ยื่นคำฟ้อง คำอุทธรณ์ ผ่านทางไปรษณีย์เอกชนได้หรือไม่

ยนื่ คำฟ้อง คำอุทธรณ์ ผ่านทางไปรษณียเ์ อกชนไดห้ รอื ไม่ ? ปัจจุบันธุรกิจให้บริการด้านการจัดส่งพัสดุไปรษณีย์นั้น เป็นธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างมาก ทำให้ผู้ใช้บริการมีทางเลือกที่หลากหลายนอกจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ที่ทุกท่านคุ้นเคย และใช้บริการ กันอยู่แล้ว ด้วยเพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ได้เปล่ียนแปลงไปตามยุคสมัยและเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เข้ามา เก่ียวข้องกับการดำเนินชีวิตประจำวัน ทุกวันนี้ เราสั่งซื้อของกันทางมือถือ และก็จ่ายเงินทางมือถือด้วย เรียกว่าซ้ือง่ายขายคล่อง รวดเร็ว ทันใจ แต่หากไม่หักห้ามใจ ... กระเป๋าอาจจะแบนได้ตั้งแต่ต้นเดือน เลยทเี ดยี ว... ประเดน็ ชวนคิด สำหรับประเด็นท่ีจะชวนท่านผู้อ่านคิดในวันนี้ เป็นเร่ืองการส่งเอกสารทางไปรษณีย์ เอกชน กรณีหากท่านจะฟ้องคดีต่อศาลปกครอง หรือจะย่ืนคำอุทธรณ์คำพิพากษา ตลอดจนยื่นเอกสาร หลักฐานต่าง ๆ ต่อศาล ท่ีปกติจะยื่นผ่านทางบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่งถือเป็นการย่ืนต่อเจ้าพนักงาน ไปรษณีย์ โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่หากท่านสะดวกที่จะย่ืนผ่านทางบริษัทไปรษณีย์เอกชนที่ให้บริการ ดังกลา่ ว จะถอื วา่ เปน็ การยื่นต่อเจ้าพนกั งานไปรษณีย์โดยชอบดว้ ยกฎหมายหรอื ไม่ ? ข้อเท็จจริงของคดีมีอยู่ว่า... นายเอกซ่ึงเป็นผู้ซื้อบ้านและท่ีดินในโครงการหมู่บ้านจัดสรร แหง่ หน่ึงได้ย่นื ฟ้องอธิบดกี รมท่ีดิน (ผ้ถู ูกฟ้องคดีที่ 1) และคณะกรรมการจัดสรรทด่ี ินจังหวัด (ผถู้ กู ฟอ้ งคดีที่ 2) ต่อศาลปกครอง เน่ืองจากเห็นว่าตนเองได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการที่เจ้าของโครงการเรียกเก็บ ค่าบริการสาธารณะ ตามหนังสือของกรมที่ดิน ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2552 เรื่อง การบริการสาธารณะตาม พระราชบัญญัติการจัดสรรท่ีดิน พ.ศ. 2543 ทำให้ผู้ซ้ือบ้านต้องมีภาระค่าใช้จ่ายเพ่ิมมากข้ึน จึงขอให้ศาล พพิ ากษาเพิกถอนหนงั สือของกรมที่ดินขา้ งตน้ รวมทัง้ ใหค้ นื เงินคา่ บริการสาธารณะทีจ่ า่ ยไปแล้วแก่ตนดว้ ย คดีนี้...ศาลปกครองช้ันต้นพิจารณาแล้ว มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องในข้อหาที่ให้เพิกถอนหนังสือ กรมที่ดิน และไม่รับคำฟ้องในส่วนท่ียื่นฟ้องอธิบดีกรมท่ีดิน (ผู้ถูกฟ้องคดีท่ี 1) นายเอกจึงย่ืนอุทธรณ์คำสั่ง ไม่รับคำฟ้องดังกล่าว โดยย่ืนทางไปรษณีย์ลงทะเบียนผ่านทางบริษัท เคอรี่ ดิสทริบิวช่ัน (ประเทศไทย) จำกดั ซง่ึ เป็นบรษิ ัทไปรษณยี ์เอกชน ข้อกฎหมายทเี่ กี่ยวข้อง พระราชบัญญัติจัดตงั้ ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 3 บัญญัติว่า “คำฟ้อง” หมายความว่า การเสนอข้อหาต่อศาลไม่ว่าจะได้เสนอต่อ ศาลปกครองช้ันต้นหรือศาลปกครองสูงสุด ไม่ว่าจะได้เสนอในขณะที่เริ่มคดีโดยคำฟ้องหรือคำร้องขอ หรือ เสนอในภายหลังโดยคำฟ้องเพิ่มเติมหรือแก้ไข หรือฟ้องแย้ง หรือโดยสอดเข้ามาในคดีไม่ว่าด้วยความสมัครใจ หรือถูกบงั คับ หรือโดยมคี ำขอใหพ้ ิจารณาใหม่ มาตรา 46 บัญญัติว่า คำฟ้องให้ยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ีของศาลปกครอง หรือส่งทาง ไปรษณีย์ ลงทะเบียน ในการนี้อาจย่ืนคำฟ้องโดยส่งทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ส่ือดิจิทัลอื่นใด หรือโทรสาร ตามระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด และเพื่อประโยชน์ในการนับอายุความ ให้ถือว่า วันที่ส่งคำฟ้องแก่ หนังสือพิมพ์ อปท.นิวส์ คอลัมน์ “ก้าวสู่สังคมธรรมาภิบาลกับศาลปกครอง” เจ้าพนักงาน ไปรษณีย์หรือวันท่ีส่งคำฟ้องทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ส่ือดิจิทัลอ่ืนใด หรือโทรสารเป็นวันท่ียื่น คำฟ้องต่อ ศาลปกครอง

ระเบียบของท่ีประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 ข้อ 13 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า การยื่นเอกสารหรือพยานหลักฐานต่อศาล คู่กรณีจะยื่นด้วย ตนเองหรือมอบฉันทะให้ผู้อื่นยื่นต่อศาลหรือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของศาล หรือจะทำโดยวิธีส่งทางไปรษณีย์ ลงทะเบียนก็ได้ ในกรณีที่ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ให้ถือว่าวันท่ีส่งเอกสารหรือพยานหลักฐาน แก่เจ้าพนกั งานไปรษณียเ์ ปน็ วันทยี่ ่ืนเอกสารหรือพยานหลักฐานต่อศาล คำวินจิ ฉยั ชวนรู้ คดีดังกล่าว...ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาว่า คำอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาของ ผู้ฟ้องคดี ถือเป็นคำฟ้องตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติจัดต้ังศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ซ่ึงต้องอยู่ภายใต้บังคับตามมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน เมื่อนายเอกย่ืนคำร้อง อทุ ธรณ์คำสง่ั ของศาลปกครองชน้ั ตน้ โดยฝากส่งคำอทุ ธรณ์และเอกสารประกอบทางไปรษณียล์ งทะเบียนให้ บริษัท เคอรฯ่ี นำส่ง แต่เนือ่ งจากบรษิ ัท เคอรี่ฯ นั้น เป็นบริษทั รับขนส่งของเอกชน ซง่ึ ไมไ่ ดร้ ับอนญุ าตหรอื มี สญั ญาหรือข้อตกลงในการประกอบกิจการสง่ ไปรษณียภัณฑ์กบั บริษัท ไปรษณียไ์ ทย จำกดั จงึ ไมใ่ ช่ตวั แทน หรอื หน่วยงาน ที่ได้รบั มอบหมายจากบรษิ ัท ไปรษณยี ไ์ ทย จำกัด ให้ดำเนินกจิ การไปรษณียด์ ังกลา่ ว ฉะนน้ั การส่งคำอทุ ธรณ์ของนายเอกท่ีได้ย่ืนต่อบริษัท เคอร่ีฯ จึงมิใช่การยื่นต่อเจ้าพนักงาน ไปรษณีย์ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ประกอบกับข้อ 13 วรรคหนึ่ง แห่งระเบียบของท่ีประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 ศาลปกครองสูงสุดจึงไม่อาจรับคำอุทธรณ์ของนายเอกไว้ พจิ ารณาได้ (คำสง่ั ศาลปกครองสงู สุด ท่ี 352/2563) บทสรปุ ชวนอา่ น คดีข้างต้น...ศาลปกครองสูงสุดได้วางบรรทัดฐานเกี่ยวกับการยื่นคำฟ้อง คำอุทธรณ์ หรือ เอกสารหลักฐานต่าง ๆ ต่อศาล ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนน้ัน จะต้องยื่นผ่านบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือ บริษัทไปรษณีย์เอกชนที่ได้รับอนุญาตหรือมีสัญญาหรือข้อตกลงในการประกอบกิจการส่งไปรษณียภัณฑ์กับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เท่าน้ัน จึงจะถือว่าเป็นการยื่นต่อเจ้าพนักงานไปรษณีย์โดยชอบด้วยกฎหมาย จัดต้ังศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ซ่ึงผู้ใช้บริการจะต้องตรวจสอบก่อนที่จะยื่นเอกสารผ่าน ช่องทางดงั กล่าว น อกจากนี้ ยังมี คดีน่ าสน ใจที่ ศ าลเคยวินิ จฉัยไว้ใน ค ำส่ังศาลป กครองสูงสุดท่ี คบ. 119/2561 กรณีท่ีผู้ฟ้องคดีสมัครใจใช้ตู้ไปรษณีย์ของท่ีทำการไปรษณีย์ บ. เป็นที่ติดต่อรบั เอกสารหรือ หมายศาลมาโดยตลอด จึงย่อมมีหน้าท่ีติดตามตรวจสอบเอกสารหรือหมายศาลที่ส่งมายังตู้ไปรษณีย์ดังกล่าว การท่ีผู้ฟ้องคดีไม่ได้ติดตามตรวจสอบการส่งเอกสารหรือหมายศาลที่ส่งมายังตู้ไปรษณีย์ดังกล่าวจนล่วงพ้น กำหนดนดั อา่ นคำพพิ ากษาของศาลปกครองช้นั ตน้ จงึ ถอื เปน็ ความบกพรอ่ งของผ้ฟู ้องคดีเอง

ศาลปกครองสูงสุดได้วางบรรทัดฐานเกี่ยวกับการย่ืนคำฟ้อง คำอุทธรณ์ หรือ เอกสาร หลักฐานต่าง ๆ ต่อศาล ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนนั้น จะต้องยื่นผ่านบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือ บริษัท ไปรษณีย์เอกชนท่ีได้รับอนุญาตหรือมีสัญญาหรือข้อตกลงในการประกอบกิจการส่งไปรษณียภัณฑ์กับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เท่าน้ัน จึงจะถือว่าเป็นการยื่นต่อเจ้าพนักงานไปรษณีย์โดยชอบด้วยกฎหมาย จัดต้ังศาล ปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ซงึ่ ผู้ใชบ้ รกิ ารจะตอ้ งตรวจสอบก่อนท่ีจะย่ืนเอกสารผา่ น ชอ่ งทางดงั กลา่ ว