Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ข้อเขียน/สัมภาษณ์ พระอภิธรรม ชั้น มัชฌิมอาภิธรรมิกะตรี

ข้อเขียน/สัมภาษณ์ พระอภิธรรม ชั้น มัชฌิมอาภิธรรมิกะตรี

Published by WATKAO, 2021-01-20 07:19:23

Description: ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๔๓-๒๕๖๑
อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ชั้น มัชฌิมอาภิธรรมิกะตรี

Keywords: มัชฌิมอาภิธรรมิกะตรี

Search

Read the Text Version

ขอสอบขอ เขียน/สมั ภาษณ พระอภธิ รรม ภาคเรยี นที่ ๒ ปการศกึ ษา ๒๕๔๓-๖๑ อภิธรรมโชติกะวิทยาลยั มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ชั้น มัชฌมิ อาภิธรรมมิกะตรี  สอบขอ เขยี น วนั แรก วนั ศกุ รท ่ี.......ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕.... วิชา : วถิ สี งั คหะ, ภมู จิ ตกุ กะ, ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ ๗ ขอ ๗๐ คะแนน เวลา ๔ ชม.  สอบขอ เขยี น วนั ท่ีสอง วนั เสารท ี่.......ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕.... วิชา : กรรมจตุกกะ-มรณุปปต ตจิ ตุกกะ ๗ ขอ ๗๐ คะแนน เวลา ๔ ชม.  สอบสมั ภาษณ วันทสี่ าม วนั อาทิตยท.่ี ......ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕.... วชิ า : วถิ สี งั คหะ-มรณุปปตติจตุกกะ ๖ ขอ ๓๐ คะแนน เวลา ๑๕ นาที สาํ เนาประกอบการเรยี นหรือแจกไดโดยไมตองขออนุญาต (สงวนสิทธิใ์ นการนําไปจําหนาย) ผดิ ตกขออภยั และกรุณาแจง ดวยคะ ท่ี 081-860-2466, 081-640 6355(Line) E-mail: [email protected], [email protected] ดาวนโหลดขอ มลู ตา งๆไดจาก ขอความเพม่ิ เติมที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว)

วถิ สี ังคหะ, ภมู จิ ตกุ กะ, ปฏิสนธจิ ตกุ กะ 1 เฉลยขอ สอบขอ เขียนพระอภิธรรม ภาคเรียนที่ ๒ ปการศกึ ษา ๒๕๔๓-๒๕๖๑ อภธิ รรมโชตกิ ะวิทยาลัย มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั ชนั้ มัชฌมิ อาภิธรรมมกิ ะตรี สอบวนั ศกุ ร ที่ ...... ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕....... วชิ า : วีถสิ งั คหะ ภูมจิ ตกุ กะ, ปฏิสนธจิ ตกุ กะ ๗ ขอ ๗๐ คะแนน เวลา ๔ ชว่ั โมง. (วันแรก) ขอ ๑ (ท่ีเคยออกสอบ ปนีน้ าจะออกขอ ไหน?) ๑. จงแปลบาลดี งั ตอไปนี้ ? [P19-20] 49, 61 อติมหนตฺ ํ มหนตฺ ํ ปรติ ตฺ ํ อติปรติ ฺตเฺ จติ ปจฺ ทวาเร มโนทฺวาเร ปน วิภตู มวภิ ตู เฺ จติ ฉธา วสิ ยปฺปวตตฺ ิ เวทติ พฺพาฯ [P19-20] ตอบ แปลบาลี ดงั น้ี พึงทราบ วสิ ยปั ปวัตติ ๖ อยา ง ในปญ จทวาร มดี งั น้ี คือ ๑. อติมหนั ตารมณ คือ อารมณท มี่ ีจติ ตกั ขณะมจี าํ นวนมากเหลือ นับตั้งแตก ารปรากฏแหงอารมณในปญ จทวาร ๒. มหันตารมณ คือ อารมณท ่มี จี ิตตกั ขณะมจี ํานวนมาก นบั ต้ังแตการปรากฏแหงอารมณใ นปญ จทวาร ๓. ปรติ ตารมณ คอื อารมณที่มจี ติ ตกั ขณะมีจาํ นวนนอ ย นับตงั้ แตการปรากฏแหงอารมณใ นปญจทวาร ๔. อติปรติ ตารมณ คอื อารมณท ่มี ีจิตตกั ขณะมจี ํานวนนอยทสี่ ดุ นบั ต้งั แตการปรากฏแหง อารมณใ นปญจทวาร สาํ หรบั ในมโนทวาร มีดงั น้ี คือ ๑. วภิ ูตารมณ คอื อารมณท ่ีปรากฏชดั ในทางใจ ๒. อวภิ ูตารมณ คอื อารมณที่ไมปรากฏชัด ในทางใจ ๑. จงแปลบาลีดงั ตอไปนี้ ? 51, 54, 57, 59 ๑. ใหแปลบาลี วสิ ยัปปวตั ติ อฏั ฐกะ ดังตอไปนี้มาดทู ้งั หมด ? 37, 45 อตมิ หนตฺ ํ มหนตฺ ํ ปรติ ตฺ ํ อตปิ รติ ตฺ เฺ จติ ปฺจทวาเร มโนทวฺ าเร ปน อตวิ ิภูตํ วิภตู มวิภตู ํ อตวิ ภิ ูตฺเจติ อฏ ธา วสิ ยปปฺ วตฺติ เวทิตพฺพาฯ [P20] ตอบ (51, 54, 57) แปลบาลี ดงั น้ี พึงทราบ วิสยปั ปวัตติ ๘ อยา ง ในปญ จทวาร มดี งั น้ี คอื (37, 45) แปลวสิ ยปั ปวัตติ อฏั ฐกะ ดังน้ี พึงทราบ วิสยัปปวัตติ ๘ อยาง ในปญ จทวาร มดี งั น้ี คือ ๑. อตมิ หนั ตารมณ คอื อารมณท่ีมจี ิตตักขณะมจี ํานวนมากเหลอื นบั ตงั้ แตก ารปรากฏแหงอารมณใ นปญจทวาร ๒. มหันตารมณ คอื อารมณท มี่ ีจิตตักขณะมจี ํานวนมาก นับตั้งแตการปรากฏแหงอารมณในปญจทวาร ๓. ปรติ ตารมณ คือ อารมณท ่ีมีจิตตักขณะมจี าํ นวนนอย นับตง้ั แตการปรากฏแหงอารมณใ นปญ จทวาร ๔. อติปริตตารมณ คือ อารมณท ่มี จี ิตตกั ขณะมจี ํานวนนอยท่ีสดุ นบั ตั้งแตการปรากฏแหง อารมณใ นปญ จทวาร สาํ หรบั ในมโนทวาร มดี งั นี้ คอื ๑. อติวภิ ตู ารมณ คือ อารมณท่ีปรากฏชัดมาก ในทางใจ ๒. วิภูตารมณ คอื อารมณท่ีปรากฏชดั ในทางใจ ๓. อวภิ ูตารมณ คอื อารมณท ี่ไมปรากฏชดั ในทางใจ ๔. อติอวภิ ตู ารมณ คอื อารมณท ไ่ี มปรากฏชดั มาก ในทางใจ ๑. คาํ วา “วิสยปั ปวตั ติ” หมายความวา อยางไร? และใหแสดงจาํ นวนวสิ ยปั ปวัตติ ในวิถีมตุ ตจติ และวถิ ีจติ ของวิสยัปปวัตติเหลา นั้นดว ย ? (38ส, 49ส, 53ส), 40, 56 วา มีเทาไร ? อะไรบา ง? 46ส ไมต องแสดงความหมาย ? 52(1ก), 55(1ข), 60 ตอบ คําวา “วสิ ยัปปวตั ต”ิ หมายความวา ความเปน ไปแหง อารมณใ นทวาร และทีพ่ นจากทวาร จํานวนวิสยปั ปวตั ติในวถิ ีมตุ ตจิตมี ๓ อยา ง คอื ๑. กรรมอารมณ ๒. กรรมนิมิตอารมณ ๓. คตนิ มิ ติ อารมณ วิสยปั ปวตั ตใิ นวถิ ีจิต มี ๖ หรอื ๘ มี ๖ คือ ๑. อตมิ หนั ตารมณ ๒. มหนั ตารมณ ๓. ปรติ ตารมณ ๔. อติปรติ ตารมณ ๕. วภิ ูตารมณ ๖. อวภิ ตู ารมณ ดาวนโ หลดขอมลู ที่ ขอความเพิ่มเตมิ ท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถสี ังคหะ, ภูมิจตกุ กะ, ปฏสิ นธจิ ตุกกะ 2 มี ๘ คือ ๑. อตมิ หันตารมณ ๒. มหนั ตารมณ ๓. ปรติ ตารมณ ๔. อตปิ ริตตารมณ ๕. อตวิ ิภตู ารมณ ๖. วภิ ตู ารมณ ๗. อวภิ ตู ารมณ ๘. อติอวิภูตารมณ ๑. ก. คําวา วสิ ยัปปวตั ติ หมายความวา กระไร ? และใหแ สดงจาํ นวนวิสยัปปวัตตใิ นวิถีมตุ ตจิต ? 44, 47, 50 วา มีเทาไร อะไรบาง ? ไมตองแสดงพรอมความหมาย ? 52 ข. วิสยปั ปวัตตใิ นปญ จทวาร มกี่ ่ีอยา ง ? คืออะไรบา ง ? จงแสดงมาพรอมความหมาย ? 38ส, 44, 47, 50 ตอบ ก. คาํ วา วสิ ยปั ปวัตติ หมายความวา ความเปน ไปแหงอารมณใ นทวาร ๖ และพน จากทวาร ๖ และจํานวนวสิ ยปั ปวตั ติในวถิ ีมตุ ตจิต มี ๓ อยางคอื ๑. กรรมอารมณ ๒. กรรมนมิ ติ อารมณ ๓. คตินิมติ อารมณ ข. วิสยปั ปวตั ติในปญ จทวาร มี ๔ อยาง คือ ๑. อตมิ หันตารมณ หมายความวา ปญ จารมณท่ีมวี ถิ ีจิตเกดิ ขน้ึ ไดม ากทสี่ ุด จนครบ ๗ อยาง ๒. มหันตารมณ หมายความวา ปญ จารมณท ม่ี ีวิถจี ติ เกดิ ขึ้นไดม าก มเี พียง ๖ อยาง ๓. ปรติ ตารมณ หมายความวา ปญ จารมณทมี่ วี ถิ ีจติ เกดิ ขนึ้ ไดน อ ย มีเพยี ง ๕ อยาง ๔. อตปิ รติ ตารมณ หมายความวา ปญจารมณท ม่ี ีวถิ จี ติ เกิดขึน้ ไดน อ ยทส่ี ุด กลา วคือมแี ตเพยี งภวงั คจลนะเทาน้ัน (หรือถานกั ศกึ ษาตอบตามหลกั สูตร น.๑๙, ๒๐ บาลขี อ ๗, ๘ กใ็ ชไ ด) ๑. ก.วถิ ีสงั คหะ และปวตั ติสังคหะ หมายความวา อยา งไร ? [P39] 58 ๑. ก. คําวา ปวตั ตสิ ังคหะ คืออะไร เมื่อวาโดยกาลแลวมเี ทา ไร คืออะไรบา ง ? [P35] (43ส, 46ส), 50 ข. คาํ วา ขณะ หมายความวากระไร และแสดงอายขุ องจิต-เจตสิก-รูป ? [P39] 58 ค.วิสยปั ปวตั ติ หมายความวา อยา งไร? 58 ง. จงแสดงวิสยัปปวัตติอัฏฐกะ ในปญ จทวารและมโนทวารมาตามลําดับ ? (ไมตองบอกความหมาย)? 58 ตอบ ก. วิถีสงั คหะ หมายความวา การสงเคราะหก ารเกดิ ขน้ึ โดยลําดับติดตอกันเปนแถวของจิต เจตสกิ รปู ปวตั ตสิ งั คหะ หมายความวา การรวบรวมความเปนไปแหงจติ เจตสิก ในปฏสิ นธกิ าลและปวัตตกิ าล รวมทง้ั ภูมแิ ละบคุ คล ตามสมควร ข. คําวา ขณะ หมายความวา ชว่ั ระยะเลก็ นอยทสี่ ุดจะหาอะไรมาเปรียบเทยี บมิได และอายขุ องจติ เจตสิก รปู ดังนี้ คอื มขี ณะเลก็ (อนุขณะ) อยู ๓ ขณะ คอื อุปปาทกั ขณะ ฐตี ขิ ณะ ภงั คกั ขณะ (เกิด ตง้ั ดบั ) เปนอายขุ องจติ เจตสกิ ดวงหนงึ่ ๆ, อายุของรปู มอี ายเุ ทา กนั กับจิตทีเ่ กดิ ขน้ึ แลว ดบั ไป ๑๗ ดวง หรือ ๕๑ ขณะเลก็ ค. คาํ วา วิสยัปปวัตติ หมายความวา ความเปน ไปแหง อารมณใ นทวาร ๖ และทพี่ นจากทวาร ๖ ง. วสิ ยัปปวัตติอฏั ฐกะ ม๘ี อยา ง ในปญจทวาร มดี งั นี้ คอื ๑. อตมิ หนั ตารมณ ๒. มหันตารมณ ๓. ปรติ ตารมณ ๔. อตปิ รติ รตารมณ ในมโนทวาร มดี งั นี้ คือ ๑. อติวิภูตารมณ ๒. วภิ ตู ารมณ ๓. อวภิ ูตารมณ ๔. อติอวภิ ูตารมณ ๑. ก. คาํ วา ขณะ หมายความวาอยางไร ? และจงแสดงอายุของนามและรปู ในขณะท้ัง ๓ นนั้ วา มีความตางกันอยา งไร ? [P39] 48 ตอบ ก. คาํ วา ขณะ หมายความวา ชัว่ ระยะเล็กนอ ยทส่ี ุดจะหาอะไรมาเปรียบเทยี บมไิ ด อายขุ องนามและรูป ในขณะท้ัง ๓ นั้น มีความตา งกนั ตรงทีฐ่ ีตขิ ณะ คือ ฐตี ิขณะของนาม มี ๑ ขณะ สวนฐีติขณะของรปู มี ๔๙ ขณะ สําหรบั อปุ าทักขณะ และภังคกั ขณะน้นั มี ๑ ขณะเทา กัน ๒. ก. คาํ วา ปวัตติสังคหะ หมายความวา อยา งไร ? 51 ข. ในจักขุทวาริก อตมิ หันตารมณว ถิ ี ตทารัมมณวาระนน้ั มีวิถจี ติ ก่อี ยาง คืออะไรบาง ? 51 ค. ในจักขทุ วาริก อติมหันตารมณว ิถี ตทารัมมณวาระ เมื่อวาโดยบคุ คลและภูมแิ ลว มีจาํ นวนเทาไร ? คอื อะไรบา ง ? (วถิ รี วมประเภทที่ ๑) ? 51 ง. ในจกั ขุทวาริก อตมิ หนั ตารมณวิถนี ั้น เมอ่ื บุคคลนน้ั ปฏิสนธิ ดวยมหาวิบาก ดวงท่ี ๑ ดาวนโหลดขอมูลท่ี ขอความเพิ่มเตมิ ท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ที่แปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ ีสงั คหะ, ภมู จิ ตกุ กะ, ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ 3 อารมณเ ปน อติอิฎฐารมณ ชวนะเปน โทสะ วถิ นี จ้ี ดั เปนวาระอะไร ? 51 จ. ตทนุวตั ตกิ มโนทวารวถิ ี ทีเ่ กดิ ตอ จากจกั ขทุ วารวถิ ี มจี ํานวนเทาไร ? คืออะไรบา ง ? 51 ตอบ ก. คําวา ปวัตติสงั คหะ หมายความวา การรวบรวมความเปนไปแหงจติ เจตสกิ ในปฏสิ นธกิ าล และปวตั ติกาล รวมทงั้ ภูมิและบคุ คลตามสมควร ข. ในจกั ขุทวาริก อติมหนั ตารมณวถิ ี ตทารัมมณวาระนนั้ มวี ถิ ีจติ ๗ อยา ง คอื ๑. ปญ จทวาราวชั ชนจติ ๒. จักขุวญิ ญาณจิต ๓. สมั ปฏจิ ฉนจิต ๔. สันตรี ณจติ ๕. โวฏฐพั พนจิต ๖. ชวนจิต ๗. ตทารัมมณจติ ค. ในจักขุทวารรกิ อติมหันตารมณวิถี ตทารัมมณวาระ เมอ่ื วาโดยบคุ คลเกิดขน้ึ แกบคุ คล ๘ จําพวก คอื ปุถุชน ๔ อรยิ ผลบุคคล ๔ ในกามภูมิ ๑๑ ง. วิถีน้จี ดั เปนชวนวาระ ทีม่ อี าคนั ตุกภวงั ค จ. มี ๔ อยางคอื ๑. อตีตคั คหณวถิ ี ๒.สมูหคั คหณวถิ ี ๓. อตั ถัคคหณวถิ ี ๔. นามคั คหณวิถี ๑. ก. (คาํ วา ) วิถี หมายความวาอยา งไร ? ในปรมตั ธรรมทั้งหมด เม่ือสงเคราะหเ ปนวิถีแลว ปรมัตถธรรมอะไรท่ี สงเคราะหเปนวิถีไดแ ละไมได ? 50, 55 ๒. ก. คําวา วถิ ี หมายความวาอยา งไร ? ในปรมตั ธรรมทั้ง ๔ นนั้ ปรมตั ถธรรมไหนเปนวถิ ีได ? 45 ตอบ ก. วิถี หมายความวา การเกดิ ข้นึ โดยลําดับตดิ ตอกันเปน แถวของจิต เจตสิก รูป ในปรมัตถธรรมท้งั ๔ น้ัน จติ เจตสกิ รูป สงเคราะหเปน วถิ ีได (50, 55) สว นนิพพานน้ันสงเคราะหเปน วิถไี มไ ด ๒. ข. คําวา วิถี เมอื่ วา โดยทวารและวญิ ญาณแลว มเี ทาไร คอื อะไรบา ง? 36ส, 39 ใหย กหลักฐานบาลี ขน้ึ แสดงดว ย ? 45 ตอบ ข. คาํ วา วถิ ี เมอ่ื วาโดยทวารแลวมี ๖ คือ ๑. จกั ขุทวารวถิ ี ๒. โสตทวารวถิ ี ๓. ฆานทวารวิถี ๔. ชวิ หาทวารวถิ ี ๕. กายทวารวิถี ๖. มโนทวาวถิ ี เม่ือวาโดยวญิ ญาณแลว มี ๖ คือ ๑. จกั ขวุ ิญญาณวถิ ี ๒. โสตวิญญาณวถิ ี ๓. ฆานวญิ ญาณวถิ ี ๔. ชวิ หฺ าวญิ ญาณวถิ ี ๕. กายวญิ ญาณวถิ ี ๖. มโนวญิ ญาณวถิ ี แสดงหลกั ฐานบาลี ดงั น้ี ฉ วถี ิโย ปน จกขฺ ุทฺวารวีถิ โสตทวารวีถิ ฆานทวารวีถิ ชิวหาทวารวีถิ กายทวารวถี ิ มโนทวารวถี ิ เจติ ทวฺ ารวเสน วา จกฺขวุ ิฺ าณวีถิ โสตวิ ฺญาณวถี ิ ฆานวิ ฺ าณวถี ิ ชิวหาวิญฺ าณวถี ิ กายวิ ฺ าณวีถิ มโนวิ ฺ าณวีถิ เจตสิ วิฺ าณวเสน วา ทวารปปฺ วตฺตา จิตฺตปปฺ วตตฺ ิ โยเชตพพฺ า ฯ ๑. จงยกคาถาสังคหะทแี่ สดงการสรุปจาํ นวนวถิ ีจติ ในปญจทวารมาท้ังบาลแี ละคําแปล ? 46(2), 53(2) ตอบ วถี ิจติ ตฺ านิ สตฺเตว จติ ตฺ ุปปฺ าทา จตทุ ทฺ ส จตุปฺ าส วิตถฺ ารา ปจฺ ทฺวาเร ยถารหํ. แปลความวา วิถจี ติ ทั้งหลายในปญจทวารตามสมควรแกทวารและอารมณแลวมี ๗ เทาน้ันคือ ปญ จทวาราวัชชนะ ๑ ปญจวญิ ญาณ ๑ สัมปฏิจฉนั นะ ๑ สนั ตรี ณะ ๑ โวฏฐพั พนะ ๑ ชวนะ ๑ ตทารมั มณะ ๑ วิถจี ิตเหลา นน้ั เมื่อวา โดยการเกิดข้นึ แลว มี ๑๔ ครงั้ คอื ปญ จทวาราวัชชนเกดิ ๑ ครัง้ ปญ จวญิ ญาณดวงใดดวงหนง่ึ เกิด ๑ ครัง้ สมั ปฏจิ ฉนเกิด ๑ ครง้ั สนั ตีรณเกดิ ๑ คร้ัง โวฏฐพั พนะเกดิ ๑ ครงั้ ชวนเกิด ๗ ครง้ั และ ตทารมั มณเกดิ ๒ คร้งั วถิ จี ิตเหลา นนั้ เมอ่ื วาโดยพสิ ดารแลว มี ๕๔ คือ กามจติ ๕๔ นน่ั เอง. ๒. จงแสดงความหมายของคาํ ตอ ไปนี้ ? 50, 60 ๑. ขณะ ๒. ภวงั คจติ ๓. อตีตภวังค ๔. ภวังคจลนะ ๕. ภวงั คุปจ เฉทะ ตอบ แสดงความหมายของคําตา ง ๆ ดังน้ี ๑. ขณะ หมายความวา ชว่ั ระยะเล็กนอ ยทสี่ ดุ จะหาอะไรมาเปรียบเทยี บมิได ๒. ภวังคจติ หมายความวา เปนจติ ท่ีมีประจําตัวของสตั วท้งั หลายในภพหนง่ึ ๆ ในภูมิ ๓๐ ภมู ิ (เวนอสัญญสตั ตภมู )ิ นัน้ ไดแ ก ภวงั คจิต ๑๙ ดวง ซึ่งมีอารมณเ ปน กรรมอารมณ กรรมนมิ ติ อารมณ หรือคตินมิ ติ อารมณ ดาวนโหลดขอมลู ที่ ขอความเพิ่มเติมท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ที่แปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ สี ังคหะ, ภมู ิจตุกกะ, ปฏิสนธจิ ตุกกะ 4 เปนภวงั คท เี่ ปนไปอยตู ามปกติ ยงั ไมเกย่ี วของกับวถิ ีแตประการใด ๓. อตตี ภวังค หมายความวา เปน ภวงั คท ่ีผา นไปในระหวา งทปี่ ญจารมณ (ทางปญจทวาร) หรือ อารมณ ๖ ท่ีเปน ปจ จบุ นั นปิ ผนั นรูป ๑๘ (ทางมโนทวาร)ทเี่ กดิ ข้นึ แลว แตย งั ไมปรากฏในปญ จทวาร หรอื ในมโนทวาร ๔. ภวังคจลนะ หมายความวา เปน ภวงั คท ห่ี วนั่ ไหวดวยอํานาจปญ จารมณ(ทางปญ จทวาร)หรอื อารมณ ๖ ทเ่ี ปน ปจ จุบนั นปิ ผันนรปู ๑๘ (ทางมโนทวาร) ท่ีมาปรากฏในปญ จทวาร หรือในมโนทวารแลว ๕. ภวงั คปุ จเฉทะ หมายความวา ตดั กระแสภวงั ค ทเี่ รยี กวา ภวงั คคปุ จเฉทะนนั้ เพราะเหตุวา การเกิดขนึ้ ของ ภวงั คจิต คือ ภวงั คจลนะดวงท่ี ๒ นัน้ เกิดข้ึนไดเ ปน ครัง้ สุดทา ย กอ นทจี่ ะเปน วิถจี ติ ในวถิ หี นง่ึ ๆ ฉะน้นั จึงเรยี กวา ภวงั คค ปุ จ เฉทะ ๑. ข. อตตี ภวังค ภวงั คจลนะ ภวงั คุปจเฉทะ ที่เกิดกอ นปญจทวารวิถมี ีจาํ นวนเทาไร ? และท่เี กดิ กอนทางมโนทวารวถิ ี มจี าํ นวนเทา ไร คอื อะไรบาง ? 45(2ค), 48, 55(2ก) ๓ ก. จงแสดงองคธ รรมปรมัตถของ อตีตภวังค ภวังคจลนะ ภวังคปุ จเฉทะ ทเ่ี กดิ ข้นึ กอนโสตทวารวถิ ี มีจํานวน เทา ไร ? และทเี่ กดิ กอ นทางมโนทวารวถิ ี มีจาํ นวนเทาไร คอื อะไรบาง ? 44 ตอบ ก. อตีตภวงั ค ภวังคจลนะ ภวงั คคปุ จเฉทะ [(44) ที่เกิดกอ นโสตทวาร] ทเี่ กดิ กอ นปญจทวาร มีจํานวน ๑๕ คือ อุเบกขาสนั ตีรณจิต ๒ มหาวปิ ากจิต ๘ รปู าวจรวปิ ากจิต ๕ และ ท่ีเกดิ กอ นทางมโนทวารวถิ ีทมี่ ี อตีตภวงั ค มี ๑๕ คือ อุเบกขาสนั ตีรณจติ ๒ มหาวปิ ากจติ ๘ รปู าวจรวปิ ากจติ ๕ ท่ไี มม อี ตีตภวงั ค มี ๑๙ คือ อุเบกขาสนั ตรี ณจติ ๒ มหาวปิ ากจติ ๘ มหัคคตวปิ ากจิต ๙ ๑. ข. ทางปญจทวารวถิ นี ้นั มีอตตี ภวังคแ นน อน แตสาํ หรับทางมโนทวารวถิ ีนัน้ มีอตีตภวังคไ มแนนอน คอื มีอตตี ภวงั คก ็มี ไมม ีอตีตภวงั คก ็มี ทเ่ี ปนเชนน้เี พราะเหตุไร ? 36, 43, 49, 52, 55(2ข), 57(3) ตอบ ทางปญ จทวารวถิ ีนั้น มอี ตีตภวังคโ ดยแนนอน แตส าํ หรับทางมโนทวารวิถี มีอตตี ภวังคไ มแ นน อนนน้ั เพราะเก่ียวกบั การรบั อารมณต ามทวารนนั้ ๆ คือ ทางปญ จทวารวิถี รับปญจารมณท เี่ ปน ปจจบุ ันนิปผนั นรูปอยา งเดียว จงึ มอี ตตี ภวงั คแ นนอน สวนมโนทวารวถิ ีนัน้ สามารถรบั อารมณท งั้ ๖ ทเ่ี ปน ปรมตั ถแ ละบญั ญตั ซิ ่งึ เปน เตกาลกิ ะและกาลวิมุตติได ฉะนน้ั ถา ขณะใดมโนทวาริกจติ รับอารมณ ๖ ทเี่ ปน ปจ จบุ นั นิปผนั นรูป ในขณะนน้ั กม็ อี ตตี ภวงั คแนน อน ถาขณะใดมโนทวารกิ จิตรับอารมณ ๖ ทนี่ อกจากปจ จบุ นั นิปผนั นรูปแลว ในขณะนน้ั กไ็ มม ีอตีตภวงั ค ขอ ๒ (ที่เคยออกสอบ ปน ้ีนา จะออกขอ ไหน?) ๒. ข. นามธรรม และรูปธรรมทงั้ สองน้ี เปนสงั ขตธรรม มีอนิจจลักขณะดวยกนั ท้ังสน้ิ แตส ําหรับนามธรรมนน้ั มีอายนุ อ ย สว นรูปธรรมมีอายุยนื ทเ่ี ปน เชนน้ีเพราะเหตุไร ? 43 ตอบ ข. นามธรรมท่ีมีอายุนอยนั้น เพราะนามธรรมมีหนาที่รูอารมณ ในการรูอารมณนั้น มีจิตเปนประธาน ธรรมชาตขิ องจติ เปนธรรมชาติไว เมอ่ื ไดรับอารมณตามหนาท่ีของตนเสรจ็ เรยี บรอยแลวก็ดับลง แลว จิตดวงอื่น ๆ ก็ เกดิ ขึ้นรับอารมณติดตอกนั ไป เปน ลําดับแลวกด็ บั ลงตาม ๆ กันไป เมอ่ื จิตท่เี ปนประธานดับลง เจตสิกที่เกดิ พรอมกบั จิตก็ตอ งดับลงดวย ฉะนนั้ นามธรรมจึงมีอายสุ ั้นกวา รปู ธรรม ฝา ยรปู ธรรมที่มีอายุยืนน้ัน ในบรรดารูปทง้ั หลายมีมหาภูตรปู เปนประธาน และมหาภูตรูปน้ีเปนธรรมชาติ หนกั ดวยเหตนุ ี้ เมอื่ เกิดข้ึนแลวจึงต้งั อยไู ดนาน เมอื่ มหาภตู รปู ต้งั อยไู ดนาน อปุ าทานรูปซึ่งเปนรูปท่ีอาศัยมหาภตู รูป เกิด ก็ตั้งอยูไดน านดว ย ดว ยเหตนุ ี้ รปู ธรรมจึงมอี ายุยืนกวานามธรรม ๒. ก. อตมิ หันตารมณวิถี ทม่ี ีอาคันตุกภวงั ค กบั มหนั ตารมณวถิ ีที่มีอาคันตุกภวังค มีความแตกตางกนั ตรงไหน ? 54 ตอบ ก. อติมหันตารมณวถิ ีทมี่ ีอาคนั ตกุ ภวงั ค กบั มหนั ตารมณว ถิ ที ่ีมอี าคนั ตกุ ภวงั ค แตกตา งกันตรงอารมณ กลา วคอื อตมิ หนั ตารมณว ถิ ี ท่ีมีอาคันตกุ ภวงั ค อารมณต อ งเปน อตอิ ฏิ ฐารมณ สว น มหันตารมณวิถี ที่มอี าคนั ตุกภวงั ค ไมจ าํ กัดอารมณ คอื จะเปนอตอิ ิฏฐารมณ อิฏฐมชั ฌตั ตารมณ หรอื อนฏิ ฐารมณ กส็ ามารถยงั อาคนั ตกุ ภวงั คใหเกิดข้นึ ไดทงั้ ส้ิน ดาวนโ หลดขอ มูลที่ ขอความเพมิ่ เติมที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถสี งั คหะ, ภูมิจตุกกะ, ปฏิสนธจิ ตกุ กะ 5 ๒. ก. ใหน ักศกึ ษาเขยี นภาพวถิ ี ประกอบดว ยองคธ รรม ในจกั ขุทวาริกอติมหันตามรมณว ถิ ี ตทารัมมณวาระ มหากุศลชวนะ ๘ เฉพาะ ของทุคตอิ เหตกุ บุคคล มาใหถูกตอ ง ? 48 ข. จงเขยี นภาพวถิ ี ประกอบดวยองคธ รรม ในจักขทุ วาริกอติมหันตารมณวิถี ชวนะวาระ โทสชวนะ ๒ เฉพาะของทวิเหตกุ บคุ คล มาใหถกู ตอง ? 48 ตอบ ก. จกั ขุทวาริกอติมหันตารมณว ถิ ี ตทารมั มณวาระ มหากุศลชวนะ ๘ เฉพาะทุคติอเหตกุ บุคคลดังน้ี ตี น ท ป จ สํ ณ โว ช ช ช ช ช ช ช ต ต ภ ภ อ.สัน.อกุ.วิ ๑ ๑ ๒ ๒ ๓ ๑ ๘ ๓๑ ข. จักขทุ วารกิ อตมิ หนั ตารมณวถิ ี ชวนวาระ โทสชวนะ ๒ เฉพาะทวิเหตกุ บคุ คล ดงั น้ี ตี น ท ป จ สํ ณ โว ช ช ช ช ช ช ช ภ ภ ดาวนโหลดขอมลู ท่ี ขอความเพมิ่ เติมท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ สี งั คหะ, ภูมจิ ตุกกะ, ปฏสิ นธจิ ตุกกะ 6 อุ.มหา.ว.ิ วิป.๒ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ โทส ๒ ๒ ๒. ก. จงเขียนองคธรรมประกอบภาพวิถี ในจักขทุ วาริกอติมหนั ตารมณวิถี ตทารมั มณวาระและชวนวาระ โทสชวนะมาใหถ ูกตอ ง ? 49 ตอบ ก.ในจักขุทวารกิ อติมหนั ตามรมณว ถิ ี ตทารัมมณวาระ โทสชวนะ ต ภ ภ มีรปู ารมณทัง้ X๓2 ชนดิ ตี น ท ป จ สํ ณ วุ ช ช ช ช ช ช ช ต ๑๐ ๑ ๒ ๒ ๒ ๑ ๒ ๖ ๑๐ ตี น ท ป จ สํ ณ วุ ช ช ช ช ช ช ช ภ ภ ภ มรี ปู ารมณท่เี ปน อตอิ ฏิ ฐะ ๖ ๑๑๑ ๑ ๑ ๒ ๖ ๒. จงแสดงภาพวิถขี อง โสตทวาริก อติมหนั ตารมณวิถี ตทารัมมณวาระ ชวนะเปนโทสะ พรอมทัง้ จาํ แนก บคุ คล ภมู ิ องคธ รรมปรมตั ถ อารมณ และวตั ถุ มาใหถกู ตอง ? 57, 61 ตอบ แสดงภาพ โสตทวารกิ อติมหนั ตารมณว ิถี ตทารัมมณวาระ ชวนะเปน โทสะ พรอ มท้งั จาํ แนกโดยบุคคล ภมู ิ องคธรรมปรมัตถ อารมณ และวัตถุ ดงั นี้ ภ ตี น ท ป โส สํ ณ วุ ช ช ช ช ช ช ช ต ต ภ กาม.ภ. ๑๐ ๑๒๒๒ ๑ โทส. ๒ ๖ ๑๐ วา โดยบุคคล เกดิ ข้ึนแกบุคคล ๖ จําพวก คือ ปุถุชน ๔ และอรยิ ผลบคุ คลเบ้อื งตาํ่ ๒ วา โดยภมู ิ เกิดไดใ นกามภูมิ ๑๑ วา โดยองคธ รรมปรมตั ถ ภวงั คแ รกและภวงั คห ลงั ไดแก กามภวงั คจติ ๑๐ แลวแตบ ุคคล ดาวนโ หลดขอมลู ท่ี ขอความเพ่มิ เตมิ ที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถสี ังคหะ, ภูมจิ ตกุ กะ, ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ 7 วา โดยอารมณ สวนวถิ ีจติ เหลา นนั้ ไดแ ก ปญ จทวาราวชั ชนจิต ๑ โสตวญิ ญาณจติ ๒ สมั ปฏจิ ฉนจิต ๒ วา โดยวัตถุ อุเบกขาสันตรี ณจิต ๒ โวฏฐพั พนจิต ๑ โทสชวนะจิต ๒ อุเบกขาตทารมั มณจติ ๖ ภวังคแรกภวงั คหลงั มอี ารมณ ๖ ทีเ่ รียกวา กรรมอารมณ กรรมนิมติ อารมณห รอื คตนิ มิ ติ อารมณ ท่ไี ดรบั มาจากฉทวารกิ มรณาสันนชวนะในภพกอนเมื่อใกลจะตาย เปน อารมณ สาํ หรบั วถิ ีจติ ท้ังหมดทีอ่ ยูในวิถนี ้ี มอี ฏิ ฐมชั ฌตั ต หรอื อนฏิ ฐสทั ทารมณทเี่ ปน ปจจุบนั คอื สทั ทารมณท ด่ี ีธรรมดา หรือที่ไมดี ท่ีปรากฏอยเู ฉพาะหนา เปนอารมณ โสตวญิ ญาณจิต ๒ อาศยั โสตวตั ถุเกดิ วถิ จี ติ ท่เี หลือทง้ั หมด ภวงั คแรก ภวงั คหลัง อาศยั หทัยวัตถุเกิด ๒. ก. จงจําแนกองคธรรมปรมตั ถและวัตถุของโสตทวารกิ อติมหนั ตารมณวิถี ตทารมั มณวาระ ท่ีไมเก่ยี วขอ งกับโทสชวนะ ในขณะท่ีประสบกบั อารมณท่เี ปน อตอิ ิฏฐารมณ ? 59 ตอบ ก. จาํ แนกองคธ รรมปรมัตถแ ละวตั ถขุ องโสตทวารกิ อติมหนั ตารมณว ิถี ตทารัมมณวาระ ท่ีไมเกย่ี วของกับโทสชวนะ ในขณะที่ประสบกบั อารมณทเ่ี ปน อติอิฏฐารมณ ดงั น้ี คอื วาโดยองคธ รรมปรมตั ถ ภวังคแรกและภวังคห ลงั ไดแ ก กามภวงั คจิต ๑๐ สวนวถิ จี ติ เหลา น้นั ไดแก ปญ จทวาราวัช ชนจติ ๑ กศุ ลวิบากโสตวญิ ญาณจิต ๑ กุศลวบิ ากสมั ปฏิจฉนจิต ๑ โสมนัสสันตรี ณจิต ๑ โวฏฐพั พนจิต ๑ กามชวนะ ๒๗ (เวนโทสชวนจติ ๒) โสมนัสตทารัมมณจิต ๕ วา โดยวัตถุ กุศลวบิ ากโสตวญิ ญาณจติ ๑ อาศยั โสตวตั ถเุ กิด วถิ ีจิตท่ีเหลอื ทั้งหมด ภวงั คแรก ภวังคห ลงั อาศยั หทยวัตถุเกิด ๒. ข. จงจาํ แนกภูมิ และองคธ รรมปรมตั ถ ของจักขุทวาริก อตมิ หนั ตารมณวถิ ี ตทารัมมณวาระ ท่ไี มเ ก่ียวขอ งกับโทสชวนะ ของสคุ ติอเหตุกบคุ คล ? 59 ตอบ ข. วา โดยภมู ิ เกดิ ไดใน ๒ ภมู คิ ือ มนสุ สภมู ิ ๑ จาตุมหาราชิกาภมู ิ ๑ วา โดยองคธรรมปรมตั ถ ภวงั คแรกและภวงั คห ลงั ไดแก อเุ บกขาสันตีรณกศุ ลวิปากจติ ๑ สว นวถิ จี ติ เหลา นน้ั ไดแ ก ปญจทวาราวัชชนจิต ๑ จักขุวญิ ญาณจติ ๒ สมั ปฏจิ ฉนจิต ๒ สนั ตรี ณจิต ๓ โวฏฐพั พนจิต ๑ กามชวนจติ ๑๘ คืออกุศลจิต ๑๐ (เวน โทสชวนจติ ๒) มหากุศลจิต ๘ ตทารมั มณจติ ๗ คอื สนั ตีรณจิต ๓ มหาวิบากญาณวปิ ปยตุ ตจิต ๔ ดาวนโหลดขอ มูลท่ี ขอความเพิ่มเติมท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถีสงั คหะ, ภูมจิ ตกุ กะ, ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ 8 ๓. จงแสดงภาพวถิ ปี ระกอบองคธ รรม พรอมทั้งจําแนกเฉพาะ บคุ คล ภูมิ และองคธ รรมปรมัตถ เทา น้นั มาให ถูกตอ ง ในวิถตี อ ไปน้ี ก. โสตทวาริก อติมหันตารมณวถิ ี ชวนวาระ ทีไ่ มมีอาคนั ตุกภวงั ค ท่เี กดิ ในรปู ภมู ิ ? 51, 56 XX จงจาํ แนกจักขุทวารกิ อติมหนั ตารมณวิถี ชวนวาระ ทีไ่ มมีอาคันตกุ ภวังค ทีเ่ กดิ ในรูปภมู ิ โดยบคุ คล ภูมิ องคธ รรมปรมัตถ อารมณ วัตถุ ? 40 ตอบ ก. แสดงภาพ โสตทวารกิ อตมิ หนั ตารมณวิถี ชวนวาระ ทไ่ี มมีอาคันตกุ ภวงั ค ทเ่ี กดิ ในรูปภูมิ พรอ มทง้ั จาํ แนกโดยบุคคล ภมู ิ และองคธ รรมปรมตั ถ ดังนี้ ภ ตี น ท ป จักโส สํ ณ วุ ช ช ช ช ช ช ช ภ ภ ภ รปู ภวังค ๕ ๑ ๒ ๒ ๓ ๑ กามชวนะ๒๗(-๒) รูปภ. ๕ วา โดยบุคคล เกิดขน้ึ แกบ คุ คล ๕ จาํ พวก คอื ตเิ หตุกปถุ ุชน ๑ อรยิ ผลบคุ คล ๔ วาโดยภูมิ เกดิ ไดใ นรปู ภมู ิ ๑๕ (เวน อสญั ญสตั ตภมู ิ ๑) วา โดยองคธ รรมปรมัตถ ภวงั คแ รกและภวังคห ลงั ไดแ ก รูปาวจรภวงั คจติ ๕ สว นวถิ จี ติ เหลา นนั้ ไดแ ก ปญ จทวาราวชั ชนจิต ๑ โสตวญิ ญาณจิต ๒ สัมปฏจิ ฉนจติ ๒ สนั ตรี ณจติ ๓ โวฏฐพั พนจิต ๑ กามชวนะ ๒๗ (เวน โทสชวนะ ๒) [(40) วาโดยอารมณ ภวงั คแ รกและภวงั คหลงั มบี ญั ญัติกรรมนิมิตธรรมารมณ อนั เนอ่ื งดว ยกรรมฐาน ๒๖ คือ กสิณบญั ญัติ ๑๐ อสภุ บญั ญตั ิ ๑๐ โกฏฐาสบญั ญตั ิ ๑ อานาปานบญั ญตั ิ ๑ และสัตว บญั ญตั ิ ๔ ทไ่ี ดร บั มาจากมโนทวาริกมรณาสันนชวนะในภพกอ น เม่ือใกลจ ะตายเปนอารมณ สาํ หรับวถิ ีจิตทัง้ หมดท่อี ยูใ นวถิ ีนี้ มีอตอิ ฏิ ฐะ อฏิ ฐมชั ฌตั ตะ หรือ อนฏิ ฐรปู ารมณ ที่เปน ปจจบุ ัน คือ รูปารมณทด่ี ียง่ิ ดธี รรมดา หรอื ที่ไมดีท่ีปรากฏอยูเ ฉพาะหนาเปน อารมณ วาโดยวัตถุ จักขวุ ญิ ญาณจิต ๒ อาศัยจักขุวตั ถเุ กิด วถิ ีจิตที่เหลือทั้งหมด ภวงั คแ รก ภวงั คหลัง อาศยั หทยวตั ถเุ กดิ ] ดาวนโ หลดขอมลู ที่ ขอความเพิม่ เตมิ ที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ สี ังคหะ, ภูมิจตุกกะ, ปฏิสนธจิ ตกุ กะ 9 ๒. จงแสดงภาพจกั ขุทวารกิ อติมหันตารมณวถิ ี ชวนวาระ ท่มี ีอาคนั ตกุ ภวังค พรอมดวยการจําแนก โดยบคุ คล ภูมิ องคธ รรมปรมตั ถ อารมณ ? 60 และวตั ถุ ? 37, 45, 46, 47, 53 ตอบ ภาพวถิ ีพรอ มดว ยองคธรรมของจกั ขุทวารกิ อติมหันตารมณว ถิ ีดังน้ี ภ ตี น ท ป จกั สํ ณ วุ ช ช ช ช ช ช ช อา ภ ภ ภ กามโส.ภ.๔ ๑ ๑ ๑ ๑ โทสชวนะ ๒ ๕ กามโส.ภ.๔ วา โดยบุคคล เกดิ ข้นึ แกบ ุคคล ๔ จําพวก คือ ทวเิ หตุกบคุ คล ๑ ติเหตกุ ปุถชุ น ๑ โสดาบนั บุคคล ๑ สกทาคามบี ุคคล ๑ วา โดยภมู ิ เกิดไดในกามสคุ ตภิ มู ิ ๗ วา โดยองคธ รรมปรมัตถ ภวังคแรกภวงั คห ลงั ไดแ ก กามโสมนสั ภวงั คจิต ๔ จติ ท่ที ําหนา ทอี่ าคันตกุ ภวงั ค ไดแ ก กามอุเบกขาภวังคจิต ๕ (เวน อเุ บกขาสันตรี ณอกุศลวิปากจิต ๑) ดาวนโ หลดขอมลู ที่ ขอความเพ่ิมเตมิ ท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ที่แปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถสี งั คหะ, ภมู จิ ตุกกะ, ปฏสิ นธิจตุกกะ 10 สว นวิถจี ิตเหลา นน้ั ไดแ ก ปญ จทวาราวชั ชนจิต ๑ กุศลวิบากจักขวุ ญิ ญาณจติ ๑ กศุ ลวบิ ากสัมปฏจิ ฉนจติ ๑ โสมนสั สนั ตรี ณจิต ๑ โวฏฐพั พนจิต ๑ โทสะชวนจิต ๒ วาโดยอารมณ ภวงั คแ รกภวงั คห ลัง มีอารมณ ๖ ทเ่ี รยี กวา กรรมอารมณ กรรมนิมติ อารมณ หรือคตินมิ ิตอารมณ ทไ่ี ดรับมาจากฉทวาริกมรณาสนั นชวนะในภพกอ นเม่ือใกลจ ะตาย เปน อารมณ จติ ท่ที ําหนา ที่อาคนั ตกุ ภวงั คน ั้น มอี ารมณ ๖ อยา งใดอยา งหนงึ่ ที่เปน กามธรรม ซึง่ เคยมคี วาม ชาํ นาญมาแลวในภพน้ี เปนอารมณ สาํ หรับวิถีจิตท้ังหมดทอ่ี ยใู นวถิ ีน้ี มีอตอิ ิฏฐรปู ารมณท ่ีเปน ปจจบุ นั คอื รปู ารมณท ีด่ ยี ่งิ ทป่ี รากฏอยู เฉพาะหนา เปนอารมณ วา โดยวตั ถุ กุศลวบิ ากจักขวุ ิญญาณจิต ๑ อาศยั จกั ขวุ ตั ถุเกิด วิถจี ิตท่ีเหลือทั้งหมด ภวงั คแ รก ภวงั คหลงั และจิตท่ีทําหนา ทอ่ี าคนั ตุกภวงั ค อาศัยหทยั วตั ถุเกดิ ๒. จงจาํ แนกชิวหาทวาริก อตมิ หนั ตารมณวิถี ชวนวาระ ที่ไมม ีอาคนั ตุกภวงั ค โดยบุคคล เปนตน มาให ถูกตองตามหลกั พรอ มท้ังแสดงภาพวถิ ดี วย ? 52 ตอบ จําแนกชวิ หาทวาริก อติมหนั ตารมณว ถิ ี ชวนวาระทไี่ มม ีอาคนั ตุกภวงั ค โดยบุคคลเปนตน พรอมทง้ั แสดงภาพวถิ ี ดังน้ี ตี น ท ป ชิว สํ ณ วุ ช ช ช ช ช ช ช ภ ภ ภ มรี สารมณท ี่เปน อติอฏิ ฐะ กามอ.ุ ภ.๖ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ โทสชวนะ ๒ กามอุ.ภ.๖ วา โดยบคุ คล เกดิ ข้นึ แกบคุ คล ๖ จาํ พวก คือ ปุถชุ น ๔ อริยผลบคุ คลเบ้อื งตํ่า ๒ วาโดยภมู ิ เกดิ ไดในกามภมู ิ ๑๑ วาโดยองคธรรมปรมัตถ ภวงั คแรกและภวงั คหลงั ไดแ ก กามอุเบกขาภวงั คจติ ๖ สว นวถิ จี ิตเหลา นนั้ ไดแ ก ปญจทวาราวชั ชนจิต ๑ กศุ ลวบิ ากชวิ หาวญิ ญาณจติ ๑ กศุ ลวิบากสัมปฏจิ ฉนจิต ๑ โสมนสั สนั ตีรณจิต ๑ โวฏฐพั พนจติ ๑ โทสชวนะ ๒ วา โดยอารมณ ภวงั คแ รกและภวงั คห ลัง มอี ารมณ ๖ ท่ีเรยี กวา กรรมอารมณ กรรมนิมติ อารมณ หรอื คตนิ ิมติ อารมณ ทีไ่ ดรับมาจากฉทวาริกมรณาสนั นชวนในภพกอนเมื่อใกลจ ะตายเปน อารมณ สําหรับวถิ จี ิตท้งั หมดที่อยใู นวถิ นี ้ี มอี ติอฏิ ฐรสารมณท ี่เปนปจจบุ นั คอื รสารมณท ดี่ ยี ง่ิ ทีป่ รากฏอยู เฉพาะหนา เปนอารมณ วาโดยวตั ถุ กศุ ลวิบากชิวหาวิญญาณจิต ๑ อาศยั ชิวหาวัตถเุ กดิ วิถจี ิตที่เหลอื ทง้ั หมด ภวงั คแ รก และภวังคห ลงั อาศยั หทัยวตั ถเุ กิด ๒. จงเขยี นภาพวิถี พรอมกับจาํ แนก บุคคล ภมู ิ องคธรรมปรมตั ถ อารมณ และวตั ถุของชวิ หาทวารกิ อติมหนั ตา รมณวิถี ตทารัมมณวาระ ของตเิ หตกุ ปุถชุ นในขณะท่กี ําลังรบั รูรสทีด่ ีธรรมดา แลวเกิดความพอใจ ? 44 ตอบ ภาพวิธี ชิวหาทวารกิ อติมหนั ตารมณวถิ ี ตทารมั มณวาระ ภ ตี น ท ป ชิว สํ ณ วุ ช ช ช ช ช ช ช ต ต ภ 4 1 1 11 1 8 54 วาโดยบคุ คล เกดิ ขึ้นกับตเิ หตุกปถุ ชุ น ๑ วาโดยภมู ิ เกดิ ไดใ นกามสคุ ตภิ ูมิ ๗ วา โดยองคธ รรมปรมตั ถ ภวังคแ รกภวงั คหลงั ไดแก ติเหตุกกามภวังคจิต ๔ ดวงใดดวงหนึง่ สวนวถิ ีจิตเหลา นน้ั ไดแก ปญจทวาราวชั นจติ ๑ กศุ ลวบิ ากชวิ หาวญิ ญาณจิต ๑ กศุ ลวิบาก สัมปฏจิ ฉนจิต ๑ อเุ บกขาสันตรี ณกศุ ลวิปากจิต ๑ โวฏฐพั พนจติ ๑ โลภชวนจติ ๘ ดวงใดดวงหน่งึ อเุ บกขาตทารมั มณจติ ๕ ดวงใดดวงหนึง่ (เวน อเุ บกขาสนั ตรี ณอกศุ ลวปิ ากจติ ๑) วา โดยอารมณ ภวังคแรกภวงั คหลงั มอี ารมณ ๖ ท่ีเรยี กวา กรรมอารมณ กรรมนมิ ิตอารมณ หรอื คตนิ มิ ติ อารมณ ดาวนโหลดขอมูลที่ ขอความเพม่ิ เติมท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถีสังคหะ, ภมู จิ ตุกกะ, ปฏิสนธจิ ตกุ กะ 11 วา โดยวตั ถุ ซงึ่ ไดรับมาจากฉทวาริกมรณาสนั นชวนในภพกอนเมอ่ื ใกลจ ะตายเปนอารมณ สาํ หรบั วิถจี ติ ทัง้ หมดที่อยใู นวิถีนี้ มอี ฏิ ฐมชั ฌัตตรสารมณท ่ีเปน ปจจบุ นั คอื รสารมณท ่ีดีธรรมดาท่ี ปรากฏอยูเฉพาะหนา เปน อารมณ กุศลวบิ ากชิวหาวญิ ญาณจติ ๑ อาศยั ชวิ หาวัตถเุ กดิ วถิ จี ิตทเ่ี หลอื ทั้งหมด ภวงั คแ รก ภวงั คห ลัง อาศัย หทยวตั ถเุ กดิ ๓. จงจําแนกกายทวารกิ อติมหันตารมณว ิถี ชวนวาระท่ไี มมี อาคนั ตกุ ภวงั ค โดยบคุ คล เปน ตน มาใหถูกตอ งตามหลัก พรอมทั้งแสดงภาพวิถดี วย ? 50 ตอบ จาํ แนกกายทวารกิ อติมหนั ตารมณวิถี ชวนวาระท่ีไมมอี าคนั ตกุ ภวังค โดยบุคคลเปน ตน พรอ มทง้ั แสดงภาพวิถี ดงั น้ี ภ ตี น ท ป กา ส ณ วุ ช ช ช ช ช ช ช ภ ภ ภ กามอ.ุ ภ.๖ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ โทสชวนะ ๒ กามอ.ุ ภ.๖ วา โดยบคุ คล เกิดขึ้นแกบุคคล ๖ จําพวก คือ ปถุ ุชน ๔ ผลบคุ คลเบื้องตํ่า ๒ วา โดยภูมิ เกดิ ไดใ นกามภูมิ ๑๑ วา โดยองคธรรมปรมัตถ ภวงั คแรกและภวงั คหลงั ไดแ ก กามอเุ บกขาภวังคจ ติ ๖ สวนวิถีจติ เหลา นนั้ ไดแ ก ปญจทวาราวัชชนจติ ๑ กุศลวบิ ากกายวญิ ญาณจติ ๑ กศุ ลวิบากสมั ปฏจิ ฉนจิต ๑ โสมนสั สนั ตีรณจิต ๑ โวฏฐพั พนจติ ๑ โทสชวนะ ๒ วาโดยอารมณ ภวงั คแ รกและภวงั คห ลงั มีอารมณ ๖ ท่เี รยี กวา กรรมอารมณ กรรมนิมิตอารมณ หรอื คตนิ มิ ิต อารมณ ที่ไดรับมาจากฉทวารกิ มรณาสันนชวนะในภพกอ นเม่อื ใกลจ ะตายเปนอารมณ สาํ หรับวถิ จี ติ ท้งั หมดที่อยใู นวถิ นี ี้มี อติอิฏฐโผฏฐพั พารมณท ี่เปนปจ จุบัน คือ โผฏฐพั พารมณท ด่ี ยี ง่ิ ท่ีปรากฏอยูเฉพาะหนาเปน อารมณ วา โดยวตั ถุ กุศลวิบากกายวญิ ญาณจติ ๑ อาศยั กายวตั ถเุ กดิ วถิ ีจติ ทเี่ หลือทงั้ หมด ภวงั คแ รก และภวงั คห ลงั อาศยั หทัยวตั ถุเกดิ xx จงจําแนกจักขทุ วารกิ อตมิ หนั ตารมณว ิถี ชวนวาระ ไมมีอาคันตุกภวังค และจติ ที่ทําหนาท่ีชวนในวถิ นี ไ้ี ดแ ก โลภมลู จติ ดวงที่ ๑ โดยบคุ คล ภมู ิ องคธ รรมปรมัตถ อารมณ และวัตถุ มาดู ? 36 ตอบ จาํ แนกจักขุทวารกิ อตมิ หนั ตารมณวถิ ี ชวนวาระ ทไี่ มม ีอาคนั ตุกภวงั ค ดงั น้ี มปี จจบุ ันรูปารมณทีเ่ ปน อตอิ ฏิ ฐะ อิฏฐมัชฌัตตะ หรืออนิฏฐะ เปน อารมณ ภ ตี น ท ป จัก สํ ณ วุ ช ช ช ช ช ช ช ภ ภ ภ 5 1 2231 1 54 วา โดยบุคคล เกิดข้นึ กบั ติเหตุกปถุ ุชน ๑ วา โดยภมู ิ เกิดไดในรปู ภมู ิ ๑๐ (เวน สุทธาวาส ๕ อสญั ญสตั ตภมู ิ ๑) วา โดยองคธรรมปรมัตถ ภวังคแ รกและภวังคหลงั ไดแ ก รปู ภวังคจติ ๕ สวนวิถจี ิตเหลา นนั้ ไดแ ก ปญ จทวาราวชั น จิต ๑ จกั ขวุ ญิ ญาณจติ ๒ สัมปฏจิ ฉนจติ ๒ สันตีรณจติ ๓ โวฏฐพั พนจิต ๑ โลภมลู จิตดวงที่ ๑ วาโดยอารมณ ภวังคแ รกและภวงั คห ลัง มีบญั ญัติกรรมนมิ ติ ธรรมารมณ อนั เนอ่ื งดว ยกรรมฐาน ๒๖ คอื กสิณ บัญญตั ิ ๑๐ อสภุ บญั ญตั ิ ๑๐ โกฏฐาสบญั ญตั ิ ๑ อานาปานบญั ญตั ิ ๑ สตั วบญั ญัติ ๔ ที่ไดรบั มา จากมโนทวารกิ มรณาสันนชวนะในภพกอน เม่อื ใกลจะตายเปนอารมณ สาํ หรบั วถิ ีจติ ทง้ั หมดท่ีอยใู นวถิ นี ้ี มี อติอิฏฐะ อฏิ ฐมชั ฌตั ตะ หรืออนิฏฐรูปารมณที่เปน ปจ จบุ ัน คอื รปู ารมณท ี่ดยี งิ่ ดีธรรมดา หรือท่ีไมดี ที่ปรากฏอยูเฉพาะหนาเปน อารมณ วาโดยวตั ถุ จกั ขุวิญญาณจติ ๒ อาศยั ชิวหาวตั ถเุ กดิ วิถจี ิตที่เหลือทง้ั หมด ภวงั คแ รก ภวังคห ลัง อาศัยหทยวัตถุเกดิ ดาวนโหลดขอมูลที่ ขอความเพมิ่ เติมท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ ีสงั คหะ, ภูมจิ ตุกกะ, ปฏิสนธิจตุกกะ 12 ๒. จงแสดงภาพอตวิ ิภตู ารมณวถิ ี ชวนวาระ ท่ีมอี ตตี ภวงั ค แตไ มม ีอาคันตกุ ภวังค พรอมทั้งจาํ แนกโดยบุคคล ภมู ิ เปน ตน มาใหถ กู ตองตามหลกั ? 58 ตอบ แสดงภาพ อติวภิ ตู ารมณวิถี ชวนวาระ ทมี่ อี ตตี ภวงั ค แตไ มมีอาคนั ตุกภวงั ค พรอมท้ังจาํ แนกโดยบคุ คล ภูมิ เปน ภตนดงั นตี้ี น ท ม ช ช ช ช ช ช ช ภ ภ ภ ปญจโวการภวงั ค ๑๑ ๑ กามชวนะ๒๙ กามอุ.ภ. ๖+ รูปภ. ๕ วา โดยบคุ คล เกดิ ขนึ้ แกบ คุ คล ๘ จาํ พวก คอื ปถุ ุชน ๔ อริยผลบคุ คล ๔ วา โดยภูมิ เกดิ ไดใ นปญจโวการภูมิ ๒๖ คือ กามภมู ิ ๑๑ รปู ภมู ิ ๑๕ (เวน อสญั ญสัตตภมู ิ ๑) วาโดยองคธ รรมปรมัตถ ภวงั คแ รกและภวงั คห ลัง ไดแ ก กามอเุ บกขาภวงั คจิต ๖ รปู ภวงั คจติ ๕ สวนวิถจี ิตเหลานน้ั ไดแก มโนทวาราวชั ชนจิต ๑ กามชวนะ ๒๙ วา โดยอารมณ ภวงั คแ รกและภวงั คหลงั ทีเ่ ปนกามอุเบกขาภวงั คจิต ๖ มีอารมณ ๖ ทีเ่ รียกวา กรรมอารมณ กรรม นมิ ิตอารมณ หรอื คตินมิ ติ อารมณ ท่ไี ดร บั มาจากฉทวารกิ มรณาสันนชวนในภพกอ นเม่อื ใกลจะตายเปน อารมณ สว นทเี่ ปน รูปภวังคจิต ๕ มบี ัญญตั ิกรรมนิมติ ธรรมารมณอันเน่ืองดวยกรรมฐาน ๒๖ คือ กสณิ บญั ญตั ิ ๑๐ อสุภบัญญตั ิ ๑๐ โกฎฐาสบญั ญตั ิ ๑ อานาปานบัญญตั ิ ๑ หรือสัตวบญั ญัติ ๔ ท่ีไดร ับมาจากมโนทวาริก มรณาสนั นชวนะในภพกอนเม่ือใกลจะตายเปน อารมณ สําหรบั วถิ ีจติ ทัง้ หมดทีอ่ ยใู นวิถีน้ี ถาเกดิ ในกามภูมิ มอี ตอิ ิฏฐอารมณ ๖ ทเ่ี ปนปจ จบุ นั นปิ ผันนรปู ๑๘ คือ นิปผันนรูปทดี่ ียงิ่ ที่ปรากฏอยูเ ฉพาะหนา เปน อารมณ ถาเกิดในรูป ๑๕ (เวน อสญั ญสตั ตภมู ๑ิ )มอี ติอฏิ ฐ อิฏฐมชั ฌัตตหรอื อนฏิ ฐอารมณ ๓ คอื รปู ารมณ สทั ทารมณ และธรรมารมณทเ่ี ปน ปจ จุบันนิปผนั นรูป ๑๓ (เวน ฆานปสาท, ชวิ หาปสาท, กายปสาท, ภาวรปู ๒) คือนปิ ผันนรปู ที่ดยี ่งิ ดีธรรมดาหรอื ทไี่ มด ที ป่ี รากฏอยู เฉพาะหนาเปน อารมณ วา โดยวัตถุ ภวังคแ รก ภวังคห ลงั และวถิ จี ติ ทั้งหมด อาศยั หทยวตั ถุเกิด ๒. ข. จงจําแนก ภมู ิ องคธ รรมปรมตั ถ และอารมณข อง อติวิภตู ารมณวิถี ท่ีมีอตตี ภวังค ชวนะวาระ ไมมีอาคนั ตกุ ภวังค ท่ีไมเ กย่ี วกบั โทสะชวนะ ของพระโสดาบันบคุ คล ? 54 ตอบ ข. จาํ แนกภมู ิ องคธ รรมปรมตั ถ และอารมณ ของอตวิ ภิ ตู ารมณว ถิ ี ที่มอี ตตี ภวังค ชวนะวาระ ไมม ีอาคนั ตุกภวงั ค ทไ่ี มเกยี่ วกับโทสะชวนะ ของพระโสดาบนั บคุ คล มดี ังน้คี ือ วา โดยภูมิ เกดิ ไดในรูปภูมิ ๑๐ (เวน อสญั ญสัตตภมู ิและสุทธาวาสภมู ิ ๕) วาโดยองคธรรมปรมัตถ ภวังคแรกและภวังคหลงั ไดแ ก รปู ภวงั คจติ ๕ สวนวิถีจติ เหลา นน้ั ไดแก มโนทวาราวชั ชน จิต ๑ กามชวนะ ๑๓ คือ ทฏิ ฐคิ ตวปิ ปยตุ ตจิต ๔ อทุ ธจั จสัมปยตุ ตจิต ๑ มหากุศลจิต ๘ วา โดยอารมณ ภวงั คแ รกและภวงั คหลงั มบี ญั ญตั ิกรรมนิมิตธรรมมารมณอ นั เนือ่ งดวยกรรมฐาน ๒๖ อยา ง คอื กสิณบญั ญัติ ๑๐ อสภุ บญั ญตั ิ ๑๐ โกฏฐาสบัญญตั ิ ๑ อานาปานบญั ญัติ ๑ หรือสตั วบัญญตั ิ ๔ ทีไ่ ดร บั มาจากภพกอนเมื่อใกลจ ะตายเปนอารมณ สาํ หรบั วิถจี ติ ท้ังหมดท่อี ยูในวถิ นี ี้ มอี ติอิฏฐะ อฏิ ฐมัชฌตั ตะ หรอื อนฏิ ฐา อารมณ ๓ (รูปารมณ สทั ทารมณ ธรรมมารมณ) ท่ีเปนปจจุบนั นปิ ผันนรูป ๑๓ (เวน ฆานปสาท, ชิวหาปสาท, กายปสาท, ภาวรปู ๒) คือนปิ ผนั นรูปทด่ี ยี ่งิ ดธี รรมดา หรือไมด ี ทปี่ รากฏอยเู ฉพาะหนา เปน อารมณ ขอ ๓ (ทเ่ี คยออกสอบ ปน ้ีนา จะออกขอไหน?) ๓. จงแสดงขอ สังเกตองคป ระกอบในการเกิดขึ้นของธรรม ดงั ตอไปนี้ ? 49, 54 ก. ตทารมั มณะ ข. อาคนั ตกุ ะภวังค ตอบ ก. การเกดิ ข้ึนของตทารมั มณะ ในอตมิ หันตารมณว ิถี และอติวิภูตารมณว ิถี ทีม่ ตี ทารัมมณจติ เกิดขน้ึ ไดน นั้ ตองมอี งคประกอบ ๓ อยา ง คอื ๑. กามชวนะ ๒. กามบคุ คล ๓. กามอารมณ ดาวนโ หลดขอมลู ที่ ขอความเพิ่มเตมิ ท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ที่แปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ สี ังคหะ, ภมู ิจตุกกะ, ปฏิสนธิจตุกกะ 13 ข. อาคันตุกภวงั คจ ะเกิดขน้ึ ไดในอตมิ หนั ตารมณวิถี อติวภิ ตู ารมณวิถีน้ันตองประกอบดวยองค ๓ คอื ๑. บุคคลตองปฏสิ นธิดว ยมหาวบิ ากโสมนสั ๔ ดวงใดดวงหนงึ่ ๒. ชวนะตอ งเปน โทสชวนะ ๓. อารมณตองเปน อติอิฏฐารมณ ถา เปนมหนั ตารมณว ถิ ี และวิภตู ารมณว ถิ ีแลว ไมจ าํ กัดอารมณ ไมวา อารมณน ้นั จะเปนอตอิ ฏิ ฐารมณ อิฏฐมัชฌตั ตารมณ หรอื อนฏิ ฐารมณ กย็ อมสามารถยงั อาคนั ตกุ ภวังคใหเ กิดข้นึ ไดท ั้งสน้ิ . ๓. ข. ใหน กั ศึกษาบอกถงึ องคประกอบในการเกิดขนึ้ ของธรรมดงั ตอ ไปน้ี ๑. ตทารมั มณจิต ๒. อาคนั ตกุ ภวังค ? 44 ตอบ ข. ๑. ตทารัมมณจิต ท่ใี นอติมหนั ตารมณวถิ ี และอติวภิ ูตารมณวิถี จะเกิดข้นึ ไดนนั้ จะตองประกอบดวยองค ๓ คอื ๑. ชวนะตอ งเปน กามชวนะ ๒. บคุ คลตองเปน กามบุคคล ๓. อารมณ ตองเปนกามอารมณ ทง้ั น้ีจะตองไมม เี หตขุ ดั ของดวย ถามเี หตุขัดของแลว ตทารัมมณจิตก็เกิดขน้ึ ไมไ ด แมจ ะประกอบดว ยองค ๓ ก็ตาม ๒. อาคนั ตกุ ภวังค จะเกดิ ขน้ึ ไดน ้ันจะตองประกอบดว ยองค ๓ คือ ๑. บุคคลตอ งปฏิสนธดิ ว ยมหาวปิ ากโสมนสั ๔ ดวงใดดวงหน่งึ ๒. ชวนะตองเปนโทสะชวนะ ๒ เทา นน้ั ๓. อารมณตอ งเปน อติอฏิ ฐารมณ เฉพาะในอติมหันตารมณวถิ ีและอตวิ ภิ ตู ารมณวถิ ี ถาเปนมหันตารมณวิถีและวิภูตารมณวิถี ไมจํากัดอารมณ ไมวาจะเปนอติอิฏฐารมณ อิฏฐมัชฌัตตารมณ หรือ อนิฏฐารมณก ็ตาม สามารถยังอาคนั ตกุ ภวงั คเกดิ ไดท ั้งสนิ้ ๓. ข. จงจาํ แนกตทารมั มณจิต ๑๑ โดยบุคคล ๘ (เวนมรรคบคุ คล ๔) มาโดยละเอยี ด และการเกิดขึ้นของตทารัมมณ- จิต ในอตมิ หันตารมณวิถี และอติวิภตู ารมณวิถี ตอ งมอี งคประกอบก่อี ยา งอะไรบา ง ? 51(4ข), 58, 60(4ข) ตอบ ข. จําแนกตทารมั มณจิต ๑๑ โดยบุคคล ๘ (เวน มรรคบุคคล ๔) ๑. ทคุ ติอเหตุกบคุ คล ๑ มตี ทารัมมณจติ เกิดได ๓ ดวง คอื สันตีรณจติ ๓ ๒. สคุ ติอเหตกุ บคุ คล ๑ ทวิเหตุกบคุ คล ๑ มีตทารมั มณจิตเกิดได ๗ ดวง คือ สนั ตีรณจติ ๓ มหาวปิ ากญาณวปิ ปยุตตจิต ๔ ๓. ตเิ หตกุ ปุถุชน ๑ ผลบุคคล ๔ มตี ทารัมมณจิตเกิดได ๑๑ ดวง คอื สนั ตรี ณจติ ๓ มหาวปิ ากจิต ๘ การเกดิ ขึน้ ของตทารมั มณจติ ในอติมหันตารมณวิถี และอติวภิ ตู ารมณวถิ ีท่มี ีตทารัมมณจติ เกดิ ขน้ึ ไดน ้ัน ตอ งมอี งคประกอบ ๓ อยางคอื ๑. กามชวนะ ๒. กามบุคคล ๓. กามอารมณ ๔. ก. สคุ ตอิ เหตุกบคุ คล มีตทารมั มนจติ เกดิ ไดก่ีดวงอะไรบาง ? 44 ข. ทวเิ หตุกบุคคล มีชวนจติ เกดิ ไดเทาไร เปนกามชวนะเทาไร อัปปนาชวนะเทา ไร คอื อะไรบาง ? 44 ค. ตเิ หตุกปถุ ุชน มีชวนจิตเกิดไดเทาไร เปนกามชวนะเทาไร อปั ปนาชวนะเทา ไร คอื อะไรบา ง ? 44 ง. โสดาบันบคุ คล มีชวนจติ เกิดไดเทา ไร เปน กามชวนะเทาไร อัปปนาชวนะเทาไร คอื อะไรบา ง ? 44 จ. อรหัตตผลบคุ คล มีชวนจติ เกดิ ไดเ ทา ไร เปน กามชวนะเทา ไร อัปปนาชวนะเทาไร คืออะไรบา ง ? 44 ตอบ ก. สุคตอิ เหตกุ บคุ คล มตี ทารมั มณจติ เกิดได ๗ ดวง คือ สันตีรณจิต ๓ มหาวบิ ากญาณวปิ ปยุตตจิต ๔ ข. ทวิเหตุกบคุ คล มชี วนจิตเกิดได ๒๐ ดวง เปน กามชวนทัง้ หมดไมม อี ัปปนาชวนะ ไดแ ก อกุศลจิต ๑๒ มหากสุ ลจิต ๘ ค. ติเหตกุ ปุถุชน มีชวนจิตเกิดได ๒๙ ดวง เปน กามชวนะ ๒๐ ดวง คอื อกศุ ลจิต ๑๒ มหากุศลจิต ๘ เปน อปั ปนาชวนะ ๙ ดวง คอื มหคั คตกศุ ลจิต ๙ ง. โสดาบันบคุ คล มีชวนจิตเกิดได ๒๕ ดวง เปน กามชวนะ ๑๕ ดวง คอื อกุศลจติ ๗ (เวนทฏิ ฐิคตสัมปยตุ ตจติ ๔ วจิ กิ ิจฉาสัมปยตุ ตจิต ๑) มหากุศลจติ ๘ และ เปน อัปปนาชวนะ ๑๐ ดวง คือ มหคั ตตกุศลจิต ๙ โสดาปตติผลจติ ๑ จ. อรหัตตผลบุคคล มีชวนจิตเกิดได ๑๙ ดวง เปน กามชวนะ ๙ ดวง คอื หสติ ปุ ปาทจิต ๑ มหากิริยาจติ ๘ และ เปน อัปปนาชวนะ ๑๐ ดวง คอื มหัคคตกริ ยิ าจติ ๙ อรหตั ตผลจติ ๑ ดาวนโหลดขอ มลู ท่ี ขอความเพิ่มเติมที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ สี งั คหะ, ภมู จิ ตุกกะ, ปฏิสนธิจตกุ กะ 14 ๔. ก. จงแสดงพระบาลีและคําแปล ที่แสดงการสรุปจาํ นวนวถิ ีจิตในกามชวนมโนทวาร ? 50 ตอบ ก.แสดงพระบาลแี ละคาํ แปล ท่ีแสดงการสรปุ จาํ นวนวถิ ีจติ ในกามชวนมโนทวาร ดงั น้ี วถี ิจิตตฺ านิ ตีเณว จิตฺตุปปฺ าทา ทเสริตา วิตฺถาเรน ปเนตเฺ ถก- จตตฺ าลสี วิภาวเยฯ แปลความวา พงึ กลาวไดว า ในกามชวนมโนทวารน้ี มวี ถิ จี ติ เพยี ง ๓ (คือ มโนทวาราวัชชนะ ๑ ชวนะ ๑ และ ตทารมั มณะ ๑) วถิ จี ติ เหลานน้ั เมื่อวา โดยการเกิดขน้ึ แลวมี ๑๐ คร้ัง (คอื มโนทวาราวชั ชนะเกดิ ๑ ครัง้ ชวนะเกิด ๗ ครงั้ และ ตทารมั มณะเกดิ ๒ คร้งั ) สว นวีจิตเหลา น้ันวา โดยพสิ ดารแลว ยอมแสดงไดว า มี ๔๑ ดวง (คือ กามจติ ๔๑ เวน ทวปิ ญจวญิ ญาณจติ ๑๐ และ มโนธาตุ ๓) ๓. ก. มโนทวารวถิ ี หมายความวา อยางไร ? 59(ก/ค) ๓. ข. ตทนวุ ตั ตกิ มโนทวารวิถีเปนวถิ ีอยางไร ? มีกว่ี ถิ ีอะไรบาง ? 59(ข/ค) ตอบ ก. มโนทวารวถิ ี หมายความวา การเกดิ ขน้ึ โดยลาํ ดับตดิ ตอ กนั เปนแถวของจติ เจตสกิ ทางใจ ข. ตทนุวตั ติกมโนทวารวิถี เปนกามชวนมโนทวารวถิ ที ี่เกิดข้ึนตอ จากปญ จทวารวถิ ีโดยตรง มี ๔ วิถี คอื ๑. อตตี ัคคหณวถิ ี ๒. สมูหคั คหณวถิ ี ๓. อัตถคั คหณวิถี ๔. นามคั คหณวถิ ี ๓. ตทนวุ ัตติกมโทวารวิถี ทีเ่ กดิ ตอจากจกั ขทุ วารวถิ ี มีจํานวนเทาไร คอื อะไรบาง และแสดงการเกดิ ขน้ึ ตามลําดับของวถิ ีเหลานนั้ มาดว ย ? 48 ตอบ ตทนุวตั ตกิ มโทวารวิถี ท่ีเกดิ ตอจากจักขุทวารวิถมี จี ํานวน ๔ อยา ง คอื ๑. อตีตคั คหณวถิ ี ๒. สมูหคั คหณวิถี ๓. อัตถัคคหณวิถี ๔. นามัคคหณวถิ ี การเกดิ ข้ึนของตทนวุ ตั ติกมโทวารวถิ ี ทเ่ี กิดตอ จากจักขทุ วารวถิ มี จี ํานวน ๔ เปนไปตามลําดบั ดงั น้ีคอื ๑. อตีตคั คหณวถิ ี ภายหลงั จากภวงั คจติ ท่ีเกดิ ตอจากจกั ขุทวารวิถไี ดด ับลงแลว รปู ารมณท ่เี ปนอดตี น้นั ก็ ปรากฏขนึ้ ทางใจ ฉะน้ันภวังคจิตจึงมีอาการหวน่ั ไหวเกดิ ข้นึ ๒ ขณะ เรยี กวา ภวงั คจลนะ ภวังคปุ จ เฉทะ ตอจากน้นั มโนทวาราวชั ชนะ ชวนะ ๗ คร้งั ตทารมั มณะ ๒ คร้ัง เกดิ ขึ้นตามลาํ ดบั สาํ หรบั อติวภิ ตู รูปารมณท เี่ ปน อดตี แลว ภวังคจิตก็เกิดตอไป ๒. สมูหคั คหณวถิ ี ตอแตน้นั มโนทวารวิถกี ็เกิดข้นึ รวบรวมทกุ ๆ สวนของรปู ารมณท เ่ี ปนอดีตเปน ไปดงั นค้ี อื ภวงั คจลนะ, ภวงั คปุ จ เฉทะ, มโนทวาราวัชชนะ, ชวนะ ๗ ครัง้ ตทารมั มณะ ๒ ครั้ง ภวังคต อ ไปในอติวภิ ตู ารมณ สวนในวิภตู ารมณนนั้ การเกิดขนึ้ แหงตทารมั มณะยอมไมม ี ๓. อตั ถคั คหณวิถี เม่ือสมูหัคคหณวถิ เี กดิ ขน้ึ รวบรวมอดตี รปู ารมณห ลาย ๆ รอบจนเรยี บรอยแลว ในลาํ ดับ นั้นมโนทวารวถิ ที ่มี ีหนา ท่รี บั รปู รางสณั ฐาน ซ่ึงเปนทตี่ ง้ั ของรปู ารมณ อนั เปน อัตถบัญญัตเิ กิดขึ้น เปน ไปในทาํ นอง เดียวกันกบั สมหู ัคคหณวถิ ีทุกประการ เวน ไวแตตทารมั มณจติ ไมเ กดิ เทา นั้นทั้งนก้ี เ็ พราะวา มโนทวารวถิ ีน้มี อี ตั ถ บัญญัตเิ ปน อารมณ ๔. นามคั คหณวิถี เม่อื อัตถคั คหณวถิ เี กิดข้นึ รับรูปรา งสณั ฐานซึ่งเปนที่ตง้ั ของรปู ารมณอ นั เปนอัตถบญั ญัติ หลาย ๆ รอบจนเรยี บรอ ยแลว มโนทวารวถิ ที ่รี บั ชอ่ื ของรปู รา งสัณฐานน้ัน ๆ ตามโวหารของชาวโลกใชกลา วขาน เรยี กรอ งกนั เกดิ ขึ้นหลาย ๆ รอบ ความเปน ไปแหง วถิ เี หลา นก้ี ็คงเปน ไปในทาํ นองเดียวกนั กบั อตั ถัคคหณวถิ ีทกุ ประการ เพราะมบี ญั ญตั เิ ปน อารมณเ ชนเดยี วกนั ๓. จงยกบุคคลและภมู ิ ซึง่ เปนท่เี กิดของ วภิ ูตารมณวิถี ท่ีไมม อี าคนั ตกุ ภวังคแ ละ มีอาคนั ตกุ ภวังค ? 36, 43 ตอบ บุคคลและภูมซิ ง่ึ เปน ท่เี กดิ ของวิภูตารมณวถิ ี ทไ่ี มม ีอาคันตุกภวงั ค และมีอาคนั กุกภวงั ค ดงั นี้ วภิ ูตารมณวิถี ทมี่ ีอตตี ภวงั ค ๑ - ๗ ไมมอี าศัยอาคนั ตกุ ภวังค เกดิ ไดใ นบคุ คล ๘ ทีใ่ นปญจโวการภูมิ วภิ ตู ารมณวิถี ทไ่ี มมีอตตี ภวงั ค และไมมอี าคนั ตุกภวงั ค ๑ วถิ ี เกิดไดใ นบคุ คล ๘ ที่ในจตโุ วการภมู ิ ปญ จโวการภมู ิ วภิ ูตารมณว ิถี ที่มอี ตตี ภวังค ๑ - ๗ มอี าคนั ตุกภวงั ค ๑ วถิ ี เกิดไดในบุคคล ๔ ที่ในกามสคุ ติภูมิ ๗ (เวน ทุคคติ, ดาวนโหลดขอมลู ท่ี ขอความเพิม่ เตมิ ที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถีสงั คหะ, ภูมจิ ตุกกะ, ปฏิสนธิจตกุ กะ 15 วิภตู ารมณว ถิ ี ทไี่ มมอี ตีตภวงั ค แตม อี าคนั ตกุ ภวังค ๑ วถิ ี สุคตอิ เหตกุ บุคคล, พระอนาคาม,ี พระอรหนั ต) เกิดไดใ นบคุ คล ๔ ที่ในกามสุคตภิ มู ิ ๗ (เวน ทคุ คติ, สุคคตอิ เหตุกบุคคล, พระอนาคามี, พระอรหนั ต) ๓. จงแสดงภาพของ กามชวนสทุ ธมโนทวาร อติวิภูตารมณว ถิ ี ที่เกิดในสุทธาวาสภูมิ ขณะรบั พระนิพพานเปน อารมณ และจาํ แนกโดยบุคคล ภมู ิ องคธรรมปรมตั ถ อารมณ และวัตถุ มาใหถ ูกตอ ง ? 55 ตอบ ภ น ท ม ช ช ช ช ช ช ช ภ ภ ภ ภ ๑๑ ๘ ๑ วาโดยบคุ คล เกดิ ขนึ้ แก พระอนาคามบี ุคคล ๑ และพระอรหันตบุคคล ๑ วา โดยภูมิ เกดิ ไดใ น สุทธาวาสภูมิ ๕ วาโดยองคธ รรมปรมตั ถ ภวงั คแ รกและภวงั คห ลงั ไดแก รูปาวจรปญ จมฌานวิปากจิต ๑ สวนวถิ จี ิตเหลา นนั้ ไดแ ก มโนทวาราวชั ชนจติ ๑ มหากศุ ลญาณสมั ปยตุ ตจิต ๔ มหากรยิ าญาณสมั ปยุตตจติ ๔ วาโดยอารมณ ภวงั คแ รกและภวงั คหลงั มบี ัญญตั กิ รรมนมิ ติ ธรรมารมณอ ันเน่อื งดว ยกรรมฐาน ๑๒ คือ กสิณบญั ญัติ ๑๐ อานาปานบญั ญตั ิ ๑ หรอื มัชฌตั ตสัตวบญั ญตั ิ ๑ ทีไ่ ดร บั มาจากมโน ทวาริกมรณาสันนชวนะในภพกอนเมอ่ื ใกลจะตาย เปน อารมณ สาํ หรบั วถิ ีจิตทั้งหมดที่อยใู นวิถีนี้มีพระนิพพาน ที่เปนกาลวมิ ตุ ติ เปนอารมณ วาโดยวตั ถุ ภวงั คแ รก ภวงั คห ลงั และวิถจี ติ ทง้ั หมด อาศยั หทยวตั ถุเกดิ ขอ ๔ (ท่ีเคยออกสอบ ปนน้ี าจะออกขอ ไหน?) ๔. ก. สุบนิ วถิ ี มีกีป่ ระเภท ? คืออะไรบา ง ? 58 ตอบ ก. สุบนิ วถิ ีมี ๑๒ ประเภท คอื ๑. อตวิ ภิ ตู ารมณว ถิ ี ตทารัมมณวาระ ทไ่ี มม ีอตตี ภวงั ค ๒. อตวิ ิภตู ารมณว ถิ ี ชวนวาระ ที่ไมมอี ตตี ภวงั ค และไมมอี าคนั ตกุ ภวงั ค ๓. อติวิภตู ารมณว ิถี ชวนวาระ ทไ่ี มม อี ตีตภวงั ค แต มีอาคนั ตกุ ภวงั ค ๔. วภิ ตู ารมณวถิ ี ชวนวาระ ท่ีไมมอี ตีตภวงั ค และไมม ีอาคันตกุ ภวงั ค ๕. วภิ ตู ารมณว ถิ ี ชวนวาระ ทไ่ี มม อี ตีตภวงั ค แต มอี าคนั ตกุ ภวังค ๖. อวภิ ูตารมณวิถี โวฏฐพั พนวาระ ๗. อตอิ วภิ ตู ารมณวิถี โมฆวาระ ๘. อติวิภตู ารมณวิถี ตทารัมมณวาระ ท่มี อี ตตี ภวงั ค ๙. อตวิ ิภตู ารมณว ิถี ชวนวาระ ทมี่ อี ตตี ภวังค แต ไมมอี าคนั ตุกภวังค ๑๐. อตวิ ิภูตารมณว ิถี ชวนวาระ ท่มี ีอตตี ภวงั ค และมอี าคนั ตกุ ภวังค ๑๑. วภิ ูตารมณว ถิ ี ชวนวาระ ทมี่ ีอตตี ภวังค แตไ มมีอาคันตกุ ภวงั ค ๑๒. วิภูตารมณวิถี ชวนวาระ ทม่ี อี ตีตภวงั ค และ มอี าคนั ตกุ ภวงั ค ๔. ข. อัปปนาชวนมโนทวารวถิ ี มีกวี่ ถิ ี? คอื อะไรบาง ? 45, 52(3ข), 55, 57(4ก), 59(3ค) ตอบ ก./ข. อปั ปนาชวนมโนทวารวิถีมี ๗ วถิ ี คอื ๑. อาทิกมั มกิ ฌานวิถี ๒. ฌานสมาปตตวิ ถิ ี ๓. ปาทกฌานวถิ ี ๔. อภิญญาวถิ ี ๕. มัคควถิ ี ๖. ผลสมาปตตวิ ถิ ี ๗. นิโรธสมาปตตวิ ถิ ี ๓. อปั ปนาชวนะมโนทวารวิถี มกี ี่วิถี คอื อะไรบา ง? วสิ ยัปปวัตติและวาระของวิถเี หลานี้ มีอะไรบา ง ? 44, 53 เมือ่ วาโดยวิสยัปปวตั ติแลว มีกอี่ ยาง? และจดั เปนวาระอะไร ? 58(4ข) ตอบ (ข.) อปั ปนาชวนะมโนทวารวถิ ี มี ๗ วิถี คอื ดาวนโหลดขอ มูลที่ ขอความเพ่ิมเติมท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ ีสังคหะ, ภูมจิ ตุกกะ, ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ 16 ๑. อาทิกมั มิกฌานวิถี ฌานท่ีเกดิ ขึ้นครง้ั แรก ๒. ฌานสมาปตติวถิ ี การเสวยความสุขในฌาน ๓. ปาทกฌานวถิ ี ฌานท่เี ปน บาทของอภิญญา เปนชือ่ ของรูปปญจมฌานโดยเฉพาะ ๔. อภญิ ญาวถิ ี จติ พเิ ศษท่เี กย่ี วกบั การแสดงอิทธฤิ ทธิ์ตา ง ๆ ๕. มัคควิถี ทาํ หนา ท่ีประหาณกิเลสตามมรรคนนั้ ๆ ๖. ผลสมาปตติวิถี การเสวยวิมุตติสุขในพระนิพพาน ๗. นิโรธสมาปตติวิถี การดับเวทนา สัญญา (จติ เจตสิก และจิตตชรูปดับ) (53, 58) วิสยปั ปวัติของวถิ เี หลานม้ี ี ๑ คอื อติวภิ ตู ารมณ (ตามนัยอรรถกถาและฎกี า) หรอื วิภตู ารมณ (ตามนัยอภธิ มั มตั ถสังคหะ) สวนวาระของวถิ ีเหลา นม้ี ี ๑ คอื ชวนวาระ ๔. ก. จงบอกจํานวนและองคธรรมของชวนะท่เี กิดข้นึ ๑ ขณะ, ๒ ขณะมาพรอมท้ังชี้วถิ ใี หเ หน็ ดว ย ? 49, 61(3) ตอบ ก. ชวนจิตทีเ่ กิดขน้ึ ๑ ขณะมี ๒๖ ดวง คอื มหคั คตกศุ ลจติ ๙ มหัคคตกิรยิ าจติ ๙ ในอาทิกมั มิกฌานวถิ ี, มรรคจติ ๔ ในมคั ควิถ,ี อภญิ ญาจติ ๒ ในอภญิ ญาวถิ ,ี อนาคามผิ ลจิต ๑ อรหัตตผลจิต ๑ ในขณะทอี่ อกจากนิโรธ สมาปต ตวิ ิถี ชวนจิตทีเ่ กดิ ข้นึ ๒ ขณะ มี ๖ ดวงคือ ผลจิต ๔ ของมนั ทบคุ คลในมคั ควถิ ,ี เนวสญั ญานาสญั ญายตน กุศลจติ ๑ และกริ ยิ าจิต ๑ ในขณะทจ่ี ะเขา นิโรธสมาบัติ ๔. ข. จงแสดงอัปปนาชวนที่เกิดตอจากมหากุศลญาณสมั ปยุตตโ สมนสั ชวนะ ๒, มหากุศลญาณสมั ปยตุ ต- อุเบกขาชวนะ ๒ พรอ มทง้ั ยกหลักฐานบาลีมาแสดงใหเห็นดวย (ไมตองแปล) ? 49 ตอบ ข. อัปปนาชวนท่ีเกดิ ตอจากมหากศุ ลญาณสมั ปยตุ ตโสมนัสชวน ๒ มี ๓๒ ดวง คือ มหัคคตกศุ ลโสมนสั ๔ มคั คโสมนสั ๑๖ ผลเบ้ืองตาํ่ โสมนสั ๑๒ อัปปนาชวนท่ีเกดิ ตอ จากมหากุศลญาณสัมปยุตตอเุ บกขาชวน ๒ มี ๑๒ ดวง คือ มหัคคตกศุ ลอเุ บกขา ๕ มัคคอเุ บกขา ๔ ผลเบอ้ื งตา่ํ อเุ บกขา ๓ ดงั มบี าลหี ลักฐานแสดงวา ทวตตฺ สึ สุขปุ ฺ มฺหา ทวาทโสเปกฺขกา ปรํ ๔. ข. จงแสดงอปั ปนาชวนะ ทีเ่ กดิ ตอจากมหากศุ ลญาณสมั ปยุตโสมนัส ๒ และมหากริ ิยาญาณสัมปยตุ โสมนัส ๒ ? 43 ตอบ ข. อัปปนาชวนะทเี่ กิดตอจากมหากศุ ลญาณสัมปยตุ โสมนสั ๒ มี ๓๒ คือ โสมนัสรปู กุศล ๔ โสมนัสมัคค ๑๖ และ โสมนสั ผลเบอื้ งตา่ํ ๑๒ และทเ่ี กดิ ตอจากมหากิริยาญาณสมั ปยตุ โสมนัส ๒ มี ๘ คือ โสมนสั สรูปกริ ยิ า ๔ และ โสมนสั อรหตั ตผล ๔ ๔. ก. กามชวนะกบั อปั ปนาชวนะ เกดิ ขน้ึ ในวิถีเดยี วกันน้ันมหี รือไม ถามี เกิดขึ้นไดในวถิ ีอะไรบา ง ? 43, 50, 61(3ข) ตอบ ก. กามชวนะกับอปั ปนาชวนะ เกิดขึน้ ในวถิ เี ดียวกนั น้ัน มี คือ อาทกิ มั มกิ ฌานวถิ ,ี สมาปช ชนวถิ ี, (ฌานสมาปตติวถิ )ี อภญิ ญาวถิ ี มคั ควิถี, ผลสมาบัตวิ ิถี, นโิ รธสมาบัตวิ ิถี (ตอบ ปาทฌานวถิ ีดว ยกไ็ ด) ๔. จงแสดงการเกิดขึน้ ของ อาทิกมั มิกฌานวถิ ี ของมนั ทบุคคลมาโดยลําดบั ? 47, 48 ตอบ แสดงการเกิดข้นึ ของ อาทิกัมมิกฌานวิถี ของมันทบคุ คลมดี ังนี้ คอื พระโยคบี ุคคลเจรญิ กรรมฐาน ๓๐ มปี ถวกี สิณเปนตน เมอ่ื ใกลจะไดฌ านน้ัน บัญญัติปฏภิ าคนมิ ติ อยา งใด อยางหนึ่งในจํานวน ๓๐ ที่ตนไดใชเจรญิ มาน้ัน ไดป รากฏข้ึนทางมโนทวาร ฉะนัน้ ภวงั คจิตจงึ เกดิ ขึ้น ๒ ขณะชือ่ วา ภวงั คจลนะ, ภวังคปุ จ เฉทะ, แลวก็ดับไป ตอ แตน ้ันมโนทวาราวชั ชน จิตก็เกิดขึ้นรบั บญั ญตั ิปฏภิ าคนมิ ิต ๑ ครง้ั แลว ก็ดบั ไป, ในลาํ ดับน้ันมหากุศลหรือมหากิรยิ าญาณสัมปยตุ ตชวนะดวง ใดดวงหนง่ึ เกิดขนึ้ รบั บัญญัตปิ ฏภิ าคนมิ ิต ๔ ขณะในฐานะที่เปน ปรกิ รรม, อปุ จาระ, อนโุ ลม, โคตตรภ,ู ทเ่ี รยี กวา อปุ จารสมาธิชวนะ แลว กด็ บั ไป, ตอ จากนน้ั ฌานกุศลหรือฌานกิริยา เกดิ ขนึ้ ๑ ครง้ั รบั บัญญตั ปิ ฏภิ าคนมิ ติ ที่ เรยี กวา อปั ปนาสมาธชิ วนะ ๑ คร้ังแลว ก็ดับลง ถัดจากนัน้ ภวังคจติ กเ็ กิดตอ ไป. หลังจากนัน้ มโนทวารวิถี ทม่ี ีมหากุศลชวนะหรือกริ ิยาชวนะ ยอ มเกิดขน้ึ ทาํ หนา ทเี่ ปน ปจจเวกขณะวถิ ี ดาวนโหลดขอมลู ท่ี ขอความเพ่มิ เติมที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถีสังคหะ, ภูมจิ ตุกกะ, ปฏสิ นธิจตุกกะ 17 กลา วคือพิจารณาองคฌ านมวี ติ กเปน ตน เกดิ ขึ้นหลายรอบตามสมควร. ๔. ก.จงแสดงเฉพาะภาพวิถีพรอ มองคธ รรมปรมตั ถประกอบใตภาพโดยไมตอ งจําแนกโดยภมู เิ ปน ตนของวถิ ี ดงั ตอ ไปน้ี ? 56 ๑) อาทกิ ัมมิกฌานวถิ ี ของมนั ทบุคคล ๒) ผลสมาบัติวิถี ของมันทบคุ คล ? 56 ตอบ ก. ๑) อาทกิ มั มกิ ฌานวิถี ของมันทบุคคล ภ น ท ม ปริ อุ นุ โค ฌ ภ ภ ภ ๑๓ ๑ ๘ ๑๘ ๑๓ ๒) ผลสมาบตั ิวถิ ี ของมันทบุคคล ภ น ท ม นุ นุ นุ นุ ผ ผลจิตเกดิ ดับเรือยไป ผ ภ ภ ภ ๑๓ ๑ ๔ ๔ หรอื ๒๐ ๑๓ ๓. จงแสดงภาพวิถปี ระกอบองคธรรม พรอมทง้ั จาํ แนกเฉพาะ บคุ คล ภูมิ และองคธรรมปรมัตถ เทา น้ัน มาใหถ กู ตอง ในวิถตี อไปนี้ ข. อภญิ ญาวถิ ี ของมันทบุคคล ? 51, 56 ตอบ ข. ภ น ท ม ปริ อุ นุ โค อภิ ภ ภ ภ ๙๑ ๔ ๒๙ วาโดยบคุ คล เกดิ ขึ้นแกบุคคล ๕ จาํ พวก คอื ติเหตุกปถุ ชุ น ๑ อริยผลบคุ คล ๔ วาโดยภมู ิ เกดิ ไดใน ๒๒ ภูมิ คือ กามสคุ ติภูมิ ๗ และรปู ภูมิ ๑๕ (เวน อสัญญสัตตภูมิ ๑) วาโดยองคธ รรมปรมตั ถ ภวังคแรกและภวงั คหลงั ไดแ ก ตเิ หตุกปญ จโวการภวงั คจิต ๙ สว นวิถีจติ เหลา นนั้ ไดแ ก มโนทวาราวัชชนจิต ๑ มหากุศลญาณสมั ปยุตตอเุ บกขา ๒ มหากริ ิยาญาณสัมปยตุ ต อุเบกขา ๒ และ รูปาวจรปญจมฌานกศุ ลอภญิ ญาจติ ๑ กรยิ าอภญิ ญาจิต ๑ ๔. ใหเขยี นภาพวถิ ี ของตกิ ขบคุ คล พรอ มจาํ แนก เฉพาะ(โดย)บุคคล และภมู ิ ในอปั ปนาชวนมโนทวารวถิ ีดงั ตอไปนี้ ? 42, 59 ก. โสดาปตติมคั ควิถี ข. โสดาปต ติผลสมาบตั วิ ถิ ี ค. อนาคามมิ ัคควิถี ง. อนาคามผิ ลสมาบัติวถิ ี ตอบ ก. ภาพวิถขี องโสดาปต ตมิ ัคควถิ ี ท่ีเปน ตกิ ขบคุ คล พรอ มจําแนก โดยบคุ คล และภูมิ ภ น ท ม อุ นุ โค มคั ผ ผ ผ ภ ภ ภ ๙๑๔ ๑๑ ๙ วาโดยบคุ คล เกิดขนึ้ แก ติเหตุกปุถุชน ๑ วาโดยภมู ิ เกิดไดใ น ๑๗ ภมู ิ คือ กามสคุ ตภิ ูมิ ๗ รปู ภมู ิ ๑๐ (เวนอสญั ญสตั ตภูมิ ๑ สุทธาวาสภมู ิ ๕) ข. ภาพวถิ ีของโสดาปตตผิ ลสมาบัตวิ ถิ ี ท่เี ปนติกขบุคคล พรอมจาํ แนก โดยบุคคล และภมู ิ ภ น ท ม นุ นุ นุ ผ ผลจิตเกิดดบั เรือยไป ผ ภ ภ ภ ๑๓ ๑ ๔ ๑ หรือ ๕ ๑๓ วาโดยบคุ คล เกิดขึ้นแก โสดาปต ตผิ ลบุคคล ๑ วา โดยภูมิ เกดิ ไดใ น ๒๑ ภมู ิ คอื กามสุคติภมู ิ ๗ รูปภมู ิ ๑๐ (เวนอสัญญสตั ตภูมิ ๑ สทุ ธาวาสภมู ิ ๕) และอรปู ภูมิ ๔ ค. ภาพวิถขี องอนาคามิมัคควถิ ี ที่เปนตกิ ขบคุ คล พรอมจาํ แนก โดยบคุ คล และภมู ิ ภ น ท ม อุ นุ โค มคั ผ ผ ผ ภ ภ ภ ๑๓ ๑ ๔ ๑ ๑ ๑๓ ดาวนโหลดขอ มลู ท่ี ขอความเพิ่มเติมท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่แี ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถสี ังคหะ, ภมู จิ ตุกกะ, ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ 18 วา โดยบุคคล เกิดข้นึ แก สกทาคามผี ลบุคคล ๑ วาโดยภมู ิ เกิดไดใ น ๒๑ ภมู ิ คือ กามสุคตภิ ูมิ ๗ รปู ภูมิ ๑๐ (เวนอสัญญสตั ตภมู ิ ๑ สทุ ธาวาสภมู ิ ๕) และอรูปภมู ิ ๔ ง. ภาพวิถขี องอนาคามผิ ลสมาบัตวิ ิถี ทเ่ี ปน ตกิ ขบุคคล พรอ มจาํ แนก โดยบคุ คล และภมู ิ ภ น ท ม นุ นุ นุ ผ ผลจิตเกิดดับเรือยไป ผ ภ ภ ภ ๑๓ ๑ ๔ ๑ หรือ ๕ ๑๓ วาโดยบุคคล เกดิ ข้ึนแก อนาคามผิ ลบุคคล ๑ วา โดยภมู ิ เกดิ ไดใน ๒๖ ภมู ิ คอื กามสคุ ตภิ ูมิ ๗ รูปภูมิ ๑๕ (เวนอสัญญสตั ตภมู ิ ๑) และอรปู ภูมิ ๔ ๔. จงแสดงภาพโสดาปต ติมัคควถิ ี (ของมันทบุคคล) พรอมทัง้ จําแนกมา โดยบุคคล ภูมิ เปน ตน มาใหถ กู ตอ งตามหลกั ? 41, 54 ตอบ แสดงภาพโสดาปต ตมิ คั ควิถี พรอมทง้ั จาํ แนกโดยบคุ คลภมู ิเปน ตน ดงั นี้ ภ น ท ม ปริ อุ นุ โค ม ผ ผ ภ ภ ภ ๙๑ ๔ ๑๑ ๙ วา โดยบคุ คล เกดิ ขึน้ แก ตเิ หตกุ ปุถุชน วา โดยภมู ิ เกิดไดใ น ๑๗ ภมู ิ คอื กามสคุ ติภูมิ ๗ และ รปู ภูมิ ๑๐ (เวนอสัญญสตั ตภมู ิ ๑ และสุทธาวาสภูมิ ๕) วา โดยองคธ รรมปรมตั ถ ภวังคแ รกและภวงั คห ลงั ไดแ ก ตเิ หตกุ ปญ จโวการภวงั คจิต ๙ สว นวถิ ีจิตเหลา นน้ั ไดแ ก มโนทวาราวชั ชนจิต ๑ มหากศุ ลญาณสมั ปยตุ ตจติ ๔ โสดาปตติมคั คจิต ๑ หรือ ๕ โสดาปต ติผลจติ ๑ หรอื ๕ วา โดยอารมณ ภวังคแ รกและภวงั คห ลงั © ทเ่ี ปน กามตเิ หตกุ ภวงั คจิต ๔ มอี ารมณ ๖ ท่เี รยี กวา กรรมอารมณ กรรมนิมิตอารมณ หรือคตินมิ ติ อารมณ ท่ไี ดร บั มาจากฉทวาริกมรณาสนั นชวนะในภพกอน เม่ือใกล จะตายเปน อารมณ © สว นท่ีเปน รูปภวงั คจิต ๕ มบี ญั ญตั กิ รรมนมิ ติ ธรรมารมณอนั เนอื่ งดวย กรรมฐาน ๒๖ คอื กสิณบญั ญตั ิ ๑๐ อสุภบญั ญตั ิ ๑๐ โกฎฐาสบัญญตั ิ ๑ อานาปานบัญญตั ิ ๑ หรอื สัตวบัญญตั ิ ๔ ไดร ับมาจากมโนทวารกิ มรณาสนั นชวนะในภพกอนเมื่อใกลจ ะตายเปน อารมณ สาํ หรบั วิถีจิตท้ังหมดทีอ่ ยูใ นวิถีนี้ มโนทวาราวชั ชนจติ ๑ มหากุศลญาณสัมปยตุ ตจิต ๔ © ในขณะทําหนาที่ปริกรรม อปุ จาร และ อนุโลม มพี ระไตรลักษณแ หง รปู นามเปนอารมณ © สวนในขณะทําหนา ทีโ่ คตรภู และโสดาปตติมัคคจติ ๑ หรอื ๕ โสดาปต ตผิ ลจิต ๑ หรอื ๕ มีพระนิพานเปน อารมณ วา โดยวตั ถุ ภวังคแ รก ภวงั คห ลงั และวถิ จี ิตท้ังหมด อาศยั หทัยวตั ถุเกดิ ๓. จงแสดงภาพ อตวิ ภิ ตู ารมณวิถี ชวนวาระ ในขณะที่พิจารณา โสดาปต ตมิ รรคเปนอารมณ (ปจจเวกขณะวิธี) พรอ มทง้ั จําแนก โดยบคุ คล ภูมิ องคธรรมปรมัตถ อารมณ และวัตถุ มาโดยละเอียด ? 47 ตอบ แสดงภาพ อตวิ ิภูตารมณวิถี ชวนวาระ ในขณะทพ่ี ิจารณาโสดาปตติมรรคเปนอารมณ พรอ มทั้งจาํ แนกโดยบคุ คลเปนตนดงั นี้ ภนทมชชชชชชชภภภ ๙๑ ๔ ๙ วา โดยบคุ คล เกดิ ข้นึ แก โสดาปต ตผิ ลบุคคล ๑ วาโดยภมู ิ เกิดไดใ น ๑๗ ภูมิ คือกามสคุ ตภิ มู ิ ๗ รูปภมู ิ ๑๐ (เวน อสญั ญสตั ตภูมิ ๑ สทุ ธาวาสภูมิ ๕) วาโดยองคธรรมปรมัตถ ภวงั คแรกและภวงั คหลงั ไดแ ก กามตเิ หตุกภวงั คจิต ๔ รปู ภวงั คจติ ๕ สวนวถิ ีจิตเหลา นนั้ ไดแก มโนทวาราวัชชนจิต ๑ มหากุศลญาณสมั ปยตุ ตจติ ๔ วา โดยอารมณ ภวังคแ รกและภวงั คห ลงั ที่เปน กามตเิ หตกุ ภวงั คจิต ๔ มอี ารมณ ๖ ที่เรียกวา กรรมอารมณ ดาวนโหลดขอ มลู ท่ี ขอความเพิ่มเตมิ ท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ ีสงั คหะ, ภูมิจตุกกะ, ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ 19 วา โดยวัตถุ กรรมนมิ ิตอารมณ หรอื คตินมิ ิตอารมณท ไ่ี ดร ับมาจากฉทวารกิ มรณาสนั นชวนะในภพกอ น เมื่อใกลจ ะตายเปนอารมณ สว นท่เี ปนรปู ภวังคจิต ๕ มบี ัญญตั กิ รรมนิมิตธรรมารมณอนั เนอ่ื งดว ยกรรมฐาน ๒๖ คือ กสิณบญั ญัติ ๑๐ อสภุ บญั ญัติ ๑๐ โกฏฐาสบัญญัติ ๑ อานาปานบญั ญตั ิ ๑ สัตวบัญญตั ิ ๔ ทไี่ ดร ับมาจากมโนทวารกิ มรณาสันนชวนะในภพกอ น เม่ือใกลจ ะตายเปน อารมณ สาํ หรับวถิ จี ิตทั้งหมดทอ่ี ยูใ นวถิ นี ี้ มีอตอิ ิฏฐธรรมารมณ คอื โสดาปตติมรรคจิตเปน อารมณ ภวังคแ รก ภวังคหลงั และวิถจี ติ ทง้ั หมด อาศยั หทัยวตั ถเุ กดิ ๕. ก. ในโสดาปตตมิ ัคควิถีน้นั ถาจะจาํ แนกบุคคลโดยบคุ คล ๑๒ แลว จะไดบคุ คลเทา ไร ? คือใครบาง ? และวิถนี เ้ี กดิ ไดกภี่ มู ิ ? คือภูมิอะไรบาง ? 50, 61(4ก) ข. กามชวนะกับอปั ปนาชวนะเกิดข้นึ ในวถิ เี ดยี วกันมีหรือไม ? ถา มไี ดแ กวิถใี ดบาง ? 43, 50 ค. บุคคลทเ่ี ขา นิโรธสมาบตั ไิ ดนน้ั มใี ครบาง ? จะตองมีคุณวเิ ศษอะไรจึงจะเขา นโิ รธสมาบตั ไิ ด และนิโรธสมาบตั วิ ิถีนั้นเกิดไดกี่ภมู ิ ? คอื ภูมอิ ะไรบา ง ? 50, 61(4ข) ง. การจาํ แนกอารมณว า เปนอตอิ ิฏฐะ, อิฏฐมัชฌตั ตะ, หรืออนิฏฐะนั้น อาศยั เครอื่ งจาํ แนกกอ่ี ยา ง? อะไรบาง? 50 ตอบ ก. ในโสดาปตติมัคควถิ นี ั้น ถา จะจําแนกบุคคลโดยบุคคล ๑๒ แลวจะไดบ คุ คล ๓ คือ ๑. ตเิ หตกุ ปถุ ุชน ๑ ๒. โสดาปต ติมรรคบุคคล ๑ ๓. โสดาปต ตผิ ลบคุ คล ๑ และวถิ ีนีเ้ กดิ ได ๑๗ ภูมิ คอื กามสุคตภิ มู ิ ๗ รูปภมู ิ ๑๐ (เวน สทุ ธาวาสภมู ิ ๕ อสญั ญสตั ตภมู ิ ๑) ข. กามชวนะกบั อัปปนาชวนะเกิดขน้ึ ในวถิ เี ดียวกันมี และท่ีเกดิ ขนึ้ ในวถิ ีเดยี วกันได คอื อาทกิ ัมมิกฌานวิถ,ี ฌานสมาบัตวิ ถิ ี, ปาทกฌานวถิ ,ี อภิญญาวิถี, มคั ควิถ,ี ผลสมาบตั วิ ถิ ี และ นิโรธสมาบัตวิ ถิ ี ค. บคุ คลทเ่ี ขานโิ รธสมาบตั ไิ ดน้นั มี ๒ คน คือ พระอนาคามบี ุคคล และ พระอรหันตบคุ คล จะตอ งมีคุณ วเิ ศษ คอื ตอ งไดฌ านสมาบัติ ๘ หรือ ๙ คือ ตองไดร ปู ฌาน ๔หรือ๕ และ จะตอ งไดอรปู ฌานถงึ เนวสัญญานา- สัญญายตนฌาน จึงจะเขานโิ รธสมาบตั ไิ ด และนโิ รธสมาบตั วิ ถิ นี ั้นเกดิ ได ๒๒ ภมู ิ คอื กามสคุ ตภิ มู ิ ๗ รปู ภูมิ ๑๕ (เวนอสัญญสตั ตภมู )ิ ง. การจาํ แนกอารมณว า เปน อติอิฏฐะ, อิฏฐมชั ฌตั ตะ, หรอื อนิฏฐะนนั้ อาศยั เคร่อื งจาํ แนก ๕ อยา ง คือ ๑) มัชฌัตตบคุ คล คอื บุคคลช้ันกลาง ๒) วิปากจิต ๓) ทวาร ๔) อารมณ ๕) กาล ๔. ค. ใหแสดงบุคคล ภูมิ องคธ รรมปรมตั ถ และวตั ถอุ นั เปน ท่เี กดิ ของปรินพิ พานวถิ ธี รรมดา ที่เปนชวนะจุติ? 43 ตอบ ค. บคุ คล ภมู ิ องคธ รรมปรมัตถและวตั ถอุ ันเปนท่เี กดิ ของปรินิพพานวิถธี รรมดาท่ีเปนชวนะจุติน้ัน ดังนี้ เกิดข้นึ แกพระอรหนั ตบุคคล เกดิ ไดใน ๒๖ ภมู ิ คือ กามสคุ ติภมู ิ ๗ รปู ภูมิ ๑๕ (เวน อสญั ญสตั ตภมู )ิ และอรูปภมู ิ ๔ องคธรรมปรมัตถ ภวงั คแรกและจุตจิ ิต ไดแ ก ติเหตกุ ภวังคจติ ๑๓ สว นวถิ จี ิตนั้นไดแก มโนทวาราวัชชนจติ ๑ และกามกิริยาชวนจิต ๙ วัตถุ ภวังคแ รก จุตจิ ติ และวถิ ีจิตทงั้ หมด ถา เกดิ ในปญ จโวการภมู ิ ๒๒ (เวน อบายภมู ิ ๔) อาศยั หทยวตั ถเุ กิด ถาเกิดในจตโุ วการภูมิ ๔ กไ็ มตอ งอาศัยหทยวตั ถุเกดิ ๔. ข. ปรนิ ิพพานวถิ พี เิ ศษ มีกี่ชนดิ คืออะไรบาง ? จงแสดงพรอ มดว ยความหมาย ? 36, 50, 53, 56, 59(7ข) ตอบ ข. ปรินพิ พานวถิ พี เิ ศษ มี ๔ ชนิด คือ ๑. ฌานสมนนั ตรวถิ ี คือ ปรินิพพานจตุ ขิ องพระอรหันต ทเี่ กดิ ขึ้นตอจากฌานสมาบัติวิถี โดยไมมีวถิ จี ติ อน่ื ๆ มาค่นั ๒. ปจจเวกขณสมนนั ตรวถิ ี คอื ปรนิ ิพพานจตุ ิของพระอรหันต ทเี่ กิดข้ึนตอ จากการพจิ ารณาองคฌาน โดยไมม ีวถิ จี ิตอ่นื ๆ มาคนั่ ๓. อภิญญาสมนนั ตรวถิ ี คือ ปรินพิ พานจุตขิ องพระอรหนั ต ที่เกดิ ขนึ้ ตอจากอภญิ ญาจิตทีเ่ กีย่ วกับการ ดาวนโหลดขอมลู ท่ี ขอความเพิม่ เติมที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถสี งั คหะ, ภมู จิ ตกุ กะ, ปฏสิ นธิจตกุ กะ 20 ๔. ชีวติ สมสสี วี ถิ ี แสดงอทิ ธวิ ิธอภญิ ญาเทา นน้ั โดยไมม ีวถิ ีจติ อ่ืน ๆ มาคนั่ คือ ปรนิ พิ พานจตุ ขิ องพระอรหนั ต ท่ีเกดิ ข้นึ ตอจากการพจิ ารณา มรรค ผล นพิ พาน และกเิ ลสทไ่ี ดประหาณไปแลว โดยไมมวี ถิ จี ิตอนื่ ๆ มาค่ัน ๔. จงแสดงคาถาสงั คหะท่แี สดงถงึ จาํ นวนอัปปนาชวนะทเี่ กดิ ตอ จากมหากุศล และมหากิริยาชวนะ วา โดยธรรมาธิษฐาน ทั้งบาลีและคาํ แปล ? 53 ตอบ แสดงคาถาสงั คหะท่ีแสดงถงึ จาํ นวนอปั ปนาชวนะทเ่ี กิดตอ จากมหากุศล และมหากิริยาชวนะ วาโดยธรรมาธษิ ฐาน ดงั ตอ ไปนี้ ทวฺ ตฺตึส สุขปุ ฺ มฺหา ทวฺ าทโสเปกขฺ กา ปรํ สุขติ กรฺ ยิ โต อฏ ฉ สมโฺ ภนตฺ ิ อุเปกฺขกา ฯ แปลความวา หลงั จากทม่ี หากุศลญาณสัมปยตุ ตโสมนสั ชวนะ ๒ ดวง ดับลงแลว อัปปนาชวนะ ๓๒ ดวง (คอื มหัคคตกุศลโสมนสั ๔ มคั คโสมนัส ๑๖ ผลเบือ้ งตํ่าโสมนสั ๑๒) ยอมเกดิ ขน้ึ , หลงั จาก ทมี่ หากศุ ลญาณสัมปยุตตอเุ บกขาชวนะ ๒ ดวง ดบั ลงแลว อัปปนาชวนะ ๑๒ ดวง (คอื มหคั คตกศุ ลอุเบกขา ๕ มัคคอเุ บกขา ๔ ผลเบอื้ งต่ําอเุ บกขา ๓) ยอ มเกดิ ข้นึ หลงั จากท่ี มหากริยาญาณสัมปยุตตโสมนสั ชวนะ ๒ ดวง ดบั ลงแลว อปั ปนาชวนะ ๘ ดวง (คอื มหคั คตกริยาโสมนสั ๔ อรหัตตผลโสมนัส ๔) ยอมเกิดขน้ึ , หลังจากที่ มหากรยิ าญาณ สัมปยุตตอเุ บกขาชวนะ ๒ ดวง ดบั ลงแลว อปั ปนาชวนะ ๖ ดวง (คอื มหคั คตกรยิ าอุเบกขา ๕ อรหัตตผลอุเบกขา ๑ ) ยอ มเกดิ ขน้ึ ๔. ข. จงแปลคาถาสงั คหะท่ีแสดงถงึ จาํ นวนอปั ปนาชวนะ ท่ีเกดิ ตอจากมหากุศลและมหากิริยาชวนะ วา โดยธรรมาธิษฐาน ดังตอไปน้ี ? 36, 52(3ก), 55, 57 ทฺวตฺตสึ สุขปุ ฺ มฺหา ทฺวาทโสเปกฺขกา ปรํ สขุ ติ กฺริยาโต อฏ ฉ สมโฺ ภนตฺ ิ อเุ ปกขฺ กา ฯ ตอบ ข. แปลคาถาดงั น้ี หลงั จากทม่ี หากศุ ลญาณสมั ปยตุ ตโสมนสั ชวนะ ๒ ดวง ดับลงแลว อัปปนาชวนะ ๓๒ ดวง (คอื มหัคคตกุศลโสมนสั ๔ มัคคโสมนสั ๑๖ ผลเบือ้ งตา่ํ โสมนสั ๑๒) ยอ มเกิดขึน้ หลังจากที่มหากุศลญาณสัมปยุตตอุเบกขาชวนะ ๒ ดบั ลงแลว อัปปนาชวนะ ๑๒ ดวง คอื มหัคคตกุศลอุเบกขา ๕ มัคคอเุ บกขา ๔ ผลเบอื้ งตํา่ อเุ บกขา ๓) ยอมเกิดขนึ้ หลังจากที่มหากริ ยิ าญาณสัมปยตุ ตโสมนสั ชวนะ ๒ ดวง ดงั ลงแลว อัปปนาชวนะ ๘ ดวง (คอื มหคั คตกริ ิยาโสมนสั ๔ อรหตั ตผลโสมนัส ๔) ยอมเกดิ ขึ้น หลงั จากท่ีมหากริ ยิ าญาณสมั ปยตุ ตอเุ บกขาชวนะ ๒ ดวงดบั ลงแลว อปั ปนาชวนะ ๖ ดวง คือ มหคั คตกริ ิยาอุเบกขา ๕ อรหตั ตผลอเุ บกขา ๑) ยอ มเกดิ ข้นึ ๔. ข. ในบรรดาอปั ปนาชวนมโนทวารวถิ เี หลา นน้ั กามชวนะกับอัปปนาชวนะที่มเี วทนาตางกนั มหี รือไม และกามชวนะกับอัปปนาชวนะทมี่ ีชาตติ า งกันมหี รือไมใ หอธบิ ายดว ย ? 45, 51, 58(3ก), 60(ก) ตอบ ข. ในบรรดาอปั ปนาชวนมโนทวารวิถีเหลา นน้ั กามชวนะกับอปั ปนาชวนะทม่ี เี วทนาตา งกนั ไมมี และกามชวนะกับอัปปนาชวนะทมี่ ีชาตติ างกันมี ๑ วิถี ไดแ ก ผลสมาปต ตวิ ิถี อธิบายวา หลังจากกามชวนะ คอื มหากุศลญาณสัมปยตุ ตชวนะ ๔ ดวง อนั เปน กศุ ลชาติดบั ลงแลว อัปปนาชวนะ คือ ผลเบื้องตาํ่ ๑๕ ดวง อันเปนวิปากชาตยิ อ มเกิดข้ึน หลงั จากกามชวนะ คอื มหากริ ิยาญาณสมั ปยตุ ตชวนะ ๔ ดวง อันเปนกริ ิยาชาติดบั ลงแลว อปั ปนาชวนะ คอื อรหตั ตผล ๕ ดวง อนั เปน วปิ ากชาติยอมเกดิ ข้ึน ดาวนโ หลดขอมูลที่ ขอความเพม่ิ เตมิ ท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถีสังคหะ, ภูมิจตุกกะ, ปฏิสนธิจตกุ กะ 21 ขอ ๕ (ท่เี คยออกสอบ ปน้ีนา จะออกขอไหน?) ๔. จงแสดงภมู อิ ันเปนทเ่ี กิดของสตั วทง้ั หลายวามีเทาไร ? คอื อะไรบาง ? 45, 52 ๕. ภมู ิอนั เปน ท่เี วียนวา ยตายเกิดของสตั วท้งั หลายมีเทาไร คอื อะไรบาง ตอบ ภูมอิ นั เปนทเ่ี วยี นวายตายเกิดของสัตวทง้ั หลายมี ๓๑ ภมู ิ คือ ๑. นรกภูมิ ๒. ดิรจั ฉานภมู ิ ๓. เปรตภูมิ ๔. อสุรกายภมู ิ ๕. มนสุ สภูมิ ๖. จาตุมหาราชกิ าภมู ิ ๗. ตาวตงิ สาภมู ิ ๘. ยามาภูมิ ๙. ตุสิตาภมู ิ ๑๐.นมิ มานรตภี มู ิ ๑๑. ปรนิมมิตวสวตั ตภี มู ิ ๑๒.พรหมปาริสชั ชาภมู ิ ๑๓. พรหมปโุ รหิตาภูมิ ๑๔. มหาพรหมาภูมิ ๑๕.ปริตตาภาภมู ิ ๑๖. อัปปมาณาภาภมู ิ ๑๗. อาภสั สราภมู ิ ๑๘. ปริตตสภุ าภมู ิ ๑๙. อัปปมาณสภุ าภูมิ ๒๐. สภุ กณิ หาภมู ิ ๒๑. เวหัปผลาภูมิ ๒๒. อสญั ญสตั ตาภูมิ ๒๓. อวหิ าภมู ิ ๒๔. อตปั ปาภมู ิ ๒๕. สุทัสสาภูมิ ๒๖. สุทสั สภี มู ิ ๒๗. อกนิฏฐาภูมิ ๒๘. อากาสานัญจายตนภูมิ ๒๙. วิญญานัญจายตนภมู ิ ๓๐. อากญิ จญั ญายตนภูมิ ๓๑. เนวสญั ญานาสัญญายตนภมู ิ ๕. ก. ภมู อิ นั เปน ทเ่ี วียนวา ยตายเกิดของสตั วท ้ังหลายมีกี่ภูมิ ? 61 ข. กามสคุ ตภิ มู ิ มกี ่ภี ูมิ ? คอื อะไรบาง ? 61 ค. สทุ ธาวาสภูมิ มีกภี่ มู ิ ? คืออะไรบาง ? 61 ง. อรปู าวจรภูมิ มีก่ภี ูมิ ? คอื อะไรบาง ? 61 ตอบ ก. ภมู อิ นั เปน ทเี่ วียนวา ยตายเกดิ ของสตั วท งั้ หลายมี ๓๑ ภูมิ ข. กามสคุ ตภิ มู ิ มี ๗ ภูมิ คอื ๑. มนุสสภมู ิ ๒. จาตุมหาราชกิ าภมู ิ ๓. ตาวตงิ สาภูมิ ๔. ยามาภูมิ ๕. ตสุ ิตาภูมิ ๖. นิมมานรตภี ูมิ ๗. ปรนมิ มิตวสวตั ตภี มู ิ ค. สุทธวาสภมู ิ มี ๕ ภมู ิ คอื ๑. อวหิ าภมู ิ ๒. อตปั ปาภูมิ ๓. สทุ สั สาภมู ิ ๔. สทุ ัสสภี ูมิ ๕. อกนิฏฐาภู ง. อรูปาวจรภูมิ มี ๔ ภูมิ คอื ๑. อากาสานัญจายตนภูมิมิ ๒. วิญญานญั จายตนภูมิ ๓. อากิญจัญญายตนภมู ิ ๔. เนวสญั ญานาสญั ญายตนภูมิ ๕. ตสุ ิตาภูมิ ๖. นมิ มานรตภี มู ิ ๗. ปรนมิ มิตวสวัตตภี มู ิ ๕. จงจําแนกภมู ิ ๓๑ ภมู ิ โดยบุคคล ๑๒ จําพวก (มาดู) ? [P160] 44, 51, 54(6), 56, 58(6), 60 ตอบ จําแนกภมู ิ ๓๑ ภมู ิ โดยบคุ คล ๑๒ จาํ พวก ดงั นี้ อบายภมู ิ ๔ เปนท่เี กดิ ของทุคติอเหตุกบุคคลจาํ พวกเดยี ว มนษุ ยภมู ิ ๑ เปน ทเี่ กิดของบุคคล ๑๑ จําพวก (เวน ทุคตอิ เหตุกบุคคล ๑) จาตุมหาราชกิ าภมู ิ ๑ ตาวตงึ สาภูมิ ๑ ยามาภมู ิ ๑ ตุสติ าภมู ิ ๑ เปนทีเ่ กดิ ของบคุ คล ๑๐ จําพวก นิมมานรตภี มู ิ ๑ (เวน อเหตุกบุคคล ๑ และ สุคติอเหตุกบุคคล ๑) ปรนมิ มิตวสวตั ตภี มู ิ ๑ ปฐมฌานภูมิ ๓ ทตุ ยิ ฌานภูมิ ๓ เปนทเ่ี กดิ ของบุคคล ๙ จําพวก คอื ติเหตกุ ปุถชุ น ๑ อริยบคุ คล ๘ ตตยิ ฌานภมู ิ ๓ เวหัปผลาภูมิ ๑ อสญั ญสตั ตภูมิ ๑ เปนที่เกดิ ของ สุคตอิ เหตกุ บคุ คลท่มี ีรูปปฏสิ นธิจาํ พวกเดยี ว สุทธาวาสภมู ิ ๕ เปน ที่เกิดของบุคคล ๓ จาํ พวก คือ อนาคามิผลบคุ คล ๑ อรหตั ตมรรคบคุ คล ๑ อรหตั ตผลบุคคล ๑ ดาวนโ หลดขอมูลท่ี ขอความเพิ่มเตมิ ที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ สี ังคหะ, ภูมิจตุกกะ, ปฏสิ นธิจตกุ กะ 22 อรูปภมู ิ ๔ เปน ท่เี กดิ ของบุคคล ๘ จาํ พวก คือ ตเิ หตุกปถุ ุชน ๑ อรยิ บคุ คล ๗ (เวน โสดาปตตมิ รรคบคุ คล ๑) ๕. ก. คําวา มาติกาจตกุ กะในวิถีมตุ ตสังคหะ ไดแกอะไรบาง ? [P2] 55 ตอบ ก. คาํ วา มาตกิ าจตกุ กะในวถิ ีมตุ ตสงั คหะ ไดแ ก จตกุ กะ ๔ ประการ คอื ภมู ิจตกุ กะ ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ กมั มจตุกกะ มรณปุ ปตตจิ ตกุ กะ ๕. ก. จงแสดงภูมิจตกุ กะ มาทัง้ บาลีคําแปล ? [P2-3] 49 ตอบ ก. แสดงภมู ิจตุกกะ ดังน้ี ตตถฺ อปายภูมิ กามสคุ ตภิ มู ิ รูปาวจรภมู ิ อรปู าวจรภูมิ เจติ จตสโฺ ส ภมู โิ ย นาม ฯ แปลความวา ในบรรดาจตกุ กะ ๔ ประการเหลาน้ันช่อื วา ภมู ิ ๔ คือ อบายภมู ิ ๑ กามสุคตภิ มู ิ ๑ รปู าวจรภมู ิ ๑ อรปู วจรภมู ิ ๑ รวมเปนภูมิ ๔ ๕. ข. มหานรก มกี ่ขี มุ ? คืออะไรบาง ? [P6] 49, 55 ตอบ ข. มหานรก มี ๘ ขุม คอื ๑. สญั ชีวะนรก ๒. กาฬสุตตะนรก ๓. สงั ฆาตะนรก ๔. โรรุวะนรก ๕. มหาโรรุวะนรก ๖. ตาปนะนรก ๗. มหาตาปนะนรก ๘. อวจี นิ รก ๕. ค. อุสสทนรกมีกข่ี มุ ? คืออะไรบาง ? [P6] 49, 55 ตอบ ค. อสุ สทนรกมี ๕ ขมุ คือ ๑. คถู นรก ๒. กุกกฬุ ะนรก ๓. สมิ ปลวิ นะนรก ๔. อสปิ ต ตวนะนรก ๕. เวตตรณนี รก ๕. บรรดาบุคคลท้ังหลายท่กี ําลงั เปน ไปอยใู นโลกทุกวันนีย้ อมมีอธั ยาศัย จติ ใจยิ่งหยอนกวา กนั และกัน ในความประพฤติดแี ละไมดี มากบาง นอยบาง ฉะน้นั จึงอยากจะทราบวา ความประพฤติของบคุ คล ทา นแสดงไวก ป่ี ระเภท ? คืออะไรบาง ? และประเภทไหนทตี่ ายไปแลว จะตองพบกับพระยายมราช และประเภทไหนไมต องพบกบั พระยายมราช ? [P11] 48 ตอบ ความประพฤตขิ องบคุ คลทงั้ หลาย ทา นแสดงไว ๔ ประเภท คือ ๑. บคุ คลบางคนในโลกนี้ มีอัธยาศยั จติ ใจชอบบําเพญ็ กุศลมาก ๒. บางคนมีอัธยาศัยจิตใจชอบในการกุศล และอกุศลเทา ๆ กัน ๓. บางคนชอบใจไปในอกุศลมากกวา กุศล ๔. บางคนชอบใจไปในอกุศลฝา ยเดยี ว บรรดาบุคคลทัง้ ๔ ประเภทนี้ บคุ คลที่อยูใ นประเภทท่ี ๑ และที่ ๔ ไมม ีโอกาสทจี่ ะไดพ บกับพระยายมราช ประเภทท่ี ๑ มีกุศลมาก เม่อื ตายแลว ยอมเกิดในสคุ ตภิ มู เิ ลยทเี ดยี ว, ประเภทท่ี ๔ มีอกศุ ลมาก เมื่อตายแลวยอ มเกดิ ใน ทคุ ติภูมิโดยตรงเลยทเี ดยี ว, สว นประเภทที่ ๒ และท่ี ๓ มีโอกาสท่ีจะไดพ บกบั พระยายมราช เพื่อใหพระยายมราช เตือนสตใิ หร ะลึกถึงกุศล ถา ระลึกไดก ็จะพน จากอบายภมู ิ ถา ระลึกไมได ทานกจ็ ะเตือนสตใิ ห เม่ือเตือนสตแิ ลวก็ระลึก ไมไ ด นายนิรยบาลกส็ ง ลงนรกเสวยทกุ ขตอไป. ๕. ง. เปรต ที่มาในเปตวัตถุอฏั ฐกถาและฎกี ามีกี่จําพวก ? คอื อะไรบาง ? [P61] 49, 55 ตอบ ง. เปรต ทมี่ าในเปตวัตถอุ ฏั ฐกถาและฎกี า มี ๔ จาํ พวก คอื ๑. ปรทตั ตุปชีวิกเปรต เปรตทีม่ ีการเล้ยี งชวี ติ อยูโ ดยอาศยั อาหารทีผ่ อู ื่นให ๒. ขปุ ปป าสกิ เปรต เปรตทถี่ ูกเบียดเบยี นดว ยการหวิ ขาว หวิ นาํ้ ๓. นชิ ฌามตณั หกิ เปรต เปรตทถ่ี กู ไฟเผาใหเรา รอ นอยูเสมอ ๔. กาลกัญจกิ เปรต เปรตจาํ พวกอสรู คอื กญั จกิ ะ ๕. ก. จงแสดงเปรต ๔ ประเภททม่ี าในเปตวัตถุอฏั ฐกถา และฎีกา ในบรรดาเปรต ๔ ประเภทนน้ั ๑๙ ก.พ. ๖๒ ดาวนโหลดขอมลู ท่ี ขอความเพม่ิ เตมิ ท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่ีแปะไว)

วิถีสงั คหะ, ภมู จิ ตกุ กะ, ปฏิสนธิจตกุ กะ 23 ประเภทไหนท่พี ระโพธิสตั วไ มไปเกดิ ? [P61-62] 52 ตอบ ก. แสดงเปรต ๔ ประเภท ทม่ี าในเปตวตั ถุอฎั ฐกถา และฎีกา ๑. ปรทัตตุปชีวกิ เปรต เปรตท่ีมีการเลยี้ งชีวติ อยูโดยอาศัยอาหารทผ่ี ูอ่ืนให ๒. ขปุ ปป าสกิ เปรต เปรตทีถ่ ูกเบียดเบียนดวยการหวิ ขาว หิวนาํ้ ๓. นชิ ฌามตณั หกิ เปรต เปรตทถี่ กู ไฟเผาใหเรา รอ นอยูเสมอ ๔. กาลกญั จิกเปรต เปน ช่ือของอสรุ าทีเ่ ปน เปรต เปรตบางประเภทท่พี ระโพธสิ ัตวไ มไ ปเกิด บรรดาพระโพธสิ ัตวทง้ั หลาย นบั ตงั้ แตไ ดร บั พุทธพยากรณเ ปน ตน ไป ยอมไมไปเกิดเปนเปรต ๓ ประเภท คอื ๑. ขปุ ปป าสิกเปรต ๒.นิชฌามตณั หิกเปรต ๓.กาลกัญจกิ เปรต ทีไ่ ดกลา วมาแลว น้ี ถา จะเกดิ ก็คงเกิดเปน ปรทตั ตปุ ชวี กิ เปรตประเภทเดยี วเทาน้นั ๖. ก. สัตวท่เี รียกวา อสรุ า นเี้ ม่อื จําแนกแลว มกี อ่ี ยาง ? คืออะไรบาง ? [P75] 43 ข. เทวอสรุ ามีก่อี ยา ง ? คอื อะไรบาง ? [P75] 43 ค. เปตตอิ สรุ า มีก่ีจาํ พวก ? คืออะไรบาง ? [P76] 43 ตอบ ก. อสุรา มี ๓ อยาง คือ ๑. เทวอสุรา ไดแก เทวาด ทีเ่ รยี กวา อสุระ ๒. เปตตอิ สรุ า ไดแ ก เปรต ที่เรยี กวา อสรุ ะ ๓. นิรยอสรุ า ไดแก สัตวน รก ทเี่ รยี กวา อสุระ ข. เทวอสรุ ามี ๖ อยางคือ ๑. เวปจิตตอิ สุรา ๒. สุผลอิ สุรา ๓. ราหุอสรุ า ๔. ปหารอสุรา ๕. สมั พรตีอสุรา ๖. วนิ ิปาติกอสรุ า ค. เปตตอิ สุรา มี ๓ จาํ พวก คือ ๑. กาลกญั จิกเปรตอสรุ า ๒. เวมานิกเปรตอสุรา ๓. อาวุทธิกเปรตอสุรา ๕. ก. คาํ วา “คต”ิ แปลวาอยางไร ? มีก่อี ยาง ? คอื อะไรบา ง ? [P83] 43 ตอบ ก. คาํ วา “คต”ิ แปลวา ที่ไปเกิดของสัตวม ี ๔ อยา ง คือ ๑. คตคิ ติ ภพเปน ทไ่ี ปเกดิ ของสัตว ๓. อัชฌาสยคติ อัธยาศัยทกี่ าํ ลงั เปน ไปอยู ๒. นพิ พตั ตคิ ติ ความเปนความเกดิ ๔. วภิ วคติ ความเกิดข้นึ แหง สมบตั ิ ๕. ข. จงแสดงลักษณะหนา ตาของคนท่อี ยใู นทวีปทั้ง ๔ คอื ชมพูทวีป อุตตรกรุ ุทวปี ปพุ พวเิ ทหทวปี อปรโคยานทวปี มาตามลําดับ ? 47, 48, 52 ตอบ ข. แสดงลักษณะหนา ตาของคนที่ในทวปี ทั้ง ๔ มดี ังนี้ คอื ๑. ชมพูทวีป มสี ณั ฐานดังรูปเรือนเกวียน หรอื รปู ไข ๒. อุตตรกรุ ทุ วปี มสี ัณฐานเปนสเ่ี หลยี่ ม ๓. ปพุ พวเิ ทหทวปี มีสัณฐานดังพระจันทรค ร่งึ ซกี ๔. อปรโคยานทวปี มีสัณฐานดงั พระจันทรว นั เพญ็ บรรดามนุษยท ่ีอยูใ นทวปี ใด ก็มรี ูปใบหนา เหมือนกบั สณั ฐานของทวปี นนั้ . ๖. ก. จติ ใจของคนท่ีอยใู นชมพทู วปี และจิตใจของคนท่ีอยใู นทวีปทั้งสามนนั้ เหมือนกนั หรอื ไม ? จงอธิบาย [P87] 51 ตอบ ก. จติ ใจของคนท่ีอยใู นชมพทู วีป และจติ ใจของคนทีอ่ ยใู นทวปี ทงั้ สามนัน้ ไมเ หมือนกนั คือ คนทอ่ี ยูในชมพูทวีปเปนผูม จี ติ ใจกลา แข็ง เปนไปทัง้ ฝา ยดแี ละฝา ยไมดี ฝา ยดนี ั้น สามารถทาํ ใหส ําเรจ็ เปน พระพทุ ธเจา พระปจ เจกพทุ ธเจา อคั รสาวก มหาสาวก ปกตสิ าวก พระเจา จกั รพรรดิ ฌานลาภี อภญิ ญาลาภไี ด ฝา ยทีไ่ มดนี ้นั อาทเิ ชน ฆา บดิ ามารดา ฆา พระอรหนั ต และทําโลหติ ตุปบาท คอื ทาํ ใหพ ระโลหิตหอ และทาํ สังฆเภท สว นจติ ใจของคนท่ีอยูใ นทวปี สามทวปี ทเ่ี หลอื นน้ั ไมส ามารถจะทําเชนนไี้ ด ไมวา จะเปน ฝายดแี ละไมดี ดาวนโ หลดขอ มลู ที่ ขอความเพ่มิ เตมิ ท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ที่แปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถสี ังคหะ, ภมู ิจตกุ กะ, ปฏิสนธจิ ตุกกะ 24 ๖. ข. คนชมพูทวปี มีคุณประเสรฐิ กวา คนอตุ ตรกรุ ทุ วีป และเทวดาชน้ั ดาวดงึ ส ก่ีประการ คืออะไรบา ง ? [P92] 45 ตอบ ข. คนชมพูทวปี มีคุณประเสรฐิ กวา คนอุตตรกรุ ทุ วปี และเทวดาช้นั ดาวดึงส ๓ ประการ คอื ๑. สรู ภาว มใี จกลาแขง็ ในการบาํ เพ็ญทาน ศลี ภาวนา ๒. สตมิ นตฺ มสี ติตง้ั มนั่ ในคณุ พระรตั นตรยั ๓. พรหมจรวิ าส ประพฤตพิ รหมจรรยค อื บวชได ๕. ข. คนอตุ ตรกุรุทวีป มีคณุ สูงกวา ประเสริฐกวา คนชมพทู วีป และเทวดาชั้นตาวตึงสา มีกี่อยาง ? คืออะไรบา ง ? [P94] 43 ตอบ ข. คนอตุ ตรกุรุทวปี มคี ุณสงู กวา ประเสรฐิ กวา คนชมพูทวปี และเทวดาชน้ั ตาวตงึ สา มี ๓ อยา ง คอื ๑. คนอตุ ตรกรุ ุ ไมถอื เอาเงนิ ทองวาเปนของตน ๒. คนอุตตรกุรุ ไมหวงแหน หรือถอื เอาวาเปนบตุ ร ภรรยา สามี ของตน ๓. คนอตุ ตรกรุ ุ ตองมอี ายยุ นื ถึงหนงึ่ พันปเสมอ ๕. ภพชาตทิ ี่พระโพธสิ ัตวท ง้ั หลาย ผูไ ดร บั พทุ ธพยากรณแลว ไมไ ปบงั เกิด มีก่ีอยา ง ไดแ กอ ะไรบา ง ? 58 ตอบ มี ๑๖ อยา ง คอื ๑. ไมเกดิ เปนคนปา ๒. เปนมารเทวบตุ รไมไ ด ๓. เปนอสญั ญสตั ตพรหมไมไ ด ๔. เปนสทุ ธาวาสพรหมไมไ ด ๕. ไมไ ปเกดิ ในจักรวาลอืน่ ๖. ไมเปนอรูปพรหม ๗. ไมเปน ผหู ญงิ ๘. ไมไ ปเกิดกับคนที่เปนทาส ๙. ไมไ ปเกิดเปน คนตาบอด หนวก ใบ ๑๐. ไมเ ปนขเี้ รื้อนกุฏฐัง ๑๑. ไมเปลี่ยนแปลงเพศ ๑๒. ไมทําปญ จานันตรยิ กรรม ๑๓.ไมไปเกดิ ในโลกันตรกิ นรก ๑๔. ไมไปเกิดในอเวจมี หานรก และไมเ ปน ขปุ ปป าสกิ เปรต นชิ ฌามตัณหกิ เปรต กาลกญั จิกเปรต ๑๕. ไมไ ปเกิดเปนสตั วท่เี ลก็ กวา นกกระจาบ และไมไปเกดิ เปนสตั วท ่ีใหญก วาชา ง ๑๖. เปนพระอรยิ ะไมไดในระหวาง ๔ อสงไขย แสนกปั ๕. จงแปลคาถาสังคหะดังตอไปนี้ ? 54 ๑. ปุถชุ ชฺ นา น ลพภฺ นตฺ ิ สุทฺธาวาเสสุ สพฺพถา โสตาปนนฺ า จ สกทา คามิโน จาป ปุคฺคลา ๒. อรยิ า โนปลพฺภนตฺ ิ อสฺ าปายภมู ิสุ เสสฏาเนสุ ลพฺภนตฺ ิ อรยิ านรยิ าป จ [P157] ตอบ แปลคาถาสงั คหะ ดงั นีค้ อื ในสุทธาวาสภมู ิ ๕ ไมมีปุถชุ นทงั้ ๔ โสดาบนั สกทาคามี โดยประการทั้งปวง ในอสัญญสัตตภมู ิ และอบายภูมิ ๔ ไมมอี ริยบคุ คล ๘ สวนในภมู ทิ เ่ี หลอื ๒๑ คือ กามสคุ ติภมู ิ ๗ รูปภมู ิ ๑๐ และอรูปภมู ิ ๔ มีไดท ัง้ อริยบุคคล ๘ และปถุ ุชน ๓ (เวน ทุคติ) ตามสมควร ขอ ๖ (ทเี่ คยออกสอบ ปนีน้ า จะออกขอ ไหน?) ๖. ก. ในกามภมู ิ ๑๑ น้ี มีบคุ คลอยูหลายประเภทดวยกนั เมือ่ สรปุ บุคคลที่มีอายุไมแ นนอนแลว มีอยกู จ่ี าํ พวกดวยกนั ? 45, 47, 49 ตอบ ก. เมอื่ สรปุ บุคคลทมี่ อี ายไุ มแ นนอนนนั้ มี ๖ จาํ พวก คอื ๑. พวกอบายภูมิ ๒. พวกมนษุ ยช มพูทวีป ๓. พวกวนิ ปิ ากอสุราเทวดา ๔. พวกกุมภณั ฑเทวดา (ที่อาศัยพนื้ แผน ดนิ และตน ไม) ๕. พวกอากาสัฏฐเทวดา ๖. พวกเวมานกิ เปรตเทวดา ดาวนโ หลดขอมูลท่ี ขอความเพ่ิมเตมิ ที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ สี ังคหะ, ภมู จิ ตุกกะ, ปฏิสนธิจตุกกะ 25 ๖. ก. จงแสดงชื่อของบคุ คลทง้ั ๑๒ จาํ พวกมาโดยละเอยี ด และในบรรดาบคุ คล ๑๒ จําพวกนัน้ บคุ คลทไ่ี มม ีในสุทธาวาสภมู ิ มีกบ่ี คุ คล? คือใครบา ง ? 53 ตอบ ก. บคุ คล ๑๒ จําพวก คือ ๑. ทุคติอเหตกุ บุคคล ๒. สุคติอเหตุกบคุ คล ๓. ทวเิ หตกุ บคุ คล ๔. ตเิ หตกุ ปุถุชน ๕. โสดาปต ตมิ รรคบุคคล ๖. โสดาปต ตผิ ลบคุ คล ๗. สกทาคามมิ รรคบุคคล ๘. สกทาคมผิ ลบุคคล ๙. อนาคามิมรรคบุคคล ๑๐. อนาคามิผลบุคคล ๑๑. อรหัตตมรรคบุคคล ๑๒. อรหัตตผลบุคคล และในบรรดาบุคคล ๑๒ จําพวกนั้น บุคคลที่ไมม ใี นสทุ ธาวาสภมู มิ ี ๙ บคุ คล คือ ปถุ ุชน ๔ โสดาปตติมรรค ๑ โสดาปตตผิ ล ๑ สกทาคามิมรรค ๑ สกทาคามผิ ล ๑ อนาคามมิ รรค ๑ ๕. มีคําถามทง้ั หมด ๒ ขอ ยอ ย ใหต อบทุกขอ ใหถูกตอ งชดั เจน ? 47 ก. บุคคลใดสามารถไปเกิดในสุทธาวาสภมู ไิ ด ? สุทธาวาสภมู ิ เปนท่ีอยขู องใครบาง ? 47 ข. การเกดิ และการตายของพรหมในสทุ ธาวาสภูมทิ ่ียงั ไมสาํ เร็จเปน พระอรหันตจะเกิดและตายในภมู ใิ ด ๆ บา ง ? 47 ตอบ ก. บุคคลทส่ี ามารถไปเกดิ ในสทุ ธาวาสภมู ิได ไดแ ก พระอนาคามบี คุ คล ทม่ี ีคุณสมบัติพิเศษ คอื เปนพระ อนาคามีบุคคลทีไ่ ดรูปปญจมฌาน และมีอินทรีย ๕ อยางใดอยา งหนึง่ แกกลา สทุ ธาวาสภมู เิ ปนท่อี ยูข อง พระอนาคามผี ลบุคคล พระอรหตั ตมรรคบคุ คล, พระอรหัตตผลบุคคลท่ี สาํ เร็จรปู ปญจมฌาน และมอี นิ ทรยี  ๕ อยา งใดอยา งหนึง่ แกก ลา ข. การเกดิ และการตายของพรหมในสุทธาวาสภูมทิ ่ียงั ไมส ําเร็จเปนพระอรหันต มีดงั นี้ พระอนาคามีบุคคลทอี่ ยูในสทุ ธาวาสภูมิเบ้อื งตาํ่ ๔ ช้ัน เม่อื สิน้ อายแุ ลวยอ มไมเ กิดซาํ้ ภูมิท่ีตนเคยเกดิ จะไปเกดิ ใน ภมู ิทส่ี งู กวา ได พระอนาคามที อ่ี ยใู นชัน้ อกนฏิ ฐาภูมจิ ะไมไ ปเกดิ ในภูมใิ ด ๆ อีกและจะตองสาํ เร็จเปนพระอรหันตใ นอกนฏิ ฐาภูมนิ ้ี ๖. ก. จงบอกภูมิทเ่ี กี่ยวกับพระอนาคามบี คุ คล ดังตอไปนี้ วา มเี ทาไร ไดแ กภูมไิ หนบา ง ? 50 ๑. ภูมทิ พ่ี ระอนาคามตี ายได แตเกดิ ไมได ๒. ภูมทิ ่พี ระอนาคามีเกดิ ได แตต ายไมได ๓. ภูมทิ ่พี ระอนาคามีเกิดและตาย ไดท ง้ั สอง ๔. ภมู ทิ ่พี ระอนาคามีเกิดและตายไมไดท ้ังสอง ตอบ ก. ภูมิทเ่ี กีย่ วกับพระอนาคามีบุคคล มดี งั นี้ คือ ๑. ภูมิท่ีพระอนาคามีตายได แตเกิดไมไ ด มี ๗ ภมู ิ ไดแ ก กามสคุ ตภิ มู ิ ๗ ๒. ภูมิทพี่ ระอนาคามีเกดิ ได แตตายไมไ ด มี ๑ ภมู ิ ไดแ ก อกนฏิ ฐาภูมิ ๓. ภมู ทิ ี่พระอนาคามเี กิดและตายไดท ง้ั สอง มี ๑๘ ภูมิ ไดแก รปู ภูมิ ๑๔ (เวนอสัญญสัตตภูมิ ๑ อกนฏิ ฐาภูมิ ๑) อรปู ภูมิ ๔ ๔. ภูมิทพี่ ระอนาคามเี กิดและตายไมไดทัง้ สอง มี ๕ ภูมิ ไดแ ก อบายภมู ิ ๔ อสญั ญสัตตภูมิ ๑ ๖. ข. เทวะมกี ่ีอยา ง คืออะไรบาง ? 50 ตอบ ข. เทวะ มี ๓ คอื ๑. สมมตเิ ทวะ ไดแ ก พระมหากษตั ริย และพระราชนิ ี พรอมดวยพระโอรสพระธดิ า ๒. อุปปต ตเิ ทวะ ไดแ ก เทวดาและพรหมทงั้ หมด ๓. วสิ ุทธิเทวะ ไดแ ก พระอรหนั ตท้งั หมด ๖. ก. เทวดาท้ังหลายท่ีอยูใ นจาตุมหาราชกิ าภูมิ มีอยู กี่จําพวก ? คืออะไรบาง ? 59 ข. โกลาหล คอื อะไร ? มีกี่ประการ ? คอื อะไรบาง ? 59 ตอบ ก. เทวดาท้ังหลายทอี่ ยใู นจาตุมหาราชกิ าภมู ิ มอี ยู ๓ พวก คือ ดาวนโหลดขอ มูลท่ี ขอความเพิ่มเติมที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถสี งั คหะ, ภูมิจตกุ กะ, ปฏิสนธจิ ตกุ กะ 26 ๑. ภมุ มฏั ฐเทวดา เทวดาที่อยูบนพื้นแผนดนิ ๒. รกุ ขัฏฐเทวดา เทวดาที่อยูบนตนไม ๓. อากาสัฏฐเทวดา เทวดาท่อี ยูในอากาศ ข. โกลาหล คือ เสยี งเซง็ แซเ อิกเกรกิ มี ๕ ประการ คอื ๑. กปั ปะโกลาหล เสียงประกาศกองเอิกเกริกวา นับตง้ั แตบ ัดน้ีเปน ตนไปเปน เวลาอกี แสนป โลกจะถงึ ซงึ่ ความพนิ าศ ๒. พุทธะโกลาหล เสียงประกาศกึกกองวา นบั ตั้งแตบดั นีเ้ ปนตนไปเปน เวลาอีกหนึง่ พันป จะมีพระพุทธเจามาอุบตั ขิ ึน้ ในโลก ๓. จักกวัตตโิ กลาหล เสยี งท่ปี ระกาศวา นับตงั้ แตบ ัดน้เี ปน ตน ไปเปน เวลาอีกหน่ึงรอ ยป จะมพี ระเจา จักรพรรดมิ าบังเกดิ ข้ึนในโลก ๔. มงั คละโกลาหล เสยี งท่ีประกาศวา ภายในระยะเวลาอกี ๑๒ ป พระพุทธเจา ทรงแสดงธรรมท่เี ปน มงคล ๓๘ ประการ ๕. โมเนยยะโกลาหล เสียงท่ีประกาศวาภายในระยะเวลาอีก ๗ ป จะมีผปู ฏิบัตโิ มเนยยะมาบงั เกิดในโลก ๖. ก. ผทู ่ีจะเปนพระอนิ ทรไ ดน ัน้ ตองประกอบดวยคุณธรรมกี่ประการ คืออะไรบา ง ? [P121] 45, 49, 52(7ก), 55, 60 ตอบ ก. ผทู จ่ี ะเปนพระอินทรไ ดน น้ั ตอ งประกอบดว ยคณุ ธรรม ๗ ประการ คอื ๑. เลย้ี งดบู ดิ ามารดา ๒. เคารพตอ ผใู หญในตระกูล ๓. กลา ววาจาออ นหวาน ๔. ไมกลา วคําสอเสยี ด ๕. ไมมคี วามตระหน่ี ๖. มคี วามสตั ย ๗. ระงบั ความโกรธไวไ ด ๖. ก. การท่จี ะเปน อริยบุคคลไดน น้ั จะตองประกอบดวยธรรมกี่ประการ ? อะไรบา ง ? [P136] 56, 59(5ข) ตอบ ก. การท่จี ะเปน อริยบคุ คลไดน นั้ ตองประกอบดวยธรรม ๗ ประการ คือ ๑. ตองเปน ติเหตกุ บุคคล ๒. ตอ งไดเคยสรา งบารมที เี่ กยี่ วกับวปิ ส สนามาแลวในชาตกิ อ น ๓. ตองมคี วามเพียรในชาติปจ จุบันนี้ดวย ๔. วธิ เี จรญิ วปิ ส สนาตองถกู ตอ งตามหลักพระบาลีและอรรถกถา ๕. ตองมีสถานที่เหมาะสมแกการปฏิบตั ิ ๖. ตองไมมีปลิโพธิ ๑๐ ประการ ๗. ตองมเี วลาอนั สมควร ๖. ข. ธรรมที่เปนเครอ่ื งใหถึงความเปน อริยะ หรือท่เี รียกวาทรัพยของสัปบุรุษ มีเทา ไร ? คืออะไรบาง ? 43, 47, 50, 52, 53, 52(7ข), 53(5ข), 55, 60, 61 ตอบ ข. ธรรมทเ่ี ปนเครอ่ื งใหถ งึ ความเปน อรยิ ะ หรือทเ่ี รยี กวา ทรัพยข องสปั บุรษุ มี ๗ ประการ คือ ๑. สทฺธาธนํ ทรพั ย คือ ความเล่อื มใส เช่ือในอนันตคณุ ๕ เช่ือกรรม เช่ือผลของกรรม โลกนี้ โลกหนา ๒. สีลธนํ ทรัพย คือ การตงั้ อยูใ นศลี ธรรม ๓. สุตธนํ ทรัพย คือ ความเปน ผไู ดเ ลาเรียนในธรรมของพระสัมมาสมั พทุ ธเจา ๔. จาคธนํ ทรพั ย คือ การบรจิ าควตั ถสุ งิ่ ของใหเ ปนทานแกผูอื่น ๕. ปฺ าธนํ ทรัพย คอื ความเปน ผูรใู นสภาวธรรมรปู นาม ๖. หิรีธนํ ทรพั ย คือ ความเปน ผูรลู ะอายตอ ทุจรติ ๗. โอตตฺ ปปฺ ธนํ ทรัพย คอื ความเปนผกู ลัวตอ ทจุ ริต ๖. ข. ปธานิยังคะ ทเี่ ปนเครื่องตัดสนิ ตัวเองวาชาตินี้ ตนจะเปนอริยะไดหรือไมน นั้ มกี ่ีขอ ? คืออะไรบาง ? [P137] 56 ตอบ ข. ปธานิยงั คะ สําหรับเปน เครอ่ื งตัดสนิ ตวั เองวาชาตนิ ้ีตนจะเปน อริยะไดหรือไมน้นั มอี ยู ๕ ขอ คือ ๑. ตองมีความเชือ่ ความเลือ่ มใสในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ และอาจารยทส่ี อนวปิ สสนา ๒. ตองมีรางกายแข็งแรงไมม โี รค ดาวนโหลดขอ มูลท่ี ขอความเพ่มิ เตมิ ท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ ีสังคหะ, ภมู ิจตุกกะ, ปฏิสนธจิ ตุกกะ 27 ๓. ตอ งไมม ีมารยาสาไถยกับอาจารย หรือในหมพู วกปฏิบตั ดิ ว ยกนั ๔. ตองมคี วามเพยี รตง้ั มัน่ ในใจวา เลอื ดและเนอื้ ของเรานแี้ มวา จะเหือดแหง ไปคงเหลอื แตห นัง เสนเอน็ กระดกู ก็ตาม เราจะไมย อมละความเพียรนน้ั เสยี ๕. ผูปฏิบัติตอ งปฏิบตั ใิ หถงึ ข้นั อทุ ยพั พยญาณเสียกอ น ๖. ก. จงแสดงภูมทิ ีพ่ ระอริยบุคคลไปเกิดแลว จะไมไ ปเกิดในภมู อิ ืน่ ๆ อีกน้นั มีก่ีภูมิ และภมู นิ นั้ ๆ เรียกช่ือวาอะไร ? [P168] 44ส, 47, 48, 51, 57 ตอบ ก. ในบรรดาพรหมภูมิ ๒๐ ชน้ั นนั้ คือ เวหปั ผลาภมู ิ นบั เปนยอดของรูปภูมิ ๑๑ ชนั้ (เวน สุทธาวาสภมู ิ ๕) เรยี กวา ปถุ ชุ นภวคั คะ แปลวา เปนยอดภมู ปิ ุถชุ น อกนิฏฐาภมู ิ นบั เปน ยอดของสทุ ธาวาสภูมิ เรยี กวา อริยภวคั คะ แปลวา เปน ยอดภูมอิ ริยะ เนวสัญญานาสัญญายตนภมู ิ นับเปนยอดของอรปู ภูมิ เรยี กวา สพั พภวคั คะ แปลวา เปน ยอดภมู ปิ ถุ ุชนและอริยะ ยอดภมู ทิ งั้ ๓ น้ี พระอรยิ บุคคลไดไ ปบงั เกิดแลว จะไมกลบั ไปบังเกดิ ในภมู อิ ืน่ ๆ อกี ตอ ไป จะตองปรินพิ พานในยอดภมู นิ ้ัน ๆ แนน อน ๖. ข. จงแสดงภูมิท่พี ระอริยบคุ คลไปเกดิ แลว จะไมไปเกิดในภูมอิ ืน่ ๆ อกี นั้นมีก่ภี ูมิ และภูมนิ นั้ ๆ เรยี กชอ่ื วา อะไร ? [P166-168] 51 ตอบ ข. ในบรรดาพรหมภมู ิ ๒๐ ชนั้ นนั้ คือ เวหปั ผลาภูมิ นับเปนยอดของรูปภูมิ ๑๑ ช้นั (เวน สุทธาวาสภูมิ ๕) เรียกชื่อวา ปุถุชนภวัคคะ แปลวา ยอดภมู ิของปุถชุ น อกนฏิ ฐาภูมิ นบั เปนยอดของสุทธาวาสภูมิ เรยี กชอ่ื วา อริยภวัคคะ แปลวา ยอดภมู ขิ องพระอรยิ ะ เนวสัญญานาสญั ญายตนภูมิ นับเปน ยอดของอรูปภูมิ เรียกช่ือวา สัพพภวัคคะ แปลวา เปนยอดภูมิของปุถชุ น และพระอริยะ ยอดภมู ทิ ้ัง ๓ นี้ พระอรยิ บุคคลไดไ ปบงั เกดิ แลว จะไมกลับไปบงั เกิดในภมู ิอ่นื ๆ อีกตอไป จะตองปรนิ ิพพานในยอดภูมนิ ้ัน ๆ แนน อน ๖. ข. จงแสดงสุญญกัป และอสญุ ญกปั มอี ยา งละเทา ไร ? คืออะไรบาง ? 61(6ก) จงบอกพรอมความหมาย ? [P172] 53(7ก), 57 ตอบ ข. สุญญกปั มี ๔ อยาง คือ ๑. สญุ ญมหากัป ไดแ ก มหากัปทไี่ มมีพระพุทธเจาอุบัตขิ น้ึ ๒. สญุ ญอสงไขยกปั ไดแก สงั วัฏฏอสงไขยกปั สงั วฏั ฏฐายอี สงไขยกัป ววิ ัฏฏอสงไขยกัป ๓. สญุ ญอันตรกัป ไดแก อนั ตรกัปท่ีไมมพี ระพทุ ธเจาอุบัติขนึ้ ๔. สญุ ญอายกุ ัป ไดแก ในระหวา งท่มี นษุ ยมอี ายยุ นื มากกวา แสนปข ้นึ ไป และในระหวา งทีม่ นุษยมอี ายนุ อ ยกวารอยปล งมา อสุญญกปั มี ๕ อยา งคอื ๑. สารกปั ไดแ ก มหากัปท่ีมพี ระพุทธเจาอุบตั ขิ นึ้ หนงึ่ พระองค ๒. มณั ฑกปั ไดแก มหากัปที่มพี ระพุทธเจาอุบัตขิ น้ึ สองพระองค ๓. วรกัป ไดแก มหากัปท่ีมพี ระพทุ ธเจา อุบัตขิ น้ึ สามพระองค ๔. สารมัณฑกัป ไดแก มหากัปทม่ี พี ระพุทธเจาอบุ ัตขิ นึ้ สพ่ี ระองค ๕. ภัททกัป ไดแก มหากัปทมี่ พี ระพุทธเจาอุบตั ขิ นึ้ หาพระองค ๖. ข. จงแสดงธรรมทเ่ี ปนเหตทุ ่ีทําใหโลกพนิ าศมาพอเขา ใจ ? [P176] 53 ตอบ ข. ธรรมทเี่ ปน เหตใุ หโ ลกพนิ าศลงนัน้ มี ๓ อยา ง คอื ราคะ โทสะ โมหะ ดาวนโหลดขอ มูลท่ี ขอความเพ่ิมเติมท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ สี ังคหะ, ภูมิจตุกกะ, ปฏิสนธิจตกุ กะ 28 สมยั ใดสัตวท้ังหลายมสี ันดานหนาแนน ไปดวยราคะแลว เมอื่ ถงึ คราวพนิ าศยอมพินาศลงดวยไฟ เหตุดว ยราคะนั้นรอ นเหมอื นไฟ ถา สมยั ใดสตั วทง้ั หลายมสี นั ดานมากดวยโทสะ เมื่อถงึ คราวพนิ าศยอมพินาศดวยน้ํา เหตดุ ว ยโทสะนั้นรา ยเหมือนน้าํ กรด และถา สมัยใดสนั ดานของสัตวท ้ังหลายหนาไปดว ยโมหะ เมอื่ ถึงคราวพินาศยอมพินาศดวยลม ดวยเหตโุ มหะนั้นเหมอื นหนงึ่ ลมกรด จึงเปน อนั วา โลกธาตยุ อมพินาศลงดว ยเหตุทั้ง ๓ ประการ ดงั ไดก ลา วแลวนั้น ๗. ข. มหากัปที่มีพระพุทธเจาอุบตั ิข้นึ ๖ หรือ ๗ พระองค มีหรือไม เพราะเหตุไร ? 53 ตอบ ข. ไมม ี เพราะวา ธรรมดาพระพุทธเจาทงั้ หลาย ทจ่ี ะอุบตั เิ กิดข้นึ ในโลกนน้ั ในมหากัปหนงึ่ ๆ อยา งนอ ยทสี่ ุด กม็ พี ระพุทธเจา อุบตั ิขึน้ เพียง ๑ พระองค อยางมากที่สุดมี ๕ พระองค มหากปั ทม่ี พี ระพุทธเจา อุบัติขนึ้ มากกวา น้ี ยอ มไมม ี ดงั มสี าธกบาลีแสดงไวใ นอนาคตงั สวงั สอรรถกถาวา น หิ เอกสฺมึ กปเฺ ป ฉฏโ  วา สตฺตโม วา อุปปฺ ชฺชต.ิ แปลความวา ในมหากปั หน่ึง ๆ พระพุทธเจาจะอุบตั ิข้ึน ๖ หรอื ๗ พระองคน้นั ยอมไมม.ี ขอ ๗ (ทเ่ี คยออกสอบ ปนีน้ า จะออกขอ ไหน?) ๗. ก. จงแปลบาลปี ฏิสนธิ ๔ อยา ง ดังตอไปน้ี ? [P207] 48 อปายปฏิสนฺธิ กามสคุ ตปิ ฏิสนธฺ ิ รปู าวจรปฏสิ นฺธิ อรูปาวจรปฏสิ นธฺ เิ จติ จตพุ ฺพธิ า ปฏิสนฺธิ นาม . ตอบ ก. แปลบาลปี ฏสิ นธิ ๔ อยางดงั นี้ คือ แปลความวา ช่ือวา ปฏิสนธิ มี ๔ ประการ คือ อปายปฏิสนธิ ๑, กามสคุ ตปิ ฏสิ นธิ ๑, รปู าวจรปฏสิ นธิ ๑, อรปู าวจรปฏิสนธิ ๑ ๗.ข. จงแสดงอุเบกขาสันตีรณกุศลวิปากจิตที่ทําหนา ท่ี ปฏสิ นธิ ภวงั ค จตุ ิ ของมนษุ ยท ีพ่ กิ ารตา ง ๆ นน้ั มกี ี่จาํ พวก ? คืออะไรบาง ? [P207] 45 ตอบ ข. แสดงอุเบกขาสันตรรี ณกศุ ลวิปากจติ ทที่ ําหนา ที่ ปฏสิ นธิ ภวงั ค จุติ ของมนุษยท พ่ี กิ ารตาง ๆ นนั้ มี ๑๑ จาํ พวกคอื ๑. ชจจฺ นฺธ ผตู าบอดมาแตกาํ เนดิ ๒. ชจฺจพธริ ผหู ูหนวกมาแตกาํ เนิด ๓. ชจจฺ ฆานก ผูจมกู เสียมาแตกาํ เนิด ๔. ชจจฺ มูค ผูเปน ใบแตกําเนิด ๕. ชจฺจชฬ ผโู งเ งา มาแตกําเนิด ๖. ชจจฺ มุ มฺ ตฺตก ผเู ปนบา มาแตก ําเนดิ ๗. ปณฑฺ ก พวกบัณเฑาะก ๘. อุภโตพยฺชนก ผูป รากฏเปน สองเพศ ๙. นปงุ สฺ ก ผไู มปรากฏเพศ ๑๐. มมมฺ ผตู ดิ อาง ๑๑. วินิปาติกอสรุ า ทีอ่ าศยั ภมุ มัฏฐเทวดา (เทวดาท่ีอาศยั อยตู ามภูเขา ตน ไม และสถานที่ตาง ๆ และรกุ ขเทวดา) ท้ังหลายอยู ๗. ข. จงแสดงจิต ๓ อยางที่มอี งคธ รรมและอารมณอยางเดยี วกนั เฉพาะชาตเิ ดียวมาทั้งบาลีคาํ แปล ? [P212] 55, 58, 61 ๗. ข. จงแสดงบาลี และคาํ แปล ของคาถาทีแ่ สดงถึงจติ ๓ อยาง ที่มีองคธรรม และอารมณอ ยางเดยี วกนั เฉพาะในชาติเดียวกนั ? [P212] 51 ๗. ก. จงแปลคาถาสังคหะดังตอไปน้ี ? [P212] 43 ปฏิสนฺธิ ภวงฺคฺจ ตถา จวนมานสํ เอกเมว ตเถเวก วิสยเฺ จกชาตยิ .ํ ตอบ ข. (แสดงบาลีและคาํ แปลของคาถาท)่ี แสดงจิต ๓ อยา ง ท่ีมีองคธ รรมและอารมณอยา งเดยี วกัน เฉพาะในชาตเิ ดยี ว ดังนี้ ปฏสิ นฺธิ ภวงคฺ จฺ ตถา จวนมานสํ เอกเมว ตเถเวก วิสยฺเจกชาตยิ .ํ ดาวนโหลดขอ มูลที่ ขอความเพม่ิ เตมิ ที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ สี ังคหะ, ภมู จิ ตุกกะ, ปฏิสนธิจตกุ กะ 29 ในชาตหิ นงึ่ นั้น ปฏิสนธจิ ติ ภวังคจติ และจุตจิ ติ รวม ๓ อยาง นี้ เปน จติ อยางเดยี วกัน และอารมณของปฏสิ นธจิ ติ ภวงั คจิต และจุติจิต กต็ อ งเปน อยางเดียวกนั ๗. คําวา ปฏิสนธิ หมายความวา อยา งไร ? และจงแสดงความหมายของปฏสิ นธิ ๔ อยาง ? [P212-213] 45, 47, 49, 51, 52, 53, 55, 56, 57, 60 ๗. ก. คาํ วา ปฏสิ นธิ (ในปฏสิ นธจิ ตกุ กะ) หมายความวาอยางไร ? และมกี ่ีอยา ง ? คอื อะไรบา ง ? (ไมตองแสดงความหมาย) ? [P212-213] 36, 58, 61 ตอบ ก. คําวา ปฏสิ นธิ (ในปฏิสนธจิ ตุกกะ) หมายความวา เมอ่ื ภพเกา ส้นิ สุดลงแลว จติ เจตสิก และกัมมชรปู ปรากฏเกดิ ขน้ึ ครงั้ แรก ในภพใดภพหนึ่ งโดยอาํ นาจแหงการสืบตอภพเกา กับภพใหม เรยี กวา ปฏสิ นธิ แสดงความหมายของปฏิสนธิ ๔ อยา ง ดงั น้ี ๑. การปรากฏเกดิ ขน้ึ แหง จติ เจตสิก และกัมมชรูปครง้ั แรกในอบายภูมิ ๔ เรยี กวา อปายปฏสิ นธิอยา ง ๑ ๒. การปรากฏเกดิ ขึ้นแหง จติ เจตสกิ และกมั มชรปู ครง้ั แรกในกามสุคตภิ มู ๗ิ เรยี กวา กามสคุ ตปิ ฏิสนธิอยา ง ๑ ๓. การปรากฏเกดิ ขึน้ แหง จติ เจตสิก และกัมมชรูปครง้ั แรกในรปู ภมู ิ ๑๕ และการปรากฏเกดิ ข้นึ แหง กมั มชรูปครง้ั แรกในอสญั ญสัตตภูมทิ ้ัง ๒ น้ี เรยี กวา รูปาวจรปฏิสนธิอยา ง ๑ ๔. การปรากฏเกดิ ขน้ึ แหง จติ เจตสิก ครั้งแรกในอรูปภูมิ ๔ เรียกวา อรูปาวจรปฏิสนธิอยาง ๑ [(36, 58) มี ๔ อยา ง คือ ๑. อปายปฏิสนธิ ๒. กามสุคตปิ ฏสิ นธิ ๓. รูปาวจรปฏิสนธิ ๔. อรปู าวจรปฏิสนธ]ิ ๗. ข. พรอมท้ังใหอ ธิบายความหมายของปฏิสนธิ ๔ อยา ง มาตามลาํ ดบั ? 48 ตอบ ข. อธบิ ายความหมายของปฏสิ นธิ ๔ อยา งในที่นีค้ าํ วา ปฏสิ นธิ หมายความวา เมอ่ื ภพเกา สนิ้ สุดลงแลว จติ เจตสกิ และกมั มชรปู ปรากฏเกิดข้นึ ครัง้ แรกในภพใดภพหนง่ึ โดยอํานาจแหง การสบื ตอภพเกากบั ภพใหม เรยี กวา ปฏิสนธิ ฉะนนั้ การปรากฏเกิดขน้ึ แหง จติ เจตสกิ และกัมมชรปู คร้งั แรกในอบายภมู ิ ๔ เรยี กวา อปายปฏสิ นธิ อยางหน่ึง การปรากฏเกิดขน้ึ แหง จติ เจตสกิ และกัมมชรปู ครัง้ แรกในกามสคุ ตภิ มู ิ ๗ เรยี กวา กามสุคตปิ ฏิสนธิ อยางหนงึ่ การปรากฏเกดิ ขน้ึ แหง จติ เจตสกิ และกมั มชรปู ครั้งแรกในรูปภูมิ ๑๕ และการปรากฏเกิดขนึ้ แหง กมั มชรูปครง้ั แรก ในอสญั ญสตั ตภมู ิ ทงั้ ๒ น้ี เรียกวา รปู าวจรปฏิสนธิ อยา งหน่ึง การปรากฏเกิดขน้ึ แหง จิต เจตสิก คร้ังแรกในอรปู ภมู ิ ๔ เรียกวา อรูปาวจรปฏสิ นธิ อยา งหนง่ึ ๗. คําวา ปฏสิ นธิ หมายความวา อยางไร? (ปฏิสนธิ)มีกี่อยา ง? คอื อะไรบาง? จงแสดงใหละเอยี ด? 51(ก), 52(6), 54 ตอบ คําวา ปฏิสนธิ หมายความวา เม่อื ภพเกาสิน้ สุดลงแลว จติ เจตสิก และกัมมชรปู ปรากฏเกิดข้นึ ครง้ั แรกใน ภพใดภพหนึ่ง โดยอาํ นาจแหง การสบื ตอ ภพเกา กับภพใหมเ รยี กวา ปฏิสนธิ ปฏิสนธิ มี ๔ อยา ง คอื ๑. อปายปฏสิ นธิ หมายความวา การปรากฏเกดิ ขนึ้ แหง จติ เจตสกิ และกมั มชรปู ครง้ั แรก ในอบายภูมิ ๔ เรียกวา อปายปฏิสนธิ ๒. กามสคุ ตปิ ฏสิ นธิ หมายความวา การปรากฏเกิดขน้ึ แหงจิต เจตสกิ และกมั มชรปู ครงั้ แรก ในกามสคุ ตภิ มู ิ ๗ เรยี กวา กามสุคตปิ ฏสิ นธิ ๓. รปู าวจรปฏสิ นธิ หมายความวา การปรากฏเกดิ ขน้ึ แหง จิต เจตสิก และกัมมชรูปครั้งแรก ในรปู ภูมิ ๑๕ และ ปรากฏเกดิ ขึ้นแหง กัมมชรูปคร้ังแรกในอสัญญสตั ตภมู ิ ทง้ั ๒ นี้ เรยี กวา รปู าวจรปฏิสนธิ ๔. อรปู าวจรปฏิสนธิ หมายความวา การปรากฏเกิดข้ึนแหง จิต เจตสกิ ครง้ั แรกในอรูปภมู ิ ๔ เรียกวา อรูปาวจร ปฏสิ นธิ ๗. จงแสดงจติ ตอ ไปนี้วา ทาํ หนาท่ีปฏสิ นธิในภมู ิไหนบา ง ? 44, 59 ก. อุเบกขาสันตีรณกุศลวิปากจิต ๑ ข. มหาวปิ ากญาณสัมปยตุ ตจิต ๔ ค. รูปาวจรตติยฌานวิปากจิต ๑ ง. รูปาวจรปญจมฌานวิปากจิต ๑ ดาวนโ หลดขอ มูลที่ ขอความเพิม่ เตมิ ท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่แี ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถสี งั คหะ, ภมู จิ ตกุ กะ, ปฏิสนธจิ ตุกกะ 30 ตอบ ก. อุเบกขาสนั ตรี ณกุศลวปิ ากจิต ๑ ทําหนา ทป่ี ฏสิ นธใิ นมนษุ ยภมู ิและจาตมุ มหาราชกิ าภูมิ ของมนุษยทีพ่ กิ ารแตก าํ เนดิ และจาตุมหาราชิกาช้ันตา่ํ ข. มหาวปิ ากญาณสมั ปยุตตจิต ๔ ทําหนาทปี่ ฏสิ นธใิ นกามสุคติภมู ิ ๗ ของมนุษยเทวดาชั้นสูง ค. รปู าวจรตตยิ ฌานวิปากจติ ๑ ทาํ หนาทป่ี ฏสิ นธใิ นทตุ ิยฌานภมู ิ ๓ ง. รูปาวจรปญ จมฌานวิปากจิต ๑ ทําหนา ทปี่ ฏิสนธิในจตตุ ถฌานภูมิ ๖ (เวน อสัญญสตั ตภูม)ิ ๗. ก. จงอธบิ ายประเภทของทคุ ติ ๓ อยางมีอคาริยปฏิปต ติทคุ ติเปน ตน ? 45 ตอบ ก. ในทุคติท้งั ๓ ประกาน้ี คฤหัสถผ ูครองเรอื น ไดก ระทาํ ทุจริตดวยอาํ นาจของกเิ ลส ชือ่ วา อคาริยปฏิปตติทคุ ติ ภิกษสุ ามเณรท่ีอยูในพระพุทธศาสนา ไดป ฏบิ ัตผิ ิดคือทําลายศรทั ธาท่มี อี ยใู นสนั ดานของพุทธศาสนิกชนใหเศรา หมองไป (กูลทูสน) และทาํ ตวั เปน หมอดู หมอยา (อเนสน) ภิกษุ สามเณรไดกระทาํ ผิดดงั ไดก ลาวมานี้ ชอื่ วา อนาคาริยปฏิปต ตทิ คุ ติ สวนคติทคุ ตินนั้ ไดแ ก คฤหสั ถและภกิ ษสุ ามเณร ท่ไี ดก ระทําผดิ ดงั ไดก ลา วมา เม่ือเวลาตายไดไ ปบังเกดิ ในอบายภมู ิทั้ง ๔ เรียกวา คติทคุ ติ ******************************** ส่งิ ท่ีสําคญั คือการเขาศึกษากบั อาจารยผ ูสอน เพ่ือความรูความเขาใจท่ถี ูกตอง แจม แจง หากสงสัยจะไดส อบถามทันที การรวบรวมขอ สอบทเ่ี คยออกมาแลว นี้ เปน เพียงแนวทางสําหรบั ผูศึกษา นาํ มาเนน +ทรงจาํ ไว (เม่ือไดช ่ือวาศกึ ษาแลว ก็ควรทรง จําใหไดม ากท่สี ดุ หรือท้งั หมด จงึ จะชอื่ วา สตุ ะดว ยดี เพื่อการจนิ ตาและภาวนาตอ ไป) การสอบไมใ ชท ส่ี ุดของชีวติ แตขอใหตั้งจติ ศกึ ษาและทรงจาํ เพอื่ ธาํ รงและรักษา ไวซ ึง่ พระศาสนา รูอรรถะและพยัญชนะ ทงั้ เขา ใจและเขาใหถ งึ ธรรมะ แมย ังมบิ รรลุ คุณธรรมอันสูงถึงขัน้ อรยิ ะ ก็ขอจงเปน ผูรูธ รรมะ (ตามสมควร) และจงเปนผูม ีธรรมะ วายเมเถว ปรุ ิโส ยาว อตถฺ สสฺ นิปปฺ ทา เกิดเปนคนควรจะพยายาม จนกวา จะประสบความสาํ เร็จ สาํ เนาประกอบการเรียนหรือแจกไดโดยไมตองขออนุญาต (สงวนสทิ ธิ์ในการนําไปจาํ หนาย) ผดิ -ตกขออภัย และกรณุ าแจงท่ี 081-860-2466 (Line ID), E-mail: [email protected], [email protected] (จกั ขอบพระคุณอยา งสงู ) ขออนุโมทนาในการศึกษาธรรมะ และทกุ ๆกุศลที่ทา นกระทาํ ไวด แี ลว และท่จี ะกระทาํ ในอนาคต ใหเรานั้นมปี จจยั ถึงพรอ มเพ่ือการทํากุศลใหส ําเร็จโดยสะดวก งา ยดาย และเร็วไว จนถงึ มัคคกุศล โดยเรว็ พลนั เทอญ ดาวนโหลดขอมลู ที่ ขอความเพิม่ เติมที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถีสังคหะ, ภมู ิจตกุ กะ, ปฏิสนธจิ ตุกกะ 31 เฉลยขอสอบขอ เขียนพระอภธิ รรม ภาคเรียนท่ี ๒ ปการศึกษา ๒๕๔๓-๒๕๖๑ อภธิ รรมโชตกิ ะวทิ ยาลยั มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั ชนั้ มัชฌิมอาภิธรรมมกิ ะตรี สอบวนั เสาร ท่ี ...... ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕....... วิชา : กรรมจตกุ กะ-มรณปุ ปต ตจิ ตุกกะ ๗ ขอ ๗๐ คะแนน เวลา ๔ ชว่ั โมง. (วนั ที่ ๒) ขอ ๑ (ทเ่ี คยออกสอบแตล ะป) ๑. ก. คําวา กรรม ในกัมมจตุกกะน้ี หมายความวาอยางไร ? ใหย กวจนตั ถะแสดง พรอมความหมายและองคธ รรม ? 49, 53, 54 แสดงวจนตั ถะวาอยางไร และองคธ รรมไดแกอะไร ? [P009-10] 50, 51, 53, 55, 57, 60 ตอบ ก. คําวา กรรม (ในกัมมจตกุ กะนี้) หมายความวา การกระทําท่เี กย่ี วดวยกาย วาจา ใจ ทงั้ ทางดี และไมด ี ช่ือวากรรม หรอื ธรรมชาตทิ ใี่ หสําเรจ็ การกระทาํ นั้นๆ ช่อื วากรรม ดงั มวี จนตั ถะวา “กรณํ กมมฺ ํ วา กโรนฺติ เอเตนาติ กมฺมํ” การกระทาํ ช่อื วากรรม หรอื สัตวท ัง้ หลายยอมกระทาํ โดย อาศัยธรรมชาติน้ัน ฉะน้นั ธรรมชาติที่เปน เหตใุ หส าํ เรจ็ การกระทาํ เหลา นนั้ ช่อื วากรรม องคธ รรมไดแ ก เจตนาเจตสิก ที่ในอกุศลจิต ๑๒ และ โลกยี กศุ ลจิต ๑๗ ๑. ข. กัมมจตุกกะนี้ พระอนุรุทธาจารยแ สดงกรรมแบงออกเปน กีห่ มวด คอื อะไรบาง ? และหมวดไหน แสดงตามสุตตันตนัย หมวดไหนแสดงตามอภธิ รรมนัย จงแสดงมาตามลําดบั ? [P010] 50, 51, 53, 55, 57, 60 ตอบ ข. พระอนรุ ทุ ธาจารยแสดงกมั มจตกุ กะน้ี แบง ออกเปน ๔ จตุกกะ คอื ๑. กิจจจตกุ กะ วา โดยกิจมี ๔ ๒. ปากทานปรยิ ายจตุกกะ วา โดยลาํ ดบั แหงการใหผลมี ๔ ๓. ปากกาลจตุกกะ วาโดยเวลาทีใ่ หผลมี ๔ ๔. ปากฎั ฐานจตุกกะ วาโดยฐานะทีใ่ หผ ลมี ๔ ในจตกุ กะท้ัง ๔ เหลาน้ี ปากฎั ฐานจตกุ กะอยางเดยี วท่แี สดงตามอภธิ ัมมนัย คือ เปน นยั ท่ีกลาวไดแ นน อน สวนจตกุ กะท้ัง ๓ ที่เหลือ แสดงตามสตุ ตันตนัย คอื เปน นัยท่กี ลา วไดไ มแ นนอน เพียงแตเปน ไปโดยสวนมากเทา นนั้ ๑. ในกัมมจตกุ กะท้งั ๔ เหลานที้ ีแ่ สดงตามสตุ ตันตนัยมีกจี่ ตุกกะ ? คอื อะไรบา ง ? และแตละจตกุ กะ นนั้ ๆ มี่กีอ่ ยา ง ? จงแสดงความหมายพรอ มทั้งองคธรรม ? 59 ตอบ ในกมั มจตกุ กะท้ัง ๔ เหลานี้ ท่ีแสดงตามสุตตนั ตนยั มี ๓ จตุกกะ คอื ๑. กิจจจตุกกะ ๒. ปากทานปริยายจตกุ กะ ๓.ปากกาลจตกุ กะ กิจจจตกุ กะ วาโดยกจิ มี ๔ อยา ง คือ ๑. ชนกกรรม กรรมท่ียอมทาํ ใหว ิบากนามขนั ธแ ละกมั มชรปู เกิดข้นึ องคธ รรมไดแก อกศุ ลกรรม ๑๒, โลกียกุศลกรรม ๑๗ ๒. อุปต ถมั ภกกรรม กรรมทีย่ อ มชว ยอุดหนุนกรรมอนื่ ๆ องคธ รรมไดแ ก อกศุ ลกรรม ๑๒ มหากุศลกรรม ๘ ๓. อปุ ปฬ กกรรม กรรมท่ยี อ มเขาไปเบยี ดเบยี นกรรมอ่ืนๆ องคธรรมไดแก อกศุ ลกรรม ๑๒ มหากุศลกรรม ๘ ๔. อุปฆาตกกรรม กรรมท่ียอ มเขาไปตดั รอนกรรมอ่ืนๆ หรือตัดรอนผลของกรรมอน่ื ๆ องคธ รรมไดแก อกุศลกรรม ๑๒, กุศลกรรม ๒๑ ๑. ครุกกรรม ปากทานปรยิ ายจตกุ กะ วา โดยลําดับแหง การใหผลมี ๔ อยา ง คอื กรรมอยางหนักทกี่ รรมอนื่ ๆ ไมส ามารถจะหามได องคธรรมไดแก ทิฏฐิคตสมั ปยุตต ๔ ทีเ่ กยี่ วกับนยิ ตมจิ ฉาทิฏฐกิ รรม ๑ โทสมลู จิต ๒ ที่ เกยี่ วกับปญ จานนั ตริยกรรม ๕ และมหัคคตกุศลกรรม ๙ ดาวนโหลดขอ มูลที่ ขอความเพิม่ เตมิ ที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ สี ังคหะ, ภูมจิ ตกุ กะ, ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ 32 ๒. อาสนั นกรรม กรรมท่ีทําไวเมื่อใกลจ ะตาย องคธ รรมไดแก อกศุ ลกรรม ๑๒ (เวน นยิ ตมิจฉาทฏิ ฐกิ รรม และปญจานันตรยิ กรรม) มหากศุ ลกรรม ๘ ๓. อาจณิ ณกรรม กรรมที่เคยทาํ ไวเสมอ ๆ องคธ รรมไดแก อกศุ ลกรรม ๑๒, มหากุศลกรรม ๘ ๔. กฏตั ตากรรม กรรมทที่ ําไวพ อประมาณ ไมเทาถึงกรรมทัง้ ๓ น้ัน หรือกรรมท่เี คยทําไวใ นอดีตชาติ องคธ รรมไดแก อกศุ ลกรรม ๑๒ มหากุศลกรรม ๘ ปากกาลจตกุ กะ วาโดยเวลาใหผล มี ๔ อยาง คอื ๑. ทฏิ ฐธมั มเวทนยี กรรม กรรมทใี่ หไดรบั ผลในปจ จุบันชาติน้ี องคธ รรมไดแก อกศุ ลกรรม ๑๒ มหากุศลกรรม ๘ เจตนาท่ใี นชวนะดวงที่ ๑ ๒. อปุ ปช ชเวทนยี กรรม กรรมที่ใหไ ดรบั ผลในชาตทิ ี่ ๒ องคธรรมไดแก อกศุ ลกรรม ๑๒ มหากุศลกรรม ๘ เจตนาที่ในชวนะดวงที่ ๗ ๓. อปราปริยเวทนียกรรม กรรมท่ีใหไดรับผลในชาติที่ ๓ เปน ตนไป จนกวาจะถึงพระนพิ พาน องคธ รรมไดแ ก อกศุ ลกรรม ๑๒ มหากุศลกรรม ๘ เจตนาท่ีในชวนะดวงท่ี ๒ ถึงดวงท่ี ๖ ๔. อโหสกิ รรม กรรมท่ไี มใ หผ ล องคธรรมไดแ ก เจตนากรรม ๒๙ ที่ลวงเลยการใหผ ลไปแลว ๒. จงแสดงกรรม ๑๖ โดยแบงเปน ๔ หมวด มาพรอ มท้ังความหมาย (ไมตองบอกองคธ รรม) ? 50, 52, 55, 60, 61 ตอบ แสดงกรรม ๑๖ โดยแบง เปน ๔ หมวด พรอมทัง้ ความหมาย ดังน้ี ๑. กจิ จจตุกกะ วา โดยกจิ มี ๔ อยา ง คอื ๑. ชนกกรรม กรรมทที่ ําใหว บิ ากเกดิ ขนึ้ ๒. อปุ ต ถัมภกกรรม กรรมที่ชวยอุดหนนุ กรรมอน่ื ๆ ๓. อุปปฬกกรรม กรรมทเ่ี ขา ไปเบยี ดเบยี นกรรมอน่ื ๆ ๔. อปุ ฆาตกกรรม กรรมทเ่ี ขาไปตดั รอนกรรมอนื่ ๆ หรอื ตัดรอนผลของกรรมอนื่ ๆ ๒. ปากทานปรยิ ายจตุกกะ วาโดยลาํ ดับแหง การใหผ ลมี ๔ อยาง คอื ๑. ครกุ กรรม กรรมอยา งหนกั ทก่ี รรมอ่ืน ๆ ไมส ามารถจะหามได ๒. อาสันนกรรม กรรมท่ที ําไวเ ม่อื ใกลจ ะตาย ๓. อาจณิ ณกรรม กรรมทีเ่ คยทาํ ไวเ สมอ ๆ ๔. กฏัตตากรรม กรรมทีท่ าํ ไวพอประมาณ ไมเ ทา ถึงกรรมท้ัง ๓ นัน้ หรือกรรมทเี่ คยทาํ ไวใ นอดีตชาติ ๓. ปากกาลจตกุ กะ วา โดยเวลาทีใ่ หผลมี ๔ อยา งคอื ๑. ทฏิ ฐธมั มเวทนยี กรรม กรรมทีใ่ หผ ลในปจ จุบนั ชาตนิ ี้ ๒. อุปปชชเวทนียกรรม กรรมทใ่ี หผ ลในชาตทิ ่ี ๒ ๓. อปราปริยเวทนยี กรรม กรรมท่ใี หผลในชาติท่ี ๓ เปนตนไป จนกวา จะถงึ พระนพิ พาน ๔. อโหสกิ รรม กรรมทีไ่ มใหผล ๔. ปากัฏฐานจตกุ กะ วา โดยฐานะท่ีใหผลมี ๔ อยา งคือ ๑. อกศุ ลกรรม กรรมทเ่ี ปนอกุศล ๒. กามาวจรกศุ ลกรรม กรรมทีเ่ ปน กุศลกรรมฝายกามาวจร ๓. รปู าวจรกุศลกรรม กรรมที่เปนรูปาวจรกุศล ๔. อรปู าวจรกุศลกรรม กรรมท่ีเปนอรปู าวจรกุศล ๑. ในกมั มจตุกกะท้ัง ๔ เหลาน้ี ทแ่ี สดงตามสตุ ตนั ตนัยมีก่ีจตกุ กะ ? คอื อะไรบาง ? และแตล ะจตกุ กะ(หมวด) น้นั ๆ มีก่ ี่อยาง ? จงแสดงพรอมความหมายมาโดยลําดับ (ไมตองบอกองคธรรม) ? 47, 48, 58 ตอบ ในกัมมจตุกกะทง้ั ๔ เหลา นี้ ทแี่ สดงตามสตุ ตนั ตนัยมี ๓ จตุกกะ คอื ๑. กจิ จจตกุ กะ ๒. ปากทานปรยิ ายจตกุ กะ ๓.ปากกาลจตุกกะ ดาวนโ หลดขอ มลู ท่ี ขอความเพม่ิ เติมท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ สี งั คหะ, ภูมิจตุกกะ, ปฏิสนธจิ ตกุ กะ 33 กรรมวา โดยกจิ มี ๔ อยางคอื ๑. ชนกกรรม กรรมท่ยี อ มทาํ ใหวบิ ากเกิดขึน้ ๒. อุปตถัมภกกรรม กรรมท่ียอ มชวยอุดหนนุ กรรมอนื่ ๆ ๓. อปุ ปฬ กกรรม กรรมทยี่ อมเขาไปเบียดเบียนกรรมอนื่ ๆ ๔. อุปฆาตกกรรมกรรม ทย่ี อ มเขา ไปตดั รอนกรรมอืน่ ๆ หรือตัดรอนผลของกรรมอนื่ ๆ กรรมวา โดยลําดับแหงการใหผ ลมี ๔ อยา งคือ ๑. ครกุ กรรม กรรมอยางหนกั ทก่ี รรมอื่น ๆ ไมส ามารถจะหา มได ๒. อาสนั นกรรม กรรมทที่ าํ ไวเ มือ่ ใกลจะตาย ๓. อาจณิ ณกรรม กรรมที่เคยทําไวเ สมอๆ ๔. กฏตั ตากรรม กรรมที่ทําไวพ อประมาณ ไมเ ทา ถงึ กรรมท้งั ๓ นนั้ หรือกรรมท่ีเคยทาํ ไวในอดตี ชาติ กรรมวา โดยเวลาใหผ ลมี ๔ อยางคอื กรรมที่ใหผลในปจ จบุ ันชาตนิ ี้ ๑. ทิฏฐธัมมเวทนียกรรม กรรมทใ่ี หผลในชาติท่ี ๒ ๒. อปุ ปช ชเวทนยี กรรม กรรมที่ใหผ ลในชาตทิ ี่ ๓ เปน ตนไปจนกวา จะถงึ พระนพิ พาน ๓. อปราปริยเวทนียกรรม กรรมที่ไมใ หผล ๔. อโหสิกรรม ๑. จงแสดงความหมาย พรอมท้งั แสดงองคธ รรมของกรรมท้งั ๑๒ มาโดยลําดบั ? 56 ตอบ ๑. ชนกกรรม กรรมที่ยอ มทาํ ใหว ิบากและกมั มชรปู เกดิ ข้ึน องคธ รรมไดแ ก อกุศลกรรม ๑๒ โลกยี กศุ ลกรรม ๑๗ ๒. อปุ ต ถมั ภกกรรม กรรมทยี่ อมชวยอุดหนนุ กรรมอนื่ ๆ องคธ รรมไดแก อกศุ ลกรรม ๑๒ มหากศุ ลกรรม ๘ ๓. อปุ ปฬ กกรรม กรรมทีย่ อ มเขา ไปเบียดเบียนกรรมอนื่ ๆ องคธ รรมไดแ ก อกศุ ลกรรม ๑๒ มหากุศลกรรม ๘ ๔. อปุ ฆาตกกรรม กรรมท่ียอมเขาไปตัดรอนกรรมอ่นื ๆ หรอื ตัดรอนผลของกรรมอ่ืน ๆ องคธ รรมไดแ ก อกุศลกรรม ๑๒ กุศลกรรม ๒๑ ๕. ครกุ กรรม กรรมหนกั ไมสามารถหา มได องคธ รรมไดแก ทฏิ ฐคิ ตสมั ปยุตตท เ่ี กย่ี วกบั นยิ ตมจิ ฉาทิฏฐกิ รรม และโทสมลู ท่ีเกยี่ วกับปญ จานันตริยกรรม และมหัคคตกศุ ลกรรม ๙ ๖. อาสันนกรรม กรรมทที่ าํ ไวเมอ่ื ใกลจะตาย องคธรรมไดแก อกุศลกรรม ๑๒ (เวน นยิ ตมิจฉาทฏิ ฐิกรรม, ปญ จานันตรยิ กรรม) มหากุศลกรรม ๘ ๗. อาจิณณกรรม กรรมท่ีทาํ ไวเสมอ ๆ องคธ รรมไดแก อกศุ ลกรรม ๑๒ มหากศุ ลกรรม ๘ ๘. กฎตั ตากรรม กรรมทที่ ําไวพอประมาณไมเ ทา ถึงกรรมทัง้ ๓ น้ัน หรอื กรรมทที่ ําไวในอดตี ภพ องคธรรมไดแก อกุศลกรรม ๑๒ มหากุศลกรรม ๘ ๙. ทิฏฐธมั มเวทนียกรรม กรรมที่ใหไดรบั ผลในปจ จบุ นั ชาตนิ ี้ องคธรรมไดแก อกุศลกรรม ๑๒ มหากุศลกรรม ๘ เจตนาทใ่ี นชวนะดวงที่ ๑ ๑๐. อปุ ปช ชเวทนียกรรม กรรมทีใ่ หไดร ับผลในชาตทิ ่ี ๒ องคธรรมไดแ ก อกุศลกรรม ๑๒ มหากุศลกรรม ๘ เจตนาทใี่ นชวนะดวงท่ี ๗ ๑๑. อปราปริยเวทนยี กรรม กรรมที่ใหไ ดรับผลในชาตทิ ่ี ๓ เปน ตนไปจนกวา จะถงึ พระนพิ พาน องคธ รรมไดแก อกศุ ลกรรม ๑๒ มหากศุ ลกรรม ๘ เจตนาทใ่ี นชวนะดวงที่ ๒ ถงึ ดวงท่ี ๖ ๑๒. อโหสิกรรม กรรมทีไ่ มใ หผ ล องคธ รรมไดแ ก เจตนากรรม ๒๙ ที่ลวงเลยการใหผ ลไปแลว ๒. จงแสดงความหมายของคําเหลาน้ี พรอมท้ังองคธ รรม ? 57 ก. อุปต ถัมภกกรรม ข. อปุ ฆาตกกรรม ค. ครกุ กรรม ฉ. อโหสกิ รรม ง. อาจณิ ณกรรม จ. ทฏิ ฐธมั มเวทนียกรรม ดาวนโหลดขอ มูลที่ ขอความเพ่ิมเตมิ ท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ สี ังคหะ, ภมู ิจตกุ กะ, ปฏสิ นธิจตุกกะ 34 ตอบ ก. อปุ ต ถัมภกกรรม หมายความวา กรรมทยี่ อ มชวยอุดหนนุ กรรมอื่นๆ องคธรรมไดแ ก อกุศลกรรม ๑๒ มหากุศลกรรม ๘ ข. อุปฆาตกกรรม หมายความวา กรรมทยี่ อ มเขา ไปตดั รอนกรรมอื่นๆ หรอื ตัดรอนผลของกรรมอืน่ ๆ องคธรรมไดแ ก อกศุ ลกรรม ๑๒ กุศลกรรม ๒๑ ค. ครกุ กรรม หมายความวา กรรมอยา งหนกั ท่ีกรรมอืน่ ๆ ไมส ามารถทจ่ี ะหามได องคธรรมไดแ ก ทิฏฐิคตสมั ปยุตตจิต ๔ ทีเ่ กีย่ วกับนิยตมจิ ฉาทฏิ ฐกิ รรม, และ โทสมลู จติ ทเี่ กย่ี วกับ ปญ จานนั ตริยกรรม, มหัคคตกุศลกรรม ๙ ง. อาจณิ ณกรรม หมายความวา กรรมที่ทาํ ไวเสมอ ๆ องคธรรมไดแ ก อกุศลกรรม ๑๒ กุศลกรรม ๒๑ จ. ทฏิ ฐธัมมเวทนียกรรม หมายความวา กรรมที่ใหไ ดร บั ผลในปจ จุบันชาตนิ ี้ องคธ รรมไดแก อกุศลกรรม ๑๒ กุศลกรรม ๒๑ เจตนาท่ีในชวนดวงที่ ๑ ฉ. อโหสิกรรม หมายความวา กรรมที่ไมมผี ล องคธรรมไดแ ก เจตนากรรม ๒๙ ท่ีในชวนะดวงที่ ๑ ถึงดวงที่ ๗ ทีล่ ว งเลยกาลเวลาใหผ ลไปแลว ขอ ๒ (ท่เี คยออกสอบแตล ะป) ๒. ก. อปุ ตถัมภกกรรมน้เี มื่อวา โดยประเภทใหญแ ลว มเี ทาไร ? คืออะไรบา ง ? [P011-23] 47, 48, 51 ตอบ ก. อปุ ต ถมั ภกกรรมนีเ้ มอื่ วาโดยประเภทใหญแ ลว มี ๓ ประเภท คอื ๑. ชวยอุดหนุนชนกกรรมทยี่ งั ไมม โี อกาสใหผล ใหม ีโอกาสสง ผล ๒. ชวยอุดหนนุ ชนกกรรมทก่ี าํ ลงั มโี อกาสใหผ ล ใหมีกําลังในการใหผลนนั้ บริบรู ณยง่ิ ขน้ึ ๓. ชวยอดุ หนุนรปู นามทีเ่ ปน วิบากของชนกกรรมใหเ จรญิ และตง้ั อยไู ดน าน ๒. ก. การเบยี ดเบียนของอุปปฬกกรรมเมอ่ื สรุปโดยประเภทใหญๆ แลว มีก่ีอยาง คืออะไรบา ง? [P024-26] 47, 48, 53 ตอบ ก. การเบียดเบยี นของอปุ ปฬ กกรรม สรปุ แลว มี ๓ อยาง คอื ๑. อุปปฬ กกรรม ทเ่ี บียดเบยี นชนกกรรมอ่นื ๆ เพอื่ ไมใหม โี อกาสสง ผล ๒. อปุ ปฬ กกรรม ที่เบียดเบียนชนกกรรมอื่น ๆ ทีม่ ีโอกาสสง ผลอยแู ลว ใหมกี ําลงั ลดนอ ยลง ๓. อุปปฬ กกรรม ทเ่ี บยี ดเบยี นรปู นามท่ีเกิดจากชนกกรรมนนั้ ๆ ๒. ก. อุปปฬ กกรรมหมายความวา อะไร ? ใหแสดงองคธ รรมดว ย ? และเมือ่ สรุปโดยประเภทใหญๆ แลวมกี ่อี ยาง ? คืออะไรบาง ? [P024-26] 54 ตอบ ก. อปุ ปฬ กกรรม กรรมทยี่ อ มเขาไปเบยี ดเบียนกรรมอนื่ ๆ องคธรรมไดแก อกุศลกรรม ๑๒ มหากุศลกรรม ๘ เม่ือสรปุ โดยประเภทใหญ ๆ แลว มี ๓ อยา ง คือ ๑. อุปปฬ กกรรม ทเ่ี บียดเบียนชนกกรรมอน่ื ๆ เพอ่ื ไมใหมโี อกาสสง ผล ๒. อปุ ปฬกกรรม ท่ีเบียดเบยี นชนกกรรมอื่น ๆ ที่มีโอกาสสง ผลอยแู ลว ใหม กี าํ ลงั ลดนอ ยลง ๓. อุปปฬกกรรม ท่เี บยี ดเบยี นรปู นามทีเ่ กดิ จากชนกกรรมนั้น ๆ ๒. ค. การตัดของอุปฆาตกกรรมน้ี ทานแสดงไวก่อี ยา ง ? คอื อะไรบาง ? [P027] 47, 48 ตอบ ค. การตดั ของอปุ ฆาตกกรรมนี้ ทานแสดงไวม ี ๒ อยา ง คอื ๑. ตดั ชนกกรรมอ่ืน ๆ เพอ่ื มใิ หมโี อกาสสงผลตลอดไป (กมมฺ นตฺ ร อุปฆาตก) ๒. ตดั รูปนามที่เกดิ จากชนกกรรมนน้ั ๆ ใหเสยี ไป (กมมฺ นิพฺพตตฺ ขนฺธสนตฺ าน อุปฆาตก) ๒. ก. อุปปฬ กกรรม กับอุปฆาตกกรรม มสี ภาพใหผลตางกนั อยางไร ? 61 ตอบ ก. อุปฆาตกกรรม กับอุปปฬกกรรม มสี ภาพใหผ ลตางกนั ดงั น้ี อุปปฬ กกรรมนั้น เปนกรรมทเ่ี พยี งแตเบยี ดเบียนกรรมอน่ื ๆ และวิบากซึ่งไดแกอวัยวะรา งกายไมใหเกดิ ขน้ึ ดาวนโ หลดขอ มูลที่ ขอความเพ่มิ เติมที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถสี งั คหะ, ภมู ิจตกุ กะ, ปฏสิ นธิจตุกกะ 35 หรอื ไมใ หเจริญขึ้น ไมไดเ ปนกรรมชนดิ ท่ที าํ ใหเ ดด็ ขาดลงไป สว นอุปฆาตกกรรม เปนกรรมชนดิ ท่ีตัดอยางเดด็ ขาดคอื ถา ตัดกรรมแลว กรรมน้นั ไมส ามารถใหผลเกิดขน้ึ ได เลยตลอดไป ถาตดั วบิ ากของกรรมแลว หมายถงึ รา งกายหรอื อวัยวะสว นใดสว นหนง่ึ ของผูนั้นยอมเสียไปจนตลอด ชวี ติ หรอื มิฉะน้นั กรรมนั้นก็ตดั เอาชวี ิตของผนู น้ั เสยี เลย ๒. ค. ทฏิ ฐธมั มเวทนียกรรม มีก่ีอยา ง คอื อะไรบา ง ? จงบอกมาตามลาํ ดับพรอ มทั้งความหมาย ? [P043] 53 ตอบ ค. ทิฏฐธมั มเวทนยี กรรม มี ๒ อยา ง คอื ๑. ปริปก กทิฏฐธมั มเวทนยี กรรม กรรมทจี่ ะใหไ ดรบั ผลในปจจุบนั ภพน้ี เขา ถงึ ความแกกลาแลวคอื ใหผลภายใน ๗ วัน ๒. อปรปิ กกทิฏฐธัมมเวทนยี กรรม กรรมทีจ่ ะใหผลในปจ จบุ นั ภพนี้ ยังไมเขา ถงึ ความแกกลา คอื ใหผ ลภายหลงั ๗ วนั ไปแลว ๒. ข. จงแสดงความแตกตางกนั ในระหวา งการใหผลของอกศุ ลครุกกรรม กบั กศุ ลครกุ กรรม ? [P035] 53 ตอบ ข. แสดงความแตกตา งกนั ในระหวา ง การใหผลของอกุศลครกุ กรรม กบั กุศลครกุ กรรมดงั นี้ อกุศลครกุ กรรมนั้นแมว า ตนจะไมม โี อกาสเปน ผสู ง ผล แตก ็มีฐานะเปน อปุ ตถัมภกกรรมได สว นกศุ ลครกุ กรรมนัน้ เม่ือตนไมม โี อกาสไดส ง ผลแลว กเ็ ปน อโหสิกรรมไป ไมมีฐานะเปน อุปตถัมภกกรรมได ดวยเหตุผลดังกลาวมาน้ี อกศุ ลครกุ กรรม จึงมชี ่ือเรียกเปนพิเศษวา ปญจานนั ตรยิ กรรม และนิยตมิจฉาทฏิ ฐกิ รรม สําหรบั กศุ ลครกุ กรรมนนั้ ไมม ีชื่อเรยี กเปนพิเศษ ๒. ก. จงแสดงเหตุที่ทําใหผลของทานกศุ ลปรากฏไดในภพน้ี จะตอ งประกอบดวยหลักกป่ี ระการ คืออะไรบา ง ? 56 ๒. ข. สาเหตทุ ี่ทําใหผลของทานกุศลทเี่ ปน ทิฏฐธมั มเวทนยี กรรมปรากฏไดในภพน้ีมกี อี่ ยา งอะไรบาง ? 51 ๓. ข. ทานกุศลที่จะสงผลใหไดเ ปน ทฏิ ฐธัมมเวทนียกรรมนั้น จะตองประกอบดวยองคกี่อยา ง? คืออะไรบา ง? 58, 59, 61(2) ตอบ ก. สาเหตุท่ที ําใหผ ลของทานกุศลที่เปนทิฏฐธัมมเวทนยี กรรมปรากฏไดใ นภพนม้ี ี ๔ อยาง คือ [P048-49] ตอบ ข. (สําหรบั ) ทานกุศลท่จี ะสงผลใหไ ดเ ปนทฏิ ฐธมั มเวทนยี กรรมนนั้ จะตอ งประกอบดว ยองค ๔ อยา ง คือ ๑. วตั ถุสมั ปทา ปฏิคาหกผรู บั ทานน้ัน เปนพระอนาคามีหรือพระอรหนั ต ๒. ปจ จยสมั ปทา วตั ถสุ ่ิงของทนี่ าํ มาถวายนนั้ เปน สงิ่ ท่ไี ดม าดวยความบริสุทธิ์ ๓. เจตนาสัมปทา ผูถวายทานถงึ พรอ มดวยเจตนาอันแรงกลา ๔. คุณาตเิ รกสมั ปทา พระอนาคามหี รอื พระอรหนั ต ผูร ับทานนน้ั ไดพ รอ มดว ยคุณอันพิเศษ กลา วคอื พึง่ ออกจากนิโรธสมาบตั ิ (56) เมื่อครบองคท้ัง ๔ ประการ ดังกลา วนี้แลว ทานของผนู ้นั กส็ าํ เรจ็ เปน ทฏิ ฐธมั มเวทนียกรรม และใหไดร ับผลในปจจุบนั ทนั ที ๒. ค. อโหสกิ รรมมีช่อื เรยี กได กอ่ี ยา ง ? คอื อะไรบาง ? [P060-] 51, 59, 61(7) ตอบ ค. อโหสิกรรมมีชอื่ เรยี กได ๓ อยา ง คือ ๑. นาโหสิ กมมฺ วปิ าโก ชื่อวา กรรมท่ียังไมใ หผ ล ๒. น ภวสิ สฺ ติ กมฺมวปิ าโก ชอื่ วา กรรมท่จี ะไมใ หผล ๓. นตถฺ ิ กมฺมวิปาโก ชอ่ื วา กรรมที่ไมมีผล ๓. ก. มหคั คตกุศลกรรมจัดเขา ในกรรมชนดิ ไหน และตางกนั กบั กามาวจรกรรมอยา งไร ? [P068] 55, 59(4ก) ตอบ ก. ผูท ไ่ี ดฌ าน ถา ฌานน้นั ไมเ สื่อม เมือ่ ตายจากภพนย้ี อ มไปเกดิ ในพรหมโลกตามฐานะแหง ฌานทต่ี นได ในภพที่ ๒ โดยแนน อน ไมม กี ารรอคอยไปสง ผลในภพที่ ๓ เปนตน เลย เหมือนกบั เจตนาที่อยู ในชวนะดวงท่ี ๗ ฉะน้ัน มหคั คตกศุ ลกรรมจงึ จัดเขา อยใู น อปุ ปช ชเวทนียกรรม และมหคั คตกุศลกรรม ตางกบั กามาวจรกรรม คอื ..... ดาวนโหลดขอ มูลที่ ขอความเพ่ิมเตมิ ท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่แี ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถีสังคหะ, ภมู ิจตกุ กะ, ปฏสิ นธจิ ตุกกะ 36 ๔. ก. จงแสดงถึงการสง ผลของมหคั คตกุศลกับกามาวจรกุศลวาตา งกนั อยา งไร และอปุ มาเปรยี บเทยี บใหเ หน็ ดวย ? 50 ตอบ ก. การสงผลของมหัคคตกุศล กับ กามาวจรกุศล ตางกนั คือ ] [P69] มหัคคตกุศลกรรมยอ มสง ผลไดแ ตเ ฉพาะในภพที่ ๒ เทา นนั้ ........ เหมือนกับขาวเปลือกทเ่ี ก็บไวนาน ๆ ไดไมเ สยี ๔. ก. มหคั คตกุศลกรรมจัดเขาในกรรมชนิดไหน ? และตา งกันกบั กามาวจรกรรมอยา งไร ? 61 ตอบ ก. มหคั คตกศุ ลกรรมจึงจัดเขา อยใู น อุปปช ชเวทนยี กรรม และมหัคคตกศุ ลกรรม ตา งกับกามาวจรกรรม คอื มหัคคตกุศลกรรมยอ มสง ผลไดแ ตเ ฉพาะในภพที่ ๒ เทานน้ั ถา ไมม ีโอกาสสง ผลในภพที่ ๒ ก็ตอ งเปนอโหสกิ รรม ไป เหมอื นกับขา วสุกทเี่ ก็บไวน านวนั ไมไ ด ถา ไมกินขา วสุกนัน้ กบ็ ูดเสยี ไป สว นกามาวจรกรรมนนั้ ยกเวนเจตนาทอ่ี ยู ในชวนะดวงท่ี ๑ และดวงท่ี ๗ แลว นอกน้นั ยอมสง ผลไดเร่อื ย ๆ ถามีโอกาส ไมมกี ารเปน อโหสกิ รรมจนกวาผนู นั้ จะ เขา ถึงพระนพิ พานเปรียบเหมือนกบั ขา วเปลือกท่เี กบ็ ไวนาน ๆ ไดไ มเสีย ๑. ข. กรรมเม่ือวา โดยภูมิอันเปน ที่ใหผ ลเกดิ ขึ้นนน้ั มีกี่อยาง คอื อะไรบาง ? [P070] 54 ตอบ ข. กรรมเมอ่ื วาโดยภมู อิ นั เปน ทใ่ี หผลเกดิ ข้นึ นนั้ มี ๔ อยา ง คอื ๑. อกศุ ลกรรม ไดแก เจตนาที่อยใู น อกศุ ลจติ ๑๒ ๒. กามาวจรกุศลกรรม ไดแก เจตนาท่อี ยใู น มหากศุ ลจิต ๘ ๓. รปู าวจรกศุ ลกรรม ไดแก เจตนาทอ่ี ยใู นรปู าวจรกศุ ลจติ ๕ ๔. อรปู าวจรกศุ ลกรรม ไดแก เจตนาทีอ่ ยูใ นอรปู าวจรกุศลจติ ๔ ๒. ข. คาํ วา “กรรมทวาร” เม่ือแยกบทแลวไดก บ่ี ท ? แตล ะบทหมายถงึ อะไรเมื่อรวมกนั แลวหมายความวา อยา งไร ? และกรรมทวารมีกี่อยา ง ? คอื อะไรบาง ? ใหบ อกมาพรอมความหมาย และองคธรรม ? และมโนทวารเก่ยี วกบั อกศุ ลกรรมนนั้ ไดแกจติ กีด่ วง? คอื อะไรบา ง ? [P070] 50(3ก), 52(ก), 56, 60 ตอบ ข. คําวา “กรรมทวาร” เม่ือแยกบทแลวได ๒ บท คือ กมฺม + ทวฺ าร กมมฺ หมายถงึ การกระทาํ , ทวฺ าร หมายถงึ เปน เหตใุ หเกดิ รวม ๒ บทเขา แลวเปน กมฺมทฺวาร หมายความวา เปน เหตุใหเกิดการกระทาํ และกรรมทวาร มี ๓ อยา ง คือ ๑) กายทวาร กายเปนเหตุใหเกดิ การกระทาํ ไดแ ก กายวญิ ญัตติรปู ๒) วจีทวาร วาจาเปนเหตใุ หเกิดการกระทาํ ไดแก วจวี ญิ ญตั ตริ ูป ๓) มโนทวาร ใจเปนเหตใุ หเกิดการกระทํา ไดแ ก จติ ทง้ั หมด และมโนทวารเก่ยี วกับอกศุ ลกรรมนนั้ ไดแกจิต ๑๐ ดวง คือ อกุศลจิต ๑๐ (เวน โมหมลู จิต ๒ ) ๒. ข. ปญ จานนั ตริยกรรมเม่ือแยกบทแลว ไดก่ีบท? แตล ะบทหมายถึงอะไร? เมอ่ื รวมบทแลว แปลวาอยา งไร? 58 ตอบ ข. ปญจานนั ตรยิ กรรมเมอื่ แยกบทแลวได๔ บท ไดแ ก ปฺจ+อนนตฺ ร+อิย+กมฺม [ปฺจ= ๕, อนนตฺ ร = ภพที่ไมมรี ะหวา งคน่ั ในลําดับแหง จตุ ิ, อิย= ใหผ ล, กมมฺ = การกระทาํ ] เมื่อรวมบทแลวเปน ปญ จานนั ตริยกรรม แปลวา การกระทํา ๕ อยา ง ทใี่ หผลโดยไมม รี ะหวา งคัน่ ในลาํ ดับแหง จุติ ๒. ก. ถา สมมติวา ผูใ ดทําปญจานนั ตริยกรรมครบท้งั ๕ อยา งแลว เมอื่ วา โดยการใหผลตางกนั อยางไรบา ง ? ใหแสดงมาตามลําดบั พรอมเหตุผลเปน เคร่อื งตดั สินในกรณเี สมอกัน? 58 ตอบ ก. ในปญจานนั ตรยิ กรรม ๕ อยา งน้ัน สังฆเภทกกรรมหนักท่ีสุด ถาสมมติวาผใู ดทาํ ปญ จานันตรยิ กรรม ครบทง้ั ๕ อยา งแลว สงั ฆเภทกกรรมจะเปน ผูสง ผลแกผนู นั้ สวนกรรมท่ีเหลอื กเ็ ปน กรรมผชู วยสนบั สนนุ ในการใหผ ล ของสังฆเภทกกรรมไป กรรมที่หนักรองลงมาจากสงั ฆเภทกกรรมนั้นไดแ กโลหติ ปุ บาท ตอจากโลหติ ุปบาทกไ็ ดแ ก อรหนั ตฆาตกกรรมยอมหนกั กวากรรมท่เี หลือ ๒ สว นมาตฆุ าตกกรรมกบั ปต ฆุ าตกกรรมทงั้ ๒ น้ี ตอ งแลวแต คุณสมบตั ิคอื ถา บดิ าเปน ผูมศี ลี ธรรม มารดาไมมีศลี ธรรม ปตุฆาตกกรรมยอมหนักกวา ถา มารดามีศีลธรรมบิดาไมมี ศลี ธรรมมาตฆุ าตกกรรมยอมหนกั กวา ถา บิดาและมารดาทง้ั ๒ มีศลี ธรรมเสมอกนั หรอื ไมมีศลี ธรรมเสมอกนั แลว มาตฆุ าตกกรรมยอ มหนักกวา และใหผ ลกอน เพราะวามารดานั้นเปนผูรับภาระหนกั อนั กระทําไดโ ดยยาก และเปน ผู ดาวนโ หลดขอ มลู ท่ี ขอความเพมิ่ เติมที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ที่แปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถสี ังคหะ, ภมู จิ ตกุ กะ, ปฏสิ นธิจตุกกะ 37 มอี ปุ การคณุ ตอ บตุ รทง้ั หลาย ๒. ข. โลกุตตรกุศลกรรม จดั เปน ครกุ กรรมไดห รือไม และครกุ กรรมในกมั มจตุกกะน้ี ทา นหมายเอากรรมชนิดไหน ? 54, 58(4ก), 60(5ก) ตอบ ข. โลกตุ ตรกศุ ลกรรมน้นั เปน ครุกกรรมไดก ็จรงิ แตในท่ีนตี้ อ งการแตก รรมทจ่ี ะสงผลใหเกิดในภพที่ ๒ สวนโลกตุ ตรกศุ ลน้นั ไมม หี นา ทีท่ าํ ใหเกดิ ภพชาติ แตม หี นา ที่ทาํ ลายการเกดิ ตามสมควรแกก ําลังของตนเทา นนั้ และกรรมท่ชี ือ่ วา ครุกกรรมในทนี่ ี้ หมายถงึ เปนกรรมท่ีหนักแนน สามารถสงผลใหเกดิ ในชาติที่ ๒ ตอกนั โดย แนน อน กรรมอนื่ ๆ ไมสามารถกั้นไวได ขอ ๓ (ท่ีเคยออกสอบแตล ะป) ๓. ก. ปจ จยั เปนพเิ ศษที่ทาํ การชว ยอปุ การะแกกุศลทฏิ ฐธัมมเวทนยี กรรม ทเ่ี รียกวา “สัมปต ติ” น้นั มกี อ่ี ยาง ? คอื อะไรบาง ? จงแสดงมาพรอ มความหมาย ? [P047] 58 ๓. ก.คําวา สมั ปตติ มกี ่ีอยาง อะไรบา ง ? [P047] 52 ตอบ ก. ปจ จยั เปน พิเศษทีท่ าํ การชว ยอุปการะแกก ศุ ลทฏิ ฐธมั มเวทนยี กรรมท่เี รยี กวา “สมั ปต ต”ิ นั้นมี ๔ อยา ง คอื ๑. คตสิ ัมปตติ หมายถงึ บคุ คลท่ีไดเกดิ อยูในสุคตภิ มู ิ มีมนุษย เทวดา และพรหม ๒. กาลสัมปต ติ หมายถงึ สมัยใดท่ีบุคคลไดอ ยใู นประเทศ ทมี่ พี ระราชาเปนสัมมาทฏิ ฐบิ ุคคลปกครอง บานเมอื งอยู และพระพุทธศาสนาก็ยังมอี ยู ยงั ไมสญู สิ้นไป ๓. อปุ ธิสัมปตติ หมายถงึ บคุ คลทไ่ี ดเ กดิ มาแลว มี อวยั วะใหญนอ ย คือ ตา หู เปน ตน นัน้ ครบถวน บริบูรณ ไมข าดตกบกพรอ ง ๔. ปโยคสมั ปต ติ หมายถงึ บุคคลท่อี าศัยความเพยี รถกู และความคิดทถ่ี กู แลว ทํากายกรรม วจกี รรม มโนกรรม ทีเ่ ปนสุจริต ไมผดิ กฎหมายของบานเมอื ง และไมผ ดิ หลักธรรมในพระพทุ ธศาสนา ๓. ก. จงแสดงความแตกตา งกนั ระหวา ง เจตนากบั กรรมโดยยอมาดู ? 48 ตอบ ก. ความแตกตา งกนั ระหวา ง เจตนากับกรรม คอื เจตนาเปน ปุพพภาคธรรม คือธรรมที่เกิดกอ น กรรมเปน ปจ ฉาภาคธรรม คอื ธรรมทเ่ี กิดภายหลงั เจตนา น้ีเปนการแสดงโดยอเภทกนยั คือไมไ ดแ สดงแยกประเภท ดงั น้ันทา นพระมหาพุทธโฆษาจารยจึงไดแ สดงไวอ ุบาลีสตู รแหง มัชฌิมปณ ณาสกอ รรถกถาวา “กสมฺ า เจตนา กมมฺ นตฺ ิ วุตตฺ า เจตนา มลู กตฺตา กมมฺ สสฺ ” เพราะเหตุใดพระผมู พี ระภาคเจา ทรงกลา ววา เจตนาช่อื วา กรรมกเ็ พราะ การกระทําท่ีสาํ เรจ็ ลงน้นั มเี จตนาเปน มลู ” ๓. จงแสดงสมฏุ ฐานทีเ่ ปน เหตุใหเกดิ อกศุ ลกรรมบถ ๑๐ มาท้ังบาลี และคําแปล ? [P3] 49, 53 ตอบ แสดงสมฏุ ฐานทเ่ี ปน เหตุใหเกิดอกุศลกรรมบถ ๑๐ - เตสุ ปาณาตปิ าโต ผรุสวาจา พฺยาปาโท จ โทสมเู ลน ชายนตฺ ิ ฯ ในอกุศลกรรมบถ ๑๐ นัน้ ปาณาติบาต ๑ ผรสุ วาท ๑ พยาบาท ๑ กรรมท้งั ๓ น้ี เกิดขึน้ เพราะโทสมลู จิต - กาเมสมุ จิ ฺฉาจาโร อภชิ ฌฺ า มจิ ฺฉาทฏิ   จ โลภมเู ลน ฯ กาเมสมุ จิ ฉาจาร ๑ อภิชฌา ๑ มจิ ฉาทฎิ ฐิ ๑ กรรมทงั้ ๓ น้ยี อมเกิดขึน้ เพราะโลภมลู จิต - เสสานิ จตฺตารปิ  ทฺวหี ิ มูเลหิ สมฺภวนฺติ ฯ อกุศลกรรมบถทีเ่ หลืออีก ๔ คือ อทินนาทาน ๑ มสุ าวาท ๑ ปส ณุ วาจา ๑ สมั ผปั ปลาปะ ๑ ยอ มเกิดข้ึนเพราะโลภมลู จติ หรอื โทสมูลจติ ๓. ก. ปาณาติบาต ทกี่ า วลวงกรรมบถไดน ้ัน จะตอ งมีองคป ระกอบอยา งละเทา ไร ? อะไรบาง ? ใหบอกมาพรอ มความหมาย ? [P76] 48, 54, 57 ๒. ค. การกระทําปาณาติบาตท่เี ปน การกาวลวงกรรมบถนัน้ จะตอ งประกอบดวย องคก่ีอยาง ? คอื อะไรบา ง ? 59 ดาวนโ หลดขอ มลู ที่ ขอความเพิ่มเตมิ ที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ สี งั คหะ, ภมู จิ ตกุ กะ, ปฏิสนธจิ ตกุ กะ 38 ตอบ ก. การกาวลว งกรรมบถ ของปาณาติบาตนน้ั ตองประกอบดว ยองค ๕ คอื ๑. ปาโณ สัตวมีชวี ติ ๔. ปโยโค ทาํ ความเพยี รเพอื่ ใหต าย ๒. ปาณสฺ ต า รวู า สตั วนั้นมีชวี ติ ๕. เตน มรณํ สัตวน ้นั ตายลงดว ยความเพยี รน้นั ๓. วธกจิตตฺ ํ มจี ิตคดิ จะฆา ๔. ข. คําวา อทนิ นาทาน น้ี เม่อื แยกบทแลวไดก บี่ ท ? คืออะไรบาง ? แตละบทหมายความวา อยา งไร ? และเมือ่ รวมกนั แลวแปลวาอยา งไร ? ไดแ กอะไร ? [P92] 59 ตอบ ข. คําวา อทนิ นาทาน นี้ เมอ่ื แยกบทแลว ได ๓ บท คือ อ + ทินนฺ + อาทาน อ เปน คาํ ปฏเิ สธ ทินฺน = วัตถุส่ิงของท่เี จาของอนุญาตให อาทาน = ยึดถือเอา เม่อื รวมกันแลวเปน อทินนาทาน แปลวา ยึดถือเอาวัตถสุ ิ่งของที่เจาของไมไ ดอนุญาตใหห รอื ที่เจาของหวงแหนไดแ ก เถยยเจตนา คือ เจตนาทีเ่ ปนเหตแุ หง การลักทรัพย ๓. ข. การทาํ อกุศลชนดิ อทนิ นาทาน ทีเ่ ปนการกา วลว งกรรมบถนัน้ ตอ งประกอบดว ยองคเ ทาไร ? คอื อะไรบา ง ? จงแสดงมาพรอมองคป โยคะ ? [P093] 51(ก), 54, 58(4ข), 60(5ข) ตอบ ข. การทาํ อทนิ นาทาน ทก่ี า วลวงกรรมบถนนั้ ตองประกอบดว ย องค 5 คอื 1. ปรปริคคฺ หิตํ วัตถสุ ่ิงของที่เจา ของเกบ็ รักษาไว 2. ปรปรคิ คฺ หติ สฺ ต า รูวา วัตถสุ งิ่ ของนัน้ มเี จา ของเกบ็ รกั ษาไว 3. เถยฺยจิตตํ มจี ิตคดิ จะลกั 4. ปโยโค ทาํ ความเพยี รเพ่ือลัก 5. อวหาโร ไดส ่ิงของนน้ั มาดวยความเพยี รน้นั ๓. ข. การด่ืมสรุ าเมรยั น้นั อนุโลมเขาในอกุศลกรรมบถขอใดไดเ พราะเหตุใด ? และการดื่มสุรานกี้ ระทาํ ใหสําเร็จกจิ ไดก อ่ี ยา ง ? คืออะไรบา ง ? [P120, 122] 50 ตอบ ข. การดมื่ สรุ าเมรยั นน้ั อนุโลมเขา ในกาเมสมุ ิจฉาจาร เพราะมีสภาพเหมือนกับกาเมสุมจิ ฉาจาร และอนโุ ลมเขา ในอกุศลกรรมบถ ๑๐ ดว ย เพราะเปนการชวยอปุ การะใหอกุศลกรรมบถ ๑๐ สําเรจ็ ลง และการดืม่ สรุ าน้กี ระทาํ ใหส าํ เรจ็ กจิ ได ๒ อยา ง คอื ๑) ปฏสิ นธชิ นนกจิ กจิ ที่ทาํ ใหเกิดในนิรยภมู ิ ๒) กมั มชนนกจิ กจิ ที่ทาํ ใหก ารกระทําทุจรติ สาํ เรจ็ ลง ๓. ข. วาจามีก่ีอยา ง ไดแกอะไรบา ง ? [P131-] 55, 61(4) ตอบ ข. วาจามี ๔ อยา ง คือ ๑. สัททวาจา ไดแก เสียงท่ีพดู ขนึ้ ๒. วริ ตีวาจา ไดแก การเวนจากวจีทจุ รติ ๓. เจตนาวาจา ไดแ ก เจตนาที่ทําใหว จวี ญิ ญตั ิรูปเกดิ ๔. โจปนวาจา ไดแ ก กิรยิ าอาการพเิ ศษทเ่ี ปน ไปอยูในคาํ พูดซง่ึ สามารถทาํ ให ผูฟง รูต ามความประสงคข องตนได ๓. ข. วจีทจุ รติ มีเทาไร ? อะไรบา ง ? แสดงพรอมคาํ แปล ? [P131-] 51 ตอบ ข. มี ๔ คือ ๑. มุสาวาท คําพดู ทไี่ มตรงกบั ความเปนจรงิ ๒. ปส ุณวาจา คําพูดท่บี ดความสามัคคใี หแ ตกแยกกระจดั กระจาย ๓. ผรสุ วาจา คําพดู ท่ีหยาบ ไดแก การดา การแชง ๔. สัมผปั ปลาปะ การกลาววาจาที่ทําลายประโยชนและความสุข ๔. ก. องคแ หง มุสาวาท มีกอ่ี ยาง ๆ คืออะไรบาง ? [P132] 47 ๑๙ ก.พ. ๖๒ ดาวนโหลดขอมูลท่ี ขอความเพมิ่ เติมท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทีแ่ ปะไว)

วิถีสังคหะ, ภูมิจตกุ กะ, ปฏสิ นธิจตกุ กะ 39 ตอบ ก. องคแ หง มสุ าวาทมี ๔ อยา ง คือ ๑. อตถวตถฺ ุ สงิ่ ของหรอื เร่อื งราวท่ไี มจ รงิ อยา งหน่ึง ๒. วสิ ํวาทนจิตตฺ ตา มีจติ คิดจะมสุ าอยางหนงึ่ ๓. ปโยโค พยายามมสุ าดว ยกายหรือวาจาตามความประสงคของตนอยางหนงึ่ ๔. ตทตฺถ วชิ านนํ ผูอ่นื มคี วามเช่ือตามเน้ือความที่มสุ านนั้ ๔. ข. ปโยคะ คือ ความพยายามในการมุสา มีก่อี ยาง อะไรบา ง ? [P132] 50, 52(3ข) ตอบ ข. ปโยคะ คอื ความพยายามในการมุสาน้ี มี ๔ อยา ง คอื ๑. สาหัตถิกะ พยายามมสุ าดว ยตนเอง ๒. อาณตั ติกะ ใชใหค นอน่ื มสุ า ๓. นิสสัคคยิ ะ เขยี นเรอ่ื งทไี่ มจ ริงแลวทิง้ ไปใหคนอืน่ เขาใจผิดเชน ทง้ิ จดหมาย หรอื โฆษณาทางวทิ ยุ ๔. ถาวระ เขียนเรอ่ื งทไ่ี มจ รงิ แลวปด ประกาศไว หรอื จารึกไว หรือพิมพเ ปน ตวั หนงั สือขึน้ หรอื อัดเสียงไว ขอ ๔ (ท่ีเคยออกสอบแตล ะป) ๔. ก. จงแสดงการเกดิ ขน้ึ ของทุจริตตา งๆ โดยอาศัยมโนทจุ ริตเปน เหตุ ? 51 ตอบ ก. แสดงการเกิดขึ้นของทุจรติ ตา งๆ โดยอาศยั มโนทจุ รติ เปน เหตุ อภชิ ฌา เปน ตนเหตุให อทนิ นาทาน กาเมสมุ จิ ฉาจาร มสุ าวาท ปส ณุ วาจา สัมผปั ปลาปะ มิจฉาทฏิ ฐิ เกิดขน้ึ ได พยาบาท เปนตน เหตุให ปาณาตบิ าต อทนิ นาทาน มสุ าวาท ปสุณวาจา สมั ผัปปลาปะเกดิ ขึ้นได มจิ ฉาทิฏฐิ เปนตน เหตุให ทุจริตทงั้ ๑๐ ขอ เกดิ ขนึ้ ได ๔. ข. อกุศลกรรมน้เี ม่ือวาโดยอํานาจแหงการเกดิ ขน้ึ ของจติ แลว มเี ทาไร อะไรบา ง ? 51 ตอบ ข. อกศุ ลกรรมน้ัน เม่อื วา โดยอํานาจแหงการเกิดข้นึ ของจิตแลว แมโ ดยประการใดกต็ ามยอมมี ๑๒ กลาวคอื ธรรมที่เปน ตน เหตุใหเ กดิ ทจุ ริตไดนน้ั กไ็ ดแ กจ ติ 12 ดวง เทา น้ัน คอื จิตทมี่ โี ลภะเปนประธาน มี ๘ ดวง ช่ือวา โลภมลู จติ จติ ทม่ี โี ทสะเปนประธาน มี ๒ ดวง ชือ่ วา โทสมลู จิต จิตทม่ี โี มหะเปน ประธาน มี ๒ ดวง ชื่อวา โมหมูลจิต ไมว า จะเปน อกศุ ลกรรมชนิดใดก็ตาม ก็ยอ มไมพ นไปจากอกศุ ลจิตตุปบาท ๑๒ ดวงนี้ ๔. ก. คําวา บญุ กิรยิ าวตั ถุ เม่ือแยกบทแลว ไดก บ่ี ท ? คืออะไรบาง ? แตละบทหมายความวา อยางไร ? ใหแสดงวจนัตถะของคาํ วา “ปญุ ญะ” มาทัง้ บาลแี ละคําแปล ? [P179] 47, 53, 54, 56(3ก), 57 (52ส) ตอบ ก. บุญกิริยาวตั ถุ นเี้ ปน ภาษาบาลี แปลวา ความดีท่ีควรทาํ เพราะเปนเหตุเปน ทตี่ ้ังแหงผลดีเกิดขนึ้ เมื่อแยกบทแลวได ๓ บท คอื ปุฺ + กฺริย + วตถฺ ุ ปุ ฺ หมายความวา การงานที่ดีที่สาํ หรบั ชําระความเศรา หมอง เรา รอ น กรฺ ยิ หมายความวา ควรทํา วตฺถุ หมายความวา เปน เหตุเปนท่ีตงั้ แหงผลดี ดงั มีวจนตั ถะ แสดงวา “อตตฺ โน สนตฺ านํ ปนุ าติ โสเธตตี ิ ปุ ฺ ” การกระทําใดยอมชําระสนั ดานของตนใหส ะอาด ฉะนัน้ การกระทํานน้ั ช่อื วา ปญุ ญะ” (58) ไดแ ก การบรจิ าคทาน รักษาศลี เจรญิ ภาวนา เปน ตน ๓. ข. คําวา บญุ กริ ิยาวตั ถุน้ี (เปน ภาษาบาลี) แปลวาอยางไร ? มเี ทาไร ? คืออะไรบา ง ? จงบอกมาโดยลําดับ พรอ มความหมาย ? 53, 56 (50ส), 60 ตอบ ข. คาํ วา บญุ กิริยาวตั ถุ แปลวา ความดที ค่ี วรทาํ เพราะเปนเหตุ เปน ทต่ี ้งั แหง ผลดเี กิดขนึ้ มี ๑๐ อยาง คือ ๑. ทาน การใหทาน ๒. ศลี การรักษาศลี ดาวนโ หลดขอ มูลที่ ขอความเพิม่ เติมท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถสี ังคหะ, ภมู จิ ตุกกะ, ปฏสิ นธิจตุกกะ 40 ๓. ภาวนา การเจรญิ สมถะ วิปส สนา ๔. อปจายนะ การประพฤตอิ อนนอ มดว ยกาย หรอื ดว ยวาจาแกผ ูมีคุณวฒุ ิ และวยั วฒุ ิ ๕. เวยยาวจั จะ การปฏบิ ัติการงานชว ยเหลอื แกบ ุคคลหรอื สถานท่ที ี่สมควร ๖. ปตตทิ าน การแผส วนบญุ ๗. ปต ตานุโมทนา การอนุโมทนาในสวนบญุ ๘. ธัมมัสสวนะ การฟง ธรรม ๙. ธมั มเทศนา การแสดงธรรม ๑๐. ทิฏชุ กุ รรม การทาํ ความเหน็ ใหตรง ๔. ก. อปจายนะมกี ี่อยา ง ? คอื อะไรบาง ? จงแสดงโดยละเอยี ด ? 47, 49 ข. บคุ คลทคี่ วรเคารพนอบนบนนั้ มีอยูก่ีประเภท ? คอื อะไรบาง ? 47, 49 ตอบ ก. อปจายนะมี ๒ อยา ง คอื ๑. สามญั ญอปจายนะ ๒. วเิ สสอปจายนะ ๑. สามัญญอปจายนะ คือ การแสดงความเคารพนอบนบออ นนอ มตอบิดา มารดา ปู ยา ตา ยาย ครอู าจารย โดยมาระลึกนกึ วาเรามีหนาทีท่ จ่ี ะตองทาํ การเคารพนอบนบแดทานเหลา นี้ เพราะ ทานเปนญาตผิ ูใหญและครอู าจารยของเรา ๒. วเิ สสอปจายนะ คอื การแสดงความเคารพนอบนบออนนอ มในพระรตั นตรัย ดวยการระลกึ นกึ ถงึ พระคุณตา ง ๆ มอี รหํ เปนตน ดวยอํานาจแหงมหากุศลจิตทีป่ ระกอบดว ยศรทั ธา ปญ ญา โดยเปลงวาจาวา พทุ ธฺ ํ สรณํ คจฺฉามิ เปน ตน ข. บคุ คลทีค่ วรเคารพนอบนบน้นั มีอยู ๓ ประเภท คือ ๑. คณุ วุฒิบคุ คล เปนผใู หญด วยอํานาจแหง ศีลคณุ สมาธิคณุ ปญญาคณุ ๒. วยั วุฒิบุคคล เปนผูใหญด ว ยอาํ นาจแหงอายุ ๓. ชาตวิ ฒุ ิบคุ คล เปนผใู หญด ว ยอํานาจแหงวงศส กลุ ๔. ค. จงสรุปบุญกริ ิยาวตั ถุ ๑๐ ลงในทาน ศีล ภาวนา ? 48, 55, 59(5ข) ตอบ ค. ในบุญกิรยิ าวตั ถุ ๑๐ ประการน้ัน ปตตทิ านและปตตานโุ มทนะ ๒ อยา งน้ี นับสงเคราะหเ ขา ในทานกุศล ชอื่ วาทานมยั อยา งหนงึ่ อปจยนะและเวยยาวจั จะ ๒ อยา งนี้ นบั สงเคราะหเขา ในศลี กุศล ชื่อวา ศีลมยั อยา งหนึง่ ธมั มสวนะ ธัมมเทศนา และ ทฎิ ชุ ุกัมมะ ๓ อยางนี้ นบั สงเคราะหเ ขา ในภาวนากศุ ล ชอ่ื วาภาวนามัยอยา งหน่งึ บุญกริ ยิ าวตั ถุ ๑๐ สรปุ ลงเปน ๓ ดว ยประการฉะนี้ ๔. ข. ทานใน ปุญญกิริยาวัตถุ ทา นแสดงไวห ลายหมวด แตอ ยากทราบวา วิวฏฏนิสสฺ ติ ทาน วฏฏนิสฺสติ ทาน หมายความวา อยา งไร ? และทานประเภทไหน จดั เปนบารมี อยางไหนเปน ทานสามัญ ? 57 ตอบ ข. วิวฎฎนสิ สฺ ิตทาน การทําบุญทีไ่ มม ีความปรารถนา ในโภคสมบัติ และภวสมบัติ ปรารถนาแตส ัมมา สัมโพธิญาณ ปจ เจกโพธญิ าณ อคั รสาวกโพธญิ าณ มหาสาวกโพธญิ าณ และปกตสิ าวก โพธญิ าณ อยา งใดอยา งหนง่ึ เทานัน้ วฏฏนสิ ฺสิตทาน การทาํ บญุ ดวยความปรารถนาในโภคสมบตั ิ คือปรารถนาใหร่าํ รวยเปนเศรษฐี มหาเศรษฐี และปรารถนาภวสมบตั ิ คอื ตอ งการใหเกิด เปน มนษุ ย เปน เทวดา เปน พรหม วฏั ฏนสิ สิตทาน ไมเ รยี กวา ทานบารมี เปน ทานกศุ ลสามญั เมือ่ เวลาสง ผลกใ็ หมคี วามสุขเพียงแคมนุษย เทวดาเทานัน้ มิอาจทจี่ ะชวยใหถ งึ มรรค ผล โดยเรว็ ได สวนวิวฏฏ นิสสฺ ติ ทาน เรียกวา ทานบารมี เมื่อเวลาสงผล กส็ ง ผลใหเสวยความสขุ ในมนุษย และเทวดา และ สามารถใหถึง มรรค ผล นิพพานไดโ ดยเรว็ ดาวนโหลดขอ มลู ท่ี ขอความเพม่ิ เติมที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ ีสังคหะ, ภมู ิจตกุ กะ, ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ 41 ๓. กามาวจรกุศลกรรม เมอื่ วา โดยทวารแลว มีเทา ไหร คืออะไรบา ง ? และแตล ะทวารไดแ กอ ะไรบา ง จงแสดงมาพรอมความหมาย (ไมต อ งแสดงโดยพสิ ดาร) ? 52(4), 59, 61 ตอบ กามาวจรกุศลกรรม เมอื่ วา โดยทวารแลว มี ๓ อยา ง คือ ๑. กายกรรม ทเี่ กดิ ในกายทวาร ๒. วจกี รรม ที่เกดิ ในวจีทวาร ๓. มโนกรรม ทเี่ กิดในมโนทวาร กามาวจรกุศลกรรม ในแตล ะทวารมีดังนี้ กายกรรม มี ๓ ไดแก ๑. ปาณาติปาตวิรติ เวน จากการฆา สตั ว ๒. อทินนาทานวริ ติ เวน จากการลกั ทรพั ย ๓. กาเมสมุ จิ ฉาจารวริ ติ เวนจากการผิดกาเม วจกี รรม มี ๔ ไดแก ๑. มุสาวาทวิรติ เวน จากการกลา วคาํ เทจ็ ๒. ปส ณุ วาจาวิรติ เวน จากการกลา ววาจาสอเสยี ด ๓. ผรสุ วาจาวริ ติ เวนจากการกลา ววาจาหยาบรา ย ๔. สมั ผปั ปลาปวริ ติ เวน จากการกลาววาจาที่ไมเปน ประโยชน มโนกรรม มี ๓ ไดแ ก ๑. อนภิชฌา มีการสงั วรเพ่อื ไมใหอภิชฌาเกิด ๒. อพยาบาท มกี ารสงั วรเพอ่ื ไมใ หพ ยาบาทเกิด ๓. สมั มาทิฏฐิ มีความเห็นถูกตอง ๔. ก. จงแสดงองคธรรมของกามาวจรกศุ ลกรรม ๑๐ ? 55 ตอบ ก. แสดงองคธ รรมของกามาวจรกุศลกรรม ๑๐ ดังนี้ กายกรรม ๓ หรอื กายสุจรติ ๓ องคธ รรมไดแก สัมมากมั มันตเจตสกิ และ สัมมาอาชวี เจตสกิ วจกี รรม ๔ หรือ วจสี จุ ริต ๔ องคธรรมไดแก สมั มาวาจาเจตสกิ และ สัมมาอาชีวเจตสกิ มโนกรรม ๓ หรือ มโนสจุ รติ ๓ ประกอบดว ย อนภชิ ฌา องคธรรมไดแก อโลภเจตสิก อพยาบาท องคธรรมไดแ ก อโทสเจตสิก สมั มาทฏิ ฐิ องคธรรมไดแ ก ปญญาเจตสกิ ๔. ค. กามาวจรกศุ ลกรรม หรอื กุศลกรรมบถ ๑๐ หรอื สจุ ริต ๑๐ เม่ือนบั โดยพิสดารแลวมี ๓๐ นั้น มีวิธีนับอยา งไร ? 60 ตอบ ค. นบั โดยพสิ ดารนนั้ คือ การกระทาํ สุจริตอยา งหนง่ึ ๆ จะตองประกอบดว ยเจตนา ทง้ั ๓ คอื ๑. ปุพพเจตนา เจตนาทเ่ี กดิ กอนกระทํา ๒. มญุ จเจตนา เจตนาท่ีเกิดข้นึ ในขณะกระทาํ ๓. อปรเจตนา เจตนาที่เกิดขน้ึ ในเมอ่ื กระทําไปแลว ฉะนั้น สจุ ริต ๑๐ คณู ดวย เจตนา ๓ จึงเปน สจุ ริต ๓๐ ๔. ข. ศีลมกี ี่ประเภท ? ไดแ กอ ะไรบาง ? จงแสดงมาใหครบถวน ? 55, 59(5ก) ตอบ ข. ศีลมี ๔ ประเภท คือ ๑. ภิกขศุ ลี ไดแ ก สกิ ขาบท ๒๒๗ ทแ่ี สดงไวในภกิ ขปุ าฏิโมกข ๒. ภกิ ขณุ ศี ลี ไดแก สกิ ขาบท ๓๑๑ ทแี่ สดงไวในภกิ ขุณปี าฏโิ มกข ๓. สามเณรศีล ไดแ ก สิกขาบท ๑๐ มีปาณาตปิ าตาเวรมณี เปนตน จนถงึ ชาตรูปรชตปฏิคคหณาเวรมณี เปนทสี่ ดุ และเสขยี สิกขาบท ๗๕ ๔. คฤหัสถศลี ไดแ ก สิกขาบท ๕ ขอ คือ ปญจศลี ขอ ๕ (ที่เคยออกสอบแตล ะป) ๕. ก. ธรรมทเ่ี ปน ปจ จยั ของ กมั มสกตาญาณ น้ีมอี ยูกปี่ ระการ ? คอื อะไรบา ง ? 48(2ข), 49(1ข), 52(2ข), 57(3ข) ดาวนโหลดขอมูลท่ี ขอความเพ่มิ เติมท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ สี งั คหะ, ภูมิจตุกกะ, ปฏิสนธจิ ตกุ กะ 42 พรอ มแสดงความหมาย ? [P219] 54(4ข), 58 /55ส ตอบ ก. / ข. ธรรมที่เปน ปจ จัยของ กัมมสั สกตาญาณน้ี มีอยู ๓ ประการ คอื ๑. สุตมยปญญา ปญญาทเี่ กดิ จากการศึกษาเลา เรียน เปน เหตุเปนปจ จยั ใหเ กดิ กมั มสั สกตาญาณ ๒. จนิ ตามยปญ ญา ปญญาที่เกิดจากการคิดนึกพจิ ารณาในความเปน อยูข องสตั วท งั้ หลายโดยความมโี รค ไมม โี รค ความฉลาด ความโง สุข ทกุ ข อายยุ นื อายสุ นั้ ยากจนมัง่ มี เหลา น้เี ปนตน เปนเหตุเปน ปจจัย ใหเกดิ กัมมสั สกตาญาณ ๓. ภาวนามยปญ ญา ปญญาทีเ่ กิดจากการเจรญิ วปิ สสนา เปน เหตุเปน ปจ จยั ใหเกิดกมั มัสสกตาญาณ ๕. ข. ทรพั ยทพี่ ึงฝากไว ในขันธสันดานของตน เพื่อจะไดเ ปน เสบียงเขา สูพระนพิ พานท่ีไดช ่อื วา อปุ นิธภิ ัณฑ มีเทาไร? คอื อะไรบา ง? 60(4ข) ใหแสดงรายละเอียดเฉพาะบารมี ? [P227-] 58, 47ส ตอบ ข. ทรพั ยท พ่ี งึ ฝากไวในขันธสนั ดานของตน เพอื่ จะไดเปน เสบยี งเขา สพู ระนพิ พานท่ีไดช อ่ื วา อปุ นิธิภณั ฑ มี ๙๐ คอื สุจริต ๓๐ บุญกริ ยิ าวัตถุ ๓๐ และบารมี ๓๐ รวมเปน ๙๐ อธิบายเฉพาะบารมี ๓๐ ไดแ ก หีนบารมี ๑๐ มัชฌิมบารมี ๑๐ ปณตี บารมี ๑๐ รวมเปน ๓๐ บารมที ่สี ําเร็จดวยฉันทะ วริ ิยะ จิต ปญ ญา ที่มีกําลงั ออน ชอื่ วา หนี บารมี บารมีทส่ี ําเรจ็ ดวยฉนั ทะ วริ ยิ ะ จิต ปญ ญา ทีม่ ีกาํ ลงั แกก ลา พอประมาณ ชอ่ื วา มัชฌมิ บารมี บารมีที่สาํ เรจ็ ดว ยฉันทะ วริ ิยะ จิต ปญ ญา ท่มี กี ําลงั แกก ลา อยา งสงู สุด ช่ือวา ปณตี บารมี ๕. ก. อปุ นธิ ภิ ณั ฑ คอื อะไร ? และมอี ยกู ่ีประการ ? คืออะไรบาง ? [P227] 57 ตอบ ก. อปุ นิธิภัณฑ คอื ทรพั ยทพี่ งึ ฝากไวในขนั ธสนั ดานของตนเพื่อจะไดเปนเสบียงเขา สพู ระนิพพาน และมีอยู ๙๐ ประการ คือ สุจรติ ๓๐ บญุ ญกรยิ าวตั ถุ ๓๐ และ บารมี ๓๐ รวมเปน ๙๐ ๔. จงจําแนกตเิ หตกุ กศุ ล และทวเิ หตุกกุศล โดยอุกกัฏฐและโอมกะ และจาํ แนกอุกกฏั ฐกศุ ล และโอมกกศุ ล โดยอปราปรเจตนามาตามลําดับ ? [P240] 48, 53 ๕. ข. เมอ่ื จะจาํ แนกติเหตกุ อกุ กัฎฐกุศล และโอมกกุศล ทวเิ หตุกอกุ กฏั ฐกศุ ล และโอมกกุศล ๔ อยางน้ี โดยอปราปรเจตนาแลว มเี ทาไร ? คอื อะไรบาง ? [P242] 57 ตอบ จาํ แนกติเหตุกกศุ ล และทวิเหตุกกศุ ล โดยอุกกัฏฐและโอมกะ ไดจ ําแนกออกอยางละ ๒ คอื ติเหตุกกุศล ชนิดอกุ กัฏฐะ คอื ชนั้ สงู อยา งหนึง่ ติเหตุกกุศล ชนิดโอมกะ คอื ช้นั ตา่ํ อยางหนงึ่ ทวเิ หตกุ กุศล ชนิดอกุ กัฏฐะ คอื ช้ันสงู อยางหน่งึ ทวเิ หตุกกศุ ล ชนิดโอมกะ คอื ชัน้ ตาํ่ อยา งหนง่ึ จาํ แนกตเิ หตุกกศุ ลอกุ กฏั ฐและโอมกะกุศล ทวเิ หตกุ กศุ ล อุกกฏั ฐและโอมกะกุศล ทั้ง ๔ นี้ เมอ่ื จําแนกโดย อปราปรเจตนาแลว ยอมมี ๘ คือ ....... ตอบ (57) ข. จาํ แนกติเหตกุ อุกกฎั ฐกศุ ล และโอมกกศุ ล ทวิเหตกุ อุกกฏั ฐกศุ ล และโอมกกศุ ล โดยอปราปรเจตนา แลว มี ๘ คอื ๑. ติเหตกุ อุกกัฏกุ กัฏฐกุศล ๒. ติเหตกุ อกุ กัฏโฐมกกศุ ล ๓. ตเิ หตกุ โอมกุกกฏั ฐกศุ ล ๔. ตเิ หตุกโอมโกมกกศุ ล ๕. ทวเิ หตกุ อุกกัฏกุ กัฏฐกศุ ล ๖. ทวิเหตุกอุกกัฏโฐมกกศุ ล ๗. ทวเิ หตกุ โอมกกุ กัฏฐกุศล ๘. ทวิเหตุกโอมโกมกกศุ ล ขอ ๖ (ท่ีเคยออกสอบแตล ะป) ๖. ก. คําวา กรรมนิมิต หมายความวา อยา งไร ? มกี ี่อยา ง/ชนดิ ไดแ ก/ คอื อะไรบา ง ? 49, 51, 54, 56(4ก), 60(7), 61(7) พรอ มจาํ แนกฝา ยอกุศล ปาณาติบาตมาใหด ู ? 58 ๗. คาํ วา กรรมนมิ ติ หมายความวา อยา งไร ? มีกี่อยาง ? คืออะไรบา ง ? พรอ มท้ังยกขออปุ มาเปรยี บเทยี บมาใหเ ห็น ดาวนโหลดขอ มูลที่ ขอความเพมิ่ เติมที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่แี ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถสี ังคหะ, ภมู ิจตกุ กะ, ปฏสิ นธจิ ตุกกะ 43 สกั หนงึ่ อยางดว ย? 48 (ฝายกศุ ล) ? 47(6) (ฝา ยกศุ ล หรือ อกศุ ลก็ได) ? 50 ตอบ ก. คาํ วา กรรมนมิ ติ หมายความวา อารมณท เ่ี ปน เหตขุ องการกระทาํ หรอื เคร่อื งหมายของกรรม มี ๒ ชนดิ คือ ๑. อุปลัทธกรรมนิมิต ๒. อปุ กรณกรรมนมิ ิต ๑. อปุ ลทั ธกรรมนิมติ ไดแก อารมณ ๖ ที่ตนไดประสบพบเห็นเปนประธานในขณะทีก่ ระทํา ๒. อปุ กรณกรรมนมิ ติ ไดแก อารมณ ๖ ทตี่ นไดป ระสบพบเหน็ แตม ิใชเ ปนประธาน เพยี งแตเปน เครอ่ื งอดุ หนนุ ประกอบในขณะท่กี ระทํา (47, 48, 50) อุปมาเปรยี บเทียบฝา ยกุศลเกีย่ วกับทานการเล้ียงพระ ใสบ าตร ทอดกฐนิ สรา งสถานทศ่ี กึ ษาวัดวา อารามนน้ั อาหารหวานคาว ภิกษุสามเณร เปน อุปลัทธกรรมนิมติ , พระพทุ ธรูป ดอกไม ธูปเทียน ถว ย ชาม เส่อื สาด อาสนะ โตะ เกา อ้ี พรอ มดว ยผูทชี่ ว ยเหลือ ขนั ถาด เปน ตน เปน อปุ กรณกรรมนมิ ิตดังนี้ (58) ฝายอกศุ ล ปาณาติบาต สตั วท ถ่ี กู ฆา ถูกตี กริ ยิ าอาการของตนเปน อุปลัทธกรรมนิมิต, สถานที่ เครื่องใชตา งๆ ท่เี ก่ยี วกบั การฆา หนงั กระดกู เนอ้ื เปนตนเปน อปุ กรณกรรมนมิ ติ ๖. ข. คําวา คตนิ ิมิต หมายความวา อยางไร ? มกี ่ีอยา ง คืออะไรบาง ? 51, 54, 56(4ข), 60(7) จําแนกผูจ ะไปเกดิ ในเทวโลกมาใหด ู ? 58 พรอมท้ังยกขอ อุปมาเปรยี บ-เทียบมาใหเ ห็นสักหนึง่ อยาง (อปุ มาฝา ยกศุ ล) ? 53(7) ตอบ ข. คําวา คตนิ มิ ิต หมายความวา อารมณข องภพชาตทิ จ่ี ะพึงถงึ กลาวคอื อารมณทจ่ี ะไดพบไดเ สวยใน ภพทสี่ อง ชื่อวา คตนิ มิ ิต มี ๒ อยาง คือ ๑. อปุ ลภติ พั พคตินมิ ิต ๒. อุปโภคภูตคตินมิ ิต ๑. อุปลภิตพั พคตินมิ ติ หมายความวา อารมณ ๖ ของภพชาติทจี่ ะพงึ พบเหน็ ๒. อปุ โภคภตู คตนิ ิมติ หมายความวา อารมณ ๖ ของภพชาตทิ ่ีจะพึงไดเ สวย (53) อุปมาเปรยี บเทียบฝายกศุ ล เชน (58) ถาผนู ั้นจะไปเกดิ ในเทวโลก เห็นราชรถ วิมาน เทพบุตร เทพธิดา เครื่องประดบั สวน สระเหลา นี้ เปน อุปลภติ พั พคตินมิ ติ ถารสู ึกวา ตนเองไดน ง่ั ไปในราชรถก็ดี กาํ ลงั เที่ยวไปในสถานทีต่ างๆ ดว ยความสนุกสนานเบิกบานใจ บรโิ ภค สุทธาโภชนรวมดวยเทพบุตรเทพธิดา สวมใสเครือ่ งทพิ ยอาภรณกด็ เี หลา นี้ เปน อุปโภคภูตคตนิ ิมติ ๖. นมิ ิตทปี่ รากฏแกบคุ คลท่ีจะเกิดในกามภูมิ รูปภมู ิ ๑๕ (เวนอสัญญสตั ตภมู ิ) อสัญญสัตตภูมิ และอรูปภูมิโดยเฉพาะๆ แตละประเภทของภมู ินัน้ มกี อ่ี ยางคอื อะไรบา ง ? และนิมิตนน้ั ๆ เปน ธรรมประเภทไหน ? 50, 52, 55, 59(7) ตอบ นิมิตท่ีปรากฏแกบคุ คลทีจ่ ะเกิดในกามภมู ิ มนี ิมติ ๓ อยา ง คือ กรรมอารมณ กรรมนิมติ อารมณ คตนิ มิ ิตอารมณ และนมิ ติ ทง้ั ๓ นีเ้ ปนกามธรรมอยางเดยี ว © บคุ คลทจ่ี ะเกิดในรูปภมู ิ ๑๕ (เวน อสญั ญสตั ตภมู )ิ มนี มิ ติ อยา งเดยี ว คือ กรรมนมิ ติ อารมณ และนมิ ติ น้ันเปนบญั ญตั ธิ รรมารมณ ©บคุ คลทจี่ ะเกดิ ในอสญั ญสตั ตภมู ิ มนี ิมติ อยา งเดยี ว คอื กรรมนิมิตอารมณ และนิมติ นนั้ เปนบญั ญตั ิธรรมารมณ © บุคคลทจี่ ะเกิดในอรปู ภูมิ มนี มิ ติ อยา งเดยี ว คือ กรรมนมิ ติ อารมณแ ละกรรมนิมิตนนั้ แบง ออกเปน ๒ ประการ คือ มหคั คตกรรมนิมติ และบญั ญตั กิ รรมนมิ ิต ตามสมควรแกภมู ิ ๗. ก. จงบอกอารมณของกามปฏิสนธิ, รปู ปฏสิ นธิ, อรูปปฏิสนธิ ? 47 (51ส, 54ส) ตอบ ก. อารมณข องกามปฏสิ นธิ ไดแ ก อารมณ ๖ ท่ีเรยี กวา กรรมอารมณ กรรมนมิ ติ อารมณ หรือคตนิ ิมติ อารมณ อารมณของรูปปฏสิ นธิ ไดแ ก บญั ญตั ิกรรมนมิ ติ ธรรมารมณ อารมณข องอรูปปฏสิ นธิ ไดแก บัญญตั ิกรรมนิมติ หรอื มหคั คตกรรมนิมิตธรรมารมณ ๕. ก. แสดงปฏสิ นธทิ เ่ี กดิ ตอจากจุตจิ ิตตอ ไปนี้ ? 49, 52, 55, 56 ๑. อรูปาวจรจุตจิ ิต ๔ ดวง ๒. รปู าวจรจุตจิ ติ ๕ ดวง ๓. กามตเิ หตกุ จุติจิต ๔ ดวง ๔. ทวิเหตุกจตุ ิจิต ๔ ดวง และอเหตุกจุตจิ ิต ๒ ดวง ดาวนโ หลดขอมูลท่ี ขอความเพม่ิ เติมท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ที่แปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถีสงั คหะ, ภูมจิ ตุกกะ, ปฏิสนธจิ ตกุ กะ 44 ตอบ ก. ๑. หลงั จากอรปู าวจรจตุ จิ ติ ๔ ดวงเกิด มปี ฏสิ นธจิ ติ เกดิ ตอ ได ๘ ดวง คือ อรปู าวจรปฏสิ นธิจติ ๔ (เวน อรปู าวจรปฏสิ นธจิ ติ เบ้อื งตา่ํ ) และกามติเหตุกปฏสิ นธจิ ติ ๔ ๒. หลังจากรูปาวจรจตุ จิ ติ ๕ ดวงเกิด มีปฏสิ นธจิ ติ เกดิ ตอ ได ๑๗ ดวง (เวนอเหตกุ ปฏสิ นธจิ ติ ๒) ๓. หลงั จากกามตเิ หตกุ จตุ ิจติ ๔ ดวงเกดิ มปี ฏสิ นธเิ กดิ ตอ ไดท้ังหมด คอื นามปฏสิ นธิ ๑๙ และรูปปฏสิ นธิ ๑ ๔. หลงั จากทวเิ หตกุ จุตจิ ติ ๔ และอเหตุกจุติจิต ๒ เกดิ มีปฏิสนธจิ ติ เกดิ ตอ คือ กามปฏิสนธจิ ิต ๑๐ เทา นัน้ ๕. ข. การท่ีมขี อ จํากัดวา บคุ คลท่จี ะไปเกิดในสุทธาวาสภมู ิไดน ้นั จะตอ งมีคุณสมบัติ คือตอ งเปนพระอนาคามดี วย ตองสําเรจ็ ปญ จมฌานดวยและตองมีอนิ ทรียทัง้ ๕ อยา งใดอยา งหนงึ่ แกกลา เปน พิเศษดวย ทเ่ี ปนเชนน้ี เพราะ เหตใุ ด ? และในอกนิฏฐาภมู นิ นั้ มีอะไรทพ่ี เิ ศษกวาสุทธาวาสภมู อิ นื่ ๆ อกี ? 56 ตอบ ข. เพราะในสทุ ธาวาสภมู นิ ้ี มคี ณุ สมบัตเิ ปนท่ีแนนอนอยู ๔ อยา ง คอื ๑. บคุ คลทไ่ี ปเกดิ ในสทุ ธาวาสภูมิ ๆ ใดภมู หิ นง่ึ แลว ยอมไมไปเกิดในรปู ภมู ิอ่ืน ๆ หรือในอรปู ภูมิ ๒. ยอ มไมเ กิดซา้ํ ภมู ิทต่ี นเกิดอยอู กี ๓. เมอื่ ตายจากสทุ ธาวาสภูมทิ ี่ตนเกิดอยูแลว ยอ มไมไ ปเกดิ ในภูมิทต่ี ่าํ กวา ยอ มไปเกิดในภมู ิทส่ี งู กวา ๔. ตอ งไดสาํ เรจ็ เปน พระอรหนั ต ภายในสุทธาวาสภูมนิ น้ั เอง และสําหรับในอกนิฏฐาภมู ินนั้ มคี ุณสมบตั ิพิเศษอีกขอหนง่ึ คือ พระอนาคามีที่อยูใ นสทุ ธาวาสภมู นิ ี้ จะตองได สาํ เร็จเปน พระอรหันตในภพนั้นเอง ขอ ๗ (ท่เี คยออกสอบแตล ะป) ๕. คําวา มรณุปปฺ ตตฺ จิ ตกุ ฺก แยกเปนกบี่ ท ? คอื อะไรบาง ? พรอมทง้ั แสดงความหมาย และวจนตั ถะดวย. และจงแสดงเหตุที่ทําใหความตายปรากฏ ๔ อยางดวย ? [P266] 48, 52, 55 ๖. ก. คําวา มรณุปปฺ ตตฺ ิจตุกฺก แปลวา อยา งไร เมื่อแยกบทแลว ไดก บี่ ท ? คอื อะไรบา ง พรอมท้ังแสดงความหมาย และวจนัตถะดว ย ? [P266] 56 ๕. ก. คําวา มรณุปปฺ ตฺตจิ ตุกฺก แยกเปน กบี่ ท ? คอื อะไรบา ง ? พรอมท้ังแสดงความหมายและวจนัตถะดวย ? 61 ข. จงแสดงเหตทุ ี่ทาํ ใหค วามตายปรากฏ ๔ อยางดว ย ? 61 ตอบ ก. คําวา มรณปุ ฺปตฺตจิ ตุกกฺ เม่อื แยกบทแลวได ๓ บท คือ มรณ+อุปปฺ ตตฺ +ิ จตุกกฺ มรณ=ความตาย, อปุ ปฺ ตตฺ =ิ การเกิดขนึ้ , จตกุ ฺก=มี ๔ เม่ือรวมแลวเปน มรณุปปฺ ตฺติจตุกฺก แปลวา การเกดิ ขน้ึ แหงความตาย มี ๔ อยาง หมายถงึ เหตุที่ใหความตายปรากฏข้นึ ๔ อยางน้นั เอง ดังแสดงวจนัตถะวา “มรณสฺส อุปฺปตตฺ ิ = มรณุปปฺ ตฺติ ความเปนไปแหง ความตาย ชอื่ วา มรณปุ ปตติ จตนุ นฺ ํ สมาหาโร = จตุกฺกํ การรวมของ ๔ อยา งชอื่ วา จตกุ กะ (55) และ (ข.) แสดงเหตทุ ใี่ หค วามตายปรากฏข้ึน ๔ อยางนน้ั คอื ๑. อายกุ ขฺ ยมรณ (ตาย)เพราะสนิ้ อายุ ๒. กมฺมกฺขยมรณ (ตาย)เพราะสน้ิ กรรม ๓. อุภยกฺขยมรณ (ตาย)เพราะสิ้นอายแุ ละสิ้นกรรมทงั้ สอง ๔. อุปจฺเฉทกมรณ ตายเพราะประสพอปุ ทวเหตุ อายแุ ละกรรมยังไมส ้ิน ๗. จงแสดงเหตุที่ทําใหค วามตายปรากฏ ๔ อยา ง ? 56(6ข) ๑๙ ก.พ. ๖๒ พรอ มทง้ั แสดงอุปมาเปรียบเทยี บมาโดยละเอยี ด ? 58, 59(6) ๖. จงแสดงเหตทุ ี่ทําใหความตายปรากฏเกดิ ข้ึน มกี อ่ี ยาง คอื อะไรบาง? พรอ มทง้ั แสดงอปุ มาเปรียบเทยี บ ดวงประทีปมาใหเ หน็ ดว ย ? 57 ๕. เหตุแหงการตายมีกี่อยา ง คอื อะไรบาง และใหย กอปุ มาเปรยี บเทียบการตายของสตั วทัง้ หลายดวย ? 49, 51, 53, 54, 60(6) ๗. จงอปุ มาเปรียบเทียบการตายของสัตวท้ังหลายทเี่ หมือนดวงประทปี ดาวนโหลดขอ มลู ที่ ขอความเพมิ่ เติมที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่ีแปะไว)

วถิ ีสงั คหะ, ภูมจิ ตุกกะ, ปฏสิ นธจิ ตุกกะ 45 ยอมดบั ลงดว ยเหตุ ๔ อยา ง มาดูโดยละเอียด ? [P266] 56 ๖. ข. จงแสดงอปุ มาเปรียบเทยี บการตายของสตั วท ้ังหลาย เพราะการสิ้นอายุ และสิ้นกรรม ? 61 ตอบ แสดงเหตุทท่ี ําใหความตายปรากฏเกดิ ขน้ึ มี ๔ อยา ง คอื ๑. อายกุ ฺขยมรณ (ตาย)เพราะสน้ิ อายุ ๒. กมฺมกฺขยมรณ (ตาย)เพราะสนิ้ กรรม ๓. อภุ ยกขฺ ยมรณ (ตาย)เพราะสิ้นอายแุ ละส้นิ กรรมทงั้ สอง ๔. อปุ จฺเฉทกมรณ ตายเพราะประสพอปุ ทวเหตุ อายุและกรรมยงั ไมสนิ้ ถาจะ (56->) อปุ มาเปรยี บเทยี บการตายของสตั วท งั้ หลายแลว กเ็ หมือนหน่งึ ดวงประทปี ท่ีจุดไว ดวงประทปี น้ี ยอมดับลงดวยเหตุ ๔ อยาง ๆ ใดอยา งหนง่ึ ดบั ลงดวยไสหมดอยา งหนงึ่ . ดับลงดวยนํ้ามันหมดอยางหนงึ่ , ดับลง ดวยไสแ ละนํ้ามันทง้ั สองหมดอยา งหนึ่ง ดบั ลงดว ยถกู ลมพดั หรอื ถกู เปาใหด บั ลงอยา งหน่งึ ดวงประทีปน้นั เปรยี บเหมอื นชวี ติ ของสัตวท งั้ หลาย ความดับของดวงประทีปน้ัน เปรยี บเสมือนความดับลง ของชวี ติ ทสี่ ิน้ สุดลงเฉพาะภพหนง่ึ ๆ ฉะนั้น © ผูทส่ี นิ้ ชีวติ ลงโดยหมดอายุขัย กเ็ หมอื นกับดวงประทปี ที่ดบั ลง โดยเนื่องจากไสห มดแตนา้ํ มันยงั อยู © ผทู ส่ี น้ิ ชวี ิตลงโดยหมดกรรมน้นั กเ็ หมือนกับดวงประทีปท่ดี ับลง โดยเน่อื งจากนํา้ มันหมด แตไ สย งั อยู © ผทู ีส่ ้ินชวี ติ ลงโดยหมดทัง้ อายแุ ละกรรมนนั้ กเ็ หมอื นกับดวงประทปี ทีด่ บั ลง โดยเนอื่ งจากไสแ ละนา้ํ มันหมดทั้ง สองอยา ง © ผทู สี่ ิน้ ชีวติ ลงโดยประสพกับอุปท วเหตุตา งๆ นนั้ ก็เหมือนกับดวงประทปี ทีด่ ับลง โดยเนือ่ งจากถูกลมพดั หรือถกู เปา ใหดบั โดยท่ไี ส และน้าํ มนั ยงั อยู ๖. ก. ความสิ้นสดุ แหงกรรมของ กมฺมกฺขย นน้ั หมายถงึ กรรมอะไร? กรรมนั้นมหี นา ท่ีอยางไร ? 61 ตอบ ก. คําวา กรรม ในทน่ี ี้หมายถงึ ชนกกรรม ทม่ี หี นา ทสี่ งผลใหเ กดิ ปฏสิ นธใิ นภพนัน้ ๆ และ อปุ ถัมภกกรรม ทมี่ ี หนาทีช่ วยอุดหนุนใหรูปนามทีเ่ กิดจากชนกกรรมใหต ัง้ อยูได ในภพน้ันๆ การส้ินสุดแหงกรรมทง้ั ๒ นี้ ช่อื วา กัมมกั ขยะ ๗. จงแสดงบาลี และ คาํ แปล จิต ๓ อยางท่ีมอี งคธ รรมและอารมณอยางเดียวกนั เฉพาะชาตเิ ดียว ? [P2803] 55 ตอบ บาลที ่ีแสดงจติ ๓ อยางคอื ปฏสิ นฺธภิ วงฺคจฺ ตถา จวนมานสํ เอกเมว ตเถเวก วิสยเฺ จกชาตยิ ํ ในชาตหิ นง่ึ นน้ั ปฏสิ นธจิ ติ ภวังคจติ และจุตจิ ติ รวม ๓ อยา งนี้ เปน จิตอยา งเดียวกัน และอารมณของปฏสิ นธจิ ิต ภวงั คจติ และจตุ ิจติ ก็ตองเปน อยา งเดียวกัน ๗. ข. คําวา กรรม ในกัมมขยมรณะ หมายถึงกรรมชนิดไหน ? 47 ๗. ก. กมมฺ กขฺ ย ความส้ินสดุ แหงกรรม คาํ วา กรรม ในท่ีนี้ หมายถงึ กรรมอะไร มีหนา ท่อี ยา งไร ? 51, 54 ข. หลงั จากอรูปาวจรจตุ จิ ิต ๔ ดวงเกิดมีปฏสิ นธิจติ เกดิ ตอไดกีด่ วง อะไรบา ง ? 51, 54 ค. หลังจากรปู าวจรจตุ จิ ิต ๕ ดวงเกิดมปี ฏสิ นธิจติ เกดิ ตอ ไดก ี่ดวง อะไรบาง ? 51, 54 ง. หลงั จากทกี่ ามตเิ หตุกจุตจิ ติ ๔ ดวงเกิดมีปฏิสนธิจิตเกดิ ตอไดเ ทา ไร คอื อะไรบา ง ? 51, 54 จ. หลงั จากท่ีทวเิ หตกุ จตุ จิ ติ ๔ ดวง และอเหตุกจตุ ิจติ ๒ ดวงเกิดมีปฏิสนธิจิตเกดิ ไดเ ทาไร? คอื อะไรบาง? 51, 54 ตอบ ข/ก. คําวา กรรม ในท่นี ้ี หมายถึง ชนกกรรม ท่มี ีหนาทส่ี ง ผลใหเกดิ ปฏิสนธใิ นภพนน้ั ๆ และ อปุ ต ถัมภกกรรม ท่ีมหี นาทช่ี ว ยอุดหนนุ ใหรปู นามท่เี กดิ จากชนกกรรม ใหต้ังอยูไดใ นภพนัน้ การสน้ิ สุดแหงกรรมทั้งสองดงั กลา วนีแ้ หละ ชือ่ วา กัมมักขยะ ข. หลงั จากอรปู าวจรจตุ จิ ติ ๔ ดวงเกดิ มปี ฏสิ นธจิ ติ เกดิ ตอได ๘ ดวง คอื อรปู าวจรปฏสิ นธจิ ิต ๔ (เวน อรปู าจรปฏสิ นธจิ ติ เบ้ืองตํา่ )และ กามตเิ หตกุ ปฏสิ นธจิ ิต ๔ ค. หลังจาก รูปาวจรจตุ จิ ติ ๕ ดวงเกดิ มปี ฏิสนธจิ ติ เกดิ ตอ ได ๑๗ ดวง (เวน อเหตุปฏสิ นธจิ ิต ๒) ง. หลงั จาก กามตเิ หตุกจุตจิ ติ ๔ ดวงเกิด มีปฏสิ นธเิ กดิ ตอไดทงั้ หมด คอื นามปฏิสนธิ ๑๙ และรปู ปฏิสนธิ ๑ ดาวนโ หลดขอ มลู ที่ ขอความเพ่ิมเตมิ ที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถสี ังคหะ, ภมู ิจตกุ กะ, ปฏิสนธิจตุกกะ 46 จ. หลงั จาก ทวิเหตุกจตุ ิจติ ๔ และอเหตกุ จุตจิ ิต ๒ เกดิ มปี ฏสิ นธจิ ติ เกดิ ตอ คือ กามปฏิสนธจิ ิต ๑๐ เทา นน้ั ๗. ข. สัตวท่ีช่ือวา “สมภฺ เวสี” ไดแ กใคร ? ทเ่ี ปน ดงั นเี้ พราะเหตใุ ด ? 61 ตอบ ข. สัตวท่ชี ่ือวา “สมภฺ เวส”ี ไดแ ก ปถุ ชุ น ๔ พระเสกขบคุ คล ๓ ท่ีเปนดงั น้ีเพราะ บคุ คลเหลาน้ีมคี วามเกดิ ยังไมส น้ิ สดุ ตอ งแสวงหาภพชาตติ อ ๆ ไปอกี นัน้ เอง ๗. ค. มรณาสันนวถิ ีชนดิ ปจ จาสนั นมรณวิถีมีก่ีวถิ ี คืออะไรบา ง ? [P297] 47, 49 ตอบ ค. มรณาสันนวถิ ชี นิดปจ จาสนั นมรณวิถีมี ๔ ประเภท คอื ๑. ชวนะ ชวนะ ชวนะ ชวนะ ชวนะ ตทารมั มณะ ตทารมั มณะ จุติ ๒. ชวนะ ชวนะ ชวนะ ชวนะ ชวนะ จตุ ิ ๓. ชวนะ ชวนะ ชวนะ ชวนะ ชวนะ ตทารัมมณะ ตทารัมมณะ ภวังค ฯลฯ จตุ ิ ๔. ชวนะ ชวนะ ชวนะ ชวนะ ชวนะ ภวังค ฯลฯ จตุ ิ *************************** ส่ิงที่สําคญั คือการเขาศกึ ษากับอาจารยผสู อน เพื่อความรคู วาม เขาใจท่ีถกู ตอ ง แจม แจง หากสงสัยจะไดสอบถามทนั ที การรวบรวม ขอสอบที่เคยออกมาแลว นี้ เปนเพยี งแนวทางสาํ หรับผศู ึกษา นํามาเนน+ ทรงจําไว (เมอื่ ไดช ่ือวาศึกษาแลว ก็ควรทรงจําใหไดมากที่สดุ หรือทั้งหมด จึงจะชอื่ วา สุตะดวยดี เพื่อการจินตาและภาวนาตอ ไป) การสอบไมใ ชท สี่ ุดของชีวิต แตขอใหต้ังจิตศึกษาและทรงจาํ เพื่อ ธาํ รงและรักษาไวซึ่งพระศาสนา รอู รรถะและพยญั ชนะ ท้งั เขาใจและเขา ให ถึงธรรมะ แมยังมบิ รรลุคณุ ธรรมอันสูงถึงข้นั อรยิ ะ กข็ อจงเปน ผรู ธู รรมะ (ตามสมควร) และจงเปน ผมู ธี รรมะ วายเมเถว ปรุ ิโส ยาว อตถฺ สฺส นปิ ปฺ ทา เกิดเปนคนควรจะพยายาม จนกวาจะประสบความสาํ เรจ็ สําเนาประกอบการเรียนหรือแจกไดโดยไมต อ งขออนญุ าต (สงวนสิทธใ์ิ นการนําไปจาํ หนาย) ผดิ -ตกขออภัย และกรณุ าแจงที่ 081-860-2466, E- mail: [email protected], [email protected] (จักขอบพระคณุ อยา งสงู ) ขออนุโมทนาในการศึกษาธรรมะ และทกุ ๆกุศลที่ทานกระทาํ ไวด แี ลว และที่จะกระทําในอนาคต ใหเรานนั้ มปี จจัยถงึ พรอมเพ่ือการทํากุศลใหส าํ เรจ็ โดยสะดวก งา ยดาย และเรว็ ไว จนถงึ มัคคกศุ ล โดยเร็วพลนั เทอญ ดาวนโ หลดขอ มลู ที่ ขอความเพ่มิ เตมิ ท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ ีสังคหะ, ภูมจิ ตกุ กะ, ปฏิสนธจิ ตกุ กะ 47 ขอสอบสมั ภาษณพ ระอภิธรรม ภาคเรยี นท่ี ๒ ปการศกึ ษา ๒๕๔๓-๒๕๖๑ เวลา ๑๕ นาที อภิธรรมโชติกะวทิ ยาลยั มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั ชนั้ มัชฌมิ อาภธิ รรมกิ ะตรี สอบวนั จนั ทรท ่ี ..... ธันวาคม พ.ศ. ๒๕....... วิชา : วถิ ีสังคหะ, ภูมจิ ตกุ กะ, ปฏสิ นธจิ ตุกกะ, กรรม-มรณุปปต ติจตุกกะ ๖ ขอ ๓๐ คะแนน ๑. จงแปลคาถาสงั คหะท่ีแสดงการสรุปจํานวนวถิ จี ิตในปญ จทวารดังตอไปน้ี ? 61 วถี ิจิตฺตานิ สตฺเตว จิตฺตุปปฺ าทา จตทุ ฺทส จตปุ ฺญาส วติ ฺถารา ปฺจทฺวาเร ยถารหํ. ตอบ แปลบาลี ดงั น้ี แปลความวา วถิ จี ิตทัง้ หลายในปญ จทวาร ตามสมควรแกทวารและอารมณ แลว มี ๗ เทา น้นั (คอื ปญจทวาราวัชชนะ ๑ ปญ จวญิ ญาณ ๑ สมั ปฏิจฉนะ ๑ สันตรี ณะ ๑ โวฏฐัพพนะ ๑ ชวนะ ๑ ตทารัมมณะ ๑) วิถจี ติ เหลา น้นั เมือ่ วาโดยการเกิดขน้ึ แลวมี ๑๔ ครง้ั (คือ ปญจทวาราวชั ชนะเกิด ๑ ครงั้ ปญจวญิ ญาณดวงใดดวงหนึ่ง เกิด ๑ ครง้ั สมั ปฏจิ ฉนะเกิด ๑ ครง้ั สันตรี ณะเกิด ๑ ครง้ั โวฏฐัพพนะเกิด ๑ ครง้ั ชวนะเกิด ๗ ครง้ั และตทารัมมณะ เกิด ๒ คร้งั ) วถิ จี ิตเหลาน้ันเมื่อวา โดยพสิ ดารแลว มี ๕๔ (คือ กามจติ ๕๔ นัน่ เอง) ๑. ก. คาํ วา ปวัตตสิ งั คหะ คืออะไร? เม่อื วา โดยกาลแลวมีเทาไร? คืออะไรบาง ? 43, 46, 50, 54 ตอบ ก. ปวตั ติสงั คหะ คือ การรวบรวมความเปน ไปแหง จติ เจตสิก ในปฏสิ นธิกาลและปวตั ติกาล รวมทัง้ ภูมแิ ละบคุ คล ตามสมควร เมือ่ วาโดยกาลแลวมี ๒ กาล คอื ปฏสิ นธกิ าลและปวตั ติกาล ๑. ก. คําวา วถิ ีสงั คหะ หมายความวาอยางไร ? และเมือ่ แยกบทแลวไดก ี่บท คอื อะไรบา ง แตละบทหมายความวาอยางไร ? 50, 57 ตอบ ก. วถิ ีสังคหะ หมายความวา การสงเคราะหการเกิดขน้ึ โดยลาํ ดบั ตดิ ตอ กันเปนแถวของจิต เจตสกิ รปู เมือ่ แยกบทแลว ได ๒ บท คอื วถิ ี + สังคหะ วถิ ี หมายความวา การเกิดขนึ้ โดยลาํ ดับตดิ ตอ กันเปน แถวของจติ เจตสิก รูป สงั คหะ หมายความวา การสงเคราะหหรือการรวบรวม ๑. ก. คําวา วิถี หมายความวาอยางไร ? ในปรมตั ถธรรมท้ัง ๔ น้ัน ปรมตั ถธรรมไหน เปนวถิ ีไดบ าง ? 50, 54, 56 ตอบ ก. คําวา วิถี หมายความวา การเกดิ ขึ้นโดยลําดับติดตอกันเปนแถวของจิต เจตสกิ รปู ชอ่ื วา วถิ ,ี ในปรมัตถธรรมทง้ั ๔ นั้น จิต เจตสิก รูป เปนวิถไี ด ๑. ข. ในปรมตั ถธรรม ๔ ปรมัตถธรรมใดบางท่สี งเคราะหเปน วิถีได และปรมัตถธรรมใดสงเคราะหเ ปนวถิ ีไมไ ด ? 46 ตอบ ข. ในปรมัตถธรรม ๔ นัน้ จติ ปรมตั ถ เจตสิกปรมตั ถ รปู ปรมตั ถ สงเคราะหเปนวถิ ไี ด นพิ พานปรมัตถส งเคราะหเ ปน วิถไี มไ ด ๑. ค. ปรมตั ถธรรมท่สี งเคราะหเปนวถิ ีไมได (นพิ พาน) เพราะเหตุใด ? 46 ตอบ ค. นิพพานสงเคราะหเ ปน วถิ ีไมได เพราะนพิ พานไมม ีการเกิดดับ นิพพานนน้ั เปน สภาวธรรมท่ีเปนอารมณข องวถิ ไี ด แตเ ปน วิถีไมได ๑. ก. คําวา “วิถ”ี เมอื่ วาโดยทวารและวิญญาณแลว มีเทาไร คืออะไรบาง ? (ไมต องบอกความหมาย) ? 36, 58 ๑. ก. คาํ วา “วิถ”ี เม่อื วาโดยทวารแลว มเี ทา ไร คอื อะไรบา ง ? 36 ตอบ ก. คําวา “วถิ ”ี เมอ่ื วา โดยทวารแลว มี ๖ คือ ๑. จักขุทวารวิถี ๒. โสตทวารวถิ ี ๓. ฆานทวารวิถี ๔. ชวิ หาทวารวถิ ี ๕. กายทวารวถิ ี ๖. มโนทวารวิถี ดาวนโหลดขอมูลท่ี ขอความเพมิ่ เตมิ ท่ี youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่แี ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วถิ สี ังคหะ, ภูมิจตุกกะ, ปฏสิ นธิจตกุ กะ 48 (58) เม่ือวา โดยวญิ ญาณแลว มี ๖ อยา ง คือ ๑. จกั ขวุ ญิ ญาณวถิ ี ๒. โสตวญิ ญาณวิถี ๓. ฆานวญิ ญาณวิถี ๔. ชวิ หาวญิ ญาณวิถี ๕. กายวญิ ญาณวถิ ี ๖. มโนวญิ ญาณวถิ ี ๑. คาํ วา “วสิ ยปั ปวตั ติ” หมายความวา อยางไร ? และใหแสดงจํานวนวสิ ยัปปวตั ตใิ นวิถมี ุตตจติ และวิถจี ติ ของวสิ ยัปปวตั ตเิ หลาน้ันดวย ? 38, 49, 53 ตอบ คาํ วา “วิสยปั ปวัตต”ิ หมายความวา ความเปนไปแหง อารมณในทวาร ๖ และพนจากทวาร ๖. จาํ นวนวิสยปั ปวัตตใิ นวิถมี ุตตจติ มี ๓ อยา ง คือ ๑. กรรมอารมณ ๒. กรรมนมิ ติ อารมณ ๓. คตนิ มิ ติ อารมณ (38, 49, 53) วิสยปั ปวัตตใิ นวถิ ีจิตมี ๖ หรอื ๘ มี ๖ คือ ๑. อตมิ หนั ตารมณ ๒. มหันตารมณ ๓. ปรติ ตารมณ ๔. อตปิ ริตตารมณ ๕. วิภตู ารมณ ๖. อวภิ ตู ารมณ มี ๘ คือ ๑. อตมิ หันตารมณ ๒. มหันตารมณ ๓. ปรติ ตารมณ ๔. อตปิ รติ ตารมณ ๕. อตวิ ิภตู ารมณ ๖. วภิ ูตารมณ ๗. อวภิ ตู ารมณ ๘. อติอวิภตู ารมณ ๑. ข. วิสยัปปวัตตใิ นปญจทวาร มก่ี ี่อยาง ? คอื อะไรบา ง ? จงแสดงมาพรอ มความหมาย ? 50 ๑. ข. จงแสดงความหมายของคําวา วิสยัปปวตั ติ ดงั ตอไปนี้ ? 56 ก. อติมหันตารมณ ข. มหันตารมณ ค.ปรติ ตารมณ ง. อติปรติ ตารมณ ตอบ ข. วิสยปั ปวตั ติในปญจทวาร มี ๔ อยา งคือ ๑. อติมหันตารมณ หมายความวา ปญจารมณทม่ี ีวถิ ีจิตเกิดขึน้ ไดม ากทสี่ ดุ จนครบ ๗ อยาง ๒. มหันตารมณ หมายความวา ปญ จารมณท มี่ ีวิถจี ิตเกดิ ขน้ึ ไดม าก มเี พียง ๖ อยา ง ๓. ปริตตารมณ หมายความวา ปญ จารมณท มี่ วี ิถีจิตเกิดข้ึนไดน อ ย มีเพยี ง ๕ อยาง ๔. อติปริตตารมณ หมายความวา ปญ จารมณทม่ี ีวิถจี ิตเกิดขึ้นไดน อยทสี่ ุด กลา วคือมีแตเ พยี งภวงั คจลนะเทา นั้น ๑. ข.วิสยัปปวัตตทิ างมโนทวาร ตามนยั อรรถกถาและฎีกา มี ๔ คอื อะไรแสดงพรอ มความหมาย ? แตล ะอยา งเปน วาระอะไร? 42, 58 ตอบ ข. วิสยปั ปวตั ตทิ างมโนทวาร ตามนยั อรรถกถาและฎีกา มี ๔ คือ ๑. อตวิ ภิ ตู ารมณ คอื อารมณท่ปี รากฏชดั ทางใจมากที่สดุ เปนตทารมั มณวาระ ๒. วภิ ูตารมณ คอื อารมณที่ปรากฏชดั ทางใจ เปนชวนวาระ ๓. อวิภูตารมณ คืออารมณท ไี่ มป รากฏชดั ทางใจ เปน โวฏฐัพพนวาระ ๔. อตอิ วภิ ูตารมณ คอื อารมณทไี่ มป รากฏชดั ทางใจมากทสี่ ดุ เปนโมฆวาระ ๑. จงแสดงอายขุ องจติ และรปู พรอมทัง้ ยกหลักฐานบาลี ไมต องแปล ? 38, 45, 55, 59 ตอบ อายุของจิต เจตสกิ รปู มีดงั น้ี คอื ขณะเล็กทัง้ ๓ ไดแ ก อุปปาทกั ขณะ ฐีตขิ ณะ ภงั คขณะ (เกดิ ตง้ั ดบั ) เปน อายขุ องจติ เจตสิกดวงหนงึ่ สว นอายุของรูปเทา กับ จติ ๑๗ ดวง วา โดยขณะเล็ก ๕๑ ขณะ ดังมีหลักฐานบาลแี สดงวา อปุ ฺปาทฐตี ิภงคฺ วเสน ขณตตฺ ยํ เอกจิตฺตกฺขณํ นาม ตานิ ปน สตตฺ รส จติ ฺตกขฺ ณานิ รูปธมมฺ านมายุ ๑. จงแสดงอายุของจติ และรปู พรอมทง้ั ยกหลักฐานบาลี และคาํ แปลข้ึนแสดงดวย ? 47 ตอบ แสดงอายขุ องจติ และรปู พรอ มดวยบาลี และคาํ แปลดังนี้ กถํ อปุ ปฺ าทฐตี ิภงฺควเสน ขณตฺตยํ เอกจติ ฺตกขฺ ณํ นาม แปลความวา สาํ หรบั ความเปนไปแหง วสิ ยปั ปวัตติ ๖ หรอื ๘ อยา งไรนั้น มีดงั ตอ ไปนี้ ขณะทงั้ ๓ คอื อปุ ปาทักขณะ ฐตี ขิ ณะ ภังคกั ขณะ เหลานี้ ชอื่ วา ขณะจิตหนงึ่ คอื เปนอายุของจิตดวงหนง่ึ ตานิ ปน สตฺตรส จติ ตฺ กขฺ ณานิ รูปธมมฺ านมายุ ดาวนโ หลดขอมลู ท่ี ขอความเพม่ิ เตมิ ที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒

วิถสี งั คหะ, ภมู จิ ตกุ กะ, ปฏสิ นธจิ ตุกกะ 49 แปลความวา สว นระยะเวลาของจติ ทเี่ กดิ ขนึ้ และดบั ไป ๑๗ ดวงนน้ั เปนอายุของรปู ธรรม ๒๒ รูปใดรูปหนึ่ง ๑. ข. จงแสดงความแตกตา งกัน และความเหมือนกัน ในขณะท้งั ๓ ของอายนุ ามและรปู วาเหมือนกนั และตางกนั ทขี่ ณะใด ? 51, 57 ตอบ ก. อายขุ องนามและรูป ในขณะทัง้ ๓ นั้น มีความตา งกนั ตรงทฐี่ ตี ขิ ณะ คอื ฐตี ิขณะของนาม มี ๑ ขณะ สว นฐตี ขิ ณะของรูปมี ๔๙ ขณะ สาํ หรบั อปุ าทักขณะ และภังคกั ขณะนนั้ มี ๑ขณะเทา กนั ๑. ข. การจาํ แนกอารมณ โดยความเปนอิฏฐ หรือ อนิฏฐ น้ันอาศยั เครือ่ งจําแนกกอี่ ยาง ? คืออะไรบาง ? ไมต อ งอธิบาย ? 36, 43 ตอบ ข. อาศยั เคร่อื งจาํ แนก ๕ อยา ง คือ ๑. มัชฌตั ตบุคคล ๒. วปิ ากจิต ๓. ทวาร ๔. อารมณ ๕. กาล ๒. ก. จงจาํ แนกตทารมั มณจติ ๑๑ โดยอารมณ ๓ ชนิด ? 50 ตอบ ก. จาํ แนกตทารมั มณจติ ๑๑ โดยอารมณ ๓ ชนดิ ดงั น้ี ๑) อเุ บกขาตทารัมมณจติ ๑ คือ อุเบกขาสนั ตรี ณอกุศลวปิ ากจติ ๑ มอี ารมณ ๖ ท่ีเปน กามธรรม ชนดิ อนิฏฐารมณ เปน อารมณ ๒) อุเบกขาตทารัมมณจติ ๕ คือ อเุ บกขาสนั ตีรณกศุ ลวปิ ากจิต ๑ อุเบกขามหาวิปากจิต ๔ มีอารมณ ๖ ทเี่ ปน กามธรรม ชนดิ อิฏฐมัชฌตั ตารมณ เปน อารมณ ๓) โสมนสั ตทารมั มณจติ ๕ คอื โสมนสั สันตีรณจติ ๑ โสมนสั มหาวิปากจิต ๔ มอี ารมณ ๖ ท่ีเปน กามธรรม ชนดิ อติอฏิ ฐารมณ เปน อารมณ ๒. ข. การเกดิ ขนึ้ ของตทารมั มณจิต ในอตมิ หันตารมณ และอติวภิ ตู ารมณว ถิ ีท่ีมตี ทารัมมณจติ เกดิ ขน้ึ ไดนนั้ ตองมี องคป ระกอบก่ีอยาง ? คืออะไรบา ง ? 50 ตอบ ข. การเกดิ ขนึ้ ของตทารมั มณจิต ในอติมหนั ตารมณ และอติวิภูตารมณวิถีที่มตี ทารมั มณจิตเกดิ ขน้ึ ไดน ั้น ตอ งมอี งคป ระกอบ ๓ อยา ง คือ ๑) กามชวนะ ๒) กามบุคคล ๓) กามอารมณ ๒. ก. ทวารฉักกะ ไดแ กอะไรบา ง จงแสดงมาพรอ มองคธ รรม ? 52 ๒. ข. วิญญาณฉักกะ ไดแกอ ะไรบา ง จงแสดงมาพรอมองคธรรม? 52 ตอบ ก. ทวารฉกั กะ ทวาร ๖ คอื ๑. จักขุทวาร องคธ รรมไดแก จกั ขุปสาท ๒. โสตทวาร องคธ รรมไดแก โสตปสาท ๓. ฆานทวาร องคธ รรมไดแก ฆานปสาท ๔. ชวิ หาทวาร องคธ รรมไดแก ชวิ หาปสาท ๕. กายทวาร องคธ รรมไดแก กายปสาท ๖. มโนทวาร องคธ รรมไดแ ก ภวังคจิต ๑๙ ข. วิญญาณฉักกะ วิญญาณ ๖ คอื จกั ขวุ ิญญาณจิต ๒ ๑. จักขวุ ิญญาณ องคธรรมไดแ ก โสตวญิ ญาณจติ ๒ ๒. โสตวญิ ญาณ องคธรรมไดแก ฆานวญิ ญาณจติ ๒ ๓. ฆานวญิ ญาณ องคธ รรมไดแ ก ชิวหาวิญญาณจติ ๒ ๔. ชวิ หาวิญญาณ องคธรรมไดแก กายวิญญาณจิต ๒ ๕. กายวญิ ญาณ องคธ รรมไดแ ก จติ ๗๙ ท่ีเหลอื ๖. มโนวญิ ญาณ องคธรรมไดแ ก ๒. ก. จงบอกจาํ นวนและองคธรรมของชวนะทเ่ี กดิ ขนึ้ ๑ ขณะ, ๒ ขณะมาพรอมทั้งช้ีวิถีใหเหน็ ดวย ? 55, 60 ดาวนโ หลดขอมลู ที่ ขอความเพ่มิ เติมที่ youtube, Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่แี ปะไว) ๑๙ ก.พ. ๖๒