Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Vital sign 61_26

Vital sign 61_26

Published by wiyadap, 2018-07-18 00:49:53

Description: Vital sign 61_26

Search

Read the Text Version

วตั ถุประสงค์การเรียนรู้... 1. บอกความหมายสัญญาณชีพได้ 2. อธิบายวตั ถุประสงค์การวัดสัญญาณชีพได้ 3. เลอื กวธิ ีการวัดสัญญาณชีพให้เหมาะสมกบั สภาพแต่ละบุคคลได้ 4. อธิบายปัจจยั ทม่ี ผี ลต่อสัญญาณชีพได้ 5. บอกข้นั ตอนการวดั สัญญาณชีพได้ 6. บันทกึ และแปลผลการวดั สัญญาณชีพได้ 7. วางแผนการช่วยเหลอื เบอื้ งต้นในผู้ทมี่ คี วามผดิ ปกติของสัญญาณชีพได้ 8. เคารพในศักด์ิศรีความเป็ นมนุษย์ สิทธิผู้ป่ วย จรรยาบรรณวชิ าชีพในการ วดั สัญญาณชีพได้

อาการแสดง Temperatureถงึ ความมีชีวติPulse V/S Respiration Blood pressure

วตั ถุประสงค์การประเมนิ สัญญาณชีพ• เพอ่ื ทราบระดบั อุณหภูมขิ องร่างกาย• เพอ่ื ทราบถงึ สภาพการทางานของหัวใจ• เพอื่ ทราบถงึ สภาพของระบบไหลเวยี นเลอื ดในหลอด เลอื ดส่วนปลาย• เพอื่ ประเมนิ สภาพการทางานของระบบหายใจ• เพอื่ ตรวจสอบการเปลย่ี นแปลงในการตอบสนองต่อการ รักษา

อณุ หภูมริ ่างกาย (Body temperature) ความร้อน ความร้อนจากภายนอก ทส่ี ูญเสียความร้อนจากภายใน

Body’s thermostat อณุ หภูมิร่างกาย มี 2 ส่วนอุณหภูมิแกน(core temperature)อณุ หภูมิผวิ (surface temperature)

อายุส่ิงแวดลอ้ ม ปัจจัยทม่ี ผี ล ออกกาลงั กายความเครียด ต่ออุณหภูมิ ฮอร์โมน การ เปล่ียนแปลง ในรอบวนั





tympanic thermometerdisposablethermometerGlass thermometer electronic thermometer

ปรอทวดั ทางทวารหนัก วธิ ีวดั : ตรวจ สภาพของปรอทว่าอยู่ในสภาพปกตพิ ร้อมทจี่ ะใช้งานได้ ให้หล่อลนื่ ปลายของปรอท ทม่ี ีกระเปาะปรอทอยู่ด้วยวาสลนิ หรือเควาย เจลลเี่ พอ่ื หล่อลนื่ ให้ลกู อยู่ในท่านอน (ควา่ , หงาย หรือ ตะแคง) ค่อยๆ สอดใส่ปรอทเข้าทางรูก้น ผู้ใหญ่ลกึ 11/2 นิว้ , เด็ก 1 นิว้ และ เดก็ < 1 ปี ลกึ ½ นิว้ และให้เวลาประมาณ 2 นาที ก่อนดงึ ออกมาอ่าน อายุทเี่ หมาะสม แรกเกดิ ถึง 4 ขวบ (บางตารา <6 ปี )ข้อดี/ข้อเสีย : ราคา ไม่แพงให้ค่าทมี่ คี วามแม่นยาสูง โดยเฉพาะในทารกแรก เกดิ แตกหักง่าย และบางคร้ังอ่านผลยาก ถ้าไม่ชานาญ เดก็ โต จะไม่ค่อย ชอบให้เหน็บก้น



ปรอทวดั ทางปาก/รักแร้ วธิ ีวดั : ตรวจสภาพของปรอทก่อนการใช้ทุกคร้ัง เอาปลายกระเปาะของ ปรอท ให้เด็กอมไว้ใต้ลนิ้ และปิ ดปาก หรือหนีบรักแร้ เป็ นเวลาประมาณ ปากวดั นาน3-5 นาที รักแร้นาน 6-8 นาท(ี ผู้ใหญ่) , 5 นาที (เดก็ เลก็ ) อายุทเ่ี หมาะสม 6 ขวบ ขนึ้ ไป (สาหรับกรณวี ดั ทางปาก) ข้อดี/ข้อเสีย : เด็ก บางคนอาจจะยังอมปรอทไม่เป็ น อาจจะกดั แตกได้ ห้ามใช้ในกรณที ี่เด็กไม่ยอมร่วมมอื และ/หรือ ในเดก็ ทมี่ ีโอกาสชักจากไข้ สูง เพราะอาจเกดิ การชัก ขณะทอ่ี มปรอทอยู่ในปากทาให้เกดิ อนั ตรายได้ บางคร้ังอ่านผลยากถ้าไม่ชานาญ



เครื่องวดั อุณหภูมแิ บบดจิ ติ อลวธิ ีวดั : เหมือนกบั ปรอทวดั แบบทั่วไปอายทุ เี่ หมาะสม : เดก็ เลก็ และ เดก็ โตข้อด/ี ข้อเสีย : สะดวก ตรงทจี่ ะมเี สียงบ๊บี เตอื น เมื่อถงึกาหนดเวลาอ่าน และอ่านได้ง่ายเพราะเป็ นตวั เลขขนึ้ เลย มีราคาแพงกว่าและ เปราะบางเสียได้ง่าย ห้ามนาไปล้างนา้ หรือทาตกกระแทก ความแม่นยาในการวดั อาจด้อยกว่าปรอทแก้วเลก็ น้อย

เคร่ืองวดั อณุ หภูมแิ บบอนิ ฟราเรดทใ่ี ช้วดั ทางหูวธิ ีวดั : ทา ได้สะดวก เพราะใส่ทร่ี ูหู โดยดงึ ใบหู ให้อยู่ในตาแหน่งที่ เหมาะสม (ผู้ใหญ่และเดก็ อายุ > 3 ปี ให้ดึงขึน้ และเบน ไปทางด้าน หลงั เลก็ น้อย)และเดก็ ต่ากว่า 3 ปี ให้ดึงใบหูลงและไปด้านหลงั ควรทา การวดั ซ้า อย่างน้อยหน่ึงหรือสองคร้ัง และหาเป็ นค่าเฉลย่ี ของอุณหภูมิอายุทเี่ หมาะสม : 3 ขวบ ขึน้ ไปข้อดี/ข้อเสีย : ใช้เวลาส้ันมากในการอ่าน และ มีความไวต่ออุณหภูมิของแก้ว หู ได้ดีมาก เพราะใช้เทคโนโลยี ในการตรวจหาความร้อนโดย อนิ ฟราเรด ค่าจะคลาดเคลอื่ นมากถ้าใช้กบั เดก็ เลก็ เพราะรูหูมีขนาดเลก็ หรือเดก็ ทมี่ ี ขีห้ ูเยอะ



แถบเทปวดั ไข้ วธิ ีใช้ : เอาแถบเทปทาบลงบนหน้าผาก (ถ้ามีเหง่ือมาก ควรเช็ดให้แห้ง ก่อน) และทาบไว้จนกว่าจะเห็นตวั เลขขนึ้ ทแ่ี ถบ กดไว้นาน 1 นาที อกี ประมาณ 10 วนิ าทจี ึงอ่านผล อายุทเ่ี หมาะสม : เดก็ เลก็ และ เด็กโต ข้อดี/ข้อเสีย : ค่าทไี่ ด้จะมคี วามคลาดเคลอ่ื นได้มาก ท้งั สูงกว่า หรือต่า กว่าทเี่ ป็ นจริง ให้ความสะดวกในการวดั ไม่ต้องคอยให้เด็กร่วมมอื



Body temperatureสูตรการแปลงหน่วยอุณหภูมิ 0C = 5/9(0F -32) 0 F = 9/5(0C+32)

Classification ofhypothermia and pyrexia• Hyperpyrexia 40.6-43.3• Pyrexia 39.5-40.5• Moderate pyrexia 38.4-39.4• Low pyrexia 37.5-38.3• Normal 36.5-37.4• Mild hypothermia 34 – 36• Moderate hypothermia 30 – 34• severe hypothermia < 30

Pulse จังหวะ ความแรง ชีพจร อตั รา ผนังของ การเต้น หลอดเลอื ดคลน่ื ของเลอื ดภายในหลอดเลอื ดแดงทม่ี า กระทบกบั ผนังหลอดเลอื ด

ยา อายุ ไข้ความเครียด ปัจจยั ทมี่ ผี ล การเสีย ต่อชีพจร เลือด การ เปล่ียนท่า

อตั ราการเต้นของหัวใจApical pulse (ต่อ 1 นาที)(Lub – dub) ทารก 120-160 วยั หัดเดนิ 90-140 วยั ก่อนเรียน 80-110 วยั เรียน 75-100 วยั รุ่น 60-90 วยั ผู้ใหญ่ 60-100





Tachycardia อตั ราการเต้นของชีพจร > 100 คร้ัง/นาทีBradycardia อตั ราการเต้นของชีพจร < 60 คร้ัง/นาทีPulse deficit ความต่างของอตั ราการเต้นของหัวใจ(Apical pulse)และ อตั ราการเต้นของชีพจร(peripheral pulse) ฟังหัวใจ พร้อมๆ กบั คลาชีพจร มบี างจงั หวะทฟี่ ังได้แต่คลาชีพจรไม่ได้Arrythmia/dysrhythmia ชีพจรเต้นไม่สม่าเสมอ เช่น sinus arrythmia ชีพจรเต้นช้าและเร็วสลบั กนั premature beat เต้นสมา่ เสมอแต่มบี างคร้ังทเ่ี ต้นไม่สม่าเสมอ atrial fibrillation ชีพจรเต้นไม่สมา่ เสมอโดยตลอด

respirationinhalation Exhalationinspiration expiration mechanism of respiration.mp4



อตั ราการหายใจ จงั หวะการหายใจความลกึ ลกั ษณะการหายใจ

ยา Hemo การ globin บาดเจบ็ความเครียด สมอง ปัจจยั ที่มีผล ต่อการหายใจ ออก กาลงั กาย อุณหภูมิ การอยู่ ส่ิงแวดล้อม ท่ีสูง

Respiratory rates for ageแรกเกดิ 30 - 60 30 - 50ทารก (6 เดอื น) 25 - 32วยั หัดเดนิ (2 ปี ) 20 - 30วยั เดก็ 16 - 19วยั รุ่น 16 - 20วยั ผู้ใหญ่

Visual Examination of the Chest Breathing Patterns Normal Ataxic breathing Adults:12- 20/min Biot’s breathing Irregularly irregularInfants: 44/min e.g., brain medullaryTachypnea injury Rapid, shallow Cheyne-Stokes breathing breathingHyperypnea Regular rate, irregular depth MAY be normal Rapid, deep breathing e.g., heart failure HyperventilationKussmaul breathing(metabolic acidosis)Bradypnea

Tachypnea RR เร็ว ไม่เพิ่มความลึก มีจงั หวะปกติ เช่น ไข้ หวั ใจวาย เจบ็ ปวด เยอื่ หุม้ ปอดอกั เสบBradypnea RR ชา้ เช่นไดร้ ับยามอร์ฟี น แอลกอฮอล์ , ภาวะยรู ีเมียApnea หยดุ หายใจKussmaul respiration หายใจลึก ถอนหายใจ อตั ราอาจปกติ ชา้ หรือเร็ว เช่น diabetic acidosisAir hunger หายใจชา้ ลึก ใชก้ ลา้ มเน้ือช่วยหายใจร่วมดว้ ย เช่น shock, severe infection, pneumonia

Cheyne stokes respiration ผดิ ปกติท้งั อตั ราการหายใจ จงั หวะ ความลึก มีช่วงหยดุ หายใจ เช่น brain tumor, MO, brain injury, hydrocephalusBiot’s respiration มีการหยุดหายใจเป็ นช่วงและแตกต่างกนั ทคี่ วามลกึ ของการหายใจเท่ากนั ทุกคร้ังApneustic breathing หายใจเข้าลาบากและนาน ตามด้วยการหายใจออกช่วงส้ันๆ

แรงหรือความดนั ของเลอื ด ทสี่ ่งออกจากหัวใจห้อง ล่างซ้ายเข้าสู่ระบบหลอด เลอื ดแดง

Systolic B.P. ความดนั เลอื ดสูงสุดขณะทห่ี ัวใจห้องล่างซ้ายบีบตวั Pulse pressure. ผลต่างระหว่าง SBP กบั DBP ตย. BP = 120/80 mmHG PP = 40 mmHG diastolic B.P.ความดนั เลอื ดตา่ สุดขณะทห่ี ัวใจห้องล่างซ้ายคลายตวั

ปริมาณเลอื ด ปริมาณเลอื ด ทว่ั ร่างกาย ทอ่ี อกจาก หัวใจใน Blood หนึ่งนาที pressureความต้านทาน ความหนดืของหลอดเลอื ด ของเลอื ด - ขนาด- ความยดื หย่นุ

ปัจจยั ทม่ี ีผลต่อความดนั โลหิต เพศ ท่า ความเครียดการออกกาลงั อายุ ช่วงเวลาของวนั ยา

Average optimal blood pressure for age Age BP (mmHg)Newborn(3000gm) 40 (mean)1 mons. 85/541 yr. 95/656 yrs. 105/6510-13 yrs. 110/6514-17 yrs. 120/75> 18 yrs. < 120/80

Classification of blood pressure foradults ages 18 and olderCategory Systolic Diastolic (mmHg) (mmHg)Normal < 120 < 80Pre – hypertension 120-139 80-89Stage 1 hypertension 140-159 90-99Stage 2 hypertension > 160 > 100

Aneroid sphygmomanometerMercury sphygmomanometer automatic blood pressure

ขนาดความกว้างของ cuff ประมาณร้อยละ 20 (1.2 เท่า) ของเส้นผ่าศูนย์กลางของแขน หรือร้อยละ40 ของรอบแขนความยาวของ cuffควรยาวประมาณร้อยละ 60 – 100ของรอบแขนหรือประมาณ 2 เท่าของความกว้าง



Korotkoff phases•ระยะ 1 เสียงทไ่ี ด้ยนิ คร้ังแรก จะเป็ นเสียงเคาะ (Tapping sound) ระยะแรก ได้ยนิ ค่อยๆและชัดเจน จะดงั ขนึ้ เร่ือยๆ เกดิ จากเลอื ดเร่ิมไหลผ่านหลอดเลอื ดทถ่ี ูกกด• ระยะที่ 2 ระยะนีไ้ ด้ยนิ เสียงฟ่ ู (Murmur) ซ่ึงเกดิ จากการไหลผ่านท่อทแี่ คบมายงั ส่วนท่ีกว้างกว่า ทาให้เกดิ กระแสไหลวนและเกดิ การสั่นสะเทอื นของผนังหลอดเลอื ด•ระยะท่ี 3 เสียงดงั มากขนึ้ เกดิ จากหลอดเลอื ดเปิ ดกว้างมากขนึ้ ในขณะหัวใจบบี ตวั และแคบลงเมอื่ หัวใจคลาย ตวั •ระยะที่ 4 เสียงเบาลง เกดิ จากความดนั ในถุงยางลดลงต่ากว่าความดนั ในเลอื ดแดง ขณะหัวใจคลายตัว•ระยะท่ี 5 ไม่มเี สียงเกดิ จากหลอดเลอื ดเปิ ดกว้างเท่าขนาดปกติ ท้งั ในขณะท่ีหัวใจบบี ตัวและคลายตวั





ตาแหน่งที่วดั วดั ที่แขน Bachial artery วดั ทข่ี าpopliteal artery

earpiece bellchestpiece diaphragm

ท่านง่ั วดั ความดนั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook