หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 19 เรื่อง รักทสี่ ดุ เมืองของเรา กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทยรายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท ๑๔๑๐๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ นางอรวรรณ ปานจำรูญ ครผู สู้ อน โรงเรียนวัดพชื นมิ ิต (คำสวสั ด์ิราษฎรบ์ ำรงุ ) ตำบลคลองหนงึ่ อำเภอคลองหลวง จังหวดั ปทมุ ธานี สำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 19 เรอ่ื ง รักทส่ี ุดเมืองของเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัส ท ๑๔๑๐๑ รายวิชาภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลา ๑๒ ช่วั โมง ..................................................................................................................... แผนการเรียนรทู้ ่ี ๑ เร่อื ง ฝึกอา่ นรำร้อง เวลา ๑ ช่ัวโมง ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั มาตรฐาน ท ๑.๑ : ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความร้แู ละความคดิ เพอื่ นำไปใชต้ ดั สินใจแก้ปัญหา ในการดำเนนิ ชีวิตและมนี สิ ัยรักการอา่ น ตัวชว้ี ดั ท ๑.๑ ป.๔/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกตอ้ ง ท ๑.๑ ป.๔/๒ อธิบายความหมายของคำ ประโยค และสำนวนจากเรอ่ื งทอี่ า่ น ท ๑.๑ ป.๔/๖ สรุปความรแู้ ละขอ้ คิดจากเรอ่ื งทอ่ี า่ นเพอื่ นำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั มาตรฐาน ท ๓.๑ : สามารถเลอื กฟังและดูอย่างมวี จิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความรู้สึกในโอกาสต่างๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตัวชว้ี ดั ท ๓.๑ ป.๔/๓ พดู แสดงความรู้ ความคิดเหน็ และความรู้สกึ เกีย่ วกบั เรอื่ งท่ีอ่าน ฟัง และดู ๒. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และรอ้ ยกรอง แล้วอธิบายความหมายของคำและประโยค ทำให้ เขา้ ใจเรือ่ งท่ีอ่านไดด้ สี ามารถสรุปความรู้ ขอ้ คดิ จากเรื่องทอ่ี า่ นเพื่อนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. นักเรียนมีความสามารถในการอ่านคำ ประโยค รอ้ ยแก้วร้อยกรองและสรปุ ข้อคิดได้ ๒. นักเรียนแต่งประโยคจากคำควบกล้ำที่กำหนดใหไ้ ด้ถกู ต้องเหมาะสม ๓. นักเรยี นอา่ นแลว้ แสดงความคดิ เห็นสรปุ ความรจู้ ากเรอื่ งได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ อา่ นออกเสียงบทความที่มี คำควบกล้ำแลว้ บอกความหมายของคำ ๓.๒ แต่งประโยคจากคำควบกล้ำ ๓.๓ อธบิ ายขอ้ คิดแสดงความคดิ เห็น สรปุ ความรู้จากเรอื่ งท่อี า่ นได้ ๔. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ความสามารถในการคดิ
๕. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค/์ คา่ นิยม ๕.๑ มวี ินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มงุ่ มั่นในการทำงาน ๖. ช้ินงาน/ภาระงาน การแต่งประโยคจากคำควบกลำ้ ท่ีกำหนด ๗. การวัดและประเมินผล วธิ ีการ เครื่องมอื เกณฑ์ − ๑. ทดสอบก่อนเรียน ผา่ นร้อยละ ๖๐ − ๒. แตง่ ประโยค ๑. แบบทดสอบก่อนเรียน − ๓. สงั เกตพฤตกิ รรม ๒. ใบงานการแต่งประโยค ๓. แบบสงั เกตพฤติกรรม ๘. กิจกรรมการเรยี นรู้ (ใช้วธิ ีการสอนแบบอุปนัย) นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ประจำหน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๗ เวลา ๑๐ นาที (ภาคผนวก) ขั้นเตรยี ม ๑. ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ใหน้ กั เรยี นทราบ ๒. นกั เรียน ดู ฟงั เพลงจาก CAI ฝกึ ร้องเพลงคำควบกล้ำ (ทา้ ยแผน) ข้ันสอนขั้นแสดง ๓. แบ่งกลุ่มร้องเพลงคิดท่าทางประกอบเพลง ๔. นกั เรียนหาบทอ่านตามใจชอบแต่ต้องมคี ำควบกลำ้ ในเรือ่ งทีอ่ า่ น แล้วอา่ นออกเสียง บทร้อยแก้วและรอ้ ยกรอง ขัน้ เปรียบเทียบและรวบรวม ๕. นักเรียนร่วมกันอภปิ รายความแตกตา่ งของประโยคและสำนวน (ทา้ ยแผน) ในบทรอ้ ยแกว้ กบั บทร้อยกรอง ๖. นกั เรยี นคดั เลอื กคำ ประโยคและสำนวนจากบทอา่ น แลว้ หาความหมายของคำ ประโยค และสำนวน ๗. นักเรียนอา่ นใบความรูเ้ รอ่ื ง คำควบกลำ้ และนำคำควบกลำ้ มาฝึกแต่งประโยค ๘. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั ตรวจประโยคจากข้อ ๗ ๙. นกั เรยี นทำใบงาน ๑ (ทา้ ยแผน) ขน้ั สรุป ๑๐. นักเรียนรว่ มกนั สรปุ ลักษณะของคำควบกล้ำพร้อมแต่งประโยคตามใบงาน ๒ (ทา้ ยแผน) ๑๑. ตวั แทนกลุ่มสรุปขอ้ คดิ จากบทอ่าน แลว้ ร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ จากการสรปุ เรอื่ ง จากการอา่ น ๑๒. นักเรยี นสรปุ วธิ กี ารแสดงความคดิ เห็น ขอ้ คิดจากบทรอ้ ยแก้วและร้อยกรอง ขน้ั นำไปใช้ ๑๓. นักเรยี นเลอื กบทอา่ นจากการฟัง อ่าน และ ดูตามใจชอบ จำนวน 1 บท แลว้ คัดเลอื ก คำควบกลำ้ จากบทอา่ น สรปุ ความรู้และข้อคดิ ทไ่ี ด้จากเรื่อง
๙. สอื่ และแหลง่ การเรยี นรู้ ๙.๑ แบบฝกึ อ่านในหนงั สือเรียน ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 ๙.๒ บทความบทรอ้ ยแก้ว ๙.๓ เพลงคำควบกลำ้ ๙.๔ สอื่ CAI จากอินเทอรเ์ น็ต เร่ือง คำควบกล้ำ ๙.๕ ใบความรู้ ๙.๖ ใบงาน ๑๐. ขอ้ เสนอแนะ …………………………….………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………. …………………………….………………………………………………………………………………………………………….…………………
ใบความรู้ เร่อื ง คำควบกล้ำ คำที่มอี กั ษรควบ ร ล ว กล่าวยำ้ ควำ่ ขนั ครบครนั ขวา้ งขวาน พร่ำพลอด ล้างผลาญ สงกรานต์ บาดแผล กวดั แกว่ง แผลงศร สั่นคลอน เปลยี่ นแปร เครง่ เครยี ด นง่ั แคร่ ตรากตรำ คร่ำครวญ คำทีม่ ีพยัญชนะตน้ ๒ ตวั พยัญชนะตวั หน้าเป็น ก ข ค ต ป ผ พ พยัญชนะตวั หลงั เป็น ร ล หรอื ว ประสมสระเดยี วกัน ออกเสยี งควบกลำ้ กันสนทิ เรยี กวา่ คำควบแท้ คำท่ีมอี ักษร ซ ศ ส ควบ ร ศกั ด์ิศรี เสริม ศรทั ธา เศรษฐีมา เสสรวลกนั สร่าง เศรา้ เสร็จ สรา้ งสรรค์ สรงน้ำ ไซร้ สระ สร้อยสรวง คำท่ีมีพยัญชนะต้น ๒ ตวั พยญั ชนะตวั หน้าเป็น ซ ศ ส พยญั ชนะตวั หลังเปน็ ร หรือพยญั ชนะตัวหน้า เป็น จ พยัญชนะตัวหลงั เป็น ร ในคำวา่ จริง ออกเสยี งแตต่ ัวหนา้ เรียกคำลกั ษณะนี้วา่ คำควบไมแ่ ท้ คำทมี่ อี ักษร ท ควบ ร เม็ดทราย ต้นไทร ทรงไว้ สินทรพั ย์ แทรกซมึ ทราบซบั พทุ รา ปลาอินทรี ทบั ทรวง ทรวดทรง ทรุดโทรม เหลอื ท่ี ทร แปลกดี อา่ นเปน็ ซ คำท่มี ีพยัญชนะต้น ๒ ตวั พยญั ชนะตวั หนา้ เป็น ท พยัญชนะตวั หลังเปน็ ร ออกเสยี ง ทร เปน็ ซ เป็นคำควบไมแ่ ท้ อกี ลักษณะหน่ึง
เพลง คำควบกล้ำ คำรอ้ ง รศ.ปิตนิ ันท์ สทุ ธสาร ทำนอง แมส่ ะเรยี ง เรยี มคลง่ั ไคล้ กวัดแกวง่ ไกวเกลียวกลม ไขว่คว้าตรอมตรม อกระทมหมองมวั ปกครอง ปอ้ งกนั ปราบปราม ผดิ ความ เคล่ือนคลาด หวาดกลวั อกสน่ั ระรัว รา้ งแรมหา่ งไกล โอแ้ ม้ขวัญใจ เคลียคลอ คำควบกลำ้ นี่หนอ ขอเราช่วยกนั จรรโลงให้ดี (ซำ้ )
ใบงาน ๑ ประกอบหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๗ เรื่อง รกั ทีส่ ดุ เมืองของเรา ภาคเรียนที.่ ............... แผนการเรยี นรูท้ ี่ ๑ เรือ่ ง ฝกึ อา่ นรำรอ้ ง ปีการศกึ ษา............... ช่ือ..................................................................................................... เลขท่ี.................... ชัน้ ...................... ___________________________________________________________________________ คำชแี้ จง ๑. เขยี นคำทม่ี พี ยัญชนะต้นเหมอื นคำทีก่ ำหนด จำนวน ๓ คำ แลว้ ฝกึ อ่าน ๑. กลม =............................ ........................... ....................... ๒. ขรม =............................ ........................... ....................... ๓. ครบ ๔. กรง =............................ ........................... ....................... ๕. ปรงุ =............................ ........................... ....................... ๖. พริก =............................ ........................... ....................... ๗. ขลาด =............................ ........................... ....................... ๘. คลมุ =............................ ........................... ....................... ๙. พลอย =............................ ........................... ....................... ๑๐. ปลกู =............................ ........................... ....................... =............................ ........................... ....................... ๒. เขยี นเครอ่ื งหมาย X ทับอักษรหนา้ ข้อที่เป็นคำตอบที่ถกู ท่สี ดุ ๑. ขอ้ ใดมีอักษรควบแท้ ทุกคำ ก. ทรวดทรง สระสรง ข. เศรา้ ใจ คร้ังคราว ค. กรดี กราย ขวนขวาย ๒. คำในขอ้ ใดอ่านออกเสียงต่างจากพวก ก. ทรดุ โทรม ข. พลิกแพลง ค. ใกลค้ ลอง ๓. ข้อใดไมม่ อี กั ษรควบ ก. ทรงศลี ข. สขุ สันต์ ค. สรรเสริญ ๔. ข้อใดมีอกั ษรควบ มากทส่ี ุด ก. เศรษฐีสรา้ งอาศรม ข. ราชาทรงศลี ใตต้ น้ ไทร ค. เดก็ เลน่ กองทรายอย่างสนุกสนาน ๕. ขอ้ ใด อา่ นผดิ ก. สรา้ ง = สรา้ ง ข. ทราบ = ซาบ ค. เสริม = เสิม
ใบงาน ๒ ประกอบหน่วยการเรยี นรู้ที่ ๗ เรอื่ ง รกั ท่สี ุดเมอื งของเรา ภาคเรียนที่................ แผนการเรียนรทู้ ี่ ๑ เร่อื ง ฝึกอา่ นรำรอ้ ง ปีการศึกษา............... ช่ือ..................................................................................................... เลขท.ี่ ................... ชัน้ ...................... ___________________________________________________________________________ คำช้แี จง แต่งประโยคจากคำควบกลำ้ ตัวอยา่ ง โศกเศรา้ = แดงโศกเศร้าทแ่ี ม่เสียชีวิต ๑. โปร่งใส = ............................................................................................... ๒. พุทรา = ............................................................................................... ๓. สรา้ ง = ............................................................................................... ๔. สรรเสริญ = ............................................................................................... ๕. ควายป่า = ............................................................................................... ๖. กราบ = ............................................................................................... ๗. ปราบปราม = ............................................................................................... ๘. ทรุดโทรม = ............................................................................................... ๙. ขวาน = ............................................................................................... ๑๐. กลอง = ...............................................................................................
เกณฑ์การประเมนิ การแต่งประโยค หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๗ เรอ่ื ง รักที่สุดเมืองของเรา แผนการเรยี นรู้ท่ี ๑ เรอ่ื ง ฝึกอา่ นรำรอ้ ง รายการ ระดับคณุ ภาพ นำ้ หนกั คะแนน ประเมนิ คะแนน รวม ๔ ๓๒ ๑ ๔ ๑๖ ๑. การแตง่ แตง่ ได้ถูกตอ้ ง แตง่ ประโยคโดย แตง่ ประโยคโดย แต่งประโยคโดย ประโยคโดยใช้ ตามชนิดและ ใช้คำทก่ี ำหนด ๒ ๘ คำทก่ี ำหนด หน้าทขี่ องคำ ใชค้ ำทกี่ ำหนด ใช้คำทีก่ ำหนด แตป่ ระโยคไม่ ๓ สมบรู ณ์ ๑ ๑๒ ประโยคสมบรู ณ์ ได้ถกู ได้ถกู ใจความไม่ ๔ ใจความชัดเจน ชัดเจน ๔๐ ใช้ภาษาได้ดี ความหมาย ความหมาย สำนวนภาษาส่อื ความหมายยงั ไม่ ๒. สำนวนภาษา สำนวนภาษาสอ่ื ประโยคสมบูรณ์ ประโยคสมบูรณ์ ถูกต้อง สื่อความหมาย ความหมายได้ ชดั เจน ถูกตอ้ งชัดเจนดี ใจความชัดเจน ไดใ้ จความ ใชถ้ อ้ ยคำสบั สน เข้าใจยาก มาก สำนวนภาษาส่ือ สำนวนภาษาสือ่ มีรอยลบ ขีดฆา่ ๓. ถอ้ ยคำ ใชถ้ อ้ ยคำ ความหมายได้ ความหมาย ต้ังแต่ ๕ แหง่ ขึ้น กะทัดรดั และได้ ไป ใจความดีมาก ถกู ต้องพอใช้ ถกู ตอ้ งเป็นบาง ๔. ลายมือมคี วาม ลายมือ มีความ ขอ้ ความ สวยงามเป็น เปน็ ระเบียบ ระเบียบ เรยี บรอ้ ยดมี าก ใชถ้ อ้ ยคำ ใช้ถ้อยคำ กะทดั รดั และได้ กะทดั รดั ใจความเล็กนอ้ ย ลายมอื มคี วาม มรี อยลบ ขดี ฆา่ เป็นระเบียบ เปน็ บางแหง่ เรียบร้อยพอใช้ รวมคะแนน เกณฑ์การตัดสิน/ระดับคุณภาพ ระดบั ๕ หมายถงึ ดเี ยีย่ ม คะแนน ๓๒ – ๔๐ ระดับ ๔ หมายถึง ดมี าก คะแนน ๒๘ – ๓๑ ระดบั ๓ หมายถึง ดี คะแนน ๒๔ – ๒๗ ระดบั ๒ หมายถงึ พอใช้ คะแนน ๒๐ – ๒๓ ระดบั ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ คะแนน ๐ – ๑๙ เกณฑก์ ารผา่ น ผา่ นระดับ ๓ ขน้ึ ไป
๑. การแต่งประโยคโดยใ ้ช แบบบันทกึ คะแนนการแต่งประโยค คำท่ีกำหนด ๒. สำนวนภาษา ่สือหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๗ เรื่อง รักทีส่ ดุ เมืองของเรา ความหมาย ัชดเจนแผนการเรียนรู้ท่ี ๑ เรอ่ื ง ฝกึ อา่ นรำร้อง ๓. ้ถอยคำ ๔. ลายมือมีความสวยงามเป็นรายการประเมิน ระเ ีบยบคะแนน รวมคะแนน ระดับ ุคณภาพเลข ชอื่ -สกุล ท่ี ๑๖ ๘ ๑๒ ๔ ๔๐ ๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ หมายเหตุ ใหด้ ูจากเกณฑท์ ่กี ำหนดไว้ขา้ งต้น
แผนการเรียนร้ทู ี่ ๒ เรื่อง สอดคลอ้ งงานเขยี น เวลา ๑ ชว่ั โมง ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ัด มาตรฐาน ท ๒.๑ : ใชก้ ระบวนการเขยี น เขยี นสอ่ื สาร เขยี นเรียงความ ย่อความและเขยี นเรื่องราว ในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ตวั ชว้ี ดั ท ๒.๑ ป.๔/๑ คดั ลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทดั และครง่ึ บรรทดั ท ๒.๑ ป.๔/๒ เขยี นสอื่ สารโดยใช้คำไดถ้ ูกตอ้ ง ชดั เจน เหมาะสม ท ๒.๑ ป.๔/๔ เขียนย่อความจากเรื่องสั้นๆ มาตรฐาน ท 4.๑ : เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษาและรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัตขิ องชาติ ตวั ช้วี ดั ท 4.๑ ป.๔/3 ใชพ้ จนานุกรมค้นหาความหมายของคำ ๒. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การเขยี นคำ ข้อความ การแต่งประโยค หรือการเขียนตามจิตนาการ ผ้เู ขยี นจะต้องเขยี นให้ถกู ตอ้ ง และมีมารยาทในการเขยี น เขา้ ใจความหมายของคำ หนา้ ท่ขี องคำ แตง่ ประโยคได้ถูกต้อง จงึ จะเขียนเรอ่ื งราว สอื่ สารไดด้ ี จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรียนมคี วามสามารถในการสือ่ สารไดเ้ หมาะสม ๒. นักเรยี นแตง่ ประโยคจากคำทก่ี ำหนดให้ได้ถกู ตอ้ งเหมาะสม ๓. นักเรียนคัดลายมือไดถ้ กู ต้อง ๔. นักเรยี นเขยี นยอ่ ความได้ถูกต้อง ๓. สาระการเรียนรู้ การเขียนคำ การแตง่ ประโยค เขียนขอ้ ความสนั้ ๆ ท่ีมีคำควบกลำ้ และเขียนยอ่ ความ ๔. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น ๔.๑ ความสามารถในการสอ่ื สาร ๔.๒ ความสามารถในการคดิ ๕. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์/ค่านยิ ม ๕.๑ ใฝ่เรยี นรู้ ๕.๒ ม่งุ มั่นในการทำงาน ๖. ชิน้ งาน/ภาระงาน การเขียนย่อความ ๗. การวดั และประเมินผล เคร่อื งมอื เกณฑ์ ผา่ นร้อยละ ๖๐ วธิ ีการ ๑. แบบประเมนิ การคดั ลายมือ ๑. คดั ลายมือจากการเขียนย่อความ ๒. แบบประเมินการเขยี นยอ่ ความ ๒. สังเกตพฤตกิ รรม ๓. แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
๘. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (กระบวนการคิด) ขนั้ ท่ี ๑ การจัดสภาพแวดล้อมและสรา้ งบรรยากาศทเี่ ออ้ื อำนวยต่อการคิด ๑. นักเรยี นต่อเตมิ รปู ภาพ ทค่ี รกู ำหนดพน้ื ฐานเป็นวงกลม ๒ วง สามเหล่ยี ม ๑ รูป ใหน้ ักเรียนตอ่ เติมได้อย่างอสิ ระ โดยครูกำหนดเวลา ๕ นาที ขนั้ ที่ ๒ ใช้รูปแบบวธิ กี ารสอนหรอื เทคนิคการสอนต่างๆ กระต้นุ ใหผ้ ู้เรียนเกดิ การคดิ เชอ่ื มโยง จากความคดิ เดิมในลกั ษณะใดลกั ษณะหนง่ึ ๒. ครูยกตัวอยา่ งคำสองคำ เชน่ แมก่ บั ครู น้ำกับฟ้า ฯลฯ ใหน้ ักเรียนเปรียบเทียบ ๒ สง่ิ ทม่ี ีส่งิ ทเ่ี หมอื นหรอื ตา่ งกนั ขณะเดียวกนั ให้นกั เรียนนำภาพจากการตอ่ เตมิ เปรียบเทยี บกับของเพื่อน หาส่วน ที่เหมือนกันและต่างกัน โดยเขียนแยกเป็นสว่ นๆ แล้วบอกความร้สู กึ ในส่วนทีเ่ ป็นของตนเองเปน็ อยา่ งไรอย่าง อสิ ระ ขน้ั ท่ี ๓ จดั กจิ กรรมให้ผ้เู รยี นได้ฝกึ ทกั ษะการคดิ และกระบวนการคดิ ตา่ งๆ ตามความเหมาะสม กับพื้นฐานของผเู้ รียน ๓. นักเรียนรว่ มกันคดิ คำท่ีขัดแย้งกันแตม่ ีความหมายเชน่ ไฟ/หนาว สขุ /ทุกขบ์ อกความรูส้ กึ ของคำนัน้ ๆ ขั้นที่ ๔ ให้เวลาแก่ผูเ้ รียนในการใชค้ วามคดิ และแสดงความคดิ อภิปรายแลกเปล่ยี นกระบวนการ คดิ ที่เกิดขึน้ ในกระบวนการเรยี นรู้ ๔. นกั เรยี นเลือกคำท่คี ดิ จากขน้ั ท่ี ๓ มา ๓–๔ คำ ท่เี ป็นคำควบกลำ้ โดยครใู ห้นักเรียนเลือก คำยอดนยิ มจากการยกมอื ใหค้ ะแนน นับคะแนนยอดนิยมเรียงลำดบั จากมากมาแตง่ ประโยคสัน้ ๆ ขน้ั ที่ ๕ รว่ มกนั สรปุ ประเดน็ ทไี่ ด้จากกระบวนการคดิ ท่ีเกิดข้นึ จากการเรียนรู้ ๕. นกั เรียนนำคำยอดนิยมไปหาในบทความ เร่อื งส้ัน คนละ ๑ บท อา่ นแลว้ เขยี นสรปุ ความรู้ ท่ไี ดจ้ ากเรื่องการอา่ นโดยศึกษาวธิ ีการเขียนย่อความจากใบความรู้ (ทา้ ยแผน) ขั้นที่ ๖ การวัดและประเมินผลการเรียน ทั้งทางด้านเนือ้ หา สาระการเรยี นรู้ และทักษะ กระบวนการคิด ๖. นกั เรียนเขียนย่อความจากเรอ่ื ง เทพารักษก์ บั คนตัดไม้ ตามใบงาน (ท้ายแผน) ๗. นักเรียนนำผลงานจากข้อ ๖ ตดิ ปา้ ยนิเทศในช้ันเรยี น แลว้ โหวตใหค้ ะแนนผลงานทช่ี อบ ที่สุด ๙. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ ๙.๑ บตั รคำ ๙.๒ บทความหรอื เรอ่ื งสนั้ ๙.๓ หนงั สืออ่านเพ่ิมเติมจากห้องสมดุ ๙.๔ เพลงคำควบกลำ้ ๙.๕ ใบความรู้ ๙.๖ ใบงาน ๑๐. ข้อเสนอแนะ …………………………….………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………. …………………………….………………………………………………………………………………………………………….…………………
ใบความรู้ เร่อื ง การยอ่ ความ การเขยี นยอ่ ความเป็นการสรุปใจความสำคัญของเรื่อง มีวิธปี ฏบิ ัตดิ งั นี้ ๑. อา่ นเร่อื งทจ่ี ะยอ่ ให้เขา้ ใจถอ่ งแท้ ๒. หาคำ กลมุ่ คำ หรือประโยคสำคญั ในเร่ือง เพอ่ื จบั ใจความสำคญั ๓. ใชภ้ าษาง่ายๆ กะทดั รัด เปน็ สำนวนของตนเองเขยี นใหไ้ ด้ใจความครบถว้ น ๔. บอกทมี่ าของเร่อื งที่ยอ่ ตัวอย่างการยอ่ ความ โรคเอดส์เกดิ จากเช้ือไวรสั ชนิดหนึ่ง เมอ่ื เช้ือไวรัสชนิดนีเ้ ขา้ สู่รา่ งกาย จะมีระยะการฟักตัวเปน็ ปหี รือ มากกวา่ ๑๐ ปี ผรู้ บั เช้อื ไวรสั เอดสร์ ะยะแรกๆ จะไม่มอี าการผิดปกตใิ ดๆ แต่เม่อื ไวรสั เพิม่ จำนวนมากข้นึ ภมู ิคมุ้ กนั รา่ งกายของผู้ป่วยจะเสื่อมลงเร่อื ยๆ ทำให้ตดิ เชอื้ โรคไดง้ า่ ยๆ และเสียชวี ติ ในทสี่ ดุ อาการของโรคเอดส์ ที่ปรากฏ เชน่ ต่อมน้ำเหลอื งโตทว่ั ตวั เป็นเชื้อราในปาก ปอดอกั แสบรนุ แรง ฯลฯ เมอื่ พบผู้เป็นโรคเอดส์ เราไม่ควรรงั เกียจ แต่ควรระวงั ปฏิบัตติ นใหป้ ลอดภัย ได้แก่ ไม่มเี พศสมั พนั ธ์ หรือรบั เลอื ดจากคนทเี่ ป็นโรค ดังกล่าว การตรวจเลือดเปน็ วธิ กี ารตรวจโรคนไ้ี ด้
ใบงาน ประกอบหน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๗ เร่ือง รักทีส่ ดุ เมืองของเรา ภาคเรียนที่................ แผนการเรียนรู้ท่ี ๒ เร่ือง สอดคล้องงานเขยี น ปกี ารศึกษา............... ชือ่ ..................................................................................................... เลขที.่ ................... ชน้ั ...................... ___________________________________________________________________________ คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนย่อความจากนทิ าน เรื่อง เทพารักษก์ ับคนตัดไม้ ชายตดั ไมค้ นหน่ึงเดินไปตดั ไมอ้ ยู่รมิ ลำธาร เขาพลัดทำขวานตกลงในแม่นำ้ เขาเสียใจยิ่งนัก เทพารักษ์ เห็นเขาเสียใจจึงโผล่ขนึ้ จากน้ำพรอ้ มขวานทอง ขวานนี้ของเจา้ ใช่ไหม ชายตัดไมต้ อบ ไมใ่ ช่ ไมใ่ ชข่ วานของข้า เทพารักษด์ ำลงไปใหม่พร้อมโผล่มากบั ขวานเงนิ ขวานนขี้ องเจ้าใชไ่ หม ชายตัดไมต้ อบ ไมใ่ ช่ ขวานข้าเป็นเหลก็ ธรรมดา เทพารกั ษ์ดำลงไปอีก พร้อมโผลม่ ากบั ขวานเหล็ก ขวานนขี่ องเจ้าใช่ไหม ใชค่ รบั น่ีแหละขวานของข้า เทพารกั ษ์ประทบั ใจในความซ่ือสัตย์ จงึ มอบขวานเงนิ และขวานทองใหก้ บั เขาไป ชายตดั ไม้ดใี จเล่าใหเ้ พอ่ื นฟงั เพอ่ื นเกดิ ความโลภ จึงแสร้งทำเปน็ ขวานหล่นลงแม่น้ำเทพารกั ษ์โผล่ขึน้ มาพร้อมขวานทอง ถามวา่ น่ใี ช่ขวาน ของเจ้าไหม เพอื่ นชายตดั ไม้รีบตอบ ใช่ๆ นี่แหละขวานของขา้ เทพารักษก์ ล่าว เจา้ คนคด เจ้าไม่มคี วาม ซื่อสตั ย์ เจา้ จะไม่ได้ขวานของเจ้าคืน กลา่ วเสรจ็ เทพารกั ษก์ ห็ ายตวั ไป ปล่อยให้เพื่อนชายตดั ไมเ้ สยี ใจอยรู่ มิ ลำธาร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
เกณฑ์การประเมินการเขียนยอ่ ความ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๗ เร่ือง รกั ทสี่ ุดเมืองของเรา แผนการเรยี นรู้ที่ ๒ เรอื่ ง สอดคล้องงานเขียน รายการ ๔ ระดบั คณุ ภาพ ๑ น้ำหนัก คะแนน ประเมนิ เขยี นตวั อักษรยงั คะแนน รวม ๓๒ ไม่ถูกตอ้ งตาม ๑๒ ๑. ตวั อักษร เขียนตัวอักษรได้ รปู แบบ ๓ เขียนตวั อักษรได้ เขยี นตัวอักษรได้ ๘ ถูกต้องตามแบบ ถกู ตอ้ งตาม ถกู ต้องตาม ถูกต้องตาม ยังเขียนไม่ถูกต้อง ๒ ๔ รูปแบบพอใช้ รูปแบบเปน็ บาง ๑ รูปแบบ การเว้นชอ่ งไฟ ๑๖ แหง่ ยังไมส่ มำ่ เสมอ ๔ ๔๐ ดมี าก ความถกู ต้องของ ความถูกต้องของ เนอ้ื หาพอใช้ เน้ือหาถูกต้อง ยังไม่เป็น ๒. ความถกู ต้อง ความถูกตอ้ งของ ระเบยี บ มีรอย เปน็ บางแห่ง ลบขีดฆ่า ของเนื้อหา เนือ้ หาที่เขยี น การเว้นช่องไฟ การเว้นช่องไฟ มากกวา่ ๕ สม่ำเสมอพอใช้ สมำ่ เสมอเปน็ บาง แห่ง ดมี าก แหง่ ๓. การเว้น การเวน้ ชอ่ งไฟ สวยงามเป็น สวยงามเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย ระเบียบ มีรอย ช่องไฟ ไดส้ มำ่ เสมอ พอใช้ ลบขีดฆา่ เปน็ บาง ดีมาก แหง่ ๔. ความสวยงาม สวยงามเป็น รวมคะแนน เป็นระเบียบ ระเบียบเรยี บรอ้ ย เรียบรอ้ ย ดมี าก เกณฑก์ ารตัดสนิ /ระดับคณุ ภาพ ระดับ ๕ หมายถงึ ดเี ยย่ี ม คะแนน ๓๒ – ๔๐ ระดับ ๔ หมายถงึ ดีมาก คะแนน ๒๘ – ๓๑ ระดับ ๓ หมายถึง ดี คะแนน ๒๔ – ๒๗ ระดบั ๒ หมายถงึ พอใช้ คะแนน ๒๐ – ๒๓ ระดับ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๑๙ เกณฑก์ ารผ่าน ผา่ นระดับ ๓ ขน้ึ ไป
แบบบนั ทึกคะแนนการเขยี นย่อความ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๗ เร่อื ง รกั ที่สดุ เมอื งของเรา แผนการเรียนรทู้ ่ี ๒ เรือ่ ง สอดคล้องงานเขียน รายการประเมิน คะแนน เลข ชือ่ -สกุล ท่ี ๑. ตัว ัอกษร ูถกต้องตามแบบ ๒. ความ ูถกต้องของเ ้ืนอหา ๓. การเ ้วนช่องไฟ ๔. ความสวยงามเ ็ปนระเ ีบยบ เรียบร้อย รวมคะแนน ระดับ ุคณภาพ ๑๒ ๘ ๔ ๑๖ ๔๐ ๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ หมายเหตุ ใหด้ ูจากเกณฑ์ท่ีกำหนดไว้ข้างต้น
แผนการเรียนรู้ท่ี ๓ เรอ่ื ง ปรบั เปล่ียนสือ่ สาร เวลา ๑ ช่วั โมง ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วดั มาตรฐาน ท ๒.๑ : ใช้กระบวนการเขียน เขยี นส่อื สาร เขียนเรยี งความ ยอ่ ความและเขียนเร่อื งราว ในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ตวั ช้วี ดั ท ๒.๑ ป.๔/๒ เขยี นสื่อสารโดยใชค้ ำได้ถูกตอ้ ง ชดั เจน เหมาะสม ท ๒.๑ ป.๔/๔ เขียนยอ่ ความจากเรอื่ งส้ันๆ มาตรฐาน ท ๓.๑ : สามารถเลือกฟังและดูอย่างมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงความรคู้ วามคดิ และความรสู้ กึ ในโอกาสต่างๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวชี้วดั ท ๓.๑ ป.๔/๑ จำแนกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคดิ เห็นจากเรื่องทฟ่ี งั และดู ท ๓.๑ ป.๔/๒ พดู สรปุ ความจากการฟังและดู ท ๓.๑ ป.๔/๓ พดู แสดงความรคู้ วามคดิ เหน็ และความร้สู กึ เกี่ยวกับเรอ่ื งทฟ่ี งั ทีด่ ู ๒. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การเขียนสื่อสาร ผู้เขียนจะต้องเขยี นให้ถูกลักษณะการเขยี น และมีมารยาทในการเขยี น เข้าใจ ความหมายของคำ หนา้ ที่ของคำ แตง่ ประโยคได้ถกู ตอ้ ง จึงจะเขียนเรือ่ งราวสื่อสารได้ดี ทำใหง้ านเขยี น ชดั เจน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรยี นมคี วามสามารถจำแนกเสยี ง ร ล จากการฟังได้ ๒. นักเรยี นสามารถเขียนสรปุ ขอ้ เทจ็ จริง ข้อคิดเหน็ จากเร่อื งทฟ่ี งั หรือดูได้ ๓. สาระการเรียนรู้ การเขยี นสอ่ื สาร หนา้ ทข่ี องคำ การแตง่ ประโยค ๔. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ๔.๑ ความสามารถในการส่อื สาร ๔.๒ ความสามารถในการคดิ ๕. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ คา่ นยิ ม ๕.๑ มีวินยั ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมน่ั ในการทำงาน ๖. ช้ินงาน/ภาระงาน การเขียนสรปุ ขอ้ เท็จจริง จากการฟังและดู ๗. การวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมอื เกณฑ์ ผา่ นรอ้ ยละ ๖๐ วธิ ีการ ๑. แบบประเมนิ การเขยี นสรุป ๑. เขยี นสรุปข้อเทจ็ จริง จากการฟัง ข้อเท็จจรงิ จากการฟงั และดู และดู ๒. แบบสังเกตพฤติกรรม ๒. สงั เกตพฤตกิ รรม
๘. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (กระบวนการฝกึ ทักษะ) ขั้นที่ ๑ ครูบอกจดุ ประสงค์การเรยี นใหน้ กั เรียนสามารถแยกเสยี ง ร ล จากการฟังได้ ทง้ั ที่เปน็ พยญั ชนะตน้ และพยัญชนะควบกลำ้ ได้ถกู ต้อง ขัน้ ท่ี ๒ ครอู ธบิ ายการออกเสยี ง สังเกตลน้ิ รมิ ฝปี ากการออกเสยี งของครู นักเรียนฝึกพูด ฝึกออกเสยี ง ให้เพอื่ นฟงั ขนั้ ที่ ๓ นกั เรยี นฝกึ ออกเสยี งเปน็ คำๆ พร้อมกนั และอ่านขอ้ ความบทความสนั้ ๆ พรอ้ มกันและอา่ น ข้อความ บทความสนั้ ๆ พร้อมกัน ขน้ั ที่ ๔ นกั เรยี นจับคฝู่ ึกอ่านออกเสยี ง ร, ล แลว้ ผลดั กนั ฟังเสยี งอ่านและวิจารณ์ ชบ้ี อกเพ่ือนจดุ ที่ ต้องปรับปรุง สลับคกู่ นั ฝกึ ทกั ษะจนคลอ่ ง ขั้นที่ ๕ นกั เรียนจับคอู่ สิ ระเข้าห้องสมดุ หาบทความส้ันๆ ทม่ี ตี วั อกั ษร ร ล และคำควบกล้ำในเร่ือง ทอ่ี ่าน อา่ นออกเสียงผลดั กันฟงั ข้นั ท่ี ๖ นักเรยี นศึกษาใบความรู้ เรือ่ ง การฟงั และการดู (ทา้ ยแผน) และนำบทความจากเทปมาให้ นกั เรียนฟงั โดยเปิดให้ฟงั สองเท่ยี ว แลว้ นักเรยี นสรุปเรอ่ื งรว่ มกัน พรอ้ มแสดงความคดิ เห็นจากเร่ืองทีไ่ ด้ฟงั ขนั้ ที่ ๗ นักเรยี นเขยี นสรุปขอ้ เท็จจรงิ ตามใบงาน (ทา้ ยแผน) ๙. สื่อและแหลง่ การเรียนรู้ ๙.๑ แบบฝึกอา่ นเปน็ ขอ้ ความที่มี ร ล และคำควบกล้ำ ๙.๒ บทความ ๙.๓ เพลงคำควบกลำ้ ๙.๔ ใบความรู้ ๙.๕ ใบงาน ๑๐. ขอ้ เสนอแนะ …………………………….………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………. …………………………….………………………………………………………………………………………………………….…………………
ใบความรู้ เร่ือง การฟังและการดู การตดิ ตอ่ สอ่ื สารในชีวติ ประจำวนั เดิมเราใช้ทกั ษะการฟงั มากกวา่ ทกั ษะอ่ืนๆ แตป่ จั จบุ นั เทคโนโลยี กา้ วหน้ามาก ทำให้เกดิ มสี อื่ ใหม่ๆ เช่น ภาพน่ิงโทรทัศน์ วดี ทิ ัศน์ ภาพเคลอื่ นไหวประกอบเสียงทาง โทรศัพท์เคล่ือนที่ การแสดงตา่ งๆ ฯลฯ ทำให้รับเร่อื งราวขา่ วสารไดท้ ั้งการฟงั และการดู ข้อควรปฏิบัตใิ นการฟงั และการดู ๑. เลือกฟังและดตู ามจดุ มุ่งหมายที่ต้องการ คอื เพ่อื หาความรู้ หรือเพอื่ หาความบันเทงิ ๒. ถ้าเลอื กได้ ควรเลอื กฟังผู้พดู ท่ีเปน็ นักพูดที่ดี หรือเลือกฟงั และดูสอื่ ท่ีมคี ุณภาพดี หรอื การแสดงทมี่ ี มาตรฐาน ๓. ตั้งใจ มจี ติ ใจจดจ่ออยกู่ บั การฟงั หรือการดใู นขณะนัน้ ๔. พยายามตดิ ตามเรือ่ งราว คิดพจิ ารณา ไตรต่ รองเร่ืองทฟี่ งั หรอื ดวู า่ สมเหตุสมผล นา่ เชอื่ ถอื เพยี งใด ๕. พิจารณาวา่ ผพู้ ดู มีจดุ ประสงคห์ รือต้ังใจบอกผฟู้ งั วา่ อะไร เพราะเหตุใด ๖. พยายามหาขอ้ คิดท่เี ป็นประโยชนจ์ ากการฟงั และดู เพอ่ื นำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ๗. จดบันทึกสาระสำคญั ไว้เพ่อื ใชป้ ระโยชนต์ ่อไป มารยาทการฟังและการดูในที่สาธารณะ ๑. แตง่ กายสภุ าพเรยี บรอ้ ย ๒. ไมท่ ำอะไรทีเ่ ปน็ การรบกวนผู้พดู เชน่ คุยกนั เล่นโทรศัพท์ รับประทานอาหาร ฯลฯ ๓. ถ้าตอ้ งการถามควรยกมือขน้ึ กอ่ นหรือขออนุญาตผ้พู ดู ก่อน ๔. ไม่ควรเดินเขา้ ออกขณะทผ่ี ู้พดู กำลังพดู ๕. เมือ่ ผพู้ ดู พูดจบ ควรปรบมอื ใหเ้ กียรติ
ใบงาน ประกอบหนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๗ เร่อื ง รกั ท่ีสดุ เมอื งของเรา ภาคเรียนท.่ี ............... แผนการเรียนรู้ท่ี ๓ เรอื่ ง ปรับเปล่ยี นส่ือสาร ปกี ารศกึ ษา............... ชอ่ื ..................................................................................................... เลขท่ี.................... ชน้ั ...................... ___________________________________________________________________________ คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนสรุปความ และเขยี นข้อเท็จจริงจากการฟัง โดยฟงั และดู (ครูเปิดนทิ านเทยี บสภุ าษิต หรอื ข่าวมาหนงึ่ เรอ่ื งใหน้ ักเรียนฟัง ดู) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
เกณฑ์การประเมนิ การฟงั และการดู หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๗ เรื่อง รกั ท่สี ุดเมืองของเรา แผนการเรยี นรทู้ ี่ ๓ เรื่อง ปรับเปล่ียนสื่อสาร รายการ ๔ ระดบั คุณภาพ ๑ น้ำหนกั คะแนน ประเมนิ เขยี นตวั อกั ษรยัง คะแนน รวม ๓๒ ไมถ่ ูกตอ้ งตาม ๑๒ ๑. ตวั อักษร เขยี นตวั อกั ษรได้ รปู แบบ ๓ เขยี นตวั อักษรได้ เขยี นตัวอกั ษรได้ ๘ ถูกต้องตามแบบ ถูกต้องตาม ถูกต้องตาม ถูกตอ้ งตาม ยังเขยี นไม่ถูกตอ้ ง ๒ ๔ รปู แบบพอใช้ รูปแบบเปน็ บาง ๑ รปู แบบ การเวน้ ช่องไฟ ๑๖ แห่ง ยังไมส่ ม่ำเสมอ ๔ ๔๐ ดีมาก ความถกู ตอ้ งของ ความถูกตอ้ งของ เนอ้ื หาพอใช้ เน้ือหาถกู ตอ้ ง ยังไมเ่ ป็น ๒. ความถูกต้อง ความถูกต้องของ ระเบยี บ มีรอย เปน็ บางแหง่ ลบขีดฆา่ ของเนอื้ หา เน้ือหาทเี่ ขยี น การเวน้ ช่องไฟ การเว้นช่องไฟ มากกวา่ ๕ สม่ำเสมอพอใช้ สมำ่ เสมอเปน็ บาง แห่ง ดีมาก แหง่ ๓. การเว้น การเวน้ ชอ่ งไฟ สวยงามเปน็ สวยงามเป็น ระเบยี บเรยี บร้อย ระเบยี บ มรี อย ช่องไฟ ไดส้ มำ่ เสมอ พอใช้ ลบขดี ฆา่ เปน็ บาง ดีมาก แหง่ ๔. ความสวยงาม สวยงามเปน็ รวมคะแนน เปน็ ระเบยี บ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย เรียบร้อย ดมี าก เกณฑก์ ารตดั สิน/ระดับคุณภาพ ระดับ ๕ หมายถงึ ดีเยย่ี ม คะแนน ๓๒ – ๔๐ ระดับ ๔ หมายถึง ดมี าก คะแนน ๒๘ – ๓๑ ระดบั ๓ หมายถึง ดี คะแนน ๒๔ – ๒๗ ระดับ ๒ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๒๐ – ๒๓ ระดับ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรงุ คะแนน ๐ – ๑๙ เกณฑ์การผ่าน ผา่ นระดับ ๓ ข้นึ ไป
แบบบันทกึ คะแนนการฟังและการดู หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๗ เรอื่ ง รกั ทีส่ ดุ เมอื งของเรา แผนการเรียนรู้ท่ี ๓ เรอื่ ง ปรับเปลยี่ นสือ่ สาร รายการประเมิน คะแนน เลข ช่ือ-สกุล ท่ี ๑. ตัว ัอกษร ูถกต้องตามแบบ ๒. ความ ูถกต้องของเ ้ืนอหา ๓. การเ ้วนช่องไฟ ๔. ความสวยงามเ ็ปนระเ ีบยบ เรียบร้อย รวมคะแนน ระดับ ุคณภาพ ๑๒ ๘ ๔ ๑๖ ๔๐ ๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ หมายเหตุ ให้ดูจากเกณฑ์ท่ีกำหนดไวข้ า้ งตน้
แผนการเรียนรทู้ ี่ ๔ เร่ือง เรมิ่ งานการคดิ เวลา ๑ ช่วั โมง ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ดั มาตรฐาน ท ๓.๑ : สามารถเลือกฟงั และดอู ย่างมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ความคิด และความรูส้ ึกในโอกาสตา่ งๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวชวี้ ดั ท ๓.๑ ป.๔/๑ จำแนกขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คดิ เห็นจากเรื่องทฟี่ งั และดู ท ๓.๑ ป.๔/๒ พดู สรปุ ความจากการฟงั และดู ท ๓.๑ ป.๔/๓ พดู แสดงความรคู้ วามคิดเหน็ และความรู้สกึ เกยี่ วกับเรอื่ งทฟ่ี งั ทด่ี ู มาตรฐาน ท ๕.๑ : เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณว์ รรณคดี และวรรณคดี และวรรณกรรมไทย อย่างเห็นคณุ คา่ และนำมาประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จรงิ ท ๕.๑ ป.๔/๑ ระบุข้อคดิ จากนทิ านพ้ืนบา้ นหรือนิทานคตธิ รรม ท ๕.๑ ป.๔/๒ อธบิ ายขอ้ คิดจากการอา่ น เพอื่ นำไปใชใ้ นชวี ิตจริง ท ๕.๑ ป.๔/๓ ร้องเพลงพนื้ บา้ น ท ๕.๑ ป.๔/๔ ทอ่ งจำบทอาขยานตามกำหนด และบทรอ้ ยกรองทมี่ ีคุณคา่ ตามความสนใจ ๒. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การพูดสรปุ จากการฟงั การดู จำแนกขอ้ เท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องทฟี่ งั ดู จากสื่อตา่ งๆ เช่น นิทานพื้นบ้านหรือนิทานคติธรรม บทร้อยกรอง ระบขุ อ้ คิด ประเภท ลกั ษณะ ของสื่อ และคิดวเิ คราะห์ นำไปใช้ในชีวิตประจำวนั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. นักเรียนสามารถสรุปความจากเร่ืองทฟี่ ังได้ ๒. นกั เรยี นบอกอธิบายขอ้ คดิ ท่ไี ดจ้ ากการฟัง การดู ๓. นกั เรียนบอกอธบิ ายแนวทางในการทจ่ี ะนำข้อคิดทีไ่ ดไ้ ปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ๓. สาระการเรียนรู้ การวเิ คราะห์ จำแนกขอ้ คดิ เหน็ ข้อเทจ็ จรงิ คณุ คา่ บทร้อยกรอง นทิ านพืน้ บา้ น นทิ านคตธิ รรม และบทความ แล้วสามารถพูดสรุปความจากการฟัง การอา่ น การดู นำไปสูก่ ารเขยี นแผนภาพความคิด ๔. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น ความสามารถในการคดิ ๕. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์/ค่านิยม ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน ๖. ชน้ิ งาน/ภาระงาน ผลงานการเขยี นสรุปความ ๗. การวดั และประเมินผล วธิ ีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์ ผ่านร้อยละ ๖๐ − ๑. สรปุ ความจากนทิ านพื้นบา้ น ๑. แบบประเมินการสรุปความ นทิ านคณุ ธรรม จากนทิ านพืน้ บ้าน นทิ านคุณธรรม ๒. สังเกตพฤตกิ รรม ๒. แบบสังเกตพฤติกรรม
๘. กิจกรรมการเรียนรู้ (กระบวนการคดิ ) ข้นั ท่ี ๑ การจดั สภาพแวดล้อมและสร้างบรรยากาศท่เี ออื้ อำนวยต่อการคิด ๑. นักเรียนฟงั การท่องบทอาขยานจากเทป แล้วสรุปความรทู้ ่ไี ด้จากบทอาขยานรว่ มกัน ขั้นท่ี ๒ ใชร้ ูปแบบวิธกี ารสอนหรือเทคนิคการสอนต่างๆ กระตุ้นใหผ้ ู้เรียนเกิดการคดิ เช่ือมโยง จากความคดิ เดิมในลกั ษณะใดลักษณะหนง่ึ ๒. นกั เรียนแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งอิสระจากเน้ือหาของบทอาขยาน ประมาณ ๔-๕ คน แลว้ ให้เพื่อนยกมือ สำหรบั คนทมี่ คี วามคดิ เห็นตรงกับเพ่อื นจัดลำดบั ความคิดเห็นของตนเองให้เพือ่ นฟัง ขั้นท่ี ๓ จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนไดฝ้ กึ ทกั ษะการคดิ และกระบวนการคิดต่างๆ ตามความเหมาะสม กับพื้นฐานของผเู้ รียน ๓. จากความคิดเหน็ ทห่ี ลากหลาย นกั เรียนรว่ มกนั วเิ คราะหข์ ้อคิดเห็นทเ่ี ป็นจริง โดยแยกเปน็ สองฝา่ ย ซง่ึ ขอ้ คิดเห็นยกมาพรอ้ มกบั เหตุผลท่คี ิดเช่นนน้ั แล้วสรปุ ขอ้ คิดเหน็ รว่ มกนั ข้นั ท่ี ๔ ใหเ้ วลาแก่ผเู้ รียนในการใชค้ วามคิด และแสดงความคิด อภปิ รายแลกเปลีย่ นกระบวนการ คดิ ที่เกิดขน้ึ ในกระบวนการเรียนรู้ ๔. นักเรียนศกึ ษาใบความรู้การเขียนสรปุ ความและเลอื กนิทานพื้นบ้านทชี่ อบ คนละ ๑ เร่อื ง อา่ นแลว้ เขยี นสรปุ ความจากเรื่องพร้อมแสดงข้อคิดท่ไี ด้จากนทิ าน ขน้ั ที่ ๕ รว่ มกนั สรปุ ประเดน็ ท่ไี ด้จากกระบวนการคิดทีเ่ กดิ ขึ้นจากการเรยี นรู้ ๕. นกั เรยี นเขยี นสรุปความจากนทิ าน เปน็ แผนภาพความคิดและบอก ถงึ การทจี่ ะนำขอ้ คิด ไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ของตนเองอย่างไรตามใบงาน (ท้ายแผน) ข้นั ท่ี ๖ การวดั และประเมินผลการเรยี น ทง้ั ทางด้านเนอ้ื หา สาระการเรยี นรู้ และทักษะ กระบวนการคิด ๖. รว่ มกันคดั เลือกผลงานที่เขียนไดด้ ี มาวางแสดงทโี่ ต๊ะหนา้ ชน้ั เรียน ๗. ครูและนักเรียนชว่ ยกนั สรปุ การเขียนสรปุ ความจากนทิ าน ๙. สอื่ และแหล่งการเรียนรู้ ๙.๑ บทอาขยาน ๙.๒ สื่อ CAI นิทานพนื้ บา้ น ๙.๓ ใบความรู้ ๙.๔ ใบงาน ๑๐. ขอ้ เสนอแนะ …………………………….………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………. …………………………….………………………………………………………………………………………………………….…………………
ใบความรู้ เร่อื ง การเขียนสรปุ ความ การสรปุ ความ เปน็ การสรปุ เรือ่ งราวจากการฟงั หรือการอ่าน ผฟู้ งั หรือผอู้ า่ นจะต้องจบั ใจความและสรุปใจความสำคญั ของเรอ่ื ง เพอื่ ทีจ่ ะเป็นพืน้ ฐานของการพดู หรือการเขยี นสรปุ ความ ตอ่ ไป การอา่ น และฟงั เพอ่ื สรุปความ จะต้องจับประเด็นใหไ้ ด้ว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมอื่ ไร อย่างไร แลว้ จดบนั ทกึ ไว้ จากนนั้ จึงสรปุ ความของเรอื่ งที่อา่ นหรือฟงั ตวั อยา่ ง การสรุปความ เรอ่ื ง ปราสาทเขาพนมรุ้ง ปราสาทเขาพนมรงุ้ เปน็ เทวสถานทส่ี รา้ งถวายพระศิวะ ตามความเชือ่ ของศาสนาฮนิ ดู ทน่ี บั ถอื พระศวิ ะเป็นใหญ่ ปราสาทเขาพนมรุ้งสรา้ งตอ่ เน่ืองกันมาเป็นเวลานาน ตง้ั แต่ พ.ศ.๑๕๐๑- ๑๗๐๐ กษัตริยข์ อมผสู้ รา้ งปราสาทท่ีสำคัญพระองค์หนึง่ คอื พระเจา้ หริ ณั ยวรมนั ด้วยเหตนุ จ้ี ึงได้ นำชอื่ ของพระองคม์ าต้ังชอื่ เสน้ ทางท่ีตัดเขา้ ส่เู ขาพนมรงุ้ วิธสี รุปความ พระเจา้ หิรณั ยวรมนั กษตั รยิ ข์ องพระองคห์ นง่ึ ใคร สร้างปราสาทพนมรงุ้ ทำอะไร พ.ศ. ๑๕๐๑ - ๑๗๐๐ เม่ือไร เพอ่ื ถวายพระศวิ ะ อย่างไร นำชื่อของพระเจา้ หริ ณั ยวรมนั มาต้งั เปน็ ชื่อถนน ผลเป็นอย่างไร สรปุ ความได้ ดงั นี้ พระเจา้ หริ ณั ยวรมัน เปน็ กษตั รยิ ์ขอมพระองคห์ นงึ่ ทส่ี รา้ งปราสาทเขาพนมรงุ้ ในระหว่าง พ.ศ. ๑๕๐๑ - ๑๗๐๐ เพอ่ื ถวายพระศวิ ะ จึงได้นำช่อื ของพระองคม์ าต้ังเป็นชอ่ื ถนน
ใบงาน ประกอบหน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๗ เร่ือง รักที่สุดเมอื งของเรา ภาคเรยี นท.ี่ ............... แผนการเรยี นรู้ท่ี ๔ เรื่อง เรมิ่ งานการคิด ปีการศกึ ษา............... ชื่อ..................................................................................................... เลขที.่ ................... ชั้น...................... ___________________________________________________________________________ คำชี้แจง ให้นกั เรียนเขยี นสรปุ ความจากนิทาน เร่ือง ลูกโปง่ สวรรค์ ลกู โป่งสวรรค์ ลกู เหมยี วนง่ั ในตะกร้าลูกโปง่ สวรรคล์ อยไปบนทอ้ งฟา้ ลกู เหมยี วตามหานางฟา้ เพื่อขอใหน้ างฟ้าชว่ ยให้ ตนเรียนเกง่ ลูกเหมียวถามหานางฟา้ จากนก ดวงจนั ทร์ หมู่ดาว และดวงอาทติ ย์ แต่ไมม่ ีใครเคยเหน็ นางฟ้าเลย ดวงอาทติ ย์แนะนำใหล้ ูกเหมียวลองไปดูคนที่เรียนเกง่ ว่า เขาทำอย่างไรแลว้ ปฏบิ ตั ิตาม ลูกเหมียวได้ไปเห็นลูก หมากำลังทำการบ้าน และลูกหมีกำลังอ่านหนงั สอื ลกู หมจี งึ คดิ ได้วา่ ตนเปน็ ที่พง่ึ แห่งตนและไมค่ ดิ พง่ึ นางฟา้ อีก ข้อคิด ตนเปน็ ท่พี ่งึ แหง่ ตน .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................
เกณฑ์การประเมนิ การสรุปความจากนิทาน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๗ เรอ่ื ง รกั ท่ีสดุ เมืองของเรา แผนการเรยี นรู้ท่ี ๔ เรือ่ ง เริม่ งานการคดิ รายการ ๔ ระดับคุณภาพ น้ำหนกั คะแนน ประเมิน ๓๒ ๑ คะแนน รวม ๑. ตวั อกั ษร เขยี นตัวอกั ษร เขียนตัวอกั ษรได้ เขียนตวั อักษรได้ เขียนตัวอกั ษร ถูกต้องตาม ไดถ้ ูกต้องตาม ถกู ต้องตาม ถูกตอ้ งตาม ยังไม่ถกู ต้อง ๓ ๑๒ ๒ ๘ แบบ รูปแบบดีมาก รูปแบบพอใช้ รูปแบบเปน็ บาง ตามรปู แบบ ๑ ๔ ๔ แห่ง ๑๖ ๔๐ ๒. ความ ความถกู ตอ้ ง ความถกู ตอ้ งของ ความถกู ตอ้ งของ ยงั เขียนไม่ ถกู ต้องของ ของเนอ้ื หาที่ เน้อื หาพอใช้ เนื้อหาถกู ต้อง ถกู ต้อง เน้ือหา เขยี นดมี าก เป็นบางแหง่ ๓. การเว้น การเวน้ ชอ่ งไฟ การเว้นช่องไฟ การเว้นช่องไฟ การเวน้ ช่องไฟ ไดส้ ม่ำเสมอ สม่ำเสมอพอใช้ สมำ่ เสมอเป็นบาง ชอ่ งไฟยังไม่ ดมี าก แห่ง สม่ำเสมอ ๔. ความ สวยงามเป็น สวยงามเป็น สวยงามเปน็ ยงั ไม่เปน็ สวยงามเป็น ระเบยี บ ระเบยี บเรียบรอ้ ย ระเบียบ มีรอย ระเบียบ มี ระเบยี บ เรยี บร้อยดีมาก พอใช้ ลบขดี ฆา่ เป็นบาง รอยลบขีดฆ่า เรียบรอ้ ย แห่ง มากกวา่ ๕ แห่ง รวมคะแนน เกณฑ์การตดั สิน/ระดับคุณภาพ ระดับ ๕ หมายถงึ ดเี ยยี่ ม คะแนน ๓๒ – ๔๐ ระดบั ๔ หมายถงึ ดมี าก คะแนน ๒๘ – ๓๑ ระดบั ๓ หมายถงึ ดี คะแนน ๒๔ – ๒๗ ระดบั ๒ หมายถงึ พอใช้ คะแนน ๒๐ – ๒๓ ระดบั ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๑๙ เกณฑก์ ารผ่าน ผา่ นระดับ ๓ ข้นึ ไป
แบบบันทึกคะแนนการสรปุ ความจากนทิ าน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๗ เร่อื ง รกั ทส่ี ดุ เมอื งของเรา แผนการเรียนรทู้ ่ี ๔ เรอื่ ง เริ่มงานการคิด รายการประเมนิ คะแนน เลข ชอื่ -สกลุ ท่ี ๑. ตัว ัอกษร ูถกต้องตามแบบ ๒. ความ ูถกต้องของเ ้ืนอหา ๓. การเ ้วนช่องไฟ ๔. ความสวยงามเ ็ปนระเ ีบยบ เรียบร้อย รวมคะแนน ระดับ ุคณภาพ ๑๒ ๘ ๔ ๑๖ ๔๐ ๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ หมายเหตุ ให้ดจู ากเกณฑ์ท่ีกำหนดไวข้ ้างต้น
แผนการเรียนรทู้ ่ี ๕ เรอื่ ง พิชิตความหมาย เวลา ๑ ชว่ั โมง ๑. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั มาตรฐาน ท ๑.๑ : ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคดิ เพอ่ื นำไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการ ดำเนินชวี ติ และมนี สิ ยั รกั การอา่ น ตัวชี้วดั ท ๑.๑ ป.๔/๒ อธบิ ายความหมายของคำ ประโยค และสำนวนจากเรอ่ื งทอี่ ่าน ท ๑.๑ ป.๔/๖ สรุปความรู้และข้อคิดจากเร่อื งทอ่ี า่ นเพ่อื นำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน ท ๑.๑ ป.๔/๗ อ่านหนงั สอื ที่มคี ุณค่าตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอและแสดงความคดิ เห็น มาตรฐาน ท ๒.๑ : ใช้กระบวนการเขียนสอื่ สาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ เขียนเรื่องราวในรปู แบบ ต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตัวชว้ี ดั ท ๒.๑ ป.๔/๓ เขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง และ แผนภาพความคิด เพือ่ ใชพ้ ฒั นางานเขยี น ท ๒.๑ ป.๔/๔ เขยี นย่อความจากเรอื่ งสั้น มาตรฐาน ท ๕.๑ : เข้าใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณว์ รรณคดี และวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็น คุณค่าและนำมาประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ จรงิ ตวั ชว้ี ดั ท ๕.๑ ป.๔/๑ ข้อคิดจากนทิ านพน้ื บา้ น หรอื คตธิ รรม ท ๕.๑ ป.๔/๒ อธิบายขอ้ คิดจากการอ่าน เพอื่ นำไปใช้ในชวี ติ จรงิ ๒. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด นทิ านพนื้ บา้ น มคี ณุ คา่ ตอ่ การดำรงชวี ติ ทงั้ ถ้อยคำ สำนวนในนิทานเปน็ คำทมี่ ีความหมายไดค้ วามรู้ และแนวคดิ หลกั การ วตั ถุประสงคล์ กั ษณะใชพ้ จนานุกรมค้นหาความหมายเพ่ือนำไปเขียนอธบิ ายคำ ประโยค บทความ สำนวนเพ่อื นำไปเขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศ เรอ่ื งสั้น เขยี นวิจารณว์ รรณคดวี รรณกรรมอย่างมี ประสทิ ธิภาพ และเขียนอธิบายขอ้ คิดได้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. นกั เรียนมคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ ๒. นกั เรยี นบอกอธิบายความข้อคิดทีไ่ ด้จากการอา่ น เขียน ฟงั ดู ๓. สาระการเรยี นรู้ บอกอธบิ ายข้อคดิ ท่ีได้จากการอา่ น เขยี น ฟัง ดู ๔. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น ๔.๑ ความสามารถในการส่ือสาร ๔.๒ ความสามารถในการคดิ ๕. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค/์ ค่านยิ ม ๕.๑ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๒ มุ่งมนั่ ในการทำงาน ๕.๓ รกั ความเปน็ ไทย ๖. ช้ินงาน/ภาระงาน การเขียนสรปุ ความขอ้ คดิ ท่ีได้จากการอา่ น เขยี น ฟัง ดู
๗. การวดั และประเมนิ ผล วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ผา่ นรอ้ ยละ ๖๐ ๑. เขยี นสรปุ ความข้อคิดท่ไี ดจ้ ากการ ๑. แบบประเมนิ การเขยี นสรุป อ่าน เขียน ฟัง ดู ความข้อคิดที่ไดจ้ ากการอ่าน เขียน ๒. สงั เกตพฤตกิ รรม ฟัง ดู ๒. แบบสงั เกตพฤติกรรม ๘. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (กระบวนการสรา้ งความตระหนกั ) ข้นั สังเกต ๑. นกั เรยี นดลู ะครนทิ านพืน้ บ้าน จาก CAI ขณะที่ดใู หน้ ักเรยี นสงั เกตการใช้ภาษาและการ ประกอบพธิ กี รรมจากละคร ขัน้ วจิ ารณ์ ๒. แบง่ นักเรียนออกเป็น ๔ กลมุ่ ๒ กลุม่ แสดงความคดิ เหน็ การใชภ้ าษา อกี ๒ กลมุ่ แสดง ความคดิ เห็นในการใชพ้ ธิ กี รรม ๓. แต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมาพดู สรปุ ข้อคิดเห็นของกลมุ่ นกั เรียนที่ฟังสรุปวิเคราะห์ ข้อคดิ เห็นว่าเหน็ ดว้ ยหรอื ต่างกัน ๔. ครเู ลอื กนกั เรยี นอาสาสมัคร มาพูดแสดงเหตุผลที่เห็นดว้ ยหรอื ต่างกนั ประมาณ ๔-๕ คน ตามความเหมาะสม แลว้ ให้นกั เรยี นทง้ั ห้องชว่ ยกนั หาตัวอย่างจากข้อคดิ เห็นจากนทิ านพ้ืนบา้ น ๕. นกั เรยี นศกึ ษาใบความรู้การเขียนสรุปความและข้อคดิ (ท้ายแผน) ขั้นสรปุ ๖. นกั เรยี นช่วยกนั สรปุ ความข้อคดิ ทีไ่ ดจ้ ากนทิ านพ้นื บา้ น แล้วอธิบายแนวทางท่ีจะนำไปใช้ ในชวี ติ ประจำวันกบั ตนเองอยา่ งไร และรว่ มกนั ทำแผนภาพโครงเร่ือง ๗. นักเรยี นทำใบงาน (ท้ายแผน) เขยี นเป็นรอ้ ยแกว้ ด้วยภาษาของนกั เรียนเอง จากนทิ าน พ้นื บ้าน ๙. สือ่ และแหลง่ การเรียนรู้ ๙.๑ สื่อ CAI นทิ านพน้ื บา้ น ๙.๒ ใบความรู้ ๙.๓ ใบงาน ๑๐. ข้อเสนอแนะ …………………………….………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………. …………………………….………………………………………………………………………………………………………….…………………
ใบความรู้ เรอ่ื ง การสรุปใจความสำคัญและข้อคดิ การเขียนสรปุ ใจความสำคญั และข้อคดิ ของเร่อื ง มวี ธิ ปี ฏบิ ตั ดิ งั นี้ ๑. อ่านเรอื่ งให้เข้าใจอย่างถอ่ งแท้ ๒. หาคำ กล่มุ คำ หรอื ประโยคสำคญั ในเร่ือง เพอื่ จับใจความสำคญั ๓. ใช้ภาษางา่ ยๆ กะทัดรัด เป็นสำนวนของตนเองเขยี นใหไ้ ดใ้ จความครบถ้วน ๔. บอกทม่ี าของเรอ่ื ง ตัวอย่าง คำ กลุม่ คำ หรือประโยคสำคัญในเรือ่ ง กระต่าย เตา่ ตัวหนงึ่ แขง่ วิ่ง เผลอหลับไป ไมท่ ันการณ์ เสน้ ชัย ตวั อย่าง มีกระตา่ ยตัวหนง่ึ นกึ ทจี่ ะแข่งว่งิ เลยชวนเพื่อนๆทอ่ี าศยั อยใู่ นปา่ เดียวกนั มาแขง่ วิง่ แตไ่ ม่มี ใครมีเวลาแข่งวงิ่ กบั กระตา่ ยเลย กระต่ายจึงเดินต่อไป เพอื่ ทจี่ ะหาเพ่อื นมาแข่งวง่ิ กับมนั ให้ได้ และ แล้วมันก็เจอกบั เตา่ ตวั หน่ึง เลยชวนเตา่ แข่งวิ่งกับมนั เต่าตอบตกลงท่ีจะแขง่ ว่ิงกบั กระตา่ ย กระต่ายจงึ ใหเ้ ต่าวิง่ นำไปก่อนลว่ งหนา้ โดยมเี พอื่ นๆ ในป่าคอยเป็นพยาน ทนั ใดนัน้ กระตา่ ยก็เผลอ หลบั ไป โดยที่เต่าพยามเรง่ เดินให้เร็วที่สดุ และในทส่ี ดุ เต่าก็ใกลถ้ งึ เสน้ ชัย กระตา่ ยรีบลกุ ขึน้ วง่ิ สดุ ชวี ติ แตก่ ็ไม่ทนั การณ์ และแลว้ เตา่ กถ็ ึงเสน้ ชยั นทิ านเรือ่ งน้ี สอนให้รวู้ ่า........ ความพยายามอย่ทู ไ่ี หน ความสำเร็จอย่ทู นี่ ้นั
ใบงาน ประกอบหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๗ เร่อื ง รักท่สี ุดเมอื งของเรา ภาคเรยี นท.่ี ............... แผนการเรยี นรูท้ ่ี ๕ เรอ่ื ง พชิ ิตความหมาย ปกี ารศึกษา............... ชอ่ื ..................................................................................................... เลขที.่ ................... ชนั้ ...................... ___________________________________________________________________________ คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นหาข่าวจากหนงั สอื พิมพม์ าติดในกรอบสี่เหล่ยี ม แลว้ เขยี นสรปุ ใจความสำคญั และ ขอ้ คดิ ................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
เกณฑ์การประเมนิ การเขยี นสรปุ ใจความสำคญั และข้อคดิ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๗ เรือ่ ง รกั ทส่ี ุดเมืองของเรา แผนการเรียนรู้ที่ ๕ เร่ือง พิชิตความหมาย รายการประเมิน ๔ ระดบั คุณภาพ นำ้ หนัก คะแนน ๓๒ ๑ คะแนน รวม ๑. ตวั อักษร เขียนตวั อกั ษร เขยี นตวั อักษร เขยี นตวั อกั ษร เขยี นตัวอกั ษร ถกู ต้องตามแบบ ได้ถูกตอ้ งตาม ได้ถูกตอ้ งตาม ได้ถกู ต้องตาม ยงั ไมถ่ กู ต้อง ๓ ๑๒ ๒ ๘ รปู แบบดีมาก รปู แบบพอใช้ รปู แบบเปน็ ตามรูปแบบ ๑ ๔ ๔ ๑๖ บางแหง่ ๔๐ ๒. ความถูกตอ้ ง ความถกู ตอ้ ง ความถูกตอ้ ง ความถกู ตอ้ ง ยงั เขียนไม่ ของเน้ือหา ของเน้อื หาท่ี ของเน้อื หา ของเนื้อหา ถกู ตอ้ ง เขียนดมี าก พอใช้ ถูกต้องเปน็ บางแหง่ ๓. การเว้นชอ่ งไฟ การเว้นชอ่ งไฟ การเวน้ ช่องไฟ การเว้นช่องไฟ การเว้นชอ่ งไฟ ไดส้ มำ่ เสมอ สมำ่ เสมอ สม่ำเสมอเปน็ ยังไมส่ มำ่ เสมอ ดีมาก พอใช้ บางแห่ง ๔. ความสวยงาม สวยงามเปน็ สวยงามเปน็ สวยงามเป็น ยังไม่เป็น เป็นระเบียบ ระเบียบ ระเบียบ ระเบียบ มรี อย ระเบียบ มรี อย เรยี บร้อย เรยี บรอ้ ยดีมาก เรยี บร้อยพอใช้ ลบขีดฆ่าเปน็ ลบขดี ฆา่ บางแห่ง มากกวา่ ๕ แห่ง รวมคะแนน เกณฑ์การตดั สิน/ระดับคณุ ภาพ ระดับ ๕ หมายถงึ ดีเยี่ยม คะแนน ๓๒ – ๔๐ ระดับ ๔ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๒๘ – ๓๑ ระดบั ๓ หมายถึง ดี คะแนน ๒๔ – ๒๗ ระดบั ๒ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๒๐ – ๒๓ ระดบั ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรุง คะแนน ๐ – ๑๙ เกณฑก์ ารผา่ น ผา่ นระดับ ๓ ขึ้นไป
แบบบันทึกคะแนนการเขียนสรุปใจความสำคัญและข้อคดิ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๗ เร่ือง รักท่สี ดุ เมอื งของเรา แผนการเรียนร้ทู ี่ ๕ เรอื่ ง พิชติ ความหมาย รายการประเมนิ คะแนน เลข ช่อื -สกุล ท่ี ๑. ตัว ัอกษร ูถกต้องตามแบบ ๒. ความ ูถกต้องของเ ้ืนอหา ๓. การเ ้วนช่องไฟ ๔. ความสวยงามเ ็ปนระเ ีบยบ เรียบร้อย รวมคะแนน ระดับ ุคณภาพ ๑๒ ๘ ๔ ๑๖ ๔๐ ๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ หมายเหตุ ให้ดูจากเกณฑ์ท่กี ำหนดไว้ขา้ งต้น
แผนการเรียนรทู้ ่ี ๖ เรอื่ ง เรือ่ งงา่ ยๆ แผนภาพความคดิ เวลา ๑ ชวั่ โมง ๑. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั มาตรฐาน ท ๑.๑ : ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรูแ้ ละความคดิ เพอื่ นำไปใชต้ ัดสนิ ใจ แกป้ ญั หาในการ ดำเนนิ ชีวิตและมีนิสยั รักการอา่ น ตวั ชีว้ ดั ท ๑.๑ ป.๔/๓ อ่านเรอ่ื งส้ันๆตามเวลาทก่ี ำหนดและตอบคำถามจากเรอื่ งที่อา่ น ท ๑.๑ ป.๔/๗ อา่ นหนงั สอื ทีม่ คี ณุ ค่าตามความสนใจอย่างสมำ่ เสมอและแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกบั เรื่องท่อี ่าน มาตรฐาน ท ๒.๑ : ใชก้ ระบวนการเขยี นสื่อสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ เขยี นเร่อื งราวในรูปแบบ ต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นควา้ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ตวั ช้วี ดั ท ๒.๑ ป.๔/๒ เขยี นสือ่ สารโดยใช้คำถกู ต้อง ชดั เจนเหมาะสม ท ๒.๑ ป.๔/๓ เขียนแผนภาพความคิด เพอื่ พฒั นาการเขียน ๒. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การอา่ นเร่ืองส้นั ๆ ได้เข้าใจ สามารถเขียนแผนภาพความคดิ และสรุปเร่ืองท่ีอ่านไดถ้ ูกตอ้ ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นักเรยี นเข้าใจเรื่องทอ่ี า่ นและแสดงความคดิ เห็นไดถ้ ูกต้อง ๒. นกั เรียนสรุปเร่อื งและเขียนแผนภาพความคดิ ได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ หลักการอา่ น ๓.๒ การเขียนแผนภาพความคิด ๔. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ๔.๑ ความสามารถในการส่อื สาร ๔.๒ ความสามารถในการคดิ ๕. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์/คา่ นยิ ม ๕.๑ ใฝเ่ รยี นรู้ ๕.๒ มุ่งมัน่ ในการทำงาน ๖. ชิ้นงาน/ภาระงาน การเขยี นแผนภาพความคิด ๗. การวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์ ผ่านรอ้ ยละ ๖๐ วธิ ีการ ๑. แบบประเมนิ การเขียนแผนภาพความคดิ − ๑. เขยี นแผนภาพความคิด ๒. แบบสังเกตพฤติกรรม ๒. สงั เกตพฤตกิ รรม
๘. กิจกรรมการเรียนรู้ (กระบวนการคิด) ข้นั ท่ี ๑ การจัดสภาพแวดล้อมและสร้างบรรยากาศท่เี ออ้ื อำนวยตอ่ การคิด ๑. นกั เรียนคัดเลอื กเรอ่ื งส้ันๆ ตามความสนใจ ๑ เรอ่ื ง แลว้ อ่านเรือ่ งใช้เวลา ๕ นาที แล้วเขยี นประเดน็ ทน่ี ่าสนใจจากเรอ่ื งท่ีอา่ นให้มากท่สี ดุ ขน้ั ท่ี ๒ ใช้รปู แบบวิธีการสอนหรือเทคนิคการสอนต่างๆ กระตุ้นให้ผเู้ รียนเกดิ การคิดเชอ่ื มโยง จากความคิดเดิมในลกั ษณะใดลักษณะหนึ่ง ๒. นกั เรียนระดมประเดน็ ท่ีเขยี น จดั กล่มุ ความคดิ ทเี่ ขียน แลว้ ช่วยกันสรปุ ความคิดหลกั โดย เขยี นความคดิ หลักไว้ตรงกลาง และความคดิ ทร่ี ะดมประเด็นไวร้ อบๆ พรอ้ มศกึ ษาใบความรู้การเขยี นแผนภาพ ความคดิ ขน้ั ท่ี ๓ จัดกจิ กรรมให้ผ้เู รยี นได้ฝกึ ทกั ษะการคิด และกระบวนการคดิ ตา่ งๆ ตามความเหมาะสม กับพน้ื ฐานของผู้เรยี น ๓. จากความคดิ หลกั ตรงกลาง มีความเชอ่ื มโยงกบั ความคิดรองมากที่สดุ ลากเสน้ เชอ่ื มโยง คำท่เี หมาะสมจนครบทุกความคดิ ขน้ั ที่ ๔ ให้เวลาแก่ผูเ้ รียนในการใช้ความคิด และแสดงความคดิ อภิปรายแลกเปลี่ยนกระบวนการ คิดท่เี กิดขึ้นในกระบวนการเรียนรู้ ๔. จัดลำดบั แนวคิดทเี่ ชอื่ มโยงกับความคิดหลักไวต้ รงกลาง อาจใชส้ แี ละเครอ่ื งหมายที่แสดง ความคดิ หน่งึ เชอ่ื มตอ่ ความคิดหน่งึ ขั้นท่ี ๕ ร่วมกันสรปุ ประเดน็ ทีไ่ ด้จากกระบวนการคิดท่เี กิดข้ึนจากการเรียนรู้ ๕. การจดั ลำดบั โดยใช้สญั ลกั ษณ์ บอกถึงลำดับความสำคัญการเชอ่ื มโยงความคิดหลกั เปน็ การแสดงแผนภาพความคิดของเรอื่ งส้ันทอี่ า่ น ขัน้ ที่ ๖ การวัดและประเมินผลการเรยี น ท้ังทางดา้ นเนือ้ หา สาระการเรยี นรู้ และทกั ษะ กระบวนการคิด ๖. นกั เรียนเลือกบทอ่าน 1 บท ตามความสนใจแล้วศึกษา สรุปเรอ่ื ง เขียนแผนภาพ ความคดิ ลงในใบงาน ๗. ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั สรุปการเขยี นแผนภาพความคดิ ๙. ส่อื และแหล่งการเรียนรู้ ๙.๑ บทอ่าน เรือ่ งส้ัน ๙.๒ ใบความรู้ ๙.๓ ใบงาน ๑๐. ข้อเสนอแนะ …………………………….………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………. …………………………….………………………………………………………………………………………………………….…………………
ใบความรู้ เรอ่ื ง การเขยี นแผนภาพความคิด ส่วนประกอบของแผนภาพความคดิ ๑. หัวข้อ ๒. ตวั ละครในเน้ือเรื่อง ๓. สถานทแ่ี ละเวลา ๔. สาเหตุทีเ่ กิด ๕. ผลของเหตกุ ารณ์ ๖. บทสรุปของเนอ้ื เรอื่ ง ชอ่ื เร่ืองหรือหวั ขอ้ ตัวละคร สถานที่และเวลาใน สาเหตุทเี่ กดิ เหตกุ ารณ์ ผลของเหตกุ ารณ์ บทสรปุ เนือ้ หา
ใบงาน ประกอบหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๗ เร่อื ง รกั ทส่ี ุดเมอื งของเรา ภาคเรียนที่................ แผนการเรียนรู้ท่ี ๖ เรื่อง เรอ่ื งง่ายๆ แผนภาพความคิด ปกี ารศึกษา............... ชอ่ื ..................................................................................................... เลขที่.................... ชั้น...................... ___________________________________________________________________________ คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นเขยี นแผนภาพความคดิ จากเรื่องที่อา่ น ตามความสนใจ
เกณฑก์ ารประเมนิ การเขยี นแผนภาพความคดิ (Mind Mapping) หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๗ เรอ่ื ง รกั ที่สดุ เมืองของเรา แผนการเรยี นรูท้ ่ี ๖ เรอ่ื ง เรอ่ื งง่ายๆ แผนภาพความคิด รายการ ระดบั คุณภาพ นำ้ หนกั คะแนน ประเมิน ๑. ความคดิ ๔ ๓ ๒ ๑ คะแนน รวม รวบยอด เขียนแผนท่ี เขยี นแผนท่ี เขยี นแผนที่ เขียนแผนท่ี ๒. ความคดิ รอง ความคดิ ท่แี สดง ความคดิ ท่ีแสดง ความคดิ ท่ีแสดง ความคดิ ท่แี สดง ๓. ความคิด ความคดิ รวบยอด ความคดิ รวบยอด ความคดิ รวบยอด ความคดิ รวบยอด ๓ ๑๒ ยอ่ ย หลักถูกตอ้ ง หลักถกู ต้อง หลักถกู ตอ้ ง หลักไม่ตรง ๔. การ เช่ือมโยง ตรงประเดน็ ประเด็น ความคดิ ขยายความคดิ ขยายความคิด ขยายความคิด ขยายความคิด รองไดถ้ ูกตอ้ ง รองได้ถูกตอ้ ง รองได้ถกู ตอ้ ง รองไดไ้ ม่ถูกต้อง ครบทุกประเดน็ แตไ่ ม่ครบทุก มจี ำนวนนอ้ ย ๓ ๑๒ ประเดน็ ประเด็น มีจำนวนมาก ประเด็น ขยายความคดิ ขยายความคดิ ขยายความคดิ ขยายความคดิ ยอ่ ยได้ถกู ตอ้ ง ย่อยไดถ้ กู ต้อง ย่อยได้ถกู ต้อง ย่อยได้ถูกตอ้ ง ครบทุกประเด็น แต่ไมค่ รบทกุ มีจำนวนน้อย ๓ ๑๒ ประเด็น ประเด็น มีจำนวนมาก ประเด็น เชื่อมโยงความคิด เชอ่ื มโยงความคิด เชื่อมโยงความคดิ ไมเ่ ชือ่ มโยง รวบยอดหลัก รวบยอดหลัก รวบยอดหลัก ความคดิ รวบยอด ความคดิ รอง ความคดิ รอง ความคดิ รอง หลกั ความคิด ๑ ๔ ความคดิ ยอ่ ยได้ ความคดิ ยอ่ ยได้ ความคดิ ย่อย รองความคิดย่อย ชดั เจน รวมคะแนน ๔๐ เกณฑ์การตัดสิน/ระดบั คุณภาพ คะแนน ๓๒ – ๔๐ ระดบั ๕ หมายถงึ ดีเยี่ยม ระดบั ๔ หมายถึง ดมี าก คะแนน ๒๘ – ๓๑ ระดับ ๓ หมายถึง ดี ระดับ ๒ หมายถงึ พอใช้ คะแนน ๒๔ – ๒๗ ระดบั ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ คะแนน ๒๐ – ๒๓ คะแนน ๐ – ๑๙ เกณฑก์ ารผา่ น ผ่านระดบั ๓ ขน้ึ ไป
๑. ความ ิคดรวบยอดแบบบนั ทกึ คะแนนการเขยี นแผนภาพความคดิ (Mind Mapping) ๒. ความ ิคดรอง ๓. ความ ิคดย่อยหน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๗ เรื่อง รกั ทส่ี ดุ เมอื งของเรา ๔. การเชื่อมโยงความ ิคดแผนการเรยี นรู้ท่ี ๖ เรื่อง เรื่องง่ายๆ แผนภาพความคดิ รวมคะแนน ระดับ ุคณภาพรายการประเมนิ คะแนน เลข ท่ี ชือ่ -สกลุ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๔ ๔๐ ๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ หมายเหตุ ใหด้ ูจากเกณฑ์ทีก่ ำหนดไวข้ ้างตน้
แผนการเรียนรู้ท่ี ๗ เรือ่ ง อ่านสกั นิดคิดแลว้ เขียน ๑ เวลา ๑ ชวั่ โมง ๑. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๑.๑ : ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรูแ้ ละความคดิ เพื่อนำไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการ ดำเนนิ ชวี ติ และมีนิสัยรักการอา่ น ตวั ช้ีวดั ท ๑.๑ ป.๔/๓ อ่านเรอื่ งสน้ั ๆตามเวลาทก่ี ำหนดและตอบคำถามจากเรอ่ื งท่ีอ่าน ท ๑.๑ ป.๔/๗ อ่านหนังสอื ทม่ี ีคุณค่าตามความสนใจอย่างสมำ่ เสมอและแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับ เร่ืองท่ีอ่าน มาตรฐาน ท ๒.๑ : ใชก้ ระบวนการเขียนสื่อสาร เขียนเรยี งความ ย่อความ เขียนเร่อื งราวในรูปแบบ ตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นควา้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ตัวชี้วดั ท ๒.๑ ป.๔/๒ เขยี นสื่อสารโดยใชค้ ำถูกตอ้ ง ชดั เจนเหมาะสม ท ๒.๑ ป.๔/๓ เขยี นแผนภาพความคดิ เพ่ือพฒั นาการเขยี น ท ๒.๑ ป.๔/๔ เขยี นย่อความจากเรือ่ งส้นั ๒. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การอา่ นหนังสอื จนเป็นนิสยั จะทำให้มีทักษะการสอ่ื สารเรอ่ื งไดด้ แี ละได้แนวคดิ เชิงเหตผุ ล จำแนกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคดิ เหน็ ได้ถูกตอ้ ง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. นักเรียนมที กั ษะการอา่ นและเข้าใจเรื่องได้ ๒. นักเรียนสามารถแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นอยา่ งมีเหตผุ ล ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ การสรปุ เรอ่ื งจากการอา่ น ๓.๒ การแยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็นจากเร่อื ง ๓.๓ การต้ังคำถามและตอบคำถามอยา่ งมเี หตุผล ๔. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ๔.๑ ความสามารถในการสอื่ สาร ๔.๒ ความสามารถในการคดิ ๕. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์/ค่านิยม ๕.๑ มีวินยั ๕.๒ ใฝเ่ รยี นรู้ ๕.๓ มุ่งมน่ั ในการทำงาน ๖. ชิน้ งาน/ภาระงาน การจำแนกขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คิดเห็น
๗. การวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมอื เกณฑ์ ผ่านร้อยละ ๖๐ วิธีการ ๑. แบบประเมนิ การจำแนกข้อเทจ็ จริง − ๑. จำแนกข้อเทจ็ จรงิ และ และข้อคดิ เหน็ ๒. แบบสังเกตพฤติกรรม ข้อคดิ เหน็ ๒. สงั เกตพฤตกิ รรม ๘. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (การฝกึ ทกั ษะใชค้ ำถาม) ขนั้ ที่ ๑ นักเรยี นเลือกอา่ นหนังสอื ทชี่ อบ ๑ เร่ือง ใชเ้ วลา ๕ นาที แล้วสรปุ เร่ืองทีอ่ า่ น โดยจบลงดว้ ย ประเดน็ ปัญหา ขน้ั ที่ ๒ ครสู รา้ งสถานการณห์ รือเล่าเรอ่ื งให้จบดว้ ยปัญหา นักเรียนต้งั คำถามถามครู ซึ่งมขี ้อตกลงวา่ ใช่ หรือ ไมใ่ ช่ ทกุ คำถามใหไ้ ด้คำตอบ ครเู ลา่ เรอ่ื งอีกครัง้ พรอ้ มดภู าพจากเรอ่ื ง แล้วต้ังปญั หาให้นกั เรยี นหา คำตอบที่ถูกตอ้ ง ขนั้ ท่ี ๓ นกั เรยี น พิจารณาเร่ืองทอี่ ่าน รวบรวมขอ้ มูลเพื่อคน้ หาความจริง แยกข้อเทจ็ จรงิ พรอ้ มมีเหตผุ ลประกอบจากเร่ืองให้ได้มากทีส่ ดุ ขั้นท่ี ๔ นักเรียนคน้ หาคำตอบจากปญั หาการอา่ นเรอื่ งข้ันท่ี ๑ โดยมเี หตุผลหรอื หลกั ฐาน (รูปภาพใน การต้งั คำถามและตอบคำถามอ่ืนๆ) ช้ันที่ ๕ นักเรียนศึกษาใบความรู้ (ทา้ ยแผน) แล้ววเิ คราะหว์ ธิ ีการแกป้ ัญหา ในการตง้ั คำถามและตอบ คำถามจากเรอื่ งทอ่ี ่าน วา่ มีวธิ ีคดิ อยา่ งไรพร้อมทำใบงาน 1 ขน้ั ที่ ๖ นกั เรยี นสรุปข้อเท็จจริงจากเรอ่ื งท่ีอา่ น และไดข้ ้อคิดอย่างไรบันทกึ ลงในสมุด ขั้นที่ ๗ นักเรียนรว่ มกนั สรุปวิธีการคิดคำถามและหาคำตอบ เพ่อื ประกอบการอธิบายเหตุการณไ์ ด้ อย่างมเี หตผุ ลและทำใบงาน 2 ๙. สื่อและแหล่งการเรยี นรู้ ๙.๑ บทอ่านจากหนังสือท่นี ักเรยี นชอบ ๙.๒ หนงั สือในหอ้ งสมุดโรงเรยี น ๙.๓ ภาพประกอบเร่ืองท่ีอ่าน ๙.๔ ใบความรู้ ๙.๕ ใบงาน ๑๐. ข้อเสนอแนะ …………………………….………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………. …………………………….………………………………………………………………………………………………………….…………………
ใบความรู้ เรอื่ ง การแยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเหน็ การทน่ี กั เรยี นจะวิเคราะห์เนอื้ หาสาระของการอา่ นและการพูดนั้น นักเรียนจะต้องรู้วา่ อะไรเป็น ใจความสำคัญของเร่ือง อะไรเปน็ เนอ้ื หาหลกั เนอื้ หารอง ตอนใดเปน็ ใจความท่ีแสดงเหตุและผล ข้อเท็จจริง ข้อคดิ เห็น ในขณะเดยี วกันกต็ ้องใช้ความคดิ ความรู้ และประสบการณข์ องนักเรียน เพือ่ พจิ ารณาวา่ เรื่องทฟี่ งั น้ี มีความสมเหตสุ มผลและมคี วามถกู ต้องหรือไม่ มากนอ้ ยเพยี งใด การวิเคราะหข์ อ้ ความใดเป็นขอ้ เท็จจรงิ ข้อความใดเปน็ ข้อคิดเหน็ นกั เรยี นจะตอ้ งตง้ั ใจอ่านและตัง้ ใจ ฟงั แล้วลองใช้หลกั ตอ่ ไปน้พี ิจารณาแยกแยะ ลักษณะของข้อเท็จจรงิ ลกั ษณะของข้อคดิ เหน็ ๑. มคี วามเปน็ ไปได้ ๑. เป็นข้อความที่แสดงความรู้สกึ ๒. มคี วามสมจริง ๒. เปน็ ข้อความที่แสดงความคาดคะเน ๓. มีหลักฐานเช่อื ถอื ได้ ๓. เป็นข้อความท่ีแสดงการเปรียบเทยี บ อุปมา ๔. มคี วามสมเหตุสมผล อุปมยั ๔. เปน็ ข้อความท่เี ป็นขอ้ เสนอแนะหรือเป็นความ คิดเห็นของผ้พู ูดเอง ตวั อยา่ งข้อความที่เป็นข้อเท็จจริงและข้อคิดเหน็ ลกั ษณะของขอ้ ความที่เป็นข้อเท็จจริง ลกั ษณะของข้อความทีเ่ ป็นข้อคดิ เหน็ ๑. เชยี งรายมภี ูมปิ ระเทศท่สี วยงามน่าอยู่ ๑. จงั หวดั เชยี งรายอยู่ทางตอนเหนอื ของประเทศ ไทย ๒. กนิ ผกั บงุ้ ทำใหต้ าหวาน ๒. การทำลายปา่ ไม้ทำใหเ้ กิดความแหง้ แล้ง ๓. คนท่ีเช่ือถือโชคลาง เชือ่ วา่ แมวเป็นสัตวล์ กึ ลับ ๔. บ่าววรี อ้ งเพลงไดอ้ ารมณ์มากทส่ี ุด ๓. แมวมีฝเี ท้าเบามาก ๕. สมชายชอบวชิ าภาษาไทย ๔. เม่ือข้าวราคาตกตำ่ ทำให้ชาวนาเดือดร้อน ๕. มงคลเปน็ นักเรียนโรงเรยี นวดั ถ้ำปลาวทิ ยาคม
ใบงาน ๑ ประกอบหนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๗ เร่ือง รกั ท่สี ดุ เมอื งของเรา ภาคเรียนท.่ี ............... แผนการเรยี นรทู้ ่ี ๗ เร่ือง อ่านสกั นดิ คดิ แล้วเขียน ๑ ปีการศึกษา............... ชือ่ ..................................................................................................... เลขท่ี.................... ชั้น...................... ___________________________________________________________________________ คำชี้แจง ให้นกั เรยี นแยกข้อเท็จจรงิ และขอ้ คิดเหน็ จากขอ้ ความตอ่ ไปนี้ โดยทำเคร่ืองหมาย X ใหต้ รงกับ ข้อความท่ีเลอื ก ท่ี ข้อความ ข้อเท็จจรงิ ข้อคดิ เหน็ ๑ แมวไทยมีหน้าตานา่ รักและเฉลยี วฉลาด ๒ นายอภสิ ทิ ธ์ิ เวชชาชวี ะ เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ๓ พระพทุ ธศาสนามแี หล่งกำเนดิ ในชมพูทวปี และไดเ้ ผยแพร่เขา้ มา ในประเทศไทยเปน็ เวลานานมาแล้ว ๔ พอ่ ขนุ รามคำแหงประดษิ ฐอ์ กั ษรไทย ๕ โรงเรียนวัดถำ้ ปลาวทิ ยาคมมบี รรยากาศงดงาม ๖ วันนอี้ ากาศครึม้ มากฝนคงจะตกหนัก ๗ พระตำหนกั ดอยตุงเปน็ แหลง่ ท่องเทีย่ วในจงั หวัดเชยี งราย ๘ การต่นื นอนแต่เช้าตรู่เป็นกำไรของชวี ติ ๙ บิวกัลยาณรี อ้ งเพลงได้เพราะมาก ๑๐ แพนเคก้ เป็นดาราทส่ี วยมาก
ใบงาน ๒ ประกอบหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๗ เร่ือง รักทส่ี ุดเมอื งของเรา ภาคเรียนที่................ แผนการเรยี นรู้ที่ ๗ เรื่อง อา่ นสักนิดคิดแล้วเขียน ๑ ปกี ารศึกษา............... ชอ่ื ..................................................................................................... เลขท.่ี ................... ชัน้ ...................... ___________________________________________________________________________ คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นยกตัวอยา่ งขอ้ ความทีเ่ ป็นข้อเท็จจรงิ และข้อคิดเห็นมาให้ถกู ต้อง ข้อเท็จจริง ๑.............................................................................................................................................................. ๒............................................................................................................................................................. ๓.............................................................................................................................................................. ๔.............................................................................................................................................................. ๕.............................................................................................................................................................. ข้อคิดเหน็ ๖.............................................................................................................................................................. ๗.............................................................................................................................................................. ๘.............................................................................................................................................................. ๙.............................................................................................................................................................. ๑๐............................................................................................................................................................
เกณฑ์การประเมินการจำแนกขอ้ เท็จจริงและข้อคิดเหน็ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๗ เร่ือง รักทสี่ ุดเมอื งของเรา แผนการเรยี นรทู้ ี่ ๗ เรื่อง อ่านสกั นดิ คิดแลว้ เขียน ๑ รายการ ๔ ระดบั คุณภาพ ๑ น้ำหนัก คะแนน ประเมนิ ๓๒ คะแนน รวม ๑. การใช้ ใชค้ ำได้ถูกตอ้ ง ใชค้ ำไดถ้ กู ใชค้ ำได้ถูก ใช้คำทเ่ี ขยี น ๔ ๑๖ ประโยคได้ ตามชนดิ และ เหมาะสมให้ เหมาะ ประโยคไม่ ๒๘ ถกู ตอ้ งมี หน้าที่ของคำ ความหมาย ความหมาย สมบูรณ์ ๓ ๑๒ ๑๔ ความหมายตรง ประโยคสมบรู ณ์ ประโยคสมบรู ณ์ ประโยคสมบรู ณ์ ใจความไม่ ๔๐ ประเดน็ คำท่ี ใจความชดั เจน ใจความชดั เจน ได้ใจความ ชัดเจน กำหนด ใช้ภาษาไดด้ ี ๒. คำภาษาสื่อ คำภาษาส่อื คำสำนวนภาษา คำภาษาสอื่ คำภาษาสอ่ื ความหมาย ความหมายได้ สอื่ ความหมายได้ ความหมาย ความหมายยัง ชัดเจน ถกู ต้องชดั เจนดี ถูกต้องพอใช้ ถกู ต้องเป็นบาง ไม่ถกู ต้อง มาก ข้อความ ๓. ถอ้ ยคำ ใช้ถ้อยคำ ใชถ้ อ้ ยคำ ใช้ถ้อยคำ ใชถ้ อ้ ยคำ กะทดั รดั และได้ กะทัดรดั และได้ กะทัดรดั สบั สนเข้าใจ ใจความดีมาก ใจความเลก็ นอ้ ย ยาก ๔. ลายมือมีความ ลายมือ มคี วาม ลายมอื มคี วาม มีรอยลบ ขดี ฆา่ มีรอยลบ ขีด สวยงามเปน็ เปน็ ระเบียบ เปน็ ระเบียบ เปน็ บางแห่ง ฆา่ ต้งั แต่ ๕ ระเบยี บ เรียบร้อยดมี าก เรียบร้อยพอใช้ แหง่ ขึ้นไป รวมคะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ /ระดบั คุณภาพ ระดับ ๕ หมายถงึ ดเี ยีย่ ม คะแนน ๓๒ – ๔๐ ระดับ ๔ หมายถงึ ดมี าก คะแนน ๒๘ – ๓๑ ระดบั ๓ หมายถึง ดี คะแนน ๒๔ – ๒๗ ระดบั ๒ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๒๐ – ๒๓ ระดบั ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ คะแนน ๐ – ๑๙ เกณฑก์ ารผ่าน ผา่ นระดับ ๓ ข้นึ ไป
๑. การใ ้ชประโยคไ ้ดถูกต้อง ีมแบบบนั ทกึ คะแนนการจำแนกข้อเทจ็ จริงและขอ้ คดิ เหน็ ความหมายตรงประเ ็ดนคำ ่ีท กำหนด หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๗ เรอื่ ง รักทสี่ ดุ เมอื งของเรา ๒. คำภาษาสื่อความหมาย ัชดเจนแผนการเรยี นรทู้ ่ี ๗ เร่อื ง อา่ นสกั นดิ คิดแลว้ เขียน ๑ ๓. ถ้อยคำ ๔. ลาย ืมอ ีมความสวยงามเป็นรายการประเมิน ระเบียบคะแนน รวมคะแนนเลข ชอื่ -สกุล ระดับ ุคณภาพท่ี ๑๖ ๘ ๑๒ ๔ ๔๐ ๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ หมายเหตุ ให้ดจู ากเกณฑ์ท่กี ำหนดไว้ขา้ งตน้
แผนการเรียนรทู้ ่ี ๘ เร่อื ง อ่านสกั นดิ คดิ แลว้ เขียน ๒ เวลา ๑ ชัว่ โมง ๑. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัด มาตรฐาน ท ๑.๑ : ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคดิ เพอื่ นำไปใชต้ ัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาในการ ดำเนินชวี ิตและมนี ิสยั รักการอา่ น ตวั ชี้วดั ท ๑.๑ ป.๔/๓ อา่ นเรือ่ งส้นั ๆ ตามเวลาท่กี ำหนดและตอบคำถามจากเร่อื งที่อา่ น ท ๑.๑ ป.๔/๗ อา่ นหนังสอื ทม่ี คี ณุ คา่ ตามความสนใจอย่างสมำ่ เสมอและแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับ เร่อื งทอ่ี ่าน มาตรฐาน ท ๒.๑ : ใช้กระบวนการเขยี นส่อื สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ เขยี นเรือ่ งราวในรปู แบบ ตา่ งๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นควา้ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ตัวชี้วดั ท ๒.๑ ป.๔/๒ เขียนสอ่ื สารโดยใช้คำถูกต้อง ชดั เจนเหมาะสม มาตรฐาน ท ๓.๑ : สามารถเลือกฟงั และดอู ย่างมวี จิ ารณญาณ และแสดงความรู้ ความคดิ และ ความรสู้ กึ ในโอกาสตา่ งๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ตวั ชี้วดั ท ๓.๑ ป.๔/๔ ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตผุ ลจากเร่ืองที่อา่ น ฟัง ดู ท ๓.๑ ป.๔/๖ มมี ารยาทการอา่ น ฟงั และ ดู ๒. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การอา่ นหนงั สือจนเปน็ นิสัย จะทำให้มีทักษะการส่อื สารเร่อื งได้ดีและได้แนวคดิ เชิงเหตุผลตั้งคำถาม และตอบคำถามจากเร่ืองไดถ้ ูกตอ้ ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. นกั เรยี นมีทกั ษะการอา่ นและเขา้ ใจเร่อื งได้ ๒. นกั เรยี นสามารถตั้งคำถามและตอบคำถามจากเรื่องได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ การสรปุ เรอื่ งจากการอา่ น ๓.๒ การต้ังคำถามและตอบคำถามอย่างมเี หตผุ ล ๔. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ๔.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒ ความสามารถในการคดิ ๕. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ คา่ นิยม ๕.๑ มวี นิ ัย ๕.๒ ใฝเ่ รยี นรู้ ๕.๓ ม่งุ มนั่ ในการทำงาน ๖. ช้นิ งาน/ภาระงาน การตง้ั คำถามและตอบคำถามจากเร่อื ง
๗. การวัดและประเมินผล วธิ กี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์ ผา่ นร้อยละ ๖๐ ๑. การต้ังคำถามและตอบ ๑. แบบประเมนิ การต้ังคำถามและตอบคำถาม คำถามจากเรอ่ื ง จากเรอื่ ง ๒. สงั เกตพฤตกิ รรม ๒. แบบสังเกตพฤตกิ รรม ๘. กิจกรรมการเรียนรู้ (การฝึกทกั ษะใชค้ ำถาม) ขน้ั ท่ี ๑ ครูเลา่ สถานการณ์ น้ำทว่ มกรุงเทพพร้อมดภู าพประกอบนกั เรียนชว่ ยระดมความคดิ ตงั้ คำถามจากสถานการณ์ ด้วยปญั หา ทำไม่น้ำจงึ ทว่ ม ขั้นท่ี ๒ วิเคราะหค์ ำถามท่นี กั เรยี นรว่ มกนั คดิ เลือกคำถามทตี่ รงกบั สถานการณ์ มา ๔ คำถาม แล้วแบง่ กลมุ่ นักเรียนออกเป็น ๔ กลุ่ม มารบั คำถามกลุ่มละ ๑ คำถาม เพอื่ ชว่ ยกนั หาคำตอบ ขั้นที่ ๓ แตล่ ะกลุ่มวิเคราะห์คำถาม แล้วหาคำตอบหลากหลาย รวบรวมข้อมูลทเี่ ปน็ คำตอบคน้ พบ ความจริงจากสถานการณ์ทกุ คำตอบต้องมเี หตผุ ลอา้ งอิง พร้อมรวบรวมคำตอบและหาเหตผุ ลประกอบ ขัน้ ท่ี ๔ ตวั แทนกล่มุ นำเสนอคำถามพรอ้ มคำตอบอา้ งอิงเหตุผล นกั เรยี นท้ังห้องวเิ คราะหค์ ำตอบ เปน็ ข้อเทจ็ จริงจากคำถามมากน้อยอยา่ งไร รว่ มกันหาขอ้ สรุปคำตอบทถ่ี ูกตอ้ งตรงกับขอ้ เทจ็ จรงิ ขน้ั ที่ ๕ ศึกษาใบความรู้ (ทา้ ยแผน) แล้วรว่ มกันสรปุ ลักษณะประโยคคำถามและการตอบคำถาม แลว้ ทำใบงาน (ท้ายแผน) ขน้ั ท่ี 6 นกั เรียนทุกคนบันทึกวธิ กี ารต้ังคำถามและวธิ กี ารหาคำตอบของตนเอง นำไปตดิ ท่ปี า้ ยนเิ ทศ ร่วมกันอา่ นบนั ทึกแลว้ ใหล้ งความเห็นในตารางรายช่ือนักเรยี น ทุกคนเหน็ ดว้ ยหรือไม่เห็นดว้ ย นบั ความเห็น ของนกั เรียนคนใดมคี วามเห็นด้วยมากทสี่ ดุ และไมเ่ ห็นด้วยมากที่สดุ แลว้ ให้นกั เรียนท่ีเป็นเจา้ ของบันทกึ ทง้ั สอง คนมาเลา่ สรปุ วธิ ีการต้งั คำถามและหาคำตอบ ๙. ส่อื และแหล่งการเรียนรู้ ๙.๑ ภาพนำ้ ท่วม หรอื เป็น DVD เลา่ สถานการณน์ ำ้ ท่วม ๙.๒ ป้ายนเิ ทศ ๙.๓ ใบความรู้ ๙.๔ ใบงาน ๑๐. ขอ้ เสนอแนะ …………………………….………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………. …………………………….………………………………………………………………………………………………………….…………………
ใบความรู้ การอ่านทกุ คร้งั นกั เรยี นควรฝกึ ตั้งคำถาม และตอบคำถามจากเรื่องทีอ่ า่ น เพื่อใหไ้ ดร้ บั ความรู้สงู สดุ และได้ทบทวนความรดู้ ว้ ย ในการตง้ั คำถาม ควรตงั้ คำถามใหช้ ัดเจนวา่ ต้องการ คำตอบอย่างไร เชน่ คำตอบทีบ่ อกเวลา หรือบอกสถานท่ี เปน็ ต้น ซงึ่ ประโยคคำถามทีใ่ ชใ้ นการ ตง้ั คำถามและตอบคำถามมี 2 ลกั ษณะ คือ 1. ประโยคคำถามทต่ี อ้ งการคำตอบเกีย่ วกับชือ่ บคุ คล ส่งิ ของ เวลา สถานท่ี วิธีการ โดยมกั มีคำถามวา่ ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมอ่ื ไหร่ อยา่ งไร อยู่ตน้ หรอื ทา้ ยประโยค 2. ประโยคคำถามที่ตอ้ งการคำตอบรบั หรือปฏเิ สธ มกั มีคำว่าหรือ หรอื ไม่ ใช่ไหม อยู่ท้าย ประโยค
Search