Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย

แบบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย

Published by Guset User, 2021-12-04 15:23:03

Description: แบบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย

Search

Read the Text Version

แบบแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมไทย

คานา แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐–๒๕๖๔) ไดจ้ ดั ทาข้ึน ในช่วงเวลา ของการปฏิรูปประเทศท่ามกลางสถานการณ์โลกท่ีเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเร็วและเชื่อมโยงกนั ใกลช้ ิดกนั มากข้ึน โดยนาหลกั “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”มาเป็ นปรัชญานาทางในการพฒั นาประเทศ ตอ่ เน่ืองจาก แผนพฒั นาฯ ฉบบั ท่ี ๙–๑๑ เพ่ือเสริมสร้างภูมิคุม้ กนั และช่วยใหส้ งั คมไทยสามารถยนื หยดั อยไู่ ด้ อยา่ งมน่ั คง เกิดภูมิคุม้ กนั และมีการบริหารจดั การความเสี่ยงอยา่ งเหมาะสม ส่งผลใหก้ ารพฒั นาประเทศสู่ ความสมดุลและ ยงั่ ยนื ในการจดั ทาแผนพฒั นาฯ ฉบบั ท่ี ๑๒ คร้ังน้ี สานักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ (สศช.) ไดจ้ ดั ทาบนพ้ืนฐานของยทุ ธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙) ซ่ึงเป็นแผนแม่บท หลักของการพฒั นาประเทศ และเป้าหมายการพฒั นาท่ียงั่ ยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) รวมท้ังการปรับโครงสร้างประเทศไทยไปสู่ประเทศไทย ๔.๐ ตลอดจนประเด็นการปฏิรูปประเทศ นอกจากน้นั ไดใ้ ห้ความสาคญั กบั การมีส่วนร่วมของภาคีการพฒั นาทุกภาคส่วนท้งั ในระดับกลุ่มอาชีพ ระดบั ภาค และ ระดบั ประเทศในทุกข้นั ตอนของแผนฯ อย่างกวา้ งขวางและต่อเน่ืองเพื่อร่วมกนั กาหนด วสิ ยั ทศั น์และ ทิศทางการพฒั นาประเทศ รวมท้งั ร่วมจดั ทารายละเอียดยทุ ธศาสตร์ของแผนฯ เพื่อมุ่งสู่ “ความ มน่ั คง มง่ั คง่ั และยงั่ ยนื ” การพฒั นาประเทศในระยะแผนพฒั นาฯ ฉบบั ที่ ๑๒ จึงเป็นจุดเปล่ียนที่สาคญั ในการเชื่อมต่อกบั ยทุ ธศาสตร์ ชาติ ๒๐ ปี ในลกั ษณะการแปลงยทุ ธศาสตร์ระยะยาวสู่การปฏิบตั ิ โดยในแต่ละยทุ ธศาสตร์ของ แผนพฒั นาฯ ฉบบั ที่ ๑๒ ไดก้ าหนดประเด็นการพฒั นา พร้อมท้งั แผนงาน/โครงการสาคญั ท่ีตอ้ งดาเนินการให้ เห็นผล เป็นรูปธรรมในช่วง ๕ ปี แรกของการขบั เคลื่อนยทุ ธศาสตร์ชาติเพ่ือเตรียมความพร้อมคน สังคม และ ระบบ เศรษฐกิจของประเทศให้สามารถปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงได้อย่างเหมาะสม ขณะเดียวกนั ยงั ไดก้ าหนดแนวคิดและกลไกการขบั เคล่ือนและติดตามประเมินผลท่ีชดั เจนเพ่ือกากบั ให้ การ พฒั นาเป็นไปอยา่ งมีทิศทางและเกิดประสิทธิภาพ นาไปสู่การพฒั นาเพื่อประโยชนส์ ุขที่ยง่ั ยนื ของสังคมไทย

การเปล่ียนแปลงโครงสร้างประชากรไทยที่จะเขา้ สู่สังคมสูงวยั อย่างสมบูรณ์เมื่อสิ้นสุด แผนพฒั นาฯ ฉบบั ที่ ๑๒ โดยท่ีสัดส่วนผูส้ ูงอายุจะเพ่ิมข้ึนเป็ นร้อยละ ๑๙.๘ ของจานวนประชากรท้งั หมด ในขณะท่ีจานวน ประชากรวยั แรงงานไดเ้ ร่ิมลดลงมาต้งั แตป่ ี ๒๕๕๘ เป็นตน้ มา ส่งผลใหเ้ กิดการขาดแคลน แรงงานในภาวะ ท่ีผลิตภาพแรงงานไทยก็ยงั ต่า เน่ืองจากปัญหาคุณภาพแรงงาน ความล่าชา้ ในการพฒั นา เทคโนโลยี และปัญหา การบริหารจดั การจึงเป็ นขอ้ จากดั ในการเพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขนั และ ศกั ยภาพการเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจของประเทศ รวมท้งั การสร้างรายไดแ้ ละการยกระดบั คุณภาพชีวิต ของประชาชนดว้ ย ท้งั น้ี เมื่อพจิ ารณา คุณภาพคนพบวา่ ยงั มีปัญหาในแตล่ ะช่วงวยั และส่งผลกระทบต่อเน่ือง ถึงกนั ตลอดช่วงชีวติ ต้งั แต่พฒั นาการ ไม่สมวยั ในเด็กปฐมวยั ผลลพั ธ์ทางการศึกษาของเด็กวยั เรียนค่อนขา้ ง ต่า การพฒั นาความรู้และทกั ษะของ แรงงานไม่ตรงกบั ตลาดงาน ขณะท่ีผูส้ ูงอายุมีปัญหาสุขภาพและมี แนวโนม้ อยคู่ นเดียวสูงข้ึน ครอบครัว มีรูปแบบที่หลากหลายและเปราะบางสูงส่งผลต่อการบ่มเพาะให้เด็ก เติบโตอยา่ งมีคุณภาพ ประกอบกบั การเลื่อนไหลของวฒั นธรรมต่างชาติที่เขา้ มาในประเทศไทยผา่ นสังคม ยคุ ดิจิทลั ในขณะท่ีคนไทยจานวน ไม่นอ้ ยยงั ไม่สามารถคดั กรองและเลือกรับวฒั นธรรมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ส่งผลต่อวิกฤตค่านิยม ทศั นคติ และ พฤติกรรมในการดาเนินชีวติ การพฒั นาในระยะต่อไปจึงตอ้ งให้ความ สาคญั กบั การวางรากฐานการพฒั นาคน ให้มีความสมบูรณ์ เร่ิมต้งั แต่กลุ่มเด็กปฐมวยั ที่ตอ้ งพฒั นาให้มี สุขภาพกายและใจท่ีดี มีทกั ษะทางสมอง ทกั ษะ การเรียนรู้ และทกั ษะชีวิต เพ่ือให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ ควบคูก่ บั การพฒั นาคนไทยในทุกช่วงวยั ใหเ้ ป็ นคนดี มีสุขภาวะท่ีดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีระเบียบวนิ ยั มีจิต สานึกท่ีดีต่อสังคมส่วนรวม มีทกั ษะความรู้ และ ความสามารถปรับตวั เท่าทนั กบั การเปล่ียนแปลงรอบตวั ที่ รวดเร็ว บนพ้ืนฐานของการมีสถาบนั ทางสังคม ที่เขม้ แข็งท้งั สถาบนั ครอบครัว สถาบนั การศึกษา สถาบนั ศาสนา สถาบนั ชุมชน และภาคเอกชนที่ร่วมกนั พฒั นาทุนมนุษยใ์ หม้ ีคุณภาพสูง อีกท้งั ยงั เป็ นทุนทางสังคม สาคญั ในการขบั เคลื่อนการพฒั นาประเทศ

แนวทางการพฒั นา ๑. ส่งเสริมการเล้ียงดูในครอบครัวท่ีเนน้ การฝึกเดก็ ใหร้ ู้จกั การพ่ึงพาตวั เอง มีความ ซื่อสัตย์ มีวนิ ยั มีศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม มีความรับผิดชอบ ในรูปแบบของกิจกรรมท่ีเป็ นกิจวตั ร ประจาวนั และใหพ้ ่อแม่หรือ ผปู้ กครองเป็นแบบอยา่ งท่ีดีใหเ้ ด็กสามารถเรียนรู้และยดึ ถือเป็นตน้ แบบในการ ดาเนินชีวติ ๒.ส่งเสริมให้มีกิจกรรมการเรียนการสอนท้งั ในและนอกหอ้ งเรียนท่ีสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ความมี วินยั จิตสาธารณะ รวมท้งั เร่งสร้างสภาพแวดลอ้ มภายในและโดยรอบสถานศึกษาให้ปลอด จากอบายมุข อยา่ งจริงจงั ๓. ปรับวิธีการเผยแผ่หลักศาสนาให้มุ่งช้ีแนะแนวทางการดารงชีวิตตามหลกั ธรรมคาสอน ที่เขา้ ใจง่าย สามารถนาไปปฏิบตั ิไดจ้ ริง นาไปสู่การปลูกฝังคา่ นิยมท่ีดีงาม ๔. เสริมสร้างความเขม้ แขง็ ของชุมชนในการมีส่วนร่วมจดั กิจกรรมสาธารณประโยชน์ จดั ระเบียบทางสังคม และกาหนดบทลงโทษแก่ผลู้ ะเวน้ การปฏิบตั ิตามบรรทดั ฐานในสังคม ๕. จดั สรรเวลาและพ้ืนที่ออกอากาศให้แก่ส่ือสร้างสรรค์ท่ีส่งเสริมการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมและ ค่านิยมอนั ดีโดยเฉพาะในช่วงเวลาท่ีมีผูช้ มมากท่ีสุด และส่งเสริมการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ สร้าง ความรู้ความเขา้ ใจในบทบาท สิทธิ และหนา้ ท่ีการเป็นพลเมืองท่ีดี

๖. ผลกั ดนั ใหม้ ีการนาวฒั นธรรมการทางานท่ีพึงประสงคไ์ ปใชป้ ฏิบตั ิจนใหเ้ ป็ น คุณลกั ษณะท่ีสาคญั ของคน ในสังคมไทย อาทิ การตรงต่อเวลา ความรับผิดชอบ ความมีระเบียบวินยั การทางานเป็ นทีม การเคารพใน ความคิดเห็นท่ีแตกต่าง การทางานอยา่ งกระตือรือร้น ๖.๑ ปรับเปล่ียนคา่ นิยมคนไทยใหม้ ีคุณธรรม จริยธรรม มีวนิ ยั จิตสาธารณะ และพฤติกรรม ท่ีพึงประสงค์ ๖.๒ พฒั นาศกั ยภาพคนใหม้ ีทกั ษะความรู้ และความสามารถในการดารงชีวติ อยา่ งมีคุณคา่ ส่งเสริมใหเ้ ดก็ ปฐมวยั มีการพฒั นาทกั ษะทางสมองและทกั ษะทางสังคมท่ีเหมาะสม ๑) ให้ความรู้แก่พ่อแม่หรือผูด้ ูแลเด็กในเรื่องการมีโภชนาการท่ีเหมาะสม วิธีการ เล้ียงดูเด็กท่ีจะกระตุน้ พฒั นาการเดก็ ในช่วง ๐ – ๓ ปี แรก รวมท้งั สนบั สนุนใหแ้ มเ่ ล้ียงลูกดว้ ยนมแมอ่ ยา่ งนอ้ ย ๖ เดือน ๒) กาหนดมาตรการสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตและการทางานให้พ่อแม่สามารถ เลย้ี งดูบุตรไดด้ ว้ ย ตนเองท้งั การจูงใจใหส้ ถานประกอบการจดั ใหม้ ีการจา้ งงานที่ยดื หยนุ่ รณรงคใ์ หผ้ ชู้ าย ตระหนกั และมีส่วนร่วมในการทาหนา้ ที่ในบา้ นและดูแลบุตรมากข้ึน ๓) พฒั นาหลกั สูตรการสอนท่ีอิงผลงานวิจยั ทางวิชาการและปรับปรุงสถานพฒั นาเด็ก ปฐมวยั ให้มีคุณภาพ ตามมาตรฐานท่ีเน้นการพฒั นาทกั ษะสาคญั ดา้ นต่างๆ อาทิ ทกั ษะทางสมอง ทกั ษะดา้ น ความคิดความจา ทกั ษะการควบคุมอารมณ์ ทกั ษะการวางแผนและการจดั ระบบ ทกั ษะการรู้จกั ประเมินตนเอง ควบคู่กบั การ ยกระดบั บุคลากรในสถานพฒั นาเด็กปฐมวยั ใหม้ ีความพร้อมท้งั ทกั ษะ ความรู้ จริยธรรม และ ความเป็ นมืออาชีพ ๔) สนบั สนุนการผลิตสื่อสร้างสรรคท์ ี่มีรูปแบบหลากหลายท่ีใหค้ วามรู้ในการเล้ียงดู และพฒั นาเด็กปฐมวยั อาทิ ครอบครัวศึกษา อนามยั แม่และเดก็ วธิ ีการพฒั นาทกั ษะทางสมองและทกั ษะทาง สังคม ๕) ผลกั ดนั ใหม้ ีกฎหมายการพฒั นาเด็กปฐมวยั ใหค้ รอบคลุมท้งั การพฒั นาทกั ษะ การเรียนรู้เนน้ การเตรียม ความพร้อมเขา้ สู่ระบบการศึกษา การพฒั นาสุขภาพอนามยั ใหม้ ีพฒั นาการท่ีสมวยั และการเตรียมทกั ษะการ อยใู่ นสังคมใหม้ ีพฒั นาการอยา่ งรอบดา้ น

๑) พฒั นาเด็กวยั เรียนและวยั รุ่นใหม้ ีทกั ษะการคิดวิเคราะห์อยา่ งเป็ นระบบมีความคิด สร้างสรรค์ มีทกั ษะ การทางานและการใชช้ ีวติ ท่ีพร้อมเขา้ สู่ตลาดงาน ๒) สนบั สนุนใหเ้ ด็กเขา้ ร่วมกิจกรรมท้งั ในและนอกห้องเรียนท่ีเอ้ือต่อการพฒั นา ทกั ษะชีวติ และทกั ษะการ เรียนรู้อยา่ งต่อเน่ือง อาทิ การอ่าน การบาเพญ็ ประโยชน์ทางสังคม การดูแลสุขภาพ การทางานร่วมกนั เป็ น กลุ่ม การวางแผนชีวติ ๓) สร้างแรงจูงใจให้เด็กเขา้ สู่การศึกษาในระบบทวิภาคีและสหกิจศึกษาที่มุ่งการฝึ ก ทกั ษะอาชีพใหพ้ ร้อม เขา้ สู่ตลาดงาน

ประเทศไทยมีกรอบการพฒั นาของตนเองท่ีกาลงั ใช้อยูเ่ พื่อให้บรรลุเป้าหมายการพฒั นา อยา่ งยงั่ ยืน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยอาศยั หลกั ภูมิปัญญาและความซื่อสัตยส์ ุจริตตลอดจนหลกั การ เดินทางสายกลาง ความสมเหตุสมผลและความรอบคอบตามแนวคิดของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวภูมิ พลอดุลยเดช จุดเนน้ ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งคือความยง่ั ยนื และไดร้ ับการยอมรับวา่ เป็ นหลกั การสาคญั ของแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของประเทศไทยมาต้งั แต่ปี พ.ศ. 2545 f



เกณฑ์มาตรฐาน ๑) พฒั นาศูนย์ฝึ กอบรมสมรรถนะแรงงานที่ได้มาตรฐานตามระบบคุณวุฒิวิชาชีพ และมาตรฐานฝี มือ แรงงาน จดั ทามาตรฐานอาชีพในอุตสาหกรรมเป้าหมายท่ีมีศกั ยภาพ และใหม้ ีการประเมิน ระดบั ทกั ษะของ แรงงานบนฐานสมรรถนะ ปรับกระบวนการเรียนรู้ที่ส่งเสริมใหเ้ ด็กมีการเรียนรู้จากการปฏิบตั ิจริง สอดคลอ้ งกบั พฒั นาการของสมองแต่ละช่วงวยั เนน้ พฒั นาทกั ษะพ้ืนฐานดา้ นวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ดา้ น วศิ วกรรมศาสตร์ ดา้ นคณิตศาสตร์ ดา้ นศิลปะ และดา้้ นภาษาตา่ งประเทศ ๒) เร่งพฒั นาระบบขอ้ มูลความตอ้ งการและการผลิตกาลงั คนที่มีการบูรณาการ ระหวา่ งหน่วยงานที่เก่ียวขอ้ ง และสามารถนาไปใชค้ าดประมาณความตอ้ งการกาลงั คนท่ีสอดคลอ้ งกบั ทิศทางตลาดงานในอนาคต ๓) จดั ต้งั ศูนยบ์ ริการขอ้ มูลและใหค้ าปรึกษาในการเป็ นผปู้ ระกอบการรายใหม่และ อาชีพอิสระท้งั การจดั หา แหล่งเงินทุนและการตลาดที่เหมาะสม และให้สถาบนั การศึกษาจดั ทาหลกั สูตรระยะ ส้ันพฒั นาทกั ษะ พ้ืนฐานและทกั ษะท่ีจาเป็นสาหรับแรงงานกลุ่มน้ี ๔) ส่งเสริมให้สถาบนั การเงินร่วมกบั สถานประกอบการกาหนดมาตรการการออม ทจีู้ ้่งใจแก่แรงงาน และกระตุน้ ใหเ้ กิดพฤติกรรมการออมอยา่ งตอ่ เน่ืองเพ่ือความมนั่ คงทางการเงินหลงั เกษียณ พฒั นาศกั ยภาพของกลุ่มผสู้ ูงอายวุ ยั ตน้ ใหส้ามารถเขา้ สู่ตลาดงานเพมิ่ ข้ึน ๑) จดั ทาหลกั สูตรพฒั นาทกั ษะในการประกอบอาชีพที่เหมาะสมกบั วยั สมรรถนะ ทางกาย ลกั ษณะงาน และ ส่งเสริมทกั ษะการเรียนรู้ในการทางานร่วมกนั ระหวา่ งรุ่น ๒) สนบั สนุนมาตรการจูงใจทางการเงินและการคลงั ให้ผูป้ ระกอบการมีการจา้ งงาน ที่เหมาะสมสาหรับ ผสู้ ูงอายุ ๓) สนบั สนุนช่องทางการตลาด แหล่งทุน และบริการขอ้ มูลเก่ียวกบั โอกาสใน การประกอบอาชีพสาหรับ ผสู้ ูงอายใุ นชุมชน ๓.๑ ยกระดบั คุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวติ จดั ทรัพยากรร่วมกนั ให้มีขนาดและจานวนที่เหมาะสมตามความจาเป็ นของพ้ืนที่ และโครงสร้างประชากรท่ี มีสัดส่วนวยั เดก็ ลดลงอยา่ งต่อเนื่อง

๓.๒ พฒั นาระบบประเมินคุณภาพมาตรฐานที่สามารถวดั และประเมินผลคุณภาพผูเ้ รียน ทง้ั ดา้ นทกั ษะ ความรู้ ความสามารถ และสมรรถนะตามมาตรฐานการเรียนรู้แต่ละระดบั การศึกษา ๓.๓ส่งเสริมมาตรการสร้างแรงจูงใจให้สถานประกอบการขนาดกลางท่ีมีศกั ยภาพ เขา้ ร่วมระบบทวิภาคี หรือสหกิจศึกษา สร้างความรู้ความเขา้ ใจให้กบั ผูป้ ระกอบการ ครูฝึ กหรือครูพี่เล้ียงให้ ร่วมวางแผนการ จดั การเรียนการสอน การฝึกปฏิบตั ิ และการติดตามประเมินผลผเู้ รียน ๓.๔ ปรับระบบบริหารจดั การสถานศึกษาขนาดเล็กที่มีขนาดและจานวนผเู้ รียนต่ากวา่ .๓.๕ ปรับหลกั สูตรการผลิตครูท่ีเนน้ สมรรถนะมีจิตวญิ ญาณความเป็ นครูเป็นผแู้ นะนา และสามารถกระตุน้ การเรียนรู้ของผเู้ รียน สร้างมาตรการจูงใจใหผ้ มู้ ีศกั ยภาพสูงเขา้ มาเป็นครู ปรับระบบ ประเมินวทิ ยฐานะทางวชิ าชีพใหเ้ ชื่อมโยงกบั พฒั นาการและผลสัมฤทธ์ิของผเู้ รียน และสร้างเครือขา่ ย แลกเปล่ียนเรียนรู้ในการจดั การเรียนการสอนท่ีเป็ นการพฒั นาสมรรถนะของครูอยา่ งต่อเนื่อง ๓.๖ขยายความร่วมมือระหวา่ งสถาบนั อาชีวศึกษา สถาบนั อุดมศึกษา ภาคเอกชน และ ผเู้ ชี่ยวชาญท้งั ในและต่างประเทศ พฒั นาสาขาวชิ าที่มีความเช่ียวชาญเฉพาะดา้ นสู่ความเป็ นเลิศ การพฒั นา งานวจิ ยั ไปสู่นวตั กรรม รวมท้งั ขยายการจดั ทาและการใช้ หลกั สูตรฐานสมรรถนะใหม้ ากข้ึน สามารถเขา้ ถึงไดง้ ่าย สะดวก ทวั่ ถึง ไม่จากดั เวลาและสถานท่ี ๓.๗ ลดปัจจยั เสี่ยงดา้ นสุขภาพและใหท้ ุกภาคส่วนคานึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพ ๓.๘พฒั นาใหค้ นมีความรู้ในการดูแลสุขภาพมีจิตสานึกสุขภาพท่ีดีและมีการคดั กรอง พฤติกรรมสุขภาพดว้ ย ตนเองผา่ นช่องทางการเรียนรู้ที่หลากหลาย จดั บริการใหค้ าปรึกษาดา้ นสุขภาพจิต ท่ีเขา้ ถึงไดง้ ่าย และกากบั ควบคุมการเผยแพร่ชุดขอ้ มูลสุขภาพท่ีถูกตอ้ งตามหลกั วชิ าการ ๓.๙ ส่งเสริมให้คนมีกิจกรรมทางสุขภาพที่เหมาะสมกบั วยั ท้งั รูปแบบการออกกาลงั กาย โภชนาการท่ี เหมาะสม และสนบั สนุนใหช้ ุมชนมีการบริหารจดั การ

วธิ ีการดาเนินงานระดบั ชาตสิ าหรับการขบั เคลื่อนเป้าหมายการพฒั นาอย่างยั่งยืน รัฐบาลไทยไดจ้ ดั ต้งั คณะกรรมการระดบั ชาติเพื่อการพฒั นาอยา่ งยง่ั ยืน โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็ นประธาน มีกรรมการจานวน 37 คน ซ่ึงมาจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และภาคประชาสังคม โดยมี เลขาธิการคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็ นเลขานุการ14 คณะกรรมการระดบั ชาติเพื่อการพฒั นาอยา่ งยงั่ ยืนและหน่วยงานที่เก่ียวขอ้ งและกรอบนโยบายอ่ืน ๆ ไดใ้ ห้ ความสาคญั กบั ความร่วมมือระหวา่ งภาครัฐและภาคเอกชนและองค์กรภาคประชาสังคมโดยยึดหลกั ความ ร่วมมือในการพฒั นาอยา่ งไรก็ตามโครงสร้างการดาเนินงานยงั คงมีผูแ้ ทนจากองคก์ รภาคประชาสังคมนอ้ ย กวา่ ท่ีคาดการณ์ไว้ โดยมีจานวนตวั แทนองคก์ รภาคประชาสังคมเพียงจานวน 4 คนจากสมาชิกท้งั หมด 38 คน ดงั น้นั ภาครัฐจึงกาหนดกระบวนการของการมีส่วนร่วมขององคก์ รภาคประชาสังคมและเน้ือหาของ ผลลพั ธ์ทางวิชาการท่ีสาคญั เช่น แผนการดานเนินงานของแต่ละเป้าหมายการพฒั นาอย่างยง่ั ยืน ทาให้ นาไปสู่การร้องเรียนวา่ องคก์ รภาคประชาสังคม/องคก์ รพฒั นาเอกชนที่มีความสาคญั นอ้ ยของรัฐบาลได้รับ การเชิญให้เขา้ ร่วมในการวางแผนเป้าหมายการพฒั นาอยา่ งยงั่ ยืน ในขณะที่กลุ่มผูท้ ่ีมีความสาคญั มากหรือ กาลงั ทางานอยใู่ นระดบั รากหญา้ หรือในพ้ืนท่ีห่างไกลกลบั ไมไ่ ดร้ ับเชิญใหเ้ ขา้ มีส่วนร่วม15 ภาครัฐส่วนใหญ่ใช้งบประมาณท่ีรัฐบาลจดั สรรให้กบั หน่วยงานต่างๆเพ่ือทางานสนบั สนุนเป้าหมายการ พฒั นาอย่างยงั่ ยืน กองทุนเหล่าน้ีเป็ นรากฐานสาหรับแผนการดาเนินงานแบบบูรณาการของรัฐบาลตาม กรอบยทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบบั ที่ 12 รัฐบาลไดส้ ร้างโครงสร้างสาหรับการประสานงานระหวา่ งหน่วยงานในความพยายามท่ีจะบรรลุเป้าหมาย การพฒั นาอยา่ งยง่ั ยนื เมื่อเป้าหมายการพฒั นาอยา่ งยง่ั ยนื เป้าหมายและตวั ช้ีวดั ตอ้ งมีการประสานกนั ระหวา่ ง หน่วยงานอย่างน้อย 2 หน่วยงาน และงานน้ีถือว่าเป็ นประเด็นที่สาคญั ตามนโยบายการพฒั นาที่สาคญั นโยบายความมนั่ คงแห่งชาติ นโยบายสาคญั อ่ืน ๆ ของรัฐบาลและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หน่วยงานต่างๆ สามารถของบประมาณแบบบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์จากงบประมาณกลางซ่ึงเป็ นโอกาสสาหรับการการ ดาเนินการในการเช่ือมโยงกนั ประสานกนั และสนบั สนุนในลกั ษณะท่ีมีประสิทธิภาพ คุม้ คา่ และไมซ่ ้าซ้อน อย่างไรก็ตามหลกั ฐานท่ีแสดงว่ากระบวนการน้ีกาลงั เกิดข้ึนจริงเป็ นประจามีน้อยในปี พ.ศ. 2560- 2561 คณะรัฐมนตรีไดจ้ ดั ต้งั คณะกรรมการระดบั ชาติข้ึนใหม่อีก 3 คณะ:คณะกรรมการดาเนินการของนโยบาย ของรัฐบาลโดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ วาระการปฏิรูปประเทศและการดาเนินการเป้าหมายการพฒั นาอยา่ งยง่ั ยืนใน ระดบั ทอ้ งถ่ิน โดยมีนายกอบศกั ด์ิ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจาสานกั นายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการ คณะกรรมการเสริมสร้างขีดความสามารถของชุมชนในทอ้ งถิ่นโดยมีนายสุวพนั ธุ์ ตนั ยุวรรธนะ รัฐมนตรี ประจาสานกั นายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการ

คณะกรรมการโครงการยั่งยืนไทยเพ่ือการพัฒนาเศรษฐกิจระดับรากหญ้า โดยมีรัฐมนตรี ว่าการ กระทรวงมหาดไทยเป็ นประธานคณะกรรมการ คณะกรรมการน้ีจดั ต้งั ข้นั เม่ือเดือนกุมภาพนั ธ์ 2561ชุมชน ทอ้ งถ่ินและองคก์ รภาคประชาสงั คมจะมีช่องทางมากข้ึนในการทางานร่วมกบั ภาครัฐและจะสามารถจดั การ กบั วาระของทอ้ งถิ่นได1้ 7 เม่ือเดือนมกราคม 2561 กระทรวงการตา่ งประเทศซ่ึงเป็ นหน่วยงานรับผดิ ชอบของเป้าหมายการพฒั นาอยา่ ง ยง่ั ยนื ที่ 17 ความร่วมมือเพื่อการพฒั นาไดร้ ิเริ่มแผนงานแบบเปิ ดซ่ึงมีเป้าหมายเพื่อแกป้ ัญหาการจากดั จานวน ของผแู้ ทนจากองคก์ รภาคประชาสงั คมในคณะกรรมการอยา่ งเป็ นทางการและเพื่อสร้างการเจรจาใหม้ ากข้ึน ระหวา่ งหน่วยงานภาครัฐและผมู้ ีส่วนไดส้ ่วนเสียอื่นๆเพ่อื แกไ้ ขปัญหาความเหล่ือมล้าดา้ นรายได้ ต้งั แต่ปี พ ศ. 2560 รัฐบาลได้ใช้แนวทางความร่วมมือภาครัฐและภาคเอกชนในการพฒั นาเศรษฐกิจชุมชน โดยได้ ส่งเสริมวสิ าหกิจขนาดจิ๋วโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในพ้ืนท่ีชนบทโดยไดร้ ่วมมือกบั บริษทั ขนาดใหญ่ใน 76 จงั หวดั ทวั่ ประเทศ บริษทั เอกชนมุ่งมนั่ ที่จะถ่ายทอดความเชี่ยวชาญทางธุรกิจไปยงั กลุ่มวิสาหกิจในทอ้ งถิ่นจานวน 1,200 แห่ง ความเชี่ยวชาญท่ีแบ่งปันกนั ครอบคลุมจานวน 5 ดา้ นคือประสิทธิภาพทางธุรกิจ การสร้างความ หลากหลาย การสร้างตราสินคา้ การขายและการจดั จาหน่าย และความเป็นมืออาชีพทางธุรกิจ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook