Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Doc1-กู้คืน

Doc1-กู้คืน

Published by Guset User, 2022-07-19 07:17:24

Description: Doc1-กู้คืน

Search

Read the Text Version

หนงั สือ รหสั 2204-2107 การเขียนโปรแกรม โดยใช้เคร่ืองมือ กราฟิ กโหมด ปกหนงั สือ คานา สารบญั บทของเนอื ้ หา ปกแขง็ เนือ้ ความ บรรณานกุ รม บทของเนอื ้ หา -เนอื ้ ความ +พลกิ -เนอื ้ หาแตล่ ะบท +พลกิ +อา่ น ชื่อผ้แู ตง่ -เนอื ้ ความ +อา่ น +อา่ น โกมล ศริ ิสมบรู ณ์เวช -ประเภทของสารบญั +พลกิ +อา่ น ตวั หนงั สอื หน้าหนงั สอื -อกั ขระ -เนอื ้ หาแตล่ ะหน้า -สะกด +พลกิ +อา่ น รูปภาพ +ภาพ +ดู





คานา หนงั สือการเขียนโปรแกรมโดยใชเ้ คร่ืองมือกราฟิ กโหมดรหสั วชิ า 2204-2107 ไดเ้ รียบเรียงตาม หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) พทุ ธศกั ราช 2556 โดยมีจุดประสงคเ์ พอื่ ใหผ้ เู้ รียนมีความรู้ความ เขา้ ใจเก่ียวกบั หลกั การการเขียนโปรแกรมในรูปแบบกราฟิ กโหมดซ่ึงเป็นวธิ ีติดต่อผใู้ ชง้ านในรูปแบบ GUI (GUL: Graphic User Interface) รวมท้งั ไดศ้ ึกษาตวั อยา่ งการใชง้ านจนสามารถสร้างเป็ นชิ้นงานได้ นอกจากน้ีหนงั สือเล่มน้ียงั สามารถนาไปใชก้ บั รหสั วชิ า 2901-2108 การเขียนโปรแกรมติดต่อผใู้ ชแ้ บบ กราฟิ กของสาขาวชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศไดเ้ ช่นกนั การแบง่ หน่วยการเรียนของหนงั สือจะผสมผสานไปกบั ตวั อยา่ งการใชง้ านที่เหมาะสมเพ่อื ใหผ้ เู้ รียน ไดเ้ ช่ือมโยงความรู้กบั การปฏิบตั ิจริงซ่ึงจะแบ่งหน่วยการเรียนเป็ น 9 หน่วยโดยมีกิจกรรมการเรียนรู้และ แบบทดสอบประเมินความรู้ในแต่ละหน่วยรวมท้งั การสร้างชิ้นงานอยา่ งง่าย ๆ เพือ่ นาไปใชง้ านผเู้ ขียนมี ความต้งั ใจท่ีจะใหม้ ีตวั อยา่ งงานท่ีหลากหลายเพอ่ื ผสมผสานการเรียนรู้ท้งั ดา้ นความคิดในการออกแบบและ การเขียนโปรแกรมจากตวั อยา่ งงานโดยคาดหวงั จะช่วยใหผ้ เู้ รียนไดเ้ พม่ิ ประสบการณ์ในการเรียนรู้กบั การ ปฏิบตั ิงานจริงตามแนวทางของการอาชีวศึกษาและช่วยใหเ้ กิดแนวคิดในการสร้างงานโปรแกรมดว้ ยตวั เอง ผเู้ ขียนขอขอบคุณสานกั พมิ พท์ ี่ไดใ้ หโ้ อกาสในการจดั พมิ พเ์ ป็นหนงั สือเพือ่ การแบง่ ปันความรู้และ หวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ หนงั สือเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์ในการเรียนรู้สาหรับครูอาจารยน์ กั เรียนนกั ศึกษาและ ผสู้ นใจทว่ั ไปหากมีขอ้ ผดิ พลาดหรือมีขอ้ เสนอแนะประการใดผเู้ ขียนขอนอ้ มรับไวพ้ ิจารณาเพื่อปรับปรุง เน้ือหาใหส้ มบูรณ์ยง่ิ ข้ึนตอ่ ไปสาหรับความดีใด ๆ ในหนงั สือเล่มน้ีผเู้ ขียนขอมอบใหก้ บั บุพการีและครู อาจารยท์ ี่สนบั สนุนการศึกษาและใหว้ ชิ าความรู้

สารบญั หนา้ 1 หน่วยที่ 1 แนวคิดและหลกั การพฒั นาโปรแกรม 2 1ภาษาคอมพิวเตอร์ 5 2. กระบวนการเขียนโปรแกรม 8 3 ข้นั ตอนการแกไ้ ขปัญหา (Algorithm) 11 4 องคป์ ระกอบของโปรแกรม 14 5แนวคิดในการพฒั นาโปรแกรม 15 กิจกรรมการเรียนรู้หน่วยที่ 1 19 แบบทดสอบการเรียนรู้หน่วยท่ี 1

แนวคิดและหลกั การพฒั นาโปรแกรม สาระสาคญั การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์คือการเรียบเรียงคาส่งั เพอ่ื ใชค้ วบคุมและสัง่ ใหค้ อมพวิ เตอร์ทางาน ตามวตั ถุประสงคท์ ่ีตอ้ งการโดยการเขียนโปรแกรมอยา่ งเป็นระบบจะตอ้ งดาเนินการตามข้นั ตอนการพฒั นา โปรแกรมเพ่ือใหโ้ ปรแกรมมีความถูกตอ้ งและสะดวกต่อการปรับปรุงในภายหลงั และผเู้ ขียนโปรแกรม จะตอ้ งทราบองคป์ ระกอบต่างๆของโปรแกรมในภาษาน้นั ไดแ้ ก่ โครงสร้างโปรแกรมตวั แปรค่าคงที่รวมท้งั วธิ ีเขียนโปรแกรมยอ่ ยและฟังกช์ นั นอกจากน้ีผูเ้ ขียนโปรแกรมควรมีความเขา้ ใจในแนวคิดในการพฒั นา โปรแกรมเพ่ือวางแผนและสร้างแนวทางการเขียนโปรแกรมอยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมกบั งานท่ีทา สาระการเรียนรู้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. ภาษาคอมพิวเตอร์ 1. บอกความสาคญั ของภาษาคอมพวิ เตอร์ได้ 2. กระบวนการเขียนโปรแกรม 2. อธิบายกระบวนการเขียนโปรแกรมไดถ้ ูกตอ้ ง 3. ขน้ ตอนการแกป้ ัญหา 3. บอกเคร่ืองมือที่ใชใ้ นข้นั ตอนการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 4. องคป์ ระกอบของโปรแกรม 4. บอกองคป์ ระกอบของโปรแกรมไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 5. แนวคิดในการเขียนโปรแกรม 5. บอกแนวคิดในการพฒั นาโปรแกรมอยา่ งถูกตอ้ ง สมรรถนะอาชีพ แสดงความรู้เกี่ยวกบั การพฒั นาโปรแกรมและสามารถติดต้งั โปรแกรม Visual Basic Net

แนวคิดและหลกั การพฒั นาโปรแกรม 1. ภาษาคอมพวิ เตอร์ ภาษาคอมพิวเตอร์ คือ ภาษาท่ีใชใ้ นการเขียนโปรแกรมเพ่ือสั่งงานคอมพวิ เตอร์ใหท้ างานตาม จุดประสงคท์ ่ีตอ้ งการเช่นเดียวกบั ภาษามนุษยท์ ่ีใชส้ ื่อความหมายใหเ้ ขา้ ใจตรงกนั โดยปกติ คอมพิวเตอร์จะรับรู้การทางานดว้ ยคาสง่ั ภาษาเครื่อง (Machine Language) ซ่ึงประกอบดว้ ยคาสั่งท่ี แทนดว้ ยรหสั ตวั เลข 0 และ 1 ในการสื่อความหมายดงั น้นั การเขียนโปรแกรมสั่งงานคอมพวิ เตอร์ ดว้ ยภาษาเคร่ืองโดยตรงจึงเป็ นเร่ืองยากจึงไดม้ ีการพฒั นาภาษาคอมพวิ เตอร์ (Computer Language) ซ่ึงเป็นภาษาท่ีใกลเ้ คียงภาษาของมนุษยข์ ้ึนมาใชง้ านทาใหเ้ ราเขียนโปรแกรมส่ังงานคอมพิวเตอร์ได้ สะดวกข้ึนโดยสามารถเขียนดว้ ยภาษาคอมพิวเตอร์ซ่ึงมีลกั ษณะเป็นภาษาองั กฤษซ่ึงจดจาและสื่อ ความหมายไดง้ ่ายจากน้นั จึงทาการแปลดว้ ยตวั แปลภาษา (Compiler) ใหเ้ ป็นไฟลโ์ ปรแกรมท่ีเป็น ภาษาเคร่ือง (Machine Language) เพ่ือใชส้ ง่ั งานคอมพวิ เตอร์ไดโ้ ดยตรงดงั รูปท่ี 1.1 รูปที่ 1.1 แสดงการแปลภาษาคอมพิวเตอร์เป็นไฟลโ์ ปรแกรมภาษาเครื่องสาหรับ ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใชใ้ นการพฒั นาโปรแกรมมีอยมู่ ากมายโดยการเลือกใชภ้ าษาคอมพิวเตอร์ได เป็นภาษาในการพฒั นาโปรแกรมข้ึนอยกู่ บั ตามความถนดั ของผเู้ ขียนและความเหมาะสมของงาน หรือการพฒั นาต่อยอดโปรแกรมเดิมที่เขียนไว้ ในยคุ แรก ๆ ส่วนใหญ่การใชง้ านคอมพวิ เตอร์จะเป็ นการคานวณค่าเพ่ือแกป้ ัญหาสมการทาง คณิตศาสตร์และวทิ ยาศาสตร์จึงเลือกใชก้ าษาฟอร์แทรน (FORTRAN) เพราะมีฟังกช์ นั สาหรับ คานวณคา่ ทางวทิ ยาศาสตร์มากมายโดยผเู้ ขียนโปรแกรมไม่ตอ้ งสร้างเองในยคุ ตอ่ มา

มีการนาคอมพวิ เตอร์ไปใชใ้ นงานทางธุรกิจและธนาคารมากข้ึนจึงมีการพฒั นาภาษาโคบอล (COBOL) ซ่ึงสามารถสร้างและจดั รูปแบบของรายงานไดส้ ะดวก แต่ปัจจุบนั ภาษาคอมพิวเตอร์ ไดร้ ับการพฒั นาเป็ นภาษาใหม่ ๆ คอ่ นขา้ งมากและมีความสามารถใกลเ้ คียงกนั โดยภาษาท่ีไดร้ ับ ความนิยมและถูกพฒั นาอยา่ งตอ่ เน่ือง ไดแ้ ก่ ภาษา C และภาษา BASIC ส่วนภาษาท่ีนิยมใชใ้ นการ เขียนโปรแกรมเพอื่ ใชง้ านบนอินเทอร์เน็ต ไดแ้ ก่ ภาษา php และภาษา Java โดยการพฒั นา โปรแกรมส่วนใหญจ่ ะใชซ้ อฟตแ์ วร์ที่เรียกวา่ IDE (Integrated Development Environment) มาช่วย จดั เตรียมสภาพแวดลอ้ มเพือ่ ลดข้นั ตอนและเพม่ิ ความสะดวกในการพฒั นาโปรแกรม ภาษาคอมพวิ เตอร์แต่ละภาษาจะมีโครงสร้างและคาสง่ั ส่ังงานแตกต่างกนั ออกไปตามรูปแบบและ ไวยกรณ์ของภาษาน้นั ๆ ดงั ตวั อยา่ งการเขียนโปรแกรมคานวณพ้ืนท่ีรูปสามเหล่ียมดว้ ย ภาษาคอมพวิ เตอร์ต่าง ๆ ดงั น้ี



หลงั จากเขียนโปรแกรมเสร็จสิ้นกจ็ ะนาไฟลโ์ ปรแกรมตน้ ฉบบั (Source Code) ท่ีเขียนมาแปลดว้ ย ตวั แปลของภาษาน้นั เพ่ือสร้างเป็นไฟลป์ ระมวลผลในภาษาเครื่องที่ใชส้ ่ังงานคอมพวิ เตอร์ตอ่ ไป 2กระบวนการเขียนโปรแกรม แมว้ า่ เราจะสามารถเขียนหรือพฒั นาโปรแกรมโดยใชว้ ธิ ีเขียนแบบลองผดิ ลองถูกจนไดโ้ ปรแกรม ตอ้ งการออกมา แต่การกระทาดงั กล่าวอาจก่อใหเ้ กิดปัญหาและความยงุ่ ยากในภายหลงั และไม่สามารถ นามาใชก้ บั การพฒั นางานโปรแกรมขนาดใหญ่ไดด้ งั น้นั การเขียนโปรแกรมที่ดีจึงควรมีการวางแผนและ ออกแบบอยา่ งมีระบบตามแบบแผนโดยมีกระบวนการดาเนินงานอยา่ งเป็นข้นั ตอน ซ่ึงเรียกวา่ วงจรการพฒั นาโปรแกรม (PDLC: Program Devolvement Life Cycle) ดงั รูปที่ 1.6 โดยวงจรการพฒั นาโปรแกรมหรือเรียกยอ่ ๆ วา่ PDLC จะแบง่ เป็น 5 ข้นั ตอนดงั น้ี 1) วเิ คราะห์ปัญหา (Problem Analysis) 2) ออกแบบโปรแกรม (Program Design) 3) เขียนโปรแกรม (Program Coding) 4) ทดสอบโปรแกรม (Program Testing) 5) บารุงรักษาโปรแกรม (Program Maintenance)

2.1การวเิ คราะห์ปัญหา เป็นข้นั ตอนแรกในการดาเนินการ โดยจะวเิ คราะห์ทาความเขา้ ใจกบั ปัญหาและศึกษา ความตอ้ งการของผใุ้ ชง้ าน โดยอาจพิจารณาจากผลลพั ธ์หรือรูปแบบรายงานในระบบงาน เพ่อื นามากาหนดขอ้ มูลนาเขา้ ขอ้ มูลขาออก โดยมีข้นั ตอนดงั น้ี 1)กาหนดผลลพั ธ์ท่ีตอ้ งการ 2) พิจารณาวา่ วา่ ตอ้ งมีขอ้ มูลนาเขา้ อะไรบา้ งจึงจะไดผ้ ลลพั ธ์ดงั กล่าว 3) กาหนดตวั แปรเพ่อื แทนขอ้ มูลนาเขา้ (Input Variable) หรือเก็บค่าขอ้ มูลท่ีอยรู่ ะหวา่ งการ ประมวลผลรวมท้งั กาหนดค่าคงท่ี (Constant) ท่ีจะใชใ้ นโปรแกรม 4) ทาหนดตวั แปรท่ีใชแ้ สดงผลลพั ธ์ (Output Variable) 5) คานวณผลลพั ธ์จากความสัมพนั ธ์กบั ขอ้ มูลนาเขา้ ตวั อยา่ งที่ 1 การเขียนโปรแกรมคานวณพ้ืนที่รูปสามเหลี่ยม 1) ผลลพั ธ์ที่ตอ้ งการคือพ้ืนที่ของสามเหลี่ยม 2) ขอ้ มูลน่าเขา้ เพ่อื ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธ์คือความยาวฐานและความสูงของสามเหล่ียม 3) กาหนดตวั แปรนาเขา้ คือ 4) กาหนดตวั แปรผลลพั ธ์คือ Area เพอ่ื เกบ็ พ้ืนท่ีรูปสามเหลี่ยมจะไดค้ ่าเป็นตวั เลขทศนิยม 5) คานวณผลลพั ธ์พ้ืนที่สามเหลี่ยมเทา่ กบั 0.5 x ความยาวฐาน x ความสูงของสามเหลี่ยม a Area = 0.5 * b * h ตวั อยา่ งที่ 2 การเขียนโปรแกรมคานวณเกรดเฉล่ีย 1) ผลลพั ธ์ที่ตอ้ งการคือเกรดเฉลี่ย 2) ขอ้ มูลน่าเขา้ คือจานวนวชิ า, เกรดที่ไดแ้ ละจานวนหน่วยกิตในแตล่ ะวชิ า) ตวั แปรน่าเขา้ N เก็บจานวนวิชากาหนดเป็นเลขจานวนเตม็ gin เก็บเกรดท่ีไดข้ องแตล่ ะวชิ ากาหนด เป็นตวั เลขทศนิยม c [n] เกบ็ จานวนหน่วยกิตแต่ละวชิ ากาหนดเป็ นเลขจานวนเตม็ เก็บผลรวมของผลคูณ

4) ตวั แปรผลลพั ธ์คือเกรดเฉล่ียแทนดว้ ยตวั แปร gtor มีค่าเป็นเลขทศนิยม 5) ผลลพั ธ์คือเกรดเฉล่ีย = ผลรวมของผลคูณของเกรดกบั หน่วยกิตหารดว้ ยจานวนหน่วยกิต a gtot = gt / nt ตวั อยา่ งที่ 3 การเขียนโปรแกรมคานวนเงินรายไดส้ ุทธิของพนกั งาน 1) ส่ิงท่ีตอ้ งการคือเงินเดือนของพนกั งาน 2) ขอ้ มูลนาเขา้ คือชื่อพนกั งาน, เงินเดือนค่าจา้ ง, อตั ราเงินประกนั สงั คม 3) ตวั แปรนาเขา้ name เกบ็ ช่ือพนกั งานเป็ นตวั แปรขอ้ ความ Salary เก็บเงินเดือนเป็นเลขจานวนเตม็ ค่าคงทีเดิม le เก็บอตั ราเงินประกนั สังคมเป็นเลขทศนิยมเช่น 0.05 4) ตวั แปรผลลพั ธ์คือ NetSalary มีคา่ เป็นเลขทศนิยม 5) waawo na NetSalary salary salary rate waumu (1-rate) * salary 2.2 การออกแบบโปรแกรม (Program Design) การออกแบบโปรแกรมนบั วา่ เป็นข้นั ตอนที่สาคญั เพราะจะเป็นเสมือนแบบพิมพเ์ ขียวหรือแผนท่ีนาทางในการเขียนโปรแกรมโดยมีท้งั การแบง่ งานเป็นส่วน ๆ ในกรณีเขียนโปรแกรมเป็นทีมงานการวางลาดบั ข้นั ตอนการแกป้ ัญหาที่เรียกวา่ อลั กอริทึม (Algorithm) รวม ไปถึงการออกแบบหนา้ จอภาพและส่วนติดต่อกบั ผใู้ ชง้ าน (Interface) 2.3 การเขียนโปรแกรม (Program Coding) หลงั จากออกแบบโปรแกรมเสร็จสิ้นกจ็ ะนาเอกสารการ ออกแบบมาเขียนเป็นโปรแกรม (Coding) ดว้ ยภาษาคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ โดยเลือกใชภ้ าษาที่เหมาะสมกบั ลกั ษณะของงานและความถนดั ของผเู้ ขียนโปรแกรมโดยปฏิบตั ิตามโครงสร้างกฎเกณฑแ์ ละคาส่ังของภาษา 2.4 การทดสอบโปรแกรม (Program Testing & Debugging) การทดสอบการทางานของโปรแกรม คือการน่าโปรแกรมที่เขียนข้ึนมาตรวจสอบเพือ่ หาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม (Error หรือ Bugs) โดย ขอ้ ผดิ พลาดอาจแบ่งเป็ น 2 ประเภทคือ 1) ขอ้ ผดิ พลาดทางไวยากรณ์ของภาษา (Syntax Error) คือขอ้ ผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนคาสง่ั ไม่ ถูกตอ้ งหรือรูปแบบการเขียนไมต่ รงกบั ไวยากรณ์ของภาษาโปรแกรมท่ีกาหนดไวข้ อ้ ผดิ พลาดดงั กล่าวน้ีเป็น ขอ้ ผดิ พลาดที่ง่ายต่อการตรวจหาและแกไ้ ขโดยโปรแกรมหรือชุดเครื่องมือในการพฒั นาโปรแกรมจะ รายงานใหท้ ราบทนั ทีเมื่อทาการแปลโปรแกรมโดยผเู้ ขียนโปรแกรมจะตอ้ งทาการแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ งจึงจะ แปลโปรแกรมใหเ้ กิดผลลพั ธ์ได้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook