Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายวิชาเทคโนโลยีสาระสนเทศ,.4

รายวิชาเทคโนโลยีสาระสนเทศ,.4

Published by moozxzx093, 2020-02-05 02:11:14

Description: รายวิชาเทคโนโลยีสาระสนเทศ,.4

Search

Read the Text Version

รายวชิ าเทคโนโลยสี าระสนเทศ(คอมพวิ เตอร์ม.4) รหัสตวั ชี้วดั มี 13 ตวั (วชิ าพนื้ ฐาน) (ง3.1 ม.4-6/1) 1. อธิบายองค์ประกอบของระบบสารสนเทศ (ง3.1 ม.4-6/2) 2. อธิบายองค์ประกอบและหลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ (ง3.1 ม.4-6/3) 3. อธิบายระบบสอื่ สารข้อมลู สาหรับเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ (ง3.1 ม.4-6/4) 4. บอกคณุ ลกั ษณะของคอมพวิ เตอร์ และอปุ กรณ์ตอ่ พว่ ง (ง3.1 ม.4-6/5) 5. แก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ (ง3.1 ม.4-6/6) 6. เขียนโปรแกรมภาษา (ง3.1 ม.4-6/7) 7. พฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอร์ (ง3.1 ม.4-6/8) 8. ใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกบั งาน (ง3.1 ม.4-6/9) 9. ติดตอ่ สือ่ สาร ค้นหาข้อมลู ผา่ นอนิ เทอร์เน็ต (ง3.1 ม.4-6/10) 10. ใช้คอมพวิ เตอร์ในการประมวลผลข้อมลู ให้เป็นสารสนเทศเพ่ือประกอบการ ตดั สินใจ (ง3.1 ม.4-6/11) 11. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนาเสนองานในรูปแบบที่เหมาะสมตรงตาม วตั ถปุ ระสงค์ของงาน (ง3.1 ม.4-6/12) 12. ใช้คอมพิวเตอร์ชว่ ยสร้างชนิ ้ งานหรือโครงงานอยา่ งมีจิตสานกึ และความ รับผิดชอบ (ง3.1 ม.4-6/13) 13. บอกข้อควรปฏบิ ตั ิสาหรับผ้ใู ช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ รวม 13 ตัวชี้วดั องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ ประกอบด้วยอะไรบ้าง จงอธิบาย 1. ฮารด์ แวร์ ฮารด์ แวรเ์ ป็ นองคป์ ระกอบสาคญั ของระบบสารสนเทศ หมายถงึ เครอ่ื ง คอมพวิ เตอรอ์ ปุ กรณร์ อบขา้ ง ร รวมทงั้ อปุ กรณส์ อื่ สารสาหรับเชอื่ มโยงคอมพวิ เตอรเ์ ขา้ เป็ นเครอื ขา่ ย เชน่ เครอื่ งพมิ พ์ เครอื่ งกราดตรวจเมอื่ พจิ ารณาเครอ่ื ง คอมพวิ เตอร์ สามารถแบง่ เป็ น 3 หน่วย คอื หน่วยรับขอ้ มลู (input unit) ไดแ้ ก่ แผงแป้นอกั ขระ เมาส์

หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) หน่วยแสดงผล (output unit) ไดแ้ ก่ จอภาพ เครอ่ื งพมิ พ์ 2 . ซอฟตแ์ วร์ ซอฟตแ์ วรห์ รอื โปรแกรมคอมพวิ เตอรเ์ ป็ นองคป์ ระกอบทสี่ าคญั ประการทสี่ อง ซง่ึ ก็คอื ลาดบั ขนั้ ตอนของ คาสงั่ ทจี่ ะสงั่ งานใหฮ้ ารด์ แวรท์ างาน เพอื่ ประมวลผลขอ้ มลู ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธต์ ามความ ตอ้ งการของการใชง้ าน ในปัจจบุ นั มซี อฟตแ์ วรร์ ะบบปฏบิ ตั งิ าน ซอฟตแ์ วรค์ วบคมุ ระบบงาน ซอฟตแ์ วรส์ าเร็จ และซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ตส์ าหรับงานตา่ งๆ ลกั ษณะการใช ้ งานของซอฟตแ์ วรก์ อ่ นหนา้ น้ี ผใู ้ ชจ้ ะตอ้ งตดิ ตอ่ ใชง้ านโดยใชข้ อ้ ความเป็ นหลแั ต่ ในปัจจบุ นั ซอฟตแ์ วรม์ ลี กั ษณะการใชง้ านทง่ี า่ ยขน้ึ โดยมรี ปู แบบการตดิ ตอ่ ทสี่ อ่ื ความหมายให ้ เขา้ ใจงา่ ย เชน่ มสี ว่ นประสานกราฟิกกบั ผใู ้ ชท้ เี่ รยี กวา่ กยุ (Graphical User Interface : GUI) สว่ นซอฟตแ์ วรส์ าเร็จทม่ี ใี ชใ้ นทอ้ งตลาดทาใหก้ ารใชง้ านคอมพวิ เตอรใ์ นระดบั บคุ คลเป็ นไป อยา่ งกวา้ งขวาง และเรมิ่ มลี กั ษณะสง่ เสรมิ การทางานของกลมุ่ มากขนึ้ สว่ นงานในระดบั องคก์ ร สว่ นใหญม่ กั จะมกี ารพัฒนาระบบตามความตอ้ งการโดยการวา่ จา้ ง หรอื โดยนักคอมพวิ เตอรท์ อี่ ยู่ ในฝ่ ายคอมพวิ เตอรข์ ององคก์ ร เป็ นตน้ ซอฟตแ์ วร์ คอื ชดุ คาสง่ั ทสี่ งั่ งานคอมพวิ เตอร์ แบง่ ออกไดห้ ลายประเภท เชน่ 1. ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ คอื ซอฟตแ์ วรท์ ใี่ ชจ้ ัดการกบั ระบบคอมพวิ เตอร์ และอปุ กรณ์ ตา่ งๆ ทมี่ อี ยใู่ นระบบ เชน่ ระบบปฏบิ ตั กิ ารวนิ โดวส์ ระบบปฏบิ ตั กิ ารดอส ระบบปฏบิ ตั กิ ารยนู กิ ซ์ 2. ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์ คอื ซอฟตแ์ วรท์ พี่ ัฒนาขนึ้ เพอื่ ใชง้ านดา้ นตา่ งๆ ตามความ ตอ้ งการของผใู ้ ช ้ เชน่ ซอฟตแ์ วรก์ ราฟิก ซอฟตแ์ วรป์ ระมวลคา ซอฟตแ์ วร์ ตารางทางาน ซอฟตแ์ วรน์ าเสนอขอ้ มลู 3. ขอ้ มลู ขอ้ มลู เป็ นองคป์ ระกอบทสี่ าคญั อกี ประการหนง่ึ ของระบบสารสนเทศ อาจจะเป็ นตวั ช้ี ความสาเร็จหรอื ความลม้ เหลวของระบบได ้ เนอื่ งจากจะตอ้ งมกี ารเกบ็ ขอ้ มลู จากแหลง่ กาเนดิ ขอ้ มลู จะตอ้ งมคี วามถกู ตอ้ ง มกี ารกลน่ั กรองและตรวจสอบแลว้ เทา่ นัน้ จงึ จะมปี ระโยชน์ ขอ้ มลู จาเป็ นจะตอ้ งมมี าตรฐาน โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ เมอ่ื ใชง้ านในระดบั กลมุ่ หรอื ระดบั องคก์ ร ขอ้ มลู ตอ้ งมโี ครงสรา้ งในการจัดเก็บทเ่ี ป็ นระบบระเบยี บเพอ่ื การสบื คน้ ทร่ี วดเร็วมปี ระสทิ ธภิ าพ

4. บคุ ลากร บคุ ลากรในระดบั ผใู ้ ช ้ ผบู ้ รหิ าร ผพู ้ ัฒนาระบบ นักวเิ คราะหร์ ะบบ และนักเขยี นโปรแกรม เป็ นองคป์ ระกอบสาคญั ในความสาเร็จของระบบสารสนเทศ บคุ ลากรมคี วามรคู ้ วามสามารถทาง คอมพวิ เตอรม์ ากเทา่ ใดโอกาสทจี่ ะใชง้ านระบบสารสนเทศและระบบคอมพวิ เตอรไ์ ดเ้ ต็ม ศกั ยภาพและคมุ ้ คา่ ยง่ิ มากขน้ึ เทา่ นัน้ โดยเฉพาะระบบสารสนเทศในระดบั บคุ คลซง่ึ เครอื่ ง คอมพวิ เตอรม์ ขี ดี ความสามารถมากขนึ้ ทาใหผ้ ใู ้ ชม้ โี อกาสพัฒนาความสามารถของตนเองและ พัฒนาระบบงานไดเ้ องตามความตอ้ งการ สาหรับระบบสารสนเทศในระดบั กลมุ่ และองคก์ รทมี่ ี ความซบั ซอ้ นจะตอ้ งใชบ้ คุ ลากรในสาขาคอมพวิ เตอรโ์ ดยตรงมาพัฒนาและดแู ลระบบงาน 5. ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านทช่ี ดั เจนของผใู ้ ชห้ รอื ของบคุ ลากรทเ่ี กยี่ วขอ้ งกเ็ ป็ นเรอ่ื งสาคญั อกี ประการ หนงึ่ เมอื่ ไดพ้ ัฒนาระบบงานแลว้ จาเป็ นตอ้ งปฏบิ ตั งิ านตามลาดบั ขนั้ ตอนในขณะทใ่ี ชง้ านก็ จาเป็ นตอ้ งคานงึ ถงึ ลาดบั ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ขิ องคนและความสมั พันธก์ บั เครอื่ ง ทงั้ ในกรณีปกติ และกรณีฉุกเฉนิ เชน่ ขนั้ ตอนการบนั ทกึ ขอ้ มลู ขนั้ ตอนการประมวลผล ขนั้ ตอนปฏบิ ตั เิ มอ่ื เครอื่ ง ชารดุ หรอื ขอ้ มลู สญู หาย และขนั้ ตอนการทาสาเนาขอ้ มลู สารองเพอื่ ความปลอดภยั เป็ นตน้ สง่ิ เหลา่ นจี้ ะตอ้ งมกี ารซกั ซอ้ ม มกี ารเตรยี มการ และการทาเอกสารคมู่ อื การใชง้ านทช่ี ดั เจน การทางานขนั้ พืน้ ฐานของคอมพิวเตอร์ แผนผงั แสดงวงจรการทางานขนั้ พืน้ ฐานของคอมพวิ เตอร์ ข้ันที่ 1 รับข้อมูล (INPUT) เป็นการนาขอ้ มลู หรือคาสงั่ เขา้ สู่เคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดยผา่ นอุปกรณ์รับ ขอ้ มลู ต่างๆเช่น การพมิ พข์ อ้ ความเขา้ สู่เคร่ืองคอมพวิ เตอร์โดยใชแ้ ป้ นพิมพ์ การบนั ทึกเสียงโดยผา่ น ไมโครโฟน เป็นตน้ ข้ันท่ี 2 ประมวลผลข้อมูล (PROCESS) เป็นการนาขอ้ มูลมาประมวลผลตามชุดคาสง่ั หรือ โปรแกรมเพอื่ ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธห์ รือสารสนเทศ เช่น การนาขอ้ มลู ท่ีรับเขา้ มาหาผลรวม เปรียบเทียบคานวณ เกรดเฉลี่ย เป็นตน้ ซ่ึงอุปกรณ์สาหรับประมวลท่ีสาคญั คือ หน่วยประมวลผลกลาง ข้นั ที่ 3 จัดเกบ็ ข้อมูล (STORAGE) เป็นการจดั เกบ็ ขอ้ มลู ชว่ั คราวในขณะที่มีการประมวลผลแรม รวมถึงจดั เกบ็ ขอ้ มูลท่ีผา่ นการประมวลผลลงในอุปกรณ์เกบ็ ขอ้ มลู เช่น ฮาร์ดดิสถ์ (HARD DISK) แฟลชไดร์ฟ (FLASH DRIVE) เป็นตน้ ข้นั ที่ 4 แสดงผลข้อมูล (OUTPUT) เป็นการนาผลลพั ธท์ ่ีไดจ้ ากการประมวลผลมาแสดงผลลพั ธ์ใน รูปแบบที่มนุษยเ์ ขา้ ใจ กล่าวคือ อยใู่ นรูปแบบของขอ้ ความ ตวั อกั ษร ตวั เลข สญั ลกั ษณ์ เสียง โดยผา่ น อุปกรณ์แสดงผลต่างๆเช่น จอภาพ เคร่ืองพมิ พ์ เป็นตน้

• เปรียบเทียบการทางานระหวา่ งมนุษยก์ บั คอมพิวเตอร์ กระบวนการทางานของคอมพิวเตอร์จะมีหลกั เหมือนกบั กระบวนการทางานของมนุษย์ ซ่ึงประกอบดว้ ย 4 หน่วยคือ หน่วยรับขอ้ มูล หน่วยความจา หน่วยประมวลผล และหน่วยแสดงผล

การทางานข้นั พ้ืนฐานของคอมพวิ เตอร์ ♣ การทางานข้นั พ้ืนฐานของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์คอื อุปกรณ์ทางอิเลก็ ทรอนิกส์ (electronic device) ที่มนุษยใ์ ชเ้ ป็นเคร่ืองมือช่วยใน การจดั การกบั ขอ้ มูลที่อาจเป็นไดท้ ้งั ตวั เลข ตวั อกั ษร หรือสญั ลกั ษณ์อ่ืนท่ีใชแ้ ทนความหมายในสิ่งต่าง ๆ โดยคุณสมบตั ิที่สาคญั ของคอมพิวเตอร์คือการท่ีสามารถกาหนดชุดคาสงั่ ล่วงหนา้ ไดห้ รือโปรแกรมได้ (programmable) นนั่ คือคอมพิวเตอร์สามารถทา งานไดห้ ลากหลายรูปแบบ ข้ึนอยู่ กบั ชุดคาสง่ั ท่ีเลือกมาใชง้ าน ทาใหส้ ามารถนาคอมพวิ เตอร์ไปประยกุ ตใ์ ชง้ านไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง เช่น ใชใ้ น การตรวจคลื่นความถี่ของหวั ใจ การฝาก-ถอนเงินในธนาคาร การตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ เป็นตน้ ขอ้ ดี ของคอมพวิ เตอร์คือ เคร่ืองคอมพิวเตอร์สามารถทางานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ มีความถกู ตอ้ ง และมีความ รวดเร็ว อยา่ งไรกด็ ี ไม่วา่ จะเป็นงานชนิดใดกต็ าม เครื่องคอมพวิ เตอร์จะมีวงจรการทางานพ้ืนฐาน 4 อยา่ ง (IPOS cycle) I ==> รับขอ้ มูล (Input) เครื่องคอมพวิ เตอร์จะทาการรับขอ้ มูลจากหน่วยรับขอ้ มลู (input unit) เช่น คียบ์ อร์ด หรือ เมาส์ P ==> ประมวลผล (Processing) เคร่ืองคอมพิวเตอร์จะทาการประมวลผลกบั ขอ้ มลู แปลงใหอ้ ยใู่ น รูปอ่ืนตามท่ีตอ้ งการ O ==> แสดงผล (Output) เคร่ืองคอมพิวเตอร์จะใหผ้ ลลพั ธ์จากการประมวลผลออกมายงั หน่วย แสดงผลลพั ธ์ (output unit) เช่นเคร่ืองพิมพ์ หรือจอภาพ S ==> เกบ็ ขอ้ มูล (Storage) เคร่ืองคอมพิวเตอร์จะทาการเกบ็ ผลลพั ธ์จากการประมวลผลไวใ้ นหน่วย เกบ็ ขอ้ มูล เพื่อใหส้ ามารถนามาใชใ้ หมไ่ ดใ้ นอนาคต

 ชนิดของการเลอื กซื้อคอมพวิ เตอร์ การเลือกซ้ือเครื่องคอมพวิ เตอร์ จะตอ้ งคานึงถึงส่ิงต่อไปน้ี 1. งบประมาณในการจดั ซ้ือ 2. ประเภทของงานที่นาคอมพิวเตอร์มาใช้ 3. สมรรถนะของเครื่อง 4. ความสามารถในการ Upgrade ในอนาคต รายละเอียดเกี่ยวกบั เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ หลกั ๆ โดยทวั่ ไปมีดงั น้ี 1. รุ่นและความเร็วในการประมวลผลของ CPU 2. ชนิดและขนาดของหน่วยความจา RAM 3. ขนาดของหน่วยความจาแคช (Cache Lever 2) 4. ขนาดความจุของฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) คอมพวิ เตอร์พซี ีโดยทว่ั ไปในปัจจุบนั เป็นระบบมลั ติมีเดีย สามารถดูหนงั ฟังเพลง เลน่ เกม และเชื่อมต่อ อินเตอร์เน็ตได้ การพจิ ารณารายละเอียดของเครื่องควรดูที่ความเหมาะสมในการนามาใชง้ านมากกวา่ การตดั สินใจซ้ือตาม แฟชนั่ หรือ

การเลือกซ้ือรุ่นใหม่ล่าสุดเพอ่ื ใหเ้ ป็นคนทนั สมยั ซ่ึงจะทาใหเ้ สียคา่ ใชจ้ ่ายแพงเพราะอีกไม่นานกจ็ ะตกรุ่น ราคากจ็ ะลดลงมาดว้ ย และยงั เส่ียงต่อความไม่สมบูรณ์ของเคร่ือง เนื่องจากยงั มีขอ้ ผดิ พลาดในการผลิต จะตอ้ งมีการปรับปรุงอีก เทคนิคของการซ้ือเคร่ืองคอมพิวเตอร์คือ ควรซ้ือเคร่ืองในรุ่นท่ีต่ากวา่ รุ่นที่ออกใหม่ 1 รุ่น จะไดเ้ ครื่อง คอมพวิ เตอร์ที่มีประสิทธิภาพในราคาถูก การเลอื กโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ การเลือกโปรแกรมสาหรับคอมพวิ เตอร์ โปรแกรมแรกคือระบบปฏิบตั ิการ ตอ้ งใหเ้ หมาะสมกบั ระบบ คอมพิวเตอร์ และตอ้ งเป็นโปรแกรมท่ีถกู ตอ้ งตามลิขสิทธ์ิ เช่น วินโดว์ 9x ข้ึนไป หรือ โปรแกรมฟรี เช่น ลีนุกซ์ เป็นตน้ จากน้นั เลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกบั งาน การจดั หาโปรแกรมมี 3 วิธีคือ 1. โปรแกรมสาเร็จรูป (Package Program) เป็นโปรแกรมที่ช่วยอานวยความสะดวกในการ ทางาน สามารถเลือกซ้ือใชไ้ ดต้ ามความตอ้ งการ เช่น สาหรับสานกั งาน (Office) ประกอบดว้ ย โปรแกรมประมวลผลคา (Word Processing: MS-Word) โปรแกรมตารางทางาน (Spread sheet: Excel, Lotus1-2-3) โปรแกรมเสนองาน(Presentation: PowerPoint) โปรแกรมจดั การฐานขอ้ มลู (Data Base: Access, dBase, FoxBASE, FoxPro) 2. โปรแกรมประยกุ ต์ (Application Program: User Program) หมายถึงโปรแกรมท่ี เขียนข้ึนใชเ้ องตามความตอ้ งการ เพื่องานดา้ นใดดา้ นหน่ึงโดยเฉพาะ เช่น โปรแกรมสาหรับระบบงานบญั ชี โปรแกรมสาหรับงานการเรียน การสอน เป็นตน้ ซ่ึงโปรแกรมประเภทน้ีอาจใชโ้ ปรแกรมเมอร์ขององคก์ รเขียนข้ึนหรือวา่ จา้ งบริษทั รับจา้ งเขียนโปรแกรม ค่าใชจ้ ่ายจะสูงกวา่ การซ้ือโปรแกรมสาเร็จรูปมาใช้ แต่จะตรงกบั ความตอ้ งการมากกวา่ 3. โปรแกรมที่เป็นเคร่ืองมือในการพฒั นาระบบ (Program Tools) ไดแ้ ก่ โปรแกรมประเภท CASE เช่น Excelerator ซ่ึงโปรแกรมเมอร์ใชเ้ ป็นเครื่องมือในการพฒั นาระบบงาน ข้นั ตอนในการเลือกโปรแกรมใหเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะของงานมีดงั น้ี 1. ตรงกบั ความตอ้ งการ (Requirement) สามารถทางานไดต้ รงตามความตอ้ งการของผใู้ ช้ 2. มีประสิทธิภาพ (Performance) สามารถจดั การกบั ขอ้ มลู ไดด้ ี การแสดงผล การประมวลผล รวดเร็วและถกู ตอ้ ง 3. ง่ายต่อการใชง้ าน (Easy to use) สามารถเรียนรู้วิธีการใชง้ านไดง้ ่าย ในระยะเวลาอนั ส้นั และมี

เมนูช่วยเหลือ (Help menu) ในระหวา่ งการใชง้ าน 4. มีความยดื หยนุ่ (Flexibility) สามารถใชไ้ ดก้ บั ระบบปฏิบตั ิการที่แตกต่างกนั สามารถรับส่งขอ้ มูล กบั โปรแกรมอ่ืน ๆ ได้ รวมท้งั สามารถใชง้ านกบั อุปกรณ์แสดงผลไดห้ ลายชนิด เช่น จอภาพ เคร่ืองพมิ พ์ 5. คูม่ ือการใชง้ านท่ีมีคุณภาพ (Quality of Documentation) ตอ้ งสามารถอธิบายหรือให้ คาแนะนาต่อผใู้ ชง้ านเม่ือเกิดปัญหาข้ึน ช่วยใหแ้ กไ้ ขปัญหาไดเ้ ม่ือปฏิบตั ิตาม 6. การรับรองผลิตภณั ฑ์ (Manufacture Support) ผผู้ ลิตหรือผขู้ ายรับรองผลิตภณั ฑข์ องตน บริการใหค้ าปรึกษาเม่ือมีปัญหาจากการใชผ้ ลิตภณั ฑ์ แจง้ ขา่ วสารการปรับปรุงผลิตภณั ฑ์ ใหบ้ ริการ Upgrade ฟรีเป็นตน้ การใชโ้ ปรแกรมควรมีการตรวจสอบความถูกตอ้ ง โดยการนาขอ้ มูลจริงบนั ทึกลงบนโปรแกรมน้นั หลงั จาก ประมวลผลแลว้

นอกจากเคร่ืองคอมพวิ เตอร์แล้วมอี ปุ กรณ์บ้างทางานเหมือนคอมพิวเตอร์4อย่างมีอะไรบ้าง 1.ATM 2.ต้เู ตมิ เงิน

องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ 1. ฮาร์ ดแวร์ (HARDWARE) ฮาร์ดแวร์เป็ นองค์ประกอบของตวั เคร่ืองท่ีสามารถจบั ต้องได้ ได้แก่ วงจรไฟฟ้ า ตวั เคร่ือง จอภาพ เครื่องพมิ พ์ ครี ์บอร์ด เป็ นต้นซง่ึ สามารถแบง่ สว่ นพืน้ ฐานของฮาร์ดแวร์เป็น 4 หน่วยสาคญั 1.1 หนว่ ยรับข้อมลู หรืออินพตุ (Input Unit) ทาหน้าท่ีรับข้อมลู และโปรแกรมเข้า เคร่ือง ได้แก่ คยี ์บอรืดหรือแป้ นพิมพ์ เมาส์ เคร่ืองสแกน เคร่ืองรูดบตั ร Digitizer เป็นต้น 1.2 ระบบประมวลผลกลางหรือซีพียู (CPU : Central Processing Unit) ทาหน้าที่ในการทางานตามคาสงั่ ที่ปรากฏอยใู่ นโปรแกรม ปัจจบุ นั ซีพียขู องเครื่องพซี ี รู้จกั ในนาม ไมโครโปรเซสเซอร์(Micro Processor) ไมโครโปรเซสเซอร์ มีหน้าที่ในการประมวลผลข้อมลู ใน ลกั ษณะของการคานวณและเปรียบเทียบ โดยจะทางานตามจงั หวะเวลาที่แนน่ อน เรียกวา่ สญั ญาณ Clockเม่ือมีการเคาะจงั หวะหนง่ึ ครัง้ ก็จะเกิดกิจกรรม1ครัง้ เราเรียกหน่วยที่ใช้ในการวดั ความเร็วของ ซพี ียวู า่ “เฮิร์ท”(Herzt) 1.3 หนว่ ยเก็บข้อมลู (Storage) ซง่ึ สามารถแยกตามหน้าที่ได้เป็น 2 ลกั ษณะ คือ 1.3.1 หนว่ ยเก็บข้อมลู หลกั หรือความจาหลกั (Primary Storage หรือ Main Memory) ทาหน้าที่เก็บโปรแกรมหรือข้อมลู ท่ีรับมาจากหน่วยรับข้อมลู เพอื่ เตรียมสง่ ให้หน่วย

ประมวลผลกลางทาการประมวลผล และรับผลลพั ธ์ท่ีได้จากการประมวลผลเพื่อสง่ ออกหนว่ ยแสดงข้อมลู ตอ่ ไป 1.3.2 หน่วยเก็บข้อมลู สารอง(Secondary Storage) เป็นหน่วยท่ีทาหน้าที่เก็บข้อมลู หรือ โปรแกรมท่ีจะป้ อนเข้าสหู่ นว่ ยความจาหลกั ภายในเคร่ืองก่อนทาการประมวลผลโดยซพี ยี แู ละเก็บผลลพั ธ์ จากการประมวลผลนนั้ ด้วย ปัจจบุ นั รู้จกั ในนามฮาร์ดดสิ ก์(Hard disk) หรือแผ่นฟร็อปปี ดสิ ก์ (Floppy Disk) 1.4 หนว่ ยแสดงข้อมลู หรือเอาต์พตุ (Output Unit) ทาหน้าท่ีในการแสดงผลลพั ธ์ท่ี ได้จากการประมวลผล ได้แก่ จอภาพ และเคร่ืองพมิ พ์ เป็นต้น ทงั้ 4สว่ นจะเช่ือมตอ่ กนั ด้วยบสั (Bus)ere to edit. 2 ซอฟต์ แวร์ (SOFTWARE) ซอฟต์แวร์ คือโปรแกรมหรือชดุ คาสง่ั ที่สง่ั ให้ฮาร์ดแวร์ทางาน รวมไปถึงการควบคมุ การ ทางาน ของอปุ กรณ์แวดล้อมตา่ งๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์ ดสิ ก์ไดร์ฟ ซีดีรอม การ์ดอนิ เตอร์เฟสตา่ ง ๆ เป็นต้น ซอฟต์แวร์ เป็นสง่ิ ที่มองไมเ่ หน็ จบั ต้องไมไ่ ด้ แตร่ ับรู้การทางานของมนั ได้ ซง่ึ ตา่ งกบั ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ท่ีสามารถจบั ต้องได้ ซง่ึ แบง่ เป็น 2 ประเภทคอื 2.1 ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) คอื โปรแกรม ที่ใช้ในการควบคมุ ระบบการ ทางานของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ทงั้ หมด เชน่ การบตู เครื่อง การสาเนาข้อมลู การจดั การระบบของ ดิสก์ ชดุ คาสง่ั ท่ีเขียนเป็ นคาสง่ั สาเร็จรูป โดยผ้ผู ลติ เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ และมีมาพร้อมแล้วจากโรงงานผลติ การทางานหรือการประมวลผลของซอฟต์แวร์เหลา่ นี ้ขนึ ้ กบั เครื่องคอมพวิ เตอร์แตล่ ะเคร่ือง ระบบของ ซอฟต์แวร์เหลา่ นี ้ออกแบบมาเพื่อการปฏบิ ตั คิ วบคมุ และมีความสามารถในการยดื หยนุ่ การประมวลผล ของเครื่องคอมพิวเตอร์ แบง่ ออกเป็น 4 ประเภทคือ 2.1.1 โปรแกรมระบบปฏบิ ตั กิ าร (Operating System) เป็นโปรแกรมที่ใช้ควบคมุ และติดตอ่ กบั อปุ กรณ์ตา่ งๆของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะการจดั การระบบของดสิ ก์ การบริหารหน่วยความจา

ของระบบ ถ้าขาดซอฟต์แวร์ชนิดนี ้จะทาให้เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ไมส่ ามารถทางานได้ ตวั อยา่ งของซอฟต์แวร์ ประเภทนีไ้ ด้แก่ โปรแกรมระบบปฏิบตั ิการ Unix Linux DOS และ Windows (เวอร์ชน่ั ตา่ ง ๆ เชน่ 95 98 XP Vista ) เป็ นต้น 2.1.2 ตวั แปลภาษา (Translator) จาก Source Code ให้เป็น Object Code (แปลจากภาษาที่มนษุ ย์เข้าใจ ให้เป็ นภาษาที่เคร่ืองเข้าใจ) เป็นซอฟต์แวร์ท่ีใช้ในการแปลภาษาระดบั สงู ซง่ึ เป็ นภาษาใกล้เคยี งภาษามนษุ ย์ ให้เป็ นภาษาเคร่ืองกอ่ นท่ีจะนาไปประมวลผล ตวั แปลภาษาแบง่ ออกเป็ นสองประเภทคอื คอมไพเลอร์ (Compiler) และอนิ เตอร์พที เตอร์ (Interpeter) คอมไพเลอร์จะแปลคาสง่ั ในโปรแกรมทงั้ หมดก่อน แล้วทาการลงิ ้ (Link) เพ่อื ให้ได้คาสงั่ ที่เครื่อง คอมพวิ เตอร์เข้าใจ สว่ นอนิ เตอร์พที เตอร์จะแปลทีละประโยคคาสง่ั แล้วทางานตามประโยคคาสง่ั นนั้ การ จะเลือกใช้ตวั แปลภาษาแบบใดนนั้ จะขนึ ้ อยกู่ บั ภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม 2.1.3 ยตู ลิ ิตี ้โปรแกรม (Utility Program) คือซอฟต์แวร์เสริมชว่ ยให้เครื่องทางานมี ประสิทธิภาพ มากขนึ ้ เชน่ ชว่ ยในการตรวจสอบดสิ ก์ ช่วยในการจดั เก็บข้อมลู ในดสิ ก์ ช่วยสาเนาข้อมลู ช่วยซอ่ มอาการชารุดของดสิ ก์ ช่วยค้นหาและกาจดั ไวรัส ฯลฯ เป็นต้น 2.1.4 ตดิ ตงั้ และปรับปรุงระบบ (Diagonostic Program) เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการตดิ ตงั้ ระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถติดตอ่ และใช้งานอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ท่ีนามาตดิ ตงั้ ระบบ ได้แก่ โปรแกรม Setupและ Driver ตา่ ง 2.2 ซอฟต์แวร์ประยกุ ต์ (Application Software) คอื ซอฟต์แวร์หรือ โปรแกรมท่ีทาให้คอมพวิ เตอร์ทางานตา่ งๆ ตามที่ผ้ใู ช้ต้องการ ไมว่ า่ จะด้านเอกสาร บญั ชี การจดั เก็บข้อมลู เป็ นต้น ซอฟต์แวร์ประยกุ ต์สามารถจาแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ 2.2.1 ซอฟต์แวร์สาหรับงานเฉพาะด้าน(Special Purpose Software) คือ โปรแกรมซง่ึ เขียนขนึ ้ เพ่ือการทางานเฉพาะอยา่ งที่เราต้องการ บางที่เรียกว่า User’s Program เชน่ โปรแกรม การทาบญั ชีจา่ ยเงินเดือน โปรแกรมระบบเช่าซอื ้ โปรแกรมการทาสนิ ค้าคงคลงั เป็นต้น ซง่ึ แตล่ ะโปรแกรมก็ มกั จะมีเงื่อนไข หรือแบบฟอร์มแตกตา่ งกนั ออกไปตามความต้องการหรือกฏเกณฑ์ของแตล่ ะหนว่ ยงานท่ี ใช้ 2.2.2 ซอฟต์แวร์สาหรับงานทวั่ ไป(General Purpose Software) เป็นโปรแกรมประยกุ ต์ ท่ีมีผ้จู ดั ทาไว้ เพื่อใช้ในการทางานประเภทตา่ งๆ ทว่ั ไป โดยผ้ใู ช้คนอ่ืนๆ สามารถนาโปรแกรมนีไ้ ป ประยกุ ต์ใช้กบั ข้อมลู ของตนได้ แตจ่ ะไมส่ ามารถทาการดดั แปลง หรือแก้ไขโปรแกรมได้ ผ้ใู ช้ไม่จาเป็นต้อง

เขียนโปรแกรมเอง ซง่ึ เป็นการประหยดั เวลา แรงงาน และคา่ ใช้จา่ ยในการเขียนโปรแกรม ดงั นนั้ การใช้ โปรแกรมสาเร็จรูปจงึ เป็ นสงิ่ ที่อานวยความสะดวกและเป็นประโยชน์อยา่ งย่งิ ตวั อยา่ งโปรแกรมสาเร็จรูปท่ี นยิ มใช้ได้แก่ MS-Office, Adobe Photosho, Internet Explorer และ เกมส์ ตา่ งๆ เป็นต้น 3 บุ คลากร (PEOPLEWARE) บคุ ลากรจะเป็ นสงิ่ สาคญั ที่จะเป็นตวั กาหนดถึงประสทิ ธิภาพถงึ ความสาเร็จและความ ค้มุ คา่ ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ ซงึ่ สามารถแบง่ บคุ ลากรตามหน้าที่เก่ียวข้องตามลกั ษณะงานได้ 6 ด้าน ดงั นี ้ 3.1 นกั วเิ คราะห์และออกแบบระบบ (Systems Analyst and Designer : SA) ทาหน้าที่ศกึ ษาและรวบรวมความต้องการของผ้ใู ช้ระบบ และทาหน้าท่ีเป็น ส่ือกลางระหวา่ งผ้ใู ช้ระบบและนกั เขียนโปรแกรมหรือปรับปรุงคณุ ภาพงานเดมิ นกั วิเคราะห์ระบบต้องมี ความรู้เกี่ยวกบั ระบบคอมพวิ เตอร์ พนื ้ ฐานการเขียนโปรแกรม และควรจะเป็นผ้มู ีความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์มี มนษุ ย์สมั พนั ธ์ที่ดี 3.2 โปรแกรมเมอร์ (Programmer) คอื บคุ คลที่ทาหน้าท่ีเขียนซอฟต์แวร์ตา่ งๆ (Software) หรือเขียนโปรแกรมเพ่ือสง่ั งานให้เครื่องคอมพวิ เตอร์ทางานตามความต้องการของผ้ใู ช้ โดยเขียนตามแผนผงั ท่ีนกั วิเคราะห์ระบบได้เขียนไว้ 3.3 ผ้ใู ช้ (User) เป็ นผ้ใู ช้ระบบคอมพวิ เตอร์ ซงึ่ จะเป็นผ้ปู ฏิบตั หิ รือกาหนดความ ต้องการในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์วา่ ทางานอะไรได้บ้าง ผ้ใู ช้งานคอมพิวเตอร์ทว่ั ไป จะต้องเรียนรู้ วิธีการใช้เครื่อง และวธิ ีการใช้งานโปรแกรม เพ่ือให้โปรแกรมท่ีมีอยสู่ ามารถทางานได้ตามที่ต้องการ 3.4 ผ้ปู ฏิบตั ิการ (Operator) สาหรับระบบขนาดใหญ่ เชน่ เมนเฟรม จะต้องมี เจ้าหน้าที่คอมพวิ เตอร์ท่ีคอยปิ ดและเปิ ดเคร่ือง และเฝ้ าดจู อภาพเม่อื มีปัญหาซง่ึ อาจเกิดขดั ข้อง จะต้อง แจ้ง System Programmer ซงึ่ เป็นผ้ดู แู ลตรวจสอบแก้ไขโปรแกรมระบบควบคมุ เคร่ืองอีกที

หนง่ึ 3.5 ผ้บู ริหารฐานข้อมลู (Database Administrator : DBA) บคุ คลที่ ทาหน้าที่ดแู ลข้อมลู ผา่ นระบบจดั การฐานข้อมลู ซง่ึ จะควบคมุ ให้การทางานเป็นไปอยา่ งราบร่ืน นอกจากนี ้ ยงั ทาหน้าที่กาหนดสิทธิการใช้งานข้อมลู พร้อมทงั้ ดแู ลดาต้าเบสเซริ ์ฟเวอร์ให้ทางานอยา่ งปกตดิ ้วย 3.6 ผ้จู ดั การระบบ (System Manager) คอื ผ้วู างนโยบายการใช้ คอมพิวเตอร์ให้เป็ นไปตามเป้ าหมายของหน่วยงาน เป็นผ้ทู ี่มีความหมายตอ่ ความสาเร็จหรือล้มเหลวของ การนาระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งานเป็นอยา่ งมาก 4 ข้อมลู และสารสนเทศ หมายถงึ ข้อเท็จจริงหรือเหตกุ ารณ์ที่เกิดขนึ ้ แล้วใช้ตวั เลขตวั อกั ษร หรือสญั ลกั ษณ์ ตา่ งๆ ทาความหมายแทนสงิ่ เหลา่ นนั้ เชน่ · คะแนนสอบวิชาภาษาไทยของนกั เรียน · อายขุ องพนกั งานในบริษัทชนิ วตั รจากดั · ราคาขายของหนงั สอื ในร้านหนงั สือดอกหญ้า · คาตอบท่ีผ้ถู กู สารวจตอบในแบบสอบถาม 4.2 สารสนเทศ (INFORMATION) หมายถึง ข้อสรุปตา่ งๆ ที่ได้จากการนาข้อมลู มาทาการวเิ คราะห์ หรือผา่ นวิธีการท่ี ได้กาหนดขนึ ้ ทงั้ นีเ้พ่อื นาข้อสรุปไปใช้งานหรืออ้างองิ เชน่ · เกรดเฉล่ยี ของวิชาภาษาไทยของนกั เรียน · อายเุ ฉล่ียของพนกั งานในบริษทั ชนิ วตั รจากดั

· ราคาขายสงู สดุ ของหนงั สอื ในร้านหนงั สอื ดอกหญ้า · ข้อสรุปจากการสารวจคาตอบในแบบสอบถาม 5 กระบวนการทางาน (PROCEDURE) องค์ประกอบด้านนีห้ มายถึงกระบวนการทางานเพื่อให้ได้ผลลพั ธ์ตามต้องการ ในการทางานกบั คอมพวิ เตอร์ผ้ใู ช้จาเป็ นต้องทราบขนั้ ตอนการทางานเพ่ือให้ได้งานที่ถกู ต้องและมี ประสทิ ธิภาพ ซงึ่ อาจจะมีขนั้ ตอนสลบั ซบั ซ้อนหลายขนั้ ตอน ดงั นนั้ จงึ มีความจาเป็นต้องมคี มู่ ือปฏบิ ตั ิงาน เช่น คมู่ ือผ้ใู ช้ ( user manual ) หรือคมู่ ือผ้ดู แู ลระบบ ( operation manual ) เป็นต้น หลักการทางานของคอมพิ วเตอร์ ระบบการทางานของคอมพวิ เตอร์ การทางานของคอมพิวเตอร์ แบง่ ออกเป็น 4 สว่ น ดงั นี ้ 1. หนว่ ยรับข้อมลู (Input Unit) ทาหน้าท่ีในการรับข้อมลู หรือคาสง่ั จากภายนอกเข้าไปเก็บไว้ในหนว่ ยความจา เพ่ือเตรียม ประมวลผลข้อมลู ที่ต้องการ ซง่ึ อปุ กรณ์ที่ใช้ในการนาข้อมลู ที่ใช้กนั อยตู่ งั้ แตอ่ ดีตจนถึงปัจจบุ นั นนั้ มีอยู่ หลายประเภทด้วยกนั สาหรับอปุ กรณ์ท่ีนยิ มใช้ในปัจจบุ นั มี ดงั ตอ่ ไปนี ้ - Keyboard - Mouse - Disk Drive - Hard Drive

- CD-Rom - Magnetic Tape - Card Reader - Scanner 2. หนว่ ยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit) ทาหน้าที่ในการคานวณและประมวลผล แบง่ ออกเป็น 2 หน่วยยอ่ ย คือ - หนว่ ยควบคมุ ทาหน้าท่ีในการดแู ล ควบคมุ ลาดบั ขนั้ ตอนของการประมวลผล และการ ทางานของอปุ กรณ์ตา่ งๆ ภายในหนว่ ยประมวลผลกลาง และชว่ ยประสานงานระหว่างหนว่ ยประมวลผล กลาง กบั อปุ กรณ์นาเข้าข้อมลู อปุ กรณ์ในการแสดงผล และหน่วยความจาสารอง - หนว่ ยคานวณและตรรก ทาหน้าที่ในการคานวณและเปรียบเทียบข้อมลู ตา่ งๆ ที่สง่ มาจาก หนว่ ยควบคมุ และหนว่ ยความจา 3. หน่วยความจา (Memory) ทาหน้าท่ีในการเก็บข้อมลู หรือคาสงั่ ตา่ งๆ ที่รับจากภายนอกเข้ามาเก็บไว้ เพ่ือประมวลผลและ ยงั เก็บผลที่ได้จากการประมวลผลไว้เพ่อื แสดงผลอีกด้วย ซงึ่ แบง่ ออกเป็นหนว่ ยความจา เป็นหนว่ ยความจา ท่ีมีอยู่ ในตวั เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ทาหน้าที่ในการเก็บคาสงั่ หรือข้อมลู แบง่ ออกเป็น - ROM หนว่ ยความจาแบบถาวร - RAM หน่วยความจาแบบชวั่ คราว - หนว่ ยความจาสารอง เป็ นหนว่ ยความจาท่ีอยนู่ อกเคร่ือง มหี น้าท่ีชว่ ยให้หนว่ ยความจา หลกั สามารถเก็บ ข้อมลู ได้มากขนึ ้ 4. หน่วยแสดงผล (Output Unit) ทาหน้าที่ในการแสดงผลลทั ธ์ท่ีได้หลงั จากการคานวณและประมวลผล สาหรับอปุ กรณ์ท่ี ทา หน้าท่ีในการแสดงผลข้อมลู ที่ได้นนั้ มีตอ่ ไปนี ้ - Monitor จอภาพ - Printer เคร่ืองพมิ พ์ - Plotter เคร่ืองพิมพ์ท่ีใช้ปากกาในการเขียนข้อมลู ตา่ งๆ ที่ต้องการลงกระดาษ

 กระบวนการทางาน (Procedure) กระบวนการทางานหรือโพรซีเยอร์ หมายถึง ขน้ั ตอนที่ผ้ใู ช้จะต้องทาตาม เพ่ือให้ได้งานเฉพาะอย่างจาก คอมพิวเตอร์ซ่ึงผ้ใู ช้คอมพิวเตอร์ทุกคนต้องรู้การทางานพืน้ ฐานของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ เพื่อท่ีจะสามารถใช้ งานได้อย่างถกู ต้อง ตวั อย่างเช่น การใช้เครื่อง ฝาก-ถอนเงินอัตโนมตั ิ ถ้าต้องการถอนเงินจะต้องผ่าน กระบวนการต่าง ๆ ดังนี้ 1. จอภาพแสดงข้อความเตรียมพร้อมท่ีจะทางาน 2. สอดบตั ร และพิมพ์รหัสผ้ใู ช้ 3. เลือกรายการ 4. ใส่จานวนเงินที่ต้องการ

5. รับเงิน 6. รับใบบนั ทึกรายการ และบัตร การใช้คอมพิวเตอร์ปฏิบัติงานในส่วนต่าง ๆ น้ันมกั จะมีขนั้ ตอนที่สลบั ซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับช่วงเวลา ต่าง ๆ ในการปฏิบัติงานด้วย จึงต้องมีคู่มือการปฏิบตั ิงานท่ีชัดเจน เช่น คู่มือสาหรับผ้คู วบคุมเคร่ือง (Operation Manual) คู่มือสาหรับผ้ใู ช้ (User Manual) เป็นต้น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook