Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Aชุด2 เก็งสังคมหน้า 10-23

Aชุด2 เก็งสังคมหน้า 10-23

Published by krusiriruk, 2019-05-14 23:20:32

Description: Aชุด2 เก็งสังคมหน้า 10-23

Search

Read the Text Version

~ 10 ~ ข้อสอบชดุ ที่ 2 : ติวฟติ พิชติ ข้อสอบ โดย อ.พิเดช ปรางทอง 1. พระพทุ ธเจ้าคน้ พบธรรมะขอ้ ใด จึงได้ประกาศว่า “เปน็ ผู้ตรัสรโู้ ดยพระองคเ์ องไม่มีผู้ใดเปน็ ครสู อน” 1. วชิ ชา 3 2. อริยสจั 4 3. อภิญญา 6 4. มรรคมีองค์ 8 2. คาวา่ “ดวงตาเหน็ ธรรม” ที่พระอัญญา โกณฑญั ญะไดร้ ับ หมายถึง ได้บรรลุธรรมระดับใด 1. โสดาบัน 2. สกทาคามี 3. อนาคามี 4. อรหนั ต์ 3. องคธ์ รรมขอ้ ใดที่พระพทุ ธเจ้าตรสั วา่ “ต้องปรบั ให้มีความสมดลุ กับปญั ญา (ความรอบรู้)” 1. ศรัทธา (ความเชื่อ) 2. วริ ิยะ (ความเพยี ร) 3. สติ (ความรู้ตัว) 4. สมาธิ (ความต้ังใจมน่ั ) 4. วธิ ีคิดในทางส่งเสริมความเจริญงอกงามแห่งกศุ ลและสกดั ก้ันอกุศล ตรงกับข้อใด 1. แบบแยกแยะส่วนประกอบ 2. แบบคณุ โทษและทางออก 3. แบบอบุ ายปลกุ เร้าคุณธรรม 4. แบบแก้ปญั หาตามแนวอริยสจั 5. องคก์ รสงฆใ์ นพระพทุ ธศาสนายดึ อะไรเป็นหลกั การปกครองสงู สุด ดจุ กฎหมายรฐั ธรรมนูญของประเทศ 1. พระธรรมวนิ ัย 2. พระโอวาทปาติโมกข์ 3. พระราชบญั ญัติคณะสงฆ์ 4. ปฏิญญาสากลขององคก์ รสงฆโ์ ลก 6. “ทาดีไดด้ ี ทาชั่วได้ชัว่ ” สื่อถึงความขอ้ ใดชัดเจนทสี่ ดุ 1. ทาดีตายแล้วข้นึ สวรรค์ ทาชั่วต้องตกนรก 2. ทาดีทาชว่ั เป็นคนละประเภท แยกขาดกนั 3. ทาดีหรือทาชั่วขึน้ อยกู่ ับเจตนาจงใจเท่านั้น 4. ทาดีไดร้ ับการยกยอ่ ง ทาช่วั ยอ่ มถกู ตฉิ ินนินทา 7. ขอ้ ใดกล่าวไว้ ไม่ ถกู ต้อง ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 1. พอเพยี งในความต้องการ 2. พอเพยี งในความสามารถ 3. พอเพยี งในสิง่ ที่ตนมีอยู่ 4. พอเพยี งกบั ตนเอง อุ้มชูตนเองได้ 8. “การใช้จติ กาหนดตามอาการสนั้ /ยาวของลมหายใจ” เปน็ คาอธิบายการเจริญสติปฏั ฐานในขอ้ ใด 1. กายานุปสั สนา 2. เวทนานปุ สั สนา 3. จติ ตานปุ สั สนา 4. ธมั มานปุ สั สนา 9. ขอ้ ความใดมีความหมายสอดคล้องกบั พทุ ธภาษิตว่า “นตถฺ ิ โลเก รโห นาม ปาปกมฺม ปกพุ ฺพโต” 1. ชวั่ เจ็ดทดี ีเจด็ หน 2. คนไมเ่ หน็ แต่ผีเหน็ 3. ช้างตายทงั้ ตัวเอาใบบวั มาปิด 4. กรรมชัว่ ยอ่ มเผาผลาญภายหลัง

~ 11 ~ 10. คาอปุ มาวา่ “ต้นตรงปลายคด” สือ่ ถงึ พระสาวกรูปใด 1. พระอุทายี 2. พระเทวทัต 3. พระฉันนะ 4. พระองคลุ ิมาล 11. ขอ้ ใดเป็นความหมายทถ่ี กู ต้องของการรกั ษาศีลอโุ บสถ 1. รกั ษาให้ครบกาหนดหนึง่ วนั กบั หนึง่ คนื 2. รกั ษาเฉพาะวันพระในเทศกาลเขา้ พรรษา 3. รกั ษาศลี 8 ของอบุ าสกอบุ าสิกาผู้นงุ่ ขาวห่มขาว 4. รกั ษาเฉพาะวนั พระ (ข้นึ /แรม 15 คา่ )ในพระอุโบสถ 12. ขอ้ ใดกล่าวไว้ ไม่ ถกู ต้องในองค์ 4 ของ “จาตรุ งคสันนบิ าต” เนื่องในวนั เพญ็ เดือน 3 1. พระสงฆม์ าตามนัดหมาย 2. พระสงฆล์ ้วนเปน็ พระอรหนั ต์ 3. เฉพาะพระสงฆท์ ี่บวชกับพระพุทธเจ้า 4. ตรงกบั วนั เพญ็ ในพธิ ีศิวาราตรีของพราหมณ์ 13. ขอ้ ใดเป็น “ทาน” ทีม่ ีกาหนดช่วงเวลาทากิจกรรมเอาไวช้ ัดเจน 1. ถวายผ้าป่า 2. ถวายผ้ากฐนิ 3. ถวายผ้าอาบน้าฝน 4. ถวายผ้าห่มพระธาตเุ จดีย์ 14. “คนวรรณะจณั ฑาล” เกิดจากบิดาหรือมารดาอยใู่ นฐานะอยา่ งไร 1. บิดาเปน็ คนวรรณะสงู 2. บิดาเปน็ คนวรรณะตา่ 3. มารดาเป็นคนวรรณะตา่ 4. ทั้งบดิ าและมารดาเปน็ คนวรรณะตา่ 15. มิตรสหาย วางตาแหนง่ อยดู่ ้านใด ตามหลกั ทิศ 6 ในสิงคาลกสตู ร 1. ทักษณิ ทิศ (ทิศเบอื้ งขวา) 2. ปัจฉิมทศิ (ทิศเบือ้ งหลงั ) 3. อตุ รทิศ (ทิศเบือ้ งซ้าย) 4. เหฏฐิมทศิ (ทิศเบือ้ งล่าง) 16. บิดาของวชิ าประวตั ิศาสตร์ในโลกตะวันตก คอื ใคร 1. พลาโต (Plato) 2. อะธีนา (Athena) 3. เฮโรโดตสุ (Herodotus) 4. ไดโอนิซสุ (Dionysus) 17. ขอ้ ใดอธิบาย “ยุคหินใหม”่ ได้ดที ีส่ ดุ 2. มนุษยใ์ ช้ตัวอกั ษรในการสือ่ สาร 1. มนษุ ยร์ วมกลุ่มกนั เพอ่ื การเพาะปลกู 4. มนษุ ยใ์ ช้หนิ ทองแดง สารดิ ทาเครื่องมือ 3. มนษุ ยอ์ ยใู่ นสงั คมแสวงหาอาหาร 18. “สมัยประวัติศาสตร”์ ของจีนเริม่ ต้นในสมัยราชวงศใ์ ด 1. ชาง 2. โจว 3. ฮน่ั 4. ถัง

~ 12 ~ 19. คมั ภีร์ใดทีบ่ ันทึกเรื่องราวคนพน้ื เมืองอินเดียที่ ไมใ่ ช่ ชาวอารยนั 1. ฤคเวท 2. ยชรุ เวท 3. สามเวท 4. อถรรพเวท 20. ลุ่มแม่น้าใด ไมใ่ ช่ แหลง่ อารยธรรมยุคโลหะแรกเริ่มของโลก 1. ลุ่มแมน่ ้าเหลืองในจนี 2. ลุ่มแม่น้าสนิ ธใุ นอินเดีย 3. ลุ่มแม่น้าโขงในเอเชียอาคเนย์ 4. ลุ่มแม่น้าไทกรสิ ยูเฟรตสิ ในตะวนั ออกกลาง 21. เหตกุ ารณ์ใด ไมใ่ ช่ การตดิ ต่อระหว่างโลกตะวนั ออกกับโลกตะวันตก 1. สงครามครูเสด 2. สงครามวอเตอร์ลู 3. ชาวออตโตมนั เตริ ์กยดึ ครองกรงุ คอนสแตนติโนเปิล 4. พระเจ้าอเลก็ ซานเดอร์มหาราชรุกรานอินเดีย 22. สิง่ กาหนดฐานะและความสมั พันธ์ของคนในสงั คมยคุ กลางของยโุ รปคอื ขอ้ ใด 1. ทีด่ นิ 2. ระบบทหาร 3. ความม่ังคงั่ 4. การศึกษา 23. ขอ้ ใด ไมม่ ี ส่วนสัมพนั ธก์ ับสงครามโลกคร้ังที่ 1 1. เป็นสงครามเบด็ เสร็จ ทาลายล้างกนั ทกุ รูปแบบ 2. พลเมอื งในแนวหลังมสี ่วนร่วมรบด้วย 3. มกี ารแสวงหาการป้องกนั ไม่ให้เกดิ สงคราม 4. กองทพั เยอรมนีบกุ ประเทศโปแลนด์ 24. ขอ้ ใดอธิบาย “สงครามเยน็ ” ได้ดีทสี่ ดุ 1. การเมืองโลกเป็นแบบสองขว้ั อานาจ 2. เศรษฐกจิ โลกเปน็ ทนุ นยิ มด้านเดียว 3. การปลดปล่อยอาณานิคมให้ได้เอกราช 4. การปฏิวตั ิของคอมมิวนิสต์ในรัสเซียและจีน 25. คาวา่ “จิ้มก้อง” ตรงกบั ข้อใด 1. ระบบการคา้ ระหว่างกรงุ ศรีอยธุ ยากับริวกิว 2. ระบบการทตู ระหว่างจีนกับญีป่ นุ่ 3. การทตู แบบบรรณาการระหว่างสยามกบั เปอร์เซีย 4. รปู แบบการคา้ ระหว่างกรงุ ศรีอยธุ ยากับจีน

~ 13 ~ 26. ปัจจัยใดที่สง่ เสริมใหก้ รงุ ศรีอยธุ ยาเปน็ เมืองท่านานาชาติ 1. ปลอดภยั จากการรกุ รานของตะวันตก 2. มีชาวต่างชาติเข้ามารบั ราชการ 3. ตง้ั อยบู่ ริเวณลุ่มน้าเจ้าพระยาตอนล่าง 4. มีเสรีภาพในการนบั ถือศาสนา 27. ขอ้ ใด ไม่ ถูกต้อง หากกล่าวถึงสมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระยาดารงราชานุภาพ 1. เสนาบดกี ระทรวงมหาดไทย 2. เสนาบดีกระทรวงกลาโหม 3. พระบดิ าแหง่ ประวัตศิ าสตร์ไทย 4. ผู้อานวยการจดั หอสมุดสาหรบั พระนคร 28. ขอ้ ใดเปน็ เหตกุ ารณ์ในปี ร.ศ. 130 2. ปฏิวตั ิครั้งแรกของสยาม 1. ปฏิรูปการปกครองสยาม 4. ให้พระมหากษัตริย์อยภู่ ายใต้รฐั ธรรมนญู 3. จดั ตงั้ เมืองดสุ ิตธานี 29. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ หลกั 6 ประการของคณะราษฎรในการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 1. เสรีภาพ 2. การศกึ ษา 3. เอกราชทางการเมือง 4. เทอดทนู สถาบันพระมหากษตั ริย์ 30. เหตุการณ์ใดทีน่ าสยามไปสู่ความทนั สมัยอยา่ งชดั เจนทสี่ ดุ ในเวลาต่อมา 1. การเสดจ็ ประพาสยโุ รปของรัชกาลที่ 5 2. การร่วมรบในสงครามโลกคร้ังที่ 1 3. การทาสนธิสัญญาเบอรน์ ี ปี พ.ศ. 2369 4. การทาสนธสิ ัญญากบั นานาชาติต้ังแต่ปี พ.ศ. 2398 31. ขอ้ ใดถกู ต้อง 1. ปญั หาพืน้ ฐานทางเศรษฐกจิ ประกอบด้วย ผลิตอะไร ผลิตเมอ่ื ใด และผลิตเพ่อื ใคร 2. ประเทศที่ยากจนเท่านั้นทจี่ ะเผชิญกบั ปัญหาการแจกจ่ายสนิ คา้ ที่ผลิตได้ในระบบเศรษฐกิจ 3. เศรษฐศาสตร์เปน็ วชิ าที่ศึกษาวธิ ีทจ่ี ะสนองตอบต่อความต้องการของมนุษยใ์ ห้ได้ครบถ้วน 4. การศึกษาวชิ าเศรษฐศาสตรไ์ ม่อาจบอกได้ว่าระบบเศรษฐกิจแบบใดเปน็ ระบบเศรษฐกิจทดี่ ีทส่ี ดุ ที่ สังคมควรเลือก 32. ขอ้ ใดเปน็ เรื่องของเศรษฐศาสตร์มหภาค 1. การเปิดการคา้ เสรกี ับจีนทาใหแ้ อปเปิ้ลทีไ่ ทยนาเขา้ มรี าคาถูกลง 2. รัฐบาลช่วยเหลือชาวนาโดยการรบั จานาขา้ วเปลือกเกวยี นละ 20,000 บาท 3. อัตราวา่ งงานของประเทศไทยในไตรมาสที่ 4 ลดลงเมือ่ เทียบกับไตรมาสทีผ่ ่านมาร้อยละ 2 4. การเพ่มิ ขน้ึ ของราคาน้ามนั เชือ้ เพลงิ ในช่วงทีผ่ ่านมา ทาให้ปริมาณขายรถจกั รยานยนต์ในประเทศ ลดลง

~ 14 ~ 33. ขอ้ ใดทาให้อุปสงคส์ ่วนเกนิ เกดิ ข้นึ 2. จานวนผู้ผลติ สินค้าลดลง 1. ปริมาณการผลติ สินค้าเพ่มิ ข้นึ 4. ราคาสินค้าสงู กวา่ ราคาดลุ ยภาพ 3. ราคาสนิ คา้ ต่ากวา่ ราคาดลุ ยภาพ 34. “หุ่นยนต์ ววั ปา่ ภารโรง และรถขนส่งสินค้า” เปน็ ปจั จัยการผลิตประเภทใด 1. แรงงาน - แรงงาน - แรงงาน – ทนุ 2. ทนุ – ทีด่ นิ - แรงงาน - ทนุ 3. อุปกรณ์ – สตั ว์ – คน – เครือ่ งจกั ร 4. ทนุ – แรงงาน – แรงงาน – สินค้า 35. ขอ้ ใดจดั เป็น GNP ของประเทศไทย 1. ธนาคารเซียงไฮ้ตงั้ สาขาที่สิงคโปร์ 2. ญี่ปนุ่ มาตั้งโรงงานผลิตรถในประเทศไทย 3. สันติไปทางานที่มาเลเซีย แล้วส่งเงนิ มาให้ลกู สาวทป่ี ระเทศไทย 4. คนจนี เขา้ มาทาธุรกิจเหมอื งแร่ในประเทศไทย 36. ขอ้ ใดถกู หากพบว่า ปี พ.ศ. 2553 หนสี้ าธารณะต่อประชากรเท่ากับ 40,000 บาท/คน และในปี พ.ศ. 2555 หนสี้ าธารณะต่อประชากรเท่ากบั 80,000 บาท/คน 1. ภาคเอกชนก่อหนีเ้ พ่มิ ข้นึ 2 เท่า 2. รัฐบาลมีพันธะต้องชดใช้หนีเ้ พม่ิ ขน้ึ 3. ประชาชนต้องจ่ายภาษีในอตั ราสงู ขน้ึ 4. ประเทศไม่มีความเจริญเติมโตทางเศรษฐกิจ 37. ขอ้ ใดถกู ต้อง 1. ประเทศไทยสามารถจัดเกบ็ ภาษีทางตรงได้มากกวา่ ภาษีทางอ้อม 2. ปัจจบุ นั ประเทศไทยมีการจดั เกบ็ ภาษีมูลค่าเพม่ิ ในอัตราร้อยละ 10 3. คนไทยทกุ คนไมว่ า่ จะมีงานทาหรือไม่มีงานทา ยอ่ มมีหน้าที่เสียภาษี 4. โครงสร้างอัตราภาษีแบบคงที่ จะทาให้การกระจายรายได้ของคนไทยดีขนึ้ 38. ขอ้ ใดคอื การใช้นโยบายการคลังเพ่อื แก้ไขปัญหาเงินฝืด 1. การลดอตั ราภาษีและการลดรายจ่ายของรฐั บาล 2. การลดอตั ราภาษีและการเพ่มิ รายจ่ายของรฐั บาล 3. การเพม่ิ อตั ราดอกเบยี้ และการลดรายจ่ายของรัฐบาล 4. การลดอตั ราดอกเบีย้ และการเพ่มิ รายจ่ายของรฐั บาล

~ 15 ~ 39. ขอ้ ใดทาให้ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกจิ ลดลง มากทสี่ ดุ 1. ครัวเรือนเลือกทีจ่ ะเก็บเงนิ สดเอาไวท้ ี่บา้ นมากขน้ึ โดยลดการนาเงนิ ไปฝากธนาคาร และธนาคารพาณิชยล์ ดการใหก้ ู้ยืมเงิน 2. ครัวเรือนเลือกที่จะเกบ็ เงินสดเอาไวท้ บี่ ้านมากข้นึ โดยลดการนาเงนิ ไปฝากธนาคาร และธนาคารพาณิชยเ์ พ่มิ การใหก้ ู้ยืมเงิน 3. ครัวเรือนเลือกที่จะเกบ็ เงินสดเอาไวท้ ีบ่ า้ นลดลง โดยเพิ่มการนาเงนิ ไปฝากธนาคาร และธนาคารพาณิชยล์ ดการให้กู้ยืมเงิน 4. ครวั เรือนเลือกทีจ่ ะเกบ็ เงนิ สดเอาไวท้ ีบ่ า้ นลดลง โดยเพม่ิ การนาเงนิ ไปฝากธนาคาร และธนาคารพาณิชยเ์ พ่มิ การใหก้ ู้ยืมเงิน 40. ขอ้ ใดถกู ต้อง 1. ภาวะเงินเฟ้อจะไม่พบในภาวะสงคราม 2. ภาวะเงินฝืดเป็นภาวะที่ไม่เคยเกิดขนึ้ ในประเทศไทย 3. ภาวะเงินฝืดคอื ภาวะทีร่ ะดบั ราคาสินค้าโดยท่ัวไปลดลง 4. ภาวะเงินเฟ้อคอื ภาวะทีร่ ะดับราคาสินค้าทุกชนิดต้องราคาสงู ข้นึ 41. ขอ้ ใด ไม่ใช่ หน้าทีข่ ององคก์ ารการคา้ โลก (WTO) 1. เปน็ เวทสี าหรบั แกไ้ ขข้อขดั แยง้ ทางการคา้ ระหว่างสมาชิก 2. ส่งเสริมให้มกี ารลดอปุ สรรคทางการคา้ ระหว่างสมาชิกในรูปของมาตรการภาษีศลุ กากร โดยสนับสนนุ ให้มีการใช้มาตรการที่ไม่ใช่ภาษีมากกวา่ 3. ตดิ ตามสถานการณก์ ารคา้ ระหว่างประเทศและจดั ให้มีการทบทวนนโยบายการคา้ ของสมาชิกอยา่ ง สม่าเสมอ เพอ่ื เปน็ การตรวจสอบให้เป็นไปในแนวทางการคา้ เสรี 4. ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศกาลงั พัฒนาในด้านขอ้ มลู ขอ้ แนะนา เพอ่ื ให้สามารถปฏิบัตติ าม พนั ธกรณีได้อยา่ งเพยี งพอ ตลอดจนทาการศึกษาประเดน็ เศรษฐกจิ ที่สาคญั 42. ปจั จบุ ันธรุ กิจบรกิ ารใดที่ทารายได้สูงสุดให้แก่ประเทศไทยในดลุ บญั ชีเดนิ สะพัด 1. การท่องเทีย่ ว 2. การขนส่งผู้โดยสาร 3. การคา้ ส่งและคา้ ปลกี 4. การธนาคารและการประกนั ภัย 43. ขอ้ ใดเปน็ ดชั นีชีว้ ัดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ 1. คุณภาพชีวิตของประชากรดีขนึ้ 2. รายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรเพม่ิ ข้นึ 3. ประเทศมกี ารกระจายรายได้เทา่ เทียมกันมากข้นึ 4. ภาคอุตสาหกรรมมีมูลคา่ มากกวา่ ภาคเกษตรกรรม

~ 16 ~ 44. เครือ่ งมือใดสามารถใช้เพือ่ สง่ เสริมให้เกิดการกระจายรายได้ทด่ี ีขนึ้ 1. การเปลีย่ นแปลงคา่ เงินบาท 2. การใช้อัตราภาษีแบบก้าวหน้า 3. การกาหนดวงเงนิ คมุ้ ครองเงินฝาก 4. การเปลีย่ นแปลงอัตราดอกเบยี้ เงินฝากและเงนิ ใหก้ ู้ 45. หินบะซอลต์เปน็ หินชนิดใด 1. หินช้ัน 2. หินแปร 3. หนิ ตะกอน 4. หินอคั นี 46. วนั ใดทีแ่ สงต้ังฉากของดวงอาทิตย์อยทู่ เี่ ส้นทรอปกิ ออฟแคนเซอร์ 1. 21 มีนาคม 2. 21 มิถนุ ายน 3. 22 กันยายน 4. 21 ธันวาคม 47. บรรยากาศชน้ั ใดที่เหมาะต่อการบนิ ของเครือ่ งบินพาณิชย์ 1. โทรโพสเฟยี ร์ 2. สตราโทสเฟยี ร์ 3. เมโซสเฟยี ร์ 4. เทอร์มอสเฟยี ร์ 48. พ้ืนโลกจะสะท้อนรงั สีประเภทใดกลับไปในบรรยากาศมากทีส่ ุด 1. รงั สีแกมมา 2. รังสีอนิ ฟราเรด 3. รงั สีอลั ตราไวโอเลต 4. รังสที ี่ตามองเหน็ ได้ 49. พ้ืนที่ซึง่ มคี วามต่างของระดับส่วนที่สูงทสี่ ุดกบั ส่วนทตี่ ่าทีส่ ุดประมาณ 150-600 เมตร เรียกวา่ อะไร 1. ทีร่ าบ 2. ภูเขา 3. เทือกเขา 4. เนินเขา 50. พ้ืนทีใ่ ดเปน็ ปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกที่เกดิ จากกระบวนการภเู ขาไฟ 1. เขากระโดง จังหวดั บรุ ีรมั ย์ 2. โป่งยุบ จังหวดั ราชบรุ ี 3. เสาเฉลียง จังหวดั อบุ ลราชธานี 4. ภผู าเทิบ จังหวดั มกุ ดาหาร 51. เส้นแบ่งเขตวนั สากลอยทู่ ีเ่ ส้นเมริเดียนใด 1. 0 องศา 2. 45 องศา 3. 90 องศา 4. 180 องศา 52. สรุ ิยปุ ราคาเกิดขนึ้ เมือ่ ดวงจนั ทร์อยใู่ นตาแหนง่ ใด 1. ข้นึ 8 ค่า 2. ข้นึ 15 คา่ 3. แรม 8 ค่า 4. แรม 15 ค่า 53. ลมชนิดใดที่มีอิทธพิ ลต่อการเกดิ ปรากฏการณห์ มอกหนาทึบปกคลมุ ภาคเหนือในฤดหู นาว 1. ลมตะวนั ออกเฉียงเหนือ 2. ลมตะวันออกเฉียงใต้ 3. ลมตะวันตกเฉียงเหนือ 4. ลมตะวนั ตกเฉียงใต้ 54. ก๊าซเรือนกระจกชนิดใดทีม่ ีคณุ สมบตั ิในการดดู ซับความร้อนได้มากที่สดุ 1. มีเทน 2. ไนตรัสออกไซด์ 3. คลอโรฟลอู อโรคาร์บอน 4. คาร์บอนไดออกไซด์

~ 17 ~ 55. ป่าประเภทใดมีความหลากหลายทางชีวภาพสงู สดุ 1. ป่าดิบชนื้ 2. ป่าพรุ 3. ป่าละเมาะ 4. ป่าชายหาด 56. ขอ้ ใดถกู ต้องสาหรบั ปัญหาดนิ ในแต่ละภาคของประเทศไทย 1. ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือมีปญั หาดินเค็มครอบคลุมพ้นื ที่มากกวา่ ปญั หาดินด้านอื่นๆ 2. ภาคเหนือดินขาดความอุดมสมบรู ณเ์ ฉพาะการทาลายปา่ และการชะล้างพังทลายของดิน 3. ภาคกลางมีปัญหาดินเปรยี้ ว ต้ังแต่นครสรรคถ์ ึงกรงุ เทพมหานคร 4. ภาคใต้มีปัญหาดินกรด เพราะฝนตกชกุ ตลอดปี 57. ขอ้ ใดคอื วธิ ีแก้ปญั หาการชะล้างพงั ทลายของดิน 1. การปลกู หญ้าแฝก 2. การเติมปนู ขาว 3. การใสป่ ุ๋ยชีวภาพ 4. การควบคุมการทานากงุ้ 58. อนุสัญญาบาเซิลเป็นอนสุ ัญญาทีว่ ่าด้วยเรื่องใด 1. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 2. ความหลากหลายทางชีวภาพ 3. การคา้ สัตวป์ ่าและพชื ป่าทีใ่ กล้สญู พนั ธ์ุระหว่างประเทศ 4. การควบคุมการเคลือ่ นยา้ ยและการกาจัดของเสียอันตรายข้ามแดน 59. สถาบนั ทางสังคมใดมีอายุเก่าแก่ที่สดุ 2. สถาบนั ตลุ าการ 1. สถาบนั ศาสนา 4. สถาบันการปกครอง 3. สถาบันครอบครัว 60. สถานภาพทางสงั คมใดทบี่ คุ คลได้มาตั้งแต่เกดิ 1. อาชีพ 2. ฐานะ 3. วรรณะ 4. ตาแหน่ง 61. ขอ้ ใดอธิบายลกั ษณะของสถาบนั ทางสงั คมไดถ้ ูกต้องที่สดุ 1. สร้างข้นึ เพ่ือจดั ระเบียบแบบแผนในประเด็นต่างๆ 2. แต่ละสถาบนั มีสมาชิกของตนทีแ่ ยกออกจากกนั อยา่ งชดั เจน 3. ไม่เกีย่ วกบั เรื่องของสิง่ ศกั ดิส์ ิทธิ์จึงไม่ได้รวมถึงสถาบันศาสนา 4. สร้างขน้ึ ในยคุ ที่มีการจดั การบรหิ ารและเทคโนโลยที ที่ ันสมยั

~ 18 ~ 62. ขอ้ ใดเป็นหน้าทีส่ าคญั ทสี่ ุดของสถาบนั การศึกษา 1. วางกรอบความประพฤติดี ประพฤติชอบ 2. ถ่ายทอดแนวความคดิ ความรู้ และวัฒนธรรม 3. สร้างแบบแผนและกฎเกณฑ์ในการผลิตสินค้าและบริการ 4. ตรวจสอบการทางานของบคุ คลและกลุ่มคนทีท่ างานเพอ่ื ส่วนรวม 63. ขอ้ ใด ไม่ใช่ ผลของการขดั เกลาทางสังคม 1. การเกดิ ทกั ษะในการทากิจกรรมร่วมกบั ผู้อืน่ 2. การเกิดเสรีภาพในความคดิ และแนวทางปฏิบัติ 3. การปฏิบัตติ ามระเบียบวนิ ยั และกฎเกณฑ์ทส่ี งั คมกาหนด 4. การยอมรับคา่ นิยมและแนวทางการปฏิบตั ิตามบรรทัดฐานของสงั คม 64. ขอ้ ใดเปน็ ปญั หาสังคมไทยทแี่ กย้ ากทีส่ ดุ เนื่องจากคนไทยจานวนมากยงั ไม่ ตระหนกั วา่ เปน็ ปญั หา 1. การคอรัปชนั่ ของเจ้าหน้าที่รฐั 2. การแพร่ระบาดของสิง่ เสพตดิ และการพนนั 3. ความแตกแยกขัดแยง้ ในความคดิ เหน็ ทางการเมือง 4. ความเสือ่ มโทรมของทรพั ยากรธรรมชาติ ดิน น้า ป่า 65. การใส่ชดุ ดาไปร่วมงานศพของคนในหมบู่ ้าน แสดงวา่ ปฏิบัติตามบรรทดั ฐานสงั คมในขอ้ ใด 1. จารีต 2. กฎหมาย 3. วถิ ีชาวบา้ น 4. ขอ้ บงั คับหมู่บา้ น 66. เพราะเหตุใดจึงมีคากล่าวทว่ี า่ “มนษุ ยเ์ ปน็ สัตวส์ งั คม” 1. มนษุ ยส์ ามารถสร้างกฎเกณฑ์อยรู่ ่วมกนั โดยใช้สญั ลักษณ์ 2. มนษุ ยส์ ามารถปรับตัวได้ดกี ับสิ่งแวดล้อม 3. มนษุ ยส์ ามารถพฒั นาเทคโนโลยไี ด้ 4. มนษุ ยส์ ามารถสือ่ สารระหว่างกัน 67. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ เรื่องทีป่ ระชาคมสังคมและวฒั นธรรมอาเซียนที่จะจดั ต้ังภายในปี พ.ศ. 2558 ให้ ความสาคัญ 1. การจัดสวัสดิการสังคม 2. การอนรุ ักษ์สิ่งแวดล้อม 3. การพฒั นาประชาธิปไตย 4. การพัฒนาทรพั ยากรมนุษย์

~ 19 ~ 68. ขอ้ ใดอธิบาย “วัฒนธรรมไทย” ได้ถกู ต้องที่สดุ 1. มีความแตกต่างจากวฒั นธรรมสากลอยา่ งสนิ้ เชิง 2. สะท้อนแบบแผนการดาเนนิ ชีวิตของคนไทยที่มีคณุ คา่ ดีงาม 3. เปน็ แบบแผนการปฏิบตั ิทสี่ ืบต่อกนั มานานต้ังแต่สมยั สโุ ขทยั 4. เป็นสิง่ ที่คนสร้างขน้ึ จึงมีความหลากหลายแตกต่างไปในแตล่ ะท้องถิ่น 69. ขอ้ ใดเปน็ เหตผุ ลสาคัญที่สดุ ของการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมไทย 1. เพ่อื ทาให้คนไทยเกดิ ความภาคภมู ิใจในตนเอง 2. เพ่อื ส่งเสริมการท่องเทีย่ วและการคา้ ขายสินค้าหตั ถกรรมไทย 3. เพ่อื แสดงให้ชาติอื่นทราบวา่ ชาติไทยมีวัฒนธรรมทีส่ งู ส่งดีงาม 4. เพ่อื ส่งเสริมความเขา้ ใจและการนาไปประยกุ ต์เพื่อการดารงชีวิต 70. ขอ้ ใดเป็นปจั จัยสาคัญทสี่ ุดในการก่อรูปวัฒนธรรมไทย 1. ศาสนา 2. เศรษฐกจิ 3. สิง่ แวดล้อม 4. นโยบายของรฐั 71. พธิ ีการบวชประเภทใดทีม่ ีความสาคัญทีส่ ดุ ในวฒั นธรรมท้องถิน่ ภาคเหนือ 1. พธิ ีบวชชี 2. พธิ ีบวชเณร 3. พธิ ีบวชภกิ ษุณี 4. พิธบี วชภิกษุ 72. วฒั นธรรมไทยในขอ้ ใดที่แตกต่างจากวฒั นธรรมตะวันตกเช่น ยโุ รป อเมริกา มากที่สดุ 1. การยดึ ถือระบบอาวุโส 2. การมีน้าใจเอื้อเฟอ้ื เผื่อแผ่ 3. การใช้เทคโนโลยกี ารสื่อสาร 4. ความเคร่งครดั ในการนบั ถือศาสนา 73. ศาลใดในปัจจุบนั ทาหน้าที่พิพากษาคดรี ะหว่างหน่วยงามราชการของรฐั รฐั วสิ าหกิจหรือราชการ ส่วนท้องถิน่ หรือระหว่างเจ้าหน้าทรี่ ฐั กับเอกชน หรอื เจ้าหน้าที่รฐั ด้วยกนั 1. ศาลรฐั ธรรมนูญ 2. ศาลฎกี า 3. ศาลปกครอง 4. ศาลตรวจราชการแผ่นดนิ 74. ขอ้ ใด ไม่ใช่ องคก์ รอิสระตามรฐั ธรรมนญู พ.ศ. 2550 1. ศาลรฐั ธรรมนญู 2. คณะกรรมการเลือกตั้ง 3. คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดนิ 4. คณะกรรมาธิการระหว่างประเทศ 75. รัฐธรรมนญู ที่บงั คับใช้ในปจั จุบนั คอื รฐั ธรรมนญู ฉบบั ทเี่ ท่าไร 1. ฉบบั ที่ 17 2. ฉบับที่ 18 3. ฉบบั ที่ 19 4. ฉบบั ที่ 20

~ 20 ~ 76. คดียุบพรรคการเมือง จานวน 4 พรรค และเพกิ ถอนสิทธิสมาชิกพรรคในการเลือกตั้งเปน็ เวลา 5 ปี เกดิ ข้นึ เม่อื ปี พ.ศ. ใด และหน่วยงานใดทีท่ าหน้าทีไ่ ตส่ วนและพพิ ากษา 1. พ.ศ. 2549 คณะกรรมการการเลือกตง้ั 2. พ.ศ. 2549 คณะกรรมการปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ 3. พ.ศ. 2550 คณะตลุ าการศาลปกครอง 4. พ.ศ. 2550 คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 77. การตกลงทีจ่ ะจดั ต้ังเขตการคา้ เสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area : AFTA) เกิดขนึ้ ในการ ประชมุ ทีป่ ระเทศใดและปี พ.ศ. ใด 1. ประเทศสิงคโปร์ พ.ศ. 2535 2. ประเทศมาเลเซีย พ.ศ. 2540 3. ประเทศบรไู น พ.ศ. 2550 4. ประเทศไทย พ.ศ. 2554 78. สิทธชิ มุ ชนไดร้ บั การยอมรับและบรรจุไวใ้ นรัฐธรรมนญู ฉบับใดของไทยเป็นครง้ั แรก 1. รฐั ธรรมนูญ พ.ศ. 2535 2. รฐั ธรรมนญู พ.ศ. 2540 3. รฐั ธรรมนูญ พ.ศ. 2550 4. รัฐธรรมนญู พ.ศ. 2554 79. รัฐในรปู แบบใดทีม่ กี ารรวมตัวกนั เป็นการเฉพาะและ ไม่ มีรัฐธรรมนญู 1. รฐั สมบูรณาญาสิทธริ าชย์ 2. รัฐฟาสซสิ ต์ 3. สมาพันธรฐั 4. รัฐแบบคอมมิวนสิ ต์ 80. การบรหิ ารงานของจังหวดั และอาเภอเป็นการบริหารราชการระดบั ใด 1. การบริหารราชการรองจากส่วนกลาง 2. การบริหารราชการส่วนเหนือการปกครองส่วนท้องถิ่น 3. การบรหิ ารราชการส่วนภมู ิภาค 4. การบริหารราชการส่วนขยายจากส่วนกลาง 81. อานาจอธิปไตยแบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คอื ขอ้ ใด 1. อานาจอธิปไตยระดบั ชาตแิ ละระดบั ปกครองตนเอง 2. อานาจอธิปไตยของประชาชน และของรฐั 3. อานาจอธิปไตยภายในและภายนอก 4. อานาจอธิปไตยตามรัฐธรรมนูญและตามกฎหมายระหว่างประเทศ 82. บคุ คลใด ไมม่ ี สทิ ธิไปเลือกตงั้ 2. ผู้ท่อี าศยั อยตู่ ่างประเทศ 1. พระภิกษุ 4. ขา้ ราชการทถี่ ูกปลดออกจากราชการ 3. ผู้ทม่ี ีอายเุ กนิ 70 ปี

~ 21 ~ 83. การปกครองแบบเทศาภิบาล เกิดขนึ้ ในรชั กาลใด 1. รชั กาลที่ 4 2. รัชกาลที่ 5 3. รัชกาลที่ 6 4. รชั กาลที่ 7 84. ขอ้ ใด ไม่ใช่ หน้าทีข่ ององคก์ รปกครองท้องถิ่น 1. ดูแลจดั ทาบรกิ ารสาธารณะ 2. บริหารด้านการเงินและการคลงั 3. ออกพระราชบัญญัตกิ ารปกครองท้องถนิ่ 4. กาหนดนโยบายและการบรหิ าร 85. ขอ้ ใดคอื ความแตกต่างระหว่างรฐั กับชาติ 1. รฐั หมายถงึ การผกู พันทางวฒั นธรรม ส่วนชาติเปน็ ความผูกพันภายในดินแดนเดียวกัน 2. รัฐมีองคก์ รทางกฎหมายท่ชี ัดเจนในการบริหาร ส่วนชาติเปน็ องค์กรตามธรรมชาติ 3. รฐั หมายถึงชุมชนทีป่ กครองตามกฎหมาย ส่วนชาตหิ มายถึงการรวมตวั ในอาณาเขตทแี่ น่นอน 4. รัฐคอื ชมุ ชนทางการเมืองทีม่ าอยรู่ ่วมกัน โดยมีอานาจอธิปไตยของตนเอง ส่วนชาติหมายถงึ ชุมชน ทีม่ ีประวัติศาสตรแ์ ละมีความผูกพนั ทางวฒั นธรรมร่วมกนั 86. ขอ้ ใด ไม่ใช่ หลกั ของอานาจอธิปไตย 2. การแบ่งแยกมิได้ 1. ความสงู สุด 4. ความครอบคลมุ 3. ความหยดื หยุ่น 87. ขอ้ ใดเรียงลาดบั ศักดิ์ของกฎหมายจากต่าไปสงู ได้ถกู ต้อง 1. ขอ้ บังคับตาบล กฎกระทรวง พระราชบญั ญัติ ประมวลกฎหมาย 2. พระราชบัญญตั ิ พระราชกฤษฎีกา รฐั ธรรมนญู ประมวลกฎหมาย 3. กฎกระทรวง พระราชกาหนด พระราชกฤษฎกี า รฐั ธรรมนญู 4. ขอ้ บัญญัติองคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวัด พระราชกฤษฎีกา พระราชบัญญตั ิ รฐั ธรรมนญู 88. เมือ่ รัฐบาลได้บงั คบั ใช้พระราชกาหนดเพอ่ื ปัดป้องอุทกภัยเนื่องจากหลายจงั หวดั ประสบภาวะน้าท่วม แล้วรัฐสภาต้องออกกฎหมายฉบับใด 1. ประมวลกฎหมาย 2. กฎกระทรวง 3. พระราชบญั ญตั ิ 4. พระราชกฤษฎีกา 89. ขอ้ ใดเปน็ การทานติ ิกรรม 1. ดาขับรถยนต์ชนขาวด้วยความตงั้ ใจ 2. เขยี วเข้าซ่อมแซมหลังคาบ้านให้เหลืองโดยเหลืองไมไ่ ด้สง่ั 3. ส้มแสดงตนในฐานะผู้รบั พนิ ยั กรรมเพ่อื ขอรบั มรดกของฟา้ ผู้ตาย 4. แดงยอมรบั วา่ ตนเป็นหนีม้ ่วงโดยลงลายมือชือ่ ในเอกสารไวเ้ ป็นหลกั ฐาน

~ 22 ~ 90. สิทธขิ องบคุ คลธรรมดาเกดิ ข้นึ เม่อื ใด 2. เมื่อคลอดแล้วอยรู่ อดเป็นทารก 1. ตั้งแต่ปฏสิ นธิในครรภ์มารดา 4. เมือ่ แจ้งเกดิ ตามพระราชบญั ญัติทะเบียนราษฎร์ 3. เมือ่ แพทยต์ ดั สายรกของมารดาแล้ว 91. พระราชบญั ญัติบตั รประจาตัวประชาชน พ.ศ. 2554 กาหนดให้บุคคลใดต้องมีบัตรประจาตัว ประชาชน 1. บคุ คลเชือ้ ชาติไทยทม่ี ีอายุครบ 15 ปีบริบรู ณ์ แตไ่ ม่เกิน 70 ปบี ริบรู ณ์ 2. บคุ คลสญั ชาติไทยทม่ี ีอายคุ รบ 15 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกิน 70 ปบี ริบรู ณ์ 3. บคุ คลเชอื้ ชาติไทยท่มี ีอายุครบ 7 ปีบริบรู ณ์ แต่ไม่เกนิ 70 ปีบริบรู ณ์ 4. บคุ คลสญั ชาติไทยทม่ี ีอายุครบ 7 ปีบริบรู ณ์ แต่ไม่เกนิ 70 ปีบริบรู ณ์ 92. Value Added Tax เปน็ การจัดเกบ็ ภาษีประเภทใด 1. ภาษีศุลกากร 2. ภาษีสรรพสามิต 3. ภาษีการคา้ 4. ภาษีมูลคา่ เพ่มิ 93. ขอ้ ใดเปน็ โทษทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา 1. ปรับ ยดึ ทรพั ยส์ ิน 2. กักขงั ริบทรพั ย์สิน 3. จาคกุ คมุ ประพฤติ 4. ประหารชีวิต อายดั ทรัพย์สนิ 94. นายดาต้องการลกั โคของนายแดง แต่ไม่สามารถลกั เอาได้ เพราะนายแดงเฝ้าโคนน้ั ตลอดเวลา นายดาจงึ ใช้ทอ่ นไมต้ ีหวั นายแดงจนสลบไป แลว้ นายดากล็ กั เอาโคไป นายดากระทาความผิดฐานใด 1. ลกั ทรัพย์ 2. วง่ิ ราวทรัพย์ 3. ชิงทรพั ย์ 4. ปล้นทรัพย์ 95. นายแดงขบั รถท่ามกลางสายฝนด้วยความเรว็ สูงเปน็ เหตใุ ห้ชนนายดา ซึ่งกาลงั ขา้ มถนนถึงแก่ความ ตาย การกระทาของนายแดงครบองคป์ ระกอบภายในของความรับผิดฐานฆา่ คนตายลักษณะใด 1. การกระทาโดยเจตนา 2. การกระทาโดยประมาท 3. การกระทาโดยพลาด 4. การกระทาโดยงดเวน้ 96. อนสุ ัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 บญั ญัติให้รฐั ชายฝ่ังมสี ิทธอิ ธิปไตย เขต เศรษฐกิจจาเพาะ เกี่ยวกับทรพั ยากรและกจิ กรรมทางเศรษฐกิจ โดยรัฐอนื่ มีเสรีภาพในการเดินเรือ บินผ่าน วางสายเคเบลิ และท่อใต้ทะเล เปน็ ระยะจากชายฝ่ังกีไ่ มล์ทะเล 1. 8 ไมลท์ ะเล 2. 12 ไมล์ทะเล 3. 188 ไมล์ทะเล 4. 200 ไมล์ทะเล

~ 23 ~ 97. สญั ญากู้ยืมเงนิ สามารถกาหนดดอกเบยี้ ได้สงู สดุ ร้อยละเท่าใด 1. 7.5 ต่อเดือน 2. 7.5 ต่อปี 3. 15 ต่อเดือน 4. 15 ต่อปี 98. ขอ้ ใด ไม่ ถูกต้องเกยี่ วกับสัญญาจานอง 1. สญั ญาจานองเป็นสัญญาอุปกรณ์ 2. ผู้จานองต้องส่งมอบทรพั ย์สนิ ใหแ้ ก่ผู้รับจานอง 3. ผู้จานองเอาทรัพย์สนิ ตราไวแ้ ก่ผรู้ บั จานองเพ่อื ประกนั การชาระหนี้ 4. ถ้าลกู หนไี้ ม่ชาระหนีเ้ มื่อถงึ กาหนด เจ้าหนสี้ ามารถบังคับชาระหนจี้ ากทรพั ยส์ ินทจี่ านองได้ 99. หลงั คาบ้านเช่ารั่วเลก็ น้อย ผู้เช่าจะเรียกให้ผู้ให้เช่าทาการซ่อมแซมได้หรือไม่ 1. ได้ โดยการที่ผู้เช่าทาการซ่อมแซมแล้วเรียกเงินคา่ ใช้จ่ายในการซ่อมบ้านจากผู้ให้เช่า 2. ได้ เพราะหน้าทีซ่ ่อมแซมทรัพยส์ ินที่เช่าเปน็ ของผู้ใหเ้ ช่า 3. ไม่ได้ เพราะบ้านเช่าอยใู่ นความครอบครองของผู้เช่า ผู้เช่าต้องรบั ผิดชอบ 4. ไม่ได้ เพราะการซ่อมแซมเลก็ น้อยเป็นหน้าที่ของผู้เช่า 100. ขอ้ ใดเปน็ การสมรสที่สมบรู ณ์ 1. นายแดงได้สมรสกบั นายเขียวซึ่งได้ผ่าตดั แปลงเพศเป็นหญิงแล้ว 2. นายขาวอายุสิบแปดปีบริบรู ณส์ มรสกับนางสาวส้มอายสุ ิบห้าปีบริบรู ณ์ 3. นางชมพภู ริยา เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายฟ้า ได้มาจดทะเบียนสมรสกับนายดา 4. นายม่วงอายสุ ิบเก้าปีบริบรู ณส์ มรสกับนางสาวแสดอายุสิบแปดปบี ริบรู ณ์โดยไดร้ ับความยนิ ยอม จากบิดามารดาของทั้งคู่ “ฝากอนาคตไวก้ บั เทพเทวา...ไม่สู่ฝากชีวาไว้กบั สตปิ ญั ญาของตน” “การเรียนมนั เหนื่อย....แต่เชือ่ เถอะวา่ ...พ่อแม่เราเหน่ือยกว่าเราอีกนะ” *******ครูขอให้เด็กๆ ทุกคนนาสมุดมาจดสรุปเนือ้ หาเพิ่มเติมด้วยนะครับ****** อ.พิเดช ปรางทอง โทร. 089-1585796 Facebook : พิเดช ปรางทอง ID-Line : pidetch สงวนลิขสทิ ธ์ติ ามพระราชบญั ญตั ลิ ิขสิทธ์ิ พ.ศ. 2537 ห้ามท้าซ้าดัดแปลงหรือเผยแพร่ขอ้ สอบชดุ นี ก่อนได้รับอนญุ าต


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook