Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 412_ภาษาไทย ป4 หน่วยที่3 ผักสมุนไพรใบหญ้ามีคุณค่าทั้งนั้น (2)

412_ภาษาไทย ป4 หน่วยที่3 ผักสมุนไพรใบหญ้ามีคุณค่าทั้งนั้น (2)

Published by krupom61, 2020-05-07 01:44:13

Description: 412_ภาษาไทย ป4 หน่วยที่3 ผักสมุนไพรใบหญ้ามีคุณค่าทั้งนั้น (2)

Search

Read the Text Version

๑ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอื่ ง ผกั สมุนไพรใบหญา้ มคี ณุ คา่ ท้งั นน้ั กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท ๑๔๑๐๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ นางอรวรรณ ปานจำรูญ ครผู ้สู อน โรงเรียนวัดพืชนมิ ติ (คำสวัสดิ์ราษฎรบ์ ำรุง) ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จงั หวดั ปทมุ ธานี สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต ๑

๒ หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๓ เรือ่ ง ผกั สมุนไพรใบหญ้ามีคณุ คา่ ท้งั น้นั กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท ๑๔๑๐๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ เวลา 8 ชัว่ โมง ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้ และความคดิ เพ่อื นำไปใชต้ ดั สินใจ แก้ปญั หาในการดำเนนิ ชีวติ และมนี ิสัยรกั การอา่ น ตวั ชว้ี ัด ป ๔/๑ อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได้ถกู ตอ้ ง ป.๔/๒ อธิบายความหมายของคำ ประโยค และสำนวนจากเรอื่ งที่อา่ น ป.๔/๓ อา่ นเรื่องส้ันๆ ตามเวลาที่กำหนดและตอบคำถามจากเร่อื งที่อา่ น ป.๔/๖ สรปุ ความร้แู ละข้อคดิ จากเรอื่ งท่ีอา่ นเพือ่ นำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ป.๔/๘ มมี ารยาทในการอา่ น สาระท่ี ๒ การเขยี น มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นส่อื สาร เขียนเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี นเรอ่ื งราวในรูปแบบ ตา่ งๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อย่างมปี ระสิทธิภาพ ตัวชว้ี ัด ป.๔/๑ คดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทดั และครง่ึ บรรทัด ป ๔/๒ เขยี นสื่อสารโดยใชค้ ำได้ถูกตอ้ งชดั เจน และเหมาะสม ป.๔/๓ เขยี นแผนภาพโครงเรือ่ งและแผนภาพความคดิ เพ่ือใช้พัฒนางานเขยี น ป.๔/๔ เขียนย่อความจากเร่อื งสน้ั ๆ ป.๔/๖ เขียนบันทึกและเขียนรายงานจากการคน้ คว้า ป.๔/๘ มมี ารยาทในการเขียน สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพดู มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดอู ยา่ งมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความรู้สึกใน โอกาสตา่ งๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตวั ชี้วดั ป.๔/๒ พดู สรุปความจากการฟังและดู ป.๔/๔ ตง้ั คำถามและตอบคำถามเชิงเหตผุ ลจากเรอื่ งทฟ่ี งั และดู ป.๔/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู

๓ สาระท่ี ๔ หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ องชาติ ตวั ชีว้ ัด ป.๔/๑ สะกดคำและบอกความหมายของคำในบริบทตา่ ง ๆ สาระที่ ๕ วรรณคดี และวรรณกรรม มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คุณคา่ และนำมา ประยุกต์ใช้ในชวี ติ จรงิ ตัวชว้ี ดั ป.๔/๒อธิบายขอ้ คิดจากการอา่ นเพื่อนำไปใชใ้ นชวี ติ จริง ป.๔/๔ ท่องจำบทอาขยานตามทกี่ ำหนดและบทร้อยกรองทมี่ คี ุณค่าตามความสนใจ ๒. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาคำและความหมายของคำทำให้เราเกดิ ความเข้าใจได้ถกู ต้องและชดั เจนนำใชไ้ ด้ถูกต้องเหมาะสม กับบรบิ ทของคำศพั ท์ การจบั ใจความสำคญั ของเรือ่ งที่อ่าน การอ่านออกเสยี งไดถ้ ูกต้องตามอกั ขรวธิ ี และฉันท ลักษณ์อย่างคล่องแคล่วสามารถถ่ายทอดอารมณ์ตามเรื่องที่อ่านเป็นการสื่อความ หมายไปสู่ผู้ฟังได้อย่างมี ประสิทธิภาพ การเขียนแผนภาพโครงเรื่อง และนำแนวคิดจากเรื่องไปใช้ในชีวิตประจำวัน บทอาขยาน ประเภทกลอนสี่เป็นบทท่องจำที่ต้องศึกษาให้ถูกต้องตามฉันทลักษณ์ ซึ่งจะทำให้เกิดความซาบซึ้งและเห็น คุณค่าย่งิ ขน้ึ เป็นการแสดงความสามารถในการใช้ภาษาที่มีความหมายงดงามและไพเราะ ๓. สาระการเรียนรู้ ความรู้ (K) ๑. หลกั การศึกษาคำศัพท์และความหมาย ๒. หลกั การอา่ นจับใจความ ๓. หลกั การเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง ๔. หลักการอา่ นออกเสียง ๕. มาตราตวั สะกดแม่กน แม่กก แมก่ ด แม่กบ ๖. คำท่ีประวิสรรชนียแ์ ละไมป่ ระวสิ รรชนีย์ ๗. คำท่ใี ชไ้ ม้ยมก ๘. หลักการตงั้ คำถามจากนทิ าน ๙. บทอาขยาน ทกั ษะกระบวนการ (P) ๑. เขียนบันทกึ ๒. เขียนแผนภาพโครงเร่อื ง ๓. อา่ นจบั ใจความ ๔. อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้ว บทรอ้ ยกรอง ๕. คัดลายมือ เจตคติ (A) ๑. มารยาทการอา่ นการเขยี น การฟงั ดู พดู

๔ ๔. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น ๑. มีความสามารถในการสอ่ื สาร ๒. มคี วามสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ ๕. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. มวี นิ ยั ๒. ใฝเ่ รียนรู้ ๓. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน ๖. ชน้ิ งาน/ภาระงาน ๑. การเขยี นบันทึกประสบการณ์ ๒.สมดุ เล่มเลก็ คำศัพทแ์ ละความหมายเรอ่ื งผกั สมนุ ไพรใบหญ้ามีคุณค่าทง้ั น้นั ๓. แผนภาพโครงเร่อื งผกั สมุนไพรใบหญ้ามีคณุ คา่ ท้ังน้นั ๗. การวัดและประเมินผล วธิ กี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์การผา่ น ๑. ตรวจผลงาน ๑. แบบประเมนิ การเขยี น ๑. เกณฑ์การเขยี นบนั ทกึ ประสบการณ์ -การเขียนบันทกึ บันทกึ ประสบการณ์ ชว่ งคะแนน ๑๒ – ๑๕ ระดับคุณภาพ ดี ช่วงคะแนน ๘ – ๑๑ ระดับคุณภาพ พอใช้ -สมดุ เล่มเล็ก ๒.แบบประเมนิ การทำสมดุ ชว่ งคะแนน ตำ่ กว่า ๘ ะดบั คุณภาพ ปรับปรงุ เลม่ เล็กและความหมาย ๒. เกณฑ์การทำสมดุ เลม่ เลก็ และความหมาย -แผนภาพโครงเรอื่ ง ชว่ งคะแนน ๙ – ๑๒ ระดับคุณภาพ ดี ๓.แบบประเมินการเขยี น ช่วงคะแนน ๕ – ๘ ระดบั คุณภาพ พอใช้ แผนภาพโครงเรอื่ ง ช่วงคะแนน ตำ่ กวา่ ๕ ระดับคณุ ภาพ ปรับปรุง ๓. เกณฑ์การเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ ง ช่วงคะแนน ๑๔ – ๑๘ ระดับคณุ ภาพ ดี ชว่ งคะแนน ๘ – ๑๒ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ชว่ งคะแนน ตำ่ กวา่ ๘ ระดบั คุณภาพ ปรับปรุง

๕ ๘. กิจกรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี ๑ การศกึ ษาคำศัพท์ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. เขยี นคำศัพท์ได้ ๒. คดั ลายมือรตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั ไดถ้ กู ต้อง สวยงาม กิจกรรมการเรียนรู้ นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรยี นรูเ้ รือ่ ง ผกั สมนุ ไพรใบหญ้ามคี ุณคา่ ทัง้ น้นั ขัน้ นำ ๑. ครยู กบตั รคำศพั ท์ให้นกั เรียนดู แลว้ ให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงดัง ๆ พรอ้ มกัน เชน่ เกษตรกรรม อา่ นว่า กะ –เสด – ตระ – กำ ทมดั ทะแมง อ่านว่า ทะ – มดั – ทะ- แมง พระราชนิพนธ์ อา่ นว่า พระ – ราด – ชะ - นิ- พน โภชนาการ อ่านว่า โพด-ชะ-นา-กาน,โพ-ชะ-นา-กาน ขน้ั สอน ๑. ตัวแทนนกั เรียนนำบัตรคำศพั ท์ทคี่ รเู ตรยี มไว้ตดิ บนกระเปา๋ ผนังพร้อมกบั บตั รคำอา่ นให้ นักเรียนสังเกตบัตรคำทปี่ รากฏ ๒. เลือกสุ่มนกั เรียนอ่านคำศพั ทใ์ ห้เพ่ือนฟงั และใหเ้ พือ่ นอา่ นตามคำละ ๒ คร้งั เน้นการอา่ น ออกเสียงถกู ตอ้ ง และชดั เจนจากน้ันครอู ธิบายความหมายของคำศพั ทแ์ ตล่ ะคำให้นักเรยี นเขา้ ใจ ๓. นกั เรยี นอ่านคำบนกระเป๋าผนังจนครบทุกกลมุ่ ใครอ่านไม่ไดห้ รอื ไม่คล่องใหเ้ พ่ือนช่วยจน สามารถอ่านคลอ่ ง ๔. ใหน้ ักเรยี นจับคเู่ พือ่ แลกเปลี่ยนกันอ่านคำศัพท์และความหมายจากหนงั สือเรียนสาระการเรยี นรู้ พื้นฐานภาษา ช้นั ประถมปีที่ ๔ ภาษาพาที เลม่ ๑ บทที่ ๓ เร่อื ง ผกั สมนุ ไพรใบหญา้ มคี ณุ คา่ ทง้ั นั้น หนา้ ๔๖ – ๔๘ ๕. นกั เรียนเปดิ หนงั สือ แลว้ อา่ นออกเสยี งคำศพั ท์คนละ ๑ คำศพั ท์ ตอ่ กนั จนจบ โดยอา่ น เวยี นจนครบทกุ คน ๖. ใหน้ ักเรยี นอ่านออกเสียงกนั เองอกี ครัง้ พรอ้ ม ๆกนั ครคู อยสงั เกตการอา่ นของเด็ก ๆ เพื่อ นำไปเป็นข้อมลู ในการพฒั นาตอ่ ไป ขนั้ สรุป ๑. นกั เรยี นช่วยกนั สรปุ แนวคิดจากเร่ืองเมื่ออา่ นจบแล้ว ๒. ครอู ธิบายใหน้ กั เรยี นเกิดความเข้าใจว่า การนำพยัญชนะ สระ และวรรณยุกตม์ าประสมรวมกนั จะทำใหเ้ กิดเปน็ คำตา่ งๆซ่ึงนกั เรียนควรอ่านและเขียนคำใหถ้ กู ตอ้ งและรู้ความหมาย เพอื่ จะไดใ้ ชภ้ าษาไทยได้ ถูกต้องตอ่ ไป ๓. ครใู ห้นกั เรียนบันทึกคำศพั ทล์ งสมดุ บันทกึ ดว้ ยลายมือตัวบรรจงคร่งึ บรรทดั ๔. ครูแนะนำให้นักเรยี นอา่ นหนงั สอื ต่าง ๆ เพือ่ สรา้ งนสิ ยั รักการอา่ นใหต้ ิดเปน็ นิสัย

๖ สือ่ และแหลง่ เรียนรู้ ๑. บัตรคำศพั ท์ จากบทเรียนท่ี ๓ จากเร่อื ง ผกั สมนุ ไพรใบหญา้ มคี ณุ ค่าทง้ั นั้นจาก ภาษาพาที ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ ๒. หนงั สือเรยี นรายวชิ าพ้นื ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษเพ่อื ชวี ติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔ การวดั ผลประเมนิ ผล วธิ กี าร เครื่องมือ เกณฑ์ ๑. สงั เกตการณอ์ า่ นออกเสยี ง ๑. แบบสังเกตการอา่ นออก ๑.เกณฑก์ ารอ่านออกเสยี งและเขยี น เขยี นคำศพั ท์ เสียงและเขียนคำศัพท์ คำศพั ท์ ๙ - ๑๒ ระดบั คุณภาพ ดี ๕ - ๘ ระดบั คณุ ภาพพอใช้ ต่ำกว่า ๕ ระดับคุณภาพปรบั ปรุง ๒. ตรวจการคดั ลายมอื ๒.แบบประเมนิ การคดั ลายมือ ๒.เกณฑก์ ารคดั ลายมือ ๑๑ – ๑๕ ระดบั คณุ ภาพ ดี ๖ – ๑๐ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ๑ – ๕ ระดบั คุณภาพ ปรับปรงุ

๗ ช่วั โมงที่ ๒ การอ่านจบั ใจความ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกวธิ กี ารและหลกั การอ่านเพอื่ จับใจความสำคญั ได้ ๒. เขยี นยอ่ ความจากเรอื่ งพชื ผักสมุนไพรได้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำ ๑. ครพู ดู คุยทกั ทายนักเรยี น จากนั้นครูแจกใบความรู้เรอื่ งวธิ กี ารและหลักการอา่ นเพอ่ื จับใจความ สำคัญ ขน้ั สอน ๑. ครูอธิบายใหน้ ักเรียนเกิดความเขา้ ใจว่า นักเรียนอ่านอะไรตอ้ งจับใจความใหไ้ ด้และตอบคำถามได้ ตลอดถงึ การเรยี งลำดบั เหตุการณต์ า่ ง ๆจะทำใหเ้ ขา้ ใจเรอ่ื งราวตา่ งๆไดด้ ี ๒.ครูใหน้ กั เรยี นอา่ นในใจเรอ่ื ง ผักสมนุ ไพรใบหญ้ามคี ุณคา่ ท้ังนน้ั จากหนังสอื ภาษาพาที หนา้ ๓๘ – ๔๓ ภายในเวลาทีก่ ำหนดไวแ้ ละใหน้ กั เรียนสรุปใจความสำคญั โดยใชค้ ำถามดงั นี้ ใคร ทำอะไร ที่ไหน อยา่ งไร เมือ่ ไร ๓. ครใู ห้นักเรียนหาประโยคใจความสำคัญของแต่ละยอ่ หนา้ ๔.ครูให้นักเรียนสมัครออกมาหนา้ ชน้ั เรยี นเพอ่ื เล่าเรื่องตามลำดบั เหตุการณ์หนา้ ชน้ั เรียน ขั้นสรปุ ๑.ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปหลักการจบั ใจความสำคญั ของการอา่ นในเรือ่ งตา่ งๆรว่ มกนั โดยการใช้ คำถามและตอบคำถาม ๒.นกั เรยี นนำประโยคใจความสำคัญของแต่ละยอ่ หนา้ มาเขยี นเร่ืองราวยอ่ ของพชื ผกั สมุนไพร ใบหญา้ มคี ณุ คา่ ทัง้ นน้ั สอื่ และแหลง่ เรียนรู้ ๑. หนงั สอื เรียนภาษาไทยภาษาพาที ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ การวดั ผลประเมนิ ผล เกณฑ์ วธิ กี าร เครอื่ งมือ ๑. เกณฑก์ ารอา่ นจบั ใจความสำคัญ ๑. สงั เกตการอา่ นจบั ใจความ ๑. แบบประเมินการอา่ นจับ ๙ – ๑๒ ระดบั คณุ ภาพ ดี สำคญั ใจความสำคญั ๕ – ๘ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ตำ่ กว่า ๕ ระดับคณุ ภาพ ปรับปรุง

๘ ชว่ั โมงท่ี ๓ การเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. เขยี นแผนภาพโครงเร่ืองได้ ๒. มมี ารยาทในการเขยี น กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำ ๑. ครูพดู คยุ สนทนาซกั ถามถึงสถานการณ์ชีวติ ประจำวันของนักเรียนเพ่ือให้นกั เรียนรจู้ กั สรุปไดว้ ่า ในแตล่ ะวันมีเหตกุ ารณ์อะไรเกิดขึน้ บา้ งและเป็นอยา่ งไร สรุปความไดว้ า่ อยา่ งไร เพอื่ นำไปสกู่ ารทำแผนภาพ ความคดิ ซึง่ จะสามารถนำไปโยงส่กู ารทำแผนภาพโครงเร่อื งได้ ข้นั สอน ๑. นักเรยี นศกึ ษารูปแบบการทำแผนภาพโครงเรอ่ื งทค่ี รเู ตรียมไวใ้ ห้และทบทวนมารยาทใน การเขียน ๒. ครูมอบหมายให้นกั เรียนรว่ มอภิปรายแลกเปลย่ี นความคดิ เห็นและเขียนสรปุ ใจความสำคญั เร่ืองพชื ผักสมนุ ไพรใบหญา้ มีคณุ ค่าทง้ั นนั้ โดยเลอื กประเด็นที่สำคัญ ๆ ๓. นำข้อมูลมาเขียนเป็นแผนภาพโครงเรือ่ งเรือ่ งพืชผกั สมุนไพรใบหญ้ามคี ุณคา่ ทั้งนนั้ โดยใช้ คำถาม ใคร(ตวั ละครในเร่อื งมีใครบ้าง) ทำอะไร (เหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ ทเี่ กิดขน้ึ ) ทไี่ หน( สถานทที่ ่ีเกิดเหตกุ ารณ์) เม่ือไร (เวลาหรอื เหตุการณเ์ กดิ ขนึ้ เมื่อไร) อยา่ งไร(วิธกี ารหรือบรรยากาศเปน็ อย่างไร)และหาคำตอบ ๔. นกั เรียนฝึกเล่าเร่อื งจากแผนภาพโครงเรอ่ื งเร่ืองพืชผักสมนุ ไพรใบหญา้ มคี ณุ ค่าท้งั นั้น โดย ใชภ้ าษาท่เี ป็นของนกั เรียนเอง ขน้ั สรุป ๑. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปถงึ การเขียนแผนภาพโครงเร่อื งทถ่ี ูกตอ้ งและมารยาทในการเขยี น สอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้ ๑. หนงั สอื เรยี นภาษาไทยภาษาพาที ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ ๒. ตวั อย่างแผนภาพโครงเรอ่ื ง การวดั ผลประเมินผล วธิ ีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์ ๑. สังเกตการรว่ มกจิ กรรม ๑.แบบสังเกตพฤติกรรมการ ๑. เกณฑ์การทำงานกล่มุ กลุ่ม ทำงานกลุ่ม ชว่ งคะแนน ๑๔ – ๑๘ ระดบั คุณภาพ ดี ช่วงคะแนน ๘ – ๑๒ ระดับคุณภาพ พอใช้ ช่วงคะแนนต่ำกว่า ๘ ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรงุ ๒. ตรวจผลงานการเขยี น ๒. แบบประเมนิ การเขยี น ๒. เกณฑก์ ารเขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง แผนภาพโครงเรอ่ื งพชื ผกั แผนภาพโครงเรอ่ื งพชื ผกั ช่วงคะแนน ๑๔ – ๑๘ ระดับคุณภาพ ดี สมนุ ไพรใบหญา้ มคี ณุ ค่า สมุนไพรใบหญ้ามคี ณุ คา่ ช่วงคะแนน ๘ – ๑๒ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ทั้งน้ัน ทงั้ นัน้ ชว่ งคะแนนตำ่ กว่า ๘ ระดับคุณภาพ ปรับปรุง

๙ ชัว่ โมงท่ี ๔ การอ่านออกเสียง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. อา่ นออกเสียงไดถ้ กู ตอ้ งชัดเจน กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำ ๑. ครยู กตวั อยา่ ง คำ ข้อความ วลี ประโยค ให้นกั เรียนอ่านออกเสียงดงั ๆ พร้อมกนั ข้ันสอน ๑. นกั เรยี นเปิดหนังสือเรยี นภาษาพาที บทท่ี ๓ เรือ่ งพืชผกั สมุนไพรใบหญ้ามีคณุ คา่ ทั้งนัน้ ให้ ตวั แทนนกั เรียนอา่ นใหเ้ พ่ือน ๆฟังเปน็ ตัวอยา่ ง ๒-๓ ประโยค โดยครูช้ีแนะวธิ ีการอา่ นทถ่ี กู ตอ้ ง ๒. นกั เรยี นอ่านออกเสียงบทเรยี นคนละหนง่ึ ย่อหน้าจนจบเรื่องนักเรยี นคนท่ีไม่ไดอ้ ่านออกเสียงให้ อา่ นในใจตามไป ครสู ังเกตพฤตกิ รรมการอา่ นออกเสียงและความสนใจในการเรยี นของนกั เรยี น ๓. ครตู ้ังคำถามถามนักเรียนถึงเรือ่ งราวทอ่ี า่ นว่าเกี่ยวกับเร่ืองอะไรและพูดคุยถึงรายละเอียดของ เร่ืองท่ีอ่านพอเข้าใจ ขั้นสรปุ ๑. ครูและนักเรยี นช่วยกันสรปุ บทเรยี นอีกคร้ัง ๒.ครแู นะนำวา่ การอ่านออกเสียง เปน็ การอา่ นทเ่ี ป็นการพัฒนาความรู้ ความสามารถ และ เห็นขอ้ บกพรอ่ งไดง้ า่ ย เพราะอาศัยการฟงั ของครูและเพอ่ื น ๆ ชว่ ยแนะนำได้ สือ่ และแหล่งเรยี นรู้ ๑. หนงั สือเรียนภาษาไทยภาษาพาทีช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ บทเรยี นท่ี ๓ พืชผกั สมนุ ไพรใบหญา้ มี คณุ คา่ ท้งั นน้ั การวดั ผลประเมินผล วธิ กี าร เครื่องมือ เกณฑ์ ๑. การสังเกตการอ่าน ๑. แบบประเมินการ ๑. เกณฑ์การอา่ นออกเสยี ง ออกเสยี ง อ่านออกเสียง ช่วงคะแนน ๑๔ – ๑๘ ระดับคณุ ภาพ ดี ชว่ งคะแนน ๘ – ๑๒ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ช่วงคะแนนต่ำกวา่ ๘ ระดบั คุณภาพ ปรบั ปรุง ๒. การสงั เกตความ ๒. แบบสังเกต ๒. เกณฑ์สงั เกตพฤติกรรมความสนใจในการเรียน สนใจในการเรียน พฤตกิ รรมความสนใจ ปฏบิ ัตไิ ด้ ๗ รายการ ผลการประเมินอยูใ่ นระดับ ดมี าก ในการเรยี น ปฏบิ ัตไิ ด้ ๕ – ๖ รายการ ผลการประเมนิ อยู่ในระดับ ดี ปฏิบัตไิ ด้ ๓ – ๔ รายการ ผลการประเมินอยใู่ นระดบั พอใช้ ปฏิบตั ิได้ ๑ – ๒ รายการ ผลการประเมนิ ควรปรับปรุง

๑๐ ชัว่ โมงท่ี ๕ มาตราตัวสะกด จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. นักเรียนอ่านและเขียนคำทีอ่ ยใู่ นมาตราตวั สะกดมาตรา แมก่ น แมก่ ก แม่กด แม่กบได้ กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ ๑. ครูและนักเรียนรว่ มกันทบทวนความรู้เดมิ เรอื่ งมาตราตัวสะกด ๒. ครแู จง้ ใหน้ กั เรียนทราบจุดประสงค์การเรียนรู้ ข้นั สอน ๑. แบ่งนักเรยี นเป็นกลมุ่ จำนวน ๔ กลมุ่ เลือกประธานและเลขานกุ ารกลมุ่ แล้วให้ทำกิจกรรมโดย การศกึ ษาและสรปุ ความรู้ดงั ต่อไปน้ี กลุ่มที่ ๑ ศกึ ษาเรื่องแม่กด กลุ่มท่ี ๒ ศึกษาเร่ืองแม่กก กลุ่มที่ ๓ ศึกษาเรื่องแม่กน กลุ่มที่ ๔ ศึกษาเรอื่ งแม่กบ ๒. นกั เรียนชว่ ยกนั สรุปความรู้ ๓. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ค้นคว้าคำท่ีสะกดดว้ ยแมก่ ด แม่กก แมก่ น แมก่ บ จากหนงั สือเรยี นหรอื หนังสือในหอ้ งสมดุ ภายในเวลาท่คี รูกำหนดให้มากทีส่ ุดและบนั ทกึ ลงสมุด ๔. ตัวแทนกลมุ่ นำเสนอหน้าชั้นเรยี น ขัน้ สรุป ๑. นักเรียนและครรู ่วมกันสรปุ คำที่มีมาตราตวั สะกดแมก่ ด แมก่ ก แม่กน แม่กบ สือ่ และแหล่งเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียนภาษาไทยภาษาพาที ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ ๒. ใบความรมู้ าตราตวั สะกดแม่กด แมก่ ก แมก่ น แมก่ บ การวดั ผลประเมนิ ผล วธิ ีการ เครื่องมอื เกณฑ์ ๑.สังเกตพฤตกิ รรมกลุ่ม ๑.แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกลมุ่ ๑.เกณฑ์สงั เกตพฤติกรรมกลุ่ม ๗ คะแนน ผลการประเมนิ ดีมาก ๕ – ๖ คะแนน ผลการประเมิน ดี ๓ – ๔ คะแนน ผลการประเมิน พอใช้ ๑ – ๒ คะแนน ผลการประเมิน ควรปรบั ปรงุ ๒.ตรวจสมดุ บนั ทกึ ๒.เกณฑก์ ารอ่านออกเสยี งและเขยี นคำศพั ท์ คำศพั ท์ ๒.แบบบันทกึ คะแนน ชว่ งคะแนน ๑๔ – ๑๘ ระดบั คุณภาพ ดี ช่วงคะแนน ๘ – ๑๒ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ช่วงคะแนน ต่ำกวา่ ๘ ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรุง

๑๑ ชวั่ โมงที่ ๖ คำที่ประวิสรรชนียแ์ ละไม่ประวิสรรชนยี ์ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. นักเรยี นอ่านและเขยี นคำที่ประวิสรรชนยี ์และไม่ประวิสรรชนีย์ได้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำ ๑. ครูให้นักเรยี นทม่ี ีช่ืออา่ นออกเสียงอะออกมายนื หนา้ ช้ันทงั้ ท่ีมปี ระวิสรรชนยี ์และไม่มี ประวิสรรชนีย์ แลว้ ให้นกั เรยี นในชนั้ อ่านชือ่ เพื่อนพรอ้ ม ๆ กัน ข้ันสอน ๑. ครอู ธิบายว่าคำท่ีอ่านออกเสยี งอะมที ง้ั คำทป่ี ระวิสรรชนียแ์ ละไมป่ ระวิสรรชนยี ์ซง่ึ นกั เรยี นตอ้ งมี ความรู้ จากนัน้ ให้นกั เรียนเปิดหนังสือเรยี นภาษาพาที หน้า ๔๑ แลว้ ให้นกั เรียนอ่านพร้อมกันท้ังชั้น ๒. ครูสมุ่ นักเรียนให้สังเกตคำที่ยกตัวอยา่ งท่ีประวสิ รรชนยี แ์ ละไม่ประวสิ รรชนียท์ เ่ี ตรียมไว้ พร้อมอธิบาย ใหข้ ้อสงั เกตแกน่ กั เรยี นว่า คำที่มีมากกวา่ ๑ พยางค์ พยางค์ทีอ่ อกเสียงอะ ไม่ว่าจะประวิสรรชนียห์ รือไมป่ ระ วสิ รรชนยี ใ์ ห้ออกเสียงอะ ครึ่งเสียง ยกเวน้ พยางคท์ า้ ยทปี่ ระวิสรรชนยี ์ใหอ้ อกเสียงอะ เต็มเสยี ง ๓. นกั เรียนหาคำท่ีประวสิ รรชนยี แ์ ละไม่ประวิสรรชนยี ์จากเนื้อหาในหนว่ ยการเรียนอยา่ งละ ๑๐ คำ เขียนลงสมดุ บนั ทกึ เสรจ็ แล้วสง่ ครูตรวจ ขน้ั สรุป ๑. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปความรู้คำทปี่ ระวิสรรชนียแ์ ละไม่ประวิสรรชนยี ์ ส่อื และแหลง่ เรียนรู้ ๑. หนังสือเรียนภาษาไทย ภาษาพาที ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ การวดั ผลประเมนิ ผล วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์ ๑.การสังเกตความ ๑. แบบสงั เกต ๑.เกณฑ์สังเกตพฤตกิ รรมความสนใจในการเรียน สนใจในการเรยี น พฤตกิ รรม ปฏบิ ตั ไิ ด้ ๗ รายการ ผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดมี าก ความสนใจ ปฏบิ ตั ไิ ด้ ๕ – ๖ รายการ ผลการประเมินอยู่ในระดบั ดี ในการเรียน ปฏิบตั ิได้ ๓ – ๔ รายการ ผลการประเมินอยู่ในระดับ พอใช้ ปฏบิ ัตไิ ด้ ๑ – ๒ รายการ ผลการประเมนิ ควรปรบั ปรุง ๒. ตรวจสมุดบันทึก ๒.เกณฑ์การอา่ นออกเสยี งและเขยี นคำศัพท์ คำศพั ท์ ๒. แบบสังเกต ช่วงคะแนน ๑๔ – ๑๘ ระดบั คณุ ภาพ ดี การอา่ น ชว่ งคะแนน ๘ – ๑๒ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ออกเสยี ง ช่วงคะแนน ตำ่ กว่า ๘ ระดับคณุ ภาพ ปรบั ปรุง และเขยี น คำศัพท์

๑๒ ช่ัวโมงที่ ๗ คำท่ีมไี ม้ยมก จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. อา่ นและเขยี นคำทม่ี ีไมย้ มกได้ กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขั้นนำ ๑.นักเรียนดูแผนภูมิคำ เช่น แกง๊ ๆ ตา่ ง ๆ นานา เรว็ ๆ แผนภูมิกลุม่ คำ คนหนึง่ ๆ ย่อหน้าหน่งึ ๆ แผนภมู ิประโยค ไฟไหม้ ๆ รถมาแลว้ ๆ ๒. ให้นักเรียนสงั เกตคำ กลุ่มคำ และประโยค จากแผนภูมิ ขัน้ สอน ๑. นักเรยี นอา่ นออกเสียงตวั อยา่ งคำ กลมุ่ คำ และประโยคจากแผนภมู ิพรอ้ ม ๆ กัน ๒. ครถู ามนกั เรียนว่า เคร่อื งหมาย ๆ ในคำ กล่มุ คำ และประโยคจากแผนภมู เิ รยี กว่าอะไร ๓. นกั เรียนอา่ นความรทู้ างภาษาเร่อื งคำทใี่ ช้ไมย้ มก (ๆ) จากหนงั สอื ภาษาพาที ๔. นกั เรยี นรับใบกิจกรรม และดำเนินงานค้นหาคำทมี่ ีไม้ยมก ใหม้ ากทส่ี ดุ หรอื คดิ ขึน้ เอง เพื่อรวบรวมเปน็ พจนานกุ รมคำทีม่ ไี มย้ มกประจำช้ัน ขั้นสรุป ๑. นกั เรียนนำคำท่รี วบรวมไว้ไปจัดทำพจนานุกรมคำทม่ี ีไม้ยมกประจำชน้ั เรยี นเปน็ การบ้าน ส่ือและแหล่งเรียนรู้ ๑. แผนภมู ิ คำ กลมุ่ คำ ประโยค ที่มไี มย้ มก ๒. ใบกจิ กรรม ๓. หนังสือเรียนภาษาไทย ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔ การวดั ผลประเมนิ ผล วิธกี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์ ๑.การสังเกต ๑. แบบสงั เกต ๑.เกณฑส์ ังเกตพฤตกิ รรมความสนใจในการเรยี น ความสนใจใน พฤติกรรมความ ปฏิบตั ิได้ ๗ รายการ ผลการประเมินอยู่ในระดบั ดมี าก การเรียน สนใจในการ ปฏบิ ัติได้ ๕ – ๖ รายการ ผลการประเมินอยู่ในระดบั ดี เรยี น ปฏบิ ัตไิ ด้ ๓ – ๔ รายการ ผลการประเมินอย่ใู นระดับ พอใช้ ปฏิบัติได้ ๑ – ๒ รายการ ผลการประเมิน ควรปรบั ปรุง ๒. ตรวจผลงานใน ๒. ใบกิจกรรม ๒. นกั เรยี นผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๗๐ขน้ึ ไป ใบกจิ กรรม

๑๓ ช่ัวโมงท่ี ๘ บทอาขยาน จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อา่ นบทอาขยานไดถ้ กู ต้อง กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำ ๑. ครูนำแผนภูมิบทอาขยาน พฤษภกาสร ใหน้ กั เรียนอ่านเป็นทำนองธรรมดาหนง่ึ รอบ จากนน้ั ครู อ่านเป็นทำนองเสนาะให้นักเรียนอ่านตามบทรอ้ ยกรองดงั น้ี พฤษภกาสร พฤษภกาสร อกี กญุ ชรอนั ปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคญั หมาย ในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอนิ ทรยี ์ สถิตทัว่ แตช่ ว่ั ดี ประดบั ไว้ในโลกา ขั้นสอน ๑. ครถู ามนำเกย่ี วกบั เน้อื หาของบทอาขยานพฤษภกาสรและแนะวธิ กี ารอา่ นทถ่ี กู ต้องพร้อม อธบิ ายความหมาย ๒. นักเรยี นฝกึ อ่านบทอาขยานพร้อมกันทั้งชัน้ ๓. ให้นักเรียนแบง่ กลมุ่ ฝกึ อ่านบทอาขยานเป็นกลุ่มๆ ๔. นักเรียนชว่ ยกันวเิ คราะห์เนอื้ หาของบทอาขยานและสรปุ ความหมายของบทอาขยานร่วมกนั ขั้นสรุป ๑. ครูสรปุ วิธกี ารอา่ นบทอาขยานแล้วนำอ่านบทอาขยานปากเปน็ เอก เลขเป็นโท หนงั สอื เป็นตรี ชวั่ ดีเป็นตราในหนังสือเรียนเป็นทำนองธรรมดาเพอื่ ฝึกอา่ นเบ้ืองต้น ๒. นกั เรยี นทำใบงานเรอื่ งบทอาขยาน ๓. ครูแนะนำให้นักเรียนฝกึ อา่ นบทอาขยานท้งั ๒ บทเพ่มิ เติมเปน็ การบ้าน สอื่ และแหล่งเรียนรู้ ๑. บทอาขยานพฤษภกาสร ๒. ใบกิจกรรม ๓. หนังสือเรียนภาษาไทย ภาษาพาที ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔

๑๔ การวดั ผลประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์ วธิ กี าร ๑. แบบสงั เกต ๑. เกณฑส์ ังเกตพฤตกิ รรมความสนใจในการเรยี น ๑.การสังเกตความ สนใจในการ พฤตกิ รรมความ ปฏบิ ัตไิ ด้ ๗ รายการ ผลการประเมินอยูใ่ นระดบั ดีมาก เรียน สนใจในการเรียน ปฏบิ ัติได้ ๕ – ๖ รายการ ผลการประเมินอยใู่ นระดบั ดี ๒. สงั เกตการอา่ น บทอาขยาน ปฏิบตั ไิ ด้ ๓ – ๔ รายการ ผลการประเมินอย่ใู นระดับ พอใช้ ๓. แบบทดสอบหลงั ปฏิบตั ไิ ด้ ๑ – ๒ รายการ ผลการประเมนิ ควรปรับปรงุ เรยี น ๒. แบบบนั ทึกการ ๒. แบบบันทึกการอ่านบทอาขยาน อ่านบทอาขยาน ชว่ งคะแนน ๑๒ – ๑๕ ระดบั คณุ ภาพ ดี ช่วงคะแนน ๘ – ๑๑ ระดับคุณภาพ พอใช้ ชว่ งคะแนนต่ำกวา่ ๘ ระดับคณุ ภาพ ปรบั ปรุง ๓. แบบทดสอบหลงั ๓. นักเรียนผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๗๐ขึ้นไป เรียน

๑๕ รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมนิ การเขียนบันทึก (rubrics) กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ โรงเรียน.......................................................................... ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ............ ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๑. ความสมบูรณข์ องผลงาน ๒.ความคดิ สรา้ งสรรค์ ๓ ๒๑ ๓.ความถกู ตอ้ ง ผลงานมีรายละเอียด ผลงานมีรายละเอยี ด ผลงานมรี ายละเอียด ๔.ความสมบรู ณ์ของเนอื้ หา ครอบคลมุ ผลการเรียนรู้ ครอบคลมุ ผลการเรียนรู้ ครอบคลมุ ผลการ ตามท่ีกำหนด ตามทก่ี ำหนดเป็นส่วน เรียนรู้ตามทกี่ ำหนด ใหญ่ น้อยมาก เป็นผลงานท่ีดึงดูดความ เป็นผลงานที่ดึงดดู ความ เป็นผลงานทีเ่ หมอื น สนใจแปลกใหม่และคดิ สนใจแปลกใหม่และคิด ตวั อย่าง ข้ึนเองสอดคลอ้ งกับเรือ่ ง ขนึ้ เองสอดคลอ้ งกับเรื่อง ท่กี ำหนด ทก่ี ำหนดแต่บางสว่ น เหมือนตวั อยา่ ง วางสระ พยัญชนะ และ วางสระ พยัญชนะ และ เขยี นสะกดคำไม่ วรรณยกุ ตถ์ กู ตอ้ งตาม วรรณยกุ ตถ์ ูกตอ้ งตาม ถกู ต้อง วางตำแหน่ง หลกั การเขยี นเขียนคำ หลกั การเขียนเขียนคำ สระ วรรณยุกตผ์ ดิ ถูกต้องสวยงามตาม ถกู ต้องสวยงามตาม เปน็ บางแหง่ รปู แบบ รปู แบบเปน็ สว่ นใหญ่ เน้ือหาใจความสมบูรณ์ เนือ้ หาใจความสมบรู ณ์ เนอ้ื หาใจความไม่ เปน็ สว่ นใหญ่ สมบรู ณ์ ๕.ความสะอาด สะอาด สวยงามและ สะอาด สวยงามและ ไม่รกั ษาความสะอาด เป็นระเบยี บเหมาะสม เป็นระเบยี บเหมาะสม มรี อยขูดลบขีดฆ่าที่ เปน็ สว่ นใหญ่ ชดั เขนหลายแหง่ เกณฑ์การประเมนิ ๑๒ – ๑๕ ระดับคณุ ภาพ ดี ช่วงคะแนน ๘ – ๑๑ ระดับคุณภาพ พอใช้ ช่วงคะแนน ต่ำกว่า ๘ ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรุง ช่วงคะแนน

๑๖ รายละเอยี ดเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมนิ การทำสมุดเลม่ เลก็ คำศพั ทแ์ ละความหมาย (rubrics) กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ โรงเรียน.......................................................................... ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ................... ประเด็นการประเมนิ ๔ เกณฑก์ ารให้คะแนน ๒ ๑.รูปเล่ม สวยงามแข็งแรง คงทน ๓ ไมส่ วยงามใหญ่ เหมาะกบั เร่ืองราวและ เทอะทะไม่ เหมาะ วัยของผ้อู า่ น สวยงามแขง็ แรง คงทน กบั เรื่องราวและวยั เหมาะกับเรอื่ งราวและ ของผอู้ า่ น วยั ของผู้อา่ นเป็นส่วน ใหญ่ ๒.ความสมบรู ณ์ของเนอ้ื หา เนอื้ หาเหมาะสมกับภาพ เนอ้ื หาเหมาะสมกบั ภาพ เนอื้ หามากเกนิ ไปไม่ สมบูรณ์ ถกู ต้องทงั้ การ สมบรู ณ์ ถกู ต้องทั้งการ เหมาะสมกบั ภาพ มี เขียนคำและการวาง เขียนคำและการวาง เขยี นคำผดิ เปน็ บาง ข้อความกบั ภาพ ข้อความกับภาพเปน็ สว่ น แห่งและการวาง ใหญ่ ข้อความกับภาพไม่ เหมาะสม ๓. ภาพประกอบ ภาพประกอบสอดคล้อง ภาพประกอบสอดคลอ้ ง ภาพประกอบมนี ้อย กบั เน้ือเรอ่ื งและระบายสี กบั เน้ือเรอื่ งเป็นส่วนใหญ่ และไมส่ อดคล้องกับ ได้สวยงาม และมีการระบายสี เนื้อเรือ่ งและไม่ ระบายสี เกณฑ์การประเมนิ ๙ – ๑๒ ระดบั คณุ ภาพ ดี ชว่ งคะแนน ๕–๘ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ชว่ งคะแนน ต่ำกว่า ๕ ระดับคุณภาพ ปรับปรุง ช่วงคะแนน

๑๗ รายละเอียดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมินการเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง (rubrics) กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ โรงเรียน.......................................................................... ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ............ ประเดน็ การประเมนิ ๓ เกณฑ์การให้คะแนน ๑ ๒ ๑.การออกแบบแผนภาพโครงเรอ่ื ง ออกแบบแผนภาพโครง ออกแบบแผนภาพ ไดด้ ี เรือ่ งไดด้ แี ละสร้างสรรค์ ออกแบบแผนภาพโครง โครงเรอ่ื งไดไ้ ม่ดี เรือ่ งไดด้ ี ๒. ลำดับเร่อื ง/เหตกุ ารณไ์ ดด้ ี ลำดับเรอ่ื งเหตกุ ารณไ์ ดด้ ี ลำดบั เร่อื งเหตุการณไ์ ด้ดี ลำดบั เรอ่ื งไม่ดี สลับ ไม่สลับวกวนไปมา แต่มสี ลับทบ่ี ้าง วกวนไปมา ๓. เขียนไดค้ รบถว้ น/ครอบคลุม เขยี นไดค้ รบถัวนครอบ เขยี นไดค้ รบถว้ นแตไ่ ม่ เขยี นไม่ครบถ้วนไม่ ๔. ใชภ้ าษาส่อื สารไดด้ ี ๕. นำเสนอผลงานไดด้ ี คลมุ ต่อเนื่อง ตงั้ แต่ตน้ ต่อเนอื่ ง ต่อเนื่อง ๖. ทำงานไดท้ ันเวลา จนจบ ใช้ภาษาส่อื สารในการ ใช้ภาษาเขยี นสอื่ สารได้ดี ใชภ้ าษาสือ่ สารไม่ เขยี นไดด้ ี ทำใหเ้ ข้าใจสง่ิ แตม่ ขี ้อบกพร่องในบาง ชดั เจน ทีส่ ่ือสารอยา่ งชัดเจน ประเด็น นำเสนอผลงานได้ดมี าก นำเสนอผลงานไดด้ ี แต่ นำเสนอผลงานไม่ดี มีความครบถว้ นทกุ ไมค่ รบสมบรู ณ์ ประเดน็ ครบสมบรู ณ์ ตั้งแตต่ น้ จนจบเร่อื ง ทำงานไดท้ นั ตามเวลา ทำงานเกนิ เวลาเลก็ น้อย ทำงานเกนิ เวลาไป กำหนด มาก เกณฑ์การประเมิน ๑๔ – ๑๘ ระดบั คณุ ภาพ ดี ช่วงคะแนน ๘ – ๑๒ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ช่วงคะแนน ตำ่ กว่า ๘ ระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรงุ ชว่ งคะแนน

๑๘ รายละเอยี ดเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินการอา่ นออกเสยี งและเขียนคำศัพท์ (rubrics) กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔ โรงเรียน.......................................................................... ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ............ ประเดน็ การประเมิน ๓ เกณฑ์การให้คะแนน ๑ ๑.ความถูกตอ้ งในการอา่ น สามารถอ่านไดถ้ กู ต้อง ๒ พยายามอา่ นได้บา้ ง ทง้ั หมด ผิดมากกว่า 3คำ สามารถอ่านไดเ้ กือบ ถกู ต้องทง้ั หมดผดิ ไม่เกนิ 3 คำ ๒.มคี วามม่นั ใจในการอา่ น มีความม่นั ใจในการอ่าน มคี วามมั่นใจในการอา่ น ขาดความมน่ั ใจใน ดี มีการเตรียมตวั มา พอใช้ เตรียมตวั มาอย่าง ตนเองเตรยี มตัวมา อยา่ งดี ม่ันใจตนเอง ดียังประหม่า บ้างแต่ไมม่ ากนัก ๓. การสะกดคำศพั ท์ การสะกด การสะกด สะกดคำผดิ มาก คำศพั ทถ์ ูกต้อง คำศัพทผ์ ดิ เล็กน้อย ๔. อธบิ ายความหมายของ อธบิ ายความหมายได้ อธบิ ายความหมายได้ อธบิ ายความหมาย คำศัพท์ ถูกต้องสมบรู ณ์ เกือบถูกตอ้ ง ไมไ่ ด้ เกณฑก์ ารประเมิน ๙ - ๑๒ ระดับคณุ ภาพ ดี ชว่ งคะแนน ๕-๘ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ช่วงคะแนน ต่ำกวา่ ๕ ระดบั คุณภาพ ปรับปรุง ชว่ งคะแนน

๑๙ บนั ทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1) สรปุ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ .....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู.้ .................คน คดิ เป็นร้อยละ.................. นักเรยี นนไ่ี มผ่ ่าน มีดงั น้ี 1............................................. 2......................................................... 3............................................. 4......................................................... แนวทางแกไ้ ขนกั เรียนที่ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้................................................................... 2. นกั เรียนมีความรคู้ วามเขา้ ใจ (K).................................................................................................... 3. นกั เรียนมคี วามรู้เกดิ ทักษะ (P)...................................................................................................... 4. นักเรียนมีเจตคติ คา่ นยิ ม คณุ ธรรมจริยธรรม (A).......................................................................... 2) ปญั หา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3) ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอื่ .................................................. (นางอรวรรณ ปานจำรญู ) ตำแหน่งครู ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศึกษา/ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ของ................................................................แล้วมีความเหน็ ดังน้ี 1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง 2. การจดั กจิ กรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้  เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม  ยังไมเ่ น้นผ้เู รยี นเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาตอ่ ไป 3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่  นำไปใชไ้ ดจ้ ริง  ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................. (นางสาวกันยาภทั ร ภทั รโสตถิ) ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวัดพืชนมิ ิต (คำสวัสดร์ิ าษฎรบ์ ำรงุ )