นทิ านพื้นบา้ นลา้ นนา รวบรวม โดย เด็กหญิงธวลั รตั น์ พัทธยากุล เด็กหญงิ จริ ภัทร ตาปงิ เด็กหญงิ ปิยาพร วจิ ันทรต์ า ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ โรงเรยี นเทศบาลประตลู ี้ สังกัดเทศบาลเมืองลาํ พูน
คาํ นํา นทิ านพ้นื บา้ นล้านนาเล่มนเี้ ป็นส่วนหนึ่งในการจัดทําโครงงาน เร่อื ง นิทานพืน้ บ้านทอ่ งโลกออนไลน์ ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ ไดร้ บั คําแนะนาํ ที่ดีและคอยสนบั สนุนด้านวัสดอุ ปุ กรณ์จาก ครู วริยาภรณ์ ทกั ษชพี ดํารงและครูสุดาพร ธใิ หมธ่ งซึง่ เป็นอาจารยส์ อนวชิ าภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ ผูท้ ่เี ลา่ นทิ านพน้ื บา้ น คือคณุ ยายจนั ทรน์ วล สงิ หค์ ะราชและ คณุ ตาบวั ช่อ แซห่ ล่ี ผู้ใหค้ วามรู้ขั้นตอนการสร้าง เวบ็ BLOGGER และไฟล์ E-BOOK คือคุณพรี ศกั ด์ิ ไชยเทศน์ รวมถึงผอู้ าํ นวยการสถานศกึ ษาและรองผูอ้ าํ นวยการสถานศกึ ษา ท่ีใหก้ ารสนบั สนนุ ในการ จัดทํา หนังสอื นทิ านพืน้ บา้ นล้านนา ซง่ึ เปน็ การ รวบรวมนิทานพนื้ บ้านในทอ้ งถิ่นภาคเหนอื ท่มี าจากภมู ปิ ัญญาของชาวบ้าน ซ่ึงนับวันจะหมดไป เพราะขาดการเผยแพร่และสืบต่อกนั มา คณะผ้จู ดั ทาํ รวบรวมไว้เพ่ือที่จะไดเ้ ผยแพร่แกผ่ ูท้ สี่ นใจ การศกึ ษานทิ านพ้นื บา้ นในท้องถิ่นนีไ้ ดศ้ กึ ษาจาก คนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน โดยการออกสมั ภาษณน์ อกเวลาเรียนแลว้ จดบนั ทกึ ไว้ พรอ้ มกับคน้ คว้าจากในหนงั สอื หอ้ งสมดุ และจากในเว็บไซดต์ า่ งๆ โดยแบ่งออกเป็น ๑๐ ประเภท แต่ละประเภทมีอย่างละ ๑ เรอ่ื งเพื่อใหค้ นร่นุ หลังได้ศกึ ษาสบื ต่อไป และในนิทานพน้ื บ้าน มเี นื้อหาให้ความ เพลดิ เพลนิ แก่ผู้อ่าน โดยจะมีการแทรกเน้อื ข้อคิด คติสอนใจในนทิ านเรอื่ งนนั้ ๆ นอกจากน้นี ทิ านแตล่ ะเร่ืองยงั ใหข้ ้อเทจ็ จริงและช่วยในดา้ นการอ่าน การเขยี น การใช้ภาษาทถี่ ูกต้อง เปน็ การเพ่ิมทกั ษะในดา้ นการเห็น การฟงั และการทําตามเย่ยี งอยา่ งอันดีน้ันดว้ ยการศึกษาเร่อื งนทิ านจงึ เป็นปจั จยั ให้ เกดิ ความร้ทู ง้ั ทางทฤษฎีและแนวปฏิบตั ดิ ้วยทง้ั สองทาง หากเกิดความผิดพลาดประการใดก็ขอมา ณ โอกาสน้ดี ว้ ย คณะผู้จัดทําและรวบรวม
สารบัญ เรอื่ ง หน้า ๑. นทิ านมหศั จรรย์ ๑ - เต่านอ้ ยออ่ งคาํ ๒ ๒. นิทานชวี ติ ๑๕ - ยา่ ผนั คอเหนยี ง ๑๙ ๓. นทิ านวรี บรุ ุษ ๒๕ - ปู่เจ้าลาวจก ๔. นทิ านประจําถ่ินหรอื นิยายประจําถิน่ - เชียงดาว ๕. นิทานอธิบายเหตุ - อายุของคน
สารบัญ เรื่อง หนา้ ๖. ตํานานปรมั ปรา ๓๑ - ปแู่ ถน ย่าแถน ๗. นทิ านสัตว์ ๔๖ - สองสตั ว์ ๘. นิทานมขุ ตลก ๕๑ - คาํ ปราศรยั ของพ่อหลวง (ผู้ใหญ่บ้าน) ๕๔ ๙. นิทานศาสนา - อนิสงส์ผางประทปี ๕๙ ๑๐. นิทานเร่อื งผี - ผปี กกะโหลง้ จําแลง
๑
นิทานมหัศจรรย์ ๒ เตา่ นอ้ ยออ่ งคาํ นานมาแลว้ ยังมเี ศรษฐีคนหนึ่งมีเมีย ๒ คน เมียหลวงเปน็ คนใจบุญสุนทาน มีลูกสาวชอ่ื อทุ ธรา สว่ น เมียนอ้ ยนั้นเป็นผกี ระสอื ปลอมตวั มา ช่ือนางกาไล มีลกู สาวชือ่ อทุ ทา วันหนึง่ เศรษฐีชวนภรรยาท้งั สองไปหาปลา เมื่อไดป้ ลาเทา่ ไรเศรษฐีกแ็ บง่ ใหเ้ มียเท่ากนั นางกาไลอยู่ ทา้ ยเรอื ล้วงเอาปลาท้งั ด้ินๆกนิ จนหมดขอ้ ง จงึ ขอเปล่ยี นทีน่ ่ังกบั เมียหลวง ตัวเองอิ่มแลว้ ไปนั่งที่หวั เรือ พอขอ้ งหวั เรือเต็ม เศรษฐีกร็ ทู้ นั ทีว่าขอ้ งทา้ ยเรือตอ้ งไปดว้ ยปลา เพราะแบ่งให้เทา่ ๆ กัน จงึ ชวนเมยี กลบั บา้ น
๓ พอถึงบ้าน ปรากฏว่าข้องของเมยี หลวงไมม่ ีปลาเหลอื อย่เู ลย สว่ นของนางกาไลเต็ม อยา่ งเดิม เศรษฐจี ึงโกรธมาก ‚แกเอาปลาท่ขี า้ สง่ ให้ไปไหนหมด เอาไปกินดิบๆ หรอื เทลงนา้ํ หมด‛เศรษฐีตะคอก ถาม ‚ฉันไม่รจู้ รงิ ๆ ฉนั ยังไมเ่ คยลว้ งลงไปในขอ้ งเลยจริงๆ นะ‛ ‚หนอยแนะ เถียง ไมย่ อมรบั ‛ วา่ แล้วเศรษฐีกเ็ อาพายตีเมยี หลวงสุดกําลงั เสยี หลายที นางจึงพลดั ตกลงไปในนา้ํ แลจมหายไป เมื่อพ่อกบั นางกาไลมาถึงบา้ น สาวนอ้ ยอทุ ธราก็ถามหาแม่ นางกาไลตอบวา่ ‚แมเ่ จ้าไปเกบ็ ผกั เด๋ยี วก็กลบั ดอก‛ ตงั้ แตน่ นั้ มาอทุ ธรามไิ ดเ้ คยเห็นหนา้ แม่อกี เลย ถูกนางกาไลใช้งานอย่างหนัก และตอ้ งไป เลย้ี งควายแทนบ่าว
๔ วันหน่ึงสาวน้อยตอ้ นควายไปกนิ หญา้ ริมนํ้า มนี างเต่าทองคําตวั ใหญค่ ลานขึ้นมาจากนํา้ มาคุยกับนาง และหวผี มให้ แลว้ บอกว่า ‚อทุ ธราเอย๋ นี่แหละแมข่ องเจา้ แมต่ ายแลว้ ไปเกดิ เปน็ เต่า แมจ่ ะมาคุยเปน็ เพอ่ื นเจ้าทกุ วัน‛ เมื่อกลับถงึ บ้าน นางกาไลผูต้ าแหลมเห็นผมของสาวนอ้ ยหวีเรยี บ และเกล้าไวอ้ ย่างงดงามกท็ ักขึ้น ‚ไปหวผี มทไี่ หนมา ใหไ้ ปเลยี้ งควายนะ ไม่ใชใ่ หไ้ ปแตง่ ตัว‛ “ฉันไมไ่ ด้หวดี ีอะไรดอกจะ๊ เอานํ้าลบู เท่านัน้ ‛ ตอ่ มาไม่ช้าไมน่ าน เด็กท่ไี ปเล้ยี งควายด้วยกันแลเห็นมเี ตา่ ทองขนึ้ มาจากนาํ้ มาหวผี มใหอ้ ุทธราก็ กลับเอาไปเล่าท่ีบา้ น ขา่ วไดไ้ ปกระจายถึงหนู างกาไล นางจงึ ยเุ ศรษฐใี หเ้ กณฑบ์ ่าวไพรไ่ ปทอดแหเตา่
๕ อทุ ธราก็ลอบไปกระซิบบอกแม่ใหห้ ลบหนใี ห้ดี ถา้ จวนตัวใหก้ บดานที่ชะง่อนหินใต้นํา้ เสีย พวกบา่ ว ไพรไ่ ปทอดแหตัง้ แตเ่ ช้ายนั ค่าํ ก็ไม่ได้เตา่ ทองคํา นางกาไลจึงขู่เขญ็ เอากับนางอุทธรา ‚ถา้ เอ็งไปเอาเตา่ ข้นึ มาให้ขา้ ไมไ่ ด้ ข้าจะฆ่าเอง็ เสีย‛ อทุ ธราจงึ เอาข้าวไปเคาะท่ีรมิ นาํ้ นางเต่าทองกล็ อยตัววา่ ยนํา้ เข้ามาหาลกู อทุ ธราจึงช้อนตัวแม่ อุม้ ไป ให้นางกาไล นางกาไลสง่ั ให้อทุ ธราตม้ นํา้ ทนั ที แล้วบังคับให้สาวน้อยต้มแต่ของตวั เอง อทุ ธราค่อยๆ หย่อนหางแมล่ งไปในนํ้าเดอื ด แลว้ ก็ชกั ขึ้นเสีย นางกาไลก็มายนื คอยบังคับ ดา่ อยูเ่ อ็ด องึ เรง่ ให้หยอ่ นเตา่ ลงน้ํา เต่าทองคาํ จงึ บอกลูกน้อยของตนว่า ‚หย่อนแมล่ งไปเถิดลูกจา๋ แมย่ อมตาย หย่อนเถดิ มิฉะน้ันเขาจะฆา่ ลูกของแม‛่
๖ อทุ ธราร้องใหป้ ้มิ ว่าจะขาดใจตาย คอ่ ยๆ หย่อนแม่ลงไปในน้ําเดอื ด เมอื่ หางของแม่เตา่ ทอง แตะน้าํ เดอื ด นางเตา่ รู้สึกร้อนแทบวา่ จะตาย นึกถึงหางน้อยนเี้ คยใช้หยอกล้อเล่นกับลกู พอขานางแตะนาํ้ ทเี่ ดอื ด พล่าน นางเต่าก็ระลึกได้วา่ ขานี่แหละทีอ่ ุ้มลกู เดนิ ทางไปเทย่ี วนอกบา้ น เมือ่ ลกู ยังเลก็ ๆ เมอ่ื ท้องเตา่ จิ้มลงไป ในนํา้ นางเตา่ ก็นกึ ถึงเมือ่ ตอนอ้มุ ครรภล์ ูกน้อย และนกึ ถงึ ความสุขความสมหวงั ของตน ทีจ่ ะได้มลี ูกน้อยไว้ อุ้มชแู ละเมือ่ น้ําร้อนทว่ มถงึ หน้าอก หน้าอกน่ีสหิ นอท่ลี กู เติบโตข้นึ ดว้ ยนํา้ นมจากเต้านมของแมน่ ่ีแหละ เมือ่ นา้ํ ถงึ ปาก ก็นกึ ถงึ เมือ่ แม่ลูกยงั มคี วามสขุ อยู่ด้วยกนั แมใ่ ชป้ ากน้แี หละพรรณนาถึงความรักท่มี ีต่อลูก พร่าํ สอนลกู พอนา้ํ เอ่อถึงหน้านางเต่าทองก็นึกถงึ เม่ือตอนท่ีแม่และลูกนอ้ ยเอาแก้มแนบอิงกนั เพือ่ ถา่ ยความ อบอนุ่ และความรกั ไปส่ลู กู นางกาไลแบ่งเตา่ ต้มไปให้ญาติพน่ี อ้ ง ซง่ึ ต่างก็รู้เร่ืองแล้วไมย่ อมแตะต้องเต่าน้ัน ตา่ งท้งิ ลงเน้ือเตา่ ลงใต้ถนุ เรือนไป มหี มาดาํ ตัวใหญ่ คาบเอากระดองเตา่ ไปขดุ ดนิ หมกไว้แทะกินในวันหลงั อุทธราถามหมาดว้ ยวาจาอ่อนหวาน
๗ “ไดซ้ ากของแม่ไวบ้ า้ งไหม” หมาดํามคี วามสงสารในความกตญั ํู จึงยอมขดุ กระดองเตา่ มาสง่ ให้ อทุ ธราจึงนํากระดองแมไ่ ปฝงั ใน ถน่ิ ไกล เพ่ือไวส้ กั การบชู า กระดองนน้ั งอกขนึ้ เป็นต้นโพธ์ิทิพย์ ออกดอกและลูกเป็นฆอ้ ง กลอง และ เครอ่ื งใชเ้ งินทองสะพร่งั ความทราบถึงราชาผ้คู รองนคร จงึ สง่ คนไปขดุ ตน้ โพธิ์ เอามาปลูกในสวนหลวง ไม่ มใี ครจะขดุ ได้ ทง้ั ๆ ทอ่ี าสากนั ท้ังเมือง ผ้เู ฒา่ คนหนงึ่ จงึ แนะให้ไปเชิญนางอทุ ธรา ซ่ึงกําลังเล้ียงควายอยู่ นางอุทธราจึงตั้งอธษิ ฐาน ‚ถ้าตน้ โพธนิ์ ้ีเกดิ จากกระดองของแมข่ ้าจรงิ ขอใหข้ า้ ยอมประคองโพธ์ินี้ใสใ่ นขนั ทองใบใหญ่ได”้ นาง ก็ขดุ ได้ตามประสงค์ พระราชาโปรดปรานมาก จึงอปุ ภิเษกให้เป็นพระมเหสี ฝา่ ยนางกาไลและนางอุททาบตุ รสาว มีความริษยาย่งิ นัก สง่ สาวใชไ้ ปบอกนางอทุ ธราวา่ พอ่ เจ็บมากให้รีบมาดูใจ พระราชาจึงจัดกระบวนเกยี รตยิ ศใหน้ างอทุ ธราไปเยย่ี มพอ่ เมอื่ กระบวนเคลอ่ื นมา
๘ ใกล้บา้ น นางอทุ ทาจงึ อบุ ายบอกพส่ี าวว่ากระบวนตามเสดจ็ นน้ั ยาวและมผี ้คู นมากนัก พอ่ น้เี พยี บหนกั จะ ตกใจตาย ขอให้นางอทุ ธราส่ังกระบวนคอยอยู่ไกลๆ และเดินไปเยย่ี มพอ่ เอง นางอทุ ธราตายใจ จึงถูก นําไปมัด และเอานางไปถ่วงนาํ้ เสยี เทพยดาผู้รกั ษาเมืองไดช้ ่วยนางไว้ไม่ใหจ้ มน้ําตาย ดว้ ยบญุ บารมที ่ี บาํ เพ็ญไว้ในอดตี และนางกาไลได้นําเครื่องแตง่ กายและเสอ้ื ผ้าไปให้นางอทุ ทาปลอมตัว กลบั วงั แทน ฝ่าย นางอุททาผู้ปลอมตัวเปน็ พีส่ าว ผูเ้ ข้าไปสวมรอยตําแหนง่ มเหสี แตม่ ารยาท วาจา และนิสยั ทราม ประกอบ ทงั้ พระธิดาของนางอทุ ธราก็ไม่ยอมเข้าใกล้ ในท่สี ุดก็ถูกจบั ไดว้ ่าปลอมมา พระราชาจงึ สง่ั ใหป้ ระหารชวี ติ ตัดร่างกายออกเป็นชน้ิ ๆ ทําเนือ้ สบั เอาแขนขาและมือใส่ก้นไห ขดู เนอ้ื ใสไ่ วป้ ากไหส่งไปให้พอ่ แม่กนิ ขณะทีส่ องตายายกาํ ลังกนิ เนอ้ื ลกู สาว ทหารกม็ าตามตัว บังคบั ใหบ้ อกที่ๆ เอาตัวนางอทุ ธราไปถ่วงนาํ้ เมอื่ ทหารไปถึงบงึ ปรากฏวา่ นางอุทธรายังไม่ตาย ด้วยอภิบาลของเทพารักษ์ พระราชาและพระธดิ ายนิ ดียิ่งนัก นางอทุ ธราได้ทูลขอพระราชาใหย้ กโทษแก่พ่อและแม่เล้ียง พระราชากป็ ระทานอภยั ขณะท่ีท้ังสองเฒ่าลง
๙ จากตําหนัก พอถงึ เชิงบันได้ แผ่นดินก็แยกออก สบู เอานางกาไลลงในในธรณี ส่วนเศรษฐีนัน้ กอ็ ยู่ต่อมา อกี จนชราจึงได้ส้นิ ชวี ิต
๑๐
นทิ านชีวิต ๑๑ ยา่ ผนั คอเหนยี ง เป็นนทิ านเล่าสกู่ ันมาทีเ่ ป็นนทิ านพ้นื บา้ นภาคเหนือ และยงั เปน็ อกี นทิ านสอนใจไดแ้ งค่ ดิ ในเรอ่ื งการ ทําความดี สามารถอา่ นหรอื ฟงั ไดท้ กุ วัย กาลกอ่ น ณ หมบู่ ้านตั้งอย่ใู นชนบท ไกลออกไปจากเมอื งหลวง ชาวบ้านมีอาชพี ทาํ ไร่ ทาํ นาหาของ ป่ามาขาย หมบู่ ้านแห่งนมี้ หี ญงิ สาวรปู รา่ งอาภัพผู้หน่งึ นางไม่มชี ายหนมุ่ ผูใ้ ดไปเทยี่ วหาเลยเนื่องจากนาง คอพอกโตใหญ่นา่ เกลยี ด ชาวบ้านเรียกนางว่า “อตี าคอเหนียง ‛
๑๒ ทุกๆคนื แม้วา่ นางจะนงั่ ปั่นฝ้ายอยกู่ ลางลานบ้านรอหนุ่ม ๆ มาเท่ยี วหา ก็ปรากฏวา่ ไม่มใี ครมาหานาง เลย แมว้ า่ จะได้ยินเสยี งร้องเพลงและเล่นดนตรขี องพวกหนุ่มๆ ที่ผ่านมา นางคิดวา่ เขาคงจะแวะมาเท่ยี วหา ตน แต่ปรากฏวา่ หนุม่ เหลา่ นั้นกลบั เลยไปบ้านอน่ื เสยี ทุก ๆ คราว เมื่อเป็นเช่นนี้ นางสาวตารสู้ กึ น้อยใจ อยากจะตายเสียใหพ้ ้นความชอกชาํ้ ใจ วันหนง่ึ ขณะท่นี างเหน็ ปลอดคน จึงจัดการตระเตรยี มเคร่ืองใช้ต้ังใจวา่ จะเขา้ ไปตายในป่าเสยี ให้รูแ้ ล้วรู้ รอดไป บางทคี วามตายอาจชว่ ยใหต้ นพน้ ทกุ ขไ์ ปได้… นางมุ่งหนา้ ออก เดนิ ทางเข้าป่าขนึ้ เขาไป โดยตั้งใจเด็ดขาดวา่ เป็นตายร้ายดจี ะไม่ยอมกลับบา้ น วนั ที่ 14 นางบรรลุถงึ กลาง ดงลึก ซึ่งนางเลือกวา่ ทนี่ คี่ งจะไมม่ ีใครตามมารบกวน นางคงจะตายอย่างเปน็ สุข เนอ่ื งจากความเหนด็ เหน่อื ยเมือ่ ยลา้ นางล้มฟุบเป็นลมอยู่กลางดงน้นั เอง ขณะท่นี างนอนสลบไสลอย่ทู นี่ ้นั คนื วันนัน้ เปน็ คืนที่ เหลา่ ผีปา่ ทง้ั หลายตระเตรยี มยมื ข้าวของเคร่อื งใชต้ ่าง ๆ เพือ่ นําไปใชใ้ นการจัดงานเลีย้ งดูกนั ตามประเพณี ของตน ผีตนหน่งึ เดินมาเห็นคอพอกของนางสาวตา มนั คดิ ในใจวา่ เราอตุ สา่ ห์ยืมหมอ้ แกงที่ไหน ๆ กห็ า ไม่ได้ เพง่ิ มาพบทน่ี ่ี ผีจงึ ตรงคว้าเอาคอพอกของนางไป พร้อมกบั พดู ว่า “แม่นาง ข้าขอยืมหม้อแกงหน่อยนะ เสร็จธรุ ะแลว้ จะเอามาสง่ ให้ ‛
๑๓ นางสาวตารู้สึกตวั ตนื่ ขนึ้ เอามอื คลาํ ตน้ คอของตนรสู้ ึกวา่ คอพอกของตนทีเ่ ป็นอยู่นัน้ ขณะนีห้ ายไปสิ้น นางรสู้ ึกดีใจยงิ่ นัก รีบวงิ่ บา้ งเดินบา้ งจนถึงบา้ นโดยไมเ่ หนด็ เหนือ่ ย พอถึงบา้ นก็เลา่ เรอ่ื งราวทง้ั หลายให้ เพือ่ น ๆ ฟงั เพ่อื น ๆ ที่ทราบเรอ่ื งคอพอกของสาวตาหาย ต่างพากนั มาซักถามจนรู้สึกเรือ่ งราว ณ ท่นี ัน้ มหี ญงิ สาววัยกลางคนผหู้ นึง่ ชื่อ ‘’ผนั ‘’ แกกค็ อพอกเหมอื นกนั แตไ่ มไ่ ด้โตใหญเ่ ท่าของสาวตา นางเองตอ้ งการอยากให้คอพอกของตนหาย นางเฝา้ ซกั ไซไ้ ลเ่ ลยี งจนทราบความจริง นางผันจึงออกเดนิ เขา้ ป่าไป เปน็ เวลาร่วมๆ สิบวนั จนถงึ ป่าที่นางสาวตาไปนอนสลบไสล ดว้ ยความเหนด็ เหนอ่ื ยและ ออ่ นเพลียนางจงึ แวะพักนอนกลางวันกลางทางน่ันเอง เมอื่ ผีมาดูนางสาวตาไมพ่ บ มนั เห็นหญงิ วยั กลางคน นอนแทนที่ จึงส่งหมอ้ นน้ั คืน พอรุ่งเช้านางผันตนื่ ขน้ึ เม่อื เอามอื ลูบคลําคอของตน แทนทค่ี อพอกของตนจะ หาย กลับโตกว่าเดิมข้ึนอีกมากมาย นางร้องไห้เสียใจทตี่ นเสยี แรงอตุ ส่าหด์ นั้ ดน้ เข้าปา่ มาท้ังทีอยากจะให้ คอพอกหาย กลับกลายโตยิ่งกว่าเดมิ เสียอีก เมือ่ เป็นเช่นนน้ี างผันไมร่ ้จู ะทาํ อยา่ งไร เมอื่ หมดหนทางแก้
๑๔ ประกอบกับนางคดิ ไว้ว่าวัยของตนกล็ ว่ งเข้ากลางคนแลว้ แม้ว่าคอจะพอกกไ็ ม่เหน็ เปน็ อะไร สูต้ น พยายามทําความดแี ล้วความดีนน้ั คงจะสนองให้นางเปน็ สุขใจไดบ้ ้างกระมัง นับแตน่ ั้นมา นางพยายามประกอบกรรมดี ชว่ ยเหลอื กจิ กรรมงานของชาวบ้านโดยไมเ่ หน็ เหน็ดเหนอ่ื ย ชาวบ้านทกุ คนถงึ กับออกปากสรรเสรญิ คุณงามความดีทนี่ างได้ปฏิบัตไิ ป ถึงแมว้ ่านางจะตายไปหลายปีแลว้ ก็ตาม ชาวบา้ นยังกล่าวขวัญถงึ นางเสมอว่า “ ใจบุญเหมอื นย่าผนั คอเหนียง ‛
๑๕
นิทานวีรบุรุษ ๑๖ เร่อื งป่เู จา้ ลาวจก ป่เู จา้ ลาวจกหรอื ลวจังกราชเป็นนิทานวรี บุรุษของชาวภาคเหนอื มเี รอ่ื งปรากฏอยู่ในตอนตน้ ของ ‚ตํานานพ้ืนเมอื งเชียงใหม่‛ (พนื้ เมือง-ประวัติ) ส่วนในพงศาวดารโยนกเรียกว่า ‚ลวจังกราช‛ เน้ือเร่ืองมี ดังน้ี ... คร้ังนัน้ พระอนิ ทร์ได้เสดจ็ ไปยังสํานักเทพบุตร และร้องขอลวจงั กราชเทพบตุ รให้จุตลิ งมาเกิดเป็น เจ้าฟา้ มหากษัตริย์ ในมนษุ ยโ์ ลกในอาณาจักรลา้ นนา เพอ่ื ทาํ นบุ ํารงุ พระศาสนาลวจงั กราชเทพบตุ รก็รบั คํา ของพระอินทรจ์ ึงพาบริวารมาเกดิ ดว้ ย 1 พัน โดยใช้เกรน๋ิ (บันได) เงนิ พาดจากฟา้ มาสดู่ อยตงุ เทพบตุ ร ท้งั หลายก็โอปปาตกิ ะ คือเกิดเองโดยไม่มพี ่อแมเ่ ป็นมนุษย์ วยั หน่มุ สาวอายไุ ด้ ๑๖ ปี และพากนั มาพกั ที่ ใตต้ น้ ไม้ตัน (พุทรา) ใกลแ้ มน่ ํ้าสายในเมอื งชัยวรนคร ผู้คนทั้งหลายเหน็ เป็นอัศจรรย์ ทมี่ คี นหนุ่มสาว หนา้ ตางดงามอายเุ ทา่ กนั หน่งึ พันคนแลเหน็ เกร๋ินเงินพาดอยใู่ นอากาศดว้ ย จึงเรียกชอ่ื บริเวณนัน้ เป็นเมอื ง
๑๗ เงนิ ยัง (เงินยาง) ชาวเมืองจงึ เชิญลวจงั กราชเปน็ กษตั รยิ ค์ รองเมอื งชัยวรนคร เมอื่ พระยาลวจังกราชครอง เมอื งแลว้ กิตติศัพทก์ ็แพร่กระจายไปยังหัวเมอื งอืน่ ๆ วา่ พระยาเทวราชได้เสดจ็ จากช้ันฟ้ามาเปน็ กษัตรยิ ใ์ น เมอื งชยั วรนคร เจา้ เมอื งต่างๆ จึงสง่ บรรณาการมาถวายขอเปน็ เมอื งข้นึ มากมาย พระยาลวจังกราชกท็ าํ นบุ ํารุง ไพร่ฟ้าประชาชนใหอ้ ย่สู ขุ สาํ ราญและขยายอาณาเขตไปกว้างขวาง ประชาชนสรา้ งสวนไร่นาและเหมืองฝายมี น้าํ อุดมสมบูรณ์ พระยาลวจังกราชมโี อรส ๓ องค์ ช่ือ ลาวครอบ ลาวชา้ ง และลาวเก๊าแกว้ มาเมอื ง วนั หนงึ่ พระโอรสทง้ั สามไปจับปู พท่ี ้ังสองให้ลาวเก๊าอยูเ่ ฝา้ ตาข่ายและถอื ฆอ้ นไว้ทุบปู ส่วนพ่ชี ายทงั้ สองตามขดุ รปู ซู ง่ึ เข้าไปในเผงิ ผา ตดิ ตามไปไกลปล่อยทงิ้ นอ้ ง คนเลก็ เฝา้ หนา่ ง (ตาข่าย) เพียงผูเ้ ดียว จน เย็นพ่ที ้ังสองกก็ ลับเมอื งโดยลมื นอ้ งชายจึงไมไ่ ด้ชวนกลับบ้านดว้ ย สว่ นลาวเกา๊ นัง่ คอยพีท่ งั้ สองจนมืดคํ่าจงึ กลบั เมืองด้วยความโกรธทพ่ี ี่ทั้งสองหลอกให้ตนน่งั เฝ้าอยผู่ เู้ ดียวลาวเกา๊ จงึ มาทูลพระราช บิดากลา่ วหาพี่ท้งั สอง พระยาลวจงั ราชทราบเรอื่ งดงั นน้ั เห็นวา่ สามพีน่ อ้ งหากอยู่รวมกนั จะเกดิ วิวาทกนั จงึ สร้างบา้ นเมืองใหไ้ ป ปกครองคือสรา้ งเมอื งว่าบา้ นถ้าํ ใหล้ าวครอบ และสร้างเมืองช่ือบา้ นค้าให้ลาวชา้ ง สว่ นลาวเก๊าแก้วมาเมอื ง ให้ไปอยู่บ้านผาเรา ครน้ั เม่ือพระยาลวจังกราชสิน้ พระชนม์ ลาวเกา๊ กไ็ ด้ครองเมืองชัยวรนครสบื ตอ่ มาทรงพระ
๑๘ นามว่า ‚ลาวเกา๊ แก้วมาเมอื ง‛ และสืบสันตตวิ งศเ์ ปน็ ตน้ ราชวงศค์ รองเมืองลา้ นนาต่อมามกี ารยา้ ยเมอื ง หลายครง้ั และสมยั ของกษัตริย์องค์ท่ี ๒๕ คือ ‚พระยามงั ราย‛ ไดย้ า้ ยเมอื งมาอย่ทู ี่เมืองเชียงใหมป่ จั จุบนั
๑๙
นิทานประจําถ่นิ หรอื นิยายประจําถิ่น ๒๐ นิทานลา้ นนา เร่อื ง เชียงดาว ในอดตี กาลมีนครแหง่ หนงึ่ นามวา่ นครพะเยา กษตั รยิ ผ์ ้คู รองนครมีราชธดิ า ๖ องค์ และมีโอรสเปน็ องคส์ ุดทา้ ย นามว่า เจ้าคําแดง อายุ ๑๖ ชนั ษา ราชธิดาทกุ องคส์ มรสหมดแลว้ กับเจา้ เมอื งตา่ ง ๆ สําหรบั เจา้ คําแดงเป็นผกู้ ลา้ หาญ เขม้ แขง็ ในการสงครามยิง่ นกั ทรงโปรดการออกป่าลา่ สตั วอ์ ย่เู สมอ ๆ คร้นั หน่งึ มี กองทพั ฮ่อยมาลอ้ มนครพะเยา พระราชาทรงเรียกเขยทัง้ ๖ องคม์ าถามวา่ “ศกึ ครงั้ นใ้ี ครจะเปน็ ผู้อาสา ออกไปปราบปราม” เขยทง้ั ๖ น่งิ ไม่มใี ครกลา้ อาสา เพราะทราบว่าศัตรมู กี ําลงั มากมายและเขม้ แขง็ ยงิ่ นัก ดังน้นั พระราชาจงึ ตรัสเรียกเจ้าคาํ แดงออกมา เม่อื เจา้ คําแดงทราบเรื่องจึงรับอาสาออกปราบเอง พรอ้ มด้วย ไพร่พลหนึ่งหม่ืน
๒๑ การรบคร้งั ข้าศกึ ไดแ้ ตกพา่ ยไป เม่อื เจา้ คําแดงได้ชัยชนะก็ยกทพั กลับ ขณะเดนิ ทาง บังเอิญเจ้าคาํ แดง เห็นกวางทองรูปงามตวั หน่งึ ก็อยากจะได้เพอ่ื นําไปถวายพระบดิ า จงึ ส่ังใหพ้ วกทหารเขา้ ลอ้ ม เมื่อไพรพ่ ล เขา้ ลอ้ มอยา่ งกระชั้นชดิ เข้าไปมาก กวางกต็ กใจกระโจนหนีออกทางด้านเจ้าคาํ แดง ดงั นั้น เจา้ คําแดงจึงควบ ม้าติดตามไปพร้อมด้วยไพรพ่ ล การติดตามใช้เวลาหลายวัน จากนครพระเยาจนเขา้ เขตเชยี งใหม่ จนเข้า ใกลเ้ ขาลกู หน่ึงสงู มาก สงู เทยี มดาว ไพร่พลเรยี กเขาลกู น้ีว่า “สงู เพยี งดาว”ต่อมาชอ่ื น้เี พย้ี นไปเปน็ “เชียง ดาว” บรเิ วณเชงิ เขาเปน็ ทุง่ กวา้ ง กวางทองวิง่ หายไปในป่าหญา้ ต้องใชเ้ วลาค้นหาเป็นเวลานานบรเิ วณทุ่ง หญ้าตรงนี้ชาวบา้ นเรยี กว่า “ทงุ่ ผวน” ( ทงุ่ กวางหาย ) ผวน เปน็ คาํ พน้ื เมอื ง แปลวา่ สบั สน ต่อมา พวกทหารไดม้ องเห็นแตไ่ กล คิดวา่ เป็นเนอ้ื ทราย แตพ่ จิ ารณาดูดี ๆ จงึ ร้วู า่ เป็นกวางทอง ตรงบรเิ วณน้ี ชาวบ้านให้ชอื่ วา่ “บา้ นแม่ทลาย” ( แม่ทราย ) เจ้าคําแดงคงตดิ ตามไปไม่ลดละกวางเห็นจวนตวั จงึ ถอด
๒๒ คราบกวางทองออกไว้ เรอื นร่างภายในกลายเปน็ สตรสี าวสวยยงิ่ นกั นามวา่ อนิ ทรเ์ หลา แลว้ หนีต่อไป ทง้ั หมดจงึ รูว้ า่ กวางทองเป็นคน หมบู่ า้ นท่กี วางถอดคราบออกน้เี รียกวา่ “บ้านสบคราบ” (สบปากทางแพร่ ) อนิ ทร์เหลาหนีข้นึ ไปตามลาํ ธารเลก็ ๆ เนอื่ งด้วยมีเครื่องแต่งกายเพียงเลก็ น้อย เจ้าคําแดงท่ีตดิ ตามมาอยา่ ง ใกลช้ ดิ เกรงว่านางจะอาย จึงยกมือโบกใหท้ หารตดิ ตามมาหมอบราบกบั พ้ืน เพื่อมิให้นางเห็น ตรงน้ี เรียกว่า “นาํ้ แมแ่ มบ” ( แมบ - หมอบ ) ต่อมาเพย้ี นเป็นแมน่ ้าํ แมะ นางหนขี น้ึ ไปถึงบนเนนิ เขาซ่งึ เปน็ ทางแคบ ๆ ทหารตรเู ข้าจะจบั ตวั นาง แตเ่ จ้าคาํ แดงยกมอื ห้ามไว้ พระองค์จะตามไปเอง พอดนี างอินทรเ์ หลา หนีเขา้ ป่าไปได้ หมบู่ า้ นตรงนเี้ รียกวา่ ‘' แมน่ ะ ' และเพ่ือไม่ใหน้ างหลบหนีไปได้ เจ้าคาํ แดงจึงสัง่ ให้ ทหารลอ้ มไว้พร้อมกบั ขดุ คกู ัน้ ไว้ คูนต้ี อ่ มาเรยี กวา่ “คอื ฮ่อ” (คอื -ค)ู
๒๓ นางอินทร์เหลาจวนตวั จงึ พยายามปนี ปา่ ขึ้นเขาได้ เจา้ คาํ แดงตดิ ตามไปแต่ผเู้ ดียว และไปพบตวั นางบน เนินเขาเต้ยี ๆ นางจึงถามว่า “มาจับฉันทาํ ไมฉันมคี วามผิดอะไรหรอื ” เจา้ คําแดงตอบว่า “ข้าพเจ้าเป็นราช โอรสของกษัตรยิ พ์ ะเยา เหน็ กวางทองก็อยากจะไดจ้ งึ ตดิ ตามมา แตป่ รากฏว่ากวางทองตัวนั้นความจริงเป็น นางผสู้ วยงาม เกดิ รู้สึกรักและอยากจะไดเ้ ป็นชายา” นางตอบวา่ “หากพระองค์รักขา้ พเจา้ จริง ควรจะตอ้ งไป บอกมารดาเสียก่อน ขณะน้ีอยู่ในถ้าํ ” เจ้าคําแดงเหน็ ตามคํากล่าว จงึ ลงมาจากมา้ เดนิ ตามนางเข้าไปในถ้ํา เพอื่ ไปหามารดาของนาง ซ่ึงมชี อื่ ว่า อินทรล์ งเหลา' พวกเสนาทีต่ ิดตามมาพบแตม่ า้ ที่ปลอ่ ยไว้ แลเห็นรอยเท้าทัง้ สองหายเขา้ ไปในถาํ้ พวกเขารออยเู่ ป็น เวลานานเจา้ คําแดงก็ไมอ่ อกมา เมือ่ เข้าไปดใู นถ้ําก็ไปไมถ่ กู จึงตอ้ งยกทัพกลับนครพะเยา ชาวบ้านใกล้ ๆ ทราบเรอื่ งตา่ งกล่าวว่า เจ้าคําแดงขณะนไ้ี ด้เป็นอารกั ษค์ มุ้ ครองดูแลถา้ํ ขุนเขาลกู นี้ และเรียก เจ้าคาํ แดงว่า “เจา้ หลวงคาํ แดง” ทกุ กวันน้ี
๒๔ ข้อคิดทไี่ ดจ้ ากนทิ านเร่อื งน้ี นิทานเร่ืองนี้ เปน็ การบอกใหเ้ ราคนหลัง ๆ ไดท้ ราบถงึ ความเปน็ มาของสถานท่ที ีม่ ีชอ่ื ในถ่ินนน้ั และแสดง ให้เหน็ ถึงความ กล้าหาญ เดด็ เดี่ยว และความพยายามเปน็ อย่างมากจนพบกับความสําเรจ็ แต่กม็ คี วามเชอื่ เกย่ี วกับทาง ไสยศาสตรเ์ ช่นกัน
๒๕
นทิ านอธบิ ายเหตุ ๒๖ อายุของคน มีเร่ืองเลา่ เก่ยี วกบั อายุของคนว่า ในอดตี กาลนานเกินวา่ จะนับไดน้ น้ั คนเรามีอายขุ ัยเพยี งแค่ ๓๐ ปี เพราะพระพุทธเจา้ ท่านให้มาแคน่ น้ั คนมอี ายขุ ัย ๓๐ ปี วัวควายมีอายขุ ยั ๓๐ ปี หมามอี ายขุ ัย ๓๐ ปี ลิงมีอายขุ ัย ๓๐ ปี มลู เหตุเกิดจาก วนั หนึ่งพระพทุ ธเจา้ กเ็ รยี กคนและสัตวท์ ง้ั หลายมาถามวา่ ‚วัวควายอยา่ งพวกเจา้ มหี นา้ ท่ีอะไร‛ ววั ควายกต็ อบวา่
๒๗ ‚พวกเราตอ้ งทาํ งานเป็นขขี้ า้ ของเขา‛ พระพทุ ธเจ้าจึงบอกวา่ ‚พวกเจ้าเอาอายไุ ป ๓๐ ป‛ี พวกววั ควายกร็ อ้ งอทุ ธรณว์ า่ ‚ไมเ่ อา พวกเราเอาใหค้ นเสีย ๒๐ ปี เราเอาแค่ ๑๐ ปีกพ็ ‛อ เมอ่ื ววั ควายเอาอายุขยั ให้คนไป ๒๐ ปี คนจึงอายขุ ัยได้ ๕๐ ปี พระพุทธเจ้ากเ็ รียกหมาเขา้ มา ถามต่อวา่
๒๘ ‚หมา เจ้าเกดิ มาทําอะไร‛ ‚กเ็ อาไวเ้ ห่าไว้หอนให้คนนะส‛ิ ‚ถา้ เชน่ น้นั พวกเจา้ เอาอายไุ ป ๓๐ ป‛ี หมาก็รอ้ งขดั ขน้ึ ว่า ‚ไม่เอา พวกเราเอา ๑๐ ปกี พ็ อแล้ว ท่เี หลือจากนน้ั ยกใหค้ น‛ เมอ่ื หมายกอายุขยั ให้อีก ๒๐ ปี คนจึงมีอายุขัย ๗๐ ปี พระพุทธเจา้ ก็เรยี กลงิ เขา้ มาหาอกี แล้ว ถามวา่
๒๙ ‚ลิง เจ้าเกดิ มาทําอะไร‛ ‚พวกข้าเกิดมาก็เพื่อจะได้เล่นหน้าเลน่ ตาใหค้ นด‛ู ‚ถ้าเชน่ นัน้ พวกเราเจา้ เอาอายุไป ๓๐ ป‛ี ลงิ ก็ไมเ่ อาอีก ‚พวกขา้ เอาแค่ ๑๐ ปีก็พอ เหลือจากน้ันเอาใหค้ น‛ ด้วยเหตนุ ้ี เมอ่ื เอาอายุของวัวควาย หมา ลงิ มารวมใหค้ น คนจึงมีอายุขยั ตง้ั แต่ ๗๐-๙๐ ปีและ
๓๐ ก็มีพฤตกิ รรมในแต่ละชว่ งอายุตา่ งกันไปตามลกั ษณะของสตั ว์ท่ียกอายขุ ัยให้ คอื เม่อื อายุ ๓๐ ปี ชวี ติ คนก็ จะสนกุ สนาน ไมค่ ดิ อะไร เมอ่ื อายุ ๓๐ ปถี งึ ๕๐ ปี ได้เอาอายุงวั อายคุ วายมาใช้ จะไปท่ีไหนกเ็ ป็นห่วง เปน็ กงั วลอยตู่ ลอดเวลาเหมอื นกบั วัวทเี่ ขาสนตะพายไว้ เมอ่ื อายุ ๕๐-๗๐ ปี ไดเ้ อาอายขุ องหมามาใช้ ก็จะเปน็ ห่วงสมบัติ กลวั ว่าใครเขาจะมาขโมย สมบัตไิ หมหนอ ของจะหายไหม ได้ยินเสยี งหมาเห่าที่ไหนก็ระแวงไปหมด เท่ยี วเฝา้ ของเหมือนเชน่ หมา พออายุ ๗๐-๙๐ ปี เอาอายอุ ายลุ งิ อายวุ อกมาใช้ กม็ ีพฤติกรรมเหมือนวอกเหมือนลิง ไดห้ นา้ ลืมหลงั ได้ หลังลืมหน้า
๓๑
ตาํ นานปรมั ปรา ๓๒ ปแู่ ถน ย่าแถน นิทานท่จี ะเล่าต่อไปนี้ เปน็ นทิ านท่ีคนเฒา่ คนแก่เล่ากันมาจนถึงปัจจุบนั น้ี มันก็มีว่าคนภาคเหนือ หรอื คนลานนาเราน้ีเขาวา่ การที่คนเรานน้ั ทาํ อะไรไมส่ ําเรจ็ หรอื วา่ เกดิ ปว่ ยเป็นน่นั ๆ นๆ่ี ทําอะไรก็ ล้มเหลวนนั้ เขาว่าเกิดจากการท่ีปแู่ ถนยา่ แถนน้ันแชง่ ใหเ้ ปน็ บางคร้งั กม็ ีการสง่ แถนหรอื ว่าทาํ เครื่อง พลีกรรมส่งใหแ้ ถนเพื่อใหเ้ คราะห์ภยั ตา่ งๆ นนั้ หายไปปู่แถนย่าแถนนี้เปน็ เทพองค์หน่งึ คืออยใู่ นพิภพ โลกเรา ไมใ่ ช่อยูบ่ นสวรรคช์ นั้ ฟ้าอะไร ปแู่ ถนน้ีกอ็ ยู่ในถ้าํ แหง่ หนึ่ง ถํา้ น้ันวจิ ติ รด้วยแกว้ เจด็ ประการ งามหาทส่ี ุดไม่ได้ ทนี ี้ป่แู ถนจะเปน็ ผ้แู บ่งบุญแบ่ง
๓๓ บาปแบ่งกรรมกอ่ นที่คนจะลงมาเกดิ จะต้องไปรับเอาทถ่ี ้าํ แก้วเจ็ดประการนั้น ใครทสี่ รา้ งบุญ สร้างบาปมากจ็ ะไปรบั เอาทีน่ น่ั ปแู่ ถนยา่ แถนมีหนา้ ทีจ่ ําหน่ายจา่ ยแจกแบง่ บญุ บาปแบ่งกรรมให้ เรอ่ื งมนั ก็มอี ยวู่ า่ ชายสองคนพอ่ แมต่ ายมาตง้ั แตย่ ังเลก็ ๆ ทนี ก้ี ็อยดู่ ้วยกนั มารบั จ้างเลย้ี งวัวเลย้ี ง ควาย จนอายุได้ ๒๐ ปี ท้ังสองคนนน้ั กม็ าเจรจากันว่า ‚เออ้ เราเกดิ มาพ่อแมก่ ไ็ มม่ ี เข้าของมรดกอะไรก็ไมม่ ี เกิดมาทกุ ขย์ ากแท้หนอ เราจะทาํ อย่างไรกันดี ยง่ิ คดิ กย็ ง่ิ น้อยใจตวั เองเนาะ‛ อีกคนหนง่ึ ก็วา่
๓๔ ‚โอ ปล่อยไปตามเรอื่ งตามราวมันเถอะ‛ อีกคนก็วา่ ‚อยไู่ ปอย่างนี้ไม่ได้ อายบ้านอายเมืองเขา เขามกี ันเราไม่มี‛ ทนี ช้ี ายคนทค่ี ิดหนักนัน้ ตกกลางคนื มาก็แอบหนเี ขา้ ปา่ เปน็ เวลานานมาก จนชายผนู้ ไ้ี มร่ วู้ นั เวลาว่าเปล่ียนไปถงึ ไปไหนยังไงแล้ว เขาก็ได้แต่เดินทางไปเรอ่ื ยจนไปถงึ ถํ้าทองทีห่ นงึ่ ซงึ่ เป็นท่ีสถติ อยู่ ของปแู่ ถนหรอื ท้าวพระยาแถน ชายหนมุ่ ก็เห็นฉัพพรรณรังสรี ศั มีแหง่ แสง แก้วเจ็ดประการนั้นงามตาจงึ ไดเ้ ดนเข้าไปดูใหร้ ูว้ ่าเป็นแสงอะไร
๓๕ ‚ไหนๆ กกู ็จะมาตายละไม่กลับไปอกี ถึงเสอื จะกินชา้ งๆ จะกินหมๆี จะกินช้าง กกู ็ไม่กลัว กูยอมตายละ ขอเข้าไปเหน็ ให้มนั ถงึ ซักทีซิ‛ มนั ก็เดินเขา้ ถ้าํ ไป ถ้าํ นน้ั เปน็ ทเ่ี จรญิ หูเจรญิ ตา พน้ื ปดู ้วยพรมประดับด้วยแก้วเจ็ดประการ ผนงั ประดบั ประดาไปด้วยแก้วทงั้ เจด็ ประการ ชายหน่มุ ก็เดนิ ไปพบกบั พระยาแถนที่น่งั อยู่บนบัลลงั ก์แก้ว เมื่อชายหน่มุ เห็นดงั นน้ั เขาจงึ ยกมอื ขึน้ ไหว้พระยาแถนแล้วกลา่ ววา่ ‚ขา้ แด่ท่านผ้เู จริญ ทา่ นเปน็ ใครมาจากไหน ท่านมาทําอะไรอย่ทู ี่นเี่ หรอ‛
๓๖ พระยาแถนก็ว่า ‚เอ่อ เราน้ีชือ่ ว่าท้าวพระยาแถน พระพรหมสง่ ใหเ้ รามาอยู่น่ี เราเปน็ ผ้แู บ่งบุญแบง่ บาปแบง่ กรรมใหค้ นทีจ่ ะไปเกิดในโลกมนษุ ย์ ไปเกิดเปน็ คนจะตอ้ งมาจากทน่ี ไ่ี ป‛ พระยาแถนนห้ี ากว่าใครจะไปเกิดนัน้ ทา่ นจะขดี เสน้ บนมอื ทง้ั สองของผทู้ จ่ี ะไปเกิดยงั โลก มนษุ ย์ หมอโหราจารย์ทั้งหลายก็จะดูทีเ่ ส้นบนมอื คนเรานแี้ ลว้ กทํานายทายทักไปตามนั้น ทนี ีช้ ายคนนั้นก็ ถกู ถามวา่ ‚เรามาทนี่ ้เี คืองใจอะไรรเึ ปล่า‛
๓๗ ‚ไหวส้ าเจา้ ข้าอยใู่ นโลกมนษุ ยน์ ้นั ทําอะไรตา่ งๆ นานา กไ็ มม่ ีไม่เจรญิ ร่งุ เรืองเหมอื นกับคนอ่นื เขาข้าก็ อยากจะรูว้ ่ามันเพราะสาเหตุอันใด ขา้ กห็ มายจะมาตายใหร้ ู้แล้วรูร้ อดไป‛ พระยาแถนก็วา่ ‚ช้าก่อนใจเย็นๆ ไว้ ขา้ นีเ้ ป็นทา้ วแถนที่จะประสทิ ธป์ิ ระสาทพรให้ แต่ว่าจะประสทิ ธิป์ ระสาท ใหน้ น้ั คนทไี่ ดร้ ับพรจะตอ้ งได้สร้างบญุ กศุ ล สรา้ งคณุ งามความดีมาแต่ชาตปิ างกอ่ นจงึ จะไดส้ ําเร็จ ไมใ่ ช่วา่ คนทุกขเ์ ลีย้ งใหส้ ุข คนสุขเลี้ยงใหท้ ุกข์อย่างนไี้ มใ่ ช่ เจ้ามีความประสงค์อนั ใดบ้าง‛
๓๘ ‚เออ..... ขา้ น้ีก.็ ... หน่ึงขอใหไ้ ดเ้ ปน็ มหาเศรษฐีมเี งนิ ทองชา้ งมา้ เหมอื นเศรษฐี ทง้ั หลาย และสองขอใหไ้ ด้ลูกได้เมียทง่ี าม เท่าน้ีกพ็ อละ‛ ‚เอาเทา่ น้หี รอื ‛ ทนี ท้ี า้ วพระยาแถนก็สรา้ งเมยี กอ่ น ทา่ นก็เอาด้ายสามสบิ สองเสน้ แตล่ ะเสน้ มสี ามสบิ สองสเี อา ผกู รวมกนั เอาด้ายแตล่ ะเสน้ ไปผกู ข้อมือนางตา่ งไวใ้ นถํ้าไม่ให้เห็น ด้ายแต่ละเส้นน้มี ดั ขอ้ มือนางตา่ งๆ เอาไว้ นางงามทีส่ ุดก็มี ไม่งามกม็ ี ฟันหลดุ รว่ งกม็ ี เฒา่ แกก่ ม็ ี แลว้ ท่านกบ็ อกชายหน่มุ วา่
๓๙ ‚ถ้าวา่ เจ้าน้ีมีบุญมากอ่ นก็จะได้เลอื กเอาวา่ จะไดเ้ มยี งามหรอื ไม่ แต่ละเส้นจะมนี างต่างๆ อยู่ คนงามน้ันมี เพียงหนงึ่ เราใหเ้ วลาเลือกสามวนั ‛ ชายหนุม่ ก็เลอื กเอาเตม็ ท่ี ครบสามวนั ก็เอามาเสน้ หนง่ึ พระยาแถนก็บอกวา่ ‚ใหเ้ จ้าสาวเดินตามด้ายนี้ไปนะ‛ ชายหนุม่ ก็สาวเขา้ ไปเรอ่ื ยๆ ไปพบกับนางผหู้ นง่ึ เปน็ นางงามหาทเ่ี ปรยี บไม่ ได้ ทา้ วแถนก็ กลา่ วว่า
๔๐ ‚อันน้ตี วั โบราณกรรมนะ อนั ชาตทิ แ่ี ล้วได้รักษาศีลห้าศลี แปดจะไดเ้ มยี งาม เออ่ ได้เมียงามแล้วนะ หยัง เหลือขา้ วของสมบัติ‛ ทา้ วแถนก็เอาเครอ่ื งชง่ั มา ‚เอ้า...เจา้ ขึ้นชัง่ นํ้าหนักซิ เจ้ามนี ้ําหนกั เท่าไหร่ เราจะเอาใหเ้ ทา่ นัน้ นะ‛ ชายหนุม่ ก็ขน้ึ ชง่ั พญาแถนก็คิดคํานานดูวา่ เทา่ ไหรแ่ ลว้ ก็บอกกับชายคนนน้ั ว่า ‚โอ ข้าวของทเี่ ราเก็บไว้หา้ พันพรรษา เรากจ็ ะได้มอบให้เจา้ เจ้านีช่ าตกิ ่อนได้สร้างบญุ ไว้
๔๑ มากมายนกั ชาตนิ เ้ี จา้ มาขนเอาของๆ เจา้ กลบั ไป‛ ชายหนุม่ คนนีก้ ็ขนทรพั ย์สมบตั กิ ลบั ไปบา้ นตนเองพรอ้ มกับจูงเมยี สาวงามกลบั ไปด้วย ทนี ้ี สหายสนิทก็มาหาชายคนนี้ทีบ่ า้ น กม็ าเหน็ ทรัพย์สมบตั พิ รอ้ มกับเมยี ทีง่ ามงดก็เลยเอย่ ถามเพือ่ นตนว่า ‚นสี่ หาย เจ้าไปเอาทรัพย์สมบตั ชิ ้างมา้ ววั ควาย ทรัพยส์ งิ่ ของเหล่านี้มาจากไหน พรอ้ มกบั ได้ สาวงามปานนางฟ้าน้ีไดม้ าอย่างไร” ชายหนุม่ ก็บอกตามทเ่ี ปน็ มานน้ั มนั ก็ไปทถ่ี ้าํ ทองทา้ วแถนอยนู่ น้ั มนั ก็ไปหาพระยาแถนทาํ เหมือนทส่ี หายของตนนน้ั บอกทุกอย่าง พระยาแถนกบ็ อกว่า
๔๒ ‚เออ มแี กว้ แหวนแสนสงิ่ ให้ แต่ว่าการที่จะให้นนั้ สดุ แต่เจ้านัน้ ได้สรา้ งวาสนามานะจะให้มากให้นอ้ ย นั้นเราไมร่ ู้แลว้ แตบ่ ญุ ทเ่ี จา้ ทํามาตงั้ แต่ชาตปิ างก่อนนะ เอ้า...จะเอาอะไรก่อน‛ ‚ผมจะเอาเมยี ก่อนครับ‛ พระยาแถนก็เอาด้ายมาใหเ้ ลอื กชายคนแรก ชายคนทส่ี องกเ็ ลอื กเอาอยา่ งจรงิ จงั จนครบสามวนั ชายคนทส่ี องนน้ั กส็ าวดา้ ยมาดู ชายคนทส่ี องน้นั ถึงกับตะลึงในความงามของนางอย่างหาท่ีสดุ ไมไ่ ด้ ทง้ั ฟัน เหยนิ แถมบางซ่รี ่วงดว้ ย ผวิ นนั้ เหมือนกับนํ้าป่าทไี่ หล หลากจากดอยและเหลือซากเอาไว้ ขาท้งั สองข้างไม่เทา่ กนั อีกตา่ งหาก ตาของนั้นเปน็ ประกายวาวแววแต่ตา ดําทั้งสองขา้ งมารวมกันทห่ี ัวตา หดู งั่ ช้างสาร รจู มูกเหมือกับถา้ํ คูหาทองแหง่ น้ีทีก่ ว้างโอโ่ ถง อ้วนตํา่ เนอ้ื
๔๓ แน่นเหมอื นโคถกึ ชายคนที่สองนหี้ ันมาหาพระยาแถนทันทีแล้วกล่าวว่า ‚ทําไมของเพอ่ื นผมนัน้ ถงึ สวยปานนางฟา้ อย่างนนั้ นะ‛ ‚อันน้ัน เขาไดร้ กั ษาศีลห้าศีลแปด เขาได้เมียงามเขามวี าสนาดี สว่ นเจ้ามนั มาเทา่ น้แี หละ อนั นตี้ วั โบราณกรรมของเจ้า ชาติก่อนเจา้ ได้ถวายทานขา้ วเยน็ แกงบดู มา พวกเจา้ ได้มาเจอกันก็ยอมรบั กันไป เสียเถอะ‛ ‚แลว้ เงินทองละทา่ น‛ ‚จะเอาเงนิ ทองดว้ ยหรอ‛
๔๔ พญาแถนก็ใหช้ ายคนนีข้ ้ึนนั่งบนตาชั่งแล้วก็เอาแกว้ แหวนเงนิ ทองเขา้ ถ่วงอีกด้าน เมอื่ เอาแกว้ แหวนเงนิ ทองข้นึ วา่ งเคร่อื งชงั่ กเ็ ดง้ อีกด้านขึ้นชายคนนเ้ี กือบจะกระเด็น เม่อื พญาแถนถว่ งดูนํ้าหนักอย่างนัน้ แล้วกเ็ อา ทองแกว้ แหวนออกทลี ะนิดเพือ่ ทจี่ ะได้ถ่วงและสมดลุ กนั กบั ชายคนนี้ หยบิ ออกๆ จนพญาแถนเอ่ยขึน้ ว่า ‚โอ้ ทําไมมนั เบาเชน่ นี้‛ ‚ทาํ ไมเราได้ทรัพยส์ นิ เงนิ ทองนอ้ ยๆๆๆๆๆๆ จงั ละท่าน เพื่อนของเรานั้นทาํ ไมมนั ได้มากๆๆๆๆ ขนาดนนั้ ละ ท่านลําเอียงรึเปล่า‛
๔๕ ‚เจา้ นเ่ี มื่อชาติปางก่อนนนั้ ไมไ่ ดส้ รา้ งคุณงามความดี ไม่ทําตนใหเ้ ป็นประโยชน์กบั บา้ นเมือง ไม่ทาํ บญุ เข้าวดั เขา้ วาฟงั พระธรรมคาํ สอน เหน็ แกต่ วั ชอบลักขโมยของคนอื่น เขา ลกั เล่นชสู้ ู่เมียท่าน สว่ นของเจา้ ทไี่ ด้น้นั เอา้ ...เอาไปทองคาํ ได้เทา่ บญุ ที่เจ้าสงั่ สมมานะขนาดเทา่ เมด็ ผกั กาด‛ นทิ านเรอ่ื งนีก้ ็สอนใหร้ วู้ า่ เหน็ คนอน่ื มง่ั มีก็อยา่ งไดอ้ ยา่ โลภเอาของเขา เหน็ คนอน่ื ตกตาํ่ ก็ อยา่ ได้ดูหมิ่นดแู คลนเขา
๔๖
Search