมนาถบพติ ร (พระบาทสมเดจ็ พระปรมนนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ในหลวงรชั กาลที่ 9 แบบอยางในเรื่องความพอเพียง 3. สามารถคิด วิเคราะห์ในการทำกิจกรรมทเ่ี ก่ยี วของไดถ้ ูกต้อง 4. อธบิ ายความหมายและที่มาของคําศัพท์ท่เี ก่ยี วข้องกับพลเมือง 5. อธิบายความหมายและแนวคดิ เกย่ี วกบั การศกึ ษาเพอื่ สร้างความเป็นพลเมือง 6. อธบิ ายองคป์ ระกอบของการศกึ ษาความเป็นพลเมือง 7. บอกแนวทางการปฏบิ ัติตนเปน็ พลเมืองดี 8. แนวทางการสร้างเสรมิ สํานึกความเป็นพลเมือง : กรณศี ึกษาประเทศไทย 9. บอกผลการศึกษาเกยี่ วกับความเป็นพลเมืองในบริบทต่างประเทศ เนื้อหา บทท่ี 3 STRONG : จิตพอเพียงตานการทจุ ริต เร่ืองที่ 1 จติ พอเพียงตานการทจุ ริต เรือ่ งที่ 2 พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (พระบาทสมเด็จพระปรมนนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ในหลวงรัชกาลท่ี 9) แบบอยางในเรอื่ งความ พอเพียง เรื่องท่ี 3 กิจกรรมท่เี ก่ียวของ บทที่ 4 พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสงั คม เรื่องที่ 1 ความหมายและทมี่ าของคาํ ศัพท์ท่เี กี่ยวข้องกับพลเมือง เรื่องท่ี 2 ความหมายและแนวคิดเกยี่ วกับการศึกษาเพ่ือสรา้ งความเปน็ พลเมอื ง เรื่องที่ 3 องค์ประกอบของการศึกษาความเปน็ พลเมอื ง เรื่องที่ 4 แนวทางการปฏิบตั ิตนเป็นพลเมืองดี เรอ่ื งที่ 5 แนวทางการสรา้ งเสริมสํานกึ ความเปน็ พลเมือง : กรณีศึกษาประเทศไทย เรอ่ื งท่ี 6 การศึกษาเก่ยี วกบั ความเป็นพลเมืองในบรบิ ทตา่ งประเทศ เรื่องท่ี 7 กิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ขั้นตอนการจดั กระบวนการเรียนรู้ ขั้นที่ 1 การกำหนดสภาพปัญหา ความต้องการในการเรยี นรู้ 1. ครูผู้สอนให้นักศึกษาร่วมกันทำความสะอาดศูนย์การเรียน หลังจากนั้นครูให้ตัวแทนนักศึกษานำ สวดมนตไ์ หว้พระประจำศูนยก์ ารเรยี น โดยสวดมนตพ์ ร้อมกนั 2. ครูผสู้ อนเลา่ ขา่ วท่ีเกี่ยวข้องกบั ความรู้ทว่ั ไปท่ีควรรู้ท่ีได้จากส่อื ตา่ ง ๆ และใหผ้ ูเ้ รยี นแสดงความ คิดเหน็ รว่ มกนั 3. ครผู สู้ อนชี้แจงผลการเรียนรู้ที่คาดหวังและเรื่องทต่ี อ้ งศึกษาในรายวชิ าตามผังนโนทศั น์

ข้นั ท่ี 2 การแสวงหาข้อมูลและจดั การเรียนรู้ 1. ครผู สู้ อนตัง้ ประเด็นศึกษา ออกเป็น 8 ประเด็น ตามหัวข้อ เรอื่ ง STRONG : จติ พอเพียงตา้ นการ ทุจรติ และ บทที่ 4 พลเมืองกับความรบั ผิดชอบต่อสังคม พรอ้ มท้ังสรปุ เนื้อหาที่สำคญั เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นได้รับขอ้ มลู ที่ถูกต้องในแตล่ ะเรื่อง 2. ครูให้นกั ศึกษาแบ่งกล่มุ ๆ ละ 4-5 คน และจับสลากเลือกหวั ข้อโดยมอบหมายใหแ้ ต่ละกลุ่มศึกษา ประเดน็ ตามละหัวเร่ือง ดังน้ี เรอื่ งที่ 1 จติ พอเพียงตานการทุจรติ เรื่องท่ี 2 พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร (พระบาทสมเด็จพระปรมนนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ในหลวงรชั กาลท่ี 9 แบบอยางในเรื่องความ พอเพยี ง เรื่องที่ 3 ความหมายและท่มี าของคําศัพทท์ ีเ่ กย่ี วข้องกบั พลเมือง เร่อื งที่ 4 ความหมายและแนวคดิ เกี่ยวกับการศึกษาเพ่ือสร้างความเป็นพลเมือง เรื่องท่ี 5 องค์ประกอบของการศกึ ษาความเป็นพลเมอื ง เรอื่ งท่ี 6 แนวทางการปฏิบตั ิตนเปน็ พลเมืองดี เรือ่ งที่ 7 แนวทางการสร้างเสริมสาํ นกึ ความเปน็ พลเมือง : กรณศี ึกษาประเทศไทย เรือ่ งที่ 8 การศึกษาเกย่ี วกับความเป็นพลเมืองในบรบิ ทตา่ งประเทศ พร้อมทงั้ ครผู ้สู อนแจกใบความรู้ ใบงาน พร้อมทั้งนำเสนอในรปู แบบแผงผังความคดิ และนำเสนอหนา้ ช้ันเรียน ขน้ั ท่ี 3 การปฏิบตั ิและนำไปประยุกต์ใช้ - ครูผู้สอนและนกั ศกึ ษารว่ มกันสรุปประเด็น เรอื่ ง การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนกับ ผลประโยชน์ส่วนรวม และความละอายและความไมท่ นต่อการทุจรติ และวเิ คราะห์กรณีศกึ ษาในใบงาน ขน้ั ท่ี 4 การประเมินผล 1. สังเกตการณ์เข้ารว่ มกิจกรรมในชนั้ เรียน 2. การรายงานหน้าชั้นเรยี น สอ่ื - หนังสอื เรยี น รายวิชา สค32036 การป้องกันการทจุ ริต - สือ่ อนิ เตอร์เน็ต - ใบงาน ใบความรู้ การวัดผลประเมนิ ผล - การมีสว่ นร่วมและการแสดงความคิดเห็น สังเกต - ใบงาน/แบบฝึกหัด

ใบงาน ที่ 2 เรอื่ ง จติ พอเพยี งด้านการทจุ รติ และ พลเมืองกับความรบั ผิดชอบต่อสงั คม 3. ผู้เรียนไดข้ ้อคิดอะไรจากการเรยี น จิตพอเพียงต้านการทุจริต ............................................................................................................................. .................................... ............................................................................................... .................................................................. ............................................................................................................................. .................................... .......................................................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................ ................................ 4. ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง มคี วามสำคญั อย่างไรต่อการตา้ นการทจุ ริต ............................................................................................................................. .................................... ............................................................................................................................. .................................... .............................................................................................. ................................................................... ............................................................................................................................. ................................ 3. ผูเ้ รียนปฏบิ ัตติ ิอย่างไรตามคำว่า “จิตพอเพียงต้านการทุจรติ ” ............................................................................................................................. .................................... ................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................... ............................................................................................................................. .................................... ...................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ...................... 5. แนวทางการปฏบิ ัติติตนเปน็ ผลเมืองท่ดี ีต่อชมุ ชน ของนักศึกษา ............................................................................................................................. .................................... ................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................... ............................................................................................................................. .................................... ................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................. 6. จงให้ความหมายของคำต่อไปนี้ 1. ระเบยี บ...................................................................................................................... .................. 2. กฎ................................................................................................................................................. 3. กติกา........................................................................................................................ ...................... 4. กฎหมาย........................................................................................................................................

6.ให้ผูเ้ รียนบอกวิธีการเปน็ พลเมอื งทด่ี ีในทุกระดับ ชมุ ชน.................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................................................... ........ สงั คม..................................................................................................................... ............................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .................................................................................................................... .......................................................... ประเทศ....................................................................................................................... ......................................... ........................................................................................................................................................... ................... ................................................................................................................ .............................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................. ........................... ช่อื - สกุล ..................................................................................................

แบบทดสอบ การปอ้ งกันการทจุ รติ สค32036 แบบทดสอบหลงั เรียน 1. ขอใดไมใชสาเหตุของการทจุ รติ ก. กฎหมาย ระเบียบ ขอกําหนดมชี องวาง ข. เจาหนาทม่ี ีอํานาจสทิ ธิขาดในการใชดุลพินิจ ค. ไมมกี ลไกท่ีมปี ระสทิ ธิภาพในการควบคุม ง. การเปล่ียนตาํ แหนงของผูปฏิบัติงาน 2. ขอใดไมเกยี่ วของกับทศิ ทางการปองกนั และการทุจริตในประเทศไทย ก. แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหงชาติฉบบั ที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) ข. รัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทยพทุ ธศักราช 2560 ค. ยุทธศาสตรชาตริ ะยะ 20 ป (พ.ศ. 2561 - 2580) ง. พระราชบัญญตั กิ ารศึกษาแหงชาติ 3. ขอใดคือหลกั สําคญั ในการควบคุมพฤตกิ รรมของเจาหนาที่ของรฐั ก. หลักธรรม ข. คติธรรม ค. จริยธรรม ง. มโนธรรม 4. บริษัทใหของขวัญเปนทองคาํ แกเจาหนาท่ี เจาหนาทก่ี เ็ รงรัดคืนภาษใี หกอนโดยวธิ ีลัดควิ เพ่ือตองการ ไดของขวัญอีกคร้งั เปนการทจุ รติ ในรูปแบบใด ก. การรูขอมูลภายใน ข. การรับผลประโยชน ค. คสู ญั ญากบั เอกชน ง. การสรางถนนในชมุ ชน 5. ขอใดสําคัญท่ีสดุ ในการจดั กระบวนการคิดเปน ก. ผูเรยี น ข. ผูสอน ค. กระบวนการ ง. สภาพปญหา 6. เมือ่ นาํ ผลการตัดสินใจไปปฏิบตั ิแลวยงั ไมพอใจ ควรทาํ อยางไร ก. ทิง้ ไวระยะหนึ่งเพอื่ ใหสภาพสังคมมกี ารเปล่ียนแปลง ข. คนควาหาขอมูลเพ่มิ เติม แลวกลบั ไปดาํ เนินการตามกระบวนการใหม ค. ยกเลกิ ผลการตดั สนิ ใจนนั้ เพราะเหน็ วาไมถกู ตอง ง. ใหกลับไปทบทวนกระบวนการใหม เพ่อื หาขอบกพรอง

7. กรณใี ดเขาขายการทจุ ริต ก. การลกั ทรพั ย ข. การซ้อื ขายหวยใตดนิ ค. หวั หนางานขมขูพนกั งาน ง. ลาปวยโดยใชใบรบั รองแพทยปลอม 8. สิ่งที่ทาํ ใหเกิดการทจุ ริต ก. โอกาส ความกดดนั จติ ใจ ความเครียด ข. แรงจงู ใจ เหตุผล ความยากจน ค. โอกาส แรงจงู ใจ ความยากจน ง. โอกาส แรงจงู ใจ เหตุผล 9. ขอใดตรงกับความหมายคาํ วาทุจริต ก. ลูกขอเงินไปเท่ียว ข. ผูเรียน กศน. มาพบกลุม ค. พนักงานบรษิ ัทใหเพ่อื นลงช่ือทํางานแทน ง. ผูปกครองซือ้ อปุ กรณการสอนใหโรงเรียน 10. การปฏบิ ตั ติ นในขอใดแสดงถึงความมวี นิ ัยในตนเอง ก. การเขาคิวซ้อื อาหาร ข. การแบงขนมใหเพ่ือน ค. การทาํ ความสะอาดบาน ง. การมอบของขวญั ใหผูใหญ 11. ถาทานรูวาส่ิงท่กี ระทํานั้นไมดี ไมถูกตองตรงกบั ความหมายขอใด ก. ความไมทน ข. ความละอาย ค. ความไมกลัว ง. ความเกรงใจ 12. ความไมทนตอการทจุ ริตตรงกบั ความหมายขอใด ก. ใหเพ่อื นลอกการบาน ข. มีคนแซงควิ กอนหนาจึงเขาไปเตือน ค. ใชรถยนตของราชการไปเทยี่ วในวนั หยดุ ง. เหน็ คนหยบิ สนิ คา แลวไมจายเงินกท็ ําเฉย ๆ 13. การทุจริตขอใดกอใหเกิดความเสยี หายตอสงั คม ก. คายาเสพติด ข. ลกู พูดโกหกพอแม ค. เพอื่ นขอลอกขอสอบ ง. จางเพ่ือนทาํ ชนิ้ งานสงครู

14. ขอใดไมใชสาเหตขุ องการทุจริต ก. โครงสรางสงั คมไทยระบบอปุ ถมั ภ ข. กระบวนการยตุ ิธรรมไมเขมแขง็ ค. กระแสบรโิ ภคนิยม วตั ถุนยิ ม ง. ความรูเทาไมถงึ การณ 15. การทุจริตในดานศีลธรรม ตรงตามขอใด ก. การลกั ทรัพย ข. การโกหก ค. การเห็นแกตวั ง. การหลงผิด 16. ขอใดเปนความหมายของคําวา“พลเมือง” ก. ปฏบิ ตั ิตนตามหนาทเ่ี ทานั้น ข. ยอมรับกฎหมาย นโยบาย กิจกรรมตาง ๆ ของรัฐ ค. บทบาท หนาที่ และความรบั ผดิ ชอบของสมาชกิ สังคมที่มตี อรัฐ ง. อํานาจอันชอบธรรมที่ตองทําระหวางบุคคล 17. ขอใดไมใชความหมายของ “พลเมืองศกึ ษา” ก. ใหมีความภาคภูมใิ จในความเปนพลเมืองดี ข. การจดั การศึกษาและประสบการณเรียนรเู พอื่ พัฒนาใหเปนพลเมอื งดี ค. ตนเองเปนเพียงผนู อยตองคอยรับการอุปถมั ภจากผูอน่ื ง. สนใจเรียนรูเกี่ยวกับรัฐบาล กฎหมาย ระบบการเมืองการปกครอง 18. ความเปนพลเมืองไดแกขอใด ก. ศกั ดิศ์ รีความเปนมนุษย ข. เคารพหลักความเสมอภาค ค. รับผดิ ชอบตอสังคมและสวนรวม ง. การรบั รู เขาใจกับการนบั ถือความรู ความสามารถ 19. ขอใดเปนลักษณะของการเปนพลเมืองดี ก. รับฟงความคิดเหน็ ตางไดเสมอ ข. กระตอื รอื รนทีจ่ ะมสี วนรวมแกปญหา ค. เคารพกฎ ระเบยี บของชุมชน ง. ถูกทกุ ขอ 20. ขอใดเปนแนวทางในการสรางสํานึกความเปนพลเมือง ก. รับฟงความคดิ เหน็ ของผูอน่ื ข. เขาไปมีสวนรวมในกิจการของชมุ ชน ค. เคารพกฎหมายของทกุ ประเทศ ง. ถกู ทุกขอ