Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการฟื้นฟูภาวะถดถอย โรงเรียนบ้านปุลามาวอ

รายงานการฟื้นฟูภาวะถดถอย โรงเรียนบ้านปุลามาวอ

Published by Sweetie Min, 2022-08-03 08:48:34

Description: รายงานการฟื้นฟูภาวะถดถอย โรงเรียนบ้านปุลามาวอ

Search

Read the Text Version

1

ก2 คำนำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้นั พนื้ ฐำนได้กำหนดนโยบำยกำรจัดกำรศึกษำขน้ั พน้ื ฐำน ที่ต่อเน่ืองจำกปีงบประมำณ 2564 และสนองตอ่ นโยบำยกระทรวงศึกษำธิกำรคอื สพฐ. วถิ ใี หม่ วถิ คี ณุ ภำพ โดยใช้พนื้ ทเ่ี ป็นฐำนใชน้ วัตกรรมในกำรขับเคล่ือน 4 ด้ำน คือ ดำ้ นควำมปลอดภัย ดำ้ นโอกำส ดำ้ นคณุ ภำพ และด้ำนประสิทธิภำพ และมีจุดเนน้ กำรจดั กำรศึกษำขนั้ พ้ืนฐำน 9 จดุ เนน้ โดยจุดเน้นที่ 1 เร่งแก้ปญั หำกล่มุ ผู้เรียนที่ได้รบั ผลกระทบจำกสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคโควิด – 19 โดยเพิม่ โอกำส ในกำรเข้ำถงึ กำรศึกษำ ฟืน้ ฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรียนรู้ (Learning Loss Recovery) ใหก้ ับผูเ้ รียน ทุกระดับ รวมทง้ั ลดควำมเครียดและสุขภำพจิตของผ้เู รยี น เพ่อื ใหก้ ำรดำเนินงำนนำนโยบำยกำรจัดกำรศึกษำขัน้ พนื้ ฐำนไปสู่กำรปฏบิ ตั ิ เกิดประสทิ ธิผล อย่ำงมปี ระสทิ ธภิ ำพ โรงเรยี นบำ้ นปลุ ำมำวอ จึงไดจ้ ัดทำค่มู ือกำรดำเนินกำรตำมมำตรกำรฟ้ืนฟภู ำวะถดถอย ทำงกำรเรียนรู้ (Learning Loss Recovery) ประจำปีงบประมำณ 2565 เพ่ือใช้เป็นแนวทำง ในกำรดำเนินกำรของสถำนศึกษำในสงั กดั สำนักงำนเขตพ้ืนทกี่ ำรศึกษำประถมศึกษำปัตตำนี เขต 1 ขอขอบพระคณุ บุคลำกรทุกท่ำนท่รี ่วมกันจดั ทำคมู่ ือเลม่ น้ีใหส้ ำเร็จลุลว่ งไปดว้ ยดี โรงเรียนบ้ำนปุลำมำวอ 26 กรกฎำคม 2565

ข3 สำรบัญ หน้ำ ก เรอ่ื ง ข คำนำ จ สำรบัญ 1 สำรบญั ตำรำง 1 ส่วนท่ี 1 2 2 ควำมเปน็ มำ 3 วัตถปุ ระสงค์ 3 เปำ้ หมำย 3 สว่ นท่ี 2 กำรดำเนนิ กำรแก้ปัญหำภำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรู้ (Learning Loss) 5 มำตรกำรท่ี 1 กำรวินิจฉยั พน้ื ฐำนของนกั เรยี น 6 กำรประเมินทักษะกำรอ่ำนออก เขยี นได้ คดิ เลขเปน็ และทักษะดำ้ นกำรสื่อสำร 8 กำรประเมินควำมรู้พน้ื ฐำนตำมหลกั สตู ร 10 กำรเยีย่ มบำ้ นนกั เรยี น 10 กำรตดิ ตำม 10 มำตรกำรที่ 2 กำรสรำ้ งควำมพรอ้ มและกระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ใหก้ ับผเู้ รียน 11 กำรดำเนินงำน 12 ระยะเรง่ ดว่ น (Quick Win) 12 ระยะยำว (Long Term) 13 ผลกำรดำเนินงำน 14 กำรจัดสภำพแวดล้อมท่ีเอือ้ ต่อกำรเรยี นรู้ กำรเพ่มิ ประสทิ ธภิ ำพกำรเรียนรู้ใหก้ ับผเู้ รยี น 15 กำรออกแบบกำรจัดกำรเรียนร้ใู หมท่ ่ีตอบสนองควำมเปลย่ี นแปลงและควำมต้องกำร 16 ของผู้เรยี น 17 กำรขยำย/เพมิ่ ช่วงเวลำกำรเรียนกำรสอน 17 กำรสรำ้ งควำมร่วมมือกับผู้ปกครอง 18 กำรวำงแผนบรหิ ำรจดั กำรทรัพยำกร 18 กำรตดิ ตำม 18 มำตรกำรที่ 3 กำรสนับสนุนและพัฒนำวชิ ำชพี ครู 18 กำรดำเนินงำน 18 ทบทวนหลักสูตรสถำนศึกษำ เพื่อกำรปรับปรุงและพัฒนำ 21 กำรพัฒนำคร/ู ผู้บริหำรสถำนศกึ ษำ สรำ้ งเครือขำ่ ยกำรเรยี นรู้ทำงวิชำชพี 23 รูปแบบกำรบริหำร/ วธิ กี ำรจดั กำรของผ้บู รหิ ำรสถำนศึกษำเพื่อฟน้ื ฟูภำวะถดถอย 23 ทำงกำรเรยี นรู้ของผ้เู รยี น รำยงำนผลกำรปรบั ปรุงและพัฒนำหลักสตู รสถำนศึกษำ รำยงำนผลกำรเขำ้ รว่ มชมุ ชนกำรเรยี นรู้ทำงวิชำชีพ (PLC)

กำรดำเนนิ กำรตำมหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ำรประเมินตำแหนง่ ของข้ำรำชกำรครูและ ค4 บุคลำกรทำงกำรศึกษำ (ว PA) 24 มำตรกำรที่ 4 กำรช่วยเหลอื นกั เรียนเปน็ รำยบคุ คล กำรดำเนนิ งำน 24 วำงแผนกำรจัดกำรเรยี นรรู้ ำยบคุ คล 24 สง่ เสริมทกั ษะทำงสังคม 24 สนับสนนุ อุปกรณ์กำรเรียนใหก้ ับนกั เรยี น จำกโครงกำรเรียนฟรี 15 ปี 24 ช่วยเหลอื ครอบครัวของนักเรยี น 24 24 ผลกำรดำเนินงำน 25 กำรตดิ ตำม 29 30 มำตรกำรที่ 5 กำรสร้ำงสุข 30 กำรดำเนนิ งำน 30 35 ผลกำรดำเนนิ งำน 35 35 มำตรกำรท่ี 6 กำรติดตำม 41 กำรดำเนินงำน 42 ผลกำรดำเนินงำน 43 ผลตอบรบั 44 กำรนิเทศติดตำม กำรประเมิน ภำคผนวก ประมวลภำพกำรดำเนนิ งำน คำส่ังกำรดำเนนิ กำรแก้ปัญหำภำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรู้ (Learning Loss) ปฏทิ นิ กำรดำเนินงำน เครอ่ื งมือคดั กรองกำรอำ่ น กำรเขียน และสื่อสำร เครือ่ งมอื กำรคดิ คำนวณ แบบบันทึกกำรเย่ียมบ้ำน แบบบันทึกกำรนิเทศ แบบประเมินควำมพงึ พอใจ

จ5 สำรบัญตำรำง หน้ำ ตำรำงท่ี 1 ผลกำรประเมินทักษะกำรอ่ำนออก เขยี นได้ คิดเลขเป็น และทักษะด้ำนกำรสอ่ื สำร 4 ตำรำงที่ 2 ผลกำรประเมนิ ควำมรพู้ ื้นฐำนตำมหลักสูตร 5 ตำรำงที่ 3 นวตั กรรม/ วธิ กี ำรสอนทใ่ี ชใ้ นกำรฟื้นฟภู ำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรู้ 19 ตำรำงท่ี 4 ผลกำรประเมินทักษะกำรอำ่ นออก เขียนได้ คิดเลขเปน็ และทักษะด้ำนกำรส่ือสำร 35 ตำรำงที่ 5 ผลกำรประเมนิ ควำมร้พู นื้ ฐำนตำมหลักสูตร 38 ตำรำงท่ี 6 ผลกำรประเมินควำมพึงพอใจเก่ยี วกับกำรบรหิ ำรจัดกำรตำมมำตรกำรฟ้ืนฟูภำวะถดถอย 41

1 รำยงำนผลกำรพฒั นำคณุ ภำพแผนปฏิบตั กิ ำรเร่งรัด (Quick Win) ตำมมำตรกำรฟนื้ ฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรียนรู้ (Learning Loss Recovery) ควำมเป็นมำ ภำวะกำรเรียนรูถ้ ดถอย คือ กำรเสียโอกำสในกำรเรยี นรู้ ซึ่งจะมผี ลให้เดก็ เกดิ ภำวะถดถอยของ ควำมรู้ ทำใหท้ ักษะต่ำง ๆ ทเี่ ดก็ ควรจะไดร้ ับ กำรพฒั นำตำมชว่ งวยั ก็จะสญู เสียตำมไปด้วย เชน่ ทักษะ กำรอ่ำน ทักษะกำรเขียน ทักษะกำรปรบั ตวั ทกั ษะกำรเข้ำสงั คม เป็นตน้ ยอ้ นกลบั มำมองประเทศไทย แรกเรม่ิ เมอื่ โรคโควิด - 19 ระบำดคร้ังแรก กระทรวงศึกษำธิกำร (ศธ.) รบั มือโดยกำรสง่ั ปิดโรงเรียนท่วั ประเทศ เพือ่ ป้องกนั ไม่ให้นกั เรยี น ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำติดเช้อื พร้อมกบั ปรบั รปู แบบกำรจดั กำรเรียนกำรสอน ใหม่ จำกที่เรียน “ออนไซต์” ในหอ้ งเรยี น มำเปน็ เรียนทำง “ออนไลน์” และรปู แบบอืน่ ๆ แทนแต่ปฏเิ สธไม่ได้ ว่ำกำรเรยี นรปู แบบอืน่ ๆ ประสิทธิภำพไม่ดเี ท่ำกบั กำรเรยี นรูปแบบออนไซต์ นอกจำกสถำนกำรณก์ ำรแพร่ระบำดของโรคโควิด - 19 จะทำใหป้ ระเทศไทยพบปญั หำ กำรเรยี นรูถ้ ดถอยแลว้ ยังพบปัญหำอนื่ ๆ ตำมมำอีกมำกมำย เช่น กำรเขำ้ ถงึ กำรศึกษำท่ีลดลง เมือ่ บำ้ น ต้องปรับตัวเป็นโรงเรยี น ปฏเิ สธไม่ได้ว่ำสถำนกำรณ์ทำงกำรเงิน และเศรษฐกจิ ของครอบครัวจะกลำยมำเป็น ปัจจัยหลักท่กี ำหนดวำ่ นักเรียนมีควำมพร้อมมำกน้อยแคไ่ หน ครอบครวั สำมำรถสนบั สนุนอปุ กรณ์กำรเรียน อนิ เตอร์เน็ต ให้นักเรยี นสำมำรถเรียนออนไลนไ์ ด้หรือไม่ ซึง่ มีหลำยครอบครวั ทไี่ ม่สำมำรถสนบั สนุนลกู หลำนได้ ทำใหน้ กั เรียนขำดอุปกรณ์กำรเรียน ไม่สำมำรถเข้ำถึงกำรเรียนออนไลน์ได้เมอื่ นักเรยี นไม่มคี วำมพร้อม ปญั หำท่ีตำมมำคือ “ควำมเหลอ่ื มล้ำทำงกำรศึกษำ” เพ่ิมข้ึนและกว้ำงมำกข้นึ เพรำะสถำนกำรณ์ กำรแพร่ระบำดของโรคโควิด - 19 เปน็ ตวั กระตนุ้ สำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศกึ ษำปัตตำนี เขต 1 กำหนดมำตรกำรฟ้ืนฟภู ำวะถดถอย ทำงกำรเรียนรู้6 มำตรกำร (Learning Losses Recovery) ดงั น้ี 1) กำรวินิจฉัยพน้ื ฐำนของนักเรียน 2) กำรสร้ำงควำมพร้อมและกระบวนกำรจัดกำรเรียนรูใ้ ห้กับผูเ้ รียน 3) กำรสนบั สนุนและพัฒนำวิชำชีพครู 4) กำรชว่ ยเหลือเดก็ เปน็ รำยบุคคล 5) กำรสร้ำงสุขและ 6) กำรติดตำมเพือ่ ใหโ้ รงเรียนในสังกัดไดน้ ำไป ขบั เคล่อื นสู่กำรปฏบิ ตั ทิ ีเ่ ปน็ รูปธรรมในกำรฟ้ืนฟภู ำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรู้ของผู้เรยี น โรงเรยี นบ้ำนปุลำมำวอ เปน็ โรงเรยี นหนึ่งในสังกัดสำนักงำนเขตพนื้ ท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำปตั ตำนี เขต 1 ไดร้ ับผลกระทบ จำกสถำนกำรณ์กำรแพรร่ ะบำดของเช้ือโรคไวรสั โคโรนำ 2019 ทที่ ำให้ผูเ้ รียนเกดิ ภำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรู้ เนอื่ งจำกกำรจัดกำรเรยี นรใู้ นช่วงปีกำรศึกษำ 2564 นน้ั ทำงโรงเรยี นดำเนินกำรจดั กำรเรียนรู้แบบ On-Hand เพยี งอย่ำงเดยี ว ดว้ ยข้อจำกัดเรือ่ งของควำมพร้อมในกำรเรียนรขู้ องครอบครวั นกั เรียน ทำให้กำรเรียนรู้ ของนักเรยี นเป็นไปอยำ่ งไม่เต็มศกั ยภำพ ส่งผลให้นักเรยี นเกิดภำวะถดถอยทำงกำรเรียนรู้ ผบู้ รหิ ำรโรงเรยี น และครผู ู้สอนทกุ คนตระหนักและเหน็ ควำมสำคญั ของกำรนำมำตรกำรฟืน้ ฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรู้ สกู่ ำรปฏบิ ตั ิ จึงไดร้ ่วมกนั ดำเนินกำรตำมระยะเวลำทีห่ น่วยงำนตน้ สงั กดั กำหนด และตลอดปีกำรศึกษำ 2565 เพอ่ื พัฒนำผเู้ รยี นใหม้ ีคณุ ภำพตำมมำตรฐำนกำรศกึ ษำที่สถำนศกึ ษำกำหนด

2 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพ่ือใหน้ ักเรยี นท่ีอยู่ในกลุ่มพฒั นำได้รบั กำรพัฒนำให้มีควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขยี น กำรคิด คำนวณ และกำรส่ือสำร มผี ลสัมฤทธท์ิ ำงกำรเรยี นตำมหลักสตู รสถำนศึกษำสูงข้ึน มีทกั ษะชวี ติ สำมำรถอยู่รว่ มกบั ผู้อน่ื ในสังคมได้อยำ่ งมีควำมสุข 2.2 เพอ่ื ให้นักเรยี นท่ีอยู่ในกลมุ่ ส่งเสรมิ ไดร้ ับกำรส่งเสรมิ ให้มคี วำมสำมำรถในกำรอ่ำนกำรเขยี น กำรคิด คำนวณ และกำรสอ่ื สำร มีผลสมั ฤทธิ์ทำงกำรเรยี นตำมหลกั สูตรสถำนศึกษำ มที ักษะชีวติ สำมำรถ อยู่รว่ มกบั ผ้อู ่นื ในสงั คมได้อยำ่ งมคี วำมสขุ 2.3 เพ่อื ให้ครมู ีรปู แบบกำรจัดกำรเรยี นรู้เพ่ือฟ้ืนฟภู ำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรู้ของผเู้ รียน 2.4 เพอ่ื ให้ผบู้ ริหำรสถำนศึกษำมรี ูปแบบกำรบรหิ ำรจัดกำรเพ่อื ฟน้ื ฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรียนรู้ ของผู้เรียน 2.5 เพ่อื ให้ชมุ ชนเข้ำมำมีส่วนรว่ มในกำรฟ้ืนฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรู้ของผเู้ รยี น เพ่ือสร้ำงผู้เรยี น ทม่ี ีคุณภำพให้กับชมุ ชน 3. เป้ำหมำย 3.1 เชงิ ปริมำณ 3.1.1 นักเรยี นทอี่ ยู่ในกลมุ่ พัฒนำ จำนวน 35 คน 3.1.2 นักเรียนทีอ่ ยู่ในกล่มุ สง่ เสรมิ จำนวน 56 คน 3.1.3 ครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ จำนวน 11 คน 3.1.4 ผปู้ กครอง/ คณะกรรมกำรสถำนศึกษำ จำนวน 80 คน 3.2 เชิงคุณภำพ 3.2.1 นกั เรยี นทีอ่ ยู่ในกลุ่มพัฒนำได้รบั กำรพฒั นำให้มคี วำมสำมำรถในกำรอำ่ น กำรเขียน กำรคดิ คำนวณ และกำรสื่อสำร มผี ลสมั ฤทธท์ิ ำงกำรเรียนตำมหลกั สตู รสถำนศึกษำสงู ขึ้น มที กั ษะชีวติ สำมำรถอยู่รว่ มกับผู้อน่ื ในสงั คมได้อย่ำงมีควำมสุข 3.2.2 นกั เรยี นท่ีอยู่ในกลมุ่ สง่ เสรมิ ไดร้ ับกำรสง่ เสรมิ ให้มคี วำมสำมำรถในกำรอำ่ น กำรเขียน กำรคิด คำนวณ และกำรสอื่ สำร มผี ลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียนตำมหลักสตู รสถำนศึกษำมที ักษะชวี ติ สำมำรถ อย่รู ว่ มกับผูอ้ ืน่ ในสงั คมได้อยำ่ งมคี วำมสขุ 3.2.3 ครมู รี ูปแบบกำรจัดกำรเรยี นรเู้ พอื่ ฟืน้ ฟภู ำวะถดถอยทำงกำรเรียนรู้ของผู้เรยี น 3.2.4 ผบู้ รหิ ำรสถำนศึกษำมรี ูปแบบกำรบริหำรจัดกำรเพื่อฟนื้ ฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรียนรู้ ของผู้เรียน 3.2.5 ชุมชนเข้ำมำมีสว่ นรว่ มในกำรฟ้นื ฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรียนรขู้ องผู้เรยี น เพอ่ื สร้ำงผู้เรียนทม่ี ีคุณภำพให้กับชุมชน

3 4. กำรดำเนินกำร กำรดำเนินงำนโรงเรยี นบ้ำนปุลำมำวอได้นำนโยบำยกำรฟน้ื ฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรู้ (Learning Loss Recovery) จำกสำนักงำนเขตพืน้ ท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำปัตตำนี เขต 1 เพือ่ เร่งแกป้ ัญหำ กลุ่มผู้เรยี นทีไ่ ดร้ ับผลกระทบจำกสถำนกำรณก์ ำรแพรร่ ะบำดของเชือ้ ไวรสั โคโรนำ 2019 โดยเพิม่ โอกำส ในกำรเขำ้ ถึงกำรศึกษำ ฟืน้ ฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรียนรู้ (Learning Losses) ใหก้ ับผู้เรียนทุกระดับชัน้ รวมทง้ั ลดควำมเครยี ดและสุขภำพจิตของผเู้ รียนโดยสำนกั งำนเขตพืน้ ทก่ี ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำปัตตำนี เขต 1 ไดก้ ำหนดมำตรกำรฟ้นื ฟภู ำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรู้6 มำตรกำร (Learning Losses Recovery) ดงั นี้ 1. กำรวินิจฉัยพื้นฐำนของนักเรียน 2. กำรสร้ำงควำมพร้อมและกระบวนกำรจดั กำรเรยี นรใู้ หก้ บั ผเู้ รยี น 3. กำรสนับสนนุ และพฒั นำวิชำชพี ครู 4. กำรช่วยเหลือเด็กเปน็ รำยบุคคล 5. กำรสรำ้ งสขุ 6. กำรตดิ ตำม โรงเรียนบำ้ นปุลำมำวอได้ดำเนนิ กำรจดั ทำกระบวนกำรประเมินผลเพื่อตรวจสอบประสทิ ธภิ ำพ และประสิทธผิ ล และไดจ้ ดั ทำหลกั กำรกำรประเมนิ ผล โดยมีรำยละเอยี ดดังน้ี มำตรกำรท่ี 1 กำรวินจิ ฉัยพื้นฐำนของนักเรียน 1. กำรประเมินทกั ษะกำรอำ่ นออก เขียนได้ คิดเลขเป็น และทักษะดำ้ นกำรสือ่ สำร ของนกั เรยี นทกุ ระดบั ช้นั กำรดำเนนิ งำน ดำเนนิ กำรประเมนิ ทักษะกำรอ่ำนออก เขยี นได้ คดิ เลขเปน็ และทักษะด้ำนกำรส่ือสำร ของนักเรยี นทกุ ระดับชัน้ โดยใช้แบบคัดกรองควำมสำมำรถด้ำนกำรอ่ำน กำรเขียน กำรคิดคำนวณ และกำรสื่อสำร จำกสำนักงำนเขตพ้นื ทีก่ ำรศึกษำประถมศึกษำปตั ตำนี เขต 1

4 ผลกำรดำเนินงำน 1. จำกกำรประเมนิ ทักษะกำรอำ่ น เขยี นได้ คดิ เลขเปน็ และทักษะกำรสื่อสำรของนักเรียน ทกุ ระดับชน้ั โดยใช้แบบคดั กรองควำมสำมำรถด้ำนกำรอ่ำน กำรเขียน กำรคิดคำนวณ และกำรสือ่ สำร จำกสำนักงำนเขตพ้นื ท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำปัตตำนี เขต 1 มีข้อมูลดงั นี้ ตำรำงที่1ผลกำรประเมินทักษะกำรอำ่ นออก เขียนได้ คิดเลขเปน็ และทักษะดำ้ นกำรส่อื สำร จำนวนนกั เรยี น (คน) เคร่อื งมอื ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 (16 คน) (17 คน) (15 คน) (12 คน) (18 คน) (13 คน) พฒั นำ ส่งเสรมิ พฒั นำ ส่งเสรมิ พัฒนำ สง่ เสริม พฒั นำ สง่ เสริม พฒั นำ สง่ เสริม พัฒนำ ส่งเสริม แบบคดั กรอง 12 4 7 10 7 8 2 10 3 15 4 9 กำรอ่ำน แบบคัดกรอง 14 2 7 10 10 5 10 2 11 7 4 9 กำรเขียน แบบคดั กรอง 9 7 6 11 5 10 9 3 7 11 4 9 กำรคิดคำนวณ แบบวัดทักษะ 10 6 6 11 6 9 0 12 5 13 4 9 กำรสอ่ื สำร จำกตำรำงที่ 1 ผลกำรคัดกรองผเู้ รียนจำกแบบทดสอบกำรอ่ำน กำรเขยี น กำรคิดคำนวณ และกำรสื่อสำร สรุปได้ดังนี้ 1. ผลกำรคัดกรองผูเ้ รยี นจำกแบบทดสอบกำรอ่ำน กำรเขียน กำรคิดคำนวณ และกำรส่อื สำร 1.1 ผลกำรทดสอบกำรอ่ำน มีนกั เรียนที่อยู่ในกลุ่มพฒั นำ จำนวน 35 คน คิดเป็นร้อยละ 38.46 1.2 ผลกำรทดสอบกำรอ่ำน มีนักเรยี นทอ่ี ยู่ในกลุ่มส่งเสริม จำนวน 56 คน คดิ เป็นร้อยละ 61.54 1.3 ผลกำรทดสอบกำรเขียน มีนกั เรียนที่อยใู่ นกลุ่มพฒั นำ จำนวน 56 คน คดิ เป็นร้อยละ 61.54 1.4 ผลกำรทดสอบกำรเขยี น มนี ักเรยี นที่อยใู่ นกล่มุ ส่งเสรมิ จำนวน 35 คน คดิ เป็นร้อยละ 38.46 1.5 ผลกำรทดสอบกำรคิดคำนวณ มนี ักเรียนที่อยู่ในกลุ่มพัฒนำ จำนวน 40 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 43.96 1.6 ผลกำรทดสอบกำรคดิ คำนวณ มนี ักเรยี นทีอ่ ยใู่ นกลุม่ ส่งเสริมจำนวน 51 คน คดิ เป็นร้อยละ 56.04 1.7 ผลกำรทดสอบกำรส่อื สำร มีนกั เรียนทอี่ ยใู่ นกล่มุ พัฒนำ จำนวน 31 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 34.07 1.8 ผลกำรทดสอบกำรส่ือสำร มนี กั เรยี นทอ่ี ย่ใู นกลมุ่ สง่ เสริม จำนวน 60 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 65.93

5 2. กำรประเมินควำมรูพ้ น้ื ฐำนตำมหลักสูตร กำรดำเนนิ งำน ดำเนนิ กำรประเมินควำมรู้พื้นฐำนตำมหลักสูตร โดยกำรวัดพื้นฐำนควำมร้ตู ำมกลมุ่ สำระ กำรเรียนรู้ตำมลำดบั ชั้นของนักเรยี นยอ้ นหลัง 1 ภำคเรยี น ในกลมุ่ สำระกำรเรียนรหู้ ลัก 5 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ ไดแ้ ก่ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำอังกฤษ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์ กลมุ่ สำระกำรเรียนรคู้ ณิตศำสตร์ และกลุ่มสำระกำรเรียนรูส้ ังคมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม โดยใชแ้ บบวดั ควำมร้ทู คี่ รสู ร้ำงขึ้นตรงตำมกลุม่ สำระกำรเรียนรู้ และระดบั ชน้ั ของนกั เรยี น ผลกำรดำเนนิ งำน จำกกำรประเมินควำมรู้พืน้ ฐำนตำมหลักสูตร โดยกำรวัดพื้นฐำนควำมรู้ตำมกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ตำมลำดบั ชั้นของนักเรยี นย้อนหลัง 1 ภำคเรยี น ในกลุ่มสำระกำรเรียนร้หู ลัก 5 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ไดแ้ ก่ กลุม่ สำระกำรเรียนร้ภู ำษำไทย กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำอังกฤษ กลุ่มสำระกำรเรยี นรวู้ ิทยำศำสตร์ กลุม่ สำระ กำรเรยี นรู้คณติ ศำสตร์ และกลมุ่ สำระกำรเรียนรสู้ งั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม โดยใช้แบบวัดควำมรู้ ท่คี ณุ ครสู ร้ำงข้ึนตรงตำมกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ และระดับชนั้ ของนักเรยี น มขี ้อมลู ดังน้ี ตำรำงท่ี 2 ผลกำรประเมนิ ควำมรพู้ น้ื ฐำนตำมหลักสูตร จำนวนนักเรียน (คน) กลุ่มสำระ ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 กำรเรยี นรู้ (16 คน) (17 คน) (15 คน) (12 คน) (18 คน) (13 คน) ภำษำไทย คณติ ศำสตร์ พฒั นำ สง่ เสริม พฒั นำ ส่งเสรมิ พัฒนำ สง่ เสรมิ พฒั นำ ส่งเสริม พัฒนำ ส่งเสรมิ พัฒนำ ส่งเสรมิ วิทยำศำสตร์ สังคมศกึ ษำฯ 12 4 10 7 7 8 7 5 8 10 3 10 ภำษำองั กฤษ 9 7 10 7 6 9 5 7 7 11 3 10 - - 9 8 9 6 6 6 8 10 6 7 - - 4 13 1 14 0 11 0 18 0 13 - - 8 9 11 4 8 4 8 10 6 7

6 จำกตำรำงที่ 2 ผลกำรประเมินควำมรู้พ้ืนฐำนตำมหลักสูตรของนักเรียนชน้ั ประถมศึกษำปที ่ี 1 – 6 สรปุ ได้ดังนี้ 2. ผลกำรประเมนิ ควำมรู้พ้นื ฐำนตำมหลกั สูตร 2.1 กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย - นักเรยี นที่มีผลกำรเรยี นอยู่ในกลุม่ พัฒนำ จำนวน 47 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 51.64 - นกั เรียนทมี่ ีผลกำรเรียนอยูใ่ นกลุม่ สง่ เสริม จำนวน 44 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 48.36 2.2 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้คณติ ศำสตร์ - นักเรยี นทม่ี ผี ลกำรเรยี นอย่ใู นกลุ่มพฒั นำ จำนวน 40 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 43.96 - นกั เรยี นที่มผี ลกำรเรียนอยู่ในกลมุ่ ส่งเสรมิ จำนวน 44 คน คิดเป็นร้อยละ 56.04 2.3 กลุ่มสำระกำรเรยี นรวู้ ิทยำศำสตร์ - นกั เรยี นท่ีมผี ลกำรเรียนอยใู่ นกลุม่ พัฒนำ จำนวน 38 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 52.06 - นักเรยี นที่มีผลกำรเรียนอย่ใู นกลุ่มส่งเสรมิ จำนวน 35 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 47.94 2.4 กลุ่มสำระกำรเรยี นรสู้ ังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม นกั เรยี นทม่ี ีผลกำรเรยี นอย่ใู นกล่มุ พฒั นำ จำนวน 5 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 6.68 - นักเรยี นทม่ี ผี ลกำรเรียนอยูใ่ นกล่มุ สง่ เสริม จำนวน 70 คน คดิ เป็นร้อยละ 93.33 2.5 กลมุ่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ (ภำษำอังกฤษ) - นกั เรยี นที่มีผลกำรเรียนอยู่ในกลมุ่ พัฒนำ จำนวน 41 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 56.17 - นักเรยี นทม่ี ีผลกำรเรียนอย่ใู นกลมุ่ ส่งเสริม จำนวน 32 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 43.83 3. กำรเยีย่ มบ้ำนของนกั เรยี น กำรดำเนนิ งำน ดำเนนิ กำรเย่ียมบ้ำนของนกั เรียน โดยใช้แบบบนั ทกึ กำรเย่ียมบ้ำนเพื่อสอบถำมขอ้ มูล จำกน้ันจดั ทำบนั ทกึ ข้อมูล เพื่อดำเนินกำรส่งเสรมิ สนับสนุน และดูแลช่วยเหลอื นกั เรียน

7 ผลกำรดำเนินงำน จำกกำรเยย่ี มบำ้ นของนกั เรยี น โดยใช้แบบบันทกึ กำรเยย่ี มบำ้ นเพ่อื สอบถำมข้อมลู จำกนน้ั ดำเนนิ กำรกำรสง่ เสริม สนับสนุน และดแู ลช่วยเหลอื นกั เรยี น มีขอ้ มลู ดังนี้ 3.1 กำรดแู ลช่วยเหลอื ผูเ้ รยี นทำงดำ้ นกำรศึกษำ -ได้รับทุนกำรศึกษำสำหรบั นักเรียนทนุ เสมอภำคจำนวน 63 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 69.23 -ไดร้ ับทนุ ยำกจนจำนวน 68 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 74.73 -นักเรยี นท่ยี งั ไมไ่ ดร้ ับทนุ จำนวน 23 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 25.27 3.2 กำรดูแลช่วยเหลือนักเรียนทำงดำ้ นสุขภำพรำ่ งกำยและจติ ใจ - นักเรยี นมโี รคประจำตวั จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 2.20 - นักเรียนมีควำมบกพร่องทำงร่ำงกำยจำนวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 2.20 - นกั เรยี นมีอำรมณซ์ ึมเศร้ำ/ วติ กกงั วลจำนวน 0 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 0 3.3 กำรดูแลชว่ ยเหลือผูเ้ รียนทำงดำ้ นสภำพเศรษฐกจิ ครัวเรอื น (รำยได้) - ครอบครัว มรี ำยไดเ้ ฉลีย่ ตอ่ เดอื น 3,000 บำท - คำ่ ใชจ้ ่ำยท่นี กั เรียนไดร้ บั ในกำรมำโรงเรียน เฉลยี่ วนั ละ 15 บำท 3.4 กำรดแู ลช่วยเหลือผู้เรยี นทำงด้ำนกำรคุม้ ครองนักเรยี น - นกั เรยี นมีพฤติกรรมกำรใชส้ ำรเสพติดจำนวน 0 คน คดิ เป็นร้อยละ 0 - นกั เรยี นมีพฤตกิ รรมกำรใชค้ วำมรุนแรงจำนวน 0 คน คิดเปน็ ร้อยละ 0 - นกั เรียนมีพฤติกรรมทำงเพศจำนวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0 3.5 ควำมพร้อมดำ้ นอปุ กรณ์กำรเรียน/ เทคโนโลยี ของนักเรยี นท่ีบำ้ น - นกั เรยี นมีควำมพรอ้ มด้ำนอุปกรณ์กำรเรียนจำนวน 91 คนคิดเปน็ ร้อยละ 100 - นักเรียนมีควำมพร้อมด้ำนเทคโนโลยจี ำนวน 55 คดิ เปน็ ร้อยละ 60.44 3.6 สภำพครอบครวั - นักเรียนอยกู่ บั บิดำมำรดำจำนวน 71 คน คดิ เป็นร้อยละ 78.02 - บิดำหรอื มำรดำของนักเรียนเสยี ชีวติ จำนวน 6 คน คิดเปน็ ร้อยละ 6.59 - บิดำมำรดำของนกั เรยี นหย่ำร้ำงจำนวน 14 คน คิดเปน็ ร้อยละ 15.38 - นักเรยี นอำศัยอยกู่ บั ญำติ 11 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 12.09 3.7 กำรสง่ เสรมิ ให้เขำ้ รว่ มกิจกรรมของชมุ ชนและหนว่ ยงำนต่ำง ๆ 3.8 กำรฝึกระเบียบวินัยใหก้ ับนกั เรยี น 3.9 พฤติกรรมและควำมเสี่ยงของผู้เรยี น

8 4. กำรติดตำม โรงเรียนไดด้ ำเนินกำรตดิ ตำมโดยนำข้อมลู ขอ้ ท่ี 1 - 3 มำวิเครำะห์ เพ่อื ให้ทรำบถงึ สภำพปญั หำของกำรดำเนนิ งำนผลกำรดำเนนิ งำนแนวทำงในกำรแก้ไขและปจั จยั ควำมสำเรจ็ ในกำรดำเนินงำนดงั น้ี - สภำพปญั หำของกำรดำเนินงำน สถำนกำรณ์กำรแพรร่ ะบำดของเชือ้ ไวรสั โคโรนำ 2019 ในปีกำรศกึ ษำ 2564 ที่ผำ่ นมำ สง่ ผลกระทบต่อกำรดำเนินชีวติ เศรษฐกิจและครอบครวั ของนกั เรยี นเป็นอย่ำงมำก โดยเฉพำะอย่ำงยิง่ กำรเรยี นรู้ของเรียน ซงึ่ รูปแบบกำรเรยี นรูท้ เ่ี ปล่ยี นแปลงไปทำใหน้ กั เรยี นไมส่ ำมำรถเรียนรไู้ ดอ้ ยำ่ งเตม็ ท่ี ส่งผลตอ่ ทักษะและควำมรู้พืน้ ฐำนทีจ่ ำเป็นของนักเรยี นท่ีถดถอยและไมเ่ พยี งพอตอ่ กำรเรียนรใู้ นระดบั ชั้น ที่สงู ขึน้ จำกกำรดำเนนิ กำรประเมนิ ทักษะกำรอำ่ นกำรเขียน กำรคิดคำนวณคิดเลข และทักษะ กำรสื่อสำรและผลกำรประเมินควำมรู้พืน้ ฐำนตำมหลักสูตร ของนักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษำปที ่ี 1 - 6 พบวำ่ นักเรียนมที ักษะกำรอำ่ นออกเขียนไดค้ ิดเลขเปน็ และทักษะกำรสอื่ สำรตำ่ กว่ำมำตรฐำนรวมถงึ มคี วำมรู้พน้ื ฐำน ตำมหลกั สูตรต่ำกวำ่ เกณฑม์ ำตรฐำนทโี่ รงเรยี นกำหนดและมกี ำรจัดกลุ่มนักเรียนท่ีตอ้ งพัฒนำและกลมุ่ นักเรยี น ที่ต้องสง่ เสรมิ เพื่อหำแนวทำงในกำรแก้ไขปญั หำ จำกผลกำรดำเนนิ กำรเยยี่ มบ้ำนนักเรียนช้ันประถมศึกษำปีท่ี 1 - 6 พบวำ่ นักเรียนส่วนใหญ่ อำศยั อยู่ในครอบครัวที่มีฐำนะยำกจนผู้ปกครองสว่ นมำกไม่มีเวลำในกำรดูแลติดตำมกำรเรียนของนักเรียน เทำ่ ทคี่ วรรวมถงึ บำงสว่ นยังไม่สำมำรถเข้ำถงึ เทคโนโลยีตำ่ ง ๆ ท่ีจะสนับสนนุ กำรเรยี นรู้ของนกั เรียนสง่ ผลให้ นกั เรยี นมที ักษะและพ้นื ฐำนควำมรู้ท่ีต่ำกวำ่ มำตรฐำน - ผลกำรดำเนินงำน จำกกำรดำเนินกำรประเมินทักษะกำรอ่ำนออก เขียนได้ คิดเลขเปน็ และทักษะ ด้ำนกำรสอื่ สำรของนักเรยี นชัน้ ประถมศึกษำปีที่ 1 - 6 จำนวน 91 คน สำมำรถคัดกรองนักเรยี นออก เปน็ กลุม่ พฒั นำและกลมุ่ สง่ เสรมิ โดยมีนกั เรยี นกลมุ่ พฒั นำในดำ้ นทกั ษะกำรอ่ำน จำนวน 35 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 38.46 ทักษะกำรเขยี น จำนวน 56 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 61.54 ทกั ษะกำรคดิ คำนวณ จำนวน 40 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 43.96 และทักษะกำรส่อื สำร จำนวน 31 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 34.07 ภำพรวมมีนกั เรียนกลุ่มพฒั นำคดิ เปน็ รอ้ ยละ 44.51 จำกผลกำรประเมินควำมรู้พื้นฐำนตำมหลักสตู ร 5 กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้ สำมำรถคัดกรอง นักเรียนออกเปน็ กลมุ่ พฒั นำและกลุ่มส่งเสรมิ โดยมนี ักเรยี นกลุ่มพฒั นำในสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย จำนวน 46 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 50.56 กลุม่ สำระกำรเรยี นร้คู ณิตศำสตร์ จำนวน 39 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 42.86 กลมุ่ สำระกำรเรยี นร้วู ทิ ยำศำสตร์ จำนวน 37 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 49.33 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม จำนวน 5 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 6.67 และกลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำต่ำงประเทศ (ภำษำอังกฤษ) จำนวน 40 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 53.33 ภำพรวมมนี กั เรียนกลมุ่ พฒั นำคิดเปน็ รอ้ ยละ 40.55 โดยนกั เรยี นกลุ่มพัฒนำจะมีกำรดำเนนิ กำรฟน้ื ฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรู้ต่อไป

9 จำกผลกำรดำเนนิ กำรเยยี่ มบ้ำนนกั เรียนชนั้ ประถมศึกษำปีที่ 1 - 6 จำนวน 91 คน พบว่ำนกั เรยี นร้อยละ 69.2 อำศัยอย่ใู นครอบครัวที่มีฐำนะยำกจนและบำงส่วนไม่สำมำรถเข้ำถึงเทคโนโลยี ท่ีจะสนบั สนุนกำรเรียนร้ขู องนกั เรียนรวมถงึ ผปู้ กครองไม่มีเวลำในกำรดูแลนกั เรียนเก่ยี วกบั กำรเรียน ของนักเรยี นเท่ำที่ควร - แนวทำงในกำรแก้ไข จำกสภำพปัญหำและผลกำรดำเนินงำนในกำรคดั กรองนักเรียนโรงเรยี นบำ้ นปลุ ำมำวอ ไดร้ ว่ มกนั กำหนดแนวทำงในกำรแก้ไขปญั หำภำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรขู้ องนักเรยี น ดงั น้ี ระยะเรง่ ด่วน (Quick Win) ภำยหลงั จำกกำรประเมินทักษะกำรอำ่ นออก เขยี นได้ คดิ เลขเป็น ทักษะด้ำนกำรส่ือสำร และผลกำรประเมนิ ควำมรู้พน้ื ฐำนตำมหลกั สตู ร กำรวเิ ครำะห์ตรวจหำจุดออ่ น จดุ แข็ง และกำรจดั กลมุ่ นักเรยี น โรงเรยี นบ้ำนปุลำมำวอร่วมกันวำงแผนฟน้ื ฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรู้ (Learning Losses) ใหก้ บั ผูเ้ รียนทกุ ระดบั ช้ัน เพื่อแก้ปัญหำนักเรียนในกล่มุ พัฒนำ และจัดกำรเรียนกำรสอนเพือ่ พฒั นำนักเรยี น ในกลุ่มสง่ เสรมิ โดยกำหนดมำตรกำรท่ี 2 เพื่อสร้ำงควำมพร้อมและเตรียมกระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ใหก้ บั ผเู้ รยี นและเร่งรัดดำเนินกำรฟ้นื ฟภู ำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรู้ของนักเรยี นทกุ ระดับชน้ั พรอ้ มทง้ั ติดตำม และประเมินผลนกั เรยี นในระยะ 3 เดอื น ระยะยำว (Long Term) โรงเรยี นดำเนนิ กำรตำมมำตรกำรฟ้ืนฟภู ำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรู้ (Learning Losses) สรำ้ งควำมพร้อมและกระบวนกำรจดั กำรเรียนรู้ให้กบั ผู้เรยี น ดำเนนิ กำรติดตำมโดยใช้ระบบกำรนเิ ทศภำยใน โดยมีประเดน็ ครอบคลมุ ดังน้ี 1. กำรจดั สภำพแวดล้อมทีเ่ อื้อต่อกำรเรยี นรู้ 2. กำรเพม่ิ ประสิทธิภำพกำรเรียนรู้ใหก้ บั ผูเ้ รยี น 3. กำรออกแบบกำรจัดกำรเรียนรู้ใหมท่ ต่ี อบสนองควำมเปลี่ยนแปลงและควำมต้องกำร ของผูเ้ รียน 4. กำรขยำย/ เพิ่มช่วงเวลำกำรเรียนกำรสอน 5. กำรสร้ำงควำมรว่ มมือกบั ผู้ปกครอง 6. กำรวำงแผนบรหิ ำรจดั กำรทรัพยำกร 7. กำรตดิ ตำม โดยโรงเรียนดำเนนิ กำรฟ้นื ฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรียนรู้ของนกั เรียนทกุ ระดบั ชั้น พร้อมท้งั ติดตำมและประเมินผลนักเรยี นเป็นระยะ ๆ ตลอดปีกำรศกึ ษำ และจำกสภำพปญั หำและผลกำรเย่ียมบ้ำนนักเรยี นโรงเรียนบ้ำนปลุ ำมำวอมีกำรกำหนด แนวทำงในกำรชว่ ยเหลือนักเรยี น โดยกำรชว่ ยเหลือนักเรยี นด้ำนกำรศึกษำเกย่ี วกบั กำรคัดกรองเพ่ือขอรับ ทุนกำรศึกษำของนกั เรียนเชน่ กองทนุ เพ่ือควำมเสมอภำคทำงกำรศึกษำ กำรดแู ลสขุ ภำพร่ำงกำยและจิตใจ ของนักเรยี นกำรบนั ทกึ สุขภำพนกั เรียน และจดั โครงกำรต่ำง ๆ ทส่ี ง่ เสริมสขุ ภำพร่ำงกำยและจิตใจของนักเรยี น ตลอดปกี ำรศกึ ษำ กำรสง่ เสริมระเบียบวนิ ยั ของนักเรยี นและดูแลเรอื่ งพฤติกรรมและควำมเส่ยี งของนักเรียน

10 - ปจั จัยควำมสำเร็จในกำรดำเนินงำน กำรดำเนินงำนตำมแผนหรือแนวทำงที่ได้กำหนดไว้เป็นปจั จัยสำคญั ท่สี ่งผลต่อควำมสำเรจ็ ในกำรนฟภู ำวะถดถอยทำงกำรเรียนรู้ของนักเรยี นรวมถงึ กำรประสำนควำมรว่ มมือระหวำ่ งโรงเรยี นผปู้ กครอง ชุมชนและหนว่ ยงำนใกล้เคยี ง กำรใช้ระบบกำรนเิ ทศภำยในกำรรำยงำนผลตรวจสอบตดิ ตำมและนเิ ทศ กำรดำเนินกจิ กรรมตำ่ ง ๆ ให้เปน็ ไปตำมแผนทีว่ ำงไวแ้ ละควบคุมกำรดำเนนิ งำนดว้ ยวงจรคุณภำพ PDCA มำตรกำรท่ี 2 กำรสรำ้ งควำมพร้อมและกระบวนกำรจัดกำรเรยี นรใู้ หก้ บั ผู้เรียน กำรดำเนินงำน ระยะเรง่ ด่วน (Quick Win) 1. ดำเนินกำรประเมินทักษะกำรอ่ำนออก เขียนได้ คิดเลขเป็น และทกั ษะด้ำนกำรสื่อสำร ของนักเรยี นทุกระดับช้นั โดยใช้แบบคัดกรองควำมสำมำรถด้ำนกำรอ่ำนกำรเขยี น กำรคิดคำนวณ และกำรสื่อสำร จำกสำนกั งำนเขตพื้นทก่ี ำรศึกษำประถมศึกษำปตั ตำนี เขต 1 2. ดำเนนิ กำรประเมินควำมรู้พ้นื ฐำนตำมหลกั สูตร โดยกำรวัดพ้นื ฐำนควำมรู้ตำมกลุม่ สำระ กำรเรยี นรตู้ ำมลำดบั ชน้ั ของนักเรียนยอ้ นหลงั 1 ภำคเรยี น ในกล่มุ สำระกำรเรียนรหู้ ลกั 5 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ได้แก่ กลุ่มสำระกำรเรียนรูภ้ ำษำไทย กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำอังกฤษ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรูว้ ิทยำศำสตร์ กล่มุ สำระกำรเรยี นรคู้ ณิตศำสตร์ และกลุ่มสำระกำรเรียนรสู้ ังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม โดยใช้แบบวดั ควำมร้ทู ค่ี ุณครสู ร้ำงขึ้นตรงตำมกลุม่ สำระกำรเรียนรู้ และระดับชัน้ ของนักเรยี น 3. ดำเนนิ กำรติดตำมผลกำรประเมินทักษะกำรอ่ำนออก เขียนได้ คดิ เลขเป็น ทกั ษะดำ้ นกำร สื่อสำรและผลกำรประเมินควำมรูพ้ ื้นฐำนตำมหลักสูตรมำวิเครำะห์ตรวจหำจุดอ่อน จุดแข็ง เพ่ือกำรจัดกล่มุ พฒั นำเพ่ือวนิ ิจฉยั พน้ื ฐำนของผเู้ รยี นกอ่ นวำงแผนกำรสอน และเพื่อกำรปรบั ปรุงกำรเรียนกำรสอน 4. ดำเนนิ กำรเยยี่ มบำ้ นของนักเรียน โดยใช้แบบบนั ทกึ กำรเยีย่ มบ้ำนเพื่อสอบถำมข้อมลู จำกนน้ั จดั ทำบันทึกข้อมูล เพื่อดำเนนิ กำรส่งเสรมิ สนบั สนุน และดแู ลช่วยเหลือนกั เรยี น 5. โรงเรยี นดำเนนิ กำรติดตำมเพอ่ื แกป้ ญั หำกลุ่มผ้เู รยี นที่ได้รบั ผลกระทบจำกสถำนกำรณ์กำร แพรร่ ะบำดของเชอื้ ไวรสั โคโรนำ 2019 โดยเพิ่มโอกำสในกำรเข้ำถงึ กำรศึกษำ ฟน้ื ฟูภำวะถดถอย ทำงกำรเรยี นรู้ (Learning Losses) ใหก้ ับผู้เรียนทกุ ระดับชั้น รวมท้ังลดควำมเครยี ดและสุขภำพจิตของผ้เู รียน โดยใช้ระบบกำรนิเทศภำยในจัดทำแบบนิเทศ ตดิ ตำมมำตรกำรท่ี 2 สรำ้ งควำมพร้อมและกระบวนกำร จัดกำรเรียนรใู้ หก้ บั ผู้เรียนโดยมีประเด็นครอบคลมุ ดังน้ี 1) กำรจดั สภำพแวดล้อมท่ีเอื้อต่อกำรเรยี นรู้ 2) กำรเพ่ิมประสทิ ธภิ ำพกำรเรียนรูใ้ หก้ ับผู้เรยี น 3) กำรออกแบบกำรจัดกำรเรียนรใู้ หมท่ ี่ตอบสนอง ควำมเปลยี่ นแปลงและควำมต้องกำรของผูเ้ รยี น 4) กำรขยำย/เพิ่มช่วงเวลำกำรเรียนกำรสอน 5) กำรสร้ำง ควำมร่วมมอื กบั ผปู้ กครอง 6) กำรวำงแผนบรหิ ำรจดั กำรทรพั ยำกร และ 7) กำรติดตำม

11 ระยะยำว (Long Term) โรงเรยี นดำเนนิ กำรตำมมำตรกำรฟนื้ ฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรียนรู้ (Learning Losses) สรำ้ งควำมพร้อมและกระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ให้กับผู้เรียนดำเนินกำรติดตำมโดยใช้ระบบกำรนเิ ทศภำยใน โดยมีประเดน็ ครอบคลมุ ดังนี้ 1. กำรจัดสภำพแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อกำรเรยี นรู้ - จัดสภำพแวดล้อมท้ังภำยในและภำยนอกใหเ้ อื้อต่อกำรเรียนรขู้ องผเู้ รียน - ห้องเรียนมีควำมสะอำด สวยงำม มีอุปกรณ์และส่อื กำรเรียนกำรสอนพร้อมสำหรับ กำรจดั กำรเรยี นรู้ 2. กำรเพ่ิมประสิทธภิ ำพกำรเรยี นรู้ให้กบั ผเู้ รียน - ครูจดั ทำแผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ทีเ่ นน้ ผ้เู รยี นเปน็ สำคัญ - ครสู ่งเสรมิ ควำมมวี นิ ยั ควำมรับผดิ ชอบต่อกำรเรยี นรูใ้ ห้กับผูเ้ รยี น - ครมู กี ำรช้แี จงเปำ้ หมำยกำรเรียนรใู้ นแต่ละชั่วโมงใหก้ บั นักเรยี นเพ่ือกระตุ้นกำรเรียนรู้ - ครูมีกจิ กรรมเสริมท้ังในและนอกห้องเรียนเพ่ือเพ่ิมศักยภำพกำรเรยี นรูใ้ ห้กับผเู้ รยี น 3. กำรออกแบบกำรจัดกำรเรียนรู้ใหม่ที่ตอบสนองควำมเปล่ียนแปลงและควำมต้องกำร ของผูเ้ รยี น - ครูจัดกจิ กรรมกำรเรียนรโู้ ดยใชก้ ระบวนกำร Active Learning - ครใู ช้ส่อื ท่ีส่งเสริมกำรเรยี นรู้ใหก้ ับผูเ้ รยี นในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน - ครูมกี ำรวดั และประเมินผลระหวำ่ งเรยี น/ หลงั เรยี นด้วยวิธีกำรที่หลำกหลำย อย่ำงเปน็ ระบบ - ครอู อกแบบกำรเรยี นรู้โดยใช้เทคโนโลยเี พอื่ กำรจดั กำรเรียนกำรสอน 4. กำรขยำย/เพ่ิมช่วงเวลำกำรเรยี นกำรสอน - ครูมีกำรปรับตำรำงเวลำเรยี นเพอ่ื พฒั นำภำวะถดถอยทำงกำรเรียนรูข้ องผู้เรียน - ครมู กี ำรสอนซ่อมเสริมนอกเวลำเรยี นใหก้ ับนกั เรียนอย่ำงนอ้ ยสัปดำห์ละ 1 ชม. - ครูมีกำรบรู ณำกำรสำระกำรเรยี นรู้เพ่อื ฟ้นื ฟภู ำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรู้ของผู้เรยี น 5. กำรสร้ำงควำมรว่ มมือกับผู้ปกครอง - ครปู ระจำช้ันมีกำรจดั กิจกรรมแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ร่วมกบั ผู้ปกครองอย่ำงน้อย ภำคเรียนละ 1 ครั้ง - ครูประจำช้นั สร้ำงเครือขำ่ ยผปู้ กครองประจำห้องเรยี นเพ่ือรว่ มวำงแผนจดั กำรเรียนรู้ กำรตดิ ตำมชนิ้ งำน 6. กำรวำงแผนบรหิ ำรจดั กำรทรัพยำกร - โรงเรียนมกี ำรจดั ครูเข้ำช้ันเรียนตำมควำมรู้ ควำมสำมำรถและควำมถนัด - โรงเรยี นจัดเครือขำ่ ยอินเทอรเ์ น็ตให้ครอบคลุมทุกพืน้ ทีข่ องโรงเรยี น - โรงเรยี นปรบั ปรงุ ระบบคอมพิวเตอร์ ให้พร้อมใชง้ ำนได้อยู่เสมอ - โรงเรียนจัดแหล่งเรียนรู้ สื่อ และเทคโนโลยีตำ่ ง ๆ เพ่ืออำนวยควำมสะดวกในกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน

12 7. กำรติดตำม - จดั ทำแผนกำรนิเทศภำยใน กำหนดปฏทิ ินนิเทศเพื่อตดิ ตำมและประเมินผลกำรสอน ครูผสู้ อน - ดำเนนิ กำรนิเทศ ติดตำมข้อมูลกำรสรำ้ งควำมพรอ้ มและกระบวนกำรจดั กำรเรียนรู้ ใหก้ บั ผ้เู รยี น - ครูผสู้ อนรำยงำนผลกำรดำเนนิ งำนตำมแบบนเิ ทศ ติดตำมตอ่ ผู้บรหิ ำรโรงเรยี น ผลกำรดำเนินงำน โรงเรยี นดำเนนิ กำรฟื้นฟภู ำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรู้ (Learning Losses) ให้กับผ้เู รยี น ทุกระดับช้ันเพอื่ แก้ปัญหำกลุ่มผูเ้ รียนทไ่ี ด้รับผลกระทบจำกสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 โดยเพม่ิ โอกำสในกำรเขำ้ ถึงกำรศึกษำ รวมท้งั ลดควำมเครียดและสุขภำพจิตของผูเ้ รียน โดยใช้ระบบ กำรนเิ ทศภำยในจัดทำแบบนิเทศตดิ ตำมมำตรกำรที่ 2 สรำ้ งควำมพร้อมและกระบวนกำรจดั กำรเรยี นรู้ ใหก้ ับผู้เรียนโดยมปี ระเด็นครอบคลุม ดงั น้ี 1) กำรจดั สภำพแวดล้อมทีเ่ ออื้ ตอ่ กำรเรยี นรู้ 2) กำรเพ่ิม ประสทิ ธภิ ำพกำรเรียนรู้ให้กับผเู้ รียน 3) กำรออกแบบกำรจัดกำรเรยี นรใู้ หม่ที่ตอบสนองควำมเปล่ยี นแปลง และควำมต้องกำรของผเู้ รียน 4) กำรขยำย/เพม่ิ ช่วงเวลำกำรเรยี นกำรสอน 5) กำรสร้ำงควำมรว่ มมือ กบั ผ้ปู กครอง 6) กำรวำงแผนบริหำรจัดกำรทรัพยำกร และ 7) กำรตดิ ตำมโดยมีผลกำรดำเนินงำนระดับ สถำนศกึ ษำ ดังน้ี 1. กำรจดั สภำพแวดล้อมทเี่ อื้อต่อกำรเรียนรู้ เชงิ ปรมิ ำน - รอ้ ยละ 100 ของครูจดั สภำพแวดล้อมท้ังภำยในและภำยนอกท่ีเอ้ือตอ่ กำรเรยี นรขู้ องผู้เรยี น เชงิ คุณภำพ - ห้องเรยี นมคี วำมสะอำด สวยงำม มอี ปุ กรณ์และส่อื กำรเรียนกำรสอนพรอ้ มสำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้

13 2. กำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรเรยี นรู้ใหก้ ับผู้เรยี น เชงิ ปริมำน - รอ้ ยละ 100 ของครูจดั ทำแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่เี นน้ ผู้เรียนเปน็ สำคญั - ร้อยละ 100 ของครูส่งเสรมิ ควำมมีวินัย ควำมรบั ผิดชอบตอ่ กำรเรียนรใู้ ห้กบั ผเู้ รียน - รอ้ ยละ 100 ของครูมีกำรชี้แจงเปำ้ หมำยกำรเรียนร้ใู นแต่ละช่ัวโมงให้กบั นกั เรยี น เพ่อื กระต้นุ กำรเรยี นรู้ - รอ้ ยละ 100 ของครมู ีกจิ กรรมเสริมทงั้ ในและนอกห้องเรียนเพอื่ เพ่ิมศักยภำพ กำรเรียนร้ใู ห้กับผเู้ รยี น เชงิ คณุ ภำพ - นักเรียนเกิดกำรเรียนรู้จากการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนที่เน้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญ นักเรยี นไดเ้ รียนร้ตู ามความสนใจ ตามศกั ยภาพของแต่ละบุคคล ไดล้ งมือปฏบิ ัติจริงและสามารถสรา้ ง องค์ความรู้ด้วยตนเองได้ - นักเรยี นมวี ินยั มคี วำมรบั ผิดชอบมคี ุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามทสี่ ถานศึกษากาหนด

14 - มกี จิ กรรมเสริมทั้งในและนอกห้องเรียนเพ่มิ ศักยภำพกำรเรียนรใู้ ห้กับผเู้ รยี น 3. กำรออกแบบกำรจัดกำรเรยี นรู้ใหมท่ ตี่ อบสนองควำมเปลี่ยนแปลงและควำมต้องกำรของผเู้ รยี น เชงิ ปริมำน - รอ้ ยละ 100 ของครูจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้โดยใชก้ ระบวนกำร Active Learning - ร้อยละ 100 ของครูใชส้ อื่ ท่ีสง่ เสรมิ กำรเรียนรูใ้ ห้กับผู้เรยี นในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน - ร้อยละ 100 ของครูมีกำรวัดและประเมินผลระหว่ำงเรียน/ หลังเรียนดว้ ยวิธกี ำร ทหี่ ลำกหลำยอย่ำงเปน็ ระบบ - รอ้ ยละ 100 ของครอู อกแบบกำรเรยี นรูโ้ ดยใชเ้ ทคโนโลยเี พือ่ กำรจดั กำรเรียนกำรสอน เชิงคุณภำพ - ผเู้ รยี นเกดิ กำรเรยี นรผู้ ่ำนกระบวนกำร Active Learning โดยมีส่อื เทคโนโลยีและกจิ กรรม ทหี่ ลำกหลำย นักเรยี นเกิดทักษะชวี ิตมคี วามมั่นใจ ร่าเรงิ แจ่มใสมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี สำมำรถอยู่ ร่วมกับผู้อน่ื ในสงั คมไดอ้ ย่ำงมีควำมสุข

15 - มกี ารวดั และประเมินผลการเรียนร้ทู ห่ี ลากหลายสามารถประเมินศักยภาพในการเรียนรู้ ของนกั เรยี นและประสทิ ธิภาพในการจดั การเรยี นรู้ของครู นาข้อมลู ไปปรบั ปรงุ แกไ้ ขวิธกี ารเรยี นรู้ ของนักเรยี นเป็นรายบคุ คลและการพัฒนากระบวนการจดั การเรียนรขู้ องครูผสู้ อน จัดซอ่ มเสริม นกั เรยี นที่อยู่ในกลุ่มพัฒนำให้ได้รับกำรพฒั นำให้มีควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขยี น กำรคิดคำนวณ และกำรสื่อสำร มผี ลสมั ฤทธ์ิทำงกำรเรียนตำมหลักสตู รสถำนศกึ ษำสูงข้นึ มีทักษะชีวิต สำมำรถอยู่ ร่วมกบั ผูอ้ น่ื ในสังคมไดอ้ ย่ำงมีควำมสุข 4. กำรขยำย/เพิ่มช่วงเวลำกำรเรียนกำรสอน เชิงปริมำน - ร้อยละ 100 ของครมู กี ำรปรับตำรำงเวลำเรียนเพ่ือพฒั นำภำวะถดถอย ทำงกำรเรยี นรู้ของผเู้ รยี นในระยะส้ัน (3 เดือนแรก พ.ค. - ก.ค. 65) - รอ้ ยละ 100 ของครูมีกำรสอนซอ่ มเสริมนอกเวลำเรียนใหก้ ับนักเรยี นอยำ่ งน้อย สปั ดำห์ละ 1 ชม. - รอ้ ยละ 100 ของครูมีกำรบูรณำกำรสำระกำรเรยี นรู้เพ่ือฟน้ื ฟภู ำวะถดถอย ทำงกำรเรียนรู้ของผูเ้ รยี น เชงิ คณุ ภำพ - นกั เรียนเกิดกำรพัฒนำมีทกั ษะกำรอ่ำน กำรเขยี น กำรคดิ คำนวณ และกำรสื่อสำร มีผลสมั ฤทธ์ทิ ำงกำรเรียนทส่ี ูงข้นึ

16 5. กำรสร้ำงควำมร่วมมือกบั ผู้ปกครอง เชิงปริมำน - รอ้ ยละ 100 ของครูประจำช้ันสร้ำงเครือขำ่ ยผู้ปกครองประจำหอ้ งเรียนเพื่อรว่ มวำงแผน จดั กำรเรียนรู้ กำรตดิ ตำมช้ินงำน - รอ้ ยละ 100 ของครูประจำชัน้ มีกำรจดั กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรยี นรรู้ ่วมกับผูป้ กครอง อย่ำงน้อยภำคเรียนละ 1 ครั้ง เชิงคณุ ภำพ - ครู ผ้ปู กครอง และนักเรียน เกิดกำรแลกเปล่ยี นเรียนรู้ร่วมกนั มกี ำรติดตำมผลการเรยี น ของผ้เู รยี น ทั้งทางโรงเรยี นที่รายงานจากครู และทางบา้ นท่ีรายงานจากผู้ปกครองผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ไลนก์ ลุ่มชัน้ เรยี น ทาให้รับทราบผลการเรยี น รับทราบพฤติกรรมของนักเรยี น เพ่ือเป็นแนวทาง ในการแกป้ ญั หาและพัฒนาผ้เู รียนใหม้ คี ุณภาพดียิ่งขน้ึ - โรงเรียนมีกำรจัดประชมุ ผูป้ กครองภำคเรียนละ 1 คร้ัง โดยให้ครูประจำชั้นได้พบปะ ผูป้ กครอง มีกำรแลกเปล่ียนเรียนรู้และร่วมกนั หำแนวทำงในกำรพัฒนำผเู้ รยี น

17 6. กำรวำงแผนบรหิ ำรจัดกำรทรัพยำกร - โรงเรียนมีกำรจดั ครเู ข้ำชั้นเรยี นตำมควำมรู้ ควำมสำมำรถและควำมถนัด - โรงเรยี นจัดเครอื ขำ่ ยอนิ เทอร์เน็ตใหค้ รอบคลมุ ทุกพื้นทข่ี องโรงเรียน - โรงเรียนปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ให้พรอ้ มใชง้ ำนได้อยเู่ สมอ - โรงเรียนจดั แหลง่ เรยี นรู้ สื่อ และเทคโนโลยตี ำ่ ง ๆ เพ่ืออำนวยควำมสะดวก ในกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน 7. กำรตดิ ตำม - จัดทำแผนกำรนิเทศภำยใน กำหนดปฏิทนิ นิเทศเพื่อติดตำมและประเมนิ ผลกำรสอน ครผู ูส้ อน - ดำเนนิ กำรนิเทศ ตดิ ตำมข้อมลู กำรสรำ้ งควำมพร้อมและกระบวนกำรจัด กำรเรียนรใู้ ห้กับผ้เู รียน - ครผู ู้สอนรำยงำนผลกำรดำเนนิ งำนตำมแบบนิเทศ ติดตำมตอ่ ผบู้ รหิ ำรโรงเรยี น

18 มำตรกำรท่ี 3 กำรสนับสนุนและพฒั นำวชิ ำชพี ครู กำรดำเนนิ งำน 1. ทบทวนหลักสตู รสถำนศกึ ษำ เพอื่ กำรปรับปรุงและพัฒนำ - มำตรฐำน/ ตัวชีว้ ดั ทเ่ี ปล่ียนแปลงในหลักสตู รปรับปรงุ 2560 - โครงสร้ำงหลกั สูตรสำระกำรเรยี นรวู้ ทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี - ปรับปรุง พฒั นำหลกั สูตรสถำนศึกษำให้สอดคล้องกับบริบทและสถำนกำรณป์ ัจจบุ นั - จดั ทำโครงกำรให้สอดคลอ้ งกบั หลักสตู รท้องถ่ิน 2. กำรพัฒนำครู/ ผบู้ รหิ ำรสถำนศกึ ษำ - จัดประชุมคณะครูเพ่ือสำรวจควำมตอ้ งกำรในกำรพัฒนำวิชำชพี - ส่งเสรมิ กำรเขำ้ รว่ มอบรมสัมมนำเพ่ือพฒั นำศักยภำพกำรจดั กำรเรยี นรู้ให้กับครผู ู้สอน เชน่ เทคนคิ กำรจดั กำรเรยี นกำรสอน กำรจดั ทำและกำรใช้ส่ือกำรสอน นวัตกรรม เทคโนโลยี ทำงกำรศึกษำ - โรงเรียนมโี ครงกำรผลิตสือ่ กำรสอนนวตั กรรมเทคโนโลยที ำงกำรศึกษำเพื่อสนบั สนุน งบประมำณในกำรจดั ทำส่ือ นวตั กรรมกำรเรียนรู้ - ผู้บริหำรสถำนศกึ ษำสร้ำง/ พฒั นำรปู แบบกำรบรหิ ำรจดั กำรเพ่ือฟื้นฟูภำวะถดถอย ทำงกำรเรยี นรู้ของผูเ้ รยี น 3. สร้ำงเครือขำ่ ยกำรเรยี นรู้ทำงวิชำชพี - จัดใหค้ รเู ข้ำร่วมชมุ ชนกำรเรียนรทู้ ำงวชิ ำชีพ (PLC) เพื่อพัฒนำควำมกำ้ วหนำ้ ทำงวิชำชีพ กำรติดตำม - โรงเรียนจัดทำบันทึกข้อมลู กำรพัฒนำตนเองของครู - รำยงำนผลกำรปรบั ปรงุ และพัฒนำหลักสูตรสถำนศึกษำ - รำยงำนผลกำรเขำ้ ร่วมชุมชนกำรเรยี นรู้ทำงวิชำชพี (PLC)

19 ผลกำรดำเนนิ งำน 1. โรงเรียนจดั ทำบันทกึ ข้อมลู กำรพฒั นำตนเองของครู โดยในปกี ำรศึกษำ 2565 ครรู อ้ ยละ 100 ได้รับกำรพัฒนำใหม้ คี วำมรู้ ควำมสำมำรถในกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ี่เน้นผเู้ รียนเป็นสำคญั 2. ครูร้อยละ 90.90 มีนวัตกรรม/ วิธกี ำรสอนที่ใชใ้ นกำรฟื้นฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรู้ ของผู้เรยี นมรี ำยละเอียด ดงั น้ี ตำรำงท่ี 3 นวัตกรรม/ วิธกี ำรสอนท่ใี ชใ้ นกำรฟนื้ ฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรู้ ท่ี ชอ่ื นวัตกรรม/วธิ กี ำรสอน/รูปแบบกำรสอน ชือ่ ครูผสู้ อน ระดับช้ัน จำนวนนักเรยี น กล่มุ พัฒนำ (คน) 1 ใชร้ ูปแบบกำรสอนพัฒนำทักษะกำรอำ่ น 4 นำงนภิ ำ ดษิ ฐสวุ รรณ ป.1 12 ขัน้ ตอน โดยใช้ส่อื เช่น บตั รภำพ บัตรคำ คำคลอ้ งจอง 2 ใชร้ ปู แบบกำรสอนโดยใช้สื่อ เชน่ บัตรภำพ นำงสำวยำมลี ะ สำหมะ๊ ป.1 12 บัตรคำ 3 - กำรสอนซอ่ มเสรมิ โดยใชช้ ุดแบบฝึก นำงสำวรุสมีนำ ลอเซง็ ป.2 10 เร่อื งกำรบวกและกำรลบจำนวน 4 สอื่ แผน่ ภำพประสมสระ/ สอนใชก้ ำรสำธติ / นำงสำวลำตีฟะหส์ นิ ป.3-ป.4 13 เนน้ ให้ผเู้ รียนมสี ว่ นร่วม 5 ชุดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ เรื่องทักษะกระบวนกำร นำงสำวอำซยี ะห์ หะยีแยนำ ป.4 6 ทำงวทิ ยำศำสตร์ 6 ชดุ กิจกรรมกำรเรียนรู้ “มหัศจรรย์แห่ง นำยมูฮำหมัดรอมซี โตะเงำะ ป.5 8 ดวงดำว” 7 รปู แบบกำรสอนซ่อมเสรมิ โดยใช้แบบฝกึ ทักษะ นำงสำวนุสตรี ยะหะยำ ป.6 4 8 แบบฝกึ ทกั ษะกำรเขยี นเชงิ สรำ้ งสรรค์ นำงสำวอสั ลียำ ยะผำ ป.6 3 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี 6

20 ที่ ชอ่ื นวัตกรรม/วิธกี ำรสอน/รูปแบบกำรสอน ชอื่ ครูผู้สอน ระดับชั้น จำนวนนกั เรยี น นำงสำวอัสลียำ ยะผำ 9 ใช้รปู แบบกำรสอนแบบบรู ณำกำร ศลิ ปะบรู ณำ กลุ่มพัฒนำ (คน) กำรภำษำไทย (วำดภำพระบำยสี พรอ้ มเขียน นำงฟำตีมะห์ มะมงิ เลา่ เร่ืองจากภาพ) ป.4-ป.6 9 10 ใชร้ ูปแบบกำรสอนแบบโครงงำนวทิ ยำศำสตร์ ปฐมวัย - น้อย ชื่อรปู แบบกำรสอน กำรสอนซ่อมเสริมโดยใช้ชดุ แบบฝกึ เร่ืองกำรบวกและกำรลบจำนวน กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ใชก้ ับนกั เรียน ช้นั ประถมศึกษำปีท่ี 2 กลมุ่ พัฒนำ จำนวน 10 คน วธิ กี ำรดำเนนิ กำร ศึกษำหลักสูตร > จดั ทำแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ > ใช้นวตั กรรม > ประเมนิ ผล > นามาปรับปรงุ ผลกำรพัฒนำ นักเรยี นมีกำรพฒั นำดำ้ นกำรคดิ คำนวณ และควำมรู้พน้ื ฐำน ในกลุ่มสำระกำรเรียนรูค้ ณิตศำสตร์ดขี ึน้ ปัญหำ/อุปสรรค นักเรยี นบำงคนยังไม่รูจ้ ักหลกั ของจำนวน และไมส่ ำมำรถบวก และลบจำนวนได้ ปัจจัยควำมสำเรจ็ กำรฝกึ ฝน กำรทำซ้ำ กำรทบทวนอยำ่ งสมำ่ เสมอ

21 4. รปู แบบกำรบรหิ ำร/ วธิ ีกำรบริหำรจัดกำรของผู้บริหำรสถำนศกึ ษำเพ่ือฟนื้ ฟูภำวะถดถอย ทำงกำรเรียนรขู้ องผ้เู รียน ชอ่ื รูปแบบ/ วิธีกำรบรหิ ำรจัดกำร : PULAMAWOR Model กำรดำเนนิ กำร 1. ทบทวนหลักสตู รสถำนศกึ ษำเพ่ือปรับปรงุ พฒั นำ 2. กำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรเู้ พือ่ พฒั นำครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำด้ำนนวตั กรรม ในกำรใชเ้ พ่ือพัฒนำรปู แบบกำรเรยี นกำรสอน 3. กำรพัฒนำควำมกำ้ วหนำ้ ทำงวิชำชีพของครูและบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ 4. กำรพฒั นำกำรเรยี นรู้เพ่ือพัฒนำกำรทำงวิชำชีพกำรกำรสรำ้ งเครือขำ่ ยกำรเรยี นรู้ ทำงวิชำชพี (PLC) 5. กำรบรหิ ำรจดั กำรและกำรดำเนนิ งำน โรงเรยี นบำ้ นปุลำมำวอน้อมนำหลักของปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) และกำรบริหำรกิจกำรบ้ำนเมืองทดี่ ี (Good Governances) มำเป็นฐำนรำกกำรบริหำร จัดกำรศกึ ษำโดยยดึ หลกั โรงเรียน 3S ซึ่งเปน็ จดุ เนน้ กำรพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำของสำนกั งำนเขตพืน้ ที่ กำรศึกษำประถมศึกษำ ปตั ตำนี เขต 1 ผนวกกับรปู แบบกำรบรหิ ำร PULAMAWOR Model และตดิ ตำมผล กำรบริหำรจัดกำรด้วยวงจรกำรบริหำรงำนคณุ ภำพ PDCA PULAMAWOR Model P : Participation (กำรมสี ว่ นรว่ ม) กำรเปดิ โอกำสให้ผูเ้ กยี่ วขอ้ งและผมู้ ีสว่ นไดส้ ่วนเสีย มีสว่ นร่วมในกำรจดั กำรศกึ ษำ สร้ำงจิตสำนึกควำมเป็นเจ้ำของและชว่ ยเหลือสนับสนนุ สถำนศึกษำ U : Unity (ควำมสำมัคค)ี กำรรวมพลังด้วยควำมมุ่งม่นั กลมเกลยี วและชว่ ยเหลือเก้ือกลู กนั เพื่อให้บรรลุเปำ้ หมำยของสถำนศกึ ษำ L : Leading (กำรนำ) กำรสร้ำงแรงจูงใจและกำกบั ดแู ลกำรดำเนนิ งำนต่ำง ๆ เพือ่ ใหบ้ รรลุเปำ้ หมำยของสถำนศึกษำ

22 A : Action (กำรปฏิบัติ) กำรลงมือปฏบิ ัติที่ทำใหเ้ กิดกำรเปลยี่ นแปลง ปรับปรุง แกไ้ ข และนำไปสู่กำรพฒั นำกำรจัดกำรศึกษำของสถำนศึกษำ M : Management (กำรจัดกำร) กำรบริหำรจดั กำรกำรดำเนินงำนภำยในสถำนศึกษำ ใหบ้ รรลุวตั ถุประสงค์ มีกำรกระจำยอำนำจและกำรติดตำมตรวจสอบอยำ่ งสมำ่ เสมอ A : Achievement (ผลสมั ฤทธ์ิ) กำรบรหิ ำรทเ่ี นน้ ผลสัมฤทธ์ิ มคี วำมมงุ่ มั่นในกำรดำเนินงำน และจดั กำรศกึ ษำ เพื่อพัฒนำทกั ษะและผลสมั ฤทธขิ์ องผูเ้ รียน W : Warmth (ควำมอบอุ่น)กำรสร้ำงควำมอบอุน่ ควำมผูกพันและควำมสุขในกำรทำงำน อนั เปน็ ปัจจัยสำคญั ท่ีสง่ ผลตอ่ สขุ ภำวะทำงจติ และประสิทธิภำพในกำรทำงำน O : Organization (องค์กร/ สถำนศึกษำ) โรงเรียนบ้ำนปลุ ำมำวอเปน็ สถำนศึกษำทีเ่ ขม้ แข็ง มโี ครงสรำ้ งกำรบริหำรสถำนศกึ ษำท่ชี ัดเจน และดำเนนิ งำนตำมแผนงำนร่วมกนั จนบรรลุเป้ำหมำย R : Responsibility (ควำมรับผิดชอบ) กำรรับผิดชอบต่อภำระหนำ้ ในกำรจดั กำรศึกษำ อยำ่ งมปี ระสทิ ธภิ ำพ และปฏบิ ัตหิ นำ้ ท่ที ่ไี ดร้ บั มอบหมำยอยำ่ งเต็มควำมสำมำรถ 5. โรงเรยี นจดั ทำบนั ทกึ ข้อมูลกำรพฒั นำของครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ผลกำรดำเนนิ งำน โรงเรียนจัดทำบันทกึ กำรพัฒนำของครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำในปีกำรศกึ ษำ 2565 ครรู ้อยละ 100 ไดร้ บั กำรพัฒนำทำงวชิ ำชีพสำมำรถนำผลกำรพัฒนำนวตั กรรมมำพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ ของผเู้ รียนได้อย่ำงมคี ุณภำพ ปัญหำ/ อปุ สรรค จำกสถำนกำรณก์ ำรแพรร่ ะบำดของเชอ้ื ไวรสั โคโรนำ 2019 สง่ ผลให้ กำรประสำนงำนระหว่ำงโรงเรยี นและผปู้ กครองเพื่อติดตำมและพัฒนำคุณภำพผู้เรยี นด้ำนกำรอ่ำน กำรเขยี น และกำรสื่อสำรขำดควำมตอ่ เน่ืองในกำรดำเนินกำร เนือ่ งจำกผ้ปู กครองนักเรยี นตอ้ งไปประกอบอำชีพตำ่ งถ่ิน โดยฝำกนกั เรียนไว้กบั ญำติหรือผู้สูงอำยุ ทำให้เกดิ ปัญหำกบั ผเู้ รียนโดยตรง เช่น ปัญหำกำรขำดเรยี น ไมท่ บทวนบทเรียน เนื่องจำกผ้ปู กครองไม่สำมำรถดูแลและพฒั นำกำรเรยี นรู้ของนักเรียนไดอ้ ย่ำงเพียงพอ สง่ ผลให้นักเรยี นมีปญั หำเกย่ี วกบั ทักษะด้ำนกำรอำ่ น กำรเขียนและกำรส่ือสำร จนเกดิ ภำวะถดถอย ทำงกำรเรยี นรู้ ปจั จัยควำมสำเร็จ กำรบรหิ ำรจดั กำรโดยวงจรบรหิ ำรคุณภำพ PDCA P = Plan (กำรวำงแผน) โรงเรยี นมเี ป้ำหมำยและวัตถปุ ระสงค์ในกำรดำเนินงำนท่ีชัดเจน D = Do (ปฏิบตั ิ) ครผู สู้ อนสำมำรถดำเนนิ กำรเป็นไปตำมแผนและข้นั ตอนท่ีกำหนดไว้ C = Check (ตรวจสอบ) มีกำรประเมินผลกำรปฏิบัติงำนตำมแผนท่ีชัดเจนเพื่อใช้ ในกำรดำเนนิ งำน A = Act (ปรบั ปรุง) กำรแกไ้ ขปญั หำทีเ่ กดิ ขึ้นหลังจำกไดด้ ำเนนิ กำรตรวจสอบ

23 5. รำยงำนผลกำรปรบั ปรุงและพฒั นำหลักสตู รสถำนศกึ ษำ สถำนศกึ ษำมีกำรปรับปรงุ / พัฒนำหลักสูตรสถำนศกึ ษำดังนี้ 1. มำตรฐำน/ ตวั ช้วี ัดที่เปลีย่ นแปลงในหลกั สตู รปรบั ปรุง 2560 2. โครงสรำ้ งหลกั สูตรสำระกำรเรยี นร้วู ทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี 3.ปรบั ปรุง พฒั นำหลกั สูตรสถำนศกึ ษำใหส้ อดคล้องกบั บริบทและ สถำนกำรณป์ ัจจบุ ัน 4. จัดทำโครงกำรใหส้ อดคล้องกบั หลักสตู รท้องถ่นิ 6. รำยงำนผลกำรเข้ำร่วมชุมชนกำรเรยี นรทู้ ำงวิชำชีพ (PLC) ครรู อ้ ยละ 100 เขำ้ ร่วมชุมชนกำรเรยี นรูท้ ำงวิชำชพี (PLC) ภำยในโรงเรียนจำนวน 4 เร่อื ง 1. ควำมปลอดภยั ในสถำนศึกษำ 2. หลกั สูตรสถำนศกึ ษำและหลักสตู รทอ้ งถ่ิน 3. กำรฟ้นื ฟภู ำวะถดถอยทำงกำรเรียนรู้ของผเู้ รียน 4. กำรจดั ทำแผนกำรเรียนรู้แบบ Active Learning

24 7. กำรดำเนนิ กำรตำมหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีกำรประเมินตำแหน่งของข้ำรำชกำรครูและบคุ ลำกร ทำงกำรศกึ ษำ (ว PA) ครเู ขำ้ รว่ มชมุ ชนกำรเรียนรู้ทำงวชิ ำชีพภำยนอกโรงเรียนจำนวน 1 เรอื่ ง - กำรออกแบบแผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ีส่ ่งเสริมสมรรถนะตำมแนว PISA รำยวชิ ำ วทิ ยำศำสตร์ มำตรกำรท่ี 4 กำรชว่ ยเหลอื นกั เรียนเป็นรำยบุคคล กำรดำเนนิ งำน 1. วำงแผนกำรจดั กำรเรียนร้รู ำยบุคคล โดยมวี ิธดี ำเนนิ กำร ดงั น้ี 1.1 วิเครำะหผ์ เู้ รยี นรำยบคุ คลทกุ ระดับชน้ั โดยคุณครปู ระจำชน้ั 1.2 สรำ้ งระบบดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นให้เข้มแข็ง โดยคณะกรรมกำรดำเนินงำนระบบดแู ล ชว่ ยเหลือนักเรยี น 1.3 สง่ เสรมิ ผู้เรียนทเ่ี รยี นดี และชว่ ยเหลอื ผเู้ รียนที่เรยี นอ่อน 2. สง่ เสริมทักษะทำงสังคม 2.1 สง่ เสรมิ กำรจัดกิจกรรมที่เน้นกระบวนกำรกลุ่ม 2.2 จดั กจิ กรรมส่งเสริมกำรอยู่รว่ มกนั 2.3 จดั กิจกรรมลูกเสือ/ บำเพ็ญประโยชน์ 2.4 กจิ กรรมปรบั ทัศนคติกำรอยูร่ ่วมกนั ในห้องเรียนเรยี นรวม 3. สนบั สนุนอปุ กรณก์ ำรเรยี นให้กบั นักเรยี น จำกโครงกำรเรียนฟรี 15 ปี 4. ช่วยเหลอื ครอบครวั ของนกั เรียน 4.1 ให้ควำมร้เู ร่ืองกำรปฏิบัติตนตำมมำตรกำรป้องกนั กำรแพรร่ ะบำดจำกเชื้อโรค ไวรัสโคโรนำ 2019 จำกทำงโรงเรยี นและเจำ้ หนำ้ ที่ รพ.สต.บ้ำนนอก 4.2 มอบทนุ กำรศึกษำหรือปัจจัยยังชีพใหแ้ ก่ครอบครัวของนกั เรียน 5. กำรติดตำม 5.1 โรงเรียนจัดทำข้อมูลนักเรียนรำยบคุ คลทุกระดบั ชั้น 5.2 โรงเรียนมขี อ้ มลู กำรชว่ ยเหลอื นักเรยี น 5.3 โรงเรยี นมกี ำรจดั กิจกรรมทส่ี ง่ เสรมิ ทกั ษะทำงสงั คมให้กับนกั เรยี น

25 ผลกำรดำเนินงำน 1. วำงแผนกำรจดั กำรเรียนรู้รำยบุคคล 1.1 ครปู ระจำช้นั ร้อยละ 100 จัดทำข้อมูลนกั เรยี นรำยบุคคล โดยมีข้อมูลสำคญั ในภำพรวม ของโรงเรยี น ดงั นี้ - นักเรียนทอ่ี ยใู่ นกล่มุ พัฒนำ มจี ำนวน 35 คน คิดเป็นร้อยละ 38.46 - นักเรยี นทอ่ี ยู่ในกลมุ่ สง่ เสรมิ มจี ำนวน 56 คน คิดเปน็ ร้อยละ 61.54 1.2 โรงเรยี นได้สร้ำงระบบดูแลช่วยเหลือนกั เรียนโดยมีขอ้ มูลสำคัญในภำพรวมของโรงเรียน ดังน้ี - นักเรยี นยำกจน (ผูป้ กครองมีรำยได้ไมเ่ กนิ 4,000 บำท/ เดอื น) มีจำนวน 127 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 99.22 - นักเรยี นท่อี ยู่ในกลมุ่ เสี่ยงออกกลำงคัน มจี ำนวน 0 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 0 - นักเรยี นที่มคี วำมบกพร่องทำงกำรเรยี นรู้ (ผ่ำนกำรคดั กรองเท่ำนั้น) มีจำนวน 3 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2.34

26 1.3 ส่งเสริมผเู้ รียนทเี่ รียนดี และชว่ ยเหลอื ผ้เู รียนท่เี รยี นอ่อน ดังน้ี - สง่ เสรมิ ผ้เู รยี นท่เี รยี นดี โดยกำรจัดกจิ กรรมกำรประกวด เน่ืองในวันต่อตำ้ นยำเสพตดิ โลก และวันสนุ ทรภู่ - ช่วยเหลือผูเ้ รยี นที่เรยี นอ่อนโดยกำรจัดกจิ กรรมซ่อมเสรมิ ทกั ษะภำษำให้แกผ่ ู้เรยี น 2. สง่ เสรมิ ทักษะทำงสงั คม 2.1 ส่งเสรมิ กำรจัดกจิ กรรมท่ีเน้นกระบวนกำรกลุ่มในกำรจัดกำรเรยี นกำรสอน ของแต่ละรำยวชิ ำ

27 2.2 จัดกิจกรรมสง่ เสริมกำรอยู่รว่ มกนั เชน่ กำรเดนิ รณรงค์วันตอ่ ต้ำนยำเสพติดโลก กิจกรรมรำลึกสุนทรภู่ สู่วนั ภำษำไทย กิจกรรมคณุ ธรรม จริยธรรม กำรละหมำดร่วมกนั และกจิ กรรม ทศั นศึกษำ เปน็ ต้น 2.3 จดั กิจกรรมลูกเสือ/ บำเพ็ญประโยชน์เน่ืองในวันสำคญั ตำ่ ง ๆ พรอ้ มทัง้ จัดกิจกรรม ทำควำมสะอำดเขตพนื้ ที่รับผิดชอบของนกั เรยี น 2.4 กจิ กรรมปรับทัศนคติกำรอยรู่ ่วมกันในห้องเรียนเรยี นรวม เช่น กิจกรรมอบรมคุณธรรม จรยิ ธรรมหลังเข้ำแถวเคำรพธงชำติ กจิ กรรมแนะแนว (ตำ้ นทจุ รติ ) โดยคณุ ครูประจำช้นั

28 3. สนับสนุนอุปกรณ์กำรเรียนใหก้ ับนกั เรียน จำกโครงกำรเรยี นฟรี 15 ปี 4. ชว่ ยเหลอื ครอบครวั ของนักเรยี น 4.1 ให้ควำมรู้เร่อื งกำรปฏิบตั ิตนตำมมำตรกำรป้องกันกำรแพร่ระบำดจำกเช้ือโรค ไวรัสโคโรนำ 2019 จำกทำงโรงเรียนและเจ้ำหน้ำท่ี รพ. สต. บ้ำนนอกแก่ผูป้ กครองนกั เรียนจำนวน 80 คน 4.2 มอบทนุ กำรศึกษำหรือปัจจัยยังชพี ใหแ้ ก่นักเรยี นและครอบครวั เพ่ือนำไปชว่ ยเหลือ ครอบครัวของนักเรยี นโดยมขี ้อมูลสำคัญในภำพรวมของโรงเรยี น ดังนี้ - นกั เรยี นจำนวน 63 คน ไดร้ ับทุนกำรศึกษำสำหรบั นักเรยี นทนุ เสมอภำค - นักเรยี นจำนวน 2 คน ได้รับเงนิ อดุ หนุนภูมิทำยำทแบบต่อเนื่อง - ครอบครวั ของนักเรยี นจำนวน 4 ครอบครวั ไดร้ ับเงินชว่ ยเหลอื ผูป้ ระสบปญั หำทำงสงั คม ของกระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมมน่ั คงของมนษุ ย์

29 5. กำรติดตำม 5.1 โรงเรียนจดั ทำข้อมูลนักเรียนรำยบคุ คลทุกระดับชัน้ โดยมขี ้อมูลสำคญั ในภำพรวม ของโรงเรยี น ดังน้ี - แบบรำยงำนกำรเยยี่ มบ้ำนนักเรียนทกุ ระดับช้นั - แบบวเิ ครำะห์ผเู้ รียนรำยบุคคล - แบบรำยงำนกำรประเมนิ พฤตกิ รรมนักเรยี น - ทะเบียนประวัตนิ ักเรียนทกุ ระดับชั้น 5.2 โรงเรยี นมขี ้อมลู กำรช่วยเหลือนกั เรียนดงั น้ี 5.2.1 กำรดแู ลชว่ ยเหลอื ผู้เรียนทำงดำ้ นกำรศึกษำโดยมีขอ้ มูลสำคญั ในภำพรวมของ โรงเรยี น ดังนี้ -ได้รบั ทนุ กำรศกึ ษำสำหรบั นักเรียนทนุ เสมอภำคจำนวน 63 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 69.23 -ไดร้ บั ทนุ ยำกจนจำนวน 68 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 74.73 -นักเรยี นที่ยังไมไ่ ด้รบั ทนุ จำนวน 23 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 25.27 5.2.2 กำรดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นทำงดำ้ นสุขภำพรำ่ งกำยและจติ ใจโดยมีขอ้ มลู สำคัญ ในภำพรวมของโรงเรยี น ดงั น้ี - แบบบันทกึ สุขภำพของนกั เรียน - นักเรียนมโี รคประจำตัวจำนวน 2 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 2.20 - นกั เรยี นมีควำมบกพร่องทำงร่ำงกำยจำนวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2.20 - นกั เรยี นมีอำรมณซ์ มึ เศร้ำ/ วิตกกงั วลจำนวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0 5.2.3 กำรดแู ลช่วยเหลอื ผ้เู รยี นทำงดำ้ นสภำพเศรษฐกิจครัวเรือน (รำยได้) โดยมขี ้อมลู สำคัญในภำพรวมของโรงเรียน ดังนี้ - ครอบครัว มรี ำยไดเ้ ฉลยี่ ต่อเดือน 3,000 บำท - คำ่ ใช้จ่ำยทน่ี ักเรียนไดร้ บั ในกำรมำโรงเรียน เฉล่ียวันละ 15 บำท

30 5.2.4 กำรดแู ลช่วยเหลอื ผู้เรียนทำงดำ้ นกำรคุ้มครองนักเรียนโดยมขี ้อมลู สำคัญ ในภำพรวมของโรงเรียน ดังน้ี - นกั เรียนมีพฤตกิ รรมกำรใช้สำรเสพติดจำนวน 0 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 0 - นกั เรยี นมพี ฤติกรรมกำรใช้ควำมรุนแรงจำนวน 0 คน คดิ เป็นร้อยละ 0 - นักเรยี นมีพฤติกรรมทำงเพศจำนวน 0 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 0 5.3 โรงเรียนมีกำรจดั กจิ กรรมท่ีสง่ เสรมิ ทักษะทำงสงั คมให้กับนักเรยี น ดังน้ี 5.3.1 กจิ กรรมกำรเดินรณรงค์วันตอ่ ต้ำนยำเสพติดโลก 5.3.2 กิจกรรมรำลึกสุนทรภู่ สู่วันภำษำไทย 5.3.3 กจิ กรรมคุณธรรม จริยธรรม 5.3.4 กำรละหมำดรว่ มกัน 5.3.5 กจิ กรรมทศั นศึกษำ 5.3.6 จัดกจิ กรรมลกู เสอื /บำเพญ็ ประโยชน์เนือ่ งในวันสำคัญต่ำงๆ 5.3.7 กิจกรรมทำควำมสะอำดเขตพื้นทร่ี บั ผดิ ชอบของนกั เรยี น 5.3.8 กจิ กรรมแนะแนว (ต้ำนทุจริต) มำตรกำรที่ 5 กำรสร้ำงสุข กำรดำเนินงำน 1. โรงเรียนจดั อำหำรกลำงวนั ท่ีมีคณุ ภำพให้กับนักเรยี น 2. โรงเรยี นจดั กจิ กรรมสง่ เสริมสุขภำพรำ่ งกำยให้กับนักเรยี นมีกำรคดั กรองโรค ตรวจ ATK นกั เรยี น อยำ่ งตอ่ เน่ือง ซึ่งมผี ลเป็นที่น่ำพอใจนกั เรียนมีผลเปน็ ลบทุกคน 3. โรงเรียนไดม้ กี ำรจดั โครงกำรกฬี ำสี กจิ กรรมกำรออกกำลังกำย 4. โรงเรยี นมกี ำรจดั กจิ กรรมทำงศำสนำ จดั อบรมโดยผูน้ ำที่ทรงคุณวฒุ ิ 5. จัดกจิ กรรมสรำ้ งควำมสัมพันธร์ ะหว่ำงครูนกั เรยี นผ้ปู กครองโดยกำรออกเย่ยี มบ้ำนนักเรียน 6. จัดกจิ กรรมสรำ้ งควำมสัมพันธ์ระหวำ่ งครูนกั เรียนผปู้ กครองโดยกำรจัดกิจกรรมสมั พันธ์ระหว่ำง โรงเรียนกบั ชุมชน ผลกำรดำเนินงำน 1. โรงเรยี นมีโครงกำร/กิจกรรมทีส่ ง่ เสริมสขุ ภำพร่ำงกำย ให้กบั นักเรยี น 1.1 โครงกำรอำหำรกลำงวัน มกี ำรจดั ดัดแปลงอำหำรทีม่ ีประโยชนค์ ณุ ค่ำทำงอำหำรเพ่ือให้นกั เรียน ไดร้ บั สำรอำหำรครบถ้วนไม่เบอ่ื และมคี วำมสุขที่ได้รบั ประทำนอำหำรกลำงวัน

31 1.2 โครงกำรอำหำรเสริม (นมโรงเรยี น) ตำมนโยบำยเพื่อแก้ปญั หำกำรขำดสำรอำหำรในเดก็ วัยเรยี น 1.3 โครงกำรสง่ เสริมสุขภำพอนำมยั โรงเรียน เพื่อใหน้ ักเรียนมสี ขุ ภำพร่ำงกำยที่ดี มีกำรตรวจคัดกรอง ATK นักเรียน 3 ระยะในชว่ งเวลำทเ่ี ปดิ เรียนผลเปน็ ที่นำ่ พอใจมำกเพรำะไม่พบว่ำมนี ักเรยี นติดเชือ้ ไวรสั โคโรนำในสถำนศกึ ษำเลยต้งั แตเ่ ปดิ เรยี นมำ 1.4 โครงกำรกีฬำสี กจิ กรรมกำรออกกำลงั กำยเต้นแอโรบิกยำมเช้ำเป็นกิจกรรมสง่ เสรมิ สุขภำพ ร่ำงกำย พร้อมท้ังเปน็ กำรฝึกให้นักเรียนได้ทำงำนเป็นทีมและสร้ำงควำมสำมคั คีในหมคู่ ณะ

32 1.5 กจิ กรรมรณรงคย์ ำเสพตดิ เปน็ กำรประชำสัมพนั ธใ์ ห้นกั เรยี นและผปู้ กครองได้รถู้ งึ โทษ ของยำเสพติด 2. โรงเรยี นมีโครงกำร/ กิจกรรมทสี่ ง่ เสรมิ สนุ ทรียะ 2.1 โครงกำรวชิ ำกำรสำนสัมพนั ธ์ เพือ่ สง่ เสรมิ ผ้เู รยี นได้มีโอกำสแสดงออกถึงควำมรู้ควำมสำมำรถ ในรูปแบบและวิธีกำรต่ำง ๆ 2.2 โครงกำรวันสำคัญ - กิจกรรมวนั ขึ้นปีใหม่และวนั เด็กแห่งชำติ

33 - กจิ กรรมรำลีกสนุ ทรภูส่ วู่ ันภำษำไทย - กิจกรรมวนั ฮำรีรำยอ 3. โรงเรียนมีโครงกำร/ กิจกรรมท่ีส่งเสริมสขุ ภำพทำงสงั คม 3.1 โครงกำรคุณธรรมนำชวี ิตโรงเรยี นมกี ิจกรรมทำงศำสนำทุกวันศกุ ร์ และจดั กจิ กรรมทำงศำสนำ ให้นักเรยี นเนอ่ื งวนั สำคญั ต่ำง ๆ มีกำรให้ควำมรู้โดยผู้ทรงคุณวุฒิ

34 3.2 กจิ กรรมเยีย่ มบำ้ นนักเรียน สำมำรถสร้ำงควำมสัมพนั ธ์อนั ดรี ะหวำ่ งโรงเรยี น ครู นกั เรยี น ผู้ปกครองและชมุ ชน ได้รับข้อมลู นกั เรยี นท่ีถูกต้องและได้สร้ำงกลมุ่ เพ่อื คอยชว่ ยเหลือนกั เรียน ท่ีมีควำมต้องกำรกำรช่วยเหลือในทุกกรณี 3.3 โครงกำรสัมพันธ์ชมุ ชน เป็นกำรเชอ่ื มควำมสัมพันธ์ทดี่ ีระหว่ำงครู กับผ้ปู กครอง 3.4 โรงเรียนไดเ้ ขำ้ ร่วมโครงกำรจดั กิจกรรมแขง่ ขนั กีฬำประจำตำบลบ้ำนนอก 3.5 โรงเรยี นไดจ้ ัดโครงกำรทัศนศกึ ษำของโรงเรียนทสี่ วนสัตวส์ งขลำ

35 3.6 จัดกิจกรรมค่ำยลูกเสือ - เนตรนำรี มำตรกำรท่ี 6 กำรติดตำม กำรดำเนินงำน กำรดำเนนิ กำรฟื้นฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรียนรู้ (Learning Loss Recovery) ตำมมำตรกำรฟน้ื ฟภู ำวะถดถอยทำงกำรเรยี นร้ขู องสำนักงำนเขตพื้นทกี่ ำรศึกษำประถมศึกษำปตั ตำนี เขต 1 โรงเรียนบำ้ นปลุ ำมำวอได้ตดิ ตำมกำรดำเนินงำนและกำรประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขยี น กำรคิด คำนวณ และส่ือสำรของนักเรียน และกำรประเมินควำมรพู้ ้ืนฐำนตำมหลักสตู รของทุกระดบั ชนั้ หลงั กำรพัฒนำ 1 เดือน โดยมีผลกำรประเมนิ ดงั นี้ ผลกำรดำเนนิ งำน ตำรำงท่ี 4 ผลกำรประเมินทักษะกำรอำ่ นออก เขียนได้ คดิ เลขเป็น และทักษะดำ้ นกำรส่ือสำร จำนวนนักเรียน(คน) เครอ่ื งมือ ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 (16 คน) (17 คน) (15 คน) (12 คน) (18 คน) (13 คน) พัฒนำ สง่ เสรมิ พัฒนำ ส่งเสรมิ พัฒนำ สง่ เสริม พัฒนำ ส่งเสรมิ พฒั นำ ส่งเสรมิ พฒั นำ สง่ เสรมิ แบบคัดกรอง 8 8 5 12 5 10 2 10 2 16 2 11 กำรอ่ำน แบบคดั กรอง 10 6 5 12 8 7 7 5 7 11 1 12 กำรเขยี นได้ แบบคดั กรอง 6 10 5 12 4 11 6 6 5 13 2 11 กำรคดิ เลขเป็น แบบวัดทกั ษะ 6 10 5 12 5 10 0 12 3 15 2 11 กำรส่ือสำร

36 จำกตำรำงท่ี 4 ผลกำรประเมินควำมสำมำรถในกำรอำ่ น กำรเขยี น กำรคดิ คำนวณ และส่อื สำร ของนักเรียนทกุ ระดบั ชน้ั หลังกำรพัฒนำ 1 เดือนพบว่ำ 1. ผลกำรทดสอบกำรอำ่ น มนี กั เรียนที่อย่ใู นกลมุ่ พฒั นำ จำนวน 24 คน คิดเปน็ ร้อยละ 26.37 2. ผลกำรทดสอบกำรอำ่ น มีนักเรยี นท่อี ยู่ในกลมุ่ ส่งเสริม จำนวน 67 คน คิดเป็นร้อยละ 73.63 3.ผลกำรทดสอบกำรเขียน มีนักเรยี นท่อี ยู่ในกลุ่มพฒั นำ จำนวน 38 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 41.76 4.ผลกำรทดสอบกำรเขียนมนี ักเรียนท่อี ยู่ในกล่มุ ส่งเสริม จำนวน 53 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 58.24 5.ผลกำรทดสอบกำรคิดคำนวณ มนี ักเรียนที่อยู่ในกลุ่มพฒั นำ จำนวน 28 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 30.77 6.ผลกำรทดสอบกำรคดิ คำนวณ มีนกั เรยี นท่อี ย่ใู นกลมุ่ ส่งเสรมิ จำนวน 63 คน คิดเป็นร้อยละ 69.23 7.ผลกำรทดสอบกำรส่อื สำร มีนักเรียนที่อยใู่ นกล่มุ พฒั นำ จำนวน 21 คน คดิ เป็นร้อยละ 23.08 8.ผลกำรทดสอบกำรสือ่ สำร มนี กั เรียนท่ีอยู่ในกลุ่มสง่ เสริม จำนวน 70 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 76.92 ข้อมูลสรปุ 1. กำรอำ่ น นักเรียนจำกกลุ่มพัฒนำเดิม จำนวน 35 คน หลงั กำรพัฒนำมจี ำนวน 24 คน 2. กำรเขยี น นักเรยี นจำกกลุ่มพัฒนำเดิม จำนวน 56 คน หลงั กำรพัฒนำมจี ำนวน 38 คน 3. กำรคิดคำนวณนักเรียนจำกกลมุ่ พัฒนำเดมิ จำนวน 40 คน หลังกำรพฒั นำมีจำนวน 28 คน 4. กำรส่อื สำรนกั เรยี นจำกกลุ่มพฒั นำเดิม จำนวน 31 คน หลังกำรพฒั นำมจี ำนวน 21 คน ผลกำรประเมินควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขยี น กำรคดิ คำนวณ และสื่อสำรของนกั เรียน ทุกระดับชั้นกอ่ นกำรดำเนนิ งำนตำมมำตรกำรที่ 2 ผลกำรประเมินควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขยี น กำรคิดคำนวณ และส่ือสำรของนักเรียน ทกุ ระดับช้นั หลังกำรดำเนนิ งำนตำมมำตรกำรท่ี 2 ระยะเวลำ 1 เดือน

37 กำรเปรยี บเทียบผลกำรประเมินควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขียน กำรคดิ คำนวณ และกำรสอ่ื สำรของนักเรยี นในกลมุ่ พฒั นำ ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี 1 - 6 กอ่ นและหลังกำรพฒั นำ 1 เดือน หมำยเหตุ : นกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษำปที ี่ 1 – 6 ทั้งหมดจำนวน 91 คน จำกแผนภมู ิ กำรเปรียบเทียบผลกำรประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขียน กำรคดิ คำนวณ และกำรส่ือสำรของนกั เรียนทุกระดบั ช้นั ก่อนและหลงั กำรพัฒนำ 1 เดือน พบวำ่ นักเรียนมพี ฒั นำกำร ดำ้ นทกั ษะกำรอำ่ น กำรเขียน กำรคิดคำนวณ และกำรส่ือสำร ผลกำรประเมนิ ทักษะทุกด้ำนนกั เรยี น ในกล่มุ พฒั นำมีจำนวนลดลง โดยทักษะกำรอำ่ นลดลง 11 คน ทักษะกำรเขยี นลดลง 18 คน ทักษะกำรคิด คำนวณลดลง 12 คน และทกั ษะกำรสื่อสำรลดลง 10 คน ซึ่งผลกำรประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขยี น กำรคิดคำนวณ และกำรสื่อสำรของนกั เรยี นทุกระดับชัน้ ในภำพรวมลดลงเฉลย่ี รอ้ ยละ 31.48

38 ตำรำงท่ี 5 ผลกำรประเมินควำมรู้พนื้ ฐำนตำมหลักสูตร จำนวนนกั เรียน (คน) กลุ่มสำระ ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 กำรเรยี นรู้ (16 คน) (17 คน) (15 คน) (12 คน) (18 คน) (13 คน) พัฒนำ สง่ เสรมิ พัฒนำ สง่ เสริม พฒั นำ สง่ เสริม พฒั นำ ส่งเสริม พัฒนำ ส่งเสริม พัฒนำ ส่งเสริม ภำษำไทย 88896966 5 13 2 11 คณติ ศำสตร์ 6 10 8 9 5 10 4 8 5 13 2 11 วทิ ยำศำสตร์ - - 8 9 8 7 5 7 5 13 3 10 สงั คมศกึ ษำ ฯ - - 2 15 0 15 0 12 0 18 0 13 ภำษำองั กฤษ - - 6 11 10 4 4 8 5 13 3 10 จำกตำรำงที่ 5 ผลกำรประเมินควำมร้พู น้ื ฐำนตำมหลักสูตรของนักเรียนทุกระดับชนั้ หลงั กำรพัฒนำ 1 เดือนพบว่ำ 1. กล่มุ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย - นักเรยี นที่มีผลกำรเรยี นอย่ใู นกลุ่มพัฒนำ จำนวน 35 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 38.46 - นกั เรยี นท่มี ผี ลกำรเรียนอยู่ในกลมุ่ สง่ เสรมิ จำนวน 56 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 61.54 2. กลุ่มสำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์ - นกั เรยี นที่มผี ลกำรเรียนอยู่ในกลมุ่ พฒั นำ จำนวน 30 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 32.97 - นกั เรียนทม่ี ีผลกำรเรียนอยใู่ นกลมุ่ สง่ เสรมิ จำนวน 61 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 67.03 3. กลุ่มสำระกำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตร์ - นกั เรียนทม่ี ผี ลกำรเรียนอยู่ในกลมุ่ พฒั นำ จำนวน 29 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 38.67 - นกั เรยี นทม่ี ีผลกำรเรียนอยใู่ นกลุ่มส่งเสรมิ จำนวน 46 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 61.33 4. กล่มุ สำระกำรเรียนรสู้ งั คมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม - นักเรยี นที่มผี ลกำรเรียนอยู่ในกลุม่ พฒั นำ จำนวน 2 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 2.67 - นักเรียนทม่ี ีผลกำรเรียนอยู่ในกลุ่มส่งเสริม จำนวน 73 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 97.33 5. กลมุ่ สำระกำรเรียนร้ภู ำษำต่ำงประเทศ (ภำษำองั กฤษ) - นกั เรียนทีม่ ีผลกำรเรยี นอยู่ในกล่มุ พัฒนำ จำนวน 28 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 37.33 - นักเรียนทม่ี ผี ลกำรเรยี นอยู่ในกลมุ่ สง่ เสริม จำนวน 47 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 62.67

39 ขอ้ มูลสรปุ 1. กล่มุ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย นักเรยี นจำกกลุ่มพฒั นำเดิม จำนวน 47 คน หลงั กำรพัฒนำมจี ำนวน 35 คน 2. กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์ นกั เรียนจำกกลุ่มพฒั นำเดิม จำนวน 40 คน หลังกำรพัฒนำมีจำนวน 30 คน 3. กลมุ่ สำระกำรเรยี นรวู้ ทิ ยำศำสตร์ นักเรยี นจำกกลุ่มพัฒนำเดมิ จำนวน 38 คน หลังกำรพฒั นำมจี ำนวน 29 คน 4. กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม นักเรยี นจำกกลุ่มพัฒนำเดิม จำนวน 5 คน หลังกำรพัฒนำมีจำนวน 2 คน 5. กลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำต่ำงประเทศ (ภำษำอังกฤษ) นักเรียนจำกกลุ่มพัฒนำเดิม จำนวน 41 คน หลังกำรพัฒนำมจี ำนวน 28 คน ผลกำรประเมินควำมรพู้ ้ืนฐำนตำมหลักสตู รของนักเรียนทุกระดับช้ันกอ่ นกำรดำเนินงำน ตำมมำตรกำรท่ี 2 ผลกำรประเมินควำมรพู้ ้นื ฐำนตำมหลักสูตรของนักเรยี นทุกระดับชั้นภำยหลังกำรดำเนนิ งำน ตำมมำตรกำรที่ 2 ระยะเวลำ 1 เดอื น

40 กำรเปรียบเทยี บผลกำรประเมนิ ควำมรู้พนื้ ฐำนตำมหลักสูตรของนกั เรยี นในกลุม่ พัฒนำ ชั้นประถมศึกษำปที ี่ 1 - 6 ก่อนและหลังกำรพัฒนำ 1 เดือน หมำยเหตุ : จำนวนนักเรยี นกลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย 91 คน จำนวนนักเรยี นกล่มุ สำระกำรเรยี นรู้คณติ ศำสตร์ 91 คน จำนวนนักเรียนกลมุ่ สำระกำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตร์ 75 คน จำนวนนักเรียนกลมุ่ สำระกำรเรียนรสู้ ังคมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม 75 คน จำนวนนักเรียนกลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำต่ำงประเทศ (ภำษำอังกฤษ) 75 คน จำกแผนภมู ิ กำรเปรียบเทียบผลกำรประเมนิ ควำมรพู้ ้นื ฐำนตำมหลกั สูตรของนักเรยี นทุกระดับช้นั กอ่ นและหลงั กำรพัฒนำ 1 เดือนพบวำ่ นักเรียนมพี ฒั นำกำรดำ้ นควำมรู้พ้นื ฐำนตำมหลกั สูตร ผลกำรประเมนิ ควำมรู้พืน้ ฐำน 5 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ นกั เรียนในกล่มุ พฒั นำมีจำนวนลดลง โดยกลุม่ สำระกำรเรียนรู้ ภำษำไทยลดลง 1ก2ลุม่ คสนำรกะลกมุ่ ำสรำเรรยีะนกรำรคู้ เณรียิตนศรำคู้สณตรติ ์ ศำสตร์ลดลง 10 คน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ ภลดำษลงำต9่ำงคปนระกเลทมุ่ ศ9ส1ำ(ภรคะำนษกำำรอเังรกียฤนษร)ู้สลังคดมลศงึก7ษคำนศำซส่ึงผนลำแกลำระปวัฒระนเมธรินรคมวลำดมลรู้พง น้ื3ฐคำนนตแำลมะหกลลกั ุ่มสสูตำรรขะอกงำนรเกั รเียรนียนรู้ ทกุ ระดับช้ันในภำพรวมลดลงเฉลย่ี ร้อยละ 23.98

41 2. ผลตอบรับกำรประเมินควำมพงึ พอใจของผู้ท่ีมีสว่ นเก่ยี วขอ้ งกับกำรพัฒนำผเู้ รยี น ประกอบด้วย ผู้บรหิ ำรสถำนศึกษำ ครูผู้สอน ผู้ปกครองและคณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำ รวมท้ังหมด 110 คน ผู้ทม่ี ีสว่ นเกีย่ วขอ้ งประเมินควำมพึงพอใจโดยกำรตอบแบบประเมิน โดยมรี ำยกำรประเมิน ควำมพงึ พอใจเก่ยี วกับกำรบริหำรจดั กำรตำมมำตรกำรฟืน้ ฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรยี นร้ขู องผู้เรียน (Learning Loss Recovery) โรงเรียนบ้ำนปุลำมำวอ จำนวน 10 ข้อ ตำรำงท่ี 6 ผลกำรประเมนิ ควำมพึงพอใจเก่ียวกับกำรบรหิ ำรจัดกำรตำมมำตรกำรฟืน้ ฟูภำวะถดถอย ทำงกำรเรยี นรู้ของผ้เู รยี น (Learning Loss Recovery) โรงเรียนบำ้ นปุลำมำวอ ขอ้ กำรบรหิ ำรจัดกำรตำมมำตรกำร ผลกำรประเมนิ ค่ำเฉลี่ย ระดบั ควำมพึงพอใจ ควำมพึง 5 4 32 1 พอใจ 1 ท่ำนมคี วำมพึงพอใจตอ่ กำรดำเนนิ กำรวเิ ครำะหผ์ ้เู รยี นเป็นรำยบุคคล 61 34 15 - - 4.41 มำกทส่ี ุด เพ่ือจัดกลุ่มในกำรพัฒนำและส่งเสรมิ กำรเรียนรู้ของผเู้ รยี น 2 ท่ำนมคี วำมพึงพอใจต่อกำรดำเนินกำรแกไ้ ขปญั หำของผู้เรยี นในกลมุ่ 59 41 10 - - 4.44 มำกที่สุด พฒั นำ 3 ท่ำนมคี วำมพึงพอใจต่อกำรดำเนินกำรส่งเสริมกำรเรียนรขู้ องผเู้ รยี นใน 46 38 26 - - 4.16 มำก กล่มุ ส่งเสรมิ 4 ทำ่ นมคี วำมพงึ พอใจตอ่ กำรดำเนนิ กำรสนับสนนุ และพัฒนำวิชำชีพครู 54 32 24 - - 4.27 มำกทส่ี ุด เพอื่ ใหส้ อดคล้องกับกำรแกไ้ ขปัญหำผู้เรยี นตำมนโยบำยฟื้นฟภู ำวะ ถดถอยทำงกำรเรยี นรู้ 5 ท่ำนมีควำมพึงพอใจต่อกำรดำเนนิ กำรในกำรบรหิ ำรจดั กำรของ 60 37 13 - - 4.42 มำกทส่ี ดุ ผูบ้ ริหำรเพ่ือฟื้นฟภู ำวะถดถอยทำงกำรเรยี นรู้ของผเู้ รยี น 6 ทำ่ นมคี วำมพึงพอใจต่อกำรดำเนนิ กำรตำมโครงกำร/กจิ กรรมของ 55 47 8 - - 4.42 มำกที่สุด โรงเรียนทสี่ นับสนนุ และสง่ เสรมิ สขุ ภำพกำยให้กับนกั เรยี น 7 ทำ่ นมคี วำมพงึ พอใจตอ่ กำรดำเนนิ กำรตำมโครงกำร/กิจกรรมของ 49 31 30 - - 4.17 มำก โรงเรยี นทส่ี นบั สนนุ และส่งเสรมิ สขุ ภำพจติ ใหก้ ับนกั เรียน 8 ท่ำนมีควำมพงึ พอใจตอ่ กำรดำเนินกำรตำมโครงกำร/กิจกรรมของ 50 35 25 - - 4.22 มำกที่สุด โรงเรียนทสี่ นับสนนุ และสง่ เสรมิ สขุ ภำพทำงสงั คมใหก้ บั นกั เรยี น 9 ท่ำนมีควำมพึงพอใจต่อกำรดำเนินกำรช่วยเหลอื นกั เรียนเปน็ รำยบคุ คล 47 32 31 - - 4.14 มำก ในเร่อื งกำรสนับสนุนทนุ กำรศึกษำ/วัสดุอุปกรณ์กำรเรียน/ฯลฯ 10 ทำ่ นมีควำมพงึ พอใจต่อผลสำเรจ็ ทเ่ี กดิ ข้นึ จำกกำรดำเนนิ ตำมมำตรกำร 56 38 16 - - 4.36 มำกทส่ี ดุ ฟ้ืนฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรียนรู้ของผเู้ รียน รวม 4.31 มำกทส่ี ุด

42 กำรแปลควำมหมำยของค่ำเฉล่ยี ระดบั ควำมพงึ พอใจ ดงั น้ี 4.21 - 5.00 หมำยถงึ มคี วำมพึงพอใจอยู่ในระดบั มำกท่ีสุด 3.41 – 4.20 หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยใู่ นระดับมำก 2.61 – 3.40 หมำยถงึ มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดับปำนกลำง 1.81 – 2.60 หมำยถงึ มคี วำมพึงพอใจอยูใ่ นระดับน้อย 1.00 – 1.80 หมำยถงึ มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดับน้อยท่สี ุด จำกตำรำงท่ี 6 ผลกำรประเมินควำมพงึ พอใจเกยี่ วกับกำรบรหิ ำรจัดกำรตำมมำตรกำรฟน้ื ฟภู ำวะ ถดถอยทำงกำรเรยี นรขู้ องผู้เรียน (Learning Loss Recovery) โรงเรียนบำ้ นปุลำมำวอ พบว่ำ ควำมพึงพอใจ ต่อกำรดำเนินกำรแกไ้ ขปญั หำของผ้เู รียนในกลมุ่ พัฒนำอยู่ในระดับมำกทสี่ ุด มีคะแนนเฉลย่ี 4.44 ซ่งึ เปน็ คะแนนเฉลย่ี สูงทส่ี ุด พบวำ่ ควำมพึงพอใจต่อกำรดำเนินกำรช่วยเหลอื นกั เรียนเปน็ รำยบคุ คล ในเรือ่ งกำรสนบั สนุนทุนกำรศึกษำ/ วสั ดอุ ุปกรณก์ ำรเรียน/ ฯลฯ อยใู่ นระดับมำกมคี ะแนนเฉล่ีย 4.14 ซึ่งเป็นคะแนนเฉลย่ี ตำ่ ทีส่ ุด และผลกำรประเมนิ ควำมพึงพอใจของผู้ทมี่ สี ว่ นเกย่ี วข้องกับกำรพฒั นำผู้เรียน ในภำพรวมอยใู่ นระดับมำกท่ีสุด โดยมคี ะแนนเฉลี่ย 4.31 3. กำรนิเทศ ตดิ ตำมกำรดำเนนิ งำนตำมนโยบำย โรงเรยี นได้รบั กำรติดตำมกำรดำเนนิ กำร ตำมนโยบำยจำกคณะอนกุ รรมกำรตดิ ตำม ตรวจสอบประเมนิ ผลและนเิ ทศกำรจดั กำรศึกษำ (อนุ ก.ต.ป.น. ฝำ่ ยวิชำกำร) ในวันที่ 21 เดอื นกรกฎำคม พ.ศ. 2565 ณ โรงเรยี นบ้ำนนอก ในรูปแบบ  กำรนำเสนอ  ตรวจเอกสำร ผลกำรนิเทศตดิ ตำม ผำ่ นไปดว้ ยดี อยู่ในระดับ ดีมำก ข้อเสนอแนะจำกคณะกรรมกำร กำรนำเสนอกำรดำเนินกำรตำมมำตรกำรฟนื้ ฟูภำวะถดถอย ทำงกำรเรียนรู้ (Learning Losses Recovery) ในแต่ละมำตรกำร 1 - 6 โดยให้นำเสนอเปน็ กระบวนกำร กำรดำเนนิ งำนโมเดล PDCA ชใี้ ห้เหน็ ใหช้ ดั เจนและนำผลมำพัฒนำกำรดำเนินกำรในกำรพัฒนำและสง่ เสริม ต่อไป กำรนำเสนอมำตรกำรฟน้ื ฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรียนรู้ (Learning Losses Recovery)

43 4. กำรประเมนิ โรงเรียนไดร้ บั ผลกำรประเมนิ อยู่ในระดับดมี ำก 5. แนวทำงในกำรพฒั นำต่อไป 5.1 นักเรียนในกล่มุ พัฒนำได้รับกำรพฒั นำให้มีควำมสำมำรถในกำรอำ่ นกำรเขยี น กำรคิด คำนวณ และกำรสื่อสำรเพ่ือพัฒนำคุณภำพเพม่ิ ขึน้ 5.2 ครผู สู้ อนมรี ปู แบบวธิ กี ำรสอนทห่ี ลำกหลำยนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มำใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพผู้เรยี น เพื่อพัฒนำฟนื้ ฟูภำวะถดถอยทำงกำรเรียนรขู้ องผ้เู รยี น 5.3 ผบู้ ริหำรสถำนศึกษำมกี ำรนเิ ทศติดตำม กำรบรหิ ำรจดั กำรตำมมำตรกำรฟ้ืนฟภู ำวะ ถดถอยทำงกำรเรยี นรูข้ องผ้เู รียนอย่ำงต่อเน่ือง 5.4 ผู้ปกครอง ชมุ ชน องคก์ รท่ีเก่ียวข้องและเครือข่ำยท่ีมีสว่ นรว่ มในกำรฟนื้ ฟภู ำวะถดถอย ทำงกำรเรยี นรู้ของผูเ้ รียน เพื่อประสำนควำมรว่ มมือรว่ มกัน ลงชอื่ ...........................................................ผู้รำยงำน (นำยสมพร ทองดลุ ดำ) ตำแหน่ง ผู้อำนวยกำรโรงเรียนบ้ำนปุลำมำวอ

44 ภำคผนวก

ประมวลภำพกำรดำเนินงำน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook