สารบัญ ก เร่ือง หนา้ สารบญั ก บทคดั ยอ่ ข กิตติกรรมประกาศ ค บทที่ 1 บทนาํ 1-3 -ท่ีมาและความสาํ คญั ของปัญหา 3 -วตั ถุประสงคข์ องการวิจยั 3 -ขอบเขตของการวิจยั 3 -กรอบและแนวคิดในการวจิ ยั 3 -ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ 4 -วธิ ีดาํ เนินการวิจยั 4 -นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ บทที่ 2 เอกสารงานวิจยั ที่เกี่ยวขอ้ ง 5-7 -เอกสารและงานวิจยั ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การใชช้ ีวิตในมหาวิทยาลยั 8-9 -เอกสารและงานวจิ ยั ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั คาํ คม 12-14 -งานวจิ ยั ท่ีเก่ียวขอ้ งการวเิ คราะห์โลกทศั น์ 14-16 -งานวจิ ยั ที่เกี่ยวกบั กลวธิ ีการใชภ้ าษา 17-44 บทท่ี 3 โลกทศั นเ์ ก่ียวกบั คาํ คมและขอ้ ความ 45-46 บทที่ 4 สรุปผลและอภิปราย 47-48 บรรณานุกรม 49 ภาคผนวก
ข บทคดั ย่อ การวิจยั น้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือศึกษาและวิเคราะห์โลกทศั น์คาํ คมและขอ้ ความจากเพจตามติดชีวิต นกั ศึกษาโดยสาํ รวจขอ้ มูลจากเพจมีเน้ือหาเก่ียวกบั ช่วงการเรียน จาํ นวน 89 คาํ คม ซ่ึงแยกแยะเป็นประเด็น หลกั ๆอยู่ 2 ประเด็น คือ ประเด็นช่วงก่อนสอบและช่วงหลงั สอบ ผลการศึกษาโลกทศั น์ของนักศึกษาท่ี สะทอ้ นจากคาํ คมและขอ้ ความจากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษา ไดแ้ ก่ การลอ้ เลียน ลอ้ สังคม ลอ้ เทศกาลสาํ คญั ลอ้ บุคลิกตวั ละครและลอ้ สาํ นวนสุภาษิต พบวา่ นกั ศึกษามีโลกทศั น์ต่อการเรียนวา่ การเรียนมีความสาํ คญั ต่อ นกั ศึกษาเป็นอยา่ งมากเพราะการศึกษาช่วยใหผ้ ไู้ ดร้ ับการศึกษามีคุณภาพชีวิตท่ี อยา่ งไรก็ตามนกั ศึกษาบางส่วนก็ไม่ไดใ้ หค้ วามสนใจแค่เร่ืองการเรียนแต่ในเร่ืองของความรักหรือ เทศกาลสาํ คญั ของไทยต่างมีความสาํ คญั กบั นกั ศึกษาท้งั น้นั ซ่ึงผลจากการศึกษาจะเห็นไดว้ า่ ช่วงก่อนสอบ เป็ นช่วงสะสางงาน วางแผนการอ่านหนังสือสอบ ทบทวนเน้ือหาและฝึ กทาํ โจทยร์ วมถึงควรพกั ผ่อนให้ เพยี งพอเตรียมกายและเตรียมใจ ช่วงหลงั สอบเป็นช่วงท่ีนกั ศึกษาหมดภาระเก่ียวกบั งานในร้ัวมหาลยั และเขา้ สู่ช่วงปิ ดภาคเรียนและอยใู่ นช่วงกงั ลงั กงั วลกบั ผลการเรียนของตนเอง ซ่ึงผลวิจยั แสดงให้เห็นว่านกั ศึกษามีโลกทศั น์เก่ียวกบั การเรียนในช่วงก่อนสอนและหลงั สอบว่า เป็นช่วงที่ตอ้ งอดทน ขยนั มน่ั เพยี รและสร้างอารมณ์ผอ่ นคลายใหก้ บั ตวั เอง
ค กติ ตกิ รรมประกาศ งานวิจยั ฉบบั น้ีสาํ เร็จลงไดด้ ว้ ยดี เนื่องจากไดร้ ับความกรุณาอยา่ งสูงท่ีใหค้ าํ แนะนาํ ปรึกษาตลอดจน ปรับปรุงแกไ้ ขขอ้ บกพร่องต่างๆ ดว้ ยความเอาใจใส่อยา่ งดียง่ิ จาก อาจารยส์ ุรางคนางค์ รัตนวิจารย์ อาจารย์ ประจาํ สาขาวิชา ภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั พระนครศรีอยุธยา ผวู้ ิจยั ตระหนกั ถึงความต้งั ใจจริงและความทุ่มเทของอาจารย์ อยา่ งแทจ้ ริงและขอกราบขอกราบขอบพระคุณ เป็นอยา่ งสูงไว้ ณ ที่น้ี ขอขอบคุณคณะผูจ้ ดั ทาํ งานวิจยั โดย นางสาวศิริมาศ สว่างเมฆ นางสาวสุทธิดา ทองประเทือง นางสาวเบญจรัตน์ บุญเรือง นางสาวซาอีดา สามะ นางสาวนาดียา อิแตอินอ นางสาวรอฮานา ขรีดาโอ๊ะ นางสาวอาดีลา ดอเลาะ ที่ใหค้ วามร่วมมือร่วมใจในการทาํ รายงานวิจยั ในคร้ังน้ี อน่ึง ผูว้ ิจัยหวงั ว่า งานวิจัยฉบับน้ีจะมีประโยชน์อยู่ไม่น้อย ผูว้ ิจัยขอขอบพระคุณสมาชิกใน ครอบครัวทุกคนท่ีคอยเป็นกาํ ลงั ใจให้เสมอตลอดระยะเวลาที่ทาํ งานวิจยั และสนบั สนุนส่งเสริมให้ผูว้ ิจยั มี เวลาทาํ งานวิจยั อยา่ งเต็มที่จนกระทงั่ งานวิจยั น้ีสาํ เร็จลุล่วงอยา่ งสมบูรณ์ สาํ หรับขอ้ บกพร่องต่างๆ ท่ีอาจจะ เกิดข้ึนน้นั ผูว้ ิจยั ขอนอ้ มรับผิด ณ ที่น้ี และยินดีที่จะรับฟังคาํ แนะนาํ จากทุกท่านที่ไดเ้ ขา้ มาศึกษา เพ่ือเป็ น ประโยชน์ในการพฒั นางานวิจยั ต่อไป คณะผวู้ จิ ยั
1 บทที่ 1 บทนํา 1.ที่มาและความสําคญั ของปัญหา ปัจจุบันสื่ออินเทอร์เน็ตมีบทบาทในสังคมไทยเป็ นอย่างมากเน่ืองจากเทคโนโลยี สารสนเทศเขา้ มามีบทบาทในการส่ือสารมากย่ิงข้ึน ทาํ ให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย ส่งผลให้การ ติดต่อส่ือสารขอ้ มูลข่าวสารระหว่างบุคคลไดส้ ะดวกและรวดเร็วมากยิ่งข้ึน จากรายงานผลการ สาํ รวจพฤติกรรมผูใ้ ชง้ านอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2561(ขอ้ มูลล่าสุดเมื่อวนั ที่ 25 กุมภาพนั ธ์ 2562) จาํ นวนการใชง้ านอินเทอร์เน็ตต่อวนั มีผูใ้ ชง้ านอินเทอร์เน็ตมากกว่าปี ที่ผ่านมาถึง 3 ชว่ั โมง 30 นาทีต่อวนั และในปี 2561 ผูใ้ ชอ้ ินเทอร์เน็ตมีการใชอ้ ินเทอร์เน็ตในช่วงวนั ทาํ งาน เรียนหนงั สือ เป็นจาํ นวนมาก โดยกิจกรรมการใชง้ านผา่ นอินเทอร์เน็ตที่นิยมมากที่สุด คือ การคน้ หาขอ้ มูล การ แชทพุดคุยผ่านเฟซบุ๊ก การดูคลิปวิดีโอ/ฟังเพลง และการรับ-ส่งอีเมล โดยพบว่าเครือข่ายสังคม ออนไลน์เป็ นที่ยอดนิยมคนไทยยุคน้ี คือ เฟซบุ๊ก เป็ นสังคมออนไลน์ยอดนิยมอนั ดบั 1ของโลก (ขอ้ มูลจากETDA Thailand) กลุ่มท่ีมีอิทธิพลในโลกออนไลน์ คือ กลุ่มวยั รุ่น นักเรียน และนักศึกษา ซ่ึงใช้สื่อสังคม ออนไลนเ์ ป็นส่ือกลางท่ีใชพ้ ดู คุยแลกเปลี่ยนขอ้ มูลขา่ วสารซ่ึงกนั และกนั โดยผา่ นสื่อสงั คมออนไลน์ ท้งั น้ีเครือข่ายสังคมออนไลน์ท่ีไดร้ ับความนิยมมากท่ีสุด คือ เฟซบุ๊ก เป็ นแหล่งสังคมออนไลน์ท่ี สามารถใชใ้ นการติดต่อส่ือสาร และร่วมทาํ กิจกรรมใดกิจกรรมหน่ึงหรือหลายๆกิจกรรม และเพจ เป็นองคป์ ระกอบหน่ึงของเฟซบุ๊ก ท่ีสามารถทาํ ใหผ้ คู้ นไดส้ ร้างพ้ืนที่สาํ หรับการแสดงความคิดเห็น หรือรวบรวมคนท่ีชอบอะไรเหมือนกนั นอกจากน้ียงั เป็ นช่องทางในการประชาสัมพนั ธ์ขอ้ มูล ใหแ้ ก่ผคู้ นทวั่ ไปไดร้ ับรู้ขา่ วสาร ดง่ั เวบ็ เพจที่จะนาํ มาศึกษาวจิ ยั คือ “ เพจตามติดชีวิตนกั ศึกษา ” เพจ น้ีได้รับความนิยมจากกลุ่มนักศึกษามากท่ีสุด โดยพิจารณาจากยอดกดไลก์ ยอดแชร์ และยอด ผูต้ ิดตามที่มีจาํ นวนมาก ท้งั น้ีพบว่าจาํ นวนผูต้ ิดตามเพจตามติดชีวิตนักศึกษามียอดผูต้ ิดตามเพจ ประมาณ 1 ลา้ นคน ซ่ึงกลุ่มท่ีติดตามเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษาโดยส่วนใหญ่ เป็นกลุม่ นกั ศึกษา โดย
2 เน้ือหาที่โพสตม์ ีลกั ษณะเป็ นคาํ คมและขอ้ ความ เพจน้ีสร้างข้ึนมา เนื่องจากมีเน้ือหาท่ีมุ่งเนน้ เร่ือง การศึกษาในร้ัวมหาวิทยาลยั ไม่ว่าจะเป็ นในเร่ืองการใชช้ ีวิต การเรียน การสอบตลอดจนคะแนน สอบ ท้งั น้ียงั มีการสอดแทรกโดยการนาํ เอาเพลง หนงั รวมถึงรูปภาพมาล่อเพ่ือสร้างความบนั เทิง และเร้าความสนใจ อีกท้งั เป็นขอ้ มูลที่ใหข้ อ้ คิดแก่ผเู้ ขา้ ชมเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษา ในเรื่องการใชช้ ีวิตของนกั ศึกษาในร้ัวมหาวทิ ยาลยั มหาวิทยาลยั เป็นช่วงชีวติ ท่ีมีคุณค่ามาก ท่ีสุด นกั ศึกษาควรใชช้ ีวิตใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุดแก่ตนอง เพราะวา่ ในช่วงสี่ปี น้ีเป็นการเติมคนให้ เต็ม คือ การเรียนให้เต็มท่ี นักศึกษาตอ้ งใชเ้ วลาในมหาวิทยาลยั เพื่อเรียนรู้และพฒั นาตนเอง หาก นกั ศึกษาเรียนรู้ท่ีจะใชช้ ีวิตในทางท่ีถูกตอ้ งเหมาะสม นกั ศึกษาก็สามารถที่จะพฒั นาศกั ยภาพของ ตนเองให้มีคุณภาพได้ แต่หากนักศึกษาไม่รู้จกั เลือกใช้ชีวิตในมหาวิทยาลยั ไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและ เหมาะสม ก็จะก่อใหเ้ กิดปัญหาตามมาคือ รู้สึกเบ่ือหน่ายต่อการเรียน ขาดความรับผิดชอบต่องานที่ ไดร้ ับมอบหมาย ผลคะแนนสอบออกมาไม่ดี ก็ยอ่ มนาํ ผลเสียมาสู่ตนเองได้ จิรวฒั น์ วีรังกร (2545) ไดใ้ หค้ วามเห็นวา่ การเรียนในมหาวิทยาลยั ตอ้ งถือหลกั แห่งความไม่ประมาทในชีวติ ใชส้ ติปัญญา การใชช้ ีวติ ที่ประมาท มวั แต่สนุกสนานเพลิดเพลินมกั พบกบั ความผดิ พลาดเสมอ ดงั น้นั จะตอ้ งฝึกที่ จะเรียนรู้กบั สภาพชีวิตใหม่ เม่ือแรกเขา้ มาศึกษาในมหาวิทยาลยั จึงเปรียบเสมือนโลกใบใหม่ท่ี กวา้ งขวางจนบางคนไม่ทราบวา่ จะเริ่มตน้ ชีวิตอยา่ งไร ดงั น้นั ควรบริหารจดั การตนเองใหเ้ ขา้ กนั ได้ กบั สภาพแวดลอ้ มใหม่ ถือเป็นส่ิงสาํ คญั และจาํ เป็นอยา่ งยง่ิ การเรียน คือกระบวนการเรียนรู้จากการไดร้ ับการถ่ายทอดจากบุคคลใดบุคคลหน่ึงไปสู่อีก บุคคล เพ่ือให้ไดร้ ับความรู้ความเขา้ ใจในเร่ืองต่าง ๆ ซ่ึงความรู้ความรู้น้นั สามารถนาํ มาใชพ้ ฒั นา คนใหม้ ีความสามารถท่ีจะใชป้ ระกอบอาชีพและเอาตวั รอดได้ พฒั นาใหม้ นุษยไ์ ดเ้ ติบโตท้งั ทางดา้ น สมอง สติปัญญา ควบคู่ไปกบั คุณธรรมจริยธรรม และสามารถดาํ รงชีวิตร่วมกบั ผูอ้ ื่นในสังคมได้ อยา่ งมีความสุข ท้งั น้ีในเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษา ยงั กล่าวถึงคาํ คมและขอ้ ความที่มีเน้ือหาการโพสต์ ท่ีเกี่ยวกบั การเลา่ เรียน เพื่อเป็นการกระตุน้ ใหน้ กั ศึกษามีกาํ ลงั ใจและมีความกระตือรือร้นมากยง่ิ ข้ึน ในงานวิจยั น้ี ผวู้ ิจยั ตอ้ งการศึกษาและวเิ คราะห์การใชภ้ าษาในการส่ือสารวา่ เป็นอยา่ งไร อีก ท้งั วิเคราะห์โลกทศั น์เกี่ยวกบั การเรียน ที่ปรากฏในเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษา ดงั น้นั การศึกษาโลก ทศั น์ของนักศึกษาจากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษา ทาํ ให้ทราบถึงทศั นคติความรู้สึกนึกคิดจากคาํ คม และขอ้ ความ และทราบถึงชีวิตความเป็นอยใู่ นร้ัวมหาวทิ ยาลยั โดยเฉพาะในเร่ืองท่ีเกี่ยวกบั การ
3 เรียน และโลกทศั น์สามารถสะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงการใชช้ ีวติ ของนกั ศึกษาที่ดาํ เนินในชีวติ ประจาํ วนั ได้ อยา่ งชดั เจนอีกดว้ ย 2.วตั ถุประสงค์ของการวจิ ัย 2.1 เพ่อื วิเคราะห์โลกทศั นค์ าํ คมและขอ้ ความเก่ียวกบั การเรียน จากเพจตามติดชีวิต นกั ศึกษา 3.ขอบเขตของการวจิ ยั 3.1 เกบ็ รวบรวมขอ้ มูลจากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษา ต้งั แต่เดือนมกราคม - พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 โดยศึกษาขอ้ มูลเฉพาะคาํ คมและขอ้ ความท่ีเก่ียวกบั การเรียน เป็นจาํ นวน 89 คาํ คม 4.กรอบแนวคดิ ในการวจิ ยั 4.1 โลกทศั น์ (Worldview) หมายถึง ทศั นะในการมองโลกและสังคมของบุคคลเป็ นภาพ ของโลกหรือสงั คมท่ีบุคคลรับรู้โดยผา่ นกระบวนการและระบบวธิ ีคิดในการประเมินคุณคา่ ส่ิงใดส่ิง หน่ึงโดยมีพ้ืนฐานอนั หล่อหลอมจากวฒั นธรรมแวดลอ้ มในสังคมท่ีบุคคลน้นั เติบโตมาอนั ไดแ้ ก่ ทศั นะความคิดความเชื่อและค่านิยมทางของบุคคลและของสังคมน้นั โลกทศั น์จึงเป็ นตวั กาํ หนด ทิศทางชีวิตของแต่ละคนอีกท้งั เป็ นตวั กาํ หนดทิศทางสังคมของมนุษยด์ ว้ ยการศึกษาโลกทศั น์จึง เป็ นการศึกษาทศั นคติความรู้สึกนึกคิดของคนที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหน่ึงอนั หล่อหลอมจากความรู้และ ประสบการณ์โดยส่วนตวั และสิ่งแวดลอ้ ม จากวฒั นธรรมที่ส่ังสมสืบทอดจากจุดหน่ึงไปสู่อีกยุค หน่ึง (สุภาภรณ์ คงศิริรัตน2์ 553) 5.ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะได้รับ 5.1 ทราบถึงโลกทศั น์จากคาํ มและขอ้ ความจากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษา
4 6.วธิ ีดาํ เนินการวจิ ยั 6.1 สาํ รวจและเกบ็ รวบรวมคาํ คมและขอ้ ความจากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษา โดยพจิ ารณาคาํ คมและขอ้ ความที่เกี่ยวกบั การเรียน 6.2 ศึกษาเน้ือหาของคาํ คมและขอ้ ความ รวมถึงวิเคราะห์โลกทศั น์เก่ียวกบั การเรียนของ นกั ศึกษา โดยวิเคราะห์ผา่ นคาํ คมและขอ้ ความ 6.3 ศึกษาเอกสารและงานวจิ ยั ท่ีเก่ียวกบั โลกทศั นก์ ารเรียน และการใชช้ ีวติ นกั ศึกษาใน มหาวทิ ยาลยั 6.4 สรุปผลและอภิปรายผลของการวิเคราะห์ 6.5 เสนอรายงานการวจิ ยั ฉบบั สมบูรณ์ 7.นิยามศัพท์เฉพาะ 7.1 โลกทศั น์ (Worldview) หมายถึง ทศั นะในการมองโลกและสังคมของบุคคล เป็ นภาพ ของโลกหรื อสังคมท่ีบุคคลรับรู ้ผ่านกระบวนการและระบบวิธี คิดในการประเมินคุณค่าส่ิ งใดส่ิ ง หน่ึง โดยมีพ้ืนฐานอนั หลอ่ หลอมจากวฒั นธรรมแวดลอ้ มในสงั คมที่บุคคลเติบโตมา 7.2 เพจ ( Facebook page ) เพจมีไวส้ าํ หรับใชง้ านในเชิงธุรกิจ เช่น แบรนด์ ธุรกิจ องคก์ ร หรือบุคคลสาธารณะ เพื่อสร้างตวั ตนบน Facebook แต่การสร้างเพจน้นั จะตอ้ งอาศยั บญั ชี Facebook ส่วนตวั ในการสร้าง ซ่ึงไม่ไดห้ มายความวา่ Facebook ส่วนตวั ที่ใชง้ านจะหายไป แต่ท้งั 2 พ้ืนท่ีจะ แยกอิสระจากกนั ซ่ึงเพจสามารถเพม่ิ ผดู้ ูแล เพือ่ ช่วยในการแกไ้ ขขอ้ มูล อพั เดทข่าวสาร และท่ีสาํ คญั เพจจะไม่จาํ กดั จาํ นวนเพ่ือน เพราะเป็นการกดถูกใจ กดติดตาม ทาํ ใหโ้ อกาสท่ีคนจะเขา้ มาพบเห็น โพสตข์ องเรากจ็ ะมีมากข้ึน 7.3 คาํ คม (epigram ) หมายถึง คารมหรือโวหารอนั คมคาย หรือถอ้ ยคาํ หรือขอ้ ความท่ีมี ความหมายอยู่ในตวั ดว้ ยการกล่าวซ้าํ คาํ ให้มีความหมายเกี่ยวพนั กบั เน้ือความเดิม คาํ คมที่ดีตอ้ ง แสดงถึงการใชค้ วามคิด หรือแสดงใหเ้ กิดความรู้สึกอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงอยา่ งชดั เจนเพ่ือใหผ้ อู้ ่านเกิด ความลึกซ้ึงเมื่อไดอ้ ่านคาํ คมที่ดีตอ้ งมีลกั ษณะเป็นคาํ พูดธรรมดาไม่มีสัมผสั โดยมากใชค้ าํ ง่าย ๆ ไม่ ตอ้ งแปลอ่านแลว้ เขา้ ใจไดท้ นั ทีและสามารถจดจาํ ไดง้ ่าย และสัมผสั คลอ้ งจองกนั ส้ันๆ ส่วนมากมี 2-4 วรรค เท่าน้นั
5 บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ัยท่เี กย่ี วข้อง ผูศ้ ึกษาได้ศึกษาจากเอกสาร งานวิจัยและจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพ่ือเป็ นแนวทางใน การศึกษาและวเิ คราะห์ โลกทศั นเกี่ยวกบั การเรียน โดยมีรายละเอียดตามหวั ขอ้ ดงั น้ี 1. เอกสารและงานวจิ ยั ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การใชช้ ีวิตในมหาวิทยาลยั 1.1 ความหมายของการใชช้ ีวิต 1.2 การใชช้ ีวิตในมหาวทิ ยาลยั ของนกั ศึกษา 1.3 นิยามมหาวทิ ยาลยั ชีวติ 2. เอกสารและงานวิจยั ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั คาํ คม 2.1 ความหมายของคาํ คม 2.2 ประเภทของคาํ คม 2.3 ประโยชนข์ องคาํ คม 3. เอกสารและงานวิจยั ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั โลกทศั น์ และโลกทศั นข์ องคนไทย 3.1 การศึกษาความหมายของโลกทศั น์ 3.2 แนวคิดในการศึกษาวิเคราะห์โลกทศั น์ 3.3 งานวจิ ยั เก่ียวกบั โลกทศั นข์ องคนไทย 4. เอกสารและงานวจิ ยั ที่เก่ียวกบั กลวิธีการใชภ้ าษาเพ่ือสร้างอารมณ์ขบขนั 1. เอกสารและงานวจิ ยั ท่เี กย่ี วข้องกบั การใช้ชีวติ ในมหาวทิ ยาลยั 1.1 ความหมายของการใช้ชีวติ ชีวิต คือ ธรรมชาติ ศิลปะการใชช้ ีวิต และการเรียนรู้ที่จะอยกู่ บั ธรรมชาติอยา่ งมีความสุข ในธรรมชาติไม่เคยสร้างส่ิงใดใหม้ ีความสมบูรณ์โดยตวั เอง แต่สิ่งต่าง ๆ ตอ้ งพ่ึงพาอาศยั กนั ตาม
6 ธรรมชาติ จึงรวมกนั เป็นความสมบูรณ์ ในความหมายของความสมบูรณ์ไม่ไดห้ มายความถึงการมี พร้อมในทุก ๆ สิ่ง ความสมบูรณ์ทางใจกนั ความสมบูรณ์ในชีวิตไม่ไดห้ มายความถึงการมีเงินทอง มากมาย มีความสาํ เร็จในชีวิตในหนา้ ที่การงาน มีครอบครัวที่อบอุ่นหรืออะไรก็ตามแต่ที่เราคิดเอา เองว่าถา้ มีแลว้ เราจะมีความสุข คงไม่แปลกหากเราไดใ้ นสิ่งที่หวงั แลว้ จะมีความสุข แต่จะแปลก ไหม หากการท่ีเราไม่ไดเ้ ป็นในสิ่งท่ีหวงั แลว้ เราจะมีความสุขไดเ้ ช่นกนั นี่แหละธรรมชาติ ตวั เราที่ ทุกข์ เพราะเราพยายามฝื นธรรมชาติของตวั เราเอง ไม่ว่าอะไรก็ตามท่ีเขา้ มากระทบใจเราย่อมรู้สึก แต่พอรู้สึกแลว้ เราทาํ ไดเ้ พียงแค่รับรู้ แลว้ กต็ อ้ งปล่อยมนั ผา่ นไปตามธรรมชาติของมนั ความสุขอาจ ไม่ได้ หมายถึง การไขว่ควา้ หาในสิ่งท่ียงั มาไม่ถึง แต่ความสุขมนั คือ ตอนน้ี ขณะน้ี และเขา้ ใจใน ธรรมชาติ ของส่ิงที่เป็ นอยรู่ ู้จกั ธรรมชาติของตวั เอง ความปกติของชีวิตเราสังเกตไดจ้ ากลมหายใจ เพราะมนั เป็ นสิ่งที่บ่ง บอกถึงการมีชีวิต ถา้ ลมหายใจดี ความรู้สึกต่อสิ่งต่าง ๆ ก็จะดีไปหมดตาม ธรรมชาติของมนั เขา้ ใจ ธรรมชาติของตวั เองก่อน แลว้ คุณจะรู้ว่าคุณไม่ตอ้ งไปจดั การอะไรเลย เพราะธรรมชาติสามารถ จดั การตวั เองไดอ้ ยา่ งสมดุลท่ีสุด หากเราเขา้ ใจธรรมชาติของตวั เราเองแลว้ เราค่อยเรียนรู้ธรรมชาติของทุกส่ิงท่ีอยรู่ อบตวั เรา ทุกคาํ ถามจะมีคาํ ตอบเสมอ และหากตอนน้ียงั มี ลมหายใจอยู่ก็แสดงว่าธรรมชาติยงั ให้โอกาสเราอยู่ อยากทาํ อะไรท่ีมีความสุขให้รีบทาํ ก่อนที่ ธรรมชาติจะคืนความตายให้กบั เรา เพราะสูงสุดของชีวิตน้ี คือ ความตาย ซ่ึงไม่สามารถหลีกพน้ ความตายได้ (วินบุ๊ค. : ออนไลน์) 1.2 การใช้ชีวติ ภายในมหาวทิ ยาลยั ของนักศึกษา การศึกษาระดบั อุดมศึกษาในระดบั ท่ีมีความสําคญั อย่างย่ิง เพราะช่วงของ การศึกษาจะ ครอบคลุมต้งั แต่เริ่มตน้ เป็ นผูใ้ หญ่ และช่วงของการพฒั นาการเป็ นผูใ้ หญ่จนถึงช่วงที่เป็ นผูใ้ หญ่ อยา่ งเตม็ ที่ ไพฑูรย์ สินลารัตน์(2524) ได้ศึกษาว่า บุคคลในวัยน้ีมักจะมีอารมณ์อ่อนไหว ใน ขณะเดียวกันก็มีความกระตือรือร้น อยากรู้ อยากเห็น อยากทดลองสิ่งแปลกใหม่มีความคิดค ค่อนขา้ งเพอ้ ฝันและพร้อมที่จะยอมรับอุดมการณ์ที่ตนเช่ือถือ ในทางจิตวทิ ยาบุคคลในวยั น้ีเป็นวยั ที่ กาํ ลงั แสวงหาเอกลกั ษณ์ (Identity) ของตนเอง โดยเฉพาะนกั ศึกษาท่ีเขา้ มาศึกษาในมหาวทิ ยาลยั น้นั มีความแตกต่างกนั มาก
7 1.3 นิยามมหาวทิ ยาลยั ชีวติ ท่ามกลางสถานการณ์ท่ีมหาวิทยาลยั ตอ้ งเผชิญกบั การเปล่ียนแปลงของสังคม กระเทือน ระบบท้ังปริ ญญาตรี ปริ ญญาโท ปริ ญญาเอก ยังมีอีกมหาวิทยาลัยหน่ึงที่พูดถึงกันมากคือ มหาวิทยาลยั ชีวิต ช่ือก็บอกอยู่ตรงมากครับ ว่าเรียนรู้เก่ียวกบั ชีวิตน่ันเอง เรามกั ไดย้ ินเสมอว่า “หลายคนที่เรียนในระบบมหาวิทยาลยั ไดเ้ กรด A ทุกวิชา แต่กลบั สอบตกมหาวิทยาลยั ชีวิต ก็ไม่ สามารถท่ีท่ีจะกา้ วหนา้ ไปไหนได”้ นกั วิชาการและวิชาเกินบางท่านไดก้ ล่าววา่ มหาวิทยาลยั ชีวิตเป็นกระบวนการเรียนรู้ท่ีมา จากประสบการณ์จริง เอาชีวิตเป็นตวั ต้งั เอาศกั ยภาพตนเองเพ่ือแกไ้ ขปัญหา ไม่ไดเ้ รียนเพ่ือ “สอบ” หรือเรียนเพื่อเอาใบปริญญาไปเร่หางานทาํ เอาจริง ๆ แลว้ หลายท่านก็ว่ากนั ไปตามเรื่องตามราว ต้งั แต่ การหาเงิน การพฒั นาศกั ยภาพ และอ่ืน ๆ ท่ีเป็นความรู้ที่ไม่ไดอ้ ยใู่ นหอ้ งเรียน ทกั ษะและกญุ แจของมหาวทิ ยาลยั ชีวติ บางอยา่ ง ซ่ึงตรงกบั แนวคิด Clayton M. Christensen กล่าวไวว้ ่า สิ่งสําคญั ท่ีศาสตราจารยท์ ่านน้ีกล่าวได้ เรียกไดว้ ่าเป็ นกุญแจสําคญั เลย คือ “เป้าหมาย ชีวติ ” และ “ปฏิสมั พนั ธ์” หรือความสมั พนั ธ์กบั ของคนรอบขา้ ง ไม่ใช่แค่คนในครอบครัวเท่าน้นั นะ ครับ แต่รวมถึงลูกนอ้ ง เจา้ นาย แมก้ ระทง่ั ป้าขา้ งบา้ นดว้ ย ดูเหมือนจะง่ายแต่ลงมือทาํ จริง ๆ แลว้ เป็น การยากมากนะครับ ลองคิดถึงตอนที่เราเรียนจบและทาํ งาน แรกๆก็มีฝัน หลงั ทาํ ไปนาน ๆ เริ่มหา ฝันไม่เจอ ทุกวนั น้ีเลยอยู่ในสภาพขอทาํ ไปก่อน พรุ่งน้ีค่อยคิดแลว้ กนั นอกจากน้ีแลว้ การลงมือ รักษาความสัมพนั ธ์กส็ าํ คญั ไม่แพก้ นั นึกถึงสถานการณ์ตอนพดู กบั ลูกนอ้ งที่ทาํ ผิด หรือตอนโมโห เจา้ นายเวลาพูดไม่เขา้ หู บางทีก็ลืมตวั พูดไม่ดีออกไปทาํ ใหบ้ รรยากาศท้งั ใจเขาและใจเรา ข่นุ มวั ไป ท้งั วนั เลย Clayton M. Christensen จึงบอกเคล็ดลบั วา่ การมีเป้าหมาย กบั ปฏิสัมพนั ธ์ที่ดี ทาํ ให้ชีวิต เอิบอิ่มมากกวา่ ตวั วตั ถุ นอกจากน้ีแลว้ มหาวิทยาลยั ชีวิตยงั รวมถึง การเรียนรู้ ที่ไม่สิ้นสุดอีกดว้ ย มีคาํ กล่าวของ ขงจื๊อท่ีวา่ “หากมีคนเดินมาสามคน ตอ้ งมีอาจารยเ์ ราอยา่ งแน่นอน ถา้ เขาเป็นคนดีกใ็ หเ้ อาอยา่ ง แต่ ถา้ เขาไม่ดีกจ็ งเล่ียงและนาํ มาปรับปรุงตน” ขอ้ ความน้ีดูเรียบแต่ลึกซ้ึงมาก หากเรามองทุกคนเป็นอาจารย์ อตั ตาน้นั จะลดลง ความอ่อน นอ้ มถ่อมตนในผูน้ ้นั ย่อมตามมาและไม่ยากนกั ที่จะเกิดปฏิสัมพนั ธ์ที่ดีดว้ ย เรียกไดว้ ่า ท่านขงจื๊อ สอนจุดต้งั ตน้ ของมหาวิทยาลยั ชีวิตไวใ้ นประโยคเดียว
8 “มหาวิทยาลยั ชีวติ ไม่ไดม้ ีเกรด รู้ตวั วา่ สอบตกกต็ อนที่มีปัญหาชีวิตหนกั ๆ นน่ั เอง ... สอบ ปริญญามหาวิทยาลยั ผา่ นแลว้ อยา่ ลืมเรียนต่อมหาวทิ ยาลยั ชีวิตใหผ้ า่ นดว้ ยนะครับ” 2. เอกสารและงานวจิ ัยทีเ่ กยี่ วข้องกบั คาํ คม 2.1 ความหมายของคาํ คม ผาสุก มุทธเมธา (2535) ใหค้ วามเห็นวา่ คาํ คมหมายถึง คาํ กลา่ วท่ีสรุปความท่ีเป็นประโยชน์ แก่ผฟู้ ังแมเ้ ป็นคาํ กล่าวท่ีไม่ดีแต่เป็นประโยชนเ์ ป็นการช้ีนาํ แนะ แนวสงั่ สอน ตกั เตือน ใหข้ อ้ คิดเป็น ขอ้ มูลที่ใหป้ ระโยชน์ ประคอง เจริญจิตรกรรม (2536) ก็ไดใ้ ห้ความหมายคาํ คม คือขอ้ ความท่ีกล่าวออกมาเพ่ือ สื่อความคิดบางอยา่ งและส่วนมากจะกลา่ วในเชิงเปรียบเทียบอยา่ งคมคาย เช่นเดียวกนั บุปผา ทวสี ุข (2526) ไดก้ ล่าวถึงคาํ คมว่า หมายถึง คาํ กล่าวท่ีดีงามอาจเป็ นการส่ังสอน ช้ีให้เห็นสัจจะแห่งชีวิต นอกจากน้ีประเทือง คลา้ ยสุบรรณ (2531) ก็ไดก้ ล่าวถึงคาํ คมวา่ หมายถึง คาํ พูดหรือคาํ กล่าวที่เป็ น คาํ พูดติดปากของคนไทย คาํ พูดดงั กล่าวมีหลายลกั ษณะ และมีวิธีพดู แตกต่างกนั ซ่ึงมกั จะมีสัมผสั คลอ้ งจองกนั หรือเล่นเสียงเลน่ คาํ มีความไพเราะ มีความหมายโดยนยั ใหค้ วามรู้สึก ลึกซ้ึงกินใจผฟู้ ัง นอกจากน้ี ขนิษฐา จิชินะกุล(2545) ให้ความหมายคาํ คมว่า หมายถึงคาํ กล่าวที่มีคติสอนใจให้ ความหมายลึกซ้ึง และมีสมั ผสั คลอ้ งจอง ซ่ึงตรงกบั บุปผา บุญทิพย์ (2531) ท่ีเขียนความหมาย คาํ คม วา่ หมายถึงคาํ กล่าวที่ดีงามเป็นจริงทุกยคุ ทุกสมยั อาจเป็นการสง่ั สอนช้ีใหเ้ ห็นสจั จะแห่งชีวิตกไ็ ด้ บุญสิริ สุวรรณเพช็ ร์ (2546) ไดใ้ หค้ วามหมายคาํ คมวา่ เป็นขอ้ ความที่มีลกั ษณะเป็นคาํ เตือน คําสอนหรื อส่ังสอนในด้านความประพฤติกิริ ยามารยาทและเรื่ องท่ัว ๆไปสอดคล้องกับ เพ็ญแข วัจนสุ นทร (2528) ให้ความหมายคําคมว่า คํากล่าวท่ีเป็ นคติชวนฟัง สําหรับ เสนีย์ วิลาวรรณ (2546 ) แปลความหมายคาํ คม คือคาํ กล่าวท่ีมีคติสอนใจ มีความหมายลึกซ้ึง กินใจ 24 กล่าวสืบทอดต่อ ๆ กนั มาเป็นถอ้ ยคาํ ส้ัน ๆ เขา้ ใจง่าย เป็นการมุ่งช้ีนาํ ส่ังสอน ตกั เตือนใหไ้ ดค้ ิด เช่นเดียวกบั เบญจวรรณ มณีฉาย (2537) กล่าวว่าคาํ คม คือคาํ กล่าวท่ีดีงาม เป็ นคาํ ส่ังสอนที่มุ่ง แนะนาํ ใหป้ ฏิบตั ิใหป้ ระพฤติดีประพฤติชอบ หรือใหล้ ะเวน้ ความชว่ั ส่วนประพนธ์ เรืองณรงค์ และ
9 คณะ (2545) ไดก้ ล่าววา่ ความหมายคาํ คม คือ การใชถ้ อ้ ยคาํ ท่ีมีความหมายเป็นเชิง เปรียบเทียบให้ คติเตือนใจแต่ไม่เนน้ สง่ั สอนโดยตรง อุดม รุ่งเรืองศรี (2546) ไดก้ าํ หนดความหมายคาํ คมว่า หมายถึงคาํ กล่าวเพื่อการสั่งสอน หรือการเตือนใจ เป็นคาํ พดู ท่ีบอกเล่าสืบเนื่องกนั มา ซ่ึงเรียก คาํ บ่าเก่า แปลวา่ ถอ้ ยคาํ ที่คงความเป็น อมตะเสมอ ไม่เคยเก่า พบว่าคาํ เหล่าน้ันเป็ นคาํ พูดท่ีหนักแน่น กินใจหรือเห็นภาพได้ชัดเจน กิ่งแกว้ เพช็ รราช (2545) ไดใ้ หค้ วามหมายคาํ คมวา่ หมายถึง คาํ กล่าวท่ีมีความไพเราะมี การถ่ายทอด กนั มาจากปากต่อปากเน้ือความมุ่งสั่งสอนให้ตีความหมายเอาเองตามสถานการณ์ซ่ึงหมาย รวมถึง สุภาษิตและคาํ พงั เพยดว้ ย เอกรัตน์ อุดมพร (2557) กล่าววา่ ถอ้ ยคาํ ท่ีเป็นคาํ คม มีความคมคายครบถว้ น ท้งั คมคาํ คม ความ และคมคิดจะช่วยปรุงชีวติ ใหม้ ีคุณคา่ ช่วยอบรมจิตใจใหง้ อกงาม บ่มปัญญาาใหเ้ รืองรอง เป็น ครรลองนําพาตนเองไปสู่ความก้าวหน้าอย่างถูกตอ้ งดีงาม ในบรรดาถ้อยคาํ ท้งั ปวง ถอ้ ยคาํ ท่ี ประกอบดว้ ยเมตตาถือวา่ ล้าํ เลิศ ถอ้ ยคาํ ท่ีเป็นคาํ คม มีความคมคายของท่านผรู้ ู้ ที่คมคาํ คมความ และ ความคิด ช่วยปรุงชีวติ ใหม้ ีความเหมาะสม ช่วยบาํ รุงจิตใจใหง้ อกงาม ช่วยบ่มปัญญาใหเ้ รืองรอง อนั เป็นพลงั ขบั เคลื่อนตนเองใหก้ า้ วไปขา้ งหนา้ ได้ จากความหมายคาํ คมดงั กล่าว พอจะสรุปความหมายของคาํ คม คือขอ้ ความที่เป็นคาํ กล่าวท่ี ดีงามมีคติเตือนใจ สอนใหป้ ระพฤติดีปฏิบตั ิดีท้งั ยงั เป็นขอ้ ความท่ีช้ีนาํ แนะนาํ ใหข้ อ้ คิด ที่เป็นขอ้ มูล ท่ี เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ต่อคนอ่ืนและต่อประเทศชาติ 2.2 ประเภทของคาํ คม คาํ คมมีมากมายหลายประเภท ซ่ึงมีนกั วิชาการไดจ้ ดั แบ่งประเภทของคาํ คมไวด้ งั น้ี เจือ สตะเวทิน (2515) แบ่งคาํ คมตามเน้ือหา 15 ประเภทคือ เก่ียวกบั ครอบครัว การศึกษา อบรม ความรักและการครองเรือน การทาํ มาหากิน เศรษฐกิจและการครองชีพ สมาคม วาจา เกรียติ ยศช่ือเสียง การปกครอง ศีลธรรมวฒั นธรรม บา้ นเกิดเมืองนอน กรรม ความไม่ประมาท วา่ ดว้ ยตน และภาษิตส่วนร่วม
10 บุปผา บุญทิพย์ (2531) เขียนหนงั สือคติชาวบา้ น โดยกล่าวถึงประเภทคาํ คมว่ามีผูแ้ บ่ง ไว้ หลายแบบดว้ ยกัน คือ หมวดท่ีเกิดจากอาชีพ อุบตั ิเหตุระเบียบแบบแผน ประเพณีลทั ธิศาสนา 25 ความประพฤติการละเล่น นิยามนิทาน พงศาวดารหรือประวตั ิศาสตร์หมวดเบ็ดเตล็ด แบ่งตาม การเปรียบเทียบ เช่น หมวดสัตวห์ มวดพืช ของใชใ้ นบา้ น หมวดน้าํ ฯลฯ ซ่ึงประพนธ์ เรืองณรงค์ และคณะ (2545) กก็ ลา่ วถึง คาํ คมวา่ สามารถจดั เน้ือหาของคาํ คม ใหเ้ ป็นหมวดหมู่ เกี่ยวกบั คน สตั ว์ พชื ความเชื่อ ดินฟ้า อากาศ ธุรกิจ กฎหมาย อาหาร ศาสนา และชีวิตประจาํ วนั นอกจากน้ีประเทือง คลา้ ยสุบรรณ์ (2531) เขียนหนังสือวฒั นธรรมพ้ืนบา้ นไดก้ ล่าวถึง มูลเหตุท่ีเกิดคาํ คมว่ามาจาก ธรรมชาติ เกิดจากสัตว์ การกระทาํ อวยั วะต่าง ๆ ของกิน ของใช้ การละเล่น พระพุทธศาสนา นิทานตาํ นานวรรณคดี แบบแผน ประเพณีและวฒั นธรรมไทย กฎหมาย เช่นเดียวกบั ขนิษฐา จิตชินะกลุ (2540) ไดแ้ บ่งคาํ คมเป็น 3 ประเภท คือคาํ คมที่มุ่งสั่งสอน ให้คติสอนใจ คาํ คมท่ีเป็ นโวหาร คาํ คมที่เป็ นการแนะนาํ ให้กระทาํ หรือไม่ให้กระทาํ อย่างใดอยา่ ง หน่ึง สอดคลอ้ ง นภาลยั สุวรรณธาดา (2527) แบ่งคาํ คม เป็น 3 ประเภท คือคาํ คมประเภทไม่มีสมั ผสั ไดแ้ ก่ คาํ คมท่ีเป็นกลุ่มคาํ และภาษิตที่เป็นประโยค คาํ คมประเภทท่ีมีสัมผสั คาํ คมประเภทเล่นคาํ ซ้าํ และคาํ ลอ้ คาํ คมประเภทเล่นคาํ ซ้าํ มี3 ลกั ษณะคือ ซ้าํ คาํ หนา้ ซ้าํ คาํ กลาง และซ้าํ คาํ สองจงั หวะ คาํ คม ท่ีเลน่ คาํ ลอ้ มี2 ประเภท คือลอ้ คาํ ท่ีมีความหมายคลา้ ยกนั และลอ้ คาํ ที่มีความหมายตรงขา้ มกนั กล่าวโดยสรุป คาํ คม แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือคาํ คมที่มีลกั ษณะส่ังสอนอบรมใหข้ อ้ คิด เตือนสติคาํ คมท่ีมีลกั ษณะเป็นโวหาร มีการเล่นคาํ สมั ผสั คลอ้ งจองอยา่ งมีศิลปะ 2.3 ประโยชน์ของคาํ คม คาํ คมมีคุณค่าต่อการประพฤติปฏิบัติของคนในสังคม ต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบันจึงมี นกั วิชาการไดก้ ล่าวถึงประโยชนข์ องคาํ คมไวม้ ากมาย ดงั น้ี ขนิษฐา จิตชินะกลุ (2545) กล่าวถึงประโยชน์ของคาํ คมวา่ มีความสาํ คญั ดงั น้ี 1. เป็ นเครื่องมือในการอบรมส่ังสอนให้คนในสังคมอยใู่ นกรอบประเพณีที่ดีงามและช่วย ควบคุมความประพฤติใหเ้ ป็นบุคคลที่พงึ ประสงคข์ องสงั คม
11 2. สะทอ้ นให้เห็นถึงความเช่ือค่านิยมประเพณีวิถีทางการดาํ เนินชีวิตของคนในสังคมได้ เป็นอยา่ งดี 3. สะทอ้ นให้เห็นถึงเอกลกั ษณ์ทางดา้ นการใชภ้ าษาที่งดงามของคนไทย ซ่ึงจะมีลกั ษณะ การใชภ้ าษาที่สมั ผสั คลอ้ งจองกนั และมีความหมายที่ลึกซ้ึง 4. เป็ นเครื่องมือในการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดของผูก้ ล่าว เพราะผูก้ ล่าวไม่ จาํ เป็นตอ้ งกล่าวออกมาโดยตรงเพยี งใชค้ าํ คมกส็ ามารถส่ือถึงอารมณ์ความรู้สึกนึกคิด 6. สามารถนาํ เอาคาํ คมไปศึกษาวิเคราะห์โครงสร้างทางสังคม วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ความ เช่ือ รวมท้งั ลกั ษณะการใชภ้ าษาที่ปรากฏอยใู่ นสังคมน้นั เช่นเดียวกบั แนวคิดของ นภาลยั สุวรรณ ธาดา (2542) ไดใ้ หแ้ นวคิดเกี่ยวกบั ประโยชนค์ าํ คมมีดงั น้ี 1. ในดา้ นการศึกษาอบรม เป็ นเคร่ืองควบคุมพฤติกรรมของสังคมให้ดาํ เนินไปอย่างมี ระเบียบ เป็ นเคร่ืองมือในการอบรมกิริยามารยาท ขนบธรรมเนียมประเพณีช่วยให้ประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนมีความรู้และความคิดและเป็ นพลเมืองดีของชาติ 2. ในดา้ นสังคมทาํ ใหม้ องเห็นภาพวิถีชีวิตและความรู้สึกนึกคิดของผคู้ นในยคุ สมยั ต่าง ๆ ไดร้ ู้ถึงสภาพภูมิศาสตร์เศรษฐกิจอาชีพของประชาชน เสมือนกระจกท่ีสะทอ้ นภาพสังคมไทย ใน รายละเอียดท่ีเพิ่มเติมจากประวตั ิศาสตร์ 3. ในดา้ นภาษาให้ประโยชน์ในดา้ นการส่ือสารดว้ ยภาษาที่ส้ันแต่กินความ ในดา้ นการ ประพนั ธ์ช่วยให้ได้ท้งั อรรถและรสของภาษาและมีคุณค่าในการศึกษาภาษาโบราณ ภาษาถ่ิน ตลอดจนวิวฒั นาการของภาษา 4. เป็นสื่อถ่ายทอดความรู้สึกท่ีดีเจตนาดีและความปรารถนาดีจากผพู้ ดู ไปยงั ผฟู้ ัง 5. ให้ความบันเทิงแก่ผูฟ้ ังและผูพ้ ูด ซ่ึงเกิดจากการใช้คาํ ท่ีคล้องจองกับการใช้โวหาร เปรียบเทียบทาํ ใหเ้ กิดภาพพจนท์ าํ ใหเ้ กิดความไพเราะ
12 3. เอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วข้องการวเิ คราะห์โลกทศั น์ และโลกทัศน์ของคนไทย 3.1 ความหมายของคาํ ว่าโลกทศั น์ ปัญญา บิสุทธ์ิ (2523) กลา่ ววา่ โลกทศั น์ หมายถึง ทศั นะหรือความคิดเห็นที่บุคคลมีต่อโลก หรือสงั คมที่เราอาศยั อยู่ แสดงใหเ้ ห็นวา่ เขาคิดนึกหรือรู้สึกอยา่ ไรต่อชีวติ ท่ีอยรู่ ่วมกนั ในสงั คม การ แสดงความรู้สึกเช่นน้ียอ่ มแสดงออกไดห้ ลายอยา่ ง ปรากฏในจารึกต่าง ๆ บา้ ง ในจดหมายเหตุบา้ ง ในพงศาวดารและในวรรณคดีบา้ ง อมรา พงศาพิชญ์ (2541) กลา่ วไวใ้ นหนงั สือ วฒั นธรรม ศาสนา และชาติพนั ธุ์ : วเิ คราะห์ สงั คมไทยแนวมานุษยวทิ ยา” วา่ โลกทศั น์ หมายถึง ทศั นะทว่ั ไปเก่ียวกบั โลกรอบตวั มนุษยเ์ ป็นการ รับรู้หรือมีความคิดเห็นเกี่ยวกบั สภาพรอบตวั อมรา ประสิทธ์ิรัฐสินธุ์ (2549) กล่าววา่ โลกทศั น์ หมายถึง การตีความ ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ในโลกและจกั รวาล เป็นภาพของโลกที่คนในแต่ละวฒั นธรรมมองเห็น ซ่ึงอาจไม่เหมือนภาพของ โลกที่คนในวฒั นธรรมอื่นมองเห็น ซ่ึงโลกทัศน์มกั หมายรวมไปถึง การที่มนุษยม์องตัวเองว่า สัมพนั ธ์คนอ่ืน หรือสรรพสิ่งรอบตวั อย่างไร โดย อมรา ประสิทธ์ิรัฐสินธุ์ กล่าวถึงความสัมพนั ธ์ ภาษากบั โลกทศั น์ว่า ในดา้ นหน่ึงว่าโลกมีอิทธิพลต่อภาษา กล่าวคือ ถา้ คนในสังคมมีโลกทศั น์ไร ภาษาก็จะเป็นเช่นน้นั ดว้ ย ภาษาจึงสะทอ้ นใหเ้ ห็นโลกทศั น์ในอีกดา้ นภาษามีอิทธิพลต่อโลกทศั น์ กลา่ วคือ ภาษาทาํ ใหค้ นในสงั คมมองเห็น หรือแยกประเภทสรรพส่ิงตามท่ีภาษากาํ หนด ราชบณั ฑิตยสถาน (2553) ให้ความหมายของโลกทศั น์ (world view) ว่า เป็ นการตีความ ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ความเขา้ ใจจกั รวาล หรือสิ่งที่เกิดข้ึนรอบตวั ของมนุษยใ์ นสังคม ซ่ึงเป็ นภาพ ของโลกที่คนในวฒั นธรรมหน่ึงงมองเห็น และอาจไม่เหมือนภาพของโลกที่ คนในอีกวฒั นธรรม หน่ึงงมองเห็นโลกทศั น์มกั หมายรวมไปถึงการท่ีมนุษยม์ องตวั เองว่า สัมพนั ธ์กบั คนอื่นหรือสรรพ สิ่งรอบ ๆตวั อยา่ งไร โลกทัศน์ ยงั หมายถึง โลกหรือภาพท่ีมนุษยม์องเห็นโดยผ่านวฒั นธรรมของตน หรือ ตีความสรรพสิ่งและเหตุการณ์ต่าง ๆ ดว้ ยวฒั นธรรมของตน นอกจากน้ีโลกทศั นม์ ี ความสมั พนั ธก์ บั ภาษา ในแง่ที่ภาษาสะทอ้ นให้เห็นโลกทศั น์ เช่น คาํ ราชาศพั ท์ในภาษาไทย สะทอ้ นให้เห็นว่าคน ไทยใหค้ วามสาํ คญั กบั สถาบนั พระมหากษตั ริยแ์ ละมองวา่ พระมหากษตั ริยเ์ ป็นผมู้ ีความพิเศษสูงส่ง นอกจากน้นั เนื่องจากภาษามีอิทธิพลต่อความคิด จึง เป็นสิ่งที่สร้างโลกทศั นใ์ หผ้ พู้ ดู ภาษาน้นั ได้ เช่น
13 เน่ืองจากภาษาอังกฤษหรือการระบุคาํ นาม เอกพจน์และพหูพจน์แยกกันอย่างชัดเจน ผูพ้ ูด ภาษาองั กฤษจึงให้ความสําคญั กบั จาํ นวนของมากกว่าผูพ้ ูด ภาษาไทยท่ีไม่มีการระบุเอกพจน์และ พหูพจน์อยา่ งชดั เจน 3.2 แนวคดิ ในการศึกษาวเิ คราะห์โลกทศั น์ อมรา ประสิทธ์ิ รัฐสินธุ์ (2549) กลา่ วถึง ผรู้ ู้เริ่มแนวคิดภาษากาํ หนดความคิด และโลกทศั น์ หลงจั ากท่ี เอด็ เวริ ์ด ซาเพียร์ (Edward Sapir) เป็นผรู้ ู้เริ่มแนวคิดในระยะแรกต่อมา เบนจามิน ลีวอร์ฟ (Benjamin Lee Whorf) ไดส้ นับสนุนแนวคิดน้ีจนเป็ นที่รู้จกั กนั ในนามสมมติฐานซาเพียร์-วอร์ฟ (the Sapir-Whorf Hypothesis) โดยมีใจความวา่ ภาษาเป็นตวั กาํ หนดหรือมีอิทธิพลต่อความคิดระบบ และวฒั นธรรมของผพู้ ูดกล่าวคือ เด็กเกิดมาในสังคมท่ีพูดภาษาใดก็จะถูกหล่อหลอมโดยภาษาน้นั ให้มีโลกทศั น์เหมือนกบั คนอ่ืน ๆที่พูดภาษาเดียวกนั ท้งั น้ีหากภาษาต่างกนั มากโลกทศั น์ก็จะย่ิง ต่างกนั มากในทางกลบั กนั คนที่พดูภาษาคลา้ ยกนั กจ็ ะมีโลกทศั นค์ ลา้ ยกนั จากการศึกษาความหมายและแนวคิดขา้ งตน้ โลกทศั น์จึงเป็นเหมือนระบบความคิดท่ีบุคคล หรือกลุ่มบุคคลในสังคมหน่ึงๆ มีร่วมกนั ต่อสิ่งต่าง ๆ ที่มนุษยม์ ีความสัมพนั ธ์การศึกษาโลกทศั นจ์ ึง เป็นเหมือนการทาํ ความเขา้ ใจวา่ มนุษยม์ องสงั คมและโลกรอบตวั อยา่ งไร 3.3 งานวจิ ยั ท่ีเกย่ี วข้องกบั โลกทศั น์ของคนไทย ปัญญา บริสุทธ์ิ (2523) ศึกษาวิเคราะห์โลกทัศน์ของคนไทยจากวรรณคดีคาํ สอนสมยั สุโขทยั พบว่า ในทางศาสนาและจริยธรรม คนไทยสมยั สุโขทยั มีจิตใจอ่อนน้อม มีเหตุผลและมี อิสระในการเลือกนับถือศาสนา รวมท้งั มีความเช่ือเร่ืองผีสางเทวดาอยู่บา้ ง คนสุโขทยั ไดร้ ับการ อบรมท้งั ทางครอบครัว ทางประเพณีและศาสนาให้เป็ นผูร้ ักสงบ ไม่เบียดเบียนผูอ้ ่ืน ในทางการ ปกครองเป็นไปในแบบอะลุ่มอล่วย ไม่มีกีบีบบงั คบั ผนู้ อ้ ย ในทางเศรษฐกิจคนสุโขทยั มีเสรีภาพใน การคา้ ขายและกิจกรรมอาชีพ ไม่มีการเก็บภาษี ในทางวฒั นธรรมคนสุโขทยั ยึดถือขนบธรรมเนียม ประเพณีอย่างเคร่งครัด ในทางภาษาคนสุโขทยั มีความหย่ิงและสํานึกในความเป็ นไทยอย่างมาก ในทางศิลปกรรมคนสุโขทยั มีความสามารถสูงสุดในทางการช่าง มีความสุขมุ รอบคอบ และมีความ สํานึกทางสังคมน้นั คนไทยสมยั สุโขทยั สามารถวางระเบียบแบบแผนของสังคมไวไ้ ดอ้ ยา่ งมน่ั คง และมีเหตุผล
14 สุภาพร คงศิริรัตน์ (2553) ศึกษาโลกทศั น์ของพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ที่ ปรากฎในพระราชหัตถเลขาพบว่า พระองค์มีพระโลกทัศน์ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ยงั มี ความสาํ คญั และจาํ เป็นย่ิงต่อสังคมไทย. การปกครองระบบรัฐสภายงั ไม่เหมาะสมกบั ประเทศดอ้ ย พฒั นาอย่างสยาม. อีกท้งั ผูป้ กครองที่ดีตอ้ งมีคุณลกั ษณะ 3 ประการคือทรงธรรม ทรงคุณวุฒิ และ ทรงความสามารถ.การศึกษาเป็ นส่ิงที่มีคุณค่าช่วยพฒั นาคนและพฒั นาประเทศให้เจริญกา้ วหน้า ความเช่ือทางศาสนาตอ้ งสามารถอธิบายดว้ ยหลกั เหตุและผลพระพทุ ธศาสนาเป็นศาสนาประจาํ ชาติ ไทย และประเทศไทยเป็ นศูนยก์ ลางของพระพุทธศาสนาโลก.ความสัมพนั ธ์ระหว่างประเทศเป็ น เร่ืองของการแสวงหาผลประโยชน์ เศรษฐกิจคืออาํ นาจนาํ มาซ่ึงความมงั่ คงั่ และมนั่ คงของประเทศ ราษฎรทุกคนควรมีสิทธิข้ันพ้ืนฐานเท่าเทียมกัน การสาธารณูปโภคเป็ นสิ่งจาํ เป็ นพ้ืนฐานท่ีมี ความสําคญั ต่อพฒั นาประเทศ ส่วนการแพทยแ์ ละการสาธารณสุขเป็ นสิ่งจาํ เป็ นสําหรับสุขภาพ อนามยั ที่ดีของประชาชน อรรถจกั ร์ สัตยานุรักษ์ (2555 )ศึกษาวิเคราะห์การเปล่ียนแปลงความคิดของชนช้นั นาํ ไทย ในยุคที่สังคมไทยเริ่มกา้ วเขา้ สู่สมยั ใหม่ แสดงให้เห็นการสูญเสียอาํ นาจในการอธิบายโลกและ ม นุ ษ ย์ข อ ง แ น ว ค ว า ม คิ ด ท า ง พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า เ ก่ี ย ว กับ ไ ต ร ภู มิ แ ล ะ ปั ญ จ อัต ร ฐ า น โ ด ย ท่ี ก า ร เปล่ียนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมทาํ ให้ชนช้ันนาํ ของไทยเปล่ียนมามีความคิดทางเวลาแบบ กา้ วหนา้ และนาํ ไปสู่แนวคิดท่ีว่าพระมหากษตั ริยค์ ือผูก้ าํ หนดวิถีประวตั ิศาสตร์ไปสู่ความกา้ วหนา้ กลายเป็นแรงผลกั ดนั ใหช้ นช้นั นาํ สร้างรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชยท์ ี่วา่ พระมหากษตั ริยท์ รงมีพระราช อาํ นาจเด็ดขาดสูงสุดจากน้นั ก็มีการเปล่ียนแปลงทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมตลอดจนวฒั นธรรม ทางความคิดอยา่ งไม่หยุดย้งั กระทงั่ เกิดกลุ่มคนท่ีตระหนกั ในศกั ยภาพของตนและมีจิตสาํ นึกแบบ ปัจเจกชนนิยมสูงข้ึนมาก จนไม่ยอมรับเฉพาะหนา้ ที่ของพลเมืองแต่คิดวา่ พลเมืองมีหนา้ ที่สาํ คญั ต่อ ชาติโดยตรง กลายเป็นพลงั ความคิดท่ีส่งผลใหเ้ กิดการปฏิวตั ิเปล่ียนแปลงการปกครองเป็นระบอบ ประชาธิปไตยในที่สุด 4. งานวจิ ัยท่เี กยี่ วกบั กลวธิ ีการใช้ภาษาเพื่อสร้างอารมณ์ขบขนั ธิติสรณ์ ศรีธาดา(2542: 4) ไดว้ เิ คราะห์การใชภ้ าษาในการแสดงตลกไวพ้ บวา่ มีลกั ษณะการ ใชภ้ าษาที่หลากหลายดงั น้ี คือ การเล่นคาํ การใชค้ าํ ยอ่ การใชค้ าํ หยาบ การใชค้ าํ สองแง่สามง่าม การ
15 ใชภ้ าษาลกั ษณะการเล่นสํานวน การพูดขดั แยง้ กบั ความจริง การเยย้ หยนั การประชดประชนั การ ลอ้ เลียนบุคคลและสถานการณ์ สําหรับ นารีรัตน์ บุยช่วย (2540 : 263) ไดก้ ล่าวถึงลกั ษณะเน้ือหาที่สร้างความตลกหรือ อาจกล่าวได้ว่าเป็ นกลวิธีหรือแนวทางท่ีทาํ ให้ผูฟ้ ังเกิดความขบขนั ว่ามีลกั ษณะจาํ แนกไดต้ าม แนวคิดของความไม่เขา้ กนั เป็นพ้นื ฐานมี 2 ประการ คือ 1. ความไม่เขา้ กนั ของรูปลกั ษณ์ 1.1 ลกั ษณะที่ปรากฏให้เห็นเด่นชดั ภายนอก ไดแ้ ก่เรื่องของรูปร่างหนา้ ตาหรือการ แต่งกายของตวั ละคร 1.2 บุคลิกลกั ษณะที่เกิดจากการนาํ เอาสิ่งท่ีไม่ปกติหรือผดิ ธรรมชาติมาขดั แยง้ กนั 2 . ความไม่เขา้ กนั ของเน้ือหาคือเกิดจากเน้ือหาสาระหรือใจความของเรื่องมี 4 ลกั ษณะ 2.1 ตลกลอ้ เลียนนาํ เอาลกั ษณะเด่นและดอ้ ยของตวั ละครมาลอ้ เลียนไม่วา่ จะเป็ นดา้ น ชาติพนั ธุ์อาชีพบุคคลร่วมสมยั และนกั การเมือง 2.2 ตลกร้ายคือเร่ืองราวท่ีขณะเกิดข้ึนมกั กา้ วร้าวรุนแรงเจ็บปวดแต่เมื่อคิดยอ้ นไปหรือ นาํ เอามาเล่าในภายหลงั กบั ดูน่าขบขนั อีกท้งั การพูดจาทิ่มแทงความรู้สึกผอู้ ่ืนดว้ ยคาํ พูดท่ีติดตลกก็ เป็ นตลกร้าย 2.3 ตลกบริสุทธ์ิคือสิ่งที่กระตุ้นให้หัวเราะโดยต้ังใจและไม่ต้ังใจโดยไม่แสดง ความหมายเก่ียวกบั เพศความกา้ วร้าวหรือการดูหมิ่นดูแคลนหรือเจตนา อื่นแอบแฝงซ่ึงมีลกั ษณะ ความไม่เขา้ ใจกนั เป็นสาํ คญั แอนโธนี โอเดรียธ (2548) ไดก้ ลา่ วถึงประเภทของความขบขนั ทางภาษาพดู และภาษาเขียน ไวด้ งั น้ี 1. คาํ คม หมายถึง การพดู แบบฉลาด เพอื่ ช้ีใหเ้ ห็นความจริง บางอยา่ ง 2. การประชด หมายถึง การพดู ตรงขา้ มกบั ส่ิงท่ีตอ้ งการจะสื่อ 3. การลอ้ เลียน หมายถึง การลอ้ เลียนขอ้ เขียนหรือส่ิงท่ีเขียนข้ึนไวแ้ ลว้ เช่นคาํ ขวญั บท เพลง
16 4. การเสียดสี หมายถึง การพดู เสียดสีถากถาง จากการรวบรวมเอกสารและงานวจิ ยั ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การศึกษาคาํ คมและขอ้ ความจากเพจ ตามติดชีวิตนกั ศึกษา ดงั กลา่ ว พบวา่ มีเอกสารและงานวิจยั ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การวิเคราะห์โลกทศั นก์ าร ใชช้ ีวิตในมหาวิทยาลยั เอกสารที่เกี่ยวขอ้ งกบั คาํ คมและขอ้ ความ รวมถึงกลวิธีการใชภ้ าษาและ กลวธิ ีการสร้างอารมณ์
17 บทที่ 3 โลกทศั น์เกย่ี วกบั คาํ คมและข้อความ การดาํ เนินชีวิตของนกั ศึกษาในร้ัวมหาวิทยาลยั น้นั พบว่านกั ศึกษาส่วนใหญ่ค่อนขา้ งเรียน หนกั จึงจาํ เป็ นต่อการยอมรับและทาํ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั วิถีชีวิตที่กาํ ลงั จะเปล่ียนแปลงออกไปใน หลายๆด้าน นักศึกษาควรจะมีการวางแผนในเรื่องของเวลาเป็ นอย่างดี เพื่อท่ีจะไม่ให้มีปัญหา กระทบต่อการเรียนและชีวิตส่วนตวั ดงั น้นั คาํ คมและขอ้ ความจากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษา สามารถ สะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงโลกทศั นข์ องนกั ศึกษาเกี่ยวกบั การเรียนในประเดน็ ต่าง ๆ ดงั ต่อไปน้ี 1. คาํ คมและขอ้ ความเกี่ยวกบั ช่วงก่อนสอบ 2. คาํ คมและขอ้ ความเกี่ยวกบั ช่วงหลงั สอบ 1.คาํ คมและข้อความเกยี่ วกบั ช่วงก่อนสอบ ช่วงก่อนสอบ คือช่วงสะสางงาน วางแผนการอ่านหนงั สือสอบ ทบทวนเน้ือหาและฝึ กทาํ โจทย์ รวมถึงควรพกั ผ่อนใหเ้ พียงพอ เตรียมกายและเตรียมใจ จากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษา พบคาํ คมและข้อความที่เก่ียวกับช่วงก่อนสอบ จาํ นวน 22 คาํ คม ซ่ึงเน้ือหาท่ีโพสต์โดยส่วนใหญ่ มี ลกั ษณะของขอ้ ความท่ีเชิงกระตุน้ และใหก้ าํ ลงั ใจแก่นกั ศึกษา และในการศึกษาคาํ คมและขอ้ ความท่ี อยใู่ นช่วงสอบ พบวา่ สามารถแยกแยะประเดน็ ออกเป็นหมวดหมู่และกลวิธี ดงั ต่อไปน้ี 1.1 เรื่องล้อเลยี น คือ การลอ้ เลียนส่ิงที่เกิดข้ึนหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ซ่ึงในคาํ คมและขอ้ ความจากเพจตามติด ชีวติ นกั ศึกษา พบวา่ ส่วนใหญค่ าํ คมและขอ้ ความช่วงก่อนสอบจะกล่าวถึงคาํ คมท่ีพดู ถึง เร่ือง การเมือง เทศกาลต่าง ๆ กีฬา สภาพอากาศ ตวั ละคร เพลง ดารา เป็นตน้ ดงั คาํ คมต่อไปน้ี
18 1.1.1ล้อเทศกาลสําคญั เทศกาล หมายถึง วนั เวลาท่ีกาํ หนดไวเ้ ป็นประเพณีเพอ่ื การทาํ บุญ และการรื่นเริงในทอ้ งถ่ิน เช่น เทศกาลวนั สงกรานต์ เทศกาลเขา้ พรรษา เป็ นตน้ ซ่ึงนักศึกษาจะให้ความสําคญั ต่อเทศกาล ท้งั น้ีวดั ไดจ้ ากความสนใจจากส่ือสังคมออนไลน์ต่าง ๆมากมาย แต่ดว้ ยนกั ศึกษามีหนา้ ที่ ที่ตอ้ งรับ ผิดทางการเรียน อาจจะเกิดจากอาจารยส์ ั่งการบา้ นหรืองานท่ียงั คา้ งคาอยู่ จึงทาํ ใหพ้ กั หลงั นกั ศึกษา ไม่มีเวลาวา่ งมากพอท่ีจะเขา้ ร่วมเทศกาลเหมือนเดิม ดงั สะทอ้ นใหเ้ ห็นจากคาํ คมดงั ต่อไปน้ี สงกรานต์ของมึง แต่สงครามวจิ ยั กู (เพจตามติดชีวิตนกั ศึกษา วนั ที่ 13 เม.ย. 2562) หมายถึง วนั สงกรานตเ์ ป็นเทศกาลที่สาํ คญั ของไทย ซ่ึงถือวา่ เป็นวนั หยดุ ยาวของคนที่ ทาํ งานหรือศึกษาอยู่ นอกจากน้ีคนอีกส่วนหน่ึงใชเ้ วลากบั การสะสางงาน ความหมาย คาํ วา่ “สงกรานต”์ จะเห็นไดว้ า่ คนไทยใหค้ วามสาํ คญั กบั เทศกาลวนั สงกรานต์ จึงนาํ มาลอ้ ในการเขียนคาํ คม นอกจากน้ี คาํ วา่ กู , มึง เป็นคาํ ท่ีใชแ้ ทนตวั ผพู้ ูดและกบั ตวั ผทู้ ่ีเราพูด ดว้ ย มกั ถือกนั วา่ เป็นคาํ ไม่สุภาพหรือหยาบคาย ซ่ึงในคาํ คมน้ีมีการนาํ คาํ หยาบ เพ่ือส่ือความหมาย ใหม้ ีความชดั เจนมากข้ึน จากคาํ คมสะทอ้ นให้เห็นโลกทศั น์ของนักศึกษาไดว้ ่า การทาํ วิจยั น้ันถือเป็ นสงครามที่ นักศึกษาจะต้องต่อสู้เพ่ือให้งานประสบความสําเร็จด้านการเรียน อาจต้องแลกมาด้วยความ ยากลาํ บาก เพื่อให้นาํ มาซ่ึงความสําเร็จ จึงเปรียบเสมือนการทาํ สงครามที่ต่อสู้กนั เพ่ือความเป็ นท่ี หน่ึง และความเป็นใหญท่ ี่ไม่วา่ ใครกต็ อ้ งเกรงกลวั
19 ฮั่นแน่!! กาํ ลงั จะสั่งงานวนั หยุดสงกรานต์ใช่ไหม (เพจตามติดชีวิตนกั ศึกษา วนั ที่ 6 เม.ย. 2562) หมายถึง การคาดการณ์อาจารยท์ ี่กาํ ลงั จะสง่ั งานในวนั หยดุ ความหมาย คาํ ว่า “ฮน่ั แน่” มีกระแสมาจากคลิปหน่ึง ๆ มีผูช้ าย 2 คนมีเร่ืองกนั ผูช้ ายคน หน่ึงขี่รถจกั รยานยนตแ์ ลว้ พูดวา่ “ ฮนั่ แน่ ชอบเร่งเครื่องหรอนอ้ ง ” ฮน่ั แน่ อาจหมายถึง “ใช่แน่ ๆ” อีกความหมาย อาจเป็ นกลวิธีที่ใชใ้ นการเขียน ซ่ึงจะเห็นไดว้ ่า คาํ คมน้ีโพสต์ข้ึนในช่วงที่กระแส กาํ ลงั นิยม สะทอ้ นใหเ้ ห็นโลกทศั นข์ องคาํ วา่ “ฮนั่ แน่”ไดว้ า่ เนื่องจากคนไทยมีสมั พนั ธไมตรีท่ีดีต่อกนั เขา้ กบั ผอู้ ่ืนไดง้ ่ายและมีอารมณ์ขนั ซ่ึงสะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ คนไทยมีนิสยั ท่ีชอบหยอกลอ้ กนั ดว้ ยคาํ พดู การกล่าวคาํ ว่า “ฮัน่ แน่” จึงเป็ นการทกั หรืออาจเป็ นการแสดงความรู้สึกตามสถานการณ์ต่าง ๆ เพือ่ ใหเ้ กิดความขบขนั สงกรานต์ไม่ได้กลบั บ้าน พคี กว่า คือหลงั จากน้ันไฟนอล อเี หีย้ (จากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษาวนั ที่15เม.ย2562) หมายถึง สงกรานตเ์ ป็นวนั หยดุ แต่ไมไ่ ดห้ ยดุ พกั เพราะตอ้ งเตรียมตวั สอบไฟนอล นกั ศึกษาให้ความสาํ คญั กบั การสอบมากกว่าเทศกาลสาํ คญั ของไทย นกั ศึกษามองว่าการ สอบปลายภาคหรือไฟนอลน้นั เป็ นส่ิงท่ีไม่อาจจะละเลยได้ ซ่ึงสะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ การสอบไฟนอล น้นั เป็นเร่ืองใหญ่สาํ หรับนกั ศึกษาจึงตอ้ งมีความเตรียมตวั และใส่ใจในการสอบมากข้ึน เพราะการ สอบไฟนอลถือวา่ เป็นการช้ีชะตาของนกั ศึกษา
20 1.1.2 ล้อกฬี า นกั ศึกษาใหค้ วามสาํ คญั กบั การติดตามชมกีฬา เนื่องดว้ ยความชอบเฉพาะของบุคคล หรือตอ้ งการใชค้ วามบนั เทิง เพือ่ ผอ่ นคลายความเครียดจากการเรียน หรือการใชช้ ีวิตประจาํ วนั ซ่ึงสะทอ้ นใหเ้ ห็น ดงั คาํ คมตอ่ ไปน้ีน้ี วนั จันทร์ของคนท่วั ไปว่าเศร้าแล้ว วนั จนั ทร์ของเดก็ เชลซีจะขนาดไหน (จากเพจตามตดิ ชีวติ นกั ศึกษา 14 ก.พ. 2562) หมายถึง วนั จนั ทร์เป็นวนั แรกของสปั ดาห์ท่ีผคู้ นส่วนมากมกั จะไม่ชอบหรือเกียจคร้านใน การตื่นนอนไปทาํ งานหรือไปเรียน โดยเฉพาะกลุ่มนกั ศึกษาที่ติดตามฟุตบอลจะมีความเกียจคร้าน เป็นพเิ ศษ เน่ืองจากดูฟุตบอลจนทาํ ใหเ้ ขา้ นอนดึก คาํ วา่ “เชลซี” เป็นสโมสรกีฬาฟตุ บอลขององั กฤษ จะเห็นไดว้ า่ นกั ศึกใหค้ วามสาํ คญั กบั การชมกีฬาฟตุ บอลมากกวา่ การผกั ผอ่ น สะทอ้ นใหเ้ ห็นว่า คนไทยมองวา่ วนั หยดุ มกั จะผา่ นไปไวเสมอ และวนั จนั ทร์ คือวนั ท่ีตอ้ ง กลบั ไปทาํ งาน และตอ้ งใช้ชีวิตกบั การทาํ งานอีกคร้ัง ซ่ึงสะทอ้ นให้เห็นว่าคนไทยมีนิสัยท่ีเกียจ คร้าน รักความสบาย แต่โลกทศั น์ของแฟนบอลเชลซี คาํ วา่ “แฟนบอลเชลซี” หมายถึงผทู้ ่ีคลงั่ ไคล้ ในทีมเชลซีแลว้ มกั จะไม่พลาดทุกนดั ท่ีเชลซีลงเเข่งขนั จนตอ้ งอดหลบั อดนอนเพ่ือดูทีมท่ีตนเองรัก สะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ คนเรามกั จะมีความสุขเสมอเมื่อไดท้ าํ สิ่งที่ตนเองรัก
21 1.1.3 ล้อตัวละคร นกั ศึกษาในปัจจุบนั น้ี ใชส้ ่ือต่าง ๆ ไม่วา่ จะเป็นเพลง หรือละคร เป็นเครื่องมือท่ีช่วยใน การผอ่ นคลายความเครียด จากการอ่านหนงั สือ หรือการสะสางงาน ดงั คาํ คมต่อไปน้ี กูอ่านหนังสือข้ามคืน ยงั ไม่เหน่ือยเท่าตามลุ้นการตายการเกดิ ของกาสะลองกบั หมอสะอกี อดี อก (จากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษาวนั ที่ 29ก.ค2562) หมายถึง การอ่านหนงั สือเพ่ือคน้ หาส่ิงใดสิ่งหน่ึงน้นั อาจใชเ้ วลานานจนกินเวลาขา้ มคืนน้นั ยงั คงไม่เหน่ือยเท่าการที่ติดตามละครที่มีความลึกลบั ซบั ซอ้ นจนทาํ ใหเ้ ดาทางของละครไม่ถูก ทาํ ให้ ยากต่อการคาดเดาจนทาํ ใหเ้ กิดความเหน่ือยในการท่ีละครมีความพลิกแพลงอยตู่ ลอด จากขอ้ ความแสดงให้เห็นว่า นอกจากนักศึกษาอ่านหนังสือหนักแลว้ ยงั มีการผ่อนคลาย อารมณ์จากการดูละครอีกดว้ ย สะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ นกั ศึกษา มีหนา้ ท่ีที่ตอ้ งรับผิดชอบและความสนใจ ในเรื่องของความบนั เทิงที่มากพอๆกนั จึงทาํ ใหต้ อ้ งมีการแบ่งเวลาเพ่ือท่ีจะไม่ใหม้ ีผลกระทบต่อท้งั สองส่ิง 1.1.4 ล้อเพลงยอดนยิ ม โลกทศั น์ของคนไทยเกี่ยวกบั เพลง คนไทยน้นั ชอบความบนั เทิง สนุกสนาน และชอบสร้าง ความร่ืนเริงใหแ้ ก่ตนเองและผอู้ ่ืน สะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ นกั ศึกษาใชเ้ พลงในการระบายความเครียด เน่ืองจากเรียนหนกั งานคา้ งเป็นจาํ นวนมาก จึงจาํ เป็นตอ้ งหาส่ือหรือเพลงต่าง ๆ ที่สามารถสร้าง อารมณ์และผอ่ นคลายใหแ้ ก่ตนเองได้ ดงั คาํ คมต่อไปน้ี
22 เหมือนอาจารย์ทุกคนนัดการส่ังงาน เพ่ือไม่ให้กูหยุดสงกรานต์อ่ะ เกลยี ดแค้นเคืองโกรธ โทษฉันใย (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ท่ี05เม.ย2562) หมายถึง นกั ศึกษามีความคดิ วา่ อาจารย์ มีความแคน้ วเิ คราะห์โลกทศั น์ จากขอ้ ความมีการใชเ้ น้ือเพลงจาํ เลยรักเขา้ มาเพ่ือเพิม่ อารมณ์เศร้าเสียใจ สะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ นกั ศึกษาเป็นวยั ที่ฟังเพลงหลากหลายแนวมากกวา่ วยั อื่น และมกั มีความคิด สร้างสรรคจ์ ากการใชเ้ พลงเพอ่ื สื่อสารความรู้สึกของตนเอง 1.2 การเสียดสี คาํ ว่า “เสียดสี” หมายถึง อาการที่ว่ากระทบ กระเทียบเหน็บแหนม ราชบณั ฑิตยสถาน (2546) จากความหมายดงั กล่าว เห็นไดว้ า่ การเสียดสี หมายถึง การตาํ หนิอยา่ งไม่ตรงไปตรงมา การ ใช้ภาษาแบบเสี ยดสี จะแตกต่างจากภาษามาตรฐาน ดังที่ Gregory Fite Gerald (1971) กล่าวว่า : ลกั ษณะเด่นของการใชภ้ าษา ในเร่ืองเสียดสีคือการสร้างความไม่เหมาะสมใหป้ รากฏใน ภาษา ดงั น้นั การเสียดสีสามารถสะทอ้ นใหเ้ ห็นการใชภ้ าษา ซ่ึงจะแสดงใหเ้ ห็นถึงศิลปะการใชภ้ าษา แลว้ ยงั เป็นการแสดง ทศั นคติของผพู้ ดู ท่ีมีต่อเรื่องน้นั ๆ ไดอ้ ีกดว้ ย ดงั คาํ คมต่อไปน้ี ก่อนแซวว่าดาํ ช่วยดูแดดประเทศไทย ก่อนจะแซวว่าอ้วนช่วยดูของหวานประเทศ ไทย ก่อนจะแซวว่าได้เอช่วยดูสมองกหู น่อย (จากเพจตามติชีวติ นกั ศึกษา 28 เม.ย 2562) หมายถึง ก่อนท่ีกล่าวหาผอู้ ่ืนในเร่ืองที่กระทบต่อความรู้สึกของฝ่ ายตรงขา้ ม ควรคิด ไตร่ตรองและคาํ นึงใหด้ ีก่อนท่ีจะพดู
23 คาํ วา่ “แซว” หมายถึง การพดู ท่ีกระเซา้ ใหโ้ กรธหรืออาย จะเห็นไดว้ า่ ในคาํ คมมีการแซวอยู่ 3 ตาํ แหน่ง คือ สีผวิ ร่างกาย และสมอง ซ่ึงสะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ นกั ศึกษา สะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ จากขอ้ ความแสดงใหเ้ ห็นวา่ คนไทยมกั มองแค่รูปลกั ษณ์ภายนอกหรือ การโทษสรรพสิ่งต่าง ๆท่ีส่งผลทาํ ใหต้ นน้นั มีรูปลกั ษณ์ที่ไม่สวยงามเช่น แดด,ของหวานและสมอง สะทอ้ นใหค้ ดิ วา่ คนไทยมีโลกทศั น์ต่อคนสวยวา่ ตอ้ งขาว ผอม และฉลาด 1.3 อารมณ์และความรู้สึก อารมณ์และความรู้สึก คือ ภาวะความรู้สึกทางใจท่ีเปลี่ยนแปลงไปตามส่ิงกระตุน้ ท้งั จาก ภายในและภายนอกของบุคคล ซ่ึงสามารถเปล่ียนแปลงไดต้ ลอดเวลาตามสถานการณ์น้นั ๆ เม่ือมี ส่ิงเร้าจากภายนอกมากระทบกท็ าํ ใหแ้ สดงปฏิกิริยาออกมาต่าง ๆกนั จากการศึกษาเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษา พบวา่ เน้ือหาท่ีโพสตส์ เกี่ยวกบั อารมณ์และความรู้สึก ดงั ต่อไปน้ี 1.3.1 ความเกยี จคร้าน ความเกียจคร้าน คือ กิริยาอาการหรืออุปนิสยั จิตใจของมนุษยท์ ี่ไม่อยากจะทาํ งาน หรือ ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีตามที่ไดร้ ับการมอบหมายท่ีตนจะตอ้ งทาํ เช่นเกียจคร้านตอ่ การเรียน อ่านหนงั สือ ไม่ สะสางงานท่ีอาจารยส์ ง่ั เป็นตน้ ดงั คาํ คมต่อไปน้ี เรียนกไ็ ม่เข้า งานกไ็ ม่ส่ง แล้วคาดหวงั ว่าอาจารย์จะให้เกรดเอหราคะ (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ท่ี 19 เม.ย 2562) หมายถึง เกียจคร้านและไม่มี มุมานะและความพยายาม แต่หวงั ผลมากเกินไป
24 คาํ วา่ “ คาดหวงั ” หมายถึง ต้งั ความหวงั ไว,้ คิดไวว้ า่ จะเป็นดงั หวงั (พจนานุกรมฉบบั ราช บณั ฑิต2542) คาํ คมดงั กล่าวสะทอ้ นใหเ้ ห็นนกั ศึกษามีความคาดหวงั วา่ จะไดเ้ กรดที่ดี แต่ไมม่ ีความมุ มานะและไม่มีความพยายาม และไม่มีความกระตือรือร้นต่องาน แต่มีความหวงั อยากไดเ้ กรดท่ีดีซ่ึง ความหวงั จะสาํ เร็จไดน้ ้นั ข้ึนอยกู่ บั ความพยายามของแต่ละบุคคล ชอบเป็ นโรคลงั เลตอนกลางคืนจะทาํ งาน อ่านหนังสือทไี ร ลงั เลไปมาจะทํางาน ไหม จะอ่านไหม สุดท้ายกเ็ ข้าข้างตัวเอง นอนดกี ว่าดกึ แล้ว เสียสุขภาพ พรุ่งนีก้ ล็ งั เลอกี (จากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษาวนั ท่ี 01พ.ย 2562) หมายถึงอาการลงั เลเป็นอาการของคนที่ข้ีเกียจเมื่อตอ้ งอา่ นหนงั สือกจ็ ะมีความลงั เลอยู่ ภายในตวั วา่ จะอา่ นหนงั สือหรือจะนอนแต่สุดทา้ ยกเ็ ขา้ ขา้ งตวั เองอยดู่ ี คาํ วา่ “ลงั เล” คือไม่แน่ใจ ตดั สินใจไมไ่ ด้ เช่น ลงั เลวา่ จะทาํ การบา้ นหรือจะนอน จากคาํ คมสะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ นกั ศึกษาส่วนใหญ่เกือบ 100% มกั จะคิดอะไรในเขา้ ขา้ งตวั เอง อยเู่ สมอซ่ึงคนท่ีมีพฤติกรรมเหล่าน้ี สะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ เป็นคนท่ีท่ีมีความเกียจคร้าน อ่านเยอะลืมเยอะ สู้ไม่อ่านเลยจะได้ไม่ลืม 555 (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ท่ี13 พ.ค 2562) หมายถึงเกียจคร้านเหมือนจะพยายามแต่พยายามไม่ถึงที่สุด คาํ วา่ “สู้ไม่อ่านเลยจะไดไ้ ม่ลืม” คือไม่มีความพยายามและไม่ใหค้ วามสาํ คญั กบั การเรียน
25 จากคาํ คมสะทอ้ นให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ยงั ไม่ลงมือทาํ แต่คิดไปไกลแลว้ ซ่ึงเกิดจาก ความข้ีเกียจ ใครท่ีเครียดเพราะกลวั อ่านหนังสือไม่ทนั แต่ตอนนีก้ ย็ งั ไม่อ่านอยู่ดี บอกกมู า กหู า พวกอยู่ (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ที่04 พ.ย2562) หมายถึง คนท่ีไม่มีความพยายามที่จะอ่านหนงั สือ จึงทาํ ใหอ้ ่านหนงั สือไม่ทนั แต่กย็ งั ไม่ คิดที่จะริเริ่มและลงมือทาํ คาํ วา่ “พรรคพวก” หมายถึง หมู่,เหล่า,กลุ่มคน,กองคนหรือสตั ว์ (พจนานุกรมราชบณั ฑิต2542) สะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ นกั ศึกษาเกียจคร้านต่อการอา่ นหนงั สือ ไม่ใช่วา่ เขาอา่ นหนงั สือไม่ทนั แต่เป็นเพราะเขาเกียจคร้านต่อการอ่านหนงั สือ ท้งั น้ีมีการถกั ไถเ่ พอื่ นท่ีอา่ นหนงั สือไม่ทนั เพ่อื ตอ้ งการพรรคพวก ใช้เวลา 2 ชั่วโมงเลือกสีลปิ แต่ใช้เวลา10วิ อ่านหนังสือ 555 (เพจตามติดชีวิตนกั ศึกษาวนั ท่ี03 มิ.ย2562) หมายถึง การใชเ้ วลาวา่ งในการเลือกสีลิป ใชเ้ วลานานแคไ่ หนกไ็ ม่เบ่ือ แต่พอมาอ่าน หนงั สือกบั กลายวา่ ใชเ้ วลาเพยี งนิดเดียว คาํ วา่ “ใชเ้ วลา” การใชเ้ วลาของแต่ละคนมนั ต่างกนั เพราะวา่ คนส่วนใหญใ่ ชเ้ วลาอยกู่ บั ส่ิง ท่ีตนเองชอบ ถึงนานแคไ่ หนกท็ าํ ได้ แต่กบั ส่ิงที่ตวั เองไม่ชอบต่อใหใ้ ชเ้ วลาแค่เพยี งนิดเดียวกท็ าํ ไม่ได้ โลกทศั น์จากคาํ คมสะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ ผหู้ ญิงเป็นเพศท่ีรักสวยรักงาม การเลือกสีลิปจึงเป็น สิ่งจาํ เป็นอยา่ งมา แต่เมื่อถึงเวลาอ่านหนงั สืออา่ นแคพ่ กั เดียว ซ่ึงสะทอ้ นไดว้ า่ ผหู้ ญิงใหค้ วามสาํ คญั กบั ความสวยความงามยง่ิ กวา่ การอ่านหนงั สือ
26 วบู เดยี วทีก่ ูคดิ จะอ่านหนังสือสอบ คือวูบเดยี วที่กูทงิ้ ตวั ลงนอน และมนั กว็ บู เดยี วจริง ๆ แหละ 555 (เพจตามติดชีวิตนกั ศึกษาวนั ท่ี26เม.ย2562) หมายถึง ความรู้สึกที่อยากจะอ่านหนงั สือเพยี งแค่คร้ังเดียว แต่เป็นช่วงเวลาเดียวกนั ที่ ตนเองกาํ ลงั จะทิ้งตวั ลงท่ีนอน คาํ วา่ “วบู เดียว” คอื กิริยาท่าทาง ท่ีเป็นไปอยา่ งรวดเร็วในทนั ทีท่านใดเพยี งคร้ังเดียว (พจนานุกรมราชบณั ฑิต2542) คาํ คมสามารถสะทอ้ นใหเ้ ห็นโลกทศั น์ไดว้ า่ วบู เดียวการอ่านหนงั สือและวบู เดียวท่ีทิ้งตวั ลงนอน คือเวลาช่วงครู่ท่ีจะอา่ นหนงั สือ และเป็นเวลาที่ทิ้งตวั ลงนอน ซ่ึงสะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ นกั ศึกษา ส่วนใหญ่ไม่ชอบการอ่านหนงั สือและมีความเกียจคร้านต่อการอ่านหนงั สือ แต่ชอบท่ีจะนอนผกั ผอ่ นมากกวา่ ทําตวั น่ิงๆไม่ยอมอ่านหนังสือ เหมือนชีวติ กาํ ลงั โลดแล่นเป็ นเจ้าหญงิ ดสิ นยี ์แลนด์ อดี อก (เพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ท่ี06พ.ย2562) หมายถึง นกั ศึกษาที่อยใู่ นช่วงสอบแต่ไม่อ่านหนงั สือและปล่อยใหเ้ วลาล่วงเลยไปน้นั เกิดจากความข้ีเกียจของตนเอง จากขอ้ ความมีการเปรียบเทียบถึงเจา้ หญิงดิสนียแ์ ลนดก์ บั ตวั ผโู้ พสตซ์ ่ึง หมายความวา่ ใน ความคิดของผโู้ พสตน์ ้นั มองวา่ เจา้ หญิงดิสนียแ์ ลนดม์ ีความเป็นอยทู่ ่ีสุขสบาย ต่างจากนกั ศึกษา มหาวิทยาลยั ท่ีใชช้ ีวติ ลาํ บาก และมีภาระหนา้ ที่ ท่ีตอ้ งทาํ และมีการใชค้ าํ หยาบ ท่ีแสดงออกถึง อารมณ์ของตวั ผโู้ พสต์ อาจเกิดจากความไม่ไดด้ ง่ั ใจ กล่าวคือ ผโู้ พสตม์ ีเวลาอา่ นหนงั สือ แต่เลือกท่ี จะไม่อา่ น สะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงลกั ษณะนิสยั ของนกั ศึกษาวา่ ไม่ชอบอา่ นหนงั สือ เมื่อมีเวลาวา่ งก็ มกั จะทาํ ส่ิงที่ไม่มีประโยชนต์ ่อการเรียน และมกั จะนิยมอ่านหนงั สือในช่วงท่ีใกลส้ อบมาก ๆ
27 จะไฟนอลแล้วไง กูเป็ นคนใจเยน็ (เพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ที่11มี.ค2562) หมายถึง การสอบไฟนอลถือเป็นการสอบท่ีนกั ศึกษาส่วนใหญ่ใหค้ วามสาํ คญั และเตรียม ตวั ในการอา่ นหนงั สือแตย่ งั มีนกั ศึกษาบางคนท่ียงั น่ิงเฉยต่อการเตรียมตวั ไฟนอล (Final) หมายถึง สุดทา้ ย ซ่ึงการสอบไฟนอลในมหาวทิ ยาลยั จะเขา้ ใจตรงกนั วา่ คือ การสอบวดั ระดบั ความรู้ในช่วงปลายภาค ส่วนคาํ วา่ “ใจเยน็ ” หมายถึง มีใจหนกั แน่นไม่โมโห ฉุนเฉียวง่าย,ไม่เร่งรีบ,ไม่ใจร้อน แสดงใหเ้ ห็นโลกทศั น์ไดว้ า่ การสอบไฟนอลเป็นการสอบท่ีนกั ศึกษาไม่อาจจะละเลยได้ และมกั เป็นช่วงท่ีนกั ศึกษาจะเครียดมากกวา่ ช่วงอื่น สะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ การสอบไฟนอล เป็นเร่ือง ใหญส่ าํ หรับนกั ศึกษาจึงตอ้ งมีความเตรียมตวั และใส่ใจในการสอบมากข้ึน นับวนั ไฟนอล เข้ามาใกล้ทุกที แต่ต้องขอโทษที พใ่ี จเยน็ 555 (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ท่ี31 มี.ค2562) หมายถึง ใกลถ้ ึงระยะเวลาท่ีใกลเ้ ขา้ มาในการสอบแต่นกั ศึกษายงั ไม่ไดก้ ระตือรือร้นเพราะ นกั ศึกษาไม่ใส่ใจหรือมีความละเลยในการอ่านหนงั สือสอบไม่ไดจ้ ริงจงั ท่ีจะทาํ คะแนนสอบออกมา ใหด้ ี หรือระยะเวลาในการสอบใกลเ้ ขา้ มาอาจจะอา่ นก่อนวนั สอบ ซ่ึงนกั ศึกษามกั ชอบพดู วา่ “อจั ฉริยะขา้ มคืน” คาํ พ่ีใจเยน็ คาํ วา่ “ใจเยน็ ” เป็นคาํ ท่ีไม่ไดใ้ ส่ใจกบั ส่ิงรอบขา้ งท้งั ๆที่คนอื่นกาํ ลงั จะจริงจงั กบั สิ่งที่กาํ ลงั จะมาถึงเป็ นการเตรี ยมความพร้อม สะทอ้ นโลกทศั น์วา่ นกั ศึกษาส่วนใหญจ่ ะไม่ชอบอา่ นหนงั สือสอบ ท้งั ท่ีใกลจ้ ะถึงวนั ที่จะ สอบแลว้ แต่ยงั ไม่ใส่ใจในการสอบหรืออีกอยา่ งนกั ศึกษาอาจจะทาํ ส่ิงอื่น ๆก่อนที่ตนคิดวา่ สาํ คญั
28 กวา่ ซ่ึงนกั ศึกษาคิดวา่ การสอบไฟนอลน้นั ยงั มาถึงจึงไม่ไดเ้ ร่งในการอา่ นหนงั สือ แต่อาจต่างจาก นกั ศึกษาอ่ืน ๆที่เตรียมตวั อ่านหนงั สือสอบแลว้ เป็ นคนย้อนแย้งค่ะ อยากสอบผ่านอ่า คืนสุดท้ายอยากเคลยี ร์งานกองไว้รวมกนั อยากผอม วง่ิ หาของกนิ อยากฉลาดนอนโง่ๆบนเตียง (เพจตามติดชีวิตนักศึกษาวนั ที่21ส.ค2562) หมายถึง นกั ศึกษาส่วนใหญ่มีพฤติกรรมเช่นน้ีบ่อย ๆ เพราะมีความต้งั ใจอยากทาํ ส่ิงหน่ึง แต่มีปัจจยั อยา่ งหน่ึง คือ ความข้ีเกียจ ทาํ ใหป้ รับพฤติกรรมของตนเองไม่ได้ จึงมีความขดั แยง้ กนั ดงั ขอ้ ความขา้ งตน้ คาํ วา่ “ความยอ้ นแยง้ ” คือสภาวะสับสนทางอารมณ์ท่ีอยากทาํ แต่ยงั ไม่ลงมือทาํ ไดเ้ พียงแค่ คิด กลุ่มที่มกั ชอบทาํ พฤติกรรมแบบน้ี เช่น กลุ่มนกั ศึกษาซ่ึงนกั ศึกษาอยากทาํ กิจกรรมที่ตนเองชอบ และต้งั ใจไวว้ า่ อยากทาํ แต่ไม่สามารถทาํ ไดเ้ น่ืองจากแบ่งเวลาไม่เพยี งพอ สะทอ้ นให้เห็นว่า พฤติกรรมของนักศึกษาท่ีมีความคิดและต้งั ใจท่ีจะทาํ ส่ิงน้ันแต่กลบั ไม่ไดท้ าํ เพราะเกิดความข้ีเกียจ เน่ืองดว้ ยการทาํ กิจวตั รประจาํ วนั ของตนที่มากมายอย่แู ลว้ ท้งั ดา้ น การเรียนการทาํ กิจกรรมในมหาลยั จึงเกิดความรู้สึกไม่อยากทาํ สิ่งๆน้นั 1.3.2 ความทุ่มเท-ท้อถอย ความทุ่มเท หมายถึง ยอมเสียสละใหอ้ ยา่ งลน้ เหลือหรือเต็มกาํ ลงั ความสามารถ เช่น ทุ่มเท ในการทาํ งาน ทุ่มเทกาํ ลังความคิด ทุ่มเทในการเรียน เป็ นต้น สะท้อนให้เห็นว่านักศึกษาใน มหาวิทยาลยั ใหค้ วามสาํ คญั และมีความทุ่มเทต่อการเรียน แต่ในบางเวลานกั ศึกษาเกิดความทอ้ ถอย ในการเรียน ปัจจยั เหลา่ น้ีมีอิทธิพลเป็นอยา่ งมาก เช่น งานคา้ ง ติดเอฟ ดงั คาํ คมต่อไปน้ี
29 มอี ยู่จริงนะ ทาํ งานทุ่มเททุกอย่างแต่ได้แค่ D นับต้งั แต่วนั น้ัน ชีวติ กกู ไ็ ม่เคยซีเรียสกบั เกรด เลย ยงั ไงกไ็ ด้ ปลง 555 (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ที่19 ก.พ 2562) หมายถึง ในช่วงท่ีขยนั และพยายามกจ็ ะทาํ ทุกอยา่ ง และทาํ ใหด้ ีที่สุดเท่าที่จะทาํ ได้ จนคิดวา่ ตนเองจะได้เกรด A แต่สุดทา้ ยก็ได้แค่เกรด D นับต้งั แต่จากน้ัน นักศึกษาหมดกาํ ลงั ใจในการ พยายามและไม่คิดท่ีจะขยนั หมน่ั เพียรอีกต่อไป คาํ วา่ “ซีเรียส” หมายถึง เครียด หรืออาจจะสื่อไดว้ า่ \"เอาจริงไม่ลอ้ เลน่ นะ\" หรือออกเชิง \"สาหสั สากรรจ\"์ หมายถึง ปล่อยวาง,ปลอ่ ย จากคําคมสะท้อนให้เห็นโลกทัศน์ของนักเรี ยนต่อเกรด A ว่าเป็ นสิ่งท่ียากแก่การ ครอบครองกวา่ จะได้ A มาจะตอ้ งแลกมาดว้ ยความยากลาํ บากจาก คาํ วา่ \"ไม่ซีเรียสกบั เกรดเลยยงั ไง กไ็ ด\"้ แสดงใหเ้ ห็นวา่ นกั ศึกษาไม่เครียดกบั เกรดท่ีกาํ ลงั จะไดม้ าเลย ส่วนคาํ วา่ \"ปลง\" เนื่องจากความ พยายามมาเยอะแลว้ เลยทาํ ใหน้ กั ศึกษาปล่อยวางไม่คิดท่ีจะพยายามอีกต่อไป เกรด ค่าเทอม และกู ดูสิใครมันจะออกก่อนกนั 555 (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ท่ี26 พ.ค2562) หมายถึง ถา้ เกรดนอ้ ยทาํ ใหเ้ กิดความคิดท่ีหมดหวงั จะสูต้ ่อไป และทาํ ใหเ้ กิดความคดิ ท่ีไม่ อยากจะเรียน ซ่ึงเหมือนกบั ค่าเทอมถา้ ไม่มีเงินจ่ายกไ็ มม่ ีสิทธ์ิสอบทาํ ใหผ้ คู้ นที่ไม่มีเงินรู้สึกทอ้ ไม่ อยากเรียน คาํ วา่ “ก”ู เป็นคาํ หยาบและไม่สุภาพ แสดงโลกทศั น์ของนกั ศึกษาไดว้ า่ นกั ศึกษาหมดหวงั จากการ รอเกรด และหมดหนทางใน การหาเงินจ่ายค่าเทอม จึงเกิดคาํ ถามในใจวา่ ระหวา่ งสองอยา่ งน้ีกบั ตวั นกั ศึกษาอะไรจะออกก่อนกนั
30 1.3.3 ความพยายาม นกั ศึกษามีทศั นะวา่ หากต้งั ใจลงมือทาํ อยา่ งต่อเน่ือง ความพยายามอยทู่ ี่ไหน ความสาํ เร็จ ยอ่ มอยทู่ ี่นน่ั แลว้ สกั วนั จะตอ้ งประสบความสาํ เร็จในส่ิงท่ีกาํ ลงั ทาํ อยา่ งแน่นอน ตามท่ีต้งั เป้าหมาย ไว้ ดงั คาํ คมต่อไปน้ี คือมหาลยั โตแล้ว เราเดนิ ไม่ได้แล้วเว้ย ทาํ อะไรต้องวง่ิ หาของกนิ วงิ่ หาผู้ชาย วง่ิ หนีเอฟ (จากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษาวนั ท่ี20 ก.ย 2562) หมายถึง มหาลยั แลว้ ไม่เหมือนตอนอยมู่ ธั ยมแลว้ จะทาํ อะไรตอ้ งทาํ ใหไ้ ว ตอ้ งมีควา พยายามและต้งั ใจ และตอ้ งมีความกระตือรือร้นในทุกเร่ือง ๆ เหมือนกบั ช่วงท่ีหาของกินหรือช่วง ตามเร่ืองผชู้ าย คาํ วา่ “เอฟ” หมายถึงการติด 0 ถา้ ติดกต็ อ้ งลงทะเบียนเรียนใหม่ จากคาํ คมสะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ การศึกษาในมหาวทิ ยาลยั จะตอ้ งมีความพยายามมากกวา่ เดิม จากประโยคที่วา่ \"ทาํ อะไรตอ้ งวง่ิ ว่งิ หาผชู้ าย\" แสดงใหเ้ ห็นวา่ นกั ศึกษาหญิงมีความกระตือรือร้นใน เรื่องของผชู้ ายมากกวา่ เรื่องเรียน เลยเอาการเรียนมาเปรียบเทียบทาํ ใหเ้ กิดการเห็นภาพไดอ้ ยา่ ง ชดั เจน แค่กตู ้งั ใจอ่านหนังสือแบบจริงจงั ได้สัก 1 นาที กน็ ับว่าประสบความสําเร็จอย่าง ยง่ิ ใหญ่แล้ว (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ท่ี12พ.ค2562) หมายถึง นกั ศึกษามีความต้งั ใจอ่านหนงั สือ โดยเกิดจากความต้งั ใจ ถึงจะมีเวลามากนอ้ ย เพียงใด แต่กม็ ีความอดทนกบั การอา่ นหนงั สือ และมีการต้งั เป้าหมายและต้งั ใจกบั ส่ิงที่ตนหวงั ไวท้ าํ ใหต้ นเองไดผ้ ลประโยชนใ์ นการอ่านหนงั สือ คือการประสบความสาํ เร็จที่ยง่ิ ใหญ่
31 แสดงใหเ้ ห็นวา่ นกั ศึกษามีความต้งั ใจอ่านหนงั สือ มีความอดทนในการอา่ นหนงั สือ ถึงแม้ จะเป็นเพียงเวลาที่นอ้ ย และส่วนมากไม่ใหค้ วามสาํ คญั ต่อการอา่ นหนงั สือ เพราะการอา่ นหนงั สือ เป็นส่ิงจาํ เป็นต่อการศึกษา การอา่ นหนงั สือคือการทบทวนบทเรียนใหเ้ กิดความเขา้ ใจต่อบทเรียน แต่การท่ีนกั ศึกษาสะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ การท่ีอา่ นหนงั สือแลว้ ถึงแมจ้ ะนอ้ ยสกั กี่นาทีกเ็ ป็นความสาํ เร็จ ของตนแลว้ เพราะตนต้งั เป้าหมายไวม้ ากนอ้ ยกข็ ้ึนอยกู่ บั ตนวา่ ผลที่ไดร้ ับน้นั จะมากนอ้ ย เกิดข้ึนอยู่ กบั การกระทาํ ของตนเอง คาํ วา่ “อ่านหนงั สือ 1 นาที นาํ พาไปสู่ความความสาํ เร็จ การท่ีต้งั เป้าหมายไวแ้ ค่ 1 นาที กบั การอ่านหนงั สือ เป็นเพยี งระยะเวลาท่ีส้นั และไม่สามารถอ่านหนงั สือไดเ้ พยี ง 1 นาที เพราะการอา่ น หนงั สือจาํ เป็นตอ้ งใชร้ ะยะเวลานานเพื่อทาํ ความเขา้ ใจ และการประสบความสาํ เร็จน้นั เป็นการท่ีเรา กระทาํ ส่ิงใดแลว้ ประสบความสาํ เร็จตามความเป้าหมายไวค้ วามพงึ พอใจกบั ตนเอง 1.3.4 ไตร่ตรองให้ถถี่ ้วนก่อนกระทํา การไตร่ตรอง คือการคิดทบทวน ใคร่ครวญ และคิดพิจารณาก่อนท่ีจะกระทาํ ส่ิงใดส่ิงหน่ึง เพื่อไม่ใหเ้ กิดผลเสียต่อตนเอง เช่น การคิดก่อนพดู การไตร่ตรองความประพฤติของตนเอง เพ่ือ ไม่ใหผ้ อู้ ่ืนนาํ ไปตดั สินในทางที่ไม่ถูกไม่ควร ดงั คาํ คมตอ่ ไปน้ี พอมีงานกลุ่ม แล้วมีคนพดู ว่ามีอะไรให้ช่วยบอกนะ แล้วกห็ ายตัวไป คือ เอาจริง ๆ คุณต้อง ช่วย จะช่วยกนั ทาํ ไมต้องรอให้บอกป่ ะ เอ้อ (จากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษาวนั ที่26 ก.พ 2562) หมายถึงการทาํ งานกลุ่มน้นั มกั จะมีคนในกลุม่ ท่ีออกตวั วา่ จะช่วยเสมอ แต่กม็ กั จะตามตวั ยากกวา่ คนอ่ืน ๆ จึงทาํ ใหท้ ุกคนภายในกลุ่มเอือมระอากบั พฤติกรรม การช่วยเหลืองานกนั ภายใน กลุม่ ไม่จาํ เป็นตอ้ งรอใหบ้ อก แต่เป็นส่ิงที่ควรรู้และใส่ใจกบั มนั โลกทศั น์ สะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ นกั ศึกษามีนิสยั ท่ีพดู ก่อนคิด พดู แลว้ ไม่ไตร่ตรองใหด้ ีเสียก่อน จึงทาํ ใหเ้ กิดผลเสียต่อตนเอง
32 คาํ วา่ “เออ้ ” เป็นคาํ ท่ีแสดงใหเ้ ห็นถึงอารมณ์หวั เสียท่ีมีต่อส่ิงท่ีมายว่ั ยุ จึงทาํ ใหผ้ พู้ ดู กลา่ ว ออกมาดว้ ยน้าํ เสียงท่ีแขง็ และแสดงออกทางสีหนา้ 2. คาํ คมและข้อความเกย่ี วกบั ช่วงหลงั สอบ ช่วงหลงั สอบ คือช่วงท่ีนกั ศึกษาหมดภาระเกี่ยวกบั งานในร้ัวมหาลยั และปิ ดเทอม บา้ งก็ เตรียมตวั กลบั บา้ น บา้ งกฉ็ ลองหลงั จากที่สอบเสร็จ และบา้ งกก็ าํ ลงั กงั วลเกี่ยวกบั ผลการเรียนของ ตนเอง จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษา พบคาํ คมและขอ้ ความท่ีเก่ียวกบั ช่วงหลงั สอบ จาํ นวน คาํ คม ซ่ึงเน้ือหาท่ีโพสตโ์ ดยส่วนใหญ่เป็นลกั ษณะของขอ้ ความในเชิงตดั พอ้ ผลการเรียน การติดF และจาก การศึกษาคาํ คมและขอ้ ความท่ีอยใู่ นช่วงหลงั สอบ พบวา่ สามารถแยกแยะประเดน็ เป็นหมวดหมู่และ กลวิธี ดงั ต่อไปน้ี 2.1 เร่ืองล้อเลยี น คือ การลอ้ เลียนส่ิงท่ีเกิดข้ึนหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ซ่ึงในคาํ คมและขอ้ ความจากเพจตามติด ชีวิตนกั ศึกษา พบวา่ ส่วนใหญค่ าํ คมและขอ้ ความช่วงหลงั สอบจะกล่าวถึงคาํ คมที่พดู ถึงเชิงตดั พอ้ เร่ืองเกรด การติด F เป็นตน้ ดงั คาํ คมต่อไปนี 2.1.1ล้อเพลงยอดนิยม ในช่วงหลงั สอบ คือช่วงที่นกั ศึกษาปลอ่ ยวาง นกั ศึกษาจึงตอ้ งการผอ่ นคลายความเครียดของ ตนเอง โดยการฟังเพลงต่าง ๆ เพือ่ ระบายความตึงเครียด ที่สามารถสร้างอารมณ์และผอ่ นคลาย ใหแ้ ก่ตนเองได้ จากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษาพบวา่ มีการนาํ มาเพลงต่าง ๆมาใชเ้ ป็นเคร่ืองมือท่ีช่วย ในการสร้างอารมณ์ ดงั คาํ คมต่อไปน้ี
33 วชิ าตวั เบาของบอดแี้ สลม วชิ าเกรดเอเบาอ่ะ สาขากู 555 (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ที่19 ก.พ 2562) หมายถึงเป็นวชิ าท่ีคิดวา่ จะไดเ้ อสุดทา้ ยกไ็ ม่ไดอ้ าจจะเป็นเพราะวิชาที่ยากจึงมีจาํ นวน นกั ศึกษาไม่ก่ีคนในสาขาที่จะไดเ้ กรดเอ จากคาํ คมสะทอ้ นใหเ้ ห็นโลกทศั นข์ องนกั ศึกษาไดว้ า่ วิชาสาขาเป็นวิชาที่ยากถา้ หากไม่ ต้งั ใจเรียนกอ็ าจจะติดเอฟได้ แลว้ ยง่ิ เรียนช้นั สูงข้ึนกย็ ง่ิ ยากดงั น้นั ถา้ หากนกั ศึกษาตอ้ งการเกรดเอ นกั ศึกษาจะตอ้ งขยนั และมีความพยายามเป็นอยา่ งมาก เกรดเทอมนีห้ วงั ไว้แค่ C จริง ๆ c you again (จากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษาวนั ที่03 ก.พ2562) หมายถึง การต้งั เป้าไวว้ า่ ตอ้ งการแค่ เกรด C ที่หวงั แค่ ฉ อาจเป็นเพราะตวั นกั ศึกษาอาจจะ เป็นคนเรียนไม่เก่งจึงไมไ่ ดต้ ้งั เป้าหมาย แต่ถา้ ติดเอฟคงตอ้ งเลิกเรียนและตอ้ งเริ่มเรียนใหม่ จากคาํ คมสะทอ้ นใหเ้ ห็นโลกทศั นข์ องนกั ศึกษาวา่ มีการต้งั เป้าหมายวา่ ตอ้ งการเกรดอะไร ไม่วา่ จะแคc่ กถ็ ือวา่ ประสบความสาํ เร็จแต่ถา้ ไดน้ อ้ ยกวา่ น้ีตวั นกั ศึกษาเองตอ้ งคิดทบทวน และ พยายามใหม้ ากข้ึนกวา่ เดิมเพราะถา้ นกั ศึกษาไดต้ ่าํ กวา่ เกรด C คงตอ้ งลาออก
34 หัวใจนีอ้ ยากรู้ อยากรู้ งานเอย งานเอย งานหนักม้ยั ฉันคนนี้ อยากรู้ อยากรู้ เกรดเออยู่ หนใด แล้วเออยู่หนใด (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ที่ 6 ก.ค. 2562) หมายถึง นกั ศึกษาอยากรู้วา่ การท่ีจะไดเ้ กรดเอ ตอ้ งทาํ งานหนกั แค่ไหน จากคาํ คมสะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ ผโู้ พสตม์ ีการใชเ้ พลงเขา้ มาเพอ่ื ใหส้ ถานการณ์ดูไม่ตึงเครียดซ่ึง จะเห็นไดจ้ ากผโู้ พสตว์ า่ ผโู้ พสตเ์ ป็นคนท่ีมีความคิดสร้างสรรคช์ อบความบนั เทิงและตอ้ งการใหผ้ ทู้ ี่ เขา้ มาอ่านน้นั ไดท้ ้งั ขอ้ คิด เเละความบนั เทิง ไม่มีใครรู้ว่าเกรดเทอมนีจ้ ะเป็ นเช่นไร ไม่มีใครรู้ว่าเทอมนีจ้ ะปลงเม่ือใด (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ที่ 02พ.ย2562) หมายถึง คนส่วนใหญ่จะไมท่ ราบวา่ ผลการเรียนของตนเองจะเป็นอยา่ งไรจะทราบไดก้ ็ ต่อเม่ือผลการเรียนออกมาแลว้ ทุกคนกย็ งั ไม่ทราบอีกวา่ การเรียนของเราในเทอมน้ีเมื่อไหร่จะสบาย สกั ที คาํ วา่ “ปลง” หมายถึง การปลอ่ ยวา่ งจากการเรียนหรือจากงานต่าง ๆของการเรียนหลงั จาก ไดร้ ับรู้ผลคะแนน โลกทศั นจ์ ากคาํ คมสะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ นกั ศึกษาทุกคนกม็ ีความเครียดเพราะไม่มีใครรู้ไดเ้ ลย วา่ ตนเองมีคะแนนอยใู่ นระดบั ที่ดีหรือไม่ดีอีกท้งั ทุกคนกไ็ ม่มีใครทราบวา่ การเรียนหรือเรื่องในและ ในเร่ืองของทกุ เธอเม่ือไหร่จะสบายหรือปลดปล่อยสกั ที เมาทุกคลาส เจ็บปวดทุกเทอม อยู่ดี ๆ กเ็ อฟโผล่มาจนได้ ยงิ่ เรียนยง่ิ เขลา ยง่ิ ฟังยง่ิ เศร้า คดิ ถงึ ตงั ท่เี ราเสียมนั ไป
35 (จากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษาวนั ที่ 22 ต.ค 2562) คาํ วา่ “เมา” หมายถึง อาการท่ีมึนจนลืมตวั ขาดสติเพราะฤทธ์ิเหลา้ ฤทธ์ิยาเป็นตน้ จะเห็นไดว้ ่ามีการแปลงเน้ือร้องมาจาก “เพลงเมาทุกขวดเจ็บปวดทุกเพลง” ซ่ึงเพลงน้ีมี เน้ือหาท่ีเศร้าจึงมีการแปลงเน้ือร้องใหเ้ ขา้ กบั สถานการณ์ในหอ้ งเรียน กล่าวถึงการเรียนท่ีไม่ค่อยดี นกั จึงทาํ ให้ติดFนอกจากน้ีผูโ้ พสตใ์ ชเ้ สียงแทรกอารมณ์ขบขนั และมีการแปลงเน้ือร้องให้เขา้ กบั ทาํ นองของเพลง เมื่อผอู้ ่านอ่านจึงทาํ ใหเ้ กิดความตลกและสามารถสร้างความบนั เทิงได้ สะทอ้ นโลกทศั น์จากคาํ คมไดว้ า่ นกั ศึกษาไม่มีความกระตือรือร้นในการเรียน แสดงใหเ้ ห็น ว่านักศึกษาที่ติดเอฟ เป็ นคนที่ไม่ต้งั ใจเรียนและไม่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เม่ือไดร้ ับผลการ เรียนที่ไม่ไดเ้ ป็ นไปตามที่คาดหวงั ก็เกิดความรู้สึกเสียใจ แต่ก็กลบั ไม่คิดท่ีจะพฒั นาตนเองใหด้ ีข้ึน และเม่ือนึกถึงค่าใชจ้ ่ายท่ีเสียไปในช่วงการเรียน แสดงให้เห็นวา่ นกั ศึกษาในช่วงมหาวิทยาลยั เป็น ช่วงที่ใชเ้ งินเป็นจาํ นวนมาก อาจารย์อาจลืมไปแล้ว ว่าฉันกเ็ ป็ นสิ่งมชี ีวติ ทคี่ ดิ ได้และเจบ็ เป็ น นะเออ อาจารย์ให้ D อกี แล้ว เพราะหนูไม่มสี มองและหัวใจ เกรดเสียงไทร์แล้วนะเออ ถ้าอาจารย์ยงั แคร์ กอ็ ยากให้ทบทวนว่า หนูจะเป็ นอย่างไร (จากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษาวนั ที่ 27 พ.ค 2562) หมายถึง การเรียกร้องความเห็นใจจากอาจารยซ์ ่ึงเหตุผลที่อาจารยใ์ หเ้ กรดDอาจเป็นเพราะ งานท่ีนกั ศึกษาทาํ น้นั ยงั ออกมาไม่ดีนกั เกรดท่ีไดจ้ ึงเป็นไปตามผลงานและความต้งั ใจของนกั ศึกษา เอง คาํ ว่า “ไม่มีสมอง” หมายถึง ความโง่เขลา ไม่มีความคิดและสติปัญญา กล่าวคือการที่ นกั ศึกษาไม่มีความรู้น้นั อาจจะนาํ ไปสู่การโดนไทร์ นอกจากน้ีคาํ ว่า “ไทร์” หมายถึง เกรดเฉล่ียไม่ ถึงตามที่มหาลยั กาํ หนด
36 โลกทศั น์ แสดงใหเ้ ห็นวา่ นกั ศึกษามีการใชเ้ พลงเขา้ มาเพ่ือเป็นการทาํ ใหส้ ถานการณ์ดูไม่ตึง เครียดจนเกินไป สะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ นกั ศึกษาเป็นวยั ท่ีมีความคิดสร้างสรรคใ์ นดา้ นความบนั เทิง เกรดเอทร่ี ัก คกึ คกั ครุคริ ไม่เคยได้เลยออิ ิ คคิ ิ คุกคกั (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ที่25ก.ย2562) หมายถึง การร้องเพลงเชียร์ในสิ่งที่ตนเองหวงั เพ่ือเป็นการสร้างกาํ ลงั ใจให้กบั ตนเอง แต่ก็ ยงั ไม่เป็นผลสาํ เร็จ จากขอ้ ความแสดงใหเ้ ห็นโลกทศั น์วา่ คนไทยชอบใหก้ าํ ลงั ใจแก่ตนเองและผอู้ ื่น สะทอ้ นให้เห็นว่าคนไทยมีความเช่ือเร่ืองการให้กาํ ลงั ใจกล่าวคือ เชื่อว่าสามารถทาํ ให้ประสบ ความสาํ เร็จได้ คาํ ว่า “คึกคกั ” หมายถึง แขง็ แรง กระปร้ีกระเปร่า มีชีวิตชีวา แต่คนไทยนิยมเล่นเสียงเพ่ือ อรรถรสในการฟัง จึงเพม่ิ คาํ วา่ ครุคิกต่อทา้ ย เกรดลดฮวบ เจบ็ ปวดทุกเทอม อยู่ดี ๆนํา้ ตากไ็ หลมาจนได้ (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ที่17ต.ค2562) จากขอ้ ความมีการแปลงเน้ือหาร้องมาจากเพลงเมาทุกขวดเจ็บปวดทุกเพลงซ่ึงเพลงน้ีมี เน้ือหาที่เศร้าจึงมีการแปลงเน้ือร้องใหเ้ ขา้ กบั สถานการณ์ โลกทัศน์จากคาํ คมสะท้อนให้เห็นว่าเกรดของนักศึกษาลดอย่างรวดเร็วมากจึงทาํ ให้ นกั ศึกษารู้สึกเสียใจกบั เกรดหรือผลการเรียนที่ออกมาค่อนขา้ งไม่ค่อยดีทาํ ให้นึกถึงและเสียใจกบั ผลการเรียนท่ีออกมา
37 2.1.2 เรื่องล้อสังคม ลอ้ สงั คม คือ การลอ้ สถานการณ์หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ จากคาํ คมและขอ้ ความพบวา่ จากเพจ ตามติดชีวิตนกั ศึกษา เน้ือหาที่โพสตเ์ ป็นการลอ้ สังคม เช่น ลอ้ รัฐบาล ลอ้ การเมือง ลอ้ กีพา เป็นตน้ ดงั คาํ คมต่อไปน้ี เกรดเออยู่ในสภาวะเหมือนรัฐบาล คือรอแล้วรออกี ท้ัง ๆท่รี ู้ว่าจะได้อะไร แต่กย็ งั รอ555 (เพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาเม่ือวนั ท่ี 4มิ.ย2562) หมายถึง มีความหวงั อยากไดเ้ กรดเอ แต่ยงั ไม่มีการพฒั นาตนเอง จึงไดแ้ ค่รอ ความหมายของ คาํ วา่ “สภาวะเหมือนรัฐบาล” จะเห็นไดว้ า่ ในช่วงน้ีรัฐบาลของไทยอยใู่ น ภาวะท่ีกาํ ลงั พฒั นา แต่ยงั ไม่มีความคืบหนา้ เกิดข้ึน ทาํ ให้ประชาชนาไดเ้ พียงแต่รอการพฒั นาที่จะ เกิดข้ึน จากคาํ คมสะทอ้ นใหเ้ ห็นโลกทศั น์ของนกั ศึกษาไดว้ า่ เกรด เป็นสิ่งท่ีไดม้ ายาก แต่ตอ้ งแลก ด้วยความพยายาม เพื่อท่ีจะสามารถควา้ เกรด A จึงเปรียบเสมือนสภาวะรัฐบาล ที่กาํ ลงั พฒั นา ประเทศ แต่ยงั พฒั นาไม่ถึงข้นั ท่ีดีท่ีสุด จึงทาํ ใหป้ ระชาชนตอ้ งรอ ตดิ เอฟ เพราะคะแนนไม่เขย่ง (จากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษาวนั ท่ี12พ.ค2562) หมายถึง เหตุท่ีติดเอฟ เพราะคะแนนไม่คลาดเคล่ือนในข้นั ท่ีดี
38 คาํ วา่ “เขยง่ ” มีท่ีมาจากบตั รเขยง่ อาจหมายถึง มีผมู้ ีสิทธิเลือกต้งั เดินทางไปท่ีหน่วยเลือกต้งั และมีการแสดงตนใชส้ ิทธ์ิของตวั เอง แต่ไม่ไดร้ ับบตั รเลือกต้งั เดินออกจากหน่วยเลือกต้งั ไปก่อน อาจจะดว้ ยติดธุระกะทนั หนั นักศึกษามีทัศนะว่าการติดเอฟ คือผลคะแนนออกมาข้ันไม่ดี และไม่ถึงเกณฑ์ท่ี มหาวิทยาลยั กาํ หนด เน่ืองดว้ ยปัจจยั เหล่าน้ี เช่น ความเกียจคร้านอ่านหนงั สือ ไม่เขา้ ใจต่อเน้ือหา งานคา้ ง น้ีจึงเป็นเหตุทาํ ใหค้ ะแนนไม่มีการพฒั นาไปในข้นั ท่ีดี อนาคตประเทศไทศจะเป็ นยงั ไงไม่รู้ แต่ทีร่ ู้ ๆ เกรดเฉลย่ี ของกอู ยู่ในข้นั จะโดนไทร์ แล้ว (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ท่ี09ก.พ2562) หมายถึง การท่ีประเทศไทยในตอนน้ีอยู่ในช่วงที่วิกฤต และมองไดว้ ่านักศึกษามีความ สนใจกบั การเมือง แต่ดว้ ยท่ีนกั ศึกษาตอ้ งศึกษาเลา่ เรียนจึงตอ้ งหนั มาดูสภาพการศึกษา มาสนใจเร่ือง ผลคะแนนของตน ก่อนท่ีจะโดยไล่ออก ซ่ึงคาํ ว่า “อนาคต” เป็ นส่ิงที่คาดเดาไม่ไดเ้ หมือนกบั เกรด เฉล่ีย สะทอ้ นใหเ้ ห็นโลกทศั นข์ องนกั ศึกษาวา่ อนาคตเป็นเรื่องท่ีคาดเดาไม่ได้ และมกั จะมองส่ิง ท่ีอยใู่ นปัจจุบนั มากกวา่ สะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ นกั ศึกษาใหค้ วามสาํ คญั ปัจจุบนั มากกวา่ อนาคตและใส่ใจ หนา้ ที่ของตนเองมากกวา่ ท่ีจะใส่ใจเร่ืองท่ีไม่เก่ียวกบั การเรียน 2.1.3 ล้อเทศกาลสําคญั เทศกาล หมายถึง วนั เวลาที่กาํ หนดไวเ้ ป็ นประเพณีเพื่อการทาํ บุญ และการรื่นเริงใน ทอ้ งถ่ิน เช่น เทศกาลวนั ข้ึนปี ใหม่ เทศกาลวนั วาเลนไทน์ เป็นตน้ ดงั คาํ คมต่อไปน้ี
39 วาเลนไทน์เหีย้ ไรกนั กูนี่แหละจะไทร์ อสี ัส 555 (จากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษา 14 ก.พ. 2562) หมายถึง วนั วาเลนไทน์คือวนั ระลึกและแสดงความรักของคู่รัก แต่บางคนไม่ได้ให้ ความสาํ คญั กบั เทศกาลวนั วาเลนไทน์ อาจเป็นเพราะเขาไม่มีคนรัก หรือกาํ ลงั เครียดกบั งาน จนกลวั โดนไลอ่ อกจากสถาบนั คาํ วา่ เห้ีย, อีสสั ,กู เป็นคาํ ไม่สุภาพหรือเป็นคาํ หยาบ ซ่ึงเป็นคาํ ที่นิยมของกลุ่มวยั รุ่นเพ่ือไว้ กล่าวเม่ือมีอารมณ์เครียด นอกจากน้ี คาํ วา่ “ไทร์” หมายถึง การโดนใหอ้ อก (พจนุกรมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน2542) สะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ นกั ศึกษาใหค้ วามสาํ คญั กบั เทศกาลวนั วาเลนไทน์ เป็นเทศกาลที่แสดง ความรักของคู่รัก แต่ดว้ ยมีภาระหนา้ ที่ จึงทาํ ใหน้ กั ศึกษาไม่เห็นความสาํ คญั ของเทศกาล เน่ืองดว้ ย กลวั โดนไลอ่ อก กูไม่ได้อนิ หรอกวนั วาเลนไทน์ กอู นิ วนั ปี ใหม่ สิ้นปี รัฐธรรมนูญมากกว่า เหตุผล เดยี ว คือมหาลยั กูปิ ด (จากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษาวนั ท่ี15ก.พ2562) หมายถึง นักศึกษาไม่อินกับเร่ืองของความรัก แต่จะอินกับวนั ปี ใหม่มากกว่า เพราะ มหาวทิ ยาลยั ปิ ด นกั ศึกษาจะไดก้ ลบั บา้ น ไปหาพอ่ แม่หรือกลบั ไปพกั ผอ่ น จากคาํ คมสะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ การกลบั บา้ นไปพกั ผ่อนบา้ นเกิดยอ่ มเป็นส่ิงที่ดีกวา่ วนั วาเลน ไทนถ์ ึงแมว้ า่ จะเป็นวนั แห่งความรักแต่การกลบั บา้ นเป็นส่ิงท่ีดีเพราะบา้ นคือสถานที่ท่ีมอบความสุข สาํ หรับทุกคนได้
40 2.1.4 ล้อบุคลกิ ตวั ละคร หมายถึง การเลียนแบบพฤติกรรมของตวั ละคร ไม่ว่าจะเป็ นทางดา้ นนิสัย บุคลิก ท่าทาง กิริยาต่าง ๆ ซ่ึงพบว่าในเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษามีคาํ คมและขอ้ ความที่มีการลอ้ เลียนบุคลิกของตวั ละครอีกดว้ ย ดงั คาํ คมต่อไปน้ี ทานตะวนั กเ็ หมือนเกรดเอ อดตี แค่เคยมี แต่ตอนนีไ้ ม่เคยเลือกกู (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ท่ี26ต.ค2562) หมายถึง ทานตะวนั เปรียบเป็ นเกรดเอของนกั ศึกษา และนกั ศึกษาเปรียบเป็ นหมอเป้ง ดง่ั ตอนจบของละคร ทานตะวนั ไม่ไดเ้ ลือกหมอเป้ง ถึงแมว้ ่าหมอเป้งจะทาํ ดีเพียงใดแต่ทานตะวนั ก็ ไม่ไดส้ นใจอีกต่อไปแลว้ จึงเหมือนกบั สถานการณ์หลงั สอบของนกั ศึกษา ท่ีไม่วา่ จะทาํ ดีเพยี งใดแต่ หากสายไปแลว้ กไ็ ม่มีทางท่ีจะไดเ้ อมาครอบครอง มองวา่ เม่ือเวลาเปล่ียนสิ่งต่าง ๆกย็ อ่ มเปล่ียนไปดว้ ย สะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ ไม่มีส่ิงใดที่จะดาํ รง อย่ไู ดเ้ หมือนเดิมตลอดไป ดง่ั เช่น ผลการเรียนAท่ีเคยได้ แต่หากไม่รักษามาตรฐานตนเองเอาไว้ ก็ อาจจะไม่สามารถกลบั มาเป็นเหมือนเดิมได้ ผมสร้างโลก 2 ใบ สําหรับ A และ B เขาไม่รู้ว่ามนั มโี ลกอกี ใบหน่ึง เขาดาํ เนินชีวติ ของเกรดทีด่ ที ้งั คู่ ผมโกหกเขา ผมทงิ้ โลกท้งั สองใบ แล้วไปคว้า C แทน (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ที่15ก.พ2562) หมายถึง นกั ศึกษาคาดหวงั เกรดAและB เแต่นกั ศึกษาทาํ ตามที่ตนเองคาดหวงั เอาไวไ้ ม่ได้ จึงทาํ ใหไ้ ดเ้ กรด Cแทน
41 จากขอ้ ความแสดงใหเ้ ห็นโลกทศั น์วา่ คนไทยมีความนิยมติดตามข่าวบนั เทิงอยเู่ สมอ และ ชอบนาํ ขา่ วท่ีกาํ ลงั เป็นกระแสมาทาํ ใหเ้ กิดความขบขนั จากการลอ้ เลียนหรือนาํ มาดดั แปลงใหเ้ ขา้ กบั สถานการณ์ของตนเองสะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ คนไทยมีนิสัยท่ีชอบความสนุกสนาน มีอารมณ์ขบขนั อยู่ เสมอ 2.1.5 ล้อสํานวนสุภาษิต หมายถึง ถอ้ ยคาํ ที่เรียบเรียงไดต้ ายตวั สลบั ท่ีหรือตดั ตอนไม่ได้ มีความหมายเชิง เปรียบเทียบลึกซ้ึงโดยครอบคลุมไปถึง ภาษิต สุภาษิต และคาํ พงั เพย ซ่ึงคาํ คมจากเพจตามติดชีวิต นกั ศึกษาพบวา่ มีการนาํ สาํ นวนมาลอ้ เพ่ือสร้างความบนั เทิง ดงั คาํ คมต่อไปน้ี งมเข็มในมหาสมุทร ยงั ง่ายกว่าเกรดเอ ใน reg กู 555 (จากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษาวนั ที่02มิ.ย2562) หมายถึง งมเข็มในมหาสมุทร เป็ นการคน้ หาอะไรบางอย่าง ซ่ึงยากท่ีจะคน้ หาให้พบ ทาํ สาํ เร็จไดย้ าก หรือการทาํ ในสิ่งท่ีเป็นไปไดย้ าก ซ่ึงการลอ้ สุภาษิตน้ีเป็นการเปรียบกบั ตวั เองจากชีวิต จริงโดยการเปรียบกบั เกรดของตน หลงั จากที่ไดด้ ูคะแนนรวมท้งั หมด ซ่ึงปรากฏว่าหาเกรดเอไม่ เจอ สะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ กวา่ จะไดเ้ กรดเอมามนั ไม่ใช่เร่ืองง่าย 2.2 การพดู เกนิ ความเป็ นจริง คือ การใชถ้ อ้ ยคาํ ที่แสดงถึงความเกินจริง กลา่ วคือ ลกั ษณะที่ผดิ หรือเบี่ยงเบนจากความ เป็นจริง ซ่ึงมกั ปรากฏในถอ้ ยคาํ ท่ีกลา่ วเกินจริง ดงั คาํ คมต่อไปน้ี หรือเกรดเฉลย่ี กจู ะเป็ นของปลอมอ่า จริง ๆแล้วน่าจะ 4.00 แหละกูว่า
42 (จากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษาวนั ท่ี18ส.ค2562) หมายถึง นกั ศึกษาไม่เช่ือกบั เกรดที่ได้ เพราะนกั ศึกษาคดิ วา่ เกรดของตนตอ้ งสวยกวา่ น้ี หรืออาจจะไดเ้ กียรตินิยมของหอ้ งกไ็ ด้ คาํ วา่ “ปลอม” คือไม่แท้ ไม่ใช่ของจริง (พจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑิต2542) จากคาํ คมสะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ นกั ศึกษาไม่ยอมรับความจริงท่ีเกิดข้ึนกบั ตวั เองมีความหลง ตวั เองและข้ีโม้ 2.3 อารมณ์และความรู้สึก อารมณ์และความรู้สึก คือลกั ษณะอาการที่รับอารณ์ต่าง ๆ จากสถานการณ์ได้ หรือ ความรู้สึกท่ีเปลี่ยนแปลงไปตามส่ิงเร้า ซ่ึงพบวา่ ในคาํ คมจากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษา มีเน้ือหา เกี่ยวกบั อารมณ์และความรู้ ดงั คาํ มต่อไปน้ี 2.3.1 ความรัก ความรัก เป็ นอารมณ์และความรู้สึกพ้ืนฐานของมนุษยท์ วั่ ไป ในทางพุทธศาสนาถือว่า ความรัก (ฉนั ทะ) เป็นกิเลสจาํ พวกหน่ึงท่ีทาํ ใหเ้ กิดความลาํ เอียงหรืออคติในจิตใจ ซ่ึงสะทอ้ นใหเ้ ห็น ว่า นกั ศึกษามีทศั นะต่อความรักว่าเป็ นอารมณ์ความรู้สึกท่ีมนุษยท์ ว่ั ไป มีอยูใ่ นตวั และสามารถถูก กระตุน้ ข้ึนมาดว้ ยสิ่งเร้าท่ีมากระทบธรรมชาติของความรัก ซ่ึงในคาํ คมมีการใชภ้ าษาท่ีเปรียบเปรย เพอื่ ส่ือใหม้ ีความชดั เจนและลึกซ่ึง ดงั คาํ คมต่อไปน้ี เกรดเอมหาลยั กเ็ หมือนกบั ความรัก ไม่ใช่ไม่เคยคดิ น่ะ แต่บางทีมนั ไม่มีสิทธ์ิต้งั แต่ แรก ทเ่ี ห็นชื่อผู้สอน 555 (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ท่ี05พ.ค2562)
43 หมายถึง เกรด เปรียบเหมือน ความรัก นกั ศึกษากม็ ีความคดิ ท่ีอยากจะมีเกรดท่ีดี แต่มนั ก็ อาจไม่มีสิทธ์ิ เป็นเพราะวา่ อาจารยท์ ่ีสอนเขา เป็นคนท่ีเคร่งกบั การสอนและการเกบ็ คะแนน จึงทาํ ใหน้ กั ศึกษารู้สึกทอ้ ต้งั แต่ไม่เริ่มเรียน สะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ นมีการเปรียบความรักเหมือนกบั เกรด เรื่องบางเรื่องกท็ ําได้แค่เกบ็ มันไว้ในใจ ไม่สามารถบอกใครได้จริง ๆ เช่นเกรดเฉลย่ี ของกู (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ที่17มี.ค2562) หมายถึง บางเร่ืองเราก็ไม่สามารถพดู ออกมาได้ ไดเ้ พียงเกบ็ ไวใ้ นใจ ก็เหมือนกบั เกรดเฉล่ีย ท่ีสามารถรู้แค่ตวั เราเอง นกั ศึกษามีทศั นะว่า เกรดเฉลี่ย เป็ นส่ิงท่ีไม่สามารถบอกใครได้ นอกจากเก็บไวร้ ู้เพียงคน เดียว นักศึกษามองว่าการท่ีเราบอกเกรดเฉลี่ยให้คนอ่ืนทราบ มนั เป็ นเร่ืองน่าอาย ถา้ เกรดอยู่ใน ระดบั ที่ไม่ดี ถ้าเกรดเอมนั ใช่สําหรับเรา ต่อให้ไม่ส่งงานเลยสักคร้ัง ยงั ไงเอมันกจ็ ะกลบั มา (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ท่ี09ต.ค2562) หมายถึง ถา้ สิ่งน้นั มนั เป็นของเราจริง ๆ ต่อใหพ้ บเจออุปสรรคใด ๆ สิ่งๆน้นั ก็ยงั คงเป็นเรา อยดู่ ี จากคาํ คมสะทอ้ นให้เห็นวา่ มีการเปรียบเทียบเกรดกบั ความรักว่า เกรดท่ีมนั ใช่สาํ หรับเรา แมว้ า่ ไม่ไดส้ ่งงาน เปรียบไดก้ บั ความรักวา่ หากมนั ใช่สาํ หรับเราจริง ๆ สกั วนั เขากจ็ ะกลบั มา 2.4 พจิ ารณาการใช้คาํ /ภาษา การใชค้ าํ พบวา่ ในคาํ คมและขอ้ ความจากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษามกั เลือกคาํ ท่ีทาํ ใหผ้ อู้ ่าน เกิดความขบขนั และทาํ ให้คนอ่านเกิดภาพพจน์และความขบขนั ได้ เช่น คาํ ตรงกนั ขา้ ม คาํ หยาบ
44 นอกจากน้ีมีการใชภ้ าษาเพ่ือสร้างอารมณ์ และมีการส่ืออารมณ์และส่ือความหมายให้คาํ คมมีความ ชดั เจนมากยง่ิ ข้ึน ดงั คาํ คมต่อไปน้ี 2.4.1 คาํ ตรงกนั ข้าม คาํ ท่ีความหมายตรงกนั ขา้ ม คือ คาํ ท่ีบ่งบอกใหท้ ราบไดว้ า่ คาํ ๆน้นั มีความหมายต่างกนั อยา่ งชดั เจนและมีความแตกต่างกนั โดยสิ้นเชิง เช่น คนดี-คนเลว สูง-ต่าํ อว้ น-ผอม ดาํ -ขาว เป็นตน้ ดงั คาํ คมต่อไปน้ี ไม่มีคนเลว ไม่รู้จักคนดี ไม่มหี นี้ ไม่รู้จกั ประหยดั ไม่มนี ัด ไม่รู้จกั เวลา ถ้ากไู ม่ได้ เอฟขึน้ มา พวกได้เอจะสง่างามได้ยงั ไง555 (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ที่13ต.ค 2562) หมายถึง การยกตวั อยา่ งสิ่งที่ตรงขา้ มกนั เพ่ือแสดงใหเ้ ห็นถึงความหมายของแต่ละฝ่ ายท้งั ฝ่ ายท่ีดีและฝ่ ายท่ีไม่ดี โลกทศั น์ มองวา่ นกั ศึกษาโพสตข์ ้ึนในเชิงเสียสละในเร่ืองที่ไม่ควร ดงั่ ขอ้ ความที่วา่ ถา้ กไู ม่ มีเอฟข้ึนมา พวกไดเ้ อจะสง่างามไดย้ งั ไง กล่าวคือ นักศึกษาท่ีมีผลการเรียนFจะมองว่าตนเองได้ ยกระดับให้แก่นักศึกษาที่ไดผ้ ลการเรียนA สะทอ้ นให้เห็นว่านักศึกษาที่ไม่ต้งั ใจเรียนน้ันมีการ หยอกลอ้ กบั นกั ศึกษาท่ีต้งั ใจเรียนซ่ึงเป็ นการสร้างอารมณ์ขบขนั ให้แก่สถานการณ์เพ่ือไม่ให้เกิด ความตึงเครียด คาํ ว่า “ไม่มีเอฟ” หมายถึง ผลการเรียนที่ดี ซ่ึงผลการเรียนที่ดีน้นั ส่งผลใหม้ ีผูเ้ รียนมีความรู้ และบุคลิกภาพความสง่างาม 2.4.2 คาํ หยาบ คาํ หยาบคาย หรือ คาํ หยาบ หมายถึงคาํ ท่ีส่ือถึงความไม่สุภาพ สื่อความความหมายในแง่ที่ ไม่ดี หรือ ฟังไม่ไพเราะ ซ่ึงรวมถึงคาํ ที่ส่ือเรื่องเพศ การด่าทอ การดูหม่ิน เป็นตน้ คนไทยในอดีตมี
45 ทศั นะวา่ การใชค้ าํ หยาบเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ ส่วนในปัจจุบนั มองวา่ การใชค้ าํ หยาบเป็นเรื่องที่ปกติ ดงั คาํ คมต่อไปน้ี เตรียมเนื้อหาทีจ่ ะออกไปพูดหน้าห้อง ราวกบั ออกไปพดู 2-3 ช่ัวโมง พอเอาเข้าจริง 1 นาที จบเลย ไอซั๊ซ กคู วรทาํ ยงั ไง 55 (จากเพจตามติดชีวติ นกั ศึกษาวนั ที่27ก.พ2562) หมายถึง ตอนซ้อมพูดไดด้ ี ใช้เวลาไดต้ รงตามที่กาํ หนดแต่พอออกไปพูดหน้าห้องเรียน กลบั พดู ไม่ออกอาจเป็นเพราะความตื่นเตน้ และไม่ชินกบั สถานการณ์น้นั ๆ คาํ วา่ “ไอซซ๊ั ” เป็นคาํ ด่า ท่ีมีความหมายรุนแรง หยาบคายและไม่สุภาพ จากคาํ คมสะท้อนให้เห็นว่ามีการใช้คาํ หยาบเน่ืองจากในขณะที่กาํ ลงั โพสต์รู อาจจะมี อารมณ์โกรธทาํ ให้ใชค้ าํ ท่ีไม่สุภาพเกิดข้ึน ในปัจจุบนั น้ีจะเห็นไดว้ ่าคาํ เหล่าน้ีเป็ นคาํ ยอดฮิตของ กลุม่ วยั รุ่นส่วนใหญจ่ ะใชค้ าํ น้ีเป็นคาํ หยอกลอ้ ในกลุ่มเพือ่ นท่ีสนิทสนม
46 บทที่ 4 สรุปผลและอภิปราย สรุปผลการวจิ ยั งานวิจยั น้ีเป็ นการศึกษาโลกทศั น์คาํ คมและขอ้ ความจากเพจตามติดชีวิตนักศึกษา โดยมี วตั ถุประสงค์ เพ่ือศึกษาการวิเคราะห์โลกทศั น์คาํ คมและขอ้ ความจากเพจตามติดชีวิตนักศึกษา โดยสาํ รวจและเก็บขอ้ มูลจากเพจ ต้งั แต่เดือนมกราคม -พฤศจิกายน พ.ศ 2562 ท้งั น้ีพิจารณาคาํ คม และขอ้ ความที่เก่ียวกบั ช่วงการเรียน จาํ นวน 70 คาํ คม ผลการศึกษาสามารถแยกแยะประเด็นได้ 2 ช่วง ไดแ้ ก่ 1. คาํ คมและขอ้ ความช่วงก่อนสอบ 2. คาํ คมและขอ้ ความช่วงหลงั สอบ แสดงให้เห็น โลกทศั น์ของนกั ศึกษาท่ีเก่ียวกบั การเรียนในมหาวทิ ยาลยั โดยสามารถสรุปผลการวจิ ยั ไดด้ งั น้ี 1.คาํ คมและข้อความช่วงก่อนสอบ ช่วงก่อนสอบ คือช่วงสะสางงาน วางแผนการอ่านหนงั สือสอบ ทบทวนเน้ือหาและฝึ กทาํ โจทย์ รวมถึงควรพกั ผอ่ นใหเ้ พยี งพอ เตรียมกายและเตรียมใจ จากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษา ผวู้ จิ ยั พบคาํ คม และขอ้ ความที่เกี่ยวกบั ช่วงก่อนสอบ จาํ นวน 42 คาํ คม ซ่ึงนาํ มาศึกษาและวิเคราะห์ จาํ นวน 22 คาํ คม และในการศึกษาคาํ คมและขอ้ ความที่อยใู่ นช่วงก่อนสอบ พบวา่ คาํ คมส่วนใหญ่จะพูดถึงเรื่อง 3 กลุม่ ใหญ่ ๆ ดงั น้ี 1.การลอ้ เลียน 2.การเสียดสี 3.อารมณ์ความรู้สึก กลุ่มการลอ้ เลียน มีการลอ้ เลียนเทศกาลวนั สาํ คญั ต่าง ๆแสดงไดว้ ่านกั ศึกษาใหค้ วามสาํ คญั กบั เทศกาล แต่ดว้ ยภาระงานท่ีคา้ งคาอยู่ จึงทาํ ให้นกั ศึกษาไม่มีเวลาท่ีจะเขา้ ร่วมเทศกาล ท้งั น้ีมีการลอ้ กีฬา ซ่ึงแสดงโลกทศั น์ไดว้ ่า นกั ศึกษาให้ความสําคญั กบั การรับชมกีฬา เพื่อใชเ้ ป็ นวิธีผ่อนคลาย ความเครียด สะทอ้ นให้เห็นว่านกั ศึกษามีวิธีการผ่อนคลายความเครียดจากการอ่านหนงั สือหนกั และการสะสางงาน โดยวิธีการเช่นน้ี นอกจากน้ียงั พบว่านกั ศึกษามีวิธีการผ่อนคลายความเครียด ดว้ ยการฟังเพลง และการรับชมละครยอดนิยม สะทอ้ นไดว้ ่าช่วงวยั น้ี คือวยั รุ่นเป็ นวยั ท่ีรักความ สนุกสนานและชอบสร้างความบนั เทิงใจใหก้ บั ตนเอง
47 กลุ่มการเสียดสี การเสียดสีสามารถสะทอ้ นถึงการใชภ้ าษา แสดงให้เห็นถึงศิลปะการใชภ้ าษา และยงั แสดงทศั นคติอีกดว้ ย จากคาํ คมสะทอ้ นให้เห็นวา่ นกั ศึกษามีการใชค้ าํ ท่ีเสียดสีต่อรูปลกั ษณ์ ภายนอก และยงั สะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ คนไทยมีโลกทศั น์ต่อความสวยความงาม กลุ่มอารมณ์และความรู้สึก จากคาํ คมสามารถแยกแยะประเด็นออกได้ 4 เร่ือง ดงั น้ี ไตร่ตรอง ใหถ้ ่ีถว้ นก่อนกระทาํ ความพยายาม ความทุ่มเท-ทอ้ ถอย และความเกียจคร้าน 2.คาํ คมและข้อความเกยี่ วกบั ช่วงหลงั สอบ ช่วงหลงั สอบ คือช่วงท่ีนกั ศึกษาหมดภาระเก่ียวกบั งานในร้ัวมหาลยั และเขา้ สู่ช่วงปิ ดภาค เรียน บา้ งก็เตรียมตวั กลบั บา้ น บา้ งกฉ็ ลองหลงั จากที่สอบเสร็จ และบา้ งกก็ าํ ลงั กงั วลเกี่ยวกบั ผลการ เรียนของตนเองจากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษา ผูว้ ิจยั พบคาํ คมและขอ้ ความที่เกี่ยวกบั ช่วงหลงั สอบ จาํ นวน 47 คาํ คม ซ่ึงนาํ มาศึกษาและวิเคราะห์ จาํ นวน 22 คาํ คม โดยเน้ือหาที่โพสตส์ ่วนใหญ่เป็ น ลกั ษณะของขอ้ ความในเชิงตดั พอ้ ผลการเรียน การติด F และจากการศึกษาคาํ คมและขอ้ ความท่ีอยู่ ในช่วงหลังสอบ พบว่าคาํ คมและข้อความจากเพจตามติดชีวิตนักศึกษา มีเน้ือหาเกี่ยวกับการ ลอ้ เลียน เช่นลอ้ เพลงยอดนิยม ลอ้ สังคม ลอ้ เทศกาล ลอ้ บุคลิตวั ละคร ลอ้ สํานวนสุภาษิต การพูด เกินความเป็นจริง อารมณ์และความรู้สึก เช่น ความรัก นอกจากน้ียงั พบการใชค้ าํ และภาษา เช่น คาํ ตรงกนั ขา้ ม และคาํ หยาบ สะทอ้ นให้เห็นวา่ นกั ศึกษามีโลกทศั น์เก่ียวกบั การเรียนในช่วงหลงั สอบ ว่าเป็ นช่วงที่ตอ้ งพกั ผ่อน และปล่อยวาง หลังจากที่ได้ผ่านการสอบมา จึงต้องการผ่อนคลาย ความเครียดของตนเอง โดยการฟังเพลง สะทอ้ นให้เห็นว่านกั ศึกษาตอ้ งการระบายความตึงเครียด โดยการฟังเพลง ที่สามรถสร้างอารมณ์และผอ่ นคลายใหแ้ ก่ตนเอง กล่าวโดยสรุปไดว้ า่ โลกทศั น์คาํ คมและขอ้ ความจากเพจตามติดชีวิตนกั ศึกษา ทาํ ให้ทราบ ถึงการดาํ เนินชีวิตในร้ัวมหาวทิ ยาลยั นอกจากน้ีเมื่อพจิ ารณาจากคาํ คมและขอ้ ความ สามารถสะทอ้ น ให้เห็นโลกทศั น์ของนักศึกษาว่า การศึกษามีความสําคญั อย่างมาก เพราะการศึกษาช่วยให้ไดร้ ับ การศึกษามีคุณภาพชีวิตที่ดี ซ่ึงไม่ใช่แค่การเรียนท่ีนักศึกษาให้ความสนใจ นอกจากน้ียงั ให้ ความสาํ คญั ต่อช่วงเทศกาลสาํ คญั ของไทย ต่างมีผลต่อนกั ศึกษา
Search