CTHHEOHISPTOSRTYIOFCK ตะเกียบถูกนํามาใช้เปนอุปกรณ์ในการกิน ตังแต่ศตวรรษที 4 ก่อนครสิ ตกาล โดยตะเกียบทีค้นพบในอดีตประวัติศาสตรด์ ังเดิมนัน มีการผลิตจากหลายหลายวัสดุและหลายรูปทรง และประยุกต์กันไปตามแต่ละวัฒนธรรมท้องถิน in China, Korea, Japan EDITOR : TRIYA 筷 ⼦的 由 来
คํานาํ เรื่องราวความลับของ “ตะเกียบแตละประเทศ” หัวใจของวัฒนธรรมการกิน ในแถบ เอเชีย และวิธีการกินท่ีเปลี่ยนแปลงสูแรงบันดาลใจในการใชตะเกียบ หลายคนอาจเคย สงสัยวาทําไม “ตะเกียบ” ถึงมีหลากหลายแบบ จริงแลวประวัติศาสตรบอกเราไดวา ตะเกียบท่ีใชสําหรับคนญี่ปุน คนจีน และคนเกาหลีนั้น มีความเฉพาะตามวัฒนธรรมและ ธรรมเนียมของแตละชาติ ในหนังสือเลมนี้จะกลาวถึง ประวัติท่ีมาของตะเกียบ การนํา วัฒนธรรมการกินดวยตะเกียบ มาใชของ จีน ญ่ีปุนและเกาหลีในแตละยุคสมัยที่มีความ แตกตางกัน จวบจนเปนเอกลักษณของชาติน้ัน และการเปล่ียนแปลงในรูปแบบตางๆท่ี เหมาะสมกับวัฒนธรรมอาหารการกินของแตละชาติ แตละยุคสมัย TRIYA
สารบญั หนา เรอ่ื ง 1 2 1.ตํานานของตะเกียบ 2.ค-วจาีนมแตกตางของตะเกยี บ 1 11 1 - ญี่ปุน - เกาหลี 3.วฒั นธรรมการใชต ะเกยี บของจนี - ยุคสมัย 4.ว---ฒั ยขมนคุอาธสรหรยมาราัยมมทใกนใานกรกาใารชรใตชใชะ เกียบของญีป่ นุ -- ขมอารหยาามทในในกกาารรใชใช 5.ว-ฒั ยนุคสธรมรยั มการใชต ะเกียบของเกาหลี -- ขมอารหยาามทในในกกาารรใชใช 6.วิธีการใชต ะเกียบท่ถี ูกตอ ง 7.การนําตะเกียบไปใชใ นการทาํ ผม
1
แตกต่างกันอย่างไร... “ตะเกยี บ” มตี น กําเนดิ มาจากประเทศจนี ถงึ แมจ ะไมร เู วลาทแี่ นช ดั วา เกดิ ขนึ้ เมอื่ ไหร แตต ะเกยี บเรม่ิ เปน ทร่ี จู กั อยา งแพรห ลายในยคุ ราชวงศฮ น่ั (ประมาณ200ปก อ นครสิ ตศ กั ราชศตวรรษท3่ี ) และกระจายไปทว่ั เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต ซงึ่ ประเทศทไ่ี ดร บั อทิ ธพิ ลการใชต ะเกยี บมากทสี่ ดุ คงหนไี มพ น เกาหลี และญปี่ นุ แตถ งึ แมท งั้ สองประเทศจะไดร บั อทิ ธพิ ลการใชต ะเกยี บจากจนี แลว แตล ะ ชาตจิ ะมกี ารนําเอาไปใชก บั ประเทศตวั เองอยา งไร หากวฒั นธรรมดา นอาหารกแ็ ตกตา งกนั ...
จนี ญปี นุ เกาหลี ลกั ษณะตะเกยี บของจนี ญ่ปี ุน เกาหลี 3
ประเทศจนี ปลายกลมหนา ตะเกยี บแบบจนี มลี ักษณะยาวและมปี ลายกลมหนา เปน เพราะประเทศจีน มวี ัฒนธรรม การกินแบบ “แบง ปน” นาํ อาหารมาไวตรงกลางและกินรวมกนั จงึ ทาํ ใหต ะเกียบของชาวจีน มลี กั ษณะยาวกวา ประเทศอน่ื เพอ่ื ใหผูรว มโตะจะไดสามารถเอือ้ มมือใชตะเกยี บยาวคีบอาหาร ไดสะดวก โดยไมต อ งยน่ื มือหรอื โนมตัวเขาไปใกลโ ตะ มากจนเกินไป และงายตอการคีบอาหาร แบง ปน ผูอืน่ ทสี่ าํ คญั เมื่อกนิ อาหารทมี่ คี วามรอ นสูงหรอื มกี ารจดุ ไฟพรอ มทาน จะไดป ลอดภยั จาก การถกู ไฟลวกมอื **ตะเกียบไมไ้ ผแ่ ละไมเ้ ปนทนี ิยมใชก้ ันมากทสี ดุ ในบา้ นของคนจีน 2
ประเทศญปี ุน ตะเกียบของคนญ่ีปนุ จะมคี วามคลายคลงึ กับของประเทศจนี ทใ่ี ชวัสดุเปนไมเ หมือนกัน แตป ลายตะเกยี บจะมลี กั ษณะเรียวแหลม เปน เพราะคนญี่ปุน นิยมกนิ ปลา การมีตะเกียบปลาย เรยี วแหลมจงึ มีประโยชนตอการเลาะกา งปลา และตะเกียบของคนญี่ปุน มคี วามยาวท่สี ้นั กวา ตะเกยี บจนี เลก็ นอ ย เพราะคนญปี่ นุ มกั นิยมทานอาหารในจานของตวั เองมากกวาทานรว มกนั แบบของใครของมัน แบบที่เรียกกนั วา ดงบุริ (Donburi) ปลายเรยวแหลม 3
เกร็ด ความรู้ ดงบรุ ิ เปน อาหารอีกชนิดหน่งึ ในบรรดาอาหารญป่ี นุ เปนการนําขา วสวยตักใสชาม ขนาดใหญ แลว นํากบั ขา วหรอื เนือ้ สตั วต า ง ๆ มาจดั เรยี งบนหนา ความอรอยระหวางกับขาวท่ี ผสมกนั กบั ขา วสวย หรอื รับประทานแยกกันก็แตกตา งกนั ทําใหอาหารประเภทนไ้ี ดรบั ความ ชนื่ ชอบจากผคู นหลายชวงอายุ คัตซดึ ง คอื อาหารที่นาํ ทงคัตซึ (หมูชบุ เกร็ดขนมปง ทอด) มาจัดวาง บนขา วโดยมีน้ําซอสซีอว๊ิ และไขเ ปน รสชาติหลกั ทง้ั รสชาตสิ ไตลญ ่ีปุน ย่ิงทําใหคนทช่ี ่ืนชอบเนื้อสัตวและ ของทอดตางโปรดปรานและนิยมรบั ประทานอาหารชนิดน้ี ในบรรดา อาหารดงบุรทิ ง้ั หมด 2
ประเทศเกาหลี ตะเกียบของเกาหลจี ะมีความแตกตางจากประเทศจีนและญ่ปี ุนมาก ทงั้ วสั ดแุ ละขนาด เนื่องจากจนี และญี่ปนุ นยิ มทํามาจากไมไผ หรือพลาสติก ตะเกียบเกาหลีน้ันมีลักษณะที่เปน เอกลักษณม ากท่ีสดุ แคม องกส็ ามารถทราบไดทนั ทีวานค่ี ือตะเกียบของเกาหลี เพราะตะเกียบ ของเกาหลนี นั้ ทํามาจากเงินและโลหะ มีนํ้าหนกั และมลี กั ษณะแบน ซงึ่ สาเหตทุ ่ีทาํ มาจากโลหะ เน่อื งจากในสมยั โบราณ ชาวเกาหลผี ูมฐี านะร่าํ รวยจะทาํ ตะเกียบจากเงนิ ขน้ึ มาใชเ อง เนอ่ื งจาก กลวั เรือ่ งการถูกลอบสงั หาร ซงึ่ หากมีการใสยาพิษในอาหาร ตะเกยี บโลหะกจ็ ะทาํ ปฏกิ ริ ิยากบั สาร เคมีทเ่ี ปนพษิ ทาํ ใหร ูตวั กอ นจะรบั ประทานเขา ไป แตป จ จุบนั เกาหลหี นั มาใชสเตนเลสในการผลิต ตะเกยี บแทน เพราะมีนํ้าหนกั เบา ทาํ ความสะอาดงาย ไมม สี ารตกคา ง และทีส่ าํ คัญถูกสขุ ลกั ษณะ กวา การใชโ ลหะอกี ดว ย **ผเู้ ขยี นมองวา่ คนเกาหลีนิยมทานเมนูเผด็ รอ้ นสไตล์บารบ์ คี ิว ยา่ งไฟ หรอื กระทะรอ้ น ดังนันการใชต้ ะเกียบโลหะทที นทานจึงเปนอีกเหตผุ ล ลกั ษณะแบน เปนเงิน,สแตนเลส 3
**ดังนันผเู้ ขยี นเห็นวา่ ถึงแม้ ตะเกียบจะมตี ้นกําเนิดและได้รบั อิทธพิ ลมา จากประเทศจีนเหมอื นกัน แต่ก็มคี วามแตกต่างตามปจจัยของแต่ละชนชาติ ทงั ลักษณะ วสั ดุ รวมถึงการใชง้ านของแต่ละวฒั นธรรมทงั จีน ญปี ุนและเกาหลี 2
ตะเกียบเปน คู ยังแยกได เราสแิ ปลก แยกกนั ไมได 3
ตาํ นาน ตะเกียบ 2
ตา้ อวี ปฐมกษตั ริย์ราชวงศเ์ ซีย 3
ตา อว่ี ผเู รง สรางเขือ่ นแกป ญหาอทุ กภัยอยางรบี เรง แมเ ดนิ ผา นหนาบานตัวเองถึง 3 คร้ัง แตไมยอมแวะเขาบาน เนือ่ งจากตองการแกป ญหาอทุ กภยั ใหแกช าวบาน ครัง้ หน่งึ ตา อวีร่ สู กึ หิวจนทนไมไ หวจงึ จัดการกอไฟตม เน้ือ เขาไม อยากรอใหเ นอื้ เย็นแลวคอ ยกินเพราะเสียเวลาสรา งเข่อื นรับมอื อทุ กภัย จงึ ใชก งิ่ ไผค บี ช้ินเนื้อขึน้ มากนิ เวลาผานไปตา อวี่เริ่ม ชํานาญในการใชไ มไผคบี อาหาร ภายหลงั การใชก่ิงไมค ีบอาหาร ไดแพรห ลายไปในหมูชาวบา น 2
สนมต๋าจขี องโจ้วออ๋ ง 3
สนมตาจี้ ซ่งึ เปน สนมของโจวออง แหง ราชวงศซางโจว อองเปน คนอารมณร อนชอบ ตาํ หนเิ รื่องรสชาติอาหารไมถกู ปากบา ง อาหารรอ นเกนิ ไปบาง ครั้งหน่ึงสนมตําจช้ี ิมนา้ํ แกงของโจว อองและพบวารอนเกินไป แตพ ระองคเสดจ็ ถงึ โตะ เสวยแลวนางจงึ ใชปน ปก ผมคบี อาหารในนํา้ แกงข้ึนมาเปาแลวคอยใหเ สวย โจว อองพอพระทัยอยางมากตอ มา ธรรมเนยี มการใชต ะเกยี บนีจ้ ึงแพรห ลายไปยงั ประชาชนท่วั ไป 2
เจยี งจอื หยา 3
เจียงจอื่ หยา ถกู ภรรยาวางยาพิษ ในอาหาร แตมีนกเทพมาชว ยเตือนไม ใหก นิ เขาใชก ิ่งไผวเิ ศษท่ีนกเทพมอบ ใหเ พอ่ื คบี อาหาร ทันใดนนั้ ก็ปรากฏ ควนั ข้นึ เขาจงึ ทราบวา ภรรยาวางยา พิษในอาหาร ตอ มาผูคนท่ัวไปไดใ ช ไมไผคบี อาหารตามแบบเจียงจ่ือหยา กอ นจะกลายมาเปนตะเกียบใน ปจ จุบัน 2
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: