๑ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑2 เรอ่ื ง ไวรสั วายร้าย กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทยรายวิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า ท ๑๔๑๐๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ นางอรวรรณ ปานจำรญู ครผู สู้ อน โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสด์ิราษฎรบ์ ำรุง) ตำบลคลองหนง่ึ อำเภอคลองหลวง จังหวดั ปทุมธานี สำนกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาปทมุ ธานี เขต ๑
๒ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑๒ เร่ือง ไวรัสวายร้าย กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย รายวิชา ภาษาไทย รหสั ท ๑๔๑๐๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลา 8 ช่ัวโมง มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชีว้ ดั สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพื่อนำไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ญั หาใน การดำเนนิ ชีวติ และมนี สิ ัยรักการอ่าน ตัวช้วี ัด ป.๔/๑ อา่ นออกบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรอง ไดถ้ ูกต้อง ป.๔/๒ อธบิ ายความหมายของคำ ประโยคสำนวนจากเรอื่ งท่อี า่ นทอี่ ่าน ป.๔/๓ อ่านเรื่องสน้ั ๆ ตามเวลาท่กี ำหนดและตอบคำถามจากเรอ่ื งทอี่ า่ น ป.๔/๖ สรปุ ความรู้และขอ้ คดิ จากเรอื่ งท่ีอา่ นเพ่ือนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ป.๔/๗ อ่านหนงั สือทม่ี ีคณุ ค่าตามความสนใจอยา่ งสมำ่ เสมอและแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับเรอ่ื งที่ อ่านได้ ป.๔/๘ มมี ารยาทในการอา่ น สาระที่ ๒ การเขยี น มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นสอื่ สาร เขียนเรยี งความ ย่อความและเขียนเร่อื งราวใน รูปแบบต่างๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอย่างมีประสทิ ธภิ าพ ตวั ชว้ี ดั ป.๔/๒ เขยี นสอ่ื สารโดยใช้คำไดถ้ กู ต้อง ชัดเจน และเหมาะสม ป.๔/๓ เขยี นแผนภาพโครงเร่อื งและแผนภาพความคดิ เพอ่ื ใช้พฒั นางานเขียน ป.๔/๘ มมี ารยาทในการเขยี น สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพดู มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๓.๑สามารถเลือกฟงั และดอู ยา่ งมวี จิ ารณญาณและพดู แสดงความรู้ ความคดิ และ ความรู้สกึ ในโอกาสตา่ งๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ตวั ชี้วัด ป.๔/๒ พดู สรปุ ความจากการฟังและดู ป.๔/๓ พูดแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ และความรู้สึกเกี่ยวกับเร่ืองท่ฟี ังและดู ป.๔/๔ ตงั้ คำถามและตอบคำถามเชงิ เหตุผลจากเรื่องท่ีฟงั และดู ป.๔/๖ มมี ารยาทในการฟัง การดแู ละการพูด
๓ สาระท่ี ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๔.๑เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษาและรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชาติ ตัวชี้วดั ป.๔/๓ ใชพ้ จนานกุ รมคน้ หาความหมายของคำ ป.๔/๔ แต่งประโยคได้ถกู ต้องตามหลักภาษา สาระที่ ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๕.๑เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคุณค่า และนำมาประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ตัวชวี้ ดั ป.๔/๑ ระบุข้อคิดจากนทิ านพน้ื บ้าน หรอื นทิ านคตธิ รรม ป.๔/๓ อธิบายขอ้ คิดจากการอ่านเพื่อนำไปใชใ้ นชีวติ จริง ๒.สาระสำคัญ การอา่ นในใจเป็นการอา่ นทเี่ ข้าใจเร่ืองราวไดเ้ พียงคนเดียว ผู้อา่ นตอ้ งใชส้ มาธิในการอา่ น ศกึ ษาคำยาก ต้งั จุดหมายในการอา่ น อา่ นอยา่ งพนิ ิจ พิจารณา จะทำใหจ้ บั ใจความสำคญั ของเรอ่ื งทีอ่ า่ น สามารถตอบคำถาม ลำดบั เหตุการณข์ องเร่อื ง และนำไปเขียนเป็นแผนภาพโครงเร่ือง เพ่อื เล่าเรอื่ งและเขียนเรื่องได้ การฟงั การดู การพดู เล่าเรือ่ งการพดู สรปุ ความจากการฟังและมมี ารยาทในการพดู การฟัง การดู เปน็ การนำความรจู้ าก ประสบการณ์ทไี่ ดร้ บั สูผ่ ้ฟู ังโดยมจี ดุ ประสงค์ เพื่อสรา้ งความรู้ ความเข้าใจ ความบนั เทงิ และสรปุ ความรู้ พจนานุกรมคน้ หาความหมายของคำ ระบุชนดิ และหนา้ ท่ีของคำ ๓.สาระการเรียนรู้ ความรู้ ๑.คำศพั ทน์ า่ รคู้ ู่บทเรยี น ๒.อา่ นจับใจความเรอ่ื งไวรัสวายรา้ ย ๓.แผนภาพโครงเรอื่ ง ๔.อ่านออกเสยี ง ๕.นิทานพื้นบา้ น ๖.อกั ษรย่อ ๗.หนังสือดีมีคณุ คา่ ๘.สว่ นประกอบของประโยค ๙. ประเมนิ ผลงาน
๔ ทกั ษะ/กระบวนการ ๑.อ่านเร่ืองจับใจความสำคัญ ๒.ตั้งคำถามและตอบคำถาม ๓.เขียนแผนภาพโครงเรื่อง ๔.แตง่ ประโยคเปน็ เร่อื งราว ๕. เลา่ เรื่องสรปุ ใจความสำคญั ๖. พดู แสดงความร้คู วามคดิ เห็น ๗. คัดลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทดั และครึง่ บรรทดั เจตคติ ๑.เหน็ ความสำคัญและใชภ้ าษาไทยไดถ้ ูกตอ้ ง ๒.มีความใฝร่ ใู้ ฝ่เรยี น ๓.มคี วามรบั ผิดชอบต่อตนเองและสว่ นรวม ๔.รักการอา่ นการเขียน ๕. เห็นคณุ ค่าของการใชภ้ าษาไทยในชวี ติ ประจำวัน ๔. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ด้านการสอ่ื สาร ๑. สามารถสือ่ สาร การรบั – สง่ สารดว้ ยประโยคงา่ ย ๆ ๒. ใชว้ ธิ ีการสอ่ื สารอยา่ งเหมาะสม ดา้ นการคดิ – แกป้ ญั หา ๑. สามารถคิดวเิ คราะหเ์ พ่อื สรา้ งองคค์ วามรู้ ๒. สามารถแกป้ ญั หาโดยใช้เหตุผล ดา้ นการใชท้ ักษะชีวิต ๑. ทำงานและอยู่ร่วมกับผ้อู ่นื ได้ด้วยดี ๒. รูจ้ กั แกไ้ ขความขัดแยง้ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ด้านการใชเ้ ทคโนโลยี ๑. เลือกใช้ข้อมูลในการพัฒนาตนเองและทำงานอย่างเหมาะสม
๕ ๕.คณุ ลักษณะอนั พึงประสงคข์ องผู้เรียน ๑.ขยัน ๒.ประหยัด ๓.ซ่ือสัตย์ ๔. มวี นิ ยั ๕. มีความรับผิดชอบในงานของตนและมีสว่ นรว่ มในการทำกจิ กรรม ๖. รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ๗. ใฝห่ าความรู้ หม่นั ศกึ ษาเลา่ เรยี นทัง้ ทางตรงและทางออ้ ม ๖. ช้ินงาน/ภาระงาน ๑. แต่งประโยคจากคำนา่ รู้คูบ่ ทเรียน ๒. เขียนแสดงความคิดเห็น ๓. ต้ังคำถามตอบคำถาม ๔. คดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั ๗.การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์การผา่ น ๑.การอา่ นออกเสยี ง ๑. แบบประเมินการอา่ นออกเสียง ๑. เกณฑ์การอา่ นออกเสียง ช่วงคะแนน ๑๔- ๑๘ระดบั คณุ ภาพ ดี ๒. การอา่ นจบั ใจความ ๒. แบบประเมนิ การอา่ นจับใจความ ช่วงคะแนน ๘–๑๒ระดบั คุณภาพ พอใช้ ชว่ งคะแนนต่ำกว่า ๘ ระดับคณุ ภาพ ปรับปรุง ๓. การทำสมุดเล่มเล็กคำศพั ท์ ๓. แบบประเมนิ การทำสมุดเลม่ เลก็ ๒. เกณฑก์ ารอา่ นจับใจความ และความหมายเรือ่ งไวรสั วาย คำศัพทแ์ ละความหมาย ชว่ งคะแนน๙ - ๑๒ระดบั คณุ ภาพ ดี ร้าย ชว่ งคะแนน๕ - ๘ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ช่วงคะแนนตำ่ กว่า ๕ระดับคุณภาพ ปรับปรุง ๔.การเขียนแผนภาพโครง ๔.แบบประเมนิ การเขียนแผนภาพ ๓. เกณฑ์การทำสมดุ เลม่ เลก็ คำศัพท์และ ความหมาย เร่ืองเรือ่ งไวรสั วายรา้ ย โครงเร่ือง ช่วงคะแนน๙ - ๑๒ระดบั คุณภาพ ดี ช่วงคะแนน๕ - ๘ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ช่วงคะแนนต่ำกว่า ๕ระดบั คุณภาพ ปรับปรุง ๔. เกณฑ์การเขียนแผนภาพโครงเร่อื ง ชว่ งคะแนน ๑๔- ๑๘ระดับคณุ ภาพ ดี ช่วงคะแนน ๘–๑๒ระดบั คุณภาพ พอใช้ ช่วงคะแนนตำ่ กว่า ๘ ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรุง
๖ เกณฑก์ ารประเมินช้ินงาน/ภาระงาน รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินการอ่านออกเสียง (rubrics) กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ โรงเรียน.......................................................................... ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ................... ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๓ ๒๑ ๑.การจับหนังสือ/พลิกหนังสอื / ลกั ษณะทา่ ทาง การวาง ลักษณะท่าทาง การวาง ลักษณะท่าทาง การ ท่าทางในการอา่ นที่ถกู ตอ้ ง และการจับหนังสอื ถูกต้อง แต่การจับ วาง และการจบั ถกู ต้อง หนังสือไมถ่ ูกต้อง หนังสือไม่ถกู ตอ้ ง ๒. อ่านถูกต้องตามอกั ขรวธิ ี อ่านถูกตอ้ งตามอักขรวธิ ี อ่านถูกตอ้ งตามอักขรวธิ ี อ่านไม่ถูกต้องตาม ออกเสียง ร และควบ ออกเสียง ร และควบ อักขรวธิ อี อกเสยี ง ร กล้ำ ร ล ว ชดั เจน กล้ำ ร ล ว ชดั บ้างไม่ชดั และควบกลำ้ ร ล ว บ้าง ไม่ชดั เจนเลย ๓. การเว้นวรรคตอนถูกตอ้ ง อา่ นและเวน้ วรรคตอนได้ อา่ นเวน้ วรรคตอนผดิ อ่านเวน้ วรรคตอนผิด ถกู ตอ้ งตลอดท้ังเรอื่ ง บ้างเป็นบางคร้ัง ตลอดทั้งเรือ่ งตงั้ แต่ ต้งั แต่ต้นจนจบ ตน้ จนจบเรอื่ ง ๔. นำ้ เสียงเหมาะสมกบั เรื่องที่อา่ น อา่ นเสียงดังชัดเจน อา่ นเสียงดงั ชดั เจน อ่านเสยี งไม่ชัดเจน น้ำเสยี งเหมาะสมกบั น้ำเสยี งเหมาะสมบา้ ง นำ้ เสยี งไมเ่ หมาะสม เรอ่ื งท่ีอ่าน เปน็ บางครง้ั กบั เรอ่ื งที่อา่ นตลอด ทงั้ เร่อื ง ๕. ไม่อา่ นข้าม/เตมิ คำ/ตคู่ ำ อ่านออกเสียงไดถ้ ูกต้อง อา่ นออกเสียงไดถ้ ูกต้อง อา่ นออกเสยี งไม่ ชดั เจนทกุ คำ ทกุ ชัดเจนเปน็ บางคำ มีอา่ น ถูกตอ้ ง ไมช่ ัดเจน ขอ้ ความ ทกุ ประโยค ตู่คำ เพม่ิ คำและตูค่ ำเปน็ อา่ นขา้ มคำ อา่ นเพมิ่ บางคร้ัง คำ และตู่คำมาก ๖. อ่านเสียงดังเหมาะสม อ่านเสียงดัง ชดั เจน ได้ อ่านเสยี งดังบ้างเป็น อา่ นเสียงเบา ไดย้ ิน ยนิ ท่ัวถึงกับทง้ั หอ้ ง เสียง บางครง้ั เสยี งไม่ ไมท่ ั่วถงึ ดัง สมำ่ เสมอ สม่ำเสมอ เกณฑ์การประเมนิ ช่วงคะแนน ๑๔- ๑๘ ระดบั คณุ ภาพ ดี ช่วงคะแนน ๘–๑๒ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ชว่ งคะแนน ต่ำกวา่ ๘ ระดบั คุณภาพ ปรบั ปรงุ
๗ รายละเอยี ดเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมินความสามารถในการอา่ นจับใจความ (rubrics) กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรยี น.......................................................................... ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ............ ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน ๓ ๒๑ ๑.ตอบคำถามจากเรือ่ งทอี่ า่ น ตอบคำถามถกู ต้องทกุ ข้อทั้ง ๕ ข้อ ตอบคำถามผิดไมเ่ กิน ๓ ตอบผดิ มากกวา่ ๓ ข้อใน ๕ ข้อ ขอ้ ใน ๕ ขอ้ ๒.บอกความสำคัญของเรือ่ งที่ บอกเน้อื หาสาระถกู ต้อง บอกเน้อื หาสาระได้ บอกเนื้อหาสาระได้ อา่ น ได้ใจความตอ่ เน่อื ง ถูกตอ้ ง แต่วกวน บ้าง ๓. บอกขอ้ คดิ จากเร่อื งทอี่ า่ น บอกข้อคดิ ไดต้ รง บอกข้อคดิ ไดต้ รง บอกข้อคิดได้บา้ งแต่ ประเด็นสมบรู ณ์ ประเดน็ แตไ่ ม่ต่อเนอ่ื ง วกวน ๔. แสดงความคิดเหน็ จาก เสนอความคดิ เห็นด้วย เสนอความคดิ เหน็ ได้ เสนอความคิดเหน็ แต่ เรอ่ื งทอ่ี า่ น ไม่แสดงเหตผุ ล เหตุผลและเป็น อยา่ งมเี หตผุ ล ประโยชน์ เกณฑก์ ารประเมนิ ๙ - ๑๒ ระดบั คณุ ภาพ ดี ช่วงคะแนน ๕-๘ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ชว่ งคะแนน ต่ำกวา่ ๕ ระดับคณุ ภาพ ปรบั ปรงุ ช่วงคะแนน
๘ รายละเอยี ดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมนิ การทำสมุดเลม่ เล็กคำศพั ท์(rubrics) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ โรงเรยี น.......................................................................... ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศกึ ษา ................... ประเด็นการประเมิน ๔ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๒ ๑.รูปเลม่ สวยงามแข็งแรง คงทน ๓ ไมส่ วยงามใหญ่ เหมาะกบั เรอ่ื งราวและ เทอะทะไม่ เหมาะ วัยของผูอ้ ่าน สวยงามแข็งแรง คงทน กบั เรอ่ื งราวและวัย เหมาะกบั เร่อื งราวและ ของผ้อู า่ น วยั ของผ้อู า่ นเปน็ สว่ น ใหญ่ ๒.ความสมบรู ณข์ องเน้ือหา เนือ้ หาเหมาะสมกับภาพ เน้ือหาเหมาะสมกบั ภาพ เนือ้ หามากเกนิ ไปไม่ สมบรู ณ์ ถกู ตอ้ งท้ังการ สมบรู ณ์ ถูกต้องทงั้ การ เหมาะสมกบั ภาพ มี เขยี นคำและการวาง เขียนคำและการวาง เขยี นคำผิดเป็นบาง ข้อความกบั ภาพ ข้อความกบั ภาพเป็นส่วน แหง่ และการวาง ใหญ่ ข้อความกบั ภาพไม่ เหมาะสม ๓. ภาพประกอบ ภาพประกอบสอดคลอ้ ง ภาพประกอบสอดคลอ้ ง ภาพประกอบมีนอ้ ย กับเนอื้ เรอื่ งและระบายสี กบั เน้ือเรอ่ื งเปน็ ส่วนใหญ่ และไม่สอดคล้องกบั ไดส้ วยงาม และมีการระบายสี เน้ือเรอื่ งและไม่ ระบายสี เกณฑก์ ารประเมิน ๙- ๑๒ ระดบั คุณภาพ ดี ช่วงคะแนน ๕–๘ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ช่วงคะแนน ตำ่ กว่า ๕ ระดับคณุ ภาพ ปรับปรงุ ช่วงคะแนน
๙ รายละเอียดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมินการเขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง (rubrics) กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ โรงเรียน.......................................................................... ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ............ ประเด็นการประเมิน ๓ เกณฑ์การให้คะแนน ๑ ๒ ๑.การออกแบบแผนภาพโครงเรอื่ ง ออกแบบแผนภาพโครง ออกแบบแผนภาพ ไดด้ ี เร่ืองไดด้ ีและสร้างสรรค์ ออกแบบแผนภาพโครง โครงเรอ่ื งไดไ้ ม่ดี เรื่องได้ดี ๒. ลำดับเรือ่ ง/เหตุการณไ์ ดด้ ี ลำดบั เร่ืองเหตกุ ารณไ์ ด้ดี ลำดับเร่อื งเหตกุ ารณไ์ ดด้ ี ลำดบั เรื่องไม่ดี สลับ ไมส่ ลับวกวนไปมา แตม่ ีสลับท่บี ้าง วกวนไปมา ๓. เขยี นไดค้ รบถว้ น/ครอบคลมุ เขียนได้ครบถัวนครอบ เขียนไดค้ รบถว้ นแต่ไม่ เขียนไมค่ รบถ้วนไม่ ๔. ใชภ้ าษาส่ือสารไดด้ ี ๕. นำเสนอผลงานไดด้ ี คลุมตอ่ เนอ่ื ง ต้ังแต่ตน้ ต่อเนอื่ ง ต่อเนื่อง ๖. ทำงานได้ทันเวลา จนจบ ใชภ้ าษาส่ือสารในการ ใชภ้ าษาเขียนส่อื สารได้ดี ใชภ้ าษาสือ่ สารไม่ เขียนไดด้ ี ทำให้เขา้ ใจสงิ่ แตม่ ีข้อบกพรอ่ งในบาง ชดั เจน ทีส่ ่อื สารอยา่ งชัดเจน ประเดน็ นำเสนอผลงานไดด้ มี าก นำเสนอผลงานไดด้ ี แต่ นำเสนอผลงานไม่ดี มคี วามครบถ้วนทุก ไม่ครบสมบูรณ์ ประเดน็ ครบสมบรู ณ์ ตั้งแตต่ น้ จนจบเรือ่ ง ทำงานไดท้ ันตามเวลา ทำงานเกินเวลาเลก็ นอ้ ย ทำงานเกินเวลาไป กำหนด มาก เกณฑก์ ารประเมนิ ๑๔- ๑๘ ระดับคุณภาพ ดี ช่วงคะแนน ๘–๑๒ ระดับคุณภาพ พอใช้ ชว่ งคะแนน ตำ่ กว่า ๘ ระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรุง ช่วงคะแนน
๑๐ ๘.กิจกรรมการเรียนรู้ ชัว่ โมงที่ ๑ ศกึ ษาคำศัพท์ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑.อา่ นบทรอ้ ยแกว้ ได้ถกู ต้อง ๒. พดู สรุปความได้ถกู ตอ้ ง ๓. มีมารยาทในการอา่ น ๔. มีมารยาทในการเขียน กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ นำ ๑.ครูกลา่ วทักทายนกั เรียน เร่มิ ต้นการเรียนบทเรยี นให้นกั เรียนอ่านบทร้อยกรองของบทไวรสั วายร้าย ครสู รุปใหฟ้ งั วา่ นกั เรียนจะได้ทราบว่าบทสรปุ ของบทร้อยกรองจะทำใหท้ ราบว่าเราจะต้องศกึ ษาเรอ่ื งอะไรบา้ ง และอา่ นคำศัพทข์ องบท ๒.ครแู ละนักเรียนสนทนาซกั ถามเรอื่ ง “ไวรสั วายร้าย” ว่าเปน็ อย่างไร ทำไมถงึ เปน็ อย่างน้นั ครใู ห้ นกั เรียนดภู าพจากเรือ่ งอนั ตรายใกลต้ วั ซักถามนกั เรยี นเกยี่ วกบั ภาพ เชน่ - ในภาพมอี ะไรบา้ ง - เปน็ ภาพเกย่ี วกบั อะไร ขัน้ สอน๓. ครูใหน้ กั เรยี นอา่ นในใจเรอ่ื งไวรัสวายรา้ ย และอา่ นคำศพั ท์ใหม่ในบทเรียน พรอ้ มอธิบายความหมาย ของคำในเน้ือเร่ือง สนทนาและซกั ถามจนนกั เรียนเข้าใจเร่ือง ๔.ครใู ห้นักเรียนเล่าเรือ่ งย่อ ว่าในเรอื่ งมีตวั ละครใครบ้าง เหตกุ ารณ์เกดิ ขึน้ ทไ่ี หน ขอ้ คดิ ของเร่อื ง ๕. ให้นักเรยี นอา่ นหนงั สือภาษาพาทหี น้า ๑๐๙ ครตู งั้ คำถามถามนำ ใหน้ กั เรียนรสู้ กึ นึกคดิ -นกั เรยี นเคยเห็นตวั ไวรัสหรือไม่ - ทำไมบนโลกนตี้ อ้ งมีไวรสั ขัน้ สรุป ๖. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ถงึ ความสำคญั ของการอา่ นเร่ือง วา่ นกั เรยี นต้องเลา่ สูใ่ ห้คนอนื่ ฟงั ได้บา้ ง เป็นตอนส้ัน ๆ หรอื ใครทีจ่ ำเรือ่ งราวไดม้ ากก็ฝึกเล่าโดยใชค้ ำพูดของตนเอง นกั เรยี นตัง้ คำถามจากเรอื่ งท่อี ่านให้ได้มากท่ีสุด เพื่อทจี่ ะไดถ้ ามคนอ่นื
๑๑ ส่ือและแหล่งเรยี นรู้ ๑. บัตรคำและบัตรภาพของคำต่อไปน้ี ไวรสั แบคทเี รยี เชอ้ื โรค ๒. บทร้อยกรอง ๓. ใบงาน ๔. หนังสอื เรียนภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชวี ติ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ชดุ ภาษาพาที ๕. แบบฝึกหดั ทักษะภาษา ชดุ ภาษาเพื่อชวี ติ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ การวดั และประเมินผล ประเด็นประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ตอบคำถาม ๔ ๓๒ บอกความสำคัญ ตอบคำถามถกู ต้องทุกขอ้ ตอบคำถามผิดไมเ่ กนิ ๓ข้อ ตอบผิดมากกวา่ ๓ข้อ ขอ้ คดิ จากเรอ่ื งท่อี า่ น ใน๕ข้อ ใน๕ข้อ แสดงความคดิ เหน็ จาก บอกเน้ือหาสาระถกู ตอ้ งได้ บอกเนอื้ หาสาระได้ถกู ตอ้ ง บอกเนื้อหาสาระไดบ้ ้าง เรอ่ื งทอ่ี ่าน ใจความตอ่ เนื่อง แตว่ กวน บอกขอ้ คดิ ได้ตรงประเดน็ บอกข้อความไดต้ รง บอกขอ้ คิดไดบ้ า้ งแตว่ กวน สมบูรณ์ ประเด็นแตไ่ ม่ตอ่ เน่ือง เสนอความคดิ เหน็ ดว้ ยเหตผุ ล เสนอความคิดเหน็ ได้ เสนอความคิดเห็นแตไ่ ม่ และเป็นประโยชน์ อยา่ งมเี หตุผล แสดงเหตผุ ล
๑๒ แบบประเมินการอ่านออกเสียงและเขยี นคำศัพท์ กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ โรงเรียน.................................... สำนักงานเขตการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน.............................. ................................ ภาคเรียนท่ี.....................ปีการศึกษา ........................................... เร่อื ง....................................................... ประเมินครัง้ ที่ ............... วันท่ี ................... เดอื น .............................................. พ.ศ...................... ___________________________________________________________ คำชี้แจง ครปู ระเมนิ พฤตกิ รรมของนักเรียนในการอา่ นออกเสยี งและเขียนคำศพั ท์ ใหค้ ะแนนลงในชอ่ งทตี่ รง กับพฤติกรรมของนกั เรยี น ความถูกต้องในการอ่าน สรุปผล คุณ ัลกษณะ รวม การประเมนิ ( ีมความ ่ัมนใจในการใช้ภาษา ) เลขที่ ช่ือ-สกุล การสะกดคำศัพ ์ท อธิบายความหมายของคำ ัศพ ์ท ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๒ ดี พอใช้ ปรับ ปรงุ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ลงช่ือ............................................................ผู้ประเมนิ (.....................................................)
๑๓ รายละเอยี ดเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมินการอา่ นออกเสยี งและเขียนคำศัพท(์ rubrics) กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ โรงเรียน.......................................................................... ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศกึ ษา ............ ประเดน็ การประเมิน ๓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ๑ ๑.ความถูกต้องในการอา่ น สามารถอา่ นไดถ้ ูกตอ้ ง ๒ พยายามอา่ นได้บา้ ง ทัง้ หมด ผิดมากกว่า ๕คำ สามารถอ่านไดเ้ กือบ ถกู ต้องทั้งหมดผิดไมเ่ กิน ๓ คำ ๒.คณุ ลักษณะ มคี วามม่ันใจในการอา่ น มีความม่ันใจในการอ่าน ขาดความม่ันใจใน (มีความมั่นใจในการอา่ น ) ดี มกี ารเตรียมตวั มา พอใช้ เตรยี มตวั มาอยา่ ง ตนเอง เตรียมตวั มา อยา่ งดี มน่ั ใจตนเอง ดี ยงั ประหมา่ บา้ งแต่ไม่มากนัก ๓. การสะกดคำศพั ท์ การสะกด การสะกด สะกดคำผดิ มาก คำศัพท์ถูกตอ้ ง คำศัพท์ผดิ เล็กนอ้ ย ๑. อธบิ ายความหมายของ อธิบายความหมายได้ อธบิ ายความหมายได้ อธิบายความหมาย คำศพั ท์ ถูกต้องสมบูรณ์ เกือบถกู ตอ้ ง ไมไ่ ด้ เกณฑก์ ารประเมนิ ๙ - ๑๒ ระดบั คุณภาพ ดี ช่วงคะแนน ๕-๘ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ช่วงคะแนน ต่ำกว่า ๕ ระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรุง ชว่ งคะแนน
๑๔ ชัว่ โมงที่ ๒ การอา่ นจับใจความ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. สามารถอ่านจบั ใจความสำคญั ได้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำ ๑. ครพู ดู คุยทักทายนกั เรยี น จากนัน้ ครูถามนักเรยี นเกีย่ วกับการรกั ษาสขุ ภาพ และในชวี ิตประจำวนั บา้ ง และซักถามเก่ียวกบั การปฏิบตั ติ นใหถ้ กู สขุ ลักษณะมีประโยชน์อยา่ งไรตอ่ ตนเอง ๒ ครใู หน้ ักเรยี นทอ่ งบทคา่ นิยม ๑๒ ประการก่อนเรียน ขน้ั สอน ๑.ครูอธิบายใหน้ ักเรยี นเกิดความเขา้ ใจวา่ นกั เรียนอา่ นอะไรตอ้ งจับใจความใหไ้ ดแ้ ละตอบคำถามได้ตลอดถงึ การเรยี งลำดับเหตุการณต์ ่าง ๆจะทำให้เข้าใจเรื่องราวตา่ งๆได้ดี ๒.ครูให้นักเรียนอ่านในใจเร่อื ง ไวรสั วายร้าย จากหนังสอื ภาษาพาที ภายในเวลาท่กี ำหนดไว้และให้ นกั เรยี นสรปุ ใจความสำคัญ โดยใช้คำถามดงั น้ี ใคร ทำอะไร ท่ไี หน อยา่ งไร เมอื่ ไร ๓.ครูให้นกั เรียนสมคั รออกมาหนา้ ชั้นเรียนเพอื่ เล่าเร่อื งตามลำดับเหตุการณห์ น้าช้ันเรยี น ข้นั สรปุ ๑.ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกันสรุปหลักการจับใจความสำคญั ของการอา่ นในเร่ืองตา่ งๆรว่ มกนั โดยการใช้ คำถามและตอบคำถาม ๒.ครใู หน้ กั เรยี นเขยี นเรือ่ งราวยอ่ ของไวรสั วายรา้ ยตามลำดับเหตุการณท์ เ่ี กดิ ขึ้นตามรปู แบบท่นี ักเรยี น ถนดั สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้ ส่ือ/อปุ กรณ์ หนงั สอื เรยี นภาษาไทยภาษาพาที ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ แหลง่ เรียนรู้ ๑. ห้องสมดุ ๒. หอ้ งเรียน การวดั ผลประเมินผล วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์ ๑. สงั เกตการร่วมกจิ กรรม แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ๑. เกณฑก์ ารอา่ นจับใจความสำคญั การเรียนการสอนในช้นั อา่ นจับใจความสำคัญ ชว่ งคะแนน ๙- ๑๒ระดบั คุณภาพ ดี เรียนและการจบั ใจความ ช่วงคะแนน ๕–๘ระดับคุณภาพ พอใช้ สำคญั ช่วงคะแนนตำ่ กว่า ๕ ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ
๑๕ แบบประเมนิ ความสามารถในการอา่ นจับใจความสำคัญ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ โรงเรยี น.................................... สำนกั งานเขตการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน.............................. ................................ ภาคเรยี นท่ี.....................ปีการศึกษา ........................................... เร่อื ง ....................................................... ประเมินคร้งั ที่ ……. วนั ท่ี ................... เดอื น .............................................. พ.ศ...................... ___________________________________________________________ คำชแ้ี จง ครปู ระเมินพฤติกรรมของนักเรยี นในการอา่ นจบั ใจความสำคญั ใหค้ ะแนนลงในช่องที่ตรงกบั พฤตกิ รรมของนกั เรยี น ตอบคำถามจากเร่ืองที่อ่าน สรปุ ผล บอกความสำคัญของเร่ืองที่อ่าน รวม การประเมนิ บอก ้ขอคิดจากเรื่อง ่ทีอ่าน เลขที่ ชื่อ-สกลุ แสดงความคิดเห็นจากเร่ือง ่ีท อ่าน ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๒ ดี พอใช้ ปรับ ปรงุ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ลงชื่อ............................................................ผปู้ ระเมนิ (.....................................................)
๑๖ รายละเอียดเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมนิ ความสามารถในการอา่ นจบั ใจความ (rubrics) กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ โรงเรียน.......................................................................... ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ............ ประเดน็ การประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๓ ๒๑ ๑.ตอบคำถามจากเร่อื งทอ่ี ่าน ตอบคำถามถกู ตอ้ งทกุ ข้อ ตอบคำถามผิดไม่เกนิ ๓ ตอบผิดมากกว่า ๓ ขอ้ ใน ๕ ข้อ ข้อ ใน ๕ ข้อ ๒.บอกความสำคัญของเร่ืองที่ บอกเน้ือหาสาระถูกตอ้ ง บอกเนือ้ หาสาระได้ บอกเนื้อหาสาระได้ อา่ น ได้ใจความตอ่ เนอื่ ง ถูกตอ้ ง แต่วกวน บ้าง ๓. บอกขอ้ คดิ จากเรือ่ งทอี่ ่าน บอกขอ้ คดิ ไดต้ รง บอกขอ้ คิดไดต้ รง บอกขอ้ คดิ ได้บ้างแต่ ประเด็นสมบรู ณ์ ประเด็นแตไ่ มต่ อ่ เน่อื ง วกวน ๔. แสดงความคดิ เห็นจาก เสนอความคิดเห็นด้วย เสนอความคดิ เหน็ ได้ เสนอความคดิ เหน็ แต่ เรือ่ งทีอ่ ่าน ไม่แสดงเหตผุ ล เหตผุ ลและเป็น อยา่ งมเี หตผุ ล ประโยชน์ เกณฑก์ ารประเมิน ๙ - ๑๒ ระดับคุณภาพ ดี ชว่ งคะแนน ๕-๘ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ช่วงคะแนน ต่ำกวา่ ๕ ระดับคุณภาพ ปรับปรุง ชว่ งคะแนน
๑๗ ชั่วโมงที่ ๓ การเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ ง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. สามารถเขียนแผนภาพโครงเรือ่ งได้ ๒. มมี ารยาทในการเขยี น กิจกรรม ขั้นนำ ๑. ครพู ดู คยุ สนทนาซักถามถงึ สถานการณช์ วี ติ ประจำวนั ของนกั เรียนเพอื่ ให้นักเรียนรู้จักสรปุ ได้วา่ ใน แต่ละวนั มีเหตุการณ์อะไรเกิดข้ึนบา้ งและเป็นอย่างไร สรปุ ความไดว้ ่าอยา่ งไร เพื่อนำไปสูก่ ารทำ แผนภาพความคิดซงึ่ จะสามารถนำไปโยงสูก่ ารทำแผนภาพโครงเร่ืองได้ ขั้นสอน ๑. นกั เรียนศกึ ษารปู แบบการเขยี นแผนภาพความคิดและการทำแผนภาพโครงเรอื่ งทีค่ รูเตรยี มไว้ ให้ ๒. ครมู อบหมายให้นักเรียนรว่ มอภิปรายแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ และเขยี นสรปุ ใจความสำคญั เรื่องไวรสั วายรา้ ยโดยเลอื กประเดน็ ทสี่ ำคัญ ๆ ๓. นักเรยี นบนั ทกึ ผลการสรปุ ใจความสำคัญในรูปแบบแผนภาพความคิด ๔. นำขอ้ มูลในแผนภาพความคิดมาเขยี นเป็นแผนภาพโครงเรือ่ งโดยใช้คำถาม ใคร(ตวั ละครใน เรื่องมีใครบ้าง) ทำอะไร (เหตุการณ์ตา่ ง ๆ ทีเ่ กดิ ข้นึ ) ท่ีไหน( สถานทท่ี ี่เกิดเหตกุ ารณ)์ เม่อื ไร (เวลาหรอื เหตุการณ์เกิดขนึ้ เมอื่ ไร) อย่างไร(วิธีการหรือบรรยากาศเปน็ อยา่ งไร)และหาคำตอบ ๕. ให้นักเรยี นฝกึ เล่าเรอื่ งจากแผนภาพโครงเร่อื งโดยใชภ้ าษาท่เี ป็นของนักเรยี นเอง ขั้นสรุป ๑. ครสู รปุ ให้นกั เรยี นฟังถึงการเขียนแผนภาพโครงเร่ืองที่ถูกตอ้ งและให้นักเรยี นนำไปเขียน แผนภาพโครงเรื่องเป็นการบา้ น สือ่ และแหลง่ เรยี นรู้ สอื่ /อุปกรณ์ ๑. หนงั สือเรียนภาษาไทยภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ ๒. ตัวอย่างแผนภาพโครงเรอื่ ง แหล่งเรียนรู้ ๑. ห้องสมดุ ๒. หอ้ งเรียน
การวดั ผลประเมนิ ผล เครื่องมอื ๑๘ วิธีการ ๑. สังเกตพฤตกิ รรมการ เกณฑ์ ทำงานกลมุ่ ๑. เกณฑ์การทำงานกลมุ่ ๑. สังเกตการร่วมกจิ กรรม ชว่ งคะแนน ๑๔- ๑๘ระดับคุณภาพ ดี กลุ่ม ชว่ งคะแนน ๘–๑๒ระดบั คุณภาพ พอใช้ ชว่ งคะแนนต่ำกว่า ๘ ระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรุง ๒. ตรวจผลงานการเขียน ๒. แบบบันทึกคะแนนการ ๒. เกณฑก์ ารเขียนแผนภาพโครงเรอื่ ง ช่วงคะแนน ๑๔- ๑๘ระดับคุณภาพ ดี แผนภาพโครงเรอื่ ง เขียนแผนภาพโครงเร่ือง ชว่ งคะแนน ๘–๑๒ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ช่วงคะแนนต่ำกว่า ๘ ระดับคุณภาพ ปรับปรุง
๑๙ ตวั อย่างแผนภาพโครงเรอ่ื ง เรื่อง............................................................. เหตุการณ์ท่ี ๑ ใคร ทาอะไร ท่ีไหน เมื่อไร ผลทไ่ี ด้รับ เหตุการณ์ที่ ๒ ใคร ทาอะไร ท่ไี หน เม่ือไร ผลท่ีได้รับ เหตุการณ์ท่ี ๓ ใคร ทาอะไร ที่ไหน เมื่อไร ผลทไ่ี ด้รับ เหตกุ ารณ์ที่ ๔ ใคร ทาอะไร ท่ไี หน เม่ือไร ผลทไ่ี ด้รับ เหตุการณ์ท่ี ๕ ใคร ทาอะไร ท่ไี หน เมื่อไร ผลท่ไี ด้รับ ข้อคดิ จากเร่ือง
๒๐ แบบประเมนิ การทำงานกลมุ่ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ โรงเรียน.................................... สำนักงานเขตการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน.............................. ................................ ภาคเรยี นท่ี.....................ปีการศกึ ษา ........................................... เร่ือง ....................................................... ประเมินครั้งท่ี ……. วนั ที่ ................... เดือน .............................................. พ.ศ...................... ___________________________________________________________ คำชแ้ี จง ครปู ระเมินพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการทำงานกลุ่ม ให้คะแนนลงในช่องที่ตรงกับพฤตกิ รรมของ นกั เรียน คณะทำงาน สรุปผล ความรับผิดชอบต่อหน้า ีท่ รวม การประเมิน ัข้นตอนการทำงาน เลขท่ี ชื่อ-สกุล ความร่วมมือในการทำงาน การร่วมงานก ่ลุมอ ่ยาง ีมความสุข เวลา ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ดี พอใช้ ปรับ ปรงุ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ลงชื่อ............................................................ผปู้ ระเมนิ (.....................................................)
๒๑ รายละเอยี ดเกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมนิ การทำงานกลมุ่ (rubrics) กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียน.......................................................................... ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศกึ ษา ............ ประเด็นการประเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๑.คณะทำงาน ๒.ความรบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ท่ี ๓ ๒๑ ๓. ขน้ั ตอนการทำงาน มีประธาน เลขานุการ ขาดองค์ประกอบ๑อย่าง ขาดองคป์ ระกอบ ๒ ๔.ความร่วมมอื ในการทำงาน ๕. การรว่ มงานกลุ่มอยา่ งมีความสุข ผูน้ ำเสนอ ผูร้ ว่ มงาน อยา่ งขน้ึ ไป ๖.เวลา ทุกคนทำหนา้ ที่ และมี มีผู้มีหน้าที่ แตไ่ ม่ มีผู้ทีม่ หี นา้ ทแี่ ต่ไม่ ความรบั ผิดชอบต่อ รบั ผดิ ชอบ ๑ คน รับผดิ ชอบ ๒ คนข้ึน หน้าทข่ี องตนเอง ไป ๑. คัดเลอื กเรอ่ื งตาม ขาดขน้ั ตอน ๑ ข้ันตอน ขาดขน้ั ตอน ๒ ความสนใจของกลมุ่ หรือไมช่ ัดเจน ขน้ั ตอนขนึ้ ไปหรือไม่ ๒. มกี ารวางแผนงาน ชดั เจน ๓. เตรยี มวสั ดอุ ปุ กรณ์ ๔. ปฏิบัติตามแผนและ พฒั นางาน ทกุ คนมีสว่ นรว่ มและให้ ร้อยละ ๘๐ ของกลมุ่ มี รอ้ ยละ ๖๐ ของกล่มุ ความรว่ มมืออยา่ งเตม็ ที่ ส่วนร่วมและใหค้ วาม มีส่วนรว่ มและให้ ร่วมมอื ความรว่ มมือ ทกุ คนรว่ มกจิ กรรมกลมุ่ ร้อยละ ๘๐ ของกลมุ่ รว่ ม รอ้ ยละ ๖๐ ของกล่มุ อยา่ งมีความสุข กิจกรรมกลมุ่ อยา่ งมี ร่วมกิจกรรมกลมุ่ ความสขุ อย่างมคี วามสขุ เสรจ็ ตามกำหนดและ เสรจ็ ไมท่ ันตามกำหนด เสรจ็ ไม่ทนั ตาม งานมีคุณภาพ แต่งานมคี ุณภาพ กำหนด และงานไมม่ ี คณุ ภาพ เกณฑก์ ารประเมนิ ๑๔- ๑๘ ระดับคุณภาพ ดี ช่วงคะแนน ๘–๑๒ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ชว่ งคะแนน ตำ่ กว่า ๘ ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรุง ชว่ งคะแนน
๒๒ แบบประเมนิ การเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ ง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ โรงเรียน.................................... สำนกั งานเขตการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน.............................. ................................ ภาคเรียนที่.....................ปกี ารศกึ ษา ........................................... เรอื่ ง ....................................................... ประเมินครั้งที่ ……. วนั ท่ี ................... เดือน .............................................. พ.ศ...................... ___________________________________________________________ คำช้ีแจง ครปู ระเมินพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขียนแผนภาพโครงเรื่อง ให้คะแนนลงในช่องทต่ี รงกบั พฤติกรรมของนกั เรยี น การออกแบบแผนภาพโครงเร่ืองไ ้ดดี สรุปผล ลำดับเร่ือง/เห ุตการ ์ณได้ ีด รวม การประเมิน เ ีขยนได้ครบ ้ถวน/ครอบค ุลม เลขท่ี ชือ่ -สกุล ใช้ภาษาสื่อสารได้ดี นำเสนอผลงานได้ดี ทำงานได้ ัทนเวลา ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ดี พอใช้ ปรับ ปรงุ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ลงชอื่ ............................................................ผปู้ ระเมนิ (.....................................................)
๒๓ รายละเอยี ดเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินการเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง (rubrics) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ โรงเรยี น.......................................................................... ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ............ ประเด็นการประเมิน ๓ เกณฑ์การให้คะแนน ๑ ๒ ๑.การออกแบบแผนภาพโครงเร่อื ง ออกแบบแผนภาพโครง ออกแบบแผนภาพ ได้ดี เร่อื งไดด้ แี ละสร้างสรรค์ ออกแบบแผนภาพโครง โครงเรอ่ื งไดไ้ ม่ดี เรือ่ งไดด้ ี ๒. ลำดบั เร่ือง/เหตุการณไ์ ดด้ ี ลำดบั เรอ่ื งเหตกุ ารณไ์ ดด้ ี ลำดบั เร่อื งเหตุการณไ์ ด้ดี ลำดบั เรอ่ื งไม่ดี สลับ ไม่สลบั วกวนไปมา แต่มสี ลับทบ่ี ้าง วกวนไปมา ๓. เขียนได้ครบถ้วน/ครอบคลมุ เขียนไดค้ รบถัวนครอบ เขยี นไดค้ รบถว้ นแตไ่ ม่ เขยี นไม่ครบถ้วนไม่ ๔.ใช้ภาษาสอ่ื สารได้ดี ๕. นำเสนอผลงานได้ดี คลุมตอ่ เนื่อง ตงั้ แต่ตน้ ต่อเนอื่ ง ต่อเนื่อง ๖. ทำงานไดท้ นั เวลา จนจบ ใชภ้ าษาส่อื สารในการ ใช้ภาษาเขยี นสอื่ สารได้ดี ใชภ้ าษาสือ่ สารไม่ เขยี นไดด้ ี ทำใหเ้ ข้าใจสง่ิ แตม่ ขี ้อบกพร่องในบาง ชดั เจน ทสี่ ่ือสารอยา่ งชัดเจน ประเด็น นำเสนอผลงานได้ดมี าก นำเสนอผลงานไดด้ ี แต่ นำเสนอผลงานไม่ดี มคี วามครบถว้ นทกุ ไมค่ รบสมบรู ณ์ ประเดน็ ครบสมบรู ณ์ ตัง้ แต่ตน้ จนจบเร่อื ง ทำงานไดท้ นั ตามเวลา ทำงานเกนิ เวลาเลก็ น้อย ทำงานเกนิ เวลาไป กำหนด มาก เกณฑก์ ารประเมนิ ๑๔- ๑๘ ระดบั คณุ ภาพ ดี ชว่ งคะแนน ๘–๑๒ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ช่วงคะแนน ต่ำกวา่ ๘ ระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรงุ ชว่ งคะแนน
๒๔ ชัว่ โมงท่ี ๔ การอ่านออกเสยี ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อ่านออกเสียงไดถ้ กู ตอ้ งชดั เจน ๒. มมี ารยาทในการอ่าน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำ ๑. ครยู กตวั อย่าง คำ ขอ้ ความ วลี ประโยค ใหน้ กั เรยี นอา่ นออกเสยี งดัง ๆ พร้อมกัน ๒. ครูแจ้งวัตถุประสงคก์ ารเรียนรใู้ หน้ กั เรียนทราบ ขน้ั สอน ๑. ครูให้นักเรียนเปดิ หนงั สือเรยี นภาษาพาที บทที่ ๘ เร่อื งไวรสั วายร้ายและอา่ นใหน้ กั เรยี นฟงั เปน็ ตัวอยา่ ง ๒-๓ ประโยค ๒. นกั เรียนอ่านออกเสยี งบทเรียนคนละหน่งึ ย่อหน้าจนครบนักเรียนคนทีไ่ มไ่ ด้อา่ นออกเสยี งให้ อ่านในใจตามไป ๓. ใหน้ ักเรียนที่นงั่ ตามกลุ่มอ่านออกเสียงบทเรยี นพร้อมกันอกี ครง้ั แล้วใหน้ ักเรยี นทีเ่ หลอื อา่ นตาม ครูสงั เกตพฤติกรรมการอ่านและความสนใจในการเรยี นของนกั เรียน ๔. หากพบนกั เรยี นทม่ี ปี ญั หาการอา่ น ครใู หม้ าฝกึ อ่านกับครูตัวตอ่ ตัว ๕. หากพบนกั เรยี นทมี่ ปี ัญหาในการอา่ นใหเ้ พ่อื นท่ีอา่ นเกง่ ชว่ ยสอนนอกเวลา ๖. ครูตงั้ คำถามถามนักเรียนถึงเรอื่ งราวท่อี ่านว่าเกย่ี วกับเรอ่ื งอะไรและพดู คยุ ถงึ รายละเอยี ดของ เร่ืองทีอ่ า่ นพอเข้าใจ ขนั้ สรุป ๑. ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั สรปุ บทเรยี นอกี คร้งั ๒.ครูแนะนำว่าการอา่ นออกเสยี ง เป็นการอา่ นทเี่ ป็นการพฒั นาความรู้ ความสามารถ และ เหน็ ขอ้ บกพร่องไดง้ ่าย เพราะอาศัยการฟังของครแู ละเพ่ือน ๆ ชว่ ยแนะนำได้ สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้ ส่ือ/อปุ กรณ์ ๑. หนงั สือเรียนภาษาไทยภาษาพาทีชั้นประถมศกึ ษาปที ี๔่ แหลง่ เรยี นรู้ ๑. ห้องสมุดโรงเรียน ห้องสมดุ ประชาชน ๒. รา้ นหรือศนู ย์จำหน่ายหนงั สือ
๒๕ การวดั ผลประเมินผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ๑. เกณฑก์ ารอา่ นออกเสยี ง วิธีการ ๑. แบบสังเกตการอา่ นออก ชว่ งคะแนน ๑๔- ๑๘ระดับคุณภาพ ดี เสยี ง ชว่ งคะแนน ๘–๑๒ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ๑. การสงั เกตการอ่าน ชว่ งคะแนนต่ำกวา่ ๘ ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ ออกเสยี ง ๒. เกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมความสนใจในการเรียน ๒. การสงั เกตความสนใจ ๒. แบบสังเกตพฤติกรรม ๗ คะแนน ผลการประเมนิ ดีมาก ๕-๖ คะแนน ผลการประเมิน ดี ในการเรยี น ความสนใจในการเรยี น ๓-๔ คะแนน ผลการประเมนิ พอใช้ ๑-๒ คะแนน ผลการประเมนิ ควรปรับปรงุ
๒๖ แบบประเมินการอ่านออกเสยี ง กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ โรงเรยี น.................................... สำนกั งานเขตการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน.............................. ................................ ภาคเรยี นที่.....................ปีการศกึ ษา ........................................... เรือ่ ง ....................................................... ประเมินคร้ังที่ ……. วนั ที่ ................... เดือน .............................................. พ.ศ...................... ___________________________________________________________ คำชี้แจง ครปู ระเมนิ พฤตกิ รรมของนักเรียนในการอา่ นออกเสียงใหค้ ะแนนลงในชอ่ งที่ตรงกับพฤตกิ รรมของ นกั เรยี น การ ัจบหนัง ืสอ/พ ิลกห ันงสือ/ ่ทาทาง สรปุ ผล ในการอ่าน ่ที ูถกต้อง รวม การประเมิน ่อาน ูถกต้องตามอักขรวิธี เลขท่ี ชอ่ื -สกลุ การเว้นวรรคตอน ูถกต้อง ้นำเ ีสยงเหมาะสมกับเร่ืองที่อ่าน ไม่ ่อาน ้ขาม/เ ิตมคำ/ตู่คำ ่อานเสียง ัดงเหมาะสม ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ดี พอใช้ ปรับ ปรงุ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ลงชอ่ื ............................................................ผูป้ ระเมิน (.....................................................)
๒๗ รายละเอียดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมินการอ่านออกเสยี ง(rubrics) กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ โรงเรียน.......................................................................... ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ................... ประเดน็ การประเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน ๓ ๒๑ ๑.การจับหนงั สอื /พลิกหนงั สอื / ลกั ษณะทา่ ทาง การวาง ลักษณะท่าทาง การวาง ลักษณะท่าทาง การ ท่าทางในการอา่ นที่ถูกตอ้ ง และการจับหนังสอื และการจับหนังสอื ไม่ วาง และการจบั ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ๑ อยา่ ง หนังสอื ไมถ่ ูกต้อง ๒ อยา่ ง ขึ้นไป ๒.อ่านถูกตอ้ งตามอักขรวธิ ี อา่ นถกู ต้องตามอกั ขรวธิ ี อ่านถกู ต้องตามอกั ขรวธิ ี อ่านไมถ่ กู ตอ้ งตาม ออกเสยี ง ร และควบ ออกเสยี ง ร และควบ อกั ขรวิธีออกเสียง ร กลำ้ ร ล ว ชัดเจน กล้ำ ร ล ว ชัดบ้างไมช่ ดั และควบกลำ้ ร ล ว บา้ ง ไมช่ ัดเจนเลย ๓. การเว้นวรรคตอนถูกตอ้ ง อา่ นและเว้นวรรคตอนได้ อ่านเวน้ วรรคตอนผิด อา่ นเวน้ วรรคตอนผิด ถูกต้องตลอดท้งั เรอ่ื ง บา้ งเป็นบางคร้ัง ตลอดทั้งเรอ่ื งต้งั แต่ ตั้งแตต่ ้นจนจบ ต้นจนจบเรอื่ ง ๔.น้ำเสียงเหมาะสมกบั เรอ่ื งท่อี า่ น อ่านเสียงดงั ชดั เจน อ่านเสียงดังชัดเจน อ่านเสยี งไม่ชดั เจน นำ้ เสยี งเหมาะสมกับ นำ้ เสียงเหมาะสมบ้าง นำ้ เสยี งไมเ่ หมาะสม เรื่องท่ีอา่ น เป็นบางคร้งั กับเร่ืองทีอ่ ่านตลอด ทั้งเรอื่ ง ๕. ไม่อ่านข้าม/เติมคำ/ตคู่ ำ อา่ นออกเสยี งไดถ้ ูกต้อง อา่ นออกเสียงได้ถูกต้อง อา่ นออกเสยี งไม่ ชัดเจนทุกคำ ทุก ชดั เจนเป็นบางคำ มอี ่าน ถูกตอ้ ง ไมช่ ดั เจน ข้อความ ทกุ ประโยค ตคู่ ำ เพ่มิ คำและตคู่ ำเปน็ อ่านข้ามคำ อา่ นเพ่ิม บางครงั้ คำ และตู่คำมาก ๖.อา่ นเสียงดังเหมาะสม อ่านเสยี งดงั ชดั เจน ได้ อ่านเสยี งดงั บา้ งเป็น อ่านเสยี งเบา ได้ยิน ยนิ ทั่วถึงกับท้งั ห้อง เสยี ง บางครงั้ เสียงไม่ ไม่ท่ัวถงึ ดัง สม่ำเสมอ สมำ่ เสมอ เกณฑ์การประเมนิ ชว่ งคะแนน ๑๔- ๑๘ ระดับคุณภาพ ดี ชว่ งคะแนน ๘–๑๒ ระดับคุณภาพ พอใช้ ช่วงคะแนน ต่ำกวา่ ๘ ระดบั คุณภาพ ปรบั ปรุง
๒๘ แบบสังเกตความสนใจและความตัง้ ใจในการทำกิจกรรมของนักเรียน ช่อื นักเรียน....................................................................ชั้น..................... กิจกรรม......................................................................วันที่ ............................................... รายการ ปฏิบัติ ไมป่ ฏิบัติ ๑. เร่ิมตน้ งานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายทันที ๒. ทำงานเสร็จเรยี บรอ้ ยตามเวลาทีก่ ำหนด ๓. ขอคำแนะนำจากครูหรอื เพื่อนเมอ่ื ไม่เข้าใจ ๔. ทำกจิ กรรมดว้ ยความสนกุ สนานและเตม็ ใจ ๕. มีสว่ นร่วมในการทำกจิ กรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ๖. ชว่ ยเหลอื แนะนำเพอ่ื นในการทำกจิ กรรมตามสมควร ๗. สนใจศกึ ษาหาความรูเ้ พม่ิ เตมิ ด้วยตนเอง รวมคะแนน หมายเหตุ ๑. ข้อใดท่นี กั เรียนปฏิบตั ิ ไดค้ ะแนน ๑ คะแนน ไม่ปฏิบตั ิ ไดค้ ะแนน ๐ คะแนน ๒. เกณฑก์ ารประเมินจากแบบสังเกตอาจกำหนด ดงั น้ี ๗ คะแนน ผลการประเมนิ ดีมาก ๕-๖ คะแนน ผลการประเมนิ ดี ๓-๔ คะแนน ผลการประเมนิ พอใช้ ๑-๒ คะแนน ผลการประเมนิ ควรปรับปรงุ
๒๙ ชวั่ โมงที่ ๕นิทานพื้นบา้ น จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. นักเรียนสรปุ ใจความของนิทานพืน้ บ้านได้ได้ ๒. มมี ารยาทในการอ่าน กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นำ ๑. ครูเลา่ นิทานพ้ืนบา้ นเรื่อง สองพีน่ อ้ งแบง่ ของ มีชาวนาผู้หนงึ่ มบี ตุ รสาวอยสู่ องคน วนั หนงึ่ ชาวนาอยากจะทำการทดลองปัญญาของบุตรทง้ั สอง ของคนชาวนาจึงได้สง่ แตงโมใหก้ ับบตุ รสาวทงั้ สองไป ๑ใบ โดยบอกวา่ ให้ไปแบง่ กนั กนิ แตจ่ ะตอ้ งแบ่ง ให้เทา่ ๆกันเพ่ือทจี่ ะได้ไมต่ ้องมานั่งเถียงกนั ทะเลาะกันเรอื่ งใครไดม้ ากกว่านอ้ ยกวา่ ถา้ แบง่ ไดไ้ ม่เทา่ กัน แล้วเกิดเถียงกันหรทื ะเลาะกนั ข้นึ กจ็ ะต้องถกู ลงโทษทัง้ สองคนเป็นแน่เด็กทั้งสองคน เมือ่ ได้รบั แตงโม มาแล้ว กไ็ มร่ วู้ า่ จะตอ้ งแบ่งกันอยา่ งไรจงึ จะสามารถแบง่ ไดเ้ ทา่ ๆกนั ดว้ ยกลัวว่าตนน้ันจะต้องถกู ทำ โทษ ในทา้ ยทีส่ ดุ จึงตกลงกนั วา่ จะใชว้ ิธกี ารดงั นี้ โดยท่ีเด็กท้งั สองคนนัน้ เหน็ วา่ เป็นวธิ ีทย่ี ุติธรรมทสี่ ุด คอื ถา้ หากใครต้องเป็นคนทผ่ี า่ แตงโม คนนั้นจะต้องเปน็ ฝา่ ยเลอื กทหี ลงั และจะตอ้ งยอมให้ฝา่ ยท่ี ไม่ใช่เป็นคนผา่ เปน็ ฝ่ายเลือกกอ่ น ทงั้ นี้ก็เพอ่ื ปอ้ งกันไม่ให้คนผ่าลำเอียง โดยผา่ เป็นชนิ้ ใหญ่ชิน้ หนึ่งและ ชิ้นเล็กชน้ิ หนึ่ง แล้วคนทผ่ี า่ รบี เลือกเอาชน้ิ ใหญ่ไปเปน็ ของตนกอ่ นเม่ือเด็กท้งั สองไดผ้ ่าแตงโมและแบ่ง กันเสรจ็ แลว้ จึงรีบวงิ่ ไปเลา่ ให้บดิ าไดฟ้ ัง เมอื่ บดิ าไดฟ้ งั ดงั นั้นกพ็ อใจในสตปิ ัญญาของบุตรสาวทง้ั สอง นั้นมาก ๒. ครูซกั ถามนักเรยี นเร่ืองขอ้ คดิ คตสิ อนใจใหช้ ่วยกันตอบ ขน้ั สอน ๑. ครแู ละนักเรยี นสนทนาเกีย่ วกับนทิ านพืน้ บา้ นจากบทเรียนและความหมายของสำนวนภาษา เปรียบเทยี บจากบทเรยี นเรื่อง “ไวรัสวายร้าย” ๒. จากน้ันครกู ำหนดใหน้ ักเรยี นอ่านนทิ านพ้ืนบา้ นในหอ้ งสมุด คนละ ๑ เร่ือง เร่ืองอะไรกไ็ ด้ เชน่ กลอ่ งข้าวนอ้ ยฆา่ แม่ ๓. ครสู ุ่มใหน้ กั เรียนออกมาเล่านทิ านใหเ้ พ่ือนฟงั ทตี่ นเองอา่ นมาแล้วท่ีหน้าช้นั เรียน ๔. ครูใหน้ ักเรยี นแบง่ กลมุ่ และแจกกระดาษ A ๔ให้สมาชิกในกลมุ่ ทกุ คน คนละ ๔ แผน่ จากนัน้ ให้ แต่ละคนพับคร่งึ แบ่งกระดาษออกเปน็ ๒ สว่ นเท่าๆกนั แล้วออกแบบวาดลวดลายกรอบในกระดาษ แต่ละแผ่น เขยี นนทิ าน ใหแ้ ต่ละคนออกแบบทำปกเขยี นชอ่ื เลขท่ี ช้นั ตดิ ทับปกสมดุ วาดเขียนอีกครง้ั นำส่งครตู รวจสอบและเก็บผลงานโดยครูเวลาทำใชเ้ วลา ๑ สปั ดาห์ ขนั้ สรปุ ๑. ครูและนักเรยี นชว่ ยกนั สรุปเกี่ยวกบั นิทานพนื้ บ้านและข้อคิดของเรอื่ งโดยการ แลกเปล่ยี นเรียนรซู้ ่งึ กนั และกัน จากใบงานทคี่ รูกำหนดให้
๓๐ สอื่ และแหลง่ เรยี นรู้ สือ่ /อปุ กรณ์ ๑. หนงั สอื เรียนภาษาไทยภาษาพาที ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ ๒. หนงั สอื นทิ านพ้นื บ้าน ๓. ใบความรสู้ ำนวนไทย ๔. กระดาษ A4 แหลง่ เรยี นรู้ ๑. หอ้ งสมดุ โรงเรียน หอ้ งสมดุ ประชาชน ๒. รา้ นหรอื ศนู ยจ์ ำหน่ายหนังสือ การวดั ผลประเมนิ ผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ๑. เกณฑส์ งั เกตพฤตกิ รรมความสนใจในการเรียน วิธีการ ๑. แบบสังเกตพฤตกิ รรม ความสนใจในการเรยี น ๗ คะแนน ผลการประเมิน ดมี าก ๑.การสงั เกตความสนใจ ๕-๖ คะแนน ผลการประเมิน ดี ในการเรยี น ๓-๔ คะแนน ผลการประเมิน พอใช้ ๑-๒ คะแนน ผลการประเมนิ ควรปรับปรงุ
๓๑ แบบสังเกตความสนใจและความตงั้ ใจในการทำกจิ กรรมของนกั เรยี น ชื่อนกั เรียน....................................................................ชั้น..................... กิจกรรม......................................................................วนั ท่ี ............................................... รายการ ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ตั ิ ๑. เริม่ ตน้ งานท่ีไดร้ บั มอบหมายทันที ๒. ทำงานเสรจ็ เรยี บรอ้ ยตามเวลาทก่ี ำหนด ๓. ขอคำแนะนำจากครูหรอื เพื่อนเม่ือไม่เข้าใจ ๔. ทำกิจกรรมดว้ ยความสนกุ สนานและเตม็ ใจ ๕. มีส่วนร่วมในการทำกจิ กรรมอย่างสมำ่ เสมอ ๖. ช่วยเหลือแนะนำเพอื่ นในการทำกิจกรรมตามสมควร ๗. สนใจศึกษาหาความร้เู พมิ่ เติมดว้ ยตนเอง รวมคะแนน หมายเหตุ ๑. ขอ้ ใดทีน่ กั เรยี นปฏบิ ัติ ไดค้ ะแนน ๑ คะแนน ไม่ปฏิบัติ ได้คะแนน ๐ คะแนน ๒. เกณฑก์ ารประเมนิ จากแบบสังเกตอาจกำหนด ดงั นี้ ๗ คะแนน ผลการประเมนิ ดมี าก ๕-๖ คะแนน ผลการประเมนิ ดี ๓-๔ คะแนน ผลการประเมิน พอใช้ ๑-๒ คะแนน ผลการประเมนิ ควรปรบั ปรงุ
๓๒ ชวั่ โมงท่ี ๖ อกั ษรย่อ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. นักเรียนบอกความหมายของอักษรยอ่ ได้ ๒. นกั เรยี นบอกประเภทของอกั ษรยอ่ ได้ กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันนำ ๑. ครูสนทนาทักทายกบั นักเรยี นดว้ ยการใหน้ ักเรียนสังเกต เสอื้ ของนักเรียน วา่ ทกุ คนจะตอ้ งมชี ือ่ ยอ่ ของโรงเรียนท่ปี กเส้อื การอา่ นหนงั สอื พิมพใ์ นตอนเช้าทกุ วนั ๒. ครแู นะนำ ใหค้ วามรูเ้ บื้องตน้ เก่ยี วกับอักษรย่อของสถานที่ตา่ ง ๆ ในโรงเรยี น หมบู่ า้ น ช่ือตนเอง ช่ือ เพ่อื น ข้นั สอน ๑. นกั เรียนให้นักเรียนใชพ้ จนานุกรม โดยการค้นควา้ เร่อื งอักษรย่อ ๒. นักเรียนอ่านอักษรย่อในพจนานกุ รม และในใบความรู้ ครใู หค้ วามรูเ้ พมิ่ เตมิ ว่า อักษรย่อมี หลายหลายประเภทซ่ึงนักเรยี นจะตอ้ งศึกษา ๓. ครูนำนักเรียนรวบรวมอกั ษรย่อลงในสมดุ คนละ ๑๐ คำ เช่น อสมท. กทม. รพ. กก. และให้จับคู่ กันผลัดกนั ทายอกั ษรย่อ ๔. นกั เรียนแต่ละคู่ ชว่ ยกนั หา คำย่อจากหนังสอื พมิ พ์ ๖. นกั เรยี นแต่ละคนรบั ใบกจิ กรรม ทำตามข้ันตอนท่ปี รากฏในใบกจิ กรรม เสร็จแล้วสง่ ครูตรวจ ขัน้ สรุป ๑. ครู และนักเรยี นชว่ ยกนั สรปุ บทเรยี นเกยี่ วกบั อกั ษรยอ่ ๒. ครูให้นักเรยี นบันทึกอกั ษรยอ่ ทน่ี ำมาทายลงชิ้นงานกระดาษ A๔ ส่อื และแหลง่ เรียนรู้ ๒. ใบความร๓ู้ .หนังสือเรียนภาษาไทย ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๔ ส่ือ/อปุ กรณ์ ๑. พจนานกุ รม แหลง่ เรียนรู้ ๑. หอ้ งสมุดโรงเรียน หอ้ งสมดุ ประชาชน ๒. รา้ นหรอื ศนู ยจ์ ำหน่ายหนังสอื
๓๓ การวดั ผลประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์ วธิ ีการ ๑. แบบสงั เกต ๑. เกณฑส์ ังเกตพฤตกิ รรมความสนใจในการเรียน ๑. การสงั เกตความสนใจ พฤตกิ รรมความ ๗ คะแนน ผลการประเมนิ ดมี าก ในการเรียน สนใจในการเรยี น ๕-๖ คะแนน ผลการประเมิน ดี ๓-๔ คะแนน ผลการประเมนิ พอใช้ ๒. ตรวจผลงานในใบ ๒. ใบกิจกรรม ๑-๒ คะแนน ผลการประเมนิ ควรปรับปรุง กิจกรรม ๒. นักเรยี นผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๗๐ข้นึ ไป
๓๔ แบบสังเกตความสนใจและความตัง้ ใจในการทำกิจกรรมของนักเรียน ช่อื นักเรียน....................................................................ชั้น..................... กิจกรรม......................................................................วันที่ ............................................... รายการ ปฏิบัติ ไมป่ ฏิบัติ ๑. เร่ิมตน้ งานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายทันที ๒. ทำงานเสร็จเรยี บรอ้ ยตามเวลาทีก่ ำหนด ๓. ขอคำแนะนำจากครูหรอื เพื่อนเมอ่ื ไม่เข้าใจ ๔. ทำกจิ กรรมดว้ ยความสนกุ สนานและเตม็ ใจ ๕. มีสว่ นร่วมในการทำกจิ กรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ๖. ชว่ ยเหลอื แนะนำเพอ่ื นในการทำกจิ กรรมตามสมควร ๗. สนใจศกึ ษาหาความรูเ้ พม่ิ เตมิ ด้วยตนเอง รวมคะแนน หมายเหตุ ๑. ข้อใดท่นี กั เรียนปฏิบตั ิ ไดค้ ะแนน ๑ คะแนน ไม่ปฏิบตั ิ ไดค้ ะแนน ๐ คะแนน ๒. เกณฑก์ ารประเมินจากแบบสังเกตอาจกำหนด ดงั น้ี ๗ คะแนน ผลการประเมนิ ดีมาก ๕-๖ คะแนน ผลการประเมนิ ดี ๓-๔ คะแนน ผลการประเมนิ พอใช้ ๑-๒ คะแนน ผลการประเมนิ ควรปรับปรงุ
๓๕ ชวั่ โมงที่ ๗ หนงั สอื ดีมีคุณคา่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. เลือกอ่านหนงั สือทีด่ ีได้ ๒. สามารถสรุปใจความสำคญั ของหนงั สือที่อา่ นได้ กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขั้นนำ นกั เรียนสนทนากันถงึ การปฏบิ ัตติ นในการอ่านหนงั สอื ทดี่ ี ครูใหค้ วามรู้เพม่ิ เตมิ เรอ่ื งการค้นควา้ หา ความรู้ ครกู ำหนดการบนั ทกึ การอา่ นหนงั สือ ข้นั สอน ๑. นกั เรียนอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรองพร้อมๆกนั จากหนังสอื ภาษาพาที ไวรสั วายรา้ ย ทีละวรรค ในหนังสอื ๒. นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรองพรอ้ มๆกนั จนจบบทรอ้ ยกรอง ๓. นกั เรยี นจดบันทกึ การอ่าน โดยให้เขยี นลงใบกิจกรรมทค่ี รแู จก (เน้นความถูกต้องสวยงามด้วย) ๔. นกั เรียนรบั ใบกจิ กรรม และดำเนนิ งานตามคำช้แี จง ๕. สง่ ครตู รวจ ขั้นสรุป ๑. นกั เรยี นแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับผลงานของเพื่อนท่ีบันทึกการอา่ นพรอ้ มขอ้ คิดท่ไี ดจ้ ากเรอ่ื ง ๒. ครูแนะนำใหอ้ ่านหนังสอื เสรมิ และฝกึ คดั ลายมือประจำ เพ่ือใหเ้ กิดทกั ษะและสวยงาม สือ่ และแหล่งเรียนรู้ สือ่ /อปุ กรณ์ ๑. หนงั สือหอ้ งสมุด ๒. ใบกจิ กรรม๓. หนงั สอื เรยี นภาษาไทย ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ แหล่งเรียนรู้ ๑. ห้องสมุดโรงเรียน ห้องสมดุ ประชาชน ๒. รา้ นหรือศูนย์จำหน่ายหนังสอื
๓๖ การวดั ผลประเมนิ ผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์ วิธกี าร ๑. แบบสังเกต ๑.เกณฑ์สังเกตพฤติกรรมความสนใจในการเรยี น ๑.การสังเกตความสนใจ พฤตกิ รรมความ ๗ คะแนน ผลการประเมิน ดีมาก ในการเรียน สนใจในการเรียน ๕-๖ คะแนน ผลการประเมิน ดี ๓-๔ คะแนน ผลการประเมิน พอใช้ ๒. ตรวจผลงานในใบ ๒. ใบกจิ กรรม ๑-๒ คะแนน ผลการประเมนิ ควรปรับปรงุ กจิ กรรม ๒. นกั เรียนผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๗๐ข้นึ ไป แบบสงั เกตความสนใจและความต้งั ใจในการทำกิจกรรมของนกั เรยี น ช่ือนกั เรยี น....................................................................ชั้น..................... กิจกรรม......................................................................วนั ท่ี ............................................... รายการ ปฏิบตั ิ ไมป่ ฏิบัติ ๑. เริ่มต้นงานท่ไี ดร้ ับมอบหมายทนั ที ๒. ทำงานเสร็จเรียบรอ้ ยตามเวลาที่กำหนด ๓. ขอคำแนะนำจากครูหรอื เพ่อื นเมอ่ื ไม่เขา้ ใจ ๔. ทำกิจกรรมด้วยความสนกุ สนานและเตม็ ใจ ๕. มีส่วนรว่ มในการทำกจิ กรรมอย่างสมำ่ เสมอ ๖. ชว่ ยเหลือแนะนำเพอ่ื นในการทำกจิ กรรมตามสมควร ๗. สนใจศึกษาหาความรเู้ พม่ิ เติมดว้ ยตนเอง รวมคะแนน หมายเหตุ ๑. ขอ้ ใดทนี่ ักเรยี นปฏบิ ัติ ได้คะแนน ๑ คะแนน ไมป่ ฏบิ ตั ิ ไดค้ ะแนน ๐ คะแนน ๒. เกณฑก์ ารประเมินจากแบบสงั เกตอาจกำหนด ดงั นี้ ๗ คะแนน ผลการประเมนิ ดมี าก ๕-๖ คะแนน ผลการประเมิน ดี ๓-๔ คะแนน ผลการประเมิน พอใช้ ๑-๒ คะแนน ผลการประเมิน ควรปรับปรุง
๓๗ ชัว่ โมงที่ ๘ ส่วนประกอบของประโยค จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธบิ ายสว่ นประกอบของประโยคได้ ๒. แต่งประโยคตามส่วนประกอบของประโยคได้ กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้ันนำ ๑. ครูสนทนากับนักเรียนถึงคำถาม คำบอกเลา่ ทน่ี กั เรียนพดู ในชวี ติ ประจำวัน เช่น เธอมา โรงเรียนอยา่ งไร แมใ่ ห้เงนิ นักเรียนมาโรงเรยี นวนั ละกีบ่ าท ข้ันสอน ๑.ครูอธบิ ายเร่ืองประโยค สว่ นประกอบของประโยค มี ประโยคสองสว่ น ประโยคสามสว่ น ทบทวนนกั เรียนเร่ืองของ ชนิดของคำ ซึ่งจะประกอบดว้ ย คำนาม คำกรยิ า คำสรรพนาม คำ วเิ ศษณ์ ๒.ครูใหน้ กั เรียนคิดประโยคสน้ั ๆ คนละ ๑ ประโยค และพดู ใหเ้ พอ่ื นฟัง ในช้นั เรียน ๓.ครอู ธิบายเพมิ่ เตมิ ให้นกั เรียนฟงั วา่ ประโยคจะมีสองประเภท คือประโยคทีม่ ีกรรมมารบั เชน่ พ่อกินข้าว กับประโยคทไ่ี ม่ตอ้ งมกี รรมมารับ เช่น นกบิน ข้นั สรุป ๑.ครใู หน้ กั เรยี นฝึกแตง่ ประโยค ตามหลักปฏบิ ัติทไี่ ดเ้ รียนร้มู า โดยครแู ละนกั เรยี นช่วยกนั ประเมิน วา่ ใชค้ ำถาม ตรงประเด็น และใช้คำสภุ าพหรอื ไม่ และมีการใช้ประธานที่หลากหลาย ส่ือและแหลง่ เรียนรู้ ส่ือ/อปุ กรณ์ ๑. นิทาน ๒. ใบงาน๓. หนงั สือเรยี นภาษาไทย ภาษาพาที ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๔ แหลง่ เรยี นรู้ ๑. ห้องสมดุ โรงเรยี น หอ้ งสมดุ ประชาชน ๒. รา้ นหรอื ศนู ย์จำหน่ายหนงั สอื การวดั ผลประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์ วิธกี าร ๑. แบบสงั เกต ๑.เกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมความสนใจในการเรยี น ๑.การสงั เกตความสนใจ พฤตกิ รรมความ ๗ คะแนน ผลการประเมนิ ดมี าก ในการเรียน สนใจในการเรียน ๕-๖ คะแนน ผลการประเมนิ ดี ๓-๔ คะแนน ผลการประเมนิ พอใช้ ๒. ตรวจผลงานในใบ ๒. ใบกจิ กรรม ๑-๒ คะแนน ผลการประเมิน ควรปรบั ปรงุ กจิ กรรม ๒. นกั เรียนผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๗๐ขนึ้ ไป
๓๘ แบบสังเกตความสนใจและความตัง้ ใจในการทำกิจกรรมของนักเรียน ช่อื นักเรียน....................................................................ชั้น..................... กิจกรรม......................................................................วันที่ ............................................... รายการ ปฏิบัติ ไมป่ ฏิบัติ ๑. เร่ิมตน้ งานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายทันที ๒. ทำงานเสร็จเรยี บรอ้ ยตามเวลาทีก่ ำหนด ๓. ขอคำแนะนำจากครูหรอื เพื่อนเมอ่ื ไม่เข้าใจ ๔. ทำกจิ กรรมดว้ ยความสนกุ สนานและเตม็ ใจ ๕. มีสว่ นร่วมในการทำกจิ กรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ๖. ชว่ ยเหลอื แนะนำเพอ่ื นในการทำกจิ กรรมตามสมควร ๗. สนใจศกึ ษาหาความรูเ้ พม่ิ เตมิ ด้วยตนเอง รวมคะแนน หมายเหตุ ๑. ข้อใดท่นี กั เรียนปฏิบตั ิ ไดค้ ะแนน ๑ คะแนน ไม่ปฏิบตั ิ ไดค้ ะแนน ๐ คะแนน ๒. เกณฑก์ ารประเมินจากแบบสังเกตอาจกำหนด ดงั น้ี ๗ คะแนน ผลการประเมนิ ดีมาก ๕-๖ คะแนน ผลการประเมนิ ดี ๓-๔ คะแนน ผลการประเมนิ พอใช้ ๑-๒ คะแนน ผลการประเมนิ ควรปรับปรงุ
๓๙ แบบประเมนิ การอา่ นออกเสียง (บทร้อยกรอง) กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ โรงเรยี น.................................... สำนักงานเขตการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน.............................. ................................ ภาคเรียนที่.....................ปกี ารศึกษา ........................................... เรอ่ื ง ....................................................... ประเมินครั้งท่ี ……. วนั ที่ ................... เดอื น .............................................. พ.ศ...................... ___________________________________________________________ คำชแ้ี จง ครปู ระเมนิ พฤติกรรมของนกั เรียนในการอา่ นออกเสียง ใหค้ ะแนนลงในชอ่ งทต่ี รงกับพฤตกิ รรมของ นกั เรียน อ่านออกเ ีสยง ร ล และ คำควบก ้ลำ ร สรุปผล ล ว ูถก ้ตอง รวม การประเมิน การเ ือ้อนการทอดเ ีสยง ูถกต้องตาม เลขท่ี ช่ือ-สกลุ ประเภทของคำประพันธ์ การเ ้วนวรรคตอน ูถกต้อง น้ำเ ีสยงไพเราะ สละสลวยและ ีลลา ท่าทางในการอ่าน ไ ่ม ่อาน ้ขาม/เติมคำ/ตู่คำ ่อานค ่ลองแค ่ลวและแ ่มนยำ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ดี พอใช้ ปรับ ปรงุ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ลงชือ่ ............................................................ผู้ประเมนิ (.....................................................)
๔๐ รายละเอยี ดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมินการอา่ นออกเสียง บทรอ้ ยกรอง(rubrics) กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ โรงเรียน.......................................................................... ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศกึ ษา ................... ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๓ ๒๑ ๑.อา่ นออกเสยี ง ร ล และ คำควบ อ่านออกเสียง ร ล และ อ่านออกเสยี ง ร ล และ อ่านออกเสียง ร ล กลำ้ ร ล ว ถกู ตอ้ ง คำควบกลำ้ ร ล ว คำควบกล้ำ ร ล ว และ คำควบกล้ำ ร ล ถกู ต้องชัดเจน ถกู ตอ้ งชัดเจนเป็น ว ไม่ถกู ตอ้ งและไม่ บางครง้ั ชัดเจน ๑. การเอือ้ นการทอดเสียงถกู ตอ้ ง การเอ้อื น การทอดเสียง การเอือ้ น การทอดเสียง การเอ้อื น การ ตามประเภทของคำประพนั ธ์ ถกู ต้องตามทว่ งท่า ถกู ต้องตามทว่ งทา่ ทอดเสยี งไม่ถกู ต้อง จังหวะทำนอง ถกู ต้อง จังหวะทำนอง ถูกตอ้ ง ตามทว่ งจงั หวะ ประเภทของคำประพนั ธ์ ประเภทของคำประพันธ์ ทำนอง ตามประเภท เปน็ บางครงั้ ของคำประพนั ธ์ ๓. การเว้นวรรคตอนถูกตอ้ ง อ่านเว้นวรรคตอนได้ อ่านเวน้ วรรคตอน อ่านเว้นวรรคตอนไม่ ถูกต้อง ถกู ตอ้ งบางครงั้ ถูกตอ้ ง ๔. นำ้ เสียงไพเราะ สละสลวยและ อา่ นเสยี งดังชัดเจน อ่านเสยี งดงั ชัดเจน อา่ นเสียงไม่ดงั ชัดเจน ลีลา ทา่ ทางในการอา่ น น้ำเสียงและลีลา นำ้ เสยี งและลีลาท่าทาง นำ้ เสยี งไม่เหมาะสม เหมาะสมกับบทรอ้ ย เหมาะสมเป็นบางครั้ง และลลี าไม่เหมาะสม กรองทอี่ ่าน ๕. ไม่อา่ นข้าม/อา่ นเพ่มิ /ต่คู ำ อา่ นออกเสียงได้ถกู ต้อง อ่านออกเสียงไดถ้ ูกต้อง อ่านออกเสียงไม่ ชดั เจนทกุ คำ ทุก ชัดเจนเป็นบางคำ มีอ่าน ถูกตอ้ ง ไม่ชดั เจน ข้อความ ทุกประโยค ตู่คำ เพม่ิ คำและตูค่ ำเปน็ อ่านข้ามคำ อา่ นเพ่มิ บางครงั้ คำ และตูค่ ำมาก ๖. อา่ นคล่องแคลว่ และแมน่ ยำ อา่ นออกเสียงบทร้อย อา่ นออกเสียงบทร้อย อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ย กรองดว้ ยความ กรองดว้ ยความ กรองไมค่ ลอ่ งแคล่ว คลอ่ งแคลว่ และแมน่ ยำ คล่องแคลว่ และแม่นยำ และไมแ่ มน่ ยำ ไม่มี มคี วามมั่นใจสูง เปน็ บางคร้งั ยังขาด ความม่ันใจ ความมน่ั ใจ เกณฑก์ ารประเมิน ๑๔- ๑๘ ระดับคุณภาพ ดี ช่วงคะแนน ๘–๑๒ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ชว่ งคะแนน ตำ่ กว่า ๘ ระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรงุ ชว่ งคะแนน
๔๑ แบบสังเกตความสนใจและความตัง้ ใจในการทำกิจกรรมของนักเรียน ช่อื นักเรียน....................................................................ชั้น..................... กิจกรรม......................................................................วันที่ ............................................... รายการ ปฏิบัติ ไมป่ ฏิบัติ ๑. เร่ิมตน้ งานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายทันที ๒. ทำงานเสร็จเรยี บรอ้ ยตามเวลาทีก่ ำหนด ๓. ขอคำแนะนำจากครูหรอื เพื่อนเมอ่ื ไม่เข้าใจ ๔. ทำกจิ กรรมดว้ ยความสนกุ สนานและเตม็ ใจ ๕. มีสว่ นร่วมในการทำกจิ กรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ๖. ชว่ ยเหลอื แนะนำเพอ่ื นในการทำกจิ กรรมตามสมควร ๗. สนใจศกึ ษาหาความรูเ้ พม่ิ เตมิ ด้วยตนเอง รวมคะแนน หมายเหตุ ๑. ข้อใดท่นี กั เรียนปฏิบตั ิ ไดค้ ะแนน ๑ คะแนน ไม่ปฏิบตั ิ ไดค้ ะแนน ๐ คะแนน ๒. เกณฑก์ ารประเมินจากแบบสังเกตอาจกำหนด ดงั น้ี ๗ คะแนน ผลการประเมนิ ดีมาก ๕-๖ คะแนน ผลการประเมิน ดี ๓-๔ คะแนน ผลการประเมนิ พอใช้ ๑-๒ คะแนน ผลการประเมนิ ควรปรับปรงุ
๔๒ รายละเอยี ดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมนิ การเขยี นแผนภาพความคดิ (rubrics) กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔ โรงเรยี น.......................................................................... ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศกึ ษา ............ ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน ๑. ความสมบรู ณข์ องผลงาน ๒.ความคดิ สรา้ งสรรค์ ๓ ๒๑ ๓.ความถกู ต้อง ผลงานมีรายละเอียด ผลงานมรี ายละเอียด ผลงานมีรายละเอียด ๔. ความสมบรู ณ์ของเนื้อหา ครอบคลุมผลการเรียนรู้ ครอบคลมุ ผลการเรียนรู้ ครอบคลุมผลการ ตามทกี่ ำหนด ตามท่กี ำหนดเปน็ ส่วน เรยี นรตู้ ามทก่ี ำหนด ใหญ่ น้อยมาก เป็นผลงานท่ดี ึงดูดความ เป็นผลงานทดี่ ึงดูดความ เปน็ ผลงานท่เี หมือน สนใจแปลกใหมแ่ ละคดิ สนใจแปลกใหมแ่ ละคิด ตัวอยา่ ง ข้นึ เองสอดคลอ้ งกบั เร่ือง ขน้ึ เองสอดคลอ้ งกับเร่อื ง ท่ีกำหนด ที่กำหนดแตบ่ างสว่ น เหมอื นตัวอยา่ ง วางสระ พยญั ชนะ และ วางสระ พยญั ชนะ และ เขียนสะกดคำไม่ วรรณยกุ ต์ถกู ต้องตาม วรรณยกุ ต์ถกู ตอ้ งตาม ถูกต้อง วางตำแหนง่ หลักการเขียนเขยี นคำ หลกั การเขยี นเขยี นคำ สระ วรรณยกุ ต์ผดิ ถกู ต้องสวยงามตาม ถูกต้องสวยงามตาม เปน็ บางแห่ง รปู แบบ รปู แบบเป็นสว่ นใหญ่ เน้อื หาใจความสมบรู ณ์ เน้อื หาใจความสมบูรณ์ เนื้อหาใจความไม่ เป็นสว่ นใหญ่ สมบรู ณ์ ๕. ความสะอาด สะอาด สวยงามและ สะอาด สวยงามและ ไม่รกั ษาความสะอาด เปน็ ระเบยี บเหมาะสม เป็นระเบียบเหมาะสม มีรอยขูดลบขดี ฆ่าท่ี เปน็ สว่ นใหญ่ ชดั เจนหลายแหง่ เกณฑ์การประเมิน ๑๒- ๑๕ ระดบั คุณภาพ ดี ชว่ งคะแนน ๘–๑๑ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ช่วงคะแนน ต่ำกว่า ๘ ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ ช่วงคะแนน
๔๓ ภาคผนวก
๔๔ ภาคผนวกชว่ั โมงท่ี ๑ แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ไวรัสวายร้าย ตอนที่ ๑ ใหเ้ ลอื กคำตอบท่ีถกู ทสี่ ดุ เพยี งข้อเดยี ว ๑. บทเรียน เรอื่ ง “ไวรัสวายรา้ ย” นา่ จะเกดิ ขึ้นในสถานทีใ่ ด ก. ดวงจันทร์ ข. ห้องปฏิบัตกิ ารทดลอง ค. อวกาศ ง. โลก ๒. หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารลบั ตงั้ อยใู่ นสถานทใ่ี ด ก. ในอุโมงค์ใหญ่ ข. ใต้เทือกเขา ค. หนว่ ยพิทกั ษ์สขุ ภาพโลก ง. ข้อ ก และ ข.ถกู ๓. หนว่ ยพทิ กั ษ์สขุ ภาพโลก มีเจ้าหนา้ ท่ใี ช้นามเรยี กขานวา่ อย่างไร ก. สิงห์ ๑ ข. สิงห์ ๒ ค. สิงห์ ๓ ง. ถูกทุกข้อ ๔. สัญญาณจากดาวเทยี มสามารถจบั มองเหน็ ภาพอะไร ก. ยานอวกาศ ข. ยานอวกาศลึกลบั ค. ดวงจนั ทร์ ง. มนุษยต์ ่างดาว ๕. อะไรใครเป็นตน้ เหตุของเรื่อง ก. มนุษย์ตา่ งดาว ข. ไวรสั ค. คลื่นรบกวน ง. สรปุ แน่นอนไมไ่ ด้ ๖. จากข้อ ๕ ส่งผลอย่างไร ก. ภาพบนจอมีอาการสน่ั ไหว ข. ตัวอกั ษรอา่ นไม่ออก ค. ระบบสื่อสารขดั ข้อง ง. ถูกทกุ ขอ้ ๗. ข้อใดกล่าวถงึ ลกั ษณะของมนษุ ย์ตา่ งดาว ไดถ้ ูกต้อง ก. รปู รา่ งเหมอื นหอยทาก ข.หน้าตาเหมือนคน ค. มีแขนยุม่ ยามเหมอื นแมงมมุ ง.ถูกทกุ ขอ้ ๘. หวั หน้าไวรสั ใชน้ ามเรยี กขานว่าอย่างไร ก. เจา้ ไวรสั ข. จ้าวไวรัส ค. จา้ วแหง่ ไวรัส ง. เจา้ แห่งไวรสั ๙. ไข้หวดั นก เกดิ จากเชอื้ อะไร ก. แบคทีเรยี ข. รา ค. ไวรสั ง. ไวรสั ไขห้ วัดใหญ่บางสายพันธุ์ ๑๐. โรคเอดสเ์ กดิ จากเชอ้ื อะไร ก. แบคทีเรยี ข. รา ค. ไวรสั HIV ง. ไวรัส HVI
45 เฉลยแบบทดสอบก่อนการเรยี นรูห้ น่วยท๑่ี ๒ ไวรสั วายรา้ ย ๑ค ไชโย.. ผมไดค้ ะแนนเตม็ ๒ง ๑๐คะแนน ครบั …. ๓ง ๔ง ๕ข ๖ง ๗ง ๘ค ๙ง ๑๐ ค
46 ใบงาน ภาคผนวกชวั่ โมงที่ ๒ โรงเรยี น.........................................................................ภาคเรยี นที่ …..ปีการศกึ ษา ๒๕๕๓ ชอื่ .......................................................................ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔ เลขที่.............. วันที่………….เดือน…………………………พ.ศ. ………. คำช้แี จงให้นักเรยี นตอบคำถามต่อไปน้ีใหถ้ กู ต้อง ๑. เร่ืองไวรัสวายรา้ ย ที่นักเรยี นอ่านนี้ กลา่ วถึงเรอ่ื งอะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ๒. เรอื่ งนี้เกดิ ขน้ึ ที่ไหน………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ๓. เร่อื งนม้ี ตี วั ละครกตี่ วั อะไรบา้ ง……………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ๔.สุดท้ายผลของเรอ่ื งเปน็ อยา่ งไร……………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ๕. เรื่องนใี้ ห้ข้อคิดอย่างไร……………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………
47 ภาคผนวกชว่ั โมงท่ี ใบงาน ๓๕ โรงเรยี น.........................................................................ภาคเรยี นท่ี … ปีการศึกษา ........... ช่อื .......................................................................ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ เลขที่.............. วนั ท่ี………….เดือน…………………………พ.ศ. ………. คำช้แี จง ให้นักเรยี นเขยี นแผนภาพความคดิ (mind mapping) ให้ถกู ต้อง ไวรสั วายร้าย ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ประเมนิ ผล ชอบงานชิน้ น้ีมากเพราะ............... ให้คะแนนตนเอง ๕ ๔ ๓ ๒ ๑ ..................................................... เพือ่ นให้คะแนน ๕ ๔ ๓ ๒ ๑ ไม่ชอบงานชนิ้ นเี้ พราะ................. ข้อดขี องงานช้ินนี้ คอื .............................. ขอ้ เสยี ของงานชนิ้ นี้ คือ.............. วันที่............เดือน....................พ.ศ.......... ครูผู้สอน......................................
48 ภาคผนวกชวั่ โมงท่ี ๔ บททดสอบการอ่านเรอ่ื ง ฑซ.ฒ กระเช้าสีดาเป็ นไม้เถาเลือ้ ย รากมีเนื้อแข็ง กง่ิ ยาวเรียวเป็ นร่องใบเด่ยี ว รูปสามเหลย่ี มเรียงสลบั ปลายเรียวแหลมโคนตดั ตรง ช่อดอกส้ันออก ตามง่ามใบ กลน่ิ เหมน็ ช่อหนึ่งมี ๒-๓ ดอก กลบี ดอกมีเพยี งช้ัน เดียว เชื่อมติดกนั เป็ นหลอด โคนหลอดออกเป้นกระเปาะกลม ภายใน กระเปาะเป็ นที่ดักแมลงเพื่อเป็ นอาหารเสริม กระเช้าสีดามผี ลค่อนข้าง กลม ภายในผลมีสามช่อง ผลแก่แตกออกเป็ น ๖ เสี่ยง ซ่ึงแตกเลยไป ถงึ ก้านผลและแยกออกเป็ น ๖ ก้าน เมลด็ แบน รูปไข่ กระเช้าสีดามถี นิ่ เดมิ อยู่ในประเทศอนิ เดียและศรีลงั กา ใน ประเทศไทยไม่พบขึน้ ตามธรรมชาติ เป็ นไม้นาเข้ามาปลกู เพ่ือเป็ นไม้ ประดบั คุณสมบัตใิ ช้ทายา รากมีรสขมมาก มฤี ทธ์ิทาให้อาเจยี น เป็ น ยาแก้พษิ งู ยากระตุ้นและยาบารุง \\ จานวนคาท้งั หมด..........................คา อ่านได้.....................................คา คดิ เป็ นร้อยละ.................................. ระดบั ผลการอ่าน.......................... ร้อยละ ๑ - ๓๐ เท่ากบั ๑ ร้อยละ ๓๑ - ๕๐ เท่ากบั ๒ ร้อยละ ๕๑ - ๗๐ เท่ากบั ๓ร้อยละ ๗๑ - ๑๐๐ เท่ากบั ๔
ภาคผนวกช4ว่ั 9โมงท่ี ๕ โรงเรยี น................................ สำนกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา..................................... ใบกิจกรรมนิทานเรือ่ ง กระต่ายเจ้าเล่ห์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช่อื -สกุล.............................................................ช้นั .............เลขท.่ี ................ นทิ านเรือ่ ง “กระตา่ ยเจา้ เล่ห”์ กาลครั้งหนงึ่ นานมาแล้ว มีเรอื่ งเล่าสบื ตอ่ กันมาวา่ มกี ระตา่ ยอยูต่ วั หนึ่ง มีความเฉลียวฉลาดมาก อยมู่ าในวนั หนึง่ กระต่ายตวั นี้เห็นยายแก่คนหนงึ่ เอาข้าวไปถวายพระท่ีวดั พร้อมกบั มกี ลว้ ยอยหู่ วีหนงึ่ ใส่ไว้ในกระเฌอทูน ไวบ้ นหวั กระตา่ ยตวั นั้นอยากกินกลว้ ยมากจงึ ใชอ้ บุ ายหลอกยายเพอื่ ท่ีตนจะไดก้ นิ กล้วยของยาย จงึ รีบวง่ิ ไปดัก ที่กลางทาง โดยการแกลง้ ลม้ ลงนอนตายอยู่ เมอ่ื ยายเดินมาเหน็ กระต่ายนอนตายอยูก่ ไ็ ดแ้ ต่แปลกใจ จงึ จบั ข้นึ มาดเู หน็ ตัวยังอนุ่ ๆอยู่จงึ จับใส่กระเฌอแลว้ ก็ทนู หัวตอ่ ไป ฝา่ ยกระตา่ ยเมื่อไดล้ งไปในกระเฌอของยายสมตามความตั้งใจ กล็ ุกข้นึ มาปลอกกล้วยกนิ และไดท้ ิง้ เปลือกไป ข้างหลงั ส่วนยายน้ันเมอ่ื ไดย้ นิ เสียงทิ้งเปลอื กกล้วยก็หนั กลบั ไปดู แตก่ ็ไมเ่ ห็นมีอะไร ได้เหน็ แตเ่ ปลอื ก กลว้ ย ก็บังเกิดความสงสยั ขน้ึ มาว่าใครนะเดินทางไปก่อนตน เม่อื ยายหนั ไปข้างหลงั กระตา่ ยกท็ งิ้ เปลือก กล้วยไปขา้ งหน้า เม่อื ยายหนั หนา้ เพ่อื ที่จะเดินตอ่ ไปกเ็ ห็นเปลอื กกล้วยอีกแลว้ กก็ ล่าววา่ เปลือกกล้วยนี้ยังคง ใหม่อยเู่ ลยคงจะตอ้ งมใี ครสักคนอย่ขู า้ งหนา้ ใกล้ ๆ น้ีแหละและคงจะเดินไปกนิ กลว้ ยไปดว้ ย ยายจงึ รบี ก้าว เดนิ ไปเพื่อที่จะใหท้ ัน แมย้ ายคนน้ันจะรีบเดนิ มากเทา่ ไรก็ตามไมท่ ันเสยี ที จนกระทั่งยายเหน่ือยจึงหยดุ พัก เอากระเฌอวางลง ก็ไดเ้ ห็นกระตา่ ยกินกล้วยของตนจนหมดหวี เมื่อเห็นดงั น้ันแล้วก็โกรธมาก กระตา่ ยก็ กระโดดออกวิ่งไปยายก็รบี วง่ิ ตามไปเพอื่ หมายทจี่ ะตีกระตา่ ยตวั นั้น กระตา่ ยกว็ ง่ิ ขนึ้ ไปอยบู่ นต้นคล้มุ ยายตี ไม่ได้จึงได้เอากรรไกรทม่ี ไี วผ้ ่าหมากตดั ต้นคลมุ้ นัน้ กระตา่ ยได้เห็นดังน้ันกต็ กใจเป็นอันมาก ดว้ ยความที่ ฉลาดและมีไหวพรบิ ดี จึงกลา่ วกบั ยายวา่ “ยายเอย๋ ถา้ ยายเอากรรไกรนัน้ ตดั ตน้ คลมุ้ นี้ กรรไกรของยายจะหกั เอาเสยี เปล่า ๆ เพราะตน้ คลมุ้ น้นั มนั แข็งมาก ถ้ายายไม่เช่ือยายก็ลองเอากรรไกรขูดดูแกน่ ของมันซี แกน่ ของมันจะมีสแี ดงแจ๋ทีเดียว” ยายก็สงสยั จึงเอากรรไกรขูดตน้ คลมุ้ ดู เม่ือเอาเปลือกด้านนอกออกกเ็ หน็ ด้านใน ก็เป็นสแี ดง ยายกค็ ดิ วา่ เปน็ แกน่ จรงิ ๆ จงึ ไมก่ ลา้ ตัด จึงไปหาเอามีดมา เม่อื ยายไปแล้ว กระต่ายกว็ ่ิงไป อยูใ่ นโพรงของต้นไม้ ยายก็จบั ตไี ม่ไดอ้ กี ยายจงึ คดิ อ่านเอาบ่วงมาดักไวท้ ่ีปากโพรงตน้ ไม้ หากกระต่าย ออกมาจะไดต้ ิดบ่วง เม่ือยายดกั บว่ งเสรจ็ กระตา่ ยกค็ ิดวา่ หากตนออกไปตอ้ งตดิ บ่วงตายเปน็ แน่แท้ จึงคดิ หลอกยายอีกคร้งั แลว้ กบ็ อกกลา่ วกับยายอีกวา่ “ยายเอ๋ยทำบว่ งดกั ฉันอยา่ งนั้นนะไม่มวี ันทไี่ ด้ตัวฉันหรอกนา่ ยาย เพราะบว่ งอยา่ งน้ันมันไม่รูด ถา้ ยายไม่เชอื่ ยายก็ลองเอาขาของยายใส่ลงดกู ่อนกไ็ ด้นะ” ฝา่ ยยายกส็ งสยั วา่ เปน็ จริงอกี จึงเอาขาใสล่ งไปในบ่วงดูคนั ของ บ่วงกย็ กข้นึ ตอนน้ีบ่วงตดิ ขาของยายเสยี แลว้ ทำใหย้ ายต้องหอ้ ยโตงเตงอยู่อยา่ งนัน้ กระตา่ ยกอ็ อกจาก โพรงไปได้ แล้วก็หัวเราะเยาะยายวา่ “ยายหน้าโงต่ ิดบว่ งๆปเถดิ ขา้ ไปกอ่ นหละ วา่ แล้วกระตา่ ยกจ็ ากไป”
ภาคผนว5ก0ชวั่ โมงท่ี ๖ โรงเรยี น................................ สำนักงานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษา..................................... ใบกิจกรรมอกั ษรย่อกลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชอ่ื -สกลุ .............................................................ช้ัน.............เลขท่ี................. คำชี้แจง ใหน้ ักเรยี นคน้ หา อักษรย่อ จากหนังสือพมิ พ์ ตดั มาตดิ ลงในกระดาษคำตอบแล้ว เตมิ ความหมาย ให้ถกู ต้อง
Search