คู่มือ ความปลอดภัย ในการทำงาน สำ ห รั บ พ นั ก ง า น แ ล ะ ผู้ รั บ เ ห ม า บริษัท ไนซ์ แอพพาเรล จำกัด NICE APPAREL CO.,LTD. SAFETY FIRST KEEP YOUR WORKPLACE SAFE
คำนำ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และส่ิงแวดลอ้ มในการทางานเป็นความปรารถนาอย่าง ย่ิงของบริษทั ฯ เพราะบริษทั ฯ ตระหนักดีว่า “บุคลากรคือทรัพยากรที่มีคุณค่าสูงสุด” ดงั น้นั งานดา้ นความปลอดภยั อาชีวอนามยั และส่ิงแวดลอ้ ม จึงเป็นส่วนหน่ึงของเป้าหมาย ในการดาเนินธุรกิจของแต่ละปี โดยที่คณะกรรมการบริหารของบริษทั ฯ ไดม้ ีเจตนารมณ์ อย่างแน่วแน่ที่จะส่งเสริม และสร้างสรรค์ให้มีการทางานท่ีดี ดงั จะเห็นไดจ้ ากการจดั ทา แผนงานความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสิ่งแวดลอ้ มในการทางาน ในแต่ละปี โดยที่คณะ ผบู้ ริหารไดใ้ หค้ วามสาคญั ดา้ นงบประมาณอยา่ งต่อเนื่อง การจดั ทาคู่มือความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสิ่งแวดลอ้ มในการทางานน้ี เป็ น มาตรการสาคญั อนั หน่ึง ที่มุ่งหวงั จะใหเ้ ป็นเครื่องมือในการบริหารงานดา้ นความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสิ่งแวดลอ้ ม เพื่อให้บรรลุสมดงั เจตนารมณ์ดงั กล่าวขา้ งตน้ ทุกคนตอ้ ง นาไปปฏิบตั ิอยา่ งจริงจงั คู่มือความปลอดภยั อาชีวอนามยั และส่ิงแวดลอ้ มในการทางานฉบบั น้ีถือไดว้ ่าเป็น กรอบในการปฏิบตั ิงานใหเ้ กิดความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสิ่งแวดลอ้ มในการทางานท่ี ดี ขอใหพ้ นกั งานทุกท่านไดต้ ระหนกั และเรียนรู้อย่างถ่องแท้ หากมีขอ้ สงสัยให้สอบถาม หวั หนา้ งาน หรือผบู้ งั คบั บญั ชา เพื่อความกระจ่างชดั เจนและสามารถนาไปปฏิบตั ิไดอ้ ยา่ ง ถูกตอ้ ง ในอนั ท่ีจะนามาซ่ึงความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสิ่งแวดลอ้ มในการทางานท่ีดี ของพนกั งานและทรัพยส์ ินของบริษทั ฯ ตลอดไป หน่วยงานความปลอดภยั
สำรบญั 1-2 นโยบายความปลอดภยั อาชีวอนามยั 3 และสิ่งแวดลอ้ มในการทางาน 4 บญั ญตั ิ 10 ประการเกี่ยวกบั ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และส่ิงแวดลอ้ มในการทางาน 5 5 กิจกรรมพ้ืนฐานความปลอดภยั 6 อาชีวอนามยั และสิ่งแวดลอ้ มในการทางาน 7-9 9 - 10 ความปลอดภยั - สาเหตุของการเกิดอุบตั ิเหตุ 11 - 13 - ผลของการเกิดอุบตั ิเหตุ - สญั ลกั ษณ์และความหมายที่เก่ียวกบั ความปลอดภยั 14 - สัญลกั ษณ์และเครื่องหมายแสดงสิ่งตอ้ งหา้ มสาหรับ 15 อาณาบริเวณเฉพาะส่วน 16 - สญั ลกั ษณ์และเครื่องหมายอาณาบริเวณท่ีตอ้ งใช้ 17 ป้ายอนั ตรายส่วนบุคคล 18 - 19 - สัญลกั ษณ์และเคร่ืองหมายฉุกเฉิน 20 - ความปลอดภยั ในการทางานเก่ียวกบั เครื่องจกั ร - ความปลอดภยั ในการใชเ้ ครื่องจกั รป๊ัมกระดุม - ความปลอดภยั ในการใชอ้ ุปกรณ์ไฟฟ้า - ความปลอดภยั ในการทางานเกี่ยวกบั สารเคมี - ความปลอดภยั ในการทางานเก่ียวกบั การยกและ เคลื่อนยา้ ยวสั ดุส่ิงของ
- ความปลอดภยั ในการขนยา้ ยส่ิงของดว้ ยรถเขน็ งาน 21 หรือรถลากงาน 21 - 22 - ความปลอดภยั ในการทางานบนท่ีสูง 22 - ความปลอดภยั ในการใชบ้ นั ไดในการทางาน 23 - ความปลอดภยั ในการทางานดา้ นงานเช่ือมโลหะดว้ ย 24 เคร่ืองเชื่อมกา๊ ซ 25 - ความปลอดภยั ในการใชล้ ิฟท์ 25 - 26 - ความปลอดภยั ในการใชข้ องมีคม (มีดคตั เตอร์) 26 - 27 - ความปลอดภยั ในการใชก้ รรไกรตดั เศษดา้ ย 27 - ความปลอดภยั ในการใชร้ ถโฟคลิฟท์ - การ์ดที่ใชป้ ้องกนั อนั ตรายจากเครื่องจกั ร 28 29 สามารถแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 3 ประเภท 30 - ความปลอดภยั ในสานกั งาน 31 - ความปลอดภยั ในการทางานหนา้ จอคอมพิวเตอร์ 32 - 35 - ความปลอดภยั ในการใชเ้ ครื่องถา่ ยเอกสาร 34 - ความปลอดภยั สาหรับผรู้ ับเหมา 35 - 36 - การป้องกนั อคั คีภยั และระงบั อคั คีภยั - การใชส้ ัญญาณเหตุฉุกเฉิน 37 - การปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้ 37 - 38 38 - 40 อาชีวอนามยั 41 – 44 - โรคปอดจากการทางาน - ดวงตากบั การทางาน - การจดั ท่าทางอยา่ งไรใหเ้ หมาะสมกบั การทางาน
- วิธีปฏิบตั ิงานกบั สารตวั ทาลาย 45 - 46 - โรคประสาทหูเส่ือมจากการประกอบอาชีพ 47 - 48 ส่ิงแวดลอ้ มในการทางาน 49 - การปฏิบตั ิดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม 49 - การตรวจวเิ คราะห์ดา้ นกายภาพดว้ ยเคร่ืองมือทาง 49 - 53 สุขศาสตร์อุตสาหกรรม
บริษทั ไนซ์ แอพพำเรล จำกดั 1 นโยบำยคุณภำพ ส่ิงแวดล้อม อำชีวอนำมัยและควำมปลอดภยั บริษทั ไนซก์ รุ๊ป โฮลดิ้งคอร์ป จากดั และบริษทั ในเครือทุกแห่ง ดาเนินธุรกิจดา้ นการผลิตเส้ือผา้ กีฬาเพ่อื การส่งออก มคี วามตระหนกั ถึงความสาคญั ของระบบบริหารงานดา้ นคุณภาพ สิ่งแวดลอ้ ม อาชีวอนามยั และความปลอดภยั จึงไดจ้ ดั ต้งั ระบบการบริหารงานดา้ นดงั กล่าว โดยผบู้ ริหารระดบั สูง และพนกั งานทุกคนมีความมุ่งมนั่ ท่ีจะปฏิบตั ิตามนโยบายคุณภาพ สิ่งแวดลอ้ ม อาชีวอนามยั และความ ปลอดภยั ดงั น้ี 1. บริษทั จะสรรสร้างคุณค่าสู่ผมู้ ีส่วนร่วมไดแ้ ก่ คู่คา้ พนกั งาน ชุมชนและผถู้ ือหุน้ ภายใตน้ โยบายโดยยอ่ ดา้ นคุณภาพ ส่ิงแวดลอ้ ม อาชีวอนามยั และความปลอดภยั ซ่ึงเรียงร้อยเป็นคาขวญั ที่วา่ “ลูกค้ำพงึ พอใจ ผลติ ภัณฑ์ได้มำตรฐำน ส่งมอบงำนตรงเวลำ พฒั นำอย่ำงต่อเน่ือง ไม่ลืมเร่ืองรักษ์สิ่งแวดล้อม ถงึ พร้อมแรงงำนปลอดภัย ใส่ใจสุขภำพอนำมยั ท้งั องค์กร” 2. บริษทั จะปฏิบตั ิตามกฎหมายและขอ้ กาหนดต่างๆ ทางดา้ นคุณภาพ ส่ิงแวดลอ้ ม อาชีวอนามยั และความปลอดภยั ท่ีเก่ียวขอ้ ง ท้งั กฎหมายภายในประเทศและกฎหมายระหวา่ งประเทศ รวมถึง ขอ้ กาหนดอ่ืนๆที่เก่ียวขอ้ ง เช่น ขอ้ กาหนดของลูกคา้ ขอ้ กาหนดฉลากเขียวของประเทศไทย เป็นตน้ 3. บริษทั จะรณรงค์ สร้างจิตสานึก ใหค้ วามรู้และเผยแพร่นโยบายเกี่ยวกบั การจดั การดา้ นคุณภาพ สิ่งแวดลอ้ ม อาชีวอนามยั และความปลอดภยั ใหแ้ ก่พนกั งาน หวั หนา้ งาน ผบู้ ริหาร รวมถึงผทู้ ่ี ทางานภายใตก้ ารควบคุมขององคก์ ร ใหด้ าเนินงานภายใตน้ โยบายดงั กล่าวของบริษทั ฯ 4. บริษทั จะส่งเสริมใหพ้ นกั งานมีส่วนร่วมในการอนุรักษพ์ ลงั งาน และการใชท้ รัพยากรต่างๆใหเ้ กิด ประโยชนอ์ ยา่ งคุม้ ค่า โดยกาหนดค่าช้ีวดั หลกั 3 ขอ้ คือ 4.1) การลดการใชพ้ ลงั งาน (Energy Conservation) 4.2) การลดปริมาณขยะ (Waste Reduction) 4.3) การลดการใชน้ ้า (Water Reduction) 5. บริษทั จะส่งเสริมการจดั ซ้ือวตั ถุดิบ วสั ดุอุปกรณ์ เครื่องใชไ้ ฟฟ้า เคร่ืองใชส้ านกั งาน และสิ่งอานวย ความสะดวกต่างๆที่เป็นมิตรกบั ส่ิงแวดลอ้ ม เช่น สินคา้ ฉลากเขียว อุปกรณ์ไฟฟ้าประหยดั ไฟเบอร์5 ฯลฯ ท้งั น้ีเพอื่ ใหม้ ีผลกระทบต่อสิ่งแวดลอ้ มนอ้ ยท่ีสุด
2 6. บริษทั จะจดั ใหม้ ีการป้องกนั มลพษิ ดา้ นสิ่งแวดลอ้ มที่อาจเกิดข้ึนจากของเสียอนั ตราย หรือจากการใช้ ทรัพยากรต่างๆ ในระหว่างการดาเนินธุรกิจ โดยพจิ ารณานาไปจดั ทาเป็นวตั ถุประสงคแ์ ละ เป้าหมายเพ่ือนาไปปฏิบตั ิและทบทวนอยา่ งต่อเน่ือง 7. บริษทั จะจดั ใหม้ ีการป้องกนั อนั ตรายที่เกิดจากการทางาน เช่น จากการใชไ้ ฟฟ้า จากการใชส้ ารเคมี และการเจบ็ ป่ วยจากโรคจาการทางาน เป็นตน้ โ ดยจะพิจารณานาไปจดั ทาเป็นวตั ถุประสงคแ์ ละ เป้าหมาย เพอ่ื นาไปปฏิบตั ิและทบทวนอยา่ งต่อเน่ือง 8. บริษทั จะจดั ใหม้ ีสภาพแวดลอ้ มการทางานที่ปลอดภยั พร้อมท้งั จดั สรรอุปกรณ์ป้องกนั อนั ตรายส่วน บุคคล (PPE : Personnel Protective Equipment) ใหก้ บั พนกั งานตามแต่ลกั ษณะความเสี่ยงของงาน และส่งเสริมใหม้ ีการใชอ้ ุปกรณ์ดงั กล่าว เพอื่ ปกป้องคุม้ ครองพนกั งานจากอนั ตรายและโรคจากการ ทางาน 9. บริษทั จะสร้างเสริมความสมั พนั ธอ์ นั ดีต่อรัฐบาล ชุมชน รวมถึงหน่วยงานอ่ืนท่ีเก่ียวขอ้ ง โดยใหก้ าร สนบั สนุนและเขา้ มีส่วนร่วมในกิจกรรม เพ่ือการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม
3 บญั ญตั ิ 10 ประกำรเกย่ี วกบั ควำมปลอดภัย อำชีวอนำมยั และสิ่งแวดล้อมในกำรทำงำน 1. ปฏิบตั ิตามกฎ ขอ้ บงั คบั เคร่ืองหมาย ป้ายสญั ลกั ษณ์ ต่าง ๆ อยา่ งเคร่งครัด 2. ตอ้ งจดั การสวมใส่อุปกรณ์ป้องกนั อนั ตรายส่วนบุคคลใหถ้ ูกตอ้ งครบถว้ น เหมาะสมกบั งานและตอ้ งไม่ถอดอุปกรณ์ป้องกนั อนั ตรายทุกชนิดของเคร่ือง จกั รออกในขณะปฏิบตั ิงาน 3. หา้ มนาอาหาร เคร่ืองด่ืม มาเกบ็ หรือรับประทานภายในสถานท่ีปฏิบตั ิงาน รวมท้งั บริเวณที่มีสารเคมี 4. หา้ มสูบบุหร่ีในท่ีหา้ มสูบ ตอ้ งสูบในพ้ืนท่ีท่ีจดั ใหเ้ ท่าน้นั และดบั ไฟกน้ บุหรี่หลงั การสูบใหส้ นิทก่อนทิ้ง 5. หา้ มวางส่ิงของกีดขวางถงั ดบั เพลิง ทางหนีไฟ ทางออกฉุกเฉิน รวมท้งั ลอ็ คประตู ทางออกฉุกเฉิน โดยเดด็ ขาด 6. รักษาความสะอาดของพ้ืนท่ีปฏิบตั ิงานใหส้ ะอาดตลอดเวลา และเกบ็ รักษา เคร่ืองมืออปุ กรณ์ในการทางานใหเ้ ป็นสดั ส่วน และเป็นระเบียบเรียบร้อย 7. หา้ มหยอกลอ้ หรือกวนใจผอู้ ื่นขณะปฏิบตั ิงาน 8. การยกของหนกั ตอ้ งมีคนช่วยและยกใหถ้ ูกวธิ ี 9. หา้ มซ่อมแซมหรือปฏิบตั ิงานท่ีเก่ียวขอ้ งกบั เคร่ืองจกั ร หรือสารเคมีโดยไม่มี หนา้ ที่เกี่ยวขอ้ ง 10. เมื่อเกิดอุบตั ิเหตุหรือพบวา่ อุปกรณ์เครื่องจกั ร เครื่องใชต้ ่าง ๆ ชารุดอนั อาจจะ ทาใหเ้ กิดอนั ตรายตอ้ งแจง้ ใหห้ วั หนา้ งานหรือเจา้ หนา้ ที่ความปลอดภยั ในการ ทางาน (จป.) ทราบทนั ที
4 กจิ กรรมพืน้ ฐำนควำมปลอดภัย อำชีวอนำมัย และสิ่งแวดล้อมในกำรทำงำน กำรดำเนินกจิ กรรม 6 ส. 6 ส. สะสาง สะดวก สะอาด สร้างกติกา สม่าเสมอ สร้างความปลอดภยั เป็นพ้นื ฐาน ของการปฏิบตั ิงานควบคู่ไปกบั ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และส่ิงแวดลอ้ มในการทางาน สถานท่ีปฏิบตั ิงานท่ีอยดู่ ีมีระเบียบ สะอาดตาจะช่วยใหก้ ารปฏิบตั ิงานเป็นไปอยา่ งสะดวก และง่ายยงิ่ ข้ึน สะสำง การแยกใหช้ ดั เจนระหวา่ งของท่ีจาเป็นตอ้ งใช้ กบั สิ่งของที่ ไม่จาเป็นตอ้ งใช้ ขจดั สิ่งไม่จาเป็นทิ้งไป สะดวก การจดั วางส่ิงของที่จาเป็นตอ้ งใชใ้ หเ้ ป็นระเบียบ สามารถหยบิ ฉวยใชง้ านไดท้ นั ที สะดวก สะอำด การทาความสะอาดสถานท่ีทางาน เคร่ืองจกั รอุปกรณ์พร้อม ท้งั การตรวจสอบ และกาจดั สาเหตุของความไม่สะอาด สร้ำงกตกิ ำ การรักษามาตรฐานการปฏิบตั ิ 3 ส. แรกท่ีดีไวแ้ ละท่ีสาคญั ในข้นั น้ีคือ การป้องกนั ไม่ใหเ้ กิดความสกปรกรวมท้งั รักษา มาตรฐานสุขอนามยั ที่ดี สม่ำเสมอ ปฏิบตั ิ 4 ส. แรกจนเป็นนิสัยและมีวนิ ยั ในการทางาน สร้ำงเสริมควำมปลอดภัย การปรับปรุงและการพฒั นางานดา้ นความปลอดภยั ใหม้ ีความกา้ วหนา้ มน่ั คงสูงสุดภายใตห้ ลกั ของ กฎหมายและมาตรฐานอ่ืนๆ
5 ควำมปลอดภัย สำเหตุของกำรเกดิ อุบตั ิเหตุ 1. เกิดจากการกระทาท่ีไม่ปลอดภยั - ใชเ้ ครื่องจกั ร,เครื่องมือ,อุปกรณ์โดยพลการ ไม่มีหนา้ ท่ีเกี่ยวขอ้ งและไม่มีความรู้ - ซ่อมแซม หรือบารุงรักษาเคร่ืองจกั รในขณะเครื่องจกั รทางานอยู่ - ถอดอุปกรณ์ป้องกนั อนั ตรายออกจากเครื่องจกั ร - หยอกลอ้ เล่นกนั ขณะปฏิบตั ิงาน - ไม่สวมอุปกรณ์ป้องกนั อนั ตรายส่วนบุคคล - การปฏิบตั ิงานที่รีบเร่ง ลดั ข้นั ตอน ขาดความระมดั ระวงั - ดื่มสุรา ของมึนเมา ใชส้ ่ิงเสพติดขณะทางาน 2. เกิดจากสภาพการทางานที่ไม่ปลอดภยั - เครื่องจกั รไม่มีอปุ กรณ์ป้องกนั อนั ตราย หรือมีแต่ไม่แขง็ แรง - สภาพพ้นื ที่ทางานขรุขระหรือต่างระดบั - การจดั วางส่ิงของไม่เป็นระเบียบ กีดขวางทางเดินหรือทางหนีไฟ - เคร่ืองมือ – เคร่ืองจกั รอุปกรณ์ชารุด 3. เกิดจากสภาพการณ์ท่ีไม่สามารถควบคุมได้ - พายุ - น้าท่วม - ฟ้าผา่
6 ผลของกำรเกิดอบุ ัตเิ หตุ 1. ผลกระทบต่อพนกั งาน - ไดร้ ับความเจบ็ ปวดจากการบาดเจบ็ - สูญเสียอวยั วะหรือเงินทอง 2. ผลกระทบต่อครอบครัวพนกั งาน - ทาใหข้ าดรายไดเ้ พ่อื ใชจ้ ่ายภายในครอบครัว หากทุพพลภาพ - สมาชิกในครอบครัวเดือดร้อน กรณีเสียชีวติ 3. ผลกระทบต่อบริษทั ฯ - ทาใหก้ ารผลิตหยดุ ชะงกั - บริษทั ฯ หรือพนกั งานสูญเสียบุคลากร - เคร่ืองจกั ร อปุ กรณ์ วตั ถดุ ิบเสียหาย - พนกั งานเสียขวญั กาลงั ใจในการทางาน
สัญลกั ษณ์และควำมหมำยทเ่ี กย่ี วกบั ควำมปลอดภัย 7 สญั ลกั ษณ์และเคร่ืองหมายเตือนภยั น้ี จะถูกติดต้งั ไวต้ ามพ้ืนที่ต่าง ๆ ภายใน โรงงาน เพ่ือใหพ้ นกั งานทราบวา่ บริเวณท่ีติดเคร่ืองหมายน้ีจะเป็นพ้ืนที่อนั ตราย การท่ีจะผา่ นหรือเขา้ ไปในพ้ืนท่ีอนั ตรายน้ีจะตอ้ งระมดั ระวงั และถา้ หลีกเล่ียง ไดก้ ค็ วรจะหลีกเล่ียง เพราะจะทาใหเ้ กิดความปลอดภยั 1. สญั ลกั ษณ์และเครื่องหมายเตือนภยั ของอาณาบริเวณเฉพาะสาหรับวตั ถมุ ีพิษ สัญลกั ษณ์เคร่ืองหมำย เตือนภยั บริเวณวตั ถุมพี ษิ 2. สญั ลกั ษณ์และเคร่ืองหมายเตือนภยั ของอาณาบริเวณเฉพาะสารที่ก่อใหเ้ กิดการระเบิด สัญลกั ษณ์เครื่องหมำย เตือนภยั บริเวณทก่ี ่อให้เกดิ กำรระเบิด 3. สญั ลกั ษณ์และเครื่องหมายเตือนภยั ของอาณาบริเวณเฉพาะประเภทสารติดไฟ สัญลกั ษณ์เครื่องหมำย เตือนภัยบริเวณสำรติดไฟ 4. สัญลกั ษณ์และเครื่องหมายเตือนภยั ของอาณาบริเวณเฉพาะสารกดั กร่อน สัญลกั ษณ์เคร่ืองหมำย เตือนภยั บริเวณสำรกดั กร่อน 8
5. สญั ลกั ษณ์และเครื่องหมายเตือนภยั ของอาณาบริเวณเฉพาะประเภทสารจาพวกท่ี ก่อใหเ้ กิดการติดไฟ สัญลกั ษณ์เคร่ืองหมำย เตือนภยั บริเวณสำรทก่ี ่อให้เกดิ กำรติดไฟ 6. สัญลกั ษณ์และเครื่องหมายเตือนภยั ของอาณาบริเวณเฉพาะใหร้ ะวงั รถยก สัญลกั ษณ์เครื่องหมำย เตือนภัยบริเวณให้ระวงั !รถยก 7. สัญลกั ษณ์และเคร่ืองหมายเตือนภยั ของอาณาบริเวณเฉพาะส่วนระวงั !ของหนกั ขา้ งบน สัญลกั ษณ์เคร่ืองหมำย เตือนภัยบริเวณระวงั !ของหนักข้ำงบน 8. สญั ลกั ษณ์และเคร่ืองหมายเตือนภยั ของอาณาบริเวณเฉพาะส่วนอนั ตรายจาก กระแสไฟฟ้า สัญลกั ษณ์เครื่องหมำย เตือนภยั บริเวณอนั ตรำยจำกกระแสไฟฟ้ำ 9
9. สญั ลกั ษณ์และเคร่ืองหมายเตือนภยั ของอาณาบริเวณเฉพาะส่วนอนั ตราย สัญลกั ษณ์เคร่ืองหมำย เตือนภัยบริเวณอนั ตรำย 10. สญั ลกั ษณ์และเคร่ืองหมายเตือนภยั ของอาณาบริเวณอนั ตรายจากสาร กมั มนั ตรังสี สัญลกั ษณ์เครื่องหมำย เตือนภยั บริเวณกมั มันตรังสี สัญลกั ษณ์และเครื่องหมำยแสดงสิ่งต้องห้ำมสำหรับอำณำบริเวณเฉพำะส่วน เป็นสัญลกั ษณ์และเคร่ืองหมาย แสดงถึงสิ่งตอ้ งหา้ ม ขอ้ หา้ มในอาณาบริเวณเฉพาะส่วน ฉะน้นั พนกั งานที่พบเคร่ืองหมายเหล่าน้ีจะตอ้ งปฏิบตั ิตามความหมายในรูปสัญลกั ษณ์หา้ ม เฉพาะส่วนอยา่ งเคร่งครัดเพ่อื ความปลอดภยั 1. สญั ลกั ษณ์และเคร่ืองหมายแสดงสิ่งตอ้ งหา้ ม สาหรับอาณาบริเวณเฉพาะประเภทส่วน หา้ มใชด้ ื่ม เม่ือเห็นสญั ลกั ษณ์ให้ทราบวา่ น้าก๊อกในบริเวณน้ีหา้ มใชด้ ื่ม สัญลกั ษณ์เครื่องหมำย ห้ำมดื่มนำ้ จำกก๊อก 2. สัญลกั ษณ์และเครื่องหมายแสดงส่ิงตอ้ งหา้ ม สาหรับอาณาบริเวณเฉพาะส่วน ประเภท หา้ มสูบบุหรี่ เมื่อเห็นสญั ลกั ษณ์ใหท้ ราบว่า ในบริเวณน้ีหา้ มสูบบุหรี่ 3. 10 สัญลกั ษณ์เคร่ืองหมำยห้ำมสูบบุหรี่
4. สัญลกั ษณ์และเครื่องหมายแสดงส่ิงตอ้ งหา้ ม สาหรับอาณาบริเวณเฉพาะส่วน ประเภท หา้ มหา้ มเดินผา่ น เม่ือเห็นสัญลกั ษณ์ใหท้ ราบวา่ หา้ มเดินผา่ น สัญลกั ษณ์เคร่ืองหมำย ห้ำมเดนิ ผ่ำน 5. สญั ลกั ษณ์และเครื่องหมายแสดงสิ่งตอ้ งหา้ ม สาหรับอาณาบริเวณเฉพาะส่วน ประเภท หา้ มเขา้ เม่ือเห็นสัญลกั ษณ์ใหท้ ราบว่า หา้ มเขา้ สัญลกั ษณ์เคร่ืองหมำย ห้ำมเข้ำ 6. สญั ลกั ษณ์และเครื่องหมายแสดงส่ิงตอ้ งหา้ ม สาหรับอาณาบริเวณเฉพาะส่วน ประเภท หา้ มจุดประกายไฟเมื่อเห็นสัญลกั ษณ์ใหท้ ราบวา่ หา้ มทาสิ่งใดๆ ใหเ้ กิด ประกายไฟเป็นเดด็ ขาด สัญลกั ษณ์เคร่ืองหมำย ห้ำมจุดประกำยไฟ 11 สัญลกั ษณ์และเคร่ืองหมำยอำณำบริเวณทต่ี ้องใช้ป้ำยอนั ตรำยส่วนบุคคล
พ้นื ที่ต่าง ๆ ภายในโรงงานขณะที่มีการปฏิบตั ิงาน อาจจะมีการตกหลน่ การฟุ้งกระจาย หรือเกิดแกส๊ พิษ ฉะน้นั พนกั งานหรือผเู้ ยย่ี มชมโรงงานในอาณาบริเวณ ท่ีตอ้ งใชเ้ คร่ืองป้องกนั อนั ตรายส่วนบุคคล จะตอ้ งปฏิบตั ิตามเครื่องหมายต่อไปน้ี อยา่ งเคร่งครัด 1. สัญลกั ษณ์และเครื่องหมายสาหรับอาณาบริเวณท่ีตอ้ งใชเ้ คร่ืองป้องกนั อนั ตราย ส่วนบุคคลประเภทป้องกนั ศีรษะ คือ หมวกนิรภยั สัญลกั ษณ์น้ีจะบอกใหพ้ นกั งาน หรือเจา้ หนา้ ท่ีเขา้ ไปในบริเวณที่มีป้ายน้ีทราบวา่ จะตอ้ งสวมหมวกนิรภยั เสียก่อน จึงจะผา่ นเขา้ ไปได้ สัญลกั ษณ์เครื่องหมำย ต้องสวมหมวกนิรภัย 2. สญั ลกั ษณ์และเคร่ืองหมายสาหรับอาณาบริเวณที่ตอ้ งใชเ้ ครื่องป้องกนั อนั ตราย ส่วนบุคคลประเภทป้องกนั ดวงตา คือ สวมแวน่ ตา สัญลกั ษณ์น้ีจะบอกใหพ้ นกั งาน หรือเจา้ หนา้ ท่ีเขา้ ไปในบริเวณที่มีป้ายน้ีทราบวา่ จะตอ้ งสวมแวน่ ตาเพอ่ื ความ ปลอดภยั ของดวงตา สัญลกั ษณ์เครื่องหมำย ต้องสวมแว่นตำ 12 3. สญั ลกั ษณ์และเครื่องหมายสาหรับอาณาบริเวณที่ตอ้ งใชเ้ ครื่องป้องกนั อนั ตราย
ส่วนบุคคลประเภทป้องกนั มือ คือ สวมถุงมือ สัญลกั ษณ์น้ีจะบอกใหพ้ นกั งาน ท่ีทางานในบริเวณท่ีมีป้ายน้ีทราบวา่ จะตอ้ งสวมถงุ มือทุกคน สัญลกั ษณ์เครื่องหมำย ต้องสวมถุงมือ 4. สญั ลกั ษณ์และเคร่ืองหมายสาหรับอาณาบริเวณท่ีตอ้ งใชเ้ คร่ืองป้องกนั อนั ตราย ส่วนบุคคลท่ีเกิดจากการสูดดมเขา้ ไปทางระบบหายใจคือ เคร่ืองช่วยหายใจ สัญลกั ษณ์น้ีจะบอกใหพ้ นกั งานที่ทางานในบริเวณที่มีป้ายน้ีทราบวา่ จะตอ้ งสวมเคร่ืองช่วย หายใจทุกคร้ัง สัญลกั ษณ์เครื่องหมำย ต้องสวมเครื่องช่วยหำยใจ 5. สัญลกั ษณ์และเครื่องหมายสาหรับอาณาบริเวณที่ตอ้ งใชเ้ ครื่องป้องกนั อนั ตราย ส่วนบุคคลประเภทป้องกนั หู คือ เคร่ืองป้องกนั เสียง สญั ลกั ษณ์น้ีจะบอกใหพ้ นกั งาน ท่ีทางานในบริเวณท่ีมีป้ายน้ีทราบวา่ จะตอ้ งสวมเครื่องป้องกนั เสียง มิฉะน้นั จะทาให้ หูเป็นอนั ตรายได้ สัญลกั ษณ์เคร่ืองหมำย ต้องสวมเคร่ืองป้องกันเสียง 13
6.สญั ลกั ษณ์และเครื่องหมายสาหรับอาณาบริเวณท่ีตอ้ งใชเ้ ครื่องป้องกนั อนั ตรายส่วน บุคคลประเภทป้องกนั เทา้ คือ รองเทา้ บู๊ต สญั ลกั ษณ์น้ีจะบอกให้ พนกั งานที่ทางานในบริเวณท่ีมีป้ายน้ีทราบวา่ จะตอ้ งสวมรองเทา้ บู๊ต สัญลกั ษณ์เคร่ืองหมำย ต้องสวมรองเท้ำ 6. สัญลกั ษณ์และเครื่องหมายสาหรับอาณาบริเวณที่ตอ้ งใชเ้ คร่ืองป้องกนั อนั ตราย ส่วนบุคคลประเภทป้องกนั ใบหนา้ คือ หนา้ กากเชื่อม สัญลกั ษณ์น้ีจะบอกให้ พนกั งานท่ีทางานในบริเวณที่มีป้ายน้ีทราบวา่ จะตอ้ งสวมหนา้ กาก สัญลกั ษณ์เครื่องหมำย ต้องสวมหน้ำกำกเชื่อม 7. สัญลกั ษณ์และเคร่ืองหมายสาหรับอาณาบริเวณที่ตอ้ งใชเ้ คร่ืองป้องกนั อนั ตราย ส่วนบุคคลประเภทป้องกนั ฝ่ นุ ละอองเขา้ ทางปาก/จมูก คือ หนา้ กากกนั ฝ่ นุ สญั ลกั ษณ์ น้ีจะบอกใหพ้ นกั งานที่ทางานในบริเวณที่มีป้ายน้ีทราบวา่ จะตอ้ งสวมหนา้ กาก สัญลักษณ์เครื่องหมำย ต้องสวมหน้ำกำกกนั ฝ่ ุน
สัญลกั ษณ์และเครื่องหมำยฉุกเฉิน 14 ในการปฏิบตั ิงานในโรงงานอตุ สาหกรรมท่ีมีคนงานมาก ๆ การควบคุมการทางานของ เคร่ืองจกั รกลต่าง ๆ อาจมีการผดิ พลาดและเป็นที่มาของการเกิดอุบตั ิเหตุและภยั พิบตั ิต่างๆ ไดเ้ ช่น นิ้วขาด,ขาขาด หรือไฟไหม้ เพ่อื ความสะดวกรวดเร็วในการขนยา้ ยผปู้ ่ วย ผบู้ าดเจบ็ และการหนีภยั ในโรงงานเม่ือเกิดภยั ข้ึนทางโรงงานจะตอ้ งมีสัญลกั ษณ์ และเครื่องหมาย ฉุกเฉินบอกเส้นทาง และสถานท่ีสาคญั ใหพ้ นกั งานทราบต่อไปน้ี สัญลกั ษณ์เคร่ืองหมำย ประตูฉุกเฉิน สัญลกั ษณ์เคร่ืองหมำย ทป่ี ฐมพยำบำล
ควำมปลอดภัยในกำรทำงำนเกยี่ วกบั เคร่ืองจกั ร 15 1. ศึกษาการทางานของเครื่องจกั รใหเ้ ขา้ ใจก่อนใชง้ าน 2. พบเครื่องจกั รชารุดอยา่ ทาการแกไ้ ขเองจะตอ้ งรีบแจง้ ใหผ้ รู้ ับผิดชอบมาทาการ ซ่อมเช่น ช่างประจาหมวด 3. เมื่อทาการซ่อม ปรับแต่งเคร่ืองจกั ร หรือทาความสะอาดเครื่องจกั ร จะตอ้ งทา การหยดุ เครื่องจกั รทุกคร้ังและมีป้ายเตือนขณะทาการซ่อมหรือทาความสะอาด และ หา้ มซ่อมหรือทาความสะอาดขณะท่ีเครื่องจกั รกาลงั ทางาน 4. ติดต้งั การ์ดป้องกนั อนั ตรายจากเคร่ืองจกั รใหเ้ รียบร้อย และหา้ มถอดการ์ดออก โดยพลการ 5. ตอ้ งทราบหรือรู้ตาแหน่งและวิธีการใชส้ วทิ ซ์หยดุ เครื่องจกั รเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน 6. ตอ้ งปิ ดสวทิ ซ์เคร่ืองจกั รทุกคร้ังหลงั เลิกใชง้ านแลว้ อยา่ ปล่อยใหเ้ คร่ืองจกั ร ทางานโดยไม่มีผคู้ วบคุม 7. เชด็ ทาความสะอาดและตรวจสอบสภาพทวั่ ไปของเครื่องจกั ร ก่อนทาการเปิ ด เครื่อง 8. สวมใส่เส้ือใหร้ ัดกมุ ในขณะปฏิบตั ิงานกบั เครื่องจกั ร หา้ มสวมใส่เส้ือผา้ รุ่มร่าม เช่น แขนเส้ือท่ีกวา้ งมาก ไม่กลดั กระดุม สวมเส้ือปล่อยชาย จะทาใหเ้ กิด อนั ตราย 9. พนกั งานท่ีไวผ้ มท้งั ผหู้ ญิงและผชู้ าย เวลาทางานจะตอ้ งรวบผมหรือมดั ให้ เรียบร้อย หรือสวมหมวกนิรภยั ปกคลมุ ผมไวใ้ หเ้ รียบร้อย 10. ตอ้ งสวมใส่อุปกรณ์ป้องกนั อนั ตรายส่วนบุคคลตามลกั ษณะของงานตลอดเวลา 11. หลงั จากปฏิบตั ิงานกบั เคร่ืองจกั รเสร็จสิ้นแลว้ ใหป้ ิ ดเคร่ืองจกั รท่ีสวิทซ์แลว้ ถอดปลกั๊ ออก
ควำมปลอดภัยในกำรใช้เครื่องจกั รป๊ัมกระดุม 16 1. เปิ ดสวทิ ซ์ไฟเคร่ืองจกั ร 2. ทดลองเหยยี บเคร่ืองจกั ร 2 - 3 คร้ังก่อนทางาน 3. วางกระดุมลงในบลอ็ คลา่ งและปรับใหต้ รงตามตาแหน่ง 4. ใส่กระดุมตวั บนใหส้ ุดและตอ้ งแน่น โดยท่ีบลอ็ กกระดุมตวั บนลอ็ คเมด็ กระดุมแลว้ 5. วางผา้ ลงตามตาแหน่งท่ีเจาะไว้ 6. กดป่ ุมเซฟต้ีลงเพยี งเลก็ นอ้ ย 7. กดแป้นเหยยี บ 1 คร้ังเท่าน้นั ข้อควรระวงั 1. จบั ผา้ ใหน้ ิ้วห่างจากบลอ็ คอยา่ งนอ้ ย 2 – 3 cm. 2. หา้ มแกไ้ ขหรือดดั แปลงระบบเซฟต้ี 3. หา้ มถอดอุปกรณ์ใด ๆ ของระบบเซฟต้ีออกอยา่ งเดด็ ขาด 4. ถา้ เครื่องผดิ ปกติทางานไม่ไดต้ ามระบบรีบแจง้ ช่างประจาแผนก หมำยเหตุ พนกั งานท่ีทางานกบั เคร่ืองจกั รปั๊มกระดุม จะตอ้ งผา่ นการฝึ กอบรมจาก หวั หนา้ งานหรือหน่วยงานการฝึกอบรมประจาบริษทั ทุกคน และปฏิบตั ิตามขอ้ กาหนดหรือวิธีการใชเ้ ครื่องป๊ัมกระดุมอยา่ งถกู ตอ้ งและเคร่งครัด
17 ควำมปลอดภัยในกำรใช้อุปกรณ์ไฟฟ้ำ 1. ตรวจอุปกรณ์ก่อนใชง้ านเสมอ เช่น ปลก๊ั สายไฟ วา่ มีร่องรอยการชารุด หรือไม่ ถา้ พบอุปกรณ์ชารุดตอ้ งรีบแจง้ หวั หนา้ งานหรือช่างประจาหมวด ทนั ที เพื่อดาเนินการแกไ้ ข 2. จบั ท่ีตวั ปลกั๊ เวลาเสียบหรือดึงออก (หา้ มจบั สายไฟดึงหรือกระชากปลกั๊ ออก) อาจจะทาใหส้ ายไฟขาด ไฟฟ้าลดั วงจรให้ 3. ก่อนลงมือทางานใหต้ รวจสอบใหแ้ น่ใจวา่ ไม่มีไฟฟ้าในวงจรแลว้ 4. ในการทางานเก่ียวกบั ไฟฟ้าตอ้ งมน่ั ใจวา่ ไดป้ ิ ดสวิทซ์ตดั กระแสไฟฟ้าเรียบร้อย แลว้ พร้อมท้งั แขวนป้ายบอก “กาลงั ซ่อมแซมหา้ มสับสวิทซ์ข้ึน” 5. การต่อสายไฟผา่ นอุปกรณ์ป้องกนั อนั ตราย 6. ขณะท่ีทาการซ่อมไฟฟ้าอยา่ ใหต้ วั เปี ยกน้าควรยนื บนพ้นื แหง้ และมือจะตอ้ ง แหง้ ตลอดเวลา 7. ถา้ หากหลีกเลี่ยงสถานที่ที่ตอ้ งทางานกบั สายไฟฟ้าที่มีไฟไม่ไดต้ อ้ งใช้ เคร่ืองมือท่ีมีฉนวนหุม้ อยา่ งดี 8. ควรสวมใส่อปุ กรณ์ป้องกนั อนั ตรายส่วนบุคคลทุกคร้ังขณะท่ีทาการซ่อมแซม ไฟฟ้า 9. หากสายไฟร้อนแสดงวา่ มีความผดิ ปกติเกี่ยวกีบเครื่องไฟฟ้า ควรหยดุ การ ทางานก่อนและรีบแจง้ หวั หนา้ หรือช่างประจาหมวดทาการแกไ้ ขใหเ้ รียบร้อยก่อน
18 ควำมปลอดภัยในกำรทำงำนเกยี่ วกบั สำรเคมี 1. อ่านฉลากจากภาชนะที่บรรจุสารเคมี เพ่อื ใหท้ ราบเก่ียวกบั คุณสมบตั ิของสาร เคมี วธิ ีการใช้ หลงั การใช้ คาเตือน และการป้องกนั ขอ้ ควรระวงั 2. ก่อนการเคล่ือนยา้ ยสารเคมีดว้ ยมือ ตรวจเชค็ ฝาปิ ดใหส้ นิทใช้ 2 มือถือ หรือยกอยา่ งระมดั ระวงั 3. สวมอปุ กรณ์ป้องกนั อนั ตรายส่วนบุคคลอยา่ งเหมาะสมทุกคร้ังในการทางาน กบั สารเคมี 4. ปิ ดภาชนะบรรจุสารเคมีใหส้ นิททุกคร้ังหลกั เลิกใชง้ าน เพ่อื ป้องกนั การระเหย และหกรั่วไหล 5. การจดั เกบ็ สารเคมีหลงั เลิกใชง้ าน 5.1 ไม่ควรวางซอ้ นสูงเกินระดบั สายตา และปิ ดฉลากท่ีภาชนะบรรจุทุกคร้ัง 5.2 จดั เกบ็ ไวใ้ นที่แหง้ อากาศถ่ายเทไดส้ ะดวก อุณหภูมิพอเหมาะ 5.3 จดั เกบ็ ไวใ้ นสถานที่ท่ีปลอดภยั ท่ีจดั ไวโ้ ดยเฉพาะ 6. ไม่นาอาหารหรือภาชนะบรรจุอาหารไปเกบ็ บริเวณสถานที่ทางานกบั สารเคมี 7. การกาจดั ของเสียจากการใชส้ ารเคมี ตอ้ งทิ้งในภาชนะท่ีกาหนด 8. ในการเคล่ือนยา้ ยสารเคมีคร้ังละปริมาณมาก ๆ ควรใชร้ ถเขน็ และไม่ควรบรรจุ มากเกินไป 9. หา้ มสูบบุหรี่หรือทาใหเ้ กิดประกายไฟในสถานที่จดั เกบ็ สารเคมี 10. ลา้ งมือใหส้ ะอาดทุกคร้ังหลงั เสร็จสิ้นการใชส้ ารเคมี 11. พนกั งานที่มีหนา้ ที่เกี่ยวกบั สารเคมี จะตอ้ งผา่ นการอบรมวธิ ีการใชส้ ารเคมีอยา่ ง ปลอดภยั
วธิ ีปฏบิ ัตเิ มื่อเกดิ เหตุฉุกเฉิน 19 กรณสี ำรเคมีกระเด็นเข้ำตำ ลา้ งตาที่บริเวณที่อ่างน้าในหอ้ งน้าประจาแผนกทนั ทีโดยใหน้ ้าไหลผา่ นตาเป็น เวลานานอยา่ งนอ้ ย 10 – 15 นาที รีบนาไปพบพยาบาลหรือแพทยป์ ระจาบริษทั หรือนาส่งโรงพยาบาล นาตวั อยา่ งสารเคมีท่ีกระเดน็ เขา้ ตาไปใหแ้ พทยด์ ูแพทยจ์ ะไดว้ ิเคราะห์และทาการ รักษาไดอ้ ยา่ งถูกวธิ ี กรณีสารเคมีกระเดน็ หรือหกรดผวิ หนงั หรือร่างกาย ใหล้ า้ งบริเวณท่ีสัมผสั ดว้ ยน้าสะอาดโดยใหน้ ้าไหลผา่ นอยา่ งนอ้ ย 15 นาที แลว้ ถอดเส้ือผา้ ออกทนั ที กรณสี ำรเคมีหกร่ัวไหล พิจารณาความเป็นอนั ตรายของสารเคมีและปริมาณของการร่ัวไหล สวมใส่อปุ กรณ์ป้องกนั อนั ตรายจากสารเคมี ระงบั การฟุ้งกระจายหรืออการหกรั่วไหล เชด็ ทาความสะอาดโดยใชอ้ ปุ กรณ์จบั สารเคมีหรืออปุ กรณ์อ่ืนท่ีเหมาะสม เช่น เคร่ืองดูดฝ่ นุ ในกรณีการหกร่ัวไหลมีปริมาณมากรีบแจง้ ใหห้ วั หนา้ งานทราบทนั ที
20 ควำมปลอดภยั ในกำรทำงำนเกยี่ วกบั กำรยกและเคล่ือนย้ำยวสั ดุสิ่งของ เทคนิคกำรยกและเคล่ือนย้ำยวสั ดุส่ิงของด้วยมือเปล่ำ 1. วางเทา้ ใหถ้ ูกตอ้ ง โดยวางเทา้ ขา้ งหน่ึงไวใ้ นทิศทางที่จะเคล่ือนยา้ ยส่ิงของ และเทา้ อีกขา้ งหน่ึงน้นั คอยรับน้าหนกั ของร่างกาย โดยวางเทา้ ใหใ้ กลก้ บั สิ่งของที่จะยก 2. หลงั ตรง เม่ือตอ้ งการยกของหนกั จากพ้ืน จะตอ้ งพยายามยอ่ ตวั ลงให้ ใกลก้ บั สิ่งของท่ีจะยก เพื่อใหห้ ลงั ตรงโดยโนม้ เอียงไปขา้ งหนา้ เมื่อเริ่ม ยกของข้ึน หวั เขา่ ที่พบั งออยกู่ จ็ ะคอ่ ย ๆ ยดื ข้ึนจนหลงั กลบั คืนสู่สภาพ ตรงในแนวดิ่งปกติ 3. แขนติดลาตวั เมื่อยกของท่ีมีน้าหนกั มากแขนจะติดกบั ลาตวั และใหอ้ ยใู่ นลกั ษณะแนวตรงตลอดเวลา ถา้ งอขอ้ ศอกและยก หวั ไหล่ในขณะยก ทาใหเ้ กิดการปวดเกร็งและปวดไดร้ ับอนั ตรายได้ 4. จบั วสั ดุใหม้ นั่ ในการจบั วสั ดุสิ่งของใหม้ น่ั ตอ้ งใชผ้ า่ มือจบั และนิ้วมือประคองจะทาใหเ้ วลายกป้องกนั ส่ิงของหรือวสั ดุ ล่ืนหลุดมือได้ 5. เกบ็ คาง การเกบ็ คางเลก็ นอ้ ยเพื่อใหก้ ระดูกสนั หลงั อยใู่ น แนวตรงไม่โคง้ งอ เม่ือยกของข้ึนแลว้ ร่างกายจะกลบั สู่ระดบั ตรงตามปกติ ซ่ึงในขณะเดียวกนั น้ีศีรษะของพนกั งานจะค่อย ๆ ต้งั ตรงดว้ ย และพนกั งานกจ็ ะสามารถมองเห็นทางไดอ้ ยา่ ง ชดั เจน 6. การใชน้ ้าหนกั ตวั การวางตาแหน่งเทา้ และการงอ การยดื เข่าท่ีถูกตอ้ งจะตอ้ งใหม้ ีการ ใชน้ ้าหนกั ตวั เพื่อประโยชน์ในการผลกั และลากวสั ดุและกา้ วเดินไปขา้ งหนา้ ไดอ้ ยา่ งเหมาะ สมและมน่ั คง
21 ควำมปลอดภยั ในกำรขนย้ำยสิ่งของด้วยรถเขน็ งำน หรือรถลำกงำน 1. จดั เรียงวสั ดุอุปกรณ์สิ่งของท่ีอยใู่ นรถใหเ้ รียบร้อยมน่ั คง 2. ไม่บรรทุกน้าหนกั เกินกาลงั รถ หรือวางของสูงเกินระดบั สายตาที่จะมองเห็น ขา้ งหนา้ 3. ไม่ลากหรือเขน็ งานดว้ ยความเร็วเกินไป และลดระดบั ความเร็วลงเมื่อตอ้ ง ลากงาน,เขน็ งานขา้ มถนน 4. รถลาก,รถเขน็ งาน ใชส้ าหรับบรรทุกงานเท่าน้นั หา้ มพนกั งานใชข้ บั ขี่ หรือโดยสาร 5. จอดในท่ีจดั เกบ็ ท่ีกาหนดไวเ้ มื่อเลิกใชง้ าน ควำมปลอดภยั ในกำรทำงำนบนทส่ี ูง ทุกคร้ังท่ีทางานบนที่สูงซ่ึงมีอนั ตรายมาก จะตอ้ งใชเ้ ขม็ ขดั นิรภยั เกี่ยวเอวไว้ เพ่ือป้องกนั การพลดั ตกลงมา ซ่ึงเป็นกฎท่ีพนกั งานตอ้ งปฏิบตั ิอยา่ งเขม้ งวด เมื่อเร่ิม ข้ึนไปทางานบนที่สูง เช่น การปื นเสาไฟฟ้า การปื นบนั ได การทางานบนนง่ั ร้าน เป็นตน้ ถา้ พนกั งานฝ่ าฝืนไม่ใส่เขม็ ขดั นิรภยั ในระหวา่ งปฏิบตั ิงานอาจจะพลดั ตก มาไดร้ ับอนั ตรายได้
22 กำรทำงำนบนท่ีสูงควรปฏบิ ตั ดิ งั นี้ 1. ตอ้ งสวมหมวกแขง็ หมวกที่สวมตอ้ งมีสายรัดคางกนั หมวกหลน่ และศีรษะกระแทก 2. ตอ้ งสวมเขม็ ขดั นิรภยั ท่ีเอว และมีตวั ลอ็ คยดึ ติด แลว้ ใชเ้ ชือกท่ีเขม็ ขดั ผกู ติดจุดใด จุด หน่ึงของโครงสร้างที่สามารถรับน้าหนกั ตวั ได้ 3. ตอ้ งสวมรองเทา้ นิรภยั ป้องกนั ความร้อน,สารเคมีหรือของแขง็ หล่นกระแทกเทา้ 4. ตอ้ งสวมถงุ มือป้องกนั การปื นป่ าย จบั ถูกของมีคม กนั ล่ืน และความร้อน ข้อแนะนำ 1. ก่อนใชอ้ ุปกรณ์ ควรตรวจสอบวา่ ชารุดหรือไม่ 2. การข้ึนไปทางานบนที่สูงจะตอ้ งเป็นผทู้ ี่มีความชานาญ และไม่เป็นโรคกลวั ความสูง ควำมปลอดภยั ในกำรใช้บนั ไดในกำรทำงำน 1. การเลือกประเภทของบนั ได ตอ้ งเลือกบนั ไดที่สามารถรับน้าหนกั และงานที่ นาข้ึนไปดว้ ย มีขนาดความยาวพอเหมาะ สามารถทางานไดอ้ ยา่ งสบายหากทางานเก่ียวกบั ไฟฟ้า ตอ้ งเลือกบนั ไดที่ทาดว้ ยวสั ดุที่เป็นฉนวนไฟฟ้า 2. การตรวจสภาพบนั ไดก่อนใชง้ านบนั ไดท่ีนาไปใชต้ อ้ งมีสภาพแขง็ แรงไม่ชารุด 3. บริเวณที่ต้งั บนั ได พ้ืนท่ีโดยรอบในการต้งั บนั ไดตอ้ งมนั่ คงแขง็ แรง ปราศจาก สิ่งกีดขวางต่าง ๆ และวางบนั ไดใหไ้ ดม้ ุมประมาณ 68 – 75 องศา หรือใหม้ ีความชนั ของการพาดบนั ไดกบั กาแพงท่ีพาดใหอ้ ยใู่ นช่วง1 ใน 4 ถึง 3 ใน 8 ของความยาวของบนั ได ที่ใชอ้ ยขู่ ณะน้นั 4. การปื นบนั ไดขณะข้ึนหรือลงบนั ไดควรหนั หนา้ เขา้ หาบนั ได และระหวา่ งการ ปื นบนั ไดมือควรจบั อยทู่ ี่ข้นั บนั ไดตลอด
23 5. การทางานบนบนั ไดงานท่ีทาไม่ควรอยหู่ ่างจากข้นั บนั ไดข้นั สูงสุดเกินกวา่ 1เมตร บนั ไดตอ้ งอยใู่ นตาแหน่งท่ีผูป้ ฏิบตั ิงานสามารถทางานไดส้ ะดวก ทาใหไ้ ม่ ตอ้ งยนื่ ตวั ไปทางานที่ไกล เพราะอาจจะเกิดอนั ตรายได้ 6. การข้ึนทางานบนบนั ไดที่สูงควรใชเ้ ขม็ ขดั นิรภยั ดว้ ย ควำมปลอดภัยในกำรทำงำนด้ำนงำนเชื่อมโลหะด้วยเคร่ืองเชื่อมก๊ำซ 1. สวมใส่อปุ กรณ์ป้องกนั อนั ตรายส่วนบุคคล เช่น แวน่ ตา ถงุ มือ ปลอกแขน และเส้ือเอี๊ยมหนงั 2. ก่อนการทางานเช่ือมทุกคร้ังตอ้ งตรวจสอบอปุ กรณ์การเชื่อมวา่ มีสภาพท่ี พร้อมใชง้ าน หรือไม่ถา้ พบวา่ ชารุดตอ้ งรีบแกไ้ ขทนั ที 3. ตอ้ งทาฉากก้นั บริเวณท่ีทางานหรือหาสถานท่ีบริเวณท่ีไม่มีเช้ือไฟ ซ่ึงอาจจะ ทาใหเ้ กิดการลุกไหมข้ ้ึนได้ 4. การเชื่อมถงั บรรจุสารไวไฟ ตอ้ งทาความสะอาดก่อนทาการเชื่อม และมนั่ ใจวา่ ไม่มีไอระเหยของสารเคมีเหลืออยู่ 5. พ้นื ท่ีทางานควรระบายอากาศไดด้ ีหรือจดั ทาระบบระบายอากาศเฉพาะที่ 6. หา้ มมองแสงจากการเช่ือมดว้ ยตาเปล่า 7. ถงั กา๊ ซตอ้ งวางต้งั หวั ถงั ข้ึนและมีโซ่ล่ามหรือเชือกรัดผกู ยดิ ติดอยกู่ บั รถเขน็ อยา่ งมนั่ คง 8. หวั เชื่อมก๊าซตอ้ งอยใู่ นสภาพท่ีดี พร้อมใชง้ านไดอ้ ยา่ งปลอดภยั 9. จะตอ้ งติดต้งั อปุ กรณ์ควบคุมความดนั ท่ีนา กา๊ ซอะเซทธิลีน ก่อนต่อเขา้ กบั หวั เช่ือม และควรจะใชน้ ้าสบู่ หรือใชอ้ ุปกรณ์ ตรวจสอบการรั่วของกา๊ ซ อยา่ งสม่าเสมอเพ่อื ความปลอดภยั
24 10. หลงั เลิกใชง้ านทุกคร้ังตอ้ งปิ ดวาลว์ ปรับแรงดนั กา๊ ซ และวาลว์ ลมใหเ้ รียบร้อย และทาความสะอาดอปุ กรณ์การเช่ือมทุกชิ้น ต่อจากน้นั เกบ็ ใหเ้ รียบร้อย ควำมปลอดภยั ในกำรใช้ลฟิ ท์ 1. ปิ ดสวิทซ์ลูกศรเพ่ือเปิ ดไฟแสงสวา่ ง 2. นาส่ิงของท่ีจะขนยา้ ยเขา้ ลิฟทใ์ หเ้ รียบร้อย 3. ปิ ดประตูท้งั บานในและบานนอกใหส้ นิทก่อนและ หลงั จากการใชง้ านทุกคร้ัง 4. กดป่ ุมบอกช้นั เพือ่ ใหล้ ิฟทไ์ ปจอดยงั ช้นั ต่างๆตามที่ ตอ้ งการ 5. ระหวา่ งที่ลิฟทท์ างานหากมีเหตุจาเป็นตอ้ งหยดุ ลิฟทใ์ ห้ กดป่ ุมSTOP เพ่อื หยดุ ลิฟท์ ชวั่ คราวเม่ือเสร็จกิจแลว้ ให้ ปฏิบตั ิตามขอ้ 3 ต่อไป 6. ทาความสะอาดหอ้ งลิฟทท์ ุกคร้ังหลงั จากใชล้ ิฟทเ์ สร็จแลว้ 7. หลงั เลิกงานตอ้ งกดลิฟทล์ งมาอยชู่ ้นั ท่ี 1 ทุกคร้ัง ข้อห้ำมกำรใช้ลฟิ ท์ 1. หา้ มบรรทุกน้าหนกั เกิน 2,000 กิโลกรัม 2. หา้ มพิงหรือเกาะประตูลิฟทข์ ณะท่ีลิฟทท์ างาน 3. หา้ มกระแทกประตูลิฟทใ์ นขณะที่ลิฟทก์ าลงั ทางาน 4. หา้ มโยนของหนกั เขา้ ลิฟทโ์ ดยเดด็ ขาด 5. หา้ มดดั แปลงแกไ้ ขหรือต่อเติมอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในลิฟทโ์ ดยเดด็ ขาด 6. หา้ มบุคคลภายนอกที่ไม่มีหนา้ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั การใชล้ ิฟทม์ าใชล้ ิฟทโ์ ดยเดด็ ขาด
25 หมำยเหตุ 1. พนกั งานท่ีใชล้ ิฟทไ์ ดจ้ ะตอ้ งผา่ นการอบรมการใชล้ ิฟทอ์ ยา่ งปลอดภยั ทุกคน 2. ไฟโชวข์ ้ึนที่ป่ ุม STOP หมายถึง ลิฟทพ์ ร้อมใชง้ านหากไฟดงั กล่าวไม่ติด แสดงวา่ มีการปิ ดประตูบานใดบานหน่ึงไม่สนิท 3. กรณีลิฟทข์ ดั ขอ้ งรีบแจง้ แผนกช่างซ่อมบารุง ควำมปลอดภัยในกำรใช้ของมคี ม (มดี คดั เตอร์) วธิ ีใช้ 1. เวลาใชง้ านเล่ือนใบมีดออกจากดา้ มจบั ตามลกั ษณะงานที่จะทา 2. กดตวั ลอ็ คใบมีดท่ีดา้ มจบั เพือ่ ไม่ใชใ้ บมีดเล่ือนขณะท่ีใชง้ าน 3. จบั หรือกดชิ้นงานใหก้ ระชบั มน่ั คง 4. จบั ดา้ มคดั เตอร์ใหก้ ระชบั ในขณะที่ใชง้ าน 5. กดตวั เลื่อนใบมีดเกบ็ ทุกคร้ังหลงั เลิกใชง้ าน 6. นาไปเกบ็ ไวใ้ นที่จดั เกบ็ ใหเ้ รียบร้อย ข้อระวงั 1. ในขณะที่ใชค้ ดั เตอร์ตดั งานหรือกีดงานจะตอ้ งทาอยา่ งชา้ ๆ และระมดั ระวงั 2. ตอ้ งมีสติและสมาธิในขณะปฏิบตั ิงานและไม่หยอกลอ้ กนั ในขณะปฏิบตั ิงาน 3. วางใหห้ ่างจากขอบโตะ๊ ทางเดิน หรือบริเวณท่ีอาจจะเกิดอุบตั ิเหตุ 4. เศษใบมีดท่ีหกั หรือใบมีดท่ีใชแ้ ลว้ ใหท้ ิ้งในภาชนะที่จดั ไวแ้ ละปิ ดเทปใหเ้ รียบร้อย เพอื่ ดาเนินการในการกาจดั ต่อไป
ควำมปลอดภัยในกำรใช้กรรไกรตดั เศษด้ำย 26 วธิ ีกำรใช้ 1. ทดสอบกรรไกร โดยการตดั เศษผา้ หรือเศษดา้ ยเพอ่ื ดูวา่ กรรไกรยงั มีความ คมดีหรือไม่ 2. เมื่อเร่ิมใชก้ รรไกรตดั เศษผา้ จะตอ้ งจบั ดา้ มกรรไกรใหก้ ระชบั มือพอดี 3. ตดั เศษผา้ หรือเศษดา้ ยจะตอ้ งตดั ดว้ ยความระมดั ระวงั 4. เวลาตดั เศษผา้ หรือเศษดา้ ยจะตอ้ งตดั ใหช้ ิดขอบงาน 5. ควรจะจดั เกบ็ ใส่กล่องหรือจดั เกบ็ ไวใ้ นลิ้นชกั โต๊ะเม่ือเลิกใชง้ านแลว้ อยา่ เกบ็ ไวก้ บั ตวั ข้อควรระวงั 1. ไม่ควรเอาเชือกร้อยกรรไกรมาแขวนไวท้ ี่คอถา้ เลี่ยงไม่ไดค้ วรสะพายไวร้ ะหว่างบ่าถึง เอว 2. ปลายกรรไกรควรมีปลอกหนงั หรือปลอกพลาสติกหุม้ ไว้ เพอ่ื ป้องกนั ความแหลมคม ของกรรไกรตดั ดา้ ยมาท่ิมร่างกายไดร้ ับบาดเจบ็ 3. ไม่ควรแกวง่ กรรไกรอาจจะไปโดนเพ่ือนร่วมงานไดร้ ับบาดเจบ็ 4. ควรจะจดั เกบ็ ใส่กล่องหรือจดั เกบ็ ไวใ้ นลิ้นชกั โต๊ะ เม่ือเลิกใชง้ านแลว้ อยา่ เกบ็ ไวก้ บั ตวั 5. ตวั กรรไกรที่ไม่ไดใ้ ชง้ านแลว้ ทิ้งในภาชนะที่จดั ไวเ้ พื่อดาเนินการกาจดั ต่อไป หมำยเหตุ จะตอ้ งปฏิบตั ิตามขอ้ กาหนดหรือวธิ ีการใชก้ รรไกรตดั เศษดา้ ยอยา่ งถกู ตอ้ งและ เคร่งครัด
27 ควำมปลอดภยั ในกำรใช้รถโฟคลฟิ ท์ ข้ึนช่ือวา่ ยานพาหนะแลว้ ยอ่ มมีอนั ตราย หากวงิ่ ไปเฉี่ยวชนผคู้ นและสิ่งของ ยงิ่ เป็น รถโฟคลิฟทห์ รือรถยกท่ีใชล้ าเลียงขนส่งวตั ถุส่ิงของในโรงงานดว้ ยแลว้ นอกจากการเฉ่ียว ชนแลว้ ยงั อาจทาใหส้ ิ่งของที่บรรทุกหล่นลงมาทบั ซ้าอีกดว้ ย การขบั ขี่ตอ้ งไดร้ ับการฝึกหดั และตอ้ งปฏิบตั ิตามขอ้ กาหนด ดงั เช่น 1. ขณะขบั ขี่ตอ้ งมองทางที่จะไปเสมอ หากมีวตั ถุท่ีบรรทุกบงั สายตาจนไม่สามารถ มองเห็นทางใหใ้ ชว้ ิธีขบั รถถอยหลงั แทนหรือใชค้ นนาทาง 2. ขบั ดว้ ยความเร็วไม่เกิน 20 กิโลเมตรต่อชว่ั โมง 3. การขบั ลอดผา่ นส่ิงใดตอ้ งแน่ใจว่าวตั ถุท่ีบรรทุกจะมีความสูงไม่ไปชนส่ิงต่าง ๆ ที่อยเู่ หนือรถข้ึนไป เช่น ท่อน้า หลอดไฟ เป็นตน้ 4. วตั ถุที่บรรทุกจะตอ้ งวางใหม้ นั่ คงเรียบร้อย หากมีการทรงตวั ไม่ดีตอ้ งผกู ยดึ ใหม้ นั่ คง เสียก่อน 5. การขบั รถข้ึนที่ลาดชนั จะตอ้ งใชว้ ตั ถุท่ีบรรทุกอยทู่ างดา้ นลาดข้ึนและเวลาขบั รถลง จากท่ีลาดเอียงใหใ้ ชว้ ธิ ีถอยหลงั 6. รถโฟคลิฟทใ์ ชว้ ิ่งไปมาในโรงงาน ซ่ึงมีผคู้ นกาลงั ขะมกั เขมน้ ทางานยงิ่ ตอ้ งใชค้ วาม ระมดั ระวงั มากเป็นพิเศษ กำร์ดทใ่ี ช้ป้องกนั อนั ตรำยจำกเคร่ืองจกั ร สำมำรถแบ่งออกเป็ น ประเภทใหญ่ ๆ ได้ 3 ประเภท คือ 1. การ์ดชนิดต้งั อยกู่ บั ท่ี เป็นการ์ดที่ติดแน่นอยกู่ บั ตวั เครื่องจกั รตอ้ งมีการออกแบบอยา่ ง เหมาะสมไม่ขดั ขวางการปฏิบตั ิงานหรือลดประสิทธิภาพในการปฏิบตั ิงาน และไม่ จาเป็นตอ้ งถอดออกเพื่อทาการบารุงรักษาหรือหยดน้ามนั
28 2. การ์ดชนิดลอ็ คในตวั การ์ดชนิดน้ีติดต้งั อยกู่ บั ที่ไม่ได้ การใชก้ าร์ดประเภทน้ีตอ้ ง แน่ใจวา่ หากไม่ใชแ้ ลว้ - เครื่องจกั รจะไม่ทางาน จนกวา่ การ์ดจะอยใู่ นตาแหน่งที่ปิ ดหรือลอ็ คสนิทแลว้ - การ์ดจะเปิ ดออกไม่ไดเ้ ลย จนกวา่ เครื่องจกั รจะหยดุ นิ่งหรือหากการ์ดถูกเปิ ดออก เม่ือใด เคร่ืองจกั รจะหยดุ ทางานทนั ที 3. การ์ดชนิดอตั โนมตั ิ จะใชก้ าร์ดชนิดน้ีติดต้งั อยกู่ บั ที่ หรือการ์ดชนิดลอ็ คในตวั ไม่ได้ หากผูป้ ฏิบตั ิงานอยใู่ นตาแหน่งท่ีอาจก่อใหเ้ กิดอนั ตรายจากส่วนท่ีเป็นอนั ตรายของ เคร่ืองจกั ร การ์ดชนิดน้ีจะปัดส่วนหน่ึงส่วนใดของร่างกายของผปู้ ฏิบตั ิงานน้นั ออก ใหพ้ น้ จุดอนั ตรายก่อนเครื่องจะทางาน ควำมปลอดภยั ในสำนักงำน 1. อยา่ ใชเ้ กา้ อ้ีลอ้ เล่ือนแทนบนั ไดในการหยิบวสั ดุหรือเอกสารในที่สูง ๆ 2. อยา่ วง่ิ ภายในสานกั งานเพราะตรงมุมอาจมีเพอ่ื นพนกั งานเดินสวนออกมาหรือมี พนกั งานกาลงั เคล่ือนยา้ ยวสั ดุต่าง ๆ 3. ลิน้ ชกั ของตูเ้ อกสารหรือโตะ๊ ทางานเมื่อเปิ ดใชแ้ ลว้ ตอ้ งปิ ดใหเ้ รียบร้อย เพราะท่านหรือ ผอู้ ่ืนอาจเดินชนไดร้ ับบาดเจบ็ ได้ 4. เมื่อข้ึนลงบนั ไดใหเ้ ดินดว้ ยความระมดั ระวงั อยา่ วง่ิ และจบั ราวบนั ไดไวเ้ พอ่ื ช่วยให้ ปลอดภยั ยง่ิ ข้ึน 5. เมื่อนงั่ เกา้ อ้ีอยา่ เอนหลงั จนเสียการทรงตวั เพราะจะทาใหล้ ม้ และไดร้ ับบาดเจบ็ หรือเป็น อนั ตรายถึงแก่ชีวติ 6. เมื่อน้าหรือของเหลวอื่นๆ หกเรี่ยราดบนพ้ืนตอ้ งรีบเชด็ ถทู นั ที เพ่ือป้องกนั การล่ืนหกลม้
29 7. สายไฟ สายโทรศพั ท์ จะตอ้ งจดั หรือวางใหร้ ะเบียบเรียบร้อย เพื่อป้องกนั การสะดุด ซ่ึง อาจจะทาใหเ้ กิดการหกลม้ ได้ 8. ในกรณีท่ีไม่สามารถเคลื่อนยา้ ยหรือยกของที่หนกั เกินกาลงั ใหข้ อความช่วยเหลือจาก เพอ่ื นร่วมงาน 9. มือและนิ้วมือเป็นส่วนท่ีไดร้ ับบาดเจบ็ ไดง้ ่ายท่ีสุด ไม่ควรใชม้ ือและนิ้วมือแทน เคร่ืองมือต่าง ๆ เช่นใชม้ ือถอดลวดเยบ็ กระดาษ 10. เคร่ืองมือเคร่ืองใชภ้ ายในสานกั งานโดยเฉพาะเครื่องใชไ้ ฟฟ้าตอ้ งไดร้ ับการ ตรวจสอบใหอ้ ยใู่ นสภาพที่พร้อมใชง้ านอยเู่ สมอ 11. อคั คีภยั เกิดข้ึนเพราะความประมาท ดงั น้นั ตอ้ งระมดั ระวงั เป็นพิเศษ 12. มีแผนหนีไฟในกรณีฉุกเฉินและมีอุปกรณ์ดบั เพลิงซ่ึงควรจะติดต้งั ไวใ้ นสถานที่ท่ี สามารถหยบิ ไดง้ ่าย ควำมปลอดภัยในกำรทำงำนหน้ำจอคอมพวิ เตอร์ 1. กาจดั แสงสะทอ้ นที่เกิดจากแสงไฟ หนา้ ต่าง หรือวสั ดุท่ีมีแสง หากยงั มีแสงสะทอ้ นบน หนา้ จอใหใ้ ชแ้ ผน่ กรองแสง 2. ปรับความเขม้ ความสวา่ งของหนา้ จอใหพ้ อเหมาะ ตวั อกั ษรควรจะสวา่ งกวา่ พ้นื หลงั แต่ ตอ้ งระวงั อยา่ ใหส้ วา่ งมากเกินไป 3. ปรับระดบั ความสูงของหนา้ จอใหส้ ่วนบนอยรู่ ะดบั สายตา 4. เอนหนา้ จอไปดา้ นหลงั เลก็ นอ้ ย แต่ระวงั อยา่ ใหเ้ กิดแสงสะทอ้ นท่ีหนา้ จอ 5. ปรับระดบั เกา้ อ้ีนงั่ ชิ้นงาน และแป้นพมิ พใ์ หเ้ หมาะสมกบั แต่ละบุคคล 6. หากเป็นงานพมิ พโ์ ดยใชม้ ือท้งั สองมือแป้นพิมพค์ วรอยตู่ รงหนา้ ผปู้ ฏิบตั ิงาน แต่หาก เป็นการใส่ขอ้ มูลที่ใชม้ ือเพียงขา้ งเดียวควรใหแ้ ป้นพิมพเ์ ล่ือนไปอยดู่ า้ นของมือที่พิมพ์ และควรจดั พ้ืนที่พอสมควรสาหรับวางเอกสารหรือขอ้ มูลสาหรับพิมพ์
30 7. ระหวา่ งทางานอาจเลื่อนแป้นพิมพไ์ ปดา้ นใดดา้ นหน่ึงเป็นระยะ ๆ เพอ่ื ใหแ้ ขนและไหล่ ไดม้ ีการเปลี่ยนตาแหน่งบา้ ง 8. ควรมีท่ีสาหรับพกั ขอ้ มือ 9. ควรใชแ้ ป้นวางเอกสารที่ปรับระดบั ได้ ต้งั ไวข้ า้ งหนา้ ผปู้ ฏิบตั ิงานเพ่ือลดการเอี่ยวคอ และง่ายต่อการปรับสายตา 10. สลบั ขา้ งซา้ ย – ขวา ระหวา่ งแป้นเอกสารกบั จอคอมพิวเตอร์บา้ ง เพื่อใหเ้ ปล่ียน ตาแหน่งการเอียงของศีรษะ 11. สายตาระหวา่ งแป้นพิมพแ์ ละหนา้ จอควรมีความยาวไม่นอ้ ยกวา่ 70 เซนติเมตร 12. ควรทาความสะอาดหนา้ จอเป็นประจา ควำมปลอดภยั ในกำรใช้เคร่ืองถ่ำยเอกสำร เครื่องถ่ายเอกสารเป็นอุปกรณ์ท่ีสาคญั ยง่ิ ในบรรดาอุปกรณ์สานกั งานท้งั หลาย ประโยชน์ของเครื่องถา่ ยเอกสารเราคงทราบกนั ดีส่วนโทษของเครื่องถ่ายเรากค็ วรทราบไว้ เช่นกนั ซ่ึงอนั ตรายจากเครื่องถ่ายเอกสารมีส่วนประกอบ คือ 1. สารเคมีที่เป็นส่วนผสมในหมึกพมิ พ์ 2. สารเคมีท่ีใชเ้ คลือบลูกกลิง้ 3. น้ายาอาบกระดาษถ่ายเอกสาร 4. รังสีอลั ตร้าไวโอเลต 5. โอโซนซ่ึงเกิดข้ึนจากรังสีอลั ตร้าไวโอเลตในขณะเครื่องกาลาทางานช่วยใหโ้ มเลกุลของ ออกซิเจนรวมตวั กนั กลายเป็นโอโซนระเหยออกมา
31 กำรป้องกนั อนั ตรำย 1. ต้งั เครื่องถา่ ยเอกสารในสถานที่โล่ง มีอากาศถ่ายเทสะดวกเพ่อื ทาใหโ้ อโซนและสารเคมี ระเหยออกมาจากเคร่ืองเจือจางลง 2. ถา้ ไดก้ ล่ินฉุนหรือกล่ินไหม้ เลิกใชช้ ว่ั คราวใหช้ ่างตรวจสอบการใชอ้ ีกคร้ัง 3. ทาความสะอาดซ่อมบารุงเป็นประจา 4. อยา่ มองแสงใชแ้ ผน่ ปิ ดแสงเวลาถ่ายเททุกคร้ัง เพื่อป้องกนั ไม่ใหร้ ังสีอลั ตร้าไวโอเลต กระทบหรือสัมผสั ผวิ หนงั 5. สวมถุงมือยางเมื่อจบั ตอ้ งสารเคมีของเครื่องถ่ายเอกสารเสร็จแลว้ ลา้ งมือลา้ งหนา้ ทนั ที ควำมปลอดภัยสำหรับผู้รับเหมำ 1. การแต่งกายตอ้ งแต่งใหร้ ัดกมุ สวมเส้ือ – กางเกงขายาว รองเทา้ หนงั หรือผา้ ใบ 2. การทางานของผรู้ ับเหมาจะตอ้ งมีหวั หนา้ ควบคุมดูแลทุกคร้ัง 3. สถานท่ีทางานของผูร้ ับเหมาตอ้ งมีป้ายบอกหา้ มผา่ นเพือ่ ป้องกนั อนั ตราย 4. ผรู้ ับเหมาจะตอ้ งสวมใส่อุปกรณ์ป้องกนั อนั ตรายส่วนบุคคลทุกคร้ัง 5. การต่อสายไฟฟ้า ท่อน้า ท่อน้ามนั เป็นตน้ ตอ้ งไดร้ ับอนุญาตจากผรู้ ับผิดชอบทุกคร้ัง 6. การทางานในท่ีสูงต้งั แต่ 10 เมตร ข้ึนไปตอ้ งนง่ั ร้านและราวกนั ตกตลอดจนตอ้ งมีตาข่าย คลุมกนั คนและของตกจากที่สูง 7. การยกของข้ึนท่ีสูงโดยการใชร้ ถยก หรือเครนยกเป็นตน้ ตอ้ งทาการยกในทิศทางท่ี ปลอดภยั ปราศจากคนและเครื่องจกั รพร้อมท้งั มีป้ายบอกอนั ตรายตอ้ งมีคนคุมงานอยู่ ดว้ ยทุกคร้ัง
32 8. การทดลองเดินเคร่ืองตอ้ งติดต่อผรู้ ับผดิ ชอบดูแลก่อนทุกคร้ัง 9. ตอ้ งปฏิบตั ิตามความปลอดภยั ของบริษทั อยา่ งเคร่งครัด 10. เจา้ หนา้ ที่รักษาความปลอดภยั (ร.ป.ภ.) ของโรงงานมีสิทธิในการตกั เตือนวา่ กล่าวใน กรณีท่ีเห็นเหตุการณ์ไม่ปลอดภยั และฝ่ าฝืนกฎความไม่ปลอดภยั ของโรงงาน กำรป้องกนั อคั คภี ยั และระงบั อคั คภี ัย ไฟ คือ ปฏิกิริยาทางเคมีระหวา่ งเช้ือความร้อน และออกซิเจน ไฟจะเกิดข้ึนเม่ือมี 3 อยา่ ง น้ีพร้อม ๆ กนั ถา้ ขาดอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงจะเกิดข้ึนไม่ได้ 1. ประเภท ก. (CLASS A) คือ ไฟที่เกิดจากการลุกไหมข้ องไม้ กระดาษ เศษผา้ เรา สามารถดบั ไฟชนิดน้ีไดด้ ว้ ยน้า 2. ประเภท ข. (CLASS B) คือ ไฟที่เกิดจากการลุกไหมข้ องเช้ือเพลิง ควรจะดบั ไฟชนิด น้ีดว้ ยโฟมคาร์บอนไดออกไซดแ์ ละน้ายาเคมี 3. ประเภท ค. (CLASS C) คือ ไฟท่ีเกิดจากการลกุ ไหมข้ องไฟฟ้าลดั วงจร ควรจะดบั ไฟ ชนิดน้ีดว้ ยคาร์บอนไดออกไซด์ น้ายาเคมี และผงเคมีแหง้ 4. ประเภท ง. (CLASS D) คือ ไฟที่เกิดจากการลุกไหมข้ องแร่ธาตุทางเคมี เช่น โปรเต สเซียม อลูมิเนียม สังกะสี โซเดียม ลิเทียม ควรจะดบั ไฟชนิดน้ีดว้ ยผงเคมีแหง้ ชนิดของเคมแี ห้ง - ชนิด (CLASS A) - ชนิด (CLASS B) - ชนิด (CLASS C) - ชนิด (CLASS D)
33 วธิ ีกำรใช้ถงั เคมแี ห้ง 1. ดึงสลกั นิรภยั ออกจากคนั บีบ (บิดใหส้ ายรัดขาดแลว้ จึงดึงออก) 2. จบั ปลายสายพร้อมบีบหรือกดคดั บีบบงั คบั และบีบทดสอบถงั ดบั เพลิงก่อนใชง้ าน โดยหนั ปลายลงพ้ืน 3. ยนื เหนือลมห่างจากไฟประมาณ 1 – 4 เมตร 4. ฉีดสารดบั เพลิงไปยงั ฐานของเพลิง และฉีดส่ายไปมากินบริเวณประมาณ 1 เมตร ข้อปฏิบัติในกำรป้องกนั อคั คภี ยั และระงบั อคั คภี ยั 1. หา้ มสูบบุหร่ีบริเวณท่ีมีป้ายหา้ มสูบบุหรี่ หรือสถานท่ีทางาน 2. เกบ็ ขยะต่าง ๆ เศษผา้ เศษกระดาษ หรือขยะอื่น ๆ ที่ติดไฟไดง้ ่ายลงที่ที่จดั ไวใ้ ห้ เรียบร้อย 3. สถานที่เกบ็ สารไวไฟ ควรจดั เกบ็ ในท่ีท่ีห่างจากแหล่งกาเนิดความร้อน หรือประกายไฟ 4. ไม่วางสิ่งของกีดขวางที่ติดต้งั ถงั เคมีดบั เพลิง ตูเ้ กบ็ สายส่งน้าดบั เพลิงและทางหนีไฟ 5. หา้ มทาการตดั เช่ือมหรือเจียรและมีความร้อนใน บริเวณโรงงานก่อนไดร้ ับอนุญาต 6. มีการตรวจสอบและบารุงรักษาถงั เคมีดบั เพลิง หรืออุปกรณ์ดบั เพลิงอยา่ งต่อเน่ือง 7. เม่ือพบเหตุเพลิงไหมจ้ ะตอ้ งรีบนาถงั เคมีแหง้ ดบั เพลิงทนั ทีตามวิธีการดบั เพลิงเบ้ืองตน้ หรือ รีบแจง้ ใหห้ วั หนา้ งานทราบทนั ที
34 8. หา้ มเทน้ามนั เช้ือเพลิงหรือของเหลวไวไฟลงในท่อน้าหรือท่อระบายสิ่งโสโครกอ่ืน ๆ 9. ก่อนใชอ้ ุปกรณ์ไฟฟ้าตอ้ งตรวจบริเวณรอยต่อต่าง ๆ วา่ แน่นหนาดีหรือไม่ 10. หา้ มเพ่ิมเติมปลกั๊ เสียบไฟนอกเหนือจากท่ีติดต้งั ไวแ้ ลว้ 11. หา้ มใชน้ ้ามนั เบนซินลา้ งหรือทาความสะอาดเครื่องมือ – เคร่ืองจกั รหรือชิ้นส่วนใด ๆ ของเครื่องจกั รกล หา้ มวางวสั ดุสิ่งของใกลห้ ลอดไฟหรือแหล่งกาเนิดความร้อน กำรใช้สัญญำณเหตุฉุกเฉิน 1. กดป่ ุมสัญญาณฉุกเฉินทนั ทีเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ 2. หา้ มกดป่ ุมสญั ญาณฉุกเฉินเล่นโดยเดด็ ขาด แนวทำงปฏิบตั เิ มื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ 1. เมื่อไดย้ นิ เสียงสญั ญาณแจง้ เหตุเพลิงไหมอ้ ยา่ ตกใจ 2. เม่ือหวั หนา้ งานตรวจสอบตรวจสอบวา่ มีเหตุ และไม่สามารถ ระงบั เหตุไดใ้ หแ้ จง้ ศูนยอ์ านวยการดบั เพลิง 3. เจา้ หนา้ ที่ตามแผนฉุกเฉินพร้อมปฏิบตั ิหนา้ ที่ตามที่กาหนด เช่น ทีมกภู้ ยั ทีมผจญเพลิง ทีมพยาบาล ผูน้ าทางหนีไฟ ผู้ ตรวจสอบจานวนพนกั งาน 4. ใหอ้ พยพตามเสน้ ทางหนีไฟไปยงั ทางออกฉุกเฉิน หรือประตูทางออกหนา้ – หลงั ประจาแผนกทนั ที 5. หลีกเล่ียงบริเวณที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ 6. ใหก้ ารช่วยเหลือผูป้ ่ วยและพนกั งานท่ีต้งั ครรภ์ อพยพหนีไฟดว้ ยความปลอดภยั
35 7. ใหอ้ พยพไปรวมกลุ่มท่ีจุดรวมพล เพื่อตรวจสอบจานวนพนกั งานวา่ ครบหรือไม่ ถา้ ไม่ ครบใหร้ ีบหวั หนา้ งานทนั ที เพื่อใหห้ วั หนา้ ประสานงานกบั เจา้ หนา้ ที่ดบั เพลิง เพ่ือให้ เจา้ หนา้ ที่ดบั เพลิงเขา้ ไปคน้ หาผทู้ ่ีตกคา้ งต่อไป 8. หา้ มออกจากจุดรวมพลเดด็ ขาดจนกวา่ จะไดร้ ับคาสั่งจากหวั หนา้ งานหรือผอู้ านวยการ ดบั เพลิง กำรปฐมพยำบำลเบือ้ งต้น การปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้ คือ การใหค้ วามช่วยเหลือข้นั แรกในทนั ทีทนั ใด ณ ท่ีเกิดเหตุโดย ใชเ้ ครื่องมืออปุ กรณ์เวชภณั ฑป์ ระจาแผนกเพ่ือลดความรุนแรงของการบาดเจบ็ ก่อนที่จะนา ผปู้ ่ วยไปพบแพทยท์ ี่โรงพยาบาล ข้นั ตอนกำรปฏบิ ัติเม่ือเกดิ กำรบำดเจบ็ 1. แจง้ หวั หนา้ งานทนั ที หรือนาส่งโรงพยาบาล หรือพบแพทยป์ ระจาบริษทั 2. หากพบเห็นผบู้ าดเจบ็ ถา้ สามารถทาการปฐมพยาบาลไดใ้ หด้ าเนินการทนั ที 3. หากเกิดการบาดเจบ็ อยา่ งรุนแรงใหร้ ีบนาส่งแพทยเ์ พื่อทาการรักษาทนั ที กำรบำดเจบ็ จำกกำรสัมผสั กระแสไฟฟ้ำ 1. รีบตดั กระแสไฟฟ้า 2. ใชไ้ มแ้ หง้ หรือใชว้ สั ดุที่เป็นฉนวนไฟฟ้าเข่ียอปุ กรณ์ไฟฟ้าออกจากตวั ผบู้ าดเจบ็ (กรณีท่ี ยงั มีกระแสไฟฟ้าอย)ู่ 3. ถา้ ผปู้ ่ วยหมดสติหวั ใจหยดุ เตน้ ใหน้ วดหวั ใจ (CPR) ก่อนนาส่งแพทย์ บำดแผลและแผลไฟไหม้ 1. ใชน้ ิ้วหวั แม่มือกดปากแผลนาน 10 นาที เพอ่ื ใหเ้ ลือดแขง็ ตวั 2. กรณีแผลใหญ่ใหใ้ ชผ้ า้ สะอาดปิ ดปากแผล
36 3. กรณีแผลไฟไหมใ้ หแ้ ช่น้าเยน็ จดั หรือใชน้ ้าแขง็ ห่อผา้ วางบริเวณแผล ซ่ึงจะช่วยลดการ ทาลายเน้ือเยอ่ื 4. นาส่งโรงพยาบาลเพ่อื พบแพทยท์ าการรักษาต่อไป เศษวสั ดกุ ระเดน็ เข้ำตำ 1. ปิ ดตาหา้ มลา้ งตาหรือขย้ตี า 2. รีบนาผปู้ ่ วยส่งโรงพยาบาลพบแพทย์ หมดสตเิ ป็ นลม / ช็อค 1. ใหผ้ ปู้ ่ วยนอนคลายเส้ือผา้ ใหห้ ลวม หนุนขาใหส้ ูงกวา่ ศีรษะ 2. ถา้ หายใจไม่ออกหรือหมดสติใหช้ ่วยหายใจก่อน 3. กรณีชอ็ คใหน้ อนหงายยกศีรษะข้ึนแลว้ ใชน้ ิ้วอา้ ปากกวาดส่ิงอุดตนั ภายในปากออก 4. การช่วยหายใจโดยการนวดหวั ใจ (CPR) 5. เม่ือฝืนคืนสติใหน้ อนควา่ ตะแคงหนา้ ข้อเท้ำแพลง 1. กรณีสวมรองเทา้ ใหใ้ ชผ้ า้ พนั ยดึ ไว้ 2. กรณีเทา้ เปล่าใหย้ กเทา้ สูงแลว้ ใชก้ อ้ นน้าแขง็ ห่อผา้ ประคบรอบ ๆ ขอ้ เทา้ ข้อเท้ำหลุด 1. ใหผ้ ปู้ ่ วยนอนน่ิง ๆ หา้ มดึงขอ้ เทา้ ที่หลุดเอง 2. รีบนาส่งโรงพยาบาลเพ่ือทาการรักษาต่อไป กระดูกหัก 1. ใหผ้ ปู้ ่ วยนอนน่ิง ๆ 2. เขา้ เฝือกชว่ั คราวเพ่อื ป้องกนั กระดูกเคลื่อน 3. รีบนาส่งโรงพยาบาลเพ่อื ทาการรักษาต่อไป
อำชีวอนำมยั 37 ควำมรู้ในกำรป้องกนั โรคจำกกำรประกอบอำชีพ โรคปอดจำกกำรทำงำน เกิดจากการสูดดมเอาฝ่ นุ ละออง ควนั สารพิษ เขา้ ไปทางการหายใจ สารเหล่าน้ี อาจ ก่อใหเ้ กิดการระคายเคืองต่อทางเดินหายใจ ปอดอกั เสบ พงั ผดื ในปอดหรือแทรกผา่ นเขา้ สู่ กระแสเลือด โดยท่ีไม่รู้ตวั กล่มุ โรคปอดจำกกำรประกอบอำชีพ กลุ่มเส่ียงท่ี 1 ไดแ้ ก่ อตุ สาหกรรมสิ่งทอ ตดั เยบ็ เครื่องนุ่งห่มท่ีทาจากฝ้าย กลมุ่ เส่ียงท่ี 2 ไดแ้ ก่ อตุ สาหกรรมการผลิตท่อซีเมนต์ กระเบ้ืองมุ่งหลงั คา ฝ้า เพดาน เบรก ครัช ชุดพจญเพลิง เป็นตน้ กลมุ่ เส่ียงที่ 3 ไดแ้ ก่ โรงโม่หิน หลอ่ หลอมโลหะ ทาเหมือง อุตสาหกรรมแกว้ กระจกฝ้า ฯลฯ กลมุ่ เส่ียงที่ 4 ไดแ้ ก่ ท่ีอาจพบในประเทศไทย ไดแ้ ก่ อุตสาหกรรมสียอ้ มผา้ กาว สาหรับติดหนงั แป้งทาขนมปัง สารเคมีต่าง ๆ ก๊าซ และควนั พิษ เป็นตน้
38 ป้องกนั ตนเองอย่ำงไร ให้ลดควำมเสี่ยงโรคปอดจำกกำรประกอบอำชีพ ใชอ้ ุปกรณ์ป้องกนั ทางเดินหายใจที่เหมาะสมกบั สารเคมีแต่ละชนิด ตรวจร่างกายประจาปี เอก็ ซ์เรยป์ อด ตรวจสมรรถภาพปอด ออกกาลงั กาย งดบุหรี่ และสิ่งเสพติด พกั ผอ่ นใหพ้ อเพยี ง ดวงตำกบั กำรทำงำน ปัญหำทำงตำทเ่ี กยี่ วกบั กำรประกอบอำชีพ 1. ปัญหาสายตา เช่น สายตาส้นั สายตายาว สายตาเอียง สายตาคนสูงอายุ ความลา้ ของสายตา
39 กำรป้องกนั ปัญหำสำยตำจำกกำรประกอบอำชีพ 1. ตรวจสมรรถภาพสายตา ก่อนการจา้ งงานหรือบรรจุเขา้ ทางาน การตรวจเป็นระยะ ๆ 2. การปรับสภาพแวดลอ้ มการทางาน การจดั แสงสวา่ งท่ีเหมาะสมเพยี งพอกบั ลกั ษณะการทางาน การจดั ท่าทางการทางานท่ีไม่บดบงั ทิศทาง ของแสงสวา่ ง 2. การไดร้ ับอนั ตรายหรือการบาดเจบ็ ที่ดวงตาจากการ ทางานอาจเกิดข้ึนไดจ้ ากสาเหตุดงั ต่อไปน้ี เศษวสั ดุกระเดน็ เขา้ ตา เช่น ในขณะเจียร ตดั ขดั ไส ชิ้นงาน สารเคมีกระเดน็ เขา้ ตา เช่น ขณะทางานผสม ฉีด พ่น สารเคมี ถกู วตั ถุกระแทกดวงตา เช่น เครื่องมือท่ีใชท้ างานกระแทกดวงตา แสงจา้ จากการเชื่อมโลหะ
40 กำรป้องกนั อนั ตรำยหรือกำรบำดเจ็บทดี่ วงตำ วธิ ีการป้องกนั อนั ตรายหรือบาดเจบ็ ท่ีดวงตา สามารถทาไดด้ งั น้ี 1. การปฏิบตั ิตามกความปลอดภยั ในการทางานของโรงงาน โดยเคร่งครัด 2. ติดต้งั และใชอ้ ุปกรณ์สาหรับกาบงั (การ์ดเคร่ืองจกั ร) ทุกคร้ัง 3. ใชอ้ ปุ กรณ์ป้องกนั ดวงตาอยา่ ง เหมาะสมกบั ลกั ษณะของการ ทางานดงั น้ี งานท่ีมีประกายไฟ หรือแสงจา้ เช่นงานเชื่อมโลหะตอ้ งใช้ แวน่ ตานิรภยั หรือแวน่ ครอบตา หรือกระบงั หนา้ สาหรับงาน เช่ือมทุกคร้ังในขณะทางาน งานท่ีมีเศษวตั ถกุ ระเดน็ มาจากดา้ นหนา้ หรือดา้ นขา้ งได้ เช่น งานกลึง งานเจียร งานไส ตอ้ งใชแ้ ว่นตานิรภยั ท่ีมีแผน่ ป้องกนั ดา้ นขา้ งทุกคร้ังในขณะทางาน งานที่มีการกระเดน็ ของวตั ถุมาจากหลาย ๆ ทิศทางหรือมี การกระเดน็ ของของเหลวสารเคมี ตอ้ งใชก้ ระบงั หนา้ ปกปิ ด ใบหนา้ ควบคู่กบั แว่นตานิรภยั หรือแวน่ ครอบตาทุกคร้ังในขณะ ทางาน
41 กำรจัดท่ำทำงอย่ำงไรให้เหมำะสมกบั กำรทำงำน ลกั ษณะการทางานที่ก่อใหเ้ กิดปัญหาต่อระบบกระดูก และกลา้ มเน้ือของร่างกาย การเคลื่อนไหวแบบซ้าซาก การใชม้ ือทางานมากเกินไป การทางานท่ีตอ้ งสัมผสั อณุ หภูมิที่ผดิ ปกติ เช่น ร้อนหรือเยน็ เกินไป การทางานที่มีการสั่นสะเทือนมาก ๆ เช่น การใชเ้ คร่ืองเจาะ การทางานดว้ ยท่าทางที่ไม่ถนดั
42 ลกั ษณะกำรทำงำนเหล่ำนีส้ ำมำรถแก้ไขได้ เช่น การปรับปรุงสถานท่ีทางาน เช่น ปรับความสูงของโตะ๊ เกา้ อ้ีทางาน การจดั ระบบงาน เช่น การจดั ใหล้ ูกจา้ งมีเวลาพกั เป็นระยะ ๆ การใชเ้ คร่ืองจกั รทดแทน เช่น กรณีทางานซ้าซาก กำรจดั ท่ำทำงอย่ำงไรให้เหมำะสมกบั งำน ลกั ษณะท่ำทำงในกำรทำงำน ในแต่ละวนั มนุษยเ์ ราตอ้ งมีอิริยาบถต่างๆ ในการทางาน เช่น ยนื เดิน นงั่ กม้ หยบิ จบั เอ้ือม ยก ซ่ึงหากปฏิบตั ิดว้ ยท่าทางท่ีไม่ถูกตอ้ งจะทาใหเ้ กิดปัญหาสุขภาพตามมาภายหลงั
43 ลกั ษณะท่ำทำงในกำรทำงำน
44 ลกั ษณะท่ำทำงในยกวสั ดสุ ิ่งของ
45 วธิ ีปฏิบตั งิ ำนกบั สำรตัวทำลำย สำรตวั ทำละลำย สารละลายบางชนิดสามารถ สารตวั ทาละลายบางชนิดไม่ควรนามา ระเบิดได้ ใชเ้ ป็นตวั ทาความสะอาดเพราะเป็นอนั ตรายตอ่ สารตวั ทาละลายบางชนิดสามารถ สุขภาพและไวไฟ สลายตวั ใหก้ รด ก๊าซพษิ หรือสารกดั กร่อนได้ ถา้ สารตวั ทาละลายบางชนิดสามารถ สมั ผสั กบั ความร้อนเช่น ไตรคลอโรเอทธิลีน,1,1,1,- ติดไฟไดง้ ่าย ไตรคลอโรอีเธน,ฟลูโรคาร์บอน,เปอร์คลอ โรเอทธิลีน,เอทธิลีนคลอไรด์ เป็นตน้ สารตวั ทาละลายบางชนิดสามารถทา ปฏิกิริยารุนแรงกบั สารชนิดอื่น พษิ ต่อร่ำงกำย คุณจะรู้สึกผดิ ปกติในกระ การสมั ผสั กบั ไอระเหยของสารตวั เพราะอาหารความสามารถ ที่จะทางานอยา่ งปลอดภยั ทาลายของสารมากเกินไปทาใหเ้ กิด ลดนอ้ ยลง การระคายเคือง ต่อตา ลาคอ ผิวหนงั ท่ีสัมผสั ตวั ทาลายเป็น เป็นเร่ืองง่ายท่ีจะทางานกบั สารตวั ทา เวลานานจะทาใหเ้ กิดผ่นื หรือ ละลายแต่เราตอ้ งรู้วธิ ีปฏิบตั ิอยา่ งถูกตอ้ ง อาการแทกซอ้ น รู้สึกวงิ เวยี นศรีษะ มึน
Search